The Chamber Test

Page 1

THE CHAMBER FASHIONMONTHLY

หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่

ป"ที่ 2 ฉบับที่ 21 ประจําเดือน กรกฎาคม 2555

Vol.#21 July 2012

ใชฝมือ..ยึดตลาดอาเซียน ตลาดคนรวยที่สุดในโลก Silicon Valley Why Chiangmai

การเตรียมตัวสู AEC

New Generation

สร้าง Spa ให้ติดระดับโลก สู่ธุรกิจข้ามชาติได้อย่างไร เชียงใหม่เนื้อยังหอม

มาเปน YEN กันเถอะ!

[1]


“ รถไฟความเร็วสูงพร้อม ”

จีน-ญี่ปุ่นเตรียมลงทุน รถไฟความเร็วสูงเส้นเชียงใหม่-กรุงเทพ รอเจรจา จีนเรื่องสํารวจเดือนหน้า ยืนยันยังเดินหน้าแม้จะ สร้างยากกว่าเส้นทางอื่นเพราะต้องกําหนด แนวทางใหม่ ซ้ําเส้นทางต้องผ่านป่า หวังทันใช้ ปี2559 ขณะเจ้ากระทรวงระบุแผนทั้งประเทศเชื่อ จะเสร็จปี2561 ระบุแผนใหญ่จ้องลดต้นทุนโลจิสติ กส์ทั้งประเทศเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน หอการ ค้าฯจับตา หวังลดต้นทุนการใช้ชีวิตของประชาชน รมช.ระบุเส้นทางเหนือยังรอเจรจาจีน พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงคมนาคม รับผิดชอบโครงการรถไฟ ความเร็วสูง ให้สัมภาษณ์พิเศษแก่Chamber Forum ว่า ขั้นตอนในการดําเนินการก่อสร้าง รถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศ5เส้นทางโดยเฉพาะ เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ ยังอยู่ที่การเจรจากับ กลุ่มทุนจากจีน เพื่อให้เข้ามาสํารวจเบื้องต้น หาความเป็นไปได้ในการร่วมทุนก่อสร้าง ที่ผ่านมา หลังการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างนายก รัฐมนตรีของไทยและตัวแทนฝ่ายรัฐบาลจีนแล้ว ยังไม่มีการเจรจาในรายละเอียดเพิ่มเติม เนื่องจาก ทางจีนขอเลื่อนการนัดหมายเจรจารายละเอียด การสํารวจเบื้องต้น ล่าสุดนัดหมายวันที่4-6ก.ค.นี้

ที่กรุงปักกิ่ง โดยตนจะเดินไปเจรจาด้วยตนเอง เชื่อว่าจะไม่มีการเลื่อนนัดหมายอีก “การเลื่อนนัดหมายมา2-3ครั้งทําให้แผนการล่าช้า กว่าที่ต้องการให้เป็น อย่างไรก็ตามเส้นทางรถไฟ ความเร็วสูงทุกเส้นทางโดยเฉพาะเส้นทาง กรุงเทพ-เชียงใหม่จะยังคงเป็นไปตามแผนเดิม เพราะเป็นโครงการที่นายกรัฐมนตรีให้ความ สําคัญมาก หลังการเจรจาเพื่อกําหนดรายละเอียด การสํารวจ เชื่อว่าจะใช้เวลาราว5-6เดือนก่อนลง นามในสัญญาร่วมทุนหรือสัญญาก่อสร้าง ภายใน ปีนี้อาจได้แค่การลงนามในสัญญา แต่การก่อสร้าง พร้อมกับการจัดหาขบวนรถจะต้องใช้เวลา มากกว่า3ปี เชื่อว่าภายในปี2559อาจเปิดให้ บริการได้ และจะทําให้เร็วที่สุดเพราะเป็นเส้นทาง ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสําคัญ” พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวด้วยว่า เส้นทางกรุงเทพเชียงใหม่ส่วนที่สามารถก่อสร้างได้เลยคือช่วงจาก กรุงเทพ-พิษณุโลก เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบ ขณะที่ ส่วนที่ต่อเนื่องจากนั้นเป็นพื้นที่ผ่านภูเขา ผ่านป่า ต้นน้ํา จะต้องกําหนดแนวทางใหม่และปรับ แนวทาง(re-alignment)จากแนวปัจจุบัน ซึ่งไม่ เหมาะสมที่จะใช้กับรถไฟความเร็วสูงเนื่องจาก ผ่านพื้นที่ลาดชันหลายแห่ง บางช่วงอาจต้อง

[2]


ก่อสร้างอุโมงค์เพื่อย่นระยะทางและเพื่อความ ปลอดภัย จึงต้องใช้เวลามากกว่าเส้นทางช่วงแรก “ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างเฉพาะช่วง กรุงเทพ-พิษณุโลกดังที่มีผู้เข้าใจ จะมีการก่อสร้าง ตลอดสายแต่เส้นทางช่วงที่ผ่านในเขตภาคเหนือจะ ต้องใช้เวลาในการออกแบบ การเสนอแผนการ ก่อสร้างเพื่อคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมพิจารณา มากกว่าช่วงจากกรุงเทพ-พิษณุโลก” เร่งลดต้นทุนพัฒนาประเทศ ขณะที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม กล่าวในการเปิดสัมมนา เรื่อง"คมนาคม สัญจร สู่ความเป็นมหา นคร เชียงใหม่" ว่า เหตุผลที่รัฐบาลชุดปัจจุบันชูนโยบาย หาเสียง ทําโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯเชียงใหม่ กรุงเทพฯ-อีสาน และกรุงเทพฯ-ภาคใต้ และทําแอร์พอร์ตลิงค์เชื่อม สุวรรณภูมิ-พัทยาระยอง เพราะระบบโลจิสติกส์เป็นการพัฒนา ประเทศขั้นพื้นฐานที่นําไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ปัจจุบันประเทศไทยมีต้นทุนด้านโลจิสติกส์สูงกว่า 15.2% ของต้นทุนการผลิตเมื่อเทียบกับผลผลิตมวล รวมของประเทศ ขณะที่สิงคโปร์มี ต้นทุนเพียง 7% ยุโรป 9% อเมริกา 10% “สํานักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กําหนดเป้าหมายอีก 5 ปี ข้างหน้าไทยต้องลดต้น ทุนโลจิสติกส์ลดให้ได้ 2% เหลือ 13% และเมื่อมาดู ระบบโลจิสติกส์ของประเทศพบว่ามี 4 เส้นทาง คือ ทางถนน มีการขนส่งทางถนนด้วยรถบรรทุกกว่า 86% ระบบราง 2% ทางน้ํา 12% และทางอากาศ

