PIE magazine 14

Page 1

dec

2 1 0 4

ISSUE 14 BLA BLA BLA GARDENER TWINS TUNA Dunn Martyna W贸jcik Smierska PHOTO GALLERY BY Mspostage Aor Sutthi | CREATIVE WORKING & LIVING LIFE STYLE in bangkok| FREE & ONLINE ONLY | PIEEVERYDAY.com | facebook.com/piemagazine2013 |


THANK FOR YOUR SUPPORT

02


03


EDITOR’S TALK สวัสดีปีใหม่ครับ ชอบหัวหนังสือใหม่ของพายกันหรือเปล่า เหตุผลที่เปลี่ยนก็มีหลายสาเหตุครับอย่างเช่น อยากให้ดู ง่ายๆ สบายๆ ขึ้น อยากปรับรูปแบบหนังสือและสาเหตุ หลั ก เลยก็ ม าจากความเบื่ อ นั่ น เอง (เหตุ ผ ลดี ม ากๆ) นอกจากเรือ่ งการเปลีย่ นหัวหนังสือแล้ว ผมก็ยงั นัง่ ปวดหัว กับหลายๆ เรื่อง เช่นในปีใหม่นี้ เราจะทำ�อะไรเพิ่มเติมในพาย บ้าง รูปแบบหนังสือจะทำ�ยังไง ควรมีกจิ กรรมอะไรบ้างไหม จะพิมพ์พายเล่มพิเศษดีไหม สรุปคือ...ยังไม่รู้ ที่รู้แน่ๆ คือ ทางเราจะพยายามทำ�พายให้สนุกสนานน่าอ่านมากขึน้ ส่วน เรื่องอะไรใหม่ๆ ที่ทางเราจะทำ�ต่อไปจากนี้นั้น รอติดตามใน เพจเฟซบุ๊กแล้วกันนะครับ ยังนึกไม่ออกจริงๆ แต่มั่นใจว่า ต้องมีอะไรใหม่ๆ มานำ�เสนอกับคุณผูอ้ า่ นแน่นอน ปีทผี่ า่ นมา นีก่ เ็ ป็นประสบการณ์ทดี่ ขี องผมและพายมากๆ และหวังว่าปี นี้จะมีประสบการณ์ดีๆ เข้ามาเช่นกัน และก็หวังว่าผู้อ่านทุก ท่านจะพบเจอกับประสบการณ์ดๆี ในปี 2015 นีเ้ ช่นกันนะครับ

สุรเชษฐ์ ศิลปบรรเลง PIE MAKER

04


BLA BLA BLA... www.pieeveryday.com pie online magazine

contents

gardener twins

martyna wójcik-smierska

issue # 14

tuna dunn

mspostage gallery aor sutthiprapha

PIE ONLINE MAGAZINE

100/99 ChaiyaPruk Village’ soi 55 Sukapibal 5 road, O-ngoen, saimai, bangkok, thailand , 10220

05

tel : 08 0233 5492 E-MAIL : pieonlinemag@gmail.com www.pieeveryday.com www.facebook.com/piemagazine2013 IG : PIEONLINEMAGZINE


06


a laid back afternoon under the cloud, a night on the grass

ศิลปิน สหายแห่งสายลม (Bird Desktop Error) Into The Air Death Of A Salesman นเรศ วิโรจน์ธนะชัย & เธียรกฤตย์ (Goose) Zweed N’ Roll เกษมสมัย วงศ์ชยาศิลป์ Ben Edwards (Basement Tape) Two Million Thanks Chinnawess Noppakornlertlak Gardener Twins Flower Dog Hummingbert Two Flowers Spock and Wisahsa Band Ananta และศิลปินที่ผ่านการคัดเลือก เพื่อเข้าร่วมเล่นกับทางเทศกาล Tugsuk กฤตภาส สุรินต๊ะ ณัฐชนน วัฒนกุลจรัส Young Man & The Sea Folk White จินตะ

KEEP ON THE GRASS FOLK MUSIC FESTIVAL #3

หลีกหนีจากดนตรีกระแสหลัก ที่ฉาบเคลือบไป ด้วยสังคมวัตถุนิยม ด้วยการฟังดนตรีอะคูสติก โฟล์ก ซึ่งจะพาคุณจมดิ่งลงไปในเบื้องลึกอย่าง สามัญ และเรียบง่ายที่สุด จนคุณจะสัมผัสได้ถึง ความรู้สึก และที่มาที่ไปของบทเพลงเหล่านั้น ภายใต้เมฆหมอกสีเทายามบ่าย ไปจนถึงค่ำ�คืน หนาว ทีจ่ ะสว่างไสวไปด้วยแสงจากดวงดาวร่วมกัน โดยเรื่องราวทั้งหมด จะถูกถ่ายทอด ผ่านเครื่อง ขยายเสียง ท่ามกลางวิวทิวเขาแบบ 360 องศา ผ่านท้องฟ้า อากาศ ภูเขา แสงแดด และธรรมชาติ เท่าที่ยังมีอยู่ นั่งหรือนอนลงบนพื้นหญ้าที่ เปลี่ยนสีสันไปตามฤดูกาล ที่ภูอุทัย มวกเหล็ก สระบุรี

escape from mainstream music which is guided by materialism. listen to acoustic folk which will take you into minimalism and simplicity to the point that you can feel how the music come about. together, under the cloud and through a cold starry night. the whole story will be told and relay through the amplifier across the 360 view of the mountains, the sky, weather, the daylight and natures that we can still enjoy. sit or lay down on the grass that change its natures with through the seasons at phu uthai, muaklek, saraburi. saturday, january 31th, 2015 at phu uthai, muaklek, saraburi. tickets at the door: 1,500 baht facebook.com/keeponthegrassmusicfestival

วันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2558 ที่ภูอุทัย มวกเหล็ก, สระบุรี

บัตรหน้าประตูราคา 1,500บาท facebook.com/KeepOnTheGrassMusicFestival

07


Chad Wys examination of visuality

มาชมความแปลกใหม่บนความคลาสสิค จากศิลปินมากความ สามารถนาม Chad Wys ศิลปินชาวอเมริกันท่านนี้เป็นทั้ง Visual Artist, Designer และนักเขียน งานของเขาบอกถึงการ หาความหมายและถอดรหัสหาที่มาจนถึงทดสอบความรู้สึกของ ผู้ชมจากผลงานศิลปะยุคเก่าหลากหลายประเภท บางชิ้นสร้าง มุมมองที่แปลกใหม่เพิ่มขึ้น และหลายผลงานก็สร้างอารมณ์ และมุมมองที่แตกต่างจากงานเดิมไปโดยสิ้นเชิง ผลงานของ Chad Wys ที่มีทั้งความสนุกในการตั้งคำ�ถาม และเขาก็ได้ คำ�ตอบที่สวยงาม กวนประสาท และเท่ในเวลาเดียวกัน งานมันๆ แบบนี้ลองไปหาดูที่ chadwys.com นะครับ

08


Barry X Ball: Portraits and Photos

“Barry X Ball: Portraits and Photos” นิทรรศการเดีย่ วครัง้ แรกในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ของศิลปินอเมริกันชื่อดัง Barry X Ball กับการจัดแสดงผลงานประติมากรรม หินโอนิกซ์ “Matthew Barney Dual Portrait” Barry X Ball หรือ BXB คือ หนึ่งในประติมากรที่มีชื่อเสียงทางด้านฝีมือมากที่สุด ตั้งแต่การสร้างสรรค์ผลงานด้วย ระบบ Digital Scanning ที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ ไปจนถึงเทคนิคการแกะและขัดหิน แบบดั้งเดิม ผลงานที่มีรูปทรงที่บ่งบอกถึงความซับซ้อนและการใช้ทักษะประติมากรรม ชั้นสูง ผลงานของ Ball ถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์และเทศกาลศิลปะที่สำ�คัญในระดับ โลกมากมาย 100 ต้นสนแกลเลอรี่ ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมชมงาน “Barry X Ball: Portraits and Photos” ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2558 ในวันแรกของงาน (First Preview Day) แกลเลอรี่จะเปิดให้เข้าชมได้จนถึง 9.30 น พร้อมอาหารและเครื่องดื่มตลอดงาน และ พบปะพูดคุยศิลปิน Barry X Ball ได้ในงาน Closing Party สุดพิเศษในวันที่ 19 มีนาคม 2558 ณ 100 ต้นสนแกลเลอรี่

09


Colour Chaser

เก๋ไก๋สุดๆ กับนิทรรศการสุดคูลของดีไซเนอร์ชาว ญี่ปุ่น Yuri Suzuki ด้วยการแปลงสี RGB ให้ กลายเป็นเสียงด้วยเจ้าเครื่องสีขาวหน้าตาคล้ายรถ ประหลาด 5 แบบ กับเสียงในแบบเครื่องดนตรีครบ วง 5 ชิ้นทั้ง Basscar Glitchcar Melodycar Arpeggiocar และ Drumcar โดยการใช้เส้นสีดำ�ที่ มองดูแล้วคล้ายกับรางรถไฟ เมื่อใช้ปากกาเมจิกมา ระบายบนเส้น แล้วนำ�เจ้า Colour Chaser วางบนเส้น มันจะวิ่งไปตามเส้นและเกิดจัวหวะเสียงออกมาเมื่อวิ่ง ผ่านเส้นสีที่ขีดเขียนลงไป เป็นงานที่ดูสนุก น่ารักและ ขี้เล่นสุดๆ ติดตามต่อที่ http://yurisuzuki.com

010


Mad Mallets

ค้อนสีสันน่ารักสดใส จาก UM Project ดีไซน์สตูดิโอจากบลูคลิน ซึ่ง Mad Mallets นี้ เขาออกแบบและผลิตขึ้นเพื่อร้านในพิพิธภัณฑ์ Cooper Hewitt ในมหานครนิวยอร์กโดยเฉพาะ ซึ่งได้เชิญดีไซเนอร์อเมริกาถึง 25 คน ทำ�ลิมิเต็ดอิดิชั่นขึ้นเพื่อนิทรรศการนี้ ซึ่งเป็นการรวมกันของงาน แฮนด์เมดกับแมสโปรดักส์เข้าด้วยกัน และใช้การมิกซ์วัสดุไม่ว่าจะเป็น อลูมิเนียม ไม้เมเปิ้ล ทองเหลือง ทองแดง ฯลฯ เห็นค้อนดีไซน์เท่ๆ แบบนี้ อยากได้มาตอกตะปูที่บ้านจริงๆ ติดตามต่อได้ที่ http://umproject.com

