KOBSUKH K AENRATANA
H E AT T O L E R A N T
C YM B I DI UM S f o r Tr o p i c a l C l i m a t e s
K O B S U K H K A E N R ATA N A
© 2009 Kobsukh Kaenratana First published in February 2009 ISBN 978-974-642-887-3 Publisher Nutthanaty Co., Ltd. 299/96 Areeya Mandarina, Sutthisarn Winitchai Rd., Samsennok, Huaykwang, Bangkok, 10310 Tel. 0 2274 7198-99 Fax. 0 2274 7200 e-mail nutthanaty@yahoo.com Layout design by Jeeranat U-domsin Cover design by Thana-anek Chaengpanich and Jeeranat U-domsin Printed in Bangkok by Amarin Printing and Publishing Plc. All rights reserved. Kobsukh Kaenratana has asserted his rights to be identified as the author of this work in accordance with Patents Act B.E. 2542 (1999). No part of this publication may be reproduced, stored in a retrieval system, or transmitted in any form, or by any means, without written permission of the publisher unless for educational purposes.
ผู้พิมพ์และเจ้าของลิขสิทธิ์ กอบสุข แก่นรัตนะ พิมพ์ครั้งแรก กุมภาพันธ์ 2552 เรียบเรียง กอบสุข แก่นรัตนะ ดำเนินการจัดพิมพ์ บริษัทณัฏฐานที จำกัด 299/96 หมู่บ้านอารียา แมนดารีนา ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 0 2274 7198-99 แฟ๊กซ์. 0 2274 7200 อีเมล์ nutthanaty@yahoo.com ออกแบบรูปเล่ม จีรณัทย์ อุดมสินธ์ ออกแบบปก ธนะเอนก แฉ่งพานิช และ จีรณัทย์ อุดมสินธ์ พิมพ์ที่ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ข้อความและรูปภาพทั้งหมดในหนังสือนี้ เจ้าของลิขสิทธิ์สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ 2542 การคัดลอกใดๆในหนังสือนี้ไป เผยแพร่ในทุกรูปแบบ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน ยกเว้นการอ้างอิงเพื่อการศึกษาและวิจารณ์
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ กอบสุขแก่นรัตนะ. ซิมบิเดีย มทนร้อน=HeatTolerantCymbidiums.--กรุงเทพฯ:ณัฏฐานที,2552. 4 40หน้า. 1.กล้วยไม้2 . ซิมบ ิเดีย ม -- พันธุศาสตร์. I.ชื่อเรื่อง 584.4 ISBN 978-974-642-887-3
ซิมบิเดียมทนร้อน
กอบสุข แก่นรัตนะ
Preface
My interest in cymbidiums started in 1997 from
The work on heat tolerant cymbidium hybridization
a purchase of a few cymbidium hybrids. Blooming plants
has made me realize the impact of the ‘Paradigm Shift,’
were brought from the high mountains in Chiangmai, the
which was a phrase I first learnt during my study in the US.
northern province of Thailand, and sold at Jatujak Market
By tearing down old limitations and beliefs, one can realize
in Bangkok. Those plants never bloomed again and quickly
that almost anything is possible; it is just a matter of time.
died a few months later during the monsoon. But my curiosity
In addition to this optimism and openness to new ideas, the
was aroused, and a passion for this type of orchid encouraged
work on cymbidiums has helped me with valuable friendships
me to learn about the nature of cymbidiums.
developed during the field trip trekking, orchid shows,
nursery visits, information exchanges and discussions. It is
Fortunately, the age of information technology has
shrunk the world and helped me find the technical book
great fun and great to learn.
of this genus, The Genus Cymbidium by David Du Puy and
Phillip Cribb. This doctoral thesis of David Du Puy has
interested people and perhaps change their old perspectives
provided a great foundation for my early knowledge in
about cymbidiums. There are indeed types of cymbidiums that
cymbidium species.
thrive in the heat. I hope this knowledge will help stimulate
enthusiasm about Cymbidium and its potential for new
Back then, anyone who tried to grow cymbidiums
The intention of this book is to provide knowledge to
in the tropics, like the central plain of Thailand, probably
directions.
would be considered crazy. But this was an understandable
viewpoint, since the concept of heat tolerant cymbidiums
information contained is only as good as current knowledge;
was relatively new and known only to a few people.
new discoveries or experiments may bring new insights.
However, the book certainly provides a good foundation for
After years of collecting, growing and hybridizing,
I believe Thailand has a potential to develop heat tolerant
Lastly, this book is not 100% perfect. The data and
truly understanding Heat Tolerant Cymbidiums.
cymbidiums in its own style. The country also has an advantage in that it is located near the geographical centre of cymbidium distribution. During the genesis of this book, several species such as C. chloranthum, C. rectum, C. tigrinum
Kobsukh Kaenratana
and C. roseum were found as new records, and C. wadae as
January 2009
a new species to the country.
