ครอบครัวพอเพียง
นิตยสารเพื่อคนไทย รูจริง ทำจริง แกจน
จุดเริ่มต้นของ ความสุขคือรู้จัก “พอ” คุปองสวนล
ด 30 บาท
๒๓ สิงห์เหนือ ผู้ไม่แพ้ ต่อกระแสทุนนิยม
เขมสรณ์ หนูขาว
หมั่นศึกษาหาความรู้เพื่ออนาคตที่ยาวไกล
50 มีนาคม 2555
2 : ครอบครัวพอเพียง
“...การท�ำงานใดๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งเป้าหมาย ขอบเขตและหลักการไว้ให้แน่นอน เพราะจะช่วยให้สามารถปฏิบัติมุ่งเข้า สู่ผลส�ำเร็จได้โดยตรงและถูกต้องพอเหมาะพอดี เป็นการป้องกันและขจัด ความล่าช้า ความสิ้นเปลือง ความเสียเปล่าทุกอย่างได้สิ้นเชิง และเมื่อปฏิบัติ ด�ำเนินงานสู่เป้าหมายนั้น ผู้มีการศึกษาต้องไม่ละทิ้งหลักวิชา ไม่ละทิ้งความ คิดพิจารณาตามเหตุผลและความชอบธรรมถูกต้อง...” คัดตัดตอนจากพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร แก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันศุกร์ที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๓๐
โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน�้ำของอ่างเก็บน�้ำยางชุม อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ อ�ำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๔๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้มีพระราชด�ำริกับ พลโท ประวิตร วงษ์สุวรรณ แม่ทัพ ภาคที่ ๑ (ยศในขณะนั้น) และรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้การสนับสนุนกรมชลประทานในการพิจารณาเพิ่มปริมาณ การเก็บกักของอ่างเก็บน�้ำยางชุม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ป่ากุยบุรี ตลอดจนส่งให้กับพื้นที่เพาะปลูกที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน�้ ำ ต่อมาเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชด�ำริกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้ช่วย ผู้บัญชาการทหารบก พลโทไพศาล กตัญญู แม่ทัพภาคที่๑ เลขาธิการ กปร. อธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ ป่า และพันธุ์พืช และผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ วังไกลกังวล สรุปความว่า ๑.ให้พิจารณาการเพิ่มความจุอ่างเก็บน�้ำยางชุม และสามารถเก็บกักและระบายออกท้ายเขื่อน โดยไม่เป็นอันตรายต่อ โครงสร้างเดิม ให้ท�ำให้เร็วที่สุด เริ่มหลังฝนนี้ ใช้เวลา ๒ ปี เสร็จปี ๒๕๔๘ โดยให้ กปร. สนับสนุนงบประมาณเพื่อเริ่มต้นได้เร็ว และ ให้พิจารณาน�ำน�้ำจากอ่าง โดยวางท่อน�ำน�้ำไปท�ำบ่อพักไว้บริเวณที่เป็นเนิน และท�ำระบบกระจายน�้ำและน�ำน�้ำไปใช้ประโยชน์ ๒.ให้พิจารณาก่อสร้างฝายต้นน�้ำ (Check Dam) สระน�้ำขนาดเล็กตามล�ำห้วยในพื้นที่เหนืออ่างเพื่อเก็บกักน�้ำไว้ใช้ ซึ่งจะ ช่วยชะลอน�้ำไม่ให้เกิดน�้ำท่วม เกิดความชุ่มชื้นและช้างมีน�้ำกินด้วย ๓.ให้กองทัพภาคที่ ๑ กรมชลประทาน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และส�ำนักงาน กปร. ร่วมกันแก้ไขปัญหาผลกระทบของโครงการและช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้าง
๑.เป็นแหล่งน�้ำต้นทุนเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ท�ำการเพาะปลูก อุปโภค-บริโภค ทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง ๒.ช่วยบรรเทาอุทกภัยในบริเวณลุ่มน�้ำกุยบุรี ๓.ช่วยผลักดันน�้ำเค็มในคลองกุยบุรีในช่วงฤดูแล้ง ๔.เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน�้ำจืดและเป็นสถานที่ท่องเที่ยว 4 : ครอบครัวพอเพียง
ผลด�ำเนินการถึงปัจจุบัน
การด�ำเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน�้ำอ่างเก็บน�้ำยางชุมฯ โดยการปรับปรุงตัวเขื่อนและปรับปรุงอาคาร ระบายน�้ำล้นให้สูงขึ้นอีก ๓ เมตร แล้วเสร็จเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๘ ท�ำให้ความจุของน�้ำเพิ่มขึ้นจาก ๓๒ ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น ๔๑.๑๐ ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเพิ่มขึ้น ๙.๑๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นจาก ๑๕,๐๐๐ ไร่ เป็น ๒๐,๓๐๐ ไร่ และได้เริ่มเก็บกักน�้ำตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๘ ทั้งนี้ ได้ก่อสร้างระบบส่งน�้ำในพื้นที่การเกษตรเสร็จเรียบร้อย แล้ว ส�ำหรับการด�ำเนินงานบริหารจัดการน�้ำ ได้จัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น�้ำแล้ว ๖๐๐ ครัวเรือน ซึ่งได้วางแผนการปลูกพืชทั้งพืชฤดูฝนและพืช ฤดูแล้ง ตลอดทั้งการจ�ำหน่ายผลผลิตมีตลาดรองรับที่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่การเกษตรชลประทานบริเวณคลอง ส่งน�้ำสายใหญ่ของโครงการส่งน�้ำและบ�ำรุงรักษาปราณบุรี และบริเวณทุ่งผักชี ให้สามารถเพาะปลูกพืชได้เพิ่มขึ้น
ผลการด�ำเนินการถึงปี ๒๕๔๘
ผลการด�ำเนินงานการก่อสร้างของโครงการจนถึงวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๔๘ ประกอบด้วย ๕ กิจกรรมดังนี้ ๑.กิจกรรมเขื่อนเดิม เสริมท�ำนบดิน เพิ่มขึ้น ๓.๐๐ เมตร เป็นความสูง ๒๖.๐๐ เมตร ความกว้างสันเขื่อน ๙.๐๐ เมตร ยาว ๑,๕๔๐.๐๐ เมตร เพิ่มระดับการเก็บกักน�้ำขึ้นอีก ๒.๐๐ เมตร ๒.กิจกรรมอาคารระบายน�้ำล้น (Spillway) ปรับปรุงอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กรูปตัวยู (U) ชนิด Ogee Weir ความยาว สันฝาย ๑๗๕.๐๐ เมตร กว้าง ๓๙.๐๐ เมตร ระบายน�้ำได้สูงสุด ๖๕๐ ม.๓/วินาที ๓.กิจกรรมท่อปากคลองส่งน�้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ขยายความยาวท่อด้านท้ายอาคารท่อระบายน�้ำ ขนาด ๑-Ø ๐.๘๐ เมตร ระบายน�้ำ ๓.๕๐ ม.๓/วินาที ๔.กิจกรรมท่อระบายน�้ำลงล�ำน�้ำเดิม (River Outlet) ก่อสร้างท่อระบายน�้ำ Steel Liner หุ้มด้วยคอนกรีต ขนาด ๑-Ø ๑.๐๐ เมตร สามารถระบายน�้ำได้ ๕.๘๐ ม.๓/วินาที ๕.กิจกรรมส่วนประกอบอื่น ๆ ได้แก่ ๕.๑ งานติดตั้งเครื่องมือวัดพฤติกรรมเขื่อน ๕.๒ งานปรับปรุงถนนทดแทนน�้ำท่วม
สรุป ผลการด�ำเนินงานทั้งโครงการ ๑๐๐.๐๐ %
ปริมาณน�้ำ ณ วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๔๘ มีจ�ำนวน ๒๐.๔๖ ล้านลูกบาศก์เมตร
ครอบครัวพอเพียง : 5
นพ. วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ
รองเลขาธิการส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
บ้านอยู่จอมทอง
ป้าแสงและป้าสร้อย อายุ ๖๕ เท่ากันสองคนนี้ป่วยเป็นเบาหวาน มาเกือบ ๑๐ ปี แล้ว และบ้านอยู่จอมทองเหมือนกัน สองคนนี้ต้องเจาะเลือด ปลายนิ้วเช็คน�้ำตาลในเลือดเป็นระยะๆ ป้าแสง น�้ำตาลเฉลี่ย ๑๖๐ ถือว่าคุมได้ไม่ดี ป้าสร้อย น�้ำตาลเฉลี่ย ๑๒๐ ถือว่าคุมเบาหวานใช้ได้ ป้าแสง ต้องตื่นแต่ตี ๕ เพื่อไปโรงพยาบาลทุก ๒ เดือน กว่าจะตรวจเสร็จรับยาก็เที่ยงพอดี กลับถึงบ้านก็บ่ายคล้อย พอถึงบ้านก็หมดแรง ป้าสร้อย ไปหาหมอตอนสายๆ ๒ เดือนครั้ง ก่อนไป หาหมอ ๑ วันจะมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจเลือดให้ถึงบ้าน จากบ้าน ไปโรงพยาบาล ๑๕ นาที อยู่โรงพยาบาล ๒ ชั่วโมงก็ได้กลับ บ้าน.......... ป้าแสง ไม่เคยมีใครไปเยี่ยมบ้าน และถึงมีก็ไม่แน่ใจว่า ป้าแสงจะกล้าเปิดประตูรับแขกแปลกหน้าเข้าบ้านหรือไม่ ป้ า สร้ อ ย มี พ ยาบาลบ้ า ง, เจ้ า หน้ า ที่ ส าธารณสุ ข บ้าง ไปเยี่ยมบ้าน วัดความดัน เจาะเลือดปลายนิ้วที่บ้าน แนะน�ำ 6 : ครอบครัวพอเพียง
เรื่องอาหาร เดือนละครั้ง หยอกล้อกันเหมือนญาติมิตร ป้าแสง ไม่เคยรู้ว่า อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุข) ในหมู่บ้านจัดสรรของแกหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ป้าสร้อย มี อสม.มาช่วยเป็นพี่เลี้ยง เป็นระยะๆ คุ้นเคยกันดี ป้าแสง รู้จักผู้ป่วยเบาหวานหลายคนที่โรงพยาบาล แต่ ไม่ค่อยคุ้นเคยวิสาสะกันนัก ป้ า สร้ อ ย อยู ่ ใ นชมรมผู ้ ป ่ ว ยเบาหวานของอ� ำ เภอ ช่วยกันแนะน�ำการปฏิบัติตน บางครั้งพยาบาลก็จับคู่กับเพื่อน ในชมรมบางคนท� ำ กิ จ กรรม นอกจากจะสนุ ก แล้ ว ยั ง ได้ เ พื่ อ น ด้วย ป้าแสง ไม่มีที่ทางพื้นที่จะเดินออกก�ำลังตอนเช้า เพราะ บ้านแกรถแยะ และบ้านอยู่กลางเมือง ป้าสร้อย เดินออกก�ำลังกายตอนเช้าได้ทุกวัน เลือดลมดี อากาศบริสุทธิ์
ท�ำไม ๒ คนนี้ได้รับการดูแล และปัจจัยแวดล้อมต่อโรค เบาหวาน ถึงแตกต่างกันมากขนาดนี้? ค� ำ ตอบก็ คื อ ว่ า ป้ า แสงบ้ า นอยู ่ เ ขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร, ส่วนป้าสร้อยบ้านอยู่อ�ำเภอจอมทอง จังหวัด เชียงใหม่
ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วม กับกระทรวงสาธารณสุข ก�ำลังริเริ่มการพัฒนา หน่วยบริการและระบบการให้บริการสุขภาพในเขต เมอื งของจังหวัดต่างๆ ซึง่ รวมทัง้ กรุงเทพมหานคร ด้วย เพราะมาตรฐานและคุณภาพการดูแลผูป้ ว่ ยโรค เรอื้ รังตอนนี้ คนต่างจังหวัดดีกว่าคนกรุงเทพเยอะ เลยนะครับ นี่คือปัญหาคุณภาพบริการที่ไม่ทัดเทียมกันในระบบ บริการสุขภาพของรัฐ ซึ่งจ�ำเป็นต้องได้รับการเยียวยาแก้ไข
สิทธิหลักประกันสุขภาพ ส�ำหรับการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค เช่น
• บริการวางแผนครอบครัว ได้แก่ การให้ค� ำ แนะน�ำปรึกษาแก่คู่สมรส รวมทั้งบริการคุมก�ำเนิด • การดูแลสุขภาพหญิงมีครรภ์ ทารกแรกเกิดและ พัฒนาการของเด็ก • บริการวัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคตามแผน งานการให้ภูมิคุ้มกันโรคของประเทศ • การตรวจคัดกรองความเสี่ยงต่อการเป็นโรค เช่น ตรวจระดับน�้ำตาลในเลือด ตรวจมะเร็งปากมดลูก/ มะเร็งเต้านม • การให้ยาต้านไวรัสเอดส์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เอดส์จากแม่สู่ลูก เป็นต้น
ตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลด้วยระบบอัตโนมัติ โทร 1330 กด 2 ตามด้วยเลขประจ�ำตัว ประชาชน 13 หลัก (ค่าบริการ 3 บาท/ครั้ง) โดยข้อมูลสิทธิการรักษาพยาบาลจะปรับปรุง ให้เป็นปัจจุบันทุกวันที่ 15 และวันที่ 28 ของทุกเดือน ครอบครัวพอเพียง : 7
ฉบับนี้จะเรียกว่าเป็น “ฉบับพิเศษ” ก็ว่าได้ เพราะมีภาพข่าวพิธีรับเกียรติบัตร ของน้องๆแกนน� ำจากสถาบันการ ศึกษา กว่า ๗๑ แห่งที่เข้าร่วมโครงการใสสะอาด พอเพียง เพื่อพ่อ สู่สถานศึกษาและชุมชน ภายใต้กิจกรรมสร้างสรรเยาวชน เป็นพลเมืองเข้มแข็ง ใจอาสา ปีที่ ๓ สถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯในปีนี้ ประกอบไปด้วยสถานศึกษาระดับประถมศึกษา ซึ่ง สังกัดกรุงเทพมหานคร สถานศึกษาระดับมัธยมปลาย ซึ่งสังกัดส�ำนักคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานและส�ำนักคณะกรรมการ ส่งเสริมการศึกษาเอกชน และส�ำนักงานการศึกษาเอกชน ในระดับอาชีวศึกษา เรียกได้ว่ากิจกรรมในปีที่ ๓ นี้ประสบความส�ำเร็จ และเป็นนิมิตหมายใหม่ที่ดีของสังคม ซึ่งแน่นอนว่าใครจะเคยคิดหรือแม้แต่จะคิดว่า จะได้เห็นกิจกรรมระหว่างสถาบันการศึกษา ที่มีความแตกต่างกัน ทั้งระดับอายุ และหน่วยการเรียนรู้ จะมีใครสักกี่คนที่เคยเห็น “พี่อาชีวศึกษาจะสามารถสอนน้องในระดับ ประถมศึกษาให้รู้จัก ค�ำว่า ‘พอเพียง’ได้อย่างเป็นรูปธรรม” และที่น่าประทับใจยิ่งไปกว่านั้นคือน้องๆ แกนน�ำจากโรงเรียน ระดับอาชีวศึกษานั้นล้วนแล้วแต่เป็นโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนทั้งสิ้น การที่มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด ได้เปิดเวทีนี้ เพื่อให้ น้องๆอาชีวะได้มีส่วนร่วมเพื่อจรรโลงสังคมให้รู้ว่า “พวกเขาก็มีดี ไม่ใช่ดี แต่ตีกัน” ความรู้ ความเข้าใจ ความรักและการให้ที่ยิ่ง ใหญ่ ที่มูลนิธิฯเพียรพยายามส่งต่อสู่เยาวชน เป็นความตระหนักรู้และส�ำนึกอยู่เสมอว่า “เยาวชนคือก�ำลังที่ส�ำคัญของแผ่นดิน”
แม้จะเหนื่อยยากเพียงใด แต่หากเมื่อสุดท้ายของความคิดที่เกิดขึ้นต่อเยาวชนที่เราเพียรจะสร้างเขาให้ เป็นคนดี เป็นผู้ให้นนั้ เขาจะระลึกได้ว่า เขามีความส�ำคัญ เขาเป็นพลังและเขาคือความหวังของ
“แผ่นดินสยาม”
วันที่ ๑๓ มีนาคม วันช้างไทย
วันที่ ๒๒ มีนาคม วันน�้ำของโลก
วันที่ ๒๗ มีนาคม วันกองทัพอากาศ
ประธานกิตติมศักดิ์ : คุณหญิงพวงรัตน วิเวกานนท์, ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด, ปรีชา วัชราภัย,เบญจวรรณ สร่างนิทร นนทิกร กาญจนะจิตรา (เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ : พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์, พุธทรัพย์ มณีศรี, ชมนาด พงศ์พนรัตน์, ดร.เสรี พงศ์พิศ, เกริกเกียรติ์ เอกพจน์, นงลักษณ์ หอตระกูล ดร.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์, ผศ.ดร.ทิพวัลย์ สีจันทร์, ปภพ อารยะศาสตร์, ชัยสิทธิ์ ดอนท้วม, ดวงฤดี รัตนโอฬาร, ชาญยุทธ นนทิวิรุฬห์ นารีรัตน์ ทองประพาฬ, สุดาพร บุญโนทก, ปรีดาวรรณ ทนยิ้ม, เสริมสกุล คล้ายแก้ว, พินิจ ค�ำปู่, วิสุทธิ์ ชินนาพันธ์, วิรวรรณ เหรียญนาค วรรณดี นาคสุขปาน, ผศ.พวงเพชร รัตนรามา, วนิดา โรจจวัฒน์, วิวัธน์ชัย คงล�ำธาร, ผศ.(พิเศษ) ดร.ศิริพงศ์ พฤธิพันธุ์ ไพศาล คัจฉสุวรรณมณี, ดร.แสงโฉม ถนอมสิงห์, สุรศักดิ์ อัตตะสาระ,ประเสริฐ หอมดี, นิตยา ชีวะพฤกษ์, สมหญิง ธาดาธิเบศร์ ชริตว์จาร์ คล่องการยิง, รังสิมา จารุภา, ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ประธานด�ำเนินการ : ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ที่ปรึกษา : วริมา โพธิสมบัติ, วัลภา บุรุษพัฒน, ผศ.ดร.ธันวา จิตต์สงวน, ดร.ขนิษฐา สารพิมพา, ฌิชศีล ตันติเวชกุล, จริยา รอดเที่ยง บรรณาธิการ : ศุภกร ม่วงแพรศรี, อภีม คู่พิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ : ภาวัช ครูซ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ : ชัชชัย สุขขาวดี, พุฒิพัฒน์ กมลจรัสพงศ์, สุพิชฌาย์ กมลจรัสพงศ์ ผู้อ�ำนวยการฝ่ายการตลาด : รัชดาภรณ์ ศรีนวลสุข ฝ่ายการตลาด : นุชนาถ คันธธาศิริ ศิลปกรรม : เอกรัตน์ คงรอด ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย : ส�ำนักงานกฎหมาย พิทยาเพชรพลอย โรงพิมพ์ : บริษัท ฐานการพิมพ์ จ�ำกัด จัดจ�ำหน่าย : บริษัท โอเชี่ยน บุ๊คมาร์ท จ�ำกัด ส�ำนักงาน : นิตยสารครอบครัวพอเพียง ๓๑/๒ ซอยทองหล่อ ๒ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ โทรศัพท์ : ๐-๒๙๘๓-๗๓๑๒-๓ โทรสาร : ๐-๒๙๘๓-๗๓๑๔ เว็ปไซต์ : www.ariyaplus.com E-mail : ariyaplus@hotmail.com
8 : ครอบครัวพอเพียง
ครอบครัวพอเพียง : 9
กระผม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธาน ในพิธีมอบเกียรติบัตรโครงการใส สะอาดพอเพียงเพื่อพ่อสู่สถาน ศึกษาและชุมชน กิจกรรมเพื่อสร้างสรรค์เยาวชนเป็นพลเมืองเข้ม แข็งใจอาสาปีที่ ๓ ในวันนี้ ปัจจุบัน นี้ปัญหาด้านคุณธรรมจริยธรรมในสังคม และ สังคมโลกเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายต้องยอมรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ประเทศไทยนั้น ได้ส่งผลให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อทุกๆภาคส่วนใน สังคมไทย ซึ่งจากผลการส�ำรวจความคิดเห็นจากส�ำนักต่างๆมีผล ที่ปรากฏอย่างเด่นชัดและต่อ เนื่องว่าคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์ สุจริต และความมีวินัยต่อตนเองและสังคม เป็นคุณธรรมที่มีระดับ ต�่ำกว่าคุณธรรมด้านอื่นๆอย่างชัดเจน ทั้งๆที่คุณธรรมเหล่านี้ เป็น คุณธรรมหลักของคนไทยและสังคมไทย มูลนิธิ ประเทศไทยใสสะอาด ได้ดำ� เนินการรณรงค์ปลูก ฝังจิตส�ำนึก ด้วยคุณธรรม จริยธรรม รูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โครงการพอเพียงเพื่อพ่อสู่สถานศึกษาและชุมชน ก็เป็นโครงการ หนึ่งที่น�ำเยาวชนรุ่นใหม่จากสถานศึกษาต่างๆ ในระดับมัธยมเข้า ร่วมโครงการโดยการน�ำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็น จุด เริ่มต้น ภายใต้กิจกรรมสร้างสรรค์เยาวชนเป็นพลเมืองเข้ม แข็ง มีใจอาสา เพื่อสานต่อความคิด และขยายผลโดยการน�ำหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่การประยุกต์ใช้ใน ๕ ด้าน คือ ๑) ด้านเศรษฐกิจ ๒)ด้านศาสนา วัฒนธรรมและสถาบันพระมหา10 : ครอบครัวพอเพียง
กษัตริย์ ๓)ด้านสังคม ๔) ด้านประชาธิปไตย ๕)ด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นการพัฒนาความคิดและสร้างจิตส�ำนึก ของเยาวชน ปลุกฝังคุณธรรม จริยธรรม เพื่อเป็นแนวทางในการ ด�ำเนินชีวิตต่อไป การ ด�ำเนินโครงการในปีนี้ เป็นการต่อยอดเป็นปีที่ ๓ และเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายจากสถานศึกษา ๓๖ โรงเรียน เป็น ๗๑ โรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีที่ทุกฝ่ายเห็นความ ส�ำคัญ และความจ�ำเป็นในเรื่องนี้ การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้แก่เยาวชน โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ควรได้มีการขยาย ผลเพื่อให้เกิดการน�ำไปสู่กสนปฏิบัติในทุกระดับและทุกภาคส่วน อย่ า งจริ ง จั ง อั น จะเป็ น การเสริ ม พลั ง ให้ ป ระเทศไทยสามารถ พัฒนาไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน เป็นที่ยอมรับในเวทีโลก
คณะกรรมการมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด
(จากซ้ายมือ)
๑.นายพุธทรัพย์ มณีศรี กรรมการ ๒.นายนนทิกร กาญจนะจิตรา กรรมการและเลขาธิการ ๓.คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รองประธานกรรมการ ๔.ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการ ๕.นางเบญจวรรณ สร่างนิทร ที่ปรึกษามูลนิธิฯ ๖. น.ส.รังสิมา จารุภา กรรมการและเหรัญญิก ๗. นายสีมา สีมานันท์ กรรมการ
พิธีมอบโล่และเกียรติบัตร โครงการใสสะอาดพอเพียงเพื่อพ่อสู่สถานศึกษาและชุมชน กิจกรรมสร้างสรรค์เยาวชนเป็นพลเมืองเข้มแข็งใจอาสา (๓) โครงการใสสะอาดพอเพียงเพื่อพ่อสู่สถานศึกษาและ ชุมชน ภายใต้กิจกรรมสร้างสรรค์เยาวชนเป็นพลเมืองเข้มแข็งใจ อาสา ปีที่ ๓ ในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ท่านดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด เป็นประธานใน พิธี และคุณนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการ ก.พ. เป็นประธาน ร่วมในพิธี โรงเรียนที่เข้าร่วมในโครงการใสสะอาดพอเพียงเพื่อพ่อ สู่สถานศึกษาและชุมชน ปีที่ ๓ จ�ำนวน ๗๑ โรงเรียน แบ่งออกเป็น โรงเรี ย นระดั บ มั ธ ยมศึ ก ษาจ� ำ นวน ๓๐ โรงเรี ย น ได้แก่ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ, โรงเรียนราชินีบน, โรงเรียนสตรีวัด ระฆัง ,โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, โรงเรียน กุ น นที รุ ท ธารามวิ ท ยาคม, โรงเรี ย นเจ้ า พระยาวิ ท ยาคม, โรง เรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์ คอนแวนต์, โรงเรียนราชินี, โรงเรียน มั ธ ยมวั ด เบญจมบพิ ต ร, โรงเรี ย นสตรี ศ รี สุ ริ โ ยทั ย , โรงเรี ย น ทวี ธ าภิ เ ศก ๒, โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย์, โรงเรี ย นยาน นาเวศวิ ท ยาคม, โรงเรี ย นมั ธ ยมวั ด ดุ สิ ต าราม, โรงเรี ย นวั ด ราชาธิวาส, อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย, โรงเรียนหอวัง, โรงเรี ย นสั น ติ ร าษฎร์ วิ ท ยาลั ย , โรงเรี ย นสาธิ ต มหาวิ ท ยาลั ย ศรี น คริ น ทรวิ โ รฒ ประสานมิ ต ร (ฝ่ า ยมั ธ ยม), โรงเรี ย น
สุรศักดิ์มนตรี, โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย, โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระ, โรงเรี ย นเทพศิ ริ น ทร์ , โรงเรี ย นวั ฒ นาวิ ท ยาลั ย , โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย, โรงเรียนโยธินบูรณะ, โรงเรียน นวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี , โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี, โรงเรียนเบญจมราชาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ โรงเรียนสายปัญญา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ฯ โรงเรียนระดับอาชีวศึกษา จ�ำนวน ๑๔ โรงเรียนได้แก่ วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างฝีมือปัญจวิทยา, วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม บริหารธุรกิจ นนทบุร , วิทยาลัยเทคโนโลยีการจัดการเพชรเกษม , โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ ช่างกล ขส.ทบ., วิทยาลัยเทคโนโลยี ทั ก ษิ ณ าบริ ห ารธุ ร กิ จ , วิ ท ยาลั ย เทคโนโลยี ส ยามบริ ห ารธุ ร กิ จ (SBAC), วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก อี.เทค. , วิทยาลัย เทคโนโลยี บ างละมุ ง อิ น เตอร์ - เทค, วิ ท ยาลั ย เทคโนโลยีชลบุรี , วิ ท ยาลั ย อาชี ว ศึ ก ษาศาสนบริ ห ารธุ ร กิ จ , โรงเรี ย นเทคนิ ค พณิ ช ยการอยุ ธ ยา, วิ ท ยาลั ย เทคโนโลยี ส ยาม (สยามเทค) , โรงเรี ย นพณิ ช ยการภาษานุ ส รณ์ บ างแค และโรงเรี ย นปั ญ ญา ภิวัฒน์ เทคโนธุรกิจ โรงเรี ย นระดั บ ประถมศึ ก ษา จ�ำ นวน ๒๗ โรงเรี ย น ได้แก่ โรงเรียนวัดชนะสงคราม , โรงเรียนวัดจันทรสโมสร , โรง
ครอบครัวพอเพียง : 11
เรียนโฆสิตสโมสร, โรงเรียนวัดเทวราชกุญชร, โรงเรียนสามเสน นอก (ประชาราษฏร์อนุกูล), โรงเรียนวัดด่าน, โรงเรียนศาลาพัน , โรงเรียนวัดราชผาติการาม, โรงเรียนวัดพระเชตุพน, โรงเรียน เบญจมบพิ ต ร, โรงเรี ย นวั ด จั น ทร์ น อก, โรงเรี ย นคลองพิ ท ยา ลงกรณ์ , โรงเรี ย นวั ด มกุ ฏ กษั ต ริ ย าราม, โรงเรี ย นกองทั พ บก อุปถัมภ์ เพชราวุธวิทยา, โรงเรียนชุมชนวัดสมรโกฏิ, โรงเรียน
วัดศรีนวลธรรมวิมล, โรงเรียนเซนต์จอห์น, โรงเรียนคันนายาว (ธารินเจริญสงเคราะห์), โรงเรียนวัดเกาะสุวรรณาราม, โรงเรียน วั ด ทุ ่ ง เหี ย ง, โรงเรี ย นวั ด ดอนด� ำ รงธรรม, โรงเรี ย นอนุ บ าล บางละมุง, โรงเรียนประภัสสรวิทยา, โรงเรียนชุมชนวัดหนอง ค้อ, โรงเรียนหนองจอกพิทยานุสรณ์, โรงเรียนศิริเสนาวิทยาและ โรงเรียนวัดไผ่เงินโชตนาราม จุ ด ประสงค์ เ พื่ อ สร้ า งความเข้ า ใจและการปฏิ บั ติ ที่ ถูกต้องเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา พัฒนาแนวคิด และจิตใจ และปฏิบัติเป็นรูปธรรม สร้างผู้น�ำที่มีความรู้ ความ เข้าใจ ในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถน�ำหลัก ปรัชญาฯไปประยุกต์ใช้ในภาคส่วนต่างๆในหลากหลายมิติ
คุณน�ำพล ลิ้มประเสริฐ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนา อย่างยั่งยืน บ.ปูนซีเมนต์ ไทยรับมอบโล่ผู้สนับสนุน 12 : ครอบครัวพอเพียง
รางวัลการประกวดนิทรรศการต่อยอดพันธกิจ (ระดับมัธยมศึกษา) จ�ำนวน ๓ รางวัลได้แก่ “พิชิตพันธกิจสดใสด้วยหัวใจ พอประมาณ”
๑
อันดับ ๑ โรงเรียนโยธินบูรณะ อันดับ ๒ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี อันดับ ๓ โรงเรียนยานนาเวศวิทยาคม
๒
๓
รางวัลการประกวดนิทรรศการต่อยอดพันธกิจ (ระดับอาชีวศึกษา) จ�ำนวน ๓ รางวัลได้แก่ “รอบรู้ คู่สังคม บ่มหัวใจให้ พอเพียง” อันดับ ๑ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC) อันดับ ๒ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ นนทบุรี อันดับ ๓ โรงเรียนเทคนิคพณิชยการอยุธยา
๒
๑ ๓ ครอบครัวพอเพียง : 13
รางวัลอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการดีเด่นระดับมัธยมศึกษา จ�ำนวน ๕ รางวัลได้แก่
๑
๔
๒
๕
๓
๑.อาจารย์สุนันทา มนัสมงคล (โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) ๒.อาจารย์อรสา มากสาคร (โรงเรียนมัธยมวัดดุสิตาราม) ๓.อาจารย์นภาวรรณ จินตชิน (โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย) ๔.อาจารย์ยุพาภรณ์ แจ้งเจนกิจ (โรงเรียนราชินี ) ๕.อาจารย์นัยน์ปพร จงสมจิตต์ (อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย) (*ปัจจุบันโรงเรียนศึกษานารี)
รางวัลอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการดีเด่นระดับอาชีวศึกษา จ�ำนวน ๕ รางวัลได้แก่
๑
๒ ๔
๑.อาจารย์เยาวรัตน์ ส�ำรวล (โรงเรียนเทคนิคพณิชยการอยุธยา) ๒.อาจารย์อโนทัย ก้อนเครือ (วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างฝีมือปัญจวิทยา) ๓.อาจารย์มนัส เวชนุวัฒน์ (วิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี) ๔.อาจารย์กัณหา จันแก้วโชติภัทร์ (วิทยาลัยเทคโนโลยีบางละมุงอินเตอร์-เทค) ๕.อาจารย์รุ่งกานต์ ยอดคง (วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC) 14 : ครอบครัวพอเพียง
๓ ๕
รางวัลแกนน�ำเยาวชนดีเด่นระดับอาชีวศึกษา จ�ำนวน ๓ รางวัล ได้แก่ ๑.นายสุริยา ไชยยายัณห์
(วิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี)
๑
๒.น.ส.จุฑามาศ เข็มทอง
(วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก อี.เทค.)
