Miracle-Issue02

Page 1


จุดเริ่มต้นแห่ง “ปาฏิหาริย์” ....จากปัญหาการระบาดของยาเสพติด การระบาดของโรคเอดส์อย่างรวดเร็ว และการใช้เวลา อย่างหลงผิดของเยาวชน ทำ�ให้เกิดความวิตกว่า ในเมื่อเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติอ่อนแอ ขาดประสิทธิภาพ แล้วอนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร... ...การพัฒนาศักยภาพของเยาวชน โดยการสอนให้รจู้ กั คุณค่าของตนเอง มีความเชื่อมั่น ในตัวเอง จะช่วยสร้างเกราะป้องกันจิตใจของเยาวชนจากปัญหาต่างๆ ได้ และการสอนให้รจู้ กั การสร้างสรรค์สง่ิ ทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ผูอ้ นื่ หรือทีเ่ รียกว่า “การให้” ตามพระราชดำ�รัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อเยาวชนเองและต่อประเทศชาติ ได้ในที่สุด... จากพระดำ�ริใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่ทรงให้ความสำ�คัญในการพัฒนา เด็กและเยาวชน อันเป็นทรัพยากรอันมีคา่ ยิง่ ต่อการพัฒนา ประเทศ “โครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of Life)” จึงได้ถือกำ�เนิดขึ้น เพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ ร่วมสร้างปาฏิหาริย์ให้แก่ตนเอง โดยรู้จักที่จะเป็นผู้ “ให้” อย่างสร้างสรรค์

พระดำ�ริในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในการจัดตั้งโครงการ ปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of Life)

ส่งเสริมและสนับสนุนการดำ�เนินงานโดย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างยิ่ง และขอสนับสนุน เป็นกำ�ลังใจ และขอขอบใจทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันสานต่อ แนวความ คิดของข้าพเจ้า โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ ที่ได้เข้ามาร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่กำ�ลังเกิดขึ้นใน โครงการมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ ขณะนี้ ขอให้พวกเราเยาวชนทั้งหลาย กล้าคิด กล้าทำ� กล้านำ� ทำ�ความดีโดยผ่านการให้ ที่กำ�ลังจะเกิดขึ้นทั่วทุกภูมิภาค ของประเทศ จงประสบความสำ�เร็จ และขอเป็นแรงบันดาลใจกับผู้ให้ จงบังเกิดปาฏิหาริย์แห่งชีวิตกับทุกคน ขอให้ช่วยกันส่งต่อ ปาฏิหาริย์แห่งชีวิตอันงดงามนี้ไปยังคนไทยทุกคน อันเป็นที่รักยิ่งของเรา พระดำ�รัสจาก งานแถลงข่าวเปิดโครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต ครั้งที่ 1 วันที่ 11 กรกฎาคม 2552 2

3


สาร นายอภิสิทธิ์ เวชาชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสจัดพิมพ์นิตยสาร Miracle of Life พุทธศักราช ๒๕๕๓

เอาใจใส่

เอาใจใส่ ในทุกสิ่งที่ทำ� แม้รายละเอียด เพียงเล็กน้อย

การให้

เริ่มจาก ให้ตนเอง แล้วจึงให้ผู้อื่น

คุณธรรม 5 ประการ

ซื่อสัตย์, ขยัน อดทน, กตัญญูกตเวที, อ่อนน้อมถ่อมตน, คบคนดีเป็นมิตร

มีเป้าหมาย

ดำ�รงชีวิต แบบมีทิศทาง จะช่วยให้ ถึงที่หมายเร็วขึ้น

ลงมือทÓ

การลงมือทำ� เท่านั้นที่จะทำ�ให้ เกิดความสำ�เร็จ

ผมขอแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสที่กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ได้มีดำ�ริจัดทำ�นิตยสาร Miracle of Life ขึ้นในเดือน พฤษภาคม ศกนี้ โดยเป็นการดำ�เนินงานภายใต้โครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต ประจำ�ปี ๒๕๕๓ ซึง่ มีเป้าหมายเพือ่ ส่งเสริมให้คนในสังคมตระหนักถึงความสำ�คัญ ของการให้ การเสียสละและความเอือ้ เฟือ้ เผือ่ แผ่ซงึ่ กันและกัน อันจะเป็นประโยชน์ ต่อการสร้างสรรค์สงั คมทีด่ งี ามและก่อให้เกิดความสงบสุขของบ้านเมืองสืบต่อไป สภาพสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีความแตกต่างทาง ความคิด มีความบีบคั้นทางด้านเศรษฐกิจและการดำ�เนินชีวิต ก็มีผลทำ�ให้ คนในสังคมมีแรงกดดันสูงขึ้น และต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการต่อสู้และการ แข่งขัน ทำ�ให้บางคนเห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ของส่วนรวม และ ละเลยที่จะช่วยกันทำ�ประโยชน์และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ แก่สังคม การที่สังคมของ เราจะมีสื่อกลางที่กระตุ้นให้คนหันมาเสียสละไม่ว่าในรูปแบบใดเพื่อสร้างความ สุขและแรงใจให้แก่ผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ขาดแคลนและผู้ด้อยโอกาส นอกจากจะ ช่วยสร้างความอิ่มเอมใจให้แก่ผู้ให้ในฐานะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็ม ให้แก่ผู้อื่นแล้ว ยังจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างพลังสามัคคี มีจิตสำ�นึก สาธารณะ อันจะเป็นประโยชน์ตอ่ ความผาสุกและความมัน่ คงของสังคมโดยรวม ผมหวั ง เป็ น อย่ า งยิ่ ง ว่ า นิ ต ยสาร Miracle of Life ที่ ก ระทรวง การพั ฒ นาสั ง คมและความมั่ นคงของมนุ ษ ย์ ไ ด้ จั ด ทำ � ขึ้ นนี้ จะเป็ น สื่ อ ใน การให้ความรู้ เปิดมุมมองใหม่ๆ ของชีวิต และเปิดพื้นที่ให้แก่ทุกคน โดย เฉพาะเด็กและเยาวชน ได้มีโอกาสแสดงความคิดและรวมกลุ่มสร้างสรรค์ กิ จ กรรมในด้ า นการทำ � ประโยชน์ เพื่ อ ส่ ว นรวม และเติ บ โตเป็ น พลั ง สำ � คั ญ ในการพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวหน้ายั่งยืนต่อไป ผมขออวยพรให้การจัด ทำ � นิ ต ยสาร Miracle of Life บรรลุ ผ ลสำ � เร็ จ ตามเจตจำ � นงทุ ก ประการ ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านจงประสบแต่ความสุข ความเจริญโดยทั่วกัน

(นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) นายกรัฐมนตรี


ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อิสสระ สมชัย อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พนิตา กำ�ภู ณ อยุธยา รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ปิ่นชาย ปิ่นแก้ว ผู้อำ�นวยการกองประสานโครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต โชคชัย วิเชียรชัยยะ บรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณา ชัชชา อัชณาตระกูล บรรณาธิการที่ปรึกษา ธนาคม พจนาพิทักษ์ บรรณาธิการบริหาร รัตติรดา อภินันทร์ กองบรรณาธิการ ปาริชาติ บุญเอก พรพิริยา ชูตระกูล ฝ่ายสร้างสรรค์/การตลาด ภัทรา เชาวน์เกื้อกูล ศิลปกรรม The Fairy Caravan ผู้อำ�นวยการฝ่ายโฆษณา กฤษณา ชุณห์เจริญ

UPDATE 08 Hear the World

โลกเรา...เล่าเรื่อง 70 Miracle Movie The Blind Side 72 Miracle Song หรือสายลมมีคำ�ตอบ 74  ห้องสมุดประชา...ซน 76  Click! Click! 78  Calendar

สำ�นักงาน บริษัท แฮททริค มัลติมีเดีย จำ�กัด 24/37 หมู่ 7 ซ.โชคชัย 4 ถ.ลาดพร้า ว แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ ฯ โทร. 02-931-4253 แฟกซ์ 02-931-4977 พิมพ์ที่ หจก.เจริญรัฐการพิมพ์ เลขที่ 25, 27-27/1,1 ซ.ราษฎร์บูรณะ ถนนราษฎร์บูรณะ แขวงบางปะกอก 9 เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ 10140 โทร. 02-877-5538-9, 02-468-7837, 02-476-2280 แฟกซ์ 02-476-2280 จัดจำ�หน่าย เพ็ญบุญโทร. 02 615 8625

PEOPLE 14 M-Talk

โครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต Miracle of Life ในพระดำ�ริ ทูลกระหม่อมอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ส่งเสริมและสนับสนุนการดำ�เนินงานโดย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ www.miracleoflife.org

หลงทาง แบบ ‘เรย์’ 34 Teen Pop-up นัก ‘ตบ’ น้อย ระดับโลก ก้าว ‘กระโดด’ ที่ยิ่งใหญ่ 38 โรงเรียนไหน ไม่ไก่กา... กระโดดโลดเต้นบนฟลอ (ริด้า) กับทีมเชียร์ลีดเดอร์ BMC 44 Miracle Maker วัยรุ่นยุคใหม่ ใส่ใจเพลงพื้นบ้าน 48 ผู้ใหญ่ใจดี “เติมฝัน...แบ่งปัน” เพื่อสังคม ดร.ธีรศักดิ์ อนันตกุล

นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน, ดังตฤณ, วิภว์ บูรพาเดชะ, จักรพันธุ์ ขวัญมงคล, สนุกประเทศ, จรูญพร ปรปักษ์ประลัย ดีเจอ้อย-นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล, ครูพี่แนน-อริสรา ธนาปกิจ, เพลงดาบแม่นํ้าร้อยสาย, ภูริพรรธน์ ตุลยธรวงศ์, พัฒนะ จิรวงศ์

52 Never Give Up พิเชษฐ์ กรุงเกตุ ล้ม-ลุก-คลุก-คลาน เป็นเรื่อง “ธรรมดา” 82 Man of the Match “ให้เท่าที่ให้ได้” กลม-นพพล โล่พิทักษ์พานิช 32 The Good Gang ส่งความสุขผ่านดนตรี กับ “วงดนตรีเพื่อนซี้และพี่โบว์ลิ่ง” STORY 20 ทำ�ยังไงดี? อยากซื้อหนังโป๊ แต่กลัวบาป 22 ความสำ�เร็จ ความฝัน ความรัก

และอีกหลายคำ�ที่เรามักเข้าใจผิด เแหกคอก กับ นอกกระแส 24 ปัญหาใจ ให้ใช้หัว คิดคนละอย่าง แต่ต่างก็รักกัน 26 สติ... สตางค์... ฝากธนาคารกินดอกเบี้ย 30 ฉัน + เธอ + เขา = โลก รักแท้ยังไง? ในอินเตอร์เน็ต 32 Live & Learn เครียดทางการเมือง 42 My Miracle หากใจคุณพร้อมที่ให้ คุณจะได้มากกว่าหนึ่ง

ETC 56 Good Word 57 Good Morning Teacher English is alive! 58 D.I.Y. ทำ�ได้ ทำ�ดี ที่ถ่วงนํ้าหนักข้อมือ ข้อเท้า 60 Open Sky แกะรอย แวน โก๊ะห์ 66 Clean Food Good Health 68 ติวรักเต็มร้อย รักตัวเอง หลงตัวเอง 77 กระดานอาสา Sport & Spirit

ก้าวที่ 2 แล้วค่ะ สำ�หรับนิตยสาร miracle of life ใครทีเ่ พิง่ จะได้เห็น กันเป็นครั้งแรก ขอสวัสดี ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ หวังว่าเราจะได้ทำ�ความรู้จักกัน ดีขึ้นเรื่อยๆ นะคะ MOL ฉบับนี้เรารวบรวบเรื่องน่าสนใจกลิ่นอายการกีฬามาฝากกัน เผือ่ ว่าจะไปกระตุน้ ต่อมอยากใช้กำ�ลัง(เล่นกีฬา)ของน้องๆ ได้บา้ ง เส้นทาง กีฬามีให้เลือกมากมายหลายทาง และล้วนมีแต่สิ่งดีๆ เป็นประโยชน์รออยู่ ข้างหน้า และระหว่างนั้นก็ช่วยหล่อหลอมร่างกาย จิตใจ และความฝันของ เราให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย หนุ่มแมนๆ จากหน้าปกฉบับนี้ของเราก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของผู้ที่มี กีฬาในหัวใจ เขาบอกว่ากีฬาสร้างสมดุลในชีวติ เขา กีฬาทำ�ให้รจู้ กั รักตัวเอง และรักคนอื่นเป็น มาอ่านความคิดดีๆ และจิตอาสาดวงใหญ่ภายใต้หนวด เคราของเขา “เรย์ แมคโดนัล” ไม่ว่าจะเส้นทางกีฬา หรือเส้นทางไหน หากเป็นเส้นทางที่ดี ที่เรารัก จะตกหลุมบ้าง หลงทางบ้าง ก็คงไม่เป็นไร ขอเป็นกำ�ลังใจให้กับทุกคนกับ การค้นหาและการเดินทางบนเส้นทางของตัวเองค่ะ Enjoy your journey ^ ^

รัตติรดา อภินันทร์ บรรณาธิการบริหาร ratirada@gmail.com 7


RealPetal เร่ื่อง

เทคโนโลยีบ�บัด

แล่นเรือรักษ์โลก เพราะโลกร้อนไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง ว่าแล้ว เดวิด เดอ รอทส์ไชด์ นักธุรกิจทายาทธนาคาร และนักสิ่งแวดล้อม วัย 31 ปี ก็ชักชวนลูกเรือของเขา ร่วมกันสร้างสรรค์เรือจากขวดพลาสติกที่ถูกทิ้งโดยเปล่า ประโยชน์กว่า 12,000 ขวด และล่องข้ามมหาสมุทร แปซิ ฟิ ก จากซานฟรานซิ ส โก สหรั ฐ อเมริ ก า ไปยั ง ซิดนีย์ ออสเตรเลีย โดยมีเป้าหมายเพื่อรณรงค์และยํ้า เตื อ นจิ ต สำ � นึ ก ของชาวโลกให้ ต ระหนั ก ถึ ง ปั ญ หาการ เปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศหรือปัญหาโลกร้อนในขณะนี้ ซึ่งเรือรักษ์โลกลำ�นี้ของเขามีชื่อว่า พลาสติกิ คาตามารัน (Plastiki catamaran) เดินทางได้ราว 11,000 ไมล์ ทะเล และมีความเร็วเพียง 1.2 นอตส์ ทำ�ให้เขาและ ลูกเรือใช้เวลาเดินทางถึง 3 เดือน แต่เพื่อโลกใบนี้ ก็ไม่มี ปัญหาใดๆ มาหยุดยั้งเดวิดได้...ขอปรบมือให้จริงๆ

8

ปัญหาเด็กติดเกมใช่วา่ จะมีแต่ ในบ้านเรา เพราะตอนนีโ้ รงพยาบาล ในอังกฤษได้รเิ ริม่ เปิดโครงการรักษา กลุ่มวัยรุ่นที่เสพติดเทคโนโลยี และ มักใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่น เกมคอมพิวเตอร์และให้ความสำ�คัญ กับเครือข่ายสังคมออนไลน์มากจน เกินไป โดย ดร.ริชาร์ด เกรแฮม ผูร้ เิ ริม่ โครงการเปิดเผยถึงจุดมุ่งหมายว่า เพราะเป็นห่วงเหล่าวัยรุ่นที่หมกมุ่น กับเทคโนโลยีจนกระทบการดำ�เนินชีวิตและความสามารถในการทำ� กิจกรรมอื่นๆ ซึ่งเด็กๆ เหล่านี้จะมีอาการกระวนกระวายและฉุนเฉียว ง่าย หากไม่ได้ใช้เทคโนโลยี ทั้งนี้ การรักษาจะใช้เวลา 28 วัน โดย พยายามส่งเสริมให้วัยรุ่นทำ�กิจกรรมกับครอบครัวและสังคม และเน้น ให้วัยรุ่นควบคุมพฤติกรรมของตนเองได้ตามเดิมและใช้เทคโนโลยีแบบ ไม่ตกเป็นทาสของมัน

ช่วงนี้โลกของเราเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวบ่อยครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่าเราสามารถรับรู้สัญญาณเตือนภัย ก่อนเกิดภัยพิบตั ริ นุ แรงแบบนี้ ด้วยการสังเกต “คางคก” เพราะนักวิทยาศาสตร์เผยผลการศึกษาฉบับ หนึ่งว่า เราสามารถสังเกตเหตุแผ่นดินไหวได้จากคางคก หากเราไม่พบเห็นเจ้าคางคกนี้ออกมาก ระโดดโลดเต้นตามปกตินานหลายวันติดต่อกัน นั่นแสดงว่าภัยพิบัติกำ�ลังจะมาเยือน ทั้งนี้ เคยมี เหตุการณ์แบบนีเ้ กิดขึน้ ทีอ่ ติ าลีเมือ่ ปีทผี่ า่ นมา โดยเหล่าคางคกอิตาเลียนทัง้ หลายพากันหลบซ่อน ตัวเป็นเวลาถึง 5 วัน หลังจากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวตามมา แม้จะไม่มีการยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ตามหลักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสัตว์หลายชนิดมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดและรู้เหตุการณ์ เลวร้ายล่วงหน้า ดังนัน้ เราจึงอาจนำ�มาใช้ในการรับมือและป้องกันตัวเองจากภัยอันตรายเหล่านีไ้ ด้

ในวัย 10 ขวบ เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่อาจ กำ�ลังนัง่ เล่นแต่งตัวตุก๊ ตา แต่ “เซซิลเลีย แคสซิน”ิ สาวน้อยอเมริกันกลายเป็นดีไซเนอร์รุ่นจิ๋วที่ก�ำ ลัง เขย่าวงการแฟชั่นไปทั่วโลก หนูน้อยเริ่มหัดเย็บปัก ถักร้อยขณะอายุเพียง 6 ขวบ และเริ่มเข้าสู่วงการแฟชั่น โดยการ เขียนจดหมายถึงแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง “ชาแนล” เมื่ออายุ 7 ขวบ ทั้งนี้เธอบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากผู้คนและสถานที่ต่างๆ แต่เหนือ อื่นใดคือจากความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของเธอเอง ตอนนี้ เรื่ อ งราวของเธอกำ � ลั ง ได้ รั บ ความสนใจจากสื่ อ ต่ า งๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ที่ติดต่อขอสัมภาษณ์ รวมทั้งผลงานของเธอ ก็ได้ถูกทาบทามถ่ายลงนิตยสารแล้ว ที่เจ๋งก็คือเธอยังมีร้านและเว็บไซต์ ขายสินค้าแบรนด์ของตัวเองอีกด้วย นอกจากนี้เธอยังฝากบอกเด็กๆ ทั่วโลกด้วยว่า อยากให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นและทำ�ความฝันให้สำ�เร็จ... แหม เริ่ดจริงๆ จ้ะ

ปีนสู่ฝัน คำ�พูดที่ว่า “อายุไม่ใช่อุปสรรคในการทำ�ตามความฝันให้สำ�เร็จ” อาจจะเป็นความคิดของหนุ่มน้อย จอร์แดน โรเมโร วัย 13 ปี จาก แคลิฟอร์เนีย ที่กลายเป็นผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ที่อายุน้อยที่สุดในโลก ทัง้ นี้ จอร์แดนเคยปีนเขาคิลมิ นั จาโร เมือ่ อายุแค่ 10 ขวบ และมีความหวัง จะพิชติ ยอดเขาสูงทัง้ 7 ทวีป หลังจากทำ�สำ�เร็จมาแล้ว 6 ทวีป ซึง่ ตอนนี้ ความหวังของเขาก็กลายเป็นจริงแล้ว หลังจากทีเ่ ขาต้องเตรียมความพร้อม อย่างมาก ทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ รวมทั้งต้องต่อสู้ต่อสภาพ อากาศทีเ่ ลวร้ายและความหวาดกลัวในใจของตนเอง อย่างไรก็ตาม ตอน นีเ้ ขาก็สามารถทำ�ลายสถิตขิ อง เทมบา ทเชรี ชาวเนปาล วัย 16 ปี ทีพ่ ชิ ติ ยอดเขาเมื่ออายุ 16 ปีลงได้สำ�เร็จแล้ว

เพื่ อ ความสุ ข ในการเรี ย น โรงเรี ย นมั ธ ยมศึ ก ษา มังค์ซีตัน เมืองนอร์ท ทีนไซด์ ที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออก เฉียงเหนือของอังกฤษจึงอนุญาตให้นักเรียนมาสายได้ โดย เปลี่ยนเวลาเรียนชั่วโมงแรกเป็น 10.00 น. และให้เหตุผลว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน และยังช่วยให้ นักเรียนมีความสุขในการเรียนมากขึ้น เรื่องนี้ พอล เคลลีย์ ผู้อำ�นวยการโรงเรียนที่มีนักเรียนอายุ 13-19 ปี ราว 800 คน แห่งนี้เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงเวลาเรียนในตอนเช้า ตัง้ แต่เดือนตุลาคมปีทผี่ า่ นมา ส่งผลให้นกั เรียนทีม่ าโรงเรียน สายลดลงเหลือ 8 เปอร์เซ็นต์ จากที่เคยมาสายกันถึง 27 เปอร์เซ็นต์ แถมผลพลอยได้คือ นักเรียนวัยทีนทั้งหลายมี ความสุขในการมาโรงเรียนเพิ่มขึ้นอีกด้วย

เริ่มช้าเพื่อเรียนดี

9


RealPetal เร่ื่อง

ผู้ช่วยอัจฉริยะ

ฉากในภาพยนตร์ไซไฟที่เราเห็นมนุษย์อยู่ร่วมกับหุ่นยนต์แอนดรอยด์ อาจกำ�ลังจะเป็นความจริงในเวลาอันใกล้นี้ เพราะไฮไลท์ในงาน Hannover Messe 2010 ที่จัดขึ้นในประเทศเยอรมนีปีนี้ คือ AILA หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ ที่สามารถช่วยมนุษย์เราทำ�งานต่างๆ ได้ลงตัวมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโลก ของเราในอีกสิบปีข้างหน้า โดยการทำ�งานของ AILA จะใช้ระบบ SemProM (Sematic Product Memory) ซึ่งเป็นการทำ�งานร่วมกันระหว่างระบบการ มองเห็นด้วยคอมพิวเตอร์กับความสามารถในการสัมผัสจับต้องสิ่งของที่มี รูปร่างและขนาดต่างๆ ได้โดยไม่ตกหล่น นอกจากนี้ AILA ยังมาพร้อมกับดวงตาเลเซอร์ทสี่ ามารถตรวจจับระยะ ห่างของวัตถุ และยังสามารถวิเคราะห์คำ�นวณตำ�แหน่งการวางวัตถุ ส่วนเรื่อง การเคลื่อนที่ AILA มีล้อทั้ง 6 เป็นเสมือนขาที่มีประสิทธิภาพ เดินได้อย่าง นุ่มนวล แม้บนพื้นผิวที่ขรุขระ ถ้ามีการผลิต AILA ออกมาใช้จริง สงสัยใน อนาคตมนุษย์เรามีหวังตกงานกันเป็นแถบๆ

ปลุกสมองประลองตื่น การตื่นเช้าอาจจะกลายเป็นเรื่องไม่น่าเบื่ออีกแล้ว เมื่อ นาฬิกาปลุกแบบพัฒนาเชาว์ปัญญาจะมาสร้างความท้าทาย ใหม่ โดยเจ้ า นาฬิ ก าปลุ ก นี้ จ ะหยุ ด ร้ อ งก็ ต่ อ เมื่ อ คุ ณ แก้ สู ต ร คณิตศาสตร์ได้ถูกต้องเท่านั้น!! ซึ่งเจ้า Twist Desktop Digital Alarm Clock นีจ้ ะทำ�ให้เราต้องใช้ความพยายามในการปิดเสียง มันด้วยการแก้โจทย์เลขสมการง่ายๆ (ซึง่ อาจกลายเป็นเรือ่ งยาก เมื่อต้องใช้สมองคิดในทันทีที่ตื่น) แล้วบิดแถบตัวเลขเพื่อให้สูตร คณิตศาสตร์ที่ปรากฏขึ้นนั้นถูกต้อง ซึ่งจะทำ�ให้มันเงียบเสียงใน ที่สุด โดยราคาก็อยู่ที่ประมาณ 2,625 เยน (ประมาณ 930 บาท) ใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ www. d-forme.com ดูแล้วถ้ามั่นใจในทักษะทางคณิตศาสตร์ของ ตัวเองก็ถอยออกมาใช้ได้เลย...หุหุ

10

อากาศบ้านเราร้อนปรอทแตกเกือบทุกวัน เชื่อว่านํ้าดื่ม แช่เย็นคงขายดีแน่ๆ เพราะใครๆ ก็อยากได้นํ้าเย็นๆ มาดื่ม ดับร้อน แต่ USB beverage chiller bag จะทำ�ให้เรามีนํ้าเย็น เจี๊ยบกินทันที แม้จะออกไปนอกสถานที่ เพียงแค่เอาไปเสียบ กับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก โดยยูเอสบีนี้จะมีวัสดุช่วยทำ�ความ เย็นและมีดีบุกเป็นชนวนทำ�ให้เกิดความเย็นโดยใช้พลังงานจาก คอมพิวเตอร์ ทัง้ นี้ คุณสมบัตสิ ดุ เจ๋งของเจ้ายูเอสบีนกี้ ค็ อื สามารถ ทำ�ให้อณ ุ หภูมลิ ดลงถึง -10 องศา ได้ภายในเวลาเพียงแค่ 5 นาที!! ที่สำ�คัญยูเอสบีนี้ราคาแค่ 9 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 290 บาท เท่านั้นเอง แต่ใครที่นั่งหน้าคอมนานๆ ก็อย่ามัวแต่พึ่ง นํ้าเย็นไฮเทค ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย เดินไปดื่มนํ้าเองบ้างล่ะ

ยูเอสบีพร้อมดื่ม

สุ ด ยอดกี ฬ าเอ็ ก ซ์ ต รี ม ที่ ม าแรงที่ สุ ด ตอนนี้ ต้ อ งยกให้ “แมดฮอป” (ซึ่งชื่อเดิมจริงๆ คือ Jumping Stilts) กีฬาที่มีต้น กำ�เนิดมาจากประเทศเยอรมนี ซึ่งประดิษฐ์โดย อเล็กซานเดอร์ โบเอค ที่ตอนแรกตั้งใจจะทำ�อุปกรณ์ช่วยเดินสำ�หรับคนพิการ แต่กลับค้นพบอุปกรณ์ทที่ �ำ ให้ผสู้ วมใส่กระโดดได้สงู ถึง 3-4 เมตร รวมทั้งวิ่งได้ไกลและเร็วกว่าเดิม ต่อมาเจ้าแมดฮอปนี้ก็เริ่มแพร่ หลายไปทั่วโลกและเริ่มมีการครีเอทท่าทางผาดโผนต่างๆ ใน การเล่นเพื่อเพิ่มระดับความมันส์ (หาดูได้ในหนังเรื่อง จีจ้า ดื้อ สวย ดุ) ซึง่ ตอนนีใ้ นบ้านเราก็เริม่ มีคนรูจ้ กั และเริม่ เล่นกันมากขึน้ แล้ว ใครสนใจก็ดูรายละเอียดได้ใน www.madhop.com แล้ว ถ้าตัง้ ใจจะเล่นก็อย่าลืมระมัดระวังความปลอดภัยและใส่อปุ กรณ์ ป้องกันการบาดเจ็บด้วยล่ะ

Mad Hopวย โดดสูงท่าส

Stack เรียงเร็วฝึกสมอง นี่คือกีฬาที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกภายในระยะเวลา 25 ปี!! “สแต็ค” หรือที่เรียกกันง่ายๆ ก็คือ การแข่งเรียงถ้วยหรือเรียง แก้ว โดยเราต้องเรียงถ้วย 12 ใบ ด้วยความรวดเร็ว ซึ่งจะช่วย ฝึกประสาทสัมผัส ส่งเสริมพัฒนาการทางสมอง ที่นอกจากจะ ช่วยพัฒนาไอคิวแล้ว ยังช่วยพัฒนาอีควิ ของคนเล่นอีกด้วย ทำ�ให้ โรงเรียนต่างๆ ทั่วโลกกว่า 24,000 แห่ง บรรจุกีฬาชนิดนี้ใน หลักสูตรพลศึกษา เพือ่ ฝึกฝนและส่งเสริมพัฒนาการของนักเรียน โดยเจ้าสแต็คนี้เริ่มเข้ามาในไทยเมื่อปี 2551 ล่าสุด สมาคมกีฬา สแต็คได้เปิดตัวและจะส่งทีมนักกีฬาสแต็คไทยไปร่วมแข่งขัน กีฬาสแต็คโลก ที่จัดขึ้นที่รัฐโคโลราโดเป็นประจำ�ทุกปี ซึ่งก็ได้รับ ความสนใจจากนักกีฬาจากกว่า 1,000 เชือ้ ชาติทวั่ โลกมาเข้าร่วม แข่งขัน ส่วนใครอยากฝึกสมองอย่ารอช้า หยิบถ้วยมา 12 ใบ... แล้วเริ่มเลย!

กีฬาต่อสูท้ กี่ �ำ ลังได้รบั ความนิยมอย่างถล่มทลายตอนนี้ “MMA” (Mixed Martial Art) ถ้าแปลเป็นไทยก็คือ ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการผสม การต่อสูห้ ลากหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน ทัง้ ยิวยิตสึ มวยไทย คาราเต้ แซมโบ้ ยูโด และ อื่นๆ โดยผู้เล่นจะใช้การจับ ฟาด ต่อย เตะ คู่ต่อสู้ และจะสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยลีลาท่าทางการต่อสู้ที่แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์อันบรรเจิด แต่อ่านแล้วอย่าเพิ่ง กลัว เพราะปัจจุบันกีฬาชนิดนี้มีกฎกติกาเพื่อรักษาความปลอดภัยและจำ�กัดการเล่น ท่าอันตรายอย่างชัดเจน ซึ่งในความจริง MMA นั้นถือว่าเป็นกีฬาที่ปลอดภัยมากกว่า ฟุตบอลและมวยซะอีก ทีเ่ จ๋งก็คอื เราสามารถเลือกฝึกตามความถนัดและประยุกต์กฬี า นี้มาใช้ในชีวิตประจำ�วันได้ เหมาะมากสำ�หรับผู้ที่ทำ�งานรักษาความปลอดภัย อาทิ ทหาร ตำ�รวจ หรือแม้กระทั่งพี่ยามประจำ�ตึกด้วย

MMA สู้อย่างมีศิลป์ 11


ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิรวิ ฒ ั นาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน ทรงเปิดโครงการปาฏิหาริยแ์ ห่งชีวติ (Miracle of Life) ครัง้ ที่ 2 พระราชทานเหรียญ ตราสัญลักษณ์แก่ผู้ให้การสนับสนุนโครงการฯ และประทานพระอนุญาตให้คณะ ผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าเฝ้าทูลละออง พระบาทรับเสด็จ เมื่อวันพฤหัสบดีท่ี 29 เมษายน 2553 เวลา 18.00 น. ณ แกรนด์ฮอลล์ ศูนย์การค้าเอสพลานาด โดย นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ เป็นผูก้ ราบทูลรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดโครงการ ปาฏิหาริยแ์ ห่งชีวติ ครัง้ ที่ 2 ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อปัญหายาเสพติด การ ระบาดของโรคเอดส์ และการใช้เวลาอย่างหลงผิด โดยการสอนให้รู้จักคุณค่าของตัวเอง ซึ่งจะช่วยสร้างเกราะป้องกันจิตใจของเยาวชนจากปัญหาต่างๆ รวมทั้งการสอนให้รู้จัก “การให้” ตามพระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ ทั้งต่อเยาวชนเองและต่อประเทศชาติในอนาคต นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยังได้กราบทูลรายงานถึงโครงการในปีนี้ที่จะทำ�การขับเคลื่อนไปทั้ง 12 การศึกษา ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือ เยาวชนไทยอายุ 13-18 ปี โดยโครงการได้ เพิ่มเติมเนื้อหาให้เข้มข้นกว่าปีที่ผ่านมา และมีเกณฑ์การคัดเลือกที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพื่อ ที่จะคัดเลือกโครงการที่ดีที่สุดมาเป็นต้นแบบและเป็นตัวแทนของเยาวชน หลังจากนั้น ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงกดปุ่ม เปิดโครงการ ปาฏิหาริยแ์ ห่งชีวติ ครัง้ ที่ 2 และทอดพระเนตรการแสดงการขับร้องประสาน เสียงเพลง Miracle of Life ทีท่ รงนิพนธ์เนือ้ ร้อง พร้อมทอดพระเนตรวีดทิ ศั น์ความคืบหน้า ของโครงการ และประทานวโรกาสให้คณะผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ร่วมฉายพระรูป จากนั้นจึงเสด็จพระดำ�เนินกลับ

12

1-2. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงเปิดโครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of Life) ครั้งที่ 2 3. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนีฯ เสด็จเปิดโครงการปาฏิหาริยแ์ ห่งชีวติ ครัง้ ที่ 2 โดยมี นายอิสสระ สมชัย รมว.กระทรวง พม. รับเสด็จ 4. ประทานวโรกาสให้คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ร่วมฉายพระรูป 5. นายวุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ�กระทรวง พม. รับพระราชทานของที่ระลึก 6. นายอิสสระ สมชัย รมว.กระทรวง พม. รับพระราชทานของที่ระลึก 7. นางสุขุมาล เตียประเสริฐ ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะ รับพระราชทาน ของที่ระลึก 8. นางอรนุช จิราวัฒนานุรักษ์ ผู้ช่วยหัวหน้าสำ�นักการตลาด องค์การ ส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค) รับพระราชทานของทีร่ ะลึก 9. นายอิสสระ สมชัย รมว.กระทรวง พม. กราบทูลรายงานวัตถุประสงค์ ของโครงการ ปาฏิหาริย์แห่งชีวิต ครั้งที่ 2 10. นางพนิตา กำ�ภู ณ อยุธยา อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กราบทูลรายงาน 11. คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ร่วมพิธีเปิดโครงการฯ 12. การแสดงการขับร้องประสานเสียงเพลง Miracle of Life 13


ปาริชาติ บุญเอก เรื่อง อภิชาญ ศิริโชติ ภาพ

บางคน เห็นเขาในภาพดารา บางคนติดตาเขาในภาพพิธีกร บาง คนเห็นเขาในภาพนักฟุตบอล และหลายๆ คนรู้จักเขาในฐานะนักเดินทาง

