Vol.1 No.2 July 2014 ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 ประจ�ำเดือนกรกฎาคม 2557
A DAY TRIP
BANGPU วันเดียว..เที่ยวบางปู
www.fahmai.com
BANG PU..YOU WILL BE SURPRISED บ บางปู..แล้วคุณจะแปลกใจ
างปูเป็นสถานตากอากาศที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ สมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 หรือเมื่อประมาณ 138 ปีมาแล้ว ซึ่งเสน่ห์ของบางปูไม่ได้มีแค่การ ชมนกนางนวลจ�ำนวนมากเพียงอย่างเดียว แต่ยังมี แหล่งพักผ่อนหย่อนใจอีกมากมาย ซึ่งหากจะเที่ยว ชมกันอย่างละเอียด ครบถ้วน เพื่อให้รู้จักบางปู อย่างลึกซึ้งคงต้องใช้เวลาไม่ต�่ำกว่า 3 วัน มาบางปู . .ไม่ ใ ช่ แ ค่ ม าดู น กนางนวลและสู ด อากาศบริ สุ ท ธิ์ อ ย่ า งเดี ย ว แต่ยังมีเรื่องราวและ กิจกรรมทีจ่ ะท�ำให้ นักท่องเทีย่ วอิ่มเอิบใจกลับไป แม้ จะแวะมาเยือนเราเพียงแค่ครู่เดียวก็ตาม..
B
ang Pu has been a popular seaside resort since the reign of King Rama V or 138 years ago. The enchantment of Bang Pu does not lie only in watching a large number of seagulls but also many recreational sites that if one considers to know Bang Pu profoundly, it would take him not less 3 days to visit. Visiting Bang Pu is not just to watch seagulls and inhale fresh air, but there are many other stories and activities that will make visitors happy even though they visit just for a while.
ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ
Chonsawat Asavahame
Chief Executive of Samut Prakan Provincial Administrative Organization
Editor’s Talk ยินดีตอ้ นรับสูเ่ มืองประวัตศิ าสตร์-ธรรมชาติ ท่านผูอ้ า่ นอาจจะ สงสัยว่า นิตยสาร @SAMUTPRAKAN Travel ฉบับนีเ้ ป็นของใคร และมีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะดูจากรายนามผู้เป็นเจ้าของระบุว่า เป็นของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ซึง่ เป็นหน่วยงาน ราชการ แต่รูปเล่มและเนื้อหา จัดวางได้อย่างสวยงามทันสมัย อ่ า นได้ ถึ ง 2 ภาษา หลุ ด จากภาพลั ก ษณ์ ข องความเป็ น เอกสารเผยแพร่ ท างราชการไปอย่ า งสิ้ น เชิ ง ซึ่ ง ทั้ ง หมดนี้ ก็เป็นไปตามเป้าประสงค์ของ อบจ.สมุทรปราการ ที่มีนโยบาย เปลี่ยนภาพลักษณ์ จากเมืองอุตสาหกรรมไปเป็นเมืองท่องเที่ยว เชิงประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ที่ยังคงบริสุทธิ์ สวยงาม และ อุดมไปด้วยเรื่องราวที่น่าค้นหาอีกมากมาย เพียงแต่ที่ผ่านมายัง ไม่ได้รับการเผยแพร่ให้สาธารณชน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวได้ รับรู้เท่าที่ควร ด้วยเหตุนี้เอง นิตยสาร @SAMUTPRAKAN Travel จึงถือก�ำเนิดขึ้น เพื่อเป็นสื่อกลางน�ำสาระดีๆ ที่จะมาบอกกล่าว และเชิญชวนให้ทา่ นผูอ้ า่ นและนักท่องเทีย่ วได้รบั รู้ เสมือนเป็นการ เปิ ด ประตู ต ้ อ นรั บ แขกผู ้ ม าเยื อ นให้ รั บ รู ้ เ รื่ อ งราวดี ๆ ซึ่ ง สิ่ ง ที่ กองบรรณาธิการหยิบยกมาน�ำเสนอ เป็นแค่เพียงเสี้ยวหนึ่งของ มนต์เสน่หแ์ ห่งเมืองประวัตศิ าสตร์และธรรมชาติปากอ่าวไทย ที่ไม่ อาจบรรยายได้ครบถ้วนภายใต้ข้อจ�ำกัดของจ�ำนวนหน้าในแต่ละ ฉบับได้ดเี ท่ากับท่านมาเยีย่ มชมด้วยตาของท่านเอง ลองแวะมาเยือนสมุทรปราการสักครัง้ แล้วท่านจะประทับใจ ระคนประหลาดใจว่าท�ำไม เราจึงมองข้ามเมืองที่มีความสวยงาม อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ไม่แพ้ เมืองท่องเที่ยวใดๆ ที่ส�ำคัญอยู่ใกล้แค่เอื้อมแห่งนี้ ไปได้ มาสมุทรปราการ..แล้วคุณจะแปลกใจ!!!
คุยกับบรรณาธิการ
W
elcome to the Town of History & Nature Readers may wonder about the origin of @SAMUTPRAKAN Travel magazine and to whom it belongs. From the editorial listing, it is said that the owner is Samut Prakan Provincial Administration Organization which is a government agency. However, the design, layout and content are all modern plus being a bilingual magazine make this magazine completely different from other official publications. All of which are in response to the policy and objective of Samut Prakan Provincial Administration Organization to adjust the image of Samut Prakan from an industrial town to a tourism destination with history, natural beauty and many interesting stories that have not yet been publicized to the public, particularly travelers. With the above reasons, @SAMUTPRAKAN Travel was born to be an intermediate bringing good news to readers and also inviting travelers to visit. It is as if we are opening the door to welcome visitors. Good stories that editorial team presents is just a segment of this charming historical and natural town by the Gulf of Thailand estuary. With the limitation of available pages of each issue, words cannot describe as fully everything as you visit and see with your own eyes. Visit Samut Prakan just once and you will be impressed and surprised why you have overlook such a beautiful town with touch of history and nature that is second to none. Most important of all is that it is so close.. Visit Samut Prakan and you will be surprised!!!
แปลโดย : นภาพร สัตยาลัย ภาพ : ภัทรพงศ์ ดิลกโสภณ Translater : Napaporn Satayalai Photographer : Pattarapong Diloksopon
58
22 สารบัญ
CONTENTS
28 6
8 42
46
8 14 22
Samut Prakan Provincial Administration Organization (PAO) Launched “Pleasant Visitation to Samut Prakan” for Tourism Promotion at Thailand Tourism Festival 2014 อบจ.จัดบูทการท่องเที่ยวจังหวัด “รื่นรมย์ ชมสมุทรปราการ” เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2557
Story from Coconut Plantation เรื่องเล่าจากสวนมะพร้าว
Engraving Works Banana Leaf Sheath Cutting
งานสลัก..จ�ำหลักหยวกกล้วย ศิลปะภัณฑ์จาก รั้ววังสู่พื้นบ้าน
Bang Pu it is not Only Bird Watching มาบางปูไม่ได้ดูแค่นก
A Day Trip in Bang Pu
สถานตากอากาศบางปู แหล่งท่องเที่ยวสีเขียวใกล้กรุงเทพฯ
A Day Trip in Bang Pu มนต์เสน่ห์วิถีประมง
A Day Trip in Bang Pu
เที่ยวหลากสไตล์ ในบรรยากาศริมอ่าว
Check In Beautiful View
เช็กอินวิวสวย
Puyai Aoy Longstay Experience Garden Home Way of Life and Indulging in Natural Charms
ผูใ้ หญ่ออ้ ยลองสเตย์สมั ผัสชีวติ บ้านสวน ดืม่ ด�ำ่ มนต์เสน่หธ์ รรมชาติ
Admiring the Scenery.. A Touch of Quaint Art Lat Pho Health Park
ชมทิวทัศน์..สัมผัสงานศิลปะแปลกตา ณ สวนสุขภาพลัดโพธิ์
22 46
จิบ “กาแฟในบ้าน” อบอุ่น เรียบง่าย..สไตล์โฮมเมด
Invigorating Travelers’ Spirits 108 Cycling to Experience 58 Local Way of Life at..Bang Nampheung ปลุกฮอร์โมนนักเดินทาง 82 ปั่นจักรยานเที่ยว..บางน�้ำผึ้ง Art Wat Sarangsok 86 116 Exquisite Artistic Value of Ayutthaya Period facts
ศิลปกรรมวิจิตรศิลป์ ณ วัดสร่างโศก คุณค่าแห่งศิลปะวัตถุยุคกรุงศรีอยุธยา
Air-Raid Shelter 124 A Memorial for Paknam 90 หลุมหลบภัยชุมชนโรงวัว อนุสรณ์สถานของชาวปากน�้ำ Calendar 128 Tourism ปฏิทินท่องเที่ยว told via Lens 130 Story เล่าผ่านเลนส์
104
78
at home”Simple 104 Sipping“coffee Atmosphere..Homemade Style
124
ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 ประจ�ำเดือนกรกฏาคม 2557
ISSUE 2 คณะผู้จัดท�ำ ประธานที่ปรึกษา : นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมุทรปราการ
July 2014
Editorial Team Advisor : Mr.Chonsawat Asavahame Chief Executive of Samut Prakan Provincial Administrative Organization
คณะที่ปรึกษา : Advisory Group : นายอัครวัฒน์ อัศวเหม Mr.Acaravat Asavahame รองนายก อบจ.สมุทรปราการ Deputy Chief Executive of Samut Prakan PAO นายธนภณ คารมปราชญ์ Mr.Dhanabhon Caromprach รองนายก อบจ.สมุทรปราการ Deputy Chief Executive of Samut Prakan PAO นายปิติชาติ ไตรสุรัตน์ Mr.Pitichat Trisurat รองนายก อบจ.สมุทรปราการ Deputy Chief Executive of Samut Prakan PAO นายสายัณห์ รักษนาเวศ Mr.Sayan Raksanaves ปลัด อบจ.สมุทรปราการ Chief Administrator of Samut Prakan PAO คณะท�ำงาน : Working Group : นายธนวัฒน์ กล�่ำพรหมราช Mr.Tanawat Klamprommarach รองปลัด อบจ.สมุทรปราการ Deputy Chief Administrator of Samut Prakan PAO นางสุรีวัน สุขพัตร์ Mrs.Sureewan Sugapat เจ้าพนักงานธุรการ 6ว Clerical Officer นางวรรณดี เกตุนคร Mrs.Wandee Ketnakorn เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 5 Administrative Officer เจ้าของ : องค์การบริหารส่วนจังหวัด สมุทรปราการ ถ.สุทธิภริ มย์ ต.ปากน�ำ้ อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ 10270
Owner : Samut Prakan Provincial Administration Organization Sutpirom Road, Paknam Subdistrict, Mueang Samut Prakan District, Samut Prakan 10270 โทรศัพท์ : 0-2389-0600 Tel : 0-2389-0600 โทรสาร : 0-2395-4560 Fax : 0-2395-4560
พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์ส�ำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เลขที่ 314-316 ถ.บ�ำรุงเมือง เขตป้อมปราบฯ กทม. 10100
Print : Printing Office of National Buddhism. 314-316, Bamrung Mueang Road, Pom Prap Sattru Phai District, Bangkok 10100 โทรศัพท์ : 0-2223-3351 Tel : 0-2223-3351 โทรสาร : 0-2621-2910 Fax : 0-2621-2910
www.fahmai.com
ActivitiesNEWS
6 Activities
ข่
า
ว
กิ
จ
ก
ร
ร
ม
อ
บ
Samut Prakan Provincial
Administration Organization (PAO)
Launched “Pleasant Visitation to Samut Prakan” for Tourism Promotion At Thailand Tourism Festival 2014 อบจ.เปิดบูธส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัด
“รื่นรมย์ชมสมุทรปราการ”
เทศกาลเที่ ย วเมื อ งไทย ปี 2 557
อ
งค์ ก ารบริ ห ารส่ ว นจั ง หวั ด สมุ ท รปราการ ร่ ว มกั บ จั ง หวั ด สมุ ท รปราการ เปิ ด บู ธ ส่ ง เสริ ม การท่ อ งเที่ ย วอย่ า งยิ่ ง ใหญ่ ภายใต้ชื่อ “รื่นรมย์ชมสมุทรปราการ” ในเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจ�ำปี 2557 (Thailand Tourism Festival 2014) ระหว่างวันที่ 4-8 มิถุนายน 2557 ณ ชาเลนเจอร์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน โดยมี นายอัครวัฒน์ อัศวเหม รองนายก อบจ.สมุทรปราการ เป็นผูก้ ล่าว ต้อนรับ นายถาวร วัฒนกุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวรายงาน และมีนายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด สมุทรปราการ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน วัตถุประสงค์การจัดงาน เพื่อน�ำเสนอสินค้าคุณภาพ และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของ จั ง หวั ด สมุ ท รปราการ ให้ เ ป็ น ที่ รู ้ จั ก ในภาคธุ ร กิ จ ผ่ า นโซนต่ า งๆ ที่ถูกจ�ำลองไว้ ในงานอย่างอลังการ ดูแล้วน่าเดินน่าช็อปสุดๆ
S
amut Prakan Province together with the Provincial Administration Organization jointly launched tourism promotional booth under the theme “Pleasant Visitation to Samut Prakan” at Thailand Tourism Festival 2014 on a grand scale. The event was held during 4-8 June, 2014 at Challenger Hall 1, IMPACT Muang Thong Thani. The official inauguration was held on 4 June, 2014 with Mr. Akkrawat Asavahame, Samut Prakan PAO Vice President, gave welcome speech while Mr. Tavorn Wattanakul, Samut Prakan Tourism and Sports Chief, delivered the purpose statement and Mr. Kanit Iamrahong, Samut Prakan Governor, chaired the event and delivered the opening remark highlighting that Samut Prakan would like to present its quality produces and to promote tourism attractions in Samut Prakan to the tourism business sectors through the spectacular mock-up zones which were attractively inviting.
จ.
กรกฎาคม 2557 / July 2014
โซนนิทรรศการ “รื่นรมย์ชมสมุทรปราการ”
ส� ำ หรั บ ใครที่ อ ยากรู ้ ภู มิ ห ลั ง ทางประวั ติ ศ าสตร์ ข องจั ง หวั ด สมุทรปราการ แนะน�ำให้มาเดินโซนนี้ เพราะมีการจัดฉายวีดีทัศน์ แนะน�ำหอชมเมืองฯ “The Pride of Samut Prakan - The Pride of Southeast Asia” พร้อมนิทรรศการแนะน�ำสถานที่ท่องเที่ยวยอด นิยมของจังหวัด ส่วนใครชอบดูงานจักสาน ก็มกี ารสาธิตศิลปหัตถกรรม งานฝีมือท้องถิ่น ให้ ได้ดูกันเสร็จสรรพ หรือถ้าอยากชมการแสดง สะท้อนวัฒนธรรม ก็มีให้ชมในงาน เช่น การแสดงสะบ้า การละเล่น ของชนชาติมอญเก่าแก่ การจ�ำลองประเพณีรับบัว ประเพณีหนึ่งเดียว ในโลก แห่ ง เดี ย วในไทย ขบวนแห่ ห งส์ ธ งตะขาบ และขบวน แห่สงกรานต์พระประแดงอย่างสวยงาม
โซนพระสมุทรเจดีย์จ�ำลอง
7
Exhibition Zone “Pleasant Visitation to Samut Prakan”
For those who would like to know about history of Samut Prakan, they should visit this zone where video presentation introducing Samut Prakan Tower which is considered “The Pride of Smut Prakan - The Pride of Southeast Asia”, including the exhibition introducing tourism attractions in Samut Prakan. For those who love basketry, there were demonstrations of local handicrafts. Or, if you prefer the cultural shows, there were also available such as Saba game - the ancient Mon game, set up of ‘Rub Bua’ (Receiving Lotus Flowers) the only one festival in the world and in Thailand, Swan and Centipede Banner Procession and the elegant Phra Pradaeng Songkran Festival Procession.
มี ก ารจ� ำ ลอง “พระสมุ ท รเจดี ย ์ ” สั ญ ลั ก ษณ์ ข องจั ง หวั ด สมุ ท รปราการมาไว้ ให้ ผู ้ ค นแวะมาสั ก การะ พร้ อ มเดิ น ชมความ สวยงามของพระเจดีย์อย่างใกล้ชิดสมจริง ซึ่งเป็นพระเจดีย์คู่บ้านคู่ เมืองของชาวปากน�้ำมาตั้งแต่อดีต ที่สามารถบ่งบอกถึงวัฒนธรรม อันหลากหลาย และความรุ่งเรืองพุทธศาสนาของชาวปากน�้ำได้เป็น อย่างดี
Phra Samut Chedi Replica Zone
โซนตลาดน�้ำโบราณ
Ancient Floating Market Zone
เป็นโซนจ�ำหน่ายสินค้า OTOP ชุมชน ในบรรยากาศตลาดน�้ำ โบราณจ�ำลอง อันสามารถสะท้อนวิถีชีวิตริมน�้ำได้เป็นอย่างดี ทั้งยัง มีสินค้าจัดจ�ำหน่ายให้เลือกซื้อกันอย่างหลากหลาย อาทิ ชาลีวรรณ ปลาสลิดแดดเดียวบางพลี, น�้ำปลาหวานญาณิศา, เจ้หยีรักษ์สมุนไพร ตลาดคลองสวน 100 ปี, นวดสมุนไพรบางน�ำ้ ผึง้ , เซรัม่ น�ำ้ บุษย์, บุญศรี ขนมชัน้ ตลาดน�ำ้ บางพลีใหญ่, โพธิ์ทองหมี่กรอบสามรส, น�้ำพริกกุ้งเสียบ, สมุนไพรลักลี่วิวบางพลี ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นสินค้าขึ้นชื่อประจ�ำจังหวัด ที่มีคุณภาพระดับ 5 ดาว การันตีความอร่อย
In this zone, OTOP products were on sale in the ancient floating market atmosphere which clearly reflected the way of life along the river. Many famous local products were on sale such as sun-dried gourami fishes from Chaleewan in Bang Phli, Yanisa Fruit Dips, Herbs from Sister Yee in Klong Suan Centennary Market, Bang Nam Pheung Herbal Massage, Serum Numboot, Boonsri Thai Desserts from Bang Phli Yai Floating Market, Phothong Savoury Crispy Noodle, Crispy shrimp in chilli dip, Laklyville Herbs from Bang Phli etc. All products are guaranteed 5 star products of the province.
เรียกได้ว่ามางานเดียวเสมือนได้เที่ยวทั้งจังหวัด เพราะ อบจ.สมุทรปราการ ได้ ย กของดี ข องเด่ น เมื อ งปากน�้ ำ มาจั ด แสดงไว้ ภ ายในงาน เพื่ อ ให้ ทุ ก ท่ า นที่ เ ดิ น ผ่ า นไปผ่ า นมาได้ ช มเมื อ งปราการริ ม ทะเลแห่ ง นี้ ให้รื่นรมย์ สมกับชื่องาน
It can be said that visiting this festival is like taking a tour around Samut Prakan because Samut Prakan PAO brought all the good and famous things of Paknam to exhibit in this festival that visitors would enjoy visiting this festival.
A replica of Phra Samut Chedi, symbol of Samut Prakan, was set up for visitors to pay homage and to admire the beauty of Phra Chedi closely. Phra Samut Chedi has been invaluable pagoda of Samut Prakan since the old days. It stands as a living historical reference for diverse cultures and the prosperity of Buddhism in Paknam.
8
Stories of Paknam ร้อยเรื่องเมืองปากน�้ำ
Story from
Coconut
Plantation เรื่องเล่าจากสวนมะพร้าว
กรกฎาคม 2557 / July 2014
9
10
Stories of Paknam ร้อยเรื่องเมืองปากน�้ำ
สวนมะพร้าวลุงพงษ์ศักดิ์ ช่วงสายๆ ของวัน หลังจากได้รบั ค�ำยืนยันจากเจ้าของสวนให้เข้ามาในพืน้ ที่ได้ พวกเราก็ไม่รอช้ารีบเดินทางจากกรุงเทพฯ เข้าไปในสวนมะพร้าว ทันที แต่ดเู หมือนว่าบรรยากาศของทีน่ จี่ ะสร้างรอยยิม้ ให้กบั ผูม้ าเยือนได้ไม่นอ้ ย ด้วยถนนหนทางทีเ่ ต็มไปด้วยร่มเงาของต้นมะพร้าว ทอดยาวหลาย กิโลเมตรจนถึงสวนของลุงพงษ์ศักดิ์ แถวเถื่อน บุคคลที่เรานัดแนะทางโทรศัพท์ไว้นั่นเอง
กรกฎาคม 2557 / July 2014
Uncle Pongsak’s Coconut Plantation
Late in the morning after receiving phone call from the coconut plantation owner confirming our visiting appointment, we could not wait to make a trip out of Bangkok. It seemed that the atmosphere there could create smiles on all faces with pleasant drive along kilometers of shading coconut groves until reaching Uncle Pongsak Taewtuen whom we had made prior appointment on the phone.
เมื่อมาถึงคุณลุงก็ท�ำหน้าที่เป็นไกด์พา พวกเราเดินชมสวนมะพร้าวอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับเล่าถึงที่มาที่ไปว่า แต่เดิมพื้นที่ตรงนี้ เมื่อ 30 ปีก่อนเคยเป็นสวนมะม่วง แต่พอต้น มะม่วงหมดอายุลง จึงหันมาปลูกต้นมะพร้าวแทน เสมือนเป็นการปลูกพืชหมุนเวียนแบบผสมผสาน เพื่อปรับหน้าดินไปในตัว ท�ำให้ ในพื้นที่ 5 ไร่ นอกจากจะมีต้นมะพร้าวกว่า 400 ต้นแล้ว ยัง ปลูกต้นไม้ชนิดอื่นๆ แทรกเป็นจ�ำนวนมาก ทั้ง กระท้อน มะนาว และพืชผักสวนครัว ไว้ทาน เองในครัวเรือน ด้วยวิธีคิดง่ายๆ หลายอย่างของคุณลุง ท�ำให้พวกเราอึ้งกันอยู่หลายครั้ง เพราะสวน แห่งนี้ ไม่ได้ปลูกมะพร้าวไว้ขายเป็นผลเหมือน สวนทัว่ ไป แต่ปลูกเพือ่ เอาน�ำ้ จากจัน่ มะพร้าวมา ท�ำน�ำ้ ตาล ซึง่ สามารถท�ำเงินได้มากกว่าขายเป็น ผลหลายเท่า ราคาจ�ำหน่ายตกกิโลกรัมละ 40 บาท วันหนึ่งผลิตได้กว่า 30 กิโลกรัม มีลูกค้า เข้ามาซือ้ ถึงในสวนไม่ตอ้ งออกไปเร่ขายให้เหนือ่ ย และทีส่ ำ� คัญคุณลุงแอบกระซิบกับพวกเราว่าขาย หมดทุกวัน ไม่มีเหลือค้างไว้แม้แต่ก้อนเดียว
Uncle Pongsak took the role of friendly tour guide taking us visiting his coconut plantation. He told us that formerly this piece of 30-rai land was mango orchard. But, when the mango trees reached their ages, he then turned to plant coconuts instead. It is integrated crops plantation that could help revitalizing the soil. In the area of 5 rais, he has more than 400 coconut trees and other trees in between such as santol, lime and garden vegetables for household con sumption. His simple thinking made us dumb struck several times because his plantation does not cultivate coconut trees for sale of its fruits as other orchards. But, he turns nectar from coconut blossoms for sugar making which can earn him more money than selling its fruits. The selling price is 40 Baht per kilogram. In a day, his coconut plantation can produce more than 30 kilograms of sugar and the buyers come to pick up from his plantation. He needs not go out selling his produces. The most important of all that he secretly told us is that he sells his produces day by day. At the end of the day, not a single lump left!
11
12
Stories of Paknam ร้อยเรื่องเมืองปากน�้ำ
เมื่อเล่าถึงเรื่องท�ำน�้ำตาลคุณลุงก็ยิ้ม อารมณ์ดีพร้อมท�ำการสาธิตโดยการปีนขึ้นไป บนยอดมะพร้าว ชี้ให้เราดูชดั ๆ ว่าส่วนไหนงวง ส่วนไหนจั่น ส่วนไหนคือขวดพลาสติกที่ผูกไว้ รองน�ำ้ ตาล จากนัน้ เดินน�ำหน้าพาพวกเราเข้าไป ในเพิงสังกะสีเล็กๆ ซึ่งมีป้านิตยา แถวเถื่อน ภรรยาของคุณลุงก�ำลังกวนน�้ำตาลในกระทะ ใบใหญ่อย่างขะมักเขม้นให้ชมแบบสดๆ กัน อีกด้วย ต้นมะพร้าวทีเ่ ห็นทัง้ หมดในสวนของคุณลุง คื อ พั น ธุ ์ ต าลหม้ อ ซึ่ ง เป็ น พัน ธุ์ท้อ งถิ่น ของ บางกะเจ้า ที่คุณลุงเพาะเองกับมือ พันธุ์นี้จะ มีความพิเศษกว่าพันธุ์อื่นๆ ตรงที่สามารถให้ น�้ำตาลได้ ในปริมาณมาก นิยมปลูกกันแถว สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ให้นำ�้ ตาลได้ถงึ วันละลิตรครึง่ ต่องวงเลยทีเดียว นอกจากจะให้นำ�้ ตาลได้มากกว่าพันธุอ์ นื่ ๆ แล้ว ถ้าปล่อยให้ติดผลก็จะได้ลูกมะพร้าวที่รสชาติ
หอมหวานอร่อยไม่เป็นรองใคร ส่วนในเรือ่ งของการดูแลรักษาสวนมะพร้าว ก็มีขนั้ ตอนไม่ยุ่งยาก เพียงดูแลให้ต้นมะพร้าว คอไม่รก และคอยลอกเลนจากร่องสวนใส่ทโี่ คน ต้นปีละครัง้ แค่นตี้ น้ มะพร้าวก็เจริญงอกงามให้ ผลผลิตดี ส่วนเรื่องศัตรูพืชที่เป็นภัยร้ายแรง ทีส่ ดุ จะมีดว้ งไฟ แมลงด�ำหนาม ทีม่ กั จะกัดกิน บริเวณใบ พอกินนานวันเข้าก็ทำ� ให้ตน้ มะพร้าว ตายลงในที่สุด ซึ่งชาวสวนสามารถปราบเจ้า แมลงเหล่านี้ ได้ โดยการปล่อยแมลงแตนเบียน ให้ไปกินไข่ของแมลง เป็นการก�ำจัดศัตรูพชื แบบ แมลงกินแมลง นับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่น่า เอาแบบอย่าง ทัง้ ไม่ทำ� ลายระบบนิเวศ และไม่ ท�ำร้ายผู้บริโภคอย่างเราๆ ด้วย หลังจากนั้นพวกเราพากันเดินชมสวน ไปเรื่อยๆ ผ่านต้นมะพร้าวหลากขนาด ผ่าน ร่องสวนร่องเล็กๆ ผ่านแปลงผักสวนครัว ในบรรยากาศอันร่มรื่น สามารถสร้างความ
ผ่อนคลายให้ผมู้ าเยือนเป็นอย่างดี ไม่นานคุณ ลุงก็เดินมาส่งถึงหน้าสวนพร้อมกล่าวค�ำร�่ำลา ด้วยมิตรไมตรี สร้างรอยยิ้มอบอุ่นให้กับพวก เราก่อนเดินทางออกจากสวนมะพร้าวอันร่มรืน่
กรกฎาคม 2557 / July 2014
13
Talking about making of sugar, Uncle Pongsak smiled heartily showing how to make sugar from the start by climbing up the coconut tree. He showed us which part is the spadix of coconut palm, which is the blossom or which is the plastic bottle to receive the dripping nectar. He then led us to a small corrugated hut where Auntie Nittaya Taewtuen, his wife, was vigorously stirring coconut palm nectar in a large wok. All of coconut trees in Uncle Pongsak’s plantation are the native species of Bang Krachao that he nurtures the seedlings by himself. The specialty of this species is
that it yields nectar in great quantity and is popularly grown in Samut Prakan, WSamut Sakorn and Samut Songkram. A spadix of coconut palm can yield almost one and a half litre a day. Apart from yielding more nectar than other species, if it were left to bear the fruits, it fruits taste second to none. Taking care of the coconut plantation is not complicated. Gardeners need only to get rid of the dried leaf stalks. Once a year dredge the mud from the ditch to cover the bottom of the trees. These will make the coconut trees grow healthily with high yield. The most harmful plant pests are blister beetles and two-colored coconut leaf beetles that damage the leaves and finally make the trees die. Gardeners can contain these plant pests by letting parasitic wasps into the plantation to eat up eggs of harmful pests. This is a local wisdom that uses insects to eat harmful plant pests. It does not spoil ecological system and also is not harmful to consumers like us. Later on, we strolled around the plantation passing coconut trees of various sizes, small ditches, and garden vegetable plots in the atmosphere that is very relaxing. Not long, Uncle Pongsak saw us off at the entrance and said farewell with friendliness. We left the pleasant coconut plantation with a warm smile on our face.