๓.นายอ�ำพล คะหาญ
(วิทยาลัยเทคโนโลยีการจัดการเพชรเกษม)
๒
๓
รางวัลกลุ่มแกนน�ำต่อยอด รางวัลแกนน�ำเยาวชนดีเด่นระดับ องค์ความรู้สู่ระดับประถมศึกษาดีเด่น มัธยมศึกษา จ�ำนวน ๒ รางวัล ได้แก่ จ�ำนวน ๒ รางวัล ได้แก่
วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ นนทบุรี (ชนะเลิศ)
น.ส.ผาณิตา เผ่าวงศา (โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี)
วิทยาลัยอาชีวศึกษาศาสนบริหารธุรกิจ (รองชนะเลิศ)
น.ส.สุพิชญา ณ สงขลา (โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย) ครอบครัวพอเพียง : 15
รางวัลประกวดภาพวาด(สพฐ.)
” ด า ะอ ส ใส ย ไท อ ่ ื เพ ง ย ี เพ “พอ
ด้านเศรษฐกิจ
รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย
ด้านสิ่งแวดล้อม
รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนเบญจมราชาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ด้านโรงเรียนน่าอยู่ (สังคม) รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย
ด้านประชาธิปไตย
รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย
ด้านศาสนาวัฒนธรรม และสถาบันพระมหากษัตริย์
รางวัลชนะเลิศ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
16 : ครอบครัวพอเพียง
ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ชีวิตพอเพียง ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กิจกรรม พิธีปิดโครงการปีที่ ๓ เด็กวันวาน...เด็กวันนี้ อ.พุธทรัพย์ มณีศรี พลังเยาวชน พลังของแผ่นดิน ทวีศักดิ์ จันทร์แก้ว ธรรมะติดปีก ว.วชิรเมธี ความเป็นคน ความเป็นครู Play to Game Tip Today ๒๓ สิงห์เหนือผู้ไม่แพ้แก้กระแสทุนนิยม ปฎิบัติการชุมชนรักษ์น�้ำ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน�้ำและการเกษตร How to Health รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ is am are พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ครัวพอเพียง ตื่นเถิดชาวไทย สุรศิลป์ อมรสุรศิริ เกษตรพอเพียง ผศ.ดร.ทิพวัลย์ สีจันทร์ Andrew biggs คุยกับดาว ดรุณี เจริญพานิช รอบคอบรู้คิดพิชิตมะเร็ง พอเพียงอย่างไร ให้ใจมีสุข โรงเรียนสาธิต มศว. ฝ่ายมัธยม ตัวไกลหัวใจอยู่ใกล้ ดร.ไสว บุญมา Social news เที่ยวทั่วไทย สไตล์พอเพียง โฟกัสอาชีพ
๖ ๑๐
พลังเยาวชน พลังของแผ่นดิน ทวีศักดิ์ จันทร์แก้ว
๑๑
P. ๒๐
๑๘
กิจกรรม ครอบครัว พอเพียง P. ๑๑
๒๐ ๒๔ ๒๖ ๒๘ ๓๐ ๓๒ ๓๘ ๔๐ ๔๒ ๔๗ ๔๘ ๕๒ ๕๕ ๕๖ ๖๐ ๖๒ ๖๖ ๗๐ ๗๒ ๗๔
คุยกับดาว
เขมสรณ์ หนูขาว หมั่นศึกษาหาความรู้ เพื่ออนาคตที่ยาวไกล
P. ๕๖
๒๓ สิงห์เหนือ
ผู้ไม่แพ้ในกระแสทุนนิยม
P. ๓๒ พอเพียงอย่างไร ให้ใจมีสุข โรงเรียนสาธิต มศว.
P. ๖๒ เที่ยวทั่วไทย สไตล์พอเพียง เกาะขาม จังหวัดตราด
P. ๗๒ ครอบครัวพอเพียง : 17
เด็กวันวาน....เด็กวันนี้ น�้ำท่วมใหญ่ ปี ๒๕๕๔ เป็น “อุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุด ทั้งในแง่ของปริมาณน�้ำและจ�ำนวนผู้ได้รับผลกระทบ” โดยเกิดผลกระทบต่อบริเวณลุ่มแม่น�้ำเจ้าพระยาและ ลุ่มน�้ำโขง ครอบคลุมพื้นที่กว่า ๑๕๐ ล้านไร่ ในจ�ำนวนนี้เป็นทั้งพื้นที่เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม รวม ๖๓ จังหวัด ๖๘๔ อ�ำเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๔๐๘๖,๑๓๘ ครัวเรือน ๑๓,๕๙๕,๑๙๒ คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง ๒,๓๒๙ หลัง บ้านเรือนเสีย หายบางส่วน ๙๖,๘๓๓ หลัง พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย ๑๑.๒๐ ล้านไร่ ถนน ๑๓,๙๖๑ สาย ท่อระบายน�้ำ ๗๗๗ แห่ง ฝาย ๙๘๒ แห่ง ท�ำนบ ๑๔๒ แห่ง สะพาน/คอสะพาน ๗๒๔ แห่ง บ่อปลา/บ่อกุ้ง/หอย ๒๓๑,๙๑๙ ไร่ ปศุสัตว์ ๑๓.๔๑ ล้านตัว มีผู้เสียชีวิต ๘๑๓ ราย (๔๔ จังหวัด) สูญหาย ๓ คน (จ.แม่ฮ่องสอน ๒ ราย จ.อุตรดิตถ์ ๑ ราย) ธนาคารโลกประเมินมูลค่าความเสียหายสูงถึง ๑.๔๔ ล้านล้านบาท จัดให้เป็นภัยพิบัติครั้งที่สร้างความเสียหายมากที่สุด เป็นอันดับสี่ของโลก ข้อมูลข้างต้นเป็นของวิกิพีเดีย (http://th.wikipedia. org) แต่ประชาชนคนไทยก็ได้เห็นข้อมูลหลาย ๆ ประการ ได้เห็นการบริหารจัดการน�้ำที่น่าจะท�ำได้ดีกว่านี้ หาก 18 : ครอบครัวพอเพียง
ทุกคนทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกัน ได้เห็นการช่วยเหลือประชาชนที่เต็มไปด้วยข่าวทุจริต คอร์รัปชั่น และการหาประโยชน์ของนักการเมืองทั้งทางตรงและ ทางอ้อม ได้เห็นการท�ำงานของหน่วยราชการในการช่วยเหลือ เบื้องต้นผู้ประสบอุทุกภัยครอบครัวละ ๕,๐๐๐ บาท ซึ่งล่าช้ามาก หลังจากการยื่นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการตรวจ สอบแล้ว ต้องคอยการประกาศรายชื่อกันเป็นเวลานานนับเดือน นี่เฉพาะผู้ที่มีหลักฐานครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่ทาง ราชการก�ำหนดไว้แล้วนะ ประกาศทั้ ง ที่ ว ่ า การเขตหรื อ อ� ำ เภอและทาง อินเทอร์เน็ตด้วย ดีใจที่ราชการสมัยนี้ทันสมัย แต่ปรากฏว่า ใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วยเสียเปล่า แทนที่ให้ประชาชนที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็น พิมพ์ชื่อลงไปเพื่อให้การค้นหาง่ายขึ้น เช่นเดียวกับการค้นหา โดยใช้กูเกิ้ล แต่ปรากฏว่าประกาศในอินเทอร์เน็ตนั้น ก็พอ ๆ กับ การไปยืนอ่านที่ได้พิมพ์ออกมาปิดประกาศไว้ที่หน้าที่ว่าการเขต หรืออ�ำเภอนั่นแหละ เจ้ า หน้ า ที่ ก็ ไ ม่ เ คยบอกว่ า การยื่ น เรื่ อ งของเราจะ ประกาศในครั้งที่เท่าใด ดังนั้น จึงต้องอ่านทุกประกาศและทุกแผ่น หวังว่าหากเกิดน�้ำท่วมในปีนี้อีก คงจะวางแผนปรับปรุง แก้ไขให้ดีขึ้นในทุก ๆ เรื่อง ก็เป็นบทเรียนให้หลานได้เรียนรู้ไปด้วยว่า เมื่อท�ำสิ่งใด ไปแล้ว จะต้องประเมินผลการด�ำเนินการว่ามีข้อบกพร่องอย่างไร สมควรปรับปรุงแก้ไขปัญหานั้น รวมทั้งหาทางป้องกันไม่ให้เกิด
ขึ้นอีกอย่างไร หากเห็นว่าดี ก็อาจต้องพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีก อย่าท�ำผิดซ�้ำซาก เพราะไม่มีใครให้อภัยกับการกระ ท�ำความผิดซ�้ำซาก พูดถึงน�้ำท่วมก็อดที่จะพูดถึงเรื่องของลุงไม่ได้ แม้ว่าสิ่งที่ลุงประสบนั้นไม่เสียหายมากนักเมื่อเทียบกับ ผู้ที่ประสบปัญหาน�้ำท่วมส่วนใหญ่ บ้านสวนของลุงที่อ�ำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรีนั้น ลุงได้ลงทุนลงแรงปลูกบ้านปลูกต้นไม้ไว้ตั้ง ๑๑ ปี
ลุงไม่ยอมแพ้หรอก ลุงจะปลูกใหม่ ลุงได้รับต้นไม้จากเพื่อนฝูงกรมส่งเสริมการเกษตร เป็น มะม่วงหลายพันธุ์และต้นกล้วยเนื้อเยื่อ ลุงได้น�ำรูปต้นไม้ดังกล่าวขึ้นใน Facebook ของลุง เพื่อนของลุงก็เขียนว่า “เขาพูดกันว่าปีนี้น�้ำจะท่วมอีก แต่ไม่รู้ ว่าที่ใดบ้าง ถ้าจริงเสียดายต้นไม้ที่จะปลูกใหม่นะ” ลุงก็ตอบไปว่า “What ever will be…will be” แปลง่าย ๆ ว่า “อะไรมันจะเกิด ก็ให้มันเกิด” ตอนนี้ลุงได้ปลูกต้นกล้วยแล้ว ๔๐ ต้น
ให้ความสุข ความร่มรื่น เป็นที่พักผ่อนและออกก�ำลัง กาย รวมทั้งได้กินและได้แจกผลิตผลในสวนของลุงมาโดยตลอด น�้ำท่วม ๒ เดือน ไปกับน�้ำเกือบหมด ของในบ้านเสียหายมาก ทั้งประตู หน้าต่าง เตียงนอน เพราะเริ่ ม ต้ น ด้ ว ยต้ น กล้ ว ยนี่ แ หละ จะได้ ท� ำ อะไร ที่นอน และโต๊ะอาหาร ง่าย ๆ เหมือนกล้วย ต้นไม้ก็ตายเกือบทุกชนิด เหลือแต่ต้นมะพร้าว ต้นยอ สิ่งที่อยากจะบอกกับหลาน ๆ ก็คือ เมื่อเราประสบ ๑ ต้น มะขาม ๑ ต้น และชมพู่ อีก ๑ ต้น ปัญหา เราก็สู้กับปัญหานั้น ไม่ย่อท้อ สวนที่เคยร่มรื่น ตอนนี้ไม่ร่มแล้ว เหลือแต่ซากต้นไม้ที่ ต้นไม้ของลุงตายหมดเพราะน�้ำท่วม แต่ลุงก็ปลูกใหม่ ลุงโค่นลงแล้วผลักลงทิ้งในสระ ตอนนี้ปลาในสระก็ร่าเริง หากน�้ำยังคงท่วมปีนี้อีก ลุงก็จะปลูกใหม่อีก เพราะลุงถือว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความส�ำเร็จ อยู่ที่นั่น” ที่เล่ามาทั้งหมด ก็เพื่อให้หลาน ๆ มีความพยายามและ มีความอดทนกับความผิดหวังที่จะเกิดขึ้น เมื่อพบกับความผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่อง รัก หรือเรื่องอื่นใด จงพร้อมที่จะยอมรับ ปรับปรุงแก้ไข และสู้กับชีวิตต่อไป คนเรานั้น ล้มแล้วต้องลุก วันใดที่เราลุกไม่ขึ้น แสดงว่า เราได้จากโลกนี้ไปแล้ว เมื่อเรายังไม่ตาย ก็สู้กันต่อไป สู้เพื่อให้ชีวิตของเราประสบความส�ำเร็จ
ครอบครัวพอเพียง : 19
ด.เด็กช่างคิด
ทวี ศ ั ก ดิ ์ จั น ทร์ แ ก้ ว ทุกครั้งที่มีโอกาสได้ท�ำ..เพื่อผู้อื่น มีความสุขที่สุด..
“ผมเชื่อว่าผมเกิดมาเพื่อท�ำงาน คือท�ำงานเพื่อช่วยเหลือสังคมนะครับ หรือที่เขาเรียกว่า...จิตอาสา ทุกครั้งที่มีโอกาสได้ท�ำ มีความสุขมากครับ” เป็นค�ำยืนยันจากปากของ น้องกอล์ฟ ทวีศักดิ์ จันทร์แก้ว ประธานแกนน�ำ จิตอาสา ชมรมครอบครัวพอเพียง โรงเรียนมัธยมวัดมกุฎกษัตริย์ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๕
น้องกอล์ฟ ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมกับครอบครัวพอเพียง ตั้งแต่ปีที่แล้ว ในระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๔ ตอนนั้นน้องกอล์ฟ ก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานแกนน�ำกลุ่มจิตอาสา มาในปี ที่ ๒ น้องกอล์ฟก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมเช่นเคย และก็ได้รับการคัด เลือกจากเพื่อนๆ พี่และน้อง ให้เป็นประธานแกนน�ำกลุ่มจิตอาสา ในปีที่ ๒ อีกครั้ง พี่ๆทีมงานต่างก็มีความประทับใจในความเป็น “จิตอาสา”ของน้องกอล์ฟมาก ด้วยลักษณะท่าทาง บุคคลิกที่ เรียบร้อย มีความเป็นผู้น�ำสูงมาก ทุกครั้งที่เราจัดค่ายอาสา เช่น กิจกรรมดูแลน้องเณร ที่วัดไผ่ด�ำ จังหวัดสิงห์บุรี ครั้งนั้นมีน้องๆ จากหลายโรงเรียนไปร่วมกิจกรรม เมื่อไปถึงวัด หลวงพี่และพี่ๆ ทีมงานก็พาน้องๆ เดินชมห้องสมุดและบริเวณโบสถ์ที่มีเณร ก�ำลัง ศึกษาอยู่จ�ำนวนมาก และยังไม่ถึงเวลาฉันเพล พี่ๆ ทีมงานจึงชวน น้องๆ จิตอาสา ช่วยกันท�ำความสะอาดบริเวณรอบๆ วัด ทุกคน ต่างแยกย้ายกันไปหาไม้กวาด ถุงด�ำเก็บเศษขยะ ส่วนน้องกอล์ฟ และเพื่อนๆ อาสาไปล้างห้องน�้ำ-ห้องส้วม ที่มีอยู่หลายห้อง จน สะอาดเรียบร้อยทุกห้อง หลังจากเสร็จภาระกิจ พวกเราก็ได้ ไป ประเคนอาหารถวายแด่พระภิกษุและเณร รับศีล รับพร มีความ สุขเบิกบานกันทุกคน ก็เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ พวกเราได้ มีโอกาสได้ท�ำร่วมกัน และเราก็ได้เห็นถึงความมีน�้ำใจ ความจริงใจ และตั้งใจท�ำ โดยไม่เลือกงาน ไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ของน้อง กอล์ฟ เป็นอย่างดี ทีนี้เรามาฟังความในใจของหนุ่มน้อยหน้าหล่อ คนนี้ดูบ้างว่าเขามีความรู้สึกอย่างไรกับการเป็น “ผู้ให้”
“ผมชอบท�ำกิจกรรมเป็นชีวิตจิตใจครับ ต้องหาอะไร ท�ำที่นอกเหนือ จากที่ท�ำอยู่เสมอ เมื่อว่างจากการเรียน” และ จากการที่ได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนๆ และพี่ๆ ให้เป็นประธาน ชมรมฯ ท�ำให้ กอล์ฟ ไม่เคยหยุดนิ่ง คอยชักชวนเพื่อนๆ และน้องๆ มาเข้าร่วมกิจกรรมของชมรมครอบครัวพอเพียงอย่างสม�่ำเสมอ กอล์ฟ มักจะได้รับการสนับสนุน การให้ก�ำลังใจทุกครั้ง ในการเข้าร่วมท�ำกิจกรรมจิตอาสาจาก “ครอบครัว” ครอบครัว ของ กอล์ฟ เป็นครอบครัวเล็กๆ ที่อบอุ่น มีสมาชิก ๔ คน พ่อแม่-ลูก คือคุณพ่อสิทธิศักดิ์ จันทร์แก้ว คุณแม่หล้า นาทะสัน และ ก็น้องชายอีกหนึ่งคน น้องเกียรติศักดิ์ จันทร์แก้ว มาเป็นแกนน�ำ “จิตอาสา” แล้วได้อะไร? ค�ำถามนี้ กอล์ฟ ตอบอย่างภาคภูมิใจว่า ประโยชน์ที่เกิดกับตัวเองชัดเจน ก็คือ ท�ำให้มีความเข้มแข็ง มีประสบการณ์ และมีวุฒิภาวะทาง อารมณ์มากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จาก ห้องเรียน และที่ส�ำคัญท�ำให้ผมได้พบ และรู้จักผู้คนมากมาย ได้ เพื่อนใหม่ๆ จากต่างโรงเรียน ท�ำให้ผมได้เกิดการคิด วิเคราะห์เห็น ถึงสภาพปัญหาของสังคม บุคคล และอื่นๆ อีกมากมาย “อยาก บอกว่า กิจกรรมของชมรมครอบครัวพอเพียง เป็นกิจกรรมที่ สร้างคนให้เป็นคน และท�ำให้คนเป็นคนที่มีคุณภาพของสังคม ครับ” จริงๆ แล้ว จิตอาสา ผมคิดว่าทุกคนนั้นสามารถท�ำได้ ท�ำได้ ง่ายด้วยครับ ไม่จ�ำเป็นต้องมีทรัพย์สินใดๆ เลยก็สามารถท�ำได้
ครอบครัวพอเพียง : 21
แต่สิ่งที่ยากที่สุดนั้นคือ การเริ่มต้น มีเพื่อนๆ หลายคน อยากท�ำ กิจกรรมหลายอย่าง แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร บางคนก็เขินอายบ้าง บางคนก็กล้าๆ กลัวๆ “การที่เราได้ ‘ให้’ โดยที่ไม่ต้องการผลตอบรับ ได้เดิน เข้าไปช่วยเหลือสังคมที่อ่อนแอกว่า โดยไม่ได้คิดถึงประโยชน์ ส่วนตน ได้ท�ำจากส่วนลึกของหัวใจอย่างแท้จริง ผมก็ไม่เคย คิดว่าจะมีหลายๆ สิ่ง หลายๆ คน ที่ยังขาดโอกาสในสังคม อีกมากมาย ขณะที่ผมเกิดมาพร้อมทุกอย่าง ตรงนี้เองก็เป็น แรงบันดาลใจอย่างหนึ่งที่ท�ำให้ผมคิดได้ว่า ต่อไปนี้จะท�ำอะไร ต้องมีความตั้งใจ และมุ่งมั่นมากกว่าเดิม” กอล์ฟจึงกลายเป็น แกนน�ำในการท�ำกิจกรรมจิตอาสา ทั้งในและนอกโรงเรียน หาก มีงานที่ไหน กิจกรรมอะไรเข้ามา เขาจะรวบรวมเพื่อนๆ พี่และ น้องให้มาร่วมกิจกรรมกันมากมาย ด้านการเรียน กอล์ฟ บอกว่าเขามีความ ตั้งใจเรียนมาก ขึ้น ใช้ความพยายามในการศึกษาและท�ำสิ่งต่างๆ มากขึ้น และ อดทนต่อสิ่งรอบข้างได้มากขึ้นด้วย หากท้อแท้ ก็จะนึกถึงเด็กๆ และคนอีกจ�ำนวนมากที่ยังขาดโอกาส และยังคอยการช่วยเหลือ จากสังคมอยู่ กอล์ฟ เชื่อว่าไม่เพียงตัวเขา เท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ จากการท�ำกิจกรรม “อาสา” โดยเขามองว่ายังช่วยเพิ่มความ เป็น “คน” ให้กับคนอื่นๆ อีกทั้งยังช่วยสร้างสังคมและชุมชน ให้เข้มแข็ง และนี่ก็คือ ... ประโยชน์ มหาศาลของงาน “จิต อาสา” ประโยชน์ของการท�ำกิจกรรมที่กล่าวมาข้างต้น สิ่งที่ได้ กับตัวเอง ที่ส�ำคัญนั้นก็คือ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในการพัฒนา ตนเอง ได้เพื่อนใหม่ๆ ได้รู้สัจจะธรรมของชีวิตบางอย่าง เวลา ท�ำงานกับบุคคลต่างๆ ทั้งต่างเพศ และต่างวัย คือเอาง่ายๆ เลย ก็คือได้รู้ว่านิสัยใจคอของแต่ละคนนั้น จะไม่เหมือนกัน
22 : ครอบครัวพอเพียง
แล้วถามว่ากิจกรรมที่น้องกอล์ฟท�ำนั้นเกิดประโยชน์ต่อ ผู้อื่นอย่างไร “การเป็นจิตอาสา เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กและ เยาวชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้ท�ำอย่างที่ตนเองชอบ และถนัด และที่ส�ำคัญการสร้างความรู้ จากประสบการณ์ ให้ กับเด็กและเยาวชนที่ท�ำกิจกรรมด้วยกัน ยังเป็นการสอนให้ผู้ ที่ท�ำกิจกรรมรู้ว่าการท�ำงานโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเป็นอย่างไร และได้รับรู้คุณค่าของการเป็นผู้ให้ครับ และการท�ำกิจกรรม ต่างๆ กับเด็กๆ ที่เป็นเด็กที่ด้อยโอกาส ท�ำให้ได้รับการพัฒนา ศักยภาพ ทั้งทางด้านร่างกาย ความคิด และจิตใจอย่างต่อเนื่อง เพราะการท�ำงานด้านนี้จะต้องเรียนรู้และฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ เพื่อน�ำไปปรับประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ และสามารถน�ำไป ถ่ายทอดให้กับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและที่ส�ำคัญ ท�ำให้ เราได้มีความสุขกับงานที่ได้ท�ำ” “ขณะเดียวกันกิจกรรมที่ท�ำนั้นก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อผู้อื่น ท�ำให้ผู้อื่นได้เห็นถึงคุณค่าและศักยภาพของตัวผม ผม สามารถน�ำความรู้ ความสามารถที่มีอยู่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อตัวผมเอง และต่อสังคมด้วยกิจกรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั้นยังส่งผลให้ชุมชน ตลอดจนสังคมเกิดความเปลี่ยนแปลงไป ในทิศทางที่ดีขึ้นบ้าง เนื่องจากมีเวทีที่สร้างสรรค์ส�ำหรับพวก ผมเพิ่มมากขึ้น” น้องกอล์ฟกล่าวพร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้ม.
ครอบครัวพอเพียง
นิตยสารเพื่อคนไทย รูจริง ทำจริง แกจน
ข้อมูลผู้สั่งซื้อ
ชื่อ .............................................. นามสกุล ........................................................... หน่วยงาน/ โรงเรียน/ สถาบัน/ อื่นๆ ....................................................................... สถานที่อยู่เลขที่ .................................. อาคาร/ หมู่บ้าน .................................. ตรอก/ ซอย ...................................... ถนน .................................................... แขวง/ ต�ำบล ....................................... เขต/ อ�ำเภอ ...................................... จังหวัด ................................................ รหัสไปรษณีย์ ....................................... โทรศัพท์ ........................................... โทรสาร ............................................... โทรศัพท์มือถือ ..................................... E-mail .............................................
