จุดเริ่มต้นแห่ง “ปาฏิหาริย์” ....จากปัญหาการระบาดของยาเสพติด การระบาดของโรคเอดส์อย่างรวดเร็ว และการใช้เวลา อย่างหลงผิดของเยาวชน ทำ�ให้เกิดความวิตกว่า ในเมื่อเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติอ่อนแอ ขาดประสิทธิภาพ แล้วอนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร... ...การพัฒนาศักยภาพของเยาวชน โดยการสอนให้รจู้ กั คุณค่าของตนเอง มีความเชื่อมั่น ในตัวเอง จะช่วยสร้างเกราะป้องกันจิตใจของเยาวชนจากปัญหาต่างๆ ได้ และการสอนให้รจู้ กั การสร้างสรรค์สง่ิ ทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ผูอ้ นื่ หรือทีเ่ รียกว่า “การให้” ตามพระราชดำ�รัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อเยาวชนเองและต่อประเทศชาติ ได้ในที่สุด... จากพระดำ�ริใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่ทรงให้ความสำ�คัญในการพัฒนา เด็กและเยาวชน อันเป็นทรัพยากรอันมีคา่ ยิง่ ต่อการพัฒนา ประเทศ “โครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of Life)” จึงได้ถือกำ�เนิดขึ้น เพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ ร่วมสร้างปาฏิหาริย์ให้แก่ตนเอง โดยรู้จักที่จะเป็นผู้ “ให้” อย่างสร้างสรรค์ ส่งเสริมและสนับสนุนการดำ�เนินงานโดย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
พระดำ�ริในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในการจัดตั้งโครงการ ปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of Life)
สาส์นจากนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เอาใจใส่
เอาใจใส่ในทุกสิ่งที่ทำ� แม้รายละเอียดเพียงเล็กน้อย
การให้
เริ่มจากให้ตนเอง แล้วจึงให้ผู้อื่น
คุณธรรม 5 ประการ
ซื่อสัตย์, ขยัน อดทน, กตัญญูกตเวที, อ่อนน้อมถ่อมตน, คบคนดีเป็นมิตร
มีเป้าหมาย
ดำ�รงชีวิตแบบมีทิศทาง จะช่วยให้ถึงที่หมายเร็วขึ้น
จากผลสำ�เร็จของโครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิตในปี ที่ผ่านมานั้น เป็นที่น่าภูมิใจอย่างยิ่งในศักยภาพของเด็กและ เยาวชนไทย ที่มีความตั้งใจมุ่งมั่นและได้แสดงศักยภาพในการ ปฏิบัติกิจกรรม เพื่อสร้างประโยชน์แก่สังคมส่วนรวมได้อย่าง น่าชื่นชม จึงเป็นที่น่ายินดีที่ได้มีการจัดโครงการปาฏิหาริย์แห่ง ชีวิตขึ้นอีกครั้งในปีนี้ เพื่อเป็นพื้นที่ในการให้ความรู้ ปลูกฝัง ทัศนคติและมุมมองชีวิตในแง่ของการให้คืนกลับสู่สังคม ใน แต่ละปีจะมีโครงการดีๆ เพื่อเด็กและเยาวชนไทยออกมาอย่าง ต่อเนือ่ ง โครงการนีเ้ ป็นหนึง่ ในโครงการเหล่านัน้ นับเป็นโอกาสดี ที่เด็กและเยาวชนจะมีเวทีในการแสดงความคิด ความสามารถ และมีผู้ใหญ่ที่เข้าใจให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นนี้ ผมเชื่อมั่นว่าเด็กและเยาวชนไทยมีศักยภาพที่ดี และ พร้ อ มที่ จ ะพั ฒ นาได้ อ ย่ า งไม่ มี ขี ด จำ � กั ด หากได้ รั บ การชี้ นำ � แนวทางและการสนับสนุนที่ดีอย่างต่อเนื่อง เด็กและเยาวชน เหล่านี้เปรียบเสมือนกำ�ลังสำ�คัญของชาติที่มีศักยภาพในการ พั ฒ นา และจะสามารถนำ � พาประเทศไปสู่ ค วามเจริ ญ และ ความผาสุกอย่างยั่งยืนได้อย่างแน่นอน ขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนระลึกไว้ว่า โอกาสนั้นมีอยู่รอบ ตัวเรา ขอให้มองหาและกล้าคว้าโอกาสนั้น กล้าที่จะลงมือทำ� หากเราพยายามศึกษาค้นคว้า ก้าวต่อไปข้างหน้า จะมีโอกาส ใหม่ๆ รออยู่เสมอ ขอเพียงตั้งใจและลงมือทำ�ความดี ทั้งให้กับ ตนเองและให้กบั สังคมอย่างจริงจัง จงเชือ่ มัน่ ในตัวเองและเชือ่ มัน่ ว่าเมื่อเราตั้งตนอยู่ในสิ่งที่ดีแล้ว เรื่องดีๆ จะกลับมาเกิดขึ้นกับ ตัวเราเองในที่สุด
(นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) นายกรัฐมนตรี
ลงมือทำ�
การลงมือทำ�เท่านั้นที่จะทำ�ให้เกิดความสำ�เร็จ 7
สาส์นจากนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เอาใจใส่
เอาใจใส่ในทุกสิ่งที่ทำ� แม้รายละเอียดเพียงเล็กน้อย
การให้
เริ่มจากให้ตนเอง แล้วจึงให้ผู้อื่น
คุณธรรม 5 ประการ
ซื่อสัตย์, ขยัน อดทน, กตัญญูกตเวที, อ่อนน้อมถ่อมตน, คบคนดีเป็นมิตร
มีเป้าหมาย
ดำ�รงชีวิตแบบมีทิศทาง จะช่วยให้ถึงที่หมายเร็วขึ้น
จากผลสำ�เร็จของโครงการปาฏิหาริย์แห่งชีวิตในปี ที่ผ่านมานั้น เป็นที่น่าภูมิใจอย่างยิ่งในศักยภาพของเด็กและ เยาวชนไทย ที่มีความตั้งใจมุ่งมั่นและได้แสดงศักยภาพในการ ปฏิบัติกิจกรรม เพื่อสร้างประโยชน์แก่สังคมส่วนรวมได้อย่าง น่าชื่นชม จึงเป็นที่น่ายินดีที่ได้มีการจัดโครงการปาฏิหาริย์แห่ง ชีวิตขึ้นอีกครั้งในปีนี้ เพื่อเป็นพื้นที่ในการให้ความรู้ ปลูกฝัง ทัศนคติและมุมมองชีวิตในแง่ของการให้คืนกลับสู่สังคม ใน แต่ละปีจะมีโครงการดีๆ เพื่อเด็กและเยาวชนไทยออกมาอย่าง ต่อเนือ่ ง โครงการนีเ้ ป็นหนึง่ ในโครงการเหล่านัน้ นับเป็นโอกาสดี ที่เด็กและเยาวชนจะมีเวทีในการแสดงความคิด ความสามารถ และมีผู้ใหญ่ที่เข้าใจให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นนี้ ผมเชื่อมั่นว่าเด็กและเยาวชนไทยมีศักยภาพที่ดี และ พร้ อ มที่ จ ะพั ฒ นาได้ อ ย่ า งไม่ มี ขี ด จำ � กั ด หากได้ รั บ การชี้ นำ � แนวทางและการสนับสนุนที่ดีอย่างต่อเนื่อง เด็กและเยาวชน เหล่านี้เปรียบเสมือนกำ�ลังสำ�คัญของชาติที่มีศักยภาพในการ พั ฒ นา และจะสามารถนำ � พาประเทศไปสู่ ค วามเจริ ญ และ ความผาสุกอย่างยั่งยืนได้อย่างแน่นอน ขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนระลึกไว้ว่า โอกาสนั้นมีอยู่รอบ ตัวเรา ขอให้มองหาและกล้าคว้าโอกาสนั้น กล้าที่จะลงมือทำ� หากเราพยายามศึกษาค้นคว้า ก้าวต่อไปข้างหน้า จะมีโอกาส ใหม่ๆ รออยู่เสมอ ขอเพียงตั้งใจและลงมือทำ�ความดี ทั้งให้กับ ตนเองและให้กบั สังคมอย่างจริงจัง จงเชือ่ มัน่ ในตัวเองและเชือ่ มัน่ ว่าเมื่อเราตั้งตนอยู่ในสิ่งที่ดีแล้ว เรื่องดีๆ จะกลับมาเกิดขึ้นกับ ตัวเราเองในที่สุด
ลงมือทำ�
การลงมือทำ�เท่านั้นที่จะทำ�ให้เกิดความสำ�เร็จ
(นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) นายกรัฐมนตรี
RealPetal เร่ื่อง
ศักดิ์ศรีสี่ขา จากความกล้ า หาญและความรั บ ผิ ด ชอบในหน้ า ที่ ก ลาง สมรภูมริ บอันร้อนระอุของอัฟกานิสถาน ส่งผลให้เจ้าตูบ “เทรโอ” พันธุ์ ลาบราดอร์สีดำ� อายุ 9 ปี ได้เข้ารับเหรียญ “ดิ๊คเคน” ของอังกฤษ ซึ่ง เป็นรางวัลแห่งเกียรติยศสูงสุดที่สัตว์สามารถรับได้ โดยเทรโอที่ปฏิบัติ ภารกิ จ เสี่ ย งภั ย ดมหาวั ต ถุ ร ะเบิ ด ในสมรภู มิ อั ฟ กานิ ส ถานร่ ว มกั บ ทหารอังกฤษเป็นสัตว์ตัวที่ 64 แล้วที่ได้รับเหรียญกล้าหาญนี้ ตั้งแต่ มีการก่อตั้งและมอบเหรียญในปี 1943 ทั้งนี้ จ่าเฮย์โอ คู่หูของเทรโอ ยังได้กล่าวถึงเจ้าตูบฮีโร่ว่า เป็นเครื่องตรวจหาระเบิดสี่ขา และเป็น เพื่อนที่ดีมากของเขา...ช่างสมกับคำ�ที่ว่าสุนัขคือเพื่อนแท้ของมนุษย์ จริงๆ
เรื่องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสต้องยกให้คนจีน จริงๆ เพราะนอกจากเปลีย่ นชือ่ ภูเขาตามกระแสอวตาร ฟีเวอร์แล้ว ยังวางแผนพัฒนาสุสาน “โจโฉ” ที่เพิ่งถูก ค้นพบเมือ่ ปลายปีทแี่ ล้วให้เป็นแหล่งท่องเทีย่ วเชิงธุรกิจ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยจะปรับปรุงสุสานเป็นสวน ที่ระลึกทางวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ขณะทีป่ ระชาชน 49.5% อยากให้อนุรกั ษ์สสุ านไว้ดงั เดิม ส่วนอีก 33.3% สนับสนุนให้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการค้นพบสุสานก็ทำ�ให้เมืองที่เคยเงียบ สงบกลับมีนกั ท่องเทีย่ วแห่แหนมากว่า 2,000 คน ก็ไม่รู้ ว่าท่านโจโฉที่อาจจะนอนหลับอย่างสงบได้อีกไม่นาน จะว่ายังไงนะ...อิอิ
ตายตาไม่หลับ
อวตารฟีเวอร์
เจมส์ คาเมรอน คงนอนตายตาหลับ หลังจากทีภ่ าพยนตร์ของเขาอย่างอวตาร สร้างกระแสฮิตฟีเวอร์ข้ามปี ได้ทั้งเงินทั้งกล่อง แถมยังทำ�ลายสถิติรายได้ของ ไททานิค (ที่ตัวเขาเองกำ�กับ) ตอนนี้ความแรงของอวตารทำ�ให้ประเทศจีนหัวใส เปลีย่ นชือ่ ภูเขาแหล่งท่องเทีย่ วในมณฑลหูหนานจาก “เสาหินแห่งฟากฟ้าแดนใต้” กลายเป็น “อวตาร ฮัลเลลูยาห์ เมาเท่น” จนกลายเป็นสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วยอดฮิต ถึงกับ จัดทัวร์ชมเขาอวตารนี้โดยเฉพาะ ทั้งนี้ จีนอ้างว่าทีมงานหนังได้แรงบันดาลใจใน การสร้างภูเขาลอยฟ้าจากภูเขาของพวกเขา นอกจากนี้ กระแสอวตารฟีเวอร์ยงั แรงจนชือ่ ในหนังกลายเป็นชือ่ ยอดฮิตใน การตั้งชื่อลูกของพ่อแม่ชาวอเมริกันและยุโรป โดยชื่อที่ฮิตที่สุดคือ “แพนดอร่า” รองลงมาคือชื่อตัวเอกอย่าง “เนทิรี่” และ “โทรุก”
10
เขตปลอดเนื้อตูบ คนรักสัตว์โดยเฉพาะน้องหมาน้องแมวคงยิ้มออก เพราะ รัฐบาลจีนกำ�ลังพิจารณาออกกฎหมายห้ามการบริโภคเนื้อหมาและ แมว ซึ่งเป็นทั้งสัตว์เลี้ยงและเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของมนุษย์ เพื่อการยก ระดับจีนไปสูอ่ กี ขัน้ ของความมีอารยธรรม และเป็นการรักษาหน้าตา ของประเทศในมุมมองของนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย เรื่องของเรื่อง ก็เนือ่ งจากในยุคนีท้ อี่ ารยธรรมมนุษย์พฒ ั นาถึงขีดสุด แต่ภตั ตาคาร หลายแห่งของจีนก็ยังคงเสิร์ฟเมนูที่ทำ�จากเนื้อหมาเนื้อแมวอยู่ โดย ให้เหตุผลว่าเนื้อสุนัขเป็นที่นิยม เพราะมีประโยชน์ต่อร่างกายและ ช่วยในกระบวนการเผาผลาญอาหาร แต่อย่างไรก็ตาม ร้านเหล่านี้ คงต้องสูก้ บั รัฐบาลจีนทีส่ ง่ สัญญาณเตือนมาแล้วว่าจะกวาดล้างการ ซื้อขายและบริโภคเนื้อสุนัขและแมวให้หมดไปโดยเร็วที่สุด
ฮีโร่ตัวน้อย
สร้างความฮือฮาไปทั่วเกาะอังกฤษ เมื่อ อาร์รัน เฟอร์นันเดซ เด็กชายวัย 14 ปี กำ�ลังจะกลายเป็น นักศึกษามหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ทอี่ ายุนอ้ ยทีส่ ดุ ในรอบ 230 ปี หากสอบวิชาฟิสิกส์ระดับเอ ซึ่งเป็นมาตรฐาน ของเด็กอายุ 18 ผ่าน หลังจากทีเ่ ขาสอบเอนทรานซ์ผา่ น ทุกวิชาของทางมหาวิทยาลัย โดยอาร์รนั ทีเ่ รียนแบบโฮม สคูลมาตลอดเผยว่า ชอบวิชาคณิตศาสตร์มาตั้งแต่จำ� ความได้ และความฝันคืออยากเป็นนักคณิตศาสตร์ ซึง่ ทางด้านอาจารย์ของอาร์รนั กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัย ตั ด สิ น ใจรั บ หนู น้ อ ยอั จ ฉริ ย ะคนนี้ เข้ า เรี ย นในเดื อ น ตุลาคมนี้ หลังพิจารณาคุณสมบัติอย่างถี่ถ้วนแล้ว
อัจฉริยะวัย 14
หากเห็นคนจมนํ้าอยู่ตรงหน้า เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะกล้า ว่ายนํ้าหรือกระโดดลงไปช่วย ขนาดผู้ใหญ่ตัวโตๆ ยังอาจลังเล แต่ สองหนูนอ้ ย เจค ซาเธอร์เลย์ และ สเปนเซอร์ เจมส์ ชาวออสเตรเลีย วัย 8 ขวบ ได้แสดงความกล้าหาญ โดยกระโจนลงไปช่วยชีวิตชาย วัยกลางคนคนหนึ่งซึ่งกำ�ลังจะจมนํ้า ที่หาดนอร์ทคลิฟฟ์ รัฐควีนส์ แลนด์ ทั้งสองกล่าวว่า เห็นชายคนนี้ร้องขอความช่วยเหลือ พร้อม กับโบกไม้โบกมือด้วยอาการอ่อนแรง จึงรีบเข้าไปช่วยทันที ทั้งนี้ หนุม่ น้อยทัง้ สองคนเคยเข้ารับการอบรมผูช้ ว่ ยชีวติ รุน่ เยาว์มาก่อน... กล้าที่จะทำ�ความดีแบบนี้ ขอปรบมือให้ดังๆ
11
ทีวี ไร้ ไขมัน
รัฐบาลเกาหลีใต้ดูจะเป็นห่วงเป็นใยเยาวชนของชาติจริงๆ เพราะกำ�ลังจะออกกฎควบคุมโฆษณา “อาหารขยะ” ทีม่ ไี ขมัน นํา้ ตาล และเกลือสูง ประเภทแฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า ขนมลูกกวาดต่างๆ เพือ่ ลดโรคอ้วนและส่งเสริมสุขภาพของเด็กๆ โดยโฆษณาอาหารเหล่านี้ จะถูกห้ามฉายตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น. และถูกห้ามฉายระหว่าง รายการเด็กทั้งหมดไม่ว่าเวลาใดๆ ซึ่งเรื่องนี้มีการเรียกร้องมานาน จากกลุ่มคุ้มครองผู้บริโภคที่ระบุว่า 1 ใน 5 ของเด็กเกาหลีมีนํ้าหนัก ตัวเกินกว่ามาตรฐาน ทั้งนี้ นอกจากเกาหลีใต้แล้ว ไต้หวันก็เป็น อีกชาติที่กำ�ลังจะใช้มาตรการนี้ในปีหน้า
ถนนจากขยะ
12
ยุคนี้ไม่ว่าใครทำ�อะไรก็สามารถอัพเดตเรื่องราว ของกันและกันได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะทางเครือข่าย สังคมออนไลน์อย่างเฟซบุก๊ และทวิตเตอร์ทกี่ ำ�ลังขยาย จำ�นวนผู้ใช้อย่างรวดเร็ว จนรัฐบาลมาเลเซียต้องออก แถลงการเตือนการคลั่งไคล้เว็บไซต์เหล่านี้ ซึ่งจัดทำ� โดยชาติตะวันตก เพราะอาจทำ�ลายวัฒนธรรมของ ชาติ แต่ทั้งนี้รัฐบาลเขาก็ไม่ได้บอกว่าห้ามใช้ เพียงแต่ อยากให้ทุกคนใช้วิจารณญาณควบคู่ไปกับการใช้งาน อินเตอร์เน็ต และคำ�นึงถึงอัตลักษณ์และวัฒนธรรมอัน ดีงามของประเทศ... รัฐบาลเขาห่วงใยประเทศชาติขนาดนี้ น่าอิจฉา จริงๆ
ทาสออนไลน์
บริ ษั ท จั ด การขยะพลาสติ ก ในอิ น เดี ย หั ว ใส วางแผนนำ�ขยะพลาสติกจากอุตสาหกรรมไอทีที่ถูกทิ้ง ออกมาวันละหลายพันตันมาบดและผสมกับยางมะตอย เพือ่ ใช้ปถู นน โดย อาห์เหม็ด และ ราซูล ข่าน สองพีน่ อ้ ง เจ้าของบริษัทเผยว่า ตั้งใจจะนำ�ขยะพลาสติกจาก เมืองบังกะลอห์ที่มีมหาศาลในแต่ละวันมาแปลงสภาพ เป็นสารประกอบที่เรียกว่า “โพลีเมอรไรซ์ บิทูเมน” ที่ สามารถนำ�มาปูถนน ซึง่ สารนีม้ คี ณ ุ สมบัตทิ นแดด ทนฝน ทนความชื้น และไม่เป็นหลุมบ่อดีกว่ายางมะตอย ซึ่ง ไอเดียเจ๋งๆ แถมยังรักษ์สิ่งแวดล้อมแบบนี้ก็โดนใจ ผูเ้ ชีย่ วชาญด้านทางหลวงทีพ่ ร้อมจะสนับสนุนไปเต็มๆ
เก้าอี้ ไม่มีขา
เรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมถือว่าไม่เป็นสอง รองใครเลยจริงๆ สำ�หรับประเทศญี่ปุ่น เจ้าแห่งเทคโนโลยีในโลก ยุคปัจจุบัน ที่งานนี้ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยโกเบ กาคุอิน เปิดตัว เก้าอีท้ สี่ ามารถเคลือ่ นทีไ่ ด้ ขณะลอยอยูเ่ หนือพืน้ ซึง่ มีลกั ษณะคล้าย กับเก้าอี้ที่ใช้เดินทางในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง WALL-E ในงาน โอซากา โรบอต แฟร์ ที่ผ่านมา ที่ถึงแม้จะยังเป็นแค่ตัวต้นแบบ แต่ก็ สามารถลอยอยูเ่ หนือพืน้ ได้หลายนิว้ ด้วยแอร์คอมเพรสเซอร์ รวมทัง้ เคลื่อนที่เดินหน้าถอยหลังได้ โดยเก้าอี้ไฮเทคนี้ก็สามารถรองรับ นํ้าหนักได้ถึง 146 กิโลกรัม และมีสองแบบ คือ แบบเบาะรถยนต์ และเบาะรองนัง่ แบบญีป่ นุ่ ทัง้ นี้ เก้าอีส้ ดุ ล้ำ�ตัวนีเ้ น้นการคำ�นึงถึงการ ใช้งานของผู้สูงอายุเป็นสำ�คัญอีกด้วย
วาซาบิเตือนภัย
ด้ ว ยความทั น สมั ย ของเทคโนโลยี ในปั จ จุ บั น ทำ�ให้เราสามารถเห็นโลกในมุมมองเดียวกับนักบิน อวกาศ!! ดังเช่นที่ โซอิจิ โนกูชิ นักบินอวกาศชาวญี่ปุ่น ใช้ทวิตเตอร์ หนึ่งในเครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิต ในยุคนี้ส่งภาพสวยๆ จากโลกอวกาศ ซึ่งนับเป็นครั้ง แรกและเป็นก้าวสำ�คัญของการส่งภาพแบบเรียลไทม์ กลับมายังโลกโดยไม่ผ่านศูนย์ภาคพื้นเหมือนแต่ก่อน โดยภาพที่เขาส่งมาก็มีทั้งภาพกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมือง หลวงของเฮติหลังจากผ่านมหันตภัยแผ่นดินไหวมาได้ 3 สัปดาห์ ภาพหมูเ่ กาะมัลดีฟส์ รวมไปถึงภาพภูเขาไฟ ฟูจิที่โด่งดัง นี่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีไม่ได้แค่ทำ�ให้ โลกของเราแคบลงเท่านั้น แต่อาจถึงกับทำ�ให้จักรวาล แคบลงเลยทีเดียว
จักรวาลแค่ปลายนิ้ว
นักวิทยาศาสตร์ญปี่ นุ่ ไอเดียบรรเจิด ประดิษฐ์สญ ั ญาณเตือน ไฟไหม้ที่มีทั้งเสียงและกลิ่น เพื่อสามารถช่วยเหลือชีวิตคนได้มาก ขึน้ โดยเป้าหมายคือผูส้ งู อายุและผูพ้ กิ ารด้านการฟัง เพราะมีความ สามารถในการได้ยินต่ำ�กว่าคนปกติ ซึ่งกลิ่นที่จะใช้สำ�หรับเตือน ภัยคือ กลิ่นวาซาบิ ที่ความฉุนของมันอาจช่วยให้ไหวตัวทันต่อ สถานการณ์ ทั้งนี้ เหยื่อผู้ประสบภัยเพลิงไหม้กว่า 50% ของญี่ปุ่น เป็นผูส้ งู วัยและผูพ้ กิ ารทางการได้ยนิ โดยนวัตกรรมใหม่นคี้ าดว่าจะ สามารถวางจำ�หน่ายได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า พัฒนาเทคโนโลยีแต่ก็ ยังไม่ลืมห่วงใยสังคม...อย่างนี้สิเจ๋งจริง
13
งานแถลงข่ า ว พิ ธี เ ปิ ด โครงการ ปาฏิหาริย์แห่งชีวิต (Miracle of Life) ครั้งที่ 2 จัดขึ้น
ณ ห้องประชุม 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ สถานสงเคราะห์ เด็กหญิงบ้านราชวิถี เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2553 โดย งานนี้ ได้รับเกียรติจาก นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ เป็นผู้กล่าวเปิดงาน และร่วมแถลงข่าวร่วมกับ นางพนิตา กำ�ภู ณ อยุธยา อธิบดีกรมพัฒนาสังคม และสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มอบหมายให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเดินหน้า สานต่อโครงการ “ปาฏิหาริย์แห่งชีวิต” (Miracle of Life) ครั้งที่ 2 ขยายโอกาสให้เด็กและเยาวชนเป้าหมายหลักจาก ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ 12,000 คน โดยยังคงเน้นการ พัฒนาศักยภาพ ส่งเสริมทักษะการเป็นผู้นำ�เชิงสร้างสรรค์ ผู้นำ�ในการปฏิบัติ และปลูกจิตสำ�นึกให้คำ�นึงถึงประโยชน์ ส่วนรวมเป็นหลัก โดยใช้รูปแบบการฝึกอบรมให้เยาวชนรู้จัก การทำ�งานร่วมกันเป็นกลุ่ม และเปิดโอกาสให้ใช้ความคิด สร้างสรรค์โครงการ ก่อนนำ �ไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ในพื้นที่จริง นอกจากนี้ ยังขยายช่องทางสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เยาวชนอย่างครอบคลุม ได้แก่ รายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ นิตยสาร และเว็บไซต์ เพือ่ ให้เยาวชนสามารถติดตามกิจกรรม และสมัครเป็นสมาชิก พร้อมเตรียมขยายฐานสู่ “ธนาคารแห่ง ความดี” และตัง้ เป้าให้ครอบคลุมไปยังเยาวชนไทยในต่างแดน ด้วย ทัง้ นี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะมีการติดตามผลการ ดำ�เนินโครงการอย่างต่อเนือ่ ง โดยมีเป้าหมายจะจัดตัง้ ศูนย์การ ดำ�เนินงาน MOL ให้ครบทุกจังหวัด โดยคาดหวังให้สมาชิก MOL เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ สร้างประโยชน์ต่อ สังคมและประเทศชาติสืบต่อไป
14
นายอิสสระ สมชัย รมต.การพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์
ท่านรัฐมนตรี อิสสระ สมชัย และ ท่านอธิบดี พนิตา กำ�ภู ณ อยุธยา แถลงข่าวพิธีเปิดโครงการ
นางพนิตา กำ�ภู ณ อยุธยา แถลงข่าวเปิดงาน
ร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกกับน้องๆ เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ
เหล่าเอเอฟร่วมแสดงความยินดี
นายรัชฏะ ศรีบุญรัตน์ ประธานสภาเด็ก ร่วมแถลงข่าว
เขมสรณ์ หนูขาว พิธีกร
ตัวแทนจากเอเอฟร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
การแสดงเพลงพื้นบ้านจากน้องๆ โรงเรียนบางลี่วิทยา จ.สุพรรณบุรี ที่ผ่านเข้ารอบโครงการ
ตัวแทนจากเอเอฟร่วมงานเปิดโครงการ
ตี๋ เอเอฟ 4 วิวิศน์ บวรกีรติขจร 15
พรพิริยา ชูตระกูล เรื่อง ชัยชนะ สิมะเสถียร ภาพ
โปสเตอร์ หนังนอกกระแสและลายเส้นการ์ตูน บิ ด เบี้ ย วที่ ติ ด อยู่ บ นผนั ง ทางเดิ น ของโรงภาพยนตร์ ที่ อ าจจะเรี ย กได้ ว่ า “แนว” ที่ สุ ด ในประเทศไทยอย่ า ง เฮ้ า ส์ อาร์ ซี เ อ เป็ น ที่ พั ก สายตาอย่ า งดี ในขณะที่ เ รา กำ � ลั ง รอพู ด คุ ย กั บ นั ก เขี ย นที่ “แนว” ที่ สุ ด คนหนึ่ ง ใน สายตาวั ย รุ่ น ยุ ค นี้ . ..หรื อ อย่ า งน้ อ ยก็ ใ นสายตาของเรา
นามปากกานิ้วกลมมีที่มายังไง มาจากเมื่อก่อนชอบเล่นเว็บบอร์ด ชอบเข้าไปตั้งกระทู้ เขียนวิจารณ์ หนัง เขียนเกีย่ วกับความคิด ความรูส้ กึ แล้วเห็นว่าคนอืน่ เค้าไม่ใช้ชอื่ ตัวเอง พอดีนอ้ งคนนึงเค้าใช้ชอ่ื ตัวกลม ไอ้เราเห็นก็คดิ อะไรไม่ออก มองนิ้ ว ตั ว เองมั น กลมๆ ก็ เ ออ งั้ น เอาเลยแล้ ว กั น ก็ เ ลยใช้ ชื่ อ นิ้วกลม (ยิ้ม)
“นิ้วกลม” นักเขียนในร่างครีเอทีฟช่างคิดที่แจ้งเกิดอย่าง สวยงามกับหนังสือท่องเที่ยวในแบบของตัวเองอย่าง “โตเกียวไม่มี ขา” ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากจะออกไปสู่โลกกว้างอย่างเขา มากขึ้น และด้วยความคิดที่ว่าหากไม่ก้าวเท้าออกเดินก็ไม่มีทางรู้ว่า โลกภายนอกเป็นอย่างไร ทำ�ให้เกิดบันทึกการเดินทางตามมาอีก มากมาย อาทิ กัมพูชาพริบตาเดียว เนปาลประมาณสะดือ สมอง ไหวในฮ่องกง นั่งรถไฟไปตู้เย็น ลอนดอนไดอารี่ 1.1 นอกจากนี้ เขา ยังมีผลงานที่สะท้อนความคิด ความรู้สึก และมุมมองที่มีต่อโลกใบ นี้อย่าง ปอกกล้วยในมหาสมุทร อาจารย์ในร้านคุกกี้ รวมไปถึงงาน เขียนแนวทดลองที่แสดงถึงความกล้าที่จะคิดและเขียนอย่าง ณ อิฐ และนวนิยายมีมือ นั่งรออยู่ชั่วอึดใจ ผู้ชายหน้าตี๋ที่มาพร้อมรอยยิ้มจริงใจก็เดิน มานัง่ ลงข้างหน้า แววตาของเขาเป็นประกายเหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่า อย่ารูจ้ กั เขาแค่ในนาม “นิว้ กลม” แต่เราควรรูจ้ กั ตัวตนจริงๆ ของ เขามากกว่าในฐานะของผูช้ ายชือ่ “สราวุธ เฮ้งสวัสดิ”์ ทีย่ นื ยันว่าการ เป็นนักเขียนนั้น “ไส้แห้ง” ได้ แต่อย่า...“ใจแห้ง”
ไปเอาไอเดียในการเขียนหนังสือมาจากไหน จริงๆ คิดว่าการเขียนหนังสือมันคล้ายๆ ปรากฏการณ์ฝนตก คือ มันไม่ได้อยู่ๆ ก็ผุดขึ้นมา แต่ว่ามันคือการสะสมหลายๆ อย่างไว้ใน ตัวเอง สิ่งที่เราเคยดู เคยเห็น เคยอ่าน เคยคุยกับผู้คน เคยเดินทาง ออกไปเจอ และก็อดีตของเราเองด้วย เรื่องที่เราเคยผิดหวัง สมหวัง ทุกคนมีเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว แค่ว่าพอเราเก็บๆ ไว้แล้ววันนึงมันมีอะไร มาสะกิดให้สิ่งเหล่านี้มันฟุ้งกระจายออกมา
16