0.02% การขนส่งทางน้ําและระบบรางมีต้นทุนถูก ที่สุด กระทรวงฯจึงมีเป้าหมายจะลดการขนส่งทาง ถนนจาก 86% ให้เหลือ 82% เพิ่มสัดส่วนการขนส่ง ทางระบบรางจาก 2% เป็น 4% และทางน้ําจาก 12% เป็น 14% ส่วนทางอากาศจะเพิ่มสัดส่วนเพิ่ม เป็นลําดับ” นายจารุพงศ์กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ให้ความสําคัญ กับการพัฒนาระบบ โลจิสติกส์ทางน้ําและทางราง มากที่สุด เพราะน้ํามันนับวันจะมีราคาสูงขึ้น หาก ไม่มีการปรับลดต้นทุนโลจิสติกส์ ประเทศไทยจะ แข่งขันในตลาดยากขึ้น " อนาคตข้างหน้าการเคลื่อนย้ายสินค้าและคนใน ภูมิภาคนี้จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว มิติเรื่องความเร็ว จะเป็นตัวชี้วัดการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการที่ ประเทศในอาเซียนจับมือกัน เป็นประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ซึ่งจะมีผลภายในปี 2558 นี้ การเคลื่อนย้ายทุน สินค้าและแรงงานจะ เป็นไปอย่างเสรี ตลาด จะเปิดกว้างมากขึ้นจาก จํานวนประชากรแค่ 65 ล้านคน เพิ่มเป็น 6oo ล้าน คน"นายจารุพงศ์กล่าว นายจารุพงศ์ กล่าวอีกว่า การก่อสร้างรถไฟ ความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯนครราชสีมา และ กรุงเทพฯ-สงขลา จะทําให้เส้น ทางสายเศรษฐกิจในภูมิภาคแห่งนี้เชื่อมโยงกัน โดย มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง

รถไฟความเร็วสูงคลุมทั้งประเทศปี61 ทั้งนี้ปัจจุบันมีหลายประเทศให้ความสนใจและ

ADD#1

[3]


ADD #2

ติดต่อขอเจรจากับกระทรวงฯ หลังมีข่าวว่าประเทศไทยมี โครงการ สร้างรถไฟ ความเร็ว สูง ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ โดยเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่าน มา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายก รัฐมนตรีได้เป็นสักขีพยานการ ลงนามความร่วมมือ หรือ MOU ระหว่างกระทรวงคมนาคมไทย และรัฐมนตรีรถไฟจีน และเมื่อวัน ที่ 7 พฤษภาคมจีนได้ส่งผู้ เชี่ยวชาญมา ศึกษาเส้น ทางรถไฟ ขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็ได้ มาศึกษาเส้นทางรถไฟความเร็ว สูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่แล้วเช่น กัน คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ผลการ ศึกษาจะเสร็จ รัฐบาลจะนําผล การศึกษาทั้งสองมาเปรียบเทียบ กัน จากนั้นจะจัดทําทีโออาร์เพื่อ เปิดประมูลแบบอินเตอร์ให้ต่าง ประเทศ นําเทคโลโลยีที่ดีที่สุดมา

Maecenas aliquam maecenas Sociis mauris in integer, a dolor netus non dui aliquet, sagittis felis sodales, dolor sociis mauris, vel eu libero cras. Interdum at. Eget habitasse elementum est, ipsum purus pede class. Sodales nulla ante auctor excepturi wisi, dolor eros condimentum dis, sodales lacus nunc.

ADD#3

[4]

ยื่นข้อเสนอเพื่อให้รัฐบาลตัดสิน ใจ นายจารุพงศ์ กล่าวต่อไปว่า คาดว่าภายในปี 2557 โครงการ ก่อสร้างจะเริ่มดําเนินการได้ โดยขณะนี้กระทรวงฯกําลังจะเซ็น สัญญากับผู้รับเหมาในเดือน กรกฎาคมนี้เพื่อก่อสร้างสถานี รถไฟ ใหญ่ที่สุดที่บางซื่อ มูลค่า การลงทุน 2.9 หมื่นล้านบาท สถานีรถไฟดัง กล่าว มีขนาด 2 ชั้น จํานวน 22 ราย เพื่อรองรับ รถไฟความเร็วสูงและรถไฟสาย เก่าด้วย เบื้องต้นใช้เวลาก่อสร้าง 2 - 3 ปีจึงจะแล้วเสร็จ ส่วนเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจะ เริ่มจากสถานีบางซื่อ-ผาชีก่อน สําหรับเส้นทางกรุงเทพฯ เชียงใหม่ เฟสแรกจะเริ่ม จาก กรุงเทพฯ-พิษณุโลกก่อน ส่วน


