Phu Soi Dao national Park

Page 1

1


2


อุทยานแห่งชาติ

ภูสอยดาว

3


สารบัญ

4

ทำความรู้จักอุทยานฯ

6-12

บนเส้นทางสู่สวรรค์ปลายฟ้า

21-35

กล้วยไม้พันธุ์ใหม่

36-39

ลานสนบนภูสูง

43-46

พืชกินซาก

47-50


คู่มือชมพันธุ์ไม้

57-83

การเตรียมตัวขึ้นอุทยาน

84-85

การเดินทาง

86-87

5


ที่ปรึกษา เกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช จักรกริช วิศิษฐ์พาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ฉกาจ ลาภานุพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 รัตนา ลักขณาวรกุล ผู้อำนวยการส่วนนันทนาการและสื่อความหมาย บพิตร ปิงโสภา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว คณะผู้จัดทำ ชลธร ชำนาญคิด วสา สุทธิพิบูลย์ นิภาพร ไพศาล หัสชัย บุญเนือง พลากร บุญทาวงษ์ ตรีเนตร เพชรนุ้ย จันทร์เพ็ญ บุญวิภารัตน์ สุทธา สถาปิตานนท์ พงษ์ระวี แสงแข จีรณัทย์ อุดมสินธ์ บุญทวี ขจรรัตนเมธา ISBN 978-974-300-957-0 จัดทำเนื้อหา ภาพประกอบ และออกแบบรูปเล่มโดย บริษัท ณัฏฐานที จำกัด โทรศัพท์ : 02-274-7198 Email : nutthanaty@yahoo.com 6


บทนำ อุทยาน​แห่ง​ชาติ​ภสู​ อยดาว​ได้​รับก​ าร​บันทึก​โดย​นักเ​ดิน​ทาง​ มากมาย​ถึง​ความ​งดงาม​ของ​ป่า​สน​บน​ภู​สูง​​ที่​สอด​ประสาน​ เป็น​จังหวะ​งดงาม​แห่ง​ธรรมชาติ​​ที่​จะ​เปลี่ยน​ผ่าน​จาก​ฤดูกาล​ สู่​ฤดูกาล​​ซึ่ง​ทำให้​มีด​อก​ไม้​งาม​ผลิ​บาน​เป็น​ของ​กำนัล​​ สำหรับค​ น​รักธ​ รรมชาติ​​ที่​ต้อง​เดิน​เท้า​และ​ทุ่มเท​แรง​กาย​ ​แรง​ใจ​มายัง​ยอด​ภสู​ ูง​แห่ง​นี้​​เพื่อ​ให้​ได้​สัมผัส​ความ​พิ​สุ​ทธิ​์ แห่ง​ธรรมชาติ​ ​ ​ความ​งดงาม​ของ​สาย​หมอก​​ดอกไม้​​และ​ทิว​สน​​เอกลักษณ์​ที่​ ทำให้​อุทยาน​แห่งช​ าติ​ภสู​ อยดาว​​เป็น​จุด​หมาย​ปลาย​ทาง​ของ​ คน​รัก​ธรรมชาติ​มากมาย​​และ​แน่นอน​ว่าน​อก​จาก​จะ​มี​ ความ​งาม​แล้ว​​คุณค่า​ของ​ผืน​ป่าภ​ ู​สอยดาว​ยัง​มี​อีกม​ ากมาย​​ ทั้ง​ยัง​เป็นต้นก​ ำ​เนิด ​สายน้ำส​ ำคัญ​​2​​สาย​​ที่​หล่อ​เลี้ยง​ผู้คน​ จังหวัด​อุตรดิตถ์​และ​จังหวัด​พิษณุโลก​มา​นาน​เนิ่น​​จึง​ควร​ อย่าง​ยิ่ง​ทจี่​ ะ​อนุรักษ์ผ​ ืน​ป่า​เอา​ไว้ต​ ราบ​นาน​เท่า​นาน​​เพราะ​ นอกจาก​จะ​สร้าง​ชีวิตแ​ ล้ว​​ยัง​สร้าง​อาชีพ​​ก่อให้เกิดร​ายได้ แก่​ชุมชน​โดย​รอบ​อุทยาน​แห่ง​ชาติ​ภสู​ อยดาว​อีก​ด้วย​ ​ ​และหวัง​เป็น​อย่าง​ยิ่ง​ว่าการ​เดิน​เท้า​ฝ่า​ความ​ชัน​ของ​ภูเขา​​ จะ​ทำให้​คุณ​ได้​พบ​กับ​หัวใจ​​และ​ความ​งาม​แห่งธ​ รรมชาติ​ อย่าง​แท้จริง​​ซึ่งส​ ิ่ง​นั้น​คง​ทำให้ช​ ีวิต​นมี้​ ี​ความ​สุข​และ​สีสัน ​เพิ่ม​ขึ้น​ได้​อย่าง​แน่นอน​​และ​เชื่อ​ว่าภ​ ู​สอยดาว​คง​มอบ​ของ​ขวัญ ​อัน​มี​ค่า​แก่​ผู้​มา​เยือน​อย่าง​เต็ม​ที่​เช่น​กัน​…​ ​ 7


อุทยานแห่งชาติ

ภูสอยดาว

อ​ ุทยาน​แห่งช​ าติภ​ ู​สอยดาว​​ดินแ​ ดน​แห่งท​ ิว​สน​​สาย​หมอก​​ และ​ดอกไม้​งาม​​กับ​ความ​ประทับใ​จ​ทไี่​ม่​อาจ​ลืมเ​ลือน​จาก​ การ​เข้าไป​เยือน​และ​สัมผัส​​เพราะ​ที่​นงี่​ดงาม​จน​เปรียบ​ได้​ดั่ง​ สวน​สวรรค์​ใน​เวลา​แห่งด​ อกไม้​บาน​​นักเ​ดิน​ทาง​ทหี่​ ลง​ไหล​ใน​ ความ​งาม​ของ​ธรรมชาติ​​ต่าง​มุ่ง​หน้า​ขึ้น​สู่​ดิน​แดน​แห่ง​นี้​​ คล้าย​กับ​เข็ม​ทิศช​ ีวิต​ของ​แต่ละ​คน​จะ​ชี้​ไป​ทาง​เดียวกัน​​ ดั่ง​เช่น​นก​อพยพ​ใน​ช่วง​ฤดู​หนาว​ก็​ไม่ป​ าน​…​ ส​ ำหรับ​อุทยาน​แห่งช​ าติ​ภสู​ อยดาว​​ได้​รับ​การ​จัดต​ ั้ง​ขึ้น​เป็น​ อุทยาน​แห่ง​ชาติ​ภสู​ อยดาว​ครอบคลุมพื้นที่กว่า​2​ 12,633​ไ​ร่​​ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 109 ของประเทศ ครอบคลุม​ บาง​ส่วน​ของ​จังหวัด​พิษณุโลก​และ​อุตรดิตถ์​​ มี​สภาพ​ผืน​ป่า​อุดม​สมบูรณ์​อย่าง​ยิ่ง​​เป็น​ป่า​ต้นน้ำ​ลำธาร​ที่​ สำคัญ​​ทั้ง​ยัง​เป็น​แหล่งท​ ่อง​เที่ยว​ทมี่​ ี​ความ​งดงาม​ตระการ​ตา​​​ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​น้ำตก​​และ​ดอกไม้​นานา​ชนิด​ทจี่​ ะ ​เบ่ง​บาน​ผลัดเ​ปลี่ยน​กัน​ใน​แต่ละ​ฤดู​ ​

8


9


ลักษณะภูมิประเทศ และภูมิอากาศ จาก​ลักษณะ​ภูมิ​ประเทศ​ที่​เป็นเ​ทือก​เขา​สลับ​ซับ​ซ้อน​ตั้ง​แต่​ ทิศ​เหนือ​จรด​ใต้​​ซึ่ง​เป็นพ​ รมแดน​ระหว่าง​ประเทศ​ไทย​และ​ สาธารณรัฐป​ ระชาธิปไตย​ประชาชน​ลาว​ม​ ี​ความ​สูง​จาก​ ระดับน​ ้ำ​ทะเล​ปาน​กลาง ​ตั้ง​แต่​​500​-2,100 ​เมตร​ ​ส่วน​ใหญ่เ​ป็น​ภูเขา​และ​ป่า​ไม้​ถึง​​85​​เปอร์เซ็นต์​​เป็น​ที่ราบ​ เพียง​​15​​เปอร์เซ็นต์​​ซึ่ง​เป็นแ​ หล่ง​ต้นน้ำ​ของ​ลำน้ำภ​ าค ​และ​ลำน้ำ​ปาด​ จ​ าก​เทือก​เขา​อัน​สูง​ชัน​ทำให้ส​ ภาพ​ภูมิ​อากาศ​เย็น​ตลอด​ปี​​ ใน​ช่วง​ฤดู​ฝน​จะ​มปี​ ริมาณ​น้ำ​ฝน​ค่อน​ข้าง​มาก​​ และ​ใน​ฤดู​ร้อน​บน​พื้น​ราบ​จะ​ไม่​ร้อน​มาก

10


พืชพรรณ และสัตว์ป่า

จาก​ความ​แตก​ต่าง​ของ​พื้นที่​ภายใน​อุทยาน​แห่งช​ าติ​ ภู​สอยดาว​​ทำให้เ​กิด​ความ​หลาก​หลาย ​มี​ความ​แตก​ต่าง​ของ​ พื้นที่​อย่าง​ชัดเจน​​กลาย​เป็น​ลักษณะ​เฉพาะ​ของ​ภูมิ​อากาศ​ ขึ้น​มา​​นั่น​จึง​ทำให้ม​ ี​พืชพรรณ​​และ​สัตว์​ป่าหลาย​ชนิด​ที่​อาศัย​ ใน​เขต​เฉ​พาะ​นั้น ๆ​​ทั้งย​ ัง​เป็น​ปัจจัยใ​ห้เ​กิดความ​หลาก​หลาย​ ของ​สังคม​ป่า​เป็น​อย่าง​ยิ่ง​​โดย​มี​ความ​สูง​จาก​ระดับ​น้ำ​ทะเล​ เป็น​ตัว​แบ่ง​แยก​ผืนป​ ่า​ออก​จาก​กัน​​สำหรับส​ ัตว์​ป่า​จะ​พบ​ ได้​ไม่​บ่อย​นัก​แต่ม​ ี​สัตว์​ป่า​สงวน​และ​สัตว์​หา​ยากหลาย​ชนิด​​ นอกจาก​น​้ี ยัง​ม​สี ตั ว์​เล็ก ๆ​​ท​ม่ี ​คี วาม​นา่ ​สนใจ​ ให้​เห็น​มากมาย​​อาทิ​​กะท่าง​และ​นก​ชนิด​ตา่ ง ๆ​

11


12


ลานสนสามใบ ภูสอยดาว เป็น​ลาน​สน​ของ​ภู​สอยดาว​​ซึ่ง​เป็น​พื้นที่​ป่าส​ น​ ธรรมชาติ​กว่า​​1,000​​ไร่​​มี​ลักษณะ​เป็น​ที่ราบ​ยอด​ตัด​ บน​ภเู ขา​หนิ ทราย​ของ​เทือก​เขา​ภ​สู อยดาว​​​มี​ความ​สงู ​​ 1,633​​เมตร​จาก​ระดับ​น้ำ​ทะเล​ปาน​กลาง​​สภาพ​โดย​ ทั่วไป​บน​ลาน​สน​แห่ง​นี้​จะ​เป็น​ที่ราบ​สลับ​กับเ​นิน​สูง ​ๆ​​ ต่ำ​​ๆ​​ปกคลุมไ​ป​ด้วย​ทุ่ง​หญ้า​และ​ป่าส​ น​สาม​ใบ​​ซึ่ง​ถือ​ เป็น​ไม้​เด่น​​ส่วน​พื้น​ล่าง​จะ​มีด​อก​ไม้​ทหี่​ มุนเวียน​เปลี่ยน​ กัน​ไป​ใน​แต่ละ​ฤดูกาล​เกือบ​ตลอด​ทั้ง​ปี​​​โดย​เฉพาะ​ อย่าง​ยิ่ง​ใน​หน้าฝ​ น​ด้วย​แล้วจ​ ัด​เป็น​ช่วง​ฤดูกาล​ทโี่​ด่ง​ดัง​ ที่สุดข​ อง​ลาน​สน​ภู​สอยดาว​​ด้วย​หนา​แน่น​ไป​ด้วย​ดอก​ หงอน​นาค​สี​ม่วง​บน​สะ​พรั่ง​ไป​ทั่ว​บริเวณ​ท่ามกลาง​ สาย​หมอก​​จึง​เสมือน​หนึ่ง​สรวง​สวรรค์​ที่​หลาย​คน​ต่าง​ มุ่ง​หวัง​ใคร​ได้​ไป​เยือน​สัก​คร่า​หนึ่ง ​​ ​เพียง​เท่านั้น​นอกจาก​ดอก​หงอน​นาค​อัน​เปรียบ​ ใช่ เสมือน​ราชินแี​ ห่งภ​ สู​ ูง​แห่งน​ ี้​แล้ว​​ตาม​พื้นที่​ชื้น​แฉะ​ทมี่​ ี​ น้ำ​ขัง​จะ​พบ​กับ​​สร้อย​สุ​วรรณ​า​​กระดุม​เงิน​​ หยาด​น้ำค้าง​​ตลอด​จนถึงแ​ ตรวง​​พืช​ล้มลุก​มเี​หง้า​ซึ่ง​ จะ​ออกดอก​ใน​ช่วง​ฤดู​ฝน​เช่น​กัน​​และ​เหนือ​ขึ้น​ไป​ตาม​ คา​คบ​ไม้​ก็​จะ​พบ​กับ​เอื้อง​แซะ​​ส่วน​ใน​ช่วง​ฤดูห​ นาว​ก็​ จะ​มีด​อก​ไม้​อีก​กลุ่ม​หนึ่ง​ผลัด​เปลี่ยน​เข้า​มา​แทน​ ​ให้​ผู้​มา​เยือน​ได้​สัมผัสใ​น​อีกบ​ รรยากาศ​หนึ่ง​​นั้น​คือ​​ รองเท้า​นารี​อินทนนท์​และ​กล้วย​ไม้ช​ นิด​​ๆ​​ 13 ที่​พบเห็น​ได้​ยาก​ใน​พื้นที่​อื่น​​ๆ​​ ​


ชื่อดอกไม้

Scientific name

14


เอื้องดินลาว

Spathoglottis pubescens

15


ลิ้นมังกร Habenaria rhodocheila Hance.

16


ดอกแตรวง Lilium primulinum var. burmanicum

17


ชมพูเชียงดาว

Pedicularis siamensis

18


ผีเสื้อหางติ่งแววเลือน Papilio arcturus arcturus

19


ว่านไก่แดง

20

Aeschynanthus andersonii C.B.Clarke


เอนอ้าขน

Osbeckia stellata

21


ดอกหลีดกินซาก

Cotylanthera tenuis Blume SP. 22


บนเส้นทางสู่สวรรค์ที่ปลายฟ้า...

