Music Journal February 2023

Page 1

PENINSULA MOMENTS

At The Peninsula Bangkok, world-class hospitality enriched with compelling Thai cultural experiences creates perfect memorable moments.

EDITOR'S TALK

โดยในตอน นี�นำเสนอผู้ลงานที�เป็นทีนิยมอีก ๕ บทเพลง

พร�อมทั�งเกร็ดความรู�เบื�องหลังของเพลง

แต่ละเพลง Music Re-Discovery จะพาผู้อ่านไป

รูจักกับ นาย ต. ธัันวารชร หรือรูจักกันในนาม

นาย ต. เง็กชวน ผู้่านหนังสืออนุสรณ์ในงาน

พระราชทานเพลิงศพ นาย ต. ธัันวารชร บ.ม.

ซึ่�งนาย ต. เง็กชวน ถือเป็นผู้มคณูปการอย่าง

และแนวคิดของผู้�เขียนแต่ละท่านไว� ข�อเขียน และบทความทีตพิมพ ถือเป็นทัศนะส่วนตัว ของผู้�เขียน กองบรรณาธัิการไม่จำเป็นต�อง เห็นด�วย และไม่ขอรับผู้ิดชอบบทความนั�น

Volume 28 No. 6 February 2023 เจ้าของ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล บรรณาธิิการบริหาร ดวงฤทัย โพคะรัตน์ศิริ หัวหน้ากองบรรณาธิิการ ธััญญวรรณ รัตนภพ ที่ปรึกษากองบรรณาธิิการ Kyle Fyr ฝ่่ายภาพ คนึงนิจ ทองใบอ่อน ฝ่่ายศิลป์ จรูญ กะการดี นรเศรษฐ์ รังหอม พิสูจน์อักษรและรูปเล่ม ธััญญวรรณ รัตนภพ เว็บมาสเตอร์ ภรณ์ทิพย์ สายพานทอง สานักงาน วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล (วารสารเพลงดนตรี) ๒๕/๒๕ ถนนพุทธัมณฑลสาย ๔ ตาบลศาลายา อาเภอพุทธัมณฑล จังหวัดนครปฐม ๗๓๑๗๐ โทรศัพท์ ๐ ๒๘๐๐ ๒๕๒๕-๓๔ ต่อ ๓๒๐๕ โทรสาร ๐ ๒๘๐๐ ๒๕๓๐ musicmujournal@gmail.com สวัสดีผู้อ่านเพลงดนตรทุกท่าน สำหรับ เดือนกุมภาพันธั ขอนำเสนอบทความด�าน ดนตรีในหลากหลายแงมุม ทั�งด�านดนตร คลาสสิก ดนตรีชาตพันธัุ์ และดนตรร่วมสมัย Music Entertainment นำเสนอบทความ “ศิษย์พระเจนดริยางค ผู้�สรรค์สร�างเพลงไทย สากลระดับต�านาน” ตอนที ๓ ซึ่�งเป็นตอนต่อเนื�อง ของผู้ลงานจากครูสง่า อารัมภีร
สูงในการขับเคลื�อนศิลปวัฒนธัรรมการดนตร ในประเทศไทยผู้่านธัุรกิจแผู้่นเสียง Ethnomusicology นำเสนอชีวประวติของ ครูนพดล แจบ�านเกาะ ผู้รื�อฟื้้�นวงเครื�องสาย มอญและทะแยมอญในตำบลบ�านเกาะ จังหวัด สมุทรสาคร และก่อตั�งวงดนตรีมอญ “วงฝััก กระต๊าด ทะแยมอญบ�านเกาะ” Music Education ให�ข�อมูลที�เป็น ประโยชน์เกี�ยวกับการจัดสรรเวลาการทำงาน ให�เกิดประสิทธัิภาพ ผู้่านการวางแผู้นการ ทำงานทีด ซึ่�งผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช�ให� สอดคล�องกับชวิตประจำวัน ทั�งในด�านการ เรียนและการทำงานได� Interview ในเดือนนี�จะพาผู้อ่านมารูจัก กับ โฟื้ม - อรจิรา อุดมจรรยา ศิษย์เก่าสาขา วิชาดนตรีไทยและดนตรีตะวันออก เครื�องมือ เอกจะเข� และเป็น TikToker สายดนตรีไทย อีกด�วย ซึ่�งคลิปวดีโอการแสดงจะเข� มีผู้�เข�า ชมหลักล�านวิวเลยทีเดียว ดวงฤทััย โพคะรััตน์์ศิิรั กองบรรณาธัิการขอสงวนสิทธัิ�ในการพิจารณา คัดเลือกบทความลงตพิมพ์โดยไมต�องแจ�งให� ทราบล่วงหน�า สำห
ปรับปรุงเพื�อความเหมาะสม
รับข�อเขียนที�ได�รับการ พิจารณา กองบรรณาธัิการขอสงวนสิทธัิที�จะ
โดยรักษาหลักการ
Contents สารบัญ Music Entertainment 06 เรองเล่าเบาสมองสนองปัญญา “ศิษย์พระเจนดุุริยางค์์ ผู้สรรค์์สร้างเพลงไทยสากล ระดุับตานาน” ตอนที่ ๓ “สง่า อารัมภีร” (๒) กิิตต ศิรัีเปารัยะ (Kitti Sripaurya) Music Re-Discovery 18 มนุษย์/ดุนตรี/หนังส่อ ตอนที่ ๗ อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นาย ต. ธิันวารชร จิิตรั กิาว (Jit Gavee) Ethnomusicology 24 นพดุล แจบ้านเกาะ ผูู้้ร่�อฟื้้�น และก่อตั�ง “วงฝ่ักกระต๊าดุ ทะแยมอญบ้านเกาะ” ธััน์ยาภรัณ์์ โพธักิาวน์ (Dhanyaporn Phothikawin) Music Education 32 การวางแผู้นการทางานที่ดุ ค์วรเริ่มต้นที่ตรงไหน? วิภาวรัรัณ์ จิำเน์ียรัพน์ธั (Wipawan Jumneanpan) Interview 36 TikTok สายดุนตรีไทย “FOAM โฟื้ม ค์นจะเข้” อรัรัถวทัย สิิทัธัิรัักิษ์์ (Attawit Sittirak)
06 MUSIC ENTERTAINMENT เรื่อง: กิตติ ศรีเปารยะ (Kitti Sripaurya) อาจารย์ประจาสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สนองปััญญา “ศิิษย์์พรื่ะเจนดุุรื่ย์างค์์
สากล่รื่ะดุับตำำานาน”
เรื่่�องเล่่าเบาสมอง
ผู้้�สรื่รื่ค์์สรื่�างเพล่งไทย์

(เกียรติพงศ กาญจนภี) ท่านนี�คลุกคลีอยู่ในวงการละครของไทยมาก่อน เคยทำหน�าที�บอกบทละครเวท (คน บอกบทอยู่ข�างหลืบคอยส่งเสียงพอให�นักแสดงหน�าเวทีได�ยินแล�วพูดไปตามบทนั�น

07 โดยปกต ครูสง่า อารัมภีร สร�างงานเพลงทั�งเขียนทำนองและคำร�อง (music & lyrics) ด�วยตัวท่านเอง แต ในบางโอกาสมีครูเพลงที�เชี�ยวชาญทางด�านเนื�อร�อง (lyricist) มาร่วมงานด�วย เช่น “สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์”
ๆ) ปกติทำงานประจำตาม
ครสุนทรียา ณ เวียงกาญจน ได�ประพันธั คำร�องเพลง “นางแก�วดวงใจ” ให�กับทำนองของครูสง่า อารัมภีร นางแก้วในดวงใจ (https://www.youtube.com/watch?v=EPowsdcntLo) ข�อมูลจากหนังสือ “ตำนานครูเพลง เพลงไทยสากล ลูกกรุง” เขียนโดย “คีตา พญาไท” บันทึกไว�ว่า “... เพลงน์ีสิรั้างชื่่�อเสิียงให้้กิับบ์ญชื่่วย ห้ิรััญสิ์น์ทัรั น์กิรั้องเพลงสิลับห้น์้าม่่าน์
บน์ทักิเสิียงครัั�งแรักิเม่่�อ พ.ศิ. ๒๔๙๗ ความ่เปน์ม่าของเพลงน์ี ครัสิ์น์ทัรัียา ณ์ เวียงกิาญจิน์์ ตั�งใจิใชื่ ‘คำซ้ำ’ ตำอนท ๓ “สง่า อารื่ัมภี่รื่”(๒) นางแกวพเอย พสดเอยเฉลยคาพรา นอนยงฝนวนยงคา ดวงใจเพอพราราพรรณนา นางแกวคใจ เจาจากไปพครวญหา ใจโศกซงถงแกวตา ราพงถงหนาโฉมสมร เจาหางพไป หวงอาลยใจอาวรณ พฝนถงงามงอน รกรมรอนเราฤด เจาจากพไป คงหวงใยฝนถงพ แมนเจาฝนจงฝนด จงฝนถงพนางแกวเอย
ความรู�ความสามารถในด�านเศรษฐศาสตรทีร�ำเรียนมาจากต่างประเทศ
ปรัะจิำคณ์ะละครัศิิวารัม่ณ์์ใน์ย์คน์ัน์
08 เพ่�อสิรั้างอารัม่ณ์์และสิ่�อความ่ห้ม่ายได้เปน์อย่างยอดเยี�ยม่ เชื่น์ ‘น์างแกิ้วพี�เอย’ ‘น์างแกิ้ว คู่ใจิ’ ‘คำ พรั�ำ’ ‘เพ้อ พรั�ำ’ ‘เจิ้า จิากิ ไป’ ‘เจิ้า ห้่างพี ไป’ ‘เจิ้า จิากิ พี ไป’ ‘ใจิ โศิกิซ้ึ�ง’ ‘ใจิ อาวรัณ์์’ ‘น์อน์ยัง ฝััน์’ ‘พี ฝััน์ ถึงงาม่งอน์’ ‘คงห้่วงใย ฝััน์ ถึง พี�’ ‘แม่น์เจิ้า ฝััน์’ ‘จิง ฝััน์ ถึง พี�’ ซ้ึ�งเปน์เสิน์ห้์และความ่ไพเรัาะใน์เชื่ิง วรัรัณ์ศิิลป์ของบทัเพลงของครัูเพลงรั์่น์เกิ่าทัีน์่าเอาเยี�ยงอย่าง โดยเฉพาะวรัรัคสิ์ดทั้ายของทั่อน์แยกิทัีว่า ‘รัักิรั์ม่ รั้อน์เรั้าฤดี’ น์ีสิ์ดยอดเลยจิรัิง ๆ...”

ไฟื้ล์เสียงต�นฉบับบันทึกอยู่บน D major + pentatonic scale ลักษณะท่วงทำนองเป็นแบบ AABA (ท่อน A ทั�งสามเป็น pentatonic ท่อน B เป็น D major) สังเกตว่ามีการเอื�อนคำอยู่หลายที น่าจะเป็นด�วยผู้�ประพันธั

ต�องการสำเนียงเพลงไทยเดิมให�สอดคล�องกับบทละครแนวไทยยุคเก่า

ห้ลังจิากิทัีพ่อได้แต่งเพลงน์�ำตาแสิงใต้เพลงเอกิใน์ละครัเวทัีเรั่�องพน์ทั้ายน์รัสิิงห้

ด้วยกิน์ ต่อม่าเม่่�อคณ์ะละครัศิิวารัม่ณ์์ไดย้ายวกิจิากิศิาลาเฉลม่กิรั์งไปจิัดกิารัแสิดงทัี�โรังละครักิรัม่ศิิลปากิรั แต แสิดงอยู่ได้ไม่่น์าน์จิึงม่าปกิห้ลกิอยู่ทัีศิาลาเฉลม่น์ครั โดยเรัิม่กิารัแสิดงด้วยเรั่�องดำรังปรัะเทัศิ

ซ้ึ�งละครัเรั่�องน์ี�ได้รัับกิารัต้อน์รัับจิากิแฟน์ละครัเวทัีเปน์อย่างด

๕ โม่งเชื่้า ขณ์ะ ทัีพ่อกิำลังดีดเปียโน์แต่งทัำน์องเพลงเพ่�อจิะให้้น์กิรั้องของวงดน์ตรัีศิิวารัม่ณ์์ขับรั้องสิลับฉากิตอน์น์ัน์ สิ์น์ทัรัียา

น์กิแต่งเน์่�อเพลงม่าเห้น์และไดยน์ทัำน์องเพลงจิากิเปียโน์กิห้น์ไปห้ยิบเกิ้าอีม่าน์ั�งใกิล ๆ เม่่�อ พ่อเรัิม่ดีดทัำน์องเพลงขึน์ให้ม่่อกิครัั�ง เขากิ็เรัิม่เขียน์คำรั้องตาม่ขึน์ม่าทั่อน์ห้น์ึ�ง ต่อจิากิน์ัน์พ่อกิดีดเปียโน์ไปม่า

อย่างไรักิ็ตาม่ แม่ทัั�งคู่จิะต้องจิากิกิน์ แตบ์รั์ษ์ได้ภาวน์าให้้เธัอผู้เปน์ทัี�รัักิไดน์อน์ห้ลับฝััน์ด และจิงฝััน์ถึงเขาด้วย ห้ลังจิากิน์ัน์พ่อจิึงต่อเพลงให้ม่่น์ี�ให้้แกิน์กิรั้องปรัะจิำวงของศิิวารัม่ณ์์

และบน์ทักิแผู้น์เสิียง โดยน์ำไปรั้องบน์เวทัสิลับห้น์้าม่่าน์

พ่อบอกิว่าเพลงน์ี�ได้รัับความ่น์ิยม่อย่างม่ากิใน์ครัาวทัีห้ม่่อม่รัาชื่วงศิ์ถน์ัดศิรั สิวสิดวัตน์์

และบน์ทักิแผู้น์เสิียงโดยใชื่้วงดน์ตรักิรัะชื่ับม่ิตรั

ต่อม่าปรัะม่าณ์ป พ.ศิ. ๒๕๓๕ น์กิรั้องยอดน์ิยม่ ทัน์งศิกิดิ ภกิดีเทัวา กิ็ไดน์ำม่าขับรั้องบน์ทักิแผู้น์

ซ้ึ�งยังได้รัับความ่น์ิยม่จิากิแฟน์เพลงเปน์อย่างดีเชื่น์กิน์...”