011


Geometric Glass Terrariums

กระบองเพชรกำ�ลังเป็นที่นิยมเลี้ยงกันมาก และกำ�ลังอินสุดๆ ในช่วงนี้ จนมีการเพาะขายกันมากมาย ส่วนกระถางก็ต้อง น่ารักสวยเก๋เข้ากันกับเจ้าต้นไม้จิ๋วที่ตั้งใจทนุถนอมเพาะเลี้ยงมาเป็น อย่างดี แต่ใครไม่สันทัดสไตล์น่ารักมุ้งมิ้งขอเชิญ ไปชมงานจาก Score+Solder ดีไซน์สตูดิโอของแคนนาดา ที่ทำ�กระถางต้นไม้ แฮนด์เมดสุดเก๋ที่ใช้ลูกเล่นของโครงสร้างแบบเรขาคณิตติดกระจก ใส เสริมความเท่ได้อีกอารมณ์เพื่อคุณๆ แคคตัสเลิฟเวอร์ที่อยากเก๋ เท่นิ่งไม่มุ้งมิ้งทั้งหลาย ดูได้ที่ www.scoreandsolder.com

012


SupermooN Real Lamp from real Moon

Supermooon โคมไฟดวงจันทร์ ที่ได้แรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์ดวงจันทร์ ใหญ่ขึ้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2011 ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่เขาว่าได้แรงบันดาลใจจากด วงจันทร์นี้ ไม่ใช่แค่จะมาทำ�เป็นลูกกลมๆ นวลๆ ธรรมดาๆ นะ แต่เขาสร้างลายของ เจ้าโคมไฟ Supermooon ชิ้นนี้จากภาพข้อมูลที่ดึงมาจากยานอวกาศ Kaguya กันเลย เรียกว่าเป๊ะมากๆ ออกแบบโดยทีม Nosinger ประเทศญี่ปุ่น ใช้ไฟแบบ LED งานสวยเนี๊ยบแบบนี้อยากได้จัง ติดตามต่อได้ที่ http://nosigner.com

013


Nectar & Stone

น่ารักเสียจนไม่กล้ากิน ก็ขนมจาก Nectar & Stone เขาทำ�ได้ออกมาสวยงามซะจนอยากเก็บไว้ดูมากกว่าน่ะสิ ทั้งคัพเค้ก ช็อกโกแลต คุกกี้ ที่ทั้งรูปทรงและสีสันในแต่ละ ชิ้นที่สร้างสรรค์จากฝีมือของ Caroline Khoo นั้น สวยงามอย่างกับงานศิลปะ อาทิ ช็อกโกแลตสีสันน่ารัก ที่ประดับด้วยทองคำ�เปลวดูหรูหรา คุกกี้ที่ละเลงสีด้วย ฝีแปรง ถ้าสนใจร้านนี้ก็อยู่ไม่ไกล แค่ประเทศออสเตเลียเอง (คนเขียนก็ไม่มีปัญญาไป) ติดตามต่อได้ที่ nectorandstonemelbourne.com

014


Nuna Popsicals

เห็นรูปลักษณ์แปลกๆ แบบนี้ ดูเผินๆ คงไม่รู้ว่าอะไร นี่คือไอศกรีม หวานเย็นเท่สุดๆ จาก Nuna จากเบอร์ลิน เขาเคลมไว้ว่า “The most delicious popsicle in the world” เลยทีเดียว ใช้ส่วน ผสมจากธรรมชาติ ฝีมือมาสเตอร์เชฟ Heiko Antoniewicz และออกแบบโดยสถาปนิก Manu Kumar และ ดีไซเนอร์ Stefan Gandl โดยรูปทรงขอไอศกรีมถูกพัฒนาจากเชฟฟอร์มออแกนิก ก้านถือแบบไม้ไผ่ ในคอนเซปต์ ของหวานที่แสนเรียบง่าย สวยงาม และน่ากินมากๆ แต่เรื่องรสชาติจะเป็นอย่างไรต้องไปพิสูจน์กัน ติดตามได้ที่ www.nuna-world.com

015


1. FKA twigs: LP1 (Young Turks) 2. Future Islands: Singles (4AD) 3. Iceage: Plowing Into the Field of Love (Matador) 4. Pharmakon: Bestial Burden (Sacred Bones) 5. Eagulls: Eagulls (Partisan) 6. Sharon Van Etten: Are We There (Jagjaguwar) 7. Cymbals Eat Guitars: LOSE (Barsuk) 8. EMA: The Future’s Void (Matador) 9. Quilt: Held in Splendor (Mexican Summer) 10. Run the Jewels: Run the Jewels 2 (Mass Appeal) 11. Swans: To Be Kind (Young God) 12. St. Vincent: St. Vincent (Loma Vista) 13. Chet Faker: Built on Glass (Downtown/ Future Classics) 14. Sun Kil Moon: Benji (Caldo Verde) 15. The Flaming Lips: With a Little Help from my Fwends (Warner Bros.) 16. Todd Terje: It’s Album Time (Olsen) 17. ...And You Will Know Us By the Trail of Dead: IX (Superball) 18. Matt Kivel: Days of Being Wild (Woodsist) 19. The Roots: ...And Then You Shoot Your Cousin (Def Jam) 20. Dirty Beaches: Stateless (Zoo Music) 21. Skygreen Leopards: Family Crimes (Woodsist) 22. Morrissey: World Peace Is None of Your Business (Harvest) 23. The New Pornographers: Brill Bruisers (Matador) 24. Jenny Lewis: The Voyager (Warner Bros.) 25. Grouper: Ruins (Kranky) 26. Woods: With Light and With Love (Woodsist) 27. alt-J: This Is All Yours (Canvasback/Infectious) 28. Warpaint: Warpaint (Rough Trade) 29. Lykke Li: I Never Learn (LL/Atlantic) 30. Alvvays: Alvvays (Polyvinyl) 31. White Fence: To the Recently Found Innocent (Drag City) 32. Liars: Mess (Mute) 33. Bear In Heaven: Time Is Over One Day Old (Dead Oceans) 34. Wand: Ganglion Reef (Drag City)35. Hookworms: The Hum (Weird World/ Domino) 36. SBTRKT: Wonder Where We Land (Young Turks) 37. Clark: Clark (Warp) 38. Kevin Morby: Still Life (Woodsist) 39. Bill Callahan: Have Fun with God (Drag City) 40. The Fresh & Onlys: House of Spirits (Mexican Summer)

016


Top 40 Album cover of 2014 from Under the Radar MAGAZINE

ในยุคดิจิตอลยอดขายแผ่นซีดีก็ลดน้อยลงไปด้วย ศิลปินทั้งหลาย จึงต้องทำ�ผลงานทีไ่ ม่ใช่แค่เพลงเพียงอย่างเดียว ปกอัลบัม้ ก็ส�ำ คัญ ไม่แพ้กัน และนี่คือปกอัลบั้มที่คัดสรรมาอย่างดีจากนิตยสารดนตรี อินดี้จากประเทศอังกฤษ Under the Radar เขาคัดปกอัลบั้มที่ จี๊ดที่สุด 40 ปก จากปี 2014 มีทั้งศิลปินชื่อดัง และในสายอินดี้ จะถูกใจใครบ้างไปดูกันได้ที่ www.undertheradarmag.com

017


018


Top 10 Photos of TIME 2014

ใกล้จะขึ้นปีใหม่ มีการจัดอันดับที่สุดแห่งปีอยู่หลายแขนง และนี่คือภาพถ่ายที่เป็นที่สุด 10 อันดับของนิตยสาร Time นิตยสารที่ทรงอิทธิพลและอยู่มายาวนานฉบับ หนึ่ง ในเซตนี้มีทั้งเหตุการณ์สำ�คัญแสนสะเทือนอารมณ์ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการประท้วง การอพยพ โรคระบาด สงคราม ฯลฯ มีทั้งเรื่องน่าเศร้าจนถึงน่ายินดี สีหน้าและ อารมณ์ของผู้คนในช่วงเวลาขณะนั้นของพวกเขา ทำ�ให้ เห็นความจริงของโลกใบนี้ ดูแล้วก็เกิดคำ�ถามมากมาย บางภาพชวนหดหู่ บางภาพเกิดรอยยิ้ม แต่ส่วนใหญ่จะ เป็นแบบหดหู่ซะมากกว่านะ ก็ได้แต่ร้อง เฮ้อ…ชีวิต สนใจ ดูภาพทั้งหมดได้ที่ time.com/3572139/time-top10-photos-2014

019


Trevor Jackson-format

ช่วงนี้กระแสย้อนยุคกำ�ลังกลับมาให้เห็นกันอยู่เรื่อย Trevor Jackson ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์และมิวสิกโปรดิวเซอร์มือดีก็ไม่น้อยหน้า ออกอัลบั้มชื่อ F O R M A T อัลบัม้ แรกของเขาในรอบ 14 ปี ในรูปแบบลิมเิ ต็ดอิดชิ น่ั 12 เพลง 12 ฟอร์แมตทั้ง ไวนิล ขนาด 7, 10, 12 นิ้ว แผ่นซีดี, มินิซีดี, เทป คลาสเซต, USB, VHS, มินดิ สิ , DAT, 8 track และ reel to reel เรียกว่า ครบทุกยุคกันเลยทีเดียว อัลบัมนีจ้ ะออกวางขายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2015 สั่งซื้อได้ที่ www.formatvf.com, www.trevor-jackson.com

020


Cup & Saucer Reflects pattern on cup

Cup & Saucer แก้วกาแฟสุดเก๋ที่สามารถเปลี่ยนลายได้ดั่งใจ เมื่อไป อยู่กับจานรองแก้วลายสวย จะทำ�ให้เกิดลายสะท้อนจากถาดรองแก้ว ตัวถ้วยทำ�จาก Hasami porcelain ที่ทำ�ขึ้นเป็นพิเศษในแถบฮาคาตะ จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นงานแฮนด์เมด จาก D-Bros แบรนด์โปรดักส์จาก ประเทศญี่ปุ่น ไอเดียเก๋ล้ำ�สุดๆ ติดตามต่อได้ที่ www.d-bros.jp

021


BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA 022 BLA BLA BLA BLA BLA


BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA BLA. BLA BLA BLA023...Don’t Talk About It - Do It!