ที่ตั้ง : สวนมะพร้าวลุงพงษ์ศักดิ์ แถวเถื่อน
35/1 ต�ำบลบางยอ อ�ำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ การเดินทาง: เข้าทางพิเศษศรีรชั ไปทางแขวงราษฎร์บรู ณะ ทางออก 1-4 จากทางหลวงพิเศษ เฉลิมมหานคร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทาง 3104 สู่ถนนเพชรหึงษ์ สวนมะพร้าวลุงพงษ์ศักดิ์ จะอยู่ในซอยเพชรหึงษ์ 23 ติดต่อเพิ่มเติม โทร. 0-2461-0792 Location: Uncle Pongsak Taewtuen’s Coconut Plantation 35/1 Soi Petch Hueng 23, Bang Yor Subdistrict, Phra Pradaeng District, Samut Prakan For more information, call 0-2461-0792
14
High Time เยือนบ้านงานมือ
กรกฎาคม 2557 / July 2014
Engraving Works Banana Leaf Sheath Cutting งานสลัก..จ�ำหลักหยวกกล้วย
ง
ศิลปะภัณฑ์จากรั้ววังสู่พื้นบ้าน
านช่างแทงหยวก หรือ งานจ�ำหลักหยวกกล้วย คือการใช้มดี สอง คมแทงลงไปบนกาบกล้วยให้เกิดลวดลายไทยในลักษณะต่างๆ ตามต้องการ จัดเป็นศิลปกรรมแบบไทยประเพณี (Thai traditional art) ที่มีจุดก�ำเนิดและสืบทอดจากงานช่างในราชส�ำนัก ที่เรารู้จักกัน ในชื่อ ช่างสิบหมู่ ประเภทช่างสลักของอ่อน ซึ่งแต่เดิมมีหน้าที่ ส�ำคัญในการประดิษฐ์สงิ่ ของเครือ่ งใช้สำ� หรับพระมหากษัตริย์ พระ ราชวงศ์ พระภิกษุชั้นผู้ ใหญ่หรือสิ่งของที่ถวายเป็นพุทธบูชา รวม ไปถึงการสลักหยวกเพื่อประดับพระเมรุ พลับพลาชั่วคราว และ ตกแต่งจิตกาธานพร้อมเครื่องสดในพิธีพระราชทานเพลิงศพ งาน ช่างสลักนี้ ได้สืบทอดต่อกันมาหลายรัชสมัยจนเกิดเป็นวัฒนธรรม ไทยส�ำหรับชาววัง ไม่นานนักวัฒนธรรมการแทงหยวกได้เริ่มแพร่กระจายไปสู่ ชาวบ้านสามัญชน จากบันทึกจดเหตุกรุงศรีได้มีการระบุไว้ว่า ชาว ไทยเริ่มน�ำหยวกกล้วยมาจ�ำหลักให้สวยงาม เพื่อใช้ประดับตกแต่ง ในสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวในพิธีกรรมทางศาสนา ไม่ว่าจะเป็น เสลี่ยง แท่นบูชาพระ ธรรมาสน์ หรือเชิงตะกอนเผาศพ มานานร่วมร้อย ปีแล้ว แม้แต่ ในวรรณคดีไ ทย เรื่อ งขุน ช้าง ขุน แผน ตอนท� ำ พิ ธี ศ พนางวั น ทอง (ขุนช้างขุนแผนฉบับหอสมุดแห่งชาติ) ก็ ได้ กล่าวถึงความส�ำคัญของการสลักหยวกกล้วยที่งดงามไว้เช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นในงานบุญ งานกุศลเองมีการน�ำต้นกล้วยมาใช้ ใน พิธีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานทอดกฐิน เทศน์มหาชาติ แห่ขันหมาก ลอยกระทงและประกอบเบญจางานโกนจุกต่างก็ใช้ต้นกล้วยทั้งสิ้น ในด้านความส�ำคัญของศิลปะภัณฑ์จากหยวกกล้วยนั้น คุณ ลุงบุญแถม เพ็ชรประดิษฐ์ หรือลุงแถม ครูภูมิปัญญาท้องถิ่น อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ผู้ซึ่งสืบทอดวิธีการแทงหยวก กล้วยแบบดั้งเดิมไว้ บอกว่า ประการแรก ใช้เพื่อประดับตกแต่ง สถานพิธีงานบุญ งานมงคลและอวมงคล ให้ประณีต สวยงาม สมกับเอกลักษณ์ของไทย ประการต่อมาคือ แสดงล�ำดับชั้นของ บุคคล อาทิ หากเป็นชั้นเจ้านาย จะใช้การแทงลายกระจังฟันห้า ฟันสาม ลายกลีบบัวหรือลายเกสร แต่หากเป็นชาวบ้านทั่วไปจะ ใช้ลายกระหนกหรือลายกระจังอื่นๆ ประการสุดท้าย ใช้แทนฟืน ในการเผาศพนั้นจ�ำต้องอาศัยไม้จ�ำนวนมากเกิดความสิ้นเปลือง จึงน�ำต้นกล้วยที่หาได้ง่าย ราคาถูก มาสลักลายใช้ประดับเมรุลอย และเป็นเชื้อเพลิงแทนไม้ไปในตัว
T
he art of banana leaf sheath cutting or carving is the art of using double-edged knife cutting through banana leaf sheath making the desired traditional Thai art designs. It is considered as one of traditional Thai arts that had its origin in the royal palace known as ‘Chang Sip Mu’ (ten divisions of traditional crafts) in carving of soft materials which in the past carving utensils as a tribute to the kings, members of royal family, and senior monks or as an offering to sacred Buddha images was an important court duty. This job would also include carving banana leaf sheath together with fresh flower to decorate royal crematorium and temporary royal pavilion for the royal cremation ceremony. The art of carving banana stalk had been passed on from generation to generation that it became another traditional art from courtiers. Subsequently, the art of carving banana stalk spread from courtiers to layman. From an Ayutthaya archive, there was a note that Thai people started carving banana leaf sheath into exquisite designs long time ago to decorate temporary buildings relating to religious rites be it palanquins, altars, pulpits or funeral pyre. Even in Thai literature ‘Khun Chang-Khun Paen’ (National Library Version) there was a part mentioning the importance of beautiful banana leaf sheath carvings for the funeral rite of Wantong (leading female figure). Not only that, banana trees, leaves and fruits also have been related as required materials in many merit making rituals such as ‘Kathin’ robe offering, ‘Maha Chatika” Grand Sermon, wedding procession, Loy Kratong, topknot shaving ceremony where banana trees play an important role in the decoration. Uncle Boontaem Petchpradit or shortly called ‘Uncle Taem’, the local wisdom guru of Phra Pradaeng District, Samut Prakan who still maintains practicing the original banana leaf sheath carving, recounted that firstly it is used to decorate the venue for the merit making activities both propitious or unpropitious ceremonies with elaborate work of traditional Thai art. Secondly, it is used to depict the social status of the people i.e. if it is for the members of royal family, the designs will be more elaborate than that for a layman. And, lastly it is used as firewood for the cremation which normally consumes a large number of firewood. Therefore, banana trees which are cheap and plentiful are used in making beautiful traditional Thai designs to decorate the temporary crematory and also as fuel instead of firewood.
15
16
High Time เยือนบ้านงานมือ
ลุงแถม เล่าต่อไปว่า เมื่อก่อนช่างสลักในสมุทรปราการยังมีเยอะ ตอนเป็นเด็กเคยเห็นบ่อยๆ ที่ช่างมานั่งแทงหยวกกล้วยกันที่งานศพ บ้าง งานบุญกฐินบ้าง หรือตามงานประเพณีไทยทั่วไป ลวดลายที่เห็น ก็จะแตกต่างกันไปตามความนิยมของท้องถิ่น ไม่มีลักษณะแบบแผน ตายตัว ต่างจากลวดลายที่ใช้ ในวังซึ่งมีแบบแผนชัดเจน แต่เมื่อเวลา ผ่านไปความนิยมก็ลดลง เดีย๋ วนีเ้ ราสัง่ ดอกไม้เป็นช่อๆ มาประดับสถาน พิธีแทนหยวกกล้วย เพราะง่าย รวดเร็ว อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่า และ ประการส�ำคัญก็คือ ช่างพื้นบ้านที่แทงหยวกเป็นนั้น เหลือน้อยลงทุกที จะคงมีอยู่ก็เพียงช่างหลวงและช่างสิบหมู่เท่านั้น การแทงหยวกกล้วยนัน้ เริม่ จากเลือกต้นกล้วยตานีสาวทีย่ งั ไม่ตงั้ ท้อง เพราะจะให้ล�ำต้นตรง ไม่มีเส้นใยเวลาตัด ผิวเรียบ ไม่เปราะหรือ แตกง่าย และมีล�ำต้นอุ้มน�้ำซึ่งจะช่วยให้ไม่เหี่ยวแห้งง่าย จากนั้นตัด หยวกกล้วยตัง้ ทิง้ ไว้ราว 2 วัน เพือ่ ให้นำ�้ ยางไหลออก ก่อนน�ำมาตัดเป็น ท่อนๆ ยาวประมาณ 40 เซนติเมตร ซึง่ ในการตัดนัน้ จะต้องหมุนต้นกล้วย เข้าหาตัวเสมอ เพื่อไม่ให้กาบกล้วยแตกออกจากกัน แล้วจึงลอกกาบที ละชั้น โดยจะต้องสอดนิ้วมือเข้าไปกลางกาบกล้วย ก่อนดันล�ำกล้วยไป ข้างหน้าเช่นเดียวกับการตัด วิธนี จี้ ะช่วยให้ได้กาบทีส่ วยงาม ไม่แตกหัก” ในขัน้ ตอนการแทงหยวกนัน้ ต้องอาศัยประสบการณ์ ความช�ำนาญ และความอดทนในการฝึกฝนสูง จึงนับเป็นเหตุผลหนึ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ ความส�ำคัญน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งการแทงลายนั้นจะไม่มีการร่างเส้นลงบน กาบกล้วยก่อน เพราะจะท�ำให้กาบกล้วยเป็นรอยช�ำ้ ไม่สวยงาม การกรีด ใบมีดต้องรวดเร็วเพื่อให้ลายเกิดความต่อเนื่อง แต่หากไม่ระวังคมมีด
การแทงหยวก จั ด เป็ น งานแกะสลั ก เครื่ อ ง อ่ อ นแขนงหนึ่ ง นอกจากจะ ใช้กาบของต้นกล้วยแล้ว ยัง นิยมใช้ผลมะละกอดิบทีม่ เี นือ้ สีขาว แกะสลักเป็นดอกจอก ซ้อนชัน้ หรือดอกพุดตานย้อมสี ฟักทองแกะสลักเป็นตัวอักษร หรือหัวเผือกแกะลวดลายเป็น รูปสัตว์ชนิดต่างๆ
อาจจะท�ำให้ลวดลายขาดออกจากกัน ส�ำหรับลวดลายที่แทงในแต่ละ งานก็มคี วามเฉพาะแตกต่างกันไป โดยลวดลายทีถ่ อื เป็นพืน้ ฐานของงาน ศิลปะจากหยวกกล้วยไทยและได้รับความนิยมในหมู่ชาวบ้าน คือ ลาย กระจังและลายกระหนก ทีล่ ว้ นมีลวดลายพืน้ ฐานมาจากธรรมชาติรอบตัว ปัจจุบัน ในหลายพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการ ยังคงมีการ อนุรักษ์และให้ความส�ำคัญกับศิลปกรรมแบบไทยประเพณี เฉกเช่น การแทงหยวกหรือจ�ำหลักหยวกกล้วยนี้อยู่ โดยเฉพาะในงานศพจะมี การประดับตกแต่งสถานพิธีอย่างงดงาม ด้วยลวดลายวิจิตรศิลป์จาก เครือ่ งไม้ เครือ่ งสดและหยวกกล้วย นับเป็นภูมปิ ญ ั ญาชัน้ สูงทีถ่ า่ ยทอด มาสูช่ าวบ้านรุน่ แล้วรุน่ เล่า จนเกิดเป็นภูมปิ ญ ั ญาท้องถิน่ ซึง่ มีเอกลักษณ์ แตกต่างกันไป ในอนาคตศิลปะภัณฑ์ชิ้นนี้จะยังคงมีอยู่ให้ลูกหลานเรา ได้เห็นหรือไม่ ก็คงไม่ใช่เพราะใครนอกจากตัวเราเองที่จะร่วมมือกัน สืบทอดและสนับสนุนให้คงอยู่สืบไป..
กรกฎาคม 2557 / July 2014
Uncle Taem further added that formerly in Samut Prakan there were many skilled carvers. When he was young, he remembered seeing those carvers at work carving banana leaf sheath for the funeral, ‘Kathin’ robe offerings or other traditional merit making activities. The designs differed depending on the preference in each location. There was no fixed design which is different from the works for the royal ceremonies that the designs are fixed. However, the popularity dwindled with the passing time. At present, people prefer to order fresh flower bouquets to decorate the ceremonial sites instead of using carved banana leaf sheaths because it is more convenient, faster and cheaper. The most important reason is that local banana leaf sheath carvers are less in number nowadays. Those who remain practicing the banana leaf sheath carving are only the royal artisans and officials ‘Chang Sip Mu’. “To cut the banana leaf sheath, we must start from selecting young banana trees that not yet bare fruits because they will have upright stems, no fiber and the surface is smooth not brittle or easily broken. The trunk is hygroscopic so that it will not easily wither. The banana trees will be cut and left stand for two days to let the banana resin released. After leaving the banana trees for two days, they will be cut into pieces each at about 40 cm. long. The carver has to cut the banana trees by rolling the stem inward so that the leaf sheaths will still be intact. Later, the leaf sheaths will be peeled off one by one by placing the finger into the middle part of the sheath then push the stem forward. By applying this cutting technique, we will have nice sheaths, no breakage.” To master the art of cutting banana leaf sheath requires experience, expertise and patience in training. Therefore, it is the main reason that new generation gives less and less interest in learning. In cutting banana leaf sheath the carver will not draft the design because it will somehow cause damage to the banana leaf sheath. The cutting stroke must be precise and continuous. But, if not being careful, the blade could unintentionally cut the designs at the wrong points. The designs considered as the standard in banana leaf sheath cutting are traditional Thai design such as ‘Krajang’ (decorative design resembling leaf with serrated edge) and ‘Kanok’ (decorative design based on triangle form). Presently, many areas in Samut Prakan has embarked on preserving Thai arts and culture such as the art of cutting banana leaf sheath particularly in the preparation of a funeral where the ceremonial site will be beautifully decorated with elaborate traditional designs in wood carving, fresh flower arrangement and banana leaf sheath cutting. The wisdom in higher traditional arts have been passed among villagers from generation to generation. We never know if this traditional art will still exist in the future. It has to be us, in our generation, who should help carrying on and supporting this wisdom for the future.
ผลงานแทงหยวกของคุณลุงบุญแถม Carving banana stalk pith design
ขอบคุณ..
คุณลุงบุญแถม เพ็ชรประดิษฐ์ ครูภมู ปิ ญ ั ญาท้องถิน่ ผู้ ให้ขอ้ มูลและสาธิตวิธกี ารแทงหยวกกล้วย สอบถามรายละเอียดเพิม่ เติม โทรศัพท์ 08-1332-9065, 0-2816-4039 เลขที่ 9/1 หมู1่ ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ Location : 9/1 Moo 1, Song Kanong subdistrict, Phra Pradaeng District, Samut Prakan For more information: Tel. 08-1332-9065, 02-816-4039
17
18 Cover Story เรื่องจากปก
visited and mentioned to seagull at Bang Pu..
138 years ago when
King Rama V 138 ปี ที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5
ทรงตรัสถึงนกนางนวลที่บางปู คราวเสด็จประพาส (ปากอ่าว) ครั้งเวลา ๑๓.๑๓ นาฬิกา (พุทธศักราช ๒๔๑๙ หรือ รศ.๙๕) เรือพระที่นั่งได้ออกเดินจากหน้าสถูปสมุทรเจดีย์กลางน�้ำ แล่นเรื่อยล่องนาวี จนบรรลุถึงปากอ่าว ณ ที่นั่นสกุณชาติชุมไปด้วยนกนางนวล บางฝูงลอยน�้ำมาจนใกล้ๆ เรือพระที่นั่งห่างเพียงประมาณ ๓-๔ เส้น ลอยเป็น แพ แลน่าชมยิ่งนัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรพลางๆ มีพระราชด�ำรัสในพระราชหฤทัยว่า คราวเสด็จประพาสนี้ เห็นจะมีปลาชุกชุมมาก นกนางนวลจึงชุมขึ้น ที่จริงนกนางนวลนี้งามยิ่งนัก งามจริงๆ งามดีกว่านกยางมาก การทอดพระเนตรชมนกนางนวลของพระองค์ เลยท�ำให้ทรงร�ำลึกถึงกาพย์เห่เรือที่กล่าวถึง เรื่องนกนางนวล นั้นว่า 1
นางนวลนวลน่ารัก ไม่นวลพักตร์เหมือนทรามสงวน แก้วพี่นี้สุดนวล ดั่งนางฟ้าหน้ายองใย
เมื่อพระองค์ทรงร�ำลึกเช่นนี้แล้ว จึงทรงพระราชนิพนธ์เติมโคลงห่อกาพย์ ขึน้ อีกหนึง่ บท เป็นการลองพระราชนิพนธ์สง่ เสริมกาพย์ขนึ้ โคลงทีพ่ ระราชนิพนธ์ ห่อกาพย์เห่เรือนั้น มีข้อความไพเราะดังนี้ 2
นางนวลนางปีกแผ้ว พึงรัก ไม่ผ่องเหมือนนวลพักตร์ นิ่มน้อง แก้วพี่พิมลลักษณ์ ลออเอี่ยม องค์เอย ดั่งอนงค์ในห้อง หกฟ้ามาปูนฯ
นอกจากนี้ พระองค์ยังได้พระราชนิพนธ์ โคลงอักษรล้วน แถมให้อีก หนึ่งบท ดังนี้ นางนวลนึกหนึ่งหน้า นางนวล 3 ชายชิดแช่มช้อยชวน ชื่นชู้ ใส่สิส่งเสียงสรวล สวยสุด ริร�่ำร�ำร่ายรู้เรื่องร้อง เริงรมย์ฯ
จากข้อความข้างต้น แสดงให้เห็นว่านกนางนวลที่บางปู มีมาตั้งแต่สมัย อดีตกว่า 138 ปี มิใช่เพิ่งปรากฏอย่างที่หลายคนเข้าใจ ความตอนหนึง่ จากหนังสือ พระปิยมหาราช (พระเจ้ากรุงสยาม รัชกาลที่ ๕) เรียบเรียงโดย : พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ พิมพ์ครั้งที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗ จัดพิมพ์ โดย : ส�ำนักพิมพ์สุขภาพใจ
An excerpt from the book Phra Piya Maharaja (King Rama V of Siam) Edited by Pladisai Sitthithanyakij 1st publication March 2014 Publisher Sukaparbjai Publishing House
กรกฎาคม 2557 / July 2014
A
(Estuary)
t 13.13 hours the Royal Boat left from the front of Phra Samut Chedi, pagoda in the river, and cruised along until reaching the estuary where seagulls were in large number. Some flocked on the water close to the boat, only about 3-4 sen (120-160 m.). It was a pleasant sight for King Chulalongkorn. During the trip he saw that fish was plentiful therefore seagulls were in large number too. Truthfully, seagulls were beautiful, even more beautiful than egrets.
Seeing seagulls made him recalled an old poetical composition about 1
seagulls comparing seagulls with beautiful girls.
Recalling of such a romantic poem, 2
he then composed his own verse in rhyme comparing seagulls with his loved one.
3
Besides, he also composed another verse in rhyme on the same theme emphasizing on the same leading alphabet in each line.
from annals show to new verity that seagull at Bang Pu was in the old day, not recent date.
19
20 Cover Story เรื่องจากปก
Bang Pu It is not only Bird Watching
กรกฎาคม 2557 / July 2014
21
มาบางปูไม่ได้ดูแค่นก
“บางปู” ตั้งอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติขนาดใหญ่บนอ่าวไทยตอนในของ สมุทรปราการ หรือรูจ้ กั กันดีวา่ เป็นสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วทีน่ า่ สนใจแห่งหนึง่ ของเมืองไทย เพราะด้วยความพร้อมด้านสถานที่ ทั้งโฮมสเตย์ ร้านค้า สวนอาหาร และความพร้อมด้านระบบนิเวศ ไม่วา่ จะเป็นป่าโกงกาง ป่า ชายเลน สัตว์หายากหลายสายพันธุ์ ที่มักพบเจอได้ที่นี่ หรือแม้แต่ความงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นเอง อย่างการอพยพ ย้ายถิน่ ฐานของนกนางนวลธรรมดานับพันๆ ตัว ทีถ่ อื เป็นไฮไลต์หลักของ บางปูทมี่ าแล้วไม่ควรพลาด เพราะเป็นแหล่งพบนกนางนวลธรรมดามาก ที่สุดในไทย และเยอะที่สุดในโลกอีกด้วย ท�ำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดหมาย ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่..บางปู ก็ ไม่ได้มีดีแค่นกนางนวลเท่านั้น @SAMUTPRAKAN Travel ฉบับนี้ จะพาทุกท่านไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวของบางปู ผ่าน เส้นทางท่องเที่ยว 3 สไตล์ ให้ทุกท่านได้เลือกสรรตามใจชอบ อาทิ สถานตากอากาศบางปู, เส้นทางท่องเที่ยวริมอ่าว และเที่ยววิถีประมง ..พอเลือกสรรกันเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางกันเลย
“Bang Pu” is a large natural area of the inner Gulf of Thailand in Samut Prakan. It is well known as a tourist, historical and natural attraction of Thailand completed with availability of facilities such home stay, shops, restaurants and ecological system be it the mangrove forest and many rare species of animals. The natural beauty creation such as the migration of thousands seagulls makes Bang Pu a famous destination for travelers from around the world. But the seagull is not only thing in Bang Pu. @SAMUTPRAKAN Travel will present you to 3 tourist attraction e.g. Bang Pu Seaside Resort, Bay way and Fishermen lifestyle. You can choose the way that prefer and travel in a day.
22 Cover Story เรื่องจากปก
กรกฎาคม 2557 / July 2014
A DAY TRIP
IN BANG PU
สถานตากอากาศบางปู แหล่งท่องเที่ยวสีเขียวใกล้กรุงเทพฯ หากใครก�ำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสีเขียว ที่เพียบพร้อมด้วยกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ เราขอแนะน�ำที่นี่ “ศูนย์ ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี” หรือรู้จักกันดีในชื่อ “สถานตากอากาศบางปู” แหล่ง เรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน มีหอดูนกนางนวลธรรมดา หอชมวิวทิวทัศน์แบบพาโนราม่า สะพานแขวนเชือ่ มจากป่าสูท่ ะเล อ่าวไทย พร้อมเรียนรู้พันธุ์ไม้ชายเลน สัตว์หน้าดินสีสันที่ไม่ควรพลาด และกิจกรรมปลูกป่าชายเลน กิจกรรมสีเขียวที่จะ ท�ำให้หลงรักธรรมชาติอย่างหมดใจ ส�ำหรับใครทีช่ อบใช้ชวี ติ ชิลชิล นัง่ ชมวิวริมทะเล จิบกาแฟร้อนๆ เหม่อมองดูเจ้านกนางนวลบินอวดโฉม ทีน่ กี่ ม็ ใี ห้ชลิ จะเดินเล่นยามเย็น รับลมสบายๆ ชมตะวันลับขอบฟ้า ทีส่ ะพานสุขตาก็โรแมนติกไม่นอ้ ย หรือจะนัง่ กินอาหารทะเลรสเด็ด ในร้านอาหารศาลาสุขใจ ก็อมิ่ อร่อยอย่าบอกใคร และทีส่ ำ� คัญตัง้ อยูใ่ กล้กรุงเทพฯ มาเช้าเย็นกลับได้สบาย
แล้วจะรอช้าอยู่ใย เตรียมสัมภาระให้พร้อม กระชับกระเป๋าให้มั่น กางแผนที่ดูจุดพิกัดให้ชัด แล้วลุยโลด.. แหล่งท่องเที่ยวสีเขียวแห่งนี้ รอคุณอยู่.. Anyone looking for a green tourist attraction completed with environmental conservation activities, we would like to recommend “Bang Pu Nature Education Centre to Commemorate the 72nd Birthday Anniversary of Her Majesty Queen Sirikit” or popularly known as “Bang Pu Seaside Resort”. It is the place where visitors can learn about ecological system of mangrove forest. There are bird watching tower to watch Brow-headed Gulls, panoramic observatory tower, hanging bridge linking the mangrove forest with the Gulf of Thailand for visitors to get acquainted with mangrove trees, colorful marine benthos and mangrove reforestation activity. All are green activities that will make you fall in love with nature wholeheartedly. For those who love chilling out, watching the scenery and seagulls by the sea while sipping coffee, there are many places for chilling out to get cool sea breeze and watching the sun set on the horizon on Sukta Jetty. It is quite romantic. Perhaps you prefer to enjoy yummy seafood at Sala Suk Jai Restaurant, it is quite enjoyable. Most important of all, it is close to Bangkok that you can easily make a one day visit. Why wait any longer? Get your personal belongings ready, checking the trip coordination..then get on the road. This green destination is waiting for you.
23
24 Cover Story เรื่องจากปก
กรกฎาคม 2557 / July 2014
Eco-system
Learning Centre เส้นทางการเรียนรู้ระบบนิเวศนอกห้องเรียน เ
มือ่ เดินทางมาถึงสถานตากอากาศบางปู หลังจากพักเหนือ่ ยให้หายเมือ่ ยล้า กิจกรรมแรกทีไ่ ม่ควรพลาด คือการเดินชมระบบนิเวศสีเขียวของป่าชายเลน ซึง่ ทีน่ เี่ ขาได้จดั ท�ำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไว้อย่างดี เพือ่ ให้นกั ท่องเทีย่ ว ได้ดมื่ ด�ำ่ กับธรรมชาติ ผ่านกิจกรรมต่างๆ อย่างหลากหลาย ทัง้ ส่องนกอพยพ ดูปลาตีนมุดโคลน เรียนรู้พันธุ์ไม้ชายเลน และมีทีเด็ดที่หอชมเรือนยอด ความสูงกว่า 9 เมตร สามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวแบบพาโนราม่า เห็นวิว ทิวทัศน์อันสวยงามสุดลูกหูลูกตา สร้างรอยยิ้มให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ได้มากโขเลยทีเดียว
T
he first activity that you should not miss upon arriving at Bang Pu Seaside Resort is to take a walk visiting the green eco-system of mangrove forest. The trail has been well prepared for visitors to enjoy the nature through diverse activities i.e. watching migratory birds, mudskipper ducking into the mud flat or learning about diversity of mangrove plants. The highlight is the 9-meters high observatory tower with panoramic view that offers endless enchanting scenery.
25
26 Cover Story เรื่องจากปก
ศูนย์อนุรกั ษ์ปา่ ชายเลนบางปูแห่งนี้ มีพนื้ ที่ 338 ไร่ อยูใ่ นความดูแล ระหว่างกรมพลาธิการทหารบก และมูลนิธสิ งิ่ แวดล้อมศึกษาเพือ่ การพัฒนา อย่างยั่งยืน (ประเทศไทย) หรือ FEED ภายใต้การสนับสนุนจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จ�ำกัด ซึง่ ได้รว่ มกันพัฒนาสถานตากอากาศ บางปู ให้เป็นศูนย์กลางการอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม จึงเกิด เป็นแหล่งเรียนรูร้ ะบบนิเวศของเยาวชน ผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ความ ยาวกว่า 2 กิโลเมตร จากผืนป่าด้านหน้าสูท่ อ้ งทะเลด้านหลัง ทีม่ ากพร้อม ด้วยทรัพยากรอันน่าศึกษา ส่วนจะมากขนาดไหน อย่ารอช้า..ตามเรามาเลย This Mangrove Forest Conservation Center covers the area of 338 rais (135.2 acres) is under the joint supervision of Quartermaster Department Royal Thai Army and Foundation for Environmental Education for Sustainable Development (Thailand) or FEED with the support from Toyota Motor Thailand Co.,+Ltd. that jointly develop Bang Pu Seaside Resort to be the center for natural resources and environmental conservation. Therefore, the nature educational trail has been set for the youth to learn about eco-system. The trail is over 2 km. long starting from the mangrove forest in the front to the sea in the back. Let’s start moving on the trail to see how many interesting natural resources are there for us to study.
กรกฎาคม 2557 / July 2014
เส้นทางศึกษาธรรมชาติของทีน่ เี่ ป็นเส้นทางแบบวงรอบ ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ในเส้นทางก็มคี วามน่าสนใจไม่นอ้ ย เริม่ จากเส้นทางด้านซ้าย ผ่านพันธุ์ไม้กว่า 65 ชนิด ซึง่ พันธุ์ไม้ ที่พบมากสุดคือต้นแสมขาว มีมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของป่า ส่วนพันธุ์ไม้ชนิดอืน่ ทีส่ ามารถพบเห็นได้เช่นกันในเส้นทาง ก็จะ เป็น แสมทะเล ล�ำพู โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก โพทะเล ฝาดดอกขาว ปอทะเล ชะคราม ผักเบี้ยทะเล ฯลฯ เดินต่อไปอีกนิดก็จะเจอหอดูนก จุดที่ได้รับความสนใจ จากนักท่องเทีย่ วเป็นอย่างมาก ซึง่ ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะ มีหอดูนก 4 แห่ง เพื่อศึกษาเรื่องราวของนก ในบริเวณบ่อน�้ำ กร่อย ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของนกนานาพันธุ์ ทั้งนกประจ�ำถิ่น และนกอพยพ อาทิ นกนางนวลธรรมดา นกปากแอ่นหางด�ำ นกตีนเทียน นกกินเปี้ยว นกยาง และนกกากบัว ถ้าเดินลึก เข้าไปอีกจะเจอกลุ่มไม้พุ่มใบหลากสีชวนสะดุดตา ไม่ว่าจะ เป็นต้นชะครามทีส่ ามารถน�ำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย เมนู อาทิ แกงส้ม ส้มต�ำ ไข่เจียว แถมยังมีสรรพคุณช่วยลด น�้ำตาลในเส้นเลือดได้ด้วย ถัดจากนั้นจะเจอคลองน�้ำกร่อย เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสัตว์น�้ำหลากชนิด ทั้งปลาตีน ปลากระจัง ปลาจุมพรวด ปูก้ามดาบ และปูแสมก้ามชมพู จากนั้นเดินเข้าสู่สะพานไม้ยกระดับ เป็นเส้นทางที่ตัด เข้าไปในป่าแสมทะเล สุดปลายทางจะมีหอชมวิว ความสูง กว่า 9 เมตร สามารถชมวิวทิวทัศน์ของป่าแสมทะเลได้แบบ พาโนราม่า แถมด้วยสะพานแขวนที่มีความยาว 120 เมตร ทอดยาวจากป่าสู่ทะเลอ่าวไทย เป็นอีกหนึง่ จุดทีน่ ักท่องเทีย่ ว นิยมแวะมาเก็บภาพความประทับใจ ปิดท้ายด้วยการเดินลัดเลาะริมทะเล ชมพื้นที่หาดเลน และป่าชายเลนฟืน้ ฟู ทีป่ จั จุบนั บางจุดแทบจะมองไม่ออกว่านี่ คือป่าชายเลนปลูกใหม่ ซึง่ อีกไม่นานจุดนีน้ า่ จะเป็นป่าชายเลน สีเขียวอันอุดมสมบูรณ์ ให้สตั ว์ทะเลหลากชนิด ได้ ใช้เป็นแหล่ง พักอาศัย และที่ส�ำคัญจะได้เพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้นักท่องเที่ยว และเยาวชนอย่างเราๆ ได้มีพื้นที่เรียนรู้มากขึ้นอีกด้วย
The trail is designed in a circular route. Starting from the left hand side, visitors will see more than 65 species of plants. The most common species is Avicennia alba which is about 70% of all plants in the area. Other species of plant found along the way include Avicennia marina, cork tree, Rhizophora mucronata, Rhizophora apiculata, Portia tree, Lumnitzera racemosa Willd, Hibiscus tilliaceus, Sueda maritime, Sesuvium portulacastrum, etc. A little further is the bird watching tower which greatly attracts visitors. Along the trail, there are altogether 4 bird watching towers for close study about birds in the brackish water area where is the habitat of many birds both native and migratory birds such as Brown-headed Gull, Eastern Black-tailed Godwit, Black-winged Stilt, Collared Kingfisher, Egret, Painted Stork. Walking deeper inside, visitors will see shrubs of diverse colors foliage be it Sueda maritime that we can use as an ingredient to cook delicious menu i.e. spicy and sour soup, spicy salad or Thai style omelet. It also has medicinal property that can help reducing sugar level in the blood system. A little further, there is a small brackish water canal with variety of aquatic animals i.e. Mudskipper, Giant Mudskipper, Blue-spotted Mudskipper, Fiddler Crab and Pink-fingered Vinegar Crab. Then we proceed to the elevated walkway cutting through the Avicennia marina forest and at the end of the walkway there is an observatory tower with the height over 9 m. that visitors can enjoy the view of Avicennia marina forest in 360 degree. Additionally, there is a 120 m. suspension bridge from the mangrove forest to the Gulf of Thailand. It is another photograph taking points that visitors very much enjoy. We finish the tour with the walk along the shore to see mud flat and rehabilitated mangrove forest that is virtually indistinguishable from the original one. Not for long, this area will become fertile mangrove forest where diverse marine animals can take refuge. Another important point is that it will help increasing green area for visitors and youth alike to further study.
