MAD E
TAIW A
บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สู่การเป็น ‘พลเมือง’
N
in
มากกว่าหนึ่งวัน
บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สู่การเป็น ‘พลเมือง’ MADE in TAIWAN เรื่องและภาพ แสงจริง ออกแบบปกและรูปเล่ม ณขวัญ ศรีอรุโณทัย พิสูจน์อักษร คีรีบูน วงษ์ชื่น เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ
978-616-329-000-7 บรรณาธิการอำนวยการ
ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ กองบรรณาธิการ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดย สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สน.3) จัดพิมพ์และเผยแพร่โดย
เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่
อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ เลขที่ 99/8 ซอยงามดูพลี แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 0 2343 1500 โทรสาร 0 2343 1501 www.thaihealth.or.th และ www.punsook.org พิมพ์ครั้งที่ 1
มีนาคม 2556
ดำเนินการผลิตโดย
เปนไท พับลิชชิ่ง Penthai Publishing โทรศัพท์ 0 2736 9918 โทรสาร 0 2736 8891 waymagazine@yahoo.com
คำนำ ขณะทคี่ ณ ุ ก ำลังอ า่ นขอ้ ความนี้ บรรดาบคุ คลทปี่ รากฎท งั้ ช อื่ แ ละ หน้าตาในหนังสือเล่มน ี้ คงกำลังท ำอะไรสกั อ ย่างในชมุ ชนทอ้ งถนิ่ ของพวกเขา ช่วงเวลาตั้งแต่ว ันที่ 15-20 ธันวาคม 2555 เป็นช ่วง เวลาที่คณะเดินทางกว่า 30 ชีวิตร่วมเดินทางไปยังประเทศ ไต้หวัน เพื่อไปศึกษาเรียนรู้ระบบการทำงานด้าน ‘จิตอาสา’ ของมูลนิธิพุทธฉือจี้ เพื่อนำประสบการณ์กลับไปต่อยอดใน ชุมชนท้องถิ่นแต่ละแห่ง ให้ง านจิตอ าสางอกเงย หน้าที่การงานของผู้ร่วมคณะเดินทางส่วนใหญ่ทำงาน พัฒนาชุมชนท้องถิ่น บางคนเป็นนายกองค์การบริหารส่วน ตำบล (อบต.) บางคนเป็นปลัด อบต. บางคนเป็นนักวิชาการ
บางคนเป็นก ำนัน บางคนเป็นเจ้าห น้าทีด่ า้ นสาธารณสุข พวกเราเดินท างมาจาก ทั่วทุกภูมิภาค แต่จุดร่วมที่พวกเขามีคือความต้องการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของ พวกเขาพัฒนาไปในทิศทางทดี่ ี สังคมทดี่ เี ป็นอ ย่างไร ความเป็นอ ยูข่ องสมาชิกในสงั คมนนั่ ส ว่ นหนึง่ สมาชิก ดำรงชวี ติ ต ามกฎระเบียบนนั่ ส ว่ นหนึง่ จุดห ลักท พี่ วกเขาตา่ งมองเห็นร ว่ มกนั ก ค็ อื ความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ซึ่งไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งขาดแคลนในชุมชนของพวกเขา การคิดว่าเพื่อนร่วมชุมชนนั้นไม่ต ่างจากสมาชิกในครอบครัว ใช่หรือไม่ว ่า เป็นพื้นฐานที่เอื้อให้สังคมน่าอยู่ ระหว่างที่พวกเราอยู่ที่ไต้หวัน คำพูดของพี่ด้วง-ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ก็ สะท้อนหลายสิ่งทั้งในระดับช ุมชนและสังคมทมี่ ีขนาดใหญ่กว่านั้น “เรามาถึงจุดที่... ถ้าเราไม่วกกลับ ยังคงเอาเงินเป็นตัวตั้ง ไม่เอาประโยชน์ ของพื้นที่เป็นตัวตั้ง ทุกองค์กรก็จะเกิดอุปสรรคมากมาย นั่นเป็นเหตุผลที่เรา เลือกมาไต้หวัน มายังมูลนิธิพุทธฉือจี้ เพราะเราต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้ ผู้นำ เรื่องจิตอาสามันเป็นเรื่องที่คุณไม่ทำไม่ได้ มันจ ะทำให้สังคมนี้เป็นสังคมที่ ไม่เอื้ออ าทร ผู้ที่แข็งแรงกว่าไม่ด ูแลผู้ทอี่ ่อนแอกว่า เงินเท่าไรก็เลี้ยงคนในสังคม ไม่พอ ถ้าไม่มีจิตอาสา” หนังสือ ‘มากกว่าห นึง่ ว นั ’ เล่มน ี้ เป็นบ นั ทึกก ารเดินท างทรี่ วบรวมความคดิ ความรู้สึกของบุคคลในชุมชนท้องถิ่นต่างๆ ที่ร่วมเดินทางไปยังประเทศไต้หวัน ในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อทำให้ผู้อ่านเห็นภาพของระบบงานจิตอาสาที่มูลนิธิ ฉือจ ี้ เมือ่ ผ อู้ า่ นอา่ นแล้วเกิดพ ลังงานเชิงบ วกในการอยากทจี่ ะเปลีย่ นแปลงตวั เอง หรือแม้แต่ชุมชนของตนเอง นั่นถือว่าหนังสือเล่มนี้ได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว แต่ รูปธ รรมของงานจิตอาสาคงเกินกำลังความสามารถของหนังสือเล่มน ี้ จิตอาสาจะเกิดได้ คุณ – ผู้กำลังอ่านมาถึงบรรทัดนี้ มีส่วนสำคัญที่สุด ไม่ต้องรอภาครัฐหรือใคร เริ่มทตี่ ัวเอง แม้จ ะใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันก็ตาม
คนฉลาดมักจะกังวลกับการได้มาหรือเสียไป ส่วนคนมีสติปัญญา เป็นผู้ที่พร้อมจะเสียสละเพื่อผู้อื่นเสมอ
10
มากกว่าหนึ่งวัน
เช็คอินก่อนเดินทาง
11 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเดือนธันวาคม เริ่มส่อเค้าลางของความหนาว แต่ถัดจากเวลานี้ไป อีก 3 ชั่วโมง อากาศหนาวของจริงกำลังรอพวกเขา อยู่ ณ จุดหมายปลายทาง พวกเขาตั้งต้นนัดหมายกัน ทีอ่ าคารผโู้ ดยสารขาออก กระเป๋าเดินท างหลายใบกอง รวมบริเวณนั้น พวกเขาคือกลุ่มคนที่เดินทางมาจาก
12
มากกว่าหนึ่งวัน
ทั่วสารทิศ เดินทางมาจากชุมชนท้องถิ่นหลายแห่งทั่วประเทศ ประเทศไต้หวัน คือจุดหมายปลายทางของพวกเขา ระหว่างรอเช็คอิน บางคนนั่งบนแถวเก้าอี้ บ้างยืนค้ำราวเหล็ก ส่วนหนึ่ง จับจ้องพื้นกระเบื้องเย็นๆ ในอาคารเป็นทนี่ ั่งหย่อนก้น ใครบางคนรำพึง การเดินท างดว้ ยเครือ่ งบนิ ช า่ งวางท่าเย อ่ ห ยิง่ เต็มไปดว้ ย พิธีรีตอง แตกต่างจากการเดินทางด้วยรถโดยสาร ณ สถานีขนส่งหมอชิต ไต้หวันคือจุดห มายปลายทางในเชิงรูปธรรม แต่การเดินทางครั้งนี้ จะพูด ว่าเป็นการเดินทางเชิงนามธรรมก็ไม่ผิดนัก เพราะจุดหมายปลายทางที่แท้จริง ของการเดินทาง คือการเรียนรู้สิ่งทเี่รียกว่า ‘จิตอ าสา’ มูลน ิธิพุทธฉือจี้ คือเป้าห มายปลายทางของพวกเขา มูลนิธิพุทธฉือจี้ เป็นองค์กรอาสาสมัครที่ใหญ่ที่สุดในโลก อาสาสมัคร กระจายอยูท่ ั่วโลกมากกว่า 5 ล้านคน องค์กรแห่งนี้คอยช่วยเหลือผู้ประสบภัย พิบัตไิปจนถึงบรรเทาทุกข์แก่ผู้หิวโหยทั่วโลก นอกจากนี้ มูลน ิธิพุทธฉือจี้ ยังมี โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย สถานีโทรทัศน์ ซึง่ ม เี ป้าห มายปลายทางในการชว่ ยเหลือ เพื่อนมนุษย์ ทุกกิจกรรมมีอาสาสมัครเป็นกำลังหลักในการดำเนินงาน คำถามเบือ้ งตน้ ท กี่ อ่ เกิดในใจพวกเขากค็ อื ว า่ อะไรทำให้อ าสาสมัครเหล่าน ี้ ที่ต่างมีความเป็นปัจเจก มีค รอบครัว มีภาระ ยังไม่ต้องพูดถึงขนาดว่า พวกเขา ล้วนมีอัตตามีตัวตนไม่ต่างไปจากคนอย่างเราเรา อะไรทำให้พวกเขาลดละสิ่ง เหล่านั้น แล้วหล่อหลอมความต่างเป็นเพียงอาสาสมัครที่ทำงานโดยไม่หวัง ผลตอบแทน ดำเนินชีวิตด้วยใบหน้าเดียวกัน เครื่องแบบเดียวกัน คำตอบรออยู่หลังจ ากล้อเครื่องบินแตะพื้นรันเวย์ที่สนามบินเถาหยวน ที่สนามบินเถาหยวน อากาศไต้หวันถูกสูดเข้าเต็มปอด ใครบางคนบ่นอุบ ว่า “อากาศไม่เห็นจะหนาวเลย” มัคคุเทศก์ในการเดินท างครัง้ น ี้ ร่วมออกเดินท างมากบั ค ณะตงั้ แต่ก รุงเทพฯ เธอเรียกตัวเองว่า ‘อาส้ม’ อาสม้ เป็นช าวไต้หวันโดยกำเนิด เธออาศัยอ ยูเ่ มืองไทยหลายปี พูดไทยได้ คล่องแคล่ว เป็นภ าษาไทย ‘สำเนียงแบบอาส้ง’ เธอนำคณะเดินท างกว่า 30 ชีวติ
13 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางสู่ที่พัก คณะเดินทางกว่า 30 ชีวิต เป็นใคร มาจากไหน บางคนเป็นน ายก อบต. บางคนเป็นก ำนัน บางคนเป็นน กั ว ชิ าการ บางคน เป็นแ พทย์ บางคนทำงานดา้ นสาธารณสุข กล่าวโดยรวมๆ พวกเขาเป็นค นทำงาน ในชุมชนท้องถิ่น ต้องการเห็นชุมชนท้องถิ่นเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี “พวกเขาคือพวกที่กล้าเปลี่ยนแปลง” ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการ สำนัก 3 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะ ผู้เชิญชวนแต่ละคนให้มาร่วมเดินทางในทริปนี้ เธอบอกว่า ในการเดินทาง มาศึกษาเรียนรู้ระบบการทำงานจิตอาสาที่มูลนิธิพุทธฉือจี้ครั้งนี้ “เราแบ่งเป็น 4 ประเภท 1. ตัวผู้นำที่กล้าเปลี่ยนแปลง 2. ตัวผู้ตามที่พอมีเครือข่ายผู้คน 3. นักวิชาการ 4. ผูส้ นับสนุนกระบวนการ” พวกเขาเดินท างมายังไต้หวัน เพือ่ เรียนรเู้ ก็บเกีย่ วประสบการณ์ก ารทำงาน จิตอ าสาของมลู น ธิ พิ ทุ ธฉอื จ ี้ เพือ่ น ำกลับไปตอ่ ยอดปรับใช้ในแต่ละชมุ ชน ให้ผ คู้ น ในชุมชนท้องถิ่นผลิเกิดจิตใจแห่งความดีงาม จิตใจที่พร้อมจะยื่นมือช่วยเหลือ เพือ่ นมนุษย์ เมือ่ ห น่ออ อ่ นแทงเนือ้ ด นิ ใช่ห รือไม่ว า่ พวกเขาเหล่าน ปี้ ระหนึง่ ส ายฝน โลมต้นกล้า ผูห้ วังให้ชุมชนท้องถิ่นแต่ละแห่งเกิดจิตอาสา เมื่อชุมชนแต่ละแห่ง เกิดจิตอาสา จิตอาสาในชุมชนแต่ละแห่งย่อมถักทอร้อยเรียงกันจนเกิดเป็นผ้า ผืนใหญ่ข องสังคมของประเทศ ผืนผ้าที่เรียกว่า ‘พลเมือง’ ดวงอาทิตย์ทกี่ รุงไทเปเข้านอนแต่หัวค่ำ ท้องฟ้าย าม 17.00 นาฬิกา...มืด เหมือนท้องฟ้าราตรี “อากาศที่ไต้หวันเหมือนผู้ชายนิสัย” อาส้มกล่าวต้อนรับสู่กรุงไทเป คณะเดินทางต่างประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน “นิสัยผู้ชาย ไม่ใช่ผ ู้ชายนิสัย” ประหนึ่งขัดเกลาภาษาไทยให้อาส้ม ความหมายที่อาส้มต้องการสื่อ ที่ไต้หวันนั้น อากาศเอาแน่เอานอนไม่ได้ เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวฝน หากโชคดีเราอาจประสบภัยแผ่นดินไหว ประเทศไต้หวัน พร้อมจะเกิดภัยพิบัติได้ตลอดเวลา “ไต้หวันหนาวถึงกระดูกน ะ เดี๋ยวจะหาว่าอาส้งไม่เตือน” อาส้มพูด ทำให้
14
ใครห ลายค นที่ เ ตรี ย มเ สื้ อ โ ค้ ท ผ้ า พั น ค อ หมวก ถุงมือ ยิ้มเผยฟันไปตามกัน กว่า 30 ชีวิตในรถบัสคันนี้ จะร่วม เดินท างไปบนถนนสาย ‘จิตอ าสา’ ก่อนทพ่ี วกเขา จะกลับบ้าน หอบเอาประสบการณ์ในการ เดินทางครั้งนี้ กลับไปหย่อนเมล็ดพันธุ์แห่ง จิตอาสาบนผืนดินถิ่นเกิด แน่ล่ะว่า การเจริญเติบโตของต้นไม้ ย่อมใช้เวลามากกว่าหนึ่งวัน เช่นเดียวกับ การเรียนรู้
มากกว่าหนึ่งวัน
15
บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
การให้ทานโดยไม่หวังผลตอบแทน การฝึกตนทั้งพฤติกรรมและวาจา เพื่อประโยชน์ของสรรพสัตว์ทั้งปวง คือการฝึกตนให้เป็นพุทธะ
18
มากกว่าหนึ่งวัน
วันแรก
เบิกไม่ได้น ะจ๊ะ 19 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ถนนหนทางในกรุงไทเปค่อนข้างสะอาด ใครบางคนรำพึงต ้อนรับยามเช้า ว่า การถกู ร างวัลเลขทา้ ยสองตวั อ าจงา่ ยดายกว่าก ารหาเศษขยะตามทางเดินเท้า หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ปลิวบนถนน ไม่มีสุนัขจรจัดบ นถนนเช้ากรุงไทเป ประเทศไต้หวันตั้งอยู่บนเกาะฟอร์โมซา (Formosa) ในภาษาโปรตุเกส แปลว่า ‘เกาะสวยงาม’ นานนมมาแล้ว ชาวโปรตุเกสเคยเดินทางมายังเกาะนี้ และได้ตั้งชื่อเอาไว้ แต่ก ็ไม่ได้ย ึดเอามาเป็นอาณานิคม รัฐบาลไต้หวันท เี่ รามกั เห็นในขา่ วการเมือง ว่าช อบเล่นก ฬี ามวยไทยในสภา แต่บ ทจะเข้มง วดจริงจังก เ็ อาเรือ่ ง ไต้หวันเข้มง วดเรือ่ งสงิ่ แ วดล้อมมาก เวลาทซี่ อื้ ของตามร้านสะดวกซื้อเราจะไม่ได้ถุงพลาสติก หากคุณต้องการถุงพลาสติกจะ ต้องจ่ายเพิ่ม เป็นการบังคับให้ล ดใช้ถุงพลาสติก ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของโลก สมัยใหม่ ทีก่ ำลังเผชิญกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การยืนยันที่ จะใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย ไม่ใช่วิถีของผู้ฉลาด รัฐบาลไต้หวันยังคุมเข้มการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องปรับอากาศ อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศภายในสำนักงานที่ประเทศไต้หวันจะต้องไม่ต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส สำหรับส ิงห์อมควัน หากคุณทิ้งก้นบุหรี่เรี่ยราดตามทางเดินเท้าในไต้หวัน แล้วมีผู้พบเห็น เขาจะถ่ายรูปคุณเก็บไว้ รูปถ่ายใบนี้สามารถนำไปปรับคุณได้ ฐานทิ้งก้นบุหรี่ในที่สาธารณะ มีผู้ประกอบอาชีพเสริมเป็นช่างภาพสิงห์อมควัน
20
มากกว่าหนึ่งวัน
สร้างรายได้ให้ไม่น้อย หลังม อ้ื เช้า พ.ต.ท.สุรช ยั เทศวงศ์ แห่งเทศบาลตำบลเขมราฐ ออกมายนื ย ดื เส้น ยืดสาย สูดอากาศเช้าหน้าโรงแรม มูลนิธิพุทธฉือจี้มีชื่อเสียงเรื่องระบบงาน จิตอาสา และการทำงานของอาสาสมัครที่กระจายอยู่ทั่วโลก พ.ต.ท.สุรชัย แห่งเขมราฐ บอกอยากมาเห็นวา่ อะไรทำให้คนทำงานอาสาสมัครทน่ ี ่ ี ทำงานเต็มรอ้ ย “เต็มร้อยของคุณหมายถึงขนาดไหน?” เราถาม “ทำอย่างทุ่มเท” พ.ต.ท.สุรช ัยว่า “แต่ค นที่ชุมชนตำบลเขมราฐยังห่วงเรื่อง เศรษฐกิจ อย่าง อปพร. (อาสาสมัครป้องกันภัยฝ ่ายพลเรือน) พวกเขายังหวัง ค่าตอบแทน แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ เวลาทำมาหากินที่เขาสละมา เขาก็อยากได้เงิน ไปจุนเจือครอบครัว” เขาขอตัวเดินชมถนนหนทาง สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก ้าวเดินออกไป ระหว่างมองแผ่นห ลังเขาเคลือ่ นหา่ งออกไป คำถามหนึง่ ล อยขนึ้ ม า งานอาสาสมัคร ในชุมชนท้องถิ่นประเทศไทย มักมีปัญหาเรื่องค่าตอบแทน หรือพูดให้ตรงกว่า ชาวบ้านยังมีปัญหาเรื่องปากท้อง ยังมีปัญหาหนี้สิน การจะหวังให้งานจิตอาสา ดำเนินไปในความหมายของจิตอาสาที่แท้ คือค นทำงานไม่ห วังผลตอบแทน จะ สามารถเกิดขึ้นได้จ ริงหรือ เช้านี้ยังไม่มีคำตอบ และสายลมก็คร้านจะบอกออกมา จึงยังไม่มีคำตอบจากสายลม เช้าน ี้ รถบสั ก ำลังพ าพวกเราไปยงั ‘สถานีค ดั แ ยกขยะ’ ของมลู น ธิ พิ ทุ ธฉือจ ี้ ใครหลายคนในคณะเดินทางต่างมองไต้หวัน ผ่านบานหน้าต่างรถบัส และอด ไม่ได้ที่จะชื่นชมถนนหนทางที่สะอาดสะอ้านของไต้หวัน และบ้านเรือนที่เป็น ระเบียบเรียบร้อย “ถนนกว้าง บ้านกว้าง ไม่สใู้จกว้างนะคะ” อาส้มว่า อาสม้ เล่าให้ฟ งั ว า่ อาสาสมัครทที่ ำงานให้ม ลู น ธิ พิ ทุ ธฉอื จ จี้ ะออกคา่ ใช้จ า่ ย ในการเดินทางคา่ อาหารรวมถงึ เครือ่ งแบบในการปฏิบตั หิ น้าทีเ่ อง ยามเมือ่ พวกเขา ส วมใส่เครือ่ งแบบของอาสาสมัครฉอื จ ี้ เสือ้ ส นี ำ้ เงินค รามและกางเกงขาว จะตอ้ ง ปฏิบัติตามกฎระเบียบของมูลนิธิ
