วารสารปันสุข ฉบับที่ 20

Page 1

»˜¹ÊØ¢ ẋ§»˜¹ ÊÃä ÊÌҧ à¾×èͪØÁª¹¹‹ÒÍÂÙ‹

ฉบับที่ 20 พฤศจิกายน 2556

»˜¹ÊØ¢


www.punsook.org

จัดท�ำโดย

»˜¹ÊØ¢ ẋ§»˜¹ ÊÃä ÊÌҧ à¾×èͪØÁª¹¹‹ÒÍÂÙ‹

ส�ำนักสนับสนุนสุขภำวะชุมชน ส�ำนักงงำนกองทุนสนับสนุนกำรสร้ำงเสริมสุขภำพ ปันสุข : เลขที่ 3 รำมค�ำแหง 44 ถนนรำมค�ำแหง แขวงหัวหมำก เขตบำงกะปิ 10240 Email : editor@punsook.org โทร : 08 1710 0456

»˜¹ÊØ¢

facebook > ค้นหา >


นหา > ปันสุข

สถานี 3

กำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้นั้น เรำอำจไม่ต้องมีอะไรเลย มีคนมำนั่งแล้วมำพูดบรรยำยให้จตำม จดบ้ำงไม่จดบ้ำง แล้วก็กลับไป เอำไปประยุกต์ใช้บ้ำง หรือไม่น�ำพำซึ่งผลลัพธ์ใดๆ เลย แต่ถ้ำ เป็นกำรสร้ำงกระบวนกำรเรียนรู้ร่วมกัน สิ่งแรกเลย คือเรำต้องเตรียมกำร รวมถึงบุคลำกรที่จะ มำสร้ำงแรงบันดำลใจให้กับคนที่มำเรียนรู้ร่วมกัน เริ่มต้นเลยคนที่มำนั้น จะต้องรู้ว่ำต�ำบลนั้นๆ เป็นอย่ำงไร ดังนั้นต�ำบลแม่ข่ำยจะต้องส่ง ข้อมูลไปให้แก่ผู้ที่จะมำร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ก่อนมำ ซึ่งทำงต�ำบลแม่ข่ำยเองก็ต้องเตรียมกำร ให้พร้อมเพื่อต้อนรับผู้ที่เข้ำมำขอแลกเปลี่ยนควำมรู้ โดยต�ำบลแม่ข่ำยจะใช้พื้นที่จริงเป็นตัวกระตุ้นในกำรเรียนรู้ร่วมกัน เพรำะฉะนั้นสิ่งส�ำคัญคือ แม่ข่ำยจะต้องคุยกันให้ชัดเจนก่อนที่เพื่อนจะมำ ว่ำเรำมีหน้ำที่สร้ำงกำรเรียนรู้ร่วมกัน เรำไม่ได้ จัดกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้เฉยๆ เรียนรู้ร่วมกันหมำยควำมว่ำ เพื่อนเครือข่ำยก็ต้องมีกำรเตรียม กำร ชำวบ้ำนทุกคนคือฟันเฟืองที่ส�ำคัญต่อกระบวนกำร ซึ่งพึงอย่ำเพิกเฉยต่อพวกเขำ เพรำะกำร ลงนำม MOU มิใช่กำรกระท�ำที่ส่งผลต่อคนเพียงบำงกลุ่ม หำกแต่เป็นทุกคนที่อยู่ร่วมกันใน ชุมชน กำรได้เห็นกระบวนกำรสร้ำงกำรเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อร่วมสร้ำงแรงบันดำลใจให้กับผู้มำ เยือนคือสิ่งที่ชุมชนแม่ข่ำยควรตระหนักรู้ และเห็นเป็นควำมส�ำคัญต่อกระบวนกำรสร้ำงกำร เรียนรู้ร่วมกัน ค�ำถำมที่ต้องน�ำไปขบคิดคือ จะท�ำอย่ำงไรให้ผู้มำเยือนรู้สึกอบอุ่น หรือรู้สึกว่ำต�ำบลนี้น่ำอยู่ กว่ำ เมื่อเทียบกับต�ำบลที่ตนพักพิง ให้เขำตั้งค�ำถำมว่ำ ท�ำไมที่บ้ำนเรำไม่มี พรำะแรงบันดำลใจ คือสิ่งส�ำคัญ เป็นพลังผลักดันให้เกิดสิ่งดี โดยสิ่งที่แม่ข่ำยต้องยึดถือเป็นเป้ำหมำยอีกอย่ำงในกำรดึงชุมชนอื่นเข้ำมำเรียนรู้ร่วมกัน คือ กำรดึงสิ่งใหม่ๆ ออกมำจำกกระบวนกำร ซึ่งควำมคิดใหม่คือดอกผลที่กำรันตีกระบวนกำรที่ เรียกว่ำกำรเรียนรู้ นอกจำกนี้ แม่ข่ำยจะต้องรู้ถึงจ�ำนวนแกนน�ำ ตลอดจนทักษะศักยภำพที่มีอยู่ของพวกเขำ เพรำะเมื่อมีเพื่อนมำเรียนรู้แล้ว4-5 รุ่น ก็จ�ำเป็นต้องมำสรุปกันครั้งหนึ่ง ว่ำแกนน�ำคนนั้นๆ มี ควำมเข้ำใจเพิ่มขึ้นมำกน้อยเพียงใด ตลอดจนสังเกตกำรณ์ถึงแรงบันดำลใจในตัวพวกเขำ เพรำะถ้ำไม่ได้สิ่งเหล่ำนี้มำ นั่นบ่งบอกถึงกำรเป็นแม่ข่ำยที่ไม่มีประสิทธิภำพ ต้องกลับมำ ทบทวนตนเองใหม่ และพยำยำมผลักดันตัวเองขึ้นมำ ผ่ำนกำรเตีรยมตัวและกำรท�ำงำนที่หนัก ขึ้น เพรำะกำรท�ำหน้ำที่เป็นผู้สร้ำงกำรเรียนรู้ร่วมกันนั้นต้องมีควำมพร้อม เพื่อว่ำจะผลักดัน ชุมชนที่เป็นลูกข่ำยไปด้วยกัน ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อ�ำนวยกำรส�ำนักสนับสนุนสุขภำวะชุมชน (สน.3)


ÊÒúÑÞ

สภาผูน้ า� ร่วมสร้างการมีสว่ นร่วม 6

ออมบุญวันละบาท สูส่ วัสดิการชุมชน 8

ความสุขที่มกี ลิน่ บนดินที่พลิกฟื้ น 10

กลุม่ เพื่อนสูงวัยแต่ใจเกินร้อย 12

ชาวประมง นักอนุรกั ษ์กว๊านพะเยา 14

ห้องสมุดมีชวี ิต ห้องวิทยาศาสตร์หรรษา 16

จากดอกหญ้าสูอ่ าชีพท�าไม้กวาด 20

หอมพริกแกง โชยมาจากหมู่ 8 วังน�า้ คู้ 22

เบิกบานยามค�า่ ด้วยร�าวงย้อนยุค 24


º·ºÃóҸԡÒà อีกไม่นำนก็จะผ่ำนพ้นปี 2556 สถำนกำรณ์บ้ำนเมืองได้ผ่ำนจุดร้อนแรงที่สุด มำแล้ว ณ เวลำนี้เป็นเรื่องของกำรเจรจำหำทำงออก ก็ได้แต่หวังว่ำ จะมีหนทำงที่ พอจะเชื่อมใจของทุกฝ่ำยได้ บนหลักกำรของประชำธิปไตย นั่นเป็นเรื่องของกำรเมืองปัจจุบัน ซึ่งคงไม่ขอกล่ำวอะไรมำกไปกว่ำนี้ เข้ำเรื่อง กันดีกว่ำ วำรสำรปันสุขฉบับนี้ ยังเต็มไปด้วยเรื่องรำวดีๆ ส่งตรงถึงผู้อ่ำนเช่นเคย แม้เวลำจะล่วงเลยมำหลำยวัน ฉบับนี้จะพำผู้อ่ำนไปรู้จักสภำผู้น�ำฯ แห่งต�ำบลหนองพลับ กำรจัดกำรแบบ เรียบง่ำยเพื่อสร้ำงกำรมีส่วนร่วม พร้อมทั้งพำไปรู้จักกับออมบุญวันละบำท ของ ต�ำบลบำงคนที ที่นอกจำกจะส่งเสริมให้เกิดกำรออมแล้ว ยังน�ำเงินรำยได้มำจัด สวัสดิกำรคืนให้กับชุมชนอีกด้วย นอกจำกนั้นยังมีเกษตรกรผู้พลิกฟื้นผืนดินของ ตัวเองด้วยสมองและสองมือ จำกพื้นที่แห้งแล้งกลำยเป็นควำมชุ่มชื้น สู่แรง บันดำลใจให้ใครอีกหลำยคน พร้อมทั้งมำรู้จักกับองคุลีมำลกลับใจ ผู้หันหลัง ให้กำรประมงที่ท�ำลำยระบบนิเวศ สู่กำรเป็นนักอนุรักษ์ผืนน�้ำ นอกจำกนี้ ยังมีเรื่องรำวดีๆ อีกหลำยเรื่องให้ได้อ่ำนกัน ลองไปติดตำมกันเลย ดีกว่ำ

บรรณำธิกำร

»˜¹ÊØ¢


¡ÒúÃÔËÒèѴ¡Ò÷ŒÍ§¶Ôè¹áººÁÕʋǹËÇÁ

สภาผู้น�า ร่วมสร้างการมีส่วนร่วม จุดเริ่มต้นและจุดศูนย์รวมของกำรขับเคลื่อนต�ำบลหนองพลับ อ�ำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้น อยู่ที่กำรเสริมสร้ำงกำรมี ส่วนร่วม กำรร่วมด้วยช่วยกันจัดกำรให้คนในท้องถิ่นคิดริเริ่ม สร้ำงสรรค์สิ่งต่ำงๆ ที่ดีๆ ขึ้นมำได้ นำยกเทศมนตรี เกรียงไกร ทวีกำญจน์ แห่งเทศบำลต�ำบล หนองพลับ บอกถึงควำมส�ำคัญของกำรให้คนในท้องถิ่นได้ลุกขึ้น มำจัดกำรแก้ไขปัญหำด้วยตนเอง เพื่อที่ว่ำเวลำพวกเขำมีปัญหำ อะไร เขำก็จะแก้ไขได้ตรงตำมควำมต้องกำร ดังนั้น เมื่อมีโอกำส บริหำรท้องถิ่นจึงได้เชื้อเชิญคนหลำยฝ่ำยให้เข้ำมำร่วมกันคิด แสดงควำมเห็น ซึ่งแต่ก่อน หำกชุมชนมีปัญหำก็จะลงไปและร่วม คิดกับชำวบ้ำน แต่ตอนหลังได้ตั้งสภำผู้น�ำขึ้นมำ ทุกเดือนสมำชิก สภำจะน�ำปัญหำมำบอกกล่ำวหรือแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นต่อ กัน จนกลำยเป็นเวทีของพวกเขำเอง นำยกเกรี ย งไกร เล่ ำ ย้ อ นไปถึ ง ควำมคิ ด ที่ อ ยำกให้ มี ก ำร 

»˜¹ÊØ¢

จัดกำรอย่ำงมีส่วนร่วมของชุมชนว่ำ สมัยยังหนุ่มๆ ยังเป็นชำวไร่ เส้นทำงไปไร่จะมีล�ำน�้ำสำยหนึ่งที่เป็นต้นน�้ำปรำณบุรี เรียกว่ำ ล�ำน�้ำป่ำละอู ยำมน�้ำหลำกสูง ก็จะต้องว่ำยน�้ำข้ำมไปยังไร่ จนวัน หนึ่งจึงมำคิดว่ำ ท�ำไมเรำไม่สร้ำงสะพำนกัน “ผมจึงได้ชวนพี่น้องคนท�ำไร่แถวนั้น มำท�ำสะพำนด้วยกัน และนั่นคือครั้งแรกของกำรจัดกำรอย่ำงมีส่วนร่วมของชำวบ้ำนที่ ผมเห็น เพรำะเรำไม่มีใครไม่มีหน่วยงำนใดมำช่วย เรำท�ำของเรำ เอง เพื่อตัวเรำเอง ซึ่งผมมำพบภำยหลังว่ำ สิ่งที่ผมและทุกคนท�ำ ด้วยกำรสร้ำงสะพำนในวันนั้น นั่นล่ะ คือกระบวนกำรมีส่วนร่วม” นำยกเกรียงไกร เล่ำย้อนกลับไป ดังนั้น เมื่อเข้ำมำเป็นผู้บริหำรเทศบำลต�ำบลหนองพลับ ด้วย ควำมรู้สึกและควำมทรงจ�ำที่มีต่อภำพควำมร่วมไม้ร่วมมือกันของ คนหนุ่มฉกรรจ์กว่ำ 50 คน ที่มำช่วยกันสร้ำงสะพำนครำวนั้น จึง ท�ำให้เขำยึดแนวทำงกำรบริหำรแบบมีส่วนร่วมของคนในชุมชน


