ทักทาย บรรณาธิการ วารสารทันตภูธร ฉบับมาช้ าดีกว่าไม่มานี ขอกราบสวัสดีปีใหม่ 2554 พี'ๆน้ องๆทุกท่านทัว' ประเทศไทยค่ะ เริ' มต้ นปี กระต่ายทอง ปี ของการเปลีย' นแปลง แวดวงทันตสาธารณสุขของเราก็มีเรื' องใหม่ๆให้ ได้ ล้ นุ ให้ ได้ เรี ยนรู้กนั อยูไ่ ม่น้อย นอกจากเรื' องกองทุนทันตกรรมที'ตื'นตัว ตูมตามกันทัว' ทังประเทศแล้ ว การปรับเป้าหมายทันตสุขภาพประเทศไทย พ.ศ.2563 ก็เป็ นเรื' องมาใหม่ทสี' าํ คัญไม่ยิ'งหย่อนไปกว่ากันค่ะ ด้ วยภารกิจผู้ช่วยบริ หารยุทธศาสตร์ ประเด็นทันตสุขภาพคนพิการ สถาบันสร้ างเสริ มสุขภาพคนพิการ สสพ. อีกบทบาทหนึ'งซึง' ดิฉนั ทําหน้ าที'ประสานงานเครื อข่ายปฏิบตั ิการสร้ างเสริ มสุขภาพช่องปากกลุม่ คนพิการมาราวปี เศษ ขอใช้ โอกาสนีแลกเปลี'ยนกับทุกท่านในเรื' อง เป้าหมายทันตสุขภาพในกลุ่มคนพิการค่ะ อีกราว 10 ปี คนพิการควรได้ รับการดูแลจากทันตบุคลากรอย่างไร ในฐานะประชาชนคนไทย จะเป็ นไปได้ ไหม ที'ทนั ตบุคลากรจะมองว่าความพิการหรื อคนพิการ เป็ นอัตลักษณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล เฉกเช่นเดียวกับ เชือชาติ , สีผิว, การใช้ ภาษา หรื อ บุคลิกภาพที'มีความแตกต่างกันในแต่ละผู้คน เพียงทําความเข้าใจ ก็สือ สารได้ ให้การรักษาฟั นคนพิการได้ทกุ คน คนพิการส่วนใหญ่ ปรารถนาจะดํารงชีวิตประจําวันได้ โดยไม่ต้องพึง' พาสังคม หรื อพึง' พาผู้อื'นให้ น้อยที'สดุ คนพิการส่วนใหญ่ ปรารถนาความเท่าเทียมอย่างเข้ าใจในความแตกต่าง และไม่ต้องการเป็ นแหล่งเนือนาบุญอันอุดมของผู้ใด จะเป็ นไปได้ ไหม ที'ทนั ตบุคลากรจะเรี ยนรู้ที'จะลดช่องว่างของความแตกต่างนันลง เข้ าใกล้ คนพิการให้ มากขึน โดยการทํางานสร้ าง เสริ มสุขภาพเชิงรุกในกลุม่ คนพิการมากขึน เริ' มต้ นง่ายๆด้ วยการจัดระบบงานสร้ างเสริ มสุขภาพช่องปากระดับปฐมภูมิดงั นี >> (1)หาข้ อมูล ท.74 ของคนพิการในพืนที'รับผิดชอบ หน่วยงานของท่านมีคนพิการมาขึนทะเบียน ท.74กี'คน มีความพิการอะไรบ้ าง >> (2)คนพิการเหล่านี ดํารงชีวิตอย่างไร มีคณ ุ ภาพชีวิตอย่างไรนะ ลองชวนทีมสหวิชาชีพไปเยี'ยมบ้ านคนพิการที'หน่วยงานเราดูแลกันดีไหม ไปตรวจฟั นพวกเค้ าด้ วย ไหนๆไปแล้ วก็สอนแปรงฟั นคนพิการกับผู้ดแู ลซะเลย DMFTในคนพิการแตกต่างจากคนทัว' ไปไหม อย่างไรหนอ >> (3) คนพิการบางคนไม่ สะดวกจะมาทําฟั นที'โรงพยาบาล จัดหน่วยทันตกรรมเคลือ' นที'ไปบริ การดีไหม รักษาอะไรได้ บ้างละ ในคนพิการทางการเคลื'อนไหว,พิการทาง สายตา,พิการทางการได้ ยิน ถ้ าสื'อสารกันได้ หรื อมีลา่ มมาด้ วยก็น่าจะทําฟั นได้ ไม่ต่างจากคนปกติที'ไม่มีโรคประจําตัว คือให้ ทนั ตสุขศึกษา, สอนแปรงฟั น,ขูดหินปูน, อุดฟั น, ถอนฟั นได้ >> (4) สําหรับคนพิการที'มาโรงพยาบาลได้ ในกลุม่ ที'ความพิการไม่ซบั ซ้ อนมาก เช่นคนพิการ ทางการเคลือ' นไหว,พิการทางสายตา,พิการทางการได้ ยิน ก็รักษาตามปกติได้ เช่นกัน จะมีทลุ กั ทุเลบ้ างก็ตอนสื'อสารหรื อยกคนพิการขึนยูนิต เท่านัน >> (5) ส่วนคนพิการทีม' ีโรคในช่องปากซับซ้ อน หรื อมีโรคทางระบบร่วมด้ วยก็ไปประสานงานกับองค์กรท้ องถิ'นให้ ช่วยจัดหารถส่งคน พิการในเขตรับผิดชอบไปรับการรักษาที'หน่วยบริ การระดับทุติยภูมิ หรื อ ตติยภูมิตอ่ ไป>>(6)ถ้ าต้ องการพัฒนาศักยภาพด้ วยก็ขอทุนสสพ. ^^ ทันตบุคลากรมีภารกิจในการดูแลสุขภาพช่องปากคนพิการที'ตงครรภ์ ั ในคลินิก ANC , ดูแลช่องปากเด็กพิการในคลินิก WBC, ดูแล ช่องปากเด็กพิการในศูนย์พฒ ั นาเด็กพิการประเภทต่างๆ ,ดูแลช่องปากเด็กพิการในโรงเรี ยนเด็กพิการประเภทต่างๆ, ดูแลช่องปากคนพิการ ผู้ใหญ่ทงมี ั และไม่มีโรคเรื อรัง , ดูแลช่องปากคนพิการสูงอายุ เหมือนๆกับที'ดูแลช่องปากประชาชนกลุม่ อื'นๆ ผ่านช่องทางเดียวกัน ระบบ ประกันสุขภาพเดียวกันที'ประชาชนคนไทยเข้ าถึงการรักษาได้ ทกุ คน ครอบคลุม เป็ นธรรม ไม่แบ่งแยก เพื'อให้ คนพิการมีคณ ุ ภาพชีวิตที'ดีขนึ สร้ างคุณประโยชน์ให้ กบั ประเทศชาติและไม่เป็ นภาระของสังคม เป็ นเป้าหมายทันตสุขภาพคนพิการพ.ศ.2563 ที'ดิฉนั ฝั นถึง แล้ วคุณล่ะค่ะ? ทพญ.นิธิมา เสริมสุธีอนุวัฒน์ (หมออ๋ อ) บรรณาธิการวารสารทันตภูธร 083-4934543 ; nithimar_or@yahoo.com ☺ P 1 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
สารบัญ ทันตภูธร
P39 สวัสดีปีใหม่เมืองน่าน ย้ อนยุควนิดา “วนิดา 2554”
P3 สคส.ปี 2554 พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยูห่ วั P4 การจัดบริการสุขภาพช่องปากประเทศนิวซีแลนด์ P15 Jay-ac change the world : STILL LIFE P16 สุขสร้ างสรรค์กบั สสส. วัฒนธรรมปี ใหม่กบั การสร้ างเสริม สุขภาพ โดย ทพ.ดร สุปรีดา อดุลยานนท์
P40 กิจกรรมแผนงานสร้ างเสริมสุขภาพช่องปากคนพิการ P43 การส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กพิการในโรงเรียนสงขลา พัฒนาปั ญญา จ.สงขลา 2553 โดย ทพญ.พรทิพย์ แก้ วประดิษฐ์ P47 ปฏิบตั ิการเล่าฝั น โดย จุ้มจิม P48 เรื'องเล่า...จากภูองั ลัง : ถนน “สู”่ เชียงคาน โดย หมอฟั นไทด่าน
P18 ไปเจอหัวใจ..ในตรอกห้ านาย
P50 ไกลเกินช่องปาก ลึกกว่าคอหอย : Fast food กับ slow
โดย นิสิตทันตแพทย์จฬุ าปี 5 กลุม่ B3 P21 รางวัลนวัตกรรมทันตสาธารณสุข และชมรมทันต สาธารณสุขแห่งประเทศไทย โดย ทพญ.ดร.กันยารัตน์ คอวนิช P24 สายข่าวติวานนท์ : โดย พี'แพร ณ.บางใหญ่ P26 ทันตภูธรอ่อนหวาน : เชียงใหม่ ไม่กินหวาน...เจ้ า P33 แปรงฟั นมันi ส์ มัน ฟั นสะอาดดีiดี สนุ๊กสนุก :
knowledge โดย นพ.สุภทั ร ฮาสุวรรณกิจ P52 จุดประกายความคิด โดย ทพญ.ดร.มัทนา เกษตระทัต P54 ฟั งด้ วยหัวใจ โดย ทพญ.มยุเรศ เกษตรสินสมบัติ P56 คุยกับพี'เจน : บันทึกของแม่ P58 ความสําคัญของ "กระดุมเม็ดแรก" โดย วินทร์ เลียววาริณ P60 กรองใจท้ ายเล่ม ฉบับรับปี ใหม่ ๒๕๕๔ (ปี กระต่าย)
โดย ทพญ. กาญจนา ศรีพดั P34 ปั ญหาฟั นผุในเด็กไทย : ทพญ.ปิ ยะดา ประเสิรฐสม P35 การทํางานส่งเสริมทันตสุขภาพในเด็กฯ โดย ชิวเหรียญ P37 ประชุมAsian Chief Dental Officers’ Meeting 2010 ครังที' 2 โดย ทพญ.จันทนา อึงชูศกั ดิq
โดย ทพญ. บานเย็น ศิริกลุ เวโรจน์ P61 หัวข้ อธรรม คําสอน / ประชาสัมพันธ์ /รายนามบริจาค P62 แบบฟอร์ มใบสัง' ซือแปรงสีฟันสนับสนุนวารสารทันตภูธร P63 แบบฟอร์ มสมัครสมาชิกชมรมทันตสาธารณสุขภูธร
ชมรมทันตสาธารณสุขภูธร ประธานชมรมฯ : ทพญ. บานเย็น ศิริกลุ เวโรจน์ สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เลขที' 161/1 ถนนรามวิถี ตําบลบ่อยาง อําเภอเมือง จังหวัดสงขลา 90000 โทรศัพท์ 074 - 326091 ต่อ 107 , 105 โทรสาร 074 – 311386 www.ruraldent.org , http://ruraldentmagazine.blogspot.com วารสารทันตภูธร ที'อยู่ 42/198 ซ.ติวานนท์ 38 ถ. ติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 โทร 083 – 4934543 ruralmax2007@ gmail.com บรรณาธิการ : ทพญ.นิธิมา เสริมสุธีอนุวฒ ั น์ กองบรรณาธิการ : ทพญ.แพร จิตตินนั ทน์ , ทพญ.วิโรชา เพียรเจริญ , ทพญ. สุรีรัตน์ สูงสว่าง , ทพญ.มยุรฉัตร ฉายอรุณ ทพญ.พรพิมล วิทยวีรศักดิq , ทพญ.รจิต จันทร์ ประสิทธิq ,ทพ.ณัฐธพัฒน์ บุรพธานินทร์ นักเขียนประจํา : นพ.สุภทั ร ฮาสุวรรณกิจ , ทพญ.ศันสณี รัชชกูล , ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ , ทพ.ดร. สุปรีดา อดุลยานนท์ , รัตน์ , ทพญ.มยุเรศ เกษตรสินสมบัติ ,หมอจุ้มจิม , ทพญ. มัทนา เกษตระทัต , นายอาจผจญ โชติรักษ์ , ทพญ.เมธ์ ชวนคุณากร นักเขียนรับเชิญ : ทพญ.ทิพาพร สุโฆสิต, ทพญ.ดร. ศิริรักษ์ นครชัย, ทพ.จารุวฒ ั น์ บุษราคัม รุหะ, ทพ.ดร.วิรัตน์ เอืองพูลสวัสดิ,q ทพญ.บุญเอือ ยงวานิชากร,ทพ.กวี วีระเศรษฐกุล, ทพญ.สุณี วงศ์คงคาเทพ,ทพญ.ปิ ยะดา ประเสริฐสม,ทพญ.จันทนา อึงชูศกั ดิ,q ทพญ.ดร.กันยารัตน์ คอวนิช, ทพ.เสถียร สุรวิศาลกุล, ทพญ.ศุภนาถ รัตนสิงห์,ทพญ.กาญจนา ศรีพดั ทพญ.พรทิพย์ แก้ วประดิษฐ์ ,นิสิตทันตแพทย์จฬุ าปี 5 กลุม่ B3 วารสารทันตภูธร เป็ นเวทีสาธารณะในการแสดงความคิ ดเห็นอย่างอิ สระ ข้อเขียนทัง! หมดรับผิดชอบโดยผู้เขียนข้อเขียนนัน! ๆ มิ ได้เกี(ยวข้องกับชมรมทันตสาธารณสุขภูธร หรือ วารสารทันตภูธร P 2 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
พระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัว พระราชทานพรปี ใหม่ พ.ศ.2554 พ แก่ ประชาชนชาวไทย มีความว่ า ประชาชนชาวไทยทั งหลาย บัดนีถ ึงวาระจะขึน ปี ใหม่ ข้ าพเจ้ าขอส่ งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ ท่านทุกๆ คน ให้ มี ความสําเร็ จสมประสงค์ ในสิ* งที* ปรารถนา ความปรารถนาของทุกคน คงไม่ แตกต่ างกันนัก คื อต้ องการให้ ตนเอง มีความสุ ข ความเจริ ญ และให้ บ้านเมืองมีความสงบร่ มเย็น ในปี ใหม่ นี ข้ าพเจ้ าจึ งปรารถนาอย่ างยิ*งที* จะเห็นคนไทยมีความสุ ขถ้ วนหน้ า กัน ด้ วยการให้ คือ ให้ ความรั กความเมตตากัน ให้ นา ํ ใจไมตรี กัน ให้ อภัยกัน ให้ การสงเคราะห์ ารสงเคราะห์ อนุเคราะห์ กัน โดยมุ่งดีม่ งุ เจริ ญ ต่ อกันด้ วยความบริ สุทธิ0 และจริ งใจ ทุกคนทุกฝ่ าย จะได้ สามารถร่ วมมือ ร่ วมความคิ ดอ่ านกัน สร้ างสรรค์ ความสุ ข ความเจริ ญ มัน* คง ให้ แก่ ตนแก่ ประเทศชาติ อันเป็ นสิ* งที*แต่ ละคนต้ องการให้ สาํ เร็ จผลได้ ดังที* ตั งใจปรารถนา ขออานุภาพแห่ งคุณพระศรี รั ตนตรั ย และสิ* งศักดิ0สิทธิ0 ทั งหลาย จงคุ้มครองรั กษาท่ านทุกคน ให้ มีความสุข ไมมีทุกข์ ไม่ มีภัย ตลอดศกหน้ านีโ ดยทั*วกัน.
P 3 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
การจัดบริการสุขภาพช่องปากประเทศนิวซีแลนด์ ความนํา เมื'อวันที' 18-26 พฤศจิกายนที'ผา่ นมา ผู้แทนสํานักตรวจ ราชการและประเมินผล คณะกรรมการพัฒนาระบบสนับสนุนการ จัดบริ การสุขภาพช่องปาก กระทรวงสาธารณสุข ร่ วมกับทีมงาน ทันตแพทย์ จากสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รวม 19 ท่าน ได้ เดินทางไปศึกษาดูงานการจัดบริ การสุขภาพช่องปากที' ประเทศนิ ว ซี แ ลนด์ ภายใต้ การสนั บ สนุ น ของสํ า นั ก งาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมีหน่วยงานทีร' ่วมดูงานในครังนี ประกอบด้ วย กระทรวงสาธารณสุข ในส่ว นของการจัด บริ การ Oral Health program in New Zealand, การจัดบริ การสุขภาพ ช่องปากของ Southern District Health Boards, การจัดระบบ การศึกษาที'รองรับ Dental Therapist& Dental Hygienist ที' School of Dentistry, University of Otago, การพัฒนา และ ควบคุมกํากับวิชาชีพทันตกรรมตามบทบาทของ New Zealand Dental council และ New Zealand Dental Therapists Association
รองใคร มีระบบการวางแผนการส่งเสริ มป้องกันและรักษาทาง ทันตกรรมที'เน้ นในกลุม่ เด็กชัดเจน ตังแต่แรกเกิดจนถึงเด็กอายุ 18 ปี (เหมือนอย่างที'กองทุนทันตกรรมของเราต้ องการ) การปฏิรูป ระบบสุข ภาพที' นั'น มี ก ารดํ า เนิ น การทังระบบเพื' อ แก้ ข้ อ จํ า กัด ให้ ตรงจุด นัน' แหละเป็ นเหตุที'เราเลือกไปดูงาน ทางทีมศึกษาดูงานจึงขอใช้ โอกาสสื'อวารสารทันตภูธร นําเสนอเนือหาการดูงานให้ เพื'อน ๆ น้ อง ๆ ในส่วนภูมิภาคได้ รับรู้ โดยแบ่งเนือการนําเสนอเป็ น 6 ตอน คือ 1) ตอนที' 1 บทบาทหน้ าที'และหลักสูตรการผลิต Dental Therapist& Dental Hygienist 2) ระบบสุขภาพประเทศ นิวซีแลนด์ 3) การบริ หารจัดการ Oral Health program in New Zealand 4) การจัด บริ ก ารสุข ภาพช่ อ งปากของ Southern District Health Boards และ 5) การพัฒนา และควบคุมกํากับ วิช าชี พ ทัน ตกรรมตามบทบาทของ New Zealand Dental council และ 6) บทเรี ยนการพัฒนาของ New Zealand
ทํ า ไมจึ ง เลื อ กดู ง านทัน ตสาธารณสุ ข ที) ป ระเทศ นิวซีแลนด์ ประเทศนิ ว ซี แ ลนด์ มี ค วามคล้ ายกั บ ไทยอยู่ ห ลาย ประการ คื อ มี พื นที' ห่ า งไกลแบบชนบทมาก มี ก ารกระจาย อํานาจด้ านสาธารณสุขที'น่าศึกษา เป็ นต้ นแบบทันตาภิบาลของ ประเทศไทย โดยที'นนั' บอกว่าทันตาภิบาลนันมีศกั ดิqศรี ไม่ได้ เป็ น
ตอนที) 1 บทบาทหน้าที) และ หลักสูตรการผลิต Dental Therapist& Dental Hygienist ทพญ.ทิ พาพร สุโฆสิ ต และ ทพญ.ดร. ศิ ริรกั ษ์ นครชัย ประเด็นการนําเสนอในตอนนี ป1 ระกอบด้ วย การ จั ด การศึ ก ษาทั น ตาภิ บ าลของประเทศนิ ว ซี แ ลนด์ เป็ น อย่ างไร เรี ย นจบแล้ วทํ า อะไรได้ บ้ าง ช่ วยแก้ ปั ญหา ทันตสุขภาพของประเทศอย่ างไร
ที ม เ ร า ไ ด้ ไ ป ดู ง า น ที' ค ณ ะ ทั น ต แ พ ท ย ศ า ส ต ร์ มหาวิทยาลัย Otago เมือง Dunedin ที'เกาะใต้ ซึ'งเป็ นสถาบัน ผลิตทันตาภิบาล ในที'นีขอเรี ยกแทนว่า Dental Therapist& Dental Hygienist ประเทศนิวซีแลนด์มีสถาบันผลิตทันตาภิบาล อีกแห่งหนึง' อยูท่ ี'เกาะเหนือ
P 4 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
Susan และ Kristen เป็ นอาจารย์ของหลักสูตรนี ได้ เล่า ถึง ที'มา และบทบาทหน้ าที'ของ Dental Therapist และDental Hygienist โดยสรุปดังนี
ทํางานภายใต้ Clinical guidance ของทันตแพทย์ในลักษณะ ทีมงานเดียวกัน
Dental Therapist คือ Dental Nurse เริ' มผลิต
ในอดีตจนถึงปี 2003 เป็ นการทํางานภายใต้ การดูแล ของ Principal pal Dental Officer คล้ ายบทบาทของทันตแพทย์ สํา นัก งานสาธารณสุข จัง หวัด และ จ้ างโดย District Health Boards (คล้ คล้ ายสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดของไทย) ของไทย ทํางาน บริ การให้ ทุกกลุ่มอายุ แต่บริ การเฉพาะในหน่วยบริ การภาครั ฐ เท่านัน ภายหลังจากที'มีการออกกฎหมาย Health Practitioners’ Competence Assurance Act 2003 ซึง' ประกาศใช้ ในปี 2004 ได้ กําหนดให้ Dental Therapists & Dental Hygienist ต้ องขึน ทะเบียนกับ Dental council ( โดยอยู่ในโครงสร้ างและสมาชิก ของ Dental Council คือดูแลทันตบุคลากรทุกวิชาชีพที'ทําการ รั ก ษาในช่ อ งปากผู้ป่ วยได้ แ ก่ Dental Therapists, Dental Hygienists, Clinical Dental Technicians และ Dentists) และ สามารถให้ บริ การตามขอบเขตที' Dental council กําหนดให้ ภายใต้ ความรั บผิดชอบของตนเองทังในภาครั ฐและเอกชน ซึ'ง หมายความว่าทัง Dental Therapists& Dental Hygienist เมื'อขึน ทะเบียนประกอบวิ กอบวิชาชีพ แล้ วสามารถทํางานได้ ทงในภาครั ั ฐและ เอกชน อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนีมี Dental Therapistsทํางาน ในภาคเอกชนเพี ย ง 6% เท่ า นัน Health Practitioners’ Competence Assurance Act 2003 เป็ นกฎหมายหลักในการ ควบคุมการทําหน้ าที'ของผู้ประกอบวิชาชีพทางด้ านการแพทย์การ สาธารณสุขซึ'งมีทงหมด ั 19 วิชาชี พ เพื'อให้ ผ้ บู ริ โภคได้ รับการ บริ การที'มีคณ ุ ภาพมากขึน โดยกําหนดขอบเขตการทํางานของแต่ ละวิชาชีพให้ ชัดเจนยิ'งขึน โดยมีมาตรฐานบริ การพืนฐานที'ทําได้ ทุกวิชาชีพ มาตรฐานของแต่ละ วิ ช า ชี พ ใ น ร ะ ดั บ สู ง ขึ น นอกจากนีสภาวิชาชี พยังคงมี บทบาทในการสอบสวนด้ การสอบสวนด้ า น จรรยาบรรณ และดํ า เนิ น การ ตามกฎหมายของแต่ละวิชาชีพ
ตังแต่ปี 1921 และเป็ นต้ น แบบของการผลิต ทัน ตาภิ บ าลใน ประเทศไทย ต่อมาได้ เปลีย' นชื'อใหม่เป็ น Dental Therapist ตังแต่ ปี 1999 เหตุผ ลเพราะไม่ใ ช่ nurse แต่เ ป็ นผู้ใ ห้ ก ารรั ก ษาใน ช่ อ งปากจริ ง ๆ รวมทังได้ ปรั บ ระดับ การศึ ก ษาจาก Diploma course มาเป็ นระดับปริ ญญาตรี ในปี 2002 ส่วน Dental Hygienist เริ' มผลิตในระดับ National Certificate ตังแต่ปี 1994 ปรับขึนมาเป็ นระดับ Diploma ในปี 1997 และเป็ นระดับ ปริ ญ ญาตรี คื อ Bachelor of Health Sciences endorse in Dental Hygiene (เรี ยน 3 ปี ) ในปี 2002
สมรรถนะของ Dental Therapists คือ การตรวจสุขภาพในช่องปาก เตรี ยมการวางแผนดูแลสุขภาพ ช่องปาก ใช้ ยาชาเฉพาะที'ได้ โดยวิธี Dentoalveolar infiltration, Inferior dental nerve block และ Topical anesthetic technique, อุด ฟั น นํ านมและฟั น แท้ , ถอนฟั น นํ านม, านม Pulp capping ฟั นนํานมและฟั นแท้ ในงาน Preventive Dentistry ได้ แก่ Cleansing, Polishing, Scaling, Fissure sealant และ Fluoride applications, การให้ ทัน ตสุข ศึกษา และส่ง เสริ ม ทันตสุขภาพ, การพิมพ์ปากเพื'อทําและใส่ Mouthguards, ส่งต่อ ผู้ป่ วย, รวมถึ ง การสอน, การทํ า วิ จัย และการบริ ห ารจัด การ นอกจากนีหากได้ รับการอบรมเพิ'มเติมตามมาตรฐาน สามารถ ทํ า งานดัง ต่ อ ไปนี ได้ เ พิ' ม ขึ นคื อ Radiography, y, Diagnostic radiography, Pulpotomy, Stainless steel crowns และ Adult care ในส่ วนของ Dental Hygienist มีบทบาทหลักในการ ให้ บริ การทันตสุขศึกษา และป้องกันโรคในช่องปากเพื'อส่งเสริ มให้ เกิดพฤติกรรมทันตสุขภาพที'ถูกต้ อง การให้ บริ การป้องกันและ รั ก ษาโรคปริ ทัน ต์ ช นิ ดที ด ที' ไ ม่ต้ อ งผ่า ตัด การให้ คํ า แนะนํ า ผู้ป่ วย รายบุคคลเพื'อให้ ดูแลรักษาสุขภาพของ Oral tissue ส่วนใหญ่
ขอบเขตการทํางานของ Dental Therapists
P 5 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
การจัดศึกษาระดับปริญญาตรีของ Dental Therapists& Dental Hygienist Rosemary, Alison และ Kate ได้ เล่าถึงการดําเนินการ หลักสูตร ซึ'งเพิ'งเริ' มในปี 2007 เป็ นการรวมสองหลักสูตรมาจัด การศึกษาเป็ นหลักสูตรเดียว ทังนีเพื'อเป็ นการเพิ'มประสิทธิภาพ ในการจัดการศึกษา มีการบูรณาการวิชา Health Promotion เข้ า ไปในหลักสูตรดังกล่าว ซึ'งทําให้ คุณลักษณะของบัณฑิตเมื'อจบ การศึกษาแล้ ว จะมีความรู้ ความสามารถเป็ นได้ ทงั Therapist และ Hygienist ที'มีความสามารถด้ าน Health Promotion ด้ วย เมื'อเรี ยนจบแล้ วสามารถขึนทะเบียนทํางานได้ ทงั Hygiene และ Therapy หลักสูตรนีใช้ เวลาเรี ยน 3 ปี เป็ นหลักสูตรที'ตอบสนอง ต่อความต้ องการการรักษา และการป้องกันโรคทางทันตกรรมใน เด็กของประเทศ New Zealand เนื'องจากจํานวนทันตแพทย์มี น้ อยและการกระจายในประเทศไม่ ทั'ว ถึ ง รวมทังสามารถ ตอบสนองยุทธศาสตร์ “Good Oral Health for All, for Life” ที' พยายามจะขยายการให้ บริ การของ Dental Therapist จาก โรงเรี ยนไปสู่ ชุ ม ชน ทํ า ให้ สามารถให้ บริ การครอบคลุ ม กลุม่ เป้าหมายได้ มากขึน
ระบบการขึA นทะเบียน Annual Practicing Certification & recertifiction จากกฎหมาย Health Practitioners’ Competence Assurance Act 2003 ทําให้ เมื'อจบการศึกษาหลักสูตรดังกล่าว
แล้ ว ทุกคนที'จบต้ องขึนทะเบียน (Register) กับ Dental Council โดยสามารถขึ นทะเบี ย นเป็ น Dental therapy หรื อ Dental Hygiene หรื อ อาจจะขึ นทะเบี ย นเป็ นทังสองอย่ า ง เพื' อ ที' จ ะ ปฏิบตั ิงานได้ ทงสองส่ ั วน ตามขอบเขตที'กําหนดและรับผิดชอบ ต่อหน่วยการปฏิบตั ิงานของตนเอง การ Recertification ต้ อง ดําเนินการทุกรอบ 2 ปี เพื'อให้ ทนั ตบุคลากรรักษาและยกระดับ ความสามารถในการปฏิบตั ิงานตนเอง โดยDental Council ได้ กํ า หนดให้ ผ้ ูป ฏิ บัติ ง านจะต้ องมี สดั ส่ว นการพัฒ นาความรู้ โดย การศึกษาฝึ กอบรมอย่างต่อเนื'อง (continuing education) จาก สถาบัน ที' ไ ด้ รั บ การรั บรองมาตรฐาน และ กิ จ กรรมการพัฒ นา วิชาชีพกับผู้เชี'ยวชาญ (Peer Contact Activity) 15:2 ชัว' โมงทุกปี หรื อ 30:4 ชัว' โมงทุก 2 ปี จะเห็นว่า ทันตบุคลากรของ New Zealand มีการ ปรั บ เปลี' ย นหลัก สูต รการศึ ก ษาที' จั ด การให้ ตอบสนองความ ต้ องการของประชาชนในประเทศ และ เข้ ากันได้ กับบริ บทของ ประเทศได้ ดี และเป็ นประเทศที'มีการปฏิรูปและปรับเปลี'ยนอย่าง ไม่ยอมหยุด หลังจากที'มีการปฏิรูปประเทศ 4 รอบใหญ่นบั ตังแต่ปี 1984 โดยการออกกฎหมาย Health Practitioners’ Competence Assurance Act 2003 เราก็คงจะต้ องคอยติดตาม ผลกันต่อไป เพื'อเป็ นบทเรี ยนในการพัฒนาของเราต่อไป
ตอนที) 2 ระบบสุขภาพประเทศนิวซีแลนด์ (Over view of the NZ Health and Disability Support System) ทพ.จารุวฒ ั น์ บุษราคัมรุหะ , ทพ.ดร.วิ รตั น์ เอือ. งพูลสวัสดิ0 การดูงานของกระทรวงสาธารณสุขนันได้ รับการต้ อนรับ จากคุณ Wendy Edgar ซึ'งมีตํ าแหน่ง เป็ น Manager Global Health ในสํานักงาน Office of the Director of Public Health Strategy and System Performance Directorate (น่าจะคล้ าย ๆ สํานักนโยบายและแผนของไทย) ได้ รับข้ อมูลสรุ ปโดยภาพรวม ดังนี ข้ อ มูล ประชากร ประเทศนิว ซี แลนด์ มี ประชากร (คน) 4.26 ล้ านคน เมื'อปี 2008 มีการเพิ'มของประชากร จากการโอน
สัญชาติของคนต่างชาติ โดยเฉพาะคนเอเชีย ซึ'งมีสดั ส่วนเพิ'มขึน อย่างรวดเร็ วจาก 6.5 % ในปี 2001เป็ น 10.2% ในปี 2011 คน ส่ว นใหญ่ ก ว่า ร้ อยละ 55 อยู่ใ น 5เมื อ งใหญ่ คื อ Auckland (1.313ล้ านคน), Christchurch (0.382 ล้ านคน), Wellington เมืองหลวง (0.381ล้ านคน), Hamilton (0.197 ล้ านคน) และ Dunedin (0.114 ล้ านคน) การอยูอ่ าศัยในพืนที'ที'เหลือ บ้ านจะอยู่ ห่าง ๆ กัน ตัวเมืองส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก และมีปัญหาในการ เข้ าถึงบริ การด้ านสุขภาพ
P 6 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
คล้ ายบริ บทชนบทของประเทศไทย คือมีความยาก แต่ อายุ ขัย เฉลี' ย ซึ' ง เป็ นตัว วัด ผลลัพ ธ์ ข องระบบสุข ภาพ สํ า หรั บ นิวซีแลนด์ (ปี 2007) ชาย เท่ากับ 78.2 หญิง เท่ากับ 82.2 ถือได้ วา่ ดีกว่าประเทศไทยมาก
ระบบสุขภาพของประเทศนิวซีแลนด์ บริ การสุขภาพพืนฐานส่วนใหญ่ดําเนินการโดยภาครัฐ เป็ นหลัก ประกอบด้ วย กระทรวงสาธารณสุข (Ministry of Health : MOH) ทําหน้ าที'กําหนดทิศทาง นโยบาย ควบคุมกํากับกองทุน สุขภาพ (ต่างจากไทย) และวางแผน/จัดหาบริ การสุขภาพแบบ มหภาค (โรคระบาด, อนามัยสิ'งแวดล้ อม, Health Promotion, การเฝ้ าระวังโรค ฯลฯ) ทํางานร่ วมกับ District Health Boards (DHBs) ทัว' ประเทศมีจํานวน 20 แห่ง ในส่วนบริ การ ภาคเอกชน พบเป็ นสัดส่วนน้ อย เช่น มีโรงพยาบาลเอกชนทัว' ประเทศเพียง 28 แห่ง ส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก
โครงสร้างองค์กรสาธารณสุข ในอดีต กระทรวงสาธารณสุขประเทศนิวซีแลนด์ใช้ ชื'อว่า Department of Health การบริ หารจัดการเป็ นการกําหนดรูปแบบ จากส่วนกลางให้ สถานบริ การต่างๆปฏิบตั ิตาม อย่างไรก็ตาม ในปี 1980 มีการปฏิรูประบบบริ การสาธารณสุขขนานใหญ่ มีการจัด โครงสร้ างองค์กรอย่างมาก รวมทังรู ปแบบการบริ หารจัดการด้ วย กระทรวงสาธารณสุขเปลี'ยนชื'อเป็ น Ministry of Health การ บริ ห ารโรงพยาบาลปรั บ เปลี' ย นจากการรั บ นโยบายตรงจาก ส่ว นกลางมาเป็ นการบริ ห ารในรู ป แบบคณะกรรมการบริ ห าร โรงพยาบาล (Hospital Boards) ทังนี ภายหลังมีวิวฒ ั นาการใน รูปแบบนีในระดับภูมภิ าคเพิ'มขึนด้ วยในชื'อ Area Health Boards ซึ'งภายหลังมีการปรับมาสู่ District Health Boards (DHB) ใน
ปั จจุ บั น นั บ เป็ นวิ วั ฒ นาการการกระจายอํ า นาจทางการ สาธารณสุขที'สาํ คัญ MOH เป็ นหน่วยงานหลักในการดูแลและรับผิดชอบการ บริ หารจัดการ การจัดทํานโยบายสุขภาพแห่งชาติ และพัฒนา ระบบสุขภาพของประเทศ เป็ นผู้จดั หาและจัดสรรงบประมาณแก่ หน่วยงานในสังกัด ปั จจุบนั บทบาทกระทรวงสาธารณสุขเป็ นทังผู้ ซือบริ การและผู้ให้ บริ การสุขภาพเป็ นส่วนใหญ่ ยกเว้ นการบริ การ บางประเภทที'กระทรวงมีบทบาทเป็ นผู้ซอบริ ื การ จากการปฏิ รู ป ระบบให้ มี ก ารกระจายอํ า นาจมากขึ น DHB จึงเป็ นกลไกสําคัญในการดูแลรับผิดชอบหลักต่อสุขภาพ ของประชาชนในพืนที'ของตนเอง ปั จจุบันมี DHB ทังประเทศ จํ า นวนทังสิ น 20 แห่ ง รู ป แบบในการบริ ห ารเป็ นลัก ษณะ คณะกรรมการประกอบด้ วยสมาชิกทังสิน 11 คน ในจํานวนนี 4 คน จะถูกแต่งตังโดยตรงจากรัฐมนตรี วา่ การกระทรวงสาธารณสุข ขณะที'อีก 7 คนจะมาจากการเลือกตัง คณะกรรมการชุดนีจะ ร่ วมกันบริ ห ารจัด การ ตังแต่การประเมิ นความจํ าเป็ นทางด้ า น สุขภาพของประชาชน เพื'อเป็ นข้ อมูลในการจัดทําแผนงาน และ จัดทําคําของบประมาณจากส่วนกลาง รวมทังเป็ นจัดหาบริ การ สุขภาพทุกระดับแก่ประชาชน โดยปั จจุบนั DHB ส่วนใหญ่เป็ น ผู้ดํ า เนิ น การโรงพยาบาลของรั ฐ เอง และยัง รั บ ถ่ า ยโอนสถาน บริ การบางส่วนจากโรงเรี ยนด้ วย เช่น คลินิกทันตกรรมในโรงเรี ยน เป็ นต้ น ในกรณี ที'หน่วยงานของรั ฐไม่สามารถจัดบริ การได้ เต็ม ศัก ยภาพหรื อ ไม่มี ช นิ ด การบริ ก ารนันๆ จํ า เป็ นต้ อ งจัด หาจาก ภาคเอกชนหรื ออื'นๆตามเหมาะสมด้ วย
การคลังทางสุขภาพของประเทศ ระบบบริ ก ารสุ ข ภาพของประเทศนิ ว ซี แ ลนด์ มี ฐ าน งบประมาณหลักจากภาษี (taxation revenue) มุ่งเน้ น การ จัดบริ การแก่ประชาชนทุกคน (universal access) ภายใต้ การ จัดบริ การโดยภาครัฐ ครอบคลุมการบริ การสุขภาพตามชุดสิทธิ ประโยชน์ ทังการส่ง เสริ ม สุข ภาพ ป้ องกั น โรค และการรั ก ษา ปั จจุบนั แต่ละพืนที'ตามโครงสร้ างการกระจายอํานาจทางสุขภาพ ต้ องจัดทําแผนงานประจําปี เพื'อขอรับงบประมาณ โดยมุง่ เน้ นตาม
P 7 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ความจําเป็ นของชุมชนและประชาชนเป็ นหลัก (community and individual needs-based) ข้ อมูลจากปี 2009 ค่าใช้ จ่ ายทางสุขภาพของประเทศ ส่วนใหญ่มาจากภาครัฐถึง 78% แบ่งเป็ น งบประมาณจากภาษี จํานวน 86% จากการจัดเก็บจากนายจ้ าง 13% และ 1% จาก รัฐบาลท้ องถิ'น ขณะที' 16% ของค่าใช้ จ่ายทางสุขภาพมาจากการ จ่ายโดยตรงของประชาชน ซึง' ส่วนใหญ่เป็ นสิง' จําเป็ นตามระเบียบ การร่วมจ่าย (co-payment) ในกรณีไปพบแพทย์ GP การร่วมจ่าย ค่ายา สําหรับการไปรับบริ การโรงพยาบาลเอกชนและการบริ การ พิเศษบางประเภท รวมทังค่าใช้ จ่ายทางทันตกรรม กรณีคนไข้ อายุ เกิน 18 ปี ขึนไป จะต้ องเสียค่าใช้ จ่ายเองทังหมด กรณีการประกัน สุข ภาพภาคเอกชน แม้ ประชาชนถึ ง หนึ' ง ในสามจะมี ป ระกั น ประเภทนี แต่ค่าใช้ จ่ายที'เกิ ดขึนมีเพียง 6% ของค่าใช้ จ่ายใน ภาพรวม ในกรณีอุบตั ิเหตุ ผู้ป่วยจะได้ รับการดูแลจากอีกองค์กร หนึ'งของภาครัฐชื'อ Accident Compensation Corporation ซึ'ง ครอบคลุมค่าใช้ จ่ายทังหมด ค่าใช้ จ่ายสุขภาพภาครัฐ ปี 2009 รวมประมาณ 13.4 พันล้ านดอลลาร์ NZ คิดเป็ นเกือบ 20 % ของงบประมาณรัฐบาล ทังหมด หรื อตัววัดอีกตัว คือ ร้ อยละของค่าใช้ จ่ายด้ านสุขภาพต่อ
