2ndWeekend, NOV
เทศกาล แซลมอน
ทุกฤดูใบไม้ร่วง ปลาแซลมอนฝูงใหญ่จะว่ายน�้ำมาวางไข่ในแม่น�้ำโออิราเสะ ประเทศญีป่ นุ่ จึงไม่นา่ แปลกใจทีจ่ ะเห็นพลพรรคคนรักปลาดิบออกมาตกปลากัน พรึ่บพรั่บ จนเมืองต้องจัด เทศกาลแซลมอน (Salmon Festival) ขึ้นทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ทสี่ องของเดือนพฤศจิกายน เพือ่ จัดระเบียบการตกปลา มีการเตรียม ความพร้อมให้เสร็จสรรพ จัดพื้นที่เอาไว้ให้จับปลาได้ด้วยมือเปล่า ถ้าอยากกิน ผลงานตัวเองแบบสดๆ ก็มพี นื้ ทีใ่ ห้ปง้ิ ย่างเป็นเทศกาลทีเ่ หมาะแก่คนรักแซลมอน ของจริง!
ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ แซลมอนคุยกันในทีมว่าอยากท�ำหนังสือกันเอง เพื่อจะได้หนังสือที่มี เนื้อหาตรงใจเราที่สุด เราตกลงกันอย่างรวดเร็ว โดยลืมคิดไปว่ามันเป็นการ พาตัวเองพุ่งเข้าหาวันแห่งความทุรนทุรายชัดๆ! อย่างไรบ้าง ขอยกตัวอย่าง หนึ่ง เช่น เมื่องานเริ่มเลต เราต้องล�ำบากหาข้ออ้างมาปลอบตัวเอง ต้องด่าตัวเองซ�้ำไปซ�้ำมา (เพราะไม่มีนักเขียนให้โยนความผิดแล้ว) สอง เช่น วันที่เราพบว่าสิ่งที่เคยคิดมันผิดหมด เคยเชื่อว่าเมื่องานอยู่ใน มือเราแล้วก็จะควบคุมได้อยู่หมัด...ไม่จริงสักนิด! สาม เช่น วันที่เราต้องลุ้นว่าหนังสือที่ส่งเข้าโรงพิมพ์จะมีปัญหารึเปล่า เพราะสถิตชิ วี้ า่ มันมีเสมอ ถึงขัน้ ต้องโยนหัวก้อยเสีย่ งทาย (ถ้าออกหัวแปลว่า รอด!) รวมถึงวันทุรนทุรายอื่นๆ เช่น วันที่พวกเราอยากร้องตะโกนออกมา ดังๆ ด้วยความอัดอั้น (เพราะมันเลยเดดไลน์แล้ว!) วันที่อยากจะยอมแพ้ เลิกท�ำเรือ่ งทีค่ วรท�ำทัง้ หมด (พอเถอะ ไม่ทำ� ต่อแล้ว พรุง่ นีห้ ยุดอยูบ่ า้ น นอน) หรือวันทีเ่ รามาทบทวนตัวเองแล้วกลับใจ (ไม่ทำ� ต่อได้ไงอะ จะเสร็จอยูแ่ ล้วนะ จะเป็นไอ้ขี้แพ้เหรอ แง) แต่แม้เราจะนิยามวันทุรนทุรายเหล่านี้อย่างโอเวอร์ ที่จริงเราก็ชอบใจ ไม่นอ้ ยทีม่ นั ท�ำให้แต่ละวันของเรามีเรือ่ งราว ท�ำให้รายละเอียดของแต่ละวัน ไม่ ซ�้ ำ เดิ ม ท� ำ ให้ วั น ธรรมดาวั น หนึ่ ง กลายเป็ น วั น พิ เ ศษ ด้ ว ยรอยยิ้ ม เสียงหัวเราะ รอยช�้ำใต้ดวงตา และสารพัดความประทับใจ
คุ ณ ผู ้ อ ่ า นเองก็ น ่ า จะมี เ หมื อ นกั น ประเภทวั น ปวดฟั น วั น ไม่ อ ยาก เชือ่ ฟังใคร วันอยากอันเฟรนด์เพือ่ นในเฟซบุค๊ วันทีค่ ดิ ถึงถุงเท้าข้างทีห่ ายไป หรือวันที่เศร้าใจว่าท�ำไมตัวตูนี้ต้องเกิดมาเป็นผู้ชายท�ำอาหารเย็น ฯลฯ และไม่น่าจะต่างจากคนทั่วโลก ดูได้จากหลากหลายวันพิเศษพิสดารที่ถูก ประทับไว้บนปฏิทินอย่างจริงจัง