ยอดกุ นซื อทะลุ มิ ติ 2
มู่อี้ เขี ย น ไผ่เขียว แปล
กรุงเทพมหานคร • ส�ำนักพิมพ์มติชน • 2557
ยอดกุนซือทะลุมิติ 2 • ไผ่เขียว แปล จากเรื่อง 《刑名师爷•2》ของ 沐轶 Original Chinese Language Copyright © 2012 by Muyi. All rights reserved. Thai Language Copyright © 2014 by Matichon Publishing House. All rights reserved. arranged with Shanghai Xuanting Entertainment Information Technology Co., Ltd. through Little Rainbow Agency, Thailand พิมพ์ครั้งแรก : สำ�นักพิมพ์มติชน, กรกฎาคม 2557
ราคา 290 บาท
ข้อมูลทางบรรณานุกรม มู่อี้. ยอดกุนซือทะลุมิติ 2. กรุงเทพฯ : มติชน, 2557. 424 หน้า. 1. นวนิยายจีน. I. ไผ่เขียว, ผู้แปล. II. ชื่อเรื่อง 895.13 ISBN 978 - 974 - 02 - 1304 - 8
ที่ปรึกษาส�ำนักพิมพ์ : อารักษ์ คคะนาท, สุพจน์ แจ้งเร็ว, สุชาติ ศรีสุวรรณ, ปิยชนน์ สุทวีทรัพย์, ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์, นงนุช สิงหเดชะ ผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : กิตติวรรณ เทิงวิเศษ • รองผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : รุจิรัตน์ ทิมวัฒน์ บรรณาธิการบริหาร : สุลักษณ์ บุนปาน • บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์ : พัลลภ สามสี นักศึกษาฝึกงานกองบรรณาธิการ : แพรว ฉั่วตระกูล • พิสูจน์อักษร : เมตตา จันทร์หอม กราฟิกเลย์เอาต์ : กิตติชัย ส่งศรีแจ้ง • ออกแบบปก : Sparrow Boy ศิลปกรรม : นุสรา สมบูรณ์รัตน์ • ประชาสัมพันธ์ : กานต์สินี พิพิธพัทธอาภา หากท่านต้องการสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จำ� นวนมากในราคาพิเศษ เพื่อมอบให้วัด ห้องสมุด โรงเรียน หรือองค์กรการกุศลต่างๆ โปรดติดต่อโดยตรงที่ บริษัทงานดี จ�ำกัด โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3353 โทรสาร 0-2591-9012
www.matichonbook.com บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) : 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 1235 โทรสาร 0-2589-5818 แม่พิมพ์สี-ขาวดำ� : กองพิมพ์สี บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 2400-2402 พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด 27/1 หมู่ 5 ถนนสุขาประชาสรรค์ 2 ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 โทรศัพท์ 0-2584-2133, 0-2582-0596 โทรสาร 0-2582-0597 จัดจำ�หน่ายโดย : บริษัทงานดี จำ�กัด (ในเครือมติชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3350-3353 โทรสาร 0-2591-9012 Matichon Publishing House a division of Matichon Public Co., Ltd. 12 Tethsabannarueman Rd, Prachanivate 1, Chatuchak, Bangkok 10900 Thailand หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องธรรมชาติ ลดภาวะโลกร้อน และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้อ่าน
สารบัญ
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ค�ำน�ำผู้แปล บทที่ 1 คดีพิศวงในห้องหอ บทที่ 2 งานเลี้ยงฉลองวันมงคล บทที่ 3 เรื่องแทรกซ้อนอุบัติในห้องหอ บทที่ 4 ความสัมพันธ์ บทที ่ 5 ริมทะเลสาบซีหู บทที่ 6 การตายของเจ้าสาว บทที่ 7 ที่เกิดเหตุคดีฆาตกรรม บทที ่ 8 พูดจาไม่ตรงตามสามัญส�ำนึก บทที ่ 9 ใครคือฆาตกร บทที่ 10 รอยข่วนที่ปากและจมูก บทที่ 11 มุดใต้เตียง บทที่ 12 คนต�่ำช้าโสมม บทที่ 13 หลุดปากพูด บทที่ 14 ให้ท้ายท�ำความผิด บทที่ 15 ผู้ต้องสงสัยคนสุดท้าย บทที่ 16 ช่องโหว่อยู่ที่ไหน บทที่ 17 กลิ้งตกชะง่อนผา
6 8 13 18 23 27 32 37 41 47 53 59 64 70 76 82 88 93 98
บทที่ 18 สว่างโล่งทะลุปรุโปร่งในทันใด บทที่ 19 ความหวังไขคดี บทที่ 20 รักแต่ท�ำเป็นไม่รัก บทที่ 21 เป็นบ่าวรับใช้ บทที่ 22 สองหญิงร่วมผ่าชันสูตรศพ บทที่ 23 ความรู้สึกหวาดผวา บทที่ 24 ไขปริศนาที่เกิดเหตุ บทที่ 25 ความจริงที่คาดคิดไม่ถึง บทที่ 26 เจตนาหรือพลาดพลั้งฆ่าคน บทที่ 27 หลักการเป็นคน บทที่ 28 เหลาสุราขนาดย่อม บทที่ 29 วิธีท�ำการค้า บทที่ 30 คดีบุตรชายเจ้าเมืองถูกสังหาร บทที่ 31 เถ้าแก่เนี้ยผู้เลอโฉม บทที่ 32 การตายที่น่าพิศวง บทที ่ 33 บุรุษเจ้าส�ำราญ บทที่ 34 เรือส�ำราญล่องซีหู บทที่ 35 จันทร์จรัสแสงที่เอ้อเฉวียน บทที่ 36 ค�ำเชิญที่น่าแปลกใจ บทที่ 37 ตงฉ่าง บทที่ 38 หมู่ตึกหมื่นบุปผา บทที่ 39 พี่ตายแต่งกับน้อง บทที่ 40 สตรีลึกลับ บทที่ 41 เฝ้าคอยอย่างงมงาย บทที่ 42 โกหก บทที่ 43 ยาเม็ดสีด�ำ บทที่ 44 สตรีอัปลักษณ์ บทที่ 45 สุนัขพูดได้ บทที่ 46 อาฝูหรง บทที่ 47 เรื่องเกิดเพราะมีเหตุ
103 108 113 119 125 132 139 146 153 159 166 173 181 189 197 204 211 220 229 237 245 253 261 268 276 284 292 300 308 316
บทที่ 48 คุรุเทพ บทที่ 49 ภัยที่คาดไม่ถึง บทที่ 50 ม้าด่วนแปดร้อยลี้ บทที ่ 51 ขันทีถือพู่กัน บทที ่ 52 เป็นตายแค่ปลายจมูก บทที ่ 53 ภัยที่คาดไม่ถึงมาเยือนอีก บทที ่ 54 ลงมือต�่ำช้าใช้พิษแก้พิษ บทที ่ 55 ทุกอย่างอยู่ในก�ำมือ บทที ่ 56 กลับเข้าห้องหออีกครา บทที่ 57 ขึ้นรถก่อนค่อยตีตั๋ว บทที่ 58 ใช้ทั้งไม้แข็งไม้นวม
324 333 341 350 360 370 380 390 400 410 417
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์
เรือ ่ ง 刑名师爷 หรือ ยอดกุนซือทะลุมต ิ ิ ประพันธ์โดยมูอ ่ ี้ เป็นนิยาย ทางอินเตอร์เน็ตที่โด่งดังมากของจีน จนได้รับการน�ำไปดัดแปลงสร้างเป็นละครซีรีส ์ ที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศจีน ไต้หวัน เกาหลี ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย ที่แม้ ไม่ได้น�ำมาฉายในช่องโทรทัศน์ แต่ก็ถูกพูดถึงในหมู่แฟนละครจีนในอินเตอร์เน็ตเป็น จ�ำนวนมาก รู้จักกันในชื่อ “สองสิงห์ยอดนักสืบ” โดยมีดาราน�ำชายชื่อดังมาช่วยเรียก ความนิยมอีกขั้น พล็อตเรื่องย้อนอดีตกลับสู่ยุคโบราณนี้มีปรากฏให้เห็นหลากหลายรูปแบบ ไม่ ว่าจะน�ำมาเสนอในยุคสมัยใด เรือ่ งราวท�ำนองนีก้ ย็ งั น่าสนใจเสมอ เพราะความแตกต่าง ระหว่างยุคของตัวละคร สามารถสร้างเหตุการณ์น่าตื่นเต้นและตลกขบขันได้มากมาย ซ�้ำยังสอดแทรกเกร็ดวิถีชีวิตประเพณีของคนต่างยุค ให้ได้ซึมซับและเรียนรู้ไปโดยไม่ รู้ตัว ใน ยอดกุนซือทะลุมติ ิ นีก้ เ็ ช่นกัน ตัวเอกทีเ่ ป็นต�ำรวจนิตเิ วชในยุคปัจจุบนั จูๆ่ ก็ ถูกพาทะลุมติ กิ ลับไปอยูใ่ นร่างของนายน้อยเจ้าส�ำราญนามว่าเมิง่ เทียนฉูใ่ นสมัยราชวงศ์ หมิง แต่เรื่องราวคงจะไม่ตื่นเต้นเร้าใจเท่านี้ หากเมิ่งเทียนฉู่คนใหม่ไม่บังเอิญเข้าไป พัวพันกับคดีฆาตกรรม ที่ลากให้เขาจ�ำเป็นต้องน�ำความรู้และเครื่องมือที่มีอยู่มาตรวจ 6 ไผ่เขียว แปล