ให้คนในชุมชนรู้สึกเป็นเจ้ำของปัญหำและร่วมมือกันแก้ไข และ เพื่อสร้ำงกำรจัดกำรอย่ำงมีส่วนร่วม เขำจึงผลักดันและสนับสนุน ให้มี ‘สภำผู้น�ำชุมชน’ โดยเปิดโอกำสให้คนในท้องถิ่น 20 คน ไป ศึกษำกำรสร้ำงสภำผู้น�ำมชนของต�ำบลหนองกลำงดง อ�ำเภอสำม ร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี 2551 ซึ่งหนึ่งในผู้ที่เดิน ทำงไปดู ง ำนครั้ ง นั้ น ก็ คื อ ประเสริ ฐ มู ล เกตุ ผู ้ ด� ำ รงต� ำ แหน่ ง ประธำนสภำผู้น�ำชุมชนคนปัจจุบัน ประเสริฐ มูลเกตุ ประธำนสภำฯ วัย 33 ปี ได้เล่ำให้ฟังถึง ควำมเป็นมำของสภำผู้น�ำชุมชนว่ำ อันเนื่องมำจำกแต่ก่อน ชุมชน เคยมีปัญหำเรื่องกำรเข้ำถึงระหว่ำงชำวบ้ำนกับหน่วยงำนท้องถิ่น ทำงเทศบำลเลยให้ไปดูงำนที่ต�ำบลหนองกลำงดง ซึ่งทั้งตนและ เพื่อนสมำชิกได้รับแรงบันดำลใจอย่ำงมำก เมื่อกลับมำจึงได้รวม กลุ่มกันจัดตั้งสภำผู้น�ำชุมชน โดยคัดเลือกตัวแทนชุมชนๆ ละ 5 คน รวม 7 ชุมชน เลือกคณะท�ำงำน ประธำน รองประธำน ซึ่งทุก ต� ำ แหน่ ง มี ว ำระในกำรท� ำ งำน โดยได้ รั บ กำรสนั บ สนุ น จำก เทศบำลต�ำบลหนองพลับ ในเรื่องอ�ำนวยควำมสะดวกในกำร จัดกำรประชุมและเครื่องดื่ม “เรำจะประชุมกันทุกวันอังคำรของต้นเดือน และจัดมำตลอด จนถึงวันนี้ก็ 4 ปีแล้ว ซึ่งกำรประชุมทุกครั้งในแต่ละเดือน เรำจะ น�ำปัญหำของแต่ละชุมชนมำคุยกันและช่วยกันแก้ไข” ประเสริฐ เล่ำด้วยรอยยิ้มเปี่ยมควำมภำคภูมิใจ เขำบอกว่ำ นับแต่จัดกำรประชุมมำ 4 ปีไม่เคยมีเดือนไหนที่ ยกเว้นเลย และส่วนใหญ่คนจะมำประชุมกันครบทุกคน แม้ว่ำทุก คนจะไม่มีรำยได้ ไม่มีเบี้ยประชุมอะไร แต่สิ่งที่ท�ำให้ทุกคนมำ ประชุมร่วมกัน นั่นเพรำะเมื่อเขำมีปัญหำ ปัญหำของเขำได้รับกำร แก้ไข “สมำชิ ก ประกอบไปด้วยผู้ค นหลำกหลำยอำชีพ ครั บ มี ทั้ง พ่อค้ำแม่ค้ำ เกษตรกร ส่วนใหญ่ก็เป็นชำวบ้ำนธรรมดำๆ ที่เรำ เลือกวันอังคำรกันเพรำะวันอังคำรเป็นวันนัดตลำดนัดใหญ่ของ ต�ำบลทุกคนจะมำหำซื้อของที่นี่ หลังจำกนั้น ช่วงบ่ำยเรำถึงเปิด กำรประชุม นอกจำกนี้ เรำยังมีสภำเด็กสร้ำงสรรค์ด้วยนะครับ ก็ ให้ตัวแทนสภำเด็กมำร่วมด้วย เมื่อเขำมีปัญหำ หรือต้องกำร ควำมช่วยเหลืออะไร เขำจะแจ้งมำ อย่ำงถ้ำทำงโรงเรียนเขำจะจัด แข่งกีฬำ หรือจัดกิจกรรมทูบีนัมเบอร์วัน แต่ขำดอุปกรณ์หรืออะไร อื่ น ๆ เขำก็ จ ะมำบอกเรำ ทำงเรำก็ จ ะประสำนไปทำงกอง สำธำรณสุ ข ว่ ำ เขำจะสำมำรถช่ ว ยอะไรได้ บ ้ ำ งไหม ซึ่ ง กอง สำธำรณสุขก็แนะน�ำให้เด็กๆ หัดเขียนโครงกำรขอไป โดยมีผู้ใหญ่ เป็นพี่เลี้ยง เขำก็ท�ำได้ครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมำก เพรำะเด็กได้ฝึก เขียนโครงกำร ฝึกบทบำทกำรเป็นผู้น�ำในกำรบริหำรจัดกำรด้วย”

ประเสริฐเล่ำ นอกจำกตัวแทนสภำเด็กแล้ว สภำผู้น�ำชุมชนที่นี่ยังมีตัวแทน จำกแรงงำนพม่ำเข้ำมำเป็นสมำชิกด้วยอีก 1 เสียง กำรเชื้อเชิญ ผู้น�ำแรงงำนพม่ำเข้ำมำเป็นสมำชิกเป็นควำมคิดริเริ่มจำกสภำผู้ น�ำฯ ประเสริฐ เล่ำต่อว่ำ ที่นี่มีแรงงำนพม่ำมำกกว่ำ 3,000 คน (หรืออำจจะถึง 5,000 คน) ส่วนใหญ่เข้ำมำท�ำงำนโรงงำนผลไม้ที่ บริษัทโดลไทยแลนด์ ดังนั้น เมื่อมีคนอยู่มำกขนำดนี้ หลำยครั้งที่ คนพม่ำอำจท�ำผิดกฎกติกำของบ้ำนเรำ เช่น ขับรถผิดกฎ โดย เฉพำะเรื่องรถนี่ส�ำคัญมำก เพรำะพม่ำขับรถเลนขวำ ขณะที่บ้ำน เรำขับเลนซ้ำย นอกจำกนี้ ยังเป็นเรื่องของควำมปลอดภัย กำรรักษำควำม สะอำด กำรใช้สถำนบริกำรสำธำรณะร่วมกันกำรสื่อสำรท�ำควำม เข้ำใจต่อกัน ดังนั้นแล้ว เมื่อมีตัวแทนพม่ำ ซึ่งก็คือ ผู้ใหญ่บ้ำน พม่ำ (ในกลุ่มแรงงำนพม่ำเองเมื่อมีคนพม่ำเข้ำมำอำศัยอยู่ที่นี่ เป็นจ�ำนวนมำกแล้วเขำจึงได้รวมกลุ่มและแต่งตั้งผู้น�ำขึ้นมำ เรียก กันว่ำ ผู้ใหญ่บ้ำน) มำเพื่อรับฟังปัญหำ “ซึ่งดีมำกเลยครับ เพรำะเรำเองถ้ำสื่อสำรไปก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง เพรำะเรำใช้คนละภำษำ แต่พอเรำบอกไปทำงผู้น�ำ และผู้น�ำเขำ เอำไปแจ้งต่อคนพม่ำด้วยกัน ท�ำให้อะไรๆ ดีขึ้นเยอะ ควำมเป็น อยู่ของทำงเขำก็ดีขึ้น เรำก็อยู่ด้วยกันได้ดีขึ้น” ประเสริฐเล่ำ ทั้งประเสริฐและชำวบ้ำนในต�ำบลหนองพลับต่ำงคิดตรงกันว่ำ คนพม่ำไม่ใช่คนอื่นไกล เมื่อเขำเข้ำมำท�ำงำนเป็นผู้ใช้แรงงำนใน เมืองไทย เขำก็เหมือนพี่น้อง “หลำยครั้งที่เรำเปิดเวทีและน�ำเสนอปัญหำควำมเดือดร้อน เรำก็จะดูว่ำอันไหนที่เรำท�ำได้ แล้วมำช่วยกันแก้ไข อย่ำงครั้งหนึ่ง มีชำวบ้ำนชุมชนหนึ่งเดือดร้อนเพรำะข้ำงบ้ำนเปิดฟำร์มไก่ ท�ำให้ เหม็นขี้ไก่ไปทั่ว แต่ชำวบ้ำนก็ไม่กล้ำต่อว่ำหรือขับไล่ เพรำะควำม เกรงใจต่อกัน ที่สุด ทำงสภำผู้น�ำฯ ก็ได้เชิญผู้หลักผู้ใหญ่ที่ทั้งสอง ฝ่ำยให้ควำมเกรงใจมำพูดคุย และทำงผู้ใหญ่ท่ำนนั้นจึงได้ขอให้ คนเปิดฟำร์มไก่ย้ำยไปเลี้ยงไก่ในที่อื่น ซึ่งเขำมีพื้นที่กำรเกษตร นอกเขตชุมชนอยู่แล้วเจ้ำของฟำร์มไก่ก็ยินยอมไปโดยดี เพรำะ ควำมเคำรพ และเกรงใจผู้ใหญ่ท่ำนนั้น นี่เป็นผลงำนหนึ่งที่ผม ประทับใจว่ำ เรำแก้ไขปัญหำได้โดยไม่ต้องใช้เงินทองอะไรเลย” ประเสริฐยกตัวอย่ำงให้เห็น ด้วยพื้นฐำนควำมคิดในเรื่องกำรจัดกำรอย่ำงมีส่วนร่วมของผู้ บริหำรและกำรเข้ำมำมีส่วนร่วมของสมำชิกในชุมชนอย่ำงสภำผู้ น� ำ ฯ นี้ เ อง ที่ เ ป็ น โครงสร้ ำ งส� ำ คั ญ ท� ำ ให้ ต� ำ บลหนองพลั บ สำมำรถสร้ำงสุขภำวะทั้ง 4 มิติ

»˜¹ÊØ¢


การจัดการสวัสดิการสังคมโดยชุมชน

ออมบุญวั นละบาท สู่สวั สดิการชุมชน ต�ำบลบำงคนทีเป็นต�ำบลเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยควำมอบอุ่น ผู้คน รู้จักมักคุ้น ส่งรอยยิ้มและค�ำทักทำยกัน เป็นภำพจ�ำที่น่ำประทับ ใจ แต่นั่นเทียบไม่ได้กับน�้ำใจที่คนที่นี่มีให้แก่กันผ่ำนสวัสดิกำร ของกลุ่มออมบุญวันละบำท ที่มีวันดี คงก�ำเหนิด, ชยำนุช วิมลประดิษฐ์, อรวรรณ เต็มเปี่ยม และเพ็ญแข วิมลประดิษฐ เป็น กรรมกำร ทั้งหมดเป็นสุภำพสตรีที่เป็นเสมือนดอกไม้เหล็กขับ เคลื่อนชุมชนบำงคนที วันดีเล่ำให้ฟังว่ำ เมื่อก่อนนี้ในเขต อบต.บำงคนทีไม่เคยมี กลุ่มกำรออมมำก่อน หรือพูดให้ถูกก็คือ ถ้ำมีก็ล่ม ไปไม่รอดซะ ส่วนใหญ่ จนกระทั่งมีนโยบำยรัฐเรื่องกำรส่งเสริมกำรออมเพื่อ เป็ น สวั ส ดิ ก ำรเกิ ด แก่ เ จ็ บ ตำยให้ กั บ ประชำชนเข้ ำ มำ บรรดำ ผู้ใหญ่บ้ำนและผู้ช่วยหมู่ต่ำง ๆ ปรึกษำหำรือกันว่ำเป็นแนวคิดที่มี สำระแก่นสำรและจะเป็นประโยชน์กับชำวบ้ำนโดยตรง จึงช่วย 

»˜¹ÊØ¢

กันก่อร่ำงสร้ำงกลุ่มขึ้น แต่ปัญหำอุปสรรคแรกที่เจอคือไม่ได้รับ ควำมร่วมมือจำกผู้บริหำรระดับสูงของต�ำบล หลังจำกเชิญมำ ด�ำรงต�ำแหน่งประธำน คณะกรรมกำรพยำยำมขับเคลื่อนกลุ่มอยู่ พักใหญ่โดยไม่มีผู้น�ำ โครงกำรก็ไม่สำมำรถด�ำเนินกำรได้ตำม ควำมตั้งใจเสียที รอจนกระทั่งเนิ่นนำนผ่ำนไป จึงได้นำยกฯ เรณู ซึ่งเพิ่งเข้ำมำรับต�ำแหน่งสดๆ ร้อนๆ ยอมมำนั่งเป็นประธำนกลุ่ม ให้ ในระยะแรก กลไกต่ำงๆ ถึงเดินต่อไปได้ ปัญหำใหญ่อีกอย่ำง คือ บรรดำกรรมกำรทุกคนไม่เคยมีควำมรู้ประสบกำรณ์เกี่ยวกับ กำรตั้งกลุ่มออมทรัพย์เลยสักนิดเดียว นี่ถือเป็นสิ่งใหม่ของชุมชน พวกเขำไม่รู้แม้กระทั่งว่ำจะต้องเริ่มนับหนึ่งกันอย่ำงไร งำนเอกสำรที่จ�ำเป็นต้องมีอะไรบ้ำง หน่วยพัฒนำสังคมที่ 59 จึงได้จัดงบฯ ให้กรรมกำรไปดูงำนจำกกลุ่มออมทรัพย์จังหวัด


ต่ำงๆ ที่ท�ำจนประสบผลส�ำเร็จแล้ว จำกนั้นกรรมกำรก็กลับมำนั่ง ทบทวนระดมควำมคิดกัน บำงอย่ำงที่ได้เรียนรู้จำกกำรดูงำนก็ใช่ ว่ำจะสำมำรถน�ำมำใช้กับพื้นที่ได้ เพรำะบริบทแวดล้อมที่แตก ต่ำงกันนั่นเอง โครงกำรนี้เริ่มต้นจำกกำรลองผิดลองถูกจริงๆ แต่ ปัจจัยที่ท�ำให้ประสบผลส�ำเร็จจนถึงวันนี้ได้น่ำจะมำจำกควำมมุ่ง มั่นตั้งใจและเสียสละของคนกลุ่มที่เป็นกรรมกำรนี่เอง “แรงผลักดันอันหนึ่งคือ เวลำเชิญไปประชุมที่จังหวัด มีคนพูด ต่อหน้ำที่ประชุมเลยว่ำ ต�ำบลบำงคนทีน่ะจัดกำรเรื่องเงินไม่ได้ เลย ตั้งกลุ่มอะไรก็หำยหมด ล้มหมด เขำพูดแบบดูถูกเรำ ท�ำให้ เป็นแรงฮึดว่ำพวกเรำต้องท�ำงำนนี้ให้ส�ำเร็จ” กรรมกำรคนหนึ่งพูด ขึ้น กรรมกำรของกลุ่มออมบุญวันละบำทต้องอำศัยควำมทุ่มเท ด้วยจิตอำสำ ท�ำงำนโดยไม่มีค่ำตอบแทน ท�ำให้บำงคนล่ำถอย