เมื่อวันเหล่านั้นวนเวียนมาถึง มันก็เป็นจุด นัดพบให้เราได้ระลึกและพากันนึกถึงเรือ่ งสนุกทีเ่ คยท�ำให้โลกมีสสี นั ในวันนัน้ แซลมอนรวบรวมวันพิเศษเหล่านี้ เพื่อระลึกถึงวันคืนยิบย่อยที่ไม่ควรจะ มองผ่าน ท�ำความรูจ้ กั วันคืนพิเศษทีอ่ ดั แน่นไปด้วยไอเดียสนุกสนาน ความรูส้ กึ ความเชื่อที่แปลกประหลาดของคนรอบโลก เมื่อวันที่ 80 Freaky Days วันหลุดนักขัตฤกษ์ ฟักจากไข่กลายเป็น แซลมอนตัวใหม่ในมือคุณอีกเล่ม เราก็หวังว่าคุณจะได้ลิ้มรสเนื้อหาอย่าง สบายตาสนุกใจ หวังว่าคุณจะได้ฉุกใจคิดถึงวันที่ผ่านมาของตัวเองขณะที่ ก�ำลังไล่สายตาผ่านแต่ละหน้ากระดาษที่พลิกไป เหมือนอย่างที่เราพบในขณะท�ำหนังสือเล่มนี้ว่า ชีวิตมันเต็มไปด้วยวัน เวลาที่น่าจดจ�ำ อย่างเช่นวันนี้ วันที่หนังสือของเราได้ไปอยู่ในมือของคุณ ส�ำนักพิมพ์แซลมอน 9 กรกฎาคม วันปิดเล่ม
7
03 JAN
วันอีกไม่นาน ก็ตาย
Steve Jobs มีชวี ติ อยูโ่ ดยยึดหลักการใช้ ชีวิตทุกวันเป็นวันสุดท้าย โดยเขาเฝ้าถาม ตัวเองหน้ากระจกทุกวันตัง้ แต่อายุ 17 ว่าถ้า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต เขาจะท�ำสิ่งที่ จะท�ำวันนีไ้ หม โดยเขาบอกว่าวิธนี เี้ ป็นวิธที ี่ ท�ำให้เขาไม่คิดว่าชีวิตยังเหลืออะไรให้ต้อง เสีย และพอชีวิตไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้ว ก็ ไ ม่ มี เ หตุ ผ ลอะไรจะให้ ก ลั ว การออก ไล่ตามหัวใจตัวเอง คนเราบทจะตายก็ตายกันง่ายๆ ดูได้จาก ชายชาวยู เ ครนที่ เ ดิ น อยู ่ ดี ๆ ก็ ดั น โดน ผู้หญิงกระโดดตึกหล่นมาทับ! เสียชีวิต ตามผู้หญิงคนนั้นไปติดๆ เรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อปี 2010 ที่ประเทศสเปน
9
คุณจะท�ำยังไง ถ้าก�ำลังวางแผนอนาคตแล้วดันมี คนเดินมาบอกว่า “จะคิดมากท�ำไม เดีย๋ วพรุง่ นีก้ ต็ าย” เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องหงุดหงิด(อาจมีบ้าง ที่ หั น ไปชี้ แ จงว่ า “แต่ มึ ง จะตายวั น นี้ ” แล้ ว วิ่ ง ไปกระโดดถีบ ) เพราะนอกจากจะเป็นการท�ำลาย ความฝันอย่างป่นปี้แล้ว ยังพูดเรื่องไม่เป็นมงคล ตั้งแต่ต้นปีมันไม่ดีรู้มั้ย (ตบปากซ�้ำ) แต่ถ้าบอกว่านี่คือค�ำพูดที่ ‘หวังดี’ จะเชื่อมันมั้ย? วันอีกไม่นานก็ตาย มี ชื่ อ อย่ า งเป็ น ทางการว่ า Memento Mori Day ซึ่งมาจากภาษาละตินที่ มีความหมายว่า ‘จงจ�ำไว้...คุณเองก็จะต้องตาย’ ประโยคนีบ้ รรดาทาสรับใช้ในยุคโรมันจะใช้ตกั เตือน เจ้านายที่ได้ชัยชนะจากการออกศึกทุกครั้งว่าอย่า หลงคะนองไปกับความส�ำเร็จ เพราะถึงวันนี้จะ ก�ำลังขึ้นสู่จุดสูงสุด พรุ่งนี้คนเราก็อาจจะตายหรือ ตกต�่ำได้ ...