โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีน
โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีน เชาวน์ พงษ์พิชิต
กรุงเทพมหานคร ส�ำนักพิมพ์มติชน 2558
โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีน • เชาวน์ พงษ์พิชิต พิมพ์ครั้งแรก : สำ�นักพิมพ์มติชน, กรกฎาคม 2558 ราคา 175 บาท
ข้อมูลทางบรรณานุกรม เชาวน์ พงษ์พิชิต. โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีน. - - กรุงเทพฯ : มติชน, 2558. 192 หน้า. 1. โจว, เอินไหล, 2441-2519. 2. นายกรัฐมนตรี - - จีน - - ชีวประวัติ. I. ชื่อเรื่อง 923.251 ISBN 978 - 974 - 02 - 1417 - 5
ที่ปรึกษาส�ำนักพิมพ์ : อารักษ์ คคะนาท, สุพจน์ แจ้งเร็ว, สุชาติ ศรีสุวรรณ, ปิยชนน์ สุทวีทรัพย์, ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์, นงนุช สิงหเดชะ ผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : กิตติวรรณ เทิงวิเศษ • รองผู้จัดการส�ำนักพิมพ์ : รุจิรัตน์ ทิมวัฒน์, อพิสิทธิ์ ธีระจารุวรรณ บรรณาธิการบริหาร : สุลักษณ์ บุนปาน • บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์ : พัลลภ สามสี หัวหน้ากองบรรณาธิการ : สอง แสงรัศมี • พิสูจน์อักษร : โชติช่วง ระวิน กราฟิกเลย์เอาต์ : อรอนงค์ อินทรอุดม • ออกแบบปก-ศิลปกรรม : สิริพงษ์ กิจวัตร ประชาสัมพันธ์ : ตรีธนา น้อยสี
หากท่านต้องการสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้จ�ำนวนมากในราคาพิเศษ เพื่อมอบให้วัด ห้องสมุด โรงเรียน หรือองค์กรการกุศลต่างๆ โปรดติดต่อโดยตรงที่ บริษัทงานดี จ�ำกัด โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3353 โทรสาร 0-2591-9012
www.matichonbook.com บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) : 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 1235 โทรสาร 0-2589-5818 แม่พิมพ์สี-ขาวดำ� : กองงานเตรียมพิมพ์ บริษัทมติชน จำ�กัด (มหาชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 2400-2402 พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด 27/1 หมู่ 5 ถนนสุขาประชาสรรค์ 2 ตำ�บลบางพูด อำ�เภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 โทรศัพท์ 0-2584-2133, 0-2582-0596 โทรสาร 0-2582-0597 จัดจำ�หน่ายโดย : บริษัทงานดี จำ�กัด (ในเครือมติชน) 12 ถนนเทศบาลนฤมาล ประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ 0-2580-0021 ต่อ 3350-3353 โทรสาร 0-2591-9012 Matichon Publishing House a division of Matichon Public Co., Ltd. 12 Tethsabannarueman Rd., Prachanivate 1, Chatuchak, Bangkok 10900 Thailand หนังสือเล่มนี้พิมพ์ด้วยหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อปกป้องธรรมชาติ ลดภาวะโลกร้อน และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้อ่าน
