1009 east

Page 1



การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่งเ​สริม​ให้​คน​ไทย​ได้เ​ข้า​ถึง​ศาสน​สถาน​ สำคัญของทุกศาสนา​​ซึ่งต​ ่าง​มุ่ง​หวังใ​ห้​คน​เป็น​คน​ดี​ ​และ​มี​ความ​สมา​น​ฉันท์​​อยู่​ร่วม​กันอ​ ย่าง​มี​ความ​สุข​​ทำให้​หนังสือ​​๑๐๐๙​​ทาง​บุญ​ เป็นการเชื่อมต่อของ​มิติ​ทางวัฒนธรรม​และโลกปัจจุบันที่​ศาสน​สถาน ​เป็น​เสมือน​สะพาน​ที่​ทอด​ให้​กาล​เวลา​มา​บรรจบ​กัน​​โดย​เราจะ​ได้​พบเห็น​เรื่อง​ราว​ ใน​อดีต​มากมาย​​ผ่าน​ภาพ​วาด​อัน​วิจิตร​บรรจง​บนผนัง​โบสถ์​​ภาพ​แกะ​สลัก​อัน​ละเอียด​อ่อน​ บน​ศิลา​ทราย​ของ​เหล่า​ปราสาท​หิน​ค​ วาม​โอบ​อ้อม​อารีและ​รอย​ยิ้ม​แห่ง​การ​เสีย​สละ​ ของ​เหล่า​บุญ​รา​ศรี​แห่งค​ ​ริสต​ศาสนา​​รวม​ไป​ถึง​ความ​เสมอ​ภาค และสันติสุขข​ อง​ชาว​มุสลิม​ เรื​​ ่อง​ราว​เหล่า​นกี้​ ำลัง​เลือน​หาย​ไป​ตาม​กระแส​อัน​เชี่ยว​กราก​ของ​สังคม​และ​โลกสมัยใหม่​​ ทว่า​ใน​ความ​รุนแรง​และ​รวดเร็ว​ของกระแส​โล​กาภิวัตน์​นี้ ยัง​มี​ขอบ​คาม​​เขตแดน​​ แห่ง​เวลา​ที่​ยัง​คง​หมุน​ไป​อย่าง​ช้าๆ​​สงบ​งาม​​ซึ่ง​นอกจาก​จะ​เป็น​แหล่ง​ศึกษา​หาความ​รู้​ ของ​เหล่า​ศาสนิกชนแล้ว​​ดินแ​ ดน​เหล่า​นี้​ยังร​ อ​คอยการมาเยือน​​ ของ​ผู้​ที่​มี​ศรัทธา​ที่​ต้องการ​เห็น​ความ​งาม​ใน​หัวใจ​แบ่ง​บาน...​



คำนำ ​หนังสือ​๑​ ๐๐๙​ท​ าง​บญุ ​จ​ ดั ท​ ำ​โดย​การ​ทอ่ ง​เทีย่ ว​แห่งป​ ระเทศ​ไทย​(​ท​ ทท​.)​​ม​ ค​ี วาม​มงุ่ ห​ มาย​ให้ศ​ าสน​ก​ิ ช​นทุกศ​ าสนา​ได้ท​ ำบุญ​ อย่าง​เข้าใจ​​เข้า​ถึง​​หลัก​การ​ของ​ศาสนา​นั้น​ๆ​​โดย​คำ​ว่า​​“​บุญ​”​​แปล​ว่า​​ความ​สุข​​ความ​ดี​​ความ​สะอาด​​ความ​ผ่อง​แผ้ว​แห่ง​จิต​​คำ​ว่า​ ​“​การ​ทำบุญ​”​​จึง​หมาย​ถึง​​การ​ทำ​กิจ​ใดๆ​​เพื่อ​ให้​ได้บ​ ุญ​​คือ​​เพื่อ​ให้​ได้​ความ​สุข​กาย​สบายใจ​​กิจ​ที่​ทำ​นั้น​จึง​เป็น​ประโยชน์ท​ ั้ง​ต่อ​ตนเอง​​ และ​ผู้​อื่น​​โดย​ถูก​ทำนอง​คลอง​ธรรม​ ​ ​ททท​.​ ​หวัง​ว่า​เมื่อ​หนังสือ​ ​๑๐๐๙​ ​ทาง​บุญ​ ​ได้​พิมพ์​เผย​แพร่​ออก​ไป​ยัง​ศาสน​ิ​กช​นอ​ย่าง​กว้าง​ขวาง​แล้ว​ ​จะ​ก่อ​ให้​เกิด​ ​ความ​เข้าใจ​ใน​มุม​มอง​ของ​การ​ทำบุญ​ ​รวม​ถึง​เรื่อง​ราว​ความ​เป็น​มา​ขอ​งบุณย​สถาน​ต่างๆ​ ​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​ ​อัน​จะ​ยัง​ผล​ต่อ​การ​ ​ทำนุ​บำรุง​พระ​ศาสนา​ใน​เบื้อง​หน้า​ ​นอกจาก​นี้​ยัง​จะ​ได้​เรียน​รู้​บริบท​ทาง​สังคม​ที่​เป็น​อยู่​ของ​ชนบท​ ​ความ​เรียบ​ง่าย​ ​สงบ​งาม​​ ​และ​ความ​ศรัทธา​ใน​หลัก​แห่ง​ศาสนา​ ​อัน​จะ​เป็น​เสมือน​เครื่อง​นำทาง​ที่​ทำให้​เป็น​ผู้​รู้​ ​ผู้​ตื่น​ ​ผู้​เบิก​บาน​ ​และ​ใช้​ชีวิต​อย่าง​มี​ความ​สุข​​ ตาม​จดุ ม​ งุ่ ห​ มาย​ของ​แต่ละ​ศาสนา​ทต​ี่ า่ ง​กต​็ อ้ งการ​เห็นค​ วาม​สงบ​สขุ เ​กิดข​ นึ้ บ​ น​โลก​และ​กบั ท​ กุ ๆ​ ​ช​ วี ติ ​ซ​ งึ่ ส​ งิ่ เ​หล่าน​ ส​ี้ ามารถ​เริม่ ต​ น้ ไ​ด้ท​ี่ ​…ก​ าร​ทำบุญ​…​ ​ ​สำหรับ​หลักใ​น​การ​เลือก​ศาสน​สถาน​ต่างๆ​ ​ที่มา​นำ​เสนอ​ใน​หนังสือ​ชุด​ ​๑๐๐๙​ ​ทาง​บุญ​นั้น​จะ​คำนึง​ถึง​ปัจจัยห​ ลาย​ด้วย​กัน​ ​ทั้ง​จาก​ความ​มีชื่อ​เสียง​ของ​ศาสน​สถาน​อัน​เป็น​ที่​รู้จัก​ของ​ศา​สนิก​ชน​ทั่ว​ๆ​ ​ไป​ใน​ด้าน​ต่างๆ​ ​เพื่อ​เป็น​ที่​พึ่งพา​ทาง​ใจ​แก่​ศาสน​ิ​กชน​​ ไม่ว​ า่ จ​ ะ​เป็นด​ า้ น​ความ​เชือ่ ใ​น​เรือ่ ง​ราว​ของ​สงิ่ ศ​ กั ดิส​์ ทิ ธิ​์ ​เ​พือ่ ก​ าร​กราบ​ไหว้ข​ อ​พร​อนั น​ ำ​มา​ซงึ่ ค​ วาม​เป็นส​ ริ ม​ิ งคล​แก่ช​ วี ติ แ​ ละ​ครอบครัว​ สถาน​ที่​ปฏิบัติ​ตน​เพื่อ​ความ​สงบ​ของ​จิตใจ​ ​ขณะ​เดียวกัน​ก็​ไม่​อาจ​ที่​จะ​ละทิ้ง​สถาน​ที่​อัน​ทรง​คุณค่า​ทาง​ด้าน​อื่น​ๆ​ ​โดย​เฉพาะ​ด้าน​ ประวัติศาสตร์​ ​และ​ด้าน​สถาปัตยกรรม​ที่​แฝง​ไป​ด้วย​ความ​สวยงาม​ ​ซึ่ง​สิ่ง​เหล่า​นี้​เปรียบ​เสมือน​ราก​เหง้า​ของ​ชุมชน​และ​ประเทศ​ชาติ​ ที่​ควร​ค่า​แก่​การ​อนุรักษ์​ให้ด​ ำรง​อยู่​สืบไป​ ​ ​นอกจาก​ปัจจัย​ดัง​ที่​กล่าว​มา​แล้ว​ ​ความ​พร้อม​ของ​ศาสน​สถาน​แต่ละ​แห่ง​ใน​การ​ไป​แสวง​บุญ​ ​และ​การ​เดิน​ทาง​ก็​ถือ​เป็น​ สิ่ง​หนึ่ง​ที่​ต้อง​คำนึง​ด้วย​เช่น​กัน​ ​ ​ดัง​นั้น​ใน​จำนวน​ศาสน​สถาน​ทั้ง​​๑๐๐๙​​แห่งท​ ี่​ได้​นำ​มา​เสนอ​ไป​นั้น​ถือว่า​เป็น​เพียง​แค่​ส่วน​หนึ่ง​อัน​น้อย​นิด​ยิ่ง​ใน​แผ่น​ดินไ​ทย​ ของ​เรา​​ ​ ​


