@SAMUTPRAKAN Travel Issue 4

Page 1

Vol.1 No.4 September 2014 ปีที่ 1 ฉบับที่ 4 ประจำ�เดือนกันยายน 2557

ANCIENT

www.fahmai.com

MARKET ตลาดโบราณ..ตำ�นานเมืองปากน้ำ�


Ancient Market เที่ยวตลาดโบราณ ย้อนตำ�นานเมืองปากน้ำ�

ตลาดเก่าอย่าง ตลาดคลองสวน 100 ปี และตลาดโบราณบางพลี ถือ หลักฐานส�ำคัญที่บ่งชี้ว่า อดีตสมุทรปราการเคยเป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองและ เป็นย่านการค้าที่ส�ำคัญของไทย โดยทั้งสองตลาดยังคงอนุรักษ์สภาพการค้า และวิถชี วี ติ ดัง้ เดิมเอาไว้ได้ ซึง่ ถือเป็นเรือ่ งทีห่ าดูได้ไม่มากนัก จึงเหมาะอย่างยิง่ ทีน่ กั ท่องเทีย่ วจะแวะมาเยีย่ มชมเพือ่ ย้อนร�ำลึกถึงแหล่งการค้าทีส่ ำ� คัญของชาติ ในอดีตกันนะครับ”

Old markets such as Klongsuan 100 Years Market and Bang Phli Ancient Market serve as major evidences that in the past Samut Prakan had been a prosperous town and an important commercial port of Siam. Both markets still maintain their original businesses and way of life which are rarely found these days. Therefore, it is suitable for travelers to visit in order to recollect the memory of the old national trading ports.”

ขอบคุณภาพ: ครู.สน

ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ

Chonsawat Asavahame

Chief Executive of Samut Prakan Provincial Administrative Organization


Editor’s Talk

ากคุณเป็นผูห้ ลงใหลการท่องเทีย่ วแนวย้อนยุค อย่าง “ตลาดโบราณ” @SAMUTPRAKAN Travel ฉบับนี้ ขอพา ท่านไปเยือนตลาดเก่าแก่ทเี่ ต็มไปด้วยเสน่หข์ องวิถชี วี ติ ดัง้ เดิมของชาวสมุทรปราการแท้ๆ ไม่มกี ารปรุงแต่งหรือแต้มสีสนั ให้มนั เหมือนของเก่า เพราะทุกอย่างทีท่ า่ นเห็นคือชีวติ ประจ�ำวัน จริงๆ ของคนทีน่ ่ี ตลาดคลองสวน 100 ปี และตลาดโบราณบางพลี สองตลาดที่ มีประวัตสิ บื ทอดมาอย่างยาวนาน จากรุน่ สูร่ นุ่ ..แสดงให้เห็นถึงความ รุง่ เรืองในอดีตทีห่ ยัง่ รากฝังลึกลงสูส่ ายเลือดและจิตวิญญาณของคน ย่านนี้ และนีถ่ อื เป็นหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ชนิ้ ส�ำคัญทีย่ นื ยันได้ อย่างเต็มปากเต็มค�ำว่า สมุทรปราการคือศูนย์กลางการค้าและเมืองท่า ปากอ่าวไทยอย่างแท้จริง ทัง้ สองตลาดเก่ามีเรือ่ งเล่าและความเป็นมาอย่างไร ท�ำไม จึงได้ชอื่ ว่าเป็นตลาดโบราณทีม่ ชี วี ติ ชีวามากกว่าแห่งใด..พลิกไปหา ค�ำตอบได้จากคอลัมน์ Cover Story นอกจากเรือ่ งราวและสีสนั ของตลาดเก่าแล้ว ยังมีคอลัมน์แนะน�ำ ร้านอาหาร กิจกรรม และเรือ่ งราวน่ารูเ้ กีย่ วกับค้างคาวแม่ไก่ ทีจ่ ะ ท�ำให้ทา่ นผูอ้ า่ นได้เติมข้อมูลของจังหวัดสมุทรปราการอย่างเต็มอิม่ แม้จะบรรยายอย่างไร ก็คงไม่ทำ� ให้ทา่ นผูอ้ า่ นจินตนาการเห็นภาพ สมุทรปราการเมืองทีอ่ ดุ มไปด้วยประวัตศิ าสตร์-ธรรมชาติได้ดเี ท่ากับ การมาเยีย่ มชมด้วยสายตาและมุมมองของท่านเอง..มาสักครัง้ เถอะ ครับ แล้วคุณจะติดใจ..