(กรณี)มีความประสงค์จะสั่งซื้อนิตยสารครอบครัวพอเพียงมอบให้แก่
หน่วยงาน/ โรงเรียน/ สถาบัน/ อื่นๆ (โปรดระบุ)....................................................................... สถานที่จัดส่งนิตยสาร : (กรุณาเขียนตัวบรรจงให้ครบถ้วนชัดเจน) สถานที่อยู่เลขที่ .................................. อาคาร/ หมู่บ้าน .................................. ตรอก/ ซอย ...................................... ถนน .................................................... แขวง/ ต�ำบล ....................................... เขต/ อ�ำเภอ ...................................... จังหวัด ................................................ รหัสไปรษณีย์ ....................................... โทรศัพท์ ........................................... โทรสาร ............................................... โทรศัพท์มือถือ ..................................... E-mail ............................................. สั่งซื้อนิตยสารครอบครัวพอเพียง ใบเสร็จสามารถน�ำไปลดหย่อนภาษีได้ ๑๐๐% (ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล) รายปี ๑ ฉบับ/เดือน (รวม ๑๒ ฉบับ ๓๑๒ บาท) ราย ๓ ปี (๙๓๖ บาท) ราย ๕ ปี (๑,๕๖๐ บาท) รายปี ๕ ฉบับ/เดือน (รวม ๖๐ ฉบับ ๑,๕๖๐ บาท) ราย ๓ ปี (๔,๖๘๐ บาท) ราย ๕ ปี (๗,๘๐๐ บาท) รายปี ๑๐ ฉบับ/เดือน (รวม ๑๒๐ ฉบับ ๓,๑๒๐ บาท) ราย ๓ ปี (๙,๓๖๐ บาท) ราย ๕ ปี (๑๕,๖๐๐ บาท) เริ่มตั้งแต่ฉบับเดือน ...............................พ.ศ. ................... ( หากไม่ระบุฉบับเริ่มต้น จะจัดส่งฉบับเดือนถัดไป ) พร้อมได้โอนเงินเข้าบัญชีจ�ำนวนเงิน ............................. บาท ( ............................................................... บาท ) *ราคานี้รวมค่าจัดส่งแล้ว (ค่าจัดส่งไปรษณีย์เล่มละ ๖ บาททั่วประเทศ)
ลงชื่อ ............................................................ ผู้สั่งซื้อ / ผู้มีอ�ำนาจลงนาม ( ................ / ............... / ............... ) ช�ำระเงินโดยโอนเข้าบัญชี ชื่อบัญชี มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด เพื่อโครงการใสสะอาด พอเพียงเพื่อพ่อ สู่สถาบันการศึกษาและชุมชน ธนาคารกรุงเทพ จ�ำกัด (มหาชน) สาขา ส�ำนักงาน กพ. รายชื่อทานปัญญา บัญชีออมทรัพย์เลขที่ ๒๐๑-๐-๓๔๒๗๑-๑ คุณสมหทัย จิตรตรง กรุณาส่ง FAX ใบสั่งซื้อนิตยสารครอบครัวพอเพียง พร้อมหลักฐานการช�ำระเงินมาที่ มอบทานปัญญาแก่ มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด โรงเรียนบ้านนาแก้ว โทรศัพท์ ๐๒-๙๘๓-๗๓๑๒-๓, ๐๘๕-๐๖๕-๑๕๑๑, ๐๘๗-๘๐๕-๗๑๑๖ โทรสาร ๐๒-๙๘๓-๗๓๑๔ หมายเหตุ : ใบเสร็จ สามารถน�ำไปลดหย่อนภาษีได้ ๑๐๐ % (ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล) ครอบครัวพอเพียง : 23
๓๐
ค�ำคมธรรมะ ตอนที่ ๑
24 : ครอบครัวพอเพียง
๑. หนึง่ ครั้งที่แม่ตบลงไปบนหน้าลูก
ไม่เห็นคุณค่า ก็ไม่ต่างอะไรกับการเทน�ำ้ ลงกองทรายถึงเทอย่างไร ก็ซึมหายหมด ดังนั้นจะท�ำดีกับใคร ควรใช้ปัญญาคิดให้รอบคอบ
อาจก่อให้เกิดความสั่นสะเทือนลึกลงไปสุดใจของลูก ทั้งชีวิตหนึ่งอ้อมกอดที่แม่บรรจงหยิบยื่นให้ลูก อาจก่อให้เกิด ความพันผูกข้ามกาลเวลาทุก ๆ ปฏิสัมพันธ์เป็นได้ทั้งบาดแผล ให้คนอื่นนั้น ไม่ใช่ความสุขที่แท้มันเป็นได้แค่ความสุข และ ดอกไม้ส�ำหรับลูก จากการเกาขอบแผลที่ก�ำลังคันยิ่งเกาดูเหมือนยิ่งสุข แต่แท้ที่จริง มันคือความทุกข์ที่แฝงมาอย่างแนบเนียน
๙. การมีความสุขที่ก่อความทุกข์
๒. คนใกล้ชิดเป็นศัตรู
แม้ก�ำแพง ๗ ชั้น ก็ป้องกันไม่ได้ศัตรูที่มาจากภายนอก ต่อให้ยกมาถึง ๙ ทัพ เราก็มองเห็นและเตรียมตัวทันแต่ศัตรูที่มา จากคนในด้วยกัน คือศัตรูที่อันตรายที่สุดเพราะเรามักมองไม่เห็น และไหวตัวไม่ทัน
๑๐. ดูข่าวการเมือง
๓. เวลาเรือเอียง
๑๑. น�้ำขุ่นที่ใส่สารส้มลงไป
เรามั ก จะมองเห็ น และแก้ ไ ขได้ ทั น ท่ ว งที แ ต่ ค วาม ล� ำ เอี ย งในใจคนมั ก ถู ก ปกปิ ด อย่ า งมิ ด ชิ ด และแสดงออกอย่ า ง แยบยลกว่าจะรู้ว่าคนที่เรารักมากด้วยความล�ำเอียงบางครั้งมัน ก็สายเกินไป
๔. ไม่มีแรงใดเสมอด้วยแรงกรรม
แรงฟ้ามนุษย์แก้ได้ด้วยสายล่อฟ้าแรงน�ำ้ มนุษย์แก้ด้วย การเปลี่ยนเส้นทาง หรือสร้างก�ำแพงกั้นน�้ำแรงพายุมนุษย์แก้ได้ ด้วยการปลูกป่าแต่แรงกรรมมีแต่ต้องก้มหน้ารับโดยส่วนเดียว
ยิ่งดูยิ่งวุ่นวาย ยิ่งดูยิ่งฟุ้งซ่านแต่หากกลับมาดูใจของตน อย่างมีสติรู้เท่าทันทุกเรื่องที่คิด ทุกจิตที่ท�ำ ทุกค�ำที่พูด ทุกครั้งที่ เคลื่อนไหวความทุกข์มากมายจะดับลง ดูจิตวันละนิดจิตแจ่มใส น�้ำที่ขุ่นนั้นก็ใสได้เหมือนกันใจขุ่นหากใส่สารแห่งความ รู้สึกตัวลงไปไม่นานเท่าไรใจนั้นก็แจ่มกระจ่างเหมือนกันน�้ำขุ่นแก้ ได้ฉันใด ใจขุ่นก็แก้ได้ฉันนั้น
๑๒. คนที่ท�ำงานผิดพลาด
แล้วป่าวประกาศว่าเป็นความผิดของคนอื่นคือคนที่มี แต่จะผิดพลาดซ�้ำแล้วซ�้ำเล่า ส่วนคนที่ท�ำงานผิดพลาด แล้วลุก ขึ้นมายอมรับอย่างองอาจเปิดเผยคือคนที่ไม่มีโอกาสผิดพลาด ซ�้ำอีกเลยในชีวิต
๕. อยู่คนเดียวจงระวังความคิด
๑๓. ความไม่ประมาทเป็นทางแห่งความ ไม่ตาย
๖. ท�ำบาตรแตก
๑๔. คนไทยไปงานศพแทบทุกเย็น
๗. สิ่งที่เราให้คนอื่น
๑๕. อยากโชคดี
อยู่กับมิตรจงระวังวาจาอยู่กับมารดาบิดาจงระวังการ ปฏิบัติตนถ้าคิดไม่ระวังจะกลายเป็นคิดฟุ้งซ่านถ้าพูดไม่ระวัง ความประมาทเป็นทางแห่งความตายผู้ไม่ประมาทไม่มี มิตรจะเข้าใจผิดถ้าปฏิบัติไม่ดีต่อมารดาบิดาจะเป็นการสร้าง วันตาย ผู้ประมาทไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายแล้วกวีบทนี้ท� ำให้ บาปให้ตนเอง พระเจ้าอโศกเปลี่ยนจากกษัตริย์ที่ดุร้ายมาเป็นชาวพุทธชั้นน�ำ ถ้วยแตก ชามแตก แก้วแตก ยังดีกว่าท�ำให้คนแตกกัน โดยไม่เคยรู้สักนิดว่าวันหนึ่งตัวเราจะเป็นศพดังนั้นเรา เนื่องเพราะวัตถุที่แตกแล้วสามารถประสานให้ดีดังเดิม ได้อย่าง ควรฝึกไปงานศพตัวเองทุกวันด้วยการบอกกับตัวเองว่า ความตาย ง่ายดายแต่ถ้าคนแตกสามัคคีกันเป็นฝักฝ่ายแล้วบางทีทั้งชีวิตก็ อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก ไม่สามารถสนิทสนมกันได้อีก
แท้จริงแล้วคือของที่เราฝากให้แก่ตนเองในวันข้างหน้า เช่น วันนี้เราด่าเขา วันข้างหน้าเราจะถูกเขาด่าวันนี้เราโกงเขา วันข้างหน้าเราจะถูกเขาโกงวันนี้เราเนรคุณเขา วันข้างหน้าเรา จะถูกเขาเนรคุณ
ไม่ใช่ไปหาวิธีลอดท้องช้างแต่อยากโชคดี เริ่มกันที่การ มีสติปัญญาในการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวันขอเพียงมีปัญญา โชค ดีก็ไหลเข้ามาไม่ขาดสายแต่ถ้าไร้ปัญญา โชคร้ายจะไหลเข้ามา เหมือนห่าฝน
๘. ความดีที่ท�ำไว้ในหมู่คนพาล
ถึงมากมายมหาศาลก็สูญเปล่าการท�ำสิ่งดี ๆ ให้แก่คนที่
ครอบครัวพอเพียง : 25
ู ร ค น ็ ป เ ความ
น ต น ็ ป เ ม า ว ค
กว่า....จะคืนถิ่นเส้นทางสู่...มศว
เสี ย งกริ่ ง โรงเรี ย นมั ธ ยมดั ง ขึ้ น ในห้ อ งแนะแนวของ โรงเรียนสตรีศรีน่านคับคั่ง ไปด้วยนักเรียนชั้น ม. ๖ ที่ก�ำลัง ผลัดเปลี่ยนกันดูเอกสารเตรียมตัวกาที่เรียนต่อ “โครงการครู วิทยาศาสตร์ กายภาพ-ชีวภาพ” เป็นโครงการในสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ซึ่งได้เปิดรับสมัครนักเรียนที่ จะจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ในปีการศึกษา ๒๕๔๕ และ มีภูมิล�ำเนาอยู่ในจังหวัดน่านเท่านั้น ผู้ที่สอบได้จะได้รับทุนการ ศึกษาตลอดการศึกษาในระดับปริญญาตรี เมื่อส�ำเร็จการศึกษา จะได้กลับมาเป็นบัณฑิตคืนถิ่นของตนเอง การสอบแข่งขันรอบแรกผ่านพ้นไป ต้องสอบแข่งขัน กันในรอบที่ ๒ คือวันสัมภาษณ์ประกอบกับ “เซอน์ไพรซ์” ที่ ทุกคนได้รับโดยไม่รู้ตัวมาก่อน ต้องสอบข้อเขียนอีก ๑ รอบใน วันนี้ ดินสอ และยาลบได้ถูกตัดแบ่งเป็นหลายๆ ชิ้นเพื่อกระจาย ให้เพื่อนหน้าใหม่ๆ ที่ยังไม่รู้จักกันมาก่อน วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๔๖ เสียงกลองดังกระหึ่ม “ตุ่มใส่น�้ำ ใส่น�้ำไว้เต็มตุ่ม...” เสียงร้องท่าเต้นแปลกๆ จากรุ่นพี่แสดงให้เราดู พร้อม กับเพื่อนที่เคยเห็นหน้ากันมาบ้างแล้วจากสนามสอบที่จังหวัด 26 : ครอบครัวพอเพียง
น่านจ�ำนวน ๒๖ คน และที่มาจากการสอบตรงอีก ๑๘ คน ได้ มารวมตัวกัน ณ ที่ มศว.องครักษ์ วิชาเอกที่นิสิตใหม่ทั้ง ๔๔ คนจะต้องเรียนนี้คือ วิชาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป ซึ่งเปลี่ยนชื่อ มาจาก วิชาเอกวิทยาศาสตร์กายภาพ-ชีวภาพ ที่รุ่นพี่ชั้นปีที่ ๒ เรียนกันอยู่ หอพักนิสิตคับคั่งไปด้วยนิสิตใหม่ปีที่ ๑ ทุกคณะที่เรียก กันว่า เฟรชชี่ ทุกเย็นหลังเลิกเรียนสะพานข้ามคลองและถนนจะ ชินตาไปด้วยเฟรชชี่ใส่กางเกงวอร์มขายาวพร้อมเสื้อของแต่ละ คณะ เดินเป็นแถวถือธงที่มีสัญลักษณ์แตกต่างกันไปตามคณะ ทุกคนมุ่งหน้าไปที่ตึกประจ�ำของตนเอง เสียงกลองดังเป็นจังหวะ เสียงร้องเพลงพร้อมท่าประกอบที่พอจะเคยเห็นมาบ้างแล้ว ห้องเรียนยังคงว่างเปล่าเพราะเคลื่อนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ ออกไป กลายเป็นที่ซ้อมร้องเพลงประจ�ำมหาวิทยาลัย และเพลง ประจ�ำคณะ เสียงตะคอกที่ดังมาจากใคร... ไม่เคยได้เห็นหน้า เลย จะได้ยินจนแสบหูเมื่อเราท�ำผิดระเบียบและกติกา ทั้งหมดนี้ ถูกเรียกว่ากิจกรรมรับน้องใหม่ หรือสอนน้องร้องเพลง เป็นการ เตรียมความพร้อมเพื่อจะไปแข่งขันกีฬาเฟรชชี่ระหว่าคณะต่างๆ กิจกรรมเหล่านี้ท�ำให้เรารู้จักกันได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ตั้งตัว
เพียงไม่กี่วันทุกคนก็เริ่มสนิทสนมกันทั้งกับรุ่นพี่ และกับเพื่อนใหม่ การเรียนด�ำเนินต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับการท�ำกิจกรรม ยิ่งเรียนชั้นปีที่ ๑ ด้วยแล้วการปรับตัวจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา เข้าสู่นิสิตในมหาวิทยาลัยได้ก่อเกิดปัญหาเรื่องการเรียนขึ้นเพราะ แบ่งเวลาไม่เหมาะสม แต่ปัญหามีทางออกเมื่อผู้ที่ชี้ทางและให้ ค�ำปรึกษาที่ดีที่สุดคือ รุ่นพี่ อาจารย์ และเพื่อนๆ ที่ต้องคอยช่วย เกลือและดูแลกัน การเรียนรู้ในชั้นเรียนบกกับการเรียนรู้ที่ได้จากการท�ำ กิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่ชั้นปีที่ ๑ ถึงชั้นปีที่ ๔ อาทิเช่น การศึกษาดู งานนอกสถานที่ จัดค่าย การได้เป็นผู้จัดกิจกรรมและผู้เข้าร่วม กิจกรรมในหมาวิทยาลัย เป็นต้น ท�ำให้ได้มีโอกาสท�ำงานร่วม กับคนอื่นมากหน้าหลายตา หลากหลายวิสัยทัศน์ ปัญหาก็มีส่วน เกี่ยวข้อง เหล่านี้ก็ได้กลายเป็นก�ำไรชีวิต ท�ำให้ชีวิตแข็งแกร่ง เปรียบเหมือนกับเหล็กกล้าที่ได้ผ่านความร้อนมามากฉันใด ก็ยิ่ง แข็งแกร่งมากฉันนั้น เมื่อส�ำเร็จการศึกษาได้ ๘ เดือน สัญญาใจที่เคยได้ให้ ไว้ตลอดช่วงระยะเวลาของการศึกษาเล่าเรียนในระดับปริญญา ตรีนี้ก็บังเกิด ด้วยพระเมตตาของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีท�ำให้บัณฑิต ในโครงการครูวิทยาศาสตร์คืน ถิ่นจ�ำนวน ๒๒ คนได้หวนกลับคืนสู่ถิ่นของตนตามที่ฝันไว้ ครูวิทยาศาสตร์ทั้ง ๒๒ คนได้รับค�ำสั่งจาก สพฐ. ให้ บรรจุเป็นข้าราชการครูตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วจังหวัดน่าน ความ ก้าวหน้าทางวิทยาการของแต่ละโรงเรียนก็แตกต่างกันไปตาม สภาพหรือที่ตั้งของโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนดอยและพื้นราบ บทเรียน ชีวิตที่ได้มาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทวิโรฒตลอดช่วง ๔ ปีที่ ผ่านมา ได้แต่งแต้มเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับเด็กนักเรียน ในโรงเรียนศรัทธาศิลาเพชรรังสรรค์ รสชาติของชีวิตได้เข้มข้นขึ้นเมื่อบัณฑิตจากวิชาเอก
วิทยาศาสตร์ทั่วไปได้เข้ามาเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ประจ�ำชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓ และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ วิชา ที่เคยไม่ ชอบเป็ น ที่ สุ ด ตอนเรี ย นอยู ่ ที่ ม หาวิ ท ยาลั ย จุ ด เปลี่ ย นจากครู วิทยาศาสตร์มาเป็นครูคณิตศาสตร์ เส้นทางใหม่ที่น่ากังวลใจ แววตาของนักเรียนที่ไม่ประสีประสาตื่นเต้นกับครูคณิตศาสตร์ คนใหม่ โรงเรียนในต่างจังหวัดส่วนใหญ่มักจะเจอกับสถานการณ์ แบบนี้ เพราะมีโอกาสน้อยมากที่จะเลือกครูให้ตรงกับวิชาเอก งบ ประมาณของโรงเรียนก็มีจ�ำกัดไม่สามารถจ้างครูที่ตรงกับสาขา วิชาที่ขาดแคลนได้ ต้องรอจังหวะที่ต้นสังกัดส่งครูมาให้ ความหวั ง ของคนเป็ น ครู คื อ ให้ เ ด็ ก ได้ เ กิ ด การเรียน รู้ พัฒนาตนเอง และเป็นคนดี ฝั่งฝันคือประสบความส�ำเร็จใน ชีวิต ในเมื่อเด็กนักเรียนต้องการบุคลากรทางด้านคณิตศาสตร์ ครู ต ้ อ งพร้ อ มเสมอที่ จ ะหยิ บ ยื่ น สิ่ ง ที่ ข าดหายไปนั้ น ให้ เพราะ โดยธรรมชาติของครูก็ต้องศึกษาค้นคว้าความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติม ตลอดเวลา ความท้อแท้ย่อมเกิดขึ้นเมื่อเราไม่ได้ในสิ่งที่เราคาด หวัง ก่อให้เกิดความเหน็ดเหนื่อย แต่ก็มีแรงบันดาลใจในการ ท�ำงานคือ เห็นตัวอย่างจากการท�ำงานของสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ท�ำงานหนักเพื่อให้พสก นิกรได้มีความสุข ท�ำให้ก่อเกิดความหวัง ก�ำลังใจต่อสู้กับปัญหา ลูกจักตอบแทนในเมตตาของพระองค์ท่าน เรียนรู้ที่จะ ใช้ชีวิตอยู่อย่างอดทน เข้มแข็ง และเอื้ออารีต่อผู้อื่น ก่อนจะดับ และสลายไปอย่างมีคุณค่า ยังมีผ้าขาวอีกเป็นจ�ำนวนมากที่รอคอยประสบการณ์ จากคนรุ่นใหม่ มาแต่งแต้มสีสันสดใส ให้เป็นลวดลายสวยงาม ของสังคม แล้วจะรู้ว่าความสุขในชีวิตนั้นหาได้ไม่ยาก....
นางสาวรัชนี สลีอ่อน บัณฑิตคืนถิ่น ครูวิทยาศาสตร์คืนถิ่น จังหวัดน่าน ครอบครัวพอเพียง : 27
1 5
วิธีเล่น
4 3
9 1
1
วิธีเล่น วงหาค�ำศัพท์ที่ก�ำหนดให้ และหาความหมายของค�ำศัพท์ M G T N M E W R E L A I
R U C U G J A H L P U R
28 : ครอบครัวพอเพียง
D Q D I V E D F I H O D
R A T O E T O J O I E X
S X F D A W G A N N Z F
H Y J G E Q S D H T A S
O F I A H Z R T R D B A
R P H S V X T I B B A R
S L K X N Q E U X Z Q Y
E P L G P E N G U I N U
Cat Dog Chicken Pig penguin Bird Rat Rabbit Tiger Lion Dolphin Horse
8
9
4
2
5 9 1
6 5
O A V B B N R A B O R B
9 8
6 7
C H I C K E N S A D Q A
6
2
เติมตัวเลข 1 - 9 ในช่องว่างของตารางโดย
ตัวเลขจะต้องไม่ซ�้ำกันทั้งแนวตั้ง แนวนอนรวมทั้งในตาราง ย่อย 3 x 3 และเส้นทแยงมุมที่ตัดผ่านตารางหรือ ตัว X จะต้องเติมตัวเลข 1 - 9 ไม่ให้ซ�้ำกันอีกด้วย
1
= = = = = = = = = = = =
................ ................ ................ ................ ................ ................ ................ ................ ................ ................ ................ ................
8
3
3 2 4 7 5 1 9 8 6
1 7 6 9 8 4 2 3 5
M T S Y C O F F E E Z G
9 8 5 2 6 3 1 7 4
A I U O D H E A Z A C V
4 3 2 1 7 5 8 6 9
P X L U T A E B C A D X
O Z D K G W S E N S S N
6 5 8 4 9 2 3 1 7
B R E A D O Q D S F M R
7 9 1 8 3 6 5 4 2
U Y W L A R Y U Q E D I
8 6 7 3 2 9 4 5 1
T G F A O Q X Y R H K C
5 4 9 5 1 8 7 2 3
T H J I B V T D T L R E
รายชื่อผู้โชดีประจ�ำฉบับที่ 49
2 1 3 5 4 7 6 9 8
E K O M E L E T T L E L
R L C N M G A S Y P I J
ระพีพร นะโม สมุทรปราการ มนัสสา โพธิ์ศรี กรุงเทพฯ นราเทพ ชัยไธสง กรุงเทพฯ พิชัยยุทธ ศิริรัตน์ ปทุมธานี
เฉลย ฉบับที่ 49 J N A L E A Z A U O A N
Q V Q C L Y H B I M P T
Milk = นม Bread = ขนมปัง Butter = เนย Candy = ลูกอม Omelette = ไข่เจียว Jam = แยม Honet = น�้ำผึ้ง Tea = น�้ำชา Coffee = กาแฟ Yogurt = โยเกิร์ต/นมเปรี้ยว Cheese = เนยแข็ง Rice = ข้าว
ร่วมสนุกตอบปัญหาชิงรางวัลคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จ�ำนวน 5 รางวัล โดยเล่นเกม SUDOKU และ CROSSWORD ให้ถูกต้องและครบถ้วน ส่งมาที่ นิตยสาร IS AM ARE ครอบครัวพอเพียง
31/2 ซอยทองหล่อ 2 ถนนวิภาวดี แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 **หมายเหตุ หมดเขตร่วมสนุกชิงรางวัลประจ�ำเดือน มีนาคม ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2555 **พร้อมประกาศรายชื่อผู้โชคดีในนิตยสารเดือนถัดไป
ครอบครัวพอเพียง : 29
๑๐ เทคนิคการ ซ่อม คอมพิวเตอร์ ด้วยตัวเอง ๒
๖. ค่าธรรมเนียม เมื่อยกเครื่องคอมพิวเตอร์ไปซ่อมเป็น ธรรมดาที่ช่างจะส�ำรวจดูว่ามีอะไรบ้างที่ต้องซ่อม ตั้งแต่สายไฟยัน ฮาร์ดดิสก์ ซึ่งร้านจ�ำเป็นจะต้องคิดค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบ นี้ แต่ก็มีบางร้านเหมือนกัน ที่ไม่คิด แต่ถ้าคุณพอมีความรู้เรื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่บ้าง ก็อาจทดลองใช้โปรแกรม Norton Utility ตรวจสอบเครื่องของคุณก่อน บางที่อาจท�ำให้คุณไม่ต้อง เสียเงินก็ได้ หรือบางที่คุณอาจโทรมาเรียกช่างมาซ่อม ที่บ้านก็ได้ แต่คุณจะต้องเสียเงินเพิ่มขึ้น ๗. คิดในแง่ร้ายไว้ก่อน หลังจากที่เครื่องของคุณได้ รับการตรวจสอบอาการจากหลาย ๆ ร้านซ่อมแล้ว ก็มาถึงขั้น ตอนในการตัดสินใจว่า จะซ่อมหรือไม่ซ่อมในร้านใดจึงจะดี ซึ่ง บางครั้งร้านซ่อมอาจจะบอกว่าเครื่อง ไม่อยู่ในประกันแล้วหรือ อะไหล่ชิ้นที่ต้องการไม่มีอีกต่อไปแล้ว ข่าวร้ายเหล่านี้เป็นแค่ เพียงขั้นเริ่มต้นใน การซ่อมคอมพิวเตอร์ของคุณ บางที่คุณอาจ ลองสอบถามร้านดูว่าสามารถจะเอาอะไหล่เก่าไปแลกอะไหล่ ใหม่ ได้หรือไม่ ในกรณีอะไหล่ชิ้นเก่าเลิกผลิตไปแล้ว โดยอาจ ต้องเพิ่มเงินเล็กน้อย ๘. เตรียมเครื่องให้พร้อมก่อนน� ำไปซ่อม ก่อนที่จะ 30 : ครอบครัวพอเพียง
ทิ้ ง เครื่ อ งเอาไว้ ที่ ร ้ า นเพื่ อ ท�ำ การซ่ อ มลองตรวจสอบว่ า คุ ณ ได้ แบ็คอัพข้อมูลที่ส�ำคัญเอาไว้ , จด Serial number ของฮาร์ดดิสก์ ซีดีรอม , โมเด็ม และอื่น ๆ ไว้เพื่อตรวจสอบกับอุปกรณ์ที่น�ำมา เปลี่ยน ลบข้อมูลส่วนตัวออกให้หมดเช่น อินเตอร์เน็ทพาสเวิร์ด เพื่อป้องกันถูกลักลอบน�ำไปใช้ ๙. ขอเอกสารการซ่อมจากร้าน ก่อนที่จะทิ้งเครื่องเอา ไว้ที่ร้านอย่าลืมขอเอกสารที่บอกถึงชิ้นส่วนที่จะเปลี่ยน และระยะ เวลาในการซ่อม ตรวจสอบเอกสารให้ละเอียดเพื่อป้องกันค่าใช้ จ่ายแอบแฝง แล้วอย่าลืมถามถึงการ รับประกันหลังการซ่อม ๑๐. ติดตามความคืบหน้า สิ่งสุดท้ายที่ต้องท�ำคือคอย โทรไปถามว่าการซ่อมไปถึงไหน เปลี่ยนอะไรบ้าง เสร็จทันก�ำหนด หรือไม่ และเมื่อไปรับเครื่อง ให้ทดสอบดูก่อนว่าเครื่องท�ำงาน ปกติหรือไม่ ก่อนน�ำเครื่องกลับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับส�ำหรับเทคนิค ดังกล่าว หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อท่าน ผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ
สคร.จัดสัมมนาเพื่อพัฒนาองค์กร ของ สคร. ประจ�ำปี ๒๕๕๕
นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เป็นประธานการสัมมนาเพื่อ พัฒนาองค์กรของ สคร. เรื่องยุทธศาสตร์ของ สคร. ประจ�ำปี ๒๕๕๖ เพื่อจัดท�ำยุทธศาสตร์ของ สคร.ให้สอดคล้องตามนโยบายภาครัฐ ยุทธศาสตร์กระทรวงการคลังและแผนปฏิบัติราชการปี ๒๕๕๕ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการด� ำเนินงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น และเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้ ความเข้าใจนโยบาย และทิศทางการด�ำเนินงานของ สคร. ที่ชัดเจนมีรูปธรรมและสามารถ วัดผลส�ำเร็จได้ พร้อมทั้งแนวทางการพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีผู้บริหารระดับสูงและบุคลากรของ สคร. เข้าร่วม สัมมนาณ ศูนย์ฝึกอบรมธนาคารกรุงไทย เขาใหญ่ อ�ำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ ๑๗-๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