ภูสอยดาว

สาย​หมอก​ขาว​ไหล​อ้อ​ยอิ่ง​คลอ​เคลีย​ทิว​สน​ทยี่​ ืนต้น​ตระหง่าน​ กับ​เทือก​ภเู​บื้อง​หลัง​อัน​เป็น​จุด​สูงสุด​ของ​เทือก​เขา​แห่ง​นี้​​ ดอกไม้​สี​ม่วง​อ่อน​หวาน​ชู​ช่อ​ผลิ​ดอก​พร้อม​เพรียง​​และ​พริ้ว​ไหว ​ไป​ตาม​สายลม​บางเบา​​ยาม​เมื่อ​แสง​ผ่าน​ฟ้า​ที่​เปี่ยม​เงา​ฝน​ลง​ มา​ได้​ภ​ าพ​ของ​ดอกไม้​งาม​กับ​ทิว​สน​เป็น​เสมือน​แดน​สวรรค์​ ให้​คน​เดิน​ทาง​ได้เ​ก็บเ​กี่ยว​ภาพ​ประทับใ​จ​​ซึ่ง​แน่นอน​ว่าฤ​ ดูกาล​ ของ​ความ​งาม​แตก​ต่าง​กัน​ออก​ไป​​ดอกไม้​ใน​ยาม​ฝน​โรยรา​ เหลือไ​ว้​เพียง​ก้าน​ช่อ​ดอก​กับ​ใบ​แห้ง​​สี​เขียว​ชุ่ม​ฉ่ำ​กลาย​เป็น ​สี​เหลือง​อร่าม​ของ​ท้อง​ทุ่งท​ ี่​ฉาบ​ด้วย​แสง​อาทิตย์​อัสดง​​ ใน​ยาม​แล้ง​กล้วยไม้​หลาก​ชนิด​ผลิ​ดอก​บน​ คา​คบ​ไม้​ดสู​ ีสัน​สด​สวย​​จาก​ธรรมชาติ​อัน​งดงาม​ของ​ภู​สอยดาว ​ทำให้​นักเ​ดิน​ทาง​จาก​ทั่ว​ทุก​สารทิศ​​เดิน​ทาง​มา​เยือน ​ดิน​แดน​แห่งน​ ี้​อย่าง​ไม่​ขาด​สาย​​คล้าย​กับ​ว่าน​ ี่​เป็น ​ดิน​แดน​แห่งส​ รวง​สวรรค์ก​ ็​ไม่​ปาน​…​

23


24


25


26


ย่ำเท้าพิชติ

ภูสอยดาว ความ​ใฝ่ฝัน​ของ​คน​เดิน​ทาง​ที่รักธ​ รรมชาติ​ ส่วน​ใหญ่​ไม่​พลาด​ทจี่​ ะ​มา​เยือน​ลาน​สน​บน​ภู​สอยดาว​​ และ​มี​ไม่​น้อย​ที่มา​เสพ​ซับ​ความ​งดงาม​ของ​ธรรมชาติค​ รบ ​ทั้ง​สาม​ฤดู​​โดย​ใน​ช่วง​ฤดู​ฝน​​ น้ำตก​จะ​มี​น้ำ​ค่อน​ข้าง​มาก​​และ​สวยงาม​ยิ่งน​ ัก​​โดย​น้ำตก ​ภู​สอยดาว​ชั้น​แรก​อยู่​ทาง​ด้าน​ขวา​มือข​ อง​เดิน​ขึ้น​สู่​ลาน​สน​​ ซึ่ง​เป็นเ​สมือน​จุด​เริ่ม​ต้นข​ อง​การ​เดิน​เท้า​เพื่อ​เข้าไป​สัมผัส​ แก่น​แท้แ​ ห่ง​ธรรมชาติ​​ทซี่​ ่อน​เร้น​บาง​ความ​หมาย​ไว้​อย่าง​ แนบ​เนียน​​ใช่​เพียง​แค่ต​ า​เห็น​แต่​ต้อง​มี​หัวใจ​ไว้​สัมผัส​อีก​ด้วย​ จาก​บันได​ขั้น​แรก​ทพี่​ า​ให้​ก้าว​เท้า​ผ่าน​ไป​ค่อย​​ๆ​​เลียบ​เลาะ​ สายน้ำไ​ป​อย่าง​แช่ม​ช้า​ตาม​จังหวะ​ของ​เนิน​เขา​​ที่​แซม​ด้วย​ ดอกไม้​สีชมพูห​ วาน​ใน​ยาม​ผลิ​ดอก​​กับล​ วดลาย​บน​ผิว​ใบ​ที่​ ไม่​อาจ​ผ่าน​ตา​​ใคร​บาง​คน​ให้​ชื่อว​ ่า​ส้ม​กุ้ง​​แต่​ชนิด​นี้​ไม่มี​สี​ส้ม​ อย่าง​กุ้ง​ต้ม​​ทว่า​​สีด​อก​ชมพู​สด​ลด​ความ​กระด้าง​ของ​หินผ​ า​ ได้​เป็น​อย่าง​ดี​​ สำหรับ​ส้มก​ ุ้ง​​หรือบ​ ี​โก​เนีย​เ​ป็น​ไม้อ​ วบ​น้ำ​ อายุ​ยืน​ใน​วงศ์​​Begoniaceae​​มี​ถิ่นก​ ำเนิด​อยูใ่​น​พื้นที่​เขต​ ร้อน​ชื้น​​โดย​มัก​ขึ้น​อยู่​ริมล​ ำธาร​​น้ำตก​​หรือ​ป่าดิบเ​ขา​ที่​มี​ ความชื้น​สูง​​​ซึ่งห​ ลาย​ท่าน​อาจ​ไม่ท​ ราบ​มา​ก่อน​ว่า​บีโกเนีย ในโลกมีอยู่ 1,500 ชนิด ที่สำคัญในเมืองไทยมีบีโกเนีย มากมายและมีความงามแตกต่างกันไป แ​ ละทีเ่​ห็น​ขาย​เป็น ​ไม้​ประดับ​นั้น​​ส่วน​ใหญ่เ​ป็น​ลูกผสม​ทั้ง​สิ้น​และ ​มี​อยูม่​ าก​กว่า​​10,000​​ชนิด​ซึ่งมีการนำ​ต้น​แม่​พันธ์​ุไป​ จาก​เขต​ร้อน​ของ​โลก​ทั้ง​สิ้น​

27


ไม่​นาน​กับ​การ​เดิน​ชม​ธรรมชาติ​อย่าง​ไม่เ​ร่ง​รีบ​ ​ก็​ถึง​สถานีศ​ ึกษา​ธรรมชาติแ​ ห่งท​ ี่​2​ ​​สาม​เฒ่า​ผยู้​ ิ่ง​ใหญ่​ ​ที่​เป็น​เสมือน​หมาย​บอก​กล่าว​แห่ง​ธรรมชาติถ​ ึงช​ ่วง​เวลา​ที่​ ผ่าน​มา​​นัก​ธรรมชาติ​วิทยา​ต่าง​รู้​ดวี​ ่า​ผืน​ป่า​ใน​บริเวณ​นี้​โดน​ ทำลาย​มา​ก่อน​​แต่เ​มื่อ​ไม่มใี​คร​เข้า​มา​ยุ่ง​เกี่ยว​​ธรรมชาติ​ ก็​เริ่มฟ​ ื้น​ตัว​เอง​​โดย​ส่ง​ไม้​เบิกน​ ำ​ออก​ไป​เป็น​ด่าน​หน้าใ​น ​การ​ยึด​ครอง​พื้นทีส่​ ี​เขียว​กลับ​คืน​มา​​เพราะ​เมื่อ​มไี​ม้​ใหญ่ใ​ห้​ ร่ม​เงา​และ​ดึง​ความชื้น​เก็บ​ไว้​​ทำให้พ​ ืช​ชนิด​อื่น​ๆ​ ​​สามารถ​ เติบโต​ขึ้น​ได้​ใน​ช่วง​เวลาต่อ​มา​​ซึ่ง​เป็น​กลไก​ทคี่​ ่อย​​ๆ​เ​ป็น​ไป​​ อาจ​จะ​ใช้​เวลา​เป็น​ร้อย​ปี​​และ​ไม่จ​ ำเป็น​ต้อง​มมี​ นุษย์​เข้าไป​ เกี่ยวข้อง​แต่อย่าง​ใด​​ สำหรับ​ต้นไม้​ขนาด​ใหญ่​ที่​เห็นอ​ ยู่​นี้​ม​ ี​อยูด่​ ้วย​กัน​​3​​ชนิด​​ คือ​​ไทร​ต​ ะแบก​แดง​​และ​ลำพู​ป่า​​ซึ่ง​ร่วม​กัน​บุกเ​บิกผ​ ืน​ป่า​ มา​นาน​เนิ่น​​หวัง​เป็น​อย่าง​ยิ่ง​ว่า​ใน​อนาคต​เหล่าไ​ม้​ใหญ่จ​ ะ​ เป็น​ร่ม​เงา​ให้​กับผ​ ืน​ป่า​ต่อ​ไป​…​ ​

28


จาก​จุด​นี้​ไป​อีก​ไม่​ไกล​นัก​​หาก​มา​ใน​ช่วง​ปลาย​ฝน​ต้น​หนาว​ ก็​จะ​มโี​อกาส​เจอ​กับ​พืชด​ อก​งาม​ที่​มี​ชีวิต​แสน​มหัศจรรย์​​แต่​ ต้อง​สังเกต​ให้​ดี​สัก​นิด​​แม้​จะ​มี​ป้าย​สื่อ​ความ​หมาย​บอก​ไว้​ แล้ว​ก็ตาม​​แต่เ​จ้า​ดอกไม้​พวก​นี้​กม็​ ัก​จะ​แอบ​อยูใ่​ต้​ใบไม้​​ อาจ​จะ​โผล่​ออก​มา​ไม่​มาก​นัก​​จาก​ลักษณะ​ของ​ดอก​สี​แดง​สด​ คล้าย​กระโถน​ปากแตร​ขนาด​เล็ก​​มจี​ ุด​สี​เหลือง​ครีม​กระจาย​ อยู่​บน​กลีบ​​นัก​พฤกษศาสตร์ต​ ั้ง​ชื่อ​ว่า​​“ก​ ระโถน​พระ​ฤๅษี”​​ ​(​Sapria​​hImalayana​)​​ซึ่ง​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​น้อย​คน​นัก​ทจี่​ ะ​ได้​ เจอ​กับ​ดอกไม้​ชนิดน​ ี้​​เพราะ​มัน​มี​ชีวิต​แสน​ลึกลับซ​ ับ​ซ้อน​ ​ไม่มี​ลำต้น​​ไม่มี​ใบ​​เมื่อ​ถึง​เวลา​ที่​จะ​ดำรง​เผ่า​พันธ์​ุกม็​ ีด​อก​ ออก​มา​ให้​เห็น​​ทเี่​ป็น​เช่นน​ ั่น​ก็​เพราะ​มัน​เป็น​กาฝาก​​หรือ​ พืช​เบียน​ที่​มี​ชีวิตโ​ดย​การ​ดูด​น้ำเ​ลี้ยง​และ​ธาตุ​อาหาร​จาก​ ต้นไม้อ​ ื่น​​ๆ​​ซง่ึ ​เป็น​พชื ​ใน​กลุม่ ​เดียว​กบั ​พวก​องุน่ ​ปา่ ​​มชี อ่ื ​เรียก​ ว่า​​“​เครือ​เถา​นำ้ ​”​​เป็นพืชช​ นิด​ที่พบ​เฉพาะ​ใน​ผืน​ป่าดิบช​ ื้น​ ที่​มี​ความ​อุดม​สมบูรณ์เ​ท่านั้น​​หาก​ไม่มเี​ครือ​เถา​น้ำ​แล้ว​​ กระโถน​พระ​ฤๅษี​ก็​คง​หมด​ไป​ด้วย​เช่น​กัน​…​ เมื่อผ​ ่าน​จาก​กระโถน​พระ​ฤๅษี​​กเ็​ดิน​เลาะ​ตาม​ไหล่​เขา​ เลียบ​ริมน​ ้ำ​มา​เรื่อย​​ๆ​​ความงด​งาม​ของ​ธรรมชาติก​ ็เปลี่ยน​ ไป​อย่าง​ไม่ร​ตู้ วั ​​ผา่ น​จดุ ​ศกึ ษา​ธรรมชาติ​อกี ​สอง​จดุ ​คอื ​​ลำพู​ปา่ ​​ นัก​บุก​เบิก​ชั้น​เยี่ยม​​กับ​​ไม้ไผ่​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ใน​ประเทศ​ไทย​ ​ซึ่ง​ก็​น่า​สนใจ​ไม่​น้อย​เลย​​เพราะ​นี่​คือพืช​ใน​กลุ่มห​ ญ้าท​ ี่​มี​ ขนาด​ใหญ่ท​ ี่สุด​ใน​โลก​​นอกจาก​นี้​​ป่า​ไผ่​ทผ่ี่​​ าน​ยังถ​ ือว่าม​ ี​ ขนาด​ของ​ลำ​ไผ่​ใหญ่​ที่สุดใ​น​บรรดา​ไผ่​ทพี่​ บ​ใน​ประเทศ​ไทย​ อีก​ด้วย​​น่า​สนใจ​มาก​จริง​​ๆ​​สำหรับ​การ​เดิน​เท้า​ใน​ช่วง​แรก​ ของ​เส้น​ทาง​สู่​ลาน​สน​ภู​สอยดาว​…​

29


จากเนินส่งญาติถงึ

เนินมรณะ เส้น​ทาง​เดิน​ราบ​ที่​กำลัง​จะ​หมด​ไป​จาก​สายตา​เ​มื่อ​ผ่าน​ ดง​ไผ่​ใหญ่​เมื่อส​ ัก​ครู่​​บันได​อย่าง​ดี​ทอดตัว​ขึ้นส​ ู่​เนิน​ชัน​ ด้าน​บน​​กำลังก​ าย​​กำลัง​ใจ​​และ​ความ​มุ่ง​มั่น​ของ​ผู้​ที่รัก​ ธรรมชาติ​​จะ​ทำให้​ผ่าน​ความ​ลำบาก​และ​แสน​เหนื่อย​ไป​ได้​ อย่าง​สบาย​​ซึ่ง​เนิน​ข้าง​หน้าที่​รอ​เรา​อยูน่​ มี้​ ีชื่อ​เรียก​อย่าง​ ได้​เห็น​ภาพ​ว่า​​“​เนิน​ส่ง​ญาติ​”​​เพราะ​ความ​ชัน​ของ​เส้น​ทาง​ เดิน​เท้า​​ทำให้​ต้อง​ตัดสินใ​จ​กัน​ตรง​นี้​ว่าจ​ ะ​ไป​ต่อ​​หรือถ​ อย​ หลัง​​และ​มี​ไม่​น้อย​ทตี่​ ้อง​ล่า​ถอย​กลับไ​ป​​ปล่อย​ให้เ​พื่อน​​ๆ​​ ที่​เปี่ยม​แรง​กาย​​แรง​ใจ​​เดินไ​ป​ข้าง​หน้า​​คล้าย​กับว​ ่าต้อง​ ร่ำ​ลาและ​ส่ง​ญาติ​ก็​มิ​ปาน​…​ จาก​ทาง​เดิน​เท้า​ทที่​ อด​ผ่าน​ป่า​ไผ่​ร่ม​ครึ้ม​​พา​เรา​ขึ้น​ไป​ อย่าง​ช้า​​ๆ​​สู่​ยอด​เนิน​ซึ่งร​ะหว่าง​ทาง​เต็ม​ไป​ด้วย​ดอกไม้​ เล็ก​​ๆ​​ทจี่​ ะ​ผลิด​ อก​ใน​ช่วง​เวลา​ต่าง​​ๆ​​กัน​​หาก​เป็น​ฤดู​ฝน​ ก็​จะ​มพี​ วก​ขิง​ข่า​ให้​เรา​เห็นห​ ลาย​ชนิด​เมื ​​ ่อ​ผ่าน​เนิน​ส่ง​ญาติ​ ไป​ได้​ก็จะพบ​เนิน​ป่า​ก่อ​​รอ​รับ​อยูข่​ ้าง​หน้าแ​ ม้​จะ​เหลือ​ระยะ​ ทาง​อีก​พอ​สมควร​​แต่​ความ​มุ่ง​มั่น​และ​ความ​งดงาม​ของ​ สภาพ​สอง​ข้าง​ทาง​​จะ​ช่วย​ให้การ​เดิน​เท้า ​เป็น​ไป​อย่าง​สบาย​อารมณ์​

