ISSUE 12 Happiness is POWER !
ISSUE twelve : SEPTEMBER 2014
INTERVIEW WITH
?
Yumi Sakugawa Eyedropper Fill CEO BOOKS May&Clay ceramics AND BLA BLA BLA
WW IE V R E T
ITH
o n a Nag
s i s s e n i p p a ! H R E W O P u z a k Toyo
L SPECIA
FREE & ONLINE ONLY
IN
PIEEVERYDAY.com facebook.com/piemagazine2013
THANK FOR YOUR SUPPORT
2
3
EDITOR’S TALK สวัสดีครับ ตอนนี้ PIE มีหนังสือทำ�มือมาจำ�หน่ายแล้ว เย้ ขาย ของกันก่อนเลย ด้วยความชอบ Zine หรือหนังสือทำ�มือ อยากทำ�มานานแล้ว ในตอนนี้ก็เพิ่งจะมีโอกาสได้ทำ�จริงจัง หวังว่าทุกท่านจะช่วยอุดหนุนกันนะครับ ใครสนใจก็ติดต่อมา ทางข้อความของเพจเฟสบุ๊กได้เลย ส่วนใครที่ซื้อกันไปแล้วก็ กราบขอบคุณมากๆ เลยนะครับ มาเข้าเรื่องของช่วงนี้ ตอนนี้นอกจากการทำ�หนังสือทำ�มือ ซึ่งจะทยอยทำ�ออกมาเรื่อยๆ ผมก็อยากจัดกิจกรรมสัมมนา พูดคุยมากๆ มองหาช่องทางด้านต่างๆ ก็พอที่จะมีความ เป็นไปได้ ใครอยากจะมาแลกเปลี่ยนความรู้มุมมอง รอฟังข่าว ในเฟสบุค๊ กันนะครับ รับรองว่ากิจกรรมของ PIE การันตีคณ ุ ภาพ แน่นอนครับ มาถึงเรื่องในฉบับนี้ ผมมีศิลปินคุณภาพทั้งไทย และเทศมานำ�เสนอเช่นเคย และทางเราก็พยายามที่จะหานัก สร้างสรรค์คุณภาพมาพูดคุยเพื่อผู้อ่านเสมอ แม้หลายคน อาจจะไม่คุ้นชื่อคุ้นหน้าเท่าไหร่ แต่ขอให้ผู้อ่านได้ลองเจียดเวลา อ่านมุมมองของพวกเขาดูสักนิด รับรองว่าต้องได้อะไรดีๆ แน่นอน จุดประสงค์ของ PIE คือการนำ�เสนอนักสร้างสรรค์ ที่ทำ�งานที่ตนเองรัก ด้วยความใส่ใจและทุ่มเท เพราะฉะนั้นมั่นใจ ได้วา่ คนทีเ่ รานำ�เสนอแม้ไม่มชี อื่ เสียงมากมายแต่ผลงานเด็ดดวง แน่นอน ฝากไว้ดว้ ยนะครับสำ�หรับหนังสือทำ�มือของ PIE รวมถึง กิจกรรมที่อาจจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ รวมถึงฝากผู้อ่านทุกท่านอ่าน PIE online magazine กันไปเรื่อยๆ นะครับ...เรามั่นใจว่า ความคิดสร้างสรรค์ไม่มีวันตาย ไว้เจอกันโอกาสหน้าครับ สุรเชษฐ์ ศิลปบรรเลง PIE MAKER
4
SPRINKLE DRINKING WATER RED DOT AWARD 2014 : BEST OF THE BEST PACKAGING DESIGN
รางวัล Red Dot Award 2014: Best of the best packaging design เป็นอีกหนึ่งความสำ�เร็จล่าสุด ยืนยันถึงความสะอาด สดชื่น และความรู้สึกพิเศษสุดของน้ำ�ดื่ม Sprinkle ที่ได้ส่งมอบให้กับลูกค้า ทุกคน Red Dot Award เป็นรางวัลการออกแบบที่มีชื่อเสียงที่สุดในระดับ โลก ก่อตั้งโดยสถาบัน Design Zentrum Nordrhein Westfalen ประเทศเยอรมนี มอบรางวัลนี้ให้กับนักออกแบบ ที่มีผลงานโดดเด่นและ แบรนด์สินค้าชั้นนำ�จากทั่วโลก น้ำ�ดื่ม Sprinkle ได้นำ�แรงบันดาลใจจากผลึกน้ำ�แข็งที่สดใสราวเพชร สื่อถึงความสดชื่น พร้อมกับความหรูหรา และด้วยจุดยืนของน้ำ�ดื่ม Sprinkle ที่นอกจากสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ เรายังใส่ใจและ พิถพี ถิ นั ในการออกแบบทุกรายละเอียด เพือ่ นำ�เสนอสิง่ ทีด่ ที ส่ี ดุ ให้เข้าไป สู่หัวใจของลูกค้าทุกคน
5
CONTENTS Yumi Sakugawa comic artist AND illustrator
“HAPPINESS IS POWER” 6
CEO BOOKS
ISSUE # I2
PIE ONLINE MAGAZINE Benjarat Aiemrat PIE SHOW
Eyedropper Fill
May & Clay ceramics studio
PIE ONLINE MAGAZINE 100/99 ChaiyaPruk Village, soi 55 Sukapibal 5 road, O-ngoen, saimai, bangkok, thailand , 10220
7
Toyokazu Nagano photographer
tel : 08 0233 5492 E-MAIL : pieonlinemag@gmail.com pieeveryday.com facebook.com/piemagazine2013 IG : PIEONLINEMAGZINE
PIE UPDATES
The Barisieur Coffee Making Alarm Clock ยามเช้าแสนสบายใครเล่าจะอยากลุก จากเตียง ก็ตอนนี้เขามีนวัตกรรมใหม่ที่ ออกแบบโดย Joshua Renouf ที่ให้คุณ ตื่นมาพร้อมกับกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นแถม ได้จิบกาแฟอร่อยๆ รับเช้าวันใหม่ได้บน เตียงแบบสบายใจด้วย The Barisieur นาฬิกาชงกาแฟสุดล้ำ� ที่เตรียมกันง่ายๆ แค่เทกาแฟ นม น้ำ�ตาล ใส่เครื่องไว้ก่อน เข้านอน แล้วอย่าลืมตั้งปลุกด้วยล่ะ เพียงเท่านี้ยามเช้าก็กลายเป็นสวรรค์ของ คุณ แต่อย่าเผลอหลับต่อเชียวนะ
8
Drawing with Ball เห็นแล้วก็อดสนุกด้วยไม่ได้จริงๆ ก็ Mathery Studio เขาทำ�โปรเจกต์ ‘Pastello-Draw Act’ สร้างพื้นที่อินเตอร์แอคทีฟให้กับเด็กๆ ได้สร้างสรรค์ ผลงานศิลปะด้วยตนเอง แต่มีแค่กระดาษดินสอก็ดูจะธรรมดาเกินไป เพราะเขาใช้ ดินสอสีทรงกลมขนาดยักษ์ตดิ ตัง้ ได้หลากหลายแบบ ทัง้ รองเท้าสเกตช์ หมวกกันน็อก ร้อยเชือกติดผนังให้เด็กๆ ได้สนุกไปกับจินตนาการกับกำ�แพงสีขาวใหญ่ยักษ์ให้ละเลง สีวาดเล่นอย่างจุใจ กิจกรรมสนุกๆ นี้ จัดขึ้นที่ National Gallery of Victoria ในออสเตรเลีย เห็นแบบนี้แล้วอยากลงไปเล่นด้วยจัง
9
Plant and recycle glasses นักออกแบบและศิ ล ปินชาวโปแลนด์ Alicja Patanowska สร้างสรรค์ คอลเล็กชั่นผลงานจากแก้วน้ำ�ใบน้อย และต้นไม่จิ๋ว จากการที่เธอเจอแก้วน้ำ� ที่ถูกทิ้งอยู่ตามที่ต่างๆ ในลอนดอน จึงอยากนำ�กลับมาใช้ใหม่ โดยนำ�เอา กระถางเซรามิกที่มีขนาดเล็กกว่านำ�มา ใส่และปลุกต้นไม้ไว้ได้อย่างน่ารัก ซึ่ง สามารถมองเห็นการเจริญเติบโตทั้งต้น และราก โดยผ่านแก้วใส ผลงานนี้ของ เธอยังได้รับรางวัลชนะเลิศ Charlotte Frazer Award จาก London’s Royal College of Art อีกด้วย
10
Toilet Human Waste & Earth’s Future อุจจาระใครคิดว่าไม่สำ�คัญ แต่ที่รู้ๆ ทางญี่ปุ่น เขาให้ความสำ�คัญแน่นอน ไม่งั้นเขาไม่จัดงาน “Toilet!? - Human Waste & Earth’s Future” หรอกครับ งานนี้เป็นงานนิทรรศการ ที่เน้นในเรื่องการขับถ่ายกันเลยเรียกว่า อี้ เต็ม งาน มีส้วมร้องเพลง ลักษณะของอี้ในแบบ ต่างๆ ตัวมาสคอตในงานยังมีหัวเป็นอี้เลย นอกจากเรื่องความรู้ความเข้าใจในเรื่องสุขภาพ และเทคโนโลยีด้านอี้ๆ แล้ว ยังมีจุดเด็ดห้าม พลาดที่ให้ผู้เข้าชมลองมาเป็น “อี้” ดูกันเลย โดยการสวมหมวกน่ารักรูปทรงอี้และกระโดด ลงไปในโถส้วมยักษ์ เพื่อให้เรียนรู้การทำ�งาน ของส้วมด้วยตนเองกันเอง เห็นความใส่ใจและ สร้างสรรค์แบบนี้รู้สึกปวดอี้ เอ๊ย รู้สึกประทับใจ มากๆ ครับ
11
Sleeed chairs เวลามีการประชุม สัมนา หรือกิจกรรม การ เก็บโต๊ะเก้าอี้ตอนจบงานเป็นอะไรที่เหนื่อยพอตัว เลยใช่ไหม แต่ Sleeed Chairs จะทำ�ให้ทุก อย่างง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบที่ง่ายต่อการ เก็บ ในแบบสไลต์เลื่อนเข้าหากัน ออกแบบโดย Centimeter Studio เก้าอีกเก็บง่ายสัญชาติ เกาหลี สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเนื้อที่ จะ เป็นเด็กน้อยหรือสาวร่างบอบบางก็ช่วยงานได้ แบบสบายๆ แถมประหยัดแรงและเวลาอีกด้วย ติดตามได้ที่ http://sleeed.com
12
TREND 2015 BY TCDC FREE DOWNLOAD ชวนนักออกแบบทั้งหลายมาเจาะลึกเทรนด์และแฟชั่นในปี 2015 กันกับ ebook “เจาะเทรนด์โลก 2015 โดย TCDC: แฟชั่น วัสดุ เทคโนโลยี สี พื้นที่ ไลฟ์สไตล์” ที่อัดแน่นทั้ง ภาพและเนื้อหาทางการออกแบบเช่น Mood & Tone ใน ปีหน้า แนวคิดด้านองค์ประกอบและสีสัน การพัฒนาและ ต่อยอด ต้นทุนทางวัฒนธรรมของเรา และอีกหลายมุมมอง ในการออกแบบ อ่านได้ทั้งนักออกแบบ นักการตลาด นัก บริหารแบรนด์ นักจัดซื้อ นักบริหารจัดการสินค้า ผู้ผลิต ผู้นำ�เข้าและส่งออก ฯลฯ ไปจนถึงผู้ประกอบการในทุก แวดวงธุรกิจ แถมยังอ่านได้ฟรีด้วย ของเขาดีจริงๆ หาโหลดกันได้ที่ www.tcdc.or.th
13
Miss Well-Come From This Means That This Means That studio เป็นสตูดิโอที่ทำ�งานด้านงานปฎิมากรรมร่วมสมัย (Contemporary Object) ก่อตั้งโดย ธันย์ชนก ยาวิลาศ (Communication Designer) เเละ ปัญจพล กุลปภังกร (Contemporary Jewellery Artist) โดยมีความสนใจที่จะเล่นเเละทดลองเรื่องราวต่างๆ ผ่านสิ่งที่คุ้นตา เเต่มีการเปลี่ยนเเปลง ของบริบทโดยรอบ ทำ�ให้เกิดเป็นความหมายใหม่ในเชิงการทดลอง โดยทาง This Means That ได้ปล่อยผลงาน ตัวแรกคือ Miss Well-Come หรือนางกวัก ในครัง้ นีท้ ง้ั สองได้รว่ มงานกับศิลปินประติมากรรม สมศักดิ์ แต่งผล ภายใต้แนวความคิด Welcome ผลงานชิ้นนี้มีทั้งความเก๋ไก๋สวยงามพร้อมทั้งสะท้อนความเชื่อและวัฒนธรรมในบ้านเราออกมาได้อย่างน่าสนใจ มากๆ ให้ทั้งความเป็นประติมากรรมแบบงานศิลปินและเป็นของตกแต่งดีไซน์สวยไปในเวลาเดียวกัน แถมเป็นงาน ดีไซน์ที่มีความใกล้ชิดกับความเป็นไทยมากๆ ถ้าใครสนใจอยากมี Miss Well-Come ไปไว้ในร้านรวง ติดตาม ได้ที่ facebook.com/thismeansthat
14
15
16