สารบัญ ภาคอีสาน กาฬสินธ์ุ

ร้อยเอ็ด

๑๖๓

ขอนแก่น

๒๓

เลย

๑๗๗

ชัยภูมิ

๔๑

ศรีสะเกษ

๑๙๕

นครพนม

๖๑

สกลนคร

๒๑๗

นครราชสีมา

๗๙

สุรินทร์

๒๓๙

บุรีรัมย์

๙๙

หนองคาย

๒๕๕

มหาสารคาม

๑๑๓

หนองบัวลำภู

๒๗๓

มุกดาหาร

๑๒๗

อำนาจเจริญ

๒๘๓

ยโสธร

๑๔๙

อุดรธานี

๒๙๗

อุบลราชธานี

๓๑๙



พระธาตุยาคู​จังหวัดกาฬสินธุ์


กาฬ​สินธ์ุ​ ​จังหวัด​ที่​มีชื่อ​ซึ่ง​แปล​ความ​หมาย​ได้​ว่า​ ​เมือง​ น้ำ​ดำ​ ​ที่มา​ของ​ชื่อ​นี้​สันนิษฐาน​ออก​ได้​เป็น​ ​๒​ ​ประการ​ด้วย​กัน​​ บ้าง​ก็​ว่า​มา​จาก​สี​ของ​น้ำ​อัน​ขุ่น​ข้น​ของ​แม่น้ำ​ปาว​ ​แม่น้ำ​สาย​สำคัญ​ ที่​หล่อ​เลี้ยง​ดิน​แดน​แห่ง​นี้​ใน​บริเวณ​ที่​เรียก​ว่า​ ​แก่ง​สำโรง​ ​ซึ่ง​ท้าว​ โสม​พะ​มิตร​อพยพ​ผู้คน​เข้า​มา​ตั้ง​ถิ่นฐาน​ ​แต่​บ้าง​ก็​ว่า​หมาย​ถึง​​ กาน้ำ​สำริด​​ที่​ท้าว​โสม​พะ​มิตร​นำ​ขึ้น​ทูล​เกล้า​ทูล​กระหม่อม​ถวาย​ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาล​ที่​ ​๑​ เมื่อ​ครั้ง​ เดิน​ทาง​ไป​เฝ้า​ทูล​ละออง​ธุลี​พระบาท​ ​ณ​ ​กรุงเทพมหานคร​ ไม่ว​ ่า​จะ​ เป็นข​ อ้ ส​ นั นิษฐาน​ใด ท​ งั้ ส​ อง​สงิ่ ก​ ล​็ ว้ น​แล้วแ​ ต่ม​ ค​ี วาม​หมาย​ตอ่ จ​ งั หวัด กาฬ​สินธ์​ุ ​ดัง​จะ​เห็น​ได้​จาก​การนำ​สอง​สิ่ง​นี้​มา​ใช้​เป็น​สัญลักษณ์​อยู่​ใน​ ดวง​ตรา​ประจำ​จังหวัดต​ ราบ​ถึง​ทุก​วัน​นี้​ ​ ​​​ความ​เป็นม​ า​ของ​กาฬ​สนิ ธ์ต​ุ าม​หลักฐ​ าน​ทาง​ประวัตศิ าสตร์​ เริ่มข​ ึ้นเ​มื่อป​ ระมาณ พ​.ศ​ .​​๑๖๐๐​โดย​บริเวณ​ดังก​ ล่าว​เดิมเ​ป็นถิ่น​ทอี่​ ยู่ ​ข อง​ช าวละว้ า​ ​แ ละ​ส ามารถ​นับ​ย้อน​ไป​ใน​สมัย​ทวา​รว​ดี ​หรือ​ ราว​พุทธ​ศตวรรษ​ที่​​๑๓ ​- ​๑๕​​ด้วย​มี​การ​พบ​เสมา​หินแ​ ละ​สถูป​ขนาด​ ใหญ่​ใน​อำเภอ​กมลา​ไสย​​ ​ ส่วน​ประวัติศาสตร์​ยุค​ใหม่​เริ่ม​มี​ความ​ชัดเจน​ขึ้น​เมื่อ​ ประมาณ​ปี​ ​พ​.​ศ​.​ ​๒๓๒๐​ ​เมื่อ​ท้าว​โสม​พะ​มิตร​และ​อุปฮาด​เมือง​ แสน​คอ้ น​โปง​เ​มือง​แสน​หน้าง​ำ้ ​ไ​ด้ร​ วบรวม​ผคู้ น​อพยพ​ขา้ ม​แม่นำ้ โ​ขง​ มา​ตงั้ บ​ า้ น​เรือน​บริเวณ​ลมุ่ น​ ำ้ ก​ ำ่ ​แถบ​บา้ น​พรรณนา​ใน​จงั หวัดส​ กลนคร​​ ต่อม​ า​พระเจ้า​ศิรบิ​ ุญ​สาร​ได้​ยก​กองทัพม​ า​ติดตาม​ ​ท้าว​โสม​พะ​มิตร​จึง​ อพยพ​แยก​ออก​เป็น​​๒​​สาย​​คือ​​สาย​ที่​​๑​​​อพยพ​ไป​ถึง​นคร​จำปาสัก​

กาฬสินธ์ุ

แ​ ละเกิดข​ ดั ใจ​กบั พ​ ระเจ้าศ​ ริ บ​ิ ญุ ส​ าร​​แห่งน​ คร​เวียงจันทน์​ส​ ว่ น​สาย​ท​ี่ ๒​ ​ นำ​โดย​ท้าว​โสม​พะ​มิตร​​ได้​อพยพ​ข้าม​สันเขา​ภพู​ าน​ลง​มา​ทาง​ใต้​​และ ตัง้ บ​ า้ น​เรือน​อยูท​่ บ​ี่ า้ น​กลาง​หมืน่ ​ต​ อ่ ม​ า​ทา้ ว​โสม​พะ​มติ ร​ได้ส​ ง่ ท​ า้ ว​ตรัย​ และ​คณะ​ออก​เสาะ​หา​ชยั ภูมท​ิ จ​ี่ ะ​สร้าง​เมือง​ใหม่​ใ​ช้เ​วลา​ประมาณ​ปเ​ี ศษ​​ จึง​พบ​ทำเล​ที่​เหมาะ​สม​คือ​ ​บริเวณ​ลำ​น้ำ​ปาว​ ​และ​เห็น​ว่า​แก่ง​สำโรง​ ชาย​สง​เปือย​มด​ี นิ น​ ำ้ อ​ ดุ ม​สมบูรณ์​จ​ งึ อ​ พยพ​ผคู้ น​มา​ตงั้ บ​ า้ น​เรือน​แ​ ละ​ ได้​จัด​ตั้ง​ศาล​เจ้าพ​ ่อ​หลักเมือง​​ ​ ​ล่วง​ถึง ​พ​.​ศ​.​ ​๒๓๓๖​ ​ท้าว​โสม​พะ​มิตร​ได้​นำ​เครื่อง​ บรรณาการ​คอื ก​ า​นำ้ ส​ ำริดเข้าส​ วามิภกั ดิต​์ อ่ พ​ ระบาท​สมเด็จพ​ ระพุทธ​ ยอด​ฟ้า​จุฬา​โลก ​รัชกาล​ที่​ ​๑​ ​เพื่อข​ อ​ตั้ง​บ้าน​แก่ง​สำโรง​ขึ้น​เป็น​เมือง​​ ได้​รับ​พระราชทาน​นาม​ว่า​​“​​กาฬ​สินธ์ุ​”​​และ​ได้​แต่ง​ตั้ง​ท้าว​โสม​พะ​มิตร​ เป็น​​“​พระยา​ชัย​สุนทร​”​​พ​.​ศ​.​​๒๔๓๗​​สมัย​พระยา​ชัย​สุนทร​​(​ท้าวเก)​​ ได้​มี​การ​เปลี่ยนแปลง​รูป​แบบ​การ​ปกครอง​เป็น​แบบ​เทศาภิบาล​​ มี​ มณฑล​ ​จงั หวัด​ ​อำเภอ​ ​ตำบล​ ​และ​ให้​เมือง​กาฬ​สนิ ธ์​ุเป็น ​“​อำเภอ​ อุทยั ​กาฬ​สนิ ธ์”ุ ​​ขึ้น​กับจ​ ังหวัด​ร้อยเอ็ด​​ ​ ในปี ​พ.ศ. ๒๔๕๖​ ​ได้​ยก​ฐานะ​อำเภอ​อุทัยกาฬ​สินธ์ุ​​เป็น​ ​“​จังหวัด​กาฬ​สินธ์ุ​”​ ​ให้​มี​อำนาจ​ปกครอง​อำเภอ​อุทัย​กาฬ​สินธ์ุ​ ​อำเภอ​ สหัสขันธ์​​อำเภอ​กุ​ฉิน​า​ราย​ณ์​​อำเภอ​กมลา​ไสย​​และ​อำเภอ​ยางตลาด​​ โดย​ให้​ขึ้น​ต่อ​มณฑล​ร้อยเอ็ด​ ​ต่อมาในปี​ พ.ศ. ​๒๔๗๔​ ​จังหวัด ​กาฬ​สินธ์ถุ​ ูกย​ ุบ​เป็นอ​ ำเภอ​​ขึ้น​กับจ​ ังหวัด​มหาสารคาม​​แต่ในปี ​พ.ศ. ๒๔๙๐​​ได้​ยก​ฐานะ​เป็น​​“​จังหวัด​กาฬ​สินธ์ุ”​​จนถึง​ปัจจุบัน​ ​


พระธาตุยาคู กาฬสินธุ์ พระ​ธาตุ​ยา​คู​ หรือ​พระ​ธาตุ​ใหญ่​แห่ง​เมือง​กาฬ​สินธ์ุ​ ถือ​ เป็น​หลัก​ฐาน​ทาง​โบราณคดี​สำคัญ​ที่​ยืนยัน​​การ​มี​อยู่​ของ​เมือง​โบราณ​ ใน​สมัยท​ วา​รว​ดี​ ​ซึ่งอ​ ยู่​ใน​ราว​พุทธ​ศตวรรษ​ที่​ ​๑๓​ -​ ๑๕​ ​ที่​มีชื่อ​ว่า​ เมือง​ฟ้า​แดด​สง​ยาง​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​ ​ด้วย​เป็น​โบราณ​สถานขนาด​ใหญ่​ และ​สมบูรณ์​ที่สุด​ที่​ยัง​คง​หลง​เหลืออ​ ยู่​​ ​ ​ลักษณะ​รปู ​ทรง​ของ​พระ​ธาตุ​ยา​ค​ูนน้ั ​ ​ปรากฏ​การ​กอ่ สร้าง ๓​ ​ส มั ย​ด้ว ย​กัน​ ​คือ​ส่ว น​ฐ าน​น่า​จะ​สร้าง​ใน​สมัย​แรก​ ​เป็น​รูป​ สีเ่ หลีย่ ม​ยอ่ ​มมุ ​ฐาน​กว้าง​ ​๑๐​ ​เมตร​ ​ยาว​ ​๑๐​ ​เมตร​ ​ม​บี นั ได​ทาง​ขน้ึ ​ ​๔​​ทศิ ​​ม​ปี นู ​ปน้ั ​ประดับส​ ร้าง​ใน​สมัย​ทวา​รวดี​​แต่​ได้​หลุดร่วง​ไป​และ​​นำ​ไป​ จัด​แส​ดง​ท​พ่ี พิ ธิ ​ภณั ฑ​สถาน​แห่ง​ชาติ​ ขอนแก่น​ ​รปู ​ทรง​เป็น​เจดีย​ท์ รง​ แปด​เหลีย่ ม​กอ่ ​ดว้ ย​อฐิ ​ ถัด​ขน้ึ ​มา​จาก​ฐาน​รปู ​แปด​เหลีย่ ม​จะ​ม​ีลกั ษณะ การ​​สร้าง​ซอ้ น​ทบั ​บน​ฐาน​เดิม​​เป็น​รปู ​แบบ​เจดีย​ใ์ น​สมัยอยุธยา ส่วน​องค์​ ระฆัง​และ​สว่ น​ยอด​สร้าง​ใน​สมัย​รตั นโกสินทร์​ ​รอบ​ๆ​ ​องค์​พระธาตุ​พบ ​ใบ​เสมา​แกะ​สลัก​ภาพ​นนู ​ตำ่ ​เรือ่ ง​พทุ ธ​ประวัต​ิ ​ความ​สงู ​วดั ​จาก​ฐาน​ถงึ ​ ยอด​ได้​ ​๘​ ​เมตร​ ​พ​.​ศ​.​ ​๒๕๑๐ -​ ๒๕๒๒​ ​กรม​ศลิ ปากร​ได้​​ขุด​แต่ง​และ​ บูรณะ​เจดีย​อ์ งค์​น​้ี ​รวม​ทง้ั ​ได้​ขน้ึ ทะเบียน​เป็น​โบราณ​สถาน​ ​ ที่ตั้งและการเดินทาง พระ​ธาตุ​ยา​คู​ต้งั ​อยู่​ท่​ีตำบลหนองแปน ​อำเภอ​กมลา​ไสย​ ​จัง​หวัด​ กาฬ​สินธ์ุ ​ จาก​ก าฬ​สิ นธ์ุ ​ไป​ต าม​ท างหลวง​ห มายเลข​ ​๒ ๑๔ (​กาฬ​สนิ ธ์​ุ -​ร้อยเอ็ด)​​จ​ ากนัน้ เลีย้ วขวาไปตามทางหลวงหมายเลข ๒๓๖๗ ประมาณ​๖​​ก​ โิ ลเมตร​เ​ลีย้ ว​ขวาตรงข้ามกับวัดโพธิช์ ยั เสมาราม เข้า​ถนน​ลกู รัง​​๕๐๐​​เมตร​ ๘