GDP ของนิวซีแลนด์ ประมาณ 2.4 % สูงกว่าของไทย 2เท่า (ของ ไทยประมาณ 3.8% เมื'อปี 2009) WHO มีข้อเสนอแนะว่า ประเทศกํ า ลัง พัฒ นา ควรมี ร้ อยละค่า ใช้ จ่ า ยสุข ภาพต่อ GDP ประมาณ 5%) การที'มีค่าน้ อยทําให้ แสดงให้ เห็นว่าเป็ นการผลัก ภาระให้ ประชาชนรับผิดชอบค่าใช้ จ่ายสุขภาพของตนเองเป็ นหลัก แหล่ง เงิ น สํา หรั บ จัด บริ ก ารสุข ภาพมาจากหลายส่ว น เหมื อ นกัน เช่ น งบอุบัติ เ หตุ, งบกระทรวงสาธารณสุข , งบของ กระทรวงอื'นด้ านสุขภาพ เป็ นต้ น แต่ไม่ได้ บริ หารแยกเป็ นหลาย กองทุน ทําให้ คนนิวซีแลนด์มีสิทธิเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุข จัดสรรงบให้ DHBs ไปจัดบริ การตามชุดสิทธิประโยชน์ที'กระทรวง สาธารณสุขกําหนด ซึ'งเป็ นขันตํ'าทาง DHBs สามารถปรับเพิ'มให้ เหมาะกับสภาพปั ญหาสุขภาพในพืนที'ได้ สิทธิ ประโยชน์พืนฐาน ของคนนิ ว ซี แ ลนด์ ประกอบด้ ว ย กลุ่ม ไม่ เ สี ย ค่ า ใช้ จ่ า ย ได้ แ ก่ บริ การรักษากรณีเจ็บป่ วย หากไม่เร่ งด่วนจะมีเวลารอคอย, การ ดูแลสุขภาพหญิงตังครรภ์และ 0-6 ปี , ค่าตรวจแลป ต้ องมีการส่ง ต่อตามระบบ การบาดเจ็บจากอุบตั ิเหตุ (ไม่ใช้ เฉพาะรถยนต์ เป็ น อุบตั ิเหตุทกุ อย่าง) กลุม่ ร่ วมจ่าย ได้ แก่ งาน primary care, rest home care และค่ายา (3 ดอลล่าร์ NZ)
ตารางที) 1 เปรียบเทียบข้อมูลประเทศไทยและประเทศนิวซีแลนด์ รายการ -พืนที'ของประเทศ -จํานวนประชากร (2008) -อายุคาดการณ์เฉลีย' (2007) -สัดส่วนค่าใช้ จา่ ยสุขภาพของรัฐ : เอกขน -ค่าใช้ จ่ายด้ านสุขภาพภาครัฐ (2009) -ร้ อยละงบด้ านสุขภาพต่องบประมาณ (2009) -ร้ อยละงบด้ านสุขภาพต่อ GDP (2009) -ความครอบคลุมการให้ วคั ซีน
ประเทศไทย 513,115 ตร.กม. 63.3 ล้ านคน ช. 69.9ปี / ญ.77.6ปี ประมาณ 50 : 50 178.0 พันล้ านบาท 11 % 3.8 % BCG 99.9 % DPT 98.7%
ประเทศนิวซีแลนด์ 268,676 ตร.กม. 4.26 ล้ านคน ช.76.2 ปี / ญ. 82.2 ปี 87:22 308.2 พันล้ านบาท 20% 7.4 % 86 %
เป้าหมายการพัฒนาระบบสุขภาพ นิวซีแลนด์ได้ กําหนดประเด็นสุขภาพที'ต้องการปรับปรุ งให้ ดีขนึ 6 ประเด็น คือ การอยู่ในแผนก อุบตั ิเหตุฉกุ เฉินสันลง, เพิ'มการเข้ าถึง elective surgery, ลดระยะเวลารอรักษามะเร็ ง, เพิ'มความครอบคลุมการให้ วคั ซีน ปั จจุบนั อยู่ที' 86 % P 8 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
เรื' องนีประเทศไทยดีกว่าในวัคซีนบางตัว, พัฒนาบริ การที'ช่วยเลิกบุหรี' และควบคุมป้องกันโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ส่วนระบบ การจัดทําแผนสุขภาพ จะดําเนินการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ แห่งชาติระยะ 5 ปี เป็ นหลักในการพัฒนาแผนประจําปี อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที' จัดทําแผนจะต้ องเสนอกรอบแผนระยะ 3 ปี เข้ าสูก่ ารพิจารณาด้ วย ซึ'งกระทรวงสาธารณสุขจะพิจารณาอนุมตั ิในหลักการแผนระยะ 3 ปี (3-year-promise) แต่ต้องมีการอนุมตั ิแผนเป็ นรายปี ด้ วย
ตอนที) 3 การบริหารจัดการ Oral Health program in New Zealand ทพญ.บุบุญเอือ. ยงวานิชากร, ากร ทพ.ดร. วิ รตั น์ เอือ. งพูลสวัสดิ0 งาน Oral Health เป็ นส่วนย่อยหนึ'งภายในกระทรวง สาธารณสุข มีทีมงาน The MOH Oral Health Team ทังหมด รวม 7 คน ภายใต้ ส ายบัง คับ บัญ ชารองปลัด กระทรวง ทังนี รัฐมนตรี ช่ช่วยว่าการกระทรวงเป็ นผู้กํากับดูแลภาพรวมงานทันตต สาธารณสุขอีกชันหนึ'ง บทบาทของ MOH Oral Health Team คือ การจัดทํานโยบายและแผนยุทธศาสตร์ ระดับชาติ และจัดทํา งบประมาณเพื'อขออนุมตั ิจากรัฐสภา เป็ นหน่วยงานที'วางกรอบ การดําเนินงานทันตสาธารณสุขแก่ District Health Boards Board (DHB) ดูแลกํากับโครงการและแผนงานของ DHB (ระดับภูมิภาค) ในรอบ 20 ปี ที'ผ่านมา ประเทศนิวซีแลนด์มีการปฏิรูป ระบบสุขภาพหลายครัง ระบบบริ การทันตกรรมมีการเปลีย' นแปลง อยู่ บ้ าง ประการสํ า คั ญ คื อ การปรั บ ลดทัน ตาภิ บ าลในงาน
ทันตกรรมโรงเรี ยนลง เนื'องจากรัฐบาลเห็นว่า สถานการณ์การเกิด โรคฟั นผุในเด็กลดลงอย่างต่อเนื'อง อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการ ปรับลดอัตรากําลังคนลงไปประมาณ 5 ปี สถานการณ์ฟันผุกลับ ค่อ ยๆเพิ' ม ขึ น ดัง นัน ในปี 2005 จึ ง เริ' ม มี ก ารทบทวนระบบ ทันตสาธารณสุขใหม่ ซึ'งรวมถึงการปรับบทบาททันตาภิบาลให้ เหมาะสมกั ะสมกับ สถานการณ์ สุข ภาพช่ อ งปากของประชาชนด้ ว ย รวมทังความต้ องการของทันตแพทย์ตอ่ การมีทนั ตานามัย (dental hygienist) ช่วยดูแลอนามัยช่องปากในภาคเอกชน กระทรวง สาธารณสุข จึ ง จัด ทํ า แผนยุท ธศาสตร์ ร ะยะ 5 ปี ขึน และเริ' ม ดํ า เนิ น งานตามแผนในปี 2006 ควบคู่ไ ปกับ การปรั บ ระบบ การศึกษาของทั าของทันตาภิบาลจาก 2 ปี เป็ น 3 ปี ในระดับปริ ญญาตรี พร้ อมเปลี'ยนชื' อจาก dental nurse เป็ น dental therapist
P 9 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
พร้ อมการยกระดับ ทัน ตาภิ บ าลเดิ ม ให้ เป็ น dental therapist ขณะเดี ย วกั น ผู้ จบหลั ก สู ต รใหม่ ยั ง สามารถเป็ น dental hygienist ได้ ด้วย และสามารถเลือกปฏิบตั ิงานในบทบาท dental therapist ในภาครัฐ หรื อเป็ น dental hygienist ในภาคเอกชนได้
แผนยุทธศาสตร์สุขภาพช่ องปากประเทศ นิวซี แลนด์ (The Strategic Vision for Oral Health in New Zealand) Vision : “ Good Oral Health for All , for life” โดยมียุทธศาสตร์ การดําเนินงานเพื^อบรรลุ vision 7 ด้ าน ดังนี 1 1. Re-invest in child and adolescent oral health services รั ฐ บาลและท้ องถิ' น ได้ เพิ' ม เติ ม งบประมาณในการ ปรับปรุงหน่วยบริ การในโรงเรี ยนและชุมชน ทังเครื' องมือและ unit ทําฟั นและสถานที'ให้ บริ การทัว' ประเทศ ผ่านกลไกการดําเนินงาน ทันตสาธารณสุขโดย District Health Boards (DHB) 2. Reduce inequalities in oral health outcome and access to services ช่ ว ยเหลื อ สนั บ สนุ น ส่ ง เสริ ม ให้ DHBs ดํ า เนิ น งาน ทันตกรรมโรงเรี ยนแทนโรงเรี ยน ซึง' เป็ นเจ้ าของงานเดิม และมีการ เติมฟลูออไรด์ในนําประปาในเขตรับผิดชอบเพื'อป้องกันฟั นผุ 3. Promote oral health จัดทําสือ' สําเร็ จรูปเพื'อส่งเสริ มสุขภาพในกลุม่ เป้าหมาย ต่างๆ
4. Build links with primary health care services สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริ มสุขภาพช่องปากต่างๆ ให้ เป็ น ส่วนหนึ'ง ของการจัดบริ การปฐมภูมิ เช่น โครงการ “lift-the-lip” ในงาน well child และ “B 4 School” check ในเด็กเล็ก ริ เริ' ม โครงการนํ า ร่ อ งในการจัด ตังคลินิ ก ทัน ตกรรมในสถานบริ ก าร ปฐมภูมิ (family health centre) รวมทังการจัดอบรมบุคลากรที' ดูแลผู้สงู อายุ 5. Build the oral health workforce เพิ'มบุคลากรผู้ช่วยทันตกรรมข้ างเก้ าอี , เพิ'มเงินพิเศษ สํ า หรั บ ทัน ตบุ ค ลากรในพื นที' ห่ า งไกล,ปรั บ ปรุ ง ระบบบริ ก าร ทันตกรรมในโรงพยาบาล 6. Develop oral health policy จัดสรรงบประมาณเพื'อ สนับสนุนการวิจัย โดยเฉพาะ อย่ า งยิ' ง การวิ จัย ประเมิ น ผล จัด ให้ มี ก ารสํ า รวจสภาวะทัน ตสุข ภาพแห่ง ชาติ มี น โยบายการให้ ค วามสํา คัญ กับ การพัฒ นา สุขภาพช่องปากในประชากรกลุม่ เสีย' ง 7 Research, monitoring, and evaluation มีการติดตาม ประเมินผลเพื'อการปรั บปรุ งพัฒนาการ จัดบริ การอย่างต่อเนื'อง จากการนําเสนอของเจ้ าหน้ าที'ของ MOH ผลการ ดําเนินงานพัฒนาที'ชดั เจน ยังเป็ นเรื' องของการพัฒนาเรื' องการ เพิ' ม ประสิ ท ธิ ภ าพของการจั ด บริ การให้ กั บ เด็ ก ในโรงเรี ย น ผู้ด้อยโอกาส โดยมีการปรับปรุ ง คลินิกที'ตงอยู ั ่ที'โรงเรี ยน มีการ จัดตังคลินิกในชุมชน เพิ'มเปลี'ยนเก้ าอีทําฟั น เพิ'มสมรรถนะรถ ทันตกรรมให้ ใหญ่และมีประสิทธิ ภาพมากขึน,มีการเพิ'มบุคลากร Therapists (ซึ' ง ให้ บ ริ ก ารเด็ ก และวัย รุ่ น 0-18 ปี ) มากขึ น,เพิ' ม ผู้ช่วยข้ างเก้ าอี มากขึน
ค่าใช้จ่ายทางทันตกรรม ค่าใช้ จ่ายทางทันตกรรมมาจาก 2 ส่วนหลักคือ Public Funding และ Private Funding จากข้ อมูลปี 2007/2008 พบว่า มีคา่ ใช้ จา่ ยทังสินปี ละ 1,095 ล้ านเหรี ยญ NZ ทังนี เป็ นค่ าใช้ จ่ายภาครัฐเพียงร้ อยละ 16.7 เท่ านัน1 1. Public Funding เป็ นงบประมาณที'รัฐบาลจัดสรร สนับสนุนโครงการที'อยู่ภายใต้ การดูแลของ DHB เป็ นส่วนใหญ่
P 10 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
เพื'อจัดบริ การแก่กลุม่ เป้าหมายเฉพาะ ได้ แก่ เด็กอายุ 0-18 ปี ใน โรงเรี ย นและชุมชน ในสัดส่ว นร้ อยละ 73.8 นอกจากนี รั ฐ บาล ยัง ให้ การสนับ สนุ น การจัด บริ ก ารแก่ ผ้ ู มี ร ายได้ น้ อ ย กลุ่ม ชน พืนเมือง ทหาร และนักโทษ ในสัดส่วนพอๆกับการจัดบริ การใน โรงพยาบาลกรณีอบุ ตั ิเหตุฉุกเฉิน ซึ'งเป็ นกองทุนเฉพาะเพื'อรอรง รับกรณีนี (Universal Coverage for accidents and injury) ภายใต้ Accident Compensation Corporation
2. Private Funding มาจาก 2 ส่วนหลัก ได้ แก่ การประกันสุขภาพภาคเอกชน (Private dental insurance) และ เงิ น ที'ป ระชาชนต้ อ งจ่ ายเองเพื' อรั บบริ ก าร (Out of Pocket payment) จัดบริ การโดยทันตแพทย์ภาคเอกชน ทังนี ส่วนใหญ่ ของค่า ใช้ จ่า ยมาจากประการหลัง เนื' องจากกรณี ก ารประกัน ทันตสุขภาพนัน ทําได้ เฉพาะกรณีเป็ นผู้ทําประกันสุขภาพเอกชน เท่านัน จึงจะสามารถซือประกันทันตสุขภาพเสริ มได้
ตอนที) 4 การจัดบริการสุขภาพช่องปากของ Southern District Health Board ทพ.กวี วีระเศรษฐกุล, ทพ.ดร.วิ รตั น์ เอือ. งพูลสวัสดิ0
การจัดบริการทันตกรรมโดย DHB
ในทศวรรษ 1980 มีการปฏิรูประบบบริ การสาธารณสุข ขนานใหญ่ มีการจัดโครงสร้ างองค์กรอย่างมาก รวมทังรู ปแบบ การบริ หารจัด การด้ ว ย กระทรวงสาธารณสุขเปลี'ยนชื' อ มาเป็ น Ministry of Health การบริ หารโรงพยาบาลปรับเปลี'ยนจากการ รับนโยบายตรงจากส่วนกลาง มาเป็ นการบริ หารในรู ปแบบคณะ กรรมการบริ หารโรงพยาบาล (Hospital Boards) ทังนี ภายหลังมี วิวฒ ั นาการในรู ปแบบนีในระดับภูมิภาคเพิ'มขึนด้ วยในชื'อ Area Health Boards ซึ'งภายหลังมีการปรับมาสู่ District Health Boards (DHB) ในปั จจุบัน นับเป็ นวิวัฒนาการการกระจาย อํานาจทางการสาธารณสุขที'สาํ คัญ โดย DHB นัน เป็ นหน่วยที' มีทงอํ ั านาจในการสัง' การโดยเป็ นทังผู้ควบคุม สถานพยาบาล และการจ่ายเงิน (ถ้ าในเมืองไทยก็เสมือนรวมผู้ตรวจราชการ และ สปสช.เขตไว้ ด้วยกัน)โดยผู้ที'ร่วมเป็ นผู้กําหนดใน DHB นันมีทงั เลือกตังและแต่งตังเข้ ามา ปั จจุบนั มี DHB ทังประเทศจํานวน ทังสิน 20 แห่ง Southern District Health Board เป็ น DHB ใหม่ ล่าสุด แต่มีอาณาเขตครอบคลุมกว้ างใหญ่ที'สดุ ของประเทศ รวม เอา Otago Region และ Southland Region ไว้ ด้วยกัน ประชากร ทังสิน 286,000 คน
ในอดี ต การให้ บ ริ ก ารทัน ตกรรมมุ่ ง เน้ น ในกลุ่ม เด็ ก นัก เรี ย นระดับ ประถมศึ ก ษาเป็ นหลัก รั ฐ บาลจึ ง จัด ตังคลิ นิ ก ทันตกรรมในโรงเรี ยน โดยคณะกรรมการโรงเรี ยนเป็ นผู้ดแู ลและ กํ ากับการจัดบริ การเป็ นหลัก มีโรงเรี ยนในเขตรั บผิดชอบตาม กรอบสัดส่วนทันตาภิบาลต่อกลุม่ เป้าหมาย และมีการส่งนักเรี ยน มารับบริ การในโรงเรี ยนที'มีหน่วยให้ บริ การ ภายหลังเมื'อมีการ กระจายอํานาจ โดย District Health Board เข้ ามาบริ หารจัดการ และ ได้ รับ การถ่ ายโอนคลินิ กทันตกรรมในโรงเรี ย นมาดูแลเอง ส่วนใหญ่จึงมีการถ่ายโอนการบริ หารจัดการจากคณะกรรมการ โรงเรี ยนมาด้ วย ปั จจุบันมีคลินิกที'ถ่ายโอนมาแล้ วไม่น้อยกว่า 80% ที'ผ่านมา คลินิกส่วนใหญ่ ค่อนข้ างได้ รับการบํารุ งรั กษา น้ อยลง อั น เนื' อ งมาจากเด็ ก นั ก เรี ยนส่ ว นใหญ่ มี ส ภาวะ ทั น ตสุ ข ภาพดี ขึ น จึ ง ได้ รั บ ความสํ า คั ญ เชิ ง นโยบายและ งบประมาณสนับสนุนลดน้ อยลง เก้ าอีทําฟั นและอุปกรณ์ต่างๆมี อายุก ารใช้ ง านมานาน นั'น คื อ ในช่ ว งทศวรรษที' 20 การให้ ความสํา คัญ ของรั ฐ บาลต่อ การจัด บริ ก ารสุข ภาพช่ อ งปากลด น้ อยลง ทําให้ พบว่าสภาวะทันตสุขภาพของเด็กพบปั ญหาสูงขึน ในปี 2006 หน่วยงานทันตสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขจึง ผลักดันให้ เกิด Oral Health Policy ขึน1 มาใหม่ คือ “ Good Oral Health for All , for life” และมุ่งเน้ นการบริ หารจัดการ ภายใต้ DHB ใหม่ มีการลงทุนจัดหาเครื' องมือและอุปกรณ์ใหม่มา ทดแทน สิง' ที'โดดเด่นมากอีกอย่างคือ การปรับรู ปแบบการบริ การ จากในโรงเรี ยนออกมาสูช่ ุมชน ย้ ายคลินิกออกจากโรงเรี ยนมาตัง
P 11 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ในเขตชุมชน (fixed clinic) เป็ นส่วนใหญ่ นอกจากนี มีการจัดหา เครื' อ งมื อ อุ ป กรณ์ แ บบเคลื' อ นย้ ายได้ เป็ นจํ า นวนมากด้ วย (portable equipment and mobile treatment units) กระจาย เพิ'มมากขึนในเขตพืนที' Dental Therapist จะมีการออกให้ บริ การ หมุนเวียนในเขตรับผิดชอบ ซึ'งแตกต่างจากการบริ การเชิงตังรับที' คลินิกทันตกรรมในโรงเรี ยนเป็ นหลัก สําหรับ ชุดสิทธิ ประโยชน์ ทางทันตกรรมมีการกําหนดที'ชดั เจน (Scope of Practice) จัดทํา โดย Dental Council ที'ประกอบด้ วยสภาวิชาชีพทางทันตกรรม
กลุ่มผูไ้ ด้รบั สิทธิประโยชน์ทางทันตกรรม เด็กแรกเกิ ดถึงอายุ 18 ปี ปั จจุบนั มีประชากรกลุ่มนี สมัครเข้ าร่ วมใช้ บริ การทังสิน 97% หลังจากพ้ นอายุดังกล่ าว แล้ ว จะต้ องจ่ ายเองทัง1 หมด ยกเว้ นในกลุม่ ผู้มีรายได้ น้อยตาม
เกณฑ์ และทหาร ซึ' ง เป็ นภาระด้ า นสุข ภาพของกลุ่ม ผู้ใ หญ่ สูง เนือ' งจากราคาค่าทําฟั นในคลินิกเอกชนของที'นนั' มีราคาแพงมาก Southern District Health Board มีความมุ่งมัน' ในการ พัฒนาสภาวะทัน ตสุขภาพของกลุ่มเป้าหมายให้ บรรลุผล โดย ส่งเสริ มให้ ผ้ ปู กครองพาเด็กตังแต่อายุ 6 เดือนมาตรวจสุขภาพ ช่องปากให้ มากขึน ซึ'งปั จจุบนั มี 85% ของทารกได้ รับการตรวจ สุขภาพช่องปาก และให้ ความสําคัญกับกลุม่ เสีย' งมากขึน เน้ นการ ส่งเสริ มสุขภาพช่องปากมากขึน และส่งเสริ มการมีส่วนร่ วมของ ผู้ปกครองในการดูแลสุขภาพช่องปากของบุตรอย่างต่อเนื'องและ เหมาะสม โดยสรุ ป เชื^อว่ าการกระจายอํานาจ ในแบบ DHB นัน1 น่ าจะช่ วยให้ เกิดการกําหนดนโยบายที^เหมาะสมกับพืน1 ที^ มากกว่ าสิ^งที^กาํ หนดมาจากส่ วนกลางอย่ างแน่ นอน
ตอนที) 5 การพัฒนา และควบคุมกํากับวิชาชีพทันตกรรมตามบทบาทของ New Zealand Dental council รศ.ทพญ.ดร. ศิ ริรกั ษ์ นครชัย
บทบาทและหน้าที) Dental Council, New Zealand (DCNZ) DCNZ มีหน้ าที'หลักที'สาํ คัญคือปกป้องสุขภาพช่องปาก และความปลอดภัยของประชาชนโดยใช้ กลไกการควบคุมที'ทําให้ ทันตบุคคลากรมีความสามารถ และมีมาตรฐานในการทํางาน โครงสร้ างของ DCNZ ประกอบด้ วยส่วนต่างๆดังนี Dental Council ได้ รับการแต่งตังจากกระทรวง สาธารณสุข
Professional Boards ได้ แก่ Dentist Board, Dental Hygiene –Dental Therapy Board ได้ รับการแต่งตังจาก Dental Council Audit & Risk management committee (ARM) ทําหน้ าที'ในเรื' อง การจัดการการเงิน เงินทุน การจัดการความเสีย' ง และ การสุม่ ตรวจคลินิก ADC/DCNZ Accreditation committee ทําหน้ าที' รับรองหลักสูตรต่างๆ และ การลงทะเบียนของสมาชิกได้ แก่ ทันต แพทย์ ทันตภิบาล เป็ นต้ น Secretariat มี ห น้ า ที' ป ฏิ บัติ และจัด งานตาม นโยบายของ Dental council สมาชิก DCNZ ครอบคลุม Dentist & Dental specialist, Dental hygienists, Orthodontic Auxilliaries, Dental Therapists, Dental technicians and Clinical Dental Technicians ภายใต้ กฏหมายการประกอบวิชาชีพของ Health Practitioners ปี 2003 DCNZ ออก code of Practice โดยมี วัตถุประสงค์เพื'อให้ ทํางานกันเป็ นทีมในการดูแลและรักษาผู้ป่วย โดยแต่ละคนจะต้ องลงนามใน Code of Practice Agreement
P 12 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ปั จจุบนั มี Code of Practice Agreement ดังนี General Dental, Dental Specialists 12 สาขา, General Dental Hygiene,
Orthodontic Auxiliary, General Dental Therapy, Dental Technology, Clinical Dental Technology
ตารางที) 2 จํ านวนทันตบุคลากร ใน New Zealand คศ.2010 ทันตบุคคลากร Dentist and Specialist Dental Hygienists Dental Therapist Dental Technician
จํ านวน (คน) 1867 371 682 345
ภาคเอกชน (%) 75 100
รัฐบาล( %) 25 100
100
การประกอบวิชาชีพทันตกรรมในNZ หลังจากจบการศึก ษา มี การลงทะเบี ยนตามขอบเขตการ ทํางานของแต่ละคน และต้ อง Recertification ทุกปี โดยพิจารณาจาก ต้ องปฏิบตั ิงานตามขอบเขตของสาขาที'ลงทะเบียนไว้ มีการศึกษาต่อเนื'องตามทีก' ําหนด มีการสุม่ ตรวจการปฏิบตั งิ าน ต้ องได้ รับความเห็นชอบจากผู้เชี'ยวชาญในสาขา ต้ องมีการฝึ กปฏิบตั ิการแพทย์ฉกุ เฉิน(Medical emergency certification) ส่วนใบอนุญาตจะถูกถอน ในกรณีที' DCNZ ไม่สามารถติดต่อกับผู้รับอนุญาตได้ ผู้ประกอบวิชาชีพฯ ทุกประเภทมีหน้ าที'ตดิ ต่อและ แจ้ งการเปลีย' นแปลงใดๆของผู้รับอนุญาตต่อ DCNZ DCNZ มีระบบรับเรื' องร้ องเรี ยน และระบบสืบสวน/ สอบสวนเรื' องร้ องเรี ยน การลงโทษเช่นเดียวกับทันตแพทยสภาของไทย โดยสรุ ป จะเห็นโครงสร้ าง DCNZ มีความแตกต่างจากทันตแพทยสภาของประเทศไทย การเป็ นสมาชิ กของ Dental Council NZ ได้ รวมดูแล ทันตบุคคลากรทุกกลุ่ม นอกเหนือจากทันตแพทย์ อันได้ แก่ Dental hygienists, Dental therapists, Orthodontic Auxiliaries, Dental Technicians, Clinical Dental Technicians เป็ นการจัดระบบการดูแลบุคลากร ซึง' สามารถพัฒนาวิชาชีพให้ รวมเป็ นหนึง' เดียว มีเกียรติและ ศักดิศq รี และบทบาทในการรับใช้ สงั คมและประเทศชาติได้ อย่างชัดเจน
บทสรุป : บทเรียนการพัฒนาของ New Zealand ทพญ.สุณี วงศ์คงคาเทพ
เงื) อ นไขและกลไกการขั บ เคลื) อ นงาน บริการสุขภาพช่องปากของ New Zealand 1. การปฏิรูประบบสุขภาพรอบสุดท้ ายหลังปี 2005 รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนงานบริ การสุขภาพช่องปาก ถื อเป็ น งานสําคัญด้ านหนึ'งที'ต้องเร่ งรัด และ กําหนดกลยุทธ์ “ Good
Oral Health for All , for life” และชีนํานโยบายให้ ทงั 20 DHB คิดแผนปฏิบตั ิการและการใช้ งบประมาณเพื'อจัดบริ การตามบริบท พืนที' 2. แม้ New Zealand มี ปั ญหาการกระจาย ทัน ตแพทย์ ใ นชนบทเหมื อนกับ ประเทศไทย แต่ทัน ตบุล ากรที'
P 13 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ทํางานส่งเสริ มป้องกันเป็ นหลักคือ Dental Therapist & Dental Hygienist ซึ'งปั จจุบันจบมาจากหลักสูตรระดับปริ ญญาตรี หลัก สูต รเดี ย วกัน ที' เ น้ น การส่ง เสริ ม และป้ องกัน อย่า งชัด เจน สามารถปฏิบตั ิให้ บริ การที'แตกต่างกันตามบทบาทของทัง 2 กลุม่ ทังในภาครัฐและเอกชน 3. สืบเนื'องจากกระบวนการแก้ กระบวนการแก้ กฎหมายที'เอือต่อการ พัฒนาของ NZ ส่งผลให้ เกิดกฎหมาย Health Practitioners’ Competence Assurance Act 2003 ทําให้ ทนั ตแพทย์สภา สามารถกํากับดูแลสนับสนุนทันตบุคลากรได้ ครอบคลุมทุกกลุ่ม และมีแนวทางพัฒนาวิชาชี พทันตกรรมได้ ชัดเจน โดยกํ าหนด ขอบเขตการให้ บริ การของแต่ละกลุม่ (scope scope of practice) และ การดํ า เนิ น การพัฒ นาศัก ยภาพโดยกระบวนการ Continuing Education and Recertification 4. จากการวิเคราะห์ scope of practice จะเห็นว่า ทันตแพทย์จะไม่มีบทบาทที'เกี'ยวข้ องกับงานส่งเสริ มป้องกัน โดย ถือเป็ นหน้ าที'หลักของ Dental Therapists& Dental Hygienist 5. ระบบบริ การสุขภาพช่องปากทังภาครัฐและเอกชน มีลกั ษณะการจัดบริ การที'แยกส่วนจากระบบสุขภาพทัว' ไปอย่าง ชัดเจน
ให้ บ ริ ก ารทัน ตสุข ภาพที' แ ยกส่ว นจากบริ ก ารพื นฐานในหน่ นฐานใ ว ย บริ การปฐมภูมิ พบว่ามีการจัดบริ การบูรณาการในหน่วยบริ การ ปฐมภู มิ ไ ด้ เป็ นส่ ว นน้ อย แม้ ปั จจุ บั น นโยบาย MOH ให้ ความสําคัญกับการพัฒนาบริ การบูรณาการในหน่วยบริ การระดับ ปฐมภูมิ มีการจัดการเชิงโครงสร้ างในการจั ง ดบริ การ การพัฒนา รู ปแบบบริ การและศักยภาพในการจัดบริ การบูรณาการมากขึน แต่งานบริ การสุขภาพช่องปากยังไม่สามารถบูรณาการได้ ทนั ตาม การพัฒนาในรอบนี จึงเห็นบริ การที'จดั ให้ ประชาชนอยู่ในรู ปแยก ส่วนที'ชดั เจนโดยเน้ นในกลุม่ เด็กและเยาวชนเป็ และเยา นสําคัญ 3. งบประมาณที'สนับสนุนกลยุทธ์ตาม “ Good Oral Health for All , for life” กว่าร้ อยละ 90 เป็ นการสนับสนุนที' เน้ นกลยุทธ์ ข้อ 1 คือ Re-invest invest in child and adolescent oral health services เท่านัน ส่วนกลยุทธ์ในข้ ออื'นๆ (ข้ อ 2-7) ที'เหลือ ยังมีการดําเนินการสูก่ ารปฏิบตั ิการจริ งน้ อย 4. กิ จ กรรมดํ า เนิ น การส่ง เสริ ม ป้ องกัน สุข ภาพช่ อ ง ปากที'เห็นส่วนใหญ่ เป็ น activity base เน้ นการจัดบริ การทัง ส่งเสริ มและป้องกันในสถานบริ การเป็ นส่วนใหญ่ ส่วนรู ปแบบ การจัดบริ การส่งเสริ มในชุมชนไม่มีรูปแบบที'ชดั เจน ☺
ผลลัพธ์ทีพ) บจากการดูงาน 1. ปั ญหาฟั นผุในกลุม่ เด็กสามารถควบคุมได้ ดี แต่ใน กลุ่มผู้ใหญ่ กลับมีปัญหาสุขภาพช่องปากมาก ทังในกลุ่มเมารี และกลุ่ ม ด้ อยโอกาส ขาดระบบดู แ ลรองรั บ ที' ชั ด เจน และ ค่าใช้ จ่ายในการบริ การทันตกรรมของกลุ่มผู้ใหญ่สูงมาก กลุ่ม เหล่านีต้ องใช้ บริ การในคลินิกเอกชนเป็ เป็ นส่วนใหญ่ เกิดปั ญหาเข้ า ไม่ถึงบริ การทันตกรรมพืนฐานที'ควรจะเป็ น 2. จุดแข็งของระบบการจัดบริ การส่ การส่งเสริ มสุขภาพช่อง ของ NZ คือมีแผนการจัดบริ การบนฐานข้ อมูลเชิ งประจักษ์ มี การศึกษาความต้ องการของประชาชน มีแผนพัฒนาและใช้ กําลังคนที'มีประสิทธิภาพ มีระบบข้ อมูลที'มีประสิทธิภาพสามารถ าพ กําหนดทิศทางการจัดบริ การได้ ดี มีระบบการบริ การงบประมาณ ที'ใช้ อย่างชัดเจน จุดอ่ ดอ่อนที'เห็นชัดในการจัดบริ การ คือส่วนใหญ่
THANK YOU FOR YOUR ATTENTION
P 14 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ก็ลําบากพออยูแลว ลูกหลานก็ไมไดชวยอะไรมาก ซ้ําจะ
JayJay-ac Change the world
หาเรื่องสรางปญหาใหกับ สองตายายอีก เรื่องตางๆ ก็เลามาเลาไปครับ ผมก็เพียงแตรับ
STILL LIFE ชวงนี้หมอฟนที่โรงพยาบาลมีโครงการ ที่จะทํา ฟนปลอมใหกับผูสูงอายุที่สอ. และทําฟนปลอมใหกับ ผู พิการในเขตสอ. ใกลเคียง ผมเลยได ลยไดสัมผัสกับชุมชนมาก
ฟ ง เพราะผมเองก็ ไ ม ท ราบข อ มู ล ของชุ ม ชนเท า ไหร (เพราะเป เพราะเปนอนามัยใกลเคียง) ง ก็ทําไดแตเพียงบอกวาแลว จะประสานเรื่องตางๆ ให
ขึ้นจากที่เราคิ เราคิดวาเราอยูในชุมชนนี้มานาน รูตื้นลึกหนา
และเมื่อถึงวันที่คุณตาไดใสฟนปลอม คุณตาซึ่ง
บางของชุมชนอยางถองแท แตแทที่จริงแลวแทบไมได
แขนขวาพิการไมมีแรง ก็พยายามลุกขึ้นยืนตอนรับดวย
ใกล เ คี ย งเลยครั บ จากที่ เ ราฟ ง จากทาง อบต. อบต หรื อ
ความยินดี แมวาจะใหเวลานานทีเดียวในการยืนขึ้น เมื่อ
เทศบาล บอกมาวาคนพิการมีความเปนอยูที่ดี แตเมื่อ
เริ่มลองใสฟนปลอมปญหาที่เกิดคือเมื่อตองการถอดฟน
ได เ ข า มาสั ม ผั ส กลั บ พบว า รายการวงเวี ย นชี วิ ต ที่ ว า
ปลอมออกมา กมา ชวงแรกก็ถอดไมได แตครูเดียว คุณตาก็
นาสงสารแลวยังนอยเกินไป ชีวิตของคนพิการบางคน า
สามารถถอดใสไดคลองขึ้น ทําใหคุณตามีรอยยิ้มเปอน
ชางโหดราย มีเคราะหกรรมซัดถาดโถมเขามาไมรูจบ
เต็ ม ใบหน า เมื่ อ มี ฟ น แล ว คุ ณ ตาก็ ยิ้ ม ไม หุ บ เหมื อ น
บางครั้ ง เมื่ อ ไปพบกั บ ภาพที่ น า สงสารรวมทั สงสาร ้ง กลิ่นตางๆ จึงเขาใจความรูสึกของผูที่อยูบานใกลเรือ น เคียง วาทําไมถึงไมยอมเขามาเยี่ยมเยียน จะมาบางบาง เวลา แตภาพที่ผมไปเห็นคือ ภาพที่คุณตา นอนอยูบนที่ นอนเก นเกา และมีก ลิ่น ที่แรงมาก คุณ ยายก็เดิน ไปเดิน มา ทําโนนทํานี่ ไมไดหยุดหยอน พอเดินเขาไปที่ในบานและ ประกาศตน คุณยายก็มีทีทางงๆ วันนั้นไดเขาไปขูดหิน น้ําลายใหกับคุณตา ผมเองก็เปนเพียงแตผูสังเกตการณ
ดอกบานไมรูโรยครับ แตสิ่งที่ผมเห็นแลวเกือบทําใหผม รู สึ ก จุ ก ที่ ค อแน น ไปหมดเหมื อ นจะร อ งไห คื อ ภาพที่ คุณยายนั่ง มองดวยรอยยิ้มที่ไมตา งไปจากคุณตา เปน ภาพที่นาประทับใจมากครับ รูสึกกับตัวเองเลยครับ วา ชีวิต ของเราแม ต กต่ํ า หรือ ทุ ก ขเ พีย งใดของเพี ยงมี แสง สวางที่ใหความอบอุนได สองมาถึง เทานี้ชีวิตก็มีคาแลว ครับ ผมเองก็ไดประสบการณตรงเลยครับ ผมมักคิด เสมอวาทําไมหลวงจึงมีโครงการนี้ขึ้นมา ตอนนี้รูซึ้งเลย
เพราะหมอเปนผูลงมือทําทั้งหมด ผานไปครูหนึ่ง คุณยายก็เขามานั่งดูแลวเริ่มตน
ครับ จากนี้ไปผมก็จะขอพูดเหมือนเดิมครับ
สนทนากั บ ผม คุ ณ ยายก็ เ ริ่ ม เล า เรื่ อ งต า งๆ ตาม
ผมจะทํางานเพื่อชาติ เพื่อประชาชนและเพื่อในหลวง ในหลว
ประสบการณที่สั่งสมมาตั้งแตสมัยบรรพการณ บอกให
Jay Jay-ac
เราได ท ราบว า โลกนี้ โ หดร า ยเพี ย งใด ชี วิ ต ที่ มี อ ยู
Jay.ac@hotmail.com
P 15 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
☺
สุขสร้างสรรค์กบั สสส. : วัฒนธรรมปี ใหม่กบั การสร้างเสริมสุขภาพ ทพ.ดร สุปรี ดา อดุลยานนท์ ปี ใหม่ เวียนมาถึงอีกรอบหนึ^งแล้ ว ช่ว งเวลานี เป็ นเวลาที' ผ้ ูค นมัก จะถื อ เป็ นโอกาสพิ เ ศษ ใช้ เป็ นหลักหมุดของชี วิต เพื'อทบทวน ใช้ เลิกสิ'งเก่า เริ' มสิ'งใหม่ หรื อทีทํากันทัว' ไปมากที'สดุ ก็คือ ใช้ เป็ นวาระการเฉลิมฉลอง (อะไร สักอย่าง) กับตัวเองและหมูพ่ วก กิ จ กรรมร่ ว มของกลุ่ม คนจึ ง เกิ ด มารองรั บ ช่ ว งเวลานี มากมาย จนเป็ นเทศกาล เป็ นประเพณี และเกิดวัฒนธรรมของ วาระปี ใหม่เกิดขึนอย่างหลากหลาย และปรับเปลีย' นเป็ นพลวัตใน แต่ละสังคม ปี ใหม่สากลที'ถือเอาวันที' 1 มกราคม เพิ'งมาสู่เมืองไทย เมื'อสมัยรัชกาลที' 6 นี'เอง คนไทยก็ค่อยๆเริ' มฉลองกับวันนี แทรก ควบคูไ่ ปกับปี ใหม่ไทยในวันสงกรานต์ และเพิ'มมากขึนเรื' อยๆตาม การเข้ าสูก่ ระแสสากลโดยรวมของประเทศไทย กระทัง' การจัดมหกรรมใหญ่รองรับคนนับหมื'น เพื'อนับ ถอยหลัง หรื อเคาท์ดาวน์สวู่ ินาทีปีใหม่ ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ก็เพิ'งจะมาบูมมากๆในไทยหลัง คศ. 2000 ตามเยี'ยงอย่างคนใน มหานครใหญ่ทวั' โลกเขาทํากัน สสส. ไปยุง่ เกี'ยวกับปี ใหม่ของคนไทยอยูบ่ ้ าง เรื' องหนึง' ก็ ไปชวนคนไทยฉลองปี ใหม่ กั น โดยไม่ ต้ องเมาเหล้ า สนุ ก ได้ ไร้ แอลกอฮอล์ อย่ า ดื' ม แล้ วขับ ไปจนถึ ง อย่ า ให้ เครื' อ งดื' ม แอลกอฮอล์เป็ นของขวัญแก่กนั ในวันมงคลนี อันเป็ นการรณรงค์ ด้ านวัฒนธรรมเพื'อต้ านกระแสวัฒนธรรมที'ถกู สร้ างจากการตลาด ของสินค้ าเหล่านี.ในทิศทางตรงข้ าม อย่างเมื'อปี 2551 สสส. ได้ เริ' มใช้ สาร “ให้ เหล้ าเท่ ากับ แช่ ง” กระตุกผู้คนให้ ทบทวนความเหมาะสม ว่าการนําเอา เครื' องดื'มแอลกอฮอล์ที'ก่อผลเสียต่อสุขภาพและสังคม ไปให้ ผ้ รู ับ ในโอกาสอันเป็ นมงคล ก็เสมือนเป็ นการแช่งเสียมากกว่าการอวย พร