แล้วเราจะมองอะไรรอบตัวยังไงให้มนั มีไอเดียขึน้ มา อยากให้แนะนำ� นักเขียนสมัครเล่นหน่อย ก็คงอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน ผมเชื่อว่าแต่ละคนมีโลกคนละใบกัน อยู่แล้ว เพราะว่าประวัติชีวิตและอดีตของเราไม่เหมือนกัน อย่างคน ที่เคยอกหัก รุนแรง หรือหมาตาย คุณยายเสีย คือเรื่องที่เสียใจที่สุด ยังไม่ตรงกันเลย เพราะงั้นอย่างคนที่หมาตาย เวลาเค้าเห็นหมา เค้า ก็ย่อมมองหมาไม่เหมือนที่เราเห็น ก็คงจะแนะนำ�ว่า ขอให้เชื่อมั่นใน โลกของตัวเอง เพราะโลกของเรามันไม่ซํ้ากับโลกของใคร แล้วก็ไม่มี ใครรู้จักโลกใบนี้ดีเท่าเรา ขอแค่เราจริงใจ ซื่อสัตย์ และเขียนสิ่งที่เรา
17
ถ้าเขียนบันทึกการเดินทางในประเทศไทย จะเป็นบันทึกการเดินทาง ที่ไหน ที่เขียนแน่ๆ ก็คงเป็นที่ไปโบกรถมา จริงๆ ก็อยากลงไปเห็นสาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยากรู้ว่าชีวิตคนที่นั่นเป็นยังไง แต่ก็คงได้ แต่พูดแหละครับ เพราะยังไม่มีเวลาไป (ยิ้ม) หนังสือแบบไหนที่อยากเขียนแล้วยังไม่ได้เขียน ลอนดอนไดอารี่ 1.2 (หัวเราะ) ยังไม่ได้เขียนซะที จริงๆ ที่อยาก เขียนมีเยอะมาก แต่พูดไปก็เหมือน... แล้วเมื่อไหร่มึงจะเขียน เพราะ โดยส่วนตัวไม่ได้แบ่งหนังสือออกเป็นแนว เช่น นิ้วกลมออกหนังสือเรื่องสั้นหักมุม ก็อยากเขียนครับ เรื่องสั้น นิยาย แล้วก็อยากเขียนหนังสือภาพ วันนึงคงได้เขียน (ยิ้ม) คิดออกมาให้คนอืน่ รูส้ กึ ด้วย คือการทีจ่ ะเขียน อะไรซักอย่างเราต้องเชือ่ มัน่ ในความคิดและเชือ่ มั่นในโลกของเราว่ามันมีคุณค่าพอ ระหว่างนักเดินทางและนักเขียนชอบเป็นอะไรมากกว่ากัน จริงๆ ไม่ได้เป็นทั้งสองอย่าง (หัวเราะ) เพราะไม่ได้เดินทางบ่อย ขนาดนัน้ แล้วก็ไม่ได้เขียนหนังสือเป็นอาชีพ เลยไม่เคยเรียกตัวเองว่า นั ก เขี ย นหรื อ นั ก เดิ นทาง ตอนนี้ ก็ ทำ� อาชี พ ครี เ อที ฟ และผู้ กำ� กั บ โฆษณา แต่ ถ้ า ถามว่ า ระหว่ า งนั ก เขี ย นกั บ นั ก เดิ นทางชอบอะไร มากกว่าก็คงไม่จำ�เป็นต้องเลือก เพราะหลายๆ อย่างในชีวิตเรา ไม่ต้องเลือกก็ได้ ช่วงเวลาที่อยากเขียนก็เขียน อยากเดินทางก็ เดินทาง ซึ่งมันก็เกื้อหนุนกันและกัน การเดินทางมันทำ�ให้เราได้ออก ไปเจออะไรใหม่ๆ เกิดความคิด แรงบันดาลใจใหม่ๆ เพื่อกลับมา กลั่นกรองเป็นงานเขียน ส่วนงานเขียนก็ทำ�ให้การเดินทางของเรา ลึกซึง้ ขึน้ มากกว่าการไปเทีย่ ว ทำ�ให้เราคิดทบทวนความรูส้ กึ ความคิด เกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ มากขึ้น การเดินทางครั้งไหนที่ประทับใจที่สุด มันกํา้ กึง่ นะ แต่ถา้ ประทับใจทีส่ ดุ ก็อาจจะเป็นโตเกียว เพราะเป็นการ แบ็กแพ็กครัง้ แรก เหมือนเป็นการทำ�อะไรครัง้ แรก ได้ท�ำ ในสิง่ ทีไ่ ม่เคยทำ� เช่น นอนข้างถนน คือเวลาไปเที่ยวเราอาจไม่ได้ชอบสถานที่ แต่ ชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นในทริปนั้นมากกว่า นี่ก็เพิ่งไปโบกรถเที่ยวจาก 18
เบตงไปแม่ ส าย ที่ ถื อ เป็ นทริ ป ในความทรงจำ� อีกครั้งหนึ่งในชีวิต ทริปที่ไปปลูกต้นไม้กั บ ผู้ อ่ า น ที่เชียงดาวก็ประทับใจมาก แล้วมีที่ไหนที่อยากไปแล้วยังไม่ได้ไป มีเยอะครับ อยากไปทุกที่ มันเปลีย่ นไปเรือ่ ยๆ อย่างตอนอ่านประวัติ ของดาร์วินก็อยากไปเกาะกาลาปากอส ตอนอ่านประวัติดาร์วินชี่ ก็อยากเดินทางตามเส้นทางชีวิตเค้า เหมือนจะมีความประทับใจกับญี่ปุ่นมาก ประทับใจมากครับ ผมว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีจิตวิญญาณ ยิ่งอ่าน หนังสือปรัชญา พวกวิถีแห่งเซน ก็เลยยิ่งอยากไปเห็น เพราะมันมี รายละเอี ย ดที่ เราต้ อ งไปเห็ น เองใกล้ ๆ อย่ า งร้ า นสาเกที่ ไ ด้ ไป (ใน “โตเกียวไม่มีขา”) ดูก็เป็นร้านเล็กๆ ธรรมดา ไม่มีอะไรพิสดาร แต่เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่าถ้วยสาเกมีอายุเก่าแก่มาก เค้าก็ค่อยๆ เล่าเรื่องราวให้ฟัง ซึ่งมันจะมีปรัชญาเล็กๆ แทรกอยู่ เราเลยรู้สึกว่า ญี่ปุ่นมันลึก มันน่าสนใจ
คิดว่าเสน่ห์ของการเป็นนักเขียนคืออะไร คือการได้เข้าใจตัวเอง ซึ่งผมว่าเป็นข้อสำ�คัญที่สุดของการมีชีวิต แล้วล่ะ แค่เข้าใจตัวเองก็มีความสุขแล้ว และการเขียนหนังสือก็เป็น กิจกรรมหนึ่งที่ทำ�ให้คนเราเข้าใจตัวเองมากๆ ผมเชื่อว่าเวลาที่เรา เข้าใจตัวเองมาก เราก็จะเลิกสนใจตัวเอง และพยายามเข้าใจคนอืน่ มากขึ้น และเราก็ได้เรียนรู้จากคนอื่นมากขึ้น แล้วเราก็จะเกลียดเค้า น้อยลง การเขียนมันเป็นบ่อเกิดของทัศนคติทดี่ ตี อ่ โลกและต่อคนอืน่ เป็นนักเขียนอาชีพสมัยนี้ดูยากเกินไปรึเปล่า ไม่ยากหรอก มันอยู่ที่ว่าเราเลือกรูปแบบชีวิตแบบไหน เคยขึ้นเวทีนึง แล้วเค้าถามว่า เป็นนักเขียนไส้แห้งรึเปล่า เราตอบเค้าไปว่า ไส้แห้ง มันไม่สำ�คัญเท่ากับ “ใจแห้ง” คือมันมีข้าวกิน แต่ไม่ได้ทำ�งานที่ ตอบสนองจิตใจ เราไม่ได้รู้สึกว่าเรามีคุณค่า วันนึงเราก็ตอบตัวเอง ไม่ได้ว่าเราทำ�ไปทำ�ไม โจทย์มันไม่ใช่ว่า คุณอยากได้เงินเท่าไร แต่ โจทย์มันคือ คุณอยากทำ�อะไร แล้วคุณทำ�รึเปล่า ซึ่งคนเราไม่ผ่าน ตรงนี้กันเยอะ
แล้วนักเขียนเป็นความฝันตั้งแต่เด็กเลยรึเปล่า ไม่ใช่เลย ตอนเด็กไม่ได้อ่านหนังสือนะ เพิ่งมาอ่านหนังสือจริงจัง สมัยมหาลัยนี่เอง โชคดีว่าเจอเพื่อนคนนึงที่เป็นนักอ่าน นักฟัง นักดู เค้าก็ชวนๆ เราไป ไปๆ มาๆ เราก็บ้ากว่ามัน สมัยเด็กเป็นคนยังไง เป็นเด็กหน้าห้องหรือหลังห้อง ก็เป็นเด็กเรียนนะ แต่กเ็ ป็นเด็กเรียนแบบกวนตีนครู (หัวเราะ) ไม่คอ่ ย เชื่อครูเท่าไหร่ แต่ก็ตั้งใจเรียน เฮี้ยวแบบหลบๆ ชอบหาอะไรทำ�ที่มัน สนุกๆ อย่างแปลงหนังสือเรียนเป็นเรือ่ งใหม่ เคยเรียนฟิสกิ ส์ ครูสอน ไม่สนุกแถมสัง่ ให้ท�ำ รายงาน เราก็ไม่อยากทำ�เลยซือ้ กางเกงยีนส์สสี ม้ สะท้อนแสงมาเขียนรายงานส่งอาจารย์ เขียนบนกางเกงเลย ทีนี้ พอมาทำ�งานสร้างสรรค์เลยรู้สึกสนุก มีความสุข คิดว่าเด็กยุคนี้แตกต่างกันมากแค่ไหนกับยุคของเด็กชายสราวุธ ไม่แน่ใจนะ เพราะไม่ได้ใช้ชวี ติ ใกล้เด็กมาก แต่คดิ ว่าเด็กยุคใหม่นา่ จะ ฉลาดขึ้น ฉลาดเร็วขึ้น แต่เค้าจำ�เป็นต้องฉลาด เพราะโลกมันกว้าง มาก สมัยเราโลกมันแคบ แต่เดีย๋ วนีโ้ ลกของเด็กกว้างมาก มันต้องเก่ง ถ้าแบบคนแก่ก็อาจจะมองสังคมยุคนี้ว่ามีความสัมพันธ์ฉาบฉวย มากขึน้ คนรออะไรไม่เป็น ใจร้อน ชอบอะไรฉับไว ฉาบฉวย เพิง่ จัดห้อง เจอการ์ด จดหมายเพือ่ น ยังคิดว่า โห กว่าจะส่งมาถึงเราต้องใช้ความ ตัง้ ใจมาก แต่เดีย๋ วนีก้ แ็ ค่กดบีบี ซึง่ มันต่างกันมาก เหมือนฝึกเจียวไข่ เด็กสมัยใหม่อาจจะทนไม่ได้แล้วก็ได้ อยากประสบความสำ�เร็จเร็ว แต่ ความอดทนตํ่า ซึ่งโลกหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ จิตสำ�นึกในการคิดถึงโลก คิดถึงคนอื่นมันไม่ทันกับความเร็วของโลกที่มันหมุนไป ถ้าสลับร่างกับรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการได้ อยากเปลี่ยนแปลง อะไรในระบบการศึกษาไทย (หัวเราะ) การศึกษาไทยเนี่ย ใครที่โตมามีคุณภาพนี่เก่งมากเลยนะ คนที่โตมาแล้วเก่งมันต้องไม่ใช่นักเรียนที่เรียนแต่ในห้องอย่างเดียว แน่ๆ เรียนแบบนั้นมันก็ปั๊มกันออกมา เพราะการศึกษาไทยมัน ไม่ให้คนมีความคิดที่เป็นทางเลือกเลย สิ่งแรกที่อยากเปลี่ยนคือ
นั่นเป็นเหตุผลที่เลือกไปญี่ปุ่นเป็นที่แรก ไม่เลยครับ จริงๆ ไม่มีเหตุผลเลย (หัวเราะ) ตอนนั้นเพื่อนชวนไป เพราะเพื่อนชอบ แต่ก็เหมือนๆ เด็กทั่วไป เราโตมากับญี่ปุ่น การ์ตูน ก็อ่าน ถ้าเป็นผู้ชายก็ต้องดูหนังสือโป๊ญี่ปุ่น นางแบบญี่ปุ่น 19
เรามีความสุขกับมันทั้งสองอย่าง แต่ถ้าบีบคอให้เลือกก็คงเลือกงาน เขียน เพราะเราตอบตัวเองได้ว่าเราเขียนทำ�ไม งานเขียนมันคือตัว เราจริงๆ ความคิดมันออกมาจากตัวเรา มันคือสิ่งที่เราอยากจะบอก อยากจะคุยกับคนอื่น เราบอกตัวเองได้ว่ามันต้องมี เราถึงยังต้องอยู่ บนโลกใบนี้ มันอาจจะเป็นภารกิจของคนที่เกิดมา คือหาธรรมชาติ ของตัวเองให้เจอ ซึ่งงานเขียนทำ�ให้เรามีความสุขที่ได้ทำ�
ครูต้องไม่ใช่ผู้มีอำ�นาจ ไม่ใช่ผู้ที่เป็นใหญ่ ผู้พิพากษาถูกผิด แต่ครู คือ ผู้จิ้ม ผู้เขี่ย เช่นแบบ เป็นอย่างนี้ได้มั้ย อย่างนั้นได้มั้ย หนึ่งคือ ครูไม่มีอำ�นาจ สองคือเมื่อครูไม่มีอำ�นาจเด็กจะกล้าตั้งคำ�ถามมาก ขึ้น ซึ่งเป็นธรรมชาติของเด็กอยู่แล้ว แต่พวกเราหยุดถามกัน เพราะ ครูถือไม้เรียว และเมื่อเด็กตั้งคำ�ถาม เด็กก็จะฉลาดเอง ต่อไปคือถ้า เด็กฉลาดแล้ว ครูก็ต้องฉลาดขึ้น มันก็คงเป็นลูกโซ่ คำ�ตอบใหญ่ๆ ก็คือ ครูต้องไม่ใช่คนที่ถูกที่สุด และต้องเปิดโอกาสให้เด็กตั้งคำ�ถาม คำ�ว่าเด็กแนวในความคิดของนิ้วกลมคืออะไร คิดยังไงที่เด็กแนว ยกให้นิ้วกลมเป็นไอดอล คำ�ว่าเด็กแนวมันเชยมากแล้วนะ มันเป็นคำ�ยุคผม (หัวเราะ) ยุคที่มี อะเดย์ มีแฟต ยุคนี้ไม่น่าจะเป็นคำ�ว่าเด็กแนวนะ เหมือนอ่านอะเดย์ ไปงานแฟต ฟังเพลงอินดี้ ก็คือเป็นเด็กแนว ผมกลับรูส้ กึ ว่ายุคนีต้ อ้ งการเด็กแนวในเจเนเรชัน่ นีใ้ หม่แล้วนะ คือสิง่ ที่ มันเคยแนวมันไม่แนวแล้ว ทุกวันนีไ้ ม่มใี ครกล้าออกมาสร้างทางเลือก ใหม่เลย ทั้งๆ ที่มันอยู่ในภาวะคล้ายๆ กันกับเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ยุค ฟองสบู่แตกทีไ่ ม่มใี ครทำ�อะไรได้ โอเพ่นก็ออกมาเปิดหนังสือ พีโ่ หน่ง ก็เปิดอะเดย์ ในสภาวะที่คนไม่มีเงินใช้ แต่ยุคนี้ดูเหมือนทุกคนกลัวๆ กล้าๆ กันหมด กระทั่งผู้ใหญ่รุ่นเราๆ ก็ไม่มีใครกล้าสร้างแนวทางที่ เป็นแรงบันดาลใจดีๆ สมมติอย่างอะเดย์ที่เคยเป็นทางเลือกใหม่ เรา ก็คิด มันไม่มีอีกแล้วเหรอ จะจบแค่นี้เหรอ เหมือนมันขาดคนกล้าทำ�อะไรใหม่ๆ แปลกๆ แหวกแนว ใช่ เหมือนถ้าถามคนรุ่นเราก็คงตอบเหมือนๆ กันว่า อะเดย์หรอ แฟตหรอ แมสจะตาย ไม่ได้หมายความว่าไม่ดนี ะ แต่มนั ก็ไม่ได้เปรีย้ ว ในความรูส้ กึ เหมือนตอนนัน้ แล้ว มันกลายเป็นคลาสสิกไป เราต้องการ อะไรที่เปรี้ยวๆ ใหม่ๆ มากกว่า ไอดอลของนิ้วกลมที่ก็ถือว่าเป็นไอดอลเหมือนกันคือใคร เอาเป็นบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจดีกว่า ก็เช่น พี่จิก (ประภาส ชลศรานนท์) พี่โหน่ง (วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์) นอกนั้นก็เป็นบุคคล ที่มีอิทธิพลต่อความคิดของเราอย่าง อาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
20
ทำ�ไมถึงได้มากำ�กับเอ็มวี “เพลงนี้เพื่อลานเล่นน้อง” จริงๆ มันเป็นงานของครีเอทีฟเค้า แต่หาผูก้ �ำ กับอยู่ หาคอนเซ็ปต์ของ เนื้อเพลงด้วย แล้วก็เห็นว่าน่าสนใจดี ตอนนี้อยากทำ�หนัง อะไรมาก็ ทำ�ทั้งนั้น (หัวเราะ) เออ แล้วก็คิดว่าคุยกับ แสตมป์ (7th Scene) ได้ ช่วยเขียนเพลงกันขึ้นมาได้ ก็เริ่มคิดรูปแบบการเล่า ซึ่งจริงๆ มัน ก็เป็นความคิดที่ดีนะ ตัวแบรนด์เค้าก็ได้ เด็กๆ ก็ได้ด้วยจริงๆ เลย รู้สึกว่าเป็นโครงการที่ดี พี่คุ่น (ปราบดา หยุ่น) ท่านพุทธทาส ภิกขุ ซึ่งเราชื่นชอบงานเขียน และความคิด
นอกจากเอ็มวี ทำ�อะไรอีกบ้างในโครงการนี้ ก็กำ�กับเอ็มวีอย่างเดียวครับ
ทำ�งานหลายบทบาทหน้าที่ ทั้งครีเอทีฟ นักเขียน วิทยากร รวมทั้ง นักดนตรี จัดการชีวิตอย่างไร ตอนนี้ยังจัดการไม่ค่อยได้เลย (หัวเราะ) จริงๆ มันก็จัดการง่ายๆ แหละครับ ผมเลือกทำ�งานประจำ�ที่ไม่กินเวลาชีวิตเรามากเกินไป เพราะเราเคยทำ�งานประจำ�ที่หนักมากมาแล้ว เลิกเที่ยงคืน ตีสอง ทำ�ให้รสู้ กึ ว่าบางด้านของชีวติ มันหายไป ไม่ได้คยุ กับพ่อแม่ ไม่ได้อา่ น หนังสือที่อยากอ่าน ไม่ได้ดูหนังที่อยากดู แบบอยากให้งานประจำ� เลิกหนึ่งทุ่ม แต่นี่นอนตีสี่มาหลายวันแล้ว (หัวเราะ) ง่ายๆ ก็คือ ทำ�งานประจำ�ทีม่ ชี ว่ งเวลาเหลือไปทำ�อย่างอืน่ แล้วก็เอาเวลานัน้ ไปทำ� สิ่งที่เราชอบ ถ้าเราทำ�สิ่งที่ชอบก็จะไม่คิดว่าเป็นการทำ�งาน คนอื่น พักผ่อนด้วยการดูหนัง ดูละคร แต่เราพักผ่อนด้วยการอ่าน การเขียน ผมว่าเวลาคนเราได้ทบทวน ได้เข้าใจตัวเอง นัน่ คือความสุขอย่างหนึง่
คิดว่าได้อะไรจากการทำ�โครงการนี้ ได้กำ�กับครับ (หัวเราะ) จริงๆ จะแกล้งตอบให้ลึกซึ้งก็คงได้ แต่ที่ได้ จริงๆ คือ ลองทำ�เอ็มวีที่ไม่เคยทำ�มาก่อน ตอนนี้ทุกอย่างที่ได้กำ�กับ มีความสุขหมด เพราะเราใหม่มาก ใครให้อะไรมาก็อยากทำ�หมด แต่ถา้ ตอบให้สวยๆ นีก่ ค็ งได้ทบทวนความทรงจำ�ว่าการเล่นมันดียงั ไง เหมือนสุดท้ายเราก็ตอบตัวเองได้วา่ ทำ�ไมเราต้องเล่น เพราะว่าการเล่น ก็คือเด็กที่อยู่ในตัวเราตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่เราลืมเล่นก็แปลว่าเรา แก่แล้ว แต่ความยากก็คือเราจะรักษาความเด็กนี้ไว้ยังไง
แล้วถ้าต้องทำ�งานแค่อย่างเดียวจะเลือกทำ�อะไร อันนีโ้ ดนถามบ่อย (หัวเราะ) ไม่เลือกครับ เป็นคนไม่ชอบเลือกอยูแ่ ล้ว นี่คิดแบบเด็กไทยเลยนะ ชอบคิดแบบปรนัย ก. ข. ค. ง. ต้องเลือก มาหนึ่งข้อ แต่จริงๆ ชีวิตมันคืออัตนัย มันมีหลายบรรทัดให้เราเขียน บางครั้งไอ้โจทย์ที่บอกให้เลือกอะไร มันก็ไม่จำ�เป็นต้องเลือก ในเมื่อ
ตอนนี้นิ้วกลมก็ยังเล่นอยู่ ก็ยังเล่นนะ แต่เล่นน้อยลง เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าเราเปรี้ยวน้อยลงเยอะ อาจ เป็นเพราะเขียนหนังสือเยอะมั้ง ยิ่งเขียนก็ยิ่งแก่ ตัวหนังสือที่เขียนไป มันก็ย้อนกลับมาหาเรา ก็ต้องเล่นน่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวรู้สึกแก่ แล้วสำ�หรับเด็กๆ ที่อยากเป็นนักเขียนหรือมีความฝัน จะไปให้ถึง ฝันนั้นได้ยังไง ผมว่าข้อแรกเลยที่ต้องมีคือ ความเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองเป็น ซึ่งมัน มั ก จะถู ก บั่ นทอนจากคนรอบข้ า งเสมอๆ ทั้ ง พ่ อ แม่ เพื่ อ น ครู
พีจ่ ยุ (ศุ บุญเลีย้ ง) บอกว่า อะไรทีเ่ รายังไม่ได้ท�ำ วันละแปดชัว่ โมง อย่าเพิง่ บอกว่า ทำ�ไม่ได้ แบบแกทำ�ไม่ได้หรอก แกเป็นไม่ได้หรอก แต่จริงๆ คนที่รู้ว่ามันได้ หรือไม่ได้คือตัวเรา ถ้าคิดว่าทำ�ได้ก็ต้องลอง ผมว่าก้าวแรกสำ�คัญ จริงๆ ช่วงเวลา 20-30 ปี มันไม่ใช่ชว่ งเวลาทีจ่ ะไปเอาตำ�แหน่งหน้าที่ อะไรในออฟฟิศ แต่มันน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เราจะค้นหาตัวเอง เวลา ตั้งสิบปี ตอบตัวเองให้ได้ว่าเราอยากทำ�อะไร แล้วหาให้เจอ ชีวิตเรา หลังจากนั้นก็จะไม่ทรมานแล้ว บางคนครอบครัวไม่สนับสนุน ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคในการทำ�ตาม ความฝันให้เป็นจริง จริงๆ ก็ไม่บังอาจไปก้าวก่ายครอบครัวเค้า แต่คิดว่าคนเราเกิดมาก็ เป็นเรานะ ชีวิตเป็นของเรา พ่อแม่ก็รู้ว่าหวังดี อย่างถ้าเราไปเสพยา แล้วเค้าด่า อันนัน้ สมควร แต่ถา้ เราอยากวาดรูป เป็นศิลปิน แล้วเค้าด่า นั่นคือเค้าผิด เค้ามีสิทธิ์ตัดสินได้ไงว่าการวาดรูปมันผิด มันไม่ดี แต่ สิง่ ทีเ่ ด็กไม่มคี อื หนึง่ เค้าไม่เชือ่ มัน่ ว่าเค้าทำ�ได้ สองคือไม่กล้าทีจ่ ะทำ� และสามคือไม่จริงจังกับมันมากพอ ถ้ามีสามอย่างนี้ก็ต้องทำ�ได้ ผมเชื่ออย่างนั้นนะ เพราะถ้ารักแล้วไม่ทำ�มันก็ไม่เกิด เหมือนที่ พี่จุ้ย (ศุ บุญเลี้ยง) บอกว่า อะไรที่เรายังไม่ได้ทำ�วันละแปดชั่วโมง อย่าเพิ่ง บอกว่าทำ�ไม่ได้ คนเราถ้าท้อเร็วเกินไป มันก็ไม่ได้ ตอนเด็กๆ กว่าเรา จะเดินได้นี่มันยากมากเลยนะ แต่ก็ยังเดินกันได้ ซึ่งนี่คือเคล็ดลับใน การประสบความสำ�เร็จ ต่อไปมีโครงการจะทำ�อะไรให้สังคมแบบนี้อีกมั้ย คือที่ทำ�ไปนี่ไม่ได้ทำ�เพื่อสังคม แต่เพื่อตัวเอง (หัวเราะ) คือโครงการ เค้าก็ทำ�เพื่อสังคมแหละครับ แต่เราก็เป็นแค่ทีมงาน เป็นคนหนึ่งที่ ได้ทำ�งาน ซึ่งมันก็คงดีครับ ได้ทำ�อะไรเพื่อสังคมบ้าง แล้วก็มีหนัง โฆษณาที่เพิ่งทำ�เสร็จไป เป็นหนังชวนคนไปบริจาคอวัยวะ ซึ่งหาชม ได้ทางทรูวิชั่นส์ครับ
21
ดังตฤณ เรื่อง ตุ้มเม้ง ภาพประกอบ
ถ้ความคิา คุดณสกปรก เป็ น คนหนึ่ ง ที่ กำ � ลั ง ทรมานใจอยู่ กั บ ความทรงจำ�แย่ๆ หรือความลับ
น่าอับอายเกินกว่าจะให้ใครรู้ว่าเราก็คิดอย่างนี้ ได้ ขอให้ทราบเถิดว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยว ยังมีคนอีก ทั้งโลกเป็นเพื่อน ที่สำ�คัญว่าคิดบ้าๆ อยู่คนเดียว ก็เพราะไม่ได้เปิดอกนั่งจับเข่าคุยกันเท่านั้นแหละ ใคร เล่าจะอยากขุดเอาความคิดเพี้ยนๆ เลอะเทอะในหัว ของตัวเองออกมาแฉให้คนอื่นร่วมรับทราบไปด้วย
22
คลืน่ ความคิดทีก่ ระทบใจแล้วรบกวนเราได้ แรงๆ นั้น ไม่จำ�เป็นต้องชั่วช้าสามานย์อะไรมาก แค่คำ�ด่าบางคำ�ที่ใครบางคนมาปล่อยเรี่ยราด ตามเว็บบอร์ด โดยชี้นำ�ให้คิดโยงคำ�ด่านั้นไปหา คนที่คุณนับถือ ก็เพียงพอแล้วที่มันจะกลายเป็น อาถรรพ์ตามมาวนเวียนหลอกหลอนคุณ ยั่วยุ ให้คุณนึกถึงคำ�วิปริตนั้นวันละเป็นสิบเป็นร้อย รอบ คล้ายมีวญ ิ ญาณร้ายแฝงอยูใ่ นสมองของคุณ ก็ไม่ปาน ลองมาหาคำ�ตอบกันดูครับ ความเข้าใจ ถึงที่มาที่ไป ตลอดจนอุบายต่อไปนี้ อาจช่วยคุณ ให้พ้นทุกข์จากความคิดชนิดบาดใจได้ในเวลา ไม่นานนัก ความคิดไม่ดีมาอยู่ในหัวเราได้อย่างไร? และที่ ร้ า ยกว่ า นั้ น ทำ � ไมมั นถึ ง เกิ ด ขึ้ น บ่ อ ยๆ ทั้งที่เราเกลียดความคิดแบบนั้นแทบดิ้นตาย? คำ � ตอบคื อ ใจเราเป็ น ธรรมชาติ อ ย่ า ง หนึ่ง ที่เข้าไปติด เข้าไปข้อง หรือเข้าไปยึดมั่น สิ่งที่รักแรงหรือเกลียดแรงได้อย่างเหนียวแน่น และความยึดมั่นอย่างเหนียวแน่นนั้นเอง เป็น ตัวการผลิตความคิดถึงสิ่งที่ยึดได้เรื่อยๆ ขอให้ นึ ก ถึ ง บุ ค คลอั น เป็ นที่ รั ก ยิ่ ง คุ ณ เห็ น เขาหรื อ เธอปรากฏตั ว ก็ อ ยากถลาเข้ า ไป กอดรัดให้เต็มอ้อมแขนทันที อาการอยากกอดรัด ทางกายนั้นแหละ สะท้อนให้เห็นอาการยึดติด ทางใจประมาณเดียวกัน ส่วนบุคคลอันเป็นที่ชิงชังยิ่งสำ �หรับคุณ เมื่อใดปรากฏตัว คุณจะอยากเบือนหน้าเดินหนี แต่เหมือนเขายังเป็นเงาติดตามคุณมาทุกฝีก้าว ไม่หา่ ง นัน่ เพราะใจคุณไม่เคย “ทิง้ ” เขาเลย หรือ ถ้าคุณเกลียดจัดแทนที่จะอยากเดินหนี คุณอาจ อยากถลาเข้าไปเขย่าคอ ชกหน้า ตบตีหรือทำ�ร้าย ร่ า งกายเขาเลยด้ ว ยซํ้ า นี่ ก็ เป็ น เครื่ อ งแสดง อาการยึดของจิตอีกแบบ เกลียดกันแล้วก็ยึด ว่าต้องทำ�ลายล้าง ต้องทำ�ให้เจ็บปวดในทางใด ทางหนึ่ง ปล่อยให้ลอยนวลสบายๆ ไม่ได้
เมื่ อ รั ก แรงแล้ ว คิ ด ถึ ง บ่ อ ยๆ ย่ อ ม เป็นสุขสดชื่น แต่หากเกลียดแรงแล้วคิด ถึงบ่อยๆ ย่อมเป็นทุกข์ อึดอัด ไม่สบายใจ กระวนกระวาย หรือกระทัง่ พาลพาโลเกลียด ตนเองไปด้วย ค่าที่รู้สึกว่าความคิดคือเรา เราคือความคิด เมื่อความคิด “น่าเกลียด” ตัวเราก็ย่อมน่ารังเกียจไปด้วย อาการที่สะท้อนความทรมานใจกับ ความคิดในหัวแต่ละครัง้ อาจแตกต่างกันไป ถ้าอาการน้อยหน่อยก็อาจแค่ขมวดคิว้ นิว่ หน้า อยูก่ บั ตัวเอง แต่ถา้ อาการหนักหน่อย ก็อาจ ทำ�ท่าฟึดฟัดงุน่ ง่าน จนคนอยูใ่ กล้ตอ้ งหันมา ถามว่า “เป็นอะไร?” อย่างอดสงสัยไม่ได้ ยิง่ หากคุณรูส้ กึ ว่าความคิดทีเ่ สียดแทง หั ว หู อ ยู่ นั้ น เป็ น เรื่ อ งน่ า อั บ อายเกิ นกว่ า จะปรึกษาใคร เรียกว่าไม่กล้าเปิดเผยกัน ตลอดชี วิ ต ก็ ยิ่ ง ยํ้ า ติ ด และคิ ด หนั ก เช่ น คำ � หยาบที่ โ ยงเข้ า กั บ สิ่ ง ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ หรื อ ความคิดทางเพศกับญาติเชื้อ แม้คุณจะ ปฏิ เ สธว่ า ไม่ ไ ด้ คิ ด ไม่ ไ ด้ ตั้ ง ใจ ไม่ ไ ด้ อยากอยู่ ข้ า งเดี ย วกั บ ความคิ ด พรรค์ นั้ น มั น ก็ ยั ง คงวนเวี ย นเยี่ ย มหน้ า มาไม่ เ ลิ ก ราวกับมีศัตรูตามราวีตนอยู่ในตัวเอง หลายคนต้องทรมานใจเป็นสิบๆ ปี เพี ย งเพราะไม่ รู้ ว่ า จะเอาความคิ ด บั ด สี บัดเถลิงหรือความคิดลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ออกไปจากหัวของตัวเองได้อย่างไร บ้างก็ หาทางออกด้ ว ยการเข้ า หมู่ เ ข้ า พวกกั บ คนถ่อยไปเลย จะได้เห็นเป็นเรื่องธรรมดา ให้รแู้ ล้วรูร้ อด อันนีน้ บั เป็นทางออกทีม่ ดื มน ที่สุด และเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าความคิด ในหัวไม่ใช่แค่ลมแล้งเล็กน้อย ถ้าแกะไม่ ออก ถอดไม่หมด ชีวิตก็อาจพลิกจากด้าน สว่างเข้าสู่ด้านมืดโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ผมขอให้คุณๆ มองอย่างนี้ครับว่า ยิ่ ง หาทางแก้ ค วามคิ ด ไม่ ดี ก็ ยิ่ ง ตอกยํ้ า ให้ ก ลุ้ ม ว่ า เราคื อ เจ้ า ของความคิ ด ไม่ ดี
อย่าไปทำ�อย่างนั้นเลย หาทาง เป็นคนละข้างกับมันดีกว่า วิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยาก และ สามารถทำ�ได้จริง คือ ในแต่ละครัง้ ที่ความคิดเลวร้ายมันผุดขึ้นในหัว ให้ดูว่ามันมาเอง เราไม่ได้เชิญ! ก็ถ้าเราไม่ได้พามันมา เราไม่ได้ เป็นฝ่ายเชือ้ เชิญมัน แล้วทำ�ไมมันจะต้อง เป็นความรับผิดชอบของเราด้วย? สิ่ ง ใดเกิ ด ขึ้ น ในหั ว ของเรา ไม่ ได้ หมายความว่ามันเป็นตัวเราหรือของเรา เสมอไป ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณไปเก็บตก คำ�ด่าที่สาดกระจายเรี่ยราดตามเว็บบอร์ด แล้วเอามานั่งกลุ้ม เพราะคำ�นั้นดันติดแน่น ฝังหัวผุดขึ้นในหัวของคุณบ่อย ทั้งๆ ที่คุณ ไม่อยากให้มีค�ำ นั้นขึ้นมาในโลก อย่างนี้ให้ ตั้งหลัก ตั้งสติ แล้วคิดย้อนศรง่ายๆ ว่า คำ � หยาบเป็ น วจี ทุ จ ริ ต ของคนอื่ น เป็ น การจงใจสือ่ สารทีช่ วั่ ร้ายของคนอืน่ มันไม่ใช่ คำ�ของคุณมาแต่แรก คุณไม่ได้ชั่วร้ายอย่าง เขา แต่คณ ุ “เคราะห์รา้ ย” ทีร่ เู้ ท่าไม่ถงึ การณ์ ไปเกิดความเกลียดคำ�ๆ นัน้ เข้า จิตเลยเกิด อาการยึดคำ�นั้นไว้เต็มเหนี่ยวด้วยพลังมืด ของความเกลียด ดังกล่าวไว้แล้วแต่ต้น เมื่ อ ยึ ด มากก็ ห วนกลั บ มาคิ ด มาก และยิ่ ง รู้ สึ ก คล้ า ยเป็ น เจ้ า ของความคิ ด เสียเองมากขึ้นทุกที การทึกทัก หลงยึด ว่าความคิดนั้นๆ เป็นของคุณ เป็นตัวคุณ นั่ น แหละ ก่ อ ความรู้ สึ ก ผิ ด ขึ้ น มา จน กระวนกระวายเสียสุขภาพจิตเปล่าๆ พอพิ จ ารณาอย่ า งละเอี ย ดเท่ า นี้ คุณจะเริ่มโล่งใจ สบายใจขึ้น อย่างน้อย ก็ มี แ ก่ ใ จจะรั บ มื อ กั บ ความคิ ด เลวร้ า ย อย่างถูกต้อง นั่นคือ ไม่ไปให้ “อาหาร” หล่ อ เลี้ ย งมั นด้ ว ยความรู้ เท่ า ไม่ ถึ ง การณ์ ซํ้าซ้อน ทั้งในทางคล้อยตามมันไป และ ในทางต่อต้านปฏิเสธจะไม่ยอมให้มันมา
