1
คำนำ ลมหายใจของแต่ละคนที่ผ่านไปในแต่ละวัน ก็คือเรื่ องราว ต่างๆ ที่แต้ มแต่งโลกนี ้ รวมเรื่ องสัน้ “ขนมวันนัด” เป็ นภาพสะท้ อนลม หายใจของแต่ละผู้คนที่ร่วมโลกเดียวกับเรา ไม่วา่ จะเป็ นหญิงชาวบ้ านคนหนึง่ ที่ต้องสวมบทหัวหน้ า ครอบครัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ (ขนมวันนัด), ความเป็ นไปของปุถชุ นที่ เกือบพ่ายแพ้ ตอ่ สามัญสานึก (เรื่ องธรรมดา), ความล่มสลายของ ครอบครัวที่เกิดจากความอ่อนแอ (ปลายทาง), ชีวิตโดดเดี่ยวของผู้ เป็ นจาเลยสังคม (ร้ านของตุม่ ) และผลพวงจากความปรารถนาของผู้ ที่ได้ ชื่อว่ามนุษย์ (สีแห่งชีวิต) ผู้เขียนหวังว่า เมื่อเข้ าใจโลกได้ พอสมควร ชีวิตของเราย่อม ดาเนินต่อไปได้ โดยไม่เจ็บปวดนัก ด้ วยรักและศรัทธาในวรรณกรรม ลิออ่ ง/koongwr@gmail.com สิงหาคม 2558 2
สำรบำญ
ขนมวันนัด.................................................4 เรื่ องธรรมดา..............................................32 ปลายทาง..................................................51 ร้ านของตุ่ม................................................65 สีแห่งชีวิต..................................................82
3
ขนมวันนัด
“อย่ ายกพายสูงนักนะทิน” เสียงอาร้ องบอกมาจากห้ องครัวขณะทาอาหารให้ ลกู ค้ า คนที่ถกู เตือนจึงขยับไม้ พายในมือให้ กระชับกว่าเดิมแล้ วก็กวน แป้งสีดาที่เริ่มหนืดไปทางเดียวกันอย่างต่อเนื่อง เหลืออีกร่วม ชัว่ โมงที่สว่ นผสมในกระทะจึงจะกลายเป็ นขนมเปี ยกปูนที่พร้ อม นาไปเทลงถาด ทินประหลาดใจว่าเขานัง่ กวนมันมาได้ อย่างไร ตังแต่ ้ เริ่มต้ นที่สว่ นผสมยังเป็ นเพียงน ้าสีดาปี๋ มาจนถึงบัดนี ้ที่แป้ง จับตัวกันเป็ นเนื ้อข้ นและส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่ในความเป็ นจริง ก็เป็ นเขาอีกนัน่ เองที่ทาให้ เกิดขนม ชนิดนี ้ขึ ้นมาได้ จากประสบการณ์ที่วา่ งเปล่า เริ่มจากตอนสายของ วันเสาร์ ทินเป็ นคนเก็บเปลือกมะพร้ าวแห้ งมาเผาและผสมกับน ้า ปูนใส ขยาให้ เข้ ากันดี กรองกากทิ ้งด้ วยกระชอน แล้ วก็ยกมาให้ อาผสมแป้งช่วงบ่าย ก่อนจะทาหน้ าที่พนักงานกวนประจากระทะ 4