Mother @ HOUSE RCA ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นส่วนผสมระหว่างนิยายและสารคดี ที่ถ่ายทอดความสัมพันธ์ใน ครอบครัวของตัวผู้กำ�กับ (วรกร ฤทัยวาณิชกุล) ในช่วงเหตุการณ์วิกฤติทางการเงินปี 1997 หรือที่เรารู้จักกันดีว่า วิกฤติต้มยำ�กุ้ง ครอบครัวของเขาก็เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่พบ เจอกับปัญหามากมายในช่วงนั้น อย่างเช่นแม่ที่พยายามจะฆ่าตัวตายแต่ไม่สำ�เร็จ ภาพยนตร์ เรื่องนี้กำ�ลังอธิบายสังคมไทย ภาพสถาบันที่เล็กที่สุดนั้นคือสถาบันครอบครัว และตั้งคำ�ถาม ว่าครอบครัวไทยคืออะไร ความซับซ้อนของมันคืออะไร วิธีที่สมาชิกแต่ละคนจัดการกับโลก ภายนอก และภายในมีอะไรบ้าง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ไปฉายในเทศกาลหนังต่างประเทศ Vancouver Film Festival ประเทศ Canada มาแล้วด้วย : Mother จะเริ่ม ฉายที่โรงหนัง House Rama RCA ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายนเป็นต้นไป อย่าให้ผู้กำ�กับไทย ต้องเดียวดายนะครับ ติดตามได้ที่ www.facebook.com/houseRCA
17
Jelly Rocket เห็นวงสามสาว Jelly Rocket วงนี้ ใครๆ ก็พูดถึง ยิ่งเจอชื่อวง โผล่ไปตามงานอีเว้นต์เก๋ๆ อยู่บ่อยๆ เลยต้องแอบไปฟังเพลงเขาดู สักหน่อย ปรากฏว่ากรี๊ดเลยทีเดียว จากซิงเกิ้ลแรก How Long เพลงพ๊อพร็อคที่มีซาวด์อิเล็กทรอนิกส์หวานหู แต่ที่หวานกว่าคือเสียง นักร้องนำ� นลพรรณ อัมพุช (ปั้น) แถมมีกีตาร์แบบร็อกๆ แอบมาด้วย สมชื่อ Jelly Rocket ที่มีทั้งความนุ่มนวลน่ารัก และความแรงอยู่ ในชื่อ ยิ่งมาฟังเพลงจากโปรเจกต์ Converse Rubber Tracks เพลง Stay ยิ่งชอบ เพลงนี้กลิ่นดรีมพ๊อพติดวินเทจ น่ารักมาก สมาชิกวง Jelly Rocket ประกอบด้วย นลพรรณ อัมพุช (ปั้น) Vocal / จุฑาภัคธ ตั้งไพบูลเวชกิจ (ภัคธ) - Keyboard / ชุติกาญจน์ อิสสระเสรี (โม) - Guitar เห็นได้ข่าวมาว่าทางวง Jelly Rocket จะมีอีพีอัลบั้มออกมาเร็วๆ นี้ด้วย ใครชื่นชอบดนตรี ซินธ์พ๊อพที่เสียงกีตาร์ร็อกบางๆ รับรองต้องชอบครับ ติดตามได้ที่ www.facebook.com/JELLYROCKET ติดตามข่าวไปดูพวกเธอ เล่นสดกันรับรองไม่ผิดหวังครับ
18
ฮาริกึ่ม ซาโบ้ย
Hariguem Zaboy ( ) ชื่อวงอ่านยากจริงๆ สำ�หรับน้องใหม่แห่งค่าย Panda Records วงนี้ หาก ใครอยากล้างหูจากเพลงพ๊อพทั่วไปลองมาฟังซาวด์ noise ชูเกสเท่ๆ กันดู แต่อย่าเห็นว่าวงชื่อแปลกทำ�เพลงชูเกสแล้วจะต้องฟังยากลำ�บากหูนะครับ อย่าง เพลง Tender Mind นี่ลื่นหูสวยงามมาเลย หรือเพลง Anybody Feels ที่แม้ซาวด์ดนตรีจะฟุ้งครอบคลุมเหมือนหมอกลงจัด แต่จังหวะของเพลงก็ยัง สนุกสนานครับ สมาชิกวงนีม้ สี ค่ี นคือ รังสิมนั ตุ์ สุวริ ตั นภัส (จ้า) กีตา้ ร์,ร้องนำ� / ณป่าน พิชยั กุล (ป่าน) กีตา้ ร์ / รัตนพงษ์ พุม่ ลอยฟ้า (เบนซ์) เบส / กรรณตนพ ตันเจริญ (กอล์ฟ) กลอง ตอนนี้ทางวงมีอัลบั้มแรกออกมาแล้วในชื่อ Thick Mink ใครเป็นแฟนวงชูเกสยุค ‘90 อย่าง My Bloody Valentine หรือชอบฟังเพลงอินดี้ร็อกเท่ๆ ไม่ควรพลาด ติดตามที่ facebook.com/ hariguemzaboyband
19
Hope the flowers Hope the flowers คือ งานเดีย่ วของ ฮอน-ณรงค์ฤทธิ์ อิทธิพลนาวากุล ครั้งแรกที่เขาคิดทำ�โปรเจกต์นี้ขึ้นมา เพราะชื่นชอบหลงใหลในความสวยงาม ของดอกซากุระ และหิมะที่ล่วงหล่นลงมา เวลาได้ดูในภาพยนตร์ หรือภาพ ต่างๆ เลยรู้สึกจินตนาการไปว่าถ้าเราทำ�เพลงขึ้นมา อยากให้คนที่ได้ฟัง เหมือนได้กลิ่นไอความเป็นญี่ปุ่น เอเชียไปด้วย นี่คือจุดเริ่มต้นของ Hope the flowers และอัลบั้ม NatUre of Everything เพลงของ Hope the flowers เป็นแนว post rock และเพลงบรรเลงแบบ Instrumental โดยเปิดจินตนาการและอารมณ์ของคนฟังให้บินไปสู่ ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ บอกเลยว่าหาฟังได้ยากในบ้านเรา ส่วนตัวชอบเพลง I can’t be on earth และ Sun is godless ที่เมโลดี้ตอนขึ้นมี อารมณ์แบบเอเชียอย่างบอกไม่ถูก ฟังไปเรื่อยๆ เหมือนถูกดนตรีชำ�ระล้าง จิตใจแบบดนตรีบ�ำ บัดเหมือนกัน แต่ในเพลงทีเ่ บาสบายตามสไตล์ post rock ก็ตอ้ งมีจงั หวะดนตรีทห่ี นักแน่นแทรกมาด้วยแน่นอน ไม่ใช่ฟงั แล้วหลับนะ ลอง หาฟังกันดูนะครับหรือติดตามที่ facebook.com/HopeTheFlowers
20
D R HA E SAL N O I T SEC
NOT NEW NOT EVER
หนังสือทำ�มือหรือ Zine จากพวกเรา PIE online magazine เป็นหนังสือมือแบบภาพการ์ตูนหรือ Comic Zine หนังสือมีขนาด A5 จำ�นวน 44 หน้า แถมโปสเตอร์ ขนาด A3 สองแผ่น และ flyer 1 แผ่น ในราคาชุดละ 250 บาท (รวมค่าส่งเป็น 290 บาท) ทำ�มือเกือบทุกขั้นตอน ใครสนใจสั่ง ได้ที่ข้อความเพจ facebook.com/piemagazine2013 หรือจะซื้อที่ร้านน้องท่าพระจันทร์และร้านหนังสือ CEO books สุขุมวิท 49 ก็ได้นะครับ สินค้ามีจำ�นวนจำ�กัดนะครับ
ORDER PIE ZINE : facebook.com/piemagazine2013
21
PIE INTER
Yumi Sakugawa PIE เล่มนี้เราขอสัมภาษณ์ศิลปินต่างชาติสองคน ติดเลย เนือ่ งมาจากตัวผมกำ�ลังบ้าการทำ�หนังสือ ทำ�มือโดยเฉพาะแนวการ์ตูนหรือ Comic Zine จึงท่องเว็บหาหนังสือทำ�มือและลายเส้นสวยๆ ดู ฆ่าเวลาเฉไฉไม่ทำ�งานไปเรื่อยๆ จนมาเจอคุณ ยูมิ ซาคุกาวะ ศิลปินชื่อญี่ปุ่นแต่ตัวอยู่อเมริกา งาน การ์ตูนของเธอมีเสน่ห์จนผมต้องส่งข้อความไป ขอพูดคุยด้วยสักนิด เพื่อเป็นวิทยาทานกับตัวเอง และเพือ่ เอางานการ์ตนู น่ารักๆ ของเธอมาให้ผอู้ า่ น ทุกท่านด้วย
22
23
PIE : แนะนำ�ตัวเองหน่อยครับ
ฉันชื่อ ยูมิ ซาคุกาวะ ฉันเป็นนักวาดการ์ตูน และนักวาดภาพประกอบอยู่แถวแคลิฟอร์เนีย ใต้ ใกล้ๆ กับลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ฉันเรียนศิลปะที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (UCLA) เป็นลูกครึ่ง ญี่ปุ่นอเมริกัน
PIE : ทำ�ไมถึงชอบการวาดการ์ตูนครับ
ฉันชอบทีจ่ ะใช้สมองทัง้ ในด้านการวาด การเขียน ฉันรักมันทั้งคู่เลย ฉันนึกไม่ออกเลยถ้าต้องวาด หรือเขียนเรื่องเพียงอย่างเดียว และฉันยังชอบ อิสระของการสร้างเรื่องราวที่ใช้เพียงแค่หมึกและ กระดาษ รวมถึงชอบเวลาที่งานของฉันถูกเผย แพร่ออกไปทางอินเตอร์เน็ตหรือทำ�สิ่งพิมพ์อื่นๆ 24
PIE : อะไรเป็นแรงบันดาลใจในงานของคุณ
ฉันว่าน่าจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของอดีตและปัจจุบัน เรื่องเกี่ยวกับ ความทรงจำ�ที่ชัดเจน เมื่อตอนที่ฉันเรียนอยู่ไฮสคูลและมหาวิทยาลัย ฉัน ได้ฝึกการทำ�สมาธิด้วย สิ่งนี้ก็มีผลกับงานของฉันมากทีเดียว โดยรวมๆ แรงบันดาลใจของฉันน่าจะเป็นเรื่อง จิตวิญญาณ ความเป็นตัวเองและ ครอบครัว ตัวละครในการ์ตูนของฉันก็มีความเป็นตัวฉันในแต่ละส่วน แตกต่างกันไป 25
PIE : เห็นคุณสนใจเรื่องหนังสือทำ�มือด้วย (Zine)
ใช่ หนังสือทำ�มือมันให้อิสระกับงานของฉัน ทั้งการเล่าเรื่องและวิธี การทำ� โดยไม่ตอ้ งผ่านสำ�นักพิมพ์ใดๆ หรือจากคนอืน่ มันน่าตืน่ เต้น เมื่อฉันได้ไปเจอสังคมที่ทำ�หนังสือกันเอง แม้หนังสือทำ�มือจะไม่ทำ� เงินมากนักแต่ทฉ่ี นั และหลายคนทำ� เพราะมันเป็นเรือ่ งของการแบ่งปัน เรื่องราวและความคิดของพวกเรา 26
PIE : ในงานการ์ตูนของคุณ อะไรยากกว่ากัน ระหว่างการวาดหรือการเขียนเรื่อง
ไม่ใช่ในทางโรแมนติกนะ มันเป็นมิตรภาพที่ฉัน เจอมันตอนช่วงอายุยี่สิบต้นๆ ส่วนตัวการ์ตูนใน ฉันคิดว่าการวาดยากกว่านะ ขนาดตอนนี้ฉันยัง เรื่องอย่างมอนสเตอร์ตาเดียว ฉันเองก็ไม่แน่ใจ ไม่รู้วิธีวาดรูปในรถยนตร์ ในความทรงจำ�ของฉัน ว่ามันเป็นตัวผู้หรือตัวเมียนะ คือฉันชอบให้ เธอ เลย ส่วนเรื่องการเขียนเรื่อง ฉันจะร่างโครงเรื่อง หรือเขาพวกนั้นเป็นหุ่นยนตร์ มนุษย์ต่างดาว หรือ ไว้หลายๆ แบบ และฉันจะโอเคก็ต่อเมื่อ เรื่องนั้น มนุษย์อวกาศ พวกเขาไม่มีชื่อ ไม่มีเพศหรืออายุ มันทำ�ให้ฉันประหลาดใจและรู้สึกท้าทายที่จะวาด พวกเขาจะเป็นยังไงก็ได้ที่คุณจะอยากให้เป็น PIE : ผลงาน I THINK I AM IN FRIENDLOVE WITH YOU เกี่ยวกับอะไร
PIE : และผลงานอีกชิน้ คือ YOUR ILLUSTRATED GUIDE TO BECOMING ONE WITH THE UNIVERSE
I THINK I AM IN FRIEND-LOVE WITH YOU เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนๆ หนึ่งที่ฉันชื่นชมมากๆ แต่ เล่นนี้เป็นเรื่องของการทำ�สมาธิ การใช้สติค้นหา 27
ความสงบที่อยู่ภายในและค้นหาจุดประสงค์แท้จริง ของการมีชีวิต มันเป็นเกี่ยวกับการขยายการเต้นของ หัวใจ และความคิดของคุณเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกตัวคุณ PIE : อะไรเป็นปัญหาใหญ่ในการทำ�งานของคุณ
มันยากเสมอแหละ ถ้าเราต้องการค้นหาไอเดียใหม่ๆ
28
PIE : คุณมีศิลปินหรือ ผลงานที่ชอบไหม
ฉันชอบ The Giving Tree ของ Shel Silverstein
PIE : คุณมีงานอดิเรกอะไร
ฉันไม่มีงานอดิเรกอะไรจริงจัง นอกจากการวาดการ์ตูนนะ ก็อาจจะอ่านหนังสือ และก็ดู หนังบ้าง
29
PIE : แผนในอนาคตครับ
ก็อยากทำ�การ์ตูนของฉันให้มากขึ้น ใน อนาคตฉันก็อยากเห็นงานและเรื่องที่ฉัน เล่าไปอยู่ในสื่ออื่นๆ อย่างวิดีโอเกมส์ ภาพยนตร์ หรือกระทั่งในทีวีโชว์
30
31
PIE : คิดถึงตัวคุณเองตอนอายุห้าสิบปี คุณว่าคุณจะเป็นยังไง
ฉันเห็นตัวเองกำ�ลังสวมใส่เครือ่ งประดับหน้าตาประหลาดๆ ใส่แว่นตา กันแดดขนาดใหญ่และเดินเล่นกับสุนขั ฉันหวังว่า ฉันจะอาศัยอยู่ในบ้าน ที่ได้รับแสงอาทิตย์มากพอและยังคงรู้สึกตื่นเต้นกับชีวิต 32
PIE : คุณเป็นคนโรแมนติกไหม
facebook.com/yumiverse twitter.com/yumisakugawa yumisakugawa.com acrosstheyumiverse.tumblr.com
แน่นอน !