ห่ำงหำยไปบ้ำง แต่คนที่เหลืออยู่ก็เรียกว่ำล้วนหนักแน่นในหลัก กำร มั่นคงในจุดยืนโดยแท้ หลักกำรของกลุ่มออมบุญวันละบำทคือกำรออมเพื่อมอบเป็น สวัสดิกำร เป็นค่ำท�ำขวัญเมื่อมีเด็กเกิดใหม่ เมื่อเจ็บป่วยเบิกเป็น ค่ำรักษำพยำบำล และเมื่อเสียชีวิตจะมีเงินร่วมท�ำบุญให้ก้อน หนึ่ง กำรออมแบบนี้ไม่มีกำรปันผล ไม่มีกำรให้กู้ยืม แต่ออมเพื่อ เป็นหลักประกันในยำมยำกของชีวิต “อันนี้เป็นกำรออมบุญ เดือนหนึ่งก็ 30 บำท ปกติเรำเสียค่ำใช้ จ่ำยอย่ำงอื่นมำกกว่ำนี้ เล่นหวยไม่ได้อะไรขึ้นมำ ไปท�ำบุญตำมที่ เขำเรี่ยไร บำงทีก็ไม่รู้ว่ำเขำท�ำจริงหรือไม่จริง แต่อันนี้เห็นๆ เลย แม้ว่ำสมำชิกบำงคนเรำจะไม่รู้จักเขำ แต่เมื่อเขำเจ็บป่วยหรือเสีย ชีวิตขึ้นมำ เงินออมของเรำก็ได้ช่วยท�ำบุญกับเขำด้วยแน่นอน ท�ำบุญแค่วันละบำทเดียว จิตใจเรำสบำย” วันดีเล่ำ ปัจจุบันนี้กลุ่มออมบุญวันละบำทเปิดท�ำกำรมำได้ 3 ปี มี สมำชิกทั้งหมด 396 คน มียอดเงินสะสมในธนำคำรกว่ำ 330,000 บำท และส่วนที่น�ำไปซื้อสลำกออมสินอีก 200,000 บำท รวม แล้วกว่ำ 500,000 บำท ถือว่ำมั่นคงในระดับหนึ่ง แต่ละปีจะมี ประชุมใหญ่ของสมำชิกหนึ่งครั้ง มีกำรเปิดรับสมำชิกใหม่สี่เดือน ครั้ง ผู้ที่จะเป็นสมำชิกได้ต้องเป็นคนในพื้นที่ต�ำบลบำงคนทีและ ต�ำบลยำยแพง สมัครได้โดยไม่จ�ำกัดอำยุ ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึง คนแก่ สวัสดิกำรที่มอบให้คือค่ำท�ำขวัญเด็กแรกเกิด 500 บำท ค่ำโรงพยำบำลเบิกได้ปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 5 วัน วันละ 100 บำท กรณีเสียชีวิต หำกเป็นสมำชิกใน ช่วงเวลำ 6 เดือน – 2 ปี จะได้ รับ เงินชดเชย 2,000 บำท อำยุสมำชิก 3 – 5 ปี จะได้รับเงิน ชดเชย 3,000 บำท เมื่อมีสมำชิกกลุ่มเสียชีวิต กรรมกำรก็จะไปร่วมงำนพร้อม มอบเงินสวัสดิกำร เป็นควำมอบอุ่นที่คนในสังคมเดียวกัน แม้ไม่รู้ จักก็มอบให้กันได้ บำงครอบครัวที่ไม่ขัดสนก็มอบเงินคืนกลับมำ ให้กลุ่ม ขณะที่บำงครอบครัว เงินสวัสดิกำรที่ได้รับนี้อำจมีค่ำมี ควำมหมำยอย่ำงยิ่ง ช่วยให้สำมำรถจัดงำนศพลุล่วง ไปได้ “รู้สึกเป็นเกียรติกับชีวิตที่ได้ท�ำประโยชน์เพื่อชุมชนของเรำ ท�ำ แล้วก็มีควำมสุข เห็นคนในชุมชนมีกำรออม เพรำะบำงคนชีวิต เขำไม่เคยมีหลักประกันเลย สอง คือท�ำให้เกิดควำมสำมัคคีใน ชุมชน” ชยำนุชกล่ำวอย่ำงภูมิใจ ในอนำคต เมื่ อ ฐำนะของกลุ ่ ม ออมบุ ญ วั น ละบำทมี ค วำม มั่นคงยิ่งขึ้นแล้ว คณะกรรมกำรตั้งใจไว้ว่ำจะขยำยสวัสดิกำรไปสู่ เด็กด้อยโอกำสและคนเฒ่ำคนแก่ที่ขำดแคลนต่อไป บุญที่ออมไว้ จะไม่ได้เป็นแค่เรื่องของกำรเกิดแก่เจ็บตำยเท่ำนั้น แต่จะเป็น อำนิสงส์ที่ส่งผลถึงสังคมวงกว้ำงสืบไป

»˜¹ÊØ¢


à¡ÉµÃ¡ÃÃÁÂÑè§Â×¹

ความสุขที่มีกลิ่น บนดินที่พลิกฟื้น หำกจะนิยำมค�ำว่ำควำมสุขนั้น คงจะท�ำได้ยำก เพรำะนั่นขึ้น กับว่ำเป็นควำมสุขของใคร อย่ำงของพ่อทำ เครือวงค์ แห่งต�ำบล บ้ำนต๋อม อ�ำเภอเมือง จังหวัดพะเยำ ชำยผู้นี้อยู่กับกลิ่นตุๆ ของ เหล่ำสำรพัดสัตว์ที่เลี้ยงเอำไว้ ปล่อยให้เดินเพ่นพ่ำน กิน ขี้ เยี่ยว ไปมำทั่ ว สวนเกษตรผสมผสำนของเขำ เป็ น ควำมสุ ข ที่ นั บ ว่ ำ แปลกเหลือเกิน ระหว่ำงทำงมำบ้ำนพ่อทำ สภำพแวดล้อมตำมรำยทำงแลดู แล้งร้อน ไร่นำ ป่ำแพะ ทุ่งหญ้ำคำเตี้ยๆ พื้นดินเต็มไปด้วยก้อน หินดินแดงอันแห้งผำก ซึ่งเมื่อเทียบกับบ้ำนของพ่อทำ จึงเข้ำใจว่ำ ท� ำ ไมทำงเทศบำลฯ จึ ง ยกระดั บ ให้ เ ป็ น แหล่ ง เรี ย นรู ้ ด ้ ำ นกำร เกษตร บริเวณสวนหน้ำบ้ำนพ่อทำมีดินด�ำชุ่มน�้ำ ปลูกทุกอย่ำงได้แม้ กระทั่งเฟิร์น ทั้งที่เมื่อก่อนก็เป็นดินปนทรำยแบบที่รอบๆ ขุดลงไป แค่คืบก็เจอแต่หิน ด้วยมันดินผืนเดียวกัน พ่อทำใช้เวลำหลำยปีก ว่ำจะปรับปรุงดินให้เป็นอย่ำงนี้ได้ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่ำจะท�ำอย่ำงไร พอดีไปเห็นเทศบำลดึงผักตบชวำออกจำกกว๊ำนมำกองทิ้งไว้ที่ สะพำนขุนเดช พ่อทำจึงขอมำฟรีๆ จ้ำงรถขนมำถมสวนได้ทั้งหมด 72 เที่ยว เวลำผ่ำนไปพอมันยุบก็กลำยเป็นปุ๋ยเป็นดิน ค่อยปลูก กล้วย ปลูกต้นไม้ ซื้อขี้วัวมำใส่ ดินก็ค่อยดีขึ้นมำ สิบกว่ำปีที่ผ่ำนมำ พ่อทำไม่เคยใช้สำรเคมี ทั้งปุ๋ยเคมี ยำฆ่ำ  »˜¹»˜Êع¢ÊØ¢

หญ้ำ ยำฆ่ำแมลง สักกะผีกริน้ ยังไม่เคยฉำบสวนเกษตรผสมผสำน จ�ำนวนยี่สิบไร่ของพ่อทำ “ลุงไม่ใช้สำรเคมีเพรำะลุงเคยเห็นญำติลุงป่วยเป็นโรคมะเร็ง สำเหตุคงเพรำะยำฆ่ำหญ้ำ สำรเคมี ลุงว่ำ บำงทีสวนเรำไม่ใช้ สวนรอบๆ ใช้ น�้ำเอยอำกำศเอย มันก็ไหลหำกันได้ อันตรำยมำก นะของพวกนี้ ลุงนี่ไม่เคยใช้เลยสักอย่ำง และไม่คิดจะใช้เลยด้วย” พ่อทำเล่ำ กำรจะเป็นเกษตรกรต้องคิดเรื่องกำรพึ่งตนเองให้มำก ควำม ขยันหมั่นเพียรจึงเป็นของที่มำคู่กัน หำกเกียจคร้ำนก็จะท�ำกำร งำนเช่นที่พ่อทำท�ำไม่ส�ำเร็จ ที่บ้ำนพ่อทำเลี้ยงไก่ เป็ด หมู พร้อม กั บ พื ช พั น ธุ ์ ส ำรพั ด ชำยชรำแลดู แ ข็ ง แรง มี ค วำมสุ ข และภำค ภูมิใจกับสิ่งที่ได้ลงแรงกำยแรงใจสร้ำงมำ “ที่เล่ำให้ฟังเมื้อกี้ว่ำก่อนนั้นต้องซื้อขี้วัวมำใส่สวน ตอนหลังก็ ค้นพบวิธี เลี้ยงหมูเองเลย หมูขี้ออกมำก็ตักมำตำกแดด และก็เอำ ไปใส่สวน ที่นี้ก็ไม่เสียตังค์ซื้อละ วิธีกำรคือ ใส่ปุ๋ยในที่ดอนเยอะ กว่ำที่ลุ่ม เพรำถ้ำฝนตก รดน�้ำ มันก็จะไหลลงมำ เท่ำกันพอดี ขี้นี่ มันมีประโยชน์นะ เลี้ยงนก เลี้ยงไก่ ก็ปล่อยไปให้มันขี้ตำมดิน


ตำมต้นไม้ เรำไม่ต้องจัดกำรอะไร มันใส่ปุ๋ยต้นไม้ให้เรำเอง ขี้ไก่ ถ้ำได้เยอะๆ ก็เอำให้ปลำกิน หมุนเวียนกันอยู่อย่ำงงี้ เงินทุนมันไม่ ออกไปไหน เรำเป็นเกษตรกรท�ำแบบนี้น่ำจะอยู่รอดได้มำกกว่ำ” พ่อทำเล่ำถึงระบบในสวนเกษตรของเขำ วิถีของเกษตรพอเพียงนั้นขึ้นอยู่กับปัญญำ กำรหว่ำนโยน เมล็ดพันธุ์หลำกหลำยชนิดแบบมั่วซั่วลงไปในดินที่เรียกว่ำผสม ผสำนในแบบของพ่อทำก็ใช่ว่ำไร้กำรคิดค�ำนวนและกำรจัดกำร ใดๆ เพรำะกำรปลูกอย่ำงเดียวทั้งสวน ปีหนึ่งกว่ำจะได้เงินก็ที เดียว ถ้ำปีไหนรำคำตกก็เสี่ยงขำดทุน ยิ่งส�ำหรับคนที่ต้องซื้อปุ๋ย ซื้อยำก็ยิ่งไม่เหลือ แต่ปลูกหลำยอย่ำงออกลูกทั้งปีก็ได้เงินทั้งปี เก็บกินได้ทั้งปี ถ้ำไม่ต้องซื้อปุ๋ยซื้อยำก็จะมีก�ำไรจำกตรงนั้นเพิ่ม เติม สิบกว่ำปีผ่ำนไป สิ่งที่ชำยคนนี้เพียรท�ำอย่ำงไม่ระย่อ สวน กระแสกำรปลู ก พื ช เชิ ง เดี่ ย วและกำรใช้ ส ำรเคมี ซึ่ ง ใครๆ ใน ประเทศนี้ก็ต่ำงท�ำกันเสียเป็นส่วนใหญ่ ในที่สุดก็ค่อยๆ หยั่งรำก แตกใบเกิดดอกออกผลให้คนชม “งำนแบบนี้มันใช้เวลำพิสูจน์ ต้องใช้ควำมขยันอดทน กว่ำลุง

จะท�ำให้ดินดี ปลูกต้นไม้โตได้ทุกอย่ำงขนำดนี้ต้องใช้เวลำหลำยปี เมื่อก่อนก็ไม่กล้ำไปบอกไปแนะน�ำใคร ก็ค่อยๆท�ำของเรำมำคน เดียว ค่อยๆหำควำมรู้ ค่อยดูค่อยอ่ำนจำกหนังสือ จำกโทรทัศน์ บ้ำง ท�ำไปสังเกตไปว่ำอะไรมันใช้ได้ผล เดี๋ยวนี้ลุงพิสูจน์ได้ละ ว่ำกำรท�ำเกษตรโดยไม่ใช้สำรเคมีมันได้ผลจริง ได้เงินจริง ตอนนี้ก็ กล้ำแนะน�ำคนอื่นได้แล้ว เหมือนเรำตอนนี้เรำมีวิชำควำมรู้อยู่เต็ม พุง ลุงก็อยำกให้คนอื่นเข้ำมำเรียนรู้มำแลกเปลี่ยน ลุงเองเห็น ต้นไม้มันงำมเก็บขำยได้ก็มีก�ำลังใจว่ำสิ่งที่เรำเชื่อเรำท�ำได้ มัน พิสูจน์ได้ ก็อยำกให้คนที่มำเห็นเกิดก�ำลังใจ” พ่อทำเล่ำ เรื่องของพ่อทำอำจจะหวือหวำน้อยกว่ำหลำยคนที่เคยพบเคย ได้ยิน แต่ควำมตั้งใจ พลิกฟื้นผืนดินทรำยแล้งแห้งผืนนี้ให้กลำย เป็นสวนเกษตรผสมผสำนปลอดสำรเคมีขึ้นมำได้ นับว่ำน่ำภูมิใจ แทน รำงวัลของควำมควำมทุ่มเทที่ลงแรงไป ได้เริ่มกลำยเป็นแรง บันดำลใจแก่เพื่อนเกษตรกรในต�ำบล รวมตัวก่อตั้งกลุ่มเกษตร ทำงเลือกผสมผสำน มีสมำชิกเป็นเกษตรกร 12 คน ซึ่งต่ำงหัน กลับมำมีวิถีเกษตรธรรมชำติ เน้นวิถีกำรพึ่งพิงตัวเอง อย่ำงน้อยวันนี้ก็มีคนกลุ่มเล็กๆ ในต�ำบลบ้ำนต๋อม พยำยำม พยุงตัวเองให้ผ่ำนพ้นวิกฤตเศรษฐกิจทุนนิยม แม้จะแลดูสวนทำง แต่ด้วยควำมตั้งใจ และแรงบันดำลใจชั้นดี ผลส�ำเร็จคงจะกลับ คืนมำในเร็ววัน

»˜¹ÊØ¢




¡ÒôÙáÅÊØ¢ÀÒ¾ªØÁª¹

บีบนวดแก้ปวดเมือ่ ย เสริมด้วยสมุนไพร

ก้ ำ วแรกที่ เ ข้ ำ ไปยั ง ศู น ย์ ส มุ น ไพร ต� ำ บลไกรนอก อ� ำ เภอ กงไกรลำศ จังหวัดสุโขทัย สัมผัสได้ถึงควำมร่มรื่นของพันธุ์ไม้ที่ รำยล้อมอยู่รอบตัว ในสวนยำธรรมชำติขนำดไม่เล็กไม่ใหญ่แห่งนี้ มีป้ำยชื่อพร้อมค�ำบรรยำยสรรพคุณสมุนไพรชนิดต่ำงๆ แทรกตัว อยู่เพื่อให้ผู้มำเยือนท�ำควำมรู้จักชื่อและสรรพคุณเบื้องต้นของมัน ได้ง่ำยๆ ที่นี่ต้อนรับด้วยชำใบสักร้อนๆ ผสมใบเตย ที่ สมพงษ์ สิน จันทร์ แห่งศูนย์สมุนไพร หมู่ 4 ใส่กำเตรียมไว้รับรองแขกที่มำ เยี่ยมเยือน เขำบอกว่ำ ชำใบสักนี้จะช่วยลดปริมำณน�้ำตำลใน เลือดได้ ไม่น่ำเชื่อว่ำ จำกประสบกำรณ์ตรงในวัยเด็กจะกลำยเป็น ควำมมุ่งมั่นและแนวทำงของเขำในวันนี้ สมพงษ์เล่ำว่ำ ตั้งแต่ ประมำณ 7 ขวบ พ่อแม่ของเขำท�ำนำ กลับมำบ้ำนก็ปวดเมื่อย จึง ใช้ให้เขำขึ้นไปเหยียบท้องบ้ำง เหยียบน่องบ้ำง ตอนนั้นเขำขึ้นไป  »˜¹»˜Êع¢ÊØ¢