ทำ � ไมจึ ง ไม่ ค วรต่ อ ต้ า น? อย่ า งที่ ผมกล่าวแล้วว่า ยิ่งเกลียดแปลว่ายิ่งยึด ส่วนการต่อต้านก็คอื ยิง่ ตอกยํา้ ความเกลียด เข้าไปใหญ่ แล้วเมื่อไรใจจะเลิกยึดได้เล่า? ท่าทีทถ่ี กู ต้องคืออย่างไร? ประการแรก คุ ณ ต้ อ งยอมรั บ ตามจริ ง โดยดุ ษ ณี ว่ า ความคิดเลวร้ายมันเกิดขึ้นในหัวของคุณ และนอกจากจะเห็นมันมาเองโดยคุณไม่ได้ เชิญแล้ว ยังต้องเห็นว่ามันไปเองได้โดย ไม่ตอ้ งขับไล่อกี ด้วย ขอแค่ใจเย็น เฝ้าดู และ ไม่แคร์ว่าจะต้องดูกี่ร้อยกี่พันรอบก็ตาม พอคุณเฉยๆ ในอาการยอมรับว่า มันมาเองและไปเอง ขณะนั้นจิตของคุณ จะประกอบด้วยสติ รับตามจริง รู้ตามจริง ไม่หลอกตัวเอง บ่อยครั้งเข้าในที่สุดจะได้ ข้ อ สรุ ป เป็ น ความสบายใจอย่ า งมี ส ติ รู้ ว่ามันไม่ใช่เรา เราไม่เห็นจะต้องไปให้ความ ร่วมมือหรือต่อต้านมันเลยแม้แต่นิดเดียว ผลพลอยได้ทตี่ ามมาคือคุณจะไม่ใช่ พวกรักแรงเกินไป เกลียดแรงเกินไป คือ รักได้และเกลียดได้นะครับ แต่ไม่เกินขีด ไม่ แปรความรั ก และความเกลี ย ดมาเป็ น ความยึดแน่นให้เป็นทุกข์เปล่าๆ
23
วิภว์ บูรพาเดชะ เรื่อง
ฉัว่ า น“เมืบอกเธอด้ ว ยความดี ใ จ ่ อ คื น นี้ ฉั น ฝั น ว่ า โดน
งู รั ด ส ง สั ย ว่ า วั น นี้ จ ะ เ จ อ เนื้ อ คู่ ” เธอถามฉั น ว่ า “แล้ ว งู บอกเลขอะไรบ้ า งหรื อ เปล่ า จะได้เอาไปซือ้ สลากกินแบ่ง” เช่นนัน้ ฉั น จึ ง รู้ ว่ า ความฝั น ของเราไม่ เหมื อ นกั น เธอฝั น อยากรวย ส่ ว นฉั น ฝั น อยากมี ค วามรั ก
24
ความฝันของคนเราช่างแตกต่างกัน ไปได้หลายร้อยพันรูปแบบ มันหลากหลาย จนไม่ว่าจะเอาเกณฑ์อะไรมาวัดก็จัดแบ่ง กันไปได้ไม่รู้จบ ผมเลยนึกสนุก ลองหากฎเหล็กมา จั ด แบ่ ง ฝั นกั น เล่ น ๆ สั ก สามสี่ ย่ อ หน้ า ... ดูซวิ า่ ความฝันครัง้ นีจ้ ะไปได้ไกลสักแค่ไหน เริ่มจากแบ่งง่ายๆ ก่อนว่าเป็นฝัน ตอนหลับหรือตอนตื่น ถ้าฝันตอนหลับมัก จะทำ�ให้เรานึกถึงภาพเบลอๆ ทีจ่ ติ ใต้ส�ำ นึก เราเก็บไปคิดจนกลายเป็นฝันดีหรือฝันร้าย หรือไม่ก็นึกถึงการตีความทำ�นายฝัน แต่ ถ้ า ฝั นตอนตื่ นนั้ นน่ า จะหมายถึ ง สิ่ ง ที่ เรา อยากเป็น อยากได้ อยากมี ฟังอย่างนี้แล้ว ดูเหมือนจะพูดกันแต่ความอยาก แต่ถ้าพูด ว่าฝันตอนตืน่ หมายถึงจุดมุง่ หมายในชีวติ ที่
เราตัง้ ใจไปให้ถงึ ก็จะฟังดูดมี แี รงบันดาลใจ ขึ้ น มาหน่ อ ย ความคิ ด แง่ บ วกแบบนี้ ค ง เป็นที่มาของประโยคประมาณ ‘ฝันให้ไกล ไปให้ถึง’ ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ แต่ถ้าจะคิด แง่ลบ เวลาพูดว่า ‘ฝันกลางวัน’ จะให้ความ รูส้ กึ ว่าเพ้อเจ้อ ทัง้ ทีต่ ามตัวอักษรมันก็หมาย ถึงการฝันในเวลาทีค่ นทัว่ ไปตืน่ อยูน่ นั่ แหละ เรายังสามารถเอา ‘ความสมจริง’ มา เป็นเกณฑ์ในการเปรียบเทียบความใฝ่ฝนั กัน ได้ด้วย ฝันที่อยู่บนพื้นฐานของความจริงก็ จะมีความเป็นไปได้มากหน่อย ความฝันที่ ใช้จนิ ตนาการมากเกินไปก็กลายเป็นจริงได้ ยากสักนิด ส่วนใหญ่แล้วตอนทีเ่ ราเด็กๆ เรา ก็มักจะฝันด้วยจินตนาการกันไว้ก่อน เด็ก หลายคนฝันอยากเป็นไดโนเสาร์ อยากเป็น ซูเปอร์ฮโี ร่ อยากเป็นนายกรัฐมนตรี พอโตขึน้ อีกนิดถึงมีความรู้ว่าไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไป นานแล้ว รูว้ า่ คนบินไม่ได้ หรือรูว้ า่ นักการเมือง ต้องพูดโกหกเก่งๆ คราวนี้ความฝันของ วัยรุ่นส่วนใหญ่ก็เลยมุ่งมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับ อาชีพมากขึน้ บางคนฝันอยากเป็นหมอ เป็น ตำ�รวจ เป็นวิศวะ สถาปนิก บางคนฝันอยาก เป็ นนั ก ร้ อ ง ดารา ก็ เริ่ ม ศึ ก ษาเล่ า เรี ย น และหาหนทางเดิ น กั น ไปตามทางสาย อาชีพนั้นๆ ใครมีโอกาสและความสามารถ เหมาะสมก็อาจมีฝนั ทีเ่ ป็นจริงได้ ใครเดินไป แล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ หรือไม่ขยันตั้งใจกับการ เดินให้เพียงพอก็อาจต้องหาความฝันใหม่ เปลี่ยนสายอาชีพ เปลี่ยนเส้นทาง จนกว่า จะเจอทางที่ พ อเดิ น ไปได้ แ ละไม่ ฝื น กั บ ตัวเองเกินไปนัก แต่ก็มีอีกหลายคนที่ฝัน เป็นจริงไปแล้ว แต่ก็ยังสามารถเริ่มเดินได้ ใหม่เรือ่ ยๆ ยกตัวอย่างเช่น ชายไทยท่าทาง เรียบร้อยชือ่ วินทร์ เลียววาริณ เขาเคยตัง้ ใจ รํ่ า เรี ย นจนได้ เป็ น สถาปนิ ก อย่ า งที่ ใฝ่ ฝั น แล้วหันไปทำ�งานโฆษณาจนมีบริษัทของ
ตัวเอง ก่อนที่จะมาเริ่มลงมือเขียนหนังสือ เมื่ออายุไม่น้อยแล้ว แต่ก็เขียนได้ดีจนได้ ซี ไรต์ ตั้ ง สองครั้ ง อาชี พ ทั้ ง สามอย่ า งใน แต่ละช่วงชีวิตของวินทร์ดูจะเกี่ยวข้องกับ การก่อสร้างจินตนาการให้เป็นความจริง ทั้งนั้น นี่หมายความว่าเขารู้จักส่วนผสมที่ พอเหมาะระหว่างจินตนาการกับความรู้ ทีจ่ ะ เอามาก่อร่างสร้างให้ฝนั เป็นจริง ใช่หรือไม่? ลองเอา ‘จำ � นวนผู้ที่ได้ประโยชน์ จากความฝัน’ เข้ามาเป็นเกณฑ์พิจารณา ดูบ้าง จริงๆ แล้วความฝันแต่ละฝันนั้นมี ผู้ได้รับประโยชน์ไม่เท่ากัน ลองเทียบกัน ระหว่างฝันว่าอยากรวยเป็นเศรษฐีเจ็ดหมืน่ ล้าน กับฝันว่าจะเป็นนักพัฒนาอาสาไป ช่วยเหลือชาวบ้านผู้ยากไร้ จะเห็นว่าฝัน อย่างแรกนั้นดูเหมือนจะเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ส่วนอย่างหลังนั้นเอาคนอื่นเป็นจุดสนใจ สองความฝันนี้คิดง่ายๆ ก็เห็นว่ามีจ�ำ นวน ผู้ได้ประโยชน์ต่างกันลิบลับ แต่ถ้าคิดให้ ซั บ ซ้ อ นหน่ อ ยก็ ไ ม่ แ น่ ใ จเหมื อ นกั น ว่ า ความฝันไหนจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน ได้มากกว่ากัน บางทีเศรษฐีอาจเป็นไอดอล ของคนส่วนใหญ่กเ็ ป็นได้ แต่ไม่เป็นไร เพราะ ที่สุดแล้วหลักเกณฑ์แบบนี้ก็จะไปมีผลกับ ขนาดหั ว ใจของเจ้ า ของความฝั น เข้ า ใน สักวันหนึง่ คนทีม่ วั แต่คดิ ถึงตัวเองบ่อยๆ ก็ มักจะกลายเป็นผูใ้ หญ่จติ ใจคับแคบ ส่วนคน ที่เคยชินกับการห่วงใยคนอื่นก็จะเติบใหญ่ เป็นคนใจกว้าง และหัวใจนั้นเป็นเหมือน ภาชนะที่ เ อาไว้ ร องรั บ ความสุ ข คนไหน ใจกว้างก็มีความสุขได้ง่าย คนไหนใจแคบ ก็หาความสุขได้ยากเย็น ...ประเด็นนี้จึง ไม่ ใ ช่ เรื่ อ งของความฝั น เท่ า นั้ น แต่ เป็ น เรื่องของความสุขอีกด้วย จัดแบ่งความฝัน กันมาหลายแบบแล้ว อาจจะพอเห็นได้ว่า เราไม่ ไ ด้ จั ด ฝั น เพื่ อ ให้ มั น เป็ น หมวดหมู่
เล่นๆ เท่านั้น แต่ลองจัดไปจัดมาก็เพื่อ ให้เข้าใจสิ่งที่เรียกว่าความฝันกันให้มาก ขึ้นสักหน่อย แท้จริงแล้วกฎเหล็กทุกข้อ ที่ เราลองเอามาแบ่ ง แยกความฝั น นั้ น ก็ ไม่ได้ตายตัวในตัวของมันเอง เช่น บางครั้ง ความฝั นตอนตื่ นกั บ ตอนหลั บ ก็ อ าจเป็ น เรือ่ งเดียวกันได้ ถ้าเราหมกมุน่ ครุน่ คิดอยูก่ บั ฝันยามตื่นจนเก็บเอาไปฝันตอนนอนหลับ หรือบางทีความฝันที่ดูเหมือนจินตนาการ เพ้อเจ้อก็อาจสมจริงขึน้ มาได้ ถ้าเจ้าของฝัน มุง่ มัน่ เอาจริง ไม่ยอมหยุดค้นคว้าหาความรู้ จนกว่าจะเจอหนทางทีเ่ ดินไปสูฝ่ นั นัน้ ไม่วา่ มันจะเป็นทางสายเล็กๆ หรือเป็นทางสาย ใหม่ ที่ ยั ง ไม่ เคยมี ใครเดิ น ไปก็ ต าม หรื อ บางทีอาจมี ‘เหล็ก’ อีกหลายแบบที่คอย ครอบคลุมและแยกแบ่งประเภทความฝัน อยู่อีกหลายชั้นก็เป็นได้ อย่างประตูเหล็ก ที่ชื่อ ‘ความมุ่งมั่น’ ก็อาจมีไว้ให้เราหาทาง เปิดไปสูโ่ ลกในความจริง หรือลูกกรงเหล็กที่ เรียกว่า ‘ความขี้เกียจ’ ก็อาจเอาไว้คอยกั้น ไม่ ให้ ค วามฝั นของเราเดิ น ไปสู่ ห นไหน... ไม่ว่ามันจะเป็นฝันประเภทใดก็ตาม
นึ ก ถึ ง เหล็ ก จั ด ฝั น หลายๆ แบบ แล้ ว ผมก็ อ ดนึ ก ถึ ง ความฝั น หลายๆ อย่ า งของตั ว เองและของคนรอบตั ว ที่ กำ� ลังดำ �เนินไปในปัจจุบันไม่ได้ ไล่เรียง ดู ก็ มี ทั้ ง ฝั น ว่ า อยากนอนตื่ น สาย ฝั น ว่ า อยากเลี้ ย งแมว ฝั น อยากรวยกว่ า นี้ อี ก หน่อย ฝันจะไปเที่ยวเชียงใหม่ ฝันอยาก ให้ประเทศไทยมีความสงบสุข ฝันอยากให้ โลกไม่ร้อน ฯลฯ ความฝันช่างเป็นคำ�ที่มี ความหมายและรูปแบบกว้างไกลเหลือเกิน แต่หากลองจัดแบ่งมันสักหน่อย ก็อาจทำ�ให้ เราเข้าใจความจริงได้มากขึ้นสักนิด เรื่องของฉันกับเธอกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ ไม่ แน่ ใจแล้ ว ว่ า กฎเกณฑ์ แบ่ ง ฝั น ของเราเป็นแบบเดียวกันอยู่หรือเปล่า ฉั น บอกเธอด้ ว ยรอยยิ้ ม ว่ า “เมื่ อ คื นนี้ ฉั น ฝั นถึ ง เธอด้ ว ยล่ ะ ” เธอตอบผม ว่า “ฉันก็ฝันถึงเธอเหมือนกัน แต่เป็นฝัน ตอนกลางวัน...ทุกวัน” เช่นนั้นฉันจึงรู้ว่า ความฝันของเราเป็นความฝันเดียวกัน
25
ดีเจ อ้อย นภาพร เรื่อง ตุ้มเม้ง ภาพประกอบ
สวั ส ดี ป ใ ี หม่ ไทยๆ ค่ะ ดีเจนภาพร จาก Green Wave
106.5 FM ปกติได้ยินกันแต่เสียง แ ต่ ต อ น นี้ เ ร า ค ง ไ ด้ คุ ย กั น ท า ง ตัวหนังสือที่ Miracle of Life ด้วย
เดื อ นเมษายน เดื อ นที่ ร้ อ นที่ สุ ด เดื อ นที่ มี วั น หยุ ด เยอะที่ สุ ด เดื อ น ที่ เ ราจะได้ ใ ช้ เ วลากั บ คนที่ เ รารั ก มากที่ สุ ด ถึ ง มี ก ารกำ � หนดให้ ช่ ว ง เ ท ศ ก า ล ส ง ก ร า น ต์ เ ป็ น วั น ผู้ สู ง อายุ แ ละวั น ครอบครั ว จริ ง ๆ เดื อ นนี้ น่ า จะเป็ น เดื อ นแห่ ง ความรั ก ของคนไทย มากกว่ า เดื อ นกุ ม ภาพั น ธ์ เดื อ นกุ ห ลาบ แพงๆ ซะอี ก วาเลนไทน์ มี แ ค่ วันเดียว เวลาน้อยไปค่ะ สู้สงกรานต์ ไม่ ไ ด้ มี โ อกาสให้ หยุดตั้งหลายวัน จะไม่ ไ ด้ ใ ช้ เ วลาด้ ว ยกั น ให้ มั น รู้ ไ ป
26
คนเราเกิดจากความรัก คนสองคนรักกัน สร้างสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นมาอีกหนึ่งชีวิต โตด้วยความรัก ถ้าเพียงแต่พอ่ แม่ไม่รกั วางเราข้างถังขยะ ไม่มวี นั ทีเ่ ด็กคนหนึง่ จะลุกขึ้นมาเดินได้เอง ถ้าด้อยโอกาสทางความรัก อยู่ได้เพราะความรัก เมื่อได้ความรักจากคนในครอบครัวมาสักระยะ วันหนึ่ง เราจะเติบโตมากพอทีจ่ ะรักตัวเอง และความรักตัวเองนีแ่ หละทีพ่ าให้เรารอดจากทุกสิง่ จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต แต่แปลกดีค่ะ อาการรักตัวเองจะน้อยลงทันทีเมื่อมีแฟน ตอบปัญหาความรัก ทีไร จะต้องใช้คำ�นี้อยู่บ่อยๆ รักตัวเองเยอะๆ นะ รักตัวเองให้เท่ากับที่รักเค้าก็ยังดี ถามว่า เวลามีคนรัก เราไม่รักตัวเองจริงๆ หรือ คำ�ตอบคือ ไม่จริงค่ะ เพราะรักตัวเอง นั่นแหละ ถึงพยายามตามใจตัวเอง เมื่อใจบอกว่า คนๆ นี้คือคนที่เราอยากอยู่ ใกล้ๆ ใจก็จะสั่งให้ตัวทำ�ทุกวิธีสารพัด ที่จะดึงและรั้งคนๆ นั้นให้อยู่กับเรานานที่สุด ยิ่งพยายาม อีกฝ่ายกลับยิ่งเห็นความไม่รักตัวเองของเรา หารู้ไม่ ถ้ารักตัวเองน้อย กว่านี้สักนิดหนึ่ง ฉันคงปล่อยเธอไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่นี่รักตัวเองมาก ถึงทำ� ทุกอย่างให้ตัวเองพอใจ แม้รู้ว่ายิ่งทำ�เท่าไหร่จะยิ่งเข้าใกล้คำ�ว่าเสียใจมากขึ้นทุกที เอาใหม่ค่ะ คนเรารักตัวเองทุกคน เพียงแต่ เมื่อมีคนรัก เราจะดูแลตัวเอง น้อยลง มัวแต่เอาเวลาและหัวใจไปทุ่มให้กับคนอีกคน จนมองกระจกอีกที แล้วงงว่า นี่เราปล่อยปละละเลยตัวตนของเราขนาดนี้เลยหรือ ถ้าโลกจะสอนเรือ่ งความไม่แน่นอนให้กบั มนุษย์ คงสอนผ่านความรัก เรือ่ งเดียว ทีค่ วามพยายามอยูไ่ หน ความพยายามจะอยูท่ นี่ นั่ แต่จะสำ�เร็จไหม บางทีไม่ได้อยูท่ เี่ รา ถ้าเป็นเรื่องงาน ขยันไปร้อย น่าจะได้ผลงานดีกลับมาอย่างน้อย 90 แต่เรื่องรัก ทำ�ดีแทบตาย หัวใจอาจจะหายไปเฉยๆ แบบที่ตัวเองยังงงว่า ฉันผิดตรงไหนหรือ ถึงต้องเป็นฝ่ายเสียใจอยู่เสมอ คอลัมน์ ปัญหาใจ ให้ใช้หัว คงเป็นพื้นที่เล็กๆ ให้เราคุยกันเพื่อหาวิธีคิด บำ�รุงหัวใจ ปัญหาของคนอื่นเรามักตอบได้ แต่พอเป็นปัญหาใจของเรา แทบตายทุกที มันคือเรือ่ งปกติคะ่ ปัญหาคนอืน่ เราใช้หวั ปัญหาของตัว เราใช้ใจ มีปญ ั หาทีไร มันจะกระทบ หัวใจ ก่อนที่จะคิดได้ทุกที ท่าน ว.วชิรเมธี เคยให้สมั ภาษณ์ไว้ ชอบมากเลยค่ะ ต้องเอามาบอกต่อ เผือ่ ปีใหม่ ปีนี้เราจะได้ตั้งสติกันให้ดีๆ ตั้งแต่ต้นปี ท่านบอกว่า คนเรา ถ้าคิดได้ 3 อย่างจะเสียใจ น้อยลง “ไม่มอี ะไรแน่นอน ไม่มอี ะไรได้ดงั่ ใจ ไม่มใี ครสมบูรณ์แบบ” ท่องไว้คะ่ แล้วจะรู้ ว่า คนไม่สมบูรณ์แบบอย่างเรา ทุกข์บา้ ง เสียใจบ้าง งีเ่ ง่าบ้าง มันคือเรือ่ งธรรมชาติลว้ นๆ
27
นายออมสิน เรื่อง Am ภาพประกอบ
เริ่มเดินเครื่อง...สู่เป้าหมาย ขัน้ แรกของผูเ้ ริม่ ออมเงิน นัน่ คือเราต้องกำ�หนดเป้าหมายในการออมเงิน เพือ่ ทราบ ถึงระยะเวลาและสร้างแรงจูงใจตนเองให้มีความเพียรเสียก่อน ขั้นต่อมา คือ แบ่งเงินออมออกจากกระเป๋าสตางค์...ด้วยแต่ละคนมีรายได้ (เกือบ 100% มาจากคุณพ่อคุณแม่) ดังนั้น เมื่ออยากได้เจ้ามือถือเครื่องใหม่ การแบ่งเงิน บางส่วนเก็บออมไว้จึงมีความสำ�คัญ เพราะช่วยให้เรารู้ถึงกำ�ลังด้านการเงินของตัวเอง ว่าเฉลี่ยต่อวันแล้ว เราสามารถออมได้มากน้อยแค่ไหน? เช่น ได้เงินวันละ 200 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่าย ค่าอาหาร ค่าเดินทางแล้ว ยังเหลือ 80 บาท คนกล้าอาจจะนำ�ที่เหลือ ทั้งหมดมาออมไว้ แต่นั่นไม่ใช่คำ�ตอบที่ถูกทั้งหมด เพราะการออมต้องไม่ใช่การทรมานตนเองจนมากเกินไป โดยเราควรแบ่งเงิน สำ�หรับออมไว้พอประมาณ ไม่ให้เดือดร้อนตนเองด้วย เช่น เมื่อเหลือ 80 บาท อาจจะ ออมแค่วันละเพียงครึ่งหนึ่งของเงินที่เหลือ คือ 40 บาทก็ได้ (อย่าทำ�เป็นเล่น 40 บาท/วัน ตลอด 1 เดือน = 1,200 บาท) ข้อดีของการออมอย่างหนึ่ง นั่นคือ การสร้างความเพียรอุตสาหะให้แก่ตนเอง นอกจากนีย้ งั ช่วยสร้างนิสยั รอบคอบในการใช้จา่ ยให้เกิดขึน้ กับตนเองได้ ดังนัน้ เริม่ แรกๆ ควรแบ่งที่มีออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก ได้แก่ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนที่สอง คือ ค่าใช้จ่าย ฉุกเฉินจำ�เป็นที่คิดไม่ถึง ส่วนที่สาม คือ เงินที่ต้องการออม...ซึ่งหากคุณทำ�ได้แบบนี้ การ ออมก็ไม่ใช่บทลงโทษ หรือกรรมที่คอยทรมานตัวคุณเลย
เคล็ดไม่ลบั ...เพื่อฝันทีเ่ ป็นจริง
ช่วงนี้
ไปไหน...ใครต่อใครก็นิยม เจ้า BB หรือ Blackberry โทรศัพท์มือถือสุดฮิตกันมาก เพราะมันสามารถแชต MSN พูดคุยกับเพื่อนๆ ได้ตลอดเวลา โดยไม่จ�ำ เป็นต้องไปนัง่ หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุก๊ กันแล้ว... และคุณล่ะ อยากมีเจ้าเครื่องนี้บ้างหรือเปล่า?…แต่ยังไงซะ ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ลองมองดูเงินในกระเป๋าสตางค์ก่อนบ้างก็ดี งานนี้ หากใครมีเงินเก็บมากพอ หรือมีทุนใหญ่หนุนหลัง (คุณพ่อ คุณแม่) คอยสนับสนุนอยู่แล้ว ก็ขอแสดงความยินดีด้วย ว่าไม่ ใช่เรื่องยาก ที่จะได้เจ้ามือถือสุดฮิตมาครอบครอง แต่ส่วนคนที่ยังมีอุปสรรค ก็ขอแนะนำ� ให้ลองหันมาพิจารณาถึงการออมเงินกันบ้าง โดยเฉพาะคนที่ ไม่เคยออมเงิน มาก่อนเลย...นับว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของชีวิตได้ หากทุกอย่างเป็นไปตาม เป้าหมาย
28
โดยทัว่ ไป...ในวัยหนุม่ สาวมักไม่คอ่ ย นึกถึงการวางแผนการเงินสำ�หรับอนาคต เท่าไหร่นกั โดยเฉพาะเรือ่ งการเตรียมเงินออม ไว้ส�ำ หรับตอนเกษียณอายุ เพราะอาจดูเป็น เรื่องไกลตัวมาก ทำ�ให้หนุ่มสาวส่วนใหญ่ จึงมักจะบริหารจัดการเฉพาะค่าใช้จ่ายที่ จำ�เป็นในปัจจุบัน โดยหารู้ไม่ว่า...ยิ่งเริ่ม ออมช้ า เท่ า ใด ยิ่ ง ทำ � ให้ ย อดเงิ น ออมใน อนาคตลดลงมากขึน้ เท่านัน้ แต่คนทีไ่ ม่เคย หัดออมเงินเลย การจะเริม่ ออมอย่างจริงจัง เพื่ อ อนาคตนั้ นนั บ เป็ น เรื่ อ งยาก ดั ง นั้ น การตั้งเป้าหมายระยะสั้น เพื่อฝึกฝนตนเอง นับเป็นสิ่งที่สำ �คัญเช่นกัน ซึ่งเราอาจจะ หยิบเจ้า Blackberry นี้ มาเป็นเป้าหมาย สำ�หรับการฝึกฝนเพื่อเป็นผู้ออมที่ดี ก่อนที่ จะขยับขยายไปสู่การออมเงินเพื่ออนาคต ที่สดใสก็ได้
ต่อมาเมือ่ เริม่ ออมเงินแล้ว ระยะเวลา ในการออม มักจะมีอปุ สรรค หรือมีมารร้าย มาคอยขัดขวางอยู่เสมอ และสิ่งที่จะช่วย ขจัดอุปสรรคเหล่านี้ เพือ่ นำ�พาเราไปสูค่ วาม สำ�เร็จได้ นัน่ คือ การฝึกการออมให้เป็นนิสยั เลิกการใช้เงินอย่างฟุม่ เฟือย ถึงจุดนี้ เราก็มี เคล็ดลับทีไ่ ม่เคยหวงห้าม มาแนะนำ�กันบ้าง แล้วแต่ความชืน่ ชอบส่วนบุคคล เริม่ ตัง้ แต่... 1. หัดรู้จักคำ�ว่า “ความจำ�เป็น” กับ “น่ารัก” เพราะของทุกอย่างล้วนมีระดับ ความจำ�เป็นไม่เท่ากัน การซื้อโดยคำ�นึงแต่ คำ�ว่าน่ารักแล้วอยากได้อย่างเดียวนัน้ ไม่พอ ดังนั้นจึงควรคิดก่อนควักเงินจ่ายทุกครั้ง จะได้ไม่เสียใจเมื่อซื้อในภายหลัง 2. เอาเงินไปฝากธนาคารแบบฝาก ประจำ� ปลอดภัยสุดๆ เพราะเม็ดเงินของ คุณจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
3. ทำ� “แบบบันทึกรายรับรายจ่าย” อาจทำ � เป็ น สมุ ด เล่ ม เล็ ก เพื่ อ พกพาไปได้ ทุกที่ จ่ายอะไรไปก็จดไว้ ได้มายังไงก็จดไป พอครบกำ�หนดก็รวมรายรับรายจ่าย ซึ่งจะ ช่วยสรุปความฟุ่มเฟือยของคุณได้ 4. เวลาออกไปไหน ไม่หยิบเงินไป มาก เอาไปพอประมาณ แต่ถา้ ไม่เอาไปเลย หรือโบ้ยให้เพื่อนจ่ายอย่างเดียว แบบนี้ก็ ไม่ไหว... คุณอาจเป็นเศรษฐีได้ไวพอๆ กับ ปริมาณของเพื่อนฝูงที่ลดลงไวเช่นกัน 5. มองหางานพิ เศษ...หารายได้ ด้วยตนเองโดยไม่ง้อ แบมือขอเงินพ่อแม่ ให้ ลำ � บากท่ า น วิ ธี นี้ เหมาะที่ สุ ด สำ � หรั บ นักศึกษาทั้งที่เรียนอยู่และจบทำ �งานแล้ว เพื่ อ ฝึ ก ให้ เ ห็ น ถึ ง ความลำ � บากของการ หาเงินและคุณค่าของเงินที่หลงลืมกันไป อีกทัง้ ช่วยให้ระยะเวลาในการไปสูเ่ ป้าหมาย
สำ�เร็จไวยิ่งขึ้น 6. พอใจสิ่งที่มีอยู่ ...สิ่งนี้จะเป็น ภูมิคุ้มกันที่จะช่วยผลักดันให้คุณมีวินัย ในการออมเงินได้มากขึ้น และใช้จ่าย น้อยลงอย่างไม่รู้ตัว 7. ลดทำ � กิ จ กรรมสิ้ น เปลื อ ง นั่ น คื อ เลี่ ย งหรื อ ลดที่ จ ะเข้ า สั ง คม ทำ�กิจกรรมมากเกินไป ซึ่งจะช่วยคุณ ออมหรือประหยัดเงินได้ไม่มากก็น้อย 8. เรียนรูก้ บั หลักดำ�เนินชีวติ ทีใ่ น ปัจจุบันกำ�ลังนิยมมากคือ “เศรษฐกิจ พอเพียง” ในข้อนี้สำ�คัญมาก เพราะ เป็นสิ่งที่ในหลวงของเราทรงยํ้าเตือน คนไทยมากว่าหลายปี เป็นสิ่งที่ทุกคน ควรอย่างยิ่งที่จะนำ �ไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำ�วัน ที นี้ เมื่ อ คุ ณ ทำ � ได้ อ ย่ า งที่ นำ � เสนอไว้ข้างต้น ...เราก็เชื่อว่า เจ้ามือถือ Blackberry สุดเก๋ ก็คงหนีไปไม่พ้นมือ แน่...แต่จะช้าจะเร็วแค่ไหน ย่อมอยู่ที่ กำ�ลังทรัพย์ในการออมของคุณเอง สุดท้ายแล้วเมือ่ คุณเก็บเงินได้จน ครบ อาจจะรู้สึกเสียดายเงินขึ้นมาก็ได้ ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นจริง..ก็ขอแสดงความ ยินดีด้วยว่า คุณเริ่มเป็นอีกผู้หนึ่งที่มี วินัยในการออมที่ดีแล้ว ส่วนผู้ที่น�ำ เงิน ไปซื้อเจ้า BB ทันทีที่เก็บออมได้ครบ ขัน้ ต่อไปก็ขอแนะนำ�ให้เริม่ ตัง้ เป้าหมาย อย่างอืน่ ทีใ่ หญ่กว่า และให้คณ ุ ค่ามากกว่า เมื่อคุณทำ�ไปได้เรื่อยๆ ทักษะในการ ออมของคุณก็จะพัฒนาไปไม่น้อยหน้า ใครเช่นกัน สำ�หรับ Miracle of Life ฉบับ ปฐมฤกษ์ ขอทั ก ทายกั น แค่ นี้ ก่ อ น อย่าลืมติดตามกันในฉบับต่อไปนะครับ
29
ธนาคม พจนาพิทักษ์ เรื่อง
น้ในกระจกอย่ องๆางจริ งนัจักงเรีบ้ายงมันมัย้ ธ“ขอบตาลึ ยมเคยสังเกตหน้าตาตัวเอง กโหล / แววตาแห้ง ผาก / ใบหน้าซีดเซียว” เป็นกันหรือเปล่าครับ
นั่ น เป็ น ผลจากที่ ใ นปั จ จุ บั น มี ก ารสอบกั น เยอะแยะหลาย รูปแบบไปหมด ทำ�ให้น้องๆ ต้องครํ่าเคร่งเรียนกันหนัก เรียนที่โรงเรียนตอนกลางวันไม่พอ ตกเย็นก็เรียนพิเศษอีก ซํ้าร้ายกว่านั้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือปิดเทอมก็ต้อง กระโจนสูว่ งั วนของยุทธจักรการติวอีก ทำ�ให้หน้าตาท่าทาง ของเด็กไทยวันนี้ดูจะไม่แฮปปี้มีสุขเอาเสียเลย
30
เหลียวดูคนอื่นๆ ในสังคมก็ห่วงใยในประเด็นนี้เช่นกัน “...แทนที่การสอบจะทำ�หน้าที่วัดผลการศึกษาเพื่อนำ�มา ปรับปรุงตัวของนักเรียนและครู การสอบกลับกลายเป็นศัตรูทิ่มแทง หัวใจเด็กๆ ช่างเจ็บปวดรวดร้าวจริงๆ วันหยุดสุดสัปดาห์-เสาร์อาทิตย์ ได้เที่ยวเล่นอะไรกันบ้าง เดี๋ยวนี้ไหนจะเรียนพิเศษ ไหนจะ การบ้านท่วมหัว ทัง้ หัวลูกและเลยมาท่วมหัวพ่อแม่ ผูป้ กครองด้วย…” คือเสียงของ มาโนช พุฒตาล เจ้าของค่ายเทปและนักจัดรายการ ขวัญใจเด็กแนวได้สะท้อนไว้ในนิตยสารคู่สร้าง-คู่สม ฉบับ 20-30 มีนาคม 2553 ว่ า กั น ว่ า นี่ เป็ น ผลพวงของการปฏิ รู ป การเรี ย นการสอน โดยเฉพาะในส่วนทีเ่ รียกว่า “การวัดผลทางการศึกษา” หรือการสอบ ที่ครบรอบ 1 ทศวรรษหรือ 10 ปีพอดิบพอดีในปีที่ผ่านมา จากเดิมที่มีการสอบคัดเลือกเด็กเข้ามหาวิทยาลัยโดยระบบ “สอบเอ็นทรานซ์” ได้เปลี่ยนมาเป็นพิจารณาจากหลายๆ อย่าง ได้แก่ เกรดเฉลีย่ ตลอดการศึกษา หรือ GPAX, การสอบแบบทดสอบ ทางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน หรือโอเน็ต, การสอบความถนัดทัว่ ไป หรือ GAT และการสอบความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT ซึ่ง ทัง้ หมดนีจ้ ะมีการสอบเป็นระยะๆ อย่างต่อเนือ่ ง เพือ่ กระตุน้ ให้เกิด การสร้างมาตรฐานและรักษาคุณภาพการเรียนการสอน แต่ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้น และน้องๆ ก็คงยอมรับใช่ไหมว่า ต้อง ครํา่ เคร่งเรียนตลอดเวลา เพราะจะมีการสอบตลอดเวลา วัยเยาว์อนั สดใสเบิกบานพลันหายลับไปกับตา ในฐานะรุ่ น พี่ ผู้ เคยผ่ า นลงสนามฟาดแข้ ง กั บ การเรี ย น การสอบ และการแข่งขันมาก่อน ผมเข้าใจหัวอกของน้องๆ นักเรียน ดีครับ ขอให้กำ�ลังใจพร้อมข้อแนะนำ�บางประการ โดยก่อนอื่นต้องมองโลกในมุมบวก เหมือนที่เด็กบางคน ในข่าวหนังสือพิมพ์ที่บอกว่า “ไม่เบื่อการสอบหรอกค่ะ สอบบ่อยๆ จะได้ทบทวนตัวเอง และได้รู้ขีดความสามารถและข้อจำ�กัดของตัวเอง” แหม ลูกใครนะ คิดดี คิดน่ารักจัง จากประสบการณ์ชีวิต ผมว่า วิธีรับมือกับการสอบที่ดีที่สุด คือ การเตรียมตัวให้พร้อมสำ�หรับการสอบ ด้วยการยกระดับและ พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ให้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ทีละนิด ทีละน้อย โดยไม่หักโหม
