Mamma Mia! The Musical
จากละครเพลงเรื�อง Mamma Mia!
เกริ�นมาขนาดนี ทุกคนคงทราบ
ดว่า การแสดงละครเพลงที�เพิ�งจบ
ไปอย่างสวยงามและน่าตรึงใจของ
เด็ก ๆ Pre-college หรือ YAMP คือเรื�อง Mamma Mia! กำกับโดย
Aj. Richard A Ralphs ละคร
จากเพลงของ Abba ที�โด่งดังในสมัย
การขับร�อง ฉาก แสง ส เสียงแล�ว
คอสตูม (เสื�อผู้�า หน�า
ผู้ม) ที�แต่ละฉากต�องมีการวางแผู้น
ให�เข�ากับตัวละคร
ที�มา
และเสริมเติมแต่งให�เด็ก ๆ
มีอายที�มากขึ�นได�ตามลักษณะตัว
ละครในเรื�อง ซึ่�งตัวละครบางตัวมีอาย
ประมาณ ๔๕-๕๐ ป ส่วนการทำ
ผู้มนั�น จะมทั�งนักแสดงบางคนทำได�
เอง และทีมคอสตูมทีดูแลจัดการ
ดีไซึ่น์ทรงผู้มให�เข�ากับคาแร็กเตอร
06 COVER STORY เรื่่�อง: กมลพรื่ หุ่่�นเจรื่ิญ (Kamonporn Huncharoen) อาจารื่ย์์ปรื่ะจาสาขาวิิชาการื่ขับรื่้องและละครื่เพลง วิิทย์าลย์ดุ่รื่ย์างคศิิลป มหุ่าวิิทย์าลย์มหุ่ดุล
“You
ประโยคเปิดตัวของเพลง Dancing Queen เพลงทีดังทีสุดของวง Abba และเป็นเพลงที�ใคร ๆ ต่างกชื้ื�นชื้อบ
can dance, You can jive, Having the time of your life…”
ได�รับแรงบันดาลใจมา
เพลงเรื�องนี
นั�น ไมว่าจะเป็น
ที เราได�พูดถึงกันไป,
ส่วนในวันนี�เราจะมาพูดถึงสิ�งที ทำให�การดูละครเพลงเรื�องนีมสสัน เพิ�มมากขึ�น นอกเหนือจากการแสดง
Dancing Queen
Take A Chance on Me และ Mamma Mia!
ที�ขาดไม่ได�คือ
สำห
เราได�ทีมชื้่างมืออาชื้ีพ
โดดเด่น
รับการแต่งหน�าตัวละคร
MTI
เนรมิตความสวยงามให�ตัวละครด
ต่อการเปลี�ยนชืุ้ดที�รวดเร็ว ซึ่�งเราจะ พูดถึงในลำดับถัดไป... ตัวละครที�เปิดในฉากแรกคือ โซึ่ฟีี (Sophie) ลูกสาวของดอนน่า ที�เป็น ทั�งตัวดำเนินเรื�องและตัวต�นคิดเรื�อง วุ่น ๆ ให�เกิดขึ�น จากคาแร็กเตอรตัว ละครนี เป็นเด็กวัยรุ่น สนุกสนาน กล�าและมั�นใจ ทั�งยังเป็นตัวเอกของ เรื�อง เราเลยต�องให�เสื�อผู้�าของโซึ่ฟีีม ความโดดเด่นในทุก ๆ ฉากที�ออกมา โดยดีไซึ่น์ออกแบบให�มีโทนสฟี้าและ สีขาวเป็นส่วนมาก รวมถึงเสื�อผู้�าที ออกมาต�องทำให�ตัวละครดูเด็กกว่า ตัวละครหลักอื�น ๆ ด�วย สกาย (Sky) คนรักของโซึ่ฟีี
ของตัวละคร และไม่ทำให�เป็นอุปสรรค
ว่า “ป้า” ของแท� สสันคัลเลอรฟีูลที ตัดกันอยู่บนชืุ้ดและผู้มของเธัอ
07 ความสนุก มสสันอยู่ในตัว ชื้อบเดิน ป่า เราเลยเลือกชืุ้ดเปิดตัวเป็นชืุ้ดส น�ำตาลอมเขียวสำหรับเดินป่า ซึ่�งใน บทเขาได�โดนล�อว่า อินเดียน่า โจนส แฮรรี (Harry) พ่อคนที�สอง ผู้มีความอ่อนหวาน เป็นพนักงาน แบงก ทีมีความเนี�ยบ เราเลยเลือก เชื้ิ�ตโทนสชื้มพอ่อนกับสูทสีเข�ม ใน ฉากเปิดตัว และพ่อคนสุดท�าย ซึ่�งเป็นพระเอก ของเราในเรื�องนี แซึ่ม (Sam) ที ยังมีความรักหลงเหลือให�ดอนน่า มาตลอด มีความอบอุ่นและจริงจัง อยู่ในตัวละครนี เราเลยได�เลือกโทน สฟี้า น�ำเงิน และเทา ในแต่ละฉาก ให�ดมีความสบาย ๆ เป็นกันเองด�วย มาถึงสามสาวตัวท็อปของเรา ใน บทเพลงดัง Dancing Queen ดอนน่า (Donna) ทันย่า (Tanya) และโรซึ่ี (Rosie) ทีบุคลิกของตัวละครต่าง กันสุดขั�วแตรักกันสุดซึ่ึ�ง ซึ่�งตัวละคร
และชืุ้ดว่ายน�ำส
(Rosie) เพื�อนรักอีก คนของดอนน่า เปิดตัวออกมาทุกคน ต�องอมยิ�ม ทั�งบุคลิกทีน่ารักแกมตลก เรียกว่า “เปิ�น” โดยธัรรมชื้าตกว่า ได� และสไตล์การแต่งตัวทีต�องบอก
ซึ่�งด
กระทิงไล่ขวิดกับบิล และมาถึงตัวละครสำคัญคน หนุ่มวัยรุ่นทีมีความเชื้ื�อมั�นและ จริงใจกับความรัก เสื�อผู้�าของสกาย จะมสีขาวและฟี้าเข�ม ให�เข�าคู่กับ โซึ่ฟีี ดูได�จากในบทเพลง Lay All Your Love ซึ่�งมีอองซึ่อมใสตีนกบ สำหรับว่ายน�ำจริงเข�ามาสร�างสสันใน ฉาก และได�เรียกเสียงหัวเราะคิกคัก จากคนดูในทุกรอบการแสดง ต่อไปเราจะมาพูดถึงตัวละคร พ่อทั�งสามคน ได�แก บิล (Bill) ทีม
ทีมสสัน โดดเด่น และขาดไม่ได�คือ เพื�อนสนิทของดอนน่าทั�งสอง ทันย่า (Tanya) สาวแก่โลก มีความมั�นใจ เซึ่็กซึ่ี หรูหรา และ เปรี�ยวซึ่่า รวมอยู่ในตัว ได�ออกมา โชื้ว์ความสนุกและความเป็นตัวแม ด�วยชืุ้ดลายเสือ
แดง ในเพลง Does Your Mother Know ทีร�องกับเด็กหนุ่มรุ่นราวคราว ลูก เปปเปอร (Pepper) ส่วนโรซึ่ี
ได�จากในบทเพลง Take A Chance On Me ที�เธัอได�คึกคักจนทำท่าวัว
ไมกสีขาวมุก)
เพิ�มความทันสมัยให�มีกลิ�นอายของ ปัจจบันเข�าไปผู้สมด�วย ต�องมทั�ง
ความเหมือนให�อยู่ในทีมเดียวกัน
และเสริมเติมแต่งในดีไซึ่นที�แตกต่าง กัน เมื�อชืุ้ดนี�ออกมาทีไร
08 สาวสามตัวแม (Donna And The Dynamos) ในบทเพลงโชื้ว์เสียง ประสานอันไพเราะของพวกเธัอ Supper Troupe ทีมีกลิสเตอร์และ เพชื้รประกายระยิบระยับ อยากเล่า เพิ�มเติมว่า ในโจทยชืุ้ดดิสโก�นี เป็น โจทยชืุ้ดที�ยากทีสุดของทั�งเรื�อง เพราะ เป็นดิสโก�ในยุค ๗๐ (โพรดักชื้ันส่วน มากจะเน�นเป็นสสันจี�ดจ๊าดทีต่างกัน
ซึ่�งทางเราพยายาม
และ ต�องมทั�งความต่างของคาแร็กเตอร ที�สามารถดึงจุดเด่นของแต่ละคน ออกมาให�ได�มากทีสุด ชืุ้ดนี�เรียก เสียง “ว�าว” ได�ทุกรอบการแสดงจริง ๆ และในเพลง Voulez - Vous (Bow) นอกจากทีมสามสาวตัวแม ในชืุ้ดดิสโก�แล�ว เรายังมีเซึ่อร์ไพรส สุดท�าย คือ สามพ่อ ออกมาในชืุ้ดดิสโก�
ซึ่็กซึ่ี เท อลังการในตัว กับลูกเล่นต่าง ๆ ทีทีมคอสตูมได�ตั�งใจสร�างสรรค ประดิษฐ์ออกมาในชืุ้ดของแต่ละคน ด�วยเสื�อตาข่ายซึ่ีทรูเพชื้รกับระบาย ปีกห�อยเพชื้รเส�นกับเลื�อม เป็นการปะ
วี�ดวิ�ว จนพ่อ ๆ เขินกันเลย ทีเดียว สุดท�ายเราจะพูดถึงฉากแต่งงาน ของโซึ่ฟีีและสกาย ทีชืุ้ดอองซึ่อมใชื้� โทนสีครีม ชื้มพ และฟี้าอ่อน ทำให� ขับกับชืุ้ดแต่งงานสีขาวของเจ�าบ่าว เจ�าสาว เหมาะกับที�เรียกว่า white wedding ก่อนที�จะลากันไปด�วยเพลง I Have A Dream ที�กล่าวมาทั�งหมด นอกจาก เสื�อผู้�า หน�า ผู้ม ที�ทำให�โชื้วนั�น น่าทึ�งแล�ว ยังมีเบื�องหลังที�เด็ก ๆ สุดท�ายทีทุกคนต�องพูดถึง คือ ดอนน่า (Donna) นางเอกของเรานั�นเอง ซึ่�ง ถึงจะมลูกโตแล�วแตกยังแก่นแก�วไม เบา เธัอผู้�ไม่ยอมใคร ที�เปิดมาปัง ตั�งแตร�องเพลงแรก Money, Money, Money ด�วยชืุ้ดที�เป็นสัญลักษณ์ของ ดอนน่า คือ ชืุ้ดเอี�ยมยีนกับเสื�อส ขาว และอองซึ่อมทีล�อมรอบตัวเธัอ ส่วนชืุ้ดทีทุกคนต�องพูดถึงเป็น เสียงเดียวกัน คือ ชืุ้ดดิสโก� ของ
ทีมีความแวววาวในสีเงินเล่นกับไฟี ระยิบระยับ และยังมีความเ
จะมีเสียง กรี�ด
(บางฉากมีเวลาเปลี�ยนแค
๑๐-๑๕ วินาที) ต�องอาศัยความร่วม มือระหว่างนักแสดงกับทีมคอสตูม ซึ่�งบางซึ่ีนถึงกับต�องซึ่�อมจับเวลากัน หลายรอบเลยทีเดียว การแสดงครั�งนี�ได�เสียงตอบรับที ดีมากมาย เป็นทีชื้ื�นชื้อบ ประทับใจ ของผู้ชื้ม... ขอบคุณความเป็นทีมเวร์ก ของนักแสดง ทีมงาน