ยืนได้ทั้งตัว เมื่อโตขึ้น เขำก็ได้เข้ำไปท�ำงำนโรงงำนในกรุงเทพฯ ด้วยควำมสนใจด้ำนนวดเป็นทุนเดิม สมพงษ์จึงสมัครเรียนนวดที่ วัดโพธิ์ “ปี 2540 ยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ด ผมไปลงเรียนไว้ 2 คอร์ส ทั้ง นวดสำยรำชส�ำนัก เป็นกำรนวดด้วยนิ้วมืออย่ำงเดียว กับนวดกด จุด เรียนจบก็ยังท�ำงำนในโรงงำนอยู่ แต่รับนวดให้คนในนั้นไป ด้วย” สมพงษ์เล่ำ 2 ปีต่อมำ กระทรวงสำธำรณสุขจัดงำนมหกรรมสมุนไพร แล้ว เปิดหลักสูตรอบรมนวดแผนไทย สมพงษ์จึงเข้ำไปลงชื่อเอำไว้ ไม่ นำนก็มีหนังสือมำเชิญไปสอบ มีคนลงเข้ำสอบนับร้อย แต่รับ เพียง 60 คน และในที่สุดเขำก็ได้รับคัดเลือกเข้ำอบรม หลังจบหลักสูตรไม่นำน สมพงษ์ก็ตัดสินใจย้ำยกลับมำไกร นอกเมื่อปี 2545 มำเป็นวิทยำกรให้ กศน. ขณะเดียวกันก็เปิดรับ นวดที่ตลำดนัดหมู่บ้ำนทุกวันพุธ ชำวบ้ำนก็เริ่มรู้จักและเรียกเขำ


ว่ำ ‘หมอพงษ์’ จนติดปำก ตอนนั้นเขำยังรับนวดตำมบ้ำนเป็น หลัก ระหว่ำงนั้นบ้ำนกลำงสวนหลังนี้ก็เพิ่งสร้ำง พร้อมๆ กับที่เขำ พยำยำมน�ำพันธุ์สมุนไพรต่ำงๆ มำปลูก นอกจำกนวดแผนไทยแล้ว สมพงษ์ยังศึกษำวิธีนวดกดจุด ฝ่ำเท้ำจำกต�ำรำแพทย์แผนจีน เพรำะมีควำมเชื่อว่ำ อำกำรเจ็บที่ ฝ่ำเท้ำสะท้อนถึงอำกำรเจ็บป่วยทำงร่ำงกำยอื่นๆ ซึ่งพอนวดได้ ตรงจุดจะสำมำรถสะท้อนไปยังอวัยวะภำยในต่ำงๆ เหล่ำนั้นได้ “เวลำใครมำดูงำน ผมจะบอกเลยว่ำ ใครอยำกมำเรียนส่วน ตัวหรือเป็นคณะ ผมยินดีสอนให้ฟรี เพรำะอำจำรย์ที่สอนผมนวด ฝ่ำเท้ำเป็นอำจำรย์จีน เขำก็สอนให้ฟรี แต่จะมีตู้รับบริจำค ไว้ดูแล คนพิกำรและคนป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้” สมพงษ์พูดพลำงชี้

ไปที่ตู้ เมื่อพูดถึงประโยชน์ของกำรนวดควบคู่ไปกับกำรใช้สมุนไพร ก็เป็นกำรส่งต่อสุขภำพดีให้กันอย่ำงไม่สิ้นสุด “ลูกศิษย์มำเรียนกับผมแล้วก็ไปช่วยนวดให้คนอื่นต่อ หรือ เวลำชำวบ้ำนเห็นผมปลูกสมุนไพรไว้เยอะก็มำขอไปต้มที่บ้ำน อย่ำงคนอ�ำเภอคีรีมำศ ก็ยังมำขอพันธุ์ไปปลูก” สมพงษ์เล่ำด้วย รอยยิ้ม นอกจำกนั้น ควำมรู้ด้ำนนี้ยังสำมำรถกระจำยได้ในวงกว้ำง ขึ้น เพรำะขณะนี้ศูนย์สมุนไพรของสมพงษ์เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ อย่ำงเป็นทำงกำร พร้อมให้ควำมรู้แก่ผู้ที่สนใจ โดยไม่หวงวิชำแต่ อย่ำงใด

*ÁÒÅͧ¡Ô¹ÍÒËÒõÒÁ¸ÒµØ¡Ñ¹à¶ÍÐ

แบ่งตำมเดือนเกิดได้ 4 ธำตุ ดังนี้ ธำตุไฟ (กุมภำพันธ์ – เมษำยน) ร่ำงกำยร้อน ถ้ำไปกินของเผ็ดร้อนจะยิ่งร้อนไปใหญ่ ควรกินอำหำรขม เย็น จืด เป็นหลัก ขม: บอระเพ็ด มะระ เย็น: ฟัก บวบ หยวกกล้วย จืด: รำงจืด เสลดพังพอน บัวบก ผักบุ้ง ใบย่ำนำง ธำตุลม (พฤษภำคม – กรกฎำคม) เกิดปลำยเดือนเมษำยนก็ยังอยู่ในธำตุลม จะขี้หนำว ต้องกินของร้อนเพื่อขับลมและปรับ สมดุล ร้อน: ขิง ข่ำ ตะไคร้ ใบมะกรูด พวกเครื่องต้มย�ำ ไพล ขมิ้น กะเพรำ ธำตุน�้ำ (สิงหำคม - ตุลำคม) ขี้หนำว จะเจ็บคอบ่อย ไอบ่อย เป็นหวัด แน่นหน้ำอก ท้องเดินบ่อย ควรกินของเปรี้ยวเพื่อปรับ ธำตุ เปรี้ยว: มะนำว มะขำม มะม่วง มะกรูด หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวน�ำ ธำตุดิน (พฤศจิกำยน - มกรำคม) คนธำตุนี้โชคดี กินได้ครบทุกรส ไม่มีข้อห้ำมอะไรเป็นพิเศษ

»˜¹ÊØ¢




¨Ñ´¡Ò÷ÃѾÂҡøÃÃÁªÒµÔ ÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁ

ชาวประมง นักอนุรักษ์กว๊านพะเยา และองคุลีมาลกลับใจ เย็นย�่ำ ก่อนพระอำทิตย์จะตกดิน พ่อหลวงเสงี่ยม แก้วก๋ำ ผู้ใหญ่บ้ำนสันหนองเหนียว ต�ำบลบ้ำนต๋อม อ�ำเภอเมือง จังหวัด พะเยำ พำยเรื อ พำชมฉำกและชี วิ ต ชำวประมงพื้ น บ้ ำ นกว๊ ำ น พะเยำ แลแผ่ น น�้ ำ กว้ ำ งไกลสุ ด ลู ก หู ลู ก ตำ ดอยหลวงทอดตั ว สะท้อนมุมแดดดูดแสงสีน�้ำเงินอยู่ทำงด้ำนตะวันตก เหนือขึ้นไป คือท้องฟ้ำที่เปลี่ยนสีไล่เลียงจำก จำก ฟ้ำ น�้ำเงิน กลำยเป็น ชมพู แดง ส้ม ก่อนตะวันจะลับลำไป นอกจำกเรือหำปลำล�ำเล็กของเรำ มีชำวประมงสองสำมคน พำยเรือมำวำงเบ็ด ทอดแห หว่ำนอวน ดักปลำ พวกเขำท�ำงำนที่คุ้นเคยของตนไปอย่ำงสงบ เมื่อฤดูหนำวมำเยือน ผืนน�้ำโล่งกว้ำง ส่วนหนึ่งจะกลำยเป็น บึงบัวสำยทอดยำวออกไปจรดสองฝั่งกว๊ำน พวกมันออกดอก สีชมพูเข้มชูช่อสยำยกลีบต่อท้องฟ้ำ กระทั่งหมดหนำว บัวสำยจึง หดตัวลำบซุกตัวอยู่ในโคลนดิน บ�ำรุงตัวเองรอรับหน้ำหนำวปีถัด ไป พอล่วงเข้ำปลำยมีนำคมต้นเมษำยน ตลอดฤดูร้อน บัวหลวง  »˜¹»˜¹ÊØÊØ¢ ¢

ในบึงก็แทงใบชูดอกออกมำเหมือนบัวสำยในหน้ำหนำว กระทั่ง ฤดูฝนมำเยือน บัวหลวงก็เอ่ยค�ำลำไป ดอกไม้ หุ บ บำนในกว๊ ำ นใช่ เ พี ย งแต้ ม ฉำกสี ห วำนในแต่ ล ะ ฤดูกำลเท่ำนั้น หำกสัมพันธ์กับมิตินิเวศอื่นๆ และกำรท�ำมำหำกิน ของผู้คน กอบัวสำย บัวหลวง คือแหล่งอนุบำลปลำ สำยบัว ฝักบัว คือรำยได้และอำหำร ฤดูหมุนผ่ำน ฝนห่ำใหญ่ตกจำกที่ ไกลใกล้ น�้ำฟ้ำ น�้ำดินรินไหลจำกภูเขำหลำยลูกมำรวมกันที่กว๊ำน ชะสวะบ�ำบัดน�้ำให้ยังใส ก่อนไหลลงแม่น�้ำอิงไปยังที่อื่นๆ ลม หนำวน�ำทำงนกอพยพมำพักอำศัยร่วมกับนกประจ�ำถิ่น ตะวัน ส่องแดดร้อนช่วยตำกปลำ ชำวประมงยังคงหำเลี้ยงชีพได้ตลอดปี ผักตบชวำมีคนมำเก็บไปท�ำเครื่องจักรสำน ชำวบ้ำนปลูกกล้วยริม สันน�้ำ บึงกว๊ำนยืนยันจะเลี้ยงชีวิตผู้คนและสรรพสัตว์ไปอีกนำน ยำว “ก่อนหน้ำนั้นสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ลุงบุญ โยนแหทีหนึ่งได้ปลำ


ตะเพียนห้ำหกสิบตัว โตๆ ทั้งนั้น แต่ปลำมันไม่มีรำคำอะไรหรอก นะ ขำยกิโลละบำทครึ่งยังไม่มีใครซื้อ คนสมัยนั้นเขำก็ยังแลก เปลี่ยนกัน บ้ำนเรำหำปลำ ไม่ได้ปลูกข้ำว ก็เอำปลำไปแลกข้ำว เอำปลำไปแลกปลำร้ำ ก็เป็นอยู่กันอย่ำงงี้ พอเวลำผ่ำนไปคน เยอะขึ้น เงินก็มีรำคำ ปลำก็มีรำคำ คิดดูเมื่อก่อนปลำสวำยนี่ไม่มี ใครกิน เดี๋ยวนี้กิโลตั้งเท่ำไหร่ คนก็จับปลำเยอะขึ้น ที่ดินริมกว๊ำน ก็ถูกลุกล�้ำมำกขึ้น คนก็มำจับจองกันจนกว๊ำนหดลง น�้ำเสียจำก บ้ำนชำวบ้ำนไม่เท่ำไหร่ แต่เขตเมืองก็ปล่อยน�้ำเสียจนต้องรณรงค์ ให้ มี ก ำรบ� ำ บั ด น�้ ำ ก่ อ นทิ้ ง ลงกว๊ ำ น ผั ก ตบชวำก็ ขึ้ น เต็ ม บึ ง แก้ ปัญหำไม่ได้ ที่ส�ำคัญคือปลำมันหำยไปจริงๆนะ หำกินกันไม่ได้ เลย” ลุงสมบูรณ์ บัวเทศ หรือลุงบุญ แกนน�ำประมงพื้นบ้ำน เท้ำ ควำม “ปลำมันแพงขึ้น หลำยคนก็อยำกจับปลำได้เยอะๆ ช็อตปลำ บ้ำง ท�ำให้ปลำเป็นหมันออกลูกไม่ได้ นกก็หำยไป ก็เล่นยิงนกกัน เป็นว่ำเล่น” พ่อหลวงเสงี่ยมส�ำทับ ก่อนจะปรำยตำล้อเลียนไปยัง ลุงบุญอย่ำงมีควำมหมำย “ลุงว่ำลุงนี่แหล่ะ เอำเครื่องช็อตปลำมำเผยแพร่ที่กว๊ำนเป็น คนแรกเมื่อยี่สิบกว่ำปีที่แล้ว” น�้ำเสียงติดตลกปนภำคภูมิใจของ ลุงบุญท�ำให้ฉันถึงกับอึ้งไป ก่อนแกจะเล่ำต่อว่ำ “ลุงทั้งช็อตปลำ ยิงนก ได้ตังค์ตอนนั้นวันละเป็นพัน ได้วิชำช็อตปลำมำจำกที่อื่น น่ะ มีคนสอนมำ แต่สังคมรังเกียจลุง ชำวบ้ำนรังเกียจลุง ลุงก็ไม่ ได้สนใจนะตอนนั้นใครจะเกลียดก็เกลียดไป จนกระทั่งพ่อหลวง เสงี่ยมนี่แหล่ะ มำคุยกับลุงว่ำ เอ..ท�ำอย่ำงงี้มันไม่ดีมั้ง อยำกให้ คิดดูดีๆ ท�ำอย่ำงงี้ปลำมันก็หำยไปหมด ลุงก็มำนอนคิดอยู่สำมสี่ วัน จำกนั้นก็เลิกท�ำ ปลำมันหำยไปจริงๆ ลุงต้องออกหำปลำไกล ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเขตห้ำมจับปลำของกรมประมง ก็โดนกรมประมง จับ ยึดเครื่องมือท�ำมำหำกิน จำกนั้นก็มีปัญหำอีกว่ำ กรมประมง ไม่อนุญำตให้จบั ปลำในฤดูวำงไข่ แต่ชำวบ้ำนก็ตอ้ งท�ำมำหำกินจึง ต้องลักลอบจับปลำกัน ก็โดนจับกันเยอะ เดือดร้อนกันไปหมด” พ่อหลวงเสงี่ยมเล่ำบ้ำง “ตอนนั้นลุงได้ไปดูงำนประมงพื้น บ้ำนมำหลำยที่ เห็นคนที่ทะเลน้อยสงขลำเขำดูแลทะเลของเขำได้ กลับมำคิดถึงว่ำ กว๊ำนเรำเล็กกว่ำทะเลท�ำไมจะช่วยกันดูแลไม่ได้ เลยมำชวนชำวบ้ำนตั้งกลุ่มอนุรักษ์ประมงพื้นบ้ำน ตอนนั้นไม่รู้จะ เอำใครเป็นหัวหน้ำ ชำวบ้ำนก็บอกว่ำ ให้ลุงบุญองคุลีมำลกลับใจ นี่แหละมำเป็นแกนน�ำอนุรักษ์ จะได้ไม่กลับมำท�ำอีก” บ้ำนสันหนองเหนียวเป็นหมู่บ้ำนซึ่งมีพื้นที่ติดกว๊ำนค่อนข้ำง เยอะ คนในหมู่บ้ำนจึงเป็นชำวประมงกันเกือบทั้งหมด เมื่อมี ปัญหำกับกรมประมง รำวปี 2540 ชำวบ้ำนจึงมำคิดกันว่ำจะท�ำ