เรย์ แมคโดนัลด์ ดารา-พิธีกร ลูกครึ่งไทย-สก๊อต ผู้หลงใหลในการเดินทาง หรืออาจจะเรียก หลงรัก เลยก็วา่ ได้ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินทาง สู่มุมต่างๆ ทั่วโลก ด้วยเหตุผลที่ว่า “เวลาในโลกนี้มีไม่มาก อยากจะเห็นให้เยอะที่สุด อยากจะใช้ชีวิต ให้มันคุ้มค่าที่สุด” หลายคนอาจมองว่าเขาเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นตัว ของตัวเอง โดยที่จริงๆ แล้วเขาบอกกับเราว่า เขาก็ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ แล้วก็ไม่อยากจะเจอ เพราะหากเจอแล้ว ก็ไม่อยากจะค้นหาอีก หลงทาง แบบนี้แหละ สนุกดี การเดินทางท่องไปทั่วโลกสอนอะไรหลายๆ อย่าง การคิดแบบ ไม่มีแบบแผน คือ ความสนุกในการทำ�งาน และการได้เป็นสะพานเชื่อมให้ กับเด็กๆ 3 จังหวัดชายแดนใต้ สู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เป็นอีกบทบาท หนึ่ง ที่บางคนอาจจะยังไม่เคยได้รับรู้

ทราบมาว่า เรย์ทำ�โครงการ “ฟุตบอลเพื่อสันติภาพ” อ๋อ ใช่ มันก็เริ่มจากกลุ่มเพื่อนเล็กๆ 2-3 คน จากธำ�รงค์ไทยสโมสร เคยเล่น ฟุตบอลมาด้วยกัน แล้วก็ได้มีโอกาสไปเตะต่างแดน อเมริกา สวีเดน เมื่อตอนเด็กๆ 20 กว่าปีมาแล้ว พอมาตอนนี้เราก็อยากทำ�อะไรเพื่อน้องๆ หนูๆ บ้าง ก็เลยรวมตัวกันไป สอนฟุตบอลที่ปัตตานี ทำ�อยู่ 2-3 เดือน แล้วเราก็คัดตัวเด็กที่มีความสามารถ ที่ติดทีม แล้วก็รวมกันเป็นทีมฟุตบอลหนึ่ง ภายใต้ชื่อ “สันติภาพเอฟซี” ทำ�ไมถึงเลือกเด็ก 3 จังหวัดชายแดนใต้ ก่อนหน้านีม้ นั มีแต่ขา่ วไม่คอ่ ยดี ข่าวทีเ่ ราเห็นๆ กันอยูต่ ามโทรทัศน์ เราก็สงสัย อยูเ่ หมือนกันว่า มันแย่อย่างนัน้ จริงๆ เหรอ แล้วเราทำ�อะไรได้บา้ งรึเปล่า มีอะไรดีๆ โครงการ ดีๆ ทีไ่ ปทำ�ตรงนัน้ ได้บา้ งรึเปล่า คือ เริม่ จากความสงสัย แล้วก็อยากลงไปดู อยากลง ไปช่วย ตอนนี้ก็กลายเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองแล้ว

14

15


16

จุดหนึ่งแล้วมันตัด แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ตอน นี้เราก็จะพยายามผลักดันน้องๆ ไปตาม สเต็ป แต่เราคงจะจูงมือเขาไปตลอดทาง ไม่ได้ เรามีหน้าที่ผลักดันเขา เปิดประตู ให้ เ ขา จากนั้ นก็ อ ยู่ ที่ เ ขาแล้ ว ก็ พ่ อ แม่ ผู้ ปกครอง เพราะว่าบางคนอาจจะเก่งแต่ว่า ไม่ขยันซ้อม บางคนพื้นฐานเบสิค อาจจะ ไม่ดีมาก แต่ว่าตั้งใจอันนี้มันก็อยู่ที่ตัวคน งบประมาณได้มาจากไหน งบประมาณช่วงแรกๆ ก็มพี ๆี่ หลาย คนช่วย พี่อี๊ด พี่เอ พี่อี๊ด Daddy Dog (วง Fly) สองคนนีก้ ช็ ว่ ยเยอะ เขาจะมีแก๊งทีช่ อบ ร่วมทำ�บุญกันอยู่ ก็จะไปเรีย่ ไรมาช่วยตลอด แล้วก็มีบริษัทเล็กๆ น้อยๆ รวมๆ กันแล้ว ก็มีของเราเข้าไปบ้าง ช่วยกันทำ�เต็มที่ แต่ ตอนนี้เงินหมดแล้ว ถ้าใครสนใจอยากจะ ช่วยเหลือก็ติดต่อมาได้ (หัวเราะ) ด้วยความที่เล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ถือว่า เป็ นการจุ ด ประกายให้ ทำ � โครงการนี้ ขึ้ น มารึเปล่า

ก็เป็นส่วนหนึ่ง เหมือนเราเคยได้ โอกาส ได้ประสบการณ์ดีๆ ได้เจออะไร ดี ๆ ตอนที่ อ ยู่ ธำ� รงค์ ไทย ได้ ไปทั ว ร์ อ ยู่ หลายประเทศ มันก็ได้ประสบการณ์ดีมาก คือ อย่างโกเธียคัพที่เราไป มันได้เห็นอีก ร้อยกว่าประเทศที่บ้าบอล บอลมันเหมือน เป็นศาสนา เหมือนทุกสิง่ อย่างของหลายๆ ประเทศ มั น รวมคนจากทั่ ว โลกมาเล่ น ฟุตบอลได้ พอน้องเขาเห็นคนที่แตกต่าง หลายเชื้อชาติ ชอบอะไรที่เหมือนกัน มันก็ เป็นการเปิดโลกทัศน์ คิดยังไงกับคำ�ว่า กีฬาเป็นยาวิเศษ ก็ จ ริ ง นะผมว่ า มั น ช่ ว ยได้ เ ลย เหมือนเราตอนนี้ ถ้าเกิดว่าเครียดๆ หรือ อะไรก็แล้วแต่ มันก็ช่วยได้ ช่วยปลดปล่อย อะไรได้ อี ก อย่ า งมั นทำ � ให้ ร่ า งกายเรา แข็งแรงขึน้ อย่างทีบ่ อกไป กีฬามันสามารถ มารวมกันได้ มาจอยกันได้ ไม่วา่ จะมาจาก ไหนก็แล้วแต่ นอกจากกีฬาชอบทำ�กิจกรรมอื่นอีกไหม น้อยมากนะ ถ้าว่างก็จะเล่นกีฬา แล้วก็ดูทีวี เพลงไม่ค่อยฟัง หนังก็ไม่ค่อยดู เข้าไปดูแล้วรูส้ กึ ว่าจะหลับ ดูทวี อี ย่างเดียว อ่านหนังสือก็ไม่ ศิลปะก็ดไู ด้ แต่กน็ อ้ ยอยู่ เหมือนกัน เฉพาะบางอย่างทีม่ นั สะดุด ส่วน มากผมจะชอบดูทีวี ดูทีวีเยอะ มันรู้สึกได้ ผ่อนคลาย เพราะเวลาที่ได้จ้องไปสู่กล่อง ทีวี มันจะได้คิดอะไรดี มันเหมือนว่าหยุด แล้วก็หลุดไปอีกโลกหนึ่ง

ขอขอบคุณ : ร้าน Baby Puff ซ.ทองหล่อ

ได้ไปแข่งถึงต่างประเทศด้วย ไปแข่งโกเธียคัพ ที่สวีเดน ก็ถือว่า ประสบความสำ�เร็จพอสมควร เพราะตอน นั้นไปมีอยู่ 100 กว่าทีม เราก็เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ทั้งๆ ที่ไม่คิดว่าจะได้ไปไกล ถึงขนาดนั้น กับเวลาที่เรามีซ้อมกัน พอไป เมืองนอกเสร็จปุ๊บ กลับมาเราก็ยังทำ�ทีม สันติภาพอยู่ ก็มพี ๆี่ ผูป้ กครองทีอ่ ยูป่ ตั ตานี เขาอาสายินดีดูแลน้องๆ หนูๆ ต่อ เรา อยู่กรุงเทพฯ ก็ให้ความช่วยเหลือบ้าง กับ อุปกรณ์กีฬา หรือว่าเงินทุน เรย์สอนน้องๆ ในส่วนไหนบ้าง ผมไม่ค่อยทำ�อะไรครับ (หัวเราะ) ส่วนมากจะชอบยืนดูไกลๆ คอยวางโปรแกรม เพื่ อ นเราเขาเป็ น โค้ ช สอนฟุ ต บอลก็ เป็ น เรื่องของเขาไป แต่ถ้ามีเด็กที่อยู่ในขั้นเบสิค เลย เราก็สามารถสอนได้ เพราะเราก็พอมี พื้นฐานฟุตบอล แต่ส่วนมากอยู่ในแนวของ ผู้จัดการซะมากกว่า อารมณ์แบบ บิ๊กหอย อะไรแบบนี้ เห็นพัฒนาการน้องๆ เขายังไงบ้าง มีหลายๆ คนที่พัฒนาขึ้นมา ก็ดีขึ้น เรื่อยๆ เราไปเจอทุกเดือนน้องเขาก็ยังขยัน ฝึกซ้อมอยู่ แล้วก็มีหลายๆ คนที่น่าจะมี อนาคตไกล ถ้าหากไม่เกิดเกเรซะก่อนแบบ เรา (หัวเราะ) แต่อย่างที่บอกเราก็พยายาม จะเป็นสะพานเชื่อมไป เพราะเรารู้สึกว่า ตอนที่เราเป็นเด็กๆ เรามีฝันอยากจะเป็น นักฟุตบอลอาชีพ ไอ้สะพานตรงนี้ มันถึง

เห็นเรย์เที่ยวอยู่ตลอด อะไรที่ทำ�ให้เรารัก การเดินทาง มั นคงเหมื อ นหลายๆ คนมั้ ง ครั บ อยากเห็น อยากเจอ อยากได้ประสบการณ์ ใหม่ๆ ในชีวติ สมัยเด็กๆ เห็นในหนังสือ ใน แมกกาซีน ในรายการโทรทัศน์ เราก็อยาก ไป อยากเห็น อีกอย่างเราอยูน่ งิ่ ๆ ไม่ได้ คือ เวลาในโลกนี้มันมีไม่ค่อยเยอะ เราก็ อยาก จะเห็นโลกให้มนั เยอะทีส่ ดุ อยากจะใช้ชวี ติ ให้มันคุ้มค่าที่สุด มีที่ไหนที่อยากไปแต่ยังไม่ได้ไป อยากไปคิวบา เพราะยังไม่เคยไป อาจ จะเป็นเพราะว่า ภาพทีเ่ ราเห็นกับความเป็น คิวบา มันเหมือนกับไทม์แมชชีน เหมือนเขา ยังหยุดตัวเองไว้ในยุค 50 ไม่ว่าจะเป็น รถ ดนตรี หรืออะไรก็แล้วแต่ อันนั้นเป็นภาพ ที่เขาอยากให้เราเห็น เพื่อดึงนักท่องเที่ยว ให้อยากไปเห็นจริงๆ ว่าตามซอกตามหลืบ เขาอยู่กันยังไง น่าจะเป็นอันนี้ที่อยากไป มาก ตอนแรกก็ลุ้นให้เป็น No Visa เหมือน กัน คุยกับฑูตเขาแล้ว ฑูตเขาบอกเปล่า ก็ เลย โธ่เอ้ย! ที่ไหนไปแล้วประทับใจที่สุด ชอบลาว หรื อ ที่ ไหนก็ ได้ ที่ มั นติ ด แม่นํ้าโขง ไม่รู้เป็นไร เราจะชอบแม่นํ้าโขง เป็นพิเศษ บางทีต่ รงนัน้ มันไม่มอี ะไร แห้งๆ แต่ แม่ ง อยู่ ได้ ทั้ ง วั น นั่ ง ตั้ ง แต่ เช้ า จนแสง เปลี่ยน มืด อยู่ได้ตลอดถ้าเป็นริมแม่นํ้าโขง ก็ไปเรือ่ ยครับ ทัง้ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ ปากเซ ตรงกันข้าม ทีไ่ หนไปแล้วไม่อยากไปอีกเลย มีที่หนึ่งที่ฝันว่าอยากจะไป เห็นใน โบชัวร์ แล้วอารมณ์นี้ใช่เลยอะไรที่เราตาม หา คงสวย บ้านเมืองเก่าแก่ 2000 ปี ผู้คน ใส่ชุดประจำ�ชาติ แต่เหมือนเราคาดหวังไว้

เยอะ แต่พอไปถึงมันก็ฟาวล์ ผู้คนไม่ค่อย น่ารักเท่าไหร่ บอกได้รึเปล่าว่าที่ไหน ไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ แต่ว่าออกจากตัว เมืองนัน้ ไป มันก็ดขี นึ้ มันเป็นประเทศทีส่ วย เลยทีเดียว คือ 4 ชั่วโมงที่อยู่ในประเทศนั้น อาจจะอยู่บนยอดเขาที่มีหิมะปกคลุม ลง มาเป็นป่าสน ขับอีก 4 ชั่วโมงกว่าเป็นทะเล ทราย คือ ขับ 3-4 ชัว่ โมงมันได้เห็นหมดเลย เหมือนคนที่นั้นเขาทันสมัยขึ้น จนไม่เหลือ กลิ่นอาย คนมันไมได้ทันสมัย คนมันขี้โกงแค่ นั้นเอง คืออย่างพวก ไกด์ผี ซีดีเถื่อน เอะ ซีดีเถื่อนนี้ไม่เกี่ยว เออนั้นแหละ เขารู้ว่าผม ไม่มไี กด์ ผมก็บอกดีๆ ว่าไม่เอา เขาก็จะเดิน ตามตลอดทั้งวัน เหมือนแมลงวันตอมอยู่ ตลอด แล้วเราออกไปไหนไม่ได้ ก็รสู้ กึ กดดัน แบบนีม้ นั ไม่คอ่ ยน่ารัก คือมันมีหลายๆ ทีๆ่ สวยมาก เป็นมรดกโลก แต่พอคนไม่น่ารัก เราก็ไม่อยากกลับไปอีก เราก็จะบอกเพื่อน เราว่า มึงอย่าไปเลย แต่บางที่ไม่เห็นมีอะไร เลย แต่ผู้คนน่ารัก มันก็ทำ�ให้เราอยากกลับ ไปอีก สุดท้ายคนเวิร์คสุด เพราะฉะนั้นผม จะโกรธมากเลยเวลาเจอคนเอาเปรียบนัก ท่องเทีย่ ว ทัง้ ในบ้านเราแล้วก็ทไี่ หนก็แล้วแต่ ที่ไหนที่อยากจะแนะนำ �ว่าควรไปเห็นสัก ครั้งในชีวิต ถ้าที่เดียวเลยมันยากมาก ผมว่าทุก ที่มันมีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน เพราะว่าแต่ละ คนมันก็จะรู้สึก inspire ไม่เหมือนกัน อย่าง บางที่ สำ�หรับบางคนมันอาจจะได้อะไรบาง อย่าง บางคนมันอาจจะไม่ได้อะไรเลย ถ้าสามารถไปสักที่ ได้ฟรีตลอดชีวิต อยาก ไปที่ไหน ไม่เปรู ก็เนปาล เปรูเพิ่งเคยไปเร็วๆ

นีเ้ อง แต่กม็ คี วามคล้ายกับเนปาลเยอะ เป็น ชาวเขาชาวดอยทั้งหลาย ด้วยภูมิประเทศ ทำ�ให้เขาดูคล้ายๆ กัน แต่เปรูมันก็อาจจะ ไกลนิดนึง ถ้าใครไปไม่ถึง ก็ไปเนปาลได้ เหมือนชอบไปประเทศที่เป็นเขา เออใช่ ชอบ ชาวเขา ชาวดอย แต่ เนปาลมันสวยมากๆ เราเดินทางจากนี้ไป 3 ชั่วโมง แต่บางที่เราเดินทางไปไม่รู้กี่ 10 ชั่วโมง ไปถึงมันก็ไมได้แตกต่างกันเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นในเมือง วิถีชีวิต ความบันเทิง ถ้าให้เลือกระหว่างดารา นักฟุตบอล แล้วก็ นักเดินทาง จะเลือกเป็นอะไร ไม่รู้ กำ�ลังหาอยู่ แล้วแต่วนั แล้วแต่ปี ก็พยายามทำ�ทุกอย่างให้ออกมาเกือบจะดี แล้วก็พฒ ั นาขึน้ มาเรือ่ ยๆ แต่ไม่แน่ใจว่าเรา เป็นอะไรสักอย่าง คือเราก็พยายามจะแตะ อะไรหลายๆ อย่าง เพือ่ สัง่ สมประสบการณ์ ไปเรือ่ ยๆ แต่พอเจอว่าตัวเองเป็นอะไร ก็ไม่ ค่อยอยากเจอเท่าไหร่ อยากหาไปเรือ่ ยๆ หา แล้วก็หลงทางไปเรื่อยๆ สนุกดี วัยรุ่นหลายคนยกเรย์เป็นไอดอล รู้สึกยัง ไงบ้าง ไม่แน่ใจว่าจะรู้สึกยังไงดีเหมือนกัน เพราะว่า ไอ้ไอดอล เนี่ย เคยได้ยินมาบ้าง แล้ว พอผมได้ยินไอดอล ผมก็จะคิดถึง ดารา วัยรุน่ เป็นคนต้นแบบ อย่างเราก็เคยมี ไอดอลเหมือนกัน เราเห็นเขาในสื่อต่างๆ เราก็จนิ ตนาการไปว่าเขาน่าจะเป็นนูน่ นีน้ นั้ แต่พอเราเจอตัวจริง พังหมดเลย หลังจาก นัน้ คนในจอเราจะไม่คอ่ ยเท่าไหร่ เราจะหัน มาหาคนทีเ่ รารูจ้ กั คนเทีเ่ ราสัมผัสได้ คนใน ครอบครัว ที่เรายกมาเป็นตัวอย่างมากกว่า

17


แล้วไอดอลของเรย์คือใคร คงจะเป็นคนในครอบครัวมากกว่า จะเป็นพ่อแม่พนี่ อ้ ง พีส่ าวน้องชาย ซึง่ แต่ละคนก็จะมีจดุ เด่นจุดแข็ง เราก็พยายามหยิบข้อดีหลายๆ อย่างของเขา ใช้ตรงนั้นมาให้เป็นแบบอย่าง มันมีอีก หลายๆ คนนะ เพือ่ นๆ เรา ก็ถอื ว่าเป็นไอดอลเหมือนกัน ยกตัวอย่าง เปเล่ (คริสโตเฟอร์ วอชิงตัน) เราก็ถือว่าเขาเป็นไอดอล เขาทำ�เองได้จบตั้งแต่คิดงาน ตัดต่อ จนสามารถกลายออกมาเป็นเทปๆ หนึง่ เราก็ทงึ่ เหมือนกันทีเ่ ขาสามารถทำ�อย่างนัน้ ได้ คนไหนทีเ่ ราชอบ เราเห็นในโทรทัศน์ หรือตาม สือ่ ต่างๆ เราก็จะพยายามอยูห่ า่ งๆ ไว้ เราไม่อยากเจอตัวจริงเท่าไหร่ เพราะถ้าเจอตัวจริงแล้ว เฮ้ย ใครวะเนี่ย หลอกกูนี่หวา แต่ก็ไม่ได้หมายถึงทุกคนนะ เราแค่มีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาครั้งหนึ่งแค่ นั้นเอง เราก็ไม่อยากเจอคนนั้นอีกแล้ว ความคิดนอกกรอบ ในความคิดของเรย์คืออะไร คิดนอกกรอบหรอ ไม่แน่ใจเหมือนกัน คนอื่นเขาตอบว่าอะไร ขอลอกได้ไหม ถามเรย์เป็นคนแรก จริงป่ะ คิดไม่ออก ผมไม่คอ่ ยคิดไหร่ คิดน้อยมาก คิดแล้วมันปวดหัว มันอาจจะเป็นข้อด้อย ของผม ผมอาจจะคิดน้อยไปหน่อย แล้วก็ใช้ความรู้สึกมากกว่า แบบไปเจอ เฮ้ย อันนี้แหละเวิร์ค ลุยเลยดีกว่า ไม่ต้องรีเสิร์ซอะไรแล้ว ซึ่งมันอาจจะตรงข้ามกับหลายๆ คน ที่จะคิดก่อนรอบคอบ ทุกอย่างให้มันแบบเป็นชิ้นเป็นอันให้มันดูดีบนเปเปอร์ ซึ่งของเราไม่มี เพราะว่าจากประสบการณ์ ของเรา สิ่งที่ดีที่สุดจากการเดินทางมันจะซ่อนอยู่ตามหลืบ จะคาดเดาไม่ได้ ถ้าเราไปวางแพลน ทุกอย่าง คิดให้มันลงตามที่เขียนมา มันจะไม่ได้ความสนุก ก็เลยไม่ค่อยคิด ไม่ชอบคิด ปวดหัว ถ้าให้เลือกระหว่างเป็นคนเรียนเก่ง กับ คนเก่ง เรย์เลือกจะเป็นแบบไหน เรียนเก่ง เพราะ เราเรียนไม่เก่งไง (หัวเราะ) เรียนหนังสือน้อยมากด้วย ตอนเรียนก็ไม่ค่อย ตั้งใจเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นเรารู้สึกว่า เอาแค่ผ่าน ก็รู้สึกเสียเวลาไป เราน่าจะตั้งใจกับตรงนั้น แต่ ว่าตอนนั้นเป็นเด็กเกเรและไม่พร้อมที่จะให้ใครมาสอน เหมือนต่อต้านทุกอย่างกับคนที่พยายาม สอน ถึงตอนนี้มันก็ยังมีปุ่มตรงนั้นอยู่ ไม่แน่ใจว่าพ่อเขาแถมมาให้รึเปล่า ที่มันอยู่ข้างในแล้วมัน จะสวิทช์อ๊อฟไม่ค่อยได้ ถ้ามีคนมาพยายามสอนหรือหวังดี ปุ่มนี้มันจะขึ้นมาทันทีเลย มันจะปิด ทุกอย่าง แต่หลังๆ เริ่มดีขึ้นแล้ว เราพร้อมเรียนรู้พร้อมรับฟังมากขึ้น เรย์มองวัยรุ่นสมัยนี้ว่าเป็นยังไง วัยรุ่นสมัยนี้ ก็เหมือนสมัยที่ผมเป็นวัยรุ่นหนะครับ แล้ววัยรุ่นสมัยเรย์เป็นยังไง สมัยผมก็เหมือนสมัยที่คุณเป็นวัยรุ่นหนะครับ (หัวเราะ) สมัยที่ผมเป็นวัยรุ่นมันก็ผ่านมา ไม่กี่ปีเองนะ ที่จริงผมก็ยังวัยรุ่นอยู่ ทุกอย่างรอบๆ ตัว มันอาจจะเปลี่ยนไป ไวขึ้น เรื่องของอะไร ก็แล้วแต่ ผมมองว่ามันเป็นแค่ของเล่น แต่สุดท้ายข้างในมันก็คล้ายๆ กัน ทุกคนก็ค้นหาตัวเอง ดูว่าตัวเองอยากได้อะไร อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ตามเพื่อน สุดท้ายข้างในผมว่ามันก็ไม่ได้ แตกต่างกัน อะไรในตัวเราที่เราควรจะให้ความสำ�คัญมากที่สุด ก็นา่ จะเป็นเรือ่ งของสุขภาพ แล้วก็ใส่ใจกับคนรอบข้าง คือไม่วา่ อะไรก็แล้วแต่ ควรใช้ชวี ติ ให้ มันมี Balance มีสมดุล อันนี้เรียนรู้มาจากการปีนเขา กีฬาให้อะไรผมเยอะ ไม่ว่าจะปีนเขา หรือ ว่าแข่งรถ มันไม่ควรเอาเปรียบส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย อย่างปีนเขา มันต้องถ่ายนํ้าหนักให้ดี นะครับ ขาและแขนสองข้าง เหนื่อยตอนไหนก็พัก หาสมดุลกันไป เช่นเดียวกับการใช้ชีวิต เรื่อง เรียน เรื่องครอบครัว เรื่องรัก เรื่องเที่ยว คือทุกอย่างมันต้อง Balance กัน ถ้าคุณใช้ชีวิตให้มัน สมดุล ให้มัน Balance กับทุกๆ เรื่องได้ ผมว่าทุกอย่างก็โอเคแล้ว 18

19


ดังตฤณ เรื่อง

เคยมีการพูดคุยกันในแวดวงจิตวิทยาว่าหนังโป๊เป็นทางออกหนึ่งสำ�หรับคนกำ�ลังอัดอั้น หรือเป็นสิง่ เติมเต็มความฝันสำ�หรับคน “อยากแบบสิน้ หวัง” เช่น หนุม่ บางคนมองรูปร่างหน้าตา ตัวเองในกระจกแล้วลงความเห็นว่าชาตินี้ไม่มีทางได้แอ้มสาวสวยแน่ วาสนาไม่ถึง น้อยใจไป น้อยใจมา เลยกลายเป็นอาชญากรทางเพศเพราะความเก็บกด อดน้อยใจวาสนาไม่ได้นั่นเอง ต่อเมื่อได้ดูหนังโป๊ ที่ถ่ายทำ�ราวกับคนดูได้มีสัมพันธ์สวาทกับนางเอกสาวสุดสวยเสียเอง จึงค่อยผ่อนคลายระบายความเก็บกดไปได้ เหมือนอย่างช่วงหนึ่งมีการพูดถึงบ่อยที่สุดคือสถิติ อาชญากรรมทางเพศในญี่ปุ่น ซึ่งมีน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ทั้งที่หนังโป๊หาง่าย ภาพ โฆษณาเชิญชวนซื้อบริการทางเพศดาษดื่น แม้ตู้โทรศัพท์สาธารณะยังแปะภาพพร้อมเบอร์โทร. เรียกนางบริการได้อย่างโจ๋งครึ่ม บางประเทศเสียอีก อุตส่าห์ห้ามแหลก ผิดกฎหมายไปหมด เห็นนิดเห็นหน่อยไม่ได้ต้องเซ็นเซอร์ อาชญากรรมทางเพศกลับสูงลิ่ว ราวกับบ้านเมืองไร้ขื่อแป

ตกลงความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ อะไรดีหรือไม่ดี อะไรชัว่ หรือไม่ชวั่ ?

อยากซื้อหนังโป๊ แต่กลัว ถ้า

บาป

คุณเป็นคนหนึง่ ทีช่ อบดูหนังโป๊ แล้ววันหนึง่ จับพลัดจับผลู หันมาเอาดีทาง ธรรม อยากตื่นเช้าขึ้นมาใส่บาตร สวดมนต์ แผ่เมตตา คุณอาจสงสัยว่าคนที่เริ่ม เอาดีทางธรรมยังอยากดูหนังโป๊ต่อได้ไหม มันถูกเรื่องไหม ถูกฝาถูกตัวไหม?

หรือถ้ายังไม่ถงึ ขัน้ อยากเอาดีทางธรรมแต่พอดูหนังโป๊จบ สบายตัวสบายใจดีแล้ว หันมาท่องเว็บไปเรื่อยๆ คุณเกิดสะดุดตากับกระทู้คำ�ถามที่มักผุดให้เห็นบ่อยๆ ว่า ซื้อหนังโป๊ผิดศีลข้อ ๓ ไหม? ดูหนังโป๊เป็นบาปติดตัวหรือเปล่า? ยิ่งถ้าติดใจ หนังโป๊จะต้องตกนรกอย่างเขาว่าหรือยังไงแน่? พระชื่อดังบางรูปประกาศชัด เลยทีเดียวว่าการดูหนังโป๊เป็นเรื่องชั่วช้า พ่อแม่ดูแล้วจะสืบสายความชั่วร้ายไป ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

20

มาตรฐานดีชั่วนี่เถียงให้ตายก็ไม่จบหรอกครับ เพราะแต่ละคนจะไปจบที่ความเชื่อของ ตัวเอง แต่ผมอยากให้วัยรุ่นซึ่งยังไม่ทราบจะปลงใจเลือกข้างไหน ได้แยกแยะอย่างนี้ดีกว่า เอา เรื่องของ “ศีล” มาเป็นตัวตั้งก่อน การผิดศีลข้อ ๓ ว่าด้วยกาเมสุมจิ ฉาจารนัน้ นับกันทีก่ ารร่วมเพศกับหญิงทีย่ งั มีญาติผใู้ หญ่ เลีย้ งดู หรือกับหญิงทีม่ เี จ้าของแม้ดว้ ยการจองตัวกันด้วยแหวนหมัน้ หรือพวงมาลัย การร่วมเพศ ในทีน่ หี้ มายถึงการมีอวัยวะเพศเข้าถึงกัน หรือเข้าถึงปากอีกฝ่าย พูดให้รวบรัดคือแม้คณ ุ จะดูหนัง โป๊แสนรอบ ก็ยังประเสริฐกว่าการเอาลูกเขาเมียใครมาทำ�มิดีมิร้ายหนเดียวเป็นไหนๆ แต่ช้าก่อนนะครับ ไม่ผิดศีล ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นความดีงามเสมอไป ก่อนอื่นต้อง มองอย่างพุทธว่าราคะคือกิเลส ราคะคือเหตุให้เพลิดเพลินขาดสติ ราคะคือธรรมชาติที่ยังให้ จิตยึดมั่นลุ่มหลง เมื่อใดจิตถูกราคะครอบงำ� จึงคิดเรื่องที่เป็นบุญเป็นกุศลไม่ออก ขืนปล่อยใจ หมกมุน่ กับเรือ่ งทีไ่ ม่เป็นกุศลมากๆ จิตเป็นต้องไหลลงต่�ำ ไปเรือ่ ยๆ แบบเชิดหัวขึน้ สูงยากแน่นอน แบบที่เรียกหน้ามืดตามัวจนตัวตายนั่นเอง เข้าห้องมืดสลัวบ่อยๆ ตามักชินกับความมืดสลัว และรูส้ กึ แปลกปลอมกับแสงสว่างฉันใด ปล่อยจิตปล่อยใจให้อยูก่ บั ภาพเสียงทีเ่ ข้ากับธรรมชาติฝา่ ยตํา่ บ่อยๆ ก็ยอ่ มคุน้ กับธรรมชาติฝา่ ย ตํ่า และรู้สึกห่างเหินกับธรรมชาติฝ่ายสูงเป็นธรรมดา ถามตัวเองให้ชัดๆ เสียใหม่ ใจจะได้คำ�ตอบกระจ่าง ระหว่าง “บาปไหม” กับ “อยาก ไหม” คนเรายินดีให้การต้อนรับความอยาก มากกว่าสนใจเรือ่ งบุญเรือ่ งบาปอยูแ่ ล้ว แต่ดว้ ยความ อยากนั่นเอง คุณเข้าข่ายผู้ชมหนังโป๊ประเภทใด ระหว่างเติมเต็มให้สมอยาก กับกระตุ้นอารมณ์ ให้กระสันอยาก ถ้าไม่เข้าข้างตัวเอง คุณตอบตัวเองถูกไหมว่าพอสมอยากแล้วหยุด หรือพอ กระสันอยากแล้วอยากต่อยอดด้วยการลองของจริง?

ถ้ า หนั ง โป๊ ค รอบงำ � คุ ณ ได้ ฉุ ด กระชากลากถูให้คุณเข้าหามันบ่อยๆ ได้ กระตุ้นให้คุณเห็นดีเห็นงาม อยากเอา ตามหนังที่ยั่วยุให้ผิดศีลข้อ ๓ ได้ จนถึง ขั้นเผลอเป็นอาชญากรด้วยอารมณ์ชั่ววูบ นั่นแหละครับ ดูหนังโป๊เป็นบาปสำ�หรับ คุ ณ แน่ แ ล้ ว ครั้ ง ต่ อ ไปเห็ น ปกหนั ง โป๊ ที่ไหน ให้ท่องไว้ในใจว่านั่นเป็นปากทาง สู่หุบเหวแห่งความวิบัติ นั่นคือบานประตู นรกสำ�หรับคุณ อย่าแตะลูกบิดประตูเลย จะดีที่สุด! ที่สังคมโลกส่วนใหญ่ไม่ให้เกียรติ ดาราหนังโป๊ ก็เพราะไม่เคยมีใครดูหนังโป๊ แล้วอยากเป็นคนดี อยากรักษาศีล อยาก ช่วยให้โลกนี้มีแต่สันติสุข ไม่ค่อยมองกัน ว่าหนังโป๊มสี ว่ นช่วยให้สมอยากแบบดิบๆ แล้วยุติพฤติกรรมเบียดเบียนกัน สรุ ป ลงเอยคื อ ขอให้ อ ยู่ ใ นการ วินิจฉัยด้วยความซื่อสัตย์เฉพาะตนของ คุณเอง หนังโป๊อาจเป็น “ของสลัว” ที่มี ส่วนช่วยให้คุณมีแก่ใจรักษาเนื้อรักษาตัว ไม่ ต้ อ งเสี่ ย งเที่ ย วให้ เ ป็ น โรค ไม่ ต้ อ ง ประพฤติผิดศีลผิดธรรม หรือไม่หนังโป๊ก็ อาจเป็น “ของมืด” ทีส่ ง่ แรงกระตุน้ ให้คณ ุ ตามัว เห็นดอกบัวเป็นกงจักร เห็นกงจักร เป็นดอกบัวก็ได้ คุณเท่านั้นรู้แก่ใจและ ตอบตนเองถูก!