09
หนังสือเบื�องหลังเพลงรักของครูสง่า อารัมภีร เขียนโดย บูรพา อารัมภีร ยังบันทึกไว�ว่า “...
ทัีม่สิ์รัสิิทัธัิ สิัตย์วงศิ แสิดงน์ำ คู่กิับสิ์พรัรัณ์ บรัณ์พม่พ จิน์สิำเรัจิม่ีชื่่�อเสิียงเปน์ทัีรัู้จิกิของปรัะชื่าชื่น์แล้ว
จิากิบทัปรัะพน์ธั
คณ์ะละครัศิิวารัม่ณ์์ยังคงตั�งม่ัน์อยู่ทัีศิาลาเฉลม่น์ครัต่อไปด้วยละครัอกิห้ลายเรั่�อง และทัีบ่อของน์กิดน์ตรั ทัีห้น์้าเวทัีของโรังละครัแห้่งน์ีน์ัน์เอง ม่ีเปียโน์ให้ญตั�งอยู่ห้น์ึ�งห้ลัง ซ้ึ�งพ่อจิะต้องม่าน์ั�งบรัรัเลงเพลงอยู่ทัีน์ี�เปน์ ปรัะจิำทั์กิวน์เพ่�อซ้้อม่ละครัรัวม่ไปถึงกิารัแต่งเพลงด้วย ม่ีอยู่เพลงห้น์ึ�งทัีพ่อได้แต่งรั่วม่กิับน์กิบอกิบทัละครั และทั่าน์กิ็เปน์น์กิแต่งเน์่�อรั้องเพลงของคณ์ะศิิวารัม่ณ์์ด้วย พ่อเล่าว่า... วน์น์ัน์เวลาปรัะม่าณ์
(ณ์ เวียงกิาญจิน์์)
เปน์ทั่วงทัำน์องไพเรัาะตลอดทัั�งเพลง เขากิ็เขียน์คำรั้องตาม่ทัำน์องทัี�ไดยน์ตลอดทัั�งเพลงเชื่น์เดียวกิน์
ซ้ึ�งเปน์เพลงทัางห้วาน์ปน์เศิรั้า ลกิษ์ณ์ะ ออกิแบบไทัย ๆ โดยเน์่�อรั้องของเพลงกิล่าวถึงความ่รัักิ ความ่ใฝั่ฝััน์ของน์างแกิ้วน์างใน์ดวงใจิผู้เปน์ทัี�รัักิของบ์รั์ษ์ ห้น์ึ�งทัีต้องห้่างเกิิน์ไป
บ์ญชื่่วย ห้ิรััญสิ์น์ทัรั เปน์ผูู้้ขับรั้อง
เวลาเปลี�ยน์ฉากิละครัทัี�โรังละครัศิาลาเฉลม่น์ครัแห้่งน์ี เปน์ครัั�งแรักิ
นอกจากนี
พ่อได้แต่งเพลงขึน์ให้ม่่อกิห้ลายเพลง
ของเวทัางค
ศิิลปน์ทัั�ง สิองน์ั�งแต่งเพลงด้วยกิน์ใชื่้เวลาปรัะม่าณ์ครัึ�งชื่ั�วโม่งกิ็แต่งเพลงน์ีสิำเรัจิ
ค่อ
น์ำม่าขับรั้อง
เปน์อย่างด
เสิียงอกิครัั�งห้น์ึ�ง
บุญช่วย หรัญสุนทร สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์
ด้วยเปน์เพลงทัำน์องไทัยแทัทัี�เข้ากิับเสิียงของค์ณ์ชื่ายถน์ัดศิรัีได
10 ระฆัังทอง
ผู้ลงานอีกเพลงหนึ�งของครูแจ๋วที�เราจะได�ยินกันในแทบทุกงานมงคลสมรส คือ เพลง “ระฆัังทอง” โดยม ชลอ ไตรตรองศร (อดีตนักร�องประจำวงดนตรดริยะโยธัิน) เป็นผู้�ประพันธั์คำร�อง ต�นฉบับบันทึกเสียงโดย พูนศร เจริญพงษ ร่วมกับ ชาญ เย็นแข เมื�อป พ.ศ. ๒๔๙๖ ต่อมามีการนำมาบันทึกเสียงโดยนักร�องชั�นนำอีกหลาย ท่าน อาท เพ็ญศร พุ่มชูศร สวล ผู้กาพันธัุ์ สุเทพ วงศ์กำแหง เป็นต�น กลอมเอยหวใจ ลอยลองไปยงทพยวมาน ครองเรอนหอสาราญ ทพยสถานพมานทอง กลอมเอยเสยงระฆง แววหวานดงเพลงทพยหวานกอง นอนเถดหนอนวลนอง ระฆงทองกลอมใหภรมย วญญาณลองลอยสมส ชนชแนบเนอชดชม เยนละลวแรงลม สวาทประพรมเคลาเสยงระฆง กลอมเอยคววาห รอยดวยมาลาผกหอเวยงวง พรทวทศไหลหลง มนตนาสงขสรางวงสวาทเอย
(https://www.youtube.com/watch?v=7dhc9n2812E)

เพลงน์ีดังสิ์ดยอดและตกิเปน์ข่าวใน์ห้น์้า ห้น์ังสิ่อพม่พ์อยู่ห้ลายวน์ กิลายเปน์ตำน์าน์รัักิทัี�เล่าขาน์กิน์ไม่่รัู้จิบ

น์่าสิน์ใจิว่า ความ่รัักิและความ่ลับห้ลายอย่าง แม่จิดห้ม่ายลับเฉพาะอน์ห้ม่ายถึงความ่เปน์และความ่ตายของชื่วิต ผู้ม่

11 ฟื้อร์มเพลงเป็นแบบ AABA เพลง ๔ ท่อนยอดนิยม ทำนองทั�งหมดบันทึกอยู่บน Eb major pentatonic ลีลาจังหวะเป็นแบบ slow waltz มผู้ลงานเพลงหนึ�งที “สง่า อารัมภีร” เข�าไปเกี�ยวข�องและมอิทธัิพลต่อชวิตรักของชรินทร นันทนาคร (งามเมืองนามสกุลเดิม) นักร�องชื�อดังในยุคต่อมาถือได�ว่าเป็นเพลงทีมอิทธัิพลต่อบรรดาผู้�ชายธัรรมดา ๆ หลายร�อยคนทั�ว ประเทศพากันหัดร�องเพื�อไปร�องสารภาพความในใจกับดอกฟื้้าที�ตนหมายปอง เพลงนั�นคือ “ทาสเทวี” ขับร�อง บันทึกเสียงต�นฉบับโดย ชรินทร นันทนาคร ในป พ.ศ. ๒๔๙๙ ทาสเทวี (https://www.youtube.com/watch?v=16f0JC2RVsk) ข�อมูลจากหนังสือ “ตำนานครูเพลง เพลงไทยสากล ลูกกรุง” เขียนโดย “คีตา พญาไท” บันทึกไว�ว่า “... ด้วยเน์่�อรั้องทัีม่ีความ่ห้ม่ายกิิน์ใจิอย่าง ‘บ์ญฉน์ม่ีแต่คงไม่่ถึง ฟ้าจิึงไม่่เวทัน์า’ ‘เธัอเปน์ดอกิฟ้า รัู้ไห้ม่ว่าเรัา เปน์ดังทัาสิเทัวี’ ‘รัอ ฉน์รัอด้วยใจิวิงวอน์ ขอบังอรั เม่ตตารัักิฝัากิใจิ’ ‘ฉน์คงพองเรั่�อยไป ด้วยธั์ลีเม่ตตาของ เธัอ’... สิาวใดไดฟังกิ็คงใจิอ่อน์ด้วยความ่เวทัน์า เม่ตตาสิงสิารัอย่างแน์น์อน์ ยิ�งชื่รัน์ทัรั น์น์ทัน์าครั ขับรั้องเพลงน์ี อย่างใสิ่อารัม่ณ์์และวิญญาณ์เข้าด้วยแล้ว
ใน์เรั่�องน์ี ชื่รัน์ทัรั น์น์ทัน์าครั ได้เล่าเอาไว้อย่าง
และทั่าน์กิ็ไม่่เคยบอกิใครั
ล์งแจิ๋วทัรัาบเรั่�องรัาวชื่วิตผู้ม่ห้รั่อไม่่ กิ่อน์ทัีทั่าน์จิะแต่งเพลงทัาสิเทัว กิ็ขอเรัียน์ตาม่ความ่เปน์จิรัิงว่า ผู้ม่ไม่่ทัรัาบ แตพีสิ์วัฒน์์ วรัดิลกิ เขียน์ถึงสิง่า อารััม่ภรั ใน์ม่ตชื่น์เกิี�ยวกิับเพลงทัาสิเทัวว่า... ‘เปน์เสิม่่อน์ตาข่ายครัอบคล์ม่สิังคม่ให้้อบอวลไปด้วยกิลิน์อาย ของความ่รัักิรัะห้ว่างทัาสิและเทัวี...’ คงเปน์คำตอบทัีดทัีสิ์ด...” บญฉนมแตคงไมถง
คอยเฝาแตคอยทกครา ดวงจนทราไมลอยเลอนมาใกลเรา คงแหงนคอยแตคอยหาย เสยดายดวงจนทรไมบรรเทา ลอยลบไมเหลอแมเงา รหรอเปลาวาเรานชาชอกฤด เธอเปนดอกฟา รไหมวาเราเปนดงทาสเทว แมไมปราน ทาสนคงระทมอยเรอยไป รอฉนรอดวยใจวงวอน ขอบงอรเมตตารบฝากใจ เพยงยมสกนดฤทยฉนคงพองเรอยไป ดวยธลเมตตาของเธอ ชลอ ไตรตรองศร พูนศรี เจริญพงษ์ ชาญ เย็นแข
ต้องบอกิว่าใน์ย์คน์ัน์สิม่ัยน์ัน์
ผู้ม่กิ็ให้้ล์งแจิ๋วเกิ็บไว
ม่ห้ลายคน์ถาม่ผู้ม่ว่า
ฟาจงไมเวทนา
12 ชรินทร นันทนาคร

(https://www.youtube.com/watch?v=Y94Y8hHIAzQ)

นวลอนงคอาองคโสภา ทยมนนหนาฉนอยากรวานามใด

วงศิกิำแห้ง รั้องเพลงให้้ชื่าวไทัยไดฟังกิน์ห้รั่อไม่่ เพรัาะทั่าน์ ทัั�งสิองน์ัน์เปน์ผูู้้กิรั์ยทัางห้รั่อเปิดทัางให้้ผู้ม่ได้ใชื่้ความ่สิาม่ารัถใน์กิารัขับรั้องเพลงของทั่าน์ ทั่าน์ละเพลงสิองเพลง ณ์ ห้้องอัดเสิียงของโรังละครัศิาลาเฉลม่กิรั์ง เม่่�อป พ.ศิ. ๒๔๙๕ แน์น์อน์ทัีว่าถ้าทั่าน์ไม่่ให้้โอกิาสิแกิผู้ม่ใน์ครัั�ง

ตอบแทัน์บ์ญค์ณ์อย่างไรั กิ็ไม่่อาจิทัดแทัน์ไดห้ม่ด”

13 ไฟื้ล์เสียงเพลง “ทาสเทวี” ต�นฉบับบันทึกอยู่บนบันไดเสียง Eb major pentatonic ฟื้อร์มเพลงเป็นแบบ ๔ ท่อนยอดนิยม AABA ลีลาเพลงเป็นจังหวะโบเลโร ต่อมาเพลงนีมีการบันทึกเสียงและนำไปใช�งานบ่อยครั�งมาก นักร�อง “ดัง” อีกท่านในยุคนั�นคือ สุเทพ วงศ์กำแหง ครูสง่า อารัมภีร แต่งเพลงให�หลายเพลง เช่น เพลง “สุดทีรัก” เพลง “พียังรักเธัอไม่คลาย” เพลง “ดาวประดับใจ” ฯลฯ บทเพลงเหล่านี�สร�างชื�อเสียงให�กับสุเทพ วงศ์กำแหง เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเพลง “พีรักเธัอคนเดียว” เป็นเพลงขวัญใจของชายหนุ่มในยุคนั�นเช่นเดียวกัน กับเพลง “ทาสเทวี” ของชรินทร นันทนาคร พี่รักเธอคนเดียว
ต�นฉบับขับร�องบันทึกเสียงโดย สุเทพ วงศ์กำแหง เมื�อป พ.ศ. ๒๔๙๘ สุเทพ วงศ์กำแหง นักร�องยอดนิยม ศิลปินแห่งชาต บอกไว�ในคอลัมน “พี�แจ๋ว” จากหนังสือคอนเสร์ต เชิดชูครูเพลง ครั�งที ๓ สง่า อารัมภีร ว่า... “ชื่วิตของผู้ม่ ห้ากิขาดพีห้ม่าน์ (สิม่าน์ กิาญจิน์ผู้ลน์) และพี�แจิ๋ว (สิง่า อารััม่ภรั) ศิิลปน์แห้่งชื่าตทัั�งสิองทั่าน์ เสิียแล้ว กิ็ไม่่ทัรัาบว่าป่าน์น์ีจิะม่น์กิรั้องทัี�ชื่่�อสิ์เทัพ
น์ัน์ สิ์เทัพ วงศิกิำแห้ง ย่อม่ไม่่เกิิด
สุเทพ
ค์ณ์ูปกิารัใน์ห้ัวใจิของทั่าน์ทัั�งสิองยิ�งให้ญ่เห้ล่อคณ์า
วงศ์กำแหง
กรณาอยาปดบงใจ เมตตาเผยวาจาใหพซาบซงในวจ จอมนงรามโปรดอยาหมางเมน ชวยชชวนเชญใหพหายเกอเขนท บญบนดาลหรอกหนาเทพ เจอะกนครงเดยวเทานเหมอนไมตรมนาน ชาตกอนนคงไดรวมบญ ทงการณยเกอกลตลอดกาล มาชาตนจงไดแผวพาน สมานไมตรแนบตรงซงหทย จอมดวงใจโปรดไดหนมา พรกดอกหนาใชวาเซาซกวนใจ จงฟงคาพสญญาไว ตราบดนฟามอดมลายพขอรกเธอคนเดยว
14 แนวทำนองทั�งเพลงบันทึกอยู่บน Eb major pentatonic scale สเกล ๕ เสียงประเภทนี�ครูแจ๋วนิยมใช� สร�างทำนองเพลงฮิิตหลายต่อหลายเพลง ฟื้อร์มเพลงเป็นแบบ AABA เพลง ๔ ท่อน ความยาวท่อนละ ๘ ห�อง ด�านนักร�องหญิงนั�น ครูสง่า อารัมภีร เขียนเพลงให�หลายคน เช่น เพ็ญศร พุ่มชูศร สวล ผู้กาพันธัุ์ และ รวงทอง ทองลั�นธัม ขับร�องและเป็นเพลงยอดนิยมที�ประชาชนให�การตอบรับที�เด่นและดังมากในแต่ละช่วง เช่น

(https://www.youtube.com/watch?v=6pvlyIRzCs4)

ทัี�ใชื่้ดารัาแสิดงน์ำทัั�งดารัาไทัยและดารัาจิน์จิากิต่างปรัะเทัศิ ทัั�งน์ี�เจิ้าของภาพยน์ตรัต้องกิารัให้้ม่ห้ลาย ๆ เพลง ใน์ภาพยน์ตรั์เรั่�องน์ี และอยากิให้้ม่ผู้ลงาน์ของน์กิแต่งเพลงห้ลาย ๆ คน์ด้วย ทัำให้้เพลงทัี�ใชื่้ปรัะกิอบภาพยน์ตรั ม่ห้ลายเพลง แต่เพลงทัี�ฮิิตน์ัน์ม่ีเพียงสิองเพลงเทั่าน์ัน์ เพลงแรักิค่อเพลงเพชื่รัตัดเพชื่รั