ณ นาทีน ั้นพวกเขาไม่ใช่พวกเขาอีกต่อไป มีหลักปฏิบัตยิ ามเมื่อสวมใส่เครื่องแบบของฉือจี้อยู่ 10 ข้อ กฎทั้ง 10 ข้อ เป็นศีลธรรมที่ศาสนาพุทธสอน เช่น ไม่เล่นการพนัน ไม่โป้ปด ไม่ผ ิดลูกผิดเมีย คนอื่น แต่จะเพิ่มกฎบังคับคือ ห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง อาสาสมัครฉือจี้ไม่แ บ่งเขา แยกเรา พวกเขาทำงานดว้ ยหวั ใจทอี่ ยากชว่ ยเหลือเพือ่ นมนุษย์ ค่าใช้จา่ ยในการ ทำงาน อาสาสมัครเป็นคนออกเอง บางรายบริจาคเงินเข้าม ูลนิธิด้วย มนุษย์ในชุดน้ำเงินครามเป็นมนุษย์ผู้มีแต่ให้ “เบิกไม่ได้นะคะ” อาส้มว่า 21 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ชราแต่กาย ใจยังเยาว์
23 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
นอกจากอาสม้ พวกเรายงั ม มี คั คุเทศก์ห นุม่ อ กี ค น มาชว่ ยให้ค วามรู้ เขาชอื่ อาจิน อาจินเป็นคนหนุ่ม พูดไทยชัดเจน เข้าใจวัฒนธรรมไทยดีพอๆ กับไต้หวัน เขาเป็นชาวไต้หวัน แต่เกิดที่เมืองไทย และเรียนหนังสือที่ประเทศไทยระยะหนึ่ง ก่อนจะกลับมายังไต้หวัน ที่ ‘สถานีคัดแ ยกขยะ’ แห่งน ี้ เป็นหนึ่งในสถานีหลายแห่งที่ตั้งในประเทศ ไต้หวัน พูดง่ายๆ ก็ค ือโรงงานแยกขยะดๆ ี นี่เอง ทีส่ ถานีคัดแยกขยะแห่งนี้ไม่ได้ มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรมากไปกว่าค นกับมือทั้งสองข้างของพวกเขา เกือบทั้งหมดเป็นคนแก่นั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กๆ เป็นกลุ่มๆ บ้างกำลัง ฉีกกระดาษ บ้างกำลังไขสกรู บ้างกำลังแยกขวดพลาสติก ภายนอกโรงเรือน มีเด็กสาววัยราว 16-17 กำลังค ัดแยกขวดพลาสติกใส่กระสอบ การแยกขยะของอาสาสมัคร จะแยกขยะออกเป็น 10 ประเภท ตามนวิ้ ม อื ของคนเรา ขวดพลาสติกทถี่ ูกทิ้งจะถูกส่งมายังส ถานีคัดแยกขยะแห่งต่างๆ ของ มูลนิธิพุทธฉือจี้ รัฐบาลไต้หวันดำเนินนโยบายให้ประชาชนคัดแยกขยะก่อนทิ้ง โดยจะไม่เก็บค่าขยะสำหรับขยะที่ผ่านการคัดแยกและสามารถนำไปรีไซเคิลได้ จึงทำให้ประชาชนไต้หวันม ีแรงจูงใจคัดแยกขยะตั้งแต่ในครัวเรือน
24
มากกว่าหนึ่งวัน
25 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
เมือ่ ข ยะซง่ึ ส ว่ นใหญ่ผ า่ นการคดั แ ยกมาจากครัวเรือนในระดับห นึง่ จะเดินท าง ม าถงึ ส ถานีค ดั แ ยกขยะแห่งน ี้ อาสาสมัครของมลู น ธิ พิ ทุ ธฉือจ จี้ ะคดั แ ยกขวดตาม สีและประเภทพลาสติก ถอดฝา ตัดข ั้วฝา และทำความสะอาดขั้นต้น ขวดพลาสติกเหล่านี้จะเดินทางต่อไปยังโรงงานต้าอ้าย (DA.AI) เข้าสู่ กระบวนการทำเป็นเส้นใยผลิตเป็นเสื้อผ้าต่อไป ชาวฉือจี้เรียกว่า ‘เส้นใยแห่ง ความรัก’ ใช่ ฟังไม่ผิดแน่ ขวดพลาสติกเหล่านี้จะถูกนำไปรีไซเคิลกลับเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า หมวก ถุงเท้า สินค้าเหล่านี้วางขายในร้านภายใต้แบรนด์ ‘DA.AI: Coexist with the Earth’ บริษัท DAAI Technology เจ้าของแบรนด์ DA.AI ก่อต ั้งโดยนักธ ุรกิจ 5 คน ที่ศรัทธาในวิถีปฏิบัติของธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ดำเนินการผลิตสินค้าโดย การใช้ว ตั ถุดบิ จ ากขวดพลาสติก ด้วยจติ ว ญ ิ าณทมี่ องเห็นค วามเชือ่ มโยงระหว่าง โลกกับมนุษย์ และองค์ความรู้ที่เป็นวิทยาศาสตร์ กว่าสินค้าจะได้คุณภาพตาม มาตรฐาน สินค้าของแบรนด์น ี้ผ่านการทำ R&D โดยนักวิจัยและพัฒนา เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและจิตวิญญาณ ธรรมชาติ ปัจจุบันผู้ถือหุ้นทุกคนของบริษัท DAAI Technology ได้บ ริจาคหุ้นของ บริษัททั้งหมดให้แก่มูลนิธิพุทธฉือจี้ การแปรขยะเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้า เป็นภารกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม ถือเป็น 1 ใน 8 ภารกิจข องมูลนิธิพุทธฉือจี้ อาสาสมัครวยั ช รานงั่ ค ดั แ ยกกระดาษ พวกเขาละเอียดถงึ ข นาดวา่ กระดาษ ทีม่ หี มึกป ะปนมาดว้ ย จะตอ้ งตดั ส ว่ นทมี่ หี มึกอ อก ชายชราคนหนึง่ น งั่ ล อกสายไฟ ออกเพื่อแ ยกพลาสติกออกจากลวดทองแดง ขยะทุกชิ้นล้วนมีที่ไปของมันเสมอ มันไม่ใช่ข องไร้ค ่า อาสาสมัครที่มาช่วยงานในสถานีคัดแยกขยะแห่งนี้ พวกเขาหลายคน เป็นคนมีฐานะ มีช ีวิตสะดวกสบาย แต่ก ็ไม่รังเกียจที่จะมาทำงานที่บางคนมอง ว่าต่ำต้อย
26
มากกว่าหนึ่งวัน
27
บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
28
มากกว่าหนึ่งวัน
“สรุปแล้วมีแต่คนแก่มาทำประโยชน์เนาะ” พ.ต.ท.สุรชัย แห่ง ทต.เขมราฐ รำพึงข ึ้น “เหมือนพวกเขาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์” จ่าสิบเอกไพศาล มีส มบัติ แห่ง อบต.บ้านควน รำพันตาม “คนแก่บ้านผมนั่งปอกหัวหอม” สินธพ อินทรัตน์ นายก อบต. ท่าข้าม กล่าวเสริม พวกเขาทั้ง 3 ยืนท ึ่งกับภาพตรงหน้า “ลองดมู ั้ย” เจ้าห น้าทีอ่ าสาสมัครเอ่ยชวนคณะ สมพร ใช้บางยาง ผู้ที่เป็นที่เคารพของชาวคณะ เดินลุยกองขยะ ลงไปเป็นคนแรก จากนั้นชาวคณะทั้งหมดต่างสวมถุงมือ คัดแยกขยะ ร่วมกับอ าสาสมัครฉือจี้ กระบวนการจดั การขยะทสี่ ถานีค ดั แ ยกขยะสร้างรายได้ให้แ ก่ม ลู นิธิ ในการนำไปต่อยอดภารกิจอื่นๆ เช่น สร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล สถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย และช่วยเหลือผู้ประสบภัย คำกล่าวที่ว่า ‘เปลี่ยนขยะเป็นทองคำ’ จึงไม่ใช่ถ้อยคำที่ใหญ่กว่า ความหมายของมันแต่อ ย่างใด
29 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
เราค งคุ้ น ชิ น จ ากห นั ง จ าก ภาพยนตร์ ว่ า เ มื่ อ ถึ ง บั้ น ปลาย คน ชราชาวอเมริกันจะต้องย้ายเข้าไปอยู่ ในบ้ า นพั ก ค นช รา ดำรงชี วิ ต อ ย่ า ง เงียบเหงา แต่ค นชราที่นี่ ยังม ีหัวใจที่ แข็งแ รง คนชราทนี่ มี่ หี วั ใจทเี่ ต็มเปีย่ ม ดุจวัยเยาว์ พวกเขาเดินทางออกมา จากบ้านในตอนเช้า ทำการงานที่ อยู่ตรงหน้าด้วยความรัก ในแต่ละเช้าท พี่ วกเขาลมื ตา ตื่น มันคงเหมือนการตื่นเช้าของ นักเรียนที่มีความกระตือรือร้น ในวันแรกที่เปิดเรียน
30
มากกว่าหนึ่งวัน
เห็นข ยะแล้วอ ยากกลับบ้าน วันหนึ่งในปี ค.ศ.1990 ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนได้รับเชิญให้แสดงธรรม ณ เมืองไถจง ในขณะที่ออกเดินทางตอนเช้ามืดนั้น ท่านเห็นพ่อค้าแม่ขาย ในตลาดกำลังเก็บแผงค้าของตนเอง แต่ขยะจำนวนมหาศาลถูกปล่อยทิ้งตาม ท้องถนน หลังจากการแสดงธรรมเสร็จสิ้น ผู้คนปรบมือให้กำลังใจชื่นชมดังกึกก้อง ท่านธรรมาจารยจ์ ึงเอ่ยขึ้นว่า “ขอให้ทุกท่านใช้สองมือที่กำลังปรบอยู่นั้น มาช่วยกันเก็บขยะตามท้อง ถนน เพือ่ น ำกลับม ารไี ซเคิล ช่วยให้ช มุ ชนของเราสะอาด ร่วมกนั แ ปรเปลีย่ นขยะ ให้เป็นทองคำ แปรเปลี่ยนทองคำให้เป็นใจรัก” ด้วยการผลักดันจากท่านธรรมาจารย์ ส่งผลให้เกิดการรณรงค์ ‘โครงการ แยกสิ่งของรีไซเคิล บริจาคช่วยเหลือฉือจี้’ ในบริเวณพื้นที่บ้านใกล้เรือนเคียง ของตนเอง หลังจ ากทดลองแยกขยะกนั เสร็จเรียบร้อย ชาวคณะตา่ งลา้ งไม้ล า้ งมอื ก นั เพื่อเดินท างต่อ หลายคนเห็นร ะบบการจัดการขยะของมูลน ิธพิ ุทธฉือจแี้ ล้วก อ็ ด ไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องขยะของบ้านตัวเอง
สิริพงษ์ ชูชื่นบุญ แห่ง อบต.บักได มองเห็นความศรัทธาของนักธุรกิจ
31 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ผู้ก่อตั้งบ ริษัท DAAI Technology ผู้รับไม้ต่อขยะจาก ‘สถานีคัดแยกขยะ’ แห่งน ี้ แล้วนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเป็นเส้นใย ผลิตเป็นเสื้อผ้า นักธุรกิจกลุ่มนี้ ศรัทธาวิถีปฏิบัตแิ ละแนวคิดข องท่านธรรมาจารยเ์จิ้งเอี๋ยน เขามองวา่ ชุมชนบกั ไดของเขากม็ คี วามรกั ค วามศรัทธาในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว “เรามีโครงการที่จะทำอยู่แล้ว เป็นโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ อยูอ่ ย่าง พอเพียง จะเป็นโครงการลักษณะนี้ เมื่อผมมาเห็นที่นี่ ก็อยากกลับไปทำให้เป็น รูปธ ร รมทชี่ ดั เจน ถ้าส งิ่ ไหนทชี่ าวบา้ นชาวบกั ไดรว่ มกนั ท ำเพือ่ ถ วายในหลวง มัน จะเป็นรูปธรรมทชี่ ัดเจนขึ้น” ที่ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ในฐานะที่ทำงานชุมชน สิริพงษ์ บอกว่า โดยพื้นฐานแล้ว การช่วยเหลือกันในหมู่บ้านในตำบลนั้น มีอยู่ แล้วเป็นเรื่องปกติ “แต่เราอาจจะไม่รตู้ วั ว า่ เรากำลังท ำงานจติ อ าสาอยู่ ก็ค อื ม าชว่ ยกนั ท ำงาน ไม่ว า่ จ ะเป็นง านบา้ นงานโรงเรียน คนบกั ไดไม่ท อดทงิ้ ก นั ซึง่ เข้าข า่ ยจติ อ าสา และ น่าจะเป็นไปได้ถ้าเราจัดการดีๆ เพราะโดยพื้นฐาน เราช่วยเหลือกันอ ยู่แล้ว แต่ อาจจะไม่ใหญ่โตขนาดไปสร้างโรงเรียนสร้างโรงพยาบาลเหมือนที่ฉือจี้” เขาว่า ไสว จันทร์เหลือง นายก อบต.ศรีฐาน ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เห็นขยะแล้ว อยากกลับบ ้าน ทีต่ ำบลศรีฐ าน อำเภอปา่ ติว้ จังหวัดย โสธร ไสวยนื ยันว า่ ทีน่ นั่ ก เ็ ต็มไปดว้ ย จิตอาสาเช่นเดียวกับที่มูลนิธิพุทธฉือจี้ เพียงแต่อาจมีข้อแตกต่างตรงที่การวาง ระบบการบริหารจัดการ มูลน ธิ พิ ทุ ธฉอื จ มี้ ภี ารกิจ 8 ด้าน ซึง่ ภ ารกิจแ ต่ละดา้ นไม่ได้เกิดข นึ้ ม าภายใน วันเดียว แต่ละภารกิจใช้ระยะเวลากว่าภ ารกิจละ 10 ปี ที่ศรีฐานมีจุดยึดเหนี่ยวคือหลวงปู่สรวง “ที่ ศ รีฐ าน เรามี ห ลวงปู่ ส รวงเป็ น จุ ด ศู น ย์ ก ลางข องชุ ม ชน ท่ า นเป็ น เกจิอาจารย์ชื่อดัง จะพาลูกหลานทำกิจกรรม ชาวบ้านอยากได้อะไร หลวงปู่
32
มากกว่าหนึ่งวัน
จะออกเงินให้ แต่ช าวบ้านเป็นคนทำเองนะ ไม่ว ่าถนนคอนกรีต ทำโรงเรียน ทำ โรงพยาบาลชุมชน หลวงปู่เป็นคนพาชาวบ้านทำหมดเลย แล้วท่านก็ซื้อวัสดุ อุปกรณ์ให้ห มด แต่ถ ้าอ ยากได้ต้องทำเองนะ ไม่มคี ่าแรงนะครับ ชาวบ้านที่มา ช่วยทำงานชุมชน” เขาเล่า สายตาจากเพื่อนบ้านมักมองคนศรีฐานว่าเป็น ‘คนโง่’ เพราะเพื่อนบ้าน ชุมชนติดกันมองว่า คนศรีฐานทำงานแล้วไม่ได้เงิน ให้เขาหลอกใช้ทำงาน แต่ ไสวยืนยันว่า คนศรีฐานเป็นคนที่มีจิตศรัทธา “คนศรีฐ านศรัทธาในหลวงปสู่ รวง ทำงานใช้แ รงงานเพือ่ ช มุ ชนนะ เราเป็น แบบนมี้ า 10 กว่าป แี ล้ว ตั้งแต่ห ลวงปมู่ าตั้งแต่ป ี 2543 ทีฉ่ ือจคี้ ล้ายบ้านผมเลย นะ แม้วา่ บ า้ นผมจะอากาศรอ้ นกว่าก ต็ าม คือท นี่ เี่ ขามรี ะบบจดั การทดี่ ี เขาทำมา นานแล้ว ระบบของเขาจงึ มีมาตรฐาน แต่ข องเราไม่มรี ะบบ แต่ผ ลลัพธ์ม นั ก ค็ ล้าย กัน คือคนพร้อมที่จะช่วยงานชุมชนโดยไม่ค ิดค่าตอบแทน” “ไม่มีแบบว่า นายกฯ ขอค่าแรงหน่อยเหรอครับ” เราถาม “ไม่มเี ลย หลังจ ากผใู้ หญ่บ า้ นประกาศเสียงตามสาย วันน มี้ เี ทคอนกรตี เด้อ มีปูนอยู่ 100 กว่าก ระสอบ อยากให้เสร็จวันเดียวเด้อ เขาก็แห่กันไป คนไหนที่ ว่าง ไม่มภี ารกิจอ ยากให้ม าชว่ ยกนั เรียบร้อย...แป๊บเดียวเสร็จ พืน้ ฐ านคนศรีฐ าน จะช่วยเหลือกัน ทุกคนอยากมีส่วนร่วม” “ถ้าวันหนึ่งไม่มีหลวงปู่?” “ถ้าท่านไม่อยูก่ ับเราแล้ว ศรีฐ านจะยังคงมีจิตสำนึกที่เคยช่วยกันเมื่อครั้ง หลวงปู่ยังอยู่ มันจะยังเหลืออยู่นะครับ ประกายไฟแรกเกิดจากหลวงปู่ วัดเป็น ที่ยึดเหนี่ยวของชาวบ้าน” ขยะเป็นปัญหาหนักอกของไสว ประหนึ่งสิวหัวช้างบนใบหน้าวัยรุ่น เขา ยอมรับว่าขยะเป็นเรื่องยาก เพราะขยะเป็นสิ่งที่คนในชุมชนศรีฐานไม่อ ยากเสีย เวลาไปคัดแยก “ผมเคยถามชาวบ้านแล้ว เขาไม่อ ยากเล่นด้วย เขาบอกว่ามคี นงาน อบต. มาเก็บขยะอยู่ จะไปแยกให้เสียเวลาทำไม แต่ท ี่เสียเวลามันเป็นเงินนะ” นายกฯ ไสว ตัดพ้อ
เขามองว่าโมเดลทมี่ ูลนิธิพุทธฉือจที้ ำอยู่ เป็นส ิ่งที่ยาก “ยากเลย เพราะเราบังคับเขาไม่ได้ ไปบังคับชาวบ้าน เขาก็เบื่อเรา” เขาว่า
33 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
การเมืองทำให้ช าวบ้านนิสัยเสีย ไสวมองเช่นน ั้น “มันผ ดิ ม าจากรฐั บาลสว่ นกลาง รัฐบาลทำให้ช าวบา้ นมกั ง า่ ย ทำให้ช าวบา้ น รอความช่วยเหลือ รอภาครัฐ ประชานิยมมีข้อเสียแบบนี้แหละ ทำให้ชาวบ้าน ไม่กระตือรือร้น รอความช่วยเหลือ แต่เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับประชาชน คน ไต้หวันม รี ะเบียบตงั้ แต่อ ยูใ่ นบา้ นของเขาแล้ว บ้านเมืองสะอาดสะอ้าน ไม่เหมือน บ้านเราต่างกันมากเลย” “เท่าที่ฟังนายกฯไสวพูดมา ผมคิดว่าชาวศรีฐานไม่มีปัญหาเรื่องการ ช่วยเหลือส่วนรวม แต่ป ัญหาคือนิสัยมักง่ายใช่ม ั้ยครับ” “คนไทยของเรามักง่ายเนาะ” เขาตอบตรง “แต่เรื่องจิตอาสา ผมรับรอง เลย ศรีฐานไม่น้อยหน้าใคร”