pie talk gardener twins วันนี้เรามาคุยกับ ฝาแฝดนัก แต่งสวน Gardener Twins ตวัน ศิริโท ดัคฟาม (ตวน) อดีตสมาชิกวง The Orange Rolls และ Cloud Behind กับอีกหนึ่งศิลปินเดี่ยวในนาม Free Typewriter วุฒิพงษ์ มหาสมุทร (บุ๊ค) สองดูโอต่าง แนวเพลงที่จับกีตาร์มาบรรเลง เพลงฟังสบายให้เราได้ลอ่ งลอย ไปในสวนเสียงเพลงของพวกเขา ลองมานั่งพักเอนกายเปิดใจ ฟังเพลงของพวกเขาฟังคลอ การอ่านสัมภาษณ์ไปด้วยกัน ดีกว่า

take a walk inside the beautiful melody 24


25


ชื่อวง Gardener Twins

GT : มาจากเพลงของเราที่ฟังสบาย เหมือน เรานั่งในสวน เลยใช้คำ�ว่า Gardener คล้าย ว่าเราเป็นคนทำ�สวน สร้างพื้นที่บางอย่างที่ สบายๆ ส่วน Twins มันมาจากคนรอบๆ ตัว ที่ชอบบอกว่าเราเหมือนแฝดกัน เคยมีครั้ง หนึ่งไปเตะฟุตบอลแล้วเราอยู่คนละทีมกัน ถึงขนาดส่งบอลให้ผิดคนเลย อาจจะเป็นที่ ขนาดตัวพอๆ กัน ทรงผมคล้ายกัน

เจอกันได้อย่างไร

บุ๊ค : เจอกันที่ร้านฮาโมนิก้า ผมไปเล่นแล้ว ตวนไปดู ตวนก็เข้ามาคุยด้วย ตวน : ผมชอบที่พี่บุ๊คเขาเล่นกีตาร์คนเดียว เล่นแล้วมันได้ เราเล่นเป็นวงมาตลอด เจอ เขาเล่นแล้วประทับใจเลยเข้าไปคุยชวนพี่ เขาทำ� Side Project กัน หลังจากนั้น ก็เจอกันเรื่อยๆ ตามงานต่างๆ เราก็ทำ� เพลงส่งให้กันมาเรื่อยๆ

26


ตอนแรกฟังเพลงที่ตวนส่งมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

บุ๊ค : ชอบครับ ผมรู้สึกว่าเพลงของตวนไม่ได้ยาก แต่มันฟังแล้วมีอะไรข้างในลึกๆ ชอบวิธีการร้อง ของเขาด้วย พอได้ฟังก็มาดูว่าผมจะใส่อะไรลงไป ได้บ้าง จริงๆ ผมก็เริ่มตันๆ กับ Free Typewriter แล้วด้วยในตอนนั้น พอมีตวนเข้ามามันก็พอดี ผม ก็ได้ลองอะไรใหม่ๆ ด้วย

แนวเพลงของ Gardener Twins

GT : ก็เป็นเพลงป๊อปฟังง่ายๆ สบายๆ ครับ ฟังเพราะๆ แต่เราก็หารายละเอียดต่างๆ มา ใส่ให้เพลงน่าสนใจ มีการทดลองบางอย่างใน แต่ละเพลง อย่างเพลง “โลกสีเพี้ยน” ก็จะมี การเปลี่ยน Tempo ของเพลง หรือเพลง “ที่ เราเป็น” ก็มีการเปลี่ยนคีย์ และคอร์ดที่ตวนส่ง มามันจะมีความเป็นแจ๊สอยู่ เพลงเลยจะมีกลิ่น แบ่งหน้าที่กันอย่างไร แจ๊สมาผสมบ้าง มันมีการผสมเยอะเหมือนกัน ตวน : ผมจะส่งเพลงให้พี่บุ๊คก่อน แต่งเนื้อเพลงกับ โฟล์กก็มี บางช่วงก็ออกแนวทดลอง แต่ยังคงฟัง กีตาร์คร่าวๆ ไปให้ พี่เขาก็จะหายไปพักหนึ่งแล้วก็ ง่าย สบายๆ ส่ง Intro กลับมา ก็ส่งกลับไปกลับมากันแบบนี้ ทุกครั้งที่ส่งเพลงให้พี่บุ๊คเขาจะส่งแค่ Intro กลับ ต่างจากตอนทำ� Free Typewriter ไหมครับบุค๊ บุ๊ค : ต้องคิดเยอะกว่าเดิมพอสมควร เพราะ มาก่อน บุ๊ค : พอได้ Intro กับส่วนอื่นๆ มันจะมาเองไง กับ Free Typewriter ผมเล่นคนเดียว จะเล่นอะไร Free Typewriter ผมก็ท�ำ วิธนี ้ี ค่อยๆ แต่งไปเรือ่ ยๆ ก็ได้ พอทำ� Gardener Twins เราก็ต้องเล่นให้ ค่อยๆ ทำ� ผมอยากให้เพลงออกมาดีที่สุด อย่าง เข้ากัน เล่นไม่ให้ขัดกับการร้องของตวนด้วย บางเพลงก็จะมีเครือ่ งเป่า มีรายละเอียดอืน่ ๆ เข้ามา แล้วในการทำ� Gardener Twins นี้ ผมต้องมี ผมชอบเพลงที่มีรายละเอียด วินยั มากขึน้ พอเริม่ เป็นวง มีคนรอส่วนของเราอยู่

27


ก็ต้องลุกขึ้นมาทำ� ต้องขยันขึ้น แล้วผมกับตวนจะ มีการนัดเจอกันทุกอาทิตย์นะ บางทีเจอกันก็ไม่ ต้องมานั่งแต่งเพลงก็ได้ ขอให้มาพูดคุยกัน ไปเตะ ฟุตบอลอะไรแบบนี้ เพราะมีหลายวงนะที่ไม่ค่อย เจอกัน ไม่นัดเจอกัน ทำ�เพลงเดียวสองเดือนก็ไม่ เสร็จ มันต้องเจอกันบ่อยๆ จะได้แอ็คทีฟ ตวนล่ะครับ จากทีเ่ ล่นเป็นวงมาก่อน มาเล่นเป็นดูโอ

ตวน : ต่างนะ เรื่องการเล่นตอน Full Band เรา เล่นผิดนิดผิดหน่อย มันฟังไม่รู้นะ แต่พอทำ� Gardener Twins มันมีกีตาร์อยู่สองตัว เล่นผิดนี่ รู้เลย มันชัด ต้องขยันซ้อมมากขึ้น เพื่อให้โชว์ออก มาดี แต่ตอนซ้อมดนตรีก็ตลกดี ช่วงแรกๆ มันยัง ไม่ชินนะ ก็จะเขินๆ แล้วผมกับพี่บุ๊คจะมีท่าทาง ตอนร้อง ตอนอินกับเพลงคล้ายๆ กัน พอมอง แล้วเหมือนมองตัวเองอยู่เลย (หัวเราะ) เหมือน ส่องกระจก เล่นยังไม่ถึงครึ่งเพลงเลยหยุดนั่งขำ� กันเอง เนื้อเพลงของตวนค่อนข้างไม่เหมือนคนอื่นต้องใช้ จินตนาการในการฟัง

บุ๊ค : เนื้อเพลงของตวน จะ Surreal หน่อย แต่ก็ อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงนะ อาจจะงงในรอบ แรกที่ฟัง แต่ถ้าฟังบ่อยๆ แล้วจะเข้าใจ เพลงที่ ตวนเขียนจะไม่เหมือนเรียงความคือจะไม่ใช่ 1 2 3 4 จะมีการสลับไปมา ค่อยๆ เล่าเรื่อง ช่วงแรกๆ ทีผ่ มต้องมาจำ�เนือ้ เพลงของตวนก็ไม่เข้าใจ บางเพลง

ตอนแรกฟังแล้วไม่ชอบก็มี แต่ร้องๆ ไปแล้วก็อิน ก็รู้สึก ต้องค่อยๆ ฟัง ในอัลบั้มก็จะมีเพลงของผม แต่งด้วย ก็เข้าใจว่าต้องแชร์กัน ตวน : เพลงของพี่บุ๊ค ผมฟังก็งง (หัวเราะ) มีอยู่เพลง หนึง่ เป็นนกบินผ่านมาแล้วผูห้ ญิงคนหนึง่ ก็ตามไป แล้ว สุดท้ายนกกลายเป็นเครือ่ งบินกระดาษอะไรแบบนี้ ต้อง ฟังไปเรื่อยๆ มันถึงจะเข้าใจนะ มันเป็นการเปรียบเปรยซะเยอะ ให้คนฟังได้มีอิสระในการตีความกับ เนื้อเพลง บุ๊ค : ผมว่าการแต่งเพลงมันต้องแต่งในสิ่งที่ตัวเองอิน ก่อน ตัวเราต้องชอบก่อน แล้วค่อยพยายามหาวิธบี อกเล่า ให้คนอื่นเข้าใจให้คนอื่นอินไปกับเรา ในทางกลับกัน ถ้าเราไปพยายามฝืนแต่งในสิ่งที่คนอื่นอินแล้วเราต้อง มาพยายามทำ�ให้ตวั เองให้อนิ ทีหลังมันลำ�บาก ในระยะ ยาวเราคงไม่มคี วามสุขในการเล่นเพลงๆ นัน้ ทั้งสองคนไม่ได้เรียนดนตรีมา คิดว่าการเรียนดนตรี กับไม่เรียนต่างกันไหม

GT : มันก็ได้ทั้งคู่แล้วแต่คน แต่สำ�หรับเราที่ไม่ได้ เรียนมาจริงจัง ข้อดีคือมันอิสระ เรื่องการเรียนมันมี กรอบอยู่เหมือนกัน แล้วพอเรามาศึกษาเองมันทำ�ให้ เรากล้าที่จะลองอะไรใหม่หรือกล้าทำ�ในสิ่งที่คนอื่น ไม่ทำ� อย่างการเอาเอฟเฟกต์เสียงแตกมาใส่ในเสียง ร้อง แต่ใส่น้อยมากๆ นะ คือทดลองไปเรื่อยลองผิด ลองถูก ดีบ้างไม่ดีบ้าง แล้วมันจะตกตะกอนในตัวเรา การเรียนส่วนใหญ่มันเป็นเรื่องเทคนิคนะ สร้างทักษะ การใช้เครื่องดนตรีชนิดต่างๆ แต่ถ้าศิลปินคนนั้นไม่มี