สารบัญ
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ ค�ำน�ำจากผู้อ�ำนวยการศูนย์จีนศึกษา 1. วัยเด็กและวัยเรียน 2. ช่วงเวลาที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน กับพรรคก๊กมินตั๋งร่วมกันด�ำเนินการปฏิวัติใหญ่ 3. การลุกฮือขึ้นสู้ที่หนันชัง 4. ต่อต้านแนวทางเอียงซ้ายของหลี่ลี่ซัน 5. ต่อต้านแนวทางเอียงซ้ายคัมภีร์นิยมของหวังหมิง 6. การเดินทัพทางไกลและการประชุมที่จุนยี่ 7. การรณรงค์เพื่อก่อตั้งแนวร่วมต่อต้านญี่ปุ่น 8. สงครามต่อต้านญี่ปุ่น 9. การรณรงค์เพื่อสันติภาพและประชาธิปไตย 10. สงครามปลดแอกประชาชน 11. นายกรัฐมนตรีคนแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน 12. หลักปัญจศีล-นโยบายกระทรวงต่างประเทศที่โดดเด่น 13. ปรับสัมพันธภาพกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น 14. แรงสนับสนุนจากโลกที่ 3 15. ความสัมพันธ์กับสหภาพโซเวียต 16. แนวนโยบายเศรษฐกิจของโจวเอินไหล 17. ปฏิวัติใหญ่วัฒนธรรม 18. ยามเจ็บป่วยถึงอสัญกรรม 19. ปัจฉิมกถา
6 8 13 20 26 31 42 51 63 74 86 94 101 110 124 137 140 144 160 173 190
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์
เรื่ อ ง โจวเอิ น ไหล รั ฐ บุ รุ ษ จี น เป็ น ผลงานอี ก หนึ่ ง เรื่ อ งของ เชาวน์ พงษ์พิชิต ที่เคยตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในมติชนสุดสัปดาห์แล้ว ทางส�ำนักพิมพ์มติชนน�ำมาจัดพิมพ์เป็นเล่ม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า คุณเชาวน์นั้นมีความเชี่ยวชาญด้านจีนศึกษาและลัทธิมาร์กซ์ จึงท�ำให้ ผลงานของท่านได้รับการยอมรับในวงวิชาการ แน่นอนว่าการถือก�ำเนิดของสาธารณรัฐประชาชนจีน เราจะ นึกถึง เหมาเจ๋ อ ตง ว่าเป็นบิดาผู้ให้ก�ำเนิดประเทศจีน ซึ่งเราคงจะ คุ้นเคยข้อมูลดังกล่าวจากหนังสือที่ว่าด้วยประวัติและวิธีคิดในการ สร้างชาติของเหมาเจ๋อตง ทั้งจากโลกตะวันตกและจากประเทศจีน รวมทั้งที่ส�ำนักพิมพ์มติชนได้พิมพ์เรื่อง วิพากษ์ประธานเหมา ซึ่งเขียน โดยคุณเชาวน์ก่อนหน้านี้ แต่จะว่าไปแล้วสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ยืนหยัดมาจนถึงทุก วันนี้ได้ ย่อมมีบุคคลท่านนี้ด้วยที่ยืนหยัดเคียงข้างเหมาเจ๋อตงในการ สร้างชาติ นั่นคือ โจวเอินไหล นายกรัฐมนตรีท่านแรกของสาธารณรัฐ ประชาชนจีน หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้เรียบเรียงประวัติของโจวเอินไหลตั้งแต่ ก�ำเนิดจนถึงอสัญกรรม โดยใช้หลักฐานจากเอกสารทางฝ่ายจีนเป็น หลัก แล้วมีเหตุการณ์ต่างๆ ที่โจวเอินไหลเข้าไปมีบทบาท ทั้งเหตุการณ์ ในเมืองจีนและภายใต้บริบทของโลก ที่โจวเอินไหลสามารถผ่านเหตุ การณ์นั้นมาได้อย่างดี โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก แม้ว่าจะขรุขระอยู่บ้างก็ตามที 6 โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีน
นอกจากนี้ยังฉายภาพให้เห็นความสามารถทางการทูตและการ ต่างประเทศของโจวเอินไหลได้เป็นอย่างดีที่ท�ำให้โลกรู้จักสาธารณรัฐ ประชาชนจีนได้ดียิ่งขึ้น ส�ำนักพิมพ์มติชนหวังว่าหนังสือเล่มนี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อจีน ศึกษาในเมืองไทยไม่มากก็น้อย ส�ำนักพิมพ์มติชน
เชาวน์ พงษ์พิชิต 7
ค�ำน�ำ จากผู้อ�ำนวยการศูนย์จีนศึกษา
หนังสือเรื่อง โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีน เล่มนี้เป็นผลงานศึกษา ของเชาวน์ พงษ์พิชิต ที่ท�ำให้กับศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งในขณะนั้นโครงการศึกษานี้ใช้ชื่อเรื่องว่า โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีนผู้เป็นอัจฉริยะด้านการทหาร การทูต เศรษฐกิจ และการบริหาร โดยภายหลังที่การศึกษานี้แล้วเสร็จและผ่านขั้นตอน ทางวิชาการไปแล้ว ทางศูนย์จีนศึกษาได้น�ำผลงานนี้มาเสนอตีพิมพ์ใน มติชนสุดสัปดาห์ เป็นตอนๆ ระหว่างที่ตีพิมพ์ในนิตยสารฉบับนี้ยัง ไม่ทันจบ ก็ปรากฏว่าผู้เขียนได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 87 จึงน่าเสียดาย ที่ท่านมิได้เห็นการตีพิมพ์เป็นเล่มในครั้งนี้ จากวันสุดท้ายของผู้เขียนดังกล่าวข้างต้น มีประเด็นที่ศูนย์จีน ศึกษาพึงบอกกล่าวเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วยว่า ตลอดบั้นปลายชีวิตของเชาวน์ พงษ์พิชิตนั้น แม้ท่านจะมีกิจกรรมในแต่ละวันของท่านเองอยู่ก็ตาม แต่กล่าวเฉพาะในเรื่องที่เป็นการเป็นงานแล้ว แทบกล่าวได้ว่าเชาวน์ พงษ์พิชิตได้อุทิศเวลาให้กับศูนย์จีนศึกษามาโดยตลอด เป็นการอุทิศ เวลาที่ท่านดูจะพึงพอใจและโดยมิได้ใช้เงินหรือค่าตอบแทนเป็นตัวตั้ง แม้กระทั่งด้วยวัยที่ชราภาพอันพึงจะได้พักผ่อนอยู่กับบ้านนั้น เชาวน์ก็ มักจะเจียดเวลามานั่งที่ศูนย์จีนศึกษาสัปดาห์ละครั้ง ทั้งเพื่อมาติดตาม งานหรือเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนข่าวสารหรือหัวข้อวิชาการอยู่เสมอ จน ดูเสมือนกับท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ของนักวิจัยและเจ้าหน้าที่ศูนย์จีนศึกษา ก็มิปาน ดังนั้น ในยามที่ท่านจากไป ความเงียบเหงาจากการที่ท่านจากไป จึงเป็นสิ่งที่ศูนย์จีนศึกษาไม่สู้จะคุ้นชิน 8 โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีน
จนเมื่อผลงานเรื่อง โจวเอินไหลฯ ได้รับการตีพิมพ์เป็นเล่มใน ครั้งนี้ ความเงียบเหงาที่ว่าก็ผ่อนคลายลงไปบ้าง และเมื่อย้อนกลับมา ดูการร้อยเรียงเรื่องราวของหนังสือเล่มนี้แล้วก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ ว่านี่หรือคืองานที่คนที่อยู่ในวัยกว่า 80 ปีได้เขียนขึ้นมา เรื่องราวใน หนังสือเล่มนี้ถูกร้อยเรียงตั้งแต่ชีวิตในวัยเด็กของโจวเอินไหล จากนั้น ก็ไล่เรียงกันตั้งแต่ที่โจวเอินไหลเข้ามามีบทบาททางการเมืองในพรรค