30


31


ผ่าน​ป่า​ไผ่​เล็ก​​ๆ​​และ​เนิน​ต่าง​​ๆ​​กัน​มา​พอ​สมควร​​ซึ่ง​เนิน​นี้​ จะ​พา​เรา​ไป​ยงั ​เนิน​ปา่ ​กอ่ ​​อกี ​หนึง่ ​สงั คม​ปา่ ​ท​น่ี า่ ​สนใจ​อย่าง​ยง่ิ ​​ เพราะ​ว่าป​ ่า​ประเภท​นี้​​นอกจาก​จะ​บอก​ให้​เรา​รวู้​ ่า​กำลังเ​พิ่ม​ ระดับค​ วาม​สูง​จาก​ระดับ​น้ำ​ทะเล​มาก​ยิ่งข​ ึ้นแ​ ล้ว​​ ผล​ของ​มัน​ยังถ​ ือ​เป็น​อาหาร​สุด​โปรด​ของ​สัตว์​ต่าง​​ๆ​​ รวม​ถึง​พวก​เรา​ด้วย​​และ​เนิน​แห่ง​นกี้​ ็ได้​รับ​การ​ขนาน​นาม​ ตาม​ไม้​เด่น​นี่เอง​​เพราะ​ละแวก​นเี้​ต็ม​ไป​ด้วย​ต้น​ก่อ​ หรือ​ต้นโอ๊ก​​เนื่องจาก​ป่าดิบเ​ขา​มคี​ วาม​โปร่งข​ อง​พื้นป​ ่า​ ค่อน​ขา้ ง​สงู ​ทำให้​ม​พี รรณ​ไม้​มากมาย​ให้​เรา​ได้​ชม​ไป​ตลอด​ทาง​​ และ​หาก​มา​ใน​ช่วง​ผล​ก่อ​สุก​​ก็​อาจ​จะ​ได้​เจอ​กับสัตว์ต​ ่าง​ๆ​ ​​ ที่​เข้า​มา​กิน​อาหาร​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​คุณค่า​ทาง​โภชนาการ​​ หาก​ต้นไทร​เป็น​อาหาร​ชั้น​ดี​ให้​กับน​ ก​และ​สัตว์​ต้น​ก่อ​ก็​ ไม่​ด้อย​ไป​กว่า​กัน​เลย​​เพราะ​ใน​ยาม​ผล​สุกจ​ ะ​เป็น​เสมือน ​ร้าน​อาหาร​ชั้น​ดเี​ช่น​กัน​​ซึ่ง​บ่อย​ครั้ง​ทเี่​รา​ได้​ลอง​ชิมร​ส​ชาด​ ของ​ก่อ​คั่ว​​ทแี่​ ม้​จะ​ไม่​ดี​เลิศ​เท่าเ​ก๋า​ลัดจ​ าก​ต่าง​ประเทศ​​ แต่ก​ ็​พอ​จะ​ทำให้ม​ อี​ ะไร​ขบเคี้ยว​ยาม​ว่าง​ได้เ​ป็น​อย่าง​ด​ี ​ หลัง​จาก​ต้อง​รีด​เค้น​พลังผ​ ่าน​กัน​มา​หลาย​เนิน​ใ​น​ที่สุด​ก็ ​เข้าส​ ู่​เนิน​เสือ​โคร่ง​​ฟังด​ ู​อาจ​จะ​น่าก​ ลัว​ไม่​น้อย​แ​ ต่​แท้จริง​ แล้ว​หา​เป็น​เช่น​นั้น​ไม่​​เพราะ​เนิน​แห่ง​นเี้​ป็น​เสมือน​สิ่ง​ ประโลม​ใจ​ยาม​ทรี่​่างกาย​เหนื่อย​อ่อน​​เนื่อง​จากว่า​ชื่อข​ อง ​ไม้​เด่นเ​ป็นต้น​กำลัง​เสือ​โคร่ง​​(​Betula​​alnoides​)​ท​ ี่​คน​ โบราณ​นำ​เปลือก​มา​ใช้​เป็น​ยา​สมุน​ไพร​ม​ ี​กลิ่นห​ อม​คล้าย​ การบูร​​ชาว​บ้าน​มัก​นำ​ไป​ต้ม​น้ำด​ ื่ม​เป็น​ยา​สมุน​ไพร​ ​บำรุง​กำลัง​​ทำให้เ​จริญ​อาหาร​​ขับล​ ม​ใน​ลำไส้​​บำรุง​เส้น​เอ็น​ ให้​แข็งแ​ รง​​และ​แก้​ปวด​เมื่อย​ตาม​ร่างกาย​ได้เ​ด็ด​ขาด​นัก​ ​จึง​ถูก​ตั้งช​ ื่อ​ว่า​​“​กำลัง​เสือโ​คร่ง​”​​ด้วย​สรรพคุณ​นเี้​อง​จึง​ ทำให้​ต้น​กำลัง​เสือโ​คร่งม​ ี​เหลือน​ ้อย​ใน​ปัจจุบัน​​เนื่องจาก​ถูก​ ถาก​เปลือก​จน​เหลือแ​ ต่​แก่น​​จึง​ไม่มที​ าง​ลำ​เลียง​อาหาร​ไป​ หล่อ​เลี้ยง​กิ่ง​ก้าน​​ส่วน​ยอด​และ​ใบ​​จนยืนต้น​ตาย​ใน​ที่สุด​​ แต่อ​ ย่า​จำ​สับสน​กับ​นางพญา​เสือ​โคร่ง​​ทีอ่​ อกดอก​ใน​ช่วง ​ฤดู​หนาว​สีชมพูห​ วาน​สวย​นะ​​เพราะ​เป็น​คนละ​ชนิด​กัน

32


จาก​เนิน​เสือ​โคร่ง​เรา​ต้อง​ เดิน​ผ่าน​เนิน​ชันไ​ป​อีก​พอ​ สมควร​​เพื่อท​ ี่​จะ​ไป​ยัง​จุด​ ที่​เส้น​ทาง​เดิน​ชัน​และ​ยาก​ ที่สุด​​เรียก​ว่า​เนิน​นี้​ทำให้ ​นัก​เดิน​ทาง​มากมาย​ต้อง​ แทบ​ยอม​สยบ​​และ​อีก​ ไม่​น้อย​ทไี่​ด้ยิน​เสียง​เล่า​ลือ​ถึง​ความ​โหด​​ความ​ชัน​​ความ​ ยาก​ลำบาก​ของ​เนิน​สุดท้าย​ก่อน​ถึงล​ าน​สน​อัน​เป็น​ดั่ง​สรวง​ สวรรค์​​คง​เป็น​เรื่อง​ปกติ​ทกี่​ าร​เดิน​ทาง​ไป​ชม​สิ่ง​สวยงามตาม​ ธรรมชาติ​​ย่อม​ต้อง​ฝ่าฟัน​และ​ต่อสู้​กับส​ ิ่ง​ต่าง​​ๆ​​มากมาย​​ โดย​เฉพาะ​ต่อสู้​กับต​ ัว​เรา​เอง​ที่​พร้อม​จะ​กลับห​ ลัง​มาก​กว่า​ จะ​ก้าว​ไป​ข้าง​หน้า​​ทว่า​สิ่ง​ที่​รอ​อยูเ่​บื้อง​หน้า​นั้น​มมี​ าก​กว่า​ ที่​เรา​จะ​คิดไ​ด้​​ดัง​นั้น​เนิน​ชัน​เพียง​แค่​นี้​ไม่เ​กิน​กำลังเ​รา​แน่​​​ เพราะ​ที่​ผ่าน​มา​ใช้ก​ ำลัง​ไป​มหาศาล​​ปลาย​ทาง​อีก​เพียง​แค่​​ 1.1​ก​ ิโลเมตร​​รับรอง​ว่า​ผ่าน​ไป​ได้​อย่าง​สบาย​ ท​ ำไม​ต้อง​เป็น​เนิน​มรณะ​​ชื่อ​ช่าง​ดุดัน​และ​โหด​ร้าย​มาก​เลย​ ​เรียก​ว่า​ไม่มี​กำลังใ​น​การ​เดิน​เท้า​แม้แต่​น้อย​​สภาพ​เส้น​ทาง​ เป็น​เนิน​ชนั ​ดกิ ​​ไม่ม​ตี น้ ไม้​ใหญ่​​ม​แี ต่​ทงุ่ ​หญ้า​​และ​ไม้​พมุ่ ​เล็ก​​ๆ​ เพราะ​มีลม​แรง​อยู่​ตลอด​เวลา​​อีกส​ าเหตุ​หนึ่งท​ ี่​เป็น​ปัจจัย​ สำคัญ​ที่​ทำให้บ​ ริเวณ​นี้​คง​สภาพ​เป็น​ทุ่ง​หญ้า​ก็​คือ​​ไฟ​ป่า​​ ​แต่จ​ ะ​ว่า​ไป​แล้ว​เสน่ห์​แห่งส​ ายลม​ที่​พัด​ผ่าน​ทุ่ง​หญ้า​ริม​ หน้าผา​​ท่ามกลาง​สาย​หมอก​และ​หยาด​น้ำค้าง​​ใน​บริเวณ​นี้​ ก็​ทำให้​ลืมช​ ื่อ​อัน​น่า​หวาด​กลัว​ของ​เนิน​แห่ง​นไี้​ด้​เหมือน​กัน​​ อ​ ีก​เพียง​ไม่ก​ ี่​อึดใจ​กพ็​ บ​กับ​ลาน​สน​สาม​ใบ​อันง​ดงาม​​เต็ม​ไป​ ด้วย​ดอกไม้​ผลิบ​ าน​สะ​พรั่ง​ใน​ทุกฤ​ ดู​ฝน​​และ​มคี​ วาม​งาม​ของ​ ท้อง​ทุ่ง​สี​ทองใน​ยาม​หนาว​​สิ่ง​สวยงาม​ของ​ธรรมชาติ​ แปร​เปลีย่ น​ไป​ตาม​ฤดูกาล​​ฝาก​ความ​งดงาม​ไว้​ให้​ผ​ทู้ ​ห่ี ลง​ไหล​ และ​รัก​ธรรมชาติ​ได้​เข้า​มา​เสพ​ซับ​​อย่าง​เคารพ​และ​หวงแหน​ ใน​ความ​งาม​ของ​โลก​ใบ​นี้​ไป​อีก​นาน​เท่า​นาน​…​ ​ 33


สวนสวรรค์บน

ลานสนภูสอยดาว ท่ามกลาง​สาย​หมอก​ที่​โปรย​ปกคลุม​ทิว​สน​และ ​ทุ่ง​ดอกไม้​​คล้าย​จะ​ซ่อน​ความ​อ่อน​หวาน​และ​งดงาม​ ไว้​ให้​พ้น​สายตา​​สายลม​จาก​หุบเขา​พัด​กรูพ​ า​สาย​ หมอก​จาง​ไป​เผย​ให้​เห็น​สิ่ง​ซ่อน​เร้น​ ​ดอก​สมี​ ่วง​อ่อน​หวาน​บาน​สะ​พรั่ง​สุด​สายตา​​บาง​ดอก​ ถูก​หุ้ม​ไว้​ด้วย​หยด​น้ำ​ที่​ทิ้งไ​ว้​โดย​ความ​ฉ่ำช​ ื้น​​แสงแดด​ ส่อง​ลง​มา​ได้​เป็นบ​ าง​คราว​​ช่วย​ให้บ​ รร​ยากา​ศอ​บอุ​น่ ขึ้​นก​ว่าที่​เป็น​อยู่​​พลัง​ของ​ธรรมชาติ​อันย​ ิ่งใ​หญ่ช​ ่วย​ ขับ​กล่อม​ให้ผ​ ู้​พบเห็นไ​ด้​มี​พลังช​ ีวิต​ทยี่​ ืนยาว​แ​ ละ​เต็ม​ เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​อิ่ม​เอม​…​ 34


35


บรรยากาศ​ใน​ช่วง​ฤดู​ฝน​ของ​ภสู​ อยดาว​น​ ับ​ได้ว​ ่า​เป็น​ เอกลักษณ์​และ​เด่น​อย่าง​มาก​ใน​เรื่อง​ของ​ลาน​ดอกไม้​​ทจี่​ ะ​ ผลิ​ดอก​บาน​รับ​สาย​ฝน​กัน​อย่าง​พร้อม​เพรียง​​หนา​แน่น​​ ใช่​เพียง​ดอก​หงอน​นาค​เท่านั้น​ทบี่​ าน​เต็ม​ลาน​ภู​​แต่ม​ ี ด​อก​ไม้​เล็ก ​ๆ​ชนิด​อื่น​อีก​ด้วย​​อาทิ​​​ชมพู​เชียงดาว​​หรีด​​ ดอกแตรวง​สร้อย​สวุ​ รรณ​า​​ตา​เหิน​ไหว​​กล้วยไม้ไ​ม่​น้อย​ ชนิด​ที่​ผลิ​ดอก​ใน​ยาม​นี้​​อย่าง​​เอื้อง​แซะ​อ​ ั้ว​เขา​กวาง​​ นาง​ตาย​​ว่าน​หัว​ครู​​เหลือง​พิศ​มร​​นอกจาก​นี้​​ยังม​ ี​ พรรณ​ไม้​อีก​หลาย​หลาก​ให้​ค้นหา​และ​ชื่นชม​ จ​ าก​สาย​หมอก​ท​เ่ี คย​หม่ ​ผนื ​ปา่ ​เขียว​สดชืน่ ​กลับแ​ ปร​เปลีย่ น​ไป ​เมื่อ​ความชื้น​ลด​ลง​และ​ความ​หนาว​เย็นเ​ข้า​มา​แทนที่​ ​เสียง​ลม​กรีด​ทิว​สน​หวีดห​ วิว​​หลังคา​เต็นท์​กระพือใ​ห้​ ลม​หนาว​แทรก​ตัว​เข้า​มา​​แสง​ดาว​บน​ท้องฟ้า​สกาว​สุกส​ ว่าง​​ มอง​เห็น​ใกล้​​ๆ​​จน​แทบ​คว้า​เอา​มาก​อด​ให้​อุ่นก​ าย​​มัน​เป็น​ ความ​รู้สึก​ของ​คืน​หนาว​ท่ามกลาง​เงา​สน​​แสง​ดาว​​ ลม​หนาว​​และ​ความ​รู้สึก​อัน​ละเมียด​งาม​ทเี่​รา​ผ่าน​ ความ​ยาก​เข็ญระหว่ ​​ าง​ทาง​มา​อย่าง​เหนื่อย​กาย​​ ทว่า​สิ่ง​งดงาม​เหล่า​นี้​ทำให้​หัวใจ​ได้​กระชุ่มกระชวย​ ​

36


ใน​ห้วง​กาล​ทคี่​ วาม​หนาว​เย็น​ปกคลุม​ผืน​ป่า​​ดอกไม้ป​ ่า ​ผลิ​ดอก​เริงร่า​รื่น​รมณ์​​มวล​แมลง​บิน​ร่อน​หา​น้ำ​หวาน​​ เสียง​นก​ร้อง​ร่า​เสียง​แผ่ว​กระซิบ​มา​กับ​สายลม​ให้ต​ ้อง​เงี่ย​ หู​ฟัง​สำเนียง​อ่อน​หวาน​​สรรพ​ชีวิต​กำลัง​ส่ง​สัญญาณ​แห่ง​ ความ​สุข​สู่​กัน​​พวก​เรา​ผู้​ไม่​อาจ​เข้า​ถึง​ได้อ​ ย่าง​แท้จริง​​ คง​ทำได้​เพียง​เก็บ​ความ​ประทับ​ใจ​เหล่า​นั้น​ให้ค​ ง​อยู่​ตลอด​ไป​ ใน​ความ​ทรง​จำ​​ถึง​ลาน​สน​ภู​สอยดาว​ที่​ยาม​หนาว​จับจิต​นั้น​​ ช่าง​บันดาล​ความ​สุขไ​ด้​อย่าง​เปี่ยม​ล้น​ ผ​ ่าน​พ้น​ลม​หนาว​เข้า​สู่​ฤดู​แล้ง​บน​ความชื้น​บน​ภู​หินทราย​ ยอด​ตัด​เริ่ม​หมด​ไป​​สรรพ​ชีวิต​ทั้ง​หลาย​พัก​ตัว​และ​ลด​การ​ สูญ​เสีย​น้ำ​​ดอกไม้​เริ่มห​ มด​ไป​จาก​ท้อง​ทุ่ง​​แต่​มี​ไม้พ​ ุ่ม​หลาย​ ชนิด​ที่​เริ่ม​ผลิ​ดอก​สร้าง​ความ​งดงาม​ให้ก​ ับผ​ ืน​ป่า​​ ทั้ง​กุหลาบ​ขาว​ประทัด​ดอย​​เอื้อง​ตา​เหิน​​แต่​ยาม​นี้​เอง​ที่​ เรา​จะ​ได้​สัมผัส​กับสิ่งม​ ชี​ ีวิต​พิเศษ​ทหี่​ า​ดู​ได้ไ​ม่ง​่าย​เลย​​ นั่น​คือ​​กะท่าง ​หรือ​จัก​กิ้​มน้ำ​​ทอี่​ าศัยอ​ ยู่​ใน​ลำธาร ​บน​ลาน​สน​​พวก​มันจ​ ะ​แช่อ​ ยู่​ใน​น้ำต​ ื้น​​ๆ​​ให้พ​ วก​เรา​ได้​ไป​ แอบ​มอง​เจ้า​สัตว์​ประหลาด​ตัว​นี้​​ทหี่​ น้าตา​เป็น​ สัตว์​เลื้อย​คลาน​แต่ด​ ำ​น้ำ​ได้​นาน​กว่าป​ กติม​ าก​​ ค​ วาม​มหัศจรรย์ข​ อง​ภสู​ อยดาว​ที่​ได้​กล่าว​มา​นั้น ​นับ​เป็น​ เพียง​ส่วน​น้อย​นิด​​ทีน่​ ำ​มาก​ล่าว​ อ้าง​​แต่​หาก​ท่าน​ได้​ไป​สัมผัส​ ด้วย​ตัว​เอง​จะ​เข้าใจ​​ว่า​​ความ​งาม​ของ​ธรรมชาติน​ น้ั ​ ​หา​ทส่ี ดุ ม​ ไิ ด้​และ​ตกั ตวง​ใส่ใน​ความ​ทรง​จำ​ได้​อย่าง​ไม่​อน้ั ​ ​แต่​นั่น​คง​ต้องขอ​ให้​คุณ​ออก​จาก​บ้าน​เสีย​ก่อน​…​ ผืน​ป่า​เมือง​ไทย​ยัง​รอ​ให้​คุณเข้าไป​ศึกษา​ธรรมชาติ​ อีก​มากมาย​…​