2
คำนำ ผูเ้ ขียนเริม่ ส นใจกล้วยไม้ซ มิ บ เิ ดีย มเมือ่ ป ระมาณป ี 2540 และ ได้ซ อื้ ห ามาเลีย้ งจากตลาดนดั จ ตุจกั ร ซึง่ ก ล้วยไม้ซ มิ บ เิ ดีย มทมี่ วี างขาย ในตอนนนั้ นำมาจากสวนกล้วยไม้ท อี่ ยูบ่ นดอยสงู ท างภาคเหนือ เมือ่ น ำ มาเลี้ยงที่ จ.นนทบุรี ได้ไม่นานก็ตาย จากความสงสัยและความที่หลง รักก ล้วยไม้ส กุลน ไี้ ด้ก ลายเป็นแ รงผลักด นั ให้ศ กึ ษาหาคำตอบเกีย่ วกบั ธรรมชาติและนิสัยของซิมบิเดียมอย่างจริงจัง โชคดที ี่เทคโนโลยีการสื่อสารช่วยย่อโลกให้เล็กลง ทำให้ค ้น พบตำราเกี่ยวกับซิมบิเดียมเล่มหนึ่งคือ The Genus Cymbidium (1988) ซึ่งเป็นวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของ David Du Puy โดย มี Phillip Cribb เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา และหนังสือเล่มนี้ได้กลาย เป็นเสมือนคัมภีร์พื้นฐานสำหรับผู้เขียนในการเรียนรู้กล้วยไม้สกุล ซิมบ เิ ดียม ผูเ้ ขียนจำได้ว า่ ต อ้ งไปคน้ หาหนังสือเล่มน จี้ ากหอ้ งสมุดค ณะ เทคโนโลยีก ารเกษตร ของสถาบันเทคโนโลยีพ ระจอมเกล้าเจ้าค ณ ุ ท หาร ลาดกระบัง เพราะสถาบันอ นื่ ห รือม หาวิทยาลัยอ นื่ ไม่มหี นังสือเล่มน เี้ ก็บ ไว้ในหอ้ งสมุด และเชือ่ ว า่ ในชว่ งเวลานนั้ ค งจะมหี นังสือเล่มน เี้ พียงเล่ม เดียวในเมืองไทย ในตอนนนั้ ห นังสืออ ยูใ่ นสภาพทใี่ หม่ม าก ทัง้ ท ไ่ี ด้ร บั ม า ตัง้ แต่ป ี พ.ศ.2532 แล้ว นน่ั คงเพราะไม่คอ่ ยมใี ครนำไปอ่าน หลายคนเคยวจิ ารณ์ค วามคดิ ท จี่ ะเลีย้ งกล้วยไม้ซ มิ บ เิ ดีย มใน เขตร้อนอย่างประเทศไทยว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันทไี่ม่มีทางเป็นไปได้ หาก ชอบซิมบิเดียมก็ต้องไปหาซื้อที่ดินบนดอย ซึ่งทัศนคตินี้ก็ไม่จัดว่าถูก ต้องแต่ก ไ็ ม่ผ ดิ เพราะความรแู้ ละการทดลองเกีย่ วกบั ซ มิ บ เิ ดีย มทนรอ้ น (Heat Tolerant Cymbidium) ในช่วงเวลานั้นมีน้อยมากและเรียกได้ ว่าไม่มีเลยในประเทศไทย จากประสบการณ์และความรู้ที่สะสมมาถึงปัจจุบัน ผู้เขียน มั่นใจว่าประเทศไทยมีศักยภาพมากพอที่จะพัฒนากล้วยไม้สกุลนี้ให้ มีรปู แบบเฉพาะตวั เพราะประเทศไทยมีความหลากหลายของซมิ บิเดี ยม ชนิดต่างๆในป่าธรรมชาติอยู่มาก ถือเป็นทุนทางพันธุกรรมขนาด ใหญ่ อีกทั้งที่ตั้งของประเทศก็อยู่ใกล้ศูนย์กลางการกระจายพันธ์ุของ ซิมบิเดียม ในหลายปีที่ผ่านมาได้มีการค้นพบซิมบิเดียมหลายชนิดที่ แต่เดิมเชื่อว่าไม่พบในเขตประเทศไทยและบางชนิดก็เป็นชนิดใหม่ ของโลก อาทิ C.chloranthumC.rectumC.tigrinumC.roseum และC.wadae ผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลด้านต่างๆมาเรียบเรียงขึ้นเป็น หนังสือเล่มนี้ เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับซิมบิเดียมทนร้อน (Heat Tolerant Cymbidium) ให้ผ สู้ นใจทวั่ ไปได้ร จู้ กั แ ละหนั ม าปลูกเลีย้ ง อีก ทั้งเพื่อเปลี่ยนความเชื่อเดิมๆ ทวี่ ่า ซิมบิเดียมจะต้องปลูกในเขตอบอุ่น
ห รือเขตหนาวเท่านั้น มาเป็นการเข้าใจความจริงที่ว่า ยังมซี ิมบิเดียม ลูกผสมอีกหลายสายพันธ์ุที่สามารถออกดอกได้ในเขตร้อน และหันม า ช่วยกันพัฒนาซิมบิเดียมทนร้อน (H eat Tolerant Cymbidium) ให้มี ความหลากหลายทั้งสีสัน ขนาด และรูปทรง มากขึ้น ที่ผ่านมาซิมบิเดียมทนร้อน (Heat Tolerant Cymbidium) ยังไม่แพร่หลายเท่าที่ควรเพราะ • ผู้ปลูกส่วนใหญ่ขาดความเข้าใจในการเลือกสายพันธ์ุที่ เหมาะสมกับสภาพอากาศของตน • ต้องฝ่าความเชื่อเก่าๆที่ว่าซ ิมบิเดีย มต้องปลูกเลี้ยงใน เขตหนาวเท่านั้น • หลายคนเคยถูกหลอกให้ซ ื้อซิมบิเดีย มเมืองหนาวมาปลูก จากผู้ขายที่ขาดจริยธรรม ทำให้เข็ดขยาดและไม่ยอม แตะต้องซิมบเิดียมอีก • ที่ผ่านมายังไม่เคยมีหนังสือเล่มใดที่ให้ข้อมูลอย่างเป็น ทางการเพื่อค วามกระจา่ งเกีย่ วกับซมิ บเิ ดียมทนรอ้ น จากการปรับปรุงพันธ์ุซิมบิเดียมทนร้อนทำให้ผู้เขียนได้แง่ คิดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการเปลี่ยนกรอบทางความคิด ที่ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า “Paradigm Shift” ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่ผู้เขียนได้เรียนรเู้ป็นครั้ง แรกสมัยที่เรียนหนังสือที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นทัศนคติที่ ดีเพราะช่วยทลายข้อจำกัดทางความคิดเดิมๆ มองให้เห็นความจริงที่ ว่า ทุกอย่างนั้นเป็นไปได้ทั้งสิ้นเมื่อท ำเหตุให้ต รง ไม่ยึดติดกับความคุ้น เคยหรือค วามเชื่อแ บบเดิมๆ มีใจเปิดร ับส ิ่งใหม่ ซึ่งเหมาะสำหรับการ ทำงาน การแก้ปัญหาและ โดยเฉพาะการสร้างสรรสิ่งใหม่ๆ สุดท้ายนี้ หนังสือเล่มนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบ 100% ข้อมูล หลายอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อม ีการค้นคว้า หรือพบสิ่งใหม่ๆ ที่สามารถหักล ้างความเข้าใจเดิมๆ แต่ผู้เขียนมั่นใจว่าหนังสือเล่มน จี้ ะ เป็นข้อมูลพื้นฐานที่ดี สำหรับผ ทู้ ี่สนใจนำไปศึกษาเพื่อเข้าใจซิมบิเดียม ทนร้อน (Heat Tolerant Cymbidium) รวมถึงการต่อยอดการพัฒนา ในอนาคต และหากมีข้อมูลที่ผิดพลาดประการใด ผูเ้ขียนยินดีน ้อมรบั คำแนะนำเพื่อน ำไปแก้ไขต่อไป
