กล้วย อาหรเป็นยา รักษาปากท้อง

Page 1

กล้วย อาหารเป็ นยา รักษาปากท้อง


ตารับยาแก้โรคกระเพาะ กล้วยน้ าว้าดิบมาฝานเป็ นแว่นบางๆ อบให้แห้งที่อุณหภูมิ ๕๐ องศา เซลเซียส หรื อตากแดดอ่อนๆ ห้ามใช้ความร้อนสู งกว่านี้เด็ดขาด เพราะสารที่มีฤทธิ์รักษาโรค กระเพาะในกล้วยจะสู ญเสี ยหรื อหมดฤทธิ์ไป จากนั้นนามาบดเป็ นผง กินครั้งละ ๑ ช้อนชา ก่อน อาหารวันละ ๓ เวลา หรื อผสมกับน้ าผึ้งด้วยก็ได้


กล้วยดิบ มีสารฝาดสมานที่เรี ยกว่า แทนนิน ซึ่ งช่วยยับยั้งการเจริ ญเติบโตของแบคทีเรี ย ช่วยป้ องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปทาลายผนังกระเพาะลาไส้ แก้ทอ้ งเสี ย กล้วยที่เพิ่งเริ่ มสุ กเปลือกยัง มีสีเขียวอยูป่ ระปรายนั้น เป็ นทั้งยาและอาหารที่ดีมากสาหรับคนท้องเสี ย นอกจากแก้ทอ้ งเสี ยแล้ว ยังช่วยหล่อลื่นลาไส้ เพิม่ กากเวลาถ่าย และมีธาตุโพแทสเซี ยมสู งมาก ดังนั้น การใช้กล้วยแก้ ท้องเสี ยเท่ากับให้ธาตุโพแทสเซี ยมชดเชยกับที่สูญเสี ยไปเวลามีอาการท้องร่ วง ถ้าร่ างกายสูญเสี ย โพแทสเซียมไปมากๆ จะทาให้การเต้นของหัวใจผิดปกติ ในคนสูงอายุอาจทาให้หวั ใจวาย และ เสี ยชีวติ ได้


กล้วยสุ ก แก้ทอ้ งผูก กล้วยสุ กงอม มีฤทธิ์ช่วยระบาย เนื่องจากมีเพ็กตินอยูเ่ ป็ นจานวนมาก จึงช่วยเพิ่ม กากให้กบั ลาไส้ เมื่อผนังลาไส้ถูกดันก็จะทาให้รู้สึกอยากขับถ่าย นอกจากนี้ กล้วยยังมีเส้นใยอาหาร ชนิดหนึ่งที่ร่างกายไม่ยอ่ ย เรี ยกว่าอินูลิน ซึ่ งเป็ นอาหารที่เหมาะกับจุลินทรี ยท์ ี่มีประโยชน์ในลาไส้ หรื อโพรไบโอติก ซึ่งทาหน้าที่ปรับระบบขับถ่ายให้เป็ นปกติ เนื่องจากกล้วยน้ าว้าสุ กมีฤทธิ์ระบายไม่แรงมาก จึงต้องกินเป็ นประจาวันละ ๕-๖ ลูก ติดต่อกันอย่าง น้อย ๗ วัน จึงจะเห็นผล โดยสังเกตได้วา่ อุจจาระจะเป็ นสี เหลือง ไม่มีกลิ่นเหม็น เนื่องจากการทางาน ของโพรไบโอติกนัน่ เอง อีกทั้งกล้วยยังช่วยหล่อลื่นในการขับถ่าย จึงไม่ตอ้ งออกแรงเบ่งมาก และ รู้สึกว่าถ่ายออกหมดไม่เหลือกากตกค้าง


หยวกกล้วยช่วยขจัดของเสี ยในลาไส้ หยวกกล้วยอ่อน คือแกนในต้น กล้วยอ่อน เป็ นผักพื้นบ้านที่พบได้ทวั่ ไป หยวกกล้วยประกอบด้วยเส้น ใยอาหารที่ไม่ละลายน้ าเป็ นส่ วนใหญ่ เส้นใยเหล่านั้นจะช่วยดูดซับสิ่ ง สกปรกสารพิษตามลาไส้ สิ่ งที่ไม่สามารถย่อยได้ และยังช่วยกระตุน้ ลาไส้ให้บีบตัวดันของเสี ยนั้นออกมา ซึ่ งหมายถึงการลดโอกาส ที่สารพิษเหล่านั้นจะก่อให้เกิดมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร


น่ ารู้เกีย่ วกับกล้วย  การกินกล้วยสุ กควรเคี้ยวให้ละเอียด เพราะเนื้อกล้วยมีแป้ งสูงถึง ๒๐-๒๕ เปอร์เซ็นต์ มิเช่นนั้น จะท้องอืดได้  เด็กเล็กควรเริ่ มให้กินกล้วยสุ กเมื่อเด็กอายุได้ ๖ เดือนขึ้นไปโดยขูดเนื้อกล้วยสุ ก ไม่เอาไส้ กล้วยเพราะจะทาให้เด็กท้องผูก ให้กินไม่เกิน ๑ ช้อนชา วันละครั้ง เพราะเด็กยังมีน้ าย่อยแป้ ง ไม่พอ อาจเกิดอาการท้องอืดได้ เด็กอายุครบขวบกินกล้วยครั้งละ ๑ ลูก วันละครั้ง


 ตุ่มคันจากยุงกัด มดกัด หรื อผืน่ คันเนื่องจาก ลมพิษ ใช้เปลือกกล้วยน้ าว้าสุ กด้านในทาถูบริ เวณ นั้นประมาณครึ่ งนาที  ผูห้ ญิงคลอดลูกใหม่ๆ ในสมัยก่อนจะเอาปลีกล้วยมาต้มให้กิน ช่วยทาให้มีน้ านม  ยางกล้วยช่วยห้ามเลือดและฆ่าเชื้อทาให้ไม่เกิดแผลเป็ น  กาบกล้วย สามารถนามาเป็ นเชือกกล้วยได้โดยนาต้นกล้วยมาขูดเป็ นเส้นๆ ตากแดดให้แห้ง หากต้องการให้เป็ นเส้นใหญ่ๆ ที่มีความคงทน ให้นามาถักต่อกันม้วนเก็บไว้ใช้งาน


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.