เส้นทางสายอื่นเช่น กรุงเทพฯ-อีสาน กรุงเทพฯภาคใต้ก็จะเร่งสํารวจและก่อสร้างในเวลาไล่เลี่ย กัน โดยคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จภาย ในปี 2561 รถไฟความเร็วสูงจะใช้ความเร็วที่ 256 กม.ต่อ ชั่วโมง ระยะเวลาเดินทาง จากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ประมาณ 2- 3 ชั่วโมง อัตราค่าเดินทางชั้น 1 ราว 4,500 บาท และชั้น 2 ประมาณ 2,500 บาท โดย มูลค่าการลง ทุนรถไฟความเร็งสูงประมาณ 1.68 ล้านล้านบาท " รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ มอบหมาย ให้ กระทรวงฯจัดทําแผนโลจิสติกส์ประเทศในอีก 8 ปี ข้างหน้าเพื่อคํานวณงบประมาณและหาช่อง ทางการลงทุนว่าจะเปิดสัมปทานให้ เอกชนหรือ ต่างประเทศเข้ามาลงทุน จะลงทุนด้วยวิธีการแบบ ใด การวางแผนระยะยาว 8 ปีเป็นการการกระโดด ทําให้ประเทศไทยพลิก ฟื้น และเพื่อรองรับเออีซี โดยมีเป้าหมายทําให้ประเทศไทยเป็นเมืองหลวง ของเออีซี และให้เชียงใหม่เป็นมหานครอันดับสอง ของประเทศ "นายจารุพงศ์กล่าว หอการค้าตามติดทุกขั้นตอน นายณรงค์ คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัด เชียงใหม่ ระบุว่าหอการค้าฯยังคงติดตาม โครงการพัฒนานี้อย่างจริงจัง เพราะเห็นความ สําคัญที่จะต้องมีการพัฒนาโครงการนี้ไม่ใช่เพื่อส่ง เสริมการท่องเที่ยวประการเดียวอย่างที่มีผู้เข้าใจ แต่เพราะการสร้างการขนส่งระบบรางจะลดต้นทุน การพัฒนาประเทศ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ของประเทศ “ในแง่การท่องเที่ยว ทั้งรัฐและเอกชนร่วมกันลงทุน หลายแสนล้านบาทเพื่อให้เชียงใหม่และจังหวัด ใกล้เคียงเป็นเมืองท่องเที่ยว มีการก่อสร้างโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากมาย เฉพาะโรงแรมในเชียงใหม่มีประมาณ4หมื่นห้อง และปัจจุบันอยู่ในภาวะover supply เพราะเราไม่มี ช่องทางการคมนาคม ที่มีประสิทธิภาพพอที่จะนํา คนจํานวนมากเข้ามาในพื้นที่ นอกจากนั้น โครงสร้างการขนส่งของเรายังเป็นแบบdoor to door ใช้น้ํามันเป็นหลักทําให้มีต้นทุนแพง ปีหนึ่ง

[5]

เราซื้อน้ํามันจากต่างประเทศถึง1.5ล้านล้านบาท ขณะที่การขนส่งระบบรางที่ได้รับการยอมรับว่ามี ประสิทธิภาพสูงสุดมีต้นทุนต่ําสุด เราใช้กัน เพียง2%เท่านั้น โครงการคมนาคมแบบที่เป็นอยู่ ยังทําให้เรามีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงประเทศ หนึ่งของโลก”

AECยังเปี่ยมอุปสรรค สถานะไทยยังน่าห่วง รองเลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แนะภาคเอกชนปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงจากเอ อีซี -ภาครัฐต้องดูแลประโยชน์ด้านกฎหมายการ เจรจากับตปท.ให้รอบครอบ ระบุไทยอาจเสีย เปรียบหลังอินโดนีเซียจดทะเบียนสินค้าผลิตภัณฑ์ ตํารับยาพื้นบ้านมากกว่า ชี้ประเทศไทยถือว่าน่า เป็นห่วง-ปรับตัวใหญ่ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ด้อยกว่าทุกประเทศ " นายกรกฎ ผดุงจิตต์ รองเลขาธิการ สภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยในงาน สัมมนา"เปิดโลกการค้ายุคใหม่สู่ AEC ฉบับ SMEs จัดโดยกรมส่งเสริมการส่งออก และศูนย์ เทคโนโลนีเพื่ออุตสาหกรรม มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ ว่า ประเทศไทยกําลังเข้าสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (Asean Economic Community) 10 ประเทศในปี 2558 เป็นต้นไป ต่อไปการมองภาคเศรษฐกิจต้องมองเป็นองค์รวม ไม่ใช่แค่ประเทศที่มีประชากร 64 ล้านคนอีกต่อไป แต่คือกลุ่มที่มีประชากร AEC ที่มีรวมกันกว่า 580 ล้านคน นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังขยายความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจทั้งทาง ตรงและทางอ้อมอีก 6 ประเทศคือจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งจะทําให้มีประชากรรวมกันกว่า 3,300 ล้านคนหรือเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรโลก กรณีของอีก 6 ประเทศดังกล่าวมีความสําคัญเช่น กันเพราะทันทีที่กลุ่ม AEC ลดภาษีเป็น 0% ในปี


ADD #5

ADD #4 Maecenas

Quis Dolor

Sociis mauris in integer, a dolor netus non dui aliquet, sagittis felis

2558 ไทยก็จะลดภาษีกับออสเตรเลียเหลือ 0% ในชนิดสินค้าถึง 98% ของทั้งหมด และค่อยๆ ทํา กับประเทศอื่นๆ เช่น อินเดียในปี 2561 เป็นต้น นายกรกฎกล่าวว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ภาค เอกชนต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงให้ได้ ขณะ ที่ภาครัฐจะเป็นฝ่ายสนับสนุนโดยเฉพาะด้านการ ออกกฎหมายรองรับภายในประเทศและเจรจากับ ต่างประเทศ “เช่น ข้อตกลงอาเซียน-จีน ที่ให้รถบรรทุก เข้าออกผ่าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ไปจีนตอนใต้ ซึ่งมีการค้าขายกันเป็นประจําได้ 500 คัน ซึ่งก็มี เพียงข้อตกลงกันแต่สิ่งอํานวยความสะดวกและกฎ ระเบียบอื่นๆ ยังต้องมีการดําเนินการต่อไปทั้งเรื่อง การประกันภัยและอื่นๆ เป็นต้น รวมทั้งยังต้องดู เรื่องภาษีระหว่างประเทศเพราะการลดภาษีเป็น 0% หรือ FTA (Free Trade Area) แท้ที่จริงเป็น เสรีหลอกตาเพราะยังมีเงื่อนไขอีกมากก่อนที่จะ เอื้อให้สามารถทําการค้าการลงทุนให้สะดวก โดย เฉพาะแต่ละประเทศยังมีสินค้าอ่อนไหวสูง เช่น อินโดนีเซียกําหนดให้ข้าวเป็นสินค้าอ่อนไหวสูงจึง ให้ลดภาษีจากเดิม 30% เป็น 20% มาเลเซียลด