33
PIE TALK
34
35
เดินตามหาร้านหนังสือแถวซอยสุขุมวิท 49 อยู่พักใหญ่ ได้ยินมาว่าร้านนี้มีทั้ง นิตยสารและหนังสือทำ�มือสวยๆ หายากเพียบ แต่เดินหาหน้าร้านก็ไม่เจอสักที โทรเข้าไปถามถึงรู้ว่า ร้านหนังสือร้านนี้เขาต้องโทรไปหาแล้วเจ้าของร้านถึงจะ ลงมารับ แค่วิธีการเข้าร้านก็แปลกแล้วหนังสือในร้านไม่ต้องพูดถึง อย่าว่าแต่ รูจ้ กั เลยครับ ชือ่ หนังสือบ้างเล่มยังอ่านไม่ออกเลย (หรือเราอ่านไม่ออกคนเดียว) วันนี้เราจะมาคุยกับคุณบอม ผู้มีตำ�แหน่ง CEO แห่งร้านหนังสือ CEO BOOKS ร้านหนังสือหายากที่ขายหนังสือหายากกัน
PIE : ชื่อร้าน
คำ�ว่า CEO มันก็คือคำ�ว่าบอส หัวหน้า มัน เป็นคำ�ที่ความหมายไม่เปลี่ยนแปลงไปตามสมัย ผมอยากได้คำ�แบบนี้ แล้วชื่อ CEO นี่ ยังเป็น ชื่อของบอมเองด้วย ที่มาของมันคือผมไปเรียน ที่ออสเตรเลีย แล้วก็เป็นปกติที่เด็กเอเชียต้อง ถูกตั้งชื่อใหม่จากเพื่อนๆ ให้เรียกง่ายขึ้น ชื่อ ที่ผมใช้ตอนอยู่ที่โน่นคือ Chris EO ซึ่งย่อมาก็ จะเป็นเป็น CEO ชื่อร้านก็เลยกลายเป็นทั้งชื่อ ที่มีความหมายและเป็นชื่อของผมเองด้วย มันก็ เหมือนการตั้งชื่อน้ำ�พริกว่า “แม่ประนอม” PIE : อยู่ที่โน่นเรียนด้านไหน
ผมเรียนทางด้านกราฟฟิกดีไซน์มาครับ แต่ ความสนใจของผมมันต่างจากกราฟฟิกดีไซเนอร์ ที่เขาเป็นกัน ผมจะชอบไปทางงานอาร์ต งาน ทดลอง ที่กล้าท้าทายกับคำ�ถามในใจคนกับ ความคิด ตั้งคำ�ถามกับสังคมหรือตัวเราเอง ก็ได้ เพราะตั้งแต่อยู่ไฮสคูลผมเริ่มได้ไปคุยและ
ไปช่วยงานให้กับศิลปินหลายคนมาตั้งแต่ก่อน เข้ามหาวิทยาลัย ความคิดลักษณะแบบนี้มัน เลยติดตัวเราไปด้วย หลังจากที่จบมาผมไม่เคย ทำ�งานประจำ�เลยนะ แต่ผมไปขอฝึกงานกับที่ ต่างๆ เยอะมาก ในหลากหลายสาขาอาชีพด้วย แต่จริงๆ ผมก็สนใจงานกราฟฟิกนะ แต่จะเป็น ดีไซเนอร์หรือศิลปินที่ทำ�งานอยู่นอกกระแสหลัก เขาจะเรียกว่า Critical Graphic Design หรือ พวก Speculative PIE : คือยังไง Speculative
มันคล้ายๆ การตั้งคำ�ถามกับกระแสหลักหรือ กับสิ่งที่คนส่วนใหญ่เขาทำ�กัน จริงๆ มีอยู่ใน วงการศิลปะทุกแขนงนะ เป็นพวกที่จะคอยจี้จุด ประมาณว่า พวกคุณจะไม่ลองคิดแบบอืน่ บ้างเหรอ พวกคุณทำ�แต่อะไรเดิมๆ หรือเปล่า เหมือนเป็น คนที่กวนกระแส เป็นการประท้วงทางความคิด เขาจะแย้งหรือตั้งคำ�ถามกับเทรนด์ในตอนนั้นๆ แต่ในวงการกราฟฟิกดีไซน์อาจจะยังมีไม่เยอะ 36
37
38
เท่าไหร่ ในส่วนของนิตยสารหรือหนังสือ คนที่ทำ�งาน แบบนี้ก็เป็นกลุ่มเล็กๆ ผมก็ติดตามงานของคนพวกนี้ เข้าไปเป็นเพื่อนเขา ทำ�งานกับเขา แต่พอกลับมาเมืองไทย ก็ไม่ค่อยมีกิจกรรมแบบนี้ เลยตั้งใจเปิดร้านนี้เป็นพื้นที่ให้ กับกิจกรรมทางศิลปะแบบนี้ด้วย PIE : มีประสบการณ์ประทับใจอะไรในร้านหนังสือบ้าง
ครั้งแรกเลยที่ไปนิวยอร์ก เราก็ไปแบบไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ แล้วก็เข้าไปในร้านหนังสือ ร้านนั้นใหญ่มาก หนังสือ เยอะมาก เราก็ยังเด็กเดินเปิดดูแบบคนไม่รู้เรื่อง พนักงาน ที่ร้านเขาคงเห็นว่าเด็กคนนี้มันไม่รู้เรื่องแน่ เลยเข้ามา อธิบายซึ่งดีมากๆ ทำ�ให้ผมรู้ว่าเราแค่กล้าที่จะถาม กล้าที่ จะพูด เราก็จะได้ความรู้กลับมา ซึ่งมันง่ายมาก PIE : Concept ของ CEO BOOKS
ไม่ได้มี Concept จริงๆ ขนาดนั้น แต่อยากชวนคนให้ มาสนใจในเรื่องที่เราสนใจ อีกอย่างคือเหมือนเป็นตัวแทน ของกลุ่มเพื่อนๆ ที่ทำ�งานสายนี้ ให้เขาได้มีสถานที่แชร์ ผลงาน เพราะหนังสือในร้านค่อนข้างหายาก หนังสือใน ร้านมาจากกลุ่มเล็กๆ และผมมีความสุขกับการแชร์ ไม่ใช่ การซื้อเก็บไว้เอง และร้านนี้ทำ�แบบง่ายๆ ไม่ได้ลงทุน มากๆ หรูหรา เราเลยอยากคัดกรองคนที่เขามาในร้าน อย่างที่ร้านคนผ่านไปผ่านมาจะไม่เห็นเพราะเราอยู่ชั้นสอง ต้องโทรขึ้นมาแล้วผมจะลงไปรับ เหมือนเป็นสถานที่ลับ ผมอยากให้คนมีความกล้าที่จะมาด้วย เพราะคนใน ประเทศไทยจะขี้กลัว แค่คุณกล้ากดกริ่งคุณก็จะเจอสิ่งที่ แปลกใหม่ มันคุ้มค่านะ
39
40
41
42
PIE : หนังสือในร้าน
จริงๆ ยังมีอีกเยอะมาก แต่ผมจะเอาออกมา จัดเรียงเป็น Concept อย่างตอนแรกนี่จะเป็น Young Magazine เป็นกลุ่มคนทำ�นิตยสารหน้า ใหม่ ที่มีการเล่าเรื่องด้วยวิธีใหม่ มีวิธีการถ่ายรูป การคิดใหม่ๆ และเป็นคนทำ�งานที่สดใหม่จริงๆ ซึ่งในบ้านเรายังไม่มีเพราะมันช้า แต่ผมติดตามคน พวกนี้ตลอดและสั่งหนังสือโดยตรงกับเขา หนังสือ ในร้านจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตาม Concept และ ด้วยความที่ผมเป็นคนบ้าหนังสือมาก ซื้อเยอะมาก เลยรู้จักกับสำ�นักพิมพ์และคนทำ�หนังสือเยอะมาก จึงสามารถหาหนังสือที่แปลกๆ หรือทำ�จากคนกลุ่ม เล็กๆ มาได้ ซึ่งบางกลุ่มไม่ได้เป็นบริษัท บางคนก็ ทำ�เป็นงานอดิเรกแต่ผลงานดีมาก ก็มีทั้ง นิตยสาร แปลกที่มีการนำ�เสนอวิธีใหม่ๆ โฟโต้บุ๊ก หนังสือ ทำ�มือ PIE : กลุ่มคนทำ�หนังสือนอกกระแสต่างจากกลุ่ม กระแสหลักยังไง
กลุ่มแมสหรือกลุ่มกระแสหลักเขาไม่ทำ�อะไรใหม่ เขาอาจจะทำ�ได้ดีจริง สวยจริงแต่มันเหมือนเดิม คนอ่านก็ได้อ่านอะไรเดิมๆ เสพอะไรเดิมๆ ไป เรื่อยๆ จนเคยชิน ในบ้านเราก็มีหนังสือนอก กระแสน้อยมาก ในทางศิลปะแทบไม่มีเลย จะมี ทางไลฟ์สไตล์ก็มีบ้างอย่าง a day ก็ทำ�ได้ดี แต่เราก็ต้องกลับไปดูด้วยว่าเรามีคนทำ�งานนอก กระแสให้สัมภาษณ์เยอะขนาดนั้นหรือเปล่าใน บ้านเรา เพราะบ้านเราไม่เหมือนญี่ปุ่นที่มีคนที่
43
ทำ�ผลงานของตัวเองเยอะ เพราะคนในบ้านเรา จบมาก็เข้าบริษัททำ�งานประจำ�กว่าจะออกมา ทำ�อะไรใหม่ๆ ของตัวเองก็อายุมากแล้ว อาจจะ เป็นเพราะคนในบ้านเราไม่ได้มงี านอดิเรกทีช่ ดั เจน เหมือนในต่างประเทศ ที่เขาอินและทุ่มเทกับงาน อดิเรกของเขามากๆ PIE : ในยุคนี้หลายคนก็หันไปดูงานหรืออ่าน ข่าวสารทางอินเตอร์เน็ต
ยุคอินเตอร์เน็ตมันมาเร็ว และไม่มีทางหยุดได้ ถ้าคนที่ใช้ไม่มีการฉุกคิดที่ดีมันจะแย่ สื่อทาง อินเตอร์เน็ตมันเร็ว และมันทำ�ให้คนเสพเร็วไปด้วย เหมือนทุกคนอยากประสบความสำ�เร็จอย่างรวดเร็ว ก็ใช้อนิ เตอร์เน็ตเป็นหนังสือรวบรวมความสำ�เร็จที่ เขาเห็นแต่รปู ภาพ เห็นแต่ภายนอก อ่านแต่เรือ่ ง ย่อๆ ซึง่ ความจริงมันมีรายละเอียดทีม่ ากกว่านัน้ เยอะ แต่เขาไม่เห็น ในตอนนีท้ กุ คนเลยทำ�งานให้ หน้าตาออกมาใกล้เคียงกับงานทีเ่ ขาประสบความ สำ�เร็จ แต่ไม่ได้คดิ ว่าเราทำ�แบบนีข้ น้ึ มาทำ�ไม ทำ� ไปเพือ่ อะไร และในสังคมก็ไม่มใี ครออกมาบอกนะ ว่ามันเป็นสิง่ หลอกลวง มีแต่ออก โอ้โห สามหมืน่ ไลค์ เท่มากเลย อะไรแบบนี้ PIE : ผลลัพธ์ที่ได้ในการทำ� CEO BOOKS
ผลที่ออกมันยังไม่เสร็จสมบูรณ์นะ มันเลยยังสรุป ผลไม่ได้ อย่างที่บอกไปครับว่าร้านนี้ก็เหมือน โปรเจกต์ชิ้นหนึ่งที่ผมอยากจะทดลองอะไรบาง อย่างกับมัน ก็คงต้องรอดูอีกหน่อย ตอนนี้มันอยู่
ระหว่างขั้นตอน ยังไม่รู้ผลขนาดนั้น แต่ก็มีความ สุขนะ เพราะเป็นช่องทางที่เราเลือกเอง ทำ�เอง ตัดสินใจเอง และมันเป็นพื้นที่ที่เราทำ�อะไรได้เยอะ มากกว่าการขายหนังสือ เหมือนเป็นห้องๆ หนึ่ง ของเราที่เราแต่งอะไรก็ได้ ถึงมันจะต้องหาเงินเพื่อ อยู่รอดบ้างแต่มันก็ไม่ถึงกับธุรกิจจ๋า คล้ายๆ เป็น ศูนย์แลกเปลี่ยนความคิดและวัฒนธรรมมากกว่า PIE : CEO BOOKS สนับสนุนหนังสือทำ�มือด้วย
ในตอนนีห้ นังสือในร้านผม ยังมีแต่ของต่างประเทศ แต่ก็กำ�ลังเปิดรับหนังสือ (ทำ�มือ) ในบ้านเราด้วย มีที่ให้วาง ตอนนี้ก็มีแล้วนะแต่ยังไม่เยอะพอ ผม วางแผนอะไรไว้อีกเยอะที่จะทำ� อย่างหนังสือทำ� มืออยากให้ทำ�กันเยอะๆ ใครทำ�อยู่เข้ามาคุยกัน ได้เลย ในต่างประเทศเขาทำ�หนังสือทำ�มือกัน เยอะมาก เป็นเรื่องปกติเลย มีเฟสติวัลใหญ่มาก และมีร้านหนังสือวางขายกันเยอะ อยากให้เกิดขึ้น ที่นี่บ้าง
ดีไซน์ มันคือสื่ออย่างหนึ่งในทางศิลปะ มัน สามารถส่งต่อผลงานของเราได้ อาจจะไม่เยอะ แต่มันก็มีเรื่องอารมณ์ความรู้สึกที่มาก และใน ยุคดิจิตอลแบบนี้ ข้อมูล ภาพหรือผลงานมัน ไม่ได้อยู่ตลอดไป อีกไม่กี่ปีข้อมูลที่เราเห็นตอนนี้ ก็จะหายไป แต่สิ่งพิมพ์มันก็ยังคงอยู่ และ Zine หรือหนังสือทำ�มือมันมีความสวยงาม มีเสน่ห์ เฉพาะตัว PIE : สำ�หรับหนังสือหรือนิตยสารแบบทีร่ า้ น CEO คนอ่านจะเป็นศิลปิน นักออกแบบ มีคนทำ� อาชีพอื่นอ่านบ้างไหม
มีครับ มีหลายคนที่เขาไม่ได้เป็นดีไซเนอร์หรือ ทำ�งานศิลปะที่เขาอ่านหนังสือแบบนี้ ส่วนมากที่ เจอจะเป็นคนที่เคยทำ�งานต่างประเทศและไปอยู่ ในประเทศที่มีวัฒนธรรมการอ่านหนังสือ พอเขา กลับมาอยู่เมืองไทยก็ยังอ่านหนังสืออยู่ จริงๆ ดีไซเนอร์หรือกราฟฟิกดีไซน์บางทีเขาทำ�งาน ออกแบบมาทั้งสัปดาห์ เขาอาจจะไม่อยากเสพ อะไรแบบนี้ก็ได้ แต่บางคนที่ทำ�งานบริษัท ทำ� PIE : หนังสือทำ�มือมีประโยชน์อะไร เป็นประโยชน์มากกับศิลปินและคนที่รักทางศิลปะ บัญชี ทำ�ไฟแนนซ์ เขาอยากจะดูหนังสือสวยๆ นักวาดการ์ตูน ภาพประกอบ ช่างภาพ กราฟฟิก บ้าง เป็นการพักผ่อนของเขาก็มี 44
45
PIE : บอมมีงานอดิเรกอะไรครับ
ล่าสุดชอบไปดูม้า ไปสนามแข่งม้า ?!
