วารสาร ปีที่ 36 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม พ.ศ. 2554
ไม้ประดับ
Journal of the Society for Ornamental Plants of Thailand
สมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทย www.ThaiOrnamentalPlant.org
Plants Gossip จำปี แ หลมทอง จำปี ช นิ ด ใหม่ ข องไทย p.14
Welcome to
Casa del Campo ราคา 30 บาท
p.10
ราคา 30 บาท
Warasan March22_8_54.indd 1
Goเที่ ย วสวนเมลเบิ travel ร์ น p.8
8/24/11 12:23:56 PM
Open Garden
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับ ผศ. ดร.จิรายุพิน จันทรประสงค์ หรือ “อาจารย์จิรา” ของพวกเราเนื่องในโอกาสที่ท่านได้รับ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เหรียญราชรุจิทอง (ร.จ.ท.๙) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นเกียรติแก่อาจารย์และครอบครัวอย่างมาก ปีนี้น้ำท่าชุ่มฉ่ำจริงๆ ฝนฟ้าตกหนักแทบทุกวัน ก็เหมาะกับบ้านเราที่ เป็นเมืองเกษตรกรรมดีนะ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้พืชผัก ข้าวสารที่เราปลูกได้เอง รวมทั้งเนื้อสัตว์ ไข่เป็ด ไข่ไก่ที่เลี้ยงกันในเมืองไทยกลับมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเรามาทำสวนไว้เก็บผลผลิตมาบริโภคกันเองก็คงจะดีนะคะ ลองหว่าน เมล็ดผักบุ้งจีนไว้ในกระถางใบใหญ่ที่จุดินไว้ให้เกือบเต็ม สัก 10-20 เมล็ด วางในที่มีแสงแดดจัด รดน้ำให้ชุ่มชื้น บางวันพระพิรุณโปรยปรายน้ำฝนลง มาช่วยบ้าง อีก 20 วันก็เก็บมาปรุงอาหารได้แล้วค่ะ ช่วงที่ผ่านมากิจกรรมในวงการไม้ประดับค่อนข้างเงียบเหงาค่ะ แต่ในคอลัมน์ “เปิดหูเปิดตา” เราพาไปเทีย่ วสวนฟิตซ์รอยทีเ่ มลเบิรน์ และไปรู้จักจำปีชนิดใหม่ของไทยกันในคอลัมน์ “Plants Gossip” พิเศษสุดเล่มนี้ เราปรับเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ให้ผู้อ่านไม่เบื่อกันค่ะ ปล. ขอเชิญสมาชิกทุกท่านร่วมแสดงนิทรรศการและสินค้าในงาน Horti Asia 2012 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา วันที ่ 9-11 พฤษภาคม 2555 ผู้สนใจกรุณาติดต่อคุณเทียนชัย เทียนทองถาวร โทรศัพท์ 08-6512-6999 รับจำนวนจำกัด ก่อน 20 พฤศจิกายน นี้ วิฬาร์น้อย u_chira@yahoo.com
Warasan March22_8_54.indd 2
สมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทย ยินดีต้อนรับสมาชิกผู้รักและชื่นชอบ การปลูกต้นไม้ทุกท่าน เพื่อร่วมกันพัฒนา และสร้างสีสันให้วงการไม้ประดับในเมืองไทย Facebook สมาคมไม้ประดับ แห่งประเทศไทย สนใจสมัครสมาชิก คลิกที่ www.ThaiOrnamentalPlant.org หรือติดต่อคุณเทียนชัย เทียนทองถาวร โทรศัพท์ 08-6512-6999
สนับสนุนโดย TONG EK Ltd., Part.
อุดมการ์เด้นกรุ๊ป
ใส่ใจ ห่วงใยปัญหาภัยธรรมชาติ
8/24/11 12:24:13 PM
Contents p.17 p.19 p.8
Plants Gossip 14-15
ตามหาจำปีแหลมทอง : จำปีชนิดใหม่ของไทย New Comer 16
Activities 4-5
ชมพรรณไม้งามกลางกรุง ร่วมรำลึกถึง “คุณท่าน” และแสดงความยินดีกบั “อาจารย์จริ า”
p.11
Go Travel 8-9
ชมเมืองสีเขียว เทีย่ วสวนเมลเบิรน์ In the Garden 10-11
Welcome to Casa del Campo
มารูจ้ กั “ม่วงภูพญา” กัน
Q and A Garden 17
ใบพรมญีป่ นุ่ เน่า จะทำอย่างไรดี Animals in Garden 18-19
อึง่ หลังขีด
คณะกรรมการสมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่ปรึกษา ศ. ดร.ระพี สาคริก ดร.วทัญญู ณ ถลาง ศ. ดร.ธีระ สูตะบุตร ดร.อนันต์ ดาโลดม ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา ผศ.ดร. ม.ล.อโณทัย ชุมสาย นางเมตตา อุทกะพันธุ์ นายเกษม จันทรประสงค์ นายโอฬาร พิทักษ์ นายกสมาคม นายอุดม ฐิตวัฒนะสกุล อุปนายก นายสุรัตน์ วัณโณ รศ. ดร.อรดี สหวัชรินทร์ นายสาโรช โสภณางกูร เลขาธิการ น.อ.(พิเศษ) ช่อ วาตะ ผู้ช่วยเลขาธิการ นางภูริพันธุ์ สุวรรณเมฆ
Warasan March22_8_54.indd 3
เหรัญญิก นางสลิดา พิเรนทร นายทะเบียนพันธุ์ไม้ ผศ. ดร.จิรายุพิน จันทรประสงค์ นายทะเบียนสมาชิก นายวีระ โดแวนเว บรรณาธิการที่ปรึกษา นายประพันธ์ ประภาสะวัต บรรณาธิการและเว็บเอดิเตอร์ นางสาวอุไร จิรมงคลการ ผู้ช่วยบรรณาธิการและเว็บเอดิเตอร์ นางสาวภัทรา แสงดานุช นายอรรถ ประพันธ์วัฒนะ นางสาววรัปศร อัคนียุทธ นางสาวธิวลักษณ์ บุนนาค ฝ่ายกิจกรรม ดร.เศรษฐพงศ์ เลขะวัฒนะ ปฏิคม นายสมพงษ์ ทวีสุข ประชาสัมพันธ์ นายถวิล สุวรรณมณี ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ นายชนะชัย ประไพภูมิ
