เมื่อไหร่ก็ตามที่ท�ำหนังสือกับ ทีปกร วุฒิพิทยามงคล แทบจะเป็นสูตรว่าเราไม่ สามารถคิดอะไรแบบตรงไปตรงมาได้ หลักฐานคือตัง้ แต่ 100 ขัน้ ตอนสูค่ วามล้มเหลว ทีม่ าจากการคิดสลับขัว้ ว่า ท�ำไมทุกคนเอาแต่แนะน�ำให้ใครต่อใครมุง่ ไปสูค่ วามส�ำเร็จ กันหมด? หรือ 100 ขั้นตอนสู่การเลิกรา ที่เกิดจากจิตหงุดหงิดที่บ่นอุบอิบว่าท�ำไม คนเราต้องมีสัมพันธ์อันดีกันไปตลอดด้วย? แล้วจะประสาอะไรกับหนังสือสอนวาดรูป? ตามคอมมอนเซนส์ การวาดรูปคือทักษะ เป็นความสามารถที่ทุกคนคิดว่าเป็น สิ่งที่ควรค่าแก่การพัฒนา ใครวาดรูปไม่สวย ฝีมือห่วยแตกเท่ากับพัง แล้วพอพังก็ ต้องซ่อม ไม่ซอ่ มก็จะมีปมด้อย นัน่ เป็นผลทีเ่ ราถูกบ่มความเชือ่ กันมาจากวิชาศิลปะ จากความคิดที่เข้าใจว่ารูปน่ะยิ่งวาดสวยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี! จึงมีแต่คนชวนกันให้หันมา วาดรูปสวยๆ กันเถอะ! ทีปกรยักไหล่ ส่ายหัว ถึงเขารู้ว่ามันถูกต้องตามขนบ เป็นไปอย่างที่ถูกที่ควร แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะชวนทีมแซลมอน ให้มองทิศตรงข้าม และมาท�ำหนังสือ สอนคนวาดรูปแบบไม่ต้องวาดรูปสวยกันเถอะ! ดูจากผลงานสารพัดของทีปกร ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นนักวาด ไม่ว่าจะในความ หมายของนักวาดที่เป็นผู้หารายได้จากการวาดภาพ หรือนักวาดที่เป็นผู้คลั่งไคล้ การวาด วาดเป็นกิจวัตร วาดมันทุกที่ และวาดแทบทุกเวลา มองอย่ า งไม่ ล� ำ เอี ย ง ที ป กรไม่ ใ ช่ ค นวาดรู ป สวย งานของเขาห่ า งชั้ น จากค�ำนั้น แต่สิ่งที่ทุกคนสัมผัสได้จากงานของเขานั่นคือความมีเอกลักษณ์ น่ารัก
วาดอย่างอารมณ์ดี ดูแล้วมีความสุข และเป็นงานวาดที่รักจะวาด ลายเส้นยุกยิก เดีย๋ วบูด เดีย๋ วเบีย้ ว แต่กม็ คี นตกหลุมรักลายเส้นของเขามากมาย มีคนจ�ำนวนไม่นอ้ ย พยายามจะวาดให้ได้อย่างเขา แต่จนแล้วจนรอด สิ่งที่ใครก็ลอกไปจากเขาไม่ได้คือ ความสนุกสนานที่แฝงมาตามภาพนั่นแหละ เราแอบคิดไปเองว่า ทีปกรคงมองการวาดภาพของตัวเองเป็นกิจกรรมมากกว่า จะเป็นการพัฒนาทักษะ เขารู้สึกอยากเข้าไปร่วมกิจกรรม มากกว่าจะพาตัวเข้าไป ตกอยู่ในวังวนแห่งการแข่งขันหรือมุมานะจนเกินเหตุ เขาวาดเพราะวาด เพราะมี ความสุขและสนุกที่จะวาด จึงวาด ซึ่งนั่นเป็นส่วนส�ำคัญในการวาดรูปที่แทบจะถูก ลืมไปแล้วในโลกสมัยใหม่นี้ ในหนังสือเล่มนี้ จึงเน้นเรื่องความสุขที่จะวาดรูปและความสุขที่เกิดจากการ วาดรูปมากกว่าสิง่ อืน่ และเพราะไม่คดิ ว่าภาพทีส่ วยงามคือเป้าหมายของการวาดภาพ เสมอไป บวกกับไม่อยากท�ำตัวเป็นหนังสือสอนวาดรูป จึงอุตริเสนอชีวติ การวาดรูป ของทีปกรเสียส่วนใหญ่แทน จะมีแค่สอนวาดรูปอย่างเต็มปากเพียง 1 ใน 3 ของเล่ม เท่านั้น แต่ทั้งมวลก็เป็นการชวนให้เห็นถึงกิจวัตรการวาดรูปของเขา เขามองเห็น อะไรในของบางอย่างจนต้องวาดมันออกมา และรอบตัวของคุณผูอ้ า่ นนัน้ มีอะไรบ้าง ที่น่าสนุกและน่าแปรสภาพมันให้กลายเป็นภาพวาด ใครที่เคยหวาดกลัวการวาดรูป กลัวว่าภาพที่ถูกวาดออกมาจะถูกคาดหวัง สงสารที่มันจะต้องแบกภาระเหล่านั้น และไม่เคยเชื่อว่าการวาดรูปนั้นมีปลายทาง อย่างอื่นนอกจากความสวยงามหรือเขียนแผนที่บอกเส้นทาง ลองอ่านเรื่อง-ภาพของทีปกรดู คุณอาจจะพบว่าที่จริงความสุขหานั้นหาง่าย และอาจหาได้ด้วยดินสอเพียงแท่งเดียว
ส�ำนักพิมพ์แซลมอน
ผมไม่ใช่คนวาดรูปสวยครับ พูดแบบนีค้ นทีก่ ำ� ลังตัดสินใจจะซือ้ หนังสือเล่มนีค้ งรีบวางลงบนชัน้ และคนทีซ่ อื้ หนังสือเล่มนีไ้ ปแล้วคงคิดในใจว่า อุย๊ ซวยละ แล้วจะซือ้ มาท�ำไมเนีย่ แน่เลย เพราะ ดูเหมือนจะเป็นหนังสือสอนวาดรูปนี่นา แล้วถ้าสอนวาดก็ต้องวาดรูปสวยสิ ถ้าวาด ห่วยแล้วจะมาสอนให้วาดรูปห่วยเหรอ? ไม่เข้าท่า! วางละ บาย แล้วก็เดินจากไป อย่างไม่ใยดี เดีย๋ ว! อย่าเพิง่ วางครับ! ผมก�ำลังจะบอกว่า ถึงผมไม่ใช่คนวาดรูปสวย ไม่ได้รำ�่ เรียน มาทางศิลปะ (ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างในการวาดรูปไม่สวยนะ) วาดเส้นก็เบี้ยวๆ เอี ย งกระเท่ เ ร่ เพอร์ ส เปคที ฟ ก็ โ ง่ อนาโตมี ก็ เ ง่ า แต่ ผ มก็ มี ค วามสุ ข กั บ การ วาดรูปมากเลยนะครับ โดยเฉพาะเวลาที่ได้วาดโดย ‘ไม่ต้องสนใจใคร’
ผมรูส้ กึ ว่า การวาดรูปท�ำให้เราได้อยูก่ บั ตัวเองมากขึน้ ในขณะเดียวกันก็ทำ� ให้ได้ อยู่กับสิ่งรอบๆ ตัวมากขึ้นไปพร้อมๆ กันไปด้วย สิ่งที่เคยไม่เห็นมาก่อน พอวาดรูป ก็ได้เห็น สิ่งที่ไม่เคยสังเกต ก็ได้ละเลียดมันอย่างประณีตมากขึ้น การวาดรูปท�ำให้ ได้ใช้ชีวิตช้าลง (เป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะในวันที่ทุกคนใช้ชีวิตแบบวิ่งๆ กันอย่างนี้) เมือ่ รูว้ า่ มีขอ้ ดี ก็เลยคิดอยากชวนให้หลายๆ คนทีท่ อดทิง้ การวาดรูปไปตัง้ แต่สมัย ป.6 หรือคนที่ชีวิตการวาดรูปจบลงที่ ‘หงอคง’ หันมาวาดรูปกันอีกสักทีโดยที่ไม่ ต้องวาดสวย ไม่ต้องวิจิตรเลิศเลอ เอาแค่วาดเพื่อให้มีความสุขและสนุกกับการวาด เท่านั้นนอกจากนั้นคือ ไม่ต้องไปซื้ออุปกรณ์อะไรพิเศษอีกด้วย ถ้ารู้สึกว่าอ่านไปแล้วอยากวาดตามเมื่อไหร่ ก็ขอเชิญคว้าดินสอหรือปากกา มาวาดเล่นลงบนหนังสือเล่มนี้ได้อย่างไม่ต้องกลัวเปรอะ เพราะหนังสือเล่มนี้ ต้องได้ภาพจากผู้อ่านด้วย มันถึงจะเป็นหนังสือที่สมบูรณ์แบบ มา ‘Draw Something’ กันเถอะครับ
ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
Let’s Draw Something
อุปก๊รณ์ อุปกรณ์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ‘Just Draw Something’ ไม่ใช่ ‘Draw Very Beautiful Professional Things’ ดังนัน้ อุปกรณ์ทใี่ ช้กจ็ ะไม่มคี วามซีเรียส ไม่ต้องแอดวานซ์โนเอ็กซ์เพนซีฟติงส์ เราวาดกันเล่นๆ ไม่ใช่จะวาดภาพราคา สามล้านยูโร ฟอร์ฟัน น็อต ฟอร์เซลล์ ดังนั้น อุปกรณ์ที่ใช้ก็จะมี...
