Jul-Oct 2018
60 ปี เบอร์แทรม
มุ่งสู่สังคมที่ดีร่วมกัน
โดย คุณสุวรรณา เอี่ยมพิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จ�ำกัด
Modern Trade Markup เศรษฐกิจจีน โอกาสของผูป้ ระกอบการไทย (ตอนจบ)
หลักสูตรปริญญาโท MBA สถาบันการจัดการปญญาภิวัฒน
งทาย
โปรแรงส
แบงชำระรายเดือน
22 เดือน
MBA Highlight เมื่อเร็วๆ นี้ หลักสูตรปริญญาโท MBA สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม), ส�ำนักบริหารเครือข่าย ทางธุรกิจ บริษทั ซีพี ออลล์ จ�ำกัด (มหาชน) และบริษทั บุญรอดเทรดดิง้ จ�ำกัด ร่วมจัดสัมมนา หัวข้อ “บทพิสจู น์ การเดินทางของ “สิงห์” กับการเป็นแบรนด์แห่งต�ำนานของไทย” (“Singha” The Thai Legendary Brand) โดยได้รับเกียรติจากคุณคมสัน แสงทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จ�ำกัด ผู้บริหารที่เป็น ผู้ร่วมสร้างต�ำนาน “Singha” กับการเปิดเผยต�ำนานความส�ำเร็จ การันตีด้วยการเป็นแบรนด์ของคนไทยที่ได้ รับรางวัล World Branding Award 2015-2016 (WBF) ถ่ายทอดยุทธศาสตร์แห่งการสร้างองค์กรและแบรนด์ ให้ยั่งยืนมากว่า 80 ปี เพื่อให้ผู้เข้าร่วมฟังได้น�ำองค์ความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์กับองค์กรหรือภาคธุรกิจต่างๆ Jul–Oct 2018
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อาจารย์พรวิทย์ พัชรินทร์ตนะกุล คุณสยาม โชคสว่างวงศ์ ผศ.ดร.เลิศชัย สุธรรมานนท์ ผศ.ดร.ศรีไพร ศักดิ์รุ่งพงศากุล คุณปาริชาต บัวขาว ดร.อติเทพ ศรีคงศรี ดร.ธนาสิทธิ์ เพิ่มเพียร บรรณาธิการ ธมลวรรณ อัศเวศน์ กองบรรณาธิการ ภัทรกมล คีรีวัชรินทร์ ภูริมาศ สว่างเมฆ สิริพร เหมัษฐิติ เพ็ญนภา กมลาสน์มรกต อมรรัตน์ ไกรทองสุข กรณัฐ หน่อแก้ว ศิลปกรรม อนุชิต ทะนงค์
อีกหนึ่งโครงการที่จัดขึ้นเพื่อต้องการให้เจ้าของกิจการ SMEs ได้มาแบ่งปันประสบการณ์การท�ำธุรกิจเพือ่ เป็น แรงบั น ดาลใจให้ นั ก ศึ ก ษาและบุ ค คลทั่ ว ไปที่ ส นใจ คื อ โครงการปั ญ ญาพารวย ครั้ ง นี้ ไ ด้ รั บ เกี ย รติ จ าก คุณกวินทร์ ณัฐรินทร์ กรรมการผูจ้ ดั การ จาก K Power Management Group Co., Ltd เจ้าของผลิตภัณฑ์ ยาสีฟนั Oral Herb ทีเ่ ป็นทีย่ อมรับและโด่งดังในหลาย ประเทศ มาเป็นวิทยากรในหัวข้อ “รวยยิม้ พิมพ์ใจ กับ Oral Herb”
ยกระดับการเรียนวิชาวิจัยทางธุรกิจ เมื่อการท�ำวิจัย ที่ไม่ใช่แค่การท�ำตัวเลข แต่หมายถึงการพัฒนาธุรกิจ แบบก้าวกระโดด หลักสูตร MBA จึงจัดซีรีส์สัมมนา “Research - Make Your Business Run : ธุรกิจ ก้าวไกลด้วยวิจยั ” โดย ผศ.ภญ.ธัญญา สุพรประดิษฐ์ชยั อาจารย์ประจ�ำหลักสูตร MBA PIM เชิญผู้บริหาร มืออาชีพที่ใช้ผลงานวิจัยเป็นตัวช่วยพัฒนาธุรกิจถึง 3 ท่าน มาให้ความรู้นักศึกษาทั้งในห้องเรียนและ LIVE ผ่าน Panyapiwat MBA Facebook Fanpage 3
COVER Story
60 ปี เบอร์แทรม มุ่งสู่สังคมที่ดีร่วมกัน
MBA Connected ฉบั บ นี้ ได้ รั บ เกี ย รติ อ ย่ า งสู ง จาก คุณสุวรรณา เอี่ยมพิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จ�ำกัด ผู้บริหารหญิงวิสัยทัศน์ ไกลมาบอกเล่าถึงแนวคิดการบริหารธุรกิจอันยอดเยี่ยมที่ น�ำพา “เซียงเพียว” ให้คงอยู่ในตลาดยาวนานถึง 60 ปี และเพิง่ ได้รับรางวัล Prime Minister’s Award 2018 ประเภท “แบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand)” ในฐานะที่เป็น ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น
คุณสุวรรณา เอี่ยมพิกุล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จ�ำกัด
4
จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจครอบครัว โดยเริ่มต้นจากคุณบุญจือ เอี่ยมพิกุล คุณพ่อ ของคุณสุวรรณา เอี่ยมพิกุล เป็นผู้บุกเบิก แต่เดิมคุณบุญจือท�ำอาชีพ เกษตรกรรม แต่ดว้ ยวิสยั ทัศน์ของท่านทีเ่ ล็งเห็นว่า ในสมัยนัน้ การท�ำธุรกิจ ด้ า นนี้ ขึ้ น อยู ่ กั บ ความต้ อ งการสิ น ค้ า และความสามารถในการผลิ ต (Demand-Supply) และพ่อค้าคนกลาง ท�ำให้คาดเดาได้ยาก จึงมี ความคิดอยากท�ำธุรกิจที่สามารถบริหารจัดการได้ด้วยตนเอง จนได้มี โอกาสเจอกับซินแสถัง ซึ่งเป็นญาติมาจากประเทศจีนที่มีความสามารถ ในการปรุงยา คุณพ่อจึงได้ไปเรียนกับซินแสและขอสูตรยามา แม้จะไม่ได้ สูตรมาทั้งหมด แต่ก็ได้ใช้ความรู้ความสามารถจากการเรียนมาปรับสูตร เพิ่มเติมเองจนสมบูรณ์แบบ จึงได้เริ่มผลิตยาหม่องน�้ำสมุนไพรจีนยี่ห้อ “เซียงเพียวอิ๊ว” ออกสู่ตลาด โดยเปิดร้านขายยาจักรินทร์เภสัช ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1958 ในนาม หจก.จักรินทร์เภสัช และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จ�ำกัด ในภายหลัง