แล้ววันนีเ้ หมาะกับคนยุคเรายังไง? ถึงจะไม่ตอ้ ง ออกไปสู้รบเลือดตกยางออกเหมือนคนสมัยก่อน แต่ความที่ชอบมองการณ์ไกล เอะอะอะไรก็ลงทุน ระยะยาว ไม่เคยคิดเลยว่าพรุ่งนี้หัวใจอาจหยุดเต้น ก็ได้ วันนี้จึงถูกเอามาใช้เตือนนักวางแผนทั้งหลาย ให้หดั ใช้ชวี ติ อยูก่ บั ปัจจุบนั ลงมือท�ำสิง่ ทีอ่ ยูต่ รงหน้า ก่อน อย่าคาดหวังกับอนาคตจนเกินไปนัก เพราะบางทีมันอาจมาไม่ถึงก็ได้
1st FRI 13 OF THE YEAR
วันโทษคนอื่น
ในปี ี 2009 Nathanael Fast และ Larissa Tiedens สองอาจารย์ จ าก มหาวิทยาลัย Southern California และ Stanford พบว่าการโทษคนอื่นเป็น พฤติกรรมติดต่อ! เพราะหลังจากลองแบ่ง กลุ่มผู้เข้าร่วมการทดลองให้อ่านรายงาน สองแบบที่ มี เ นื้ อ หาเกี่ ย วกั บ การโยน ความผิดให้คนอืน่ กับการยอมรับความผิด ไว้เอง แล้วให้เขียนเล่า ‘ประสบการณ์และ เหตุ ผ ลที่ ตั ว เองเคยล้ ม เหลวในชี วิ ต ’ ปรากฏว่ากลุ่มแรกจะโยนความผิดออก ให้ พ ้ น ตั ว ตรงข้ า มกั บ คนกลุ่มที่สอง ผลออกมาอย่ า งนี้ สองอาจารย์ จึ ง เห็ น ว่ า โลกปั จ จุ บั น ที่ เ ป็ น โลกแห่ ง ข้ อ มู ล ข่ า วสาร เราจะได้ รู ้ เ รื่ อ งที่ มี ก ารโทษกั น มากขึ้น และจะโทษกันหนักขึ้น
11
ขอโทษนะ... ไอ้ทมี่ าสายเนีย่ ก็ไปโทษนาฬิกาปลุก ทีม่ นั ไม่ดงั สิ เชิญไปต�ำหนิคณ ุ แม่ดฉิ นั ทีไ่ ม่ยอมปลุก ให้ตรงเวลา ไอ้การบ้านที่สั่งมาแล้วท�ำไม่ทันก็ช่วย ไปต่อว่าอาจารย์ที่สั่งงานเป็นสั่งน�้ำมูกโดยไม่เห็นใจ คนท�ำนะคะ ส่วนผลงานทีไ่ ม่เป็นไปตามเป้า ดิฉนั คิด ว่าน่าจะเป็นความผิดของเจ้านายเอง ทีส่ กั แต่วา่ มีตา แต่กลับไม่มีแววเห็นงานที่ดี ฯลฯ โทษคนอื่นเข้าไปเถอะเพราะนี่คือกิจกรรมของ วันโทษคนอื่น (Blame Someone Else Day) วันศุกร์ที่ 13 แรกของปี ใครที่มีอะไรอัดอั้นตันใจมา ตลอด ต้องเก็บมันเอาไว้เพราะพูดออกไปไม่ได้ วันนี้ เราจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว! ปลดปล่อยมันออกไปให้ หมด! ให้โลกได้รับรู้ความจริงว่าเนื้อแท้ของเราเป็น คนที่แสนดีเพียงใด วันที่ผ่านมานั้นเรายอมรับผิด แทนคนอื่นมามากเท่าไร มันดีแค่ไหนที่ยอมอดทน ทัง้ ทีส่ งิ่ เหล่านัน้ มันไม่ใช่ความผิดของเราเลยสักนิด! โอกาสนีม้ เี พียงครัง้ เดียวในรอบปี ดังนัน้ ชูนวิ้ ขึน้ มา แล้วชีม้ นั ออกไปทีแ่ พะแต่ละตัวอย่างอาจหาญ จะมีกี่ คดีก็ชี้ผิดให้คนอื่นเรื่อยไป โทษนั่นโทษนี่ให้คุ้มค่า วันพิเศษ แต่คนอื่นจะเข้าใจเราขึ้นรึเปล่านี่ ไม่แน่ใจนะ...