“หูย พี่ พูดน่ะง่าย แล้วต้องทำ�ไงล่ะ” น้องหลายคนอาจจะ เถียงในใจ อยากบอกน้องๆ ว่า ควรจะลดการติว (ทีเ่ สียทัง้ เงินและเวลา) ให้น้อยลง และหันมาตั้งอกตั้งใจกับการเล่าเรียนในห้องเรียนมาก ขึ้น ส่วนการเรียนรู้นอกห้องเรียนก็ส�ำ คัญไม่แพ้กัน เพราะข้อสอบ ยุคปัจจุบันอย่าง โอเน็ต และ GAT กับ PAT นั้น ได้มุ่งเน้นความรู้ ที่เป็นองค์รวม และวิธีคิดที่เป็นระบบมากขึ้น ดังนั้น เราจึงควรลองเปิดหน้าต่างชีวิตตัวเองให้กว้าง หมั่น ออกไปเดินดูโลกภายนอก แล้วเรียนรูโ้ ลกผ่านการทำ�กิจกรรมต่างๆ ให้มากๆ สำ�หรับน้องๆ สายศิลป์หรือสายสังคม ควรหาโอกาสเข้า ร่วมโครงการต่างๆ เช่น สิ่งแวดล้อม, ดนตรี, กีฬา, ศิลปะ และ วรรณกรรม ฯลฯ ส่วนน้องๆ สายวิทยาศาสตร์ สิ่งที่ทำ�ให้วิทยาศาสตร์เป็น เรื่องสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ คือ การค้นหาความจริงหรือความรู้ด้วย การทดลอง ถือเป็นหัวใจของวิทยาศาสตร์เลยก็ว่าได้ ดังนั้นเอง การขยันตั้งคำ�ถาม สู่การขยันแสวงหาคำ�ตอบ ด้วยการลงมือปฏิบัติ จึงถือว่าเป็นวิถีแห่งการ “เรียนรู้” ที่น่าจะ ได้ผลมากกว่า “ร่ำ�เรียน” แบบปกติ แล้วน้องๆ จะค้นพบความ น่าอัศจรรย์ทวี่ า่ เราสามารถเรียนได้ดขี นึ้ มองเห็นและเข้าใจสิง่ ต่างๆ รอบตัวอย่างมีระบบมากขึ้น บอกได้เลยว่า หากน้องๆ มีศกั ยภาพถึงขัน้ นัน้ คราวนีข้ อ้ สอบ ต่างๆ จะพิสดารออกมาพันลึกแค่ไหน จะถามมากี่กลุ่มคำ�ถาม ให้ มากีต่ วั เลือก จะให้เลือกตอบกีก่ ลุม่ คำ�ตอบ ฯลฯ เราก็สามารถเข้าใจ มันได้ไม่ยากนัก ที่สำ�คัญ แบ่งเวลาให้ครอบครัวบ้าง พูดคุยปรึกษาหารือกับ พ่อแม่ ปู่ย่า ลุงป้าน้าอาฯลฯ รักกันให้มากขึ้น นอกจากจะได้ความ สัมพันธ์ที่ดีแล้ว เชื่อไหมว่า พ่อแม่และญาติอาวุโสอาจจะเพิ่มเติม ความรู้ความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาเล่าเรียนของน้องๆ ไม่มากก็น้อย เมือ่ เรียนอย่างถูกวิธี และ “ถูกวิถ”ี พีเ่ ชือ่ ว่า น้องจะมีความสุข ในการเรียน และผลสำ�เร็จในการศึกษาก็จะตามมาอย่างแน่นอนครับ
31
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เรื่อง
เติ ม เต็ ม ความรั ก ในครอบครั ว ช่วยลดปัญหาความรุนแรงในเด็ก
สวั ส ดี ค รั บ ท่านผู้อ่าน ช่วงนี้ประเทศไทยเรา ก็ เ ข้ า สู่ ฤ ดู ร้ อ นแล้ ว ครั บ ปี นี้ ได้ ข่ า วว่ า แถมพ่ ว งมาด้ ว ย
ภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรไทยอีก ประกอบกับ สถานการณ์ในบ้านเมืองของเราท่ามกลางความคิดเห็น ที่แตกต่างของผู้ใหญ่ก็ร้อนแรงไม่แพ้กันครับ สังคมไทยยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ครับ แต่ ภาวนาว่า ขออย่าให้เกิดรุนแรงในบ้านเมืองของเราเลย
32
เด็กและเยาวชนในวันนีค้ รับ เค้ากำ�ลัง มองผูใ้ หญ่อยูว่ า่ วิธกี ารแก้ไขปัญหาหรือรับมือ กับสถานการณ์ตา่ งๆ ทีเ่ กิดขึน้ นัน้ ผูใ้ หญ่เขา จัดการกันอย่างไร อย่าให้เด็กและเยาวชน เห็นว่าการใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ดูเป็นเรื่องธรรมดาเลยครับ การใช้ความรุนแรงในการแก้ปญ ั หาที่ เราเห็นนั้น ปัจจุบันนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะกับ ผูใ้ หญ่เท่านัน้ ครับ เราปฏิเสธไม่ได้วา่ ทุกวันนี้ บรรดาสิ่งยั่วยุทั้งหลายที่มีอยู่ทั่วไปในสังคม ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรม ความรุนแรงในเด็กและเยาวชนทั้งสิ้น พฤติกรรมการใช้ความรุนแรงในเด็ก และเยาวชนนับวันเราจะเห็นถี่ขึ้น บ่อยขึ้น จากทัง้ สือ่ โทรทัศน์หรือภาพข่าวหนังสือพิมพ์ เช่น เราจะเห็นคลิปภาพเคลื่อนไหวที่เด็ก ผู้ชายไล่ฟันกัน หรือคลิปเด็กผู้หญิงตบตีกัน แล้ ว มี ก องเชี ย ร์ รุ ม ล้ อ ม ลองนึ ก ภาพครั บ ว่าถ้าเราเห็นฉากเหล่านี้ในละครเราก็อาจ รู้สึก “มันดี ตื่นเต้นดี บู๊ดีนะ” แต่นี่มันคือ ภาพเหตุการณ์ชีวิตคนนาทีนั้นจริงๆ เลือด จริง เจ็บจริง บุคคลนั้นจริงๆ ไม่ใช่นักแสดง ผลต่อจิตใจแตกต่างกันนะครับ ผมขอเล่าในมุมมองทางด้านสุขภาพจิต หรือทางจิตวิทยานะครับว่าความรุนแรงนั้น ยิ่งนำ�เสนอก็ยิ่งทวีความรุนแรง ดังนั้นการ นำ�เสนอข่าวที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงใดๆ ก็ตามครับ ต้องมีศิลปะในการนำ�เสนอ ข่าวที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่ผม กล่าวถึงนั้นไม่ใช่เฉพาะภาพการทำ�ร้ายตบตี หรือตีรนั ฟันแทงกันเท่านัน้ ครับ แม้แต่ภาพการ เกิดอาชญากรรมทัง้ โดยเจตนาและไม่เจตนา ก็ตาม ภาพอุบัติเหตุหรืออุบัติภัยที่เกิดขึ้น จากธรรมชาติ ก็ควรต้องมีการนำ�เสนออย่าง ระมัดระวังมาก เช่น ภาพศพที่ไม่น่าดู น่า สยดสยองถือเป็นความรุนแรงด้วยเหมือน กันครับ อย่าว่าแต่การตบตีกันเลย เพียงแค่ ภาพที่ เ กิ ด ขึ้ น มาจากผลของความรุ น แรง
ก็สามารถทำ�ให้คนที่ได้พบเห็นภาพนั้นรู้สึก สะเทือนใจ ยังไม่นับรวมถึงภาพเหตุการณ์ ณ วินาทีที่กำ�ลังเกิดเหตุ เช่น ภาพเหตุการณ์ ทีต่ กึ กำ�ลังถล่ม ภาพคนแขนขาดร้องโอดโอย เหล่านี้ยิ่งกระทบกระเทือนกระแทกเข้าไปใน จิตใจส่งผลให้เกิดความบาดเจ็บทางอารมณ์ อย่างมากครับ แล้วยิง่ ถ้าเป็นการกระทำ�ความรุนแรง ที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวหรือภายในบ้าน แล้วเด็กได้เห็นความรุนแรงนั้นซํ้าแล้วซํ้าเล่า เช่น เด็กที่เติบโตมาเห็นพ่อแม่ตบตีกันทุกวัน เด็กได้เห็นภาพที่เป็นของจริงเหล่านั้น เด็ก คนนีเ้ มือ่ โตขึน้ เป็นผูใ้ หญ่แต่งงานมีครอบครัว เค้าก็อาจจะมีพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง เช่ น เดี ย วกั บ ที่ เคยเห็ น พ่ อ และแม่ ทำ � ก็ เป็ น ได้ครับ เป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้ครับ ว่าเรา เป็นมนุษย์ เราไม่ใช่สัตว์ที่เวลาสื่อสารกัน ไม่เข้าใจหรือไม่ได้สิ่งที่ตนต้องการแล้วต้อง มาลงเอยด้วยการใช้ความรุนแรง เหตุการณ์ การใช้ความรุนแรงนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นที่ประเทศ ไทยประเทศเดียวครับ ของต่างประเทศก็มี การใช้ความรุนแรง เช่น มีคาร์บอมบ์ ระเบิด พลีชีพ กราดยิงกันในห้องเรียน ดังที่เราเห็น กันในข่าวครับ มีการศึกษาครับว่าในช่วงวัย 5 ขวบ ปีแรก เป็นช่วงวัยที่ผู้ปกครองสามารถฝึก ระเบียบวินัยให้แก่เด็ก และเด็กก็จะเรียนรู้ หรือเลียนแบบพฤติกรรมที่พ่อแม่แสดงออก มาหรือที่พ่อแม่สอน หากพ่อแม่ละเลย ไม่ได้ อบรมสั่งสอนเด็กในช่วงนี้ เช่น ลูกแย่งของ เล่นก็ปล่อยปละละเลยไม่ได้สอน ตัดปัญหา โดยการซื้อของให้คนละชิ้น หรือเด็กไปแย่ง ของเพือ่ นมาได้กไ็ ด้รบั คำ�ชมว่า เก่ง สามารถ เอาตัวรอดได้ การไม่ได้อบรมสั่งสอนวิธีการ จัดการพฤติกรรมทีด่ ใี ห้แก่เด็ก เด็กก็จะเรียนรู้ พฤติกรรมทีไ่ ม่ดกี ลายเป็นไปรังแกเพือ่ นหรือ รังแกคนในสังคมต่อไปครับ ดังนั้นหากถามว่า แล้วเราจะจัดการ
กับปัญหาพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงเหล่านี้ ได้อย่างไร ผมขอตอบเลยครับว่าเราต้องเริ่ม จัดการหรือปรับพฤติกรรมของเด็กตั้งแต่ยัง เล็กเลยครับ ช่วงวัยก่อน 5 ขวบปีแรกนีแ่ หละ ครับ ถ้าเราไปคิดปรับแก้กนั ตอนทีเ่ ด็กโตแล้ว ก็จะสายเกินไป ดังประโยคที่เราเคยได้ยิน ครับว่า “กว่าจะถึงอนุบาล…ก็สายเสียแล้ว” เราต้องอบรมบ่มนิสัยพฤติกรรมที่เหมาะสม ให้แก่เด็กตั้งแต่เล็กๆ เลยครับ…ผมขอยํ้า และยิ่ ง ถ้ า เด็ ก เมื่ อ โตเป็ น วั ย รุ่ น แล้ ว สิ่งแวดล้อมของเด็กไม่ใช่ที่ครอบครัวแล้ว ครับ สิ่งแวดล้อมของเด็กจะกลายเป็นกลุ่ม เพือ่ น กลุม่ เพือ่ นทีเ่ ด็กคบนัน้ มีพฤติกรรมเป็น อย่างไร เด็กวัยรุ่นจะกลัวที่สุดเลยครับ หาก ไม่เป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อน แล้วถ้าหากถามว่าการทีเ่ ด็กดูโทรทัศน์ มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเด็กหรือไม่นั้น ในความจริงแล้ว ไม่ว่าจะละครหรือโฆษณา ต่างๆ ทีแ่ สดงออกมา ทัง้ พฤติกรรมของตัวละคร ที่ก้าวร้าวหรือการแสดงออกพฤติกรรมของ ตัวละครทีไ่ ม่เหมาะสม เด็กจะรับรูพ้ ฤติกรรม เหล่านั้นและเก็บเป็นข้อมูลเอาไว้ อย่างที่ ผมกล่าวไว้ในตอนต้นครับ หากเมื่อย้อนไป ในช่วงวัย 5 ขวบปีแรกเด็กได้รับการอบรม สั่งสอนพฤติกรรมทีเ่ หมาะสมจากพ่อแม่ รูว้ า่ สิง่ ไหนดีสง่ิ ไหนไม่ดี เด็กก็จะสามารถแยกแยะ ได้แล้วเด็กก็จะไม่เลือกใช้วิธีที่ไม่ดีครับ สถาบันครอบครัวเป็นหน่วยทีเ่ ล็กทีส่ ดุ ในสังคม แต่สำ�คัญที่สุดครับ อย่าลืมเล่น สาดนํ้าสงกรานต์กันเพลินจนลืมไปว่าวันที่ 14 เมษายน เป็นวันครอบครัว หันมาใช้เวลา อยูร่ ว่ มกันสร้างความเข้มแข็งภายในครอบครัว ตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะรู้ว่าครอบครัวที่เป็น หน่วยทีเ่ ล็กทีส่ ดุ ในสังคมนัน้ สามารถลดทอน ปัญหาสังคมทีจ่ ะเกิดขึน้ ตามมาได้อกี มากมาย ทีเดียวครับ…ขอบคุณครับ
33
กองบรรณาธิการ เรื่องและภาพ
ฟังคุณพี่เจ้าหน้าที่สอนการใช้เครื่องอย่างเคร่งครัด
พร้อมแล้วจร้า...
พี่บอลของเราแลดูตั้งใจ๊...ตั้งใจ
เมื่อ
แก๊งเพื่อนสุดซี้อยากรวมตัวทำ�ความดีกับไอดอลคนดัง อะไรจะเกิดขึ้น? ...ก็ความสนุกที่มาพร้อมกับความอิ่มอกอิ่มใจที่ได้ทำ�ความดีไง เหมือนกับ น้องตุ๊กตา จากโรงเรียนอัมพรไพศาล, น้องมิ้ง จากโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี และ น้องมดและน้องปัญญ์ จากโรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี แก๊งเพื่อนสนิท ชั้น ม.4 ที่ รวมตัวกันพา พีบ่ อล-จารุลกั ษณ์ ชยะกุล นักร้องจากค่ายสไปร์ซซี่ ดิสก์ เจ้าของเพลงฮิต “ถ้าฉันเป็นเธอ” มาร่วมทำ�กิจกรรมดีๆ เพือ่ ผูพ้ กิ ารทางสายตา ด้วยการอ่านหนังสือเสียง ในโครงการ “อ่านหนังสือเสียง เพื่อคนตาบอดไทย” ที่ร้านบีทูเอส ชั้น 3 เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งกิจกรรมดีๆ แบบนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย...
น้อมรับคํ าอธิบายครับผม ^ ^
สำ�เร็จแล้ว ภารกิจอ่านหนังสือเสียงเพื่อคนตาบอดของเรา ...ช่วยกันมาอ่านเยอะๆ นะคะ
บุก B2S กันเลย ^o^
ณ BTS อนุสาวรีย์ เดินทางตามล่า หาพี่บอลกันโลด ถึงคนแน่นแค่ ไหน เราก็ไม่ถอย สู้โว้ย! ในที่สุดก็เจอตัวพี่บอลแล้วคร่า...เย้!
ขอขอบคุณ มูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย ห้องผลิตหนังสือเสียง B2S สาขา Centralword
หัวหน้าฝ่ายผลิตห้องสมุดแถบเสียงสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย
คุณพี่อุทัย เจ้าหน้าที่ดูแลห้องบันทึกเสียง จะมาช่วยสอนเราใช้ห้องอัดในวันนี้ 34
“หนังสือเสียงเป็นสิ่งสำ�คัญมาก ถือเป็นอาหารสมอง หรือจะให้พูดอีกที ก็คอื มันเป็นปัจจัยทีส่ �ำ คัญสำ�หรับคนตาบอด ถื อ เป็ น ปั จ จั ย ที่ 5 เป็ น สิ่ ง จำ � เป็ น ที่ จ ะอยู่ คู่ กั บ คนตาบอดจนกว่าเขาจะจากโลกนีไ้ ป เพราะฉะนัน้ ไม่มวี นั พอ หนังสือเสียงทีผ่ ลิตออกมาตอนนีก้ ย็ งั มีกลุม่ คนอืน่ ๆ ทีม่ าร่วม ใช้ประโยชน์ นอกจากคนตาบอดแล้วก็ยงั มีผทู้ อี่ า่ นเองไม่ได้ คนแก่ คนป่วย รวมทัง้ พวกต่างชาติทมี่ าอยูป่ ระเทศเรานานๆ ซึง่ ไม่สามารถทีจ่ ะอ่านหนังสือไทยเราได้ พวกเขาถือเป็นผูพ้ กิ าร ทางสื่อสิ่งพิมพ์ ก็อยากจะฝากให้บุคคลทั่วไป ถ้าคิดจะช่วย สังคมก็ฝากผู้ด้อยโอกาสของเราไว้ด้วย” คุณวาสนา กลีบเมฆ
ผูท้ สี่ นใจสามารถร่วมอ่านหนังสือเสียง ในโครงการ “อ่านหนังสือ เพื่อคนตาบอดไทย” จากหนังสือน่าอ่านของสำ�นักพิมพ์ต่างๆ ณ ชั้น 3 ห้องผลิตหนังสือเสียง บีทูเอส สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ลงทะเบียนจองห้องได้ทุกวัน เวลา 11.00 -15.00 น. และ 17.00 -20.00 น. โทร. 0-2646-1274 / 0-2646-1270-3 ต่อ 365 มูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย เลขที่ 85/1-2 ซอยบุญอยู่ ถ.ดินแดง โทร 02-248-0555, 02-246-3835 ต่อ 200 และ 201 โทรสาร 02-248-0556 เปิดทำ�การ 09.00-17.00 น. ทุกวัน ยกเว้น วันหยุดนักขัตฤกษ์ 35
ปาริชาติ บุญเอก เรื่องและภาพ
วั น นึ ง
ผมเดิ น หลงทางใน นิวยอร์ก ก็เลยถามคนที่เดินผ่านมาว่า “ผมจะ ไปคาร์เนกี้ฮอลล์ได้อย่างไร” เขาก็ตอบผมมาว่า “คุณก็ต้องซ้อม...ซ้อม...ซ้อม...แล้วก็ซ้อม” หลายคนคงจำ � ภาพยนตร์ โ ฆษณา เรื่องหนึ่งได้ ในตอนนั้นเรามีโอกาสเห็นวาทยกร คนเก่งของไทย บัณฑิต อึง้ รังษี ก้าวขึน้ ไปยืนบน เวทีโลก อย่างคาร์เนกี้ฮอลล์ นิวยอร์ก ประเทศ สหรัฐอเมริกา และในวันนี้ฉากอันน่าประทับใจได้ย้อน กลับมา เมื่อสองเด็กไทยได้ ก้ า วไปยื น บนเวที อันทรงเกียรตินั้นอีกครั้ง
36
หมิว - วริศรา อภิรักษ์เดชาชัย และ เฟิรน์ - ลลิต วรเทพนิตนิ นั ท์ นักเรียนชัน้ ม.6 จากรั้ววิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัย มหิ ด ล ผู้ ช นะเลิ ศ การประกวดร้ อ งเพลง “Barry Alexander International Vocal Competition 2010” และได้รบั เกียรติไปร้อง เพลงทีค่ าร์เนกีฮ้ อลล์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ น่าภาคภูมใิ จของคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะ เป็นที่รู้กันในวงการว่า ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะขึ้น มายืนที่ตรงนั้น แต่ต้องได้รับการกลั่นกรอง มาอย่างดี การแสดงในครั้ ง นี้ เป็ นการรวมทั้ ง ระดับ High School, college และ Professional Adult จาก 5 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ไอซ์แลนด์ อเมริกา แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ และไทย ด้วยความที่ไม่เคยมีคนไทยร่วม แข่งขันมาก่อน เราจึงกลายเป็นที่คาดหวัง และจับตามอง “ก่อนที่จะร้องพวกหนูกดดันกันมาก เพราะว่าทุกคนเก่งมาก ทำ�ให้รู้สึกกดดัน แล้วก็ท้อ คือตอนนั้นไม่อยากจะร้องให้เขา ได้ยินเลย รู้สึกว่าตัวเองด้อยมาก แต่ก็ทำ� เต็มที่ แล้วผลตอบรับก็ดีค่ะ มีคนไทยมาให้ ดอกไม้ สถานทูตไทยที่นู่นมาดูพวกหนูด้วย เขาชอบมาก เพราะไม่เคยเห็นคนไทยมา เขา ให้ดอกไม้แล้วก็พาไปดินเนอร์ที่บ้าน” ทั้งสองรักการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก และได้แรงสนับสนุนจากทางครอบครัว การได้ ร้องเพลงให้คนอื่นได้ฟังถือว่าเป็นความสุข อย่างหนึง่ ในชีวติ แต่กว่าจะมาเป็นยืนอยูบ่ น จุดนี้ได้ทั้งสองต้องผ่านการซ้อมอย่างหนัก เป็นเวลากว่า 3 ปี เพื่อสะสมเพลงให้ได้ครบ 25 นาที ในการคัดเลือกรอบแรก
“ปกติเรียนเลิก 5 โมงเย็นหลังจากนัน้ ก็ซอ้ ม คือ ดนตรีมนั ต้องซ้อมอย่างเดียวค่ะ เรียนร้องเพลงตัวต่อตัว กับอาจารย์ก็แค่อาทิตย์ละชั่วโมงเดียวเอง เราต้อง ขวนขวายกันเอง ถ้าใครทีอ่ ยากจะประสบความสำ�เร็จ ต้องซ้อมตั้งแต่ตอนนี้เลย ต้องร้องตั้งแต่เด็กๆ ต้อง ตัง้ ใจ เพราะการแข่งขันไม่ใช่วา่ เดือนนึงไปเลย ต้องฝึก เป็นปีๆ พวกหนูเตรียมตัวกันนานมาก คนทีเ่ รียนมาแค่ ปีสองปี เพลงที่เรียนมาไม่มีทางครบ 25 นาทีแน่นอน” ในเวลาเดียวกันกับที่เรากำ�ลังพูดคุย ชายคน หนึง่ นัง่ ทำ�งาน มือเคาะโต๊ะไปตามจังหวะเพลง ลุงขาย กาแฟ มือซ้ายถือแก้ว มือขวาถือช้อนชง มีวิทยุรุ่น ดึกดำ�บรรพ์ตงั้ ไว้ขา้ งกาย เด็กนักเรียนเดินแถวเข้าห้อง พร้อมกับร้องเพลง ABC ที่ครูสอนมา
และอีกฟากหนึ่งของกาลเวลา วอล์ฟกัง อมาเดอุส โมซาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) รู้จักการแกะโน้ตจากบทเพลงที่ได้ยิน และเล่นทวนได้อย่าง ถูกต้อง ตั้งแต่วัยยังไม่รู้จักอ่านเขียนและนับเลข ลุดวิก แวน บีโทเฟน (Ludwig Van Beethoven) โด่งดังมากในฐานะคีตกวี ผลงานซิมโฟนีหมายเลข 9 ของเขา เสร็จสิ้นลงพร้อมกับการสูญเสียการได้ยินเมื่อ ค.ศ.1819 ทุกคนเกิดมาพร้อมกับเสียงดนตรีและเสียงเพลง คนส่วนใหญ่แสวงหา ความบันเทิงในฐานะผู้ฟัง แต่คนอีกกลุ่มแสวงหาประสบการณ์การเรียนรู้และฝึก ซ้อมเป็นอย่างหนัก เพื่อที่จะได้อยู่ในฐานะผู้สร้าง...ความบันเทิงให้กับโลก
การเล่นดนตรีนี่ ต้องซ้อมอย่างเดียว ต้องขวนขวาย ตั้งใจ ถ้าใครอยากประสบความสำ�เร็จ ต้องซ้อมตั้งแต่ตอนนี้เลย 37
ปาริชาติ บุญเอก เรื่องและภาพ ชมรมมัคคุเทศก์นบั ว่าเป็นชมรมทีม่ มี านาน เด็กๆ บางคนเข้ามาเป็นสมาชิกชมรมตัง้ แต่ ชัน้ ม.2 จนปัจจุบนั อยูช่ นั้ ม.5 นับว่าวิทยายุทธ์ในการเป็นมัคคุเทศก์ พบปะนักท่องเทีย่ วและ ภาษานั้นแก่กล้า จนสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้น้องๆ ที่เข้ามาใหม่ได้เป็นอย่างดี ทุกๆ เสาร์-อาทิตย์ เด็กๆ จากชมรมมัคคุเทศก์น้อยจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ทำ�หน้าทีน่ �ำ นักท่องเทีย่ งล่องเรือไหว้พระเก้าวัดทัวร์เกาะเกร็ด โดยใช้ภาษาไทย อังกฤษ และ กำ�ลังพัฒนาภาษาจีนเป็นภาษาที่สามในการสื่อสาร
บน ถนนที่มุ่งตรงไปยังแม่นํ้าเจ้าพระยา ประตูโรงเรียนเล็กๆ ที่กลมกลืน ไปกับชุมชน มีป้ายติดแสดงยี่ห้อว่า “โรงเรียนปากเกร็ด” มองเผินๆ
ก็เหมือนโรงเรียนมัธยมธรรมดาทั่วไป แต่ ใครจะรู้ว่าที่นี่มีทุกสิ่ง ให้ เ ลื อ กสรร นอกจากความรู้ ใ นตำ � รา ทางโรงเรี ย น ยังสนับสนุนกิจกรรมที่ทำ �ให้เด็กได้มีต้นทุนชีวิตที่ เข้ ม แข็ ง และก้ า วออกไปใช้ ชี วิ ต บนโลกแห่ ง ความจริงได้อย่างมั่นคง
หลากหลายโครงการที่ทางโรงเรียนได้จัดทำ�ขึ้น เช่น โครงการเรียนร่วม เพื่อให้เด็กพิเศษได้มีโอกาสเรียน ร่วมกับเด็กปกติ และสร้างทางลาดไว้สำ�หรับรถเข็น นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมให้เด็กๆ ทำ�ความสะอาดบริเวณวัด กิจกรรมนาฏศิลป์สง่ เสริม ศิลปวัฒนธรรม ชมรมแต่งกลอน และอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจนั่นก็คือ “ชมรมมัคคุเทศก์น้อย” โดยมี อาจารย์พรพิมล อ้นไชยะ เป็นที่ปรึกษาชมรม มีสมาชิกทั้งหมด 42 คน ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด หากขาด การฝึกฝน เด็กๆ ชมรมมัคคุเทศก์น้อยก็ เช่นเดียวกัน แมน-อัสวนนท์ หัสขันธิ์เปี่ยมสุข และ จินเจอร์-ธนธรณ์ รังษิปัญญาภรณ์ นักเรียน ชัน้ ม.5 ทัง้ สองเป็นสมาชิกชมรมมัคคุเทศก์ น้อยเล่าให้เราฟังว่า
38
“ตอนแรกผมเป็ น คนไม่ ค่ อ ยกล้ า แสดงออก พอเข้ามาเขาก็มีอบรมภาษา อังกฤษเพื่อการท่องเที่ยว อบรมว่าเวลาพูด กับนักท่องเที่ยวต้องทำ�ยังไง และพาเราไป ฝึกปฏิบตั งิ านจริง การรับมือกับนักท่องเทีย่ ว จนมาถึงทุกวันนี้ผมก็กล้าที่จะแสดงออก มากขึ้นครับ”
39
“ใช่ค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะทำ�ไม่ได้ เพราะ ประวัติวัดก็เกือบจะ 10 วัดแล้ว ไม่รู้จะจำ�ไป ได้ยังไงแต่พอมาถึงตอนนี้เราได้ฝึกฝน ได้อ่าน พยายามจำ�ไปเรื่อยๆ ก็เริ่มที่จะเข้าใจประวัติ เหมือนพูดออกมาตามความเข้าใจ ไม่เกร็ง เหมือนช่วงแรกๆ ที่กังวลว่านักท่องเที่ยวเขา จะว่าเราไหม เรายังไม่เก่ง เรายังเด็กอยู่แต่พอ ทำ�แล้วทุกคนเขาก็ยิ้มแย้มเมตตา ทำ�ให้เราได้ ประสบการณ์เยอะ รูว้ ธิ แี ก้ปญ ั หาเฉพาะหน้า ได้ ฝึกตัวเองอยู่เรื่อยๆ” จินเจอร์กล่าวเสริม การได้พบเจอผู้คนจำ�นวนมาก หลายเพศ หลายวัย หลายภาษา ทำ�ให้เด็กได้ฝกึ ฝนตนเอง อยู่ เ สมอ การรั ก ที่ จ ะเรี ย นรู้ ท างด้ า นภาษา ทำ�ให้จนิ เจอร์ ได้รบั ทุนไปเรียนภาษาทีป่ ระเทศ นิวซีแลนด์ เป็นเวลา 1 เดือน ประสบการณ์ในตำ�ราเด็กๆ เหล่านี้อาจ มีพอๆ กับคนอื่น แต่ประสบการณ์ชีวิต หาก อยากได้ต้องแสวงหาเอง เพราะในการทำ�งาน ทุกอย่างย่อมมีอุปสรรคและมีสิ่งที่ต้องให้แก้ ปัญหาเสมอ รวมไปถึงการเป็นมัคคุเทศก์น้อย “บางคนจะมาแก้ประวัติวัดเราก็มี อย่าง วัดใหญ่มีมานาน 589 ปี ยายเขาอายุประมาณ 70 ปี มั้งค่ะ รู้สึกจะเป็นคนในพื้นที่ด้วย เขาก็ จะบอกว่า “ไม่เห็นเคยรูเ้ ลยว่าชือ่ เดิมชือ่ วัดน้อย ยายเกิดมาตั้งนานแล้ว” เขาก็จะแย้งเราตลอด เราพูดอะไรมาก็จะแย้ง เราก็ต้องอธิบายให้ ฟัง มีเอกสารประกอบก็ยื่นให้เขาอ่าน เขาถึง จะยอมเชื่อ”
ค่าตอบแทนในการเป็นมัคคุเทศก์ที่ เด็กๆ ได้รับ ทางโรงเรียนจะไม่หักสักบาท อาจเป็นเงินไม่มากแต่กส็ ามารถแบ่งเบาภาระ ทางบ้านได้พอสมควร และทีจ่ ะขาดไม่ได้เลย นัน่ ก็คอื อาจารย์ผทู้ ชี่ ว่ ยสอนให้เด็กๆ เหล่านี้ ได้เรียนรู้และเป็นที่ปรึกษามาตลอดนั้นก็คือ คุณครูพรพิมล “พวกเราอยากขอบคุ ณ อาจารย์ ที่ ให้โอกาสพวกเรามาทำ�หน้าที่ตรงนี้ แล้วก็ หาความรู้และสิ่งใหม่ๆ ให้กับเรา อาจารย์ น่ารักมากๆ ช่วยประสานงานกับทาง อบจ. ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งเอกสารทีเ่ ราต้องส่งไปรับเงิน บางทีเรามีปัญหา มีพี่ๆ บางคนเขาก็จะมาติ เรา เราก็จะมาปรึกษาอาจารย์” นอกจากเด็กๆ จะได้รับการสนับสนุน จากทางโรงเรียนและอาจารย์แล้ว ทางชมรม ยังได้รับการสนับสนุนจาก ทาง อ.ปากเกร็ด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนจังหวัด นนทบุรีอีกด้วย โดยจะมีการจัดอบรมให้แก่ เหล่ามัคคุเทศก์น้อยทุกปี ต้นทุนชีวิตของเราไม่เท่ากัน แต่เรา สามารถสร้ า งต้ นทุ น ให้ กั บ ตนเองได้ จ าก ความพยายาม ทุ ก อย่ า งมี อุ ป สรรคและ ปัญหา มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกิน ความสามารถ อยู่ที่ว่าเราจะทำ �หรือไม่ทำ� เท่านั้นเอง