PIE : มีอะไรที่เราควรรู้อีกไหม
ผมทำ�เคยกราฟฟิตี้ด้วย ?!
46
facebook.com/ceobooks ceobooks.info
47
48
PIE SHOW
Benjarat Aiemrat วันนี้เรามาโชว์งานกราฟฟิกและภาพประกอบอารมณ์แฮนด์เมดที่ สร้างกระดาษแบนๆ ให้สนุกสนานและน่าสนใจ ด้วยเทคนิควิธคี ดิ ของ นักออกแบบรุน่ ใหม่ เบญจรัตน์ เอีย่ มรัตน์ สิง่ ทีเ่ ธอทำ�สะท้อนความคิด ความใส่ใจทีผ่ มมัน่ ใจว่าหลายคนรวมทัง้ ตัวผมมองข้าม ลองชมงาน ของเธอกันนะครับ
49
PIE : ตอนนี้ ทำ�งานอยู่ที่ไหนครับ
บริษัท บีอาวเฟรนด์ (Be>Our>Friend) ค่ะ PIE : ชอบทำ�งานเกี่ยวกับกระดาษ Printing เริ่ม สนใจงานแนวนนี้ได้ยังไง
ความสนใจในงานกระดาษ มาจากการสังเกตเวลา ที่เราพิมพ์งานบนกระดาษคนละชนิดกัน ถึงจะเป็น งานชิ้นเดียวกัน แต่ก็แสดงผลออกมาไม่เหมือนกัน จากตรงนัน้ เวลาทีเ่ ราทำ�งาน โดยเฉพาะงานส่วนตัว
เราจะลองใช้กระดาษหลายประเภทมากๆ และ อยากลองอะไรก็ลองไปเลย ไม่ค่อยกำ�หนดว่า กระดาษที่ใช้จะต้องเป็นประเภทนี้เท่านั้นกับตัวงาน แบบนี้ ซึ่งบ่อยครั้งที่การพยายามลองทำ�ให้เราเจอ ผลลัพธ์ใหม่ๆ เพื่อไปใช้ในงานต่อๆ ไปได้ และ เราก็ได้เรียนรู้มากขึ้นด้วย ซึ่งถ้าเป็นงานที่ต้อง นำ�เสนอลูกค้าก็เป็นข้อดีที่เราได้ลองใช้กระดาษ ชนิดนั้นมาบ้างแล้ว ก็จะสามารถแนะนำ�หรือช่วย เลือกกระดาษที่เหมาะสมให้เขาได้ 50
51
PIE : ทำ�งานภาพประกอบด้วย
ความจริงงานภาพประกอบไม่ใช่ การทำ�งานเท่าไหร่คะ่ น่าจะเป็นการ ผ่อนคลายจากการทำ�งานกราฟฟิก มากกว่าค่ะ เพราะเราเองก็ไม่ได้ วาดรูปเก่งมาก แต่ชอบดูอะไรที่ เป็นรูปภาพซึ่งเราเองก็ไม่ได้ยึดติด สไตล์นะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสื่อสาร ออกมาอย่างไรมากกว่า แต่เท่าที่ สังเกตแล้ว งานตัวเองดูมีความเป็น เด็กอยู่มากเลยค่ะ ^^ 52
53
PIE : คิดว่าทำ�ไมนักออกแบบรุ่นใหม่ถึงกลับไปสนใจงาน สนใจพวกงานเทคนิคกับวัสดุคะ่ โดยเฉพาะวิธกี าร แบบแฮนด์เมดหรืองาน Craft มากขึ้น
PIE : ช่วงนี้กำ�ลังสนใจงานประเภทไหนอยู่ครับ
แบบที่เคยเรียนมาในวิชาวิทยาศาสตร์ตอน เด็กๆ ซึ่งช่วงวันหยุดจากการทำ�งานประจำ� ก็ จะเปิดตำ�ราเรียน แล้วก็ลองทำ�ตามดู เหมือน กลับไปเรียนพื้นฐานใหม่อีกรอบ ^^ ตัวอย่าง เช่น ตอนนี้เวลาจะทำ�งานพวกหนังสือ ก็กลับ ไปเปิดหนังสือทดลองเคมี หาดูว่ามันมีสารอะไร ที่ง่ายๆ ที่เอามาใช้ในงานพิมพ์หนังสือได้บ้าง หรือหาเรื่องประดิษฐกรรมมาอ่านแล้วประยุกต์ สตรัคเจอร์เข้ากับหนังสือของเรา
น่าจะเป็นเพราะว่าทุกคนใช้คอมพิวเตอร์กันหมดนะคะ คือมีโน๊ตบุ๊กส่วนตัวสำ�หรับการทำ�งาน ทุกคนใช้โปรแกรม เดียวกันในการทำ�งานกราฟฟิก งานจึงไม่แตกต่างกันมาก ทำ�ให้รสู้ กึ ว่าอยากเพิม่ ความน่าสนใจให้กบั งานของตัวเองค่ะ ซึ่งบางคนอาจเลือกกลับไปทำ�งานแบบคราฟต์มากๆ หรือบางคนอาจเลือกใช้การผสมผสานของความเป็นคราฟต์ และดิจติ อล นอกจากนัน้ แล้ว เราว่ามีหนังสือหรือนิตยสาร ที่เป็นไปในแนวทางคราฟต์หรือมีการนำ�เสนอรูปแบบการ ใช้ชีวิตแบบง่ายๆ มากขึ้นกว่าเดิมค่ะ 54
PIE : อะไรเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการทำ�งานแต่ละ ชิ้นของเบนครับ
ยากที่สุด คือตอนที่ไม่รู้ว่างานชิ้นนั้นเสร็จหรือ ยังไม่เสร็จกันแน่ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะชอบเติมไป เรื่อยๆ หรือแก้จนกว่าจะถึงกำ�หนดส่งค่ะ ซึ่งจะ มีข้อเสียคือถ้ายังมีงานที่ต้องทำ�อยู่ในช่วงเดียวกัน งานก็จะรบกวนเวลากันเองไป 55
56
PIE : คิดว่างาน Craft กับงาน Design เหมือนและต่างกันยังไงครับ
เราว่างานคราฟต์และดีไซน์เหมือนกันตรงที่กระบวนการค่ะ ซึ่งต้องมีการคิด การ วางแผน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สุดท้ายออกมามีทั้งฟังก์ชันและความสวยงาม ส่วนความ แตกต่าง เราว่างานคราฟต์มีมิติของความเป็นมนุษย์มากกว่าค่ะ facebook.com/rabbitbenjarat 57
PIE TALK
Feel in (Eyedropper) Fill
เราอยู่ ในยุ ค ที่ ภ าพเคลื่ อ นไหว ทั้ ง จากโรงหนั ง สู่ จ อที วี ไปที่ คอมพิวเตอร์มาเจออีกทีในมือถือ และวันหนึ่งขณะที่ผมกำ�ลัง เสพมิวสิควิดโี อเพลงอินดีต้ ามภาษาวัยรุน่ นอกกระแสฮิปสเตอร์ แฮมเบอร์เกอร์อยูน่ นั้ ผมก็ตอ้ งมาอึง้ กับมิวสิควิดโี อสองตัว คือ มิวสิควิดีโอเพลง น้ำ�ค้าง จากวง Desktop Error และเพลง The Haunted House จากวง Part Time Musicians (ใคร ยังไม่เคยดู กรุณาไปเปิดดูกอ่ นเพือ่ ความอิน) ทีอ่ งึ้ กว่าคือมิวสิค วิดโี อทัง้ สองตัวนี้ มีชอื่ เครดิตคนทำ�ชือ่ เดียวกันว่า Eyedropper Fill วันนีเ้ ราจึงมาขอพูดคุยกับ เบส- วรรจธนภูมิ ลายสุวรรณชัย และ นัท - นันทวัฒน์ จรัสเรืองนิล ทัง้ สองใช้ชอื่ กลุม่ ในการทำ�งาน ร่วมกันว่า Eyedropper Fill ทีม่ าทีไ่ ปและทีๆ่ ทัง้ สองกำ�ลังจะไป เป็นเช่นไร ติดตามกันได้เลย 58
59
PIE : เจอกันได้ยังไง
นัท : เรียนอยู่ที่เดียวกันครับ ที่มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุุรี คณะสถาปัตยกรรม สาขานิเทศศิลป์ ตอนแรก Eyedropper Fil มี กันอยู่ 4 คน มีผม เบส แล้วอีก 2 คนคือ พีช-กิตติคุณ กิตติโสวรรณ กับโบ้-ปณพันธ์ ตั้งสมบูรณ์ ที่สนใจภาพเคลื่นไหวคือตอนเรียนเขา ไม่ได้จำ�กัดว่าจะต้องทำ�อะไร อยู่ที่ว่าแต่ละคน สนใจสิ่งไหน อย่างผมก็ชอบอนิเมชั่น พวกผมจะ ชอบอะไรคล้ายๆ กัน โมชั่นกราฟฟิก หนัง เลย มารวมกัน ซึ่งแต่ละคนจะมีสกิลหรือความสนใจ ที่แตกต่างกันไป แต่ว่าทุกคนก็มีภาระกิจชีวิตที่ ต่างกันก็เลยแยกกันเมื่อปลายปีที่แล้ว จึงเหลือผม กับเบส PIE : ชื่อ Eyedropper Fill มาจากอะไร
Eyedropper Fil : มาจากชื่อเอฟเฟ็กต์ใน โปรแกรมโฟโต้ชอป ตอนนั้นยังเรียนกันอยู่ แต่เริ่ม มีงานแล้วก็อยากมีชื่อเก๋ๆ พวกเราเลยนั่งคุยกัน ในคาบเรียนว่าจะใช้ชื่ออะไรดี คิดชื่อขึ้นมาก่อน แล้วค่อยหาความหมายกัน Eyedropper Fil คือ ยาหยอดตา ซึ่งมันก็ตรงตัวดีตรงที่เราทำ� Visual มันเป็นเรื่องของการมองเห็น เหมือนเราหยอดภาพ บางอย่างไปที่ตาของคนดู
PIE : แล้วแบ่งหน้าที่กันอย่างไร
นัท : ตอนนีเ้ หลือกันอยู่ 2 คน เบสจะเป็นไดเร็กเตอร์ ส่วนผมเป็นโปรดิวเซอร์ แล้วก็มีทำ�อนิเมชั่น บางทีก็ มาช่วยดู เราทำ�หน้าที่กันหลายอย่าง เพราะคนน้อย ช่วงก่อนก็ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายอย่างกับ พวกเรา ปีนี้เราเริ่มใหม่หมดเลย เรื่องวิธีคิด การ ทำ�งาน มีระบบกันมากขึ้น PIE : Eyedropper Fill มีกระบวนการทำ�งาน กันยังไง
Eyedropper Fill : ก็ร่วมกันคิดแล้วก็ต่อยอด วิธี ของเราจะไม่ค่อยหาเรเฟอร์เรนซ์และทำ�ตาม ส่วน มากจะสเก็ตช์กันเอง เราจะมีสิ่งที่สนใจลิสต์ไว้ ในหัว แล้วก็หาข้อมูล เช่น ถ้าจะทำ� MV ตัวหนึ่ง จะตีความเนื้อหานั้นยังไง สมมติว่าเราได้คีย์เวิร์ดมา ประมาณ 3 คำ� เราจะเร่ิมหาข้อมูลซึ่งขั้นตอนนี้ใช้ เวลานานมาก พอได้มาเยอะๆ ก็หาความเป็นไปได้ ในการนำ�มาใช้ เมื่อได้กลุ่มก้อนของไอเดียแล้ว ก็เริ่ม หาวิธีเล่าเรื่องและทำ�ให้มันเป็นภาพซึ่งจะผ่านการ ทดลองเยอะมากจึงเริ่มถ่ายจริง เวลาในการทำ�งาน ก็แล้วแต่ครับ อาจจะ 1-2 เดือน ถ้าลูกค้าให้เวลา นานเราก็มีเวลาทดลองมากหน่อย จะลองไปเรื่อยๆ PIE : ทำ�หลายอย่างตั้งแต่ MV คอนเสิร์ต อีเว้นต์ 60
61
62
