1
ปลูกดอกไม้ไว้บนภูเขา
[บทกวีอิสระ] 2
ปลูกดอกไม้ไว้บนภูเขา
ปั นนารีย์ เขียน มายาวิน ออกแบบปก เวยาวีร์ จัดรูปเล่ม ดักแด้ ความฝั น ภาพประกอบ ถลา เล่นลม พิสจู น์อกั ษร เลขมาตรฐานสากลประจาหนังสือ : 978-616-485-082-8 พิมพ์ครัง้ แรก กุมภาพันธ์ 2562 ราคา 180 บาท พิมพ์ที่ จัดพิมพ์โดย
สัง่ ซื ้อหนังสือ
บริษัท จรัลสนิทวงศ์การพิมพ์ จากัด โทรศัพท์ 02-8092281 Blue box house 1/1 หมู่ 6 ตาบลทรายมูล อ.สันกาแพง จ.เชียงใหม่ 50130 โทรศัพท์ 094-5932214 punnaree@hotmail.com Fanpage : ปั นนารีย์
3
แด่ เรียวรุ้งแห่งมิตรภาพ วารี วายุ คลืน่ ที่ไล่ลา่ ทะเล ปั นนารีย์ ดอกไม้ ที่ไล่ล่าภูเขา
4
5
นักปลูกดอกไม้
บ้ านของฉันอยู่บนภูเขาเดียวดายของภาคเหนือ ที่ที่มี ทะเลสาบคอยเก็บน ้าไว้ ในอุ้งมือ บ้ านของฉันมีทั ้งทะเล มีทั ้งภูเขา ใครต่อใครมักพูดว่า บ้ านของฉันไปมาลาบาก มีแต่ก้อนหิน ดินแตกระแหง มันปลูกดอกไม้ ไม่ได้ หรอก แต่ฉนั ยังเฝ้าปลูก ที่ที่สงู ที่ที่เหน็บหนาว มีแต่ความยากต่อการตะกายฝั น ถามว่า นักปี นฝั นใดจะย่อท้ อ ฉันเป็ นนักหัดปลูกดอกไม้ พอ ๆ กับเป็ นนักฝึกหัด ฝึกเขียนกวี ฝึกใช้ ชีวิต ฝึกสดับฟั งลมหนาว ร้ องเพลง ฉันอยากให้เธอได้ยิน
ปั นนารีย์ กุมภาพันธ์ 2562
6
สวัสดีเพือ ่ นนักฝัน
หอสูงริ มหาด มีไว้ เพื่อการใด-ฉันไม่ร้ ู มรสุมมาเยือน เมฆดาปรวนแปรเหนือทะเลคลัง่ -ไม่เคยเห็น อ่ าวพักเรื อเหมือนแก่งสร้ อยคอยเธอหรือไม่ ฉันสงสัย ย่ ามใบนั ้นฉันสะพาย ทอด้ วยกี่กระตุกฟื มไม้ ในหมู่บ้าน เขาสูงไม่มีอ่าว ไม่มีทะเลวิบวับ ที่ตีนผาและต้ นน ้ามีลมกระโชกแรง ฉันร้ องเพลงระบาดอกหญ้ าของภูเขา นักปลูกดอกไม้ เฝ้าปลูกอะไรที่เนินสูง ฉันบาน เธอบาน เราร้ องเพลงไม่ร้ ูจักร่วมกัน
7
ข้างหน้ามีแต่ภเู ขา
ต้ นไม้ มิได้ กล่าวว่ารู้จักกันมาตั ้งแต่คราวไหน ท้ องทะเลอ้ างว้ างนิ่งฟั งถึงเรื่องราวภูเขาเติบโต ใบไม้ ชอบร้ องเพลงที่ไม่ร้ ูจกั นัก เราเหล่าลูกหลานได้ แต่เงี่ยหูฟัง พ่อเฒ่ายังเล่าเรื่อง ทางสูงชันนั ้นไม่มีใครปี นขึ ้นไปได้ เลย เล่ากันว่า ครั ้งนั ้นคนที่หนึง่ และคนที่สอง ได้ ทดลองขึ ้นไปบนภูเขา ไม่ต้องหันมาพูดคุยอะไร ด้ วยทางชันยิ่งนัก เอาแต่เหนี่ยวยึดกิ่งก้ านใหญ่ปีนขึ ้นไป ปี นขึ ้นไป แต่เมื่อรอยเท้ าแรก ได้ วางเหรียญบาทลงไปในป่ าเขา รากโคนของต้ นไม้ ใหญ่ จงึ ถูกโค่น ทิ ้งร่องรอยไว้ ให้ คนต่อไปวางเท้ าลงไปซ ้าซ ้า เรื่อยมา บทเพลงป่ าชราจึงเปลีย่ นไป 8
ไล่ลา่
ในแดดสาย ภูเขาหายตัวไปไหน หรือถูกใครไล่ลา่ เมื่อเราไม่อยากเป็ นผู้ถกู ล่า บางครัง้ เรากลับกลายเป็ นนักล่า ออกไล่ลา่ บางสิง่ บางคน หรือเพียงแค่อยากไล่ล่าใจตัวเอง ยิ่งวิ่งไล่ ยิ่งตามไม่ทนั พยายามออกแรงวิ่ง ยิ่งวิ่งถอยหลัง หากภูเขาจะกลับมาก่อนค่า มันจะถูกความมืดไล่ล่า อาจมีฝนตกก่อนจะพลบค่า และภูเขาอยากไล่ล่าเรียวรุ้งงาม
9
บทกวีวภ ิ าษ
มองออกไป..จากภูเขา
10
ดอกกุหลาบในบ้านกวี กับชาวนาผูอ ้ ยากปลูกดอกไม้