และในปีนี้เราก็ด�ำเนินกิจการมาครบรอบ 60 ปี ปัจจุบันผลิตภัณฑ์หลัก ของบริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จ�ำกัด คือ ยาหม่องน�้ำ ยาหม่อง บาล์ม ยาดม และผลิตภัณฑ์ใหม่คือ ครีมบรรเทาอาการปวดเมื่อยที่ คุณสุวรรณาได้รบั แรงบันดาลใจมาจากความชอบทางด้านกีฬา ทัง้ หมดนี้ อยู่ภายใต้แบรนด์ “เซียงเพียว” และ “เป๊ปเปอร์มินท์ฟิลด์”
คงคุณค่าจากหยดแรกถึงหยดปัจจุบัน ด้วยมาตรฐานโรงงานตัวอย่าง GMP/PICs ด้วยปณิธานมุ่งมั่นในการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสังคม และยึดมั่นในเรื่อง ความน่าเชื่อถือและความไว้ใจของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้า (Trustworthy) ผ่านหลักคิดที่ว่า “อะไรที่ดีต่อเรา ก็ดีต่อลูกค้า (Mutual Benefit)” เรา จึงใส่ใจในคุณภาพของสินค้าเป็นอันดับหนึ่ง ผลิตสินค้าในโรงงานที่ได้ มาตรฐานสูงสุดคือ GMP PICs ทีเ่ ข้มงวดเรือ่ งการปลอดเชือ้ ในทุกขัน้ ตอน การผลิต ใช้สูตรยาและวัตถุดิบสารออกฤทธิ์ที่มีคุณภาพสูงสุด ผ่าน กระบวนการตรวจสอบทัง้ ทางด้านชีวภาพ กายภาพ รวมไปถึงด้านฟิสกิ ส์ ทีต่ รวจสอบวัตถุดบิ จากการหักเหของแสง เพือ่ เตรียมพร้อมก้าวเข้าสูค่ วาม เป็นสากล ส่งสินค้าของคนไทยให้ไปไกลทัว่ โลกตามกลยุทธ์ “One World One Brand” ที่ขณะนี้ส่งออกจ�ำหน่ายไปแล้วถึง 13 ประเทศทั่วโลก 5
มุ่งสู่สังคมที่ดีร่วมกัน ใส่ ใจตอบแทนสังคม อย่างยั่งยืน เบอร์แทรมใช้ระบบตัวแทนจ�ำหน่ายในต่างประเทศ ดังนั้นการสร้าง แบรนด์ ห รื อ เปลี่ ย นความเชื่ อ หรื อ มุ ม มองของคู ่ ค ้ า จากต่ า งประเทศ ที่ค้าขายกันมานานตั้งแต่รุ่นพ่อให้เป็นไปในแนวทางปัจจุบันจึงไม่ใช่ เรื่องง่าย แต่ด้วยความเชื่อในเรื่อง “Mutual Benefit” ที่คุณสุวรรณา เน้นว่าเป็นหลักคิดง่ายๆ ที่ยึดมั่นมาตลอด ประกอบกับปณิธานในการ ด�ำเนินธุรกิจที่ว่า “มุ่งสู่สังคมที่ดีร่วมกัน” มุ่งเน้นกลุ่มเด็กและสตรีให้มี สุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น จึงสนับสนุนกิจกรรมด้าน CSR ที่เน้น 3 ด้าน คือ การศึกษา กีฬา และศิลปะ ซึง่ ถึงแม้วา่ ต้องใช้เวลาในการสือ่ สารจุดยืน ให้ บ ริ ษั ท คู ่ ค ้ า และผู ้ บ ริ โ ภคเข้ า ใจในรู ป แบบการท� ำ การตลาดของ เบอร์แทรม แต่เพราะความชอบและรักในสิง่ ทีท่ ำ� จึงท�ำให้บริษทั คูค่ า้ เข้าใจ และมีวธิ คี ดิ มี DNA แบบเดียวกันกับเบอร์แทรมได้ไม่ยาก
ก้าวต่อไปของเบอร์แทรม ในช่ ว งปี ที่ 50-60 ของเบอร์ แทรมเป็ น ช่ ว งของการพัฒ นาคน ในองค์กร และสร้าง Corporate Branding ไปพร้อมกับการสร้าง Sports Culture ในองค์กร ส่งผ่านความสุขในการท�ำงานด้วยการ เล่นกีฬา สร้างความเป็นทีมให้องค์กร “เราเชื่อว่าถ้าสุขภาพกายดี สุขภาพใจดี จิตใจก็จะเข้มแข็ง เจออะไรในธุรกิจ ก็จะผ่านไปได้ ด้วยดี เพราะใจเราสู้” ส�ำหรับปีที่ 70 จะเป็นช่วงสร้างกลุ่มคนที่จะ มาสานต่อกิจการ ซึ่งองค์กรเราอายุเฉลี่ยของพนักงานที่นี่ส่วนมาก ไม่เกิน 35 ปี ดังนั้นเราจึงสร้างภาพลักษณ์องค์กรให้เป็นองค์กร ของคนรุ่นใหม่ ที่มีเสน่ห์ดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้มาท�ำงานกับเรา และ ตอนนี้เรามี Peppermint Bike Park สนามปั่นจักรยานที่ต้องการ รณรงค์ให้คนมาออกก�ำลังกาย และ Mint Café ร้านอาหารสุดชิค บรรยากาศสบายๆ ที่เป็นอีกหนึ่ง Business Unit ด้วย คุณสุวรรณายังได้ฝากถึงคนที่ก�ำลังอยาก เป็น Startup หรือเริม่ ต้นธุรกิจของตัวเอง ด้วยว่า “ขอให้ท�ำด้วยความชอบ ด้วย Passion อย่าท้อ ให้อดทน เก็บเกี่ยวอุปสรรคที่เข้ามาเปลี่ยน เป็นประสบการณ์ และทีส่ ำ� คัญคือ ให้ ม องไปไกลกว่ า ตั ว เรา แล้ ว สิ่งที่ได้มาจะดีกว่าที่เราคิด”