21


นอกกระแส ตอนนี ้ เวลาได้ยินคำ�ว่า ‘แหกคอก’ แล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ? แล้วคำ�ว่า ‘นอกกระแส’ ล่ะ ได้ยินกันบ่อยๆ ใช่ไหม? ผมคิดว่า มาถึงวันนี้คำ�ว่า ‘แหกคอก’ กับ ‘นอกกระแส’ กลายเป็นคำ�ทีอ่ ยู่ ‘ในคอก’ และถูกใช้ ‘ในกระแส’ ไปเรียบร้อยแล้ว

ในสือ่ ในบทเพลง ตลอดจนในโฆษณาของแบรนด์สนิ ค้าทัง้ หลายล้วนหันมาบอกว่าการคิดให้แตกต่างเป็น เรื่องเท่ คนที่ทำ�ตัวแหกคอกนอกกระแสกลายมาเป็นพรีเซนเตอร์ หรือไม่ก็กลายมาเป็นไอดอลของวัยรุ่นจำ�นวน มาก พูดให้งงๆ นิดหน่อยก็ได้ว่า ถ้าใครไม่รู้จักคนดังๆ ที่ทำ�ตัวนอกกระแสซะบ้าง ก็อาจกลายเป็นคนที่อยู่ นอกกระแสไปเสียเองก็ได้ เรามาพิจารณาคำ�ว่า ‘แหกคอก’ กันก่อนสักหน่อยดีกว่าครับ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา หลายๆ ครั้งโลกของเรามีพัฒนาการได้ก็ด้วยคนที่ทำ�ตัวแหกคอกนี่เอง สิ่ง ประดิษฐ์นับไม่ถ้วนตั้งแต่โทรศัพท์ไปจนถึงดาวเทียม ตั้งแต่บะหมี่สำ�เร็จรูปจนถึงส้มตำ� ล้วนมีอานิสงส์มาจาก ความคิดแบบแหกคอก หรือยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าไม่มีมนุษย์สักคนคิดริเริ่มเอาคอกมากั้นฝูงสัตว์แล้วเลี้ยงเอา ไว้ ป่านนี้เราก็คงไม่รู้จักการทำ�ปศุสัตว์ แล้วก็ยังคงต้องเข้าป่าล่าสัตว์กันอยู่ทุกวัน เรียกว่าไอ้คนที่คิดได้นี่เขา รู้จักทำ�ตัวแหกคอกด้วยการเริ่มทำ�คอกนั่นเอง หากแปลไทยเป็นไทยโดยไม่คิดอะไร การทำ�ตัวแหกคอกก็คือการทำ�ตัวไม่เหมือนคนอื่นๆ จะเรียกว่าคิด ต่างก็ได้ อาการ ‘แหก’ นั้นมีอารมณ์ใกล้เคียงกับ ‘แหวก’ ประมาณว่าแหวกแนว ซึ่งก็คือการทำ�อะไรที่ไม่เหมือน แนวทางทีเ่ ขาทำ�ๆ มา ในวงการกีฬามีตวั อย่างคลาสสิกเรือ่ งหนึง่ คือในสมัยก่อนหน้านี้ เวลานักกรีฑาเขาแข่งกระโดด สูงกัน เขาก็กระโดดแล้วควํา่ หน้าลงกับพืน้ ควํา่ ตัวลอยข้ามบาร์กนั ไป ส่วนใหญ่จะเป็นท่าทีม่ ชี อื่ เรียกว่า เวสเทิรน์ โรลล์ (Western Roll), สแตรดเดิล เมทอร์ด (Straddle Method) หรือไม่ก็ท่าเก่าๆ อย่าง อัพไรต์ ซิสเซอร์ เมทอร์ด (Upright Scissors Method) ซึง่ ไม่ตอ้ งไปรูก้ นั หรอกครับว่าท่าเหล่านัน้ มันเป็นอย่างไร เพราะในกีฬาโอลิมปิกทีเ่ ม็กซิโกใน ค.ศ. 1968 มีไอ้หนุ่มอเมริกันคนหนึ่งชื่อ ดิก ฟอสบิวรี ลุกขึ้นคว้าไม้คํ้า วิ่งตุบๆๆ ทิ่มไม้ลงกับพื้น แล้วก็กระโดดสูงลิ่ว พลิกตัว แล้ว หันหลังขนานกับบาร์! ...ท่านีท้ �ำ ให้เขาสามารถยกขาขึน้ ได้งา่ ยดาย แล้วก็ท�ำ ให้เกิดสถิตโิ ลกใหม่ทสี่ งู กว่าสถิตเิ ก่าร่วม 25% นับเป็นการทำ�ลายสถิติแบบโลกตะลึงก็ว่าได้ หลังจากนัน้ ท่ากระโดดสูงหันหลังเข้าหาบาร์ทถี่ กู เรียกว่า ฟอสบิวรี ฟล็อบ (Fosbury Flob) ก็กลายเป็นท่ายอดนิยม ในกีฬากระโดดสูงมาจนวันนี้ นี่จึงเป็นตัวอย่างของการทำ�อะไรที่ ‘แหก’ หรือ ‘แหวก’ จากขนบเดิมๆ แล้วได้ผลสำ�เร็จอัน งดงาม แต่คำ�ว่า ‘คอก’ นั้นมีความหมายหลายมิตินะครับ ปกติแล้วคอกน่าจะสื่อความหมายถึงกรอบที่บีบบังคับให้เราอยู่เป็นที่เป็นทาง หรืออยู่รวมเป็นกลุ่มเป็นก้อนได้ ใน แง่นี้ถ้าให้เห็นเป็นรูปธรรมเรามักจะนึกถึงข้อบังคับหรือกฎหมายต่างๆ แต่ในมิติของความคิดแล้ว คำ�ว่า ‘คอก’ ก็คือ

22

อะไรต่อมิอะไรที่มาบีบบังคับให้เราคิดเรื่องใหม่ๆ ไม่ออก นึกทางไปไม่เป็น บางที ‘คอก’ แบบนี้ก็มีความหมายมาก กว่ากฏข้อห้ามต่างๆ นะครับ มันจะออกไปทางนามธรรมอยู่สักหน่อย อาจจะเป็นความคุ้นชินของเรา เป็นความ ไม่กล้าทำ�ตัวแปลกแยก หรือความไม่รู้ เป็นต้น ผมคิดว่า ดิก ฟอสบิวรี นั้นแหกคอกก็จริง แต่ไม่ได้แหก ‘คอก’ ในความหมายที่หมายถึงกฎ แต่เป็น ‘คอก’ ในความหมายของกรอบความคิดครับ เพราะถ้าเขาเล่นท่าพิสดารโดยทำ�ผิดกฎข้อบังคับของกีฬาชนิดนี้ ถึงจะกระโดดได้สูงแค่ไหนก็คงไม่มีประโยชน์ แต่ในมุมกลับกัน ผมคิดว่าตอนที่เห็นฟอสบิวรีกระโดดกลับหลังนั้น เหล่ากรรมการโอลิมปิกก็คงมึนงง อยู่ไม่น้อย คอกความคิดในหัวของท่านกรรมการคงถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก แต่ในที่สุดเมื่อไม่เห็นว่ามัน จะผิดกฎตรงไหน (คือไม่ได้แหกคอกในแบบรูปธรรมสักหน่อย) ก็ถือว่าวิธีการแปลกใหม่ของฟอสบิวรีนั้นใช้ได้ ดังนั้น การแหกคอกจึงไม่ได้แปลว่าจะต้องทำ�ผิดกฎเสมอไป ตรงกันข้าม การที่สามารถเล่นอยู่ในกฎ ข้อบังคับด้วยการเปลี่ยนมุมคิดใหม่ อาจเป็นการแหกคอกความคิดที่ได้ผลสำ�เร็จอย่างสูงก็เป็นได้ ได้ผลสำ�เร็จ จนในที่สุดก็อาจกลายมาเป็นผู้นำ�กระแสเลยทีเดียว จะเห็นว่าจริงๆ แล้วการ ‘แหกคอก’ นัน้ ไม่จ�ำ เป็นต้อง ‘นอกกระแส’ เสมอไป การแหกคอกบางอย่างอาจจะถูกใจ คนหมูม่ ากจนทำ�ให้ผแู้ หกคอกกลายเป็นผูน้ �ำ กระแสเสียเอง แล้วก็แน่นอน วันหนึง่ พอมันกลายเป็นกระแสหลัก มันก็อาจ จะเกิดความคุ้นชิน กลายเป็นการก่อร่างสร้างกรอบความคิด จนเกิดเป็น ‘คอก’ ใหม่ๆ ขึ้นมา แล้วก็รอให้มีคนใหม่ๆ มา แหกอีกที พัฒนาการของโลกเราก็เป็นไปในท่วงทำ�นองแบบนี้ล่ะครับ มาดูคำ�ว่า ‘นอกกระแส’ กันบ้าง คำ�นี้แปลตรงๆ ว่าไม่ได้อยู่ในกระแส ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ได้มีความหมายเป็นทางบวก หรือลบนะครับ คือต้องดูเป็นกรณีไปมากกว่า การไม่อยู่ในกระแสนั้นอาจหมายถึงการตกยุค ไม่เข้าแฟชั่น หรือไม่รู้เรื่อง รู้ราวที่คนอื่นๆ เขารู้ๆ กันก็ได้ หรือจะหมายถึงการมั่นใจในความคิดของตัวเอง ไม่คล้อยไปตามความเห็นของคนส่วนใหญ่ ก็ได้เหมือนกัน แต่พอมาเขียนว่า ‘นอกกระแส’ แทนคำ�ว่า ‘ไม่อยู่ในกระแส’ แล้วดูจะเท่ๆ ขึ้นมาก็เพราะว่าช่วงหลังๆ นี่มี คนใช้คำ�นี้ไปในทางเท่ๆ เยอะขึ้นจนดูจะเป็นคำ�ในกระแสไปนั่นเอง คนที่คิดจะ ‘แหกคอก’ นั้น แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง บางคนอาจจะอยากค้นหาสิ่งใหม่ๆ บางคนอาจจะอยาก เท่ บางคนอาจจะอยากทำ�ลายสถิติโลก และบางคนก็อาจจะแหกคอกเพียงเพราะว่าเป็นคนขี้เบื่อก็เป็นได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ควร คิดพิจารณาให้ดีก่อนจะทำ�การแหกคอกก็คือเรื่องกระแสครับ ผมไม่ได้หมายความว่าการจะแหกคอกนั้นจะต้องทวนหรือไม่ทวนกระแส ทั้งสองทางไม่มีอะไรถูกและผิด เพียง แต่ว่าถ้าคิดจะแหกคอกแล้วล่ะก็ หากได้ลองใคร่ครวญดูก่อนว่าการแหกคอกของเราจะเป็นการทำ�ตัวนอกกระแสหรือ เปล่า ก็น่าจะคาดประมาณผลตอบรับจากคนอื่นๆ ได้บ้าง แล้วถ้ายังมั่นใจว่ายังไงก็จะลองแหกคอกในแบบของฉันดู สักที ไม่ว่าคนอื่นๆ จะว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามันจะประสบความสำ�เร็จหรือไม่ และไม่ว่าวันหนึ่งการแหกคอกของ เราจะกลับกลายมาเป็นกระแสไปหรือเปล่า นัน่ แสดงว่าเรากำ�ลังเป็นตัวของตัวเองจริงๆ มีความสุขกับสิง่ ทีจ่ ะลงมือ ทำ�จริงๆ และการเป็นตัวของตัวเองได้จริงๆ นั้น ยิ่งใหญ่กว่าเรื่อง ‘แหกคอก’ กับ ‘นอกกระแส’ มากนัก เพราะ เมื่อเราค้นพบตัวเองแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในคอกหรือนอกคอก ไม่ว่าจะนอกกระแสหรือตามกระแส มันก็ไม่ใช่เรื่อง สำ�คัญอะไรอีกต่อไปแล้วล่ะครับ

23


ดีเจ อ้อย นภาพร เรื่อง

ปีหัวใจเป็ นี้ น่ า จะเป็ น ปี ห นึ่ ง ที่ ค นไทยเหนื่ อ ย นพิเศษ คนมากมาย มีความหลาก

หลายทางความคิด เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ปีนี้กลายเป็นสิ่งผิดปกติ ต่างความคิด เป็นมิตรกันไม่ได้ ไม่คิดอย่างฉัน เธอจะ กลายเป็นคนผิด เสียงข้างมาก กลายเป็น เสียงหมู่มากลากกันไป ทะเลาะกันตั้งแต่ บนถนน ยันสังคมออนไลน์ทบี่ างคนไม่เคย เห็นหน้าค่าตา แต่เถียงกันเอาเป็นเอาตาย เรียกได้ว่า ถ้าเจอหน้า ฆ่ากันได้เลย อีเมล์ การเมืองส่งกันไม่เว้นแต่ละวัน ข้อมูลแรง ขึ้นทุกทีๆ ยังคิดในใจ รู้ดีขนาดนี้ ไปช่วย กันแก้ปญ ั หาบ้านเมืองหน่อยเถอะ อย่าเก่ง แต่ส่งต่อเมล์เลย

24

สีบางสี กลายเป็นสีตอ้ งห้าม เปิดตูเ้ สือ้ ผ้าที สีนนั้ ก็ ไม่ดี สีนี้ก็ไม่ได้ เลือกเสื้อผ้ายากขึ้นเรื่อยๆ บางครอบครัว พ่อไปชุมนุม ลูกเป็นทหารคอยตัง้ ด่านป้องกัน แม่เฝ้าบ้าน คนเดียวด้วยหัวใจไม่ปกติ ลุน้ ทุกวินาที จะมีอะไรไม่ดเี กิด ขึ้นไหม... ไม่นึกว่าภาพนี้มันจะเกิดขึ้นได้กับสังคมไทย... แต่ยังไงก็ยังเชื่ออยู่ดีว่า ทุกอย่างจะต้องลงเอยด้วยดีค่ะ บ้านเราเจอโจทย์ยากๆ มาเยอะ เราผ่านมาได้ทุกครั้ง เพราะเรามีพอ่ คนเดียวกัน เรารักพ่อหลวงเหมือนกัน พวก เราทุกคนเป็นพสกนิกรของพระองค์ทา่ น จะเหยียบเท้ากัน บ้าง เดินชนกันบ้าง เจ็บบ้าง โมโหบ้าง เดีย๋ วก็คงแยกย้าย กันไป เพราะยังไง ลูกทะเลาะกัน พ่อก็เจ็บที่สุดอยู่ดี... เมื่อไม่นานนี้มีเว็บไซต์หาคู่เว็บหนึ่ง สำ�รวจความ คิดเห็นของคูร่ กั เป็นพันๆ คู่ ว่าความคิดเห็นทางการเมือง ทีแ่ ตกต่าง ทำ�ให้บา้ นแตก เตียงหักบ้างหรือเปล่า เป็นเรือ่ ง น่าดีใจนะคะ 85% บอกว่า ไม่เกีย่ ว ถ้ารูว้ า่ คุยแล้ว สะเทือนใจ ก็เปลี่ยนเรื่องคุยไปเท่านั้นเอง จริงค่ะ ถ้าคิดว่าจะมีปัญหา ทุกเรื่องเป็นปัญหาได้ หมด ถ้าไม่อยากมีปญ ั หา หลีกเลีย่ งการปะทะและเอาชนะ ปัญหาก็ไม่เกิด

คิดคนละอย่าง เราต่างยังรักกันได้ค่ะ รับรอง ทุกๆ คู่ ความเหมือนเป็นโบนัส ความ ต่างเป็นสีสัน ขออย่างเดียว อย่าคิดว่า เธอ ต่างจากฉัน เป็นความผิด พยายามทำ�ทุก อย่าง เพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดของเธอ ให้ ยืนข้างเดียวกันให้ได้ เคยมีคู่หนึ่ง ผู้หญิงเป็น เลขาสาวสวย แต่งตัวเป๊ะ เนี้ยบ ตามสไตล์ ผู้ ห ญิ ง ทำ � งาน ที่ เ สื้ อ ผ้ า ต้ อ งบอกความมี รสนิยมของเราได้ ดันมีแฟนเป็นช่างภาพ อิสระ อาร์ตสิ ต์ทกุ กระเบียดนิว้ ยีนส์ขาดบ้าง ไม่ขาดบ้าง ผมยาวกระเซิง เสือ้ ยืดหลากสี ฟิต เปรี๊ยะ สวมรองเท้าผ้าใบที่บ่งบอกถึงความ สบายในการใช้ชีวิต เดินมาด้วยกัน จะต้อง มีคำ�ถามจากคนที่มองเข้ามาเสมอ อะไรเอ่ย ไม่เข้าพวก? น้องเลขาเริ่มอึดอัด พยายาม ให้คนที่เธอรักเปลี่ยนการแต่งตัวจนอีกฝ่าย หายใจไม่ออก หากางเกงสแล็คให้ใส่ มัด ผมรวบตึง ใส่เสื้อเชิ้ต แรกๆ คงสนุกกับการ เปลีย่ นสไตล์ นานๆ ไปต่างฝ่ายต่างอึดอัด แต่

ยังรักกันอยู่นะคะ แค่หายใจไม่สะดวก เวลา ที่ต้องออกงานด้วยกัน บางทีคำ�ว่า ช่างมัน เถอะ น่าจะเป็นการปลดปล่อยความอึดอัด ทุกอย่างได้ดี เรารักคนๆ นี้ เพราะเค้าเป็นแบบนี้ ไม่ใช่หรือ ฉันรักเธออย่างที่เธอเป็น ไม่ได้ รักเธอ เพราะเธอพยายามจะเป็นอย่างที่ฉัน อยากให้เป็น... ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง ถ้าวันหนึ่งเราจะทะเลาะกันเพราะความต่าง บ้าง มันก็คือธรรมชาติของโลกนี้ เหมือนที่ ท่านว.วชิรเมธีเคยบอกไว้ว่า อย่าไปหงุดหงิด หัวใจใส่กนั เลย คนทุกคนบนโลกนี้ ไม่มใี ครได้ ดั่งใจเราหรอก ตัวเราบางครั้งยังไม่ถูกใจกับ การตัดสินใจของตัวเองเลย นับประสาอะไร กับคนทีเ่ ราเพิง่ มาเจอกันเมือ่ ครึง่ ค่อนชีวติ คิด ให้ได้ 3 อย่างนี้ เราจะทะเลาะกันเพราะความ ต่างน้อยลง 1. ไม่มีอะไรแน่นอน 2. ไม่มีอะไร ได้ดั่งใจ 3. ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ จะเราหรือ เค้าก็หนีกฎ 3 ข้อนี้ไม่พ้น

จะต่างกันในเรื่องอะไรก็ตาม ขอ ให้ เหมื อ นกั น ในข้ อ เดี ย วคื อ เรารั ก กั น เป็นเหตุผลที่อาจดูไร้เหตุผล ฉันไม่ได้รัก เธอ เพราะเธอเหมือนฉัน ฉันไม่ได้รักเธอ เพราะเราไม่เคยทะเลาะกัน คิดต่าง เห็น ต่าง แค่ยอมรับฟังว่า ทำ�ไมเธอถึงคิดไป คนละอย่าง ไม่ต้องเปลี่ยนเราให้เหมือน เค้า หรือพยายามเปลีย่ นเค้าให้คดิ เหมือน เรา เธอเชื่อของเธอ ฉันเชื่อของฉัน แต่เรา ก็ยังรักกันไง จากครอบครัวเล็ก สูค่ รอบครัวใหญ่ จากบ้านสู่ประเทศชาติ เธอคิดอย่าง ฉัน คิดอีกอย่าง แต่ถ้าเราต่างก็รักกัน จะมา ทะเลาะกันนานๆ ให้เสียบรรยากาศทำ�ไม

25


นายออมสิน เรื่อง Am ภาพประกอบ

“การฝากเงินกับธนาคาร นอกจากช่วยเราออมเงินแล้ว ยัง ช่วยเพิ่มมูลค่าของเงินที่เราออมได้อีกด้วย แต่จะมากน้อย กว่ากันแค่ไหน ก็ขน้ึ อยูก่ บั ประเภทของบัญชีทเ่ี ราเลือกใช้”

เก็บหอมรอมริบ...สู่เป้าหมาย การ

สร้างชีวติ ให้มคี วามมัน่ คงนัน้ หลายคนมองว่า ควรจะเริม่ เมือ่ คุณเริม่ ทำ�งาน หรือจบการศึกษา ณ ทีน่ ี้ หากน้องๆ คนใดคิดแบบนัน้ ต้องขอบอกว่า เป็นความทีผ่ ดิ … เพราะทีแ่ ท้จริง เราควรเริม่ ทีจ่ ะหมัน่ เก็บออม เพือ่ ใช้เป็นทุน สำ�หรับอนาคตตั้งแต่เยาว์

26

จากฉบับทีแ่ ล้ว เราได้พดู ถึงเรือ่ งของวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ของการออมแล้ว ด้วยการหยิบยกเรือ่ งของความต้องการในเรือ่ งทัว่ ๆ ไป แต่ในครั้งนี้ เราจะได้ขยายวงกว้างให้เรียนรู้เกี่ยวกับการออมให้เพิ่ม มากขึ้น ดังนั้น หากเราต้องการสบายในวันข้างหน้า การเริ่มเก็บออม ตั้งแต่วันนี้...จะเป็นหนทางที่ดีที่สุด และวิธีที่ดีที่สุดสำ�หรับคนที่เริ่มเก็บ ออม แต่มีนิสัยแพ้ใจตัวเอง เก็บได้เป็นก้อนไม่นาน พอเจออะไรสวย อะไรที่ถูกใจ ของเล่นแปลกใหม่แล้วอยากได้ จนขันติความอดทนที่ สั่งสมมาแตกพ่าย ต้องหยิบควักเงินเก็บออกมาใช้ **วันนี้เรามีตัวช่วย ที่ดีจะมาเป็นผู้จัดการ หรือเป็นยามเฝ้าพิทักษ์เงินทองของน้องๆ ไว้ได้ นัน่ คือ ธนาคาร ทีเ่ ราเห็นตามถนนแทบทุกเส้นทาง ตามห้างสรรพสินค้า หรือบริเวณใกล้บ้านของเราเองนั่นล่ะ!** ว่ากันตามความเป็นจริง ตำ�ราหนังสือเรียนในปัจจุบัน เริ่มให้ ความสำ�คัญกับการออมและการลงทุนให้น้องได้ศึกษามากขึ้น จุดนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่รัฐบาลและผู้ใหญ่เริ่มเห็นความสำ�คัญตรงนี้ เพราะ ปั จ จุ บั นน้ อ งรู้ กั น บ้ า งหรื อ ไม่ ผู้ ใหญ่ บ างคนแค่ ก ดจะเงิ น ออกจาก ตู้เอทีเอ็ม ยังใช้กันไม่ค่อยเป็น ทั้งที่ในชีวิตจริง การใช้ชีวิตประจำ�วัน ของคนทำ�งาน ธุรกรรมทางการเงินเป็นเรื่องที่ขาดกันแทบไม่ได้ อย่าง น้อยสุดๆ ก็เดือนละหนึ่งครั้ง หรือตอนสิ้นเดือน เพื่อรับเงินเดือนจาก นายจ้าง (บริษัท) นอกจากนี้ การสร้างรากฐานให้ชวี ติ ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งการศึกษา การซื้อที่อยู่อาศัย หรือการประกอบธุรกิจ ย่อมต้องแวะเวียนไปจัดการ ผ่านธุรกรรมต่างๆ ในธนาคารแทบทัง้ สิน้ ดังนัน้ หากเราไม่ลมิ้ ลองเข้าไป ใช้บริการ หรือสร้างความคุ้นเคยกับการใช้ธุรกรรมต่างๆ ในธนาคาร บ้างเลย เวลาน้องๆ โตขึ้นจะเข้าไปใช้บริการอื่นๆ นอกเหนือจากการ ฝากและถอนเงิน เราก็จะไม่รู้จักขั้นตอนการดำ�เนินการ การเตรียมตัว และการเตรียมเอกสารต่างๆ ได้ เอาเป็นว่าแรกเริม่ ทีด่ ที สี่ ดุ สำ�หรับน้องๆ เราต้องมารูจ้ กั การฝาก เงินและการถอนเงิน และรู้จักประเภทของบัญชีต่างๆ ว่าแต่ละอย่าง มี ข้อแตกต่างกันอย่างไรกันเลยดีกว่า

**ธนาคาร คือ อะไร?** หลายคนอาจบอกว่า เป็นทีร่ บั ฝากเงิน เก็บเงินไว้ให้แทน เราในจำ�นวนมากๆ และสามารถเบิกถอนเงินของเราได้ยามที่ ต้องการใช้ คำ�ตอบแบบนีก้ ถ็ กู ต้อง แต่ไม่ใช่ถกู ทัง้ หมด ลองมา ดูความหมายที่แท้จริงของมันกันว่าคืออะไรดีกว่า **ธนาคาร คือ สถานทีท่ ที่ ำ�หน้าทีเ่ ป็นสือ่ กลางระหว่าง ผูอ้ อมเงินกับผูต้ อ้ งการใช้เงินโดยหน้าทีข่ องธนาคารคือรับฝาก เงิน ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยและค่าตอบแทนในการร่วม ลงทุน โดยอีกหน้าที่หนึ่งของธนาคารโดยทั่วไปคือ ให้กู้ยืม เงินและได้รับดอกเบี้ยจากผู้กู้ ซึ่งดอกเบี้ยจากการให้กู้จะสูง กว่าดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อที่ ธนาคารจะได้นำ�เงินส่วนต่างของ ดอกเบีย้ ไปบริหารกิจการของธนาคาร นอกจากนีย้ งั ให้บริการ อืน่ ๆ ทีเ่ ป็นตัวแทนของลูกค้า เช่น ช่วยซือ้ ขายหุน้ เรียกเก็บเงิน ตามเช็คเเละตั๋วแลกเงิน รับฝากของมีค่า แลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศ รับโอนเงินทั้งภายในและภายนอกประเทศ ฯลฯ เป็นต้น** นอกจากในกฎหมายเช็คจะมีเจ้าหนีแ้ ละลูกหนี้ ซึง่ เป็น คูส่ ญ ั ญากันตามเรือ่ งเช็คโดยตรงแล้ว แต่กม็ บี คุ คลอืน่ ทีเ่ ข้ามา เกี่ยวข้องด้วยกับเช็ค คือธนาคาร แม้ธนาคารจะมิใช่ลูกหนี้ใน เช็คแต่กม็ คี วามสำ�คัญต่อเช็คมาก เพราะเป็นผูจ้ า่ ยเงินตามเช็ค ***การออมผ่านธนาคารนัน้ อาจจะมีหลายรูปแบบ ซึง่ เราจะได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นในครั้งต่อๆ ไป แต่ในวันนี้ ผู้เขียนเองก็ อยากให้ทกุ คนตัง้ เป้าหมายในชีวติ และพยายามทีจ่ ะเก็บหอม รอบริบ ออมทีละเล็กละน้อย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ … แล้วเราค่อยเจอกันใหม่ในครั้งต่อไป***

27


ธนาคม พจนาพิทักษ์ เรื่อง

รักแท้ยังไง? ในอินเตอร์เน็ต “แคมฟร็ อ ก ฉาวซํา้ ลวงสาว ม.5 ขยีก้ าม แม่วงิ่ โร่รอ้ งกองปราบ...” “ภาพฉาวว่อนเน็ต สาวม.ปลายโรงเรียนดัง เหยื่อรํ่าไห้อ้างภาพตัดต่อ” นับวันข่าวคราวทำ�นองนี้ยิ่งปรากฏให้เห็นบ่อยขึ้นจนหลายๆ คนเริ่มเคยชินไป แล้ว แต่คนที่ไม่ชินด้วยก็เห็นจะเป็นตัวเหยื่อเองและครอบครัวเหยื่อ ซึ่งไม่แน่ ว่าสักวันอาจจะกระทบมาถึงน้องๆ ผู้อ่านก็ได้ จึงอยากหยิบยกเรื่องนี้มาคุยกัน สักหน่อย

28

ผมคิดว่า ผลพวงจากพัฒนาการทาง สังคมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ส่งผลให้สื่อสมัยใหม่ (New Media) เข้ามา มีบทบาทในสังคมไทยโดยเฉพาะในหมูเ่ ด็กๆ และเยาวชนเป็นอย่างมาก การสื่อสารโดย ผ่านช่องทางอย่างอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์ มือถือ ทีม่ ฟี งั ก์ชนั่ การใช้งานทีส่ ะดวกรวดเร็ว สนุ ก สนานและหลากหลายได้ ต อบสนอง ความพึงพอใจของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมเอ็มเอสเอ็น (MSN) แคมฟร็อก (CamFrog), ไฮ-ไฟว์ (Hi 5), เฟซบุ๊ก ( Facebook) เป็นต้น ด้านบวกของสิ่งเหล่านี้ก็คือ ความ สะดวกรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร หากว่า เราจะใช้มันในเรื่องที่ “เป็นประโยชน์และมี สาระ” เช่น การเรียน ขณะทีด่ า้ นลบก็คอื หาก ใช้สื่อสมัยใหม่เหล่านี้ไปในเรื่องไร้ประโยชน์ นอกจากจะไม่คมุ้ ค่าแล้ว อาจจะนำ�ภัยมหันต์ สู่ตัวเราได้ ระยะหลั ง มานี้ ผมได้ มี โ อกาสไป เป็ น วิ ท ยากรให้ น้ อ งๆ นั ก เรี ย น ม.ปลาย ตามโรงเรียน เลยลองถามน้องๆ ว่า ใช้ อินเตอร์เน็ตในเรือ่ งไหนบ้าง ค้นคว้าข้อมูลทำ� รายงานเหรอ (ยกมือหรอมแหรม 3-4 คน) ติดตามอ่านข่าวสารบ้านเมือง (ยกมือเพิ่ม 9-10 คน) ดูขา่ วเม้าท์บนั เทิงซุบซิบดารา (ยก มือพรึ่บ ครึ่งหอประชุม) คุยเล่นกับแฟนหรือ เพื่อนต่างเพศ (โอ้โห ยกมือทั้งหอประชุมเลย ครับ) แสดงว่าวัยรุ่นไทยใช้สื่อใหม่ในเรื่อง

ของการคุยเล่นเพลิดเพลิน คุยไป แซวมา จีบกันไปอ้อนกันมา จนกลายจากเพือ่ นเป็นแฟน ก็มีจำ�นวนมาก น้องๆ หลายคนอาจเถียงว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย วงจรแบบนี้ คุยกันจีบ กันรักกันแล้วก็เป็นแฟนกัน วัยรุ่นยุคไหนสมัยไหนก็เป็นทั้งนั้น น้องๆ อย่าเคืองนะครับ ถ้าผมบอกว่า แปลกซิ! เพราะสมัยก่อน หนุ่มสาวจะชอบ กันน่ะ ต้องเห็นรูปร่างหน้าตา “ตัวเป็นๆ - ตัวจริงๆ” ก่อน แต่สมัยนี้หรือ คุยผ่านเน็ตแป้บ เดียว เป็นแฟนกันแล้ว รวมทั้งมีการนัดหมายนัดเจอที่แสนจะสุ่มเสี่ยง ทั้งที่ รูปเอย ข้อมูล เอย ของคนในเน็ตไม่รู้จะจริงแท้แค่ไหน น้องเอ๋ย ช่างไม่รู้เลยหรือว่า ในโลกไซเบอร์นั้นมี ความลวงและมายามากมายนัก ถ้าเจตนาดีจริงๆ ขาดนิดเกินหน่อยก็ไม่ว่ากัน เช่น ตอนคุยเอ็มบอกว่า อายุ 18 หล่อตี๋ แต่พอเจอตัวจริงกลับอายุ 20 ตี๋เหมือนกันแต่ไม่หล่อ แถมสิวด้วย 2-3 เม็ด เจอ แล้วก็แค่ไปกินไอติมด้วยกันสักถ้วยแล้วแยกย้ายกลับบ้าน อา..อย่างนั้นก็ยังพอรับไหว แต่ประเภทดันกลายเป็นทรชนคนหลอกลวง มีเจตนาไม่บริสทุ ธิ์ ตอนคุยกันบอกว่า อายุ 19 เรียนวิศวะจุฬาฯ แถมโพสต์โชว์รูปหล่อเท่ระเบิด แต่พอเจอตัวจริงกลับกลายเป็น อ้วนดำ�อายุ 40 ที่มาพร้อมกับเล่ห์กล บังคับมอมยาแล้วพาไปทำ�ร้ายล่วงละเมิดทางเพศ ทำ�ร้ายยังไม่พอบางทียังมีแถมถ่ายคลิปเอาไว้ประจานว่อนเน็ต โอ้..เศร้า.. เข้าใจดีว่า เกิดเป็นวัยรุ่นมักจะว้าวุ่นใจ หากจะผ่อนคลายความเครียดด้วย อินเตอร์เน็ต มีเพื่อนมีสังคมออนไลน์อินเทรนด์กะเขาสักหน่อยในขอบเขตที่เหมาะสมก็ เห็นด้วย แต่วัยรุ่นหลายคนทั้งที่เห็นในข่าวและใกล้ๆ ตัว ดูจะหมกมุ่นจริงจังกับการแชต เรื่องแฟนเรื่องความรักเกินไป ราวกับว่า “รักแท้” น่าจะเกิดขึ้นง่ายดายในโลกไซเบอร์ที่ แสนลวงหลอกและไร้การป้องกันควบคุม หรือหากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ อยากจะมีแฟนกะเค้าบ้าง ขอมีรักกุ๊กกิ๊กนิดหน่อยไว้พอ ให้กระชุ่มกระชวยแก้เครียดจากการเรียน ผมว่า ลองมองหาคนที่มีตัวตนจริงๆ ดีกว่า คน ใกล้ๆ ทีท่ �ำ อะไรเพือ่ เรามาเสมอ (แต่เรากลับมองข้ามไป) คนทีเ่ ราสามารถพิสจู น์หวั ใจจริง ของเขาได้ และแน่ใจว่าจะไม่มีทางทำ�อันตรายเราได้ แม้อาจมีข่าวคราวที่บางคนพบความรักทางอินเตอร์เน็ต แต่เชื่อเถอะว่า ความเป็น ไปได้เปรียบเหมือนโอกาสในการถูกลอตเตอรีน่ นั่ แหละ “รักแท้” ใน “โลกลวง” ดูๆ ไปเป็น คนละเรื่อง เป็นไปได้ยากและมีโอกาส “เสียเวลา เสียการเรียน และลงท้ายด้วย..เสียใจ” แต่ป้องกันได้ถ้าเรารู้เท่าทัน

29


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เรื่อง

จาก สถานการณ์ความขัดแย้งทางความคิดเห็น ในทางการเมือง ทีเ่ ราเปิดไปทีวชี อ่ งไหน วิทยุคลืน่ ใด

หนั ง สื อ พิ ม พ์ ฉบั บ ใดก็ ต้ อ งมี หั ว ข้ อ เรื่ อ งการบ้ า น การเมือง จนทุกวันนีน้ อ้ งๆ สังเกตมัย้ ครับเราไปไหน มาไหนผูค้ นในสังคมเจอหน้ากันก็ตอ้ งถามกันแล้วว่า “วันนี้ สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” “เหตุการณ์ไปถึง ไหนแล้ว” ต้องคอยเกาะติดสถานการณ์ตลอด