สารรณรงค์ ชิ นนี เป็ นที' ฮื อ ฮามากในสัง คม สื' อ ต่า งๆ คอลัมนิสต์หลายฉบับกล่าวและเขียนถึง และส่งผลต่อการลดการ ใช้ เครื' องดื'มแอลกอฮอล์เป็ นของขวัญ อย่า งมีนั ยสํา คัญ ในปี 2553 ผลสํารวจบอกว่ า มีการให้ เหล้ าเป็ นของขวัญลดลงถึง กว่ าหนึ^ งในสามของช่ วงก่ อนรณรงค์ ผู้ที'งดให้ เหล้ าส่วนใหญ่ ระบุวา่ การงดมาจากเห็นด้ วยกับข่าวสารการรณรงค์ ผมเองก็ถกู ทักถูกแจ้ งเรื' องนีอยูเ่ นือง ๆ พรรคพวกที'ชวดของขวัญไวน์หรื อสุรา ต่างประเทศเอ่ยปากเชิงต่อว่าว่ามาขัดลาภกัน เพื'อนนักธุรกิจที' ต้ องส่งกระเช้ าให้ ผ้ ใู หญ่จํานวนมากบอกว่า ประหยัดค่าของขวัญ ปี ใหม่ไปได้ เยอะ ด้ วยข้ ออ้ างว่า กลัวถูกหาว่าไปแช่ง ข้ าราชการ ผู้ใหญ่กระทรวงสาธารณสุขบอกว่า ได้ กระเช้ าผักผลไม้ จนตัวเขียว รองอธิ บดีท่านหนึ'งเพิ'งบอกว่า จนทุกวันนี ยังกินซุปไก่และรังนก ไม่หมดเลย
รศ. ดร. กาญจนา แก้ วเทพ กรรมการประเมินผล สสส. นักวิชาการนิเทศศาสตร์ คนสําคัญ เพิ'งให้ ข้อวิเคราะห์ กับผมว่า ความสําเร็ จของเนือสารรณรงค์นี น่าจะเกิดเพราะไปเล่นกับ สิ'งที' อยูใ่ นรากวัฒนธรรมและความเชื'อของคนไทย ที'คําว่า “โชค” และ “แช่ง” มีความหมายกับส่วนลึกของจิ ต ใจ โดยเฉพาะสําหรั บ ช่วงเวลาอันเป็ นมงคล
P 16 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ผมเองไปเล่าเรื' อง “ให้ เหล้ าเท่ ากับแช่ ง” ให้ นกั สร้ าง เสริ มสุขภาพชาติอื'นฟั ง เขาก็ชื'นชมตื'นเต้ นดี แต่มกั บอกว่าท่าจะ ยากในการนําไปใช้ ตรงๆ ในทํานองเดียวกันกับสังคมของเขา คง เพราะ “ราก” ของเขาไม่มีเรื' องนีอยูม่ ากนัก ที'จริ งการรณรงค์ ลดการบริ โ ภคเครื' องดื'ม แอลกอฮอล์ ตังแต่ปีแรกๆ ก็เริ' มที' “งดเหล้ าเข้ าพรรษา” ซึ'งเป็ นการงัดเอา วัฒนธรรมดังเดิมของคนไทยที'นบั ถือศาสนาพุทธ แต่ถกู ลืมเลือน ไปมากแล้ ว กระตุ้ นให้ คนไทยหวนกลับ มาคิ ด ถึ ง และยึ ด ถื อ หลังจากเริ' มรณรงค์ไปสองปี นักวิชาการตลาดก็สรุ ปจากผลการ สํารวจว่า “งดเหล้ าเข้ าพรรษา” ถือได้ ว่าเกิดเป็ น “แบรนด์” หนึ'ง ของสังคมไทยไปแล้ ว ด้ วยเราได้ วิ เ คราะห์ ว่ า ปั จจั ย เสี' ย งสุ ข ภาพอย่ า ง เครื' อ งดื' ม แอลกอฮอล์ มี ค วามเกี' ย วพัน กั บ มิ ติ ท างสัง คมสู ง ประกอบกับ บทบาทของการควบคุม ยาสูบ ที' ผ่า นมาชี ว่ า การ รณรงค์ ต่อผลกระทบทางสังคมของการสูบบุหรี' (เช่น การได้ รับ ควันบุหรี' มือสอง ส่งผลต่อสุขภาพผู้ไม่สบู บุหรี' ) ได้ ผลมากกว่า การใช้ เพียงผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริ โภคเองเท่านัน งานรณรงค์ แอลกอฮอล์ ที' สื บ เนื' อ งมาจากงดเหล้ า เข้ า พรรษา ก็ เ กี' ย วพัน ผลกระทบทางสัง คม เช่น ดื' มแล้ ว ขับต่อ อุบัติภัยจราจร ผลต่อ ความรุนแรงและอาชญากรรรม ผลต่อความยากจนของครอบครัว เป็ นต้ น รวมทังใช้ โอกาสทางสัง คมที'ผ้ ูคนและนักการตลาดใช้ กระตุ้นการดื'ม มารณรงค์ทางตรงกันข้ าม อย่าง กฐิ นปลอดเหล้ า รับน้ องปลอดเหล้ า สงกรานต์สนุกได้ ไร้ แอลกอฮอล์ กี ฬาปลอด เหล้ า ฯ
ปี ใหม่ 2554 นี สสส. ร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน ชวนคน ไทย “สวดมนต์ ข้ามปี เริ^ มต้ นดี ชีวิตดี ในปี ใหม่ ” แทนการ เฉลิมฉลองเคาน์ ดาวน์ แบบอื'นๆ ซึ'งนับว่าเป็ นการหาทางเลือก การเฉลิมฉลองปี ใหม่จากการนํารากวัฒนธรรมของพุทธศาสนา มาประยุกต์กบั การเคาท์ดาวน์ ซึ'งเคยมีปรากฏขึนมาในหลายวัด หลายกลุม่ คนอยู่ก่อนบ้ างแล้ ว เราจึงชวนกันมาขยายผลวงกว้ าง ในปี นี จากการสํารวจของเอแบคโพลล์ชีว่า คนไทยส่วนใหญ่ หรื อร้ อยละ 74.2 สวดมนต์เป็ นประจําอย่างน้ อยสัปดาห์ละครังอยู่ แล้ ว โดยส่วนใหญ่สวดมนต์เพื'อครอบครัวเป็ นสุข รองลงมาคือเพื'อ ความสบายใจ คลายเครี ยด เพื'อความสําเร็ จ เพื'อพ้ นความเจ็บไข้ ได้ ป่ วย ภั ย พิ บั ติ และเพื' อ อุ ทิ ศ ส่ ว นกุ ศ ลให้ ผู้ เสี ย ชี วิ ต เพื' อ ประเทศชาติสงบสุข เพื'อคนรัก คนใกล้ ชิด เพื'อโชคลาภ และเพื'อ ขับไล่ สิ'งอัปมงคล ตามลําดับ โดยประชาชนเกินครึ' งหรื อร้ อยละ 53.9 สนใจจะเข้ าร่วมโครงการสวดมนต์ข้ามปี เริ' มต้ นดี ชีวิตดี ใน ปี ใหม่ ในขณะที'ร้อยละ 46.1 ไม่สนใจ บทความนีเ1 ขียนก่ อนถึงวันสิน1 ปี จึงไม่ อาจทราบได้ ว่ า งานต่ อยอดสร้ างทางเลื อ กปี ใหม่ จากทุ น ของราก วัฒนธรรมไทยเที^ยวนีจ1 ะเกิดผลอย่ างไรบ้ าง แต่ อย่ างน้ อยก็ หวั ง ว่ า จะสร้ างอี กหนึ^ งบทเรี ย นสํา คัญ ของการสร้ างเสริ ม สุ ข ภาพของไทยให้ ช่ วยกั น ศึ ก ษาเรี ย นรู้ ทั 1ง หวั ง ว่ าชาว ทั น ตภู ธ รคงเห็ น บางแง่ มุ ม ของบทเรี ย นจากเครื^ องดื^ ม แอลกอฮอล์ เพื^อมาประยุกต์ ใช้ ในงานของพวกเราต่ อไป ด้ วยครับ ☺
P 17 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
เดิ นชุมชนและดูงานศูนย์บริ การสาธารณสุข 23 สีพ ระยา เช้ าวันหนึ'งที'อากาศแจ่มใส พวกเราได้ ออก เดินทางไปสูศ่ นู ย์บริ การสาธารณสุข 23 สี'พระยา เพื'อสมทบกับอาจารย์สดุ าดวงที'ได้ ออกเดินทางไปก่อนหน้ อนหน้ าแล้ ว พวกเราไปถึงศูนย์ในเวลาอันรวดเร็ วเนื'องด้ วยสภาพการจราจรที'คล่องตัว และไม่ รอช้ าที'จะมุง่ หน้ าสูช่ มุ ชนตรอกห้ านายพร้ อมกับกลุม่ พี'พยาบาลและหมอกุ้ง(ทพญ. ศิริรัตน์) ทันตแพทย์ประจําศูนย์ ณ ตรอกห้ านาย เมื'อพวกเราก้ าวลงจากรถตู้ ก็ได้ พบกับตึกแถวสภาพค่อนข้ างดี ง เรี ยงรายอยู่ แต่เพียงแค่เลียวเข้ าซอยไป ก็พลันตระหนกกับสภาพตึกรามบ้ านช่องซึ'งเป็ นไม้ ผุพงั ส่งกลิน' เหม็น ไม่ตา่ งจากในละครนําเน่าหลังข่าว พี'พยาบาลได้ พาพวกเราไปแนะนํ าพวกเรา ากับ ลุงสํารวย อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ประจํ า ชุม ชนซึ' ง ดํ า รงตํ า แหน่ ง ประธาน ชุมชนด้ วย จากนันเส้ นทางของพวกเราก็ถกู แยกเป็ นสองทางเพื'อให้ ได้ ทํางานรวดเร็ ว ในเวลาอันจํากัด... “ลุ ง เป็ นอาสาสมั ค รมานานกว่ า 10ปี 10 แล้ ว ตั ง1 แต่ ปี 40 แม้ ค นจะลดลงไป เรื^อยๆ แต่ ลุงก็ยงั ทําอยู่ ลุงผูกพันกับชุมชนนีเ1 พราะลุงอยู่มาตัง1 แต่ เกิด” ประธานชุมชน กล่าวด้ วยจิตและสายตาอันมุง่ มัน' สร้ างความฮึ ามฮึกเหิมให้ กบั ผู้ที'ได้ ฟัง “หน้ าที^ของลุงคือเป็ น ตัวกลางช่ วยประสานกับราชการ เป็ นคนรับเรื^อง เป็ นหัวหน้ า และช่ วยประสานงาน” ยประสานงาน ลุงเล่าว่าเคยติดทังบุหรี' และเหล้ า ทําให้ มีโรคอยู่มาก เช่นโรคทางเดินหายใจและโรคกระเพาะ แต่เมื'อเลิกได้ สขุ ภาพก็ดีขนึ เนื'องด้ วยพวกเรา เป็ นนิสติ ทันตแพทย์จึงอดไม่ได้ ที'จะถามถึงสภาพในช่องปาก ซึง' ลุงสํารวยก็ตอบในทันทีว่าฟั นปลอมทังปากนันเก่าและเริ' มหลวมแล้ ว แต่ก็ยงั สามารถใช้ งานได้ ดี ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด P 18 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ขณะที ณะที'ลงุ สํารวยเล่าเรื' อง พี'พยาบาลก็ได้ ตรวจสุขภาพ และถามไถ่ ส ารทุก ข์ สุก ดิ บ ไปด้ ว ย พบว่ า ลุง มี สุข ภาวะที' ดี แม้ สภาพร่ างกายจะไม่สมบูรณ์ เต็มร้ อยเหมือนที'แพทย์ส่วนใหญ่พึง อยากให้ เป็ น ภรรยาของลุงเสียไปนานแล้ ว ส่ วนลูกของลุงเป็ น “ภรรยาของลุ ช่ างอยู่ท^ คี ุรุสภา” ลุงเล่าถึงครอบครัวตน เมื'อถูกถามถึงภาพถ่าย รับรางวัลพ่อแห่งชาติ ดูแล้ วช่างเป็ นครอบครัวที'อบอุน่ เปี' ยมสุข แม้ จะไม่ได้ รํ'ารวยอะไร
เมื^ อพวกเราสอบถามถึงเด็ก ๆ ในชุมชนตรอกห้ า นาย อสม.ชราเล่ ชราเล่ าว่ าชุมชนนี^ก็มีเด็กอยู่หลายคน ส่ วนใหญ่ ก็ ได้ เ ข้ า เรี ย น แต่ ว่ า มี เ ด็ ก บางส่ ว นซึ^ ง ถูก ละเลยจากพ่ อ แม่ แม้ ว่าจะไม่ ต้องเสียค่ าเล่ าเรี ยน แต่ ห ากขาดการสนั บสนุ น อื^น ๆ เช่ น การซักเสือ1 ผ้ า การไปรั บไปส่ ง เด็กก็ไม่ สามารถ เรี ยนได้ นาน ซึ^งลุงให้ ความเห็นว่ าตัวพ่ อแม่ ของเด็กเองไม่ ขยันหมั^นเพียรในการทํามาหากิน ไม่ ใส่ ใจในการวางแผน ครอบครัว และยังไม่ สามารถเอาตัวเองให้ รอดได้ “จนแต่ ไม่ พยายาม จนแต่ ไม่ ขยัน” ลุงสรุ ปสัน1 ๆ
เดิมพี'พยาบาลตังใจจะไปพาพวกเราไปเยี'ยมป้าลัดดา ต่อ ป้าลัดดาเป็ นผู้ป่วยซึง' อยูใ่ นสภาพที'นา่ เวทนามาก พี'พยาบาล อยากให้ พวกเราได้ เห็นถึงความทุกข์เข็ญของป้า “อยากให้ หมอ ได้ เห็นบ้ านป้าลัดดา หมอจะรู้ สึกว่ ามันไม่ ใช่ บ้าน” น พวกเรา แทบจินตนาการไม่ออกว่าจะมีสภาพเช่นไรรออยู่ แต่แผนการนีก็
เป้าหมายต่อไปของพวกเราศูนย์สขุ ภาพชุมชน ซึ'งเป็ น
ต้ องสะดุดลงเมื'อลุงสํารวยแจ้ งข่าวที'น่าเศร้ าว่าป้าลัดดาเสียแล้ ว
บ้ า นของอสม.คนหนึ คนหนึ' ง ซึ' ง อยู่ ลึ ก เข้ าในชุ ม ชน เราจึ ง กล่ า วลา
เมื'อไม่นานที'ผ่านมา พี'พยาบาลถามซําๆอยู่หลายรอบเหมือนจะ
ลุงสํารวย และออกเดินทางต่อ ซึ'งก็ต้องแปลกใจกับตึกบ้ านไม้
ยืนยันว่าพูดถึงคนคนเดียวกันอยู่ แสดงถึงความตกใจที'ไม่อาจพูด
และห้ องแถวที'เรี ยงเบียดเสียดกัน บีบทางเดินให้ เล็กเพียงแค่พอ
ออกมาได้
ให้ เดินผ่านได้ เกือบสะดวก
กระนันพวกเรา
น่าเสียดายที'ป้าเจ้ าของบ้ านไม่อยูใ่ ห้ เราได้ พดู คุยซักถาม
ก็ ยั ง ค ง จ ะ ไ ป
จึงได้ แต่ขอสํารวจที'ทางสักเล็กน้ อย ซึ'งพี'พยาบาลก็อธิบายให้ ฟัง
เยี' ย มบ้ านของ
ว่า ศูนย์สขุ ภาพจะมีต้ ยู าสามัญและชุดทําแผลอย่างง่าย เตรี ยมไว้
ป้าเพื'อ เป็ นการ
ให้ ส มาชิ ก ในชุ ม ชนโดยไม่ เ สี ย ค่ า ใช้ จ่ า ย ศูน ย์ สุข ภาพศูน ย์ นี
ไว้ อาลัย
เกิดขึนจากนําใจของคุณป้า ซึง' แม้ ไม่ได้ มีเงินทองมากกว่าผู้อื'น แต่
ระหว่า งทางลุง
ก็ยอมใช้ ที'อยูท่ ี'ค้าขายของตนเป็ นแหล่งเกือกูลเพื'อนมนุษย์
สํารวยเล่าว่าป้าเคยมีบ้านหลังใหญ่อยู่ในชุมชนนีเอง ก่อนจะขาย เพื'อเอาเงินให้ ลกู ซึ'งป้ารักกว่าสิ'งใด แม้ ลกู ชายของป้าจะมาเยี'ยม เพียงนาน ๆ ครั ง ป้าก็ ไม่เคยจะดุว่า และยังดีใจทุกครั ง “คราว ก่ อนมีนักศึกษาพยาบาลมาลงพืนที น1 ที^ รู้ สึกสงสารจึงให้ เงินไว้ สองพันบาท ป้าแกไม่ ยอมใช้ จ่ายอะไร จนในที^สุดเงินก็เป็ น ของลูกแก” ลุงสํารวยเล่าด้ วยความสมเพชเวทนา P 19 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
หลังจากนันเมื'อพวกเราได้ กลับมารวมกลุ่มกันอีกครั ง ต่างก็แลกเปลี'ยนประสบการณ์กันด้ วยความสลดใจ หลายๆเรื' อง เริ' มต้ นที'หลังแรก เป็ นคุณลุงที'ป่วย
ได้ พบ ไม่คิดว่าจะมีอยู่ในชีวิตจริ งได้ บรรยากาศในรถตู้แตกต่าง
เป็ นโรคเส้ นเลือดในสมองแตกเมื'อสี'
จากก่ อ นหน้ า ที' รื' น เริ งเป็ นเศร้ าสลด ปั ญ หาที' แ ท้ จ ริ งของคนใน
ปี ที'แล้ ว ตอนนีลุงมีอาการดีขนมาก ึ
ชุม ชนก็ ค งไม่พ้ น เรื' อ งปากท้ อ ง ไม่มี ใครสนใจเรื' องสุข ภาพเลย
เคลือ' นไหวได้ ปกติ ถึงแม้ วา่ จะยังคง
ลํา พัง แค่ค่า ใช้ จ่ า ยต่ อ เดื อ นก็ ห ามาไม่พ อใช้ แต่พ วกเราคิ ด ว่ า
มีอาการชามารบกวนจิตใจอยู่บ้าง
“ลุลุงคะ ยังทานยาอยู่บ้างรึ
ปั ญ หานันมิ ไ ด้ อ ยู่ที' ร ายรั บ ซึ'ง น้ อยแต่เ ป็ นเพราะรายจ่า ยที' ข าด
เปล่า?” พี'พยาบาลถามด้ วยความเป็ นห่วง ขณะวัดความดัน “ไม่
ความรอบคอบ ซึ'งเห็นได้ จากวงไพ่ซึ'งตังอยู่ในเวลากลางวันใน
ค่อยได้ กิ นแล้ ว ไม่เห็ นจะเป็ นอะไรเลย” ลุง ตอบด้ วยนําเสีย ง
ชุมชน ซึ'งควรจะเป็ นเวลาทํ วลาทํางานหารายได้ พวกเราอดไม่ได้ ที'จะ
ค่อนข้ างกลัวคําต่อว่าจากพยาบาล “ไม่ ไม่มีอาการอะไรเลยเหรอคะ าการอะไร
เกิดทัศนะคติทางลบขึนในใจ ...แท้ ... จริ งแล้ ว คนเหล่านีน่าสงสาร
ความดันสูงขนาดนี” พี'พยาบาลถามขณะชายตามอง หน้ าจอที'
จริ งหรื อไม่? พวกเขาสมควรที'จะถูกตําหนิ หรื อเบืองหลังจะมี
แสดงผลความดันได้ ถึง 197/102 mmHg “ไม่ ไม่เตือนคุณลุงให้ ทาน
เรื' องราวซับซ้ อนซ่อนอยู่ การเดินชุมชนเพียงวันเดียวไม่อาจรับรู้
ยาบ้ างล่ะคะ” อาจารย์สดุ าดวงถามภรรยาคุณลุง “โอ้ ย ถ้ าตัวเอง
เรื' องราวได้ ทุ ก แง่ มุ ม กระนั นสิ' ง ที' พ วกเราได้ วกเรา สั ม ผั ส ก็ เ ป็ น
ไม่ดแู ลก็ไม่ต้องสนใจแล้ ว” ภรรยาตอบด้ วยนําเสียงแสดงความไม่
ประสบการณ์ที'ห้องเรี ยนสี'เหลี'ยมและตัวหนังสือบนหน้ ากระดาษ
สนใจสักเท่าไหร่ ขณะเดินมาให้ าให้ พยาบาลวัดความดันของตัวเอง
ไม่อาจบรรยายได้
“ป้ามีโรคประจําตัวอะไรไหมคะ?” พยาบาลถาม “มี เป็ นโรคไขมัน แต่ไม่กินยานะ ไม่มีอาการอะไรนี'นา” ป้าตอบ เราสามคนหันมอง หน้ ากัน คิดเหมือนกันว่า แล้ วใครจะเตือนใครกันเล่า
เมื'อวันนีสินสุดลง เราได้ มองย้ อนดูถึงสิง' ที'เราหาและสิง' ที' เ จอในวัน นี เราเริ' ม วัน ด้ วยจุ ด ประสงค์ เ พื' อ หาสาเหตุ ที' เ ด็ ก นักเรี ยนฟั นผุ เราคาดว่าจากการที'เราถามสมาชิกในชุมชน เราจะ
หลังสุดท้ ายสร้ างความเศร้ าสลดอย่างถึงที'สดุ เมื'อพบ
ได้ คําตอบที'ชดั เจน แต่เมื'อวันล่วงเลยไป เราเดินลึกและลึกเข้ าใน
หญิ งชราเป็ นอัมพาตครึ' งค่อนตัวนอนซุกตัว อยู่ในสถานที'ที'แทบ
ชุมชนตรอกห้ านาย เราเริ' มได้ รับรู้ถึงปั ญหาที'ยิ'งใหญ่กว่าในชุมชน
จะไม่เรี ยกว่าเป็ นบ้ าน เนื'องจากมีขนาดเล็ก สกปรก และเหม็นเน่า
นี ซึง' อยูเ่ พียงปลายจมูกของคณะเรา เราได้ ทราบถึงบริ บทต่างๆซึ'ง
มาก ด้ านนอกมีแพมเพอร์ สผู้ใหญ่ที'ใช้ แล้ วตากไว้ หลายตัว คาดว่า
ส่งผลถึงสุขภาพทังร่ างกายไม่เพียงแต่ช่องปาก กิจวัตรประจําวัน
จะนํามารี ไซเคิลอย่างผิดสุขลักษณะ สาวทวิส เพื'อนร่วมทีม ถึงกับ
ซึงพวกเขาไม่ ง' พวกเขาไม่มีทางเลือกมากนัก ชีวิตซึ'งขาดพร่ องนับแต่แรกเกิด
กลันนําตาไว้ ไม่อยู่ แล้ วถามด้ วยนําเสี เสียงเครื อว่า “ยายเหงาไหม
จนถึงวันตาย คําถามง่ายๆว่าคิดว่าทําไมเด็กในชุมชนถึงฟั นผุจึง
คะ” ……….“...” ไร้ คําตอบเพราะคุณยายพูดตอบสนองไม่ได้ มี
ไม่ก ล้ า หลุดออกจากปากของเรา เพราะในวัน นี เราอาจไม่พ บ
แต่แววตาที'เศร้ าสร้ อยตอบแทนทุกคําพูด เมื'อออกมานอกบ้ านได้
สาเหตุของโรค แต่ได้ พบกับ“หัหัวใจ”ของผู ใจ ้ ป่วย ในชุมชนใต้ ทางด่วน
ข้ อมูลเพิ'มเติมจากพยาบาลว่า ทุกเช้ าสามีของคุณยายจะพายาย
นี ☺
(บทความโดย นิสิตทันตแพทย์จุฬาปี 5 กลุ่ม B3 เด็กน้ อยผู้ยงั แสวงหา
นั'ง รถเข็ น แห่ ต ระเวนขอทานตามถนนสี ล ม ได้ เ งิ น มาใช้ จ่ า ย
และเรี ยนรู้ > นทพ. ศุภรัสมิq ศักดากรกุล ,นทพ. ศุภรัสมิq อังเกิดโชค,นทพ.สรกฤตย์
สุรุ่ยสุร่ายส่วนตั วนตัว ยังความสะเทือนใจแก่เราอย่างยิ'ง
วิวัฒน์ พนชาติ, นทพ. สรั ญญา วงศ์ศรี สุชน,นทพ. น สรั ญญา สุวรรณโกมลกุล, นทพ. สัญห์สริ ี อินทรเผือก>> ผศ.ทญ.ดร.สุดาดวง กฤษฎพงษ์ (อาจารย์ที'ปรึกษา)
P 20 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
รางวัลนวัตกรรมทันตสาธารณสุขและชมรมทันตสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ทพญ.ดร.กันยารัตน์ คอวนิ ช สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน วันนีได้ รับมอบหมายให้ ทําหน้ าที'
การรั บ รอง หรื อ ต้ อ งทํ า อย่า งไรจึ ง จะ
เหยี'ยวข่าว (สาว โสด เฉพาะกิ จ) รายงานความเคลื'อนไหวของ
ได้ โลโก้ นี มาสามารถหาอ่ า นได้ ที'
กลุ่ม คนทัน ตสาธารณสุข จากงานประชุ ม วิ ช าการของชมรม
www.toothfriendly.com ด้ วยเหตุว่า
ทัน ตสาธารณสุข แห่ง ประเทศไทย และการประกาศผลรางวัล
เหยี' ยวข่า วมางานล่า ช้ า ไปนิด หนึ'งจึ ง
ไลอ้ อนเพื'อสุขภาพช่องปากครั งที' 2 หรื อที'มีชื'อเล่นว่า ไลอ้ อน
ต้ องรี บตะกายเข้ าไปฟั งการประชุม แต่
อวอร์ ด สําหรับงานนีจัดขึนเมื'อวันที' 15 ธันวาคม 2553 ที'ผ่านมา
ก็เห็นจากหางตาว่าหน้ าห้ องประชุมที'เครื' องมือชนิดหนึ'งตังวางอยู่
โดยจัดที'เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรั ลเวิร์ลด (CTW) ร่ วมกับการ
พร้ อมกับ มี ค นกํ า ลัง สาธิ ต การใช้ น่า ลองมาก แต่ป ระเดี ย วจะ
ประชุมของทันตแพทยสมาคมฯนัน' เอง
กลับมาลองค่ะ พอก้ าวออกจากลิฟต์
ชันที' 22 จะเห็นบูธการประชุม ทั น ตแพทยสมาคมฯ ตั งอยู่ ตรงหน้ า แต่นนั' ไม่ใช่เป้าหมาย เรา พอเลี ยวซ้ า ย พลัน ก็ เ ห็ น โปสเตอร์ สีสนั สวยงามวางเรี ยงราย มีทงผลงานในช่ ั วงปี ที'ผ่านมา ของชมรมฯ ผลงานวิ จั ย ของเหล่ า ปวช. ทั งหลาย (ผู้ เรี ย น ประกาศนียบัตรวิชาชีพทันตกรรม สาขาทันตสาธารณสุข ของราช
ในห้ องประชุมเริ' มด้ วยการที' รศ.ทพญ.ดร.พัชราวรรณ
วิทยาลัยทันตแพทย์แห่งประเทศไทย และคณะทันตแพทยศาสตร์
ศรี ศิลปนันทน์ ประธานชมรมฯ กล่าวเปิ ดและแนะนําชมรมฯ ซึ'ง
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) รวมถึงผลงานวิจยั R2R และผลงานที'สง่
ชมรมทันตสาธารณสุขก็ต้องถือเป็ นชมรมวิชาชีพอีกชมรมหนึง' ที'มี
เข้ าประกวดรางวัลไลอ้ อนอวอร์ ด โปสเตอร์ แรกที'จะมองเห็นก่อน
วั ต ถุ ป ระสงค์ ใ ห้ ผู้ ที' ทํ า งานในสายงานนี ได้ มี โ อกาสพบปะ
เมื'อเดินเข้ าสูบ่ ริ เวณงานและอยากจะเล่าให้ ฟังคือ โปสเตอร์ รูปฟั น
แลกเปลี'ยนประสบการณ์ และความรู้ ทางวิ ชาการระหว่า งกัน
ยิมแฉ่งยืนกางร่มอยู่ พร้ อมทังมีลกู อมที'มีเจ้ าตัวนีแปะติดผลฉลาก
จากนันก็ เป็ นการบรรยายเกี' ยวกับการสื'อสารสุขภาพ โดยคุณ
แจกฟรี อยู่ด้วย เลยลองชิมซักหน่อย อืม รสชาติก็ใช้ ได้ นะ รู ปฟั น
สุพฒ ั นุช สอนดําริ ห์ ผู้เชี'ยวชาญอาวุโสด้ านสื'อสารการตลาดเพื'อ
กางร่มนีมีชื'อจริ งว่า Mr.Happy-tooth ซึง' มาจากแนวความคิดที'วา่
สังคม ของ สสส. หากถามว่าการสือ' สารสุขภาพนี'มนั เป็ นเรื' องของ
ผลิตภัณฑ์ใดบ้ างที'ไม่ทําร้ ายฟั น และเป็ นเพื'อนที'ดีต่อฟั น (Tooth
อะไรหรื อ ก็ ขอให้ นึกถึงถึ ง โฆษณาของ สสส. เกี' ยวกับ บุหรี' ที' มี
friendly) ก็ ติดโลโก้ นีไว้ เพื'อเป็ นทางเลือกหนึ'งของผู้บริ โภคว่า
ประโยคสุดฮิตว่า คุณมาทําร้ ายฉันทําไม หรื อเกี'ยวกับสุรา ให้ เหล้ า
ผลิตภัณฑ์ที'มีรูปนีติดอยู่ผ่านการรับรองแล้ วว่าไม่ทําอันตรายต่อ
เท่ากับแช่ง ก็ น่าจะเป็ นตัวแทนที'ดีที'จะบอกว่าเป็ นการสื'อสารที'
ฟั น ถ้ าอยากทราบรายละเอียดมากขึนว่ามีผลิตภัณฑ์ใดบ้ างที'ผา่ น
โดนใจคนเอามากๆ และมีผลต่อสังคมเป็ นอย่างยิ'ง
P 21 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ที' กิ น ได้ แ ล้ ว ฟั น ไม่ ผุ หรื อ ทํ า อย่ า งไรฟั น ถึ ง จะไม่ ผุ สํ า หรั บ ขัน สุดท้ ายเป็ นขันของการวิพากษ์ เป็ นขันที'ผ้ ฟู ั งสามารถตัดสินใจเอง จัดการเอง และเลือกทําเอง เช่น การที'มีความคิดเห็นว่าร้ านค้ าใน หมู่บ้านน่าจะวางขนมขายในที'สงู ๆ เด็กเอือมเองไม่ถึงหรื อ งาน เลียงต่างๆในหมู่บ้านไม่ควรมีนําอัดลม สําหรับเรื' องของ Health literacy นีทําให้ มองเห็นว่า มีปัจจัยที'มีผลต่อการรับรู้ แยกแยะ มากมาย ทังองค์ความรู้ ทักษะการสื'อสาร และสังคมวัฒนธรรม ในการบรรยายครังนีคุณสุพฒ ั นุชได้ กล่าวว่าทันตแพทย์ นันมีข้อมูลเกี'ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปากอยู่เป็ นจํานวนมาก
ของทังหมอและผู้ป่วย ซึง' สิง' เหล่านีควรต้ องไปด้ วยกัน จึงจะเข้ าใจ กันและสือ' สารได้ ตรงกันได้ ท่านผู้อา่ นคิดเห็นเหมือนกันไหมคะ
แต่ ยั ง ไม่ ไ ด้ มาคั ด สรรเรี ยบเรี ยงให้ โดนใจ คุ ณ สุ พั ฒ นุ ช ให้ คําแนะนําว่าการที'เราจะสื'อสารให้ สงั คมตื'นตัวเห็นความสําคัญ เกี' ย วกับ ประเด็น สุข ภาพช่ อ งปากได้ เราควรต้ อ งหาประเด็ น ที' สํา คัญ และจํ า เป็ นต้ อ งทํ า ก่ อ น จากนันเลื อ กกลุ่ม เป้ าหมายที' ต้ องการจะสือ' ค้ นหาวิธีการที'จะให้ โดนใจ เน้ นเลยว่าต้ อง ตรงและ โดน ส่วนประเด็นอื'นๆ ที'เราเห็นว่าสําคัญแต่ยงั ไม่โดนใจ ก็ค่อยใส่ มาทีหลัง หรื อเชื'อมโยงจากประเด็นแรกหลังจากที'โดนใจไปแล้ วก็ ได้ เพราะฉะนันหากท่านจะเลือกสือ' สารกับคนในพืนที'สามารถนํา หลังจากการบรรยายช่วงเช้ าจบก็ไปรับประทานอาหาร
หลักการนีไปใช้ ได้ นะคะ ส่ ว นผู้ บรรยายท่ า นต่ อ มาคื อ ผศ.ทพญ.ปิ ยะนารถ จาติ เ กตุ หรื อ อาจารย์ ปิ ได้ บรรยายในเรื' อ ง มารู้ จั ก Health literacy กันเถอะ สําหรับคําว่า Health literacy นัน มีผ้ ใู ห้ คํา จํ ากัดความมากมายแต่สรุ ปได้ ว่าคื อระดับ ความแตกฉานหรื อ ความสามารถในการรับรู้ และแยกแยะข่าวสารข้ อมูลด้ านสุขภาพ เพื'อนํามาสู่การตัดสินใจในเรื' องของสุขภาพตนเอง ซึ'งสามารถ แบ่งออกได้ เป็ นหลายระดับ คือ ระดับพืนฐาน เป็ นระดับที'ผ้ ูฟัง อ่านออกและทําตามที'บอก เป็ นระดับพึง' พิง เช่นบอกว่าโรงเรี ยนนี ไม่ใ ห้ เอาขนมมา ก็ ไม่เ อามา ส่วนระดับที' สูงขึนอี กหน่อยก็ เป็ น ระดับ มี ป ฏิ ส ัม พัน ธ์ เป็ นขันตอนของการซัก ถาม ต่ อ รอง และ เปลีย' นแปลง เช่น ผู้ปกครองหรื อเด็กซักถามหมอว่าขนมชนิดไหน
กัน ทําให้ ได้ เห็นว่ามีพี'ๆน้ องๆมากมายที'มาร่ วมงานประชุมครังนี เลยแอบเก็บภาพบรรยากาศมาให้ ได้ ชมกันนะคะ และก่อนที'จะ เริ' มพิธีการช่วงบ่าย จากที'ได้ เอ่ยมาแล้ วว่าได้ เห็นเครื' องมือชนิด หนึ'งตังวางไว้ หน้ าห้ องประชุมเลยรี บไปลองทดสอบ เครื' องที'ว่านี คือ เครื' องวัดแรงในการแปรงฟั น โดยจะเอาแปรงสีฟันใส่เข้ าไปที' ด้ า ม ลองนึก ถึ งเครื' อ งวัด ความดันโลหิต นะคะ แทนที'ป ลายจะ เป็ นคัฟฟ์ ก็เป็ นแปรงสีฟันแทน เราก็จะทดสอบโดยการแปรงฟั น ด้ วยแรงที'เราทํากันตามปกติ ถ้ าหากแปรงแรงเกินก็จะได้ ยินเสียง ติiดๆๆ ระหว่างการชื'นชมผลิตภัณฑ์อยู่นนั ก็แว่วเสียงจากเพื'อนๆ และมาอภิ ป รายกัน ว่า สงสัย เราก็ ต้ อ งเปลี' ย นวิ ธี ก ารแปรงฟั น เหมื อ นกัน นะเนี' ย เห็ น แล้ ว ได้ แ ต่ คิ ด ว่ า คนญี' ปุ่ นนี' ช่ า งคิ ด ค้ น เครื' องมือที'ทนั สมัยเสียจริ งนะ
P 22 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
สํา หรั บ ช่ ว งบ่ า ย เป็ นการมอบรางวัล ไลอ้ อ น อวอร์ ด
มีส่วนร่ วมของชุมชนบ้ านแม่ ผึงในการดําเนินโครงการธนาคาร
เริ' มต้ นรายการด้ วยการบรรยายเรื' อง Oral diseases as a
ผลไม้ เพื'อไทยเด็กอ่อนหวาน ต.เสริ มขวา อ.เสริ มงาม จ.ลําปาง
possible risk factors for pregnancy and infants in maternal
โดย คุณวิสยั อุดก้ อน เจ้ าพนักงานทันตสาธารณสุข ทังนีก็ขอ
and child health period โดย Prof. Dr. Yoshinobu Maki จาก
แสดงความยินดีกบั ทังสองท่านด้ วยนะคะ และขอเป็ นกําลังใจให้
Tokyo Dental Collage ประเทศญี'ปนุ่ โดยมี นพ.มงคล ณ สงขลา
ทุกคนที'สง่ ผลงานเข้ าร่วม แม้ วา่ จะไม่ได้ รางวัลแต่ก็เป็ นที'ประจักษ์
อดีตรัฐมนตรี ว่าการประทรวงสาธารณสุข ให้ เกียรติเป็ นผู้ดําเนิน รายการกิ ตติมศักดิq สําหรั บการบรรยายในช่วงนีสรุ ปสันๆได้ ว่า
ว่าท่านทําได้ ดีมากค่ะ
Severe Periodentitis ในหญิ งตังครรภ์ทําให้ เสี'ยงต่อการคลอด
ส่วนตัวคิดว่าดีมากค่ะ ถือว่าเป็ นการให้ กําลังใจและการประกาศ
ก่อนกําหนด และการที'เด็กจะมีนําหนักตํ'ากว่าเกณฑ์มากถึง 5.9
เกียรติคณ ุ ให้ แก่ผ้ ทู ี'ทําเทเพื'อสุขภาพช่องปากของพี'น้องในชนบท
เท่า และการเลือกใช้ ยาสีฟันที'มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ จะช่วย
นะคะ นอกจากนันแล้ ว อาจารย์ ท รงวุฒิ ยัง อธิ บ ายว่ า แต่ ล ะ
ป้ องกัน ฟั น ผุ โดยยาสี ฟั น ที' มี ฟ ลูอ อไรด์ ป ระเภท
Stannous
โครงการมีข้อดี ข้ อด้ อยอย่างไรบ้ างเหตุใดคณะกรรมการจึงตัดสิน
fluoride เหมาะกับผู้ที'มีเชือ mutans streptococci ในระดับที'สงู
เช่นนี ทําให้ มองเห็นภาพว่าถ้ าหากเราต้ องการจะส่งขอรางวัลปี
Sodium monofluorophosphate เหมาะกับเด็กเล็ก และ Sodium
หน้ าควรจะต้ องเตรี ยมเขียนโครงการให้ ดีและละเอียด สอดคล้ อง
fluoride เหมาะกับเด็ก ผู้ใหญ่ ทั'วไปและผู้สูงอายุ พร้ อมกัน นี
กับวัตถุประสงค์ กรอบแนวคิดต้ องชัด เอาเป็ นว่าหากท่านผู้อ่าน
ผู้บรรยายได้ แนะนําวิธีการแปรงฟั น Modified Goteborg ให้ อีก
สนใจจะส่งโครงการหรื องานวิจัยของท่านเข้ าประกวดสามารถ
ด้ วย ซึง' ในช่วงนีมีการซักถามเกี'ยวกับฟลูออไรด์กนั มากมาย
เตรี ยมตัวได้ ตามที'กล่าวมา หรื อหากอยากมีที'ปรึ กษา แว่วมาจาก
สํา หรั บการประกาศรางวัลในครั งนี โดยความคิ ด เห็ น
สําหรับช่วงสุดท้ ายของการประชุมคือการประกาศผล
ท่านประธานชมรมทันตสาธารณสุขว่าสามารถค้ นหารายชื'อท่าน
รางวัลไลอ้ อน อวอร์ ด โดยมีผลงานที'ส่งเข้ าประกวดจํ านวน 12
ผู้เ ชี' ย วชาญในแต่ ล ะเรื' อ งทางด้ า นทัน ตสาธารณสุข ที' ยิ น ดี ใ ห้
เรื' อง เป็ นงานวิจยั 2 เรื' อง ส่วนที'เหลือเป็ นโครงการ ทังนีประธาน
คําปรึกษาได้ ทางเวบไซต์ของชมรม www.dentpublichealth.com
คณะกรรมการการตัดสินคือ ผศ.ทพ.ดร.ทรงวุฒิ ตวงรัตนพันธ์ ได้
สําหรับการายงานข่าวในช่วงนีก็ต้องขออําลาเพียงเท่านี หากได้ รับ
เป็ นผู้ประกาศรางวัล บรรยากาศในงานการประกาศให้ ความรู้ สกึ
มอบหมายหน้ าที'ใหม่ ก็มาพบกันใหม่นะคะ ☺
เหมือนเป็ นการประกาศผลการประกวดโทรทัศน์ทองคําหรื อรางวัล เมขลายังไงยังงันเลย โดยโครงการที'ได้ รับรางวัลชนะเลิศจะต้ องมี คุณสมบัติ คือ เป็ นผลงานที'ทํามาอย่างต่อเนื'อง มีความใหม่ มี ระบบแบบแผนที'ดีตามหลักวิชาการ ฯลฯ ซึ'งในปี นียังไม่มีผลงาน ใดที'มีคณ ุ สมบัติดงั กล่าวครบถ้ วน แต่มีผลงานที'ถือว่าทําได้ ดีและ สมควรได้ รับรางวัลชมเชยอยู่ 2 ราย คือ โครงการเรื' องศูนย์ทนั ต สุข ภาพกับ การแก้ ไ ขปั ญ หาทัน ตสุข ภาพเขตเมื อ งน่า น โดย ทันตแพทย์กมล เศรษฐ์ ชยั ยันต์ จาก สสจ.น่าน และ โครงการการ P 23 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
i i a a !o ( a ) a#a $ o e i & ! e & ' a !o a oe oe ม o 2 o Ì ( . i uo,-i ) .. & $ ../ u e 0 e oe ม o a 2 e 1 4 e / . Ì o o 3' a e a 4 ! 50 # e ม o 4 o 4 7e &/u! o a 4 ! 4& a i a#a e ม o e oo /a 8 a$ e ! 3 .. ' /a e i & ' e i o & o 3 98! #u u :i 3a !o ' /a 8 & #/ e /aeo a # 3a Ì/! e ;3< 6 e มo # a e ม$ ;# & ! ' /a 3 o 3 a$ / a#a e ม o >a 4 ' #a 4 ! Ì # &#ม ! o u a & $ e 1 8! a a 3a a 4 ! a a& ' e i& ?o a a u < e i & ผ$ o & . & #&# e 1 . defend Ì/a complete Ì9 Ki a i o u 3a a o 3 $ ' e i o u a & a e 1 a . $ a i & o ' a 3 . a & a.u&La L!o&# & e ! & ie M o u a & a 23 Oa #& 2553 o & 98! ie M o u a & a o ! a Ì 3 ' a a O u M8 o &a Ì /ae Ì/a a Ì 3 ' a O u 3a a e ! & ie M ' & o u a & a& 2554 $ 3 . Ì /ae e i & 3 .