09 คอสตูม (อฟี ริน อินอิน นาตาชื้า โมเดล โฟีล์ท และอัลมอนต นักเรียน ชื้ั�น ม.๕) ไปตามหาชืุ้ดจากสถานที ต่าง ๆ ไมว่าจะเป็นชื้อปปิงออนไลน เดินแพลตนั�ม ประตน�ำ ทั�งนักแสดง ทีชื้่วยสืบเสาะหากันมา รวมถึง ความน่ารักของผู้�ปกครองที�ใจดีหา ชืุ้ดให�ยืมด�วย
ทั�งนี การทีนักแสดง จะสามารถเปลี�ยนทุกชืุ้ดให�ทันเข�าใน แต่ละฉาก
ผู้�กำกับ คร อาจารยที�อยู่เบื�องหน�าและเบื�อง หลังทุกท่าน เชื้ื�อว่าภาพการแสดง เหล่านี�จะติดตราตรึงใจทุก ๆ คน อย่างแน่นอน “Thank you for the music for giving it to me…” จากใจผู้้�เขีียน อาจารย์กมลพร หุ่่�นเจริญ Vocal coach and Costume advisor
10 MUSIC ENTERTAINMENT เรื่่�อง: กิตติ ศิรื่ีเปารื่ย์ะ (Kitti Sripaurya) อาจารื่ย์์ปรื่ะจำาสาขาวิิชาดุนตรื่ีสมัย์นิย์ม วิิทย์าลัย์ดุ่รื่ย์างคศิิลป์ มหุ่าวิิทย์าลัย์มหุ่ดุล เรื่่�องเล่่าเบาสมอง สนองปััญญา “ศิิษย์์พรื่ะเจนดุุรื่ย์างค์์ ผู้้�สรื่รื่ค์์สรื่�างเพล่งไทย์ สากล่รื่ะดุับตำำานาน”
หมื�นไพเราะพจมานทีรับราชื้การเป็นคนพากย์โขนในกรมมหรสพ ต่อมาเข�าเรียนที�โรงเรียนวัดระฆัังโฆัสิตารามจนจบชื้ั�นประถมศึกษา เป็นระยะเวลาเดียวกับที�พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล�าเจ�าอยู่หัวทรงตั�งโรงเรียนพรานหลวงขึ�นที�สวนมิสกวัน
ประสบการณ์งานสร�างเหล่านีชื้่วยเสริมบารมฝัมือให�แก
11 ทบทวนประวัติิ “เอื้้�อื้ สุุนทรสุนาน” โดยยอื้ ครูเอื�อ (ชื้ื�อเดิม “ละออ” ต่อมาบิดาเปลี�ยนใหม่เป็น “บุญเอื�อ” ถึงยุคจอมพล ป. พบูลสงคราม บรุษใดชื้ื�อ กระเดียดไปทางสตรีเพศให�ปรับเปลี�ยนใหม่สมเป็นชื้าย “บุญเอื�อ” จึงกลายเป็น “เอื�อ”) เกิดเมื�อวันที ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๓ พื�นเพเป็นคนอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เริ�มเรียนหนังสือที�โรงเรียนวัดใหม่ราษฎรบูรณะใน จังหวัดสมุทรสงคราม
สอนดนตรทุกประเภทเป็นวชื้าหลัก ครูเอื�อ ย�ายมาเรียนต่อที�โรงเรียนนี โดยภาคเชื้�าเรียนวชื้าสามัญ ภาคบ่ายเรียนวชื้าดนตร ทางโรงเรียนสอนทั�งดนตร ไทยและดนตรฝัรั�ง ครูเอื�อถนัดดนตรฝัรั�ง ครูผู้ฝัึกสอนคือ ครูโฉลก เนตรสุด อาจารย์ใหญคือ อาจารย์พระเจน ดริยางค ผู้�เห็นแววทางวชื้าดนตรีของครูเอื�อจึงให�หัดไวโอลินและแซึ่กโซึ่โฟีน พร�อมทั�งเรียนวชื้าดนตรีเต็มวัน จบการศึกษาวชื้าการดนตรีสากลออกมาทำงานดนตร จนกระทั�งได�เป็นหัวหน�าวงดนตรีกรมโฆัษณาการ (กรม ประชื้าสัมพันธั์) และวงดนตรสุนทราภรณ์ในเวลาเดียวกัน กลางวันทำราชื้การ กลางคืนออกงานในนาม “สุนทราภรณ์”
“เอื�อ สุนทรสนาน” เป็นอย่างมาก ปัจจบันด�วยผู้ลงานทรงคุณค่ามากมาย ครูเอื�อเป็นทั�งนักดนตรทีมีความสามารถในการเล่นเครื�องดนตรีได� หลายชื้นิด เชื้่น ไวโอลิน แซึ่กโซึ่โฟีน และคลาริเน็ต ทั�งยังเป็นนักร�อง นักแต่งเพลง หัวหน�าวงดนตร วาทยกร ตำอนท ๕ “เอ้�อ สุนทรื่สนาน” (๒)
เรียนอยู่ปีเศษพออ่านออกเขียนได�บิดาพาตัวเข�ากรุงเทพมหานครอาศัยอยู่กับลุงนามว่า
เอื�อ โดยครูเอื�อเป็นทีรูจักของคนทั�วโลกในฐานะเป็นผู้บุกเบิกเพลงไทยสากล
ยังถือเป็นผู้มคณูปการต่อวงการดนตรีไทยสากล และยังได�รับการยกย่องจากองค์การ UNESCO ให�เป็นบุคคล
สำคัญของโลก สาขาวัฒนธัรรมดนตรีไทยสากล
(https://www.youtube.com/watch?v=YTyhYn-LYNo)
Eb major จากโน�ตสากลต่อไปนี�เห็นได�ชื้ัดว่าแทบทุกคำร�องออกเสียงได�ตรงกับโน�ต อัน แสดงถึงความสามารถขั�นสูงของครูแก�วที�เลือกใชื้�คำใกล�เคียงหรือตรงกับโน�ตเพลงแล�วร�อยเรียงเป็นบทร�อยกรอง
12 (ผู้�ควบคุมวง) และครูผู้�เชื้ี�ยวชื้าญ วันที ๒๑ ม.ค. ๒๕๕๓ เว็บไซึ่ต Google ได�เปลี�ยนรูปสัญลักษณ์เป็นตัวการตูน ของ “ครูเอื�อ สุนทรสนาน” นักดนตรนักประพันธั์คนสำคัญของโลก เนื�องจากวันนี�เป็นวันคล�ายวันเกิดของคร
และเป็นหัวหน�าวงสุนทราภรณ ที�สร�างบทเพลงระดับตำนานไว�มากมาย อาท รำวงลอยกระทง นางฟี้าจำแลง และขอให�เหมือนเดิม ทั�งนี�ครูเอื�อ
เมื�อป ๒๕๕๒ ท่านผู้อ่านทีนิยมการชื้มภาพพร�อมรับฟีังเสียงสามารถดูประวติครูเอื�อ สุนทรสนาน ตามลิงก https:// www.youtube.com/watch?v=8iGXJnwT7vc บทเพลง “สุนทราภรณ์” ทีขับร�องโดย ครูเอื�อ สุนทรสนาน ลำดัับแรก ขอนำเสนอ “ขีวััญโดัม” อันเป็นเพลง สำคัญระดับจิตวิญญาณเพลงหนึ�งของลูกแม่โดมชื้าวธัรรมศาสตร์เหลืองแดงแห่งท่าพระจันทร ครูเอื�อ สุนทรสนาน ร่วมกับ ครูแก�ว อัจฉริยะกุล ประพันธัขึ�นในป พ.ศ. ๒๕๐๘ สำหรับใชื้�บรรเลงและขับร�องชื้มโฉมเทพธัิดาโดม ทีจัดประกวดกันขึ�นในยุคนั�น ครูเอื�อขับร�องบันทึกเสียงต�นฉบับในปีเดียวกัน ปัจจบันผู้�เขียนบทความนี�ไม่แน่ใจ ว่าเพลงขวัญโดมยังดำรงสถานะเชื้่นอดีตอยู่หรือไม คำร�องทั�งหมดสอดคล�องกับแนวทำนองซึ่�งอยู่ในรูปแบบเพลง ๔ ท่อนยอดนิยม AABA ไฟีล์เสียงต�นฉบับ บันทึกอยู่บนบันไดเสียง
ที�งดงามสละสลวย ขวญโดม
คารอง แกว อจฉรยะกล ทานอง เออ สนทรสนาน โอยอดเทพศรโดม โสภาหนกหนานาโลม ขวญใจแหงโดมเดนฟา ขวญโดมโลมหลา แมงามวไลตดตา ไมเหนใครงามกวา สดบชาสมพนธ ฝงเจาพระยาฟาโดม รอยกรองแซซองประโคม ขวญใจทโดมใฝฝน พศไหนงามนน ชางชวนหวใจผกพน โลกระบอลอลน โฉมผองพรรณตองใจ รอยทงรอย กลอยใจอรทยสบสม โลกสาเรงเรงรมย แมเพยงไดชมผานไป หนาวหรอรอน ตรอมตรมลมระทมขมใจ ลมชนชมภรมยลมวย ลมจตใจเผลอปอง โอยอดชวนขวญใจ สมพนธเชนขวญแหงไทย เยยนางทวไปใหหมอง นภาจะผอง โลกจะโสภานามอง ดวยขวญโดมพราวผอง รกขาปองแตโดม
13
อกจะตรมทกขถมทรวงใน ขวญเอยเมอไหรจะไดเจอกน
ฉนแสนเสยดายคดไมวายใจสน อยากจะเจอเหนเธอทกทกวน เธอกบฉนยงไมทนจะพดจา
14 ลำดัับที่ ๒ “ขีอพบในฝััน” เป็นเพลงรักหวานซึ่ึ�งตรึงจิต โปรดพนิจเนื�อร�องต่อไปนีว่าสมดังว่าหรือไม่อย่างไร ขอพบในฝน
คารอง แกว อจฉรยะกล ทานอง เออ สนทรสนาน ฉนชนใจเมอไดเหน หวใจเตนเพราะไดเหนดวงหนา เฝาแตมองมคลายสายตา ชนนกหนาชกพาสขฤทย ฉนจองมองเปนหนกหนา เหนเธอเตมตาแลวกพาเพลนได เปรยบดงยารกษาดวงใจ ชบอารมณใหสดใสชนชวน มองขอมองใหชนใจ เดยวเธอจะจากไปเหมอนใจจะขาดพลน ตองโศกศลยเพอราพน เหนเพยงหนากนไมพอฉนสขใจ แมจากไปใจคงเหงา ฉนคงจะเศราทกขจะเผาทรวงไหม
ขวญจากไปใจกหาย
แมตนไมไดเจอขวญ
จะไดพรานาคานาพา ฝนคงเพลนกวาอาจหาสขดวยกน เพยงเหนกนไมชนเชย นจจาโออกเอยมเคยสมผสกน แตในฝนสองเรานน เนอตวคงถกกนเสพสวรรคยงยน ขอใหเจอเธอในฝน เพราะวาทนนฝนรวมกนคงชน อยากจะฝนเหนกนทกวนคน ฝนดกวาตนสดชนสขใจ