30

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองตัวยงเช่นกัน ยังรู้สึกเครียดจนบางครั้งต้องหันเหไปทำ�กิจกรรมอื่นให้ตัวเองรู้สึก ผ่อนคลายเพื่อลดระดับอุณหภูมิที่ร้อนอยู่ขณะนี้ให้คลายลงไปบ้าง จึ ง อดที่ จ ะเป็ น ห่ ว งน้ อ งๆ ไม่ ได้ จึ ง ขอหยิ บ ยกเรื่ อ งนี้ ม าบอกเล่ า เก้าสิบเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ให้รู้เท่าทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วยังสามารถนำ�ไปปรับใช้กบั สถานการณ์อย่างอืน่ ๆ ได้อกี ถือเป็น ยาวิเศษเลยก็ว่าได้ครับ เป็ น ปกติ ข องคนทั่ ว ไปอยู่ แ ล้ ว ครั บ ที่ เมื่ อ เรารั บ ฟั ง ข้ อ มู ล ข่าวสารหรือให้ความสนใจกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เกาะติดสถานการณ์ ทีเ่ กิดขึน้ อย่างใกล้ชดิ ตลอดเวลา การทีเ่ ราใช้ความคิดและอยูภ่ ายใต้ สภาวะกดดันด้วยแล้วย่อมเกิดเป็นอารมณ์และความเครียดไม่อาจ หลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น เราต้องรู้เท่าทันความเครียดเหล่านั้น เมื่อเรารับข้อมูล เข้ามาในสมองเรามากๆ ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านหนังสือ หรือ การเรียนหนังสือที่หนักโดยไม่ได้พักผ่อน หรือฟังข่าวสารการบ้าน การเมืองแล้วเครียด ประการแรก เราต้องรู้ทันตัวเอง ว่าตอนนี้เราเริ่มรู้สึกเครียด แล้วนะ สังเกตง่ายๆ ว่าเมือ่ เราเริม่ ทีจ่ ะเครียด เราจะรูส้ กึ มึนๆ ตึงๆ ที่ศีรษะ บางคนปวดร้าวมาถึงต้นคอ บ่าและหลังครับ เมื่อน้องๆ มี อาการเหล่านี้ อย่าช้าครับต้องรีบหาทางปลดปล่อย เราต้องรู้จัก ปลดปล่อย ระบายอารมณ์ในทางที่เหมาะสม เช่น เล่นกีฬา ทำ� กิจกรรมที่ตนเองชอบ หรือไปร้องคาราโอเกะ เดี๋ยวนี้มีเป็นห้อง เป็น ตูห้ ยอดเหรียญ เสียงเราไม่ได้ไปดังรบกวนใคร ถ้าเครียดมากก็ตะโกน ออกไปดังๆ เลยครับ ระบายไปกับคาราโอเกะได้เลย เหล่านีเ้ ป็นการ ระบายความเครียดที่เหมาะสม ตามสบายไม่ว่ากันครับ น้องๆ หลายคนคงเคยมีความรูส้ กึ ว่า เวลาทีเ่ รามีความคิด เห็นทีแ่ ตกต่างกับใคร บางครัง้ เราแทบจะไม่อยากคุยกับคนๆ นัน้ เลย คิดไม่เหมือนกันคุยกันก็อยากทะเลาะกันซะเปล่าๆ ไม่คยุ กันเสียจะดี กว่า ดังนัน้ อย่าให้ความรูส้ กึ นีเ้ กิดขึน้ กับเราเลย ควรมาหาวิธปี อ้ งกัน ความคิดเหล่านีก้ นั ดีกว่าครับ เพราะอย่างทีผ่ ใู้ หญ่เขาบอกกันว่า “เรา อยูใ่ นสังคมประชาธิปไตย” เมือ่ เราอยูใ่ นสังคมประชาธิปไตย เราต้อง รับฟังหรือยอมรับในความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ แม้ว่ามันจะทำ�ให้ เรารู้สึกอึดอัด เราก็ต้องฝึกที่จะควบคุมและท่องคาถา 5 ต. เหล่านี้ ไว้ครับ

1. “แตกต่าง” ได้ครับแต่อย่า “แตกแยก” คิดเสียว่าความคิด คนเราจะเหมือนกันทุกคนย่อมเป็นไปไม่ได้ครับ มีทงั้ กลุม่ คน ทีม่ คี วามคิดเหมือนกันกับเราและกลุม่ คนทีม่ คี วามคิดทีแ่ ตก ต่างกันกับเรา ข้อดีของความคิดทีต่ า่ งกันมีครับมีประโยชน์ ด้วย เช่น ทำ�ให้เรามองเห็นมุมมองอื่นๆ ที่ต่างออกไป เกิด เป็นไอเดียเป็นความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มากมายครับ 2. “ติดตาม” ได้แต่อย่าเก็บนำ�มาคิดหมกมุ่นจน “ติดใจ” ควรปล่อยวางครับ การทีเ่ ราติดตามข่าวสารนัน้ ให้ประโยชน์ กับเรา คือทำ�ให้เรารู้เท่าทันเหตุการณ์ รู้ทันคนอื่น แต่ถ้า เราเกาะติดอยูก่ บั ข่าวสารนัน้ มากจนไม่ได้พกั จากทีเ่ คยเป็น ประโยชน์ก็จะเป็นโทษกับเราได้ เดินทางสายกลางพอครับ ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป 3. “ตรอง” แต่อย่า “ตรม” นำ�ข่าวสารนั้นมาคิดวิเคราะห์ ไตร่ตรองได้ครับ แต่อย่าเอาใจไปผูกติด เศร้า หดหู่ตามไป ด้วย เพราะอาจนำ�มาสูป่ ญ ั หาสุขภาพจิตได้ ก็คอื อย่าไปอิน ครับ อย่าไปอินกับมันมากครับน้องๆ 4. “ตระหนัก” แต่ไม่ “ตระหนก” น้องๆ สามารถตระหนัก ได้ครับว่านี่คือปัญหา แต่อย่าไปตระหนก ลนลาน สติแตก จนหาทางออกไม่ได้ สุดท้าย “ตื่นตัว” แต่ไม่ “ตื่นตูม” เรา ตื่นตัวกับเหตุการณ์หรือปัญหานั้นได้ครับ สามารถวางแผน หรือเตรียมการป้องกันได้ แต่อย่าตื่นตูมจนเสียแผนไปซะ ก่อนครับ จำ�ไว้ครับว่า เราต้องเป็น “กระต่ายทีต่ นื่ ตัว” ไม่ใช่ “กระต่ายที่ตื่นตูม” น้องๆ รู้อย่างนี้แล้ว เมื่อเห็นคุณพ่อ คุณแม่ คน รอบข้างเราหรือเพื่อนของเราเกิดความเครียด หรือคนใน ครอบครัวเรามีความคิดเห็นทีต่ า่ งกัน น้องๆ สามารถนำ�วิธี การเหล่านี้เก็บไปฝากได้ครับ จะมีประโยชน์มากเลยทีเดียว

31


กองบรรณาธิการ เรื่องและภาพ

เดินทางไปหาน้องๆ โดยลิฟต์อันน้อยนิด

กันหน่อย

เล่นเกมส์ประชันสมอง

โครงการโรงพยาบาลมีสุข

ถ้าดนตรีคอื สารส่งความสุขชนิดหนึง่ ตอนนีเ้ ราเชือ่ แล้ว

ว่าความสุขนั้นมีจริง และมันก็ได้ถูกส่งไปถึงเด็กน้อยน่ารัก หลายๆ คนที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โรง พยาบาลราชวิถี โดยคนส่งสารแห่งความสุขประกอบไปด้วย น้องเฟริสท์-ไกรวิชญ์ นามเพ็ง, น้องบอล-อินทัช ธุวัชชัย, น้องเบียร์-ปิยวัฒน์ แก้วจันทร์, น้องหนึ่ง-เอกชัย เอียดแก้ว, น้องอ๊อฟ-ธสชาติ ชูเรือง และน้องแพรว-ธิดารัตน์ วิระสันติ กลุ่มนักดนตรีจากโรงเรียนศรีบุณยานนท์ ที่ชักชวนนักร้อง สาวสวย “โบว์ลิ่ง-มานิดา เรืองศรี” ศิลปินจาก Sleepless Society 3 และเจ้าของเพลงเพราะ “ใจฉันรักเธอคนเดียว” โดยครั้งนี้แก๊งเพื่อนซี้และพี่โบว์ลิ่งนัดรวมพลคนรักเสียง ดนตรีไปร้องเพลงเพราะๆ ให้น้องๆ ที่พักรักษาตัวอยู่ที่นี่ ฟังกันถึงที่เลยทีเดียว งานนี้จะอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มขนาดไหน มาดูกันเลยจ้า

พวกเรา The good Gang เดิน ทางมาถึงสถาบันสุขภาพเด็ก

ขอขอบคุณ • สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โรงพยาบาลราชวิถี • คุณจามจุรี แซ้ซื้อ และทีมผู้ประสานงานมูลนิธิกระจกเงา โครงการโรงพยาบาลมีสุข • คุณชาริณี หอมชง เจ้าหน้าที่ดูแลกิจกรรมโครงการโรงพยาบาลมีสุข 32

แห่งชาติมหาราชินีกันแล้วครับ/ค

่ะ

เลือดความดีมันพุ่งปรี๊ด... เข้าไปกันเลยไหมพี่ !!!

ภาระกิจส่งความสุข ผ่านเสียงเพลงของเรา

โครงการโรงพยาบาลมีสุข จัดขึ้นโดย มูลนิธิกระจกเงา ร่วมกับ สถาบัน สุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเด็กลดความทุกข์จากความเจ็บ ป่วย มีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุข ลดความตึงเครียด ผู้ปกครองได้แลกเปลี่ยน ประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยและตัวเอง สามารถสนับสนุนแนวทางในการรักษา ของ บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ เข้ามาร่วมกิจกรรม ส่ง เสริมและสนับสนุนกิจกรรมในกระบวนการแบบไม่เป็นทางการ อีกทั้งเป็นการปลุก กระแสวัฒนธรรม และเปิดสนามงานอาสาสมัครในการสร้างความ สุขภายในโรงพยาบาล น้องๆ คนไหนสนใจเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครส่งความสุขให้ น้องในโรงพยาบาล ติดต่อมาได้ท่ี พีม่ นิ นี่ - จามจุรี แซ้ซอ้ื ผูป้ ระสานงาน มูลนิธกิ ระจกเงา โครงการโรงพยาบาลมีสขุ หรือ สอบถามข้อมูลได้ที่ พี่นิ - ชาริณี หอมชง โทร 02-9414194-5

ก่อนเข้าต้องลงชื่อ แลกบัตรก่อนครับ บายๆ เสร็จสิ้นแล้วครับ/ค่ะ กลับแล้วนะ 33


พรพิริยา ชูตระกูล เรื่อง ปาริชาติ บุญเอก ภาพ

บน ถนนนอกตัวเมืองทีร่ ถรายังไม่ตดิ ขัด สองข้างทางยัง มีต้นไม้สีเขียวและธรรมชาติที่ยังคงมีกลิ่นอายของชนบท

แทรกตัวอยู่ เรากำ�ลังมุ่งหน้าไปยังสมาคมแบดมินตันบ้าน ทองหยอด สถานที่ที่เปรียบเสมือนโรงงานผลิตนักกีฬา แบดมินตันชั้นดีมากมาย คนที่ดึงดูดให้เรามาถึงที่นี่คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก “เมย์-รัชนก อินทนนท์” วัย 15 ปี สาวน้อย นักแบดมินตันแชมป์เยาวชนโลกที่สร้างประวัติศาสตร์เป็น แชมป์ทอี่ ายุนอ้ ยทีส่ ดุ จากการแข่งขันในปีทผี่ า่ นมา และปีนี้ เธอก็ยงั สามารถรักษาตำ�แหน่งแชมป์ทเี่ ป็นความภาคภูมใิ จ สูงสุดของตนเองเอาไว้ได้ รถแท็กซี่แล่นมาจอดช้าๆ หน้าตึกสมาคมที่ดูกว้างขวาง เสียงพูดคุยของเด็กๆ นักกีฬาลูกขนไก่ดังเจี๊ยวจ๊าวระหว่างพักทาน อาหารกลางวัน เมื่อเดินเข้าไปในห้องอาหารก็พบว่าสาวน้อยดาวรุ่ง แห่งวงการกีฬาแบดมินตันไทยกำ�ลังรอพูดคุยกับเราอยู่แล้ว สีหน้า ของเธอดูสดชืน่ และมีแววตากระตือรือร้นขณะนัง่ ลงให้เราสัมภาษณ์ เธอกล่าวทักทายและเริม่ เล่าเรือ่ งราวเส้นทางนักกีฬาทีเ่ ริม่ ต้นขึน้ เมือ่ 9 ปีที่แล้ว เมื่อได้จับไม้แบดมินตันเป็นครั้งแรก ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอยก ความดีให้กับ กมลา ทองกร เจ้าของสมาคมที่เห็นแววเลยดึงตัวเธอ มาคลุกคลีกับไม้แบด ลูกขนไก่ และคอร์ทสนาม จากการเล่นเพียง เพื่อความสนุกกลับกลายเป็นความชอบและความรักในกีฬาชนิดนี้ อย่างจริงจัง “ตอนนีก้ �ำ ลังจะขึน้ ชัน้ ม.4 ทีโ่ รงเรียนอัสสัมชัญธนบุรคี ะ่ ” เธอ ตอบเมือ่ เราถามถึงเรือ่ งการเรียน แล้วซ้อมหนักขนาดนีแ้ บ่งเวลาเรียน ยังไง เธอบอกว่า “ก็ตอ้ งคอยตามงานกับเพือ่ นค่ะ แต่ดที ที่ างโรงเรียน ทั้งอาจารย์ ทั้งเพื่อนๆ เข้าใจ มีงานอะไรเพื่อนก็จะคอยช่วย และถ้า หนูวา่ งจากการซ้อมก็จะไปเรียนตลอด” ซึง่ เวลาว่างของเมย์นนั้ นับว่า มีน้อยมาก เพราะเธอต้องฝึกซ้อมทุกวัน วันละ 5-6 ชั่วโมง โดยจะ หยุดพักแค่วันจันทร์เท่านั้น แต่เมย์กล่าวกับเรายิ้มๆ ว่า เพราะเธอ รักทีจ่ ะเล่นแบดมินตัน จึงไม่รสู้ กึ ว่าเวลาพักผ่อนหรือเวลาส่วนตัวนัน้ หายไป

34

แค่มีใจรัก มีวนิ ยั ขยันฝึกซ้อมอย่างสมํา่ เสมอ มุง่ มัน่ ตัง้ ใจ ก็เพียงพอแล้ว

หลังจากผ่านการแข่งขันและกวาดแชมป์มามากมายหลาย ระดับ จนถึงการรักษาอันดับแชมป์โลกในปัจจุบัน เราจึงอยากรู้ ว่าเธอเคยรู้สึกกดดันหรือเครียดหนักๆ บ้างหรือไม่ เมย์บอกว่า ถ้ารู้สึกเครียดหรือกดดันจะพยายามปลีกตัวอยู่คนเดียว ทำ�สมาธิ และพยายามคิดถึงสิ่งที่เรียนรู้ตลอด ส่วนเคล็ดลับทีท่ �ำ ให้ประสบความสำ�เร็จ เธอบอกเราว่า แค่ มีใจรักและมีวนิ ยั ขยันฝึกซ้อมอย่างสมํา่ เสมอ รวมทัง้ มีความมุง่ มัน่ ตัง้ ใจก็เพียงพอแล้ว ฟังดูเหมือนง่าย แต่เราก็รวู้ า่ การลงมือทำ�และ ฝึกฝนตัวเองได้แบบที่เธอพูดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ก่อนจากกันเราแอบกระซิบถามถึงไอดอลในดวงใจของเธอ เมย์บอกว่า คนที่เธอชื่นชมและยึดถือเป็นต้นแบบคือ หวังยี่ห่าน นักแบดมินตันชาวจีนที่ปัจจุบันเป็นมือหนึ่งของโลก เสร็จสิ้นการ พูดคุย เธอขอตัวกลับไปซ้อมต่อ ระหว่างที่ภาพเธอกำ�ลังจะลับไป จากสายตา เรารู้สึกได้ว่าวันที่เมย์จะขึ้นไปยืนอยู่ในตำ�แหน่งเดียว กับไอดอลที่เธอชื่นชอบนั้นคงอยู่อีกไม่ไกลนัก

35


พรพิริยา ชูตระกูล เรื่อง ปาริชาติ บุญเอก ภาพ

ภาพ นักกีฬากระโดดไกลหนุม่ น้อยทีว่ งิ่ มาด้วยความเร็ว เต็มพิกดั เมือ่ ถึงจุดกระโดดก็รวบรวมพละกำ�ลังทะยานตัวไป

ข้างหน้า ผ่านตัววัดระยะความไกลซึง่ เปรียบเสมือนอุปสรรค ขวางกั้ น อั น แสนท้ า ทายไปได้ อ ย่ า งสวยงามเคลื่ อ นผ่ า น สายตา แม้ว่าเวลาเพิ่งจะผ่านไปแค่เพียงไม่กี่วินาทีในความ รู้สึกของเรา แต่สำ�หรับ “ตีโต้-ศุภนร สุขสวัสดิ ณ อยุธยา” นั้น มันอาจจะนานเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด เขากำ�ลังลุ้นสถิติ การกระโดดครัง้ ล่าสุดทีจ่ ะเป็นตัวตัดสินทุกสิง่ ทุกอย่างทีเ่ ขา ได้ทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจให้กับมัน และค่อยๆ ก้าวเท้าเดิน ไปดูคะแนนที่เขาทำ�ได้อย่างช้าๆ.....

“ผมเล่นกีฬามา 7 ปีแล้วครับ” ตีโต้บอกกับเราพร้อมรอยยิ้ม ขณะกำ�ลังพักจากการซ้อมอันแสนหนักหน่วง ซึง่ เป็นกิจวัตรประจำ�วัน ของเขา และเมื่อเราถามเขาว่าเพราะเหตุใดถึงเลือกเล่นกีฬาชนิดนี้ ตีโต้ตอบสั้นๆ แต่ดูมั่นใจว่า “เพราะชอบครับ มันท้าทายดี” หนุ่ ม น้ อ ยที่ รั ก การเล่ นกี ฬ าทุ ก ชนิ ด และมี คุ ณ พ่ อ อดี ต นั ก ทศกรีฑา และคุณแม่อดีตนักวิง่ ระยะสัน้ เป็นแรงบันดาลใจเริม่ ฝึกซ้อม กีฬากระโดดไกลที่เขาชอบมากที่สุดด้วยตัวเอง จนสามารถเข้า แข่งขันโดยเริ่มจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับประเทศ พร้อมกวาดแชมป์ ในทุกระดับมาแล้วมากมาย ตอนนี้ตีโต้เป็นแชมป์ยุวชนโลกในการแข่งขันล่าสุดที่ประเทศ อิตาลี ซึ่งเป็นผลจากการมุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วง 6 วัน ใน 1 อาทิตย์ ซึ่งใช้เวลาซ้อมวันละไม่ต่ำ�กว่า 6 ชั่วโมง เมื่อเราถามถึงเวลาพักผ่อนที่ต้องหายไป ตีโต้ตอบยิ้มๆ ว่า ไม่รู้สึกเสียดายเลย เพราะชอบการซ้อมกีฬาอยู่แล้ว และอยากจะ เต็มทีก่ บั มันให้มากทีส่ ดุ นอกจากนัน้ ยังไม่เคยรูส้ กึ ท้อถอยหรือหมด กำ�ลังใจในการเล่นกีฬากระโดดไกลนี้เลยสักครั้ง เพราะเป็นกีฬาที่ เขารักและรู้สึกสนุกทุกครั้งที่เล่น อีกทั้งการเล่นกีฬายังช่วยให้เขามี สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง และยังสร้าง ให้เขาเป็นคนมีความมุ่งมั่น อดทน และมีระเบียบวินัย “ผมว่ากีฬามี

36

ไม่เคยรูส้ กึ กดดัน หรือเก็บไปเครียดหรอกครับ เพราะผมถือว่า... เราแข่งกับสถิตขิ องตัวเอง มันกลายมาเป็นพลัง ทีท่ �ำ ให้เราฮึดสูม้ ากกว่า

ประโยชน์ตอ่ ตัวเรามากเลยนะ อย่างน้อยก็ท�ำ ให้รา่ งกายแข็งแรง ผม เนี่ยนานๆ จะป่วยซักที” ตีโต้ให้ความเห็นเมื่อเราถามถึงประโยชน์ ของการเล่นกีฬา อย่างไรก็ตาม เราถามต่อว่าเคยกดดันบ้างไหม เพราะคำ�ว่า แชมป์เก่าที่อาจกลายเป็นอุปสรรคสำ�คัญในการแข่งขัน เขากล่าวว่า “ไม่เคยรูส้ กึ กดดันหรือเก็บไปเครียดหรอกครับ เพราะผมถือว่าเราแข่ง กับสถิติของตัวเอง มันกลายมาเป็นพลังที่ทำ�ให้เราฮึดสู้มากกว่า” ก่อนจะขอตัวไปซ้อมต่อ ตีโต้ยังได้ฝากคำ�แนะนำ�ไปถึงคนที่ อยากเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำ�เร็จด้วยว่า “ต้องมุ่งมั่นตั้งใจใน การซ้อมให้มาก พักผ่อนให้เพียงพอ มีวินัยในการซ้อม มีวินัยใน ตัวเอง เชื่อฟังโค้ชและพ่อแม่ อย่างกีฬากระโดดไกลที่ผมเล่นเป็น กีฬาเดี่ยวๆ เล่นคนเดียว มันดูแลตัวเองได้ อยู่ที่ไหนก็ซ้อมได้ครับ” ตีโต้ลุกขึ้นยืนหลังจากกล่าวอำ�ลากับเราและเดินกลับเข้าไป ซ้อมพร้อมสีหน้าสดใสและแววตาที่ฉายความมุ่งมั่น ซึ่งมันทำ�ให้เรา เข้าใจได้ในที่สุดว่า เพราะอะไรเด็กหนุ่มอายุ 18 ปีคนนี้ถึงสามารถ ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์กระโดดไกลยุวชนโลกคนปัจจุบันได้ .....เมื่อเดินไปถึงตัวโค้ชที่กำ�ลังประกาศสถิติคะแนนล่าสุด ใบหน้าของเขาก็ระบายรอยยิ้มออกมา

37


ปาริชาติ บุญเอก เรื่อง BMC ภาพ

ท่อนหนึ่งของเพลง ชูเกียรติเบ็ญฯ เพลงประจำ�โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จังหวัดอุบลราชธานี โรงเรียนประจำ�จังหวัดขนาดใหญ่ ซึ่งแตกต่างจากโรงเรียนที่ ขึ้นต้นด้วย “เบ็ญจะมะ” ทั่วๆ ไป เพราะมีที่ชื่อลงท้ายด้วย “มหาราช” แห่งเดียว ในประเทศ เรามาที่นี่เพื่อตามหาทีม BMC ทีมเชียร์ลีดเดอร์ระดับประเทศ ที่ได้รับ รางวัลชนะเลิศจากการประกวด ซีคอนสแควร์เชียร์ลีดเดอร์แห่งประเทศไทย รับ ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ประจำ�ปี พ.ศ. 2552-2553 สองสมัยซ้อน และล่าสุดเจ้าของรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง การแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ “The 2010 ICU World Champion Ship” ณ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 20 -30 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา เนื่องจากเวลาที่อเมริกาต่างกับไทยประมาณ 12 ชม. ทำ�ให้นอกจากจะต้อง ซ้อมอย่างหนักแล้ว ยังต้องดูแลเรือ่ งการปรับเวลา ในการนอน ทุกคนต้องตืน่ มาซ้อม ตั้งแต่ 2 ทุ่มจนถึง 7 โมงเช้า และนอนในช่วงกลางวัน และผู้ที่ดูแลเด็กๆ เหล่านี้ เสมอมา นั้นก็คือ อาจารย์อัมพร พลีน้อย อาจารย์ผู้ควบคุมทีม เก่ง - อธิพงษ์ วรบุตร นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย รังสิต อดีตหนึ่งในสมาชิก BMC ถึงแม้ว่าเค้าจะจบจากโรงเรียนนี้ไปแล้ว แต่ก็ยัง แวะเวียนมาเยี่ยมและช่วยดูแลน้องๆ เสมอๆ ระหว่างปิดเทอม และครั้งนี้ก็ได้เข้า ร่วมการแข่งขันในตำ�แหน่งหัวหน้าทีม “จริงๆ ปริมาณคนที่แข่งเค้าให้ 25 คน ในทีมก็มีอยู่ 18 คน ที่เราไปแข่งคือ Level 5 จำ�กัดอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป มีน้องบางส่วนที่อายุไม่ถึงไปแข่งไมได้ ก็เลย ต้องเอารุ่นพี่มาเต้นช่วย อย่างผมก็เคยอยู่ทีมเบ็ญจะมะฯ เหมือนกัน ช่วงปิดเทอม ถ้าไม่มีแข่งที่อเมริกาก็จะเป็นช่วงเก็บตัวนักกีฬาของน้องๆ คือฝึกสมรรถภาพ ผม ก็ตอ้ งเข้ามาดูแลน้องทุกปี พอช่วงนีม้ แี ข่ง ก็ตอ้ งเปลีย่ นจากเก็บตัวเพิม่ สมรรถภาพ ไปเป็นเก็บตัวเพื่อไปแข่งที่อเมริกาแทน”

เกี ย รติ เบ็ญเกรียงไกรเกริกในพระนามเบ็ญ ผองเราบำ�เพ็ญเทิดไท้ตลอดมา (ช.) เบ็ญจะมะ... (ญ.) เบ็ญจะมะ... (ช.) มหาราชา... (ญ.) มหาราชา... เราทุกดวงวิญญา ซึ้งพระคุณทูนค่า เทิดมหาราชัน...

38

39


และแน่นอนว่า การไปแข่งที่เมืองนอก ความกดดันย่อมแตกต่าง จากแข่งในประเทศ “ถามว่ากดดันมั้ย ก็มีบ้างครับ แต่ว่าอยู่ที่ไทยจะเป็นแข่งในระดับ ทั่วประเทศ ความกดดันมันก็จะมีมากกว่านิดนึง เพราะเราจะรู้ว่าคู่แข่ง เป็นยังไง เค้าเก่งขนาดไหน ความกดดันก็จะมีสงู กว่าแต่ในระดับแข่งต่าง ประเทศผมว่า ความกดดันก็มีไม่ค่อยมาก แต่เราก็เตรียมตัวของเราให้ดี ที่สุดครับ” ตั้งแต่ปี 2542 จนถึงตอนนี้ ทีม BMC กวาดรางวัลระดับประเทศ มาหลายรุ่น ดังนั้นการคัดเลือกสมาชิก จึงเป็นสิ่งสำ�คัญ “อย่างแรกต้องดูเรือ่ งใจรักก่อนว่าอยากมาเต้นรึเปล่า ขอแค่อยากจะเต้น อยากเป็นเชียร์ลีดเดอร์มาหาเราได้ เราช่วยสอนให้ แล้วเราก็จะฝึกไป เรือ่ ยๆ จนกว่าน้องจะเก่งทีส่ ดุ แล้วอีกอย่างเราต้องถามน้องว่าชอบขนาด ไหน อดทนได้หรือไม่ เพราะว่าเชียร์ลีดเดอร์ต้องใช้เวลาในการฝึกทักษะ ยิมนาสติก ไม่ใช่แค่สนั้ ๆ แต่เป็นระยะยาว และต้องใช้ความอดทนสูง คือ ถ้ามีความรักและความต้องการที่จะเป็นเชียร์ลีดเดอร์ น้องจะทนได้แล้ว ก็จะเป็นเชียร์ลีดเดอร์ที่ดีได้ในอนาคต” กว่าจะมาถึงจุดนี้ น้องๆ เหล่านีต้ อ้ งผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนัก และในบางครั้งก็ต้องเกิดอาการท้อบ้างอะไรบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา “ก็มีท้อบ้าง เพราะว่ากีฬาเชียร์ลีดเดอร์ก็เป็นกีฬาที่เหนื่อยเหมือน กัน แต่ก็มีความสุข เพราะว่าเราได้ทำ�ในสิ่งที่เรารัก ถ้าถามว่าท้อ ก็คือ ท้อ แต่ก็ได้กำ�ลังใจจากรุ่นพี่ จากเพื่อน เพราะทุกคนก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่ว่ามันก็ต้องมีช่วงท้อบ้าง แต่สุดท้ายแล้วพอเรามองเพื่อนทุกคน คือ ทุกคนเหนื่อยเหมือนกัน ถ้าเรามาเหนื่อยหรือท้อ เพื่อนก็จะเดินต่อไป ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องสู้ต่อไปกับเพื่อน”

40

อาจารย์อัมพร พลีน้อย อาจารย์ผู้ควบคุมทีม

“เราพูดกันเสมอมาว่าทุกครัง้ ทีม่ กี ารฝึกซ้อมเราต้องดูแลซึง่ กัน และกัน เพราะ เชียร์ลดี เดอร์มนั ไม่สามารถทีจ่ ะเล่นคนเดียวได้ ต้องดูแลกันในเรือ่ งของการเซฟ เพราะฉะนัน้ คนทีเ่ ป็นตัวท๊อปก็ ต้องมั่นใจว่า ฐานมันต้องรับเราแน่ๆ ตอนลงมา ทุกอย่างมัน ต้องเป็นหนึง่ ทัง้ นัน้ เพราะฉะนัน้ จะให้ก�ำ ลังใจกันตลอดเวลา ใน บางครั้งเด็กก็คือเด็ก อาจจะมีผิดพลาดบ้าง ง่องๆ แง่งๆ กัน บ้าง เราก็จะพยายามบอกว่า พูดกันดีๆ ให้ครูด่าได้คนเดียว พวกเธอไม่ต้องด่ากัน ฉันด่าพวกเธอก็จะชํ้าตายอยู่แล้ว ก็จะ พยายามพูดแบบนี้ ก็ให้กำ�ลังใจ มีผิดใจบ้างเป็นปกติของเด็ก แต่ก็คุยกันได้ เคลียร์กันได้”

การให้กำ�ลังใจซึ่งกันและกัน จึงเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดของทีม เพราะนั้นหมายถึงความสามัคคี ที่จะพาทีมไปสู่ความสำ�เร็จ “สิ่งที่สำ�คัญที่สุดคือความสามัคคี เพราะว่าเชียร์ลีดเดอร์เล่นกันหลายคน ถ้าเกิดเราไม่มี ความสามัคคี เราก็จะทำ�อะไรไม่ได้เลย จะต่อตัวไม่ได้เลยจะเต้นไม่ได้เลย ทุกคนจะต้องรวมใจกัน เป็นหนึ่งในทุกๆ อย่าง ถ้าเกิดกำ�ลังใจไม่ได้ไปด้วยกัน มันก็จะเริ่มแบ่งแยก ไม่มีกำ�ลังใจต่อไป” นอกจากจะต้องให้กำ�ลังใจกันซึ่งกันและกันแล้ว ทุกคนยังได้แรงสนับสนุนจากทางโรงเรียน ในเรื่องหาทุนและอุปกรณ์ที่นำ�มาใช้ในด้านต่างๆ และอีกกำ�ลังใจที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือกำ�ลังใจ จากครอบครัว ครอบครัวของทุกคนยินดีที่จะให้น้องๆ ได้แสดงความสามารถ เพราะ นอกจากจะ เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ยังทำ�ให้เด็กๆ ได้มีสมาธิ ได้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันด้วยความ สามัคคี และสิ่งที่จะตามมานั้นก็คือความสำ�เร็จ ที่ทุกคนในทีมหวังเอาไว้ “ความหวังสูงสุดของเราก็คือ ไปแข่งที่ต่างประเทศแล้วได้รับชัยชนะกลับมา นั้นก็คือ ความ ฝันอันสูงสุดของทีม แต่พอเราได้ที่สอง ก็ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยเราก็ได้ประสบการณ์ ไม่ใช่ใคร ก็ได้ที่จะได้ไปยืนอยู่จุดนั้น เราต้องผ่านการซ้อมมาอย่างหนัก ทุกคนเหนื่อยแต่เราก็ภูมิใจที่ได้ทำ� อีกอย่างหนึ่งผมก็ไม่อยากให้ทีมเชียร์ลีดเดอร์ของทีมเบ็ญจะมะนี้หายไป เพราะว่าเราช่วยกันมาก็ ประมาณ 10 กว่าปีแล้วกว่าจะประสบความสำ�เร็จได้ ใช้เวลานานครับ อยากจะให้มตี อ่ ไป เพือ่ สร้าง ชื่อเสียงให้โรงเรียนเบ็ญจะมะฯ ของเรา”

41


สุปรานี โอลาญ เรื่อง

โครงการ ป่าอู้ได้ ภาคเหนือคำ�ว่า “อู้” ภาษาเหนือแปลว่า พูด เป็นโครงการที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในป่า ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

ที่อยู่ใกล้ตัวแต่เรามองไม่เห็นลงสู่คนในชุมชนเพื่อให้คนในชุมชนเกิดความรัก และหวงแหนและช่วยกันอนุรักษ์ป่า ผ่านทางพจนานุกรม แผนที่เส้นทางศึกษา ธรรมชาติและรูปแบบจำ�ลองของป่าชุมชน (Model) ลักษณะการดำ�เนินการอยู่ภายใต้ 3 กระบวนการ คือ ป่าให้เรา เราให้ป่า เรา ชุมชนให้ป่า ป่าให้เราคือสิ่งต่างๆ ที่เราได้ รับไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย อาหารหรือแม้ กระทั่งเครื่องนุ่งห่ม ล้วนแล้วแต่ได้รับจาก ป่าทั้งสิ้น เราให้ป่าคือกระบวนการที่เรา ดำ�เนินการในโครงการซึ่งผ่านทางชุมชน คือเราสร้างกระแสการอนุรักษ์ป่าโดยที่เรา เหมือนฟันเฟืองเล็กๆ คอยช่วยให้คนใน ชุมชนได้ขบั เคลือ่ นการอนุรกั ษ์และหวงแหน ต่อไปอย่างยั่งยืน การทำ�โครงการในครั้งนี้ ได้ รั บ ความร่ ว มมื อ จากคนในชุ ม ชนเป็ น อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร ที่อยู่ อาศัยหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ได้ทำ �ร่วมกับ คนในชุมชนส่วนกิจกรรมที่เราทำ� คือ