อย่ำงไรกันดี ก็ได้ควำมว่ำ คิดกำรใหญ่ท�ำคนเดียวย่อมไม่ส�ำเร็จ จึงชักชวนหมู่บ้ำนข้ำงๆ มำเป็นเครือข่ำย จำกนั้นก็เกิดขยำยผล ชวนกันต่อๆ ไปจนทั่วคุ้งน�้ำ ยุทธกำรเดินขบวนเรียกร้องจึงเริ่มต้น ขึ้น จำกนั้นเครือข่ำยชำวบ้ำนจึงขอเปิดโต๊ะเจรจำต่อรองกับกรม ประมง ยื่นข้อเสนอว่ำพวกตนขอหำปลำในกว๊ำนตลอดทั้งปีไม่มี เว้ น แม้ ฤ ดู ว ำงไข่ แต่ จ ะกั น พื้ น ที่ อ นุ รั ก ษ์ ริ ม กว๊ ำนไว้ เ ป็ น แหล่ ง อนุบำลปลำ โดยขอให้กรมประมงเป็นผู้จัดกำรเรื่องพันธุ์ปลำ และ อำหำร ซึ่งชำวบ้ำนจะเป็นฝ่ำยดูแลเอง จำกงำนเครือข่ำยชำวบ้ำนระดับต�ำบล กลำยเป็นงำนระดับ อ�ำเภอ กระตุ้นไปถึงระดับจังหวัด เรียกร้องและด�ำเนินกำรอยู่ 2-3 ปีจึงเป็นไปตำมข้อเสนอของชำวบ้ำน ออกเป็นกฎกติกำมำรยำท ในกำรใช้กว๊ำนร่วมกันทั้งจังหวัด ทั้งนี้ในทำงปฏิบัติ แต่ละหมู่บ้ำน ริมกว๊ำนก็ต้องกลับมำออกกฎเหล็กควบคุมกันเองอีกชั้นหนึ่ง หมู่บ้ำนสันหนองเหนียวซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีมำแต่ต้น ดูจะเป็น ชุมชนที่เข้มแข็ง มีกำรบริหำรจัดกำร และกำรควบคุมกันเองโดด เด่นที่สุดในบรรดำทุกหมู่บ้ำน มีกำรกันเขตอนุรักษ์ในส่วนนำบัว หลวง บัวสำย ไว้เป็นแหล่งอนุบำลปลำ ใบบัวกำงร่มให้ลูกปลำ น้อย รำกกอเป็นแหล่งอำหำรและที่หลบภัยให้เติบโต ก่อนจะออก ไปเผชิญโชค หำกินในห้วงน�้ำกว้ำงตำมธรรมชำติ “ถ้ำลุงจับได้ปลำตั้งท้อง ก็จะเอำมำปล่อยในเขตอนุรักษ์ ให้ มันออกลูกต่อไป… บัวหลวง บัวสำย นี่หมู่บ้ำนเรำก็ตั้งกฎควบคุม อยู่นะ ให้คนมำเก็บฝักบัว หรือ สำยบัวไปขำยได้ในบำงที่เท่ำนั้น ไม่ ใ ห้ เ ก็ บ หมด เพรำะส่ ว นหนึ่ ง เรำก็ เ หลื อ ไว้ ใ ห้ ค นมำดู ปี นี้ หมู่บ้ำนเรำเริ่มจัดกำรโฮมสเตย์ ให้คนมำเที่ยวชมกว๊ำน ดูบัว ดูนก ดูวิถีชีวิต มำเรียนรู้ว่ำพวกเรำชำวประมงพื้นบ้ำนอยู่กันอย่ำงไร” ลุงบุญขยำยควำม “ที่ท�ำอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อลูกหลำนนะ โลกมันเปลี่ยน เรำก็ไม่ได้ คำดหวังว่ำลูกหลำนจะมำเป็นชำวประมงพื้นบ้ำนอย่ำงพวกเรำ ทั้งหมด แต่อยำกเห็นว่ำ อย่ำงบำงคนเรียนหนังสือจบมำ ไป ท�ำงำนที่ห้ำงในเมือง กลับมำตอนเย็นก็ยังออกมำวำงเบ็ด ดัก ปลำ เช้ำก็ออกมำเก็บเบ็ดก่อนออกไปท�ำงำน มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เด็กๆ จับปลำไม่เป็นเลย มีแต่คนรุ่นลุงที่ท�ำ แต่ตอนนี้ถ้ำมำดูนะ เสำร์ อำทิตย์เด็กๆ จะมำพำยเรืออยู่ในกว๊ำนเต็มไปหมด ปลำมันตัว ใหญ่ จับได้ทีก็ภูมิใจเหมือนได้รำงวัล ตัวละ 5-6 กิโล เอำกลับไป ให้พ่อแม่ อำทิตย์หน้ำก็มำใหม่ อย่ำงน้อยพวกเขำไม่ต้องไปมั่วสุม อย่ำงอื่น แค่นี้ก็ภูมิใจแล้ว วันหนึ่งข้ำงหน้ำ พวกเขำก็มีทำงเลือก ว่ำจะเป็นอะไร หรือพอท�ำเป็นบ้ำงในสิ่งที่บรรพบุรุษริมกว๊ำนท�ำ กันมำ อยำกให้มันไม่หำยไปไหน ไม่ได้ตำยไปกับคนรุ่นลุง” เสียง ใครสักคนพูดขึ้นเป็นเชิงสรุป

»˜¹ÊØ¢




¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ¢Í§à´ç¡áÅÐàÂÒǪ¹

ห้องสมุดมีชีวติ ห้องวิทยาศาสตร์หรรษา “ใครก็ตำมที่มีลูกมีหลำน ก็ต้องอยำกให้ลูกให้หลำนมีกำรศึกษำที่ดีทั้งนั้น แต่กำรศึกษำที่ดีมักมีรำคำแพง คนมีฐำนะดีมักน�ำลูกไป เรียนตำมสถำนศึกษำดีๆ แต่ท�ำอย่ำงไรให้ผู้ปกครองหรือเด็กนักเรียนมีควำมคิดว่ำโรงเรียนในชุมชนของเรำก็มีควำมพร้อมไม่แพ้ที่อื่น ท�ำอย่ำงไรให้ผู้ปกครองไม่ต้องขับรถไปรับลูกเย็นวันศุกร์และขับรถไปส่งลูกในเย็นวันอำทิตย์ เมื่อเรำมีโรงเรียนที่ดีในชุมชน ก็จะไปส่ง เสริมสถำบันครอบครัว ลูกไม่ต้องอยู่ไกลพ่อแม่ ซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่เกิดขึ้น” นั่นคือควำมคิดตั้งต้นที่มีต่อกำรศึกษำของ วันชัย นำรีรักษ์ นำยกเทศมนตรีเมืองวังน�้ำเย็น อ�ำเภอวังน�้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว นอกจำกหลักสูตรกำรศึกษำที่เล็งเห็นว่ำโลกในอนำคตไร้พรมแดน โรงเรียนเทศบำลเมืองวังน�้ำเย็น จึงเปิดหลักสูตรภำษำจีน ภำษำ เขมร เพิ่มเข้ำมำ “แนวควำมคิดเรำเริ่มประสบควำมส�ำเร็จ ณ วันนี้โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เรำรับผิดชอบมีเด็กอยู่ 8,000 กว่ำคน ในพื้นที่ต�ำบล วังน�้ำเย็นถ้ำเรำส�ำรวจจริงๆ จะมีเด็กในวัยเรียน 2,000 กว่ำคน แต่เด็กอีก 6,000 กว่ำที่เข้ำมำมำจำกรอบๆ อ�ำเภอ เข้ำมำสู่ระบบกำร ศึกษำในวังน�้ำเย็น มันก็เอื้อไปสู่ระบบเศรษฐกิจของชุมชนในเรืองแหล่งค่ำขำยเขำก็ขำยได้” นำยวันชัยกล่ำว กล่ำวส�ำหรับโรงเรียนเทศบำลเมืองวังน�้ำเย็น เมื่อก่อนมีนักเรียน 200 กว่ำคน ปัจจุบันมีนักเรียนหลักพันหลังจำกมีกำรพัฒนำตำม ควำมฝันของนำยกเทศมนตรีว่ำ “ผมอยำกให้โรงเรียนในชุมชนของเรำอยู่ในใจของคนในชุมชน” จึงปรับปรุงพัฒนำทั้งโครงสร้ำงพื้น ฐำนด้ำนกำรศึกษำและหลักสูตรกำรเรียนกำรสอน จนท�ำให้วันนี้ของโรงเรียนเทศบำลเมืองวังน�้ำเย็น “มีควำมพร้อมให้เด็กทุกอย่ำง เช่น ห้องวิทยำศำสตร์หรรษำ ห้องสมุดมีชีวิต”  »˜¹»˜Êع¢ÊØ¢


»˜¹ÊØ¢




¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ¢Í§à´ç¡áÅÐàÂÒǪ¹

ห้องวิทยาศาสตร์หรรษา

ห้องวิทยำศำสตร์หรรษำเป็นแหล่งเรียนรู้ด้ำนวิทยำศำสตร์ ของโรงเรียนเทศบำลเมืองวังน�้ำเย็น หลักกำรทำงวิทยำศำสตร์ ต่ำงๆ ถูกสำธิตผ่ำนเครื่องเล่นต่ำงๆ เช่น แม่เหล็กไฟฟ้ำ เก้ำอี้แรง โน้มถ่วง โมเลกุล แร่ ใยแก้วน�ำแสง ไซคลอยด์ ฯลฯ “ในห้องวิทยำศำสตร์หรรษำเป็นแหล่งที่นักเรียนมำเรียนรู้ได้ ด้วยตัวเอง นี่คือประเด็นหลักเลย ไม่ต้องมีครูหรือเจ้ำหน้ำที่มำ คอยให้ค�ำแนะน�ำ เพรำะเครื่องเล่นในห้องวิทยำศำสตร์จะเป็น เครื่ อ งเล่ น เพื่ อ ศึ ก ษำหลั ก กำรทำงฟิ สิ ก ส์ แ ละหลั ก กำรทำง วิทยำศำสตร์ทั่วไป รวมถึงคณิตศำสตร์” ศุภโชค นันตำ หัวหน้ำผู้ ดูแลห้องวิทยำศำสตร์หรรษำ อธิบำยถึงหัวใจกำรเรียนรู้ภำยใน ห้องวิทยำศำสตร์หรรษำ “นอกจำกเครื่องเล่นต่ำงๆ ที่แสดงหลักกำรทำงวิทยำศำสตร์ แล้ว ภำยในห้องวิทยำศำสตร์หรรษำแห่งนี้ยังมีหุ่นไดโนเสำร์ 2 ตัว มันยืนอยูม่ มุ หนึง่ ของห้องวิทยำศำสตร์หรรษำ มันแลดูมชี วี ติ มำกๆ ซึ่งสร้ำงควำมสนใจ เพรำะมันแปลกใหม่ ถ้ำเด็กเล็กจะสนใจ ไดโนเสำร์ ถ้ำระดับโตขึ้นมำเขำจะศึกษำหลักกำรวิทยำศำสตร์ ผ่ำนเครื่องเล่น ผมคิดว่ำมันเป็นประโยชน์” ศุภโชคเล่ำ โรงเรียนเทศบำลเมืองวังน�้ำเย็นมีนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบำล จนถึงมัธยมปลำย นักเรียน ม.5 เป็นเด็กโตที่สุดในโรงเรียนและท�ำ หน้ำที่เป็นเจ้ำหน้ำที่ประจ�ำห้องวิทยำศำสตร์หรรษำด้วย รัตติยำ วำดไธสง ครูผู้สอนวิทยำศำสตร์ประจ�ำโรงเรียน เทศบำลเมืองวังน�้ำเย็น เล่ำให้ฟังถึงกำรคัดเลือกนักเรียนมำเป็น เจ้ำหน้ำที่ห้องวิทยำศำสตร์หรรษำ นอกจำกควำมรับผิดชอบที่ นักเรียนจะได้ฝึกแล้ว “นักเรียนที่ได้รับมอบหมำยให้ดูแลห้อง วิทยำศำสตร์ก็จะต้องค้นคว้ำหำควำมรู้เพิ่มเติมนอกจำกจุดที่เขำ ได้รับมอบหมำยให้เป็นวิทยำกร จึงเป็นกำรศึกษำไปในตัวค่ะ”