(https://www.youtube.com/watch?v=pqn2itDs1Ao)
ขอใหฉนพบในฝนดกวา
15 เนื�อเพลงแบ่งเป็น ๔ ท่อน เมื�อทำ transcription สร�างแนว lead sheet บันทึกเป็นโน�ตสากลดังปรากฏ ต่อไปนี
(8th note) ๒ ตัว มค่าเทียบเท่าโน�ต
แค่วรรคแรกของเพลงกกินขาดแล�ว ทีน่าสนใจยิ�งคือการใชื้�คำว่า
16 ฟีอร์มแนวทำนองของครูเอื�อ สุนทรสนาน บันทึกอยู่บนบันไดเสียง Eb major ในลีลาของจังหวะ waltz
๓ พยางค (triplet) ของเขบ็ต หนึ�งชื้ั�น ๓ ตัว
AABA ฟีอร์มยอดนิยมของ popular song ส่วนใหญ เนื�อร�องของครูแก�ว อัจฉริยะกุล แทบทุกคำ กลมกลืนเข�ากับเสียงโน�ตจากแนวทำนองของครูเอื�อ สุนทรสนาน โปรดพิจารณา ๘ ห�องท�ายของเพลงนี แสดง การสัมผู้ัสคำที�งดงามสละสลวย ดังตัวอย่าง ลำดัับที่ ๓ “คิิดัถึึง” เพลงไทยสากลชื้ื�อเดียวกันนีมีหลายเพลง ผู้ลงานชื้ิ�นนี�ของครูเอื�อร่วมกับครูแก�วก็ไม เป็นรองทั�งด�านเนื�อร�องและทำนอง
“คิิดัถึึง” ซึ่�ำกันถึง ๑๑ ครั�งในบทเพลง โปรดพิจารณา ถอดโน�ตเพลงจากไฟีล์เสียงต�นฉบับซึ่�งบันทึกอยู่บน C major scale พบว่าแนวทำนองจัดอยู่ในรูปแบบ ๔ ท่อนยอดนิยม AABA คดถง
คารอง แกว อจฉรยะกล ทานอง เออ สนทรสนาน คดถงใจจะขาดแลวเอย คดถงทเคยไดชมไดเชยชนใจ คดถงรอยยมเพราพรมผองใส คดถงจนใจจะขาดรอนรอน คดถงแตดวงหนาหวานละมน คดถงความอนทเคยไดหนนตกนอน คดถงแตเสยงกระซบออนซอน คดถงจนนอนละเมอทกวน สมผสรดนอมออมกอด ชะออนออดนมนวลชวนใหฝน ยงฝงใจชนทงคนทงวน เราเคยรกกนลมแลวหรอดวงใจ คดถงใจจะขาดราวรอน คดถงความกอนใหสะทอนราไป คดถงแตรสจมพตตดใจ คดหวนอาลยไมรลม
ขนาดปานกลาง สังเกตเครื�องหมายทีมุมบนซึ่�ายถัดตัวเลขบอกความเร็วเพลง ระบว่าแนวทำนองของเพลงนี เคลื�อนที�ในลักษณะส่วนโน�ตเขบ็ตหนึ�งชื้ั�น
ฟีีลแบบนี�พบมากในเพลงแจ๊สทั�วไป “ขีอพบในฝััน” แบ่งแนวทำนองออกเป็น ๔ ท่อน เห็นได� ชื้ัดว่าเป็น
(https://www.youtube.com/watch?v=vt35GMJSS0s)
17 จากโน�ตด�านบน ปลายท่อน ๑ และ ๒ เป็นลักษณะของการขยายห�องเพลงให�ครบ ๘ ห�อง (extensions) ตามสูตรของเพลงยอดนิยมส่วนมาก ดูจากตัวอย่าง
18 ลำดัับที่ ๔ “พรพรหุ่ม” เป็นเพลงที�ครูเอื�อนำทำนองจากเพลงไทยของเดิม “แขกมอญบางขุนพรหม” ๒ ชื้ั�น มาปรับให�อยู่ในลักษณะของเพลงป๊อบปูลาร (ไทยสากล) ทั�วไป ต�นฉบับขับร�องคู่โดยครูเอื�อร่วมกับเพ็ญศร พุ่มชืู้ศร พรพรหม (https://www.youtube.com/watch?v=V44G3p7R5tQ) คารอง แกว อจฉรยะกล ทานอง เออ สนทรสนาน (ช. ชายรอง) (ญ. หญงรอง) (พ. รองพรอมกน) ช. รกประคองนองนางไมหางเลย ชนประทนราเพย หอมเอยผมนางพลางดม ญ หอมกลนบปผาลอยลม ใชประทนกลนผม พขาอยาดมผสมไป ช แมไดดอมคงหอมซาบซาน ญ หอมไมนานขครานคลาย ช. นองอยาแคลง อยาแหนง อยาหนาย ญ. ลนผชายสดหมายอาลย ช พรกสลกใจ พรหมประทานมาให พกรกดงดวงใจ นองเอยจงใหแอบอง ญ. พดแตปากยากหลายมกกลายเปนลม นอยหรอวาเปนเพราะพระพรหม ฝนใจขมไมทวงตง ช. เจาอยาอาลยพนะปองใจจรง หมายหลกพกพง เจารกพจรงหรอไร ญ นองเปนหญง พดจรงรกจรง ช ขอเชยยอดหญง อยากรงหวใจ ญ. รกอยาเรารอน จงผอนฤทย ช. ขอเพยงลบไล ดวยใจภกด ญ. อยาเพงชมมนจะตรมนะพ โปรดถนอมจอมชว ถงวนเถดพ อยาอาวรณ ช คอย ญ คอย ช ชนใจ ญ ชนใจ ช พระพรหมทานใหเรามา ญ พระพรหมทานใหเรามา ช. บญ ญ. บญ ช. ชวยพา ญ. ชวยพา ช. สองเราจงมารนรมย ญ. สองเราจงมารนรมย ญ. ยอม ช. ยอม ญ. อดใจ ช. อดใจ ญ. ถงวนคงไดชนชม ช. ถงวนคงไดชนชม ญ คง ช คง ญ ไมตรม ช ไมตรม ญ เพราะวาพระพรหมใหพร ช เพราะวาพระพรหมใหพร ญ นองกลวนกรกเราจะเศราอาวรณ นองกลวรกพามาซอน พกซอนดวงใจภรมย ช. โธพมพวงชางหวงกระไร เจาจะใหใครชม ขอพภรมยชนชมสมใจ ญ นองรกพ สงใจปอง แมรกนอง ตองเหลอ เยอใย พ. ตางรใจกน รผกพนกนไป อยาไดรางจางใจ สมดงทไดพรพรหม
19 ลีลาทำนองเพลงนี�เป็นจังหวะแทงโก (tango) ไฟีล์เสียงต�นฉบับบันทึกอยู่บน F minor scale แนวทำนอง แบ่งเป็นหลายท่อนคล�ายกับทางเพลงของเดิม (แขกมอญบางขุนพรหม) ยากที�จะจำแนกตามหลักการแบ่ง ท่อนเพลงของดนตรีตะวันตก ห�องเพลงที ๓๒-๔๐ มีการขับร�องล�อกันสลับหญิงและชื้าย ซึ่�งแนวทำนองนี�มา จากของเดิมเชื้่นกัน ในส่วนนี ครูแก�ว อัจฉริยะกุล จัดสรรถ�อยคำเรียงร�อยเรื�องราวเง�างอดพลอดรักระหว่างฝั่าย ชื้ายและฝั่ายหญิงได�อย่างน่าทึ�งและชื้วนฟีังยิ�งนัก โปรดดูจาก lead sheet ต่อไปนี
20 ลำดัับที่ ๕ “ยากยิ�งสิ่�งเดัียวั” ครูแก�ว อัจฉริยะกุล ประพันธั์เนื�อร�องโดยได�แรงบันดาลใจจากงานของมหากว “สุนทรภู่” เรื�อง “พระอภัยมณี” ชื้่วงหนึ�งที�พรรณนาไว�ว่า “จะเรีียนรี่ำทำอะไรีไม่ลำบาก มันยอดยากอย่างเดียวเกี�ยวผู้้�หญิิง ถึงยามดึกนึกนอนแนบหมอนอิง เรไรหริงเรือยริมหิมวา”
(https://www.youtube.com/watch?v=ebPXnnwi4mg)
) ไมลาบาก ยอดยากอยอยางเดยว (ฮม) เกยวผหญง คาครสนทรภกลาวพาดพง ฉนไมทวงตงเพราะวาสมจรง (ฮม) ยงสงใด
ยงตรองยงเหนเปนเรองหนกใจ (ฮม) ใหอาวรณ
แมกงแมกนจวบจนกบเกย (ฮม) เคยเรยนรา บากบนหมนทองจา (ฮม) ตามคาสอน
เรยนกนถงโคลงดนกาพยฉนทกลอน ทกบททกตอนฉนไมราวรอน (ฮม) ไมอบจน แตเรยนเรองรกหนกในกมล
21 และงาน “นิราศวัดเจ�าฟี้า” ของท่านเดียวกัน ตอนทีว่า “ถึงเกาะเรียนเรียนรักก็หนักอก แสนวิตกเต็มตรองเจียวน�องเอ๋ย เมื�อเรีียนกนจนจบถึึงกบเกย ไม่ยากเลยเรียนได�ดังใจจง” ขับร�องบันทึกเสียงครั�งแรกป พ.ศ. ๒๔๙๔ โดยครูเอื�อ สุนทรสนาน เนื�อร�องฉบับเต็มม ๒ เที�ยว แตด�วย ข�อจำกัดทางเทคนิคในอดีต จึงบันทึกเสียงได�เฉพาะเที�ยว ๑ (เนื�อร�องเที�ยว ๒ อยู่ในกรอบต่อไปนี�) ยากยงสงเดยว
คารอง แกว อจฉรยะกล ทานอง เออ สนทรสนาน เทยว ๑ จะเรยนจะราจะทาอะไร (ฮม
(ฮม) จนปญญา เทยว ๒ หากใครจะวาปญญาไมม (ฮม) กทนได โงเงายงกวาใคร (ฮม) ใครศกษา จายอมสารภาพกราบสกครา ขอบอกฉนมาฉนออนระอา (ฮม) นาเจบใจ บอกมาสกคาจะทาอยางไร (ฮม) ใหกงวล บางคนไมรกแสดงวารก (ฮม) ลอลวงได แกลงยวอยราไป (ฮม) ใหฉงน บางคนรกแนแนแตทาพกล รอยเลหรอยกลเพราะโงเหลอทน (ฮม) จนอดชม อดอนอราปญญาไมคม (ฮม) โงงมงาย
22
การสร�างประโยคเพลงทีชื้วนให�น่าติดตามรับฟีังตั�งแต่ตอนเริ�มเพลง
เนื�อหาเพลงบรรยายถึงชื้วิตรักของครูเอื�อตอนกำลังจีบสาวที�หมายปองน�องนางมา
ที�ผู้�เขียนสำเนาบางส่วนมาจากเว็บ
ให�ผู้อ่านได�รับทราบกันอย่างละเอียดดังนี
เขาถูกถามอยางไมคาดคิดมากอน์ “เป็น์น์ักดน์ตรัีอยูกรัมศิิลปากรัครัับ” เขาตอบ และเม้มคาวา “น์ักดน์ตรัี” ไว้แผวเบา ด้วยรัู้สึกกรัะดากอายและ เขิน์บ้างเล็กน์้อย
...เขาเคยถูกผู้ใหุ่ญเรัียกเข้าไปพบและเคยถูกถาม
“ไหุ่น์?” ญาติผู้ใหุ่ญตะแคงหุู่ด้วยไมเชื่อวาจะได้ยิน์เช�น์น์น์ “เป็น์อธัิบดีหุ่รัือ?”