27
28 Cover Story เรื่องจากปก
A Not to Miss Highlight
Watching Seagulls ส่องนกนางนวล ไฮไลต์ที่ ไม่ควรพลาด
ส่
องนกนางนวล ถือเป็นไฮไลต์หลักของสถานตากอากาศบางปู เพราะ ทีน่ ขี่ นึ้ ชือ่ ว่าเป็นแหล่งทีพ่ บ “นกนางนวลธรรมดา” มากทีส่ ดุ ในไทย และเยอะที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งในช่วงฤดูหนาวของแต่ละปี นักท่อง เที่ยวจะแน่นเป็นพิเศษ เพราะเจ้านกชนิดนี้จะบินมาอวดโฉมให้ได้ชม กันเป็นฝูงใหญ่ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย และถือว่าที่นี่เป็นสวรรค์ของนักส่องนกเลยก็ว่าได้
W
atching seagulls is considered the major highlight of Bang Pu Seaside Resort because here is the most common site where brown-headed gull are found in great number in Thailand and also in the world. During winter time each year, tourists will come here in a large number to watch seagulls that come in huge flocks. It is a spectacular sight for tourists and probably considered as the heaven for bird watchers.
กรกฎาคม 2557 / July 2014
29
30 Cover Story
1
2
Cr. Photo by www.bloggang.com
เรื่องจากปก
3 1.นกทะเลขาเขียว / Common Greenshank 2.นกปากแอ่นหางด�ำ / Black-tailed Godwit 3.นกกินเปี้ยว / Collared kingfisher 4.นกนางนวล / Seagull
4 นกนางนวลธรรมดา เป็นนกน�้ำขนาด กลาง ที่มีล�ำตัวเป็นสีขาว ยกเว้นคอ และไหล่ จะออกสีเทาจางๆ นกสายพันธุ์นี้เดินทางไกล จากที่ราบตอนในของทวีปเอเชีย แถบทิเบต ด้วยระยะทางกว่า 3,000 ไมล์ อพยพลงใต้ ใน ฤดูหนาว มาอาศัยตามแนวชายฝัง่ ทะเล พบได้ ทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ซึ่งพบมาก ที่สุดที่บางปูนี่เอง นอกจากนกนางนวลที่เป็นดาวเด่นของ บางปูแล้ว ยังมีนกนางนวลอีกหลายชนิดที่ อพยพเข้ามาสร้างสีสัน เช่น นกนางนวลขอบ ปีกขาว นกนางนวลปากเรียว นกนางนวลหลัง ด�ำพันธุร์ สั เซีย นกนางนวลแกลบเคราขาว รวม ถึงนกน�ำ้ ประเภทป่าชายเลนสายพันธุอ์ นื่ ๆ รวม กว่า 240 สายพันธุ์ ที่สามารถพบได้ที่นี่เช่นกัน
คือ นกทะเลขาเขียว นกปากแอ่นหางด�ำ นกหัวโต หลังจุดสีทอง นกอีกอ๋ ยใหญ่ นกยาง นกกาบบัว นกแขวก นกยางเปีย นกพลิกหิน นกทะเลขา แดงธรรมชาติ นกตีนเทียน นกเด้าดิน นกหัว ทรายเล็ก นกชายเลนปากโค้ง นกกาน�้ำเล็ก นกกาน�้ำปากยาว นกกระเต็ น น้ อยธรรมดา นกกินเปี้ยว นกกระเต็นหัวด�ำ และนกกระเต็น อกขาว ฯลฯ ซึ่งถ้าจะบอกว่าที่นี่คือสวรรค์ของ นักส่องนกก็คงไม่ผิดนัก สาเหตุทนี่ กมาอาศัยทีบ่ างปูมาก เนือ่ งจาก พืน้ ที่ในแถบนีม้ แี หล่งอาหารทีอ่ ดุ มสมบูรณ์ ทัง้ อาหารธรรมชาติ พวกสัตว์น�้ำตัวเล็กในป่าชาย เลน และจากคนให้ ซึง่ อาหารส�ำหรับให้นกของ ทีน่ กี่ ด็ จู ะแปลกแหวกแนวกว่าทีอ่ นื่ เขานิยมให้ นกกิน “กากหมู” ซึง่ หลายคนอาจสงสัยว่าท�ำไม
ถึงต้องให้กากหมู เพราะว่าในอดีตร้านอาหารบน สะพานสุขตา มีกากหมูเป็นจ�ำนวนมาก หลายครัง้ ทีน่ กนางนวลแอบมากินกากหมูภายในห้องครัว เหล่าแม่คา้ จึงปิง๊ ไอเดีย เอากากหมูใส่ถงุ เล็กๆ จ�ำหน่ายซะเลย ซึง่ สาเหตุทนี่ กชอบกินกากหมู เพราะว่านกนางนวลธรรมดา สูญเสียพลังงาน จ�ำนวนมากในการเดินทางจากทิเบตมาถึงบางปู มันจึงชอบกินไขมันอย่างกากหมูนนั่ เอง ดังนั้นในช่วงฤดูส่องนก ตั้งแต่เดือน ตุลาคม-พฤษภาคม ของทุกปี สถานตากอากาศ บางปูจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทาง มาดูความสวยงามของนก ซึ่งเจ้านกเหล่านี้ก็ สามารถสร้างรอยยิ้มให้นักท่องเที่ยว ที่มาเก็บ ภาพประทับใจได้อย่างดี
กรกฎาคม 2557 / July 2014
5
6
7
Brown-headed gull is a medium size gull with white body except the neck and shoulder that are in light grey. This breed of bird migrates southward in winter over 3,000 miles from the plateau in Central Asia in Tibetan area to warmer seaside. They can be found in both Andaman Coast and the Gulf of Thailand. The largest migration flocks in Bang Pu. Apart from brown-headed gulls, there are other breeds of gull such as Common Black-headed Gull, Slender-billed Gull, Heuglin’s Gull, Whiskered Ternincluding more than 240 breeds of other shore birds in mangrove forest i.e. Common Greenshank, Eastern Black-tailed Godwit, Pacific Golden Plover, Eurasian Curlew, Egret, Painted Stork, Little Egret, Turnstone, Common Redshank, Black-winged Stilt, Common Sandpiper, Lesser Sand Plover, Curlew Sandpiper, Little Cormorant, Indian Cormorant, Common Kingfisher, Collared Kingfisher, White-throated Kingfisher, etc. It is justified to say that here is the heaven for bird watchers. The reason why such a large number of birds take refuge in Bang Pu is that the area is rich in food sources both natural foods such as small aquatic animals in the mangrove forest and food that fed by people. The feeding for birds here differs from elsewhere because people prefer to feed birds with crispy pork fat bits. Many people may wonder why it is crispy pork fat bits for bird feeding here, the reason is that in the past the restaurant at the end of Sukta Jetty had crispy pork fat bits in abundant and sometimes seagulls sneaked in to eat crispy pork fat bits in the kitchen. Hence, vendors struck the idea to sell the crispy pork fat bits in small plastic bags for bird feeding. Seagulls like eating crispy pork fat bits because they lost a lot of energy in traveling from Tibet to Bang Pu. Thus, oily food crispy pork fat bits can replenish their energy. During the bird watching season from October-May every year, at Bang Pu Seaside Resort is crowded with visitors to watch the natural beauty of these birds. Birds always put a smile on every visitor’s face while taking photographs of impressive moments. 5.นกกาน�้ำเล็ก / Little cormorant 6.นกตีนเทียน / Black-winged Stilt 7.นกยาง / Little Eqret 8.นกหัวโตหลังจุดสีทอง / Pacific Golden Plover 9.นกเด้าดิน / Common Sandpiper)
8
9
31
32 Cover Story เรื่องจากปก
กรกฎาคม 2557 / July 2014
ที่มา : www.wikipedia.org
33
34 Cover Story เรื่องจากปก
World of Marine Benthos…The Colors of
Mangrove Forest โลกของสัตว์หน้าดิน..สีสันป่าชายเลน
ด้
วยระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน ท�ำให้พบสัตว์หน้าดิน อย่างปลาตีน ปลากระจัง ปลาจุมพรวด กุ้งดีดขัน ปูก้ามดาบ แมงดา ทะเล จ�ำนวนมาก นับว่าเป็นอีกหนึง่ สีสนั ที่ ไม่ควรพลาด ส�ำหรับนักท่องเทีย่ ว ที่ ได้มาเยือนที่นี่ ควรหาเวลาสักนิด สังเกตสังกามองไปในโคลนเลน คุณก็จะได้พบกับปลาตีนหลากขนาด คลานกระWดืบๆ ในโคลน เสมือนมีตนี เดินสมกับชือ่ ของมัน ท�ำให้ผมู้ าเยือนอย่างเราๆ ต้องผลิยิ้มหวานๆ ให้กับ พวกมันด้วยความเอ็นดู ในความน่ารักน่าชังของเจ้าสัตว์หน้าดิน สีสัน ของป่าชายเหล่านี้
F
ertile ecological system of mangrove forest is the habitat of many marine benthos such as Mudskipper, Giant Mudskipper, Blue-spotted Mudskipper, Snapping Shrimp, Fiddler Crab, Horseshoe Crab, which offers another colorful experience that visitors should not miss. While being here, take a time looking around in the mud flat, you will find mudskippers of various sizes crawling in the mud as if they had walking feet that is the reason why their given Thai name is ‘Pla Teen’. The sight could easily make us smile.
กรกฎาคม 2557 / July 2014
35
36 Cover Story เรื่องจากปก
ป่าชายเลนบางปู มีสตั ว์หน้าดิน กว่า 67 ชนิด ส่วนใหญ่ จะเจอสัตว์เหล่านี้ได้ ในหาดโคลน อาทิ ปลากระจัง ปลาจุม พรวด กุง้ ดีดขัน หอยแดง หอยขีน้ ก ปูกา้ มดาบ ปูแสมก้ามชมพู แมงดาทะเล ฯลฯ ส่วนทีเ่ ป็นสีสนั ของทีน่ คี่ อื เจ้าปลาตีน สัตว์ น�ำ้ ทีม่ จี ำ� นวนมากสุดในป่าชายเลน ไม่วา่ คุณจะเดินไปทางไหน ถ้ามองลงไปในโคลน ก็สามารถพบเจอปลาตีนได้อย่างง่ายดาย นอกจากปลาตีนที่เป็นทีเด็ดแล้ว ที่นี่ยังมีกุ้งดีดขัน สัตว์ อีกชนิดทีม่ คี วามน่าสนใจไม่แพ้กนั จนมีเรือ่ งเล่าติดตลกว่า ใน อดีตชาวบ้านเอาเจ้ากุง้ ชนิดนี้ไปวางในขันเงิน แล้วกุง้ ก็ดดี เสียง กังวาน ดัง “แป๋งๆ” จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ ถ้าใครอยาก จะฟังเสียงของมันว่าจะดังกังวานขนาดไหน ก็ลองเดินเข้าไป ในป่าชายเลนอย่างเงียบๆ แล้วตั้งอกตั้งใจเงี่ยหูฟังดีๆ ก็จะ ได้ยินสียงปริศนาของสัตว์ชนิดนี้อย่างแน่นอน ท�ำไมถึงบอก ว่าเป็นเสียงปริศนา ก็เพราะกุ้งชนิดนี้มีขนาดเล็ก และมักมุด อยู่ในโคลนเลน เราจึงได้ยินเฉพาะเสียงของมัน หลายคนเริม่ สงสัยว่าท�ำไมทีบ่ างปูถงึ เรียกสัตว์ในป่าชายเลน ว่าเป็นสัตว์หน้าดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บอกกับเราว่า สัตว์หน้าดิน หมายถึงสัตว์ที่ไม่มกี ระดูกสันหลังนัน่ เอง พอได้รบั ค�ำตอบเราก็ ถึงบางอ้อ เข้าอกเข้าใจขึ้นมาโดยทันที เรียกว่าที่นี่เป็นเหมือน บ้านของเจ้าสัตว์หน้าดินหลากชนิดเหล่านี้เลยก็ว่าได้ ถ้านักท่องเทีย่ วท่านใดได้มาเยือนแล้ว ก็อย่าลืมหาเวลา ว่างสักนิด เข้าไปดูเจ้าสัตว์หน้าดินเหล่านี้ให้จงได้ แล้วท่านจะ รู้ว่ามันสร้างสีสันให้ป่าชายเลนได้มากขนาดไหน
1
กรกฎาคม 2557 / July 2014
37
4
5
Bang Pu Mangrove Forest has more than 67 species of marine benthos and mostly are found on mud flat such as Giant Mudskipper, Blue-spotted Mudskipper, Snapping Shrimp, Assiminea sp, Cerithidea, Fiddler Crab, Pink-fingered Vinegar Crab, Horseshoe Crab, etc. Mudskipper is the most colorful and in abundant that wherever you look at in the mud flat you can easily see them. Besides Mudskipper, Snapping Shrimp is another interesting species as well. If you want to know how resonant it can snap, take a quiet walk into mangrove forest and carefully listen you will certainly hear the mysterious sound of this shrimp. We say mysterious sound because this kind of shrimp is very small and hides in the mud that you can not see them. We could hear only the sound they make. Many people may wonder why at Bang Pu they call aquatic animals in the mangrove forest ‘marine benthos’. The response we got from the official is that ‘marine benthos’ means invertebrate animals. Aha, now we understand. Here is the home to those diverse species of marine benthos. Whenever you visit Bang Pu, take a little time to see marine benthos and you will realize how colorful they are to the mangrove forest.
1.ปลากระจัง / Giant mudskipper 2.ปลาตีน / Amphibious fish 3.ปูแสม / Sesarma meder 4.ปูก้ามดาบ / Fiddler crab 5.ปลาจุมพรวด / Blue-spotted mudskipper 6.กุ้งดีดขัน / Snapping shrimp
2
6
3
38 Cover Story เรื่องจากปก
Mangrove Reforestation…
Green Activity ปลูกป่าชายเลน..กิจกรรมสีเขียวยอดฮิต ป
ลูกป่าชายเลน หนึง่ ในกิจกรรมสีเขียวยอดฮิต ของสถานตากอากาศ บางปู เพราะด้วยพื้นที่ในอดีตของที่นี่เป็นป่าเสื่อมโทรม ท�ำให้เกิด การพลิกฟืน้ ผืนป่าอย่างหนัก ในรอบ 10 ปีทผี่ า่ นมา ซึง่ มีการปลูกป่าชาย เลนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันนี้ปลูกไปแล้ว กว่า 400,000 ต้น ในพื้นที่ 200 ไร่ จึงไม่แปลกนักเวลาถามคนมาที่นี่นอกจากดูนกแล้ว จะตอบว่า มาปลูกป่าชายเลน ซึ่งก็เห็นกันผ่านสื่อบ่อยๆ ทั้งเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร มักลงบทความกิจกรรมปลูกป่าชายเลนทีบ่ างปู ปีละหลายๆ หน เราจึงสนใจอยากจะชวนทุกท่านร่วมกันปลูกป่าชายเลน กิจกรรมยอด ฮิตที่ไม่ควรพลาด การปลูกป่าชายเลนของบางปู จะนิยมปลูกต้มแสมขาว ในบริเวณริม หาดโคลน เพราะไม้ชนิดนีส้ ามารถลดการกัดเซาะชายฝัง่ ของน�ำ้ ทะเลได้ และเป็นแหล่งอาหารสัตว์นำ�้ วัยอ่อนทีม่ าอาศัยตามโคลนราก ซึง่ ทีน่ ป่ี ลูก ต้นแสมขาวมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของพืน้ ทีเ่ ลยทีเดียว นอกจากป่าชายเลนจะมีสรรพคุณช่วยลดการกัดเซาะชายฝัง่ แล้ว ประโยชน์อกี อย่างหนึง่ ที่ได้รบั คือเป็นพืน้ ทีเ่ ก็บขยะ เพราะทีบ่ างปูตดิ กับแม่นำ�้ เจ้าพระยา กระแสน�ำ้ จะพัดน�ำสิง่ ต่างๆ จากชุมชนเมืองสูท่ ะเล เป็นจ�ำนวนมาก เวลาน�ำ้ ขึน้ ขยะเหล่านีก้ จ็ ะเข้ามา ป่าชายเลนบางปูจงึ เป็นเสมือนทีเ่ ก็บขยะอันใหญ่โตมโหฬาร เราจึงถามเจ้าหน้าทีด่ ว้ ยความ สงสัยว่าขยะตกค้างเยอะขนาดนีม้ นั ดีหรือไม่ ซึง่ เจ้าหน้าทีก่ บ็ อกกับเรา ว่ามันดีกบั ธรรมชาติรอบข้าง พูดง่ายๆ ถ้าถุงพลาสติก 100 ชิน้ ลอยไป ในทะเล แล้วมีสตั ว์ทะเลกินเข้าไป อย่างเต่าทะเลหลายชนิดทีต่ ายเพราะ กินถุงพลาสติกเพราะนึกว่าเป็นแมงกะพรุน ซึง่ ก็นบั ว่าเป็นประโยชน์อกี อย่างหนึง่ ของป่าชายเลนแห่งนี้ เห็นถึงประโยชน์ของป่าชายเลนทีม่ อี ย่างมากมายเหล่านีแ้ ล้ว ถ้า อยากปลูกก็สามารถติดต่อผ่านศูนย์ศกึ ษาธรรมชาติบางปูฯ ได้เลย แต่อย่า ลืมโทรมานัดแนะล่วงหน้าก็แล้วกัน เจ้าหน้าทีเ่ ขาจะได้จดั เตรียมวิทยากร และพืน้ ทีป่ ลูกไว้รอ ซึง่ โดยปกติแล้วกลุม่ ทีม่ าปลูกป่าชายเลน จะเป็น กลุม่ บริษทั กับกลุม่ เยาวชนทีท่ างโรงเรียนพามาเรียนรูน้ อกห้องเรียน ซึง่ นักท่องเทีย่ วอย่างเราๆ ถ้าอยากลองปลูกเขาก็ยนิ ดี ส่วนใครทีเ่ คยสงสัยว่าปลูกป่าชายเลนเยอะๆ แล้วมันรอดหรือเปล่า เจ้าหน้าที่บอกกับเราว่ารอดเกินครึ่ง และที่นี่ก็ ไม่มีแบบปลูกแล้วถอน
ให้นกั ท่องเทีย่ วเสียความรูส้ กึ แน่นอน เจ้าหน้าทีเ่ ขายืนยัน ส่วนสาเหตุ ที่ปลูกแล้วไม่รอดก็เพราะว่านักท่องเที่ยวปลูกแบบผิดวิธี หรือถ้าปลูก จ�ำนวนมากๆ ความตัง้ ใจจะลดน้อยลงในต้นหลังๆ ซึง่ รูส้ าเหตุแบบนีแ้ ล้ว ถ้ามีโอกาสมาปลูกรอบหน้า ก็จงตัง้ อกตัง้ ใจให้เท่ากันทุกต้นนะ ต้นแสมขาว จะได้รอดทุกต้น ในเรือ่ งของการเตรียมตัว ถ้าตัง้ ใจจะมาจริงๆ ก็นดั แนะล่วงหน้า กับเจ้าหน้าที่ เสร็จแล้วก็อย่าลืมเตรียมชุดล�ำลองพวกกางเกงขาสัน้ ครีม กันแดด แว่นตากันแดด ติดกระเป๋ามาให้พร้อม แล้วอีกหนึง่ สิง่ ทีล่ มื ไม่ ได้คอื รองเท้าบูธ หรือถ้าใครลืมจริงๆ ทีน่ เ่ี ขาก็มีให้ยมื นะ อย่าไปซีเรียส! ถ้าเตรียมของทุกอย่างพร้อมแล้ว จะรอช้าอยู่ใย เห็นหาดโคลน ที่ไหน ก็ลยุ โลด..
กรกฎาคม 2557 / July 2014
M
angrove Reforestation is one of the popular green activities at Bang Pu Seaside Resort. In the past this area used to be degraded mangrove forest. Therefore in the past decade, reforestation program has been launched where more and more mangrove forest area has gradually increased. At present, there are about 400,000 mangrove trees planted in the area of 200 rais (80 acres). Thus, it is not a surprise that apart from bird watching, people visiting Bang Pu always say that they come for mangrove reforestation as well. We often see in the media the mangrove reforestation activities at Bang Pu many times a year, be it in the websites, newspapers or magazines. We would like to invite you to join the mangrove reforestation, the activity that should not be missed. The reforestation at Bang Pu prefers to plant Avicennia Alba along the muddy beach because this kind of plant could help reducing the coastal erosion and it is also the food source for young aquatic
39
animals lodging among the base of the roots. Here, about 70% of all plants in the area are Avicennia alba. Apart from reducing effect of coastal erosion, another benefit is being garbage collecting area. Bang Pu is on the Chao Phraya River where the waste from urban settlements will flow to the sea. At high tide, the waste will flow into the mangrove forest. Thus, Bang Pu Mangrove Forest seems to be a big garbage dump. We ask the responsible official with surprise that such a huge amount of garbage is good or not. His answer is that it is good for the surrounding nature. Let say if 100 plastic bags flow into the sea, aquatic animals would eat them. Many species of sea turtles die of eating plastic bags because they thought it was jelly fish. Therefore, this is another benefit of this mangrove forest. Seeing the many benefits of mangrove forest, if you would like to reforest mangrove you can contact Bang Pu Nature Education Centre. Don’t forget to make prior appointment via telephone so that the officials can arrange for lecturer and the area for reforestation in advance. Normally, the groups coming for mangrove reforestation are corporate groups and students that the schools arrange for learning outside the classroom activities. For visitors like us, they are willing to welcome as well. For those who may wonder whether the huge amount of trees planted under the reforestation program could survive, the official responds that more than half could survive. The official reconfirms that here they do not plant and pull out that would make visitors feel bad. The reason that some do not survive is because they are planted the wrong way, or when planted in a large number the attention will be diminished in the latter part. Now we know the reason, next time we come for reforestation, be more attentive in planting so every mangrove tree will survive. For the preparation, if you intentionally want to join reforestation program, you should make prior appointment with the officials. Don’t forget to bring casual wears, shorts, sun block cream and sunglass. Another thing that you should not forget is boots. If you really forget, here are available on lend. Don’t be serious. Readily preparing everything, don’t wait any longer.. go ahead reforesting when you see any muddy beach..
40 Cover Story เรื่องจากปก
กรกฎาคม 2557 / July 2014
Take a Scenic Stroll on
Sukta Jetty เดินเล่นชมวิวที่สะพานสุขตา..
เ
อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลรสเด็ดที่ศาลาสุขใจ
ดินเล่นชมวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลอ่าวไทย บนสะพานสุขตา ให้เพลิดเพลิน ก่อนแวะชิมอาหารทะเลรสเด็ดทีร่ า้ นอาหารศาลาสุขใจ อีกโปรแกรมยอดนิยมของสถานตากอากาศบางปู ที่มาแล้วต้องลอง ด้วยลักษณะสะพานสุขตาเป็นสะพานปูนยาวกว่า 500 เมตร ยื่นลงไป ในเวิง้ ทะเลสีคราม จึงเป็นสถานทีช่ มนกหลากชนิดทีม่ กั บินว่อนมาสร้าง สีสัน ให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพประทับใจไม่รู้จบ
41
42 Cover Story เรื่องจากปก
โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวของทุกปี จะมีนกบินมาให้ได้ชมกัน มากเป็นพิเศษ สะพานแห่งนีจ้ ะคลาคล�ำ่ ไปด้วยนักท่องเทีย่ วทัง้ ชาวไทย และชาวต่างชาติ ทีม่ าปักมุดเฝ้าชมความงามของธรรมชาติ ซึง่ ปกติ แล้วคนในพื้นที่จะนิยมมาวิ่งออกก�ำลังกายรับลมสบายๆ ช่วงเช้าตรู่ ส่วนช่วงเย็นๆ ตะวันโพล้เพล้วิวทิวทัศน์ของที่นี่ก็สวยงามอย่าบอก ใคร ยิ่งถ้าได้มายืนมองพระอาทิตย์ก�ำลังลาลับขอบฟ้ากับคนรู้ ใจ บรรยากาศจะโรแมนติกขึ้นเป็นทวีคูณ จากนั้นอย่าลืมแวะเข้าไปทานอาหารริมทะเลที่ศาลาสุขใจ อาคารร้านค้าสวัสดิการของกองทัพบก ตั้งอยู่ปลายสะพาน ด้านใน เป็นร้านอาหารทะเลรสเด็ด หลากหลายเมนูให้ได้ลมิ้ ลอง อาทิ ทะเล ลวก ปลากะพงสามรส ข้าวผัดปู กุ้งอบวุ้นเส้น กุ้งเผา กุ้งผัดหน่อไม้ ฝรั่ง กระเพาะปลาน�้ำแดง ย�ำกระเทียมโทน และย�ำเห็ดสามอย่าง เรียกได้ว่าเอาใจคนชอบอาหารทะเลแบบสุดๆ หรือใครทีช่ อบเต้นร�ำทีน่ เี่ ขาก็มกี จิ กรรมฟลอร์ลลี าศ ให้ได้ โยก ย้ายส่ายสะโพกไปกับจังหวะดนตรีสบายๆ ซึง่ จัดขึน้ ทุกวันเสาร์ ตัง้ แต่ เวลา 16.00-20.00 น. และร้านอาหารศาลาสุขใจ เปิดให้บริการทุก วัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. เป็นต้นไป ส่วนที่มาของชื่อ “สะพานสุขตา” เจ้าหน้าที่บอกกับเราว่า มา ที่นี่แล้วมีความสุข มองวิวทิวทัศน์ แล้วสุขตาเหลือเกิน ส่วน “ศาลา สุขใจ” คือเข้ามาอยูแ่ ล้วสุขกายสุขใจ กินอาหารท่ามกลางบรรยากาศ ริมทะเลแล้วมีความสุข ได้ฟงั เรือ่ งเล่าแบบนีแ้ ล้ว ใครทีช่ นื่ ชอบบรรยากาศชิลชิล รับลม เย็นๆ กินอาหารทะเลอร่อยๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด
กรกฎาคม 2557 / July 2014
After which do not forget to drop by at Sala Suk Jai, Army operated shops, at the end of Sukta Jetty. The restaurant offers a large selection of yummy seafood such as par-boiled seafood, snapper with spicy and tangy sauce, fried rice with crabmeat, prawns and vermicelli in aromatic sauce, grilled prawns, stir-fried prawns with asparagus, fish maw in thick soup, spicy garlic salad or spicy three kinds of mushroom salad. Let’s say it is the menu to please seafood lovers. For those who love ballroom dancing, here they have ballroom dancing with the live band every Saturday from 16.00-20.00 hours. Sala Suk Jai Restaurant opens everyday from 10.00-20.00 hours. Regarding the origin of the name Sukta Jetty, the official there told us that because everyone coming here will be happy with the pleasant view that is eye pleasing (Sukta) and for Sala Suk Jai derived from the happiness from enjoying good food by the seaside. Learning of such a story, those who like chilling out in pleasant atmosphere while enjoying good food should not miss this place.
T
aking a stroll on Sukta Jetty to enjoy the pleasant view of the Gulf of Thailand before stopping at Sala Suk Jai Restaurant for yummy seafood are the two popular activities at Bang Pu Seaside Resort that every visitors enjoy. Sukta Jetty is a 500 m. long concrete jetty jutting into the blue sea which makes it a good location to watch variety of birds flying to and fro for visitors to take impressive photographs. During winter time, the number of birds will increase dramatically. The jetty will be crowded with visitors, both foreigners and Thai, who come to enjoy the beauty of nature. Normally, residents in the area prefer to jog here in the early morning. In the evening at dusk the view here is extraordinary beautiful. If you come here to watch the sun set on the horizon with your loved one, the atmosphere will be more romantic by many folds.
43
44 Cover Story เรื่องจากปก
Experiencing the Night Life of Mangrove Forest
Overnight in the Bungalow พักบังกะโล สัมผัสบรรยากาศป่าชายเลนยามค�่ำคืน
ส่
วนนักท่องเที่ยวท่านใดที่อยากสัมผัสบรรยากาศของสถาน ตากอากาศบางปูในยามค�ำ่ คืน ที่นี่เขาก็มีบังกะโลไว้บริการ ด้วยเช่นกัน ทัง้ อาคารพักหลังใหญ่นอนได้หลายคน และบังกะโล หลังเล็กที่เน้นความเป็นส่วนตัว ตั้งอยู่ริมป่าชายเลน อันล้อม รอบด้วยต้นแสมขาว ต้นโกงกาง เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ ท่ามกลางธรรมชาติยามราตรี
F
or visitors who would like to experience the night time atmosphere at Bang Pu Seaside Resort, bungalows are available be it dormitory that can accommodate many people or small bungalows emphasizing on privacy by the mangrove forest surrounded by Avicennia alba and mangrove trees suitable for a relaxation amid the nocturnal nature.