ประวัติ​ที่มา​ของ​องค์​พระ​ธาตุ​ ​ชาว​บ้าน​เชื่อ​กัน​ว่า​ใน​องค์​ พระ​ธาตุบ​ รรจุอ​ ฐั ข​ิ อง​พระ​เถระ​ผใู้ หญ่ท​ ช​ี่ าว​เมือง​เคารพ​นบั ถือ​ส​ งั เกตได้​ จาก​เมื่อ​ครั้ง​ที่​เมือง​เชี​ยงโส​ทำ​สงคราม​ชนะ​ดิน​แดน​แห่ง​นี้​ ได้​ทำลาย​ ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ใน​เมือง​ฟ้า​แดด​สง​ยาง​ ​แต่​ไม่​ได้​ทำลาย​พระ​ธาตุ​ยาคู​ จึง​ทำให้​โบราณ​สถาน​แห่ง​นี้​ยัง​คง​สภาพ​ค่อน​ข้าง​สมบูรณ์​ ​อีก​ทั้ง​ ความ​หมาย​ของ​ชื่อพ​ ระ​ธาตุก​ น็​ ่า​จะ​หมายความ​ตาม​นั้น​ ​เพราะ​คำ​ว่า​​ “​ยา​คู​หรือ​ญา​คู​”​​หมาย​ถึง​​พระ​ผู้ใหญ่ท​ ี่​ผู้คน​ให้​ความ​เคารพ​นับถือ​​ ​ พระ​ธาตุ​ยา​คู​จัด​ให้​มี​งาน​เทศกาล​สัก​การ​ะ​พระ​ธาตุ​เป็น​ ประ​จำ​ทกุ ป​ ​ี ใ​น​เดือน​เมษายน​- เ​ดือน​พฤษภาคม​เ​พือ่ เ​ป็นการ​ขอ​ฝนและ​ ความ​ร่มเย็น​ให้กับ​หมู่บ้าน​ ​ภายใน​งาน​นอกจาก​การ​จุดและ​แห่​บั้งไฟ​ ซึ่ง​เป็น​พิธีกรรม​โดด​เด่น​แล้ว​ ​ยัง​มี​พิธี​บวง​สรวง​พระ​ธาตุ​ยา​คู​แบบ ​พื้น​บ้าน​อีสาน​ให้​ได้​ชื่นชม​และ​ร่วม​สัก​การ​ะ​ด้วย​ ​


กาฬสินธุ์

วัดโพธิ์ชัยเสมาราม

วัด​โพธิ์ชัย​เสมา​ราม​เป็น​สถาน​ที่​เก็บ​รวบ​รวม​​เสมา​แห่ง​ เมือง​ฟ้า​แดด​สง​ยาง​ไว้​มากมาย​อีก​แห่งห​ นึ่ง​ ​สำหรับ​ใบ​เสมา​มี​ประวัติ​ ความ​เป็น​มา​ที่​ยาวนาน​มาก ​​ใน​ประเทศ​ไทย​สามารถ​สืบ​ย้อน​ไป​ไกล​ ถึง​​ยุค​สมัย​แรก​เริ่ม​ของ​ประวัติศาสตร์​ นั่น​คือ​ ​อารยธรรม​ทวา​รวด​ี​​ ซึ่ง​ใบ​เสมา​แห่ง​วัด​โพธิ์ชัย​เสมา​ราม​ถือ​เป็น​เสมา​ใน​ยุค​นั้น​เช่น​กัน​ ​คือ​ ราว​พุทธ​ศตวรรษ​ที่​​๑๓ ​-​๑๕​​ ​ ​โดย​ส่วน​ใหญ่​ใบ​เสมา​ภายใน​วัด​แห่ง​นี้​ล้วน​ได้​มา​จาก ​การ​ขุด​พบ​ของ​ชาว​บ้าน​ใน​ละแวก​นี้​และได้​นำ​มา​รวบรวม​ไว้​ ​ใน​ จำนวน​นนั้ ม​ ​ี ใบ​เสมา​หนิ ข​ นาด​ใหญ่ท​ อ​ี่ าจ​ถอื เ​ป็นเ​อกลักษณ์ข​ อง​อสี าน​​ เนือ่ งจาก​แทบ​ไม่พ​ บ​ใน​ภาค​อนื่ เ​ลย​ใ​บ​เสมา​ทพ​ี่ บ​ใน​เมือง​ฟา้ แ​ ดด​สง​ยาง​ มี​ความ​โดด​เด่น​คือ​ ​นิยม​แกะ​สลัก​ภาพ​เล่า​เรื่อง​ราว​พุทธ​ประวัติ​และ​

​ช าดก มี ใ บ​เสมา​จ ำลอง​ที่ ​ง ดงาม​แ ละ​ส มบู ร ณ์ ​ที่ สุ ด ​ส ลั ก ​ภ าพ​ พุทธ​ประวัติ​ตอน​พระพุทธเจ้า​เสด็จ​กลับ​จาก​กรุ​งก​บิล​พัสด์พร้อม​ด้วย​ พระ​เจ้าส​ ุทโธ​ทนะ ​พระ​ราหุ​ล​ ​และ​พระนาง​ยโส​ธรา​พิมพาซึ่งเข้าเ​ฝ้า​ แสดง​สัก​การะ​อย่าง​สูงสุด​ด้วย​การ​สยาย​พระ​เกศา​เช็ด​พระบาท​องค์​ พระพุทธเจ้า​​เรียก​เสมา​หิน​ภาพ​​“​พิมพา​พิลาป​”​​ซึ่ง​ใบ​เสมา​ใบ​นี้​ของ​ จริง​อยู่​ที่​พิพิธภัณฑสถาน​แห่งช​ าติ​ขอนแก่น​​ ​หลัก​ฐาน​ที่​บ่ง​บอก​ความ​เป็น​ไป​ของ​เมือง​ฟ้า​แดด​สง​ยาง ​ใน​แ ถบ​นี้ ​ ​น อกจาก​พ ระ​ธ าตุ ​ย า​คู ​แ ละ​เสมา​ที่ ​เก็ บ ​รั ก ษา​ใน​วั ด โพธิ์ชัย​เสมาราม​แล้ว​ ​พระ​พิมพ์​ดิน​เผา​สกุล​ช่าง​คุป​ตะ​รุ่น​หลัง​ ​อายุ​ ประมาณ​ ​๑,๐๐๐ ​- ​๒,๐๐๐​ ก็ม​ ี​อยู่​ทั่วไป​ ​รวม​ถึง​พบ​กล้อง​ยาสูบด​ ิน​ เผา​ลวดลาย​อม​ราว​ด​ี ก​ า้ น​ขด​เป็นร​ ปู ม​ งั กร​ท​ น​ี่ า่ ส​ นใจ​คอื ​ก​ ล้อง​ยาสูบ​ ชนิด​เดียวกัน​ ​แต่​ทำ​ด้วย​ทอง​สำริด ​ซึ่ง​เป็น​เครื่อง​ยืนยัน​ว่า​ยุค​โลหะ ​ของ​สุวรรณภูมไิ​ด้​เริ่มม​ า​ก่อน​ทุกๆ​ ​แ​ ห่ง​ใน​โลก​นี้​ ​ ที่ตั้งและการเดินทาง วัด​โพธิ์ชัย​เสมา​ราม​ตั้ง​อยู่​ที่ต​ำบลหน​อง​แปน​ ​อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธิ์ุ จาก​กาฬ​สินธ์ุ​ไป​ตาม​ทางหลวง​หมายเลข​​๒๑๔​ (​กาฬ​สนิ ธ์​ุ -​ร้อยเอ็ด)​​จ​ ากนัน้ เลีย้ วขวาไปตามทางหลวงหมายเลข ๒๓๖๗ ประมาณ​ ​๖​ ​กิโลเมตร​ วัดจ​ ะ​ตั้ง​อยู่​ซ้าย​มือ​ ​ตรง​กัน​ข้าม​ กับ​ทาง​เข้าไป​สู่​พระ​ธาตุย​ า​คู​​ ๙


วัดกลาง กาฬสินธุ์

วัดกลาง​ ​จังหวัด​กาฬ​สินธ์ุ​ ​ถือ​ได้​ว่า​เป็น​ศูนย์กลาง​ใน​ การ​ประกอบ​ศาสน​กิจ​สำคัญ​ต่างๆ​ ของ​จังหวัด​ ​ประกอบ​ไป​ด้วย​ ศาสน​สถาน​ศาสน​วตั ถุ​แ​ ละ​โบราณ​วตั ถุท​ ส​ี่ ำคัญต​ า่ งๆ​อ​ นั เ​ป็นท​ เ​ี่ คารพ​ สักก​ าร​ะข​ อง​ประชาชน​ชาว​จงั หวัดก​ าฬ​สนิ ธ์แ​ุ ละ​จงั หวัดใ​กล้เ​คียง​แ​ ละ​ ยัง​เป็น​ศูนย์​รวม​แห่ง​สรรพ​วิทยา​ความ​รู้​ทั้ง​ทาง​โลก​และ​ทาง​ธรรม​ที่​ สมบูรณ์​ที่สุด​แห่ง​หนึ่ง​ ​อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​วัด​ที่​ประดิษฐาน​พระพุทธ​รูป​ โบราณ​สำคัญค​ เ​ู่ มือง​กาฬ​สนิ ธ์ค​ุ อื ​พ​ ระพุทธ​รปู อ​ งค์ด​ ำ​พ​ ระ​พทุ ธ​สมั ฤ​ ทธิ​์ นิร โ​รค​นั ต​ ราย​(​ห​ ลวง​พอ่ ช​ มุ่ เ​ย็น)​​พ​ ระพุทธ​รปู จ​ าก​เมือง​หลวง​พระ​บาง​ ​ฝีมือ​ช่าง​ล้าน​นา​โบราณ​ ​พุทธ​ลักษณะ​ปาง​มาร​วิชัย​ ​ขัด​สมาธิ​ราบ​​ ทำจากทองสำริด ​ขนาด​หน้า​ตัก​​กว้าง​ ​๔๑​ ​เซนติเมตร​ ​ฐาน​สูง​ ​๓๗​​ เซนติเมตร​ส​ งู จ​ าก​ฐาน​ถงึ ย​ อด​พระ​เมาลี​๗​ ๕​เ​ซนติเมตร​ส​ ร้าง​ใน​สมัย​ พระเจ้า​คู​นา​ขาม​ ​เมือง​ภู​แล่น​ช้าง​ ​เมื่อ​ ​พ​.ศ​ ​.​ ​๒๓๕๓​ ​ที่​ฐาน​มี​จารึก​ เป็นอ​ กั ษร​ธรรม​อสี าน​แ​ ต่บ​ า้ ง​กว​็ า่ เ​ป็นอ​ กั ษร​สมัยห​ ลวง​พระ​บาง​บ​ อก​ ศักราช​นาม​ผู้​สร้าง​ว่า​ ​เพื่อ​กราบ​ไหว้​บูชา​ทั้ง​แก่​คน​และ​เทวดา​ ​ขอ​ให้​ เป็น​ปัจจัยไ​ด้บ​ รรลุพ​ ระ​นิพพาน​ที่​เที่ยง​แท้ม​ ั่นคง​ตาม​ที่​มุ่ง​หวัง​ ​ กาล​ต่อ​มา​พระยา​ชัย​สุนทร​ (​กิ่ง​)​ เจ้า​เมือง​กาฬ​สินธ์ุ​ ​ได้​ อัญ​เชิญ​มา​เป็น​พระพุทธ​รูปป​ ระจำ​​จังหวัด​กาฬ​สินธ์ุ​ ​ชาว​บ้าน​เรียก​ว่า​​ “​หลวง​พอ่ ช​ มุ่ เ​ย็น”​​ด​ ว้ ย​มพ​ี ทุ ธ​คณุ เ​หมือน​พระ​คนั ธ​ า​รราษฐ​รท์ บ​ี่ นั ดาล​ ฝน​ให้​ตก​ได้​​หาก​ปไี​หน​ฝน​แล้งท​ างวัด​จะ​นำ​พระเจ้า​องค์​ดำ​ออก​มา​ให้​ ชาว​บา้ น​แห่ข​ อ​ฝน​ฝ​ น​กจ​็ ะ​ตก​มา​ให้ช​ าว​บา้ น​ได้ด​ มื่ ใ​ช้​ร​ บั ค​ วาม​ชมุ่ เ​ย็น​ ปราศ​จาก​โรค​ภัย​ไข้​เจ็บ แ​ ละ​อยู่เย็น​เป็นสุข​กัน​ทั่ว​หน้า​ ​