“เปลาครัับ” เขารัีบแก้ไข และบัดน์ี้เลือดเน์ื้อแหุ่�งความเป็น์ศิิลปิน์ทัาใหุ่้เขาหุ่ยิ่งและภาคภูมิใจ
23 ฟีอร์มเพลงเป็นแบบ ๒ ท่อน AB ท่อน A ม ๘ ห�องเพลง ท่อน B ม ๘ + ๔ รวม ๑๒ ห�องเพลง (๔ ห�อง ท�ายอาจเรียกตามสำนวนดนตรีสากลว่า tag) ดังตัวอย่างในกรอบเหลี�ยม ลีลาทำนองส่วนใหญบันทึกอยู่บนบันไดเสียง F major ม C minor แทรกอยู่ ๒ ห�อง ทีห�อง ๗ และ ๘ ตามภาพต่อไปนี ลำดัับที่ ๖ “ศึึกในอก”
เป็นคู่ครอง
ข�อมูลจาก
“ผู้จัดการออนไลน์”
“บ�านคนรักสุนทราภรณ์” มา
“เธัอทัางาน์ทัี่ไหุ่น์?”
ทัี่เขาพูดตอบ กลับไปใน์ทัน์ทัน์น์ “ผมเป็น์น์ักดน์ตรัีครัับ” เขาย้าคาวา “น์ักดน์ตรัี” อยางภาคภูมิ “อ่้ย ตาย...!” ญาตผู้ใหุ่ญ�อ่ทัาน์ “เปน์อธัิบดีฉััน์ยังไม�ใหุ่ค่ณ์เลย” ... แต�ครัูเอื้อ ส่น์ทัรัสน์าน์ ไม�ไดย�อทั้อ กลับม่มาน์ะทัำงาน์อย�างไม�กลัวเหุ่น์็ดเหุ่น์ื่อย เพื่อจ่ดหุ่มายปลายทัาง ทัี่หุ่วังตั้งใจไวข้างหุ่น์้า โดยเฉัพาะการัเอาชน์ะใจค่ณ์น์ายสะอิ้ง ผู้เปน์มารัดาของสาวทัี่ตน์รัักและใฝ่่ฝ่น์ ด้วยการั เสน์อตัวเข้าไปรัับใช้ใกลชิด ดังทัี่อาจน์ต ปัญจพรัรัค เล�าว�า “...ตอน์น์ั้น์ครัูเอื้อเปน์หุ่น์่�มโสดค่มวงดน์ตรัีใหุ่้คณ์ะละครัแม�เลื่อน์ มาเช�าบ้าน์เล็ก ๆ สองชั้น์อยูชิดรัั้วสังกะส หุ่ลังบ้าน์ของค่ณ์ป้า ค่ณ์เอื้อใหุ่ตั�วฟรัค่ณ์ป้าและผมดูละครัแม�เลื่อน์ไม�ว�าวิกไหุ่น์ และค่ณ์เอื้อกผูกปิน์โตกน์ทัี่บ้าน์ ป้าผม หุ่น์ัก ๆ เข้า ป้าก็เลยใหุ่้มากน์เสียด้วยกน์ทัี่โต๊ะกน์ข้าวใน์บ้าน์...” ทัี่สำคัญกคือ “ไก�อ�อน์” เล�าว�า “...เขามีพลังความรัักมากมายเหุ่ลือเกน์ เขายอมใหุ่้อดมื้อกน์มื้อ เพื่อเอาเงน์รัายได้ของเขาไปมอบใหุ่ค่ณ์
ทัี่เพิ่งกลับมาจากน์อก อายังเอาหุ่ัวชน์ฝ่าแทับหุ่ัวแตก จน์ค่ณ์ป้าต้องรัีบไปตามตัวหุ่น์ูกลับบ้าน์...”
เอาละ...คงต้องเฉัลยกน์เสียทัว�าเพลงทัี่ครัูเอื้อไม�อยากจะรั้องน์ั้น์ คือเพลงอะไรั?
24 แม�ของเธัอ เปน์ผู้เก็บหุ่อมรัอมรัิบ...” ชอ่�ม ปัญจพรัรัค ซึ่งเปน์ญาติสน์ทัและค่้น์เคยกับอาภรัณ์์ กรัรัณ์สูต มาก เล�าถึงอ่ปสรัรัคใน์เรัื่องความรัักไวว�า “...อารัักขน์าดยอมทัำทั่กอย�างทัี่มีเพื่อหุ่น์
และเพื่อจะ แต�งงาน์กับหุ่น์น์�ะ วน์หุ่น์ึ่งอากลับมาจากทัำงาน์ ถึงบ้าน์ไม�เหุ่น์หุ่น์ พอรัู้ว�าไปตีแบดมน์ตน์กับเพื่อน์ของพี่ใหุ่ญ�
(ชื่อเล�น์ของอาภรัณ์์
กรัรัณ์สูต) เพื่อขอใหุ่้ได้รัักหุ่น์
เพลงน์ั้น์กคือ “ศิึกใน์อก” ซึ่งเปน์เพลงทัี่กน์ใจและเปน์เพลงทัี่ครัูเอื้อรั้องเมื่อตกอยู�ใน์หุ่้วงของความรัักน์ั่น์เอง... ศกในอก (https://www.youtube.com/watch?v=hizb2Ak4VgQ) คารอง สรฐ พกกะเวส ทานอง เออ สนทรสนาน เมอยามรกเลอนไกล สดใครหาใดแทน ศกอนหมนแสน หรอจกแมนศกหวใจ ความกลดกลมรมรอน จกกนหรอนอนรองไห รอนแทบจกขาดใจ สดเปรยบอนใด กลนไวเตมทน ไมมสมพนธใด เปรยบไดนาใจคน ทะเลนนลกลน กไมพนหยงได แตใจของนวลนาง ไมรจะหยงอยางไร เปรยบเทยบนาใจใคร สดเปรยบฉนใด วานบอกใหชนชวน คราครวญเพราะนวลนาง จดจางเพราะนางครวญ ยงครวญยงใจหวน ยงลวนชวนใหตรม ยามเมอจนทรแจมฟา ยงพานาตาพรางพรม ฟามจนทรใหชม แตเราตองตรม คสมเลอนมา เฝาหวงรกลวงเลอน เดนเดอนนนเตอนตา จะคอยอยชวฟา เฝาใฝหาคชน เฝาแตหวนอาลย รกกไมเยอนคน โศกจนเหลอทนกลน ทกคาทกคนคอยคชนคนมา
25 ทา
transcription จากไฟีล์เสียงตนฉบับแลวบันทึกอยู่ในรูปแบบของ lead sheet ปรากฏดังภาพต่อไปนี
ฟีอร์มเพลงเป็นแบบ ๔ ท่อน - ABAC (ท่อน ๑ เหมือนกับท่อน ๓) แนวทานองโดยรวมบันทึกอยู่บน
บันไดเสียง D major หากสังเกตในรายละเอียดพบว่าท่อน ๑ เป็น D mixolydian
อีก ๓ ท่อนที�เหลือเป็น D major scale
หากมองลึกลงไปอีก ทีห�องเพลง ๒๔-๒๙ (ท่อน C) แนวทำนองมีความเป็น A major scale ก่อนจะกลับ
เข�าสู่บันไดเสียงเจ�าบ�าน (D major scale)
๗ “สิ่นสิ่ามพราน” เพลงสาคัญเพลงหนึงของเหล่านักเรียนนายรอยตารวจไทย (นรต.) ครูศรีสวัสดิ
พรรณนาถึงความผูู้กพันของเหล่านักเรียนนายรอยกับสถาบัน (นักเรียนนายรอยตารวจสามพราน) สาเร็จการศึกษาออกไปทาการทางานแลวใหกลับมาเยือนถินเคยร�าเคยเรียนบาง
26
ดังตัวอย่างต่อไปนี ลาดัับที่
แบบว่าคืนสู่เหยาอะไรทานอง นัน เนือรองกะทัดรัดแต่มากดวยความหมาย โปรดพิจารณา สนสามพราน (https://www.youtube.com/watch?v=f802PMwPd2o) คารอง ศรสวสด พจตรวรการ ทานอง เออ สนทรสนาน โอสนสยวยนตนโอนออน โยกคลอนพลางถอนใจใหญ โอสนครางเหมอนกบคนเปนไข สนเอยอาวรณไหวคลายเรา ทามกลางถนในไพรสณฑ เสยงสนเหมอนดงมนตเรยกเรา หวดวอนออนโอนโยนเยา ครวญเคลาเราเรยกเราราไร ขวญเอยขวญมา สนสามพรานพรามหาขวญใจ เพอนเอยเพอนใจไปไหน ลาไกลแลวเพอนไยไมมา
พิจิตรวรการ
แบบออกเสียงเดียวกัน (unison singing with band) โดยเหล่านักร�องหญิงของวงสุนทราภรณชื้่วยเสริมสร�าง อารมณลึกซึ่ึ�งกินใจยิ�งขึ�นให�แก่ผู้ที�ได�รับฟีังเพลงนี
27 ลีลาจังหวะ waltz ขนาดความเร็วปานกลางผู้สานกันแนวทำนองพลิ�วไหวเคลื�อนที�อยู่บนบันไดเสียง Bb major pentatonic จากงานประพันธั์ของครูเอื�อ สุนทรสนาน ให�ความไพเราะงดงามและลงตัว อีกทั�งยังมีการ ขับร�อง ๒ ลักษณะ ครึ�งท่อนแรกครูเอื�อขับร�องเดี�ยว (solo voice
band) ครึ�งหลังเป็นการขับร�องหมู่
(โดยเฉพาะชื้าว นรต.) เพลงนีบันทึกเสียงต�นฉบับเมื�อป พ.ศ. ๒๕๑๒ ข�อมูลปัจจบันทราบว่าต�นสนที�ครูศรีสวัสดิ พจิตรวรการ พรรณนาไว�ในเนื�อเพลง ถูกตัดเหี�ยนเตียนไปแล�ว
with
และคำรั้อง
ฝ่มือครัูชอ่�ม ปัญจพรัรัค ทัี่มีความหุ่มายโดน์ใจผู้ฟังเปน์อย�างยิ่ง โดยเฉัพาะทั�อน์แยกทัี่ว�า “หุ่ากอาทัิตยลับโลก
โศิกสลด จะมืดหุ่มดทั่กชวิตยังทัน์ได หุ่ากขาดน์้องทัี่พี่ปองหุ่น์ึ่งใน์ดวงใจ ทัน์ไม�ได้จะต้องตายลงไปพลน์”...