ยางลบ เอาที่ไม่ก้าวร้าว ดินสอกดหรือปากกา ไม่เอาแบบที่แม่ง ลบแล้วกินกระดาษ แสนบาดใจเรา จงหา เอาเวอร์ชั่นที่ถนัดมือ ใช้เป็นประจ�ำ คุ้นเคยเป็นอย่างดี ยางลบที่มันนิสัยดีๆ มีความรักใคร่ต่อกันในระดับที่ว่า ทะนุถนอมอ่อนโยน ต่อกระดาษดุจลูกน้อย ถ้าใครขโมยจะเลิกคบ ตบ ในครรภ์ ฆ่าหมกป่า ตามล�ำดับ
ไส้ดินสอกด ในกรณีที่ใช้ดินสอกด ก็ควรจะมีไส้ดินสอกด (จะอธิบายท�ำไม) ไส้ดินสอกดมีความเข้ม หลายแบบ ที่เหมาะกับ การวาดรูปก็จะ 0.5 หรือ 0.7 ถ้า 0.3 เส้น ที่ได้จะดูอ่อน ผมชอบ ที่มันเข้มหน่อยก็ 2B
พลิก ด้านหลัง แล้ววาดเข้าสิ
ไรงี้ เล่มละห้าร้อย า ม อย่าเอา เชียวล่ะ
สมุดวาดเขียน คนที่เริ่มวาดรูปใหม่ๆ จะเกิดอาการแบบ อุ๊ย! ชั้นต้องไปซื้อ สมุดวาดเขียนเล่มใหม่เพื่อกิจนี้โดยเฉพาะนะจ๊ะ แบบ...จะวาดรูปลง ในนี้ให้เป็นเหมือนสมุดของดีไซเนอร์ที่เขาท�ำกันอะจ้ะ แบบ...วาดให้ เต็ม สวย เอาไปขาย เอาไปโชว์ เริ่ด ไรงี้ แต่ปรากฏว่าตั้ง ความหวังไว้เยอะพอวาดได้สองสามแผ่นแล้วก็ทิ้งไป ซื้อสมุดเล่ม ใหม่มาอีกเอยฯ (นี่ประสบการณ์ตรงเลยนะ)
เริ่ม กันเลย นะ!
มนุษย์ไม้ขีดไฟ เวลาชวนคนวาดรูป มักจะได้ค�ำตอบแบบ “เฮ้ย! กูวาดไม่เป็นจริงๆ” อยากจะถามว่ า ตั้ ง แต่ เ กิ ด มาไม่ เ คยวาดรู ป เลย? อย่ า งน้ อ ยต้ อ งเคยวาด ‘มนุษย์ไม้ขดี ไฟ’ บ้างแหละ ไอ้หวั กลมๆ แขนขาเป็นขีดๆ ทีว่ าดสองวิกเ็ สร็จ (ถาม แบบนี้ก็ตอบว่าวาดได้กันทุกคน) ซึ่งเนี่ย เท่านี้ก็วาดรูปได้แล้ว! เพื่อร�ำลึกความหลังครั้งยังเยาว์ ขอให้เลื่อนสายตาไปแถบด้านล่าง จะมี ขัน้ ตอนการวาดรูปต่างๆ ซึง่ ไม่ตอ้ งวาดเหมือนผมเป๊ะก็ได้ จะแหกกฎบ้าง ลัดกฎ บ้าง วาดสวยกว่าผมบ้าง...(สะอื้น) ก็ได้ (สะอื้นอีกที) ซึ่งเราจะเริ่มชวนวาดกัน โดยให้วาดเจ้ามนุษย์ไม้ขีดไฟก่อนนี่แหละ!