กรรมการ นางสาวมัลลิกา สุคนธรักษ์ นางเนาวรัตน์ ลี้อิสสระนุกูล นางยุพดี เลื่อนฉวี นางสาวประพีร์ วัณโณ รศ.เอื้อมพร วีสมหมาย รศ.ธัญญะ เตชะศีลพิทักษ์ นางอรวรรณ วิชัยลักษณ์ รศ. ดร.พัฒนา สุขประเสริฐ นายเปรม ณ สงขลา นายวรวิทย์ อังสุหัสต์ นางทัศนีย์ วัณโณ นายต้นวงศ์ คุณะเกษม ดร.ศศิวิมล แสวงผล ดร.ทยา เจนจิตติกุล นางจงวัฒนา พุ่มหิรัญ นายปราโมทย์ โรจน์เรืองแสง นายอภินันท์ บุณยรัตพันธุ์ ผศ. ดร.พัชรียา บุญกอแก้ว ดร.เฌอมาลย์ วงศ์ชาวจันท์ นายสุเมธ วิริยกิจ นายวรพันธ์ บำรุงไทยชัยชาญ นายสุนทร เล้าเรืองศิลป์ชัย
นายปรีชา เลียบใย นายบุญฤทธิ์ ยิ้มเพ็ชร นายประดิษฐ์ รากทอง เจ้าหน้าที่การเงิน นายสุวัฒน์ จินดา เจ้าหน้าที่ธุรการ นายเทียนชัย เทียนทองถาวร ซับเอดิเตอร์ นางสาวพิมพา จิตตประสาทศีล ศิลปกรรม นายธีระยุทธ ช่างคิด เจ้าของลิขสิทธิ์ สมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทย บ้านก้ามปู เลขที่ 5/6 ซอยสมาคมแพทย์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10240 หรือ ตู้ปณ. 1081 ไปรษณีย์เกษตรศาสตร์ จตุจักร กรุงเทพฯ 10903 โทรศัพท์ 08-6512-6999 พิมพ์ที่ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)
8/24/11 12:24:33 PM
Activities มุมสวนแนวตั้งในบริเวณบ้านก้ามปู
Garden + ง าม City ชมพรรณไม้ กลางกรุ ง
ส่วนหนึ่งของบอนไซ ภายในบ้าน
ซุ้มต้นมะระจีนในบริเวณ บ้านของคุณเกษมสันต์ อาจารย์เกษม จันทรประสงค์ ที่ปรึกษาสมาคมฯ มอบของที่ระลึกก่อนกลับ
มุมสวนหน้าบ้านอาจารย์ยุพดี
คุณมนตรีกำลังสาธิตและอธิบายวิธีการ ตัดแต่งบอนไซให้สมาชิกได้ทราบกัน
อีกมุมสวยของบ้านอาจารย์ยุพดี ที่คุณมารศรี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ชื่นชอบ
Warasan March22_8_54.indd 4
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกก่อนเดินทางต่อ
ทริปนี้ทางสมาคมฯ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา สำหรับคนเมืองกรุงที่ชื่นชอบ การปลูกต้นไม้ โดยพาไปชมพรรณไม้ดัด บอนไซ ที่บ้าน คุณมนตรี สุขเสริมส่งชัย อดีตประธานชมรม สมาพันธุ์บอนไซเอเชียแปซิฟิค และอดีตนายก สมาคมผู้เพาะเลี้ยงบอนไซไทย จากนั้นก็ไป เยี่ยมชมสวนสวยและพรรณไม้จิ๋วในสวนถาดของ อาจารย์ยุพดี เลื่อนฉวี ต่อด้วยสวนผักไฮโดรโปนิก ุ เกษมสันต์ เคียงศิริ สุดท้ายพามาชมไม้แปลก ของ คณ และหายากที่บ้านก้ามปูของอาจารย์สุรัตน์ วัณโณ ทริปนี้นอกจากได้ดูต้นไม้สวยๆ แล้ว ยังได้ต้นไม้ ติดมือกลับบ้านไปปลูกกัน แถมได้ชิมของอร่อยจาก ทุกบ้านเลยค่ะ
อาจารย์สุรัตน์ร่วมรับประทาน อาหารว่างกับสมาชิกที่มาเยี่ยมชม
8/24/11 12:24:42 PM
ภาพ : ดร.อรดี สหวัชรินทร์
นายกสมาคมฯและ คณะกรรมการร่วมกันวาง พวงมาลาด้านหน้ารูปปั้น คุณท่าน
ร่วมรำลึกถึง
“คุณท่าน”
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ รับมอบเงินทำบุญจากนายกสมาคมฯ และอาจารย์เกษม จันทรประสงค์
ถ่ายรูปร่วมกันหน้าวังตะไคร้
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการ สมาคมฯ ร่วมทำบุญเนื่องในวันถึงแก่กรรมของ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร หรือ “คุณท่าน” ที่วังตะไคร้ โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ให้การต้อนรับ
ร่วมแสดงความยินดีกับ “อาจารย์จิรา” ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา เป็นตัวแทน จากสมาคมฯ มอบของขวัญ
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาคณะกรรมการสมาคมฯ ได้จัดงานแสดงความยินดีกับ “อาจารย์จิรา - ผศ. ดร.จิรายุพิน จันทรประสงค์” กรรมการอาวุโสของสมาคมฯ เนื่องในโอกาสที่ท่าน ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เหรียญราชรุจิทอง (ร.จ.ท.๙) เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ อาจารย์จิรายุพิน
ของขวัญจากกรรมการแต่ละท่าน ที่นำมามอบให้อาจารย์ เหล่าคณะกรรมการอาวุโสร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
Warasan March22_8_54.indd 5
เหรียญราชรุจิทองที่อาจารย์ได้รับ
8/24/11 12:24:52 PM
Warasan March22_8_54.indd 6
8/24/11 12:24:58 PM
www.littletreegarden.com
“
สำหรับท่านที่ชอบตกแต่งสวน ในสไตล์บาหลี ตอนนี้ทางร้านมี คอลเล็คชั่นใหม่ ให้ท่านเลือกมากมาย ทั้งตุ๊กตาหินทราย โคมไฟ น้ำล้น และประติมากรรมรูปแบบต่างๆ อีกมากมาย
”
Warasan March22_8_54.indd 7
ร้านนกฮูก •สาขา 1 ถนนกาญจนาภิเษก เยื้องปั๊ม ปตท. •สาขา 2 ศูนย์ไม้ดอกไม้ประดับ ซอยช้าง นนทบุรี •สาขา 3 ศูนย์การ์เด้นเซ็นเตอร์ ริมถนนกาญจนาภิเษก โทร. 0-2525-0107, 08-1890-9324, 08-6101-2995 แฟ็กซ์ 0-2968-1808
8/24/11 12:25:06 PM
Go Travel เรื่องและภาพ : อรรถ
ชมเมื อ งสี เ ขี ย ว