ต่อมามีการแต่งเนื�อร�องสำหรับฝั่ายหญิงใชื้�ชื้ื�อเพลงและแนวดนตรีบนบันไดเสียงเดียวกัน
28 ฟีอร์มเพลงเป็นแบบ ๓ ท่อนใหญ ABC ซึ่�งแบ่งย่อยออกเป็น ๖ ท่อนย่อย A A’ - B B’ - C C’ ลาดัับที่ ๘ “หุ่นึงในดัวังใจ” ทีมาของเพลงนี เพจ “พร่างเพชื้รในเกร็ดเพลง” ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ บันทึกไวว่า ...ครัูชอม ปัญจพรัรัค์ เขียน์เลาถึงเพลงน์ี้ใน์หุ่น์ังสือ “คอน์เสิรั์ต ๘๒ ปี ชอม ปัญจพรัรัค์” วา “เพลงน์ี้เกิดขึ้น์ทัี่บ้าน์พักรัับรัองของกรัมปรัะมง ทัี่จังหุ่วัดปรัะจวบคีรัีขัน์ธั เมื่อครัั้งไปเทัี่ยวกับญาติ ๆ ขณ์ะ กาลังเล�น์ไพกัน์อยางสน์่กเพลิดเพลิน์จน์สามทั่�มเศิษ ๆ จู ๆ ครัูเอื้อก็เรัียกใหุ่้ลกจากวงไพตอง และบอกใหุ่้แตง เพลง โดยครัูเอื้อฮัมทัาน์อง ชอมใส�คารั้องเป็น์ชวง ๆ แตงเสรั็จเรัียบรั้อยภายใน์ชั่วโมงเศิษ จากน์น์ครัูเอื้อก็น์า เพลงเข้ากรั่งเทัพฯ ทัน์ทั มาทัรัาบภายหุ่ลังว�า คน์สน์ทัของจอมพลสฤษดิ ธัน์ะรััชต โทัรัมาหุ่าครัูเอื้อ ขอใหุ่้ครัูเอื้อแต�งเพลงรัับขวัญ ทั�าน์ผู้หุ่ญิงวจิตรัา ธัน์ะรััชต ซึ่งไปรัักษาตัวทัี่อังกฤษแล้วไม�ยอมกลับเมืองไทัย เพรัาะน์้อยใจทัี่จอมพลสฤษดิ น์อกใจ จน์จอมพลสฤษดิต้องส�งทัูตไปขอรั้องอ้อน์วอน์จึงยอมกลับ ทั�าน์จอมพลจึงสั่งเตรัียมการัต้อน์รัับโดยใหุ่ วงดน์ตรัส่น์ทัรัาภรัณ์์บรัรัเลง และใช้เพลง ‘หุ่น์ึ่งใน์ดวงใจ’ น์ี้ เปน์เพลงรัับขวัญพิเศิษ” เพลง “หุ่น์ึ่งใน์ดวงใจ” เปน์เพลงไพเรัาะทัั้งทั�วงทัำน์องทัี่ครัูเอื้อแต�งไว้อย�างอ�อน์หุ่วาน์ ออดอ้อน์
ขับร�องบันทึก เสียงต�นฉบับโดย ชื้วล ชื้่วงวิทย หนงในดวงใจ (https://www.youtube.com/watch?v=f802PMwPd2o) คารอง ชอม ปญจพรรค ทานอง เออ สนทรสนาน พนมนองหนงในดวงใจ เทานน หญงอนหมนพนจะมาเทยมทน ทไหน แตรกของพซอนอยกลางใจ ขางใน หนงในดวงใจคอเธอคนเดยว แทเทยว หากนองไดรวาพรกนอง หนกหนา ขอไดเมตตาแกดวงวญญา โดดเดยว ผดบางพลงบางกไมจดจาง ขาดเกลยว นองเปนคนเดยวหนงในดวงใจ หากอาทตยลบโลก โศกสลด จะมดหมดทกชวต ยงทนได หากขาดนองทพปอง หนงในดวงใจ ทนไมไดจกตองตาย ลงไปพลน พนมนองอยในดวงใจ เสมอ รกแตเพยงเธอยงกวาชวน เชอฉน พปองรกเจาเฝาแตผกพน แจมจนทร มเธอเทานนทเปนทหนง ครองใจ
(https://www.youtube.com/watch?v=K8sKDPcIrhk)
29 พิจารณาเนื�อหาของ ๒ เพลงนี ผู้�เขียนฯ คิดว่าคงเป็นทีถูกใจของหลาย ๆ คู่รัก (อาวุโส) เด็กหนุ่มสาว ปัจจบันวถีทางแห่งความรักของพวกเขาแตกต่างออกไป อาจไมค่อย “อิน” กับเพลงนีสักเท่าไหร หนงในดวงใจ (หญง)
คารอง ชอม ปญจพรรค ทานอง เออ สนทรสนาน หากนองไดรวาพรกนอง หนกหนา ขอฝากชวาไมมคลาดคลา หางหาย จะรกพยงกวาผอนใด ยอดชาย หากตวจะตายกไมคลาย รกเลย เมอนองไดรวาหนงในใจ พนน ใชอนคอฉนจตทผกพน พเอย ผดบางพลงหนอยกไมขาดลอย จากเลย นองยงชนเชยอยไมวางวาย หากอาทตยลบโลก โศกสลด จะมดหมดทกชวต ยงทนได แตหากนองไมไดเปน หนงครองใจ ทนไมไดจกตองตาย ลงไปพลน พนมนองหนงในดวงใจ แนหรอ นองนจะถอพดงตะวน เชนกน จะรกพยงกวาดวงชวน เชอฉน นองมพนนทเปนทหนง ครองใจ
30
31 เพลงนีฟีอร์มเป็นแบบเพลง ๔ ท่อนยอดนิยม - song form - AABA ลีลาจังหวะลักษณะชื้�า ทั�งเพลง บันทึกอยู่บนบันไดเสียง F major pentatonic เพียง ๕ เสียง สร�างเพลงไพเราะเสนาะโสต ฝัมือครูเพลงระดับตำนานเชื้่นครูเอื�อ สุนทรสนาน เท่านั�น ที สามารถสร�างงานอมตะประดับไว�ในวงการเพลงไทยสากล ผู้ลงานการประพันธั์ทำนองและขับร�องของท่านยังม นำเสนออีก ๑ ตอน ขอบคุณครับ
และทีถูกหลงลืมหายไปจากความ ทรงจำของผู้�คน
บทความชืุ้ด มนุษย์/ดนตรี/
Bandstand:
เริ�มต�นของการเปิดพื�นที�การบรรเลง ดนตรีสาธัารณะในธัรรมเนียมตะวันตก
32 MUSIC RE-DISCOVERY เรื่่�อง: จิตรื่ กาวิ (Jit Gavee) อาจารื่ย์์ปรื่ะจาสาขาวิิชาดุนตรื่ศิึกษา คณะมน่ษย์ศิาสตรื่์และสังคมศิาสตรื่ มหุ่าวิิทย์าลย์รื่าชภััฏเชย์งใหุ่ม� มนุษย์์/ดุนตำรื่ี/หนังส้อ ตำอนท ๘ รื่าชกิจจานุเบกษา แจ�งค์วาม เปัดุพรื่ะรื่าชอุทย์านสรื่าญรื่มย์์ ส้่กิจกรื่รื่ม In a large, open space
Chamber of Resonance การบรรเลงดนตรีแต่ละครั�ง ล�วนมปัจจัยสำคัญที�จำเป็น ไมว่าจะ เป็น นักดนตร เครื�องดนตร เพลง ดนตร แตอีกสิ�งหนึ�งที�สำคัญไมยิ�ง หย่อนไปกว่ากันนั�นคือ สถานที�การ แสดงดนตร ในประวติศาสตร์การ
แสดงดนตรีในชื้าติไทยได�เกิดพื�นที การแสดงที�หลากหลายทีน่าจดจำ
หนังสือ ในตอนนี จะขอดำเนินเรื�อง
โดยจะกล่าวถึงราชื้กิจจานุเบกษาที เป็นบันทึกข�อความสั�น ๆ เรื�องการ
พื�นที
ก่อนที�จะนำเสนอเรื�องของกิจกรรม In a large, open space ที�ทำให� พื�นที�แห่งนี “มชื้วิต” อีกครั�ง ราชกิิจจานุเบกิษา แจ้งความ เปิดพระ ราชอืุ้ทยานสุราญรมย แม�ว่าเอกสารทีถูกยกมาในครั�ง นี�จะเป็นเพียงเอกสารที�ระบข�อความ สั�น ๆ แต่หากนับกันในเรื�องของความ สำคัญ เอกสารฉบับนีถือได�ว่าเป็นจุด
ที�เก่าแก่และน่าสนใจแห่งหนึ�งใน ประเทศไทย นั�นคือ พระราชื้อุทยาน สราญรมย ซึ่�งในปัจจบันถูกเรียกว่า สวนสราญรมย เอกสารดังกล่าวอยู่ใน ราชื้กิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐ แผู้่นที ๒๐ วันที ๑๓ สิงหาคม รัตนโกสินทร ศก ๑๑๒ (ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๓๖: ผู้�เขียน) หน�า ๒๓๗-๘ ด�วยความ สั�นของข�อความในเอกสาร ผู้�เขียน จึงจะข�อยกข�อความทั�งหมดมานำ เสนอในบทความตอนนี
แตกต่างจากตอนทีผู้่านมาสักเล็กน�อย
เปิดพระราชื้อุทยานสราญรมย
การแสดงดนตรีสำคัญทีน�อยคนจะรับรู
ออกแบบและจัดสร�างในฐานความคิด
ของคนตะวันตก
เป็นสิ�ง ปลูกสร�างทีดูเรียบง่าย แตมีความแข็ง แรงคงทน ทั�งยังผู้่านประวติศาสตร
มานานนับร�อยป หากแตว่ากระโจม แตรนีคืออะไร และสำคัญอย่างไร? กระโจมแตร เป็นชื้ื�อเรียกศาลา
ขนาดเล็กบรรจุคนได�ประมาณ