32 : ครอบครัวพอเพียง
ครอบครัวพอเพียง : 33
ง
านพัฒนาชุมชนเป็นงานที่ยากและท้าทาย อย่างยิ่ง จากประสบการณ์การท�ำงานพัฒนาชุมชน ของผูเ้ ขียน และเคยมีคนนอกวงการพัฒนาตัง้ ค�ำถาม กับผมซึ่งท�ำงานพัฒนาชุมชนมากว่า ๒๐ ปี ว่า “งาน พัฒนาชุมชนที่เคยท�ำมานั้นส�ำเร็จหรือไม่...?” เป็นค�ำถามทีท่ ำ� ให้สะดุดหยุดคิดแล้วไม่สามารถ ตอบได้ทนั ทีทนั ใดว่าส�ำเร็จหรือไม่ อย่างไร เนือ่ งจาก มีค�ำหนึ่งซึ่งเป็นตัวแปรส�ำคัญ นั่นคือ “การเปลี่ยน แปลง” ณ กาลเวลาหนึ่ง ชุมชนแห่งหนึ่งอุดมสมบูรณ์ ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ มีน�้ำกินน�้ำใช้ ตลอดปี ชาวบ้านอยู่กินกันอย่างไม่ขัดสน แต่พอถึง อีกช่วงเวลาหนึง่ ป่าไม้ทงั้ ผืนหายไปเกือบหมดจากการ ถูกสัมปทาน ตามมาด้วยไร่กะหล�่ำปลี และข้าวโพด มากมาย ชุมชนก่อเกิดรายได้จากกะหล�่ำปลีและ ข้าวโพด ใช้จ่ายกันอย่างสนุกมือ ขณะเดียวกันวิถีชีวิตพฤติกรรมการอยู่การกิน ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในระดับชุมชนเกิดปัญหา ความแห้งแล้ง การว่างงาน การแย่งชิง การลักขโมย ยาเสพติด เอดส์ ฯลฯ ส่วนในระดับครอบครัวก็ต้อง เผชิญปัญหาหนี้สิน การทะเลาะเบาะแว้ง ครอบครัว แตกแยก การพนั น ขั น ต่ อ ปั ญ หาด้ า นสุ ข ภาพ ร่างกายทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจากการใช้สารเคมี สุรา และ ยาเสพติด เป็นต้น เหมือนกับว่าทุกขภาวะได้ถาโถมเข้าไป ในทุกอณูของชุมชน และทุกองคาพยพ ขณะเดียวกัน ทั้ ง ภาครั ฐ และเอกชนต่ า งก็ ทุ ่ ม เทสรรพก�ำลังเพื่อ ปัดเป่าทุกขภาวะเหล่านัน้ ให้เบาบางลง ในขณะที่ปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมในหลายชุมชนได้รับการฟื้นฟูเยียวยา พร้ อ มกั บ ที่ ป ั ญ หายาเสพติ ด กลั บ ทวี ค วามรุ น แรง
34 : ครอบครัวพอเพียง
มากยิ่งขึ้น กอปรกับโชคไม่ดีที่ในปีนั้นเกิดภัยแล้ง ฟ้ า ฝนไม่ ต กต้ อ งตามฤดู ก าล ผลผลิ ต ทางการ เกษตรเสียหาย ก่อให้เกิดหนี้สินกันถ้วนหน้า รัฐบาล ต้องเจียดงบประมาณไปช่วยเหลือเพื่อให้พอลืมตา อ้าปากได้บา้ ง อีกมุมหนึง่ ระหว่างทีเ่ กษตรกรเดือดร้อน ผู้น�ำชุมชนต่างแย่งอ�ำนาจทะเลาะกันไม่เลิก ฯลฯ เหล่านีค้ อื ปรากฏการณ์การเปลีย่ นแปลงทีเ่ ป็นปัญหา และเราพบเห็นได้เกือบทุกพื้นที่ เช่นเดียวกับความเห็นของบรรดานักวิชาการ ด้านพัฒนาชุมชนที่มองว่า “ชุมชนมีพลวัต มีการ เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และเวลา ชุมชน ไม่ได้นิ่งอยู่กับที่” ดังนั้นผู้เขียนจึงสอบตกกับค�ำถาม ที่ถามหา ผลส�ำเร็จ แต่ถ้าเปลี่ยนโจทย์เป็นว่า “งาน พั ฒ นาที่ เ คยท� ำ มานั้ น เกิ ด การเปลี่ ย นแปลงหรื อ ไม่ อย่างไร” ข้อนี้สามารถตอบได้โดยไม่ลังเลครับ โครงการรักษ์ปา่ สร้างคน ๘๔ ต�ำบล วิถพี อเพียง ที่ได้ด�ำเนินงานในพื้นที่ ๒๓ ต�ำบล ภาคเหนือ ซึ่งในที่ นี้ขอนิยามพี่น้องทั้ง ๒๓ ต�ำบลนั้นคือ “สิงห์เหนือ” ผู้สามารถต่อกรและก้าวข้ามภัยอันตรายที่เกาะกิน จิตใจคนไทยมานานหลายสิบปี การขับเคลื่อนโครงการฯ อยู่บนความเชื่อที่ว่า เมือ่ ความคิดของคนเราเปลีย่ น พฤติกรรมก็จะเปลีย่ น ตามไปด้วย ดังนั้นโจทย์ของโครงการฯ คือ จะท�ำ อย่างไรให้คนในชุมชนเปลีย่ นความคิดจากไม่รจู้ กั พอ มาให้รจู้ กั พอ จากทีเ่ คยเห็นประโยชน์ของตนเป็นหลัก มาเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมกันมากขึ้น เมือ่ โครงการฯ เข้ามาในชุมชน ถือเป็นตัวกระตุน้ และหนุนเสริม ให้ชุมชนลุกขึ้นมาจัดการปัญหาของ ตนเอง โดยน�ำหลักปรัชญาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักปฏิบตั ิ และพิสจู น์ได้วา่ ก่อให้เกิดการเรียนรู้ น�ำไปสูก่ ารพึง่ พาตนเอง ทัง้ ในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน ส่วนพื้นที่ต�ำบลใดจะเกิดผลมากน้อยก็ขึ้น อยู่กับต้นทุนเดิมของชุมชนเป็นส�ำคัญ
ครอบครัวเปลี่ยน... “ทุกวันนี้เราได้รู้ว่าที่ผ่านมา ท�ำไม...? เราถึง เหนื่อยใจแทบขาด เดี๋ยวนี้ครอบครัวเราพูดคุย และ เข้าใจกันมากขึน้ เรารูแ้ ล้วว่าอนาคตครอบครัวของเรา จะเป็นอย่างไร ไม่ต้องรอใคร ต้องเริ่มที่เรา เริ่มที่ใจ เราก่อน” ค�ำบอกเล่าของคนต้นแบบ และครัวเรือน อาสา จากหลายชุมชนที่ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไป
เรียนรู้ เป็นค�ำตอบที่ยืนยันได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นจริง จากการท�ำบัญชีครัวเรือน แม้จะเป็น เรื่ อ งเล็ ก ๆ แต่ เ ป็ น การเปลี่ ย นแปลงที่ ยิ่ ง ใหญ่ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากข้างใน ทว่ามีพลังที่ ยิ่งใหญ่ต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ครอบครัวพอเพียง : 35
แกนน�ำเปลี่ยน... อนันต์ ดวงแก้วเรือน
“การท�ำงานโครงการฯ นั้นไม่บอม (บอมเป็น ภาษาสแลงภาคเหนือหมายถึงเป็นเรือ่ งหมู ๆ กล้วย ๆ ง่าย ๆ) ตอนแรกคิดว่าโครงการฯ เป็นหมูในอวย ท�ำ ๆ ไปเดี๋ยวก็จบ เหมือนโครงการฯ อื่น ๆ แต่เอาเข้าจริง เป็นเรื่องที่ปวดหัวมาก ต้องมีการถก แถลง อภิปราย แลกเปลีย่ นกันเยอะ กว่าจะได้ขอ้ สรุปกันในแต่ละเรือ่ ง ท�ำให้เราได้เรียนรูว้ า่ งานเชิงคุณภาพคืออะไร” นิกร พูนผล ประธานคณะกรรมการโครงการฯ ต�ำบลสันทราย “การไม่เอาเงินน�ำหน้า ถือได้ว่าเป็นวิธีคิดและ วิธีท�ำงานที่ถูกต้อง อยากให้ทุกหน่วยงานน�ำไปใช้ใน การท�ำงาน ท�ำให้พวกเราเกิดการเรียนรู้ว่า ที่ผ่านมา งานพัฒนาที่ล้มเหลวเป็นเพราะอะไร” ธนวัฒน์ พรม มา ประธานคณะกรรมการโครงการฯ ต�ำบลแม่ลาด
นิกร พูนผล
มงคล พนมมิตร
กล โฉมคุ้ม
ธนวัฒน์ พรมมา
พยอม วุฒิสวัสดิ์
36 : ครอบครัวพอเพียง
“โครงการฯได้เปิดโอกาสให้พวกเราทุกคน ทุก เพศ ทุกวัย ทุกฐานะอาชีพ ได้เข้ามามีส่วนร่วม ได้ เข้ามามีบทบาท มีพื้นที่แสดงตัวตนในการพัฒนา ผืนดินถิ่นเกิด ที่ไม่ใช่เฉพาะบทบาทของผู ้ น�ำที่ มี ต�ำแหน่งทางการเท่านั้น และที่ส�ำคัญคือท�ำให้พวก เราได้ท�ำในสิ่งที่เราอยากจะท�ำ ในขณะที่บางครั้ง การสนับสนุนของหน่วยงานอื่น ๆ จะมาบอกว่าให้เรา ท�ำอย่างนั้นอย่างนี้ เริ่มจาก หนึ่ง สอง สาม และ สี่ ท�ำให้เราขยับล�ำบาก ท�ำให้เราไม่ได้ท�ำในสิ่งที่เรา อยากท�ำ” พยอม วุฒสิ วัสดิ์ แม่หญิงแกร่งแห่งถืมตอง “เราได้ก�ำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ ได้ นิ ย ามให้ ค วามหมายค� ำ ว่ า วิ ถี พ อเพี ย งใน แบบฉบับของเรา เราจะค่อย ๆ เดินไปตาม ทางที่ เราได้ ก� ำ หนดไว้ ร ่ ว มกั น อย่ า งมั่ น คง เราจะหาทางประสานกับทุกฝ่ายเพื่อให้ เ ป้ า หมายของเราบรรลุให้ได้” ผู้ใหญ่กล โฉมคุ้ม ประธานคณะกรรมการโครงการฯ ต�ำบลบ้านน�้ำพุ “นึกไม่ถึงว่า ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทที่ท�ำธุรกิจ มีกำ� ไรเป็นแสนล้านจะเป็นห่วงเป็นใยและให้ความส�ำคัญ กับงานพัฒนาสังคม ซึ่งท�ำอย่างจริงจัง เข้มข้น และ ต่อเนื่องด้วย ต้องขอขอบคุณ ปตท. ที่ท�ำให้พวก เราได้มาเป็นเครือข่ายกัน” พ่ออนันต์ ดวงแก้วเรือน ประธานคณะกรรมการโครงการฯ ต�ำบลแม่ทา
ต�ำบลเปลี่ยน... ต�ำบลแม่ทา ต�ำบลบ้านหลวง จังหวัดเชียงใหม่ ต� ำ บลบ้ า นดง จั ง หวั ด พิ ษ ณุ โ ลก ต� ำ บลนาโบสถ์ จังหวัดตาก ต�ำบลนาพูน จังหวัดแพร่ ต�ำบลบ้านปวง จังหวัดล�ำพูน ต�ำบลแม่สิน จังหวัดสุโขทัย ลุกขึ้นมา จัดการทรัพยากรป่าชุมชน อันเป็นหลักประกันในการ พึ่งพาตนเองของชุมชนในอนาคต ต�ำบลบ้านน�้ำพุ จังหวัดสุโขทัย ต�ำบลเสริมขวา จังหวัดล�ำปาง ต�ำบลน�ำ้ พี้ จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รวมกลุม่ ร่วมกันคิดค้นลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้สารเคมี โดยการผลิตปุ๋ยและน�้ำหมักชีวภาพ ต�ำบลสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ต�ำบลแม่ลาด จังหวัดก�ำแพงเพชร ต�ำบลวังน�ำ้ ลัด และต�ำบลนาขอม จังหวัดนครสวรรค์ เกิดการรวมตัวของแกนน�ำช่วยกัน ผลักดันเยาวชนให้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาชุมชน และลดหรือป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับเยาวชน โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด ต�ำบลภูซาง จังหวัดพะเยา ต�ำบลถืมตอง จังหวัด น่าน ได้ช่วยกันพัฒนายกระดับจิตใจโดยรณรงค์ ให้มีการงดเหล้าในงานศพ การจัดการขยะ และการ ระดมเงินทุนชุมชนในรูปของการออมทรัพย์ หรือ ธนาคารชุมชน ต�ำบลจันจว้าใต้ จังหวัดเชียงราย ต�ำบลขุน ควร จังหวัดพะเยา ต�ำบลศิลาแลง จังหวัดน่าน ได้น�ำ ประเพณีวัฒนธรรม ที่ถือเป็นองค์ความรู้ ภูมิปัญญา ของท้องถิ่น มาปรับใช้ในการพัฒนาชุมชน ต�ำบลบ้านเนิน จังหวัดเพชรบูรณ์ ต�ำบลป่าตึง จังหวัดเชียงราย ต�ำบลหัวถนน จังหวัดก�ำแพงเพชร และ
ต�ำบลแม่นะ จังหวัดเชียงใหม่ ได้พฒ ั นากระบวนการ พึ่งตนเองด้านพลังงานทางเลือกและพลังงานชุมชน อย่างเด่นชัด อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงพลวัตแห่ง การเปลีย่ นแปลงทีเ่ กิดขึน้ และจากค�ำบอกเล่าในเบือ้ งต้น เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนที่เกิดขึ้น หลายลีลา หลาย รูปแบบหลายสถานการณ์แตกต่างกันออกไปของแต่ละ ชุมชน หากท่านใดอยากจะลงลึกในรายละเอียดของ ๒๓ สิงห์เหนือมากกว่านี้ สามารถส่งไปรษณียบัตร มาที่ โครงการรักษ์ปา่ สร้างคน ๘๔ ต�ำบล วิถพี อเพียง ๑๒๙/๒ วิภาวดีรังสิต จตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐ วงเล็บมุมซองว่า เพือ่ ขอรับหนังสือ “๒๓ สิงห์เหนือ ผู้ ไม่แพ้...ในกระแสทุนนิยม” แล้วคุณอาจจะเปลีย่ น เป็นสิงห์ตัวต่อไป...!
มงคล พนมมิตร ทีป่ รึกษา โครงการรักษ์ปา่ สร้างคน ๘๔ ต�ำบล วิถพี อเพียง ภาคเหนือ โทร. ๐๘ ๙๒๖๔ ๘๔๘๔ Email: mongmp1@hotmail.com
ครอบครัวพอเพียง : 37
ปฎิบัติการชุมชนรักษ์น�้ำตามแนวพระราชด�ำริ โดย สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน�้ำและการเกษตร
38 : ครอบครัวพอเพียง
สนับสนุนโดย สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน�้ำและการเกษตร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทรศัพท์ : ๐ ๒๖๔๒ ๗๑๓๒ www.haii.or.th
ครอบครัวพอเพียง : 39
อาหารเสริมสุขภาพ ยอดฮิต ๖ ชนิด กับความก้าวหน้าการวิจัย
ถ้ า พู ด ถึ ง งานวิ จั ย ยอดฮิ ต ในทศวรรตที่ ๒๐ คงไม่ มี เรื่องไหนเกินเรื่องจีนอม (genome) เพราะเท่าที่ทราบมนุษย์ เราประกอบด้ ว ยยี น ประมาณ ๕๐,๐๐๐ ชนิ ด ที เ ดี ย ว ถ้ า เรา มองผิ ว เผิ น อาจเห็ น ว่ า งานวิ จั ย ด้ า นนี้ ค งไม่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ เรื่ อ ง โภชนาการแต่อย่างใดและคนส่วนใหญ่คงคิดว่ายีนเท่านั้นที่มี ผลต่อสุขภาพของคน แต่ความจริงที่ได้จากงานวิจัยเร็วๆนี้พบ ว่า ความเสี่ยงในการเป็นโรคบางชนิดเช่น มะเร็งและโรคอื่นๆ อีกหลายโรค เราไม่สามารถลดได้จากความรู้เรื่องยีนหรือใช้ เทคนิคทางด้านยีน และพบว่าสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยหลักที่ก่อ ให้เกิดมะเร็ง
งานวิจัยเกี่ยวกับอาหารเสริมสุขภาพ
มี งานวิ จั ย มากมายที่ ตีพิ ม พ์ แ ล้ ว เกี่ ย วกั บบทบาทใน การป้องกันส่งเสริมสุขภาพและ การรักษาสุขภาพของไวตามิน สมุ น ไพรและอาหารเสริ ม สุ ข ภาพชนิ ด อื่ น และกลุ ่ ม อาหาร เสริมสุขภาพนับวันแต่จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นและจะเป็นคู่แข่ง ที่ ส�ำคัญของยา
ไวตามินซี
ไวตามินซีมีฤทธิ์ที่เราทราบกันดีแล้วว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูล อิสระ และมีงานวิจัยสนับสนุน ว่ามีฤทธิ์ในการลดความดันโลหิต
แค่ลดหวาน สุขภาพก็ดีได้
ของหวานๆ ใครบ้างไม่อยากทาน แต่ถ้าทานกันแบบไม่ ยั้งปาก สิ่งสุดท้ายที่คุณจะได้มาก็คือ สารพัดโรคร้าย!! ของหวานๆ ใครบ้างไม่อยากทาน แต่ถ้าทานกันแบบ ไม่ยั้งปาก สิ่งสุดท้ายที่คุณจะได้มาก็คือ สารพัดโรคร้ายต่างๆ ไม่ ว่าจะเป็น เบาหวาน ความดันสูง หัวใจขาดเลือด หรือเส้นโลหิต สมองแตก ซึ่งล้วนแล้วแต่มาแบบเงียบๆ แต่เป็นอันตรายอย่าง มาก ดังนั้น เราจึงมีวิธีบริโภคความหวานแบบไม่เสี่ยงโรค แถม ยังเป็นการลดน�้ำหนักที่ดีมาบอกต่อกัน
ลดน�ำ้ หนักด้วยการทานอาหารทีม่ นี ำ�้ ตาล น้อย
การบริโภคสารให้ความหวานทดแทนน�้ำตาลถือเป็น ความสุขอย่างหนึ่งของผู้ที่รับประทานรสหวาน แต่ไม่อยากมี ภาวะน�้ำหนักเกิน โดยในคนปกติทั่วไป ควรได้น�้ำตาลไม่เกิน ๖ ช้อนชา หรือ ๒๔ กรัม ใน ๑ วัน ซึ่งหมายถึง ยิ่งทานให้น้อยเท่า ไหร่ก็ยิ่งดีต่อสุขภาพ เนื่องจากคนเราได้รับน�้ำตาลทางอ้อมจาก อาหารประเภทแป้ง ผักผลไม้อยู่แล้ว และการบริโภคน�้ ำตาลใน ปริมาณมากก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน เบาหวาน หัวใจ ความดัน เป็นต้น ดังนั้นการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน�้ำตาลแล้วทานอาหารที่ ใส่สารให้ความหวานแทน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ แต่
40 : ครอบครัวพอเพียง
และช่วยรักษาระดับน�้ำตาลในเลือดให้ปกติ
กลูโคซามีนและคอนดรอยตินซัลเฟต
จะช่ ว ยในการรั ก ษาข้ อ อั ก เสบและข้ อ เสื่ อ มโดย คอนดรอยติน ซัลเฟตจะให้ผลดีมากกว่ากลูโคซามีน
เบตาซิโตสเตอรอล (Beta-Sitosterol)
เป็ น สารกลุ ่ ม สเตอรอลที่ มี อ ยู ่ ใ นพื ช สมุ น ไพรโดย เฉพาะสมุ น ไพรเช่ น ซอพาล์ มี โ ต (saw palmetto) สาร เบตาซิโตสเตอรอลมีฤทธิ์ลดโคเลสเตอรอลได้ และช่วยลดความ เสี่ยงโรคหัวใจ มีงานวิจัยในประเทศเยอรมันพบว่าถ้ารับประทาน เบตาซิโตสเตอรอลขนาด ๒๐ มก.ต่อวันแล้วจะช่วยรักษาอาการ ต่อมลูกหมากโตของผู้ชาย และมีงานวิจัยบางรายงานบ่งชี้ว่าอาจ ใช้สารนี้ในการรักษามะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็ง ล�ำไส้และต่อมลูกหมาก
ไวตามินอี
มีงานวิจัยสนับสนุนมากมายเมื่อเทียบกับอาหารเสริม มุขภาพชนิดอื่นๆ พบว่าช่วยลดการอักเสบ เป็นที่ทราบกันว่าการ อักเสบเมื่อเกิดในร่างกายจะกระตุ้นเซลของระบบภูมิต้าน ทาน และมีเซลเหล่ากลุ่มนี้ส่วนหนึ่งจะสร้างอนุมูลอิสระและไปท�ำลาย เซลของร่างกาย ท�ำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและ
มะเร็ง นอกจากนี้ไวตามินอียังมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระด้วย ก็ เท่ากับว่ามันมีฤทธิ์ ๒ อย่าง คือลดการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ
เซ็นจอนเวอร์ต (St. John’s Wort)
สมุนไพรชนิดนี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Hypericum perforatum เป็นสมุนไพรที่ก� ำลังมาแรงเพราะมีฤทธิ์ในการ รักษาอาการซึมเศร้า และก�ำลังเป็นคู่แข่งที่ส�ำคัญของยาในกลุ่ม รักษาอาการซึมเศร้า โดยสามารถรักษาอาการชนิดที่เป็นไม่มาก และไม่มีอาการข้างเคียง นอกจากนี้ยังสามารถบรรเทาอาการ ต่างๆก่อนมีประจ�ำเดือน (พีเอ็มเอส) เช่น ซึมเศร้า กระวนกระวาย อาการตึงและคัดเต้านม ด้วยประโยชน์ที่ดีของสมุนไพรชนิดนี้ ท�ำให้เกิดความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างแพร่ หลายและรวดเร็วในตลาด อาหารเสริมสุขภาพปัจจุบัน ตลาดอาหารเสริ ม สุ ข ภาพในปั จ จุ บั น ชนิ ด ของ ผลิตภัณฑ์ที่ก�ำลังได้รับความนิยมสูงคือกลุ่มที่มีฤทธิ์ชะลอความ แก่ ซึ่งประกอบด้วยอาหารเสริมสุขภาพที่มีฤทธิ์ ๒ อย่างคือ พวก ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านการอักเสบ ดังนั้นการที่เรา จะพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อให้เป็นไปตามแนวโน้มของตลาดโลกคง ต้องหันมาสนใจพัฒนาสมุนไพรไทยที่มีฤทธิ์ดังกล่าวถึงจะเป็นที่ ต้องการในตลาด ที่มีขนาดใหญ่และเป็นตลาดที่สนใจเรื่องการ ป้องกันและส่งเสริมสุขภาพเป็น อย่างมาก
คุณควรศึกษาส่วนประกอบแต่ละชนิดของสารให้ความหวานที่ มีภาวะปัญญาอ่อน ผู้ป่วยโรคนี้จึงไม่สามารถรับประทานอาหาร ได้ เ หมื อ นคนทั่ ว ไป โดยจะไม่ ส ามารถบริ โ ภคอาหารที่ มี ส าร นิยมใช้กันเสียก่อน แอสพาร์เทมประกอบได้ จึงต้องระบุค�ำเตือนบนฉลาก ค่าปริมาณ ที่ได้รับต่อวันก�ำหนดไว้ที่ ๐-๔๐ มก.ต่อ กก.น�้ำหนักตัว ต่อวัน - แซคคาริน ค่าปริมาณที่ได้รับต่อวันโดยไม่ก่อให้เกิด ผลเสียต่อสุขภาพคือ ๐-๕ มก.ต่อน�้ำหนักตัวต่อวัน - ซูคราโลส ค่าปริมาณที่ได้รับก�ำหนดไว้ที่ ๐-๑๕ มก.ต่อ กก.น�้ำหนักตัว ต่อวัน - แอสพาร์เทม ส�ำหรับสารให้ความหวานชนิดนี้ มีข้อ ควรระวังของการใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารคือ ผู้ที่เป็นโรค ฟีนิลคีโตนู เรีย (Phenylketonuria) ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรม ที่เกี่ยวข้อง กับความบกพร่องทางเมแทบอลิซึมของร่างกาย โรคนี้จะถ่ายทอด ทางโครโมโซมทั่วไปที่ไม่ใช่โครโมโซมเพศ ควบคุมด้วยยีนลักษณะ ด้อย โดยโครโมโซมดังกล่าวมีความบกพร่องของยีนส์ที่เกี่ยวข้อง กับการสร้าง Phenylalanine hydroxylase ผู้ที่เป็นโรคนี้จึงไม่ สามารถสร้างเอนไซม์ดังกล่าวได้ มีผลให้ไม่สามารถย่อยสลาย กรดอะมิโน phenylalanine ไปเป็น tyrosine เหมือนคนปกติ จึงเกิดภาวะ phenylalaine สะสมในเลือดมากผิดปกติ และมี phenylpyruvic acid และกรดอินทรีย์อื่นปนในปัสสาวะ รวม ทั้งอาการโลหิตเป็นพิษด้วย นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคดังกล่าวมัก
ชนิดของสารให้ความหวาน
ครอบครัวพอเพียง : 41
ÈØÀ¡Ã Á‹Ç§á¾ÃÈÃÕ
พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส
รักษาราชการแทน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) 42 : ครอบครัวพอเพียง
“เตี่ยผมมาจาก ซัวเถา สมัยเด็กๆ ผมเคยขายลูกเหม็น ที่ตลาดนัด สนามหลวง ผมเคยขายน�้ำเก๊กฮวยที่หน้าร้านขายยาเจ้ากรมเป๋อ ผมเคย เป็นเด็กขายของหาบเร่ที่ตลาดพาหุรัด ผมเลือกเกิดไม่ได้ครับ แต่ผมคิด เสมอว่าที่สุดของชีวิต ผมเลือกที่จะเป็น ‘คนดี’ เป็น ‘ข้าราชการที่ดี’ ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” ก่อนการเกิด
: เริ่มต้นผมขอย้อนไปสมัยเด็กๆ เท่าที่ผมพอจ�ำความ ได้ เตี่ยเล่าให้ผมฟังว่า ท่านเกิดที่ ซัวเถา ประเทศจีน ยากจนมาก ประกอบกับมีภัยสงคราม จึงตัดสินใจละถิ่นฐานบ้านเดิม แล้วเดิน ทางมายังประเทศไทย โดยคิดว่าน่าจะมีช่องทาง เพื่อการด�ำรง ชีพอยู่ได้ คงไม่ล�ำบากมากนัก เฉกเช่นเดียวกับที่เมืองจีน ท่านจึง ตัดสินใจ นั่งเรือมาเมืองไทย เรือก�ำปั่นนะครับ ใช้เวลาหลายเดือน เพราะถ้ามาเรือยนต์ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายจ�ำนวนมาก ก็เลยต้องมา เรือก�ำปั่นล�ำบากมากกว่าจะมาถึงเมืองไทย พอเรือเข้าอ่าวไทยมุ่ง สู่แม่น�้ำเจ้าพระยา ท่านก็เห็นอนาคตลางๆ ว่าชีวิตนี้น่าจะมีความ หวัง เพราะประเทศไทยอุดมสมบรูณ์มาก เมื่อมาถึงท่าเรือ ก้าว เท้าขึ้นฝั่งสิ่งที่ท่านพบครั้งแรกก็คือพระพุทธรูปที่ประจ�ำอยู่หน้า วัด ผมเองก็ยังไม่ทราบว่าวัดอะไร ท่านบอกว่าพระพุทธรูปองค์ นี้ยกมือคล้ายกับปฏิเสธท่านทั้งสองมือเลย แต่ท่านก็ไม่ละความ พยายาม จนเดินทางมาถึงตลาดพลู สิ่งที่ท่านน�ำติดตัวมาก็คือสิ่ง ที่พวกเราได้ยินกันบ่อยๆ ก็คือ เสื่อผืน หมอนใบ ไม่มีสมบัติอะไร ติดตัวมาเลยนอกจากความรู้ที่ติดตัวและแรงกายเท่าที่มีอยู่ เริ่ม ต้นอาชีพแรก ท่านก็เป็นจับกังแบกข้าวสารอยู่ที่โรงสีไฟ ซึ่งเป็น โกดังข้าวระแวกตลาดพลู ได้ค่าแรงเป็นเศษสตางค์ ด้วยความ อดทน ขยัน หมั่นเพียร ขายแรงงานในแต่ละวัน ก็เก็บเล็กผสม น้อย เพื่อน�ำมาเป็นทุนในการค้าขายเล็กๆน้อยๆ ท่านก็ได้ทุน มาค้าขายหาบเร่ แล้วก็เช่าบ้านอยู่แถวตรอกหัวเม็ด อยู่บริเวณ ถนนจักรวรรดิ ตรงข้ามกับวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร (วัด สามปลื้ม) ต้มน�้ำเก็กฮวยแล้วก็หาบไปขายที่ส�ำเพ็ง สะพานหัน เยาวราช ต้มเอง ท�ำเองจากเงินที่ได้จากการขายแรงงานที่เก็บไว้ เป็นทุน พอซื้อถ้วยชาม ซื้อเก็กฮวยได้บ้าง ก็เก็บเล็กผสมน้อยมา ตลอด แล้วสักพักก็สร้างครอบครัว แต่งงานกับคุณแม่ คุณแม่ก็เป็น ลูกคนจีนเหมือนกัน แต่คุณแม่เกิดที่เมืองไทย คุณแม่ผมก็อยู่แถว ตรอกหัวเม็ด รับจ้างเย็บชุดนักเรียน รับจ้างมวนยาสูบ ท่านเล่าให้ ฟังว่าท่านทั้งสองเจอกับบริเวณก๊อกน�้ำสาธารณะ ของการประปา นครหลวง ซึ่งเมื่อก่อนตามแยกถนนต่างๆ จะมีก๊อกน�้ำใหญ่ๆ สีด�ำ ของการประปานครหลวง เปิดไว้เพื่อให้ประชาชนมาหาบน�้ำไปใช้ ที่บ้าน เพราะตามบ้านยังไม่มีน�้ำประปาเข้าถึง