“ดวงใจิ” โดยให้้พ่อ เปน์ผู้ปรัะพน์ธั ซ้ึ�งใน์ภาพยน์ตรั์เรั่�องน์ีต้องแสิดงถึงความ่รัักิของคน์ทัีต่างชื่าตต่างภาษ์าและอยู่ห้่างกิน์คน์ละ

ตอน์สิาย ๆ ของวน์น์ัน์ห้ลังจิากิขับเจิ้าม่้าลายจิากิบ้าน์ทั์่งกิรัะสิอม่าจิอดไวทัีห้ลังห้้างกิม่ลฯ อย่าง

รัถวิ�งม่าถึงห้ัวลำโพงพ่อเห้น์ว่าห้น์์่ม่สิาวคู่น์ัน์เรัิม่ม่ีปากิเสิียงกิน์ เม่่�อฝั่ายชื่ายพูดกิับฝั่ายห้ญิงกิจิะถกิฝั่ายห้ญิง ห้ยกิแขน์ทั์กิครัั�งไป

พ่อกิ็แต่งเพลงเสิรัจิ ห้ลังจิากิน์ัน์อกิไม่่กิีวน์ได้ให้้วงดน์ตรั ฟรัังโกิ ทัรัอม่เบ็ตต้า ทัี�บรัรัเลงปรัะจิำห้้องอาห้ารัโลลต้าม่าบน์ทักิเสิียง พรั้อม่กิับกิารัขับรั้องของสิวล ผู้กิาพน์ธั

15 เพลง “ระฆัังทอง” เพลง “เริงละลม” เพลง “รักคนที�เขารักเราดีกว่า” เพลง “สอนรัก” เพลง “หากรูสักนิด” เพลง “หนึ�งในร�อย” เพลง “ดวงใจ” เพลง “ทีรักเราไม่ควรพบกันเลย” เพลง “ยอดอนงค์” เพลง “แม�แต่ทะเล ยังระทม” ฯลฯ
เพลงนี ครูสง่า อารัมภีร แต่งขึ�นในป พ.ศ. ๒๕๐๖ อันเป็นยุคของภาพยนตร์เสียงในฟื้ล์ม ซึ่�งนิยมมีเพลง ประกอบอยู่ในฉากภาพยนตร ที�มาของเพลงนี บูรพา อารัมภีร เขียนเล่าเอาไว�ในหนังสือเบื�องหลังเพลงรัก สง่า อารัมภีร ว่า... “พ่อเล่าว่าม่ีอยู่เพลงห้น์ึ�งทัีคิดขึน์ได้ตอน์น์ั�งรัถรัาง ครัาวน์ัน์รัาว ๆ ป พ.ศิ. ๒๕๐๖ ค์ณ์ ปรัิญญา ทััศิน์ียกิ์ล เจิ้าของโรังภาพยน์ตรั์และเปน์ผูู้้สิรั้างภาพยน์ตรัด้วย กิำลังจิะสิรั้างห้น์ังเรั่�องเพชื่รัตัดเพชื่รั
ชื่่�อเพลงเห้ม่่อน์ชื่่�อเรั่�อง เปน์ผู้ลงาน์ปรัะพน์ธั์คำรั้องและทัำน์องของครัสิ์รัพล
สิ่วน์อกิเพลงห้น์ึ�งชื่่�อว่า
ปรัะเทัศิแตทัั�งสิองกิม่ารัักิกิน์ได พ่อเล่าว่า
เคยแล้ว กิน์ั�งรัถรัางจิากิห้น์้าห้้างกิม่ลฯ วังบรัพา ไปทัำงาน์ทัี�ห้้องอัดเสิียงทั์่งม่ห้าเม่ฆ วน์น์ัน์พ่อทัำงาน์เสิรัจิ ตอน์เยน์กิจิะใชื่้เสิน์ทัางเดม่ ค่อน์ั�งรัถรัางกิลับม่าทัี�ห้้างกิม่ลฯ รัะห้ว่างทัีพ่อน์ั�งรัถรัางม่า เม่่�อรัถวิ�งม่าถึงบรัิเวณ์ สิาม่ย่าน์ รัถจิอดรัับผู้โดยสิารั ตอน์น์ัน์ม่น์กิศิกิษ์าชื่ายห้ญิงคู่ห้น์ึ�งขึน์ม่าบน์รัถ ทัั�งคู่น์ั�งทัี�ตรังข้าม่ทัีพ่อน์ั�งอยู่ เม่่�อ
ดวงใจ
โทัณ์ะวณ์กิ
จิน์ม่าถึงเยาวรัาชื่ ทัั�งสิองเรัิม่ทัะเลาะกิน์เสิียงดังขึน์เรั่�อย ๆ จิน์ม่าถึงบรัิเวณ์วังบรัพาห้น์้า โรังภาพยน์ตรั์แกิรัน์ด เม่่�อรัถจิอดรัับผู้โดยสิารั
ห้น์้าอกิฝั่ายชื่ายทัีน์ั�งอยู่แล้วรัีบเดน์ลงรัถไปอย่างรัวดเรั็ว พอฝั่ายชื่ายรัู้สิกิตัวกิล์กิขึน์และตะโกิน์ตาม่ห้ลังฝั่ายห้ญิงไปว่า ‘น์ี ฉน์ม่ีสิิทัธัิ�รัักิเธัอน์ะ’ พูดจิบกิวิ�งลงรัถรัาง ตาม่ห้ญิงสิาวไป พ่อยังคงน์ั�งอยู่ทัี�เดม่บน์รัถรัางคน์น์ัน์ พลน์กิ็ได้เน์่�อเพลงดวงใจิทั่อน์แรักิว่า ‘ดวง...ใจิ ทั์กิคน์ม่ สิิทัธัิจิะรัักิกิน์ได้...’ พ่อบอกิว่า เม่่�อรัถรัางวิ�งผู้่าน์ห้น์้าบรัษ์ทักิม่ลฯ กิ็ไม่่ได้ลงไปเอาเจิ้าม่้าลายเพรัาะเรัิม่คิดเน์่�อ เพลงดวงใจิไดขึน์เรั่�อย ๆ จิน์รัถวิ�งไปถึงทั่าเขียวไขกิา
ด้าน์ห้น์ึ�งค่อเพลงดวงใจิ อกิด้าน์ห้น์ึ�งค่อเพลงเพชื่รัตัดเพชื่รั” ดวงใจ ทกคนมสทธจะรกกนได ถงอยหางไกล กยงสงใจไปถง ออมแขนของฉน คอยสมพนธรกอนตราตรง คอยวนสขซง จากดวงใจทจรงจงมนคง เธอเปนคนตางแดน แตแนบแนนดวยไมตรสงสง มใจรกมนคง ไมมผใดเสมอ เธอเปนความสวาง พรางดงเพชรประกายเลศเลอ ฉนไดจมพตจากเธอ ฉนภมใจและสขใจทกคนวน
น์กิศิกิษ์าห้ญิงผูู้้น์ัน์ไดย่น์ขึน์และเอากิรัะเป๋าทัีถ่อม่าด้วยฟาดใสิ
ลงแผู้น์เสิียงสิปีด ๔๕ (แผู้น์เลกิ)
16 สวล ผู้กาพันธัุ์

ก�องกังวานของไวบราโฟื้นสร�างบรรยากาศแห่งความรักทำให�เพลงนี�ไพเราะน่าฟื้ังเป็นอย่างมาก

YouTube Link งานเพลงส่วนหนึงของ

- ชาญ เย็นแข

๑๓:๒๑ กุลสตรี - จินตนา สุขสถิตย์

๑๖:๑๐ เมียแกว - ทนงศักดิ ภักดีเทวา

๑๙:๑๒ พรุ่งนี - สวลี ผู้กาพันธั

๒๓:๐๗ เมือคืนนี - ชรินทร์ นันทนาคร

๒๖:๒๒ สุดทีรัก - ลินจง บุนนากรินทร์

๒๙:๐๕ บุหลันลันตู - สุเทพ วงศ์กาแหง

๓๑:๔๐ ดอกฟื้้าเวียงจันทน์ - ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์

๓๔:๒๕ ยางมนุษย์ - ชัชฎาภรณ์ รักษนาเวศ

๓๖:๕๓ บางรัก - ชรินทร์ นันทนาคร

๔๒:๒๘ ผู้มนอยใจ - สุเทพ วงศ์กาแหง

๔๕:๒๖ ดวงใจ - สวลี ผู้กาพันธั

17 ไฟื้ล์เสียงต�นฉบับบันทึกอยู่บน Ab major pentatonic ฟื้อร์มเพลงเป็นแบบ ๔ ท่อนยอดนิยม AABA ลีลา จังหวะออกแนว slow latin เพลงนี�ดนตรีบรรเลงโดย ฟื้รังโก� ทรอมเบ็ตต�า วงจากต่างประเทศเล่นประจำอยู่ ที�โลลต�าคลับในยุคนั�น วงนี�ใช�ไวบราโฟื้น (vibraphone) เล่นผู้สมกับกีตาร์ไฟื้ฟื้้า เบสไฟื้ฟื้้า และกลองชุด เสียง
“สง่า อารัมภีร” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทย สากล) ประจาปี พ.ศ. ๒๕๓๑ https://www.youtube.com/watch?v=MmuH4NgB-o0 ๐๐:๐๐ น�าตาแสงไต - ฉลอง สิมะเสถียร ๐๓:๒๘ ดาวประดับใจ - สุเทพ วงศ์กาแหง ๐๖:๔๑ เสียสละรัก - สุเทพ วงศ์กาแหง ๑๐:๐๓ สวยไม่สร่าง
- ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ๕๔:๒๒ หนึงในรอย - สวลี ผู้กาพันธั ๕๗:๓๗ พีรักวสันต์ - นริศ อารีย์ ๑:๐๐:๓๙ กัลปังหา - สุเทพ วงศ์กาแหง ๑:๐๓:๒๙ พียังรักเธัอไม่คลาย - สุเทพ วงศ์กาแหง ๑:๐๖:๕๒ แว่วกริงกังสดาล - ชรินทร์ - สวลี ๑:๐๙:๓๒ คืนหนึง - สุเทพ - สวลี ๑:๑๒:๑๗ พิศวาสวาย - สุเทพ วงศ์กาแหง ๑:๑๕:๓๑ สุดทีรัก - สุเทพ วงศ์กาแหง ๑:๑๙:๐๒ พีรักเธัอคนเดียว - สุเทพ วงศ์กาแหง ๑:๒๒:๕๓ ทาสเทวี - ชรินทร์ นันทนาคร ๑:๒๖:๑๗ เลิกเมินพีนะ - สุเทพ วงศ์กาแหง ๑:๒๙:๔๘ ชบาไพร - นริศ อารย ๑:๓๒:๔๐ ดาวประกาย - สุเทพ วงศ์กำแหง ๑:๓๕:๓๗ รักแท� - สุเทพ วงศ์กำแหง (ขอขอบคุณ “คีตา พญาไท” “บูรพา อารัมภีร” และ “bang10baht”)
๔๘:๐๕ วานลมจูบ

ยัง เป็นการบันทึกในประเทศไทยและ ส่งต�นฉบับเสียงไปทำสำเนาทีต่าง ประเทศเพื�อจัดจำหน่ายต่อไป ทั�ง ยังเป็นแผู้่นเสียงที�ดำเนินการโดย บรษัทต่างชาต ประวติศาสตร์เรื�อง ธัุรกิจดนตรีในประเทศไทยซึ่�งมีเรื�อง ของธัุรกิจแผู้่นเสียงบรรจุอยู่ภายใน นั�น จะไมมีทางสมบูรณ์ลงได�เลยหาก เราไม่ได�กล่าวถึงบุคคลสำคัญท่าน หนึ�ง ซึ่�งนอกจากจะเป็นพ่อค�าผู้ม วสัยทัศน์ในทางธัุรกิจ ยังนับได�ว่า เป็นผู้มคณูปการอย่างสูงในการขับ

ที�สนใจในประวติศาสตร ธัุรกิจดนตรีในประเทศไทย นั�นคือ อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ

ธัันวารชร หรือ นาย ต. เง๊๊กชวน ชื�อนาย ต. เง๊กชวน เป็นที รูจักดีในห

18 MUSIC RE-DISCOVERY เรื่อง: จิตร กาว (Jit Gavee) อาจารย์ประจ�าสาขาวิชาดนตรศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร มหาวิทยาลัยราชภััฏเชียงใหม มนุษย์์/ดุนตำรื่ี/หนังสือ ตำอนท ๗ อนุสรื่ณ์์ในงานพรื่ะรื่าชทานเพล่ิงศิพ นาย์ ตำ. ธัันวารื่ชรื่ ในอดีต แผู้่นเสียง นับเป็นสื�อ บันทึกเสียงที�สำคัญและแพร่หลาย มากทีสุดในยุคสมัย ทั�วทั�งโลกมีการ บันทึกเสียงเพลง เสียงพูด และเสียง อื�น ๆ ลงบนสื�อชนิดนี�เป็นจำนวน มากมายนับไมถ�วน แน่นอนว่าใน ประเทศไทยหรือสยาม ดินแดนที มักได�ชื�อว่าเป็นดินแดนที�เรียนรับ ปรับปรุงวัฒนธัรรมวิทยาการจาก ต่างชาติมาใช�เสมอมา ตั�งแตช่วงรัชสมัยของพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล�าเจ�าอยู่หัว รัชกาลที ๕ เป็นต�นมา ก็ได�เริ�มม การบันทึกเสียงดนตรีลงบนแผู้่น เสียงแล�ว อย่างไรก็ตามการบันทึก แผู้่นเสียงของไทยในช่วงแรก
ผู้�ซึ่�งได�บันทึกและอนรักษ ศิลปวัฒนธัรรมการดนตรีเหล่านั�น ให�เป็นรูปธัรรมจับต�องได�
ใน มนุษย์/ดนตรี/หนังสือ ตอน
อนุสรณ์ผู้�วายชนมที�สำคัญอีกเล่ม หนึ�ง ที�ควรค่าแก่การเปิดอ่าน โดย เฉพาะผู้
นาย ต. ธัันวารชร บ.ม. ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๑๔
ต.
มู่นักเล่นแผู้่นเสียงและ นักประวติศาสตรที�สนใจศึกษาใน ประเด็นไมว่าจะเป็นดนตร ภาพยนตร เป็นต�น ประวติของนาย ต. ธัันวารชร หรือ นาย ต. เง๊กชวน ย่อมาจาก เตีย เง๊กชวน (ซึ่�งหลังจากนี�จะ
เคลื�อนศิลปวัฒนธัรรมการดนตรีใน ประเทศไทย
ผู้�เขียน กำลังกล่าวถึง นาย ต. ธัันวารชร หรือรูจักกันในนามนาย ต. เง็กชวน
ที ๗ นี ผู้�เขียนจะขอนำเสนอหนังสือ
นาย

เอง

ก่อนที�จะถูกส่งตัวมาทำงานในกรุงเทพฯ

ขณะมีอายุเพียง ๑๗ ปีเท่านั�น

นาย ต. เง๊กชวน นับได�ว่าเป็นผู้ ทีมีความเฉลียวฉลาดและขยันขันแข็ง

ในบริเวณเดียวกันทีมักจะปิดในช่วง เย็น

ภาพยนตร์บางลำภที�นาย ต. เง๊กชวน เป็นผู้จัดการดูแล ส่งผู้ลให�ร�านค�า แห่งนี�เจริญเติบโตขึ�นตามลำดับ

ฉายในโรงภาพยนตร์บางลำพูบริเวณ เดียวกันนั�นเอง มีนาย ต. เง๊กชวน เป็นผู้จัดการโรงภาพยนตร

เ มื�อ กิจการเ ติบโต ขึ�น นาย ต. เง๊กชวน ได�เริ�มออกจำหน่าย

แผู้่นเสียงเป็นผู้ลิตภัณฑ์ประจำ

เพลงไทยเดิม บทเพลง

ๆ ทั�งภาคเหนือ ภาคอีสาน ออกจำหน่าย

ประจำท�องถิ�นต่าง

ของนาย ต. เง๊กชวน ยิ�งเป็นทีรูจัก ขึ�นไปอีก สื�อบันทึกเสียงเหล่านีต่อ มาได�กลายเป็นปรากฏการณส่วน หนึ�งของมรดกทางวัฒนธัรรมดนตร ในประเทศไทยที�เป็นรูปธัรรมมาก ทีสุดครั�งหนึ�งที�เคยเกิดขึ�น นาย

19 ขอใช�ชื�อ ต. เง๊กชวน เรียกตลอด ทั�งบทความ) สามารถสรุปได�โดย สังเขปดังนี นาย ต. เง๊กชวน เกิดเมื�อวันที ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๒ ณ ตำบล ตลาดบ�านใหม อำเภอเมือง จังหวัด ฉะเชิงเทรา เป็นบุตรคนที
คน
ดับชั�น มูลศึกษา จากวัดเทพนมิตร บริเวณ บ�านเกิดของนาย ต. เง๊กชวน
๒ จาก ๖
ของนายยิ�งเกี�ยดและนางเหลี�ยม จบการศึกษาเพียงแค่ในระ
ทั�งยังมีความซึ่ื�อสัตย กตัญญูู ทำให� ตนสามารถไต่เต�าและมีความเจริญ ในหน�าที�การงานเป็นอย่างด เริ�มต�น ตั�งแต่การเป็นเด็กรับใช� เด็กเก็บเงิน ผู้�ควบคุมการฉายภาพยนตร์ของสาย หนัง ไปจนถึงผู้จัดการโรงภาพยนตร เป็นต�น จุดเปลี�ยนสำคัญอยู่ในป พ.ศ. ๒๔๖๒ (อ�างจากในหนังสืออนุสรณ ผู้�วายชนม์ของนาย ต. เง๊กชวน) ที�นาย ต. เง๊กชวน ได�เปิดร�านค�าของ ตนเอง คือ ร�าน นาย ต. เง๊กชวน อันสั�งสมมาจากอุปนสัยทีรักใน การค�าขายตั�งแตยังทำงานในสาย ภาพยนตร์ซึ่�งยังไมมกิจการเป็นของ ตนเอง ควบกับตำแหน่งผู้จัดการโรง ภาพยนตร์บางลำพ ซึ่�งอยู่บริเวณใกล� เคียงร�านค�าที�ได�เปิดกิจการ ร�านค�าที�นาย ต. เง๊กชวน ได� เปิดขึ�นนั�น เริ�มต�นจากการนำของใช� ทั�วไป จำพวกของใ ช� เ บ็ดเต ล็ด เครื�องสำอาง เสื�อผู้�า ก่อนทีต่อมา จะมีการขยับขยาย มีการจัดพิมพ หนังสือเกี�ยวกับเพลงดนตร ไปจนถึง ภาพยนตร ฯลฯ จัดจำหน่าย ด�วย จุดแข็งประการหนึ�งของร�านนาย ต. เง๊กชวน นั�น คือเป็นร�านค�าที�เปิดถึง ช่วงเวลาดึก ซึ่�งแตกต่างจากร�านอื�น ๆ
วัฒน
ให
ต.
ภาพยนตร ทีตพิมพ์เพื�ออธัิบาย เรื�องราวของภาพยนตร์เป็นภาษา ไทย อันเป็นภาพยนตรทีถูกนำมาจัด
ประจวบกับทำเลที�อยู่ใกล�โรง
ม ลูกค�ามากหน�าหลายตาแวะเวียน ไม่ขาด หนึ�งในสินค�าเกี�ยวกับศิลป
ธั รรม ที�โดดเ ด่นและแปลก
ม่ใน ยุคส มัย นั�นของ ร� านนาย
เง็กชวน นั�นคือหนังสือโปรแกรม
ร�านของตัวเอง ใช�ชื�อว่าแผู้่นเสียง ตรากระ
ทึกเพลง ไทยสากล
จำนวน มากมายมหาศาล
รับทีค่อนข�างดีมาก ส่งผู้ลให�ร�าน
เง๊กชวน เสียชวิตเมื�อวันที ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๓ สริอาย ได� ๘๑ ป จากอาการไข�หวัดใหญ และโรคชรา มบุตรและธัิดารวมทั�ง สิ�น ๑๕ คน ภายในงานพระราชทาน เพลงศพของนาย ต. เง๊กชวน ได�ม นาย ต. เง๊กชวน (ที�มา: อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นาย ต. ธัันวารชร)
ต่าย โดยได�บัน
ซึ่�งได�เสียงตอบ
ต.
20 เนื�อหาภายในหนังสืออนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นาย ต. ธัันวารชร การจัดทำหนังสืออนุสรณ์ผู้�วายชนม ขึ�น
และบันทึกประวติศาสตร์ทางดนตร ของประเทศไทยได�เป็นอย่างด โดย จะขอแนะนำในส่วนต่อไป อนุสรณ์์ในง๊านพระราชทานเพลิิง๊ศพ นาย ต. ธัันวารชร ห นัง สืออ นุสร ณ์ในงานพระ ราชทานเพลิงศพ นาย ต. ธัันวารชร ตพิมพขึ�นในป พ.ศ. ๒๕๑๔ พิมพ ที�โรงพิมพ์สามมิตร ซึ่อยทิพย์วาร บ�านหม�อ กรุงเทพมหานคร เป็น หนังสือเล่มหนากว่า ๒๐๐ หน�า ตพิมพ เพื�อแจกเป็นบรรณาการอนุสรณ์แก ผู้ที�มาเข�าร่วมในงานพระราชทาน เพลิงศพของ นาย ต. เง๊กชวน ภายใน ตัวเล่มนอกจากเนื�อหาทีพึงปรากฏ ทั�วไปในหนังสืออนุสรณ์ผู้�วายชนม เช่น ประวติผู้�วายชนม คำไว�อาลัย เป็นต�นแล�ว หนังสือเล่มนียังบรรจ เนื�อหาทีมคุณค่าในด�านต่าง ๆ ไมว่า จะเป็น การแพทย ธัรรมะ และการ ดนตร จากผู้�ทรงคุณวฒด�านต่าง ๆ ที�เคยเข�ามาอยู่ในฉากชวิตหนึ�งของ นาย ต. เง๊กชวน โดยหนังสือเล่มนีม แกนนำหลักในการจัดทำคือ นายเอก (ประยงค์) ธัันวารชร บุตรคนที ๔ ของนาย ต. เง๊กชวน หนังสือ อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นาย ต. เง๊กชวน เล่มนี แบ่งออก เป็นส่วนต่าง ๆ ได�แก - ส่วนต้้น ประกอบไปด�วย คำ
ซึ่�งนับว่าเป็นหนังสือทีมคุณค่า

ต. เง๊กชวน ไมว่าจะเป็น

ไว�อาลัยของศาสตราจารย ดร.อทิศ นาคสวัสดิ กล่าวว่า

“...รัะยะห้ลังน์ี ค์ณ์ ต. เปน์ คน์ธัรัรัม่ะธัรัรัม่โม่ห้ม่ัน์ไปฟังเทัศิน์์ ฟังธัรัรัม่ทัีวัดต่าง ๆ เสิม่อ จิึงใน์ วน์ห้น์ึ�งกิ็โคจิรัไปพบกิับผู้ม่เข้าทัีวัด เบญจิม่บพิตรั วน์น์ัน์ผู้ม่เผู้อิญเอา ม่โห้รัีเครั่�องให้ญ่ของม่ห้าวทัยาลัย

เกิษ์ตรัศิาสิตรั์ไปชื่่วยงา

ใน์ความ่ไพเรัาะของวงม่โห้รัีเปน์ อน์ม่ากิ จิึงได้เข้าม่าแน์ะน์ำตน์เอง พรั้อม่ทัั�งแสิดงความ่ปรัะห้ลาดใจิว่า

ต. ห้น์ไปห้น์ม่าสิกิครัู่ห้น์ึ�งกิ เอ่ยปากิชื่วน์ให้้ผู้ม่ไปอัดแผู้น์เสิียง บอกิว่าดน์ตรัีไพเรัาะ

จิะต้องอัดไว

ต. กิม่จิดห้ม่าย ไปย�ำอกิว่าเรั่�องทัีพูดกิน์น์ัน์จิะเอาจิรัิง ละน์ะ ผู้ม่กิ็เฉยเสิีย ค์ณ์ ต. จิะเขียน์ ไปอย่างไรัผู้ม่กิ็ไม่่พูดจิาด้วย ค์ณ์ ต. กิ็เขียน์แล้วเขียน์อกิ ลงทั้ายอ์ตสิ่าห้ ถ่อรั่างอน์ชื่รัาของค์ณ์ ต. ไปห้าผู้ม่ ถึงบ้าน์ อ้อน์วอน์ให้้ผู้ม่ไปอัดเสิียง ค์ณ์ ต. ตั�งใจิอัดแผู้น์เสิียงเพลง ไทัยปรัะเภทัต่าง ๆ ทัั�ง ๆ ทัี�คน์อน์ ไม่่ม่ีใครัเขาค่อยอยากิอัดเทั่าใดน์กิ ดอกิ ทัั�งน์ี�เพรัาะเขาคิดรัายได้เปน์ ตัวเงน์ตัวทัองเข้าม่าเปน์สิ่วน์ให้ญ ถ้าไม่่ม่ค์ณ์ ต. ผู้ม่คิดว่าพวกิเรัาจิะ ห้าแผู้น์เสิียงเพลงไทัยฟังไดน์้อย เตม่ทั จิึงขอขอบพรัะค์ณ์ ค์ณ์ ต. ไว้ใน์ทัีน์ีด้วย...” (ย่อความจากคำ ไว�อาลัยของศาสตราจารย

21
ซึ่�งเป็นส่วน ที�เขียนขึ�นโดยญาติสนิทมิตรสหาย
ความรู�สารคดต่าง ๆ บทความด�าน ธัรรมะ ด�านดนตร เป็นต�น โดยม บุคคลสำคัญที�ได�ร่วมจัดทำในส่วนนี ไมว่าจะเป็น นายสัญญา ธัรรมศักดิ นายกพุทธัสมาคมแห่งประเทศไทยใน พระบรมราชูปถัมภ์, หม่อมเจ�าหญิง พูนพิศมัย ดิศกุล ประธัานองค์การ พุท ธั ศาส นิก
ศาสตราจารย ดร.อทิศ นาคสวัสดิ�, ศาสตราจารย
สุขศร เป็นต�น - ส่วนข้อเขียนพี่ิเศษ เขียนขึ�น โดย นาย ต. เง๊กชวน มีการเกริ�นหัว และคำอธัิบายว่า “ชวิตและผู้ลงาน บางส่วน ของนาย ต. ธัันวารชร (ต. เง๊กชวน) ทีท่านได�ประพันธัขึ�น นำ ลงพิมพ์ไว�ในสมุดอนุสรณ กระต่าย ๒๕ ป และจากหนังสือชุมนุมเพลง กระต่ายบางเล่ม” ในส่วนนีนับเป็น ข�อเขียนทีมีความสำคัญ เพราะผู้�วาย ชนม คือ นาย ต. เง๊กชวน เป็นผู้ บันทึกไว�ด�วยตนเองในขณะทียังม ชวิต จากประสบการณต่าง ๆ ที�ตน ได�ประสบพบเจอ เป็นประวติศาสตร บอกเล่าทีมักไม่ปรากฏในหนังสือ ประวติศาสตร์โดยทั�วไป ในการนี ผู้�เขียนจะขอยกตัวอย่าง เนื�อหาบางส่วนจากหนังสืออนุสรณ ในงานพระราชทานเพลิงศพ นาย ต. เง๊กชวน เล่มนี เพื�อให�ท่านผู้อ่าน ทุกท่านได�เห็นถึงคุณประโยชน์และ คุณค่าของหนังสือเล่มสำคัญเล่ม นี โดยเฉพาะในทางดนตรทียังคงม ประเด็นน่าสนใจหลายต่อหลายเรื�อง ให�นำมาต่อยอด ชวนอ่านเน้�อหาในเลิ่ม เนื�อหาภายในเล่มหลายส่วน ได�กล่าวถึงนาย ต. เง๊กชวน ในช่วง เวลาทียังมชวิต อันมีหลายต่อหลาย มุมมอง ประเด็นหนึ�งทีน่าสนใจนั�น คืออุปนสัยของนาย ต. เง๊กชวน ที�เป็นผู้ทีมีความสนใจและความ ศรัทธัาในการทีต�องการจะอนรักษ ศิลปวัฒนธัรรมการดนตรีของไทย ดังปรากฏในส่วนหนึ�งของเนื�อหาคำ
ปรารภ ประวติของนาย ต. เง๊กชวน เอกสารสำคัญ (จดหมายตราตั�ง จดหมายพระราชทานนามสกุล) และภาพถ่ายในงานศพของนาย ต. เง๊กชวน - ส่วนของเน้�อหา
ของนาย
ในส่วนของคำไว�อาลัย บทความเชิง
สัม พัน ธั์แ ห่งโลก,
นายแพทย์เสนอ อินทร
น์ั�งฟังอยู่
ดน์ตรัีอะไรัเสิียงชื่่างดังไพเรัาะจิรัิง ๆ ค์ณ์
ในหัวข�อคำไว�อาลัยว่า
ที�ปรากฏอยู่ภายในเล่ม
น์เจิ้าค์ณ์ เจิ้าอาวาสิทั่าน์ ค์ณ์ ต.
พกิห้น์ึ�งกิ็เกิิดความ่เล่�อม่ใสิศิรััทัธัา
ๆ อย่างน์ี�ควรั
...ค์ณ์
ดร.อทิศ นาคสวัสดิ
ภาพ นาย ต. เง๊กชวน

ต. เง๊กชวน”) จะเห็นได�ว่า ข�อความข�างต�นดัง

กล่าวนั�น แสดงให�เห็นถึงความเอาใจใส

และความตั�งมั�นของ นาย ต. เง๊กชวน

ในการที�จะกระทำการใด ๆ ให�ประสบ

ความสำเร็จ ทั�งยังสะท�อนให�เห็นถึง

การเป็นผู้ทีมีความเอาใจใสต่อศิลป

วัฒนธัรรมการดนตรีประจำชาต ที

ต�องการจะบันทึกเสียงดนตรีไทยให�

เปน์วัตถ์ตัวจิรัิงม่ลกิษ์ณ์ะเห้ม่่อน์ชื่่�อ...