กอบสุข แก่นรัตนะ มกราคม 2552
3
Contents
4
Chapter 1:
Cymbidiums and Heat Tolerant Cymbidiums ซิมบิเดียมและซิมบิเดียมทนร้อน
6
Chapter 2:
Morphology ลักษณะทางสัณฐานวิทยา
20
Chapter 3:
Classififi ffiication and Geographical Distribution การจัดจำแนกและการกระจายพันธ์ุ
32
Chapter 4:
History of Cymbidium Culture and Hybridization ประวัติการเพาะเลี้ยงและปรับปรุงพันธ์ุ
40
Chapter 5:
Growing Heat Tolerant Cymbidiums in Tropical Climates การปลูกเลี้ยงซิมบิเดียมทนร้อนในเขตร้อน
56
Chapter 6:
Cymbidium Species Occurring in Thailand ซิมบิเดียมพันธ์ุแท้ที่พบในประเทศไทย
68
Chapter 7:
Other Interesting Cymbidium Species for Hybridization ซิมบิเดียมพันธ์ุแท้อื่นๆ ที่มีความเหมาะสมในการปรับปรุงพันธ์ุ
204
Chapter 8:
Other Useful Orchid Species for Heat Tolerance กล้วยไม้สกุลอื่นที่สามารถผสมข้ามกันได้และช่วยเพิ่มความทนร้อน
248
Chapter 9:
Heat Tolerant Cymbidiums ซิมบิเดียมลูกผสมทนร้อน
264
Chapter 10:
Warmth Tolerant Cymbidiums ซิมบิเดียมลูกผสมกึ่งทนร้อน
392
Addendum ข้อมูลเพิ่มเติม
426
Bibliography บรรณานุกรม
428
Index ดัชนี
429
Acknowledgements กิตติกรรมประกาศ
436
The Author ผู้เขียน
438
Cymbidium Pakkret Horizon
ซิมบิเดียม ปากเกร็ดฮอริซอน 5
Cymbidium Varlerie Absolonova ‘Salinas Sunset’ 4n.
ซิมบิเดียม วาเลอรี่แอ็บโซโลโนว่า ‘ซาลินาสซันเซ็ท’ 4n. 6
Chapter 1 Cymbidiums & Heat Tolerant Cymbidiums
ซิมบิเดียมและซิมบิเดียมทนร้อน
7
Display of cool-growing cymbidiums at Mukoyama Orchids, Japan.
Cymbidiums
With the mention of cymbidiums, most people think of
With their many desirable features, the cymbidiums
cool-growing orchids with large fleshy flowers of various bright
have earned the highest value of orchid cut-flowers in auction
colours, their lips marked with intriguing intensely-coloured
market of the Netherlands. In 2007, United Flower Auctions in
spots and blotches. Obviously, cymbidiums provide truly
The Netherlands report that the overall market value of orchid
eye-catching blooms with long lasting qualities that have made
cut flowers was 77,500,000 Euro. Cut cymbidiums led with a
them long-time popular cut flowers.
total value of 71,000,000 Euro or nearly 92% of the total market.
A distant second was cut phalaenopsis with a value of 2,000,000
Leaves of most cymbidiums are soft, long and narrow
with glossy texture, neatly arranged alternately. This offers a
Euro and cut vandas were third at 1,000,000 Euro in total.
serene beauty of grass-like elegance, giving the plants a look
distinct from other orchid genera.
become significant crops for pot plant market. They have been
bred in numerous forms and styles such as arching, pendulous
Because cymbidium foliage has a regal appearance
Currently, smaller varieties of cymbidium have
with the large, colourful and long-lasting blooms, and ease
(cascading) and oriental.
of maintenance, it is one of the most successful and popular
orchid crops in floriculture. However, this popularity is limited
located only in the temperate-climate zones such as California,
to the temperate climate zones such as Europe, USA, Japan,
Australia, Japan and The Netherlands. In the future, there is a
Korea, China, New Zealand and Australia. This cool temperature
good possibility that Yunnan and many big cities of China such
requirement results from the fact that most commercial
as Shanghai, Chengdu and Guangzhou will be included.
hybrids are derived from species collected from the Himalayas, the highlands of Burma, Vietnam and China. Additionally, the commercial requirements of large flowers on strong spikes with long lasting blooms are qualities mostly traceable to those spe8
cies from cooler climates.
Today, centres of production and hybridization are
Cymbidiums grown for cut flowers at Ruiter Orchids, The Netherlands.
Bert Ruiter
Cymbidium cut-flower operation at Ruiter Orchids.