กะท่าง

(Tylototriton verrucosus Anderson) 37


38


อักล้ว้วยไม้ละอองจั น ทร์ สกุลใหม่ของไทย และชนิดย่อยใหม่ของโลก

(Satyrium yunnanense subsp. longispica Kurzweil and Suksathan)

กล้วยไม้​ดินข​ นาด​กลาง​ชู​ช่อด​ อก​สี​เหลือง​สดใส​ท่ามกลาง​ สาย​หมอก​ทหี่​ ่ม​คลุม​ผืนป​ ่า​​ดอก​ไม้​เล็ก ​ๆ​​มากมาย​ขึ้นอ​ ยู่​ รอบ​ข้าง​คล้าย​จะ​เป็นเ​พื่อน​กัน​ใน​ยาม​นี้​​ใน​ผืน​ป่าห​ ่าง​ไกล​จาก​ ผู้คน​​ธรรมชาติ​เป็นไ​ป​อย่าง​เรียบ​ง่าย​​ตาม​ฤดูกาล​ที่​ผ่าน​พ้น​​ ใน​เวลา​ที่​สาย​ฝน​ห่ม​คลุม​ผืน​ดิน​​ดอก​ไม้เ​ล็ก​ๆ​​ต่าง​แตก​ใบ​ ชู​ก้าน​​ผลิ​ดอก​กัน​อย่าง​เร่ง​ด่วน​​เพราะ​เวลา​นเี้​หมาะ​สม​ที่​จะ​ กระ​จาย​พันธ์ุ​ให้​คง​อยู่​บน​ผืน​โลก​​นาน​แค่​ไหน​แล้ว​ที่​กล้วยไม้​ บน​ภู​สอยดาว​​เบ่ง​บาน​อย่าง​งดงาม​​ทว่าเ​มื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้​ได้​มี​ คณะ​สำรวจ​พรรณ​ไม้ได้ ​​ ​ขึ้น​ไป​เก็บ​ข้อมูล ​และ​พบ​กล้วยไม้​ ชนิด​หนึ่ง​ทถี่​ ือว่า​มี​คุณค่า​ต่อ​วงการ​พฤกษศาสตร์​อย่าง​ยิ่ง​​ เมื่อท​ ำการ​ศึกษา​จึง​พบ​ว่าเ​ป็น​สกุล​ใหม่ข​ อง​ประเทศ​ไทย​ และ​เป็น​ชนิดใ​หม่​ของ​โลก​เลย​ที​เดียว​ ก​ าร​สำรวจ​คราว​นั้น​มี​ขึ้น​ใน​วัน​ที่​​17​​กันยายน​​พ​.ศ​ ​.​​2551​​ โดย​คณะ​สำรวจ​พรรณ​พฤกษชาติข​ อง​องค์การ​พฤกษศาสตร์​ สมเด็จพ​ ระนาง​เจ้า​สริ​ิกิต​ ิ์​​เชียงใหม่​​และ​เจ้าห​ น้าที่​อุทยาน​ แห่ง​ชาติ​ภู​สอยดาว​​ได้​ร่วม​กัน​สำรวจ​ความ​หลาก​หลาย​ของ​ พรรณ​ไม้​ใน​เขต​อุท​ยาน​ฯ​​ซึ่ง​ได้​พบ​กับ​สิ่ง​ต่าง ๆ​​มากมาย​ ​ทั้ง​ที่​เคย​มี​รายงาน​แล้ว​ใน​วง​วิชา​การ​​และ​สิ่ง​ใหม่ใ​น​โลก ​พฤกษ​ศาสตร์​​ทว่า​ใน​ที่​นี้​ขอ​นำ​กล้วยไม้ด​ ิน​ดอก​สี​เหลือง​งดงาม​ มา​รายงาน​​เพราะ​ถือว่าเป็น​สิ่ง​ทหี่​ ลาย​คน​สนใจ​ใคร่ร​ู้​…​ ​ เรื่อง หัสชัย บุญเนือง ภาพ ดร.ปิยเกษตร สุขสถาน 39


ด​ อก​สี​เหลือ​งก​ลม ๆ​​กลีบ​ปาก​ ยาว​ปลาย​เป็น​สาม​แฉก​ ​มี​เดือย​ดอก​ขนาด​เล็ก​ด้าน​หลัง​​ ซึ่ง​ถือว่า​เป็น​ลักษณะ​เฉพาะ​ ของ​กล้วยไม้​ใน​สกุล​นี้​​ช่อ​ ดอก​ยาว​กว่า​ชนิด​ที่​พบ​ใน​จีน​ และ​มี​ความ​แตก​ต่าง​กัน​ใน​ราย​ ละเอียด​อยู่​พอควร เมื่อ​ทำการ​ศึกษา​ร่วม​กับ​ผู้​เชี่ยวชาญ​​ กล้วยไม้​ใน​สกุล​นี้​จึง​ได้​ตั้ง​ขึ้น​เป็น​ชนิด​ย่อย​ใหม่​ว่า​​ Satyrium​​yunnanense​subsp​.​​longispica​ ​Kurzweil​​and​​Suksathan​​ ​ซึ่ง​ถือว่า​เป็น​กล้วยไม้​สกุล​ใหม่​ของ​ประเทศ​ไทย​ ​และ​ยัง​เป็น​ชนิด​ย่อย​ใหม่​ของ​โลก​​โดย​ใช้​ชื่อ​ชนิด​ย่อย​ว่า​​ longispica​​หมาย​ถึง​​ช่อดอก​ยาว​​ 40


ด​ ร​.​ปิย​เกษตร​​สุข​สถาน​ให้ความเห็นและ​ตั้ง​ชื่อไ​ทย​ว่า​ ​“​อั้ว​ละออง​จันทร์​”​​ตาม​แนว​ความ​คิด​ที่​ว่า​กล้วยไม้ช​ นิด​นมี้​ ี ​สี​เหลือง​สดใส​​อยู่​บน​ดอย​สูง​ใกล้​กับพ​ ระจันทร์ม​ าก​ซึ่ง​ทำให้​ เกิด​จินตนาการ​ถึง​ละออง​จันทร์​ที่​ปลิวล​ ง​มา​ติด​กลีบด​ อก​ ​ได้​มอง​เห็น​เป็น​ความ​งาม​ประดับผ​ ืน​ดิน​ ส​ ำหรับ​กล้วยไม้​ดิน​สเี​หลือง​ชนิด​นี้​​มกี​ าร​ค้น​พบ​โดย ​ดร​.​ปิย​เกษตร​​สุขส​ ถาน​​นัก​พฤกษศาสตร์​​ สวน​พฤกษศาสตร์ส​ มเด็จ​พระนาง​เจ้า​สิ​ริกิต​ ิ์​​อำเภอ​แม่ริม​​ จังหวัด​เชียงใหม่​​​ได้​ศกึ ษา​รว่ ม​กบั ​​Dr​.​​Hubert​​Kurzweil​​ นัก​พฤกษศาสตร์​​จาก​สวน​พฤกษศาสตร์ส​ ิงคโปร์​​ ผู้​เชี่ยวชาญ​กล้วยไม้​ใน​สกุล​​Satyrium​จน​ทำให้เ​กิด​ความ​ ภาค​ภูมิใจ​อย่าง​ยิ่ง​​ต่อ​ทรัพยากร​ทาง​ธรรมชาติแ​ ละ ​ความ​หลาก​หลาย​ทาง​ชีวภาพ​ที่​ยังม​ ใี​ห้​เห็น​อีกไ​ม่น​ ้อย​​ ทั้งนี้​ใน​โลก​แห่งว​ ิชา​การ​ยัง​คง​มี​การ​ค้น​พบ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ใหม่​​ๆ​​ อยู่​เสมอ ​​ใน​เขต​อุทยาน​แห่งช​ าติ​ภู​สอยดาว​ยัง​คง​มพี​ ืช​ และ​สัตว์​อีก​หลาก​หลาย​ชนิด​ทรี่​อ​การ​ค้น​พบ​และ​ ทำการ​ศึกษา​​แต่น​ ั่น​ก็​คง​ต้อง​ขึ้น​อยู่​กับป​ ัจจัย​ทวี่​ ่า​เรา​ จะ​ร่วม​กัน​รักษา​ผืน​ป่า​แห่งน​ ใี้​ห้​คง​สภาพ​แห่ง​ความ ​อุดม​สมบูรณ์​ไว้​ได้​นาน​ขนาด​ไหน​​…​ ​

41


เอื้องกลีบติด

Gastrodia exilis

42


สิงโตขนตาแดง Bulbophyllum lemniscatoides

43


เอื้องกลีบขาว

Dendrobium sp.

44


ลานสนบนภูสูง ลาน​สน​​คือ​​บริเวณ​ที่ราบ​เหนือ​ยอด​เขา​ที่​มตี​ ้นสน​ธรรมชาติ​ ขึ้น​อยู่​อย่าง​หนา​แน่น​​โดย​ส่วน​ใหญ่ล​ าน​ที่​ว่าน​ จี้​ ะ​ต้อง​อยู่​ บน​ภูเขา​ยอด​ตัด​​หรือท​ ี่ราบ​เหนือ​ยอด​เขา​​ปัจจัย​กำหนด​ ที่​สำคัญ​ที่​ก่อ​ให้​เกิด​ป่า​สน​เขา​ก็​คือ​​สภาพ​ภูมิ​อากาศ​ทมี่​ ี​ อุณหภูมิ​ค่อน​ข้าง​ต่ำ​เป็นร​ะยะ​ยาวนาน​​สภาพ​ดิน​ที่​ค่อน​ข้าง​ เป็นก​รด​จัด​และ​ความ​แห้งแ​ ล้ง​ใน​ช่วง​ฤดู​แล้งท​ ไี่​ม้​ป่าดง​ดิบ​ ปรับ​ตัว​ได้ย​ าก​​ส่วน​ไม้​เด่นบนยอดภูสอยดาว แน่นอน​ว่า​ ย่อม​เป็นส​ น​เขา​​ซึ่ง​ใน​บ้าน​เรา​จะ​มี​อยู่​​2​​ชนิด​ด้วย​กัน​คือ ​ สน​สอง​ใบ​และ​สน​สาม​ใบ​​ที่​หาก​มอง​ผ่าน​​ๆ​​อาจ​จะ​แยก​กัน​ ไม่​ออก​ว่า​แตก​ต่าง​กัน​อย่างไร​

45


46


โดย​สน​สาม​ใบ​​เป็นพ​ ืช​อยู่​ใน​วงศ์​​Pinaceae​ ​มีชื่อ​ทาง​วิทยาศาสตร์​ว่า​​Pinus​​kesiya​​Royle​​ex​​Gordon​ ​ม​ถี น่ิ ​กำเนิด​อยู​ใ่ น​ประเทศ​พม่า​​มกั ​ขน้ึ ​เป็นก​ลมุ่ ​อยู​ต่ าม​เนิน​เขา​​ สูง​จาก​ระดับน​ ้ำ​ทะเล​ประมาณ​​1,000​-​1,600​​เมตร​ ​มี​ลำต้น​ตรง​ขนาด​ใหญ่​สูง​​10​-​30​​เมตร​​เป็น​ไม้​ทไี่​ม่​ผลัด​ใบ​​ เรือน​ยอด​เป็นพ​ ุ่ม​กลม​สวยงาม​​ลักษณะ​ลำต้น​เหมือน​​ สน​สอง​ใบ​ทุก​อย่าง​​แต่จ​ ะ​มี​เปลือก​สี​น้ำตาล​ปน​ชมพู​อ่อน​​ ล่อน​เป็น​สะ​เก็ดต​ ื้น​ๆ​​รูป​​ตาข่าย​​ใบ​เล็ก​ยาว​เรียว​เป็น​รูป​เข็ม​ ไม่​แข็ง​​ออก​เป็น​กระจุก​ๆ ละ​​3​​ใบ​​เวียน​สลับ​ถตี่​ าม ​ปลาย​กิ่ง​​ปลาย​ใบ​แหลม​โคน​ใบ​อัด​แน่น​อยู่​ใน​กระ​เปาะ​ ​ผล​เมื่ออ​ ่อน​มี​ลักษณะ​กลม​​เมื่อ​แก่​จะ​แยก​เป็น​กลีบ ​ๆ​​ กลีบ​แข็ง​เป็น​รูป​กรวย​คว่ำ​​เมล็ด​​รูปร​ี​​ๆ​​มี​ครีบ​บาง​​ๆ​​ สี​ขาว​​ก้าน​ผล​ยาว​ ส​ ่วน​สน​สอง​ใบ​เป็นพ​ ืช​อยู่​ใน​วงศ์​เดียว​กับส​ น​สาม​ใบ​ ​แต่​จะมี​ลำต้น​ทสี่​ ูง​ใหญ่ก​ ว่า​เ​ปลือก​สี​น้ำ​ตาล​เข้ม​เกือบ​ดำ​​ แตก​เป็น​ร่อง​ลึก​ตาม​ยาว​​กระจุกใ​บ​มี​​2​​ใบ​ตาม​ชื่อ​​โดย​ มีชื่อ​วิทยาศาสตร์​​Pinus​​merkusii​​Jungh​.​​&​​de​​Vriese​​ ​อย่างไร​ก็ตาม ​แม้​สน​เขา​ทั้ง​สอง​ชนิด​นี้​จะ​มี​หลาย​อย่าง​ที่​ คล้ายคลึง​กันอ​ ยู่​มาก​​​แต่​สำหรับท​ ี่​อุทยาน​แห่ง​ชาติ​ ภู​สอยดาว​จะ​มี​สน​เขา​ชนิดแ​ รก​คือ​​สน​สาม​ใบ​ขึ้น​ปกคลุม​ อยู่​อย่าง​หนา​แน่น​เหนือ​ลาน​สน​เป็น​บริเวณ​กว้าง​​ก่อ​เกิด​ ระบบ​นิเวศ​ใน​พื้นที่​ทจี่​ ะ​พึ่งพ​ า​อาศัย​กัน​​แม้​กระ​ทั้งเ​ศษ​ซาก​ ของ​ใบ​สน​ที่​ทับถม​กัน​อยู่​อย่าง​มหาศาล​​และ​ย่อย​สลาย​ ค่อน​ข้าง​ยาก​บน​ผืน​ดิน​นั้น​​เมื่อ​ประกอบ​กับด​ อกไม้​ป่า​ที่​ บาน​สะ​พรั่ง​ไป​ทั่วผ​ ืน​ป่า​ทเี่​ด่น ​ๆ​​อันไ​ด้แก่​​หงอน​นาค​​ กระดุม​เงิน​​สร้อย​สุ​วรรณ​า​​ที่​ออก​เดิน​สะ​พรั่ง​ใน​ฤดู​ฝน​​ ครั้น​ถึง​ฤดู​แล้ง​ก็​จะ​กลาย​เป็น​เชื้อเ​พลิง​อย่าง​ดี​​ด้วย​เหตุ​นี้​ จึง​ทำให้​ป่า​สน​เขา​บริเวณ​นี้​มัก​เกิด​ไฟ​ป่า​อยูเ่​ป็น​ประจำ​​ ​