17 JAN
วันโยน ปณิธาน ปีใหม่ทิ้ง
พ้นจากวันนี้ไป ถ้าใครยังยึดปณิธานที่จะ ท�ำจนครบ 3 สัปดาห์ต่อเนื่อง ก็เริ่มอุ่นใจ ได้ ว ่ า ความส� ำ เร็ จ ดู จ ะอยู ่ ไ ม่ ไ กล เพราะ Maxwell Maltz แพทย์ ศั ล ยกรรม พลาสติก เคยตั้งข้อสังเกตไว้ในหนังสือ ขายดียุค 60s ของตัวเองที่ชื่อ Psycho-Cybernetics: A New Way to Get More Living out of Life ว่าคนที่ สูญเสียขาหรือแขนมักจะใช้เวลาโดยเฉลี่ย 21 วัน ส�ำหรับการปรับตัวเพื่อใช้ร่างกาย ใหม่ แล้ ว เขาก็ ส รุ ป รวบยอดต่ อ เลยว่ า ดังนั้น คนเราก็จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ภายใน 21 วันเหมือนกัน แต่แนวคิดนี้ก็ยัง คลุมเครือไม่มีใครออกมาสนับสนุนหรือ ปฏิเสธได้เต็มปากเต็มค�ำจนถึงปัจจุบันว่า จริงหรือเปล่า
เมื่อขึ้นปีใหม่ เป็นเรื่องปกติที่คนเรามักตั้งใจ เลิกนิสัยที่คิดว่าไม่ดี บังคับให้ตัวเองเป็นคนใหม่ อยากประหยัดเงิน อยากตื่นเช้า อยากขยันเรียน อยากจ็อกกิ้งทุกวัน อยากฟิตหุ่นให้เหมือนรูปปั้น เดวิด ฯลฯ แต่แค่ผ่านไปครึ่งเดือนก็รู้สึกว่าท�ำไม มันเหนือ่ ยจัง อยากโยนปณิธานทิง้ กลืนน�ำ้ ลายตัวเอง แต่...ถ้าล้มไปก็รสู้ กึ ผิด แย่จงั เรา ความนับถือตัวเอง ลดฮวบ เลยได้แต่ชะงักอยู่ตรงทางสองแพร่ง ยอมรับกันเถอะว่าแรงกายแรงใจมันหมด ไปต่อ ไม่ไหว ไอ้ทตี่ งั้ ใจตอนปีใหม่ทผี่ า่ นมาก็แค่ท�ำให้ตวั เอง รูส้ กึ ดี มีความหวังชัว่ วูบ แต่ตอนนีท้ กุ อย่างมันเปลีย่ น ไปแล้ว ความตัง้ มัน่ มันกลายเป็นภาระทีห่ นักอึง้ ถ่วง ชีวิตสุขส�ำราญมากเกินไป! ดังนั้นเรามาล้มแผน ฉลอง วันโยนปณิธานปีใหม่ทงิ้ (Ditch New Year’s Resolutions Day) กันเถอะ ถ้าท�ำไม่ไหว สู้ไม่ได้ วันนี้เปิดโอกาสให้ทุกคน ยอมรับความจริง รับสภาพของตัวเอง ล้มไปก็ไม่ผดิ ยอมแพ้ไปเลย นีย่ งั เก่งนะทีอ่ ตุ ส่าห์ทำ� มาได้ตงั้ 17 วัน ถือว่าโอเคเลยล่ะ หยวนๆ (ชักแม่น�้ำทุกสายเพื่อให้ ตัวเองสบายใจ) มาเป็นคนขี้แพ้กันดีกว่า เฮ!