34
มากกว่าหนึ่งวัน
วันใ ดไม่ทำงาน วันน ั้นไ ม่ขอฉันอาหาร คำกล่าวทวี่ ่า ‘เปลี่ยนขยะเป็นทองคำ’ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย เพราะต้นทุน ในการบริหารจัดการงานสถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย 25 เปอร์เซ็นต์มาจากสถานี คัดแยกขยะรีไซเคิลทเี่ราเพิ่งไปเยี่ยมชมมา เรากำลังมุ่งหน้าไปยังสถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย แต่ที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยอย่างยิ่งก็คือ ความศรัทธาของอาสาสมัครฉือจี้ ที่มีแด่ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ผู้ก่อตั้งมูลนิธิพุทธฉือจี้ อะไรทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่ออกแสวงทางธรรม ได้รับความศรัทธาจนก่อ ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงระดับโลกอย่างนี้ เด็กส าวคนหนึง่ เติบโตขนึ้ ม าในภาคกลางของไต้หวัน ช่วงวยั แ ห่งก ารเติบโต ของเธอดำเนินค วบคูไ่ ปกบั ส งคราม บทเรียนแรกในชวี ติ ข องเด็กส าวคอื ค วามโหด ร้ายของสงคราม ในวัย 23 หลังจ ากบิดาเสียชีวิตด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก คำบอกกล่าวจากความตายบอกเธอว่า ชีวิตนั้นไม่เที่ยง จากนนั้ ท า่ นธรรมาจารยเ์ จิง้ เอีย๋ น ศึกษาพระธรรม เดินท างแสวงธรรม จน
35 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
มาปกั ห ลักท เี่ มืองฮว าเหลียน ภาคตะวันอ อกของไต้หวัน ท่านเชือ่ ว า่ ห ากปลุกก ศุ ล จิตในบคุ คลหนึง่ แ ล้ว และหากเขาผนู้ นั้ ไม่ค ลายศรัทธา ก็ส ามารถปลุกศ รัทธาคน ต่อๆ ไป จนทุกคนมีกุศลจิตจนจำนวนนับไม่ถ้วน ถ้าเป็นเช่นน ั้นพระโพธิสัตว์ก็ อยูใ่นดินแดนมนุษย์นั่นเอง ท่านเชื่อเช่นนั้น วันห นึง่ เมือ่ ท า่ นธรรมาจารยเ์ จิง้ เอีย๋ นเดินผ า่ นคลินกิ แ ห่งห นึง่ พบกองเลือด กองหนึง่ แต่ไม่พ บผปู้ ว่ ยเจ้าของกองเลือด จึงต ามหาสาเหตุ พบวา่ กองเลือดกองนนั้ เป็นข องหญิงผ หู้ นึง่ ซ งึ่ แ ท้งล กู เพราะไม่มเี งินม ดั จำการรกั ษา ความปวดรา้ วเกิดข นึ้ แก่จิตใจ หลังฟ ังเรื่องราว จึงต ั้งป ณิธานว่า จะเรี่ยรายเงินเพื่อช ่วยคนจน ขณะนั้นด้วยวัย 29 ปี ท่านธรรมาจารยเ์จิ้งเอี๋ยน และภิกษุณีอีก 4 ท่าน รวมถึงลูกศิษย์อ ีก 30 คน ได้ร่วมกันทำรองเท้าเด็ก อดออมเงินค่ากับข้าวลงใน กระบอกไม้ไผ่วันละประมาณ 50 สตางค์ น้อมนำหลักพรหมวิหาร 4 อันได้แก่ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เพื่อทำงานการกุศลต่างๆ เช่น สงเคราะห์ผู้ทุกข์ ยาก ช่วยเหลือคนยากจน และบรรเทาภัยฉ ุกเฉิน ปี พ.ศ. 2509 มูลนิธิพุทธฉือจี้ ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ วัดผู่หมิง หมู่บ้านเจียหมิน ในวันนั้นท่านนำเหล่าลูกศิษย์ปฏิบัติธรรม ณ วัดผู่หมิง โดย ทุกคนต่างดำเนินชีวิตด้วยการพึ่งพาตนเอง ยึดกฎที่ว่า
38
มากกว่าหนึ่งวัน
“วันใดไม่ทำงาน วันนั้นไม่ขอฉันอาหาร” โดยในช่วงนั้น ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนนำเหล่าสานุศิษย์เข้าสู่มุมมืด ของสังคมด้วยตนเอง เพื่อไปดูแลผู้ป่วยยากไร้ แต่ยิ่งช ่วยเหลือคนยากจนกลับมี จำนวนเพิม่ ข นึ้ ท่านธรรมาจารยเ์ จิง้ เอีย๋ น วิเคราะห์ข อ้ มูลท ไี่ ด้จ ากการลงพืน้ ท ดี่ ว้ ย ตนเองในช่วงที่ผ่านมา จึงพ บว่า ผู้คนที่ยากจนก็คือคนคนเดียวกับคนป่วย มูลนิธิพุทธฉือจี้เพิ่มภารกิจในส่วนการรักษาพยาบาล จากนั้นก็มีภารกิจ อืน่ ต ามมา จนถึงป จั จุบนั มูลน ธิ พิ ทุ ธฉอื จ มี้ ภี ารกิจท งั้ หมด 8 เรือ่ ง การกศุ ล การ รักษาพยาบาล การศกึ ษา ด้านจริยธรรมศาสตร์ การบรรเทาทกุ ข์ร ะหว่างประเทศ การบรจิ าคไขข้อกระดูก การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และอาสาสมัครชุมชน ถ้าเราดูจากภารกิจของมูลนิธิพุทธฉือจี้ จะพบว่าครอบคลุมทุกมิติความ เป็นมนุษย์ อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต อนต้น มูลนิธิพุทธฉือจี้มีอาสาสมัครกระจายตัวอยู่ ทั่วโลกกว่า 5 ล้านคน พวกเขาทำงานในแต่ละภารกิจของมูลนิธิพุทธฉือจี้ อย่าง ทีอ่ าสม้ บ อกพวกเรา อาสาสมัครเหล่าน ไี้ ม่มคี า่ ต อบแทน การเป็นอ าสาสมัครของ มูลน ิธิพุทธฉือจี้ ต้องมีจิตใจของการเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง แต่ละภารกิจท มี่ ลู น ธิ พิ ทุ ธฉอื จ ที้ ำนนั้ ใช้เวลาไม่ใช่น อ้ ย กว่าจ ะเป็นอ งค์กร ระดับโลกอย่างวันนี้ ใช้เวลาเป็นหลายสิบปี เรื่องราวทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันเดียว
39 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
มื้อเที่ยงทำให้ ป้านิ่ม-วนิษฐา ธงไชย แห่ง อบต.ศรีฐาน ต้องซึมเศร้าผ ิด นิสยั ช า่ งพดู ช า่ งคยุ ข องเธอ ก็เพราะวา่ ก บั ข้าวตรงหน้าไม่ค อ่ ยถกู ปากปา้ น มิ่ น กั แต่ โชคดที ี่ ภานุวุธ บูรณพรหม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผาสิงห์ นำสารพัด น้ำพริกติดกระเป๋าม าจากผาสิงห์ จังหวัดน ่านด้วย เมื่อเห็นน้ำพริก ป้าน ิ่มก็ตักใส่ข้าวสวยญี่ปุ่นเสียหน่อย ชาวไต้หวันท านขา้ วสวยญป่ี นุ่ เม็ดส น้ั เหนยี วๆ หนึบๆ ไต้หวันต กเป็นเมืองขน้ึ ของญี่ปุ่นระหว่างปี ค.ศ. 1895 จนถึงช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังมื้อเที่ยง มีเสียงล่ำลือกันว่า นายกฯธาดา อำพิน แห่ง อบต.อุทัยเก่า แอบหยิบเมล็ดแตงโมใส่กระเป๋า หวังจ ะไปลองปลูกที่บ้าน ก่อนที่จะมาเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยเก่า นายกฯธาดา เคยเป็นโรบินฮู้ดอยู่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวของเขาในประเทศญี่ปุ่นชวนให้นึกถึง เฉินหลงในภาพยนตร์เรื่อง Shinjuku Incident ที่ว่าด้วยคนจีนที่เข้าไปทำงานใน
Made in Taiwan
โรบินฮู้ดขโมยเมล็ดแตงโม
40
มากกว่าหนึ่งวัน
ตลาดมืดป ระเทศญี่ปุ่น เรือ่ งเล่าข องนายกฯธาดาโลดโผนจนไม่เชือ่ ว า่ ว นั น เี้ ขาจะกา้ วมาเป็นน ายก อบต. ผูห้ วังจะนำเมล็ดแตงโมไต้หวันไปลองปลูกท ี่อุทัยเก่า ระหว่างทางที่นั่งอยู่ บนรถบัส นายกฯธาดาชี้ชวนให้ดูต้นไม้ในไต้หวัน “อาสาสมัครสว่ นใหญ่ท ที่ ำงานในชมุ ชนอทุ ยั เก่าก เ็ ป็นข า้ ราชการทเี่ กษียณ อายุ” นายกฯธาดาเกริน่ และเล่าต อ่ ว่า “หลังจ ากเกษียณอายุร าชการแล้ว คนกลุม่ น ี้ ก็กลับมาทำงานเพื่อสังคมโดยไม่มีค่าตอบแทน คนกลุ่มนี้ก็จะทำงานอาสาใน ด้านต่างๆ ตามความสามารถที่พวกเขามี บางคนสอนภาษาอังกฤษให้เด็ก ซึ่งก็ ทำให้งานอาสาทอี่ ุทัยเก่าค่อนข้างหลากหลาย” เขาเล่าว่า ในชุมชนอุทัยเก่ามีทั้งคนรวยและคนจน จุดเชื่อมระหว่างคน ที่มีความแตกต่างทางเศรษฐกิจคือ ความเอื้ออาทร “ผมจะพูดเสมอว่า เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญคือความเอื้ออาทร เมื่อ ก่อนคนที่ทำงานอาสามีน้อย แต่พอคนกลุ่มนี้ยืนยันในสิ่งที่ตัวเองทำ มันก็ทำให้ คนอื่นมองเห็น เมื่อคนอื่นเห็นเขาก็เริ่มเปิดใจเข้ามา” หลังจากคายเมล็ดแตงโม นายกฯธาดาบอกว่า “มาที่นี่ ไอเดียผมผุดมาก เลย ผมไปยโุ รป ไปญปี่ นุ่ แต่ผ มชอบทนี่ มี่ ากกว่า เพราะเราสามารถกลับไปทำได้ เช่นเรื่องขยะ” นายกฯธาดาบอกวา่ ปัจจุบนั ท อี่ ทุ ยั เก่าก ค็ ดั แ ยกขยะกนั อ ยูแ่ ล้ว ซึง่ เขามอง ว่าเมื่อชาวบ้านคัดแยกแล้ว อบต. น่าจะรับไม้ต่อ อาจจะใช้สถานที่ในโรงเรียน เพื่อให้เด็กมสี ่วนร่วม “เราปฏิญาณไว้ว่าจ ะไม่มีรถเก็บขยะ อุทัยเก่าจ ะไม่มถี ังขยะ อย่างที่บอก ตอนนชี้ าวบา้ นเขาคดั แ ยกตงั้ แต่ค รัวเรือนแล้ว แต่ย งั ไม่มสี ถานทที่ เี่ ป็นศ นู ย์กลาง ในการรับข ยะเหล่านั้นมาอีกที ผมจะกลับไปทำสถานที่” “ได้สถานที่แล้ว ใครจะเป็นคนลงมือทำ?” เราถาม “คนที่ทำงานอาสาเรามอี ยู่แล้ว เราไม่กลัวเรื่องนี้แล้ว เรามีอยูแ่ ล้ว”
ข้อถ กเถียงแกล้มกาแฟบ่าย
41 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
สื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างอุดมการณ์ของมูลนิธิพุทธฉือจี้ ใน การเกิดภัยพิบัตินั้น ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนเคยกล่าวว่า สื่อควรต้องออกไป สังเกตการณ์ บันทึกเหตุการณ์เพือ่ น ำมาถา่ ยทอดให้ค นอนื่ ได้ร บั ร ู้ เพือ่ ค นเหล่าน นั้ จะได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย ไต้หวันม สี ถานีโทรทัศน์ก ว่า 100 ช่อง สถานีโทรทศั น์ต า้ อ า้ ยนำเสนอเรือ่ ง ดี เรื่องจริง และเรื่องงาม แม้จ ะเป็นองค์กรพุทธ แต่สถานีโทรทัศน์ต้าอ้ายก็นำ เสนอเนือ้ หาทไี่ ม่ได้อ งิ อ ยูก่ บั ศ าสนา มีล ะคร รายการเด็ก รายการวาไรตี้ แต่ไม่ใช่ รายการวาไรตี้ประเภทเปิดแ ผ่นป้าย ลื่นน้ำสบู่เพื่อให้คนขำแบบบ้านเรา ต้าอ้าย แปลว่า มหาเมตตา หรือ อำนาจอันยิ่งใหญ่ พวกเราเดินช มสตูด โิ อถา่ ยทำรายการภายในสถานีโทรทศั น์ต า้ อ า้ ย ซึง่ เต็ม ไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัย หลังจากชมสถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย ชาวคณะก็จับกลุ่มกันแสดงความคิด เห็น พร้อมจิบก าแฟยามบ่าย “สื่อบ้านเรา เช้ามาได้ยินแต่ข่าวฆ่าข่มขืน สื่อบ้านเรามีความสร้างสรรค์ น้อย” หมอโจ-สุริยัน แพรสี แห่ง อบต.ดอนแก้ว เปิดประเด็น “ในฐานะชมุ ชนทอ้ งถนิ่ ผมคดิ ว า่ เราตอ้ งมสี อื่ เป็นข องตวั เอง” นายกฯธาดา อำพิน เอ่ยขึ้นบ้าง “ที่ฉือจี้ ทุกอย่างเกิดจากความศรัทธา ความศรัทธาขยาย เครือข ่ายออกไปกว้าง สังเกตสิ พระเอกลิเก แม่ย กแห่ตามกันตรึม ซึ่งบ้านเรา ศรัทธาในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ ผมชอบคำกล่าวที่ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน บอกว่า ‘โลกไม่ใช่ของเราคนเดียว โลกเป็นของคนทุกคน’” “ที่นี่ เขาศรัทธา คิด และพูด เป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ใช่ว ่าพูดได้แต่ทำไม่ได้” ผศ.ดร.ลักขณา เติมศิรก ิ ุลชัย กล่าว “เรามักคิดว่าระบบจิตอาสาเป็นเพียงระบบหนึ่ง แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ระบบจติ อ าสาสามารถแทรกซึมในทกุ ร ะบบได้ห รือไม่ เป็นค ำถามนะครับ ศรัทธา ในตัวนายก อบต. นั้นเพียงพอหรือไม่ แล้วสิ่งที่น่าส นใจสำหรับผมคือ ใครเป็น
คนจัดการต่อจากท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ถ้าเราถอดระบบการจัดการของเขา ได้ ก็จ ะเป็นป ระโยชน์ต อ่ ก ารออกแบบชมุ ชนทอ้ งถนิ่ ข องเรา” ประพันธ์ แจ้งเอีย่ ม นักวิชาการแห่งม หาวิทยาลัยร าชภัฏอ ุตรดิตถ์กล่าว “จิตสำนึกมันต้องมีกระบวนการสร้าง แล้วมันต้องเริ่มจากที่ไหน จาก ครอบครัวจากผา้ ปูทนี่ อนในหอ้ งนอนตวั เอง” ภานวุ ธุ บูรณพรหม นายกองค์การ บริหารส่วนตำบลผาสิงห์ “วิธีคิดท ำเพื่อคนอื่น ก็คือผลสุดท้ายมันก็ย้อนกลับมาสู่เราเอง ถ้าเราเชื่อ ว่าทุกสิ่งบ นโลกนี้ล้วนแต่ส ัมพันธ์กันนะคะ” ป้านิ่ม-วนิษฐา ธงไชย แห่ง อบต. ศรีฐาน 42
มากกว่าหนึ่งวัน
43
บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
จงนำความเมตตาและความกรุณา จากบททฤษฎีไปสู่การปฏิบัติจริง
วันที่สอง
โรงพยาบาลแห่งนี้ คนไข้เป็นผู้เลือกหมอ 47 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
หลังจ ากทธี่ รรมาจารยเ์ จิง้ เอีย๋ นคน้ พ บวา่ การเจ็บป ว่ ยเป็นต้นต อของความ ทุกข์ และเป็นส าเหตุข องความยากจน จึงเริม่ อ อกหน่วยรกั ษาพยาบาลและตรวจ สุขภาพฟรีอาทิตย์ล ะ 2 ครั้ง เป็นเวลานานกว่า 15 ปี แต่ก ็ไม่ได้แ ก้ไขปัญหา ขาดแคลนการรักษาพยาบาลในแถบถิ่นคนยากจน ปณิธานของธรร มาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ทำให้เกิดศรัทธาในหมู่เศรษฐีและ ช าวบา้ นทวั่ ไป เกิดก ารชกั ชวนให้บ ริจาคเงินเพือ่ ก อ่ สร้างโรงพยาบาล ในปี 1986 โรงพยาบาลฉือจี้ที่ฮวาเหลียนก่อสร้างแล้วเสร็จ เริ่มต้นจากเตียงพยาบาล 100 เตียง ด้วยวิทยาการบวกกับเมตตาธรรม ปัจจุบันโรงพยาบาลฉือจี้มีธนาคาร ปลูกถ่ายไขกระดูก งานรักษาพยาบาลของฉือจี้ไม่ได้จำกัดขอบเขตตามเส้นแบ่ง เขตแดนของรัฐชาติ คณะแพทย์ของฉือจยี้ ังร่วมมือกับสหพันธ์แพทย์ไม่สังกัด คณะแพทย์ฉือจยี้ ึดมั่นหลักเคารพคน เห็นผู้ป่วยเป็นอาจารย์ นี่คือความงามของมนุษย์ไม่ใช่หรือ แม้แต่เสาเข็มภายในโรงพยาบาลฉือจี้ ใช้เสาเข็มแ บบลูกบาง เพื่อล ดการ สั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว แพทย์สามารถผ่าตัดคนไข้ได้ในช่วงเวลาที่เกิด แผ่นดินไหวเพียงเล็กน้อย การออกแบบอาคารของโรงพยาบาลฉือจี้สะท้อนให้ เห็นว่าชีวิตนั้นเปราะบางนัก แม้เพียงการสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อยของแผ่นดิน อาจส่งผลต่อชีวิตมนุษย์ ภายในโรงพยาบาลร่มรื่นด้วยร่มไม้ ซึ่งอาสาสมัครของฉือจี้จะเป็นผู้ดูแล
48
มากกว่าหนึ่งวัน