6
Modern Trade Markup
ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
เลขาธิการหอการค้าไทยในจีน
เศรษฐกิจจีน
โอกาสของผู้ประกอบการไทย ตอนจบ
นโยบายและความท้าทายครัง้ ใหม่ ในอนาคต ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนเติบโตในระดับ “ดุลยภาพใหม่” (New Normal) ที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 7.2 ต่อปี มาถึงวันนี้เศรษฐกิจจีนมี ขนาดใหญ่คดิ เป็นร้อยละ 15 ของเศรษฐกิจโลก เทียบเป็นอัตราการเติบโต กว่าร้อยละ 34 ของจีดีพีโลก แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนตระหนักดีถึง ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกจึงเดินหน้า “ปฏิรูป” เพื่อปรับโครงสร้าง เศรษฐกิจอย่างจริงจัง เช่น ผลักดันกลไกก�ำลังซื้อภายในประเทศ พร้อม สนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาชุมชนเมืองอย่างต่อเนื่อง การขยายตัวอย่าง รวดเร็วของชุมชนเมืองในจีนได้ส่งผลให้ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งร้านค้าปลีกที่ทันสมัยในย่านชุมชนเมืองได้รับความนิยมมากขึ้น อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ขณะเดียวกันก็มี “คลื่นลูกใหม่” ที่ก�ำลังมาแรง อาทิ อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) ที่เข้ามาชิงสัดส่วนการตลาดค้าปลีก จี น ซึ่ ง ถื อ เป็ น โอกาสของสิ น ค้ า ไทยในการก้ า วข้ า มอุ ป สรรคในเชิ ง ภูมิศาสตร์ที่กว้างใหญ่ไพศาลของจีนได้อย่างรวดเร็ว นโยบาย “ลูกสอง คน” (Two-Child Policy) เป็นนโยบายทีส่ ำ� คัญอีกอย่างหนึง่ ทีเ่ พิง่ เปลีย่ น เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะท�ำให้จีนมีทารกเกิดใหม่ราว 17-20 ล้านคน 8
ต่อปี น�ำไปสู่อุปสงค์ในสินค้า/บริการกลุ่มแม่ ทารก และวัยรุ่น รวมทั้ง กลายเป็นตลาดแรงงานใหม่ในระยะยาว และยังให้ความส�ำคัญกับการ พัฒนาภาคบริการและภาคเกษตรกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็น ประเทศพัฒนาแล้วในอนาคต รัฐบาลจีนพยายามดึงเอาภาคการลงทุนของเอกชนมาเป็นตัวชูโรงใน การขับเคลือ่ นเศรษฐกิจระลอกใหม่ผา่ นนโยบายพัฒนาเขตเสรีทางการค้า (Free Trade Zone) ซึ่งเมื่อผนวกกับนโยบาย “เส้นทางสายไหม” หรือ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (One Belt, One Road) แล้ว จะเป็นส่วน ส�ำคัญที่จะช่วยกระจายความเจริญทางเศรษฐกิจจากด้านซีกตะวันออก เข้าสู่ตอนกลางและซีกตะวันตกของจีน จากที่เราได้เห็นว่าจีนพยายาม พัฒนาบริการรถไฟขนส่งสินค้าระหว่างจีน-ยุโรปให้เหลือ 14 วัน ซึ่งจะ ท�ำให้สามารถแข่งขันกับเส้นทางเดินเรือในการขนส่งสินค้าทางทะเลได้ และยั ง มี โ ครงการ “Made in China 2025” ที่ มุ ่ ง เป้ า พั ฒ นา 10 อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ อาทิ ไบโอเทค พลังงานทดแทน รถยนต์ พลังงานรูปแบบใหม่ วัสดุใหม่ ไอที/ดิจิตัล และหุ่นยนต์
มาถึงวันนี้ ผู้น�ำรุ่นที่ 5 ก�ำลังตัดสินใจเสริมสร้างความแข็งแกร่งทาง เศรษฐกิจ ความกินดีอยู่ดี และความชอบธรรมทางการเมือง โดยมีตัวเลข เป้าหมายส�ำคัญได้แก่ ปี ค.ศ. 2020 รัฐบาลตั้งเป้าที่ต้องการเห็นจีนเป็น “สังคมกินดีอยูด่ รี ะยะต้น” เพือ่ ฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตัง้ พรรค คอมมิวนิสต์ ขณะที่ในปี ค.ศ. 2050 จีนก็ต้องการก้าวเป็น “ประเทศ พัฒนาแล้วเต็มตัว” และให้ชาวจีนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อฉลอง ครบรอบ 100 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งหากเป็น เช่นนั้นจริง ขนาดเศรษฐกิจของจีนจะใหญ่กว่าของสหรัฐฯ หลายเท่า