คอมมิวนิสต์จีน ผ่านการลองผิดลองถูกร่วมกับแกนน�ำพรรค ผ่าน การต่อสู้และขัดแย้งต่างๆ ผ่านสถานการณ์ที่ยากล�ำบาก ผ่านสงคราม ภายในและภายนอก เรื่อยมาจนถึงเมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของ สาธารณรัฐประชาชนจีน แล้วจากนั้นก็ยังผ่านสถานการณ์ทั้งที่ดีเลิศ และเลวร้ายตราบจนวันที่ลมหายใจสุดท้ายได้มาเยือน เหล่านี้ล้วน ครบถ้วนอยู่ในผลงานชิ้นนี้ด้วยฝีมือของชายชราวัยกว่า 80 ปีที่ชื่อ เชาวน์ พงษ์พิชิต ที่ได้ท�ำให้เห็นอย่างน่าทึ่ง ศูนย์จีนศึกษาจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือ โจวเอินไหลฯ เล่ม นี้จะยังประโยชน์ให้แก่การศึกษาเรื่องจีนในสังคมไทยบ้างไม่มากก็น้อย และส�ำหรับผู้ที่สนใจเรื่องราวบุคคลส�ำคัญของโลกโดยไม่ติดยึดว่าจะ ต้องเป็นจีนแล้ว หนังสือเล่มนี้ถือว่าได้ช่วยฉายภาพของรัฐบุรุษคนหนึ่ง ได้เป็นอย่างดี ว่าการที่บุคคลจะก้าวขึ้นมาถึงจุดที่โลกให้การยอมรับนั้น ไม่เพียงหนทางจะมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเท่านั้น หากแต่ขณะเดินอยู่ บนหนทางทีว่ า่ ก็ยงั ต้องเผชิญกับสถานการณ์ทชี่ าวคอมมิวนิสต์มกั เรียก กันว่า “นองเลือด” อีกด้วย ดังนั้น หนังสือเล่มนี้จึงไม่เหมาะอย่างยิ่ง กับใครก็ตามที่ต้องการความส�ำเร็จด้วยการเดินทางลัด ด้วยจิตคารวะ วรศักดิ์ มหัทธโนบล ผู้อ�ำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มิถุนายน 2558 เชาวน์ พงษ์พิชิต 9
โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีน
เชาวน์ พงษ์พิชิต 11
1
วัยเด็กและวัยเรียน
โจวเอินไหลถือก�ำเนิดในครอบครัวขุนนางชั้นผู้น้อย เมื่อวันที ่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1898 โดยปู่อพยพจากอ�ำเภอเซ่าซิง มณฑลเจ้อเจียง มาอยู่ที่อ�ำเภอหวยอัน มณฑลเจียงซู เป็นผู้ช่วยนายอ�ำเภอและนาย อ�ำเภอตามล�ำดับ ส่วนบิดาเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยของท้องที่อื่น โจวเอินไหลถูกยกให้เป็นลูกบุญธรรมของอา เมื่อมีอายุครบ 1 ขวบ อาสะใภ้ซึ่งเป็นทั้งแม่บุญธรรมของโจวเอินไหลด้วยนั้นเป็นหญิง คงแก่เรียน ท่านสอนโจวเอินไหลอ่านกวีนิพนธ์สมัยถังจนท่องขึ้นใจได้ เป็นสิบๆ บทเมื่อมีอายุแค่ 4 ขวบ นอกจากนั้นโจวเอินไหลยังได้อ่าน นวนิยายคลาสสิกเป็นจ�ำนวนมากเมื่ออายุยังไม่ถึง 9 ขวบ ชีวิตวัยเด็กของโจวเอินไหลทุกข์ยากพอสมควร เมื่อปู่ถึงแก่ กรรม บิดามีรายได้ไม่เพียงพอแก่การเลี้ยงดูครอบครัว ต้องทยอยน�ำ สิ่งของในบ้านไปจ�ำน�ำ หรือหยิบยืมเงินทองจากญาติพี่น้องมาแลกข้าว กิน หนี้สินรุงรัง คุณแม่ทั้งสองต้องทยอยกันลาโลกไปภายในปีเดียว กัน ด้วยความเศร้าโศกล�ำเค็ญที่ถูกเจ้าหนี้มาทวงถามไม่เว้นแต่ละวัน เชาวน์ พงษ์พิชิต 13