ต้นไม้ โดยแบ่งกันว่าใครจะดูแลต้นไหน ไฟตามทางเดินภ ายนอกอาคารใช้แ ผงโซลาร์เซลล์ก ำเนิดพ ลังงาน ประเทศ ไต้หวันผลิตแผงโซลาร์เซลล์ส่งออกเป็นลำดับต้นๆ ของโลก โรงพยาบาลแห่งน ตี้ งั้ อ ยูบ่ นพนื้ ที่ 15,000 ตารางวา พืน้ ทีท่ เี่ ป็นท ตี่ งั้ อ าคาร มี 5,000 ตารางวา ทีเ่หลือ 10,000 ตารางวา เป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับต้นไม้ โรงพยาบาลแห่งนี้ออกแบบระบบท่อฝังใต้ดิน เพื่อใช้กักเก็บน้ำไว้ใช้ยาม ขาดแคลน เพราะประเทศไต้หวันเป็นประเทศที่ขาดแคลนน้ำเป็นลำดับที่ 17 ของโลก นอกจากแพทย์แ ละพยาบาลทตี่ อ้ งอาศัยค วามรคู้ วามเชีย่ วชาญเฉพาะทาง เจ้าหน้าที่ที่เหลือในโรงพยาบาลเป็นอาสาสมัครฉือจี้แทบทั้งสิ้น ที่โรงพยาบาล ฉือจี้ จะมี ‘ศูนย์บ ริหารจิตอ าสา’ ซึ่งเป็นร ะบบของมูลน ิธพิ ุทธฉือจี้ ในการจัดการ จัดอาสาสมัครมายังโรงพยาบาลแต่ละแห่ง อาสาสมัครเหล่าน ไี้ ม่มสี ทิ ธิพ เิ ศษใดๆ ในการรกั ษาพยาบาล หากพวกเขา เจ็บป่วย ก็ต้องรอคิวเหมือนผู้ป่วยทุกร าย กระนั้นการเป็นอาสาสมัครก็ใช่ว ่า วัน
49 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
นี้เบื่อๆ เซ็งๆ อยากเดินเข้ามาเป็นอาสาสมัครปุบปับแบบนี้ก็หมดสิทธิ์ เพราะ ต้องผ่านการอบรม และจะต้องรอดวู ่า โรงพยาบาลแห่งนั้นแห่งนี้ มีอ าสาสมัคร ครบแล้วหรือยัง ประเทศไต้หวันเป็นป ระเทศทมี่ รี ะบบการรกั ษาบริการระบบเดียว แตกตา่ ง จากประเทศไทยที่มีระบบการรักษาพยาบาล 3 ระบบ ที่นี่ไม่ว่าคุณจะเป็น รัฐมนตรี ส.ส. เศรษฐี หรือคนเก็บขวดขาย คุณก็มีสิทธิเท่าเทียมกันในการรักษา พยาบาล ประชาชนทุกคนจะมีไอดีการ์ด เมื่อมาถึงโรงพยาบาล สามารถนำการ์ด ทาบที่เครื่อง บนจอจะแสดงแผนกทตี่ ้องการรักษา ผู้ป่วยสามารถเลือกได้ว่าจะ รักษากับแพทย์คนใด ข้อมูลหน้าจ อจะแสดงให้เห็นว่าแพทย์คนนี้มคี ิวการรักษา กี่คน “ทีน่ คี่ นไข้เลือกหมอ ไม่ใช่ห มอเลือกคนไข้ สุดย อดจริงๆ” จ่าส บิ เอกไพศาล มีสมบัติ แห่งบ ้านควน เอ่ยขึ้นมาแบบทึ่งๆ
50
มากกว่าหนึ่งวัน
ฉันรักเสาทุกต้นของโรงพยาบาล คนไต้หวันเรียกพี่สาวว่า ‘ซือเจ๊’ ด้วยความบกพร่องที่ไม่สามารถจดจำชื่อเสียงเรียงนามของเธอได้ ไม่ใช่ใครอื่น ความผิดค วรตกเป็นของผู้เขียนแต่ลำพัง แต่เรื่องราวของเธอนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำ ซือเจ๊ค นนี้ เป็นอ าสาสมัครทำงานในโรงพยาบาลฉอื จ ี้ ในหนึง่ ป ี เธอ จะเป็นอาสาสมัครทโี่รงพยาบาลเป็นช่วงเวลา 5 ครั้ง ครั้งละ 5 วัน หน้าที่ของจิตอาสาในโรงพยาบาลมีหลายหน้าที่ วันนี้อาจจะอ่าน หนังสือให้ผู้ป่วยฟัง คอยแนะนำหนังสือให้ผู้ป่วย ซึ่งเธอบอกว่าเธอรัก หน้าที่นี้ที่สุด แต่การเป็นจิตอาสาไม่ใช่การทำความปรารถนาของตัวเอง หัวใจของจติ อ าสาคอื ท ำเพือ่ ค นอนื่ ซึง่ บ างครัง้ ซ อื เจ๊ก ต็ อ้ งลา้ งหอ้ งน้ำ หรือ อาจจะต้องเข้าครัว ซึ่งม ีงานกว่า 30 ประเภทในโรงพยาบาล “ฉันท ำได้ห มดทกุ ง าน” เธอบอก และทำอย่างกระตือรือร้น ไม่ต อ้ ง รอใครสั่ง
51 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ครอบครัวของเธอประกอบธุรกิจร้านทำขนมปัง ปัจจุบันเธอมีหลานแล้ว จึงเกษียณตัวเองออกมาจากร้านขนมปัง ให้ลูกหลานดูแล ลูกหลานบางคนของ เธอเป็นครู “ฉันไม่ต อ้ งเป็นห ว่ งกบั พ วกเขา พวกเขาดแู ลตวั เองได้แ ล้ว ฉันไม่ต อ้ งเลีย้ ง ใครแล้ว ก็เลยมาทำงานจิตอาสา” เธอว่า “มาทำงานจิตอาสาได้อย่างไรครับ” ใครบางคนถาม “เมือ่ ต อนทฉี่ นั เกษียณ ฉันเคยถามตวั เองวา่ ฉันได้ท ำอะไรเพือ่ ค นอนื่ บ า้ ง แล้วพอฉันคิดแบบนี้ อยู่กับบ้าน ฉันก ็เริ่มฟุ้งซ่าน” เธอรจู้ กั ม ลู น ธิ พิ ทุ ธฉอื จ จี้ ากเพือ่ นบา้ น จึงล องตามเพือ่ นมา ส่วนสามีข อง เธอก็สนับสนุน “แต่สามีฉันขอดูอยู่ห่างๆ ไปก่อน” เธอว่าพร้อมหัวเราะ “แต่ฉันคิดว่าม ีโอกาสมากทีเดียวที่เขาจะตามมาทำงานจิตอาสา” เธอพูด “รูม้ ั้ย อายุยิ่งมาก ยิ่งมคี วามสุข ยิ่งมีใจที่จะทำงานนี้” “มีปัญหาครอบครัวม ั้ย?” เสียงถามแว่วมาจากใครคนหนึ่ง “ถ้าการเป็นจิตอาสาแล้วทำให้ครอบครัวเดือดร้อนเป็นสิ่งไม่ดีนะ ท่าน อาจารย์เจิ้งเอี๋ยนคงไม่สนับสนุน ตอนนี้ที่บ้านของฉัน เมื่อไม่มฉี ัน ที่บ้านก็ไม่มี ปัญหาอะไร ฉันก็มาทำตรงนี้ได้” เธอว่า คำตอบของเธอทำให้นึกถึงคำพูดของ ป้าน ิ่ม-วนิษฐา เมื่อวานนี้ “วิธีคิดทำเพื่อคนอื่น ผลสุดท้ายมันก็ ย้อนกลับมาสู่เราเอง ถ้าเราเชื่อว่าทุกสิ่งบน โลกนี้ล้วนแต่ส ัมพันธ์กันนะคะ” ใช่ ถ้าเราเชื่ออย่างที่ป้านิ่มบอก ‘ทุกส ิ่ง บนโลกนี้ล้วนแต่สัมพันธ์กัน’ หากโครงสร้าง พื้นฐานดี โอกาสของประชาชนก็เปิดกว้างขึ้น ระบบการรักษาพยาบาลของไต้หวันสะท้อน หลายสิ่งในมิติของชีวิต “ฉันรักเสาทุกต้นของโรงพยาบาล” ซือเจ๊ว่า “เพราะฉันมีส่วนร่วมกับพวก มันมา”
ถ้าเราเชื่อว่าทุกส ิ่งล้วนสัมพันธ์ ประชาชนไต้หวันจ่ายค่าประกันสุขภาพ 5.17 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน หากเงินเดือนต่ำกว่าฐานก็ไม่ต้องจ่าย รัฐบาลจะช่วยจ่ายให้ แต่พวกเขามีสิทธิ ในการรักษาพยาบาลเท่าเทียมกัน อาจินเล่าว่า คนไต้หวันจ ะไม่นิยมทำงานต่างบ้านเกิด “ไม่เหมือนที่เมืองไทยนะ คนทนี่ ี่จะทำงานที่บ้านเกิดเป็นส ่วนใหญ่ จะไม่ ค่อยเข้าม าทำงานในเมืองใหญ่ อย่างทกี่ รุงเทพฯ เพราะคา่ จ า้ งในไทเปกบั เมืองอนื่
53 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไร” หนักหนา - หากใครเคยแบกชีวิตไว้บนบ่า ถ้า เราจะเรียกร้องให้เขาทำงานเพื่อส่วนรวมโดยไม่รับ ค่าตอบแทนเลย ทั้งที่ลูกยังไปโรงเรียน ยังมีหนี้สิน ปวดกบาล เข้าใจ - จิตอาสาคือความดีงามของมนุษย์ คือ การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน แต่ภายใต้โครงสร้าง พื้นฐานที่สังคมมีอยู่ ภายใต้ระบบที่เอื้อให้เกิดวงจร ซ้ำซาก เราเรียกรอ้ งเกินไปไหม ถ้าจ ะนยิ ามและปฏิบตั ิ จิตอาสาต้องไม่มีค่าตอบแทน “ไม่จ ำเป็นน ะครับ” นายกฯนะจ๊ะ-สุว รรณวิชช์ เปรมปรีดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโรง บอก และวา่ “เพราะบริบทใครบริบทมนั ถ้าเป็นเทศกาล ถ้าเป็นวันหยุดข องเราก็มาด้วยใจ ผมมองว่าเราต้องมี คนที่พร้อม เขามีฐานะ ครอบครัวด ี เขาทำได้ จิตอ าสา เขากม็ เี ยอะ แต่บ า้ นเราคนยากจนเยอะ การเป็นจ ติ อ าสา ชีวิตคุณต้องพร้อมก่อน” “ผมมองว่าเราทำให้คำว่าจิตอาสาผิดเพี้ยนไป” เรวัติ นิยมวงศ์ แห่ง ทต.ชากไทย กล่าวแย้ง “จิต อาสาในทนี่ ี่ไม่ต้องการค่าตอบแทน แต่บ้านเรามักบ่น ว่าแกนนำไม่ดูแลเลย ซึ่งเขายังไม่เข้าใจงานจิตอาสา หรือบ างทีเรากใ็ ห้เขาจนเขาเสพตดิ ก็ก ลายเป็นว า่ ไม่มี ค่าตอบแทนก็ไม่อยากทำ สิ่งที่ผมจะกลับไปคือปรับ เปลี่ยนทัศนคติเรื่องนี้” สำหรับ นายกฯวชิ ญะ เสาะพบดี นายก อบต.บักได มองว่า “จิตอาสาน่าจะเป็นรูปแบบความสุขทางใจ บางคนเขาอาจจะมคี วามพร้อมด้านเศรษฐกิจแล้ว แต่
54
มากกว่าหนึ่งวัน
จิตอาสาของเรามีหลายรูปแ บบ บางทีเขามีเงินแต่ไม่มีโอกาสช่วยงานลักษณะนี้ เราต้องเปิดโอกาสให้กว้างสำหรับท ั้งคนมีเงินและมีใจ “คำว่าจิตอาสาคงไม่จำเป็น แต่เรื่องสวัสดิการต่างๆ จำเป็นนะ อย่างฉือจี้ เขามโี รงพยาบาล ซึง่ ก ารเข้าม าทำจติ อ าสาเขาอาจจะได้ร บั ส วัสดิการการรกั ษาที่ โรงพยาบาลหรือเปล่า แต่ม ุมมองของเรา คนทที่ ำงานจิตอาสาสมควรได้รับการ ยกย่อง ซึ่งการให้สวัสดิการมันก็เป็นรางวัลหนึ่ง” ผศ.ดร.ลักขณา เติมศิรก ิ ุลชัย หรือ อาจารย์เล็ก มองว่า “ถ้าเรียกร้อง ให้เขาทำงานอาสา ขณะทปี่ ระชาชนยังเอาตัวไม่รอดนะ คือเขายังม ีหนี้สิน แล้ว มันก ็มีการเปรียบเทียบด้วย ก็น ายกฯได้เงินเดือนนี่ ถ้าเป็นแบบนี้นะ ลึกๆ แล้ว อาจารย์ว่ามันไม่แฟร์” “ระหว่างเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมกับตั้งหน้าตั้งตาทำต่อไปภายใน ชุมชนท้องถิ่น ภายใต้เงื่อนไขทสี่ ังคมเป็นแบบนี้ อาจารย์ม องว่าแบบไหนจะง่าย กว่า?” “อาจารย์ว า่ ต อ้ งทำทงั้ 2 ส่วน ถ้าเราอยูใ่ นสว่ นของทอ้ งถนิ่ แล้วเราสร้างสงิ่ ดีๆ นี้ได้ แล้วเราก็หวังว ่าเราจะผลักดันการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างดีๆ ได้ส ัก วันหนึ่ง อีก 50 ปีอ าจจะทำได้ แต่ม ันไม่ได้เกิดทันทีไง มันต้องสัมพันธ์กัน” สำหรับอาจารย์เล็ก วัฒนธรรมคอรัปชั่นและอุปถัมภ์ในสังคมไทยเป็นสิ่ง ที่ซึมลึก “ถ้าเราเทียบไต้หวัน เขามีระบบการรักษาพยาบาลแบบเดียว ไม่ว ่าคุณจะ เป็นข ้าราชการหรือประชาชนหรือชาวนา มีบ ัตรใบเดียวเสียเหมือนกันหมด พระ อาจารย์เจิ้งเอี๋ยนที่มีอิทธิพลต่อสังคมมาก เวลาที่พระอาจารย์ไปโรงพยาบาล ท่านก็ต้องต่อค ิวเหมือนคนอื่น แต่บ้านเราไม่ “ตอนเด็กๆ เราอาจจะรู้สึกว่าคนคนนี้พูดดีมากเลย คิดอะไรก็มีเหตุมีผล คำพูดคมคาย...เราประทับใจ แต่พอเราแก่ตัว เราจะมองว่าเออ คุณคิดดีนะ พูดก็ดีนะ แต่ทำไมทำอีกแบบหนึ่ง คุณเรียกร้องสิทธิพิเศษ แต่คุณบอกว่ามนุษย์ ทุกค นมสี ทิ ธิเท่าก นั มองเห็นป ระชาชน คุณส ามารถโค้งให้เขาได้ คุณร กั ป ระชาชน เหมือนรักพี่น้อง แต่ส ิ่งที่เราดจู ากฉือจี้ มันค ือเรื่องจริงใช่มั้ย เขาโค้งให้กับคนจน
ได้จริงๆ เราเริ่มเคารพมนุษย์คนเล็กๆ ที่ไม่ต้องเรียนหนังสือสูงนะ แต่เขาคิด แบบไหนเขาทำแบบนั้น” แต่ไม่ว่าจ ะอย่างไร อาจารย์เล็กมองว่า “เราจะดูแลแค่ครอบครัวของเรา โรงเรียนของเรา แค่นั้นมันไม่พอ เวลาที่ คุณเกื้อกูลคนทที่ ุกข์ยากมากๆ ความจริงแล้วมันก็คือการช่วยเหลือสังคม แล้ว มันก็คือการช่วยเหลือตัวคุณเอง คนเหล่านี้เขาอาจจะกลายเป็นอาชญากรก็ได้ ใช่มั้ย ถ้าคุณไปรังแกเขามากๆ วันหนึ่งเขาอาจกลายเป็นอาชญากรมาทำร้าย ลูกคุณก็ได้ ถ้าเรามองว่าทุกอย่างสัมพันธ์กัน เราก็ต้องทำเพื่อคนอื่นด้วย เพื่อ สุดท้ายคุณจะได้อยู่ในสังคมดีๆ” 55 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
56
มากกว่าหนึ่งวัน
อนุสาวรีย์คนธรรมดา
57 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
เรามงุ่ ห น้าข นึ้ เหนือไปเหนือส ดุ ข องเกาะไต้หวัน อุทยานแห่งช าตเิ ย่ห ลิว (Yehliu Park) มีลักษณะพื้นที่เป็นแหลมยื่นไปในทะเล การเซาะกร่อนของ น้ำทะเลและลมทะเล ทำให้เกิดโขดหินงอกเป็นรูปร่างลักษณะต่างๆ โดย เฉพาะหินรูปเศียรราชินี ที่นักท่องเที่ยวต้องยืนต่อแถวถ่ายรูปในมุมมองที่จะ สามารถมองเห็นหินก้อนนี้เป็นรูปเศียรราชินี เดินเลียบทะเลบนสะพานไม้ จนพบอนุสาวรียข์ องชายผู้หนึ่ง เขามีนาม ว่า Lin Tian Zheng เป็นช าวประมงผไู้ ด้ก ระโดดลงจากเรือห าปลาทอี่ ยูแ่ ถวนนั้ ลงไปช่วยเด็กที่พลัดตกลงไปในน้ำ ในปี 1964 แต่เนื่องจากคลื่นแรงมาก ทั้งคู่จึงถูกกลืนหายไปกับสายน้ำ หลังจากนั้นจึงได้มีการสร้างอนุสาวรีย์เพื่อ เป็นเกียรติแก่เขา
58
มากกว่าหนึ่งวัน
วันที่สองในไต้หวันของคณะเดินทาง พวกเราเจอคนไทยมากกว่า 2 คน แล้ว เมื่อตอนเที่ยง นายกฯปุ้ย-เพ็ญภัค รัตนคำฟู นายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลเกาะคา จังหวัดล ำปาง ยืนอ คู้ ำเมืองกบั ค ณ ุ ป า้ ช าวไทยคนหนึง่ ท อี่ าศัย อยูใ่นประเทศไต้หวัน “ปรากฏว่าคุณป้าที่เจอวันนี้เป็นชาวลำปางค่ะ” นายกฯปุ้ยบอก “คุณป้า เล่าให้ฟังว่า คนที่นี่แข่งขันกันทำเพื่อสังคม เขาไม่ได้คุยกันเรื่องหนังเรื่องละคร แต่คุยก ันว่าวันนี้จะไปทำอะไรเพื่อสังคมบ้าง” ช่วงไพรม์ไทม์ข องสถานีโทรทศั น์ต า้ อ า้ ยไม่ใช่ล ะคร แต่เป็นการแสดงธรรม ของท่ามธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน “อย่างทอี่ ทุ ยานเย่ห ลิว มีร ปู ป นั้ ช าวประมงทชี่ ว่ ยเด็กจ มนำ้ แสดงให้เห็นว า่ สังคมไต้หวันเป็นสังคมทเี่ชิดชูคนดี” นายกฯปุ้ยเล่า ในมุมมองของนายกฯปุ้ย ถ้าเรามองว่าคนในสังคมหรือในชุมชนเป็น ครอบครัวเดียวกับเรา เราก็พร้อมจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคนอื่น “การเป็นจิตอ าสาเริ่มจากอะไร เริ่มจากการที่เราอยากเห็นสิ่งดีๆ เกิดข ึ้น ในบ้านเรา ทุกคนสามารถเป็นอาสาสมัครได้ ถ้าเรามองว่าทุกคนในชุมชนคือ ครอบครัวเดียวกัน เราห่วงใยคนอื่นเสมือนคนในครอบครัวเราจริงๆ สิ่งน ี้เกิดใน ชุมชนตำบลเกาะคาอยูแ่ ล้ว แต่เราจะทำอย่างไรให้ก ระจายไปวงกว้างมากขนึ้ เรา มองวา่ การทำงานจติ อ าสาไม่เฉพาะวยั ใดวยั ห นึง่ เท่านัน้ ทำงานรว่ มกบั ท กุ ค นใน สังคม อาศัยความรักความผูกพัน มองว่าทุกคนในหมู่บ้านทุกคนในชุมชนเป็น พีน่ ้องเป็นค รอบครัวเดียวกัน” อาสาสมัครของมลู นธิ พิ ทุ ธฉอื จ้ี ต่างกศ็ รัทธาในตวั ทา่ นธรรมาจารยเ์ จิง้ เอีย๋ น พวกเขามแี รงขบั จ ากพลังศ รัทธา ถามนายกฯปยุ้ จำเป็นไหมทแี่ รงศรัทธานนั้ ต อ้ ง ยึดอยูก่ ับศาสนาหรือตัวบ ุคคล? “พลังศ รัทธาไม่จ ำเป็นต อ้ งมาจากหลักศ าสนา หรือต วั บ คุ คลทางศาสนา แต่ เป็นพ ลังศ รัทธาทเี่ กิดจ ากการอยากเห็นท อ้ งถนิ่ ด ขี นึ้ พลังศ รัทธาทมี่ องวา่ ท อ้ งถนิ่ คือบ ้านของทุกค น พลังศรัทธากับความเชื่อมั่นว่าทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน “อย่างเกาะคา เราใช้พลังความเชื่อที่ว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เรา
59
บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
60
มากกว่าหนึ่งวัน
เป็นเจ้าของเกาะคาร่วมกัน ให้ทุกคนมีส่วนร่วม แต่เราก็มองว่าทั้งหมดนั้นยังไม่มีจุดจบนะ เรา ต้องพยายามทำต่อไป การสร้างสังคมแห่งการมี ส่วนร่วมเป็นโจทย์ที่ท้าทายและต้องทำไปเรื่อยๆ ไม่มีวันที่จะมาบอกว่าสำเร็จแล้วนะ ต้องทำไป เรื่อยๆ” นาย Lin Tian Zheng ไม่ได้เป็นญาติหรือ ผูกพันท างสายเลือดกบั เด็กห ญิงค นนนั้ ท ตี่ กนำ้ แต่ เขาอาจจะคิดคล้ายๆ กับนายกฯปุ้ย เขามองเพือ่ นมนุษย์เป็นค รอบครัวเดียวกัน ในวินาทีที่เขาตัดสินใจกระโดดลงจากเรือไปช่วย เด็กหญิงคนนั้น เขาน่าจะคิดแบบนี้