ทำ�ยังไงให้ได้จริง เกิดขึ้นจริง ทำ�ยังไงให้เป็นควัน นัท : อย่างอีเว้นต์ผมทำ�เฉพาะที่เป็นภาพเคลื่อนไหว ในแบบที่เราไม่ได้เห็นกันปกติ เราก็ทดลองกันมา จากโจทย์ที่ได้ ถ้าเป็นงานพวกคอมเมอร์เชียลก็จะมี หลายอย่าง ทั้งธูป เทียน ดรายไอซ์ ฯลฯ บางที กรอบเวลา และข้อจำ�กัดเยอะมาก แต่ก็จะพยายาม มันไม่สู้ลมหรือฉายไม่ติด จนสุดท้ายเราใช้กำ�ยานต่อ เอามามิกซ์ในแบบของเราได้เยอะที่สุด แต่ถ้าเป็นงาน เรียงกันยาวๆ แล้วจุด 20-30 ดอก หลังจากนั้นก็คิด ภาพตามเนื้อเรื่องที่เบสเป็นคนคิด พวก MV จะใส่ความเป็นตัวเราได้มากกว่า อย่าง MV ของวง Part Time Musicians หรือ Desktop Error ทางค่ายปล่อยให้ทำ�เต็มที่เลย ประมาณ 80% PIE : ดูเหมือนไอเดียหลายชิ้นมาจากงานอาร์ต หรือ พวกภาพเก่าๆ ประวัติศาสตร์ นี่คือเยอะมากแล้วสำ�หรับลูกค้า เบส : ใช่ครับ ไม่ค่อยมีงานพวกวิดีโอ ชอบโยงมา PIE : อธิบาย MV เพลง The Haunted House จากเรื่องอื่นๆ ผมได้แรงบันดาลใจจากเพลง หนังสือ เรื่องเล่า รู้สึกว่ามันเปิดโลก เราก็เอามาคิดต่อเองให้ ของวง Part Time Musicians หน่อย เบส : เราฟังดนตรีแล้วตีความจากเนื้อเพลง ซึ่งคน มันเป็นภาพเคลื่อนไหว เวลาเห็นอะไรแล้วชอบคิดว่า ท่ีปรากฏอยู่ใน MV เป็นคุณพ่อคุณแม่ของเบสเอง ถ้ามันเป็นภาพเคลื่อนไหวจะเป็นยังไง เหมือนกับว่าผ่านมา 2 ปีแล้วที่เคยเอาเขามาเล่น ใน Passing Through The Night เลยอยากเอาพ่อ PIE : เพลง “น้ำ�ค้าง” ของ Desktop Error แม่มาทำ�งานด้วยกันอีก และด้วยเนื้อเพลงมันชัด Eyedropper Fill : ในเว็บไซต์ก็จะมีอยู่ในวิดีโอ อยู่แล้ว แต่ไม่อยากเล่าให้มันเป็นเรื่องราวมากไป Behind the Scene ที่เราถ่ายกันไว้อยู่แล้ว คืองาน อยากให้เป็นจังหวะเสียง เทคนิค ความเก่า ความ ของเราที่ดูแล้วรู้สึกว่ามันมืดๆ ดาร์กๆ จริงๆ มันก็ หลอน ก็เลยไปรีเสิร์ชวิธีแล้วมาทดลองทำ�กัน คิดถึง ไม่ได้มืดขนาดนั้นนะ อย่างเพลง “น้ำ�ค้าง” Visual โมเม้นต์ รูปคนตาย วิญญาณหรือหลอกหลอน แสง แรกที่เป็นการไหลของน้ำ�คิดออกตอนอาบน้ำ� แล้ว ส่วนใหญ่แรงบันดาลใจจะมาจากภาพนิ่ง สครับเจอร์ เห็นฟองสบู่ไหลลงท่อ เพลงนี้ทดลองทำ�กันนาน 2 ผมชอบงานพวก Lighting ควัน หรือรูปแสงออร่าที่ เดือน เริ่มคีย์เวิร์ดแรกจากน้ำ�และการไหล เบสอยาก ทดลองวิธีกำ�กับด้วย ใน MV เราฉายวิดีโอการไหล ออกมาจากตัวคน ของน้ำ� ซึ่งคนในวิดีโอเขาก็เป็นแฟนกันจริงๆ เราให้ นัท : ถ้าคร่าวๆ ก็คือเราจับคีย์เวิร์ดของคำ�ว่า “หลอกหลอน” เอามาใช้ แล้วมาหาวิธีทำ�เป็นภาพ เขาถ่ายวิดีโอกันเองจากมือถือประมาณ 1 เดือน ใน จริงๆ เทคนิคควันก็เห็นกันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่จะ MV และจะมีการถ่ายด้วยกันสองประเภท อย่างแรก มีพวกคอมเมอร์เชียลด้วย วิธีคิดต่างกันไหม
63
คือเรากำ�กับเอง อีกอันคือ เอาที่เขาถ่ายกัน มารวมในแบบของเราเอง ก็มาคิดว่าทำ�ไมเรา ต้องเอากล้องที่เหมือนกันถ่าย เลยใช้กล้อง คนละบบ iPhone กับ DSLR PIE : คนแสดงที่เป็นแฟนกันจริงๆ กับคนที่ ไม่ใช่ มันส่งผลยังไงกับงานบ้าง
เบส : น่าจะต่างกันครับ คือเราอยากจะ ลองด้วย เหมือนตั้งคำ�ถามกับการกำ�กับว่า เราจำ�เป็นต้องกำ�กับหรือเปล่า หรือเป็นแบบ สารคดี (Documentary) จะทำ�ยังไงให้มันดู จริง จริงแบบที่กำ�กับ กับความจริงที่มันเป็น ของจริง ซึ่งเบสค่อนข้างเคารพความจริงที่มัน เกิดขึ้น นัท : เราคิดว่าคนนี้คาแร็กเตอร์ใช่แล้ว แต่ เราก็ไม่ได้รู้ขนาดนั้นว่ามันจะออกมาเป็นยังไง มันมีโจทย์ขึ้นมาว่าเป็นการกำ�กับที่ไม่ได้กำ�กับ เราก็เลยทดลองที่จะถ่ายโดยสมมติวา่ กล้องนี้ เป็นแฟนของเขา แต่มนั ก็ดไู ม่จริง เราไม่ใช่ แฟนเขา ถ่ายแล้วมันไม่ใช่อารมณ์นน้ั เบส : เราก็เลยให้เขาถ่ายกันเอง ผมคิดว่า มันตืน่ เต้นดี เหมือนเราตัง้ สมมติฐานแล้วรอผล ซึ่งอาจจะ Error ก็ได้ แต่ก็คิดว่ามันคือความ สวยงามแบบหนึ่ง PIE : ทำ�ไมถึงชอบงานแนวทดลอง
นัท : คงไม่มีใครเผยทุกอย่างแบบพวกผม หรอก ส่วนตัวก็คือพวกเราเรียนมาแบบนี้ จริงๆ คือหาข้อมูล แล้วเอามาทดลอง ต้อง
แก้ปัญหา มันสนุก ทำ�กันมาตลอดตอนนี้เราก็เลย ยึดวิธกี ารแบบนี้ คือไม่ได้มวี ธิ ตี ายตัวว่า Eyedropper Fill ต้องใช้โปรเจกเตอร์เท่านั้น หรือเป็นอนิเมชั่น เท่านั้น เบส : เป็นเพราะมหา’ลัยสอนมาแบบนี้ด้วย อาจารย์จะไม่ห้าม ถ้าอยากจะทำ�อะไรก็ให้ไปรีเสิร์ช มา สมมติว่าอยากทำ�เรื่องรถยนต์ เราก็ไปหาข้อมูล รีเสิร์ชมาเยอะจนแตกไอเดียออกไปได้เยอะมาก แล้ว ขมวดลง เอาข้อมูลที่ได้มาทดลอง สุดท้ายเรื่องราว มันอาจจะไปเป็นอย่างอื่นก็ได้ แต่ว่ามันก็ยังเกี่ยวข้อง กับรถยนต์อยู่ PIE : มีอะไรบอกไหมว่าการทดลองแต่ละงาน จะประสบความสำ�เร็จหรือว่าล้มเหลว
นัท : บางทีดีคืนนี้ พอมาดูอีกวันมันไม่ใช่ก็มี ในวิธี การทำ�งานของเราแบ่งได้ 3 ส่วน ส่วนแรกคือ เรา ชอบ เป็นการพัฒนาวิธีการ ส่วนที่สองคือ คนอื่น ได้เข้าใจวิธีการทำ�งาน อาจจะไม่ 100 % แต่เรา พยายามทำ�เบื้องหลังให้ดูเพื่อให้เขาได้ต่อยอด ซึง่ งานชิน้ หนึง่ มันมีระหว่างทางของมัน อย่างทีส่ ามเช่น MV ของวง Part Time Musicians มันสำ�เร็จตรงที่ ว่าคนเข้าใจ ลูกค้าชอบ คนรูส้ กึ กับมันได้ PIE : ถ้าคนที่เปิดดูในเว็บไซต์ แล้วชอบวิธีการทำ�งาน มากกว่าผลงาน จะโอเคไหม
Eyedropper Fill : โอเคครับ คือเราทำ� Behind the Scene มาคู่กับงาน จะดูผลงานหรือเบื้องหลัง หรือเลือกดูทั้งสองอันก็ได้ เคยมานั่งคุยกันแล้ว เบสคิดว่า ถ้ากล้องไปจับอยู่กับสิ่งไหนสิ่งนั้นจะมี 64
65
ความสำ�คัญขึ้นมา ซึ่งปกติเราเอากล้องจับอย่างอื่นตลอด ทำ�ไมเราไม่เอากล้องกันมาจับตัวเราเองบ้าง เพื่อให้คนอื่นมา เห็นว่าวิธกี ารทำ�งานของเราเป็นยังไง มองเป็น Documentary ชิน้ หนึง่ เราถ่ายตัวเองทำ�งานมันก็เหมือนหนังสัน้ และอยากให้ คนได้เห็นว่า...เฮ้ย มันยังมีคนทำ�งานที่คิดแบบนี้นะ มีวิธี แบบนี้นะ ใส่ใจในเรื่องนี้ คือจริงๆ ไม่ควรแบ่งแยกงานว่า อันนี้คอมเมอร์เชียลหรือไม่ แต่คุณสามารถทำ�งานคอมเม อร์เชียลให้ครีเอทีฟได้ ตอนนี้เราต้องพัฒนาตัวเองเพื่อที่จะ เข้าใจว่าเราประยุกต์ได้ 66
PIE : มีขั้นตอนเยอะมากที่เหมือนกับวิทยาศาสตร์ กับศิลปะ เอามารวมกันได้ยังไง
Eyedropper Fil : มันเป็นการช่างสังเกต แล้วก็ เอามาแทนค่าในแบบของเรา สำ�หรับเรารู้สึกว่า ศิลปะมันแทรกอยูใ่ นกระบวนการวิทยาศาตร์อยูแ่ ล้ว แม้กระทั่งแสงกระทบอะไรบางอย่างแล้วเข้ามา ที่ตาเรา ก็รู้สึกว่ามันจริงแล้ว เราเชื่อว่าตอนที่ นักวิทยาศาสตร์เขากำ�ลังทดลองในห้องแล็บกับ หลอดแก้ว สารเคมีต่างๆ เขาก็คงสนุกและคิดว่า มันสวยงามเหมือนกัน PIE : การทำ�งานแบบบนี้เป็นการปฏิเสธความ เรียบง่ายหรือเปล่า
นัท : ใช่นะ อย่างตอนที่ทำ� MV น้ำ�ค้าง เราก็ มานั่งคิดกันว่าพวกเรานี่ซาดิสว่ะ ทำ�เสร็จตั้งนาน แล้วแต่ก็ไม่เอา คือพอมาดูอีกทีแล้วมันไม่ได้ก็ต้อง ทำ�อีก เบส : ในปัจจุบันนี้ทุกอย่างมันเร็วไปหมด เราก็ เร็วด้วย แต่เราขออย่างเดียวคือการทำ�งาน อย่าง เพลงนี้เราตัดต่อแล้วเว้นทิ้งไว้ 2 เดือน แล้วเอา มาดูอีกครั้ง อันนี้เฉพาะงานที่มีเวลาทำ�นะครับ รู้สึกว่างานพวกนีม้ ชี วี ติ ของมัน ควรให้เวลาเติบโต ย่งิ ตอนนีท้ กุ คนใช้กล้อง DSLR ถ่ายกัน เรากลับ คิดว่าไม่จ�ำ เป็นต้องถ่ายให้ชดั ก็ได้ จริงๆ อยากเกิด ในยุค 30 ปีทแ่ี ล้วมากกว่า ทีห่ ลายๆ อย่างมันช้า กว่านี้ ตอนนีท้ กุ คนจะพูดว่าใช้ไอเดียอะไร ก็เลยคิด ว่าเราทำ�ขัน้ ตอนให้มนั ยากดีกว่า พอเริม่ งานกันไป สักพักแล้วพวกผมจะมีวนั ทีม่ านัง่ คุยกัน ว่าสิง่ ทีเ่ รา 67
ทำ�มันมีขอ้ บกพร่องยังไง มานัง่ ทำ�ความเข้าใจกัน ให้ น้องทีม่ าฝึกงานคอมเม้นต์เลยว่างานของเราเป็นยังไง บ้าง จะเกิดการตัง้ คำ�ถามกับตัวเองในส่งิ ทีท่ �ำ ตลอด เวลา หลังๆ เริม่ ตัง้ คำ�ถามว่าวิดโี อมันคืออะไร PIE : งานภาพเคลื่อนไหวบ้านเราตอนนี้เป็นยังไง
เบส : มันไปได้ไกลกว่านี้ รู้สึกว่าการเล่าเรื่องมันยัง มีไม่กี่แบบ แต่อย่างพี่เต๋อ-นวพล ธํารงรัตนฤทธิ์ เขาก็มีวิธีการเล่าเรื่องของเขา หรืออย่างพี่เจ้ยอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เบสไม่เชือ่ ว่าคน 100 คน งานจะเหมือนกันหมด ต้องสร้างสรรค์ขน้ึ มาด้วย นัท : เท่าที่คุยกันมาพวกเราจะอยู่กันเองคุยกันเอง แต่พอมาหลังๆ เรารู้แล้วว่าปัญหาคืออะไร ได้ออก ไปคุยกับคนอื่นๆ บางคนเขาคิดเหมือนเรานะ แต่ มันก็เป็นความต้องการของลูกค้า บางงานเราไม่ชอบ แต่เราก็ไม่โทษคนทำ� ก็เข้าใจเขา PIE : ผู้กำ�กับที่ชอบ
นัท : เมื่อก่อนก็ชอบ Michel Gondry เขาหยิบ จับอะไรก็เอามาใช้ในงานได้หมด มันมาก เบส : เบสจะดูงานสายอื่นเยอะ ในสายภาพยนตร์ ถ้าเป็นคนไทยชอบพี่คงเดช จาตุรันต์รัศมี, พี่เจ้ยอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ต่างประเทศชอบผูก้ �ำ กับ หนังชาวรัสเซีย Andrei Tarkovsky เขากำ�กับหนัง เรื่อง Solaris เวอร์ชั่นเก่าปี 1972, The Mirror, Nostalghia ชอบ Georges Mlis ผู้กำ�กับเรื่อง A Trip to the moon, Norman McLaren เขา ทำ�อนิเมชั่น, แล้วก็ Stan Brakhage
PIE : มีโปรเจกต์ที่ทำ�อยู่หรือในอนาคตอันใกล้ไหม