15
31 JAN
วันย้อน
Leonardo Da Vinci มักจะเขียนหนังสือ ด้วยการกลับอักษรหน้าไปหลัง กลับอักษร หลังไปหน้าอยู่เสมอ (เช่น เขียน nomlas แทน salmon) โดยตัวอักษรเหล่านั้นยัง เป็นแบบส่องกระจกอีกต่างหาก และเริม่ ต้น บรรทัดจากทางขวา เพราะเขาเป็นคนถนัด ซ้ายที่เป็นโรค Dyslexia โรคที่คนเป็น มักจะเขียนตัวหนังสือเรียงล�ำดับกลับไป กลับมา หรือเขียนออกมาเป็นตัวอักษร แบบส่ อ งกระจกโดยไม่ ตั้ ง ใจ คนดั ง ๆ ที่ เ ป็ น โรคนี้ เช่ น Andy Warhol, Keanu Reeves, Hans Christian Andersen และ F. Scott Fitzgerald
17
ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าเวลานับ ต้องล�ำดับหนึ่ง สองสาม อะไรก็ต้องเรียงจากหน้าไปหลัง ท�ำมาจนโต บางคนอาจรูส้ กึ ว่ามันช่างไร้รสชาติ! จึงชวนกันมาคิดใหม่ทำ� ใหม่ เปลีย่ นแปลงชีวติ ด้วยการ สลับสเต็ป จากเดิมที่ใช้ชีวิตอย่างซ�้ำซาก เดินตาม ล�ำดับขั้นตอนเดิม ก็ลองเอาล�ำดับสุดท้ายย้ายมา อยู่หน้าสุด! วันย้อน (Backward Day) ถูกสถาปนาขึ้น เพื่อบรรเทาอาการความเบื่อของคนขี้เบื่อ วันที่ 31 มกราคมของทุกปีกำ� หนดให้ทกุ คนท�ำทุกอย่าง ‘กลับ หลัง’ เช่น ใส่เชิ้ตโดยเอาด้านหลังมาไว้ด้านหน้า กลัดกระดุมจากเม็ดสุดท้าย กินข้าวก็จงกินของหวาน ก่อนแล้วค่อยกินของคาว เดินถอยหลัง พูดกลับหลัง เขียนจากหลังไปหน้า ท�ำอะไรกลับหลังตรงกันข้าม ทุกอย่าง โดยมีเหตุผลว่า ‘สนุกดี’ แก้เบื่อแล้วยังช่วยสร้างจินตนาการได้อีกด้วย เพราะความสนุกของวันนี้คือการท้าทายให้เราได้ ทดลองสร้างสรรค์กจิ กรรมประหลาดส�ำหรับตัวเอง และกลุม่ เพือ่ น วัดกันว่าของใครจะพิศวงงงงวยและ สร้างเสียงหัวเราะได้มากกว่ากัน !ยลเนกัดูงอลปไวล้แมอร้พาถ้
2nd SUN, JAN
วันไม่ใส่กางเกง ขึ้นรถไฟฟ้า หน้าหนาวกลางเดือนมกราคมปี 2002 Improv Everywhere (กลุม่ อิสระทีค่ อยหาอะไรพิลกึ มาเล่น ในนิวยอร์ก เพื่อรอดูปฏิกิริยาตอบรับของคนเมือง) คิดแผนการเดิน ‘ถอดกางเกง’ ไปขึ้นรถไฟฟ้า เริ่ม จากกลุ่มตัวเอง 7 คน โดยทุกคนท�ำเป็นไม่รู้จักกัน แต่จะขึ้นรถไฟฟ้าขบวนเดียวกันจากคนละสถานี แล้วพอถูกถามว่า ท�ำไมไม่ใส่กางเกง? พวกเขาจะ ตอบหน้าตายว่า ‘ลืม...’ แผนการนี้สร้างความงุนงงให้คนที่เดินผ่านไป ผ่านมาอย่างยิ่ง แต่กไ็ ด้ผลเกินคาดเพราะ วันไม่ใส่ กางเกงขึน้ รถไฟฟ้า (No Pants Subway Ride Day)
นอกจากวั น ไม่ ใ ส่ ก างเกงขึ้ น รถไฟฟ้ า ก็ยงั มี วันไม่ใส่กางเกง (No Pants Day) ทีจ่ ดั ขึน้ ทุกวันศุกร์แรกของเดือนมิถนุ ายน มาตั้งแต่ปี 1985 หลายคนเข้าใจผิดว่า สองวันนี้เป็นวันเดียวกัน
19
มีคนจ�ำนวนมากมาขอร่วมวงด้วยมากขึ้นทุกปี จาก 7 เป็น 30 เป็น 300 เป็น 1,000 และเกิน 10,000 ไปเรียบร้อย! และจากทีเ่ ริม่ ต้นในนิวยอร์ก ตอนนี้ กระจายไปถึงเม็กซิโกซิตี้ ลอนดอน วอร์ซอว์ ซิดนีย์ ไต้หวัน ฯลฯ รวมกันมากกว่า 50 เมืองใน 20 กว่า ประเทศ ปฏิกิริยาตอบรับมีตั้งแต่โดนต�ำรวจจับ... (ได้รบั การยกฟ้องในตอนหลัง) ถูกผูโ้ ดยสารคนอืน่ ตะโกนต�ำหนิ กลายเป็นข่าวโทรทัศน์สุดฮา ฯลฯ ในเมืองไทยยังไม่ได้ข่าวว่ามีคนกลุ่มไหนริเริ่ม ท�ำตามกลุ่ม Improv Everywhere ใครอยากเปิด ประเดิมก็เตรียมตัว แต่อย่าลืมเตรียมเงินประกันตัว เอาไว้ดว้ ยล่ะ เพราะน่าจะโดนพีต่ ำ� รวจรวบแน่นอน!