สอบวินิจฉัยหาสาเหตุการตาย ซึ่งแน่นอนว่าสร้างความทึ่งแกมสงสัยให้แก่ตัวละคร ชาวราชวงศ์หมิงไปตามๆ กัน แต่ตัวเมิ่งเทียนฉู่เองก็ต้องเรียนรู้วิถีชีวิต ธรรมเนียม ประเพณี และระบบการปกครองที่แปลกไปจากเดิมด้วย สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะท�ำให้ เมิ่งเทียนฉู่เผชิญความยากล�ำบากแค่ไหนอย่างไร คงเป็นเรื่องที่เราต้องติดตาม หนังสือชุด ยอดกุนซือทะลุมิติ มีทั้งหมด 3 เล่มจบ ให้ผู้อ่านได้เต็มอิ่มจุใจกับ เรื่องราวการสืบสวนสอบสวนของเมิ่งเทียนฉู่ ที่ใช้วิธีการตรวจสอบทางนิติเวชศาสตร์ มาอ้างอิง นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวอันเข้มข้นในราชส�ำนัก เรื่องราวความรักกุ๊กกิ๊กของ พระเอกและนางเอกให้ได้ลุ้นอยู่ตลอดเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นนิยายที่สนุกครบรสครบ เครื่องจริงๆ ส�ำนักพิมพ์มติชน
ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
7
ค�ำน�ำผู้แปล
ยอดกุนซือทะลุมิตินี้เล่าถึงแพทย์นิติเวชของทีมต�ำรวจฝ่ายอาชญา กรรมในสมัยปัจจุบันผู้หนึ่งจับพลัดจับผลูเดินทางผ่านมิติของกาลเวลาไปอยู่ในร่างของ นายน้อยหนุ่มรูปงามนามว่าเมิ่งเทียนฉู่ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชีวิตอยู่ในช่วงกลางค่อนไป ทางปลายของราชวงศ์หมิง เมิ่งเทียนฉู่คนเดิมเป็นคุณชายเจ้าส�ำราญไม่เอาถ่าน ไร้ซึ่ง ความสามารถและปณิธาน แต่แล้วผู้คนรอบข้างก็ต้องแปลกใจในบุคลิกภาพที่เปลี่ยน ไปอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องทึ่งในความสามารถสืบสวนคลี่คลายคดีของ เขาที่ใช้วิธีการและมุมมองที่แปลกไม่เหมือนใคร ผู้เขียนนอกจากจะถ่ายทอดวิธีการสืบสวนคดีโดยใช้ความรู้ทางด้านนิติเวชและ ตรรกศาสตร์เป็นตัวน�ำผ่านตัวเอกของเรื่องเมิ่งเทียนฉู่ ก็ยังได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด และการกระท�ำของผูค้ นในยุคทีแ่ นวปรัชญาของขงจือ๊ เฟือ่ งฟู รายละเอียดเกีย่ วกับหน้าที ่ การงานของขุนนาง เหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในราชส�ำนัก และแทรกเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกีย่ วกับชีวติ ประจ�ำวันของชาวบ้านธรรมดาและเหล่าขุนนางในสมัยราชวงศ์หมิง ไว้ได้อย่างสนุกไม่น่าเบื่อ ส�ำหรับผู้แปล ราชวงศ์หมิงไม่เพียงเป็นยุคสมัยที่มีความโดดเด่นในแง่ที่แนว ปรัชญาขงจือ๊ แทรกไปในความคิดของคนทุกหย่อมหญ้า ผูค้ นในยุคนีป้ ฏิบตั ติ อ่ กันอย่าง 8 ไผ่เขียว แปล
มีพิธีรีตอง การค้าขายติดต่อกับประเทศอื่นทางทะเลมีความคึกคักรุดหน้า วรรณกรรม รุ่งเรือง สามในสี่สุดยอดวรรณกรรมของจีน “ซีโหยวจี้*” “สุ่ยหู่จ้วน**” “ซานกว๋อหย่าน อี้***” ล้วนแล้วแต่ถือก�ำเนิดในยุคนี้ทั้งสิ้น ในแง่ของราชส�ำนักราชวงศ์หมิงยังมีความ พิเศษที่มีองค์กรสอดแนมจับกุมที่องค์จักรพรรดิได้ทรงจัดตั้งขึ้นเอง มีตัวตนอยู่ใน ประวัติศาสตร์จริง ชื่อว่าองครักษ์เสื้อทองและตงฉ่าง ที่มีนักเขียนมากมายได้น�ำเรื่อง ราวของพวกเขามาแต่งเติมจนเกินจริงอยู่ในนิยายจีนก�ำลังภายในอยู่บ่อยครั้ง ผู้เขียนได้สะบัดปลายปากกาให้ตัวเอกของเราต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับองค์กรทั้ง สอง เผชิญกับการชิงไหวชิงพริบ เล่ห์เหลี่ยมของขันทีร้าย ด้านชีวิตรัก เนื่องจากเป็น หนุ่มรูปงาม ก็ต้องฝ่าด่านสาวงามให้ได้ลุ้นเป็นระยะๆ เป็นหนังสือแนวสืบสวนไขคดี อิงประวัติศาสตร์ที่สนุกสนานเร้าใจน่าติดตาม ผู้อ่านอ่านกันอย่างเพลิดเพลิน ผู้แปล ก็สุขใจ ไผ่เขียว
* ไซอิ๋ว ** ซ้องกั๋ง *** สามก๊ก ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
9
ยอดกุ น ซื อ ทะลุ มิ ติ 2
1 คดี พิ ศ วงในห้อ งหอ
มูห ่ รงจุง่ เส่วต ์ อ ้ งการเขียนหลักฐานยืมเงินขึน ้ มาฉบับหนึง่ มอบให้แก่ เมิง่ เทียนฉู ่ แต่เมิง่ เทียนฉูก่ ลับพูดเป็นท�ำนองว่าเงินจ�ำนวนแค่นไี้ ม่จำ� เป็นต้องเขียนหลัก ฐานยืมเงิน เขาเชื่อใจว่านางจะไม่เบี้ยวหนี้ก้อนนี้อย่างแน่นอน นี่ยิ่งท�ำให้มู่หรงจุ่งเส่ว ์ รูส้ กึ ซาบซึง้ ใจยิง่ ขึน้ ไปอีก เมิง่ เทียนฉูเ่ พียงต้องการหักเงินคืนจ�ำนวนห้าสิบเหวินทุกเดือน จากเงินค่าตอบแทนจ�ำนวนห้าร้อยเหวินที่เขาเสนอว่าจะให้นาง ฉะนั้นทุกเดือนเขาจ่าย ให้นางสี่ร้อยห้าสิบเหวินก็เป็นอันเรียบร้อย ส่วนหน้าทีก่ ารงานเมิง่ เทียนฉูใ่ ห้นางเป็นเจ้าหน้าทีส่ ว่ นตัวของเขา โดยไม่ตอ้ งไป นัง่ ท�ำงานในฝ่ายราชทัณฑ์อกี พูดได้วา่ ท�ำงานเพียงทีเ่ ดียวแต่ได้รบั เงินเบีย้ หวัดรายเดือน ถึงสองก้อน ไม่เพียงหนีท้ งั้ หมดจ�ำนวนยีส่ บิ สองต�ำลึงจะหมดสิน้ ไปในคราวเดียว ยังกลับ กลายเป็นว่าจูๆ่ ก็มเี งินเพิม่ เข้ามาในแต่ละเดือนอีกสีร่ อ้ ยห้าสิบเหวิน แน่นอนบัญชีนนี้ าง ย่อมต้องดีดลูกคิดออกมาได้ มู่หรงจุ่งเส่ว์ขบคิดอย่างไรก็คาดเดาเจตนาของเมิ่งเทียนฉู่ไม่ออก ถ้าจะบอกว่า เมิง่ เทียนฉูม่ ใี จชอบพอนาง อย่างนัน้ ก็เอาเงินยีส่ บิ สองต�ำลึงเป็นของหมัน้ ไปซะเลย ไหว้ วานแม่สื่อให้มาพูดจาทาบทามเสียก็ได้ อาศัยฐานะของครอบครัวนางการยกบุตรสาว ให้เมิง่ เทียนฉูเ่ ท่ากับได้ทพี่ งึ่ พิงทีด่ ี แถมยังสามารถล้างหนีท้ งั้ หมดได้อกี ด้วย ทุกคนต้อง ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
13