วันที่ 1 เราได้ขึ้นไปสำ�รวจป่าชุมชน เส้นทางศึกษาธรรมชาติเส้นเดิมและวางเส้น ทางที่จะนำ�เด็กนักเรียนโรงเรียนวังทราย งามขึ้นไปศึกษาสิ่งที่อยู่ในป่า วันที่ 2 ได้นำ�นักเรียนขึ้นไปศึกษา ธรรมชาติตามจุดที่วางไว้โดยแต่ละจุดได้ รับความรู้จากปราชญ์ชาวบ้านที่มีความรู้ และได้ทำ�การสำ�รวจพันธุ์พืชเพื่อนำ�ไปทำ� พจนานุกรมให้กบั ทางโรงเรียนและชาวบ้าน เด็กๆ ตื่นเต้นกันมาก จากการสอบถาม ทำ�ให้เรารู้ว่า เด็กบางคนไม่เคยขึ้นมาเลย ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเค้ามาก เรารู้สึก ดีใจมากที่ได้เห็นน้องๆ สนใจ เพราะ อย่าง น้อยเราก็ทำ�ให้เค้าได้รู้ว่าในชุมชนที่เค้าอยู่ มีสิ่งที่ควรอนุรักษ์และหวงแหน วันที่ 3 ได้จดั ทำ�แผนทีเ่ ส้นทางศึกษา ธรรมชาติและทำ�พจนานุกรมหลังจากนัน้ ได้ นำ�แผนทีข่ นึ้ ไปติดบนป่าตามจุดต่างๆ ทีไ่ ด้ วางไว้ จุดต่างๆ ทีน่ �ำ แผนทีไ่ ปติดมีเรือ่ งราว และจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น จุดช่องลม เป็นจุดชมวิวที่สายมาก เป็นช่องให้ลมผ่าน เข้ามาไม่ใช่ลักษณะของหน้าผาแต่เป็นทุ่ง หญ้าสวยงามเหมาะสำ�หรับการถ่ายภาพ

น้องๆ คนไหนสนใจร่วมแบ่งปันเรื่องราวปาฏิหาริย์แห่งการให้ กิจกรรมจิตอาสาที่ได้เคย ลงมือทำ� หรือได้รบั รู้ ได้เคยสัมผัส เขียนมาเล่าสูก่ นั ฟังบ้างนะคะ ความยาวไม่เกิน 1 หน้า กระดาษ A4 แนบมาพร้อมกับ ชื่อ-ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล ส่งมาให้เราได้ที่ นิตยสาร Miracle of Life บริษัท แฮททริค มัลติมีเดีย จำ�กัด 42

เพื่อเก็บความประทับใจ และอีกที่ที่ทำ�ให้ เราทุกคนตี่นตาตื่นใจนั้นก็คือ หินลอยได้ เป็นเขาที่มีก้อนหินแตกๆ ซึ่งเกิดจากการ กัดเซาะของนํ้าโดยธรรมชาติ เราไม่เคยคิด มาก่อนว่าที่นี่จะมีสถานที่ๆ สวยงามขนาด นี้อยู่ จากแต่ก่อนเราเห็นป่าก็คือป่า ไม่ได้ มีความพิเศษอะไรมากมาย แต่พอเราได้ มาทำ�โครงการนี้ เราได้สำ�รวจร่วมกับชาว บ้าน มันทำ�ให้เรารู้ว่า ป่าไม้ และธรรมชาติ มีอะไรมากกว่าที่เราคิด และนอกจากเรา ได้ความรู้แล้ว สิ่งที่เราภูมิใจจากการได้ทำ� โครงการนี้คือ เราทำ�ให้เด็กๆ และชาวบ้าน ได้รับรู้ว่า ธรรมชาติ ที่อยู่ใกล้ตัวเค้า มัน เหมือนสิ่งมหัศจรรย์ที่ควรแก่การอนุรักษ์ และเห็นความสำ�คัญของมัน ความภูมิใจ มันติดตัวเรามาจนถึงตอนนี้ เรายังติดต่อกับ ชาวบ้าน และชาวบ้านยังเฝ้ารอการกลับไป เยี่ยมเยียนของพวกเรา ชาวบ้านบอกว่า สิ่ง ทีเ่ ราทำ�ไว้ ไม่เคยสูญเปล่า เด็กๆ ในหมูบ่ า้ น ให้ความสนใจกับแหล่งเรียนรูใ้ หม่พร้อมกับ ภูมิใจนำ�เสนอให้กับเพื่อนต่างถิ่นได้เรียนรู้ โรงเรียนใกล้เคียงจัดทัศนะศึกษา ให้เด็กๆ ได้มาเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ที่เราได้ ช่วยกันทำ�ขึน้ ความเหนือ่ ยในวันนัน้ เปลีย่ น เป็นรอยยิ้มในวันนี้ มันเหมือนปาฏิหาริย์ที่ เราและทุกๆ คนได้สัมผัส จนถึงตอนนี้

43


กองบรรณาธิการ เรื่องและภาพ

1

วันที่

พี่ไกด์และเพื่อนๆ รอต้อนรับน้องๆ

จากโรงเรียน : บางลี่วิทยา จ.สุพรรณบุรี ครูที่ปรึกษา : คุณครูประยุทธ พันธุ์บัว

อบรม ร า ก ม ร ร ก จ ิ ก ่ ู ส า ้ เข น 0ค ต้อนรับน้องๆ ทั้ง 3 ลงพื้นบ้าน เพ บ ั ก ว ย ่ ี ก เ ้ ู ร ม า ว ค ย า และบรรย

พวกเขา คือ 10 คนรุ่นใหม่ แห่งเมืองสุพรรณ พวกเขาคือ 1 ใน 4 ทีม ผู้ฝ่าฟันอุปสรรคกว่า 200 ทีมจาก

ทางภาคกลาง และพวกเขา คือ สมาชิกทีมวัยรุ่นยุคใหม่ ใส่ใจเพลงพื้นบ้าน ผู้สืบสานตำ�นานเพลงอีแซวที่มีมากว่า 100 ปีให้คงอยู่...

“โครงการนีเ้ ราจัดขึน้ เพือ่ อนุรกั ษ์เพลงพืน้ บ้านซึง่ เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมของท้องถิน่ เอาไว้ เพราะปัจจุบนั เพลงเหล่านีเ้ ริม่ สูญหายไป แล้ว สมัยก่อนมีเป็น 10-20 คณะ แต่ตอนนี้ 7 คณะยังไม่ถึงเลยครับ” ในเวลา 1 อาทิตย์ พวกเขาเหล่านี้ต้องประชาสัมพันธ์โครงการ ให้คนทั่วไปได้รู้จัก ตามคลื่นวิทยุชุมชน เสียงตามสายในโรงเรียน เทศบาล โรงเรียนในท้องถิ่น กำ�นัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. และองค์กรที่ เกี่ยวข้อง เพื่อเฟ้นหาผู้ที่สนใจเข้าร่วม และในครั้งนี้ ได้รับการร่วมมือ จากน้องๆ ที่สนใจในเพลงพื้นบ้านกว่า 30 คน “เราจะทำ�การแสดงให้คนที่มาอบรมดูก่อนว่ามีขั้นตอนแบบนี้ นะ แล้วเราก็จะสอนเขาร้อง รำ� แต่งเพลง เล่นดนตรี แล้วให้เขาแสดง ให้เราดู หลังจากนั้นก็จะพาไปเล่นที่ตลาดสามชุก เพื่อขอรับบริจาค แล้วเอาเงินที่ได้ไปบริจาคให้บ้านพักคนชรา พร้อมกับพาคณะอีแซว ไปเล่นด้วย”

44

แม่ขวัญจิต ศรีประ ให้เกียรติมาโชว์ต้นจันต์ แม่เพลง ศิลปินแห่งชาติ ตำ�รับเพลงอีแซว

หลังจากที่ถ่ายทอดวิทยายุทธิ์ให้กับน้องๆ ที่สนใจ และได้รับ เงินบริจาคจากการแสดง ทุกคนมุง่ หน้าไปบ้านพักคนชรา เพือ่ บริจาค เงินและสร้างความบันเทิงให้กับคุณตาคุณยายทันที “น้องๆ เค้าเรียนรูไ้ ด้เร็วมากครับเราสอนแป๊ปเดียว เค้าก็รอ้ งได้ แล้ว เหมือนทุกคนมีสงิ่ เหล่านีอ้ ยูใ่ นสายเลือด ดีใจมากทีท่ กุ คนมาแล้ว ก็ตงั้ ใจ พอเราได้มาเห็นคุณตาคุณยายมีความสุข มันทำ�ให้เราดีใจมาก ขึ้นอีก พวกท่านรอเราตั้งแต่เช้า เพื่อเตรียมต้อนรับ พอตอนจะกลับ มี ถามเราอีกว่า “จะมาอีกเมือ่ ไหร่” แล้วก็มคี ณ ุ ยายคนหนึง่ เค้าให้พรเป็น เพลงด้วย พวกท่านอยู่ที่นั่นคงเหงา ยังไงพวกเราก็ต้องกลับมาเยี่ยม พวกท่านอีกแน่นอนครับ” เด็กๆ เหล่านีเ้ กิดขึน้ มาพร้อมกับเพลงอีแซว การได้เห็นสิง่ ทีเ่ ขา คุ้นเคยมาตั้งแต่เกิดคงอยู่ต่อไป นับเป็นความภาคภูมิใจสำ�หรับพวก เขา มันไม่ใช่เพียงการรวมกลุ่มกันทำ�กิจกรรมอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ ถือเป็นการอนุรักษ์และถ่ายทอดโดยหวังว่า รุ่นต่อๆ ไป จะรักษามัน ไว้ ให้มีไม่น้อยไปกว่าเดิม “เพราะเพลงพื้ น บ้ า นพวกนี้ มั น เป็ น มรดกทางวั ฒ นธรรมที่ สืบทอดกันมานานของบรรพบุรษุ ท้องถิน่ เรา ถามว่าทีอ่ นื่ มีไหม ก็มี แต่ มันไม่ใช่เพลงแบบเรา มันเป็นเพลงชนิดอื่นๆ เพลงอีแซวของสุพรรณ มีเอกลักษณ์เป็นหนึง่ ของเพลงทุกชนิด เราต้องช่วยกันอนุรกั ษ์ไว้ไม่ให้ สูญหาย เพือ่ ทีร่ นุ่ ลูกรุน่ หลานเกิดมาจะได้รจู้ กั เพลงพวกนีอ้ ยู่ ถ้าเราไม่ ลุกขึ้นมาทำ�โครงการนี้ เพลงพวกนี้คงสูญหายไป”

มาไหว้ครูกันก่อนเ

ริ่มสอนน้องๆ

วันแรกพี่ๆมากันแต่เช้ารอน้องๆที่ทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรม ทีโ่ รงเรียนบางลี่ โดยเตรียมบรรยายความรูเ้ กีย่ วกับเพลงพืน้ บ้าน และ เริม่ กิจกรรมโดยแบ่งกลุม่ น้องเป็น 5 กลุม่ และแสดงให้นอ้ งดูกอ่ นทีจ่ ะ ให้น้องๆ แต่งกลอนตามโจทย์ที่วางไว้

รับมอบเงินจาก MOL เพื่อไปทำ�โครงการให้สมบูรณ์

ก่อน

มาพักกินข้าวกัน

เออ...ไม่ทราบว่าอย่างพี่ท๊อปพอจะร้องเพลงพื้นบ้านได้มั๊ยฮ่ะ 45


ถึงจะตื่นเต้นแต่ก็ทำ�เต็มที่ครับ

3

วันที่

2

วันที่

ให้ความรู้และสอนน้องๆ ร้องเพลงอิแซว และให้แต่ละกลุ่มทÓการแสดงพร้อมทั้ง มีกรรมการแสดงความเห็นและให้คÓแนะนÓ

ผู้ใหญ่ในพื้นที่มาให้กำ�ลังใจน้องๆ

เปิดการแสดงที่ตลาด 3 ชุก เพื่อขอรับบริจาค และ นÓเงินบริจาคไปมอบให้กับบ้านพักคนชร า พร้อมกับทÓกิจกรรมสร้างความบันเทิงให้แก่บรรดาคุณตาคุณยาย

ประกาศผลคัดเลือกน้องๆ จำ�นวน 15 คนมาร่วมซ้อมการแสดง

มายกมือโหวตว่าทีมไหน cool

ซื้อของเรียบร้อยแล้วจ้า

ทำ�กิจกรรมที่ลานโพธิ์ ณ ตลาดสามชุกกันแล้ว ก็ซื้อของไปเยี่ยมคุณตา คุณยาย ที่บ้านพักคนชรากันเลย

ให้คะแนนกันไม่ถูกเลย สูสี สูสี

มาโชว์ยิ้มหวานกันหน่อย คุณยายออกมาโชว์สเต็ปกันหน่อยคร๊าบ 46

คุณยายยิ้มแย้ม

มีความสุข 47


พรพิริยา ชูตระกูล เรื่อง เนตรทราย สุดภู่ทอง ภาพ กลุ่มเติมฝัน...แบ่งปัน ภาพกิจกรรม

โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นจากไหน จุดเริม่ ต้นก็มาจากพีแ่ ละเพือ่ นๆ บางคนในโครงการนีแ่ หละ เริม่ แรกก็ไปสมัคร โครงการครูบา้ นนอกของมูลนิธกิ ระจกเงา ทีเ่ ชียงราย ไปสมัครรุน่ เดียวกันตอนตุลาคม ปี 2549 คือตอนนั้นพวกเราอยากทำ�อะไรเพื่อสังคม แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เจอเว็บครู บ้านนอก ก็เลยสมัครโครงการ พอไปทำ�หลายๆ คนก็เกิดความประทับใจ เลยอยาก ทำ�โครงการในลักษณะนี้ต่อ แต่คงไม่ใช้ครูบ้านนอกเป็นเวทีต่อ เพราะคิดว่าน่าจะ เปิดโอกาสให้คนอื่นบ้าง แล้วเราได้รู้ว่าลักษณะการดำ�เนินกิจการแบบนี้ทำ�ยังไง เลย มารวมตัวกันจากครูบ้านนอกในรุ่นนั้นจัดเป็นกลุ่ม เป็นโครงการของพวกเราเองขึ้น มา หลังจากกลับมาเราก็มานั่งประชุมว่าเราจะดำ�เนินการของเรายังไง และประกวด ตั้งชื่อกลุ่มด้วย เลยได้ชื่อเติมฝันมา เมื่อได้ชื่อกลุ่มได้แนวทางแล้ว เราก็เริ่มลงมือทำ� โครงการของเรา ตอนไปครูบา้ นนอกทีเ่ ริม่ รวมตัวกัน เราถือว่าเป็นโครงการที่ 1 คราวนี้ เราเลยย้อนกลับไปเยีย่ มชาวบ้านทีเ่ ชียงรายทีเ่ ราเคยไปตอนครูบา้ นนอก ไปเยีย่ มเยียน มีการเลี้ยงอาหารกลางวัน แต่ก็ยังไม่เต็มรูปแบบมากนัก ก็ถือเป็นโครงการที่ 2 หลัง จากนั้นเราก็เริ่มทำ�เอง ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้ว 8 โครงการ ❤ แล้วในปีนี้จะมีโครงการครั้งต่อไปเมื่อไหร่ ความตัง้ ใจเดิมคือจะทำ�ปีละ 2 ครัง้ โดยจะพยายามจะให้ตรงกับช่วงปิดเทอม ของเด็กๆ ทีผ่ า่ นไปแล้วคือเมือ่ เดือนเมษายน พวกเราไปช่วยทาสีและซ่อมแซมโรงเรียน หนองทุ่มโนนหาดวิทยา ที่ จ.นครราชสีมา และอีกกำ�หนดการก็น่าจะเดือนตุลาคมที่ จะถึงนี้ ❤ มีการคัดเลือกพื้นที่ที่จะไปอย่างไรคะ ตอนเริ่มครั้งแรกๆ จะเลือกจากภูมิลำ�เนาของเพื่อนๆ สมาชิก แต่เงื่อนไขใน การเลือกก็ขึ้นอยู่กับระยะทางด้วย แต่หลังๆ เราก็เริ่มไปไกลมากขึ้น ❤ แล้วส่วนมากเราไปทำ�อะไรให้เขาบ้าง หลักๆ แล้วเรียกว่าเราไปปรับปรุงและพัฒนาโรงเรียนในต่างจังหวัด โดยจะ เน้นที่การทาสี ให้ดูใหม่ขึ้น ดูดีขึ้น เรายังไม่สามารถทำ�ถึงขนาดสร้างโครงสร้างได้ เราก็เลยเน้นปรับปรุงมากกว่า เช่น ทาสี ที่เหลือก็จะทำ�กิจกรรมร่วมกับชาวบ้านและ นักเรียนในชุมชน ❤ ปกติไปอยู่กันนานเท่าไหร่ ปกติกป็ ระมาณ 4 วัน 3 คืน ซึง่ ก็จะนอนทีโ่ รงเรียนเลย คือพอเราสำ�รวจโรงเรียน เป้าหมายที่จะไปแล้ว เราก็จะคุยกับผู้อำ�นวยการว่าเราจะมาทำ�กิจกรรมที่นี่ ในเรื่อง การพัก การนอน ก็จะคุยกับโรงเรียนว่าขออาศัยนอน ซึ่งโดยทั่วไปเมื่อเราบอกว่าจะ ไปพักที่นั่น ทางโรงเรียนและชาวบ้านก็จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แล้วก็จะมีการ จัดเตรียมห้องเรียนทีไ่ ม่ตอ้ งทาสีเพิม่ เติม ทำ�ความสะอาด เอาโต๊ะออกมา ไว้เป็นทีพ่ กั และชาวบ้านยังจัดชุดรักษาความปลอดภัยมาดูแลด้วย ❤ ในส่วนของอาหารการกินจัดการอย่างไร อาหารการกินโชคดีว่าในกลุ่มของเรามีแม่ครัว ชื่อพี่ดาว ที่เรียกได้ว่าเป็นคน เตรียมการแทบทุกอย่างเกี่ยวกับการกิน พอไปถึงปุ๊บก็จะไปเลือกซื้อของสดในตลาด มา รวมถึงเป็นคนลงมือปรุงด้วย ก็ตอ้ งอาศัยสมาชิกช่วยๆ กัน แต่คอื เราก็มแี กนหลัก ในการทำ�ตรงนี้อยู่แล้ว ❤

ใน สังคมตัวใครตัวมันยุคนี้ที่ทุกชีวิตมีแต่ความเร่งรีบ ยังมีคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันสร้างสรรค์

สิ่งดีๆ และแบ่งปันน้ำ�ใจสู่เด็กๆ ในต่างจังหวัดและถิ่น ทุรกันดารด้วยโครงการช่วยเหลือและพัฒนาในด้าน ต่างๆ เพราะแนวความคิดที่เห็นพ้องต้องกันว่า ความ สุขเกิดจากการให้ และความฝันจะเป็นจริงได้ หากทุก คนร่วมแรงร่วมใจกัน โดยมี “ดร.ธีรศักดิ์ อนันตกุล” Radio Access Network Technical Manager บริษทั แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำ�กัด (มหาชน) เป็นผู้นำ� กลุ่ม “เติมฝัน...แบ่งปัน” ให้ลงมือทำ� “ความฝัน” ให้ กลายเป็นจริง ด้วยการทาสี ซ่อมแซม และปรับปรุง โรงเรียนในท้องถิ่นห่างไกลที่ขาดการดูแล นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการรวมกลุม่ จิตอาสาไปทำ�ความสะอาดและ ฟืน้ ฟูพนื้ ทีแ่ ละสภาพแวดล้อมบริเวณสีแ่ ยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เมืองหลวงของพวกเรากลับ มาเป็นเมืองแห่งความฝันอีกครั้ง 48

49


ไปร่วมขัดๆ ถูๆ ฟื้นฟูราชประสงค์ และประเทศไทย กับอีกหลายๆ ชีวิตที่มีจิตอาสาเหมือนกัน ในวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา

แล้วอุปกรณ์การทำ�อาหารล่ะคะ อุ ป กรณ์ ก ารทำ � ก็ ใช้ ชุ ด ครั ว ของโรงเรี ย น เพราะแต่ ล ะ โรงเรียนจะมีโรงอาหาร เราก็จะใช้ของโรงเรียน แต่ถ้าไม่พอก็จะ ขอให้ทางโรงเรียนประสานงานกับทางวัด ไปยืมของวัดมาใช้อีก ก็ใช้อุปกรณ์ที่นั่นเลย แล้วก็ไปซื้ออาหารสดมาเพิ่มเติม ❤ ทุนที่เอามาทำ�ในส่วนนี้มาจากไหน มันมาจากหลายส่วน ส่วนหนึ่งก็คือพวกเรากันเอง แล้วก็ จะเป็นการไปขอสปอนเซอร์ รวมถึงการขายเสื้อ เราก็จะทำ�เสื้อ ขายในแต่ละรุ่น เสื้อของเราก็จะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น รุ่นนี้ไป โรงเรียนนี้ ก็จะมีเขียนชื่อโครงการโรงเรียนไหน ครั้งที่เท่าไหร่ ❤ ขายให้สมาชิกอย่างเดียวเหรอคะ ขายให้คนทัว่ ไปผ่านทางสมาชิก ก็หมายความว่า ทางกลุม่ ทำ�เสื้อออกมาก็ให้สมาชิกช่วยไปกระจาย ไปขายกันต่อ ❤ ตอนที่ไปเด็กๆ และชาวบ้านมาช่วยทาสีด้วยไหม ช่วยครับ โดยทั่วๆ ไปเรียกได้ว่าทุกครั้งดีกว่า เราเข้าไป ทำ�ให้เขา แล้วตัวเขาเองก็อยากมีส่วนร่วมมาช่วยเรา อย่างที่ไป ครั้งที่ 8 เนี่ย มันจะมีงานอยู่สองส่วนหลักๆ เลยก็คือ งานทาสี เราลงมือเรียกได้ว่าเราทำ�เองได้หมด แต่ขณะเดียวกันก็จะมีการ ซ่อมหลังคาด้วย ก็คอื เราจัดหาวัสดุอปุ กรณ์มาให้ แต่วา่ คนทีล่ งมือ ทำ�คือชาวบ้าน แต่ขณะเดียวกันในเรือ่ งของทาสี ชาวบ้านเขาก็มา ช่วยด้วยเหมือนกัน เขาเห็นเราทำ�เขาก็อยากมาช่วย ซึง่ ก็เป็นความ ❤

50

ตัง้ ใจของเราด้วยเหมือนกันว่า อยากจะให้ชาวบ้านหรือนักเรียนมีสว่ น ร่วมในการปรับปรุง ❤ ได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมโรงเรียนต่างๆ บ้างรึเปล่า มีกลับไปเยีย่ มบ้าง แต่ยงั ไม่ครบทุกโครงการ โครงการทีเ่ พิง่ ทำ� คงต้องรออีกสักพักหนึ่ง ❤ คิดว่าได้อะไรจากการทำ�ตรงนี้บ้าง อย่างแรกเลยก็ต้องบอกว่าได้ความสุขใจ เรียกว่าเป็นความสุข ได้มโี อกาสทำ�งานเพือ่ คนอืน่ ด้วย แล้วก็ได้ความสัมพันธ์ทดี่ กี บั เพือ่ นๆ กับสมาชิกในกลุ่มครับ กับทางชาวบ้านเราก็ดีใจที่เห็นทั้งชาวบ้าน ทั้ง นักเรียน ดีใจทีเ่ ห็นรอยยิม้ ของเขาทีเ่ กิดจากการได้เห็นโรงเรียนเสร็จดู สวยงาม หรือตอนที่เราให้ของเด็กนักเรียน แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ❤ มีโครงการที่จะไปให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มั้ยคะ จริงๆ ข้อจำ�กัดหนึ่งของทางกลุ่มก็คือว่า เราเป็นกลุ่มคนที่ ทำ�งานออฟฟิศ โดยส่วนใหญ่แล้วก็คือในกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้น ข้อจำ�กัดด้านหนึ่งก็คือ เรื่องรูปแบบในการทำ�งาน ตอนนี้เราก็อยู่ใน รูปแบบของการไปปรับปรุง ไปทาสีอยู่ เพราะฉะนั้นจังหวัดที่เรียกได้ ว่าจังหวัดใกล้ๆ ที่ไปเซอร์เวย์มาเนี่ย อย่างเพชรบุรี กาญจนบุรี อะไร พวกนี้ เราก็พบว่าช่วงนี้โรงเรียนอาจจะได้รับงบประมาณ หรืออาจจะ เป็นเพราะว่ามันอยูใ่ กล้กรุงเทพฯ ก็จะค่อนข้างเรียกได้วา่ โครงสร้างของ โรงเรียนค่อนข้างที่จะดี ก็คือจังหวัดพวกนี้เนี่ย เราไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่า ถ้าเราจะไปปรับปรุง เราจะไปปรับปรุงอะไร ส่วนจังหวัดที่ไกลเกิน

ไปก็จะมีขอ้ จำ�กัดในเรือ่ งการเดินทาง เพราะฉะนัน้ ตอนนีม้ นั ก็จะอยูใ่ น ระหว่างผสมผสาน พยายามไปให้ทั่วทุกภาค แต่ถ้าถามว่าทุกจังหวัด รึเปล่า คิดว่าคงจะไม่ครับ ❤ สมาชิกตอนนี้มีทั้งหมดเท่าไหร่คะ ตอนนี้คือเรียกว่าไม่ได้นับ อาจจะบอกว่านับไม่ถ้วน จากกลุ่ม แรกๆ เราจะมีที่ไปด้วยกันเนี่ย ถ้าตอนที่ไปโครงการครูบ้านนอกมัน จะ 40-50 คน ถ้ารวมกลุ่มกันแรกๆ แต่ตอนนี้การไปแต่ละครั้ง แต่ละ โครงการ มันเกินหลัก 60-70 คน ไปแล้ว และมีคนใหม่ๆ เข้ามาอยู่ เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็มีประมาณ 200 คนขึ้นไปแล้ว หมายถึง คนที่เข้าร่วมโครงการนะ แต่ว่าในแต่ละโครงการที่เราไป อันนี้ก็แล้ว แต่สะดวก สมาชิกเก่าอาจจะไม่สะดวกในครั้งนี้ แต่ก็จะมีคนใหม่เข้า มาเรื่อยๆ ครับ ❤ แล้วถ้าอยากจะเป็นสมาชิกต้องทำ�อย่างไรบ้าง จริงๆ แค่ขอเข้ามาร่วมโครงการ เหมือนกับถ้าเราประกาศว่า จะมีโครงการนี้แล้ว โดยวิธีการทั่วไปที่สุดก็คือ อยู่ในเว็บของ www. termfun.net แค่ลงชื่อไว้ว่าจะมาก็นับว่าเป็นสมาชิกแล้ว แต่ว่าบาง ครัง้ บางคนอาจจะไม่ได้ลงชือ่ นะ คืออาจจะเป็นในลักษณะบอกต่อกัน เหมือนบอกกับสายของเราว่าจะมาร่วมโครงการ แล้วก็ลงชือ่ ไว้ ซึง่ อาจ จะไม่ได้ผ่านทางเน็ต แต่อาจจะผ่านจากทางเพื่อนก็ได้ครับ

51


ปาริชาติ บุญเอก เรื่องและภาพ

พิเชษฐ์ กรุงเกตุ เจ้าของเหรียญทอง พาราลิมปิก

โปลิ โอ

หรื อ Poliomyelitis นั บ เป็ น โรคที่ มี ค วามสำ� คั ญ มาก โรคหนึ่ง ทั้งนี้เพราะเชื้อไวรัสโปลิโอ จะทำ�ให้มีการอักเสบของไขสันหลังทำ�ให้ มีอาการอัมพาตของกล้ามเนื้อแขนขา ซึ่งในรายที่อาการรุนแรงจะทำ �ให้มีความ พิการตลอดชีวิต และบางรายอาจถึงเสียชีวิตได้ ในปัจจุบันอุบัติการณ์ของโรค โปลิโอได้ลดลงอย่างมาก เป็นผลจากการให้วัคซีนโปลิโอครอบคลุมได้ในระดับสูง แต่สมัยก่อน วัคซีนไมได้รับความนิยมเท่าที่ควร ทำ�ให้ พิเชษฐ์ กรุงเกตุ เจ้าของเหรียญทองวิลแชร์ พาราลิมปิก ต้องกลายเป็นโปลิโอตั้งแต่อายุ 3 ขวบ “ช่วงแรกที่เพื่อนเค้าเรียนกันผมไม่ได้ไปเรียน พอช่วงหลังๆ เห็นเพื่อนไปเรียนหมดแล้ว เรารูส้ กึ เหงา ไม่มเี พือ่ น ผมก็เลยขอให้แม่ไปคุยทีโ่ รงเรียนให้ เราก็ใช้วธิ คี ลานเอาครับเวลาไปไหน มาไหน เอามือคลานไม่ว่าจะอยู่ที่โรงเรียนหรืออยู่ที่บ้าน ก็มีเพื่อนคอยช่วยเหลือบ้าง ตอนแรกก็ รู้สึกนะครับว่าเราแตกต่างจากเพื่อน เพราะว่าเพื่อนเค้าเดินกันได้ แต่เราเดินไม่ได้ แต่เนื่องจาก ว่าเป็นเพือ่ นวัยเดียวกัน โตมาด้วยกันเค้าก็จะเห็นว่าเราพิการมาตัง้ แต่เด็ก แต่ถา้ ถามว่ามีลอ้ บ้าง มั้ยก็มีบ้างครับ ตามประสาเด็กๆ มากกว่า แต่ส่วนมากจะดีครับ ก็ช่วยเหลือเอาเราขี่คอบ้าง”

52

ด้วยความลำ�บากในการเดินทางไปเรียน ทำ�ให้อาจารย์ใหญ่ชว่ ย ทำ�เรื่องไปที่กรมประชาสงเคราะห์จังหวัด เพื่อส่งตัวพิเชษฐ์ให้เข้ามาอยู่ ในความดูแลของบ้านสงเคราะห์เด็กพิการและทุพพลภาพปากเกร็ด หรือ บ้านนนทภูมิ ในปัจจุบัน “มาอยู่บ้านนนทภูมิตั้งแต่ปี 29 ครับ มาอยู่ที่นั่นก็คือเริ่มเรียน ด้วย เรียนต่อชั้นป.4 ที่โรงเรียนศรีสังวาล เป็นโรงเรียนคนพิการเหมือน กัน แล้วก็รกั ษาด้วย ปรับสภาพร่างกายให้เราสามารถช่วยเหลือตัวเองได้” พอจบชั้นม.3 พิเชษฐ์ตัดสินใจเรียนต่อทางด้านอิเล็กทรอนิก ที่โรงเรียน กรุงเทพเทคนิคนนท์ เนื่องจากคิดว่าน่าจะเหมาะกับตัวเองมากที่สุด แต่การ ไปเรียนในโรงเรียนของคนปกติ ที่ต้องช่วยเหลือ และเดินทางด้วยตนเอง กลับเป็น เรื่องที่ยากลำ�บาก “ตอนเรียนปวช.สมัยแรกๆ ลำ�บากมากครับ ปรับตัวไมได้ เราเคยเรียนกับคนพิการไงครับ มีรถรับ ส่ง ไม่ต้องช่วยเหลือตัวเองเลย แต่ว่าระดับปวช. เราต้องขึ้นรถเมล์เอง คํ้าไม้ยัน ใส่เบรสสองข้าง แรกๆ ทรมาน มากครับ ปรับตัวไม่ได้กับการเข้าร่วมสังคมกับคนปกติ ข้าวก็ไม่กล้าลงไปกิน รถเมล์ก็ไม่กล้าขึ้น ยืนรอรถผ่านไป แล้วผ่านไปอีกเราก็ไม่กล้าขึ้น คือเราไม่มีความมั่นใจ หลายดือนมาก ประมาณเกือบๆ เทอมกว่าจะปรับตัวได้” โลกเราจะสวยงามหรือหม่นหมองอยู่ที่คนมอง การให้กำ�ลังใจตัวเองเป็นสิ่งที่สำ�คัญที่สุดที่ทำ�ให้พิเชษฐ์ สามารถเรียนจบปริญญาตรีคณะครุศาสตร์ สาขาวิศกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (คลอง6) ได้เป็นผลสำ�เร็จ “จริงๆ ถ้าเปรียบเทียบระหว่างผมกับคนปกติทั่วๆ ไป โอเค ผมพิการ ผมดูไม่เหมือนคนอื่น แต่พอผมไปอยู่ ในสถานสงเคราะห์ทบี่ า้ นนนทภูมิ มีคนพิการเยอะมากทีพ่ กิ ารมากกว่าเราหลายเท่า บางคนรอกิน รอนอน ช่วยเหลือ ตัวเองไม่ได้ พูดตรงๆ ก็คือรอวันเสียชีวิตไปจากโลกนี้ แม้แต่จะพูดหรือตาที่จะมองเห็นเค้ายังไม่สามารถทำ�ได้เลย พอผมเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับตรงนัน้ แล้ว ผมคิดว่าผมปกติเลย ผมไม่ได้พกิ ารเลย เวลาเราท้อเราเจอเหตุการณ์ ข้างนอก กลับมาเราก็จะมาเจอสภาพที่เป็นแบบเนี่ย มันทำ�ให้เราคิดว่าสิ่งที่เราเจอมันเล็กน้อยมาก มันทำ�ให้เรามี กำ�ลังใจขึ้นมา” 53


เมื่อเรียนจบปริญญาตรี พิเชษฐ์ต้องตกงานอยู่ ถึง 2 ปี เพราะความพิการเป็นอุปสรรคต่อการตัดสิน ใจรับเข้าทำ�งาน จนเมื่อมีทีมผู้บริหารจากบริษัท ทรู คอร์ปอเรชัน่ จํากัด เดินทางมาเลีย้ งอาหารเด็กๆ ทีบ่ า้ น นนทภูมิ และได้ให้โอกาสพิเชษฐ์เข้าทำ�งาน ในตำ�แหน่ง คอลเซ็นเตอร์ บริการลูกค้าทางด้านอินเตอร์เน็ต “จะบอกว่าตอนนั้นดีใจมากที่สุดเลยครับ มัน เหมือนกับว่า 2 ปีที่ผ่านมา ผมพยายามจะไขว้คว้า หาโอกาสด้วยตัวของผมเอง แต่ไม่มีโอกาสอะไรที่เปิด ให้ผมเลย แต่ตอนนี้มีคนมาถึงที่แล้วยื่นโอกาสให้ผม มันติดมาจนถึงทุกวันนี้ว่า ถ้าอะไรที่ผมมีโอกาสได้ทำ� หรือว่าใครก็ตามที่มอบโอกาสให้ผม ผมจะพยายาม รับโอกาสนั้นแล้วพยายามจะไม่ปล่อยให้มันหลุดลอย ไป เหมือนกับว่า รู้คุณค่าของโอกาสที่เข้ามาในชีวิต เรา โอกาสมันจะผ่านเข้ามาไม่กี่ครั้งนะครับ ผ่านแล้ว ก็จะผ่านเลย มันไม่สามารถที่จะย้อนกลับมาได้” จากการที่ เห็ น เพื่ อ นๆ ได้ รั บ เหรี ย ญรางวั ล โอลิมปิกที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ทำ�ให้พิเชษฐ์เริ่มสนใจ ทางด้านกีฬามากขึ้น

ด้วยความที่คนไทยเป็น คนจิตใจดี ทุกคนจึงมองว่า คนพิการหรือคนด้อยโอกาส ต้องการความช่วยเหลือ

สังคมที่เปิดโอกาสให้กับ คนพิการได้แสดงความ สามารถจึงแคบลง สิ่งที่ เราต้องการมากที่สุด คือ โอกาสให้เราแสดง ความสามารถมากกว่า 54

“จริงๆ ผมเป็นนักกีฬามาก่อนตอนที่บ้านเราเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ แล้วก็จะมีกีฬาคนพิการด้วย ที่ธรรมศาสตร์รังสิต ผมเป็นนักกีฬาว่ายนํ้า แต่ก็ ไม่ประสบความสำ�เร็จ ตอนนั้นยังเรียนอยู่ด้วย หลังจากเลิกว่ายนํ้า ผมก็กลับ ไปเรียนต่อ แล้วก็เลิกไปจากวงการกีฬาเลยครับ จนมาถึงปี 2000 เพื่อนเค้าไป โอลิมปิกที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย เค้ากลับมา โอโห้ ยิ่งใหญ่มากมีการต้อนรับ เรา ก็คิดว่า เอ๊ะ เราก็น่าจะทำ�ได้อย่างนั้นเหมือนกัน ก็เลยเริ่มฝึกซ้อมกีฬาทางด้าน วีลแชร์ ขอใช้รถเก่าๆ ที่เค้าไม่ได้ใช้แล้ว ไปซ้อมร่วมกับเค้า” พิเชษฐ์ต้องเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อไปซ้อมกีฬาที่ ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตจนถึง 9 โมง และขับรถกลับมาที่บ้านเพื่อเตรียมตัวไป ทำ�งานที่ตึกทรู รัชดา ชีวิตเป็นแบบนี้มาตลอด 2 ปี จน ณ ตอนนี้ เขาได้กลาย เป็นเจ้าของเหรียญทอง ทำ�ลายสถิติโลก 4x400 และ 4x100 วีลแชร์ประเภททีม และ 1 เหรียญทองแดง ประเภทเดี่ยว พาราลิมปิก 2004 กรุงเอเธนส์ ประเทศ กรีซ “ผมมองว่าทุกครัง้ ทีผ่ มทำ�อะไรผมมีเป้าหมายเสมอ แต่วา่ มันมีหลายครัง้ ที่เราวางเป้าหมายแต่เรายังไปไม่ถึง แต่ถามว่าล้มเหลวไหม ผมว่าไม่นะครับ อย่างน้อยๆ สิ่งที่เราได้ทำ� มันเป็นประสบการณ์ให้เราหลายๆ อย่าง อะไรที่เรา วางเป้าหมายแล้วเราไม่ประสบความสำ�เร็จ ทุกคนมองว่ามันเป็นความล้มเหลว มันอยู่ที่มุมมองมากกว่า ผมว่ามันไม่มีอะไรล้มเหลวหรอกครับ อยู่ที่เราจะมอง ว่าสิ่งที่เราทำ�มันเป็นประสบการณ์ชีวิตของเรารึเปล่า เราเลือกเกิดไมได้ แต่เรา เลือกที่จะเป็นได้ เราเลือกได้ว่าเราอยากจะเป็นอะไร เรารักอะไร เราชอบอะไร แล้วเราก็ทำ�ให้มันเต็มที่ ผมว่าทุกคนประสบความสำ�เร็จแน่นอน”

ข้อมูลจาก http://thaigcd.ddc.moph.go.th/vac_p_Polio.html 55


คุณครูพี่แนน เรื่อง

There is Nothing so Sweet as Love’s Young Dreams! - Anonymous

ไม่มีสิ่งใดจะหอมหวานเท่ากับความฝันในวัยเยาว์

“You get the best out of others when you give the best of yourself.”