ที่ตั้งและการเดินทาง วัดกลาง​ตั้งอยู่ที่ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธ์ุ จังหวัด กาฬสิ น ธุ์ ​อ ยู่ ​ใ น​ตั ว ​เมื อ ง​ก าฬ​สิ น ธ์ุ ​ ​ใ กล้ ​กั บ ​อ นุ ส าวรี ย์ พระยา​ชัย​สุนทร​​บน​ถนน​โสม​พะ​มิตร​ ๑๐

นอกจาก​น​ี้ ยังม​ พ​ี ระ​สงั ก​ จั จ​ ายน์​ร​ อย​พระพุทธบาท​จำลอง​ สลักจ​ าก​หินทราย​ ​ขนาด​กว้าง​​๑​ ​ศอก​ ​ยาว​ ​๔​​ศอก​ ​สันนิษฐาน​ว่า​ สร้างใน​สมัย​ละว้า​ปกครอง​ ​เดิม​อยู่​ริม​ลำ​ปาว​ใกล้​แก่ง​สำโรง​ได้​มี​การ​ สมโภช​ทกุ ป​ ​ี แ​ ต่ต​ อ่ ม​ า​ตลิง่ ล​ ำ​ปาว​พงั เ​ข้าม​ า​ทกุ ป​ ​ี ช​ าว​เมือง​เกรง​จะ​ถกู ​ น้ำ​เซาะ​ทำลาย​จึง​ได้​อัญ​เชิญ​มา​ไว้​ใน​ที่​วัดกลาง​ ​โดย​พระยา​ชัย​สุนทร​​ เจ้าเ​มือง​กาฬ​สินธ์ุ​ใน​สมัย​รัชกาล​ที่​​๕​​ ​ส่วน​ความ​เป็น​มา​ของวัด​กลาง​ ​ทราบ​แต่​เพียง​ว่า​สร้าง​ เมื่อ​ ​พ​.ศ​ ​. ​๒๓๘๗​ ​แต่​ไม่​ปรากฏ​หลักฐ​ าน​เกี่ยว​กับผ​ ู้​สร้าง​ ​ต่อ​มา​ได้​ รับ​พระราชทาน​วิ​สุง​คาม​สีมา​ ​เมื่อว​ ัน​ที่​ ​๔​ ​สิงหาคม​ ​พ​.​ศ​.​ ๒๔๘๐​​ และ​ได้ร​ บั ก​ าร​สถาปนา​เป็นพ​ ระ​อาราม​หลวง​ชนั้ ต​ รี​ช​ นิดส​ ามัญ​ส​ งั กัด​ คณะ​สงฆ์​มหา​นิกาย​​เมื่อ​วัน​ที่​​๓๑​​พฤษภาคม​​พ​.​ศ​.​๒๕๑๑​ ​วัดกลาง​นั้น​นอกจาก​เป็น​วัด​สำคัญ​และ​มี​สิ่ง​ศักดิ์​สิทธิ์​ ให้​พุทธ​ศา​สนิก​ชน​ได้​ไป​กราบ​ไหว้​บูชา​แล้ว​ ​ยัง​ถือ​เป็น​วัด​ที่​มี​ความ​ งดงาม​ ​โดย​เฉพาะ​พระ​อุโบสถ​ถือ​ได้​ว่า​มี​ความ​งดงาม​ตระการ​ยิ่ง​ ​ซึ่ง​ การ​ปั้น​ภาพ​ประติมากรรม​นูน​ต่ำ​ ​รวมถึง​คำ​บรรยาย​ประกอบ​ภาพ​ เหล่า​นี้​เกิด​จาก​ความ​คิด​​และ​แรง​บันดาล​ใจ​ของ​พระ​ธรรม​วงศา​จารย์​ ​ (​สุข​ส​ ุข​โณ​)​​ ​



วัดสักกะวัน กาฬสินธุ์

กาฬ​สินธ์ุ​กับ​ไดโนเสาร์​น้นั ​​ถือ​เป็น​สอง​ส่งิ ​ท่​ีแยก​กัน​ไม่ออก​​ ​มาก​กว่า​​๖๓๐​​ชิ้น​​จาก​นั้น​เป็นต้นม​ า​จังหวัด​กาฬ​สินธ์ุ​จึง​ถูกจ​ ัด​ให้​อยู่​ ครั้น​เมื่อ​เอ่ย​ถึง​กาฬ​สินธ์ุ​แล้ว​จะ​ไม่​เอ่ย​ถึง​ไดโนเสาร์​ก็​คง​มิ​อาจ​กล่าว​ ใน​ทำเนียบ​ดิน​แดน​ไดโนเสาร์​ ​และ​ใน​วัน​ที่​ ​๒๔​ ​พฤศจิกายน​ ​พ​.​ศ​. ได้​ว่า​สมบูรณ์​แบบ​ ​โดย​จุด​เริ่ม​ของ​ไดโนเสาร์​แห่ง​กาฬ​สินธ์ุ​อัน​นำ​ ​๒๕๓๘​​สมเด็จพ​ ระ​เทพ​รัตน​ราช​สดุ​ าฯ​​สยาม​บรม​ราช​กุมารี​​ได้​เสด็จ​ มาซึ่ง​ชื่อ​เสียง​โด่ง​ดัง​ทั่ว​ฟ้า​เมือง​ไทย​มี​ความ​เป็น​มา​อย่างไร​นั้น​ พระราชดำเนินมาทอด​พระเนตร​ซาก​กระดูก​ไดโนเสาร์​​ใน​บริเวณ คำ​ตอบ​ล้วน​ต้อง​​หัน​กลับ​เข้าไป​หา​วัด​อยู่ดี​ ​ที่​เป็น​เช่น​นี้​ก็​สืบ​เนื่อง​มา​ ​ดัง​กล่าว​ วัด​สักกะ​วัน​นั้น​ นอกจาก​มีชื่อเ​สียง​ใน​เรื่อง​ของ​ไดโนเสาร์​ จาก​ซากดึกดำบรรพ์​ที่ได้​มี​การ​ค้น​พบ​ครั้ง​แรก​โดย​พระ​ภิกษุ​สงฆ์​รูป​ ​​ หนึ่ง​ ​คือ​ ​พระ​ญาณ​วิสาล​เถร​ ​(​พระครูว​ ิจิตร​สหัส​คุณ​)​ ​เจ้า​อาวาส​วัด​ ที่​ผู้คน​ทั่วไป​รู้จัก​กัน​ดีแล้ว​​ยัง​เป็น​ที่​ประดิษฐาน​พระพุทธ​รูป​ศักดิส์​ ิทธิ์​ สักกะ​วัน​​อ​ำเภอส​หัส​ขันธ์​​ใน​ปี​​พ​.​ศ​.​​๒๕๑๓​​ที่​บริเวณ​ภู​กุ้ม​ข้าว​​โดย​ ที่​ชาว​กาฬ​สินธ์ุ​ให้​ความ​เคารพ​ ​และ​ถือ​เป็น​พระพุทธ​รูป​คู่​บ้าน​คู่​เมือง​ ได้ม​ เ​ี รือ่ ง​เล่าก​ นั ว​ า่ ​ท​ า่ น​ได้น​ มิ ติ เ​ห็นส​ ตั ว์ย​ กั ษ์ข​ นาด​มหึมา​เล่นน​ ำ้ อ​ ยูใ​่ น​ อีก​องค์​หนึ่ง​​นั่น​คือ​​หลวง​พ่อ​บัน​ดาล​ฤท​ ธิ​ผล​​หรือห​ ลวง​พ่อ​บ้าน​ด่าน​ บริเวณ​ที่​พบ​เจอ​ ​นำ​มา​ซึ่ง​ความ​สงสัย​ท่าน​จึง​ได้​ไป​สำรวจ​ตรวจ​ดู​ใน​ ​เป็น​พระพุทธ​รูป​ปาง​มาร​วิชัย​ ​สมัย​ทวา​รวด​ี​ ​เดิม​ทีประดิษฐาน​อยู่​ บริเวณ​ดัง​กล่าว​ ​และ​ได้​พบ​กับ​กระดูก​จึง​นำ​มา​เก็บ​รักษา​ไว้​ ​โดย​คิด​ ริม​บึง​โน​ ​อำเภอ​สหัสขันธ์​ ​ต่อ​มา​เมื่อ​ปิด​กั้น​น้ำ​เขื่อน​ลำ​ปาว​จึง​ทำให้​ ว่า​เป็นไ​ม้​กลาย​เป็น​หิน​ ​ต่อ​มา​ใน​ปี พ​.​ศ.​​ ​๒๕๒๑​ ​ดร. ว​ราว​ุธ​ ​สุธี​ธร​​ น้ำ​ท่วม​บริเวณ​ที่​ท่าน​ประดิษฐาน​อยู่​ ​ดัง​นั้น​ ชาว​สหัสขันธ์​จึง​นิมนต์​ นัก​ธรณีวิทยา​และ​คณะ​จาก​กรม​ทรัพยากรธรณี​​ได้เ​ดิน​ทาง​มา​สำรวจ​ มา​ประดิษฐาน​ ​ณ​ ​วัด​สักกะ​วัน​ ​​ตั้ง​แต่​ พ​.​ศ​.​ ​๒๕๑๐​ ​โดย​ฐาน​ของ​ ธรณีวิทยา​บริเวณ​นี้​ ​และ​พบ​ตัวอย่าง​ดัง​กล่าว​จึง​ทราบ​ความ​จริง​ว่า​ องค์พ​ ระ​สลักอ​ กั ขระ​เป็นภ​ าษา​ขอม​ม​ เ​ี นือ้ ค​ วาม​วา่ ​“​ห​ ลวง​พอ่ บ​ นั ดาล​” ​แต่​ตัว​หนังสือ​ขอม​ไม่มี​ไม้โท​ ​คน​สมัย​นั้น​แปล​กัน​ไม่​ได้​ ​ก็​เลย​พา​กัน เป็น​กระดูก​ไดโนเสาร์​​ ​ปี พ​.ศ​ .​​๒​ ๕๒๓​ค​ ณะ​สำรวจ​โบราณคดีว​ ทิ ยา​ไทย​-​ฝรัง่ เศส​ ​เรียก​“​หลวง​พ่อบ​ ้าน​ด่าน​”​​ สำหรับ​​หลวง​พ่อ​บัน​ดาล​ฤ​ทธิ​ผล​ ​หรือ​หลวง​พ่อ​บ้าน​ด่าน​​ ได้​นำ​กระดูก​เหล่า​นั้น​จำนวน​ ​๓​ ​ท่อน​ไป​ศึกษา​ พบ​ว่า​เป็น​ส่วน​ ​ ​ กระดูก​ขา​หน้า​ของ​ได​โน​เสาร์​ซอโร​พอด​​(​Sauropod​)​​หลัง​จาก​นั้น​ใน​ มัก​มี​ผู้​เดิน​ทาง​มาก​ราบ​ไหว้​เพื่อ​ขอ​พร​​ซึ่ง​ส่วน​ใหญ่ล​ ้วน​ประสบ​ความ​ เดือน​ตุลาคม​​พ​.​ศ​.​​๒๕๓๗​​ได้​พบ​แหล่งส​ ะสม​กระดูกท​ ี่​บริเวณ​ร่อง​น้ำ​ สำเร็จส​ มหวังด​ ังต​ ั้งใจ​​ดังน​ ั้น​ใน​วันส​ งกรานต์ข​ อง​ทุกป​ จี​ ะ​จัดง​าน​บูชา​ เชิง​เขา​ข้าง​ถนน​ ​จึง​ได้​​เริ่ม​สำรวจ​ขุด​ค้น​และ​อนุรักษ์​​เป็น​ระบบ​อย่าง​ สรง​น้ำแ​ ละ​ปิด​ทอง​จน​กลาย​เป็นป​ ระเพณีท​ ี่​สืบ​ต่อ​กัน​มา​จนถึง​วัน​นี้​​ จริงจัง​ นำ​ไป​สู่​การ​ค้น​พบ​กระดูก​เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เดือน​ตุลาคม​ พ​.​ศ.​​​ ๒๕๓๘​​พบ​กระดูกไ​ดโนเสาร์​กิน​พืช​มาก​กว่า ​๖​​ตัว​มีจ​ ำนวน​กระดูก​

