กุหลาบ มนตรา วารี

Page 1


THE LADY OF THE RIVERS


ผลงานก่อนหน้าโดยผู้เขียนเดียวกัน ชุดราชสำ�นักทิวดอร์ สงครามรัก อำ�นาจ ราชบัลลังก์ มรดกเลือดตระกูลโบลีน หนึ่งนารีลิขิตบัลลังก์


THE LADY OF THE RIVERS กุหลาบ มนตรา วารี

Philippa Gregory วรางคณา เหมศุกล แปล

กรุงเทพมหานคร  สำ�นักพิมพ์มติชน  2557


กุหลาบ มนตรา วารี • วรางคณา เหมศุกล แปล

จากเรื่อง The Lady of the Rivers ของ Philippa Gregory Thai Language Translation Copyright 2014 by Matichon Publishing House. Copyright © 2012 by Plilippa Gregory. All Rights Reserved. Published by Arrangement with the original publisher, “Simon & Schuster, Inc.” through Tuttle-Mori Agency Co., Ltd. พิมพ์ครั้งแรก : สำ�นักพิมพ์มติชน, มีนาคม 2557 ราคา  290  บาท ข้อมูลทางบรรณานุกรม เกรเกอรี, ฟิลิปปา. กุหลาบ มนตรา วารี. กรุงเทพฯ : มติชน, 2557. 512 หน้า. 1. นวนิยายแปล  I.วรางคณา เหมศุกล, ผู้แปล  II. ชื่อเรื่อง 823.914 ISBN 978 - 974 - 02 - 1258 - 4

ที่ปรึกษาส�ำนักพิมพ์  : อารักษ์  ​คคะนาท, สุพจน์  แจ้งเร็ว, สุชาติ  ศรีสุวรรณ, ปิยชนน์  สุทวีทรัพย์, ไพรัตน์  พงศ์พานิชย์, ศิริพงษ์  วิทยวิโรจน์, นงนุช สิงหเดชะ ผู้จัดการส�ำนักพิมพ์  : กิตติวรรณ เทิงวิเศษ • รองผู้จัดการส�ำนักพิมพ์  : รุจิรัตน์  ทิมวัฒน์ บรรณาธิการบริหาร : สุลักษณ์  บุนปาน • บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์  : พัลลภ สามสี ผู้ช่วยบรรณาธิการ : ทิมา เนื่องอุดม • พิสูจน์อักษร : บุญพา มีชนะ กราฟิกเลย์เอาต์  : กิตติชัย ส่งศรีแจ้ง • ออกแบบปก : ด�ำรงค์ศักดิ์  ทรงเดช ศิลปกรรม : มาลินี  มนตรีศาสตร์  • ประชาสัมพันธ์  : กานต์สินี  พิพิธพัทธอาภา

หากท่านต้องการสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จ�ำนวนมากในราคาพิเศษ เพื่อมอบให้วัด ห้องสมุด โรงเรียน หรือองค์กรการกุศลต่างๆ โปรดติดต่อโดยตรงที่ บริษัทงานดี จ�ำกัด โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3353 โทรสาร 0-2591-9012

www.matichonbook.com บริษัท มติชน จำ�กัด (มหาชน) : 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์  0-2580-0021 ต่อ 1235  โทรสาร 0-2589-5818 แม่พิมพ์สี-ขาวดำ� : กองพิมพ์สี  บริษัท มติชน จำ�กัด (มหาชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900  โทรศัพท์  0-2580-0021 ต่อ 2400-2402 พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด 27/1 หมู่  5 ถนนสุขาประชาสรรค์  2 ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด นนทบุรี  11120 โทรศัพท์  0-2584-2133, 0-2582-0596  โทรสาร 0-2582-0597 จัดจำ�หน่ายโดย : บริษัทงานดี  จำ�กัด (ในเครือมติชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์  1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900  โทรศัพท์  0-2580-0021 ต่อ 3350-3353 โทรสาร 0-2591-9012 Matichon Publishing House a division of Matichon Public Co.,Ltd. 12 Tethsabannarueman Rd, Prachanivate 1, Chatuchak, Bangkok 10900 Thailand หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องธรรมชาติ  ลดภาวะโลกร้อน  และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้อ่าน


คํ า นํ า สํ า นั ก พิ ม พ์

ทุกสังคมและวัฒนธรรมในโลกใบนี้  ล้วนมีเส้นสมมุติที่มองไม่  เห็นทว่าจับต้องได้  ขีดคั่นครรลองของหญิงและชาย แบ่งแยกให้ด�ำเนินไปควบคู่  เคียงข้างแต่กเ็ ฉพาะในขอบเขตของตน มิได้ผสมกลมกลืนเป็นอันหนึง่ อันเดียวกัน  อย่างแท้จริง แต่ไม่ว่าโลกจะหมุนไปไกลสักแค่ไหน มนุษย์เราก็ยังคงใช้ชีวิตด้วยความ  รูส้ กึ นึกคิดพืน้ ฐานแบบเดิมๆ เราก�ำหนดกฎเกณฑ์ทบี่ อกว่า “ควร” หรือ “ไม่ควร”  ส�ำหรับ “ใคร” และเอ่ยอ้างว่าสิ่งนั้นเป็นความเห็นชอบร่วมกันของทุกฝ่าย...ซึ่ง  ในที่สุดกลับโยงใยไปสู่ความขัดแย้งนานาประการ ประเด็นนี้เองที่  Philippa Gregory หยิบยกมาเล่าผ่านเรื่องราวที่มีชีวิต  ชีวาในนิยายอิงประวัตศิ าสตร์ชดุ ล่าสุดของเธอ ว่าด้วยสงครามระหว่างเครือญาติ  ที่ชาวอังกฤษและผู้ศึกษาประวัติศาสตร์รู้จักกันดีในนามของ “สงครามดอก  กุหลาบ” ยุคสมัยแห่งการช่วงชิงอ�ำนาจระหว่างราชวงศ์แลงคาสเตอร์หรือกุหลาบ  แดง และราชวงศ์ยอร์กหรือกุหลาบขาว จนน�ำไปสู่การสถาปนาราชวงศ์ทิวดอร์  อันเป็นยุครุ่งเรืองของอังกฤษ ตัวละครเอกของ กุหลาบ มนตรา วารี  ยังคงเป็นผู้หญิงตามสไตล์เฉพาะ  ตัวของผูเ้ ขียน แม้จะไม่ใช่เจ้าหญิงหรือราชินที ที่ รงศักดิ ์ แต่อ�ำนาจของ ฌาคแกต  ต้า นับว่าน่าสนใจยิ่ง ในฐานะผู้หญิงที่หาญกล้าเลือกเส้นทางชีวิตของตน นาง  กุหลาบ มนตรา วารี   5


ต้องสละหลายสิง่  เผชิญอันตราย และเสีย่ งภัยทัง้ ทางร่างกายและจิตใจหลายครัง้   หลายหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฌาคแกตต้าก็เป็นบทพิสูจน์ของสตรีที่อยู่รอดด้วยตัว  ของตัวเองในโลกที่ผู้ชายเป็นผู้ตรากฎ ความซับซ้อนย้อนแย้งของสงครามและอ�ำนาจที่แลกด้วยเลือดเนื้อชีวิต  ของผูค้ นมากมาย ได้เผยถึงการตีความบทบาทของผูห้ ญิงในมิตทิ ลี่ มุ่ ลึก บางครัง้   ความเข้มข้นร้อนระอุของการเมืองอาศัยสองมือของผู้หญิงในหน้าที่  “กันชน”  หรือผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง แต่หลายครั้งอีกเช่นกันที่หลังฉากของวิกฤตการณ์  มีผู้หญิง “ชักใย” อยู่เบื้องหลัง และที่สาหัสยิ่งกว่าคือสตรีผู้แสวงหาความรู้  ในศาสตร์และศิลป์มิได้ถูกยกย่องว่าเป็น “หญิงผู้รู้”  มากเท่ากับถูกตราหน้าเป็น  “หญิงผู้ร้าย” ที่บังอาจล�้ำเส้น ไม่วา่ การเข่นฆ่านองเลือดในหมูญ ่ าติพนี่ อ้ งหรือการจ�ำกัดกรอบและหน้าที ่ ของผูห้ ญิง จะเป็นสิง่ ที ่ “ควร” หรือ “ไม่ควร” ในมุมมองของ “ใคร” อย่างไรก็ตาม  สิง่ ทีช่ อบธรรมยิง่ กว่าน่าจะเป็นการยอมรับและปรับตัวให้ได้ในความเปลีย่ นแปลง  ที่เกิดขึ้น เพราะกงล้อแห่งโชคชะตาย่อมเหนี่ยวน�ำทั้งความรุ่งโรจน์และตกอับ  มาสู่ทุกชีวิต เช่นนี้นิยายและประวัติศาสตร์จึงมีคุณค่าในฐานะเครื่องมือสะท้อนที่ช่วย  สะกิดเตือนให้ตระหนักถึงความเป็นจริงที่ยังสัมผัสได้  เพราะในอดีตที่เลยผ่าน  ตลอดจนในโลกสมมุติ  มนุษย์ก็ยังคงท�ำผิดพลาด ย�่ำย�้ำซ�้ำรอยเดิมๆ เสมอ ส�ำนักพิมพ์มติชน

6  วรางคณา เหมศุกล แปล


คํ า นํ า ผู้ แ ป ล

“…ฝันร้ายซึ่งกำ�ลังเผยตัวต่อข้าอย่างแจ่มชัดราวกับจารึก ด้วยอักษรบนกองเพลิง ว่าเด็กสาวจะต้องพานพบจุดจบเช่นไร หากนางฝ่าฝืนกฎของบุรุษและคิดว่าตนสามารถกำ�หนดชะตาชีวิตตัวเองได้ ข้ามาอยู่ตรงนี้ไม่เพียงเพื่อเป็นสักขีพยานจุดจบของคนนอกรีต ทว่าข้าอยู่เพื่อเป็นพยานถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับสตรีที่คิดว่าตัวเองรู้ดีกว่าบุรุษ”

การล่ า แม่มด เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ช่วงยุคกลางของยุโรป ตั้งแต่  ศตวรรษที่  15 จนมาเฟื่องฟูในศตวรรษที่  16-17 (รวมถึงในอเมริกา) ซึ่งเกือบ  ร้อยทัง้ ร้อยของผูท้ ถี่ กู ตัง้ ข้อหาเป็นผูห้ ญิง แม่มดถูกเชือ่ มโยงกับซาตานและปีศาจ  ร้าย บทลงโทษแสนโหดร้าย มีตั้งแต่จับมาเผาทั้งเป็น แขวนคอ ทุบตี  และใช้  ของแหลมทิ่มแทง จนน่าคิดว่าผู้ประหัตประหารหรือนักโทษกันแน่หนอที่เป็น  ปีศาจ ทั้งที่ปกติแล้วใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แต่จู่ๆ คุณก็อาจถูกกล่าวหาว่าเป็น  แม่มดได้ดว้ ยหลายสาเหตุ  ตัง้ แต่หมูบ่ า้ นทีอ่ ยูเ่ กิดโรคระบาด ฝนไม่ตกตามฤดูกาล  หรือมีศัตรูใส่ร้ายป้ายสี  แพะรับบาปจะเป็นผู้หญิงที่มีลักษณะ “ผิดปกติ” เช่น  มีนิ้วหรืออวัยวะผิดปกติ  (มีผู้บรรยายว่ามือข้างหนึ่งของแอน โบลีนมีหกนิ้ว) เป็น  หญิงชราไร้ทายาท หรือเป็นผู้หญิงที่สวยเกินไป กุหลาบ มนตรา วารี   7


“ความผิดปกติ” ที่ส�ำคัญอีกอย่างหนึ่งคือผู้หญิงที่มีความรู้  มีการศึกษา  (นักนิรุกติศาสตร์บางท่านให้ความเห็นว่าค�ำว่า witch มีรากจากภาษาอังกฤษ  โบราณได้แก่  wita “ผู้ทรงสติปัญญา” และ witan “การหยั่งรู้”) ผู้หญิงที่มีการ  ศึกษาและเฉลียวฉลาดถูกมองว่าละเมิดกฎเกณฑ์ที่ขีดแบ่งหน้าที่ระหว่างหญิง  และชาย โดยผู้หญิงมีหน้าที่เลี้ยงลูกและดูแลบ้านเท่านั้น  น้อยนักที่ผู้หญิงจะมี  บทบาทในประวัติศาสตร์  (ซึ่งแน่นอนว่าเขียนโดยผู้ชาย) ฟิลิปปา เกรเกอรี  (Philippa Gregory) เป็นนักเขียนหญิงอีกคนหนึ่งที่  พยายามสร้างพื้นที่ของผู้หญิงในประวัติศาตร์  ผ่านนวนิยายอิงประวัติศาสตร์  สตรี  (ซึ่งเรียกกันเล่นๆ ว่า Herstory) ตัวละครหญิงหลายคนในนิยายของเธอ  อยู่ภายใต้บทบาทที่สังคมจ�ำกัดไว้ให้เพศหญิง แต่ตัวละครของฟิลิปปาจะต่อสู้  กับปิตาธิปไตย และเพิ่มอ�ำนาจให้ตัวเองได้ผ่านพื้นที่ที่เธอยืนอยู่  ไม่ว่าจะใช้  เสน่ห์ยวนยั่ว หรือใช้เวทมนตร์คาถา นางเอกของนิ ย าย  กุ ห ลาบ  มนตรา  วารี   ในมื อ ท่ า นนี้   คื อ   ฌาค  แกตต้าแห่งลักเซมเบิร์ก (Jacquetta of Luxemburg) พระมารดาของสมเด็จ  พระราชินีอลิซาเบธ วู้ดวิลล์  แห่งราชวงศ์ยอร์ก ฌาคแกตต้ามีพลังวิเศษซึ่ง  เป็นมรดกตกทอดจากเทพีแห่งสายน�้ำ ตัวเรื่องจะเน้นหนักที่ชีวิตส่วนตัวของ  ฌาคแกตต้า และบทบาททางการเมืองของเธอ โดยเฉพาะในรัชสมัยพระเจ้า  เฮนรี่ที่หกและพระนางมาร์กาเร็ตแห่งอองฌู  ในช่วงยามที่เกิดความวุ่นวาย  มากมายในอาณาจักร บางครั้งหากต้องการแสดงความเป็นปัจเจกในสังคมที่ปิดกั้น การเปิดเผย  ตัวตนทั้งหมดอาจน�ำไปสู่หายนะ สิ่งที่เราอาจท�ำได้คือต่อรองกับกรอบสังคม  นัน่ คือไม่เปิดทัง้ หมด และไม่ปดิ ทัง้ หมด ดังเช่นฌาคแกตต้า เธอมีบทบาทส�ำคัญ  ยิ่งในสังคมชายเป็นใหญ่  เธอใช้อ�ำนาจพิเศษในตัวเองควบคุมและจัดการหลาย  สิ่งหลายอย่างได้โดยที่ไม่ถูกสังคมตราหน้า ไม่เพียงแค่ฌาคแกตต้าเท่านัน้  ตัวละครหญิงบางคนในเรือ่ งก็มพี ลังวิเศษ  เช่น โจนออฟอาร์ค และมาร์เจอรี  จูร์เดอเมย์น (ทั้งสองคนมีตัวตนจริง) หากแต่  ตัวละครทั้งสองเลือกทางเดินที่แตกต่างจากฌาคแกตต้า ผลลัพธ์จึงเป็นดังที่  ปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์ ดิฉันแปล กุหลาบ มนตรา วารี  โดยตรวจเช็กข้อมูลทางประวัติศาสตร์  8  วรางคณา เหมศุกล แปล


