Flowers never lean down.

Page 1

1


2


ดอกไม้มิเคยไหวเอน

Flowers never lean down [บทกวีอิสระ]

ปันนารีย์

3


4


Special Thanks

ดอกไม้มิเคยไหวเอน สำหรับฉัน หมายถึงไม่เคยห่างหายไปจากบทกวี บทกวียังเป็นลมหายใจ ขอบทกวีส่งต่อเป็นกำลังใจให้ทุกคน

5


Hello โปรดเถิด โปรดกล่าวคา สวัสดีกบั ฉัน ผูเ้ ปลือยเปล่าและไร้ใบหน้า โปรดเถิด…วาดเส้นผมให้เงาดาสลวย ปั ดคิว้ ด้วยแปรงเรียวและคมชัด แต้มแก้มเรื่อแดงอย่างอ่อนหวาน โปรดเถิด…คืนรอยยิม้ งดงามและแจ่มใส ให้ใบหน้าอันฉาบฉวย คืนทรงจาแห่งรุง่ อรุณ ทิวาใดโอบกอดให้เศร้าเปลี่ยวดาย ไม่มีสิ่งใดหลงเหลือ ณ ที่แห่งนัน้ โปรดจดจาฉันและเปล่งเสียง สวัสดี ให้ดงั อย่าลืมแปรงขนตาของฉันให้ยาวกว่าที่เธอเคยรูจ้ กั ก่อนจะปลดปล่อย และจดจาฉันใหม่ บนใบหน้าของเธอจินตนาการถึง 6


กระจกเงา เขียนจากเส้นผมอันหยาบกระด้าง บันทึกจากดวงตาล้าแรง วาดลายเส้นขอบจากริมฝี ปากเงียบใบ้ ร่างจากเส้นเอ็นใต้ผิวหนัง พอกพูนซ้อนทับ ไม่ต่างจากคราบตะไคร่หนาทึบ แยกไม่ออกว่าเป็ นผนึกเป็ นร่างของใคร เงยหน้ามองกระจกนัน้ เห็นชัดเจน แต่กลับไม่เข้าใจ

7


ฉันไง นี่ฉนั ไง นอนกลิง้ บนทรายร้อนผ่าว คมพยับแดดขยับปี กราวกับรุง้ กล่าวคาสวัสดีอกี ครัง้ สายนา้ ปลิดปลิว รอยย่าแผ่วเบาบนพืน้ ทราย ไม่มีสายนา้ พัดหาย ความดีงามเหลือเพียงกรวดเม็ดเล็ก นั่นก็ฉนั หัวเราะเริงร่าท่ากลางหมอกสายเดิม เกล็ดวาวของค่าคืน วงแขนกอดรัดตัวเองหลวมโพรก เผชิญหน้าด้วยแขนขาที่ไร้ปีก ทักทายกันเหมือนถ้อยคาลาไม่หลงเหลืออีกต่อไป

8


สูญเสีย สิ่งสูญเสียมีมากมาย ไหลรินบนเปลือกผิวนา้ กระเพื่อมไหวด้วยแรงลม ร่อนเร่ปักหมุดหมาย และจากเราไป ความว่างเปล่า คล้ายคงอยู่ เหมือนป่ าฝนเขียวชอุ่ม ห่มคลุมตานา้ ใบหลากสีหล่นร่วง กระเพื่อมไหวคือท้องฟ้าและก้อนเมฆ กระทั่งรุง่ อรุณนัน้ เปลี่ยนแปลง

9


หนาวลมราตรี ภูเขาและเมฆอันเป็ นที่รกั โอบกอดฉันไว้ที เจ้าดอกไม้ไยทิง้ ฉันไว้ ณ เบือ้ งล่าง หนาวลมราตรี ริมป่ าช้าของความเป็ น ฉันมิอาจทาตัวผึง่ ผายยืนทระนง เพื่อสูดดมความเย็นสบายแต่เพียงลาพัง ผูค้ นนับล้านล้วนหิวกระหายและดิน้ รน ความตายกวักมือซา้ ฉันจะก้มตัวลงเพื่อค้นพบความหมายใด ท่าทางอันนอบน้อมนัน้ เปี่ ยมไปด้วยศรัทธาจริงอยู่หรือไม่ ในอ่างล้างหน้าของพระเจ้า เราอยู่อย่างไร้ หนาวลมราตรีใด จึงปราศจาก