Bert Ruiter
9
A remake of Cymbidium Tapioca Tundra by crossing Cymbidium Golden Elf with Cymbidium insigne subsp. seidenfadenii; the cross blooms regularly in the winter months in Bangkok, Thailand.
10
Heat Tolerant Cymbidiums
Traditionally, the cymbidium blooming season starts
2. Warmth Tolerant Cymbidium (WTC)
after the night temperatures have dropped significantly, from
(Cymbidium with Partial Heat Tolerance)
late autumn to mid spring. Literally, there were no cymbidium
blooms during the summer. This void sparked attempts to select
without intense heat such as sub-tropical zone, generally located
and breed cymbidiums that do not require a distinct chill to
between 17° N and 30° N and 17° S and 30° S. This is the area
induce flowering and spike development. Reducing the chill
where winter is more pronounced than in the tropical zone,
requirement had the additional advantage of alleviating the
and there is a certain period of time during the year when night
problem of bud drop among those blooms in early autumn and
temperatures fall below 18°C (64°F) continuously for up to
late spring when chill temperatures are not constant enough.
several months.
This kind of demand led the way to create cymbidiums
WTCs are cymbidiums that can bloom in climates
WTCs usually have more specific blooming season
that have warmth tolerance even in temperate climates where
than HTCs. WTCs can also bloom in both sub-tropical and
heat is not so intense. Concurrently, the interest in cymbidiums
temperate zones but there is some shift of blooming time
among growers in tropical climates has heightened and they
between the two zones. In temperate zones, WTCs usually bloom
demand varieties with ability to withstand intense heat. This
from late summer to early winter. Most WTCs cannot bloom in
requires a Heat Tolerant Cymbidium.
tropical zones, those regions between latitude 17°N and 17° S,
At present, the definition of Heat Tolerant Cymbidium
but they can grow well vegetatively.
is vague. There has been no definitive scale for various degrees
of heat tolerance and, indeed, heat is all relative. In this book,
When exposed to freezing temperatures for an extended period
I delineate two groups as follows.
of time, damage is greater than those of standard and cool-
Note, cold tolerance is partially reduced for WTCs.
growing types but less than HTCs.
1. Heat Tolerant Cymbidium (HTC) (Cymbidium with High Heat Tolerance)
HTCs are the cymbidiums that will bloom in a truely
tropical climate, generally located between latitude 17° N and 17° S. This is the area where there is no discernible winter and no period of time where the night temperatures fall below 18°C (64°F) continuously for a week or more during the year.
Usually, when grown in the tropical zones, HTCs have a
wider blooming season or they can bloom sporadically throughout the year. However, their blooming season will be increasingly specific when grown in areas with more pronounced seasons such as sub-tropical or temperate zones. In those regions, HTCs would bloom from mid summer to the end of autumn.
Note, however, that cold tolerance is reduced as heat
tolerance increases. Cold damage to HTC plants, exposed to near freezing temperature for an extended period of time, will be greater than that seen on the standard and cool-growing types.
Cymbidium Pakkret Horizon, a heat tolerant cymbidium that blooms well between December to February in Bangkok, Thailand.
11
The big, bold style of American cymbidiums at the Santa Barbara International Orchid Show.
12
A new mix between East and West by utilizing the charm of Oriental Cymbidiums with the beauty of Western Hybrids at the Japan Grand Prix International Orchid Festival (Tokyo Dome Orchid Show), Japan.
Cymbidium Parish Elf, a warmth tolerant hybrid.
ซิมบิเดียม เมื่อเอ่ยถ ึงช ื่อซ ิมบ เิ ดีย ม คนส่วนใหญ่ม ักค ิดถึงก ล้วยไม้เมือง หนาวที่ม ีเนื้อดอกหนา กลีบด อกเป็นมัน ดอกมีขนาดใหญ่ กลีบดอก มีสีสันสดใสหลากหลาย ส่วนปากมักมีสีสันที่เข้มข้นกว่า มีจุดสีหรือ แต้มสีที่สวยงามต่างไปจากส่วนของกลีบดอก เป็นที่ดึงดูดสายตาแก่ ผู้พบเห็นได้ง่าย และที่ส ำคัญคือบานทนนาน นิยมใช้เป็นไม้ตัดดอก ใบของซิมบ ิเดียมส่วนใหญ่มีร ูปร ่าง ยาว แคบ อ่อนโค้ง ผิว เป็นม ัน เรียงซ้อนกันเป็นร ะเบียบบนระนาบเดียวกัน ดูค ล้ายกอหญ้า ให้ค วามรู้สึกเรียบ งาม อย่างมีร ะเบียบ แตกต่างไปจากกล้วยไม้ส กุล อื่นๆ เนื่องจากซิมบิเดียมเป็นกล้วยไม้ที่มีความสวยงามทั้งด้าน รูปทรงของพุ่มใบ ดอก และ สีสันที่หลากหลาย รวมทั้งดูแลรักษา ง่าย ทำให้ซิมบิเดียมเป็นกล้วยไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในธุรกิจ ไม้ดอกในหลายแหล่งของโลก อย่างไรก็ตามความนิยมดังกล่าวค่อน ข้างจะจำกัดอ ยูใ่นเขตทีม่ อี ากาศอบอุ่น หรือ หนาวเย็น (Temperate Climate) เช่นในแถบยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลี จีน และญี่ปุ่น
ทั้งนี้เพราะกล้วยไม้ซิมบิเดียมที่ชาวตะวันตกเก็บไปเพาะ เลี้ยงและปรับปรุงพ ันธ์ส ่วนใหญ่ม าจากแถบเทือกเขาหิมา ลัย ยูนนาน ภาคเหนื อ ข องพ ม่ า เวี ย ดนาม ทำให้ ลู ก ผสมก ล้ ว ยไม้ ซิ ม บิ เดี ย ม ส่วนใหญ่ต้องการอากาศที่หนาวเย็นในการออกดอก อีกทั้งในอดีต นิยมปรับปรุงพันธ์ุให้ได้ดอกที่มีขนาดใหญ่ ก้านช่อแข็งแรงและ บานทน ซึ่งกล้วยไม้ซิมบิเดียมสายพันธ์ุที่มีคุณสมบัติดังกล่าว มัก มี แหล่ ง ก ำเนิ ด ในบ ริ เวณเทื อ กเขาที่ มี อ ากาศค่ อ นข้ า งห นาวเ ย็ น เท่านั้น จากคุณสมบัติของความบานทน ก้านช่อสูงยาวแข็งแรง และสีสันที่หลากหลายนี้เองที่ทำให้กล้วยไม้ซิมบิเดียมตัดดอกใน ตลาดประมูลข องเนเธอร์แลนด์ มีม ูลค่าส ูงสุดในกลุ่มก ล้วยไม้ต ัดด อก ด้วยกัน จ ากขอ้ มูลท เี่ ก็บร วบรวมโดย The United Flower Auctions of The Netherlands ในปี ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550) กล้วยไม้ตัด ดอกทั้งหมดมมี ูลค่า 77,500,000 ยูโร โดยทีซ่ ิมบ ิเดีย มตัดด อกมมี ูลค่า เป็นอ ันดับห นึ่งค ือ 71,000,000 ยูโร คิดเป็น 91.61% ของตลาดรวม ฟาแลนนอปซิสตัดดอกตามมาเป็นอันดับสองด้วยมูลค่า 2,000,000 ยูโร และอันดับส ามเป็นแวนด้าตัดดอกมีมูลค่า 1,000,000 ยูโร 13
A spotted hybrid derived from Cymbidium tracyanum.