61
บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ความหลากหลายคือสิ่งสวยงาม
62
มากกว่าหนึ่งวัน
ตรากตรำกับอาหารจีนมาหลายมื้อ น้ำพริกของนายกฯภานุวุธแห่ง ผาสิงห์ดูเหมือนจะขายดเีป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ใช้บริการจากศรีฐาน – ป้าน ิ่ม ระหว่างทานอาหาร ป้าน ิ่มบอกเล่าความเป็นมาของวันมาฆบูชาให้ฟัง “วันมาฆบูชาก็เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนานะคะ ท่านทราบกัน มั้ยคะ ว่าทำไมวันมาฆบูชา จึงมีพระสงฆ์มาชุมนุมกันโดยมาได้นัดหมายเหลือ เพียง 1,250 รูป” ทุกคนเงียบ ด้วยสงสัย วันมาฆบูชาก็คือวันที่พระสงฆ์มาชุมชนโดยไม่ได้ นัดหมาย 1,250 รูป ไม่ใช่ห รือ “ไม่ใช่ค่ะ” ป้าน ิ่มว่า “ความจริงแ ล้ว วันมาฆบูชาต้องมีพระสงฆ์มาชุมนุม กัน 1,251 รูป แต่ว ันนั้นโดยไม่ได้นัดห มาย พระสงฆ์ส ่วนใหญ่จึงไม่ได้นัดพระ ภิกษุห มายมาร่วมชุมนุมด้วย จึงเหลือ 1,250 รูป” นี่คือป้านิ่ม ผู้พร้อมจะเรียกสร้างหัวเราะประดับการเดินทางได้เสมอ ป้านิ่มเป็นนักบริหารงานสาธารณสุข รับผิดชอบส่วนสาธารณสุขและ สิ่งแวดล้อม ตำบลศรีฐาน เล่าให้ฟังถ ึงชุมชนศรีฐานว่า “พลังของศรีฐานคือเรื่องของบุญ ชาวบ้านอยากทำบุญกับหลวงปู่สรวง โรงพยาบาลศรีฐานก็เกิดจากจุดน ี้ ป้าค ิดว่าถ ึงหลวงปู่จะไม่อยู่แล้ว แต่ตรงนี้จะ ยังอยู่ ถ้าเราเอาเรื่องบุญเป็นแรงจูงใจมันน่าจะทำให้ได้แนวร่วม” ในมมุ ม องของปา้ น มิ่ ชาวศรีฐ านมแี นวโน้มท จี่ ะเชือ่ แ ละศรัทธาในพลังข อง บุญมากกว่าการจูงใจด้วยรายได้ พร้อมกับย กตัวอย่างเรื่องขยะ “ถ้าเรากระตุน้ ช าวบา้ นวา่ ไปเก็บแ ละคดั แ ยกขยะ จะได้น ำไปขาย ก่อให้เกิด รายได้ ขยะแปลงเป็นท องคำเหมอื น ทีฉ่ อื จ นี้ ะ เขาอาจไม่ส นใจเท่ากับบ อกเขาวา่ เก็บขยะไปขายแล้วเอาเงินไปทำบุญกับหลวงปสู่ รวง ถ้าพูดแ บบนี้นะ ทั้งคนรวย คนจนมาหมดเลย เรื่องบุญนี่มันเท่าเทียมกันจริงล่ะเนาะ” ป้านิ่มว่า ด้วยต้นทุนที่ต่างกันระหว่างที่มูลนิธิพุทธฉือจี้กับที่ชุมชนศรีฐาน ป้านิ่ม บอกว่า
63 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
“ที่เรามาไม่ได้หมายความว่า เราจะกลับไปทำตามเขาทุกอย่างเนาะ เรามี ผูน้ ำทางจติ ว ญ ิ ญาณ เรามกี ารทำเรือ่ งสงิ่ แ วดล้อม เรากน็ ำสงิ่ ท เี่ จอกลับไปตอ่ ยอด ให้เหมาะสมกับบ ริบทของเรา” ชุมชนศรีฐานมีต้นทุนในแรงศรัทธาทางศาสนาเหมือนที่มูลนิธิพุทธฉือจี้ หากที่ฉือจี้มีท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ที่ศรีฐานก็มีหลวงปู่สรวง บุคคลทั้งสอง เป็นที่เคารพและศรัทธา โดยใช้หลักศาสนานำในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม “อย่างที่ป้าบอกวันก่อนแหละ วิธีคิดทำเพื่อคนอื่น ก็คือผลสุดท้ายมันก็ ย้อนกลับมาสู่เราเอง ถ้าเราเชื่อว่าท ุกสิ่งบนโลกนี้ล้วนแต่สัมพันธ์กันนะคะ” “เห็นป า้ น มิ่ ท านอะไรไม่ค อ่ ยได้เลย กับข้าวไม่ค อ่ ยถกู ปากปา้ น มิ่ เลยเหรอ” เห็นบ่นถึงส้มตำ จึงถ าม “อาหารคือวัฒนธรรมเนาะ ป้าก ็ไม่กล้าไปตัดสินหรอกว่าของเราดกี ว่า ก็ ถือเป็นความหลากหลาย ความหลากหลายคือสิ่งสวยงาม แต่บางวัฒนธรรมเรา ก็เข้าไม่ถึงเนาะ ก็ไม่ชิน” ป้านิ่มว่า
คนเดีย
วในโบก
64
ี้
มากกว่าหนึ่งวัน
นอกจากอาจนิ แ ละอาสม้ ไม่มใี ครในคณะของ เราทพี่ ดู ห รือฟ งั ภ าษาไต้หวันได้ คืนน เี้ ราทงั้ หมดตอ้ ง นั่งรถไฟไปยังเมืองฮวาเหลียน แต่จะมีผู้โชคดีหนึ่ง คน ที่ได้นั่งในโบกี้ 7 ที่นั่งหมายเลข 28 ที่บอกว่าโชคดีเพราะ ผู้โชคดีคนนั้นจะได้นั่ง คนเดียวท่ามกลางคนไต้หวัน
65 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
เนื่องจากอาจินไม่สามารถจองที่นั่งแบบเหมาโบกี้ให้พวกเราได้ พวกเราจึงต่างต้องกระจัดกระจายแยกย้ายไปโบกี้ละ 5-6 คนบ้าง โบกี้ ละ 7-8 คนบ้าง แต่โบกี้ที่ 7 ที่นั่งหมายเลข 28 กำลังรอคนที่ต้องนั่ง โดดเดี่ยว รอลุ้นว่าส ถานีทตี่ ้องลงคือสถานีไหน อย่างทบี่ อก ไม่มีใครอ่าน พูด ฟัง เขียน ภาษาจีนหรือไต้หวันได้ เงียบ จนมีอาสาสมัครท่านหนึ่ง เขาอาสาจะเป็น ผู้นั่งโบกี้ 7 ที่นั่ง หมายเลข 28 นั้น หลังม อื้ เย็น พวกเรายา้ ยไปยงั ส ถานีร ถไฟ อาจนิ วิง่ ว นุ่ เพือ่ ห าซอื้ ต วั๋ ให้ได้ อาจินไม่อยากให้ใครต้องนั่งคนเดียว ในบ้านเมืองแปลกภาษา สุดท้ายเขาคนนั้นก็ไม่ต้องนั่งคนเดียวในโบกี้ 7 หากเรามองว่า การเสียสละคือหน่ออ่อนของจิตอาสา วันที่สอง ของการเดินทาง ก็ได้เกิดหน่ออ่อนหน่อเล็กๆ ขึ้นกับคณะเดินทางของ พวกเราแล้ว
ท่ามกลางเสียงเรียกหาความยุติธรรมนั้น จะมีเสียงแห่งการเสียสละสักกี่เสียง
68
มากกว่าหนึ่งวัน
วันที่สาม
เปลี่ยนจากหงายมือเป็นคว่ำมือ 69 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
เช้าวันที่สาม เราอยู่ที่เมืองฮวาเหลียน ภาคตะวันออกของไต้หวัน เมือง ฮวาเหลียนคือที่ตั้งอารามของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน แต่เช้าวันนี้เรามาที่ พิพิธภัณฑ์ฉ ือจี้ ภายในบริเวณนี้ นอกจากอาคารพพิ ธิ ภ ณ ั ฑ์ฉ อื จ แี้ ล้ว ยังม โี รงพยาบาลฉอื จ ี้ สาขาเมืองฮวาเหลียน มหาวทิ ยาลัยฉือจี้ โรงเรียนสาธิตฉ ือจี้ ฯลฯ อู๋ฉือชง เป็นไกด์ผู้นำเราเดินชมพิพิธภัณฑ์ฉือจี้ ภายในพิพิธภัณฑ์จะบอก เล่าเรื่องราวทั้งหมดของมูลนิธิพุทธฉือจี้ บอกเล่าประวัติความเป็นม าของมูลนิธิ บอกเล่าภารกิจทั้ง 8 ด้าน การกุศล การรักษาพยาบาล การศึกษา จริยธรรม การบรรเทาทุกข์ ระหว่างประเทศ การบริจาคไขกระดูก การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และอาสาสมัคร ดูแลชุมชน
70
มากกว่าหนึ่งวัน
จะเห็นว่าภ ารกิจของฉือจี้ ขยับจากเรื่องใกล้ตัวค่อยๆ ไกลออกไปถึงโลก ในตอนที่ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนค้นพบว่า การเจ็บป่วยเป็นต้นตอ ของความทุกข์ และเป็นสาเหตุของความยากจน จึงมีความตั้งใจอยากจะสร้าง โรงพยาบาลในปี 1986 เมื่อสร้างโรงพยาบาลฉือจี้ที่เมืองฮวาเหลียนเสร็จ 3 ปี ก็พบปัญหาขาดแคลนบุคลากร ท่านธรรมาจารยเ์ จิง้ เอีย๋ นจงึ ส ร้างวทิ ยาลัยพ ยาบาลขนึ้ หวังส ร้างบคุ ลากร ด้านเวชศาสตร์ขึ้นในภาคตะวันออก เป็นการเริ่มงานด้านการศึกษาของฉือจี้ ปัจจุบัน มูลนิธิฉือจี้มีโรงเรียนระดับชั้นอนุบาล ประถม มัธยม และ มหาวิทยาลัย การศึกษาของฉือจเี้น้นความรู้และจริยศาสตร์ควบคู่กันไป หลักการของมูลนิธิพุทธฉือจวี้ างอยู่บนหลักพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ทุกครั้งที่อาสาสมัครฉือจี้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย เส้นแบ่ง เขตแดนหรือความบาดหมางในทางประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องที่มูลนิธิพุทธฉือจี้ ให้ค วามสำคัญ ไม่ว า่ ด นิ แ ดนแห่งน นั้ จ ะมปี ระวัตศิ าสตร์ข ดั แ ย้งก บั ป ระเทศไต้หวัน อย่างไร พวกเขาพร้อมที่จะเข้าไปให้ค วามช่วยเหลือ เกาหลีเหนือ เฮติ อาสาสมัครฉือจไี้ปหมด พูดง ่ายๆ ว่า ที่ใดมที ุกข์ ฉือจี้ จะเข้าไป ความทุกข์สำหรับชาวฉือจี้คือดินแดนที่เหมาะแก่การเพาะเมล็ดพันธุ์
แห่งความเมตตากรุณา ครอบครัวผู้รับคือผู้มีพระคุณต่อผู้ให้ อาสาสมัครชาวฉือจี้จะ โค้งคำนับผู้ที่ประสบภัยหรือผู้รับ 90 องศา ในฐานะครอบครัวที่เปิด โอกาสให้พวกเขาได้เป็นฝ่ายให้ น่าจะมีความแตกต่างในความรู้สึก ระหว่างการหงายมือรับ กับการคว่ำมือให้ น่าจะมีความแตกต่างอยู่ในนั้น
71 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ก่อนเปลี่ยนโลก นัยนา ศรีเลิศ เป็นนักพัฒนาชุมชนแห่ง อบต.คอรุม อุตรดิตถ์ เธอน่าจะ
72
มากกว่าหนึ่งวัน
ตัวเล็กที่สุดในคณะเดินทางของเรา ภาพรวมของงานจิตอาสาที่ตำบลคอรุม เธอบอกว่า ยังไม่ใช่จิตอาสา ในแบบอุดมคติ “คือจิตใต้สำนึกของเขา เขาทำเพราะเขาต้องการทำด้วยจิตใจช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์นั่นแหละ แต่พอมามีนโยบายของรัฐที่หาเสียง พอ อสม. ได้ค่า ตอบแทน อพปร. ก็อยากได้บ้าง แล้วจิตอาสาอื่นๆ ก็ตามมา มองว่าทำไม กลุ่มนี้ทำแล้วได้ ทำไมกลุ่มฉันไม่ได้” นัยนาเล่า แต่ใช่ว่าขาดแคลนเลย คนที่ทำงานอาสาด้วยใจ “แต่ถ ามวา่ ค นในชมุ ชนทที่ ำจติ อ าสามนั ก ม็ ฝี งั อ ยูใ่ นชมุ ชนทกุ แ ห่งแ หละ แต่ มันยังไม่มวี ิธีจัดการเป็นร ะบบ จิตอ าสาเราไม่จำเป็นต ้องมองที่ อสม. อปพร. แต่ มันยังมจี ิตอาสาด้านอื่นๆ เยอะแยะที่เขาทำกัน และเขาก็ไม่มคี ่าตอบแทน โดย ไม่รตู้ ัวด้วยซ้ำว ่าต ัวเองทำเรื่องจิตอาสาอยู่” เช่นเดียวกับอาสาสมัครฉือจี้ คนทำงานอาสาที่ตำบลคอรุม ส่วนมากจะ เป็นคนที่มีความพร้อมในระดับหนึ่ง “ถ้าเด็กๆ ก็จะทำตามพ่อแม่ เห็นพ่อแม่ ทำก็ทำตาม” เธอบอก สามวันแรกที่ฉือจี้ เธอบอกว่าป ระทับใจทุกอย่าง น่าจ ะมากกว่าน ั้น เธอ ใช้คำว่า ‘ทึ่ง’ จะตรงกว่า ทึ่งในวิถีปฏิบัติของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ทึ่งใน ความศรัทธาต่อมนุษย์ต่อโลกของชาวฉือจี้ ทึ่งในการเป็นน้ำห นึ่งใจเดียวกันข อง อาสาสมัครชาวฉือจี้ “เราสามารถปรับใช้ได้ห ลายอย่างนะ อย่างเรือ่ งขยะเราทำได้ เราสอนเด็ก ได้ เรื่องขยะเรากลับไปทำได้เลยด้วยซ้ำ เพราะคอรุมไม่มถี ังข ยะ ไม่มรี ถขยะ แต่ ขยะเยอะมาก อันนี้เราสามารถเอาไปปรับใช้ได้ทันทีเลย เราต้องเริ่มที่ครัวเรือน ฉือจี้มาถึงขั้นสำเร็จแล้วเนาะ ของเราต้องเริ่มต้น” เรือ่ งขยะ เธอวาดภาพวา่ ชาวคอรมุ จ ะสามารถคดั แ ยกขยะตงั้ แต่ค รัวเรือน
ทำโครงการลงสู่โรงเรียน เธออยากให้โรงเรียนในชุมชนคอรุมเป็นเหมือนสถานี รีไซเคิลข องฉือจี้ทมี่ ีอยู่หลายแห่ง “หลายสงิ่ ท นี่ ี่ เราสามารถนำไปปรับใช้ได้ห ลายอย่าง ปรับเปลีย่ นตวั เราเอง ก่อนเลย ถ้าเราเริม่ จ ากตวั เราเองได้ มันก จ็ ะนำไปสคู่ นรอบขา้ ง ฉันก ค็ ดิ ว า่ ถ า้ ก ลับ ไปมันน่าจะมอี ะไรที่เปลี่ยนแปลง เริ่มจากเปลี่ยนตัวเราเองก่อนเลย” เพราะกฎข้อแรกของการเปลี่ยนโลก คือการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ลุงอู๋รักประเทศไทย
74
มากกว่าหนึ่งวัน
“I Love Thailand” เป็นคำที่ อู๋ฉือชง กล่าวมากกว่าหนึ่งครั้ง เขาเคย เดินท างมาประเทศไทย 32 ครัง้ ท่านสมพร ใช้บ างยาง ผูน้ ำคณะเดินท างของเรา ถามย้ำว่า “มาตั้ง 32 ครั้งเลยหรือ” ดูเหมือนว่าท ่านสมพรจะได้เพื่อนใหม่เสียแล้ว “ใช่ครับ ทั้ง 32 ครั้ง ผมออกค่าใช้จ่ายเอง” ลุงอู๋บอก ลุงอูศ๋ รัทธาในท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน จึงเดินทางตามรอยท่าน “ถ้าเราเห็นแววตาของคนทุกข์ยาก ผมมั่นใจว่าจิตใจเมตตากรุณามีอยู่ ในตัวท ่านแล้ว และมันจะถูกเปิดออกไปสู่คนอื่นอย่างแน่นอน” ลุงอู๋บอก การเดินทางมาประเทศไทยบ่อยครั้ง ลุงอู๋ยังบริจาคเงินสมทบทุนสร้าง โรงเรียนฉือจี้ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ด้วย ชีวิตดำเนินควบคู่ไปกับอุปสรรค เช่นเดียวกับการดำเนินภารกิจแต่ละ ภารกิจข องมลู น ธิ พิ ทุ ธฉอื จ ี้ มันไม่ได้ค ดิ แ ล้วจ ะได้ด งั่ ใจเลย ไม่ใช่ว า่ ท า่ นธรรมาจารย์ เจิ้งเอี๋ยนคิดอย่างสร้างโน่นสร้างนี่ แล้วจะเห็น ผลทันตา ไม่เลย ห่างไกล อย่างยิ่ง “คุณสกู้ ับอุปสรรคได้หรือไม่ ความอดทนคือคำตอบ” ลุงอู๋พูด
ความอดทนของนายกฯ สิ่งที่นายก อบต. หลายท่านที่ร่วมเดินทางในคณะนี้ต้องอดทน คือสิ่งที่ เรียกว่า ‘การเมือง’ เช่นเดียวกับนายกฯไสวแห่ง อบต.ศรีฐาน นายกฯไฉน ก้อนทอง นายก องค์การบริหารส่วนตำบลดงมูลเหล็ก ก็บอกว่า ปัญหาคือนโยบายประชานิยม จากการเมืองส่วนกลางทำให้ชาวบ้านขาดความกระตือรือร้น “ผมจ ะพู ด กั บ เ พื่ อ นน าย กฯที่ ม าด้ ว ยกั นว่ า ตั ว ผู้ บ ริ ห ารห รื อ ตั ว น า
75 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ยกฯเองก็เป็นตัวที่ทำให้ระบบจิตอาสาเสียไปด้วย เพราะระบบการเมืองมัน เอือ้ ให้เกิดระบบอุปถัมภ์ การเมืองของไทยไม่ว า่ จ ะระดับป ระเทศหรือท อ้ งถนิ่ ม นั เป็นนโยบายประชานิยม เราปฏิเสธไม่ได้ ชาวบ้านเขาชอบ คือช่วยเหลือทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องทไี่ม่ควรจะช่วย” นายกฯไฉนว่า “ถ้านายกฯไม่เอาใจชาวบ้าน ไม่ก ลัวเขาปันใจให้คนอื่นหรือ?” “ถ้าคิดจะทำความดีนะ มันก็ต้องลองพิสูจน์กันดูสักตั้ง” นายกฯไฉนว่า พร้อมกับเล่าเรื่องราวของเพื่อนนายกฯอบต. แห่งหนึ่งให้ฟัง ว่าเขาไม่รับเงิน ตำแหน่งเลยตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่ง 4 ปี เงินตอบแทนของนายกฯเขามอบ ให้ก ลุ่มที่ชาวบ้านจัดต ั้งขึ้น ในการเลือกตั้งน ายก อบต. ครั้งที่ผ่านมา เพื่อนของ นายกฯไฉนเกือบสอบตก “การเลือกตั้งที่ผ่านมาเขาไม่ได้ซื้อเสียงสักบาทเดียว แล้วเขาก็ได้รับเลือก เพียงแต่ว า่ ใจหายใจคว่ำเหมือนกนั น ะ เพราะฝา่ ย ต รงขา้ มใช้เงิน เขาชนะไม่ม ากนะ ฉิวเฉียด” สะท้อนการเมืองของประเทศไทย นายกฯไฉนเชื่อว่า มนุษย์ไม่ว่าจะชนชาติไหนก็แล้วแต่ มีความห่วงหา อาทรความผูกพันในชาติพันธุ์ในกลุ่มในก้อนโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เข้า มาคือร ะบบการจัดการ “อย่างประเทศไทย เวลาเกิดภัยอะไรก็ตามแต่ ถ้ามีการระดมทุนเพื่อ ช่วยเหลือ คนไทยก็ไม่แพ้ใครนะ จะเห็นจากสึนามิ เฮติ หรืออุทกภัยในบ้านเรา เพียงแต่ว่าสังคมของเรา เหตุต ้องเกิดก่อนจึงจะช่วยกัน ผมประทับใจฉือจี้ตรงที่ เขาไม่ต้องรอให้ภัยเกิด เขาเตรียมการไว้ล่วงหน้า เขาวางระบบการจัดการไว้ พร้อมแล้ว” ข้ามไปหาชมุ ชนตำบลไกรนอก นายกฯจนิ ตศกั ดิ์ แสงเมือง นายกองค์การ บริหารส่วนตำบลไกรนอก “ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง” นายกฯจินตศักดิ์ออกตัว “เรื่องหาเสียงอะไรก็ไม่ ค่อยได้ ทำได้อ ย่างเดียวคือลงมือทำ” นี่คือสิ่งที่นายกฯจินตศักดิ์ ต้องอดทน เมื่อพูดไม่เก่ง ชาวบ้านก็ไม่เห็น