47


แต่ก​ไ็ ม่​ตอ้ ง​ตก​อก​ตกใจ​​หรือ​กลัว​วา่ ​ปา่ ​สน​เขา​ผนื ​น​จ้ี ะ​สญ ู ​พนั ธ์ุ​ ไป​จาก​ดอย​สูง​แห่ง​นี้​​ด้วย​ระบบ​นิเวศ​ที่​ออกแบบ​มา​อย่าง​ดี​ ทำให้​แต่ละ​ปจี​ ะ​มี​เชื้อเ​พลิง​ให้​ไฟ​ป่า​ได้​เผา​ผลาญ​อยูใ่​น​ปริมาณ​ ที่​พอ​เหมาะ​พอดี​​จน​ไม่ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​ต้นสน​มากนักเขา​​​ ประกอบ​กับสนเขา​มี​วิวัฒนาการ​ควบคู่​กับไ​ฟ​ป่าม​ า​เป็น​ระยะ​ เวลา​ยาวนาน​​จน​ทำให้เ​ปลือก​​มีค​ วาม​หนา​มาก​พอที่​จะ​ ป้องกัน​ความ​ร้อน​จาก​ไฟ​ป่า​ไม่ให้เ​ข้าไป​ทำลาย​เนื้อเยื่อ​ ดัง​จะ​เห็น​ได้​จาก​สน​บาง​ตน้ ​ปรากฏ​รอ่ ง​รอย​ไฟ​ไหม้​ดำ​ไป​ทง้ั ​ตน้ ​​ แต่ท​ ว่า​สามารถ​ยืนห​ ยัดย​ ืนต้น​ท้าทาย​กาล​เวลา​อยู่ได้​ถึงว​ ันน​ ี้​​ ​ แต่ท​ ว่า​การ​ทำ​กิจกรรม​ใด​ๆ ก็ต็​ าม​อันเ​ป็นการ​ละเมิด​ ข้อ​ห้าม​ตาม​ทกี่​ ำหนด ​หรือ​กฎ​ระเบียบ​ของ​อุทยาน​แห่ง​ชาติ​ ภู​สอยดาว​​จะ​โดย​ตั้งใจ ​หรือไ​ม่​ตั้งใจ​นั้น​อาจ​ก่อ​ให้เ​กิด​ผล​ กระทบ​ต่อ​ระบบ​นิเวศ​เหนือล​ าน​สน​แห่ง​นกี้​ ็​เป็น​ได้​​ ดัง​นั้น​ทาง​ออก​ทเี่​รา​จะ​ช่วย​กัน​ได้​คือ​​ต้อง​เคารพ​ตาม​กฎ​​ กติกา​ที่ทาง​อุทยานแห่งชาติไ​ด้​วาง​ไว้อ​ ย่าง​เคร่งครัด​ ​เพราะ​ไม่เ​ช่น​นั้น ​รุ่ง​เช้า​ของ​วันใ​หม่​ใน​ปี​ถัดไ​ป​​มนต์เ​สน่ห์​ของ​ ดิน​แดน​เหนือ​ดอย​สูง​​ดง​สน​​บน​ภหู​ นาว​ชายแดน​ไทย​-​ลาว​​ อาจ​ไม่​หลง​เหลือ​ความ​น่า​หลงใหล​ให้​หมู่​ชน​นัก​เดิน​ทาง รุ่น​หลัง​ได้​รับ​รู้​อีก​ต่อไ​ป​​ ​ 48


พืชกินซาก… ชีวิตลึกลับแห่งพงไพร

เมื่อ​พืช​ไม่​สามารถ​สังเคราะห์​แสง​ได้​​ใน​บรรดา​พืช​ดอก ​ไม่​น้อย​กว่า​​2​​แสน​ชนิด​​มี​พรรณ​ไม้​อยูก่​ ลุ่มห​ นึ่ง​ซึ่ง​น่าส​ นใจ​ ยิ่ง​นัก​​เนื่องจาก​พวก​มัน​ไม่มี​ใบ​และ​ไม่​สามารถ​ผลิต​อาหาร​ สำหรับ​เลี้ยง​ตัว​เอง​ได้​​แต่ใ​ช้​วิธี​การ​ดูด​อาหาร​จาก​พืช​ชนิด ​อื่น​ๆ​​ซึ่งถ​ ือ​เป็นการ​ดำรง​ชีวิต​ขั้น​สูงสุด​ก็​ว่าไ​ด้​ ​โดย​ปกติเ​รา​แบ่ง​พืชอ​ อก​เป็น​​3​​กลุ่มใ​หญ่​ๆ​​คือ​​กลุ่มพ​ ืช​ ที่​สร้าง​อาหาร​ได้​เอง​​(​Autotrophic​​plant​)​​กลุ่มพ​ ืช​เบียน​ หรือ​พืช​กาฝาก​​(​Parasitic​​plant​)​​และ​กลุ่มพ​ ืช​กิน​ซาก​ ​(​Mycotrophic​​plant​)​​ซึ่ง​ผม​จะ​พา​ไป​ทำความ​รู้จักก​ ับ​ กลุ่ม​หลัง​กัน​​จะ​ได้​ทราบ​ว่า​เมื่อ​พืช​ไม่มใี​บ​​ไม่มี​สาร​สี​เขียว​ สำหรับ​สังเคราะห์​แสง​​ไม่​เบียดเบียน​พืช​ชนิด​อื่น​แล้ว​ พวก​มัน​เจริญ​เติบโต​ได้​อย่างไร​ ​ 49


50


พรรณ​ไม้​ใน​กลุ่ม​มาย​โค​โทร​ฟิค​(​​Mycotrophic​)​​หรือ​ กลุ่มพ​ รรณ​ไม้ก​ ิน​ซาก​​มี​ลักษณะ​เฉพาะ​ของ​กลุ่มค​ ือ​​ไม่มี​ สาร​สเี​ขียว ​หรือค​ ลอโรฟีลล์ส​ ำหรับช​ ่วย​ใน​การ​สังเคราะห์​ แสง​อยู่​เลย​​และ​ใบ​ก็​ลด​รูป​ลง​มา​เหลือ​เป็น​เพียง​เกล็ดเ​ล็กๆ​​ บน​ก้าน​และ​ตาม​ลำต้น​​หรือ​บาง​ชนิด​อาจ​ไม่ป​ รากฏ​ให้เ​ห็น​ เลย​​ทำให้ไ​ม่​สามารถ​ผลิตอ​ าหาร​ได้​เอง​​แต่​ได้​นำ​รา​เข้า​มา​ อยู่​ใน​เซลล์​และ​รา​ก็​ทำ​หน้าที่​นำ​อาหาร​จาก​ภายนอก​เข้า​มา​​ ส่วน​พืช​ใน​กลุ่ม​นี้​ก็​คอย​ปล่อย​น้ำ​ย่อย​​(​Enzyme​)​​ซึ่ง​เป็น​ สาร​โปรตีน​ออก​มา​เพื่อย​ ่อย​รา​บาง​ส่วน​​แล้ว​นำ​ไป​ใช้​เป็น​ อาหาร​​นัก​วิชา​การ​ได้​ทำการ​ศึกษา​พืช​กลุ่มน​ ี้​อย่าง​เข้ม​ข้น​ และ​สรุปอ​ อก​มา​ได้​ว่า​​พืช​ใน​กลุ่มน​ ี้​เป็น​พืช​เบียน​รา​​เพราะ​ว่า​ พวก​มัน​ไม่มี​ส่วน​ใน​การ​สร้าง​หรือ​ผลิต​อาหาร​เลย​​แต่​ได้​ ย่อย​สลาย​รา​เพื่อ​นำ​มา​เป็นธ​ าตุ​อาหาร​​อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​ พรรณ​ไม้​ไร้​คลอโรฟีลล์​เหล่า​นี้​​จะ​ไม่​สามารถ​ดำรง​ชีวิต​อยูไ่​ด้​ หาก​ปราศ​จาก​รา​คชู่​ ีวิต​ ภายใน​อุทยาน​แห่ง​ชาติ​ภู​สอยดาว​​สามารถ​พบ​พืช​กินซ​ าก​ได้​ หลาย​ชนิด​​ซง่ึ ​เป็น​พชื ​ใน​วงศ์​กล้วยไม้​​(​Orchidaceae​)​​ 3​​ชนิด​​และ​วงศ์​หรีด​​(​Gentianaceae​)​​1​​ชนิด​​และ​หาก​ มี​การ​สำรวจ​อย่าง​จริงจัง​เชื่อ​ว่าน​ ่า​จะ​มี​รายงาน​เพิ่ม​เติม​ แน่นอน​​สำหรับก​ ลุ่ม​กล้วยไม้ก​ ินซ​ าก​นั้น​​แต่ละ​ชนิด​กม็​ ี​ ความ​งดงาม​แปลก​ตา​ทั้งส​ ิ้น​​โดย​ทั้ง​​3​​ชนิด ​ได้แก่​ ​กล้วยไม้​มด​​(​Epipogium​​roseum (D.Don) Lindl.​)​ ​เอื้อง​แฝง​ภู​​(A​ phyllorchis​​montana​Rchb. f.)​​ เอื้อง​กลีบต​ ิด​​(​Gastrodia​​exilis​Hook. f.)​ กล้วยไม้มดดอกขาว (Didymoplexis pallens) กล้วยส้มสยาม (Didymoplexiella siamensis) ​โดย​ ทั้งหมด​นี้​ต่าง​ผลิ​ดอก​ให้​เห็น​ตั้ง​แต่​ใน​ช่วง​ต้น​ฝน​​จน​ช่วง​ท้าย​ ของ​ฤดู​ฝน​จึง​จะ​บาน​ทั้งหมด​​และ​อีกช​ นิด​ทมี่​ ี​ความ​น่า​สนใจ​ ไม่​น้อย​ก็​คือ​​ดอก​หรีดข​ าว​​(​Cotylanthera​sp.)​​ซึ่ง​มลี​ ำต้น​ สี​ขาว​ใส​ขนาด​เล็ก​​และ​ดอก​ส​มี ว่ ง​จาง​ๆ​กับ​เกสร​ส​เี หลือง​สด​​ พบ​ใน​ผนื ​ปา่ ​ท​ม่ี ​คี วามชืน้ ​สงู รวมถึงพืชกินซากขนาดเล็กในวงศ์ หญ้าข้าวก่ำ (Burmanniaceae)​​โดย​ทั้งหมด​นี้​นับ​ได้​ว่าเ​ป็น​ สิ่ง​มี​ชีิ​วิ​ต มหัศจ​ รรย์​แห่ง​พงไพร​เลย​ที​เดียว

51


52


เอื้องสีลา

Tainia viridifusca

53


แววมยุรา

Torenia sp.

54


กล้วยปลวก

Epipogium roseum

55


ดอกดินแดง

Aeginetia indica

56


เอื้องปีกไก่

Agrostophyllum brevipes

57


นกเด้าลมหลังเทา

Motacilla cinerea

58


ดอกไม้ป่า

นานาพันธ์ุ

59


กระโถนพระฤๅษี ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : S​ apria himalayana Griff. วงศ์ : Rafflesiaceae

กระโถนพระ​ฤๅษี​​​ขึ้น​ตาม​พื้น​ดินท​ ี่​ทับถม​ไป​ด้วย​ใบไม้​ที่ ​ผุ​เปื่อย​​มี​ความ​ชุ่มช​ ื้น​อยู่​ตลอด​ช​ ู​ช่อ​ตาม​พื้น​ดิน​ลักษณะ ​เป็น​​รูป​ถ้วย​ชา​ชนา​ดใ​หญ่​​คล้าย​กับก​ ระโถน​ปาก​บาน​ ​ดอก​สแ​ี ดง​สด​มีจดุ ​เหลือง​​สวด​สะดุดต​ า​​ราก​ของ ​กระโถน​​พระ ฤๅษี​เกาะ​ติดอ​ ยู่​กับเครือเถาน้ำ ​ถือ​เป็น​ พืชกาฝาก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยกย่องให้เป็นพืชที่มีวิวัฒนา การสูงสุด ดอก​​ออก​เดี่ยว​​ๆ​​หรือเ​ป็นก​ลุ่ม​​ดอก​อ่อน​รูปร​่าง​ กลม​ขนาด​เท่า​ผล​มะนาว​​เมื่อ​บาน​เต็ม​ที่​มี​ขนาด​กว้าง​​ 10​-1​ 5​​ซม.​​กลีบ​ดอก​มีลักษณะอุ้มน้ำต​ ิด​กัน​​ต่อ​จาก​ฐาน​ ดอก​แข็ง​ๆ​​ส่วน​ปลาย​แยก​เป็น​แฉก​ประมาณ​​ 10​แ​ ฉก​​บริเวณ​กึ่งกลาง​หลอด​ด้าน​ใน​จะ​มพี​ ังผืด​ติด​อยูเ่​ป็น​ รูป​วงแหวน​​มอง​เห็น​เกสร​สี​สวย​ประมาณ​​20​​อัน​​ ​ออกดอก​ราวเดือน​พฤศ​จิ​กาย​น​-​เดือนมกราคม​

60


หงอนนาค

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Murdannia gigantea (Vahl) G.brückn. วงศ์ : Commelinaceae หงอน​นาค​​บาง​ท้อง​ถิ่น​​เรียก​ว่า หญ้าห​ งอน​เงือก​ ​หรือ น้ำค้าง​กลาง​เที่ยง​​เป็นด​ อกไม้​สีห​วาน​สดใส​​ พบ​เฉพาะ​ใน​ธรรมชาติเ​ท่านั้น​​เจริญ​เติบโต​ได้​ดี​บน ​ยอด​ภูเขา​สูง​ทอี่​ ากาศ​หนาว​เย็น​​ลักษณะ​เป็น​พืช​ล้มลุก​ ​ขึ้น​กัน​เป็นก​ลุ่มข​ นาด​ใหญ่​​ลำต้น​สูง​ประมาณ​​1​​เมตร​​ ใบ เป็น​รูปด​ าบ​ยาว​​15​-​40​​ซม​.​​กว้าง​​4​-​12​​ซม​.​ ​ดอก​ออก​เป็น​ช่อ​ตั้งท​ ี่​ปลาย​กิ่ง ​หรือ​ปลาย​ยอด​​สีชมพู​ ค่อนข้างหายาก​​​กลีบ​ดอก​มี​สาม​กลีบ​ดอก​ตรง​กลาง​ ตั้ง​ฉาก​กับ​ดอก​ด้าน​ข้าง​​จะ​บาน​เมื่อ​เจอ​แสงแดด​​ ส่วน​ล่าง​ของ​ดอก​มัก​มี​น้ำค้าง​ติด​อยูท่​ ุก​ดอก​​แม้​จะ​อยูใ่​น ​ช่วง​ที่​แดด​จัด​ก็ตาม​​จน​ได้​รับ​ฉายา​ว่า​​“​น้ำค้าง​กลาง​เที่ยง​”​ ​ออกดอก​ตลอด​ปี​​โดย​เฉพาะ​ใน​ฤดู​ฝน ช่วง​เดือนกันยายน​-​เดือนตุลาคม​​พบ​มาก​ทาง​ภาค​เหนือ และภาค​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​​

61


รองเท้านารี อินทนนท์

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Paphiopedilum villosum (Lindl.) Stein วงศ์ : Orchidaceae รองเท้าน​ ารี​อิน​ทนนท์​​เป็นก​ ล้วยไม้อ​ ิง​อาศัย​มักข​ ึ้น​อยูต่​ าม​ ต้นไม้เ​ปลือก​หนา​​ปกคลุมด​ ้วย​มอสส์​​​เฟิน​ต​ ะไคร่​น้ำ​โ​ดย​ จะ​หยั่ง​ราก​ใป​ตาม​เปลือก​ไม้​​มี​ลำต้นส​ ั้น​และ​แตก​กอ​​ใบ​​รูป​ แถบขอบ​ขนาน​​ยาว​ประมาณ​​20​-​25​​ซม​.​​ปลาย​ใบ​หยัก​ แหลม​​ผิว​ใบ​ด้าน​บน​สี​เขียว​เข้ม​​โคน​สี​ม่วง​แกม​แดง​​ ​ดอก​ออก​เดี่ยว​​ๆ​​ตาม​ซอก​ใบ​​สี​เขียว​หรือ​สี​เขียว​จุด​ม่วง​ ​มี​ขน​ยาว​นุ่ม​ปกคลุม​​กลีบ​ดอก​เป็น ​ช้อน​บิด​และ​แผ่​โค้ง​​ แถบ​บน​สี​น้ำตาล​อม​แดง​​แถบ​ล่าง​สี​เหลือง​​ออกดอก​​ใน​เดือน​ ธันวาคม​-​เดือนกุมภาพันธ์​​นับ​เป็น​พืช​หา​ยาก​อีกช​ นิด​หนึ่ง​ใน​ ประเทศ​ไทย​​พบ​​​บริเวณ​ป่าดิบ​เขา​​ความชื้น​สูง​และ อุณ​ภูมิ​ต่ำ​ในภาค​เหนือแ​ ละภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ​