-W.Shakespeare

คุณจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดของคนอื่น เมื่อคุณได้ ให้สิ่งที่ดีที่สุดของคุณไป

“Freedom is nothing else but a chance to do better.” - Albert Camus

อิสรภาพ ไม่ ใช่อะไรอย่างอื่นเลย หากแต่คือโอกาสที่จะทำ�สิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น

e“ T h e f u t u r e obs e l o n g s t o t h the who believe in e i r beauty of th dreams.” or Roosevelt - Elean

งตัวเองเท่านั้น

ามฝันขอ อนาคตเป็นของคนที่เชื่อในคว

56

“There is nothing either good or bad but thinking makes it so.” - W.Shakespeare ไม่มีสิ่งใดๆ ในโลกที่ดีหรือเลว มีแต่ความคิดของ เราเท่านั้นที่ทำ�ให้เกิดความดีและความเลว

กล ับ มาเจอกันอีกครั้งกับ พี่แนนในนิตยสาร Miracle of

Life กันอีกแล้วนะคะ เมื่อช่วงเดือนที่ผ่าน มาพแี่ นนไดม้ โี อกาสออกหนงั สือใหม่ และได้ไปพบปะกับน้องๆ จำ�นวนมาก ในง านสั ป ดาห์ ห นั ง สื อ แห่ ง ชาติ ก็พลอยดี ใจแทนประเทศชาติ ที่คน ไทยให้ความสำ�คัญกับการอ่านกัน มากขึ้น ซึ่งน้องๆ แต่ละคนหอบหิ้ว หนังสือกันพะรุงพะรัง ก็คิดได้ว่า เราอ่านหนังสือกันเยอะแยะ แต่ถ้าเรา อยา กจะ บอก ฝรั่ ง ว่ า เราช อบอ่ า น หนังสือประเภทไหนจะพูดกับฝรั่งว่า อย่างไร น้องๆ เคยคิดกันบ้างหรือ เปล่าคะ

แต่ก่อนที่เราจะไปทำ�ความรู้จักกับหนังสือประเภทต่างๆ น้องๆ ที่รักการอ่าน น่าจะเคยได้ยินคำ�ว่า “หนอนหนังสือ” ซึ่งแปลกแต่จริง ภาษาอังกฤษก็เรียกนักอ่านว่า bookworm เหมือนกันเป๊ะเลย แต่น่าแปลกที่คำ�นี้หลายๆ คนยังสับสนอยู่เลยว่าอ่านว่า บุค’เวิร์ม หรือ บุค’วอร์ม พี่แนนเฉลยให้ค่ะ คำ�ว่า หนอน อ่านว่า เวิร์ม นะคะ แล้วหนอนหนังสือเค้าน่าจะชอบอ่านหนังสือประเภทไหนกันบ้างเอ่ย ถ้าเราจะ แบ่งประเภทตามวาระการเผยแพร่เราก็จะแบ่งหนังสือเป็นวารสาร (periodical หรือ journal), นิตยสาร (magazine), หรือหนังสือพิมพ์ (newspaper) ซึ่งหนังสือเหล่านี้ มีลักษณะการออกตามรอบที่กำ�หนด เช่น ออกแบบรายปี (yearly หรือ annual), ราย เดือน (monthly) รายสัปดาห์ (weekly), รายวัน (daily) แต่ศัพท์หรูหราไฮโซในวงการ หนังสือค่ะ รายปักษ์ น้องๆ รู้หรือไม่คะว่าในภาษาไทยหนังสือเล่มนี้จะออกทุกๆ กี่ วัน เฉลยเลยดีกว่าออกทุก 14 วัน หรือราย 2 สัปดาห์ ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกได้หลาก หลายมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น biweekly เดาศัพท์ได้ใช่ไหมคะ bi แปลว่า 2 ที่เราได้ ยินบ่อยๆ อย่าง bilingual แปลว่า 2 ภาษา biweekly ก็เป็น 2 สัปดาห์ต่อครั้ง อีกคำ� ก็คือ fortnightly แต่มีอีกคำ�นึงที่ง่ายกว่านี้อีกนะคะ ถ้าเวลานึกศัพท์ไม่ออกลองนึกคำ� ง่ายๆ อย่าง half-monthly ก็ 2 สัปดาห์มันครึ่งเดือนพอดีใช่ไหมล่ะคะ แต่ก็มีอีกคำ�หนึ่ง ที่อาจทำ�ให้เราสับสนได้อย่างคำ�ว่า semiweekly ซึ่ง semi- จะมีความหมายไปคล้ายๆ กับ bi- แต่ว่าจริงๆ แล้วแปลว่าครึ่งหนึ่ง หรือ half ซึ่ง semiweekly จึงมีความหมายว่า ออกทุกครึ่งอาทิตย์ หรืออาทิตย์ละ 2 ครั้งนั่นเอง ดั ง นั้ นถ้ า บอกว่ า I love reading Miracle of Life magazine because it is thought-provoking and resourceful. ก็ แ ปลว่ า ฉั น รั ก การ อ่ า นนิ ต ยสาร Miracle of Life เพราะมั นกระตุ้ นต่ อ มความคิ ด และเต็ ม ไปด้ ว ย ทรัพยากรข้อมูล นี่แค่หนังสือที่ออกเป็นรายคาบหรือที่เราเรียกรวมๆ กันว่าวารสาร นะคะ ยั ง ไม่ ไ ด้ เจาะลึ ก ประเภทหนั ง สื อ ตามเนื้ อ หาเลย เราก็ ไ ด้ ศั พ ท์ ม ากมาย แล้ว ติดตามต่อไปเรื่อยๆ นะคะ ความรู้จากการอ่านหนังสือมีเอนกอนันต์จริงๆ ขอให้น้องๆ มีหนังสือเป็นเพื่อนเหมือนดังคำ�กล่าวของ Charles W. Eliot ที่ว่า “Books are the quietest and most constant of friends; they are the most accessible and wisest of counselors, and the most patient of teachers.” หนังสือเป็นเพื่อน ที่เงียบและสมํ่าเสมอที่สุด เป็นที่ปรึกษาเข้าถึงได้ง่ายและฉลาดที่สุด และยังเป็นคุณครูที่ อดทนกับเราที่สุดในโลกอีกด้วย ดังนั้นพกหนังสือสักเล่มไว้เป็นเพื่อน อย่างไรก็ตามตรงนีย้ งั มีเพือ่ นและครูทอี่ ดทนสมํา่ เสมอรอพูดคุยแลกเปลีย่ นความ คิดเห็นกับน้องๆ ไม่แพ้หนังสือแน่นอน เข้ามาคุยกันได้ที่ www.enconcept.com หรือ pnan_miracleoflife@enconcept.com และติดตามความรู้ภาษาอังกฤษสดใหม่ทุกวัน ได้ที่ www.twitter.com/krupnan, www.facebook.com/krupnan ค่ะ 57


ภัทรา เชาวน์เกื้อกูล เรื่องและภาพ ขั้นตอนเตรียมอุปกรณ์ ง่ายนิดเดียว มีกรรไกร เศษผ้า ทราย เชือกผูกรองเท้า เทปกาว เข็ม ด้าย

เปิดมาเล่มนี้ดูจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬานะจ๊ะ อ่านแล้วก็คิดอยากจะหาเวลาออกกำ�ลังกายกับเค้าบ้าง

แต่อากาศก็ร้อนสุดๆ ไปเลย ว่าไปแล้วมาออกกำ�ลังกายในร่มกันก่อนดีกว่า แต่ก่อนจะออกกำ�ลังเพื่อสุขภาพกันน้องๆ ลองมาทำ�อุปกรณ์ง่ายๆ อย่างที่ถ่วงน้ำ�หนักข้อมือและข้อเท้ากันหน่อยมั๊ย เผื่อจะได้ใช้ขยับแขนขาเอ็กเซอร์ไซส์เวลาอยู่บ้านกันแบบชิล ชิล

เสื้อเก่าลายสวยที่ไม่ใส่แล้วอย่าทิ้งนะจ๊ะ

ตวงทรายให้ได้ถุงละ 0.5 กก. (หรือจะมากกว่านั้นก็ได้นะ) แล้วใส่ถุงพลาสติก ปิดให้แน่นด้วยเทปกาว เอาผ้าที่เตรียมไว้ มาเย็บจากด้านใน

เย็บแล้วกลับด้วนในออกมา

เย็บเป็นถุงให้เหมือนกันทั้ง 2 ชิ้น จะได้แบบในรูป หลังจากนั้น เอาถุงทรายใส่ลงไปในถุงผ้าดิบก่อน แล้วตามด้วยชั้นที่ 2 ถุงลายทหาร (สองชั้นเผื่อความแน่นหนา)

นำ�เชือกผูกรองเท้า มาตัดแบ่งเป็น 5 เส้น ตามรูป แล้วเย็บปลาย กันรุ่ยด้วยนะ แบ่งถุงทรายเป็น 4 ส่วน แล้วเย็บเชือกผูกรองเท้าตามเส้น

เย็บหูสำ�หรับร้อยเชือก

58

ขั้นตอนสุดท้าย เย็บเชือกที่ใช้มัด

59


เพลงดาบแม่นํ้าร้อยสาย เรื่องและภาพ

ทิวทัศน์บนเนินเขาท้า

ยหมู่บ้าน

เมื่อ 120 ปีก่อน หมู่บ้าน Auvers-sur-Oise (อู แวร์ ซูร์

วาซ) คงไม่ได้เป็นที่รู้จักของชาวโลกเท่านี้แน่นอน จนกระทั่ง มีศิลปินอาภัพโชค แต่ไม่อับจนความมุ่งมั่นในแนวทางศิลปะ ของตนเลือก Auvers เป็นที่พำ�นัก สร้างผลงาน และจบชีวิต ตัวเอง

โรงเตี๊ยม Auberge Ravoux ที่แวน โก๊ะห์เคยมาพักอาศัยช่วงสุดท้ายของชีวิต 60

บรรยากาศตลาดนัดวันเสาร์ริมถนนสายหลักในเมือง ดูระยะห่างแค่ 30 กม.จากปารีสในแผนทีแ่ ล้ว ฉัน กับสหายคอเดียวกันอีก 4 ชีวิตลงมติว่าสามารถไปเที่ยว ‘บ้านแวนโกะห์’ แบบ day trip ได้สบายๆ แน่นอน... ฉัน...ผูม้ คี วามอยากรูอ้ ยากเห็นเป็นทีต่ งั้ ว่าหมูบ่ า้ น Auvers-sur Oise นี้มีดีอย่างไร ท่านพี่วินเซนต์ แวน โก๊ะห์ ของฉันจึงได้มาฝังตัวเขียนรูปอย่างเป็นลํา่ เป็นสันเพียงนัน้ ชัว่ ระยะแค่ 2 เดือน กว่าๆ ที่เขามาพำ�นักอาศัยในโรงเตี๊ยม Auberge Ravoux พี่ท่านก็ซัดไปซะ 70 กว่าภาพ (เฉลี่ยแล้วแกเขียนรูปตกวันละรูปเชียวนะนั่น) จนห้องพักเล็กๆ เนื้อที่เพียง 7 ตารางเมตรของแกแทบไม่มีที่เก็บ เราลงรถไฟที่สถานี Auvers-sur-Oise ตอนสายๆ ของวันเสาร์ แค่เดิน เข้ามาในตัวอาคารขนาดเล็กเท่าสถานีรถไฟบางเขนก็พบกับบรรยากาศแบบ ติส...ติส...สมกับเป็นถิน่ แวน โก๊ะห์ เพราะมีคณ ุ ลุงคุณป้าบรรดาจิตรกรท้องถิน่ รวมตัวกันมาจัดกิจกรรมนัง่ วาดรูป แขวนรูปขายตามมุมต่างๆ ในสถานีสร้าง สีสันของการพบปะ แลกเปลี่ยนและปล่อยของ จากสถานีรถไฟเดินผ่านตลาดนัดวันเสาร์ ฉันโฉบเข้าไปคลุกวงใน ประสานักสำ�รวจตลาดสด ชาวเมืองออกมาจับจ่ายกันคึกคัก ทั้งผักสด ผลไม้ ร้านขายเสือ้ ผ้าสินค้าเบ็ดเตล็ดมือสอง แค่ดเู ฉยๆ ไม่ตอ้ งซือ้ อะไรก็สนุกแล้ว เพือ่ นๆ แยกย้ายกันเดินไปทางไหนไม่ทนั สังเกต แต่ฉนั พอจะรูว้ า่ จะไปเจอพวกเขาได้ทไี่ หน... นัน่ ปะไร...มันยืนฉีกไก่ยา่ งเป็นตัวๆ แบ่งกันแทะปากมันเยิม้ อยูข่ า้ งเตาย่างไก่ ราวกับเป็นพรีเซ็นเตอร์ประจำ�ร้าน เดินตามถนนสายหน้าตลาดนี้ไปอีกแค่ 100 เมตรก็มาถึงโรงแรม Auberge Ravoux อย่างไม่ทันตั้งตัว เห็นขนาดเล็กกระทัดรัดของมันแล้วฉันอยากเรียกว่า โรงเตี๊ยมมากกว่า แม้ไม่ใช่บ้าน แต่ที่นี่ก็ถูกเรียกว่า ‘บ้านแวน โก๊ะห์’ (House of Van Gogh) ไปโดยปริยายเสียแล้ว เพราะศิลปินหนุ่มผู้อับโชคตัดสินใจยึดที่นี่เป็น เรือนตายด้วยวัยเพียง 37 ปีเท่านั้น 61


ชั้นล่างของโรงเตี๊ยมเป็นร้านอาหาร ซึ่งปัจจุบันก็ยังเปิด เป็นร้านอาหารให้บริการอยู่ ก่อนเดินขึ้นบันไดไปดูห้องนอนของ แวน โก๊ะห์ที่อยู่ชั้นสอง ฉันแอบมองลอดกระจกหน้าต่างบานใส สอดส่ายสายตาดู เห็นว่าหรูเอาเรื่อง โต๊ะมุมด้านหน้าเป็นทำ�เลที่ แวน โก๊ะห์นั่งกินอาหารเป็นประจำ�ตลอดระยะเวลา 9 สัปดาห์ที่ อยู่ที่นี่ แม้ แต่ ค นที่ ไม่ ได้ ส นใจเรื่ อ งศิ ล ปิ น ศิ ล ปะมากนั ก ยั ง รู้ ว่ า วินเซนต์ แวน โก๊ะห์...ขายรูปได้นอ้ ยกว่าน้อยตอนยังมีชวี ติ อยู่ และ มีชีวิตอย่างขัดสนข้นแค้น ผู้อุปถัมภ์คํ้าชูเขามาโดยตลอดจนถึง วันตายคือ ธีโอ หรือ Theodor Van Gogh...น้องชายร่วมสายเลือด บุคคลสำ�คัญที่สุดในชีวิตอันโดดเดี่ยวของศิลปินผู้เกิดก่อนกาล อีกวีรกรรมที่ลํ่าลือก็คือ การปะทุอารมณ์จนถึงกับตัดหู ข้างซ้ายของตัวเองเมื่อทะเลาะกับเพื่อนศิลปินจนวงแตกตอนไป ปักหลักเขียนรูปอยู่ที่เมืองอาลส์ (Arles) ก่อนหน้านีฉ้ นั ไม่ได้สนใจเรือ่ งราวของแวนโก๊ะห์มากสักเท่า ไหร่เพราะไม่ใช่ศลิ ปินเบอร์หนึง่ ในดวงใจ แต่เมือ่ ได้มาเดินแกะรอย แวน โก๊ะห์ต้อยๆ ใน Auvers จึงทำ�ให้ได้ซึมซับรับรู้เกร็ดเล็กเกร็ด น้อยของชีวติ เขาไปโดยไม่ตงั้ ใจ สิง่ หนึง่ ทีท่ �ำ ให้ฉนั สนใจแวน โก๊ะห์ มากขึน้ ก็คอื เมือ่ ได้รวู้ า่ เขาเป็นนักเขียนจดหมายตัวกลัน่ ทุกย่างก้าว ของชีวิต เขาเขียนเป็นจดหมายเล่าให้น้องชายและเพื่อนศิลปินที่ สนิทชิดเชื้อกันนับเป็นจำ�นวนมากกว่า 800 ฉบับ ในจดหมายมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเบื้องหลังภาพเขียนหลาย ต่อหลายภาพ บางภาพเขาวาดลายเส้นสเก็ตช์เหมือนเป็นภาพ

ประกอบในจดหมายด้วย สำ�หรับฉันผูอ้ า่ นภาษาดัชท์และฝรัง่ เศส ไม่ออก มันดูคลาสสิกสวยงามหาใดเทียบ แต่ส�ำ หรับคนทีอ่ า่ นออก บันทึกในจดหมายหลายร้อยฉบับนีแ้ หละทีเ่ ป็นแหล่งข้อมูลชัน้ ยอด เกี่ยวกับเบื้องหลังชีวิตและผลงานของวินเซนต์ แวน โก๊ะห์ ที่นำ�มา ถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ ห้องหมายเลข 5 บนชั้นสองของโรงเตี๊ยมนั้น ฉันวัดขนาด ด้วยสายตาแล้วกว้างยาวราวๆ 2.20 x 3.20 เมตร นักท่องเที่ยว เข้าไปได้ทีละ 3-4 คนก็เต็มห้องแล้ว ซํ้าเป็นห้องที่ไม่มีหน้าต่าง มีเพียงบานกระจกเล็กๆ บนเพดานให้แสงลอดลงมาได้ เฟอร์นเิ จอร์ ที่สะดุดตาคือเก้าอี้ไม้เบาะนั่งทำ�ด้วยฟางถักแบบที่เคยเห็นในภาพ เขียนดูเป็นเอกลักษณ์ของเก้าอีส้ ามัญในยุคนัน้ ตัง้ อยูเ่ คียงข้างเตียง เดี่ยวชิดฝาผนังด้านหนึ่ง

ภาพเปรียบเทียบโบส ถ์เก่าประจำ�เมืองที่เค ของแวน โก๊ะห์ ยเป็นโลเกชั่นวาดภ

าพ

สถานีรถไฟเมือง Auvers-sur-Oise

62

63


หามิได้...แวน โก๊ะห์ไม่ได้ลั่นกระสุนใส่ตวั เองจนเลือดสาด ตายคาที่ในห้องนอนนี้ดอก(ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น อาจทุกข์รันทด น้อยกว่าเยอะ) แต่เขายิงตัวเองเข้าที่หน้าอกกลางทุ่งนาตรงไหน สักแห่ง แล้วโซซัดโซเซกลับมานอนรอความตายด้วยพิษบาดแผล อยู่บนเตียงนี้ถึง 2 วันต่างหาก (ต้องปีนบันไดขึ้นมาชั้นสองด้วย นะ...คิดดู) ความเพลิดเพลินของการเดินเทีย่ วในหมูบ่ า้ นอยูท่ ตี่ ามถนน หนทางนั้นจะผ่านโลเกชั่นต่างๆ ที่ศิลปินหนุ่มเคยถ่ายทอดไว้บน ผืนผ้าใบ หลายๆ มุมเมื่อเทียบกับภาพที่แวน โก๊ะห์เขียนไว้ แทบ จะไม่เปลี่ยนไปเลย บันได...โบสถ์...อาคารสถานที่ที่มีอยู่ในภาพ เขียนได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างน่าชื่นชมและน่าอิจฉา ราวกับว่า ถ้ามีใครทะลึ่งคิดทุบทิ้ง อาจถูกมวลประชานำ�ไปตัดหัวเสียบ ประจานได้ เราต่างเดินเคล้าไอหนาวในอากาศกันอย่างไม่ย่นย่อไป ตามเส้นทางที่มีป้ายชี้บอกเป็นระยะ ไปจนถึงเนินเขานอกเขต ชุมชน ซึ่งเป็นบริเวณที่คุณพี่แวน โก๊ะห์เคยมานั่ง(หรืออาจจะยืน ก็ได้)เขียนรูปทิวทัศน์ทอ้ งทุง่ นา ฟ้าครามไว้หลายภาพ ละแวกนี้ ยังเป็นทีต่ งั้ สุสานประจำ�หมูบ่ า้ นอันมีหลุมฝังศพของวินเซนต์และ ธีโอ...สองพีน่ อ้ งตระกูลแวน โก๊ะห์ฝงั อยูเ่ คียงข้างกัน เป็นหลุมศพ ทีด่ เู รียบง่าย สามัญอย่างยิง่ มีเพียงเถาไอวีสเี ขียวเข้มปกคลุมต่าง จากหลุมอืน่ ทีม่ กั เป็นแผ่นหินอ่อนสีเทาและประดับประดาไปตาม ความเห็นชอบของญาติที่ยังอยู่ข้างหลัง

แต่ละวันใน Auvers ของเขาคงผ่านไปได้อย่างยากลำ�บากยิ่งกว่า ถ้าไม่ได้เขียนรูป เพราะลำ�พังค่าเช่าห้องวันละ 3.5 ฟรังก์ (ประมาณ25 บาทเมื่อเทียบอัตราแลกเปลี่ยนสมัย นี)้ ยังไม่คอ่ ยจะมีจา่ ย สภาพจิตใจของศิลปินผูไ้ ม่เคยได้รบั การยอมรับในแนวทางทีต่ นเอง มุ่งมั่นนั้นเข้าข่ายซึมเศร้าเลยทีเดียว หลังจากแวน โก๊ะห์เช็คอินเข้ามาอยู่ที่ห้องนี้เมื่อ 20 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1890 และ เช็คเอาท์โดยไม่ได้ยา้ ยแม้แต่ร่างของตนเองออกไปจากห้องนีเ้ มือ่ 29 กรกฎาคมปีเดียวกัน ก็ไม่ได้เปิดให้ใครมาเช่าพักอีกเลย แต่ห้องอื่นๆ ในโรงแรมก็ยังเปิดให้คนไม่กลัวผีมา นอนค้างอ้างแรมตามปกติ หรือบางที...แขกบางคนนอกจากไม่กลัวผีแล้ว อาจอยากให้ แวน โก๊ะห์เข้าสิง (เหมือนฉันบ้าง) ก็เป็นได้

64

คนที่ โ ศกเศร้ า ที่ สุ ด กั บ การจากไปของวิ น เซนต์ แวน โก๊ะห์ เห็นจะเป็นน้องชายผู้ไม่เคยทอดทิ้งกันที่อายุห่าง กันเพียง 3 ปีคนนี้ และคงจะไม่ห่างไกลความจริงนักถ้าจะ พูดว่าธีโอ ‘ตายตาม’ พี่ชายของเขาไป เพราะเพียง 6 เดือน หลังพี่ชายเสียชีวิต ธีโอก็ลาจากโลกนี้ไปเช่นกัน ฉันเดินลุยไปตามคันนาทีค่ อ่ นข้างเฉอะแฉะ แต่ปฏิเสธ ไม่ได้ว่าสมแล้วที่ Auvers เป็นที่สร้างแรงบันดาลใจให้ศิลปิน หนุ่มออกมาเขียนรูปแทบทุกวัน สไตล์การเขียนรูป (แบบ ที่มีชื่อเรียกตามหลังว่าโพสอิมเพรสชั่นนิสม์) อันแหวกแนว จากแบบแผนการเขียนรูปในยุคก่อนหน้าทั้งการใช้สี ฝีแปรง ที่แสดงความเป็นตัวเองอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม เช่นนี้ คงช็อกผู้คนเมื่อ 120 ปีก่อนเอาเรื่อง สายจรดเย็นทีเ่ ดินเล่นในหมูบ่ า้ น ฉันซึมซับแต่เรือ่ งราว ความยากลำ � บากตรอมตรมขมคอบนเส้ นทางศิ ล ปะของ วินเซนต์ แวน โก๊ะห์ ช่างขัดแย้งกับความยิ่งใหญ่ที่ปรากฏอยู่ ในผลงานทั้งชีวิตของเขา ต้องใช้เวลาถึง 100 ปีต่อมา วินเซนต์ แวน โก๊ะห์ จึง ได้รับการจารึกว่า...เป็นนักบุกเบิกผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งวงการ ศิลปะสมัยใหม่

65


RealPetal เรื่อง

ถึ ง แม้ ค นส่ ว นใหญ่ มั ก จะคิ ด ว่ า การใช้ อิ น เตอร์ เน็ ต

อาหารเช้ า นั้นถือเป็นอาหารมื้อสำ�คัญที่สุด

เพราะช่วยให้เราจะสามารถเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่าง สดใสเปี่ยมไปด้วยพลังกายและพลังใจ แต่หากรับ ประทานอาหารเช้าทีไ่ ม่มคี ณ ุ ภาพก็อาจส่งผลร้ายกลายเป็นโทษ แก่ร่างกาย อย่างที่แพทย์ของประเทศอังกฤษพบว่า จำ�นวน เด็กทีร่ บั ประทานอาหารทีม่ ไี ขมันอิม่ ตัวมากเกินไปมีเพิม่ มาก ขึน้ เรือ่ ยๆ เนือ่ งจากเด็กส่วนใหญ่มกั รับประทานอาหารเช้า ทีม่ สี ว่ นประกอบของ “เนย” ซึง่ ไม่ดตี อ่ สุขภาพ เพราะ ไขมันอิ่มตัวจากเนยเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะไขมันใน เส้นเลือดสูง โรคหลอดเลือดอุดตัน และโรคหัวใจ ซึง่ ในแต่ละปีมผี เู้ สียชีวติ จากโรคเหล่านีม้ ากมาย โดย ทางแก้ไขง่ายๆ ก็คอื ควรเปลีย่ นมารับประทาน อาหารเช้าที่ทำ�มาจากธัญพืชหรือนมจะดีกว่า

เหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายอาจยังไม่รู้ตัวว่ากำ�ลังเสี่ยง

เป็นโรคในช่องปาก เพราะจากการศึกษาของมหาวิทยาลัย ไอโอวา สหรัฐอเมริกา พบว่า วัยรุ่นที่ติดเกมจะมีปัญหาสุขภาพ ในช่องปาก โดยเฉพาะฟันผุ เนื่องจากเหล่าเกมเมอร์มักจะรับประทาน ของหวานทีม่ นี าํ้ ตาลสูง อาทิ นํา้ อัดลม ลูกอม ขนม ของขบเคีย้ ว ฯลฯ ขณะใช้ เวลาหลายชั่ ว โมงอยู่ ห น้ า จอ โดยไม่ ได้ มี ก ารบ้ ว นปาก หรื อ แปรงฟั น ซึ่ ง พฤติ ก รรมนี้ เป็ น สาเหตุ สำ � คั ญ ที่ ทำ � ให้ เ กิ ด ฟั น ผุ อย่ า งไรก็ ต าม ถึ ง แม้ ว่ า การสำ � รวจในกลุ่ ม วั ย รุ่ น อายุ ร ะหว่ า ง 12-16 ปี ที่ ใช้ เวลาส่ ว นใหญ่ อ ยู่ ห น้ า จอทั้ ง ดู โ ทรทั ศ น์ แ ละเล่ น เกม จะพบว่ า มี แ นวโน้ ม การกิ น ดื่ ม น้อยลงกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่หน้าจอก็ตาม แต่ การรั บ ประทานของหวานโดยละเลยการดู แ ลความ สะอาดในช่องปากก็ยังส่งผลให้เราเป็นโรคฟันผุแทน โรคอ้วนอยู่ดี

66

นอนไม่หลับ...อาการยอดฮิตของคนในยุคนี้ท่ีเร่งรีบใช้ชีวิตซะ เหลือเกินกำ�ลังจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาสังคม เพราะมี การศึกษาวิจยั ออกมาแล้วว่า ปัญหาสำ�คัญของวัยรุน่ อย่างการ “สูบ ดื่ม เสพ” นั้นแท้จริงแล้วอาจมีสาเหตุมาจากการนอนไม่หลับในวัย เด็ก! โดยจากการศึกษาในเด็กวัยรุน่ จำ�นวน 368 คน พบว่า เด็ก ที่มีปัญหาในการนอนหลับมีแนวโน้มที่จะติดยาเสพติด หรือดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักเมื่อโตขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ มาเรีย วอง นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยไอดาโฮ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ปัญหาการนอนไม่หลับเป็นปัจจัยเริ่มแรกที่ส่งผลให้เกิดการดื่ม เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และการใช้ยาเสพติดตามมา

คือกิจกรรมเพื่อความบันเทิงหรือช่วยคลายเครียด แต่รู้หรือไม่ ว่ า การท่ อ งโลกไซเบอร์ แ บบติ ด หนึ บ เป็ น ระยะเวลานานจะส่ ง ผล ให้ เ รากลายเป็ น โรคซึ ม เศร้ า โดยยิ่ ง ใช้ เ วลาเล่ น นานเท่ า ไหร่ ก็ จ ะยิ่ ง ซึมเศร้ามากเท่านั้น และยิ่งใช้ก็จะยิ่งเสพติดมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ จากผลงาน วิ จัย ในวารสารไซโคพาโธโลจี้ท่ีอ้า งอิ ง จาก แบบสอบถามออนไลน์ ร ะบุ ว่า กลุ่มคนที่เสพติดอินเตอร์เน็ตซึ่งส่วนมากเป็นวัยรุ่นอายุเฉลี่ย 21 ปี จะมี คะแนนซึมเศร้ามากกว่ากลุ่มที่ไม่เสพติดถึง 5 เท่า โดยคนเหล่านี้มักจะ ใช้เวลาส่วนใหญ่เปิดเว็บโป๊ เล่นเกม และสิงอยู่ตามชุมชนออนไลน์ จน เบียดบังเวลากิจวัตรประจำ�วันและเบียดบังการเข้าสังคม ซึ่งส่งผลให้เกิด อาการผิดปกติทางจิต ซึมเศร้าและเสพติดในที่สุด รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืม แบ่งเวลาในโลกออนไลน์และโลกแห่งความจริงอย่างเหมาะสม ด้วยล่ะ