28


29


30


เรื่องที่อยากจะเล่า หรืออยากจะสื่อสารออกไป มันก็เป็นเพลงที่ดีไม่ได้ การเรียนหรือเรื่องเทคนิค มันก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว แต่เรียนเพื่อให้รู้ไม่ใช่ เรียนเพื่อทำ�ตาม ดูตอนนี้คนฟังเพลงจะเริ่มสนใจเพลงอินดี้มากขึ้น

GT : เริม่ มีกลุม่ คนฟังบ้างและวงใหม่ๆ ก็มมี ากขึน้ ผมคิดว่าคนทำ�เพลงต้องช่วยกันผลิตงานดีๆ ขึ้น มาก่อน เพือ่ สร้างกระแสและสร้างกลุม่ คนฟังเพลง ขึ้นมา มันถึงจะเติบโตไปได้ ตัวอย่างที่ดีเลยคือ Panda Records ทีอ่ ยูก่ บั วงการอินดีม้ าตลอด สิบห้าปี ซึ่งพี่ป๊อก (Stylish Nonsense) เป็นคนที่ คอยช่วยนักดนตรีอนิ ดีม้ าโดยตลอด และงานอย่าง Stone Free Music Festival ก็มีส่วนช่วยให้คนได้ รู้จักนักดนตรีและเพลงนอกกระแสมากขึ้น นอกจากเล่นดนตรีแล้วทำ�งานอะไรกันอยู่บ้าง

บุค๊ : ผมช่วยงานในบริษทั ของพีส่ าวครับ ถึงไม่ได้ เกี่ยวกับดนตรีหรืออะไรแบบนั้น แต่ก็พยายาม

31

เก็บเงินเพื่อจะทำ�อะไรของตัวเองในอนาคต ซึ่งคง ไม่พ้นเรื่องดนตรี และเรื่องวงที่เล่นอยู่ก็จริงจังนะ อยากให้มันไปได้ ตวน : ผมทำ� Gardener Twins อย่างเดียวเลย พยายามทำ�เพลงส่งไปให้พบ่ี คุ๊ แล้วคิดจะไปเรียนต่อ ยังเลือกอยู่ว่าจะเป็นด้านซาวด์เอนจีเนียหรือไม่ก็ งานด้านออกแบบกราฟฟิก ความคาดหวังในการทำ�วง Gardener Twins

ตวน : ตอนนี้เราหวังแค่ให้เพลงมันเสร็จเป็นอัลบั้ม ให้ได้ก่อน (เพราะล่มมาหลายวงแล้ว...หัวเราะ) พยายามทำ�เพลงออกมาให้ดีที่สุดในแบบที่เราชอบ และอยู่ได้ด้วยการทำ�วงดนตรีของเรา บุ๊ค : อันนี้มันเป็นฝันของวงดนตรีทุกวงนะ คืออยู่ ได้ด้วยการเล่นดนตรี อาจจะไม่ได้อยู่ได้แบบรวย มากอะไร แค่อยู่ได้แบบปกติก็ดีใจแล้ว ตอนนี้ อยากทำ�เพลงให้ดีก่อน อยากทำ�เพลงที่ฟังได้ทั้ง นักดนตรีและคนฟังทั่วไป ส่วนเรื่องว่าจะดัง หรือ คนรู้จักมากมายมันเป็นเรื่องต่อจากนั้น


32


facebook.com/gardenertwinsbkk 33


pie talk Martyna Wójcik-Smierska

important elements of my illustrations มารู้จักกับศิลปินนักวาดภาพประกอบสาวชาวโปแลนด์ ผลงานของเธอตระเวนลงนิตยสารดีไซน์ระดับโลกมาแล้ว หลายเล่ม วันนี้ก็ถึงคิวของ PIE บ้างที่ต้องขอหยิบ ผลงานสวยๆ ของเธอมาประดับหนังสือบ้าง เรามาอ่าน บทสัมภาษณ์พร้อมกับชมงานสวยๆ ของเธอกัน กับ Martyna Wojcik-Smierska

34


35


แนะนำ�ตัวหน่อยครับ

ฉันชื่อ Martyna มาจาก “โปแลนด์” ประเทศที่ หนาวที่สุดในยุโรป ศิลปะเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับชีวิต ของฉันตลอด เริ่มจากการเรียน Fine Art ตั้งแต่ สมัยไฮสคูลและเรียนต่อทางด้านกราฟฟิกดีไซน์ ในมหาวิทยาลัย Nicolaus Copernicus University ในเมืองทอรูน และสำ�เร็จการศึกษา เมื่อปี 2010 ในตอนนี้ฉันเปิดสตูดิโอและทำ�งาน อยู่ในกรุงวอร์ซอ ฉันทำ�งานทั้งสิ่งพิมพ์ต่างๆ โปสเตอร์จนไปถึงการทำ�งานกับนิตยสารอีกหลาย เล่ม ฉันเคยทำ�งานให้กับนิตยสารต่างๆ อย่าง Anorak (อังกฤษ), Computer ARTS (อังกฤษ), Bulletin (อังกฤษ), Le Particulier (ฝรั่งเศส) และ อีกหลายเล่มในโปแลนด์ ช่วงหลังมานี้ฉันเริ่ม ทำ�งานภาพประกอบมากขึ้น และอยากให้งาน ภาพประกอบของฉันเปลี่ยนจากงานอดิเรกเป็น งานหลัก เพราะฉันมีความสุขมากที่ได้ทำ�มัน ช่วยอธิบายถึงสไตล์งานของคุณหน่อยครับ

ฉันยังพยายามพัฒนาและหาจุดลงตัวของงานอยู่ เรื่อยๆ โดยการสเก็ตช์งาน วาด และจดบันทึก เกี่ยวกับงานภาพประกอบที่ฉันได้ทำ� หลายๆ งานของฉันมีสไตล์แบบ Geometrization (การใช้ รูปทรงเลขาคณิต) และฉันชอบในการเล่นกับการ จัดวางและมิติความลึกของภาพ ชอบในการบิด

และเปลี่ยนแปลงมัน อีกสิ่งที่ฉันพยายามจะใช้ ในงานคือพื้นผิวและสีที่สมดุลกัน ฉันชอบสร้าง แพทเทิร์นและใส่พื้นผิวให้กับมัน (ฉันคิดว่า พื้นผิวเป็นองค์ประกอบสำ�คัญที่ฉันใส่ใจมากๆ และมันทำ�ให้สิ่งต่างๆ ในภาพทำ�งานได้ดีขึ้น) ฉันเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้สร้างมุมมองที่สมบูรณ์ให้ งานของฉัน จริงๆ ทุกอย่างก็สำ�คัญทั้งนั้น บอกถึงขั้นตอนการทำ�งานของคุณหน่อย

เริ่มจากฉันต้องทำ�ความคุ้นเคยกับโจทย์ที่ได้ มาก่อน ฉันจะอ่านเพื่อหาคีย์บางอย่าง ซึ่ง ฉันจะดึงมันออกมาสเก็ตช์ ก่อนเริ่มงานจริง ในคอมพิวเตอร์ ฉันเริ่มจากพื้นผิวและองค์ ประกอบหลัก ก่อนจะหาทางจัดวางสิ่งต่างๆ ให้ลงตัว (ขั้นตอนนี้ฉันชอบมันมากๆ) แน่นอน ว่าสิ่งที่ดีสำ�หรับคนทำ�งานแบบนี้ร่วมถึงฉันด้วย คือการมีเวลาเตรียมตัวสักหน่อยซึ่งจะช่วยให้ ฉันสามารถสร้างงานได้อย่างสุขใจ คุณทำ�งานทั้งกราฟฟิกดีไซน์และภาพประกอบ ทั้งสองสิ่งนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรใน ความคิดของคุณ

ฉันว่านักวาดภาพประกอบมีความอิสระในเชิง จินตานาการมากกว่า นักวาดภาพประกอบ สามารถสร้างงานได้มากมายในสื่อสมัยใหม่

36


ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน และสามารถเชื่อม โยงภาพของเขาให้เข้ากับเรื่องราวและโจทย์ใน แต่ละอย่างได้ดี แต่นักวาดภาพประกอบส่วน ใหญ่ก็ไม่สามารถออกแบบส่วนประกอบสำ�คัญ ในงานอย่างตัวอักษรหรืออีกหลายสิ่งที่กราฟฟิก ดีไซเนอร์มืออาชีพทำ�ได้ ฉันเชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่อง จะมาเปรียบเทียบกันได้ และมีมืออาชีพเก่งๆ อีกหลายคนที่ไม่จำ�เป็นต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง

รบกวนอารมณ์งานของฉันจะออกมาดีที่สุด ฉัน จะซีเรียสมากกับเรื่องเวลาที่ให้สัญญาไว้กับลูกค้า และปัจจุบันอินเตอร์เน็ตก็ช่วยได้มาก มันทำ�ให้ ฉันได้ทำ�งานและเป็นเจ้านายของตัวเองได้ อะไรช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์สำ�หรับคุณ

น่าจะเป็นเพลงดีๆ และการดูงานดีไซน์สวยๆ กับ ภาพประกอบสวยๆ สิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นความ คิดสร้างสรรค์และทำ�ให้ตัวเราไม่หยุดนิ่ง ฉันเป็น พวกชอบดูอะไรสวยๆ งามๆ และชอบพวกอะไร กระจุกกระจิก

ปัญหาในการทำ�งานของคุณ

ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการเริ่มต้นทำ�ธุรกิจ ของตัวเอง การต้องพยายามหาประสบการณ์ใน ระดับมืออาชีพ การเปิดรับกับผู้คน และต่อสู้ กั​ับความอ่อนแอของตัวเองและการที่ต้องมา ทำ�งานในต่างเมือง

แผนในอนาคต

อยากจะลองทำ�หนังสือจากภาพประกอบของ ตัวเอง คิดว่ามันน่าจะท้าทายดี และตอนนี้ฉันก็ พยายามจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ในการทำ� สิ่งพิมพ์ต่างๆ อยู่ด้วย