10


เขตกักกัน ณ เวลานี ้ ฉันยืนอยู่รมิ ทะเลสาบแห้งแล้ง เงียบและโปร่งบางของยามเช้า กับฝูงอีกาตัวเขื่องที่เฝ้ามองสรรพสิ่งอยู่บนต้นไม้ไร้ใบ มีทิวเขาสีดาโชยกลิ่นควันเทาจากกลางคืน ไม่พบเรือลาใดทอดสมอทิง้ ไว้ คาสัญญาพลัดหลงปลิวจากชายฝั่ง บรรดาชาวประมงยังไม่กลับมา มีความหิวของเด็ก ๆ อยู่ท่ฟี ากนัน้ ชายแดนกักกันอาหารและเมล็ดพันธุ์ มีความหิวของเด็ก ๆ อยู่ท่นี ่นั ฉันตะโกนซา้ เงียบเชียบ

11


ก่อนสู่ความสว่าง ฉันชวนคุณมายืนสงบนิ่ง แดดทะลุลอดเงาไม้ ร่มบังใบมิใช่ขอบเขตกักกัน คุณไม่อาจยืนอยู่ลมคืนคลั่งได้อีกครัง้ บ่ายหน้าหนีอยู่พนั หน เงียบและโปร่งบาง ณ เวลานี ้ ให้เวลาฉันสงบนิ่งสักเพียงชั่วครู่ ไว้อาลัยแด่เกลื่อนความตาย พวกเขาไม่ใช่เส้นกราฟไว้พยากรณ์อนาคต ลมกระแทกกิ่งไม้อีกหน ไม้หกั โค่นนัน้ เป็ นของกิ่งไหม้เมื่อวาน

12


คำอธิษฐาน ระเหยหายไปแล้วจากแสงอ่อนจาง ฤดูรอ้ นที่ไร้ดอกไม้ จักจั่นซุกตัวเงียบใบ้ใต้รม่ ใบบาง แก่งหินร้องครวญครางแผ่วแผ่ว เซาะซอนจากไปไหนแล้วโลกใบใหญ่ สายนา้ ลีบเรียว ดวงดาวลิบไกลส่องแสงไม่ถงึ แมลงนับล้านจู่โจม พลิกหน้าตานานซอมบีอ้ อกมาเดินสวนทาง เพื่อนของเรา เพื่อนของเขา เพื่อนของใครช่างน่าหวาดระแวง เอนตัวลงนั่งรับลมพัดกลุ่มควันเข้าโอบล้อม ไม่มีสติก๊ เกอร์ไลน์รูปหัวใจส่งกลับมา ถนนสายเปลี่ยนแปลงซุกตัวใต้หน้ากากอนามัย มีแต่ความคาดเดาว่าจะปลอดภัย กลับด้านใช้มนั ซา้ กลิ่นหมักหมมเหม็นคุน้ ชิน 13


โลกใบเก่าทะลุผ่านกระจกร้าว สุดปลายมือจะเอือ้ มคว้าคืน รวงข้าวที่หกั หาย เคียวคอยละห้อยอยู่เถียงน้อยที่ปลายนา วัวเล็มหญ้าอิม่ สารตกค้างล้มตัวลง ผูค้ นกัดกินตัวเอง คนไหนใครกันกัดกินผูอ้ ื่น อย่าให้เหลือเพียงสายลมสะบัดกระแทก แค่ปิดประตู โครม! สะดุง้ ตัวเอง ได้แต่สวดอ้อนวอนถึงพระเจ้า คาอธิษฐานเดียวดาย เหลือแต่ถอ้ ยคาสาธุการวอนไหว้ สาธุ สาธุ

14


อำนาจ พวกนกพากันร้องประท้วง คนใจร้ายจับลูกเอาไปขัง พวกนกนั่นต่างหากเป็ นผูร้ า้ ย กระจายกาลังแทรกซึมไปทั่วบ้าน แทะเล็มหลังคาจนเป็ นรูพรุน ผุพงั รั่วซึม บ้านแปรสภาพเป็ นท้องทะเล และห้องส้วมสาธารณะ พืน้ ที่เต็มไปด้วยขีน้ กเรี่ยราด สะสมเชือ้ โรคระบาดร้าย จะมีคนตายเพิ่มขึน้ มากมาย มิใช่คาทานายโลกวินาศ เพียงเหตุผลของความจริง ถ้าไม่กาจัด บ้านจะถูกยึดครอง ลูกนกตัวนี ้ เป็ นเพียงนกต่อ จะร้องขอชีวิตให้คนสงสาร โปรดอย่าใจอ่อน กรุณาฟั งเหตุผลของฉันบ้าง 15