A cup-flowered cymbidium, a popular style among Japanese buyers.
Cymbidium Keiko Kageyama exhibits a successful advancement in improving flower form, size and colour from a smaller-sized plant.
14
A pendulous or cascading cymbidium.
A first generation hybrid from Cymbidium tigrinum with compact plant habit.
Cymbidium Kusuda Poei (Kusuda Shining x Bennet Poei) exhibits a colour combination rarely achieved.
Cymbidium Mighty Sunset.
Cymbidium Devon Gala, a first generation hybrid from Cymbidium devonianum. 15
16
Cymbidium Pakkret Muffin, a heat tolerant cymbidium.
นอกจากนี้ยังนิยมใช้ซิมบิเดียมเป็นไม้กระถางแต่จะเลือก สายพันธ์ุที่มีขนาดย่อมกว่า เคลื่อนย้ายได้สะดวก ซึ่งปัจจุบันมีการ ปรับปรุงพันธ์ุจนมีให้เลือกมากมายทั้งแบบช่อตั้ง (Upright) ช่อโค้ง (Arching) ช่อห้อย (Pendulous or Cascading) รวมทั้งแบบที่มี กลิ่นอายตะวันออก (O riental) ปัจจุบันแหล่งผลิตและปรับปรุงพันธ์ุกล้วยไม้ซิมบิเดียม ที่สำคัญอยู่ในเขตอบอุ่นทั้งหมดได้แก่ ตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ส่วนในอนาคตอัน ใกล้ค าดว่าจ ะรวมเอายูนน านของจีนแ ละรอบๆ เมืองใหญ่เช่นเซี่ยงไฮ้ เฉินต ู กว้างตุ้ง เป็นแ หล่งผ ลิตก ล้วยไม้ซ ิมบ ิเดีย มเมืองหนาวที่ส ำคัญ อีกแ ห่ง
ซิมบิเดียมทนร้อน โดยทั่วไปแล้วซิมบิเดียมส่วนใหญ่เริ่มให้ดอกในช่วงฤดู ที่อุณหภูมิกลางคืนลดต่ำแล้ว คือตั้งแต่ปลายฤดูใบไม้ร่วงไปจนถึง กลางฤดูใบไม้ผลิ และแทบจะไม่มีซิมบิเดียมบานเลยในช่วงฤดูร้อน ทำให้ม ีค วามพยายามที่จ ะปิดช ่องว่างนี้โดยการสร้างหรือส รรหาสาย พันธ์ุต ่างๆนอกเหนือจ ากกลุ่มเดิม เข้าม าในการปรับป รุงพ ันธ์ุ นั่นค ือ ซิมบิเดียมที่ไม่ต้องการอากาศที่หนาวเย็น เพื่อกระตุ้นการสร้างตา
Cymbidium Koh Hou, a heat tolerant hybrid that produces its blooms in August in Bangkok.
ตาดอกและการบานของดอก และจากคุณสมบัติที่ไม่ต้องการความ หนาวเย็นนี้ได้ช่วยลดปัญหาดอกร่วง (Bud Drop) ในซิมบิเดียมที่ ออกดอกช่วงต้นฤดูใบไม้ร ่วง และปลายฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ มักมีปัญหาความหนาวเย็นไม่คงที่ ความต้องการคุณสมบัติดังกล่าวช่วยกรุยทางให้มีการคัด เลือกและสร้างซมิ บ เิ ดีย มทสี่ ามารถทนความรอ้ นได้บ างสว่ น (Warmth Tolerant Cymbidium) สำหรับช ่วงฤดูร้อนในเขตอบอุ่น ประกอบกับ ความสนใจในกล้วยไม้ซิมบิเดียมจากผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ในเขตร้อนมี มากขนึ้ ทำให้เกิดค วามตอ้ งการสายพนั ธ์ทุ มี่ คี วามทนรอ้ นสงู สามารถ ให้ด อกได้โดย ไม่มปี ัญหาดอกร่วง ฝ่อ แม้ป ลูกในเขตร้อน (Tropical Climate) ในปัจจุบันนิยามของความทนร้อนในซิมบิเดียมถูกใช้อย่าง ค่อนข้างสับสน เพราะความทนร้อนมีหลายระดับ และเป็นส ิ่งส ัมพัทธ์ ยังไม่มีกรอบหรือก ฎเกณฑ์ที่แน่นอน ในทนี่ ผี้ เู้ ขียนได้จ ดั แ บ่งน ยิ ามของความทนรอ้ นไว้เป็น 2 กลุม่ ใหญ่ๆ คือ
Cymbidium Lilliput and Cymbidium Golden Elf are both heat tolerant hybrids that bloom well in Bangkok, Thailand.