ใบโตซึง่ อาศัยความร้ อนจากเตาแก๊ สโดยตรง และทินจะเป็ น พ่อค้ าขนมเปี ยกปูนอีกครัง้ ตอนเช้ ามืดวันรุ่งขึ ้น เพื่อตักชิ ้นขนม ออกจากถาดใส่กล่องพลาสติกใสแล้ วโรยหน้ าด้ วยมะพร้ าวทึนทึก ขูดฝอยที่นงึ่ ให้ สกุ เคล้ าเกลือป่ นนิดหน่อย อาเพิ่งลองทาขนมเปี ยกปูนขายในตลาดนัดเช้ าวัน อาทิตย์หลังจากลูกจ้ างคนล่าสุดลาออกไปพร้ อมทิ ้งสูตรไว้ ให้ แต่ หากไม่มีทินอาคงทาไม่ได้ เพราะอย่างน้ อยเฉพาะการกวนแป้งก็ ต้ องใช้ เวลานานถึงสองชัว่ โมง ขณะที่ขนมอื่นๆ อีกอย่างน้ อยห้ า หกอย่างก็ต้องใช้ วนั เสาร์ เกือบทังวั ้ นสาหรับการเตรี ยม ซึง่ สภาพ ร่างกายของอาตอนนี ้สู้ไม่ไหวแน่นอน วัยห้ าสิบห้ าของเธอที่ถกู ตัดมดลูกออกไปยังสามารถยืนทาครัวและเดินเหินอยูภ่ ายในร้ าน ได้ ก็จริง แต่ความเปลี่ยนแปลงอย่างใหม่ที่เกิดขึ ้นหลายเดือนมานี ้ ก็คือ ขาขวาบริเวณเหนือเข่ามักบวมปูดขึ ้นมาโดยไม่ร้ ูสาเหตุและ เจ็บเป็ นทีๆ ไม่รวมอาการปวดร้ าวตรงกระเบนเหน็บที่หมอบอกว่า เพราะหินปูนเกาะ ต้ องไปทากายภาพบาบัด ทังยั ้ งมีภาวะ อ่อนเพลียที่ทาให้ อาปวดหัวตัวร้ อนบ่อยครัง้ แต่เจ้ าตัวกลับไม่ 5
สนใจคาหมอเท่าใด ทางออกเกือบทุกครัง้ ของอาก็คือ ยาชุดจาก ร้ านขายยาที่ฝากลูกซื ้อ กระนันก็ ้ ตาม ต้ องถือว่าทินเข้ ามาเป็ นลูกมืออาแบบตก กระไดพลอยโจน เนื่องจากเขามากับมยุรีซงึ่ เป็ นหลานของอา ผู้ชายที่เข้ ามาช่วยดูแลย่า-แม่ของอาผู้ชายที่ชรามากแล้ ว พลอย ให้ ป่วยกระเสาะกระแสะและช่วยเหลือตนเองไม่ใคร่ได้ หลังจากปู่ ของมยุรีหนีไปอยูก่ บั ลูกสาวที่กรุงเทพฯได้ ราวสามเดือนด้ วย เหตุผลเดิมๆ คือความเอาแต่ใจตัว สองสามปี มานี ้อาไม่พยายามปกปิ ดความเบื่อหน่ายใน ตัวผู้สงู วัยทังสองที ้ ่หาเรื่ องมาทาให้ เธอกับอาผู้ชายราคาญใจไม่ หยุด เพราะแม้ แยกบ้ านกันคนละหลัง แต่ผ้ ชู ราคนใดคนหนึง่ ก็มกั เทียวมาพูด แสดงกิริยาอาการ หรื อไม่ก็ใช้ วาจาค่อนแคะให้ อาขุน่ เคืองประสาสะใภ้ นอกสายตาที่ไม่เคยทาสิ่งใดถูกใจ “ไม่ไหว ลูกชายตัวเองยังไม่มีปัญญาดูแม่ แล้วเดีย๋ วนีต้ วั อาดี ทีไ่ หน ว่าบ้านติ ดกันก็จริ งแต่อาไม่มีเวลาหรอก มยุรีมาอาก็ เบา ถื อว่าช่วยกันไปเถอะ” 6
อาบ่นโดยไม่มองหน้ าพร้ อมกับมอบห่อยาของแม่ผวั ให้ มยุรีรับผิดชอบ หลังจากวันนันไม่ ้ ถึงสามเดือน ย่าของมยุรีก็หกล้ ม กระดูกสะโพกหัก หมอดามด้ วยเหล็กมาให้ เป็ นปี ก็ยงั เดินไม่ได้ จึงต้ องอาศัยหลานทุกเรื่ องไป ตังแต่ ้ พยุงลุกนัง่ กินอาหาร ขับถ่าย ทาความสะอาดเนื ้อตัว ทากายภาพบาบัด ฯลฯ เรี ยกว่ามยุรีแทบ ออกจากบ้ านไม่ได้ เว้ นแต่เย็นวันเสาร์ ที่เธอมักปลีกเวลาไปช่วย อาทาขนมกับช่วยหยิบขนมขายตอนเช้ าตรู่วนั อาทิตย์ การเข้ ามาร่วมชายคาบ้ านของคนคูน่ ี ้ทาให้ อารู้สกึ ปลอด โปร่งขึ ้น เพราะนอกจากได้ ทินช่วยกวนขนมเปี ยกปูนแล้ ว ทุกเย็น วันศุกร์ เขายังเป็ นคนปอกเปลือกมะพร้ าวแห้ งร่วมสี่สิบลูกและ กระเทาะกะลาออกจากเนื ้อจนเกลี ้ยง ก่อนจะรวบรวมเนื ้อ มะพร้ าวที่ล้างน ้าจนสะอาดและใส่กะละมังใบโตให้ อานาไปเข้ า เครื่ องสีและคันเป็ ้ นน ้ากะทิออกมา ซึง่ เห็นกันชัดๆ ว่าใช้ เวลาน้ อย กว่าที่อากับลูกจ้ างผู้หญิงช่วยกันทาเกือบเท่าตัว อีกทังทิ ้ นก็ไม่ได้ หวังค่าจ้ างค่าออน เพราะถือว่าช่วยกันได้ ก็ชว่ ยกันไป 7
ขณะที่มยุรีคิดในทางที่ดีว่า พวกเขาอาจทาให้ สขุ ภาพ ของอาดีขึ ้นบ้ าง เพราะดูจากรูปลักษณ์ภายนอกก็ร้ ูได้ ทนั ทีวา่ ร่างกายอาไม่ปกติ แม้ อาซึง่ จัดว่าเป็ นผู้หญิงสวยคนหนึง่ ผิวของ เธอเกลี ้ยงเกลาขาวนวลอย่างคนเชื ้อจีน และคงรูปร่างไม่ตา่ งไป จากเดิมนัก แต่วา่ การเดินเหินแบบลากเท้ าไปช้ าๆ กับอิริยาบถ ต่างๆ ที่ไม่กระฉับกระเฉงสมวัย บวกกับความหม่นหมองขมขื่นที่ ฉายผ่านทางแววตา ก็ทาให้ อาดูคล้ ายคนป่ วยหนักเข้ าไปทุกวัน ขนาดนันเธอก็ ้ ยงั ไม่ยอมแบ่งเวลาให้ ตวั เองง่ายๆ “อาไปให้หมอนวดที ่คลิ นิกแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาล จับเส้นสิ ขาจะได้หายบวม” มยุรีแนะนาหลังจากได้ ข้อมูลคราวที่เดินทางไปรับยามา ให้ ยา่ ของเธอ อากาลังตักอาหารมื ้อแรกใส่ปากทังที ้ ่ตอนนันเกื ้ อบ ห้ าโมงเช้ า เมื่อเคี ้ยวได้ สกั พักจึงเปรยขึ ้นเบาๆ “อย่างอาจะมี เวลาไปไหนได้ มยุรีเอ๊ย” พลันก็ถามกลับทันควัน 8
“แล้วใครจะพาไป ไอ้...ก็เลิ กงานตัง้ สองสามทุ่ม” อาเอ่ยถึงลูกสาวที่อยูบ่ ้ านเดียวกัน มยุรีทาท่าจะพูดถึงอา ผู้ชาย แต่ถกู อาชิงตัดบท “เจ้านัน้ เรอะ อย่าหวัง...ไม่เคยสนับสนุน ไม่เคยสนใจ” อาว่าแล้ วก็ก้มหน้ าก้ มตากินอาหารในจานต่อไปโดยไม่ มีสีหน้ าแสดงความเอร็ดอร่อยแม้ แต่นิด
“สีเขียวนี่อ่อนไปรึเปล่ า เติมอีกหน่ อยไหม” คาถามห้ วนๆ จากชายหนุม่ ร่างเล็กผมเกรี ยนสีหน้ าเรี ยบ เฉยที่เฝ้าลังถึงนึง่ ขนมชันท ้ าให้ อาละสายตาจากงานตรงหน้ าแล้ ว หันไปมอง “ไม่เป็ นไร...ช่างมัน” อากับลูกเขยสื่อสารกันอย่างนี ้เองจนเป็ นที่เข้ าใจ นันท์ อ่อนกว่าลูกสาวของอาสี่ปี เขาเป็ นหนุม่ ลพบุรีกาพร้ าพ่อที่เข้ าไป 9