คุณจะฟั งไหม สิ่งแวววาวแต่เพียงครู่ เสรีภาพภายใต้เงื่อนไขส่วนตัว ดั่งนกหลงทาง แสงไหลได้เหมือนสายนา้ ประกาศความจริง ไม่ใช่ความเชื่ออีกต่อไป เสียงนกต่อร้องระงม มันร้องหาเพื่อนพ้อง มาเถิด สู่ความตาย จงเรียกข้าผูถ้ กู ปิ ดกัน้ อย่างอิ่มเอมในกรง จงผลักไสข้าผูถ้ กู ความตายยื่นหอกเล่มหนึ่งและอีกเล่ม อย่าได้รอ้ งขอสิง่ ใดพวกเจ้าทัง้ หมด คือ ลูกนกในกามือ

16


ป่าเขา ป่ าเขาลาเนาของเพลงพิณ ใครซ่อนตัวดีดสีอยู่กลางไพร ฉันอิงแอบแนบลาธารแห้งแล้ง เนินทรายย้วยย้ายดั่งร่างเอวบาง สะบัดปอยผมงาม กล่าวคาลาแต่เพียงครึง่ ในโลกใบที่คณ ุ เดินจากไปแล้ว นา้ เสียงปลอบประโลม จะกล่าวสวัสดี โลกหฤหรรษ์หรือโศกเศร้า ไวรัสร้ายแทรกซึมไปทุกอณูอากาศ ขังตัวเองในห้องคับแคบ เพื่อการกักกัน จินตนาการใดซ่อนเร้นในโลกของความเป็ นจริง

17


ในห้อง สีหม่นเทาแผ่คลุมท้องฟ้า แง้มประตูบานเก่าได้แค่เพียงช่องลมลอด ดอกหญ้าปลิวโปรยเอนไหว ชบาบานยังรูท้ รงตัวยามต้องลม ยามไร้ศรัทธาไม่อาจเขียนถ้อยคา ร่องรอยอิสระเคยมี ราบเรียบ ฟองคลื่นขาวยับเยิน ราวกับการพังทลายยังคงอยู่ ท่านเชื่ออะไรจากการคงอยู่ นิ่งสงบเพียงครู่ แล้วถาโถมแตกซ่านกระเซ็น ใจก็ฟงุ้ นา้ ตาก็เรือ้ สีหม่นเทาแผ่คลุมท้องฟ้า จะเชื่อสิง่ ที่ไม่เคยปรากฏ พรุง่ นี ้ แดดจะลอดทะลุรม่ เงาไม้ใหญ่

18


ภาพ ก่อนทุกอย่างจะปรากฏคาถาม ดอกไม้ของฉันหายไปไหน เมื่อฉันไม่ได้ยืนอยูต่ รงนัน้ อีก การลับหายไปจากสายตาของสิง่ ใด ต้นไม้ท่บี ดบัง แสงเงาที่สาดส่อง เธอจึงมองไม่เห็นฉันอีก เหมือนที่เธอคาดเดาเพียงเล็กน้อย ผ่านกระจกเงาผ่านลายเส้นโล้เอน แต่ไม่ใช่ทงั้ หมดของความจริงที่เป็ นฉัน เหมือนทัง้ หมดความจริงอันได้เปลี่ยนแปลง ฉันเกลียดคาว่าเปลี่ยนแปลงนี่เสียจริง

19


รอยต่อ เหตุการณ์ไม่ปกตินกั เธออาจต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงอดีต แต่หมายถึงลูกโป่ งใบนัน้ อันได้หลุดลอยไปจากมือ มันเคยเป็ นสิ่งที่เธอคอยประคองมา ตลอดเวลาอันน้อยนิดของการมีชีวิต ไม่ง่ายนักในโลกที่เปลี่ยนแปลง เธออาจไม่ได้มีชวี ิตนานพอจะมองเห็น ว่ามันลอยไปสู่สายรุง้ เจ็ดสี ชีวิตใหม่ ที่ทกุ คนกล่าวถึง เธออาจเลือกที่จะตัดกุหลาบในเวลาย่าค่า และบอกกล่าวแก่โลกว่านี่คือเวลาเช้า แล้วพวกผูใ้ หญ่จะเชื่อเธอหรือไม่ อย่างนีไ้ หมที่ทาให้เธอหัวเราะคิก ๆ คัก ๆ อยู่ลาพัง ในห้องที่เธอบอกทุกคนว่านี่คือสวนกุหลาบ และเธอกาลังบรรจงตัดมันไปบูชา