ที่ตั้งและการเดินทาง วัดส​ ักกะ​วันต​ ั้งอ​ ยูท่​ ีเ่​ชิงภ​ กู​ ุ้มข​ ้าว​ ตำบลโนนบุรี อ​ ำเภอ​สหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์​ ​จาก​กาฬ​สินธ์ุ​ใช้ทางหลวงหมายเลข ๒๒๗ (กาฬ​สินธ์ุ​ - สหัสขันธ์)​ ​​ก่อน​ถึง​สหัสขันธ์​ ​๒​ ​กิโลเมตร​ ​มี​ทาง​ แยก​ขวา​ไป​วัด​สัก​กะวัน​อีก​​๑​​กิโลเมตร​ ๑๒



วัดพุทธนิมิต (ภูค่าว) กาฬสินธุ์ วัด​พุทธ​นิมิต​ ​หรือ​พุทธสถาน​ภู​ค่าว​ ​ที่​ตั้ง​อยู่​บน​ภู​เล็ก​ๆ​​ ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​เรียก​กัน​มา​แต่​สมัย​โบราณ​ ​ความ​หมาย​ตาม​ชื่อ​สันนิษฐาน​ ว่า​ ​เรียก​ขึ้น​ตาม​รูปล​ ักษณะ​ของ​ภู​​ที่มี​ลักษณะ​คล​ ้าย​ๆ​ ​คู​ ​หรือ​ ​คร่าว​​ (​ค่าว​)​​ซึ่ง​ใน​พจนานุกรม​​คำ​ว่า​​คร่าว​​(​ค่าว​)​​เป็น​ชื่อ​ไม้​ที่​ตั้ง​ไว้ก​ ับ​เสา​ สำหรับ​รับ​น้ำ​หนัก​​หลังคา​​ ​ภายใน​อาณา​บริเวณ​ของ​ภเู ขา​ลกู น​ ม​ี้ ถ​ี ำ้ แ​ ห่งห​ นึง่ ท​ าง​ทศิ ใ​ต้​ อันเ​ป็นท​ ป​ี่ ระดิษฐาน​รปู อ​ งค์พ​ ระ​อร​หนั ต​ ขีณาสพ​พ​ ระ​มหา​โมค​คลั ล​ านะ ​เถร​ะเจ้า​​ไสยาสน์​ตะแคง​ซ้าย​หัน​เศียร​ไป​ทาง​ทิศ​อาคเนย์​​ซึ่ง​แกะ​สลัก​ บน​แผ่น​หิน​ขนาด​​ยาว​ ​๖​ ​ศอก​ ​องค์​พระ​มคี​ วาม​ยาว​ ​๔​ ​ศอก​ ​กว้าง​​ ๕๐​​เซนติเมตร ​ซึ่งต​ าม​ตำนาน​ได้เ​ล่า​กัน​ว่า​​
​เมื่อ​พระเจ้า​ศรี​โคตร​บูร​ กษัตริยข​์ อม ไ​ด้ต​ อ่ ย​อด​พระ​ธาตุพนม​สำเร็จแ​ ล้วจ​ ะ​ประกอบ​พธิ ส​ี มโภช​ ฉลอง​จ​ งึ ไ​ด้ม​ ก​ี าร​แจ้งข​ า่ ว​แก่ช​ าว​ขอม​ทวั่ ไป​ให้ม​ า​รว่ ม​การ​ฉลอง​ครัง้ น​ ​ี้ ฝ่าย​ขอม​ทาง​เขมร​ต่ำ​​ซึ่งม​ ี​นาย​สา​เป็น​หัวหน้า​ได้ร​ วบรวม​ทรัพย์​สิน แ​ ละ​ผคู้ น​เดินท​ าง​มา​ทาง​รอ้ ยเอ็ด -​ ก​ าฬ​สนิ ธ์​ุ เ​พือ่ ร​ ว่ ม​การ​กศุ ล​สมโภช​ พระ​ธาตุ​ทว่ ​​ าส​ ภาพ​การ​เดินท​ าง​เป็นไ​ป​อย่าง​ยาก​ลำบาก​จ​ งึ ท​ ำให้ก​ าร​ เดิน​ทาง​ล่าช้า​ ​และ​ระหว่าง​ทาง​ขณะ​หยุด​พัก​อยู่​ที่​บ่อ​คำม่วง​ ​ซึ่ง​อยู่​ ที่ตั้งและการเดินทาง วัด​พุทธ​นิมิต​ตั้ง​อยู่​ที่ต​ำบล​สหัสขันธ์​ ​อ​ำเภอ​สหัสขันธ์​ ​จ​ังหวัด กาฬ​สินธ์ุ​ ​จาก​​กาฬ​สินธ์ุ​ไป​ตาม​ทางหลวง​หมายเลข​ ​๒๒๗​ ​ถึง​ อ​ำเภอ​สหัสขันธ์​ ​เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข ๒๔๑๙ เจอทางแยกเลี้ยวซ้ายไปประมาณ ๕๐๐ เมตร ๑๔

ห่าง​จาก​ถำ้ ภ​ ค​ู า่ ว​ไป​ทาง​ทศิ ต​ ะวันอ​ อก​เฉียง​เหนือ​ก​ ท​็ ราบ​ขา่ ว​วา่ ​ก​ าร​ สมโภช​พระ​ธาตุพนม​เสร็จส​ นิ้ ไ​ป​แล้ว​น​ าย​สา​จงึ ไ​ด้ป​ รึกษา​กนั ก​ บั ส​ มัคร​ พรรค​พวก​ ​แล้ว​ตกลง​ว่า​ควร​ฝังท​ รัพย์​สมบัตทิ​ ี่​นำ​มา​ไว้​ที่​ภคู​ ่าว​ ​และ​ แกะ​สลักร​ ูป​พระโมค​คัล​ลา​นะ​ไว้เ​ป็น​ที่​สักก​ าร​​บูชา​​ณ​​สถาน​ที่​แห่ง​นี้​​ ​นอกจาก​นี้​ ภายใน​วัด​ยัง​มี​สิ่ง​ที่​น่าส​ นใจ​อยู่​หลาย​จุด​ ​เช่น​​ อุโบสถ​ไม้​ซ​ งึ่ ไ​ด้จ​ าก​ไม้ท​ จ​ี่ ม​นำ้ ใ​น​ทะเลสาบ​เหนือเ​ขือ่ น​ลำ​ปาว​ล​ กั ษณะ​ เป็น​​อุโบสถ​แบบ​เปิด​ ​ผสม​ผสาน​สถาปัตยกรรม​แบบ​ภาค​กลาง​และ​ ภาค​เหนือ​ประยุกต์​ได้​อย่าง​กลมกลืน​ ​โดย​มี​การ​แกะ​สลัก​ลวดลาย​ งดงาม​ตาม​ประตู​ห​ น้าต่าง​เ​พดาน​เ​ป็นภ​ าพ​พทุ ธ​ประวัต​ิ ท​ ศชาติช​ าดก​​ ตรง​กลาง​อุโบสถ​ประดิษฐาน​ ​“​พระ​มงคล​ชัย​สิทธิ์​ฤทธิ์​ประสิทธิ์​พร​”​ ​และ​ยัง​มี​​“ว​ ิหาร​สังฆ​นิมิต​”​​ซึ่ง​เป็น​ที่​เก็บพ​ ระพุทธ​รูป​​และ​พระ​เครื่อง​ รุ่น​ต่างๆ​​ที่​หา​ยาก​อีก​มากมาย​​จน​อาจ​จะ​กล่าว​ได้​ว่า​เป็น​สถาน​ที่​รวม​ พระ​เครื่อง​ที่​มาก​ที่สุด​ใน​โลก​เลย​ก็ได้​


กาฬสินธุ์

พุทธสถานภูสิงห์

พุทธสถาน​ภสู​ ิงห์ต​ ั้งอ​ ยูบ่​ น​ภขู​ นาด​ย่อม​นาม​ว่า​ภ​ สู​ ิงห์​ซ​ ึ่ง​ อยู่​ใกล้​ๆ​ ​ตัว​ชุมชน​สหัสขันธ์​ ​ ​แม้​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​เพียง​แค่​สำนักสงฆ์​ แต่​ก็​ถือว่า​เป็น​ศาสน​สถาน​สำคัญ​อีก​แห่ง​หนึ่ง​ของ​จังหวัด​กาฬ​สินธ์ุ​​ ด้วย​เป็น​ที่​ประดิษฐาน​พระพุทธ​รูป​ประทับ​นั่ง​ ​ปาง​มาร​วิชัย​ขนาด​ ใหญ่​​อัน​เป็น​ที่​เคารพ​สัก​การ​ะ​ของ​ชาว​เมือง​มา​นับ​แต่​แรก​สถาปนา​ แล้ว​เสร็จ​ใน​ปี​ ​พ​.​ศ​.​ ​๒๕๑๑​ ​ด้วย​พุทธ​ลักษณะ​ที่​สวยงาม​​และ​ดู​ โดด​เด่น​สะดุด​ตา​ ​สามารถ​มอง​เห็น​ได้​จาก​ระยะ​ไกล​ตั้ง​แต่​ย่าง​เข้า​ สู่​ตัว​อำเภอ​สหัสขันธ์​ ​ผู้​ที่​ผ่าน​ไป​ผ่าน​มา​จึง​มัก​ไม่​พลาด​แวะ​ขึ้น​ไป​ นมัสการ​ ​ ​พระพุทธ​รูป​ดัง​กล่าว​มีชื่อ​ว่า​ ​พระ​พรหม​ภู​มิ​ปาโล​ ​เป็น​ พระพุทธ​รูป​ปาง​มาร​วิชัย​ ​หน้า​ตัก​กว้าง​ ​๑๐.๕​ ​เมตร​ ​กล่าว​กัน​ว่า​ เป็น​พระพุทธ​รูป​ขนาด​ใหญ่​ที่สุด​อีก​แห่ง​หนึ่ง​ใน​ภาค​อีสาน​​สร้าง​ใน​