เที่ ย วสวนเมลเบิ ร์ น ด้านหน้าของสวนฟิตซ์รอยเต็มไปด้วยพรรณไม้เมืองร้อน มีสีสันและรูปทรงที่แตกต่างกันผสมผสานเป็นสวนสไตล์อังกฤษ ขนาดคนเมืองร้อนอย่างเรายังอดชื่นชมไม่ได้ หลังบ้านมีทางเข้าสวนเล็กๆ ปลูกพืชผักสวนครัว
บรรยากาศในสวนฟิตซ์รอย มีบึงน้ำที่เต็มไปด้วยพรรณไม้น้ำหลากหลายชนิด
ส่วนหนึ่งภายใน Conservatory House จัดวางรูปปั้นของ Mary Gilbert สตรีชาวออสเตรเลียผิวขาวคนแรกทีม่ าตัง้ ถิน่ ฐาน ใน Port Phillips
Warasan March22_8_54.indd 8
“เมลเบิร์น” เมืองที่ใครๆ ต่างบอกว่า เป็นอีกเมืองหนึ่งที่คนรักธรรมชาติและต้นไม้ใบหญ้า จะต้องหลงรัก ครั้งนี้ผมมีโอกาสไปสัมผัสกับไลฟ์สไตล์สีเขียวของที่นี่มา จึงอดไม่ได้ที่จะนำ บรรยากาศเหล่านี้มาร่วมแบ่งปันกันครับ ผมเลือกสัมผัสเมืองด้วยการเดินชมไปเรื่อยๆ โดยมีจุดมุ่งหมายที่สวนฟิตซ์รอยและ บ้านกัปตันคุก (Fitzroy Gardens & Captain Cook’s Cottage) ซึ่งถือเป็นสวนสาธารณะ ขนาดใหญ่ทางตะวันออกของเมือง โดยทราบข้อมูลเบื้องต้นมาก่อนว่า เป็นสวนที่มี สนามหญ้ากว้าง มีบรรยากาศของสวนแบบอังกฤษ มีดอกไม้สีสันจัดจ้า มีประติมากรรม รูปปั้น และก็มีบ้านจำลองแบบทิวดอร์ที่เป็นเอกลักษณ์กระจายอยู่โดยทั่ว รวมถึงอีกหนึ่ง ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้กับ “Conservatory House” โรงเรือนที่รวบรวมพันธุ์บีโกเนียและเฟิน หลายชนิดไว้มากมาย เพียงข้อมูลคร่าวๆ ที่ได้มาก็เรียกน้ำย่อยได้ไม่น้อย แต่ผมก็ขอเดิน ทอดน่องสัมผัสบรรยากาศไปเรื่อยๆ และเราก็ได้เห็นงานศิลปะแฝงอยู่เป็นระยะๆ พูดได้เต็มปากเลยว่า “ชอบทั้งบรรยากาศระหว่างทางและจุดหมายปลายทางไม่แพ้กัน” ถ้ามีโอกาส ผมต้องกลับมาสัมผัสเมืองนี้อีกครั้งแน่นอนครับ
8/24/11 12:25:36 PM
มุมพักผ่อนอีกมุม มีจุดเด่นคือน้ำพุ และประติมากรรมบรอนซ์ รูปสัตว์น้ำต่างๆ ทั้งปลาโลมา ปู นก และม้าน้ำ บนภูเขาหิน ภายใน Conservatory House ที่มีบีโกเนีย ฤาษีผสม และเฟินหลากหลายพันธุ์ สร้างความตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อยทีเดียว
บ้ า นกั ป ตั น คุ ก
(Captain Cook’s Cottage)
กัปตันเจมส์ คุก นักเดินเรือ ผู้ค้นพบประเทศนิวซีแลนด์และ ออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลีย จึงได้ซื้อบ้านหลังนี้จากเมือง ยอร์กเชียร์ในประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นบ้านที่เขาอาศัยก่อนออก เร่ร่อนกลางทะเลเดินทางสำรวจ รอบโลก โดยรื้อบ้านหลังเก่า ออกเป็นส่วนๆ ใส่กล่องลงเรือ มายังเมลเบิร์น แล้วประกอบใหม่ ในปีค.ศ.1933 เพื่อบอกเล่า เรื่องราวประวัติของผู้ค้นพบ ทวีปออสเตรเลีย ภายในบ้านจัดแสดงภาพถ่าย และข้าวของเครื่องใช้ดั้งเดิม ด้านนอกมีรูปปั้นกับตันคุก ถือกล้องส่องทางไกล
ด้านหน้าของบ้านกัปตันคุกที่เต็มไปด้วยสีสันจัดจ้าของพรรณไม้หลายชนิด ดึงดูดใจให้อยากเดินเข้ามาดูใกล้ๆ บรรยากาศระหว่างทางที่เต็มไปด้วย ต้นสนขนาดใหญ่เป็นทิวแถว
Warasan March22_8_54.indd 9
อีกมุมหนึ่งที่ดูร่มรื่น น่าพักผ่อน ภาพที่เห็นคือทางระบายน้ำข้างสวน ซึ่งดูเป็นธรรมชาติมากๆ
8/24/11 12:26:11 PM
10
In the Garden เจ้าของ -ออกแบบ : คุณมีนา -คุณเชิดศักดิ์ กัลมาพิจิตร เรื่อง : “เกซอนลา” ภาพ : นิตยสารบ้านและสวน
ประตูรั้วเหล็กและกำแพงหิน ที่หยิบยืมกลิ่นอายการตกแต่ง แบบสเปนมาใช้
< เก้าอี้เหล็กทำจากโครงล้อเกวียนทาสีสดใส ดูเด่นสะดุดตาท่ามกลางต้นไม้ในสวน โดยปล่อยให้ โคลงเคลงเลื้อยขึ้นปกคลุมเก้าอี้อย่างเป็นธรรมชาติ
Welcome to
Casa del Campo
กำแพงสีส้มอมน้ำตาล มีตีนตุ๊กแกเลื้อยเกาะตัวอักษร “Casa del Campo” ของบ้าน กลางทุ่งหลังนี้ คุณมิ้น - มีนา กัลมาพิจิตร เล่าว่า คำนี้มาจากภาษาสเปน 2 คำ คือ กาซ่า แปลว่า บ้าน ส่วน กัมโป้ หมายถึง ทุ่งนา ฟาร์ม ไร่ สื่อถึงบ้านอันแสนอบอุ่น ที่ตั้งอยู่กลางสวนดอกไม้และทุ่งนา ที่นี่คุณมิ้นจัดสวนและเรียนรู้เรื่องต้นไม้ด้วยตัวเอง จากพื้นที่เดิมที่ไม่มีอะไร ก็เริ่มมีต้นไม้ร่มรื่นในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปี บริเวณรอบบ้านคุณมิ้นปลูกทองกวาวต้นใหญ่ข้างบันได เพื่อให้เวลาขึ้นลงบันได แล้วเห็นดอกสีแดงสวยโดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และจัดสวนในสไตล์อังกฤษ เน้นความเป็นธรรมชาติของพรรณไม้หลากชนิดปลูกผสมรวมกัน
ตุ๊กตาเป็ด ที่ช่วยให้สวน มีชีวิตชีวาขึ้น
กระถาง แอฟริกันไวโอเลต ใช้ตกแต่งตาม ริมหน้าต่าง และโต๊ะในสวน
< ซุ้มประตูโค้งตกแต่งด้วยซุ้มไม้เลื้อย ควรเลือกชนิดที ่ ดอกมีผิวสัมผัสละเอียด เพราะให้ความรู้สึกอ่อนโยนกว่า ชนิดที่มีดอกขนาดใหญ่
Warasan March22_8_54.indd 10
8/24/11 12:26:33 PM
11
> ตีนตุ๊กแกที่เลื้อยเกาะปกคลุม อักษรคำว่า Casa del Campo เพิ่มรายละเอียดโดยเจาะช่องวางกระถาง ให้กำแพงดูไม่เรียบเกินไป