...เจิ้า ‘กิรัะบอกิเสิียง’ น์ีสิาม่ารัถ สิ่งเสิียงรั้องไดดังเห้ม่่อน์ตัวงิ�วจิรัิง ๆ ทัีเดียว ข้าพเจิ้าพยายาม่จิะดูให้้รัู้ แจิ้งเห้น์จิรัิง...

แขวน์ทั่อทัองเห้ล่องยาวปรัะม่าณ์ ๑ วาเศิษ์ ตอน์ตน์เรัียวเลกิไปติด กิับเครั่�อง ม่ห้ัวกิลม่เลกิ (เรัียกิว่า ห้ัวกิรัะโห้ลกิ) สิำห้รัับใสิ่เขม่เพชื่รั ตอน์ปลายค่อย ๆ บาน์ให้ญ่ออกิ

๓ น์ิ�ว ขน์าด

ยาวปรัะม่าณ์ ๑ ค่บ ม่กิ์ญแจิไขลาน์

เจิ้าของเครั่�องต้องทัำงาน์เอง

22 ง่าย โดยภายในข�อเขียนได�เล่าตั�งแต บรรยากาศโดยรอบไปจนถึงราย ละเอียดเชิงลึกที�เป็นประโยชน์อย่าง ยิ�งในการศึกษาทางประวติศาสตร ในประเด็นของกระบอกเสียงใน ประเทศไทย จะขอยกตัวอย่างบาง ส่วนดังนี “...คำว่า ‘กิรัะบอกิเสิียง’ ทัี ข้าพเจิ้าน์ำม่าเล่าต่อไปน์ี ไม่่ใชื่ กิรัะบอกิเสิียงของใครั และกิ็ไม่่ใชื่ เปน์กิารัโฆษ์ณ์าชื่วน์เชื่่�อให้้แกิ่ผู้ใด ‘กิรัะบอกิเสิียง’ ทัีข้าพเจิ้ากิล่าวถึงน์ี
…‘กิรัะบอกิเสิียง’ แล้วกิ็พยายาม่ สิังเกิตดว่าม่ีอะไรับ้างคงจิำเครั่�อง อ์ปกิรัณ์์ไดห้ลายอย่าง ดังต่อไปน์ี ๑ ม่ีเห้ลกิขาตั�งม่ีเปน์ขอสิำห้รัับเกิี�ยว
ไปเห้ม่่อน์ดอกิลำโพง ตัวเครั่�อง ยาวปรัะม่าณ์ศิอกิเศิษ์แบน์น์อน์ ม่ ทั่อเห้ลกิกิลม่ ๆ ขน์าดโตวัดเสิน์ผู้่า ศิน์ยกิลางปรัะม่าณ์
เม่่�อไข ลาน์ตึงแล้วกิห้ยิบกิล่องกิรัะดาษ์กิลม่ ๆ สิูงปรัะม่าณ์ ๕-๖ น์ิ�ว จิากิห้ีบสิังกิะสิ สิี�เห้ลี�ยม่กิว้างยาวปรัะม่าณ์
เห้ม่่อน์กิรัะบอกิไม่้ไผู้่ขน์าดกิลางทัีตัด ยาวปรัะม่าณ์ ๔-๕ น์ิ�ว ม่รัอยเปน์ “ผู้มไปอัดเสียงกับคุณ
๒ ศิอกิ ออกิม่าเปิดฝัากิล่องห้ยิบเอาวัตถ์สิิ�ง ห้น์ึ�งสิีเห้ม่่อน์งาชื่้างรัูปรั่างกิลวงกิลม่
มีการสืบทอดยืนยาวต่อไป อีกข�อเขียนสำคัญทีถูกบรรจ อยู่ในอนุสรณ์ผู้�วายชนม์เล่มนี คือ ข�อเขียนของนาย ต. เง๊กชวน เอง โดยผู้�เขียนได�หยิบนำข�อเขียนหนึ�งที ชื�อว่า ต้. เง๊กชวน ธันวารชร เล่่า เร้�อง “กระบอกเสียง” กล่าวถึงสื�อ บันทึกเสียงแรกอย่างกระบอกเสียง ประดิษฐกรรมบันทึกเสียงชนิดแรก ของโลกโดยโทมัส อัลวา เอดสัน ที นาย ต. เง๊กชวน ได�มีประสบการณ ร่วมในการชมการสาธัิตการบรรเลง และการบันทึกเสียง ข�อเขียนดังกล่าว ยังสะท�อนให�เห็นถึงความอยากรู ช่างสังเกตของผู้�เขียน คือนาย ต. เง๊กชวน ได�เป็นอย่างด ผู้่านสำนวน การใช�ภาษาที�เป็นเอกลักษณ์เข�าใจได� ภาพ นาย ต. เง๊กชวน ที�ปรากฏอยู่ภายในเล่ม

ต่อการสร�างความรู�ความเข�าใจใน การศึกษาดนตรีในยุคปัจจบันต่อไป ท่านผู้อ่านทุกท่านสามารถเข�าถึง หนังสือ “อนุสรณ์ในงานพระราชทาน เพลิงศพ นาย ต. ธัันวารชร”

นี�ไ ด� จากค ลัง ข� อ มูล ด จ ทัลของ

“อนุสรณ์ในงานพระราชทาน เพลิงศพ นาย ต. ธัันวารชร บ.ม. ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๑๔” และเช่นเคย ท่านสามารถเข�าถึงเอกสารดังกล่าว ผู้่านการลงทะเบียนโดยไม่เสียค่าใช� จ่ายใด ๆ ในการดำเนินการ

ในฉบับต่อไป บทความชุด มนุษย์/หนังสือ/ดนตร

แล้วเอาห้ัวทัีติดเขม่ เพชื่รัวางลงไปทัี�เน์่�อกิรัะบอกิสิีงาชื่้าง

ซ้ึ�งม่ ตัวจิรัิงสิม่ชื่่�อใน์สิม่ัยกิรัะโน์น์ไดม่า

23 หน�าเว็บไซึ่ตที�เผู้ยแพร่หนังสืออนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นาย ต. ธัันวารชร (ที�มา: คลังข�อมูลดจทัลของมหาวิทยาลัยธัรรมศาสตร์) เสิน์รัอบ ๆ ตลอดกิรัะบอกิสิีงาชื่้างน์ัน์ เอาไปสิวม่เข้ากิับทั่อเห้ลกิทัี�เครั่�อง ๆ กิ็เรัิม่ห้ม่์น์เดน์
ทััน์ใดน์ัน์เสิียงเพลงต่าง ๆ กิดังออกิ ไปทัี�ดอกิลำโพง.... ...คำว่า ‘กิรัะบอกิเสิียง’
เปน์ตน์กิำเห้น์ิดของคำว่า ‘กิรัะบอกิ เสิียง’ ใน์ปทัาน์์กิรัม่สิม่ัยให้ม่่ด้วย ปรัะกิารัฉะน์ี�...” (อ�างจาก อนุสรณ ในงานพระราชทานเพลิงศพ นาย ต. ธัันวารชร, ๒๕๑๔) คุณ ค่าของอ นุสร ณ์ในงาน พระราชทานเพลิงศพ นาย ต. ธัันวารชร เล่มนี จึงถือว่ามคุณค่าสูง ด�วย เป็นการบันทึกข�อเขียนที�หาอ่านได�ยาก และเต็มไปด�วยประเด็นทางดนตรที สำคัญมากมาย อันจะเป็นประโยชน
มหาวิทยาลัยธัรรมศาสตร โดยใช�คำ สำคัญในการค�นหาว่า “ต. เง๊กชวน” หรือ
นี จะนำ เสนอหนังสือเล่มใดต่อท่านผู้อ่าน โปรดติดตามอ่านตอนต่อไปครับ เอกสารอ้าง๊อง๊ เอก ธัันวารชร. (๒๕๑๔). อน์์สิรัณ์์ใน์งาน์พรัะรัาชื่ทัาน์เพลิงศิพ น์าย ต. ธััน์วารัชื่รั. พระนคร: สามมิตร.

นพดล แจบ�านเกาะ หรือคร

นพ เป็นชื�อทีรูจักกันดีในฐานะของ

คร นักดนตรทีรื�อฟื้้�นวงเครื�องสาย

มอญและทะแยมอญในตำบลบ�าน

เกาะ ครูนพได�รับการสืบทอดเชื�อ

สายความเป็นกลุ่มชาตพันธัุ์มาจาก

ทางบิดา “พ่อเปน์ม่อญ บางไผู้่เตี�ย ฝัั�งตำบลบางกิรัะเจิ้า ทัางแม่่น์�ำ

ทั่าจิน์ พูดและเขีย

ทั่าน์บอกิว่า ‘แจิ’ เปน์ภาษ์าม่อญ

ออกิเสิียงว่า

รัูปงาม่บ้าน์เกิาะ”

จุดเริ�มต�นของการเรียนรู�ทาง

ดนตรีในเยาววัยเริ�มขึ�นจากครอบครัว

ในอดีต คุณตาเป็นเจ�าของคณะกลอง

ยาว ชาวบ�านแถวนั�นจะเรียกว่า

“กลองยาวนายสำรวย” รับงานแสดง

ทั�ว ๆ ไป การเรียนรู�ทางดนตรีเกิด

ขึ�นจากการได�ยิน ได�ฟื้ัง และการได�

รับการถ่ายทอดความรู�จากคุณตา

24 ETHNOMUSICOLOGY เรื่อง: ธัันยาภัรณ โพธัิกาวิน (Dhanyaporn Phothikawin) ผู้้�ช่วยศาสตราจารย ประจ�าสาขาวิชาดนตรศึกษา วิทยาลัยดริยางคศิลป มหาวิทยาลัยมหิดล ภัาพ: นพดล แจบ้านเกาะ (Noppadol Jaebankoa)
นพดุล่ แจบ�านเกาะ ผู้้�รื่่�อฟื้้�นแล่ะก่อตำั�ง
“วงฝัักกรื่ะตำ๊าดุ ทะแย์มอญบ�านเกาะ”
น์ภาษ์าม่อญ น์าม่สิกิ์ลเปน์รัากิฐาน์ม่าจิากิภาษ์า ม่อญ ห้ลวงพ่อทั่าน์เจิ้าค์ณ์วัดอาสิา
‘แชื่ว์’ ทัี�แปลว่า สิวย รัูปงาม่ คำว่า บ้าน์เกิาะ น์่าจิะม่า จิากิกิารัตั�งรักิรัากิทัีน์ี เม่่�อรัวม่กิน์ คน์ห้น์์่ม่คน์สิาว
เกิดเป็นการหล่อหลอมให�มีความ รักดนตรีมาตั�งแต่เยาววัย “ตาเปน์ กิลองยาว ทั่าน์กิจิะสิอน์ให้้ต ให้้ฟัง นายนพดล แจบ�านเกาะ หรือครูนพ

พอเลน์ไดบ้าง ทั่าน์กิ็พาไปงาน์ ไป

เจิอน์กิดน์ตรัีใน์รั์่น์ ๆ ของตา กิ็ได ฝักิฝัน์ความ่รัู้ม่าจิากิตรังน์ัน์ด้วย ม่ งาน์ห้น์ึ�งไปเลน์กิลองยาวใน์งาน์บวชื่

ล์งเขน์ ทั่าน์ม่าจิากิคลองปกิน์กิ แถว

ทั่าจิน์ ตรังวัดกิลาง ม่าตกิลองยาว

กิ็ไดติดซ้อด้วงม่าด้วย พอไดฟัง ผู้ม่

กิชื่อบ เกิิดความ่ปรัะทัับใจิ”

สมัยนั�น “ทั่าน์เปน์ครัูเครั่�องสิายคน์ สิำคัญของผู้ม่ทัีถ่ายทัอดกิรัะบวน์กิารั บรัรัเลงทัั�งห้ลกิกิารัปฏบติและทัฤษ์ฎีี

แล้วจิึง ม่าสิีแบบฝักิห้ัด แล้วถึงจิะม่าสิต่อ เพลง” ต่อมาเมื�อศึกษาอยู่ชั�นปที

ได�ไปฝัึกสอนที�โรงเรียนวัดคงคาราม

โรงเรียน “ครัทั่าน์ไม่่เปน์ดน์ตรัีไทัย แตกิ็พอบอกิไดว่าเรัิม่อย่างไรั

เจือหอม ซึ่�ง เป็นครพี�เลี�ยงในช่วงออกฝัึกสอน จึง ได�ฝัากตัวเป็นศิษย์และได�รับความ เมตตาจากอาจารยสรินทร เจือหอม เป็นอย่างมาก ในการถ่ายทอดความ

25
ทะแยมอญ
ต่อมาเมื�อเข�าเรียนในระดับประถม ศึกษา
ได�เรียนดนตรีการเป่าขลุ่ยกับคร สมบุญ ศริมหาสาคร ตั�งแตชั�นประถม ศึกษาปที ๒ ในป พ.ศ. ๒๕๓๕ เข�า ศึกษาต่อในระดับชั�นมธัยมศึกษาปที ๑ โรงเรียนบ�านอ�อมโรงหีบ ในช่วง นั�น ครูเสร ทรัพย์ไพบูลย เป็นคร สอนวิชาศิลปะ ดนตร นาฏศิลป ที
พอ ทั่าน์เห้น์ว่าผู้ม่ม่ีความ่สิน์ใจิ ทั่าน์ กิ็อน์์ญาตให้้เลน์ไดทั์กิเครั่�องม่่อ ตอน์น์ัน์ผู้สิม่ผู้สิาน์เอาโน์้ตทัี�เคย เป่าขล์่ยไดม่าเลน์กิับเครั่�องดน์ตรั ของโรังเรัียน์ รัะน์าดเอกิ รัะน์าดทั์้ม่ ซ้ออู้ ซ้อด้วง และยังอน์์ญาตให้้ย่ม่ ซ้อด้วงกิลับม่าสิทัีบ้าน์ได ห้ลังจิากิ น์ัน์ม่าผู้ม่อยากิม่ซ้อด้วงเปน์ของตัว เองจิึงได้เกิ็บเงน์และม่าซ้่�อซ้อด้วงทัี สิวน์จิต์จิกิรั” เมื�อจบการศึกษาใน ระดับชั�นมธัยมศึกษาปที ๓ ได�เข�า ศึกษาต่อสายอาชีพ สาขาช่างไฟื้ฟื้้า กำลัง วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ในระดับ ปวช. และ ปวส. เมื�อเรียบจบชั�น ปวส. ในป พ.ศ. ๒๕๔๓ จึงได�ตัดสินใจเข�าศึกษาต่อ ที�คณะครุศาสตร สาขาดนตรีไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบร “ใน์ชื่่วง น์ี น์ับว่าเปน์จิ์ดเปลี�ยน์ใน์ชื่วิตเลยกิ ว่าได อยากิเรัียน์ดน์ตรั ไปเรัียน์ต่อ ทัีรัาชื่ภัฏเพชื่รับ์รั เรัียน์กิับอาจิารัย ปรัะโยชื่น์์ ทัางม่ศิรั เปน์กิารัเรัียน์รัู้ทัี เรัิม่ให้ม่่ เรัิม่จิากิฆ้องวงให้ญ สิาธั์กิารั โห้ม่โรังเชื่้า เรัียน์เครั่�องสิายเบ่�องตน์ กิับอาจิารัย์อดศิรั บ์ญโพธัิทัอง ทั่า น์สิ อ น์กิ า รั ป ฏบ ติเค รั่�อง สิ าย เบ่�องตน์ ทัี�ภาควชื่าดน์ตรัีไทัย” ใน ระหว่างนั�นได�ศึกษาเพิ�มเติมเรื�อง การบรรเลงเครื�องสายกับผู้ช่วย ศาสตราจารย์อำนวย ขำปรางค ซึ่�ง ท่านเป็นอาจารย์ประจำหอพัก และ เป็นรองคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ใน
ผู้ศิ.อำน์วย ขำปรัางค ทั่าน์เปน์ลกิ ศิิษ์ย์เรัียน์เครั่�องสิายกิับค์ณ์ครัูศิิรั น์กิ ดน์ตรั ทัีวทัยาลัยวชื่ากิารัศิกิษ์า บาง แสิน์ ห้รั่อม่ห้าวทัยาลัยบรัพา โดย ทั่าน์สิสิายเปล่าอยู่เกิ่อบป
โรงเรียนบ�านยกกระบัตร
อยู่กับอาจารยสรินทร
รู�การบรรเลงเครื�องเป่า (ปี�ใน) จน สามารถเป่าปี�ในได�

“วงฝัักกระต๊าด” ป้าเลี�ยน ลุงนนท

เมื�อจบการศึกษาแล�ว ไปเป็นคร จ�างสอนอยู่ระยะหนึ�ง จนกระทั�งในป

พ.ศ. ๒๕๕๓ ได�สอบบรรจุและเข�ารับ

ราชการเป็นคร ที�โรงเรียนบ�านอ�อมโรง

หีบ (เล็ก-นิ�ม อนุสรณ์) ตำบลบ�าน

เกาะ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร

ทำวงดนตรีไทย และส่งเสริมนักเรียน

แข่งขันศิลปหัตถกรรมได�รับรางวัล

ชนะเลิศระดับภาค

แน์วคิดทัี�อยากิจิะพัฒน์าตน์เองและ ศิกิษ์าข้อมู่ลดน์ตรัม่อญ ซ้ึ�งใน์ตอน์ น์ัน์ไดน์ำซ้อสิาม่สิายม่อญไปสิู่กิารั ทัำห้ัวข้อวจิัย เพ่�อศิกิษ์าอัตลกิษ์ณ์์ และบทับาทั จิน์น์ำไปสิู่ห้ัวข้อวจิัย กิรัอว์เจิิกิป๊อย : อัตลกิษ์ณ์์เครั่�อง

ช่วงของการเริ�มทำวงเครื�องสายมอญ “ชื่่วงแรักิกิ็เอาความ่รัู้จิากิทัี�เกิ็บข้อมู่ล

26
ระดับประเทศ “เปน์โรังเรัียน์เกิ่าและกิ็ใกิลบ้าน์ ทัี เรัากิ็อยากิกิลับม่าพัฒน์า กิลับม่า สิอน์เดกิ ๆ และกิลับม่าฟน์ฟูดน์ตรั ของชื่์ม่ชื่น์” นอกจากการถ่ายทอด ความรู�ในโรงเรียน ครูนพยังให�ความ สนใจเกี�ยวกับดนตรีมอญของชุมชน “กิ่อน์ทัีจิะเรัียน์จิบ
บ้าน์ ไปถ่ายรัูปเลน์ทัีวัดเกิาะ วัดบาง ปลา และได้เจิอซ้อสิาม่สิายม่อญอยู่ ใน์ตู้ของพพธัภณ์ฑ์์ทัีวัดเกิาะ เกิิด ความ่สิน์ใจิว่า ใน์ตำบลบ้าน์เกิาะน์ี
ด้วย แสิดงว่าต้องม่น์กิดน์ตรัห้ลง เห้ล่ออยู่บ้าง ต่อม่าใน์ชื่่วงเทัศิกิาล สิงกิรัาน์ต ทัางเบญจิาโฮิม่สิเตย์ไดน์ำ ทัะแยม่อญม่าแสิดง จิึงเปน์จิ์ดเรัิม่ตน์ ทัีทัำให้้ไดทัรัาบว่า ทัีสิม่์ทัรัสิาครัยัง ม่น์กิแสิดงทัะแยม่อญและน์กิดน์ตรัทัี สิาม่ารัถบรัรัเลงวงเครั่�องสิายม่อญได อยู่ ซ้ึ�งห้น์ึ�งใน์น์ัน์ค่อ อาจิารัย์พงศิกิรั วาสิ์กิรั ห้รั่อครัม่ดเอกิซ้ ซ้ึ�งเปน์ บ์คคลทัีน์ำพาให้้ม่ารัู้จิกิกิับบรัรัดา ล์ง ๆ ป้า ๆ ทัะแยม่อญเจิ็ดรัิ�ว จิึง ทัำเกิิดความ่สิน์ใจิและเกิิดแน์วคิด ทัี�อยากิจิะศิกิษ์าข้อมู่ลดน์ตรัีเห้ล่าน์ี เพ่�ออน์์รัักิษ์์เอาไว้” ต่อมาในป พ.ศ. ๒๕๕๕ ศึกษา ต่อในระดับปริญญาโท คณะศิลปกรรม ศาสตร สาขามานุษยดริยางควิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ “เปน์ ชื่่วงทัีตัดสิิน์ใจิไปเรัียน์ต่อ เพรัาะม่
ใน์ชื่่วงกิลับม่าทัี
ม่ีเครั่�องดน์ตรัซ้อสิาม่สิายม่อญอยู่
ดน์ตรัีของชื่าวม่อญและบทับาทัใน์ วงกิรัอวจิฺยาม่ กิรัณ์ศิกิษ์าทัะแยม่อญ เจิ็ดรัิ�ว ซ้ึ�งอาจิารัยทั่าน์กิ็เห้น์ด้วยกิับ เรั่�องน์ี เม่่�อเรัิม่ลงภาคสิน์าม่ เกิ็บ ข้อมู่ล ตาม่ข้อมู่ลไปเรั่�อย ๆ ม่าพบ กิับล์งชื่น์ะ ชื่าวบ้าน์เกิาะ คน์สิซ้อ ม่อญปรัะจิำวง และสิาม่ารัถซ้่อม่ สิรั้างซ้อสิาม่สิายม่อญได้” ในป พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๕๗ เป็น
ทัะแยม่อญเจิ็ด
ศิกิษ์าเพลงและทั่วงทัำน์องเจิ็ดรัิ�ว ม่า เขาเรัียกิกิน์ว่า
รัิ�ว และกิคิดแล้วว่าใน์ฐาน์ะทัี�เปน์

ชื่่วงแรักิเปน์ชื่่วงทัี�ยากิ

ทัำน์อง

ของเพลงม่อญม่ากิน์กิ ตอน์น์ัน์กิยัง

เลน์ไม่่ไดดน์ะ จิับทัางไม่่ถกิ ครัพกิ ลกิจิำม่า ลองผู้ิดลองถกิกิน์ แต่เม่่�อ

ไปตาม่เกิ็บข้อมู่ลใน์งาน์แสิดงต่าง ๆ ทัำให้้ได้พบกิับพ่อเพลงแม่่เพลงและ เกิิดความ่สิน์ทัสิน์ม่ค์้น์เคยกิับล์ง ๆ

ๆ น์กิดน์ตรั ใน์ชื่่วงน์ัน์กิจิะม่ล์ง

27 “วงฝัักกระต๊าด” ทะแยมอญบ�านเกาะ
สิายม่อญจิะห้ายไป
ป์งบางกิรัะดี ศิิลปน์และปรัาชื่ญ ความ่รัู้ด้าน์ทัะแยม่อญ คณ์ะห้งสิ ฟ้ารัาม่ัญ ซ้ึ�งกิ็ได้ความ่เม่ตตาจิากิ ล์งกิัลยา ให้้ย่ม่ซ้อสิาม่สิายม่อญม่า ฝักิห้ัดกิน์กิ่อน์
ครัูดน์ตรั เรัาต้องทัำกิ่อน์ทัี�วงเครั่�อง
จิากิน์ัน์ผู้ม่จิึง เรัิม่ฝักิห้ัดกิน์กิับลกิศิิษ์ย และได้เดน์ ทัางไปศิกิษ์าห้าความ่รัู้จิากิล์งกิัลยา
เพรัาะยังไม่่เข้าใจิรัะบบเสิียง
ป้า
สิวสิดิ ชื่าวบ้าน์เกิาะ เป่าขล์่ยและสิ ซ้อด้วงได ป้าทัองเจิียน์ ม่าบรัรัดษ์ฐ ห้รั่อป้าเลี�ยน์ แม่่เพลง และน์างเอกิ ทัะแยม่อญคน์สิำคัญเกิ่าแกิ่ของเจิ็ดรัิ�ว นายจีรพันธั มิตรทอง พระเอกประจำวงฝัักกระต๊าด

ป้าเลี�ยน์เปน์อดีตน์กิรั้องทัะแยม่อญ

ฝั่าย ห้ญิงของ ห้ม่ อ สิ์ เ อ็ด ห้รั่ อ

ศิาสิตรัาจิารัย์เกิียรัตค์ณ์ น์ายแพทัย

สิ์เอ็ด คชื่เสิน์ (น์ายกิสิม่าคม่ไทัย

รัาม่ัญคน์ทัี ๔) ล์งอาน์น์ทั สิู่พภกิดิ

พ่อเพลง ทั่าน์กิ็เรัิม่ถ่ายทัอด เรัิม่

บอกิเทัคน์ิคของเสิียง ของเพลง

บอกิเทัคน์ิคถ้าผูู้้ห้ญิงรั้องเปน์แบบน์ี

เรัิม่จิะบรัรัเลงทัีวัดเกิาะเปน์ห้ลกิ ม่

จิะไม่่น์ำ เอาบทัเพลงสิม่ัยน์ิยม่ห้รั่อเพลงลกิ ทั์่งม่าบรัรัเลง” การบรรเลงในคณะ

จะเริ�มจาก เพี่ล่งฮะเรียงต้องหร

กิคิด ว่าชื่่�อยาวเกิิน์ไป แล้วไปเจิอรัายกิารั

ทั์่งแสิงตะวน์ ตอน์น์ัน์เห้น์ชื่่�อของวง

รัองเง็งวงห้น์ึ�ง ชื่่�อเขาสิะทั้อน์ความ่

เปน์เอกิลกิษ์ณ์์ จิึงคิดว่า ต้องตั�งให้้ม่

กิลิน์อายของความ่เปน์ม่อญ ตั�งชื่่�อว่า

‘ฝัักิกิรัะต๊าด’ ฝัักิ แทัน์ความ่ห้ม่าย

กระทู�คำถาม (ภาษามอญเรียกว่า

ฮิะอาว) แม่เพลงฝั่ายหญิงจะต�อง ร�องแก�กระทู�หรือตอบคำถามของ

28
ผูู้้ชื่ายรั้องเปน์แบบน์ี เม่่�อจิับทัางได จิึงเข้าใจิทัำน์องของเพลงทัะแยม่อญ ใน์วน์น์ัน์ม่า” ช่วงแรกของการถ่ายทอดความ รู จึงเป็นการผู้สมผู้สานวิชาความรู ทั�งจากการทีศึกษาในระดับปริญญา โท การเก็บข�อมูลวจัย และการเรียน รู�จากพ่อเพลงแม่เพลงมาถ่ายทอด ให�แกลูกศิษย
กิ
วชื่าทัี�เรัียน์ม่าใชื่ transpose เสิียง เขียน์โน์้ตให้ม่่ แกิะออกิม่าเปน์โน์้ต
เปน์เสิียงม่อญ
น์กิเรัียน์ไม่่สิับสิน์ใน์เวลาบรัรัเลง ชื่่วง
“สิ่วน์ของเสิียง เรัา
วิเครัาะห้ ต้องเทัียบเสิียง เอา
ถ่ายทัอดให้้น์กิเรัียน์ โดยกิารัตั�งสิาย
ใชื่น์ิ�วเพียงออเพ่�อให้้
จุดเริ�มต�นของการตั�งชื�อวงจึงเกิด ขึ�นจากการไปบรรเลงในงาน “เลน์ไป ไดสิกิพกิ ม่ีคน์ม่าถาม่ ม่าติดต่อ คิด ว่าน์่าจิะต้องม่ีชื่่�อวง ใน์ชื่่วงแรักิทัีคิด สิม่์ทัรัสิาครั ตน์ไม่้ปรัะจิังห้วัด ค่อตน์ โพธัิทัะเล ตอน์แรักิจิึงคิดว่าจิะใชื่้ชื่่�อ ว่า ตน์กิล้าโพธัิทัะเลบ้าน์เกิาะ
อะไรักิ็พากิน์ไป ยังไม่่ม่ีชื่่�อวง”
ห้ม่ายถึง เดกิ ๆ ‘กิรัะต๊าด’ เปน์ ชื่่�อทัี�คน์ม่อญเรัียกิผู้กิชื่น์ิดห้น์ึ�ง คน์ ไทัยเรัียกิว่า กิรัะเจิี�ยบเขียว จิึงเอา ม่ารัวม่กิน์เปน์ชื่่�อ ‘วงฝัักิกิรัะต๊าด’ และเวลาไปงาน์กิจิะต่อทั้ายว่า วง เครั่�องสิายม่อญ/ทัะแยม่อญบ้าน์ เกิาะ” สมาชิกของวงเป็นนักเรียน ดนตรีไทยของโรงเรียนบ�านอ�อม โรงหีบ และมีนายจีรพันธั มิตรทอง เป็นเยาวชนคนรุ่นใหมทีมีความสนใจ สามารถพูดภาษามอญได� อยู่ชุมชน มอญวัดกำพร�า มหาชัย มีใจรักใน การอนรักษ์ทะแยมอญ จึงได�มาร่วม วงกัน และได�ไปฝัากตัวเป็นลูกศิษย ของป้าเลี�ยน ทองเจียน มาบรรดิษฐ “วงของเรัาม่ีแตน์กิรั้องผูู้้ชื่ายรั้องคน์ เดียว ไม่่ม่น์กิรั้องผูู้้ห้ญิง งาน์ไห้น์ทัี เปน์งาน์ให้ญกิ็เชื่ิญป้าทัองเจิียน์ ม่า บรัรัดษ์ฐ และล์งอาน์น์ทั สิู่พภกิดิ ม่า แสิดงเปน์พ่อเพลงแม่่เพลง” บทเพลงที�บรรเลงประกอบการ ร�องทะแยมอญ นำบทเพลงดั�งเดิม ที�ได�รับการถ่ายทอดมาบรรเลง “พยายาม่จิะรัักิษ์าบทัเพลงดั�งเดม่ไว ต้องกิารัอน์์รัักิษ์์และรัักิษ์าไว
ที�วงทะแยมอญเจ็ด ริ�วบรรเลงเ พื�อเ ป็นการโหมโรง โดยบรรเลงซึ่�ำวนกลับต�นไปมา เพี่ล่งเจิกมััว เป็นเพลงสำหรับพ่อ เพลงฝั่ายชายเป็นผู้ร�องเพื�อตั�งกระทู คำถามให�ฝั่ายแม่เพลงฝั่ายหญิงแก�
เป็นเพลงแรก
พ่อเพลง เรียกว่า หนิเปรี�ย ฮิะอาว แปลว่า แม่เพลงผู้ร�องแก�คำถาม และ เพี่ล่งโปต้เซ เป็นเพลงสำหรับ แม่เพลงฝั่ายหญิงเป็นผู้ร�องเพื�อตั�ง กระทู�คำถามให�พ่อเพลงฝั่ายชายแก� การแสดงทะแยมอญ สาธัารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
29 การแสดงทะแยมอญ ในพธัีพระราชทานเพลิงศพ พระครูโสภณสมุทรสาร (อดีตเจ�าอาวาสวัดธัรรมเจดย์ศรพพัฒน์)
30 การอนรักษ์และสืบสานวัฒนธัรรมดนตรีทางชาตพันธั์ุ กระทู�คำถาม (ภาษามอญเรียกว่า ฮิะอาว) พ่อเพลงฝั่ายชายจะต�อง ร�องแก�กระทู�หรือตอบคำถามของแม เพลงฝั่ายหญิง เรียกว่า หนิเกราะห ฮิะอาว แปลว่า พ่อเพลงผู้ร�อง แก�คำถาม (นพดล แจบ�านเกาะ, ๒๕๖๐: ๑๐๘) จากการบรรเลงที�เป็นเอกลักษณ ส่งผู้ลให�เริ�มมชื�อเสียงเป็นทีรูจัก จึง ได�รับเชิญไปงานของชุมชนมอญต่าง ๆ “ได้รัับเชื่ิญให้้ไปแสิดงใน์งาน์กิล์่ม่ ชื่าตพน์ธัและม่ห้าวทัยาลัยต่าง ๆ