พ​.ศ​ .​​๒​ ๕๑๑​โ​ดย​นาย​ชา่ ง​ทำ​พระพุทธ​รปู อ​ งค์น​ เ​ี้ ป็นช​ า่ ง​จาก​บา้ น​สถี าน​​ อำเภอ​กมลา​ไสย​​ซึ่งเ​ป็นก​ลุ่มช​ ่าง​ทสี่​ ืบทอด​วิชา​ช่าง​​จาก​กลุ่ม​สกุล​ช่าง​ ล้าน​ช้าง​มา​นาน​นับ​หลาย​ร้อย​ปี​​ ​ ​การ​ขึ้น​ไป​นมัสการ​องค์​พระพุทธ​รูป​พระ​พรหมภู​มิ​ปาโล​​ ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​บน​ภู​สิงห์​นั้น​ ​มี​อยู่​สอง​ทาง​เลือก​ ​หาก​เป็น​หนุ่ม​สาว​ที่​มี​ สุขภาพ​แข็ง​แรง​กเ็​ดิน​ขึ้น​ไป​ตาม​บันได​​๔๐๑​​ขั้น​​ที่​ตั้ง​อยู่​ด้าน​หน้า​ติด​ กับส​ วน​สาธารณะ​ห​ รือข​ บั ร​ ถ​ขนึ้ ไ​ป​ตาม​เส้นท​ าง​ทอ​ี่ าจ​จะ​คบั แ​ คบ​ไป​สกั ​ หน่อย​​อย่างไร​ก็ตาม ​เมื่อ​ขึ้น​ไป​ถึงน​ อกจาก​ได้​นมัสการ​องค์​พระ​แล้ว​ บริเวณ​โดย​รอบ​ก็​ถือ​เป็น​จุด​ชม​วิว​ที่​ดี​ที่สุด​อีก​แห่ง​หนึ่ง​ของ​กาฬ​สินธ์ุ​ ​ด้วย​สามารถ​มอง​เห็น​ทิวท​ ัศน์​ได้​กว้าง​ไกล​​โดย​เฉพาะ​ทะเลสาบ​เหนือ​ เขือ่ น​ลำ​ปาว​เ​ส้นเลือด​ใหญ่ส​ ำคัญท​ ห​ี่ ล่อเ​ลีย้ ง​ชวี ติ ผ​ คู้ น​ใน​พนื้ ทีจ​่ งั หวัด​ กาฬ​สินธ์ุ​

ที่ตั้งและการเดินทาง พุทธสถาน​ภู​สิงห์ตั้งอยู่ที่ต​ำบล​ภู​สิงห์​ ​อ​ำเภอ​สหัสขันธ์​ จังหวัด กาฬสินธุ์ ​จาก​กาฬสินธุ์ไปตาม​ทางหลวง​หมายเลข​ ​๒๒๗​​ พุทธสถาน​ภ​สู งิ ห์อยูบ่ นยอดเขาภูสิงห์ ​สามารถ​ขึ้น​ได้​๒​​ทาง​​คอื ​ ทาง​ทิศ​ตะวัน​ตก​จะ​เป็น​ทาง​ลาดยาง​คด​เคี้ยว​ขึ้น​ตาม​ไหล่​เขา​​และ​ ทาง​ทิศ​ตะวัน​ออก​เป็น​ทาง​ขึ้น​บันได​​๔๐๐​​กว่าข​ ั้น​ ๑๕


พุทธสถานภูปอ กาฬสินธุ์ พุทธสถาน​ภู​ปอ​ ​ตั้ง​อยู่​ที่​วัด​อินทร์​ประทาน​พร​ ​หรือ​ วัด​ภู​ปอ​ สำหรับ​พุทธสถาน​แห่ง​นี้​ตั้ง​อยู่​บน​ภูเขา​​ขนาด​ย่อมๆ​ ​ใน​ พุทธสถาน​ซึ่ง​เป็น​ที่​ตั้ง​ของวัด​อินทร์​ประทาน​พร​จะ​มี​พระพุทธ​รูปปาง​ ไสยาสน์​​ศักดิ์​สิทธิ์​ที่​ชาว​กาฬ​สินธ์ุ​ให้​ความเคารพ​อยู่​ถึง​ ​๒​ ​องค์​​ แกะ​สลัก​อยู่​บน​แผ่น​หิน​ซึ่ง​เป็น​ผนัง​ผา​ของ​เพิง​ถ้ำ​ ​จาก​ลักษณะ​ศิลปะ​ ที่​ปรากฏ​พอที่​จะ​ระบุ​ได้​ว่า​เป็น​ศิลปะ​สมัย​ทวา​รวด​ี​ สร้าง​ขึ้น​ใน​ราว​ พุทธ​ศตวรรษ​ที่​ ​๑๒​ -​ ๑๔​ ​ปาง​โปรด​อสุ​ริ​นท​ราหู​ ​คือ​ประทับ​นอน​ แบบ​สีห​ไสยาสน์​ ​หรือ​ประทับ​นอน​ตะแคง​ขวา​ ​พระ​กัจฉา​ ​(​รักแร้​)​ ​ทับ​พระ​เขนย​​(​หมอน​)​​และ​พระหัตถ์​​(​มือ​)​​ยก​ขึ้น​ประคอง​พระ​เศียร ​(​ศี ร ษะ​)​ ​ซึ่ ง ​ใน​บ าง​ต ำนาน​ก ล่ า ว​ว่ า ​ ​พ ระพุ ท ธ​อ งค์ ​ท รง​แ สดง​ ปาฏิหาริย​์ โ​ดย​ทรง​บรรทม​ให้ว​ รกาย​ใหญ่โ​ตก​วา่ เพือ่ ให้ย​ กั ษ์ต​ น​หนึง่ ช​ อื่ ​ อสุ ​ริ ​นท​ร าหู ​ ​ซึ่ ง ​ไม่ ​ย อม​ก้ ม ​หั ว ​ล ง​ไป​คุ ย ​กั บ ​ม นุ ษ ย์ ​ร่ า ง​เล็ ก ​เช่ น​ พระพุทธเจ้า​ ​เมื่อ​ยักษ์​เห็น​ดัง​นั้น​จึง​ยอม​ลด​ทิฐิ​ ​และ​ก่อ​เกิด​ศรัทธา​ แหงน​หน้าข​ ึ้น​ไป​ชม​พระ​บารมี​พระพุทธเจ้า​​ ​ ที่ตั้งและการเดินทาง พุทธสถาน​ภู​ปอ​​ตั้ง​อยู่​ที่วัดอ​ ินทร์​ประทาน​พร​ ​(​วัด​ภู​ปอ​)​ ​ต​ำบล ​ภู​ปอ​ ​อ​ำเภอ​เมือง​กาฬ​สินธ์ุ​ จังหวัดกาฬสินธุ์ จาก​กาฬ​สินธ์ุ​ไป​​​ ตาม​ทางหลวง​หมายเลข​๒​ ๑๓​(​กาฬสินธุ์ - สหัสขันธ์) ถึงก​ โิ ลเมตร ท​ ี่​๕​ ๙​แ​ ล้วเ​ลี้ยว​ซ้าย​เข้าถนน ทช. กส. ๓๐๐๕ (​บ้าน​โจด -​ บ​ ้าน​ นา​จาร​ย์​-​นาค​อก​ควาย)​​ประมาณ​​๑๖​​กิโลเมตร​ ๑๖

​สำหรับ​พระพุทธ​รูป​องค์​แรก​ ​ประดิษฐาน​อยู่​บริเวณ ​เชิง​เขาใต้​เพิง​ผาใกล้กับวัด​ ​องค์​พระ​​แกะ​สลัก​นูน​ต่ำ​บน​แผ่น​ผา​หิน ทราย ​ความ​ยาว​​๓.๓​​เมตร​​สูง​​๑.๒๗​​เมตร​​ส่วน​องค์​ที่​​๒ ​ตั้ง​​อยู่​ ใต้​เพิง​ผา​เกือบๆ​ ​ถึง​ยอด​เขา​ ​โดย​ต้อง​เดิน​ขึ้น​บันได ​๔๒๖ ​ขั้น​​ องค์ ​พ ระมี ​พุ ท ธ​ลั ก ษณะ​แ บบ​ศิ ล ปะ​ท วา​ร วดี ผ สม​สุ โ ขทั ย ที่ ​ คาด​ว่ า ​น่ า ​จ ะ​มี อ ายุ ​น้ อ ย​ก ว่ า ​อ งค์ ​แ รก​ ​คื อ ​ส ร้ า ง​ขึ้ น ราว​ พุทธ​ศตวรรษ​ที่​ ​๑๘ ​- ​๑๙​ ​องค์​พระ​ประทับ​บน​แท่น​บรรทม​​ โดย​นอน​ตะแคง​ขวา​เช่น​กัน​​ความ​ยาว​​๕.๒​​เมตร​​สูง​​๑.๕​​เมตร​​ตั้ง​ อยู่​ใน​หลืบผ​ า​ที่​ลึกเ​ข้าไป​เล็กน​ ้อย​​ ​ ​พระพุทธ​รปู ป​ าง​ไสยาสน์แ​ ห่งพ​ ทุ ธสถาน​ภป​ู อ​น​ี้ ป​ ระชาชน​ ใน​ท้อง​ถิ่น​จะ​จัด​งาน​สมโภช​ขึ้น​ประมาณ​เดือน​เมษายน​ของ​ทุก​ปี​ ​


กาฬสินธุ์

วัดศรีบุญเรือง (วัดเหนือ)

อดี ต ​ค วาม​เป็ น ​ม า​ข อง​ก าร​ก่ อ ​ร่ า ง​ตั้ ง ​ถิ่ น ฐานของ​ ผู้คน​ใน​จังหวัด​กาฬ​สินธ์ุ​นั้น​ ​มี​ความ​เป็น​มา​เนิ่น​นาน​ตั้ง​แต่​สมัย​ ท​วารว​ดี​ หรือ​ราว​พุทธ​ศตวรรษ​ที่​ ​๑๓ ​-​ ๑๕​ ​ ​โดย​มี​หลัก​ฐาน ท​ าง​ประวัตศิ าสตร์ส​ ำคัญๆ​ ​อย่างพระ​ธาตุย​ า​ค​ู ซึง่ เ​ป็นโ​บราณ​สถานขนาด​ ใหญ่​ใน​อำเภอ​กมลา​ไสย​แล้ว​ ​​ใบเสมา​ก็​ถือ​เป็น​อีกหลัก​ฐาน​หนึ่ง​ ที่​มี​การ​พบ​กัน​เป็น​จำนวน​มาก​จน​กลาย​เป็น​ภาพ​ลักษณ์​หนึ่ง​ของ​ จังหวัด​กาฬ​สินธ์ุ​​โดย​ส่วน​ใหญ่​จะ​เก็บ​รักษา​ไว้​ที่​วัด​โพธิ์ชัยเ​สมา​ราม​​​ ​ นอก​เหนือ​จาก​สถาน​ที่​ดัง​กล่าว​แล้ว​ ​ณ​ ​ใจกลาง​เมือง​ กาฬ​สินธ์ุ​ ​ที่​วัด​ศรีบุญเรือง ​หรือ​วัด​เหนือ​ ​วัด​เก่า​แก่​ของ​กาฬ​สินธ์ุ​ ​ก็​ ถือ​เป็น​อีก​สถาน​ที่​หนึ่ง​ที่​เก็บ​รักษาใบ​​เสมา​ของ​เมือง​ฟ้า​แดด​สง​ยาง​ ​ให้​ผู้​ที่​สนใจ​หลักฐ​ าน​ทาง​ประวัติ​แต่ห​ น​หลังไ​ด้ไ​ป​ชื่นชม​​ ​​ ​สำหรับเ​สมา​​หรือท​ ี่​มี​นัก​วิชา​การ​บาง​ท่าน​เรียก​ว่า​​“​สีมา​”​ ตาม​พจนานุกรม​พทุ ธ​ศาสน์​ห​ มาย​ถงึ ​เ​ขต​กำหนด​ความ​พร้อม​เพรียง​