33 แจ�งคิวัาม เปิิดัพระราชอ่ที่ยานสิ่ราญรมย ขอแจ�งความให�ทราบทั�วกัน ด�วยบัดนี�พระราชื้ อุทยานสราญรมย์สวนหลวง จะเปิดให�มหาชื้นทั�ง หลาย เที�ยวชื้มเล่นตามความประสงค ทุกวันเสาร วันอังคาร กำหนดเปิดตั�งแต่เวลาบ่าย ๓ โมงจน ย�ำค�ำ แลจะมีของรับประทานด�วยตามสมควร ถ�า ท่านผู้�หนึ�งผู้�ใด มีความประสงคที�อยากจะชื้มเชื้ย เล่นแล�ว ก็ขอให�แต่งตัวโดยเรียบร�อย แลเชื้ิญไป ตามกำหนดเวลานี�เทอญ โดยรับสั�งพระเจ�าน�องยาเธัอ พระองค์เจ�า ไชื้ยันตมงคล ผู้�แทนเสนาบด กระทรวงวัง เจ�าพนักงานใหญ พระอภรักษ์ราชื้อุทยาน รูปปั�นบริเวณใกล�กับหลุมศพของนายเฮนร อาลาบาสเตอร ณ สุสานโปรเตสแตนต กรุงเทพมหานคร (ที�มา: จิตร กาวี) เหตุใดพระราชื้อุทยานสราญรมย หรือสวนสราญรมยนั�น จึงมีความ สำคัญต่อเรื�องความรับรู�ในการ บรรเลงดนตรีในประเทศไทยหรือ ประเทศสยามในขณะนั�น โดยเฉพาะ ธัรรมเนียมการปฏบติดนตรีแบบ ตะวันตก นั�นคือการบรรเลงดนตร ใน “กระโจมแตร” ด�วยเพราะในพระ ราชื้อุทยานสราญรมย์แห่งนี
ได�ถูก
โดยมีผู้�ออกแบบคือ นายเฮนร อาลาบาสเตอร (Henry Alabaster) ข�าราชื้การสยามชื้าว อังกฤษ ผู้�ซึ่�งเคยดำรงตำแหน่งรอง กงสุล ณ สถานเอกอัครราชื้ทูต สหราชื้อาณาจักรประจำประเทศไทย มผู้ลงานที�เป็นที�ประจักษคือ เป็นผู้ รังวัดการตัดถนนเจริญกรุง และอีก ผู้ลงานสำคัญคือการเป็นผู้�ออกแบบ และผู้�ควบคุมการก่อสร�างพระราชื้ อุทยานสราญรมย พระราชื้อุทยานสราญรมย ถูก ออกแบบสร�างให�อยู่ในรูปแบบของสวน พฤกษศาสตร (botanic garden) ซึ่�งเป็นสวนที�ได�รับความนิยมมากใน ประเทศอังกฤษ ประชื้าชื้นในดินแดน นั�นมักใชื้�เป็นสถานทีพักผู้่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะในชื้่วงวันหยุด ประชื้าชื้น จำนวนมากมักรวมกลุ่มเข�าไปทำ กิจกรรมต่าง ๆ ภายในสวน สิ�งก่อสร�าง หนึ�งทีถูกสร�างและออกแบบมาติด ตั�งไว�ในพระราชื้อุทยานสราญรมย นี นั�นคือ ศาลากระโจมแตร
๒๐-
คน รากกำเนิดมาจากประเทศ
มรูปแบบและจุดประสงค
๓๐
อังกฤษ
การใชื้�งานคือการใชื้�เป็นพื�นที�สำหรับ
ประเทศเป็นอันดับแรก ก่อนที�จะ
แพร่กระจายไปทั�วโลก
ทั�งพื�นที�ของพระราชื้วังสราญรมย
และพระรา ชื้อุทยานสราญรม ย
ถูกใ ชื้�
๓ (ต่อมาคือจักรพรรดนิโคไลที ๒ แห่ง รัสเซึ่ีย)
ของพระบาทสมเด็จพระเจ�าอยู่หัว รชื้กาลที
ล่วงเลยมา ถึง ปัจ จบัน วัฒนธัรรมการใชื้�กระโจมแตรในพื�นที ของประเทศต�นกำเนิดอย่างประเทศ
ม การอนรักษ์และปรับปรุงกันอย่าง ต่อเนื�อง ขณะที�ในประเทศไทยการ
ได�หลายประเด็น เชื้่น ค่านิยมการ ฟีังเพลงแตรวงตะวันตกซึ่�งครั�งหนึ�ง
34 พระราชื้อุทยานสราญรมยชื้่วงประมาณต�นรชื้กาลที ๕ (ที�มา: ภาพมุมกว�างของกรุงเทพพระมหานคร ในสมัยรชื้กาลที ๔: การค�น พบใหม่) เล่นดนตร ตั�งแต่การฝัึกซึ่�อมไปจนถึง การออกแสดงต่อสาธัารณชื้น มชื้ื�อ เรียกในภาษาอังกฤษว่า Bandstand โดยมักมีภาพจำในการนำแตรวง หรือ Brass Band มาบรรเลงใน กระโจมแตรเหล่านี�อย่างเป็นประจำ ในกิจกรรมดนตรที�เปิดเป็นสาธัารณะ การใชื้�กระโจมแตรจึงปรากฏการใชื้� งานตามสวนสาธัารณะอังกฤษทั�ว
ในรชื้สมัยของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล�าเจ�าอยู่หัว
๕
รชื้กาลที
เ ป็น พื�น ที ต� อน รับพระรา ชื้ อาคันตุกะจากต่างประเทศ รวมถึง เป็นพื�นที�ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทำให�กระโจมแตรภายในพื�นทีถูกใชื้� งานต่างกรรมต่างวาระกัน ซึ่�งโดย ส่วนมากมักจะใชื้�เป็นพื�นที�ในการ บรรเลงดนตร โดยจะขอยกหลักฐาน การใชื้�งานกระโจมแตรแห่งพระราชื้ อุทยานสราญรมย คือเหตุการณ์เมื�อ ครั�ง ซึ่าเรวชื้นิโคลัส พระราชื้โอรส องค์โตของซึ่าร์อะเล็กซึ่านเดอรที
เยือนประเทศสยามอย่างเป็น ทางการเมื�อป พ.ศ. ๒๔๓๔ ในการ เสด็จเยือนครั�งนั�นพระองค์ได�พำนัก อยู่ที�พระราชื้วังสราญรมย ซึ่�งมีพระ ราชื้อุทยานสราญรมย์เป็นส่วนหนึ�ง ของพระราชื้วัง มีการบันทึกระบถึง การเข�าชื้มพระราชื้อุทยานสราญรมย ของซึ่าเรวชื้นิโคลัสและได�มีการชื้ม ดนตรที�บรรเลงภายในกระโจมแตร ของพระราชื้อุทยาน ระบว่า “...วน์ทัี่ ๒๐ กำหุ่น์ดแกรัน์ด ด่กซึ่ารัวิตส จะได้เฝ่้าทัูลลอองธั่ล พรัะบาทั ใน์พรัะบรัมมหุ่ารัาชวัง ได ตกแต�งศิาลาทัี่ว�าการัต�าง ๆ ... เวลา บ�าย ๕ โมง ผู้ทัี่รัับรัองพาแกรัน์ด ด่ ก ซึ่ า รัวิต ส์แล ซึู่ดไปเ ดน์ เ ล�น์ ใ น์ สวน์สรัาญรัมย มีแตรัทัหุ่ารัมหุ่าดเล็ก เป่าทัี่กรัะโจมแตรั แล้วพาขึ้น์หุ่ลังคา เรัือน์กล้วยไม เดน์กรัะบวน์แหุ่�พรัะยา ช้างพรัะยาม้าแลจต่รังคเสน์าสังเขป ตั้งแต�ตพาน์ช้างโรังส เลี้ยวลงถน์น์
สน์ามไชยแล้ว ชารัวิตสดรัำทัวน์ รัำกรัะบี่กรัะบองแลตะกรั้อต�อไป...” (รัฐบาลไทย, ๒๔๓๔: ๔๗๗) ภายหลังจากเหตุการณนี ๒ ป พระราชื้อุทยานสราญรมยก็ได�มีการ เปลี�ยนแปลงนโยบายบางประการ นั�นคือการเปิดให�ประชื้าชื้นทั�วไป สามารถมีโอกาสเข�ามาพักผู้่อนหย่อน ใจภายในพระราชื้อุทยานแห่งนี ดัง ข�อความที�ยกมาจากราชื้กิจจานุเบกษา แจ�งความ เปิดพระราชื้อุทยาน สราญรมย ดังที�ได�ยกมาข�างต�น วัฒนธัรรมการใชื้�กระโจมแตรใน ประเทศไทยแพร่หลายขึ�นเป็นอย่าง มากจนเป็นทีนิยมถึงขีดสุดในรชื้สมัย
อังกฤษและพื�นที�ใกล�เคียงในทวีป ยุโรป ยังคงมีการดำเนินปฏบต
บรรเลงดนตรีบนกระโจมแตรกลับ ค่อย ๆ หายไปจนถูกหลงลืม สาเหตที วัฒนธัรรมกระโจมแตรในประเทศไทย นี�เริ�มหมดความนิยมลงอนุมานไป
เคยเป็นของโก�หรูกลับกลายเป็นวง ดนตรทีมทั�วไปไม่แปลกใหมอีกต่อ ไป กระโจมแตรที�เสื�อมโทรมไม่ได� รับการดูแลรักษาจนถูกรื�อถอนทิ�งไป
รัะหุ่ว�างคลองกับสวน์สรัาญรัมย ไป ขึ้น์ถน์น์เจรัิญกรั่งกลับมาถน์น์ทั้อง
๖ เวลา
การฟีังกระโจมแตรในสวนสาธัารณะ
มิได�กลายเป็นตัวเลือกหลักในการฟีัง
ดนตรีจากกระโจมแตรจึงกลายมา
เป็น “ความทรงจำ” ในทีสุด และ
หากไม่ได�รับการรื�อฟี้�นหรือสาธัิตก็จะ
กลายเป็นสิ�งทีถูก
In a large, open space
โปสเตอรกิจกรรม In a large, open space (ที�มา: สถาบันดนตรกัลยาณวัฒนา)
ลุมไปในหลาย ประเด็น เชื้่น ประเด็นเบื�องต�น อย่างประวติศาสตร์การกำเนิดของ กระโจมแตร ทั�งในประเทศไทยและ ต่างประเทศ ชื้่วงเวลาทีทั�งรุ่งโรจน และร่วงโรยของกระโจมแตร บุคคล สำคัญที�เกี�ยวข�อง ไปจนถึงประเด็นชื้ี ชื้วนให�ตั�งคำถามถึงก�าวต่อไปที�ควร จะเป็นของบริบทการใชื้�งานกระโจม แตร อันได�ข�อสรุปหลวม ๆ ให�ผู้