76
มากกว่าหนึ่งวัน
รูปธรรม นีก่ ็สะท้อนการเมืองไทย ปัญหาเรื่องงานจิตอาสาในชุมชนตำบลไกรนอก คล้ายคลึงกับปัญหา ในชุมชนตำบลอื่นๆ คือหาคนทำงานด้านนี้แบบจริงจังยาก “ผมมีโครงการออมวันละบาท ซึ่งถ้าคุณเป็นสมาชิกและอาสาสมัครไป เฝ้าไข้ผู้ป่วยที่ไม่มีญาติ ก็จะมีค่าตอบแทนให้คนเหล่านี้ เป็นเงินจากโครงการ ออมวันละบาท คือเราจะให้ทั้งคนป่วยและคนเฝ้าคืนละ 100 บาท แต่ถ ้าคุณ จะจิตอาสาเลยเราก็ยินดี” เขามองเห็นช่องทางต่อยอดจากโครงการออมวันละบาทที่เป็นต้นทุนเดิม ในพื้นที่ “แต่ผมอยากให้เขาทำเหมือนฉือจี้ ที่นั่นก็จะมีจิตอาสาเป็นเฝ้าไข้คนไข้ที่ ไม่มีญาติ เราอยากมี อสม. หรืออาสาสมัครหมุนเวียนเป็นกะ กะละ 8 ชั่วโมง ถ้าคนป่วยที่มญ ี าติเราอยากจะมีจิตอาสาแบบนี้” บริบทของฉือจี้กับไกรนอกแตกต่างกัน ที่ฉือจี้อาสาสมัครคือคนที่มีความ พร้อม แต่ที่ไกรนอก “ต้องทำนา ต้องใช้หนี้ ธกส. มันไม่ได้หยุด เรากต็ ้องหาคน ที่มใีจ มีใจแล้ว ว่างก็มาไม่ว่างก็ไม่เป็นไร ชุมชนไกรนอกจะเป็นคนค้าขายเยอะ คนหนุ่มคนสาวก็จะออกไปค้าขายข้างนอกชุมชนเสียเยอะ ค้าขายเฟอร์นิเจอร์ บ้าง เยอะไปหมด คนเฒ่าคนแก่ก็จะอยู่บ้าน ทำไร่ไถนาก็ส่วนหนึ่ง” “ฟังนายกฯพูดแล้ว น่าหดหูน่ ะครับ”
77 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
“ไม่ง่าย แต่ก ็ท้าทาย” นายกฯจินตศักดิ์ว่า สิ่งที่ยากและท้าทายสำหรับ นายกฯสินธพ อินทรัตน์ นายกองค์การ บริหารส่วนตำบลท่าข้าม คือปัญหาเชิงอุดมการณ์ของงานจิตอาสา “คนเราท้องต้องอิ่มก่อน จึงจะช่วยเหลือสังคมได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย นะ มีปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เรื่องครอบครัว เรื่องปากท้อง ค่าตอบแทนคือแรง จูงใจให้เขาเข้ามาทำงานอาสา แต่ที่ฉือจี้เขาเข้ามาเพราะคุณค่าทางจิตใจอย่าง เดียวเลย” ปัญหาของงานอาสาสมัครในชุมชนท้องถิ่นไทย ส่วนหนึ่งคือตรงกลาง ระหว่าง ‘มูลค่า’ กับ ‘คุณค่า’ นายกฯสินธพบอกว่า ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน สร้างระบบจิตอาสาด้วยความดี “ด้วยคุณค่าไม่ใช่มูลค่า ผมคาดหวังว่าจะนำสิ่ง ที่ได้รไู้ด้เห็นไปเติมเต็มให้ระบบจิตอาสาของชุมชนท่าข้าม ขยายวงให้กว้าง เน้น ที่คุณค่ามากกว่าม ูลค่า” เขาบอกว่า ทีช่ ุมชนท่าข ้าม มีคนทำงานจิตอาสาที่เน้นคุณค่าอยู่แล้ว แม้ จะเป็นส่วนน้อย แต่ก็มีคนกลุ่มนี้เกิดขึ้นแล้ว หนทางหนึง่ ท จี่ ะทำให้ช มุ ชนทอ้ งถนิ่ ข องไทยสร้างระบบจติ อ าสาได้ คงเป็น คำกล่าวที่ อู๋ฉือชง ได้ก ล่าวไว้ ‘คุณสู้กับอุปสรรคได้หรือไม่ ความอดทนคือคำตอบ’
เกิดจ ากความตาย อาจนิ เล่าว า่ ระบบการศกึ ษาในประเทศไต้หวันให้ค วามสำคัญก บั ก จิ กรรม การทำงานอาสาสมัครของเยาวชน ประชาชนทกุ ค นตอ้ งเรียนวชิ าสงิ่ แ วดล้อมเป็น วิชาบังคับ มหาวิทยาลัยจะสนับสนุนให้นักเรียนเข้าไปทำงานด้านจิตอาสา ไป เยีย่ มเยียนบคุ คลประสบภยั ห รืออ ะไรทำนองนี้ เรียนในหอ้ งเรียนไม่พ อ ต้องไปดู คนทลี่ ำบากจริงๆ เพือ่ ให้น กั ศึกษามองเห็นว า่ เขาเป็นค นมวี าสนาทมี่ กี ำลังแ ข็งแ รง ต้องช่วยเหลือผู้อื่น การเป็นจิตอาสาของเยาวชนที่ไต้หวันจะปรากฏในพอร์ต โฟลโิอ ว่าคุณเคยทำงานจิตอ าสาอะไรมาบ้าง แนบไปพร้อมกับสมัครเรียน เราเข้าไปภายในมหาวิทยาลัยแพทย์ฉือจี้ สำหรับธ รรมาจารย์ ศาสนาคอื เป้าห มายของชวี ติ คือก ารสอนในการดำรง ชีวิตของมนุษย์ นอกจากศาสตร์ความรู้และวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ มหาวิทยาลัยแห่งน ี้ยังเน้นเรื่องจริยศาสตร์ด ้วย การศกึ ษาของมหาวิทยาลัยแ ห่งน เี้ น้นให้ผ ศู้ กึ ษาเห็นค วามสำคัญข องมนุษย์
79 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
การคดั เลือกอาจารย์เข้าม าสอนนกั ศึกษาแพทย์ในมหาวิทยาลัยแ ห่งน ี้ จะไม่เน้น อาจารย์หมอที่มีชื่อเสียง แต่จะเลือกอาจารย์หมอที่มีความเมตตาต่อคนไข้ มีความกรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ เราเดินเข้าภายในส่วนของอาคารที่มีการสอนวิชาจริยศาสตร์ ที่นี่เปิดมา 18 ปีแล้ว แต่ข ้าวของยังใหม่ เพราะท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนจะสอนให้เคารพ แม้แต่โต๊ะ เก้าอี้ สิ่งแวดล้อมรอบตัวน ักเรียน วิชาเขียนพู่กันจีน การชงชา การจัดดอกไม้ จัดอยู่ในหมวดจริยศาสตร์ วิชาเขียนพู่กันจีนเป็นการฝึกสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ ต้องใช้ความอดทนเพื่อฝึก สมาธิ การเรียนจัดดอกไม้ช่วยฝึกใช้สายตาเพื่อค้นพบความงามที่อยู่รอบตัว ทุกเรื่อง คนจีนม ีภาษิตท ี่ว่า ‘ไม่มที วิ ทัศน์ใดไม่ส วยงาม มีแต่สายตาผมู้ องเท่านัน้ ทม่ี องไม่เห็นความงาม’ ฉือจี้ต้องการปลูกฝังให้นักเรียนนักศึกษามองเห็นว่า ไม่ใช่ตัวเองเก่งแล้ว ทำทุกอย่างด้วยตัวเองคนเดียว แต่ต้องการให้มองคนรอบข้างด้วย ช่วยเหลือ ซึง่ กนั และกนั ใส่ใจคนรอบขา้ ง เน้นให้นกั ศึกษาทจ่ี บไปมที ง้ั ความรแู้ ละคณ ุ ธรรม สิง่ ห นึง่ ท จี่ ำเป็นส ำหรับน กั ศึกษาแพทย์ท กุ แ ห่ง คือ อาจารย์ใหญ่ นักศึกษา แพทย์ 5 คน จะเรียนกับอาจารย์ใหญ่ 1 ร่าง คณาจารย์แ ละนกั ศึกษาทมี่ หาวทิ ยาลยั แ พทย์ฉ อื จ ี้ จะเรียกอาจารย์ใหญ่ว า่ ‘บรมครูผู้ไร้เสียง’ ท่ า นธ รร มาจ ารย์ เจิ้งเอี๋ยนเคยกล่าวว่า “ผู้ที่เสียสละเรือน ร่ า งห ลั ง จ ากสิ้ น ลมเ พื่ อ การเรียนรู้ทางการแพทย์ คื อผู้ ที่ อ ยู่เหนื อก ารเกิ ด การต าย คื อ ภู มิ ปั ญ ญา สูงส่งข องการเสียสละ”
80
มากกว่าหนึ่งวัน
81 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
“ฉันป ระทับใจเรือ่ งการแพทย์ม าก” กัลยา หอมเกตุ ผูจ้ ดั การศนู ย์ป ระสานงาน ท้องถิ่นภ าคใต้ตอนบน บอก เธอเคยทำวิจัยเกี่ยวกับหมอพื้นบ้าน และพบว่า “ฉันมองว่าวิถีแพทย์แบบเก่าเคารพความเป็นมนุษย์ ฉือจี้มีจิตวิญญาณ แบบเก่า ทีร่ องรับด ว้ ยเทคโนโลยีก ารแพทย์ส มัยใหม่ ถ้าเราจะพฒ ั นาชมุ ชนทอ้ งถนิ่ เราต้องรักษาทั้งสิ่งเก่า และเปิดรับสิ่งใหม่” จิตว ญ ิ ญาณทเี่ คารพในความเป็นม นุษย์ค อื อ ะไร แน่นอนวา่ ต้องไม่น งิ่ ด ดู าย ต่อค วามเจ็บปวดของเพื่อนมนุษย์ทอี่ ยู่ตรงหน้า หากเราอยูใ่นตำแหน่งที่พอช่วย ได้ ในวาระสุดท้ายที่หมดลมหายใจ ชาวไต้หวันส่วนหนึ่งยอมอุทิศเรือนร่างเพื่อ คุณประโยชน์ต่อการศึกษาด้านการแพทย์ คณาจารย์แ ละนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแ พทย์ฉือจี้ เรียกเจ้าของเรือนร่าง ผู้อุทิศว ่า ‘บรมครูผู้ไร้เสียง’ สมัยก่อนประเทศไต้หวันมีผู้บริจาคร่างกายน้อยมาก อาจารย์ใหญ่มัก
Made in Taiwan
บรมครูผู้ไร้เสียง
82
มากกว่าหนึ่งวัน
จะเป็นศพนิรนาม ในปี 2538 มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ฉือจี้ได้รับบริจาคร่างจากผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งลูกสาวผู้บริจาค ร่างกายบอกว่า “แม่เสียช ีวิตด้วยมะเร็งเต้าน ม คุณแม่ต้องการเสียส ละ ต อบแทนป ระเทศช าติ จึ ง อุ ทิ ศ เ รื อ นร่ า งห วั ง ว่ า จ ะเ ป็ น ประโยชน์ต่อการวิจัยเรื่องโรคมะเร็งไม่มากก็น้อย” ท่านธรร มาจารย์เจิ้งเอี๋ยนได้รับรู้การอุทิศเรื่อนร่าง เกิดความซาบซึ้ง จึงเทศน์ให้อาสาสมัครฉือจี้ฟังว่า “การฝัง คนตายในไม่ช้าจ ะถูกหนอนชอนไช ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ส ูงสุด แม้กระทั่งการเผาก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดายเพราะสร้างปัญหาให้มลพิษ การอุทิศ เรือนร่างเพื่อก ารวิจัยท างการแพทย์ถ ือว่าเป็นวีรกรรมของผู้กล้า” การให้เกียรติครอบครัวของผอู้ ทุ ศิ ก็เป็นการเคารพความเป็นมนุษย์เช่นกนั ในชั่วโมงแรกชั่วโมงหนึ่งในการเรียนกายวิภาค ญาติผู้อุทิศกล่าวกับ นักศึกษาว่า “ไม่ต้องกลัวหรอกนะคะ แม้ว่าในขณะนี้ หน้าตาสามีของดิฉันอาจ ไม่น่าดูสักเท่าไร แต่เขาเป็นคนจิตใจงดงามคนหนึ่ง ขอให้ทุกคนจำไว้อ ย่างเดียว พอว่า ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ทุกคนไม่ต้องกลัว เขาไม่ท ำร้ายพวกคุณหรอก”
83 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
นักศึกษาแพทย์ 5 คนต่อร่างอาจารย์ใหญ่ 1 ร่าง พวกเขาทั้ง 5 จะคอย ไปเยี่ยมเยียน ถามสารทุกข์สุกดิบครอบครัวของผู้อุทิศ นักศึกษาเหล่านี้ยังได้ เรียนรู้ชีวิตของอาจารย์ใหญ่ ระหว่างญาติและนักศึกษาจะมีอาจารย์ใหญ่ เป็นสะพานเชื่อม สายสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่ประเทศไทย นักศึกษาแพทย์แทบไม่รู้จักชื่อของอาจารย์ใหญ่ ไม่รู้จัก ครอบครัวของอาจารย์ใหญ่ ทุกป จี ะมกี ารอทุ ศิ ส ว่ นกศุ ลไปให้ร า่ งผอู้ ทุ ศิ ก่อนเรียนนกั ศ กึ ษาจะตอ้ งอทุ ศิ ส่วนกศุ ลให้รา่ งอาจารยใ์ หญ่ หลังเสร็จการศกึ ษาจะทำพธิ ปี ระชุมเพลิงอาจารย์ใหญ่ นักศึกษาแพทย์ฉือจี้เป็น ผู้แบกโลงศพ จากนั้นจัดพิธีขอบคุณ ร่างจดหมาย ขอบคุณไปยังญาติ จะมีชีวประวัติของผู้อุทิศ ไว้ ใ นอิ น เทอร์ เ น็ ต เพื่ อ ใ ห้ นั ก ศึ ก ษารั บ รู้ ถึ ง คุณงามความดีของอาจารย์ใหญ่ นักศึกษาจะ เขี ย นจ ดหมายถึ ง ค รอบครั ว ข องผู้ อุ ทิ ศ แล้ ว สุดท้ายทำเป็นห นังสือร วบรวมประวัตผิ อู้ ทุ ศิ แ ละ พิธีการต่างๆ ในการใช้ร ่างอาจารย์ใหญ่ศึกษา “เพราะก ารพั ฒ นาจิ ต วิ ญ ญาณข อง อาจารย์ใหญ่ ทำให้นักศึกษาพักพิงอาศัยน ำทาง พวกเราไปศึกษาสิ่งที่ล้ำลึกไร้ที่สิ้นสุดในร่างกาย มนุษย์” จากจดหมายฉบับหนึ่งของนักศึกษา แพทย์ “ด้วยไม่อยากให้หมอเฉือนร่างของผู้ป่วยผิดพลาดแม้แต่หนเดียว ฉะนั้น เราจึงยินดีอุทิศร่างของคุณพ่อให้ท่านเพื่อเป็นประโยชน์ทางกายวิภาคศาสตร์” ญาติผู้อุทิศร่างกล่าว ใช่หรือไม่ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวของผู้อุทิศร่างกายกับ นักศึกษาแพทย์ ดำรงอยู่บนเงื่อนไขของการให้และการรับ ต่างฝ่ายต่างเป็นผใู้ห้ และต่างฝ่ายต่างก็เป็นผู้รับในเวลาเดียวกัน
สิ่งเหล่านี้สะท้อนผ่านการกระทำที่ทั้งสองปฏิบัติต่อกัน ไม่มใีครหงายมือรับได้ต ลอดเวลา
84
มากกว่าหนึ่งวัน
ผู้ที่สามารถช่วยเหลือผู้อื่นนั้นเราเรียกว่า ‘พระโพธิสัตว์’ ถ้าเราสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้หนึ่งวัน เราก็จะเป็นพระโพธิสัตว์ได้หนึ่งวัน
วันที่สี่
ความรักทำให้อากาศอบอุ่น เช้านี้ชาวคณะตื่นมาตั้งแต่ 03.00 นาฬิกา คราบกลางคืนยังคงเปื้อน ใบหน้าใครหลายคน เรากำลังม งุ่ ห น้าไปทสี่ มณาร ามจงิ้ ชือ อันเป็นอ ารามทพี่ ำนัก ของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน เช้าวันน ี้เราจะมีโอกาสนั่งฟังน้ำเสียงแสดงโอวาท ของท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ภิกษุณีทสี่ มณารามแห่งน ี้จะตื่นก ่อนพระอาทิตย์ เพื่อเริ่มท ำงานในเช้าว ัน ใหม่ ดังคำกล่าวของธรรมาจารยเ์จิ้งเอี๋ยนที่ว่า ‘ปัญญาชนยอ่ มตระหนักด วี า่ เวลามคี ณ ุ ค่าด จุ อ ญ ั ม ณี แต่เวลาจะมคี า่ เพียง ผงธุลีสำหรับผ ู้เบาปัญญา’ เวลา 03.40 นาฬิกา เสียงไม้กระทบกันเป็นสัญญาณบอกว่า เช้าวัน ใหม่มาเยือนแล้ว หลังทำวัตรเช้า ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนจะกล่าวโอวาทแก่
90
มากกว่าหนึ่งวัน
อาสาสมัครทั่วโลกผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ และการ ถ่ายทอดจากสถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย ภายในสมณารามยามเช้าวันน ี้ ภิกษุณีต่างปฏิบัติกิจ ตรงหน้าของตน บางท่านกวาดเศษใบไม้ตามทางเดิน ภิกษุณีทำงานตรงหน้า อย่างสงบเหมือนเช่นอ ากาศทโี่ อบลอ้ มสมณาร ามแห่งน ี้ ภูเขาโอบลอ้ มสมณาร าม นี้ไว้เหมือนอ้อมกอดอันแสดงถึงความรัก พวกเราเข้าไปภายในอาราม เพื่อเตรียมรับคำโอวาทจากธรรมาจารย์ เจิ้งเอี๋ยน ภายในอาราม มีเวทีด้านหน้าสุดสำหรับท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน กลา่ ว โอวาท พืน้ ทีด่ า้ นลา่ งทเี่ หลือม เี บาะรองนงั่ ส ำหรับอ าสาสมัครผเู้ ข้าฟ งั โอวาท จอโปรเจ็คเตอร์กำลังออกอากาศโดยสถานีโทรทัศน์ต้าอ้าย นอกจากคณะของเรา ยังม ีคณะอาสาสมัครพยาบาลที่มาพักท ี่สมณาราม แห่งนี้ หลังจากที่ท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยนปรากฏต ัว ท่านกล่าวแก่อ าสาสมัคร ในเรื่องราวโดยทั่วไปเหมือนการให้โอวาทเป็นการพูดคุยกันของคนในครอบครัว “วันเวลาแต่ละวันทผี่ ่านมา ไต้หวันม ีอากาศไม่ห นาวมาก แต่วันสองวันนี้ อากาศจะเย็นลง เมื่อเช้าดขู า่ วที่ยเู ครน ริมทะเลผคู้ นหนาวกนั มาก มีค นเสียชวี ิต 190 คน...”