15 ถึง �ำไมคน แล้วท ดรูปล่ะ? า หยุดว
นั่นก็เพ
ราะ...
ทำท ไมไม่วาด? หลังจากไปถามบาง คนว่าท�ำไมไม่วาด จนแทบ จะโดนมันเอาเก้าอี้ฟาด อยูแ่ ล้ว ก็มกั จะได้เหตุผล (หรื อ บางคนก็ เ รี ย กว่ า ข้ออ้าง) สี่ข้อนี้ ซึง่ ฟังแล้วก็อมื ...มัน เป็นข้ออ้างทีจ่ ะไม่ทำ� อะไร ซักอย่างนั่นแหละนะ
“ไม่มีเวลาอะ” (แกก็ไม่มีเวลา ท�ำอะไรสักอย่างปะ)
“โอ๊ย วาดไม่สวย” (ก็ไม่ได้ถามว่าวาดสวยไหม ถามว่าท�ำไมไม่วาด)
“กลัวคนอื่นบอกว่าวาดห่วย” “ไม่รู้จะวาดไปท�ำไม (‘คนอื่น’ นี่ใครอะ? เอาเวลาไปท�ำมาหากินดีกว่า” เคยเจอแล้วเหรอ?) (แล้วเธอก็นั่งเล่นเฟซบุ๊คต่อ)
16
้ง แล้วมาวาดรูปกันเถอะ! ตัดความกังวลทิ อย่างที่บอกไปในค�ำน�ำ (ได้อ่านกันปะเนี่ย ถ้ายัง ก็ย้อนไปอ่านนิดนึง ปฏิบัติ!) นี่ไม่ใช่หนังสือที่สอนให้ วาดรูปสวย แต่นี่เป็นหนังสือที่จะชวนกันมาวาดรูป ให้สนุกต่างหาก วาดโดยไม่ต้องมีหลักการอะไรเลย เพราะรู้สึกว่าวาดรูปน่ะสนุกจะตาย แถมมีประโยชน์ อีกต่างหาก เช่น
เย่
แจ่มมาก
กกก
อ้ากกก
ใช้ฆ่าเวลาได้
วาดไปก็เพลินๆ ปะ
เอาไว้บันทึก
17
โรคสมุดสวยซินโดรม ทุกครั้งที่หลงเข้าไปในโซนขายเครื่องเขียนก็มักจะ มัวเมาไปกับสมุดสวยๆ คือฝันฟุ้งไปว่าสมุดสวยๆ จะน�ำมาซึ่งการวาดรูปสวยๆ การเขียนอะไรดีๆ ที่เปี่ยม ไปด้วยแรงบันดาลใจ แต่ปรากฏว่าความจริงซื้อแล้ว ก็เอามาเก็บ ฝุ่นจับเขรอะอย่างน่าอนาถ เปิดมาทีก็ มีรุ้งกินน�้ำที่เกิดจากฝุ่นสะท้อนกับแสงไฟภายในห้อง ทั้งหมดนี้เกิดจากอาการเกร็ง กลัวเขียนแล้วสมุด ไม่สวย ยิ่งสมุดสวยเท่าไหร่ แพงเท่าไหร่ ยี่ห้อดังๆ เล่มละหกร้อยก็ยิ่งไม่กล้าเขียน...บ้า! สมุดเค้าท�ำมาให้ เขียนนะ! ถ้าไม่เขียนมันน่าอนาถกว่าอีก! จงรวบรวมความกล้า ไปขุดสมุดมีราคาออกมา แล้ววาดมนุษย์หัวไม้ขีดลงไปสิบตัวกันเถิด
เห็นสมุดสวยๆ แล้ว บางครั้งก็รู้สึกเหมือน เห็นงูพิษ คือ เห็นแล้วก็นิ่ง เกร็ง ไม่เป็นอันท�ำอะไร
18
ย้อนอดีต เริ่มปาฐกถา ถึงชีวิตวัยเด็ก ที่ผ่านมา
สมัยเด็กเราต้องเคยวาดรูปกันมาทั้งนั้นแหละ ไม่สมัครใจเอง ก็ถูกป๊าม๊าขืนใจลากไปเรียน ผมเป็นพวกแรก ขณะที่เพื่อนๆ ออก ไปเล่นเตะบอลตี่จับขับไล่ ผมตีขาท่าฟรีสไตล์วาดรูปอยู่บ้านเพียง ล�ำพัง เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ดินสอกับกระดาษแค่แผ่นเดียว จะ สร้างแรงบันดาลใจและความสนุกสนานได้มากกว่าการออกไปเล่น ข้างนอก
สิ่งที่วาดช่วงนั้นก็ไม่พ้นตัวการ์ตูนยอดฮิต ที่ปรากฏตามทีวีช่อง 3 ช่อง 9 ซึ่งก็ถูกลอกมา ทั้งลายเส้นเท่าที่ความสามารถจะอ�ำนวย ตัวการ์ตูนยอดฮิตก็พวกนี้ เช่น...