เลยกิว่าได เปน์ความ่ภาคภม่ิใจิทัี�ได

พาน์กิเรัียน์ไปแสิดง

ทะแยมอญ บ�านเกาะ” นับเป็นวงทะแยมอญรุ่น ใหมทีสืบทอดเชื�อสายของชาวมอญ และเป็นการนำเอาศิลปวัฒนธัรรมที มีความโดดเด่นของกลุ่มชาตพันธัุ์ มาต่อยอด พัฒนาองค์ความรู�นำ ไปสู่การเผู้ยแพร่และดำรงอยู่ทาง

31 การอนรักษ์และสืบสานวัฒนธัรรมดนตรีทางชาตพันธั์ุ จิึงได้พบกิับอาจิารัยพศิาล บ์ญปลกิ ทั่าน์ติดต่อให้้ไปเลน์ทัีม่ห้าวทัยาลัย สิ์โขทััยธัรัรัม่าธัรัาชื่ ตอน์น์ัน์กิ็ได้พบ กิับพี�โม่โม่และพี�ดา น์กิธั์รักิิจิชื่าวม่อญ จิึงได้เชื่ิญไปเลน์ใน์งาน์วน์ชื่าตม่อญ ทัี สิาธัารัณ์รััฐแห้่งสิห้ภาพเม่ียน์ม่า ใน์ป ๒๕๖๒ รั่วม่กิับวงทัะแยม่อญทัี�อยู่ใน์ รััฐม่อญ ถ่อเปน์งาน์ทัี�ให้ญ่ของคณ์ะ
เผู้ยแพรั่ความ่รัู้ ใน์ฐาน์ะตัวแทัน์ชื่าวไทัยเชื่่�อสิายม่อญ ใน์ปรัะเทัศิไทัย” ทะแยมอญบ�านเกาะ นับเป็น ศิลปวัฒนธัรรมของชาวมอญทีมีความ โดดเด่นและคงความเป็นเอกลักษณ ไว�ได�อย่างงดงาม แต่หากขาดการ สืบทอดอาจส่งผู้ลให�สูญหายในไม ช�า แตด�วยการเห็นคุณค่าและความ สำคัญต่อการศึกษาวัฒนธัรรมดนตร ของครูนพดล แจบ�านเกาะ จึงได�ก่อ ตั�งวงและรื�อฟื้้�นทะแยมอญบ�านเกาะ ให�กลับมามีบทบาททางสังคม นำ ไปสู่การถ่ายทอดความรู การสืบทอด อนรักษ ทะแยมอญในแบบดั�งเดิมให� อยู่คู่กับชุมชน และพัฒนาจนเกิด เป็นวงดนตรทีมชื�อเสียง ซึ่�งหากจะ กล่าวถึง “วงฝัักกระต๊าด
วัฒนธัรรมในสังคมปัจจบัน อ้าง๊อง๊ นพดล แจบ�านเกาะ. (๒๕๖๐). กฺรอว์เจิกป๊อย : อัตลักษณ์เครื�องดนตรีของชาวมอญและบทบาทในวงกฺรอวจฺยามฺ. วิทยานิพนธัศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขามานุษยดริยางควิทยา คณะศิลปกรรมศาสตร บัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. นพดล แจบ�านเกาะ สัมภาษณ์เมื�อวันที ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ โรงเรียนบ�านอ�อมโรงหีบ ตำบลบ�านเกาะ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร.

เช่น ส่งงานไม่ตรงเวลา

หน�าชั�นเรียน และการเลื�อนกำหนดวัน

สอบการบรรยายประกอบการแสดง

เดี�ยว (Lecture Recital) เป็นต�น

เนื�องจากนักศึกษาขาดการวางแผู้น

การทำงานทีดจึงส่งผู้ลให�ไม่สามารถ

ทำงานได�สำเร็จตามกำหนดเวลา การ เริ�มต�นในการวางแผู้นการทำงานทีม ประสิทธัิภาพสามารถช่วยลดปัญหา ด�านการเรียนแกนักศึกษาได� ขั�นตอน และความซึ่ับซึ่�อนของการวางแผู้น

มีหลากหลายรูปแบบ

ขึ�นอยู่กับอาชีพ ลักษณะประเภทของ

งาน และบริบทต่าง

ให�คำปรึกษาการวางแผู้นและการ สร�างแบรนด

๓) การกำหนดระยะ เวลา และ ๔) การรักษากำลังใจ การกำหนดจุดหมายปลาย ทาง เป็นเข็มทิศนำทางที�สำคัญ ต่อการทำงาน ผู้นวกกับการสร�าง จินตนาการภาพเป้าหมายปลายทาง ทีชัดเจนจะช่วยให�เรามองเห็นองค ประกอบและรายละเอียดส่วนอื�น ๆ ที�ทำให�งานมีความครบถ�วนสมบูรณ มากยิ�งขึ�น เช่น

32 MUSIC EDUCATION เรื่อง: วภัาวรรณ จ�าเนียรพันธัุ์ (Wipawan Jumneanpan) อาจารย์ประจ�าสาขาวิชาดนตรศึกษา วิทยาลัยดริยางคศิลป มหาวิทยาลัยมหิดล จากประสบการ ณ์การสอน ของผู้�เขียนทีผู้่านมา สังเกตเห็นว่า นักศึกษาหลายคนประสบปัญหาด�าน การเรียน
ความไม่พร�อมในการนำเสนองาน
การทำงาน
ๆ ที�เกี�ยวข�อง การทำงานของอาชีพครีเอทฟื้ ไดเรกเตอร์และครีเอทฟื้คอนซึ่ัลแทนต
ทำหน�าที
(มานาบ มซึุ่โนะ, ๒๕๖๓)
(Branding) เริ�มตั�งแต
ผู้ลิตโลโก ทำ โพรเจกตสินค�า แพ็กเกจดีไซึ่น ออกแบบ ตกแต่งภายใน จะเห็นได�ว่าขั�นตอน การวางแผู้นและการสร�างแบรนด์ให� ได�รับความนิยมนั�นมีความซึ่ับซึ่�อน ต�องเข�าใจความต�องการของลูกค�า ทุก คนในทีมเห็นภาพจุดหมายปลายทาง เดียวกัน การค�นคว�าหาข�อมูลที เกี�ยวข�อง การทำงานเป็นทีม อาชีพ นี�เป็นตัวอย่างอาชีพทีต�องอาศัย การวางแผู้นการทำงานทีด ทั�งการ ทำงานคนเดียวหรือทำงานเป็นทีม จำเป็นต�องมีการกำหนดระยะเวลา ของแต่ละขั�นตอนทีชัดเจนเพื�อช่วย ติดตามความก�าวหน�าของงานและ ช่วยให�งานสำเร็จตามเป้าหมายทีตั�ง ไว� ในทีนี�ขอนำเสนอการวางแผู้นการ ทำงานสำหรับมือใหม ประกอบด�วย ๔ ข�อ คือ ๑) การกำหนดจุดหมาย การื่วางแผู้นการื่ทางานทดุ่ ค์วรื่เรื่ิ�มตำ�นทตำรื่งไหน? ปลายทาง ๒) การกำหนดขั�นตอน การทำงาน
การนำเสนอการ บรรยายประกอบการแสดงเดี�ยว ของนักศึกษาสาขาวิชาดนตรศึกษา ชั�นปที ๓ ประกอบด�วย ๑) การนำ เสนอในรูปแบบการบรรยาย ๒) การ สาธัิตการปฏบติเครื�องดนตร ๓) การบรรเลงเดี�ยว ๔ ) เครื�องดนตร บรรเลงประกอบ เช่น เปียโนหรือ วงดนตร ๕) สถานทีจัดการแสดง เป็นต�น ดังแผู้นภมที ๑
การออกแบบแบรนด

การกำหนดระยะเวลาทีชัดเจน เป็นการกำหนดเส�นตายของการทำงาน (Deadline) ในแต่ละขั�นตอนช่วย ให�เกิดความก�าวหน�าของงาน เป็น ไปตามขั�นตอนที�กำหนด หากไมม การกำหนดเวลาทีชัดเจนจะเกิดการ ผู้ัดวันประกันพรุ่ง เป็นสาเหตที�ทำให� งานไม่สำเร็จบรรลุตามเป้าหมาย ทีตั�งไว� เราต�องกำหนดระยะเวลา ทั�งหมดที�ใช�ในการเดินไปถึงจุดหมาย ปลายทางแล�วจึงกำหนดระยะเวลา

(Lecture Recital)

33 การกำหนดขั�นตอนการทำงาน เป็นการเรียงลำดับการดำเนินงาน เพื�อช่วยให�เกิดความราบรื�นในการ ทำงาน สำหรับมือใหม่อาจยังไมคุ�นเคย ในการเขียนขั�นตอนพร�อมการเรียง ลำดับไปในเวลาเดียวกัน อาจใช�วธั เขียนหัวข�อขั�นตอนต่าง ๆ ตามทีนึก ได�ออกมาก่อน หลังจากนั�นค่อยนำ มาเรียงลำดับความสำคัญของขั�นตอน การทำงาน แล�วจึงนำมาสร�างเป็น รูปแบบการทำงานเพื�อสะดวกต่อ การใช�งานในครั�งถัดไป ดังตัวอย่าง การลำดับขั�นตอนของการบรรยาย ประกอบการแสดงเดี�ยว คือ ๑. กำหนดหัวข�อการแสดง ๒. เลือกบทเพลง ๓. ค�นคว�าและรวบรวมข�อมูล ๔. จัดพิมพ์รายงาน ๕. จัดทำสจบัตรและโปสเตอร ๖. จองสถานที ๗. การซึ่�อมเตรียมความพร�อม ก่อนการแสดง (Rehearsal) ๘. การสอบภาคบรรยาย (Hearing) ๙. วันสอบการบรรยายประกอบ การแสดงเดี�ยว
ทำงานในแต่ละขั�นตอน เช่น กำหนด วันสอบการบรรยายประกอบแสดง แผู้นภมที ๑
ชั�นปที ๓
การนำเสนอการบรรยายประกอบการแสดงเดี�ยวของนักศึกษาสาขาวิชาดนตรศึกษา

การที�เราวาดภาพเป้าหมายได�ชัดเจนจะเป็นตัวบ่งชีถึงความสำเร็จในการทำงาน

นั�น การสร�างแรงบันดาลใจให�ตนเองอยู่เสมอจะช่วยให�มีกำลังใจทีดต่อการทำงาน

การจัดสรรเวลาระหว่างการทำงานและการพักผู้่อนที�เหมาะสมสามารถช่วย

สิิ�งสิําคัญทัี�ไม่่ม่ีใครัเคยสิอน์. แปลจาก Ichiban Taisetsu nanoni Daremo Oshiete Kurenai Dandori no Kyokasho. (อาคิรา

34 เดี�ยวช่วงสัปดาหสุดท�ายของเดือนมีนาคม ๒๕๖๖ หากปัจจบันเป็นสัปดาห์แรกของเดือนธัันวาคม ๒๕๖๕ ดัง นั�น มีระยะเวลา ๔ เดือน หรือเท่ากับ ๑๖ สัปดาห ในการเตรียมงานตามขั�นตอนต่าง ๆ ดังตารางที ๑ การวางแผู้นการทำงาน ๓ ข�อข�างต�นนี มีความสอดคล�องกับการวิเคราะห “การทำงาน” ของมานาบ มซึุ่โนะ (๒๕๖๓) ได�แบ่งออกเป็น ๓ ข�อ คือ ๑) กำหนดจุดหมายปลายทาง ๒) วาดแผู้นทีที�จะเดินไปถึงจุดหมาย ปลายทาง และ ๓) เดินไปให�ถึงจุดหมายปลายทาง การกำหนดจุดหมายปลายทาง มีเป้าหมายทีชัดเจน คือ สิ�งสำคัญอย่างยิ�งในการทำงาน
นอกจากนี การรักษากำลังใจ ก็เป็นสิ�งจำเป็นมาก การทำงานในแต่ละขั�นตอนอาจพบปัญหาต่าง ๆ ที�เข�า มาท�าทายทดสอบจิตใจตลอดเวลา เราควรมีการอดทน ไมย่อท�อต่ออุปสรรค มีความตั�งใจและความมุมานะ ดัง
นอกจากการดูแลสุขภาพใจ แล�ว สุขภาพกายก็สำคัญไม่แพ�กัน
ลดความเครียดและช่วยให�จิตใจเกิดการผู้่อนคลาย จากข�อความที�กล่าวมานี เห็นได�ว่า การวางแผู้นการทำงานทีดีควรเริ�มต�นจาก ๑) การกำหนดจุดหมาย ปลายทางเป็นตัวกำหนดเข็มทิศการทำงาน ๒) การกำหนดขั�นตอนการทำงานช่วยให�เกิดความราบรื�นในการ ดำเนินงาน ๓) การกำหนดระยะเวลาของขั�นตอนต่าง ๆ ทีชัดเจนช่วยให�เกิดความก�าวหน�าของงาน และ ๔) การรักษากำลังใจและการจัดสรรเวลาการทำงานทีดช่วยให�จิตใจมีความผู้่อนคลาย นอกจากนี เราสามารถนำ การวางแผู้นการทำงานไปปรับใช�ให�เกิดประโยชน์ในชวิตประจำวัน การวางแผู้นการเรียนและการทำงาน เพื�อให� งานสำเร็จบรรลุตามเป้าหมายภายในระยะเวลาที�กำหนด เอกสารอ้าง๊อง๊ ปิยะธัิดา ปัญญา. (๒๕๖๔). บทวิจารณ์หนังสือ (Book Review) “วิชาวางแผู้นการทำงาน สิ�งสำคัญที�ไมมีใคร เคยสอน”. วารัสิารัม่ห้าวทัยาลัยรัาชื่ภัฏม่ห้าสิารัคาม่, ๑๕(๒), ๒๑๓-๒๑๖. มานาบ มซึุ่โนะ. (๒๕๖๓). วชื่าวางแผู้น์กิารัทัํางาน์
รัตนาภรัต, ผู้�แปล). นนทบรี: อมรินทร์พริ�นติ�ง. ตารางท ๑ การบรรยายประกอบการแสดงเดยว (Lecture Recital) ขนตอน ธนวาคม ๒๕๖๕ มกราคม ๒๕๖๖ กมภาพนธ ๒๕๖๖ มนาคม ๒๕๖๖ W1 W2 W3 W4 W1 W2 W3 W4 W1 W2 W3 W4 W1 W2 W3 W4 ๑ กาหนดหวขอการแสดง ๒ เลอกบทเพลง ๓. คนควาและรวบรวมขอมล ๔ จดพมพรายงาน ๕. จดทาสจบตรและโปสเตอร ๖ จองสถานท X ๗ การซอมเตรยมความพรอมกอนการแสดง ๘. การสอบภาคบรรยาย X ๙ วนสอบการบรรยายประกอบการแสดงเดยว X
INTERVIEW