กรกฎาคม 2557 / July 2014
45
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี 164 หมู.่ 2 ถ.สุขมุ วิทสายเก่า ต.บางปูใหม่ อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ 10280 www.facebook.com/bangpunatureFEED www.bangpunature.com ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู)ฯ 0-2709-5005 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ 0-2323-9911 อาคารที่พัก 0-23232422 บ้านพักบังกะโล 0-2323-9530
บังกะโลแห่งนีส้ ร้างขึน้ เพือ่ เป็นสวัสดิการของข้าราชการ ทหารเป็นหลัก แต่นกั ท่องเทีย่ วทัว่ ไปก็สามารถเข้าพักได้เช่นกัน ซึง่ มีทพี่ กั อยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือแบบอาคารทีพ่ กั มีตงั้ แต่หอ้ ง พัก 2 เตียง ห้องพัก 6 เตียง และห้องพัก 9 เตียง ส่วนอีก แบบ คือบ้านพักบังกะโล อาทิ บังกะโลแอร์หลังใหญ่, บังกะโล แอร์ B1-B6, บังกะโลแอร์ A1-A5 และบังกะโลพัดลม อยาก พักสไตล์ไหนก็เลือกสรรตามใจชอบได้เลย บ้านพักทุกหลังล้วนมีสิ่งอ�ำนวยสะดวกอย่างครบครัน ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 500 – 4,900 บาท ส�ำหรับท่านใดที่สนใจ ก็สามารถโทรสอบถามที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้เลย แล้วท่าน จะหลงรักป่าชายเลนในยามค�่ำคืน ณ สถานตากอากาศบางปู อย่างหมดใจ These bungalows were built mainly as welfare for military officials. But, visitors can stay as well. The accommodation is divided into 2 main categories i.e. dormitory with 2-bed rooms, 6-bed rooms and 9-bed rooms; and the other is bungalow type with air-conditioned big bungalows, air-conditioned bungalows B1-B6, air conditioned bungalows A1-A5 and bungalows with electric fans. Choose whatever type you prefer. Every bungalow is fully equipped. The rental rates start from 500-4,900 Baht. For those who are interested, please call the Public Relations Department and you will fall in love the mangrove forest by the night time at Bang Pu Seaside Resort
การเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ กม. 37 ถ.สุขุมวิท (สายเก่า) ห่าง จากตัวจังหวัด 12 กม. รถยนต์ส่วนตัว ใช้ ถนน สุขมุ วิท ผ่านสีแ่ ยกบางนา ส�ำโรง สมุทรปราการ ก่อนถึงปากน�ำ้ ถนนจะเบีย่ งซ้ายไม่ผา่ นตัว เมือง ตรงไปอีก 12 กม. ผ่านเมืองโบราณ สถานตากอากาศ บางปูอยูด่ า้ นขวามือ ตรงข้ามนิคมอุตสาหกรรมบางปู หรือ ใช้ ถนนศรีนครินทร์ซึ่งไปบรรจบกับ ถนนสุขุมวิทสายเก่า ตรงสามแยกการไฟฟ้า เลีย้ วซ้ายไปตาม ถนนสุขมุ วิทสาย เก่า แล้วตรงไปอีก 12 กม. ขอขอบคุณ : พันเอก ณรงค์ฤทธิ์ จันทรกูล รองผูอ้ ำ� นวยการ กองสถานพัก ผ่อน กรมพลาธิการทหารบก นายธีรยุทธ ลออพันธ์พล รองผู้อ�ำนวยการฝ่ายสิ่งแวดล้อม ศึกษาและหัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู)ฯ นายธง ค�ำเกิด เจ้าหน้าทีป่ ระสานงานเครือข่ายและกิจกรรม ภายนอก ขอบคุณภาพจาก : ศูนย์ศกึ ษาธรรมชาติฯ กองทัพบก (บางปู) และ นายภัทรพงศ์ ดิลกโสภน Bangpu Nature Education Centre 164 Moo 2, Sukhumvit Road, Bang Pu Mai Subdistrict, Muang Samut Prakan District, Samut Prakan 10280
Thanks to.
Colonel Narongrit Chandrakul, Deputy Director, Retreat Division, Quartermaster, Royal Thai Army Mr. Theerayut La-orpanpol, Deputy Director, Environmental Study and Bangpu Nature Education Centre Chief Mr. Thong Kumgerd, Networks and Outside Activities Coordinator
A DAY TRIP
IN BANG PU มนต์เสน่ห์วิถีประมง
การมาเที่ยวบางปู นอกจากจะได้สัมผัสถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนที่เราคุ้นเคยแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวแนววิถีประมง ส�ำหรับเอาใจคนชอบเรียนรู้ความเป็นอยู่ของชาวบ้านริมทะเล ว่ามีมนต์เสน่ห์น่าเข้ามาสัมผัสขนาดไหน.. เราจึงอยากชวนผู้อ่าน ไปร่วมเปิดมุมมองและรับรู้เรื่องราวของชาวประมงริมฝั่ง ที่ปัจจุบันยังคงด�ำเนินวิถี ชีวิตแบบเรียบง่าย อยู่บนวิถีทางของความพอเพียง และการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนกับท้องทะเลอย่างลงตัว และที่ส�ำคัญเส้นทางท่องเที่ยวสายนี้ พร้อมเปิดรับทุกท่านเข้าไปสัมผัส เพื่อเรียนรู้วิถีชาวประมงไปพร้อมๆ กัน..
A visit to Bang Pu you will be exposed to an abundance of mangrove trees. Another way, there are lots of trails, fishing way, for traveler who love to learn about the local way and looking for charming in the past. We would like to invite you open to the views and experience of fisherman that is still a simple lifestyle, self-sufficiency and coexistence between the community and the ocean. This way is ready to serve the new experience by learning the ways of fishing together.
48 Cover Story เรื่องจากปก
กรกฎาคม 2557 / July 2014
49
ความเรียบง่ายแบบชนบทดั้งเดิม ที่มีเสน่ห์และกลิ่นอายของความเป็นไทยที่ไม่ต้องปรุงแต่ง feel the touch of simple rural life which is charming with authentic Thai essence
50 Cover Story เรื่องจากปก
Take a Tour to Sala Daeng Canal
Fisherman life style ท่องเที่ยวคลองศาลาแดงสัมผัสชุมชนริมน�้ำ..เพลินวิถีชาวประมง
ณ ชุมชนคลองศาลาแดง ที่แฝงอยู่บนเอกลักษณ์และความเรียบง่ายตามแบบฉบับของวิถีชีวิตชาวประมง ที่ยังคงประกอบอาชีพพื้นบ้านสืบถอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน Klong Sala Daeng Community is Unique identity and Simplicity of the Fisherman Way of Life Wher fishery is their main Occupation, same as their ancestors.
ก
ารเดินทางในวันนี้ เราเริ่มต้นจากซอยเทศบาลบางปู 21 ซึ่งเป็นทาง เข้าของชุมชนคลองศาลาแดง พวกเราตกลงกันว่าจะปั่นจักรยานลัด เลาะตามทางปูนเล็กๆ ที่ทอดยาวสู่หมู่บ้านเชื่อมโยงระหว่างความเจริญ ภายนอกกับความเงียบสงบที่ซ่อนอยู่ภายใน เราปั่นมาเรื่อยๆ ท่ามกลาง แสงแดดอุ่นๆ และอากาศสดชื่นเย็นสบายก�ำลังดี จนในที่สุดก็มาถึงจุด หมายโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ “ชุมชนคลองศาลาแดง” พวกเราสัมผัสได้ถึงความ เรียบง่ายแบบชนบทดั้งเดิม ที่มีเสน่ห์และกลิ่นอายของความเป็นไทยที่ไม่ ต้องปรุงแต่งอะไรมากหลงเหลืออยู่ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่จะมีอาชีพประมง ซึ่งในทุกเช้าจะสามารถพบเห็นเรือประมงที่ออกไปหาปลาในช่วงกลางคืน ทยอยเรียงแถวเข้าเทียบท่า เพือ่ น�ำปลา กุง้ และปูจำ� นวนมากขึน้ ฝัง่ ก่อนจะส่งต่อให้กบั พ่อค้าทีม่ า รับซือ้ ไปจ�ำหน่ายในตลาดปากน�ำ้ พวกเราเดินชมไปเรือ่ ยๆ ก่อนจะแวะซือ้ อาหารทะเล สด ใหม่ และถูก จากมือชาวประมงเป็นของกลับไปฟากคนทีบ่ า้ น
กรกฎาคม 2557 / July 2014
51
Out trip started at the entrance to Soi Tesaban Bang Pu 21 which is leading to Klong Sala Daeng Community. We agreed to ride the bicycles along the narrow paved way linking the outside civilization to the community. We continued riding leisurely as the weather was pleasant until we arrived at our destination without tiredness. Upon entering the ‘Klong Sala Daeng Community”, we could feel the touch of simple rural life which is charming with authentic Thai essence. Most of the villagers live on fishery. Every morning, fishing boats that left for the night round fishing gradually return ashore taking in their catches be it fishes, prawns and crabs before selling to vendors who come to buy the catches for reselling in Paknam Market. We took a stroll before stopping to buy fresh and cheap seafood from the fishermen. After walking for awhile, the sun got higher we changed our mode of transportation to take a boat cruising in the canal admiring the fertility of the mangrove forest that serves as the home for birds and diverse marine creatures. On the way we stopped at Royal Thai Naval Dockyard Department to pay homage to the statue of King Rama before heading to the open sea to visit Wat Khun Samut Chine. Along the way we noticed row of electricity posts in the middle of the water which is an exotic sight created by the effect of erosion by sea water that took away the land. Before heading back to Klong Sala Daeng Village, we visited ‘shrimp nursery’ and ‘crab nursery’, the main occupations of villagers at Phra Samut Chedi. The big red sun was about to set from the golden sky, it was the signal for us to end our fun filled day. For those who are interested in taking a new dimension of travel to a place close to Bangkok be it taking a cruise in the gulf of Thailand or other activities in Klong Sala Daeng Community, please contact Khun Naiyanetra 08-5358-6013 and Khun Surachai 08-1931-7655
หลั ง จากเดิ น มาได้ สั ก พั ก เมื่ อ พระอาทิ ต ย์ เ ริ่ ม เคลื่ อ นตั ว สู ง ขึ้น พวกเราเปลี่ยนอิริยาบถด้วยการล่องเรือสบายๆ ชมทัศนียภาพอัน สวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน ซึ่งเปรียบเสมือนบ้าน ของ นก และสัตว์ทะเลนานาชนิด โดยระหว่างทางเราแวะกรมอูท่ หารเรือ สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ก่อนที่จะมุ่งหน้าออกสู่ทะเล อ่าวไทย เพือ่ ไปยังวัดขุนสมุทรจีน โดยตลอดสองข้างทางเราจะสามารถ พบเห็นเสาไฟฟ้าตัง้ อยูก่ ลางทะเล เป็นภาพแปลกตาอันเกิดจากการกัด เซาะของน�้ำทะเลจนท�ำให้แผ่นดินจ�ำนวนมากหายไป จากนั้นเราได้มี โอกาสแวะชม “วังกุ้ง” “วังปู” อาชีพหลักของชาวบ้านพระสมุทรเจดีย์ ก่อนจะหันหัวเรือกลับหมูบ่ า้ นคลองศาลาแดงในขณะทีด่ วงตะวันกลมโต ก�ำลังคล้อยลับท้องฟ้าสีทองอร่าม ซึง่ เป็นสัญลักษณ์ของการสิน้ สุดการ เดินทางอันแสนสนุกในวันนี้ของพวกเรา ส�ำหรับผู้ที่สนใจท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ใกล้กรุง ทั้งในรูปแบบ การล่องเรือชมอ่าวไทย หรือกิจกรรมอื่นๆ ใน“ชุมชนคลองศาลาแดง” สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณนัยเนตร 08-5358-6013 และคุณ สุรชัย 08-1931-7655..
ที่อยู่ : ชุมชนคลองศาลาแดง
ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ต�ำบลท้ายบ้าน อ�ำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ Location : Klong Sala Daeng Community Moo 6, Tai Baan Subdistrict, Mueang Samut Prakan District, Samut Prakan
52 Cover Story เรื่องจากปก
กรกฎาคม 2557 / July 2014
53
ภาพเรือประมงพื้นบ้าน, ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต อันเรียบง่ายของชาวบ้าน ณ ชุมชนคลองศาลาแดง Local fishing Boat : indicate to suffice way of life. at Klong Sara Daeng community.
54 Cover Story เรื่องจากปก
Visit to ‘School Outside the Shell’
Seafront Community เยี่ยมชมโรงเรียนนอกกะลาแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาชุมชนริมทะเล ส�ำหรับท่านทีช่ อบท่องเทีย่ วพักผ่อนด้วยการท�ำกิจกรรมสนุก มากด้วยความรูท้ หี่ าไม่ได้จากในต�ำรา เราขอพาท่านไปรูจ้ กั เรือ่ งราวของ “คลองเสาธง” ชุมชนประมงแห่งหนึ่งในต�ำบลบางปูใหม่ ที่พวกเขาร่วมมือกันใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการอนุรักษ์วิถีชีวิตชุมชนทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ระบบนิเวศในชุมชน และสิ่งแวดล้อม ในรูปแบบการเรียน ให้รู้ด้วยตัวเองของ “โรงเรียนนอกกะลาบ้านลุง สอนหลาน” ซึ่งมีชื่อเสียงและความชัดเจนโดดเด่นไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนๆ ของจังหวัดสมุทรปราการ
ด้
วยความกระหายใคร่รแู้ ละความตืน่ เต้นต่อสิง่ ทีจ่ ะได้พบเจอในวันนี้ เรา จึงไม่รอช้ารีบออกเดินทางแต่เช้าไปถึงชุมชนคลองเสาธงกันตั้งแต่ เช้าตรู่ โดยมีนายบรรเจิด อุดมสมุทรหิรัญ หรือ ลุงมะโหนกของเด็กๆ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนนอกกะลาบ้านลุงสอนหลาน รอรับและพาพวกเราไป ยังห้องเรียนที่สร้างขึ้นจากวัสดุเหลือใช้รอบๆ ชุมชน อย่างเรือเก่า เศษ ไม้ที่ลอยมาตามน�้ำ รวมถึงโต๊ะเรียนที่ไม่ใช้แล้ว เป็นห้องเรียนสอนพวก เราเกี่ยวกับความรู้ภาคทฤษฏี เช่น หลักสูตรวิชาท้องถิ่น วิชาประมงพื้น บ้าน วิชานิเวศหาดโคลน และวิชาอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คน ชาวทะเลจะต้องทราบ เสร็จจากการนั่งเรียนบนเก้าอี้ ไม้ตัวน้อย ลุงมะโหนกก็พาพวก เรานั่งเรือออกไปสอนภาคปฏิบัติ ส�ำรวจความอุดมสมบูรณ์ของป่าชาย เลน ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่ส�ำคัญต่อสัตว์น�้ำนานาชนิด ให้เข้าใจในความ สัมพันธ์ระหว่างสัตว์น�้ำกับป่าชายเลน ซึ่งเป็นตัวแปรส�ำคัญของการ ลดหรือเพิ่มปริมาณของกุ้ง หอย ปู และปลา ที่เรารับประทานอยู่ใน
ปัจจุบัน เพื่อที่คนรุ่นใหม่อย่างพวกเราจะได้ช่วยกันหวงแหนและรักษา ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไป อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า ที่นี่จะ สอนในรูปแบบการเรียนให้รดู้ ว้ ยตัวเอง เสร็จจากการส�ำรวจป่าชายเลน พวกเราจึงต้องหาอาหาร ด้วยอุปกรณ์ที่ผลิตเอง จากทะเลอ่าวไทย ซึ่ง เปรียบเสมือนซุปเปอร์มาเก็ตที่ใหญ่ที่สุด และเมื่อจับได้ก็จะน�ำกลับมา ท�ำเป็นอาหารเย็นรับประทานร่วมกันในบรรยากาศสบาย ๆ ริมทะเล ซึง่ เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนกลับบ้าน การมาเที่ยวชุมชนคลองเสาธงในวันนี้ ท�ำให้พวกเราค้นพบว่า บางทีเงินก็ ไม่ใช่ปัจจัยส�ำคัญที่สุดในการสร้างความสุข เพราะเรื่อง ราวการถ่ายถอดความรู้อย่างตั้งใจของชาวบ้านในชุมชน และอาหาร ที่น�ำมารับประทานกันในวันนี้ เกิดขึ้นได้ โดยที่ไม่มีเรื่องเงินทองเข้ามา เกี่ยวข้องแต่อย่างใด สุดสัปดาห์นี้ ใครอยากไปเที่ยว..แบบได้ความรู้ แถมได้ท�ำกิจกรรมสนุกมากมาย ลองแวะมาใช้ชีวิตแบบชาวประมง บางปูดูสักครั้ง แล้วคุณจะแปลกใจ..
กรกฎาคม 2557 / July 2014
55
F
or those who love to travel and have fun with unconventional knowledge outside textbooks, we would like to introduce the story of “Klong Saotong” (Flag Pole Canal), a fishermen community in Bang Pu Mai Sub-district where they apply tourism to the preservation of community way of life in every aspect be it in culture, local wisdom, community ecological system and environment. The format of learning is by self learning at “Uncle Teaching Descendants School Outside the Shell” which is another famous and outstanding attraction that is second to none in Samut Prakan. With eagerness and enthusiasm, we did not hesitate to take the trip that we arrived at Bang Saotong Community very early in the morning. Mr. Buncherd Udomsamuthirun, or Uncle Manoke of the children, the founder of the school was waiting to take us to visit the classroom built from discarded materials around the community such as old boats, planks floated in the water including old student desks. Theoretical knowledge on local knowledge, local fishing, ecology of mud flat and environmental conservation is taught in this classroom. After the class, Uncle Manoke took us on a boat trip for practical learning surveying the fertile mangrove forest which is the important food source for aquatic animals to make us understand better the relationship between aquatic animals and mangrove forest. It is a major variable to indicate the increase or decrease in quantity of prawns, shellfish, crabs and fishes that we consume nowadays. It also teaches new generation like us to cherish and preserve natural resources to be available forever.
As we mentioned above, the teaching here is by self learning, when we finished mangrove forest touring, we had to find our own food fromthe Gulf of Thailand, the largest supermarket, by using handmade utensils. We took our catches back for our dinner cooking which we enjoyed eating together in a casual atmosphere. Our visit to Saotong Community makes us aware that sometime money is not the most important factor for being happy. The attentie knowledge transition by villagers in the community and the food we had today do not have any relations to money at all. This weekend if you want to make a trip that is knowledgeable plus many fun filled activities, why not stop by to experience Bang Pu fisherman way of life… and you will be surprised.
ที่อยู่ : ชุมชนคลองเสาธง
ซอย เทศบาลบางปู 118 ต�ำบลบางปูใหม่ อ�ำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ Location : Klong Saotong Community Soi Tesaban Bang Pu 118, Bang Pu Mai Subdistrict, Muearg Samut Prakan District Samut Prakan
56 Cover Story เรื่องจากปก
กรกฎาคม 2557 / July 2014
57
ฟ้างามยามพระอาทิตย์ตก ส่องแสงทองประกายระเรื่อ บนผืนน�้ำธรรมชาติที่หลบซ่อนตัวอยู่หลังม่านอุตสาหกรรมบางปู
In the evening before sunset ; the view is spectacular especially with Oasis that hided in Bang Pu industrial settlement.
58 Cover Story เรื่องจากปก
A DAY TRIP
IN BANG PU
เที่ยวหลากสไตล์ ในบรรยากาศริมอ่าว สถานทีท่ จี่ ะช่วยผ่อนคลายความเหนือ่ ยล้าโดยไม่ต้องเดินทางไกลให้ยุ่งยาก แต่สามารถ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวหลากสไตล์ ทั้งแหล่งธรรมชาติ วัดวาอาราม วีถีชีวิต และกิจกรรมสนุกๆ ทีมงาน @SAMUTPRAKAN Travel จะเปลี่ยนวันธรรมดา ของคุณให้เป็นวันที่น่าประทับใจไม่รู้ลืมด้วยการอาสา พาเที่ยวแบบครบรสในบรรยากาศริมอ่าว โดยใช้เวลาเพียง 1 วัน ที่..บางปู
Many people, particularly officer workers, yearn for a place where they can relax and unwind during the weekend but time is their restriction. Thus, taking a long trip is difficult for them. The destination should be natural attraction complete with beautiful nature, temples, way of life, and variety of activity suitable for those who have limited time but want to make the utmost use of their time. And, at the same time it should respond to the matter of time, be enjoyable, not far from city center and convenient transportation. @SAMUTPRAKAN Travel editorial team would like to take you on tour of every aspect within one day at ‘Bang Pu’.
กรกฎาคม 2557 / July 2014
Starting Point of the Trip จุดเริ่มต้นของการเดินทาง
ของวันอาทิตย์ วันที่อากาศสดใสปลอดโปร่ง ถนนโล่ง ช่ริมอ่วงสายๆ ไร้ความวุน่ วาย ทีมงานเริม่ ออกเดินทางสูจ่ ดุ เริม่ ต้นของการลัดเลาะ าวในวันนี ้ คือ คลองส่งน�ำ้ สุวรรณภูมทิ สี่ ามารถมาได้ 3 เส้นทาง ถ้ามาจากถนนบางนา-ตราด ให้มุ่งหน้าสู่ต�ำบลบางโฉลง จังหวัด สมุทรปราการ ผ่านมหาวิทยาลัยหัวเฉียวไปเล็กน้อย แล้วจึงขึ้น สะพาน กลับรถด้านซ้ายมือ สังเกตป้ายบอกทางก็จะพบทางเข้าคลอง ส่งน�้ำสุวรรณภูมิ เส้นทางที่ 2 ถ้ามาจากแยกเทพารักษ์ ให้มุ่งหน้า สู่ต�ำบลบางปลา หลังจากผ่านทางเข้าวัดบางพลีใหญ่มาสักระยะ ให้ สังเกตซอยบางปลา 69 ท่านจะพบจุดเริม่ ต้นของเราในวันนี ้ และเส้น ทางสุดท้ายมาจากถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าสู่แยกการไฟฟ้าจังหวัด สมุทรปราการ แล้วจึงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิทสายเก่า พอถึงซอย เทศบาลบางปู 126 สังเกตซ้ายมือ ก็จะพบคลองส่งน�ำ้ สุวรรณภูมิ
L
59
ate Sunday morning the weather was fine, the road was not congested, our team started our tour by the bayside. Our starting point was at Suvarnabhumi irrigation canal. There are 3 alternative routes to get there : if you come from Bangna-Trad Highway, head for Bang Chalong Subdistrict, Samut Prakan. A little distance pass Huachiew University take the U-turn bridge and notice the signboard on the roadside you will see the entrance to Suvarnabhumi irrigation canal. The second route is from Theparak intersection, head for Bang Pla Sub-district. After passing the entrance to Wat Bang Phli Yai for a while you will see Soi Bang Pla 69, there is our starting point. And the last alternative is from Srinakarin Road heading for Faifah Intersection in Samut Prakan then turn left to Old Sukhumvit Road. When reaching Soi Tesaban Bang Pu 126 you will see Suvarnabhumi irrigation canal on the left.
60 Cover Story เรื่องจากปก
Check-in 10.30 A.M.
Irrigation Canal
Suvarnabhumi คลองส่งน�้ำสุวรรณภูมิ
เวลา 10.30 น. หลังจากทีมงานเริ่มออกเดินทางมาไม่นาน ก็มาถึงจุดเริ่มต้นของ เราในวันนี้คือ คลองส่งน�้ำสุวรรณภูมิ ถ้าใครเป็นสิงห์นักปั่นแถว ละแวกนั้นคงรู้จักกันดี เป็นจุดนัดพบของนักปั่นหลากหลายกลุ่มที่ ชืน่ ชอบการปัน่ จักรยานชมวิวในช่วงเย็น คลองส่งน�ำ้ สุวรรณภูมเิ ป็นคลอง ทอดยาวรั บ น�้ ำ จากพื้ น ที่ ร อบสนามบิ น สุ ว รรณภู มิ เพื่ อ ระบายน�้ ำ ป้องกันการเกิดน�้ำท่วม ถ้าเรายังจ�ำกันได้ตอนเกิดน�้ำท่วมครั้งใหญ่ ปี 2554 คลองส่งน�้ำสุวรรณภูมิถือว่ามีหน้าที่หลักในการระบายน�้ำ ออกสู่อ่าวไทยโดยตรง ท�ำให้หลายพื้นที่รอดพ้นการเกิดน�้ำท่วม มีจุด น่าสนใจคือก่อนจะปล่อยน�้ำลงสู่อ่าวไทย เขาจะสูบน�้ำขึ้นไปบนทาง คอนกรีต เพื่อให้ข้ามถนนสุขุมวิทสายเก่า แล้วจึงปล่อยลงสู่อ่าวไทย โดยตรง ถือว่าเป็นจุดเด่นและแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบเห็น จนทีมงาน บางคนต่างเข้าใจผิดคิดว่าเป็นถนนยกระดับ เพราะเหมือนทางด่วนทัว่ ไป ขับรถมาได้สักระยะ ก็แวะจอดรถแชะภาพสัก 1 รูป เป็นการ เอาฤกษ์เอาชัย ระหว่างนัน้ สังเกตเห็นบริเวณริมคลองส่งน�ำ้ มีชาวบ้าน รวมกลุ่มต่างหว่านแหลงตาข่าย และตกปลาอย่างคึกคัก บางคนตั้งใจ มาทีน่ จี่ ดั แจงจอดรถกระบะ พาลูกจูงหลาน ช่วยกันปัดกวาดเตรียมทีท่ าง น�ำเตาถ่านลงตั้งไฟช่วยกันพัดจนควันโขมง ระหว่างรอปลาที่ก�ำลัง ถูกปลดออกจากตาข่าย เห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ยิ่งช่วงเสาร์-อาทิตย์ จะคึกคักเป็นพิเศษ บางคนมาตกปลาอย่างเอาจริงเอาจัง ขนอุปกรณ์ มาเป็นกล่องๆ รอก เบ็ด และเหยื่อปลาแบบครบชุด ด้วยความสงสัย จึงลองแวะลงไปถามไถ่ ท�ำให้รู้ว่าที่นี่มีปลาชุกชุมมาก เพราะเป็น บริเวณต้นทางก่อนปล่อยน�้ำลงสู่อ่าว โดยเฉพาะปลาสวาย ปลาบึก ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ บางเดือนมีจัดแข่งตกปลาชิงถ้วย จาก หลายๆ สมาคมกันเลย
After we started our trip soon we arrived at our starting point i.e. Suvarnabhumi irrigation canal. Cyclists in the area know the place very well because it is a meeting point of those who like riding in the evening. Suvarnabhumi Irrigation Canal receives water from around Suvarnabhumi Airport to prevent flooding. We all recall the great flood in 2554 B.E. (2011 A.D.) The canal played an important role in discharging the water mass directly into the sea which helped many areas from being flooded. An interesting point is that before discharging into the Gulf of Thailand, the water mass will be pumped up to the concrete waterway over the old Sukumvit road before being discharged directly in to the Gulf. This is a new point of interest because some of our team member thought that it is an elevated road like other expressway. Driving along for a while, we stopped to take a photograph. We noticed that by the canal bank there were many people fishing joyfully. Some of them came here intertuonally. After parking their pickup truck, clearing the space, they set up their picnic place with barbecue stove ready to grill their catches. During weekend, it is more vivacious. Some of them are enthusiastic fishermen who bring full sets of fishing gears i.e. fishing reels, hooks, and baits. With skepticism we asked them why they fish here and the response is that fish is in abundant because here is the point before the water will be discharged into the Gulf. Fishes are plentiful particularly striped catfish and Mekong giant catfish, both small and big. In some certain month, there will be fishing tournament championship with trophy from many organizations.
กรกฎาคม 2557 / July 2014
61
If you can recall that during the past great flood, a Mekong giant catfish weighted 62 kg. was caught here. The fishing enthusiast told us that at present they like to fish ‘hell hook’ style which those who are not in the fishing sport circle will be puzzled. Actually, this fishing technique does not need waiting for fish to eat the baits. They will tie several fishing lines of different length with 4-5 hooks then they will reel the line in that the fishing lines and the hooks will swivel and any fish in the area can be caught easily. The guy secretly told us that they will use this fishing technique only where fishes are abundant. After chatting with the fishing enthusiasts for awhile, we noticed that some of them were tired while some were so proud with big catches that they could not help taking photographs as a memento. Some of them almost got their prize of the day but the fishes just slipped away. We said goodbye to them and left Suvarnabhumi irrigation canal and turned into the old Sukhumvit Road. After a short distance we decided to turn into Soi Tesaban Bang Pu 126 for a lunch to replenish our energy.
ถ้ายังจ�ำกันได้ ในช่วงน�้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ผ่านมา เคยมีคนตกได้ ปลาบึกหนัก 62 กิโลกรัม เป็นทีฮ่ อื ฮาออกข่าวกันครึกโครม พีน่ กั ตกปลา เล่าให้ฟงั ว่าเดีย๋ วนีเ้ ขานิยมตกปลาแบบเบ็ดนรกกัน หลายคนไม่ได้อยู่ใน วงการนี้ฟังแล้วก็งงกันเป็นแถว พูดคุยสักพักถึงกับร้อง อ๋อ! เพราะ วิธีการคือไม่ต้องง้อให้ปลามากินเหยื่อ แต่จะเป็นวิธี ใช้เอ็นตกปลา ผูกสั้นบ้าง ยาวบ้าง พร้อมตะขอ 4-5 ตัว เวลาตอนหมุนรอกเข้า ตัวเอ็นและตะขอจะหมุนควงใต้น�้ำ ทีนี้ถ้าไปเกี่ยวโดยปลาตัวไหน มันจะพันติดรัดตัวปลาขึ้นมาโดยไม่ต้องง้อให้มากินเหยื่อ วิธีนี้พี่เขา กระซิบบอกว่า จะใช้เฉพาะบริเวณต้นน�้ำที่มีปลาชุกชุมมากๆ เท่านั้น หลั ง จากนั่ ง คุยและลุ้น กับการเย่อ ปลาของบรรดานั ก ตกปลา มาระยะหนึ่ง บางคนเย่อปลาหลายนาทีจนเหน็ดเหนื่อยกว่าจะน�ำขึ้น มาได้ บางคนได้ตัวใหญ่หน่อยรู้สึกภูมิใจจนต้องถ่ายรูปคู่เก็บไว้เป็นที่ ระลึก บางคนเย่อปลาอยู่นานเกือบได้อยู่รอมร่อแต่สุดท้ายกลับหลุด ไปอย่างหน้าตาเฉย เรียกเสียงหัวเราะอย่างครื้นเครง สักพักทีมงาน ก็ขอตัวร�่ำลากับบรรดานักตกปลาทั้งหลาย เพื่อไปท�ำภารกิจของเรา กันต่อ หลังจากเราเดินทางออกจากคลองส่งน�้ำสุวรรณภูมิ และ เลี้ยวเข้าสู่ถนนสุขุมวิทสายเก่าเพียงไม่กี่อึดใจ จึงตัดสินใจเลี้ยวเข้า ซอยเทศบาลบางปู 126 แวะรับประทานอาหารเที่ยงเป็นการเติมพลัง กันก่อน
ที่ตั้ง : สถานีสูบน�้ำสุวรรณภูมิ ถ.สุขุมวิท (สายเก่า) ต.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ Location : Suvarnabhumi Irrigation Canal Station
Sukhumvit Road (Old), Bang Pu Subdis trict, Mueng Samut Prakan District, Samut Prakan
62 Cover Story เรื่องจากปก
An Army Must Marches
on Full Stomach กองทัพ..ต้องเดินด้วยท้อง
เวลา 11.30 น. หลังจากทนเห็นพี่ๆ นักตกปลา นั่งปิ้งปลากันอย่างสบายอุรา ก็อดน�้ำลายสอไม่ได้ เหลือบมองนาฬิกา 11 โมงกว่าๆ แวะเติมพลัง กันที่ร้าน THE EXIT BAR & RESTAURENT ร้านอาหารที่เป็น ทางออกในช่วงเวลาที่กระเพาะเริ่มส่งเสียงประท้วง บรรยากาศร้านสบายๆ ไม่ใหญ่โตนัก หลายคนต่างจับจองทีน่ งั่ หลากหลายมุมตามอัธยาศัย มองไปรอบๆ สังเกตเห็นภายในร้าน ตกแต่งด้วยโทนสีสดใส เรียบง่าย แต่ซ่อนความอบอุ่นในแบบฉบับ ของวิถีชุมชนเอาไว้ ให้ ได้สัมผัส พร้อมกับเมนูอร่อยมากมายที่ ให้ เลือกลิ้มรส โดยเฉพาะอาหารทะเลสดๆ
Check-in 11.30 A.M.