20


แว่วคำนึง แว่วคานึงอย่างต้นไร้ใบ กิ่งก้านเกลื่อนพืน้ อื่นใดล่นถอยมาจากตีนผา เรไรของปี กผึง้ หมู่ภมรอันเคยหอม โปรยพืน้ โดยปราศจาก ด้วยถ้อยคาอันไร้ความหมาย

21


โดยปราศจาก ตะวันรอนรอน ริว้ สีสม้ ตัดนา้ เงินของขอบฟ้ายามค่า ท้องร้องหนักข้าวมือ้ สุดท้ายเป็ นของเย็นวาน ได้แต่มองไซเรนรถฉุกเฉินวิ่งผ่าน ความเงียบในเมืองใหญ่ เอาแต่ขดตัวซุกหน้ากับหมอนเสือ่ ใบเดิม ร้านสะดวกซือ้ ยี่สิบสี่ช่วั โมงถึงเวลาปิ ด หมอนอุ่นเมื่อคืนวานอบรา่ รินลิบไกลจับไรฝุ่นมาจากมวลอากาศ เมืองทัง้ เมืองเงียบว้าง ไฟราตรีหรี่ตวั ดั่งเถ้าถ่าน วอมแวมในห้องที่ผคู้ นขังตัวเอง เสียงปรบมือดังออกมาจากห้องความหวัง อีกไม่กี่ช่วั โมงจะถึงเวลาเคอร์ฟิว ตารวจออกมาไล่ เคอร์ฟิวแล้วจะนอนริมถนนไม่ได้ ฉันกราบล่ะ ฉันมันคนไร้บา้ นอาบแสงจันทร์สีเลือด ไม่มีบา้ นให้กกั ขังตัวเอง ดาวตกทางฟากโน้น ขอเสียงฉันอธิษฐานบ้างได้ไหม 22


บุหลันลิบไกล ฉันก็คือ คน ไม่ใช่เหลื่อมเงาของเวลาที่หล่นหาย ลมเงียบกลางคืนแว่วเสียงไซเรนดังโหย คนตายดั่งใบปลิวปลิดร่วงของต้นไม้ขาดนา้ รอเวลาแห้งแล้วปะทุไหม้ตวั เอง ตะวันเช้ายังขึน้ ทางทิศตะวันออกไหม ฉันอ่อนแรงเกินจะเอ่ยถาม ลมเงียบกลางคืนแว่วผ่านเสียงไซเรน โดยปราศจากอื่นใด กว่าอ่อนแรงของคืนค่า เปลือกตาหนักอึง้ เกินจะหลับฝันถึงอะไรสักหนึ่งอย่าง ไม่อยากตื่นมาไม่มีฝันรอให้เป็ นจริง

23


กระดูกสันหลังโค้งต่ำอยู่ปลายทุ่ง เงียบเชียบของยามเช้า สงัดงันลอยล่องอยู่เหนือผิวนา้ โหวงเหวงไร้การกระเพื่อมของดอกหญ้าวันวาน เงยหน้ามองฟ้า นั่นเสียงอะไร ดังอยู่ในลม เป็ นเสียงสายฝนหรือไร ค่อย ๆ กรูลมกระหน่า ก้องกังวานแล้วเงียบหาย อยากเงี่ยหูฟังเสียงกบเขียดเรไรระงมในดินแห้ง เหลือแต่เพียง สายนา้ ลีบเรียวแห่งท้องทะเลหมองเศร้า ฉันก็เหมือนดอกหญ้า มองฟ้ายามนี ้ อยู่สงู ยิ่งนานวันยิง่ ไกลออกไป เคว้งคว้างแล้วเบาหวิวอยูใ่ นอากาศ ฝ้าจางไปจากมวลทุง่ หญ้า สไบปลายกิ่งโน้มลง กล่าวคาลาที่แทบไม่มีใครจะได้ยนิ

24


ทุ่งหญ้ายามยาก แห้งแล้งและสับสน ประดังประเดของฝี เท้าวัวควาย ย่าเท้าหนัก ฟุ้งไปด้วยดินแห้งเป็ นผุยผง ฝนไม่ตกแล้ว รวงข้าวลีบแบนกลายเป็ นอาหารของแมลง ผูค้ นแย่งนา้ ยิ่งกว่าทองคา ฟ้าไยคร่าครวญไกลแสน อยากให้นา้ ตาของฉันไหลเป็ นทางแห่งสายฝน ยามนี ้ มือกาเคียวแห้งแตก หากทว่ายังน้อยกว่าแผ่นดิน ที่ไร้ซ่งึ ความเป็ นธรรม