อย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นบริบทของนิยาย รวมถึงล�ำดับ  เครือญาติของตัวละคร ทัง้ นีด้ ฉิ นั ขอขอบคุณเพือ่ นรัก อาจารย์มงิ่  ปัญหา อาจารย์  ประจ�ำภาควิชาภาษาและวรรณคดีอังกฤษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ซึ่งดิฉัน  มักหันหน้าไปปรึกษาอยู่เสมอเมื่อเกิดปัญหาเรื่องการแปล ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง  ความหมาย บริบท ไปจนถึงส�ำนวนภาษา และขอขอบคุณคุณทิมา เนื่องอุดม  บรรณาธิการเล่มผู้ขัดเกลาต้นฉบับอย่างละเอียดรอบคอบ จนส�ำเร็จออกมาเป็น  หนังสือเล่มนี้ ขอให้ท่านมีความสุขกับการอ่านค่ะ วรางคณา  เหมศุกล 2 กุมภาพันธ์  2557

กุหลาบ มนตรา วารี   9



แด่ วิกตอเรีย



โทมัส เกรย์, มาร์ควิสแห่งดอร์เซ็ต

ริชาร์ด เกรย์

(1) เซอร์จอห์น  สมรส อลิซาเบธ (วู้ดวิลล์)  กับ เกรย์ 1437-1492 แอน 1439

มาร์ธา 1450

ลูอิส  1438 (สิ้นชีวิต ในวัยเด็ก)

หลุยส์ แห่งลักเซมเบิร์ก  1418-1475

หมายเหตุ: ปีเกิดของลูกๆ ของฌาคแกตต้า เป็นเพียงการคาดเดา

แผนผังตระกูล ของฌาคแกตต้า

เอลีเนอร์  1452

แอนโทนี่  1442

ไลโอเนล 1453

แมรี่ 1443

มาร์กาเร็ต  1454

ฌาคแกตต้า  1444

เอ็ดเวิร์ด  1455

จอห์น 1445

แคเธอรีน  1458

ริชาร์ด 1446

(1) จอห์น สมรสกับ ฌาคแกตต้า สมรสกับ (2) ริชาร์ด วู้ดวิลล์, แห่งแลงคาสเตอร์, แห่งลักเซมเบิร์ก เอิร์ลริเวอร์สคนแรก ดยุคคนแรก 1415/16-1472 1405-1469 แห่งเบดฟอร์ด 1389-1435

มาร์กาเร็ต เดอ โบซ์ สมรสกับ ปีเตอร์แห่งลักเซมเบิร์ก 1394-1435 1390-1433



เอ็ดเวิร์ด,  เจ้าชายดำ�

จอห์นแห่งกอนท์ ดยุคคนแรก แห่งแลงคาสเตอร์  1340-1399

ทิวดอร์

สมรส กับ จอห์น โบฟอร์ต, เอิร์ลแห่งซอเมอร์เซ็ต  1373-1410

แคเธอรีน ซวีนฟอร์ด

เอ็ดเวิร์ดที่  3 1312-1377

มาร์กาเร็ต สมรส เฮนรี่ที่  6 แห่งอองฌู กับ 14211430-

มาร์กาเร็ต  โบฟอร์ต 1443-

สงครามเครือญาติ ราชวงศ์ยอร์ก, แลงคาสเตอร์ และทิวดอร์  1452

เอ็ดมันด์  ทิวดอร์ 1430-

ยอร์ก

จอร์จ, ริชาร์ด, ดยุคแห่งคลาเรนซ์  ดยุคแห่งกลอสเตอร์  14491452-

ริชาร์ด, สมรส เซซิลี  เนวิลล์ ดยุคแห่งยอร์ก  กับ 1411-

ริชาร์ด, เอิร์ลแห่งเคมบริดจ์  1373-1415

เอ็ดมันด์, สมรสกับ อิซาเบลล์ ดยุคแห่งยอร์ก  แห่งคาสติลล์ 1341-1402

เอ็ดเวิร์ดที่  4 1442-

เฮนรี่ที่  5 สมรสกับ แคเธอรีน สมรส โอเวน ทิวดอร์    จอห์น โบฟอร์ต, แห่งฝรั่งเศส กับ 1386-1422 ราวปี  1385- ดยุคแห่งซอเมอร์เซ็ต  1401-1437 1404-1444

เฮนรี่ที่  4 1367-1413

แบลนช์แห่งแลง สมรส คาสเตอร์ กับ

แลงคาสเตอร์



การสู้รบใน สงครามเครือญาติ

สกาย

อาเบอร์ดีน

อินเวอร์เนสส์

ดันดี

ชัยชนะของแลงคาสเตอร์

สเตอร์ลิง

ชัยชนะของยอร์ก

เอดินเบอระ

กลาสโกว์

เฮดจ์ลีย์ มัวร์ 1464

ทะเลเหนือ

คาร์ไลล์

เฮ็กแซม 1464

เกาะแมน

แลงคาสเตอร์

ทาวตัน ยอร์ก 1461 เพรสตัน เวกฟีลด์ ทะเลไอริช แฟร์รีบริดจ์ 1460 1461 บลอร์ ฮีธ สโตก ลิงคอล์น เชสเตอร์ 1459 คาร์นาร์วอน 1487 ชรูว์สบรี บอสเวิร์ธ ลูสโคต ฟีลด์ 1470 ลุดฟอร์ด บริดจ์ 1485 1459 นอร์แธมป์ตัน 1460 อาเบอริสต์วิธ เอดจ์โคต เซนต์ อัลบันส์ อิปสวิช มอร์ทิเมอร์ส ฟิชการ์ด 1469 1455, 1461 ครอส 1461 บาร์เน็ต ทูกส์บรี คาร์ดิฟฟ์ 1471 1471 ลอนดอน โดเวอร์ บริสทอล สวอนซี ทอนตัน เอ็กซิเทอร์ พลีมัธ เพนแซนซ์

เซาแธมป์ตัน ดอร์เชสเตอร์

วินเชสเตอร์

เฮสติงส์ ลูอิส

คาเลส์

ชิเชสเตอร์

ช่องแคบอังกฤษ

ฝรั่งเศส



ฝรั่งเศส ปี 1430

อังกฤษ

คาเลส์

รูอ็อง

ปารีส

แร็งส์

ทรัวส์ ชีนง

ดีฌง เนอแวร์ส

ดินแดนของฝรั่งเศส ดินแดนของอังกฤษ

ฝรั่งเศส

ดินแดนของเบอร์กันดี

บอร์โดซ์



ปราสาทโบเรอวัวร์  ใกล้เมืองอาร์ราส์  ฝรั่งเศส, ฤดูร้อน–ฤดูหนาว 1430

นางผูเ้ ป็นรางวัลแห่งสงครามแสนพิสดารนัง่ บนตัง่ ตัวเตีย ้ ทีม ่ ม ุ   ห้องขังอย่างเรียบร้อยเช่นเด็กว่าง่าย ทีแ่ ทบเท้าคือเศษซากอาหารเย็นในจานดีบกุ   ซึ่งวางอยู่บนกองฟาง  ข้าสังเกตว่าท่านอาส่งเนื้ออย่างดีกระทั่งขนมปังจากโต๊ะ  อาหารของท่านเองมาให้  แต่นางกินเพียงน้อยนิด  ข้าพบว่าตัวเองก�ำลังจ้องมอง  นาง จากรองเท้าบู๊ตขี่ม้าส�ำหรับเด็กผู้ชายเรื่อยไปจนถึงหมวกของผู้ชายซึ่งปก  คลุมผมสีน�้ำตาลที่ตัดจนสั้น ข้ามองราวกับนางเป็นสัตว์ประหลาดซึ่งถูกจับมา  เพื่อความสนุกสนานของเรา ราวกับมีใครส่งลูกสิงโตจากเอธิโอเปียมาสร้างความ  บันเทิงแก่ตระกูลแห่งลักเซมเบิร์กอันยิ่งใหญ่เพื่อให้เราเก็บไว้เป็นของสะสม สตรี  ที่อยู่เบื้องหลังข้าท�ำเครื่องหมายกางเขนพลางกระซิบ “นางเป็นแม่มดหรือ” ข้าก็ไม่รู้  ใครจะรู้กันล่ะ “ไร้สาระสิ้นดี” ท่านย่าน้อยพูดอย่างไม่เกรงกลัว “ใครสั่งให้ล่ามโซ่เด็กที่  น่าสงสารคนนี้กัน เปิดประตูเดี๋ยวนี้” เกิดเสียงพึมพ�ำสับสนจากเหล่าบุรษุ ผูพ้ ยายามเกีย่ งความรับผิดชอบ จาก  นั้นใครคนหนึ่งจึงหมุนกุญแจใหญ่เข้ากับประตูคุกและท่านย่าน้อยก็ย่างเข้าไป  เด็กสาวคนนี้อายุราวสิบเจ็ดหรือสิบแปด—แก่กว่าข้าเพียงสองสามปี—มองขึ้น  มาจากใต้ผมยุ่งเหยิงปรกหน้าผากขณะที่ท่านย่าน้อยหยุดยืนตรงหน้านาง จาก  นั้นจึงค่อยๆ ลุกขึ้น เปิดหมวก และโค้งค�ำนับน้อยๆ อย่างทุลักทุเล กุหลาบ มนตรา วารี   21


“ข้าคือเลดี้เฌออานน์  ท่านหญิงแห่งลักเซมเบิร์ก” ท่านย่าน้อยกล่าว “นี่  คือปราสาทของลอร์ดจอห์นแห่งลักเซมเบิร์ก” นางพยักพเยิดไปที่อาหญิงของข้า  “นี่คือภรรยาของเขา นายหญิงแห่งปราสาทนี้  เฌออานน์แห่งเบอธูน และนี่คือ  หลานของข้า ฌาคแกตต้า” เด็กสาวมองแน่วแน่มายังเราทุกคนและพยักหน้าให้แต่ละคน ยามนาง  มองข้า ข้ารู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งพยายามเรียกร้องความสนใจจากข้า รู้สึกได้ชัด  ราวกับมีนิ้วมือปัดผ่านต้นคอ มันคือเสียงกระซิบของเวทมนตร์  ข้านึกสงสัยว่า  อาจมีทูตสวรรค์เคียงกายอย่างที่นางกล่าวอ้างยืนอยู่ข้างหลังนางหรือเปล่า อาจ  เป็นพวกเขานั่นแหละที่ข้ารู้สึกถึง “เจ้าพูดได้ไหม สาวน้อย” ท่านย่าน้อยถามเมื่อเด็กสาวไม่พูดอะไร “ได้ค่ะ” สาวน้อยตอบติดส�ำเนียงแถบชองปาญ ข้าคิดว่าเรื่องที่พวกเขา  กล่าวถึงนางนั้นจริงทีเดียว นางไม่เป็นอะไรมากไปกว่าหญิงชาวบ้าน แม้นางจะ  เคยน�ำทัพรบและเคยสวมมงกุฎลงบนพระเศียรของกษัตริย์ “เจ้าสัญญาได้ไหมว่าจะไม่หนี  ถ้าข้าสั่งให้ปลดโซ่จากขาเจ้า” นางลังเล ราวกับว่าอยู่ในฐานะที่จะเลือกได้  “ไม่  ข้าท�ำไม่ได้” ท่านย่าน้อยยิ้ม “เจ้าเข้าใจการปล่อยตัวเชลยโดยมีทัณฑ์บนไหม ข้า  สามารถปล่อยให้เจ้าอยู่กับพวกเราในปราสาทของหลานชายข้าได้  แต่เจ้าต้อง  รับปากว่าจะไม่หนี” เด็กสาวขมวดคิ้วหันหน้าไปอีกทาง เหมือนก�ำลังรับฟังค�ำแนะน�ำ จากนั้น  นางก็ส่ายหัว “ข้ารู้เรื่องทัณฑ์บน มันคือการที่อัศวินผู้หนึ่งให้ค�ำสัตย์กับอัศวินอีก  คน พวกเขาตั้งกฎขึ้นราวกับการประลองคมดาบ ข้ามิใช่คนแบบนั้น น�้ำค�ำของ  ข้าจริงแท้  ไม่เหมือนบทกลอนของกวีเร่รอน และนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ส�ำหรับข้า” “สาวน้อย ทัณฑ์บนไม่ใช่เรื่องเล่นๆ!” อาหญิงเฌออานน์ขัดขึ้น เด็กสาวมองนาง “อ๋อ ใช่สิคะนายหญิง เหล่าขุนนางไม่จริงจังกับเรื่อง  พวกนี้หรอก ไม่จริงจังเหมือนข้า พวกเขาเล่นกันในสงครามและสร้างกฎ ขี่ม้า  ทะยานไปทิ้งเศษสวะในไร่นาของชาวบ้าน และหัวเราะยามหลังคาหญ้าฟางลุก  ไหม้  นอกจากนี้  ข้าให้ค�ำสัญญาไม่ได้  ข้าถูกผูกมัดด้วยค�ำสัญญาอื่นแล้ว” “สัญญาต่อผู้ที่เรียกตัวเองว่ากษัตริย์ฝรั่งเศสโดยมิชอบงั้นหรือ” “สัญญาต่อกษัตริย์แห่งสวรรค์” 22  วรางคณา เหมศุกล แปล


ท่านย่าน้อยหยุดคิดครู่หนึ่ง “ข้าจะบอกให้พวกเขาปลดโซ่และเฝ้าเจ้าไว้  เจ้าจะได้ไม่หนี  จากนัน้ เจ้ามานัง่ กับเราในห้องข้าก็ได้  ข้าคิดว่าสิง่ ทีเ่ จ้าท�ำให้แผ่น  ดินและองค์กษัตริย์เป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก โจน แม้ว่าเจ้าจะหลงผิดไป แต่ข้าจะ  ต้องไม่เห็นเจ้าในสภาพนี้ใต้ชายคาของข้า เช่นนักโทษที่ถูกล่ามโซ่” “ท่านจะบอกให้หลานชายท่านปล่อยตัวข้าหรือ” ท่านย่าน้อยลังเล “ข้าสั่งเขาไม่ได้  แต่ข้าจะท�ำทุกอย่างที่ท�ำได้เพื่อส่งเจ้า  กลับบ้าน ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะไม่ปล่อยให้เขาส่งตัวเจ้าให้ฝ่ายอังกฤษ” เมื่อได้ฟังค�ำพูดนี้แล้วเด็กสาวก็ตัวสั่นงันงกและท�ำเครื่องหมายกางเขน  ทุบหัวและอกด้วยท่าทางน่าขันอย่างที่สุดเหมือนไพร่คนหนึ่งพึงท�ำเมื่อได้ยินชื่อ  ปีศาจ ข้าต้องกลั้นหัวเราะเสียงดัง สายตาคมกริบของเด็กสาวจึงมองมายังข้า “พวกเขาก็แค่มนุษย์ปุถุชน” ข้าอธิบายแก่นาง “พวกอังกฤษไม่มีพลัง  เหนือมนุษย์  เจ้าไม่ต้องกลัวพวกเขา เจ้าไม่ต้องท�ำเครื่องหมายกางเขนเมื่อได้ยิน  ชื่อพวกเขา” “ข้าไม่กลัว ข้ามิใช่คนโง่จะได้กลัวว่าพวกเขามีพลังอ�ำนาจ ไม่ใช่เช่นนั้น  แต่เพราะพวกเขารู้ว่าข้ามีอ�ำนาจ นั่นต่างหากที่เป็นอันตรายยิ่งนัก พวกเขาคลั่ง  เพราะกลัวข้า กลัวมากกระทั่งคิดจะท�ำลายข้าทันทีที่ข้าตกอยู่ในก�ำมือ ข้าคือ  ความกลัวของพวกเขา ความกลัวที่เยื้องย่างในยามราตรี” “ตราบใดที่ข้ายังอยู่  พวกเขาจะท�ำร้ายเจ้าไม่ได้” ท่านย่าน้อยยืนยันกับ  นาง และทันใดนั้น ข้าเข้าใจไม่ผิดพลาดแน่ว่าโจนมองตรงมาที่ข้าด้วยแววตา  แข็งกร้าวและคมกริบราวกับต้องการให้แน่ใจในค�ำพูดที่จริงใจนี้  ว่าข้าเองก็ได้  ยินเสียงสะท้อนของค�ำสัญญาที่ว่างเปล่าอย่างที่สุดนั้นเช่นกัน ท่านย่าน้อยเชื่อว่าหากนางดึงให้โจนมาอยู่ร่วมกับเรา พูดคุย  กับนาง ท�ำให้ศรัทธาอันแรงกล้าของนางเย็นลง และอาจให้การศึกษาแก่นาง  เพียงไม่นานก็อาจจะชีน้ �ำให้เด็กสาวสวมใส่อาภรณ์ของสตรีได้  และเด็กสาวนักรบ  ซึ่งถูกลากลงจากหลังม้าขาวที่กอมปิแอญจะเปลี่ยนแปลง เฉกเช่นพิธีศีลมหา  สนิทแบบกลับ นางจะเปลี่ยนจากเหล้าองุ่นแรงเป็นน�้ำบริสุทธิ์  และนางจะกลาย  เป็นหญิงสาวผู้นั่งในหมู่นางก�ำนัล ผู้ตอบรับค�ำสั่ง ไม่ใช่เสียงระฆังโบสถ์  และ  ถึงตอนนั้นอาจถูกมองข้ามโดยพวกอังกฤษซึ่งตอนนี้เรียกร้องให้เรายินยอมมอบ  กุหลาบ มนตรา วารี   23