ช่วงแรกๆ ที่กังวลว่านักท่องเที่ยวเขา จะว่าเราไหม เรายังไม่เก่ง เรายังเด็กอยู่ แต่พอทำ�แล้ว ทุกคนเขาก็ยมิ้ แย้ม เมตตา ทำ�ให้เราได้ประสบการณ์เยอะ 40
“เรารู้ ว่ า การออกไป ทำ�งานมันจะมีคณ ุ ค่าอย่างมหาศาล ตอนที่เขาเป็นผู้ใหญ่ การเรียน เรื่องบริการในตำ�รามันเรียนได้ แต่เขาจะไม่รู้เลยว่า การเอาเปรียบ กันมันเป็นยังไง เสียงกลุ่มมาก ความเหน็ดเหนื่อย ขาดทุนกำ�ไร เป็นยังไง การทำ �กิจกรรมแบบนี้ เป็นการสร้างกำ�ไรทางสังคมไม่รู้จบ สิ่งที่เด็กได้ไม่ ใช่เพียงค่าแรงร้อยสองร้อย แต่ ลักษณะของความรับผิดชอบต่อหน้าที่มันจะติดตัวเขาไป ถ้าเด็กพวกนี้เติบโตขึ้นไป มีครอบครัว ถ้าเขามีจิตบริการ เขาก็จะสอนลูกสอนหลานเขาด้วย ลูกหลานก็จะมี จิตสาธารณะไปด้วย กำ�ไรมันเป็นลูกคลื่น แต่ถ้าเราไม่ทำ� คลื่นลูกแรกไม่เกิด มันจะไม่มี คลื่นลูกที่สอง”
“ถือเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ เพราะ นักท่องเที่ยวเมตตามัคคุเทศก์น้อยมาก จะ เห็นว่าทุกคนปรบมือให้และชมเชย ถ้ามีอะไร ผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็ยกโทษให้ เขาได้ รับนํ้าใจจากนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ต้อง บอกว่าภูมิใจในตัวเขา และขอบใจในความ เสียสละของเขาด้วย จากการฝึกฝนเราจะ เห็นว่าเขาตัง้ ใจมาก เขาเต็มใจทีจ่ ะท่อง ค้นคว้าข้อมูล มาพูดให้เราฟัง ต้องขอบคุณเขา มากๆ ทีเ่ ขาให้ความร่วมมือกับโรงเรียนกับชุมชน ประเทศชาติกจ็ ะมีสว่ นได้กบั เขาด้วย”
41
อภิญญา พัฒนสิงห์ เรื่อง Am ภาพประกอบ
โครงการ Miracle of Life คือโครงการที่เปิดโอกาสให้กับพวกเรา ตัวแทนทั้ง 3 โรงเรียนในภาคตะวันออก ประกอบไปด้ ว ย โรงเรี ย นอั ส สั ม ชั ญ ระยอง วัดป่าประดู่ ระยองวิทย์ปากนํ้า เด็กทีม่ วี ถิ ชี วี ติ ความคิดและประสบการณ์ ที่แตกต่างกัน แต่พวกเรามีจุดมุ่งหมาย เดียวกัน คือ การรู้จักให้ผู้อื่นด้วยใจ ถึ ง แม้ ว่ า จะเป็ น เพี ย งสิ่ ง เล็ ก น้ อ ยไม่ มี คุณค่า แต่ก็เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ กว่าจะมาเป็นโครงการเด็กบูรพาอาสาให้ พวกเราต้องเจอกับปัญหา อุปสรรค คำ�ติชมของคณะกรรมการ จากวันนั้น จนถึ ง วั น นี้ พ วกเราได้ ทำ � ให้ โ ครงการ เด็กบูรพาอาสาให้ เป็นรูปเป็นร่างเกิดขึน้ พวกเราได้ ล งปฏิ บั ติ กิ จ กรรมกั นที่ โรงเรียนบ้านจำ�รุง อ.แกลง จ.ระยอง การ ลงพืน้ ทีน่ นั้ เป็นการปฏิบตั ทิ เี่ ป็นรูปธรรม ไม่ ได้เป็นเพียงแค่ความคิดของเด็กอีกต่อไป แล้ว วันแรกที่พวกเราเข้าไปที่บ้านจำ�รุง วัน นีเ้ องทีท่ �ำ ให้พวกเราได้เห็นอะไรบางอย่างที่ น้องๆ บ้านจำ�รุงเป็นคนสอนพวกเรา หนูได้เจอกับน้องคนหนึ่งในวันแรก ของการทำ�กิจกรรม พอเห็นน้องเขาครั้ง แรกก็รู้สึกว่าภาพภายนอกที่เห็นน้องเขาดู แตกต่างจากเพื่อนๆ ด้วยความที่หนูเป็นพี่ ดูแลกลุม่ นี้ หนูจงึ เริม่ ทำ�ความรูจ้ กั กับ “น้อง ทราย” ภาพภาพหนึง่ ทีต่ ดิ ตาหนูและเพือ่ นๆ ตลอดมา คือ การที่เราให้น้องทำ�กิจกรรม โดยการวิง่ ไปหาเพือ่ นทีร่ กั ทีส่ ดุ แต่สงิ่ ทีน่ อ้ ง ทรายตอบหนูและเพื่อนๆ มา คือ “หนูไม่มี
42
เพื่อนที่รักที่สุด” นี่เป็นคำ�ตอบที่ทำ�ให้หนู และเพื่อนๆ ตกใจมาก และเริ่มหันมาใส่ใจ น้องทรายมากขึ้น ภายนอกคนอาจจะมอง น้องทรายว่าเป็นเด็กทีม่ คี วามแตกต่าง เป็น เด็กที่ขาดทุกอย่าง เขาไม่ได้รับความสุข ความอบอุน่ ในฐานะทีเ่ ด็กคนหนึง่ ควรได้รบั แต่ส�ำ หรับหนูแล้ว หนูสมั ผัสได้วา่ น้องทราย เป็นเด็กที่มีจิตใจดี น้องทรายเคยมาร้องไห้กบั หนู เพราะ เพื่อนในกลุ่มไม่ยอมให้ร่วมกิจกรรม เด็ก ในโรงเรียนไม่มีใครยอมรับน้องทราย น้อง ทรายต้องไปเล่นกับเด็ก ป.1 ทั้งที่ตัวเองอยู่ ป.4 น้องทรายอ่านช้า เขียนช้ากว่าเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน พวกเราปฏิบัติกิจกรรมกัน ทั้งหมด 3 วัน วันแรกน้องทรายได้มาร่วม กิจกรรมกับพวกเรา เพราะเป็นวันศุกร์เราไป รับน้องๆ ทีโ่ รงเรียน แต่วนั ต่อมาพวกเรากลับ ไม่เห็นน้องทราย พอถามจากเพือ่ นๆ จึงรูว้ า่ “น้องทรายมาไม่ได้ ไม่มีคนมาส่ง เพราะ คุณพ่อ คุณแม่น้องทรายเสียชีวิตตั้งแต่น้อง ทรายยังเด็ก ด้วยโรคติดต่อทีร่ า้ ยแรง จึงอยู่ กับยาย พอคุณยายเสียชีวิตจึงอยู่กับน้า” วันสุดท้ายของการทำ�กิจกรรมพวก เราจึงตกลงกันว่าจะไปรับน้องทรายที่บ้าน พอพวกเราได้ ไปเห็ น บ้ า นของน้ อ งทราย น้องทรายต้องนอนในบ้านที่ไม่มีประตูไม่มี หน้าต่าง ชีวิตของเด็กคนนี้ต้องเจอกับสิ่งที่ เลวร้ายมากมายที่น้องทรายก็ไม่สามารถที่ จะเลือกได้ แต่พวกเราอยากจะทำ�ให้ปาฏิหาริย์แห่งชีวิตเกิดขึ้นกับน้องทราย อยาก ทำ�ให้น้องทรายมีความสุข มีรอยยิ้มและ ทำ�ให้เพื่อนยอมรับในตัวตนของน้องทราย โดยการทำ�ให้น้องๆ เปิดใจและเข้าใจว่า ในวันทีน่ อ้ งทรายต้องยืนอยูค่ นเดียวไม่มคี น เข้ามาคุย มาเล่นด้วย มันโดดเดี่ยว อยาก ทำ�ให้นอ้ งทรายมีความสุขในทุกๆ วัน ไม่ใช่
สิ่งที่น้องทรายตอบหนูและเพื่อนๆ มา คือ “หนูไม่มีเพื่อนที่รักที่สุด” นี่เป็นคำ�ตอบที่ทำ�ให้หนูและเพื่อนๆ ตกใจมาก
แค่เพียงวันนี้ ถึงแม้วา่ น้องทรายจะแตกต่าง จากคนอืน่ ตรงทีว่ ถิ ชี วี ติ กับชีวติ ทีเ่ ลือกไม่ได้ แล้ว แต่น้องทรายก็ควรจะได้รับความสุข และที่สำ�คัญที่สุดคือ การยอมรับของสังคม พวกเราได้มอบเงินจำ�นวนหนึ่งให้กับน้อง ทราย เพื่อนำ�ไปใช้ในด้านการศึกษา และ ความจำ�เป็นต่างๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นเงินที่ ไม่ ได้ ม ากมายอะไร แต่ อ ย่ า งน้ อ ยก็ เป็ น รากฐานในอนาคตต่อไป ขอขอบคุณโครงการ Miracle of Life ที่ทำ�ให้พวกเราได้รู้จักการให้ ได้รู้ว่าการให้ ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเราได้ลองทำ� ขอบคุณทีท่ �ำ ให้พวกเราได้เจอกับน้อง ทราย เพราะน้องทรายทำ�ให้หนูและเพือ่ นๆ ได้เรียนรูว้ า่ ยังมีคนอีกมากมายทีเ่ ขาลำ�บาก กว่าเรา อย่าเอาตัวเราเป็นศูนย์กลางและวัด กับคนอืน่ ทีด่ กี ว่า แต่จงรูจ้ กั พอและภูมใิ จใน สิ่งที่เราเป็น สุดท้ายนีอ้ ย่าลืมว่าไม่วา่ คนๆ นัน้ จะ เป็นอย่างไรจะแตกต่างจากเราสักแค่ไหน สิ่งที่เขามีเหมือนเรา คือ “ความเป็นคน” หนูและเพือ่ นๆ หวังว่า “ทุกคนในบ้านจำ�รุง จะดู แ ลน้ อ งทรายเป็ น อย่ า งดี ” อี ก หนึ่ ง คำ�สัญญาที่เกิดขึ้นที่นี่
43
กองบรรณาธิการ เรื่องและภาพ
ฝ่โครงการจนเข้ าฟันา มาเป็อุปสรรคคู ่แข่งกว่า 200 น 1 ใน 4 ทีมสุดท้าย
ในการประกวดโครงการปาฏิหาริยแ์ ห่งชีวติ ในวันนี้ โครงการชื่อแปลกๆ อย่าง “ครูตู้” จากโรงเรียนนารีวิทยา จ.ราชบุรี ซึ่งมี คุณครูอรุณี สุมารินทร์ เป็นที่ปรึกษา ได้ฤกษ์ดำ�เนินโครงการและถ่ายทำ�รายการ ปาฏิหาริยแ์ ห่งชีวติ เพื่อออกอากาศเร็วๆ นี้ แต่ ก่ อ นที่ เ ราจะไปดู พ วกเขาทำ � กิ จ กรรม เราไปย้อนอดีตเพื่อค้นหาต้นตอเรื่องตู้ๆ กันก่อนดีกว่า
44
จากการเข้าค่ายคณิตศาสตร์ พวกเขาได้คน้ พบปัญหาการขาดแคลน สื่อการเรียนการสอนและครูไม่เพียงพอต่อจำ�นวนเด็กของโรงเรียน บ้านนาสมอ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่พวกเขาไปเยือน พวกเขาจึง คิดอยากจะผดุงความรู้ ให้เด็กๆ เหล่านั้น “วัตถุประสงค์ของเราคืออยากให้น้องอ่านออกเขียนได้ จากที่หนู เรียนมา ป.1 ต้องรู้ ก.ไก่ ABC รู้จักผสมคำ�แล้ว แต่โรงเรียนบ้านนาสมอ เขาไม่รู้ค่ะ ป.1 ยังท่อง ก.ไก่ ไม่ได้เลย เราก็เลยคิดที่จะทำ�โครงการนี้ขึ้นมา เพื่อเพิ่มเติมสิ่งที่เขาขาดไป” ไม่วา่ จะเป็นตูเ้ ย็น ตูเ้ สือ้ ผ้า ตูก้ บั ข้าว ตูป้ ลา หรืออะไรก็ตามทีม่ คี วามเป็นสีเ่ หลีย่ ม เด็กๆ พวกนี้บอกว่า รับบริจาคหมด จะเอาไปทำ�อะไรน่ะหรอ? ลองไปฟังไอเดียของ พวกเขากันเลย “ถ้าสมมุตเิ รามีตเู้ ย็นพังๆ ทีไ่ ด้รบั บริจาค แล้วเอามาตกแต่ง นำ�ไปตัง้ ในห้องสมุด น้องๆ พวกนั้นเขาก็จะสงสัย เอ๊ะ! ทำ�ไมตู้เย็นมาอยู่ในห้องสมุด น้องก็ต้องอยากรู้ แล้ว ก็ไปเปิดดู ข้างในนั้นเราก็จะรวมความรู้เข้าไปกับตู้พวกนี้ อย่างเช่น เปิดเข้าไปในตู้เย็น เจออุปกรณ์ที่เราทำ�ไว้แล้วมีคำ�ศัพท์ติดไว้กับไข่ ขวด นํ้า ผัก น้องเขาก็จะรู้ว่า อ๋อ ไข่ ภาษาอังกฤษ คือ Egg นะ ทำ�ให้น้องๆ เขาสนใจและสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง” ด้วยความน่าสนใจ ทำ�ให้โครงการของพวกเขา ได้รับการคัดเลือกผ่านฉลุยโดย ปริยาย หลังจากผ่านการคัดเลือกเหล่าผูก้ ล้าทัง้ 10 ต้องออกปฏิบตั กิ าร รวบรวมแนวร่วม ให้ได้มากที่สุด เพื่อทำ�กิจกรรม แต่เมื่อมีสมาชิกเยอะขึ้น ปัญหาเล็กน้อยก็ย่อมมีมา “ในเวลาทำ�ก็ไม่ค่อยจะมีปัญหาค่ะ แต่ถ้าเป็นระหว่างเพื่อนก็มีเล็กน้อย บางคน มาช้า บางคนมาไม่ทัน เราก็ต้องตักเตือนกันว่า เราทำ�งานส่วนรวมนะ ไม่ใช่ทำ�งานที่ บ้านคนเดียว ทำ�อะไรก็นึกถึงคนอื่นบ้าง” แม้งานจะหนักหนาสาหัส แต่ทุกคนก็รู้สึกภูมิใจเมื่อเห็นภารกิจเสร็จสิ้น และได้ เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ บ้านนาสมอ “รู้สีกเหนื่อยค่ะ แต่พอทุกอย่างเสร็จ ก็หายเหนื่อยแบบบอกไม่ถูก น้องเค้ามี รอยยิม้ แล้วก็เรียนรูไ้ ด้ดขี นึ้ กว่าเดิม มันทำ�ให้เรารูส้ กึ ดีใจมากทีน่ อ้ งเขาชอบ อีกประมาณ เดือนนึงก็ต้องไปหาน้องเค้าว่าน้องเค้าใช้ตู้ที่เราให้ยังไงบ้าง” การได้รับความร่วมมือจากเพื่อนๆ และมีผู้บริจาคจำ�นวนมาก เป็นสิ่งที่ทุกคน คาดหวัง แต่สง่ิ ทีท่ กุ คนต้องการทีส่ ดุ ในการทำ�โครงการนีค้ อื การทีไ่ ด้เห็นน้องๆ ได้เรียนรู้ ในสิ่งที่วัยนี้สมควรจะได้รับจริงๆ “พวกเราอยากให้น้องอ่านออกเขียนได้ มันเหมือนปาฏิหาริย์ แต่ปาฏิหาริย์ที่หนู ว่าสูงสุดจริงๆ ก็คอื น้องเอาความรูท้ เี่ ราให้ไปสานต่อ พัฒนาตัวเองและคนอืน่ แล้วกลับ มาพัฒนาชุมชนของตัวเองต่อไป” สู้ต่อไป “ครูตู้เรนเจอร์”
พี่บอลของเราแลดูตั้งใจ๊...ตั้งใจ
วันที่
1
e นํ้าแข็งไส d a m d n a h ง อ ข าย ข ๆ ช่วยกันรับบริจาคตู้เก่าจากเพื่อนๆ เพื่อนําทุนไปดําเนิน ดงดนตรี สาคูเย็นๆ และการแส ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรี โดยพี่ๆ สารพัดช่าง โครงการ แถมบริการซ
45
วันที่
2
ๆ
บให้กับเด็ก อ ม ไป บ รั ห ำ� ส น อ ส าร ให้กลายเป็นสื่อก ๆ ่ า ก เ ้ ู ต ง ่ ต แ ก ต น ั ก ย ช่ว
อาคารเรียน รร.บ้านนาสมอ
วันที่
3
งเรียนบ้านนาสมอ โร ง ั ย ไป า ้ น ห ง ่ ุ ม ่ ี ท ื น ้ ลงพ ครองเกี่ยวกับ ทำ�ความเข้าใจกับผู้ปก รู้ของน้องๆ เพื่อมอบ โครงการวัดระดับความงๆ ทำ�กิจกรรม สื่อการสอนและพาน้อ
46
47
กองบรรณาธิการ เรื่องและภาพ
รมต.อิสสระ สมชัย โลก ร้อนมากขึน้ ทุกวัน ขณะที่ ความรั ก และการการแบ่ ง ปั น
เหือดแห้งหายมลายลงไปทุกทึ ใน สังคมปัจจุบัน ผู้คนต่างวิ่งวน อยู่ ใ นกงล้ อ ของการแก่ ง แย่ ง แข่งขันและเอาตัวรอดจากสภาพ เศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ที่ สั บ สนวุ่ น วาย ไม่ น่ า แปลกใจ เลยหากผู้ จ ะได้ รั บ ผลกระทบ เต็มๆ ก็คือ เด็กๆ และเยาวชน ที่ ไ ด้ ซึ ม ซั บ ความร้ อ นแล้ ง ของ ยุ ค สมั ย จนกลายเป็ น ความ มื ด หม่ น ในจิ ต ใจ แสดงออกมา ในรูปแบบที่แข็งกระด้างไม่น่ารัก
48
เนื่องจากนับวันนํ้าใจ ความรัก และการ แบ่งปันจึงได้ถดถอยไปทุกที และคำ�ว่า “การให้” กลายเป็นถ้อยคำ�แปลกแยกที่คนรุ่นหลังไม่ค่อย รู้จัก เพราะมักนึกถึงแต่การรับและการเอาแต่ได้ เพียงฝ่ายเดียว จึงน่ายินดีนักที่วันนี้มีเรื่องราวดีๆ ของการรื้อฟื้นและหลอมสร้างคุณค่าแห่ง “การ ให้” ค่านิยมอันดีงามขึ้นมาใหม่ โดยมุ่งเป้าหมาย ไปที่เยาวชนคนรุ่นใหม่เป็นแก่นแกน เพราะกำ�ลัง มี ก ารขั บ เคลื่ อ นครั้ ง ใหญ่ ที่ ได้ เ กิ ด ขึ้ นจากความ ร่ ว มมื อ ร่ ว มใจของหลายภาคส่ ว น ภายใต้ ชื่ อ โครงการ Miracle of Life หรือ “ปาฏิหาริย์แห่ง การให้” แน่นอนว่างานช้างระดับนี้ย่อมมีผู้ใหญ่ใจดี หลายคนที่ร่วมแรงแข็งขันหวังสานฝันและก่อรัก ให้กบั เด็กๆ แต่ส�ำ หรับวันนีเ้ ราขอชวนเด็กๆ ไปคุย กับผู้ใหญ่ใจดีคนสำ�คัญท่านหนึ่งก่อนเป็นเบื้องต้น เพราะท่ า นเป็ น หนึ่ ง ในแกนนำ� ที่ สำ� คั ญ ของการ ขับเคลื่อนโครงการ ท่านผูน้ กี้ ค็ อื คุณ “อิสสระ สมชัย” รัฐมนตรี ว่ า การกระทรวงพั ฒ นาสั ง คมและความมั่ นคง ของมนุษย์ 49
จากแนวความคิ ด หลั ก ของโครงการ มาสู่ ก ารขั บ เคลื่ อ นทำ � งานจริ ง ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องง่ายดายนัก แต่เมื่อเราถามว่าหนักใจไหมกับงานใหญ่ระดับนี้ คุณอิสระกลับยิ้มให้พร้อมแจกแจงอย่างใจเย็น
ตามรอยพระดำ�ริ “ทรงห่วงใยเด็ก” ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ คุณอิสสระได้ยอ้ นความเป็นมาให้ฟงั ว่า โครงการมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ เป็นโครงการซึง่ เกิดขึน้ ตามพระดำ�ริของ ทูลกระหม่อม หญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิรวิ ฒ ั นาพรรณวดี ซึง่ พระองค์ได้มองเห็นความเปลีย่ นแปลงทางสังคมในปัจจุบนั โดยเฉพาะกลุม่ เด็ก และเยาวชนซึง่ เป็นคนรุน่ ใหม่ มีพฤติกรรมทีเ่ กีย่ วข้องทางสังคม พฤติกรรมของเด็กเหล่านีบ้ างส่วนมีแนวโน้มไปในทางทีจ่ ะเกิด ปัญหาทั้งต่อตัวเด็กเองและต่อสังคมในอนาคต เช่น ปัญหาการติดยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การตั้งครรภ์ ในวัยที่ยังไม่พร้อม และปัญหาที่สำ�คัญมากก็คือ โรคเอดส์ ซึ่งมีสถิติพบว่าในแต่ละวันนั้น มีเยาวชนที่ติดเอดส์ถึง 30-50 คน ต่อวัน ถ้าคิดเป็นปีก็ประมาณหมื่นกว่าคนต่อปี “เพราะฉะนัน้ ทูลกระหม่อมหญิงฯ ท่านเลยคิดว่าอยากจะหยิบเอาส่วนทีด่ ขี องกลุม่ เยาวชนบางกลุม่ ซึง่ เขาไม่มปี ญ ั หา เกี่ ย วกั บ สั ง คม จะเป็ น เพราะโดยความคิ ด หรื อ สิ่ ง แวดล้ อ มของเขาเองก็ ดี หรื อ ว่ า โดยสถาบั น ที่ เ ขาสั ง กั ด อยู่ ก็ ดี ท่านคิดว่าการทีเ่ อาเด็กซึง่ มีความพร้อมหรือมีจดุ เด่นในตัวเองนัน้ เข้ามาแบ่งปัน มาแชร์ประสบการณ์ แชร์ความรู้ ให้กบั เพือ่ น ที่กำ�ลังกระโจนหรือยังไม่ได้กระโจนเข้าสู่ปัญหา ให้มาดำ�เนินชีวิตด้วยกันในทางที่ดี ซึ่งพระองค์เรียกว่าเป็นการสร้าง ปาฏิหาริย์ในชีวิตให้แก่เด็ก เพื่อจะได้ไม่ถลำ�ตัวไป” กิจกรรมมิราเคิล ออฟ ไลฟ์จงึ เกิดขึน้ เพือ่ สนองพระดำ�ริของ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิรวิ ฒ ั นาพรรณวดี ที่มีพระประสงค์จะสกัดกั้นไม่ให้ปัญหาสังคมบานปลายออกไป จึงอยากจะให้เด็กซึ่งมีความพร้อม มีความดีที่โดดเด่น ได้นำ�เอาความคิดของเขามาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ รวมทั้งการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง นั่นหมายถึงอนาคตที่มั่นคง โดย การแบ่งปันนั้นไม่ได้แปลว่าต้องเป็นเงินเป็นทองเสมอไป เช่น ให้คำ�แนะนำ�ที่ดีแก่เพื่อนก็ถือว่าเป็นการแบ่งปันแล้ว รวมทั้ง การจัดแบ่งเวลาให้เพื่อน ส่งเสริมให้วัยรุ่นด้วยกันได้คุยกันจัดกิจกรรมร่วมกัน เป็นต้น เชื่อว่าจะลดปัญหาสังคมลงได้เยอะ
“โครงการนี้ พ ระองค์ ท่ า นทรงมอบหมายให้ ก ระทรวงการพั ฒ นาสั ง คม และความมัน่ คงของมนุษย์ รับพระดำ�ริของพระองค์มาดำ�เนินการ ซึง่ ทางกระทรวง ก็ได้มอบให้ทางอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ คือ อธิบดี พนิตา กำ�ภู ณ อยุธยา เป็นผูร้ บั ผิดชอบ ต้องยอมรับว่ากรมฯ สามารถทำ�งานได้บรรลุเป้าหมาย ทำ�ได้ส�ำ เร็จ ตามที่คาดหวังไว้ โดยสามารถเจาะเข้าไปในกลุ่มเยาวชนทั้งหลาย ทำ�ให้เยาวชน หันมาให้ความสนใจได้อย่างมาก
กรมพัฒนาสังคมฯ แม่งานใหญ่ ชื่นใจ สังคมขานรับ เร่งรุกปูพรม ทั่วประเทศ
คุณอิสสระเล่าต่อว่า ความสำ�เร็จของการจัดกิจกรรมมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ ตงั้ แต่ เดือนเมษายน-สิงหาคม 2552 ปีที่ผ่านมา ทำ�ให้ทางผู้รับผิดชอบได้นำ�ผลสำ�เร็จ ของโครงการเหล่านี้ไปจัดแสดงงานเพื่อขยายผลต่อที่สถาบันเอ็มไอที ประเทศ สหรัฐอเมริกา ซึ่งทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงเป็นศิษย์เก่า “การนำ�โครงการมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ ไปเผยแพร่ ก็เพื่อให้ฝรั่งทราบว่า วิธกี ารแก้ไขปัญหาทางสังคมของไทยนัน้ ใช้ระบบการแก้ไขปัญหา โดยให้เด็กเข้ามา มีส่วนร่วม มาเป็นต้นแบบในการแก้ไข โดยอิงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง การเรียนรู้ ร่วมกัน การแบ่งปันวิชาความรู้แก่กัน รวมทั้งการนำ�สิ่งที่ดีของคนหนึ่งไปขยายผล ต่อไปยังอีกคนหนึง่ โดยทางคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยเอ็มไอทีกใ็ ห้ความสนใจมาก “ปีนเี้ ราจะนำ�เยาวชนมาเข้าร่วมโครงการมิราเคิล ออฟ ไลฟ์ ให้ได้ทวั่ ทุกภาค จริ ง ๆ แล้ ว ถ้ า หากเรามี เวลาเพี ย งพอ ก็ อ ยากจะทำ � ไปถึ ง ระดั บ จั ง หวั ด เลย แต่ ว่ า ตอนนี้ ก็ จั ด ทำ � ระดั บ ภาคก่ อ น โดยใช้ วิ ธี ดำ � เนิ น การตามกลุ่ ม จั ง หวั ด ตลอดทั้งปีนี้คิดว่าเราจะสามารถทำ�การอบรมเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ อย่างต่ำ�ประมาณ 10,000 คน ส่วนปีหน้าก็จะทำ�ต่อ แต่เราจะไม่ลงซํ้าจังหวัดเดิม เราจะไปจังหวัดอื่นที่ยังไม่เคยไป”
“ในแนวพระดำ � ริ ข องพระองค์ นั้ น ท่ า นเห็ น ว่ า ควรจะเริ่ ม ต้ น ให้ เด็ ก แก้ ปั ญ หาด้ ว ยตั ว เอง การจะแก้ ปั ญ หา ด้วยตัวเองนั้น เขาจะต้องค้นพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเวลานี้นั้นเกิดจากอะไร แล้วทีนี้จะเอาส่วนที่ดีๆ ของสังคมอีกด้านหนึ่ง ไปต่อยอด ไปขยายผลให้เด็กที่กำ�ลังจะมีปัญหา ถ้าไม่มีอะไรไปกระตุ้นเขาเลย เด็กซึ่งกำ�ลังจะมีปัญหาก็จะเดินถลำ�ลึก ไปเรื่อยๆ ซึ่งจะไม่สามารถแก้ไขได้ “มาตรการทางกฎหมายก็ดี หรือมาตรการทางสังคมก็ดี มันเป็นมาตรการเชิงบังคับ หมายความว่ามันเกิดขึ้นแล้ว หรือมาตรการทางกฎหมายว่าไปกระทำ�ความผิดอย่างนั้นจะมีโทษอย่างนี้ มันเป็นมาตรการ เป็นเรื่องปลายเหตุแล้ว แต่การ ป้องกันในแนวพระดำ�ริของพระองค์ทา่ นคือ อยากให้ปอ้ งกันไม่ให้มนั เกิดขึน้ ส่วนทีม่ นั เกิดไปแล้วก็ขอให้ถอยได้มยั้ หยุดได้มยั้ ”
50
51
เพิ่มพื้นที่สื่อสารการทำ�ดี เพราะเด็กแย่มีเวที แต่เด็กดีไม่มีสื่อสนใจ เมื่อพูดถึงปัญหาของเยาวชน นักวิชาการและสื่อมวลชนมักจะตั้งข้อสังเกตว่า “เด็กๆ ขาดแคลนโอกาสในการทำ� ความดี เพราะสื่ อ มั ก จะนิ ย มให้ เ ผยแพร่ แต่ เรื่ อ งความชั่ ว ” ประเด็ น เดี ย วกั นนี้ รมว.กระทรวงพั ฒ นาสั ง คมฯ ก็ มี มุมมองที่น่าสนใจกับเรื่องสอดคล้องกันว่า ควรจะเพิ่มพื้นที่ในการแสดงออก (ในด้านดีๆ) ของเด็กๆ ให้มากขึ้น “จากการทำ�เวทีสมัชชาเด็ก เด็กๆ บอกว่า เขาขอพืน้ ทีส่ อื่ สำ�หรับลงและให้ความสำ�คัญกับผลงานของเขา เอาไปลงเผย แพร่ ไม่วา่ จะเป็นโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ จะไปผ่านคอลัมน์ หรือผ่านทีวใี นรูปแบบสารคดีกแ็ ล้วแต่ เขาอยากจะเห็นโครงการเหล่านี้ มีสื่อนำ�ไปขยายผลต่อ เพราะทุกวันนี้เด็กมองว่า สื่อส่วนใหญ่นั้นถ้าลงข่าวด้านเยาวชนแล้ว ก็มักจะลงข่าววัยรุ่นแต่ใน มุมที่ไม่ค่อยดี “อย่างวันก่อนทีวกี ล็ งเรือ่ งเด็กอายุ 9 ขวบ เป็นหัวหน้าแก็งค์ลกั ขโมยของ คือแบบนีห้ นังสือพิมพ์จะลงพาดหัวข่าวหน้าหนึง่ ตลอด มันก็เหมือนกับว่าไปตอกยํา้ สังคม อันทีส่ องคือ ถ้าข่าวลักษณะนีม้ ากๆ มันจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ เด็กทีถ่ กู จับได้ เชื่อมั้ยครับว่า วิธีการที่เขาไปลักขโมยของเนี่ย เขาเรียนรู้มาจากทีวี จากหนังเรื่องนินจาที่แต่งตัวมิดชิด รองเท้าไม่ต้องใส่ เพราะเวลาเดินมันจะเกิดเสียงดัง ใช้ไอ้โม่งคลุมหน้าให้มิดเหลือแต่ตา ดูทีวีเสร็จแล้วเขาก็แต่งเลียนแบบไปขโมยของ พอถูกจับได้ก็บอกว่าเลียนแบบมา “พฤติกรรมเลียนแบบอีกเรื่อง คือ พวกแก็งค์ปาหินใส่กระจกรถ ถ้าสื่อลงข่าวบ่อยๆ เดี๋ยวจังหวัดโน้น เดี๋ยวจังหวัดนี้ มันจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ เด็กๆ เขาไม่อยากให้ลงเรือ่ งอย่างนีแ้ บบใหญ่โต เพราะถ้าลงแล้วมันไปกระตุน้ เด็กอีกพวกหนึง่ ว่าให้อยากจะลอง กระตุ้นจูงใจให้เอาอย่าง “เรื่องไม่ดีอย่าง เด็กขว้างก้อนหินก็ดี เด็กลักขโมยของก็ดี มันไม่ใช่ว่าเด็กส่วนใหญ่ทำ�นะครับ เป็นจุดนิดเดียว เท่านั้นเอง แต่สื่อเอาไปลงเป็นเรื่องใหญ่โต ดังนั้นเด็กส่วนใหญ่ที่เขาทำ�อะไรดีๆ เขาบอกว่าอยากให้มีหน้าข่าว มีพื้นที่ ให้เขาแสดงออกในเรื่องการทำ�ความดีบ้าง หนึ่ง เขาจะได้มีกำ�ลังใจ สอง การขยายผลต่อ เขาจะมีเพื่อนให้ความสนใจเยอะ เฮ้ย ทำ�งี้เจ๋งนะ ได้รับการชื่นชมจากสังคม” รมว.พั ฒ นาสั ง คมฯ ตอบโจทย์ ดั ง กล่ า วด้ วยนํ้าเสียงชัดเจนว่า สิ่งที่เด็กๆ ต้องการก็ตรงกับจุดประสงค์ของ โครงการ มิราเคิล ออฟ ไลฟ์ ที่ตอนนี้ได้ขยายสื่อออกไปได้หลายประเภท นอกจากจัดอบรมในโครงการแล้ว ยังได้ นำ�เสนอเนื้อหาเผยแพร่สู่กลุ่มเด็กและเยาวชน ทั้งในรูปแบบนิตยสารและเว็บไซต์อีกด้วย อยากขอให้ช่วยติดตามกัน