มาเจออาจารย ตอนสอบอาจารย บอกว่าที�เราเล่นจะเข�มามันผู้ิดหมด เลย อาจารย์บอกให�เปลี�ยนวธัีเล่น ด วธัพันไม�กับนิ�วเวลาเล่นจะเข�มัน ผู้ิดวธัีนะ พอทำถูกวธัีแล�วมันไมคุ�น หนูเล่นไม่ได�เลย ก็เลยร�องไห�ตั�งแต ออกจากห�องสอบเลยค่ะในวันนั�น แต ความรูสึกหนูตอนนั�นรูสึกว่าอาจารย

37 เรื่อง: อรรถวิทย สิทธัรักษ (Attawit Sittirak) เจ�าหน�าที่ฝ่่ายการตลาดและประชาสัมพันธั วิทยาลัยดริยางคศิลป มหาวิทยาลัยมหิดล การสัมภาษณ์ครั�งนี�เราจะพา ทุกคนไปรูจักกับนักเรียนดีเด่นจาก วิทยาลัยดริยางคศิลป มหาวิทยาลัย มหิดล นั�นกคือ โฟื้ม อรจิรา อุดม จรรยา ศิษย์เก่าสาขาวิชาดนตรีไทย และดนตรีตะวันออก เครื�องมือเอก จะเข� ปัจจบันยังเป็น ดาว TikTok ที�ทำคอนเทนต์เกี�ยวกับไลฟื้์สไตล และจะเข�อีกด�วย วันนี�เราไปรูจัก น�องโฟื้มกันครับ ทา ไมถึึ ง๊ เ ลิ้ อกมาเ รียน ท วิทยา ลิัย ดุุริยาง๊คศลิป์์ มหาวิทยาลิัยมหดุลิ ตัง๊แตมธัยม ตอนโฟื้มเรียนมธัยมศึกษาปที ๔ เคยตั�งใจไว�ว่าจะไปเป็นวิศวกร ในอนาคต แบบจริง ๆ จัง ๆ ด�วย นะ แล�วดันมีเพื�อนที�เรียนโรงเรียน เดียวกันตอนนั�นเขาบอกว่า เขา อยากมาเรียนมธัยมศึกษาปที ๔ ที วิทยาลัยดริยางคศิลป มหาวิทยาลัย มหิดล แล�วไม่อยากมาคนเดียว เราก เลยมาสอบเป็นเพื�อน พอมาถึงแล�วก มาเจอสถานที มาเจออาจารย จริง ๆ ตอนสอบเล่นไม่ได�เลย มารูก็ตอน
เขายินดที�จะสอนเรามาก เราก็เลย อยากเรียน อยากเล่นดนตรีไทย พอได�
“FOAM โฟื้ม ค์นจะเข้” TikTok สาย์ดุนตำรื่ีไทย์

ตอนนั�น

เราพร�อม เรามีใจ เราก็เรียนดีกว่า (แล่้ววิศวะล่่ะ - ทมังานถามั) ก

ทิ�งไปเลยค่ะ

ทาไมเลิ้อกดุนตรีไทย มีคนเล่นดนตรอื�น ๆ เยอะแล�ว

เด็ก ๆ อาจจะรูสึกว่าดนตรีไทยมัน

เชย โบราณ แตถ�าเราเห็นมันจริง ๆ

เราจะเห็นว่าดนตรีไทยมีหลาย ๆ

อย่างทีพัฒนาได� และเป็นสมบติของ

38 เจออาจารย เลยมีความคิดหนึ�งว่า ถ�าเราพร�อม ถ�าเรามีเงินแล�ว เราม ความตั�งใจที�จะเรียนดนตรีไทยแล�ว และถ�าเราไม่เรียน แล�วจะมีใครที�จะ เรียนดนตรีไทยอีกไหม จะมีใครที�จะ สืบสานดนตรีไทยต่อไปไหม
ชาต ถ�าคนไทยไมดูแล ก็ไมมีใครดูแล แล�วถ�าคนรุ่นใหม่ไมขึ�นมา เราจะให� ครูบาอาจารย์หรือคนอายุมากมาด และสุดท�ายเขาก็จะต�องจากโลกนี�ไป แต่เราไมมีเด็กรุ่นใหม่สร�างมติใหม ๆ ให�เกิดขึ�น ดนตรีไทยจะอยู่ต่อไปได� ไหม ซึ่�งดนตรีไทยมคุณค่ามาก ๆ ไมมีชาติไหนมีแบบที�เราม ดุนตรีไทยพอสง๊เขป์ ดนตรีไทยในเอเชียตะวันออก เฉียงใต�เป็นวัฒนธัรรมร่วมค่ะ เราจะ เห็นเครื�องดนตรีอย่างระนาด จะเข� ในเขมร ลาว อินโดนีเซึ่ีย เราจะเห็น เครื�องดนตรทีมันมลักษณะคล�าย ๆ กัน พอมันเข�าไปอยู่ในประเทศต่าง ๆ ก็จะถูกพัฒนาไปในแบบของประเทศ นั�น ๆ ระนาดที�อยู่ที�ไทยก็จะเล่น เพลงของไทยทีถูกพัฒนาขึ�นมา จะเ ข�ที�อ ยู่ที�เขมร ก็จะเ ล่นเพลง ของแต่ละชาตนั�น ๆ การแกะสลัก การพัฒนาทุก ๆ อย่าง โดยครูบา อาจารยที�เป็นพลเมืองของชาตนั�น ๆ ในแผู้่นดินสุวรรณภม
ทุกคนน่าจะคิดแบบนี�นะหนว่า มา เรียนดนตรน่าจะสบาย ๆ มันคงผู้่อน คลาย พอมาเรียนจริง ๆ แล�ว หน
หนว่า หนูทำได�นะ แต่ดนตรมันไม่สามารถ ทำให�ทุกสิ�งเกิดขึ�นได�ภายในคืนเดียว ถ�าครูให�เพลงไปแล�วพรุ่งนี�มาเล่น มันทำไม่ได� มันต�องใช�ระยะเวลา ประมาณหนึ�งในการฝัึกฝัน หนน่า จะเป็นรุ่นแรก ๆ ที�ได�เข�าไปเรียนที ตึกเตรียมอุดมดนตร หนว่าการเรียน ทีนี ตอนนี�เป็นโรงเรียนประจำแล�ว มันกมข�อดข�อเสียของมันนะ ตอน ที�หนูเรียนด�วยความทียังไม่ได�เป็น โรงเรียนประจำ ความอิสระก็เยอะ มาก ๆ ก็เลยมีเพื�อน ๆ ที�หายไป
เตรียมอดุมดุนตร ตอนแรกคิดว่ามันจะไม่เครียด
คิดว่ามันเครียดมากกว่าเรียนวิศวะ อีกนะ อย่างวิศวะเราทำความเข�าใจ หรือท่องจำภายในคืนเดียว

เราเรียน ทีนี�เราก็ได�ทำคอนเสร์ตมา ๓ ครั�ง

แล�ว

นั�น ถ�าเขาอยากไปไหน หนูอยาก เป็นผู้�นำทางให�เขาไปในทิศทางนั�น หนูเข�าใจเด็กนะ เพราะเราก็เป็น คนรุ่นใหม และหนก็เข�าใจความ เป็นครูผู้�ใหญด�วย ว่าเขาคิดอย่างไร เขาเห็นอย่างไร ถ�าเรามาสอน เรา ก็จะสามารถทำให�เด็กของเรารูทั�ง มุมมองเก่าและมุมมองใหม เลย อยากเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย พยายามจะให�จบปริญญาเอกภายใน อาย ๓๐ นีค่ะ

39 ระหว่างทาง หมายถึงว่าออกไปกลาง คัน จากหลาย ๆ สาเหต การที�เป็น โรงเรียนประจำแล�วเคร่งครัดมาก ๆ ก็จะทำให�เรามีเป้าหมายทีชัดเจน ทำให�เราโฟื้กัสแค่เรื�องดนตรีเท่านั�น อดุมศึกษา มันก มีการเปลี�ยนแปลง นิด หน่อยค่ะ แต่พอหนูเรียนจบแล�วหน ว่าตอนเรียนช่วงมธัยมมันมีอะไรให� ทำเยอะกว่า มีหลาย ๆ สิ�งที�ทำให� เราเติบโตอย่างก�าวกระโดด
เติบโตข�างนอก ก็ตามวัยแหละค่ะ ๗ ป์ ท วิทยา ลิัยดุุ ริยา ง๊ ค ศ ลิ ป์์ มหาวิทยาลิัยมหดุลิ มันเยอะมาก มันสร�างสิ�งที ชัดเจนคือโอกาส ทีนี�ให�โอกาสเรา ได�สัมผู้ัสกับนักดนตรที�เป็นมืออาชีพ จริง ๆ บางทีตอนที�เราเรียนอาจ จะไมรู แต่พอเราจบไปแล�ว เรา ได�ทำงาน เราจะรูว่าสิ�งที�เรารู�มา จากการทำงานหรือว่าการเห็นคน ที�เป็นมืออาชีพจริง ๆ เขาทำงาน กันอย่างไร เขาใช�ชวิตกันอย่างไร มันทำให�เรามีประสบการณ์โดยที เราไมรูตัว เราจะวางตัวเป็นในโลก ของสังคมดนตร เราจะรูว่าเราควร จะใช�ความรูที�เรามีอย่างไร ถ�าเรา เจอคนฟื้ังแบบนี เราต�องเสนออะไร ให�เขาฟื้ัง ทีนี�สอนค่ะ ทีนี�ไม่ได�สอน เป็นการโยนหนังสือมาให�เราแล�วให� เราไปเรียนรู แตทีนี�สอนว่า ถ�าเราเจอ คนดูแบบนี คนดที�เป็นนักดนตรีเรา ต�องเสนออะไร คนดที�เป็นคนทั�วไป ต�องเสนออะไร เขาจะเข�าใจอะไร ได� โอกาส ได�ความรูกคือได�เต็มที�เลย ได� อย่างหลากหลาย ดนตรีไทยกต�อง รู ดนตรีสากลกต�องรู อย่างเวลาม กิจกรรมเราก็ได�เจอนักดนตรีระดับ โลกใกล� ๆ ได�เรียน ได�เข�าเวร์กชอป ได�ทำงานจริง ๆ เหมือนเราได�เรียน รู�โลกของดนตรีขนาดย่อมาไว�ทีนี ให�เราได�เรียนรูก่อนที�เราจะออกไป ใช�ชวิตเป็นนักดนตรีจริง ๆ ในโลก ของดนตร คือวิทยาลัยดริยางคศิลป มหาวิทยาลัยมหิดล สอนให�เราเป็น นักดนตรมืออาชีพจริง ๆ TikTok สาย ดุ นต รีไทย “FOAM โฟม คนจะเข้” หนกว่าหนูเริ�มมาเหมือนคนอื�น ๆ นะคะ ตอนแรกก็อยากเล่นอวดแมว แมวน่ารักอยากให�คนดูแมว แต่คน ไมดูแมว ก็เลยเอาวดีโออะไรก็ได�ที ตัวเองมีอยู่ใส่ลงไป แล�วมันก็เวร์ก ดนตรีไทยธัรรมดาเลย เล่นเพลง ทั�วไปที�เราคิดว่ามันง่าย เอาลงไป มันกลายเป็นมียอดวิวสามสี�แสน ทำไม คนชอบดูดนตรีไทยเหรอ มันก เป็นหนึ�งในแพลตฟื้อร์มที�ไว�เผู้ยแพร ดนตรีไทย บางทีคนอาจจะลืมไปว่า ดนตรีไทยมันน่ากลัว มันเหมือนผู้ มันมากับภาพยนตร์อะไรแบบนี เรา แค่โยนมุมมองอื�น ๆ ให�เขา มันมา แบบสวยก็ได�นะ มันไมต�องช�า มัน เร็วก็ได� เราแซึ่่บก็ได�นะ มันทำให�
ๆ และป๊อบ ทีทุก ๆ คนฟื้ัง มันก็ทำให�คนเข�าถึง ดนตรีไทยได�มากขึ�นไปด�วย อนาคตของ๊โฟม อรจิรา อดุมจรรยา ตอนนี�โฟื้มเรียนปริญญาโทอยู่ ค่ะ ที�สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป ก สาขาดริยางคศิลป์เหมือนเดิม แล�วก สอนด�วย เป็นทั�งคุณคร เป็นนักเรียน เป็น TikToker ทำงานอีเวนตต่าง ๆ งานเบื�องหลังมีมากมาย สุดท�ายโฟื้ม อยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มัน อาจจะดธัรรมดา แต่โฟื้มชอบที�จะ สอนผู้�ใหญ เราคิดว่าเรามศักยภาพ
แต่พอมาเรียนมหาวิทยาลัย เหมือนคนเยอะขึ�นก็จะเฉลี�ยกันไป เติบโต ก็จะออกไปทำงานข�างนอก
คนเห็นและคนสนใจดนตรีไทยมาก ขึ�น เราเข�าไปนั�งในใจคนดก่อน เรา ก็เริ�มเล่นจากเพลงง่าย

Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.