ใครหรืออะไรเป็นอิทธิพลหลักๆ ในการทำ�งาน ของคุณ

ฉันได้รบั อิทธิพลมาจากศิลปินแนวเซอร์เรียลลิสม์ และศิลปินแนวสัญลั​ักษณ์ ฉันชอบที่พวกเขา ใช้ความคิดในการหาสัญลักษณ์ต่างๆ รูปทรง ต่างๆ มาสื่อสารในการทำ�งาน

คิดถึงตัวคุณเองในอายุห้าสิบ คุณเห็นอะไร

ฉันเห็นผูห้ ญิงทีง่ านยุง่ มากและประสบความสำ�เร็จ เธอชอบออกไปทำ�อะไรทีเ่ สีย่ งอยูส่ กั หน่อย แต่ถงึ จะมีแม้อปุ สรรคและเธอจะอ่อนแอเพียงไหน เธอก็ ยังฝ่าฟันและไล่ตามสิง่ ทีเ่ ธอมุง่ หมายจนได้ และฉัน หวังจะเห็นผลลัพธ์ทส่ี วยงามจากสิง่ ทีเ่ ธอได้ท�ำ

คุณชอบสภาพแวดล้อมในการทำ�งานอย่างไร

สำ�หรับฉันการทำ�งานเงียบๆ โดยที่ไม่มีอะไร รบกวนที่บ้านนั้นดีที่สุด ในเวลาที่ไม่มีอะไรมา

37


38


surrealistic and symbolic painters, whose works are mines of ideas, metaphors, symbols, have always influenced my works. 39


40


41


42


43


44


45


46


47


textures are important elements of my illustrations. i believe that my illustrations would be empty, idle without them‌ all the textures and patterns i create by myself, i draw inspiration from the environment and art

behance.net/martynawojcik facebook.com/martynawojciksmierska

48


My name is Martyna and I come from Poland it is a very cold country in Europe. Art has been always present in my life. I graduated from the upper secondary school of fine arts, and then I started studying graphic design at the Nicolaus Copernicus University in Torun. I graduated from these studies in 2010. The choice of my way of life has become obvious for me. Art! Nowadays I leave and work in Warsaw. I run my own business, I design covers, overprints, and posters, and I also cooperate with press magazines. I have been drawing for Anorak (UK), Computer ARTS (UK), Bulletin (UK), Le Particulier (FR), and for various magazines from Poland. Lately the graphic design has faded into the background and the illustration, which is my main source of income and my hobby, has become the most important. I take great enjoyment from this job.

49


pie talk Tuna dunn ความเหงา ความรัก ความ คิดถึง และอีกหลายความรู้สึก ที่หลายคนยากที่จะบรรยาย แต่ เธอคนนี้ TUNA Dunn หรือ ตุล-ตุลยา ดุลย์วัฒนจิต ใช้ เพียงเส้นไม่กี่เส้นวาดขึ้นมาให้ คุณน้ำ�ตาซึมได้ มาลองคุยกับ ตุลว่าในเส้นน้อยๆ และพื้นที่ ว่างบนหน้ากระดาษ เธอใส่ ความคิดอะไรเอาไว้ในนั้นบ้าง

tuna played guitar, jammin’ good with weird and gilly and the spiders from mars, he played it left hand but made it too far became the special man, then we were tuna’s band

50


51


52


การ์ตูนของ TUNA Dunn ไม่มีการแบ่งช่อง ไม่มีฉากหลังด้วย

ชื่อ TUNA Dunn มาจากไหน

ชื่อ TUNA มันมาตั้งแต่ตอนมัธยมปลายแล้ว คือ ตอนนั้นมีอาจารย์ที่เป็นชาวต่างชาติมาสอน แล้ว เขาจะเรียกชื่อย่อๆ ให้จำ�ง่าย ตุลชื่อ ตุลยา เขา ก็เรียกเป็น TUNA ส่วน Dunn มาจาก ดุลย์วฒั นจิต เป็นคำ�แรกของนามสกุล

จริงๆ ก็ไม่ได้มีเหตุผลชัดเจนขนาดนั้น แต่เวลา ตุลวาดจะให้สเปซแบ่งมากกว่า มันวาดได้อสิ ระ กว่า แล้วตุลลองให้เพื่อนๆ อ่าน เขาก็เข้าใจนะ อ่านรู้เรื่อง เรื่องฉาก ส่วนตัวตุลก็ไม่ค่อยชอบวาด ฉาก หลายงานที่ตุลวาดจะเป็นเรื่องสั้นๆ เหมือน เราดูหนังสักเรื่องหนึ่งแล้วตัดมาแค่ซีนสั้นๆ มัน ไม่ต้องปูเรื่องอะไรมากมาย เลยคิดว่าไม่น่าจะต้อง เขียนฉากมาอธิบายอะไรมาก เราก็ไม่ได้อยาก เกริ่นนำ�อะไรมากด้วย อยากตัดมาแค่บทสนทนา สั้นๆ ที่สำ�คัญๆ แต่ในเรื่องยาวก็พยายามจะวาด บ้าง แต่ก็ยากมาก ไม่ถนัดวาดฉากเท่าไหร่

เริ่มวาดการ์ตูนเมื่อไหร่

เมื่อก่อนชอบการ์ตูนญี่ปุ่นพี่ชายก็อ่านด้วย ตุล ก็อ่านตามพี่ เมื่อก่อนก็วาดการ์ตูนเล่น เอา กระดาษ A4 มาพับ วาดเพื่อนๆ มาเป็นตัวละคร แล้วเอาไปให้เพือ่ นๆ อ่านกัน จากนัน้ มาก็วาดมา เรื่อยๆ ให้เพื่อนๆ พี่ๆ อ่าน จนมีรุ่นพี่บอกให้ ลองเปิดเพจเฟซบุ๊ก

เริม่ เขียนลงหนังสือได้อย่างไร ยากง่ายอย่างไรบ้าง

พี่บรรณาธิการของ Salmon Books ติดต่อมาทาง เพจเฟซบุ๊ก ตุลก็แบกคอมฯ ไปคุยกับพี่เขา ทาง พี่ๆ ก็ให้ตุลกลับมาคิดเรื่องลงมือทำ�เลย แต่ก็ต้อง มาคิดเนื้อเรื่องใหม่หมด ก็ต้องปรึกษาพี่ๆ เขาพอ สมควร เพราะก่อนนี้ตุลเขียนแต่สั้นๆ แผ่นเดียว จบ นึกอะไรก็วาดไป แต่พอมาทำ�หนังสือก็ต้องมา ทำ�เป็นเนื้อเรื่องยาวๆ รู้สึกว่ายากมาก

สไตล์ของการ์ตูนที่วาดก็ดูไม่ญี่ปุ่นนะ

สไตล์ที่วาดอยู่ตอนนี้มาเริ่มช่วงมหาวิทยาลัย เหมือนตุลค้นพบว่าเราคงวาดแนวญีป่ นุ่ ไม่รอด เลยลองเปลี่ยนสไตล์มาเป็นแนวนี้ ลองตัดทอน จากสไตล์เดิม ใช้เส้นให้น้อยลง การเรียน กราฟฟิกดีไซน์มันก็มีผลด้วย ในการวาง องค์ประกอบและการใช้สี ไม่ค่อยชอบใช้สีเยอะ

53


เล่มแรก (I LIKE LIKE YOU) ก็เลยพยายามแบ่ง เป็น 5 ตอน เพื่อไม่ให้มันยาวมาก แต่พอมา เล่มสองก็อยากลองทำ�อะไรที่มันท้าทายกว่า เดิมเลยเขียนเป็นเรื่องยาว ขั้นตอนการทำ�งาน วาดหรือเขียนเรื่องก่อน

ตุลวาดตัวละครขึ้นมาก่อน ช่วงนั้นดูซีรี่ส์อย่าง Skins แนวไฮสคูล จะคิดคาแรกเตอร์ไว้แนวๆ นี้ เพื่อจะมาคิดเรื่องต่อว่าตัวละครเหล่านี้จะ เดินเรื่องยังไง เวลาเขียนเรื่องในใจตุลก็จะรู้ว่า ตัวละครแต่ละตัวนิสัยใจคอยังไง ทำ�สิ่งนี้สิ่ง นั้นเพราะอะไร แต่เล่มแรกที่ออกมาตุลว่ามัน ยังดูเด็กๆ ไปหน่อย คุยกับเพื่อนๆ หลายคนก็ ชอบตอนแรกเป็นเรื่องการแอบรัก ซึ่งคนน่าจะ เข้าใจเรื่องแบบนี้ได้ง่าย ตุลชอบเขียนเรื่องของความสัมพันธ์

เขียนเรื่องแนวนี้มานานแล้วด้วย แล้วตุลว่า เรื่องแนวนี้คนอ่านก็อินนะ เขาเข้าใจ เหมือน อย่างในเฟซบุค๊ ทีโ่ พสคำ�ต่างๆ ทีเ่ ป็นคำ�ทีเ่ กีย่ วกับ เรื่องความสัมพันธ์ ความรัก คนก็ชอบอ่าน มันเป็นเรื่องที่คนเข้าถึงได้ง่าย แต่ตุลก็ไม่ได้ อยากเป็นนักเขียนการ์ตูนรักวัยรุ่นขนาดนั้นนะ อยากเขียนแนวไซไฟบ้างเหมือนกัน มีเขียน เก็บไว้บ้าง คือ…(หยุดคิด) เพื่อนๆ ชอบหาว่า ตุลเป็นติ่ง David Bowie ตุลมีการ์ตูนไซไฟที่ เขียนโดยอินสปายจาก David Bowie ทัง้ เรือ่ งเลย

แต่ไม่ได้ไปตีพิมพ์ ยังไม่ได้ไปเสนอพี่ บก. วาดเก็บ ไว้ดูเอง ทำ�ไมถึงชอบ David Bowie

เพราะว่าเขาเท่ (หัวเราะ) คือช่วงแรกที่ตามฟังงาน ของเขา ตุลฟังแต่ละเพลงของเขามันไม่เหมือนกัน เลยในแต่ละยุค ตุลรู้สึกว่าน้อยคนจะทำ�ได้แบบนี้ คือมีหลายลุกส์แต่ยังคงความเป็นตัวเองไว้ได้ด้วย ฟังเพลงเขาแล้วไม่เบื่อเลย เป็นศิลปินที่มีหลายมุม ให้ค้นหา เล่มสองเป็นอย่างไรบ้าง