จาก 40% เป็น 20% ส่วนฟิลิปปินส์อยู่ระหว่าง เจรจากับไทยหลังจากเดิมกําหนด 40% และกํา หนดโควต้านําเข้า 350,000 ตัน เป็นต้น นอกจาก นี้ยังมีกลุ่มสินค้าอ่อนไหวของแต่ละประเทศอีกเป็น จํานวนมากด้วย " นายกรกฎกล่าวว่า เรื่องการค้าการลงทุน ระหว่างประเทศ ประเด็นเรื่องมาตรฐานสินค้าก็ สําคัญ เช่น ปัจจุบันพบว่าผลิตภัณฑ์ตํารับยาพื้น บ้านของอินโดนีเซียจดทะเบียนสินค้ามากกว่าของ ไทย หากเปิดตลาดกันก็จะมีสินค้าในทะเบียนของ อินโดนีเซียอยู่เต็ม จึงจําเป็นที่ภาครัฐของไทยจะ ต้องเร่งดําเนินการไม่เช่นนั้นจะแย่หนัก ด้านโลจิ สติกส์ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงโดยจากเดิม ประเทศไทยเปิดให้คนไทยถือหุ้นในธุรกิจโลจิสติ กส์ได้ 51% และต่างชาติ 49% แต่ปัจจุบันจะ เปลี่ยนให้ต่างชาติถือหุ้นได้กว่า 70% ซึ่งตามหลัก เขาก็คือเจ้าของธุรกิจที่ทําธุรกรรมต่างๆ ได้นั่นเอง ดังนั้นโลจิสติกส์จึงเป็นธุรกิจของอาเซียนลําดับ แรกๆ ไปแล้ว "ส่วนอาชีพที่เกรงกันว่าจะเปิดเสรี กันหมด ทั้ง AEC นั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะแท้ที่จริงเปิด

[6]


เสรีแค่ 7 อาชีพคือแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล วิศวกร สถาปนิก ช่างสํารวจ และนัก บัญชี ซึ่งการจะทํางานข้าม ประเทศก็ต้องมีการสอบกันด้วย โดยเฉพาะเรื่องภาษาและกรณี ของไทยก็อาจจะยากขึ้นมาหน่อย เพราะต้องสอบได้ภาษาไทยด้วย ส่วนประเทศไทยถือว่าน่าเป็น ห่วงและต้องปรับตัวยกใหญ่ เพราะเมื่อเทียบหลายๆ เรื่อง ถือว่าด้อยกว่าทุกประเทศ เช่น ภาษาที่ใช้สื่อสารโดยเฉพาะ อังกฤษ พบว่าสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน มีศักยภาพมาก ที่สุด ทรัพยากรพบว่าพม่ามีมาก ที่สุด เทคโนโลยีสิงคโปร์มีมาก ที่สุด โครงสร้างพื้นฐานพบว่า สิงคโปร์ มาเลเซียมีมากที่สุด อัตราค่าจ้างขั้นต่ําอินโดนีเซีย เวียดนาม พม่า ลาว กัมพูชา มี มากที่สุด ขนาดตลาดในประเทศ พบว่าฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม มีมากที่สุด ต้นทุนการ ส่งออกพบว่าสิงคโปร์และ มาเลเซียมีมากที่สุด ไทยมีเพียง ความสะดวกในการตั้งธุรกิจ เท่านั้นที่มีมากแต่ก็อยู่ในระดับ เดียวกับสิงคโปร์และมาเลเซีย ส่วนความสะดวกในสินเชื่อและ

SMEs ก็ยังสู้ประเท ศอื่นๆ ไม่ได้เช่นกัน รองเลขาธิการ สภาหอการค้าแห่ง ประเทศไทย กล่าว ด้วยว่า ยังมีอีกหลาย เรื่องที่จะต้องศึกษาใน AEC ซึ่งที่ผ่านมา หลายฝ่ายอาจจะยัง ไม่รู้ เช่น ภาษาที่ใช้ ADD#6 กันมากที่สุดใน อาเซียนคือภาษาบา ฮาซา โดยใช้มาก ผลกระทบมากที่สุดจาก ที่สุดในอินโดนีเซียที่มี นโยบายนี้คือกลุ่ม SMEs เพราะ ประชากร 280 ล้านคน มาเลเซีย จากค่าแรงที่เพิ่มขึ้น 36,000 40 ล้านคน และยังใช้ในสิงคโปร์ ล้านบาท พบกลุ่ม SMEs ต้อง บรูไน และภาคใต้ของไทย จ่ายถึง 27,000 ล้านบาท ที่เหลือ ปัจจุบันประเทศเวียดนามเริ่มให้ เป็นของกลุ่มทุนใหญ่ มีการเรียนการสอนภาษานี้กัน แล้ว ส่วนการค้าการลงทุนก็พบ ว่าเริ่มเห็นผลบ้างแล้วโดยพบว่า กลุ่มทุนของมาเลเซียเข้าไป ลงทุนผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทอใน ประเทศกัมพูชา โดยนําเข้า วัตถุดิบจากไทยหรือจีนและนําไป ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออก สาเหตุเพราะที่กัมพูชามีต้นทุน ค่าแรงต่ําแค่วันละ 2 ดอลล่าร์ สหรัฐหรือประมาณ 80 บาท ส่วน ไทยกลับเพิ่มค่าแรงเป็นวันละ 300 บาทเสียอีก ซึ่งธุรกิจที่ได้รับ