คุยกับบรรณาธิการ

I

f you are one of those who are passionate about retro tourism such as “ancient markets”, this issue of @SAMUTPRAKAN Travel will take you to visit ancient markets full with enchanting traditional way of live of Samut Prakan residents. It is an authentic way of life without any cosmetics or makes up to make them look old. What you see is the real life of the people here. Klongsuan 100 Years Market and Bang Phli Ancient Market are the two markets that hold a long history from generation to generation. They are the evidence of the glorious past that has been rooted in the blood and spirit of the people in the area. It is also vital historical evidence verifying the importance of Samut Prakan as the trading center and port on the estuary of the Gulf of Thailand. What is the history or story of both markets? Why they are both considered more vibrant than other markets? Turn to find the answer in Cover Story column. Apart from the colorful stories of ancient markets, there are also columns recommending eateries, activities and interesting story about flying foxes that will fill readers with more information on Samut Prakan. Despite our elaborate explanation, it may not be enough for readers to imagine Samut Prakan as a town rich with history and natural beauty as you visit and see with your own eyes..visit Samut Prakan just once and you will be enamored.

แปลโดย : นภาพร สัตยาลัย ภาพ : ภัทรพงศ์ ดิลกโสภณ Translater : Napaporn Satayalai Photographer : Pattarapong Diloksopon


32 60 42 สารบัญ

CONTENTS

48 72

62

6

Festival to Restore Happiness to the Nation

10 12

OTOP Products of Paknam

22 58

3 Style Tourism Market Antique Market

มหกรรมคอนเสิร์ต คืนความสุขให้คนในชาติ ทำ�เนียบ OTOP เมืองปากน้ำ�

Pee Sua Samut Fort.. Home to Flying fox ป้อมผีเสื้อสมุทร.. บ้านของค้างคาวแม่ไก่ ตลาดโบราญ

3 Style Tourism Market Seafood Market ตลาดอาหารทะเล


Fall in Love with Samut Prakan หลงรัก..สมุทรปราการ (เข้าแล้ว)

A Meeting Point Morning Cup Coffee มอร์นิ่ง คัพ คอฟฟี่ จุดนัดพบของกาแฟ เค้ก หนังสือ และร่มไม

Pack Up to Enjoy the Sea Breeze

Plai Nam Fram

เก็บกระเป๋าไปนอนรับลมทะเล “ปลายน้ำ�ฟาร์ม” The Only One in Thailand and the World

Garuda Museum @ Samut Prakan

พิพิธภัณฑ์ครุฑฯ สมุทรปราการ หนึ่งเดียวในไทย แห่งเดียวในโลก

For All Year Round Visit

9 Wonders of Samut Prakan

ตามรอย 9 อัศจรรย์สมุทรปราการ

เที่ยวทั้งปีไม่มีเบื่อ

98

80

78 80 108 Environmentalist with Green Heart

ปีที่ 1 ฉบับที่ 4 ประจำ�เดือนกันยายน 2557

นักอนุรักษ์ หัวใจสีเขียว

Keepers of Knowledge from 114 the Past until Present Ship Builders 84 of Siamese Sovereignty Restoration 118 Legend 200 Years..Wat Huakoo 88 Battle Memorial 124 AHTMSNavalThonburi Calendar 98 128 Tourism ปฏิทินท่องเที่ยว in Beautiful View 130 Check เช็กอิน วิวสวย ช่างต่อเรือ..แก่นความรู้จากอดีตสู่ปัจจุบัน

250 ปี..วัดหัวคู้..เรื่องเล่าเก่า ครั้งกอบกู้กรุง

ร.ล.ธนบุรี..อนุสรณ์สถานแห่งยุทธนาวี

124

ISSUE 4 คณะผู้จัดทำ� ประธานที่ปรึกษา : นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมุทรปราการ

September 2014

Editorial Team Advisor : Mr.Chonsawat Asavahame Chief Executive of Samut Prakan Provincial Administrative Organization