( ĂŚ . prae001@gmail.com )
a$ Ì / & #&>ผ / e&- e i &e !& !
' ! e a o4 # a ( u M P Ì3! ! !o e 0 o& a ' a e ;& # a) ' a e ม o ' Ì a i . ( a O u ) a$ o > &3 Mi i.a 4 ! & #u .u& / & 8 3 o e3! ! ' a /a a e 1 e3! < . ' 3 & o ' Ì a i . ( a O u )4 >ผ ' a .Ì (e มo) 9 & Ì/! o $ o#' o e ม oeo #' o 4 !& e ! o . a o 4 Ì/ae ม o 3 e ม o e 4 a a ผ #u .u& /3ผ a 3a ' 3 & a u! 4 o o !o # 4 8! a ' RÌ& o!o S e 3a4 . ! a a Mi i .a 4 &#a #' o e&ม o 4 3aÌ3! ! o e ; e&ม o4 ! ' Ì /' a 3a a$ ; !o & /u! a o 4 o e &a 3 98! # e ! o # 3a & 3a ! u iO &Ì/ae 1 4 4 !3 i & u o e ; u # a
P 24 | ŕ¸&#x2014;ู ŕ¸&#x2122; ŕ¸&#x2022; ภบ ŕ¸&#x2DC; ร ŕ¸&#x2030;ŕ¸&#x161;ูŕ¸&#x161;ŕš&#x20AC;ŕ¸&#x201D;มŕ¸ŕ¸&#x2122; ŕ¸&#x2022;ุ฼าŕ¸&#x201E;ล-ŕ¸&#x2DC;ูŕ¸&#x2122;วาŕ¸&#x201E;ล 2553
' > o &a æ/a .! JHCIS a$ 0 a æ3! Y 3 3u a ' a e #o o/ ' a JHCIS &# & !o .! o a & o & > i i3Za æ/a a uL [Y ' 4 !æ/! æ/a . ' /a a : a i 3 &e.i u Lึ 3a & >/ /aeo e & ! 4 ! Lึ e.i u # !o oo a a ึ a $ 0 a ' /a ' #8 &ืo / !o&8/ JHCIS !e o 8 # 3aæ/! e ;3 1-2 e ืo $ # a ' a 3a !o o o u a & ! a$
& 3a ' #8 &ืoæ a ' 98! Ki a i o4 3a !o ' o 4 e ื o # o æ 2554 $ a 4& / a a$ #u &o3 u a: . ! !o&8/& / & a.u& a o > i a.u& ! & 27æ/a 30 Oa #& æ/a 6 & #& 9 & !o u a.u& a 30 a$ æ # o æ oo e 1 3 /u & 4 !æ 1)e i e ืo e i a3' ' æ 2)e i e i & ื$ ieM- i. . æ#/ e 1 /a 3a i3 2 æ ! .! a& ' e i æ/a /a ^ ! ' !oe o< 1 e ืo 3)e i P4P ืo# o æ & i & ! 3 ! e i ' u $ 2554 4& 3a ' 4 ! e ื o 3 Y a& 2544 o ' e i e ื o # o æ a$ & i # &. ' ! ' # o æ ' /a # ! O u !e 1 O & (4& . !eZ a a O u )
i. . æ#/ &o .& & M./ . . i /a æ/a i. . i3 o & !oe o !& ' e 1 ื$ 4& . e 1 æ/! 4 !e a a$ ae M ! i3 # o #/u& a$ a - æ/a a u a - (æ/ < a ^/^) !o&8/e ื o ื$ ieM- &o .& &, .., . i3 o & !oe o ! .!e b e a a u < u a e ื o $ ; 3a e 1 a . i . i series 8 a 4 /u! a 4 o # a e ื o o u a &3 ! .. ! /a æ a$ # a & a: æ/a ' a iM i o u a & o a /a a a u < >! ! Mึ - 8 a i L æ / æ/a ; æ a$ # a & e ื o ' o /a 3 # a 4 !æ 1)# a a: .u i Oi ao . æ/a a i a O u < ! o u a & 2) # a & a: a !o&8/æ/a e Me ื o o a o u a & æ/a 3) # a & a e#/ื o ! e i& u < . o a 13 &#. 9 & # a & .u æ ( i Oi ao . o u ) a.u& a & i3 e ื o e ! >ึ .u i Oi ao . Lึ a & Y e ื o 3 a3 u##/ # a & .!e / #u a e ื o o a: u # #/ æ/a o u OM a O u e ื o ! a. . & >e ! >ึ .u i Oi ao . 4 ! & &# e ื o $ ;# e 1 & a u##/ o e ☺
3a4 ! & o o &æ a u # # a
P 25 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
“เชียงใหม ไมกินหวาน”… …เจา
Q: หมอหญิ หมอหญิงชวยเลาจุดเริ่มตนงานเด็กไทยไมกนิ หวานในจังหวัดเชียงใหมใหชาวทันตภูธรฟงหนอยคะ
ตอนรับบรรยากาศสายลมหนาวแบบนี้ ชวนใหนึก ถึงเสนหดอกไมงาม มนตแหงเมืองเหนื เหนือ ทีมงานทันตต ภูธรจึงไดฤกษโฉบไปเยื บไปเยือนเมืองเชียงใหม เมืองที่ขึ้นชื่อ เรื่ อ งความอ อ นหวานของผู ค น จึ ง ไม พ ลาดที่ จ ะขอ สัมภาษณเรื่องราวของทีมงานที่มีบทบาทในการสรรสราง รอยยิ้มที่สดใสและความออนหวานใหกับเด็กเชียงใหม นั่นคือ “ทีทีมเด็กไทยไมกินหวานจังหวัดเชียงใหม”เจา
A: เริ่ ม ดํ า เนิ น โครงการ อย า งเป น ทางการ ตั้งแต ป 2550 โดยการชัก ชวนของ ทพญ. ทพญ . จัน ทนา อึ้งชูศักดิ์ มีพื้นที่ที่เขารวมโครงการ เริ่มแรก 4 อําเภอ ไดแก อ.แมแตง, อ. สันทราย, ทราย อ.หางดง และ อ.เมือง การดําเนินงานในปแรก เนื่องจากพึ่งเริ่มดําเนิน โครงการและมีหลายพื้นที่สนใจเขารวมโครงการ ดังนั้น จึ ง เน น ที่ ก ารพั ฒ นาศั กยภาพบุ ก ยภาพบุ ค ลากรที่ เ ข า ร ว มให มี ความรูความเขาใจในการดําเนินกิจกรรมลดการบริโภค น้ําตาลในเด็ก ทันตบุคลากรในพื้นที่ไดชักชวนเครือขาย ผูมีสวนรวม อยางเชนคุณครู ผูดูแลเด็ก ผูปกครองใหเขา มามีบทบาทในการทํากิจกรรมตางๆคะ Q: แลวหลังจากไดเริ่มแลว มีผลอยางไรบ งไรบางคะ
โดยผูที่จะอาสามาเลาสูกันฟงในฉบับนี้ ทีมงาน จะพาไปรู จั ก กั บ คุ ณ หมอหญิ ง ทพญ.รัรั ก ชนก นุ ช พ ว ง ทันตแพทยชํานาญการพิเศษ สสจ.เชี เชียงใหม ประวัติการศึกษา: 2541 ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต
A: ผลการดําเนินงานในชวงแรก มีผลงานที่เริ่ม ปรากฎ ที่เดนชัดเห็นจะเปนเรื่อง การพัฒนาเครือขายให เกิดการผลักดัน นโยบายสาธารณะ ไดแก รร.เทศบาล วัดเชียงยืน ประกาศนโยบายหามจําหนายน้ําอัดลม
ม..เชียงใหม
2550 อนุมัติบัตรสาขาทั สาขาทันตสาธารณสุข ทันตแพทยสภา 2552 HealthCare Care University, Japan
Administration,
Nagoya
ประสบการณการทํางาน: งาน 2541-2543 โรงพยาบาลเชียงดาว 2543-ปปจจุบัน สํานักงานสาธารณสุขจ.เชี จ ยงใหม P 26 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
หากสนใจในรายละเอียดของแตละกิจกรรมสามารถอานไดที่เรื่องเลารวมพล คนอ อ นหวานคะ (www.sweetenough.in.th/index.php/ www.sweetenough.in.th/index.php/ downloadsdownloadssweet/finish/2/74/0 ตองสมัครสมาชิกเว็บกอนนะคะ) นนะคะ Q: โอโห มีกิจกรรมดีๆมากมายเลยนะคะ ทําใหอยากทราบวาเครือขายของ เชียงใหมกวางขวางขนาดไหนแล งขวางขนาดไหนแลว A: ขอสรุปเปนตารางดีกวานะคะจะไดเห็นชัดขึ้น คือเรามีเปาหมายของกลุมที่ เขารวมกิจกรรมและสรุปผลงานป 2553 ดังนี้คะ
และยังมีโรงเรียนประถมศึกษาอีก 18 แหงที่ขอเขารวมมาทีหลังซึ่งก็เปน ประโยชนตอเด็กในโรงเรียนอีก 12,271 คน Q: เรียกไดวาผลงานทะลุเป เปาหมายกันถลมทลายทีเดียวนะคะ ชื่นใจแทนชาวเชียงใหมจริงๆ เห็นผลงานขนาดนีท้ าํ ใหอยากทราบถึงแนวคิดหรือแนวทางในการดําเนินงานของทีมเชียงใหมคะ A: ในส ว นของสสจ.เชี เชี ย งใหม จ ะมี บ ทบาทสํ า คั ญ ใน เรื่องของการสนับสนุนการทํางาน/กิ งาน จกรรมในพื้นที่ และทําหนาที่ขยายเครือขายพื้นที่การทํางาน ทั้งใน สวนทันตบุคลากรในหนวยบริการตางๆ ตอนนี้มี 11 อําเภอ ที่ทํากิจกรรมอยางเปนรูปธรรมจากทั้งหมด 25 อําเภอ และใหแตละพื้นที่มีการทํางานเชื่อมโยง กัน ทั้ง ในโรงเรียน, อบต., อบต ศูน ยเด็ก เล็ก และชมรม ผูสูง อายุ พยายามประสานเครือ ขา ยงานอื่น ๆที่ เกี่ยวของในเรื นเรื่องของพฤติกรรมการบริโภค P 27 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
การทํ า งานจะพยายามให มี รู ป แบบของการ บูร ณาการและการมีส วนร วม ทั้ ง ในระดับ จัง หวั ด และ พื้ น ที่ เน น การจั ด กิ จ กรรมสนั บ สนุ น และกระตุ น การ ทํางานอยางตอเนื่อง ปที่ผานมาก็จัดนิเทศพื้นที่เครือขาย ทุ ก อํ า เภอ ทั้ ง ในโรงเรี ย นและศู น ย เ ด็ ก เล็ ก และจั และ ด กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู,นําเสนอผลงานระดับจังหวัด สิ่ ง ที่ ตั้ ง ใจจะทํ า คื อ การเก็ บ ข อ มู ล และการประเมิ น ผล อยางเปนระบบ ที่ผานมาก็พยายามทําอยูแตยังไมดีพอ ตองปรับปรุงและพัฒนาอีกมากคะ
Q: ทันตภูธรขอเปนกําลังใจใหอีกแรงนะคะ แลว จากประสบการณที่ผานมา คิดวางานเด็ างานเด็กไทยไมกนิ หวาน มีจุดเดนจุดดอยในการดําเนินงานอยางไรบาง A: จุดเดน 1) มีแผนการดําเนินงานในระดับสวนกลางที่คอนขาง ชัดเจนในเรื่องเปาหมาย วัตถุประสงค การทํางาน การ ประชาสัมพันธ 2) ทีมทํางานที่เกง และมีความตั้งใจในการทํางานทั้งใน ส ว นกลาง และพื้ น ที่ ห ลายๆจั ยๆจั ง หวั ด ทํ า ให มี โ อกาสได เรียนรูและพัฒนา 3) มีการพัฒนางานอยางตอเนื่องจากการจัดแลกเปลี่ยน เรียนรู ประสบการณการทํางานทําใหไดเห็นการทํางาน
ของที่อื่นๆ ไดนําไปปรับใชกับพื้น ที่ของเราไดทําใหงาน พัฒนา 4) การมีภาคีเครือขายที่หลากหลาย ไดชวยกันทํางาน แลกเปลี่ยนความคิ วามคิด มุมมอง 5) ทุกคนที่เขารวมเครือขายสวนใหญมีความตั้งใจในการ ทํางานทําใหเกิดแรงกระตุนซึ่งกันและกันเมื่อไดมาพูดคุย แลกเปลี่ยนกัน A: จุดดอย 1) การมีทันตบุคลากรเปนแกนนําที่โดดเดน ทําใหผูที่จะ เขารวมกิจกรรมจะนึกถึงเฉพาะเรื่องฟน หรือเรื่องภายใน ชองปาก ปาก มากกวาจะมองในเรื่องการปรับพฤติกรรมการ บริโภค 2) มุมมองที่คอนขางแคบของครู , เจาหนาที่บางคน อาจเกิด จากความเขาใจที่ ไ มต รงกัน ในเนื้อหาแกน แท ของ งานเด็กไทยไมกินหวาน 3) การประเมินผล ทําไดคอนขางยาก การเปลี่ยนแปลง อยางเรื่องพฤติกรรมเห็นผลไดชา วัดผลยาก ผล 4) พฤติกรรมการกินหวาน กินน้ําตาล น้ําอัดลม เปน พฤติกรรมที่บางคนมองวาเปลี่ยนแปลงไดยาก และบาง แล คนต อ ต า นว า ขั ด กั บ ความเป น จริ ง ในชีวิ ต ที่ จ ะห า มเด็ ก ไมใหกินขนม ไมใหกินน้ําอัดลม 5) การขัดผลประโยชนทางการคา อยางหามขายขนม น้ําอัดลม บางพื้นที่ทําไมได มีปญหา
P 28 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
Q: สําหรับความคาดหวังหรือสิ่งที่อยากทําตอไป ในงานเด็กไทยไมกินหวานของเชียงใหมในอนาคตค นอนาคตคะ A: ก็มีหลายขอเลยทีเดียวคะ ตั้งใจไวตามนี้ - ขยายเครือขาย ใหครอบคลุมทุกอําเภอ - เพิ่มเครือขายในสวนของโรงเรียน,ศู น นยเด็ก เล็ก , ชมรมผูสูง อายุและเครือขา ยในชุมชน อบต., อสม. - เพิ่ ม กลุ ม เป า หมายในส ว นของกลุ ม หญิ ง มี ครรภและเด็กเล็กในWBC - การประเมินผลสําเร็จของกิจกรรมที่ไดทําไป แลวมากมาย
Q: สุดทายเห็นความตัง้ ใจของทีมเชียงใหมขนาด นี้แลว อยากใหฝากแรงใจ หรือแบงพลังใหกับพี่นอ งรวม วิชาชีพสักหนอยคะ A: เวลาทํทํางานแลวรูสึกเบื่อกับความซ้ําซากจําเจ ไม พั ฒ นา ก็ เ ลยลองปรั บ ว า พยายามเรี ย นรู สิ่ ง ใหม ๆ เรียนรูจากคนรอบขาง เรียนรูสิ่งใหมๆที่เกิดขึ้นทุกวันใน การทํ า งาน พยายามทบทวนสิ่ ง ที่ ไ ด ทํ า ไปแล ว ว า มี ขอผิดพลาดอะไร แลวควรจะปรับปรุงอะไรไดบาง ในแต ละวันแตละสัปดาห ไมตองรอใหครบปแลวคอยกลับมา ทบทวนมันนานไป และบางสิ่งบางอยางมันลืมไปแลว
ทํางานใหมีความสุข เคาบอกวาถาไดทําอะไรที่ ชอบแลวจะมีความสุข แตถาเราชอบในสิ่งที่เราทําจะทํา ใหเรามีความสุขมากกวาหรือเปลา? และอยากจะขอขอบคุณโครงการเด็กไทยไมกิน หวานที่ทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงดีๆเกิดขึ้น ทั้งในเรื่อง ของพฤติก รรมการกิน ของทั้ง ตัวเอง คนรอบขา ง และ เด็ ก ๆที่ เ ราเข า ไปทํ า กิ จ กรรมด ว ย รวมถึ ง การได พัฒนาการทํางานอยางตอเนื่องคะ ขอขอบคุณหมอหญิ ณหมอหญิง ที่ทําใหเห็นวาการไปเยียน เชียงใหมรอบนี้ ไมไดพบแตเพียงเนื้อหาวิชาการที่จะเปน ประโยชน แตยังเสริมสร มสรางแรงบันดาลใจใหกับอีกหลาย พื้นที่ ตอจากนี้แนวทางพัฒนางานทันตสุขภาพ ไมไกล เกินเอื้อมแนนอนคะ ☺
P 29 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
“เชียงใหม ไมกินหวาน”… …เจา หลัง จากไปเยี่ยมเยียนสสจ.เชี เชียงใหมแลว ทีมงานยัง มี โอกาสไดลงพื้นที่รร.เทศบาลวั เทศบาลวัดเชียงยืน ซึ่งเปนโรงเรียน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม โดยพบกับ คุณครูตูน นายดนุ นายดนุโชติ ชัยชะนะ ตําแหนง ครู อันดับ คศ. คศ.1 ประวัตกิ ารศึกษา 2538 รร. รร.ยุพราชวิทยาลัย เชียงใหม 2542 ศึกษาศาสตรบัณฑิต (ศษ. ศษ.บ.) มหาวิทยาลัยเชียงใหม ประสบการณการทํางาน 2544- 2547 ตําแหนง อาจารย 1 โรงเรียนเทศบาล 2 วัดทินกรนิมิต เทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 2548 – ปจจุบัน ตําแหนง ครู อันดับ คศ.1 คศ โรงเรียน เทศบาลวั ด เชี ย งยื น สํ า นั ก การศึ ก ษา เทศบาลนคร เชียงใหม
Q: ครูตูนเริ่มเขามาทํางานไมกินหวานไดอยางไรครั งไรครับ A: เริ่มตนเมื่อปการศึกษา 2550 ทางโรงเรียนเทศบาล วั ด เ ชี ย ง ยื น ไ ด รั บ ก า ร ป ร ะ ส า น ง า น จ า ก ท า ง โรงพยาบาลเทศบาลนครเชียงใหม ยงใหม ในการเขารวม โครงการเด็ ก เชี ย งใหม อ อ นหวาน โดยสํ า นั ก งาน สาธารณสุข จัง หวัด เชียงใหม ซึ่ง ทางผูบริห ารของ
โรงเรี ย นได เ ล็ ง เห็ น ถึ ง ประโยชน ที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น กั บ นัก เรี ยน และตระหนัก ถึง ความสํ า คัญ ของการเข า ร ว มโครงการดั ง กล า ว จึ ง ได ม อบหมายให ผ มซึ่ ง ปฏิ บั ติ ห น า ที่ หั ว หน า งานพั ฒ นาสุ ข ภาพอนามั ย มา รับผิดชอบ และดําเนินงานตามโครงการดังกลาว จน ไดพัฒนามาเปนโครงการเด็กเชียงยืนออนหวาน มา จนถึงปจจุบันครับ Q: งานที่ทําภายใตโครงการเด็กไทยไมกินหวาน ของ โรงเรียนไดแกอะไรบางครั งครับ A: ในการดํ า เนิ น งานภายใต โ ครงการเด็ ก เชี ย งยื น ออ นหวาน ไดดํ า เนิ น งานมาอยา งต อ เนื่ อ ง ซึ่ ง ได มี กิ จ กรรมต า งๆมากมายที่ ส อดคล อ งกั บ บริ บ ทของ โรงเรียนและสภาพแวดลอม อาทิเชน 1 การสรา งกระแสการบริ โ ภคออ นหวานใน โรงเรียน โดยการประชาสัมพันธอยางตอเนื่องในทุก รูป แบบ ทั้ง การประชุมผูปกครอง การสง วารสาร จากโรงเรียน การจัดทําปายประชาสั ยปร มพันธ การจัด กิจกรรมพิพิเศษตางๆ การเดินรณรงคในชุมชนเป ชน นตน 2 จัดสภาพแวดลอมในโรงเรียน โดยการสราง ขอตกลงกับผูประกอบการรานคาในโรงเรียนถึงเรื่อง ของการจําหนายขนมในโรงเรียนทั้งในเรื่องของชนิด และปริมาณการสงเสริมการดื่มนมจืดในโรงเรียน การกําหนดพืพื้นที่การกินขนม การจัดอาหารกลางวันโดยลดปริมาณน้ําตาลลง การเปลี เปลี่ยนอาหารวางจากของหวานเป งจากของหวา นผลไมตาม ฤดูกาล เปนตน
P 30 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
3 ก า ร ใ ห ค ว า ม รู แ ก นั ก เ รี ย น โด ยก า ร สอดแทรกในการจัดการเรียนรูในกลุมสาระตางๆรวมถึง การจัดกิจกรรมทักษะชีวิตที่สงเสริมใหนักเรียนรูจักการ เลื อ กบริ โ ภคอย า งปลอดภั ย (แนะนํ า การอ า นฉลาก โภชนาการ การดูสวนประกอบของอาหาร การคํานวณ คาปริมาณน้ําตาล ฯลฯ )
การใชปริมาณน้าํ ตาลที่ลดลงของรานคาเครือ่ งดืม่ ปริมาณน้าํ ตาลเฉลีย่ (กก. กก./เดือน) น) 3000 2000
2000 1400
1000
1000
1000
0 2549
2550
2551
2552
รอยละนักเรียนฟนแทผุ 40
30.65
33
30
20.34
20 10 0 2550
4 การติดตามนักเรียน จัดโครงการเยี่ยมบาน เพือ่ ติดตามผลการดําเนินงานโดยออกแบบสอบถามเพื่อ ใชในการสัมภาษณผูปกครองในเรื่องของการบริโภคของ นักเรียน และครอบครัว รวมถึงการขยายผลความรูจาก ทางโรงเรียน การ สุมสอบถามถึงพฤติกรรมการบริโภค ของนักเรียนเปนตน กิจกรรมเดน ที่ผานมาคือการสรางกระแสการ ลดการดื่มน้ําอัดลมใน โรงเรียนซึ่งเห็นผลเปนรูปธรรม จากการร ว มมื อ กั น ของทุ ก ฝ า ย ทั้ ง จากครู ร า นค า ใน โรงเรียน ผูปกครอง และนักเรียนทุกคน
2551
2552
Q: จากประสบการณที่ผานมา คิดวางานเด็กไทยไมกิน หวาน มีจุจดุ เดนจุดดอยในการดําเนินงานอยางไรบาง A: จุดเดน คือ การมีทีมงานที่เขมแข็ง ทั้งจากสวนกลาง และส ว นภู มิ ภ าค มี ภ าคี เ ครื อ ข า ย ที่ มี ส ว นร ว ม สนับสนุนการดําเนินงานที่ห ลากหลาย มีการสรา ง กระแสอยางตอเนื่อง ในรูปแบบตางๆ นอกจากนี้มี ยังการติดตาม เปนระบบ มีการสนับสนุนทั้งในเรื่อง ของงบประมาณ และดานวิชาการ ใหอิสระ ในการ ดํ า เนิ น งาน รวมถึ ง การเป ด โอกาส ให มี เ วที แลกเปลี่ยนเรียนรูผลการดําเนินงานระหวางพื้นที่ จุดดอย ในการดําเนินงาน คือความยากของงาน เนื่องจากการดําเนินงานตามโครงการจําเปนตองไดรับ ความรวมมือจากทุกฝายที่เกี่ยวของไมสามารถดําเนินการ ใหสํา เร็จ ไดดวยคนใดคนหนึ่ง และอีก ประการหนึ่ง คือ การคิดหรือสรางสรรค
P 31 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
Q: แนวคิดการทํางานเด็กไทยไมกินหวาน หวาน ของโรงเรียน เปนอยางไร A: ตอ งเป น การดํ า เนิ น งานที่ ไม ไ ม ขั ด กับ สภาพแวดล อ ม ของโรงเรี ย น ไม เ ป น การเพิ่ ม ภาระงานให กั บ ผู รั บ ผิ ด ชอบ ต อ ง บู ร ณาการการดํ า เนิ น งานให สอดคลอง กับกิจกรรมที่มีอยู และในการดําเนินงาน ตองไดรับความรวมมือจากทุกฝาย เปนการทํางาน ในลักษณะของการประสานความร ารประสานความรวมมือทั้งองคก ร และในการดําเนินงานตองเปนการดําเนินงานอยาง ต อ เนื่ อ ง เนื่ อ งจากนั ก เรี ย นหรื หรื อ กลุ ม เป า หมาย เปลี่ยนไปทุกป Q: ความคาดหวัง หรือสิง่ ทีอ่ ยากทําตอไปในงานเด็กไทย ไมกนิ หวานของเชียงใหมในอนาคต A: สิ่งที่คาดหวังไวคือ ผลผลิตของโครงการคือนักเรียน ที่จบไปในแตละรุน หรือนักเรียนปจจุบัน มีความรู ความเขา ใจ และมี ค วามฉลาดในการเลื อ กบริ โภค สามารถขยายผลของความรู ไปสู ค นรอบตั ว เป น เครือขายที่ขยายออกไปในวงกวาง เปนกระแสการไม กิ น หวาน และเป น ส ว นหนึ่ ง ในการดํ า รงชี วิ ต ประจําวันตามปกติ นอกจากนี้ อ ยากเห็ น ความร ว มมื อ ร ว มใจของ สถานศึ ก ษา รวมถึง ทุ ก หนว ยงานทั้ ง ภาครั ฐ และ เอกชน ในการเข า ร ว มโครงการ ร ว มเป น ภาคี เครือขาย รวมแลกเปลี่ยนเรียนรูในการดําเนินงาน โดยเฉพาะหน ว ยงานที่ มี บ ริ บ ทสภาพแวดล อ มที่ ใกล เ คี ย งกั น เพื่ อ ช ว ยกั น พั ฒ นาและสื บ สานงาน เชียงใหมออนหวาน
Q: มีอะไรจะแบงปนใหกบั พีน่ อ งทีมงานไมกนิ หวานหรือ แนะนําโรงเรียนอืน่ ๆ A: ในการดําเนินงานตามโครงการนั้นความจริงใจ และ ความตั้งใจจริง ถือเปนพื้นฐานที่สําคัญ นอกจากนี้ ขวัญและกําลังใจ รวมถึงความรวมมือรวมใจที่ไดรับ ทั้งจากผูบริหาร เพื่อนครู นัก เรียนทุกคน และผูมี ส ว นเกี่ ย วของทุ ก ฝ า ย ก็ เ ป น แรงผลั ก ดั น ในการ ดําเนินงานใหเกิดผลตามเปาหมาย ถึงแมในบางครั้ง การดําเนินงานจะพบกับอุปสรรคหรือปญหา ใหมอง ป ญ หาเป น ความท า ทายในการดํ า เนิ น งาน และที่ สํ า คั ญ คื อ ให คํ า นึ ง ถึ ง บริ บ ทของโรงเรี ย น การ ดําเนินงานที่สําเร็จที่หนึ่ง อาจจะใช อาจ ไมไดกับอีกที่หนึ่ง จึงตองคนหาแนวทางในการพัฒนาการดําเนินงานที งาน ่ เหมาะสม Q: ประชาสัมพันธหรือพูดถึงความภูมิใจ ในงานคะ A: ในฐานะครูคนหนึนึ่ง การไดเห็นลูกศิษยไดมีการ พัฒ นาการทีที่ดีทั้ง ทางดา นรา งกาย อารมณ สัง คม และสติปญญา ถือเปนความภาคภูมิใจของครู นับวา โชคดี ที่ ผ มได มี โ อกาสในการเข า ร ว มทํ า งานใน ง เครือขายเด็กไทยไมกินหวาน ซึ่งไดรับประสบการณที่ ดี ไดแลกเปลี่ยนเรียนรู และไดนําเสนอผลงานของ ตนเอง เปนการประชาสัมพันธโรงเรียนเทศบาลวัด เชี ย งยื น ให เ ป น ที่ รู จั ก ถึ ง แม ก ารดํ า เนิ น งานใน โรงเรียนจะเปนจุดเล็กๆของการดํ ๆของ าเนินงาน แตผม ถือ วา เปน จุด เล็ก ๆที่ยิ่ง ใหญ เนื่อ งจากเปน การบ ม
เพาะเมล็ดพันธุใหเปนตนกลาที่มีคุณภาพ เพื่อที่จะ เติบโตไปเปนตนไมใหญที่มีคุณภาพตอไป…☺
ขอขอบคุณนักขาวภาคพื้นที่ หมอเคน ทพ.เสถี ทพ ยร สุรวิศาลกุล และหมอเอิง ทพญ.ศุ ทพญ ภนาถ รัตนสิงห คะ P 32 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
แปรงฟนมัน๊ ส มัน ฟนสะอาดดี๊ ดี (สนุ ( ก...สนุก) ทพญ.กาญจนา ศรี พดั รพช.บางบั บางบัวทอง จ.นนทบุ จ รี
วัน ที่ 15 กั น ยายน 2553 ได มี โ อกาส ไป รวมงาน แปรงฟน มั๊นส มัน ฟนสะอาดดี๊ ดี ที่จัดโดยฝาย ทันตสาธารณสุข โรงพยาบาลบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี สถานที่จัดคือ โรงเรียนจันทรทองเอี่ยม ซึ่งเปนกิจกรรม สงทายโครงการพัฒนาเครือขา ยโรงเรียนเด็ก ไทยฟน ดี ของอําเภอบางบั บางบัวทอง โรงเรียนที่เขารวมโครงการ ทั้ง 10 แหง ไดแ สดงความสามารถ โดยนํา เพลงเกี่ยวกับ สุขภาพชองปากมาประยุกตใสทาเตน เพื่อแสดงใหเห็นถึง การดูแลสุขภาพชองปาก มีทาประกอบเพลง และอุปกรณ ประกอบ เพื่ อ ให ใ ช ค วามคิ ด สร า งสรรค กั น อย า งเต็ ม ที่ รวมทั้ ง ชุด ที่ ใ ส ก็ก็ เ น น การประหยั ด ใช วั สดุ รี ไซเคิล และที่ สํ า คั ญ เน น การมี ส ว นร ว มของชุ ม ชน โดยมี ผู ป กครอง, กครอง คุณครู, เจาหนาที่สาธารณสุข รวมเตนกับนักเรียนดวยก็ จะได ค ะแนนเพิ่ ม อี ก ดั ง นั้ น งานนี้ จึ ง ไม ธ รรมดา
ขอบอกวาแตละโรงเรียนโชวลีลากัน อยางไมย้ัง ทั้ง เด็ก และผูใหญ 10 โรงเรียน ชนะใจกรรมการ จนกรรมการ แทบอดใจไม ไ หวจะโดดขึ้ น เวที ด ว ยจริ ง ไหมคะ หมอปู (ทพญ.ปูปูรณินทร ศิริอนันต รพ.บางใหญ รพ ) งานนี้ผูอํานวยการสุดหลอของเรา (นพ.ประพุทธ ลีลาพฤทธิ)์ ทานใหเกียรติเปน ประธานเปดงาน และมอบ รางวัลใหกบั โรงเรียน โรงเรียนที่ชนะเลิ ชนะเลิศ คือโรงเรียนซอและหศึกษา รองชนะเลิ ศ อั น ดั บ 1 มี 2 โรงเรี ย น คื อ โรงเรี ย น เทศบาลวัด ละหาร และโรงเรี ยนประสานสามั ค คีวิ ทยา ทานผูอํานวยการโรงพยาบาล ยังบอกอีกวาอยากใหจัด อีกทุกป อดปลื้มใจไปกับหมอหลี (ทพญ. เพียงพิศ จิตรมณี วรรณ) หมอเอ็ ม (ทพญ. ชุ ติ ม า มู ล ศาสตร ศา ) หมอป อ ม (ทพญ. ณัฐนรี เหลืองสุนธรเกียรติ) และทีมงานทุกทาน ดวยที่สําคัญ คือ ผูอํานวยการโรงเรียนจันทรทองเอี่ยม ผู เอื้อเฟอสถานที่ ทํา ใหเ ราไดช มโครงการดีๆ แบบนี้ ☺
P 33 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ปญหาฟนผุในเด็กไทย
นําตาลในประเทศไทยได้ สะท้ อนแนวโน้ มที'นา่ กังวลต่อการเกิดโรค ฟั น ผุที' จ ะทํ า ให้ เ พิ' ม มากขึ น โดยทั'ว ไป การบริ โ ภคนํ าตาลจะ เป็ นไปใน 2 รู ปแบบด้ วยกัน คือ ทางตรง และทางอ้ อม ซึ'งสัดส่วน
ทพญ.ปิ ยะดา ประเสริ ฐสม โรคฟั น ผุ เ ป็ นปั ญหาหลัก ที' พ บได้ มากในเด็ ก สภาพ ปั ญหามีความชุกและความรุ นแรงค่อนข้ างมาก เด็กไทยเริ' มมีโรค ฟั นผุตงแต่ ั อายุเพียง 1 ปี และจะมีอัตราเพิ'มขึนอย่างรวดเร็ ว ในช่วง 12-18 เดือ น ข้ อมูลจากการสํารวจระดับประเทศ ซึ'ง ดําเนินการโดยสํานักทันตสาธารณสุข พบว่าใน ปี 2552 ร้ อยละ 60 ของเด็กไทยอายุ 3 ปี มีประสบการณ์การเป็ นโรคฟั นผุในฟั น นํานม ซึง' ใกล้ เคียงกันในกรรี ของฟั นแท้ ซึง' พบร้ อยละ 57 เมื'อวัดที'
การบริ โภคจะอยู่ที' 6:4
นําตาลทางอ้ อมนีได้ แก่ นําตาลที'เป็ น
ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหาร เครื' องดื'ม นมเวชภัณฑ์ และลูกอม ข้ อ มูล ที'ร ายงานโดยสํา นัก งานคณะกรรมการอ้ อยและนํ าตาล พบว่า ในปี 2552 อัตราการใช้ นําตาลเพื'อผลิตเป็ นลูกอมและ ลูกกวาด สูงมากขึนกว่า ปี 2551 ถึง 3 เท่า จาก 2.2 ล้ านกิโลกรัม เป็ น 6.1 ล้ านกิโลกรัม ภาพเหล่านีสะท้ อนอัตราการเติบโตของ อุตสาหกรรมลูกอมและลูกกวาดอย่างมาก รายงานการศึ ก ษาระยะยาวถึ ง ปั จจั ย ที' มี ผ ลต่ อ
อายุ 12 ปี แม้ วา่ สํานักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย และเครื อข่าย เด็กไทยไม่กินหวานจะได้ ร่วมมือกันในการรณรงค์และสนับสนุนให้ มีการส่งเสริ มป้องกันเพื'อควบคุมการเกิดโรคในเด็ก ปั จจัยหลัก สําคัญในการเกิดโรคฟั นผุ คือ นําตาล ซึ'งมีรูปแบบของนําตางที' หลากหลาย ซึ'งนําตาลที'เ ป็ นที'นิย มมากในกลุ่มเด็ก คือ ลูกอม ทอฟฟี' เครื อข่ายเด็กไทยไม่กินหวานได้ เฝ้ าระวังการบริ โภคของ
พัฒนาการของฟั นและใบหน้ า และการเกิดโรคในช่องปากของ เด็กอายุ 4-5 ขวบ ใน อ.เทพา สงขลา โดย ดร.ทรงชัย ฐิ ตโสมกุล และคณะ ซึง' ติดตามสภาวะสุขภาพช่องปากของเด็กตังแต่แรกเกิด พบว่า เด็กเกือบทุกคน(ร้ อยละ 96) กินลูกอม ทอฟี' ขนมขบเคียว ที'มีนําตาล เยลลี' ปิ โป้ ซึ'งพบว่า ขนมเหล่านีมีความสัมพันธ์ กับ การเกิ ดโรคฟั นผุอย่างมีนัยสําคัญทางสถิ ติ โดยเด็กที'กินขนม
คนไทยตลอดมานับตังแต่ ปี 2545 พบว่า อัตราการบริ โภคนําตาล
เหล่านีมากจะมีอตั ราการเกิดโรคฟั นผุสงู มากกว่าเด็กที'ไม่รับประ
ของคนไทยเฉลี'ย 20 ช้ อนชา/ ข้ อมูลรู ปแบบการกระจายตัวของ
ทางเป็ นประจํา ☺
P 34 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
การทํางานสงเสริมทันตสุขภาพในเด็ก จากมุมมองของทันตแพทยเด็ก ๆ “เด็ก”
กลุม “เปานิ่ง”
สําหรับชาวทันต-
สาธารณสุขมาเปนเวลานาน วันนี้ ผูเขียน อยากจะชวนมอง ในมุมมองใหม มอง “เด็ก” เปน “active person” มี
วันนี้ เราจะมอง “ขนม”
โดย ชิ วเหรี ยญ
ในสายตาของเด็กไป
ดวยกัน “ขนม”
ซึ่ง ณ ตอนนี้ สังคมกําลังมองเปน
ศักยภาพมากกวาที่จะเปนแคเด็ก กอนอื่น เราตองยอมรับ
“ผูราย” ที่สงผลตอสุขภาพเด็ก แตเด็กกลับมองในมุมมองที่
ความจริงที่วา “เด็ก” มีดานที่ยังพัฒนาไมเต็มที่ เชน ดาน
ตางออกไป
พั ฒ นาการ (การใช ก ล า มเนื้ อ , การสื่ อ สาร) และด า น กระบวนการเรียนรู (การใชภาษา) แตก็เปนสิ่งที่ส ามารถ พัฒนาได บางครั้งอาจจะมากกวาผูใหญอยางเรา (ผูเขียนเคย
“ขนม” เปนเหมือน “ความรัก” ที่พอแมซึ่งไป ทํางานตางแดนสงมาให
เห็น เด็ก 3 ขวบตีกลองชุดมาแลว) แตในดานพฤติกรรม
“ขนม” เปนเหมือน “รางวัล” ที่เด็กสมควรได
เราสามารถมอง “เด็ก” ไดเหมือนกับเปนผูใหญตัวเล็ก ๆ
หลังจากทําสิ่งดี ๆ ที่พอแมตองการ รวมไปถึงการยอมให
คนหนึ่ ง ซึ่ ง กํ า ลัง แอบเลี ย นแบบผู ใ หญ รอบ ๆ ตั ว สิ่ ง ที่
หมอถอนฟน!!!