แม่มดลักเพศตัวอันตรายให้แก่พวกเขา หากพวกเราไม่มอี ะไรจะมอบให้นอกจาก  หญิงสาวผู้ส�ำนึกผิดและยอมเชื่อฟัง พวกเขาอาจพอใจและเดินหน้าต่อไปบน  เส้นทางแห่งความรุนแรงก็ได้ โจนเหนื่อ ยล้าจากความปราชัยเมื่อ ไม่นานมานี้แ ละความอึดอัดใจที่  กษัตริย์ซึ่งนางสวมมงกุฎให้ไม่ควรค่าแก่การเจิมน�้ำมันศักดิ์สิทธิ์  ศัตรูซึ่งนางเคย  รุกไล่บัดนี้ตีตื้นขึ้นมาบดขยี้นาง และภารกิจซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทรงมอบหมายด้วย  พระองค์เองก�ำลังพรากจากนางไป ทุกอย่างที่ท�ำให้นางเป็นยอดสตรีเบื้องหน้า  กองทหารผู้เคารพรักนางบัดนี้กลับรางเลือน  ภายใต้เมตตาจิตที่สม�่ำเสมอของ  ท่านย่าน้อย นางกลับกลายเป็นหญิงบ้านนอกเฟอะฟะอีกครั้ง ไม่มีอะไรพิเศษ แน่นอนว่านางก�ำนัลของท่านย่าน้อยทุกคนอยากรู้เกี่ยวกับการผจญภัย  ซึ่งจบลงด้วยความปราชัยที่ก�ำลังคืบคลาน และระหว่างที่โจนใช้เวลาหลายวัน  กับเราเพื่อเรียนรู้ความเป็นหญิงสาวมิใช่ยอดสตรี  พวกนางจึงรวบรวมความกล้า  แล้วถามขึ้น “เจ้ากล้าหาญถึงเพียงนีไ้ ด้อย่างไร” คนหนึง่ ถาม “เจ้าเรียนรูท้ จี่ ะกล้าหาญ  ได้อย่างไร ข้าหมายถึงในสนามรบน่ะ” โจนยิ้มให้กับค�ำถาม พวกเราสี่คนนั่งเอื่อยเฉื่อยเหมือนเด็กๆ อยู่บนผืน  หญ้าริมฝั่งคูน�้ำรอบปราสาท พระอาทิตย์เดือนกรกฎาคมทอแสงจ้า ทุ่งหญ้ารอบ  ปราสาทเป็นประกายในไอร้อน แม้แต่ผึ้งยังเกียจคร้าน มันบินหึ่งและสงบเสียง  ราวกับเสพมวลดอกไม้จนมึนเมา เราเลือกนั่งใต้ร่มเงาของหอคอยที่สูงที่สุด ในคู  น�ำ้ ใสราวกระจกเบือ้ งหลังเรา บางครัง้ จะได้ยนิ เสียงปลาคาร์พด�ำผุดด�ำว่ายใต้ผวิ นำ�้ โจนนั่งเหยียดขาเหมือนเด็กผู้ชาย มือหนึ่งแกว่งน�้ำเล่น หมวกหลุบปิดตา  ในตะกร้าข้างกายข้ามีกองเสื้อผ้าซึ่งเย็บได้เพียงครึ่งหนึ่งที่เราต้องเย็บริมส�ำหรับ  เด็กยากจนในเมืองก็องเบรซึ่งอยู่ไม่ไกล แต่เหล่านางก�ำนัลเลี่ยงงานทุกอย่าง  โจนไม่มีทักษะเลย ส่วนข้ามีส�ำรับไพ่พิเศษของท่านย่าน้อยอยู่ในมือ ข้าก�ำลังสับ  และตัดไพ่พลางมองรูปบนหน้าไพ่ไปเรื่อยเปื่อย “ข้ารู้ว่าพระเจ้าทรงเรียกข้า” โจนพูดเรียบๆ “และรู้ว่าพระองค์จะทรงปก  ป้องข้า ข้าจึงไม่กลัวแม้แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในสนามรบ พระองค์ทรงเตือนว่าข้า  จะได้รับบาดเจ็บแต่จะไม่รู้สึกเจ็บปวด ข้าจึงรู้ว่าข้าสู้ต่อได้  ข้าเตือนคนของข้า  ด้วยซ�้ำว่าข้าจะได้รับบาดเจ็บในวันนั้น ข้ารู้ตั้งแต่ก่อนเราจะไปรบ ข้าแค่รู้” 24  วรางคณา เหมศุกล แปล


“เจ้าได้ยินเสียงจริงๆ หรือ” ข้าถาม “เจ้าได้ยินไหมล่ะ” ค�ำถามนี้น่าตกใจมากจนเด็กสาวทุกคนหันขวับมาจ้องข้า ภายใต้สายตา  เหล่านั้นข้าหน้าแดงราวกับได้พูดเรื่องน่าละอาย “ไม่! ไม่!” “แล้วอะไรล่ะ” “เจ้าหมายถึงอะไร” “เจ้าได้ยนิ อะไร” นางถามอย่างเป็นงานเป็นการราวกับใครๆ ก็ได้ยนิ เสียง  นั้น “ก็  ไม่ใช่เสียงหรอก” ข้าบอก “เจ้าได้ยินอะไร” ข้าเหลือบมองไปด้านหลังราวกับจะมีปลาโผล่ขึ้นมาแอบฟัง “เมื่อมีคน  ในครอบครัวข้าก�ำลังจะตาย ข้าจะได้ยินเสียงหนึ่ง” ข้าบอก “เป็นเสียงพิเศษ” “เสียงแบบไหนกัน” เด็กสาวชื่ออลิซาเบธถาม “ข้าไม่รู้เลย ข้าจะได้ยิน  บ้างไหม” “เจ้าไม่อยู่ในครอบครัวเรา” ข้าตอบอย่างร�ำคาญ “แน่นอนว่าเจ้าจะไม่  ได้ยิน เจ้าต้องเป็นเชื้อสายของ...อย่างไรก็เถอะ เจ้าต้องไม่พูดเรื่องนี้  เจ้าไม่ควร  ได้ฟัง และข้าก็ไม่ควรบอกเจ้า” “เสียงแบบไหนกัน” โจนถามซ�้ำ “เหมือนเสียงร้องเพลง” ข้าบอกและเห็นนางพยักหน้า ราวกับนางได้ยิน  เสียงร้องเพลงเช่นกัน “พวกเขาบอกว่ามันเป็นเสียงของเมลูซิน่า นายหญิงคนแรกแห่งตระกูล  ลักเซมเบิร์ก” ข้ากระซิบ “พวกเขาบอกว่านางเป็นเทพีแห่งสายน�้ำผู้ขึ้นมาจาก  แม่น�้ำเพื่อสมรสกับดยุคคนแรก แต่นางไม่ใช่มนุษย์แน่  นางกลับมาเพื่อร�่ำไห้  กับการจากไปของลูกหลาน” “เจ้าได้ยินนางเมื่อไหร่” “คืนที่น้องสาวตัวน้อยของข้าตาย ข้าได้ยินบางอย่าง และรู้ทันทีว่าเป็น  เมลูซิน่า” “แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นนาง” สาวน้อยอีกนางหนึ่งกระซิบเพราะกลัว  ว่าจะถูกกันออกจากวงสนทนา กุหลาบ มนตรา วารี   25


ข้ายักไหล่  และโจนยิ้มเพราะระลึกรู้ถึงความจริงที่อธิบายไม่ได้  “ข้าแค่รู้”  ข้าบอก “ราวกับข้าจ�ำเสียงนางได้  ราวกับข้ารู้จักเสียงนั้นมาตลอด” “เป็นเรื่องจริง เจ้าก็แค่รู้” โจนพยักหน้า “แต่เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ามันมาจาก  พระเจ้าไม่ใช่ซาตาน” ข้าลังเล ค�ำถามแง่จิตวิญญาณใดๆ ควรเก็บไว้ให้พระผู้ฟังค�ำสารภาพ  บาป หรืออย่างน้อยก็แม่และท่านย่าน้อย แต่บทเพลงของเมลูซิน่า ความหนาว  เยือกในไขสันหลัง และบางคราวที่ข้าเห็นสิ่งที่มองไม่เห็น—สิ่งที่สูญหายไปครึ่ง  หนึ่ง บางครั้งก็หายวับไปตามซอกมุม อ่อนจางยิ่งกว่ายามสนธยาสีเทา ความ  ฝันซึ่งชัดเจนเกินกว่าจะลืมเลือน แวบหนึ่งของสังหรณ์ซึ่งข้าบรรยายไม่ถูก—สิ่ง  เหล่านี้เจือจางเสียยิ่งกว่าค�ำพูด ข้าจะถามถึงพวกมันได้อย่างไรในเมื่อข้าสรรหา  นิยามให้พวกมันไม่ได้  ข้าจะทนได้อย่างไรหากมีใครสักคนตั้งชื่อเรียกมันอย่าง  ส่งๆ หรือแย่กว่านั้นคือพยายามอธิบายมัน ข้ากักน�้ำสีเขียวในคูให้อยู่ในมือ  ตลอดไปยังง่ายเสียกว่า “ข้าไม่เคยถาม” ข้าบอก “เพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่  เหมือนกับตอนที่เจ้า  เดินเข้าห้อง ภายในห้องเงียบงัน แต่เจ้ารู้  เจ้าก็แค่บอกได้ว่ามีคนอยู่ในห้อง เจ้า  ไม่ได้ยินและมองไม่เห็น แต่เจ้าก็แค่รู้  มันมากกว่านั้นนิดหน่อย ข้าไม่เคยคิดว่า  มันเป็นพรสวรรค์จากพระเจ้าหรือซาตาน มันไม่ได้เป็นอะไรเลย” “เสียงถึงข้ามาจากพระเจ้า” โจนพูดอย่างมั่นใจ “ข้ารู้ดี  ถ้ามันไม่จริง ข้า  ก็คงก�ำลังหลงทาง” “เจ้าท�ำนายอนาคตได้ไหม” อลิซาเบธถามข้าเหมือนเด็กๆ นิ้วข้าปิดส�ำรับไพ่  “ไม่จ้ะ” ข้าตอบ “และไพ่พวกนี้ก็ไม่บอกอนาคต มัน  ใช้เล่นเท่านั้น มันคือไพ่ส�ำหรับเล่น ข้าไม่ท�ำนายอนาคต ท่านย่าน้อยไม่อนุญาต  แน่แม้ว่าข้าจะท�ำได้” “โอ้  ท�ำนายให้ข้าที!” “มันก็แค่ไพ่ส�ำหรับเล่น” ข้ายืนยัน “ข้าไม่ใช่นักพยากรณ์” “โอ้  หยิบไพ่มาใบหนึ่งและบอกข้าที” อลิซาเบธพูด “และโจนด้วย นาง  จะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าเจ้าต้องอยากรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโจน” “มันไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” ข้าบอกโจน “ข้าเอามันมาด้วยเพื่อที่เราจะ  ได้เล่นกัน” 26  วรางคณา เหมศุกล แปล


“มันสวยจัง” นางว่า “พวกเขาสอนข้าเล่นไพ่แบบนี้ในราชส�ำนักด้วย มัน  ปราดเปรื่องมาก” ข้ายื่นมันให้นาง “ระวังหน่อย มันมีค่ามาก” ข้าพูดอย่างอิจฉาเมื่อนาง  คลี่ไพ่ด้วยมือหยาบกร้านของนาง “ท่านย่าน้อยให้ข้าดูเมื่อข้ายังเล็กและบอกชื่อ  ภาพแต่ละภาพ  นางให้ข้ายืมเพราะข้าชอบเล่น และข้าสัญญากับนางว่าข้าจะ  ดูแลมันอย่างดี” โจนส่งส�ำรับไพ่คืนให้ข้า และแม้นางบรรจงยื่นให้อย่างระวังและข้าก็ยื่น  มือออกไปรับอย่างดี  ไพ่ใบหนึ่งก็ร่วงหล่นลงมาคว�่ำหน้าบนพื้นหญ้าระหว่างเรา “โอ๊ะ! ขอโทษ” โจนอุทานและรีบหยิบมัน ข้ารู้สึกได้ถึงเสียงกระซิบคล้ายลมหายใจเย็นเฉียบแล่นไปตามไขสันหลัง  ทุง่ หญ้าตรงหน้าข้าและแม่ววั แกว่งหางใต้รม่ เงาไม้พลันดูหา่ งไกล ราวกับเราสอง  คนติดอยูใ่ นโหลแก้ว เหมือนผีเสือ้ ในชาม ในโลกอีกใบหนึง่  “เจ้าควรดูมนั ตอนนี”้   ข้าได้ยินตัวเองบอกนาง โจนมองภาพวาดสีเจิดจ้า ดวงตาของนางเบิกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นจึงส่ง  ให้ข้าดู  “นี่หมายความว่าอย่างไรกัน” มันเป็นภาพวาดชายในเครื่องแบบคนใช้สีฟ้า ห้อยหัวลงจากขาที่ยืดออก  ข้างหนึ่ง พับขาอีกข้างอย่างสบายๆ นิ้วเท้าชี้ขึ้นและวางบนขาข้างที่เหยียดตรง  ราวกับก�ำลังเต้นร�ำตีลังกากลางอากาศ เขาพักมือไปด้านหลังเหมือนก�ำลังโค้ง  ค�ำนับ เราต่างเห็นเรือนผมสีฟ้าที่สยายลงอย่างรื่นเริงขณะที่เขาห้อยกลับหัวอยู่  พลางยิ้ม “คนห้อยหัว” อลิซาเบธอ่านไพ่  “แย่จริง มันหมายความว่าอย่างไร โอ้  มัน  คงไม่ได้หมายความว่า...” นางหยุดพูด “มันไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะถูกแขวนคอ” ข้ารีบบอกโจน “อย่าคิด  อย่างนั้น มันก็แค่ไพ่ส�ำหรับเล่น มันไม่ได้หมายความอย่างนั้นเลย” “แล้วมันหมายความว่าอย่างไรล่ะ” เด็กสาวอีกคนร้องถาม แต่โจนยังนิ่ง  เงียบ ราวกับว่านี่ไม่ใช่ไพ่ของนาง ไม่ใช่อนาคตของนางซึ่งข้าปฏิเสธที่จะบอก “ตะแลงแกงของเขาคือต้นไม้ทกี่ �ำลังโตสองต้น” ข้าบอก พยายามซือ้ เวลา  การถูกจับจ้องจากสายตาสีน�้ำตาลจริงจังของโจน “มันหมายถึงฤดูใบไม้ผลิ  การ กุหลาบ มนตรา วารี   27