เมื่อโจวเอินไหลมีอายุแค่ 10 ขวบ ต้องกระเสือกกระสนท�ำมาหากิน รับภาระดูแลน้องชาย 2 คนไปวันๆ จนกระทั่งอายุ 12 ปี จึงได้ติด ตามคุณลุงไปเข้าโรงเรียนชั้นประถมที่นครเสิ่นหยังทางภาคอีสานของ จีน นับแต่นั้นเป็นต้นมาท่านไม่เคยกลับไปเยือนบ้านเกิดเมืองนอน ที่อ�ำเภอหวยอันอีกเลย ขณะที่โจวเอินไหลศึกษาอยู่ที่นครเสิ่นหยังนั้น มีครูสอนวิชา ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์คนหนึ่งชื่อ เกายี่หวู ปลูกฝังทัศนคติที่จะ โค่นล้มราชวงศ์ชิงและสถาปนาสาธารณรัฐขึ้นแทนในขณะท�ำการสอน ในห้องเรียน อีกทั้งยังแนะน�ำโจวเอินไหลให้อ่านงานเขียนเรื่อง กอง ทัพปฏิวัติ ที่ประพันธ์โดยโจวหรง (ค.ศ. 1885-1905) ผู้เป็นนักปฏิวัติ ประชาธิปไตยนิยม ครูเกาผู้นี้เป็นผู้ปลูกฝังคติปฏิวัติประชาธิปไตย ให้แก่โจวเอินไหลเป็นคนแรก ต่อมาเมื่อ ดร.ซุนยัตเซ็นประสบชัยชนะในการปฏิวัติซินไฮ่ เมื่อปี ค.ศ. 1911 โจวเอินไหลยังคงเรียนหนังสืออยู่ที่นครเสิ่นหยัง วันหนึ่งท่านกับเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งติดตามคุณปู่ของเพื่อนคนนั้น ไปเยือนสมรภูมิสงครามญี่ปุ่น-รัสเซีย ปี ค.ศ. 1904-1905 ที่เขาหลง เยียนซันใกล้นครเสิ่นหยัง คุณปู่เล่าให้เด็ก 2 คนได้ฟังว่า สงคราม ครั้งนั้นรัสเซียต้องการแย่งชิงดินแดน 3 มณฑลภาคอีสานของจีน ก็ เลยยกทัพเข้ามาราวีจีน ประชาชนต้องบ้านแตกสาแหรกขาด บาดเจ็บ ล้มตายเป็นระนาว แต่รัฐบาลราชวงศ์ชิงกลับประกาศ “เป็นกลาง” ซึ่งนับว่าอัปยศยิ่ง แต่นั้นเป็นต้นมาโจวเอินไหลก็มุ่งมั่นที่จะอุทิศตน เพื่อกอบกู้ปิตุภูมิจากความยากจนล้าหลังและอ่อนแอ1 ครั้งหนึ่งเมื่อ ครูถามนักเรียนในชั้นเรียนว่า โตขึ้นปรารถนาจะท�ำสิ่งใด โจวเอินไหล ตอบอย่างองอาจว่า “ปรารถนาจะให้จีนผงาด” ปี ค.ศ. 1913 โจวเอินไหลสอบเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมหนันไค ที่นครเทียนสินได้เมื่อมีอายุ 15 ปี 1 ฟางจวี้เฉิงและเจียงกุ้ยหนง : ชีวประวัติสังเขปของโจวเอินไหล. ส�ำนัก
พิมพ์เหรินหมินและส�ำนักพิมพ์ภาษาต่างประเทศ : ปักกิ่ง, 1986, หน้า 14-16
14 โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีน
โรงเรี ย นแห่ ง นี้ มี ค รู ที่ รั ก ชาติ ห ลายท่ า น ในจ� ำ นวนนี้ คุ ณ ครู หม่าเชียนหลี่มีความสนิทสนมกับโจวเอินไหลเป็นพิเศษ ต่อมาได้ถูก จับกุมคุมขังพร้อมโจวเอินไหลและเพื่อนๆ เมื่อครั้งเข้าร่วมขบวนการ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1919 หนังสือเรื่อง บันทึกในที่คุมขังของต�ำรวจ และบันทึกรายวันในที่คุมขังของอัยการ ที่โจวเอินไหลเป็นผู้ประพันธ์ คุณครูหม่าก็เป็นผู้น�ำไปตีพิมพ์2 โจวเอินไหลชอบอ่านหนังสือและมีความสามารถในการเขียน คะแนนแต่งความของท่านอยู่ใน 5 อันดับแรกของห้อง ง. ท่านเคย ร่วมกับเพื่อนนักเรียนอื่นๆ ก่อตั้งสมาคมหมั่นเรียนเพื่อความสุข มหาชน โดยท่านได้ด�ำรงต�ำแหน่งประธานของสมาคมแห่งนี้ และ เขียนบทความลงในวารสารซึ่งสมาคมแห่งนี้จัดพิมพ์3 ในฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 