ยกตัวอยางไดชัด ก็เห็นจะเปนเรื่อง “อาหาร” คํา ๆ เดียว กลั บ ถู ก มองในลั ก ษณะที่ ต า งกั น เช น มองในสายตา ชาวบาน อาหารคือสิ่งที่ทําใหมีแรงตอสู ทํางานตอไป ,มอง ในสายตาของบุ ค ลากรทางการแพทย อาหารถู กแบง เป น หนวยยอย ๆ ที่เรียกวา nutrition
แมฝากลูกไวกับครูพี่เลี้ยงที่ศูนยเด็ก “ขนม” เปนเหมือน “อาหารตองหาม” ที่ทําใหเกิด ความตืน่ เตนเวลาแอบกินในหองเรียน “ขนม” เปนเหมือน “ความทาทาย” กับการเสี่ยง
แตถามองลึกเขาไป “อาหาร” กลับแสดงถึง หนวย ใหญของสังคม แสดงถึงความสัมพันธทางสังคม แสดงถึง สัญลักษณทางวัฒนธรรม ความทันสมัย
ดวง ลุนของแถมที่มากับขนม พูดไปพูดมา “ขนม” ดูจะกลายเปน “พระเอก” ไปซะแลว ทีนี้ ทันตบุคลากรอยางเราจะทํางานกันอยางไรตอ
การทํ า งานส ง เสริ ม ทั น ตสุ ข ภาพเด็ ก ป จ จุ บั น พยายามที่จะกาวผาน “เรื่องปากและฟน”
“ขนม” เปนเหมือน “เครื่องแกเหงา” ในยามที่พอ
ออกมาสูโลก
ภายนอก พยายามทํางานกับสิ่งตาง ๆ ที่มีผลตอสุขภาพฟน เด็ก ทํางานกับสิ่งที่เด็กคุนเคยที่เรียกวา “ขนม”
แตตอง
ถามตัวเองวา เรายังมอง “ขนม” แบบไหน มองเห็นเปน nutrition ที่แยกสวนเปนแปงและน้ําตาลหรือไม
ดี หรือวาจะหนีไปหาผูรายตัวอื่นไปเรื่อย ๆ จริ ง ๆแล ว คนที่ เป นผู ร ายตัว จริง อาจไม ใ ช ใ คร เปน พวกเรา นั่นเอง ถามตัวเองอีกครั้ง ทุกครั้งที่ทํางาน สงเสริมทันตสุขภาพเด็ก เราใหใครเปนศูนยกลางการทํางาน ถาวาดเปนแผนภาพสวยหรู เรามักจะหยอนเด็กไวตรงกลาง ลอมรอบดวยผูป กครอง ครูพี่เลี้ยง และหนวยงานตาง ๆ
P 35 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
แต จ ริง ๆ แลว ตัว เรา นี่ล ะ ที่ ช อบทํ าตั ว เป น ศูน ย กลาง
มาถึงตอนนี้ ผูอานคงรูสึกวาบทความนี้มีศัพทแสง
เชื่อมกลุมรอบๆๆ ไวกับเราทั้งหมด แตเราลืมไปวา ผูปกครอง
อะไรเต็ ม ไปหมด ซึ่ ง ในฐานะทั น ตแพทย เ ด็ ก ๆ ผู เ ขี ย น
ครู อบต. เทศบาล ไมไดเชื่อมกันเองเลย นั่นอาจจะเปน
ยอมรับวา ยังไมเขาใจความหมายไดอยางลึกซึ้ง และไมกลาที่
คําตอบที่วา เมื่อเรากาวออกมาจากวงแลว งานสงเสริมนั้นก็
จะเขียน How-to
หยุดลง
ผูอานหวังตอนอานชื่อเรื่อง ผูเขียนแคอยากใหเรา ฉุกคิด ถึง อี ก หนึ่ ง แฟชั่ น ที่ กํ า ลั ง ฮิ ต กั น ในช ว งนี้ ก็ คื อ คํ า ว า
“การทํางานเปนเครือขาย” และ “empowerment” “การทํางานเปนเครือขาย” ก็คือ net + work
งานสงเสริมทันตสุขภาพเด็ก อยางที่
การทํางานที่เราทํามา ไมไดบอกวา ถาคุณไมแนจริง ทํา empowerment ไมได ก็ไมควรทํา
แตคําวา work ของเรานี่สิ เปน work for them หรือ
เพราะแมเรายังทํางานแบบ Co-operation
work with them กันแน แตถาจะใหเขาไปเฉียดใกลกับคํา
แตงานเล็ก ๆ ของเราก็สามารถสรางสิ่งดี ๆ ขึ้นได
วา “empowerment” เราอาจจะตองเพิ่มคําวา “promote them” ไปดวย ที่ใชคําวา “เฉียดใกล” เพราะผูเขียนยังคิด วาการ empowerment ที่แทจริง ชางทําไดยากนัก ทุกครั้ง ที่ ทํ า ง า น ส ง เ ส ริ ม ก็ มั ก จ ะ แ ฉ ล บ ไ ป ต ก แ ป ก ที่
ขอแคคุณ “ลงมื ลงมือทํา” แตอยากฝากให นึกถึง “เด็ก” ผูใหญตัวเล็ก ๆ ที่ เปน “ผูถ ูกกระทํา” เสมอมา ไวดวย นัน่ เอง.....☺
“Co-operation” หรือ “participation” แทน จึงเกิด เปนความสัมพันธแบบ “power-over” กับชุมชน แทนที่ จะเปน “power-with”
P 36 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ประชุมAsian Chief Dental Officers’ Meeting 2010 ครังที ! (2 เดื อ นพฤศจิ ก ายน2553 ที' ผ่ า นมามี ก ารประชุ ม ผู้อํา นวยการกองทันตสาธารณสุขอาเซี ยนที'เมื อง Putrajaya ประเทศมาเลเซีย ทราบว่าพี^นาหรือคุณหมอ จันทนา อึง1 ชูศักดิr เข้ าประชุมเป็ นตัวแทนสํานักของประเทศเรา จึงขอไปเม้ าท์ทีเล่น เอาจริ งและขอเล่าสูท่ า่ นๆกันฟั ง ตามประสาพี'ๆน้ องค่ะ เริ มด้ วยคําถามเกี ยวกับบทบาทของสํานั กทันตฯของ ประเทศต่ างๆในอาเซี ย น แตกต่ างกั น อย่ า งไร พั น ธกิ จ ขนาด กระบวนการทํางาน
บทบาทของสํานักทันตฯหรือกองทันตฯของ ประเทศในเอเชีย น่ าจะแบ่งเป็ น 3 แบบ แบบที( 1 จะคล้า ยๆ ประเทศเรา คือ กองทัน ตฯเป็ น กองบัญชาการใหญ่ของงานทันตฯของประเทศ จะเป็ นหน่วยงาน ใหญ่ทม%ี ี staffs แยะ ได้แก่มาเลเซีย ไทย และมองโกเลีย ของ มาเลเซียจะใหญ่กว่าไทยอีกเพราะงานของทันตแพทยสภาจะอยู่ ภาย ใต้ ก อ งทั น ต ฯด้ ว ย ผ อก .ก อง จะ มี บ ทบ าท มา กใ น ระดับประเทศ ส่วนของมองโกเลีย แม้จะมี staffs ในกองไม่มาก แต่ ม ีบ ทบาททัง! ทํ า หน้ า ที%ก องทัน ตฯ เป็ น นายกทัน ตแพทยสมาคม และยังเป็ นคณบดีคณะทันตฯอีกด้วย
ขอเกริน% ถึงเมือง Putrajaya หน่ อยนะคะ เมืองนี!เป็ น เมื อ งใหม่ ติ ด กั ว ลาลัม เปอร์ เป็ นที% ตั ง! ของหน่ ว ยราชการ ส่วนกลางทีส% าํ คัญๆเกือบทัง! หมด รวมทัง! กระทรวงสาธารณสุข
แบบที( 2 เป็ นแบบองค์กรเล็กๆ มี staffs ไม่เกิน 10 คน แต่ทํางาน Effective มาก ได้แก่ญ%ปี ุน่ สิงคโปร์ เกาหลี และ ฮ่ อ งกง คนของกองทัน ตฯจะเป็ น นั ก วิช าการ ทํ า แผนของ ประเทศ กําหนดนโยบายต่ างๆ โดยเป็ นตัวประสานกับทันตแพทยสมาคม และองค์กรวิชาชีพอื%นๆ ประเทศกลุ่มนี!จะทํางาน โดยใช้ขอ้ มูลอย่างมีประสิทธิภาพมาก และระบบข้อมูลเขาจะดี อย่างสิงคโปร์ เขาพัฒนาข้อมูลระดับบุคคลเป็ นฐานข้อมูลของ ประเทศ แต่ ต้องเข้าใจว่าประเทศเหล่านี!ระบบบริการเป็ นแบบ ประกันสุขภาพ ดังนัน! ข้อมูล status และการรักษารายบุคคลจึง สําคัญมาก
การประชุมครัง! นี! ประธานร่วมของการประชุมคือ ผอก. ก อ ง ทั น ต ฯ ม า เ ล เ ซี ย ค ณ ะ ทั น ต แ พ ท ย์ ศ า ส ต ร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดย รศ.ทพ.ประทีป พันธุมวนิช โดย การสนับสนุ น ที%พกั และอาหารจาก Procter and Gamble International theme ของการประชุมครัง! นี!คอื “ Regional Updates and Collaboration”.
แบบที( 3 เป็ นกลุ่มที%เพิ%งมีกองทันตฯ หรือโครงสร้าง กองทัน ตฯไม่ ช ัด เจน บางประเทศเป็ น แผนกหนึ% ง อยู่ ใ นกรม อนามัย เช่นพม่า ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย บรูไน ส่วนจีนและ เวียดนาม แม้จะมีกองทันตฯทีน% ่ ามี power ต่อไปในอนาคต แต่ ระบบบริหารโดยกองทันตฯก็เพิง% เกิดไม่กป%ี ี เดิมเขาทํางานโดย ฐานของมหาวิทยาลัยและสมาคม
การประชุม Asian Chief Dental Officers’ Meeting 2010 ครัง! ที% 2 จัดเมื%อวันที% 6-8 พฤศจิกายน 2010 ที% โรงแรม Pullman Putrajaya Lakeside Hotel and Resort เมือง Putrajaya การประชุมครัง! แรก จัดทีภ% ูเก็ต ประเทศไทย เมื%อปี ท%ี แล้ว
P 37 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
พันธกิจของสํานักทันตฯ ของเราในช่ วง 10 ปี ที ผ่านมา มีการปรั บพันธกิจองค์ กรเพื อรองรั บสปสช. และ 5 ปี ที ผ่าน มา ก็น่ าจะปรั บเพราะมีการปฏิรูปกระทรวง ปั จจุบันนี7 การ ทํางานของสํานักทันตฯของเรา แบ่ งพันธกิจหลักๆเป็ นอะไร และเมื อเทียบกับเพื อนบ้ านที มีโจทย์ คล้ ายคลีงกันแล้ ว (มี ประชากรต่ อทันตแพทย์ ใกล้ ๆกัน) เขาทํากันอย่ างไร คําถามนี!น่าจะถาม ผอ.สํานัก ทันตฯมากกว่านะ แต่ ขอให้ความเห็นในฐานะนักวิชาการ(อายุ)อาวุโ ส ว่าตอนนี! สํานักทันตฯเราแบ่งโครงสร้างเป็ น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มสนับสนุ น วิชาการ แบ่งเป็ น 2 กลุ่มวัย คือกลุ่มวัยที% 1 ดูแลหญิงตัง! ครรภ์ เด็กก่อนวัยเรียน และเด็กวัยเรียน กลุ่มวัยที% 2 ดูแลวัยทํางาน และผูส้ งู อายุ ส่วนกลุ่มที% 2) เป็ นสนับสนุ นการจัดการ ดูแลเรื%อง แผน เรื%องกําลังคน การคุ้มครองผู้บริโภค และการจัดการด้าน ธุรการต่างๆ เมื%อเทียบกับเพื%อนบ้าน อย่างที%กล่าวไปแล้วว่า สํานักทันตฯ เราใกล้เคียงกับมาเลเซีย แต่บทบาทของมาเลเซีย กว้างขวางกว่า แต่ในความเห็นส่วนตัวคิดว่ารูปแบบประเทศเรา ดีกว่าเพราะเป็ นการแบ่งบทบาทหน้าทีก% นั ชัดเจน,ถ่วงดุลกันด้วย
ความสัมพันธ์ ระหว่ างสํานักทันตฯ กับการวางนโยบาย ระดั บ ประเทศของแต่ ล ะที เขาสามารถวางนโยบายและ นํ าไปสู้ก ารปฏิบัติ ได้ อ ย่ างไรกั น (ของเราเป็ นที ท ราบว่ า มี ข้ อ จํ ากั ด (เ นื อ งจ า ก กํ า ลั งค น ห ลั ก อ ยู่ เอ ก ช น แล ะ ความสามารถในการวางนโยบายให้ ส่ว นผลิ ตดํ าเนิ น การ ตามก็เป็ นปั ญหาอยู่ อิ อิ -พีน าลองตอบดีๆนะคะ) คําถามนี!ใหญ่มากและต้องคุยกันยาว ต้องเข้าใจว่า การบริหารงานทันตฯของแต่ละประเทศ ต่างก็พยายามปรับให้ เข้า กับ ระบบบริก ารของประเทศนั น! ๆ อย่ า งญี% ปุ่ น สิง คโปร์ ฮ่ อ งกง เกาหลี การจัด บริก ารมาจากภาคเอกชนเป็ น หลัก โดยเฉพาะญี%ปุ่นกับสิงคโปร์ บริการมาจากภาคเอกชนเกือ บ 100% และผ่ า นระบบประกั น สุ ข ภาพ เขาจึ ง ต้ อ งพั ฒ นา ฐานข้อ มู ล รายบุ ค คลให้ ดี เ พื% อ ให้ ก ารจัด การด้ า นการเงิ น มี ประสิทธิภาพ แต่ ประเทศที%การบริการส่วนใหญ่มาจากภาครัฐ เช่ น ไทย มาเลเซีย พม่ า เราก็ต้อ งจัด ระบบภายในกระทรวง สาธารณสุขให้ effective ถ้าเทียบกับประเทศอื%นๆ ในเอเชีย (หรือโม้หน่ อยก็ใน โลก) พีว% ่าประเทศเรามีการบริการทันตฯทีค% รอบคลุมประชาชนดี ที%สุ ด และราคาถู ก ที%สุ ด เลยนะ เพราะเรามีก ารกระจายทัน ต
บุคลากรทีด% มี ากๆ และเราพัฒนาการจัดการด้านการเงินอยู่เป็ น ระยะๆ อย่างมาเลเซีย แม้กองทันตฯเขาจะใหญ่ ม าก แต่ การ บริก ารยัง ไม่ ก ระจาย และหากจะมารับ บริ ก ารจากภาครัฐ ประชาชนต้องมาเป็ นขัน! เป็ นตอน ตามระบบ refer ที%เข้มแข็ง มาก ในแง่การทํางานพืน! ที% ประเทศเราก็กา้ วหน้ามากเพราะ เราทําทัง! งานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และการรักษา การ พัฒนาต่อไปในอนาคต อยากเห็นการทํางานทีม% เี ป้าหมายชัดๆ และมีการประเมินให้เห็นผล เราอาจค่อยเริม% พัฒนาเชิงคุณภาพ แบบนี!ในพืน! ทีเ% ล็กๆ ควบคู่ไปกับการทํางานแบบครอบคลุม
ในเวทีประชุมเขาประทับใจประเทศใดกันมาก เพราะ เหตุใด และส่ วนมากทีป ระเทศอืน เขาประทับใจงานของ ประเทศเราตรงประเด็นไหน การประชุ ม นี! เ ป็ น การนํ า เสนอข้อ มู ล ของแต่ ล ะ ประเทศที% update ให้รเู้ ท่าๆกัน มีความพยายามจะให้เป็ นเวทีท%ี เจาะเฉพาะประเด็นทีส% าํ คัญ เช่น การแก้ปญั หา ECC ซึง% เกือบ ทุ ก ประเทศในเอเชีย มีอ ัต ราการเกิด โรคฟ นั ผุ ใ นฟ นั นํ! า นมสูง มากๆ แต่กย็ งั ทําไม่ค่อยได้ จึงเน้นการแลกเปลีย% นในภาพรวมๆ มากกว่า นอกจากนี!กเ็ ป็ นเวทีแลกเปลีย% นกันว่าประเทศไหนจะมี activities อะไร เช่น ปี หน้า เวียดนามจะเป็ นเจ้าภาพจัดประชุม Asian Conference on Oral Health Prevention for School Children _ACOHPSC ครัง! ที% 6 วันที% 7-9 พฤศจิกายน 2554 ที% ฮานอย (ประชุมนี! ปี ท%แี ล้วไทยเป็ นเจ้าภาพ จัดประชุมที%ภูเก็ต) หรือมองโกเลียจะเป็ นเจ้าภาพจัดประชุม Asian Academy on Preventive Dentistry ในเดือนกันยายน 2555 เป็ นต้น ยังไปไม่ ถึงการเจาะลึกไปทีร% ะบบของแต่ละประเทศ พี%ได้ม ีโอกาสคุยกับ ผอ.ของบางประเทศ ก็เห็นข้อ ดี บางอย่ า ง เช่ น ฮ่อ งกง เขาจะทํา เรื%อ งการให้ค วามรู้ผ่ า นทาง mass media ได้ดมี าก เขาไม่มที นั ตแพทย์ใน รพ.รัฐกระจาย แบบของเรา และเขาเป็ นเกาะเล็กๆ เทียบได้กบั จังหวัดขนาด ใหญ่ของเรา เขาจึงทํางานตรงไปถึงประชาชนเลย กองทันตฯ จะ ทํา Guideline ใส่ใน CD แจกไปที% รร. ให้ครูทํางานเอง กอง ทัน ตฯจะติด ตามประเมิน เป็ น ระยะๆ หรือ ประเทศเกาหลีก ับ มาเลเซีย เขาจะทํ า งานร่ ว มมือ กับ ฝ่ า ยโภชนาการ และทํ า นโยบายสาธารณะเรื%องลดการบริโภคนํ! าตาลได้ดมี าก เป็ นต้น ☺
P 38 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
กันอยางนอยคนละ 1 ชิ้น ชิ้นใหญเล็กก็สุดแลวแตใครจะพก ดวงมาแค ไหน ใครเฮงก็จ ะได ข องชิ้น ใหญ ไปด วย โดยเรา ไดรับการสนับสนุนของรางวัลจากเหลาทันตแพทยใจดีไดขาว แววมาวา เก็บเงินตามซี ใครซีมากหนอยก็ตองเสียเงินเยอะ นิดนึง ของรางวัลใหญที่เราไดรับสนับสนุนไดแก รถ บาน และที่ดิน.......เออ ขออภัยครับ สายรายงายผิดไปนิดนึง ถา แจกกันเปนบานและที่ดินจริงๆ ปหนาอาจจะไมมีทันตแพทย อยากมาจังหวัดนาน แจกรถอันนี้จริงครับ แตเปนรถจักรยาน สวัสดีปใหมเมืองนาน ยอนยุควนิดา “วนิดา 2554” สวัส ดีค รับ ผมมี รายงานขา วการนํา เสนอผลงาน
เป น การส ง เสริ ม การออกกํ า ลั ง กาย เป น การประหยั ด พลังงานและลดโลกรอนดวย
อยางอื่นๆก็มีอาทิ พัดลม
ประจําปของจังหวัดนาน ไมรูยังไง จังหวัดนาน เอาใจรัฐบาล
ไมโครเวฟ หม อ หุ ง ข า ว เครื่ อ งดู ด ฝุ น ที่ ชั่ ง น้ํ า หนั ก ดี วี ดี
เปนพิเศษหรืออยางไรไมรู เพราะงานนําเสนอครั้งนี้ มุงเนน
มือถือ จังหวัดอื่น จะแอบอิจฉาจังหวัดผมมั๊ยเนี่ย อิอิ
ไปที่ รพสต.เปนหลัก เปนงานที่เกิดขึ้น หรือเกี่ยวกับรพสต.