ADD# 7

[7]


Why’s Chiang Mai ศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ ศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ถึงจะเป็นช่วง Low Season แต่ เชียงใหม่ยังคึกคักไปด้วยผู้คน วั น นี ้ จ ะชั ก ชวนให้ ค ุ ณ หาเวลามา พักผ่อนช่วงหยุดสัปดาห์กับหนึ่ง ใน 25 สุดยอดโรงแรมของไทยและเอเชีย โดย ทริปแอดไวเซอร์ (Trip advisor) ประจําปี พ.ศ. 2555 และคว้ า รางวั ล ระดั บ เงิ น ประเภทอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและ ธรรมชาติ จาก Thailand Boutique Award ประจําปี พ.ศ. 2554 " เรากํ า ลั ง พู ด ถึ ง โรงแรมระดั บ 5 ดาว โรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม่ บริหารงานโดย คุณศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ เจ้าของและ กรรมการผู้จัดการ แนวคิดในการออกแบบโรงแรม? “ได้รับแรงบันดาลใจจากความงามของเวียงกุมกาม เรานําเอกลักษณ์สวยงามนั้นมาประกอบกันขึ้นเป็น ภาพรวมของโรงแรมเรา เราเรียกว่าศิริปันนาธานี มี 4 องค์ประกอบสําคัญคือ ส่วนของโรงแรมประกอบ ด้วยห้องพักและปันนาสปา เฮือนศิลป์สล่า ทุ่งข้าวปัน นา และศิริปันนาแกลเลอรี่ ภายในรีสอร์ทเราร่มรื่น ด้วยสวนและพันธุ์ไม้นานาชนิด เป็นรีสอร์ทใจกลาง เมื อ งเพี ย งแห่ ง เดี ย วที ่ ม ี พ ั น ธุ ์ ไ ม้ ก ว่ า 200 ชนิ ด 20,000 ต้น และมีทุ่งข้าวปันนาซึ่งเป็นนาข้าวออแกร์ นิค ความร่มรื่นและบริการของเราเป็นแบบ Luxury Lanna ” ความภาคภูมิใจ.. “ เราเป็นเพียงหนึ่งเดียวในเชียงใหม่ที่อยู่ใน สามอันดับสูงสุดของสุดยอดโรงแรมในไทย และเป็น 1 ใน 3 ของเชียงใหม่ที่อยู่ในกลุ่ม 25 โรงแรมยอด เยี่ยมของเอเชีย โดยได้รับคํายกย่องว่า “สวยงาม

หรูหราอย่างน่าอัศจรรย์” และ “เป็นโรงแรมที่ยากจะ ตัดใจลา” เป็นสิ่งที่เราภูมิใจมาก” ทําไมถึงเลือกลงทุนที่เชียงใหม่? “ผมและครอบครัวทําธุรกิจโลจิสติกส์ย่างเข้า ปีที่ 42 ซื้อที่ดินแปลงนี1 ้ 3ไร่ไว้นานแล้ว ปรึกษากัน ว่าจะทําอะไร มาลงตัวที่ธุรกิจโรงแรม คนส่วนใหญ่ ถ้ า จะทํ า ธุ ร กิ จ โรงแรมเขามั ก มองหาพื ้ น ที ่ แ ถวทะเล แต่ครอบครัวเราปรึกษากันว่าในเมื่อมีที่ดินแปลงนี้ แล้ ว ทํ า ไมไม่ ท ํ า ที ่ เ ชี ย งใหม่ เราหาจุ ด ที ่ จ ะทํ า ให้ โรงแรมเป็นที่น่าสนใจ จนมาเป็นโรงแรมนี้ เปิดมา 2 ปี กลุ่มเป้าหมายมีทั้ง ชาวไทยและชาวต่างชาติ ” การแข่งขันในธุรกิจโรงแรม.. “ เราไม่ได้มองว่าต้องแข่งขัน แต่มองว่าควร รวมกลุ่มกันทําให้เมืองเชียงใหม่เป็นเมืองที่น่าพัก เรา ใช้พื้นที่ทั้ง 13 ไร่ ให้มีกิจกรรมและสามารถอยู่ใน พื้นที่นี้ได้ตลอดทั้งวัน เริ่มตั้งแต่ห้องพักแบบวิลล่า 74 ห้อง ห้องอาหารที่มีทั้งอาหารพื้นเมือง อาหารต่าง ชาติ มีสปา จัดงานแต่งงานแบบล้านนา และ

[8]


SIRIPANNA

กิ จ กรรมที ่ น ่ า สนใจคื อ การปลู ก ข้ า วในนาข้ า ว ใจกลางเมืองของเรา ”

รุก-รับ-ปรับตัวสู่อาเซียน โดย Mr.Asean Plus

สิ่งที่อยากฝากถึงคนเชียงใหม่ด้วยกัน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ปี " “จังหวัดเชียงใหม่มีของดีอยู่แล้ว อยากให้ ทุกภาคส่วนช่วยกันพัฒนาให้เชียงใหม่ เป็นเมืองที่ 2558 : ผลด้านบวกและด้านลบต่อธุรกิจท่องเที่ยว สามารถนําเอกลักษณ์และสิ่งที่มีอยู่ออกเผยแพร่สู่ " รายงานจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยล่าสุดเมื่อ สายตาคนทั่วโลก อย่างภาคภูมิใจ” เดือนเมษายน 2555 วิเคราะห์ถึงผลกระทบต่อ ธุรกิจท่องเที่ยวได้น่าสนใจกล่าวคือ ภายใต้กรอบ AEC จะมีการเปิดเสรีด้านบริการ ซึ่งรวมถึงธุรกิจ ท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ธุรกิจ โรงแรม ธุรกิจจําหน่ายสินค้าของที่ระลึกนักท่อง เที่ยว ธุรกิจร้านอาหารและสถานบันเทิง ธุรกิจนํา ADD # 8

ALIQUAM

BIBENDUM

CURABITUR

DAPIBUS

Sodales nulla Ante auctor excepturi wisi, dolor lacinia eros condimentum dis, sodales.