จีน... ตลาดใหญ่ที่ ไม่หมู การประกอบธุรกิจในจีนอาจเผชิญปัญหาอุปสรรคที่คาดไม่ถึง กลโกง ทางการค้ามีอยู่หลากหลายรูปแบบและวิธีการ แถมยิ่งเทคโนโลยีพัฒนา ไปก็ยงิ่ ท�ำให้การฉ้อโกงมีแนวโน้มขยายตัวมากขึน้ และยังต้องระมัดระวัง การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา นอกจากเรื่องนี้แล้ว สินค้าบางประเภท ของไทยเช่นข้าวหอมมะลิก็มีปัญหาการปลอมปน หรือคนจีนยังไม่ค่อย รู ้ จั ก ความแตกต่ า งของผลไม้ ไ ทย ท� ำ ให้ ยั ง ไม่ เ ห็ น ความพยายามใน การส่งเสริมการพัฒนา “คลัสเตอร์แฝด” (Twin Clusters) ในภาค อุตสาหกรรมของไทยและจีน หรือกล่าวอีกนัยหนึง่ ก็คอื ฐานการผลิตของ ไทยยังมิได้เชื่อมโยงกับของจีนแนบแน่นเท่าที่ควร นอกจากนี้ จีนยังเป็น ตลาดที่มีระดับการแข่งขันสูงเต็มไปด้วยผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และ รายเล็กทีม่ คี วามพร้อมและได้รบั การสนับสนุนจากภาครัฐเป็นจ�ำนวนมาก
จีนจึงเป็น “ตลาดที่ใหญ่ แต่ไม่หมู” ที่ผู้ประกอบการไทยจ�ำเป็นต้อง “รู้เท่าทัน” การเปลี่ยนแปลงของสภาพตลาดและพฤติกรรมการบริโภค ของจีนอย่างใกล้ชิด ให้ความส�ำคัญกับนโยบายใหม่ของรัฐบาลจีน สัมผัส ตลาดจีนให้มากพอจนกระทั่งสามารถแยกระหว่างคนที่ใช่และคนที่ไม่ใช่ ให้ได้ ผู้ประกอบการควรเลือกกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และวางต�ำแหน่ง ทางการตลาดที่ชัดเจนและโดนใจ เราควรรับรู้และแสวงหาโอกาสจาก ตลาดเป้าหมาย ไม่ควรคิดจับตลาดผู้บริโภคชาวจีน 1,500 ล้านคนด้วย ขนาดในเชิงภูมิศาสตร์ที่ใหญ่โตเสมือนหนึ่งประเทศ ไม่ควรเน้นการใช้ กลยุทธ์ด้านราคาเพราะสินค้าไทยส่วนใหญ่มีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า ของจีนแถมยังต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายในการน�ำเข้า ปัจจุบัน ภาคการค้าปลีกของจีนยังคงขยายตัวในระดับสองหลัก ท่ามกลางการผุดขึ้นของตลาดเป้าหมายใหม่มากมายตามมา เพราะฉะนั้น ท�ำอย่างไรไทยเราจะได้ประโยชน์จากความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจและการค้า เราต้องพยายามใช้ประโยชน์จาก FTA ที่ไทย/อาเซียนท�ำกับจีน และที่จีนท�ำกับประเทศอื่นๆ ขณะที่ เศรษฐกิจในตลาดหลักเดิมของไทย เช่น สหรัฐฯ ญีป่ นุ่ และสหภาพ ยุโรป ก็ยงั คงขาดเสถียรภาพอยูม่ าก และคาดว่าจะต้องใช้เวลานาน หลายปีกว่าจะพลิกฟื้นขึ้นมาได้อย่างเต็มตัว แต่เศรษฐกิจจีน จะเติบใหญ่อีกมาก ซึ่งนั่นจะส่งผลให้ตลาดจีนเติบโตอย่างมี เสถียรภาพต่อไปในอนาคต มาถึงวันนี้ “ดวงอาทิตย์ไม่ได้ขึ้นทาง ทิศตะวันตก” อีกต่อไป เราจึงควรพยายามสร้างดุลยภาพทาง เศรษฐกิจกับตลาดหลักอื่นๆ อย่างเหมาะสม และเดินหน้าอย่าง จริงจังและต่อเนือ่ งในการคิดท�ำประโยชน์จากการเติบโตของตลาด จีนในระยะยาว
ขอบคุณภาพประกอบจาก www.thaiquote.org
9
EXECUTIVE Talk
“ชีวิตดี...มี ได้ทุกวัน” ที่
คุณสุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จ�ำกัด
คุณภาพคือหัวใจ / Quality is No Compromise
เมื่ อ พู ด ถึ ง นมพาสเจอไรส์ เชื่ อ ว่ า แบรนด์ แ รกที่ ค นส่ ว นใหญ่ นึ ก ถึ ง คงไม่พ้น “เมจิ” นมชื่อญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นเคยมายาวนาน “เมจิ” เป็น ผลิตภัณฑ์ของ ซีพี-เมจิ ผู้ผลิตและจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์นมพาสเจอไรส์ และโยเกิร์ตรายใหญ่ของประเทศไทย ที่เกิดจากการร่วมลงทุนระหว่าง เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ บริษัท เมจิ จ�ำกัด ผู้น�ำตลาดผลิตภัณฑ์นม พาสเจอร์ ไรส์อันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น และเป็นเจ้าของเทคโนโลยี การผลิตที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับโลก MBA Connected by PIM ฉบับนี้ เราได้รับเกียรติจากคุณสุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี-เมจิ จ�ำกัด มาร่วมแชร์วิสัยทัศน์ ในการ ด�ำเนินธุรกิจ และแนวคิด “Enriched Living Everyday” ที่เป็นหัวใจใน การสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร 2