แลวที่พลาดไมไดก็มีการแสดงของแตละสาย แตละ
โดยตรง งานอื่นไมเกี่ยว อยาหวังไดเกิดในเวทีนี้ เคามาแรง
รายการ ถือวาสุดยอดทั้งนั้น ทุมทุนสรางกันจริงๆ เพราะ
ต อ งปล อ ยเค า ก อ น และก็ เ ช น เคยได รั บ เกี ย รติ จ ากพี่ ๆ
ปนึงก็มีครั้งเดียว ไมยอมนอยหนากันเลยทีเดียว ทุมกันเปน
ทันตแพทยจากสํานักทันตะ มาชี้แนะ แนวทาง วิพากษงาน
หมื่น ๆก็ไ มห วั่ น งานนี้ก็ไ ดทั้ง สาระและบัน เทิง กลับ บา น
ของเราเพื่อจะไดนําไปปรับปรุงพัฒนาใหดียิ่งๆขึ้นไป งาน
ชื่นมื่นกันถวนหนา ไวเจอกันใหมปหนาครับ ☺
ครั้ ง นี้ สายใต เ ป น เจ า ภาพ (เราผลั ดกั น เป นเจ า ภาพครั บ แบงเปนโซน สายใต กลาง และเหนือ) จัดอยางหรูที่โรงแรม เทวราช แลวบังเอิญวาจัดวันศุกรที่ 24 ธันวาคม ใกลกับชวง คริสตมาสและปใหมพอดี เราก็เลยถือโอกาสเปนงานเลี้ยงไป ดวย งานกลางคืนเรามีธีมของงาน คือ "วนิดา" คือทุกคน ที่ ม าร ว มงาน ต อ งแต ง เป น ตั ว ละครวนิ ด า จะเป น วนิ ด า พันตรีประจักษ หรือปาทองก็สุดแลวแต และมีการประกวด ดวยนะ งานนี้ทุกคนก็ไปหาชุดสมัยคุณแมยังสาวมากันใหญ ถาใครไมรูมางานนี้ ก็ตองสงสัยวาตัวเองไดหลงเขาไปในยุค วนิดาแนนอน ใครที่มางานนี้จะไดรับของรางวัลติดไมติดมือ P 39 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
i æ
e i u o i www.oha-th.com a 13-15 !" i # 2553 เครื อข่ายทัทันตบุคลากรสร้ างเสริ มสุขภาพช่องปากคนพิการ สถาบันสร้ างเสริ มสุขภาพคนพิการ (สสพ.) นํา ทีมโดย หมออ๋อ ทพญ.นิ ทพญ ธิมา เสริ มสุธีอนุวฒ ั น์ ผู้ประสานงานเครื อข่ายฯ และเป็ นผู้นําเสนอผลการดําเนินงาน โครงการส่งเสริ มสุขภาพช่องปากเด็กพิการในโรงเรี ารใน ยนสงขลาพั สงขลาพัฒนาปั ญญา ของ คุณหมออ้ หมอ อย ทพญ.พรทิพย์ แก้ วประดิษฐ์ รพท.. สงขลา ซึ'งผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการจัดงาน ในหัวข้ อเรื' อง "Implementation of oral health program in school for mentally challenged children : a case study stud in southern Thailand" นําเสนอในงาน Asia-Pasific Pasific CBR convention 2010 Kuala Lumpur , Malaysia โครงการส่ง เสริ ม สุข ภาพช่ อ งปากเด็ ก พิ ก ารในโรงเรี ย นสงขลาพัฒ นาปั ญญา ของ คุ ณ หมออ้ อ ย ทพญ. พรทิพย์ แก้ วประดิษฐ์ เป็ นงานที'เกี'ยวข้ องกับ CBR หรื อ Community Communi Based Rehabilitation ตาม theme หลักของงาน Asia-Pasific CBRR convention 2010 Kuala Lumpur , Malaysia ในประเด็นทีสามารถจั ส' ามารถจัดระบบการบริ การสุขภาพช่องปากระดับปฐมภูมิสาํ หรับเด็กพิการ ทางสติ ปั ญ ญา โดยการมี การมี ส่ว นร่ ว มของชุมชน บ้ า นและโรงเรี ย นอย่า งเป็ นรู ป ธรรม รวมทังได้ ส ร้ างความเปลี'ยนแปลงหลังจากการดํดําเนินโครงการฯ โครงการ ในเชิ ง ระบบทังใน นโยบายของโรงเรี ยนสงขลาพัฒนาปั ญญา และ โรงพยาบาลสงขลา สามารถสร้ าง ระบบสร้ างเสริ มสุขภาพช่องปากในโรงเรี ยน ส่งผลให้ ให้ คณ ุ ภาพชีวิตของเด็กพิการทาง สติ ปั ญ ญาในโรงเรี ย นสงขลาพัฒ นาปั ญ ญาดี ขึน และเด็ ก เหล่ เ า นี เข้ า ถึ งการบริ ก าร สุขภาพช่องปากมากขึนอย่างเห็นได้ ชดั ผู้ที'มานําเสนอผลงาน ในงาน Asia-Pasific CBRR convention 2010 นีส่วนใหญ่จะเป็ น สาขาวิชาชีพอื'น เช่นแพทย์ ,นันักสังคมสงเคราะห์, นักกายภาพบําบัด ฯลฯทีที'ทํางานพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ผลงานของหมออ้ อยนีเป็ น ผลงานหนึง' เดียวที'ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้ วยการสร้ างเสริ มสุขภาพช่องปาก และยังเป็ นตัวแทนหนึ'งเดียวจากประเทศไทยที ว 'ได้ ไป นําเสนอผลงานในเวทีระดับเอเชียแปซิฟิกในครั ครังนีอีกด้ วย ถือเป็ นเวทีแรกของเครื แรกของเครื อข่ายสร้ างเสริ มสุขภาพช่องปากคนพิการซึ าร 'งมีอายุเพิ'งเต็ม ขวบปี นีค่ะ ภาพและเสียงการนําเสนออยูใ่ นเวบไซต์ ไซต์ทนั ตสุขภาพคนพิการ www.oha-th.com นะคะ ในโอกาสนีพี'น้องเครื อข่ายทันตบุคลากร สร้ างเสริ มสุขภาพช่องปากคนพิการ และเจ้ าหน้ าที'ของสถาบันสร้ างเสริ มสุขภาพคนพิการผู้สนับสนุนงบประมาณเดิ งบประมาณ นทางไปมาเลเซีย ได้ ไปให้ กําลังและร่ วมการประชุ รประชุมที'มาเลเซียกันหลายท่าน หวังเป็ นอย่างยิ'งว่า ความสําเร็ จในผลงานอันน่าชื'นชมของคุณหมออ้ หมอ อย ทพญ.พรทิพย์ แก้ วประดิษฐ์ ผู้ดําเนินโครงการสร้ สร้ างเสริ มสุขภาพช่องปากคนพิการ จากโรงพยาบาลสงขลา จะเป็ นจุดเริ' มต้ นให้ เกิดการพั การ ฒนางานสร้ าง เสริ มสุขภาพช่องปากคนพิการของไทยในระดั ทยในระดับนานาชาติตอ่ ไปค่ ไป ะ P 40 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
a 29 !" i # - 1 .a 2553 р╕зр╕▒р╕Щр╕Чр╕╡' 29 р╕Юр╕др╕ир╕Ир╕┤р╕Бр╕▓р╕вр╕Щ тАУ 1 р╕Шр╕▒р╕Щр╕зр╕▓р╕Др╕б 2553 р╕Чр╕╡'р╕Ьр╣Ир╕▓р╕Щр╕бр╕▓р╣Ар╕Др╕гр╕╖ р╕нр╕Вр╣Ир╕▓р╕в р╕Чр╕▒р╕Щр╕Хр╕Ър╕╕р╕Др╕ер╕▓р╕Бр╕гр╕кр╕гр╣Й р╕▓р╕Зр╣Ар╕кр╕гр╕┤ р╕бр╕кр╕╕р╕Вр╕ар╕▓р╕Юр╕Кр╣Ир╕нр╕Зр╕Ыр╕▓р╕Бр╕Др╕Щр╕Юр╕┤р╕Бр╕▓р╕г р╕кр╕Цр╕▓р╕Ър╕▒р╕Щр╕кр╕гр╣Й р╕▓р╕Зр╣Ар╕кр╕гр╕┤ р╕б р╕кр╕╕р╕Вр╕ар╕▓р╕Юр╕Др╕Щр╕Юр╕┤р╕Бр╕▓р╕г р╕Ир╕▒р╕Фр╕Бр╕┤р╕Ир╕Бр╕гр╕гр╕бр╣Бр╕ер╕Бр╣Ар╕Ыр╕ер╕╡'р╕вр╕Щр╣Ар╕гр╕╡ р╕вр╕Щр╕гр╕╣р╣Й р╣Ар╕Др╕гр╕╖ р╕нр╕Вр╣Ир╕▓р╕вр╕Чр╕▒р╕Щр╕Хр╕Ър╕╕р╕Др╕ер╕▓р╕Бр╕г р╕Ьр╕╣р╣Йр╕Ыр╕Пр╕┤р╕Ър╕▒р╕Хр╕┤р╕Зр╕▓р╕Щр╣Вр╕Др╕гр╕Зр╕Бр╕▓р╕гр╕Щр╣Нр╕▓р╕гр╣И р╕нр╕З (р╕гр╕╕р╣И р╕Щ 1 р╣Бр╕ер╕░р╕гр╕╕р╣И р╕Щ 2 ) 14 р╕Юр╕╖р╕Щр╕Чр╕╡'р╣Ар╕Фр╕┤р╕б р╣Бр╕ер╕░ 30 р╕Юр╕╖р╕Щр╕Чр╕╡'р╣Ар╕Юр╕┤'р╕бр╕Вр╕вр╕▓р╕вр╕Чр╕▒р╕з' р╕Ыр╕гр╕░р╣Ар╕Чр╕и р╣Вр╕Фр╕вр╣Гр╕Щр╕зр╕▒р╕Щр╣Бр╕гр╕Б 29 р╕Юр╕др╕ир╕Ир╕┤ р╕Бр╕▓р╕вр╕Щ 2553 р╕ар╕▓р╕Др╣Ар╕Кр╣Й р╕▓р╕Ър╕гр╕гр╕вр╕▓р╕Бр╕▓р╕и р╕ар╕▓р╕вр╣Гр╕Щр╕Зр╕▓р╕Щр╣Ар╕Хр╣Зр╕бр╣Др╕Ыр╕Фр╣Й р╕зр╕вр╕Др╕зр╕▓р╕бр╕Ыр╕ер╕▓р╕Ър╕Ыр╕ер╕╖р╕бр╣Гр╕И р╕Щр╕Ю.р╕кр╕╕р╕зр╕┤р╕Чр╕вр╣М р╕зр╕┤р╕Ър╕ер╕╕ р╕Ьр╕ер╕Ыр╕гр╕░р╣Ар╕кр╕гр╕┤ р╕Р р╕Бр╕гр╕╕р╕Ур╕▓р╕бр╕▓р╣Ар╕Ыр╣З р╕Щр╕Ыр╕гр╕░р╕Шр╕▓р╕Щр╣Гр╕Щр╕Зр╕▓р╕Щ, р╕Юр╕Н.р╕зр╕▒р╕Кр╕гр╕▓ р╕гр╕┤ р╕зр╣Др╕Юр╕Ър╕╣р╕ер╕вр╣М р╕Ьр╕╣р╣Йр╕нр╣Нр╕▓р╕Щр╕зр╕вр╕Бр╕▓р╕гр╕кр╕Цр╕▓р╕Ър╕▒р╕Щ р╕кр╕гр╣Й р╕▓р╕Зр╣Ар╕кр╕гр╕┤ р╕бр╕кр╕╕р╕Вр╕ар╕▓р╕Юр╕Др╕Щр╕Юр╕┤р╕Бр╕▓р╕г , р╕Чр╕Ю.р╕ир╕┤р╕гр╕┤р╣Ар╕Бр╕╡ р╕вр╕гр╕Хр╕┤ р╣Ар╕лр╕ер╕╡р╕вр╕Зр╕Бр╕нр╕Ър╕Бр╕┤р╕И р╕кр╣Нр╕▓р╕Щр╕▒р╕Бр╕Зр╕▓р╕Щ р╕Бр╕нр╕Зр╕Чр╕╕р╕Щр╕кр╕Щр╕▒р╕Ър╕кр╕Щр╕╕р╕Щр╕Бр╕▓р╕гр╕кр╕гр╣Й р╕▓р╕Зр╣Ар╕кр╕гр╕┤ р╕бр╕кр╕╕р╕Вр╕ар╕▓р╕Ю р╣Бр╕ер╕░р╕Ьр╕╣р╣Йр╕кр╕Щр╣Гр╕Ир╕Ыр╕гр╕░р╣Ар╕Фр╣Зр╕Щр╕Чр╕▒р╕Щр╕Хр╕кр╕╕р╕Вр╕ар╕▓р╕Ю р╕Бр╕▒р╕Ър╕Др╕Щр╕Юр╕┤р╕Бр╕▓р╕гр╕гр╣И р╕зр╕бр╕Зр╕▓р╕Щр╕нр╕вр╣Ир╕▓р╕Зр╕Др╕▒р╕Ър╕Др╕▒'р╕З р╣Гр╕Щр╣Вр╕нр╕Бр╕▓р╕кр╕Щр╕╡ р╕Чр╕Ю.р╕Фр╕г.р╕зр╕┤р╕гр╕▒р╕Хр╕Щр╣М р╣Ар╕нр╕╖р╕нр╕Зр╕Юр╕╣р╕ер╕кр╕зр╕▒р╕кр╕Фр╕┤q р╕Ир╕▓р╕Бр╕кр╣Нр╕▓р╕Щр╕▒р╕Бр╕Зр╕▓р╕Щр╕лр╕ер╕▒р╕Бр╕Ыр╕гр╕░р╕Бр╕▒р╕Щр╕кр╕╕р╕Вр╕ар╕▓р╕Юр╣Бр╕лр╣Ир╕Зр╕Кр╕▓р╕Хр╕┤ р╣Др╕Фр╣Й р╕бр╕▓р╕Кр╕╡р╣Бр╕Ир╕Зр╕Фр╣Й р╕зр╕вр╕Хр╕Щр╣Ар╕нр╕З р╕зр╣Ир╕▓р╣Др╕Фр╣Й р╕гр╕░р╕Ър╕╕р╣Вр╕Др╕гр╕Зр╕Бр╕▓р╕гр╕кр╕гр╣Й р╕▓р╕Зр╣Ар╕кр╕гр╕┤ р╕бр╕кр╕╕р╕Вр╕ар╕▓р╕Юр╕Кр╣Ир╕нр╕Зр╕Ыр╕▓р╕Бр╕Др╕Щр╕Юр╕┤р╕Бр╕▓р╕гр╣Гр╕Щр╕Кр╕╕р╕бр╕Кр╕Щр╣Др╕зр╣Й р╕Чр╕╡'р╕лр╕Щр╣Й р╕▓ 43 р╕Вр╕нр╕Зр╕Др╕╣р╕бр╣И р╕╖р╕нр╕Ър╕гр╕┤ р╕лр╕▓р╕гр╕Бр╕нр╕Зр╕Чр╕╕р╕Щр╕Чр╕▒р╕Щр╕Хр╕Бр╕гр╕гр╕бр╕Ыр╕╡ 2554 р╕Чр╕▒р╕Щр╕Хр╕Ър╕╕р╕Др╕ер╕▓р╕Бр╕гр╕кр╕▓р╕бр╕▓р╕гр╕Цр╣Ар╕Вр╕╡р╕вр╕Щ р╣Вр╕Др╕гр╕Зр╕Бр╕▓р╕гр╕кр╕гр╣Й р╕▓р╕Зр╣Ар╕кр╕гр╕┤ р╕бр╕Чр╕▒р╕Щр╕Хр╕кр╕╕р╕Вр╕ар╕▓р╕Юр╕Др╕Щр╕Юр╕┤р╕Бр╕▓р╕гр╣Гр╕Щр╕Кр╕╕р╕бр╕Кр╕Щр╣Вр╕Фр╕вр╕Вр╕нр╕Зр╕Ър╕Ыр╕гр╕░р╕бр╕▓р╕У р╕Фр╣Нр╕▓р╣Ар╕Щр╕┤р╕Щр╕Бр╕▓р╕гр╕Ир╕▓р╕Бр╕Бр╕нр╕Зр╕Чр╕╕р╕Щр╕Чр╕▒р╕Щр╕Хр╕Бр╕гр╕гр╕бр╣Др╕Фр╣Й р╕нр╕╡р╕Бр╕Чр╕▓р╕Зр╕лр╕Щр╕╢'р╕З р╕кр╣Ир╕зр╕Щр╕ар╕▓р╕Др╕Ър╣Ир╕▓р╕вр╕бр╕╡р╕Бр╕┤р╕Ир╕Бр╕гр╕гр╕б р╕Фр╕╡р╣Жр╣Ар╕Юр╕╖'р╕нр╕кр╕гр╣Й р╕▓р╕Зр╕Др╕зр╕▓р╕бр╕Хр╕гр╕░р╕лр╕Щр╕▒р╕Бр╕гр╕╣р╣Й р╣Ар╕гр╕╖' р╕нр╕Зр╕Др╕зр╕▓р╕бр╕Юр╕┤р╕Бр╕▓р╕гр╕Ир╕▓р╕Бр╕Чр╕╡р╕бр╕Зр╕▓р╕Щр╕Ир╕▓р╕Бр╕ир╕╣р╕Щр╕вр╣М р╕Бр╕▓р╕г р╕Фр╣Н р╕▓ р╕гр╕Зр╕Кр╕╡ р╕зр╕┤ р╕Х р╕нр╕┤ р╕к р╕гр╕░р╕Вр╕нр╕Зр╕Др╕Щр╕Юр╕┤ р╕Б р╕▓р╕г р╕Бр╕гр╕╕ р╕З р╣Ар╕Чр╕Юр╕бр╕лр╕▓р╕Щр╕Др╕г р╕Щр╣Н р╕▓ р╕Чр╕╡ р╕б р╣Вр╕Фр╕в р╕Щр╕▓р╕Зр╕кр╕▓р╕з р╕Ур╕Шр╕Бр╕бр╕е р╕гр╕╕р╣И р╕Зр╕Чр╕┤р╕б р╕Чр╕▒р╕Щр╕Хр╕Ър╕╕р╕Др╕ер╕▓р╕Бр╕гр╕Ьр╕╣р╣Йр╕гр╣Ир╕зр╕бр╕Бр╕┤р╕Ир╕Бр╕гр╕гр╕бр╣Др╕Фр╣Й р╣Ар╕гр╕╡ р╕вр╕Щр╕гр╕╣р╣Й р╕зр╣Ир╕▓р╕Др╕зр╕▓р╕бр╕Юр╕┤р╕Бр╕▓р╕гр╣Ар╕Ыр╣З р╕Щ р╣Ар╕гр╕╖' р╕нр╕Зр╕Ыр╕Бр╕Хр╕┤ р╣Бр╕ер╕░р╕Др╕Щр╕Юр╕┤р╕Бр╕▓р╕гр╕бр╕╡р╕ир╕Бр╕▒ р╕вр╕ар╕▓р╕Юр╣Гр╕Щр╕Бр╕▓р╕гр╕Фр╣Нр╕▓р╣Ар╕Щр╕┤р╕Щр╕Кр╕╡р╕зр╕┤р╕Х р╕кр╕▓р╕бр╕▓р╕гр╕Цр╕нр╕вр╕╣р╣Гр╣И р╕Щр╕кр╕▒р╕Зр╕Др╕б р╣Др╕Фр╣Й р╣Вр╕Фр╕вр╣Др╕бр╣Ир╣Ар╕Ыр╣З р╕Щр╕ар╕▓р╕гр╕░ р╣Бр╕ер╕░р╕кр╕гр╣Й р╕▓р╕Зр╕кр╕гр╕гр╕Др╣Мр╕Др╕╕р╕Ур╕Др╣Ир╕▓р╣Бр╕ер╕░р╕кр╕┤'р╕Зр╕Фр╕╡р╣Жр╕бр╕нр╕Ър╣Бр╕Бр╣Ир╕кр╕Зр╕▒ р╕Др╕бр╣Др╕Фр╣Й р╣Др╕бр╣И р╣Бр╕Хр╕Бр╕Хр╣Ир╕▓р╕Зр╕Ир╕▓р╕Бр╕Др╕Щр╕Чр╕▒р╕з' р╣Др╕Ы р╕Бр╕┤р╕Ир╕Бр╕гр╕гр╕бр╕зр╕▒р╕Щр╕Чр╕╡' 30 р╕Юр╕др╕ир╕Ир╕┤р╕Бр╕▓р╕вр╕Щ 2553 р╣Ар╕Ыр╣З р╕Щр╕Бр╕▓р╕гр╕Цр╕нр╕Фр╕Ър╕Чр╣Ар╕гр╕╡ р╕вр╕Щ р╣Вр╕Фр╕в р╕Чр╕╡р╕бр╕Зр╕▓р╕Щр╕Вр╕нр╕З р╕Др╕╕р╕Ур╕Ир╕Хр╕╕р╕Юр╕г р╕зр╕┤р╕ир╕┤р╕йр╕Пр╣Мр╣Вр╕Кр╕Хр╕┤р╕нр╕Зр╕▒ р╕Бр╕╣р╕г р╣Ар╕Др╕гр╕╖ р╕нр╕Вр╣Ир╕▓р╕вр╕кр╕гр╣Й р╕▓р╕Зр╣Ар╕кр╕гр╕┤ р╕бр╕кр╕╕р╕Вр╕ар╕▓р╕Юр╕Кр╣Ир╕нр╕З р╕Ыр╕▓р╕Бр╕Др╕Щр╕Юр╕┤р╕Бр╕▓р╕гр╕Ьр╕╣р╣Йр╣Ар╕Вр╣Й р╕▓р╕гр╣И р╕зр╕бр╕Цр╕нр╕Фр╕Ър╕Чр╣Ар╕гр╕╡ р╕вр╕Щр╕Чр╕▒р╕Зр╕гр╕╕р╣И р╕Щ 1 р╣Бр╕ер╕░р╕гр╕╕р╣И р╕Щ 2 р╣Др╕Фр╣Й р╕Юр╕╣р╕Фр╕Др╕╕р╕вр╕кр╕╖'р╕нр╕кр╕▓р╕г р╕кр╕╕р╕Щр╕Чр╕гр╕╡ р╕вр╕кр╕Щр╕Чр╕Щр╕▓ р╣Гр╕Щр╣Бр╕Хр╣Ир╕ер╕░р╕Ыр╕гр╕░р╣Ар╕Фр╣Зр╕Щр╕Чр╕╡'р╕Чр╕╡р╕бр╕Зр╕▓р╕Щр╕зр╕┤р╕Чр╕вр╕▓р╕Бр╕гр╕Ир╕▒р╕Фр╣Ар╕Хр╕гр╕╡ р╕вр╕бр╣Др╕зр╣Й р╣Гр╕лр╣Й р╕Фр╣Йр╕зр╕в р╕Ър╕гр╕гр╕вр╕▓р╕Бр╕▓р╕ир╕кр╕Ър╕▓р╕вр╣Ж р╕гр╕▓р╕вр╕ер╣Й р╕нр╕бр╕гр╕нр╕Ър╕Хр╕▒р╕зр╣Др╕Ыр╕Фр╣Й р╕зр╕вр╕Ър╕гр╕гр╕Фр╕▓р╕лр╕бр╕нр╕Щр╕Чр╕╡'р╕Щр╕зр╕ер╕ер╕░р╕бр╕╕р╕Щ р╕Кр╕зр╕Щр╕Эр╕▒ р╕Щ P 41 | р╕Чр╕▒ р╕Щ р╕Х р╕ар╕╣ р╕Ш р╕г р╕Йр╕Ър╕▒р╕Ър╣Ар╕Фр╕╖р╕нр╕Щ р╕Хр╕╕р╕ер╕▓р╕Др╕б-р╕Шр╕▒р╕Щр╕зр╕▓р╕Др╕б 2553
กิจกรรมวันที' 1 ธันวาคม 2553 เครื อข่ายรุ่น 2 ร่วมกิจกรรมการ ดูงานที'สถาบันราชานุกูล นําโดย ทพญ.ภัตติมา บุรพลกุล รั บฟั งการ บรรยายสันๆ เรื' องแนวทางการเตรี ยมสถานบริ การ และระบบบริ การทัน ตกรรมสําหรับผู้พิการ/งานกิจกรรมบําบัดและกายภาพบําบัดที'เกี'ยวข้ อง กับงานทันตกรรม สําหรับผู้พิการ/ แนวคิดการผลิตนวตกรรมสําหรับผู้ พิการ และงานศิลปกรรมบําบัดสําหรับ ผู้บกพร่ องด้ านพัฒนาการและ สติปัญญา/งานศิลปกรรมบําบัด /โปรแกรมการฝึ กพัฒนาการเด็กออทิสติกปฐมวัยกับงานทันตกรรม /โครงการฝึ กผู้พิการเพื'อการจ้ างงาน การ ส่งเสริ มจ้ างงานผู้พิการ การเยี'ยมชมศึกษาดูงานที'สถาบันราชานุกลู นี มีวตั ถุประสงค์เพื'อสร้ างแรงบันดาลใจแก่เครื อข่ายรับทุนสสพ.รุ่น 2 ใน การดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในพืนที'อย่างเหมาะสมมากยิ'งขึน นอกจากนีสถาบันราชานุกลู ยังจัดอบรมเพื'อพัฒนาศักยภาพ ฝึ ก ทักษะทันตบุคลากรให้ ทํางานด้ านทันตกรรมในคนพิการได้ อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ'งขึน ทังนี สถาบันสร้ างเสริ มสุขภาพคนพิการ (สสพ.) สนับสนุนงบประมาณการอบรม การเดินทาง ที'พกั ทังหมดให้ ตวั แทนทุกพืนที'รับทุนและ ยังสามารถเก็บคะแนน CDEC ได้ อีกด้ วยนะคะ
งานสร้างเสริมสุขภาพคนพิการกับกองทุนทันตกรรม สํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่ งชาติ (สปสช) ได้ ระบุ กิจกรรมโครงการเพื# อสร้ างเสริ มสุขภาพช่ อ งปากและ กระตุ้นการจัดบริการทันตกรรมในกลุ่มคนพิการ ไว้ ในหน้ า 43 คู่มือบริหารกองทุนทันตกรรม ปี 2554 ดังนี. กลุ่มเป้าหมาย
กลุม่ ผู้พิการ
สร้ างเสริมสุขภาพช่ องปากและกระตุ้น การจัดบริการระดับจังหวัด
กิจกรรมสร้ างเสริมสุขภาพช่ องปาก ทันตกรรมป้องกันและรักษา ในกลุ่มเป้าหมายหลักระดับหน่ วยบริการ ประจํา
1.ควรเป็ นโครงการที'เน้ นพัฒนาศักยภาพให้ คนในครอบครัวหรื อตัวผู้พกิ ารเองมีขีด ความสามารถในการดูแลสุขภาพช่องปาก ของผู้พิการ
การตรวจสุขภาพช่องปาก (แนะนําให้ ทาํ
2.การสร้ างระบบให้ บริ การทันตกรรม เคลือ' นที'แก่ผ้ พู ิการถึงที'บ้าน ชมรมสร้ างเสริ ม สุขภาพช่องปากในกลุม่ คนพิการ (สมาชิก อาจเป็ น อสม. หรื อคนในชุมชนหรื อตัวผู้ พิการเอง) คัดกรองปั ญหาสุขภาพช่องปาก ร่วมกับทีมคัดกรองของรพ.และส่งต่อรักษา
การสร้ างช่องทางด่วนบริ การรักษาในกรณี ที'ผ้ ปู ่ วยมีปัญหาสุขภาพช่องปาก หรื อถ้ าเกิน ศักยภาพควรมีการส่งต่อ ไปรับการรักษาที' โรงพยาบาลแม่ขา่ ย
พร้ อมๆไปกับการออกเยีย' มบ้ านของทีม Home Health Care) การให้ ทนั ตสุขศึกษา
DOWNLOAD คูม่ ือบริ หารกองทุนทันตกรรม สํานักงานหลักประกันสุ ขภาพแห่งชาติ 2554 (PDF) ได้ที/ www.oha-th.com P 42 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
การส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กพิการในโรงเรียนสงขลาพัฒนาปัญญา จังหวัดสงขลา ปี 2553 โดย ทพญ.พรทิ พรทิพย์ แก้วประดิษฐ์ โรงพยาบาลสงขลา จังหวัดสงขลา ผลงานต้ นแบบในจัดระบบการดูแลสุขภาพช่องปากระดับปฐมภูมใิ นโรงเรี ยนเด็กพิการ มีการดําเนินกิจกรรมทั กรรม งระบบอย่างเป็ นรูปธรรมดังนี
1.การประชุ ประชุมผูป้ กครอง ผูด้ ูแลเด็ก และเด็กกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มงานทั านทันตกรรม โรงพยาบาลสงขลาได้ ร่วมกับโรงเรี ยนสงขลาพัฒนา ปั ญญา จัดประชุม เพื'อชีแจงโครงการส่งเสริ มสุขภาพช่องปากเด็กพิการใน โรงเรี ยนสงขลาพัฒนาปั ญญา จังหวัดสงขลา 2553 ทําความเข้ าใจร่วมกัน ระหว่างผู้ปกครองและคุ และคุณครู ผ้ ดู แู ลนักเรี ยนทุกคน โดยการให้ ความรู้ ทนั ตสุข ศึ ก ษาในห้ ในห้ อ งประชุ ม ของโรงเรี ย น รวมทังสัม ภาษณ์ ผ้ ูป กครองตาม ห้ องเรี ยน เพื'อสอบถามถึงพฤติกรรมการบริ โภค ขึนทะเบียนบัตรทองและ บัตรคนพิการแก่นกั เรี ยนทุกคน ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ให้ ความร่ วมมือและมี ความยินดีในการดําเนินโครงการ รวมทังมีความคาดหวังให้ ทางกลุม่ งานทั งาน นตกรรมโรงพยาบาลสงขลาจั กรรมโรงพยาบาลสงขลาจัดระบบการบริ ระบบการ การทันตกรรมสําหรับ เด็กๆ คุณครูผ้ ดู แู ลเด็กๆ ให้ ความร่วมมือโดยทําการสัมภาษณ์จากแบบสอบถามกับผู้ปกครองเป็ นรายบุคคล ในแต่ละห้ องเรี ยนเป็ นอย่างดี ผลการสัมภาษณ์ พบว่า ผู้ปกครองส่วนมากไม่ น ให้ ความสําคัญกับการดูแลทันตสุขภาพเด็ก ๆ เช่น ในเรื' องการแปรงฟั น ทังยังมี พฤติกรรมการบริ โภคอาหารที'ไม่ถูกต้ อง รับประทานอาหารไม่ ประทาน เหมาะสม เด็กรับประทานอาหารที'เป็ นอาหารกรุ บกรอบ และของหวาน นําอัดลม รวมทังนมรสช๊ อคโกแลต รสหวาน และเด็กๆส่ ๆ วนใหญ่ไม่ได้ รับบริ การทันตกรรม
2. การสร้างทีมงานในการดู ารดูแลสุขภาพช่องปากเด็กพิการ
ทีมงานประกอบด้ ประกอบด้ วย ทันตแพทย์ ในกลุ่มงานทันตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ'ง ทันตแพทย์เฉพาะทางด้ านทันตกรรมสําหรับเด็ก เพื'อรองรับงานบริ การทันตกรรมสําหรับเด็กพิเศษ , เจ้ าหน้ าที'ทนั ตสาธารณสุข เพื'อทํางานทันตกรรมส่งเสริ มและทันตกรรมป้องกัน ผู้ช่วย ทันตแพทย์ และผู้ช่วยเหลือคนไข้ ทีเข้ เ' ข้ าร่วมหลักสูตรการอบรมและฝึ ร กปฏิบตั ิในการช่วยข้ างเก้ างเก้ าอี ในผู้ป่วยเด็กพิการจากสถาบั าร นราชานุกลู การทํางานในโครงการส่งเสริ มสุขภาพช่องปากเด็กพิการ ได้ จดั สรรทีมงานออกเป็ น 2 ทีม ได้ แก่ ทีมออกพืนที' ซึ'งเข้ าไปทํ ไป างานใน โรงเรี ยนสงขลาพัฒนาปั ญญา ทุกๆ วันอังคาร งคาร วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ และทีมให้ บริ การทันตกรรมในโรงพยาบาลสงขลา ซึ'งคอยให้ บริ การ ทันตกรรมแก่เด็กพิเศษ ทุกๆเช้ าวันพฤหัสบดี P 43 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
3. ตรวจสุขภาพช่องปากเด็กพิการ ,สัมภาษณ์ผูด้ ูแลเด็กพิการและผูป้ กครอง จากการสัมภาษณ์ ผู้ดูแล และผู้ปกครองเด็ก เกี' ยวกับพฤติกรรมบริ โภคอาหาร และทัศนคติเกี'ยวกับการทําฟั น พบว่า เด็กโดย 90% จะเป็ นเด็กนอนประจําที'โรงเรี ยน จะ ได้ รับการทานอาหาร วันละ 3 มือ คือ เช้ า กลางวัน และเย็น และมีขนมหวานซึ'งเป็ น ขนมสด และดื'มนมรสจืด ไม่ได้ ทานขนมขบเคียว ยกเว้ น กรณีที'มีผ้ มู าบริ จาค ซึ'งอาจจะ เป็ นขนมขบเคียว หรื อไอศกรี ม หรื อผลไม้ การแปรงฟั น ได้ แปรงฟั น วันละ 2 ครัง คือ เช้ า และก่อนนอน ยกเว้ นเด็กมัธยม ที'มีคณ ุ ครูคอยให้ มาแปรงฟั นหลังอาหารกลางวัน การตรวจสุขภาพช่ องปาก พบว่า เด็กพิการในโรงเรี ยนสงขลาพัฒนาปั ญญา มีสภาวะทันตสุขภาพ ค่อนข้ างแย่ (poor oral hygiene) และพบว่ามีสภาวะเหงือกอักเสบเกือบทุกคน ปั ญหาและอุปสรรค การตรวจสุขภาพช่องปากเด็กพิการ ไม่สามารถทําได้ ครอบคลุม 100 % เนื'องจาก เด็กพิการทางสมองบาง คน จะไม่ให้ ความร่วมมือ เนื'องจากมีความหวาดกลัวคนแปลกหน้ า และเด็กในแต่ละห้ องเรี ยน ไม่ได้ มาโรงเรี ยนครบทุกคน ความประทับใจ การตรวจสุขภาพช่องปากเด็กพิการ กลุม่ นี ต้ องอาศัยแรงบันดาลใจ ความร่วมมือจากคุณครูผ้ ดู แู ล โดยเฉพาะ ครูอนามัย ซึง' อยูด่ แู ล ดําเนินงาน ด้ วยตลอดโครงการ จนเราสามารถเข้ าถึงเด็กและสร้ างความไว้ ใจจนสามารถทําให้ เขาร่วมมือได้
4.แผนพัฒนาทักษะการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กพิการ
การพัฒนาทักษะการดูแลทันตสุขภาพช่องปากเด็กพิการ โดยการสอนทันตสุขศึกษา แก่เด็กพิการทุกๆชันเรี ยน ย้ อมสีฟันเพื'อดูแผ่น คราบจุลนิ ทรี ย์ สอนแปรงฟั นเป็ นรายกลุม่ และรายบุคคล และทาฟลูออไรด์วาร์ นิช ให้ แก่เด็กทุกคน อย่างน้ อยคนละ 3 ครัง การสื^อสารกับครูผ้ ดู แู ล เพื^อให้ เกิดเป็ นทีมงาน ร่ วมกันดูแลสุขภาพช่ องปากเด็กพิการ เรื' องการแปรงฟั นที'หอนอน เช้ าและก่อนนอน และการแปรงฟั นหลังอาหารกลางวัน โดยเน้ นให้ ครูผ้ ดู แู ลเด็กแต่ละห้ องเรี ยน ติดต่อสือ' สารกับผู้ปกครองของเด็กในความรับผิดชอบ เพื'อเชื'อมโยง ยังผู้ปกครองให้ ทราบถึงกิจกรรมที'เราได้ ทําไป ทังการตรวจฟั น การแปรงฟั น การทาฟลูออไรด์ วาร์ นิช และการไปรับบริ การทันตกรรมของเด็กๆ เพื'อทราบถึง feed back ความคาดหวัง และ เพื'อให้ เกิดความตระหนักถึงการดูแลเรื' องนีจากผู้ปกครองอย่างต่อเนื'อง เมื'อเด็กกลับไปอยูบ่ ้ าน ผลการทํากิจกรรมการส่ งเสริ มป้องกัน เด็กๆมีพฒ ั นาการเกี'ยวกับการแปรงฟั นได้ ดีขึน แปรงฟั นได้ สะอาดขึน ส่วนเด็กที'มี พัฒนาการทางด้ านสมองช้ า ก็ได้ รับการฝึ กฝนมากขึน และเด็กๆได้ แปรงฟั นหลังอาหารกลางวันทุกชันเรี ยน P 44 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
5.ให้บริการทันตกรรมแก่เด็กพิการ จัดช่องทางการให้ บริ การทันตกรรมแก่เด็กพิการ ก ลุ่ ม นี ณ ห้ อ ง ฟั น ก ลุ่ ม ง า น ทั น ต ก ร ร ม โรงพยาบาลสงขลา ทุกๆ วันพฤหัสบดี ช่วงเช้ า โดยทันตแพทย์เฉพาะทางสาขาทันตกรรมสําหรับ เด็ก ได้ รับความร่วมมืออย่างดีจากคุณครูผ้ ดู แู ลเด็กที'ทําหน้ าทีพ' าเด็กที'ได้ รับอนุญาตจากผู้ปกครองมาทําฟั นที'โรงพยาบาล และเด็กได้ รับการ ดูแลสุขภาพช่องปาก จน complete case โดยได้ จดั ทําสมุดบันทึกการทําฟั น ประจําตัวคนไข้ สาํ หรับเด็กกลุม่ นี เพื'อใช้ เป็ นเครื' องมือสือ' สาร ในการติดต่อกับผู้ปกครอง เพื'อ ทราบความคาดหวัง และการตอบสนองจากผู้ปกครองด้ วย ผลที^ได้ รับ มีการปรับเปลีย' นพฤติกรรมการทําฟั นของเด็กๆ ซึง' ครังแรกที'มาทําฟั น จะมีความไม่ไว้ ใจและหวาดกลัวต่อการทําฟั น มาก แต่จากการทํางานของทันตแพทย์และทีมงาน เด็กๆ มีความหวาดกลัวน้ อยลง และให้ ความร่วมมือในการทําฟั นเป็ นอย่างดี ความประทับใจ ในความดูแลเอาใจใส่ของคุณครูอนามัย และความร่วมมือของเด็กๆ จากที'กลัวการทําฟั น จนสามารถทําฟั น ได้ โดยไม่กลัว และมีความสุขในการมาทําฟั นที'โรงพยาบาล ปั ญหาและอุปสรรคที^พบ คือ เด็กบางคนไม่มีบตั รผู้พิการ และผู้ปกครองก็ไม่สะดวกที'จะไปจดทะเบียนให้ ทําให้ เด็กคนนันไม่ สามารถมารั บบริ การทันตกรรมได้ แนวทางการแก้ ไข คือขอความร่ วมมือกับทางสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ในการติดต่อ ประสานงานกับโรงพยาบาลที'ขนทะเบี ึ ยนบัตรทอง ได้ สง่ ใบ refer เพือ' มารับบริ การทันตกรรม ที'รพ.สงขลา
6.กิจกรรมเยีย) มบ้าน การดําเนินงานนอกจากที'ทนั ตบุคลากรจะเข้ าไปมีบทบาท ในการดูแลทันตสุขภาพแล้ ว ยังได้ ออกแบบ ให้ เกิดการดูแลตนเอง ระหว่างคุณครู ผู้ดแู ลกับเด็กแต่ละห้ อง แต่ละกลุม่ และให้ คณ ุ ครูเชื'อมโยงถึง ผู้ปกครองที'ให้ ความสนใจเรื' องนีโดยผ่านทางใบขออนุญาตผู้ปกครอง โดยจะมีหนังสือผลการตรวจ ช่องปากของเด็ก และส่งใบขออนุญาต ในการทําฟั น ผ่านทางสมุดบันทึกสุขภาพช่องปากนักเรียน เพื'อให้ เกิดความเชื'อมโยง และดูแลอย่างต่อเนื'อง ระหว่าง คุณครู และผู้ปกครอง รวมทังติดตามงานทันตกรรมสําหรับเด็กกลุม่ นี ด้ วยวิธีเยี'ยมบ้ านเด็กพิการจํานวน 2 ครอบครัว เพื'อ พูดคุยถึง การดูแลสุขภาพช่องปาก และแลกเปลีย' นความคิดเห็น กับผู้ปกครอง
7.ตรวจสุขภาพช่องปาก และสัมภาษณ์ผ้ ูดูแลเด็กพิการ ภายหลังโครงการ ตรวจสุข ภาพช่อ งปากเด็กพิ การ หลั งการโครงการพบว่ า สภาวะช่ องปากของเด็ กที^เ คยมี สภาวะปริ ทันต์ หรื อสภาวะเหงือกอักเสบดีขึน1 อย่ างเห็นได้ ชัด ซึ'งเป็ นผลจากการแปรงฟั นที'ดี และได้ รับการดูแลจากผู้ดแู ล และผู้ปกครองมากขึน การสัมภาษณ์ผ้ ดู แู ลเด็กพิการ พบว่ามี ความรู้ และทัศนคติในการดูแลทันตสุขภาพที'ถกู ต้ องขึน และสําหรับการรับบริ การทางทันตกรรมในเด็กกลุม่ นี ยังมีความคาดหวัง ให้ เกิดการตระหนักในการมาเด็กมารับบริ การทันตกรรมด้ วยตนเองของผู้ปกครอง P 45 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
บทสัมภาษณ์คุณครูนอ้ ง - ครูสุภรณ์ ผุดผ่อง ตําแหน่งครู คศ.2 ปฏิบตั ิหน้าที) ครูอนามัยโรงเรียน ความรูสึกในการทํางานโครงการสรางเสริม สุขภาพชองปากเด็กพิการรวมกับ รพ.สงขลา o# ^ $e 1 o# e ! >ึ e ; i o æ !3 i æ/ae ; i 4 ! a i o a >ึ ( a$ o e ) e a 3 8 æ / a - æ/a ?o a o oe ื o ' !e ; & u < ao æ/a u < [Y
æ ; æ 9/ !& u < æ/a u < 3i 4& e 1 ou # o .!. i e æ/a# &e 1 o 8 o eo
e3! ! 4& & ou # 7 9/ !e ; e ! a i & ao [Y æ/a ' #a e ; u # & # & u a e ! a i o e ; 4 !.a æ/ao !& ' e i o# ^ o $o oe ื o e ื o & a e i&æ/a a: #u < . i e ; i o4
ความประทับใจในการทํางาน o e / a: Y # 8æ/ae ; i & # & 8! ึ æ/a a a 3 Ki a i o a æ æ/ae3! ! u # 4 ! a a >ึ # & ' #a o e ; i ! # & a æ/aeo 3 ' !e ; & a i & # & u .o e ! a i 3 8æ/ a - æ/a ?o a e a u < æ/a[Y æ/ae ; & # & a a 3æ/ao & .! i o ความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของเด็กพิการ กอนและหลังการทําโครงการฯ e ; i & # & 8! ึ /a 3 a !o ! a æ 3[Y & # æo / / 4& !# & &&ืo æ /a 3 4 !& oo e ! a 3 a - e ; i & aM # i
e / 4 .o 4 3 a - æ/a !# & &&ืo o ' ! Ki a i o a æ æ /a
/. o æ/! /ื$&3a ^^ o o #u . aKg i/ a ! /u & a & . / 98! a u æ/a o o #u > a ! e i & u < # i . 98! a u a& ' o# ^ 7 #$ a a&< - / # & o &oo!o
. i æ ! a i-g . / 3. /
P 46 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
oo0aoo^^ e 3oæ 04e5 # 678 4o 6 ึ æ3 a a æ; !!!! :? ;o 3a o 3a e aæ e ? o 6 8 o a a e a u i9 o# 78 u : u u æ3a 8 a a o# u i9 a a >8 a æ3a;a 9 7 ?