รับปากด้วยความเต็มใจอย่างแน่นอน ถึงขนาดทีต่ อ้ งแอบไปจุดธูปขอบคุณสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิ์ ทั้งหลายด้วยซ�้ำ แต่เมิ่งเทียนฉู่กลับมิได้ท�ำเช่นนี้ นี่ก็เลยท�ำให้นางเดาไม่ถูก แต่ก็ตกลง ใจเป็นมั่นเหมาะว่าจะตั้งใจท�ำงานให้ดีเพื่อตอบแทนบุญคุณเขา ส�ำหรับเมิ่งเทียนฉู่ เงินขาวยี่สิบสองต�ำลึงที่มีค่าเท่ากับเงินเหรินหมินปี้สองหมื่น กว่าหยวนกลับไม่ใช่เงินจ�ำนวนมากมายสักเท่าไร การใช้มันช่วยหญิงงามที่น่าสงสาร นางหนึง่ และหญิงงามนางนีย้ งั ท�ำหน้าทีเ่ ป็นเลขาช่วยเหลือเขาจัดการงานด้านกฎหมาย และการลงทัณฑ์ต่างๆ ได้ท�ำให้เขาสามารถปลีกตัว มุ่งสมาธิไปที่การไขคดีความ ก่อ ร่างสร้างฐานให้ตวั เองมีทยี่ นื ทีจ่ ะสามารถปักหลักหยัง่ รากได้ คิดแล้วถือว่าเงินจ�ำนวนนี้ จ่ายออกไปเกินคุ้ม เมิง่ เทียนฉูเ่ มือ่ มีมหู่ รงจุง่ เส่วเ์ ป็นเลขาฯ ส่วนตัวแล้ว ความยุง่ ยากด้านงานเอกสาร ราชการที่เกี่ยวกับกฎหมายและการลงทัณฑ์ก็ถูกแก้ตกไปอย่างง่ายดาย แน่นอนเขา ไม่ได้เอาแต่พงึ่ พามูห่ รงจุง่ เส่วถ์ า่ ยเดียว ยังแอบร�ำ่ เรียนวิชาความรูท้ เี่ ขาจ�ำต้องเกีย่ วข้อง ด้วย จะว่าไปแล้วเรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นของตาย รูปแบบเอกสารราชการส่วนใหญ่ก็ยัง เป็นกลุ่มค�ำที่ก�ำหนดตายตัวเป็นชุดๆ ไป ขอเพียงยอมอดทนเสียเวลาท่องจ�ำก็ยังพอจะ ท�ำความเข้าใจได้ ด้วยเหตุนหี้ ลังจากเวลาล่วงเลยไปได้สกั ระยะหนึง่ เขาก็สามารถเข้าใจ ระเบียบข้อบังคับพื้นฐานและรูปแบบพื้นฐานของเอกสารราชการได้ทั้งหมด ต่อให้ไม่มี มูห่ รงจุง่ เส่วก์ ย็ งั พอจะกล้อมแกล้มรับมือไปได้ แต่สำ� หรับการขีดเขียนเอกสารราชการนัน้ หลักๆ แล้วยังคงต้องอาศัยมู่หรงจุ่งเส่ว์เป็นผู้ลงมือท�ำ ทีผ่ า่ นมาเมือ่ อยูต่ อ่ หน้าเมิง่ เทียนฉู ่ มูห่ รงจุง่ เส่วย์ ดึ ถือเอาเขาเป็นผูม้ พี ระคุณเสมอ เคารพนบนอบยิง่ บางเวลาเมิง่ เทียนฉูพ่ ดู เล่นด้วยสักหลายค�ำ นางก็จะหน้าแดงก้มศีรษะ ไม่พูดจา ท�ำเอาเมิ่งเทียนฉู่ไม่กล้าล้อเล่นจนเลยเถิดไป หนึ่งเดือนกว่าผ่านพ้นไป อากาศในแต่ละวันค่อยๆ ร้อนขึ้นตามฤดูกาล วันนี้เวลาเที่ยงวันหลังจากแยกย้ายออกจากห้องโถงของจวนว่าการ จู่ปู้* ของ อ�ำเภอเหรินเหอเมืองหังโจวนามว่าหยวนจิ้นก็หอบเทียบเชิญหนึ่งตั้งเดินเข้าจวนว่าการ ส่วนในอย่างกระปรี้กระเปร่า อันดับแรกเขาไปส่งเทียบเชิญให้นายอ�ำเภอไช่เจาของ อ�ำเภอเหรินเหอก่อน หลังจากนั้นจึงมาหาเมิ่งเทียนฉู่ยังเขตลานบ้านพัก ประคองส่ง เทียบเชิญสีแดงพับใหญ่หนึ่งพับให้อย่างพินอบพิเทา หลายวันที่ผ่านมานี้ เมิ่งเทียนฉู่ได้คลุกคลีอยู่กับบรรดาข้าราชการทั้งหลายใน * เทียบเท่าต�ำแหน่งเลขานุการนายอ�ำเภอ-ผู้แปล 14 ไผ่เขียว แปล
จวนจนคุ้นเคยเป็นอย่างดี จึงหัวร่อร่ารับมาดู ที่แท้เป็นเทียบเชิญงานมงคล มองปราด เดียวก็พอทราบเนือ้ หาทีอ่ ยูข่ า้ งในได้อย่างคร่าวๆ ทีแ่ ท้พรุง่ นีเ้ ป็นงานมงคลของบุตรชาย จู่ปู้หยวนจิ้นนั่นเอง จึงกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “ขอแสดงความยินดี ขอแสดงความยินดี แต่ไม่ทราบว่าคุณชายแต่งคุณหนูครอบครัวใดเข้าบ้านรึ?” หยวนจู่ปู้ค้อมตัวตอบด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เป็นบุตรสาวของเถ้าแก่ หลินที่อยู่ในเขตเมืองฝั่งตะวันออกนามว่าหลินซือขอรับ” “อ๋อ!” เมิ่งเทียนฉู่อุทานลากเสียงยาวด้วยพอรู้จักว่าครอบครัวของเถ้าแก่หลิน ผู้นี้เป็นตระกูลใหญ่ที่ทั้งร�่ำรวยทั้งมีอิทธิพลตระกูลหนึ่งในเมืองหังโจว เพียงแค่ร้านค้า ภายในเขตเมืองก็มีอยู่หลายร้าน เมื่อคราวก่อนตอนที่นายอ�ำเภอไช่เจาจัดงานเลี้ยง ต้อนรับเขาเข้ารับต�ำแหน่งกุนซือนัน้ ก็ได้เชิญเถ้าแก่หลินผูน้ มี้ าในงานเลีย้ งด้วย ในความ ทรงจ�ำดูเหมือนว่าจะเป็นบุรุษร่างอ้วนเตี้ย ได้ยินมาว่าคนผู้นี้มักจะบริจาคเงินทองออก ไปเพือ่ หวังได้ชอื่ เสียงเกียรติยศ ส�ำหรับบุตรสาวของเขานัน้ เมิง่ เทียนฉูไ่ ม่เคยเห็นมาก่อน ในสมัยโบราณสตรีไม่ย่างกรายออกนอกหอห้อง โดยเฉพาะสตรีที่ก�ำเนิดจากตระกูล ขุนนางหรือไม่ก็ตระกูลใหญ่ที่ร�่ำรวยเงินทองและอิทธิพล ตามธรรมดาแล้วยากนักที่คน ภายนอกจะมีโอกาสได้ยลโฉม หยวนจิ้นผู้นี้พิจารณาจากต�ำแหน่งทางราชการแล้วเป็นจู่ปู้มียศจัดอยู่ที่ล�ำดับ หลัก*ขั้นที่เก้า ยังพอถูไถนับได้ว่าเป็นตระกูลขุนนาง ตบแต่งหญิงสาวค่าหนักพันต�ำลึง ทองของตระกูลใหญ่เข้าบ้านก็พอที่จะถือได้ว่ามีศักดิ์ฐานะเท่าเทียมกัน เมิ่งเทียนฉู่ยกมือคารวะกล่าว “พรุ่งนี้เวลาอู่สือ**ผู้น้อยต้องไปร่วมแสดงความ ยินดีด้วยแน่” หยวนจู่ปู้หัวเราะฮ่าๆ ยกมือคารวะกล่าวขอบคุณเป็นการใหญ่แล้วหยิบเทียบ เชิญที่เหลือขึ้นถือเดินออกไป จนมาถึงบริเวณด้านหน้าจวนส่วนในของใต้เท้าจางเสี้ยน เฉิง***ค่อยหยุดฝีเท้าลง นิ่งคิดอยู่ชั่วอึดใจก็กัดฟันเดินเข้าไปให้ยามเฝ้าประตูเข้าไป รายงาน ยามเฝ้าประตูจวนส่วนในของเสี้ยนเฉิงเหลือบมองอย่างเย็นชา ก่อนจะเหลือก ตาแล้วท�ำเสียงขึ้นจมูกดัง “เฮอะ” ลากเสียงยืดยาวว่า “ใต้เท้าหยวนรอสักครู่ ข้าจะ * ประเทศจีนในสมัยโบราณเช่นยุคของราชวงศ์หมิงและชิงมีการแบ่งยศขุนนางเป็นเก้าล�ำดับขั้น แต่ละล�ำดับขั้นมีล�ำดับหลักและล�ำดับรองรวมทั้งหมดเป็นสิบแปดล�ำดับขั้น-ผู้แปล ** อู่สือคือช่วงเวลาประมาณ 11:00-13:00 นาฬิกา-ผู้แปล *** เสี้ยนเฉิงเป็นต�ำแหน่งที่เทียบเท่ากับต�ำแหน่งผู้ช่วยนายอ�ำเภอ-ผู้แปล ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
15
เข้าไปรายงาน!” พูดจบก็เดินอย่างอืดอาดยืดยาดคล้ายเสียมิได้เข้าไปข้างใน หยวน จู่ปู้ยืนรออยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าท่าทางอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง ผ่านไปครู่หนึ่ง ยามเฝ้าประตูก็ค่อยๆ เดินทอดหุ่ยกลับออกมา “ใต้เท้าหยวน นายท่านของพวกเราขอเชิญเข้าไปสนทนาในโถงรับแขก ที่ทางที่ นี่ท่านทราบดีอยู่แล้ว ข้าไม่น�ำทางไปละนะขอรับ” หยวนจูป่ พู้ ยักหน้า ค่อยๆ เดินก้มหน้าเข้าไป ถึงโถงรับแขกภายในกลับว่างเปล่า ไม่มีผู้คน เสี้ยนเฉิงจางฉือไม่ได้อยู่ในห้อง บ่าวไพร่ไม่ได้ออกมาต้อนรับ กระทั่งน�้ำชา สักถ้วยก็ไม่ม ี หยวนจูป่ จู้ ำ� ต้องเชือ้ เชิญตัวเองให้นงั่ ลงบนเก้าอี ้ ก้มศีรษะมองดูเทียบเชิญ สีแดงพับใหญ่ในมืออย่างเงียบงัน เวลาล่วงเลยไปอีกครู่หนึ่ง ค่อยได้ยินเสียงผู้ติดตามตะเบ็งเสียงดังมาจากโถง ห้องด้านหลัง “ใต้เท้าเสี้ยนเฉิงมาถึงแล้ว! เตรียมตัวต้อนรับ—” หยวนจู่ปู้รีบผุดลุกขึ้นค้อมตัวท�ำความเคารพ ต�ำแหน่งเสี้ยนเฉิงนี้มียศเป็นล�ำดับหลักขั้นที่แปด