บริษัท ซีพี-เมจิ จ�ำกัด ก�ำเนิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2532 หรือเกือบ 30 ปีมาแล้ว ด้วยเจตนารมณ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพื่อยกระดับให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง นับตั้งแต่วันแรกจนถึง วันนี้ สิง่ ทีซ่ พี -ี เมจิให้ความส�ำคัญเป็นอันดับหนึง่ มาตลอดคือ คุณภาพของ ผลิตภัณฑ์ ตัง้ แต่ “ต้นน�ำ้ ” หรือวัตถุดบิ เรามีทมี ผูเ้ ชีย่ วชาญและสัตวแพทย์ ที่เข้าไปส่งเสริมและให้ความรู้เกษตรกรโคนม ทั้งการจัดการโรงเรือน การเลี้ยงโคนม การตรวจสอบคุณภาพและการจัดการน�้ำนมดิบ เพื่อให้ มั่นใจว่าน�้ำนมดิบที่จะเข้าสู่กระบวนการผลิตมีคุณภาพตามมาตรฐาน ที่ก�ำหนด ต่อเนื่องมาถึง “กลางน�้ำ” หรือกระบวนการผลิต ซีพี-เมจิ ใช้ เทคโนโลยีการผลิตจากประเทศญี่ปุ่นที่ถือเป็นมาตรฐานระดับโลก เรา เป็นบริษัทผู้ผลิตนมรายแรกๆ ในประเทศที่ได้รับ FSSC (Food Safety System Certification) 22000 หรือมาตรฐานสูงสุดด้านความปลอดภัย ในการผลิตอาหาร ดังนั้น ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ในผลิตภัณฑ์ทุกขวด ที่ออกจากโรงงานของเรา
นวัตกรรมนมเพื่อสุขภาพที่ดี / Product Innovation for Good Health
ความสัมพันธ์ที่ดี น�ำมาซึ่งธุรกิจที่ยั่งยืน / Stakeholder Engagement for Sustainable Business
ทุกวันนี้ ตลาดนมมีความท้าทายและการแข่งขันที่รุนแรงอยู่แล้ว ส�ำหรับ ซีพ-ี เมจิ เราไม่เน้นกระตุน้ การขายด้วยราคาหรือโปรโมชัน่ แต่เราเชือ่ เรือ่ ง การเติบโตที่มั่นคง โดยให้ความส�ำคัญเรื่องการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ใหม่ และในฐานะ “ผู้น�ำตลาด” เรามองไกลไปกว่าการออกผลิตภัณฑ์ ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของคนในยุคปัจจุบัน แต่เรามองถึง การวางแผนอนาคตโดยพัฒนา “นวัตกรรมนม” ที่เหมาะสมกับผู้บริโภค แต่ละกลุม่ และท�ำให้ผบู้ ริโภคมี “สุขภาพทีด่ ”ี ได้จากการบริโภคผลิตภัณฑ์ ของเรา
ซีพี-เมจิ เชื่อในระบบ ecosystem ดังนั้นเราจึงให้ความส�ำคัญกับผู้มีส่วน ได้เสียที่เกี่ยวข้องกับการด�ำเนินธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ต้นน�ำ้ ทีเ่ ราเข้าไปส่งเสริมอย่างต่อเนือ่ ง การพัฒนากลยุทธ์การขายร่วมกับ คู่ค้าช่องทางต่างๆ หรือโครงการที่เราท�ำให้กลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย เช่น การ พัฒนาทักษะและความรู้ความสามารถของบาริสต้าส�ำหรับกลุ่มธุรกิจ กาแฟ การส่งเสริมเรือ่ งการศึกษาส�ำหรับเด็ก รวมไปถึงกิจกรรมเพือ่ ชุมชน และสิ่งแวดล้อมที่ซีพี-เมจิด�ำเนินการตลอดทั้งปี เพราะหากทุกคนใน “ระบบนิเวศน์ของธุรกิจ” มีชีวิตที่ดีแล้ว ระบบธุรกิจนั้นก็จะสามารถ เติบโตอย่างมั่นคงได้ในระยะยาว
ซีพี-เมจิ มีหน่วยงาน R&D ที่แข็งแกร่ง และท�ำงานร่วมกับองค์กรด้าน วิทยาศาสตร์อาหารในประเทศและต่างประเทศหลายแห่ง ท�ำให้ทผี่ า่ นมา เราเป็นแบรนด์แรกที่น�ำเสนอผลิตภัณฑ์นมเพื่อสุขภาพที่เหมาะสมกับ ผู้บริโภคแต่ละช่วงวัยหรือไลฟ์สไตล์ เช่น เมจิ ไฮโปรตีน นมผสมเวย์ ให้โปรตีนสูง 2 เท่า ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังออกก�ำลังกาย เมจิ แลคโตส ฟรี ส�ำหรับผู้ที่แพ้น�้ำตาลแลคโตส เมจิ บัลแกเรีย โยเกิร์ตที่ผลิต จากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% และใช้จุลินทรีย์สายพันธุ์แท้จากบัลแกเรีย ต้นก�ำเนิดของโยเกิร์ต ช่วยปรับสมดุลระบบการย่อยและขับถ่าย เป็นต้น และในอนาคต ซีพี-เมจิ ก็จะมีนวัตกรรมเพื่อสุขภาพส�ำหรับผู้บริโภค ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ขับเคลื่อนองค์กรด้วยวัฒนธรรม Great IMPACTSS+ / Unite People through Corporate Culture องค์กรที่บุคลากรมีความแตกต่างหลากหลาย ทั้งพื้นฐาน อายุ และ ประสบการณ์ เป็นความท้าทายส�ำหรับผู้บริหาร ซีพี-เมจิก็เช่นเดียวกัน เราจึงต้องสร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผ่านวัฒนธรรมองค์กร ทีแ่ ข็งแกร่ง ซึง่ เราเรียกว่า Great IMPACTSS+ ประกอบไปด้วยคุณสมบัติ 8 ข้อ ได้แก่ I-Integrity, M-Measurable, P-Passion, A-Accountability, C-Can Do, T-Teamwork, S-Superior Quality และ S+ -Service Excellence
นอกจากจะมีวฒ ั นธรรมองค์กรทีเ่ ข้มแข็งแล้ว ซีพ-ี เมจิ ให้ความส�ำคัญ กับกระบวนการท�ำงานทีม่ ปี ระสิทธิภาพ คือการตัง้ เป้าหมายทีช่ ดั เจน และร่วมกันวางแผนก�ำหนดวิธีการท�ำงาน การเปิดใจรับฟังซึ่งกัน และกัน รวมทั้งช่วยกันส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อให้งานที่ออกมา มีประสิทธิภาพที่สุด 3