After watching those fishing fans happily grilled their catches, we could not help salivating. It was almost lunch time so we stopped at The EXIT BAR & RESTAURANT on our way when our stomach started rumbling. The atmosphere is casual with customers in various cosy corners. Looking around we noticed that the de’cor is simple with vibrant colour and hidden warmth of local community way of life. The menu choice is quite large especially fresh seafood.
กรกฎาคม 2557 / July 2014
เมนูเด็ดทีค่ ณ ุ ลุงเจ้าของร้านแนะน�ำ ไม่นานก็ถกู ยกมาวางจนเต็ม โต๊ะ ปลาหมึกแดดเดียว ปูผัดผงกระหรี่ ปลากะพงทอดน�้ำปลา แกงส้ม ไข่ปลาเรียวเซียว ไข่ปลาเม็ดใหญ่สีใส รสชาติออกมันๆ ไม่เหมือนใคร ขนาดใหญ่กว่าไข่ปลาช่อนที่เราเคยกินหลายสิบเท่า ปิดท้ายด้วย หอยแครงลวก หน้าตาน่ารับประทาน เมื่อได้ชิมก็รู้สึกได้ถึงความสด ของอาหารทะเล เพราะรับซื้อจากชาวบ้านละแวกใกล้เคียงที่ท�ำอาชีพ ประมง วัตถุดิบจึงสดใหม่ทุกวัน บวกกับการปรุงรสชาติมาเป็นอย่างดี โดยฝีมือเชฟชาวบ้าน รับรองว่าสาวกอาหารทะเลไม่ผิดหวังแน่นอน ส�ำหรับคอกาแฟก็มีมุมเล็กๆ ไว้คอยบริการทั้ง เอสเพลสโซ่ คาปู ชิโน่ อเมริกาโน่ มอคค่า ลาเต้ รสชาติเข้มข้นถูกใจ ขณะนั่งกินข้าวก็ เพลิดเพลินกับการนั่งดู คุณดิเรก อ�่ำแพ เจ้าของร้าน ผ่านห้องกระจก บานใส ก�ำลังขะมักเขม้นท�ำ เรือประมงและรถจ�ำลองสิ่งประดิษฐ์ หลากหลายขนาดให้เราได้ชมและซือ้ ติดไม้ตดิ มือกลับบ้านเป็นของฝาก คุณลุงดิเรก บอกว่า ถ้าใครสนใจจะออกแบบเองก็สามารถสัง่ ท�ำได้เช่น กัน ที่ส�ำคัญราคาไม่แพง หลั ง จากอิ่ ม ท้ อ งแล้ ว ก็ อ ย่ า ลื ม แวะเข้ า ไปเช็ ก อิ น เก็ บ ภาพ บรรยากาศสวยๆ ริมอ่าว โพสท่าอวดเพื่อนๆ ลงอินสตาแกรมให้ได้ อิจฉา บนสะพานทีท่ อดยาวไปกลางทะเลสุดสายตา ณ ขอบฟ้า..ลาตะวัน
63
64 Cover Story เรื่องจากปก
The signature menu that the owner recommended including fried sundried squid, stir-fried crab curry, deep fried seabass with fish sauce, spicy sour soup with giant catfish’s roes which are big, much bigger than normal fish roe and the taste unlike other roes we used to eat, and par-boiled cockles. We could taste the freshness of seafood plus tasteful foods with the cooking skills of local chefs. The seafood lovers will not be disappointed. Raw ingredients are fresh everyday as they are bought directly from the fishermen in the village. For coffee lovers, there is a small coffee corner serving espresso, cappuccino, Americano mocha, latte, etc. The taste is pleasantly strong. While having our lunch, we took pleasure in watching Khun Direk Umpae, the owner, through the glass panel. He was diligently making fishing boat and car models of various sizes for customers to admire and buy as souvenirs. Uncle Direk told us that should anyone want to make his own design, he can make to order as well. Most important of all is that the price is reasonable. After filling up your stomach, do not forget to check-in with the beautiful scenery by the bay to make your friends envy via instagram. Take a walk on the jetty jutting into the open sea to the horizon, the point where the sun set.
ที่ตั้ง : ร้าน THE EXIT BAR & RESTAURENT เลขที่ 15/1 ซ.เทศบาลบางปู 126 (คลองตาก๊ก) หมู่ 2 ต.บางปู อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ เปิดบริการ : จันทร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-20.00น. สอบถามเพิ่มเติม โทรศัพท์ : 08-1753-8032, 09-5408-8599 Location : THE EXIT BAR & RESTAURENT
15/1 Soi Tesaban Bang Pu 126 (Klong Ta Kok) Moo 2, Bang Pu Subdistrict, Muang Samut Prakan District, Samut Prakan Opening Hours : Everyday from 10.00-20.00 Hours information call : Tel. 08-1753-8032, 09-5408-8599
กรกฎาคม 2557 / July 2014
Patrol respect
the seaside ตระเวนไหว้พระริมอ่าว เวลา 13.30 น. หลังจากแวะเติมพลังกันเสร็จสรรพร่างกายก็พร้อมจะลุยต่อ ทีมงานจึงไม่รอช้าเริ่มออกเดินทางตระเวนไหว้พระริมอ่าวไทยที่แฝง ไปด้วยบรรยากาศอันชวนหลงใหลมากกว่าแค่การมาท�ำบุญ หลังจาก ออกจากซอยเทศบาลบางปู 126 แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุขุมวิท สายเก่า ไม่นานเราก็ผา่ นสถานตากอากาศบางปู ใครจะแวะเทีย่ วชม ให้ อ าหารนกนางนวลก็ ไ ม่ ว ่ า กั น แต่ จ ะต้ อ งเป็ น ช่ ว งตั้ ง แต่ เ ดื อ น ตุลาคม-มีนาคม เพราะเป็นฤดูกาลของนกนางนวล เห็นว่าในแต่ละปี จะมีนกนางนวลสายพันธุ์ธรรมดา อพยพมาอยูท่ นี่ ี่ไม่ตำ�่ กว่า 5-6 พันตัว ถือว่ามากที่สุดในประเทศและในโลก จากสถานตากอากาศบางปู ผ่านไปไม่กี่อึดใจ สังเกตซ้ายมือจะพบทางเข้าเล็กๆ ซอยเทศบาล บางปู 96 จะพบทางเข้าวัดเป็นจุดหมายของเรา
Check-in 1.30 P.M.
65
After filling the stomach, our eye lids drooped. It was the signal that we were ready to move on. We went on paying homage to important Buddha images in the temples along the bay with the atmosphere more enchanting than just making merit. After leaving Soi Tesaban Bang Pu 126, we turned left on the old Sukhumvit Road. It took a little time to pass Bang Pu Seaside Resort. If you like, you can stop for watching and feeding seagulls but we recommend that you should come during October-March as it is the time that not less than 5,000-6,000 brown-headed gulls take refuge at Bang Pu. A short distance after Bang Pu, we reached a small entrance to Soi Tesaban Bang Pu 96. It’s the entrance to our first target temple.
66 Cover Story เรื่องจากปก
Wat Srichantrapradit วัดศรีจันทร์ประดิษฐ์
เวลา 13.45 น. หลังจากลงจากรถและเดินดูบริเวณรอบนอก สังเกตว่าวัดแห่งนี้ ไม่ได้ตา่ งจากวัดทัว่ ไป แต่จะแปลกก็ตรงทีจ่ ะมีลมพัดเย็นๆ มาทางด้าน หลังวัดเป็นระยะ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกให้รวู้ า่ วัดแห่งนีน้ า่ จะติดกับ อ่าวไทย ทีมงานจึงลองเดินถัดเข้ามาด้านในเห็นกุฏิพระสงฆ์ถูกสร้าง ทอดยาวอยูภ่ ายใต้รม่ เงาไม้ของป่าชายเลน ท�ำให้ดรู สู้ กึ ว่าเหมือนสถานที่ เป็นส่วนหนึง่ ของธรรมชาติ เดินส�ำรวจความร่มรืน่ ภายในวัดสักพัก ก็ขอตัวไปสักการะขอพร หลวงพ่อขาว พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพนับถือของชาวบ้าน ในละแวกนั้น มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า หลวงพ่อขาว เป็นพระพุทธรูป ปูนขาว อายุกว่า 100 ปี ซึง่ เจ้าหน้าทีก่ ารท่าเรือขุดลอกสันดอนแล้ว พบจึงน�ำมาถวายให้กับวัดแห่งนี้ นอกจากจะได้ขอพรหลวงพ่อขาว แล้วที ม งานได้ มี โ อกาสสั ก การะขอพรจากพระอี ก หลายองค์ เช่ น รอยพระพุทธบาท พระราหู ท้าวเวสสุวรรณ พระอุปคุต สมเด็จ พระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํส)ี หลวงปูท่ วด หลวงพ่อวัดบ้านแหลม บรมครูฤาษีกสั สปะ เจ้าแม่กวนอิมหยกขาว และปิดท้ายด้วยการท�ำบุญ ตักบาตรตามก�ำลังวันเกิด ให้หมดเคราะห์หมดโศกกันเสียที
กรกฎาคม 2557 / July 2014
หลังจากไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลกันแล้ว เราลองเดิน เข้าไปข้างในวัดจะสังเกตเห็นทางเข้าเล็กๆ เขียนว่า “จุดชมวิว” เป็น สะพานทอดยาวประมาณ 100 เมตร ระหว่างทางจะพบกุฏพิ ระสงฆ์ ตลอดทาง ดูรม่ รืน่ ในบรรยากาศป่าชายเลน สุดทางมองเห็นวิวริมอ่าว สุดลูกตา มีลมพัดเย็นๆ แสงแดดอ่อนๆ ทีมงานตัดสินใจนัง่ พักตรง ศาลาริมอ่าวรับลมให้ผ่อนคลาย ระหว่างนั้นนั่งชื่นชมกับสามเณรที่ ก�ำลังท่องหนังสือธรรมะอย่างขะมักเขม้น พร้อมกับทอดสายตาบันทึก ภาพริมอ่าว และมาสะดุดตากับศาลาสีแดงกลางอ่าว มีสะพานทอดยาว ออกไปอย่างน่าหลงใหล พอได้ความสดชืน่ มาเติมพลัง จึงเริม่ ออกเดินทางตามค�ำเชือ้ เชิญ จากความสวยงามของศาลากลางอ่ า ว ระหว่ า งเดิ น เลาะริ ม อ่ า ว เห็นชาวบ้านชุมชนคลองคอต่อ ก�ำลังช่วยกันเก็บอุปกรณ์ ในเรือประมง หลังจากออกหาปลาอย่างเหน็ดเหนือ่ ยในตอนรุง่ สาง ระหว่างเดินบน สะพานสังเกตเห็นปูหลากชนิด ออกมาเดินเล่นทักทายในยามน�้ำลง เหมือนได้พบปะพูดคุยตามภาษาปูทคี่ นุ้ เคย เดินไปบนสะพานไกลขึ้น ลมยิ่งพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีความ ร้อนอบอ้าวเข้ามาปะทะ สัมผัสได้แต่ความเย็นอ่อนๆ จากลมที่สัมผัส ผิวกาย เดินเข้าใกล้ศาลากลางอ่าวเห็นภาพเด็กหนุ่มชาวประมงก�ำลัง สาวตาข่ายดักปลาเก็บอย่างเรียบร้อย ไม่นา่ เชือ่ ว่าจะได้เห็นภาพวิถชี วี ติ แบบนีท้ บี่ างปู หลังจากเต็มอิม่ กับการยืนชมวิว พร้อมตะโกนจนสุดเสียง เพือ่ ปลดปล่อยความเหนือ่ ยล้า เหมือนเมือ่ ครัง้ ยืนอยูบ่ นหน้าผาสูงใหญ่ ตะโกนพร้อมเสียงกังวานที่ย้อนกลับเหมือนเป็นการเติมเต็มพลังขึ้น มาอีกครั้ง สักพักเราจึงหันหลังเดินกลับ แต่หา้ มใจทีจ่ ะไม่ให้หนั หลังไปมอง อีกคงไม่ได้ นับว่าเป็นความสุขเล็กๆ ทีเ่ กิดขึน้ โดยไม่รตู้ วั ทัง้ อิม่ บุญ อิม่ ใจ ที่ได้มาสัมผัสกับบรรยากาศอันสดชืน่ ริมอ่าวแบบใกล้ชดิ เหลือบมองดู นาฬิกาทีส่ ะท้อนแสงแดดระยิบระยับ เป็นช่วงเวลาบ่ายคล้อยถึงเวลา ทีต่ อ้ งไปสัมผัสอีกสถานทีห่ นึง่ กันแล้ว ทีมงานเริม่ ขับรถออกจากวัด เราเลี้ยวซ้ายตรงไปตามถนนสักระยะ จะพบทางเข้าซอยเทศบาล บางปู 60 เราเลีย้ วซ้ายเข้าไปประมาณ 400 เมตร จะพบวัดอโศการาม ทีห่ ลายๆ คนรูจ้ กั และคุน้ เคย
67
68 Cover Story เรื่องจากปก
with soft cool breeze blowing all the time. We decided to take a rest at the pavilion by the bay watching novices diligently studying dharma textbooks. We cherished the view very much and were struck by a red pavilion with long jetty in the middle of the bay. It was very enchanting. We continued to visit the pavilion in the middle of the bay. While walking along the bay we saw residents of Klong Kor Tor Community helping each other clearing fishing equipment after their tiring fishing round early in the morning. While walking on the walkway, we notice many kinds of crabs coming out during the low tide. Walking far away on the walkway, the wind became stronger. There was no heat and what we felt is the cool and soft breeze on our skin. Getting nearer to the pavilion in the middle of the bay, we saw a young fisherman tidying up in his fishing net. It is unbelievable to see such as way of life sight here, in Bang Pu. After fully enjoying the view and shouting at the top of our voice to release the fatigue just like when we stand at the top of the cliff and shout loudly, the resonance seems to refill our energy. A short while, we decided to walk back but could not resist looking back. It is just a small pleasure that unconsciously occurs both from merit making and experiencing the pleasant atmosphere by the bay closely. Looking at the wrist watch, it was the time to move on to our next destination. Our team left the temple, turned left on the road for a while we saw the entrance to Soi Tesaban Bang Pu 60 where we turned left into the Soi for about 400 m. and we arrived at Wat Asokaram that many people are familiar with. จุดชมวิวบริเวณหลังวัด View point behide temple
Check-in 1.40 P.M.
After arriving, we walked around and noticed that physically this temple is not different from others. However, the difference is that there is cool breeze from the back of the temple which is the signal that the temple must be by the Gulf of Thailand. We walked deep inside and saw the stretch of monk living quarter in the shade of mangrove forest which makes we feel that this temple is a part of the surrounding nature. After strolling for awhile, we went to pay homage to the sacred Buddha image, Luang Poh Kaow. Story has it that Luang Poh Kaow was a plaster Buddha image aged over 100 years that port officials found while dredging the delta and moved to enshrine at this temple. After praying for blessing from Luang Poh Kaow, we walked inside the temple compound and noticed a small walkway with a signboard “View Point”. The walkway is about 100 m. long and on the way we saw monk living quarters in the shading mangrove forest along the way. At the end of the walkway, we saw as far as the eyes can see the view by the bay
ที่ตั้ง : วัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ ซ.เทศบาลบางปู 96 ชุมชนคลองคอต่อ ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ Location : Wat Srichantrapradit
Soi Tesaban Bang Pu 96, Klong Kor Tor Community, Bang Pu Mai Subdistrict, Mueng Samut Prakan District, Samut Prakan
กรกฎาคม 2557 / July 2014
Wat Asokaram วัดอโศการาม
เวลา 15.00 น. วัดที่เป็นส่วนหนึ่งของป่าชายเลนริมอ่าวไทย ก้าวแรกที่สัมผัส ได้คือ มีต้นไม้ปลูกอยู่รอบวัด ท�ำให้บางช่วงปกคลุมแสงแดดได้ดี โดยเฉพาะสวนหย่อมและลานธรรม จะร่มรื่นสามารถนั่งพักได้อย่าง ไม่กลัวแดด ที่ส�ำคัญมาสะดุดตาเข้ากับเจดีย์รูปทรงแปลกตา หลังจาก สอบถามคนพื้นที่จึงรู้ว่าเป็น พระธุตังคเจดีย์ อนุสรณ์สถานธุดงควัตร ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติ เพื่อขัดเกลากิเลส ทั้ง 13 ข้อ มีพระเจดีย์องค์ ใหญ่ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเป็นประธานหมายถึงพระนิพพาน ท�ำให้เรา ได้รู้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้ ไม่ใช่มีเฉพาะแค่ความสวยงามอย่างเดียว แต่ยังแอบแฝงคติธรรมอยู่ด้วย Check-in 3.00 P.M.
This temple is a part of mangrove forest by the Gulf of Thailand. Our first impression was that there are many trees all over the compound which make the temple shady particularly at the small parks and dharma ground. We were struck with an odd shape pagoda. We asked from the people in the area and got response that this pagoda is called “Phra Dhutangachedi” comprises of 13 pagodas in a group as a memorial symbolizing the 13 ascetic practices. The principal pagoda houses Lord Buddha’s relics symbolizing Nivarna. It makes us realize that what we see in front of us does not hold only the beauty of construction but also moral precepts.
69
70 Cover Story เรื่องจากปก
หลั ง จากที ม งานเดิ น ชมรอบๆ พระเจดี ย ์ สั ก พั ก ก็ มี เ สี ย งเรี ย ก จากแม่ชี เชื้อเชิญให้เข้าไปด้านใน ชั้นล่างดูโล่งกว้าง ลมพัดอ่อนๆ ตลอดเวลามี ช าวบ้ า นมากราบไหว้ รู ป ปั ้ น และอั ฐิ ธ าตุ ข องพระอาจารย์ รวม 28 รูปหลังจากนั้นทีมงานจึงขออนุญาตแม่ชี เดินขึ้นไปบนชั้น 4 ของเจดีย์เป็นวิวที่สวยงามอีกที่หนึ่งของวัดแห่งนี้ ที่สามารถเห็นบริเวณ รอบวัดที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ได้อย่างสบายตา เป็นอีกมุมหนึ่งที่นักถ่าย ภาพไม่ควรพลาด ยิ่งช่วงในวันส�ำคัญทางศาสนาวัดนี้จะมีผู้คนมาท�ำบุญ และร่วมเดินเวียนเทียนรอบพระเจดีย์ ในช่วงค�่ำอย่างคึกคัก ระหว่ า งเดิ น ชมความสวยงามที่ แ ฝงไปด้ ว ยหลั ก ธรรมจนอิ่ ม ใจ เราจึงเดินไปที่พระวิหารสุทธิธรรมรังสี จากค�ำแนะน�ำของแม่ชีซึ่งอยู่ ฝัง่ ตรงข้ามกับพระเจดีย์ ก่อนจะเข้าไปทีมงานได้หยุดแวะสักการะอนุสาวรีย์ พระเจ้าอโศกมหาราชกันก่อน หลังจากเดินขึน้ ไปบนพระวิหารทีม่ ที งั้ หมด 3 ชัน้ ชั้ น บนสุ ด เป็ น สถานที่ ส� ำ หรั บ ท� ำ วั ต รเย็ น หรื อ ส� ำ หรั บ นั ก ปฏิ บั ติ ธ รรม นั่ ง สมาธิ เดิ น ลงมาชั้ น 2 มี โ อกาสแวะชมพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ แ ละเป็ น ที่ ตั้ ง พระพุทธรูปกับหุ่นรูปเหมือนครูบาอาจารย์ที่ส�ำคัญ มีพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ พระพุทธรูปเก่าแก่ปางต่างๆ โดยเฉพาะรูปหล่อ ท่านพ่อลี ธมฺมธโร ที่ชาวบ้านมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสาย ชั้นนี้ถือว่า เป็นอีกหนึง่ ไฮไลต์ของทีน่ ี่ เดินลงมาถึงชัน้ ล่างสุดเป็นส�ำนักงานประชาสัมพันธ์ ของวั ด มี ห นั ง สื อ ธรรมะประวั ติ พ ระธุ ตั ง คเจดี ย ์ แ ละพระพุ ท ธรู ป บู ช า ให้ประชาชนได้มีโอกาสเช่าติดไม้ติดมือกลับไปบูชาที่บ้าน ช่วงเย็นๆ ยังเป็นที่นิยมของนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เพราะมี อากาศเย็นๆ โชยเบาๆ จากอ่าวไทย ให้ก�ำหนดลมหายใจ เข้า-ออก ได้อย่าง สบายๆ ระหว่างนั้นทีมงานได้ลองเดินไปที่ศูนย์ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ตามค�ำบอกเล่าของพระลูกวัดท่านหนึ่งซึ่งอยู่ทางด้านหลัง ของวัด สามารถสัมผัสถึงความเป็นธรรมชาติทต่ี น้ ไม้ โอบล้อมคลุมแสงแดด เหมือนเป็นร่มเงาตามตัว
กรกฎาคม 2557 / July 2014
พืชพันธุ์ป่าชายเลน นกน้อยใหญ่หลากหลายชนิด และปลาที่ อาศัยอยู ่ โดยเฉพาะปลาตีนและปูแสม ทีผ่ ลุบโผล่ทกั ทายนักท่องเทีย่ ว ที่ เ ข้ า มาเที่ ย วชมเป็ น ระยะๆ เดิ น กั น มาจนสุ ด ทางออกจะพบ บรรยากาศริมอ่าวแบบใกล้ชิด คลื่นลมโอบล้อมตัวเราเหมือนเป็นการ ทักทายแบบคนคุ้นเคย บรรยากาศแบบนี้เหมาะส�ำหรับพาครอบครัว ไปท�ำบุญและเดินเล่นชมธรรมชาติของป่าชายเลนที่ยังสมบูรณ์ ในวัน พักผ่อนแบบสบายๆ หลังจากตระเวนไหว้พระกันจนอิ่มบุญ อิ่มใจ กัน มาพอสมควร เป็นช่วงเวลาแดดร่มลมตกพอดี ถึงเวลาที่จะโบกมือลา วั ด แห่ ง นี้ และไปเดิน เล่น แบบสบายๆ รอดูค วามมหั ศ จรรย์ ของ ธรรมชาติ ผ่านสีสันตะวันลับขอบฟ้ากันครับ
71
After we walked around the pagoda, a nun called us to go inside. The lower level is an open space with soft breeze all the time. People come to pay homage to the statues and relics of the 28 masters. We requested the nun for permission to go up to the 4th level where the view is spectacular. We can see that the temple compound is full of trees which is very eye pleasing and it is another view that photographers should not miss. During the important religious days, many people will come to this temple for merit making and candle walking around the pagoda. After fully admiring the beauty with hidden moral precepts, we followed the nun’s advice walked on to Viharn Suthidharmmarangsi (Suthidhammarangsi small chapel) opposite the pagoda. Before entering the chapel, we stopped to pay homage to the statues of King Asoke, the Great. The chapel has 3 levels. The upper most level is the hall for evening chanting or for meditation practice. On the 2nd level is the museum with Buddha images, figures of principal masters, relics of Lord Buddha and other Buddhist Saints, ancient Buddha images in various postures. The figure of Master Lee Dhammadharo is highly respected by devout Buddhists. This level is considered the highlight of this chapel. The lowest level is the public relations office of the temple where books on dharma, history of Dhutangachedi and Buddha images are on sale for pilgrims to take home. The evening is the favorite time for meditation practitioners because the cool breeze blowing softly from the Gulf of Thailand helps them easily define their inhaling and exhaling movements. During that time our team took a walk to visit Center of Education on Natural Trail and Environment at the back of the compound as recommended by one of the monks. We could feel the genuine nature that is surrounded by trees shading away the sun light. There are many plant species in the mangrove forest, various kinds of birds and marine animals particularly mudskippers and mangrove crabs. Walking to the end of the way, we got a bayside view closely. Such an atmosphere is suitable for taking the family on a holiday to do merit making and to visit the natural ambience of fertile mangrove forest. After our merit making tour, it was the time to say goodbye to this temple and embarked on making the trip to witness the magic of Mother Nature at the sun set on the horizon. ที่ตั้ง : วัดอโศการาม ซอยเทศบาลบางปู 60 ถ.สุขุมวิท (สายเก่า) ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ Location : Wat Asokaram
Soi Tesaban Bang Pu 60, Sukhumvit Road (Old), Bang Pu Mai Subdistrict, Mueng Samut Prakan District, Samut Prakan
72 Cover Story เรื่องจากปก
กรกฎาคม 2557 / July 2014
Chilling Out..Watching the Sun Set on the Horizon
Painting by painter whose name is “Nature”
เดินชิล..ชมตะวันลับขอบฟ้า แต่งแต้มสีสัน จากจิตรกรที่ชื่อ “ธรรมชาติ”
73
74 Cover Story เรื่องจากปก
กรกฎาคม 2557 / July 2014
75
Sunset
At bang pu ชมตะวันลับขอบฟ้า เวลา 16.45 น. เป็นช่วงเวลาที่ทีมงานเริ่มขับรถออกจากวัดอโศการาม เข้าสู่ ถนนสุขุมวิทสายเก่า และเลี้ยวรถเข้าซอยเทศบาลบางปู 70 หรือ 72 ไปจนสุดทางจะพบร้านอาหารที่ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าว ที่แห่งนี้ที่ถูก ขนานนามว่า “บางแสน 2” เพราะมีความงามและบรรยากาศอันชวน หลงใหลไม่แพ้กัน บริเวณริมอ่าวจะมีถนนทอดยาวหลายกิโลเมตร จุดนี้เองเราจะไปเดินรับลมชมตะวันรอนริมอ่าวไทยให้ได้บรรยากาศ กันก่อน ถ้าใครมีจักรยานก็สามารถน�ำมาปั่นเล่นกันได้ โดยเฉพาะ ช่วงเย็นเราสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดิน มาจากทางฝั่งป้อม พระจุลจอมเกล้าได้สุดสายตา ระหว่างทางมีสิงห์นักปั่นหนุ่มสาวควง คู่หยอกล้อตามประสาคู่ใหม่ปลามัน เห็นแล้วก็นึกอิจฉาในใจ มีแก๊ง รุน่ เยาว์รวมตัวปัน่ จักรยานอย่างสนุกสนาน บางกลุม่ มากันเป็นครอบครัว พ่อ แม่ ลูก หยอกล้อ วิ่งเล่นกันสนุกสนาน บรรยากาศตรงหน้าทะเลที่สงบนิ่ง ลมพัดโชยปะทะผิวให้รู้สึก เย็นสบาย กับความสวยงามของท้องฟ้าที่ถูกแต่งแต้มจากจิตรกร ที่ช่ือ “ธรรมชาติ” ด้านหลังมีป่าชายเลนที่หนาแน่นไปด้วยต้นล�ำพู แสม และจาก มีเสียงสัตว์น้อยใหญ่ร้องเรียกทักทายเป็นระยะ สถานที่ แห่งนี้ ไม่ใช่เป็นแค่จุดชมวิวยามเย็นเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งพักผ่อน ของคนทุกเพศทุกวัย ช่วงเวลาแห่งนาทีทองก็มาถึง พระอาทิตย์ก�ำลังจะลาลับขอบฟ้า พร้อมเปล่งประกายแสงสีเหลืองทองสาดส่องสะท้อนลงบนผืนน�้ำ สัมผัสกับเรือเกิดเป็นเงาด�ำลอยอยู่กลางทะเล เป็นภาพที่ใครหลายคน ต่างรอคอย ถึงขนาดรีบหยิบโทรศัพท์มือถือ หรือกล้องถ่ายรูปขึ้นมา ลัน่ ชัตเตอร์ บันทึกภาพเก็บไว้เป็นเรือ่ งราวผ่านช่วงเวลาทีแ่ สนมหัศจรรย์ ก่อนที่ตะวันจะโบกมือลาเพียงไม่กี่อึดใจข้างหน้า คล้อยหลังผู้คนต่าง เดินกลับพร้อมพูดคุยเรื่องราวที่ผ่านไป บนใบหน้าที่เปื้อนด้วยรอยยิ้ม หลายคนดูสดใสมีชีวิตชีวากว่าตอนแรกที่ ได้พบ เป็นเสมือนตัวแทน ของค�ำพูดโดยไม่ต้องไถ่ถาม
Check-in 4.45 P.M.