เริ่มต้น และชีวิต ไม่ใช่ความตาย และมันก็มีสองต้น ชายคนนี้รักษาสมดุลอยู่  ระหว่างต้นไม้สองต้น เขาเป็นจุดศูนย์กลางแห่งการฟื้นคืนชีพ” โจนพยักหน้า “และต้นไม้ก็โค้งให้เขา เขามีความสุข ดูสิ  เขาไม่ได้ถูกแขวนคอให้ตาย  แต่ถูกมัดเท้า” ข้าพูด “ถ้าเขาต้องการ เขาก็แค่ยืดตัวขึ้นเพื่อแก้มัด เขาปล่อยตัว  เองให้เป็นอิสระได้เมื่อต้องการ” “แต่เขาไม่ปล่อยตัวเอง” เด็กสาวตั้งข้อสังเกต “เขาเหมือนนักกายกรรม  หมายความว่าอย่างไรกัน” “มันหมายความว่าเขาจงใจอยู่ตรงนั้น จงใจรอ ปล่อยให้ตัวเองถูกมัดเท้า  ห้อยอยู่กลางอากาศ” “เพื่อเป็นเครื่องสังเวยที่มีชีวิตงั้นหรือ” โจนพูดช้าๆ เอ่ยอ้างถึงพิธีศีลมหา  สนิท “เขาไม่ได้ถูกตรึงกางเขน” ข้ารีบชี้แจง เหมือนกับว่าทุกค�ำที่ข้าพูดจะน�ำ  เราไปถึงความตายในอีกรูปแบบหนึ่ง “มันไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” “ไม่” นางพูด “มันเป็นไพ่ส�ำหรับเล่น เราเล่นมันเป็นกีฬา มันเป็นไพ่ที่  สวยงาม ภาพคนห้อยหัว เขาดูมีความสุข เขาดูมีความสุขที่ได้ตีลังกาในฤดูใบ  ไม้ผลิ  ข้าจะสอนการละเล่นแบบแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างที่เราเล่นกันในชองปาญ ให้ดีไหม” “ดีจ้ะ” ข้าพูด ข้ายื่นมือออกไปรับไพ่จากนาง และนางมองมันครู่หนึ่ง  ก่อนส่งคืนให้ข้า “จริงๆ นะ มันไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” ข้าบอกนางอีก นางยิ้มให้ข้าด้วยรอยยิ้มกระจ่างและจริงใจ “ข้ารู้ดีว่ามันหมายความว่า  อย่างไร” นางพูด “เราเล่นกันได้หรือยัง” ข้าเริ่มสับไพ่และเปิดไพ่ใบหนึ่งในมือ “คราวนี้เป็นไพ่ดี” โจนเอ่ย “กงล้อแห่งโชคชะตา” ข้ายื่นมันให้นางดู  “มันคือกงล้อแห่งโชคชะตาที่โยนเจ้าขึ้นสูง หรือฉุดเจ้า  ลงต�่ำได้  ความหมายก็คือ จงวางเฉยต่อชัยชนะและความพ่ายแพ้  เพราะพวก  มันต่างก็มาเยือนเมื่อกงล้อหมุน” “ในแผ่นดินของข้า ชาวนาท�ำสัญลักษณ์กงล้อโชคชะตา” โจนเอ่ย “พวก  28  วรางคณา เหมศุกล แปล


เขาวาดวงกลมบนอากาศด้วยนิ้วชี้ไม่ว่ายามมีเรื่องดีหรือเรื่องร้ายเกิดขึ้น ยามมี  คนได้รับมรดกหรือมีคนเสียวัวที่มีค่า พวกเขาก็จะท�ำอย่างนี้” นางชี้นิ้วในอากาศ  และวาดวงกลม “และพวกเขาก็พูดบางสิ่ง” “คาถาหรือ” “ก็ไม่เชิงคาถา” นางยิ้มอย่างซุกซน “แล้วอะไรล่ะ” นางหัวเราะคิก “พวกเขาพูดว่า ‘แมร์ด’” (ฉิบหาย) ข้าตะลึงพรึงเพริดจนหัวร่องอหาย “อะไร อะไรกัน” เด็กสาวที่อายุน้อยกว่าถาม “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร” ข้าบอก โจนยังหัวเราะคิก “คนในบ้านเกิดโจนพูด  ได้ถูกต้องว่าทุกอย่างจะกลายเป็นเถ้าธุลี  และสิ่งเดียวที่คนเราท�ำได้คือเรียนรู้ที่  จะวางเฉย” อนาคตของโจนแขวนอยู่บนเส้นด้าย แกว่งไปมาเหมือนคน  ห้อยหัว ครอบครัวของข้าทุกคน ได้แก่พ่อของข้า ปิแอร์  เคานต์แห่งแซ็งต์โปล  อาของข้า หลุยส์แห่งลักเซมเบิร์ก และอาที่ข้าโปรดปราน จอห์นแห่งลักเซมเบิร์ก  ต่างก็เป็นมิตรกับฝ่ายอังกฤษ  พ่อเขียนจดหมายจากปราสาทของเราที่แซ็งต์โปล  ถึงจอห์นน้องชายของเขาในฐานะหัวหน้าครอบครัว และสั่งให้เขามอบตัวโจน  ให้แก่อังกฤษ แต่ท่านย่าน้อยยืนยันว่าเราต้องคุ้มครองนางให้ปลอดภัย ท่านอา  จอห์นจึงลังเล อังกฤษเรียกร้องขอตัวนักโทษของพวกเขา และเนื่องจากอังกฤษมีอ�ำนาจ  สั่งการเกือบทั่วฝรั่งเศส ส่วนดยุคแห่งเบอร์กันดีพันธมิตรของพวกเขาก็มีอ�ำนาจ  ในพืน้ ทีท่ เี่ หลือส่วนใหญ่  สิง่ ทีพ่ วกเขาสัง่ การจึงมักเกิดขึน้ จริงเสมอ  ทหารอังกฤษ  ทรุดลงคุกเข่าในสนามรบเพื่อขอบคุณ และร้องไห้ด้วยความปีติสุขเมื่อสตรีนาง  นั้นถูกจับกุม ในใจของพวกเขาไม่กังขาเลยว่าเมื่อขาดนางกองทัพฝรั่งเศสคู่อริ  จะต้องย่อยยับแตกตื่นเฉกเช่นสภาพก่อนหน้าที่นางจะน�ำทัพเป็นแน่ ดยุคแห่งเบดฟอร์ด ผู้ส�ำเร็จราชการชาวอังกฤษที่ปกครองดินแดนของ  อังกฤษในฝรั่งเศส ดินแดนทางตอนเหนือของประเทศเกือบทั้งหมด ส่งจดหมาย  รายวันถึงอาข้าเพือ่ กระตุน้ เตือนถึงความจงรักภักดีตอ่ อ�ำนาจแห่งอังกฤษ มิตรภาพ  กุหลาบ มนตรา วารี   29


อันยาวนาน และทรัพย์สินที่ตกลงกันไว้  ข้าชอบรอดูผู้น�ำสารชาวอังกฤษซึ่งแต่ง  กายด้วยเครื่องแบบขุนนางในวังราคาแพงบนหลังม้าตัวงาม ทุกคนพูดว่าดยุค  เป็นชายผู้ยิ่งใหญ่และเป็นที่รัก เป็นยอดบุรุษแห่งฝรั่งเศส ผู้ไม่ยอมอดทนต่อการ  ขัดใจ แต่จนแล้วจนรอดท่านอาก็เชือ่ ฟังท่านย่าน้อย และไม่สง่ มอบนักโทษของเรา ท่านอาหวังว่าราชส�ำนักฝรั่งเศสจะประมูลตัวนาง ไม่ว่าอย่างไรพวกเขา  ก็เป็นหนี้ชีวิตนาง แต่แปลกที่พวกเขายังเงียบ แม้กระทั่งหลังจากที่ท่านอาเขียน  จดหมายไปแจ้งว่าท่านได้ตัวนาง และนางพร้อมจะกลับราชส�ำนักแห่งกษัตริย ์ ฝรั่งเศสและรับใช้กองทัพของพระองค์อีกครั้ง เมื่อมีนางน�ำทัพ พวกเขาย่อมต่อ  กรและเอาชนะอังกฤษได้  พวกเขาพร้อมจะมอบทรัพย์มหาศาลเพื่อไถ่ตัวนางคืน  มิใช่หรือ? “พวกเขาไม่ต้องการนาง” ท่านย่าน้อยให้ค�ำแนะน�ำแก่ท่านอา ขณะพวก  เขาอยู่ที่โต๊ะอาหารส่วนตัว ปกติแล้วอาหารเย็นมื้อใหญ่ส�ำหรับคนทั้งปราสาทนั้น  จัดในห้องโถง ทั้งสองท่านจะนั่งต่อหน้าบริวารของท่านอาพลางชิมอาหารจาน  ต่างๆ และส่งต่อไปรอบห้องเป็นของขวัญพิเศษแก่บรรดาคนโปรด ทว่าตอนนี้  พวกเขานัง่ กันอย่างสบายๆ ทีโ่ ต๊ะตัวเล็กหน้าเตาผิงในห้องส่วนตัวของท่านย่าน้อย  โดยมีคนรับใช้ประจ�ำตัวเฝ้าดูแล  ข้าต้องยืนกับนางก�ำนัลอีกคนหนึ่งระหว่างการ  ยกอาหาร งานของข้าคือเฝ้าดูแลเหล่าคนรับใช้  คอยเรียกพวกเขายามต้องการ  ตัว ประสานมือไว้ข้างหน้าอย่างอ่อนน้อม และแสร้งไม่ได้ยินอะไร แต่แน่นอนว่า  ข้าฟังอยู่ตลอด “โจนท�ำให้โดแฟง*ชาร์ลส์น้อยๆ กลายเป็นยอดบุรุษ เขาไม่มีค่าอันใด  จนกระทั่งนางมาหาเขาพร้อมญาณวิเศษ จากนั้นนางก็เปลี่ยนชายผู้นั้นให้เป็น  กษัตริย์  นางสอนให้เขาอ้างสิทธิ์ในมรดกของตัวเอง นางสร้างกองทัพจากผู้ติด  ตามของเขาในค่าย และท�ำให้กองทัพนั้นประสบชัยชนะ ถ้าพวกเขาเชื่อฟังนาง  อย่างที่นางเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า ก็อาจขับพวกอังกฤษออกจากดินแดน  นี้กลับคืนสู่เกาะซึ่งมีแต่เมฆหมอกของพวกเขาได้  และเราก็จะก�ำจัดพวกอังกฤษ  ได้ตลอดกาล” ท่านอายิม้  “โอ ท่านอาหญิง! นีค่ อื สงครามทีด่ �ำเนินมาเกือบศตวรรษแล้ว * Dauphin ชื่อต�ำแหน่งของผู้สืบทอดราชบัลลังก์ของฝรั่งเศส–ผู้แปล 30  วรางคณา เหมศุกล แปล


ท่านคิดจริงๆ หรือว่ามันจะจบลงเพราะเด็กสาวไม่รู้หัวนอนปลายเท้าคนหนึ่งได้  ยินเสียงจากสวรรค์  นางไม่มีวันขับไล่พวกอังกฤษได้หรอก พวกเขาไม่เคยไปจาก  ทีน่ แี่ ละจะไม่มวี นั จากไป โดยสิทธิแ์ ล้วนีค่ อื ดินแดนของพวกเขา ทัง้ โดยสิทธิอย่าง  แท้จริงในมรดกและด้วยการพิชิต สิ่งที่พวกเขาต้องท�ำคือรวบรวมก�ำลังกายและ  ใจเพือ่ ยืนหยัด และจอห์น ดยุคแห่งเบดฟอร์ดจะจัดการเรือ่ งนีเ้ อง” ท่านอาเหลือบ  มองแก้วไวน์  ข้าจึงดีดนิ้วเรียกเด็กหนุ่มรับใช้ไปเติมไวน์แดงให้เขา จากนั้นข้าจึง  ก้าวไปถือแก้วขณะที่ชายหนุ่มรินเหล้า แล้ววางมันลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง  พวกเขาใช้เครื่องแก้วอย่างดี  เพราะอาของข้าร�่ำรวยและท่านย่าน้อยต้องการแต่  สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น “กษัตริย์อังกฤษอาจทรงเป็นแค่เด็กน้อย แต่นั่นไม่ได้ส่งผล  อะไรต่อความปลอดภัยของราชอาณาจักร เพราะพระปิตุลาเบดฟอร์ดจงรักภักดี  ต่อพระองค์อยู่ที่ฝรั่งเศสนี่  และพระปิตุลาดยุคแห่งกลอสเตอร์ก็ภักดีต่อพระองค์  อยู่ในอังกฤษ เบดฟอร์ดมีก�ำลังและพันธมิตรที่จะปกครองดินแดนของอังกฤษที่  นี่  และข้าคิดว่าพวกเขาจะขับโดแฟงลงใต้ไกลออกไปเรื่อยๆ หรืออาจขับไล่เขา  ไปจนสุดทะเล สตรีนางนั้นมีช่วงเวลาของนาง และเป็นช่วงเวลาที่โดดเด่นเสีย  ด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้วอังกฤษก็จะชนะสงครามและยึดครองดินแดนที่เป็นของ  พวกเขาโดยสิทธิ์  และบรรดาขุนนางของเราทุกคนซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อพวกเขาใน  ยามนี้ก็จะคุกเข่ายอมรับใช้” “ข้าไม่คิดเช่นนั้น” ท่านย่าน้อยพูดอย่างเชื่อมั่น “พวกอังกฤษกลัวนาง  พวกเขาว่าไม่มีใครเอาชนะนางได้” “ไม่อีกต่อไปแล้ว” ท่านอาตั้งข้อสังเกต “คิดดูเถอะ! นางเป็นนักโทษ  และประตูคุกย่อมจะไม่เปิดออก พวกเขารู้แล้วว่านางเป็นมนุษย์  พวกเขาเห็น  ธนูปักต้นขานางนอกก�ำแพงปารีส และกองทัพของนางย�่ำเท้าจากนางไป พวก  ฝรั่งเศสเองนั่นแหละที่สอนอังกฤษว่าสามารถล้มและทอดทิ้งนางได้” “แต่เจ้าจะต้องไม่ส่งตัวนางให้อังกฤษ” ท่านย่าน้อยพูด “นั่นจะเป็นการ  เสื่อมเกียรติแก่เราตลอดกาล ทั้งในสายตาของพระเจ้าและชาวโลก” อาข้าโน้มตัวไปข้างหน้าเพือ่ พูดเรือ่ งลับ “ท่านถือเป็นเรือ่ งจริงจังหรือ ท่าน  เชื่อจริงหรือว่านางเป็นมากกว่าจอมลวงโลก ท่านคิดจริงหรือว่านางเป็นมากกว่า  สาวชาวบ้านพูดจาไร้สาระ ท่านก็รู้ว่ามีคนอย่างนางเป็นสิบๆ คน” “เจ้าอาจพบคนนับสิบที่จะพูดว่าพวกเขาเหมือนนาง” นางกล่าว “แต่ไม่มี  กุหลาบ มนตรา วารี   31