17
A heat tolerant cymbidium, Cymbidium Dutchman's Gold.
1. ซิมบิเดียมทนร้อน หรือ ทนร้อนสูง
2. ซิมบิเดียมกึ่งทนร้อน
(Heat Tolerant Cymbidium, HTC)
(Warmth Tolerant Cymbidium, WTC)
หมายถึงซิมบิเดียมที่สามารถออกดอกได้ในสภาพอากาศ ร้อนเช่นในเขตร้อน (Tropical Zone) ทีอ่ ยูร่ ะหว่างละติจูด 17˚°เหนือ ถึงละติจูด 17°˚ใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่แทบไม่มีฤดูหนาว หรือ แทบจะไม่มี ช่วงเวลาที่อุณหภูมิในตอนกลางคืนต่ำกว่า 18°˚เซลเซียส ติดต่อกัน นานเป็นสัปดาห์หรือหลายสัปดาห์ ซ ิมบ เิดีย มทนร้อน (HTC) มักม ฤี ดูอ อกดอกทีก่ ว้างกว่า หรือ สามารถออกดอกได้ประปรายตลอดทั้งปีเมื่อปลูกเลี้ยงในเขตร้อน อีกท ั้งย ังส ามารถออกดอกได้ท ั้งในเขตกึ่งร ้อน (Sub-T ropical Zone) แ ละเขตอบอุ่น (Temperate Zone) แต่ฤ ดูก ารจะไม่ต รงกัน คือม ักจ ะ ให้ด อกในช่วงกลางฤดูร ้อนไปจนถึงก ลางฤดูใบไม้ร ่วง เมื่อป ลูกในเขต เขตกึ่งร้อน (Sub-Tropical Zone) และเขตอบอุ่น (Temperate Zone) ค วามส ามารถท นห นาวข องซิ ม บิ เดี ย มทนร้ อ น (HTC) ลดลง และหากต้องอยู่ในสภาวะหนาวเย็นใกล้จุดเยือกแข็งติดต่อ กันเป็นเวลานาน จะเกิดความเสียหายชัดเจนกว่าในกลุ่มซิมบิเดียม มาตรฐานดอกใหญ่ (Standard Type) และ สายพันธ์ุเมืองหนาว (Cool-Growing Type)
18
ห มายถึงซ ิมบ ิเดีย มที่ส ามารถออกดอกได้ในสภาพอากาศที่ ไม่ร้อนจัด เช่นในเขตกึ่งร้อน (Sub-Tropical Zone) ที่อยู่ระหว่าง ละติจูด 17°˚เหนือ ถึงละติจูด 30°˚เหนือ และ ที่อยู่ระหว่างละติจูด 17°˚ใต้ ถึงล ะติจูด 30˚ใต้ ซึ่งเป็นพ ื้นที่ท ี่เริ่มม ีฤ ดูห นาวชัดเจนกว่าเขต ร้อน (Tropical Zone) และแน่นอนว่ามีช่วงเวลาที่อุณหภูมิในตอน กลางคืนต่ำกว่า 18˚°เซลเซียส ติดต่อกันนานเป็นห ลายสัปดาห์หรือ หลายเดือน ซิมบิเดียมกึ่งทนร้อน (WTC) มักมีฤดูออกดอกที่แคบ กว่ากลุ่มซิมบิเดียมทนร้อน (HTC) มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับ ฤดูการที่ให้ดอกเด่นชัดมากขึ้น สามารถออกดอกได้ทั้งในเขตอบอุ่น (Temperate Zone) แต่ฤ ดูก ารจะไม่ต รงกัน คือม ักจ ะให้ด อกในปลาย ฤดูร้อน จนถึงต้นฤดูหนาว หรือ ปลายฤดูใบไม้ผลิจนถึงต้นฤดูร้อน เมื่อปลูกในเขตอบอุ่น ซิมบิเดียมกึ่งทนร้อน (WTC) ส่วนใหญ่จะไม่สามารถ ออกดอกได้ในเขตร้อน หรือพื้นที่ระหว่างละติจูด 17°˚เหนือ ถึง ละติจูด 17°˚ใต้ แต่สามารถปลูกเลี้ยงต้นได้เจริญงอกงามดี ค วามทนหนาวของซิมบ เิดีย มกึ่งท นร้อน (WTC) ลดลงบาง ส่วน และหากต้องอยู่ในสภาวะหนาวเย็นใกล้จุดเยือกแข็งติดต่อกัน เป็นเวลานาน จะเกิดค วามเสียห ายมากกว่าก ลุ่มซ ิมบ เิดีย มมาตรฐาน ดอกใหญ่ (Standard) และ สายพันธ์ุเมืองหนาว (Cool-Growing Type) แต่จะน้อยกว่าในกลุ่มซิมบิเดียมทนร้อน (HTC)
Suggested Latitudinal Zoning for HTC and WTC
แผนที่แสดงการแบ่งเขตภูมิอากาศสำหรับ HTC และ WTC
(Note: Altitudinal anomalies will influence this patten)
In the future, there should be zoning for the area
between latitude 30° N and 30° S, and grading of the degree of heat tolerance for each variety or clone. This information would greatly reduce confusion for growers interested in Heat Tolerant Cymbidiums or Warmth Tolerant Cymbidiums.