Eyedropper Fil : มี MV ของวง The Whites Crow แล้วตอนนี้เบสทำ�หนังยาว เป็นสารคดี เรา ไปสนใจเรือ่ งตึกรามบ้านช่องเก่าๆ คือเบสเคยเรียน สถาปัตฯ มาก่อนแล้วชอบตึก เห็นว่ามันมีการ เปลี่ยนแปลงเยอะ ก็ตั้งคำ�ถามแล้วรีเสิร์ชเกี่ยวกับ พวกสถาปัตยกรรมว่ามีที่ไหนน่าสนใจ มันมีเรื่อง ของโรงหนังเก่าก็เลยตามไปดูโลเคชั่น ซึ่งมันมี หลายแห่งที่โดนทุบไป เบสคิดว่าทำ�ไมที่ๆ มันเคย เป็นจุดสำ�คัญในยุคก่อน เราไม่เคยเห็นค่ามันเลย แต่ว่าพอเข้าไปลึกจริงๆ มันไม่ใช่แค่นั้น มันมี เรื่องของคนที่ทำ�งานอยู่ในนั่น ซึ่งรวมคนอยู่หลาย ประเภทมากๆ ทั้งคนดู คนฉาย เจ้าของ คนเดิน ตั๋ว มันมีโลกของมันอยู่ แล้วสุดท้ายก็มาเจอคนๆ หนึ่ง เขาเคยเป็นคนฉายหนัง ที่ตอนนี้โรงหนังปิด ตัวไปแล้วแต่ชีวิตของเขาถูกหยุดไว้ตรงนั้น เหมือน เขาพังไปกับมัน หนังเรื่องนี้เป็นหนังสารคดี ถ่าย ไป 70% แล้ว ตอนนี้ก็กำ�ลังส่งไปเพื่อขอทุนทำ� โปรดักชั่น คิดว่าน่าจะเสร็จปีหน้า แล้วสิ่งนี้มันก็ ทำ�ให้เราเข้าใจคนที่เดินตามท้องถนน ที่เราไม่เคย เข้าใจเขา หรือเร่มิ ตัง้ คำ�ถามว่าคนนีเ้ ขาเป็นกรรมกร แล้วเป็นเปอร์เซนต์ที่เยอะมากในกรุงเทพ แต่เรา ไม่เคยคุยกับเขา พอเข้าไปอยู่ ไปถ่ายจริงๆ มัน ทำ�ให้เราเปิดขึ้นครับ
PIE : คิดว่าอะไรทำ�ให้คนเมืองทำ�เหมือนว่าคน เหล่านี้ไม่มีตัวตน
นัท : เขามองว่าพวกนั้นเป็นส่วนน้อย เป็น พลเมืองชั้นล่าง แต่จริงๆ แล้วคนพวกนี้คือคน ส่วนใหญ่ในประเทศ อย่างเวลาผมไปกินข้าว เห็น คนพวกนี้นอนที่เคาเตอร์ในร้านอาหารอย่างหรูที่ กำ�ลังสร้าง ก็คิดว่า แล้วคนพวกนี้เขาจะเคยกิน ไหม เขาจะรู้สึกยังไงที่กาแฟแก้วละ 100 บาท เบส : เบสคิดว่าเขาเป็นคนทำ�อะไรให้มากกมาย กับประเทศของเรา แต่กลับไม่ค่อยถูกมองเห็น พอเราทำ�งานแบบนี้ก็เลยรู้สึกว่าเขาควรมีโอกาสได้ พูด ซึ่งพอพูดคุยกันจริงๆ ชีวิตของเขาอาจจะมี ความสุขมากกว่าเราก็ได้ PIE : เป็นคนชอบมองสังคม
นัท : ชอบครับ แต่ไม่ค่อยมองสังคมในแง่ร้าย คือมันมีแง่ดีอยู่ มีเหมือนกันที่เคยคุยกันว่าเราไม่ ควรอยู่ประเทศไทย ด้วยเหตุหลายอย่าง แต่ใน ความเป็นจริงแล้วเวลาที่เราทำ�งานหามรุ่งหามค่ำ� เราจะไปหาข้าวไข่เจียวกินในราคา 20 บาท ได้ ยังไง ถ้าไปอยู่ที่อื่น ซึ่งที่นี่หาได้ตลอดเวลาด้วย แต่พอเจอคนขับรถมาจอดที่ถนนตรงร้านข้าวเรา ก็ด่าเขานะ แต่บางครั้งเราก็ทำ� (หัวเราะ) มัน คงจะเป็นชิพฝังอยู่ว่าเราเกิดที่นี่ มีฐานความคิด
68
69
70
แบบนี้อยู่ในตัวเรา รู้ด้านที่ดีและไม่ดี คนที่ดูแต่ ด้านที่ไม่ดีอยู่ที่ไหนก็จะเห็นแต่ด้านไม่ดี แล้วก็จะ อยู่ไม่ได้สักที่
The Jam Factory ตอนนั้นเรานั่งทำ�สไลต์กัน เป็นอาทิตย์เลย ปอกเปลือกงานทุกชิ้นให้เด็กได้ ดู เพื่อที่จะให้คนที่มาได้ไปเต็มๆ
PIE : ช่องทางการนำ�เสนอสื่อความเคลื่อนไหวใน บ้านเรา
PIE : พยายามหาช่องทางด้วยตัวเอง
Eyedropper Fil : จริงๆ มันมีช่องทางอยู่ ทั้ง YouTube, Vimeo แต่ว่าคนที่จะให้พื้นที่ของ งานแบบนี้เข้าไปอยู่มันมีน้อย เลยคิดว่าเราต้องสู้ กันเอง ซึ่งตอนนี้ก็จับมือกับค่าย Rats Records กับพี่ Koichi (SO::ON Dry Flower) คุยกัน เป็นกลุ่มก้อนแบบไม่เป็นทางการ แล้วก็พวกรุ่น ใหม่ทำ�กันเองที่เกิดมาพร้อมๆ กัน นัดไปคุยไป สังสรรค์ แชร์เรื่องราวกัน คือคนพวกนี้มีเป้าหมาย เดียวกันคืออยากจะพัฒนาในเรื่องการทำ�ภาพ เคลื่อนไหวในบ้านเรา เบส : จริงๆ ที่คิดไว้คืออยากเปิด Workshop อาจจะฟรีหรือเก็บตังแต่น้อยหน่อย ให้เด็กที่สนใจ เข้ามา คือถ้าเราอายุ 30 ไปแล้วทำ�งานแบบนีอ้ าจจะ ไม่ไหว แล้วก็อยากจะเบนเข็มไปในด้านของการ ศึกษา ใครชวนไปสอนไปพูดอะไรแบบนี้ เรื่องเงิน ไม่สำ�คัญเลยแต่ขอให้เราได้พูด เราเคยไปพูดที่
71
นัท : ใช่ครับ เรื่องช่องทีวีคือมันมีช่องที่บอกว่า เปิด MV แต่ดันเปิดของค่ายเดียว นี่ไม่ใช่ช่อง MV แต่เป็นช่องโปรโมทค่ายของตัวเอง อย่าง MTV มาแล้วก็หายไป Chanel V ก็ล้ม คือ พวกช่องที่บอกว่าเปิดเพลงแบบไม่สนค่ายเพลง มันก็ล้มลุกคลุกคลานเหมือนพวกผมตอนนี้หมด เลย แต่พวกที่มีเงินทุนของตัวเองเปิดก็ยังอยู่ แล้วมันก็ครอบงำ�ทั้งหมด Eyedropper Fill : รู้สึกว่าเด็กตอนนี้หันมาฟัง เพลงนอกกระแสกันเยอะขึ้น อย่าง Desktop Error มีคนฟังเป็นแสน หรืออย่าง Part Time Musicians ก็สร้างแฟนเพลงขึ้นมา ทำ�ให้ทั้งคน ฟังเพลงและคนทำ�เพลงแข็งแรง เพราะตอนนี้ พวกที่มีเงินทุนเป็นคนขับเคลื่อนทุกอย่าง แต่ จริงๆ แล้วคนที่ขับเคลื่อนคือลูกค้า คือคนฟัง เพลง อย่างเมนสตรีีมมันเปลี่ยนได้ ถ้าตรงนี้ เปลี่ยนนายทุนก็ต้องเปลี่ยน
PIE : ความสุขในการทำ�ภาพเคลื่อนไหว
Eyedropper Fil : รู้สึกว่ามีคุณค่ามากขึ้น กับคนอื่นและตัวเราเองด้วย รู้สึกภูมิใจ มากกว่าตอนเรียนมัธยมฯ เยอะมาก พอมี คนมาคอมเม้นต์ในยูทูป หรือคนที่ตามมา ฟังเราพูดในงานกิจกรรมต่างๆ มีคนมา บอกว่าชอบงานหรือวิธีคิดของเรา และได้ แรงบันดาลใจจากงานของเรา รู้สึกว่าเรา เกิดมาแล้วได้ให้กับคนอื่นๆ
72
facebook.com/eyedropperfill www.eyedropperfill.com
73
PIE TALK
May & Clay Ceramics Studio งานแฮนด์เมดมีทที า่ จะมาแรงในบ้านเราขึน้ ทุกวัน ยิง่ ไปเดิน งานแฟร์ต่างๆ ก็ยิ่งเห็นความตื่นตัวของทั้งนักสร้างและ นักซือ้ วันนีเ้ รามาขอสัมภาษณ์สาวผูห้ ลงใหลในงานเซรามิก เมย์ - กมลชนก ภาณุเวศย์ เจ้าของผลงานเซรามิกน่ารัก ในชื่อ May & Clay Ceramics Studio ความน่ารักและ สวยงามของชิน้ งานของเธอ เรียกว่าดึงดูดใจสาวๆ หนุม่ ๆ ผูร้ กั งานแฮนด์เมดได้อย่างแน่นอน แต่ภายใต้ความน่ารักนัน้ อัดแน่นด้วยความตั้งใจและใส่ใจแค่ไหน คุณต้องลองอ่าน มุมมองของเธอกันดู
74
75
โรงงานเถ้าฮงไถ่ มันเหมือนค้นหาแนวทางของตัวเอง สำ�หรับเมย์แล้ว ที่เมย์เลือกเรียนสาขานี้ เพราะ เจอเลยค่ะ รู้สึกว่าความคิดเราเป็นอิสระมากขึ้น เป็นสาขาที่น่าสนใจ รู้สึกว่ามันน่าสนุก ยาก กล้าทำ�อะไรที่เป็นตัวเองมากขึ้น ลองทำ�ในสิ่งที่ และท้าทาย มีสิ่งต่างๆ ที่น่าเรียนรู้เต็มไปหมด อยากทำ� เลยออกมาเป็นคาแรกเตอร์ที่มาจากตัวตน ประกอบกับการได้เห็นประสบการณ์และผลงาน ของเมย์ เรื่องราวเกี่ยวกับคาแรกเตอร์นั้นๆ ก็มาจาก ของอาจารย์ผู้สอนแล้วรู้สึกประทับใจ อีกอย่าง ตัวเรา คนในครอบครัวและคนรอบๆตัว จากมุมมอง เมย์ไม่ถนัดทำ�งานที่ใช้คอมพิวเตอร์ด้วยค่ะ ชีวิตและทัศนะคติของตัวเราเป็นหลักค่ะ พอได้มาทำ�งานอย่างจริงจังก็พบว่างานเซรามิก เป็นงานที่มีเสน่ห์มากและเหมือนกับมีปรัชญา PIE : เมย์เคยไปฝึกงานที่ญี่ปุ่นด้วย ช่วยเล่า ข้อคิดที่แฝงอยู่ในการทำ�งานด้วยค่ะ ให้ฟังหน่อย เมย์ได้รบั ทุนให้ไปฝึกงานทีญ่ ป่ี นุ่ จากมูลนิธิ Fujimoto PIE : เริ่มทำ� May & Clay ceramics ซึ่งเป็นมูลนิธิของคนญี่ปุ่นที่เคยให้ทุนการศึกษาเมย์ studio มานานเท่าไหร่แล้ว จนเรียนจบมหาวิทยาลัยค่ะ หลังเรียนจบ ทางมูลนิธิ เมย์มีความตั้งใจจะทำ�แบรนด์ของตัวเองตั้งแต่ ก็เห็นถึงความตั้งใจของเราที่อยากทำ�งานเซรามิก ตอนเรียนแล้วค่ะ เป็นโครงการที่คิดไว้ในใจ เลยให้ทุนเมย์ไปฝึกงานเป็นเวลา 3 เดือน ที่เมือง มาตลอด พอจบมาก็ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ อาริตะ จังหวัดซากะ ซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมาก ก่อน แล้วกลับมาเริ่มทำ�แบรนด์ของตัวเอง ทางด้านเซรามิก สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการฝึกงาน คือ อย่างจริงจัง ตอนนี้ก็ทำ� May & Clay ได้ เรื่องความมีระเบียบวินัยและความตั้งใจในการทำ�งาน ประมาณ 2 ปีแล้วค่ะ และได้เห็นความแตกต่างหลากหลายของเทคนิค วัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ใช้ ซึ่งบางชิ้นเป็นอุปกรณ์ที่เกิด PIE : งานของเมย์ดูจะเน้นคาแรกเตอร์ เริ่มทำ� จากภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่น ในช่วงที่ไปฝึกงาน 3 คาแรกเตอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ เดือน สองอาทิตย์สุดท้าย เมย์เดินทางไปที่โตเกียว ตอนที่เมย์เป็นนักศึกษาก็ทำ�งานอีกแบบหนึ่งค่ะ ตั้งใจไปดูพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่ที่เกี่ยวกับศิลปะ เป็นงานที่เน้นเรื่องการเรียนรู้และเทคนิคในงาน ต่างๆ พร้อมกับถือผลงานและ Portfolio ของเรา เซรามิกเป็นหลัก แต่พอได้มาทำ�งานประจำ�ที่ ไปด้วย อยากทราบความเห็นของทั้งคนทั่วไปและ PIE : ทำ�ไมถึงเลือกเรียนและทำ�งานเซรามิก
76
คนทำ�งานศิลปะ เข้าไปถามแบบดื้อๆ เลยค่ะ ได้รับ ความคิดเห็นมากมาย ตอนนั้นผลงานก็ยังไม่เข้าตา เท่าไหร่ แต่เป็นประสบการณ์ที่สนุกและตื่นเต้นมากๆ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากค่ะ พอกลับมารู้สึกว่าเรามอง ญี่ปุ่นเปลี่ยนไป บางสิ่งที่เราคิดว่ายาก แต่มันไม่ได้ยาก อย่างที่คิด ตัวเองมีความกล้ามากขึ้นค่ะ