ใครเหมือนนาง ข้าคิดว่านางเป็นเด็กพิเศษ ข้าเชื่อจริงนะหลานชาย ข้ามีสังหรณ์  แรงกล้าเรื่องนี้” เขาชะงัก ราวกับว่าสังหรณ์ของนางควรค่าแก่การพิจารณาแม้นางจะเป็น  เพียงสตรีคนหนึ่ง “ท่านเห็นนิมิตความส�ำเร็จของนางหรือค�ำพยากรณ์เช่นนั้นหรือ” นางลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นรีบส่ายศีรษะ “ไม่มีอะไรชัดเจน แต่ไม่ว่าอย่าง  ไร ข้าต้องยืนยันว่าเราจะปกป้องนาง” ท่านอานิ่งเพราะไม่ต้องการขัดนาง นางเป็นท่านหญิงแห่งลักเซมเบิร์ก  เป็นหัวหน้าครอบครัว พ่อข้าจะสืบทอดต�ำแหน่งเมื่อนางสิ้น แต่นางยังเป็นเจ้า  ของที่ดินผืนใหญ่ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของนางโดยสมบูรณ์  ที่จะยกให้ใครก็ได้  อา  จอห์นเป็นหลานชายคนโปรดของนาง เขามีความหวัง และไม่อยากผิดใจกับนาง  “พวกฝรั่งเศสต้องจ่ายค่าไถ่ตัวนางอย่างงาม” เขาบอก “ข้าไม่มีประสงค์  จะเสียเงินไปกับนาง นางควรค่าแก่เงินค่าไถ่จากกษัตริย์  พวกเขารู้ดี” ท่านย่าน้อยพยักหน้า “ข้าจะเขียนถึงโดแฟงชาร์ลส์  เขาจะได้มาไถ่ตวั นาง”  นางบอกเขา “ไม่ว่าเหล่าที่ปรึกษาของเขาจะว่าอย่างไร เขาก็จะฟังข้า แม้ว่าตัว  เองจะถูกบรรดาขุนนางคนโปรดกล่อมจนเอนไปเอนมาเหมือนใบไม้  แต่ข้าเป็น  แม่ทูนหัวของเขา นี่เป็นเรื่องของเกียรติศักดิ์ศรี  เขาติดหนี้บุญคุณสตรีนางนั้นทุก  อย่าง” “เอาเถิด แต่ขอให้ท่านจงด�ำเนินการทันที  พวกอังกฤษกดดันมากและ  ข้าจะไม่ยอมผิดใจดยุคแห่งเบดฟอร์ดแน่  เขาเป็นบุรุษทรงอ�ำนาจและยุติธรรม  เขาเป็นผู้ปกครองฝรั่งเศสที่ดีที่สุดเท่าที่ข้าหวังได้  หากเขาเป็นคนฝรั่งเศส เขาคง  จะเป็นที่รักยิ่ง” ท่านย่าน้อยหัวเราะ “ใช่  แต่เขาก็ไม่ได้เป็น! เขาเป็นผู้ส�ำเร็จราชการของ  อังกฤษ และเขาก็ควรกลับไปยังเกาะชื้นๆ ของตัวเองกับหลานชายตัวน้อย—  กษัตริย์ผู้น่าสงสารได้แล้ว และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากราชอาณาจักรของ  ตัวเองเท่าที่ท�ำได้แล้วปล่อยให้เราปกครองฝรั่งเศส” “เรางั้นหรือ” ท่านอาถามขึ้นราวกับสงสัยว่านางคิดว่าครอบครัวของเรา  ซึ่งมีขุนนางยศเอิร์ลเกือบสิบคน และนับญาติกับจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอัน  32  วรางคณา เหมศุกล แปล


ศักดิ์สิทธิ์  ควรขึ้นเป็นกษัตริย์ฝรั่งเศสด้วยกระนั้น นางยิ้มแล้วตอบอย่างนิ่มนวล “เรา” วันต่อมาข้าเดินไปที่โบสถ์หลังเล็กในปราสาทกับโจนและคุก  เข่าลงข้างนางบนบันไดหน้าแท่นพิธี  นางสวดมนต์ด้วยศรัทธาแรงกล้า นางก้ม  ศีรษะค�ำนับอยู่เป็นชั่วโมง จากนั้นบาทหลวงก็มาประกอบพิธีศีลมหาสนิท โจน  กินขนมปังและเหล้าองุน่ ศักดิส์ ทิ ธิ ์ นางเป็นคนเดียวทีข่ า้ รูจ้ กั ซึง่ กินขนมปังกับเหล้า  องุ่นทุกวันราวกับอาหารเช้า ส่วนแม่ข้าซึ่งเคร่งครัดกว่าคนส่วนมากยังประกอบ  พิธีเพียงเดือนละครั้ง เราเดินกลับห้องของท่านย่าน้อยด้วยกัน พืชสมุนไพรที่ขึ้น  อยู่กระจัดกระจายปัดระเท้าของเราอย่างแผ่วเบา โจนหัวเราะเมื่อข้าต้องก้มหัว  ลงเพื่อให้หมวกทรงกรวยสูงลอดพ้นประตูแคบๆ “มันสวยมาก” นางว่า “แต่ข้าไม่อยากสวมอะไรแบบนี้หรอก” ข้าหยุดและหมุนตัวต่อหน้านางในแสงแดดจัดจ้าที่ลอดเข้ามาทางช่อง  ยิงธนู  ชุดกระโปรงของข้าสีสดงดงาม กระโปรงสีน�้ำเงินและซับในสีเขียวอมฟ้าที ่ สดกว่า กระโปรงทิ้งตัวบานออกใต้เข็มขัดซึ่งรัดชายโครงไว้แน่น หมวกเฮนินทรง  สูงรูปกรวยสวมอยู่บนศีรษะและทิ้งผ้าคลุมสีฟ้าอ่อนจากยอดหมวกเรี่ยลงมาบน  หลังข้า ช่วยปกปิดและขับเน้นผมสีอ่อนของข้า ข้ากางแขนออกเพื่ออวดแขนเสื้อ  ทรงสามเหลี่ยมขนาดใหญ่  ซึ่งแต่งริมผ้าด้วยด้ายทองที่เย็บปักอย่างวิจิตร ข้ายก  ชายกระโปรงขึ้นอวดรองเท้าปลายแหลมสีเลือดหมู “แต่ใส่ชุดอย่างนี้แล้วเจ้าท�ำงาน หรือขี่ม้า หรือแม้แต่วิ่งก็ไม่ได้” นางว่า “มันไม่ใช่ชุดส�ำหรับขี่ม้าหรือท�ำงานหรือวิ่ง” ข้าตอบอย่างมีเหตุผล “มันมี  ไว้ใส่เพื่ออวด ประกาศต่อโลกว่าข้าสาวและสวยและพร้อมจะแต่งงานแล้ว และ  เพื่อประกาศว่าพ่อข้าร�่ำรวยมากจนข้าสามารถสวมเสื้อที่มีด้ายทองปักบนแขน  และใส่หมวกผ้าไหม มันบ่งบอกว่าข้าเกิดในชาติตระกูลสูง ข้าจึงใส่ผ้าก�ำมะหยี ่ และผ้าไหมได้  ไม่ใช่ขนแกะอย่างสาวยากไร้” “ข้าอวดตัวเองด้วยชุดพรรค์นั้นไม่ไหวหรอก” “เจ้าไม่ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว” ข้าชี้แจงอย่างขัดเคือง “เจ้าต้องแต่งตัว  ตามฐานะในสังคม เจ้าต้องท�ำตามกฎและแต่งตัวด้วยผ้าสีน�้ำตาลและเทา เจ้า กุหลาบ มนตรา วารี   33


คิดจริงหรือว่าเจ้าส�ำคัญพอที่จะใส่เสื้อผ้าขนเออร์มิน หรือเจ้าอยากได้ชุดคลุม  เกราะสีทองของเจ้าคืนล่ะ พวกเขาว่าเจ้าสง่างามเหมือนอัศวินในสนามรบ ตอน  นัน้ เจ้าแต่งกายเหมือนขุนนางผูส้ งู ส่ง  ว่ากันว่าเจ้ารักผืนธงอันงดงามและชุดเกราะ  เงาวับพร้อมเสื้อคลุมสีทองอย่างดี  พวกเขาว่าเจ้ามีบาปแห่งความทะนงตน” นางหน้าแดง “ข้าจ�ำเป็นต้องโดดเด่น” นางบอกเป็นเชิงป้องกันตัว “เมื่อ  อยู่ต่อหน้ากองทัพของข้า” “สีทองงั้นหรือ” “ข้าต้องรักษาพระเกียรติแห่งพระเจ้า” “อย่างไรก็เถอะ เจ้าไม่ต้องใส่หมวกแบบนี้ถ้าเจ้าแต่งกายเป็นหญิง” ข้า  บอก “เจ้าต้องใส่อะไรที่ถ่อมตัวกว่านี้  เหมือนพวกนางก�ำนัล ไม่สูงส่งและไม่ต�่ำ  ต้อยจนเกินไป แค่หมวกเรียบร้อยๆ สักใบคลุมผมเจ้าก็พอ และเจ้าใส่รองเท้าบู๊ต  ใต้ชุดกระโปรงของเจ้าก็ได้  จะได้เดินไปไหนมาไหนได้  เจ้าไม่ลองใส่กระโปรงดู  หรือโจน พวกเขาจะได้ไม่กล่าวหาเจ้าเรื่องใส่เสื้อผ้าผู้ชาย หญิงแต่งกายเป็นชาย  เป็นสัญลักษณ์ของความผิดบาปนะ  ท�ำไมไม่ลองใส่ชดุ กระโปรงล่ะ แล้วพวกเขา  ก็จะหาเรื่องเจ้าไม่ได้  ชุดเรียบๆ ก็ได้” นางส่ายศีรษะ “ข้าถูกผูกมัดด้วยค�ำสัญญา” นางพูดเรียบๆ “ค�ำสัญญา  ต่อพระเจ้า และเมื่อกษัตริย์ทรงเรียกหา ข้าต้องพร้อมขี่ม้าออกรบอีกครั้ง ข้าเป็น  ทหารรับใช้มิใช่นางก�ำนัล ข้าจะแต่งกายอย่างทหาร และกษัตริย์ของข้าจะทรง  เรียกข้าสักวัน” ข้าเหลือบมองด้านหลัง เด็กรับใช้ถือเหยือกน�้ำร้อนอยู่ในระยะได้ยิน ข้า  รอจนกระทั่งเขาโค้งค�ำนับและเดินผ่านเราไป “ชู่ว” ข้าพูดเสียงเบา “เจ้าเรียกเขา  ว่ากษัตริย์ไม่ได้ด้วยซ�้ำไป” นางหัวเราะราวกับไม่หวั่นเกรงสิ่งใด “ข้าพาพระองค์ไปงานราชาภิเษก  ของพระองค์เอง ข้ายืนอยู่ใต้ธงรบในมหาวิหารแห่งแร็งส์เมื่อพระองค์ได้รับการ  เจิมด้วยน�้ำมันแห่งโคลวิส ข้าเห็นพระองค์ปรากฏกายต่อประชาชนเมื่อทรงมงกุฎ  แน่นอนว่าพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส พระองค์ทรงได้รับการสวมมงกุฎ  และได้รับการแต่งตั้งแล้ว” “พวกอังกฤษจะตัดลิ้นใครก็ตามที่พูดเช่นนั้น” ข้าเตือนนาง “นั่นส�ำหรับ  ความผิดครั้งแรก  หากเจ้าพูดเป็นครั้งที่สอง พวกเขาจะเอาเหล็กร้อนแดงจี้หน้า  34  วรางคณา เหมศุกล แปล


ผากเจ้าให้มีแผลเป็นไปชั่วชีวิต  พระเจ้าเฮนรี่ที่หก กษัตริย์แห่งอังกฤษ จะเป็น  กษัตริย์แห่งฝรั่งเศส  คนที่เจ้าเรียกว่ากษัตริย์ฝรั่งเศสต้องถูกเรียกว่าโดแฟง มิใช่  ค�ำอื่นนอกจากโดแฟง” นางหัวเราะขบขันเสียเต็มประดา “เขาไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสด้วยซ�้ำ” นางพูด  เสียงดัง “ดยุคแห่งเบดฟอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเจ้าบอกว่าควรเรียกเขาว่าอาร์-  มัญญัก แต่ดยุคแห่งเบดฟอร์ดผู้ยิ่งใหญ่กลับกลัวจนตัวสั่นและวิ่งโร่ไปทั่วรูอ็อง  เพื่อเกณฑ์ไพร่พลเมื่อข้ามาประชิดก�ำแพงปารีสพร้อมกองทัพฝรั่งเศส—ใช่  ข้าจะ  พูด! กองทัพฝรั่งเศสมาเพื่อประกาศสิทธิของกษัตริย์ฝรั่งเศสในเมืองของเรา พระ  องค์ทรงเป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศส และเราก็เกือบยึดมันได้แล้ว” ข้ายกมือปิดหู  “ข้าจะไม่ฟงั เจ้า และเจ้าไม่สมควรพูดเช่นนี ้ ข้าจะถูกเฆีย่ น  หากฟังเจ้า” นางจับมือทั้งสองของข้าทันที  นางเสียใจอย่างสุดซึ้ง “อา ฌาคแกตต้า  ข้าไม่ท�ำให้เจ้าเดือดร้อนหรอกจ้ะ  ดูซ!ี  ข้าจะไม่พดู อะไรแล้ว แต่เจ้าต้องเข้าใจว่า  ข้าได้ท�ำเรื่องที่ร้ายแรงกว่าการพูดจากล่าวหาพวกอังกฤษมากนัก ข้าใช้ทั้งธนูกับ  ปืนใหญ่  และท่อนไม้ใหญ่กับปืนโจมตีพวกเขา พวกอังกฤษไม่เสียเวลาเดือดร้อน  เรื่องถ้อยค�ำที่ข้าเอ่ยหรือกางเกงที่ข้าใส่หรอก ข้าเอาชนะพวกเขาและประกาศให้  รู้ว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์ในฝรั่งเศส ข้าน�ำทัพโจมตีและเอาชนะพวกเขาได้ครั้งแล้ว  ครั้งเล่า” “ข้าหวังว่าพวกเขาจะไม่มีวันได้ตัวเจ้า ไม่มีวันได้ไต่สวนเจ้าเรื่องถ้อยค�ำ  ธนู  หรือปืนใหญ่” นางหน้าซีดเล็กน้อยเมื่อคิดถึงมัน “ได้โปรดเถิดพระเจ้า ข้าก็หวังเช่นนั้น  พระเจ้าผู้ทรงเมตตา ข้าก็หวังอย่างนั้นเช่นกัน” “ท่านย่าน้อยก�ำลังเขียนจดหมายถึงโดแฟง” ข้าพูดเสียงเบา “พวกเขา  พูดถึงเรื่องนี้ระหว่างอาหารค�่ำเมื่อคืนนี้  นางจะเขียนถึงโดแฟงและเชื้อเชิญให้  เขาไถ่ตัวเจ้า และท่านอาจะปล่อยตัวเจ้าให้พวกฝรั่ง...ให้พวกอาร์มัญญัก” นางก้มหัวลงและขยับปากสวดมนต์  “กษัตริย์ของข้าจะทรงตามตัวข้า”  นางกล่าวอย่างมั่นใจ “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพระองค์จะทรงเรียกตัวข้าเข้าเฝ้า และ  เราจะได้เริ่มการสู้รบอีกครา” กุหลาบ มนตรา วารี   35