ของ​สงฆ์​ ​หรือ​เขต​ชุมนุม​ของ​สงฆ์​ ​หรือ​เขต​ที่​สงฆ์​ตกลง​ไว้​สำหรับ​ ภิกษุ​ทั้ง​หลาย​ที่​อยู่​ภายใน​เขต​นั้น​จะ​ต้อง​ทำ​สังฆ​กรรม​ร่วม​กัน​ โดย​ เสมา​​แบ่งเ​ป็น​​๒​​ประเภท​คือ​ ๑​.​​พัทธ​สีมา​​แปล​ว่า​​แดน​ที่​ผูก​​ได้แก่​เขต​ทพี่​ ระ​สงฆ์​กำหนด​ขึ้น​เอง​ ๒​ .​​อ​ พ​ ทั ธ​สมี า​แ​ ปล​วา่ ​แ​ ดน​ทไ​ี่ ม่ไ​ด้ผ​ กู ​ไ​ด้แก่​เขต​ทที่ าง​ราชการ​กำหนด​ ไว้​ห​ รือเ​ขต​ทเ​ี่ กิดข​ นึ้ เ​อง​ตาม​ธรรมชาติเ​ป็นเ​ครือ่ ง​กำหนด​แ​ ละ​สงฆ์ถ​ อื ​เอา​ตาม​เขต​ที่​กำหนด​นั้น​​ไม่​ได้ท​ ำ ​หรือ​ผูก​ขึ้นใ​หม่​​ ​ ​ความ​สำคัญ​ของ​การ​มี​ใบเสมา​นี้​ ​เนื่องจาก​พระพุทธเจ้า​ ได้​ทรง​กำหนด​ให้​พระ​ภิกษุต​ ้อง​ทำ​อุโบสถ​ ​ปวารณา​ ​และ​สังฆ​กรรม​ ร่วม​กัน​ ​โดย​เฉพาะ​การ​สวด​ปาติโมกข์​ ​ซึ่ง​ต้อง​สวด​พร้อม​กัน​เดือน​ ละ​​๒​​ครั้ง​​จึง​เกิดห​ ลัก​แดน​ใน​การ​ที่​สงฆ์จ​ ะ​ร่วม​กัน​กระทำ​สังฆ​กรรม​​ โดย​มี​หลักบ​ ่ง​ชคี้​ ือ​ใบ​เสมา​ ​ ​โดย​​เสมา​ที่​เก็บ​ไว้​ที่​วัด​ศรีบุญเรือง​จะ​ปัก​เรียง​ราย​อยู่​รอบ​ อุโบสถ​ ​ใน​จำนวน​นั้น​มี​​เสมา​จำหลัก​ที่​สวยงาม​อยู่​ใบ​หนึ่ง​ ​ซึ่ง​ปัก​อยู่​ ด้าน​หน้า​ของ​อุโบสถ​​จำหลักเ​ป็นร​ ูป​เทวดา​เหาะ​อยู่​เหนือ​ปราสาท​ทำ​ เป็น​ซุ้ม​เรือนแก้ว​​(​ศิลปะ​แบบ​ทวา​รวด​ี​)​​ซ้อน​กัน​เป็น​​๒ ​ชั้น​​ล่าง​สุด​ มี​รูป​กษัตริย์​​พระ​มเหสี​​และ​พระราช​โอรส​ ​ ที่ตั้งและการเดินทาง วัด​ศรีบุญเรือง​หรือ​วัดเ​หนือ ​ตั้งอ​ ยู่​ที่ตำบล​กาฬ​สินธ์ุ​​อำเภอ​เมือง​ กาฬ​สินธ์ุ​จังหวัดกาฬสินธุ์ บนถนนผ้าขาว ๑๗


อนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร หอเจ้าบ้าน และเสาหลักเมืองใหม่ กาฬสินธุ์

อนุสาวรียพ์​ ระยา​ชัยส​ ุนทร​​(​ท้าว​โสม​พะ​มิตร​)​​หอ​เจ้าบ​ ้าน​​ และ​เสา​หลักเมือง​ใหม่​ส​ ถาน​ทศ​ี่ กั ดิส​์ ทิ ธิท​์ งั้ ส​ าม​แห่งท​ ก​ี่ ล่าว​ถงึ น​ ถ​ี้ อื ว่า ม​ ค​ี วาม​เกีย่ ว​เนือ่ ง​กนั ​ด​ งั น​ นั้ ​หาก​เดินท​ าง​มายังก​ าฬ​สนิ ธ์​ุ ก​ น​็ า่ จ​ ะ​เข้าไป​ นมัสการ​กราบ​ไหว้​ให้​ครบ​กัน​ทุก​ที่​ ​เพื่อ​ความ​เป็นสิริ​มงคล​ ​อีก​ทั้ง​ สถาน​ทดี่​ ัง​กล่าว​ก็​ตั้งอยู ​​ ่​ไม่​ไกล​กัน​มาก​นัก​​ ​ ​ความ​เกี่ ย ว​เนื่ อ ง​ข อง​ส ถาน​ที่ ​ทั้ ง ​ส าม​แห่ ง ​ที่ ​ก ล่ า ว​ม า​ นั้น​ ​ก็​สืบ​เนื่อง​มา​จาก​ครั้งที่​ท่าน​ท้าว​โสม​พะ​มิตร​อพยพ​ผู้คน​มา​ลง​ หลัก​ปัก​ฐาน​ ​สร้าง​บ้าน​แปง​เมือง​นั้น​ ​ตาม​ธรรมเนียม​จะ​ต้อง​มี​การ​ ตั้ง​ศาลหลักเมือง​และ​หอ​เจ้า​บ้าน ​เพื่อ​เป็น​ที่​สถิตของ​ดวง​วิญญาณ​ ศักดิ์​สิทธิ์​ใน​การ​ปก​ปัก​รักษา​บ้าน​เมือง​​ ​ ครั้น​​ผ่าน​กาล​เวลา​มา​เนิ่น​นาน ​ทุก​สถาน​ที่​ก็​ย่อม​มี​การ​ ทรุด​โทรม​ไป​ตาม​กาล​เวลา​ ​แต่​กระนั้น​ชาว​เมือง​กาฬ​สินธ์ุ​ก็​ไม่​เคย​ ปล่อย​ปละ​ละเลย​​ศูนย์​รวม​จิตใจ​ของ​พวก​เขา​​ ​โดย​ได้​ร่วม​แรง​ร่วมใจ​ บูรณะ​ซ่อมแซม​อยู่​เสมอ​มา​ เสา​หลักเมือง​ต้น​ใหม่​ที่​เห็น​อยู่​ทุก​วัน​นี้​​ ได้​ทำ​ยก​ขึ้น​ใหม่​เมื่อ​วัน​อาทิตย์​ที่​ ​๑๓​ ​กันยายน​ พ​.​ศ​.​ ​๒๕๒๔​ ​เวลา​​ ๑๖.๐๐​​น​.​​ตรง​กบั ​วนั ​ขน้ึ ​​๑๕​​คำ่ ​เดือน​​๑๑​​ป​รี ะกา​​จุลศักราช​​๑๓๔๓​​ หลัง​จาก​ที่​ได้​ประกอบ​พิธี​วาง​ศิลา​ฤกษ์​ ​อนุสาวรีย์​พระยา​ชัย​สุนทร​​ (​ท้าว​โสม​พะ​มิตร​)​​ซึ่ง​เป็น​อนุสาวรีย์​หล่อด​ ้วย​สำริดเท่า​ตัว​จริง​​ยืน​บน​ แท่น​​มือขวา​ถือ​กาน้ำ​​มือ​ซ้าย​ถือ​ดาบ​อาญา​สิทธิ์​​เพื่อเ​ป็นการ​แสดง​ กตเวทิตา​ต่อ​ผู้​ก่อตั้งเ​มือง​กาฬ​สินธ์ุ​​และ​พิธเี​ท​ทองหล่อ​พระรูปท​ ี่​หน้า​ ศาลา​กลาง​จังหวัด​​​ ​ ที่ตั้งและการเดินทาง อนุสาวรีย์​พระยา​ชัย​สุนทร​​(​ท้าว​โสม​พะ​มิตร​)​​หอ​เจ้า​บ้าน​​และ​ เสา​หลักเมือง​ใหม่​ตั้ง​อยู่​ที่ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ใน​ละแวก​ใกล้ๆ​​กัน​​โดย​อนุสาวรีย์​พระยา​ ชัย​สุนทร​​(​ท้าว​โสม​พะ​มิตร​)​​หอ​เจ้า​บ้าน​​อยู่​คนละ​ฝั่ง​ของ​ถนน​​ ส่วน​ศาล​เจ้าพ​ ่อห​ ลักเมือง​ห่าง​ออก​ไป​ทาง​ทิศต​ ะวันต​ ก​เฉียง​เหนือ​ ตาม​ถนน​อนรรฆ​นาค​ประมาณ​​๕๐๐​​เมตร​ ๑๘