ี่คือ ว่าน ้า... อ ร จเห วสีฟ แน่ใ นต์แม ุบาทว์ หุ่นย ไมมันอ ท�ำ
19
โงคุง ตอนเด็ก ด.ก.บอล ยัง ไม่ยืดเยื้อยาวนานร้อย ตอนไม่จบแบบนี้ เป็น แค่การ์ตูนเกี่ยวกับเด็ก ลิงกับเมฆสีทองเดินทาง รวบรวม ด.ก.บอล
หุ่นยนต์แมวสีฟ้า เหมือนจะวาดง่ายนะ แต่ที่จริงยากมาก เหมือนจะ เป็นวงกลมสองวงต่อกัน จบ เหมือนว่าวาดแมว+จิงโจ้ =หุ่นยนต์แมวสีฟ้า แต่มันไม่จริง เป็นตัวการ์ตูน ที่เอาเข้าจริง วาดยาก นะจะบอก!
จะเห็นว่า ก็ยัง วาดไม่เหมือน สักตัว
สาวกะลาสี เด็กสาวชุดกะลาสีที่มีพลัง จากดวงจันทร์จะลงทัณฑ์ แกเองนี่แหละ เป็นที่นิยม มากในเด็กหญิง พวกเธอ แปะโปสเตอร์เต็มห้อง แต่ถ้าเปิดห้องเด็กชาย ก็จะมีแต่เป็นเวอร์ชั่นที่ ก�ำลังแปลงร่างโป๊ๆ...
20
วิธีทำท การ์ตูนเล่มๆ ด้วยตัวคุณเอง
ถ้าวาดการ์ตูนเป็นรูปยังไม่พอ อยากวาดเป็นเรื่องๆ เล่มๆ ให้เอา สมุดเรียนมา 1 เล่ม
กระท�ำฆาตกรรมโหดโดยการเอา ไม้บรรทัดมาควากๆ ส่วนที่ดึงออกมา (ถ้าใช้ฟุตเหล็กจะตัดได้ตรงกว่ามาก)
แล้วดึงไส้ในของสมุดเล่มนั้น ออกมาอย่างไม่ปรานี
แล้วพับครึ่ง เพียงเท่านี้ ก็จะได้สมุดเล่มเล็ก ไว้เขียนการ์ตูนเป็นของตัวเอง!
21 พอแม่จับได้ ก็โดนด่าแบบนี้...
สมัยก่อนมีสมุดหลายเล่ม ของผมที่ถูกกระท�ำช�ำเราด้วย วิ ธี ก ารนี้ บ ่ อ ยมาก เพราะว่ า เป็นเด็กจินตนาการสูงส่ง (ชม ตัวเอง) คิดอะไรได้ก็ฉีกสมุด ออกมาวาดเป็นเรือ่ ง อย่างไม่มี ทีส่ นิ้ สุด จริงๆ ถ้าหัดหากระดาษ A4 มาวาดให้เป็นเรือ่ งเป็นราวก็ น่าจะเป็นวิธที ที่ รมานใจผูป้ กครอง น้อยกว่านี้
สมัยนั้นสมุดวิชาที่ไม่ชอบ จะถูกฉีกออกมาจนสมุดปกแข็ง กลายเป็นสมุดปกอ่อน
เป็นการ แก้ปัญหาที่... เอ่อ
เลยต้องแก้ไขโดยการฉีกสมุดทุกเล่ม ให้เท่าเทียมกัน แม่จะได้จับไม่ได้
22
เหล่าเพื่อนที่ถูกน�ำมาย�ำในตอนนั้น
เรื่องที่วาดเล่นในสมุด
เขียนไว้เยอะม าก ประมาณ 40 เรื่อง
(ที่ถูกฉีกออกมาจากสมุดเรียนอีกที) ส่วนใหญ่จะ เป็นเรือ่ งการผจญภัยเท่าทีเ่ ด็กๆ พอจะคิดได้ พล็อตเรือ่ ง ไม่ซับซ้อน อ่านแล้วพอรู้ว่ามาจาก การ์ตูนหุ่นยนต์แมว สีฟา้ ย�ำกับเรือ่ งอืน่ อีกที เต็มไปด้วยของวิเศษ เวทมนตร์ ดาบเวทมนตร์ หมวกเวทมนตร์ ของประดิษฐ์ ฯลฯ ส่วน พวกตัวละครก็เอาเพือ่ นสนิทมาใช้ นีเ่ ป็นเทคนิคเรียกร้อง ความสนใจของเด็กที่ไม่มีอะไรอื่นนอกจากวาดรูปได้ (คือถ้าไม่เขียนถึงเพื่อน เพื่อนก็จะไม่อ่านนั่นเอง...)