62


ว่านไก่แดง

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Aeschynanthus andersonii C.B.Clarke วงศ์ : Gesneriaceae ​ว่าน​ไก่​แดง​เป็น​พืชอ​ ิง​อาศัย​เช่น​เดียว​กับก​ ล้วยไม้​​ ขึ้น​เป็นต้นเ​ดี่ยว​​ๆ​​หรือเ​ป็นก​ อ​สูง​ไม่เ​กิน​​40​​ซม​.​ ​ชอบ​ความชื้น​และ​อากาศ​เย็น มักเ​กาะ​อยู่​ตาม​ต้นไม้​ใหญ่​​ ลำต้น​คดงอ​และ​ค่อน​ข้าง​เป​ราะ​​ขึ้น​ตาม​ภูเขา​ที่​สูง​จาก​ระดับ​ น้ำ​ทะเล​​ตั้ง​แต่​​1,000​​ม. ขึ้นไป​​พบ​มาก​ใน ​ภาค​เหนือ​​ใบ​เล็กข​ อบ​ขนาน​รูป​หอก​​กว้าง​ประมาณ​ ​1​​ซม​.​​​ยาว​ประมาณ​​3​​ซม​.​​ขอบ​ใบ​เรียบ ​หรือห​ ยักเ​ป็น​ คลื่นบ​ ้าง​เล็กน​ ้อย​​ท้อง​ใบ​มี​ขน​ยาว​ประปราย​​ส่วน​หลังใ​บ​ เกลี้ยง ห​ รือเ​กือบ​เกลี้ยง​​ดอก​สี​แดง​สด​สะดุด​ตา​ออก​ตาม​ ยอด​เดี่ยว​​ๆ​​หรือ​เป็น​กระจุก​​แต่ละ​ดอก​มี​ก้าน​เรียว​ยาว​ ประมาณ​​1​​ซม​.​​ชู​ดอก​ตั้ง​ตรง​​กลีบด​ อก​เป็น​หลอด​ยาว​โค้ง​ คล้าย​มีด​ขอ​​หรือ​รูปแ​ ตรงอน​ยาว​ประมาณ​​3​-​4​​ซม​.​​ปลาย​ หลอด​ผาย​ออกและ​หยัก​เป็นก​ลีบ​​บริเวณ​ปาก​หลอด​มี​ ขน​ประปราย​

63


เอ็นอ้าขน

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Osbeckia stellata Buch.-Ham.ex KerGawl. วงศ์ : Melastomataceae เอ็น​อ้า​ขน​​เป็นไ​ม้​พุ่มเ​ตี้ย​สูง​ประมาณ​​2​​เมตร​​ลำต้นก​ ลม​ ยาว​สี​เขียว​​และ​มขี​ น​ปกคลุมอ​ ยู่​​ใบ​เป็น​รูป​รขี​ อบ​ขนาน​ ปลาย​แหลม​​ยาว​ประมาณ​​7​-​14​​ซม​.​​ดอก​ออก​เป็น​ช่อ​ที่​ ปลาย​กิ่ง​มีด​อก​ย่อย​จำนวน​มาก​​ดอก​สี​ม่วง​​4​​กลีบ ​บาน​อ้า​เต็ม​ที่​กลีบจะงองุ้ม ​ออก​ดอกตลอด​ปี​​กระ​จาย​พันธ์​ุ อยู่​ใน​แถบเขต​ร้อน​ของ​ทวีป​เอเชีย​​ใน​ประเทศ​ไทย​พบ​ได้ท​ ุก​ ภูมิภาค​ท​ ี่​พื้นทีช่​ ุ่มช​ ื้น​ริม​น้ำ​​ภูเขา​สูง​​ทุ่ง​หญ้า​ป่าส​ น​เ​ป็น​ พืช​ที่​อยู่​ใน​วงศ์​เดียว​กับโคลงเคลง​แต่​ต่าง​สกุล​กัน​ม​ ี​ประ​โยชน์ ทาง​สมุน​ไพร​​ราก​สามารถ​นำ​มา​ต้ม​กิน​แก้โ​รค​บิด​ได้​

64


ดอกแตรวง

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Lilium primulinum Baker var. burmanicum Stern วงศ์ : Liliaceae ลิลลี่​ป่า​​ลิลลี่​ดอย​หรือด​ อก​แตรวง​​เป็น​พืช​หา​ยาก​ชนิด​หนึ่ง​​ มี​ลักษณะ​เป็น​พืชล​ ้มลุก​มเี​หง้า​อยูใ่​ต้ดิน​​ลำต้น​เจริญเ​ติบโต​ได้​ ดี​ใน​ฤดู​ฝน​และ​จะ​แห้ง​ไป​ใน​ฤดู​แล้ง​​หัว​ใต้ดิน​จะ​แตก​ใหม่ฤ​ ดู​ ฝน​ถัด​ไป​​มี​ลำต้น​ทแี่​ ข็ง​ตั้ง​ตรง​​สูง​ประมาณ​​1​-​1.5​​ม. ​ใบแข็ง​​เรียว​เล็ก​ยาว​​ออก​ดอก​ที่​ปลาย​ยอด​​มี​​6​​กลีบ​​ ปลาย​กลีบ​ม้วน​โค้ง​ขึ้น​ดา้ น​บน​ดอกทยอย​บาน​จาก​ลา่ ง​ขน้ึ ​บน​ จน​สดุ ​ปลาย​ยอด​เกสร​ห้อย​ลง​​ออกดอก​ใน​ช่วง​ เดือนสิงหาคม-เดือนกันยายน​​พบ​ใน​ช่วง​ความ​สูง​ จากระดับน​ ้ำ​ทะเล​1,500​เ​มตร​ขึ้น​ไป​

65


อั้วเขากวาง

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Habenaria limprichtii Schltr. วงศ์ : Orchidaceae อัว้ ​เขา​กวาง​เป็น​กล้วยไม้ด​ ิน​ขนาด​เล็ก​ทพี่​ บ​ได้​ยาก​ข​ ึ้น​ใน​ บริเวณ​พื้นที่​ค่อน​ข้าง​เปิดโ​ล่ง​ริมทุ่ง​หญ้า​​ใน​ผืน​ป่าดิบ​เขา​ พบ​ใน​บริเวณ​ภูเขา​สูง​ทมี่​ ี​อากาศ​หนาว​เย็น​​ชอบ​ความชื้น​สูง​​ ใน​อุทยาน​แห่งช​ าติภ​ ู​สอยดาว​พบ​ได้ทบี่​ ริเวณ​เนิน​มรณะ​​ ก่อน​ถึง​ลาน​สน​บน​ยอด​ภู​สอยดาว​​ต้อง​ใช้ค​ วามพ​ยา​ยาม อย่าง​มาก​ใน​การ​เดิน​ชม​​เนือ่ งจาก​เป็น​พชื ​ท​ข่ี น้ึ ​บริเวณ​ความ​สงู ​ จาก​ระดับ​น้ำท​ ะเล​​1,500​​เมตร​​มัก​ขึ้นเ​ป็นก​ลุ่มเ​ล็ก​​บริเวณ​ พุ่ม​ไม้​มีก​ ้าน​ดอก​ยาว​​ดอก​ออก​เป็น​ช่อท​ ี่​ปลาย​​ ครั้งล​ ะ​ประมาณ​​3-​​6​​ดอก​​ดอก​บาน​ใหม่ ๆ​ ​สี​เขียว​ใส ​และ​จะ​เปลี่ยน​เป็นส​ ี​ขาว​สวยงาม​เมื่อ​บาน ​หลาย​วัน​กลีบ​ปาก​แผ่ก​ ว้าง​และ​มรี​ยางค์​คล้าย​เขา​กวาง​​​

66


ชมพูนุช

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Pedicularis evardii Bonati วงศ์ : Scrophulariaceae ชมพู​นชุ ​​เป็นไ​ม้​ลม้ ลุกข​น้ึ ​เป็น​กอ​​ท​จ่ี ะ​ไม่​แผ่​ขยาย​พนั ธ์​ใุ น​ วง​กว้าง​เหมือน​หญ้า​อน่ื ​​ๆ​​มอี ายุ​ป​เี ดียว​​หรือ​หลาย​ป​ี ​ม​ใี บ​แบบ​ ขน​นก​​ใบ​เดีย่ ว​​ดอก​ออก​เป็น​ชอ่ ​ตาม​ซอก​ใบ​​สชี มพู​สวยงาม​​ พบ​ใน​ทาง​ภาค​เหนือ​ของ​ประเทศ​ไทย​​บริเวณ​ปา่ ดิบ​เขา​ใน​ระดับ​ ความ​สงู ​​ชอบ​อากาศ​เย็น​​ม​คี วาม​ชมุ่ ​ชน้ื ​​จดั ​อยู​ใ่ น​ไม้​สกุล​ชมพู​ เชียงดาว​​ซง่ึ ​ม​สี มาชิก​อยู​ป่ ระมาณ​​600​​ชนิด​​ทว่ั ​โลก​ ​โดย​เฉพาะ​เข​ตอัล​ไพน์​ทาง​ตะวัน​ตก​ของ​จนี ​และ​แถบ​ห​มิ าลัย​​ ใน​ไทย​พบ​​4​​ชนิด​​ได้แก่​​จนั ทร์​เชียงดาว​​ชมพู​เชียงดาว​​ พู​ช่ มพู​​รวม​ถงึ ​ชมพู​นชุ ​

67


เอื้องแฝงภู

ชือ่ ​วทิ ยาศาสตร์ : A​ phyllorchis montana Rchb.f. วงศ์ : Orchidaceae เอื้อง​แฝง​ภู กล้วยไม้กินซาก ​ขึ้น​ใน​ป่าดิบ​ชื้น​ล​ ำต้น​เป็น​ เหง้า​ทอด​ขนาน​อยู่​ใต้ดิน​​มี​ช่อ​ดอก​แทง​ขึ้น​เหนือ​พื้น​ดิน​ ราว​​1 ม. ​โคน​ก้าน​ใหญ่​มี​กาบ​ปกคลุมเ​ป็น ​จำนวน​มาก​​ดอก​กว้าง​ประมาณ​​2​-​3​​ซม​.​​ กลีบ​เลี้ยง​และ​กลีบด​ อก​แถบ​แกม​รูป​หอก​​สี​เหลืองอ่อน​ มี​เส้นส​ ี​น้ำตาล​​2-​​4​​เส้น​​เอียง​ขนาน​กับก​ ลีบป​ าก​รูป​หัวใจ​​ พบ​ได้​ทาง​ภาค​เหนือ​ของ​ประเทศ​ไทย​ ​ใน​ช่วง​เดือน​ตุลาคม​-เดือนพฤศจิกายน​​

68


สร้อยสุวรรณา ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Utricularia bifida L วงศ์ : Lentibulariaceae

สร้อย​สุ​วรรณ​า​​เป็นพ​ ืช​ล้มลุกอ​ ายุ​ปี​เดียว​​มักข​ ึ้น​เป็น​ กอ​เล็ก​ๆ​​สูงป​ ระมาณ​​10​-​15​​ซม​.​​พบ​ใน​ที่​ชื้น​แฉะ ​แถบ​เอเชีย​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้​​ดอก​สี​เหลือง​สด​ออก​เป็น​ ช่อ​ตั้ง​จาก​โคน​กอ​​มีด​อก​ย่อย​​2​-​6​​ดอก​​กลีบ​ดอก​โคน​เชื่อม​ ติดก​ ัน​เป็น​ดอก​​มี​ใบ​ออก​เดี่ยว​ขนาด​เล็ก​​เรียง​เวียน​รอบ​ โคน​ต้น​​มี​อวัยวะ​จับ​กิน​แมลง​ตาม​ข้อข​ อง​ไหล หรือบ​ น​ใบ​​ บริเวณ​โคน​มี​เส้น​สแี​ ดง​เข้มต​ าม​ยาว​​กลีบ​ล่าง​มน​กลม​ หรือ​แยก​เป็น​​2​​พู​​เจริญ​เติบโต​ได้ด​ ี​ตาม​พื้น​โล่ง​ ​บน​ลาน​หินทราย​​

69


สิงโตรวงข้าว

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Bulbophyllum morphologorum F. Kranzl. วงศ์ : Orchidaceae สิงโต​รวง​ข้าว​​เป็น​กล้วยไม้​อิง​อาศัย​​ใบ​เป็น​รูปร​ี​แกม ​ขอบ​ขนาน​เรียว​ยาว​​ปลาย​ใบ​แหลม​​ยาว​ประมาณ​​ 13​-​15​ซ​ ม​.​​ลำ​ลูก​กล้วย​ผิว​สี​เขียว​อม​เหลือง​เป็น​ สัน​เล็ก​น้อย​คล้าย​รูปไ​ข่​​ดอก​มี​กลิ่นเ​หม็น​​ออก​เป็น​ช่อก​ ระ จะ​ตั้ง​จาก​โคน​กอ​​กลีบ​ดอก​เป็น​รูป​สามเหลี่ยม​สี​เหลือง​ขุ่น​ ปลาย​เรียว​ยาว​​ขอบ​หยักไ​ม่​เป็น​ระเบียบ​​พบ​ใน​ป่าดิบ​เขา​ ในอากาศ​เย็น​และ​ชุม​ชื้น​ตลอด​ทั้ง​ปี​​

70


กุหลาบขาว

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Rhododendron lyi H. Lév. วงศ์ : Ericaceae กุหลาบ​ขาว​​เป็น​ไม้​พุ่ม​เตี้ย​​ใบ​เดี่ยว​ออก​เรียง​เวียน​สลับ​ เป็นก​ลุ่ม​ที่​ปลาย​กิ่ง​​แผ่นใ​บ​รูป​ไข่ก​ ลับ​​ยาว​​4​-​7​​ซม​.​​ ปลาย​แหลม​​มี​ติ่งโ​คน​สอบ​เข้าหา​กัน​​กิ่ง​อ่อน​มี​ขน​ และ​เกล็ด​สี​น้ำตาล​ปกคลุม​​ออกดอก​สี​ขาว​สะอาด​เป็น​ ช่อ​ที่​ปลาย​กิ่ง​​กลีบด​ อก​มี​​5​​กลีบ​​เชื่อม​กันค​ ล้าย​รูป​แตร​​ ด้าน​ใน​มี​จุด​ประ​สเี​หลือง​​ผล​เป็น​รูปร​ี​​ผิว​ขรุขระ​​อาศัย​ลม​ ช่วย​กระ​จาย​พันธ์​ุเป็นห​ ลัก​​พบ​มาก​ทาง​ภาค​เหนือ​และ​ ภาค​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ไทย​​ขึ้น​เป็นก​ลุ่ม​ใหญ่​ บน​สันเขา​ที่​โล่ง​แจ้ง​ตาม​โขด​หิน​​ออกดอก​ใน​ช่วง​ เดือน​กุมภาพันธ์-​​เดือนพฤษภาคม​