การเริ่มต้นของครอบครัวเล็กๆ
: เตี่ย ผมก็ประกอบอาชีพหาบเร่ขายน�้ำเก็กฮวย เลี้ยง ผม ๔ คนพี่น้องจนเติบโตมา ผมเป็นคนที่ ๒ มีพี่สาวคนโต แล้ว ก็น้องสาว น้องชาย จากการที่เตี่ย อดทน ขยัน อดออมมาโดย ตลอด ท่านก็ค่อยๆ สะสมมาทีละเล็กละน้อยส่งให้พวกผมได้รับ การศึกษา ผมเริ่มต้นการศึกษาที่แรกคือ ที่โรงเรียนเทศบาลวัด จักรวรรดิราชาวาส (วัดสามปลื้ม) ผมกับพี่สาวได้เรียนถึงแค่ ป.๗ และไม่ได้เรียนหนังสือต่อเพราะด้วยหลายปัจจัย ซึ่งพี่สาวคนโต ต้องเป็นก�ำลังส�ำคัญในการช่วยเตี่ยและแม่ประกอบอาชีพ ดูแล บ้านเรือน ดูแลน้องๆ ส่วนผมเป็นลูกชายคนโต ก็ต้องหัดค้าขาย เพราะเป็นความหวังของเตี่ยที่จะต้องสืบทอดภาระงานของท่าน ต่อไป ไม่เช่นนั้น น้องๆ อีก ๒ คนก็คงจะไม่ได้เรียนเหมือนกับ ผมและพี่สาว
เริ่มหารายได้หลังจาก จบ ป.๗
: พอผมจบ ประถม ๗ ผมก็ต้องมาหัดค้าขายหารายได้ ก็ เริ่มจากการไปสมัครเป็นลูกจ้างร้านขายมุ้งแถวส�ำเพ็ง ผมจบ ป.๗ มาก็ยังเป็นอาตี๋ อายุยังน้อยอยู่ก็ต้องไปเฝ้าร้าน ก็ต้องไปเฝ้าของที่ ตลาดนัดสนามหลวง สมัยนั้นก็จะมีเป็นแผงลอย เสาร์-อาทิตย์ คืน วันศุกร์ก็จะต้องเอาของไปกองไว้ก่อน เช้าวันเสาร์ก็ต้องรีบไปตั้ง ร้านแต่เช้า ด้วยความเป็นเด็กก็ยังไม่ค่อยรู้กลยุทธ์ในการขายของ ก็ไม่เข้าใจว่าลูกค้าซื้อมุ้งหลังใหญ่แต่ท�ำไมเถ้าแก่หยิบมุ้งหลังเล็ก ให้ลูกค้า ผมก็บอกเถ้าแก่ว่า เถ้าแก่หยิบมุ้งผิดให้ลูกค้า ด้วยความ ที่รู้ไม่เท่าทันการโกงในสมัยนั้น สิ่งที่ผมได้รับก็คือ โดนเข็กหัว อย่างแรงหนึ่งที ผมทนอยู่กับสภาพแบบนี้ไม่ได้จึงตัดสินใจลาออก จากนั้นก็เปลี่ยนงานไปเป็นลูกจ้างร้านขายผ้า ก็เป็นแค่ ลูกมือช่วยตัดผ้าตัวอย่าง มีหน้าที่แบกผ้าไปเก็บ ตั้งร้าน ปัดกวาด เช็ดถูตามสมควร แล้วก็ต้องมีเหตุอีกแล้วครับ มีอยู่วันหนึ่งผม แบกผ้าขึ้นไปเก็บก็โดนลูกชายของเถ้าแก่ ใช้เท้าถีบผมตกบันได จากชั้นบนลงมาชั้นล่าง เนื่องจากลูกชายเถ้าแก่ก�ำลังดูหนังสัตว์ ประหลาดอยู่ก็อยากต่อสู้ เลยคิดว่าผมเป็นสัตว์ประหลาด เหมือน กับในหนัง (หัวเราะ) ก็ท�ำให้ผมต้องผิดหวังจากการท�ำงานอีกครั้ง เพราะผมไม่ยอมทนต่อการกดขี่แบบนั้น ก็ตัดสินใจลาออก เพราะ
ครอบครัวพอเพียง : 43
อย่างไรก็ตามระหว่างลูกเถ้าแก่กับลูกจ้างแบบผม ลูกเถ้าแก่ก็ต้อง เป็นฝ่ายถูกเสมอ ต่อมาก็มีคนแนะน�ำให้ผมไปสมัครเป็นบ๋อย หากเปรียบ เทียบกับสมัยนี้ก็คือ พนักงานรับส่งเอกสาร หรือ คนเดินเอกสาร ผมก็ได้ไปสมัครเป็นบ๋อยอยู่ที่ เอเชียทรัสต์ ประกันภัย คราวนี้ได้ อยู่ห้องแอร์แต่งตัวดีหน่อย ใส่กางเกงขายาว เสื้อเชิ้ตสีขาว มีหน้า ที่คอยดูว่าเสมียนโต๊ะไหนกดกริ่งเรียก เสียงแต๊งๆ ผมก็ต้องคอย มองว่าโต๊ะไหนเรียก ผมก็จะเดินเข้าไปรับเอกสารและรับค�ำสั่งว่า ให้ไปส่งที่ไหน และด้วยความที่ผมเป็นเด็ก อีกล่ะครับ ก็เลยเจอ กับผู้ใหญ่ที่ชอบสนุกแกล้งเด็ก บางครั้งก็มีคนกดกริ่ง แต๊งๆ ผมก็ ยืนมองก็ไม่มีใครยกมือเรียกผมเลย แต่พอผมกลับมานั่ง ก็ได้ยิน เสียง แต๊งๆๆ อีกแล้วครับ ผมก็คอยชะเง้อมองว่าโต๊ะไหนเรียกกัน แน่ คราวนี้บ่อยๆเข้าผมก็เลยลุกไปยืนคอยหน้าชั้น แล้วคอยดูว่า โต๊ะไหนกดเรียก ก็เดินไปเดินมาว่าจะมีใครเรียกหรือไม่ สุดท้าย ก็ไม่มีใครเรียก มันเป็นการล้อเล่นระหว่างผู้ใหญ่กับเด็กนะครับ ทีนี้ก็มาเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่อาจจะลืมได้จนปัจจุบัน คือกฎของที่ บริษัทนี้มีอยู่ว่า ห้ามบ๋อยใช้ลิฟท์เป็นอันขาด และบ๋อยก็ต้องจดจ�ำ หน้าตาของท่านผู้บริหารแต่ละท่านให้ได้ ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน ถ้าเจอก็ต้องยกมือไหว้ และมีอยู่วันหนึ่งผมได้รับค�ำสั่งอย่างเร่ง ด่วนว่า จะต้องน�ำเงินสดจ�ำนวนหนึ่งลงไปฝากธนาคารที่ชั้นหนึ่ง ให้ทันภายในบ่ายสามโมงก่อนที่ธนาคารจะปิดท�ำการ ท่านสมุห์ บัญชีใหญ่สั่งเสร็จ ท่านก็กลัวว่าถ้าให้ผมวิ่งลงไปคงจะไม่ทัน ท่าน ก็สั่งให้ผมลงทางลิฟท์ ซึ่งผมก็แอบดีใจล่ะครับว่าจะเป็นครั้งแรก ในชีวิตที่จะได้ลงลิฟท์เหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ ของบริษัท แต่ ด้วยความที่โชคไม่ดีของผม พอลิฟท์เปิดก็เข้าไปเจอกับผู้บริหาร ระดับสูงเข้า ท่านก็ทักผมว่าเป็นบ๋อยหรือ เพราะจากการแต่งตัว และอายุยังน้อย แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรผม พอผมปฏิบัติภารกิจ น�ำเงินฝากธนาคารเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินกลับขึ้นมาพร้อมด้วย ความภาคภูมิใจที่สามารถปฏิบัติภารกิจเสร็จทันเวลา สักพักสมุห์ บัญชีก็แจ้งกับผมว่าผู้จัดการเรียกพบ ผมก็คิดในใจว่าผู้จัดการ คงจะเรียกเข้าไปชมเชยที่ผมท�ำงานได้รวดเร็ว สามารถน�ำเงินลง 44 : ครอบครัวพอเพียง
ไปฝากได้ทัน แต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวังอีกตามเคย เพราะ ผมกลับถูกต�ำหนิเรื่องที่ไม่ปฏิบัติตามกฏ เรื่องการห้ามใช้ลิฟท์ แล้วยังบังอาจวิ่งไปชนผู้หลักผู้ใหญ่อีก ท�ำให้ผู้ใหญ่มาต�ำหนิผู้ จัดการว่าไม่ดูแลบ๋อยให้ดี แต่ผมก็ชี้แจงไปว่าผมท�ำคามค�ำสั่งของ ท่านสมุห์บัญชี แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือ “ไม่ต้องมาเถียงผม ยัง ไงคุณก็ผิดอยู่ดีที่วิ่งเข้าไปในลิฟท์ แล้วไปชนผู้ใหญ่” เมื่อท่าน บอกว่าไม่ต้องเถียงผมก็ได้แต่เงียบไม่มีค�ำอธิบายอะไรต่อทั้งนั้น ด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต�่ำใจที่เราปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบรูณ์ แล้ว กลับมาถูกต�ำหนิโดยที่ไม่ฟังเหตุผล ไม่ฟังค�ำชี้แจง ผมก็คิด ว่าระบบแบบนี้ก็คงอยู่กันยากเหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจลาออก คงเป็นวิบากกรรมของผมที่อยู่ที่ไหนก็มักจะต้องมีเหตุ ให้โดนกลั่นแกล้งอยู่ตลอด ครั้งจะให้ผมมาหาบเร่ค้าขายแบบ เตี่ย ผมก็ยังเด็กเกินไปที่จะมาหาบของขาย หาบไม่ไหว ก็ไปเห็น ช่องทางที่ส�ำเพ็งซื้อของเล็กๆ น้อยๆ มาขาย ซึ่งก็ไปได้กระเป๋าหิ้ว ของสุภาพสตรี ราคาขายอยู่ที่ ๒๐ บาท ผมไปรับมาทุนอยู่ที่ ๑๕ บาท ก็ได้ก�ำไรใบละ ๕ บาท คิดว่าวันหนึ่งขายได้สัก ๒๐-๓๐ ใบ ก็พอใจแล้ว เพราะว่ามันก็ไม่ได้เหนื่อยยากอะไร ก็เลยไปซื้อมา ๒ โหล ก็เดินขายอยู่แถวพาหุรัด ขายไปขายมาได้สักพักอยู่ดีๆ ก็มีคนมากระซิบบอกกับผมว่า ถ้าน้องจะเดินขายของบริเวณนี้ก็ ต้องจ่ายเงินให้กับ “จ่าช้าง” ซึ่งเป็นต�ำรวจดูแลรับผิดชอบบริเวณ นี้อยู่ ผมก็บอกว่าผมไม่ได้ขายของเกะกะอะไรใคร เพราะผมเดิน ขาย แล้วก็ไม่เห็นจ�ำเป็นเลยที่จะต้องไปจ่ายเงินเลย จะโดนหลอก หรือป่าวก็ไม่รู้ ผมก็ไม่จ่าย ปกติผมจะยืนขายอยู่บริเวณกลางซอย หากต�ำรวจมาเราก็จะหนีทัน มีอยู่วันหนึ่งผมเห็นต�ำรวจเดินมา แต่ ไม่มีใครหนีต�ำรวจเลย ผมก็คิดว่าไม่มีอะไรผิดปกติก็คงเหมือนกับ ทุกๆวัน แต่แล้วอยู่ๆต�ำรวจคนนั้นก็เข้ามาจับผม บอกกับผมว่า “ตี๋ไปโรงพัก ขายของเกะกะ” ผมก็ถามว่า “ท�ำไมไม่จับคนอื่น ด้วยล่ะครับ” ต�ำรวจตอบ “ก็อั๊วจะจับลื้อ” นี่คือค�ำตอบที่ผมได้ รับจากต�ำรวจคนนั้น ผมยังเด็กมากยังไม่เข้าใจว่าสังคมแห่งความ เป็นจริงมันเป็นเช่นไร ต�ำรวจก็ยึดเอากระเป๋าของผมทั้ง ๒๔ ใบไป โรงพัก แล้วก็ให้ผมตามไปไถ่คืน ผมต้องเสียค่าปรับ ๒๐๐ บาท
แต่ต�ำรวจส่งกระเป๋าให้ผมคืนเพียง ๑๕ ใบ ผมจ�ำได้ว่าผมยังไม่ ได้ขายให้ใครเลยสักใบ ผมก็ทวงกระเป๋าที่เหลือจากต�ำรวจก็ได้ รับค�ำตอบมาว่า “ตี๋ ลื้ออย่ามากล่าวหาต�ำรวจนะ เดี๋ยวจะโดน ข้อกล่าวหาเพิ่มอีก” ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นภาพที่ฝังใจผมมาโดยตลอด สุดท้ายก็ต้องกลับไปเป็นลูกมือช่วยเตี่ย ขายน�้ำเก็กฮวย เตี่ยผมก็ช่างคิด ท่านไปจ้างเขาท�ำหาบเล็กๆขึ้นมาไว้ส�ำหรับผม เพื่อจะได้หาบไหว เป็นหาบทองเหลือง ตอนเช้าเตี่ยก็จะหาบไป ตั้งไว้ที่ปากซอยให้ผมไปนั่งขาย ผมขายได้สักพักก๋ง (คุณตา) ก็ เกษียณจากยามเฝ้าโกดัง ท่านก็ว่างไม่มีอะไรท�ำ เตี่ยก็เลยท�ำหาบ อีกอันให้ก๋ง เอาไว้หาบน�้ำเก็กฮวยขายด้วย ผมกับก๋งยังโชคดี เรา ได้ที่ส�ำหรับขายน�้ำเก็กฮวยคือหน้าร้านเจ้ากรมเป๋อ ท่านเจ้าของ ร้านเจ้ากรมเป๋อท่านเป็นคนใจดีมาก เห็นคนแก่กับหลานขายน�้ำ เก็กฮวยก็อนุญาตให้ขายบริเวณหน้าร้านได้ ก็จะเป็นความรู้สึก ดีๆครั้งแรกที่ผมได้รับ ระหว่างขายน�้ำเก็กฮวยผมก็ชอบไปหยิบหนังสือพิมพ์ ที่ร้านเจ้ากรมเป๋อมาอ่าน ด้วยความบังเอิญผมก็ไปอ่านเจอว่า กระทรวงศึกษา ก�ำลังเปิดหลักสูตรศึกษาผู้ใหญ่ ปัจจุบันก็คือการ ศึกษานอกโรงเรียน ผมก็เลือกไปสมัครเรียนที่ศูนย์วัดพระพิเรน กลางวันผมก็ขายน�้ำเก็กฮวย พอตกกลางคืนก็ไปเรียน ผมก็เรียน จบภายในระยะเวลา ปีครึ่งตรงตามหลักสูตร ผมเรียนจบก็คิดว่า ถ้าไม่ศึกษาเล่าเรียนต่อก็คงจะยากล�ำบากแน่นอน ประกอบกับ ระยะหลังมานี้ครอบครัวของผมเริ่มมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วย ความขยันของเตี่ยและแม่ที่ขยันค้าขายเก็บหอบรอบริบ ประหยัด อดออมมาโดยตลอด ซึ่งปกติที่บ้านผม แม่จะท�ำกับข้าวครั้งเดียว อย่างเดียวในมื้อเช้า ส�ำหรับมื้อกลางวันและเย็นก็อุ่นเอา เพราะ ต้องประหยัด ไม่เคยเลือกได้เลยว่ามื้อเที่ยงจะกินอะไร มื้อเย็น จะกินอะไร
การศึกษาเป็นสิ่งส�ำคัญของชีวิต
: เมื่อผมเรียนจบศึกษาผู้ใหญ่ก็เทียบเท่ากับ ม. ๓ ผม ก็หาโอกาสศึกษาต่อ และก็โชคดีมากที่มีโรงเรียนพาณิชย์เปิด ใหม่ ก็เลยสอบแข่งขันเพื่อเข้ารับการศึกษา โชคดีที่ผมสามารถ สอบติด ในตอนเช้าผมก็ไปเรียน ตกเย็นผมก็นั่งรถเมล์สาย ๒๕
กลับมาช่วยเตี่ยขายน�้ำเก็กฮวย ผมท�ำอยู่อย่างนี้จนกระทั่งผม เรียนจบพาณิชย์ ฐานะทางครอบครัวก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก่อนเตี่ย เคยเก็บเงินได้วันละ ๒๐-๓๐ บาท ก็เก็บได้มากขึ้นมีเงินเก็บเป็น ร้อยบาท ซึ่งก็ถือว่าเยอะพอสมควร เตี่ยก็จะน�ำเงินใส่กาน�้ำเก่าๆ แล้วก็หิ้วไปฝากที่ธนาคารศรีนครตรงสี่แยกราชวงศ์ ทุกวัน เตี่ย น�ำเงินไปฝากทุกวันจนมีเงินเป็นแสน ท่านจึงน�ำเงินนั้นไปซื้อ ตึกแถวห้องที่เล็กที่สุด ถูกที่สุด อยู่ที่พระโขนง สุขุมวิท ๖๙ ตรง หลังไปรษณีย์พระโขนง เมื่อก่อนตึก ๔ ชั้นแค่แสนกว่าบาท เพื่อ เป็นหลักประกันของครอบครัวท่านคิดว่าเมื่ออายุมากแล้วจะได้ เลิกขายน�้ำเก็กฮวยเพราะคงหาบไม่ไหวแล้ว พอพูดถึงเรื่องอาชีพขายน�้ำเก็กฮวยที่เตี่ยผมท�ำมา มี เหตุการณ์หนึ่งที่ผมไม่เคยลืมจนถึงทุกวันนี้ คือสมัยก่อนค้าขาย หาบเร่ หาบหาบมาก็ต้องหนีต�ำรวจเหมือนกัน สมัยนั้นยังไม่มี เทศกิจ วันนั้นเตี่ยผมหาบน�้ำเก็กฮวยมาขายเหมือนทุกวัน แต่พอ เดินมาถึงถนนใหญ่ต�ำรวจก็วิ่งเข้ามาคว้าหาบ กระชากจนหาบ หลุด พังเสียหายแล้วก็จับตัวเตี่ยผมไปโรงพัก มีคนมาบอกแม่ที่ บ้าน ผมกับทุกคนในครอบครัวก็รีบไปโรงพัก ผมพบกับต�ำรวจ คนที่จับเตี่ยผม ซึ่งผมและครอบครัวก็สนิทสนมกับต�ำรวจคนนี้ดี เพราะไม่ว่าจะปีใหม่ ตรุษจีน สารทจีน เตี่ยผมก็ต้องให้ของขวัญ คือเหล้า เป็นประจ�ำ ให้ทุกครั้งที่ต�ำรวจมาขอ วันนั้นนอกจาก ของเสียหายจนหมดยังไม่พอ เตี่ยผมโดนข้อหาขายของเกะกะ แล้ว ท่านยังจะโดนข้อหาขัดขืนเจ้าพนักงานอีกด้วย สมัยนั้นผมยัง เด็กก็ยังไม่เข้าใจว่าขัดขืนเจ้าพนักงานเป็นอย่างไรรู้แต่ว่าเตี่ยต้อง วิ่งหนีต�ำรวจ ถ้าไม่หนีก็โดนจับ แล้วก็โดนจับในข้อหาขัดขืนเจ้า พนักงานโดนกักตัวไว้บนโรงพัก ให้นั่งอยู่ในบริเวณที่กักกัน เพื่อ รอให้ญาติมาช�ำระค่าปรับ ก็เป็นจ�ำนวนหลายร้อยอยู่เหมือนกัน รายได้จากการขายน�้ำเก๊กฮวยวันหนึ่งได้ไม่ถึงร้อยบาท ก็ต้องรอ ให้ญาติมาประกันตัว ต�ำรวจบอกว่าถ้าไม่มีเงินช�ำระค่าปรับก็จะ ส่งเตี่ยกลับเมืองจีน เพราะเตี่ยเป็นคนต่างด้าว ผมกับแม่ก็ร้องไห้ กลัวเตี่ยจะถูกส่งกลับไปเมืองจีน แต่เราก็โชคดีมีคนที่มีความรู้ มาช่วยเจรจากับต�ำรวจให้ปรับแค่ข้อหาเดียว คือขายของเกะกะ พวกเราก็ดีใจที่เตี่ยจะไม่ต้องถูกส่งกลับไปเมืองจีนแล้ว นี้เป็นสิ่งที่
ครอบครัวพอเพียง : 45
พวกผมถูกเอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอดและก็เป็นเหตุผลที่ท�ำให้ ผมคิดว่าการเรียนหนังสือนั้นส�ำคัญ ต้องรู้ให้เท่าทันคน ต้องรู้กฏ หมาย ก็เลยขอเตี่ยเรียนต่อ
การศึกษาคือรากฐานของชีวิต
: เมื่อจบพาณิชย์แล้ว ผมก็ไปเรียนต่อที่เทคนิคกรุงเทพ สาขาวิชาการบัญชี ระหว่างเรียนก็ยังกลับมาช่วยค้าขายเหมือน เดิม ก็ท�ำแบบนี้จนกระทั่งเรียนจบ ปวส. ด้านบัญชี แล้วก็ไป ท�ำงานเป็นลูกจ้างที่สรรพากร เขตพระโขนง อยู่ ๑ ปีเต็มตอนนั้น มีหน้าที่ไปตามภาษีค้างจากผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษี แล้วไม่มาเสีย จน กระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ก็ได้เริ่มเข้ามาท�ำงานที่ ส�ำนักงานผู้ตรวจ เงินแผ่นดิน(สตง.) ในต�ำแหน่ง พนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ๒ แล้ว ก็รับราชการเติบโตมาจนกระทั่งปัจจุบัน เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ จาก เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทั่วไป จนกระทั่งผมเรียนจบกฎหมาย ใน ปี ๒๕๒๖ จากมหาวิทยาลัยรามค�ำแหง ก็ปรับต�ำแหน่งมาเป็น นิติกร มีบทบาททางด้านกฎหมายการตรวจเงินแผ่นดินมาโดย ตลอดจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนั้นผมก็ยังไปเรียนต่อปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ที่นิด้า จบปี ๒๕๒๘ ผมก็ต่อยอดมา เรื่อยเมื่อมีโอกาสได้เรียน
ความซือ่ สัตย์ ซือ่ ตรง ขยันหมัน่ เพยี ร คือ สิง่ ทีผ่ มกระท�ำมาตลอดชีวติ ‘ข้าราชการ’
: ในการท�ำงานของผมที่ ส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)นั้น ก็ถือได้ว่าผมมีผู้บังคับบัญาชาให้การสนับสนุน คุ้มครอง และไว้เนื้อเชื่อใจ มอบหมายภารกิจที่ค่อนข้างมีปัญหาสลับซับ ซ้อนให้ผมท�ำค่อนข้างมาก ผมก็ทำ� ด้วยความรู้สึกที่ต้องรับผิดชอบ แบบสุดจิตสุดใจ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผมก็ชอบที่จะท�ำงานอยู่ที่ท�ำงาน มากกว่าอยู่ที่บ้าน ซึ่งข้าราชการทุกคนที่ สตง.ทราบดี และที่สำ� คัญ ผมต้องขอบคุณครอบครัว ภรรยาของผมที่เขาให้ความเข้าใจและ ให้ความไว้วางใจผมเป็นอย่างดี หน้าที่และภารกิจของผมมันเป็น งานที่ไม่รู้จักจบสิ้น ถ้าเราขยันท�ำงานได้มากเท่าไหร่ สังคมเราก็ยิ่ง จะดีขึ้นเท่านั้น แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่ง มันก็ท�ำให้ดี ขึ้นได้ หากวันเสาร์- อาทิตย์ เราหยุดท�ำงานไปสองวัน เรื่องที่ดีๆ ก็หายไปด้วย ดังนั้นชีวิตราชการส่วนใหญ่ของผมจึงอยู่ที่ท�ำงาน มากกว่าที่บ้าน โดยนิสัยส่วนตัวของผมหากได้รับมอบหมายงาน มา ผมก็จะท�ำอย่างเต็มที่แม้กระทั่งวันหยุดก็ท�ำ เพื่อให้งานสัมฤทธิ์ ผล ผมคิดอยู่เสมอว่า ‘เราเป็นส่วนหนึ่งของสังคม’ ซึ่งก็เป็นหลัก
46 : ครอบครัวพอเพียง
คิดง่ายๆ ในการให้ก�ำลังใจกับการท�ำงานของตนเอง ผมเคยได้ยิน หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ แห่งวัดชลประทานรังสฤษฎ์ เคยอบรม สั่งสอนมาว่า ‘การท�ำงานคือการปฏิบัติธรรม’ เพราะฉะนั้นเวลา เราท�ำงาน เราต้องคิดว่ามีความสุขอิ่มเอิบกับงาน และผลงานที่ เราท�ำ การให้ความเป็นธรรมกับสังคม การทวงความเป็นธรรม การทวงเงินหลวงคืนให้กับหลวง สิ่งเหล่านี้เป็นความภาคภูมิใจว่า เราได้ท�ำสิ่งดีๆ ให้กับสังคมมาโดยตลอด ผมถือว่าเป็นการปฏิบัติ ธรรมและการท�ำบุญไปในตัว เราจะได้อานิสงฆ์จากการท�ำงาน ท�ำแล้วบ้านเมืองจะต้องดีขึ้น พยายามคิดอย่างนี้สิครับ เราก็จะ มีความสุขกับการท�ำงาน ผมถือโอกาสฝากไว้นะครับว่าส�ำหรับคนที่ชอบท�ำงาน ถ้าเราชอบท�ำงานเราก็จะไม่เครียดกับงาน ขอให้เราท�ำด้วยใจรัก สิ่งที่ผมอยากให้นึกถึง ในฐานะที่ผมเป็น ‘ข้าราชการ’ เป็น ‘เจ้า หน้าที่ของรัฐ’ ให้นึกถึง ภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใน ขณะที่พระองค์ท่าน ทรงงานหนักและยากล�ำบากกว่าเรามากมาย ซึ่ ง เราจะเห็ น ได้ จ ากการพระราชกรณี ย กิ จ ต่ า งๆที่ พ ระองค์ ไ ด้ ทรงท�ำไว้ให้กับพวกเราปวงชนชาวไทย ซึ่งถ้ามาเทียบกับพวก เรา พวกเรายังมีวันหยุด แต่ถามว่าแล้วพระองค์ท่านมีวันหยุด เหมือนกับพวกเราหรือไม่ สิ่งที่เราได้พบเห็นมาโดยตลอดแม้แต่ ยามที่พระองค์ทรงประชวร พระองค์ท่านก็ยังทรงงานอยู่ แล้ว เราล่ะครับซึ่งกินเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชน แล้วท�ำไมเรา ไม่ท�ำงานให้ประชาชนอย่างเต็มที่ละครับ ผมก็อยากฝากไว้ เรา ต้องส�ำนึกบุญคุณแผ่นดิน อย่างน้อยที่สุดก็คือ “การเป็นพลเมือง ดี รักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์ธรรมชาติ รักทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงรัก แล้วบ้านเมืองของเรา จะน่าอยู่ครับ”
โดย : แม่เป็นสุข
ข้าวต้มซุปมะเขือเทศร้อนๆ ที่มากด้วยคุณค่า
ฉบับนี้น�ำเสนอเมนูเบาๆ แบบสบายท้อง สบายกระเป๋า ท�ำง่ายและมีคุณค่า ดีต่อสุขภาพด้วย อย่างเช่น ข้าวต้มซุป มะเขือเทศ ที่มีประโยชน์หลายอย่างในมะเขือเทศ อุดมไปด้วย ไฟโตเคมิคอล ไลโคปีน, เบต้าแคโรทีน, วิตามินเอ, วิตามินซี, กรด โฟลิก, แคลเซียม, แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, และไบโอติน สรรพคุณมีมากมาย ทั้งช่วยบ�ำรุงระบบย่อยอาหาร ท�ำให้เลือดเป็นด่าง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา บ�ำรุงผิวพรรณ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งล�ำไส้ โดยเฉพาะในเพศชาย มะเขือเทศสุกสามารถลดความ เสี่ยงป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากได้
ส�ำหรับส่วนผสม ประกอบด้วย กระเทียม ขิง พริกแดง ตะไคร้ ผงยี่หร่า รากผักชีต�ำละเอียด มะเขือเทศ น�้ำมะขามเปียก น�้ำมันพืช น�้ำซุปหรือน�้ำสะอาด ข้าว
๑ ๒ ๑ ๒ ๑/๔ ๑/๔ ๑ ๒ ๑ ๖๐๐ ๓
กลีบ เซนติเมตร เม็ด ต้น ช้อนชา ช้อนชา ลูก ช้อนโต๊ะ ช้อนโต๊ะ มิลลิลิตร ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนในการท�ำ
เริ่มจากจัดการกับส่วนผสมต่างๆ น�ำกระเทียม พริกแดง ตะไคร้ มะเขือเทศ สับให้ละเอียด ส่วนขิงให้น� ำไปขูดเป็นฝอย จากนั้นน�ำกระทะตั้งไฟ ใส่น�้ำมันพืชรอจนร้อนแล้วใส่กระเทียม ขิง พริกแดง ตะไคร้ เคล้าให้เข้ากันพอสุกจึงเติมมะเขือเทศ น�้ำ มะขามเปียก น�้ำซุป เคี่ยวนาน ๕ นาที เมื่อส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จึงใส่ข้าวลงไป เคี่ยว ต่ออีก ๑๐ - ๑๒ นาที หรือจนกว่าข้าวจะสุก เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย หรือชาม ควรรับประทานตอนอุ่นๆ
ครอบครัวพอเพียง : 47
สังคมที่ไม่รับผิดชอบ ๑
สังคมที่ไม่รับผิดชอบ เป็นสังคมที่ขาดตอนจากจิตส�ำนึก ของความเป็นคน ไม่มีความรับผิดชอบชั่วดีต่อกัน ระหว่างคนที่อยู่ ร่วมกันในสังคม เป็นสังคมที่เห็นแก่ตัว ตัวใครตัวมัน ไม่มีคุณธรรม ไม่มีความเมตตาปราณี ไม่มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือซึ่งกัน และกัน แม้แต่บ้านอยู่ติดกัน ยังไม่อยากจะรู้จักกัน สังคมเฮงซวย เป็นค� ำพูดที่หลุดออกมาจากปากของ น.ส. หน่อย (นามสมมุติ) พนักงานบัญชีสาว ด้วยความคลั่งแค้น ที่ถูกนาย บุญเกิด วงศ์สมบัติ คนขับรถสามล้อท�ำร้ายร่างกาย แล้ว ลากเธอไปข่มขืนในตึกร้าง เธอตะโกนร้องเรียกให้คนช่วยเหลือ มีทั้งคนขับรถแท็กซี่ คนขี่จักรยานยนตร์รับจ้าง และผู้คนที่เดิน ผ่านไปมา แต่กลับไม่มีใครสนใจหรือมีน�้ำใจคิดจะช่วยเหลือเธอ เฮงซวยจริงๆ เป็นค�ำพูดที่ไม่เกินความจริงเลยส�ำหรับสังคมไทย ในปัจจุบัน เกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย เกิดมะเร็งในสังคม หรือเกิด ภาวะสับสนอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่าง สังคมที่เราเคยอยู่ ร่วมกันฉันท์พี่น้อง มีประเพณี วัฒนธรรม ศีลธรรม และคุณธรรม 48 : ครอบครัวพอเพียง