»˜¹ÊØ¢

บีม-จุฑำวรรณ สุขสงวน และ อีฟ-รัชดำภรณ์ ทองแบบ ก�ำลัง ศึกษำมัธยมปีที่ 5 ทั้งสองเป็นเจ้ำหน้ำที่ประจ�ำห้องวิทยำศำสตร์ หรรษำ บีมประจ�ำที่จุด ‘ไซคลอยด์’ หน้ำที่ของบีมคือกำรอธิบำยให้ ควำมรู ้ ใ นหลั ก กำรกำรท� ำ งำนของไซคลอยด์ ส่ ว นอี ฟ ดู แ ล ไดโนเสำร์ 2 ตัวซึ่งเป็นขวัญใจรุ่นน้องวัยอนุบำล หลังจำกได้รับมอบหมำยจำกครูให้ดูแลจุด ‘ไซคลอยด์’ บีม ต้องเริ่มศึกษำเรื่องไซคลอยด์ “ตอนแรกก็ศึกษำแค่เบื้องต้น แต่ เมื่อเรำลงสนำมท�ำหน้ำที่จริง คณะที่มำดูงำนจะมีค�ำถำม เขำก็ จะถำมเรำ ค�ำถำมมันจะไม่ซ�้ำเดิมเลย เรำต้องหำค�ำตอบให้เขำ เรื่อยๆ ก็ถือว่ำเรำได้ศึกษำไปด้วย” ถำมบีม “เคยตอบค�ำถำมไม่ได้ไหม?” “เคยค่ะ (หัวเรำะ) เรำก็ขอโทษเขำ แล้วบอกว่ำ ‘ขอเวลำแป็บ นะค่ะ’ แล้วเรำเดินไปถำมอำจำรย์เพื่อกลับมำตอบ” กำรท�ำหน้ำที่ดูแลจุด ‘ไซคลอยด์’ ท�ำให้บีมได้เรียนเรื่องนี้ล่วง หน้ำ เพรำะไซคลอยด์รอพวกเธออยู่ชั้นมัธยมปีที่ 6 ตำรำงกำรเปิดใช้งำนห้องวิทยำศำสตร์หรรษำคือวันพฤหัสบดี ของทุกสัปดำห์ และหำกมีคณะครู-นักเรียนจำกโรงเรียนอื่นขอมำ ดูงำนก็จะมีกำรเปิดบริกำร รวมถึงครูและนักเรียนภำยในโรงเรียน ที่ท�ำเรื่องขอใช้ห้อง ทุกครั้งที่มีกำรใช้ห้องวิทยำศำสตร์หรรษำ ไม่ ว่ำจะเรียนวิชำอะไรอยู่ ทั้งบีมและอีฟก็ต้องลงมำท�ำหน้ำที่ “ที่รู้สึกก็คือเรำมีควำมรับผิดชอบมำกขึ้น” อีฟบอก “ใช่ หนูก็คิดเหมือนอีฟ แต่มันมี 2 มุมอยู่แล้ว บำงครั้งเรำเสีย เวลำเรียนในห้อง แต่เรำได้ควำมรู้จำกในนี้ และทุกครั้งที่มีคนมำที่ นี่ เรำก็ได้ประสบกำรณ์มำกขึ้น” บีมบอก


ˌͧÊÁØ´ÁÕªÕÇÔµ ประเทศไทยเป็ น ประเทศที่ อ ำภั พ ห้ อ งสมุ ด ไม่ ไ ด้ พู ด เล่ น สังเกตได้จำกห้องสมุดประชำชนที่ขำดแคลนหนังสือและผู้ใช้ บริกำร แต่ที่โรงเรียนเทศบำลเมืองวังน�้ำเย็นกลับเป็นในสิ่งตรง ข้ำม ถัดจำกห้องวิทยำศำสตร์หรรษำ ก็จะพบห้องสมุดมีชีวิต ห้องสมุดมีชีวิตประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ส่วนแรกเป็นส่วน ให้บริหำรยืมหนังสือตั้งแต่ควำมรู้ทำงประวัติศำสตร์ สังคม ศิลปะ และนันทนำกำร รวมถึงนวนิยำยและนิทำน ส่วนที่สองจะเป็นมัลติมีเดีย ‘รังผึ้งมัลติมีเดีย’ จะให้ควำมรู้ ผ่ำนสื่อวิดีโอ ซึ่งมีทั้งหมด 6 ช่อง นักเรียนสำมำรถเลือกช่องได้ ตำมต้องกำร และกำรออกแบบรังผึ้งที่สร้ำงควำมเร้ำใจให้เด็ก นักเรียน ทั้งเด็กเล็กและโต มุมหนึ่งของห้องมี ‘จออัจฉริยะ’ ทำบผนัง เป็นสื่อกำรสอน แบบหนึ่ง มันมีหน้ำตำคล้ำยกระดำนด�ำ ซึ่งสำมำรถใช้ปำกกำ เฉพำะเขียนลงไปได้เหมือนสมำร์ทโฟน และสำมำรถเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตได้ “ห้องสมุดมีชีวิตคือแหล่งค้นคว้ำทำงวิชำกำรเป็นแหล่งศึกษำ หำควำมรู้ นอกจำกนักเรียนในโรงเรียนแล้ว ชุมชนด้ำนนอกรวม ทั้งคนทั่วไปในจังหวัดยังเข้ำมำใช้บริกำรได้ด้วย รวมถึงเวลำมีคน จำกข้ำงนอกเข้ำมำศึกษำดูงำน เรำภูมิใจที่เด็กมีแหล่งเรียนรู้ใน สถำนศึ ก ษำของเรำ” อำภรณ์ สว่ ำ งชื่ น หั ว หน้ ำ ฝ่ ำ ยบริ ห ำร วิชำกำร เป็นผู้อธิบำย นอกจำกองค์ควำมรู้และสื่อกำรเรียนมัลติมีเดีย ภำยในห้อง สมุดมีชีวิตยังมีเรือจ�ำลองดึงดูดควำมสนใจเด็กนักเรียน บนเรือล�ำ นั้นเป็นแหล่งเรียนรู้ประเทศต่ำงๆ ในภูมิภำคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ หรือเรียกกันว่ำ ‘เรืออำเซียน’ “ช่วงเที่ยงเด็กจะเข้ำมำใช้บริกำรเยอะ เด็กบำงคนก็อำศัยรัง ผึ้งเป็นที่นอนอ่ำนหนังสือ เขำจะไปหยิบหนังสือจำกเรืออำเซียน มำนอนอ่ำนบนรังผึ้ง เป็นมุมรีแลกซ์ของเขำด้วย” วิทยำ ผึ้งย้อย บรรณำรักษ์เล่ำให้ฟัง

เช่นเดียวกับห้องวิทยำศำสตร์หรรษษำ ห้องสมุดมีชีวิตจะมี นักเรียนเป็นผู้ดูแล โย-จำรุกิตติ์ พรหมวิหำร, เซนต์-อัครวินท์ มำ ดี, กิ่ง-มณีรัตน์ บัวผัน และ ขวัญ-ดลทัย แหล่งห้วยไชย ต่ำงก็เป็น นักเรียนมัธยมชั้นปีที่ 4 และอำสำท�ำหน้ำที่เจ้ำหน้ำที่ดูแลห้อง สมุด โยชอบอ่ำนนวนิยำยอิงประวัติศำสตร์ เซนต์ชอบอ่ำนนิยำย สืบสวน ขวัญชอบอ่ำนหนังสือให้ควำมรู้กำรประดิษฐ์ และกิ่ง สนใจเทคโนโลยี โยจึงดูแลหนังสือหมวดนวนิยำยเช่นเดียวกับเซ็นต์ ขวัญดูแล หมวดประวั ติ ศ ำสตร์ ล ะศิ ป ละนั น ทนำกำร ส่ ว นกิ่ ง ดู แ ลรั ง ผึ้ ง มัลติมีเดีย “เรำเลือกหน้ำที่ในกำรรับผิดชอบตำมควำมถนัดและควำม สนใจของแต่ ล ะคนค่ ะ หนู ช อบอ่ ำ นนิ ย ำยเรื่ อ งสั้ น และงำน ประดิษฐ์ประดอย ตัวหนูเองเป็นคนชอบประดิษฐ์ก็เลยเลือกโซน ฝั่งนั้น” ขวัญเล่ำ “หนูดูแลรังผึ้งมัลติมีเดีย ซึ่งรังผึ้งมัลติมีเดียจะมีทั้งหมด 6 ช่องสัญญำณ โดยเรำจะน�ำข้อมูลควำมรู้ต่ำงๆ มำใส่ใน 6 ช่อง สัญญำณ ส่วนใหญ่จะเป็นสำรคดี เพลง ควำมรู้ด้ำนกำรเกษตร” กิ่งเล่ำบ้ำง “ควำมรู้มันมีอยู่ในหนังสือแต่ละเล่ม เรำก็ได้รู้หลำยแง่ๆ จำก หนังสือแต่ละเล่ม ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มำก่อน” โยบอก นอกจำกกำรเรียนในชั้นเรียน เด็กเหล่ำนี้ต้องท�ำหน้ำที่ห้อง สมุดมีชีวิต รวมถึงสองสำวที่ดูแลห้องวิทยำศำสตร์หรรษำด้วย แน่นอนว่ำต้องเหนื่อยกว่ำเพื่อนคนอื่น แต่สิ่งท่พวกเขำและเธอได้ คงเป็นเหมือนที่บีมบอก บำงครั้งพวกเขำและเธอต้องเสียเวลำ เรียนในห้อง แต่พวกเขำและเธอก็ได้ควำมรู้จำกในห้องสมุด และ ประสบกำรณ์จำกผู้คนที่ผ่ำนเข้ำมำ และนี่คือสิ่งยิ่งใหญ่ชื่อควำมรู้ที่เกิดในโรงเรียนเทศบำลเมือง วังน�้ำเย็นแห่งนี้

»˜¹ÊØ¢




àÈÃÉ°¡Ô¨ªØÁª¹

จากดอกหญ้าสู่อาชีพท�าไม้กวาด แห่งบ้านผาตูบ ไม้กวำดพร้อมใช้ ติดรำคำไว้ 25 บำท วัสดุอุปกำรณ์เครื่องไม้ เครื่องมือในกำรท�ำงำนจัดวำงไว้อย่ำงเป็นระเบียบ ดอกก๋งที่คัด แล้วและมัดเป็นแพวำงอยู่ในชั้น ด้ำมไม้กวำดตั้งไว้ในตะกร้ำ จักร อุตสำหกรรมหนึ่งหลัง เครื่องท�ำอะไรสักอย่ำงอีกหนึ่งเครื่องตั้งไว้ ใกล้ๆกัน บัวผิน ไชยยำ และจ�ำเนียร สุทำยศ ทั้งสองพี่น้องเป็นผู้กันช่วย กันคิดท�ำไม้กวำดเหล่ำนี้ขึ้นมำ โดยย้อนกลับไปปี 2547 กลุ่ม อำชีพของบ้ำนผำตูบ หมู่ 1 ต�ำบลผำสิงห์ อ�ำเภอเมือง จังหวัด น่ำน ได้เริ่มขึ้นจำกำรท�ำไวน์กระชำยด�ำและต่อมำเป็นขนม แต่ ด้วยควำมไม่พร้อมในหลำยเรื่อง โดยเฉพำะกำรท�ำเป็นระบบ อุตสำหกรรมขนำดเล็กให้ได้มำตรฐำน หำกทำงกลุ่มจะด�ำเนิน กำรต่อต้องใช้งบประมำณถึงสองแสนบำท “คนบ้ำนเรำส่วนใหญ่ท�ำไร่ข้ำวโพด จะให้เอำเงินมำกมำย ขนำดนั้นมำลงทุน คงท�ำไม่ได้ กลุ่มอำชีพส่วนใหญ่เป็นแม่บ้ำน 

»˜¹ÊØ¢

บ้ำงก็เป็นผู้สูงอำยุที่อยู่กับบ้ำนเฉยๆ จะไปท�ำไร่ท�ำนำเหมือนกับ คนหนุ่มก็ไม่ไหว คิดอยู่ว่ำจะหำทำงออกยังไงดี” บัวผินย้อนไปถึง ครั้งที่ควำมคิดเรื่องท�ำไม้กวำดก่อร่ำงขึ้นในหัว “สักปี 50 – 51 นี่ แหละ ป้ำสองคนคิดกันว่ำเรำน่ำจะลองท�ำไม้กวำด ดูสิบ้ำนเรำมี แต่ป่ำแต่เขำ ดอกก๋งมีอยู่ทุกที่ หลังดอยผำตูบมีเยอะเลย คนที่อื่น อย่ำงแพร่ ปรำจีนบุรี เขำก็ขึ้นมำซื้อก๋งบ้ำนเรำ ถ้ำเรำเจ้ำบ้ำนไม่ คิดท�ำก็เสียดำยของ อย่ำงไผ่หน่อขมที่ใช้ท�ำด้ำม แหล่งมันอยู่ที่ ท่ำวังผำนี่เอง วัตถุดิบทุกอย่ำงหำได้จำกบ้ำนเรำทั้งนั้น” กำรวิเครำะห์ถึงควำมเป็นไปได้บนฐำนควำมเป็นจริง ท�ำให้ ทั้งสองมองเห็นช่องทำงเริ่มต้น ดอยผำตูบที่เห็นแต่เล็กแต่น้อยมี ทรัพยำกรให้หยิบยืมมำใช้ได้ทุกเมื่อ เมื่อได้วัตถุดิบพร้อม ทั้งสอง จึงได้เวลำลงมือท�ำ “ลองท�ำกันอยู่สองปี ดีบ้ำงไม่ดีบ้ำง อันแรกๆที่ท�ำ กวำดแล้ว ยังต้องกวำดไอ้ที่มันร่วงออกมำซ�้ำอีก บำงอันหลุดออกมำเป็นก�ำ