ฉันตั ้งใจจะเขียนเรื่องชาวนากับยาฆ่าแมลงรุ่นใหม่ ที่ผลิตด้ วยนวัตกรรมนาโน เลิกเขียนเรื่องดอกไม้ และผีเสื ้อที่ไม่มีปีก ฉันพยายามจะไม่หนั ไปมองกุหลาบในบ้ านดอกนั ้น ยามเช้ ากลีบดอกเบ่งบานอ้ อยสร้ อย ยัว่ ล้ อน ้าค้ างกลางดึก ยามสายผลิกลีบนวลอ้ าแขนรับแสงอ่อนไล้ ทว่า ไม่นาน ปลายกลีบของเธอเริ่ มเหี่ยวเฉาด้ วยปะทะแรงแดดบ่าย ดอกไม้ ร้องไห้ ในยามค่าคืนไร้ แสงจันทร์ ใครบางคนเดินผ่านมา เขาทาท่าทีโศกเศร้ า ให้ กบั ความตายของดอกไม้ ที่ใกล้ เข้ ามาทุกที เขาบอกฉันว่าเขาคือชาวนาคนสุดท้ าย ฉันเห็นเขาใส่สร้ อยคอทองคาเส้ นหนาหนัก เขาทาให้ ฉนั นึกถึงคาปลอมปลอม เขาเล่าว่า ที่ดินผืนสุดท้ ายของเขากาลังจะถูกสร้ างสนามบิน 11
ผืนดินอื่นอื่นถูกถมทับไปด้ วยบ้ านทรงแปลกหรู ถนนสายราบเรียบเฝ้ารอคอยรถยนต์แปลกถิ่น ข้ าวในบ้ านของเขาประทับตรายี่ห้อดัง เขาว่า เขาปรารถนาจะปลูกดอกไม้ สกั ดอกในบ้ านของเขา บางทีเขาอยากปลูกดอกกุหลาบเหมือนฉันบ้ าง เขาอยากดื่มกินความสุขยามดอกไม้ บาน วินาทีนั ้น ฉันมองเห็นกลีบกุหลาบที่กาลังร่วงลงอย่างช้ าช้ า ปลิดปลิวก่อนจะกลายเป็ นเถ้ าธุลี ฝั งไปกับผืนดินที่กาลังร้ องไห้
12
โศลกกลางสายฝน
“รถไฟความเร็ วสูงถูกขนถ่ายด้วยจักรกลโบราณ เคลือ่ นผ่านหญิ งสาวราตรี ในชุดสีขาว ผูเ้ คยเป็ นเด็กหญิ งถูกฝึ กหัด ตารวจจับได้ซ้ าอี กแล้ว ว่ามีระเบิ ดพลีชีพถูกซุกซ่อนในกระเป๋ าโรงเรี ยน ดวงตาใสซื ่อหล่นหายระหว่างป้ายบอกทาง” สิง่ เลอะเลือนแข็งกร้ าวในข่าว หลอกหลอนสับสนวกวนอยู่ในหัว ภาพกลางคืนเป็ นเหมือนกลางวัน ดวงอาทิตย์เหมือนเปลวไฟจากไม้ ขีด ภาพถ่ายโบราณของประวัติศาสตร์ มีริว้ เลือน โลกสมัยที่ร้านค้ ายุคดิจิตอลเคลือ่ นที่แข่งกันอย่างไร้ กาลเวลา นักฝั นพิพากษาตัวเองเป็ นอินทรี ผ้ โู ดดเดี่ยว ภาพสีเหลืองเก่าซีดไม่หวนคืนกลับ ภาพข่าววิ่งเร็วเสียดแทงไม่มีหลุดจากหัว ดวงตาสอดส่ายหาความเคลือ่ นไหว ไม่มีฤดูกาลเนิบช้ าบนสรวงสวรรค์อีกต่อไป 13
ไม่มีระบาฝน ในฤดูฝนพรา
ไม่มีแดดราไร ในฤดูร้อนร้ าย ไม่มีผงฝุ่ น ในลมหายใจรายวัน ฤดูสงครามวนเวียนในโลกมนุษย์ ปิ ดหน้ าจอดิจิตอล จึงได้ ยินความเงียบกู่ร้องหาเสียงสงัด หากลมยังคงเคลือ่ นเสียง มวลใบไม้ ล้วนกระดิกไหว แสงกลับมาท้ าทายในตาแหน่งที่ไม่เคยมองเห็น สลัดร่องรอยแหว่งวิ่นออกจากหัว จึงพบในโลกเงียบงัน ไม่มีผ้ คู น เสียงสายฝนกระหน่าพรั่งพรู เงียบลึกสุดพรรณนา
14
ประวัตขิ องกวี
ปันนารีย์
เกิดที่ อ.สันกาแพง จ.เชียงใหม่ บทกวีชิ ้นแรกได้ รับการตีพิมพ์ ในจุดประกายวรรณกรรม มีผลงานบทกวี เข้ ารอบรางวัลนายอินทร์ อะวอร์ ด บทกวี “โซ่ตรวนแห่งสมัย” ได้ รับรางวัลชมเชย จากสถาบันปรี ดี พนมยงค์ มีผลงานรวมเล่ม วรรณกรรมเยาวชน “ร่ มไม้ หนึ่งซึง่ เราตัวเล็ก” (แพรวเยาวชน,2557) บทกวี “ดอกไม้ ปลายปี กผีเสื ้อ” (เหล็กหมาดการพิมพ์ ,2558) ปั จจุบนั อาศัยอยู่ที่ ริ มทะเลสาบดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ 15
16