ต้นทองกวาวกิ่งโค้งรับกับบันไดที่ออกแบบในสไตล์ เมดิเตอร์เรเนียน
เก็บตกไอเดียในสวน
เนื่องจากบ้านหลังนี้มีการออกแบบให้ได้กลิ่นอายของบ้าน ในประเทศสเปน เราสามารถนำไอเดียมาประยุกต์ใช้ได้ง่ายๆ ดังนี้ 1. บ้านสไตล์นี้นิยมใช้โทนสีธรรมชาติ และกรุผนังประดับหิน ที่กำแพงเพื่อสร้างจุดเด่น 2. ทำซุ้มประตูโค้ง แล้วปลูกไม้เลื้อยดอกสวยที่เถาไม่ใหญ่ เกินไปนัก เช่น พวงคราม สร้อยฟ้า ลัดดาวัลย์ ชมนาด ได้อารมณ์สไตล์สวนอังกฤษที่ดูเรียบง่าย 3. ปลูกต้นไม้ผสมรวมกันให้ขึ้นตามมุมต่างๆ ไม่เน้น กลุ่มแปลงที่ดูเนี้ยบ แต่เน้นความเป็นธรรมชาติ จะช่วยสร้าง บรรยากาศสวนสไตล์ชนบทได้ดีกว่า 4. ของตกแต่งที่ทำจากเหล็กรูปแบบต่างๆ เช่น ม้านั่งสนาม ที่แขวนของ อ่างน้ำนก รั้วเหล็ก ช่วยสร้างบรรยากาศและ เรื่องราวในสวนได้ดี โดยเฉพาะเมื่ออยู่ท่ามกลางดอกไม้สีสวย ก็ยิ่งทำให้ข้าวของดูสะดุดตามากยิ่งขึ้น
Warasan March22_8_54.indd 11
บลูซัลเวียที่นิยมใช้ในสวน สไตล์อังกฤษ
เลือกใช้พรรณไม้สไตล์หวาน
พรรณไม้สำหรับสวนรูปแบบนี้นอกจากไม้ดอกหลากสีสันแล้ว เรายังสามารถเลือกใช้พรรณไม้ได้อีกหลายแบบ ดังนี้ 1. เลือกใช้ไม้ใบที่มีผิวสัมผัสละเอียด ปลูกผสมกับไม้ดอก เช่น ไอริสน้ำ โคลงเคลงเลื้อย สาหร่ายญี่ปุ่น เฟิน 2. เลือกใช้ไม้กระถางวางตกแต่งบนโต๊ะหรือแขวนตามผนัง เช่น แอฟริกันไวโอเลต เทียนฝรั่ง เพิ่มสีสันให้มุมต่างๆ หากมีกระถาง
ใบสวย ก็ใช้ตกแต่งแบบโชว์กระถางได้ด้วย 3. สามารถเก็บดอกไม้ป่าหรือดอกหญ้าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ไว้ได้ แต่ควรควบคุมไม่ให้ลุกลามและกำหนดพื้นที่เป็นส่วนๆ ไป ก็เป็นอีกพรรณไม้ที่ใช้ตกแต่งได้โดยไม่ต้องลงทุนมาก
8/24/11 12:26:44 PM
Warasan March22_8_54.indd 12
8/24/11 12:27:17 PM
Warasan March22_8_54.indd 13
8/24/11 12:27:23 PM
Plants Gossip
14
เรื่องและภาพ : โนเนม
“
ตามหาจำปีแหลมทอง :
จำปีชนิดใหม่ของไทย
ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจก่อนว่า จำปีชนิดใหม่ของไทย (new record) ที่ชื่อ “จำปีแหลมทอง” นั้น ไม่ ใช่จำปีชนิดใหม่ของโลก (new species) เนื่องจาก เคยพบมาแล้วในมาเลเซีย สำหรับเมืองไทยมีการสำรวจอย่างละเอียดในโครงการ สำรวจพรรณไม้ต้นภาคใต้ ก็พบ 3 ต้น ณ พื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าใน 3 จังหวัดภาคใต้ ที่เปรียบเสมือนเป็นด้ามขวานทองของไทย คือ สงขลา พังงา และชุมพร นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ จำปีแหลมทอง
ดอกของจำปีแหลมทอง
”
Mr. Simon Gardner เป็นผู้ค้นพบต้นและเก็บตัวอย่างแห้ง ส่วนผมร่วมเดินทางเข้าไปตรวจสอบซ้ำและร่วมจำแนกชื่อ โดยมี Dr. H.P. Nooteboom เป็นผู้ยืนยันว่ามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Magnolia koordersiana (Noot.) Figlar แต่ยังไม่มีการศึกษา ในเรื่องอื่น รวมทั้งยังไม่มีการศึกษาอย่างจริงจัง และการนำมา ทดลองปลูกเลี้ยงขยายพันธุ์ ข่าวการค้นพบจำปีชนิดใหม่แว่วผ่านหูนกั ล่าพันธุไ์ ม้ หลายคน เกาะติดสถานการณ์ชนิดตาไม่กะพริบ ในขณะที่หลายคนได้แต่ยืนมอง (แบบหมามองเครื่องบิน) เพราะเจ้าจำปีต้นนี้อยู่ในเขตอุทยาน ใกล้กับสำนักงาน ไม่รู้จะ (ขโมย) ได้อย่างไร ที่สำคัญคือ ต้นนี้สูงถึง 40 เมตร คุณทัศนารถ กระจ่างวุฒิ ได้รับอนุญาตให้เก็บกิ่งยอดเพื่อนำมาขยายพันธุ์และอนุรักษ์ พันธุ์ไว้ ซึ่งนับเป็นผู้มีความอุตสาหะล้นเหลือ ถึงขั้นไปจ้างนักปีนเขาด้วยค่าจ้างที่สูงลิ่ว นำอุปกรณ์ที่ทันสมัยมาปีน จนได้กิ่งยอดมาแล้ว แต่ประสบความล้มเหลวในเรื่องการ ขยายพันธุ์ ไม่ได้ต้นกล้าแม้แต่เพียงต้นเดียว เมื่อไม่นานมานี้ผมมีโอกาสลงไปพื้นที่แห่งนี้อีกครั้ง เมื่อมองไปที่ยอดแล้วก็ใจหาย มันสูงสง่าชนิดไม่เกรงใจใคร เด่นอยู่ต้นเดียว ผมก็เกิดความอยากได้กิ่งยอดมาขยายพันธุ์ เป็นกำลัง ถึงแม้ได้รับอนุญาตแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร พยายามถามหานักปีนเขาที่ คุณทัศนารถเคยจ้างก็ไม่อยู่ พยายามหาคนปีนเก่งในหมู่บ้านก็ไม่ได้อีกเช่นกัน เป็นความ โชคร้ายที่เราหานักปีนเขาไม่ได้ หลับตานึกภาพว่า ถ้าจะต้องเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดยไม่มีกิ่งยอดกลับมาด้วย คงนอนไม่หลับ (ไปจนถึงชาติหน้า) เมื่อตัดสินใจแล้วก็เดินทางเข้าเมือง หาซื้อเชือกพลร่ม แถบผ้ารัดเอว รัดขา เชือกไนล่อน ขนาดเล็ก และหนังสติ๊ก แล้วใช้ถุงพลาสติกหุ้มลูกกระสุนผูกติดกับเชือกไนล่อนที่เตรียมไว้ ก่อนจะใช้หนังสติ๊กยิงขึ้นไปคล้องกับโคนกิ่งใหญ่ เชือกไนล่อนมีความเบาและลื่น ถุงพลาสติก ที่ใส่ลูกกระสุนจึงเลื่อนลงมาสู่พื้นดินอย่างง่ายดาย