35 พฤติกรรมการเสพดนตรีสาธัารณะ ที�เปลี�ยนไป ด�วยความที�การดนตร ในยุคหลังมตัวเลือกให�รับมากยิ�งขึ�น
ดนตรีสาธัารณะอีกต่อไป มตัวเลือก ทีท�าทายและแปลกใหม่ปรากฏอยู่ใน สังคมตลอดเวลา ทีสุดแล�วการฟีัง
“หลงลืม” ไม่เป็น ทีรูจักในสังคมไทยอีกต่อไป
(๒๕๖๖) ทีผู้่านมา สถาบันดนตรกัลยาณวัฒนา ร่วมกับกองการสังคีต สำนักวัฒนธัรรม กีฬา และการท่องเที�ยว และสำนัก สิ�งแวดล�อม กรุงเทพมหานคร ได� มีการจัดการแสดงและเสวนาใน หัวข�อ Bandstand: Chamber of Resonance ซึ่�งมชื้ื�องานหลักว่า In a large, open space ในกิจกรรม ค รั�ง นี มีความ น่าสนใจอ ยู่ หลาย ประการ ไมว่าจะเป็นการเสวนา ในเรื�องของประวติศาสตร์กระโจม แตร การบรรเลงดนตรีในสวนของ ประเทศไทย การจัดแสดงดนตร ทีส่วนหนึ�งอ�างอิงจากบทเพลงที เคยใชื้�งานจริงในอดีต
ด�วย
ดนตรีผู้�บรรเลงไปดำเนินกิจกรรมกัน บริเวณพื�นที�ประวติศาสตร์จริง นั�นคือ บริเวณกระโจมแตร สวนสราญรมย แกนนำหลักผู้ที�ทำให�กิจกรรม ครั�งนี�เกิดขึ�นได� คือ อาจารยสิรวชื้ญ คงบันดาลสุข อาจารย์ประจำสำนัก วชื้าดริยางคศาสตร สถาบันดนตร กัลยาณวัฒนา ผู้�ซึ่�งวางแนวทาง ในการจัดกิจกรรมให�เกิดขึ�นและ สำเร็จลล่วงไปได�อย่างด มีการนำ วงดนตรีจากหน่วยงานพันธัมิตร มาร่วมบรรเลง ได�แก CRU Brass จากมหาวิทยาลัยราชื้ภัฏเชื้ียงราย, Bangkok Metropolitan Brass Quintet และ PGVIM Brass Ensemble กิจกรรม In a large, open space เริ�มต�นด�วยการบรรเลงเปิด งานบทเพลงสั�น ๆ ของวงดนตร CRU Brass ที�มาบรรเลงบทเพลง เปิดคือ Rondeau โดย ฌอง โจเซึ่ฟี มอเรย (Jean Joseph Mouret) นักประพันธัชื้าวฝัรั�งเศส เมื�อจบ บทเพลงจึงเป็นชื้่วงของการเสวนา เกี�ยวกับพื�นที�กระโจมแตรแห่งนี โดยเสวนาครอบค
ชื้่วงปลายเดือนมีนาคม
ไปจนถึงการ ทดลองนำบทเพลงทีร่วมสมัยมา ทดลองบรรเลงในกิจกรรมครั�งนี
และความพิเศษของกิจกรรมนี คือการนำเหล่าผู้ร่วมเสวนาและนัก
36
กิจกรรม
In a large, open space
(ที�มา: สถาบันดนตรกัลยาณวัฒนา)
พื�นที�แห่งนี�จำเป็นหรือไมทีต�องเป็น
แตรวงดังเชื้่นในอดีตหรือดังต�นฉบับ ในโลกตะวันตกเคยปฏบตสืบมา?
คำตอบคือไม่จำเป็นและเป็นการด
ว่า “ดนตรีในสวน” วัฒนธัรรมการ ฟีังดนตรีสาธัารณะอันเป็นทีนิยมไป ทั�วโลกรวมถึงในประเทศไทยเองทีม การจัดดนตรีในสวนย�อนไปได�นับร�อย
ไม่ได�เลยว่า ชื้่วงเวลาในการแสดงนี ทำให�เกิดชื้่วงเวลาทีพิเศษบนอาณา บริเวณซึ่�งได�ชื้ื�อว่าเป็นพระราชื้อุทยาน ทีผู้่านกาลเวลาร�อนหนาว ผู้่านเรื�อง ราวที�โชื้กโชื้น การบรรเลงดนตรีใน สวนบนพื�นที�แห่งนี จึงมีความพิเศษ เป็นอย่างมาก นับตั�งแตมีการเปิดพระราชื้ อุทยานสราญรมย์แกบุคคลทั�วไป สามารถเข�ามาใชื้�พักผู้่อนหย่อนใจ ได� ดังเอกสารราชื้กิจจานุเบกษาที ผู้�เขียนได�กล่าวถึงแตต�น มาจนถึง ยุคปัจจบัน กระโจมแตรแห่งนียังคง ตั�งตระหง่านอยู่บนพื�นที�เดิม แม�จะ เริ�มผู้พังไปตามกาลเวลา แตก็ไม่ได� ลดเสนห์มนต์ขลังจากอดีตแต่อย่าง ใด หวังเป็นอย่างยิ�งว่าในอนาคต กระโจมแตรแห่งนี (และแห่งอื�น ๆ ซึ่�งผู้่านชื้่วงเวลายาวนานไม่แพ�กัน) จะได�ถูกให�ความสำคัญมากขึ�นและ ถูกยกให�เป็นพื�นที�สำหรับนำเสนอ ศิลปการดนตรีการแสดงที�ไม่จำกัด ชื้นชื้ั�น เปิดกว�างสำหรับคนทุกเพศ วัย ดังที�เคยเป็นมาตั�งแต่ครั�งอดีตกาล เอื้กิสุารอื้้างอื้ิง พพัฒน พงศ์รพีพร. (๒๕๔๔). ภาพม่มกว้างของกรั่งเทัพพรัะมหุ่าน์ครั
37 เข�าร่วมรับชื้มและรับฟีังนำไปคิด ต่อว่า แท�จริงแล�วกระโจมแตรกคือ พื�นทีพื�นที�หนึ�งที�เปิดโอกาสให�ดนตร สำหรับทุกชื้นชื้ั�นวรรณะได�แสดงออก ท�ายทีสุดดนตรที�จะเข�ามาบรรเลงใน
เสียอีกที�จะเห็นความหลากหลาย ทางดนตรีไปจนถึงการแสดงบนพื�นที แห่งนี�ในอนาคต นอกเหนือจากเรื�องประเด็นของ กระโจมแตรแล�ว ยังมีเรื�องราวของ ประวติศาสตร์ความเป็นมาของดนตร สำหรับประชื้าชื้นที�ใชื้�ชื้ื�อคุ�นหูในปัจจบัน
ป ทางผู้จัดงานครั�งนี�ไมว่าจะเป็น สถาบันดนตรกัลยาณวัฒนา กองการ สังคีต สำนักวัฒนธัรรม กีฬา และ การท่องเที�ยว และสำนักสิ�งแวดล�อม กรุงเทพมหานคร ได�มีการนำเพลง ดนตรที�บรรเลงด�วย “แตร” หลาย บทเพลงมาบรรเลงสด ดึงศักยภาพ ของกระโจมแตรได�อย่างเต็มที ทั�ง บทเพลงแตรมาตรฐานอย่าง Sonata from die Bänkelsängerlieder (ไม่ปรากฏนามผู้�แต่ง) และ Brass Quintet No. 3 in D-Flat Major, Op. 7 โดย วิกเตอร อีวาล์ด (Victor Ewald) ล�วนเป็นบทเพลงยอดนิยม สำหรับวงแตร ๕ ชื้ิ�น บทเพลงไฮไลต์สำคัญ ทางผู้จัด ได�หยิบนำบทเพลงร่วมสมัย คือ In a large, open space ประพันธั์โดย เจมส เทนนย (James Tenney) นัก ประพันธัชื้าวอเมรกัน เป็นงานเพลง ทดลองที�ผู้�ประพันธั์ได�กำหนดให�ผู้ บรรเลงนั�นปรับเปลี�ยนพื�นที�ของการ บรรเลงวงดนตรีจากหอแสดงดนตร ไปสู่พื�นที�เปิดและมีอาณาบริเวณ กว�างขวาง นับว่าเป็นการส่งเสริม ต่อกิจกรรมนี�เป็นอย่างมากซึ่�งได�ใชื้� กระโจมแตรเป็นศูนย์กลางของพื�นที สำหรับบทเพลงนี นับเป็นบทเพลง ที�หากฟีังได�ไมบ่อยนักในการบรรเลง ดนตรีสาธัารณะ บทเพลงดังกล่าวจึง ถือเป็นดาราสำคัญที�ได�บรรเลงและ ปิดกิจกรรมนี�ลงอย่างน่าประทับใจ สุรุป หากพนิจมองดกิจกรรม In a large, open space นี�แล�ว จะเห็น ได�ว่า ปรากฏการณ์หนึ�งที�สำคัญคือ การที�ผู้จัดได�ใชื้�งานกระโจมแตรอย่าง ตรงจุดประสงคอีกครั�งในรอบหลายป นั�นคือการใชื้�เป็นพื�นที�บรรเลงดนตร อย่างเป็นกิจจะลักษณะ ทำให�ภาพ ที�เคยเกิดขึ�นในอดีตย�อนไปนับร�อยป ปรากฏในหลักฐานบันทึกมากมาย กลับมามชื้วิตชื้ีวาอีกครั�ง แม�เราจะไม สามารถกล่าวได�เต็มปากว่า ภาพที เกิดขึ�นในกิจกรรมนีคือภาพเดียวกัน
ใน์สมัยรััชกาลทัี่ ๔: การัคน์พบใหุ่ม�. กรุงเทพฯ เมืองโบราณ. รัฐบาลไทย. (๒๔๓๔). การัรัับฮิสอิมปีเรัียลไฮเน์ส แกรัน์ดด่กซึ่ารัวิตส์กรั่งรั่สเซึ่ีย. รัาชกิจจาน์่เบกษา, หน�า ๔๗๗. รัฐบาลไทย. (๒๔๓๖). แจ้งความ เปิดพรัะรัาชอ่ทัยาน์สรัาญรัมย์. รัาชกิจจาน์่เบกษา เล�มทัี่ ๑๐ แผ�น์ทัี่ ๒๐ วน์ทัี่ ๑๓ สิงหุ่าคม, หน�า ๒๓๗.