23
สาเหตุที่สายตาสั้น ก็เพราะเขียนการ์ตูน นี่แหละ...เขียนในที่มืด จนสายตาเริ่มป่วย
พอเขียนการ์ตูนโป๊ แม่ก็จับได้ เป็นที่อับอาย ต่อวงศ์ตระกูล...
พอไม่ถูกกับเพื่อนคนไหน ก็จะเขียนให้คนนั้นตายเร็ว หรือตายด้วยวิธีที่ชั่วร้าย (ช่างเป็นเด็กที่ชั่วจริงๆ)
ตอนเด็กไม่รู้จักสกรีนโทน หรือการลงจุดด้วยคอมพิวเตอร์ ต้องมานั่งจุดเอาเอง แล้วก็ตุตะไปเองว่าท�ำไม นักเขียนการ์ตูนถึงจุดเป๊ะจัง... เวลาเขียนก็ต้องใช้ ปากกาหมึกสีด�ำเขียน เพราะรู้สึกว่ามันเหมือน จริงและเท่กว่าปากกา สีน�้ำเงินเป็นไหนๆ (ตอนนั้นยังไม่รู้จัก ปากกาแอดวานซ์ที่ใช้ วาดรูปแบบทุกวันนี้)
24 หลังจากนั้นพอเข้ามัธยม (ที่ผ่านมาอยู่ ประถมเรอะเนี่ย) ก็เริ่มมีเพื่อนคอเดียวกัน จับกลุม่ กันวาดการ์ตนู แต่ละคนมาจากพืน้ เพ การ์ ตู นที่ต่า งกัน บางคนอ่า นแต่ก าร์ตูน ผู้หญิง รูปที่เธอวาดก็จะเป็น ค�ำสาปฟาโรห์ คือ วาดแบบอื่นไม่ได้แล้ว วาดปกติเหมือน คนอื่นก็ไม่ได้ เหมือนถูกสาปด้วยฟาโรห์ ปกร! ท�ำไมเธอไม่เข้าใจ ฮึ! ที ชพ เ ี งม อ ต้ ว่าแจกันมัน ละไม มีฟอร์ม มีความละมุน ง ข้าถึ เ ม่ อไ เธ ไม่เบี้ยว ท�ำไม ัน จก งแ ขอ จิตวิญญาณ
ถึงผมจะพอวาดการ์ตูนได้ แต่เวลาเรียน วิชาศิลปะก็ต้องปวดใจทุกที เพราะศิลปะตาม หลักสูตรสอนให้เด็กวาดรูปเหมือนจริง พอ วาดไม่เหมือนก็เท่ากับวาดไม่สวย ต้องโดน อาจารย์ปรามาสเสมอๆ ว่า “ท�ำไมถึงวาดแจกัน เบี้ยว”
25 เมื่อมีเพื่อนร่วมกลุ่มมาชี้ทางที่ถูกต้องให้แล้ว ก็เริ่มรู้จักอุปกรณ์วาดรูป ได้หัดวาดการ์ตูน ที่ซับซ้อนมากขึ้น ไม่ต้องมาคอยนั่งจุดหรือขีดเส้นตรง ให้เท่ากันเพื่อเลียนแบบการ์ตูนญี่ปุ่นอีกต่อไป
มีอุปกรณ์ที่ดีขึ้น แต่ก็ยังวาดรูปเบี้ยวๆ เหมือนเดิม
เริ่มรู้จักปากกาสีๆ แท่งหนึ่งเกิน ค่าครองชีพสมัย มัธยมไปหลายหลัก
เริ่มรู้จักปากกาแอดวานซ์ พิกซ์ม่า จีเพ็นต่างๆ ซึ่งตอนนั้นรู้จักไปก็ เหมือนไก่ได้พลอย เพราะใช้ไม่ค่อยเป็น
26