71


หยาดน้ำค้าง

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Drosera peltata Sm. วงศ์ : Droseraceae หยาด​น้ำค้าง​หรือหญ้าไฟตะกาด ​พืช​กิน​แมลง​ที่​มหี​ ัวใ​ต้ดิน​ ขนาด​เล็ก​​ใบ​ตาม​ลำต้น​แบบ​ก้น​ปิด​รูป​สามเหลี่ยม​ ​เส้น​ผ่าน​ศูนย์กลาง​​0.3​-​0.6​​ซม​. ​ ผิวด้านบนและขอบใบมีขนยาวสีแดง ปลายขนมีหยดน้ำเหนียวใส มีไว้เพื่อดักจับแมลง ​ ดอก​เป็น​ช่อต​ ั้ง​ตรง​​ไม่​แตกแยก​แขนง​​ใบ​ที่​โคน​หลุด​ร่วง​ง่าย​​ กลีบ​เลี้ยง​รูป​ไข่แ​ กม​รูปร​ี​ขอบ​เป็นช​ าย​ครุย​​กลีบด​ อก​สี​ขาว​ รูป​ไข่​​ยาว​​0.5​-​0.6​​ซม​.​​มี​เขต​การ​กระ​จาย​พันธ์ุ​กว้าง​ใน​ แถบ​ประเทศ​เอเชียต​ ะวัน​ออก​เฉียง​ใต้​​ศรีล​ ังกา​​จีน​ญ ​ ี่ปุ่น​​ และ​ออสเตรเลีย​​ส่วน​ใน​ไทย​สามารถ​พบ​ได้​ทุกภ​ าค​ขึ้น​ตาม​ ที่​ชื้น​แฉะ​​ใน​ทโี่​ล่ง​และ​ดิน​ทไี่​ม่​สมบูรณ์​​ ​

72


หางหมาจอก

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Uraria crinita (L.) Desv. ex DC. วงศ์ : Leguminosae-Papilionoideae หาง​หมา​จอก ​หรือ​หาง​กระรอก​​และ​อีกห​ ลาย​หลาก​ชื่อ ​เรียก​แตก​ต่าง​กัน​ไป​ใน​แต่ละ​ท้อง​ถิ่น​​​เป็น​ไม้ท​ ี่​ขึ้น​อยูท่​ ั่วไป​ใน​ ทุก​ภาค​ของ​ไทย​​ใน​พื้นที่​ดิน​ร่วน​ปน​ทราย​​ เป็น​ไม้​พุ่มล​ ำต้น​ตั้งต​ รง​สูง​​30​-​120​​ซม​.​ดอก​ของ​มัน​มี​ ความ​โดด​เด่น​มาก​​มีด​อก​ย่อย​เรียง​อัดต​ ัว​กัน​แน่น​ ​สี​ม่วง​อม​ชมพู​​ก้าน​ดอก​ย่อย​และ​กลีบเ​ลี้ยง​มี​ปุยข​ น​ยาว​ ปกคลุม​หนา​แน่น​​นอกจาก​ความ​สวยงาม​แล้ว​​ส่วน​ราก ​ของ​มัน​ยัง​มี​ประโยชน์​อย่าง​กว้าง​ขวาง​​สามารถ​นำ​ไป ​ทำ​ยา​รักษา​ได้​หลาย​โรค​​ทั้งคน​และ​สัตว์​

73


เอือ้ งแซะภูกระดึง

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Dendrobium christyanum Rchb.f. วงศ์ : Orchidaceae เอือ้ ง​แซะ​ภกู ระดึง​​เป็น​กล้วยไม้​องิ ​อาศัย​ท​ส่ี วยงาม​ จะ​บาน​เฉพาะ​บน​ยอด​ดอย​สงู ​ท​ม่ี ​อี ากาศ​เย็น​​ม​ลี ำต้น​เป็น​ ทรง​ร​ี ​ปล่อง​ตรง​กลาง​​ม​คี วาม​สงู ​​6​-​12​​​ซม​.​​ส​เี ขียว​เข้ม​ อม​นำ้ ตาล​​ใบ​เป็น​รปู ​ร​สี ​เี ขียว​เข้ม​​ปลาย​แหลม​​ยาว​4​ ​-​6​​ซม​.​ กว้าง​​1.5​ซ​ ม​.​ด​ อก​เกิด​ท​ข่ี อ้ ​ใกล้ป​ ลาย​ยอด​หรือ​ท​ย่ี อด​​โดย​ ออก​เป็น​ชอ่ ​สน้ั ​ๆ​​1​-​2​​ดอก​ด​ อก​กว้าง​ประมาณ​​2-​​2.5​​ซม​.​​ กลีบ​เลีย้ ง​และ​กลีบ​ดอก​ส​ขี าว​แกม​สม้ ​​ปลาย​แหลม​​กลีบ​ปาก​ ใหญ่​กว่า​กลีบ​อน่ื ​ๆ​​เอือ้ ง​แซะ​ภกู ระดึง​เป็น​กล้วยไม้​ท​ม่ี ี​ กลิน่ ​หอม​จะ​ออกดอก​ใน​ชว่ ง​เดือน​​พฤษภาคม​-​เดือนสิงหาคม​ ​สามารถ​พบ​ได้​ใน​ปา่ ดิบ​เขา​​ปา่ ส​ นเขา​ป​ า่ ดิบ​แล้ง​​ท​ม่ี ค​ี วาม​สงู ​ตง้ั ​แต่​​1,000​เ​มตร​จาก​ระดับ​นำ้ ​ทะเล​ปาน​กลาง​​

74


บัวทอง

ชือ่ ​วทิ ยาศาสตร์ : Hypericum hookerianum Wight & Arn. วงศ์ : Guttiferae บัว​ทอง​​ไม้​พมุ่ ​​ทรง​กลม​​สงู ไ​ด้​ประมาณ​1​ -2​ม.​ใ​บ​เดีย่ ว ​เรียง​ตรง​ขา้ ม​​ใบ​รปู ​ไข่​​รปู ​ขอบ​ขนาน​หรือ​รปู ​ใบ​หอก​ ​ยาว​​2​-​7​​ซม​.​ปลาย​ใบ​แหลม​หรือ​กลม​​โคน​ใบ​รปู ​ลม่ิ ​หรือ ​รปู ​คล้าย​รปู ​หวั ​ใจ​ตน้ื ​ๆ​​ม​ตี อ่ ม​กระจาย​​เส้น​แขนง​ใบ​​2​-​4​​ค่​ู ​ ก้าน​ใบ​สน้ั ​​ยาว​​0.1​-​0.4​​ซม​.​​ดอก​ออก​เป็น​ชอ่ ​กระ​จกุ ​สน้ั ๆ​​ มี​​1​-​5​​ดอก​​ดอก​รปู ​ถว้ ย​​ขนาด​เส้น​ผา่ น​ศนู ย์กลาง​​3​-​6​​ซม​.​ กลีบ​เลีย้ ง​และ​กลีบ​ดอก​ม​จี ำนวน​อย่าง​ละ​​5​​กลีบ​​กลีบ​ดอก​สี​ เหลือง​ทอง​หรือ​เหลือง​ออ่ น​​รปู ​ไข่​​บวั ​ทอง​ม​เี ขต​การ​กระ​จาย​พนั ธ์​ุ กว้าง​​ใน​เขต​เอเชีย​​ใน​ประเทศ​ไทย​พบ​เฉพาะ​ทาง​ภาค​เหนือ​ ​ขน้ึ ​ตาม​ชาย​ปา่ ดิบ​เขา​​ระดับค​ วาม​สงู ​​1,600​-2​ ,500​เ​มตร จากระดับน้ำทะเล​

75


สิงโตปากนกแก้ว

ชือ่ ​วทิ ยาศาสตร์ : B​ ulbophyllum psittacoglossum Rchb.f. วงศ์ : Orchidaceae

สิงโต​ปากนก​แก้ว​​หรือ​สงิ โต​ลน้ิ ​นก​แก้ว​​เป็น​กล้วยไม้​องิ ​อาศัย​ ขนาด​เล็ก​​ลำต้น​เจริญท​ าง​ด้าน​ข้าง​​ลำ​ลูกก​ ล้วย​เป็น​รูป​ไข่​ แกม​ทรง​กระบอก​​ลำต้น​เรียง​ชิด​ติด​กัน​และ​ทอด​เอน​ไป ​สู่​ยอด​แ​ ผ่น​ใบ​หนา​ยาว​​7​-​9​​ซม​.​กว้าง​​2.5​-​3​​ซม​.​​ ดอก​ออก​เป็น​ช่อส​ ี​เหลือง​สด ​มี​เส้น​สี​แดง​ขีด​ตาม​ความ​ยาว​ ของ​กลีบ​กลิ่นห​ อ​มอ่อน ๆ​​ก้าน​ช่อ​สั้น​​ก้าน​ดอก​สี​เหลือง​ มี​จุดป​ ระ​สี​แดง​​กลีบ​ปาก​เป็น​รูป​แถบ​หนา​อ้วน​สี​ม่วง​แดง​​ สามารถ​พบ​ได้ท​ าง​ภาค​เหนือ​และ​ภาค​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​ ซึ่ง​จะ​ออกดอก​ชู​ช่อใ​ห้​พบเห็น​บน​ป่าดิบเ​ขา ​ใน​เดือน​พฤษภาคม​-เดือน​มิถุนายน​​

76


เอื้องเทียนหนู

ชือ่ ​วทิ ยาศาสตร์ : Coelogyne schultesii S.K. Jain & วงศ์ : Orchidaceae

S. Das

เอื้อง​เทียน​หนู​หรือเอื้องหินเ​ป็น​กล้วยไม้อ​ ิง​อาศัย​ลำ​ลูก​ กล้วย​รูปร​ี​​กว้าง​​2​​ซม​.​ยาว​ประมาณ​​4​-​5​​ซม​.​​ใบ​รูป​รี​มี​ ความ​กว้าง​​2.5​-​3​​ซม​.ย​ าว​​12-​15 ​ซม​.​​แผ่น​ใบ​เหนียว​ ​มี​สเี​ขียว​เข้ม​เป็น​มัน​​ช่อด​ อก​แบบ​กระจะ​เกิด​ที่​ยอด​ค่อน​ไป​ ทาง​ปลาย​ช่อ​และ​ค่อน​ข้าง​โปร่ง​​ช่อด​ อก​ยาว​​12​-​18​​ซม​.​ ดอก​ใน​ช่อ​​5-​​10​​ดอก​​ดอก​มี​ขนาด​ประมาณ​​1​-​1.2​​ซม​.​ กลีบ​เลี้ยง​และ​กลีบด​ อก​มสี​ ี​น้ำตาล​​กลีบด​ อก​เรียว​บาง​ ​กลีบ​ปาก​สี​ขาว​​มี​แถบ​สี​น้ำตาล​กลาง​กลีบ​​ปลาย​กลีบเ​ว้า​ลึก​​ เอื้อง​เทียน​หนูพ​ บ​ได้​ใน​พื้นทีป่​ ่าดิบ​ทาง​ภาค​เหนือและ ​ภาค​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​​ช่วง​ฤดู​ดอก​จะ​เป็น​ช่วง ​เดือน​กรกฎาคม​-เดือน​สิงหาคม​​

77


เอือ้ งเบีย้ ไม้ ใบขน

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Trichotosia dasyphylla (Parish & Rchb.f.)

F. Kränzl.

วงศ์ : Orchidaceae เอื้อง​เบี้ยไ​ม้​ใบขน​​หรือส​ าม​ก้อม​​เป็น​กล้วยไม้อ​ ิงอ​ าศัย​ ​ดอก​ขนาด​เล็ก​กลีบ​ปาก​ดอก​มี​สี​เหลืองที่มีความแตก​ต่าง​กัน​ ไป​ตั้ง​แต่​​สีอ่อน​จนถึง​สี​เข้ม​สด​​ลักษณะ​ใบ​เกือบ​กลม​ใน​หนึ่ง​ ต้น​จะ​มี​ใบ​แค่​​2-​​4​​ใบ​และ​ใบ​มขี​ นาด​เล็ก​อวบ​น้ำ​มี​ขน​แข็ง ​สี​ขาว​ปกคลุม​​กลีบเ​ลี้ยง​มขี​ น​แข็งส​ ี​ขาว​ปกคลุมเ​ช่นเ​ดียว​ กับ​ใบ​​มัก​เกาะ​กลุ่มเ​ป็น​เหง้า​ใหญ่เลื ​​ ้อย​แตก​แขนง​มาก​ตาม​ ต้นไม้​ยืนต้น​​ออกดอก​ช่วง​เดือน​มิถุนายน​-เดือน​กรกฎาคม​ มัก​เกาะ​ตาม​เปลือก​ต้นไม้​บริเวณ​ริม​หน้าผา​ทมี่​ ี​ลม​พัด​

78


เอื้องดินลาว

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Spathoglottis pubescens Lindl. วงศ์ : Orchidaceae เอื้อง​ดิน​ลาว​หรือบานจ้วน ​มี​ลำต้น​ใต้ดิน​แปรรูปเ​ป็น​หัว​ สะสม​อาหาร​​ใบ​เป็น​รูปแ​ ถบ​​ปลาย​ใบ​แหลม​​มี​สี​เขียว​​ เรียง​ตัว​แบบ​สลับ​​แผ่น​ใบ​มี​รอย​พับ​จีบ​​ช่อ​ดอก​เป็น​แบบ​ ช่อ​กระจะ​​ก้าน​ช่อด​ อก​แข็ง​และ​ตั้ง​ตรง​​มขี​ น​ละเอียด​ปกคลุม​ ดอก​เป็น​ดอก​สมบูรณ์เ​พศ​แบบ​สมมาตร​ด้าน​ข้าง​​มี​กลีบเ​ลี้ยง​​ 3​​กลีบ​​กลีบด​ อก​​3​​กลีบ​​กลีบป​ าก​มี​​3​​แฉก​เอื้อง​ดิน​ลาว ​มีด​อก​สี​เหลือง​ถึง​เหลือง​เข้ม​​หูก​ลีบป​ าก​​มี​เส้น​สี​แดง​จาง​​ ส่วน​เอื้อง​ดินล​ าว​มี​สแี​ ดง​เข้ม​เส้า​เกสร​เรียว​ยาว​​กลุ่มเ​รณู​มี​​ 8​​อัน​​รูปร​่าง​คล้าย​กระบอง​

79


ประทัดดอย

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Agapetes lobbii C.B. Clarke วงศ์ : Ericaceae ประทัด​ดอย​​หรือ​สะเม็ก ​เป็น​ไม้​พมุ่ ​องิ ​อาศัย​​แตก​กง่ิ ​ระ​เกะ​ ระกะ​​ม​รี าก​อวบ​ขนาด​ใหญ่​​อมุ้ ​นำ้ ​​เกาะ​ตาม​ตน้ ไม้ใ​หญ่​ท​ม่ี ​ี มอสส์​ปกคลุม​​ใบ​เดีย่ ว​​เรียง​เวียน​สลับ​เป็นก​ลมุ่ ​​ปลาย​ใบ​ เรียว​แหลม​​ขอบ​ใบ​เรียบ​​เป็น​แผ่น​หนา​​ดอก​ส​แี ดง​ออก​เป็น​ ช่อย​ าว​ไม่​แตก​แขนง​ตาม​กง่ิ ​​เมือ่ ​บาน​จะ​คว่ำ​ลง​ส​พู่ น้ื ​คล้าย​รปู ​ ระฆัง​​กลีบ​ดอก​ตดิ ​กนั ​เป็น​หลอด​​ปลาย​กลีบ​มว้ น​ตลบ​ไป​ดา้ น​ หลัง​​พบ​ท​ภ่ี าค​เหนือ​และ​ภาค​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​​ใน​ปา่ ดิบ​ เขา​ทค​่ี อ่ น​ขา้ ง​โปร่ง​​ท​ร่ี ะดับ​ความ​สงู ​​1,000​-​2,300​​เมตร ​ จาก​ระดับ​นำ้ ​ทะเล​

80


เอื้องลิ้นมังกร

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Habenaria rhodocheila Hance. วงศ์ : Orchidaceae เอือ้ ง​ลน้ิ ​มงั กร​​กล้วยไม้​ดนิ ​ขนาด​เล็ก​​สสี นั ​สดใส​​ท​จ่ี ะ​บาน​ ประดับ​ผนื ​ปา่ ​ใน​ชว่ ง​ฤดู​ฝน​​ดว้ ย​กลีบ​ดอก​ส​สี ม้ ​สดใส​​กบั ​ชอ่ ​ดอก​ ดู​แข็ง​แรง​เมือ่ ​เทียบ​กบั ​ขนาด​ของ​ลำต้น​​มกั ​ขน้ึ ​อยู​บ่ น​ฮวิ มัส​ซง่ึ ​อยู่​ บน​หนิ ​ท​ร่ี ะบาย​นำ้ ไ​ด้ด​ ​ี ​ใบ​ขนาด​ไม่​ใหญ่​นกั ​ปลาย​แหลม​ ​มกั ​อยู​ร่ วม​กนั เ​ป็นก​ลมุ่ ​พบ​ได้​ทว่ั ไป​ใน​พน้ื ที​ต่ า่ ง ๆ​ข​ อง ​ประเทศ​ไทย​​สำหรับ​ชนิด​ท​พ่ี บ​ใน​อทุ ​ยาน​ฯ​​ภ​สู อยดาว​ ​มดี ​อก​ส​สี ม้ ส​ ด​ใส​​กบั ​กลีบป​ าก​ขนาด​ใหญ่​ท​เ่ี ป็น​แฉก​แปลก​ตา​​ จน​ได้​รบั ​ชอ่ื ​วา่ ลิน้ ​มงั กร​​กล้วยไม้​ชนิด​น​ม้ี ​คี วาม​หลาก​หลาย​ใน​ สีสนั ​อย่าง​มาก​​