นอกจากจะทำ�ให้เรานํา้ หนักขึน้ และเป็นบ่อเกิดของ โรคมากมายแล้ว อาหารขยะหรืออาหารฟาสต์ฟดู้ ยังกลาย เป็นสารเสพติดชนิดใหม่ ถ้ารับประทานเป็นประจำ� เทียบเท่ากับ การเสพสิ่งเสพติดหรือการสูบบุหรี่เลยทีเดียว โดยงานนี้ทีมวิจัยจาก อังกฤษได้ท�ำ การศึกษาโดยให้หนูทดลองกินชีสเค้ก เบคอน และไส้กรอก หลังจาก นัน้ ก็สงั เกตพฤติกรรมและนํา้ หนักทีเ่ พิม่ ขึน้ ของพวกมัน และค้นพบว่าหนูเหล่านีไ้ ม่ สามารถควบคุมพฤติกรรมการกินอาหารได้และกินอาหารขยะแบบนีเ้ พิม่ ขึน้ เรือ่ ยๆ ทีส่ �ำ คัญโทษของอาหารขยะยังไม่หมดเพียงแค่น้ี เพราะยังมีการวิจยั จากแคนาดา ทีร่ ะบุวา่ การรับประทานอาหารจานด่วนบ่อยๆ จะส่งผลให้เราขาดความอดทนอีก ด้วย เนือ่ งจากการใช้ชวี ติ อย่างเร่งรีบจนเคยชิน ดังนัน้ ทีเ่ ราๆ เรียนกันมาตัง้ แต่เด็ก ว่า ควรกินอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ครบทัง้ 5 หมู่ ก็ยงั คงเป็นเรือ่ งจริงทีไ่ ม่เคยตกยุคนะจ๊ะ

“บุหรี่” สารเสพติดทีเ่ ราๆ ก็รกู้ นั ดีว่ามีโทษต่อร่างกายและทำ�ให้เกิดโรคมากมาย แต่ร้หู รือ ไม่ว่า บุหรี่ยังทำ�ให้คนสูบมีสติปัญญาถดถอย หรือพูดง่ายๆ ก็ คือ ทำ�ให้เราฉลาดน้อยลง!! เพราะประเทศอิสราเอลได้ท�ำ การศึกษาจาก วัยรุน่ จำ�นวน 20,000 คน ทีอ่ ยูใ่ นสภาพแวดล้อมแบบเดียวกัน พบว่า หนุม่ สาว ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ�มีแนวโน้มที่จะฉลาดน้อยลง เมื่อเทียบกับผู้ท่ไี ม่สูบบุหรี่ โดยเมื่อ ทำ�การวัดระดับสติปัญญาในกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุ 18-20 ปี กลุ่มที่สูบบุหรี่ระดับสติปัญญาอยู่ ที่ 94 คะแนน แต่กลุม่ ทีไ่ ม่สบู บุหรีไ่ ด้คะแนนสูงกว่าคือ 101 คะแนน และถึงแม้จะยังไม่มหี ลักฐาน ยืนยันแน่ชดั แต่ผลวิจยั ในครัง้ นีก้ ถ็ อื ว่าสมเหตุสมผล ทัง้ นี้ ยังเคยมีการวิจยั ทีส่ รุปได้วา่ การ สูบบุหรีท่ �ำ ให้ความสามารถในการตัดสินใจลดน้อยลงด้วย ดังนัน้ ใครทีย่ งั ทำ�ตัว เป็นสิงห์อมควัน ถ้าไม่อยากกลายเป็นคนฉลาดน้อยก็เลิกสูบบุหรีไ่ ด้แล้ว

67


นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล เรื่อง

ทุกวันนี้พวกเรา “รักตัวเอง” กัน

เป็นหรือเปล่า...คนทีร่ กั ตัวเองเป็นจะ... มีความหวังดีต่อตนเอง พยายามพัฒนาตนเองให้เก่ง ขึ้นดีขึ้น ไม่ทำ�ตัวในทางเสื่อมเสีย มีความยับยัง้ ชัง่ ใจ ไม่ประพฤติ ในสิง่ ผิด ไม่ทำ�ให้ตวั เองและผูอ้ นื่ เดือด ร้อน รูจ้ กั การปล่อยวาง คือยอมรับ ผลทีเ่ กิดขึน้ หลังจากทีเ่ ราทำ�ดีสดุ ความ สามารถแล้ว ให้อภัยตนเองได้ เมื่อดำ�เนิน ชีวิตผิดพลาดและเรียนรู้ที่จะไม่ทำ�ผิด ในครั้งต่อไป

เพราะฉะนั้ น การแสดงความรั ก ต่ อ ตั ว เองไม่ ใ ช่ ก ารปรนเปรอตนเองด้ ว ยการ เสพหรือวัตถุ ไม่ใช่การช่วงชิงทรัพยากรจาก คนอื่นมาเพื่อประโยชน์ของตน...แต่เป็นการ พัฒนาคุณค่าจากภายใน มองดูตัวเองแล้ว มันชื่นใจ พูดจายกย่องตนเองได้ เพราะเห็น ว่าตัวเรามี “ดีและเก่ง” อะไรบ้าง ที่สำ�คัญคือความดีและความเก่งของ เรานั้ นต้ อ งก่ อ ให้ เ กิ ด ประโยชน์ แ ก่ ผู้ อื่ นด้ ว ย ความนั บ ถื อ และศรั ท ธาจึ ง ตามมา...ท่ า น อาจารย์พุทธทาสใช้คำ�ว่า “ยกมือไหว้ตัวเอง ได้”

68

คำ�ว่า “รักตัวเอง” กับ “หลงตัวเอง” แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จะเรียก การหลงตัวเองว่าเป็นความรักอย่างปลอมๆ ก็ได้ เพราะลึกๆ แล้ว ตัวเองก็เห็นว่า ยั ง ด้ อ ย แต่ ก ลั ว ความด้ อ ยถู ก เปิ ด เผยให้ อั บ อาย เลยต้ อ งปิ ด บั ง ซ่ อ นเร้ นด้ ว ย ภาพลักษณ์และถ้อยคำ�ที่เสกสรรปั้นแต่งให้ตัวเองดูดี ผมขอแยกแยะให้เห็นชัดเจนระหว่างคนสองกลุ่ม เป็นข้อๆ ดังนี้ คนรักตัวเองรู้มาก แต่พูดน้อยเท่าที่จำ�เป็น คนหลงตัวเองรู้น้อย แต่ชอบ คุยโม้โอ้อวดเพื่อกลบเกลื่อนความไร้สามารถในเรื่องอื่นๆ / คนรักตัวเองเห็นความ ดีและความสามารถทั้งของตนเองและผู้อื่น พูดชื่นชมคนอื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง คนหลงตัวเองชอบนินทาว่าร้ายผูอ้ นื่ หยิบยกความผิดของคนอืน่ มาบดบังความชัว่ ร้าย ของตัวเอง / คนรักตัวเองเห็นความบกพร่องของตนเอง และพร้อมทีจ่ ะปรับปรุงแก้ไข คนหลงตัวเองมองข้ามความบกพร่องของตัวเอง แต่เชีย่ วชาญในการจับผิดเรือ่ งคนอืน่ / คนรักตัวเองมีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นที่ด้อยกว่าตัวเอง อยากช่วยเหลือ คนหลง ตัวเองถนัดในการซํ้าเติมความผิดของผู้อื่น ชอบเอาปมด้อยของคนอื่นมาล้อเลียน / คนรักตัวเองมีมุทิตาจิต เมื่อเห็นผู้อื่นประสบความสำ�เร็จก็ชื่นชมยินดี คนหลงตัวเอง ช่างอิจฉาริษยา เห็นคนอื่นได้ดีแล้วตัวเองเจ็บปวด / คนรักตัวเองอ่อนน้อม ถ่อมตน สุภาพและให้เกียรติผู้อื่น คนหลงตัวเองมักก้าวร้าว เย่อหยิ่ง ยโสโอหัง พูดจาขวาน ผ่าซาก ไม่รกั ษานํา้ ใจคน / คนรักตัวเองอยากเรียนรูจ้ ากคนอืน่ ในเรือ่ งทีต่ วั เองยังไม่รู้ เปิดใจรับฟัง คนหลงตัวเองชอบทำ�ตัวเหนือกว่าคนอืน่ รับไม่ได้วา่ ผูอ้ นื่ เขาเก่งกว่าเรา ในบางเรือ่ ง / คนรักตัวเองจะแก้ไขปัญหาอย่างสันติและสร้างสรรค์ คนหลงตัวเองมัก ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา / คนรักตัวเองมีความเสียสละ คิดถึงประโยชน์ของ คนส่วนใหญ่เป็นหลัก คนหลงตัวเองเห็นแก่ตวั ชอบเอาเปรียบผูอ้ นื่ เมือ่ มีโอกาส / คน รักตัวเองเป็นแหล่งกำ�เนิดความสุขของผู้อยู่ใกล้ชิดได้ฟังมธุรสวาจา คนหลงตัวเอง เป็นมลพิษของคนรอบข้าง ใครอยู่ใกล้มักอึดอัด รำ�คาญ ได้ยินแต่เรื่องร้ายๆ / คน รักตัวเองมีรัศมีแห่งความเมตตา คนหลงตัวเองมีรังสีอำ�มหิต / คนรักตัวเองจะคิด ว่า I am OK, You are OK คนหลงตัวเองจะคิดว่า I am OK, You are not OK

การหลงตั ว เองกลายเป็ น “นิสัยประจำ�ชาติ” ของคนไทย และเป็น

อุปสรรคในการพัฒนาองค์กรหลายแห่งเต็ม ไปด้วยบัตรสนเท่ห์ อิจฉาริษยา นินทาว่าร้าย เลื่อยขาเก้าอี้ แย่งชิงตำ�แหน่ง เพราะสังคมเรา มี “คนหลงตัวเอง” มากกว่า “คนรักตัวเอง” ทำ�งานเป็นทีมเลยไปไม่รอด กลายเป็นวัฒนธรรม ต่างคนต่างทำ� จึงขาดการรวมพลังของคน เก่งคนดี นิสัยดูถูกคนจน ชาวบ้านที่มาจากต่าง จังหวัด คนที่ระดับการศึกษาน้อยกว่า มีฐานะ ทางสังคมตํ่ากว่า แล้วถือตัวว่ามีชาติตระกูล ทีเ่ หนือกว่า เรียนสูงจบจากสถาบันทีม่ ชี อื่ เสียง ทำ � ให้ เราละเลยการเรี ย นรู้ จ ากภู มิ ปั ญ ญา ชาวบ้านที่ยังมิได้มีการบันทึกไว้ในตำ�ราเรียน เพราะเราเจอคนที่ เ ก่ ง กว่ า เลยทำ� ให้ รูส้ กึ ด้อย แทนทีจ่ ะมองว่าคนเราเก่งคนละด้าน หรือแต่ละคนมีความสามารถทีแ่ ตกต่างหลาก หลาย... เมื่อรู้สึกว่าตัวเองแย่ เลยต้องคอยหา “ข้อลบ” ของคนอื่นๆ เพื่อให้รู้สึกว่าตัวเอง “เหนือกว่า” ไม่เคยมองเห็น “ความบกพร่อง” ของตนเอง...ที่สุดแล้วก็ไม่มีการพัฒนา มีแต่ ปัญหาทะเลาะกัน นี่เพราะรักตัวเองไม่เป็นกัน ทั้งนั้น

69


กีฬา

กีฬาคือยาวิเศษ ฮ้าไฮ้ ฮ้าไฮ้” เพลงปลุกใจให้คนลุกขึ้นมาออกกำ�ลัง กายยังคงมีความหมายตามนั้นเสมอมาทุกยุคสมัย แต่บางครั้งผมก็ได้ยินเด็กๆ ที่ ฟันยังขึน้ ไม่ครบซีร่ อ้ งกันว่า “ลีลา ลีลาคือยาวิเศษ ฮ้าไฮ้ ฮ้าไฮ้” ผมได้แต่อมยิม้ และ เห็นด้วยร้อยเปอร์เซนต์วา่ ลีลาเป็นสิง่ สำ�คัญยิง่ เพราะคนดูยอ่ มชอบอะไรทีเ่ ป็นสีสนั ของการแข่งขัน ชีวิตนักกีฬาดังๆ หลายคนจึงถูกถ่ายทอดลงบนแผ่นฟิล์มากมาย

The Blind Side เป็นเรื่องของนักกีฬา อเมริกนั ฟุตบอลทีช่ อื่ Michael Oher หรือ Big Mike เด็กหนุ่มผิวดำ�ร่างยักษ์ไอคิวตํ่าผู้เติบโต มากับสิ่งที่เรียกได้ว่าตรงข้ามกับกีฬาอย่างสิ้น เชิง เขาเติบโตมาในย่านคนจนที่เต็มไปด้วย ยาเสพติด ในคืนทีเ่ ขาสิน้ ไร้หนทาง อากาศทีเ่ หน็บ หนาว บิ๊กไมค์กำ�ลังเดินไปที่โรงยิม ไม่ได้ไป เพื่อออกกำ�ลังแต่ไปเพื่อแอบนอนเพียงเพราะ ที่นั่นมันอุ่น แม้เส้นทางจะหนาวเหน็บเพียงใด ก็อุ่นได้หากมีคนเหลียวแล เขาพบกับนางเอก ที่เป็นนางเอกทั้งในหนังและในชีวิตจริงของ

แนวหนัง โร้ดมูฟวี่ ผู้กำ�กับ เรียว กิตติกร นักแสดง เจ มณฑล, ยิปโซ, น้องพลอย เข้าฉาย 24 มิถุนายน 2553 เราสองสามคน ชื่ออังกฤษว่า That sounds good จากผู้กำ�กับ เรียว กิตติกร จาก ดรีมทีม และ เมล์นรก ได้นักแสดงนำ� เจ มณฑล จิรา, น้องยิปโซ, น้องพลอย แนวๆ โร้ดทริป เลิฟทริป ในบรรยากาศเวียดนาม และมีนางแบบคนดังของเวียดนามมาเซอร์ ไพร์ซ ความรักของสาวสองคน คนหนึ่งมองไม่ชัด อีกคนฟังไม่ชัด ส่วนหนึ่งหนุ่มก็ไม่ ชัดที่จะรักใคร นั่นสิ เออ...ขนาดคนตาดีดี ยังมองความรักผิดพลาดซํ้าไปซํ้ามา และ คนที่ประสาทสัมผัสบกพร่องไปนิดนึง เค้าจะพลาดยิ่งกว่าเราหรือไม่ ไปติดตามชม 70

เขา Leigh Anne Tuohy (Sandra Bullock ได้รางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำ�หญิงจาก บทบาทนี้) คือแม่พระที่มาโปรดเมื่อเธอและ ครอบครัวจอดรถเพือ่ ชวนเด็กผิวดำ�แปลกหน้า ไปนอนที่บ้าน และตั้งแต่นั้นชีวิตของบิ๊กไมค์ก็เปลี่ยน ไปตลอดกาล บิ๊ ก ไมค์ ได้ เข้ า เรี ย นและเป็ น นักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ด้วยความเอาใจใส่ ยิ่งกว่าโค้ชคนใดในโลก Leigh Anne Tuohy ดูแลเขาเหมือนลูกชายและผลักดันศักยภาพที่ มนุษย์ทุกคนพึงมีออกมาจนบิ๊กไมค์มีไอคิวที่ เพิ่มขึ้นจนเรียนจบและได้เป็นนักกีฬาอเมริกัน

ฟุตบอลของทีม Baltimore Ravens ชื่อเรื่อง The Blind Side หมายถึง ตำ�แหน่งที่เป็นมุมบอดของคนขว้างลูกในกีฬา อเมริกันฟุตบอล เป็นมุมบอดที่อาจทำ�ให้คู่ แข่งรุกเข้ามาถึงตัวและกันไม่ให้ขว้างลูกได้ เพราะฉะนั้นแต่ละทีมจึงต้องมีคนคอยคุ้มกัน ในตำ�แหน่งนี้ และบิ๊กไมค์คือผู้เล่นในตำ�แหน่ง ป้องกันมุมบอดนี้ที่ดีที่สุดคนหนึ่งในอเมริกา ชีวติ จริงของบิก๊ ไมค์เต็มไปด้วยมุมบอด มากมาย ไม่วา่ จะเป็นบ้านทีอ่ ยูใ่ นแหล่งยาเสพติด ฐานะที่ยากจนและความด้อยโอกาสทางการ ศึกษา แต่แรงใจในการเอาชนะของเขาทำ�ให้

ผ่านมาได้และที่สำ�คัญที่สุดคือผู้ท่ีมาป้องกัน มุมบอดของ เขาก็คือ Leigh Anne Tuohy ความดีของเธอเป็นตัวอย่างของผู้ที่ให้โอกาส คนและไว้เนื้อเชื่อใจเพื่อนมนุษย์อย่างที่สุด แม้ ร่างกายของบิ๊กไมค์จะสูงเกือบสองเมตรกับ นํ้าหนักอีกสามร้อยกว่าปอนด์ แต่จิตใจของ Leigh Anne Tuohy ก็ไม่ได้เล็กไปกว่าเลย การต่อสูแ้ ละการหยิบยืน่ โอกาส คือสองสิง่ ทีจ่ ะ ทำ�ให้ฝ่าฟันไปสู่ความฝันเท่านั้นครับ

แนวหนัง Action นักแสดง Jackie Chan,Jaden Smith ทีมงาน ผู้กำ�กับ Harald Zwart เข้าฉาย 17 มิถุนายน 2553 Jaden Smith รับบทเป็น Dre เด็กชายตัวน้อยที่วันๆ เล่นแต่สเก็ตบอร์ดและวีดีโอเกมส์ หนูน้อย Dre ต้องถูกบังคับ ให้ย้ายไปประเทศจีน เพราะแม่ของDre ต้องย้ายไปทำ�งานที่นั่น เมื่ออยู่ที่จีน Dre ต้องปรับตัวอย่างยากลำ�บาก โดย ประสบปัญหาต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นภาษาและการใช้ชีวิต เขาต้องถูกอันธพาลท้องถิ่นรังแกอยู่บ่อยครั้ง เมื่อ Dre ได้พบอาจารย์สอนมวยจีน Han รับบทโดย เฉินหลง (Jackie Chan) Dre จึงขอให้ Han สอนมวยจีนให้เพื่อปราบ พวกอันธพาลเหล่านั้น จน Dre เก่งขึ้นและ Dre เองก็เริ่มสนใจศิลปะการต่อสู้มากขึ้นจนอยากฝึกอย่างจริงจังเพื่อเข้า แข่งขัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในจอภาพยนตร์ 71


เรื่อง

The answer my friend, is blowin’ in the wind.

หรือสายลมมีคำ�ตอบ? ไม่

มี ใ ครเคยจดบั น ทึ ก ว่ า การต่ อ สู้ ระหว่างมนุษย์ด้วยกันครั้งแรกนั้นเกิดขึ้น เมื่อไหร่ ด้วยความขัดแย้งอะไร บางทีอาจ จะเป็นการต่อสูข้ องมนุษย์ดกึ ดำ�บรรพ์คหู่ นึง่ ที่พันตูกันเพื่อแย่งชิงอาหาร ไม่เคยมีใครจดบันทึกว่าโลกใบนี้มีการต่อสู้ เกิดขึน้ มาแล้วกีค่ รัง้ ทัง้ การต่อสูเ้ ชิงกายภาพ ด้วยหมัดและเท้า ทัง้ การต่อสูท้ างอุดมการณ์ ต่อสูท้ างความคิดและความเชือ่ อาจกล่าวได้ ว่าด้วยการต่อสูอ้ ย่างหลัง หลายครัง้ มันก็กอ่ ให้เกิดการเปลีย่ นแปลงทีส่ ะเทือนไหวไปทัง้ โลก โลกจะเป็นอย่างไรถ้ากาลิเลโอไม่ลกุ ขึน้ สูก้ บั ศาสนจักร หรือคนอย่างมหาตมะ คานธี และเช กูวารา เกิดอยากนอนไขว่ห้างชม นกชมไม้อยู่กับบ้าน ไม่ลุกขึ้นสู้ตามวิถีทาง ของตน บางทีมันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เป็น อยู่ทุกวันนี้ ทุกการต่อสูม้ คี �ำ ถาม ต่อสูไ้ ปทำ�ไม ต่อสูเ้ พือ่ ให้ได้สิ่งใด หรือแม้แต่จะต่อสู้กันไปจนถึง เมื่อไหร่ โดยปกติทุกคำ�ถามย่อมต้องการ คำ�ตอบ และในซอกหลืบใดซอกหลืบหนึ่ง ของการต่อสู้ ที่นั่นอาจมีคำ�ตอบหลบซ่อน อยู่

72

มีเพลงจำ�นวนหนึ่งอยู่ในการต่อสู้ จนเราเรียกมันว่าเพลงประท้วง (Protest Song) ทีบ้านเราเรียกอีกอย่างว่าเพลงเพื่อชีวิต (ทั้งที่เพลงแบบไหนมันก็สร้างมาเพื่อชีวิตทั้งนั้น) เพลงประท้วงบางเพลงทำ�ให้เรากล้า เชื่อมั่น ไปจนถึงฮึกเหิม เพลงประท้วงบางเพลงก็ปลุก ปลอบ ประโลมและให้กำ�ลังใจเราให้แปรความท้อแท้เป็นพลัง บางเพลงเปลีย่ นแปลงโลกได้ มากเท่ากับนักต่อสู้ แต่ยงั มีเพลงแห่งการต่อสูเ้ พลงหนึง่ ทีไ่ ม่ได้ท�ำ หน้าทีน่ นั้ หากแต่มนั ทำ�หน้าทีอ่ นั แสน จะขีส้ งสัย เป็นเพลงตัง้ คำ�ถามมากมายไม่รสู้ นิ้ มากกว่าอะไรทัง้ หมดมันคือเพลงทีส่ นั่ คลอน ทุกองค์ประกอบของความเป็นมนุษย์ มันสั่นทอนความเชื่อ ความฝัน สั่นคลอนได้กระทั่ง ศรัทธาของใครหลายคน ผลจากการสั่นคลอนนั้นทำ�ให้เราต้องหันกลับมาตั้งคำ�ถามว่าที่ แท้แล้วการต่อสู้นั้นคืออะไร เพื่ออะไร และได้อะไร เพลงทรงพลังที่ว่านั้นคือ ‘Blowin’ In The Wind’ เพลงในปี 1963 จากอัลบั้ม ‘The Freewheelin’ Bob Dylan’ ของบ๊อบ ดิแล่น ศิลปินโฟล์กระดับตำ�นานของอเมริกาและของโลก ดิแล่น ซึ่งมีชื่อเดิมว่า โรเบิร์ต อัลเลน ซิมเมอร์แมน เกิดเมื่อปี 1941 ครอบครัว ของเขาอพยพมาจากยูเครน และมาตั้งรกรากในมิเนโซตา อีกสิบกว่าปีให้หลังเขาย้ายมาที่ มิเนอาโพลิสและเริม่ สนใจเพลงร็อคจากการฟังเพลงของศิลปินร็อคแอนด์โรลในยุคนัน้ อาทิ ลิตเติ้ล ริชาร์ด และ บัดดี ฮอลลี หลังจากเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้เพียงแค่ปีเดียว เขาก็ ดร็อปการเรียนและย้ายไปทีน่ วิ ยอร์คเพือ่ เดินตามความฝันในการเป็นศิลปิน ปี 1962 ดิแล่นก็ ออกอัลบั้มแรก (Bob Dylan) สมใจด้วยความช่วยเหลือของ วูดดี กัทรี่ ศิลปินโฟล์กที่เป็น ขวัญใจอีกคนหนึ่งของเขา ดิแล่นออกอัลบั้มชุดต่อมานั่นก็คือ ‘The Freewheelin’ Bob Dylan’ ในหนึ่งปีให้ หลัง อัลบั้มชุดนี้เองที่มีเพลง Blowin’ In The Wind ซึ่งกลายเป็นเพลงสัญลักษณ์แห่งการ ต่อสูเ้ พือ่ สิทธิและความเท่าเทียมกันของคนในสังคม รวมทัง้ กลายเป็นเพลงต่อต้านสงคราม เคียงข้างกับเพลงของเขาอีกเพลงอย่าง ‘The Times They Are A Changin’ ในช่วงเวลาดังกล่าวสังคมอเมริกันซึ่งมีพื้นฐานมาจากการอพยพของคนหลาย เชื้อชาติ (โดนเฉพาะเชื้อสายอังกฤษในฐานะผู้ปกครอง และคนเชื้อสายแอฟริกันในฐานะ ผูถ้ กู ปกครอง) เกิดความแตกแยก เมือ่ คนทีถ่ กู ปกครองไม่ตอ้ งการถูกปกครองอีกต่อไป การ ต่อสู้ระหว่างสองชนชั้นจึงเกิดขึ้น มีคนผิวสีถูกฆ่าตายจำ�นวนมาก เช่นเดียวกับคนผิวขาว ดิแล่น เขียนเพลง ‘Blowin’ In The Wind’ ด้วยการนำ�ทำ�นองเพลงพื้นบ้านของพวก นิโกรที่ชื่อว่า ‘No More Auction Block’ มาเรียบเรียงและเขียนเนื้อใหม่ การนำ�เพลงที่ร้อง เล่นกันยามว่างของคนผิวสีหรือชนชั้นแรงงานมาใช้นี้แสดงให้เห็นว่าเขาต้องการให้เพลงนี้

เป็นตัวแทนของคนผิวสี พูดแทนคนผิวสี เรียกร้องแทนพวกเขา แม้ตัวเขาเองจะมีสีผิวที่แตกต่าง ออกไปก็ตาม มาร์ติน สกอร์เซซี ผู้กำ�กับภาพยนตร์ระดับปรมาจารย์พูดถึงเพลงนี้เอาไว้เมื่อคราวที่เขา ทำ�ภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับบ๊อบ ดิแล่นเรื่อง No Direction Home ว่า ‘Blowin’ In The Wind’ ได้กลายเป็นเพลงสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้ ว่าเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำ�ไมเด็กหนุ่มผิวขาววัย 21 อย่าง ดิแล่นสามารถจับความรู้สึกและอารมณ์ของการถูกกดขี่ได้จับใจและทรงพลังมากเท่านี้ ไม่เพียงแต่พดู แทน และเรียกร้องให้กลุม่ คนทีถ่ กู กดขีเ่ หล่านัน้ ‘Blowin’ In The Wind’ ยังตัง้ คำ�ถามทีส่ นั่ คลอนศีลธรรม มนุษย์ธรรมในใจของชนชัน้ ปกครอง เขาตัง้ คำ�ถามมากมายในบทเพลง นี้ หลายคำ�ถามเป็นคำ�ถามที่ไม่มีคำ�ตอบ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาบอกว่าบางที คำ�ตอบเหล่านั้นอาจ ล่องลอยอยู่ในสายลม ซึ่งแปลว่ามันอาจมีหรือไม่มีก็ได้ มีข้อสงสัยและคำ�ถามมากมายเกี่ยวกับเพลงนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มหนึ่งที่ระบุว่าเป็นเพื่อน วัยเรียนของดิแล่นที่อ้างว่าเป็นคนแต่งเพลงนี้เป็นคนแรก (และดิแล่นนำ�มาทำ�ใหม่เพื่อบันทึกเสียง) แต่ดเู หมือนไม่มคี นสนใจเรือ่ งนีม้ ากเท่ากับนัยยะซ่อนเร้นมากมายทีพ่ วกเขาเชือ่ ว่ามันแฝงอยูใ่ นเพลง ‘Blowin’ In The Wind’ ไมเคิล เกรย์ ผู้เขียน ‘Dylan encyclopedia’ ระบุว่าดิแล่นตั้งใจให้เพลงนี้เกี่ยวข้องกับ พระคัมภีร์ใหม่ที่มีพื้นฐานมาจากพระคัมภีร์เก่าของเอเซเกล (12:1–2) ที่ระบุว่า “The word of the Lord came to me: ‘Oh mortal, you dwell among the rebellious breed. They have eyes to see but see not; ears to hear, but hear not.” (พระเจ้ากล่าวกับเราว่า ‘มนุษย์เอย เจ้าใคร่ครวญอยู่ท่ามกลางการเติบโตที่ไม่เคยเชื่อฟัง เจ้ามีดวงตาที่สามารถมองเห็นแต่ก็ไม่เห็น มี หูที่ได้ยิน แต่ก็ไม่เคยได้ฟัง) ใน ‘Blowin’ in the Wind’ ดิแล่นเขียนไว้ว่า “Yes’n’ how many ears must one man have?” และ “Yes’ n’ how many times must a man turn his head / Pretending he just doesn’t see? ไม่มีคำ�อธิบายใดๆ จากดิแล่นเกี่ยวกับที่มาของเพลงนี้ เขาปฎิเสธทุกนัยยะที่ผู้ฟังสามารถตีความ ได้ โดยบอกว่า “นอกจากเรื่องที่ว่าคำ�ตอบอยู่ในสายลมแล้ว ผมคิดว่าไม่มีอะไรจะพูดในเพลงนี้อีก คำ�ตอบเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในหนัง ในรายการทีวี ในหนังสือ หรือแม้แต่ในคนที่จับกลุ่มถกเถียงกัน มัน อยู่ในสายลม ล่องลอยอยู่ในนั้น คนเก่งๆ หลายคนมักจะถามผมว่าคำ�ตอบอยู่ที่ไหน ผมก็ตอบไป ทุกครัง้ ว่ามันอยูใ่ นสายลม ก็เหมือนกระดาษทีก่ ำ�ลังปลิว บางครัง้ มันก็ตกลงมาแล้วก็ปลิวไปอีก ไม่ เคยมีใครสนใจมันหรอก ผมอยากบอกว่าอาชญากรรมและการประหัตประหารกันนั้นก็เหมือนกัน มีคนรู้เห็น เขาอาจจะหันมามองแล้วก็หันกลับไป มันก็แค่นี้แหละ คุณจะมาเอาอะไรกับผม ผมก็ แค่เด็กอายุ 21 พวกคุณต่างหากที่อายุมากกว่าและฉลาดกว่าผม” ‘Blowin’ In The Wind’ ประสบความสำ�เร็จในทางลึกและทางกว้าง มันถูกนำ�ไปร้องใหม โดย Peter, Paul and Mary และกลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ต นับจนปัจจุบันมันถูกคัฟเวอร์ไปแล้ว กว่าร้อยครั้ง ติดอันดับเพลงยอดเยี่ยมจากนานาสถาบันก็อีกหลายหน มากไปกว่านัน้ นีค่ อื เพลงอมตะ มันเป็นอมตะได้กเ็ พราะว่ามันได้สร้างชุดคำ�ถามทีย่ งั ไม่เคย มีใครตอบได้อย่างจะแจ้ง (แม้ แซม คุก้ จะแต่งเพลง ‘A Change Is Gonna Come’ แทนคำ�ตอบ แต่ก็ยังไม่ตอบคำ�ถามทั้งหมด) เป็นคำ�ถามที่เราต้องหันกลับมาพิจารณาตัวเราและคนรอบข้าง ในท่ามกลางความขัดแย้งที่เข้มข้นนั้น ห้วงคำ�นึงหนึ่งที่เราอาจสงสัยว่า เรากำ�ลังต่อสู้กับ อะไร สู้อย่างไร เพื่ออะไร คุ้มค่าหรือไม่ และจะสู้ไปถึงเมื่อไหร่ ห้วงเวลานั้น บางทีคำ�ตอบอาจอยู่ในสายลม สายลมที่ไม่มีใครฉวยหรือคว้าเอาไว้ได้ 73


ขอยกนิ้ว

ให้เป็นหนังสือภาษาไทยที่สวยเริ่ดสุดประจำ�ปี 2552 สำ�หรับ “รอย ประทับ” ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำ�นักพิมพ์ “ผีเสื้อ” หนำ�ซํ้าหนังสือเล่มนี้ยัง “สวยทั้งรูป แถมจูบก็หอม” อีกด้วย เพราะเรื่องราวของมิชชันนารีชาวตะวันตก ที่ไล่เรียงเหตุการณ์ มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 มาจนถึงต้นรัชกาลปัจจุบัน ทำ�ให้เราได้รับรู้ว่า โลกนี้ยังมี คนอีกมากที่ทุ่มเททำ�ความดี และอุทิศทั้งชีวิตเพื่อความสุขของผู้อื่น ผลงานของ นฤมล เทพไชย เรือ่ งนี้ เป็นนวนิยายกึง่ ชีวประวัติ ทีเ่ ขียนขึน้ จากความ ทรงจำ�ของ แมรี่ เลาเกอซัน ลูกสาวคนสุดท้องของ จอห์น เอกิ้น และ อัลธา เอกิ้น สองสามีภรรยาผู้ใช้ชีวิตอยู่บนแผ่นดินสยาม มาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าหลวงทั้งสองไม่ เพียงเป็นส่วนหนึ่งในประจักษ์พยานถึงยุคสมัยแห่งความเปลี่ยนแปลงของสยามเท่านั้น แต่ยังมีส่วนในการสร้างความเปลี่ยนแปลงนั้นด้วย จอห์ น เอกิ้น คือบุคคลซึ่งเป็นกำ � ลังสำ �คัญ ในการผลักดันให้เกิดโรงเรียน “กรุงเทพคริสเตียน” ขึน้ มา ในช่วงทีก่ ารศึกษาสมัยใหม่เพิม่ เริม่ ต้นขึน้ ในสยาม เช่นเดียว กับความเจริญในด้านอืน่ ๆ ทัง้ การคมนาคม การสือ่ สาร การแพทย์ ระบบสาธารณูปโภค ต่างๆ และอีกมากมาย ที่เปลี่ยนโฉมหน้าสยามให้เป็น “สยามใหม่” นับแต่นั้นมา ถ้าไล่สายตาดูประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานั้น เราจะพบว่ามีชาวต่างประเทศ มากมาย ที่เป็นจุดเริ่มต้นนำ�ความเจริญมาสู่สยาม แต่ที่ผ่านมา ดูเหมือนคนเหล่านั้นจะ ถูกทิ้งไว้กับอดีต ไม่มีการเอ่ยถึง จนชื่อของพวกเขาค่อยๆ เลือนหายไป สุดท้ายก็เกือบ ไม่มีใครรู้ว่า พวกเขาเคยทำ�อะไรไว้ให้กับแผ่นดินนี้บ้าง แม้ “รอยประทับ” จะเป็นวรรณกรรมที่แฝงความเชื่อของชาวคริสต์ไว้ไม่น้อย

74

แต่ถ้าอ่านโดยปราศจากอคติ เราก็จะเห็นว่า ความรักและศรัทธาที่มีต่อพระเจ้านั้น เป็นสิ่ง สวยงามยิ่งนัก เพราะการรักพระเจ้านำ�ไปสู่ การรักเพือ่ นมนุษย์ และความรักนีเ่ องทีเ่ ป็นต้น กำ�เนิดของความดีงามทั้งปวง โลกนี้คงเป็นดวงดาวที่น่าอยู่ หากทุก คนรักและหวังดีตอ่ กัน โดยไม่มกี �ำ แพงเชือ้ ชาติ ภาษา หรือศาสนามากั้นขวาง เหมือนอย่างที่ จอห์น เอกิน้ , อัลธา และตัวละครอืน่ ๆ ในเรือ่ ง นี้ปฏิบัติต่อผู้คนชาวสยาม ณ ดินแดนอันห่าง ไกลในอีกซีกโลก นี่ คื อ นวนิ ย ายที่ ล ะเมี ย ดละไมด้ ว ย เนื้อหา ภาษา และอารมณ์ อ่านแล้วรู้สึกหัวใจ เต็มอิ่ม แช่มชื่นด้วยคุณงามความดีของมนุษย์ สำ�หรับใครก็ตาม ทีย่ งั ไม่เคยรูจ้ กั ความสุขของ การเป็นผู้ให้ บางทีการได้อ่านหนังสืออย่าง “รอยประทับ” อาจเป็นการจุดประกาย ให้เริ่ม นับหนึ่งในการทำ�สิ่งดีๆ เหมือนที่ตัวละครใน เรื่องนี้ทำ�ก็เป็นได้

ความหนา 936 หน้าของหนังสือเล่มนี้ หลังจากสร้างความฮือฮา ด้วยบรรจุภัณฑ์ ผลงานเรื่องเยี่ยมของนักเขียนอเมริกัน

บางคนเห็นแล้วอาจบอกว่า น่าหนุนนอนเล่น จริงๆ แต่เดี๋ยวก่อน! ก่อนที่จะทำ�เยี่ยงนั้น โปรดรู้ไว้เถอะว่า นี่คือหนังสือของนักเขียน ระดับสุดยอดคนหนึ่งของไทย ที่บรรจุรวมได้ ด้วยผลงานเด่นๆ หลายยุคหมายสมัย ทั้ง “สนิมสร้อย” “เสเพลบอยชาวไร่” “ปีนตลิ่ง” “มาเฟียก้นซอย” และ “มาดเกี้ยว” ใครที่เป็น แฟนพันธุแ์ ท้ของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ห้ามพลาด! ส่วนใครที่ยังไม่เคยอ่านงานของศิลปินแห่ง ชาติผู้นี้ นี่เป็นโอกาสที่จะได้ลิ้มรสวรรณศิลป์ ชั้นเลิศ จริตจะก้านทางภาษาที่อุดมไปด้วย สำ�บัดสำ�นวน พร้อมด้วยคมคิดเจ็บๆ คันๆ มันๆ ปัน่ ป่วนสมอง อ่านแล้วจะเลิกคิดใช้หนุน นอนอีกต่อไป เพราะคุณจะหลับไม่ลงนั่นเอง

ใส่หนังสือธรรมะรูปแบบต่างๆ มาแล้วสี่ครั้ง คราวนี้ “กล่องบุญ 5 : พรแห่งความสุข” มาใน รูปแบบเก๋ๆ ที่เตะตาตั้งแต่แรกเห็นอีกแล้ว เพราะสิ่งที่ ภัทริน ซอโสตถิกุล นำ�มาใช้ใส่ หนั ง สื อ เล่ ม นี้ คื อ “กรง” แต่ ทำ � ไมต้ อ งจั บ หนังสือมาใส่กรงด้วย? นี่เป็นเสมือนปริศนา ธรรม ที่ทำ�ให้เราต้องค้นหาคำ�ตอบ โดยการ เปิดกรง แล้วหยิบหนังสือออกมาอ่าน เนื้อหา ใน “กล่องบุญ 5” เป็นการนำ�คำ�สอนเรื่อง “มงคล 38 ประการ” มาเขียนใหม่ โดยใช้ภาษา ง่ายๆ อ่านสบาย พร้อมด้วยมุกกุ๊กกิ๊ก เพื่อสื่อ ถึ ง คนรุ่ น ใหม่ ตามแบบฉบั บ ที่ ผู้ เขี ย นเรี ย ก ว่า “ธรรมะอินเทรนด์” ผลที่ได้คืออ่านไปยิ้ม ไป แล้วในที่สุดก็ตาสว่าง ว่าตราบใดที่เรายัง ปิดกั้นตัวเอง ไม่ยอมเปิดใจรับแสงสว่างแห่ง ธรรม ตราบนั้นเราจะไม่มีวันได้พบความสุข ที่แท้จริง ถึงไม่ใช่หนังสือธรรมะที่เขียนโดย พระ แต่คงไม่ผิดกติกาแน่ ถ้าอ่าน “กล่อง บุ ญ 5” จบแล้ ว จะกล่ า วดั ง ๆว่ า สาธุ !