ทางานในกรุงตังแต่ ้ อายุสิบสาม ขวนขวายเรี ยนและหางานทาจน ได้ ร้ ูจกั กับลูกสาวอาและตกร่องปล่องชิ ้นกันในที่สดุ ต่อมาพอมี ลูกทังคู ้ จ่ งึ ย้ ายออกมาอยูท่ ี่นี่ สามปี แรกนันท์เป็ นฝ่ ายเลี ้ยงลูก ขณะที่เมียทางานในรี สอร์ ตซึ่งไม่ไกลจากบ้ านนัก เมื่อลูกเข้ า โรงเรี ยน นันท์จงึ ไปหางานทาทางภาคตะวันออก เขากลับมาบ้ าน แทบทุกวันเสาร์ จึงเป็ นอันว่าได้ ชว่ ยแม่ยายทาขนมขายวันตลาด นัดด้ วย บ่ายวันเสาร์ อาจะผสมแป้งขนมชันสองถาดแล้ ้ วปล่อย ให้ นนั ท์เป็ นคนนึง่ ซึง่ ถึงวันนี ้นับว่ากลายเป็ นงานประจาที่เขา แคล่วคล่องพอตัว ขนมชันของอาเนื ้ ้อนุม่ มีสีเขียวกับสีแดงสดใส เฉพาะชันบนสุ ้ ด ที่เหลือคือสีขาวทังหมด ้ เพราะอาใช้ น ้าหวาน ยี่ห้อหนึง่ แทนการผสมสี หากใส่สีน ้าหวานสลับกันหลายชัน้ อาว่า มันเปลือง พอนึง่ เสร็จแล้ วก็ต้องรอให้ ขนมเย็นก่อนแล้ วอาจึงเป็ น คนลงมีดตัดแบ่งเป็ นชิ ้น จากนันนั ้ นท์ก็จะตักมันใส่กล่องพลาสติก ใสกล่องละหนึง่ ชิ ้น ปิ ดฝากล่องด้ วยลวดเย็บกระดาษ โดยมีลกู
10
สาวตัวจ้ อยมาเป็ นผู้ชว่ ยพร้ อมทังคอยแคะเศษขนมที ้ ่เหลือติดก้ น ถาดใส่ปากเคี ้ยวอย่างเอร็ ดอร่อย เมื่อยังไม่เข้ าโรงเรี ยน แม่หนูน้อยถูกฝากเอาไว้ กบั ยาย ร้ านอาหารตามสัง่ ของอาจึงต้ องแบ่งพื ้นที่มมุ หนึง่ ด้ านหน้ าร้ านให้ เป็ นที่นอนและสนามเด็กเล่นของหลานสาว เด็กน้ อยเติบโตขึ ้นมา อย่างคุ้นกับผู้คนและมีวาจาฉาดฉานราวกับผู้ใหญ่ขณะที่หน้ าตา น่ารักน่าเอ็นดูสะดุดตาคนที่ได้ พบเห็น ต่างจากแม่ของเธอที่ ใบหน้ าละม้ ายไปทางอาผู้ชายรวมถึงนิสยั ใจคอที่ถอดแบบกัน ออกมา ไม่วา่ จะเป็ นอารมณ์ หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย คาพูดเสียด แทงใจยามขุน่ เคือง และการมีโลกส่วนตัวที่ไม่มีใครเข้ าใจได้ ง่ายๆ นัน่ คือเหตุผลสาคัญที่ทาให้ อาไม่ใคร่ผกู พันกับลูกสาวคนเดียว ของตัวเท่าใดนัก “นีบ่ ญ ุ นะทีพ่ ่อมันยังสนใจลูก ช่วยอาบน้าสระผมสระเผ้า ลาพังแม่มนั น่ะไม่มีเวลาร้อก ลูกกิ นข้าวมื ้อไหนมันยังไม่รู้เลย” อาค่อนขอดลูกสาวให้ มยุรีฟังเวลาเธอเดินไปซื ้อของ 11
“แต่นนั ท์มนั โมโหร้ายนะ ถ้าทะเลาะกันขึ้นมา อาต้อง เข้าไปกันไว้ก่อน” หน้ าที่หลักของนันท์เมื่อกลับถึงบ้ านก็คือ ซักผ้ ากองโต ของเมียกับลูก เมื่อบวกกับการพักผ่อนหลังจากกรางานมาตลอด สัปดาห์โดยที่ยงั มีโรคประจาตัว จึงทาให้ เขามีเวลาไม่มากสาหรับ การช่วยขายของหน้ าร้ าน นอกจากเช้ าวันอาทิตย์ที่มีลกู ค้ าหนา ตาเพราะมาซื ้อของตลาดนัด และพอตกบ่ายเขาก็เตรี