เทียบกับต�ำแหน่งจู่ปู้แล้วยัง สูงกว่าถึงสองขั้น ด้วยเหตุนี้หยวนจู่ปู้จึงต้องใช้การแสดงความเคารพของขุนนางชั้น ผู้น้อยเมื่อพบหน้า จางเสี้ยนเฉิงไม่เหลือบมองแขกผู้มาเยือน สาวเท้าตรงไปยังที่นั่งเจ้าบ้านด้วย ใบหน้าเคร่งขรึม ยกชายเสื้อตัวยาวด้านหน้าขึ้นแล้วนั่งลง เวลานั้นเองพวกบ่าวรับใช้ จึงค่อยยกถ้วยน�้ำชาออกมาสองถ้วย หยวนจูป่ สู้ บื เท้าออกไปก้าวหนึง่ ค้อมตัวลงสองมือประคองส่งเทียบเชิญให้อย่าง เคารพนอบน้อม “ใต้เท้าจาง พรุง่ นีเ้ วลาอูส่ อื บุตรชายของผูน้ อ้ ยจะเข้าพิธมี งคล ขอเชิญ ใต้เท้าไปร่วมงานเป็นเกียรติแก่ผู้น้อยด้วยขอรับ” จางเสี้ยนเฉิงไม่ได้ยื่นมือออกไปรับ แต่กลับแค่นเสียงดัง “เฮอะ” ออกมาทีหนึ่ง “ใต้เท้าหยวน บุตรชายท่านตบแต่งภรรยาเข้าบ้าน อันที่จริงก็ไม่เห็นมีความจ�ำเป็นต้อง ส่งเทียบเชิญมาหรอก เพราะปกติท่านก็ไม่เคยเห็นข้าอยู่ในสายตา ถือเสียว่าข้าไม่มีตัว ตนก็แล้วกัน ไฉนต้องมากเรื่องไปด้วยเล่า?” หยวนจู่ปู้ตีหน้าขรึมกล่าวตอบ “ใต้เท้าจางกับผู้น้อยต่างก็เป็นขุนนางในจวน ว่าการ ผู้น้อยเคารพเลื่อมใสใต้เท้ามาตลอด หวังว่าเรื่องงานราชการนี้จะไม่กระทบ กระเทือนความสัมพันธ์ส่วนตัวของพวกเรา” “ใต้เท้าหยวนกล่าวหนักไปแล้ว เกี่ยวกับงานราชการแม้ท่านเพียงยึดตามใต้เท้า ไช่ไม่ฟงั ค�ำสัง่ ของข้า ข้าก็ไม่เคยปริปากต่อว่า แต่วา่ ข้าเป็นคนเถรตรง ทีผ่ า่ นมาไม่พดู จา 16 ไผ่เขียว แปล
อ้อมค้อม ความสัมพันธ์ของพวกเราสองคนก็ไม่ได้ดีอะไร ผู้คนภายในจวนต่างก็รู้กัน หมด ไม่จำ� เป็นต้องปกปิดหรือหลบเลีย่ ง ดังนัน้ ข้าจะขอพูดตรงๆ ก็แล้วกัน ว่ากันตาม เหตุผล เรื่องงานราชการอันที่จริงก็ไม่สมควรที่จะลากมาพัวพันกับเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ข้าลองถามตัวเองดูก็เห็นว่า ส�ำหรับกับใต้เท้าหยวนท่านนอกจากเรื่องงานราชการ แล้วระหว่างเราก็ไม่เห็นมีความสัมพันธ์ส่วนตัวอันใดที่จะอ้างถึงได้อยู่แล้วนี่ ดังนั้น ไอ้เรื่องธรรมเนียมมารยาทที่ควรปฏิบัติต่อกันก็ไม่มีความจ�ำเป็นละ” หยวนจู่ปู้ท�ำตัวไม่ถูกรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จึงวางเทียบเชิญไว้บนโต๊ะ ยก สองมือคารวะเสร็จก็ไม่กล่าวกระไรอีกหันหลังจะเดินออกจากโถงรับแขกไป
ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
17
2 งานเลี้ ย งฉลองวัน มงคล
รอจนหยวนจูป ่ เู้ ดินถึงหน้าประตู จางเสีย ้ นเฉิงจึงค่อยเอือ ้ นเอ่ยขึน ้ มา “แต่พวกเราต้องรูจ้ กั แยกแยะ ใต้เท้าหยวน ในเมือ่ เทียบเชิญนีท้ า่ นมาส่งด้วยตัวเอง สุรามงคลจอกนี้ ยังไงข้าก็ต้องดื่ม” หยวนจู่ปู้รีบหันหลังกลับค้อมตัวคารวะ “ขอบพระคุณใต้เท้า ผู้น้อยจะรอคอย ใต้เท้าให้เกียรติมาร่วมงานด้วยความเคารพ!” พอออกพ้นจากจวนส่วนในของเสี้ยนเฉิง หยวนจู่ปู้ค่อยผ่อนลมหายใจยาว ยิ้ม ระอาพลางโคลงศีรษะ จากนัน้ ก็ตระเวนไปตามฝ่ายต่างๆ ในจวนว่าการต่อเพือ่ ส่งเทียบ เชิญ ภายในจวนส่วนใน เมิง่ เทียนฉูเ่ ดินถือเทียบพับนัน้ เข้าไปในห้องหนังสือ ยืน่ ส่งให้ มู่หรงจุ่งเส่ว์ พอนางกวาดมอง นัยน์ตาพลันฉายแวววิตกกังวลออกมาวูบหนึ่ง แต่ก็ แย้มยิ้มออกมาทันที “อ้อ ใต้เท้าหยวนแต่งลูกสะใภ้เข้าบ้าน พวกเราต้องช่วยกันลงขัน ออกเงินก้นถุงอีกแล้วละ” เมิ่งเทียนฉู่ถาม “ที่ผ่านมางานมงคลแบบนี้ คนในจวนต่างก็ต้องช่วยกันลงขัน อย่างนั้นรึ?” 18 ไผ่เขียว แปล
“ใช่น่ะสิเจ้าคะ จะมากจะน้อยก็ต้องช่วยกัน” “ถ้างั้นเมื่อก่อนนี้พวกเจ้าลงขันกันคนละเท่าไหร่ล่ะ?” “เงินมากก็เยอะหน่อย เงินน้อยก็นอ้ ยหน่อย หนึง่ ร้อยเหวินหรือสองร้อยเหวินก็ได้ ทั้งนั้น” เมิ่งเทียนฉู่พอจะรู้ว่าเรื่องนี้ส�ำหรับมู่หรงจุ่งเส่ว์แล้วเกรงว่าจะไม่ใช่ข่าวดีอะไร เลยพูดยิ้มๆ ว่า “ตอนนี้เจ้าเป็นเจ้าหน้าที่ส่วนตัวของข้า เรื่องที่ฝ่ายราชทัณฑ์ช่วยกัน ออกเงินก้นถุงคงไม่นับรวมมาถึงเจ้าด้วยหรอกมั้ง?” “ท�ำไมจะไม่นับล่ะเจ้าคะ เงินก้นถุงนี้แบ่งกันออกตามจ�ำนวนคนของทั้งหกฝ่าย” ดวงตามู่หรงจุ่งเส่ว์ส่อแววหดหู่ให้เห็นวูบหนึ่ง “ถ้าเป็นพวกเจ้าหน้าที่ธรรมดาจัดงาน มงคลงานศพก็ยงั พอท�ำเนา เนือ่ งจากแต่ละคนต่างก็ได้รบั เงินเบีย้ หวัดรายเดือนไม่มาก เหมือนกัน สามสิบห้าสิบเหวินก็พอแล้ว แต่ถ้าเป็นงานมงคลงานศพของครอบครัวซือลี่ ของทัง้ หกฝ่าย เงินทีต่ อ้ งช่วยกันลงขันอย่างน้อยก็ตอ้ งหนึง่ ร้อยเหวินขึน้ ไป ถ้าเป็นครอบ ครัวขุนนางผู้ช่วยในจวนว่าการหรือถึงกับเป็นครอบครัวของใต้เท้านายอ�ำเภอ เงินหนึ่ง ร้อยห้าสิบเหวินยังถือว่าน้อยนัก น่าอับอายจนไม่กล้าที่จะควักออกมา” มู่หรงจุ่งเส่ว์รับหน้าที่สองอย่าง เงินเบี้ยหวัดในแต่ละเดือนเกือบหนึ่งพันเหวิน แต่ก็ต้องเอามาใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนในครอบครัวถึงหกปาก เฉลี่ยตามจ�ำนวนคน แล้วยังไม่ถึงสองร้อยเหวินต่อคนต่อเดือนด้วยซ�้ำ นอกจากนี้ยังต้องเจียดเอาไว้รักษา ท่านย่า บิดา และมารดาที่เป็นอัมพาตนอนอยู่บนเตียง ส�ำหรับนางแล้ว เงินหนึ่งร้อย สองร้อยเหวินนี้ไม่ใช่เงินจ�ำนวนน้อยๆ เลย ดังนั้น พอเห็นเทียบเชิญงานมงคล จึงอด ไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้ากลุ้มอกกลุ้มใจออกมา เมิ่งเทียนฉู่รู้ซึ้งถึงฐานะทางบ้านของนางว่ายากจนข้นแค้นแสนสาหัสเพียงใดจึง เสนอว่า “ไม่ต้องกลัดกลุ้มไป ในเมื่อเจ้าเป็นเจ้าหน้าที่ส่วนตัวของข้า ก็ให้ข้าช่วยออก แทนก็แล้วกัน...” มู่หรงจุ่งเส่ว์รีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน “ท�ำอย่างนั้นไม่ได้ กุนซือเมิ่ง ท่านช่วยเหลือเจือจานข้าน้อยมามากแล้ว ยังจะให้ทา่ นช่วยออกเงินก้อนนีอ้ กี ได้อย่างไร นี่เป็นเงินที่ข้าน้อยสมควรควักจ่ายออกไป โชคดีที่ไม่มากเท่าไหร่” เมิ่งเทียนฉู่จึงไม่ยืนกราน เขาเข้าใจดีว่าเรื่องอย่างนี้ถ้าจัดการไม่เหมาะสม อาจ จะกลายเป็นท�ำร้ายความรู้สึกนับถือตัวเองและศักดิ์ศรีของนาง เลยกล่าวยิ้มๆ “อย่าง นั้นก็ได้ พรุ่งนี้พวกเราก็ไปสวาปามล้มทับพวกเขาสักมื้อ กินให้คุ้มเงินหนึ่งร้อยเหวินก็ แล้วกันดีมั้ย?” ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
19