อันดีต่อกัน ต้องมากลายเป็นศัตรูกัน กฎระเบียบต่างๆ ที่พวกเรา มีไว้ส�ำหรับเป็นข้อก�ำหนด และกติกาควบคุมความประพฤติของ คนในสังคม ได้ถูผู้คนในสังคมละเลยไม่ปฏิบัติตาม ปล่อยวางเฉย ถือว่าธุระไม่ใช่ความส�ำนึกของความเป็นคนขาดหายไป เป็นผลท�ำให้เกิดปัญหาต่างๆ ในสังคมตามมาจนยากที่ จะแก้ไข เพราะมันเลยขีดอันตรายของความเน่าเฟะไปแล้ว เน่า ยิ่งกว่าแม่น�้ำเจ้าพระยาตอนล่างเสียอีก ที่ต่างคนต่างรุมกันทิ้ง ขยะ ขยะที่เป็นสิ่งสกปรกโสโครกเน่าเหม็นทับถมกันลงไป อย่าง ที่ ไ ม่ เ คยมี ค วามปราณี แ ละความส� ำ นึ ก รั บ ผิ ด ชอบและช่ ว ยกั น หาทางแก้ไข ในที่สุดต้องปล่อยให้เน่ากันเรื่อยไป เช่นเดียวกับ ปัญหาของคนในสังคม ที่ปล่อยจนเน่าฟอนเฟะ โดยที่ไม่มีใคร ออกมารับผิดชอบ สั ง คมที่ ไ ม่ รั บ ผิ ด ชอบ เป็ น สั ง คมที่ เ ห็ น แก่ ตั ว พากั น แบ่งกลุ่มแบ่งฝ่าย ตัวใครตัวมัน กลุ่มใครกลุ่มมัน นึกจะท�ำอะไร ก็ท�ำตามใจตัวเองโดยไม่ค� ำนึงถึงผลเสียหายต่อสังคมส่วนรวม อย่างพวกซาดิสม์จิตวิปริตผิดธรรมชาติ ชอบหมกมุ่นอยู่กับแหล่ง
อบายมุขและสิ่งปลุกเร้าอารมณ์ มีทั้งวีดีโอเทป หนังสือลามก อนาจาร ที่มีทั้งภาพประกอบและการแสดงร่วมเพศแบบต่างๆ จน บางครั้งต้องหาทางออกด้วยการระบายความใคร่กับเพศเดียวกัน หรือท�ำอนาจารข่มขืนเพศตรงข้าม ทุกวันนี้ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเกือบจะ ไม่มีเหลือส�ำหรับประชาชนคนไทย เพราะเกิดจากสังคมที่เห็น แก่ตัว ตัวใครตัวมัน ไม่คิดจะช่วยเหลือกัน คนชั่วและโจรผู้ร้าย ถึงได้ใจ กระจายกันอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ถ้าพวกมันคิดจะปล้น ธนาคาร ปล้นร้านค้า ดักจี้ชิงทรัพย์ หรือฆ่าใครสักคน ไม่เลือก ว่าสถานที่นั้นจะเป็นที่ไหนและเวลาใด พวกโจรมันปฏิบัติการ ได้ตลอดเวลา โดยไม่เกรงกลัวว่าจะมีใครมาขัดขวาง เพราะโจร ไปขายตามซ่องหรือข่มขืนแล้วฆ่า ดูเหมือนจะตกเป็นข่าวตามหน้า มันรู้ว่าจะมีใครหน้าไหนกล้าตายมายุ่งด้วย จะมีแต่ไทยมุงและ หนังสือพิมพ์อยู่แทบจะทุกวัน พวกเหยื่อเคราะห์ร้ายเหล่านี้ ส่วน มากเป็นชาวชนบทที่ลงมาหางานท�ำ และจะเดินทางกลับไปเยี่ยม ไทยวิจารณ์ บ้านหรือพวกที่ชอบท่องเที่ยวตามล�ำพัง บางคนถูกหลอกมอมยา พาไปปอกลอกเสียทั้งเงินทั้งตัว เงินที่จะน�ำเอาไปจุนเจือ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อน ทางครอบครัวที่บ้าน ต้องมาถูกจิ้งจอกสังคมหลอกลวงเอาไปจน หมดตัว แต่ก็ยังไม่เห็นมีใครจัดการกับกากเดนสังคมเหล่านี้ได้ มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น และเห็นชูคอกันอยู่แถวท่ารถ บขส. ทั้งใน กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งดูเป็นแดนอันตราย หาคนที่เป็นมิตร บริสุทธิ์ใจยากเต็มที มีแต่คอยจ้องจะเอาเปรียบ และหลอกต้มตุ๋น คนอื่น สร้างความเดือนร้อนให้แก่สุจริตชนทั่วไป พฤติกรรมในการก่อการอาชญากรรมนั้นมีมากมาย มี การที่ประชาชนวางเฉย ไม่กระตือรือร้นที่จะเข้าไปช่วย ทั้งเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว เช่น นายโกวิท คนขับรถแท็กซี่มิเตอร์ เหลือผู้ที่ถูกท�ำร้ายในขณะแย่งชิงทรัพย์ หรือก�ำลังลักทรัพย์ตาม พาผู ้ โ ดยสารสาวไปข่ ม ขื น หลายคน โดยหลอกว่ า ตนเป็นหมอ บ้านเรือน ตลอดจนฉุดคร่าหญิงสาวเพื่ออนาจาร ข่มขืน และอื่นๆ ไสยศาสตร์ สามารถสะเดาะเคราะห์และท�ำเสน่ห์ได้ คนที่หลง ก่อนอื่นต้องโทษภาวะของคนในสังคม ที่ก�ำลังปิดแคบ งมงายมักจะได้รับความเดือนร้อน หรืออย่าง นายเล็ก คนขับแท็กซี่เช่นกัน ล่าเหยื่อที่เป็น เข้าไปทุกขณะ ความผูกพันของคนในสังคมมีเหลือน้อยเต็มที แม้แต่คนในครอบครัวเดียวกัน ส�ำหรับผู้ที่มีความผูกพันกันเป็น หญิงสาวด้วยการมอมยา ข่มขืนแล้วถ่ายภาพเปลือยเอาไว้แบล็ค เมย์ การโดยสารรถแท็กซี่ของหญิงสาวที่ไปคนเดียวนั้นอันตราย กรณีพิเศษ ก็เฉพาะคนในกลุ่มที่มีผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้น สังคมที่ไม่มีใครรับผิดชอบ แม้แต่เด็กหญิง หญิงสาวและ มาก โดยเฉพาะหน้าฝน เหยี่ยวเที่ยวราตรี ตระเวนขับแท็กซี่หาเหยื่อที่เป็นหญิง ไม่สาวที่ถูกพวกเศรษฐีและทรชนคนชั่วหลอกลวงมาข่มขืนแล้วส่ง สาวและไม่สาวที่ไปเที่ยวตามผับ โดยเฉพาะแถวย่านอาร์ซีเอ แทนที่จะพาไปส่งบ้านกลับพาไปข่มขืนแทน เพราหญิงสาวที่ออก มาจากผับ และคาราโอเกะแตะละอนงค์นั้น งอมจนหลุดจากขั้ว แล้ว ปีอะเมซิ่งไทยแลนด์ที่ท�ำให้ประเทศไทยขายหน้ามาก ที่สุด เมื่อวันที่ ๘ เม.ย. ๔๑ โดยมี น.ส. จาง อี้ ฉี อายุ ๒๓ ปี เป็น ชาวไต้หวัน ได้ตัดสินใจเดินทางมาครองคู่กับหนุ่มไทยที่จังหวัด หนองคาย ได้ เ หมารถแท็ ก ซี่ จ ากสถานขนส่ ง หมอชิ ต ๒ ย่าน สวนจตุจักร เดินทางไปยัง อ. บุ่งคล้า จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็น บ้านของนายนิรันดร์ สนองผล แฟนหนุ่ม ในราคา ๕,๕๐๐ บาท
ครอบครัวพอเพียง : 49
แทนที่ จ ะได้ รั บ การต้ อ นรั บ อย่ า งอบอุ ่ น ได้ รั บ ความ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จากคนในแผ่นดินสยามเมืองยิ้ม กลับเจอภัยแท็กซี่ โจรพาไปปล้นลอกคราบ แล้วพาไปปล่อยทิ้งไว้ที่จังหวัดชัยภูมิ จน ขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า อะเมซิ่ ง ไทยแลนด์ ยั ง ขายหน้ า ต่ อ ไปเมื่ อ วั น ที่ ๒๙ ก.พ. ๔๓ โชเฟอร์แท็กซี่ร่วมกับไกด์ผี รับผู้โดยสารจากสนาม บินดอนเมืองชื่อ นายปีเตอร์ อลาน อายุ ๔๒ ปี เป็นช่างภาพ นิตยสารชาวอังกฤษ หลังลงจากเครื่องบินและจะไปหาเพื่อนที่ จ.ปทุมธานี เจ้าถิ่นทั้งสอง วางแผนลวงไปจี้ชิงทรัพย์และยิงจน ได้รับบาดเจ็บสาหัส สังคมไทยกลายเป็นสังคมเสื่อมทราม เป็นสังคมที่ไม่มี การสร้างสรรค์ ไม่มีความส�ำนึกรับผิดชอบชั่วดี เป็นสังคมที่มีแต่ การท�ำลายความถูกต้องชอบธรรม ความเป็นคนที่มีคุณธรรม และ จริยธรรม ได้หายไปจากสังคมไทยจนเกือบหมดสิ้นแล้ว เราจะ เรียกคุณธรรมเหล่านี้คืนมาได้อย่างไร ภัยที่เกิดจากการประทุษร้ายร่างกาย และการลักทรัพย์ ท� ำ ให้ ค วามไม่ ป ลอดภั ย ในชี วิ ต และทรั พ ์ สิ น เพิ่ ม มากขึ้ น ทุ ก ลม หายใจ สังคมปัจจุบันต้องพยายามพึ่งตัวเองให้มากที่สุดและอย่า ประมาท แม้แต่ภัยบนท้องถนนที่เกิดจากรถติด รถเสีย ยังถูก คนร้ายฆ่า หรือจี้เอาไปปลดทรัพย์และข่มขืน คนร้ายก็คนธรรมดา รู้จักกลัวตายเป็นเหมือนกัน ถ้า เรามีคนกล้าออกมาช่วยเหลือกันมากๆ ช่วยกันสกัดจับ ช่วยกัน
50 : ครอบครัวพอเพียง
ชี้เบาะแสความเป็นมาและแหล่งหลบซ่อนตัวของคนร้าย รวมไป ถึงกลุ่มที่อาชญากรท�ำลายชาติ และอาชญากรข้ามชาติ หรือผู้ที่ สนับสนุนช่วยส่งเสริมให้มีการค้ายาเสพติด เมื่อพวกเราช่วยกันปิด ช่องว่างระหว่างนายทุนกับผู้ร่วมสนับสนุน คนร้ายก็จะไม่สามารถ ขยายอิทธิพลสร้างปัญหาและท�ำร้ายประชาชนได้อีกต่อไป กระทรวงมหาดไทย นักกฎหมาย และนักวิชาการควร หาเวลามาพิจารณาแก้ไขปัญหาข้อกฎหมายทีอ่ อกมาใช้บงั คับและ ควบคุมคนในสังคม เกี่ยวกับการใช้อาวุธของสุจริตชนและพลเมือง ดีที่ฆ่าคนร้ายตาย หรือคนร้ายขณะก�ำลังจี้ชิงทรัพย์และโจรกรรม ทรัพย์หนีมา เมื่อพลเมืองดีประสบเหตุและใช้อาวุธฆ่าคนร้ายตาย การที่เจ้าของบ้านและพลเมืองดีที่ช่วยเหลือสังคมฆ่า คนตาย แทนที่จะได้รับค�ำชมเชย ได้รับของขวัญ และให้ก�ำลังใจ แต่กลับได้รับผลตอบแทนด้วยการตั้งข้อกล่าวหาว่า “ฆ่าคนตาย” หรือ “ท�ำเกินกว่าเหตุ” กว่าจะได้พิสูจน์
ว่า ได้กระท�ำไปเพื่อปกป้องทรัพย์สินของตนเอง หรือ ท�ำไปเพราะต้องการช่วยเหลือสังคม ก็ต้องเสียอิสรภาพและเสีย เวลาไปกับสิ่งที่ไม่ควรจะเสีย ถ้าไปเจอเจ้าหน้าที่เล่นนอกบทดึง เกมยาว โดยที่ไม่มีผู้ใหญ่คนไหนออกมารับผิดชอบ ก็คงจะเข็ดไป จนตาย และไม่ยอมท�ำตัวเป็นพลเมืองดีช่วยเหลือสังคมอีกต่อไป ความจริงควรเปิดโอกาสให้สุจริตชนพลเมืองดี ได้เข้ามา มีส่วนร่วมช่วยเหลือสังคมอย่างแท้จริงและเปิดเผย จะได้ช่วยกัน ขจัดพวกอาชญากรที่เป็นขยะสังคม ที่กำ� ลังเป็นภัยร้ายแรงคุกคาม ประชาชนที่เป็นสุจริตชนอยู่ในขณะนี้ ถ้าจะอาศัยเจ้าหน้าที่ต�ำรวจ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ก็มักจะได้ยินว่า “เจ้าหน้าที่มีไม่ เพียงพอหรือไม่มีงบประมาณ” ดูเหมือนเกือบจะทุกหน่อยงานของรัฐที่ชอบพูดเล่นลิ้น เช่นนี้เป็นค�ำพูดที่ชอบพูดปัดไปให้พ้นตัวทุกยุคทุกสมัย โดยไม่นับ ผิดชอบในหน้าที่ ปล่อยให้เป็นภาระของคนอื่น แล้วคนที่ไปคุม บ่อน ไปเดินเก็บหวย และเงินส่วยให้เจ้านาย หรือพวกแม่เนื้อ อ่อน ที่เอาเวลาราชการไปเดินช๊อปปิ้ง ไปทานอาหารแล้วเลยไป ส�ำราญกับหัวหน้า ใกล้เวลางานจะเลิกจึงเดินทางกลับ คนเหล่านี้ เป็นพวกส่วนเกินของหน่วยงานในสังกัดหรือเปล่า หรือคนพวกนี้ กินเงินเดือนส่วนตัว
ถ้ามีปัญหาเรื่องก�ำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจริงๆ ท�ำไม ท่านไม่วางโครงงานเสนองบประมาณพร้อมเหตุผล หรือหาแนว ร่วมมาช่วยงาน เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาในการขจัดคนเลวๆ ที่เป็น ภัยสังคมในขณะนี้ และก�ำลังเหิมเกริมแผ่อิทธิพลเพิ่มมากขึ้นทุก วัน โดยยืมมือประชาชนคนทั่วไปช่วยท่านอีกแรงหนึ่งด้วย จะ ตั้งรางัลในการประกอบความดี ที่แจ้งเบาะแสของคนร้าย ช่วย ขัดขวาง หรือช่วยจับกุมคนร้ายส่งให้เจ้าหน้าที่ต�ำรวจ และอื่นๆ วิธีเชยๆ แบบนี้ ท่านอาจจะแย้งว่าวิธีนี้เคยท�ำมาแล้ว โดยขอร้องประชาชนให้ช่วยเป็นหูเป็นตา มีตู้ ปณ. คอยรับแจ้ง ความร้องทุกข์และให้ช่วยแจ้งเบาะแสของคนร้าย แต่ไม่มีผล ประชาชนไม่ให้ความสนใจและให้ความร่วมมือ นั่นมันของหลอก เด็ก เขาเลิกใช้กันไปนานแล้ว ปั ญ หามั นอยู่ที่ว่า ท่านท�ำตัวเป็นมิตรกับประชาชน แค่ไหน เมื่อเขาชี้ช่องทาง และแจ้งเบาะแสให้ท่านทราบ ท่าน ติดตามหรือไปดูที่เกิดเหตุตามที่เขาแจ้งมาหรือเปล่า ท่านให้ความ ยุติธรรม และท�ำตัวเป็นกันเองกับเขาแค่ไหน แบบใช้ปาก “ไปเอา หลักฐานมา” หรือแบบใช้กระบวนท่าของพวกท่าน แต่อย่าไปอิจฉาเขาก็แล้วกัน เขาท�ำดีก็ควรยกย่อง และ
เมื่อมีหลักประกันที่แน่นอนเป็นลายลักษณ์อักษร เชื่อแน่ว่าทุกคน คงอยากท�ำตัวเป็นพลเมืองดี แม้แต่ตัวเองจะตายก็ยอมเสียสละ อย่างกรณีของนายช�ำนาญ ลอระพงษ์ สามล้อพลเมือง ดีที่จับโจรชิงสร้อยแม่ค้า จนถูกนายสันภพ ศิริเจริญชัยวัฒน์ และ นาย ธรรมนูญ เสรีโรจน์ สองวายร้ายชิงสร้อยแทงตาย ทิ้งเมียและ ลูกชายวัย ๘ ขวบและลูกสาววัย ๕ ขวบไว้ข้างหลัง “ถ้าเราไม่มี กฎหมาย หรือสวัสดิการสังคมที่เป็นรูปธรรม มารองรับเป็นหลัก ประกันที่แน่นอน” ครอบครัวของนายช�ำนาญ ลอระพงษ์ และ อื่นๆ ถ้ามีใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ในทางตรงกันข้าม ถ้าท�ำตัวเป็นพลเมืองดี อย่างนายสม พงษ์ เลือดทหาร “แท็กซี่คนซื่อ” ที่หลอกลวงฉ้อโกงประชาชนว่า เก็บเงินได้ ๕ ล้านบาท ที่ผู้โดยสารชาวต่างชาติลืมไว้ในรถแท็กซี่ และแจ้งให้สื่อมวลชนทราบว่า ได้น� ำไปคืนให้เจ้าของชาวต่าง ประเทศ ซึ่งก�ำลังจะเดินทางกลับที่สนามบินดอนเมืองแล้ว จนพา กันสดุดี และมอบเงินให้เป็นก�ำลังใจกันยกใหญ่ ซึ่งเป็นพฤติกรรม ที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม
มอบรางวัลเพื่อให้เป็นก�ำลังใจแก่เขา อย่าไปแย่งความดีเขา หรือ กีดกันว่าเขาไม่มีอ�ำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเหมือนท่าน บางคน ที่เขาให้ข้อมูลหรือแจ้งเบาะแสของคนร้าย ก็อย่าไปซักถามเขา แบบข่มขู่ เหมือนกับเขาตกเป็นผู้ต้องหาเสียเอง แล้วใครเขาจะ ให้ความร่วมมือช่วยเหลือด้วยหวังดีและตั้งใจจะช่วยเหลือสังคม ส่วนรวม แต่ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยและกลายเป็นศัตรูกับคนร้าย แล้วใครจะรับผิดชอบ อย่าลืมว่าสายของท่าน ถ้าประชาชนไม่ให้ ความร่วมมือด้วย จะมีอะไรติดมือมาให้ท่าน ทั้ ง หมดดั ง ที่ ไ ด้ ก ล่ า ว กระทรวงมหาดไทย และผู ้ ที่ เกี่ยวข้องต้องกระท�ำอย่างสุจริตใจและเปิดเผยต้องระบุออกมา ให้เป็นข้อก�ำหนดหรือกฎหมาย หรือในรูปแบบสวัสดิการสังคม ให้มีผลในทางปฏิบัติ “ถ้าเขาได้รับบาดเจ็บหรือตายไปในขณะที่ กระท�ำตัวเป็นพลเมืองดีจะได้รับผลตอบแทนอย่างไร พ่อแม่ ลูก เมียของเขาจะได่รับอุปการะและสิ่งตอบแทนในรูปแบบไหน”
ครอบครัวพอเพียง : 51
บทเรียนการขับเคลื่อน เกษตรกรรมยั่งยืน
เครื อ ข่ า ยเกษตรกรรมทางเลื อ กได้ ด� ำ เนิ น งานด้ า น การส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืนมาตั้งแต่ปลาย ทศวรรษ ๒๕๒๐ เพื่อให้เกษตรกรด�ำเนินการผลิตทางการเกษตร หนึ่ ง เรื่ อ งความคิ ด นามธรรม การมองทิ ศ ทางของ และมีวิถีการด�ำเนินชีวิตที่เอื้อ อ�ำนวยต่อการอนุรักษ์และฟื้นฟู สภาพแวดล้อม ได้รับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่เป็นธรรม อยู่ เกษตรกรรมยั่งยืนต้องวางความคิดเก่าให้หมด แม้แต่เรื่องปุ๋ย ในสังคมที่เท่าเทียม ซึ่งไม่ได้จ�ำกัดเฉพาะเกษตรกร หากยังหมาย เคมีต้องเอาออก เพราะเรื่องเทคนิคการท�ำเกษตรโดยไม่ใช้สาร รวมถึงผู้บริโภคด้วยอย่างส�ำคัญ การด�ำเนินกิจกรรมของเครือ เคมีนั้นเป็นไปได้จริงพิสูจน์กันไม่ยาก แต่เรื่องปุ๋ยเคมีกลับเถียง ข่ายเกษตรกรรมทางเลือกที่ผ่านมาสามารถช่วยให้ เกษตรกร จ�ำนวนมากปรับเปลี่ยนระบบการผลิตสู่ระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งนอกจากส่งผลให้เกษตรกรหลุดพ้นจากสภาวะหนี้สิน ยังช่วย ให้เกษตรกรมีสภาวะจิตใจและอารมณ์ดีขึ้น สภาพแวดล้อมได้รับ การอนุรักษ์ฟื้นฟู รวมทั้งก่อให้เกิดกลุ่มและเครือข่ายเกษตรกรรม ยั่งยืนจ�ำนวนมากในทั่วทุกภาค ของประเทศ ซึ่งเป็นก�ำลังส�ำคัญใน การผลักดันสังคมไทยโดยรวมไปสู่สภาวะที่พึงประสงค์
การขับเคลื่อนงานเกษตรกรรม ยั่งยืน สิ่งส�ำคัญคือ
52 : ครอบครัวพอเพียง
กันไม่ตก และเรื่องปุ๋ยเคมีมันก็โยงไปกับเรื่องจีเอ็มโอ สิ่งที่เรามา คุยกันจึงเป็นเรื่องยาก สอง เรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงในทางปฏิบัติ ให้เป็นจริง ที่เป็นทั้งการปฏิบัติ เศรษฐกิจ ศีลธรรม และปัญญา เป็นเรื่องนามธรรมมากตั้งแต่ค�ำว่าพอประมาณคืออะไร การมี เหตุผลคืออะไร การมีภูมิคุ้มกันคืออะไร การแปรความหมาย ให้เป็นไปในทางปฏิบัติมันยาก และต้องอยู่ภายใต้กรอบความรู้ และคุณธรรม ดังนั้นภายใต้เศรษฐกิจพอเพียงที่ในหลวงเมตตา ให้รูปธรรมของเกษตรทฤษฎีใหม่ ระดับแรกคือท�ำให้พออยู่พอ กิน ระดับสอง เหลือขายก็ขายในท้องถิ่นก่อน ระดับสาม ถ้ามัน เหลือก็ร่วมมือกันในรูปสหกรณ์แล้วส่งออกขาย นี่คือรูปธรรม กระบวนทัศน์ จะช่วยให้โลกได้รอดต้องเปลี่ยนที่กระบวนทัศน์ ตัวอย่าง แต่ค�ำถามคือว่ากระทรวงเกษตรได้แปรเศรษฐกิจพอ เพราะถ้ามันล่มก็ล่มไปด้วยกัน ถ้าเราจะท�ำให้ไม่ให้มันล่มจึงเป็น เพียงเป็นนโยบายหรือยัง เรื่องยาก
โลกภายนอกกว้างไกล ใครๆ รู้ โลกภายในลึกซึ้งอยู่ รู้บ้างไหม จะมองโลกภายนอก มองออกไป จะมองโลกภายใน ให้มองตน...
สาม เรื่องการเปลี่ยนกระบวนทัศน์เป็นเรื่องใหญ่ เพราะ เกษตรกรถูกล้างสมองไปแล้ว ไม่รู้ตัวด้วยซ�้ำว่าตัวเองถูกเปลี่ยน กระบวนทัศน์ไปแล้ว การจะใส่ความคิดอะไรเข้าไปก็ดีดออก หมด ดังนั้น เราต้องพาเกษตรกรมาเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ มา แลกเปลี่ยนในกลุ่มวิเคราะห์กันเอง ทดลองท�ำกันเอง ท�ำเป็นกลุ่ม ทุกขั้นตอนท�ำเอง สุดท้ายกระบวนทัศน์ก็เปลี่ยน กระบวนการ กลุ่มมีกลังเข้มเข็งและมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง เมื่อกลุ่มเปลี่ยน เราก็เปลี่ยน กระบวนการกลุ่มกับกระบวนการเรียนรู้เป็นปัจจัย ให้เกิดการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ได้ แต่มันยากและใช้เวลามาก การเปลี่ยนคนให้ท�ำเกษตรยั่งยืนนี่ยากที่สุด เพราะต้องเปลี่ยน ที่กระบวนทัศน์เปลี่ยนวิธีคิด แต่ต้องท�ำ พอเราท�ำเกษตรกรรม ยั่งยืนมามากก็จะพบว่าเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกคือปัญหาเรื่อง
ครอบครัวพอเพียง : 53
ความกตัญญู
ครอบครัวพอเพียง ขอส่งเสริม “ความกตัญญู” ในสังคมไทย ที่งดงามและเป็นสิ่งที่ส�ำคัญยิ่งของ “ครอบครัว”
สายตรง กรมสงเสริมการสงออก
54 : ครอบครัวพอเพียง
1169
burn หมายความว่าอย่างไร สวัสดีครับคุณ Andrew ผมท�ำงาน เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และติดต่อกับเพื่อน ร่วมงานที่เป็นต่างชาติ วันหนึ่ง ผมขอให้เขาส่ง Software มาให้ เขาส่ง e-mail มาบอกว่า “OK I will burn it for you” ผม เดาว่าความหมายคือ “ได้ แล้วฉันจะ copy ให้ (ลงแผ่นหรือ write CD)” ไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้วหมายความว่าอย่างไร โปรด ชี้แนะด้วยครับ Nui คุณหนุ่ยเดาถูกครับ ในภาษาคอมพิวเตอร์กริยา to burn หมายความว่า อัดหรือลงข้อมูลบนแผ่น CD ครับโดยใช้ เครื่อง CD Writer เช่น Yesterday I burnt a couple of MP3 songs onto a CD to listen to on my car stereo. (เมื่อวานผมอัดเพลง ประเภท MP3 ลงใส่ CD เพื่อฟังในเครื่องเล่น CD ในรถ) คงใช้กริยา to record แทนได้โดยไม่เสียความหมาย แต่ burn ใช้เฉพาะกับแผ่น CD ครับ พูดถึงภาษาคอมพิวเตอร์แล้วขออนุญาติถือโอกาสแก้ ข้อผิดพลาดที่ผมได้ยินคนไทยใช้บ่อยคือ เวลาจะแปลวลี เล่น อินเตอร์เนต นั้นคนไทยมักจะพูดว่า play the internet ซึ่งไม่ ถูกครับ ใช้กริยา to surf ครับ เช่น Krissana surfs the internet for hours every night looking for rude websites. (ทุก ๆ คืนกฤษณะเล่นอินเตอร์ เนตเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อค้นหาเวบไซท์ลามก)
Bang! คืออะไร สวัสดีครับคุณแอนดรูว์ ผมเปิด cnn.com และอ่านพาดหัวข่าวที่ว่า Olympics end with bang, bust. ความหมายของ bang, bust คืออะไร ครับ Take care, Sart สวัสดีครับคุณศาสตร์ bang เป็นเสียงของระเบิดหรือ ปืนในภาษาอังกฤษเช่น There was a loud bang outside our office this morning. (เมื่อเช้านี้มีเสียง ระเบิดข้างนอกออฟฟิศเรา) จากความหมายนี้เราได้ส�ำนวน to end with a bang หมายถึงจบงานด้วยความคึกคัก ความตื่นเต้น สีสัน สนุกสนาน ท�ำให้เราคิดว่างานนั้นปิดด้วยงานบนเวทีที่ใหญ่โต Monsit Khamsoi’s concert ended with a bang when Arpaporn Nakhon Sawan joined him for a duet. (คอนเสิร์ตของ มนต์สิทธิ์ ค�ำสร้อย จบด้วยความคึกคักดีเมื่ออาภา พร นครสวรรค์ ขึ้นเวทีมาร้องเพลงคู่กับเขา) ดังนั้น Olympics end with a bang แปลว่า กีฬา โอลิมปิกจบด้วยงานใหญ่ คงมีการเต้น ดอกไม้เพลิง การร้อง เพลง แสงไฟ ฯลฯ ในทางกลั บ กั น อะไรที่ bust ให้ ค วามหมายว่ า สิ่ ง นั้ น เจ๊ ง ไม่ ป ระสบความส� ำ เร็ จ ผมเองไม่ ไ ด้ อ ่ า นบทความที่ คุณพูดถึงแต่พาดหัวข่าวที่คุณพูดถึงนั้นน่าจะให้ความหมายว่า กีฬา โอลิมปิกส์จบด้วยทั้งสิ่งที่ดีกับสิ่งที่ไม่ดี อาจจะมีข้อถกเถียง กันเกี่ยวกับผลการเล่นกีฬา เป็นต้น
ครอบครัวพอเพียง : 55
เขมสรณ์ หนูขาว
หมั่นศึกษาหาความรู้...เพื่ออนาคตที่ยาวไกล อดีตดาราดังที่เคยโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาหลาย ปี แ ละเดี๋ ย วนี้ เ ธอผั น ตั ว เองมาเป็ น ผู ้ ป ระกาศข่ า วให้ กั บ สถานี โทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง ๕ อย่างเต็มตัว วางมือจากวงการบันเทิง โดยเด็ดขาดและเธอก็ทำ� ได้ดีอย่างไม่มีที่ติกับรายการข่าวการเมือง ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...มิลค์...เขมสรณ์ หนูขาว ดาราสาวสวยระดับ นางเอกแถวหน้าในอดีตนั่นเอง กับการพลิกผันตัวเองจากการเป็นนักแสดงที่ก�ำลังมี อนาคตที่สดใสในยามนั้น มิลค์ ตัดสินใจอย่างไรที่อ�ำลาวงการไป อย่างเงียบๆ เพื่อมุ่งหน้ากับการศึกษาหาความรู้ใส่ตัวเพราะการ ศึกษาที่ซื้ออนาคตที่ยาวไกล ส่วนการแสดงที่เธอไม่คิดยึดเป็น อาชีพนั้นเธอให้เหตุผลว่า งานแสดงเป็นงานที่ไม่มั่นคงเท่าที่ควร เพราะเดี๋ยวนี้ดารารุ่นใหม่ๆที่เกิดขึ้นมากมายเพราะฉะนั้น เธอขอ เรียนหนังสือต่อดีกว่า งั้นเรามาย้อนรอยในอดีตของดาราสาวให้ แฟนๆได้ทราบทั่วกันว่ากว่าเธอจะก้าวมาเป็นผู้ประกาศข่าวทาง ช่อง ๕ ในทุกวันนี้ได้โดยไม่มีเส้นสายหรือการที่เคยเป็นดาราที่ ถือว่าเป็นใบเบิกทางนั้นไม่ใช่เลย แต่เป็นเพราะอะไรเรามาลอง 56 : ครอบครัวพอเพียง