ยมตัว เดินทางกลับไปทางาน แม้ วา่ เมียของเขาแทบไม่เคยได้ หยิบจับงานในบ้ านเพื่อ แบ่งเบาภาระของแม่หล่อนเลย หรื อหากมีก็น้อยครัง้ มาก เพราะ หากไม่เก็บตัวอยูแ่ ต่ในห้ องหล่อนก็มกั ขับรถออกไปข้ างนอก แต่นนั ท์ก็ไม่เคยปริปาก คงเห็นว่าหล่อนเลิกงานค่ามืดและไม่ ถนัดกับงานในบ้ านมาแต่ไหนแต่ไร นัน่ จึงเป็ นเหตุผลที่เขายอมช่วยขายของหน้ าร้ านกับนึง่ ขนมชันให้ ้ แม่ยายแทบทุกคราวไป แล้ วก็นา่ จะเป็ นเหตุผล เดียวกับคนอื่นๆ ในบ้ านที่ยอมให้ หล่อนทาเช่นนัน้ ซึง่ หมายถึง 12
ยอมให้ ห้องหับ ซอกมุม หรื อพื ้นที่ตา่ งๆ ทังในและนอกตั ้ วบ้ าน เป็ นไปอย่างที่มนั เป็ น นัน่ คือ ข้ าวของหลากหลายชนิดไม่ว่าจะ เป็ นเสื ้อผ้ า อุปกรณ์อานวยความสะดวก เครื่ องมือทางาน ของ เล่นเด็ก ฯลฯ ถูกวางทิ ้งไว้ ตรงโน้ นตรงนี ้อย่างไร้ ระเบียบและไม่มี วี่แววว่าจะถูกเคลื่อนย้ ายง่ายๆ ทาให้ ฝนละอองและหยากไย่ ุ่ ทวี ปริมาณพอกพูนจนแลเห็นได้ ชดั เจน เมื่อร้ านขายของชาเป็ นส่วนหนึง่ ของบ้ านหลังนี ้ด้ วย มัน จึงไม่ตา่ งกันในเรื่ องการจัดวางสินค้ า การทาความสะอาดชันหรื ้ อ ตู้โชว์รวมทังพื ้ ้นห้ อง และการจัดการกับขยะที่มกั เกิดขึ ้นทันที หลังจากลูกค้ าชาระเงินแล้ ว ทังหมดนี ้ ้ทาให้ ร้านอาหารและร้ านโช ห่วยของอาเป็ นเพียงร้ านค้ าธรรมดาๆ บนเส้ นทางผ่านของผู้คน ซึง่ เดินทางขึ ้นมาท่องเที่ยวและพักค้ างตามรี สอร์ ตที่อยูร่ ายรอบ จะมีความน่าดูอยูบ่ ้ างก็คือบรรดาไม้ ประดับที่อาผู้ชายหามาปลูก ไว้ ที่ด้านหน้ าและด้ านข้ างร้ านด้ วยความชอบส่วนตัว สีสนั และ รูปลักษณ์ของพวกมันดึงดูดใจลูกค้ าได้ หลายคน อย่างไม้ ตา่ ง แดนที่ออกดอกปลายกิ่งเป็ นรูปทรงกลมมีเส้ นฝอยสีแดงสด 13
เหมือนลูกเงาะ กอไม้ ล้มลุกที่มีทรงใบคล้ ายมะพร้ าวออกดอกสี ม่วงแก่ และกล้ วยไม้ นานาพันธุ์บนกระถางแขวนที่อวดช่อดอก หลากสีราวกับดอกไม้ พลาสติก และแม้ เมื่อมีคนทักถามด้ วยด้ วยความรู้สึกดีๆ อากลับ โต้ ตอบแบบฝากไปถึงเจ้ าของผลงานด้ วยอารมณ์คกุ รุ่นที่กดดัน อยูภ่ ายใน “ก็แค่นีแ้ หละผลงาน แต่เคยช่วยหาเงิ นเข้าบ้านบ้างไหม ดีแต่หาเรื ่องกิ นยังกะชูชก...เราพูดอะไรไม่ได้หรอก ตัวสิ วิเศษอยู่ คนเดี ยว”