ระดั บ ตำ � นาน ซึ่ ง เพิ่ ง ถู ก นำ � มาสร้ า งเป็ น ภาพยนตร์เมือ่ ไม่นานมานี้ The Curious Case of Benjamin Button หรือในชื่อภาษาไทยว่า “เรื่องประหลาดของเบนจามิน บัตทอน” เป็น เรื่องสั้นขนาดยาว บอกเล่าเรื่องราวพิลึกพิลั่น ของชายที่เกิดมาไม่เหมือนใคร เขาถือกำ�เนิด ขึ้ น ในสภาพของคนแก่ วั ย เจ็ ด สิ บ จากนั้ น ร่างกายและจิตใจจึงค่อยๆ อ่อนเยาว์ลง กลาย เป็นคนวัยกลางคน คนหนุ่ม วัยรุ่น เด็ก ทารก และในที่สุดก็ไม่มีลมหายใจอีกต่อไป เรื่องสั้น เรือ่ งนีเ้ ป็นวรรณกรรมเสียดสี ทีว่ พิ ากษ์วจิ ารณ์ สังคมอเมริกันเมื่อ 90 ปีกว่าก่อน ถ้าจะอ่านให้ ได้เรื่องได้ราวลึกซึ้ง ต้องศึกษาประวัติศาสตร์ ควบคู่ไปด้วย แต่ถ้าจะอ่านให้สำ�เริงสำ�ราญใจ อย่างเดียว ก็บอกได้เลยว่า นีเ่ ป็นหนังสือทีอ่ า่ น สนุก รสชาติกลมกล่อม และให้อารมณ์เต็ม เปีย่ ม สมชือ่ เอฟ. สกอตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ จริงๆ

75


โครงการ บริจาคหนังสือ มือสอง

‘วานวาน’ ราชินีบล็อกเกอร์ เรื่องธรรมดาเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว ที่เรามองข้าม แต่เมื่อกลายมาเป็น การ์ ตู นน่ า รั ก ในบล็ อ กกลั บ สะกิ ด ให้ใบหน้าของเราเปื้อนยิ้มและรู้สึก ว่าหัวใจสัมผัสถึงผู้คนและสิ่งต่างๆ รอบข้างมากขึ้น อย่างเช่น http:// wan-wan.exteen.com/ บล็อก (ฉบับแปลแล้ว) ของ “วานวาน” บล็อกเกอร์สาวชาวไต้หวันผู้โด่งดัง ที่มียอดคลิกชมในแต่ละวันกว่า 1 แสนครั้ง และถึงวันนี้มียอดผู้เข้าชม กว่า 6 ล้านครั้งเข้าไปแล้ว!! โดยสิ่ง ที่เข้าถึงหัวใจของคนอ่านคือ การที่เธอหยิบเอาเรื่องราวชีวิตและความคิด ในแต่ละวันมาบอกเล่าผ่านตัวการ์ตูนหน้ากลมๆ กับผมเส้นเดียว ซึ่งเป็น คาแรกเตอร์ตัวเธอเองแบบง่ายๆ แต่น่ารัก (มาก) และด้วยเรื่องราวที่แสน ธรรมดาของคนธรรมดานีแ่ หละ ทีท่ �ำ ให้บล็อกของเธอฮิตติดลมบนจนกลาย เป็นปรากฏการณ์ และเมือ่ “ไม่ไปทำ�งานได้ไหมเนีย่ ” หนังสือรวมบล็อกของ เธอถูกตีพิมพ์ก็ขายได้มากกว่า 1.5 แสนเล่ม และทำ�ให้เธอได้ขึ้นไปยืนรับ รางวัลผู้มีอิทธิพลในแวดวงสื่อสิ่งพิมพ์ ประจำ�ปี 2005 หากอยากรู้ว่าทำ�ไม หญิงสาวธรรมดาคนนี้ถึงกลายเป็น “ปาฏิหาริย์แห่งวงการสื่อสิ่งพิมพ์” เรา แนะนำ�ให้คลิกเข้าไปได้เลย คำ�เตือน...ระวังจะติด (บล็อก) เธองอมแงม!! แต่ถ้าใครชอบการ์ตูนแบบ Black Humor เสียดสีสังคมแต่สร้างสรรค์ และ ทำ�ให้อดขำ�ไม่ได้ ต้องเข้าไปเบรกความเครียดที่ http://horjorgor.exteen. com/ จากฝีมอื บล็อกเกอร์หนุม่ มาก ไอเดียที่นำ�เสนอประเด็นหนักๆ ใน สังคมให้ออกมาเป็นเรื่องราวเบาๆ ผ่ า นลายเส้ น ที่ เป็ น เอกลั ก ษณ์ ไ ด้ อย่างคมคาย 76

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่อนาคต ที่ยิ่งใหญ่ของชาติ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้ โดยการ ร่วมบริจาคหนังสือมือสอง เพื่อเป็นประโยชน์กับน้องๆ ที่ ขาดแคลน โดยมูลนิธิกระจกเงา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
 คุณจรัญ มาลัยกุล หัวหน้าโครงการอ่านสร้างชาติ 081-0183004 081-018-3004 โครงการอ่านสร้างชาติ : 0 2941 4194 ต่อ 111 Email : jarun@mirror.or.th หรือ book@mirror.or.th

การ์ตูนออนไลน์ เ รื่ อ ง ร า ว ข อ ง “ไอ้ แ ป้ น ” และ ผองเพื่อนที่มีคน พูดถึงมากมาย ส่งต่อเป็นฟอร์เวิร์ดเมล์ก็หลายครั้ง ซึ่ง เราอาจคุน้ ตาแต่อาจจะยังไม่คนุ้ ใจ เข้าไปติดตามการ์ตนู ทีเ่ กิดจากความคิดสร้างสรรค์ ทีก่ ลัน่ ออกมาจากเรือ่ งใกล้ตวั กันได้เลยที่ http://darkygirl. exteen.com/ พั ก เรื่ อ งเบาสมองมาลองอ่ า น ผลงานของเธอคนนี้ กั น บ้ า ง กับ http://manin289.exteen. com/ ที่ ที่ เ ราจะได้ พ บกั บ “มุนิน” การ์ตูนเงียบที่จะทำ�ให้ เราซาบซึ้ ง ไปกั บ เรื่ อ งราวดี ๆ ที่มาจากแนวคิดและมุมมองใน การมองโลกอีกด้านหนึ่ง ที่เรา รับประกันว่าจะประทับเข้าไปใน ใจของคนอ่านแน่นอน

“อาสาสมัครนักกฎหมาย สิทธิมนุษยชน”

โครงการ “คอมพิวเตอร์เพื่อน้อง” (com4child) คอมพิวเตอร์เก่าอย่าทิ้ง...ยังมีน้องๆ ที่ยังต้องการ เพื่อให้พวกเขาได้มีโอกาสในการศึกษามากขึ้นกับ หรือทุนสนับสนุนให้กับน้องในชนบท เพื่อสร้าง โอกาสทางการศึกษาให้เกิดขึ้นแก่พวกเขา จากข้ อ มู ล ของกระทรวงศึ ก ษาธิ ก ารในปี พ.ศ.2551 สถาบั นการศึ ก ษาใน ประเทศไทย มีคอมพิวตอร์เพื่อใช้ในการศึกษา ประมาณ 200,000 เครื่องเท่านั้น ทั่วประเทศไทย หรือคิดเป็นสัดส่วน “คอมพิวเตอร์ 1 เครื่องต่อนักเรียน 40 คน” โครงการคอมพิวเตอร์เพือ่ น้องจึงรับคอมพิวเตอร์ทอี่ ยูใ่ นสภาพใช้การได้ หรือชำ�รุด นำ�มาปรับปรุงจนอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ และส่งให้กับโรงเรียนต่างๆ ทางภาค อีสานและภาคเหนือ โครงการคอมพิวเตอร์เพื่อน้อง เลขที่ 8/12 ซอยวิภาวดี 44 ถนนวิภาวดี-รังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 หรือ สอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-941-4194-5 ต่อ 17 หรือบริจาค ทุนทรัพย์ได้ที่ ชือ่ บัญชี “มูลนิธกิ ระจกเงา” ธนาคารกรุงไทย สาขานานาเหนือ เลขที่ บัญชี 000-0-01369-2 ประเภทออมทรัพย์ หรือ ชือ่ บัญชี “มูลนิธกิ ระจกเงา” ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาไชยศ เลขที่บัญชี 040-2-37446-1 ประเภทออมทรัพย์ 
 จากทุกความช่วยเหลือในครั้งนี้จะเป็นการต่อยอดการพัฒนาความคิด และการศึกษาให้กบั พวกเขาอย่างไม่สนิ้ สุด ไม่ใช่แค่ชนิ้ ส่วนทีไ่ ร้คา่ ไม่ใช่แค่นาํ้ ใจ อันเล็กน้อย แต่ทุกความช่วยเหลือคือ “อนาคต” สำ�หรับเด็กเหล่านี้

ครั้ ง หนึ่ ง ในชี วิ ต กั บ การเป็ น อาสา สมัครเต็มเวลา เพื่อทำ�งานทางสังคม ร่ ว มเรี ย นรู้ ป ระสบการณ์ ชี วิ ต จริ ง โดยผ่ า นการเป็ น “อาสาสมั ค ร นักกฎหมายสิทธิมนุษยชน” ติ ด ต่ อ สอบถาม มู ล นิ ธิ อ าสาสมั ค รเพื่ อ สั ง คม เลขที่ 409 ซ.โรหิ ต สุ ข ถ.ประชาราษฎร์บำ�เพ็ญ เขตห้วยขวาง กทม. 10320
โทรศัพท์ : 0-2691-0437-9

“ร่วมแบ่งปันแรงกาย แรงใจ และเวลา มาเป็นอาสาทำ�สมุดเพื่อน้องๆกัน”

ยังมีนอ้ งๆ หลายๆ คนทีข่ าดแคลนสมุดเพือ่ จะนำ�ไปใช้เรียน ทางโครงการ จึงตัง้ ใจว่าจะร่วมแรงร่วมใจอาสาสมัครไม่วา่ จะเป็นเด็กเล็ก เด็กโต ผูใ้ หญ่ หรือใครก็ตามที่อยากจะแบ่งปันโอกาสมาร่วมกันสร้างสมุดเรียนจากใจ ไปสู่น้องๆที่ขาดแคลนกัน หากคุณมีเวลา แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นทำ�กิจกรรม อะไรดี สนใจส่งรายละเอียดแจ้ง ชื่อ เบอร์ติดต่อกลับ และวันเวลาที่ สะดวก
มาได้ที่อีเมล์ paperranger@live.com หรือโทร.089 670 4600

มูลนิธิพาช้างกลับบ้าน

ขอเชิ ญ ชวนผู้ ส นใจทุ ก ท่ า นเข้ า ร่ ว มกิ จ กรรมอาสาสมั ค ร ปลู ก ป่ า ให้ ช้ า ง ประจำ � ปี 2553 ในระหว่ า งสั ป ดาห์ วั น สิ่งแวดล้อมโลก (World Environment weekend) วันที่ 5 - 6 มิถุนายน 2553 เพื่อให้อาสาสมัครทุกท่านได้สนุกสนาน เพลิดเพลินไปกับการได้ใช้เวลากับช้าง รวมทั้งการร่วมกัน ปลูกฟื้นฟูป่าเพื่อเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย และแหล่งอาหารตาม ธรรมชาติของช้างที่อาศัยอยู่ทีนี่ ซึ่งในอดีตเคยเป็นช้างเร่ร่อน แต่ปัจจุบันทางมูลนิธิฯ และชาวบ้านในชุมชนท้องถิ่นได้ช่วย เหลือและนำ�มาดูแลร่วมกัน ภายในพื้นที่อุทยานลำ�นํ้ามาศ อ.ลำ�ปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ติดต่อเพื่อยืนยันการเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ (083) 566 - 5223 (083) 566 - 5223, (083) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ http:// www.bring-the-elephint-home.org 77


TOR+ SAKSIT VEJSUPAPORN

Concert - Piano & I : Piano & You

ส่ ว นใครที่ รู้ ตั ว ว่ า เป็ น แฟน คลับของหนุ่มน่ารักมากความ สามารถ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภา พร ก็ เตรี ย มตั ว ไปร่ ว มสั ม ผั ส JUNE 2010 เวลา 19.30 น. ความอบอุ่นผ่านเสียงเปียโนสุด พลิ้วไหวของผู้ชายคนนี้กันอีก ครั้ง พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ อาทิ Boyd – Nop และคนอืน่ ๆ อีกมากมาย ได้ที่ อิมแพค เอ็กซ์ซบิ ชิ นั่ ฮอลล์ 1 บัตรราคา 2,000 / 1,500 / 900 / 600 บาท ซื้อบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.com

JUNE 2010

เวลา 10.00 น.-21.00 น.

ใครอยากพั ก ผ่ อ นคลายเครี ย ดจากสถานการณ์ บ้านเมือง ขอแนะนำ�ให้ไปงานนี้เลย เพราะรวบรวม สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม ที่พัก สายการบิน ร้านอาหารและร้านค้าของที่ระลึก ชื่อดังไว้อย่างครบครันกว่า 400 บูธ รวมทั้งเพลิดเพลิ น ไปกั บ การแสดงศิ ล ปวั ฒ นธรรมอั น เป็ น เอกลักษณ์ของแต่ละภาคที่หาชมได้ยาก ที่จัดขึ้น เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย เตรียมตัวเก็บกระเป๋าแล้วไปเลือกเปิด โลกกว้างได้เลยที่ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี

78

เทศกาลดนตรี แ จ๊ ส สุ ด ฮิ พ ประจำ � ปี ก ลั บ มาอี ก ครั้งในแบบยิ่งใหญ่และอลังการกว่าเดิม โดยงานนี้ เป็นการรวบรวมสุดยอดศิลปินแจ๊สจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งยุโรป เอเชีย และไทย ไว้ ทีน่ มี่ ากทีส่ ดุ เท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว! คอเพลงแจ๊สทั้งหลาย ห้ามพลาด ไปร่วมดืม่ ด่�ำ กับเสียงเพลงสุดไพเราะ ในบรรยากาศสุ ด ชิ ล ได้ ที่ ริ ม ชายหาดหั ว หิ น จ.ประจวบคีรีขันธ์ สอบถามรายละเอียดได้ที่ http://www.jazzfestivalhuahin.com/

THAILAND INTERNATIONAL DOG SHOW 2010

งานรวมพลคนรักสุนัขกลับมาอีกครั้งแบบยิ่ง ใหญ่กว่าเดิม โดยงานนีร้ วบรวมผลิตภัณฑ์สนิ ค้า และบริการสำ�หรับสุนัขไว้อย่างครบครัน พบกับ กิจกรรมสุดพิเศษ อาทิ การแข่งขัน การแสดง การตรวจสุขภาพ และการสาธิตต่างๆ คนรัก น้องหมาไปเจอกันได้เลยที่ ฮอลล์ 3-4 อิมแพค เมืองทองธานี ติดตามรายละเอียดได้ที่ http:// เวลา 10.00 น. - 20.00 น. www.thailand-dogshow.com

สวัสดีคะ่ พีๆ่ กองบรรณาธิการ นิตยสาร Miracle of Life ทุกคน สวัสดีค่ะ หนูชอบคอลัมน์ ทÓไงดีคิดเรื่องไม่ดีอยู่เรื่อย พออ่านแล้ว ก็เริ่มเข้าใจในเรื่องของสิ่งที่เราชอบและสิ่งที่เราเกลียดว่าเพราะ เหตุหรือสิ่งใดที่ทÓให้เรายึดติดกับสิ่งต่างๆ นั้น หนูอยากให้มีคอลัมน์เกี่ยวกัยแฟชั่นอ่ะค่ะ พวกการ แต่งตัว การเลือกเครื่องประดับ การอะแด๊บเอาอันนั้น กะอันนี้มาผสมกันอ่ะค่ะ น้องพลอย น.ส.หทัยภัทร พิชญ์ชน รร.สตรีวิทยา ๒ กทม.

ตอบ น้องพลอย

ขอบคุณน้องพลอยมากค่ะทีช่ อบคอลัมน์ ทำ�ไงดีคดิ เรือ่ งไม่ดอี ยู่ เรื่อย พี่ก็คิดว่าเป็นคอลัมน์ที่ดีเหมือนกัน และคิดว่าคุณดังตฤณต้องดี ใจแน่ๆ ทีน่ อ้ งพลอยชอบ ส่วนเรือ่ งแฟชัน่ เรากำ�ลังวางแผนจัดการอยู่ คิดว่าอีกไม่นานน้องพลอยคงได้เห็น เพราะผ่านพ้นช่วงกาฟิวล์มาแล้ว เราคงมีเวลาออกไปอัพเดทแฟชั่นมากขึ้น อดใจรออีกนิดนะค่ะ พี่กองบรรณาธิการ

หนูได้มโี อกาสอ่านนิตยสารแล้ว คิดว่าเป็นนิตยสารทีด่ ี อีกฉบับหนึง่ เพราะมีขา่ วจากทัว่ โลกให้อา่ น และมีสมั ภาษณ์ พี่นิ้วกลม ซึ่งเป็นนักเขียนในดวงใจ หนูซื้อหนังสือพี่เขา เกือบทุกเล่มเลยค่ะ เรียกว่าพี่นิ้วกลมเป็น ไอดอลของหนูเลยก็ว่าได้ ฉบับหน้าถ้า เป็นไปได้ ขอบทสัมภาษณ์ พี่อัพ ทรงศีล ทิวสมบุญ ได้ไหมค่ะ หรือ ไม่ก็ฉบับหน้าๆ ก็ได้ ยังไงหนูจะรอ ติดตามนะคะ น้องเอิร์ธ

ตอบ น้องเอิร์ธ

เพิ่งรู้ว่าแมวเขียนจดหมายได้ 555+ ไม่ทราบว่าน้องเอิร์ธอยู่ โรงเรียนอะไร จังหวัดอะไรคะ แต่ก็ไม่เป็นไร ดีใจที่น้องเอิร์ธชอบ นิตยสารเรา ทำ�เอากองบรรณาธิการนั่งยิ้มหน้าบานกันเลยทีเดียว ซื้อหนังสือพี่นิ้วกลมแล้ว ก็อย่าลืมติดตามหนังสือเราด้วยนะคะ เรา จะพยายามหลอกล่อ พี่อัพ มาสัมภาษณ์กับเราให้ได้ อดใจรออีกสัก หน่อย ส่วนฉบับนี้ M-Talk มีพี่เรย์สุดหล่อ จับจองคอลัมน์ไปแล้ว ยังไงก็ทำ�ความรู้จักกับพี่เรย์ไปพลางๆ ก่อนแล้วกันนะค่ะ พี่กองบรรณาธิการ

Fun Quiz Conner มุมร่วมสนุกชิงรางวัลของเราฉบับนี้ เป็นคำ�ถาม ความรูภ้ าษาอังกฤษแบบชิลๆ ถ้าใครติดตามอ่าน คอลัมน์ Good Morning Teacher ของคุณครู พี่แนนในฉบับนี้ล่ะก็ ต้องตอบได้แน่นอน... ใครตอบคำ � ถามต่ อ ไปนี้ ได้ ถู ก ต้ อ ง น้ อ งคนเก่ ง 5 คน ผู้โชคดี จะได้รับหนังสือ อังกฤษพ้นกรอบกับครูพี่แนน ไปอ่าน เพิ่มพูนความรู้ภาษาอังกฤษไปเลย (โดยเราจะใช้วิธีสุ่มจับผู้โชคดี จากผู้ที่ตอบคำ�ถามได้ถูกต้อง) มาดูคำ�ถามกันเลย...

คำ�ถาม: คำ�ใดต่อไปนี้ ไม่ได้มีความหมายว่า ราย 2 สัปดาห์ 1. Fortnightly 2. Biweekly 3. Half-monthly 4. Semi – Weekly ส่งคำ�ตอบมาได้ทาง email : mol-mag@hotmail.com หรือแฟ็กซ์มาได้ที่หมายเลข 02 931 4977 หรือ ส่งจดหมายมา ตามทีอ่ ยูใ่ นหน้าสารบัญ อย่าลืมใส่ชอื่ ทีอ่ ยูใ่ ห้ถกู ต้องนะคะ เราจะ จัดส่งของรางวัลไปให้ถึงบ้านเลยทีเดียว 79


เพียงสมัครสมาชิก หรือ สมัครสมาชิกอุปถัมภ์ เพื่อร่วม ส่งเสริมการให้ และทำ�บุญทางปัญญา ด้วยการส่งหนังสือให้ ห้องสมุดโรงเรียน หรือหน่วยงานต่างๆ ตามที่คุณต้องการ

วิธีการชำ�ระเงิน - ชำ�ระเงินโดยโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ชื่อ บริษัท แฮททริค มัลติมีเดีย จำ�กัด ธนาคารนครหลวงไทย สาขาย่อยลาดพร้าว 53 เลขที่บัญชี 174-2-07458-5 หรือ ธนาคารกสิกรไทย สาขาโชคชัย 4 เลขที่บัญชี 721-2-22553-8 ส่งใบสมัครสมาชิก พร้อมสำ�เนาการโอนเงินมาที่ - บริษัท แฮททริค มัลติมีเดีย จำ�กัด 24/37 ม.7 ซ.โชคชัย 4 ถ.ลาดพร้าว แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230 Tel. 02-931-4445 Fax. 02-931-4977 *แบบฟอร์มนี้สามารถถ่ายสำ�เนาได้ **ในกรณีที่ออกใบเสร็จในนามหน่วยงาน กรุณาระบุชื่อผู้รับและแผนกที่จะให้จัดส่ง ***บริษัทจะส่งเลขที่สมาชิกและนิตยสารเล่มแรกไปยังท่าน เมื่อได้รับหลักฐานการชำ�ระเงินแล้ว ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแนะนำ�ติชมได้ที่ ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร Miracle of Life โทร. 02-931-4445

OPTION 1

OPTION 2

OPTION 3

*ทางนิตยสารขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนขนาดเสื้อให้ ตามความเหมาะสม หากขนาดเสื้อที่ท่านเลือกมาหมด

เว็บไซต์ที่คุณติดตามเป็นประจำ� 1.......................................................................................................................... 2.......................................................................................................................... 3.......................................................................................................................... เพศ ชาย หญิง ที่อยู่ปัจจุบัน............................................................................................. แขวง/ตำ�บล........................................อำ�เภอ/เขต...................................... จังหวัด................................................รหัสไปรษณีย์.................................. อายุ ตํ่ากว่า 12 ปี 13-15 ปี 16-18 ปี 20-25 ปี 26-30 ปี 31 ปีขึ้นไป การศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อนุปริญญา ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก กำ�ลังศึกษาอยู่ ชั้น...................... โรงเรียน.............................................. คณะ...................................สถาบัน................................. จังหวัด............................................................................. อื่นๆ................................................................................. อ่านนิตยสาร MOL จาก ร้านหนังสือ โรงเรียน ที่ทำ�งาน อื่นๆ.......................................................... สนใจอ่านนิตยสารเพราะ หน้าปกสวย เนื้อหาน่าสนใจ เก็บไว้อ้างอิงได้ ราคาเหมาะสม อื่นๆ.................................................................................................. นิตยสาร MOL 1 เล่ม อ่านกันกี่คน อ่านคนเดียว 2-3 คน มากกว่า 3 คน อ่านกันเป็นกลุ่ม กิจกรรมใดที่คุณอยากมีส่วนร่วมกับนิตยสาร MOL .................................................................................................................... ใครคือไอดอลของคุณ? ...................................................................................................................

นิตยสารที่คุณติดตามเป็นประจำ� 1.......................................................................................................................... 2.......................................................................................................................... 3.......................................................................................................................... สิ่งที่ชอบในนิตยสาร MOL ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ สิ่งที่ต้องการให้นิตยสาร MOL ปรับปรุงคือ ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ สิ่งที่นิตยสาร MOL แตกต่างจากนิตยสารเล่มอื่นคือ ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ เนื้อหาและคอลัมน์ที่ต้องการให้มีเพิ่มเติมในนิตยสาร MOL ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ ความคิดเห็นอื่นๆ ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ สำ�หรับท่านที่ทำ�แบบสอบถามจะได้รับสมุดฉีก MOL กรุณากรอกข้อมูลต่อไปนี้ ชื่อ-นามสกุล..............................................................................อายุ...............ปี ที่อยู่................................................................................................................. โทร...........................................Email :..............................................................

กรอกแบบสอบถามแสดงความคิดเห็น แล้วส่งมาที่ บริษัท แฮททริค มัลติมีเดีย จำ�กัด 24/37 ม.7 ซ.โชคชัย 4 ถ.ลาดพร้าว แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230 โทร 02 931 4445 หรื​ือส่งแฟกซ์มาได้ที่ 02 931 4977


กองบรรณาธิการ เรื่องและภาพ

“ให้เท่าที่ให้ ได้”

กลม-นพพล โล่พิทักษ์พานิช

กลม

นพพล โล่พิทักษ์พานิช ดารานักแสดงที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี จากผลงานละคร เรื่องแรก แม่คุณเอ๊ย ในบท เวไนย สารวัตรสุดหล่อ ด้วยบทบาท ทางการแสดงทำ�ให้เราติดภาพดาราจากในจอ แต่ใครจะรู้ว่านอกจอนั้น ผู้ชายคนนี้ ถือว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบทำ�ประโยชน์เพื่อสังคม และรักการเป็นผู้ให้ ในทุกๆ ครั้งที่มีโอกาส ทราบมาว่าพี่กลมชอบทำ�กิจกรรมเพื่อสังคม ใช่ครับ ก็มีเรื่อยๆ นะ มีตลอดเลย เพราะว่าพี่อยากให้คนที่เขากำ�ลังประสบปัญหาหรือว่าเดือดร้อนได้รับการ ช่วยเหลือ ยกตัวอย่าง สึนามิ ที่เขาประสบภัยก็ไปช่วย หรือว่าบางทีก็มีโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ To Be Number One หรือว่าจะเป็นโครงการเพื่อคนชรา เพื่อเด็กที่ขาดโอกาส เด็กกำ�พร้า ว่างจากการทำ�งานก็จะรีบเข้าไปร่วมเลยทันที ทำ�ไมถึงได้ไปช่วยผู้ประสบภัยสึนามิ อ๋อ ก็มีเพื่อนๆ เขาชวนไป ไปตามเพื่อนๆ ตอนนั้นไป จ.พังงา จะลงไปในส่วนของการเยียวยาซะมากกว่า เยียวยาจิตใจผู้ประสบภัย แล้วก็ช่วยดูพวกระบบต่างๆ ช่วยเก็บข้อมูล อาจจะไม่ได้ฮาร์ดคอร์ขนาดที่จะไปเก็บศพ พอไปถึงสภาพตอนนั้นเป็นยังไง เราไปหลังจากที่เหตุการณ์สงบประมาณอาทิตย์สองอาทิตย์แล้ว ไปอยู่อาทิตย์หนึ่ง อุปกรณ์ที่เอาไปก็จะเป็นพวกถุงนอน เสื้อผ้า กล้อง ถ่ายภาพ ไปอยู่ที่นั้นเห็นศพทุกวัน เสื้อผ้าบางชุดต้องทิ้งไปเลยเพราะว่ากลิ่นแรงมาก ซักไม่ออก แล้วก็เอาเสื้อผ้าเก่าไปบริจาค ซึ่งก็มีคนบริจาค กันเยอะมาก ดีครับ มันแสดงให้เห็นว่าคนไทยใจดี มีนํ้าใจ เวลามีความเดือดร้อน ทุกคนก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือกัน พอเราได้ทำ�เพื่อสังคมเยอะๆ มันช่วยสอนอะไรเราบ้าง มันทำ�ให้เราได้ทำ�เพื่อคนอื่น เพราะตอนที่เราได้รับความช่วยเหลือ เรารู้สึกดีมาก พอเราได้ช่วยเหลือคนอื่น ก็คิดว่าเขาคงจะดีใจเหมือนกัน แต่ก็ให้ เท่าที่เราให้ได้ ไม่ใช่ให้จนเกินตัวเรา การให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมได้เรียนรู้มา คือ การให้จากแม่ที่ให้ลูก แต่ว่าคนทุกคน ก็ไม่สามารถที่จะให้ได้แบบนั้น แต่ เราก็เรียนรู้ตรงนี้มาปรับใช้ เพราะถ้าเราให้เยอะเกินไป เราเดือดร้อน เราก็ไม่มีโอกาสช่วยคนต่อๆ ไปในอนาคตได้ เพราะฉะนั้น เราก็ให้ในสิ่งที่เราทำ�ได้ดี ที่สุด แล้วเราก็จะได้รับความภูมิใจกลับมา ถ้ามีน้องๆ อยากจะทำ�เพื่อสังคมบ้าง ควรจะเริ่มต้นยังไงดี ไม่ต้องไปไหนไกลเลยครับ เริ่มจากรอบๆ ตัวเราก่อน ให้พ่อแม่พี่น้อง ให้เพื่อน เริ่มจากจุดเล็กๆ แล้วมันจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และอย่าลืมบอก คนที่เราให้ไปว่า หลังจากที่คุณได้รับจากเราไปแล้ว คุณก็ต้องเอาไปให้คนอื่นต่อไปอีกนะ อย่าเก็บไว้คนเดียว (ยิ้ม) ในช่วงที่บ้านเมืองกำ�ลังวุ่นวาย คิดว่าอะไรที่จะช่วยดับความร้อนในใจของคนได้ ให้อภัยครับ การแสดงความรุนแรงออกมาต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นการด่า การใช้คำ�พูดรุนแรง พูดเสียดสีกัน ทำ�ใจสักนิดนึง บังคับกดมันไว้สักนิดนึงว่า อย่าทำ� แล้วเราก็พยายามให้อภัย ใครทำ�อะไรก็ให้อภัยกันไปก่อน สุดท้ายเราก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมทำ�หน้าที่ไป ถ้ายิ่งตอนนี้ ผม เห็นนะ เพื่อนเขาทะเลาะกันเพราะเรื่องการเมือง เราจะแบ่งประเทศเป็นสองฝั่งมันก็ทำ�ไม่ได้ แล้วมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี ตอนนี้ใครพูดอะไรมาก็ฟัง ถ้ามันไม่ถูกก็ ปล่อยเขา เรื่องของเขา เหตุการณ์มันจบไปแล้ว แต่ว่าบางคนก็ยังอยากจะเอาชนะ มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นครับ

82

83


84


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.