มู่หรงจุ่งเส่ว์เผลอปล่อยคิก นัยน์ตาเป็นประกายจ้องมองเมิ่งเทียนฉู่พลางพยัก หน้า วันรุ่งขึ้นพระอาทิตย์ตรงศีรษะ พอแยกย้ายกันออกจากโถงจวนว่าการแล้ว เพื่อ ที่จะไปร่วมฉลองงานมงคลของบุตรชายจู่ปู้ นายอ�ำเภอไช่เจาจึงตัดสินใจให้จวนว่าการ หยุดท�ำงานครึ่งวัน เมิ่งเทียนฉู่ ไช่เจา รวมทั้งเสี้ยนเฉิงจางฉือต่างก็ขึ้นนั่งเกี้ยวของตัว เอง ส่วนเหล่าเจ้าหน้าที่ของจวนว่าการ บ้างก็นั่งรถลาก บ้างก็นั่งเกี้ยวหรือไม่ก็เดินเท้า ติดตามไปบ้านของหยวนจู่ปู้อย่างเอิกเกริก ตามข้อก�ำหนดทางกฎหมายสมัยราชวงศ์หมิง ขุนนางใหญ่และขุนนางผู้ช่วย ระดับเมืองและอ�ำเภอไม่อาจซื้อทรัพย์สินที่เป็นบ้านและที่ดินในเขตเมืองและอ�ำเภอที่ ตัวเองรับต�ำแหน่งอยู ่ แต่วา่ พอถึงช่วงกลางและช่วงปลายของราชวงศ์ ข้อก�ำหนดเหล่านี้ ก็ไม่ได้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดอีก ขุนนางใหญ่และขุนนางผู้ช่วยระดับเมืองและอ�ำเภอ ซื้อบ้านและที่ดินในเขตที่ตัวเองด�ำรงต�ำแหน่งอยู่เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป บนฟากฟ้า มีสวรรค์ พื้นปฐพีก็มีซูหัง*การได้ซื้อบ้านสักหนึ่งหลังในเขตเมืองหังโจวนับเป็นความ ใฝ่ฝนั ของเหล่าขุนนางน้อยใหญ่ทกุ คน หยวนจูป่ กู้ เ็ ช่นกัน เขาจับจ่ายเงินทองทีเ่ ก็บสะสม มาหลายปีจากการรับราชการ ซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่หลังหนึ่งที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบซีห ู เขตเมืองหังโจวไว้นานแล้วเมือ่ หลายปีกอ่ น ก็หอบเอาคนในบ้านทัง้ เฒ่าชราและลูกเด็ก เล็กแดงเข้าอยู่อาศัย การโยกย้ายสับเปลี่ยนต�ำแหน่งหน้าที่จะมีขึ้นทุกๆ สามปี หยวน จิ้นผู้นี้ต้องควักเงินก้อนใหญ่จ่ายออกไปทุกครั้ง จึงสามารถรั้งต�ำแหน่งตัวเองไว้ที่เมือง หังโจวได้ตลอดมา เขาไม่ได้วาดหวังที่จะได้เลื่อนขั้นใหญ่โต เพียงแต่หวังว่าจะได้ด�ำรง ต�ำแหน่งขุนนางอยูใ่ นเมืองหังโจวทีเ่ ปรียบเสมือนสรวงสวรรค์นอี้ ย่างราบรืน่ สุขสงบตราบ จนแก่เฒ่าจึงค่อยขอทูลลาออกจากราชการ ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่กันทั้งครอบครัว ดังนั้น จึง ยินดีรับเอาหญิงสาวค่าหนักพันต�ำลึงทองของตระกูลหลินที่เป็นคหบดีท้องถิ่นมาเป็น สะใภ้ ก่อนพวกเมิ่งเทียนฉู่จะมาถึงคฤหาสน์ หยวนจู่ปู้ซึ่งได้รับแจ้งล่วงหน้านานแล้ว ก็มายืนคอยต้อนรับอยู่ที่หน้าประตูใหญ่แต่ไกล คฤหาสน์หลังนี้โอ่อ่ากว้างขวางยิ่ง ทั่วทุกหนแห่งตกแต่งประดับประดาไปด้วย โคมไฟและผ้ากระดาษหลายหลากสี บรรยากาศเต็มเปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายมงคล เสียง ปี่แตร เสียงประทัด เดี๋ยวดังเดี๋ยวหยุด ภายในลานบ้านมีบรรดาแขกเหรื่อผู้มีเกียรติทั้ง * ซูหังเป็นค�ำย่อของเมืองซูโจวในมณฑลเจียงซูและเมืองหังโจวในมณฑลเจ้อเจียง-ผู้แปล 20 ไผ่เขียว แปล
หลายนั่งอยู่เต็มไปหมด พวกของไช่เจา เมิง่ เทียนฉู ่ และจางฉือแน่นอนว่าต้องนัง่ ทีโ่ ต๊ะประธาน เมิง่ เทียนฉู่ เดิมทีอยากเรียกมู่หรงจุ่งเส่ว์ให้มานั่งร่วมโต๊ะ แต่นางเป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย คนหนึ่ง ไม่มีคุณสมบัตินั่งรับประทานร่วมโต๊ะกับใต้เท้านายอ�ำเภอ แถมยังเป็นหญิง ปลอมเป็นชาย เมิง่ เทียนฉูก่ ลัวว่าความจะแตกจึงให้นางนัง่ กับบรรดาเจ้าหน้าทีท่ งั้ หลาย ที่คุ้นเคยกันที่ลานใหญ่ด้านนอก งานเลี้ยงฉลองวันมงคลในสมัยโบราณจะจัดกันอย่างครึกครื้นใหญ่โตเป็นพิเศษ หลังจากไหว้ฟ้าดินส่งตัวเข้าห้องหอแล้ว เจ้าบ่าวยังตามเจ้าสาวเข้าไปในห้องหอไม่ได้ ต้องถูกลากตัวไปคารวะสุราแก่บรรดาแขกเหรื่อผู้มีเกียรติเสียก่อน เมิ่งเทียนฉู่ไม่เคยพบปะเจ้าบ่าวบุตรชายของหยวนจู่ปู้นามว่าหยวนเถี่ยเหอมา ก่อน คนผู้นี้สูงเกือบหนึ่งเมตรเก้าสิบเซนต์ ตัวอ้วนเอวกลม เนื้อหนังไขมันบนร่างน่าจะ หนักประมาณสักสองร้อยจิน*ตอนก้าวเดินก้อนไขมันในตัวกระเพื่อมเคลื่อนไหวไม่หยุด ยามจ�ำนรรจาเสียงใหญ่ทุ้มดังกังวาน เขากล่าวกับเมิ่งเทียนฉู่ขณะคารวะสุราว่า “กุนซือเมิ่ง ผู้เยาว์ได้ยินบิดาพูดถึงท่านมานานแล้ว บอกว่าท่านไขคดีความได้ เก่งฉกาจยิ่ง วันนี้มีโอกาสได้พบหน้า นับว่าผู้เยาว์มีโชควาสนานัก จึงขอคารวะท่าน กุนซือหนึ่งจอก” เมิ่งเทียนฉู่หัวเราะฮ่าๆ “มิกล้า มิกล้า ขออวยพรให้พวกท่านครองคู่อยู่ร่วมกัน อย่างมีความสุขเป็นร้อยปี!” สิ้นเสียงก็กระดกจอกสุราขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด พอหยวนเถี่ยเหอคารวะสุรามาถึงเบื้องหน้าเสี้ยนเฉิงจางฉือ ก็เอ่ยด้วยความ นอบน้อมว่า “ใต้เท้าจาง ผูเ้ ยาว์ขอบพระคุณท่านทีใ่ ห้เกียรติมาร่วมงาน ขอคารวะใต้เท้า เป็นพิเศษด้วยสุราหนึ่งจอก ผู้เยาว์ดื่มก่อนเป็นการคารวะ” พูดจบก็เงยหน้าโก่งคอดื่ม สุรารวดเดียวหมดจอก ก่อนหน้านี้จางเสี้ยนเฉิงร่วมดื่มกับนายอ�ำเภอไช่เจาและพวกติดต่อกันไปหลาย จอก ความสามารถในการดื่มสุรานั้นอ่อนด้อย แต่ยังขืนดันทุรังดื่มจนเกินขนาด ผู้อื่น ดื่มหนึ่งจอกเขากลับดื่มสองจอก บัดนี้ฤทธิ์สุราจึงพุ่งขึ้นมาไม่หยุด นัยน์ตาเยิ้มฉ�่ำพร่า ลาย เขาก้มมองจอกสุราบนโต๊ะแวบหนึ่ง แล้วส่ายหน้าพูด “เทียบกับบิดาของท่านแล้วท่านยังรู้จักปฏิบัติตัว บิดาท่านเป็นคนหัวแข็งดื้อรั้น ไม่มีความสามารถอะไร เพียงแต่รู้จักประจบประแจง เพราะอย่างนี้อายุมากแล้วจึงยัง * หนึ่งจินหนักเท่ากับ 0.5 กิโลกรัม-ผู้แปล ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
21
ไม่มผี ลงานความส�ำเร็จอะไร ภายภาคหน้าถ้าท่านคิดอยากประสบความส�ำเร็จ อย่าได้ เอาเยี่ยงอย่างบิดาท่าน!” หยวนจิน้ ได้ยนิ ค�ำพูดเขาไม่มเี จตนาดี สีหน้าก็แปรเปลีย่ นไปเล็กน้อย แต่อย่างไร เสียเขาก็เป็นแขก ทั้งยังเป็นผู้บังคับบัญชาจึงไม่กล้าพูดจามากความ ได้แต่ก้มหน้าไม่ ปริปาก หยวนเถี่ยเหอได้ยินจางเสี้ยนเฉิงดูหมิ่นบิดาของตัวเองอย่างรุนแรง รอยยิ้มที ่ เกลื่อนเต็มใบหน้าอวบอูมก็แข็งค้างไปในทันที แต่ว่าจางเสี้ยนเฉิงอย่างไรก็เป็นแขกผู้ มีเกียรติ ทั้งวันนี้ยังเป็นวันมงคล ไม่สะดวกที่จะแผลงฤทธิ์ จึงเพียงแต่กระแอมกระไอ ออกมาทีหนึ่ง แสร้งท�ำเป็นว่าไม่ได้ยิน เทสุราใส่จอกจากนั้นก็หันหลังจะไปคารวะที่อื่น ต่อ จางเสี้ยนเฉิงแค่นเสียงดัง “เฮอะ” อย่างเย็นชา “นี่ ข้ายังไม่ได้ดื่ม ท่านก็จะไป แล้ว ไม่รู้สึกว่าเสียมารยาทไปหน่อยรึ?”