กับที�เคยเกิดขึ�นในอดีต แตก็ปฏิเสธั
กลวธั
จิตวิทยาในการนำเอาวชื้าดนตรีไป
ใชื้�ในโรงเรียน รวมทั�งแนวคิดและ
38 MUSIC EDUCATION เรื่่�อง: ธัันย์าภัรื่ณ โพธัิกาวิิน (Dhanyaporn Phothikawin) ผู้้้ช�วิย์ศิาสตรื่าจารื่ย์์ ปรื่ะจาสาขาวิิชาดุนตรื่ศิึกษา วิิทย์าลย์ดุ่รื่ย์างคศิิลป มหุ่าวิิทย์าลย์มหุ่ดุล การสอนดนตรีในระบบโรงเรียน เป็นรายวชื้าของนักศึกษาระดับ ปริญญาตรีในชื้ั�นปที ๒ สาขาวชื้า ดนตรศึกษา เพื�อเป็นรากฐานในการ สร�างความเข�าใจเกี�ยวกับการสอน ดนตรทีมีหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั�นพื�นฐาน มาตรฐานและตัวชื้ีวัด ต่าง ๆ เพื�อนำไปสู่การออกแบบการ เรียนการสอนให�มีความเหมาะสม ใน รายวชื้านีมุ่งเน�นให�นักศึกษามีความ รู�ความเข�าใจเกี�ยวกับรูปแบบ
การพัฒนาความสามารถทางดนตร กระบวนการของความคิดสร�างสรรค การร�องเพลง การเล่นเครื�องดนตร กิจกรรมประกอบจังหวะ ทักษะใน การเล่นเครื�องดนตรที�เหมาะสมกับ วัย สื�อทางดนตร กิจกรรมเพื�อนำ ไปสู่การจัดการเรียนการสอนดนตร การื่ศิึกษาดุ้งานของนักศิึกษา สาขาวิชาดุนตำรื่ศิึกษารื่าย์วิชาการื่สอน ดุนตำรื่ีในรื่ะบบโรื่งเรื่ย์น ในระดับชื้ั�นต่าง
การเขาศึกษาดูงานโรงเรียนสายน�าผู้ง ในพระอุปถัมภ์ฯ การเขาศึกษาดูงานโรงเรียนอัสสัมชื้ัญธันบุรี
ๆ การเรียนการสอนในชื้ั�นเรียนจึง ให�นักศึกษาได�เรียนรู�จากรากฐานทาง
รู�ทางดนตรด�วยกิจกรรมบูรณาการที มีความหลากหลาย เพื�อให�เหมาะ สมกับวัยและพัฒนาการของผู้�เรียน ในแต่ละระดับ
การเข�าศึกษาดูงานโรงเรียนเพลินพัฒนา
เรียนการสอนอย่างแท�จริง จึงได�
นำนักศึกษาในสาขาวชื้าไปศึกษาด
งานโรงเรียนทีมีการเรียนการสอน
ในรายวชื้าดนตรีไทยและดนตรีสากล ทั�งจากโรงเรียนเอกชื้น โรงเรียน รัฐบาล และโรงเรียนทางเลือก
ประสบการณ์ในการสอนได�ในอนาคต
จากโรงเรียนอัสสัมชื้ัญธันบร ในด�าน
การเรียนการสอนดนตร ผู้�บริหารและ บุคลากรผู้รับผู้ิดชื้อบในด�านการเรียน
การสอนดนตร ได�อธัิบายถึงเป้าหมาย
วัตถุประสงค์ของการศึกษาดนตร
ของโรงเรียน ซึ่�งทางโรงเ
เปิดโลกทัศน์ให�นักศึกษาได�รับความ รู�และประสบการณ์จากสถานที�จริง
เข�าใจเ
กับการสอนดนตรทีม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั�น พื�นฐาน มาตรฐานและตัวชื้ีวัดต่าง ๆ เพื�อนำไปสู่การออกแบบการเรียนการ สอนให�มีความเหมาะสม นอกจากนี เพื�อให�นักศึกษาในสาขาวชื้าได�เรียนรู การออกแบบกิจกรรมทางดนตร วธั การสอน และสื�อการสอนที�นำมาใชื้�
เพื�อเชื้ื�อมโยงกับทักษะทางดนตร ทั�งการฟีัง การร�อง การเล่น การ เคลื�อนไหว ความคิดสร�างสรรค และ การอ่าน เพื�อสร�างความรู�ความเข�าใจ และนำไปสู่การพัฒนาทักษะในด�าน การเรียนการสอนในรูปแบบต่าง ๆ เพื�อนำไปสู่การประยุกต์ใชื้�ในการฝัึก ประสบการณวชื้าชื้ีพต่อไปในอนาคต
39 ปรชื้ญาการศึกษา แนวคิดทฤษฎีการ เรียนรู และแนวคิดทฤษฎีเกี�ยวกับ การเรียนการสอน เพื�อนำไปสู่การ ปฏบต การประยุกต์ใชื้�ในสถานการณ จริง และเพื�อให�นักศึกษาได�เกิดการ
เรียนรู�และเข�าใจในบริบทของการ
เพื�อ ให�นักศึกษาสามารถนำการเรียนการ สอนที�ได�รับไปสู่การนำไปใชื้�ในการฝัึก
จากการเข�ารับการศึกษาดูงาน
รียนให� ความสำคัญ จึงได�มีการดำเนินการ จัดตั�งศูนย์ดนตร พัฒนาหลักสูตร ให�ได�รับการรับรองมาตรฐาน และ มีความยืดหยุ่นตามความต�องการ เพื�อสนับสนุนด�านการเรียนดนตร ให�เกิดประโยชื้นกับนักเรียนอย่าง สูงสุด นอกจากนี�ทางโรงเรียนยัง ให�การสนับสนุนบุคลากรทางดนตร ทีมีความเชื้ี�ยวชื้าญในทุกเครื�องมือ ร่วมกับสถาบันชื้ั�นนำทางการศึกษา ดนตร และสนับสนุนกิจกรรมทาง ดนตรีเพื�อส่งเสริมศักยภาพทางดนตร ของนักเรียนอย่างต่อเนื�อง ในส่วนของโรงเรียนสายน�ำผู้ึ�ง ใน พระอุปถัมภ์ฯ ในด�านการเรียนการ สอนดนตร การศึกษาดูงานในครั�งนี ได�เข�าศึกษาดูงานในรายวชื้าดนตรีไทย และดนตรีสากล โดยได�รับคำแนะนำ จากคุณครนัฏฐา ตรีสรานวัฒนา ในด�านการจัดทำหลักสูตรของสถาน ศึกษา แผู้นการสอน และถ่ายทอด ประสบการณ์การสอนดนตรีในระดับ ชื้ั�นมธัยมศึกษาในระดับต่าง ๆ และโรงเรียนเพลินพัฒนา ซึ่�งม การศึกษาในรูปแบบการศึกษาทาง เลือก โดยเป็นชืุ้มชื้นแห่งการเรียนรู ผู้่านกระบวนการทางวัฒนธัรรม ใน ครั�งนีนักศึกษาได�เข�าศึกษาดูงานด�าน การเรียนการสอนดนตรีในระดับชื้ั�น ประถมศึกษาตอนต�น ทีมีการบูรณาการ ทั�งภาษา ดนตร และกีฬา มรูปแบบ วธัีการสอนที�เชื้ื�อมโยงดนตรีสากล และดนตรีไทยเข�าด�วยกัน ทำให�เกิด การเรียนรู�ทางดนตรที�จะสามารถ
ด นอกจากนียังเสริมสร�างการเรียน
จากการ ศึกษา ดูงาน ทั�ง ๓ โรงเรียน ในรายวชื้าการสอนดนตร ในระบบโรงเรียน ของนักศึกษาระดับ ปริญญาตร ชื้ั�นปที ๒ สาขาวชื้า ดนตรศึกษา ในครั�งนี จึงเป็นการ เสริมสร�างความรู�ความเข�าใจในการ
กิจกรรมดนตร ในระดับชื้ั�นต่าง
พัฒนาทักษะของผู้�เรียนได�เป็นอย่าง
เพื�อเป็นเครื�องมือใน การพัฒนาผู้�เรียนและสร�างชืุ้มชื้น แห่งการเรียนรู�ให�เกิดขึ�น
จัดทำแผู้นการสอนและการจัดการ เรียนการสอนดนตร
ๆ รวมทั�งเป็นการ
เพื�อเป็นรากฐานในการสร�างความ
กี�ยว