u i9 a; o (8
) e5> 3 u : 678 ?5 !!!! 555555 ( 3.e ื e ื o 9I e # a a? ?5 3 oe3 oiJ:^^) 7 oo 6 78 9 u i9 o o4 o a@ æ5 A o e B 6 78 æ "a #C e D # u; e D # . D e ื o78 e B e i ; 6o# E 3a 7 æ3a u u a 5 678 a 0 u
ชีวิตคือการเปลีย) นแปลง " ปี หน้ าเป็ นปี แห่ งการทําแบบฝึ กหัดร่ วมกัน ที#จะมีชีวิต ที#ใช้ คาํ สอนของพระบรม ศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ าที#ศักดิ;สิทธิ;ท#สี ุด ทุกข์มีไว้ ไว้ ให้ เห็น ไม่ได้ มีไว้ ให้ เป็ น เราจะต้ องเรียนรู้ กับสิ#งที#เราจะต้ องเผชิญกับความจริงอย่างคนที#ต.ังรับเป็ น ไม่โวยวายเพ่งโทษแล้ วทุรนทุราย อยู่กบั สิ#งที#มันมา ก็แค่มาแล้ วมันก็ไป ชีวิตคือการเปลี#ยนแปลง ปี หน้ า เราจะเห็นการเปลี#ยนแปลง ซึ#งเป็ นโลกธรรม เราคงต้ องอยู่กักบั โลกธรรม มีการได้ การเสีย มีได้ ลาภเสื#อมลาภ มีได้ ยศเสื#อมยศ มีสรรเสริญมีนินทา มีสขุ มีทุกข์ แต่ขอให้ เป็ นปี ที#เป็ นหนทางของอริ หน ของอริยะ ก็คืออยู่กบั โลกอย่างเข้ าถึงธรรม ปี หน้ าเป็ นปี แห่งสติปัญญาที#เราจะต้ องรดนํา. เมล็ดพันธุ์อริยะชนให้ เกิดขึ.น ให้ เป็ นสังคมอริยะ ขอให้ เราเดินทางอยู่ บนหนทางอริยะอย่างมีก้าวย่างแห่งสติปัญญาร่วมกัน ขออํานวยพรขอให้ ทุกคนรู้ต# ืนและเบิกบาน สุขสงบเย็นอยู่ใน ทุกการกระทํา ทุกคําพูด และทุกความคิด มีชีวิตที#เป็ นอิสระอย่างแท้ ง จริง อนุโมทนา "
a a æ a e u
P 47 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ถนน “สู” เชียงคาน
หมอฟั นไทด่าน
นันเป็ นขาใหญ่ เดินทางมาเพื'อทําความฝั นให้ บรรลุกบั โครงการ “ปั' น” เลียบโขง เพื'อนผ่านเส้ นทางเชียงรายแถวๆ เชียงของ-เชียงแสน เพื'อน ไปปั' นเฉี ยดๆ โขงแถวน่าน (นําโขงแถวน่านแค่เฉี ยดแต่ไม่ติดชายแดน ไทย) เพื'อนเลียบคมขวานไล่จากหนองคายไปสุดที'อุบลฯ มาแล้ ว เพื'อน เหลือแต่ช่วงเลย-หนองคาย เพื'อนเลยมาทําความฝั นให้ เป็ นจริ ง ส่วนเรา (หมายถึงคุณดารัชและผม) ออกจะเป็ นมือใหม่ ปั' น เสือ(ภูเขา) วนๆ ใกล้ อยู่แถวด่านซ้ าย ไม่เคยออกไปไกลกว่าถิ'นตัวเอง กับร่ างกายอ่อนแอแต่อยากลองออกเดินทางไกลสักครัง กับใจหวัน' ๆ ว่า 300 กิโลเมตรข้ างหน้ า...จะไหวไหมหนอ เข้ าใจว่ า “เชียงคาน” เป็ นหมุดหมายของนักเดินทางมานานแล้ ว ถ้ าไม่นับแก่งคุดคู้ สถานที'ท่องเที'ยวระดับค่อนไปทาง local ของชาวไทเลยซึ'งคึกคักเกื อ บทังปี บรรยากาศแต่ก่อ นของห้ อ งแถว ริ มนําโขงในเมืองเงียบๆ เหงาๆ อย่างเชียงคาน ดึงดูดนักเดินทางกลุ่ม เล็กๆ กลุ่มหนึ'ง ไม่เว้ นว่าหัวทองหรื อ หัวดํา บรรยากาศเงียบๆ ที'ว่า เหมาะแก่การผ่อนพัก-ครุ่ นคิด-ทบทวนชีวติ ที'ผ่านมา หลัก ฐานเชิ ง ประจั ก ษ์ อี ก อย่ า งคื อ เชี ย งคานถู ก ระบุ เ ป็ น landmark ของคู่มือคนแบกเป้ท่องโลกอย่าง LONELY PLANET มา นานแล้ ว เพียงแต่เมื'อก่อนไม่ได้ มี guest house เท่ๆ เหมือนตอนนี หลักๆ ก็พกั กันตามโรงแรมเก่าคูเ่ มืองอย่าง “สุขสมบูรณ์” ตีนโตแบกเป้คนดังอย่างเฮียต้ อ-บินหลา สันกาลาคีรี (คนนีมี ดีกรี นักเขี ยนซีไรต์ห้อ ยท้ าย-แถมมาด้ วย)นัน ก็หลงใหลในเชี ยงคาน นิยายเมื'อไม่นานปี ของพี'แกอย่าง “นกก้ อนหิน” แม้ ฉากส่วนใหญ่จะอยู่ ในเมืองที'พี'แกรั กมากอีกเมืองอย่างหลวงพระบาง (ที'แปลกคือมีฉากที' เมืองอะไรสักเมืองของเกาหลีเข้ ากระแส K- trend ด้ วย) แต่ฉากแถวๆ ตอนจบก็มาโผล่เอาที'เชียงคาน เมืองเลยนี'เอง จากด่านซ้ า ยไปเชี ยงคาน เส้ น ทางหลัก ระยะทางสัก 130 กิโลกว่าๆ ถ้ าขับรถความเร็ วปกติคงใช้ เวลาเกินชั'วโมงครึ' งไปไม่กี'นาที แต่ ใ ช่ ว่ า จะมี เ ส้ นทางเดี ย ว อี ก เส้ นทางลั ด ตรง โรแมนติ ก และ สมบุกสมบันกว่ามาก ผมเคยใช้ เส้ นทางนีสัก 3-4 ครั งเห็นจะได้ หนึ'ง ในนันใช้ เวลานานมาก --- นานถึง 2 วัน การเดินทางเริ' มขึนในวันฝนพรํ าตอนต้ นฤดูฝนเมื' อหลายปี ก่อน คน 4 คนกับรถ 4 คัน พี'หนึ'ง-เพื'อนหนึ'ง คุณดารัชและผม เพื'อน
การเดินทางครังนีเรามีแม่นํา 3 สายเป็ นเพื'อน สายแรกเป็ นแม่นําหมัน ในพืนที'ล่มุ ชุ่มนําของด่านซ้ าย ฤดู ฝนอย่ า งนี จะมี ทุ่ง ข้ า วอ่ อ นสี เ ขี ย วไว้ ใ ห้ พัก สายตา ในเส้ น ทางที' ยัง ราบเรี ยบ พอให้ ใจชืน หากเมื' อ ล่วง 20 กิโ ลแรก นํ าหมันทิงตัวลงนํ าเหือ งเริ' มทํ า หน้ าที'พรมแดนธรรมชาติแบ่งดินแดนไทย-ลาวออกจากกัน ในบางช่วง ของนํ าเหื อ งที' มี แ ก่ ง หิ น และนํ าตกเรี ยงรายเรี ยกได้ ว่ า เป็ นนํ าตก นานาชาติ เพราะหากเผลอเดิน เพลิ น ไปนิ ด สุด นํ าตกฝั' ง โน้ น ก็ เ ป็ น ต่างประเทศไปแล้ ว ทางเลียบเหืองเริ' มทดสอบกําลังใจ(อันมีอยู่น้อย นิด) ทางชัน-คดโค้ ง –ขึนลง มาเหนือความคาดหมาย เพราะคิดไว้ ว่า ทางเลียบแม่นําน่าจะราบเรี ยบไม่สูงชัน ให้ ต้องออกแรงถีบมากเกินไป แต่เข้ าใจผิด เพราะแถวนีแม่นํา (ทังเหืองและโขง) กับภูเขาเป็ นเพื'อนรัก กั น เกาะเกี' ย วสั ม พั น ธ์ กั น ไม่ ห่ า ง กว่ า จะราบเรี ยบอี ก ครั งก็ เ ลย ศรี เชียงใหม่เข้ าใกล้ ทา่ บ่อ-หนองคายไปโน่น ภาพจํ าสํ าคัญ ของการเดินทางวันแรก คือ ผืนพรมผีเสือป่ า หลากสีสนั สวยสดใสที'เกาะกันอยู่เกือบเต็มพืนถนน และแตกฮือบินขึน พร้ อมกัน หลังจากที'จกั รยานของเรา down hill ลงมาจากเนินสูง คืนแรกเราพักนอนกันที'ศาลาวัดแห่งหนึ'งในเขตอําเภอท่าลี' กับระยะทางที'เพิ'งผ่านไปห้ าหกสิบกิโลเมตร เส้ นทางอีกยาวไกลกับน่อง ที'เริ' มปวดเมื'อยอ่อนล้ า และคําสารภาพของคุณดารัชที'ว่านอนไม่หลับ เลย...กลัว
***ขอบคุณภาพประกอบจาก Blog pa_daeng GO2KNOW
P 48 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
วันที'สองของการเดินทางนําเหืองก็ทอดสายลงสู่โขงในช่วง เขตอําเภอเชียงคาน เราถึงเชียงคานเอาเย็นยํ'า แวะพักกันที'บ้านในสวน ของพี'อ้วน-พี'ซึ'งเป็ นฝาแฝดของพี'หลอด -พี'ใจดีคนหนึ'งที'โรงพยาบาล เราจึงรู้ สึกสนิทสนมคุ้นเคยเพราะพี'สองคนเหมือนกันมาก ทังหน้ าตา และท่าที ทําให้ เราแยกพี'สองคนนีไม่ออก เหมือนพี'หลอดได้ มาดูแลเรา เองที'เชียงคาน เกร็ ดเล็กๆ ใน พ.ศ.นี ก็คือการ”บูม” สุดๆ ของเชียงคาน มีผลให้ ชีวิตพี'อ้วนในวันนีเปลี'ยนไป พี'อ้วน--ให้ ใครสักคนจากกรุ งเทพฯ เช่าบ้ านห้ องแถวที'ทิงร้ างมานานปรั บปรุ งเป็ นโรงแรมริ มโขง--สุเนต์ตา และสถาปนาตัวเองเป็ นหัวหน้ าแม่บ้านด้ วย หากอีกสัก 4 ปี แกใจแข็ง ไม่ตอ่ สัญญา พี'อ้วนก็จะขยับอีกขันมาเป็ นผู้จดั การและเจ้ าของโรงแรม ตัวจริ ง การ “ถี บ ” เลาะเลี ย บโขงครั งนันให้ ภ าพจํ า เส้ นทางสู่ เชียงคาน เชียงคานเมื'อ 9 ปี ก่อน เมืองสงบที'ถนนชายโขงยังเป็ นเพียง ห้ องแถวเงียบๆ มีบางบ้ านที'กองไปด้ วยผืนผ้ าหลากสีและฝ้ายสําหรั บ ยัดผ้ าห่มเชียงคานของดีที'ค่เู มืองเชียงคานมานาน กับวันนีที'เชียงคาน เติบโตเป็ นเมืองท่องเที'ยวเต็มรู ปแบบ จากไทบ้ านซื'อๆ เชยๆ เป็ นเด็ก แนวเท่ๆ แต่ก็มี กระแสการรวมตัว ของคนพื นถิ' นเพื' อ พยายามยื อยุด รั กษาอัตลักษณ์ ของ “ไทเชี ยงคาน” ไว้ ให้ ได้ ไม่ว่าจะเป็ นการรณรงค์ ไม่ให้ ขายบ้ านและที'ดนิ แก่คน “อื'น” การต้ านการเข้ ามาของร้ านสะดวก ซือฯ ได้ แต่หวังและเอาใจช่วยไม่ให้ เชียงคานเปลี'ยนแปลงเร็ วเกินกว่า จะรั บมื อ ไหว ได้ เรี ย นรู้ จากเมื อ งอื' น ๆ บางเมื อ ง เพื' อ ที' จะไม่มีจุดจบ เช่นเดียวกัน ผมไปเชียงคานครั งสุดท้ ายเมื'อ ต้ นปี ก่อน แรกๆ ก็ตกใจกับ การ “เปลี'ยน” ไปอย่างรุ นแรงที'ว่า แต่เมื'อตังหลักได้ ก็เข้ าไปผสมโรง เสพ “เชียงคาน” เหมือนกับคนอื'นๆ โปสการ์ ดสุดแนว ร้ านเสื'อยืดเก๋ๆ ร้ านกาแฟเท่ๆ เบเกอรี' อ ร่ อ ยๆ เมื' อ ก่ อ นใครจะคิ ด ว่า จะได้ ม ากิ น blueberry pine รสชาติอย่างนีที'เชียงคาน แต่ความงามจริ งๆ ในการ เดินทางครั งนันคงจะเป็ นการเดินลัดเลาะไปตามทางเดิน ริ มนํ าโขง บรรยากาศมัวๆ ของหมอกเหนือสายนําในตอนเช้ าให้ ความรู้ สึกสดชื'นผ่อนคลาย กว่าถนนสายค้ าขายอันคึกคักที'ทอดตัวขนานกัน
หากนับโซนอําเภอของเมือ งเลย ด่านซ้ าย –ภูเรื อ –นาแห้ ว นันร่ วมโซนภูเขา เส้ นทางคดเคียวเลียวลดเป็ นปกติ พี'บางคนถึงกับคุย ว่า หากไปขับ รถทางตรงจะเผลอหลับ ในอยู่ บ่อ ยๆ เพราะไม่ ชิ น กับ ทางตรงๆ ที'น่าเบื'อ —ไม่ไ ด้ หักพวงมาลัยซ้ า ยขวาเหมื อ นเส้ นทางอัน คุ้นเคย ส่วนเชี ยงคานนันเป็ นโซนแม่นํา ร่ วมโซนกับท่าลี'แ ละปากชม เส้ นทางจากเมืองเลยไปเชียงคานตามทางหลวงหมายเลข 201นันไม่ ถึงกับดิ'งตรงแต่ก็ไม่ได้ คดโค้ งถึงขันหวาดเสียว ผมไม่มีภาพจําอะไรกับ เส้ นทางสายนีมาก่อน นอกจากจําได้ วา่ ผ่านแม่นําเลย เข้ าใจว่าแบ่งเขต อําเภอเมืองเลยกับเชียงคาน ผมคงมีเหตุให้ ได้ ไปเชียงคานอีกสักวันหนึ'ง แต่ช่วงนีคงห่างๆ ไปสักพัก 1 เดือน 2 เดือน 6 เดือน หรื อกว่าปี ยังไม่ร้ ู เพราะเส้ นทางสาย นีให้ ภ าพจํ าใหม่ ภาพน้ อ ง 3 คนที'ยังวนเวียนให้ นึกถึง ตังแต่วันที' 4 ธันวา 53 ที'เกิดเหตุการณ์ มาจนทุกวันนี น้ องทันตแพทย์ 3 คนได้ จาก ไปบนถนนสายนีด้ วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ น้ องเพิ'งจบ เป็ นความหวัง ของครอบครั วและใครต่อใครหลายคนรอบข้ าง กําลังมาสร้ างคุณค่า เพื'อผู้อื'นตามวิชาชีพที'รํ'าเรี ยนมา บางคนมุ่งมัน' มาใช้ ทุนแม้ ครอบครั ว ไม่เห็นด้ วย--Dying Young-Dying so Young ชีวิตยังเยาว์นกั ในมุม ของ “พ่อ” คนอย่างผม คิดถึงหัวอกของพ่อแม่-เพิ'งมาส่งทํางานไม่ถึงปี เพิ'งถ่ายรู ปรั บปริ ญ ญากันพร้ อมๆ หน้ าเมื' อ 4-5 เดือนก่อ น...แม้ การ จากพรากจะเป็ นสัจธรรมอันไม่อาจหลีกเลี'ยง แต่หากมากะทันหัน---เร็ วเกิ นไป คงเร็ วเกิ นกว่าจะทําใจให้ยอมรับได้ง่ายๆ ผมพยายามจะสรุ ปบทเรี ยนการจากพรากของน้ อง ก็คิดไม่ ค่อยออก คิดออกแต่เพียงว่าหากความดีงามใดๆ คิดได้ มีโอกาสต้ อง รี บลงมือทํา และต้ องเตรี ยมพร้ อมต่อการลาจาก ไม่ว่าคนใกล้ หรื อไกล ตัว เพื'อน-- ญาติ หรื อไม่ใช่ สําหรับคืน-วันที'เรายังจะได้ ใช้ อยู่ร่วมกันบน โลกสี นําเงิน ใบนี ควรมองผ่ านเลยในความไม่พึงใจเล็ก ๆ น้ อ ยๆ ใน ความสัมพันธ์ ดูแลเอาใจใส่กนั และกันให้ ดี เพราะไม่ นานวัน... เราคงต้ องจากกันแล้ ว ….
อาลัยการจากไปของน้ อง ป๋ วย,โอมและโมห์ อย่ างที*สุด ขอให้ ดวงวิญญาณของน้ องได้ ไปสู่ภพภูมิอันสุขสงบ บทความชิ นนีจ ริ งๆ แล้ ว ควรตัดเนือ หาไร้ สาระอื* นใดออกไป เหลือไว้ แต่ การอาลัยถึง “น้ องทั ง 3” แต่ ผมก็ทาํ ไม่ ได้ เพราะไม่ อยากให้ เป็ นบทความที* “เศร้ า” เกินไป P 49 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ไกลเกินช่องปาก ลึกกว่าคอหอย : Fast food กับ slow knowledge นายแพทย์สภุ ทั ร ฮาสุวรรณกิ จ เวลาจะมาอบรม ผู้เข้ าอบรมก็ แค่จัดกระเป๋ าเดินทางมีอดั แน่น ด้ วยเสือผ้ า แต่แทบไม่มีหนังสือสักเล่ม เข้ าที'พกั ในโรงแรม แล้ ว มานัง' ฟั งมารับความรู้ จากวิทยากรที'มากด้ วยความรู้ ลงลึกเฉพาะ ทาง แล้ วไปย่อยเองคิดต่อยอดเองว่าจะนําไปใช้ อย่างไร ส่วนใหญ่ การอบรมจะเน้ นไปที' ค วามรู้ ใหม่ ๆ และเทคนิ ค วิ ธี ป ลี ก ย่ อ ย กลับไปที'ทํางานแล้ วหลายคนก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี'ยนแปลงใน บุค ลากรด้ า นสุข ภาพในประเทศไทยน่ า จะเป็ นกลุ่ม บุคลากรที'มีการจัดการกิจกรรมในห้ องประชุมมากที'สดุ กลุม่ หนึ'ง
ชีวิตจริ ง การอบรมบ่อยครังที'เป็ นเพียงสิทธิพิเศษในการพักผ่อน จากงานเท่านัน
ในประเทศไทย มีทงการอบรมให้ ั ความรู้ และการประชุมชีแจง
คุณหมอโกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ได้ เคยสอนและแนะ
งานและกระบวนการการทํา งานร่ วมกัน และเกิ ดบ่อยมากจน
ให้ แ ยกแยะความรู้ ที' มี ใ นโลกนี ว่ า ความรู้ มี อ ยู่ 2 ประเภทคื อ
เรี ยกได้ วา่ อบและรมกันจนเกรี ยม
ความรู้ แบบด่วน (fast knowledge) และความรู้ แบบช้ า (slow
ชาวบ้ านคนหนึ'งอายุระดับคุณยายแวะมารับบริ การที'
knowledge)
โรงพยาบาล วันนันมาพบผมก็ดีใจ บอกผมว่า “วันนีโชคดีที'เจอ
ความรู้ แบบด่วนหรื อ fast knowledge ก็เสมือนอาหาร
คุณหมอ อาทิตย์ที'แล้ วก็มาแล้ ว แต่หมอไม่อยู”่ ผมก็ตอบไปว่า
แดกด่วนหรื อ fast food คือกินง่าย รับรู้ง่าย มีเมนูชดั เจน แต่อาจ
“ พอดีอาทิตย์ที'แล้ ว หมอไปอบรม 3 วันนะครับ” คุณยายก็เลย
ไม่คงทน อีกครึ' งปี หนึ'งปี ก็เปลี'ยนความรู้ ให้ ก้าวหน้ ากว่าเดิม ต้ อง
ตอบกลับมาว่า “ขยันเรี ยนมากๆนะหมอ เห็นหมอถูกส่งไปอบรม
คิดเมนูใหม่ ต้ องกินใหม่ชิมใหม่เรี ยนรู้ ใหม่อยู่เสมอ ส่วนใหญ่ก็จะ
บ่อย สงสารหมอเหมือนกัน เมื'อไรจะเรี ยนจบกับเขาเสียที เห็น
เป็ นความรู้ ทางเทคนิ ค เช่ น ความรู้ ใหม่ ใ นการรั ก ษาวัณ โรค
หมอก็รักษาเก่ง จัดยาก็หายเร็ ว แต่ทําไมเรี ยนไม่จบ สอบไม่ผา่ น
เทคนิควิธีการอุดฟั นที'ให้ ติดทนนาน การป้องกันฟั นผุด้วยการ
หรื อ” คุณยายแกคงสงสัยว่า ผมคงเรี ยนไม่เก่ง จบมาเป็ นหมอ
เคียวหมากฝรั'ง เป็ นต้ น ความรู้ แบบนีจึงเสมือนอาหารจานด่วน
แบบความรู้ไม่แน่น ก็เลยต้ องถูกส่งไปอบรมอยูเ่ รื' อยกระมัง
จึงเรี ยกว่า fast knowledge
วิชาชีพสุขภาพกับการเรี ยนรู้ ตลอดชีวิตเป็ นสิ'งที'จําเป็ น
แต่ ใ นโลกนี ยั ง มี ค วามรู้ อี ก แบบหนึ' ง ที' ไ ม่ ค่ อ ย
แต่สงิ' ที'แย่คือ ในปั จจุบนั กระบวนการเรี ยนรู้ได้ ถกู ลดทอนให้ เหลือ
เปลี' ย นแปลงตามกาลเวลา ถึ ง จะเปลี' ย นก็ ใ ช้ เวลานาน เช่ น
เพียงการเข้ ารับการอบรมเท่านัน
กระบวนทัศ น์ แ บบจั ก รกลของนิ ว ตัน ที' ค รอบงํ า ความคิ ด ทาง
กระบวนการเรี ยนรู้ นนมี ั ความสําคัญมาก แต่ต้องไม่ใช่
วิทยาศาสตร์ ถึง 300 ปี ทัศนะต่อการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชา
เพียงแค่ก ารอบรมให้ ความรู้ เนือหาเชิ ง ปริ มาณแบบที'ผ่านๆมา
ตอและสิ' ง แวดล้ อ ม การฝึ กฝนให้ เราเป็ นคนมองโลกในแง่ ดี
P 50 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
กรอบการวิเคราะห์ด้วยเหตุผล อัตชีวประวัติของคนดีในโลกเช่น
แทนที'การคิดการมองแบบแยกส่วนและการยึดติดในเฉพาะทฤษฎี
มหาตมะ คานธี ความรู้ พืนฐานด้ านคณิตศาสตร์ ด้ านการทําจิต
การเรี ยนรู้ ความเกี'ยวเนื'องเชื'อมโยงของการเคลื'อนไหวทางสังคม
ให้ นิ' ง สงบเย็ น ด้ ว ยสมาธิ ด้ านประชาธิ ป ไตยแบบมี ส่ ว นร่ ว ม
ด้ วย new media
ประวัติศาสตร์ ของมนุษยชาติ เป็ นต้ น เพราะความรู้ เหล่านีไม่
สุนทรี ยศาสตร์ ควบคู่กับวิทยาศาสตร์ การเรี ยนรู้ เรื' อง systemic
ค่ อ ยเปลี' ย นแปลง คื อ เคลื' อ นตั ว ช้ า เราจึ ง เรี ยกว่ า slow
thinking หรื อ complex system รวมทังการเรี ยนรู้ กระบวนการ
knowledge
คิดการจัดการขององค์กรภาคเอกชน เป็ นต้ น ทังหมดนีส่วนใหญ่
การเข้ าใจและมีความเข้ าใจต่อศิลปะและ
คุณหมอโกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ได้ ให้ ความสําคัญกับ
เป็ น slow knowledge ซึ'งต้ องการการเรี ยนรู้ แบบการแลกเปลี'ยน
การเรี ยนรู้ ความรู้ ที'เรี ยกว่า slow knowledge หรื อความรู้ ที'เก็บ
และถกแถลงเชิงความคิดทังสิน ไม่ใช่การบรรยาย เมื'อได้ แลกได้
เอาไว้ เป็ นรากฐานของกระบวนคิดกระบวนการมองเป็ นสําคัญ
เถียง ความคิดเชิงทัศนะเหล่านีก็จะค่อยๆตกตะกอนเรี ยงตัวอยูใ่ น
ไม่ใช่เน้ นความรู้ ที'เป็ นแบบ fast knowledge แบบ fast food ที'
ระดับกรอบความคิดพืนฐานในสมองและจิตใจของเราต่อไป
เน้ นความรู้ เชิงเทคนิควิธีการต่างๆ ซึ'งผมเองเห็นด้ วยอย่างยิ'งกับ
ยิ'งเรี ยนรู้ ซําให้ แน่นและให้ ตระหนักรู้ มากขึน ก็ยิ'งทําให้
คุณหมอโกมาตรที'ว่า ความรู้ แบบ slow knowledge นันสําคัญ
เกิดการจัดระเบียบระบบความคิดและความเข้ าใจทังที'มีอยู่บ้าง
มาก มันจะอยู่กับเราตลอดชีวิต เป็ นรากฐานวิธีคิดที'อยู่ฐานราก
แล้ วและสิ'งที'เพิ'มเติมเข้ าไปใหม่ตอกยําระคนคลุกเคล้ าซําเข้ าไป
อยู่ในก้ นบึงของความคิดเรา นอกจากส่งผลต่อมมุมมองในการ
อีก ให้ มี ก ารเรี ยงตัวและความเชื' อ มั'นในการเป็ นฐานวิธี คิด จน
อ่านปรากฏการณ์แล้ ว ยังแผ่ซา่ นไปถึงระดับจิตสํานึกด้ วย
กลายเป็ นตัว ตนใหม่ที' ย กระดับ ฐานทางปั ญ ญาที' แ น่น และชัด
การเรี ยนรู้ในมหาวิทยาลัยในปั จจุบนั มุง่ เน้ นสอนแต่ fast knowledge
กว่าเดิมขึนไปเรื' อยๆ
เช่นเดียวกับการอบรมวิชาการเพิ'มพูนความรู้ ใน
ดัวนันในวันนี ผมจึงอยากเชิ ญชวนให้ ทุกท่านเลิกกิ น
ปั จจุบนั ที'ก็ม่งุ เน้ นแต่ความรู้ เชิงเทคนิควิธีการ จนละเลยความรู้
fast food ซึ'งหมายรวมถึงการลดปริ มาณการอบรมแบบ fast
เชิงกรอบความคิดและกระบวนทัศน์พนฐานในการทํ ื างานและการ
knowledge และหันมาให้ ความสําคัญการเติมเต็มตัวตนของเรา
ใช้ ชีวิตในสังคม
เองด้ ว ยกระบวนการเพิ' ม เติ มการเรี ย นรู้ ด้ ว ยเนื อหาแบบ slow
ความรู้ แบบ slow knowledge นันหลายอย่างอาจเป็ น
knowledge แต่ความยากก็อยูท่ ี'วา่ เนือหาแบบนี ไม่ค่อยมีการจัด
ข้ อเท็จจริ งเช่น การที'ได้ เรี ยนรู้ชีวิตและวิธีคิดของบุคคลสําคัญของ
อบรม หรื อหากมีการจัดกระบวนการเรี ยนรู้ ก็ไม่สามารถเบิกจาก
โลก เหตุก ารณ์ สํา คัญ ในประวัติ ศ าสตร์ โ ลก แต่ ส่ว นใหญ่ ข อง
กระทรวงการคลังได้ แต่ก็ไม่ใช่อปุ สรรค หากเห็นความสําคัญใน
ความรู้ แบบ slow knowledge เป็ นความรู้ เชิงกระบวนทัศน์และ
การเติมเต็มตนเองในท่ามกลางการงานอันถาโถมวุน่ วาย ☺
กรอบการมอง ดังนันกระบวนการเรี ยนรู้ จึงมักไม่ใช่แบบบรรยาย โดยวิ ท ยากรผู้ รู้ ดี แต่ จ ะเป็ นการจั ด กระบวนการเรี ย นรู้ เชิ ง แลกเปลีย' นเป็ นสําคัญ กรอบคิดเช่น การมองคนซึ'งมีความแตกต่างกันถึง 9 แบบในนามของ “นพลักษณ์ ” การเสริ มมุมมองแบบองค์รวม P 51 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
จุดประกายความคิด
โดย ทพญ.ดร.มัทนา (พฤกษาพงษ์ ) เกษตระทัต
ทําไปทําไม ช่วงวันสองวันนีได้ อา่ นหนังสือ 2 เล่มที'มเี รื' องคล้ ายๆกัน ทําให้ คดิ โยงใยต่อไปได้ อยากมาเล่าให้ ฟังฉลองปี ใหม่ เรื' องแรก เป็ นการ์ ตนู คนไทย วาดโดย มุนิน เป็ นเรื' องของเด็กหญิงเด็กชายที'ได้ ร่วมใช้ เวลาปลูกต้ นไม้ มาด้ วยกันต้ นนึง พวกเค้ าได้ เมล็ดพันธ์พชื มาโดยไม่ร้ ูวา่ มันจะกลายเป็ นต้ นอะไร เวลาผ่านมาเนิบๆช้ าๆผ่านหลายร้ อนหลายฝน จนมีคาํ ถามเกิดขึนมาว่า “ถ้ ามันไม่มีดอกหอมๆงอกออกมา ไม่มีสรรพคุณรักษาโรค...ไม่มีผลที'กินได้ ไม่เป็ นไม้ ใหญ่ให้ ร่มเงา” “เรายังจะปลูกมันไหมนะ” คําตอบเงียบๆในใจของตัวละครที'กลายเป็ นหนุม่ สาวแรกรุ่นคือ “ต้ นไม้ ต้นนีและความผูกผันระหว่างเราสองคน-ไม่วา่ ผลมันจะออกมาเป็ นอย่างไง-มันก็คงมีความหมายมากพอสําหรับเรา” อีกเรื' องเป็ นเพลงดาบแม่นาร้ ํ อยสายในหนังสือภูมิค้ มุ ใจ เพลงดาบฯเล่าว่าได้ ดสู ารคดีญี'ปนเล่ ุ่ าเรื' องชีวติ 3คนทีใ' ช้ เวลาว่างจากการทํางานออฟฟิ ศ ไปทํางานอดิเรกแปลกๆเช่นการแสดงพืนบ้ านที'เขาทุม่ เทมากเกิน มากจนคนสงสัยว่า “ทําไปทําไม” ขับรถ 2 ชม.ออกนอกเมืองทุกวันเสาร์ ไปเรี ยนรํ าๆเชยๆเป็ นงานอดิเรก เรื' องแบบนีอาจจะดูไม่เข้ าท่าเลยในสายตาคนอื'นมันจะคุ้มเหรอ หรื อคิดไปโน่นว่า หรื อว่าไปหาแฟน (ใครแอบคิดบอกมา) แต่เรื' องแบบนีมันมีคณ ุ ค่ากับคนทํา มันมี “ความหมาย” ไอ้ การได้ “ทํา” สิง' เหล่านีมันมีคา่ ในตัวของมัน “ในขณะที'ได้ ทํา” ไม่ต้องไปรอผลถึงขนาดว่า สาวออฟฟิ ศคนนีจะแสดงได้ ดีจนเป็ นอาชีพเสริ มหารายได้ พิเศษหรื ออะไรเทือกนัน (หรื อได้ แฟน) แว๊ บแรกเคยคิดว่าเรื' องแบบนีมักจะเกิดกับงานอดิเรกที'เป็ นศิลปะ การปลูกบอนไซ การชงชา การเขียนพูก่ นั หรื องานปั น มีคนบอกว่าการชื'นชมหรื อการสร้ างงานศิลปะเป็ นการใช้ ใจอยูก่ บั ปั จจุบนั ขณะ เป็ นการให้ ใจกับงานอย่างเต็มที'เต็มความรู้สกึ แต่คิดไปคิดมา ไอ้ เรื' องแบบนีน่าจะเข้ ากันได้ กบั งานอดิเรกอย่างอืน' ด้ วย หรื อจะจริ งว่าถ้ าเอาจริงเอาจังกับอะไรสักอย่างแล้ วมันมี “ความหมายทังนัน ” ไม่วา่ จะเป็ นหมากโกะ เคนโด กอล์ฟ หรื อ แบดมินตัน?!?!? ย้ อนมามองที'ตวั เอง เมื'อตอนยังอยูท่ ี'แคนนาดา งานอดิเรกของผู้เขียนคือการยิงธนูญี'ปน(คิ ุ่ วโด) คิวโด เป็ น วิถีเซ็นอีกวิถีหนึง' มองเผินๆก็เหมือนเป็ นกีฬายิงธนูทดี' นู า่ จะสนุก แต่มนั เป็ นมากกว่านันมาก ที'โดโจ ที'ผ้ เู ขียนและสามีได้ ไปฝากตัวเป็ นศิษย์นนจะเปิ ั ดให้ ผ้ ทู ี'สนใจเข้ ามาดูรุ่นพี'ฝึกซ้ อมก่อน P 52 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
แล้ วค่อยตัดสินใจว่าจะเรี ยนหรื อไม่เรี ยน คนมาดูมากกว่าครึ'งไม่กลับมาอีกเลย หลายคนพูดให้ ได้ ยินเลยว่าทําไมช้ าอย่างนีนะ กว่าจะเดิน กว่าจะยกธนูง้าง กว่าจะยิง แถมยิงอะไรกัน ไม่เห็นจะโดนเป้ากันซักเท่าไหร่เลย การยิงธนูญี'ปนก็ ุ่ เช่นกัน การยิงโดนกลางเป้าเป็ นไม่ใช่เป้าหมายหลัก สิง' สําคัญมากกว่าคือการสํารวมจิตใจ พยายามเข้ าใจในความเป็ นจริง ความดี และความสวยงามของธรรมชาติทงภายนอกและภายใน ั (ภาษาญี'ปนใช้ ุ่ คาํ ว่า zen,shinและ bi) มันคือการตังใจพยายามทําท่าทางการยืน การโก่งคันธนูให้ ถกู หายใจให้ ถกู จังหวะ เพราะเมื'อเข้ าใจมีสมาธิจะทําได้ ถกู ท่าทางแล้ ว มันควรจะโดนเป้าเอง เมื'อไม่โดนเป้าก็ควรดีใจที'ได้ มีโอกาสสํารวจตัวเองว่าทําอะไรพลาดไปบ้ าง สํารวจอย่างสงบ ไม่เสียใจหรื อกระวนกระวายใดๆทังสิน ในการสอบคิวโดนัน ไม่วา่ จะยิงโดนหรื อไม่โดน ท่าสําคัญที'สดุ ที'กรรมการจะให้ คะแนนคือ “ท่าจบ” คือท่าที'เก็บคันธนูไว้ ข้างตัวแล้ วเดินออกจากสนามยิง ทุกกระบวนท่าต้ องมีสติอยูค่ รบทัว' ทังตัว ทังสองมือสองขา แล้ วก้ าวเดินออกประตูไปอย่างสงบ ถ้ ายิงโดนแล้ วออกสีหน้ า ใจพองตัว ไม่สาํ รวมกายใจ รวบคันธนูเก็บผิดจังหวะก็สอบตก ถ้ ายิงไม่โดนแต่ถ้าถูก มีจงั หวะการหายใจและสายตาที'มนั' คง ไม่ทําหน้ าผิดหวังจนเสียกระบวนท่า ก็สอบผ่าน ผู้เขียนไปโดโจทุกวันเสาร์ เป็ นเวลาเกือบสามปี ก่อนสอบวิทยานิพนธ์สองอาทิตย์ก็บินไปสอบคิวโดที'แคลิฟอร์ เนีย ตอนนันก็คิดว่าตัวเองบ้ า “ทําไปทําไม” สอบคิวโดสายดําขันหนึง' ผ่านแล้ วได้ อะไร ผลของมันคุ้มกับเวลาและเงินเหรอ กระดาษแผ่นนันใช้ อะไรในโลกการทํามาหากินไม่ได้ เลย แต่มนั กลับเป็ นประสบการณ์ที'มีความหมายมากๆ ได้ พบกับปรมาจารย์ควิ โดที'บินมาจากญี'ปนุ่ ได้ เห็นว่า “ของจริ ง คนจริ ง” มันเป็ นยังไง เป็ นการสอบที'ได้ เรี ยนรู้อะไรมากกว่าการสอบปริ ญญาเอกเสียอีก ปี ใหม่นก็ี ขอให้ ผ้ อู า่ นทุกท่านมีความสุขอยูก่ บั “สิง' ที'ได้ ทํา” ส่วนคําตอบว่า “ทําไปทําไม”นันมีแต่คณ ุ เองเท่านันที'ตอบได้ มีแต่คณ ุ เองเท่านันที'ร้ ูวา่ คุณ “ให้ ใจกับสิง' ทีก' ําลังทําอยู”่ รึเปล่า หรื อว่าทําไปงันๆเค้ าสัง' มาก็ทาํ ถ้ าคุณให้ ใจกับสิง' ที'ทาํ มีสติกบั สิง' ที'ทํา ไม่วา่ จะเป็ นงานประจําหรืองานอดิเรก คุณก็ไม่ต้องห่วงว่าผลมันจะออกมาเป็ นอย่างไร ทําดีก็ดี ถ้ าไม่ได้ ดีแต่มีสติเวลาทํา ถึงพลาดอะไรไปก็จะพิจารณามองเห็นและแก้ ไขได้ แล้ วชีวิตก็จะมีความหมายเพราะได้ ทาํ อะไรที'มีความหมาย สวัสดีปีใหม่คะ่ ทุกคน ☺
P 53 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ประสาคนวัยกลางคนที'เป็ นชาวเขาพืนที'สงู ขณะที'ลกู นัง' หน้ า ตรงเรี ยบเฉย
การฟงดวยหัวใจ ทพญ.มยุเรศ เกษตรสิ นสมบัติ
“ทําไมถึงตัดละจ๊ ะ หมอเขาอธิบายแล้ วใช่ไหมครับว่า ใช้ เวลาไม่นานก็ถอดลวดออก กระดูกคางก็จะติดกันก็จะได้ เคียวอาหารได้ ตามเดิม” เงียบไม่มีเสียงตอบจากพ่อหนุ่ม “บอกแล้ ว มัน ไม่ เ ชื' อ มัน ดื อ” พ่ อ รี บ ตอบแทน ถ้ า ตัดสินแค่ตอนนีก็น่าจะคิดว่าลูกชายคนนีท่าจะดือเอาการ
“หัวหน้ าคะอย่าพึ'งกลับนะคะเดี ยวจะมีRefer จาก ทุ่ง ช้ าง” น้ อ งทัน ตาภิ บาลคนสวยยื' นหน้ ามาบอกจากห้ อ ง บริ การ “Case อะไรละคะหนู”เดีย วนีน้ องทันตาภิบาลที'พึ'งจบ มาใหม่วยั พอๆกับลูกสาวที'บ้านเลย “น่าจะเป็ นอุบัติเหตุคะ พ่อทะเลาะกับลูก” ท่าจะรุ นแรงพ่อทะเลาะกับลูก จนต้ องส่ง ตัวมาที'รพ.ของเราเลย ผู้เขียนก็เลยหยุดการเก็บคอมพิวเตอร์ แบบพกพา แม้ จะเลยเวลากลับบ้ านมานานแล้ ว เพื'อรอรับRefer จากน้ อง รพ.ทุ่งช้ างที'เป็ นรพ.ชุมชนทางตอนเหนือของจังหวัดน่าน เมื'อ ผู้ช่วยเตรี ยมเครื' องมือพร้ อม คนไข้ มาถึง ผู้เขียนก็ออกไปพบ หนุ่มน้ อยวัยประมาณ 16 ปี มากับคุณพ่อ ในช่องปากมี Arch bar และลวด “เป็ นอะไรมาครับ พ่อหนุ่ม”
“เอาละ เอาละ ขึนนอนบนเตียงดีกว่านะเดี ยวหมอ จะดูให้ ” จากการตรวจช่องปากพบว่าArch bar บน ล่าง แยก จากกันมีลวดที'ถูกตัดยังเหลืออยู่ที'ด้านซ้ ายปลายเริ' มเสียดสี กับกระพุ้งแก้ มเป็ นรอยขีดแดงๆ ปลายคางข้ างขวามีรอแผล เริ' มตกสะเก็ด เนื'องจากไม่มีประวัติใดๆมา เลยตัดสินใจโทรหาคุณ หมอแอ๋ว คุณหมอศัลย์ ที'สวยที' สุดในจังหวัดน่ าน ก็เลยวาง แผนการรั กษาว่าต้ อ งมัด ลวดใหม่โดยอธิ บ ายให้ ค นไข้ แ ละ คุณพ่อฟั ง ไม่มีเสียงใดๆตอบจากปากลูกชาย ผู้เขียนก็เลยหัน ไปบอกผู้ช่วยเตรี ยมอุปกรณ์ “มัดใหม่หรื อหมอ” “คะต้ องมัดเดี ยวกระดูกไม่เข้ าที'” อ้ าวหันมาอีกที นําตาลูกผู้ชายไหลจากเป้าตาหนุ่มน้ อย “ทําไมหรื อครับหมอพูดอะไรให้ ผมไม่สบายใจหรื อ เปล่า” เงียบ ไม่มีเสียงตอบ
“มันอยู่บ้าน ผมไปทํ างานกลับมา มัน ตัดลวดออก
“ไม่อยากมัดหรื อ? ต้ องอดทนนะครับ ต้ องอดทนไป อีกหน่อย” อ้ าวไหลใหญ่เลยนําตา
“แล้ วก่อนหน้ าที'จะมัดลวดเป็ นอะไรมาหรื อจ๊ ะ”
“เป็ นไงหรื อ? ปวดมากหรื อ? ถึงได้ ร้องให้ ” คนไข้ สนั' หัว เย้ ! เริ' มมีการตอบสนองแล้ ว
เอง” “รถมันล้ ม หมอทุ่งช้ างส่งไปรพ.น่าน เขามัดลวดให้ ได้ อาทิตย์หนึ'งแล้ ว” พ่อเล่าให้ หมอฟั งชัดบ้ างไม่ชดั บ้ างตาม
P 54 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