COACH@Work คุณอมรรัตน์ ประทุมมา ผู้อ�ำนวยการศูนย์ PIM Coaching Academy สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
ในฉบับที่แล้วเราได้พูดถึงทักษะการโค้ช (Coaching Skill) กับทักษะ การบริหารงาน (Managing Skill) โดยกล่าวถึงหน้าที่ที่ส�ำคัญของ หัวหน้างาน คือ การพัฒนาศักยภาพของลูกน้องซึ่งสามารถท�ำได้ หลากหลายวิธี และหากเปรียบวิธีการเหล่านี้เสมือนเป็นเครื่องมือ โดยหัวหน้างานเหมือนช่างไม้ ช่างไม้ทดี่ จี ะต้องรูจ้ กั เครือ่ งมือทุกประเภท รู้จักวิธี ใช้เครื่องมือ และสามารถประเมินได้ว่าในสถานการณ์ ใดจะเลือก การโค้ชกับการฝึกอบรม (Training) ใช้เครื่องมืออะไรให้เหมาะสมกับงานแต่ละงาน
การโค้ชกับการฝึกอบรมเป็นวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกันมาก เพราะการ วิธกี ารพัฒนาศักยภาพทีห่ วั หน้างานส่วนใหญ่คนุ้ เคยมีอยู่ 4 วิธหี ลัก คือ ฝึกอบรมมีพื้นฐานเป็นการสั่งสอนจากครูผู้ฝึก โดยครูผู้ฝึกจะควบคุม 1) วิธีการโค้ช (Coaching) กระบวนการและเนื้ อ หาทั้ ง หมดที่ จ ะถ่ า ยทอดให้ กั บ ผู ้ เรี ย น ดั ง นั้ น ประสิ ท ธิ ภ าพของการฝึ ก อบรมจึ ง มาจากคุ ณ ภาพและทั ศ นคติ ข อง 2) วิธีการสอน (Training) ครูผู้สอนเป็นส�ำคัญ 3) วิธีการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง (Mentoring) ในขณะที่การโค้ชนั้นขึ้นอยู่กับค�ำถามที่โค้ชถามโค้ชชี่ (ผู้ที่ได้รับการโค้ช) 4) วิธีการคาดการณ์จากพฤติกรรมในอดีต (Counseling) และให้โค้ชชี่คิดหาค�ำตอบจากสิ่งที่รู้อยู่แล้วแต่อาจจะไม่ได้คิดหรือมอง ในชีวิตการท�ำงานของหัวหน้าจะต้องมีโอกาสได้ใช้เครื่องมือทั้ง 4 ชนิดนี้ จากมุมมองนั้น โดยที่โค้ชจะไม่ให้ค�ำแนะน�ำใดๆ โค้ชจะควบคุมแค่เพียง อย่างแน่นอน แต่หัวหน้างานส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าก�ำลังใช้เครื่องมือเหล่านี้ กระบวนการ แต่ความคิดและการบูรณาการจะเป็นส่วนที่โค้ชชี่ต้อง อยู่ด้วยซ�้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโค้ชซึ่งเป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างมีความ ท�ำด้วยตัวเอง ความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งของการฝึกอบรมคือมักจะ สับสนอยูม่ ากในปัจจุบนั หากท่านผูอ้ า่ นมีโอกาสได้อา่ นบทความหรืองาน ท�ำเป็นกลุ่ม ขณะที่การโค้ชต้องท�ำตัวต่อตัวเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะมีลักษณะ วิจัยเก่ากว่าปี พ.ศ. 2550 ลงไปนั้น จะเห็นว่าค�ำนิยามของการโค้ช ที่ค่อนข้างแตกต่างกัน แต่การฝึกอบรมและการโค้ชสามารถใช้ร่วมกันได้ แตกต่างไปจากความหมายหรือค�ำนิยามในปัจจุบนั ค่อนข้างมาก และเพือ่ อุปสรรคเพียงอย่างเดียวคือการน�ำสิ่งที่ได้จากการฝึกอบรมไปประยุกต์ ให้เราสามารถเข้าใจการโค้ชได้ดีข้ึน จะขอเปรียบเทียบเครื่องมือทั้ง ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน ในขณะที่สิ่งที่โค้ชชี่ได้จากกระบวนการโค้ชสามารถ สามอย่างกับการโค้ชเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น น�ำไปใช้ได้ในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือชีวิตส่วนตัวก็ตาม 4
การโค้ชกับการเป็นพี่เลี้ยง (Mentoring) การโค้ชกับการเป็นพี่เลี้ยงอาจจะถือได้ว่าเป็นสิ่งที่หัวหน้างานส่วนใหญ่ สับสนในความแตกต่าง เพราะทั้งสองเครื่องมือมีลักษณะที่พูดคุยกัน ตัวต่อตัว และมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาศักยภาพของบุคคลเหมือน กันอีกด้วย สิง่ ทีก่ ารเป็นพีเ่ ลีย้ งต่างออกไปคือผูท้ สี่ ามารถเป็นพีเ่ ลีย้ งได้จะ ต้องมีความเป็นพี่หรือพูดง่ายๆ ก็คือแก่กว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน ประสบการณ์ของสิ่งที่ท�ำอยู่ ท�ำให้สามารถท�ำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง แบ่งปัน ความรู้และที่ส�ำคัญคือประสบการณ์ต่างๆ ให้กับน้องเลี้ยงได้ และจะ พัฒนามาเป็นสัมพันธภาพในระยะยาว การพบปะพูดคุยจะไม่ค่อย เป็นทางการมากนัก ทัง้ นีข้ นึ้ อยูก่ บั ความต้องการของน้องเลีย้ งเป็นส�ำคัญ
การโค้ช
การให้ค�ำปรึกษาเชิงจิตวิทยา