We started driving out of Wat Asokaram heading towards the old Sukhumvit Road and turned into Soi Tesaban Bang Pu 70 or 72 then went straight to the end of the Soi where there is a restaurant by the bay. This place is named “The 2nd Bangsaen” because the atmosphere and the beauty of nature are comparable. By the bay, there is a stretch of road for many kilometers where we took a walk to see the sun about to set. If you have a bicycle you can take it for a pleasant ride here. In the evening, we can watch the sun set on Phra Chulachomklao Fort side. Along the way there are cyclists, lovers walking hand in hand and some groups come as a family. The scene in front featured serene sea, soft cool breeze on our skin and the sky with beautiful colors painting by painter named “Nature”. The background is the mangrove forest abundant with cork trees, mangrove and nipa palms together with the sounds of various animals cooing. This is not only a view point area in the evening but it is a place of relaxation for everybody. The golden minute strikes when the sun is about to set on the horizon shining the golden light on the water making silhouette of boats at sea. It is the moment that many people are waiting for and many of them taking out their mobile phones or cameras to take the picture of this magical moment before the sun waves them goodbye. ที่ตั้ง : ชมตะวันลับขอบฟ้าริมอ่าว เทศบาลบางปู 72 (บริเวณริมอ่าว) หมู่ 14 ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ Location : Sunset At Bang Pu
Soi Tesaban Bang Pu 72 Moo 14, Taibaan Subdistrict, Mueang Samut Prakan District, Samut Prakan
76 Cover Story เรื่องจากปก
Enjoying Cool Breeze
Dinner by the Bay รับลมเย็นริมอ่าว ดื่มด�่ำอาหารมื้อค�่ำ เวลา 18.30 น. ตะวันลับขอบฟ้าได้ ไม่นาน ทีมงานต่างลงความเห็นว่าสิ้นสุด ของการเดินทางคงต้องปิดท้ายด้วยอาหารอร่อยในบรรยากาศที่ชวน หลงใหลที่ ส� ำ คั ญ มาบางปู ทั้ ง ที่ ต ้ อ งสั ม ผั ส บรรยากาศริ ม อ่ า ว กินอาหารทะเลอร่อย ที่ไม่แพ้ที่ใด ทีมงานต่างพุ่งตรงไปที่ “ร้านระเบียง ทะเล” ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกันกับจุดชมวิวตะวันลับขอบฟ้า เป็นร้าน อาหารในบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟริมอ่าว จากสวนอาหารแห่งแรกใน จังหวัดสมุทรปราการ ในชื่อร้านอาหารลานทอง ได้แตกหน่อต่อยอด อีกหนึ่งสาขาภายใต้ชื่อ “ระเบียงทะเล” นอกจากจะสืบทอดรสชาติ ความอร่อยแล้ว ยังมีบรรยากาศติดริมทะเล รับลมจากอ่าวไทย ท�ำให้ ที่นี่เป็นจุดนัดพบที่มีมากกว่าอาหารอร่อย
กรกฎาคม 2557 / July 2014
77
Check-in 6.30 P.M.
เมนูเด็ดชวนเรียกน�้ำย่อย มีให้เลือกหลากหลาย ปลาทูโป๊ะทอด ราดพริกสด เส้นหมี่ผัดผักกระเฉดใหญ่ ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน และที่ขาดไม่ได้อาหารยอดนิยม ส้มต�ำทะเลปูม้าสด นอกจากจะได้ ดืม่ ด�ำ่ กับบรรยากาศแล้ว ยังปิดท้ายด้วยความอร่อยของอาหารทะเลสดๆ ถือว่าเป็นการเดินทางที่สมบูรณ์แบบที่ไม่ต้องขับรถไป-กลับให้เร่งรีบ แถมได้สมั ผัสกลิน่ อายของวิถชี วี ติ ไหว้พระขอพรเสริมสิรมิ งคล กินอาหาร และชมบรรยากาศริมทะเลในแบบใกล้ชิด ไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่จะท�ำ กิจกรรมได้หลากหลายแบบนี้ ให้ครบถ้วนภายในวันเดียวแบบสบายๆ แต่ถ้าหากใครเป็นขาลุย มาบางปูทั้งทียังไม่เหน็ดเหนื่อย อยากลุย ต่อในช่วงค�่ำ เรามีอีกสถานที่ที่อยากจะแนะน�ำส�ำหรับคนชอบลุย โดยเฉพาะ ที่ถนนคนเดิน..บางปู เป็นการปิดท้ายก่อนโบกมือลา.. บางปู เที่ยวหลากสไตล์ ในบรรยากาศริมอ่าว
After the sun set, we agreed that it was the end of our trip but we should end the program with sumptuous dinner in the enchanting atmosphere. For visiting Bang Pu, it is a must to experience the atmosphere by the bay and eating seafood. We went straight to “Rabiang Talay” Restaurant which is in the same vicinity. This restaurant commands the exclusive atmosphere by the bay and is the first restaurant in Samut Prakan. Initially, it was named “Lantong” Restaurant and branched into “Rabiang Talay”. Apart from the inherited delicious taste, this new branch also has the atmosphere of the bay and receiving the benefit of the sea breeze which make this place a meeting point rather than for delicious foods. There are many signature dishes such as fried mackerel with fresh chili sauce, stir-fried rice vermicelli with water mimosa, steamed seafood curried pudding in whole young coconut, and a dish that should not be missed - spicy papaya salad with fresh blue crab. The pleasant atmosphere and ending the day with fresh seafood make a perfect trip that we do not have to rush plus we can experience the way of life essence, pay homage to Buddha images for propitious, enjoy the atmosphere by the bay and good food. There is no other place where we can easily do all the activities in a day. For adventurous travelers who are not tired after the whole day trip, we have another place to recommend.. Bang Pu walking street where you can make a visit before waving goodbye.
ที่ตั้ง : ร้านระเบียงทะเล 72 1/71 ถ.สุขุมวิท (สายเก่า) ซ.เทศบาลบางปู 72 หมู่ 14 ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 - 23.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์. 0-2709-1825 Location : Rabiang Talay Restaurant 72 1/71 Sukhumvit Road (Old), Soi Tesaban Bang Pu 72 Moo 14, Taibaan Subdistrict, Mueng Samut Prakan District, Samut Prakan Open : Everyday from 11.00-23.00 hours For more information call 0-2709-1825
78 Cover Story เรื่องจากปก
กรกฎาคม 2557 / July 2014
Shopping in the Evening
79
At Bang Pu Walking Street ช็อปปิ้งยามเย็น..ที่ถนนคนเดินบางปู ลึกเข้าไปในซอยเทศบาลบางปู 77 หรือ นิคมอุตสาหกรรมบางปู ช่วงท้ายซอย ติดต่อกับซอยแพรกษา 14 มีตลาดถนนคนเดินให้ขาช็อปทั้งหลาย ได้เดินเลือก ซื้อสินค้าในบรรยากาศแสงไฟสลัวๆ อากาศเย็นสบาย มีทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น ของเล่น แสนเก๋ พวงกุญแจหลากสี และของกินสุดแซบ วางขายเรียงรายบนถนนนิคม อุตสาหกรรม ระยะทางยาวกว่า 500 เมตร เอาใจขาช็อปยามเย็น สิ น ค้ า ที่ ว างขายก็ มี ห ลากหลายสไตล์ ใ ห้ ไ ด้ เ ดิ น เลื อ กซื้ อ กั น อยู ่ ห ลายร้ า น ส่วนคนไหนที่ชอบสินค้าแนวเก๋ไก๋ น่ารักๆ ที่นี่เขาก็มีวางขาย พวกของเล่นขนาดจิ๋ว กระปุกออมสิน พวงกุญแจ กระเป๋าผ้า ตุ๊กตา ฯลฯ ส�ำหรับคนที่ชอบเดินไปกินไป หรือนั่งกินที่ร้าน ตลาดถนนคนเดินแห่งนี้เขา ก็มีอาหารวางขาย เช่น ซูชิ ขนมปัง น�้ำผลไม้ เป็ดพะโล้ ไก่อบสมุนไพร ปลาเผา ข้าวมันไก่ สลัดผัก ปลาหมึกย่าง ย�ำลูกชิ้น ขนมถ้วย ไข่ทรงเครื่อง ข้าวโพดคลุกเนย สตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต ฯลฯ ส่วนร้านที่ถือเป็นไฮไลต์ของตลาด คือร้านกุ้งอบวุ้นเส้น ของคุณพี่กฤษณาพร เพราะร้านของพี่แกมีลูกค้ามายืนต่อแถวกันยาวเหยียด มีคน แอบมากระซิบบอกกับเราว่ายิ่งช่วงดึกๆ ถึงกับต้องแจกบัตรคิวกันให้วุ่นวาย รสชาติ คงแซบถูกปากไม่น้อย นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดถ้าได้มาบางปู เพราะเสมือนมาที่เดียว ได้สินค้าครบทุกแนว ซึ่งที่นี่เขาเปิดทุก ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป เรียกได้ว่าเอาใจขาช็อปปิ้งยามเย็น ในบรรยากาศสบายๆ แสงไฟสลัวๆ เป็นการปิดท้ายการเดินทางส�ำหรับขาลุยทั้งหลาย
80 Cover Story เรื่องจากปก
Deep inside Soi Tesaban Bang Pu 77 or Bang Pu Industrial Estate, almost at the end of the Soi connecting with Soi Praeksa 14 there is a walking street for shopping enthusiasts to stroll in the dim light and pleasant weather. Here, shoppers will find fashion garments, cool toys, colorful key chains and yummy foods on display and sale along the Industrial Estate Road for about 500 meters long. Goods on sale are varied in style to please the shoppers such as chic and cute products, tiny toys, piggy banks, key chains, fabric bags, dolls, etc. For those who like to shop while eating or just eating at the shop, there are many kinds of food on this walking street such as sushi, bakery, fruit juice, casserole duck, herbal braised chicken, chicken rice, green salad, grilled
กรกฎาคม 2557 / July 2014
squid, spicy meat ball salad, steamed Thai desserts, eggs with variety of condiments, buttered corn kernel, strawberry yoghurt, etc. The highlight restaurant of this market is serving shrimp with vermicelli by Miss Krisanaporn where customers line up waiting for their turn. We were told that late in the night, customers will be even in great number that the restaurant has to apply the queue card system. The taste must be very yummy. This is another venue that should not be missed when you visit Bang Pu because you can find everything in just one place. The walking street opens every Friday, Saturday and Sunday from 18.00 hours onwards. It can be said that this activity is to please the evening shoppers in relaxing atmosphere before ending the trip for adventurous travelers.
ที่ตั้ง : ตลาดถนนคนเดิน อยู่ท้ายนิคมอุตสาหกรรมบางปู ฝั่งแพรกษา ซอย 14. จ.สมุทรปราการ เปิดบริการทุก ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 18.00-22.00 น. Location : Walking Street
At the back of Bang Pu Industrial Estate on Praeksa Soi 14 side, Samut Prakan Open : Every Friday, Saturday and Sunday Opening hours: 18.00-22.00 hours
81
82 Cover Story เรื่องจากปก
check in
beautiful View เช็กอิน วิวสวย ภาพหลากสไตล์ หลายอารมณ์ เมื่อมาสัมผัสมนต์เสน่ห์..บางปู ต้องไม่พลาดที่จะถ่ายภาพเช็กอิน ให้หลายคนต้องรู้สึกอิิจฉา Do not miss Check-in when you touch the chaming at Bang Pu. It’s show off time.
วัดอโศการาม Wat Asokaram
วัดอโศการาม Wat Asokaram
สะพานริมอ่าว วัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ Jetty at Wat Srichantpratit
ร้านอาหารระเบียงทะเล Rabiang Talay Restaurant
สะพานสุขตา สถานตากอากาศบางปู Sukta Jetty Bang Pu Seaside Resort
Foot Gulf’s part at Soi Tesaban Bang Pu 70
ภาพธรรมชาติ วิวสวยๆ และวิถีชีวิตดั้งเดิม หลากสไตล์ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองภาพ จะท�ำให้ทุกคนสัมผัสถึงความมหัศจรรย์ที่ถูกซ่อนไว้ ในดินแดนริมอ่าวไทยที่..บางปู
ทางเดินริมอ่าว ซอยเทศบาลบางปู 70
กรกฎาคม 2557 / July 2014
บ้านริมอ่าว ซอยเทศบาลบางปู 108 (ต�ำหรุ) Baan Rim Ao, Soi Tesaban Bang Pu 108
สถานตากอากาศบางปู Bang Pu Seaside Resort
พื้นที่หลังนิคมอุตสาหกรรมบางปู Oasis at Bang Pu industrial settelment
สถานตากอากาศบางปู Bang Pu Seaside Resort
สถานตากอากาศบางปู Bang Pu Seaside Resort
สถานตากอากาศบางปู Bang Pu Seaside Resort
ชุมชนคลองศาลาแดง Klong Sara Daeng Community
สถานตากอากาศบางปู Bang Pu Seaside Resort
สถานตากอากาศบางปู Bang Pu Seaside Resort
83
You will be surprised and indulging in natural charms through may pictures of Bang Pu.
84 Map
บางปู
BANG PU
แผนที่
กรกฎาคม 2557 / July 2014
85
86 Living Guide พักนี้..ที่ผ่อนคลาย
Puyai Aoy
Longstay
Experience Garden Home Way of Life and Indulging in Natural Charms
ผู้ใหญ่อ้อยลองสเตย์
สัมผัสชีวิตบ้านสวน ดื่มด�่ำมนต์เสน่ห์ธรรมชาติ
กรกฎาคม 2557 / July 2014
ห
ากว่าการนอนอยู่บ้าน ดูหนัง ฟังเพลง เดินห้าง ในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ มันน่าเบือ่ เกินไป เราจะพาคุณทิง้ ความจ�ำเจกับ วิถีเดิมๆ แล้วเก็บเสื้อผ้าใส่เป้ล่องหนไปยังสถานที่อันแวดล้อม ไปด้วยธรรมชาติ สูดอากาศบริสทุ ธิใ์ ห้เต็มปอดเติมพลังให้กบั ชีวติ กันที่ ผู้ ใหญ่อ้อยลองสเตย์ แน่นอนว่าความสนุกสุขสันต์ยังครบครันเช่น เดิมหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ�ำ้ ผู้ ใหญ่อ้อยลองสเตย์ เป็นบ้านพักในบรรยากาศบ้านสวน ให้ความร่มรืน่ เย็นสบาย อยูท่ า่ มกลางการโอบล้อมด้วยต้นไม้นอ้ ยใหญ่ และดอกไม้นานาพรรณ ที่ออกดอกชูช่อรอสร้างความสุข แข่งกับ เสียงนกร้องผสานเสียงลมพัดผ่านราวกับว่ามีใครก�ำลังบรรเลงดนตรี ที่นี่จึงเป็นเสมือนสถานที่ลี้ภัยส�ำหรับผู้ที่ต้องการทิ้งความวุ่นวาย ความเร่งรีบ และการแข่งขัน เอาไว้ชวั่ คราว แล้วมาใช้ชวี ติ ช้าๆ เนิบๆ อยู่กับตัวเองและธรรมชาติ รับรองว่าช่วยผ่อนคลายความเครียด และความเหนือ่ ยล้าจากภาระหน้าทีก่ ารงานได้อย่างดี
จุดเด่นของที่นี่คือความเป็นธรรมชาติ เรียบง่าย ไม่เน้น ความหรูหรา แต่มีสิ่งอ�ำนวยความสะดวกพื้นฐานไม่ขาดตก บกพร่อง และยังมีจักรยานให้เช่าด้วย บวกกับความเป็นกันเอง ของ นางบุญจวี ฤกษ์รัตน์ หรือ ผู้ ใหญ่อ้อย เจ้าของที่พักแห่งนี้ ที่คอยดูแลและให้บริการอย่างดี จนรู้สึกเหมือนกับมาพักที่บ้าน ญาติของตัวเองอย่างไงอย่างงั้น ยามเช้าของที่นี่จึงเริ่มต้นด้วยการนั่งจิบกาแฟ แล้วเดิน ทอดน่องชมนกชมไม้ สายๆ หน่อยก็เอนกายนอนเล่น ตกบ่ายก็ จิบน�ำ้ ชาพร้อมหยิบหนังสือเล่มโปรดมาอ่านให้เพลินใจ พอแดดร่ม ลมตกก็ปั่นจักรยานไปสัมผัสกลิ่นอายวิถีชีวิตของชาวบ้าน หรือ ใครที่อยากจะชม ชิม ช็อป ของดี ของอร่อย ก็ปั่นจักรยานไปอีก หน่อยก็จะพบกับตลาดน�้ำบางน�้ำผึ้ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก แต่ ส�ำหรับไฮไลต์เด็ดคือการชมแสงกระพริบระยิบระยับของหิ่งห้อย ที่ออกมาแข่งกันส่องประกายความงามในยามค�่ำคืน ทัง้ หมดนี้ คือมนต์เสน่หข์ องธรรมชาติทที่ กุ คนจะได้รบั เมือ่ มาเยือน
87
88 Living Guide พักนี้..ที่ผ่อนคลาย
S
hould the relaxation at home, listening to music, watching movies or visiting department stores during weekends somehow becomes boring activities, we would take you away from the familiar way of life. Pack your knapsack and disappear to where Mother Nature is plentiful and you can inhale a full lung of fresh air to invigorate your life at Puyai Aoy Long Stay. We guarantee that you will be fully happy or even happier than usual. Puyai Aoy Long stay is a home stay in garden home atmosphere in the embrace of trees and variety of flowers with pleasing sound of singing birds through the softly blowing winds as if there is an ensemble playing for you. This place seems to be a temporary hideaway for those who want to escape from the chaotic, rushing and competitive way of life, a place where they can live a slow and peaceful life with oneself amid the nature. We guarantee that a stay here will relieve your stress and fatigue from your daily obligations and workload. The highlight of this place is the nature, simple not luxurious with complete standard facilities. Additionally, bicycles are available for rent as well. Moreover, the friendliness of Mrs. Boonjavee Rirkrut or Puyai Aoy, the owner of the home stay, her attention and service will make you feel as if staying with your own cousins. We start in the early morning, after sipping coffee we take a stroll visiting the orchard and garden plots. Late in the morning, we lie down leisurely and in the afternoon it’s time for tea while reading your favorite book. Late in the afternoon when the sun is not so strong, ride a bicycle to experience the villagers’ way of life. For those who would like to visit and shop for foods and souvenirs, ride a little further you will see Bang Nampheung Market which is not far from where you stay. The coolest highlight is watching the fireflies in the night time. All the above are the charms of nature that everybody will get from the visit.
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสุขมุ วิท มุง่ หน้าสู่ จังหวัดสมุทรปราการ ขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษก-สุขสวัสดิ์ เข้าอ�ำเภอพระประแดงเลี้ ย วซ้ า ยสู ่ ถ นน เพชรหึงษ์ ซอยเพชรหึงษ์ 26 ก่อนถึงทางเข้าตลาดน�้ำบางน�้ำผึ้งสังเกตป้าย ซอยบัวผึ้งพัฒนา 2 เข้าไปประมาณ 500 เมตรจะพบผู้ ใหญ่อ้อยลองสเตย์ ที่ตั้ง : ผู้ ใหญ่อ้อยลองสเตย์ เลขที่ 7 หมู่ 7 ซอยบัวผึ้งพัฒนา 2 ต.บางน�ำ้ ผึง้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ : 0-2815-0377, 08-6882-4753 www.pyaoylongstay.com เปิดบริการ : ทุกวัน (ตลอด 24 ชั่วโมง)
Location : PUYAI AOY LONGSTAY No. 7, Moo 7, Bang Nampheung Subdistrict, Phra Pradaeng District, Samut Prakan Open : Every day (24 hours) For more information call : 0-2815-0377, 08-6882-2753 or www.pyaoylongstay.com
กรกฎาคม 2557 / July 2014
89
90 Rest in Natural สีสันใต้เงาไม้
กรกฎาคม 2557 / July 2014
91
บรรยากาศยามค�่ำคืน บริเวณอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 9 ภายในสวนสุขภาพลัดโพธิ์ Rama IX Monument in the night time at Lat Pho Health Park.
92 Rest in Natural สีสันใต้เงาไม้
กรกฎาคม 2557 / July 2014
Admiring the Scenery.. A Touch of Quaint Art
Lat Pho Health Park ชมทิวทัศน์..สัมผัสงานศิลปะแปลกตา ณ สวนสุขภาพลัดโพธิ์ คงจะดีไม่น้อย..หากเราสามารถเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนไปพร้อมกับการออกก�ำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์ทั้งเช้าและเย็น ในสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม ประหนึ่งว่าเงยหน้ามองฟ้าเห็นงานศิลปะแปลกตาจากเส้นสายสะพานพันเกี่ยวเวียน เลื้อยไปมา มองเบื้องหน้าเห็นสายธาราหลั่งริน พร้อมกลิ่นของธรรมชาติอากาศบริสุทธิ์ เกริ่นน�ำมาพอหอมปากหอมคอ ก็คงพอจะทราบกันแล้วว่าคือสถานที่แห่งไหน ซึ่งก็ ไม่ใช่ที่อื่นไกล @SAMUTPRAKAN Travel ฉบับนี้จะพาท่าน ผู้อ่านมาเที่ยวสวนสุขภาพลัดโพธิ์ ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นั่นเอง
ส
วนสุขภาพลัดโพธิ์เป็นสวนสาธารณะที่อยู่บริเวณใต้ สะพานภูมพิ ล 1 และสะพานภูมพิ ล 2 หรือเรียกอีกชือ่ หนึง่ ว่า สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม สวนสาธารณะแห่ง นี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมุมพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยม ด้ ว ยภายในที่ จั ด ตกแต่ ง อย่ า งสวยงามถู ก เนรมิ ต ให้ เ ป็ น สถานที่จัดแสดงผลงานประติมากรรมร่วมสมัยขนาดย่อมๆ ไว้หลายชิ้น รวมถึงแบ่งพื้นที่เป็นสวนสีเขียวส�ำหรับการ ออกก� ำ ลั ง กายและการพั ก ผ่ อ นหย่ อ นใจ อี ก ทั้ ง ยั ง เป็ น ที่ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ไว้ ให้ประชาชนได้สักการะบูชาเมื่อมาเยือน นอกจากนี้ ด้านในยังมีส่วนของอาคารพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ แบ่ ง ออกเป็ น 3 ส ่ ว น คื อ ส่ ว นที่ 1 จั ด แสดงเกี่ ย วกั บ โครงการในพระราชด�ำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ส่วนที่ 2 บอกเล่าเรื่องราวประวัติประเพณี และวัฒนธรรม ของชาวมอญพระประแดง และส่วนที่ 3 แสดงเกี่ยวกับ งานก่อสร้างโครงการถนนวงแหวนอุตสาหกรรมมี บ อร์ ด แสดงสะพานข้ า มแม่ น�้ ำ เจ้ า พระยาในกรุ ง เทพมหานคร และปริมณฑล ในช่ ว งเช้า และเย็น สวนสุข ภาพลัด โพธิ์ แ ห่ ง นี้ ดู คึกคักยิ่งกว่าช่วงเวลาไหนๆ เพราะด้วยบรรยากาศเย็น สบายประกอบกับติดแม่น�้ำเจ้าพระยาและประตูระบายน�้ำ คลองลัดโพธิ์ยิ่งท�ำให้ผู้มาเยือนหลงรักได้ง่ายดาย อีกทั้ง มีมุมมองยามค�่ำคืนที่สะดุุดตาเพราะสามารถยืนชมสะพาน ภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 ซึ่งเป็นสะพานแขวนพาด ผ่ า นไปมาคล้ า ยงานศิ ล ปะอั น สวยงามแปลกตายิ่ ง ท� ำ ให้ สถานที่แห่งนี้มีเสน่ห์ดึงดูดให้ ใครหลายคนแวะเวียนมา เที่ยว ณ ที่แห่งนี้ ได้ไม่ยาก
I
s it not wonderful if we can make a leisure trip together with taking physical exercise in early morning and evening in the place where the scenery is beautiful when looking up into the sky and admiring the quaint art of intertwined suspension cables while the river is flowing in front of you? A short introduction could lead readers to guess where this location is. In this issue, @SAMUTPRAKAN Travel will take you to Lat Pho Health Park in Song Kanong Subdistrict, Phra Pradaeng District, Samut Prakan. Lat Pho Health Park is a public park under the Bhumibol I and Bhumibol II Bridges or known in another name as Industrial Ring Bridge. It is a popular public park with beautiful landscape adorned with contemporary works of arts. A part of the park is reserved as the green area for relaxation and physical exercise The most important of all is that there is a statue of His Majesty the King for people to pay homage upon arrival. Furthermore, inside there is the museum zone which is divided into 3 sections: the first section displays exhibitions on His Majesty’s Royal Initiated Projects; the second section displays about history, culture and traditions of Mon ethnic in Phra Pradaeng and the third one is the exhibitions on the Industrial Ring Road Project with information board showing locations of all bridges over the Chao Phraya River in Bangkok and suburb. Every morning and evening, this Lat Pho Health Park is more vivacious than other times of the day because of the relaxing and pleasant atmosphere by the Chao Phraya River. The Lat Pho Floodgate also helps make visitors easily fall in love with the park. Bhumibol I and Bhumibol II Suspension Bridges offer a splendid view in the night time, as if it is a work of art, with their intertwined suspension cables attracting people to visit this place.
93
94 Rest in Natural สีสันใต้เงาไม้
กรกฎาคม 2557 / July 2014
95
96 Rest in Natural สีสันใต้เงาไม้
การเดินทาง
สามารถใช้ เ ส้ นทางจากถนนสุ ข สวั ส ดิ์ เ ข้ า สู ่ ถ นนวงแหวนอุ ตสาหกรรมตรงไป จนถึงสามแยก จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราชวิริยาภรณ์ เมื่อถึงสามแยก วั ด ไชยพยนต์ ฯ ให้ เ ลี้ ย วขวาข้ า มสะพานคลองลั ด หลวง ผ่ า นวั ด โปรดเกศฯ เลีย้ วซ้ายเข้าถนนทรงธรรมวิง่ ตรงไปจนถึงสามแยกวัดทรงธรรม ให้เลีย้ วซ้ายเข้าถนน เพชรหึงษ์ วิ่งตรงไปผ่านสี่แยกซอยหรรษา ก่อนถึงสะพานข้ามคลองลัดโพธิ์ ก็จะถึงสวนสุขภาพลัดโพธิ์ อีกเส้นทางหนึ่ง คือจากถนนสุขสวัสดิ์ใช้ถนนนคร เขือ่ นขันธ์ทางตลาดพระประแดงแล้วเลีย้ วซ้ายเข้าถนนเพชรหึงษ์ ตรงไปเรือ่ ยๆ ก็จะ ถึงสวนสุขภาพลัดโพธิ์ สามารถติดต่อได้ที่ : ส�ำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวงชนบท โทรศัพท์ : 0-2299-4446-8 อาคารควบคุมสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม โทรศัพท์ : 0-2464-2057-58
For more information or group visit request, please contact Bureau of Bridges Construction, Department of Rural Roads, Tel : 0-2299-4446-8 Industrial Ring Road Control Building, Tel : 0-2464-2057-58
หนึ่งเดียวในโลก แห่งเดียวในประเทศไทย 199 ANNIVERSARY of Lotus Receiving Tradition The only one in the world One Only in Thailand
วันโยนบัว
7 ตุลาคม 2557 เริ่มเวลา 7.00 น. Lotus Receiving Day 7 October 2014 7.00 A.M.
งานประเพณีรับบัว : LOTUS Receiving Tradition
เริ่มวันที่ 1-9 ตุลาคม 2557 ณ วัดบางพลีใหญ่ ใน (พระอารามหลวง) เลขที่ 130 หมู่ 10 ต�ำบลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 1-9 October 2014 At Wat Bang Phli Yai Nai. Location : 130 Moo 10, Bang Phli Subdistrict, Bang Phli District., Samut Prakan.
98
Familiar Path มุมบันดาลใจ
pheungnang homestay
พิพิธภัณฑ์ของเก่าและเปลือกหอย
ผึ้งนางโฮมสเตย์ เก็บสะสมด้วยรัก..จัดแสดงด้วยฝัน
พิ
พิธภัณฑ์ของเก่าและเปลือกหอย ผึง้ นางโฮมสเตย์ แหล่งรวบรวม ของเก่าอายุหลายร้อยปี ทั้งหม้อดินเผา ถ้วยเคลือบ เครื่องแก้ว และเปลือกหอยหลากหลายสายพันธุ์ ทีค่ ณ ุ ฉวี ศิรปิ ระวัตกิ ลุ เจ้าของโฮม สเตย์ได้เก็บสะสมด้วยใจรัก แล้วน�ำมาจัดแสดง เปิดเป็นพิพธิ ภัณฑ์เล็กๆ เพื่อให้บุคคลที่สนใจเรื่องราวเหล่านี้เข้ามาศึกษากับแบบฟรีๆ โดยไม่ เสียค่าใช้จ่าย เพราะของทุกชิ้นในเรือนไม้ทรงไทยหลังนี้คือสิ่งที่เธอรัก และเป็นความฝันสูงสุดของนักสะสมอย่างเธอด้วยเช่นกัน ตัวพิพธิ ภัณฑ์เป็นบ้านไม้เรือนไทยยกใต้ถนุ สูง ซึง่ เธอเล่าให้เราฟัง ว่าในวัยเด็กเติบโตมากับสภาพแวดล้อมที่เป็นเรือนไทยโบราณ และได้ สัมผัสกับของเก่าแก่บอ่ ยครัง้ ท�ำให้เธอรักและหลงใหลกับสิง่ ของเหล่า นั้นทั้งหัวใจ ซึ่งไม่แปลกนักที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นเรือนไทยทั้งหลัง และมีของสะสมมากมายจัดแสดงแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยแบ่งออก เป็น 3 ห้องจัดแสดง เพื่อให้ง่ายต่อการเยี่ยมชม
A
ntique & Seashell Museum at Pheungnang Homestay has a collection of antiques aged several centuries, be it clay pots, porcelain, glassware and seashell of various species that Mrs. Chawee Siriprawatkul, home stay owner, has been collecting with passion and displaying in a small private museum. The museum is open for the public and the admission is free for interested public. All of the objects on display in this Thai style house are purely her passion and it is also an ultimate dream of all collectors, herself as well, to share the beauty of the collection. The Museum housed in an elevated Thai style wooden house. The owner told us that she has grown up in this old Thai style atmosphere and familiar with antiquities that made her falls in love with them. It is not a surprise that this museum is the whole Thai style house with a huge number of collections that are clearly categorized. For the convenience of visitors, the exhibition is divided into 3 zones.