มันยากคนละแบบ เล่มสองตุลวาดในคอมพิวเตอร์ ไปเลย เล่มแรกจะวาดมือแล้วสแกน แล้วตุล พยายามแต่งเรื่องให้แตกต่างจากเล่มแรก แต่ก็ ต้องไม่หลุดเกินไปด้วย เรื่อง Missed นี่อยากให้มัน ดูลึกลับและหม่นกว่าเล่มแรก เล่มนี้ก็ยากขึ้นเพราะ มีฉากเยอะขึ้น พยายามใส่รายละเอียดให้มากขึ้น และให้เนื้อเรื่องซับซ้อนขึ้นด้วย ตุลวาดลายเส้นน้อยๆ เห็นคนอื่นวาดใส่รายละเอียด เยอะ ใช้เวลานานๆ รู้สึกอย่างไรบ้าง

บางทีกร็ สู้ กึ ผิดนิดๆ เหมือนกัน เคยไปวาดรูปเหมือน ในงาน อย่างพี่ Art Jeeno เขาใช้สนี �ำ้ วาด วาดนาน กว่าเรามาก งานสวย ละเอียด ส่วนเราขีดสอง สามเส้นเสร็จแล้ว คนมาเป็นแบบให้วาดนี่นั่งหน้า งงเลย หรืออย่างพี่ที่เขาวาดสีน้ำ�แบบออร์แกนิค 54


55


56


57


58


คือเขาหยิบดอกไม้มาบีบเป็นสี ส่วนเราวาด ชอบงานภาพประกอบศิลปินคนไหนเป็นพิเศษ ชอบ Jean Jullien เป็นนักวาดภาพประกอบชาว นิดเดียวรู้สึกผิดบ้างเหมือนกัน ฝรั่งเศส ชอบที่งานเขามีอารมณ์ขันแอบจิกกัดดี งานตุลมีแอบใส่รายละเอียดเกี่ยวกับดนตรีเยอะ

ตุลชอบฟังเพลง ชอบแอบใส่ไว้ในเนื้อเรื่อง อย่างเล่มแรกชื่อตอนทุกตอนก็เป็นชื่อเพลง ใน เล่มสองก็มีฉากที่ไปดูคอนเสิร์ต แล้วในเล่ม สองในหน้า Intro ก็จะมีเนื้อเพลง ซึ่งเพลงนี้ ตุลคิดว่าถ้าการ์ตูนเรื่องนี้เป็นหนังเพลงตอนจบ เวลาเครดิตขึ้นจะเป็นเพลงนี้ ช่วงนี้ชอบวงดนตรีอะไรเป็นพิเศษไหม

ตอนนี้ชอบวง Homeshake เป็นวงของ Peter Sagar เขาเล่นกีตา้ ร์ให้กบั วงของ Mac DeMarco ตุลก็ชอบ Mac DeMarco อยู่แล้วด้วย เขา ค่อนข้างจะบ้านๆ สนุกๆ หน่อย ตุลไปดูตอน เขามาไทยเมื่อปีที่แล้วด้วย เขาโชว์สนุกมาก ส่วนเพลงของ Homeshake จะเอื้อยๆ ขี้เกียจๆ หน่อย แล้วมีกลิ่นแจ๊สนิดๆ

59

นอกจากเขียนการ์ตูนชอบงานอย่างอื่นบ้างไหม

ช่วงก่อนนี้ชอบทำ�วีดีโอ ถ่ายเพื่อนๆ นี่แหละ เรียนทำ�โมชั่นกราฟฟิกก็ชอบ ก่อนนี้ก็เคยคิด อยากทำ�โฆษณา แต่พอรู้ว่าวงการเขาโหดมาก็ เลยหยุดคิดไป ช่วงที่เครียดกับงานธีสิสมากๆ ก็อยากหนีไปทำ� Fine Art เลยก็มี คือตุลมี ไอเดียเยอะที่อยากทำ�แต่ไม่มีโอกาสได้ลอง คิดว่าตัวเองเหมือนตัวการ์ตูนที่วาดไหม

อาจจะเหมือนตรงที่จืดๆ นิ่งๆ ตุลก็เป็นคน เงียบๆ นะ จริงๆ ก็คิดเหมือนกันว่าควรจะทำ� อะไรสนุกๆ บ้าง ถ้าเลือกได้ อยากเดินทางไปเที่ยวที่ไหนบ้าง

คิดว่าอยากไปเรียนต่อที่นิวยอร์ก


60


61


62


facebook.com/tunadunn

สมมุติว่าให้เปลี่ยนปกอัลบั้มเพลง อัลบั้มอะไรก็ได้ หนึ่งปกจะเปลี่ยนอัลบั้มอะไร

อยากเปลี่ยนหน้าปก Reality ของ David Bowie

63


pie gallery Mspostage

64


65


แนะนำ�ตัวเองหน่อย

ชื่อ แสตมป์ ชื่อจริง ภัทรานิษฐ์ พัวพงศกร ค่ะ เพิ่งจบปีนี้ เป็นบัณฑิตปี 1 ตอนนี้ทำ�งานฟรีแลนซ์ทั่ว ราชอาณาจักร ทำ�หลายอย่างมาก หลักๆ คือรับ ถ่ายภาพ ทำ�กราฟฟิก ไปจนถึงรับจ้างเล่นอินเตอร์เน็ต ก็คือการดูแล Digital Communication ใหักับ แบรนด์ต่างๆ เวลาว่างก็ทำ�ของขายด้วยนะ (เพจ Little Tim & Mr.Postman - ขายเคสแล็บท็อป กับ หมวกปักที่ออกแบบเองค่ะ /โฆษณาแฝง 555) 66

ชื่อ Mspostage คืออะไร

Postage มาจาก แสตมป์ ซึ่งก็คือชื่อเล่นค่ะ ทำ�ไมถึงชื่นชอบการถ่ายภาพ

คำ�ถามนี้ตอบยากจัง ขอตอบว่าเพราะว่าไม่มีเหตุผล อะไรที่จะไม่รักมัน ความรู้สึกเวลาได้กดชัตเตอร์มัน รู้สึกดีจริงๆ นะ อีกอย่างเวลาถ่ายภาพอะไรเราไม่ได้ แค่ถ่าย แต่เราจะจำ�ช่วงเวลา ความรู้สึก กับคนที่เรา ถ่ายได้ด้วย เวลาเห็นภาพเก่าๆ ก็จะจำ�ได้หมด


67


68


ส่วนมากถ่ายภาพแนวไหน

ชอบถ่ายอาหาร เด็ก ผู้หญิง กับอะไรก็ได้ที่สวยงาม ผ่านเข้ามาในสายตาก็ถ่ายเก็บไว้หมด เห็นมีภาพวิวเยอะ ชอบสถานที่ไหนเป็นพิเศษไหม

ชอบเที่ยวธรรมชาติกับศึกษาวัฒนธรรม โดยเฉพาะ ประเทศที่มีอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนบ้านเรานี่ชอบ มาก เราชอบอินเดีย เพราะมีทง้ั ธรรมชาติ บ้านเรือน และวัฒนธรรมของเขาสวยมาก หลายๆ ที่สวย แบบไม่บันยะบันยังมากๆ ทุกอย่างมันน่าสนใจ ไปหมดเลย มีสถานที่ไหนที่อยากไปถ่ายภาพหรือ มีภาพแบบไหนที่อยากลองไปถ่ายบ้างไหม

อยากไปยุโรปตะวันออก! แล้วก็โมร็อคโค ดูร่ำ�รวย วัฒนธรรม ถ้าได้ไปถ่ายรูปต้องสนุกแน่ๆ มีภาพ หลายแนวมากที่อยากลอง อยากถ่ายสถาปัตกรรม ให้เก่งๆ บ้าง กำ�ลังฝึกอยู่ อยากถ่ายงานทีด่ เู หนือจริง หรือมันๆ บ้าๆ บ้าง แล้วก็...อยากถ่ายนูด๊ อยากลอง ถ่ายภาพคนโป๊ให้ดูสวย 69


70


71


72


เดี๋ยวนี้อุปกรณ์การถ่ายภาพพัฒนาไปเยอะ คิดว่าช่างภาพเองควรพัฒนาตัวเองอย่างไรบ้าง

คงเป็นเรื่องแนวคิดค่ะ ต้องคิดให้เยอะขึ้นในการ ถ่ายภาพ พยายามหาคอนเซ็ปต์และความเป็นตัว เราที่ชัดเจน ตอนนี้ก็พยายามอยู่เหมือนกันค่ะ

73


74


นอกจากถ่ายภาพ สนใจงาน ศิลปะอย่างอื่นอีกไหมหรือมี งานอดิเรกอะไรอีกไหมครับ

ชอบดูพวกงานคอลลาจ แล้ว ก็งานกราฟฟิกเหมือนกันนะ พวกงาน Design สวยๆ เวลาไป Tcdc ก็ชอบไปเดิน ดูค่ะ งานอดิเรกตอนนี้คือ การฝึกวิ่งฮาล์ฟมาราธอน กับเดิน Supermarket ใหญ่ๆ แล้วดู Packaging ซองขนม

75


76


77


มีช่างภาพ หรือศิลปินแนวอื่นที่ชอบไหมครับ

ชอบงานของ Can Dagarslani กับ Ting Cheng เคยไปเจอเขาตัวจริงด้วย งานเขาเจ๋งมาก 78


79


แผนในอนาคต

ไม่อยากจะเรียกว่าแผน เรียก กว่าฝันดีกว่า อยากมี Exhibition เล็กๆ เป็นของตัวเอง แบบที่มี สูจิบัตรสวยๆ ค่ะ แล้วก็อยาก ลองถ่ายงานตามโปรเจ็กต์ที่ ตั้งใจไว้ว่าจะทำ� แต่ไม่มีโอกาส ทำ�ซะที รู้สึกว่าต้องทำ�ให้ได้! facebook.com/mspostage

80


81


pie talk aor sutthiprapha contemporary ceramist

82


let’s sway and see it goes two monks looked at the swaying flag. one monk asked to another, “what is swaying, the flag or the wind ?” after they had argued for a while. teacher came and said, “neither the flag nor the wind that sway but your minds do.” an anonymous zen monk. นี่คือส่วนหนึ่งในคอนเซ็ปต์งานเซรามิกของคุณอ้อ พรพรรณ สุทธิประภา ที่นำ�ปรัชญาจากนิทานเซนมา ใส่ไว้ในก้อนดินและปัน้ ขึน้ มาเป็นงานศิลปะ ในปีทผ่ี า่ นมานี้ ผลงานของเธอเพิ่งได้ร่วมแสดงในงาน Mino งาน ประกวดผลงานด้านเซรามิกระดับโลกที่ประเทศญี่ปุ่น แถมในปีที่ผ่านมางานของเธฮยังเป็นผลงานชิ้นเดียว ของประเทศไทยของเราที่ได้ร่วมแสดง เรามาลองอ่าน การเดินทางตามความฝันในการเป็นศิลปินเซรามิก ของเธอกันดีกว่า