Last MON, JAN
วันแผ่นกัน กระแทก
การบีบปุ่มพลาสติกกันกระแทกช่วยลด ความเครียดได้จริงๆ นะ ผลส�ำรวจจาก บริษัท Sealed Air ในเดือนธันวาคม 2011 บอกว่ า ถ้ า บี บ ติ ด ต่ อ กั น แค่ น าที เดียวจะลดความเครียดได้เทียบเท่าการ ไปนวด 33 นาที! ครั้งแรกแผ่นกันกระแทกถูกผลิตมาท�ำ วอลล์เปเปอร์ติดผนังแบบสามมิติ แต่มัน ไม่เข้าท่า ก็เลยถูกเปลี่ยนให้เป็นฉนวนกัน ความร้อน แต่ยิ่งไม่เข้าท่ากว่าเดิม สุดท้าย คนประดิษฐ์จึงคิดว่ามันน่าจะเอามากัน กระแทกได้ดีกว่า แล้วจึงได้มาเป็นแผ่นกัน กระแทกรูปร่างอย่างที่เห็น
21
ปุ ปุ ปุ ปุ ใครจะอดใจอยู ่ เ วลาเห็ น แผ่ น พลาสติ ก กั น กระแทกที่แต่ละปุ่มยังปูดนูนเต่งตึง เรียกว่าเป็นสัญชาตญาณที่ไม่ต้องรอการสอน เป็นแรงกระตุน้ ส่งตรงมาจากระบบประสาท ให้ยนื่ มือ ออกไป... ยกแผ่นพลาสติกกันกระแทกขึ้นมา... เตรียมนิ้วโป้งให้พร้อม แล้วก็... ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ เสียงปุ่มพลาสติกแตกด้วยน�้ำมือของเรา ช่างให้ ความรู ้ สึ ก เดี ย วกัน กับ การได้ก�ำจัด ลูกโป่งสุด ตึง ในหัวให้แตก โพละ! มันท�ำให้หวั เราโล่ง มันเหมือน เราได้รบั การปลดปล่อยหลังจากบีบสิวสุกทีบ่ วมเป่ง อยู่บนใบหน้า เหมือนปัญหาที่มีถูกขจัดออกไปให้ พ้นทาง รู้สึกสบายใจแบบพิกล เพราะความทีเ่ ป็นพฤติกรรมยอดฮิตระดับสากล บริษัท Sealed Air เจ้าของแบรนด์ Bubble Wrap และผู้ผลิตแผ่นพลาสติกกันกระแทกเลยหยิบเอา วันจันทร์สุดท้ายของเดือนมกราคมขึ้นมาตั้งเป็น วันแผ่นกันกระแทก (Bubble Wrap Appreciation Day) เพื่อทุกคนจะได้นึกถึงความสนุกสนานและ มากดๆ บีบๆ ปุม่ พลาสติกกันโดยไม่ตอ้ งหักห้ามใจ อีกต่อไป ถึงมันจะห่อหุ้มอะไรอยู่ มันจะว่างหรือไม่ แต่ถา้ เรารูส้ กึ อยากจะระลึกถึงมัน ขอบคุณเหลือเกิน ที่เกิดมานะเจ้าปุ่มกันกระแทก ก็แค่ยื่นมือออกไป แล้วบีบ... ปุ!