กรกฎาคม 2557 / July 2014
99
100 Familiar Path มุมบันดาลใจ
ห้องจัดแสดงตู้เก็บของเก่า และชุดเครื่องแก้วร่วมสมัย
เพียงเดินขึ้นบันไดมาด้านบนของเรือนไทยหลังนี้ ก็จะได้พบกับ ตูเ้ ก็บของเก่ามากมาย ทัง้ หม้อดินเผา ไหดินเผา ถ้วยเคลือบ เครือ่ งแก้ว เครื่องทองเหลือง กาน�้ำชา ซึ่งบางชิ้นมีอายุอานามหลายร้อยปี อย่าง เช่น เตารีดโบราณ สมัยรัชกาลที่ 4 ที่ปัจจุบันหาดูได้ยาก ในพิพิธภัณฑ์ แห่งนี้เขาก็เก็บไว้ ให้ชมกัน นอกจากวัตถุโบราณเก่าแก่ของไทยแล้ว คุณฉวี ยังเป็นนักเดิน ทางตัวยง และทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ ความคลั่งไคล้ของ สะสมของเธอก็ ไม่เคยจางหาย เพราะเธอมักซื้อกลับมาด้วยทุกครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นชุดเครื่องแก้วร่วมสมัยรูปทรงแปลกตา จากประเทศ อิตาลี และมีอีกหนึ่งสิ่งที่ส�ำคัญไม่แพ้กัน คือ ตุ๊กตาขนาดจิ๋ว ที่ข้ามน�้ำ ข้ามทะเลมาจากอเมริกา เป็นของเล่นวัยเด็กของลูกชาย ซึ่งเธอได้น�ำ มาจัดแสดงไว้ด้วยเช่นกัน
Cabinets Displaying
Antiques & Contemporary Glassware Taking the stairs to the elevated level, we will find a number of cabinets displaying antiques such as clay pots, porcelain, glassware, brassware, teapots, etc. Some pieces aged several hundred years such as the ancient iron from King Rama IV reign. Besides being an avid collector of Thai antiques, Mrs. Chawee is also an avid traveler too. Every time she travels abroad, her passion for collecting art pieces has never diminished because she always brings back with her something mostly contemporary eye catching glassware particularly from Italy. Another kind of collection that is not less important is tiny dolls from the USA. They are her son’s toys that she puts on display as well..
กรกฎาคม 2557 / July 2014
101
ห้องจัดแสดงเปลือกหอย หลากสีสันจากประเทศอินเดีย
พอก้าวเข้ามาห้องกลาง ซึ่งเป็นห้องจัดแสดงเปลือกหอยหลาก หลายสายพันธุ์ กว่า 700 ชิ้น หนึ่งในของสะสมที่เธอรักมากเป็นพิเศษ เพราะในอดีตคุณฉวีชื่นชอบการด�ำน�้ำเป็นชีวิตจิตใจ และเคยท�ำงาน เกีย่ วกับการด�ำน�้ำในท้องทะเลภูเก็ต นานถึง 20 ปี ท�ำให้เธอตกหลุมรัก เจ้าเปลือกหอยหลากสีสันเหล่านี้อย่างหมดหัวใจ จึงเป็นเหตุให้เธอเริ่ม เก็บสะสมเปลือกหอยไว้มากมาย อาทิ หอยสังข์ หอยงวงช้าง หอยเชลล์ หอยเกลียวชั้น หอยแต่งตัว หอยแครงหัวใจ หอยโข่ง หอยมือผีเล็ก หอยมือผีใหญ่ หอยชักตีน หอยมือเสือ หอยหนุม่ สาว หอยม้วนเล็ก หอย มะเฟืองเกลียว หอยหูชา้ ง หอยปีกนางฟ้า หอยสีนำ�้ ตาล หอยทุเรียนขาว งอก หอยเบี้ยสี หอยเบี้ยลาย หอยปีกม่วง หอยก้างปลา หอยเทียนชัย หอยกระดูก หอยแหลมลาย และหอยลายเวียน โดยเปลือกหอยที่ เห็ น ในพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ แ ห่ ง นี้ เ ธอสั่ ง ซื้ อ มาจากประเทศอิ น เดี ย และพม่า ซึ่งเธอแอบบอกกับเราว่าเปลือกหอยบางชิ้นในห้องจัดแสดง หาดูใน เมืองไทยไม่ได้เชียวนะ ส่วนเปลือกหอยที่คุณฉวีชอบมากเป็นพิเศษและถือเป็นไฮไลต์ หลักของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือเปลือกหอยสังข์เวียนซ้าย จากประเทศ อินเดีย หอยหายากที่เธอซื้อมาในราคาแพงหลายแสน ซึ่งเธออธิบาย ให้เราฟังว่า ปกติเปลือกหอยทัว่ ไปจะเวียนขวา น้อยนักจะเจอหอยเวียน ซ้าย ดังนัน้ เจ้าหอยชนิดนีจ้ งึ เป็นทีต่ อ้ งการของตลาด และเป็นชิน้ ทีเ่ ธอ รักมากที่สุดนั่นเอง
Colorful Seashells from India
In the middle room, it is an exhibition of more than 700 seashells of diverse species, one of her special passionate collections. In the past Mrs. Chawee was a scuba diving aficionado that she had worked about scuba diving in Phuket for 20 years. That is the reason why she is fondly in love with those colorful seashells and started collecting seashells of various species such as conch, pearly nautilus, scallop, carrier shell, heart cockles, apple shanil, scorpio spider conch, dog conch, giant clam, harp shell, Lister’s spider conch, colored cowrie, wood cock murex, white planococcus minor, etc. She orders the seashells on display in the museum from India and Myanmar which she secretly told us that some pieces are the only pieces in Thailand. For the seashell that she cherishes the most is the sinistral or left-handed conch from India. It is a rare seashell that she paid hundreds thousand Baht for it. She further elaborated that normally the conch shell will be right-handed or dextral. The left-handed one is very rare. That is the reason why such a conch shell is in great demand and this is the piece that she loves the most.
102
Familiar Path มุมบันดาลใจ
กรกฎาคม 2557 / July 2014
103
ห้องจัดแสดงเฟอร์นิเจอร์โบราณ ของเก่าแก่ต้นตระกูล
จากห้องแสดงเปลือกหอย เดินลึกเข้าไปจะเป็นห้องเก็บสะสม เฟอร์นเิ จอร์โบราณ ของเก่าแก่ตน้ ตระกูลคุณฉวี ซึง่ มีตงั้ แต่โต๊ะเครือ่ งแป้ง โต๊ะหมูบ่ ชู า ตู้ไม้เก่า และมีตเู้ ก็บพวกเครือ่ งประดับเก่าแก่ตา่ งๆ จ�ำพวก สร้อยคอ นาฬิกาข้อมือ แหวน ฯลฯ โดยภายในห้องมีการประดับตกแต่ง ด้วยรูปภาพแนวย้อนยุคอย่างสวยงาม สิ่งของสะสมที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์เรือนไทยโบราณหลังนี้ เริ่มด้วย ความใฝ่ฝันในวัยเด็กของคุณฉวีที่อยากมีบ้านเรือนไทยเป็นของตนเอง บวกกับความชอบสะสมของเก่าเป็นทุนเดิม ท�ำให้สงิ่ ของทุกชิน้ ทีจ่ ดั แสดง ในเรือนไม้หลังนีล้ ว้ นมีคณ ุ ค่า เพราะเธอเก็บสะสมด้วยใจรัก และน�ำมา จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ด้วยแรงฝัน
ancient Furniture Family Heirloom
From the seashell exhibition room, we walked further deep inside to the room where collections of old furnitures which is the family heirloom are on display. There are dressing tables, sets of altar tables, wooden cabinets and cabinets displaying ancient accessories such as necklaces, watches, bracelets, rings, etc. The room is beautifully adorned with retro-pictures. The collections in this museum under the Thai style roof started from Mrs.w Chawee’s aspiration since she was very young that she would like to own a Thai style house together with her love for collecting antiques. Thus, it makes every piece displayed in this wooden house invaluable because she collects everything with passion and puts them on display as a museum to fulfill her dream.
ภาพเกจิอาจารย์ เมือ่ ครัง้ สมัยก่อนทีน่ บั วันจะหาดูได้ยาก น�ำโดย หลวงปูม่ นั่ ถัดมาเป็นหลวงปูห่ ลุย หลวงปูข่ าว และหลวงตามหาบัว Instruction who has dominant in Buddhism
พิพิธภัณฑ์ของเก่าและเปลือกหอย ผึ้งนางโฮมสเตย์ ที่ตั้ง : 12/5 หมู่ 9 (บัวผึ้งพัฒนา ซ.2) ต.บางน�้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ www.phuengnanghome.com โทรศัพท์ 0-2461-3810
การเดินทาง : จากถนนเพชรหึงษ์ : มุง่ หน้าสูต่ ลาดน�ำ้ บางน�ำ้ ผึง้ (ซอยเพชรหึงษ์ 26) ก่อนถึง ทางเข้าวัดบางน�ำ้ ผึง้ นอก สังเกตซอยบัวผึง้ พัฒนา 2 พิพธิ ภัณฑ์จะอยูท่ เ่ี ดียวกับ ผึง้ นางโฮมสเตย์ จากท่าน�้ำวัดบางนานอก : ข้ามเรือมาลงท่าตาเลื่อน แล้วนั่งรถรับจ้างมาที่ ผึ้งนางโฮมสเตย์ Antiques & Seashell Museum, Pheungnang Homestay Location: 12/5 Moo 9, (Bua Pheung Pattana Soi 2) Ying Amnuay, Bang Namphueng Subdistrict, Phra Pradaeng district, Samut Prakan www.phuengnanghome.com Tel. 0-2461-3810
104 Linger Around แวะชิมริมทาง
ส
ำหรับนักท่องเทีย่ วทีม่ าเยีย่ มชมธรรมชาติบางกะเจ้า หลังจากเดิน
ทางหรือปัน่ จักรยานมาเหนือ่ ยๆ สามารถแวะพักสัมผัสบรรยากาศ ดีๆ พร้อมลิ้มรสกาแฟหอมกรุ่นกันที่ร้าน “กาแฟในบ้าน” คาเฟ่เล็กๆ แต่น่ารักมากทีเดียว ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนก่อนถึงตลาดน�้ำบางน�้ำผึ้ง ร้านตกแต่งไว้อย่างเก๋ไก๋ แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของตัวบ้านเปิดเป็น ร้านกาแฟเล็กๆ ที่มาพร้อมการบริการลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว ถ้า ค�ำว่า “โฮมเมด” สื่อถึงการท�ำอาหารให้คนในบ้านรับประทาน ร้าน “กาแฟในบ้าน” ก็เป็นความรู้สึกเดียวกัน เครื่องดื่มทุกแก้วมาจากการ ปรุงแต่งรสชาติจากเจ้าของร้านที่มาเสิร์ฟพร้อมความเป็นกันเอง จน สะท้อนความเป็นโฮมเมดออกมาได้อย่างดี เมือ่ เข้ามาภายในจะพบการตกแต่งร้านแบบผสมผสานกับธรรมชาติ โดยมี โต๊ะ เก้าอี้ เป็นไม้เก่า ประกอบกับความเป็นอาร์ตแกลเลอรีเล็กๆ ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่อบอุ่นราวกับก� ำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ที่บ้าน อย่างไงอย่างงัน้ ทอดสายตาไปรอบๆ จะเห็นก�ำแพงทีต่ กแต่งด้วยดอกชบา ภาพจิตรกรรมทีส่ ดใสมองแล้วสดชืน่ ผ่อนคลาย ภายนอกจะพบกับความร่มรืน่ ของต้นไม้หลากหลายชนิดปลูกไว้รายรอบบ้าน โดยเฉพาะพันธ์ไุ ม้เลือ้ ย ที่ห้อยระย้าอย่างสวยงาม ส่วนเครือ่ งดืม่ นัน้ มีหลากหลายเมนูไว้ ให้ลกู ค้าเลือกเติมความสดชืน่ โดยเฉพาะเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน เมื่อมาแล้วต้องไม่พลาดที่จะ ลิ้มลอง ก็คือ กาแฟมะพร้าวน�้ำหอมปั่น ชาเขียวมะพร้าวปั่น และเมนู กาแฟในบ้าน โดยเจ้าของร้านอย่างคุณณัชชา ศิโรดม กับคุณสมเกียรติ ชูแก้ว ได้คดิ ค้นพัฒนาเมนูกาแฟ กับชาเขียวให้มสี ว่ นผสมของเนือ้ และ น�้ำมะพร้าวน�้ำหอม ซึ่งเป็นวัตถุดิบจากสวนหลังบ้านมาเพิ่มเสน่ห์ ให้กับ กาแฟได้อย่างลงตัว แต่ละเมนูเมือ่ ท�ำออกมาแล้วได้ทงั้ รสชาติของกาแฟ และมีความหอมน�ำ้ มะพร้าวผสมอยูไ่ ด้กลิน่ แล้วรูส้ กึ สดชืน่ เมนูชาเขียว มะพร้าวปั่น ก็เช่นเดียวกัน ส�ำหรับเมนูกาแฟในบ้าน ความพิเศษอยู่ที่การผสมกันระหว่าง กาแฟกับชาเขียว ให้รสชาติเข้มข้นไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังมีเมนู เอาใจคอกาแฟรสดัง้ เดิมอย่าง อเมริกาโน่ เอสเพรสโซ่ คาปูชโิ น่ มอคค่า และลาเต้ จะเป็นแบบร้อนหรือเย็นสั่งได้ตามอัธยาศัย รับรองว่าถูกใจ แน่นอน จะเอาใจคอกาแฟอย่างเดียวก็ ไม่ได้ เพราะที่ร้านก็มี ชาเขียว โกโก้ รวมถึงน�้ำผลไม้สดหลายชนิดไว้คอยเอาใจลูกค้า ทานคู่กับขนม หลากชนิดก็เข้ากันดี “กาแฟในบ้าน” จึงเหมาะแก่การแวะนัง่ พักผ่อนสัมผัสบรรยากาศ ร่มรืน่ พร้อมจิบเครื่องดื่มสักแก้วให้ชื่นใจ แล้วค่อยไปตะลอนเที่ยวต่อ..
กรกฎาคม 2557 / July 2014
105
ที่อยู่ : 91 ซ.เพชรหึงษ์ 29 หมู่ 9 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เปิดบริการ : ทุกวัน (ยกเว้นวันพุธ) เวลา 7.00 - 17.30 น. เบอร์ โทรศัพท์ : 0-2461-0197, 08-1909-6987 การเดินทาง : มุ่งหน้ามาตามถนนเพชรหึงษ์ ทางมาตลาดน�้ำ บางน�้ำผึ้ง สังเกตร้านอยู่ริมถนนข้างซอย เพชรหึงษ์ 29 Location:
91 Soi Petch Hueng 29, Moo 9, Bang Yor Sub-district, Phra Pradaeng District, Samut Prakan
A
Sipping coffee
at home Simple Atmosphere..Homemade Style
จิบ “กาแฟในบ้าน”
อบอุ่น เรียบง่าย..สไตล์โฮมเมด
fter tired of walking or cycling in Bang Kachao, visitors can make a stop to experience a pleasant atmosphere while sipping aromatic coffee at “Kafae Nai Baan” (Coffee At Home), a small and lovely café situated at the road before getting to Bang Nampheung Floating Market. The décor is chic with a part of the house is open as a small café with warm service as if customers were members of the family. If the word ‘homemade’ imparts the meaning of cooking for family members, “Kafae Nai Baan” imparts the same sense as well. The owner passionately makes every glass of beverage and serves with friendliness reflecting how ‘homemade’ should be. The décor is chic with a part of the house is open as a small café with warm service as if customers were members of the family. If the word ‘homemade’ imparts the meaning of cooking for family members, “Kafae Nai Baan” imparts the same sense as well. The owner passionately makes every glass of beverage and serves with friendliness reflecting how ‘homemade’ should be.Entering inside, we will find the décor harmoniously integrated with nature. Tables and chairs are made from old wood. The café is in itself being a small art gallery and the whole atmosphere is simple and warm as if we were sipping coffee at home. Looking around we can see the wall decorated with the paintings of hibiscus in bright colors. Outside is shady with various trees around the house particularly the climbing vine with beautiful hanging flowers. Visitors can select from the beverage menu to quench their thirst. The highlight or signature menu that visitors should not miss includes coconut coffee frappe, coconut green tea frappe and coffee at home. The owners, Ms. Nutcha Sirodom and Mr. Somkiat Chukaew, have developed the coffee and green tea menu with aromatic coconut meat and juice, raw ingredients from their back yard. It is a perfect combination that offers the taste of coffee with the aromatic coconut juice and is very refreshing. Green tea offers the same experience. For coffee at home menu, the highlight is in the mixing of coffee with green tea that offers strong taste, unlike others. Besides, there are traditional coffee menu such as Americano, espresso, cappuccino, mocha and latte be it hot or cold, visitors can order to their preference. Not only that, the café also offers green tea, cocoa including fresh fruit juices for visitors to take with homemade snacks. “Kafae Nai Baan” is suitable for a relaxing stop in a pleasant atmosphere while sipping a glass of beverage before starting on touring again.
106 On The Way สุดฟ้า..ล่าตะวัน
ปลุกฮอร์โมน
นักเดินทาง ปั่นจักรยาน
เที่ยว..บางน�้ำผึ้ง
Invigorating Travelers’ Spirits
Cycling to
Experience Local Way of Life at..Bang Nampheung
กรกฎาคม 2557 / July 2014
107
เ
รามักคุ้นเคยกับความเป็นเมืองอุตสาหกรรมของจังหวัด สมุทรปราการ จนบางครั้งก็เผลอจมอยู่กับภาพเดิมๆ @SAMUTPRAKAN Travel ฉบับนี้ อาสาปลุกฮอร์ โมนความ เป็นนักเดินทางในตัวคุณ ก้าวเท้าออกจากบ้านไปสัมผัสมุมที่ ยังไม่เคยเห็น ได้ยิน หรือรู้จัก โดยเฉพาะผู้ที่โหยหาธรรมชาติ ต้องการเสพทิวทัศน์ชนบท อยากสัมผัสวิถชี วี ติ เรียบง่าย ทัง้ หมด นี้ที่..บางน�้ำผึ้ง
W
e are always familiar with the old concept that Samut Prakan is an industrial province. However, this issue of @SAMUTPRAKAN Travel volunteers to invigorate the spirit of travelers inside you, particularly those who yearn for upcountry scenery and simple way of life, to step out of your home to experience the unseen location at Bang Nampheung.
108 On The Way สุดฟ้า..ล่าตะวัน
ไหว้พระขอพร ชมจิตรกรรมเก่าแก่
เราเริ่มต้นด้วยการมาไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล กันที่ วัดบางน�ำ้ ผึง้ นอก พร้อมเดินชมอุโบสถและวิหาร หลังเก่า ซึ่งภายในมีภาพจิตรกรรมบริเวณบานประตู และหน้าต่าง อายุกว่า 200 ปี ฝีมือของช่างชั้นครู สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น แม้จะเลือนลางไปตามกาล เวลาแต่ยังคงความสวยงามไว้ ให้เราได้ชื่นชม โดย เฉพาะภาพเขียนสาวมอญในอิริยาบถและท่วงท่าอ่อน ช้อย จนถูกขนานนามจาก น.ณ ปากน�้ำ หรือ อาจารย์ ประยูร อุลุชาฎะ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ยกย่องให้เป็นเพชรน�้ำเอกแห่งจิตรกรรม สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
Pay Homage to Buddha Image
Admiring Ancient Painting We start with paying homage to Lord Buddha image for propitious at Bang Nampheung Nok temple and admiring the main chapel and the old small chapel which inside has beautiful painting by unknown master painters in the early Rattanakosin period on the door and window panels. The painting aged over 200 years, though faded by the passing time, it is still beautiful particularly the painting of Mon girls in elegant manners. The painting was praised by Mr. Prayoon U-luchata, national artist in visual art (painting) as a superb painting of early Rattanakosin period.
กรกฎาคม 2557 / July 2014
109
110 On The Way สุดฟ้า..ล่าตะวัน
ปั่นจักรยานกินลม.. สัมผัสกลิ่นอายชุมชน บางน�ำ้ ผึง้ บริเวณนีอ้ ดุ มสมบูรณ์ไปด้วยพืช พรรณนานาชนิด ทัง้ ทีเ่ กิดขึน้ เองตามธรรมชาติ และสวนผลไม้ของชาวบ้าน เกสรจากพืชพรรณ เหล่านีด้ งึ ดูดให้ผงึ้ มาท�ำรังอาศัยอยูจ่ ำ� นวนมาก จนกลายเป็นที่มาของชื่อชุมชน วิถีชีวิตของ ชาวบ้านยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย แต่สิ่งที่น่า สนใจคือการร่วมมือจัดตัง้ หมูบ่ า้ นโอท็อปเพือ่ การ ท่องเทีย่ ว มีผลิตภัณฑ์ OTOP จ�ำหน่ายใน ชุมชน และที่ตลาดน�้ำบางน�้ำผึ้ง ซึ่งช่วยสร้าง รายได้ ให้กับคนในชุมชน สัมผัสแรกที่ท�ำให้ประทับใจก็คงไม่พ้น ธรรมชาติอันร่มรื่น ตลอดสองข้างทางเรียงราย ด้วยต้นไม้น้อยใหญ่สลับกัน ประกอบกับชุมชน
ตั้งอยู่ริมแม่น�้ำเจ้าพระยายิ่งท�ำให้ทัศนียภาพ ของที่นี่สวยงามและเพียบพร้อมด้วยอากาศ บริสุทธิ์ เย็นสบายตลอดปี เส้นทางสัญจรจะ เป็นสะพานทางเดินทอดยาวทั่วชุมชน เข้าได้ เฉพาะรถเล็ก นักท่องเที่ยวจึงเลือกใช้จักรยาน เพราะสะดวก ที่ส�ำคัญไม่ท�ำลายสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ใ นชุ ม ชนยั ง มี จั ก รยานให้ เ ช่ า อยู ่ หลายจุด คันละ 50 บาทต่อวัน ปั่นได้หน�ำใจ บางจังหวะเราสวนทางกับชาวบ้าน และนักท่อง เทีย่ วคนอื่นที่ปั่นจักรยานผ่านมา ต่างคนต่างก็ มีรอยยิม้ เป็นของก�ำนัลให้กนั ท�ำให้ ใครต่อใคร ต่างก็หลงใหลเมื่อมาเยือน
กรกฎาคม 2557 / July 2014
111
ชมหิงห้อยยามราตรี
Cycling to Experience Local Way of Life
Bang Nampheung is rich with plant diversity, both naturally grown and orchard grown by villagers which attract bees to nest in this area in a large number that it is the origin of the village’s name. The way of life here is simple and the most interesting is the village cooperation to found an OTOP Subdistrict for tourism with OTOP products for sale in the community and at Bang Nampheung Floating Marketing to generate income for people in the community. The unavoidable first impression is the pleasant nature. Along the way is lined with trees coupled with the location by the Chao Phraya River providing charming scenery
with fresh air and cool weather all the year round. The route within the community is just a narrow walkway snaking throughout the community. Therefore, it is suitable for small vehicles. Visitors prefer to use bicycles for their convenience and at the same time riding bicycle does not degrade the environment. In the community, there are many bicycle rental points. The rental charge is only 50 Baht per day. On the way, we passed villagers and other travelers riding their bicycles. Each has smile on their faces which makes the visit an impressive for all.
112 On The Way สุดฟ้า..ล่าตะวัน
กรกฎาคม 2557 / July 2014
113
114 On The Way สุดฟ้า..ล่าตะวัน
เรียนรู้
ภูมิปัญญาท้องถิ่น บ้านธูปหอมสมุนไพร คือ จุดหมายต่อไปทีเ่ ราจะมาเรียนรูว้ ธิ กี ารท�ำธูปสมุนไพรไล่ ยุงจากวัตถุดบิ ธรรมชาติมาเป็นส่วนผสมในการท�ำ เช่น สะเดา มะกรูด ตะไคร้ อบเชย ขมิ้น โดยไม่ใช้สารเคมี ใครที่มาเยือนต่างก็ติดใจกับการปั้นธูปที่ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ต่อด้วยการท�ำผ้ามัดย้อม สร้างความสนุกสนานให้นกั ละเลงสีอย่างมากกับการใส่ความ คิดสร้างสรรค์ลงไปในผืนผ้า ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เปิด โอกาสให้ผู้สนใจได้เข้ามาศึกษา ออกจากบ้านธูปสมุนไพร มาขวามือจะเป็นสวนผลไม้ของ คุณลุงวินัย พุ่มเรือง ที่ทดลองปลูกพืชพื้นบ้านไว้มากมาย เป็นสวนเกษตรผสมผสาน เช่น กล้วย มะพร้าว มะนาว ขนุน ฝรั่ง ใครสนใจสามารถเข้าไปเดินชมได้ เดินต่อเลี้ยวซ้ายประมาณ 50 เมตร จะพบ บ้านนักวิ่ง ที่นี่มีกิจกรรมสอนท�ำ ลูกประคบจากธัญพืช และให้บริการนวดประคบเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยแก่ผู้ มีปัญหาสุขภาพและนักท่องเที่ยวที่สนใจ หากมาเป็นหมู่คณะต้องติดต่อไว้ล่วงหน้า หรือถ้าบังเอิญไปช่วง เสาร์-อาทิตย์ ที่นี่จะปิดก็ ไม่ต้องตกใจ เพราะเขาจะย้ายไปเปิด บริการกันที่ตลาดน�้ำบางน�้ำผึ้ง
Local Wisdom
ลูกประคบจากธัญพืช grains compress ball
The House of Aromatic Herbal Incense Sticks is the first stop. This is where visitors can learn how to make mosquito repellant incense sticks from natural ingredients such as lemongrass, neem, kaffir lime, cinnamon, turmeric, etc. There is no single chemical based in the ingredients. Visitors visiting the house like trying their hands on incense making very much as it is not difficult as it seem to be. Next activity is making tie & dye fabric which is a fun activity for visitors to use their creativity on the fabric as they like. It is another local wisdom learning place that is open for those interested parties. Leaving the House of Herbal Incense Sticks, on the left hand side is the orchard of Mr. Vinai Poomrueng who has been experimenting in cultivating numerous local plants in an integrated agricultural farming. His orchard has many fruit bearing trees such banana, coconut, lemon, jackfruit guava, etc. Interested parties are welcome.
Continue walking on and turn left about 50 m. visitors will find ‘the runner’s house’ where they teach making compress ball from natural grains. There are also massages with compress ball to relieve pain and also for those who are weary from walking. If you come in a group, should make an advance reservation. Should you visit on weekend, don’t be surprised to see the house closed. They move the service to Bang Nampheung Floating Market
กรกฎาคม 2557 / July 2014
115
ทีต่ งั้ :ต.บางน�ำ้ ผึง้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ บ้านธูปสมุนไพร : ติดต่อ นางกัญญาพร นวลสะอาด โทรศัพท์ : 08-6569-1650 บ้านนักวิ่ง : ติดต่อ นางศิริพร พูลสุข โทรศัพท์ : 08-4009-2266 โฮมสเตย์บางน�้ำผึ้ง : ติดต่อ นางมะลิ พูนสวัสดิ์ โทรศัพท : 08-1347-3997 การเดินทาง : สามารถลงเรือได้ที่ท่าเรือคลองเตยนอก ไปยังท่าเรือบางกะเจ้า (ท่าเรือก�ำนันขาว) และท่าเรือ เพชรหึงษ์ (ใกล้วดั บางกอบัว) หรือข้ามจากท่าเรือวัด บางนานอกไปยังท่าเรือวัดบางน�้ำผึ้งนอกและท่าเรือ ตาเลือ่ น หรือใชเ้ สน้ ทางพิเศษเฉลิมมหานครลงทีถ่ นน สุขสวัสดิเ์ ลีย้ วซ้ายสูถ่ นนนครเขือ่ นขันธ์แล้วเลีย้ วเข้าสู่ ถนนเพชรหึงษ์ Location : Bang Nampheung Sub-district, Phra Pradaeng District, Samut Prakan Herbal Incense Stick House : Contact Mrs. Kanyaporn Nualsa-ard Tel. 08-6569-1650 Runner’s House : Contat Mrs. Siriporn Pulsook Tel. 08-4009-2266 Home Stay Bang Nampheung : Contac Mrs. Mali Poonsawasdi Tel. 08-1347-3997
Overnight in Home Stay พักโฮมสเตย์..อิงแอบธรรมชาติ มุ่งหน้าสู่ริมแม่น�้ำเจ้าพระยาจะพบกลุ่ม บางน�้ำผึ้งโฮมสเตย์ เป็นวิสาหกิจชุมชนที่ชาว บ้านเปิดบ้านเป็นโฮมสเตย์ ให้บริการนักท่อง เทีย่ วทีอ่ ยากค้างคืนใกล้ชดิ ธรรมชาติ ซึง่ จะเปิด ให้นกั ท่องเทีย่ วเข้าพักเฉพาะช่วงเสาร์-อาทิตย์ คืนละ 400 บาท แต่ตอ้ งติดต่อล่วงหน้าไว้กอ่ น สิง่ ส�ำคัญของการพักโฮมสเตย์คอื เคารพกฎ เช่น ไม่สง่ เสียงดังโวยวาย ไม่แต่งตัวล่อแหลม และ ต้องกลับเข้าที่พักก่อน 4 ทุ่ม เสน่หข์ องการพักโฮมสเตย์กค็ งเป็นการได้ ใช้ชวี ติ แบบท้องถิน่ รับประทานอาหารพืน้ บ้าน แต่รสชาติอร่อยไม่แพ้ ใคร นอนรับอากาศเย็น สบายโดยไม่ตอ้ งพึง่ เครือ่ งปรับอากาศ และรับ มิตรไมตรีจากคนในท้องถิน่ ที่ให้การต้อนรับอย่าง อบอุน่ นอกจากนี้ในช่วงเย็นยังมีบริการนัง่ เรือ ชมหิงห้อยอีกด้วย
Bang Nampheung Home Stay Group is a community enterprise that opens villagers’ houses by the river for tourists to stay overnight amid the nature. The home stay opens for stay over the weekend (SaturdaySunday) with prior arrangement only. The rate is Baht 400.- a night per person. The attractiveness to overnight in a home stay is that visitors will have the opportunity to experience the local way of life, eat local food that the taste is second to none, sleep soundly with cool weather that air-conditioner is not a necessary plus receiving warm friendliness from the villagers. Besides, in the evening there will be a cruise in the canal to watch fire flies. The important point of staying in a home stay is to observe the rules such as not be noisy, dress properly and should be back in the home stay by 22.00 hours.