จากนั้นจึงผูกเชือกพลร่ม และดึงปลาย ลงมาให้คร่อมกิ่ง แล้วปฏิบัติการปีนต้นจำปีแหลมทองก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากคนอื่นได้ มันจำเป็น แต่ทุกอย่างต้องปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ พลาดไม่ได้ ตกไม่ได้ ถ้าตก ตายลูกเดียว อ้าว! ถ้าตายลูกเดียวแล้วอีกลูกไปอยู่ไหน ไม่ตายด้วยหรือไง ทั้งๆ ที่ถูกขอร้องก็แล้ว ถูกห้ามก็แล้วว่า “อย่าทำ” แต่มันจำเป็น (สัญญาว่าครั้งต่อไปจะไม่ทำ) ปฏิบัติการครั้งนี้ ต้องท่องสุภาษิตฝรั่ง “slow but sure” ขยับตัวไปแต่ละกิ่งต้องค่อยๆ ถ่ายน้ำหนัก แล้วเลื่อนเชือกล็อค ตั้งมั่นที่ใหม่ได้แล้วจึงค่อยแก้ปมเก่า ขณะอยู่ข้างล่างที่โคนต้นมองไม่เห็นรังมดแดง เมื่อขึ้นไปแล้วจึงเห็นว่า มีอยู่นับสิบรัง ออกมายืนมองชะโงกดูเรา เหมือนกับว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิต
Warasan March22_8_54.indd 14
ผลงานจากความพยายามปีนต้นจำปีแหลมทอง เลยได้ทั้งดอกตูม ดอกบาน และผลอ่อน
ดอกจำปีแหลมทองที่เริ่มบาน
ผลอ่อนของจำปีแหลมทอง
8/24/11 12:27:26 PM
15 ประหลาด (เป็นสัตว์อะไรก็ไม่รู้ ไม่เคยเห็นมาก่อน) ยืนเกาะ ตามกิ่ง ชะเง้อมองดูเรากันเป็นแถว ต่างฝ่ายต่างหยุดนิ่ง มองดูตา ซึ่งกันและกัน ผมทำใจดีสู้มด (ไม่ใช่ใจดีสู้เสือ) สร้างกำลังใจด้วย การวอนขอความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่! ไม่เป็นผล สักพักเดียวเท่านั้น มดแดงที่ยืนเกาะอยู่ตามกิ่ง ต่างกรูกนั เข้ามาโจมตีผม ไม่เพียงเท่านัน้ มันยังไปชวนเอาพรรคพวก ที่ยังอยู่ในรังออกมาอีกด้วย ผมไม่มีเวลานับว่ามดแดง (ศัตรูของผม ในขณะนี้) ทั้งหมดมีจำนวนเท่าไร คิดแต่ว่าภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของชาติ เริ่มต้นแล้ว ผมจะต้องต่อสู้กับมดแดง (เพราะมันเริ่มกัดผมแล้ว) เพื่อนำกิ่งยอดของจำปีแหลมทองลงมาสำหรับนำไปขยายพันธุ์ และปลูกอนุรักษ์ตามแนวทางโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชให้จงได้ ผมพยายามฝ่าแนวต้านของแถวมดแดง ระลอกแล้ว ระลอกเล่า ไปจนถึงกิ่งยอด ไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะแกะมดแดงออกจากตัว แต่เมื่อผมโน้มกิ่งยอดเข้ามาหาตัว มันช่างโชคดีอะไรปานนั้น!!! เพราะกำลังอยู่ในช่วงดอกบาน มีทั้งดอกบานที่โรยแล้ว ดอกตูม เล็กๆ ดอกตูมที่กำลังจะแย้ม และมีดอกที่กำลังบาน รวมทั้งมี ผลอ่อนค่อนข้างใหญ่อยู่ด้วย แต่แล้วผมกลับมีเวลานั่งหัวร่องอหาย เพราะมันเป็นจำปีที่มีดอกเล็กที่สุดในโลกเท่าที่ผมเคยเห็นมา ดอกตูมมีความยาวเพียง 1.5 เซนติเมตร ดอกบานมีเส้นผ่าน- ศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร มันช่างเป็นการหัวร่อแบบปัจจุบันทันด่วน โดยไม่เคยมีประสบการณ์หัวร่อแบบนี้มาก่อน พร้อมรำพึงรำพัน (ให้ตัวเอง) ว่า นี่หรือคือจำปีชนิดใหม่ของไทย ที่ผมเฝ้าเพียรหา มาหลายปี
ไม่ทราบว่าหนึ่งในจำนวนมดแดงทั้งหมดนั้น ได้เคยทำเวรทำกรรมกับผมไว้แต่ชาติปางไหน เพราะขณะที่ผมกำลังสาละวน ดูกิ่งยอด ดูดอกอยู่นั้น มดแดงเจ้ากรรมได้ขึ้นไต่หัวผม ไต่หน้าผม กัดเข้าที่ลูกตาแล้วปัสสาวะใส่ โธ่เอ๋ย ขณะอยู่บนที่สูง มันเป็น ความทรมานที่บรรยายไม่ถูกเลย ไม่เป็นไร ผมบรรจงตัดกิ่งยอดแล้วโยนลงมาในทิศทางที่คาดว่า จะไม่ไปติดค้างกับกิ่งที่อยู่ข้างล่าง และพยายามทิ้งลงในจุดที่คาดว่า จะตกลงถึงพื้นได้นิ่มนวลที่สุด ให้กิ่งยอดมีความเสียหายน้อยที่สุด เรียกว่า อยากได้กิ่งยอดที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดเอามาขยายพันธุ์ ว่างั้นเถอะ และพิเศษสุดสำหรับกิ่งยอดที่มีดอกกำลังแย้มบาน สวยสง่า ที่สุดในต้นนั้น ผมบรรจงตัดแล้วอ้าปากคาบกิ่ง ไต่ลงมาโคนต้น เพื่อถ่ายรูป เมื่อลงมาถึงโคนต้น Miss Bine ลูกศิษย์ปริญญาเอกจากจีน ต้องรีบมาช่วยแกะมดแดงออกจากตัวผมในส่วนที่มองเห็นได้ นอกเสื้อผ้า เฉพาะส่วนที่อยู่ในเสื้อผ้า รวมทั้งเป้าหมายพิเศษที่ถูก โจมตี ผมต้องรีบไปแกะออกในห้องน้ำของอุทยาน และเมื่อผมกลับมาที่โคนต้นจำปีอีกครั้ง ลูกศิษย์ของผมกล่าวว่า I took many photos, you see, this is the biggest monkey. ไม่จำเป็นต้องบอกว่า “ผมคือใคร”
“
”
POPPER
วัสดุปลูกน้ำหนักเบา ผลิตจากดินเหนียวธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปน มีโพรงอากาศภายใน จึงน้ำหนักเบา อุ้มน้ำได้ดี เหมาะสำหรับปลูกไม้ดอกไม้ประดับ เช่น กล้วยไม้ สับปะรดสี อโกลนีมา ฟิโลเดนดรอน
ผลิตโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัดวิวรรณเทคโนโลยี 137 หมู่ 2 ตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ 50230 โทรศัพท์ 0-5336-8366, 08-6654-0490 โทรสาร 0-5336-8366