25


วงล้อ วงล้อแห่งอนาคตถูกกาหนดไว้แล้ว ภายใต้เงื่อนไขดิน้ รนในรูเข็ม ด้านมืดและสว่างเสมอภาค ความงามดุจสรวงสวรรค์ท่พี ร้อมมอมเมาตัวเอง การแตกสลายของการดารงอยู่ สะบัดธงไชยในสนามต่อสู้ อนุสาวรียอ์ ่อนแอ ดั่งรูปปั้นที่ทาหน้าที่ชคู อระหง ด้านที่แข็งแกร่งดุจเดียวกัน อ่อนยวบในวงล้อที่หมุนกลับมาอีกครัง้

26


ภาพวาด แล้วโลกก็พลิกกลับด้าน เหลือฉันอยู่ในภาพวาดที่ไม่เคยปรากฏ รินไหลเป็ นสายฝน หล่นร่วงปะปน ใดในโลกอื่น ฉันไม่อาจกลับไป โลกใหม่เหมือนฉากในละคร ที่นกั แสดงไม่ปรารถนาจะเป็ นตัวเอง ประตูบานเก่าแง้มออก ปะทะกับโลกใบใหม่ ฉันแตกสลาย

27


ทะเล ฉันอยู่ในโลกของตัวเอง มีตน้ ไม้ก่ิงไม้และกองใบไม้ทบั ถม การแตกสลายของบางสิ่ง ทาให้ฉนั เข้าใจเรื่องการผุพงั เป็ นอย่างดี ดอกไม้บางชนิดเติบโตภายในอย่างตัง้ อกตัง้ ใจ ดอกไม้บางชนิดเติบโตภายนอกอย่างไม่ไยดี มีบางวันเท่านัน้ ที่ฉนั ทะเลาะกับตัวเองเรื่องภายในภายนอก ส่วนวันอื่น ๆ ฉันกระโดดโลดเต้นในอ่างล้างหน้า นั่นล่ะ ทะเลของฉัน

28


ความฝัน ความจริงหนึ่งอย่าง ความฝันอีกหนึ่งอย่าง นอกนัน้ กิ่งใบซุกซ่อน รากเน่าเปื่ อยผุก็อย่างหนึ่ง ผูค้ นปวดร้าวและหัวเราะพร้อมกัน ล้วนมาจากแรงกระทาหนึ่งเดียว ไม่ใช่เพียงเสแสร้งสร้างขึน้ ความฝันอาจก่อกบฏ หากความจริงโอบกอดชั่วนาน เมื่อกิ่งไผ่จะลู่ลม จงทิง้ ปลายให้ออ่ น เมื่อจะหัวเราะ จงร้องไห้ให้จบสิน้ เมื่อดอกไม้จะบาน จงปล่อยให้มนั บาน

29


วันหนึ่งในฤดูฝน ข้างนอกนัน้ เห็นเมฆไหล ไหวไหว นั่นแรงลม นา้ ในบึงกระเพื่อม ใส นั่นนา้ กลิง้ บนใบบัว นั่งอยู่ลาพังในห้อง ดอกไม้เคยสวยค่อย ๆ หล่นกลีบ หยาดฝนเป็ นฤดูของฝน หนึ่งพัดแรงโยกไหว ต้นไม้ทรงตัวสูงใหญ่กลับระเนระนาดล้ม เหน็บหนาวแสนธรรมดา ในห้องนีท้ ่ไี ม่มกี ระจกมิดชิด นา้ ใสใสเปื ้อนหน้า อ๋อ ไม่ใช่นา้ จากนัยน์ตา เสียงหยดกลิง้ จากหลังคา รั่วอีกแล้ว ความจริงแค่เรื่องธรรมดา ความลวงยิ่งธรรมดาของวันหนึ่งในฤดูฝน

30


ความลวง ความลับต่อจากนีถ้ กู เปิ ดเผยด้วยความลวง ความจริงต่อจากนีถ้ กู เปิ ดเผยในนามของความฝัน ความกรุณาทารุณและเหน็บหนาวถูกตัง้ บททดสอบ การหลอกลวงเหมือนเกลื่อนกลาด มากมายจนทะลวงความทัง้ หมดให้จบสิน้ ใต้รอยยิม้ แห่งความสิน้ ซาก โซ่ตรวนจายอมไร้การกักขัง ว่างเปล่าต่อกันและกันยังมากเกินไป หากอณูเล็กของหัวใจ มีได้เพียงเสียงหัวเราะ ไผ่กอใหญ่ไหววู่ล่ตู ามลม หญ้าก็ลม้ ลูบไล้ไหวอากาศ ฉันเฝ้ามองจ้องจดไป สงสัยในเสียงร้องของเจ้าลม จะเป็ นลมอะไรเฝ้าไถ่ถาม จึงคอยพัดเมฆคลี่กลีบเข้าบังใบ