116 At One Time เยือนสถานโบราณศิลป์
Exquisite Art
Wat Sarangsok Artistic Value of Ayutthaya Period Artefacts
กรกฎาคม 2557 / July 2014
117
118 At One Time เยือนสถานโบราณศิลป์
ศิลปกรรมวิจิตรศิลป์
ณ วัดสร่างโศก
คุณค่าแห่งศิลปะวัตถุยุคกรุงศรีอยุธยา ศิลปกรรมน�ำใจให้สร่างโศก ช่วยบรรเทาทุกข์ ในโลกให้เหือดหาย จ�ำเริญตาพาใจให้สบาย อีกร่างกายก็จะพลอยสุขสราญ แม้ผู้ ใดไม่นิยมชมสิ่งงาม เมื่อถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร เพราะขาดเครื่องระงับดับร�ำคาญ โอสถใดจะสมานซึ่งดวงใจ เพราะการช่างนี้ส�ำคัญอันวิเศษ ทุกประเทศนานาทั้งน้อยใหญ่ จึงยกย่องศิลปกรรมนั้นทั่วไป ศรีวิไลวิลาศดีเป็นศรีเมือง บทเสภาตอนหนึ่ง จากเรื่อง พญาราชวังสัน กับ สามัคคีเสวก พระราชนิพนธ์ของ สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าแผ่นดินสยาม, 2477
ต
อนหนึ่งจากบทเสภา เรื่องพญาราชวังสันกับสามัคคี เสวก ได้กล่าวถึงเรือ่ งราวของศิลปกรรม ไม่วา่ จะเป็น ทัศนศิลป์ โสตศิลป์ พจนศิลป์หรือศิลปะผสม ซึ่งท�ำให้เรา รูว้ า่ ผูค้ นในครัง้ อดีต มองเห็นและให้ความส�ำคัญต่อความ งามทีม่ นุษย์รงั สรรค์ขนึ้ เพียงใด ศิลปกรรมทีถ่ กู สร้างขึน้ ใน แต่ละยุคสมัยจะสะท้อนคุณค่าทีเ่ กิดขึน้ จากเรือ่ งราวของตัว มัน ไม่วา่ จะเป็นความวิจติ รศิลป์หรือประโยชน์ศลิ ป์ เช่นเดียว กับศิลปกรรมแห่ง วัดสร่างโศก ที่สะท้อนเรื่องเล่าและ บ่งบอกเรื่องราวของยุคสมัยจากครั้งอดีตได้อย่างแจ่มชัด
R
eference is made to a part of poem entitled “Phraya Rajawangsan and Samakki Sawake” (Phraya Rajawangsan and United Councillors) relating to the story of arts be it visual, auditory, verbal and mixed arts which enlightened us how people of the old days valued the beauty of artistic works. Arts created during each epoch would reflect the valuable story in its own such as the artistic works at Wat Sarangsok that reflect visible stories from the past.
กรกฎาคม 2557 / July 2014
วัดสร่างโศก ตั้งอยู่ใน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จากหลักฐานของกรมทีด่ นิ ระบุไว้ ว่ามีการ สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แห่งกรุง ศรีอยุธยา พ.ศ. 2300 แต่ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชดั ว่าใคร เป็นผูส้ ร้าง โดยได้รบั การบูรณปฏิสงั ขรณ์ ในปี 2360 ตรงกับ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ซึง่ ระบุนามของวัดว่า “วัดปากอ่าว” เนือ่ งจากตัง้ อยูบ่ ริเวณ ปลายคลองด่านก่อนถึงปากอ่าวไทย Wat Sarangsok is in Klongdan Subdistrict, Bang Bo District, Samut Prakan. From Land Department’s record, it is said that the temple was built in 2300 B.E. (1757 A.D.) in the reign of King Boromkot of Ayutthaya Dynasty. There was no record as to who built it. The temple was renovated in 2360 B.E. (1817 A.D.) in the reign of King Rama II and the temple was referred to as “Wat Pak Ao” because of its location at the end of Klong Dan (Dan Canal) just before the Gulf of Thailand estuary.
พระศรีอาริยเมตไตรย เป็นพระพุทธปฏิมาประทับขัดสมาธิราบ ปางมารวิชยั ถือตาลปัตร มีจำ� นวนน้อยมากเมือ่ เทียบกับพระพุทธปฏิมาแบบอืน่ ๆ Bodhisattara Maitriya Buddha This is a few buddha immage postuse in Thailand
119
120 At One Time เยือนสถานโบราณศิลป์
พิพิธภัณฑ์วัดสร่างโศก Wat Sarangsok Museum Antiques
บริเวณวัดแบ่งออกเป็น 2 ฝัง่ ถนน ด้านทิศใต้เป็นทีต่ งั้ ของ พระอุโบสถหลังเก่า เจดีย์สมัยอยุธยา เสาหงส์ อนุสาวรีย์ และ พระพุทธรูปขนาดใหญ่ รวมถึงศาลาไม้สักซึ่งใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ ของทางวัด ด้านทิศเหนือเป็นเขตสังฆาวาสและพระอุโบสถหลัง ใหม่ แต่เดิมชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า “วัดมอญ” เพราะมีชาว มอญจ�ำนวนมากตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ ส่งผลให้ศิลปกรรมหลาย อย่างถูกสร้างขึ้นตามความนิยมของชาวรามัญ The temple is located on both sides of the road. On the southern side is the location of the old main chapel, Ayutthaya period pagoda, swan pole and a large Buddha image including a teak pavilion serving as the temple’s museum. On the northern side, there are monks’ living quarters and the new main chapel. Formerly the villagers called this temple “Wat Mon” because a large number of Mon ethnic lived in the area resulting in many Mon artistic style decorations.
1
1. พระประทานที่ตั้งประดิษฐานอยู่ในอุโบสถหลังเก่า 2-3. งานแกะสลักงดงามตระการตา 3
2
1. Priciple Buddha image in old chapel 2-3. Exquisite carved wooden
กรกฎาคม 2557 / July 2014
อุโบสถหลังเก่า ถูกออกแบบให้มปี ระตูเข้า – ออก ทาง เดียวตามคติความเชือ่ ของชาวมอญ ผนังด้านข้างสอบเข้าเพือ่ รับน�ำ้ หนักแทนเสา เรียกว่า โบสถ์มหาอุด คาดว่าสร้างขึน้ ปลาย สมัยอยุธยาจนถึงต้นรัชกาลที่ 3 จึงมีสถาปัตยกรรมในสมัยกรุง ศรีอยุธยาตอนปลายผสมผสานศิลปะสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ตอนต้นหลายแห่ง เช่น หน้าบันท�ำจากไม้แกะสลักลายกระหนก เทพพนม มีเสานางเรียง รองรับน�ำ้ หนักของหลังคาโดยรอบ ซึง่ เป็นศิลปกรรมแบบอยุธยาตอนปลาย ส่วนกรอบหน้าบันปัน้ รูป ลายบัวกลีบขนุนประดับแทนใบระกา ปัน้ ลมท�ำจากอิฐถือปูน แทนการใช้เครือ่ งไม้ นับเป็นสถาปัตยกรรมในแบบจีนซึง่ เริม่ มี อิทธิพลในยุครัตนโกสินทร์ ศาลาไม้สกั ศาลา 2 ชัน้ ยกพืน้ ขึน้ ราวครึง่ เมตร มีความ พิเศษทีเ่ ป็นเครือ่ งไม้สกั ลงรักปิดทองทัง้ หลัง เสาด้านหน้าท�ำจาก ไม้ทงั้ ต้นวางคูก่ นั ผนังรอบนอกชัน้ ล่างแกะสลักเป็นจิตรกรรม นูนต�่ำ บอกเล่าเรื่องราวของเหล่ารุกขเทวดา ชั้นบนออกแบบ เป็นฝาปะกน ภายในเป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมมอญ เข้ากับจิตรกรรมของไทยได้อย่างลงตัว เสามีลกั ษณะสอบเข้าหา กันตามอย่างมอญ เพือ่ รับเครือ่ งบนทีม่ นี ำ�้ หนักมาก การสลักฉลุ ลงรักปิดทองลวดลายตามอย่างไทย เช่น กระหนก เถา ธรรมจักร เป็นต้น ลวดลายภายใต้เนือ้ ทองนีเ้ มือ่ สะท้อนแสงจากภายนอก จะเกิดประกายส่องสะท้อนสะกดสายตาผู้พบเห็น
121
The old chapel was designed with only one entrance according to the traditional Mon belief. The top part of the walls narrowed in to support the building weight instead of columns. This style of chapel is called “Maha Ud”. It is assumed that the chapel was built in late Ayutthaya period unto early King Rama III reign. Thus, there are mixtures of late Ayutthaya artistic style and early Rattanakosin period in many places such as the carved wooden gable with line of columns around the building to support the roof which are late Ayutthaya period artistic style while the frame of the gable adorned with lotus design stucco instead of ‘bai raga’ (tooth like ridges on the sloping edges of the gable) and the windbreak on the gable was made in brick and mortar instead of wood which are Chinese influence artistic style found in Rattanakosin period. The teak pavilion has 2 stories with about 50 centimeters elevation. The extraordinary is that the whole building is gold leaf gilded teak wood. The two columns standing together at the front are made from the whole trees. The outer walls of the ground level are bas-relief telling stories of tree fairies. The walls of the upper floor are panels, inside is the perfect combination of Mon architecture with Thai artistic works. The columns narrowed in at the top in Mon style to support the heavy roof top while the carving and gold leaf gilding are in traditional elegant Thai and Buddhism designs. These gilded designs when reflecting with the light from outside will be sparkled attracting visitors with the spectacular viewing.
อุโบสถหลังเก่า/ chapel of wat sarangsok
122 At One Time เยือนสถานโบราณศิลป์
ภายในได้จัดสรรไว้เป็นพิพิธภัณฑ์วัดสร่างโศก ซึ่งอุดม ไปด้วยโบราณวัตถุทมี่ ที รงคุณค่า อาทิ พระศรีอาริยเมตไตรย จ�ำลอง พระหัตถ์ซ้ายทรงถือตาลปัตรคล้ายแว่นแก้วทรงพุ่ม ข้าวบิณฑ์ พุทธลักษณะคล้ายองค์ที่ประดิษฐาน ณ วัดไลย์ พระพุทธรูปปางสมาธิเพชร ปางนาคปรก ปางเปิดโลก ปาง เสด็จลงจากดาวดึงส์ ปางทรงเครื่อง ปางโปรดพกาพรหม ปางเสวยมธุปายาส ปางห้ามสมาธิ ล้วนเป็นพระพุทธรูปปาง ส�ำคัญที่หาพบได้ยากตามวัดทั่วไป นอกจากนี้ ด้านนอกศาลายังมีสถาปัตยกรรมทีน่ า่ สนใจ อีกมากมาย อาทิ เจดีย์องค์เล็กทรงล้อมฟาง จอมแหแคบ ศิลปกรรมแบบอยุธยา รัตนโกสินทร์และมอญ พระสังกัจจายน์ ยืนเรียกทรัพย์ พระสีวลี พระบรมรูปพระเจ้าตากสินมหาราช รวมถึงเสาหงส์และเรือส�ำเภาปูน ซึ่งบ่งบอกว่าวัดนี้เป็นวัด มอญอย่างแท้จริง นักเดินทางทีม่ โี อกาสได้มาเยีย่ มเยือน วัดสร่างโศกแห่งนี้ อาจหลงใหลในเสน่ห์ของศิลปกรรมประเภทวิจิตรศิลป์และ ประโยชน์ศิลป์ที่สะท้อนออกมาจากศิลปะวัตถุอันทรงคุณค่า มากมาย ความงดงามอ่อนช้อยของสถาปัตยกรรมไทย จีน และมอญจะยังคงติดตรึงในความทรงจ�ำของผู้พบเห็นไปอีก นาน และยังมีอีกหลายคนที่ไม่ได้น�ำกลับไปเพียงแค่อรรถรส ทางสายตา แต่ยังได้พักผ่อนจิตใจจากความวุ่นวาย ใช้เวลา พิจารณาปัญหาทีเ่ กิดขึน้ อย่างรอบคอบ ให้ศลิ ปกรรมรอบกาย ช่วยจรรโลงใจ และ ความสงบจากภายใน จึงเป็นอีกคุณค่า หนึ่งที่หลายคนได้รับกลับไปเช่นกัน..
1
5
2
Inside is set up as Wat Sarangsok Museum full with invaluable antiques such as the replica of Bodhisattava Maitreya Buddha holding palm leaf fan that looked like magnifying glass in lotus bud shape. The Buddha image alike the one enshrined at Wat Lai. Moreover, there are Buddha images in various postures i.e. sitting in vajarasana (crossed-leg posture), seated Buddha image protected by seven-headed naga, disclosing the three world posture, descending from the Tavatimsa Heaven posture, Buddha image in full regalia, salvation of Pakaphrom posture, partaking of honey-sweetened rice posture, meditation posture, etc. All are Buddha images in significant postures which are rarely found in other temples. Moreover, outside the pavilion there are many interesting architectures such as small stupa in the of shape straw pile with narrow body, an integration of Ayutthaya, Rattanakosin and Mon artistic styles; standing Mahakaccana image calling in wealth; Sivali (a Buddhist Saint) image; statue of King Taksin including swan pole and plaster junk replica that serve to confirm that this temple is a Mon temple. Many visitors visiting Wat Sarangsok will be enchanted by the charming artistic works of numerous antiques. The elegance of Thai, Chinese and Mon architectures will impress the visitors for a long time. Many will not only bring back with them those eye pleasing artifacts but also the relaxing pleasure from the daily chores. Take your time to carefully ponder the arising problems and use the art to pacify your thought for spiritual serenity. It is another value that many people bring back with them from visiting this temple.
3
6
4
กรกฎาคม 2557 / July 2014
123
1. รูปปั้นพระอภัยมณี 2. พระบรมสารีริกธาตุ พระอานนท์ 3. ปฏิมากรรมโลหะพ่อขุนรามค�ำแหง 4. พระพราหม คาดว่าเป็นศิลปะลพบุรี 5. พระอวโลกิเตศวร (เจ้าแม่กวนอิม) 6. รอยพระพุทธบาท 7. (ภาพใหญ่) ประตูไม้สักแกะสักอย่างงดงาม 1. Phra Abhai Mani Staup 2. Buddha’s relics 3. King Ramkhamhaeng Stature 4. Brahma put as Lop Buri period 5. Guan Yim Bodhisattara 6. Buddha’s foot model 7. ( right ) Door is beautiful carved wooden
ที่ตั้ง : วัดสร่างโศก ตั้งอยู่เลขที่ 1 บ้านคลองด่าน หมู่ที่ 9 ต�ำบลคลองด่าน อ�ำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ การเดินทาง : ใช้ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) มุ่งหน้าสู่อ�ำเภอบางบ่อ ก่อนถึงสะพานข้ามคลองบางบ่อ ให้กลับรถใต้สะพาน สังเกตซ้ายมือจะพบทางเข้าวัดสร่างโศก Location : Wat Sarangsok, No. 1 Moo 9 Klong Dan Subdistrict, Bang Bo District, Samut Prakan
124 Story Told สืบมาเล่า
Air-Raid Shelter A Memorial for Paknam
ภายในหลุมหลบภัย Inside Air-Raid Shelter
กรกฎาคม 2557 / July 2014
หลุมหลบภัยชุมชนโรงวัว
125
อนุสรณ์สถานของชาวปากน�้ำ ย้ อนกลับไปช่วงสงครามโลกครัง้ ที่ 2 เมือ่ วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2484 กองทัพญีป่ นุ่ ได้ยกพลขึน้ บกทีบ่ างปู-สมุทรปราการ เข้ามาตัง้ ฐานที่ มั่นบริเวณสามแยก (หอนาฬกา) เป็นจ�ำนวนมาก ในส่วนราชการ ป้อมปราการต่างๆ ของเมืองสมุทรปราการจึงถือเป็นพื้นที่เป้าหมายซึ่ง ประมาทไม่ได้ ทางการต้องตระเตรียมหลุมหลบภัยอยู่หลายแห่ง เพื่อ ใช้หลบภัยทางอากาศที่ก�ำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น บริเวณชุมชนโรงวัว ก็ เป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีการก่อสร้างด้วยเช่นกัน หลุมหลบภัยชุมชนโรงวัว เป็นหลุมหลบภัยที่สร้างด้วยอิฐ รูปทรง 4 เหลี่ยมผืนผ้า มีประตูทางเข้าออก 2 ทาง ด้านในของหลุมหลบภัย เป็นห้องโล่งกว้าง 15 เมตร ลึก 3 เมตร มีช่องว่างระหว่างก�ำแพง และเพดานราว 15 เซนติเมตร เพื่อระบายอากาศ สามารถรองรับชาว ปากน�้ำได้ถึง 100 คน วันเวลาผ่านล่วงเลยมาหลายปี สงครามโลกยุติลงแล้ว แต่ภาพ เหตุการณ์ส�ำคัญต่างๆ ยังคงติดค้างในห้วงความทรงจ�ำของชาวชุมชน โรงวัว หลุมหลบภัยแห่งนี้ จึงเปรียบเสมือนอนุสรณ์สถานทีค่ อยย�ำ้ เตือน ภาพเหล่านั้นให้ฉายขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า นางฉอเคี้ยม ธูสรานนท์ อายุ 78 ปี บุคคลที่เคยเข้าไปด้านใน หลุมหลบภัยในช่วงสงคราม เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นให้ฟังว่า “ฉันเกิด ที่นี่ ตอนนั้นป้อมมีแล้วเพราะว่าหลังบ้านฉันเป็นป้อม ช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 แถวโรงวัวจะมีหลุมหลบภัย ฉันต้องเอาเสื้อผ้า เอาของส�ำคัญ ต่างๆ ยัดใส่กระสอบไปแอบไว้ ในหลุม ด้านในหลุมจะเงียบ มืด คน เข้าไปเยอะ เพราะเครื่องบินมันนึกจะมามันก็มา เวลาฉันลงไปช้อนกุ้ง คนเดียวอยูร่ มิ แม่นำ�้ ก็จะได้ยนิ เสียงหวอ ฉันต้องรีบวิง่ เข้ามาหลบ บางที ฉันเดินออกมาด้านนอกป้อมจะมีทหารญีป่ นุ่ เต็มไปหมด เขาก็ ไม่ทำ� อะไร ตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่ ประมาณ 10 กว่าขวบ เวลาเขาจะทิ้งระเบิดจะมี เสียงหวอขึ้นก่อน ถ้ามากลางคืนละน่ากลัว ไม่มีไฟ ต้องจุดเทียน ตอน นั้นหวอดังบ่อย เครื่องบินมาทุกวัน ใครมีข้าวของส�ำคัญก็เก็บไว้กับตัว พวกของใช้เราก็ ไม่ได้เอาไปด้วยหรอก”
126 Story Told สืบมาเล่า
G
oing back in time during World War II, on 8th December 1941, Japanese army landed at Bang Pu, Samut Prakan. They set up their bases around the clock tower junction in a large number. Therefore, the office buildings and forts in Samut Prakan unavoidably became attacking targets. The authority built air raid shelters in many areas for the people to seek shelter during the air raids. At Rong Wua Community, there was one built for this purpose. Rong Wua Community Air Raid Shelterwas made from bricks in rectangular shape with 2 entrances. Inside was a hall 15 meters wide and 3 meters depth. There was a space for ventilation about 15 cm. wide between the wall and the ceiling. This shelter could hold about 100 people. Though the World War II was over for many decades, Rong Wua residents still remember those important incidents. This shelter is like a memorial reminding them over and over of those incidents. Mrs. Chorkiam Thusaranon, a 78 years old lady who used to take shelter there during the war, told us that “I was born here. At that time the fort was there as I remember it was behind my house. During World War II in this Rong Wau area there was this air raid shelter. I took my cloths and other important possessions put them in a sack and hid it there. Inside, it was quiet and dark. Many people were in there because the planes would come anytime as they wished. Sometimes, when I was fishing for prawns by the river bank and heard the siren, I would rush to the shelter. Sometimes I walked outside the shelter there were many Japanese soldiers everywhere. They were not threatening. I was very young about 10 years old. Before the air raid, there would always be siren. If they came by night, it was very frightening. There was no lighting, we had to use candles. During that time, the siren was frequently on because the planes flew in every day. We had to keep important possessions with ourselves but we did not bring along household utensils.
สภาพด้ านบนหลุมหลบภัย Outside Air-Raid Shelter
กรกฎาคม 2557 / July 2014
127
นางฉอเคี้ยม ธูสรานนท์
Mrs. Chorkiam Thusaranon
ชุมชนโรงวัว Rong Wua Community
นายสังเวียน ปรีหะจินดา
Mr. Sangwian Pareehajinda
“ข้างในหลุมหลบภัยจะมีเก้าอีเ้ พือ่ ให้ คนที่เข้าไปหลบนั่ง ด้านในเป็นพื้นปูน ด้าน บนมีชอ่ งระบายอากาศ 4 ช่อง” นายสังเวียน ปรีหะจินดา อายุ 86 ปี หนึ่งในบุคคลที่เคย เข้าไปด้านในหลุมหลบภัย เล่า ส่วนสภาพของหลุมหลบภัยในปัจจุบนั มีการก่อสร้างบ้านเรือนกินพื้นที่หลุมทั้ง 4 ด้าน ท�ำให้ไม่สามารถเข้าไปดูด้านในได้ ซึ่งนายณรงศชัย ดุษณี ผู้น�ำชุมชนโรงวัวโรงหมู บอกว่า “สภาพหลุมหลบภัยตอนนี้ มีชาวบ้านปลูกสร้างบ้านเรือนกินพื้นที่หลุม ทั้งด้านซ้าย ขวา และด้านหลัง ส่วนด้าน หน้าเป็นร้านค้า แต่ยังมองเห็นเป็นรูปปูน ขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าเคยเข้าไปส�ำรวจด้าน ในหลุมหลบภัยเมื่อ 4 ปีก่อน ด้านในดูไม่ ได้เลยมีน�้ำขังและขยะเต็มไปหมด” แม้ ในปัจจุบันสภาพของหลุมหลบภัย จะไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่นับเป็นสิ่งก่อสร้าง ชิ้นส�ำคัญที่สามารถเก็บบันทึกเรื่องราวใน อดีต ทีเ่ ปรียบเสมือนอนุสรณ์สถานของชาว ปากน�้ำได้เป็นอย่างดี
“Inside the shelter, there were chairs for people to sit. The floor was concrete and above there were 4 ventilations.” Mr. Sangwian Pareehajinda, an 86 years old man who used to seek shelter there added. At present, houses have been built around the 4 sides of the shelter so that we are not able to get inside. Mr. Narongchai Dusanee, Rong Wau-Rong Moo Communty Leader, told us that Presently, houses were built into the area of the shelter be it on the left, right and back sides. On the front are shop houses. However, we can see rectangular concrete shape. I used to survey inside the shelter 4 years ago. It is very disgusting with sewage and garbage. Though the present condition of the shelter is not 100% exemplary as during the World War II, it is regarded as other significant building holding historical stories that well serve as a memorial for Paknam residents.
ที่อยู่ : ซอย 4 (โรงวัว) ถนนท้ายบ้าน อ�ำเภอเมือง สมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
นายณรงศชัย ดุษณี
Mr. Narongchai Dusanee
Location : Soi 4 (Rong Wua), Tei Ban Rd., Mueang Samut prakan District, Samut prakan
128 Tourism Calendar ปฏิทินท่องเที่ยว
งานแข่งเรือหน้าเมืองพระประแดง
วันที่ 23-25 ตุลาคม 2557 บริเวณแม่น�้ำเจ้าพระยา หน้าที่ว่าการอ�ำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ Phra Pradaeng Traditional Boat Race
23-25 October 2014 Chao Phraya River in front of the Phra Pradaeng District Office,Samut Prakan Hall
Tourism ปฏิทินท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการ เทศกาลดูนกเมืองไทย ครั้งที่ 13
ณ สถานตากอากาศบางปู ระหว่างเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 57 ตรวจสอบวันเวลาได้ที่ www.facebook.com/bcst.or.th หรือ www.bcst.or.th 13th Thailand Bird Fair
At Bang Pu Seaside Resort. during November-December 2014 For More information www.facebook.com/bcst.or.th or www.bcst.or.th
กรกฎาคม 2557 / July 2014
129
งานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์
ตั้งแต่แรม 5 ค�่ำ เดือน 11 (เดือนพฤศจิกายน) บริเวณรอบองค์พระสมุทรเจดีย์ อ�ำเภอพระสมุทรเจดีย์ และหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ Phra Samut Chedi Temple Fair
from the 5th day of the waning moon, the 11th month of lunar calendar (during November) Around Phra Samut Chedi, Phra Samut Chedi District and in front of the Samut Prakan Town Hall
Calendar
199 ปี ประเพณีรับบัว
หนึ่งเดียวในโลก แห่งเดียวในประเทศไทย วันที่ 1-9 ต.ค. 57 (วันโยนบัว 7 ต.ค. 57) เริ่มเวลา 07.00 น. ณ. วัดบางพลีใหญ่ ใน จ.สมุทรปราการ th
199 Anniversary of Lotus Receiving Tradition
The only one in the world, one only in Thailand. 1-9 October 2014. (7 Oct 2014 is Lotus receiving) Starting in 07.00 A.M. at Wat Bang Phill Yai Nai, Samut Prakan.
งานลอยกระทง
วันที่ 16-17 พฤษจิกายน 2557 บริเวณเทศบาลเมืองพระประแดง และบริเวณริมเขื่อนหน้าศาลากลาง จังหวัดสมุทรปราการ Loy Kratong Festival
ร่วมสืบสานประเพณีชิงเปรต
วันที่ 13-14 กันยายน 2557 วันสารทเดือนสิบ จ.สมุทรปราการ ณ วัดบางนางเกรง ขอเชิญร่วมประเพณี เพื่อท�ำบุญ อุทิศแก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ Ching Pret Tradition 6
13-14 September 2014 Sart Thai in the tenth lunar month in Samut Prakan at Wat Bang Nang Kreng. Invitation is extended to all to attend the traditional merit making ceremony as a tribute to the ancestors.
16-17 November 2014 At Phra Pradaeng Municipality and along the embankment in front of the SamutPrakan Town Hall
งานนมัสการหลวงพ่อปานวัดมงคลโคธาวาส วันขึ้น 8 ค�่ำ เดือน 12 (ช่วงเดือนพฤศจิกายน) บริเวณทีว่ า่ การอ�ำเภอบางบ่อ และวัดมงคลโคธาวาส อ�ำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ Luang Poh Pan Worship Festival
Wat Mongkolkodhawas, the 8th day of the waxing moon, the 12th month of lunar calendar (during November) At Bang Bo District Office and Wat Mongkolkodhawas, Bang Bo District, Samut Prakan
130 Story told via Lens เล่าผ่านเลนส์
ชื่อภาพ :
เงาสะท้อนของกิ่งไม้ กลางบ่อกุ้ง ณ ขุนสมุทรจีน ถึงแม้จะเหมือนต้นไม้ที่ ตายแล้วแต่ก็ยังบ่งบอกถึงตัวตนสะท้อน ให้เห็นถึงล�ำต้นที่ยังคงอยู่
เทคนิค :
จั ด วางภาพโดยให้ ต ้ น ไม้ อ ยู ่ ท าง ขวามือด้านบน เพื่อเปิดพื้นที่ ให้เห็นเงา สะท้อนของต้นไม้ ได้อย่างเต็มตา และ ตกแต่ ง ภาพเป็ น สี เ ดี ย ว (Monotone) เพื่อลดความวุ่นวายในภาพ
Picture
A reflection of the branch on marsh, look like wither tree But it is still live.
Technics :
Compese the visual element’s by plaeing the tree on the right of picture for emphasize the reflection of branch and Use monotone style for reduce picture’s confusion.
พิเศษส�ำหรับผู้อ่านทุกท่าน!!! ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ เรามีเนื้อที่ให้ท่านได้แบ่งปันและร่วมแชร์ความประทับใจผ่านเลนส์
ด้วยการส่งภาพสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรปราการ ที่ท่านคิดว่าสวยที่สุด พร้อมระบุชื่อและบรรยายรายละเอียดของภาพมาพอสังเขป แล้วส่ง มาที่ E-mail : natangbook@yahoo.co.th ภาพจะต้องมีความละเอียดชัดสูง ทางกองบรรณาธิการ @SAMUTPRAKAN Travel จะคัดเลือกภาพ ที่สวยที่สุดในแต่ละฉบับเพื่อน�ำมาเผยแพร่และตีพิมพ์ และสงวนสิทธิ์โดย นิตยสาร @SAMUTPRAKAN Travel แต่เพียงผู้เดียว
กรกฎาคม 2557 / July 2014
มุมช่างภาพสมัครเล่น
ชื่อภาพ :
“นกกาบบัว” แวะมาเยือนสถานตากอากาศบางปูอีกครั้ง หลังจากห่าง หายจากสถานที่แห่งนี้กว่า 10 ปี ต่างจับกลุ่มหาอาหาร ในบ่อน�้ำขนาดใหญ่ กลางป่าชายเลน
Picture:
“Painted Stork” back to Bang Pu Recration Centre after 10 years ago for rest and go hunting around plentifully mangrove.
Special for all readers who love photographing, we provide space for you the share your impression through lens by submitting your photographs of tourist attractions in Samut Prakan that you think very impressive; give your name and brief detail of the photograph via e-mail : natangbook@yahoo.co.th. The photographs should be high definition. Out editorial team will select the best photograph to portray in each issue for promotion and published and all right reserved by @SAMUTPRAKAN Travel only.
131
SamutprakanTRAVEL
Find the charm in new experience
สมุ ท รปราการเที่ ย วได้ ต ลอดปี 1 Phra Samut Chedi Temple : pagoda of Paknam 2 Charming of cultural heritage 3 Lotus Receiving Traditional : a great faithfulness in the world 4 200 Years Leaning Stupa at Wat Sakhla 5 Bang Ka Jao : the heaven of Eco Traveller 6 Visit to Bang Pu : Sense of Seagull, Dance and Mangrove Tree 7 Chulachomklao Fort : a legend of bulwark 8 Topmost souvenir of Paknam 9 Look-Eat-Shopping at water market : feel like yesterday
1 พระสมุทรเจดีย์ เจดีย์คู่เมืองปากน�้ำ 2 ตระการตาจิตรกรรมเก่าแก่ 3 ประเพณีรับบัว ความงดงามหนึ่งเดียวในโลก 4 เจดีย์เอียง 200 ปี แห่งบ้านสาขลา 5 บางกะเจ้า สวรรค์บนดินของคนรักธรรมชาติ 6 เทีย่ วบางปูู ดูนก เต้นร�ำ ย�ำ่ ป่าชายเลน 7 ป้อมพระจุลจอมเกล้า ปราการเก่าปกป้องเมือง 8 สุดยอดของฝากเมืองปากน�้ำ 9 ชม ชิม ช็อป ตลาดน�้ำ สัมผัสวิถีชีวิตวันวาน
4
2
1
3 7
8
9
5 6
สมุทรปราการ..เมืองประวั ติศาสตร์ - ธรรมชาติ SAMUTPRAKAN..City of History and Natural
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ถ.สุทธิภิรมย์ ต.ปากน�้ำ อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ : 0-2389-0600 โทรสาร : 0-2395-4560