โซนนิ่งแหล่งอบายมุข ดึงพ่อแม่ร่วมดูแล คือ วิธีแก้ปัญหา ในฐานะที่ ผู้ ใ หญ่ ใ จดี ท่ า นนี้ ทำ � หน้ า ที่ รั ฐ มนตรี ซึ่ ง ดู แ ลเรื่ อ งพั ฒ นาสั ง คมและความมั่ น คงของมนุ ษ ย์ เราจึ ง อยากจะให้ ท่ า นพู ด ถึ ง วิ ธี ก ารแก้ ไ ขปั ญ หาเด็ ก และเยาวชน ซึ่งคุณอิสระก็แนะนำ�ไว้อย่างน่าฟังว่า “ผมอยากจะให้แก้ปัญหาที่เฉพาะหน้าเร่งด่วนก่อน คือ ต้องช่วยดูแลสภาพสิง่ แวดล้อมรอบๆ สถานศึกษาต่างๆ ให้ปลอดจากการจำ�หน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อยากให้ เ จ้ า หน้ า ที่ ตำ � รวจกวดขั น เรื่ อ งนี้ อ ย่ า งจริ ง จั ง อย่าไปคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย” นอกจากนี้ ปมปัญหาของเยาวชนไทยทีแ่ สนยุง่ เหยิงนี้ คุณอิสระมองว่า ส่วนหนึ่งเกิดจาก สภาพเศรษฐกิจที่ทำ�ให้ พ่อแม่ไม่มโี อกาสอยูด่ แู ลลูกอย่างใกล้ชดิ เนือ่ งต้องประกอบ อาชีพเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย “ส่วนใหญ่เด็กทีม่ ปี ญ ั หาเกิดจากครอบครัวทีพ่ อ่ แม่มี รายได้ไม่เพียงพอ ทำ�งานจนไม่มีเวลาดูแลลูก จากการทำ� สมัชชาเด็กและเยาวชนเมื่อปี 2552 สมัชชาเด็กได้ทำ�เรื่อง เสนอต่อนายกฯ หลายข้อ แต่มขี อ้ หนึง่ ทีน่ า่ สนใจคือ เขาอยาก จะอยูใ่ นครอบครัวทีอ่ บอุน่ นีค่ อื ความคิดของเขา อยากเห็น พ่อแม่อยูด่ ว้ ยกันพร้อมหน้าพร้อมตา อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง อยากเห็นพ่อแม่พูดกันด้วยดี ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน “อยากให้พอ่ แม่ผปู้ กครองเด็กทัง้ หลายหันมาเอาใจใส่ ลูกหลานของท่านพยายามให้เวลากับลูกมากขึ้น หากลูก จะออกไปเที่ยวเตร่ต่างๆ ก็ไม่ควรห้าม เพียงแต่ว่าควรให้ ไปตามกำ�หนดเวลา ไปในสถานที่ที่เหมาะกับวัยของเขา เรื่องสุดท้าย อยากให้พ่อแม่กวดขันไม่ให้ลูกไปเล่นตู้เกม หรือ อินเตอร์เน็ตให้มากนัก อันนั้นก็เป็นช่องทางที่อาจ ทำ�ให้ลูกของท่านมีปัญหาขึ้นมาได้ พ่อแม่สำ�คัญที่สุดครับ”
52
คือความในใจส่งท้ายของผูใ้ หญ่ใจดีทช่ี อ่ื อิสสระ สมชัย 53
ปาริชาติ บุญเอก เรื่องและภาพ
ตั้งแต่ป่วย เรารู้สึกว่า รักครอบครัว มากขึ้น ครอบครัว สำ�คัญมากๆ อยากให้ทกุ คน รักครอบครัว ให้มากๆ
ไม่ ว่ า อะไรจะเกิ ด ขึ้ น “กำ � ลั ง ใจ” คื อ สิ่ ง ที่ สำ � คั ญ ที่ สุ ด ไม่ ว่ า จะมาจาก
ค ร อ บ ค รั ว ค น ร อ บ ข้ า ง ห รื อ แม้ ก ระทั่ ง คนที่ ไ ม่ เ คยรู้ จั ก กั น มาก่ อ น เวลาบ่ายแก่ๆ รถแท็กซี่พาเราไปจอดที่ หน้าบ้านหลังหนึ่ง ดูภายนอกก็เหมือน บ้านคนอื่นๆ ทั่วไป ฝนตกทำ�ให้อากาศ ภายนอกหนาวกว่าปกติ “ป๊าเอาร่มไป รับพี่เขาหน่อยสิคะ” เมื่อสิ้นเสียง ชาย วัยกลางคนท่าทางสุภาพกางร่มวิ่งมา รับเราที่รถ พร้อมกับเชิญเข้าไปในบ้าน เราเดินตามเข้าไปด้วยความเกรงใจนิดๆ ผู้หญิงเจ้าของเสียงเมื่อกี้ยืนต้อนรับ ตรงประตู เธอส่งยิม้ มาให้เป็นการทักทาย
ของขวัญที่เพื่อนๆ ในบล็อคส่งมาเป็นกำ�ลังใจ
ปิยะนุช เศรษฐวงศ์ หรือ ผึง้ เธอเป็นผูห้ ญิงทีน่ า่ รัก ดูเธอสดใสผิวขาวอมชมพู สวมหมวก ไหมพรมสีหวาน เราเคยพบกันหลายครัง้ ในโลกไซเบอร์ นีเ่ ลยกลายเป็นครัง้ แรกทีเ่ ราได้พบเจอกัน แบบตัวเป็นๆ เธอดูดใี จและตืน่ เต้นทีม่ เี พือ่ นไปเยีย่ มบ้าน เราถามไถ่สารทุกข์สกุ ดิบกันเรือ่ ยๆ เธอ พูดไป หัวเราะสลับกับยิม้ ดูเธอไม่เหมือนคนทีก่ �ำ ลังป่วยเลยสักนิด เด็กสาวอายุ 23 ปีทตี่ อนนีน้ า่ จะได้ท�ำ ตามฝันของตัวเอง กลับต้องมาอยูบ่ า้ นเพือ่ รักษาอาการมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือ ลูคเี มีย เธอเล่าว่า “อาการเริม่ แรกเลยทีร่ วู้ า่ เป็นคือปวดหัวไหล่และหน้าขามาก ป๊าเลยพาไปตรวจ เลือด แล้วผลเลือดที่ออกมาก็ไม่ค่อยจะดี ตอนนั้นป๊ากับม๊าก็หน้าเสียแล้ว มันไม่มีสัญญาณ เตือนล่วงหน้า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยังไปตรวจร่างกายอยู่เลย แล้วผลออกมาเราก็แข็งแรงดี ผ่านมาแค่เดือนเดียว เพียงชั่วข้ามคืนเรากลับกลายเป็นผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว” ถึงเธอจะ โชคดีที่เป็นมะเร็งชนิดไม่รุนแรง แต่ก็รู้ๆ กันว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรักษาโรคมะเร็งไม่ว่าจะ ชนิดไหน มันต้องใช้ความอดทนและอดกลัน้ กับความทรมานของภาวะแทรกซ้อนหลายๆ อย่าง จากการทำ�คีโม “มันเหนื่อยมากๆ เลยพี่ ร่างกายโดนเจาะไม่รู้กี่ที่ คือเราไม่ไหวแล้ว มันท้อ 54
Miracle of Life
55
คุณครูพี่แนน เรื่อง แต่ก็ไม่อยากร้องไห้ให้ม๊าเห็น พอม๊าเห็นเรา ร้องไห้ ม๊าก็จะร้องไห้ตาม หนูไม่อยากให้ พ่อกับแม่ไม่สบายใจ” เธอน่ า จะท้ อ แท้ สิ้ น หวั ง และหมด กำ�ลังใจในการมีชีวิตอยู่ แต่ความคิดนี้ดูจะ ไม่มีอยู่ในสมอง อะไรที่ทำ�ให้คนๆ นี้ยังรัก ที่จะยืนอยู่บนโลก และต่อสู้อดทนกับความ ทรมานนี้ได้ การรักษาทางการแพทย์ไม่ใช่ สู ต รสำ � เร็ จ เสมอไปที่ ทำ � ให้ ค นไข้ อ าการดี ขึ้ น หากขาดกำ � ลั ง ใจในการต่ อ สู้ และเธอ คนนี้ก็มีกำ�ลังใจที่เต็มเปี่ยมจากคนรอบข้าง “ตั้งแต่ป่วย เรารู้สึกว่ารักครอบครัว มากขึ้ น ครอบครั ว สำ � คั ญ มากๆ อยาก ให้ ทุ ก คนรั ก ครอบครั ว ให้ ม ากๆ ทุ ก คนดี กับหนู รวมทั้งบริษัท cubinet interactive ซึ่ ง หนู ทำ � งานอยู่ ก่ อ นจะป่ ว ย เขา ไม่ ย อมให้ ห นู ล าออกแถมยั ง ส่ ง งานมาให้ ทำ � เรื่ อ ยๆ เขาบอกว่ า ไม่ ใช่ จ้ า งเราเพราะ สงสาร แต่จ้างเราเพราะฝีมือของเราจริงๆ” เอ็ ก ซ์ ที น บล็ อ คถื อ เป็ น สื่ อ กลาง กำ�ลังใจและเป็นที่ๆ ทำ�ให้เราได้รู้จักกัน เธอ บอกเล่าอาการของตนเองออกมาในรูปแบบ การ์ตูนน่ารักๆ ฮาๆ ซึ่งในชีวิตจริงแล้วมัน คงไม่ตลกเหมือนในการ์ตูนเท่าไหร่นัก แต่ เธอก็สามารถสือ่ ออกมาได้ดแี ละทำ�ให้เรายิม้ ทุกทีทอี่ า่ น เราจึงเกิดข้อสงสัยว่า เธอเอาแรง จากทีไ่ หนมาเขียน “พอป่วยก็รสู้ กึ ว่าอยากทำ� อะไรเพือ่ คนอืน่ บ้าง พอดีเห็นน้องเล่นบล็อคนี้ อยู่ เลยถามว่าเล่นยังไง แล้วก็เขียนโดยเลือก ใช้การ์ตูนในการนำ�เสนอ คิดว่ามันน่าสนใจ แล้วโดยส่วนตัวก็ชอบวาดภาพอยู่แล้ว ถ้า ช่วงไหนป่วยหนักๆ ต้องเข้าไอซียู พออาการ ดีขึ้นก็จะลุกขึ้นมาเขียน มันรู้สึกอยากเขียน น่ะพี่” เธอพูดพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า เมื่ อ ได้ เ ล่ า ถึ ง การได้ ทำ � ในสิ่ ง ที่ ตั ว เองรั ก ในเมื่ อ เหตุ ก ารณ์ มั น เกิ ด ขึ้ น สิ่ ง ที่ ทำ�ได้ ณ ขณะนี้คือทำ�ยังไงให้อยู่กับมันให้
56
ได้ และคิดในด้านบวกเข้าไว้ การ์ตูนของ เธอแต่ละตอนจึงมีข้อคิดด้านบวกพ่วงท้าย เสมอ มุ ม มุ ม หนึ่ ง ในสั ง คมไซเบอร์ ที่ เรา สั ม ผั ส ได้ ถึ ง ความจริ ง ใจอย่ า งประหลาด สังคมเล็กๆ ที่เราเรียกว่าบล็อค มันทำ�ให้ เรารู้ ว่ า ยั ง มี ค นอื่ นที่ น อกเหนื อ จากญาติ พี่ น้ อ งและคนรอบกาย ที่ พ ร้ อ มจะหยิ บ ยื่ น ความห่วงใยและกำ�ลังใจให้กันตลอดเวลา “พีๆ่ ในบล็อคทุกคนดีมากค่ะ ทุกคน น่ารักมาก ไม่น่าเชื่อว่าใครก็ไม่รู้ ที่ไม่เคย รู้จักกันมาก่อน เขาจะดีกับเราได้ขนาดนี้ มี รวบรวมโปสการ์ดมาให้กำ�ลังใจ ให้ตุ๊กตา หนังสือธรรมะ มีพี่คนหนึ่งส่งข้าวกล้องมา ให้ทานด้วย แล้วก็คนอื่นๆ อีก อยากจะ บอกว่ า ขอบคุ ณทุ ก คนมาก มะม๊ า บอกว่ า ตอนนี้ทุกคนดีกับเรา ทุกคนให้เราทุกอย่าง พอเราหาย เราต้องพร้อมที่จะเป็นผู้ให้บ้าง” เธอพูดพร้อมกับหันไปยิ้มให้กับแม่ เธอกล่ า วทิ้ ง ท้ า ยไว้ ให้ สำ � หรั บ ทุ ก ๆ คนว่า อยากให้ทุกคนที่มีร่างกายแข็งแรง ช่วยกันบริจาคสเต็มเซลล์กันเยอะๆ เพราะ ตอนนี้ ที่ โรงพยาบาลยั ง ขาดอยู่ ม าก และ ผูป้ ว่ ยทีร่ อความหวังจากทุกคนก็เยอะ ทุกคน สามารถทำ�ได้โดยการบริจาคเลือดกับสภา กาชาดไทยทุกๆ 3 เดือน บางครั้งเลือดของ เราเพียงน้อยนิด อาจจะช่วยเหลือชีวิตคนๆ หนึ่งได้ ไม่เพียงแค่ช่วยคนไข้เท่านั้น ยังช่วย ให้ญาติพนี่ อ้ งของเขามีความสุขอีกด้วย แล้ว ถ้าถึงวันนั้นคนที่จะสุขใจที่สุดก็คือคุณเอง ปาฏิหาริย์ของการมีชีวิตไม่ได้เกิดขึ้น เองตามธรรมชาติ เราสามารถสร้างมันขึ้น มาได้ เพียงเราเชื่อว่าสิ่งนั้นมีอยู่จริง เหมือน ที่เธอไม่เคยยอมแพ้และหมดกำ�ลังใจในการ รักษา เราได้เห็นความเข้มแข็งและกำ�ลังใจที่ ล้นเหลือ หากใครอยากชมผลงานและตามไป ให้ก�ำ ลังใจ ก็เข้าไปเยีย่ มเธอในบล็อคได้เลยที่ http://nuchnin-leukemia.exteen.com
สวั ส ดี ค ะ ่ ท่านผู้อ่านนิตยสาร Miracle of Life ทุกท่าน ฉบับนี้นับเป็นฉบับปฐมฤกษ์ที่พี่แนนได้มีโอกาสมา ทักทายทำ�ความรูจ้ กั กับทุกท่าน แม้วา่ ท่านผูอ้ า่ นจะอายุอานาม เท่าไหร่ก็ตามขออนุญาตแทนตัวเองว่าพี่แนนนะคะ เนื่องจาก ติดความเคยชินมาจากที่โรงเรียน Enconcept เพราะพี่แนน ไม่ได้เป็นแค่คุณครูสอนภาษาอังกฤษ แต่ต้องทำ�หน้าที่เป็น พีส่ าวของน้องๆ มาไม่รกู้ รี่ นุ่ แล้ว แต่กข็ อหยุดฐานะไว้แค่พสี่ าว ไม่ขอขยับฐานะเป็นน้าแนน หรือป้าแนนดีกว่า
สำ�หรับฉบับปฐมฤกษ์นี้เรามาทำ�ความรู้จักกันหน่อยดีไหม คะ ถ้าเป็นภาษาไทยการกล่าวทักทายกันไม่ว่าจะครั้งไหนคำ�ว่า “สวัสดี” ก็เป็นคำ�ที่ไพเราะเสมอ และเราก็ยินดีที่จะให้คนแรกรู้จัก เรียกกันสนิทสนม นับญาติเป็นพี่เป็นน้องกัน เราจึงไม่ค่อยมีคำ� แสดงระดับความสนิทสนมมากเท่าไหร่ แต่ส�ำ หรับฝรัง่ แล้วเค้าค่อน ข้างไว้เนื้อไว้ตัวกว่า ดังนั้นคำ�พูดก็จะสะท้อนออกถึงวัฒนธรรม เหล่านีด้ ว้ ย เช่น เมือ่ แรกรูจ้ กั กันฝรัง่ มีคำ�ทีใ่ ห้เกียรติการพบกันครัง้ แรกว่า “How do you do?” และเมื่อเห็นว่าเป็นประโยคคำ�ถาม เราก็ไม่ต้องนั่งนึกหาคำ�ตอบว่าจะตอบว่าอะไรนะคะ แค่ตอบว่า “Nice to meet you” ก็พอ ไม่มีความหมายอะไรที่ต้องแปลตรง ตัวค่ะ ก็แค่กล่าว “สวัสดี” เท่านั้น อย่างไรก็ตามฝรั่งเค้ามีคำ�ที่ใช้ทักทายกันมากกว่านั้นอีก นะคะ เพราะภาษามีชีวิต จึงมีการพัฒนาคำ�ขึ้นมาเพื่อใช้กล่าว ทักทายมากมาย มากกว่า Good morning, Hello, หรือ Hi แต่มี อีกหลายคำ�ที่ใช้ทักทายกัน เช่น ถ้าเราไปอเมริกาทางใต้ จะได้ยิน Howdy หรือถ้าไปอยู่ในแก๊งวัยรุ่นน้องๆ อาจจะได้ยินเค้าทักทาย กัน What’s up? Sup? Hiya! Hi there! มากมาย ซึ่งถ้อยคำ�เหล่า นี้อย่าเผลอไปใช้กับทุกคนนะคะ เพราะภาษาในแต่ละคำ�มีความ เหมาะสมต่อกาลเทศะและบุคคลไม่เท่ากัน
อย่างทีเ่ ราได้ยนิ กันบ่อยๆ เมือ่ เวลาทีค่ นขับรถหรือคนขายของ ตามร้านค้าในย่านท่องเที่ยวมักจะเรียกชาวต่างชาติว่า Hey you! ซึ่ง แทนทีจ่ ะได้ลกู ค้า หากเจอฝรัง่ ทีโ่ หดหน่อย อาจจะได้เลือดแทนได้เงิน ได้นะคะ เพราะถ้าแปลเป็นไทยจะหมายถึง “เฮ้ยแก ชั้นเรียกแกนั่น แหละ” มันจะดีหรือ แต่คนไทยเข้าใจว่าเวลาทีเ่ รียก Hey แปลว่าเรียก ให้หนั มา แต่จริงๆ แล้วถ้าจะให้สภุ าพ เพือ่ เรียกความสนใจของลูกค้า เราน่าจะใช้คำ�ว่า Excuse me! จะดูดีกว่ามากทีเดียวนะคะ ประกอบ กับยิ้มหวานๆ ของคนไทย ฝรั่งที่ไหนก็หลงรักทั้งนั้น จะเห็นว่าแค่การกล่าวสวัสดีเพียงคำ�เดียวก็มเี รือ่ งให้เราเรียนรู้ กันมากมายขนาดนี้ ฉบับหน้าติดตามกันต่อไปเรือ่ ยๆ นะคะ แน่นอน ว่าภาษาอังกฤษเป็นเรือ่ งทีส่ นุกสนาน และมหัศจรรย์จนเราไม่อาจมอง ข้าม เพราะภาษามีชีวิต อังกฤษพ้นกรอบ English is Alive! เข้ามาสอบถามหรือพูดคุยแลกเปลีย่ นความรูท้ างภาษาอังกฤษ กับพี่แนนได้ที่ www.enconcept.com หรือ pnan_miracleoflife@ enconcept.com และติดตามความรู้ภาษาอังกฤษสดใหม่ทุกวันได้ที่ www.twitter.com/krupnan
Miracle of Life
57
ภัทรา เชาวน์เกื้อกูล เรื่องและภาพ
ติดสายสะพาย
นำ�กระสอบลายที่ชอบมาทำ�ความสะอาด
พับขอบเย็บปลายกันรุ่ย เตรียมอุปกรณ์มี กรรไกร ปากกา ไม้บรรทัด คัทเตอร์ กระดุม เวลโกเทป เข็ม และด้าย
เย็บขอบด้านหลังเพื่อให้เป็นช่องใส่ของ ใช้คัดเตอร์กรีดที่ปลายกระสอบ จำ�นวน 2 ชิ้น เพื่อใช้ทำ�สายสะพาย
สวัสดีค่ะ แนะนำ�ตัวกันหน่อยค่ะ สำ�หรับ คอลัมน์ DIY ของ นิตยสาร MOL ISSUE 1 ใครที่ชอบงาน Idia หรืองาน ประดษิ ฐ์ทสี่ ามารถท�ำ ได้งา่ ยๆ แต่ ใช้งานไดจ้ ริง ถ้าแวะเขา้ มา คอลัมน์นี้แล้วคงไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ สำ�หรับน้องๆ ช่วงนีก้ ค็ งอยู่ในช่วงปิดเทอมกัน นอกจากจะใชเ้ วลาไปเทยี่ ว พักผ่อนเพอื่ หาประสบการณ์การเรยี นรูจ้ ากสถานที่ ใหม่ๆ แล้ว ยังมีเวลาให้อยู่บ้านอีกแน่นอน งั้นเรามาลองออก ไอเดียและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์กันดีกว่า
เมื่อเย็บเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ตามตัวอย่างในรูป
แล้วจะได้ถุงกระสอบสวยเท่ ทนทาน ในแบบที่ไม่เหมือนใคร ตามสไตล์ตัวเอง ลองพับกระสอบเพื่อกะสัดส่วนของกระเป๋าด้านหลัง 58 58
Miracle of Life
ด้านหน้าจะเป็นแบบตัวอย่างในรูป
ติดเวลโกเทปที่ขอบด้านบน และประดับด้วย กระดุมหรือออกแบบได้ตามไอเดีย ด้วยของเหลือใช้้ในบ้าน Miracle of Life
59 59
สนุกประเทศ เรื่องและภาพ
เชี ย งคาน : วันหวาน…..เมื่อวานซืน
“เชียงคาน เมืองคนงาม ข้าวหลามยาว มะพร้าวแก้ว เพริศแพร้วเกาะแกง แหล่งวัฒนธรรม น้อมนำ�ศูนย์ศิลปาชีพ”
นัน่ เป็นคำ�ขวัญของเมืองทีผ่ มได้มาเป็นข้อมูลชุดแรกๆ สำ�หรับ เมืองทีใ่ ครหลายคนกำ�ลังเดินทางเข้าไปพบปะและทักทาย เมืองทีใ่ คร หลายคนรวมทัง้ ผมเองด้วยทีแ่ อบคิดไปว่าทีน่ นี่ า่ จะคล้ายๆ เมืองปาย เมือ่ สิบกว่าปีกอ่ น เมืองที่ใครหลายคนหลงกลกลิน่ ของอดีตทีส่ ง่ กลิน่ ฟุ้ง แม้แต่คนที่ใส่หน้ากากกันโรคประหลาดยังได้กลิ่น เมืองที่ คนอกหักหลายคนเลือกที่จะเดินทางไปเป็นจุดหมายแรกๆ ของโลก คล้ายกับว่าเมืองนี้เป็นแหล่งรวมนักปลอบใจคนพ่ายรักให้นํ้าตาได้ ไหลไปรวมกับนํ้าโขง เมืองที่หลายคนถามว่าจะไปทำ�อะไร จนหลาย คนตอบว่าต้องทำ�อะไรด้วยเหรอ ไปเที่ยว “เมืองเชียงคาน” กันเถอะ อำ�เภอเชียงคานตัง้ อยูท่ างด้านเหนือของจังหวัดเลย เป็นอำ�เภอ ที่ตั้งอยู่ติดกับแม่นํ้าโขงซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างไทยกับลาว โดยฝั่ง ตรงข้ามแม่นํ้าโขงจะเป็นแขวงไซยะบูลี ประเทศลาว เดินทางมาไกลกันถึงขนาดนีแ้ ล้วควรจะเริม่ ต้นตัง้ วงเล่นไพ่เป็น 60
อย่างแรก…จะบ้ารึไง!!! อันนัน้ ค่อยเล่นเวลาอยูใ่ นคุก (ข้างในนัน้ เวลา ว่างเยอะยิ่งกว่าเรื่องเล่าของ นาธาน โอร์มาน ซะอีก!!) โอเค! จะพัก ซักงีบก็ไม่ได้ ออกไปหาข้าวกินทีจ่ ดุ ท่องเทีย่ วชือ่ ดังของเมืองกันก็ได้ฟะ ที่ “แก่งคุดคู้” แก่ ง คุ ด คู้ เป็ น แก่ ง หิ นขนาดใหญ่ ข วางอยู่ ก ลางลำ � นํ้ า โขง ห่างจากตัวอำ�เภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร ประกอบด้วยหิน ก้อนใหญ่ๆ เป็นจำ�นวนมาก ตัวแก่งกว้างใหญ่เกือบจรดสองฝัง่ แม่นา้ํ โขง มีกระแสนํา้ ไหลผ่านไปเพียงช่องแคบๆ ใกล้ฝง่ั ทะเลไทยซึง่ มีกระแสนํา้ เชี่ยวกราก ที่นี่มีร้านของฝากและร้านอาหารมากมายรอต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มีอารมณ์สุนทรีกับการชมแก่ง เราเลือกร้านอาหารร้านนึงที่มี วิวชมนํา้ โขงแบบแนบตา ร้านนีบ้ อกสรรพคุณว่าเป็นฝีมอื การร่วมแรง ร่วมใจกันทำ�อาหารจากกลุ่มแม่บ้านเชียงคาน เราถามแม่บ้านคนนึง ว่ามาถึงเชียงคานแล้วควรจะเลือกไม่พลาดเมนูไหนดี แม่บ้านตอบ ฉะฉานว่า ”ไข่เจียว” บ้า!! ป้าล้อเล่น ต้องนี่เลยค่ะ ปลาคัง เพิ่งขึ้น มาจากนํ้าโขงโน่นสดสดเปียกเปียกเลยค่ะ ผมมองตามการผายมือ ของคุณป้าแม่บ้าน “หนุ่มเห็นเรือนั่นไหมคะ” ป้ายังคงบรรยายอยู่ “ลำ�นั้นเหรอครับ ที่ว่าเพิ่งจับมาได้สดสดเปียกเปียกเลย” ป้า ยังคงผายมือค้างไว้ รักแร้ป้ายังคงกางอยู่ “เปล่าค่ะ ป้าแค่ถามว่าเห็นรึเปล่า แค่นน้ั เอง” ป้าหัวเราะคิกคัก ทำ�เอารักแร้กระเพื่อมตามจังหวะ
“มุกเชียงคานน่าสนใจมากครับ เอาเป็นว่าป้าจัดปลาคังต้มยำ� ให้ผมซักชุดแล้วกัน” ผมตัดบทสนทนา กลัวจะต้องรับรูก้ ารกระเพือ่ ม ของรักแร้รอบแล้วรอบเล่า การเช่าจักรยานปัน่ ชมรอบรอบเมืองเชียงคานเป็นกิจกรรมทีด่ ู รักโลกและเข้ากับวิถีเมืองเล็กๆ เงียบๆ อย่างที่นี่เป็นอย่างมาก เรา อาจจะเริ่มปั่นไปหาอะไรรองท้องเติมพลังที่ตลาดเช้าด้านในเมือง ซึ่งห่างออกไปไม่มากนัก จากนั้นก็ปั่นต่อมาที่ถนนเลียบลำ�นํ้าโขง ลัดเลาะชมบ้านเมืองที่ยังโชยกลิ่นอดีตให้เราได้สูดดมเป็นระยะๆ 61
ตลอดถนนชายโขงจะถูก จัดวางไปด้วยบ้านเรือนแบบเก่า เรียงรายกันไป บ้างก็ปดิ ประตูใส่ กลอนราวกับว่าเจ้าของไปเมือง นอก บ้างก็ถูกตกแต่งแปลงโฉม เสียใหม่กลายเป็นร้านกาแฟสุด เก๋ แต่ก็มีไม่น้อยที่ยังคงมีชาวบ้านอาศัยอยู่อย่างในอดีตที่ผันผ่านมา บ้าง ก็ปรับตัวจัดแจงปรับปรุงที่พักอาศัยของตัวเองให้เป็นเกสต์เฮาส์ราคาขนาด ย่อมเยาเพื่อต้อนรับนักเดินทางต่างถิ่น มีรา้ นนึงทีผ่ มค่อนข้างชอบเป็นการส่วนรวม ร้านนีเ้ ป็นร้านทำ�ผ้านวม ชื่อร้าน “นิยมไทย” ความน่ารักของร้านนี้คือ เราจะได้เห็นวิธีการทำ�ผ้านวม กันจะจะ ตั้งแต่คุณยายกำ�ลังนั่งเย็บปลอกผ้านวม คุณพี่อีกคนกำ�ลังยัดนุ่น พร้อมกับขายผ้านวมผืนที่สำ�เร็จแล้วให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ไปด้วย กิจการผ้านวมที่ทอขายอยู่เหลือเพียงไม่กี่ร้านในเชียงคาน และนิยมไทยก็ เป็นร้านหนึ่งที่เปิดมานานกว่า 3 ชั่วอายุคน ผ้านวมที่นี่ จึงแจ้งเกิดเป็นของขึ้นชื่อของเมืองเชียงคาน เหมาะนัก สำ�หรับเป็นของฝากจากทางไกลครับ
แหล่งท่องเที่ยวรอบรอบเชียงคานยังมีอีกหลายที่ สำ�หรับ ฤดูหนาว ใครใคร่ที่จะชมทะเลหมอกสามารถตื่นก่อนไก่ไปชมได้ที่ ภู ท อกข้ อ มู ล บอกว่ า อยู่ บ ริ เวณกลางเมื อ งเชี ย งคาน หรื อ ใครไป ช่วงเทศกาลงานบุญ เชียงคานมีวัดในบริเวณนั้นอยู่ 2 วัดคือ วัดศรีคุณเมือง อยู่ที่ถนนชายโขง ซอย 7 ทางด้านเหนือของ ตลาดเชียงคาน วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและ ล้านช้างดังจะเห็นได้จากโบสถ์ ซึง่ หลังคาลดหลัน่ อย่างศิลปะล้านนา ศิลปวัตถุทสี่ �ำ คัญมีหลายชิน้ นอกจากนีใ้ นวัดยังมีธรรมาสน์แกะสลัก ไม้ ลงรักปิดทองทุกด้าน ที่พนักหลังมียอดคล้ายปราสาท ด้านหน้า โบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่เต็มหน้าบัน ภาพทั้งหมดเป็นภาพ นิทานชาดก
วัดท่าแขก เป็นวัดเก่าแก่อยูร่ มิ ฝัง่ แม่นาํ้ โขง ห่างจากอำ�เภอ เชียงคาน 2 กิโลเมตร ก่อนถึงหมูบ่ า้ นน้อยและแก่งคุดคู้ ภายในโบสถ์ มีพระพุทธรูป 3 องค์สกัดจากหินทรายทั้งก้อน เป็นพระพุทธรูป เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ มีอายุประมาณ 300 กว่าปี “ป้าป้า รู้จักเชียงคานรึป่าว” ผมถามป้าข้าวราดแกงหน้า ปากซอย หลังจากกลับจากที่นั่นไม่ทันหายอาการเจ็ตแล็ก “ไม่แน่ใจหนุ่ม จังหวัดใหม่ทางเหนือมั้ง” “น้อง รู้จักเชียงคานป่าว” ลองเด็กแถวสยามดูบ้าง “ไม่แน่ใจนะพี่ ที่เค้าประกวดหนังรึป่าว เทศกาลหนังเมือง เชียงคานอะ” “พี่อ้วน รู้จักเชียงคานป่าว” นักเดินทางรอบโลกอาจจะรู้ บ้าง “เมืองเงียบเงียบไม่ใช่เหรอ ไปแล้วจะทำ�อะไรล่ะ” นี่กระมังที่ยังคงเป็นเสน่ห์เชียงคาน เมืองที่หลายคนอาจ จะยังไม่เคยรู้จัก เมืองที่หลายคนที่เคยไปแล้วยอมรับว่าเดินช้า ลง คุยกับตัวเองได้นานขึ้น หรือแม้กระทั่งคุยกับคนอื่นได้อย่าง กับคุยกับคนในครอบครัว กลิ่นวานซืนทรงอานุภาพได้ขนาดนั้น เชียวหรือ เชียงคานมีคาถาอะไรที่ทำ�ให้ใครต่อใครหวนระลึกรัก ได้ขนาดนี้เชียวหรือ ผมคงตอบไม่ได้ บางที่คุณก็อาจไม่ต้องการ คำ�ตอบ บางทีเราอาจจะอยากลองเดินช้าช้ากันอีกซักที ด้วยสอง เท้าของเรากันเองแล้วกระมัง
62
63
RealPetal เรื่อง
ใครที่ชอบกินวาซาบิ เครื่องปรุงรสเผ็ดจี๊ดด...ที่มากับอาหารญี่ปุ่นคงได้เฮ เพราะ บริษัทผลิตเครื่องปรุงรสโอกาวะของญี่ปุ่นได้ทำ�การวิจัยออกมาว่า วาซาบินั้นนอกจากจะ ช่วยป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน ลดความเสีย่ งในการเป็นมะเร็ง และป้องกันโรคหอบหืดแล้ว ยังอาจป้องกันฟันผุได้อีกด้วย เนื่องจากสารประกอบทางเคมีในวาซาบิสามารถยับยั้งการ เจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ แต่อย่างไรก็ตาม การวิจัยนี้ ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น และจำ�เป็นต้องทำ�การค้นคว้าและวิจัยกันต่อไป แต่ถ้าการวิจัย ยืนยันได้ว่าวาซาบิช่วยป้องกันฟันผุได้จริง สงสัยอีกหน่อยเราอาจจะได้เห็นยาสีฟัน นํ้ายา บ้วนปาก หรือแม้กระทั่งหมากฝรั่งป้องกันฟันผุรสวาซาบิก็เป็นได้
ตอนนีไ้ ปไหนมาไหนก็เห็นแต่สาวน้อย สาวใหญ่ สาวใส ตาโต๊...โต มองดีๆ เลยร้อง อ๋อ สาวๆ ทั้งหลายเขานิยมใส่ “บิ๊กอายส์” คอนแทคเลนส์ที่ใส่แล้วช่วยให้ดวงตาดูโตขึ้น ไปจนถึงการเปลี่ยนสีตา ซึ่งเป็นแฟชั่นที่ระบาดมาจากวัยรุ่นญี่ปุ่นและเกาหลี จนตอนนี้ แม้กระทั่งหนุ่มๆ บางคนก็ยังนิยมใส่ จริงๆ แล้วคอนแทคเลนส์นั้นมีไว้เพื่อใส่ปรับสายตาสำ�หรับผู้ที่มีปัญหาทางสายตา เท่านั้น โดยจักษุแพทย์แนะนำ�ว่า หากเป็นคนสายตาปกติก็ไม่ควรใช้คอนแทคเลนส์ไม่ว่า จะด้วยจุดประสงค์ใด เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่บอบบาง หากไม่ระวังเรื่องความสะอาด หรือเกิดการติดเชือ้ อาจทำ�ให้สญ ู เสียกระจกตาหรือตาบอดได้ โดยเฉพาะกลุม่ วัยรุน่ ทีช่ อบ แลกคอนแทคเลนส์กนั ใส่นนั้ อันตรายถึงขัน้ ติดเชือ้ เอดส์ได้เลยทีเดียว ทางทีด่ หี ากต้องการ ใช้จริงๆ ก็ควรรักษาและทำ�ความสะอาดคอนแทคเลนส์ตามขัน้ ตอนการใช้อย่างเคร่งครัด แต่หากจะใส่เพื่อความสวยงามหรือตามแฟชั่นก็ขอให้ระมัดระวัง แต่ยังไง ตาสวย ก็ไม่ได้ หมายความว่า ตาโต อย่างเดียว ตาเล็ก ตาตี่ที่แม่ให้มาก็สวยได้ ถ้าเรามีความมั่นใจใน ตัวเองแบบที่เค้าเรียกว่า สวยจากภายใน ไงล่ะ...!!