22 ไผ่เขียว แปล
3 เรื่ อ งแทรกซ้ อ นอุบัติใ นห้อ งหอ
หยวนเถีย ่ เหอได้ยน ิ ค�ำว่ากล่าวนีแ ้ ล้ว ก็จำ� ต้องหันกลับมาค้อมเอวลง ต�ำ่ แสดงการคารวะอีกคราหนึง่ “ผูเ้ ยาว์คารวะใต้เท้าจางหนึง่ จอก” สายตามองไปทีจ่ อก สุราของจางเสี้ยนเฉิง รอให้เขายกดื่ม คิดไม่ถงึ ว่าจางเสี้ยนเฉิงกลับยังไม่ยอมแตะต้องจอกสุรา หรี่ดวงตาที่ฉ�่ำเยิ้มด้วย ฤทธิเ์ มรัยมองไปยังหยวนจูป่ ทู้ นี่ งั่ อยูด่ า้ นข้าง ก่อนจะค่อยๆ หันหน้ามามองหยวนเถีย่ เหอ ท�ำเสียงเล็กเสียงน้อยหัวร่อออกมา “ได้ยินมาว่าเจ้าสาวของท่านงดงามนัก เรียกนาง มาคารวะสุราให้ข้า นางคารวะกี่จอกข้าก็ดื่มเท่านั้นจอกเป็นอย่างไร?” หยวนเถีย่ เหอบันดาลโทสะ ใบหน้าอวบอูมแดงร้อนไปทัง้ หน้า ขบกรามพูดเสียง ต�่ำ “ใต้เท้าจาง ท่านดื่มจนเมามายหรือว่าท่านเจตนาที่จะหาเรื่อง?” จางเสี้ยนเฉิงหัวเราะหึๆ ยกจอกสุราบนโต๊ะขึ้นมา ค่อยๆ เทราดลงไปบนพื้น พร้อมกับปรายตามองหยวนเถี่ยเหอ “ข้าตั้งใจมาหาเรื่อง จะท�ำไม?” รูปร่างของหยวนเถี่ยเหอสูงกว่าจางเสี้ยนเฉิงอยู่กว่าหนึ่งช่วงศีรษะ มิหน�ำซ�้ำร่าง กายก็อวบอ้วนใหญ่โต แค่ฝ่ามือก็กว้างใหญ่เท่าพัดใบลาน ตอนนี้ถูกจางเสี้ยนเฉิงที่ ผอมแห้งดุจไม้เสียบผียวั่ ให้โกรธ ก็ระงับไฟโทสะไว้ไม่อยู ่ อ้าปากจะด่าว่าออกไป “เจ้า...” หยวนจู่ปู้รีบผลักไสบุตรชายตัวเองไปด้านข้างปากก็ต�ำหนิว่า “เถี่ยเหอไม่อาจ เสียมารยาท รีบถอยออกไป!” ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
23
จางเสีย้ นเฉิงตบโต๊ะดังปัง ลุกพรวดขึน้ มาชีน้ วิ้ ด่าหยวนเถีย่ เหอว่า “เจ้ากล้ากล่าว วาจาหลบหลู่ข้า? เจ้า...” เวินหมิงซือลีข่ องฝ่ายราชทัณฑ์ทนี่ งั่ อยูด่ า้ นข้างรีบผุดลุกขึน้ มารัง้ ตัวจางเสีย้ นเฉิง เอาไว้ แต่กลับถูกเขาสะบัดออก “ถอยไป เจ้าอ้วนน่าตายคนนี้กล้าด่าข้า ข้าต้องให้มัน ได้เห็นดี...” นายอ�ำเภอไช่ที่นั่งร่วมโต๊ะทนดูต่อไปไม่ได้อีก ตวาดเสียงหนัก “ใต้เท้าจาง!” จางเสี้ยนเฉิงยังย�ำเกรงนายอ�ำเภอไช่อยู่ พอได้ยินเสียงเรียกอย่างไม่สบอารมณ์ ก็ไม่กล้าปริปากอีก เดินสะเงาะสะแงะกลับมานั่งลงค้อมตัวกล่าวขอโทษด้วยใบหน้า แดงก�่ำ “ใต้เท้า ผู้น้อย...ผู้น้อยเสียมารยาทแล้ว...” หัวคิว้ นายอ�ำเภอไช่ยงั ขมวดแน่นขณะกล่าว “เอาอย่างนีไ้ หม ข้าจะให้คนส่งท่าน กลับไปก่อน” “ไม่! ไม่ต้องขอรับ!” จางเสี้ยนเฉิงปรายตามองหยวนเถี่ยเหออีกแวบ ก่อนกล่าว กับไช่เจาว่า “ผู้น้อยไม่เป็นไร อยากขอร่วมดื่มเป็นเพื่อนใต้เท้าอีกสักสองสามจอก” เมิ่งเทียนฉู่มองดูเหตุการณ์อยู่ด้านข้างอย่างเยือกเย็น วันเวลาที่ผ่านมานี้เขาก็ พอรูอ้ ยูบ่ า้ งว่า จางเสีย้ นเฉิงปฏิบตั ติ อ่ ผูอ้ นื่ ไม่คอ่ ยดีนกั เข้ากับหยวนจูป่ ไู้ ม่ได้แม้แต่นอ้ ย เมื่อครู่แกล้งท�ำเป็นดื่มจนเมามายพูดจาเลอะเทอะแต่ความเป็นจริงกลับตั้งใจหาเรื่อง จึงช่วยพูดคลีค่ ลายบรรยากาศทีน่ า่ กระอักกระอ่วนในขณะนีว้ า่ “อย่างนัน้ ก็ดซี ิ มา พวก เรามาร่วมกันดื่มสุรามงคลให้คู่บ่าวสาวสองคน คว�่ำจอก!” นายอ�ำเภอไช่หัวร่อฮ่าๆ พยักหน้ากล่าว “ท่านเมิ่งพูดได้ดี มา ทุกท่าน พวกเรา คว�่ำจอก!” พวกเวินหมิงทีเ่ ป็นซือลีข่ องทัง้ หกฝ่ายต่างก็ทยอยกันยกจอกสุราขึน้ จางเสีย้ นเฉิง ให้ความเคารพมีมารยาทกับเมิง่ เทียนฉูต่ ลอดมา พอได้ยนิ ค�ำกล่าวเชิญชวนก็รบี ยกจอก สุราขึ้น คารวะซึ่งกันและกันแล้วจึงค่อยยกดื่มรวดเดียวจนหมด หยวนจู่ปู้ก็ดื่มไปหนึ่งจอกเช่นกัน พร้อมกับส่งสายตาให้บุตรชายถอยไป หยวนเถี่ยเหอจึงค่อยยกจอกสุราเดินจากไปช้าๆ ข่มกลั้นโทสะเอาไว้ในใจจน คารวะสุราเสร็จรอบหนึ่ง สุราที่ร�่ำดื่มเข้าไปเป็นจ�ำนวนมากอยู่ จึงเดินโซเซกลับมาถึง ห้องหอ ผ้าคลุมศีรษะสีแดงของเจ้าสาวหลินซือถูกปลดลงแล้วเมื่อตอนส่งตัวเข้าห้องหอ นางก�ำลังนัง่ อยูร่ มิ เตียงมงคล พอเห็นหยวนเถีย่ เหอก้าวเข้ามาในห้อง ใบหน้างามน่ารัก ก็แดงก�ำ่ เป็นลูกต�ำลึงสุก ก้มหน้าลงด้วยความเอียงอายคล้ายต้องการซุกไว้กบั อกตัวเอง 24 ไผ่เขียว แปล
อันที่จริงเจ้าสาวนางนี้ปกติรูปร่างหน้าตาก็งดงามชวนมองอยู่แล้ว แต่ค�่ำคืน ร่วมหอกลับยิ่งแต่งหน้าประทินโฉมจนท�ำให้จิตใจผู้คนหวั่นไหวมากขึ้นไปอีก นัยน์ตา หยวนเถี่ยเหอที่เยิ้มฉ�่ำด้วยฤทธิ์สุรามองอย่างตื่นตะลึงแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง รู้สึกว่า เจ้าสาวงามสะคราญดุจดั่งนางเซียนก็มิปาน พริบตานั้นก็เอาเรื่องไม่สบอารมณ์เมื่อครู ่ โยนทิ้งไว้ข้างหลังทันที เขาก้าวไปนั่งที่ริมเตียงอย่างอดรนทนไม่ได้ โอบกอดหลินซือเข้าไว้ในอ้อมอก ล้มทับลงไปบนเตียง หลินซือถูกร่างเจ้าเนื้อของเขากดทับ จมูกได้กลิ่นอายบุรุษเข้มข้น ในใจทั้งหวาด กลัวทั้งหวั่นไหว พูดปนหอบว่า “สามี...อย่า แขกเหรื่อยังไม่กลับ...ระวังมีคนเข้ามา!” ริมฝีปากอวบหนาของหยวนเถี่ยเหอระดมจูบซอนไซ้ไปทั่วใบหน้าขาวละเอียด เนียนนุ่มของนางไม่ยอมหยุด พูดเสียงเร่าร้อนว่า “ไม่เป็นไร...ไม่มีใครเข้ามาหรอก...” หยวนเถี่ยเหอไฟปรารถนาแผดเผา กระชากทีเดียวเสื้อด้านหน้าของหลินซือก็ หลุดติดมือออกมา เวลานัน้ เองนอกหน้าต่างก็มเี สียงดังแกร๊กลอยมากระทบโสต หลินซือ ที่ก�ำลังล่องลอยเคลิบเคลิ้มก็ผวาได้สติขึ้นมาในทันที ร้องเสียงสั่นว่า “มีคน!” หยวนเถี่ยเหอรีบกระดกตัวลุกขึ้น กระโจนสองก้าวถึงหน้าประตู กระชากเปิด ก้าวข้ามออกมานอกห้องหออย่างรวดเร็ว เห็นคนสองคนก�ำลังลนลานถอยห่างออกจาก หน้าต่าง หนึ่งในนั้นที่รูปร่างสูงใหญ่หัวเราะแหะๆ ออกมาด้วยหนังหน้าหนายิ่ง “เถี่ย เหอ เป็นพวกเราเอง...” บุรุษอีกผู้หนึ่งที่หน้าตาหล่อเหลารูปร่างสะโอดสะอง ยามนี้ใบหน้ากลับบึ้งตึง เขียวคล�้ำ ดวงตาสองข้างคล้ายมีอัคคีพวยพุ่งจ้องเขม็งมาที่หยวนเถี่ยเหอ หยวนเถี่ยเหอตีหน้าเคร่งขรึมถามออกไป “หลินเทียนหู่ จั๋วซิน พวกเจ้ามาท�ำ อะไร?” หลินเทียนหูเ่ ป็นพวกไม่เอาถ่านไร้งานการท�ำ ชือ่ เสียงเน่าเหม็นไปทัว่ หมูบ่ า้ น อายุ อานามสามสิบเข้าไปแล้ว แต่ยังโสดไร้คู่ครอง มาแอบถ�้ำมองผู้คนในห้องหอก็ยังพอ ให้อภัยได้ แต่บุรุษที่หล่อเหลาสะโอดสะองนามว่าจั๋วซินนั้นเป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของ จวนว่าการ กลับแล่นมาท�ำเรื่องท�ำนองนี้ด้วย นี่ท�ำให้เขารู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง หลินเทียนหู่หัวเราะแหะๆ พูดอ้อมแอ้มว่า “พวกเราสองคนมาก่อกวนเจ้าบ่าว เจ้าสาวในห้องหอ...” หยวนเถี่ยเหอควงหมัดทีหนึ่ง ค�ำรามออกมาว่า “หน้าไม่อาย! ยังไม่รีบไสหัวไป อีก!” ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