อากาศยิง่ ร้อนขึน ้ อีกในเดือนสิงหาคม ท่านย่าน้อยนอนพักผ่อน  บนเตียงในห้องด้านในของนางทุกบ่าย โดยมีม่านผ้าไหมผืนบางรอบเตียงแช่อยู ่ ในน�้ำลาเวนเดอร์   แสงลอดผ่านบานหน้าต่างซึ่งปิดอยู่เกิดเป็นเงารูปซี่ลูกกรงทั่ว  พื้นหิน นางชอบให้ข้าอ่านหนังสือให้ฟังขณะที่นางนอนหลับตา มือประสานกัน  บนขอบเอวของชุดกระโปรง ราวกับเป็นรูปปั้นอนุสรณ์ของตัวเองในร่มเงาของ  สุสานสักแห่ง นางถอดหมวกทรงเขาสัตว์ทมี่ กั สวมเป็นประจ�ำไว้ขา้ งๆ และปล่อย  ให้ผมยาวสีดอกเลาแผ่สยายทั่วหมอนซึ่งปักลายอย่างประณีต นางมอบหนังสือ  จากห้องสมุดของนางเองให้ข้า หนังสือพวกนี้เล่าเรื่องความรักที่ยิ่งใหญ่และเรื่อง  ของกวีเร่กับหญิงงามในป่าแสนซับซ้อน และบ่ายวันหนึ่งนางก็หยิบหนังสือเล่ม  หนึ่งส่งให้ข้าพร้อมกล่าวว่า “วันนี้จงอ่านเล่มนี้” มันเป็นหนังสือภาษาฝรั่งเศสโบราณเขียนด้วยลายมือ ข้าอ่านมันอย่าง  ตะกุกตะกัก มันอ่านยาก รูปภาพประกอบที่ขอบกระดาษเหมือนเถากุหลาบป่า  และดอกไม้เกี่ยวกระหวัดตัวอักษร อีกทั้งอาลักษณ์ผู้คัดลอกแต่ละค�ำยังมีลีลา  การเขียนที่ประณีตพิสดารเสียจนข้าถอดค�ำล�ำบาก แต่แล้วเรื่องราวก็ชัดเจนขึ้น  ทีละน้อย มันเป็นเรื่องของอัศวินขี่ม้าที่หลงทางในป่ามืด เขาได้ยินเสียงน�้ำไหล  และควบม้าไปทางนั้น ภายใต้แสงจันทราแจ่มกระจ่าง เขาแลเห็นสระน�้ำสีขาว  และน�้ำพุพวยพุ่ง ในน�้ำมีสตรีงามเป็นเลิศ ผิวขาวยิ่งกว่าหินอ่อนและผมด�ำเข้ม  ยิ่งกว่ารัตติกาล เขาตกหลุมรักนางทันที  และนางก็เช่นเดียวกัน เขาพานางกลับ  ปราสาทและแต่งตั้งนางเป็นภรรยา ทว่านางมีข้อแม้เพียงอย่างเดียว นั่นคือทุก  เดือนเขาต้องปล่อยให้นางอาบน�้ำเพียงล�ำพัง “เจ้ารู้จักเรื่องนี้ไหม” ท่านย่าน้อยถามข้า “พ่อเจ้าได้เล่าให้ฟังหรือไม่” “ข้าเคยได้ยนิ เรือ่ งคล้ายๆ กัน” ข้าพูดอย่างระวัง เป็นทีร่ กู้ นั ว่าท่านย่าน้อย  มักเจ้าอารมณ์กับพ่อของข้า และข้าเองก็ไม่รู้ว่ากล้าหาญพอที่จะพูดหรือไม่ว่าข้า  คิดว่านี่คือต�ำนานแห่งการก่อตั้งตระกูลของเรา “เอาละ ตอนนี้เจ้าก�ำลังอ่านเรื่องจริงอยู่” นางพูด หลับตาลงอีกครั้ง “ถึง  เวลาแล้วที่เจ้าต้องรู้  อ่านต่อสิ” สองสามีภรรยาวัยเยาว์มีความสุขมากกว่าผู้ใดในโลก และผู้คนจากแดน  ไกลหลั่งไหลมาเยี่ยมเยียน ทั้งสองมีลูกหลายคน ลูกสาวที่เลอโฉมและลูกชายที่  กล้าหาญไม่เหมือนผู้ใด 36  วรางคณา เหมศุกล แปล


“ลูกชาย” ท่านย่าน้อยกระซิบกับตัวเอง “หากผู้หญิงให้ก�ำเนิดลูกชายได้  ตามใจปรารถนาก็คงดี   หากสมดังปรารถนาของนางได้ก็คงดี” ฝ่ายภรรยามิเคยสูญเสียรูปโฉมอันงดงามแม้วันเวลาจะล่วงเลยผ่าน จน  สามีของนางนึกสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่ง เขาไม่อาจอดทนต่อการอาบน�้ำอัน  เป็นปริศนาของนางได้อีกต่อไป เขาจึงย่องลงมาที่ห้องอาบน�้ำของนางและแอบดู ท่านย่าน้อยยกมือขึ้น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาเห็นอะไร” นางถามข้า ข้าเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ นิ้วข้าวางอยู่ใต้ภาพชายคนนั้นก�ำลังแอบมอง  ผ่านช่องบนผนังห้องอาบน�้ำ ภาพเบื้องหน้าคือหญิงสาวในอ่างอาบน�้ำ ผมสลวย  ของนางเลื้อยคลุมไหล่ขาว และที่สว่างเรื่อเรืองอยู่ในน�้ำคือ...หางใหญ่มีเกล็ด “นางเป็นปลางั้นหรือ” ข้ากระซิบ “นางมิใช่สิ่งมีชีวิตบนโลกมนุษย์” ท่านย่าน้อยพูดเบาๆ “นางพยายามใช้  ชีวิตเช่นหญิงสามัญ แต่สตรีบางคนมิอาจใช้ชีวิตสามัญ นางพยายามเดินบนหน  ทางแสนธรรมดา แต่สตรีบางคนมิอาจย่างเท้าบนหนทางเช่นนั้นได้  นี่คือโลก  ของบุรุษ ฌาคแกตต้า และสตรีบางคนไม่อาจเดินตามจังหวะกลองของบุรุษได้  เจ้าเข้าใจไหม” แน่นอนว่าข้าไม่เข้าใจ ข้ายังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจว่าชายและหญิงสามารถ  รักกันลึกซึ้งจนหัวใจเต้นราวกับเป็นดวงเดียว แต่ในขณะเดียวกัน ข้าก็รู้ว่าชาย  และหญิงแตกต่างกันมากจนแก้ไขไม่ได้ “อย่างไรก็เถอะ เจ้าอ่านต่อได้  เหลืออีกไม่ยาวแล้ว” ฝ่ายสามีมิอาจทนยอมรับได้ว่าภรรยาของเขาเป็นสิ่งประหลาด และนาง  มิอาจให้อภัยที่เขาแอบดูนาง นางจากเขาไปพร้อมกับลูกสาวผู้เลอโฉม ส่วนเขา  อยู่กับลูกชายตามล�ำพังด้วยหัวใจแตกสลาย  แต่เมื่อเขาสิ้นชีวิต เช่นเดียวกับ  ยามที่ทุกคนในตระกูลเราสิ้นชีวิต เมลูซิน่าภรรยาโฉมงามซึ่งเป็นเทพีแห่งสายน�้ำ  ก็กลับมาหาเขา และเขาเคยได้ยินนางร�่ำไห้ต่อการสูญเสียลูกหลานในสนามรบ  ต่อสามีที่นางยังรัก และต่อโลกซึ่งไม่มีต�ำแหน่งแห่งที่ส�ำหรับนาง ข้าปิดหนังสือ เกิดความเงียบยาวนานจนข้านึกว่าท่านย่าน้อยผล็อยหลับ  ไปเสียแล้ว “ผู้หญิงบางคนในตระกูลเรามีญาณวิเศษ” ท่านย่าน้อยเอ่ยขึ้นเงียบๆ  “พวกนางสืบทอดพลังพิเศษจากเมลูซิน่า อันเป็นพลังจากอีกโลกหนึ่งที่นางอาศัย  กุหลาบ มนตรา วารี   37


อยู่   พวกเราบางคนเป็นบุตรสาวของนาง เป็นทายาทของนาง” ข้าแทบไม่กล้าหายใจ ข้ากังวลว่าท่านย่าน้อยจะพูดสิ่งอื่นกับข้าต่อไปอีก “ฌาคแกตต้า เจ้าคิดหรือไม่ว่าเจ้าอาจเป็นหนึ่งในผู้หญิงเหล่านี้” “เป็นไปได้” ข้ากระซิบ “ข้าก็หวังเช่นนั้น” “เจ้าต้องตัง้ ใจฟัง” นางบอกเสียงนุม่  “จงเงีย่ ฟังความเงียบ จ้องมองความ  ว่างเปล่า และคอยระวังให้ด ี เมลูซนิ า่ แปลงกายได้ราวกับปรอท นางสามารถแปร  จากสิ่งหนึ่งไปเป็นอีกสิ่งหนึ่ง นางเหมือนสายน�้ำ เจ้าอาจเห็นนางที่ใดก็ได้   หรือ  เจ้าอาจเห็นเพียงเงาสะท้อนของตัวเองบนผิวน�้ำแม้เจ้าจะพยายามเพ่งลึกลงใน  น�้ำเพื่อมองหานาง” “นางจะเป็นผู้ชี้น�ำข้าไหม” “เจ้าต้องเป็นผู้ชี้น�ำตัวเอง แต่เจ้าอาจได้ยินเสียงยามนางพูดกับเจ้า” นาง  หยุดพูด “หยิบกล่องเพชรพลอยข้ามาสิ” นางชี้ไปที่หีบใหญ่ปลายเตียงนาง  ข้า  เปิดฝาหีบฝืดๆ ดังเอีย๊ ด ภายในนัน้ มีกล่องไม้ใบใหญ่วางอยูก่ ล่องหนึง่  ข้างบรรดา  ชุดกระโปรงซึ่งห่อด้วยผ้าไหม ข้าหยิบมันออกมา ข้างในมีลิ้นชักหลายชั้น แต่ละ  ชั้นบรรจุเพชรพลอยเลอค่าของท่านย่าน้อย “ดูในลิ้นชักที่เล็กที่สุดสิ” นางเอ่ย ข้าเจอมันแล้ว ข้างในลิ้นชักมีถุงผ้าก�ำมะหยี่สีด�ำใบเล็ก ข้าแก้มัดเชือก  ซึ่งมีปลายเป็นพู่  เปิดปากถุง และสร้อยข้อมือสีทองเส้นหนักก็ร่วงสู่มือข้า มัน  ตกแต่งด้วยจี้อันเล็กอันน้อยประมาณสองร้อยอัน แต่ละอันมีรูปร่างต่างกันออก  ไป ข้าเห็นจี้รูปเรือ ม้า ดวงดาว ช้อน แส้  เหยี่ยว เดือย “ยามใดที่เจ้าต้องการรู้บางสิ่งที่ส�ำคัญยิ่ง จงเลือกจี้สองหรือสามอันโดย  เลือกจี้อันที่เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่อาจเป็นทางเลือกตรงหน้าเจ้า จงผูกจี้แต่ละ  อันกับเชือกและหย่อนมันลงในแม่น�้ำ แม่น�้ำสายที่ใกล้บ้านที่สุด แม่น�้ำที่เจ้าได้  ยินเสียงสายน�้ำยามค�่ำคืนเมื่อสรรพสิ่งอื่นเงียบงัน จงปล่อยมันไว้เช่นนั้นจนถึง  คืนที่จันทร์อับแสง จากนั้นเจ้าจงตัดเชือกทุกเส้นจนเหลือเพียงเส้นเดียว แล้วดึง  เชือกเส้นนั้นขึ้นมาเพื่อดูอนาคต แม่น�้ำจะให้ค�ำตอบแก่เจ้า แม่น�้ำจะบอกว่าเจ้า  ควรท�ำอย่างไร” ข้าพยักหน้า สร้อยข้อมือในมือข้าทั้งเย็นและหนัก จี้แต่ละอันหมายถึง  ทางเลือก แต่ละอันหมายถึงโอกาส และแต่ละอันหมายถึงความผิดพลาดที่รอ  อยู่ในภายภาคหน้า 38  วรางคณา เหมศุกล แปล


“และเมื่อเจ้าประสงค์สิ่งใด จงออกไปข้างนอกและกระซิบกับสายน�้ำ  เหมือนกับสวดมนต์   เมื่อเจ้าอยากสาปแช่งใคร จงเขียนใส่แผ่นกระดาษ และทิ้ง  กระดาษนั้นลงแม่น�้ำ ปล่อยให้มันลอยไปเหมือนเรือกระดาษล�ำน้อย  แม่น�้ำเป็น  พันธมิตรเจ้า เป็นเพื่อนเจ้า และเป็นนายหญิงของเจ้า เจ้าเข้าใจไหม” ข้าพยักหน้าแม้จะไม่เข้าใจ “เมือ่ เจ้าสาปแช่งใครสักคน...” นางหยุดและถอนหายใจราวกับรูส้ กึ เหนือ่ ย  ล้าเต็มทน “จงระวังถ้อยค�ำให้ด ี ฌาคแกตต้า โดยเฉพาะยามสาปแช่ง พูดเฉพาะ  สิ่งที่เจ้าตั้งใจ และต้องแน่ใจว่าเจ้าสาปแช่งถูกคน พึงระลึกว่าเมื่อเจ้ากล่าว  ถ้อยค�ำเหล่านั้นออกมาในโลก มันอาจพลาดเป้าเหมือนลูกธนู  ค�ำสาปอาจมุ่งไป  ไกลเกินเป้าหมายและท�ำอันตรายผู้อื่น ผู้หญิงฉลาดต้องสาปแช่งอย่างรอบคอบ  ที่สุด” ตัวข้าสั่นสะท้าน ทั้งที่ในห้องอากาศร้อน “ข้าจะสอนเจ้ามากกว่านี้อีก” นางสัญญา “สิ่งนี้คือมรดกที่จะสืบทอดแก่  เจ้า เพราะเจ้าเป็นบุตรสาวคนโต” “พวกผู้ชายไม่รู้หรือคะ หลุยส์  พี่ชายของข้าล่ะ?” สายตาอ่อนล้าของนางลืมขึ้นเพียงครึ่งเดียว นางยิ้มให้ข้า “ผู้ชายออก  ค�ำสั่งกับโลกที่พวกเขารู้จัก” นางบอก “ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขารู้จัก พวกเขายึด  เป็นของตัวเองทั้งสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาเรียนรู้  พวกเขาก็กล่าวอ้างเป็นของ  ตัวเอง พวกเขาเหมือนนักเล่นแร่แปรธาตุซึ่งมองหากฎเกณฑ์ที่ก�ำกับโลก อยาก  เป็นเจ้าของมันและเก็บไว้เป็นความลับ ทุกสิ่งที่ค้นพบ พวกเขาล้วนกอดไว้กับ  ตัวเอง พวกเขาปั้นความรู้ให้กลายเป็นภาพสะท้อนความเห็นแก่ตัวของตน แล้ว  จะเหลืออะไรแก่ผู้หญิงอย่างพวกเราอีกเล่า นอกจากดินแดนแห่งสิ่งที่ไม่มีใคร  รู้จัก” “แต่ผู้หญิงก็ครองต�ำแหน่งที่ยิ่งใหญ่บนโลกได้มิใช่หรอกหรือ ท่านเองก็  เช่นกัน ท่านย่าน้อย และโยลันเดแห่งอารากอนก็ถูกขนานนามว่าราชินีแห่งราช  อาณาจักรทั้งสี่  แล้วข้าจะปกครองดินแดนที่ยิ่งใหญ่เช่นท่านและนางมิได้หรือ” “เจ้าอาจได้เป็นเช่นนั้น แต่ข้าขอเตือนเจ้าว่า สตรีซึ่งแสวงหาอ�ำนาจและ  ความมั่งคั่งต้องจ่ายด้วยราคาแพงมหาศาล บางทีเจ้าอาจได้เป็นยอดสตรีเช่น  เมลูซิน่า หรือโยลันเด หรือข้า แต่เจ้าจะเป็นเฉกเช่นหญิงทุกคน นั่นคืออึดอัดคับ  กุหลาบ มนตรา วารี   39