77
78
PIE : วิธีคิดและการทำ�งานของช่างชาวญี่ปุ่นแตกต่างกับช่างบ้านเราไหม
แตกต่างกันค่ะ เพราะว่าคนญี่ปุ่นจะมีระเบียบแบบแผน มีวินัยในการทำ�งาน ใน เวลาทำ�งานคนญี่ปุ่นจะมีความจริงจังและตั้งใจมาก มีประสิทธิภาพในการทำ�งาน เท่ากันไม่ว่าจะตำ�แหน่งอะไร ช่างมีความชำ�นาญมาก มีเทคนิคที่น่าสนใจมาก บางอย่างที่เราคิดว่าทำ�ไม่ได้แต่ทางญี่ปุ่นเขาทำ�ได้ และอาจจะต่างกันตรงที่ความ ตั้งใจที่จะรักษาภูมิปัญญาของชาติเอาไว้ ทางญี่ปุ่นเขาร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เลยค่ะ เขามีจิตสำ�นึกในความรับผิดชอบต่อหน้าที่มากๆ PIE : พอกลับมาจากญี่ปุ่นแล้วทำ�อย่างไรต่อครับ
กลับมาก็เริม่ ทำ�แบรนด์ May & Clay อย่างจริงจังเลยค่ะ ตัง้ ใจทำ�ผลงาน มองหา โอกาสที่จะเป็นไปได้ในตลาด วางแผนทุกอย่างที่จะทำ�ให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จัก เติบโตและเป็นที่ยอมรับ พอสรุปแผนหรือสิ่งที่เราจะทำ�ได้แล้วก็ลงมือทำ�เลยค่ะ PIE : ปัญหาที่เจอในการทำ� May & Clay ceramics studio
ก็มอี ยูบ่ า้ ง แต่ปญั หาเคยเจอแล้วรูส้ กึ ว่ายาก น่าจะเป็นเรือ่ งของการพิสจู น์ตวั เองค่ะ พอเราทำ�ผลงานไปได้สักระยะหนึ่ง ผลงานของเราพอจะเป็นที่รู้จักบ้างแล้ว งาน ออกแบบของเราผ่านกระบวนการคิดมา บางท่านที่ได้เห็นผลงานแล้วอาจจะมี คำ�ถามเกี่ยวกับกระบวนการออกแบบ ซึ่งบางครั้งไม่สามารถที่จะอธิบายให้เข้าใจ ได้ทั้งหมด อาจจะทำ�ให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับที่มาของงาน ทำ�ให้เรายิ่งต้อง พิสูจน์ตัวเอง ด้วยผลงานที่เราตั้งใจทำ�จากแนวความคิดของเราเองจริงๆ เมย์เชื่อ ว่าคนที่ทำ�งานศิลปะ ทำ�ให้ตายยังไงก็ไม่มีทางออกมาเหมือนกัน เพราะในแต่ละ งานมันจะมีตัวตนของนักออกแบบหรือศิลปินสะท้อนอยู่ในงานนั้นๆ
79
80
81
PIE : ถามถึงข้อดี ข้อเสีย ของการทำ�งานแบบ แฮนด์เมดหรือ Craft Product ในบ้านเราหน่อยครับ
PIE : เมย์เก่งเรื่องการตลาดไหม มองเรื่องนี้ยังไง ในการทำ� May & Clay ceramics studio
เมย์คงไม่เก่งขนาดนั้นหรอกค่ะ เรื่องการตลาดเมย์ เปรียบเทียบจากความเป็นจริงค่ะ เมย์ก็ออกไปศึกษา ข้อมูลของสินค้าประเภทเดียวกันในท้องตลาด เมย์ อาจจะมีแนวคิดที่สวนทางอยู่บ้างคือไม่เน้นว่าสินค้า เราต้องราคาถูก แล้วขายได้ปริมาณเยอะๆ เมย์ ไม่อยากดูถูกผลงานของตัวเอง เลยพยายามเน้นที่ คุณค่าและคุณภาพของงาน เป็นส่วนช่วยส่งเสริมให้ งานเป็นที่ต้องการมากขึ้น ลองคิดเอาตัวเองไปเป็น ลูกค้า และคิดว่าแบบไหนที่ลูกค้าต้องการ
PIE : สำ�หรับงานออกแบบกับงานศิลปะ ผลงานของ เมย์ไปในทางไหนมากกว่ากัน
เมย์คิดว่าไปในทั้งสองแนวทางค่ะ ถ้าเป็นในส่วนของ สินค้าภายใต้แบรนด์ ก็คงต้องเน้นไปที่งานออกแบบ เพราะว่าเราต้องคำ�นึงถึงเรื่องของตลาดและลูกค้า เป็นหลัก มีปัจจัยอื่นๆ เป็นส่วนประกอบในการที่ ทำ�งานออกมา แต่ถ้ามีเวลาว่างเมย์ก็ชอบทำ�งาน ศิลปะมากค่ะ เป็นงานอีกแนวทางหน่ึงที่ออกมาจาก ตัวตนของเมย์ เวลาที่เราทำ�งานศิลปะมันก็จะมีวิธี คิดหรือเทคนิคในการทำ�ที่ต่างออกไป รู้สึกสนุก มี ความสุขและมีอิสระในการทำ�งานค่ะ เป็นอะไรที่ทำ� ควบคู่กันไปและส่งผลถึงกันค่ะ
ข้อดี เมย์คิดว่างานแบบ Craft Product เป็นงาน ที่มีเสน่ห์มากค่ะ เสน่ห์ในแบบที่งานอื่นๆ ทำ�ไม่ได้ มันเป็นงานที่แฝงไว้ด้วยวิถีชีวิตและวัฒนธรรมค่ะ มีความเป็นอิสระ อาจจะไม่ต้องคำ�นึงเรื่องถูกต้อง ในกระบวนการผลิตเหมือนอย่างงานในระบบ อุตสาหกรรมมากนัก ส่วนเรือ่ งข้อเสีย งานลักษณะนี้ ยังเป็นที่ยอมรับของคนเฉพาะกลุ่มอยู่ บางคนที่ยัง ไม่เข้าถึงอาจจะไม่เข้าใจอารมณ์ของงาน Craft ค่ะ PIE : งานของเมย์เน้นไปที่ความน่ารัก อบอุ่น มาตลอด อยากลองทำ�แนวอื่นบ้างไหม
จริงๆ งานแนวอื่นเมย์ก็เคยลองแล้วนะคะ ก็ยังต้อง ฝึกฝน พัฒนาแนวทางใหม่ๆ แต่ให้งานออกมายังมี ความเป็นตัวเองอยู่
PIE : เซรามิกดูจะเป็นงานที่ใช้เวลาและขั้นตอนมาก ขั้นตอนไหนยากที่สุดสำ�หรับเมย์
จริงๆ แล้วทุกขั้นตอนมีความสำ�คัญที่สัมพันธ์กัน หมดค่ะ แต่สำ�หรับเมย์ ขั้นตอนที่มีผลต่องาน มากที่สุดน่าจะเป็นขั้นตอนการเผา เพราะว่าถ้าเรา ควบคุมอุณหภูมิหรือบรรยากาศในการเผาไม่ดี งาน ที่ออกมาก็จะไม่เป็นไปตามที่เราวางแผนไว้ค่ะ
82
83
84
PIE : ช่วยเล่ากิจกรรม หรือ ตารางเวลาในการ ทำ�งานให้ฟังหน่อย ดูเมย์น่าจะขยัน
PIE : เวลาเครียดหรือท้อใจ เมย์มีวิธีแก้ไขยังไง
เมย์จะเริ่มทำ�งานตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึงประมาณ 4 ทุ่ม แล้วแต่วันค่ะ หลังจากนั้นก็พักผ่อน เล่น อินเตอร์เน็ต ดูงานนิดหน่อยแล้วก็เข้านอนค่ะ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ขยันอะไรมากขนาดนั้นนะคะ อาจจะเป็นเพราะงานที่เราทำ�เป็นงานที่เรารัก เลย สามารถอยู่กับมันได้นานๆค่ะ PIE : ชอบผลงานของศิลปินท่านไหนเป็นพิเศษไหม ถ้าให้ร่วมงานกับศิลปินคนไหนก็ได้ในโลก เมย์อยาก ร่วมงานกับใคร
จริงๆ เมย์ชอบผลงานของศิลปินหลายท่านมากเลย แต่ถ้าเป็นช่วงนี้ศิลปินที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ น่าจะ เป็นคุณวิภู ศรีวิลาส ศิลปินเซรามิก และ พี่ตั้ม วิศุทธิ์ พรนิมิตร เมย์ชอบทั้งลายเส้นการ์ตูน โดยเฉพาะน้องมะม่วงจังและชอบแนวความคิดใน การใช้ชีวิตของพี่ตั้มด้วยค่ะ ถ้าให้ร่วมงานกับศิลปิน คนไหนก็ได้ในโลก เมย์อยากร่วมงานกับ 2 ท่าน นี้ค่ะ คือ Lili Scratchy และ Nathalie Choux ชอบทั้งงานภาพวาดของเขาและงานเซรามิกของ เขาค่ะ จริงๆ นอกจากงานเซรามิกส์แล้ว เมย์ก็ ชอบวาดภาพเหมือนกัน ถ้าได้ร่วมงานกันจริงๆ ก็ คงจะน่าสนุกมากเลยค่ะ
85
ต้องดูที่ระดับความเครียดด้วยค่ะ ถ้าหงุดหงิดนิด หน่อยก็จะไปเล่นกับแมว ทำ�งานบ้าน ทำ�บ้านให้ สะอาด รู้สึกว่าพอเห็นบ้านสะอาดแล้วจิตใจก็จะ ปลอดโปร่งไปด้วย แต่ถ้าหนักมากเครียดมากก็จะ ปรึกษาเพื่อน หรือคนรอบข้างเพื่อจะหาแนวทางแก้ ปัญหาแล้วจะแก้ปัญหานั้นเลย ไม่ทิ้งไว้นานค่ะ PIE : เมย์มีงานอดิเรกอะไรบ้าง นอกจากทำ�เซรามิก
ถ้าพอมีเวลาว่าง เมย์จะชอบไปหาอะไรอร่อยๆ กินค่ะ กับอ่านหนังสือที่เป็นงานด้านอื่นๆ ที่เราสนใจ เช่น ภาษา หรือว่าเรื่องการตลาด เรื่องแนวความคิดของ คนที่ประสบความสำ�เร็จและเมย์ก็ชอบดูงานศิลปะ มากค่ะ ดูได้ทุกแขนง ไม่จำ�เป็นว่าต้องเป็นงาน เซรามิก คิดว่าเวลาเราดูงานศิลปะแล้วเราจะเกิด แรงบันดาลใจและแรงพลักดันให้เรากลับมาทำ�งาน ของเราเอง เวลาว่างอีกอย่างที่ชอบทำ�คือ ปั้นดิน เล่นค่ะ งานศิลปะของเมย์ส่วนใหญ่ก็เกิดจากช่วง เวลาที่ไร้กรอบและสบายๆ นี้แหละค่ะ PIE : เมย์มีความใฝ่ฝันอะไรบ้าง ในตอนนี้
1. อยากทำ�แบรนด์ของเมย์ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในไทย และชาวต่างชาติค่ะ อยากพัฒนางานในส่วนนี้ให้ดี ขึ้นไปอีก
86
2. อยากเปิด Studio ทำ�งานที่มีทั้งสอนปั้น Workshop เซรามิกและมี Gallery แสดงงานเป็นของตัวเองอยู่ในพื้นที่ เดียวกันค่ะ 3. อยากทำ�งานศิลปะ และได้มีโอกาสแสดงงานตามที่ต่างๆ ทั่วโลกค่ะ อยากเดินทางเยอะๆ ไปในหลายๆ ประเทศ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากร่วมงานกับศิลปินในประเทศนั้นๆ ค่ะ PIE : แผนในอนาคตอันใกล้ มีอะไรบ้าง
อยากส่งออกสินค้าไปทั่วโลกและพัฒนางานภายใต้แบรนด์ให้ ดีขึ้น ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและยอมรับของต่างชาติมากขึ้นค่ะ PIE : ความสุขจากการทำ�เซรามิกคืออะไรครับเมย์
ความสุขของการทำ�เซรามิกของเมย์ คือ ความสงบที่เกิดขึ้น ระหว่างที่ทำ�งานค่ะ มันทำ�ให้เราได้หยุดคิดอยู่กับตัวเองและ มีสติกับสิ่งที่เราทำ�อยู่ตรงหน้า เป็นสิ่งที่ช่วยฝึกจิตใจได้ ดีมากค่ะ เมื่อผิดพลาดไปแล้วมันแก้ไขได้ ไม่ง่ายเหมือนกับ การใช้คอมพิวเตอร์ ทุกส่วนมีความสำ�คัญและมีความสัมพันธ์ เกี่ยวข้องกันหมดค่ะ แต่ในทางกลับกัน เมื่อสิ่งที่ผิดพลาด มันเกิดขึ้นแล้ว เช่น หลังเผา เปิดเตาออกมาแล้วผลงานไม่ เป็นอย่างที่คิดไว้ เราก็สามารถทำ�ใจได้อย่างรวดเร็ว ยอมรับ ความเป็นจริงง่ายขึ้น หาสาเหตุของปัญหานั้นๆ ไม่จมอยู่กับ ปัญหา หรือเสียใจนานๆ ก็ทำ�ให้เรามีความสุขได้เร็วขึ้นค่ะ
facebook.com/MayandClayCeramicsStudio 87
88
PIE TALK
Is it funny or not?