31


บทกวีอื่น งานทดลองกลายเป็ นคนอื่นจบสิน้ ลงเมื่อวาน หนอนตัวหนึ่ง นกตัวหนึง่ ดอกไม้แสนเศร้า เช้าที่จะตื่นมาเป็ นตัวเอง หนังสือ สมุดบันทึก ดินสอที่เหลารอ คาพูดสองสามคา ความร่าเริงของตัวเอง เราเตรียมดอกไม้สาหรับฤดูหนาว หากฤดูหนาวเธอจะย้อนกลับมา ฉันจะปลูกกุหลาบที่สวยที่สดุ ฤดูหนาวเธอจะพูดว่า นี่ไม่ใช่ฤดูฝนอีกต่อไป เราจะเตรียมการบางอย่างเพื่อวันข้างหน้า เธออาจพบกุหลาบสีดาแห่งนิรนั ดร์ เพื่อฤดูหนาวของปี หน้า 32


ฤดูฝนอาจนานพอที่เราจะรูจ้ กั การรอคอย ถึงวันเวลาที่มีพบเจอแต่สิ่งดีงาม มิตรภาพดีงาม รอยยิม้ ดีงาม ข้อความดีงาม สิ่งที่เลวร้ายอยู่ท่ฤี ดูหนาวปี ท่แี ล้ว ไม่มีใครจดจา นอกจากข้อความที่ถกู บันทึกไว้ ด้วยบทกวีสีขาว

33


กระดาษคำตอบ มั่นคงของภูเขา....ไม่ใช่ความจริง ทะเลไร้คลื่น...ไม่ใช่ความจริง กุหลาบ...ลวงหลอกเรื่องความงาม หนามแหลมนัน้ เที่ยวทิ่มแทง ลมหายใจแทรกซึม... นั่งเขียนคาลา ระหว่างบรรทัดขาดหาย ขยา้ กระดาษแผ่นเดิม คัดลอกข้อความเดิมกี่ครัง้ ก็ผิด ไม่ใช่คาตอบมาตัง้ แต่ไหนแต่ไร แล้วความขาวของหมอกหนา ก็ปลิวลมจากไป

34


สงคราม ไม่เคยมีคนฆ่าตัวตายในระหว่างสงคราม แต่ประโยคนีใ้ ช้ไม่ได้ในสงครามชีวิต อดีตตะกายคืบคลาน เหลือใครบ้างหลุดออกจากวงกลมกักขัง โลกใหม่ กว้างใหญ่ หากนักกายกรรมยังพยายามกลิง้ ตัวในบ่วงบาศ เปลวไฟซับซ้อน ความร้อนพรางสายตาฝ้าฟางไปชั่วขณะ ทัง้ ที่ความจริงเรียบง่าย อย่าได้มองขึน้ ไปสบสายตากับพวกนก นกตัวที่มองมาจากสายไฟ เฝ้าแต่รอจังหวะเมฆกลั่นตัวเป็ นเม็ดฝน อย่าได้กล่าวอ้างถึงกรณีคาอธิษฐานขอพรจากมนุษย์ ที่ไปไม่ถึงสวรรค์ มันโดนกักขังที่เริ่มกังวลว่า คาทานายในปี ท่ดี าวพระราหูยา้ ยมาทับดวงเมือง กินเวลายาวนานที่สดุ 35


คาทานายทีว่ ่า ไม่เคยมีคนฆ่าตัวตายในระหว่างสงครามไม่เป็ นจริง มีคนฆ่าตัวตายทุกวัน เพื่อจะขึน้ ไปฟ้องร้องต่อสรวงสวรรค์ ถึงความอดอยากและยากแค้นบนพืน้ โลก ความอยุตธิ รรมอันบังเกิดซา้ แล้วซา้ เล่า และพวกเขาไม่มีทางปลดปล่อยง่ายง่าย จนกว่าพระเจ้าจะได้ยิน

36


หน้าต่างบานนั้น ค่าคืนที่ปีศาจส่งเสียงคาราม พลางชกแขนข้างหนึ่งจนกระจกหน้าต่างแตกกระจาย มือใหญ่ยกั ษ์กระชากร่างผูค้ นจากเตียงที่กาลังหลับใหล กดขี่และเหยียบย่า ผูอ้ ่อนแอต่างตกอยูใ่ นมือที่ตะปุ่ มตะป่ า รัศมีแสงจันทร์หมองหม่นปกคลุมอยู่ทงั้ คืน ไฟดวงหรี่จากอาคารบ้านเรือน ค่าคืนที่ควรหลับใหลอย่างอบอุ่นและปลอดภัย มีปีศาจอยู่ตรงนัน้ ทุบหน้าต่างทิง้ ฝันร้ายที่มีแต่เสียงกรีดร้องและการร่วงหล่น มันเริ่มต้นขึน้ และยังคงดาเนินต่อไป บาดแผลยืดเยือ้ ราวกับว่าต้นไม้ทกุ ต้นในป่ า เป็ นปี ศาจที่ไม่มีวนั ตาย 37


หลุมศพจานวนมากเกลื่อนพืน้ โลก อากาศธาตุและหมอกควันคือผูค้ น คนแล้วคนเล่า พระเจ้าเท่านัน้ ที่ล่วงรู ้ แต่วา่ คืนนีก้ เ็ หมือนทุกคืน อบอ้าว หวาดกลัว และไม่มีทางปิ ดบานหน้าต่างบานนัน้ ลง หน้าต่างบานที่ปีศาจได้ทบุ ทาลายไปแล้ว เราไม่มีทางจะกลับไปเหมือนเดิม เราจะไม่มีทางเหมือนเดิม

38


ข้างหน้าต่างเดือนตุลา ตุลาทิง้ ฉันไว้ในความจริง ความเศร้ากอดรัดและคะนึงหา เหม่อมองสายฝนของเธอ เหนียมอายและพร่าจาง ข้างนอกหน้าต่างของเดือนตุลา ถนนสายหนึ่งเหลียวมองหาอดีต อนาคตเหมือนเงาเลือนราง ไม่มีพรุง่ นีข้ องวันวาน รอยย่าอันเบาหวิว พุ่มไม้บดบังพืน้ ดินแห้งแตก รอยร้าวในภาพซ้อนไหวของย่าค่า ฤดูหนาวกาลังจะย้อนกลับมา

39


ฉันอยู่ท่นี ่นั ข้างหน้าต่างวันวาน กิ่งใบลู่ลม นกร้องกรูและถลาร่อนลงสู่พนื ้ ดิน ฉันปิ ดหน้าต่าง ปล่อยให้เงาลอดเข้ามาอย่างช้า ๆ นี่คือ ย่าค่าก่อนฤดูหนาวอย่างแท้จริง

40


หอดูดาว เด็ก ๆ มาดูดาว ดวงอาทิตย์ไม่ได้หายไปไหน เส้นโค้งของขอบฟ้าก็เหมือนกัน ร่มเงาเมฆบดบัง ดวงดาววับวาว เขาเล่าเรื่องอาณาจักรแห่งใหม่บนฟ้า ใครก็ได้ให้เช่าพืน้ ที่ในอวกาศ เราจะหนีไปอยู่นอกโลกด้วยกัน เราจะปี นขึน้ ไปอยู่บนดาวดวงอื่น ที่ท่มี ีแต่ความฝัน ละอองฟองอันนุ่มนิ่ม แตะลิน้ แล้วเราจะลอยล่องออกไปนอกโลก ที่ท่มี ีแต่ดวงดาวนับล้าน ล่องลอยและเอือ้ มคว้ามาให้ได้

41


คล้อยค่ำ ยามนี.้ ..ลมกลิ่นทุ่งกลายกลับ โลกสลับสล้างวาบแสงเพียงครู่ เหมือนท้องฟ้าสีสม้ ตัดขอบนา้ เงินยามค่า จะว่านี่คือภาพหวังแห่งวัน คล้อยค่าก็คล้ายว่า ภาพวันวานโชยกรุน่ ในห้วงคะนึง ได้ยินเสียงเริงร่าของฤดูสายฝน เจ้าจิง้ หรีดน้อยแอบชิมนา้ ค้างบนใบบัว หลับตาฝันว่าจะขอร้องกล่อมดอกไม้ กุมภาพันธ์ เดือนที่ไม่มีเมฆมา หม่นเทาของท้องฟ้ามิใช่หลบแลแห่งรุง่ อรุณ มีใครอยู่ท่ตี รงนัน้ ดวงตาของดวงดาวมองมาจากที่แสนไกล แม่นา้ ล่องไหลลีบเรียวคืนแผ่นดินใหญ่ ว่างเปล่าในคืนสงัด ตรอกซอกซอยเผยตัวของความจริง คาทานายเปิ ดเส้นทางราบเรียบมุ่งผ่านความเขียวชืน้ 42