​ส่วน​หอ​เจ้า​บ้าน​กาฬ​สินธ์ุ​ ​ซ่ึง​สร้าง​ข้ึน​พร้อม​กับ​ศาล หลักเมือง​​ทส​่ี ถิตข​ อง​มเ​หศักข์​​ดวง​วญิ ญาณ​ของ​บรรพ​บรุ ษุ ท​ ค​่ี อย​ดแู ล​ ให้ค​ วาม​คมุ้ ครอง​แก่บ​ ตุ ร​หลาน​​ให้อ​ ยูเ่ ย็นเ​ป็นสุข​แ​ ต่เ​ดิมห​ อ​เจ้าบ​ า้ น​เป็น​ อาคาร​ไม้​ ​หาก​แต่​ชำรุด​ทรุม​โทรม​ก็​มี​ซ่อมแซม​สืบ​มา​หลาย​สมัย​ ​ปี พ​.​ศ​.​ ๒๕๐๒​ ​ได้​จดั ​ให้​ม​กี าร​บรู ณะ​ซอ่ มแซม​ ​โดย​สร้าง​เป็น​อาคาร​เสา​ คอนกรีตห​ ลังคาทรง​จว่ั ​แ​ ละ​ปี พ​.ศ​ .​​๒​ ๕๔๔​ไ​ด้บ​ รู ณะ​ใหม่ใ​ห้ม​ น่ั คง​ถาวร​ ​ ​ใน​เดือน​ ๖ ​ของ​ทุก​ปี​ ​ชาว​กาฬ​สินธ์ุ​จะ​มี​พิธี​ทาง​ศาสนา​​ และ​พธิ ​บี วง​สรวง​สง่ิ ​ศกั ดิ​ส์ ทิ ธิ​ท์ ง้ั ​สาม​ ​คอื ​ ​ศาลหลักเมือง​ ​หอ​เจ้า​บา้ น​​ อนุสาวรีย​พ์ ระยา​ชยั ​สนุ ทร​ ​ตลอด​จน​ศาล​ป​แู่ ฮ่​ ​ศาล​ป​หู่ าร​ ​ศาล​ป​กู่ ลุ า​ บุญ​โฮม​​และ​ศาล​ป​โู่ ง้ง​​ตง้ั ​แต่​สมัย​การ​กอ่ ​ตง้ั ​เมือง​กาฬ​สนิ ธ์​สุ บื ​มา​ทกุ ​ปี​ ​ ​นอกจาก​นี้​ ชาว​ไทย​เชื้อ​สาย​จีน​ใน​จังหวัด​กาฬ​สินธ์ุ​ก็ได้​ ริเริ่มใ​ห้ม​ กี​ าร​จัดง​าน​สมโภช​เจ้าพ​ ่อห​ ลักเ​มือง​หอ​เจ้าบ​ ้าน​​และ​เจ้าพ​ ่อ ​โสมพะ​มิตร​ หรือ​ที่​เรียก​กัน​ว่า​ ​“​งาน​งิ้ว​”​ ​ของ​ชาว​จังหวัด​กาฬ​สินธ์ุ​​ ขึ้น​​ครั้งแ​ รก​จัดใ​น​ปี​พ.ศ. ​๒๔๙๖​​โดย​มี​ความ​เชื่อว​ ่า​​กิจการ​ค้าข​ อง​ พ่อค้า​ชาว​จีน​มี​ความ​เจริญ​รุ่งเรือง​มาก​ขึ้น​ทุก​วัน​เป็น​เพราะ​เจ้า​พ่อ​ หลักเมือง​ชว่ ย​คมุ้ ครอง​ให้เ​ป็นไ​ป​ค​ วร​จะ​มก​ี าร​จดั ง​าน​สมโภช​หลักเมือง​​ หอ​เจ้า​บ้าน​ ​และ​เจ้า​พ่อ​โสม​พะ​มิตร​ใน​จังหวัด​ เพื่อ​เป็น​สิริ​มงคล​กับ​ กิจการ​ค้าขาย​​และ​เป็นป​ ระเพณีส​ ืบทอด​ต่อ​มายัง​คน​รุ่น​หลัง​ ​



วัดตาดแม่นายเทพนิมิต กาฬสินธุ์

วัด​ตาด​แม่​นาย​เทพ​นิมิต​เป็น​วัด​ที่​มี​สิ่ง​ก่อสร้าง​ที่​สวยงาม​ อยู่​มากมาย​ทั่ว​บริเวณ​วัด​​อีก​ทั้ง​มี​การ​จัด​วาง​ที่​ลงตัว​​ทั้งหมด​ล้วน​ก่อ​ เกิด​จาก​การ​ถ่ายทอด​ความ​คิด​อัน​วิจิตร​ของ​นัก​ออกแบบ​จัด​สวน​ของ​​ “​พระ​อาจารย์​สม​ศักดิ์​ สิ​ริ​วัณ​โณ​”​ ​เจ้า​อาวาส​วัด​ตาด​แม่​นายฯ ​กับ​ สไตล์​การ​ออกแบบ​การ​สร้าง​วัด​ที่​ไม่​เหมือน​วัด​ใด​ ประ​หนึ่ง​การ​จัด​ สวน​รีสอร์ต​ ​รูป​ทรง​สิ่ง​ก่อสร้าง​มี​เอกลักษณ์​สามารถ​แยก​ออก​เป็น​ ศิลปะ​ประจำ​ชาติ​หลาก​หลาย​ประเทศ​ ​เช่น​ ​หอก​ลอง​ ศิลปะ​​ประจำ​ ชาติญ​ ปี่ นุ่ ​ห​ อ​พระ​ห​ อ​ยกั ษ์​ห​ อ​ระฆัง​ม​ ณฑป​พระ​ศ​ าล​เจ้าแ​ ม่ก​ วน​อมิ ​ ​สะพาน​ลวดลาย​มังกร ​ล้วน​โชว์​งาน​ศิลปะ​ประจำ​ชาติ​​จีน​ ​ไทย​ ​แขก​​ ญี่ปุ่น​ ​จุด​ประสงค์​ก็​เพื่อ​ให้​เป็น​แหล่ง​ท่อง​เที่ยว​พัก​ผ่อน​ทาง​กาย​และ​ ใจ​แก่​ผู้คน​ ​ บริเวณ​วัด​ตาด​แม่​นายฯ ​ตั้ง​อยู่​บน​ที่​ลาด​เชิง​เขา​ ​ซึ่ง​มี​ ลักษณะ​คล้าย​น้ำตก​ ​ด้วย​เหตุน​ ี้​เอง​จึง​เป็นอีกหนึ่ง​ที่มา​ของ​ชื่อ​ ​คำ​ว่า​​ “​ตาด​”​ ​ใน​ภาษา​พื้น​ถิ่น​แถบ​นี้​ ​หมาย​ถึง​เนิน​เขา​ หรือ​พื้นที่​ลาด​ชัน​ที่​ เป็น​หนิ ​​ซงึ่ ​จาก​สภาพ​ภมู ิ​ประเทศ​ที่​เห็น​ก็​บง่ ​บอก​ได้​อย่าง​ชดั เจน​​ดว้ ย​ ภายใน​บริเวณ​ที่​ตั้ง​ของวัด​ประกอบ​ด้วย​ลาน​หิน​กว้าง​ ​​สูง​จาก​พื้น​ดิน ​ตั้ง​แต่​​๕​-​๗​​เมตร​​มี​หิน​เรียง​ทับ​ซ้อน​กัน​ใน​ลักษณะ​ขั้น​บันได​ลด​หลั่น​ กันลง​มา​จนถึงร​ ะดับพ​ ื้น​ราบ​​ ​ส่วน​คำ​วา่ ​“​แ​ ม่น​ าย​”​น​ นั้ ม​ ต​ี ำนาน​เล่าข​ าน​จาก​ชาว​บา้ น​มา​ หลาย​ชวั่ อ​ ายุค​ น​วา่ ​ณ​ ​ท​ แ​ี่ ห่งน​ เ​ี้ คย​เป็นน​ ำ้ ตก​ม​ ผ​ี ห​ู้ ญิงส​ งู ศ​ กั ดิ​์ ช​ าว​บา้ น​ เรียก​ว่า​ ​“แ​ ม่​นาย​”​ ​แม่​นาย​และ​ทาส​ผู้​ซื่อสัตย์​ได้เ​ดิน​ทาง​มา​ที่​นี่ ​และ​ เผอิญ​แม่​นาย​ได้​ลื่น​ไถล​ลง​มา​จาก​ตาด​จน​เสีย​ชีวิต​ ​สร้าง​ความ​เสียใจ​

ที่ตั้งและการเดินทาง วัด​ตาด​แม่​นาย​เทพ​นิมิต​ตั้ง​อยู่​ที่​ตำบล​โน​นบุ​รี​ ​อ​ำเภอสหัสขันธ์​​ จังหวัดกาฬสินธุ์ จากกาฬสินธุ์ไป​ตาม​ทางหลวง​หมายเลข​๒​ ๒๗​ ประมาณ​๕​ ​ก​ ิโลเมตร​​โ​ดย​เลี้ยว​ซ้าย​ทีป่​ ้อม​ตำรวจ​หน้าโ​รงเรียน​ สหัสขันธ์​ศึกษา​ ​หรือ​ตรง​กัน​ข้าม​ทาง​เข้า​วัด​สักกะ​วัน​ ​เข้าไป​ ประมาณ​​๒​​กิโลเมตร​​ ๒๐

ใ​ห้ผ​ ู้​เป็น​บ่าว​ยิ่ง​นัก​​จึง​ได้​เอา​คำ​ว่า​​“​แม่​นาย​”​​เข้าม​ าบ​วก​กับช​ ื่อ​พื้นที่​ แห่ง​นี้​คือ​​“​ตาด​”​​จึง​เป็นเ​รียก​กัน​ว่า​​“​ตาด​แม่​นาย”​​มา​ตั้ง​แต่บ​ ัดนั้น​ ​ ​แต่​ก่อน​จะ​มา​เป็นวัด​ที่​สวยงาม​โดด​เด่น​เป็น​สง่า​แก่​อำเภอ​ สหัสขันธ์​​​ที่ดิน​แห่ง​นี้​เดิมเป็น​ของวัดไ​ตรภูมิ​​แต่​ขณะ​ที่กำลังก่อสร้าง​ ใน​วดั ​เ​สา​เกิดล​ ม้ ท​ บั พ​ ระ​สงฆ์ร​ ปู ห​ นึง่ ม​ รณภาพ​ช​ าว​บา้ น​จงึ พ​ า​กนั ก​ ลัว​ ทาง​วดั ไ​ตรภูมเ​ิ อง​กไ็ ด้ย​ า้ ย​ไป​สร้าง​วดั ใ​หม่ท​ บ​ี่ า้ น​โนน​บรุ ​ี ท​ บ​ี่ ริเวณ​นจ​ี้ งึ ​ ถูก​ปล่อย​เป็นว​ ัด​ร้าง​มา​ช้าน​ าน​ ​ ​ต่อ​มา​เมื่อป​ ี​ ​พ​.​ศ​.​ ​๒๕๓๓​ ​พระ​อธิการ​สม​ศักดิ์​ ​สริ​ ิวัณโน​​ ได้​มา​พบ​สถาน​ที่​แห่ง​นี้​เห็นว​ ่า​เป็นพ​ ื้นที่​ที่​มี​ความ​เหมาะ​สม​จะ​พัฒนา​ เป็น​วัด​ ​ท่าน​ได้​ก่อสร้าง​วัด​ขึ้น​ใหม่​โดย​ใช้​ชื่อ​ ​“​วัด​บาง​โศก”​ ​แต่​อยู่​มา ​คืน​หนึ่ง​ท่าน​ได้​นิมิต​เห็น​หญิง​สาว​ผม​ยาว​นาง​หนึ่ง​ ​แต่ง​กาย​คล้าย​ ชาว​ผู้​ไท​โบราณ​มา​เดินว​ น​เวียน​อยู่​รอ​บกุฏคิ​ ล้าย​ๆ​ ​กับม​ ี​เรื่อง​กังวล​ใจ ​บ าง​อ ย่ า ง​ ​ท่ า น​จึ ง ​ได้ ​เปลี่ ย น​ชื่ อ ​วั ด ​เสี ย ​ใหม่ ​โดย​เปลี่ ย น​ชื่ อ ​จ าก​​ “​วัด​บาง​โศก​”​​เป็น​​“​วัด​ตาด​แม่​นาย​เทพ​นิมิต​”​​เพื่อไ​ม่​ให้​ซ้ำก​ ับช​ ื่อ​เก่า​ ที่​ไม่เป็นมงคล​ ​อีก​ทั้ง​เพื่อให้พ้อง​กับ​เรื่อง​เล่า​ที่​สืบ​ต่อ​ๆ​ ​กัน​มา​ของ ​ชาว​บ้าน​แถบ​นี้​​ขณะ​เดียวกันภ​ ายใน​บริเวณ​วัด​กจ็​ ัด​สร้าง​ศาล​แม่​นาย​​ เพื่อ​ให้​เป็น​ที่​เคารพ​สักก​ าร​ะ​ของ​ผู้คน​ ​




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.