เด็กสำวร่ ำงสูงทว่าอวบท้ วมสวมผ้ ากันเปื อ้ นสีสดมีหฟู ั ง เสียบไว้ ที่หขู ้ างหนึง่ ยืนถือเหยือกพลาสติกบรรจุสว่ นผสมวุ้นไว้ ใน มือขวา แล้ วค่อยๆ เทของเหลวจากเหยือกนันลงในถ้ ้ วยพลาสติก ใสใบจิ๋วที่ถกู วางเรี ยงไว้ แล้ วในถาดบนโต๊ ะ เธอเร่งมือด้ วยเกรงว่า วุ้นจะแข็งตัวเสียก่อนที่จะหยอดลงถ้ วยได้ ทงหมด ั้ นี่คือขนมที่ทา 14
กาไรได้ ดไี ม่แพ้ เปี ยกปูน เพราะหากขายไม่หมดก็ยงั เอาไปวางแช่ ในตู้เย็นได้ อีกตังสามสี ้ ่วนั เกวลินคือหลานสาวคนแรกที่เกิดจากลูกชายคนโตของ อา เธอขลุกอยูใ่ นครัวกับย่าอย่างนี ้มาตลอดตังแต่ ้ วยั เตาะแตะ กระทัง่ เป็ นสาวสิบแปด นัยน์ตาของเธอหวานเศร้ าระคนเพ้ อฝัน และมีรอยยิ ้มที่อวดฟั นเรี ยงกันเป็ นระเบียบเหมือนมารดา เด็กคน นี ้เกือบจะไม่ได้ เกิดมาถ้ าหากวันหนึง่ อาไม่ได้ เรี ยกลูกชายกับแฟน สาวมาไถ่ถาม เพราะอารมณ์รักในวัยเรี ยนที่ถลาลึกจนกู่ไม่กลับ ทาให้ ฝ่ายหญิงเปลี่ยนสถานภาพอย่างกระทันหันจนตัดสินใจที่ จะแก้ ปัญหาตรงปลายเหตุเช่นเดียวกับวัยรุ่นสาวที่พลาดท่า หลายๆ คน แต่พออาล่วงรู้ เกวลินจึงถือกาเนิดขึ ้นด้ วยความ พยายามของอาที่จะให้ โอกาสแก่ทงลู ั ้ กชายของเธอและเด็กสาว คนนัน้ “ทางานยังไม่เสร็ จเลยห่วงแต่ฟังเพลง ใยอ้วนนี ”่ อาบ่นดังๆ เมื่อเดินผ่าน ทว่า ไม่มีอะไรมากกว่านัน้ เหมือนกับเรื่ องอื่นๆ ที่เกวลินรู้ ดีวา่ ย่าไม่เคยห้ ามเธอได้ รวมทัง้ 15
ล่าสุดที่เธอขอไปเรี ยนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ทังที ้ ่ตวั อาเภอ ใหญ่ซงึ่ อยูห่ า่ งจากบ้ านออกไปเพียงสี่สิบกิโลเมตรก็มี สถานศึกษาเก่าแก่รองรับนักศึกษาได้ หลายพันคน และนัน่ ก็เป็ น เหตุให้ อาต้ องควักกระเป๋ าให้ เกวลินเพื่อไปใช้ ชีวิตที่หอพักในกรุง อีกสัปดาห์ละสองพันบาท ไม่รวมค่าหอพักที่มีทงความสะดวก ั้ และระบบดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างดีอีกเกือบหมื่นบาท ซึง่ เกวลินต้ องหาเพื่อนมาเป็ นตัวหารอีกคน เด็กสาวไม่ลืมแบ่งแป้งวุ้นออกเป็ นสี่สีก่อนที่จะนามา หยอดลงถ้ วย โดยปล่อยให้ เป็ นสีขาวขุ่นตามธรรมชาติสีหนึง่ และ เช่นเดียวกับขนมชัน้ เธอใช้ สีเขียวและชมพูจากน ้าหวานคุณภาพ ดีที่วางขายในร้ าน ส่วนสีน ้าตาลนันได้ ้ จากผงกาแฟ เมื่อวุ้นใน ถ้ วยแข็งตัวดีแล้ ว สาวน้ อยก็นงั่ หยิบถ้ วยจิ๋วนันบรรจุ ้ ลง ถุงพลาสติกใสอย่างหนา อานัง่ เด็ดรากถัว่ งอกพลางเหลือบดู หลานสาวด้ วยความเวทนาลึกๆ เพราะหลานคนนี ้ได้ อยู่กบั พ่อแม่ แค่สิบกว่าปี ก่อนที่ทงสองจะแยกทางกั ั้ นไปมีคใู่ หม่ ทาให้ เกวลิน นึกเสียใจแอบร้ องไห้ อยู่บอ่ ยครัง้ 16
17