กิ่งก้านนา้ ตาลใกล้ตายจะแตกหน่อออกมาเต้นระบา ต่อความงามใดยังผ่านพลิว้ สายลมราเพยถึงชีวิตยากแค้น หรี่เสียงระนาดราบเป็ นหนึง่ เดียว คือความตาย ดั่งใบไม้ปลิดปลิวร่วง ผูค้ นไร้เวทมนตร์ยากจะเสกดวงดาวชีวิตให้ทอประกาย โอ้...หวังวาดใดใยหลับตา ย่าระบาอยู่ทกุ แห่งหน ครึม้ ฟ้าก่อนพายุโถมลมแรงกรูเพียงครู่ ทุรชนขึน้ ยืนบนเชิงเทิน ตอกยา้ เราถูกความตายล้อมรอบ หรือชะรอย เราจะแขวนชีวติ ไว้กบั โชคชะตา เจ้ามดตัวน้อยได้แต่แดดิน้ สิน้ ลมปราณ เหลือแต่ลมกลิ่นทุ่งวันวาน คลับคลาคล้ายคล้ายว่า ได้เอือ้ มมือกลับไป ทว่า...เอือ้ มอย่างไรกลับเอือ้ มไม่ถึง

43


ดอกสีขาวในห้องมืด ในห้องมืดฉันวาดกลีบดอกสีขาว ฉันได้กลิ่นของมันล่องลอยอบอวล มันฟุ้งฝัน เหมือนฝัน หอมร่า เหมือนกลิ่นอบร่าวันวาน มีแต่อดีตของปี บขาว ตอนที่เรามองไม่เห็น มันจะสวยเหมือนที่เราจากกัน เหมือนเมื่อวานที่เรายังอยู่ตรงนัน้ หรือไม่ โลกใหม่กล่าวต้อนรับอย่างแช่มชื่น ผูม้ าก่อนควรจิบนา้ ชาร่วมโต๊ะเดียวกันกับอนาคต มีแสงพราว ก่อนย่าค่าอยูเ่ สมอ เหมือนที่เราจะพบจุดสว่างวาบในห้องมืด แม้เพียงเสีย้ วหนึ่ง ที่เรายังมีหวัง

44


แสงสว่าง พวกท่านไม่เห็นแสงสว่างของตัวฉันหรือไง ดั่งรวงข้าวเหลืองอร่ามและความอิ่มหนา จึงเอาแต่บรรจุฉนั ไว้ในกล่องสีเทาจาง แล้วโยนความมืดลงไปในนัน้ ตลอดมา กล่องอันบอกเล่า ถึงความอบอุ่นและปลอดภัย แต่ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ท่แี ห่งฉัน โปรดมอบแสงสว่าง และเส้นทางอันทอดยาวแก่ฉนั ด้วยเถิด แม้ไม่ใช่ทงุ่ รวงทอง ท้องฟ้าสีเทาก็ได้ เมฆครึม้ ดาของละอองฝน ก็เฉกเช่นกัน

45


คำลา ฉีกริว้ ท้องฟ้าเป็ นครัง้ สุดท้าย กล่าวคาลาเพื่อนพ้องและมิตรสหาย ภาพของคืนฤดูรอ้ นตัง้ ฉากกะระยะองศา มิทนั ได้ส่งยิม้ ทายทัก จาใจจะต้องกล่าวคาลา ท้องทะเลสาบดูเวิง้ ว้างเมื่อแรกมาถึง ฟองคลื่นปะทะรอยเท้าบนผืนทราย ช่างอัศจรรย์ เมื่อท้องทะเลมิดเร้นผืนนา้ มิใช่ทอ้ งทะเลอีกต่อไป เม็ดทรายนอนสงบดูเปลวแดดเต้นไหว ที่น่แี ละวันนี ้ เต็มไปด้วยความคิดถึง เราจากไปและย้อนกลับมาใหม่ กลับมาและจะกาลังจากไป 46


สิ่งสาคัญของทะเลสาบ ไม่ใช่ผืนนา้ อีกต่อไป เม็ดทรายยังคงอยู่ สมอเรือร้างดุจดั่งความหวัง ถนนหนึ่งสายเป็ นของผูผ้ ่านทาง โลกสีหม่นหมองร่ารวยเฉดจินตนาการ กิ่งใบสะบัดเสียงใต้รม่ ไม้ในป่ าช้า ความตายเงียบงันกว่าเสียงปลิวลม ใบไม้ตกกระทบพืน้ อีกหน เบียดแทรกสายลม ตอกยา้ คาลา เพื่อกลับมาพบกันใหม่

47


48


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.