83


เริ่มมารู้จักกับงานเซรามิก

ตอนแรกไม่มีความคิดจะทำ�เซรามิกเลยนะ เรา เรียน ID ออกแบบอุตสหกรรม คณะสถาปัตฯ จุฬาฯ ตอนแรกก็กะว่าจะทำ�งานสวยๆ อยู่หน้า คอมฯ (หัวเราะ) แต่พอได้เรียนแล้วมันสนุกมาก การที่หยิบดินมาก้อนหนึ่ง และทำ�อะไรก็ได้ขึ้น อยู่กับความสามารถของเรา พอจบก็มาทำ�งานที่ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ทำ�งานที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง

ที่แม่ฟ้าหลวงเขาก็แบ่งงานเป็นหลายส่วนนะ เรา จะอยู่ในส่วนของเซรามิกเลย ทำ�ทุกอย่าง ถ้วย ชาม รามไห ของที่ระลึกต่างๆ ปีหนึ่งเราต้อง ทำ�งานออกมาสี่คอลเล็กชั่น ช่วงนั้นก็อยู่บนดอย ทำ�งานเซรามิก ก็ทำ�อยู่สักสองปีครึ่ง จริงๆ ที่ แม่ฟ้าหลวงก็ดีเลยนะ ทั้งบรรยากาศบนดอย เครื่องไม้เครื่องมือที่แล็บให้ใช้ แต่ตอนที่ออกมา ก็เจอปัญหาเรื่องของการตลาด ในช่วงนั้นเราก็ได้ รู้จักกับคุณปุ๋ย-วรวิทย์ ศิริพากย์ เจ้าของแบรนด์ “ปัญญ์ปุริ” เลยไปทำ�งานกับเขา พี่อ้อทำ�หน้าที่อะไรที่ ปัญญ์ปุริ ครับ

ทำ� Package บ้าง แต่งร้านบ้าง ตอนนั้น 84

“ปัญญ์ปุริ” กำ�ลังขยายตัว คนก็ยังน้อย เรา ก็ได้ทำ�งานหลายๆ ส่วน อย่างเรื่องการติดต่อ ดูเรื่องการตลาด และอีกหลายเรื่องเยอะมาก คุยกับห้างสรรพสินค้า ต่อราคากับซับพลายเออร์ ดูต้นทุนการผลิต คุณวรวิทย์ก็สอนเรา หลายอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ สนุกมาก แต่ก็เหนื่อยมาก ทำ�อยู่ปีครึ่งร่างจะสลาย ทำ�งานเก้าโมงเช้าถึงตีห้า ที่ออกมาเพราะรู้ว่า จริงๆ แล้วงานประเภทนี้ไม่ใช่ทางเราเท่าไหร่ คือเราไม่ชอบบี้คน แต่งานแบบนี้มันต้องบี้ไง ต้องโหด ต้องคอยดูว่าอันนี้เสร็จหรือยัง อันนั้น ได้หรือยัง ส่งของเมื่อไหร่ พอทำ�ไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าใจมันด้าน ไม่ใช่ทุกคนที่ทำ�ธุรกิจจะ เป็นแบบนี้นะ หลังจากนั้นก็ลองไปทำ�งานจิต อาสากับเพื่อน คนละขั้วกันเลยนะครับ

ใช่ เราทำ�จิตอาสาก่อนหน้านี้มานานแล้ว รู้สึก ว่ามันสบายใจ ได้เจอเด็กๆ เจอคนในชุมชน แต่ก็ยังทำ�งานดีไซน์อยู่นะ ทำ�ในส่วนที่ต้อง ประชาสัมพันธ์ ส่วนที่ต้องให้ข้อมูล แต่ก็ได้เงิน น้อยลงมากนะ ส่วนมากก็อยู่ในชุมชนก็ไม่ต้อง ใช้เงินเยอะมาก แรกๆ ก็พออยู่ได้นะ แต่ตอน


85


86


87


นั้นมันมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ที่บ้านก็เริ่มถามว่าเรา จะเอายังไงกับชีวิต ทำ�จิตอาสาก็ดี แต่เอาเข้าจริงๆ มันอยู่ยากเหมือนกัน เลยกลับมาถามดูตัวเอง ว่า อยากทำ�อะไรจริงๆ แล้วมาสังเกตว่าเราไม่เคยทิ้ง งานเซรามิกเลย ทำ�มาตลอด เลยตัดสินใจไปเรียน ต่อทางด้านนี้ที่สวีเดน

อายุมากแล้วนะแต่ความคิดนี่ล้ำ�มาก เก่งมาก ก็ไป เรียนที่นั่น ที่ Capellagarden เขาจะมีบ้านพักอยู่ กันแบบครอบครัว สุดสัปดาห์ก็มาทำ�กับข้าวกินกัน ช่วงนั้นก็ได้ทำ�งานเยอะมาก ที่เราไปเรียนเขาเริ่ม ตั้งแต่เบสิกเลย อย่างดินมีกี่ประเภท การเตรียมดิน อุปกรณ์ต่างๆ การเผาแต่ละแบบ เป็นสิ่งที่ดีมากๆ ทำ�ไปสักพักก็เริ่มชอบการ Throwing การขึ้นรูปด้วย แท่นหมุน เริ่มชอบการทำ�งานที่ไม่ใช้แม่พิมพ์

เรียนที่ Capellagarden

Capellagarden เป็นโรงเรียนช่าง โรงเรียนเป็น อาคารไม้ๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ ห่างไกลเมือง ตัง้ อยู่ งานจบที่ Capellagarden “THE 100 บนเกาะ ชอบมาก มีศิลปินแห่งชาติสายเซรามิก TEA CUP” ของสวีเดนสอนด้วยชื่อ Kennet Williamson ซึ่ง งานชุดนีจ้ ริงๆ เริม่ จากเรา Throwing ไม่เก่ง พอถึง 88


เวลาต้องเรียนวิชานี้เราก็เบี้ยว เหมือนเราไม่ถนัด เราก็ไม่อยากเรียน แต่พอจบคลาสเราเห็นงาน เพื่อนๆ เขาทำ� Throwing ดีมากๆ เลยเสียดาย และตั้งใจว่าก่อนจบจะพยายามทำ�ให้ได้ ตอนนั้น เราก็มีเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่อยู่บ้านเดียวกัน เขาเก่ง เรื่อง Throwing มาก ก่อนมาเรียนเขาฝึกที่ญี่ปุ่น มาแล้วสามปี งานเป๊ะมาก เลยมาทำ�งานจบด้วยกัน โดยทำ�แก้วคนละห้าสิบใบ วิธีที่ใช้ในการทำ�แก้ว เซตนี้ชื่อ Raku (อธิบายอย่างง่าย คือการเผาใน อุณหภูมิที่ร้อนมากประมาณพันองศาและนำ�ไปใส่ ในขี้เถา เนื้อดินจะเป็นสีดำ�เพราะดูดขี้เถ้าเข้าไป) แต่เราก็ไม่เก่งขนาดเขานะ ตอนใกล้จะส่งงานเราก็ ทำ�ไม่ทัน ก็มีเพื่อนมาช่วยกัน สนุกดี พอกลับมาที่ กรุงเทพฯ เราก็ท�ำ “THE 100 TEA CUP” เซตทีส่ องนะ เป็นการหาทุนทำ�สตูดิโอของตัวเอง แล้วก็มีน้อง แนะนำ�ให้ทำ�โปรเจ็กต์อะไรขึ้นมาขาย เลยทำ�เซต ที่สองขึ้นมา แล้วก็ประสบความสำ�เร็จดีมาก แก้ว เซตที่สองนี้ถูกจองหมดในสองอาทิตย์ เรียนปริญญาโท HDK-School of Design and Crafts, Gothenburg

ที่โกเทนเบิร์ก เป็นเมืองเล็กๆ คนไม่เยอะ ซึ่งเรา ชอบ ในช่วงที่เรียนปริญญาโท มันไม่มีโจทย์ แต่ มันเป็นการได้รู้จักตัวเองมากขึ้น อย่างเราทำ�งาน เป็นรูปทรงกระบอกบ่อยนะแต่เราไม่รู้ตัว พอดีมี

89

อาจารย์ท่านหนึ่งมาถาม เราก็ตอบไม่รู้ แล้วเรา ก็เห็นว่าอาจารย์แกก็ท�ำ งานทรงกระบอกเหมือนกัน ทำ�มาสิบห้าปีแล้วด้วย เลยถามแกกลับบ้าง แกก็ไม่รู้ เหมือนกัน (หัวเราะ) มันเป็นสิง่ ทีไ่ ม่มใี ครเคยถามแก เลยนะ ด้วยคำ�ถามนีเ้ ราก็เลยสนิทกับอาจารย์คนนี้ เลย แล้วมีจดุ หนึง่ คือเราเป็นคนใจร้อน แต่สามารถ ทำ�งานเซรามิกได้เป็นชัว่ โมงๆ เราคิดว่ามันมีความ สัมพันธ์บางอย่างระหว่างเรากับงานเซรามิกทีม่ นั เกือ้ หนุนกันอยู่ เราเลยรูว้ า่ เราทำ�งานเพือ่ สิง่ นี้ เพือ่ บำ�บัด จิตใจของเราเอง และไม่คดิ มากเรือ่ งงานทีเ่ สร็จออก มาด้วยนะ เพราะเวลาเปิดเตาเผาออกมางานอาจจะ ดีหรือจะแย่กไ็ ด้ แต่เราก็ไม่เครียด นี่คือแนวคิดในการทำ�งานช่วงนั้น