91 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
เนือ้ หาในการให้โอวาท ท่านธรรมาจารยจ์ ะตดิ ตามขา่ วสารทวั่ โลก เพือ่ น ำ มาพูดค ุยให้อาสาสมัครรับร ู้ ว่าช าวฉือจสี้ ามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ซึ่งอาสาสมัครฉือจี้ทกี่ ระจายทั่วโลกจะรับร ู้พร้อมกัน และมีการแลกเปลี่ยนกันผ่านวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ด้วย หลังเสร็จสิ้นการให้โอวาทของท่านธรรมาจารย์ พวกเราเดินออกมาสูด อากาศบริสุทธิ์ภายในสมณาราม เงินบ ริจาคจากผมู้ จี ติ ศ รัทธานนั้ ท่านธรรมาจารยจ์ ะไม่น ำมาใช้ในกจิ ส ว่ น ตัว ภายในสมณาร ามจงึ ม แี ปลงผกั มีก ารทำของทรี่ ะลึกส ำหรับข ายเพือ่ น ำรายได้ มาใช้จ่ายภายในสมณาร าม อากาศที่สมณารามแห่งเมืองฮวาเหลียนดีมาก อากาศหนาวเย็นเล็กน้อย จนใครบางคนอยากจะย้ายชีวิตม าอยู่ที่นี่ แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงเราต้องขึ้นรถไฟกลับไทเปแล้ว คงเหลือไว้แต่คำกล่าว ของท่านธรรมาจารย์ในความทรงจำ ‘แม้คนเราจะมีความทุกข์ แต่ความรักจะ ทำให้เกิดความอบอุ่น’ ทำให้หลายชีวิตที่อยู่ในเมืองหุบเขาแห่งนี้ ไม่ห นาวเกินไปนัก
เรียนมา
92
มากกว่าหนึ่งวัน
สิ่งหนึ่งที่จะเก็บความทรงจำได้ดีคือการถ่ายรูป ช่างภาพที่ถูกเรียกใช้ บริการในหมู่เพื่อนร่วมทางมากที่สุด หนีไม่พ้น นายกฯวิชญะ เสาะพบดี นายก องค์การบริหารส่วนตำบลบักได ในฐานะที่เพิ่งจบจากคอร์สอบรมถ่ายภาพ มาใหม่หมาด “เรียนมาครับ เรียนมา” ถ่ายเสร็จ นายกฯวิชญะคุยโอ่ทันที การเดินท างมาไต้หวันห นนขี้ องนายกฯวชิ ญะ ประหนึง่ ก ารหวนคนื ถ นิ่ เก่า ในวัยหนุ่ม ช่วงของการก่อร่างสร้างตัว เขาเดินทางมาทำงานที่เมืองเกาสง เขต นิคมอุตสาหกรรมทางภาคใต้ของไต้หวัน “ผมรู้สึกว่าไต้หวันเจริญขึ้น ทั้งการคมนาคมขนส่ง ความเป็นอยู่ ผมมา อยู่ทนี่ ี่เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ไต้หวันเขาถีบตัวเองขึ้นม าก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจิตอาสา อาจจะเป็นเพราะว่าในมุมมองของไต้หวันเขาจะต้องแข่งขันกับจีน แข่งขันกับ การอยูร่ อดบนเวทีโลก” มุมมองคนไต้หวันในสายตานายกฯวชิ ญะ คนไต้หวันเป็นค นทคี่ อ่ นขา้ งรกั ประเทศ มีก ารรว่ มมอื แ ละให้ค วามชว่ ยเหลือก นั ด ี ส่วนหนึง่ เพราะประเทศไต้หวัน ต้องเผชิญกับภัยพิบัติบ่อยครั้ง ซึ่งที่ชุมชนตำบลบักไดก็เกิดภัยบ่อยครั้งเช่นกัน เพราะพื้นที่ตำบลบักไดติดกับประเทศกัมพูชา การกระทบกระทั่งจึงมีบ้าง “บักได ถ้าเกิดกรณีสงคราม มันจะเป็นไปในลักษณะทำด้วยใจ คือศูนย์ อพยพจะตอ้ งมที ใี่ ห้อ ยูใ่ ห้ก นิ แม้ค ณ ุ จ ะเป็นผ อู้ พยพคณ ุ ต อ้ งทำอาหารนะ ต้องชว่ ย กันน ะ ถ้ากรณีแบบนี้มันมาด้วยใจเลย แต่กรณีปกติมันก็อาจจะมีบ้างที่ต้องการ ค่าตอบแทน ซึ่งนี่คือโจทย์ข องเรา เราจะทำอย่างไรให้เขาทำด้วยใจ เราต้องเริ่ม ทำจากจุดเล็กๆ ไปก่อน” เมื่อมองย้อนกลับไปยังชุมชนตำบลบักได นายกฯวิชญะ บอกว่า ต้องเริ่ม จากจุดเล็กๆ “ต้องเริ่มจ ากจุดเล็กๆ ก่อน จะใหญ่เลยแบบเขาไม่ได้เลยนะ เขาประสบ ความสำเร็จแ ล้ว เราตอ้ งเริม่ จ ากจดุ น นั้ ก อ่ น ต้องมคี นทคี่ ดิ ค ล้ายๆ กัน เพือ่ ช มุ ชน
รวมจติ อ าสาหลายๆ กลุม่ แล้วร บั ฟ งั ค วามคดิ เห็นให้ม ากๆ เราไม่จ ำเป็นต อ้ งตาม เขาทุกอย่าง แนวคิดข องเราอาจจะออกไปในอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้ แต่ต้องหาคน ที่คิดคล้ายๆ กันก่อน และจะต้องเพิ่มลักษณะคนแบบนี้ คนที่มีลักษณะมคี วาม เป็นพ ลเมือง ต้องทำให้ค นแบบนมี้ มี ากขนึ้ ในชมุ ชนของเรา ยิง่ ม คี นแบบนมี้ าก ทำ เรื่องนมี้ าก คนอื่นๆ ก็จะตามไปเอง” อาสม้ เล่าให้ฟ งั ว า่ ชายคนหนึง่ เข้าเป็นอ าสาสมัครฉอื จ ี้ เขาเป็นค นสบู บ หุ รี่ จัดมาก แต่พอเข้ามาอยู่ในฉือจี้ ไม่มคี นสูบบุหรี่เลย มีเขาสูบอยู่คนเดียว เขาก็ รู้สึกว่าบุหรี่รบกวนคนอื่น เขาก็เริ่มลดๆ ลง จนไม่ส ูบเลย “ผมว่าเราต้องสร้างคนแบบนี้” นายกฯว่า นายกฯวชิ ญะ มองวา่ จิตอ าสาจะเกิดข นึ้ ได้ ส่วนหนึง่ ต อ้ งได้ร บั ก ารเกือ้ กูล จากสังคม เช่นสวัสดิการ “เรื่องสวัสดิการต่างๆ จำเป็นนะ ในมุมม องของเรา คนที่ทำงานจิตอาสา สมควรได้รับก ารยกย่อง ซึ่งการให้สวัสดิการมันก็เป็นรางวัลอย่างหนึ่ง เวลาเจ็บ ไข้ได้ป่วย มีสวัสดิการอะไรให้เขาบ้าง ความจริงนี่คือพื้นฐานที่ประชาชนควรได้
94
มากกว่าหนึ่งวัน
รับอยูแ่ ล้วนะ” ไม่มีคำตอบสำเร็จรูปตายตัว ในการทำให้ชุมชนท้องถิ่นพัฒนา ในการ สร้างระบบจิตอาสา หรือการสร้างความเป็นพลเมืองให้เกิดขึ้น ไม่มีคำตอบใด ตายตัว “ชาวไต้หวันเขามองวา่ เรือ่ งทกุ เรือ่ งในประเทศนเี้ ป็นเรือ่ งของพวกเขา ไม่ใช่ เรือ่ งของใครคนใดคนหนึง่ การทำให้ค นในประเทศ คนในชมุ ชนตระหนักว า่ เรือ่ ง ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในชุมชน เรื่องของหมู่บ้าน ของประเทศ เป็นเรื่องของ ตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่ใช้เวลาพอสมควร “ไต้หวันเขาทำมาหลายปี เขาทำให้ประชาชนมองว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความสะอาด ความสามัคคี สือ่ ส ขี าว เป็นเรือ่ งของพวกเขา เขาทำแล้วได้ป ระโยชน์ ต่อลูกหลาน ต่อชุมชน ส่วนหนึ่งทำแล้วมีความสุขในใจ เขาก็พร้อมที่จะทำ” นายกฯวิชญะ ผู้เรียนถ่ายภาพมา กล่าวปิดท้าย
ยังไงก็ต้องมา หลังจากนั่งรถไฟจากเมืองฮวาเหลียนคืนสู่ไทเป เราพบกำแพงคอนกรีต ขนาดใหญ่ โอบลอ้ มเมืองฝงั่ ห นึง่ ไว้ อาจนิ บอกวา่ กำแพงแห่งน เี้ ป็นก ำแพงปอ้ งกัน น้ำท่วม ไต้หวันเผชิญกับสารพัดภ ัยพิบัติ ทั้งพ ายุไต้ฝุ่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม
95 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ในฐานะประธานศนู ย์จ ดั การภยั พ บิ ตั ติ ำบลเกาะขนั ธ์ พีเ่ พ็ญศ รี ทองบญ ุ ช ู กำนันตำบลเกาะขันธ์ อำเภอชะอวด นครศรีธรรมราช เข้าใจว่าทำไมชาวไต้หวัน จึงมีพื้นฐานการช่วยเหลือกัน “ภัยพ บิ ตั เิ ป็นเรือ่ งใกล้ต วั เรา เราตอ้ งเตรยี มคน เตรียมเครือ่ งไม้เครือ่ งมอื ” พี่เพ็ญศ รีกล่าว ปี 2553 เกิดภ ยั พ บิ ตั ใิ นพนื้ ทีต่ ำบลเกาะขนั ธ์แ ละใกล้เคียง ทำให้ท รัพย์สนิ เสียหายมากมาย จึงมีการระดมพลังขึ้นมาจัดการ มีผู้นำและอาสาสมัครมา ช่วย “ถือว่าเป็นป รากฏการณ์ค รัง้ แ รกทคี่ นในชมุ ชนรวมตวั ก นั โดยไม่ได้น ดั ห มาย ใครมอี ปุ กรณ์ม ากเ็ อามาชว่ ย ก่อนหน้าน นั้ เราเคยทำแผนชมุ ชน ทำให้เรามตี ำบล อยูใ่ นเครือข า่ ยแผนแม่บทชมุ ชนพงึ่ ต นเองภาคใต้ พอเกิดส นึ ามิ ปี 47 ขึน้ ม ากบั พ ี่ น้องฝงั่ อ นั ดามัน เรากม็ กี ารประชุมค ณะกรรมการขนึ้ ม า ได้ข า่ ววา่ พ นี่ อ้ งทที่ ำงาน แผนชุมชนส่วนหนึ่ง ประสบเหตุร ้ายด้วย เราก็รวมตัวกันไปช่วย สิ่งที่ไม่เคยเห็น มันเต็มไปหมด แล้วกลับมาระดมพละกำลัง แล้วก็ลงไปช่วยเขาสร้างบ้าน หา สิ่งของบริจาค นั่นคือการริเริ่มของคนมีจิตอาสา เราถือว่าเป็นพละกำลังส ำคัญ ในการขับเคลื่อนงานอาสา” งานอาสาสมัครในมุมมองของพี่เพ็ญศรีต้องเริ่มที่ ‘คน’ สังคมไต้หวันเป็น สังคมที่มีความพร้อมกว่าสังคมไทย ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและระบบการ รักษาพยาบาล จึงเอื้อให้คนไต้หวันม ีความพร้อมในเรื่องเศรษฐกิจและโอกาสที่ ได้รับจากสังคม
96
มากกว่าหนึ่งวัน
เมื่อได้รับก็ต้องให้กลับ แต่ท ตี่ ำบลเกาะขนั ธ์ ซึง่ เป็นพ นื้ ทีเ่ สีย่ งเผชิญภ ยั ต ลอดเวลา เพราะเป็นพ นื้ ที่ ตัง้ อ ยูใ่ ต้เขือ่ น ชาวบา้ นในชมุ ชนเกาะขนั ธ์พ ร้อมทจี่ ะชว่ ยเหลือก นั โดยอาจไม่เคย สะกดคำว่า ‘จิตอาสา’ “พวกเขามาด้วยใจที่ต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ซึ่งคนส่วนนี้ก็มีทั้ง ฝ่ายที่อยู่ในตำแหน่งคือฝ่ายปกครอง อีกฝ่ายหนึ่งเป็นคนที่เขามีใจ อยากร่วม ช่วยด้วย แล้วสังคมเรามันเอื้ออาทรต่อกัน เห็นเพื่อนทุกข์เราก็ช่วยแบ่งปันกัน แต่เราทำในวงแคบๆ “พอมาเจอภาพกว้างอย่างทนี่ ี่ ทำให้พี่คิดกลับว่า หลังจากนี้พี่จะต้องเริ่ม อย่างไรให้ข ยายกว้างกว่าน ี้ พีจ่ ะมกี ารจดั การภยั พ บิ ตั ริ ะดับอ ำเภอกอ่ น เอากำนัน เอานายกฯทุกคนมาคุยกันเรื่องนี้ เพราะในฐานะที่พี่เป็นประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ ้านอำเภอชะอวด” “คนทเี่ ป็นอ าสาสมัครจดั การภยั พ บิ ตั ใิ นชมุ ชนของพเี่ พ็ญศ รี ช่วงเวลาปกติ พวกเขาก็ทำมาหากินต ามปกตใิช่มั้ยครับ?” “เขาก็ทำมาหากินของเขาไป แต่เราก็มีการประชุมการระดมพลเดือนละ ครั้ง เรามศี ูนย์วิทยุ มีเครือข่ายหลายพื้นที่ มีเครื่องไม้เครื่องมือ สิ่งส ำคัญในการ ทำงานภัยพิบัติ ข้อมูลคือหัวใจ เพราะฉะนั้นเราต้องรู้ข้อมูลว่า ภัยท ี่มโีอกาสจะ เกิดม อี ะไรบา้ ง การลำเลียงคน จุดพ กั พิงต รงไหน แต่ส ำคัญเราตอ้ งพงึ่ ต วั เองกอ่ น พึ่งตัวเองคือทั้งช ุมชนนะ พี่จะมีข้อมูลว่าน ายคนนี้มีรถกระบะ นายคนนี้มเีลื่อย เกิดภัยปั๊บเราก็เรียกตรงนั้นมาจัดการได้เลย และเราก็เชื่อมกับภาคีภายนอก” “ถ้าบ้านผมมเีลื่อย ไม่ว่าผ มจะทำอะไรอยู่ ผมต้องมา” “ถ้าน้องอยู่ที่ชุมชนพี่ เชื่อพี่สิ ยังไงน้องก็ต้องมา คนที่นั่นเป็นแบบนี้กัน หมด”
ก้าวข้ามเส้นบางบาง
98
มากกว่าหนึ่งวัน
หลังจากการสถาปนาประชาธิปไตยโดยการนำของ ดร.ซุน ยัตเซ็น ใน ปี ค.ศ.1911 จากนั้นคู่ต่อสู้ของพรรคชาตินิยมก็คือพรรคคอมมิวนิสต์ที่นำโดย เหมา เจ๋อต งุ จนในปี 1946 พรรคคอมมิวนิสต์ช นะสงครามกลางเมือง สถาปนา สาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China: PRC) ส่วนพรรค ชาตินิยมที่นำโดย เจียง ไคเชค ผู้นำต่อจาก ดร.ซุน ยัตเซ็น ต้องอพยพมาอยู่ที่ เกาะไต้หวัน เขารอคอยเวลาทจี่ ะกลับจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้น หลังป ี 1949 ไต้หวันด ำรงสถานะอย่างแปลกแยก ในฐานะสาธารณรฐั จ นี (Republic of China) ซึ่งพ ลัดถิ่น แต่ป ระสบความสำเร็จด้านเศรษฐกิจ มีการ ปฏิรูปการถือครองที่ดิน ไต้หวันม ุ่งไปสู่ประชาธิปไตยอย่างมั่นคง
99 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
ระบบของไต้หวันหันเหออกจากจีน พร้อมกับกระชับความสัมพันธ์ข้าม ช่องแคบในหลากหลายแนวทาง สำหรับชาวไต้หวันจำนวนหนึ่งไม่มีความ ปรารถนาจะกลับไปรวมชาติกับจีนอีก แต่จีนก็ประสบความสำเร็จในการกำจัด อิสรภาพและตัวตนบนเวทีโลกของไต้หวัน จีนอ้างว่าเกาะไต้หวันเป็นหนึ่งใน มณฑลของจีน เจียง ไคเชคเสียชีวิตเมื่อปี 1975 ผู้ที่รับช่วงต่อจากเขาคือ เจียง จิง กว๋อ ลูกชายของเขา ผู้นำไต้หวันเข้าสู่การเป็นเสรีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางมาเที่ยวเกาะไต้หวันวันละหลายพัน คน แม้วา่ ป ญ ั หาเรือ่ งตวั ต นบนเวทีโลกของไต้หวันจ ะถกู เงาของจนี ก ด ทับอ ยู่ ไต้หวันเป็นป ระเทศทไี่ ม่มตี วั ต นบนเวทีโลก ประหนึง่ อ ยูอ่ ย่าง โดดเดีย่ ว แต่เศรษฐกิจท ดี่ ขี นึ้ ข องสองประเทศ โดยเฉพาะ จีน ก็คลายความตึงเครียดเรื่องการรวมชาติ หรือแม้แต่เรื่องการเมืองไปบ้าง
แต่สำหรับมูลนิธิพุทธฉือจี้พวกเขาไม่เคยมองเห็นการดำรงอยู่ของเส้น พรมแดนทางประวัติศาสตร์ มูลนิธิพุทธฉือจี้เป็นองค์กรแรกที่เข้าไปตั้งศูนย์ บรรเทาทุกข์บนจีนแผ่นดินใหญ่ พวกเขามองข้ามความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ ก้าวข้ามเส้นบางบางเส้นนั้น ทีห่ ลายประเทศยากที่จะก้าว ไม่ว่าเราจะเรียกว่าชาวฉือจี้มีอุดมการณ์แบบใด มันก็สามารถถูกเรียกได้ ง่ายๆ ว่า ‘การเคารพในความเป็นเพื่อนมนุษย์’
ความเจริญก้าวหน้าของสังคม ไม่ใช่ได้มาจากการเรียกร้อง แต่ได้มาจากการลงมือทำ
104
มากกว่าหนึ่งวัน
วันสุดท้าย
เจ้าของน้ำพริก
105 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
หากถามวา่ ใครเป็นผ ทู้ ำให้ช าวคณะกว่า 30 ชีวติ สามารถมชี วี ติ อ ยูบ่ นเกาะ ไต้หวันได้กว่า 5 วันท ผี่ ่านมา ชื่อข องนายกฯภานุวุธ บูรณพรหม นายกองค์การ บริหารส่วนตำบลผาสิงห์ ย่อมมีชื่ออยู่ในนั้น ในฐานะผู้หอบหิ้วส ารพัดน้ำพริกติดกระเป๋ามาด้วย ในมมุ ม องของนายกฯภานวุ ธุ เขามองวา่ จิตอ าสาในชมุ ชนผาสงิ ห์น นั้ ม อี ยู่ แล้ว ไม่ได้แตกต่างไปจากชุมชนท้องถิ่นแห่งอื่น เพียงแต่ “แรงขับมันไม่เกิด พื้นฐานการช่วยเหลือกันของเรามันมีอยู่แล้ว แต่แรง ขับไม่เกิด ถามว่าทำได้มั้ย...ทำได้ แต่ของเราต่างคนต่างทำ ส่วนฉือจี้เขาเชื่อม โยง ใครจะคิดล่ะว่า รายได้จากสถานีรีไซเคิลขยะของฉือจี้จะเป็นต้นทุนในการ จัดการสถานีโทรทัศน์ต้าอ ้ายปลี ะ 25 เปอร์เซ็นต์” ถามเขา แรงขับจะเกิดจากอะไร ตัวผูน้ ำหรือศาสนา “เราต้องตรวจสอบก่อนว่าม ีใครบ้าง ทีม่ ีสปีชสี ์เดียวกับเรา ซึ่งม ันม ีอยูแ่ ล้ว คนทอี่ ยากทำงานเพือ่ พ ฒ ั นาชมุ ชนทอ้ งถนิ่ เรากเ็ อาพวกเขามารวมกนั สร้างเป็น ระบบ คำถามของผมมีถ้าเรายึดติดในตัวบ ุคคล แล้วว ันใดวันหนึ่งผ ู้นำไม่อ ยู่หรือ จากไป ระบบจะยังเดินต่อไปได้มั้ยห รืออย่างไร” เขาหมายถึง สิ่งสำคัญคือการสร้างระบบ รวมถึงการทำสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด คือเริ่มที่ตัวเอง “ถ้าเรารับผิดชอบตัวเองไม่ได้ แล้วจ ะไปรับผิดชอบสังคมได้อย่างไร ใช่ม ั้ย จิตสำนึกต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อนนี่แหละ ต้องเริ่มจากผ้าปูที่นอนตัวเอง ตื่น มาคุณทำยังไงกับมัน”
ห้ามถามเด็ดข าด
106
มากกว่าหนึ่งวัน