Lacus nunc Feugiat at. In orci ligula suscipit luctus, sed dolor, ut diam mauris.

Ut facilisis Ante in dui ac, turpis donec, fusce, quasi amet urna tempor amet sit.

Cras volutpat Mattis justo massa sed, odio feugiat gravida nunc. Quam ac vel est dapibus.

[9]


เที่ยวและมัคคุเทศก์ เป็นต้น จัดอยู่ในกลุ่มเร่งรัด ที่ กําหนดยกเลิกเงื่อนไขข้อจํากัดทั้งหมด และขยาย เพดานสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนอาเซียนเป็น ร้อยละ 70 ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี การเปิดเสรีบริการด้านท่องเที่ยว ทํ า ให้ ห ลายประเทศในอาเซี ย นต่ า งตื ่ น ตั ว และเร่ ง ปรับกลยุทธ์ โดยเฉพาะการวางแผนนโยบายท่อง เที่ยว ระดับประเทศ นอกจากจะเติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว ตลาด นั ก ท่ อ งเที ่ ย วอาเซี ย นยั ง สามารถสร้ า งรายได้ เ ข้ า ประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าตัว และ ศูนย์วิจัยกสิกร ไทย คาดการณ์ว่า ในปี 2554 รายได้จากนักท่อง เที่ยวอาเซียนจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 22 จากปีก่อนหน้า โดยมีมูลค่าประมาณ 119,000 ล้าน บาท อย่ า งไรก็ ต าม หากพิ จ ารณาในด้ า นการ เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าแล้ว พบว่า ตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว 3 อันดับแรก คือ เวียดนาม ซึ่งมีจํานวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.3 รองลงมา คือ ลาว เพิ่มขึ้นร้อย ละ 18.6 และพม่า เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 ตามลําดับ คาดการณ์ว่า โดยรวมตลอดทั้งปี 2555 จะมีนักท่อง เดินทางเข้ามายังประเทศไทยรวมทั้งสิ้น ประมาณ 6.0 ล้ า นคน ก่ อ ให้ เ กิ ด รายได้ ท ่ อ งเที ่ ย วเข้ า ประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 130,000 ล้าน บาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 ทั้งนี้การเปิดเสรีการบริการด้านท่องเที่ยวนั้น มีผลกระทบทั้งในด้านบวกและด้านลบต่อ อุ ต สาหกรรมการท่ อ งเที ่ ย วของไทย ดั ง นั ้ น ผู ้ ประกอบการธุรกิจที่ เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวของ ไทย จะต้องเตรียมวางแผนทางธุรกิจเพื่อรองรับการ เปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจาก AEC สําหรับการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ ประกอบการในธุ ร กิ จ ท่ อ งเที ่ ย วรองรั บ การเปิ ด เสรี ประชาคมเศรษฐกิ จ อาเซี ย น ควรเริ ่ ม จาก (1) วิ เ คราะห์ จ ุ ด แข็ ง และเสริ ม จุ ด แข็ ง ด้ า นต่ า งๆ อาทิ คุ ณ ภาพการให้ บ ริ ก ารศั ก ยภาพด้ า นบุ ค ลากร เป็นต้น (2) นอกจากการวิเคราะห์จุดแข็งแล้ว ยังมี จุดอ่อนที่ควรพยายามพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น อาทิ การทํา การประชาสั ม พั น ธ์ หรื อ ทั ก ษะด้ า นภาษาของ บุคลากร และ (3) การรวมกลุ่มผู้ประกอบการขนาด

เดียวกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและพัฒนาทักษะของ บุ ค ลากรให้ ม ี ค ุ ณ ภาพการให้ บ ริ ก ารได้ ม าตรฐาน สากล ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการมีความพร้อมด้านเงิน ทุนและแรงงานก็น่าจะมองหาโอกาสเข้าไปลงทุนใน ประเทศสมาชิกเพื่อขยายกิจการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงทุนในธุรกิจโรงแรมหรือการขยายการบริการ โรงแรมเข้าไปในพม่า ที่เพิ่งเปิดประเทศและได้รับ ความสนใจจากนานาประเทศ ขณะที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวให้ ตรงกั บ ความต้ อ งการของนั ก ท่ อ งเที ่ ย วทั ้ ง ในและ นอกกลุ ่ ม อาเซี ย นมี ค วามสํ า คั ญ เป็ น อย่ า งมาก ผู ้ ประกอบการควรจะมุ ่ ง พั ฒ นาการท่ อ งเที ่ ย วเชิ ง สร้างสรรค์รูปแบบต่างๆ ซึ่งกระแสกําลังมาแรงใน หมู่นักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว อาทิ การท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) การท่อง เที่ยวเชิงอนุรักษ์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่อง เที่ยวเชิงเกษตร กิจกรรมไมซ์ (MICE) และกิจกรรม ด้ า นกี ฬ า (Sport Event) ทั ้ ง นี ้ โ ดยได้ ร ั บ การ สนับสนุนจากภาครัฐในการทําวิจัยถึงความ เป็นไป ได้ของการท่องเที่ยวเที่ยวแต่ละรูปแบบ และการส่ง เสริ ม ด้ า นการตลาดเพื ่ อ กระตุ ้ น การท่ อ งเที ่ ย วโดย รวมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจ ท่องเที่ยวและบริการของไทยมี ความพร้อมต่อการ แข่งขันอย่างเสรี และมีศักยภาพในการขยายตลาด ไปยั ง ประเทศสมาชิ ก ภายใต้ ก รอบประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน รวมถึงการเปิดเสรีอื่นๆในอนาคต อ้างอิง: www.ksmecare.com

[10]