25
หลินเทียนหู่ยิ้มเจื่อนๆ หมุนตัวตั้งท่าจะเดินจากไป แต่กลับถูกจั๋วซินรั้งตัวไว้ จั๋วซินจ้องหยวนเถี่ยเหอเขม็งถามว่า “พี่หยวน ให้ข้าพูดกับซือซือหน่อยได้หรือไม่?” หยวนเถี่ยเหอบันดาลโทสะ ตะคอกเสียงกร้าว “เจ้ากับภรรยาข้ามีเรื่องอะไรต้อง พูดกัน เจ้าเป็นเจ้าหน้าที่ในจวนว่าการอยู่ดีๆ กลับตามคนไม่เอาถ่านอย่างหลินเทียนหู่ มาแอบถ�้ำมองผู้คนในห้องหอ ไม่รู้จักอับอายบ้างเชียวรึ?” จัว๋ ซินกล่าวว่า “พีห่ ยวน ข้าไม่ได้ตงั้ ใจจะมาแอบถ�ำ้ มองพวกท่าน ข้ามาเพียงเพือ่ คิดจะกล่าวกับซือซือสักสองสามประโยคเท่านั้น” หยวนเถีย่ เหอได้ยนิ เขาเรียกขานภรรยาตัวเองอย่างสนิทสนม ในใจรูส้ กึ ว่ามีอะไร ไม่ชอบมาพากลจึงถามเสียงเข้มว่า “เจ้ารู้จักภรรยาของข้าด้วยหรือ?” จั๋วซินสีหน้าเศร้าสลด “ไม่เพียงแต่รู้จัก! เดิมทีนางควรจะเป็นภรรยาข้าด้วยซ�้ำ ไป!” หยวนเถีย่ เหอตะลึงพรึงเพริดไปชัว่ ขณะ จากนัน้ ก็รบี หันกลับไปทางห้องหอตะโกน ว่า “ภรรยา คนแซ่จั๋วผู้นี้บอกว่าเดิมทีเจ้าควรจะเป็นภรรยาของเขา แท้ที่จริงเรื่องราว เป็นอย่างไรกันแน่!” หลินซือมิได้ขานรับ หยวนเถีย่ เหอรอชัว่ อึดใจหนึง่ ก็ยงั ไม่ได้ยนิ เสียงตอบ ไฟโทสะ เริม่ คุกรุน่ จึงค�ำรามเสียงก้อง “นี ่ ข้าก�ำลังถามเจ้าอยูน่ ะ! เจ้ารูจ้ กั เจ้าคนแซ่จวั๋ นีห่ รือไม่?” “ไม่...ไม่รู้จัก...” จั๋วซินค�ำรามว่า “พูดเหลวไหล! ซือซือเจ้าออกมา! ข้าอยากจะถามเจ้าเพียง ประโยคเดียวเท่านั้น ถามเสร็จข้าก็จะกลับ!” “ข้า...ข้ากับท่านไม่มีอะไรต้องพูดกัน ท่านรีบไปเถอะ!” “ซือซือ! เจ้าใจด�ำถึงเพียงนี้จริงๆ?” จั๋วซินร�่ำร้องเสียงดังคิดจะกระโจนเข้าห้อง หอไป หยวนเถี่ยเหอเพลิงโทสะโหมกระพือ จับตัวเขากระชากอย่างแรงท�ำเอาจั๋วซินล้ม ทั้งยืน ท้ายทอยกระแทกขั้นบันไดจั๋งหนับจนต้องร้อง “โอ๊ย” มือกุมศีรษะไว้นอนงอก่อ งอขิงอยู่บนพื้นไม่ขยับเขยื้อนตัวอีก หยวนเถี่ยเหอเห็นเหตุการณ์เลยเถิดก็ตะลึงงัน ไม่รู้ว่าควรจะท�ำอย่างไรดี หลิน เทียนหู่คนไม่เอาถ่านกลับรู้สึกตื่นเต้นสนุกสนาน ตะโกนเสียงดังว่า “ฮ้า ท่านกระชาก จั๋วซินล้มหัวกระแทกพื้นตาย ดูซิว่าท่านจะท�ำยังไง!”
26 ไผ่เขียว แปล
4 ความสั ม พัน ธ์
เจ้าสาวหลินซือพอได้ยน ิ เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของจัว๋ ซิน ตาม ด้วยเสียงตะโกนของหลินเทียนหู่ ก็ตื่นตระหนกจนหัวใจแทบหยุดเต้น รีบถลันออกมา จากห้องทันที พอเห็นจั๋วซินนอนขดตัวแน่นิ่งอยู่บนพื้นลานบ้านก็หวาดกลัวจนหวีดร้อง เสียงแหลมออกมาทีหนึง่ ก่อนจะรีบยกมือขึน้ ปิดปากตัวเองชิงก้าวเข้าไปโอบกอดจัว๋ ซิน พลางเขย่าตัวร้องเรียกออกมาว่า “พี่ซิน! ท่านเป็นอะไรไป?” หยวนเถี่ยเหอได้ยินค�ำพูดนี้ก็เข้าใจได้ในพริบตาที่แท้ภรรยาตัวเองก็มีความ สัมพันธ์กับเจ้าปัญญาชนหน้าขาวคนนี้จริงๆ หยวนเถี่ยเหอลืมความเป็นตายของจั๋วซิน ไปแล้ว เขาระเบิดโทสะอย่างยัง้ ไม่อยู ่ ยืน่ มือไปขยุม้ เส้นผมของหลินซือกระชากดึงอย่าง แรงให้ลุกขึ้นมา ปากตะคอกด่าว่า “นังคนต�่ำทราม!” จากนั้นก็สะบัดมือตบฉาดเข้าที่ ใบหน้าบอบบางอย่างโกรธแค้น ท�ำเอาหลินซือหมุนคว้างซวนเซไปหลายก้าวก่อนจะล้ม ลงบนลานบ้าน หลินเทียนหูก่ ระโดดโลดเต้นร้องเสียงดังอย่างสนุกสนาน “ฮ้า! ตีคนตาย! เจ้าบ่าว ตีคนตายแล้ว!” เสียงเอะอะโวยวายนี้เรียกให้บรรดาแขกเหรื่อทยอยวิ่งกรูกันเข้ามาที่ลานบ้าน หน้าห้องหอ โต๊ะประธานของพวกเมิ่งเทียนฉู่และนายอ�ำเภอไช่นั้นอยู่ใกล้ห้องหอที่สุด ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
27
แถมไม่มีผู้ใดหาญกล้าวิ่งแซงหน้าใต้เท้านายอ�ำเภอ ดังนั้นนายอ�ำเภอไช่กับพวกจึงมา ถึงก่อนเป็นกลุ่มแรก แขกผู้มีเกียรติคนอื่นๆ จึงค่อยตามติดมา ทันทีที่สายตาทุกคู่เห็น จั๋วซินนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่บนพื้นพร้อมเลือดสดๆ อาบชุ่มเส้นผม อีกทั้งเจ้าสาว หลินซือก็นอนร้องไห้ฮือๆ อยู่บนพื้น เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ดังเซ็งแซ่โกลาหลขึ้นทันที หยวนจิ้นรีบถลาเข้าไปลงนั่งเขย่าร่างจั๋วซินอย่างร้อนใจ เห็นเขายังไม่ไหวติง ก็ รีบเงยหน้าละล�่ำละลักถามบุตรชายว่า “เกิดอะไรขึ้น? จั๋วซินเป็นอะไรไป?” หยวนเถี่ยเหอจึงค่อยรู้สึกตัวตื่นจากพิษรักแรงหวง พูดติดอ่างออกมาว่า “เขา... ภรรยาข้า...พวกเขา ข้ากระชากเขาแค่ทีเดียว...เขา...” ถึงตอนนี้ เถ้าแก่หลินสองสามีภรรยาค่อยเบียดตัวแทรกเข้ามาได้ พอเห็นบุตร สาวนอนร�่ำไห้อยู่บนพื้นก็รีบปรี่เข้าไปด้วยความตกใจ ฮูหยินหลินโอบกอดบุตรสาวไว้ รีบถามว่า “ลูกเอ๋ย เป็นอะไรไป?” หลินซือซุกหลบกับอ้อมอกของมารดา เอาแต่ร�่ำไห้ไม่ปริปากพูดจา นายอ�ำเภอไช่เจากวาดตามองไปรอบๆ สถานทีเ่ กิดเหตุ ยามกะทันหันไม่รวู้ า่ ควร จะท�ำเช่นไรดี จึงหันหน้ากลับมามองเมิ่งเทียนฉู่ด้วยสายตาเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ ชัว่ ระยะเวลาทีผ่ า่ นมานีเ้ มิง่ เทียนฉูค่ ลุกคลีอยูก่ บั เหล่าเจ้าหน้าทีท่ งั้ หกฝ่ายในจวน ว่าการจนคุ้นหน้ากันดี ด้วยเหตุนี้พอมองปราดก็จดจ�ำเจ้าหน้าที่จั๋วซินได้ เขารีบสืบเท้า เข้าไปนั่งลงยื่นมือไปอังที่จมูกเป็นอย่างแรก ต่อมาก็ส�ำรวจดูบาดแผลที่ท้ายทอย จาก นัน้ ก็ใช้นวิ้ หัวแม่มอื กดลงไปบนจุดเหรินจง* เพียงเดีย๋ วเดียวจัว๋ ซินก็รสู้ กึ ตัวตืน่ ร้องคราง ด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับส่งเสียงเรียกอย่างอ่อนระโหยว่า “ซือซือ!” ผูค้ นทัง้ หลายพอเห็นเขายังไม่มว้ ยมอด ทัง้ ยังรูส้ กึ ตัวตืน่ ขึน้ มาแล้ว ก็พากันระบาย ลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ใบหน้าหลินซือฉายแววดีใจอย่างไม่คาดฝันขึ้นวูบ นางขยับตัวอยู่ในอ้อมอก มารดาแต่กลับไม่กล้ามองไปทางจั๋วซิน เถ้าแก่หลินถามเมิ่งเทียนฉู่ว่า “เขาเป็นอย่างไรบ้าง? ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม ขอรับ?” เมิง่ เทียนฉูพ่ ยักหน้ากล่าวตอบ “ดูจากตอนนีไ้ ม่เป็นอะไร มีแต่บาดแผลภายนอก เท่านั้น” * จุดเหรินจงเป็นหนึ่งในหกจุดบนร่างคนที่ใช้ปฐมพยาบาลยามฉุกเฉิน มีต�ำแหน่งอยู่ตรงกลางของ แนวร่องระหว่างริมฝีปากและจมูก-ผู้แปล 28 ไผ่เขียว แปล