Warasan March22_8_54.indd 15
8/24/11 12:27:34 PM
16
New Comer ภาพ : เนาวรัตน์ ลี้อิสสระนุกูล
มารู้จัก “ม่วงภูพญา” กัน ฉบับนี้เป็นดอกไม้สีม่วงค่ะ หลายท่านพอได้เห็นภาพแล้วก็ต้องสงสัยว่า “ต้นศรีตรังนี่” ไม่ใช่เลยค่ะ แท้จริงแล้วไม้ต้นชนิดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Jacaranda mimosifolia D.Don แต่หนังสือ “ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย” ของ ศ. ดร.เต็ม สมิตินันทน์ ระบุว่าเป็นต้น “ศรีตรัง” เช่นเดียวกับ Jacaranda filicifolia (Anderson) D.Don ซึ่งเป็นไม้ที่นิยมปลูก เป็นไม้ประดับสวนกันมาก สำหรับต้นในภาพ คุณเนาวรัตน์ ลี้อิสสระนุกูล ผู้ให้ข้อมูลตั้งชื่อว่า “ม่วงภูพญา” ท่านเล่าว่า คุณถนอมศรี ศิริปัญโญ ได้เมล็ดมาจากเพื่อนชาวออสเตรเลีย จึงนำมาเพาะ และปลูกไว้ที่ภูพญารีสอร์ท อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย พร้อมกับแบ่งให้เพื่อนๆ นำมาปลูกที่กรุงเทพฯ หลายต้น พบว่าต้นที่ปลูกที่จังหวัดเลยให้ดอกดกเป็นช่อแน่น สีสด แข็งแรงกว่าต้นที่ปลูกในกรุงเทพฯ ที่ให้ดอกประปราย หลายท่านอาจสงสัยว่า ศรีตรัง (J. filicifolia) กับ “ม่วงภูพญา” (J. mimosifolia) แตกต่างกันอย่างไร คุณเนาวรัตน์เล่าให้ฟังว่า ม่วงภูพญา ต้นเป็นพุ่มกว้าง กิ่งก้านแตกแผ่กระจาย ลำต้นแข็งแรง ช่อดอกแน่นเป็นกระจุกกลม สีเข้ม ฝักขนาดใหญ่แข็งหนา เติบโตได้ดีในที่มีอากาศเย็น ขณะที่ ศรีตรังมีทรงพุ่มสูงคล้ายรูปกรวยคว่ำ กิ่งก้านเล็ก ช่อดอกบาง ดอกแผ่กระจาย และมีสีอ่อนกว่า เติบโตได้ดีในกรุงเทพฯ หากท่านใดอยากได้ต้นไปปลูก อดใจรอก่อนนะคะ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการขยายพันธุ์ค่ะ
Warasan March22_8_54.indd 16
ต้นม่วงภูพญา ที่ปลูกในภูพญารีสอร์ทจังหวัดเลย
8/24/11 12:27:41 PM
Q and A garden
ใบพรมญี่ปุ่นเน่า
17
เรื่องและภาพ : ธิวลักษณ์ บุนนาค
จะทำอย่างไรดี?
Episcia ‘Lil Lemon’
อยากขอคำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงพรมญี่ปุ่นด้วยค่ะ เพราะช่วงนี้ฝนตกติดต่อกันหลายวันทำให้ใบเน่า ต้นเน่าตาย ไปหลายต้น เพราะสีสัน ลวดลายของใบ และดอกที่สวยงามหลากหลาย จึงทำให้หลายคนตกหลุมรัก พรมญี่ปุ่นโดยไม่รู้ตัว
เมื่อนำพรมญี่ปุ่นหลายพันธุ์มาปลูกรวมกัน เหมือนลวดลายถักทอบนผืนพรม
พรมญี่ปุ่น (Episcia cupreata) หนึ่งในสมาชิกสกุล Episcia วงศ์ Gesneriaceae
มีชื่อสามัญว่า Frame Violet ใช้ปลูกเป็นไม้คลุมดินบริเวณที่มีร่มเงา เช่น ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือปลูกเป็นไม้กระถางแขวนให้ลำต้นทอดเลื้อยลงมา พรมญี่ปุ่นเป็นไม้เนื้ออ่อน อายุหลายปี มีลำต้นและใบอวบน้ำ ชอบแสงแดดช่วงเช้าถึงรำไร วัสดุปลูกระบายน้ำและ อากาศได้ดี ต้นที่จำหน่ายในท้องตลาดส่วนใหญ่ปลูกในดินผสมกับกาบมะพร้าวสับละเอียด Episcia ‘Pink Panther’ ดอกสีชมพู ชอบแสงรำไร บ้างก็นิยมใช้ดินใบก้ามปูผสมกับทรายหยาบ หรือใช้ขุยมะพร้าว พีตมอส ซึ่งวัสดุปลูก แต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ถ้าเป็นดินผสมกับกาบมะพร้าวสับ เมื่อปลูกไประยะหนึ่งดินจะเริ่มแน่น ส่งผลให้รากเน่าได้ง่าย อีกทั้งกาบมะพร้าวมักมีเชื้อราเกิดขึ้นได้ ง่าย ควรเปลี่ยนวัสดุปลูกใหม่ทุกปี ส่วนขุยมะพร้าวนิยมใช้เป็นวัสดุปักชำ เมื่อต้นแตกรากเติบโตดีแล้วต้องเปลี่ยนวัสดุปลูกใหม่ ถ้าทิ้งไว้นาน ขุยมะพร้าวจะมีค่าความเป็นกรดสูงอีกทั้งยังอุ้มน้ำมากจนแฉะ ส่งผลให้รากเน่าได้ สำหรับดินใบก้ามปูผสมทรายหยาบ เป็นวัสดุปลูกที่เหมาะกับพรมญี่ปุ่น เพราะนอกจากมีใบก้ามปูที่ให้ธาตุอาหารอย่างพอเพียงแล้ว ยังมีทรายที่ช่วยระบายน้ำได้ดี แต่ย่อยสลายเร็ว ควรหมั่นเติมวัสดุปลูกให้บ้าง ในขณะที่พีตมอสเป็นวัสดุปลูกที่สะอาดและอุ้มน้ำได้ดี แต่แห้งเร็ว จึงควรผสมเวอร์มิคูไลท์ เพิ่มบ้าง และเมื่อโดนน้ำเป็นเวลานานจะจับตัวเป็นก้อนแข็ง จนน้ำซึมผ่านไม่ได้ ควรผสมเพอร์ไลท์เพิ่ม จะช่วยให้วัสดุปลูกมีการระบายน้ำ ดีขึ้น ฤดูฝนที่มีฝนติดต่อกันหลายวัน จะพบโรคเน่าระบาดมาก สาเหตุสำคัญคือได้รับน้ำมากเกินไป ทำให้ใบอวบน้ำกว่าปกติ เม็ดฝน กระแทกลงบนแผ่นใบจึงบอบช้ำง่าย ไม่ทนต่อการเข้าทำลายของเชื้อสาเหตุ นอกจากนี้ถ้าเครื่องปลูกแฉะเกินไป จะทำให้รากพรมญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดเล็กเน่าง่าย วิธีแก้ ไขง่ายๆ หากพบอาการ ควรตัดส่วนที่เน่าออกเพื่อป้องกันการลุกลาม หากลุกลามมากควรใช้สารป้องกันและกำจัดเชื้อราฉีดพ่น ที่นิยมใช้กันมากคือ ออร์โทไซด์ (ชื่อสามัญ captan) นำมาผสมน้ำตามอัตราส่วนที่ระบุบนฉลากของผลิตภัณฑ์ ฉีดพ่นทุก 5-7 วัน และ หมั่นเปลี่ยนดินปลูกทุกปี พร้อมปรับสภาพพื้นที่ปลูกให้มีแสงแดดส่องถึง อากาศถ่ายเทสะดวก ตัดแต่งใบแก่ใบแห้งทิ้งบ้าง จะช่วยป้องกัน ปัญหานี้ได้ Episcia ‘Acajou’ สำหรับการขยายพันธุ์ทำได้ง่ายด้วยการปักชำยอดหรือไหลลงในวัสดุปลูก พรมน้ำให้ชุ่ม วางในที่มีแสงรำไร ถ้าเป็นช่วงฤดูฝน ไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน หรือรดแค่พอให้ดินชื้น อาจฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราบ้าง ถ้าปักชำในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน ควรนำกระถางที่ปักชำใส่ลงในถุงพลาสติกใส มัดปากถุงเพื่อควบคุม ความชื้นให้สม่ำเสมอ ตั้งไว้ในที่ร่ม มีแสงรำไร เช่น ใต้ร่มไม้ใหญ่ หรือในโรงเรือนที่พรางแสงด้วยซาแรน 60-70 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 2-3 สัปดาห์จะแตกรากใหม่ เมื่อต้นแข็งแรง ค่อยๆ เปิดถุงออกทีละนิดเพื่อรอให้ต้น ปรับตัว ประมาณ 1 สัปดาห์จึงย้ายออกจากถุงพลาสติก ตั้งไว้ในที่ได้รับแสงแดดยามเช้า อากาศ ถ่ายเทสะดวก ความชื้นสูง เมื่อรากเจริญดีพร้อมดูดซับสารอาหาร จึงเริ่มให้ปุ๋ยเม็ดละลายช้า รดน้ำเมื่อวัสดุปลูกแห้ง หลังจากนั้นพรมญี่ปุ่นจะออกดอกและใบที่สวยงามให้ท่านชมไม่รู้เบื่อเลยค่ะ
Warasan March22_8_54.indd 17
8/24/11 12:27:45 PM
Animals in Garden
18
เรื่องและภาพ : วิชญนันท์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ
อึ่งหลังขีด
Inornate Froglet
อึ่งหลังขีดเมื่อโตเต็มวัย
“
สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก (Amphibian) หรือที่คุ้นเคยกันมากกว่าในชื่อ “สัตว์ครึ่งบก ครึ่งน้ำ” ประกอบไปด้วย กบ เขียด ปาด อึ่งอ่าง คางคก และกลุ่มที่หน้าตาเหมือนสัตว์ เลื้อยคลาน (Reptile) อย่างเขียด งู และกะท่าง สัตว์พวกนี้ส่วนใหญ่ต้องผ่านขั้นตอน การเจริญเติบโตจากลูกอ๊อดที่อาศัยอยู่ ในน้ำ หายใจทางเหงือก และมีครีบสำหรับว่ายน้ำ มาเป็นตัวเต็มวัยที่หายใจทางปอดและใช้ชีวิตอยู่บนบกได้โดยสมบูรณ์ คนส่วนใหญ่อาจรู้สึก ขยะแขยงมากกว่าที่จะอยากให้พวกมันมาอยู่ ในรั้วบ้าน และน้อยคนนักที่จะเห็นคุณประโยชน์ ของการเป็นผู้ควบคุมประชากรแมลงในระบบนิเวศของสัตว์ที่แสนเปราะบางเหล่านี้
ฉบับนี้จึงขอแนะนำให้รู้จักกับอึ่งชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั่วไป เมื่อเอ่ยถึง “อึ่ง” ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัวคนส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้น อึ่งอ่างตัวอ้วนกลมที่พองตัวได้เหมือนลูกโป่งยามเข้าตาจน แท้จริง แล้วอึ่งส่วนใหญ่มีขนาดเล็กมาก แม้อึ่งอ่างจะเป็นอึ่งสามัญประจำ บ้านที่เราคุ้นเคยที่สุด เพราะมีขนาดใหญ่และสามารถปรับตัวให้ อาศัยอยู่ตามบ้านเรือนได้ แต่ในสนามหญ้าหรือแอ่งน้ำขังรอบๆ บ้านคุณนั้น ก็อาจมีอึ่งตัวเล็กตัวน้อยมากมายอาศัยอยู่ ชื่อของ “อึ่ง” ใช้เรียกสัตว์จำพวกกบที่มีหัวค่อนข้างกลมและ ปากมีขนาดเล็ก จัดอยู่ในวงศ์ Microhylidae หลังฝนตกเรามัก ได้ยินเสียงอึ่งตัวผู้แข่งกันส่งเสียงร้องระงมตามแหล่งน้ำเพื่อดึงดูด ตัวเมียมาผสมพันธุ์ เสียงร้องหวีดแหลมลากยาวเป็นจังหวะ คือ เอกลักษณ์เฉพาะตัวของอึ่งหลังขีด ที่บางครั้งก็เรียกว่า อึ่งหลังจุด หรือ อึง่ จิว๋ ลายจุด มีชอ่ื สามัญว่า Inornate Froglet (Micryletta inornata) แปลว่า ลูกกบขี้เหร่ ทั้งที่อึ่งชนิดนี้มีลวดลายตามตัว สวยงาม ความพิเศษอีกอย่างคือ ลวดลายมีความแปรผันสูงมาก อาจเรียกได้ว่าแต่ละตัวมีลายแทบจะไม่ซ้ำกันเลย อึ่งหลังขีดเป็นอึ่งขนาดค่อนข้างเล็ก มีความยาวลำตัวไม่เกิน 3.5 เซนติเมตร ผิวหนังเรียบ หลังมีปุ่มขรุขระเล็กน้อย สีสัน
Warasan March22_8_54.indd 18
ลูกอึ่งหลังขีดที่มีลำตัวสี น้ำตาลอ่อน
”
แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น มีตั้งแต่สีน้ำตาลอมเทาไปจนถึง สีส้ม ด้านล่างของลำตัวมีลายร่างแหสีดำบนพื้นสีอ่อน มักมีแถบ สีดำลากยาวตั้งแต่รูจมูกพาดดวงตาไปจรดแผ่นหู มันยังมีชื่อเรียก อื่นๆ ในภาษาอังกฤษอีกมากมาย เช่น Inornate Chorus Frog, False Ornate Narrow-mouthed Frog และ Deli Paddy Frog อึง่ ชนิดนีเ้ พศผูม้ ลี ำตัวผอมเพรียวและมีนว้ิ เท้ายาวกว่าเพศเมีย เช่นเดียวกับสัตว์จำพวกกบทั้งหลาย เนื่องจากเพศผู้ต้องเกาะ บนหลังเพศเมียในการผสมพันธุ์ ลูกอึ่งหลังขีดมีลักษณะคล้าย ลูกอึ่งอ่าง ลำตัวค่อนข้างกลมมน มีสีน้ำตาลอ่อนหรือสีเนื้อ ค่อนข้างโปร่งใส มักว่ายนิ่งๆอยู่กลางน้ำ สีสันเป็นสีน้ำตาลอมม่วง เมื่อลูกอ๊อดเติบโตเป็นอึ่งตัวน้อยและขึ้นจากน้ำ จะเริ่มมีสีสันและ ลวดลายคล้ายกับอึ่งตัวเต็มวัยมากขึ้น เช่นเดียวกับสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกอื่นๆ อึ่งชนิดนี้เป็น นักกำจัดแมลงตัวยง มันชอบซุกตัวอยู่ใต้ขอนไม้หรือกระถาง ต้นไม้ อาหารโปรดคือ มด ปลวก และแมลงขนาดเล็กต่างๆ พบได้ทั่วไปตามสวนดอกไม้ สนามหญ้า และชายป่าทั่วทุกภาค พบตั้งแต่ประเทศอินเดีย จีนตอนใต้ เรื่อยไปจนถึงอินโดนีเซีย สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกสามารถดูดซับน้ำและสารเคมีเข้าทาง