Toyokazu Nagano ผมเห็นภาพของคุณ โทโยคาสุ นางาโนะ มาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่พี่แกทำ�พร๊อพประกอบฉากเป็นรูปกล้องฟิล์ม Pentax 67 มาสวมหัว หลังจากนั้นผมก็ติดตาม ภาพถ่ายน่ารักของคุณ โทโยคาสุ นางาโนะ มาตลอด จนเจอเซต “My Daughter Kanna” และ “kiss me please project” เข้าไปก็ทนไม่ไหว ต้องขอ สัมภาษณ์กระตุกไอเดียกุ๊กกิ๊กกันหน่อย ว่าแล้วอย่า รอช้ามาฟังมุมมองของคุณพ่อลูกสองช่างภาพชาว ญี่ปุ่นคนนี้กันเลย
89
PIE : ตอนนี้คุณทำ�อะไรอยู่บ้างครับ
ล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผมเปลี่ยน ตัวเองจากนักวางแผนโฆษณาทางทีวีมาเป็น ช่างภาพอิสระแบบเต็มตัว ผมกำ�ลังจะเปิดสตูดโิ อ ช่วงมีนาคมปีหน้านี้ สตูดิโอของผมนอกจากงาน ถ่ายภาพและสิ่งพิมพ์ต่างๆ ผมยังอยากบอกเล่า ความสุขในการถ่ายภาพ อย่างการถ่ายรูปคนรัก หรือครอบครัว และผมอยากจะขยายตัวรูปถ่าย ของผมไปยังงานถ่ายภาพรูปแบบอื่นๆ อย่าง การถ่ายรูปแต่งงาน, แฟชั่น, ปกซีดี และผม ก็จะขยายตัวงานของผมไปในต่างประเทศด้วย
PIE : คุณเริ่มงานถ่ายภาพได้ยังไง
มันเริ่มในช่วงปี 2008 ผมเห็นเพื่อนถ่ายภาพด้วย กล้อง Digital SLR ที่เขาเพิ่งซื้อมา ผมชอบและ ประทับใจมาก ก่อนนั้นผมไม่เคยสนใจงานถ่ายภาพ มาก่อน ไม่นานผมก็ซื้อกล้องมาบ้างและเริ่มถ่ายรูป สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว และผมก็เริ่มถ่ายภาพลูกสาวคน ที่สองของผมซึ่งตอนนั้นเธอเพิ่งเกิดเลย ผมเห็นภาพ ชีวิตประจำ�วันของลูกสาวผ่านเลนส์กล้อง แล้วมี ความสุขมาก มันเป็นการค้นพบสิ่งที่น่าตื่นเต้นเล็กๆ สำ�หรับผม จากนัน้ ผมเริม่ ตามถ่ายภาพครอบครัวของผม ผมเลยกลายมาเป็นนักบันทึกภาพประจำ�ครอบครัว 90
91
92
ที่ตัดผ่านหน้าบ้านของเรา ผมนำ�ภาพเซตนี้แชร์ใน ผมใช้กล้องฟิลม์ Pentax 67 medium-format อินเตอร์เน็ต และผมก็ได้รบั ข้อความจากชาวต่างชาติ เหมือนผมจะพบความสุดยอดของภาพขนาด 6x7 ว่า “ถนนของฟาร์มนี้ไม่ใช้แค่ถนนของฟาร์ม แต่ ในขณะที่กล้องดิจิตอลมีข้อดีคือความสะดวกสบาย เป็นถนนที่มีพลังให้ผู้คนยิ้มได้” ข้อความนี้ทำ�ให้ผม ในการใช้ และให้คุณลองถ่ายได้หลายๆ ครั้งอย่าง มีความสุขมาก ผมเลยคิดว่างั้นถนนเส้นนี้น่าจะเป็น ง่ายดาย แถมยังช่วยเหลือแก้ไขภาพของคุณได้ด้วย “magic road” และผมก็เรียกแบบนีม้ าตลอด หลัง แต่ผมก็ชอบความไม่สมบูรณ์ของธรรมชาติที่ส่งผล จากนั้นผมก็เริ่มถ่ายภาพเซตนี้โดยคิดอะไรสนุกๆ กับฟิล์ม มันทำ�ให้ผมเข้าใกล้ธรรมชาติมากขึ้น เพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ เพราะผมต้องเอาใจใส่มันมากขึ้น ผมชอบทำ�งาน กับฟิล์มมากกว่า PIE : แล้วภาพชุด “kiss me please project” มันมากจากกระแสที่ทั่วโลกกำ�ลังพูดถึงกันครับ ใน PIE : อธิบายถึงเซตภาพ “magic road” หรือ เรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศ ระหว่างกลุ่มคน “My Daughter Kanna” หน่อยครับ เผ่าพันธ์ุ ใกล้บ้านผมก็มีคู่สามีภรรยาที่ทะเลาะกัน ก่อนหน้าที่มันจะเป็น “magic road” ความตั้งใจ บางคนก็เจอการขัดแย้งกันระหว่างพี่น้อง ผมจึงคิดว่า ของผมคือการถ่ายภาพลูกสาวคนที่สองของผมสัก แทนที่เราจะสู้กันทะเลาะกันให้วุ่นวายหรือเจ็บปวด คอลเล็กชั่นหนึ่ง โดยมีธีมว่า “อะไรคือวิธีที่ง่าย เราควรจะจูบกันแทนดีกว่า ผมว่าถ้าเราทำ�แบบนั้น ที่สุดที่จะทำ�ให้คนอื่นหัวเราะได้” ผมไม่ต้องการพื้น ทุกอย่างมันน่าจะง่ายขึ้นไม่ใช่เหรอ ทุกอย่างน่าจะ หลังของภาพที่มีความหมายอะไรมากมาย ถนน แก้ไขได้ดีกว่า ผมจึงเริ่มถ่ายภาพคันนะ ลูกสาว นั้นเป็นถนนของฟาร์มที่ไม่น่าสนใจอะไรเลยที่หนึ่ง ของผม กำ�ลังจูบกับสิ่งต่างๆ PIE : ดูคุณจะชอบกล้อง Pentax 67
93
94
95
ของมันคือเสียงหัวเราะ เสียงหัวเราะเป็นสิ่งที่อยู่ บางทีผมก็ต้องมีเทคนิคแบบเอาขนมหรือลูกอม เหนือขอบเขต มันเป็นสิ่งที่ทำ�ให้เราสัมผัสบางสิ่ง ได้ลึกขึ้นและเป็นสากล เสียงหัวเราะเป็นพลังใน ให้เธอบ้าง (หัวเราะ) การเต็มเติม มีพลังในการสร้างความสุขที่ง่ายและ รวดเร็ว และผมก็พยายามพัฒนาความคิดนี้ สิ่ง PIE : งานของคุณนอกจากความน่ารัก ที่ผมใช้ทั้งในเรื่องความเป็นพ่อและความเป็นหนึ่ง น่าเอ็นดู ยังแอบมีความคิดสร้างสรรค์ดีๆ อยู่ ในสมาชิกของครอบครัวคือ “ถ้าสิ่งไหนสร้างเสียง มากเลย หัวเราะ ถือว่า Ok” ผมรู้สึกว่ามันเป็นการเชื่อมโยง สิ่งที่ผมเน้นจริงๆ คือความเรียบง่าย ง่ายต่อ ระหว่างครอบครัว หรือเพื่อน เพื่อนร่วมงาน คนรัก ความเข้าใจ และทำ�ให้คนหัวเราะได้ สองสิง่ นี้ เป็นหลักเลย ไม่ว่าคุณจะเกิดจากประเทศไหน ในเวลาที่ผมหรือเขาเหล่านั้นเห็นสิ่งเดียวกัน อ่าน คุณจะเห็นถึงสองสิ่งนี้ เมื่อผมคิดไอเดียดีๆ ขึ้น สิ่งเดียวกัน และหัวเราะด้วยกัน จนมันค่อยๆ หลอมรวมการเป็นประสบการณ์ที่ดีร่วมกัน สิ่งที่ผม มาได้ ผมจะเริ่มวาดรูปไปให้ลูกสาวของผมดู แล้วเราก็ออกไปถ่ายรูปมาดูกันว่ามันจะเป็นยังไง ทำ�คืออับโหลดรูปลงในเว็บไซต์ให้ทุกคนที่เห็นมี บางครั้งเราก็มานั่งทำ�ของเล่นประกอบฉากกัน ความสุข มันดีมากๆ ที่ได้เชื่อมโยงเสียงหัวเราะ ร่วมกับคนอื่นๆ ฉะนั้นผมใช้ชีวิตและถ่ายภาพด้วย นั่นคือผมเล่นสนุกกับไอเดียไปพร้อมกับเด็กๆ และพยายามที่จะทำ�อะไรสนุกตลอด อย่างการ ความคิดที่ว่า “มันสนุกหรือไม่” ฉลองวันเกิดของคนในครอบครัว ผมชอบที่พลัง ของความคิดสร้างสรรค์อยู่ในชีวิตประจำ�วันของ PIE : คุณมีโปรเจกต์อะไรอยู่บ้าง ตอนนี้ผมมีโอกาสทำ�หนังสือรุ่นกับโรงเรียนประถม เรามากกว่าจะอยู่แค่ในการทำ�งาน แห่งหนึง่ ทีผ่ มต้องถ่ายภาพนักเรียน 36 คน เรียบเรียง เรื่องต่างๆ และออกแบบ มันค่อนข้างน่าสนใจ PIE : อะไรเป็นจุดประสงค์หลักในงานของคุณ ผมไม่ใช่คนที่มีคติประใจในการดำ�เนินชีวิต แต่ เพราะผมตั้งใจจะเพิ่มไอเดียหลายๆ อย่างลงไปด้วย ผมมีคติประจำ�ภาพของผม มีแบบแผนในเวลาที่ แล้วหวังว่ามันจะเป็นความทรงจำ�ทีด่ กี บั นักเรียนกลุม่ นี้ ผมจะถ่ายรูป นั้นคือ “มันสนุกหรือไม่” เหตุผล ผมอยากทำ�ให้เขาอ่านมันซ้ำ�แล้วซ้ำ�อีกไปได้นานๆ PIE : ลูกสาวคุณดูจะเป็นนางแบบที่มีพรสรรค์
96
97
98
99
PIE : กิจกรรมอะไรที่คุณทำ�กับ ครอบครัวในวันหยุด
ไปสวนสาธารณะ ช็อปปิ้งซื้อของ และก็ถ่ายรูป
PIE : ถ้าเราให้คณ ุ เลือกระหว่าง นมสด กาแฟ และเบียร์ คุณจะเลือกอะไร
กาแฟแน่นอน ผมชอบดื่มกาแฟและ สูบบุหรี่
100
PIE : อาหารโปรดของลูกสาวทั้งสองคนของคุณคืออะไร
สำ�หรับลูกสาวคนโต Miu ก็เป็นไก่ทอดและ Kanna ลูกสาวคนเล็กชอบซูชิ บะหมี่ ขนมกรุบกรอบ ขนมหวาน เออ..เธอตะกละนิดหน่อย
101
102
facebook.com/toyo.nagano flickr.com/photos/toyokazu/
103
PIE TEAM : 080 233 5492, 086 918 6216 www.pieeveryday.com facebook.com/piemagazine2013 pieonlinemag@gmail.com 100/99 chaiyapruk village, soi 55 ,Sukapibal 5 O-ngoen ,Saimai ,Bangkok 10220
104
105
SEE YOU SOON 106