จัว๋ ซินลุกขึน้ นัง่ รูส้ กึ เจ็บแปลบขึน้ มาทีท่ า้ ยทอยจึงยกมือไปคล�ำ สัมผัสได้ถงึ อะไร อุ่นๆ ที่มือจึงชักกลับมาดู พอเห็นเป็นเลือดสดๆ เต็มฝ่ามือ ใบหน้าก็ดูตื่นตระหนกขึ้น มาทันที เมิ่งเทียนฉู่ล้วงผ้าเช็ดหน้าออกจากอกเสื้อ กดลงไปบนบาดแผล บอกเสียงราบ เรียบ “เอามือกดไว้ เดี๋ยวเลือดก็หยุดเอง บาดแผลไม่ใหญ่ ไม่เป็นอะไรหรอก” จัว๋ ซินรีบท�ำตามค�ำบอก เขาเป็นเจ้าหน้าทีข่ องจวนว่าการ ย่อมต้องรูจ้ กั เมิง่ เทียน ฉูก่ นุ ซือฝ่ายกฎหมายและลงทัณฑ์เป็นอย่างดีจงึ รีบกล่าวเสียงเบาว่า “ขอบพระคุณท่าน กุนซือ! ข้าไม่เป็นไรแล้ว” เมิ่งเทียนฉู่ซักถามว่า “เจ้าไม่อยู่ดื่มที่ลานใหญ่ให้สนุกสนาน แล่นมาที่เรือนหอ ของผู้อื่นท�ำอะไร?” จั๋วซินหันหน้าไปมองหลินซือ พูดเสียงแผ่วเบา “ข้า...ข้าดื่มจนเมามายแล้ว...ก็ เลยอยากจะมาพบซือซือ...” “เจ้ากับนางคบหากันมาก่อนหรือ?” ไม่รอให้จั๋วซินได้เอ่ยปาก เถ้าแก่หลินก็รีบพูดแทรก “ไม่! ซือซือของพวกเราไม่ รู้จักเขามาก่อน!” หยวนเถี่ยเหอที่ยืนฮึดๆ ฮัดๆ อยู่ด้านข้างพูดอย่างโกรธแค้น “ไม่รู้จักอะไรกัน เมื่อครู่ตอนคนแซ่จั๋วล้มลง...” “เขยขวัญ! ตอนนี้ซือซือก็เป็นภรรยาของเจ้าแล้ว ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับผู้ อื่นอีก!” เถ้าแก่หลินรีบพูดตัดบทหยวนเถี่ยเหอทันที หยวนเถี่ยเหอพอได้ยิน สติก็เริ่มคืนกลับมาบ้าง คิดในใจว่าค�ำพูดนี้นับว่าไม่ผิด ต่อให้เมื่อกาลก่อนหลินซือจะมีความสัมพันธ์อะไรกับจั๋วซินผู้นี้ แต่ตอนนี้นางก็ได้เป็น ภรรยาเขาแล้ว มีอะไรก็ให้พดู กันแต่ในบ้าน เรือ่ งเน่าเหม็นมิอาจให้ลว่ งรูอ้ อกไปภายนอก ได้ จึงพยักหน้าเดินไปถึงเบื้องหน้าฮูหยินหลิน ยื่นมือไปจับแขนหลินซือช่วยประคอง นางให้ลุกขึ้นมา ดวงตาหลินซือเอ่อคลอไปด้วยหยาดน�้ำตา มองหน้าหยวนเถี่ยเหอพูดเสียงเบา คล้ายกระซิบ “สามี...ข้า...” “ไม่ต้องพูดแล้ว...ข้ารู้ดีว่าเจ้ากับคนแซ่จั๋วนี่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกัน พวกเรา กลับเข้าห้องกันเถอะ” หลินซือพยักหน้าด้วยความซาบซึ้งใจ เดินอิงแอบหยวนเถี่ยเหอโดยไม่มองไป ทางจั๋วซินแม้แต่น้อย เข้าห้องปิดงับประตูลง ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
29
จั๋วซินใบหน้าซีดขาวราวกับคนตาย พึมพ�ำออกมาเบาๆ “ไม่มีความเกี่ยวข้อง... ดี! ไม่มีความเกี่ยวข้อง...ฮ่าๆๆ...” เขาลุกยืน กวาดตามองไปรอบๆ พลางพูดว่า “เอาละ เมื่อครู่นี้คนแซ่จั๋วดื่มจน เมามาย จะเดินไปห้องสุขา คิดไม่ถงึ ว่าจะไปผิดที ่ ยึดเอาเรือนหอเป็นห้องสุขาไปเสียได้ ฮ่าๆ ไป! พวกเราไปร�่ำดื่มกันต่อ!” พูดจบก็ตรงเข้าดึงตัวหลินเทียนหู่ เบียดเสียดผู้คน ทั้งหลายออกไป เสี้ยนเฉิงจางฉือเห็นว่าคืนมงคลของบุตรชายหยวนจิ้น กลับถูกเรื่องประเภทสอง บุรุษแย่งชิงหนึ่งสตรีก่อกวนจนปั่นป่วนวุ่นวายโดยไม่คาดฝัน ท�ำให้หยวนจิ้นอับอาย ขายขีห้ น้า ก็อดหัวร่อเสียงดังด้วยความสุขสมใจไม่ได้ “ฮ่าๆ เรือนหอกลายเป็นห้องสุขา ฮ่าๆๆๆ ค�ำพูดของคนผู้นี้นับว่าน่าสนใจดีแท้! ฮ่าๆๆ” หยวนจิน้ พยายามฝืนยิม้ เอ่ยว่า “ใต้เท้าไช่ ใต้เท้าจาง ท่านกุนซือ แขกผูม้ เี กียรติ ทุกท่าน ไม่มีอะไรแล้ว เป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น ขอเชิญทุกท่านกลับไปยังงาน เลี้ยง พวกเราดื่มกันต่อให้สะใจไปเลย!” นายอ�ำเภอไช่พยักหน้า หันร่างเดินจากไป จางฉือพูดพลางหัวร่อ “ใช่แล้ว สมควรร�่ำดื่มให้สะใจ ฉลองกันหน่อย! ฮ่าๆๆ” จากนั้นก็หมุนตัวเดินตามไป ผู้คนทั้งหลายก็ค่อยขยับเท้าตามพร้อมกับส่งเสียงงึมง�ำ ถกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น มู่หรงจุ่งเส่ว์มาถึงช้า ทั้งยังไม่กล้าเบียดเสียดผู้คนออกมาข้างหน้า ยามนี้ค่อย สบช่องเดินถึงข้างกายเมิ่งเทียนฉู่กระซิบถามว่า “ท่านกุนซือเกิดอะไรขึ้นหรือ?” เมิ่งเทียนฉู่เหลียวมองไปทางประตูห้องหอที่ปิดมิดชิด โคลงศีรษะไปมา แล้วจึง ค่อยชะโงกเข้าไปกระซิบกระซาบว่า “ก็เรือ่ งสายสัมพันธ์ลกึ ซึง้ ระหว่างบุรษุ กับอิสตรีนะ่ สิ คืนมงคลของเจ้าในภายภาคหน้าอย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเชียวนา” ใบหน้างามสะคราญของมู่หรงจุ่งเส่ว์แดงระเรื่อ สายตาช�ำเลืองมองเมิ่งเทียนฉู ่ แวบหนึ่ง จากนั้นก็ก้มหน้านิ่งไม่พูดจาอะไร เมิง่ เทียนฉูห่ วั เราะหึๆ “หน้าของเจ้าบางจริงๆ แล้วไปเถอะ ไม่พดู เล่นกับเจ้าแล้ว กลับไปดื่มสุราต่อดีกว่า” มูห่ รงจุง่ เส่วพ์ ดู เสียงแผ่วเบา “ดืม่ น้อยหน่อยเถอะนะเจ้าคะ อย่าดืม่ จนเมามาย...” “ฮ่าๆ ดื่มสุราไม่ดื่มให้เมามาย ยังจะดื่มไปท�ำไมกันเล่า? ที่ดื่มก็เพราะอยากจะ รู้สึกมึนๆ เคลิ้มๆ นี่แหละ หึๆ ระวังให้ดีล่ะ ข้าเมาแล้วมือไม้มักจะอยู่ไม่สุขเดี๋ยวจะ เสียมารยาทเอากับเจ้าได้นา ฮิๆ!” 30 ไผ่เขียว แปล
หน้าขาวนวลเนียนของมู่หรงจุ่งเส่ว์บัดนี้กลับกลายเป็นผ้าแดงงามงดผืนหนึ่ง นางปรายตามองเมิ่งเทียนฉู่อีกคราก่อนจะก้มหน้าหันร่างเดินจากไป สายตากึ่งค้อนกึ่งช�ำเลืองนี้ท�ำให้เมิ่งเทียนฉู่แน่ใจว่า ถ้าหากตอนนี้เขาโอบรั้ง ร่างงามเข้าอ้อมอก นางต้องไม่ปฏิเสธแน่นอน หรืออาจถึงกับเป็นไปได้ว่านางเองก็รอ คอยมาโดยตลอด เพียงแต่เหนียมอายจนเกินไป จึงเอาความรู้สึกกลบซ่อนไว้จนลึก สุดก้นบึ้งของหัวใจ งานมงคลของบุตรชายจู่ปู้มาเกิดเรื่องราวอย่างนี้ เจ้าหน้าที่บางคนไม่สะดวกใจ ที่จะอยู่ฉลองให้เนิ่นนานไปอีก อีกอย่างตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืด เสียงฆ้องเคาะบอกโมงยาม ดังขึ้นแล้ว จึงพากันทยอยขอตัวกลับไป
ยอดกุนซือทะลุมิติ 2
31