เกี่ยวข้องกับเรื่องงาน เน้นเรื่องของปัจจุบันเพื่อต่อไปยัง อนาคต เป็นการพัฒนาในระยะสั้นเพื่อให้เกิด ทักษะที่สามารถเรียนรู้และพัฒนาด้วย ตัวเอง โค้ชชี่ต้องเป็นคนก�ำหนดประเด็นเอง
เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วนตัว เน้นเรื่องในอดีตว่าเกิดอะไรขึ้น และเพราะอะไร เป็นการพัฒนาระยะสั้นแต่เนื่องด้วย เป็นบริบทของเรื่องส่วนตัวจึงกลายเป็น ระยะยาว เป็นการพูดคุยและตกลงประเด็น ร่วมกัน มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้เข้าใจและทราบ ถึงต้นสายปลายเหตุที่ท�ำให้เกิด อุปสรรคต่างๆ มักไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น
มีเป้าหมายเพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพ ของบุคคลตามที่ตั้งใจไว้ มักจะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง
ในขณะทีโ่ ค้ชจะไม่แบ่งปันหรือแชร์ประสบการณ์ รวมถึงให้คำ� แนะน�ำใดๆ เช่น สปอนเซอร์ ทั้งสิ้น โค้ชจะตั้งค�ำถามและสะท้อนความคิดของโค้ชชี่ และเอื้อให้โค้ชชี่ ได้ทุกเรื่อง ทุกประเด็น เป็นเรื่องเชิงจิตวิทยาเท่านั้น เกิดกระบวนการคิดและการเรียนรูด้ ว้ ยตัวของโค้ชชีเ่ อง และถึงแม้วา่ โค้ช ส่วนใหญ่อาจจะอายุมากกว่าโค้ชชี่ หรืออาจจะมีประสบการณ์ในงาน หากยังไม่แน่ใจว่าเราควรจะใช้บทบาทใด อาจจะทดลองถามค�ำถามง่ายๆ ด้านเดียวกันเป็นระยะเวลานานก็ตาม กระบวนการโค้ชจะช่วยให้โค้ชชี่ ตามผังขั้นตอนดังนี้ค่ะ จดจ่ออยู่กับสิ่งที่เป็นอุปสรรค ณ ปัจจุบัน ทางเลือกในการแก้ไข และการ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน ลงมือท�ำ ซึง่ มักจะอยูใ่ นเวลาทีก่ ำ� หนดไว้รว่ มกัน ดังนัน้ การนัดหมายชัว่ โมง การโค้ชจึงถูกก�ำหนดไว้ชัดเจน ไม่ ใช่
ใช่
การโค้ชกับการให้ค�ำปรึกษาเชิงจิตวิทยา (Counseling) หัวหน้างานบางท่านไม่ได้ท�ำหน้าที่แค่เป็นที่ปรึกษาในเรื่องงาน แต่เป็น ที่ปรึกษาชีวิตให้กับลูกน้องด้วย เพราะมนุษย์ทุกคนไม่ได้มีชีวิตแค่เรื่อง การท�ำงาน หลายครั้งที่จังหวะชีวิตของลูกน้องต้องประสบกับวิกฤตชีวิต เช่น การหย่าร้าง การเจ็บป่วยของบุคคลอันเป็นที่รัก ฯลฯ จริงๆ แล้ว การโค้ชและการให้ค�ำปรึกษาเชิงจิตวิทยาใช้ทักษะที่คล้ายกันมาก แต่ วัตถุประสงค์และความรู้สึกจะแตกต่างกัน
ตัวต่อตัว
กลุ่ม
กลุ่ม
เป็นระยะยาว
เป็น ช่วงเวลา
เป็นเวลา ต่อเนื่อง
รู้เนื้อหา ล่วงหน้า
ต้องรู้ สาเหตุ
ถามสิ่งที่ ก�ำลัง คิดอยู่
ต้องการ ผู้เชี่ยวชาญ
“โค้ช”
“พี่เลี้ยง”
แนว จิตวิทยา
“ผู้ฝึก”
“ที่ปรึกษา”
ตอนนี้คุณพอจะมองเห็นความต่างของแต่ละบทบาทชัดเจนขึ้นแล้ว จากนี้ไปเป็นการฝึกฝนทักษะการโค้ชแต่ละด้านให้เชี่ยวชาญและลงมือ ใช้งาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ส�ำคัญที่สุด เพราะเราไม่เรียนว่ายน�้ำแค่ในหนังสือ เท่านั้น ทุกคนต้องลงไปลองว่ายน�้ำในสระน�้ำ และในช่วงชีวิตหนึ่งทุกคน จะต้องเคยประสบกับเหตุการณ์คับขันที่คุณจะต้องตัดสินใจว่า คุณจะใช้ เครือ่ งมือใดในการช่วยเหลือลูกน้องหรือสมาชิกในทีมของคุณให้กา้ วผ่าน อุปสรรคต่างๆ ไปให้ได้ ในฉบับหน้าเราจะมาคุยกันเรือ่ งการใช้โค้ชภายใน (Internal Coach) หรือโค้ชภายนอก (External Coach) ดี โดยเฉพาะ อย่างยิง่ เมือ่ คุณท�ำงานในองค์กร แน่นอนว่าสองรูปแบบนัน้ มีทงั้ ข้อดีและ ข้อเสีย ขึ้นอยู่กับว่าแบบไหนที่เหมาะสมกับองค์กรและสถานะขณะนั้น ของคุณ 5
MBA Community
เจาะลึกด้านการบริหารคน และการบริหารธุรกิจอย่างแท้จริง มากกว่ า การเรี ย นทฤษฎี ใ นห้ อ งเรี ย นคื อ การเรี ย นรู ้ จ ากสถานที่ แ ละ ประสบการณ์จริง หลักสูตร MBA สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ น�ำ นักศึกษาเข้าศึกษาดูงาน ณ บริษทั เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุป๊ จ�ำกัด (มหาชน) (ส�ำนักงานใหญ่) พร้อมฟังบรรยายความรู้ประสบการณ์จริงในหัวข้อ “MK TRANING CONCEPTS” ซึ่งท�ำให้ทราบว่าบริษัทเอ็มเคนั้นมอง เห็นถึงความส�ำคัญของการบริหารคนและการบริการลูกค้าเป็นอย่างมาก จึงมีการฝึกอบรมพนักงานในแผนกต่างๆ ให้มีความเชี่ยวชาญด้านการ ท�ำงาน และเยีย่ มชมการอบรมหลากหลายหลักสูตรเพือ่ เตรียมความพร้อม บุคลากรให้พร้อมท�ำงานจริง และอีกหนึง่ สถานทีด่ งู านทีใ่ ห้ความส�ำคัญในเรือ่ งการบริหารคนไม่แพ้กนั นัน่ คือ บริษทั โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จ�ำกัด นักศึกษาได้ฟงั บรรยาย ในหัวข้อด้าน Recruitment, Engagement และหัวข้ออื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนีน้ กั ศึกษายังได้แนวคิดจากโตโยต้าในเรือ่ งการให้ความส�ำคัญต่อ บุคลากรในองค์กรให้ทำ� งานอย่างมีความสุข ซึง่ โตโยต้ามีระบบพีเ่ ลีย้ งคอย ดูแล ให้ค�ำปรึกษา และประเมินผลอย่างเป็นธรรมให้กับบุคลากรอีกด้วย ต่อด้วยอีกหนึ่งสถานที่ดูงานทางด้านธุรกิจอาหารแบบครบวงจร บริษัท ซีพแี รม จ�ำกัด รับฟังบรรยายเรือ่ งระบบการบริหารจัดการการผลิตอาหาร ทีไ่ ด้มาตรฐานและนวัตกรรมด้านอาหาร นักศึกษาได้เยีย่ มชมกระบวนการ ผลิตทุกขั้นตอน ทั้งขนมจีบ ซาลาเปา ข้าวกล่องพร้อมทาน ตั้งแต่ กระบวนการเตรียมวัตถุดิบ ขั้นตอนการปรุงสุก การขึ้นรูป การทอด นึ่ง ย่าง ตรวจสอบ และบรรจุใส่กล่องกระทั่งส่งเข้าร้าน 7-Eleven เพื่อจัด จ�ำหน่ายให้กับลูกค้า และอีกหนึง่ สถานทีด่ งู านทีพ่ ลาดไม่ได้ นัน่ ก็คอื บริษทั ไทยเอเชีย แปซิฟคิ บริวเวอรี่ จ�ำกัด หรือ โรงเบียร์ไฮเนเก้น พร้อมฟังบรรยายขัน้ ตอนการผลิต เบียร์ การต้ม การหมักเบียร์แต่ละแบบเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อย อีกทั้งยัง พาเดินชมพิพธิ ภัณฑ์และโรงเบียร์ให้เห็นถึงกระบวนการผลิตอย่างชัดเจน
ศึกษาดูงาน ณ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำ
�กัด (มหาชน)
ไทย จำ�กัด
ศึกษาดูงาน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศ
ฟังบรรยาย บริษัท ซีพ
ีแรม จำ�กัด
โครงการศึกษาดูงานของหลักสูตร MBA นี้จัดขึ้นทุกภาคเรียนให้กับ นักศึกษา เพื่อตอกย�้ำความเป็น Practice for REAL การเรียนที่เน้นกรณี ศึกษาจากผูเ้ ชีย่ วชาญจริง (REAL Cases) เรียนรูก้ บั มืออาชีพตัวจริง (REAL Professionals) ประยุกต์ใช้และสร้างธุรกิจได้จริง (REAL Business Application) ของหลักสูตร MBA สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ฟังบรรยาย บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริ
วเวอรี่ จำ�กัด
6
สัมผัสมิตรภาพและความมันส์!! ในกิจกรรม MBA First Meet 2018
เมื่อเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ ก็ต้องมีกิจกรรมที่ให้รุ่นพี่-รุ่นน้องได้สาน สัมพันธ์ ท�ำความรู้จักกันมากขึ้นกับกิจกรรม MBA First Meet 2018 ปีนี้เราพานักศึกษาเก็บกระเป๋าเดินทางไปจัดกิจกรรมสัมผัสบรรยากาศ ภูเขาและทะเล โดยสาขาการบริหารคนและกลยุทธ์องค์การ (POS) ได้ เดินทางไปที่เขาใหญ่พาโนราม่า รีสอร์ท ทุกคนจัดเต็มในธีม POS FiFA WORLD PARTY ส่วนสาขาการจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่ (MTM) ได้เดินทางปล่อยใจไปกับทะเลระยอง ณ เคียงทะเล รีสอร์ท เฮฮากันใน ธีมริมเลฮาเฮ สร้างมิตรภาพระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง พร้อมจัดหนัก จัดเต็มระเบิดความมันส์แบบไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว มีกิจกรรม สนุกสนานเชื่อมสัมพันธ์มากมาย อาทิ กิจกรรมครูรับศิษย์ พี่รับน้อง ที่สร้างความซาบซึ้งระหว่างอาจารย์ รุ่นพี่ และรุ่นน้องได้อย่างมากมาย พร้อมเชื่อมความรู้สึกดีๆ ผ่านกิจกรรม ต่อด้วยอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทุกคนรอคอยในปาร์ตี้ยามค�่ำคืน ไม่ว่าจะเป็น POS FiFA WORLD PARTY หรือ MTM ริมเลฮาเฮ แต่ละคนเต็มเหนี่ยว ด้วยชุดเข้าธีม พร้อมการแสดงจากรุ่นพี่และรุ่นน้องที่เชื่อมความสามัคคี บวกกับความฮา สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความประทับใจได้โดยไม่ต้อง มีค�ำบรรยาย และยังได้ดาวเดือนมาประดับรุ่นกันอีกด้วย มิตรภาพสร้าง ได้ในเวลาสั้นๆ แต่จะอยู่กับทุกๆคนตลอดไป กิจกรรมจบแต่มิตรภาพ ยังคงอยู่ ทุกคนยังคงเป็นเพื่อน พี่ และน้อง MBA พีไอเอ็มเหมือนเดิม ตลอดไป
7
Jul-Oct 2018
“ชีวิตดี...มี ได้ทุกวัน” ที่ โดย คุณสุจริต มัยลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จ�ำกัด
COACH@Work การโค้ชไม่ ใช่การสอนงาน