รู้หรือไม่...ไอพอดคู่ใจอาจทำ�ให้เรากลายเป็นคนหูตึง!! โดยเมื่อเร็วๆ นี้สำ�นัก คุ้มครองความปลอดภัยผู้บริโภคสหภาพยุโรปออกมาประกาศเตือนภัย เนื่องจากพบว่า วัยรุ่นยุโรปมากกว่าสิบล้านคนกำ�ลังตกอยู่ในอันตรายจากการใช้หูฟัง ปัจจุบนั วัยรุน่ จำ�นวนมาก รวมทัง้ วัยรุน่ ไทย นิยมฟังเพลงจากเครือ่ งเล่นเพลงดิจติ อล พกพา ไม่วา่ จะเป็นไอพอด เครือ่ งเล่นเอ็มพี 3 รวมไปถึงโทรศัพท์มอื ถือ ทีต่ อ้ งฟังเพลงจาก หูฟังเป็นเวลานาน และมักจะฟังในระดับเสียงที่ดังเกินไป ซึ่งจะทำ�ให้เกิดอาการหูอื้อและ หูตึง ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายได้ หากเราไม่อยากหูตึงก่อนวัยอันควรก็ไม่ควรฟังเพลง นานเกินไป และควรฟังในระดับเสียงไม่เกิน 80 เดซิเบล หรือหากอยากฟังเพลงดังๆ ก็ ไม่ควรฟังนานเกินครึ่งชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหูตึง
64 64
Miracle of Life
วัยรุ่นวัยทีนที่กำ�ลังกังวลกับสิวบนใบหน้า เรามีทางเลือกใหม่ที่จะช่วยให้ผิวดีขึ้น อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งทำ�ได้ง่ายมาก เพียงแค่นอนหลับอย่างเพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง โดย นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกลงความเห็นว่า การนอนหลับอย่างพอเพียงช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น เพราะการพักผ่อนจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรค ทำ�ให้การอักเสบ ของสิวหายเร็วขึน้ และระหว่างนอนหลับเซลล์ผวิ จะสร้างเซลล์ใหม่และบำ�รุงเซลล์เหล่านัน้ การนอนหลับ 8 ชั่วโมงจะส่งผลให้หน้าเราเนียนใส สุขภาพผิวดีขึ้น ข่าวดีสำ�หรับคนที่มี เวลาน้อยก็คือ การนอนกลางวันก็ถือเป็นการช่วยซ่อมแซมและบำ�รุงผิวหน้าของเราด้วย เหมือนกัน
เดินไปคุยไป
8 ชั่วโมงเพื่อหน้าใส
ขาเมาท์ทั้งหลายต้องฟังไว้ เดินไปคุยโทรศัพท์มือถือไปอาจทำ �ให้เกิดอาการ ปวดหลังได้ เพราะมีการวิจัยออกมาแล้วว่า การคุยโทรศัพท์ขณะเดินจะส่งผลให้การ หายใจของเราผิดปกติ เนือ่ งจากร่างกายของเราถูกออกแบบมาโดยให้การหายใจออกเป็น ตัวช่วยในการเดินเวลาเท้าแตะพืน้ เพือ่ ป้องกันการกระแทกของกระดูกสันหลัง ซึง่ หากเรา พูดคุยในขณะที่กำ�ลังเดินจะทำ�ให้ระบบการหายใจนี้เสีย และส่งผลต่อกระดูกสันหลัง ซึ่งจะทำ�ให้เราปวดหลัง นอกจากนี้ การพูดคุยกับผูอ้ นื่ ขณะเดินก็เสีย่ งต่ออาการปวดหลังเช่นกัน แต่คนทีค่ ยุ โทรศัพท์ขณะเดินจะมีความเสี่ยงมากกว่า เพราะมักจะใช้เวลาในการพูดคุยและการเดิน มากกว่าปกติ ดังนัน้ หากไม่ใช่เรือ่ งจำ�เป็นก็ควรหลีกเลีย่ งการคุยโทรศัพท์นานๆ ขณะเดิน เพราะถึงจะพูดกันมากขึน้ เข้าใจกันมากขึน้ แต่เราคงไม่อยากเป็นโรค (ปวดหลัง) เพิม่ ขึน้ หรอก....จริงมั้ย!!
...(ปวดหลังไป) หนูๆ แฟนทีวตี วั ยงทัง้ หลายคงถึงเวลาเปลีย่ นพฤติกรรมกันได้แล้ว เพราะการดูทวี ี มากเกินไปจะส่งผลให้เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ โดยสมาคมโรคปอดและทางเดินหายใจ ประเทศเยอรมนี เผยว่า เด็กและเยาวชนที่ดูโทรทัศน์เกิน 5 ชั่วโมงต่อวัน เสี่ยงเป็นโรค ทางเดินหายใจถึง 50% เมื่อเทียบกับคนที่ดูแค่วันละ 1 ชั่วโมง เพราะการนั่งดูโทรทัศน์ นานๆ นั้นทำ�ให้ร่างกายเคลื่อนไหวน้อย และนํ้าหนักยังเพิ่มขึ้นเนื่องจากการกินขนม ขบเคี้ยวระหว่างนั่งดู ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคหืด นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวร่างกายน้อยยังทำ�ให้ปอดได้รับอากาศน้อยและอาจ ติดเชื้อ เสี่ยงต่อการเป็นโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง ดังนั้น ใครที่รู้ตัวว่าติดทีวีก็ลุกขึ้น มาขยับแข้งขยับขาออกกำ�ลังกายกันได้แล้ว
Miracle of Life
65 65
นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล เรื่อง
ความแตกต่าง
ระหว่าง รัก กับ เซ็กซ์
ผม เจอคำ�ถามจากเด็กวัยรุน่ เสมอ ประเภท “คุณหมอคะ...เวลาเรามีความรัก จำ�เป็นจะต้องมีเซ็กซ์มั้ย” หรือ “เขาขอมีเซ็กซ์ด้วย แปลว่าเขารักหนูจริงหรือ
เปล่าคะ”
เราจะเข้าใจเรื่องความรักกับเซ็กซ์ได้ชัดเจน ถ้าเข้าใจแผนภูมิที่เป็นภาพวงกลม สองวงที่ซ้อนกันบางส่วน... วงกลมซ้ายคือ ความใคร่ (Sex) วงกลมขวา คือ ความรัก (Love) passion (เสน่หา) compassion (ความเมตตา) S
E
X
have sex (ร่วมเพศ) make love (ร่วมรัก)
เซ็กซ์ทไี่ ม่มคี วามรักเข้าไปเกีย่ วข้อง เรียกว่า “ร่วมเพศ” (Have Sex) เป็นการใช้รา่ งกาย ของอีกฝ่ายเพื่อเป็นเครื่องมือในการระบายความใคร่เท่านั้น ปราศจากความรัก แต่หาก เซ็กซ์นนั้ ตัง้ อยูบ่ นพืน้ ฐานของความรัก เรียกว่า “ร่วมรัก” (Make Love) เพศสัมพันธ์นนั้ ก็เป็น การสื่อสารความรักด้วยภาษากายที่ลึกซึ้งต่อกัน บ่อยครั้งที่เราใช้คำ�ว่ารัก (Love) แทนคำ�ว่าเซ็กซ์ (Sex) ทั้งที่จริงๆ แล้วมันคือความ ใคร่หรือราคะ (Lust) เท่านั้น ความรักก็แยกเป็นสองแบบเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่ามีความใคร่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ถ้าความรักนัน้ เกีย่ วข้องกับความใคร่ เราเรียกว่า “ความเสน่หา” (Passion) แต่ถา้ ปราศจาก ความใคร่ เราเรียกว่า “ความเมตตา” (Compassion) เป็นความรู้สึกที่เราสามารถมีให้กับ ผูค้ นได้มากมายไม่จำ�กัด...บางคนเรียกว่า “รักแท้” เพราะคิดแต่การให้หรือทำ�ประโยชน์ให้ กับผู้อื่น มากกว่าผลประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับ ผมเปรียบเทียบเสมอว่า “เซ็กซ์เปรียบเหมือนไฟ - ความรักเปรียบเสมือนสายนํ้า” ทั้งไฟและนํ้าต่างก็มีประโยชน์และโทษในตัวมันเอง ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ เราจึงต้องเรียนรู้ ให้เข้าใจเรื่องความรักและความใคร่...การเรียนรู้และเท่าทันช่วยให้ชีวิตเราไม่ต้องเป็นทุกข์ • ธรรมชาติของไฟ คือ มันเป็นลูกน้องที่ดี แต่เป็นเจ้านายที่เลว...ถ้าเซ็กซ์ทำ�งาน รับใช้เรา มันจะทำ�ให้เรามีความสุข แต่ถ้าเราตกเป็นทาสของเซ็กซ์ มันจะมีอำ�นาจบงการ ให้เราประพฤติในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง...ชีวิตจะสุขหรือทุกข์ขึ้นอยู่กับว่าเราคุม “ความต้องการ ทางเพศ” ในตัวเราได้หรือไม่ • ธรรมชาติของนํ้า คือมันทำ�ให้เรือลอยก็ได้ ทำ�ให้เรือจมก็ได้...ความรักที่ขาดสติ ก็เหมือนเรือทีม่ รี รู วั่ พร้อมทีจ่ ะจมลงสูห่ ว้ งรักเหวลึก แต่ถา้ มีความรักอย่างมีปญ ั ญาก็เหมือน เรือที่ลอยอยู่เหนือนํ้า และให้สายนํ้านำ�พาชีวิตเราไปสู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้
66
l o v e
The secret of success in life is to be ready for your opportunity when it comes. -Benjamin Disraeli “ความลับของความสำ�เร็จคือเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ สำ�หรับโอกาสที่มาถึง”
“There is nothing either good or bad but thinking makes it so.” -W.Shakespeare
“Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them.” -Anonymous บางคนฝันที่จะประสบความสำ�เร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำ�ลังลงมือกระทำ�
o d s y a w l a u o y If “ ts s e r e t n i t a h w st a e l t a n e h t , u o y is n o s r e p e n o pleasedth..e” rine Hepburn -Ka
สนใจอยู่เสมอ ถ้าคุณลงมือทำ�ในสิ่งที่คีคุณ จ อย่างน้อยจะม นคนหนึ่งที่พอใ
“IF YOU WOULD BE LOVED, LOVE AND BE LOVABLE.” -Benjamin Franklin
67
ในดีวีดีชุดนี้มีภาพยนตร์ที่ถูกสร้างในช่วงแรกของการ ถือกำ�เนิดภาพยนตร์บนโลก ซึ่งนั่นก็ประมาณ เมื่อ 115 ปี ที่แล้วครับ จำ�นวนหลายสิบเรื่อง โดยเรียงลำ�ดับเรื่องตาม วิวัฒนาการของภาพยนตร์ นับตั้งแต่การทดลองนำ�ภาพนิ่ง หลายภาพมาเรียงกันจนเห็นว่าภาพนั้นเคลื่อนไหวได้ หรือที่ เรียกว่าปรากฏการณ์ภาพติดตา มีภาพยนตร์ของ โธมัส อัลวา เอดิสัน ผู้ประดิษฐ์หลอด ไฟฟ้าอย่างที่เราเคยรู้จักกันมานี่แหละครับ น้อยคนจะรู้ว่าเขา เป็นคนคิดค้นกล้องถ่ายภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน และที่เป็นไฮไลท์คือภาพยนตร์ของสองพี่น้องตระกูล ลูมิแอร์ (Lumiere Brother) ชาวฝรั่งเศสผู้ประดิษฐ์กล้อง ถ่ายภาพยนตร์ได้ในช่วงเวลาเดียวกับเอดิสัน แต่พี่น้องคู่นี้ยัง ประดิษฐ์เครือ่ งฉายทีส่ ามารถฉายให้คนจำ�นวนมากดูได้เหมือน อย่างโรงฉายภาพยนตร์ในปัจจุบัน เขาเลยนับว่าพี่น้องลูมิแอร์ เป็นผูผ้ ลิตภาพยนตร์เรือ่ งแรกของโลก และแน่นอนใครทีอ่ ยาก ชมภาพยนตร์เรื่องแรกของโลก ที่ชื่อเรื่องว่า Exiting the factory ดีวีดีชุดนี้ก็มีให้ชมครับ 68 68
Miracle of Life
รวมทั้งภาพยนตร์ที่ถ่ายรถไฟเข้าชานชาลาที่ว่ากันว่า ผูช้ มในสมัยนัน้ ถึงกับวิง่ หนีเมือ่ เห็นภาพรถไฟบนจอภาพยนตร์ เพราะคิดว่ารถไฟจะวิ่งเข้ามาชนจริงๆ ภาพยนตร์ในยุคแรกนี้เป็นเพียงบันทึกชีวิตประจำ�วัน ของผูค้ นในสมัยก่อน เรือ่ งละไม่กนี่ าที ไม่มเี รือ่ งราวแต่มคี ณ ุ ค่า อย่างหาที่สุดมิได้ เพราะภาพ เก่ า เล่ า เรื่ อ งเหล่ า นี้ ห าดู ย าก มากๆ ครับ น อ ก จ า ก นั้ น ยั ง มี ภาพยนตร์บันเทิงในยุคแรกๆ ของทั้ ง ฝรั่ ง เศสและอเมริ ก า อี ก ด้ ว ย ทั้ ง หมดล้ ว นเป็ น รากฐานของภาพยนตร์ที่เราดู ในปัจจุบันแหละครับ รับรอง ว่ า เป็ น ภาพยนตร์ ที่ ค วรค่ า แ ก่ ก า ร รั บ ช ม เพื่ อ ส ร้ า ง แรงบันดาลใจต่อตัวเองอย่าง ยิ่งครับ ดีวีดีชุดนี้หาข้อมูลได้ในเว็บ amazon นะครับ สำ�หรับภาพยนตร์ในยุคแรกของเมืองไทย ก็มนี ะครับ หาชมได้ทหี่ อภาพยนตร์ตรงศาลายา มี ก ารรวบรวมภาพยนตร์ ที่ บั นทึ ก เหตุ ก ารณ์ สำ�คัญๆ และภาพที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็น อีกเยอะแยะ ภาพหนึง่ ทีค่ นไทยควรจะได้ดเู ป็น อย่างยิ่งก็คือ ภาพยนตร์ชุดรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป แม้จะมีชว่ งเวลาสัน้ ๆ ไม่ กี่ วิ น าที แต่ ก ารได้ เห็ น พระองค์ ใน ภาพยนตร์ ให้ ค วามรู้ สึ ก ที่ ยิ่ ง ใหญ่ ก ว่ า ภาพนิ่งทั่วไปมากมายครับ ผมเองดูแล้ว ขนลุกด้วยความปลื้มปีติอยู่นานหลายวัน เลยล่ะครับ
Miracle of Life
69 69
เรื่อง
ยัทั้งหมดอยู ง ไม่่กเคยนัี่เพลงบว่บางที า โลกใบนี้มีเพลง ถ้ามีคนอุตริ
นั บ อาจพบว่ า มั น มี จำ � นวนมากกว่ า ประชากรโลกหรืออาจมากกว่าแสน ล้านเพลง เป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อย ทั้งที่เราก็มีหูอยู่แค่สองหูเท่านั้น แต่ ด้ ว ยหู คู่ นี้ เ ราสามารถฟั ง เพลงแบบ ไม่ซํ้ากันได้จนตาย บางทีตายแล้วกลับ มาเกิ ด อี ก สั ก สองชาติ ก็ อ าจจะยั ง ฟังเพลงไม่หมดโลก บางทีนี่อาจเป็น เรื่องมหัศจรรย์ของโลกใบนี้ที่สร้าง ให้มนุษย์มีสุนทรียศิลป์พอจะทำ�ให้เรา รู้จักแต่งเพลงและฟังเพลง
70 70
Miracle of Life
แต่ดว้ ยจำ�นวนมากเท่ามากของเพลงบนโลกนี้ ไม่วา่ มันจะมีจ�ำ นวนถ้วนๆ เท่าไหร่ ก็ไม่ใช่ ว่าเพลงทุกเพลงจะได้รับการยอมรับ ได้รับความชื่นชม หรือแม้แต่สร้างอิทธิพลพอที่จะปลุกให้ คนลุกขึน้ มาขยับโลกใบนีห้ รือแม้แต่ใช้เป็นเครือ่ งมือในการปลอบประโลมตัวเองให้หายใจต่อไป มีเพลงที่สร้างปาฏิหาริย์แบบนี้ได้ไม่กี่เพลง เพลงที่เปลี่ยนแปลงโลก เพลงที่คนใช้เพื่อเยียวยา บรรเทาตัวเอง เพลงที่จุดประกายให้คนทำ�ในสิ่งที่โลกตะลึง เพลงที่ร้อยรัดมวลชนมหาศาลไว้ ด้วยกันเพือ่ ทำ�ในสิง่ ทีย่ งิ่ ใหญ่ บทความชิน้ นี้ (และชิน้ ต่อๆ ไป) จะว่าด้วยบทเพลงเหล่านัน้ และ เราเรียกมันว่าเพลงปาฏิหาริย์ การสร้างเพลงปาฏิหาริย์เป็นคุณสมบัติที่ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่พึงมี เมื่อพูดถึงศิลปินหรือ วงดนตรีที่ยิ่งใหญ่คงไม่มีใครปฏิเสธว่าชื่อแรกที่ควรนึกถึงคือ The Beatles วงดนตรีแห่งเมือง ลิเวอร์พลู จากประเทศอังกฤษ วงเดียวกับทีพ่ อ่ แม่ลงุ ป้าน้าอาชอบเรียกว่า ‘สีเ่ ต่าทอง’ นัน่ แหละ The Beatles เป็นวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ ไม่สิ เราควรพูดว่าพวกเขาเป็นวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน โลกต่างหาก นับจนวันนี้ (อาจรวมไปถึงวันหน้า) ยังไม่มวี งดนตรีวงไหนประสบความสำ�เร็จทาง กว้าง (ยอดขาย) และทางลึก (ความสร้างสรรค์และคุณค่าทางสุนทรียศิลป์) ได้มากไปกว่า วงดนตรีของ จอห์น เลนนอน, พอล แมคคาร์ทนี่ย์, จอร์จ แฮริสัน และริงโก สตาร์ อีกแล้ว สิ่งที่ ทำ�ให้ The Beatles ยิ่งใหญ่และครองใจนักฟังเพลงทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่รุ่นที่ฟังจากแผ่นเสียง ฟังจากคาสเสตต์เทป ฟังจากแผ่นซีดี มาจนถึงดาวน์โหลด (ถูกกฎหมาย - ได้โปรด) มาฟังใน ไอพอด ก็คอื พวกเขาไม่ได้มเี พลงปาฏิหาริยท์ วี่ า่ นีแ้ ค่เพลงสองเพลง แต่พวกเขามีเพลงแบบทีว่ า่ นี้ อยูเ่ ต็มไปหมดตลอดอาชีพการงานในฐานะวงดนตรีของพวกเขา เผลอๆ อาจนำ�รวมเป็นอัลบัม้ รวมฮิตได้สาม - สี่ชุด! การเลือกเพลงปาฏิหาริย์ของสี่เต่าทอง (อยากเรียกแบบที่พ่อชอบเรียกบ้าง) เพียงแค่ เพลงเดียวเป็นเรื่องยาก แต่ความยากนี้ก็ท้าทายเราไม่ใช่น้อย ที่สุดแล้วเราเลือกเพลง ‘Let It Be’ ไตเติ้ลแทร็คจากอัลบั้มชื่อเดียวกันและเป็นอัลบั้ม อย่างเป็นทางการชุดสุดท้ายของวงในปี 1970 หลังจากประสบความสำ�เร็จอย่างถล่มทลายแบบทีท่ ำ�ให้โลกเปลีย่ นโฉมหน้าไปไม่เหมือน เดิมอีกเลย ในต้นทศวรรษที่ 60 The Beatles ทรานสฟอร์มตัวเองจากวงดนตรีบับเบิลกัมป๊อป ร็อคซึง่ รับอิทธิพลข้ามฟากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือมาจากศิลปินร็อคแอนด์โรลยุค 50 อย่าง บัดดี ฮอลลี มาสูก่ ารเป็นวงดนตรีรอ็ ค ไซคีเดลิกท่ามกลางบรรยากาศอบอวลของบุปผาชนและ กลิน่ อายสันติภาพทีม่ กี ลิน่ คล้ายหญ้าบางชนิดไหม้ ระหว่างนัน้ ความสำ�เร็จถัง่ โถมเข้าสูพ่ วกเขา เป็นซีรี่ส์ ปรากฏการณ์แล้วปรากฏการณ์เล่าถูกจดจารจากนักบันทึกประวัติศาสตร์เพลง ไม่แปลกที่จอห์น เลนนอน ถึงกับประกาศว่าพวกเขายิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า ท่ามกลางความสำ�เร็จมากมายก่ายกองนั้น ใช่ว่าเส้นทางของพวกเขาจะราบรื่นราวกับ พื้นปูนเปลือยขัดมันจากฝีมือช่างสวีเดน ตรงกันข้าม The Beatles เผชิญปัญหามากมาย ไม่แพ้กัน ทั้งปัญหาความแตกร้าวภายในวงที่จอห์น เลนนอนเป็นผู้นำ�มันมาในรูปแบบของสตรี ญีป่ นุ่ นาม โยโกะ โอโน่ ทัง้ ปัญหาเชิงอัตตาของจอห์น เลนนอนและพอล แมคคาร์ทนีย่ ์ ในฐานะ นักแต่งเพลงหลักของวง และปัญหาส่วนตัวของแต่ละคนอีกมาก พอล แมคคาร์ทนี่ย์เองก็อาจจะเป็นหนึ่งในคนที่มีปัญหาเหล่านั้น เขาพบว่าโลกใบนี้มี คำ�ถามมากมายที่ยังไม่มีใครตอบ ทำ�ไมมนุษย์จึงเกลียดชังกัน ทำ�ไมจึงต้องมีสงคราม ทำ�ไม ความทุกข์เศร้าจึงไม่จางหายไป ทำ�ไมความสุขไม่ยั่งยืน ทำ�ไมความสำ�เร็จไม่นำ�ชีวิตอันสุข
สงบมาให้ ทำ�ไมเพือ่ นจึงเปลีย่ นไป ทำ�ไมและ ทำ�ไม ฯลฯ คืนหนึ่ง ในความฝันพอลเห็น แมรี่ - แม่ของเขาที่จากไปด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่เขา อายุได้สบิ สีป่ ี เดินเข้ามาโอบกอดเขาและบอก กับเขาด้วยถ้อยคำ�สำ�คัญว่า “มันจะไม่เป็นไร หรอก ปล่อยให้มันเป็นไปเถอะนะ” “เป็นเรื่องที่ดีมากที่ผมได้พบท่านอีก ผมรู้สึกปลาบปลื้มที่ฝันแบบนั้น มันทำ�ให้ ผมเกิดความคิดที่จะเขียนเพลง Let It Be” แมคคาร์ทนี่ย์กล่าวในการให้สัมภาษณ์หลัง จากนั้น ด้วยเหตุนเ้ี องทีเ่ นือ้ เพลงของ Let It Be พอลตั้งใจขึ้นต้นเพลงของเขาว่า ‘When I find myself in times of trouble, Mother Mary comes to me Speaking words of
ราวกับว่าพอลจงใจให้ เพลงนี้ เป็ น อนุ ทิ น ส่ ว นตั ว ที่ เ ขาใช้ สื่ อ สาร กับแม่ของเขาในยามที่พบว่าชีวิตเต็มไปด้วย ปัญหาและอุปสรรคท่ามกลางการตีความ อย่างสนุกสนานของแฟนเพลงว่า ‘คุณแม่ แมรี่’ ในเพลงนี้จะเป็นใครหรือมีนัยยะอะไร ได้อีกหลังจากนั้น ‘Let It Be’ ได้รับการบันทึกเสียงครั้ง แรกสามวันให้หลังวันขึ้นปีใหม่ปี 1969 ที่ ทวิคเกนแนม สตูดิโอ ซึ่งพวกเขาใช้ถ่ายทำ� หนังสารคดีเรื่อง “Let It Be’ พอลร้องและ เล่นเปียโน แล้วอัดด้วยเครื่องเล่นเทปโมโน ก่อนทีห่ า้ วันหลังจากนัน้ พวกเขาจะเริม่ ทำ�งาน เพลงนีก้ นั และจนมาสิน้ สุดพร้อมบันทึกเสียง ในวันที่ 23 มกราคม ที่แอปเปิ้ล สตูดิโอ ของพวกเขาเอง และทำ�มาสเตอร์ในวันที่ 31 มกราคม ‘Let It Be’ วางจำ�หน่ายในรูปแบบซิงเกิล้ ในวันที่ 6 มีนาคม ในปีนั้น จอร์จ มาร์ติน โปรดิวเซอร์คบู่ ญ ุ ทีป่ ลุกปัน้ พวกเขาจนโด่งดัง มีชอื่ ในฐานะผูค้ วบคุมการผลิต จอร์จ เป็นคน แนะนำ�ให้ใส่เครื่องออร์เคสตราและมีเสียง wisdom, let it be’
ร้องประสานอยู่เบื้องหลัง เจ้าของเสียงร้อง ประสานก็ไม่ใช่ใครอื่น เธอคือ ลินดา แมคคาร์ทนี่ย์ ภรรยาของพอลนั่นเอง ซิงเกิล้ ‘Let It Be’ ประสบความสำ�เร็จ มหาศาลและอย่างถล่มทลายอีกครัง้ มันเป็น ซิงเกิล้ อันดับหนึง่ ในอเมริกา, เยอรมัน, อิตาลี นอร์เวย์ และออสเตรเลีย และได้อันดับสอง ในอังกฤษบ้านเกิด ที่สำ�คัญมันกลายเป็นชื่อ อัลบั้มชุดสุดท้ายของวง เพราะหลังจากนั้น คำ�ตอบในความฝันของพอล แมคคาร์ทนี่ย์ ก็ บ อกให้ เ ขาตั ด สิ น ใจยุ ติ บ ทบาทของตน ในฐานะสมาชิก The Beatles พอลประกาศ ออกจากวงท่ า มกลางข่ า วซุ บ ซิ บ ว่ า เขารั บ ไม่ได้ที่จอห์นพาโยโกะ โอโน่ภรรยาใหม่มา ยุ่ ม ย่ า มในวงมากเกิ น ไป และถื อ เป็ นการ ปิดฉากวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเพราะ หลังจากนัน้ The Beatles ทีไ่ ม่มพี อล ก็ไม่เคย เกิดขึ้นจริง จอห์น, จอร์จ และริงโก แยกย้าย กันไปตามหนทางของตน บางที ในระหว่างบรรยากาศแห่งการ แยกย้ายนั้น คำ�ของแมรี่อาจไม่ได้ดังก้อง อยู่ในหัวของพอล แมคคาร์ทนี่ย์เพียงคน เดียว หากแต่วนเวียนอยู่ในหัวของทุกคนที่ เกี่ยวข้องกับ The Beatles ไม่เว้นแม้แต่แฟน เพลง คำ�ที่ว่า ‘There will be an answer, let it be’ หลังจากนัน้ ‘Let It Be’ ก็กลายเป็นหนึง่ ในคลาสสิคแทร็คของวงและของโลกที่ได้รับ การทำ�ซํา้ และคัฟเวอร์นบั ครัง้ ไม่ถว้ น หนึง่ ใน การทำ � ซํ้ า ครั้ ง สำ � คั ญ ได้ แ ก่ ปี 2003 ที่ ฟิ ล สเปคเตอร์ พ่อมดแห่งเสียงนำ�เพลงนี้และ อัลบัม้ นีม้ าทำ�ใหม่ในอัลบัม้ ‘Let It Be…Naked’ ซึ่งมีเสียงแว่วว่าพอล ไม่ชอบเวอร์ชั่นนี้นัก แต่ไม่ว่าจะเวอร์ชั่นไหน หรือใครเป็น คนทำ� ‘Let It Be’ ยังคงเป็นเพลงที่ทรงพลัง มากพอที่นิตยสาร Rolling Stone จะยกให้ เพลงนี้ติดอันดับ 20 ใน 500 เพลงยอดเยี่ยม ตลอดกาล จากการจัดอันดับในปี 2004
อาจเพราะท่วงทำ�นองที่เรียบง่าย แต่ ไพเราะ อาจเพราะเนื้อหาที่เรียบง่ายและ ลึกซึ้ง หรืออาจเพราะมันเป็นเพลงที่ตอบ คำ � ถามทุ ก คำ � ถามในชี วิ ต ทั้ ง หมดทำ � ให้ ‘Let It Be’ กลายเป็นเพลงแห่งปาฏิหาริย์ ปาฏิ ห าริ ย์ ที่ เราได้ รั บ รู้ ว่ า คำ � ตอบ สุดท้ายในทุกคำ�ถามของโลกใบนี้ช่างเรียบ ง่าย ‘Let It Be’ ปล่อยให้มันเป็นไป
Miracle of Life
71 71
จรูญพร ปรปักษ์ประลัย เรื่อง
“เจ้าแห่งวรรณกรรมแนวทดลอง” คงเป็นสมญานามที่ไม่เกินไปเลย สำ�หรับ วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนดับเบิ้ลซีไรต์ที่ “แรง” มาโดยตลอด ด้วยผลงานที่ต่อเนื่อง ไม่เว้นวรรค ขาดตอน หรือทิ้งช่วง ให้แฟนๆ ต้อง คอยนาน นับจาก “อาเพศกำ�สรวล” รวมเรื่องสั้นเล่มแรก ที่เปิดประเดิม ความเป็นนักเขียนช่างคิดของเขา วินทร์ เลียววาริณ ยังคงสนุกกับการหา ลูกเล่นใหม่ๆ มาใช้นำ�เสนอแง่คิด มุมมอง และเรื่องราวต่างๆ ให้กับผู้อ่าน อยู่เสมอ “เส้นรอบวงของหนึ่งวัน” เป็นอีกหนึ่งผลงาน ที่แพรวพราวด้วย ความคิดสร้างสรรค์ การเล่นกับมุมมองใหม่ๆ บวกลีลาการเขียนที่เป็น เอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครทำ�ได้อีกแล้ว นั่นก็คือ การนำ� ข้อความ รูปภาพ ลายเส้น ตาราง และอื่นๆ มาผสมผสานจัดวาง จนเกิด เป็นผลงานที่แปลกตา น่าสนใจ และสื่อความหมายได้อย่างรวดเร็ว ใครที่ ชอบงานแปลกๆ สนุกคิด แถมยังกระทบใจ บอกได้คำ�เดียวว่า ห้ามพลาด!