8/24/11 12:27:48 PM
19 ผิวหนังได้โดยตรง สารเคมีจากชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม จึงส่งผลให้สัตว์กลุ่มนี้หลายชนิดไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ต่อให้ไม่ตายก็มีร่างกายพิกลพิการ มีสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกไม่ต่ำกว่าร้อยชนิดที่สูญพันธุ์ไปในช่วงเวลาเพียงแค่ 10 ปี สวนที่ไม่พึ่งพายาฆ่าแมลงเท่านั้นที่จะมีอึ่งตัวเล็กน่ารักน่าเอ็นดูเหล่านี้ให้ดู แถมยังคอยกำจัด แมลงให้ฟรีๆ ไม่มีพิษภัยอีกด้วย
อึ่งหลังขีดกำลังออกไข่เป็นแพบนผิวน้ำ
Warasan March22_8_54.indd 19
8/24/11 12:27:52 PM
1
2
เฟินชายผ้าสีดา
โดย ภัทรา แสงดานุช ราคา 395 บาท
3
5
1
หลายท่านอาจเข้าใจว่าเฟินชายผ้าสีดา เป็นพืชที่เลี้ยงยาก แต่เมื่อมีผู้นำมาลองปลูกเลี้ยงเป็น ไม้ประดับกลับไม่ยากอยากที่คิด เพียงเข้าใจลักษณะวิสัย ของเฟินชายผ้าสีดาแต่ละชนิด ก็จะปลูกเลี้ยงได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ คุณภัทรา แสงดานุช ที่พยายามศึกษา วิธีการปลูกเลี้ยงเฟินชายผ้าสีดาจนประสบความสำเร็จ พร้อมกับเกิดแรงบันดาลใจในการทำหนังสือเล่มนี้ขึ้น แม้ว่าจะยากเพียงใดก็ตาม เพื่อหวังในผู้อ่านได้รับข้อมูล ที่ถูกต้อง มีประโยชน์อย่างแท้จริง หนังสือเล่มนี้จึงเป็น หนังสือที่ให้ข้อมูลเฟินชายผ้าสีดาที่สมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบัน
รู้ทันงานสร้างสวน
โดย ศักดา ประสานไทย ราคา 179 บาท
โดย สราวุธ สังข์แก้ว, อัจฉรา ตีระวัฒนานนท์ และ กิตติศักดิ์ จินดาวงศ์ ราคา 569 บาท
Inspired by the Resorts “หลากหลายไอเดียสร้างแรงบันดาลใจจากรีสอร์ทมาแต่งสวน”
2
โดย อิศรา แพงสี และอรรถ ประพันธ์วัฒนะ ราคา 395 บาท
ผู้เขียนทั้งสามท่านได้ร่วมกันศึกษาวิจัยเรื่องไผ่ อย่างจริงจังในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านพฤกษศาสตร์ และพืชสวน เพื่อให้ไผ่เป็นพรรณไม้ที่ทุกคนเห็นคุณค่า และนำมาใช้ประโยชน์กันมากขึ้นในอนาคต หนังสือ เล่มนี้รวบรวมข้อมูลไผ่ในทุกด้าน ตั้งแต่ประวัติ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ การปลูกเลี้ยงขยายพันธุ์ รวมถึง รวบรวมไผ่ที่มีปลูกในเมืองไทย ทั้งชนิดที่มีถิ่นกำเนิด ในเมืองไทย และนำเข้าจากต่างประเทศ มากกว่า 50 ชนิด นับเป็นหนังสือรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับไผ่ที่สมบูรณ์ ที่สุดในเมืองไทยที่มีอยู่ในขณะนี้
มือใหม่จัดสวนโมเดิร์น : Easy Modern Garden
4
หลายคนมักมองว่างานก่อสร้างในสวนเป็นเรื่องไกลตัว แต่หนังสือ เล่มนี้จะเป็นตัวช่วยให้เจ้าของบ้านเข้าใจงานก่อสร้างและฮาร์ดสเคป ในสวนได้ดีขึ้น ด้วยสำนวนการเขียนของ คุณศักดา ประสานไทย สถาปนิกผู้เข้าใจงานก่อสร้างเป็นอย่างดี เนื้อหาภายในเล่มเจาะลึก โครงสร้างต่างๆ ในสวน อาทิ บ่อน้ำ สะพาน ศาลา แผงบังตา ให้คุณคุยกับช่างได้ง่ายขึ้นเพื่อให้ได้งานที่ตรงใจ
ไผ่ในเมืองไทย
โดย อิสรา แพงสี ราคา 155 บาท
4
5
บ่อยครั้งที่นักออกแบบมักได้รับโจทย์จากเจ้าของบ้านว่า อยากให้ สวนมีบรรยากาศแบบรีสอร์ท ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่พวกเขาประทับใจ บางคนก็มีรูปแบบสวนในจินตนาการอยู่แล้ว แต่บางคนก็ยังไม่มีรูปแบบ ที่ชอบ หนังสือ “Inspired by the Resorts” เล่มนี้ รวบรวม ไอเดียดีที่คัดสรรจากสวนสวยในรีสอร์ทหลากสไตล์ หลายบรรยากาศ ทั้งภูเขา ริมฝั่งน้ำ และชายทะเล รวม 10 แห่ง เหมาะสำหรับผู้คิดจะจัดสวนสไตล์รีสอร์ท ลองพลิกหาไอเดียจากหนังสือก่อนคุยกับนักออกแบบ ก็จะช่วยให้สวนใหญ่ในบ้านดูไม่เวิ้งว้าง และสวยอย่างใจ เหมือนรีสอร์ทที่คุณประทับใจแน่นอน
3
มือใหม่ที่ชอบสวนโมเดิร์น ก่อนอื่นควรทำความเข้าใจรูปแบบ สวน พร้อมรวบรวมความต้องการของตนให้ชัดเจน ถ้าชอบความ สะดวกในการใช้งาน ดูแลรักษาน้อย สวนสไตล์นี้ก็ตอบโจทย์ คุณแล้วค่ะ เพียงศึกษาพรรณไม้ที่ชื่นชอบอีกสักนิด แล้วคุณก็จะได้สวนโมเดิร์นแบบที่ต้องการ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.amarinpocketbook.com หรือ สำนักพิมพ์บ้านและสวน วางจำหน่ายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
Warasan March22_8_54.indd 20
8/24/11 12:28:23 PM