คณะที่ปรึกษา : Advisory Group : นายอัครวัฒน์ อัศวเหม Mr.Acaravat Asavahame รองนายก อบจ.สมุทรปราการ Deputy Chief Executive of Samut Prakan PAO นายธนภณ คารมปราชญ์ Mr.Dhanabhon Caromprach รองนายก อบจ.สมุทรปราการ Deputy Chief Executive of Samut Prakan PAO นายปิติชาติ ไตรสุรัตน์ Mr.Pitichat Trisurat รองนายก อบจ.สมุทรปราการ Deputy Chief Executive of Samut Prakan PAO นายสายัณห์ รักษนาเวศ Mr.Sayan Raksanaves ปลัด อบจ.สมุทรปราการ Chief Administrator of Samut Prakan PAO คณะทำ�งาน : Working Group : นายธนวัฒน์ กล่ำ�พรหมราช Mr.Tanawat Klamprommarach รองปลัด อบจ.สมุทรปราการ Deputy Chief Administrator of Samut Prakan PAO นางสุรีวัน สุขพัตร์ Mrs.Sureewan Sugapat เจ้าพนักงานธุรการ 6ว Clerical Officer นางวรรณดี เกตุนคร Mrs.Wandee Ketnakorn เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 5 Administrative Officer เจ้าของ : องค์การบริหารส่วนจังหวัด สมุทรปราการ ถ.สุทธิภริ มย์ ต.ปากน้ำ� อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ 10270

Owner : Samut Prakan Provincial Administration Organization Sutpirom Road, Paknam Subdistrict, Mueang Samut Prakan District, Samut Prakan 10270 โทรศัพท์ : 0-2389-0600 Tel : 0-2389-0600 โทรสาร : 0-2395-4560 Fax : 0-2395-4560

พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์สำ�นักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เลขที่ 314-316 ถ.บำ�รุงเมือง เขตป้อมปราบฯ กทม. 10100

Print : Printing Office of National Buddhism. 314-316, Bamrung Mueang Road, Pom Prap Sattru Phai District, Bangkok 10100 โทรศัพท์ : 0-2223-3351 Tel : 0-2223-3351 โทรสาร : 0-2621-2910 Fax : 0-2621-2910

www.fahmai.com


ActivitiesNEWS 6

Activities News ข่าวกิจกรรม อบจ.


กันยายน 2557 / September 2014

7

Festival to Restore

Happiness to the Nation มหกรรมคอนเสิร์ต คืนความสุขให้คนในชาติ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ จัดกิจกรรม “มหกรรม คอนเสิรต์ คืนความสุขให้คนในชาติ” ตามนโนบายของคณะรักษาความ สงบแห่งชาติ (คสช). ซึง่ ได้รว่ มมือกับจังหวัดสมุทรปราการ กองพล ทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ มณฑลทหารราบที่ 11 ฐานทัพเรือ กรุงเทพ โรงเรียนนายเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ กองอ�ำนวยการ รักษาความมัน่ คงภายในจังหวัดสมุทรปราการ กองบังคับการต�ำรวจ ภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เทศบาลนครสมุทรปราการ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และชาวจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมมือ ร่วมใจกันจัดงานนี้ขึ้นเพื่อเป็นการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ของคนในชาติ ให้เกิดความรักความสามัคคี เพือ่ เป็นการคืนความสุข ให้กับคนไทยอีกครั้ง งานในครัง้ นี้ ได้รบั ความร่วมมือจากเวทีไท ทีม่ าพร้อมกับศิลปิน ชื่อดังมากมาย เช่น ฝน ธนสุนทร, รุ่ง สุริยา ฝรั่งหัวใจลูกทุ่ง โจนัส แอนเดอร์สนั และเหล่านักร้องอีกกว่า 10 ชีวติ พร้อมกิจกรรมตลาด นัดแรงงาน สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด เมือ่ วันที่ 23 สิงหาคม ทีผ่ า่ นมา ณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ

Following the policy of the National Council of Peace and Order, Samut Prakan Provincial Administration Organization in collaboration with Samut Prakan Province, the 2nd Infantry Division Queen Guard of the 11th Infantry Army Command, Bangkok Naval Base, Royal Thai Navy Academy, Naval Education Department, Samut Prakan Internal Security Operations Command, Samut Prakan Provincial Police Command, Samut Prakan Municipality, local administration units, private sector and Samut Prakan residents jointly organized “Restored Happiness to the Nation Concert Festival” to enhance unity and reconciliation in the nation. This festival received a good coperation from “Waytee Thai” (Thai Stage) program in organizing the concert with famous singers and entertainers for example Fon Thanasunthorn, Roong Suirya, Jonas Anderson - a foreigner with the heart of Thai folk songs, and many other singers. In the fair, there were other activities such as job market, selling of economical consumer products. The event took place in front of Samut Prakan Town Hall on 23 August, 2014.


ActivitiesNEWS

8

Activities News ข่าวกิจกรรม อบจ.