Future heat tolerant cymbidiums are well on course
to be highly complex genetically. This will make it harder to identify precisely their degree of heat tolerance by mere physical appearance. Knowing their true identity plus expert advice will be needed to screen out the wrong ones to minimize errors in purchasing stock unlikely to perform in the conditions where they will be grown.
ในอนาคตควรจะมกี ารแบ่งโซนภูมอิ ากาศทีอ่ ยูร่ ะหว่างเส้น ละติจูดที่ 30˚เหนือ และ 30˚ใต้ และการจัดเกรดหรือร ะดับความ ทนร้อนของซิมบิเดียมทนร้อนแต่ละสายพันธ์ุ หรือ แต่ละต้น เพื่อ ลดความสับสนในการคัดเลือกสายพันธ์ุที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เพราะซิมบ เิดีย มในอนาคตจะมคี วามซับซ ้อนทางพันธุก รรมอย่างมาก ทำให้เป็นการยากที่จะระบุให้แน่ชัดถึงความทนร้อนของซิมบิเดียม นั้นๆหากพิจารณาเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก ดังนั้นการรู้สายพันธ์ุ ที่แน่นอน บวกกับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยขจัดความผิด พลาดในการเลือกซื้อซิมบิเดียมที่ไม่สามารถให้ดอกในสภาพอากาศ ของผู้ปลูกไปได้มาก 19
Cymbidium Ayodhaya
ซิมบิเดียม อโยธยา 20
Chapter 2 Morphology
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา
21
Morphology
22
The genus Cymbidium was first established in 1799
Because leaves of cymbidiums are neatly arranged
by a Swedish botanist, Peter Olof Swartz. The name came from
in a fan-like shape on the top of the pseudobulbs,
the Greek word “cymbid”, meaning “boat” and referring to the
cymbidium plants have a graceful and delicate appearance.
boat-shaped lip.
Historically, this neat foliage has been more valued than
floral beauty among Chinese, Japanese and Korean cultures.
Cymbidiums are sympodial-type orchids. The
Inflorescences of Cymbidium species usually carry from
erect stems are swollen and shortened to form prominent
pseudobulbs. Some species have pseudobulbs that are less
one to more than 60 flowers. Most cymbidium inflorescences
swollen and instead more elongated and flattened. In addition,
emerge from the base of the bulb but some come out of the
there is a Cymbidium species growing as rhizomes underneath
leaf axils. They grow as pendulous, arching or erect spikes.
the ground.
In general, cymbidiums are viewed as terrestrial
10 centimetres. Flowers consist of one dorsal sepal, one lip,
orchids that require soils or soil-like medium to grow, as other
two lateral sepals and two petals, which can be either well
terrestrial plants do. That idea is only partially correct since,
open or porrect. The two callus ridges on the mid lobe are the
in fact, there are more epiphytic Cymbidium species than
prominent structures of the lip. Many cymbidiums are
terrestrial Cymbidium species. Some species even can be
fragrant, though not all are pleasantly fragrant.
found growing lithophytically.
Leaves of most species are long, narrow, thin and flexible
spongy velamen up to 5-8 millimetres in size. These roots
with pointed tip but some of them develop erect, rigid and very
usually develop away from light into dark locations. However
coriaceous leaves. This is a xerophytic characteristic that helps
some species produce special upright acute roots (Aegotropic
plants to survive adverse conditions. For a heteromycotrophic
Roots) to trap leaf litter and other debris. This debris helps
or mycoparasitic species, C. macrorhizon, leaves are reduced
keeping moisture around the rootball and releases nutrients
to scales on nodes.
when decomposed.
Flower size ranges from 1.5 centimetres to more than
Most species have roots covered with white thick
Morphology of Cymbidium
23
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา ก ล้ ว ยไม้ ส กุ ล ซิ ม บิ เดี ย มถู ก ตั้ ง ขึ้ น เมื่ อ ปี ค .ศ . 1 799 (พ.ศ. 2342) โดย Peter Olof Swartz โดยมีรากศัพท์มาจาก Cymbid ในภาษากรีกที่แปลว่า ‘เรือ’ ซึ่งอิงจากลักษณะของส่วนที่ เป็นปาก (Lip) ที่มีรูปร่างคล้ายลำเรือ ก ล้ ว ยไ ม้ ซิ ม บิ เ ดี ย มจั ด เ ป็ น ก ล้ ว ยไม้ ป ระเภทแ ตกก อ (Sympodial) ลำต้นล ดรูป และอัดแ น่นเป็นห ัวเทียม(P seudobulb) บางชนิดห ัวเทียมมีล ักษณะกลม ป่อง เด่นชัด บางชนิดแ บนยาวหรือ เป็นลำต้นยืดยาว จนถึงที่เป็นเพียงไหล (Rhizome) ใต้ดิน กล้วยไม้ ซิมบเิ ดียมในธรรมชาติมที ง้ั ทเจริ ่ี ญบนตน้ ไม้ใหญ่ บนหนิ และบนพน้ื ดนิ
Pseudobulbs of Cymbidium eburneum. Pseudobulbs of Cymbidium Accidental, a hybrid derived from Cymbidium floribundum and Cymbidium devonianum.
An ovoid pseudobulb of Cymbidium Pakkret Horizon, a characteristic inherited from Cymbidium insigne.
An ovoid pseudobulb of Cymbidium Little Black Sambo, a primary hybrid between Cymbidium madidum and Cymbidium canaliculatum.
24
Pseudobulbs of Cymbidium aloifolium.
A new inflorescence emerging from the base of the pseudobulb of Cymbidium canaliculatum.
Pseudobulbs of Cymbidium devonianum.
Leaves of Cymbidium dayanum.
Leaves of Cymbidium lancifolium.
Leaves of Cymbidium madidum.
Leaves of Cymbidium chloranthum.
Leaves of Cymbidium ensifolium.