81


เอื้องพลายงาม

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Pleione praecox (Sm.) D. Don วงศ์ : Orchidaceae เอื้อง​พลาย​งาม​​กล้วยไม้ด​ ิน​ขนาด​เล็ก​​เป็น​พืช​อิงอ​ าศัย​ บน​ต้นไม้​​บน​หิน​​หรือบ​ น​ดิน​ล​ ำ​ลูก​กล้วย​​เจริญ​มา​จาก​ ปล้อง​​มี​​2​​ใบ​​ใบ​อ่อน​ม้วน​ตาม​ยาว​แ​ ผ่น​ใบ​เกลี้ยง​​ใบ​แก่​ จะ​ร่วง​ก่อน​ที่​จะ​ผลิ​ดอก​​ดอก​เกิด​ขึ้น​จาก​หน่อ​ใหม่​​เป็น​ดอก​ เดี่ยว​ขนาด​ใหญ่​​สีชมพูส​ วย​สดใส​​บาง​ครั้ง​พบ​สี​ขาว​ด้วย​ ​มี​กลีบ​เลี้ยง​แยก​จาก​กัน​เป็นอ​ ิสระ​เ​ป็น​กล้วยไม้ท​ ี่​หา​ยาก​​ พบ​ครั้งแ​ รก​บริเวณ​เทือก​เขา​หิมา​ ลัย​​ใน​ประเทศ​ไทย​พบ​ได้​ เฉพาะ​ทาง​ภาค​เหนือ​เท่านั้น​

82


เอื้องสำเภา อินทนนท์

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Cymbidium mastersii วงศ์ : Orchidaceae เอื้อง​สำเภา​อิน​ทนนท์​​เป็น​กล้วย​ไม้ซ​ ิม​บิ​เดี​ยม​ขนาด​กลาง​​ พบ​บน​ต้นไม้​และ​บน​หิน​ใน​ป่าดิบ​เขา​ที่​มคี​ วามชื้น​​พบ​บริเวณ​ ที่​สูง​จาก​ระดับ​น้ำ​ทะเล​ประมาณ​​900​-​2,500​​เมตร ​ ชอบ​อากาศ​ที่​ค่อน​ข้าง​หนาว​เย็น​ทาง​ภาค​เหนือ​ของ​ ประเทศ​ไทย​​ลักษณะ​ลำต้น​สูง​​ลำ​หนึ่งอ​ าจ​มี​ใบ​มาก​ถึง​ ​17​ใ​บ​​มี​ช่อ​ดอก​ยาว​ประมาณ​​20​-​30​​ซม​.​​ออก​จาก​ ซอก​ใบ​​มีดอ​ ก​สี​ขาว​​หรือ​อาจ​มสี​ ีชมพู​เรื่อ​​ๆ​​​บาง​แห่ง​พบ​ว่า​ มี​จุดส​ ี​แดง​กระจาย​ที่​ปาก​​เป็น​กล้วยไม้ท​ ี่​มี​กลิ่น​หอม​และ ​มี​การ​สร้าง​น้ำ​หวาน​บริเวณ​ส่วน​ใน​สุด​ของ​ปาก​กับโ​คน ​ของ​เส้า​เกสร​​ออกดอก​ใน​ช่วง​เดือน​กันยายน​-​เดือนธันวาคม​​

83


เอือ้ งผีพราย

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Eria amica Rchb.f. วงศ์ : Orchidaceae เอื้องผีพราย​​หรือเ​อื้องนิมมานรดี เ​ป็น​กล้วยไม้ท​ ี่​ สมเด็จพ​ ระนาง​เจ้า​สิ​ริก​ิติ์​พระบรม​ราชินนี​ าถ​ ​ทรง​พระราชทาน​พระนาม​ไว้​เมื่อ​ครั้ง​เสด็จ​พระราชดำเนิน​ ทอด​พระเนตร​พรรณ​ไม้​ทบี่​ ริเวณ​โคก​นก​เปราะ​​เขต​รักษา​ พันธ์ุ​สัตว์​ป่า​ภูห​ลวง​​เมื่อ​ปี​​พ.​​ศ.​​2​ 534​​ซึ่ง​พบ​ใน​ประเทศ​ อินเดีย​และ​เอเชียต​ ะวัน​ออก​เฉียง​ใต้​​เป็น​กล้วยไม้อ​ ิง​อาศัย​​ ชอบ​ความ​ชมุ่ ​ชน้ื ​​ออกดอก​เป็น​ชอ่ ​ยาว​ประมาณ​​12​-​15​​ซม​.​ ก้าน​ดอก​มขี​ น​สี​ขาว​​กลีบ​ดอก​เลี้ยง​สี​ขาว​มขี​ ีด​ตาม ​ยาว​สี​แดง​เข้ม​สวยงาม​ ​ ​

84


หรีดกินซาก

ชื่อ​วิทยาศาสตร์ : Cotylanthera sp. วงศ์ : Gentianaceae หรีด​กนิ ​ซาก​​พชื ​กนิ ​ซาก​ขนาด​เล็ก​​ท​พ่ี บ​ได้​ยาก​มาก​เ​พราะ​มี ด​อก​เฉพาะใน​ชว่ ง​ฤดูฝ​ น​​สว่ น​ฤดู​อน่ื ​ก​เ็ ก็บ​อาหาร​อยู​ใ่ ต้ดนิ ​ ​ใบ​ลด​ขนาด​ลง​เหลือเ​พียง​เกล็ดเ​ล็ก ๆ​​ตดิ ​อยู​ก่ บั ​ลำต้น ​ส​ขี าว​ใส​​ดอก​ออก​ท​ป่ี ลายข​อง​ลำต้น​​อาจ​จะ​ม​เี พียง​ดอกเดียว​ หรือ​มาก​กว่า​​กลีบ​ม​ี ​4​​กลีบ​​โคน​กลีบ​ดอก​ส​มี ว่ ง​ออ่ น​และ​ไป​ เข้ม​ใน​สว่ น​ปลาย​​เกสร​ส​เี หลือง​มอง​เห็น​ชดั เจน​​พนั ธ์พุ ชื ​ชนิด​ นี​น้ บั ​ได้​วา่ ​ม​คี วาม​นา่ ​สนใจ​อย่าง​ยง่ิ ​​เนือ่ งจาก​ดอกไม้​กนิ ​ซาก​ทกุ ​ ชนิด​ลว้ น​แต่​นา่ ​สนใจ​ยง่ิ ​นกั ​​เนือ่ งจาก​ม​กี าร​ศกึ ษา​พรรณพืช​ใน​ กลุม่ ​กนิ ​ซาก​และ​ม​โี อกาส​เจอ​ได้​คอ่ น​ขา้ ง​นอ้ ย​ท​ ​ส่ี ำคัญเ​รา​นำ​มา ​ปลูก​เลีย้ ง​เพือ่ ​เป็น​ไม้​ประดับ​​ไม่​ได้​พบ​เจริญ​อยู​ใ่ น​พน้ื ที​ค่ อ่ น​ขา้ ง​ชน้ื ​ และ​ม​แี สง​ลง​ได้​นอ้ ย​ที​ร่ ะดับ​ความ​สงู ​ประมาณ​​1,200​​เมตร​​ใน​ ช่วง​ฤดู​เดือน​สงิ หาคม​​-​เดือน​กนั ยายน​​พบ​กระ​จาย​พนั ธ์​ใุ น​เอเชีย ​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้​​จาก​มาเลเซีย​ป​ าปัว​น​วิ กีนี​ ​จน​ไป​ถงึ ​สกิ ขิม​และ​เนปาล​

85


การเตรียมตัว ขึ้นภูสอยดาว

คำแนะนำ การ​เดิน​ทาง​ไป​ภู​สอยดาว​​ส่วน​ใหญ่​นักท​ ่อง​เที่ยว​ทเี่​ดิน​ทาง ไ​ป​​เพื่อ​​ชม​ดอกไม้ท​ ี่​จะ​ออกดอก​บาน​สะ​พรั่ง​ช่วง​เดือน​ สิงหาคม​-​ต้น​เดือน​ตุลาคม​​ซึ่ง​เป็น​ช่วง​ฤดูฝ​ น​ ​ดัง​นั้น​การเต​รี​ยม​ตัวเ​พื่อ​เดินป​ ่าใ​น​ฤดู​นี้​จึงถ​ ือ​เป็น ​เรือ่ ง​สำคัญ​มาก​​อกี ​ทง้ั ​ยอด​ภ​ไู ม่ม​สี ง่ิ ​อำนวย​ความ​สะดวก​ใด ๆ ทั้ง​ร้าน​ขาย​ของ​​ร้าน​อาหาร​​และ​ที่พัก​​ ทุก​อย่าง​จำเป็น​ต้อง​อาศัย​การ​พึ่งพา​ตัว​เอง​ ​

86


1​.​​การ​แต่ง​กาย​ค​ วร​เป็น​เสื้อ​แขน​ยาว​​ กางเกง​ขา​ยาว​ทแี่​ ห้ง​ง่าย​และ​สวม​ใส่​สบาย​​ ขณะ​เดียวกันก​ ็​ควร​เตรียม​จำนวน​เสื้อผ้า​ ไป​ให้​เหมาะ​สม​กับ​เวลา​ที่​ใช้ช​ ี​วิตท่อง​เที่ยว​ อยู่​บน​ภู​​อีก​ทั้ง​ควร​มี​เสื้อ​กัน​หนาว​และ​เสื้อ​ กัน​ฝน​ไป​ให้​พร้อม​​ให้เ​หมาะ​สมกับ​สภาพ​ อากาศ​ใน​แต่ละ​ฤดูกาล​ 2​ ​.​​รองเท้าค​ วร​เป็น​รองเท้าเ​ดิน​ป่า​ ​แบบ​หุ้ม​ส้น​หรือห​ ุ้มข​ ้อ​พื้นรองเท้าไม่​ ควร​​แข็ง​หรืออ​ ่อน​จน​เกิน​ไป​​ขนาด​พอ​ เหมาะ​และมี​น้ำ​หนักเบา​​และ​ควร​สวม​ ถุงเท้า​เพื่อ​ป้องกัน​รองเท้าก​ ัด​ 3​ ​.​​อุปกรณ์ท​ ำ​อาหาร​​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​เตา​​หม้อ​​กะ​ทะ​​ช้อน​​ จาน​​อุปกรณ์ห​ ุง​ต้มแ​ ละ​อาหาร​ต่าง ๆ​ 4​ ​.​​เต็นท์พ​ ัก​แรม​​มี​ขนาด​และ​จำนวน​ ที่​เหมาะ​สม​กับ​จำนวน​คน​​หาก​ใช้​เปล​ สนาม​ควร​มี​ผ้า​พลาสติกส​ ำหรับ​กาง​ขึง​ เหนือเ​ต็นท์​​หรือเ​ปล​สนาม​เพื่อ​กัน​ น้ำค้าง​และ​น้ำ​ฝน​ ​ 5​.​​เป้ส​ ัมภาระ​​ควรมีข​ นาด​เหมาะ​สม​ กับล​ ำ​ตัว​และ​จำนวน​สัมภาระ​​หาก​ เป้​มี​น้ำห​ นัก​มาก​​ควร​ใช้​สาย​คาด​เอว​ เพื่อ​ถ่ายเท​น้ำ​หนักส​ ่วน​หนึ่ง​จาก​บ่าม​ า​ ที่​ลำ​ตัวและบริเวณ​ส่วน​เอว​เพื่อช่วย​ รับ​น้ำ​หนัก​ด้วย​​อย่างไร​ก็ตาม​​ภู​สอยดาว​จะ​มี​ลูก​หาม​ไว้​ คอยบริการ​ 6​ ​.​​ของ​ใช้​อื่น​ๆ​​อาทิ​​ถุง​ขยะ​​​ถุงพ​ ลาสติก​​​ ยา​สามัญ​ประจำ​บ้าน​​​โลชั่นก​ ัน​แมลง​​ไฟฉาย​​ฯลฯ​ ​

87


การเดินทาง

รถยนต์ จาก​จังหวัดพ​ ิษณุโลก : ​ไป​ตาม​ทางหลวง​หมายเลข​​11 ประมาณ​​64​​กม​.​​แล้วเ​ลี้ยว​ขวา​ไป​ตาม​ทางหลวง​หมายเลข​​ 1246​​ประมาณ​​12​​กม​.​​ถึง​บ้าน​แพะ​เลี้ยว​ขวา​ไป​ตาม​ ทางหลวง​หมายเลข​​1143​​ประมาณ​4​ 3​ก​ ม​.​ ​ถึง​อำเภอ​ชาติตระการ​​แยก​เข้า​ทางหลวง​หมายเลข​​ 1237​ป​ ระมาณ​​57.6​​กม​.​​​ผ่าน​บ้าน​บ่อ​ภาค​ไป​บรรจบ​ กับทางหลวงหมายเลข​​1268​​ประมาณ​​12​.​​กม​.​​ถึง​ น้ำตก​ภู​สอยดาว​​อุทยาน​แห่ง​ชาติ​ภู​สอยดาว​​รวม​ระยะ​ทาง​ ประมาณ​​189​​กิโลเมตร​​ จาก​จังหวัด​อุตรดิตถ์​: ใช้​ทางหลวง​หมายเลข​​1047​​ (​อุตรดิตถ์-​​น้ำปาด​)​​ประมาณ​​71.3​​กม​.​​ถึงอ​ ำเภอ​น้ำปาด​ แล้ว​เข้า​สู่​ทางหลวง​จังหวัด​หมายเลข​​1239​​ประมาณ​​ 38.6​​กม​.​​เลี้ยว​ขวา​สู่​ทางหลวง​​หมายเลข​​1268​​อีก​ ประมาณ​​15.5​​กม​.​​จะ​ถึง​น้ำตก​ภู​สอยดาว​ อุทยาน​แห่งช​ าติภ​ ู​สอยดาว​​รวม​ระยะ​ทาง​ ประมาณ​133​​กิโลเมตร​
​ 88


รถโดยสารประจำทาง ​ ​ช่วง​ที่​​1​​จาก​กรุงเทพฯ​​ขึ้น​รถ​โดยสาร​ที่​สถานี​ขนส่ง​หมอชิต​​ สาย​กรุงเทพฯ​-​พิษณุโลก​​ไป​ลง​ทจี่​ ังหวัด​พิษณุโลก​ ช​ ่วง​ที่​​2​​จาก​จังหวัดพ​ ิษณุโลก​​เดิน​ทาง​ด้วย​รถ​โดยสาร​ ระหว่าง​อำเภอ​​ไป​อำเภอ​ชาติตระการ​​ระยะ​ทาง​ประมาณ​​ 100​​กม.​
​ ช่วง​ที่​​3​​จาก​อำเภอ​ชาติตระการ​​เดิน​ทาง​ด้วย​รถ​สอง​แถว​​ ซึ่ง​มี​วัน​ละ​​1​​เที่ยว​​รถ​ออก​เดิน​ทาง​ไม่​เกิน​​09.00​​น​.​​ ไป​ที่ทำการ​อุทยาน​แห่ง​ชาติ​ภสู​ อยดาว​​ระยะ​ทาง​ประมาณ​​ 70​​กม. หรือจะเช่าเหมาไปทั้งคันก็ได้​
​
​ ​ ​

89


90


91


อุทยานแห่งชาติ

ภูสอยดาว 92


ประทัดดอย

Agapetes lobbii

93


ดอกถั่ว Family : Leguminosae

94


ดอกหงอนนาค Murdannia gigantea

95


เอนอ้าขน

Osbeckia stellata

96


รองเท้านารีอินทนนท์ Paphiopedilum villosum

97


สิ่งมีชีวิตน่าสนใจ บนลานสน 98


99


100


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.