ท่องเที่ยวจาก AEC ย้อนกลับไปในปีคศ.1979 ตัว “i” ตัวแรก ที่นําไป บริษัทโซนี่ สร้างความฮือฮาใน

สู่อุปกรณ์โด่งดังใน

วงการอุตสาหกรรมดนตรี ด้วย

เวลาต่อมา ไม่ว่าจะ

การออก Sony Walkman

เป็น iPhone, iPad ที่

อุปกรณ์ชิ้นแรกที่ทําให้เสียงเพลง ยังคงจุดเด่นในการพก ติดตามเราไปได้ทุกที่ ในยุคนั้น

พาเสียงเพลงไปกับ

ยังใช้เทปคาสเซ็ทกันอยู่ พอหมด เราได้ทุกที่ iTiTalk หน้าก็ต้องเปิดเครื่อง กลับเทป

ฉบับนี้เลยถือ

แล้วยัดตลับกลับเข้าไปใหม่ อีก

โอกาสแนะนํา App

AEC 2015

ไม่นานมีการผลิตรุ่นที่เป็น Auto- เท่ห์ๆสําหรับคนรัก

สมุดเพลงในเครื่อง iPhone

พลังงานไปได้บ้าง จากยุคคาส

เสียงเพลง เพื่อให้โลกแห่งการฟัง ของเรา แล้วจัดหมวดหมู่อารมณ์ ให้เราเลือก เช่น ร้อนแรง นุ่มนวล เพลงของเรามีอรรถรสมากขึ้น

เซ็ท มาถึงยุคแผ่น CD จาก

ครับ และที่สําคัญก็คือเป็น Free

อารมณ์ดี โกรธ พอเรากําลัง

Walkman พัฒนามา

App ครับ

โกรธใครมา ไปสไลด์แถบ Angry

Reverse ช่วยให้ประหยัด

เป็นDiscman จนมาถึงยุค ดิจิตอล ที่เป็นยุคไร้แผ่น บริษัท Apple พลิกโฉมวงการด้วย เครื่องเล่น MP3 ในปีคศ.2001 ด้วยการเปิดตัวของ iPod สินค้า

เริ่มที่ Moodagent เป็น App ที่เราสามารถเรียกเสียง เพลงที่เข้ากันกับอารมณ์ของเรา ในขณะนั้นครับ โดยเจ้าโปรแกรม นี้จะเข้าไป sync เพลงจากห้อง

[11]

เจ้า Moodagent ก็จะทําหน้าที่ เลือกเพลงมาให้เราฟัง จะได้ลด ความโกรธหรือเพิ่มความโกรธก็ สุดจะคาดเดา ผมยังไม่ได้ไป สอบถามผู้รู้ว่าเจ้าโปรแกรมนี้ใช้ วิธีอะไรในการคัดเลือกเพลง ว่า


เพลงไหน น่าจะจัดอยู่ในโหมด อารมณ์ใด เช่นในเครื่องของ

IT TALK VOL.15 : PLANET OF MUSIC

ผมเพลง Don’t answer me ของ The Alan Parsons Project ถูกจัดไว้ในโหมด “โกรธ” เลยไม่ต้องมาตอบ คําถามชั้น อะไรแบบนั้นหรือ เปล่า อีก App หนึ่ง ผมเคย พูดถึงในบทความแรก ๆ ถึง ความเก่งกาจของเจ้า App นี้ เพราะมีความสามารถในการ ค้นหาชื่อเพลงที่เราบังเอิญ ได้ยิน ได้ฟัง แล้วคิดไม่ออก ว่าชื่อเพลงอะไรนะ ง่ายๆ เพียง แค่เรียก App นี้ (ชื่อ Shazam) Shazam เพิ่มความเก่งเข้าไป เลยครับ แต่เวลาใช้ต้อง ขึ้นมา เอามือถือไปจ่อหน้า อีก คือเชื่อมโยงไปดู วิดีโอของ ออนไลน์ครับ ลําโพง เจ้า Appนี้จะเข้าไป เพลงนั้นได้ทาง YouTube (อัน ขอฝากส่งท้ายอีกนิด ค้นหาข้อมูลชื่อเพลง ชื่อศิลปิน นี้ฟรีครับ) เป็นการแก้อาการ ครับ สําหรับผู้อ่านที่ชอบ เพียงเวลาไม่กี่วินาที แถม หงุดหงิดได้ดีนะครับ เวลานึก ติดตามข่าวคราวในประเทศ สามารถเชื่อมโยงไปยัง ชื่อเพลง หรือชื่อคนร้องไม่ออก แถบอาเซียนทั้งเรื่องการเมือง iTunes Store เพื่อโหลดมา ถามใครก็นึกไม่ออกเหมือนกัน เศรษฐกิจ สังคม ปัญหาสิทธิ ฟังได้เลย (แต่ต้องเสียเงินนะ อย่างนี้ต้องถาม Shazam ทั้ง มนุษยชน เพื่อเตรียมความ ครับ) เวอร์ชั่นใหม่ของ iOS และ Android ไปโหลดได้

ADD # 9

“Nsectetur adipiscing elit, set tempor incidunt et labore et dolore magna aliquam. Ut enim ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo.” — Fringilla Viverr, Lorem

“Louem adipiscing elit, set eiusmod tempor incidunt et labore et dolore magna aliquam. Ut enim louem tempor incidunt et labore et dolore.” — Urna Semper, Ipsum

[12]

Sit Amet

38%

Ligula Quis Diam

34%

Duis Vitae

16%

Ut et Neque

6%

Pellentesque

3%

Nunc Blandit

1%

Aliquam Volutpat

1%


พร้อมสู่ประชาคมอาเซียน เชิญ ติดตามได้ทาง www.facebook.com/ asiacallingthai มีทั้งบท รายการวิทยุ และข่าวประกอบ เสียงให้ติดตามรับฟังครับ เป็น ภาษาไทยครับ เข้าไปคลิ๊ก “Like” กันได้ครับ รศ.ธีรภัทร วรรณฤมล อาจารย์ประจําแขนงวิชาสื่อใหม่ คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ terapatt@yahoo.com