พลังแห่งการ์ตูน ผมมารู ้ สึ ก ถึ ง พลั ง แห่ ง การ์ ตู น หรื อ พลั ง แห่งการวาดรูปก็ตอนขึ้น ม.2 ตอนนั้นมีอาจารย์ วิชาภาษาอังกฤษ ที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมเท่า ไหร่ ชอบเอาข้อสอบที่จะสอบในวันรุ่งขึ้นไปบอก นักเรียนที่เรียนพิเศษกับตัวเองก่อน เช่น พรุ่งนี้ จะสอบเรื่อง Tense วันนี้เรียนพิเศษก็สอนเรื่อง Tense แบบเดียวกันเป๊ะ ส่งผลมาสู่ความไม่พอใจ ของเด็กๆ ที่ไม่ได้เรียนพิเศษกับแก ผมนึกสนุกจึง เขียนการ์ตนู ประชดขึน้ มา (เป็นเด็กชัว่ ๆ ทีร่ า้ ยกาจ แบบนี้มาโดยตลอด) การ์ตูนเรื่องนั้นมีเนื้อเรื่องประมาณว่าอาจารย์คนดังกล่าว เป็นมนุษย์ดัดแปลงมาจากดาวอื่น มาเพื่อดูดสมองของเด็กๆ ให้กลายเป็นมนุษย์สมองกลวง กลายเป็นทาสของแก เหมือน ขบวนการช็อคเกอร์ เด็กๆ ในห้องส่วนที่ไม่ตกเป็นทาส จึงต้อง ต่อสู้กับเด็กที่ถูกล้างสมองไปแล้ว กลายเป็นสงครามที่ต้อง แลกชัยชนะด้วยเลือดเนื้อและน�้ำตา ซึ่งก็จบด้วยความปราชัย ของอาจารย์ตัวร้ายในที่สุด
27
แรกๆ การ์ตูนเรื่องนี้ (ความยาว ประมาณ 32 หน้า) ก็ถูกวนอ่าน เฉพาะเพื่อนในห้องให้เป็นที่ เฮฮาปาจิงโกะ ดีที่ไม่ถูกไล่ออก แค่โดนเรียก ไปเทศน์
แต่หลังจากนั้น มันหลุดไปถึงสายตา อาจารย์ที่เป็นนางเอกของเรื่องได้ ยังไงไม่รู้...เลยถูกเรียกไปเทศน์ ที่ห้องปกครองเลย
อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกเทศน์ ฝ่ายปกครองของ โรงเรียนก็ตัดสินใจให้อาจารย์คนที่ว่าย้ายไปสอนห้องอื่น แล้วห้องเราก็ได้อาจารย์อังกฤษคนใหม่ที่ไม่มีพฤติกรรม แบบนั้นเข้ามาสอนแทน ผมจึงรู้สึกถึงพลังของการ์ตูน ตั้งแต่นั้นมาว่ามันสามารถสื่อสารอะไรให้คนเข้าใจได้จริงๆ (ถึงภาพจะห่วยก็เถอะ) ก็เหมือนกับพวกการ์ตูนการเมือง ที่ลงอยู่ตามหนังสือพิมพ์ มันท�ำให้คนอ่านเข้าใจไอเดียได้ ภายในไม่กี่วินาที
28
หลังจากวาดบนกระดาษพักใหญ่ พอคอมพิวเตอร์ มีการพัฒนามากขึ้น ผมก็หันมาวาดในคอมพ์แทน เริ่มจากวาดด้วยเมาส์หนู ซึ่งต้องใช้ความพยายาม ในระดับเดียวกับการแกะสลักเมล็ดข้าว อัพเกรดสู่ เมาส์ปากกาอันโง่เง่าเต่าตุน่ (หมายถึงรุน่ ทีไ่ ม่คอ่ ยดี) วาดไปก็เส้นสั่นไป แต่ก็อดทน จนปัจจุบันเปลี่ยน เป็นเมาส์ปากกาที่กิริยามารยาทเรียบร้อยดี เส้นไม่ สั่น เป็นช่วงสองสามปีที่ไม่ได้วาดรูปในกระดาษเลย เพราะนั่งที่โต๊ะ วาดกับคอมพ์อย่างเดียว แต่พอวาด กับคอมพ์มากๆ ผมก็รู้สึกคิดถึงการวาดในกระดาษ อยู่เหมือนกัน การวาดบนกระดาษให้ความรู้สึกบาง อย่างที่คอมพ์ให้ไม่ได้ ให้เส้นสายที่เป็นธรรมชาติโดย ไม่ต้องพยายาม และให้ความสุขกับคนวาดมากกว่า อ้อ! พกไปวาดที่ไหนต่อไหนก็ได้ด้วยนะ