ใบ (Leaves) ของกล้วยไม้ซิมบิเดียมส่วนใหญ่เป็นใบรูป แถบ คือม ลี กั ษณะ บาง ยาว แคบ อ่อนโค้ง ปลายแหลมและ มีแ นวหรือ ร่องกลางใบ ตลอดความยาวของใบ แต่ในบางชนิดได้มีการพัฒนา ใบให้มีลักษณะหนาแข็ง (Coriaceous) และ/หรือ ตั้งตรง เพื่อให้ สามารถทนต่อส ภาวะทีแ่ ห้งแ ล้ง (Xerophytic) ได้เช่นใน กะเรกะร่อน ต่างๆและ บางสายพันธ์ุที่พบในออสเตรเลีย สำหรับซ ิมบ ิเดีย มชนิดท ี่เป็นพ ืชก ินซากจะไม่มีใบเพราะใบ ได้ล ดรูปก ลายเป็นเกล็ดบ นข้อ และเนื่องจากใบของกล้วยไม้ซ ิมบ เิดีย ม ส่วนใหญ่เรียงอัดแน่นเป็นระเบียบสวยงามเหมือนพัด อยู่บนส่วน ยอดของหัวเทียม ทำให้กล้วยไม้ซิมบิเดียมมีรูปทรงที่สวยงาม แม้ ในยามที่ไม่มีดอกดังจะเห็นได้จากประวัติศาสตร์ของจีน ญี่ปุ่น และ เกาหลี ที่ชี่นชมความงามของพุ่มใบมากกว่าดอก
25
ดอก (Flower) มีขนาดตั้งแต่ 1.5 เซนติเมตร ไปจนถึง มากกว่า 10 เซนติเมตร มีกลีบเลี้ยงบน (Dorsal Sepal) 1 กลีบ กลีบเลี้ยงคู่ข้าง (Lateral Sepal) 2 กลีบ กลีบในหรือกลีบดอก (P etal) 2 กลีบ ซึ่งมีทั้งแบบที่ก้างออกหรือหันตรงมายังด้านหน้า (Porrect) ปากห รื อ กลี บ ปาก (L ip) 1 ปากที่มีลักษณะเด่นคือมี สันแคลลัส (Callus Ridge) 2 แนว และ เส้าเกสร (Column) ซึ่งอยู่เหนือปาก หลายชนิดมีกลิ่น บ้างก็เป็นกลิ่นเฉพาะตัว บ้างก็เป็นกลิ่นหอม ช่อดอก (Inflfl ffllflorescence) ของกล้วยไม้ซิมบิเดียมเป็น ช่อดอกแบบกระจะ (Raceme) ส่วนใหญ่เจริญจากบริเวณโคนของ หัวเทียม แต่ในบางหมู่ (Section) ช่อดอกอาจเจริญมาจากซอกใบ (Leaf Axil) ลักษณะช่อดอกมีทั้งที่ห้อยลง (Pendulous) ตั้งโค้ง (Arching) และตงั้ ต รง (Erect) ในหนึง่ ห วั ม กั ให้ช อ่ ด อก 1-2 ช่อ จำนวน ดอกต่อช่อมีหลากหลายตั้งแต่ 1 ดอกไปจนถึงม ากกว่า 60 ดอก
A straight upright inflorescence of Cymbidium munronianum.
26
A long pendulous inflorescence of Cymbidium finlaysonianum.
A tall and strongly upright inflorescence of Cymbidium Tapioca Tundra, a characteristic inherited from Cymbidium insigne.
A pendulous inflorescence of Cymbidium devonianum.
An arching inflorescence of Cymbidium Lilliput, a characteristic inherited from Cymbidium lowianum.
An arching inflorescence of Cymbidium lowianum.
An arching inflorescence of Cymbidium Mad Tracy.
27
Seed capsules of Cymbidium Miss Taipei Unveiled.
A seed capsule of Cymbidium Golden Vanguard.
28
Seed capsules of Cymbidium madidum.
Seed capsules of Cymbidium dayanum.
Seed capsules of Cymbidium Lilliput.
Roots of cymbidium covered with whitish and sponge-like velamen.
Numerous erect, small and acute roots (Aegotropic Root) of Cymbidium aloifolium.
ราก (R oot) ของก ล้ ว ยไม้ ซิ ม บิ เดี ย มส่ ว นใหญ่ ห นาไม่ ต่ ำ กว่า 5-8 มิลลิเมตร มี วีลาเมน (Velamen) คล้ายฟองน้ำ สี ข าวหุ้ ม อ ยู่ แ ละโ ดยทั่ ว ไปร ากข องซิ ม บิ เดี ย มจะมุ ด ล ง ล่ า งห าที่ มื ด แต่ จ ะมี บ างช นิ ด ที่ ส ร้ า งร ากพิ เศษที่ ชี้ ขึ้ น บ น (Aegotropic Root) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ค่อนข้างแข็งและ คม คาดว่าน่าจะมีจุดประสงค์เพื่อดักจับเศษใบไม้ กิ่งไม้ผุ ท ำให้ ช่ ว ยรั ก ษาค วามชุ่ ม ชื่ น บ ริ เวณตุ้ ม ร ากได้ น านขึ้ น แ ละ ยังเป็นการดักจับสารอาหารที่ได้จากการย่อยสลายของเศษ กิ่งไม้ ใบไม้
Roots of Cymbidium ensifolium.
29
A pollinated flower of Cymbidium Tavoy turning darker starting at the tip of the column.
A few days after being pollinated, the flower faces down and the overy becomes swollen.
Nectar exuded around the joint of pedicel and rhachis (Floral Bract) of Cymbidium Pakkret Horizon.
30
Nectar exuded from the basal back of sepals.
Nectar around the floral bract of Cymbidium Faridah Hashim.
31
ISBN 978-974-642-887-3 Cymbidium Ensichlor ‘PK’
ซิมบิเดียม เอนสิคลอร์ ‘พีเค’ 32