ติดตามเรื่องราวในชีวิตของเธอคนนี้ ....มิลค์-เขมสรณ์ หนูขาว กันเลยดีกว่านะคะ “มิ ล ค์ เ กิ ด ที่ ก รุ ง เทพฯค่ ะ แต่ คุ ณ พ่ อ สวั ส ดิ์ และ คุ ณ แม่ มาเรี ย ม หนู ข าว ท่ า ยเป็ น คนปั ก ษ์ ใ ต้ ทั้ ง คู ่ คื อ จั ง หวั ด นครศรีธรรมราช ท่านมาเรียนระดับมหาวิทยาลัยแล้วมาเจอกัน กันหลังจากนั้นท่านก็แต่งงานกัน มิลค์เลยเกิดที่กรุงเทพฯ มีพี่ น้อง ๓ คน มิลค์เป็นคนโต มีน้องสาวคนกลางและน้องชายคน เล็ก คุณพ่อมิลค์เป็นทนายความ ส่วนคุณแม่ท�ำธุรกิจส่วนตัว คือ ท�ำอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า นั่นคืออาชีพหลักของครอบครัวซึ่งเราก็ อยู่กันอย่างมีความสุขค่ะ มิลค์ทานอาหารใต้เป็น แต่พูดไม่เป็น ฟังรู้เรื่องค่ะเพราะคุณพ่อคุณแม่และญาติๆเขาพูดกันมันเลยฝัง เข้าไปในสมอง การศึกษา มิลค์เริ่มต้นเรียนตั้งแต่อนุบาลจนจบม. ๖ ที่โรงเรียนปานะพันธ์ ลาดพร้าวนี่เอง เพราะบ้านมิลค์อยู่แถว พญาไท แต่เดี๋ยวนี้โรงเรียนยุบไปแล้ว ตรงนั้นเลยกลายเป็นห้าง คาร์ฟูร์ไปแล้วเสียดายเหมือนกันค่ะ
ในขณะที่มิลค์เรียนอยู่ชั้นระดับประถม มิลค์ก็มีโอกาส ได้ถ่ายโฆษณา จ�ำได้ว่าตอนนั้นอายุเพียง ๑๒-๑๓ เท่านั้น คือ เพื่อนคุณแม่เขาท�ำโมเดลลิ่ง เขาก็มาชวนให้ไปเทสต์งานโฆษณา ปรากฏว่าผ่านฉลุย เพราะมิลค์เองก็ชอบในเรื่องการร้องร� ำท�ำ เพลงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โรงเรียนมีงานทีไร มิลค์มักจะได้รับการ คัดเลือกให้ไปร่วมร้องร�ำท�ำกิจกรรมของโรงเรียนเป็นประจ�ำจึง ไม่ยากที่มิลค์จะได้งานโฆษณาเพราะเรากล้าแสดงออกมาตั้งแต่ เด็กๆ แล้ว ส�ำหรับงานโฆษณา เช่นโฆษณาไอศครีม ลูกอม ขนม เด็ก อะไรประมาณนั้น จ�ำได้เลยว่างานชิ้นแรกมิลค์ได้ถ่ายโฆษณา ห้าพันบาท ดีใจมากเลย เพราะเราไม่เคยถือเงินเยอะขนาดนั้นมา ก่อน มันเป็นความภูมิใจของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนะเพราะเรายังเด็ก มาก เมื่อมีโอกาสท�ำงานได้เงินก็ดีใจค่ะ ส่วนคุณแม่เลยจัดการเอา เงินเข้าธนาคารให้เป็นส่วนตัวที่มิลค์ท�ำงานได้ มิลค์ถ่ายโฆษณา อยู่เป็นปีเลยนะ พอมิลค์อายุ ๑๓ ทางแอ็กแซ็กท์เขาเห็นมิลค์ในการ ถ่ายโฆษณา เขาติดต่อให้มิลค์มาเล่นละครเรื่องเคหาสน์ดาว ซึ่ง ออกทางช่อง ๕ ถือว่าเป็นงานละครเรื่องแรกที่ มิลค์โดนรับบท เป็นน้องสาวพี่นุสบา วานชอังกูร โดยมีพี่แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง เป็นพระเอก กับทางชอง ๗ มิลค์เคยเล่นของกันตนาเหมือนกัน เป็น เพราะมิลค์ไม่ได้เซ็นสัญญากับทางช่องไหนเป็นกิจลักษณะเลยเล่น ได้ทุกช่อง เล่นสลับกันไปช่องโน้นบ้าง ช่องนี้บ้าง ของกันตนาเล่น เรื่อง ไม้ดัด แต่ส่วนใหญ่จะเล่นให้กับทางช่อง ๓ เป็นหลัก ละคร อาจิ๋ม-มยุรฉัตร พี่ไก่-วรายุทธ แล้วก็ของอาร์เอส ซึ่งตอนนั้นพี่ แดงซ่าส์เขายังไม่เสียชีวติ เขาจะเรียกให้มาเล่นละครเขาเป็นประจ�ำ
เล่นบ่อยมากค่ะ พอมิ ล ค์ อ ายุ ไ ด้ ๑๕ มิ ล ค์ มี โ อกาสได้ เ ล่ น หนั ง เรื่ อ ง เสียดาย ของท่ายมุ้ย-หม่อนเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ภาคแรก และ ตอนที่มิลค์เรียนที่มหาวิทยาลัยคือ ม.กรุงเทพฯ มิลค์ก็ยังเล่น ละครอยู่เลยค่ะพอจบปริญญาตรีคือมิลค์เรียนกฎหมาย คณะ นิติศาสตร์เพราะชอบเรื่องกฎหมายเดินตามรอยคุณพ่อค่ะตอน นั้นที่จบมหาวิทยาลัยอายุ ๒๔ เรื่องงานแสดงมิลค์มีความคิดว่าเราควรจะเรียนต่อพอดี เพื่อนที่เรียนอยู่ที่ปานะพันธ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันกับเขาเรียนจบ พอดีเขาเป็นคนอังกฤษ ถือพาสปอร์ตอังกฤษเขาก็ชวนให้ไปเรียน ต่อที่ประทศอังกฤษ โดยให้ไปอยู่กับเขาที่บ้านเขา จะว่าไปงาน แสดงก็ดีนะมีงานอยู่เรื่อยๆ ไม่ขาดมือแต่มิลค์คิดถึงอนาคต อยาก เรียนหนังสือมากกว่า เลยขอคุณพ่อคุณแม่ไปเรียนต่อที่ประเทศ อังกฤษเพราะเรามีเพื่อนสนิทและมีที่อยู่ที่แน่นอนอยู่แล้ว อีก อย่างคุณพ่อคุณแม่ก็รู้จักเพื่อนสนิทคนนี้เป็นอย่างดีท่านเลยให้ ไป มิลค์เลยเคลียร์งานแสดงให้หมดแล้วบินไปเรียนต่อปริญญา
ตอนแรกที่เข้ามามิลค์บอกแล้วว่า มิลค์อยากเป็นนักการเมือง ตั้งแต่ มิลค์ได้เข้ามาท�ำงานสายนี้ บอกตรงๆ เลยว่ามิลค์เบื่อมาก ไม่ อยากเป็นนักการเมืองแล้ว แต่อยาก ท�ำข่าวมากกว่า
ครอบครัวพอเพียง : 57
โทที่ประเทศอังกฤษทันที มิลค์เข้าเรียนปริญญาโทสาขากฎหมายระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน เมโทรโปลิเทน ประเทศอังกฤษ เรียนอยู่ ๓ ปีก็จบค่ะ การเรียนกฎหมายระหว่างปะเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยแต่มิลค์คิดว่าเมื่อเราตั้งใจมาเรียนตรงนี้แล้วก็ต้องเรียนให้จบ อยากให้คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจ และคิดว่ามิลค์ไม่ได้เหลวไหลตาม เพื่อนอะไรประมาณนั้นก็เลยมุมานะเรียนจนจบแล้วบินกลับมา เมืองไทยเพื่อหางานท�ำต่อไปค่ะ พอกลั บ มาเมื อ งไทยก็ อ ยากอ่ า นข่ า ว อยากเป็ น ผู ้ ประกาศข่าวก็เลยตัดสินใจออกหางานเองโดยเดินเข้าไปสมัคร ด้ ว ยตั ว เองทุ ก ช่ อ งเลยค่ ะ เพราะการกลั บ มาคราวนี้ มิ ล ค์ ไ ม่ มี ความคิดที่จะกลับมาเล่นละครหรือท� ำงานในวงการบันเทิงอีก เลย เพราะคิดเอาไว้ว่าถ้ากลับมาก็จะไม่เล่นแล้วคือ อยากท� ำ อะไรตามใจตัวเองบ้าง ตอนแรกเลยมิ ล ค์ อ ยากเล่ น การเมื อ ง อยากท� ำ งาน ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชน หรือท�ำงานเกี่ยวกับองค์กรระหว่าง ประเทศเพราะก�ำลังร้อนวิชาอะไรประมาณนั้น อยากท�ำงานที่ ตัวเองเรียนมาค่ะคือ กฎหมายระหว่างประเทศเพราะเราเรียน มาแนวนี้อยู่แล้ว
มิลค์ได้เป็นผู้สื่อข่าวด้วย ต้องออก ไปท�ำข่าวเองแล้วกลับมาเขียนข่าวเอง เพราะมิลค์สอบสายการเมืองก็ต้อง ไปท�ำข่าวการเมืองซึ่งมันเหนื่อยมาก เพราะต้องวิ่งตะลอนๆ ไปพรรคโน้นพรรคนี้บ้าง 58 : ครอบครัวพอเพียง
ระหว่างท�ำงาน มิลค์เกือบจะได้ท�ำงานที่กระทรวงการ คลังอยู่แล้ว ไปสมัครทิ้งไว้เขาก็เรียกตัวและรับมิลค์เป็นฝ่ายนิติกร เป็นนักกฎหมายของกรมบัญชีกลาง ก็เลยมีความคิดว่าถ้าเราไม่ ได้อ่านข่าวก็จะเข้ารับราชการท�ำงานเกี่ยวกับกฎหมายไปเลย แต่ สุดท้าย ทางทีเอ็นเอ็น เขาก็เรียกมิลค์เข้าไปเป็นผู้ประกาศข่าว ก็ ดีใจนะที่ได้ท�ำงานที่เราอยากท�ำและตั้งใจไว้ ก็อ่านข่าวที่ทีเอ็นเอ็น อยู่ประมาณ ๖ เดือนเต็มๆพอดีทางช่อง ๕ เขาก็เรียกตัวเข้าไป ก็ รอตั้ง ๖ เดือนเกือบจะหมดความหวังแล้วค่ะ มิลค์ได้เข้ามาท�ำงานที่ช่อง ๕ ซึ่งมิลค์ก็เดินเข้าไปสมัคร เหมือนคนทั่วไปคือเดินเข้าไปถามยามที่ประตูว่าเขาสมัครงานกัน ที่ตรงไหน คือ ตอนแรกเข้าไปสมัครที่เนชั่นก่อนเพราะอยากท�ำที่ นั่นมันได้ใช้ภาษาอังกฤษด้วย และอยากท�ำข่าวการเมือง ท�ำพวก ฮาร์ทนิวส์อะไรประมาณนั้น สมัครที่เนชั่น สมัครออนไลน์ไปและ เดินไปถึงออฟฟิศเลยไปยื่นใบสมัครด้วยตนเอง จากนั้นก็ไปสมัคร ที่ ไอทีวี ก็เดินเข้าไปเองเหมือนกัน ก็รออยู่นานมากยังไม่ได้สักที พอรอนานก็ไม่รู้จะท�ำยังไงก็เลยเดินเข้าไปคุยกับทีเอ็นเอ็น สถานี ข่าว ๒๔ ชั่วโมงของยูบีซี คือตอนนั้นเข้าไปคุยว่าอยากเป็นผู้ ประกาศข่าวที่ได้เข้าไปเพราะเพื่อนอีกคนเขาอยากท�ำข่าวบันเทิง เขาชวนเราไป เราเลยติดสอยห้อยตามเขาไปด้วย พอเข้าไปเขา ก็ยังไม่มีต�ำแหน่งว่างรับคน แต่ก็เข้าไปบอกเขาว่าอยากอ่านข่าว มาก จากนั้นก็มารองานที่บ้าน แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนเรียกมาสักราย ก็อย่างที่บอกว่าช่วงที่ช่อง ๕ เขาเรียกมิลค์มาท�ำงานที่ ช่อง ๕ เป็นช่วงเปลี่ยนถ่าย ผอ. พอดีก็ยังไม่ได้ท�ำทันทีค่ะ ต้อง เข้าไปสอบแข่งขันจากผู้เข้าสอบประมาณ ๑๐ กว่าคน เขาเลือก จากใบสมัครเยอะมากแล้วคัดเลือกออกมาสิบกว่าคนเพื่อมาสอบ แข่งขันอีกทีพอสอบได้ปุ๊บ คือตอนนั้นสอบได้เพียง ๓ คนเท่านั้น คือตัวมิลค์และอีก ๒ คน พอสอบได้ปุ๊บก็ต้องรออีกสักพักจนกว่า จะได้เข้าท�ำงาน ขบวนการค่อนข้างเยอะมาก เพราะเป็นช่วงที่ ก�ำลังเปลี่ยนถ่าย ผอ.พอดี และถือว่า มิลค์โชคดีมากที่พอมิลค์ เข้าท�ำงานก็ได้อ่านข่าวภาคค�่ำเลย อ่านข่าวจับประเด็นข่าว ๔ ทุ่มและอ่านข่าวยามเช้า ถามว่ามิลค์ล�ำบากใจมั๊ย บอกตรงๆว่าล�ำบากใจมาก เพราะมิลค์ได้เป็นผู้สื่อข่าวด้วย ต้องออกไปท�ำข่าวเองแล้วกลับ มาเขียนข่าวเอง เพราะมิลค์สอบสายการเมืองก็ต้องไปท�ำข่าว การเมืองซึ่งมันเหนื่อยมาก เพราะต้องวิ่งตะลอนๆไปพรรคโน้น พรรคนี้บ้าง ต้องออกไปเก็บข่าวเอง คือเป็นผู้สื่อข่าวด้วย อ่านข่าว ด้วยอะไรอย่างนี้ คือช่วงปีแรกเนี่ยทั้งทรมานทั้งเหนื่อยเลยทีเดียว พอท�ำงานได้สักปีหนึ่งก็เริ่มอยู่ตัว ช่วงปีแรกเนี่ยมิลค์ เหนื่อยมากเพราไม่มีเวลาพัก ทั้งโทรม ทั้งผอมเลยทีเดียวเพราะ ว่ามิลค์ต้องตื่นแต่เช้ามาท�ำรายการ พอไปท�ำข่าวข้างนอกด้วย อ่านข่าวค�่ำด้วย อ่านข่าว ๔ ทุ่มด้วย ไม่เหนื่อยได้ไงล่ะ แต่เพราะ ใจมิลค์ชอบไงเลยต้องท�ำให้ได้
ตอนแรกที่เข้ามามิลค์บอกแล้วว่ามิลค์อยากเป็นนักการ เมือง ตั้งแต่มิลค์ได้เข้ามาท�ำงานสายนี้ บอกตรงๆ เลยว่ามิลค์เบื่อ มาก ไม่อยากเป็นนักการเมืองแล้ว แต่อยากท�ำข่าวมากกว่า บอก ตรงๆ ว่ามิลค์เห็นการท�ำงานของนักการเมืองแล้วมิลค์ว่ามันไม่ ได้เหมาะกับตัวมิลค์เลย มันมีเรื่องสลับซับซ้อนมากมายหลาย อย่าง ซึ่งมิลค์รับไม่ได้แน่นอน แต่มิลค์มาท�ำสายข่าวการเมือง เราก็เริ่มรู้สึกสนุกกับมันแล้วเราก็ชอบ แล้วเราก็เพิ่งเริ่มต้น ๓ ปี ก็เหมือนเพิ่งเรียน ป.๑ ก็ถือว่าเราต้องพยายามเรียนรู้อะไรต่อมิ อะไรมากกว่านี้ค่ะ การมาท�ำข่าวการเมืองเราเองท�ำการบ้านเยอะมากคือ ข้อดีที่เราเป็นผู้สื่อข่าวด้วยเราต้องออกไปท�ำข่าวเอง เขียนข่าว เอง ได้เจอสถานที่จริง ได้มีโอกาสเข้าไปฟังการประชุมที่สภาไม่ ไว้วางใจ ไปสัมภาษณ์นายกฯอะไรอย่างนี้ ต้องติดตามนายกฯทั้ง วัน ตามขบวนนายกฯ คือเรามีโอกาสเห็นบรรยากาศการท�ำงาน ของฝ่ายการเมือง และเราก็เอาเวลาไปขลุกอยู่กับเขาพอเราไป ท�ำบ่อยเราก็จะมีแหล่งข่าว เราก็จะรู้ข่าววงในอะไรที่ค่อนข้าง เยอะ ก็ถือว่าเราโชคดีที่ทางช่อง ๕ ให้เราไปท�ำข่าวด้วยเราก็จะ ได้ข้อมูลจากตรงนั้นเยอะมาก ดีกว่าที่เรามานั่งอ่านแต่สคริปเฉยๆ อะไรอย่างนั้นก็เลยท�ำให้เรามีความรู้กว้างขวางขึ้นและต้องอ่าน หนังสือพิมพ์อย่างน้อยวันละ ๓-๔ ฉบับและเราต้องติดตามข่าว อยู่ตลอดเวลา เราต้องดูข่าวด้วย กับมุมมองของส่วนตัวเรื่องการเมือง คือมิลค์เองต้อง มองว่าการท�ำงานของแต่ละช่องเวลาน�ำเสนอข่าวมันต้องมีกรอบ พอสมควร อย่างช่อง ๕ เขาจะมีกรอบเยอะมาก บางทีเรื่องของ การเมืองเราไม่สามารถพูดได้เต็มที่เพราะว่าช่อง ๕ เป็นช่อง
ทหาร เป็นช่องของความมั่นคงมันก็เลยค่อนข้างจะมีกรอบใน การน�ำเสนอข่าว อย่ า งช่ ว งที่ มี ก ารชุ ม นุ ม จากม็ อ บเราก็ มี ข อบเขตใน การน�ำเสนออย่างเฉพาะการชุมนุม เช่นค�ำว่า กลุ่มคนเสื้อแดง เราจะไม่ให้ใช้ค�ำพูดนี้ออกไป แต่จะใช้ค�ำพูดว่า กลุ่ม นปช. และ โดยเฉพาะค�ำว่า สลายการชุมนุม จะห้ามใช้เด็ดขาด แต่จะใช้ ค�ำว่ากระชับพื้นที่และจะต้องเลือกค�ำพูดที่มันเหมาะสม ดูเป็น กลางไม่เอนเอียงอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่บั่นทอนความมั่นคง อะไรแบบนี้ค่ะ ตอนนี้มิลค์ก�ำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ที่ ม.รามค�ำแหง เป็นหลักสูตรนานาชาติเกี่ยวกับกฎหมายเรียนจบคอร์สเวิร์กไป หนึ่ง ก็จะมีอาจารย์บินมาจากต่างประเทศมาสอนเราเดือนละ วิชา ตอนเรียนนี้อยู่ในขั้นตอนท�ำดุษฎีนิพนธ์ค่ะ มิลค์ท�ำเรื่องเสื้อ แดงที่เราไปพบไปเห็น เลยอยากท�ำตรงนั้น เรื่องของการบังคับ ใช้กฎหมาย มีกฎหมายอะไรมาบังคับบ้าง มันเป็นยังไง องค์การ ระหว่างประเทศจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน หรือไปเปรียบเทียบ กับประเทศอื่นๆด้วย คิดว่าเรียนอีก ๓ ปี ก็จบแล้วค่ะ เพราะ คิดว่าจะต้องจบให้ได้ บางทีก็แอบท้อเหมือนกัน แต่พอคิดว่าเรา อยากมาทางนี้เราก็ต้องเรียนให้จบค่ะ” นั่นคือเรื่องราวของผู้ประกาศสาวคนสวยอดีตดาราดัง อย่าง มิลค์-เขมสรณ์ หนูขาว แขกรับเชิญ ของเราในฉบับนี้ค่ะ
การมาท�ำข่าวการเมืองเราเอง ท�ำการบ้านเยอะมากคือ ข้อดีที่เรา เป็นผู้สื่อข่าวด้วยเราต้องออกไปท�ำ ข่าวเอง เขียนข่าวเอง ได้เจอสถานที่ จริง ได้มีโอกาสเข้าไปฟังการประชุม ที่สภาไม่ไว้วางใจ ไปสัมภาษณ์ นายกฯ อะไรอย่างนี้ ครอบครัวพอเพียง : 59
ห่อหมกปลาช่อนใบยอ จากสถิติการเสียชีวิตมากที่สุดในเวลานี้คือโรค “มะเร็ง” มะเร็งหลากหลายชนิดที่มีคร่าชีวิต “ผู้ที่เป็นที่รัก” แม้เด็กแรกเกิด ก็เกิดมาพร้อมกับโรคมะเร็งก็มีในปัจจุบัน “มะเร็ง” จะบอกว่าเป็นยีนส์ชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกายของคนทุกคนก็ว่าได้ “มะเร็ง”อาศัย อยู่ในเซลล์เม็ดเลือดในร่างกายมนุษย์ทุกคน รอวันที่จะเจริญเติบโต หากวันใดที่เจ้าของร่างกายนั้นอ่อนแอ “มะเร็ง” จะเผยตัวและ หากเรายังส่งเสริมให้ “มะเร็ง” มีความแข็งแรงจากการรับประทาน “น�้ำตาล” และจาก “อาหารดิบ” บางประเภท และอีกหลาย ต่อหลายสิ่งที่จะท�ำให้ “มะเร็ง”แข็งแรงพร้อมที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ แล้วชีวิตก็จบลงแล้ว วิธีป้องกันก่อนที่จะเป็นจุดเริ่มต้นนะมีไหม ก็ต้องตอบว่า มี แล้วแต่คุณจะเลือก ใน ฉบับนี้ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่จะท�ำให้เราห่างไกลจาก “มะเร็ง” อาหารพื้นบ้านแสนอร่อยมื้อนี้ มีเรื่องราวหน้าสนใจอย่างไรลองอ่านดู เริ่มปรุงรสห่อหมกโดย การน�ำกระชายกับน�้ำพริกแกงโขลก ให้เข้ากันจนละเอียด เติมกะทิและเนื้อปลาช่อน ใส่ไข่ไก่ ปรุงรสด้วย น�้ำปลา คนให้ส่วนผสมให้เข้ากันดี ตักส่วนผสมที่ได้ทั้งหมด หยอดใส่ กระทงใบตองที่มีใบยอรองอยู่ เสร็จแล้วน�ำไปนึ่งในลังถึงหยอดหัว กระทิที่เคี่ยวสุกแล้ว โรยหน้าด้วยใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าซอยที่ เตรียมไว้ 60 : ครอบครัวพอเพียง
วิเคราะห์ฤทธิ์ต้านมะเร็งของ
ห่อหมกปลาช่อนใบยอ ใบมะกรูด มีเบต้า-แครทีนสุง มีวิตามินซี ป้องกัน อนุ มู ล อิ ส ระได้ ดี มี ส ารคลอโรฟิ ล ล์ ที่ ส ามารถดั ก จั บ สารก่ อ มะเร็งได้
พริกไทย มีสารทีใ่ ห้มกี ลิน่ ฉุน รสเผ็ดร้อน ชือ่ ไพเพอร์รนี เป็ น สาระส� ำ คั ญ ชนิ ด หนึ่ ง ช่ ว ยกระตุ ้ น การท� ำ งานของระบบ ท�ำลายสารพิษ เพื่อขัดขวางการท�ำงานของสารก่อมะเร็งบาง ชนิดไม่ให้ท�ำร้ายหน่วยพันธุกรรมดีเอ็นเอได้ นอกจากนี้ ยังมี คุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบอีกด้วย น�้ ำ พริ ก แกงเผ็ ด มี ส ่ ว นประกอบของสมุ น ไพร และ เครื่องเทศมากมาย ต่างมีคุณสมบัติและมีสารต้านมะเร็งสูง
กระเทียมและหอมแดง ให้สาร สามารถต่อต้าน การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่ก่อมะเร็งได้ สามารถกระตุ้นระบบท�ำลายสารพิษ ท�ำให้สามารถต้านฤทธิ์ สารก่อมะเร็งได้
กระชาย สาระส�ำคัญบางตัวในกระชายมีฤทธิ์ต้านการ ก่อกลายพันธุ์
ใบยอ ให้เบต้า-แคโรทีนมาก สามารถต้านอนุมูลอิสระ และมี คลอโรฟิลล์จากความเขียวเข้มดักจับสารก่อมะเร็งได้ มีพฤกษเคมีกระตุ้น ระบบท�ำลายสารพิษ
เมล็ดผักชีและเมล็ดยี่หร่า ให้น�้ำมันหอมระเหยกลิ่นรสเผ็ดร้อน ยับยั้งการเกิดเนื้องอกจากสารก่อมะเร็งพวก พีเอเอชที่กระเพาะอาหารได้ และช่วยสนับสนุนระบบท�ำลายสารพิษ
ครอบครัวพอเพียง : 61
Cover Story พอเพียงอย่างไร ให้ใจมีความสุข
สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม)
วรปรัชญ์ เทียมบุญประเสริฐ (พีพี)
พอเพียงแต่เพียงพอ ไม่ต้องมากหรือน้อยจนเกิน ไป พอเพียงที่ไม่ท�ำให้เกิดความทุกข์ พอเพียงอย่างที่ท�ำให้ เราสบายทั้งกายและใจ ไม่ต้องท�ำตามคนอื่นเพราะว่าค�ำว่า พอเพียงของแต่ละคนไม่เท่ากัน ค�ำว่าพอเพียงของเราอาจ จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆของคนอีกคน แต่หากท�ำให้เราเพียง พอและมีความสุขได้ก็เพียงพอแล้ว
ปิยะธิดา โตพึ่งพงศ์ (หิมะ)
การพอเพียงก็เหมือนการรักใครสักคนหนึ่ง เรา อาจไม่ต้องท�ำเพื่อให้เค้ารู้ ไม่ต้องท�ำให้เขาสนใจ เพียงแค่ เราได้ท�ำสิ่งดีๆที่ให้รอยยิ้มกับตัวเราและคนนั้นได้ ก็ดีแล้ว ก็เหมือนกับการรักตัวเอง ไม่จ�ำเป็นต้องท�ำเพื่อให้คนอื่น ยอมรับ ไม่จ�ำเป็นต้องท�ำเพื่อเปลือกนอกที่สวยหรู แต่ท�ำ เพื่อ “ใจของเรา” ให้มีความสุข โดยไม่เดือดร้อนความสุข คนอื่นก็เพียงพอแล้ว
62 : ครอบครัวพอเพียง
ศศิพิมพ์ ปลื้มจิตร์ (เมย์)
ชนกนันท์ ตันติภิวัฒน์ (พรีม)
พอเพียงอย่างไรให้ใจมีความสุข ในความคิดของพรีม มันคือการพอประมาณ พอใจในสิ่งที่ตนมี รู้จักพึ่งพาตนเอง ประหยัดอดออมอย่างพอดี โดยไม่เดือดร้อนตัวเองและผู้อื่น การที่เรารู้จักพอเพียงและพอดี พอใจในสิ่งที่ตนมีตนท�ำนั้นและ พึ่งพาตนเอง ท�ำให้เราภูมิใจในสิ่งตนเองท�ำด้วยตัวเองพรีมว่า ความสุขที่เกิดขึ้นจากการพอเพียงคงเป็นการรู้จักพอใจภูมิใจ ในสิ่งที่ตนมีตนท�ำนั้นเอง
พอเพียง คือ การที่ใช้ชีวิตอย่างประหยัดและอดออม แบบพึ่งพาตนเอง โดยที่ไม่ท�ำให้ตัวเองและคนอื่นต้องเดือด ร้อน การพอเพียงอย่างแท้จริง ท�ำให้เราได้รู้ว่าการใช้ชีวิตแบบ พึ่งพาตนเองนั้นมีความสุขแค่ไหน เราไม่ต้องไปพึ่งพา ไม่ต้อง ไปรอคอยความช่วยเหลือจากคนอื่น เพราะนั่นอาจท�ำให้พอ เพียงอย่างไม่เป็นสุข..
ครอบครัวพอเพียง : 63
ศุภิวัส ฉันทภัทรางกูร (กระปุก)
ปัณณธร ปัญญาพลังกูล (เพชร)
ถ้ า เราไม่ รู ้ จั ก ค� ำ ว่ า พอ เราก็ จ ะต้ อ งการสิ่ ง ต่ า งๆ มากมาย เมื่อเราต้องการสิ่งต่างๆ เราก็จะต้องดิ้นรน เพื่อให้ ได้มา ซึ่งถ้าเราไม่ได้ในสิ่งที่เราต้องการใจของเราก็จะเป็นทุกข์ แต่ถ้าเราได้ในสิ่งที่เราต้องการแล้วใจของเราก็จะเป็นสุข แต่ เป็นความสุขแค่เพียงชั่วคราว เพราะเราก็จะต้องการสิ่งอื่นๆ ที่เรายังไม่ได้ต่อไปเรื่อยๆ ท�ำให้ใจเราต้องดิ้นรนและเป็นทุกข์ ดังนั้นถ้าเรารู้จักค�ำว่าพอ เราก็จะไม่ต้องดิ้นรน ท�ำให้ใจเราได้ พบกับความสงบ และความสุขอย่างแท้จริง 64 : ครอบครัวพอเพียง
ความสุขนั้นส�ำหรับผมต้องมาจากภายใน ถ้าเราท�ำ สิ่งใดแล้วมีความสุขมาจากข้างใน เราจะมีความสุขที่แท้ใจ แต่สิ่งใดที่เราท�ำแล้วมีทุกข์ เราก็จะไม่รู้สึกมีความสุข และ ไม่อยากกระท�ำสิ่งนั้นต่อไป แค่เพียงการมีสติในการใช้ชีวิต รู้สึกประหยัด รู้รักษ์ รู้ใจตัวเอง เราก็จะเกิดความพอเพียงขึ้น นอกจากนี้การที่ตัวเองมีความสุขแล้ว เราต้องเผื่อแผ่ความสุข นี้ให้ผู้อื่น ชุมชน สังคม และธรรมชาติรอบตัวเรา ไม่ท�ำร้ายผู้ อื่น และเมื่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรามีความสุขแล้ว ความสุข จากความพอเพียงนั้นก็จะยั่งยืนตลอดไป
พีรดนย์ ค�้ำชู (บอล)
อรจิรา บูรณะบุญวงศ์ (แชมพู)
พอเพียงอย่างไรให้ใจมีความสุข..ก็คงเป็น การพอเพียงแบบ ที่เราอยากท�ำ อาจจะเป็นการพอเพียงที่ไม่ต้องบังคับหรือท�ำอะไรตาม กฏเกณฑ์มากแต่เป็นการท�ำด้วยใจ จากสิ่งที่เราอยากจะท�ำ ท�ำออกมา ให้ดีที่สุด ท�ำแล้วไม่ท�ำให้ใครเดือดร้อน บางคนอาจจะมองว่าคนนี้ท�ำ อะไรมากไปหรือเวอร์เกินไปแต่ถ้ามันเป็นความพอดีของเราส� ำหรับตัว เราหรือเราคิดว่ามันพอดีแล้วเราจะมีความสุข ไม่ต้องให้ใครบังคับหรือ ท�ำด้วยความไม่เต็มใจ เพียงแค่ท�ำในสิ่งที่เราอยากท�ำเท่านั้นก็คงพอแล้ว เปรียบเทียบง่ายๆก็คงเหมือนการท�ำความดีถ้าเราท�ำมากเกินไป อาจจะ ท�ำให้ตัวเองเดือดร้อน แต่เพียงแค่ท�ำอย่างพอดี คนที่ได้รับก็จะมีความสุข แค่นั้นแล้วเราก็น่าจะสุขใจ..