หาก นายกฯภานุวุธ แห่ง อบต.ผาสิงห์ เป็นที่พึ่งพ ิงเรื่องปากท้อง สำหรับ ที่พึ่งพายามเจ็บไข้ได้ป่วยของชาวคณะ ก็ต้องวิ่งหา หมอโจ-สุริยัน แพรสี แห่ง อบต.ดอนแก้ว หมอโจเป็น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดอนแก้ว ซึ่งคลุกคลีกับคนทำงาน อาสาสมัครอยู่ทุกวัน เขาจึงยืนยันว่า ที่ชุมชนดอนแก้วก็มีอาสาสมัครที่ไม่หวัง ผลตอบแทน “ในพื้นที่เรามีแบบนี้อยู่แล้ว และเข้มแข็งด้วย จิตอาสาที่เชียงใหม่หรือ ดอนแก้วไม่ได้ทำหลายเรื่องหลายประเด็น เราทำไม่กี่เรื่อง แต่ทำแล้วได้ผล มาก ยกตัวอย่าง จิตอ าสาเรื่องผู้พิการ เขาไม่หวังผลตอบแทนนะ เขาทำเพื่อให้ คนพิการได้มคี ุณภาพชีวิตที่ดขี ึ้น ทำเชิงลึก ต่อสู้เพื่อให้คนพิการได้บัตรผู้พิการ เพื่อให้ได้งบประมาณ ให้ได้ข้อบัญญัติหรือกฎหมายที่ดูแลผู้พิการในพื้นที่ ทำเฉพาะเรื่อง แต่ท ำลึก” “อาสาสมัครเหล่านี้มาด้วยความรู้สึกแบบไหน?” “พวกเขามาด้วยใจ ด้วยดวงตาที่เห็นคนอื่นมีความทุกข์ ช่วยให้หมดทุกข์ คนที่มาช่วยส่วนใหญ่ก็จะเหมือนอาสาสมัครที่ฉือจี้นะ คือมีความพร้อม ความ ลงตัวในชีวิตร ะดับห นึ่ง พวกเขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือคนอื่น” สิ่งที่หมอโจกำลังทำอยู่คือการสร้าง ‘คุณค่า’ ของการทำงานอาสาสมัคร ลบเลือนเรื่องของ ‘มูลค่า’ ไปจากงานจิตอาสา “เมือ่ ก อ่ นนะ อสม. คือจ ติ อ าสา เขากไ็ ม่ได้เรียกรอ้ งคา่ ต อบแทนนะ แต่ร ฐั จัดให้น ะ ตอนนถี้ า้ ไม่มคี า่ ต อบแทนจะเกีย่ งงอนกนั น ะ อย่างจติ อ าสาทผี่ มเอามา ช่วยทโี่รงพยาบาลดอนแก้ว ก็ท ำคล้ายฉือจี้ ทุกวันจะมี อสม. มาช่วยกัน วันละ ก คี่ นไม่ได้เข้าค วิ แ บบนี้ แล้วแ ต่ส มัครใจ วันล ะ 2-3 คนกแ็ ล้วแ ต่ ไม่มคี า่ ต อบแทน ให้ จะมาครึ่งวันเต็มวันก็แล้วแต่ เราไม่สร้างนิสัยให้เขา ว่าม าประชุมต้องได้เงิน ไปที่ไหนต้องได้ค่าน้ำมัน เราไม่ทำแบบนั้น ไม่มากไ็ม่ง้อ
“แต่เงิน 600 เราให้ทุกค น เป็นค่าอะไรก็ว่าไป เราไม่ค ิดว่าเป็นค่าจ้าง ผม กำลังพ ยายามทำอยู่ กินข า้ วเรากเ็ ลีย้ งได้ แต่ไม่มคี า่ ต อบแทนอย่างอนื่ ให้ คำถาม ต้องห้ามสำหรับผม ห้ามถามผมเลยนะ ว่ามาประชุมวันนี้มีค่าเดินทางให้หรือ เปล่า ห้ามถามเด็ดข าด” หมอโจบอกว่า ถ้าจะทำเรื่องจิตอาสาในชุมชน ไม่ต้องทำเยอะ ทำแค่ เรื่องเดียวก็ได้ แต่ท ำให้ดไีปเลย
107 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
108
มากกว่าหนึ่งวัน
ภาพถ่ายระหว่างพ่อกับลูก ภาพเขียนจิตก รรมของ เจียง ไคเชค ยืนอยูก่ ับ เจียง จิง กว๋อ บนผืนผ้าใบ ในอนุสาวรีย์เจียง ไคเชค พา ปุ๊กกี๊- ทิชากร สุนทรวิภาค รองปลัดองค์การ บริหารส่วนตำบลหนองสาหร่าย และเป็นนักวิชาการเครือข่ายตำบลสุขภาวะ ย้อนกลับไปคิดถึงพ่อ หลังจากเจียง ไคเชคเสียชีวิตในปี 1975 เจียง จิงกว๋อ ก็สืบทอดตำแหน่ง และเขาเป็นค นนำไต้หวันส ู่ความเป็นเสรีประชาธิปไตย เป็นคลื่นลูกใหม่ บรรพบรุษของ ปุ๊กกี๊-ทิชากร เป็นเจ้าเมืองสุพรรณในสมัยกรุงธนบุรี กวาดต้อนผู้คนมาจากฝั่งซ ้ายแม่น้ำโขง หรือป ระเทศลาวในปัจจุบัน พ่อข องเธอ เป็นผู้นำเรื่องเยาวชน ผลักดันเยาวชนให้ม ีโอกาส “พ่อของฉันเป็นคนทำศาลาประชาชน เรี่ยไรคนละ 20 บาท ผู้นำ 100 บาท มาสร้างศาลา ซึ่งต อนนี้ศาลานั้นเป็นที่เลือกตั้งเป็นห้องประชุม”
109 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
บางห้วงอารมณ์ระหว่างดูภาพเขียนเจียงกับลูกชาย เธอหวนนึกถึง บรรพบุรุษ ถ้าคนลาวเปรียบเหมือนกับคนไต้หวันที่ต้องพลัดพรากแผ่นดินเกิด แต่สุดท้ายการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ก็นำ ไต้หวันมาถึงทุกวันนี้ อารมณ์น ั้น เดาว่า เธอเห็นตัวเองในภาพของเจีย่ ง จิงกว๋อ คลื่นลูกใหม่ “พอเราเห็นภาพเขียนเจียงกับลูกชาย มันป ิ๊งแวบเลย เพราะเราผูกพันกับ บรรพบุรษุ ไต้หวันอ าจจะไปรวมกบั จ นี ก ไ็ ด้ หรือจ ะเป็นเสรีก ไ็ ด้ แต่ไม่ว า่ เป้าห มาย เขาจะเป็นยังไง เขาโปร่งใส จริงใจ ทำเพื่อประเทศ” มองย้อนกลับไปยังช ุมชนตำบลหนองสาหร่าย ทิชากรบอกว่า ถ้าช าวบ้าน ไม่มีทรัพยากรหรือโครงสร้างพื้นฐานที่ภาครัฐหรือท้องถิ่นหนุนเสริมให้ ก็จะ เหมือนกับชาวบ้านบางระจันในหน้าประวัติศาสตร์ที่ถูกพม่าเผาหมู่บ้าน “อย่างที่เราไปดูโรงพยาบาล แทนที่เขาจะพาเราไปดูห้องที่แพทย์ทำงาน เปล่า เขาพาเราไปดูเสาเข็ม เฮ้ย ทำไมการที่คนไทยสร้างอะไรทำไมไม่มีการ วางแผน ผังเมืองก็ไม่มีการวางแผน แต่ท ี่นี่เขามองรายละเอียด ผ่าตัดยังไงไม่ให้ คนไข้เสียชีวิต เขามองถึงรากเลย เขาจึงออกแบบเสาเข็มที่ป้องกันอาคารสั่น สะเทือนระหว่างที่เกิดแผ่นดินไหว เพราะในเวลานั้นแพทย์อาจจะกำลังผ่าตัด คนไข้อยู่ เสาเข็มอันนี้ป้องกันแรงสั่นสะเทือนและทำให้แพทย์สามารถผ่าตัดได้ ขณะเกิดแผ่นดินไหว” ประสบการณ์หนึ่งที่ ปุ๊กกี๊-ทิชากร ประสบพบเจอ จากการทำงานชุมชน ท้องถิ่น รวมถึงงานเครือข่าย คือการแบ่งเขาแบ่งเรา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการ ทำงาน วิธแี ก้ข องเธอคือม ุ่งห น้าล งมือท ำ จนเห็นผลเป็นร ูปธ รรม ถ้าโชคดี ความ ร่วมมือก ็จะเกิดตามมา “อย่างท่านอาจารย์เจิ้งเอี๋ยนทำเรื่องที่ยาก ท่านมองข้ามประวัติศาสตร์ ท่านไปสร้างบ้านให้คนจีนที่เกิดภัยพิบัตทิ ี่ยากไร้ ท่านทำให้คนมุสลิม ทำให้คน เกาหลีเหนือ ท่านข้ามผ่านตรงนั้นไปแล้ว “ถ้าม องกลับม ายังป ระเทศเรา เจ็ดพ นั ก ว่าแ ห่งท เี่ ป็นต ำบล เราตา่ งคนตา่ ง
110
มากกว่าหนึ่งวัน ทำงาน ฉันมีงบของฉัน ไม่จำเป็นต้องไปคุยกับเพื่อนบ้าน ตำบลฉันต้องดีกว่า ท อี่ นื่ พีเ่ คยเจอแบบนมี้ าหลายครัง้ ถ้าเราชว่ ยกนั กำแพงมนั จ ะพงั ท ลายลงไปเอง จากนั้นมันจะกลายเป็นเราต่างช่วยกันทำงาน” ในมุมม องของเธอ พลเมือง คือ คนทอี่ อกมาทำเพื่อส ่วนรวม ไม่ได้คิดแต่ เรื่องตัวเอง สิ่งเหล่านี้จะเกิดได้ เธอบอกว่า ถ้าเราตระหนักว่าเรามีหน้าที่อะไร และลงมือท ำ
111 บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
เหมือนอย่างธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน “การกระทำของท่าน เป็นการกระทำที่ปราศจากอคติ ซึ่งการที่ท่านทำ เช่นนั้น ท่านก็โดนแสดงความไม่พ อใจนะ แต่ท่านมองข้ามปมขัดแย้งต ่างๆ ทั้ง เชือ้ ชาติ ประวตั ศิ าสตร์ การเมือง มองขา้ มหมดเลย เหลือแ ต่การเคารพเพือ่ นมนุษย์” ถ้าเราเริ่มจากจุดนี้... ปุ๊กกี๊-ทิชากร ตั้งค ำถาม
112
มากกว่าหนึ่งวัน
มากกว่าหนึ่งว ัน
116
มากกว่าหนึ่งวัน วันสุดท้าย หลังจากศึกษาเรียนรู้งานจิตอาสาของมูลนิธิฉือจี้แล้ว ใครหลายคนเชียร์ให้ พี่ด้วง-ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการ สำนัก 3 สสส. ออกบวชเป็นภิกษุณี หลายวันที่ผ่านมา พี่ด้วง-ดวงพร มองเห็นอะไร “การมาครั้งนี้มันก็ทำให้เห็นอีกมิติหนึ่งว่าการทำงานชิ้นใดชิ้นหนึ่ง มันต้องมี 3 อย่าง เช่น 1. เราต้องมีความเชื่อ ศรัทธาต่อเส้นทางที่เราเดิน ว่าส งิ่ ท เี่ ราคดิ ม นั เป็นไปได้ 2. ต้องเรียนรวู้ ธิ กี ารทจี่ ะเดินเข้าไปถงึ เป้าห มาย ให้ม คี วามหลากหลาย มันข นึ้ อ ยูก่ บั พ นื้ ฐ านของพนื้ ทีด่ ว้ ย ผูน้ ำ และบริบท ด้วย เอาคนที่มีพื้นฐานแตกต่างแล้วเอามาคุยกัน 3. เราอยู่ในภาวะที่
บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
มากกว่าหนึ่งวัน ที่คณะเดินทางมาศึกษาเรียนรู้การทำงาน จ ติ อ าสาทมี่ ลู น ธิ พิ ทุ ธฉอื จ ี้ ประสบการณ์ค วามประทับใจทไี่ ด้ร บั ก ลับม า ผู้คนเหล่านี้จะนำกลับไปปรับปรุง ต่อยอด เพื่อเปลี่ยนแปลงหรือสร้าง เสริมให้ชุมชนของพวกเขา มากกว่าห นึ่งว ัน ที่สิ่งดีงามต่างๆ ที่เราเห็นในไต้หวัน ในมูลนิธิ พุทธฉือจี้ สะสมอยู่ในความทรงจำ มากกว่าห นึ่งวัน แน่นอน หากชุมชนท้องถิ่นแต่ละแห่ง จะสร้าง สังคมที่เข้มแ ข็ง น่าอยู่ สร้างความรู้สึกว่าท ุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกคนพร้อมทจี่ ะเป็นฝ่ายให้โดยไม่ห วังผลตอบแทน มากกว่าห นึ่งวัน แต่ค วามอดทนจะเป็นคำตอบ
117
Made in Taiwan
ใช้เงินในกระบวนการพัฒนาอย่างไร้เหตุผลพอสมควร “เรามาถงึ จ ดุ ท ถี่ า้ เราไม่ว กกลับ เอาเงินเป็นต วั ต งั้ ไม่เอาประโยชน์ ของพนื้ ทีเ่ ป็นต วั ต งั้ ทุกอ งค์กรกจ็ ะเกิดอ ปุ สรรคมากมาย นัน่ เป็นเหตุผล ทีเ่ ราเลือกมาไต้หวัน มาทพี่ นื้ ทีม่ ลู น ธิ พิ ทุ ธฉอื จ ี้ เพราะเราตอ้ งการสร้าง ความเชื่อมั่นให้กับผ ู้นำ เรื่องจิตอาสามันเป็นเรื่องที่คุณไม่ท ำไม่ได้ มัน จะทำให้สังคมนี้เป็นสังคมที่ไม่เอื้ออาทร ผู้ที่แข็งแรงกว่าไม่ดูแลผู้ที่ อ่อนแอกว่า เงินเท่าไหร่ก็เลี้ยงคนในสังคมไม่พอ ถ้าไม่มจี ิตอาสา”
118
มากกว่าหนึ่งวัน
119
บันทึกการเดินทางจาก ‘จิตอาสา’ สูก่ ารเป็น ‘พลเมือง’
Made in Taiwan
นัยนา ศรีเลิศ
อบต.คอรุม
“ฉันคิดว่าถ้ากลับไปถึงคอรุม มัน น่าจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลง เริ่ม จากเปลี่ยนตัวเราเองก่อน”
บุณฑริก แ
ช่ม
อบต.หนอชงโ้อรยง
“การเป็นจ ติ อ าสาจากจติ ใจทบ่ี ริส ทุ ธ์ิ การทำสงิ่ เหล่าน คี้ อื ค วามรกั ท มี่ ตี อ่ เพื่อนมนุษย์”
ไฉน ก้อนทอง
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดงมูลเหล็ก
“ผมคิดว่าจิตอาสาคือ มนุษย์ไม่ว่าจะ ชนชาติไหนกแ็ ล้วแ ต่ ความหว่ งหาอาทร ความผกู พันในชาติพนั ธุใ์ นกลุม่ ในกอ้ น มันมโีดยธรรมชาติอยูแ่ ล้ว”
“ที่บักไดบ้านผม กรณีเกิดสงคราม ทุกคน พร้อมจะช่วยเหลือกัน โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่า เนื้อแ ท้ที่พวกเขามีอยู่เรียกว่า จิตอาสา”
นายก องค์ก วชิ ญ ารบริห ะ เ ารส่ว สาะพ นตำบ บด ลบักไ ี ด
เพ็ญภัค รัตนคำฟู
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะคา “ทุกคนสามารถเป็นอาสาสมัคร ได้ ถ้าเรามองว่าทุกคนในเกาะคา คือครอบครัวเดียวกัน”
ไสว จันทร์เหลือง
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีฐาน “พื้ น ฐ านค นศ รี ฐ าน พวกเ ขา พร้ อ มที่ จ ะช่ ว ยเ หลื อ กั น ผม กล้าพูดได้เลยว่า เรื่องจิตอาสา ที่ศรีฐ านไม่แพ้ใคร”
ิ์ ช์ เปรมปรีด สุวรรณวิช่วนตำบลหนองโรง
หารส
นายกองค์การบริ
“ที่หนองโรง ผมคิดว่าเขาไม่ได้ เอาตั ว บุ ค คลเ ป็ น จุ ด ศู น ย์ ก ลาง ในการทำงานจติ อ าสา แต่พ วกเขา เอาปั ญ หาค วามอ ยู่ ร อดใ นชี วิ ต เป็ น จุ ด ศู น ย์ ก ลางใ นก ารล งมื อ ทำกิจกรรม ถ้าไม่มีป่าก็ไม่มีน้ำ”
จินตศักดิ์ แสงเมือง
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไกรนอก “การสร้างให้คนในชุมชนมีจิตใจ อาสา มั น ไ มใช่่ เ รื่ อ งง่ า ย แต่ ถึ ง กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็น สิ่งที่ท้าทาย”
สุริยัน แพรสี
อบต.ดอนแก้ว
“ที่ดอนแก้ว - เชียงใหม่ เราทำเรื่องจิตอาสา อยู่ไม่กี่เรื่อง แต่เราทำเชิงลึก ยกตัวอย่าง จิตอาสาเรื่องผู้พิการ พวกเขาต่อสู้เพื่อให้ คนพิการจนได้ข้อบัญญัติทางกฎหมายที่จะ คุ้มครองผู้พิการ แล้วพวกเขาก็ไม่เรียกร้อง ค่าตอบแทน” ทิชากร สุนทร
อบต.หนองสวาิภหร่าาคย
“พลเมืองคือคนที่ออกมาทำเพื่อส่วนรวม ไม่ได้คิดแต่เรื่องตัวเองหรือครอบครัวของ ตัวเอง คิดถึงส่วนรวม มีหน้าที่รับผิดชอบ”
เพ็ญศรี ทองบุญชู
กำนันตำบลเกาะขันธ์ธ์ ลเกาะขัน และประธานศูนย์จัดการภัยพิบัติตำบ “อาสาสมัครที่มาช่วยงานเรื่องภัย พิบตั ิ พวกเขาไม่มคี า่ ต อบแทนนะคะ พวกเขามาดว้ ยใจทต่ี อ้ งการชว่ ยเหลือ เพื่อนมนุษย์”
สิริพงษ์ ชูชื่นบุญ
อบต.บักได
“อาสาสมัครที่ฉือจี้มีธรร มาจารย์ เจิ้งเอี๋ยนเป็นจุดศูนย์กลางในการ ทำความดี บ้านเราเราก็มีพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นจุดศูนย์ รวมของจิตใจ”
เรวัติ นิยมวงศ์
เทศบาลตำบลชากไทย “ผมมองวา่ เราทำให้ค ำวา่ จ ติ อ าสาผดิ เพีย้ นไป จิต อาสาในทนี่ ไี้ ม่ต อ้ งการคา่ ต อบแทน แต่บ า้ นเรามกั บ่นว่าแกนนำไม่ดูแลเลย สิ่งที่ผมจะกลับไปทำ คือปรับเปลี่ยนทัศนคติเรื่องนี้”
กัลยา หอมเกตุ
ผู้จัดการศูนย์ประสานงาน ท้องถิ่นภาคใต้ตอนบน “ฉันม องวา่ ว ถิ แี พทย์แ บบเก่าเคารพความ เป็นมนุษย์ ฉือจี้มีจิตวิญญาณแบบเก่า ที่ รองรับด้วยเทคโนโลยีการแพทย์สมัยใหม่ ถ้าเราจะพัฒนาชุมชนท้องถิ่น เราต้อง รักษาทั้งสิ่งเก่า และเปิดรับสิ่งใหม่”
วนิฐา ธงไชย
นักบริหารงานสาธารณสุข อบต.ศรีฐาน
“วิธีคิดท ำเพื่อคนอื่น ก็คือผลสุดท้าย มันก็ย้อนกลับมาสเู่ราเอง ถ้าเราเชื่อ ว่าทุกสิ่งบนโลกนี้ล้วนแต่สัมพันธ์ กันนะคะ” ท รัตน์ สินธพ อำินบลท่าข้าม
ริหารส่วนต
นายกองค์การบ
“คนเ ราท้ อ งต้ อ งอิ่ ม ก่ อ น จึ ง จ ะ ช่วยเหลือสังคมได้ แต่ที่ฉือจี้เขาเข้า มาเพราะคณ ุ ค่าท างจติ ใจอย่างเดียว เลย นีค่ อื ส งิ่ ท า้ ทายนะ ไม่ใช่ส ำหรับ ผู้นำ แต่ทุกคนในชุมชนเลย”
ประพันธ์ แจ้งเอี่ยม
นักวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ “ผมมองว่าพรหมวิหาร 4 เป็นเครื่องมือที่ เป็นน ามธรรมซึ่งก่อให้เกิดกิจกรรมรูปธรรม โดยใช้ข้อมูลจริงๆ ในการเรียนรู้ปัญหา ผม ว่ามันเป็นกระบวนการที่เรียนรู้ผ่านของจริง แล้วมาเทียบกับหลักธ รรม”
ผศ.ดร.ลักขณา เติมศิริกุลชัย
สำนัก 3 สสส.
“เราจะดูแลแค่ครอบครัวของเรา โรงเรียนของเรา แค่นั้นม ันไม่พอ เวลาที่คุณเกื้อกูลคนที่ทุกข์ยาก มากๆ ความจริงแ ล้วม นั ก ค็ อื ก าร ช่วยเหลือส ังคม ถ้าเรามองว่าท ุก อย่างสมั พันธ์ก นั เรากต็ อ้ งทำเพือ่ คนอื่นด้วย”
วิเศษ ยาคล้าย
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังน้ำคู้ “ขอบเขตของฉอื จ คี้ อื ร ะดับโลก แต่ข องเรา ระดับต ำบล แน่นอน เราดเู ขาเป็นต วั อย่าง แต่ สิ่ ง ที่ เ ราจ ำเป็ น ต้ อ งท ำคื อ เ ริ่ ม จ าก จุดเล็กๆ ในชุมชนเล็กๆ ของเรา”
ภานุวุธ บูรณพรหม
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลผาสิงห์
“จิตสำนึกมันต้องมีกระบวนการสร้าง แล้วม นั ต อ้ งเริม่ จ ากทไ่ี หน จากครอบครัว จากผ้าปูที่นอนในห้องนอนตัวเอง”
ธาดา อำพิน
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยเก่า
“ผมชอบคำกล่าวที่ท่านธรรมาจารย์ เจิ้งเอี๋ยนบอกว่า ‘โลกไม่ใช่ของเรา คนเดียว โลกเป็นของคนทุกคน’”
จ่าสิบเอกไพศาล มีส มบัติ
อบต.บ้านควน
“เวลาท่พี วกเขาไปให้ความชว่ ยเหลือ ผปู้ ระสบภยั อาสาสมัครฉอื จไ้ี ม่เลือก ว่าคุณเป็นคริสต์ คุณเป็นอิสลาม... ไม่เลย พวกเขาช่วยเหลือท ุกค นไม่ว ่า คุณเป็นใคร”
พ.ต.ท.สุรช ัย เทศวงศ์
อบต.เขมราฐ
“ผมอ ยากม าเ ห็ นว่ า อะไรท ำให้ ค น ทำงานอาสาสมัครที่นี่ ทำงานเต็มร้อย โดยไม่หวังผลตอบแทน คำตอบที่ผม ได้รบั กลับเกิดขน้ ึ กบั ตวั เอง ทำกบั ตวั เองกอ่ น ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงคนอื่น”