DITP เพื่อนคู่คิดธุรกิจส่งออก กรมส่ ง เสริ ม การส่ ง ออก ได้ เปลี ่ ยนชื ่ อภาษาอั งกฤษเป็ น Department of International Trade Promotion (DITP) จาก เดิ ม ที ่ ใ ช้ Department of Export Promotion (DEP) เพื่อ ให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ที่ กว้ า งขึ ้ น และยั ง คงดํ า เนิ น ภารกิจหลักอย่างเข้มแข็งในการ ส่งเสริมการส่งออก ขยายตลาด สินค้าและบริการของไทย พ ั ฒน า ส ร้ า งม ู ล ค ่ า เพ ิ ่ ม ข อ ง

สิ น ค้ า และบริ ก ารส่ ง ออก เพิ ่ ม ศั ก ยภาพการแข่ ง ขั น ของผู ้ ส ่ ง ออกไทยในตลาด โลกเพื่อเพิ่มมูลค่าและ ปริมาณการส่งออกไทย ผ่ า นกิ จ กรรมและโครงการ จํานวนมากเพื่อสนับสนุน ผู้ ประกอบการอย่างต่อเนื่อง หลากหลายรู ป แบบ เช่ น งานแสดงสินค้า ทั้งในและ ต่างประเทศ การฝึกอบรม สัมมนา ทุกกิจกรรมมีการบู รณาการระหว่างกันเพื่อเกิด ประสิทธิภาพสูงสุด สามารถผลักดันสินค้าไทย ให้ เ ป็ น ที ่ ย อมรั บ ในต่ า ง ประเทศ ตอบสนอง นโยบายของประเทศในการ เพิ ่ ม มู ล ค่ า และปริ ม าณการ ส่งออก กรมส่งเสริมการส่ง

Thailand Trust Mark ตราสัญลักษณ์แห่ง ความเชื่อมั่น ที่รับรองคุณ ภาพจากรัฐบาลไทย เพื่อ ยืนยังถึงคุณภาพของ สินค้าจากฝีมือคนไทย

ThaiTrade.com เว็บไซต์ ศูนย์กลางการเชื่อมต่อ ระหว่างผู้ผลิตและผู้ส่งออก ที่มีมาตรฐาน ข้อมูลเพื่อ การจับคู่ธุรกิจ ออนไลน์ Thai Select เครื่องหมายมาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้กับ ผู้ บริโภค ที่จะได้รับประทาน อาหารไทยที่คงเอกลักษณ์ ความเป็นไทย

ออกมีบริการส่งเสริม ผลิตภัณฑ์และตรา DEmark (Design Excellence Award) World-Class Quality เพื่อ รางวัลสินค้าไทยที่มีการ ส่งเสริมผลิตภัณฑ์และตรา ออกแบบดี เป็นเครื่อง สัญลักษณ์ สัญลักษณ์ Assurance of

ADD # 10

NSECTETUR ADIPISCING Magna amet libero maecenas justo. Nam at wisi donec amet nam, quis nulla euismod neque in enim, libero curabitur libero, tempus arcu egestas.

CURABITUR LABORE. Ac augue donec, sed gravida a dolor luctus, congue arcu id diam praesent, pretium ac, ullamcorper ipsum lorem non hac in quisque hac.

[13]

UT ENIM AD MINIM molestie pede lorem eu. Posuere tempus porttitor odio urna et gravida, hasellus sed sit sodales laoreet integer, in at, leo nam in.


หมายยืนยันคุณภาพและการออกแบบที่ยอด

053-216350-1 โทรสาร.053-215307 www.ditp.go.th

เยี่ยมในระดับสากล The Prime Minister’s Export Award รางวัลผู้ ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น มอบให้แก่ผู้ส่งออกเพื่อแสดงถึงภาพลักษณ์ของ คุณภาพและมาตรฐานของสินค้าไทยในตลาด โลก “กรมส่งเสริมการส่งออกมีการประชุมติดตาม สถานการณ์สินค้าเป็นรายเดือน เป็นเวทีที่ภาค เอกชนได้นําเสนอปัญหาทางด้านการค้า และ ร่วมกันหาทางแก้ไข บางครั้งผู้ประกอบการไม่ สามารถแก้ได้ฝ่ายเดียว สิ่งที่กรมฯดูแลไม่เพียง เรื่องสินค้า แต่ยังดูแลในเรื่องของธุรกิจบริการ ด้วย ทั้งหมดคือสิ่งที่กรมฯสามารถช่วยเหลือผู้ ประกอบการได้ แต่ผู้ผู้ประกอบการเองจําเป็น ต้องหาข้อมูลหรือติดตามข่าวสารต่างๆ เพื่อที่จะ ได้ทันต่อข่าวสารหรือกิจกรรมที่จะเป็นประโยชน์ ต่อธุรกิจของท่านอีกทางหนึ่ง” ท่านสามารถเข้าไปหาข้อมูลด้านการค้า การส่งออกได้ที่ สํานักงานส่งเสริมการส่งออก ภาคเหนือ(เชียงใหม่) ถนนสิงหราช ตําบลศรีภูมิ อํ า เภอเมื อ ง จั ง หวั ด เชี ย งใหม่ โทรศั พ ท์

ADD 11

“Nsectetur adipiscing elit, set tempor incidunt et labore et dolore magna aliquam. Ut enim ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo.” — Fringilla Viverr, Lorem

“Louem adipiscing elit, set eiusmod tempor incidunt et labore et dolore magna aliquam. Ut enim louem tempor incidunt et labore et dolore.” — Urna Semper, Ipsum

[14]

Sit Amet

38%

Ligula Quis Diam

34%

Duis Vitae

16%

Ut et Neque

6%

Pellentesque

3%

Nunc Blandit

1%

Aliquam Volutpat

1%


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.