ใจของคนเราว่ากันว่ามี ๔ ห้อง มันก็แล้วแต่เราว่า จะใส่อะไรลงไป ถ้าเราใส่แต่กิเลส ตัณหาไม่ว่าจะมีหัวใจกี่ห้อง ก็คงจะไม่พอแต่ถ้าถามว่าใจจะเป็นสุขอย่างพอเพียงได้อย่างไร เราก็คงจะเลือกเก็บสิ่งที่ดีๆไว้เป็นก�ำลังแรงใจ เผื่อที่ให้ความ ผิดพลาดแล้วเปลี่ยนมันเป็นบทเรียนแล้วอย่าลืมใส่คนรอบ ข้างไว้ในใจเพื่อความสุขของเราและสังคม
ครอบครัวพอเพียง : 65
ดร.ไสว บุญมา (คนไทยในอเมริกา)
“ยา”
สารพัดนึก ในสมั ย นี้ ไ ม่ มี นั ก เร่ ข ายยาน� ำ งู เ ห่ า กั บ พังพอนมากัดกันให้ดูเหมือนในสมัยก่อน ส�ำหรับผู้ที่ ไม่เคยดูงูเห่ากัดกับพังพอนของนักเร่ขายยา ขอบอก ว่าตามธรรมดางูเห่ากับพังพอนนั้นเป็นศัตรูคู่อาฆาต กันอยู่แล้ว เมื่อน�ำมาไว้ใกล้ ๆ กัน สัตว์ทั้งสองก็มัก จะต้องประลองก�ำลังกัน แต่บางครั้งมันก็ดูจะไม่ อยากกัดกันเท่าไรนักเนื่องจากมันคงเห็นหน้ากันมา นับเป็นสัปดาห์ ๆ หรือเป็นเดือนแล้วเพราะนักขาย ยาพาเร่ไปขายยามาหลายต่อหลายหัวเมือง ก่อนที่ จะปล่อยให้สัตว์ออกจากกรงมากัดกัน นักขายยาจะ พยายามขายยาให้ผู้มารอดูสัตว์ทั้งสองกัดกันอยู่เป็น เวลานานแสนนานโดยโฆษณาว่ายาที่เขาน�ำมาขาย มักแก้โรคได้สารพัดชนิดเมื่อเปลี่ยนใช้กับน�้ำกระสาย หลายอย่าง อาทิเช่น น�้ำธรรมดา เหล้าขาว น�้ำซาวข้าวและน�้ำผึ้ง แน่ละ ไม่มียาอะไรที่แก้ได้สารพัดโรค อย่างไรก็ตาม การแสวงหายาจ�ำพวกที่นักเร่ขายยาน�ำมาเสนอขายให้ชาวบ้าน หรือที่เรียกกันว่ายาสารพัดนึกนั้นยังด�ำเนินต่อไป เมื่อปลายเดือน มกราคมที่ผ่านมานี้มีผลการวิจัยพิมพ์ออกมาในวารสาร Nature 66 : ครอบครัวพอเพียง
ซึ่งสรุปว่า การวิจัยได้พบยาสารพัดนึกชนิดหนึ่งซึ่งได้แก่ “การ ออกก�ำลังกาย” อันที่จริงเรื่องการออกก�ำลังกายเป็นยาป้องกันโรคร้าย หลายชนิดไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อโรคง่าย โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคการหลงลืมมิใช่เรื่องใหม่ หมอมักแนะน�ำให้เราออกก�ำลัง กายเป็นประจ�ำทั้งที่หมอเองก็ไม่รู้ว่าการออกก�ำลังกายป้องกันโรค สารพัดชนิดได้อย่างไร ผู้วิจัยเรื่องนี้จึงตั้งเป้าหมายว่าจะค้นหาค�ำ
(การออกก�ำลังกายที่ใช้อุปกรณ์น้อย คือการเดินและการวิ่งเหยาะ ๆ) อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์มาสนับสนุน การวิจัยท�ำขึ้นที่ศูนย์ การแพทย์ของมหาวิทยาลัยเท็กซัสในสหรัฐอเมริกา ตามธรรมดา ร่างกายของเรามีกระบวนการอย่างหนึ่งซึ่ง น�ำโปรตีนส่วนเกิน ส่วนที่สึกหรอ และส่วนที่ไม่สมประกอบ หรือ เป็นง่อยมาย่อยรวมกันแล้วน�ำกลับมาใช้ใหม่ในแนวที่เราเรียกว่า “recycle” กระบวนการนี้มีประโยชน์หลายอย่าง อาทิเช่น ช่วย ให้เราอยู่ได้นานในภาวะที่อาหารขาดแคลนและช่วยต่อสู้กับการ
(การออกก�ำลังกายตามสมัยนิยม จ�ำพวกเต้นแอโรบิค เพื่อนและดนตรี ท�ำให้มีความสนุกสนาน) ติดเชื้อโรค นอกจากนั้นมันยังท�ำให้กระบวนการหลงลืมและการ แก่ชราเป็นไปในอัตราที่ช้าลงอีกด้วย เรื่องนี้เป็นที่รู้กันในวงการ นักชีววิทยามานานแล้วว่า ถ้าเราลดอาหารสัตว์ลงจนท�ำให้มัน ผอมโซ มันจะมีชีวิตยืนยาวต่อไปอย่างมีนัยส�ำคัญ ฉะนั้น การ วิจัยในเรื่องนี้จึงมุ่งไปที่ความสัมพันธ์ของการออกก�ำลังกายกับ
(การขี่จักรยานเป็นการออกก�ำลังกายที่ดีที่สุดอย่างหนึง่ ) ครอบครัวพอเพียง : 67
(การว่ายน�้ำหากท�ำได้ เป็นการออกก�ำลังกาย ชั้นเลิศ)
(การเล่นกีฬาเป็นการ ออกก�ำลังกายที่ให้ทั้ง ความสนุกสนานและการ กระชับมิตร) กระบวนการย่อยโปรตีนดังกล่าว การทดลองพบว่า การออกก�ำลังกายท�ำให้ร่างกายเพิ่มกระบวนการนั้นจริง ตอนนี้นักวิจัยยังท�ำการทดลองต่อเพื่อศึกษาให้ลึกลงไปอีกโดยตั้งสมมุติฐานว่า กระบวนการย่อยโปรตีนนั้นมีผลต่อการ ท�ำลายอนุมูลอิสระซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นหัวจักรใหญ่ที่ท�ำให้เกิดความแก่ชรา ฉะนั้น ถ้าการออกก�ำลังกายช่วยท�ำลายอนุมูล อิสระผ่านกระบวนการนั้นจริง เราจะได้เกิดความมั่นใจเพิ่มขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม ณ วันนี้ผลเบื้องต้นที่ออกมาท�ำให้นักวิจัยแน่ใจ แล้วว่า การออกก�ำลังกายอย่างจริงจังและสม�่ำเสมอเป็นยาสารพัดนึกชนิดหนึ่งอย่างแน่นอน เราไม่ต้องเสียดายที่จะไม่ได้ดูงูเห่าสู้กับ พังพอนจากนักเร่ขายยาและจะไม่สามารถซื้อยาสารพัดนึกได้ เรามาออกก�ำลังกายแทน
68 : ครอบครัวพอเพียง
ขวัญปีใหม่ด้วยล่ะก็ไม่ควรอย่างยิ่ง ๑.น�้ำหอม ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะมีหลายคนที่เขา เชื่อ เขาแอบกระซิบบอกมาว่า ห้ามให้แฟนซื้อน�้ำหอมให้เด็ดขาด เพราะความรักของคุณอาจจะจืดจางเหมือนกับกลิ่นของน�้ำหอมที่ จางหายไปตามกาล เวลา.. ๒.รองเท้า เขาว่ากันว่าหากแฟนซื้อรองเท้าให้จะท�ำให้ เลิกกัน เพราะรองเท้ามันต้องอยู่เป็นคู่ คนที่เป็นแฟนกันแต่ยังไม่ ได้อยู่กันเป็นคู่ รองเท้าจึงเป็นอาถรรพ์ที่อาจจะท�ำให้เลิกกันได้ ๓.เสื้อผ้าชุดด�ำ อันนี้น่ากลัวมากๆ เขาห้ามให้เสื้อผ้า ชุดที่มีสีด�ำเป็นของขวัญโดยเด็ดขาด เพราะคนโบราณเขาถือ ไม่ ว่าจะเป็นเสื้อ กางเกง กระโปรง ผ้าคลุม ผู้หลักผู้ใหญ่จะสอนอยู่ เสมอว่า ถ้าเราให้ชุดด�ำใคร เราจะต้องได้ไปงานศพของคนนั้น ๔.นาฬิ ก า หลายคนเชื่ อ หนั ก หนาว่ า หากแฟนซื้ อ นาฬิกาให้ จะท�ำให้ระยะเวลาที่คบกัน อาจจะต้องหยุดลงเมื่อ นาฬิกาเรือนนั้นหยุดเดิน ไม่ว่าสาเหตุมาจากอะไรก็ตาม
เลือกของขวัญแบบไหนทั้งถูกใจและมีโชคดี
เนื่องในวาระอันเป็นมงคลในเทศกาลต่างๆ เรามักนิยมที่จะมอบของขวัญแก่บุคคลพิเศษ ทีนี้ เรามาดูกันว่าของขวัญประเภทไหนที่ให้แล้วทั้งถูกใจและจะน�ำความโชคดีมาสู่ผู้ที่ได้รับของขวัญอีกด้วย วันนี้เราจึงมีค�ำแนะน�ำดีๆ เกี่ยวกับการมอบของขวัญที่ท�ำให้คนรับโชคดีตลอดปี ๑.ก�ำไล เพราะเป็นความเชื่อที่ว่าการให้ก�ำไลหมายถึง การให้ก�ำไรแก่ชีวิต..เพื่อนจะได้ มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น ๒.กระเป๋าสตางค์ใส่เกลือ การซื้อกระเป๋าใส่เงินให้คน อื่น แล้วใส่เกลือลงไปในช่องเงินเสียหน่อย จะท�ำให้คนรับกระเป๋า มีเงินใช้ไปตลอดปี ๓.ถุงผ้า ถุงผ้าเป็นสิ่งที่ใช้บ่อย สะดวกพกพา เวลาที่ใช้ คนรับจะได้คิดถึงผู้ให้ อีกทั้งยังแสดงถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม อีกด้วย ๔.เครื่องสาน เช่น กระเป๋าสาน รองเท้าสาน เข็มขัด สาน...เป็นของขวัญที่นิยมซื้อให้แฟนมากที่สุด เพราะเชื่อว่าการ ซื้อของเหล่านี้ให้แฟนจะช่วยสานความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ ยั่งยืน ตลอดไป ๕.ต้นไม้ เพราะการให้ต้นไม้หมายความว่า ความรักของ คนทั้งสองคนจะได้เจริญงอกงาม เติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ เหมือนต้นไม้ ๖.ต่างหู การซื้อของที่เป็นคู่ โดยเฉพาะต่างหูให้กัน จะ ท�ำให้คนทั้งสองคู่กันตลอดไป เพราะตุ้มหูมันต้องซื้อมาเป็นคู่ และ อยู่ด้วยกันเป็นคู่ ๗.เสื้อ บางคนเชื่อว่า การที่คนรักใส่เสื้อที่เราซื้อให้ เป็น ความหมายว่า ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกัน ของขวัญต้องห้าม ๑๐ สิ่งนี้ห้ามให้เป็นของขวัญเด็ด ขาด ซึ่งเป็นความเชื่อโบราณว่าจะเป็นลางสังหรณ์ไม่ดี ยิ่งเป็นของ
๕.รูปถ่าย อีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามให้เด็ดขาดนั้นก็คือ รูปถ่าย เดี่ยวๆ ของตัวเอง เพราะมันเปรียบเสมือนการให้รูปที่ระลึกไว้ดู ต่างหน้าเวลาจากกัน อาถรรพ์นี้หลายคนเจอมาแล้ว ๖.ผ้าเช็ดหน้า ความหมายตรงตัวมากๆ ผ้าเช็ดหน้า ส่วนใหญ่เขาไว้ใช้ท�ำอะไร คนรับของขวัญก็จะต้องใช้ท�ำอย่าง นั้นล่ะ..ซึ่งได้ข่าวมาว่า ผ้าเช็ดหน้า ส่วนใหญ่จะใช้เช็ดน�้ำตาซะ ด้วย..ดังนั้นใครไม่อยากที่จะต้องเสียน�้ำตา ต้องเลี่ยงให้ของขวัญ เป็นผ้าเช็ดหน้าเด็ดขาด ๗.ของมีคม พวกของมีคม อาวุธ ดาบ ของเล่น โมเดล ต่ า งๆที่ มี ค ม อย่ า น� ำ เป็ น ของขวั ญ เพราะจะท� ำ ให้ ผู ้ รั บ ได้ รั บ อันตราย มีภัย โชคร้าย ไปด้วย.. ๘.หวี แฟน เพื่อน มิตรสหายทั้งหลายฟังทางนี้ เพราะ ถ้าเรามอบหวีให้กับแฟน หรือเพื่อนคนไหน จะท�ำให้ความสัมพันธ์ ของเราและเขาต้องห่างกันเหมือนซี่ของหวีนั้นเอง.. ๙.เข็มกลัด ภายนอกอาจจะดูสวย แต่ภายในแฝงไปด้วย ความหมายที่น่าเจ็บปวด เพราะเชื่อว่าหากให้เข็มกลัดแก่ใคร จะ เป็นการทิ่มแทงใจ สร้างความเจ็บปวด ขัดแย้งให้กับผู้รับคนนั้น.. ๑๐.เครื่องแก้วต่างๆ ตามความเชื่อว่าถ้าเกิดเครื่องแก้ว นั้นแตกขึ้นมา นั่นก็หมายถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นอัน แตกหัก แตกสลายตามของอย่างแน่นอน..
ครอบครัวพอเพียง : 69
นิสสันจัดงานแข่งขันทักษะระดับประเทศ - มุ่งเน้นยกระดับการบริการตอบรับยอดขายที่เพิ่มขึ้น -
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด จัดงานแข่งขันทักษะพนักงานประจ�ำปี ๒๕๕๔ “NMT Skills Contest ๒๐๑๑” รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ในการยกระดับมาตรฐานทั้งในส่วนของการขายและการบริการ หลังการขายของผู้จ�ำหน่ายนิสสันทั่วประเทศ “การจัดการแข่งขันทักษะพนักงานประจ�ำปีของนิสสัน เป็นโครงการที่มีความส�ำคัญในการยกระดับคุณภาพ เครือข่ายของนิสสัน ด้วยการส่งเสริมให้พนักงานจากทุกส่วนงานของผู้จ�ำหน่ายพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถให้ทัดเทียม กับมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้ลูกค้านิสสันได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากการเข้ารับบริการทั้งก่อนการขายและหลัง การขาย” คุณประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส การตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด กล่าว การแข่งขันทักษะในปีนี้ ได้รับการแบ่งออกเป็นทั้งหมด ๕ สาขา ได้แก่ • ที่ปรึกษาการขาย: ผู้เข้าแข่งขันต้องให้คำ� แนะน�ำในรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการส่งมอบรถและการติดตามหลัง การขาย ได้อย่างถูกต้องและแม่นย�ำ • ที่ปรึกษาการบริการ: ผู้เข้าแข่งขันต้องให้การต้อนรับลูกค้าที่น�ำรถเข้ารับการบริการตามขั้นตอนกระบวนการ ต้อนรับลูกค้าเพื่อเก็บรายละเอียดที่ลูกค้าแจ้งซ่อม • ที่ปรึกษาอะไหล่: ผู้เข้าแข่งขันต้องสามารถรับและจัดเก็บอะไหล่เข้าพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง พร้อมค้นหาอะไหล่จาก ระบบ Fast และ เช็คสต๊อกอะไหล่ ตามขั้นตอนที่นิสสันก�ำหนดไว้ • ช่างเทคนิค: ผู้เข้าแข่งขันต้องใช้เครื่องประมวลผลและวิเคราะห์ปัญหารถยนต์ด้วยเครื่องมือ Consult III เพื่อหาสาเหตุที่ท�ำให้รถเกิดปัญหาได้ พร้อมแก้ไขให้ถูกต้องตามเวลาที่ก�ำหนด • ลูกค้าสัมพันธ์: เป็นสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ผู้เข้าแข่งขันต้องใช้ทักษะและไหวพริบในการสร้างความ สัมพันธ์ที่ดีรวมไปถึงการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด โทร. ๐๒-๓๓๙-๓๔๐๐ ต่อ ๔๐๐๒ - ๔๑๑๔ โทรสาร ๐๒-๒๕๓-๑๐๒๒ 70 : ครอบครัวพอเพียง
ธอส. จัดประกวดหนังสั้น “บ้าน...คือลมหายใจของชีวิต” ให้ก�ำลังใจผู้ประสบปัญหาเรื่องบ้านและสร้างผู้ก�ำกับ หนังหน้าใหม่ในวงการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แถลงข่าวเปิดตัว โครงการประกวดภาพยนตร์ สั้ น ภายใต้ แ นวคิ ด “บ้ า น คื อ ลมหายใจของชีวิต” ชิงเงินรางวัล ๑๕๐,๐๐๐ บาทพร้อมโล่ เกียรติยศ โดยภาพยนตร์ดังกล่าวต้องมีความยาวไม่เกิน ๓-๕ นาที มีความคิดสร้างสรรค์ไม่ซ�้ำแบบใครในการน�ำเสนอมุมมอง ความ รู้สึก และนิยามของค�ำว่าบ้าน เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึง ความส�ำคัญของบ้าน ความสมดุล การใช้ชีวิตภายใต้บ้านเดียวกัน และเป็นก�ำลังใจแก่ผู้ที่ก�ำลังสร้างบ้านเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต และผู้ที่ประสบปัญหาเรื่องบ้านจากเหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงการ เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสนับสนุนเพื่อก่อเกิดผู้ก�ำกับหนังหน้า ใหม่มา ประดับวงการภาพยนตร์ไทย เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๕ ผ่านทางเวบไซต์โครงการ โดย จะมีการประกาศผลการตัดสินรอบคัดเลือกในวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ ทั้งนี้ พร้อมเปิดให้ผู้ที่สนใจและประชาชนทั่วไปร่วมลง ทะเบียนและโหวตรางวัลประชานิยม (Popular Vote)
การท่องเที่ยวแห่งไต้หวัน “Time for Taiwan”
การท่องเที่ยวแห่งไต้หวันได้ชูสโลแกน “Time for Taiwan ท่องเที่ยวไต้หวัน ต้องไปช่วงนี้” การท่องเที่ยวไต้หวันได้บรรจง คัดสรร ๑๐๐ ทริปตามเส้นทางของธีมการท่องเที่ยว โดยมีไฮไลท์ เช่น ทริปเที่ยวชิลๆสไตล์อินเทรนย่านไทเปตะวันออก ส�ำหรับผู้ที่ชื่น ชอบการช้อปปิ้งต้องไม่ควรพลาด หรือแม้แต่ทริปรถไฟฟ้าเกาสง papago ทั้งนี้ ยังมีการจัดงานมหกรรมคอนเสิรต์รวมเหล่านักร้องชื่อดัง “๒๐๑๒ Time For Taiwan Concert” ในวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๕ อีกด้วย ใครสนใจรับบัตรคอนเสิร์ตได้ฟรีที่การท่องเที่ยวไต้หวัน หรือ www.welcome2taiwan.net
ครอบครัวพอเพียง : 71
เรื่อง : หนูมีสุข
มัลดีฟเมืองไทย เกาะขาม ตราด หาดทรายขาว ทะเลเขียวมรกต
สัญลักษณ์ของเกาะนีค้ ือ หินภูเขาไฟก้อนสีด�ำขนาดใหญ่ และน�้ำทะเลที่นี่ใสมากจน เหมือนกระจก เส้นขอบฟ้าจรดผืนน�้ำ เกลียวคลื่นที่เรียงหน้าซัดเข้าหาฝั่ง ทรายสี ขาวละเอียด ทะเลใสสีเขียวคราม จะสะกดคุณให้หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเกาะเล็กๆ แห่งนี้ เกาะ ขาม ไข่มุกมรกตแห่งทะเลตราด ตั้งอยู่ทางทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะหมาก ที่นี่เป็นเหมือนสวรรค์ของคนรัก สงบ เป็นเกาะส่วนตัวที่มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ความสุขสงบ เริ่มต้นตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้ย่างเท้าเหยียบหาดทรายสีขาวละเอียด ที่ทอดยาวยื่นออกไปในทะเลกว่า ๓๐๐ เมตร สามารถเดินทอด น่ อ งปล่ อ ยอารมณ์ ไ ปยื น อยู ่ ก ลางวงล้ อ มของน�้ ำ ทะเลสี ม รกต สัญลักษณ์ของเกาะนี้คือ หินภูเขาไฟก้อนสีด�ำขนาดใหญ่ และน�้ำ ทะเลที่ใสมากจนเหมือนกระจก สามารถมองเห็นปลาการ์ตูนตัว เล็กๆ ว่ายน�้ำเล่นเป็นฝูงใหญ่
72 : ครอบครัวพอเพียง
อร่อยประจ�ำถิ่น
• ที่เกาะขามมีอาหารทะเลขึ้นชื่อไว้บริการ • ร้ า นกรุ ง ไทย คิ ท เช่ น อยู ่ ตั ว เมื อ งตราด บนถนน สุขุมวิท ถ้ามาจากจันทบุรี อยู่ฝั่งขาเข้าตัวเมืองตราด โทร. ๐๓๙ ๕๒๓ ๕๕๕ • ข้ า วมั น ไก่ ที่ ต ลาดในตั ว เมื อ ง น�้ ำ จิ้ ม สู ต รพิ เ ศษไม่ เหมือนใคร คล้ายน�้ำจิ้มซีฟู้ด พร้อมน�้ำพริกเผา ขายตั้งแต่หกโมง เช้า ถึงเจ็ดโมงเช้าเท่านั้น
ส
ำหรั บ นั ก ด� ำ น�้ ำ ด้ า นหลั ง เกาะมี ป ะการั ง สมอง ขนาดใหญ่ ดอกไม้ ท ะเลสี ส ดใส ปลาหน้ า ตา แปลกๆ หอยมือเสือ แต่ถ้าใครไม่ชอบด�ำน�้ำ ก็สามารถนั่งเรือ ท้องกระจกเพื่อชมปะการังรอบๆเกาะ หรือถ้าโชคเข้าข้าง อาจ ได้เห็นโลมาสีชมพูว่ายเวียนมาทักทาย ตกเย็นอย่าลืมนัดส�ำคัญ หามุมสงบๆ เพื่อนั่งเคียงข้างใครบางคน ดูพระอาทิตย์ตกตรง เส้นขอบฟ้าด้วยกัน สายลมแห่งความสุข กลิ่นไอทะเลสีมรกต บนเกาะเล็กๆ แห่งนี้ จะตราตรึงในหัวใจจนต้องกลับมาเยือนอีก ครั้งอย่างแน่นอน
รู้ก่อนเดินทาง
• มีเรือโดยสารประจ�ำทางออกจากท่าเรือแหลมงอบ เที่ยว ไป ออกเวลา ๑๕.๐๐น. ถึงเกาะขาม เวลา ๑๘.๐๐น. ใช้เวลาในการ เดินทาง 3ชั่วโมง เที่ยวกลับ ออกจากเกาะขาม เวลา ๐๘.๐๐น. ถึง ท่าเรือแหลมงอบ เวลา ๑๑.๐๐น. อัตราค่าเรือโดยสารคนละ ๑๒๐ บาท • เกาะขามมีที่พักเพียงแห่งเดียว มีบรรยากาศแบบสมถะ
ครอบครัวพอเพียง : 73
คุณป้าปราณี เผยต่อว่าในส่วนของการด�ำเนินงานนั้น จะท�ำในรูปของคณะกรรมการ มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ผักตบชวา ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้การผลิตนั้นจะรับซื้อมาจากชาว บ้านในราคาก�ำละ ๑๐ บาท แต่ละก�ำจะมีประมาณ ๑๐๐ ต้น จาก นั้นก็น�ำมาผึ่งแดดให้แห้ง ก่อนที่จะกระจายไปให้แก่สมาชิกของ กลุ่มเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามความถนัดของแต่ละคน ส่วนค่าจ้างก็ขึ้นอยู่กับแต่ละชิ้นงาน ซึ่งก็ไม่เท่ากัน ส่วนวิธีการท�ำเริ่มจากน�ำผักตบชวามาท�ำเป็นเส้นเปีย โดยจะต้องเลือกก้านที่ยาวพอสมควร ตัดใบออก ผึ่งแดดไม่จัด จนแห้งแล้วน�ำมาผ่าครึ่งหรือน�ำมาเผาสี่ส่วน จากนั้นก็น�ำมารีดไล่ ฟองอากาศทีละเส้น ก่อนน�ำมาถักเป็นเส้นเปีย จึงจะสามารถน�ำ ไปจักสานขึ้นลวดลายเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานผักตบชวาบ้านบางตาแผ่น ส่วนใหญ่จะ เป็นกระเป๋า ตะกร้า แจกัน โคมไฟ ตลอดจนเครื่องใช้สอยและ
“ผักตบชวา” คุณค่ามากกว่าค�ำว่า “วัชพืช”
“บ้านบางตาแผ่น” จักสานผักตบชวา เป็นสินค้าโอ อุปกรณ์ตกแต่งบ้านในรูปแบบต่างๆ ส่วนราคามีตั้งแต่ ๑๐ บาทไป ท็อป ๕ ดาว ส่งขายยังต่างประเทศ น� ำรายได้มากมายกลับสู่ จนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับขนาด ลวดลายและความละเอียดประณีต “ผลิตภัณฑ์ส่วนมากจะท�ำตามออเดอร์ ตลาดมีทั้ง ท้องถิ่น “ปราณี จันทวร” อดีตผู้ใหญ่บ้าน วัย ๖๓ ปี ที่ปัจจุบัน ในและต่างประเทศ ถ้าเป็นในประเทศส่วนใหญ่จะไปขายตาม รั้งต�ำแหน่งประธานกลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านบางตาแผ่นและ งานต่างๆ แล้วก็มีพ่อค้าจากกรุงเทพฯ มารับซื้อเพื่อไปขาย กลุ่มสตรีสหกรณ์ต�ำบลคลองวัว ต.คลองวัว อ.เมือง จ.อ่างทอง ได้ ต่อ ที่วางขายหน้าร้านมีแห่งเดียวคือศูนย์โอท็อป เทศบาลเมือง คิดค้นน�ำผักตบชวามาท�ำเครื่องจักสาน เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์ อ่างทอง ส่วนต่างประเทศตอนนี้ก็มี ประเทศญี่ปุ่น อเมริกา ทั้งในทางตรง และทางอ้อม เป็นการสร้างอาชีพเสริม และรายได้ สวีเดน อิตาลี และอีกหลายประเทศในยุโรป พิเศษหน่อยก็ที่ ประเทศสวีเดน ที่นี่เขาจะชอบเป็นรังนก ประเทศอิตาลีจะสั่ง เสริม ให้แก่คนในชุมชนได้เป็นอย่างดี แม้กลุ่มจักสานนี้จะมีประวัติการด�ำเนินงานมาเพียงแค่ แบบเสื่อยาว ส่วนญี่ปุ่นจะเป็นกระเป๋าแต่ไม่ต้องทาน�้ ำมันนะ ๒ ทศวรรษ แต่กลับมีการพัฒนาเติบโตก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จน เพราะเขาต้องการผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจริงๆ ย่อยสลาย ได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านโอท็อปต้นแบบของจังหวัดในปัจจุบัน ง่าย” คุณป้าปราณีเผยถึงมุมมองด้านการตลาดของกลุ่ม พร้อม ด้วยเหตุที่สมาชิกกลุ่มส่วนใหญ่มีพื้นฐานอย่างดีมาจากการจักสาน การันตีผลิตภัณฑ์ของกลุ่มว่าเคยได้รับรางวัลโอท็อป ๕ ดาว มา ไม้ไผ่และหวายเดิมอยู่แล้ว เมื่อวัตถุดิบที่เป็นไม้ไผ่และหวายเริ่ม แล้วและยังเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เห็นได้จากออเดอร์ที่ หายาก จึงหันมาใช้ผักตบชวาแทน ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่าย เข้ามาในทุกๆ เดือน และหากมีท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์ ก็สามารถ ติดต่อมาได้ยังหมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๙-๙๐๐-๓๔๗๔ ได้ตลอด ภายในท้องถิ่น ทั้งยังเป็นการก�ำจัดวัชพืชไปในตัวอีกด้วย “กลุ่มจักสานนี้ได้ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๓๒ เวลา นับว่าเป็นอีกชุมชนที่มีการสร้างงาน สร้างอาชีพ และ ตอนนั้นใช้ไม้ไผ่และหวายเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต พอปี ๒๕๔๔ ก็เปลี่ยนมาเป็นผักตบชวาแทน เพราะหวายและไม้ไผ่ รายได้เสริม จากการท�ำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ภายในชุมชน ที่แปล เริ่มหายาก ส่วนสมาชิกเริ่มแรก ๑๔ คน จนถึงขณะนี้มีทั้งสิ้น เปลี่ยนเป็นรายได้จนกลายเป็นสินค้าโอท็อป ๕ ดาวของจังหวัด ๗๓ คน ส่วนใหญ่เป็นคนในชุมชนบางตาแผ่นนี่แหละ มีหุ้นอยู่ หากท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์ หรือจะแวะมาเยี่ยมชมงานของกลุ่ม จ�ำนวน ๗ หมื่นหุ้นและทุนหมุนเวียนประมาณ ๕ แสนเศษ” โทร. ๐๒-๓๓๘-๓๓๕๖-๗, ๐๘๙-๔๙๓-๕๗๗๒ (ทุกวันจันทร์ ศุกร์ ) คุณป้าปราณี ย้อนอดีตให้ฟัง 74 : ครอบครัวพอเพียง
1213
ธปท.
สายดวนคมุครองผูใชบรกิารทางการเงนิ โดยศนูยคุมครองผูใชบรกิารทางการเงนิ (ศคง.)