ทีใ่ นโลกของบุรษุ   เจ้าจะท�ำสิง่ ต่างๆ อย่างดีทสี่ ดุ  บางทีเจ้าอาจได้รบั อ�ำนาจหาก  เจ้าสมรสกับชายที่ดี  หรือได้รับมรดกที่ดี  แต่เจ้าจะรู้สึกเสมอว่าหนทางใต้ฝ่าเท้า  ของเจ้าช่างขรุขระในอีกโลกหนึ่ง เอ้อ...ใครจะรู้เกี่ยวกับอีกโลกหนึ่งกันเล่า บางที  พวกเขาจะได้ยินเจ้า และบางทีเจ้าจะได้ยินพวกเขา” “ข้าจะได้ยินอะไรหรือ” นางยิ้ม “เจ้าก็รู้  เจ้าเคยได้ยินแล้ว” “เสียงจากสวรรค์งั้นหรือ” ข้าถามพลางคิดถึงโจน “ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น” ความร้อนระอุแห่งคิมหันตฤดูเริ่มลดลงอย่างช้าๆ อากาศเย็น  ขึ้นในเดือนกันยายน แมกไม้ในป่าใหญ่รอบทะเลสาบเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวไร้  ชีวิตชีวาเป็นสีเหลืองแก่  นกนางแอ่นบินวนรอบยอดหอคอยปราสาททุกเย็นราว  จะกล่าวค�ำอ�ำลาเพื่อพบปีใหม่  พวกมันบินไล่หลังกันรอบแล้วรอบเล่าเป็นฝูงยุ่ง  เหยิงดุจผ้าคลุมหน้าที่สะบัดไหวยามเต้นร�ำ เถาองุ่นทุกแถวออกผลสะพรั่ง ทุก  วัน หญิงชาวบ้านออกไปข้างนอกพร้อมแขนเสื้อที่ม้วนขึ้นเหนือล�ำแขนแข็งแรง  และเด็ดองุ่นใส่ตะกร้าสานใบใหญ่  ซึ่งพวกผู้ชายจะเหวี่ยงลงบนรถลากเพื่อน�ำ  กลับไปยังเครื่องคั้นน�้ำ หมู่บ้านอบอวลด้วยกลิ่นผลไม้และเหล้าองุ่นที่ก�ำลังหมัก  บ่ม ทุกคนมีรอยเปือ้ นสีนำ�้ เงินบนชายกระโปรงและเท้าเป็นสีมว่ ง  ว่ากันว่าปีนจี้ ะ  อุดมสมบูรณ์และเขียวชอุ่มดี  ยามข้าและเหล่านางก�ำนัลขี่ม้าผ่านหมู่บ้าน ชาว  บ้านจะเรียกให้เราชิมเหล้าองุ่นถังใหม่  รสชาติมันทั้งบางเบา เข้มข้น และซาบซ่า  ในปากเรา พวกเขาหัวเราะเมื่อเราท�ำหน้าบูดเบี้ยว ท่านย่าน้อยมิได้นั่งสง่าบนเก้าอี้พลางทอดสายตามองนางก�ำนัลและ  ปราสาทกับแผ่นดินของท่านอาเบื้องหลังพวกนางอย่างที่ท่านชอบท�ำเมื่อต้นฤดู  ร้อน เมื่อพระอาทิตย์ลดความร้อนลง นางก็ดูจะซีดเซียวและหนาวเยือกมากขึ้น  ท่านย่าน้อยเข้านอนตั้งแต่สายจนกระทั่งบ่ายแก่ๆ นางลุกจากเตียงเพียงเพื่อ  เดินไปยังห้องโถงใหญ่เคียงข้างท่านอา และพยักหน้ารับเสียงพึมพ�ำทักทายจาก  เหล่าคนงานซึ่งเงยหน้ามองเจ้านายและนายหญิง พลางใช้กริชของพวกเขาเคาะ  โต๊ะไม้ โจนกล่าวชื่อนางเพื่ออธิษฐานขอพรให้นางทุกวันยามเข้าโบสถ์  แต่ข้าผู ้ 40  วรางคณา เหมศุกล แปล


ไร้เดียงสากลับท�ำเพียงยอมรับกิจวัตรใหม่ของท่านย่าน้อย และนั่งอ่านหนังสือ  กับนางในตอนบ่าย รอให้นางคุยกับข้าเรื่องค�ำอธิษฐานที่ลอยล่องเหมือนเรือ  กระดาษบนแม่น�้ำซึ่งไหลลงสู่ทะเลตั้งแต่ก่อนข้าเกิด นางบอกให้ข้าคลี่ส�ำรับไพ่  ของนางและสอนข้าว่าแต่ละใบมีชื่อเรียกและความหมายอะไรบ้าง “อ่านให้ข้าฟังซิ” นางพูดขึ้นวันหนึ่ง และหยิบไพ่ใบหนึ่งขึ้นด้วยนิ้วผอม  บาง “ใบนี้คืออะไร” ข้าพลิกไพ่ให้นางดู  ร่างสวมหมวกคลุมสีด�ำของยมทูตมองกลับมาที่เรา  ใบหน้าของเขาซ่อนอยู่ใต้เงาหมวก ถือเคียวพาดไว้กับไหล่งองุ้ม “อา ดีละ” นางเอ่ย “เพื่อนยาก ในที่สุดเจ้าก็มาเยือน ฌาคแกตต้า จง  ไปตามอาของเจ้ามาพบข้าที” ข้าน�ำท่านอาไปทีห ่ อ ้ งของนาง เขาคุกเข่าลงข้างเตียงนาง ท่าน  ย่าน้อยวางมือบนศีรษะของเขาราวกับให้พรแล้วดันตัวเขาออกอย่างแผ่วเบา “ข้าทนอากาศอย่างนี้ไม่ได้” นางพูดกับท่านอาอย่างขัดเคืองใจ ราวกับ  ว่าคืนวันอันเหน็บหนาวเป็นความผิดของเขา “เจ้าทนอยู่ที่นี่ได้อย่างไร มันหนาว  พอๆ กับอังกฤษเลย และฤดูหนาวก็ยาวนานเหมือนตลอดกาล ข้าจะลงใต้  ข้า  จะไปโพรวองซ์” “ท่านแน่ใจหรือ” เขาถาม “ข้าคิดว่าท่านรูส้ กึ เหนือ่ ย ท่านควรพักผ่อนทีน่ ”ี่ นางดีดนิ้วอย่างร�ำคาญใจ “ข้าหนาวเกินไป” นางบอกอย่างไว้ตัว “ส่ง  องครักษ์ไปกับข้าสักคนและให้บุผนังเกี้ยวของข้าด้วยขนสัตว์  ข้าจะกลับมาใน  ฤดูใบไม้ผลิ” “อยู่ที่นี่ท่านจะสบายกว่านะ” เขาแนะ “ข้าเฝ้าฝันจะเห็นแม่น�้ำโรนอีกครั้งหนึ่ง” นางบอก “และยิ่งกว่านั้น ข้ามี  ธุระต้องท�ำ” ไม่มีผู้ใดเถียงนางได้  นางเป็นนายหญิง และไม่กี่วันต่อมาเกี้ยวหลังใหญ่  ก็มาถึงหน้าประตู  มีขนสัตว์กองบนเตียงนอน เตาอุ่นมือทองเหลืองใส่ถ่านร้อน  พื้นเกี้ยวบรรจุด้วยก้อนอิฐซึ่งถูกเผาให้ร้อนในเตาเพื่อให้ความอบอุ่นแก่นาง คน  ในปราสาทยืนเรียงแถวเพื่อกล่าวอ�ำลานาง นางยื่นมือให้โจน จากนั้นก็จูบอาหญิงเฌออานน์และข้า ท่านอาช่วย  กุหลาบ มนตรา วารี   41


พยุงนางขึ้นเกี้ยว นางใช้มือผ่ายผอมบีบแขนเขาแน่น “จงปกปักรักษาสตรีนาง  นั้น” นางพูด “ปกป้องนางจากพวกอังกฤษ นี่คือค�ำสั่งของข้า” เขาเบี่ยงศีรษะ “ขอให้ท่านกลับมาหาเราโดยเร็ว” อาหญิงผู้ดูจะมีชีวิตง่ายขึ้นเมื่อท่านหญิงจากไป ก้าวไปข้างหน้าเพื่อจัด  ให้นางนอนและจูบแก้มเย็นซีดเซียวของนาง แต่ท่านหญิงแห่งลักเซมเบิร์กกลับ  กระดิกนิ้วผอมแห้งเพื่อเรียกข้าให้เข้าไปหา “ขอพระเจ้าอ�ำนวยพรแก่เจ้า ฌาคแกตต้า” นางพูดกับข้า “เจ้าจงจดจ�ำ  ทุกเรื่องที่ข้าสอนสั่ง และเจ้าจะไปได้ไกล” นางยิ้มให้ข้า “ไกลเกินกว่าเจ้าจะ  จินตนาการถึง” “แต่ข้าจะได้พบท่านในฤดูใบไม้ผลิอีกใช่ไหม” “ข้าจะส่งหนังสือของข้ามาให้” นางบอก “และสร้อยข้อมือของข้าด้วย” “และท่านจะมาเยี่ยมแม่และพ่อของข้าที่แซ็งต์โปลในฤดูใบไม้ผลิใช่ไหม” รอยยิ้มของนางบ่งบอกว่าข้าจะไม่ได้เจอนางอีก “ขอให้พระเจ้าอ�ำนวย  พร” นางพูดซ�้ำ และปิดผ้าม่านเกี้ยวเพื่อกันอากาศยามเช้าที่เย็นเยียบขณะที่  ขบวนเริ่มเคลื่อนออกนอกประตูใหญ่ เดือนพฤศจิกายน ข้าตื่นขึ้นกลางดึกสงัด ลุกขึ้นนั่งบนเตียง  หลังน้อยที่ข้านอนกับอลิซาเบธสาวใช้และนิ่งฟัง ราวกับว่ามีใครเรียกชื่อข้าด้วย  น�้ำเสียงอ่อนหวาน เสียงนั้นสูงและสั่นเครือ ข้าแน่ใจว่าได้ยินใครผู้หนึ่งร้องเพลง  น่าแปลกที่เสียงดังมาจากนอกหน้าต่างทั้งที่เราอยู่บนหอคอยสูงของปราสาท  ข้าสวมชุดคลุมทับชุดนอนแล้วเดินไปทีห่ น้าต่าง จากนัน้ มองลอดช่องว่างระหว่าง  บานหน้าต่างไม้ที่ปิดอยู่  ภายนอกนั้นไร้แสง ทุ่งหญ้าและป่าไม้รอบปราสาทมืด  ด�ำดุจผ้าขนสัตว์   ไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากเสียงแหลมใสนี้  ไม่ใช่นกไนติงเกล ทว่า  สูงและบริสุทธิ์เหมือนเสียงนกไนติงเกล ไม่ใช่นกฮูก เสียงนี้ไพเราะและดังต่อ  เนื่องกว่านั้น มันฟังเหมือนเสียงร้องของเด็กชายในคณะประสานเสียง ข้าหันไป  ที่เตียงและปลุกอลิซาเบธให้ตื่น “เจ้าได้ยินไหม” นางไม่ตนื่ เสียด้วยซ�ำ้  “ข้าไม่ได้ยนิ อะไร” นางบอก ครึง่ หลับครึง่ ตืน่  “หยุด  นะ ฌาคแกตต้า  ข้าก�ำลังหลับ” 42  วรางคณา เหมศุกล แปล


พื้นหินใต้เท้าของข้าเย็นเฉียบ ข้ากระโดดขึ้นเตียงและซุกเท้าบนพื้นที่อุ่น  ข้างตัวอลิซาเบธ นางค�ำรามเล็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์และหมุนตัวหนีข้า แม้  คิดว่าข้าจะเอนตัวนอนอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นๆ พลางฟังเสียง แต่แล้วข้าก็ผล็อยหลับไป หกวันต่อมาพวกเขาบอกข้าว่าท่านย่าน้อย เฌออานน์แห่งลัก  เซมเบิร์ก สิ้นชีพยามหลับใหลกลางดึกที่เมืองอาวิญญงใกล้แม่น�้ำโรน ข้ารู้ทันที  ว่าเสียงร้องเพลงที่ข้าได้ยินรอบๆ หอคอยคือเสียงผู้ใด ทันทีที่ดยุคแห่งเบดฟอร์ดของอังกฤษรับรู้ว่าโจนได้สูญเสียผู้  ที่คอยปกป้องนางไปเสียแล้ว เขาก็ส่งผู้พิพากษาปิแอร์  โคชงมาพร้อมกองทหาร  เพื่อเจรจาต่อรองเรื่องเงินค่าไถ่   โจนถูกเรียกตัวขึ้นศาลของศาสนจักรในข้อหา  นอกรีต เงินก้อนโตถูกเปลีย่ นมือ สองหมืน่ ลีฟร์ส�ำหรับชายผูด้ งึ นางลงจากหลังม้า  และหนึ่งหมื่นฟรังก์ส�ำหรับอาของข้าพร้อมด้วยความปรารถนาดีจากองค์กษัตริย์  อังกฤษ  ท่านอาไม่ฟังอาหญิงเลย ทั้งที่นางอ้อนวอนให้โจนอยู่กับเรา ส่วนข้านั้น  ไม่มีความสลักส�ำคัญใดๆ มากพอจะออกความเห็นได้  จึงได้แต่เฝ้ามองเงียบๆ  ขณะที่ท่านอาตกลงว่าจะปล่อยตัวโจนเพื่อให้ศาสนจักรไต่สวน “ข้ามิได้ส่งตัว  นางให้อังกฤษ” เขาบอกภรรยา “ตามที่ท่านหญิงได้ขอไว้  ข้าไม่เคยลืม ข้ามิได้  ส่งตัวนางให้อังกฤษ เพียงแต่ปล่อยตัวนางให้ศาสนจักรเท่านั้น นี่จะเป็นโอกาส  ให้นางกอบกู้ชื่อเสียงและลบล้างข้อกล่าวหาทุกข้อทีม่ ีต่อนางได้  นางจะถูกตัดสิน  โดยคนของพระเจ้า พวกเขาจะบอกเองหากนางบริสุทธิ์จริง แล้วนางก็จะถูก  ปล่อยตัว” อาหญิงมองท่านอาด้วยสีหน้าว่างเปล่าราวกับเขาเป็นยมทูตเสียเอง ข้า  นึกสงสัยว่าเขาเชือ่ เรือ่ งเหลวไหลนีจ้ ริงหรือ หรือเขาคิดว่าเราเป็นสตรี  จึงโง่เง่าพอ  จะเชื่อว่าโบสถ์ซึ่งขึ้นกับอังกฤษและมีคณะบิชอปที่ได้รับการแต่งตั้งโดยอังกฤษ  จะบอกผู้ปกครองและผู้จ่ายเงินของพวกเขาว่าเด็กสาวที่ปลุกระดมฝรั่งเศสทั้ง  ประเทศเพื่อต่อต้านพวกเขานั้นเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดา นางอาจจะเอะอะไป  บ้าง นางอาจจะซุกซนไปบ้าง แค่สวดวันทามารีอาให้นางสามจบแล้วส่งนางกลับ  ไร่  ไปหาแม่  พ่อ และวัวของนางก็สิ้นเรื่อง กุหลาบ มนตรา วารี   43