ก็มี ป้ำเลยลองไปหำไม้กวำดที่ขำยอยู่ทั่วไปว่ำแต่ละอันต่ำงกันยัง ไง ท�ำไมอันนี้ถึงแข็งแรงกว่ำอันนี้ เอำมำแกะดูว่ำเขำท�ำยังไง ของเรำท�ำผิดตรงไหน” บัวผินเล่ำ กำรลองผิดลองถูกอยู่นำน ท�ำให้บัวผินและจ�ำเนียรเริ่มจับทำง ได้ว่ำใส่ดอกก๋งเป็นก�ำจะหลุดง่ำยกว่ำเย็บเป็นแพกับกก(กระจูด) แล้วค่อยเกี่ยวลวด ฝีมือกำรท�ำไม้กวำดจึงค่อยพัฒนำขึ้น แต่ยังไม่ ดีพอส�ำหรับขำยให้ลูกค้ำ บัวผินเข้ำไปหยิบไม้กวำดเก่ำๆ สองอันออกมำจำกในบ้ำน “ดูอันนี้ไม้กวำดครู” บัวผินอวดฝีมือพร้อมกับลูบดูรอยเย็บมัดเมื่อ หลำยปีที่แล้ว จ�ำเนียรหยิบมำดูอีกครั้ง พลิกดูทั้งสองด้ำน “อันนี้เย็บมือ มัด ยังไม่ถูกวิธี ดูสิเข้ำสลักยังเอำเชือกออกด้ำนนอกอยู่เลย” ทั้งสองหัวเรำะกับผลงำนชิ้นแรกเริ่ม ยำมมองย้อนกลับไป กำรฝึกฝน ควำมพยำยำมนับครั้งไม่ถ้วนของทั้งสอง ลองผิดลอง ถูกไม่ใช่เรื่องง่ำย จนวันนี้ไม้กวำดจ�ำเนียรและบัวผินก็เป็นที่รู้จัก กันไปทั่ว ทั้งสองเริ่มคิดวิธีท�ำงำนให้ง่ำยขึ้น “ถ้ำดึงด้วยแรงมือวันหนึ่ง ท�ำได้ 7 – 8 ด้ำมก็เหนื่อยแล้ว ป้ำก็เลยเปลี่ยนมำเป็นวิธีดึงกับ หลัก ท�ำได้เยอะขึ้น ไม่ต้องออกแรงมำก” จ�ำเนียรชี้ให้ดูหลักไม้ที่ อยู่ใกล้ๆ ส่วนจักรยี่ห้อ Juki ที่ดูสมบุกสมบันไม่แพ้เจ้ำของ ป้ำบัวผิน บอกว่ำซื้อมำในรำคำ 11,000 บำท ตั้งแต่ปี 2552 เพรำะกำรเย็บ ด้วยมือ นอกจำกจะช้ำแล้ว ไม้กวำดยังไม่แผ่กว้ำงเท่ำใช้จักร เมื่อ ท� ำ ได้ ดี แ ละเพิ่ ม จ� ำ นวนมำกขึ้นแล้ว จำกที่ขำยในหมู ่ บ้ ำน ใน ต�ำบล เริ่มมีคนแนะน�ำให้ลองเอำไปขำยในงำนถนนคนเดินในตัว เมืองน่ำน นอกจำกจะขำยหมดแล้วบำงร้ำนก็ติดต่อเอำไปขำย ขณะที่ ไ ม้ ก วำดของป้ ำ สองพี่ น ้ อ งก� ำ ลั ง ขำยดี เ ทน�้ ำ เทท่ ำ โครงกำรอยู่ดีมีสุขของหมู่บ้ำนได้มีงบประมำณส่งเสริมกลุ่มอำชีพ จำกกำรประชำคมหมู่บ้ำน กลุ่มแม่บ้ำนเสนอว่ำน่ำจะรวมกลุ่มกัน ท�ำไม้กวำด โดยมีบัวผินและจ�ำเนียรเป็นผู้สอน กลุ่มท�ำไม้กวำดจึงรวมตัวกันขึ้น 12 คน ได้งบประมำณมำบริ หำรจัดกำรกลุ่ม 30,000 บำท ซึ่งเงินจ�ำนวนนี้ได้น�ำมำซื้อวัตถุดิบ และอุปกรณ์ในกำรท�ำไม้กวำด ทั้งบัวผินและจ�ำเนียรสอนทุกขั้น ตอนให้แก่เพื่อนสมำชิก ตั้งแต่คัดแยกคุณภำพดอกก๋ง กำรมัด ลวด เข้ำด้ำมไม้กวำด จำกนั้นจึงแบ่งหน้ำที่รับผิดชอบตำมควำม ถนั ด และเวลำว่ ำ งของสมำชิ ก ควำมพิ ถี พิ ถั น ของกลุ ่ ม ท� ำ ให้ ไม้ กวำดของกลุ ่ มอำชีพบ้ำนผำตูบเป็นสินค้ำขึ้นชื่อของชุ มชน หลำยหน่วยงำน เช่น อบต.ผำสิงห์ อนำมัย โรงเรียน ต่ำงช่วย อุดหนุน ทั้งยังมีลูกค้ำจำกภำยนอกเข้ำมำสั่งไม้กวำดจนผลิต

ไม่ทัน และแล้วโครงกำรบริกำรซ่อมสร้ำงเพื่อชุมชนของสำขำวิชำ ช่ ำ งกล วิ ท ยำลั ย เทคนิ ค น่ ำ น ได้ เ ข้ ำ มำช่ ว ยทำงกลุ ่ ม ในกำร ออกแบบเครื่องกดอัดลวดเสียบไม้กวำด แทนกำรเสียบด้วยมือ ผลิตภัณฑ์ไม้กวำดของชุมชนจึงได้รับกำรต่อยอดมำอีกขั้นหนึ่ง เมื่อเห็นว่ำไม้กวำดของกลุ่มเป็นสินค้ำขำยดีของต�ำบล เงินกู้ จ�ำนวน 50,000 บำท ไม่มีดออกเบี้ยที่ทำง อบต. ผำสิงห์ให้กลุ่ม ไม้กวำดยืมลงทุน มีระยะเวลำใช้คืน 5 ปี ปีละ10,000 บำท ท�ำให้กำรขำยไม้กวำดขยำยวงกว้ำง มีกำรรับซื้อวัตถุดิบจำกชำว ชุมชน เช่น ไม้รวก ดอกก๋ง ผู้สูงอำยุและผู้ที่ว่ำงเว้นจำกงำนในไร่ นำช่วยงำนในขั้นตอนต่ำงๆ เช่น คัดแยก กิโลกรัมละ 5 บำท ลิด ดอกก๋ ง กิ โ ลกรั ม ละ 3 บำท เป็ น ต้ น ส่ ว นรำยได้ จ ำกกำรขำย ไม้กวำดจะหักเข้ำกลุ่มด้ำมละ 1 บำท “เมื่อก่อนป้ำคิดนะ ว่ำจะเอำไปขำยที่ไหนดี เรำเอำใส่หลัง มอเตอร์ไซค์ไปตั้งขำยริมทำงดีมั้ย พอมีกลุ่มมำช่วยกัน ผู้ซื้อบำง คนเขำก็มำรับซื้อถึงบ้ำน ถ้ำขนไปขำยถนนคนเดิน 200 – 300 อัน หมดทุกครั้ง ตอนนี้ห้ำงนรำเขำก็ติดต่อรับซื้อไปขำย” บัวผินพูดถึง ห้ำงสรรพสินค้ำเก่ำแก่ประจ�ำเมืองน่ำนที่ก�ำลังมำเป็นลูกค้ำรำย ใหม่ จ�ำเนียรสมทบอีกว่ำ “ตอนงำนขึ้นพระธำตุแช่แห้ง ขำยได้วัน ละสองสำมร้อยอันเหมือนกันนะ” กำรตลำดและกำรประชำสัมพันธ์ของกลุ่มท�ำไม้กวำดนี้ท�ำ ง่ำยๆ โดยติดเบอร์โทรศัพท์ไว้ที่ด้ำม ลูกค้ำส่วนใหญ่รู้ว่ำไม้กวำด ของกลุ่มใช้ดีใช้ทน เขำก็ตำมมำซื้อ อย่ำงตอนเทศกำลเข้ำพรรษำ คนพื้นที่ที่กลับมำบ้ำน ก็จะซื้อไปเป็นของฝำก นอกจำกนี้ กลุ่มท�ำไม้กวำด ไม่ใช่แค่ท�ำไม้กวำด สมำชิกกลุ่ม ยังชวนกันปลูกผักปลอดสำรพิษ วันไหนไม่ท�ำไม้กวำดก็ปลูกผัก ถำงหญ้ำ ผักที่ปลูกแบ่งกันกินบ้ำง แบ่งขำยบ้ำงในหมู่บ้ำน ส่วน ขยะที่เหลือจำกกำรท�ำไม้กวำดทำงกลุ่มจะเอำมำท�ำปุ๋ยหมักใช้ใน สวนครัวต่อไป นอกจำกนี้ แ ล้ ว ยั ง มี อี ก งำนหนึ่ ง ที่ ทั้ ง บั ว ผิ น และจ� ำ เนี ย รรั บ หน้ำที่มำโดยตลอด คือกำรเป็นวิทยำกรเผยแพร่ควำมรู้เรื่องกำร ท�ำไม้กวำดให้แก่ผู้ที่สนใจ ทั้งในและนอกพื้นที่ รวมถึงเด็กนักเรียน โรงเรียนบ้ำนผำตูบ “อย่ำงเด็กม้งบำงคนที่ป้ำสอน พอเขำท�ำได้เขำก็อยำกเอำ ไม้กวำดที่ท�ำไปอวดพ่อแม่ที่บ้ำน ถ้ำเขำสอนต่อได้ พ่อแม่เขำก็ท�ำ เป็น ถ้ำมีคนอยำกรู้ ป้ำก็อยำกสอน” จ�ำเนียรเล่ำ ทั้งที่มือยัง สำละวนอยู่กับกำรตอกลวดมัดดอกก๋งเข้ำด้วยกัน ก่อนส่งให้ บัวผินรับช่วงไปดึงเข้ำด้ำมกับหลัก ทุกขัน้ ตอนด�ำเนินไปพร้อมรอย ยิ้ ม

»˜¹ÊØ¢

 


ÀÙÁÔ»˜ÞÞÒªÒǺŒÒ¹

หอมพริกแกง โชยมาจากหมู่ 8 วังน�า้ คู ้ เรำเดินทำงมำถึงหมู่ที่ 8 ของต�ำบลวังน�้ำคู้ในตอนบ่ำย แม้จะ หลบอยู่ในร่มหลังคำร้ำนช�ำแห่งหนึ่ง แต่ควำมร้อนจำกแดดก็ไม่ วำยจะท�ำให้น�้ำแข็งในแก้วน�้ำอัดลมละลำยอย่ำงรวดเร็ว ร้ำนขำยของช�ำแห่งนี้ไม่ได้มีสินค้ำเบ็ดเตล็ดต่ำงจำกที่อื่นมำก นัก แต่กลิ่นหอมของพริกแกงที่โชยมำบ่งบอกว่ำสินค้ำชนิดหนึ่ง ของหมู่ที่ 8 บ้ำนหนองหญ้ำ ต�ำบลวังน�้ำคู้ อ�ำเภอเมือง จังหวัด พิษณุโลก มีเอกลักษณ์แตกต่ำงจำกที่อื่น “ก็ขำยที่บ้ำนนี่แหละ ก็หมู่คนสั่งซื้อก็มี หมู่ข้ำงๆ ก็ต้องมำซื้อ ถึงบ้ำน” รัชดำภรณ์ หลวงศิริ บอกกิตติศัพท์ของพริกแกงหมู่ 8 ที่ ได้ยินและได้กลิ่นกันไปถึงหมู่ข้ำงเคียงจนหลำยต่อหลำยคนต้อง มำหอบหิ้วกันไปทีละหลำยๆ กิโลกรัม บำงครั้งญำติพี่น้องที่อยู่ ไกลถึงกรุงเทพฯ กลับมำเยี่ยมเยือนบ้ำน ก็ได้พริกแกงถุงเล็กบ้ำง ใหญ่บ้ำง ติดไม้ติดมือไปด้วยทุกครั้ง  »˜¹»˜Êع¢ÊØ¢

สินค้ำประจ�ำหมู่บ้ำนที่พูดถึงเป็นวัตถุดิบส�ำคัญของกำรท�ำ อำหำรรสเผ็ด ตั้งแต่แกงกะทิถึงผัดพริก นั่นคือ พริกแกงส�ำเร็จรูป ทั้งใส่กล่องพลำสติก และบรรจุถุงง่ำยๆ ขำยในรำคำถุงเล็กเพียง ถุงละ 20 บำท ส่วนถ้ำใครใคร่ซื้อเป็นจ�ำนวนมำกกว่ำนั้นก็ต้องว่ำ รำคำกันเป็นกิโลกรัม กลุ่มพริกแกงเริ่มต้นกิจกรรมกลุ่มมำตั้งแต่ปี 2551 โดยอำศัย เวลำว่ำงเว้นจำกอำชีพท�ำนำท�ำสวน จึงมีสมำชิกเริ่มแรกเป็นกลุ่ม เกษตรกรและผู้สูงอำยุ “พวกเรำก็ซื้อพริกแกงตลำดมำใช้กันบ่อยๆ เรำก็มำนั่งคิดว่ำ เรำมีวัตถุดิบในหมู่บ้ำนอยู่แล้ว ก็เลยรวมกลุ่มกันเมื่อปี 2551” รัชดำภรณ์ย้อนให้ฟังถึงที่มำของกลุ่ม ที่เริ่มต้นจำกกำรลดรำยจ่ำย ผลิ ต พริ ก แกงใช้ เ องในครั ว เรื อ น จนท้ ำ ยที่ สุ ด ก็ เ ป็ น กำรเพิ่ ม รำยได้ให้กับสมำชิกในกลุ่มชำวบ้ำนหมู่ที่ 8


เดิมทีสมำชิกกลุ่มพริกแกงที่มีอยู่ 20 คน ต่ำงลองผิดลองถูก เป็นวิทยำกรสอนกันเอง ช่วยกันระดมสมองระดมฝีมือ ผลัดกันท�ำ ผลัดกันชิม จนในที่สุดก็ได้สัดส่วนกำรผสมผสำนอย่ำงลงตัวของ ของตะไคร้กับพริก ที่กลมกล่อมลงตัวมำหลำยปี กลำยเป็นสูตร ของตัวเองที่ทุกคนยอมรับว่ำหอมทั้งกลิ่นและอร่อยทั้งรส นอกจำกวั ต ถุ ดิ บ ส่ ว นผสมที่ ป ลู ก กั น อยู ่ ทุ ก ครั ว เรื อ นแล้ ว อุปกรณ์ส�ำคัญของกำรท�ำพริกแกงส�ำเร็จรูปก็คือเครื่องบด ซึ่งต้อง ใช้งบประมำณจำกกองทุนหมู่บ้ำนมำอุดหนุน รวมไปถึงส่วนผสม บำงอย่ำงก็ต้องหำซื้อมำ มีกำรใช้ทุนหมุนเวียน และแบ่งสันปัน ส่วนผลก�ำไรไปสู่สมำชิก ซึ่งถูกก�ำหนดโดยกำรร่วมลงมือท�ำน�้ำ พริก 10 ครั้ง จะเป็นตัวก�ำหนดกำรจ่ำยเงินปันผล 1 ครั้ง ส� ำ หรั บ รำยรั บ ที่ ไ ด้ ม ำ นอกจำกจะเก็ บ ไว้ เ ป็ น ทุ น และกำร ปันผลก�ำไรแล้ว เงินส่วนหนึ่งที่เหลือจะถูกกันไว้เพื่อใช้จ่ำยใน