ใช่ มันเป็นการเจอทางของตัวเอง ในช่วงที่เราอยู่ สวีเดน เราก็ทำ�งานตลอด แต่ก็ถามตัวเองเหมือน กันว่าทำ�ไมไม่ออกไปเที่ยว ไม่ไปหาประสบการณ์ ใหม่ๆ คำ�ตอบคือเรากลัว เราก็นอยกับความคิด ต่างๆ มากมาย แต่พอเครียดมากๆ เราก็มานั่ง ทำ�งานต่อในสตูดิโอจนความคิดเหล่านี้มันหายไป เราก็มาพบว่าความฟุ้งซ่านนี่แหละที่เป็นปัญหาใน ชีวิต และการทำ�งานเซรามิกมันช่วยได้ ช่วยบำ�บัด จิตใจของเรา เราเลยหยิบตรงนีข้ น้ึ มาทำ� ว่าขัน้ ตอน การทำ�เซรามิกมันเป็นการพัฒนาและช่วยเหลือ ตัวเราอย่างไร


90


WEAVING INDIGO : A Common Code

อันนี้มันบังเอิญเหมือนกัน เราทำ�งานนี้ตอน งานโรงเรียนที่ Capellagarden เขาต้องทำ� ของขายแล้วเราก็คิดไม่ออก พอมันคิดไม่ออก แล้วมันถึงเวลาต้องทำ�แล้วเนี่ย มันก็เป็นเรื่อง จิตใต้สำ�นึกเลย เราก็ทำ�เจ้าลายนี้ออกมา ซึ่ง อาจารย์บอกว่ามันสวย แล้วบอกให้ท�ำ ต่อ ให้เอา ลายนีไ้ ปทำ�ทัง้ ชิน้ ซึง่ เราก็เถียงนะว่ามันยาก มัน ไม่ได้หรอก แต่กก็ ลับมาทำ�และพอเราคิดว่ามัน ยากตอนทำ�เรายิง่ ต้องตัง้ ใจ กลายเป็นว่าออกมา ดี คำ�ว่า “WEAVING” มันคือการสาน มันคือ การนำ�เส้นสีครามมาสานกัน ดูเผิน่ ๆ จะคล้าย ตระกร้าสานเหมือนกันเหมือนรูปร่างมันเกิดจาก เส้นเหล่านี้ ขัน้ ตอนทำ�ก็ยากมากต้องใจเย็นมาก จริงๆ ผมว่างานแบบนี้ สำ�หรับหลายคนไม่น่า จะบำ�บัดนะครับ น่าจะเครียดมากกว่า

เวลาเครียดเราก็ลองวิธีอื่นแล้วนะ เคยดูหนัง ก็รู้สึกว่ายิ่งฟุ้งซ่าน ไปกินข้าวกับเพื่อน อะไร ต่างๆ ก็ไม่ช่วยเท่าไหร่ มันแล้วแต่คน สำ�หรับ เราการทำ�งานเซรามิกมันบำ�บัดตัวเราได้ มากกว่า ขั้นตอนที่ใช้เวลามันทำ�ให้เราสงบ การค่อยๆ ดูดินที่เราปั้นเปลี่ยนแปลงไปเป็น สิ่งต่างๆ อย่างดินแต่ละอย่างก็มีวิธีการทำ� มี

91

รายละเอียดต่างกัน ทำ�ผิดก็เสียเลย มีขั้นตอน มากมายที่เราต้องละเอียดกับเขาและเราเห็นได้ใน สิบชั่วโมงเลยว่ามันเวิร์คหรือเปล่า เหมือนเราเห็น ช่วงชีวิตของดินจากการทำ�งานเซรามิก เห็นความ เป็นจริง เรื่องแบบนี้มันช่วยให้เรามองชีวิตได้ดีขึ้น เข้าใจอะไรต่างๆ ในชีวิตได้มากขึ้น พี่เอาแนวคิดทางศาสนาไปใช้กับงานที่โน่น เขาตอบรับยังไง

แรกๆ เขาก็รับไม่ได้ เพราะทางตะวันตกเขา เน้นเรื่องเหตุผล แต่เราก็ยืนยันว่าที่เราเสนอเป็น เรื่องปรัชญาเป็นเรื่องที่เป็นเหตุผล ไม่ใช่เรื่องที่ งมงาย ด้วยความที่ตอนทำ�งานจิตอาสาเราเคย ไปช่วยงานที่หมู่บ้านพลัม ของท่านติช นัท ฮันห์ ท่านเป็นพระสายเซนและเราเคยไปปฎิบัติมา บ้างตอนอยู่ที่นั่น เรารู้สึกว่าท่านอธิบายธรรมะ ในแบบที่ง่าย เราเลยยกนิทานเซนจากหนังสือ ท่านมาใช้ เป็นเรื่องที่พระสององค์มองธงที่ เคลื่อนไหวอยู่ แล้วพระสององค์ก็เถียงกันว่าธง มันไหวหรือลมทำ�ให้มันไหว สุดท้ายก็มีอาจารย์ เดินมาบอกว่าสิ่งที่ไหวคือใจของพระสององค์นั้น งานนั้นใช่ชื่อว่า “Let’s Sway and See It Goes” เรารู้สึกว่างานนั้นเป็นการพูดเรื่องธรรมะได้ สำ�เร็จในระดับหนึ่ง


92


93


การผลิตต่างๆ จริงๆ เรามองการตลาดไว้ทต่ี า่ งประเทศ ชื่อนี้เป็นชื่อที่เคยตั้งกับเพื่อนตอนทำ�จิตอาสา ก็เอา มากกว่า อีกอย่างในบ้านเรากลัวโดนลอกงานด้วย ชื่อนี้มาใช้ เราก็หาที่ทำ�งานเซรามิกนี่แหละ เพราะ เพราะในต่างประเทศเขาจะไม่ลอกงาน และทางโน้น งานเซามิกมันเป็นงานทีต่ อ้ งใช้สตูดโิ อ เคยใช้สตูดโิ อ เข้าใจเรือ่ งขัน้ ตอนการทำ�เซรามิกและเห็นความสำ�คัญ ร่วมกับคนอืน่ ก็ไม่เวิรค์ เราทำ�งานดึกอยูส่ ตูดโิ อเยอะ กับผลงานศิลปะมากกว่า เกรงใจเขา มันเป็นงานทีต่ อ้ งใช้เวลาเยอะ ต้องมี สมาธิ เครื่องไม้เครื่องมือก็เยอะ เลยมี A SMALL ทำ�ไมเห็นพี่ทำ�พวกถ้วยเยอะ STUDIO เกิดขึ้น อย่างที่บอกว่ามันมีทรงที่เราสบายใจ คือทรงกระบอก มันก็เลยออกมาเป็นทรงนี้ และส่วนหนึ่งก็ทำ�เพื่อเอา เรื่องการขายงานเซรามิกในบ้านเรา ตัวรอดเพื่อขายด้วย เพราะถ้าทำ�เป็นงานศิลปะอย่าง เราเป็นคน Networking ไม่เก่ง จึงยากที่จะอธิบาย เดียวมันอยู่รอดยากและใช้เวลามาก แต่ไม่ได้ตั้งใจ ให้คนอื่นฟังเหมือนกันว่าเราทำ�อะไร มันบอกได้แค่ ทำ�แต่ถ้วยชา ถ้วยกาแฟ เราทำ�งานเซรามิก แต่จะพูดถึงรายละเอียดลึกๆ มัน อธิบายลำ�บาก ผลงานตอนนี้ส่วนมากก็มีเพื่อนๆ ถามในส่วนพาณิชย์แล้วส่วนด้านตัวงานศิลปะล่ะครับ ช่วยกันสนับสนุน ส่วนเรื่องหน้าร้านก็เพิ่งลองเอา เซรามิกเป็นงานทีต่ อ้ งใช้เวลาเยอะ สองปีคอลเล็กชัน่ ไปฝากขาย แต่ก็ไม่ได้ขายดีนะ ด้วยราคาที่แพง หนึ่งนี้ก็โอเคแล้ว มันต่างจากงานดีไซน์ คิวเรเตอร์ กว่าถ้วยชามปกติ ด้วยขั้นตอน การคิด วิธที �ำ และ เขาจะดูการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เราพูดถึง ระยะเวลาในการทำ� การทำ�มือทุกชิ้น อันนี้คือสิ​ิ่ง รวมถึงเทคนิคที่เราใช้ ซึ่งเรื่องเทคนิคนี่เขาดูละเอียด ที่คนทั่วไปไม่รู้ เขาจึงไม่เข้าใจว่าราคามันแพงกว่า มาตรฐานค่อนข้างสูงแล้วต้องมีความเฉพาะตัว เพราะอะไร ศิลปินหลายคนในบ้านเราก็ต้องหาเงิน อย่างตอนที่ได้โชว์งานที่ญี่ปุ่น ชื่องาน International ด้วยวิธีอื่นๆ มาช่วยอย่างการเป็นอาจารย์หรือทำ� Ceramics Competition Mino เราส่งไปสามชิ้น มี ธุรกิจอืน่ ๆ ตอนนีเ้ ราก็รบั งานด้านทีป่ รึกษาด้วย ใน ชิน้ เดียวทีไ่ ด้โชว์ แต่กด็ ใี จมาก เป็นงานคนไทยคนเดียว การคิดงาน รับออกแบบ ทำ�ต้นแบบ ช่วยดูขั้นตอน ที่ได้แสดงงานปีนี้ด้วย A SMALL STUDIO

94


95


96


97


งานอดิเรก

เราทำ�งานทุกวันนะเลยไม่ค่อยได้ไปไหน แต่ก็จะมีวันที่แอบเรื้อนบ้าง (หัวเราะ) คือทำ�ทุกวัน แต่กจ็ ะมีบา้ งทีค่ รึง่ วันไปนัง่ เล่นทีร่ า้ นกาแฟ หรือไม่กน็ ง่ั นิง่ ๆ อยูบ่ า้ น แผนในอนาคต

ปีหน้าอาจจะลดงานพาณิชย์ลง และ มาทำ�งานศิลปะมากขึ้นตั้งใจจะเตรียม ทำ�งานส่งประกวดงาน Mino ที่ญี่ปุ่น และเกาหลี

facebook.com/a.sutthiprapha www.aorsutthiprapha.com

98


99


PIE TEAM : 080 233 5492, 086 918 6216 www.pieeveryday.com facebook.com/piemagazine2013 pieonlinemag@gmail.com 100/99 chaiyapruk village, soi 55 ,Sukapibal 5 O-ngoen ,Saimai ,Bangkok 10220

SELF PUBLISHING PROJECT BY PIEONLINE MAGAZINE www.facebook.com/PIEZINE

104


105


See You Soon

106


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.