หนังสือเล่มล่าสุดในชุด “เข็มทิศชีวติ ” ของ ฐิตนิ าถ ณ พัทลุง ทีจ่ ะปรับ-เปลีย่ น-ปรุงความ คิดของทุกคนใหม่ ให้สดใส ไฉไลขึ้นกว่าเดิม หลายคนชอบโทษดวง โทษคนอื่น โทษโอกาสที่ ไม่เคยเข้ามาหา ว่าสิง่ เหล่านีไ้ ด้น�ำ พาชีวติ ให้อบั เฉา เศร้าใจ ไม่เคยประสบความสำ�เร็จใดๆ แต่ใน ความเป็นจริงแล้ว ไม่วา่ จะสุข เศร้า สมหวัง หรือพลัง้ พลาด เป็นสิง่ ทีเ่ ราเลือกได้เองทัง้ สิน้ เพียง เปลีย่ นมุมมองทีม่ ตี อ่ ชีวติ เลิกคิดว่าตัวเองเกิดมาเพือ่ แพ้ ไม่ยดึ ติดกับความคิดผิดๆ ทีว่ า่ ชีวติ ฉัน มีแต่สงิ่ ร้ายๆ ประเดประดังเข้ามา หันมามองทุกสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ทัง้ ดีและร้าย ในฐานะ “ของขวัญ” ที่ ชีวติ มอบให้ เพือ่ ให้เราก้าวหน้าขึน้ ในทุกๆ วัน ความคิดทีด่ จี ะดึงดูดสิง่ ดีๆ เข้ามาในชีวติ ความคิด ร้ายๆ ก็ดงึ ดูดสิง่ ร้ายๆ เข้ามาเช่นกัน นีค่ อื กฎธรรมชาติทไี่ ม่มใี ครเลีย่ งหลบได้ ยังมีหลักคิดดีๆ อีกมากมายที่ ฐิตินาถ ณ พัทลุง บอกไว้ในหนังสือเล่มนี้ แต่คงต้องหามาอ่านต่อกันเองแล้วล่ะ 72 72
Miracle of Life
ถ้าอ่านจากนวนิยายที่เขาเขียน ใครจะคิดบ้างว่า ฮารูกิ มูราคามิ อายุหกสิบปีแล้ว เพราะนวนิยาย ของเขาทุกเรื่อง นับตั้งแต่เล่มแรก “สดับลมขับขาน” (Hear the wind sing) จนถึงเล่มใหม่ล่าสุด “ราตรี มหัศจรรย์” (After dark) พลังของคนหนุ่มที่แสดงออกมา ล้วนเข้มข้น ท่วมท้น ไม่เคยพร่องลงไปเลย แม้ จะผ่านกาลเวลาสักกี่สิบปีก็ตาม เพราะเหตุนี้เอง ฮารูกิ มูราคามิ จึงมีแฟนนักอ่านเป็นคนหนุ่มสาวอยู่ทั่วทุก มุมโลก พลังการเขียนของ ฮารูกิ มูราคามิ มาจากไหน? นี่คือสิ่งที่หลายคนสงสัย เพราะโดยทั่วไป คนวัยนี้ ถือได้ว่าชีวิตเดินทางมาถึง “ช่วงเวลาแห่งการหยุด” แล้ว ไม่ต้องมุ่งมั่นพยายามอะไรอีก แค่ใช้เวลาที่เหลือ อย่างมีความสุขก็พอ แต่สำ�หรับ ฮารูกิ มูราคามิ กลับเป็นหนึ่งในข้อยกเว้น เขาไม่เพียงไม่หยุดเขียน แต่ยัง มุ่งมั่นที่จะทำ�ให้ดีขึ้นทุกครั้งที่เขียนอีกด้วย “เกร็ดความคิดบนก้าววิง่ ” หรือ What I talk about when I talk about running หนังสือว่าด้วยการ วิ่งทางไกลของเขา เป็นงานเชิงอัตชีวประวัติที่ทำ�ให้เราเข้าใจมากขึ้น ถึงสิ่งที่ประกอบสร้างให้เขาเป็น ฮารูกิ มูราคามิ อย่างทุกวันนี้ มองอย่างผิวเผิน หนังสือเล่มนี้เพียงบอกเล่าถึงเรื่องของการวิ่ง ประสบการณ์บน เส้นทางสายต่างๆ ที่เขาเคยก้าวผ่าน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นขณะวิ่งทางไกลในแต่ละครั้ง และบทเรียนที่เขานำ� ไปใช้ในการวิ่งครั้งต่อไป แต่ถ้ามองให้ลึกกว่านั้น หนังสือเล่มนี้บอกให้เราได้รู้ว่า อะไรคือคุณสมบัติที่ทำ�ให้ นักเขียนผูน้ ปี้ ระสบความสำ�เร็จในระดับโลก ทัง้ การเขียนทีเ่ ขายึดเป็นอาชีพ และการวิง่ ซึง่ เป็นกิจกรรมทีเ่ ขา รัก ล้วนสะท้อนถึงการเป็นคนเอาจริง ไม่ยอมแพ้ ไม่ท้อถอย ตามแบบฉบับของนักสู้ที่แท้จริง ความสำ�เร็จ ของเขาไม่ใช่ได้มาเพราะบังเอิญ แต่เขาไขว้คว้ามาด้วยการสู้แบบ “กัดไม่ปล่อย” เขาไม่ได้ต่อสู้กับใครอื่น คนที่เขาสู้ด้วยคือตัวเขาเอง การพยายามเอาชนะข้อจำ�กัดที่มีอยู่ และพัฒนาตัวเองขึ้นไปในแต่ละวัน คือ สิ่งที่ทำ�ให้ผลงานของ ฮารูกิ มูราคามิ มีคุณภาพคับเล่มอยู่เสมอ “เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง” อาจไม่ใช่หนังสือที่ฉุดให้ใครออกวิ่ง แต่สิ่งที่จะได้จากหนังสือเล่มนี้ก็คือ ไฟแห่งการมีชีวิต หากปรารถนาจะประสบความสำ�เร็จ อย่าทำ�อะไรแบบขอไปที แต่ต้องทำ�ทุกอย่างให้ เต็มร้อย ไม่อ้างนู้นอ้างนี่ ไม่ขยันหาข้อแม้ต่างๆ นานา รางวัลของความมุ่งมั่นที่มากกว่าความสำ�เร็จ ก็คือ ความภาคภูมิใจในตัวเอง ไม่ว่าจะวิ่ง เขียนหนังสือ หรือทำ�สิ่งใดก็ตาม ถ้าเราผลักดันตัวเองให้ทำ�อย่างเต็ม ประสิทธิภาพ เราจะได้รับความอิ่มเอมในชีวิต และรู้สึกสมค่าที่ครั้งหนึ่งได้เกิดมาบนโลกนี้ นี่เป็นความรู้สึก ที่ใครก็ให้กับเราไม่ได้ แต่เราต้องสร้างให้กับตัวเราเอง อีกครั้งที่ อเลซซานโดร บาริกโก มากับตัวละครอันน่าทึ่ง “แดนนี่ บู้ดแมนน์ ที ดี เลม่อน โนเวเชนโต้” ชายหนุ่มชื่อยาวเหยียด ผู้เกิดและเติบโตบนเรือสำ�ราญ ตลอด ทั้งชีวิตไม่เคยก้าวลงจากเรือเลยสักครั้ง แม้กระทั่งวันที่เรือกำ�ลังจะจมลงสู่ห้วงนํ้า เขา ก็ยังคงยืนยันที่จะอยู่บนเรือนี้ และจบชีวิตไปพร้อมกับเรือ ไม่มีใครรู้ว่าพรสวรรค์ด้าน ดนตรีของเขามาจากไหน แต่ทุกครั้งที่นิ้วของเขาพรมพร่างลงไปบนคีย์เปียโน ความ มหัศจรรย์ของเสียงเพลงจะบังเกิดขึ้นทันที นี่คือเรื่องราวของคนที่มีจิตใจสะอาดงดงาม ศิ ล ปิ น บริ สุ ท ธิ์ ผู้ ส ร้ า งสรรค์ ง านโดยไม่ มี สิ่ ง ใดแอบแฝง ชีวิตของเขาช่างเปี่ยมเสน่ห์และน่าหลงใหล จนเชื่อ แน่ว่าถ้าใครได้อ่าน เป็นต้องหลงรักอย่างแน่นอน
Miracle of Life
73 73
RealPetal เรื่อง
RealPetal เรื่อง
หากคุ ณ อยากรู้ วิ ธี ทำ � รู บิ ค สวยๆ เล่นเอง วิธที �ำ ช็อกโกแลตรูปหุน่ ยนต์ไม่เหมือน ใคร หลากหลายวิธีผูกเชือกรองเท้า หรือแม้ กระทัง่ วิธพี บั เสือ้ ทีเชิต้ ง่ายๆ ภายในเจ็ดวินาที รี บ คลิ ก เข้ า ไปดู ได้ เ ลยใน www.instructables.com เว็บไซต์รวมนักประดิษฐ์ทั่วโลก ที่สนับสนุนแนวคิดที่ว่า ไม่ว่าใครก็สามารถ เป็ นนั ก ประดิ ษ ฐ์ ได้ โดยการเป็ น ศู น ย์ ร วม ความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์สิ่งของ เครื่องใช้ ของเล่น สูตรอาหาร เอเวอรี่ติง จิงเกอเบล ทีท่ �ำ ได้งา่ ยๆ จากวัสดุใกล้ตวั โดย เราสามารถทำ�ตามได้แบบง่ายๆ ในแต่ละ ขั้นตอนตามภาพประกอบที่จะมีคำ�อธิบาย และรายละเอียดชัดเจน หรือบางคนอธิบายวิธี ทำ�ด้วยคลิปวิดโี อกันเลยทีเดียว และถ้าอยาก จะแชร์ไอเดียเจ๋งๆ ก็สมัครสมาชิกเว็บไซต์ แล้วเผยแพร่ความคิดสร้างสรรค์จากมันสมอง ของคุณกันได้เลย…มีดีอย่าเก็บไว้คนเดียว!!
May 2010 ตั้งแต่เที่ยงวันยันเกือบๆ เที่ยงคืน!!
มหกรรมที-เชิ้ต เฟสติวัล ครั้งที่ 6 ตอน มีลายป่ะ...
คลื่น 104.5 แฟต เรดิโอ ขอชวนคนรักเสื้อยืดมาช้อป กันให้กระจายกับเสื้อยืดลายใหม่ๆ ไม่ซํ้าใคร จาก ดีไซเนอร์หลากหลายที่เรียงหน้ามาให้คุณเลือก พร้อม ความมันส์จากศิลปินอาร์ตตัวพ่อ (และแม่) แบบ นอนสต็อปทั้งวันทั้งคืน ในงานมหกรรมเสื้อยืดและ ดนตรีที่ยิ่งใหญ่และยืดยาวที่สุดในโลก ไปเจอกันได้ เลยที่ อิมแพค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 2–3 เมืองทองธานี บัตรเข้างาน ราคา 100 บาท หาซื้อได้ที่ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ทุกสาขา
May 2010 เวลา 11.00 น.-17.00 น.
ตอน
Musicos
สำ�หรับคนรักการ์ตูนญี่ปุ่น เสียงเพลง และคอสเพลย์ ขอชวนไปร่วมโชว์เสียงร้อง กั บ เพลงการ์ ตู น สุ ด มั น ส์ แข่ ง ร้ อ ง คาราโอเกะ และกิจกรรม Cosplay’s Got Talent ให้คุณได้โชว์ความสามารถ แบบสุดๆ พร้อมลุ้นของรางวัลสุดน่ารัก นอกจากนี้ พบไฮไลต์เด็ดของงานกับ การเปิดเพลงการ์ตูนใหม่ๆ ที่คุณอาจยัง ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไปร่วมสนุกกันแบบ ฟรีๆ ได้ที่ TK Park ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์
May 2010 เวลา 12.30 น.-18.00 น.
K-Street Cover Dance ครัง้ ที่ 3
เนติ เ ซ่ น คนไหนที่ อ ยากมี รู ป อวาตาร์เป็นหน้าตัวเอง ไปครีเอทกัน ได้ที่ www.faceyourmanga.it ที่ มีออพชั่นให้เลือกแต่งหน้าแต่งตัวได้ ตามใจชอบ เมื่อสร้างสรรค์กันเสร็จ แล้วเว็บนีย้ งั มีระบบส่งรูปกลับมาให้แค่ พิมพ์อีเมล์ของเรา และที่สำ�คัญเว็บนี้ ไม่ต้องสมัครสมาชิกก็เล่นได้ทันที
74
ใช้ไอเดียกันไปเยอะ ก็เข้าไป ฝึกสมอง ใช้ความคิด ทดสอบความจำ� กับ www.gamesforthebrain.com/ thai เว็ บ ไซต์ ที่ ร วมเกมฝึ ก สมอง มากมายไว้ให้เล่น อาทิ เกมหมากล้อม เกมต่ อ ภาพ เกมซู โดกุ รวมทั้ ง เกม ฝึกภาษาอังกฤษ เช่น เกมสะกดคำ� เกมเรียงตัวอักษร ฯลฯ
แต่ ห ากอยากประชั น สมอง ประลองความสามารถ ก็เข้าไปได้เลย ที่ www.108contest.com เว็บไซต์ ที่ ร วบรวมงานประกวดไว้ ม ากที่ สุ ด ใครมี ค วามสามารถด้ า นไหน เว็ บ นี้ มีชมรมรองรับเกือบทุกด้าน ทั้งดนตรี ศิลปะ ออกแบบ ถ่ายภาพ หรือแม้กระทัง่ ชมรมหนุ่มหล่อสาวสวย!
เอาใจสาวกเค-ป๊อปและแฟนคลับวงโคฟเวอร์ทงั้ หลาย กันบ้าง นัดรวมตัวไปให้กำ�ลังใจเพื่อนๆ ได้เลยในการ แข่งขันสตรีท โคฟเวอร์ แดนซ์ ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 3 แล้ว เตรียมเสียงเชียร์และเสียงกรีด๊ ไว้ให้พร้อม แล้วไป สนุกกันแบบใกล้ชดิ ได้ที่ ลานหน้าโตคิว มาบุญครอง... งานนี้รับประกันความมันส์แน่นอน!!
May 2010 เวลา 11.00 น.-21.00 น.
มหัศจรรย์ทอ่ งเทีย่ วไทย 2553
ใครอยากไปเทีย่ ว (ไทย)...ยกมือขึน้ !! เราขอชวนคุณ ไปเที่ยวไทยให้ครึกครื้น เพื่อเศรษฐกิจไทยคึกคัก เพราะงานนี้เขาเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวทั้งที่พัก และสายการบิน พร้อมโปรโมชัน่ สุดคุม้ และกิจกรรม สนุกๆ อีกมากมาย นัก(รัก)ท่องเที่ยวทั้งหลายไป เตรียมตัวเดินทางกันได้เลยที่ ห้องเพลนนารี ฮอลล์ 2-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 75
โครงการ “อาสาสร้างสื่อการเรียนรู้”
Miracle of Life กับ กิจกรรมที่ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส และสร้างโอกาสให้ กับเยาวชนไทย “หนึ่งใจให้ ร้อยใจรับ” มูลนิธิ MOL ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ รอรับอวัยวะให้ได้มีโอกาสได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะมากขึ้น โดยการร่วม สมทบทุนศูนย์รับบริจาคอวัยวะแห่งสภากาชาดไทย และการเปิดบัญชี รับบริจาคเงินเพื่อร่วมสมทบทุนให้กับกิจกรรม ชื่อบัญชี : โครงการมิราเคิลออฟไลฟ์เพื่อหนึ่งใจ..เดียวกัน ธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารีย์ บัญชีสะสมทรัพย์ เลขที่บัญชี : 127-4-78431-1 โทร. 02-559-3236
ปลูกฝังต้นกล้าแห่งความดีดว้ ยกิจกรรมเยาวชนจิตอาสา กับโครงการ โรงพยาบาลมีสุข กิจกรรมนันทนาการทุกประเภทที่เหมาะสมกับ ผู้ ป่ ว ยและสร้ า งความผ่ อ นคลาย ปรั บ สภาพแวดล้ อ มห้ อ งและ ตกแต่ ง ให้ ดู ส วยงาม น่ า อยู่ น่ า มอง เข้ า มาแล้ ว รู้ สึ ก สดชื่ น เป็ น ต้ น ดู ร ายละเอี ย ดได้ ที่ www.happyhospital.org โทร. 02-941-4194-5 ต่อ 103
“ร่วมหว่านเมล็ดพันธุ์ แห่งความดี กลางกรุง ดอกไม้แห่งความสุขจะบานกลางใจ”
ครูอาสากลางกรุง แบ่งปันความสุขทุกเช้าวันอาทิตย์ 09.00 -12.00 น. กลุ่มอาสาอิสระและกลุ่มอาสา Teacher4Sunday ร่วมกับชุมชนราชพัสดุ ขอชักชวนผู้มีใจอาสาทุกเพศทุกวัยและผู้มีจิตอาสา เชิญชวนร่วมรดนํ้า พรวนดินเมล็ดพันธุ์แห่งความดี โดยใช้เวลาทุกเช้าวันอาทิตย์สอนหนังสือ ให้ความรู้ เพิ่มทักษะ ส่งเสริมคุณธรรมให้กับน้องๆ ในชุมชนราชพัสดุ และร่วมทำ�กิจกรรมเพื่อชุมชนในกรุงเทพมหานครแห่งนี้ ดูรายละเอียด เพิ่มเติม http://teacher4sunday.multiply.com/ 76
มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) เปิดให้น้องๆ ร่วมทำ� กิจกรรมสร้างสื่อได้ที่มูลนิธิฯ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-16.30 น. สำ�หรับวันเสาร์และอาทิตย์ ให้โทรตรวจ สอบล่ ว งหน้ า จ้ า ไม่ ต้ อ งกลั ว ว่ า จะทำ� ไม่ เป็ น พกหั ว ใจ อาสามาเถอะ แล้วเราจะแนะนำ�วิธที �ำ ให้ รับรองผลครัง้ เดียว เป็น ดูรายละเอียดที่ www.volunteerspirit.org โทร. 02-691-0437-9
รับสมัครแล้ว รุน่ 2 เสาร์ที่ 8-อาทิตย์ที่ 9 พ.ค.53 อาสาช่วยสร้างบ้านพัก ศูนย์เรียนรู้บ้านดินไทย รุ่น 2 รับอาสาสมัครเข้ามาเรียนรู้และช่วยสร้าง บ้านดินให้คนไร้บา้ น พิเศษสำ�หรับอาสาของกลุม่ บ้านดินไทยที่มาช่วยสร้าง หากในอนาคตแวะ มาเยี่ยมสามารถมาพักได้ฟรี สนใจสมัครหรือ เข้าไปดูรายละเอียดที่ www.baandinthai.com
open school โครงการ open school เป็นโครงการด้านการ รวบรวมข้ อ มู ล ธรรมะ โดยความร่ ว มมื อ กั บ วั ด ญาณเวศกวั น ขอเชิ ญ ชวนอาสาสมั ค ร ผู้ ส นใจเป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของการเผยแพร่ ม รดก ธรรมพระพรหมคุณาภรณ์ เพื่อร่วมเผยแพร่ ต่อสาธารณะ ด้วยการร่วมกัน scan หนังสือ เพื่ อ รวบรวมให้ อ ยู่ ใ นรู ป แบบของ ebook หรื อ สอบถามข้ อ มู ล เพิ่ ม เติ ม ได้ ที่ www. watnyanaves.net โทร. 081-399-5297
77
เว็บไซต์ที่คุณติดตามเป็นประจำ� 1.......................................................................................................................... 2.......................................................................................................................... 3..........................................................................................................................
วิธีการชำ�ระเงิน - ชำ�ระเงินโดยโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ชื่อ บริษัท แฮททริค มัลติมีเดีย จำ�กัด ธนาคารนครหลวงไทย สาขาย่อยลาดพร้าว 53 เลขที่บัญชี 174-2-07458-5 หรือ ธนาคารกสิกรไทย สาขาโชคชัย 4 เลขที่บัญชี 721-2-22553-8 ส่งใบสมัครสมาชิก พร้อมสำ�เนาการโอนเงินมาที่ - บริษัท แฮททริค มัลติมีเดีย จำ�กัด 24/37 ม.7 ซ.โชคชัย 4 ถ.ลาดพร้าว แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230 Tel. 02-931-4445 Fax. 02-931-4977 *แบบฟอร์มนี้สามารถถ่ายสำ�เนาได้ **ในกรณีที่ออกใบเสร็จในนามหน่วยงาน กรุณาระบุชื่อผู้รับและแผนกที่จะให้จัดส่ง ***บริษัทจะส่งเลขที่สมาชิกและนิตยสารเล่มแรกไปยังท่าน เมื่อได้รับหลักฐานการชำ�ระเงินแล้ว ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแนะนำ�ติชมได้ที่ ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร Miracle of Life โทร. 02-931-4445
OPTION 1
OPTION 2
OPTION 3
*ทางนิตยสารขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนขนาดเสื้อให้ ตามความเหมาะสม หากขนาดเสื้อที่ท่านเลือกมาหมด
เพศ ชาย หญิง ที่อยู่ปัจจุบัน............................................................................................. แขวง/ตำ�บล........................................อำ�เภอ/เขต...................................... จังหวัด................................................รหัสไปรษณีย์.................................. อายุ ตํ่ากว่า 12 ปี 13-15 ปี 16-18 ปี 20-25 ปี 26-30 ปี 31 ปีขึ้นไป การศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อนุปริญญา ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก กำ�ลังศึกษาอยู่ ชั้น...................... โรงเรียน.............................................. คณะ...................................สถาบัน................................. จังหวัด............................................................................. อื่นๆ................................................................................. อ่านนิตยสาร MOL จาก ร้านหนังสือ โรงเรียน ที่ทำ�งาน อื่นๆ.......................................................... สนใจอ่านนิตยสารเพราะ หน้าปกสวย เนื้อหาน่าสนใจ เก็บไว้อ้างอิงได้ ราคาเหมาะสม อื่นๆ.................................................................................................. นิตยสาร MOL 1 เล่ม อ่านกันกี่คน อ่านคนเดียว 2-3 คน มากกว่า 3 คน อ่านกันเป็นกลุ่ม กิจกรรมใดที่คุณอยากมีส่วนร่วมกับนิตยสาร MOL .................................................................................................................... ใครคือไอดอลของคุณ? ...................................................................................................................
นิตยสารที่คุณติดตามเป็นประจำ� 1.......................................................................................................................... 2.......................................................................................................................... 3.......................................................................................................................... สิ่งที่ชอบในนิตยสาร MOL ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ สิ่งที่ต้องการให้นิตยสาร MOL ปรับปรุงคือ ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ สิ่งที่นิตยสาร MOL แตกต่างจากนิตยสารเล่มอื่นคือ ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ เนื้อหาและคอลัมน์ที่ต้องการให้มีเพิ่มเติมในนิตยสาร MOL ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ ความคิดเห็นอื่นๆ ............................................................................................................................ ............................................................................................................................ สำ�หรับท่านที่ทำ�แบบสอบถามจะได้รับสมุดฉีก MOL กรุณากรอกข้อมูลต่อไปนี้ ชื่อ-นามสกุล..............................................................................อายุ...............ปี อาชีพ................................................................................................................. โทร...........................................Email :..............................................................
กรอกแบบสอบถามแสดงความคิดเห็น แล้วส่งมาที่ บริษัท แฮททริค มัลติมีเดีย จำ�กัด 24/37 ม.7 ซ.โชคชัย 4 ถ.ลาดพร้าว แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230 โทร 02 931 4445 หรืือส่งแฟกซ์มาได้ที่ 02 931 4977
....................................
กองบรรณาธิการ เรื่องและภาพ
โครงการ Miracle of Life ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในระดับภาคกลาง ขั้นที่ 1 จัดขึ้น ณ โรงแรมราชศุภมิตร จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ เป็นประธานในงาน พร้อมทั้งนางพนิตา กำ�ภู ณ อยุธยา อธิบดี กรมพั ฒ นาสั ง คมและสวั ส ดิ ก าร และนายปิ่ นชาย ปิ่ น แก้ ว รองอธิ บ ดี กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้เกียรติร่วมงานในครั้งนี้ งานนี้มีน้องๆ เยาวชนส่งผลงานเข้าร่วมถึง 200 โครงการ ซึ่งเราได้ 8 ทีมที่เข้ารอบ คือ รอยยิ้มในโรงพยาบาล, Fashion to share, ครูตู้, ชีวิตนี้ยังอีกไกล, ยุวมัคคุเทศก์, Quality of Our Life, ปลดแอกแหวกความคิด สู่ชีวิตวัยรุ่นยุคใหม่ และ วัยทีนยุคใหม่ ใส่ใจเพลงพื้นบ้าน
ภาพบรรยากาศ ระดับภาคกลาง การคัดเลือกรอบที่ 1 ณ โรงแรมราชศ ุภมิตร จ.กาญจ นบุรี
คัดเลือกรอบที่ 2 ภาพบรรยากาศการ รมราชศุภมิตร จ.กาญจนบุรี ระดับภาคกลาง โรงแ
การอบรมตัวแทนเยาวชนขัน้ ที่ 2 ระดับภาคกลาง จัดขึน้ ณ โรงแรมราชศุภมิตร จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา โดยมีการอบรมการเขียน นำ�เสนอ และประชาสัมพันธ์ โครงการให้กับ 8 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรก เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 4 ทีมสุดท้าย ซึ่งทีมที่ได้รับคัดเลือก ได้แก่ Fashion to share จาก โรงเรียนนารีวิทยา จ.ราชบุรี, ครูตู้ จาก โรงเรียนนารีวิทยา จ.ราชบุรี, ปลดแอก แหวกความคิด สู่ชีวิตวัยรุ่นยุคใหม่ จาก โรงเรียน บางจานวิทยา จ.เพชรบุรี และ วัยทีนยุคใหม่ ใส่ใจเพลงพืน้ บ้าน จาก โรงเรียนบางลีว่ ทิ ยา จ.สุพรรณบุรี ซึ่ง 4 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกนี้จะได้รับการสนับสนุนในการทำ�โครงการและถ่ายทอดออก สื่อโทรทัศน์ เพื่อเป็นการเผยแพร่และสนับสนุนในการช่วยเหลือสังคมต่อไป 80
อบรมขั้นที่ 1
ภาพบรรยากาศการ
ใน ระดับภาคใต้ตอนบน ขัน้ ที่ 1 จัดขึน้ ณ โรงแรมแกรนด์เสาวลักษณ์ จ.สุราษฏร์ธานี เมื่อวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา โดยมีนางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงาน และนายปิ่นชาย ปิ่นแก้ว รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้เกียรติกล่าวปิดงาน ภายในงาน ได้รับความสนใจจากน้องๆ เยาวชนในเขตภาคใต้ตอนบน ร่วมส่ง โครงการเข้าประกวดกว่า 200 โครงการ
ภาพบรรยากาศการอบรมขั้นที่ 2
ใต้ การ ในระดับภาค รง โค ก อ ื เล ด ั ค าร ก และแล้ว ลักษณ์ งแรมแกรนด์เสาว มา โร ณ ไป น ้ พ น า ่ ที่ผ่าน ตอนบนก็ผ ี่ 12-14 มีนาคม 2553 ท� ท น วั อ ่ ื เม ี าน คดิ ธ ร์ ฎ จ.สุราษ วกบั กระบวนการ ำ ่ ี ย ก ้ เ รู น ย รี ้ เ ด ะไ จ ๆ ้โครงการ ภายในงานเดก็ ธ์โครงการ เพื่อให ้เหลือ น ั พ ม ั าส ช ระ ป น ผ และวางแ ัดเลือกให จาก 8 ทีม เราได้ค นสตรีภูเก็ต ง ่ ึ ซ จ ็ เร � ำ ส ล ผ บ ส ประ งเรีย ก่ Magic Trash โร ุ่งตะโกวิทยา 4 ทีมสุดท้าย ได้แ นท สู่แหล่งนํ้า โรงเรีย จ.ภูเก็ต, เติมชีวิต ppiness โรงเรียนดาวรุ่งวิทยา Ha รอบครัว จ.ชุมพร, Full of ารใหก้ �ำ ลงั ใจจากค ี่ า่ น ก ่ ง ห ์ แ ิ ย าร ิ ห าฏ ะป จ.ภเู กต็ แล .พงั งา ซงึ่ 4 ทมี ทผ จ น าย ย ท วิ งา ั ง พ ุ ก ารท�ำ โรงเรียนดบี บั การสนบั สนนุ ในก ื่อ ้ ร ด ะไ ้ ี จ น ก ื อ เล ั ด ค การ ศน์ เพ ทอดออกสื่อโทรทั โครงการและถ่าย ับสนุนในการช่วยเหลือ ะสน เป็นการเผยแพร่แล สังคมต่อไป 81
ปาริชาติ บุญเอก เรื่องและภาพ
ควบ ทัง้ งานแสดง พิธกี ร ดีเจ แถมพ่วงท้าย ตำ�แหน่งคุณครูสอนศิลปะแห่งโรงเรียนสอนศิลปะ “อาร์ตมอนสเตอร์” (Artmonster) แม้งานจะรัดตัว แต่คุณครูพ่อี าร์ม พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์ ก็ยงั ใจดี นำ�วิธกี ารเรียนศิลปะทีค่ ดิ ค้นขึน้ ไปแบ่งปัน ให้เด็กๆ ที่ด้อยโอกาส
ทราบมาว่าพีอ่ าร์มได้มโี อกาสไปสอนศิลปะให้กบั เด็กด้อยโอกาส ใช่ครับ ไปกับรายการด้วย ไปเองด้วย พอดีท�ำ รายการเกี่ยวกับศิลปะในเด็ก และผมก็เปิดโรงเรียน ศิลปะ เลยได้มโี อกาสคิดชิน้ งานหรือแบบฝึกหัด เอา ไปให้เด็กๆ ข้างนอกทำ�บ้าง บางทีผมไปกับรายการ เขาก็ให้เลือกว่าไปไหนดี เราก็ช่วยแนะนำ� ก็มีไป บ้านเด็กอ่อนที่คลองเตย มูลนิธิดวงประทีปบ้าง ก็ เหมือนกับไปสอน อย่างที่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมใน พระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพีน่ างเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ตอนที่ผมไปถึงก็ได้ยินมาว่า ตอนที่ท่านยัง อยูก่ ไ็ ม่ได้มคี นไปบริจาคอะไรมากมาย พอช่วงแรกๆ ทีท่ า่ นจากไป คนก็ไปกันเต็มเลย แต่พอผ่านไปนานๆ มันก็หายไปอีก มันเหมือนจะดีนะ แต่จริงๆ คนเราก็ ทำ�บุญตามกระแส ถ้ามีโอกาสไปบ้างก็ดีนะครับ คิดว่าศิลปะจะช่วยอะไรเด็กๆ ได้บ้าง ช่วยได้เยอะเลยครับ จริงๆ แล้วอย่าไปมอง ว่ามันคือ ศิลปะ ทุกคนไปติดที่คำ�ว่าศิลปะคือการ วาดภาพ ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ มันคือ Activity อะไร ก็ตามที่สามารถเข้าไปทำ�ได้ แล้วเกิดการพัฒนา เป็นกระบวนการความคิด ไม่ใช่วา่ ศิลปะต้องวาดรูป 82
ศิลปะต้องปั้น ต้องแปะ เรามาคิดว่าเป็นกิจกรรมที่ เราเอาไปให้เขาดีกว่า ศิลปะการแสดง ก็เป็นศิลปะ นะ เพลงก็เป็นศิลปะ น่าจะมองอย่างนั้นมากกว่า แล้วถ้าถนัดด้านไหนก็เข้าไปเลย ได้หมดเลยครับ อย่างทีเ่ ห็นๆ กันอยูว่ า่ สังคมสมัยนีม้ ชี อ่ งว่างระหว่าง คนมีและคนด้อยโอกาสอย่างชัดเจน คิดยังไงกับคนที่มีโอกาสมากกว่าคนอื่นแต่ไม่ใช้ โอกาสนั้นให้เกิดประโยชน์ เป็นการกระทำ�ที่ไม่ฉลาดเลยครับ มีโอกาส แล้วก็ควรจะใช้ ใช้แล้วก็เอามาแบ่งปันบ้าง แต่เรา ก็ว่าเขาไม่ได้ เพราะแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง บางคนมีโอกาสที่ดีมาก แต่ไม่เลือกเรียนเพราะอาจ จะไม่ชอบ อันนี้เราก็ว่าเขาไม่ได้ แต่ถ้ามีโอกาสและ มีความฝัน แต่ตอนนี้เที่ยวเล่นอยู่ อาจจะต้องเรียก สติให้กลับมา สิ่งที่ได้รับจากการไปสอนศิลปะ ได้รอยยิ้มกลับมาครับ หลายๆ อย่าง อย่าง ผมไปสอน ผมออกแบบให้เป็นโรงหนังแล้วมีคนนั่งดู ให้เด็กวาดหนังลงไปเรื่องหนึ่ง มีเด็กคนนึงวาดขาว ดำ� ผมก็ถามว่า ลงสีสลิ กู ทำ�ไมไม่ลงสี เพือ่ นลงสีกนั ขี้เกียจรึเปล่า ไม่ลงสีหรอ เด็กก็หันมาบอกว่า ไม่ลง สีอะ มันเป็นหนังผี จะลงสีทำ�ไม แค่นี้เราก็รู้แล้วว่า เขามีความคิดสร้างสรรค์ แค่นั้นเราก็ดีใจแล้วว่าเรา ได้กระตุ้นเขา ถ้าโลกนี้ขาดสีสัน ก็เติมมันเองสิครับ มันอยู่ที่เรามอง บางคน มองชีวิตหม่นหมองมาก แต่อย่างน้อยๆ คุณก็ยัง มีชีวิตอยู่ มันอยู่ที่ว่าคุณจะทำ� ถ้าโลกไม่มีสีสันคุณ เติมเองสิ เพราะสีสันที่คุณมอง ที่คุณตีค่าออกมา มันคือสายตาคุณ ความรู้สึกคุณ ถ้าวันนี้โลกของ คุณหม่นหมอง ไม่มีความสุข ไม่มีความรักกัน มีแต่ ม็อบ เมิบ อะไรก็ตาม คุณก็มองสิครับ มองอีกแง่นึง อย่างน้อยเราก็ได้ศึกษาว่าประเทศไทยจะเป็นยังไง ต่อไป มองมันต่อไป แค่เติมเอง ไม่เติมผมเติมให้กไ็ ด้ (หัวเราะ) 83
1300 84