“ท่านอา แล้วใครจะเป็นคนบอกโจนกันล่ะ” นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ข้ากล้า  ถาม “อ้อ นางรูแ้ ล้ว” เขาพูดข้ามไหล่ขณะเดินออกจากห้องโถงเพือ่ กล่าวอ�ำลา  ปิแอร์  โคชงที่ประตูใหญ่  “ข้าส่งเด็กรับใช้ไปบอกนางให้เตรียมตัว นางจะต้องไป  กับพวกเขาตอนนี้เลย” ทันทีทไี่ ด้ยนิ ค�ำพูดนัน้  ข้าก็กลัวขึน้ มาทันใด สังหรณ์รา้ ยกาจโถมทับจิตใจ  ข้า ข้าเริ่มออกวิ่ง วิ่งอย่างสุดชีวิต ข้ามิได้ไปยังห้องของฝ่ายผู้หญิงซึ่งเด็กหนุ่ม  รับใช้น่าจะไปพบโจนเพื่อแจ้งว่าอังกฤษจะได้ตัวนาง ข้าไม่ได้วิ่งไปยังห้องขังเก่า  ของนางซึ่งนางอาจกลับไปหยิบย่ามใบน้อยที่ใส่ช้อนไม้  กริช และหนังสือสวด  มนต์ที่ท่านย่าน้อยมอบให้นาง แต่ข้ากลับรีบวิ่งขึ้นบันไดวนถึงชั้นที่หนึ่งเหนือ  ห้องโถงใหญ่  จากนั้นพุ่งผ่านระเบียงยาว ลอดผ่านโถงประตู  ซุ้มโค้งประตูชน  หมวกคลุมผมของข้าหล่นและกระชากปิ่นปักผมของข้า ข้าย�่ำเท้าขึ้นบันไดวน  หิน เท้าข้ากระแทกบนขั้นบันได ข้าหายใจเร็วขึ้นและเร็วขึ้น มือก�ำกระโปรงแน่น  ข้าพรวดพราดขึ้นไปบนดาดฟ้าของหอคอยและเห็นโจนยืนนิ่งอย่างสง่าเหมือน  นกที่ก�ำลังกางปีกโผบิน นางทรงตัวบนเชิงเทิน เมื่อนางได้ยินเสียงประตูเปิด  ออก นางก็เหลียวมองข้าและได้ยินข้าตะโกน “โจน! อย่านะ!” นางก้าวออกไป  ยังอากาศว่างเปล่าเบื้องล่าง สิ่งที่เลวร้ายที่สุด เลวร้ายที่สุด นั่นคือนางไม่ได้โลดไปในอากาศที่ว่าง  เปล่าเหมือนกวางน้อยที่ตื่นกลัว ข้ากลัวจับใจว่านางจะกระโดด แต่สิ่งที่นางท�ำ  เลวร้ายกว่านั้น นางพุ่งตัวลง กระโดดข้ามเชิงเทินและดิ่งศีรษะลง เมื่อข้าถลาไป  ที่ขอบเชิงเทินข้าจึงเห็นนางร่วงลงไปเหมือนนักเต้นร�ำ เหมือนนักกายกรรม มือ  ประสานกันอยู่ด้านหลัง ขาข้างหนึ่งยืดออกเหมือนนักเต้นร�ำ อีกข้างงอโดยนิ้ว  หัวแม่เท้าชี้เข้าหาเข่า ข้าเห็นว่าในช่วงเวลาเพียงอึดใจที่นางตกลงไป นางอยู่ใน  ท่าคนห้อยหัว นางดิ่งหัวลงสู่ความตายโดยมีรอยยิ้มราบเรียบของเขาบนใบหน้า  สงบนิ่งของนาง เสียงตุ้บเมื่อนางหล่นลงบนพื้นตรงฐานของหอคอยช่างน่าสยดสยอง มัน  สะท้อนก้องในหูข้าราวกับเป็นหัวข้าเองที่กระแทกดินโคลน ข้าอยากวิ่งลงไปอุ้ม  นาง  โจน ยอดสตรี  ยับเยินไม่ต่างจากถุงเศษผ้าเก่าๆ แต่ข้าขยับเขยื้อนไม่ได้  เข่าข้าอ่อนแรงจนต้องทรุดลง ข้าเกาะเชิงเทินหินไว้  และมันก็เย็นเยียบพอกับ  44  วรางคณา เหมศุกล แปล


มือที่ถลอกของข้า ข้ามิได้ร้องไห้ให้นาง แม้ข้ายังหายใจเป็นเสียงสะอื้นรัวเร็ว ตัว  ข้าแข็งทื่อไปหมดด้วยความกลัว ข้าสิ้นหวังเพราะความกลัว โจนคือหญิงสาวที่  พยายามเดินบนหนทางของตัวเองในโลกแห่งบุรุษเพศ ดังที่ท่านย่าน้อยได้บอก  ข้า และมันน�ำพานางมาสู่หอคอยแสนหนาวเย็นแห่งนี้  สู่การพุ่งตัวลงอย่างงาม  สง่าราวกับหงส์  สู่ความตาย นางดูไร้ชวี ต ิ ตอนพวกเขาอุม ้ นางขึน ้ มา นางไม่ขยับเขยือ ้ นเลย  เป็นเวลาสี่วัน แต่แล้วนางก็ฟื้นจากการสลบไสลและลุกขึ้นนั่งบนเตียงช้าๆ ใช้  มือตบดูทวั่ ตัว ราวกับให้แน่ใจว่าตัวนางยังสมบูรณ์ดอี ยู ่ น่าอัศจรรย์ทไี่ ม่มกี ระดูก  ชิ้นใดแตกหักจากการกระแทก กะโหลกของนางไม่แตก ไม่มีรอยร้าวแม้แต่นิ้ว  มือเดียว ราวกับทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์โอบอุ้มนางไว้ทั้งที่นางยอมจ�ำนน  แน่นอนว่า  นี่ไม่เป็นผลดีต่อนาง พวกเขารีบตัดสินว่ามีเพียงซาตานเท่านั้นที่จะช่วยชีวิตเด็ก  สาวซึ่งดิ่งหัวลงจากหอคอยสูงเช่นนั้นได้  แต่ถ้านางตาย พวกเขาก็คงพูดว่าพระ  เจ้าทรงยุติธรรมแล้ว  อาของข้าซึ่งเป็นผู้มีเหตุผลหนักแน่นบอกว่าดินแฉะมาก  หลังจากฝนฤดูหนาวตกมาหลายสัปดาห์  ทั้งยังถูกน�้ำในคูสาดซัด จนน่ากลัวว่า  นางคงจะได้รับอันตรายเพราะจมน�้ำมากกว่ากระดูกหักเสียอีก แต่คราวนี้เขา  ตัดสินใจว่านางต้องไปทันที  ท่านอาไม่อยากแบกรับภาระของสตรีนางนี้ไว้ใต้  ชายคาโดยไม่มีท่านหญิงคอยคุ้มครอง เริ่มแรกเขาส่งนางไปที่บ้านของเขาใน  อาร์ราส์  ณ คฤหาสน์เกอร์  เลอ กงต์  และเราจึงตามไปสมทบขณะที่นางถูกส่ง  ตัวต่อไปยังเมืองรูอ็องในปกครองของอังกฤษเพื่อไต่สวน เราต้องเข้าร่วมการไต่สวนด้วย ขุนนางชั้นผู้ใหญ่อย่างท่านอาต้องไป  เป็นสักขีพยานให้การตัดสินเป็นไปอย่างยุติธรรม และคนในครอบครัวต้องยืน  ด้านหลังเขา  อาหญิงเฌออานน์พาข้าไปร่วมเป็นพยานส�ำหรับจุดจบแห่งผู้ชี้ทาง  ศักดิ์สิทธิ์ของโดแฟง—ผู้พยากรณ์จอมปลอมของกษัตริย์จอมปลอม ผู้คนครึ่ง  หนึ่งของฝรั่งเศสแห่แหนไปรูอ็องเพื่อดูจุดจบของสตรีนางนั้น และเราต้องยืนอยู ่ เบื้องหน้าพวกเขาเหล่านั้น ส�ำหรับคนทีพ่ วกเขาประกาศว่าเป็นเพียงเด็กสาวชาวบ้านเสียสตินนั้  พวก  เขากลับระแวดระวังนางอย่างที่สุด โจนพ�ำนักอยู่ในปราสาทบูเวรยล์โดยถูกล่าม  โซ่ไว้ในห้องขังซึ่งใส่กุญแจสองชั้นและบานหน้าต่างถูกปิดตาย พวกเขาล้วนตก  กุหลาบ มนตรา วารี   45


อยู่ในความหวาดกลัวว่านางจะวิ่งลอดประตูออกไปเหมือนหนูหรือบินผ่านรอย  แยกบนหน้าต่างเหมือนนก พวกเขาขอให้นางสัญญาว่าจะไม่หนี  และเมื่อนาง  ปฏิเสธ พวกเขาก็ล่ามโซ่นางไว้กับเตียง “นางต้องไม่ชอบแน่” อาหญิงเฌออานน์พูดอย่างเศร้าสร้อย “นางไม่ชอบแน่ๆ” พวกเขาก�ำลังรอท่านดยุคแห่งเบดฟอร์ด ปลายเดือนธันวาคมเขาก็เดิน  ทางมาถึงเมืองพร้อมองครักษ์ในชุดสีดอกกุหลาบอังกฤษแดงสดและขาว เขา  เป็นยอดบุรุษบนหลังม้า สวมเกราะซึ่งขัดจนเงาวับประดุจเงิน ใบหน้าภายใต้  หมวกเหล็กใบใหญ่จริงจังและเคร่งขรึม จมูกใหญ่งองุ้มท�ำให้เขาดูเหมือนนกนัก  ล่าเหยื่อ เฉกเช่นนกอินทรี  เขาเป็นพระเชษฐาของพระเจ้าเฮนรี่ที่ห้าผู้ยิ่งใหญ่  แห่งอังกฤษ และเขาคุ้มกันดินแดนในฝรั่งเศสที่น้องชายของเขายึดมาได้ในมหา  สงครามแห่งอากินคูร์   บัดนี้โอรสแห่งกษัตริย์ผู้ล่วงลับคือผู้พิชิตฝรั่งเศสคนใหม่  และนี่คือพระปิตุลาผู้จงรักภักดีที่สุด เขาแทบไม่เคยถอดชุดเกราะหรือลงจาก  อานม้า และไม่เคยว่างเว้นจากการต่อสู้ เราทุกคนยืนเรียงแถวกันที่ประตูใหญ่ของปราสาทบูเวรยล์เมื่อเขาขี่ม้า  เข้ามา สายตาคมกริบของเขากวาดผ่านพวกเราทุกคน มองแต่ละคนกราดราว  กับพยายามเฟ้นหากบฏ  ท่านอาหญิงและข้าถอนสายบัวต�่ำ ส่วนอาจอห์นถอด  หมวกและโค้งค�ำนับ ตระกูลของเราเป็นพันธมิตรกับอังกฤษมาหลายปีแล้ว  หลุยส์แห่งลักเซมเบิร์ก อาอีกท่านหนึ่งของข้า เป็นเสนาบดีของท่านดยุค เขา  สาบานว่าดยุคเป็นบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยปกครองฝรั่งเศส เขาลงจากหลังม้าและยืนปักหลักดุจป้อมปราการขณะที่บรรดาบุรุษทั้ง  หลายเรียงแถวกันมากล่าวทักทาย เพียงค�ำนับเหนือมือของเขา บางคนก็แทบ  จะคุกเข่าลงกับพื้น ชายคนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้า และเมื่อเบดฟอร์ดตอบรับ  เขาด้วยการค้อมศีรษะเล็กน้อยอย่างทรงอ�ำนาจ สายตาเขาก็มองข้ามศีรษะของ  ขุนนางผู้รับใช้มาสบกับข้า  แน่นอนว่าข้าก�ำลังมองเขาด้วยว่าเขาเป็นตัวละคร  ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในวันอันเหน็บหนาวนี้  แต่ตอนนี้เขามองข้าตอบ และมี  ประกายวาบในดวงตาของเขาซึ่งข้าเห็นแต่ไม่รู้จัก มันดูเหมือนความหิวโหยที่  เกิดขึ้นฉับพลัน ราวกับคนอดอยากมาพบงานเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่  ข้าก้าวถอย  ข้าไม่ได้กลัวหรือเอียงอาย แต่ข้าอายุเพียงสิบสี่ปี  และมีบางอย่างในพลังอ�ำนาจ  46  วรางคณา เหมศุกล แปล


ของชายผู้นี้ที่ข้าไม่ต้องการให้พุ่งเป้ามายังข้า  ข้าขยับตัวไปด้านหลังเล็กน้อย  เพื่อหลบด้านหลังอาหญิง จากนั้นข้าจึงมองการโอภาปราศัยทั้งหมดลอดผ่าน  หมวกและผ้าคลุมผมของนาง เกี้ยวใหญ่มาถึง ผ้าม่านหนากันความหนาวของเกี้ยวรัดแน่นด้วยเชือก  ทอง และดัชเชสแอนผู้เป็นภรรยาของเบดฟอร์ดก็ถูกประคองให้ลงจากเกี้ยว มี  เสียงทักทายเล็กน้อยอย่างรื่นเริงดังมาจากคนของเรา นางมาจากตระกูลเบอร์  กันดีซึ่งเป็นเจ้านายและญาติมิตรของเรา และเราทุกคนก็โค้งให้นางเล็กน้อย  หน้าตานางจืดชืดเหมือนสมาชิกตระกูลเบอร์กันดีทุกคน ช่างน่าสงสารนัก แต่  รอยยิ้มของนางร่าเริงและใจดี  นางทักทายสามีอย่างอบอุ่น จากนั้นก็ยืนควง  แขนเขาอย่างสบายและมองไปรอบกายด้วยสีหน้ารื่นเริง นางโบกมือให้อาหญิง  และชี้ไปข้างในปราสาทเพื่อบอกว่าเราต้องไปพบนางหลังจากนี้  “เราจะไปยาม  เวลาอาหารเย็น” อาหญิงกระซิบบอกข้า “ไม่มีผู้ใดอีกแล้วบนโลกที่จะกินดีอยู่ดี  กว่าเหล่าดยุคแห่งเบอร์กันดี” เบดฟอร์ดถอดหมวกเหล็กออกและโค้งค�ำนับให้ฝูงชนทั้งหมด อีกทั้งโบก  มือซึ่งห่อหุ้มด้วยถุงมือศึกให้ผู้คนซึ่งชะโงกตัวลงมาจากหน้าต่างด้านบนและทรง  ตัวอยู่บนก�ำแพงสวนเพื่อชื่นชมยอดบุรุษผู้นี้  จากนั้นเขาหันกลับไปและเดินน�ำ  ภรรยาเข้าไปข้างใน ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าเราเพิ่งได้รับชมบรรดานักแสดงและฉาก  เปิดของละครเร่  แต่ไม่ว่าจะเป็นละครสวมหน้ากากหรืองานเลี้ยง พิธีศพหรือ  กิจกรรมล่าสัตว์ที่ดึงดูดบรรดาผู้ทรงอ�ำนาจทั่วฝรั่งเศสมาเยือนรูอ็องได้มากมาย  ถึงเพียงนี้  มันก็ก�ำลังจะเริ่มต้น

กุหลาบ มนตรา วารี   47


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.