1917 โจวเอินไหลจบการศึกษาระดับ มัธยมที่หนันไค แล้วไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1917 โดยมีเพื่อนๆ ช่วยเหลือค่าเดินทาง หลังจากไปถึงญี่ปุ่น 2 เดือน ความ สนใจของท่านพุ่งไปยังเหตุการณ์ส�ำคัญของโลกในเวลานั้นคือการปฏิวัต ิ เดือนสิบของรัสเซีย ท่านศึกษากรณีนี้อย่างจริงจัง กระทั่งสืบค้นไปถึง หลักทฤษฎีของการปฏิวัติครั้งนั้น ท่านเริ่มสัมผัสและศรัทธาในลัทธิ มาร์กซ์ตั้งแต่นั้นมา4 และยังมีโอกาสได้อ่านปัญหาสังคมศึกษา วารสาร รายปักษ์ที่จัดท�ำโดยคาวาคามิ ฮาจิเม (ค.ศ. 1879-1946) ศาสตราจารย์ สอนวิชาเศรษฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเกียวโตด้วย5 ต้นปี ค.ศ. 1919 ในที่ประชุมสันติภาพที่นครปารีส บรรดามหา อ�ำนาจตกลงจะยกสิทธิทั้งหมดที่เยอรมนีผู้พ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้ง ที่ 1 มีอยู่ในประเทศจีนให้แก่ญี่ปุ่น นักศึกษาจีนในนครโตเกียวพา 2 เพิ่งอ้าง, หน้า 18
3 หลี่เทียนหมิ่น : ชีวประวัติโจวเอินไหลฉบับวิพากษ์. ส�ำนักพิมพ์อัลไต :
ฮ่องกง, 1976, หน้า 16 4 ชีวประวัติสังเขปของโจวเอินไหล, หน้า 19 5 ชีวประวัติโจวเอินไหลฉบับวิพากษ์, หน้า 16
เชาวน์ พงษ์พิชิต 15
โจวเอินไหล ในการเคลื่อนไหวใหญ่ วันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ.1919 ที่นคร เทียนสิน (ภาพจาก In Deep Memory of Esteemed and Beloved Premier Chou En-lai. จัดพิมพ์โดย China Pictorial. 1977)
กันชุมนุมและเดินขบวนแสดงพลังด้วยความโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง โจวเอินไหลเป็นตัวตั้งตัวตีในกระบวนการนี้ จนไม่มีเวลาเตรียมตัวใน การสอบจึงพลาดหวังจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัย จึงต้องเดินทาง ออกจากญี่ปุ่นหลังจากพ�ำนักอยู่ที่นั่นถึง 19 เดือน กลับไปยังมาตุภูมิ เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 19196 ขณะที่กระบวนการ 4 พฤษภาคมต่อต้านรัฐบาลขุนศึกจากเมือง หลวงขยายตัวไปทั่วประเทศ สมาคมนักเรียนนักศึกษานครเทียนสิน ต้องการออกหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเพื่อสร้างประชามติ โจวเอินไหล ได้รับการคัดเลือกให้เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์สมาคมนักเรียน นักศึกษานครเทียนสิน ท�ำหน้าที่เขียนบทบรรณาธิการด้วยนามปากกา “เฟยๆ” (แปลว่า บิน-บิน)
6 ชีวประวัติสังเขปของโจวเอินไหล, หน้า 19-20
16 โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีน
เพื่อให้ขบวนการนักศึกษานครเทียนสินสามารถประกอบกิจ กรรมได้อย่างพร้อมเพียงกัน สมาคมนักเรียนนักศึกษาเทียนสิน กับสมาคมสหายรักชาติสตรีเทียนสินจึงได้ร่วมกันก่อตั้งองค์กร ใหม่ ขึ้ น มาให้ ชื่ อ ว่า สมาคมตื่ น ตั ว เมื่ อ เดื อ นกั น ยายน ค.ศ.1919 โจวเอินไหล (เพิ่งเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยหนันไค) และหม่าจุ้นมุสลิม ผู้น�ำนักศึกษาเป็นตัวแทนฝ่ายแรก ส่วนนางสาวกัวหลงเจิน (นักศึกษา มุสลิม) หลิวชิงหยัง และเติ้งหยิ่งเชา เป็นผู้แทนฝ่ายหลัง ขณะนั้น เติ้งหยิ่งเชา (ซึ่งต่อมาเป็นคู่ครองของโจวเอินไหลนั้น) มีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น7 สมาคมตื่ น ตั ว ก็ ไ ด้ อ อกวารสารฉบั บ หนึ่ ง ให้ ชื่ อ ว่ า “ตื่ น ตั ว ” โจวเอินไหลและเติ้งหยิ่งเชาต่างก็เขียนบทความลงในวารสารฉบับนี ้ ด้วยนามปากกา “อู่เห้า” และ “อีเห้า” (รหัส “หมายเลข 5” และ “หมายเลข 1”) วารสารฉบับนี้ออกได้แค่ฉบับเดียวก็ปิดตัวเองไป แม้สมาคมตื่นตัวเองก็ได้เลิกกิจกรรมไปในฤดูใบไม้ผลิปีถัดมา แต่ ก่อนที่จะยุติกิจกรรม สมาคมตื่นตัวยังได้สร้างผลงานส�ำคัญอีกชิ้นหนึ่ง คือ ต�ำรวจได้สั่งปิดสมาคมนักเรียนนักศึกษานครเทียนสินเพื่อปราบ ปรามขบวนการรักชาติที่คว�่ำบาตรสินค้าญี่ปุ่นในเดือนมกราคม ค.ศ. 1920 สมาคมตื่ น ตั ว จึ ง มี ม ติ ใ ห้ แ สดงพลั ง เป็ น การประท้ ว ง โดยให้ โจวเอินไหลและกัวหลงเจินน�ำขบวนมวลชนไปร้องเรียนที่หน้าที่ว่าการ มณฑลเหอเป่ย ทั้งสองถูกทางการจับกุมพร้อมผู้แทนนักศึกษาอื่นๆ อีก 20 กว่าคนไปคุมขังไว้เป็นเวลา 6 เดือน โจวเอินไหลและพวก รณรงค์ด้วยวิธีการอดอาหารประท้วง8 ในช่วงเวลาดังกล่าว เติ้งหยิ่งเชาและผู้ติดตามได้ยื่นค�ำร้องต่อ ทางการขอให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งเสนอขอ ให้เธอและพวกรวม 24 คนซึ่งอยู่นอกที่คุมขังเข้าไปอดอาหารแทน พรรคพวกที่คุก โดยอ้างว่าพวกที่ถูกคุมขังอยู่นั้นเป็นตัวแทนของพวก
7 เพิ่งอ้าง, หน้า 21 8 เพิ่งอ้าง, หน้า 21
เชาวน์ พงษ์พิชิต 17
ตน ดังนั้น พวกตนจึงมีสิทธิเข้าไปรับเคราะห์ในที่คุมขังแทน ด้วย แรงกดดันของประชามติดังกล่าว ในที่สุดฝ่ายต�ำรวจก็จ�ำต้องน�ำเอา คดี นี้ ขึ้ น สู ่ ศ าลให้ พิ จารณาตามกฎหมาย และโจวเอิ น ไหลในฐานะ ผู้ต้องหาก็เลยสามารถอาศัยห้องพิจารณาความของศาลเป็นเวทีฟ้อง ร้องกล่าวโทษรัฐบาลขายชาติต่อสังคม9 ในที่สุดศาลได้ตัดสินปล่อย ตัวผู้ต้องหาทั้ง 24 คนเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1920 โจวเอินไหล หัวหน้านักศึกษาธรรมดาๆ คนหนึ่ง ได้กลายเป็น บุคคลซึ่งสังคมจับตามองและเป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่หลายท่าน เช่น เหยียนฟั่นซุน ผู้ก่อตั้งโรงเรียนหนันไค และหลิวฉงโย่ว ทนายความ อาวุโสเทียนสิน ทั้งสองต่างก็เคยหมายตาจะยกบุตรสาวให้เป็นคู่ครอง ต่อมาเมื่อโจวเอินไหลเดินทางไปศึกษาต่อที่ฝรั่งเศส ท่านทั้งสองก็ได้ ช่วยเหลือค่าเดินทางให้คนละ 500 หยวน10 สมาคม “ตืน่ ตัว” ได้เชิญสมาคมวิทยาการจีนวัยรุ่น และสมาคม อื่นๆ รวม 4 องค์กร พบปะชุมนุมกันที่สวนสาธารณะ “เถาหรันถิง” ทางทิศใต้ของนครปักกิ่งในวันที่ 16 สิงหาคม เพื่อปรึกษาหารือทิศทาง การพั ฒ นาของกระบวนการกู ้ ช าติ และปั ญ หาว่ า จะร่ ว มกั น รณรงค์ อย่างไรต่อไป โดยมีหลี่ต้าเจา ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ผู้น�ำเอาทฤษฎีลัทธิมาร์กซ์และลัทธิบอลเชวิคเข้ามาเผยแพร่ในประเทศ จีนเป็นคนแรกรับเชิญมาร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย โจวเอินไหลเป็น ผู้สรุปผลงานและบทเรียนที่ได้รับจากกระบวนการรักชาติของนคร เทียนสินในที่ประชุมดังกล่าว11 โจวเอินไหลเดินทางไปถึงฝรั่งเศสตามโครงการเรียนไปด้วย ท�ำงานไปด้วยของรัฐบาลจีนกับรัฐบาลฝรั่งเศสในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1920 เวลานั้นท่านมีอายุ 22 ปี เป็นที่สนใจของนักศึกษาจีนในฝรั่งเศส ในฐานะผู้เคยศึกษาลัทธิมาร์กซ์มาตั้งแต่สมัยไปศึกษาที่ญี่ปุ่น และเป็น
9 เพิ่งอ้าง, หน้า 21-22
10 ชีวประวัติโจวเอินไหลฉบับวิพากษ์, หน้า 18
11 ชีวประวัติสังเขปของโจวเอินไหล, หน้า 22
18 โจวเอินไหล รัฐบุรุษจีน
ผู้น�ำเยาวชนจีนที่เก่งกล้าอาจหาญ แต่ท่านเองตั้งเป้าไว้เพียง 2 ประ การคือ เร่งศึกษาลัทธิมาร์กซ์ และเสาะหาต�ำรับต�ำราที่ใช้เยียวยารักษา โรคเรื้อรังของปิตุภูมิ ท่านต้องไปเป็นกรรมกรรายวันที่โรงงานผลิต รถยนต์เรโน ต้องหุงหาอาหารกินเอง ขากางเกงหดแล้วหดอีก ถุงเท้า ก็ปะแล้วปะอีก สมถะมัธยัสถ์กลายเป็นนิสัยของโจวเอินไหล ถึงแม้ ท่านได้ก้าวขึ้นสู่ต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีอันทรงเกียรติแล้ว ในอีก 28 ปี ต่อมาท่านก็ยังคงมีนิสัยประหยัดเหมือนเดิม12 พรรคคอมมิวนิสต์จีน (พคจ.) ก่อตั้งขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือน กรกฎาคม ค.ศ. 1921 แต่ทว่าก่อนหน้านั้นคือในเดือนมีนาคมปีเดียว กัน โจวเอินไหลกับนักลัทธิมาร์กซ์คนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ ของทวีปยุโรปก็ได้พร้อมใจกันก่อตั้งกลุ่มลัทธิคอมมิวนิสต์ขึ้นมาแล้ว ต่อมาเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ก่อตั้งขึ้นเป็นตัวเป็นตน กลุ่มลัทธิ คอมมิวนิสต์ที่อยู่ต่างประเทศจ�ำนวน 8 กลุ่มล้วนมีความยินดีที่จะรวม เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ พคจ.ในประเทศ องค์กร พคจ.ที่นครปารีส เดิมก็มีชื่อใหม่ว่า สาขาใหญ่ประจ�ำยุโรป พคจ. โดยมีเจ้าซื่อเหยียน เป็นเลขาธิการสมัยที่ 1 และโจวเอินไหลเป็นเลขาธิการสมัยที่ 2 ท�ำ หน้าที่ดูแลงานของ พคจ.ทั้งที่อยู่ในฝรั่งเศส เยอรมนี และเบลเยียม ในระยะนั้นโจวเอินไหลมีผู้ช่วยงานในการเขียนกระดาษไขใช้พิมพ์ วารสารขององค์กรคนหนึ่งคือ เติ้งเสี่ยวผิง นอกจากนั้นโจวเอินไหล ยังมีโอกาสรู้จักมักคุ้นกับจูเต๋อ และเป็นผู้แนะน�ำให้เขาเข้าเป็นสมาชิก พคจ.13 ทั้ง 2 ท่านนี้ล้วนเป็นผู้น�ำส�ำคัญของ พคจ.ในเวลาต่อมา
12 ชีวประวัติสังเขปของโจวเอินไหล, หน้า 22-23 13 ชีวประวัติสังเขปของโจวเอินไหล, หน้า 24
เชาวน์ พงษ์พิชิต 19