“ทํ าไมละไม่ป วดก็ ท นหน่ อ ยเน๊ าะ าะ อื ม พูด ไม่ไ ด้ ใ ช่ ไหม? เอาอย่างนีซิ ถ้ าน้ องต้ต้ องการอะไรเขียนใส่กระดาษบอก คนในบ้ าน” สัน' หัว อ้ าวเอาอีกแล้ ว “ทําไมละ?” “มันอ่านหนังสือ เขียนหนังสือไม่ได้ ” พ่อตอบแทน อ้ าวเป็ นงันไป เอาไงเนีย ถ้ าเริ' มอธิบายใหม่ถงึ ความจําเป็ นที'ต้องรักษาคนไข้ ก็ ท่ า จะไม่ ฟั ง แล้ วเพราะน้ อ งเขาและพ่ อ คงฟั ง มาหลายรอบ อย่างเข้ าใจแล้ ว เอาอย่างนี เปลี'ยนแผนดีกว่า ก็เลยเชิญคุณ พ่อออกไปนัง' รอข้ างนอกก่อนบอก หมอจะทําการรักษาให้ ลกู ชายแล้ วนะ” นะ “หมอจะทํ พอคุณพ่อออกไปก็เลยลองชวนน้ องเขาคุย “หิวหรื อครับ” น้ องพยักหน้ า “บอกใครไม่ได้ ใช่ไหมครับ” น้ องพยักหน้ า “เอาอย่าง นี หมอเข้ าใจและเห็นใจน้ องมาก มาก แต่หมอต้ องขอมัดลวดต่อ อีกหน่อย เดี ยวหมอพอจะมีนมที'หมอเก็บไว้ ที'ห้องฟั นเพื'อดื'ม เวลาหิวฉุกเฉินให้ น้องกลับไปทานที'บ้านด้ วย”” น้ องพยักหน้ าดูแววตาใสขึนนิดหนึง' ก็OK แม้ นิดหนึง' ก็ยงั ดี พอเสร็ จ Case ก็เลยชวนน้ องๆในฝ่ ในฝ่ ายที าย 'ยงั ไม่กลับ บ้ าน มาคุยกันว่าจากCaseนีนี ได้ เรี ยนรู้ อะไรบ้ าง น้ องๆหลาย คนก็บอกว่า ถ้ าเราไม่มีเวลาเราคงตัดสินว่าคนไข้ คนนีดือ พูด ไม่ร้ ู เรื' องอธิบายแล้ วยังไม่เข้ าใจอีก ไม่ให้ ความร่ วมมือในการ รักษา ทําให้ หมอต้ องมาทํางานซํา 2 ครัง เสียเวลา เ
ก็พอสรุ ปกันได้ ว่า การรั กษาผู้ป่วยของพวกเราจะดู แต่อาการทางช่องปากที'อยู่ตรงหน้ าเราเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แล้ ว หลายครั งที' เ รามัก จะเครี ย ดกับ ความล้ ม เหลวในการ รักษาของเรา เพราะเราคิดว่าเรารักษาถูกต้ องทุกขันตอนแล้ ว อธิ บายคนไข้ เต็มที' แล้ วแต่ทําไมถึงล้ มเหลว เพราะในความ เพร เป็ นจริ งองค์ประกอบของการรั กษาผู้ป่วยยังมีองค์ประกอบ อื'นๆอีกมากมาย ดังที' เขาพูดว่าเราต้ องดูแลผู้ป่วยแบบองค์ รวมซึ' ง หลายคนก็ นึ ก ไม่ อ อกว่ า เป็ นยั ง ไง เพราะฟั งแล้ ว ค่อนข้ างเป็ นนามธรรม “หนู หนูร้ ู แล้ วค่ะ หัวหน้ าว่าการดูแ ลแบบองค์ ร วมเป็ น ยังไง” เสียงจากน้ องผู้ช่วยที'ช่ชว่ ยเข้ า Case ประเด็นถัดไปที'ได้ เรี ยนรู้ การฟั งผู้อื'นอย่างตังใจโดยใช้ หัวใจในการฟั ง จะทํา ให้ เราได้ สัมผัสสิ'งที' คนไข้ ต้องการสื'อสารเพราะบางครั งเขา อาจไม่ได้ สื'อสารบอกเราเป็ นคําพูด เพราะถ้ าเราฟั งโดยใช้ หู ฟั งเพียงอย่างเดียวเราจะได้ ยินแต่เสียง แต่เราจะไม่ได้ สมั ผัส กับความรู้ สกึ ที'เขาจะสื'อสาร และประเด็นหนึ'งคือการไม่ด่วน ตัดสินผู้อื'นโดยที'ยังไม่ได้ ไตร่ ตรองถึงเหตุผลที'แท้ จริ งของเขา อย่ างรายนี ถ้ าด่ วนตัด สิ น ใจคงนึ ก โกรธคนไข้ ที' ไ ม่ใ ห้ ค วาม ร่ วมมือในการรักษา ดังนันควรฝึ กที' จะช้ช้ าให้ เป็ น ความคุ้นชินของเราก็ อาจจะทําให้ เราฝึ เราฝึ กได้ ไม่ง่ายนัก ก็คงต้ องฝึ กฝื นตนเองสักนิด ฝึ กบ่อยๆความคุ้นชินอันใหม่ก็จะมาแทนที'ความคุ้นชินเดิมๆ เนื องในโอกาสปี ใหม่ น7ีเป็ นโอกาสทีเ ราทุกคนจะ เริ มต้ นฝึ กให้ เกิดความคุ้นชินใหม่ ๆ ช้ าลงอีกนิด แล้ ว ความรู้ สึกดีๆหรื อความสุขเล็กๆก็จะเกิดขึน7 กับพวกเรา ทุกๆคนตลอดปี ลอดปี ใหม่ และตลอดไป ☺
โทรสั่งแปรงสีฟน เพื่อสนับสนุนวารสารทันตภูธร HOTLINE หมอหนุย 083-0339925 คุณนฤมล 083-5689055 หรือหองฟน รพ.นานคุยกับหมอหนุย 054 -771620 ตอ 3131 P 55 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
a ึ o æ
แม่เจน∗
น้ องแจ่ม น้ องเจิม ลูกรัก เช้ าวันนีแม่ตื'นมาแต่เช้ าก่อนใครๆในบ้ าน อากาศ เย็ น สบายกํ า ลัง ดี แม่ ร้ ู สึ ก ว่ า อารมณ์ ป ลอดโปร่ ง จึ ง จั บ ปากกามาเขียนบันทึกที'เกี'ยวกับความรู้ สกึ ของแม่ที'เกี'ยวกับ พี'แจ้ ว ต่อจากที'แม่เคยเขียนมาแล้ ว อย่างที'แม่เคยบอกหนู ทังสองแล้ วว่า แม่อยากจะเขียนเรื' องเกี'ยวกับพี'แจ้ วไว้ ให้ หนู ได้ อ่าน เพื' อที' ห นูจ ะได้ อ่านตอนนี และเก็ บ ไว้ อ่านตอนโต น้ องเจิ มจะได้ เข้ าใจแจ่มแจ้ ง (มากกว่าที แม่เคยอธิ บาย มาแล้ ว) ว่าทําไมพี'แจ้ วจึงมักได้ สิทธิพิเศษในการได้ รับการ ช่วยเหลือต่างมากกว่าพวกหนูเสมอ บันทึกของแม่วนั นี จะ เล่าความรู้ สกึ ของแม่ในการที'พี'แจ้ วได้ มีโอกาสไป ”ทํางาน” ที'ซาโอริ คะ่ อย่างที'หนูๆคงจําได้ จากบันทึกก่อนๆของแม่ที'เคยบรรยายไว้ ถงึ ความรู้ สกึ ของแม่ ตังแต่พี'แจ้ วเกิด ที'วา่ ตังแต่แม่ร้ ู ในครังแรก หลังพี'แจ้ วเกิดได้ ไม่ครบ 24 ชม. ว่าพี'แจ้ วเป็ นเด็ก “พิเศษ” แม่ก็มีแต่ความทุกข์คิดมากมาย ที'พอย้ อนกลับมาคิดตอนนีก็เห็นว่า ความคิดในตอนนันก็คือเป็ นห่วงตัวเองว่าจะลําบากลําบนแค่ไหน ในอันที'จะเลียงดูพี'แจ้ ว จนได้ คําปลอบจากคุณตาที'แม่ “ ปิi ง” มาก เลยว่า พี'แจ้ วยังแบเบาะจะไปคิดอะไรมากมาย มีปัญหาอะไรก็คอ่ ยๆแก้ ไขไป เด็กทุกคนก็ล้วนมีปัญหาทังนัน มากบ้ างน้ อยบ้ าง แล้ ว แม่กป็ ฏิบตั ิตามที'คณ ุ ตาว่าไว้ มาตลอด ตังแต่ปัญหาพี'แจ้ วไม่ดดู นม พี'แจ้ วไม่ยอมเดินสักทีทงที ั 'เกือบจะสองขวบแล้ ว พี'แจ้ วไม่ยอมพูด ทังที'สี'ขวบแล้ ว หาโรงเรี ยนที'เหมาะสมให้ พี'แจ้ วเรี ยนหนังสือไม่ได้ พี'แจ้ วโตเป็ นสาวแล้ ว พี'แจ้ วไม่ยอมไปโรงเรี ยนในเทอมสุดท้ ายของ ป. 6 แม่ก็คอ่ ยๆแก้ ปัญหามาเรื' อยๆ ทําได้ ดีบ้างไม่ดีบ้าง แล้ วแต่สติปัญญาของแม่จะทําได้ ที'จริ งปั ญหาที'แม่แก้ ให้ พี'แจ้ วก็คงไม่ได้ มากกว่า และไม่ได้ ยากกว่าที'แม่ต้องแก้ ไขให้ หนูทงสองคน ั อย่างที'คณ ุ ตาว่าไว้ จริ งๆ พอพี'แจ้ วไม่ยอมไปโรงเรี ยน แม่ก็ทําใจแล้ วว่าคงจะพอแล้ วเพราะพี'แจ้ วก็ไปโรงเรี ยนมามากว่า 10 ปี แล้ ว แต่แม่ก็ไม่อยากให้ พี'แจ้ วอยู่บ้านเอาแต่ดทู ีวีไปวัน ไม่ได้ ทําอะไรให้ เกิดประโยชน์ ทังกับตนเองและคนอื'น จนกระทังพี'แจ้ วได้ ไปที'ซาโอริ ตอนแรกแม่ก็ ไม่ได้ หวังอะไรมากนักในการ พาพี'แจ้ วไปซาโอริ ทอผ้ ารึ ? พี'แจ้ วจะทําได้ หรื อเปล่าแม่ยงั สงสัย ตอนแรกๆมันดูไม่ออกเลยว่าเป็ นผ้ า แม้ ทกุ คนจะบอกว่าไม่เป็ นไร ๆ (ที'จริ งอันนีเป็ นความรู้ สกึ ที'ไม่ค่อยดี ที'แม่ไม่เชื'อมัน' ในตัวลูก แม่ไม่ควรจะคิดอย่างนัน แต่แม่ก็คิดไป แล้ ว แม่ขอสารภาพกับหนูไว้ ตรงนี) แม่กลัวว่าพี'แจ้ วจะไปทําด้ ายดีๆของเขาเสียของ เสียมากกว่า แต่เมื'อเวลาผ่านไป พี'ๆ∗∗ที'ซาโอริ ก็ ได้ พิสจู น์ให้ แม่เห็นว่า พี'แจ้ วทําได้ จริ งๆ ผ้ าทอของพี'แจ้ วสวยงาม (แม้ วา่ จะยังมีหนวดๆหลงเหลืออยู)่ แม่ของพี'แจ้ ว ที'ได้ มาปฏิบตั ิงานที' ซาโอริ เมื'อกุมภาพันธ์ 2547เมื'อแจ้ วอายุได้ 16 ปี แจ้ วเป็ นพี'ของน้ องสาว 2 คนอายุ 11 และ 9 ปี ∗∗ เจ้ าหน้ าที'ที'ซาโอริ ทงชาวไทย ั และญี'ปนุ่ ∗
P 56 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ใครๆต่างก็บอกแม่ว่าพี'แจ้ วขยันทอผ้ ามาก แม่คิดว่าคงจะ ไม่เกินความจริ ง เพราะโดยนิสยั แล้ วพี'แจ้ วทําอะไรแล้ วเขาจะตังใจ ทําจริ ง (อันนีเป็ นสิ'งที'หนูทงสองต้ ั องดูตวั อย่างของพี'แจ้ วไว้ ) ในช่วง หลังเมื'อแม่ได้ มีโอกาสเห็นการทํางานของพี'แจ้ วก็ร้ ู สกึ ว่าพี'แจ้ วทอผ้ า ได้ เก่ง และมีสมาธิดีมากเมื'อทํางานเขาจะประณีตในการวางด้ ายแต่ ละเส้ นเสมอ ทุกๆวันสินเดือนพี'แจ้ วจะนําเงินเดือนที'ได้ จากการทอผ้ า มามอบให้ แม่ด้วยความภาคภูมิใจ แม้ จ ะเป็ นเงิ นไม่กี'ร้อยแต่แม่ก็ ภูมิใจไม่แพ้ พี'แจ้ วเหมือนกัน แม่ดีใจที' พี'แจ้ วมีโอกาสทํ างานที' เป็ น ประโยชน์ เหมือนคนอื'นๆ แม่ร้ ู ว่าหนูทงสองยั ั งอิจฉาพี'แจ้ วที'พี'เขามี เงินเดือนแล้ วโดยพวกหนูยังไม่เคยมีโอกาสหาเงินได้ เองเลยแม้ แต่ บาทเดียว (หนูอาจจะเถียงว่าได้ ที'ละบาทสองบาทจากการนวดพ่อ บ้ าง แม่บ้างใช่ไหมจ๊ ะ) นอกจากเรื' องการทํางานแล้ ว แม่ว่าซาโอริ ยงั เป็ นอะไรที'มากว่าสถานที'ทํางาน ทุกเช้ าพี'แจ้ ว จะมีความสุขที'จะได้ ไปทํางาน เมื'อแม่ไปส่งพี'แจ้ วทุกเช้ า ทุกคนจะสวัสดีทกั ทายทังแม่ทงพี ั 'แจ้ ว พี'แจ้ วก็จะยิมทักทายตอบอย่างมีความสุข แม่ว่าบรรยากาศที'ซาโอริ เหมือนบ้ านที'อบอุ่นมากกว่าที'ทํางาน อันนีคงเป็ น คอนเซ็บที'สําคัญ ของซาโอริ ( พ่อบอกว่า concept แปลเป็ นไทยว่า มโนทัศน์ , แนวคิด แต่แม่ไม่คอ่ ยเข้ าใจคําภาษาไทยพวกนีนักเลยไม่อยากใช้ คนเราจะทําอะไรทุกอย่างก่อนทําเราก็ต้องวาง concept ของงาน นันๆไว้ ก่อน เมื'อลงมือทําทุกอย่างก็จะอยู่ในกรอบของ concept นันๆ) ที'ซาโอริ พี'แจ้ วมีเพื'อน มีพี'ๆ มีความรัก มีความเข้ าใจ และมีโอกาส พี'แจ้ วได้ มีชีวิตทางสังคมของเขาเอง เหมือนที'หนูทงสองมี ั พี'แจ้ วได้ มีกิจกรรมร่ วมกับเพื'อนๆ ได้ ไปดูหนัง ไปเที'ยวกับเพื'อนๆ ได้ ไปกินข้ าวบ้ านเพื'อนๆ ซึง' แม้ พี'แจ้ วจะเคยมีเพื'อนที'โรงเรี ยน แต่แม่ ว่าก็ยงั แตกต่างกับเพื'อนๆที'ซาโอริ นอกจากนีกิจกรรมต่างๆที'ซาโอริ มีอยู่เป็ นประจําเช่น การจัดนิทรรศการแสดงผลงาน การที'มีคน มาดูงานที' ซาโอริ ทํ าให้ สังคมในวงกว้ างได้ เห็นถึงความสามารถที' แอบแฝงอยู่ในตัวผู้พิการ ทํ าให้ สังคมเกิ ดการยอมรั บมากขึน นอกจากนีสิ'งที' แม่ได้ เรี ยนรู้ มากขึนเมื'อพี'แจ้ วมา “ ทํ างาน” ที'ซาโอริ แล้ ว ก็คือเรื' องการศึกษาพิเศษ แม่ได้ ร้ ู ว่าองค์ความรู้ ในเรื' อง การศึกษาพิเศษยังมีอยู่จํากัดมาก ซาโอริ จงึ เหมือนสถานที'ที'ค้นคว้ าในเรื' องนี เราไม่เคยรู้ ว่าความสามารถอะไรบ้ างที'แฝงอยู่ในตัวคน “ พิเศษ” เหล่านี และทําอย่างไรจะดึงสิ'งที'อยู่ในตัวเขาออกมาทําให้ เกิดประโยชน์ได้ สิ'งนี'ก็เป็ นอีกสิ'งที'แม่ภมู ิใจ ที'ในการมา “ ทํางาน” ที'ซาโอริ ของพี'แจ้ ว จะเป็ นการที'ทําให้ องค์ความรู้ ของการศึกษาพิเศษขยายกว้ างขวางขึน เป็ นประโยชน์ตอ่ คน ” พิเศษ” อื'นๆต่อไป น้ าปิ พูดกับแม่เมื'อตอนที'แม่พาไปเยี'ยมซาโอริ วา่ แม่โชคดีมากที'ได้ มาอยู่เชียงใหม่ และพี'แจ้ วได้ มีที' “ทํางาน” อย่างที'ซาโอริ น้ าปิ เห็นว่าพี'แจ้ ว “ แฮปปี ” มากๆ ซึง' แม่ก็เห็นด้ วยกับน้ าปิ และคิดว่าไม่อยากจะโชคดีอยู่คนเดียว แต่อยากจะให้ คนอีกเยอะแยะที' เป็ นอย่างพี'แจ้ ว แต่ไม่มีโอกาสอย่างพี'แจ้ วได้ มีโอกาสดีๆอย่างนีบ้ าง นี'คงเป็ นปั ญหาหรื อเป้าหมายที'พ่อกับแม่จะค่อยๆ “แก้ ” ไปตาม สติปัญญาที'มีอยู่ ตามที'คณ ุ ตาได้ สอนแม่ไว้ ลูกๆช่วยเป็ นกําลังใจให้ แม่ด้วยนะจ๊ ะ รักลูกเสมอ / แม่เอง P 57 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ความสําคัญของ "กระดุมเม็ดแรก" โดย วินทร เลียววาริณ เคยไหมทีค ณ ุ ตืน นอนยามเช้า ครึ งหลับครึ งตืน สวมเสือ. ราวกับคนไร้วิญญาณ เมื อกลัดกระดุมเสร็ จแล้วก็พบว่า ชายเสือ. ทัง. สองข้างไม่เท่ากัน คุณกลัดกระดุมผิ ดทัง. แถว! มันเริ มจากการที คณ ุ ไม่รู้ว่า คุณกลัดเม็ดแรกผิ ด แล้วกลัดต่อไปทีละเม็ดอย่างถูกต้อง เมื อกลัดกระดุมเสร็ จสิ. น ก็ผิดทัง. หมด ในตัวอย่างนี . ความไม่รู้ทําให้คณ ุ 'กลัดกระดุม' ผิ ดทัง. แถว! เคยไหมทีค ณ ุ เก็บเนื .อในตูเ้ ย็นนานข้ามปี จนเนื .อหมดอายุ แต่ไม่ยอมทิ. ง เพราะเป็ นเนือ. จากต่างประเทศ ราคาแพง คุณปรุงอาหารจนเสร็ จ เมื อกิ นแล้วไม่อร่ อยหรื ออาหารเป็ นพิษ ในตัวอย่างนี . ความเสียดายทําให้คณ ุ 'กลัดกระดุม' ต่อไป ทัง. ทีร ู้ว่าเม็ดแรกผิ ดรู! เคยไหมทีค ณ ุ สมัครเรี ยนสายวิ ชาทีค ณ ุ ไม่ชอบ ไม่ว่าเพราะพ่อแม่บงั คับ หรื อไม่รู้จะเรี ยนอะไรนอกเหนือจากสายนัน. คุณสอบได้ ลงทะเบียน เรี ยนผ่านไปทีละเทอม ทีละปี จนจบ คุณได้รับปริ ญญาบัตร หางานทีเ กี ยวข้องกับสายวิ ชาทีร ํ าเรี ยนมา แล้วทํางานไปทีละวันๆ ทีละเดือนๆ ทีละปี ๆ จนวันหนึ งคุณก็หมดแรง และยอมรับว่าคุณ 'กลัดกระดุม' ผิ ดมาตัง. แต่เม็ดแรก ในตัวอย่างนี . ความละเลยทําให้คณ ุ ดันทุรัง 'กลัดกระดุม' เม็ดต่อไปทัง. ทีร ู้ดีว่ากลัดเม็ดแรกผิ ด กระดุมเม็ดแรกสําคัญอย่ างยิง มันเป็ นรากฐานของกระดุมเม็ดทีส อง สาม สี ... กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด ก็ผิดหมดทั7งแถว ผิดทัง7 ยวง และอาจจะผิดทั7งชีวิต! ตึกรามบ้านช่องไม่ว่าจะออกแบบสวยงามเพียงไร หากคํานวณฐานรากไม่ถกู ต้อง วันหนึ งก็เอียงล้ม เด็กไม่ว่าฉลาดเพียงไร หากเอาแต่เล่นเกม ดูแต่หนังรุนแรง เอาแต่ใจตัวเอง โตขึ.นก็อาจเป็ นปัญหาภาระทีส งั คมต้องแบกรับ ซื .อรองเท้ายีห อ้ ดังมาแล้ว ถึงคับก็ทนสวม ไม่นานก็ต้องแก้ปัญหาเรื องเท้าเจ็บ P 58 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
เพือ นให้ขนมเค้กจากร้านทีม ี ชื อเสียง จะให้คนอืน ก็เสียดาย จึงฝื นกิ นเข้าไปทัง. ที อว้ นอยู่แล้ว ผลทีต ามมาคื อร่ างกายเสียหาย คุณอาจยอมปล่อยบางปั ญหาไป หลับตาข้างหนึ งแล้วหวังว่า ปัญหานัน. จะละลายหายไปเอง แต่ทา้ ยทีส ดุ ก็ต้องแก้ปัญหานัน. อยู่ดี ทัง. ยังต้องจ่ายราคาค่าแก้ปัญหามากกว่าเดิ ม ไม่ว่าจะเป็ นระดับปัจเจก เช่น การใช้ชีวิต การศึกษา การทํางาน ความรัก ไปจนถึงระดับมหภาคเช่น เศรษฐกิ จ สังคม การเมื อง ไม่ว่าจะด้วยความไม่รู้ ความปล่อยปละละเลย หรื อความเสียดาย หรื อเหตุผลใดก็ตาม หากกลัด 'กระดุม' เม็ดแรกผิ ด ทุกสิ งที ทําถูกต้องหลังจากนัน. จะกลายเป็ นผิ ดไป! ไป การแก้ ปัญหาของการ 'กลั กลัดกระดุมผิดเม็ด' นี7มีทางเดียว คือ ปลด 'กระดุม' ทัง7 หมดออกมาก่ อน แล้ วกลัดใหม่ การไม่ ร้ ูเป็ นเรื องหนึ ง การรู้แล้ วยังทําต่ อไปเป็ นอีกเรื องหนึ ง หลายคนทํางานตามคําสัง ทัง. ทีร ู้ว่า 'กระดุ กระดุมเม็ดแรก' แรก ไม่ตรงรูกระดุมของมัน กว่าจะรู้ตวั ก็กลายเป็ นปัญหาลูกโซ่ หลายๆ ระบบในสังคมเช่น ระบบการเมื อง การศึกษา ฯลฯ ดําเนิ นมานานปี ทัง. ทีเ รามองเห็นปัญหา แต่ก็ดําเนิ นต่อไป ทัง. ด้วยความไม่รู้ ความเขลา ความปล่อยปละละเลย ด้วยความเชื ออย่างนกกระจอกเทศว่ งนก า มุดหัวลงดิ นสักพัก เดียI วปัญหาก็หายไป แต่ปัญหาไม่เคยหายไป มี แต่สะสมด้วยดอกเบี .ยทบต้น ยิ งแก้ไขช้า ราคาแก้ไขยิ งแพง บางครั.งการตัดใจเข้าห้องผ่าตัดปฏิ รูปตัวเองก็เป็ นทางแก้ทีถ กู ต้อง ยอมตัดใจตัดวงจรเดิ มนัน. ทิ. ง แล้วเริ มต้นใหม่ เพราะความเสียหายในระยะยาวน้อยกว่า ประหยัดเวลาโดยรวมมากกว่า ทุกๆ หลายก้ าวทีเ ดินหน้ า เราควรหยุดและทบทวนดู 'กระดุม' ของเรา หรือของสังคมว่ า กลัดถูกรูไหม ถ้ าไม่ ก็อย่ ารอช้ า ปลด 'กระดุม' ทัง7 หมดออกมาก่ อน แล้ วกลัดใหม่ ;
ผูทําผิดแลวไมแกไข กําลังทําผิดอีกครั้งหนึ่ง ขงจื๊อ… P 59 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
กรองใจท้ายเล่ม ฉบับรับปี ใหม่ ๒๕๕๔ (ปี กระต่าย) ปี ๒๕๕๔ ได้เริ/ มขึEนตัEงแต่วนั ที/๑ มกราคม ๒๕๕๔ ทุกท่านคงมีความสุ ข กับการหยุด งานหลายวัน บางท่านก็ไปท่องเที/ยว บางท่านก็เบื/อและกลัวการเดินทางช่วงวันหยุดยาว เช่นนีE แต่บรรยากาศโดยรวมของเทศกาลวันขึEนปี ใหม่ทุกปี ก็มกั เต็มไปด้วย ความสุ ข และปรารถนาให้ตนเองและผูอ้ ื/นเป็ นสุ ขกันทุกคนตลอดปี ใหม่ ซึ/ งพวกเราก็ส่ง ส.ค.ส. ให้กนั และกัน บ้างก็มอบของขวัญให้ คนที/ รัก นับถือ ตลอดจนเพื/อนร่ วมงาน ก็เป็ นสิ/ ง ดีๆในชีวติ และคงถือโอกาสเริ/ มต้นทําสิ/ งดีๆในชีวิตกันทุกๆคน ฉบับนีE ผเู ้ ขียนจะได้นาํ เกร็ ดความรู ้เรื/ องวันปี ใหม่ของไทยมานําเสนอให้ท่านทัEงหลายทราบกันพอสังเขป ดังนีE ประเพณี ปีใหม่ของไทยในสมัยอยุธยาและรัตนโกสิ นทร์ ตE งั แต่รัชกาลที/ ๑ ถึงรัชกาลที/ ๕ ตอนต้น ถือวันทางจันทรคติขE ึน ๑ คํ/า เดือน ๕ เป็ นวันขึEนปี ใหม่ ต่อมาในช่วงรัชกาลที/ ๕ ได้เปลี/ยนวันขึEนปี ใหม่เป็ นทางสุ ริยคติ ถือวันที/ ๑ เมษายน เป็ นวันขึEนปี ใหม่ (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๖ ร.ศ. ๑๐๘ หน้า ๕) และโปรดให้ใช้รัตนโกสิ นทรศกในการนับปี ตัEงแต่ ร.ศ. ๑๐๘เป็ นต้นมา ส่ วนวันขึEน ๑ คํ/า เดือน ๕ ซึ/ งเป็ นวันพระ ราชพิธีขE ึนปี ใหม่ในรัชกาลที/ ๔ นัEนกําหนดเป็ นพระราชพิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช ตลอดมาจนทุกวันนีE เมื/อถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที/ ๖ ทรงพระกรุ ณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พทุ ธศักราชแทนรัตนโกสิ นทรศก ตัEงแต่ พ.ศ. ๒๔๕๕(ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๒๙ ร.ศ. ๑๓๑ พ.ศ. ๒๔๕๕ หน้า ๒๖๔ – ๒๖๙) ครัEงต่อมาในรั ชกาลที ๘ คณะผูส้ ําเร็ จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิ ดล ได้ประกาศให้ ใช้ วันที ๑ มกราคม เป็ นวันขึ$นปี ใหม่ (ราชกิ จจานุ เบกษา เล่ม ๕๘ แผนก กฤษฎีกา ภาค ๑ - ๒ พ.ศ. ๒๔๘๔ หน้า ๓๑ - ๓๓) เพราะวันที/ ๑ มกราคมใกล้เคียงวันแรม ๑ คํ/า เดือนอ้าย เป็ นการใช้ฤดูหนาวเริ/ มต้นปี และ เป็ นการสอดคล้องตามจารี ตประเพณี โบราณของไทย ต้องตามคติ แห่งพระบวรพระพุทธศาสนา และตรงกับนานาประเทศ โดยเริ/ มใช้ ตัEงแต่ วันที/ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็ นต้นไป (ที/มา http://www.childthai.org/e-book/social/social001/s003.html ) สุดท้ายของกรองใจท้ายเล่มฉบับนีE ผูเ้ ขียน ขออัญเชิญ ส.ค.ส.2554 พระราชทานและ พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ้ว ที/ทรง พระราชทานพรปี ใหม่ พ.ศ. 2554 แก่พสกนิ กรชาวไทย เมื/อคืนวันที/ 31 ธันวาคม 2553 มอบแด่ชาวทันตภูธร และท่านผูอ้ ่าน ทุกท่าน มอบ แด่ทุกท่าน ความว่า “ ประชาชนชาวไทยทั งหลาย บัดนี ถ ึงวาระจะขึน ปี ใหม่ ข้ าพเจ้ าขอส่ งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ ท่านทุก ๆ คน ให้ มี ความสําเร็ จสมประสงค์ ในสิ* งที* ปรารถนา ความปรารถนาของทุกคนคงไม่ แตกต่ างกันนัก คื อ ต้ องการให้ ตนเอง มีความสุขความเจริ ญ และให้ บ้ านเมืองมีความสงบร่ มเย็น ในปี ใหม่ นี ข้ าพเจ้ าจึ งปรารถนาอย่ างยี*งที* จะเห็นคนไทยมีความสุขถ้ วนหน้ ากัน ด้ วยการให้ คื อให้ ความรั กความ เมตตากัน ให้ นา ํ ใจไมตรี กัน ให้ อภัยกัน ให้ การสงเคราะห์ อนุเคราะห์ กัน โดยมุ่งดีม่ งุ เจริ ญต่ อกันด้ วยความบริ สุทธิ0 และจริ งใจ ทุกคนทุกฝ่ าย จะ ได้ สามารถร่ วมมือ ร่ วมความคิดอ่ านกัน สร้ างสรรค์ ความสุข ความเจริ ญมัน* คง ให้ แก่ ตนเองประเทศชาติ อันเป็ นสิ* งที* แต่ ละคน ต้ องการให้ สาํ เร็ จ ผลได้ ดั*งที* ใจปรารถนา ขออนุภาพแห่ งคุณพระศรี รัตนตรั ย และสิ* งศักดิ0สิทธิ0 ทั งหลายจงคุ้มครอง รั กษาท่ านทุกคนให้ มีความสุข ไม่ มีทุกข์ ไม่ มีภัย ตลอดศกหน้ านี โดยถ้ วนกัน ” วารสารทันตภู ธร ขอเป็ นตัวแทนชาวทัน ตสาธารณสุ ข ภูธร ถวายพระพรแด่ สมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ขอพระองค์ทรงพระเจริ ญ มีพระพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรง มีพระชนมายุยง/ิ ยืนนานด้วยเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ทพญ.บานเย็น ศิริสกุลเวโรจน์ ประธานชมรมทันตสาธารณสุขภูธร พร้อมด้วยชาวทันตสาธารณสุขภูธรทุกคน P 60 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
หัวข้ อธรรม คําสอน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริ ณายก ประทานพระพรปี ใหม่ พุทธศักราช 2554ให้ แก่ประชาชนชาวไทย ความว่า
o u i" o" u # $# i %& a'( i æ)* +# u #,$* ขออนุโมทนาสาธุการต่อคุณงามความดีที'ทกุ ท่านได้ กระทําแล้ วในปี เก่า และ ขออนุโมทนา สาธุการต่อคุณงามความดีที'ทกุ ท่านกําลังกระทําอยูใ่ นปั จจุบนั และในปี ใหม่ พุทธศักราช 2554 ตลอด ปี ขอธรรมคือคุณงามความดีที'ทกุ ท่านประพฤติแล้ วจงนําสุขมาให้ แก่ทา่ น เทอญ ขออํานวยพร
ผูบริจาคสนับสนุน วารสารทันตภูธร ฉบับ4ป53 ไดแก ทพ.ชาญชัย/อารท รพ วิภาวดี จ.สุราษฎรธานี้ บริจาค 500 บาท ขอบคุณมากๆคะ ขออภัยที่ตอบชา ปาๆยายๆงึมงําๆ @^^@ love u P 61 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
แบบฟอรมใบสั่งซื้อแปรงสีฟนเพือ่ สนับสนุนจัดพิมพวารสารทันตภูธร สั่งในนาม. สสจ./ รพ./ สอ./ คลินิก/ ____________________________________________________ สวนตัว________________________________________________________________________ ที่อยู _____________________________________________________รหัสไปรษณีย_ __________ ชื่อผูสั่งซื้อ_____________________________โทรมือถือ_______________โทรที่ทํางาน____________
ตองการสั่งแปรงสีฟน ดังรายการตอไปนี้ รายการ 1.แปรงสีฟนเด็กอายุ 2.แปรงสีฟนเด็กอายุ 3.แปรงสีฟนผูใหญ
0-5 ป 6-10 ป
ราคา (รวมภาษีมูลคาเพิ่ม 7%) 6.42 บาท 7.49 บาท 8.56 บาท
จํานวน
รวมเงิน
ดาม ดาม ดาม
บาท บาท บาท
รวมเงิน ______________________ บาท วิธีการสั่งซื้อ ดําเนินการตามลําดับดังตอไปนี้ 1) โอนเงินเขาบัญชี หรือ โอนผานตูเอทีเอ็ม เขาบัญชี “ ชมรมทันตสาธารณสุขภูธร ” ธนาคารไทยพาณิชย สาขาสนามบินน้ํา บัญชีออมทรัพย เลขที่ 313 – 258671 – 8 โอนจากธนาคาร.................................................สาขา ............................................. วันที.่ ........ /........./......... สรุปจํานวนเงินโอนเขาบัญชีทั้งสิ้น =...............................บาท 2) สงใบสั่งซื้อและสําเนาการโอนเงินมาที่ผูแทนจําหนายแปรงสีฟนทันตภูธร ทพญ.สุรีรัตน สูงสวาง (หมอหนุย) กลุมงานทันตกรรม โรงพยาบาลนาน อ.เมือง จ.นาน 55000
โทรสายดวนสั่งแปรงกับหมอหนุย สุรีรัตน 083-0339925 , 054-771620 ตอ 3131 Fax รพ.นาน 054 -710977 หรือ โทรสั่งแปรงกับคุณนฤมล 083-5689055 อีเมลติดตอสั่งซื้อแปรง nui_95@hotmail.com , nui_95@yahoo.com P 62 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
ถ่ ายเอกสารแล้ ว ผนึกเอกสารแล้ วส่ งกลับมาที^ “ วารสารทันตภูธร ” ผ่ านบริการธุรกิจตอบรับ โดยที^ท่านไม่ ต้องเสียค่ าใช้ จ่ายใดๆ ขอเชิญสมาชิกชมรมทันตสาธารณสุขภูธรทุกท่าน กรุณากรอกข้ อมูลปั จจุบนั เพื'อแจ้ ง ชื'อ-ที'อยู่ สําหรับจัดส่ง วารสารทันตภูธร สมาชิกชมรมทันตสาธารณสุขภูธรทุกท่าน กรุณากรอกข้ อมูลปั จจุบนั ชื'อ (นาย / นาง / นางสาว) ................................นามสกุล...................................................................................................................... ที'ทํางาน............................................................................................................................................................................................. ที'อยูส่ าํ หรับจัดส่งวารสารทันตภูธร........................................................................................................................................................ Email address................................เบอร์ โทรศัพท์.............................................................................................................................. วิชาชีพ ทันตแพทย์ ท.............. ทันตาภิบาล
ผู้ช่วยทันตแพทย์
ยังไม่ได้ เป็ นสมาชิกชมรมทันตสาธารณสุขภูธร และต้ องการสมัครสมาชิกชมรมฯ ทันตแพทย์ ท._______ ทันตาภิบาล / ผู้ช่วยทันตแพทย์
ค่าสมัครตลอดชีพ 500 บาท
ค่าสมัครตลอดชีพ 200 บาท
กรุณากรอก ข้ อ ข้ อมูลที'อยูป่ ั จจุบนั เพื'อจัดส่ง “ วารสารทันตภูธร ” ให้ ชดั เจน และ กรอกข้ อ ระบุจํานวนเงินค่าสมัครสมาชิกที'โอนเข้ าบัญชี “ ชมรมทันตสาธารณสุขภูธร ” ให้ ชดั เจน ยินดีบริ จาคเงินเพื'อช่วยสมทบทุน “ จัดพิมพ์วารสารทันตภูธร ” เป็ นจํานวนเงิน....................................บาท
สัง' ซือเสือ “ทันตภูธรอ่อนหวาน” ชมรมทันตสาธารณสุขภูธร ราคาตัวละ 260 บาท (รวมค่าส่ง) ดูสจี ากเวบไซต์ทนั ตภูธรจ้ ะ รายได้ เพื'อสนับสนุนกิจกรรมของชมรมทันตสาธารณสุขภูธร รุ่นใหม่ มี 3 สี สัง' ซือ สีมว่ ง สีชมพู สีเขียว เสือผู้ชาย S38 สี........../.......... ตัว M40 สี........./......... ตัว L42 สี......../......... ตัว XL44 สี........../......... ตัว เสือผู้หญิง S33 สี........../.......... ตัว M35 สี......../........ตัว L37 สี......../.........ตัว XL39 สี........../.......... ตัว สัง' ซือเสือผู้ชายจํานวน..........ตัว สัง' ซือเสือผู้หญิงจํานวน..........ตัว รวมสัง' เสือทังสินจํานวน .....................ตัว สัง' ซือเสือ “ทันตภูธรอ่อนหวาน”…………………………………………………….. คิดเป็ นเงินทังหมด....................... บาท ระบุ ชื'อ / นามสกุล......................................................................................ที'อยูท่ ี'ให้ จดั ส่งเสือให้ ชดั เจน / หมายเลขโทรศัพท์ที'ติดต่อได้ โอนเงินเข้ าบัญชี หรื อ โอนผ่านตู้เอทีเอ็ม เข้ าบัญชี “ ชมรมทันตสาธารณสุขภูธร ” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสนามบินนํา บัญชีออมทรัพย์ เลขที' 313 – 258671 – 8 โอนจากธนาคาร.................................................สาขา ............................................. วันที.' ........ /........./......... สรุปจํานวนเงินโอนเข้ าบัญชีทงสิ ั น =...............................บาท ดังมีรายละเอียดต่อไปนีคือ จากข้ อ ค่าสมัครสมาชิก “ ชมรมทันตสาธารณสุขภูธร ”.......................บาท จากข้ อ ยินดีบริ จาคเพิม' เติมเป็ นจํานวนเงิน .........................................บาท จากข้ อ สัง' ซือเสือ “ทันตภูธรอ่อนหวาน” คิดเป็ นเงินทังหมด........................................บาท
P 63 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553
โทรดวน สั่งซื้อเสือ้ ทันตภูธร สอบถามสี/ไซส กับ หมอปูน ทพญ.วิโรชา รพช.ปาบอน 081-4781457,074-841634 Email : p-racha_dt@hotmail.com กรณีเปลี่ยนทีอ่ ยูส ง วารสารทันตภูธร,กรณีเปนสมาชิกยังไมไดรับ(ไดบางไมไดบาง) หรือกรณีสมัครใหมโอนเงินแลวยังไมไดรับวารสาร กรุณาเมลที่อยูชัวรๆเมลชัดๆ มาที่ ruralmax2007@gmail.com , nithimar_or@yahoo.com
หรือสะดวกคุยก็โทรแจงขอมูลดวนจี๋ กับ นองขวัญ 080-9075884 แตใหชวั รๆก็ CONFIRM ชื่อที่อยูท ี่ถูกตอง ดวยการสงเมลชัดๆอีกครั้งจา☺ P 64 | ทั น ต ภู ธ ร ฉบับเดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2553