กิจกรรมสำธำรณะประโยชน์ ทั้งกำรท�ำอำหำรกลำงวันเลี้ยงเด็ก ในชุมชนและศูนย์เรียนรวมของต�ำบลวังน�้ำคู้ ตัดชุดกีฬำ อุปกรณ์ กำรเรียน และให้ทุนกำรศึกษำประจ�ำปี ในหนึ่งสัปดำห์ กลุ่มพริกแกงจะมำรวมตัวลงมือกันท�ำงำน 2 วัน แล้วแต่เวลำว่ำง รวมไปถึงปัจจัยอย่ำงยอดขำยและยอดสั่งซื้อ โดยสมำชิ ก ในกลุ ่ ม ซึ่ ง มี อ ำชี พ หลั ก เป็ น ชำวนำชำวไร่ จ ะผลั ด เปลี่ยนหมุนเวียนกันมำช่วยกันคนละไม้คนละมือ “เรำซื้อวัตถุดิบมำจำกสมำชิก ข่ำ ตะไคร้ มะกรูด ก็เป็นรำยได้ อีกทำงของสมำชิกนะ บำงครั้งก็มีพริกบ้ำง แต่ช่วงนี้เรำต้องซื้อ พริกจำกตลำดข้ำงนอก” รัชดำภรณ์ว่ำ อย่ำงที่ว่ำ ชุมชนเกษตรกร เมื่อมีที่หัวไร่ปลำยนำเหลือ ใคร หรือจะทิ้งให้รกร้ำงไร้ประโยชน์โภชน์ผล ขิง ข่ำ ตะไคร้ หรือแม้แต่ มะกรูดจึงเป็นพืชสวนครัวที่ใครๆ ก็มีไว้ให้เด็ดยำมต้องใช้ บ้ำงเห็น ว่ำเป็นรำยได้ เพรำะยิ่งมีคนซื้อคนท�ำ คนกินเพิ่มมำกขึ้น ถึงกับ ลงทุนปลูกยกแปลงเลยก็มี “เรำมีทีมหำวัตถุดิบ แผนกที่ต้องไปซื้อพริก ก็ต้องไปซื้อมำ ส่วนที่อยู่ที่นี่ก็ท�ำกันไป” รัชดำภรณ์บอกถึงกำรแบ่งหน้ำที่กันใน กลุ่ม “ส่วนขั้นตอนกำรท�ำ เรำหั่นข่ำ 3 โล หั่นตะไคร้ 2 โลครึ่ง มะกรูด 5 ขีด กระเทียม 2 โล หอม 3 โล แล้วก็เอำเคล้ำกัน ใส่ เครื่องบด 3 ครั้ง กลิ่นและรสชำติของเรำดีกว่ำที่ตลำดด้วยนะ” รัชดำภรณ์พูดอย่ำงภูมิใจ พริกแกงหมู่ 8 ไม่ได้ใส่สำรกันบูด เพียงใส่ตู้เย็นก็เก็บได้นำน แต่ว่ำกันว่ำพริกแกงของที่นี่แทบไม่ต้องคิดเรื่องที่กองที่เก็บอะไร ให้ยุ่งยำกใจ เพรำะเมื่อท�ำเสร็จ วำงไว้ 3 วันก็นับว่ำนำนมำกแล้ว เพรำะจะมีคนมำซื้อกันหมดอย่ำงรวดเร็ว ทั้งที่ไม่ได้มีหน้ำร้ำน ที่ไหนหรือกำรโฆษณำชวนเชื่อใดๆ ขนำดร้ำนอำหำรยังต้องมำสั่ง จองทีละ 3 กิโลกรัม เนื่องจำกเป็นองค์ควำมรู้รสเผ็ด ครั้นจะเก็บง�ำไว้ก็แสบร้อน กำรถ่ำยทอดเพื่อสืบทอดภูมิปัญญำที่แม้ไม่ได้เก่ำแก่ แต่ก็เป็น เรื่องเคียงครัวส�ำหรับทุกบ้ำน เมื่อโอกำสอ�ำนวย เด็กนักเรียนก็ เดินทำงมำนั่งดูกำรสำธิตกำรท�ำน�้ำพริกถึงที่ ส่วนในอนำคต กลุ่ม พริกแกงมีโครงกำรน�้ำพริกกระปุกแปรรูป อย่ำงน�้ำพริกผัด หรือจะ เป็นแจ่วบอง ซึ่งยังอยู่ในช่วงกำรทดลองกำรท�ำและผสมสูตร แต่ เห็นพริกแกงดีขนำดนี้ คงกำรันตีคุณภำพน�้ำพริกไปโดยปริยำย

»˜¹ÊØ¢




ÇѲ¹¸ÃÃÁ

เบิกบานยามค�่า ด้วยร�าวงย้อนยุค

สำยรุ้งหลำกสีผูกโยงไว้บนเพดำนที่ถูกแสงไฟส่อง เสียงเพลง ร�ำวงดังกังวำน และเสียงประกำศเชิญชวนในเวลำเย็นย�่ำเป็น สัญญำณให้รู้ว่ำเวลำของควำมสนุกและสุขภำพดีก�ำลังจะเริ่มต้น อีกครั้ง นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยสีสันและควำมบันเทิง จำกร้ำนรับซื้อของเก่ำที่ถูกทิ้งร้ำง ได้รับกำรดัดแปลงมำเป็นที่ ออกก�ำลังกำยของสมำชิกชมรมออกก�ำลังกำยเพื่อสุขภำพเมื่อ สองปีก่อน ด้วยควำมคิดของ อุษณีย์ ไชยสกุล ประธำนกลุ่มผู้มี สถำนภำพเป็นครูของโรงเรียนบ้ำนหนองหล่มพร้อมๆ กัน ด้วยควำมเป็นครู และชอบสนทนำปรำศรัยกับผู้อื่น เมื่อเสร็จ จำกภำรกิจกำรงำน อุษณีย์จะใช้เวลำในกำรไปพูดคุยกับคนใน หมู่บ้ำน ยิ่งพบยิ่งพูดยิ่งคุยก็ยิ่งท�ำให้เห็นว่ำ ปัญหำเรื่องสุขภำพ เป็นปัญหำส�ำคัญของคนที่นี่ และเป็นเรื่องที่ไม่อำจนิ่งเฉยได้ “เจอคนนั้นก็บ่นไม่สบำย เจอคนนี้ก็บ่นไม่สบำย มีเรื่องบ่น อย่ำงนี้ตลอด เรำก็มำคิดว่ำท�ำไมนะ” ประธำนกลุ่มเล่ำภำพที่เธอ พบก่อนที่จะเกิดชมรมออกก�ำลังกำยเพื่อสุขภำพ โดยเฉพำะกำร พบผู้ป่วยเป็นควำมดันและเบำหวำนที่สูงกว่ำในยุคอดีตมำกมำย



»˜¹ÊØ¢

ยิ่งเมื่อเธอพบว่ำคลีนิกควำมดันเบำหวำนของโรงพยำบำลคับคั่ง ไปด้วยคนไข้ที่ไปรอรับกำรรักษำ ด้วยควำมห่วงใย และรู้ว่ำนี่ไม่ใช่สถำนกำรณ์ธรรมดำที่จะใช้ กำรช่วยเหลือตำมก�ำลังแบบที่เธอท�ำเป็นประจ�ำกับผู้ยำกไร้ ด้วย กำรไปซื้อถุงเท้ำไปแจกให้ในช่วงฤดูหนำวอย่ำงที่เคยท�ำ อุษณีย์ เริ่มมองหำหนทำงกำรแก้ไขในระยะยำว และค�ำตอบก็มำลงตัวที่ “กำรออกก�ำลังกำย” เริ่มต้นจำกกำรชักชวนให้ชำวหนองหล่มมำร่วมกันขี่จักรยำน ทุกวันช่วงห้ำโมงเย็นเธอจะออกไปขี่จักรยำน และพูดคุยกับคนใน หมู่บ้ำน แต่ก็พบว่ำมีคนแก่อีกไม่น้อยที่ไม่พร้อมจะออกก�ำลังกำย ด้วยวิธีนี้ จนกระทั่งมีโอกำสได้ไปเห็นกลุ่มร�ำวงย้อนยุคที่พะเยำ ด้วยนิสัยเป็นคนรักสนุก มีพื้นฐำนของกำรเต้นกำรฟ้อนอยู่ เป็นทุน เมื่อได้เห็นกลุ่มร�ำวงย้อนยุคของพะเยำที่ร่วมกันออก ก�ำลังกำยด้วยท่ำทำงที่เริ่มจำกท่ำง่ำยๆ และค่อยๆ เพิ่มควำม ยำกขึ้นเรื่อยๆ ใน 15 เพลง เธอลองเข้ำร่วมกับกลุ่มของพะเยำ และก็ไม่ลังเลที่จะเอำกลับมำเริ่มต้นท�ำกับคนที่บ้ำนตนเองทันที


กลุ ่ ม ร� ำ วงย้ อ นยุ ค จึ ง เริ่ ม ต้ น ขึ้ น ที่ โ รงเรี ย นบ้ ำ นใหม่ เพื่ อ อำศั ย เครื่องเสียงและสถำนที่ โดยมีผู้ร่วมกลุ่ม 7 คน แต่ด้วยควำมที่โรงเรียนบ้ำนใหม่อยู่ค่อนข้ำงไกลไม่สะดวกกับ ผู้เข้ำร่วมจึงได้มำขอใช้พื้นที่ของร้ำนของเก่ำที่หมู่ 4 ซึ่งเจ้ำของก็ อนุญำตและก็ได้ที่นี่เป็นที่ท�ำกิจกรรมร�ำวงย้อนยุค และที่ตั้งของ ชมรมออกก�ำลังกำยเพื่อสุขภำพตลอดมำ โดยอำศัยแนวควำมคิด ที่ว่ำ เรำควรป้องกันโรคไม่ใช่แก้ปัญหำที่ปลำยเหตุด้วยกำรรักษำ ด้วยรูปแบบกำรร�ำวงที่คล้ำยกับกำรเต้นแอโรบิก ที่มีกำรเริ่ม ต้นขยับร่ำงกำยอย่ำงเบำๆ ไปพร้อมกับจังหวะสนุกๆ ของเพลง และค่อยๆ เพิ่มควำมซับซ้อนของท่ำทำง และจังหวะเพลงที่ขยับ เร็วขึ้น ซึ่งเป็นไปตำมหลักกำรที่เหมำะสมของกำรออกก�ำลังกำย ท�ำให้กำรออกก�ำลังกำยประมำณหนึ่งชั่วโมงกลำยเป็นเรื่องที่ไม่ น่ำเบื่อ และเป็นที่ชื่นชอบของบรรดำสำวใหญ่สำวน้อย ในบ้ำน หนองหล่มเป็นอย่ำงยิ่ง โดยที่พวกเธอไม่รู้หรอกว่ำระหว่ำงที่ได้ สนุกสนำนกันนั้นมีหลำยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป “วันหนึ่งมีสมำชิกคนหนึ่งมำบอกดิฉันว่ำ วันนี้แม่ไปหำหมอ

หมอถำมว่ำแม่อุ๊ยไปยะอะหยังมำ ควำมดันของแม่อุ๊ยดีขึ้น แม่ก็ บอกเขำว่ำไปร�ำวงมำ หมอก็บอกว่ำดีแล้วแม่อุ๊ยท�ำไปเรื่อยๆนะ” ประธำนกลุ่มเล่ำผลที่เกิดขึ้นกับสมำชิกในด้ำนสุขภำพที่เห็นเป็น รูปธรรม เช่นเดียวกับสมำชิกบำงคนที่ไขมันในเลือดลดลงมำก แต่ไม่เพียงแต่ผลในด้ำนสุขภำพเท่ำนั้น ผลในด้ำนจิตใจก็ดีขึ้น อย่ำงเห็นได้ชัด “มีคนหนึ่ง แกเคยเป็นคนไม่เอำใครเลย ชีวิตนี้ฉัน ไปแต่ไร่ ถึงหน้ำหน่อไม้ก็ขำยแต่หน่อไม้ ไม่สนใจใคร มำวันนี้ถ้ำ วันไหนแกไม่มำเข้ำกลุ่ม ก็จะไม่สนุก แกจะกลำยเป็นคนที่ท�ำให้ คนอื่นหัวเรำะ” ประธำนกลุ่มเล่ำถึงผลที่มองเห็นได้ทำงด้ำนจิตใจ ของผู้ที่มำร่วมร�ำวงย้อนยุค ขณะที่ผลที่เกิดจำกกำรเข้ำกลุ่มยังต่อยอดไปสู่เรื่องของสังคม อีกด้วย “ในหมู่บ้ำนเรำมีหลำยคนที่เมื่อก่อนไม่เอำใครเลย ชีวิตนี้ ฉันอยู่กับครอบครัวฉัน พอใจแล้ว วัดมีกิจกรรมบริจำคฉันก็ไม่ เกี่ยว ใครไม่สบำยฉันก็ไม่เกี่ยว แต่พอมีกิจกรรมนี้เขำกลำยเป็น อีกคน รู้จักกำรให้ ให้อย่ำงเต็มใจ มีควำมสุขด้วยกัน มีคนป่วยไป เยี่ยม ขึ้นบ้ำนใหม่ไปช่วยกัน บวชลูกบวชหลำนไปกันหมด เรำไป เป็นกลุ่ม” ประธำนกลุ่มเล่ำถึงผลทำงด้ำนสังคมที่เกิดขึ้นอย่ำงที่ เธอก็ไม่ได้คำดคิดมำก่อน เมื่อเห็นผลด้ำนสุขภำพกำยและใจและสังคมอย่ำงเป็นรูป ธรรม สมำชิกชมรมออกก�ำลังกำยเพื่อสุขภำพ ก็เริ่มท�ำงำนด้ำน สุ ข ภำพกั น อย่ ำ งเป็ น ระบบยิ่ ง ขึ้ น ด้ ว ยกำรเริ่ ม ท� ำ สมุ ด บั น ทึ ก สุ ข ภำพ โดยใช้ ข ้ อ มู ล จำกโรงพยำบำลส่ ง เสริ ม สุ ข ภำพต� ำ บล บันทึกผลกันทุก 3 เดือนเพื่อให้เห็นพัฒนำกำรทำงด้ำนสุขภำพ เมื่อท�ำกิจกรรมร่วมกัน ควำมรัก ควำมผูกพันควำมห่วงใยใน กันและกันก็มีมำกขึ้นด้วย เขำจะดูแลเพื่อนของเขำกันเอง ออก ก�ำลังกำยเสร็จใครหำยไปเขำก็จะบอกกันว่ำครูคนนั้นคนนี้ไม่ สบำย ก็จะไปเยี่ยมกัน และด้วยควำมเอื้ออำทรต่อกันใส่ใจต่อกัน เช่นนี้ จึงท�ำให้เกิดค�ำขวัญของกลุ่มที่ว่ำ “ทุกข์ร่วมทุกข์ สุขร่วม สุข” เมื่อชมรมออกก�ำลังกำยเพื่อสุขภำพด�ำเนินกิจกรรมร�ำวงย้อน ยุคอย่ำงสม�่ำเสมอทุกวัน วันละหนึ่งชั่วโมงมำกว่ำสองปี พวกเขำ เริ่มมีควำมเข้มแข็ง และพร้อมที่จะท�ำกิจกรรมอื่นต่อเนื่องไปอีก เช่นเวลำที่ ที่ชุมชน หรือเทศบำลมีงำนอะไรสมำชิกของชมรมออก ก�ำลังกำยเพื่อสุขภำพก็ไปร่วมในนำมของกลุ่ม ไม่ว่ำจะเป็นวันพ่อ วั น แม่ แห่ เ ที ย นเข้ ำ พรรษำ วั น ลอยกระทง ฯลฯ และก็ ยั ง พยำยำมสร้ำงกิจกรรมของกลุ่มที่มีต่อกำรมีสุขภำวะให้มำกขึ้น อีกด้วย

»˜¹ÊØ¢




อย่าลืมติดตาม คลิปวีดีโอดีๆ จาก กิจกรรมสร้างสรรค์(ค่าย)พลเมืองเยาวชนร่วมสร้างวิถีความดี ที่ www.punsook.org


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.