29
อุปกรณ์วาดในกระดาษ อย่างเช่นปากกาโคปิก เอาไว้ลงสี (จะพูดถึงอีกที ในบทต่อไปครับ)
สมุดโน้ต เล่มไม่ใหญ่ ไม่หนา ไม่หนัก เพื่อให้พกไปวาด ข้างนอกได้สะดวก
ถึงแม้จะผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการเปลี่ยนแปลงมานักต่อนัก วาดกระดาษ เปลี่ยนไปวาดคอมพ์ แล้วกลับมาวาดบนกระดาษอีกที แต่แจกันของผมก็ยังคงเบี้ยว ไม่เปลี่ยนแปลง อาเมน
เบี้ยวก็เบี้ยวแบบของ เราเอง ต้องภูมิใจซี่!
30
เบี้ยวแล้วจะททำไม เนือ่ งจากเราไม่เน้นการวาดรูปให้เหมือน แต่ เราเน้นการวาดรูปให้สนุก ดังนั้นถ้ามีแจกันก็จง อย่าวาดมันแบบธรรมดา!
นี่คือคุณแจกันที่จะ มาเป็นต้นแบบของ เราในวันนี้
อันนี้แจกันที่ติด เชื้อวัวบ้า
อันนี้แจกันฮิปปี้ เป็นบุปผาชน รักสันติ
31 “คุณแม่ครับ พี่แจกันไปไหนครับ” “อ๋อ พี่แจกันอยู่กับน้องแจกันที่สองน่ะจ้ะลูก” “แล้วน้องแจกันที่สองอยู่ตรงไหนครับ” “อยู่ระหว่างแจกันป้ากับแจกันยายจ้ะ” “แล้วผมจะแยกแจกันป้ากับแจกันยาย ออกมาจากคนอื่นๆ ได้ยังไงครับคุณแม่” “ม...แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ ลูกลองไปถามพ่อแจกันดูสิจ๊ะ” “แล้วพ่อแจกันอยู่ตรงไหนครับ” “...”
100 คน วาดแจกันก็ได้ 100 แบบ คงสนุกกว่าถ้าเราเติมความเป็นตัวเอง เข้าไปในแจกันของเราด้วย เพราะถ้าวาดเหมือนกันหมด โลกคงน่าเบื่อตายเลย เนอะ
แจกันเป็น หมู่เมฆ
32
4 กฎยุกยิก
อย่าเกร็ง
เกร็งแบบ นี้ผิด
ปล่อยให้ดินสอปากกา ท�ำหน้าที่ของมัน
มีกฎอยู่ไม่กี่ประการ ในการวาดให้สนุก อย่างไม่แคร์ใคร อย่าแคร์เสียงนกเสียงกา
วาดในทุกที่ที่ท�ำได้
33
ส�ำหรับผม การทีร่ ปู ของแต่ละคนวาดออกมาไม่เหมือนกัน เป็นเพราะว่าเราสังเกตในสิ่งที่ต่างกันนั่นเอง เราอาจเห็นว่า ถ้าให้วิศวกรมาวาดรูป ก็จะได้รูปที่เน้นโครงสร้างมากมาย ถ้าให้นักพฤกษศาสตร์มาวาดรูป ก็อาจจะได้รูปวาดที่เน้น ความสมจริ ง ของพื ช พั น ธุ ์ น านา ดั ง นั้ น การนึ ก น้ อ ยใจ ว่ า ท� ำ ไมรู ป ที่ เ ราวาดมั น ไม่ ส วยเท่ า คนอื่ น ไม่ น ่ า จะเป็ น เรื่องดี เพราะรูปที่วาดออกมามันก็สะท้อนความเป็นเรา นั่นแหละ เราเป็นอย่างนี้ รูปที่วาดออกมาได้จึงเป็นอย่างนี้ เพราะงั้น อย่าไปเครียด มาวาดให้สนุกกันดีกว่า