Press Trip to Visit the

9 wonders

of Samut Prakan All Year Round Visits

อบจ.พาสื่อสัญจรชม

9 อัศจรรย์สมุทรปราการ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ จัดโครงการ “9 Wonders: 9 อัศจรรย์สมุทรปราการ เทีย่ วได้ตลอดทัง้ ปี” เสริมภาพลักษณ์การท่องเทีย่ ว ของจังหวัดสมุทรปราการ น�ำขบวนสือ่ มวลชนเข้าร่วมกิจกรรมสัมผัสความ อัศจรรย์กบั สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วส�ำคัญในสมุทรปราการ ส�ำหรับสถานทีแ่ รกทีน่ ำ� สือ่ มวลชนไปสัมผัส ก็คอื องค์พระสมุทรเจดีย์ ปูชนียสถานคูบ่ า้ นคูเ่ มืองและเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสมุทรปราการ ตัง้ แต่รชั กาลที่ 2 โดยสือ่ มวลชนได้เข้าไปสักการะพระพุทธรูปปางห้าม สมุทร ซึง่ เป็นพระประธานในวิหารด้านหน้าองค์พระสมุทรเจดีย์ ก่อนจะ ไปกราบนมัสการพระบรมราชานุสาวรียพ์ ระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า นภาลัย รัชกาลที่ 2 ทีป่ ระดิษสถานอยูภ่ ายในศาลาทรงยุโรป พร้อมทัง้ ชม ภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงามบอกเล่าเรือ่ งราวประวัตศิ าสตร์การสร้าง เมืองสมุทรปราการได้เป็นอย่างดี จากนัน้ เดินทางไปต่อกันทีว่ ดั สาขลา ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ สักการะองค์หลวงพ่อโต แห่งวัดสาขลา ลอดใต้ โบสถ์ เดินชมรูปปัน้

เกจิอาจารย์ชอื่ ดัง ชมพิพธิ ภัณฑ์วดั สาขลา และชมพระปรางค์เอียง เก่าแก่ทสี่ ร้างสมัยอยุธยา  และเยีย่ มชมวิธกี ารท�ำกุง้ เหยียดของอร่อยขึน้ ชือ่ ประจ�ำบ้านสาขลา เรียกได้วา่ มีทเี่ ดียวในโลกก็วา่ ได้ ช่วงบ่ายสือ่ มวลชนได้พบกับบรรยากาศแบบธรรมชาติ สัมผัสมนต์เสน่ห์ พืน้ ทีส่ เี ขียวปอดของคนกรุงเทพฯ อย่างกระเพาะหมู หรือบางกะเจ้า โดยเดิน ทางไปทีส่ วนศรีนครเขือ่ นขันธ์ หรือโครงการสวนกลางมหานคร ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง ฟังการบรรยายประวัตคิ วามเป็นมา จากนัน้ เปิดโอกาสให้ สือ่ มวลชนปัน่ จักรยานชมธรรมชาติภายในสวน ซึง่ เป็นกิจกรรมสุดท้ายของวันนี้ ทัง้ นี้ กิจกรรมสือ่ สัญจรภายใต้ โครงการ “9 Wonders : 9 อัศจรรย์ สมุทรปราการ เทีย่ วได้ตลอดทัง้ ปี” ได้รบั เกียรติจาก นายอัครวัฒน์ อัศวเหม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางมาต้อนรับ พร้อมทัง้ ท�ำกิจกรรมร่วมกับสือ่ มวลชนตลอดทัง้ วัน โดยกิจกรรมสือ่ สัญจร ได้จดั ขึน้ เมือ่ วันที่ 15 สิงหาคม 2557 ซึง่ นอกจากอิม่ เอมกับความสุขความ สนุกสนานแล้ว ยังอิม่ อร่อยกับอาหารพืน้ บ้านของจังหวัดสมุทรปราการอีกด้วย


กันยายน 2557 / September 2014

Samut Prakan Provincial Administration Organization launched the ‘9 Wonders of Samut Prakan: For All Year Round Visits’, a tourism campaign to promote tourism in Samut Prakan by inviting members of media to visit the tourist attractions in Samut Prakan. The first stop was Phra Samut Chedi, an important sanctuary of Samut Prakan that has been used as the seal of the province since the reign of King Rama II. The group first paid homage to the Buddha image in pacifying the ocean posture which is the principal Buddha image enshrined in the small chapel in front of Phra Samut Chedi. Then they proceeded to pay homage to the monument of King Rama II enshrined in the European style pavilion followed by admiring the mural painting that depicts the founding of Samut Prakan province. Then the group was led to Wat Sakhla in Na Kluea Subdistrict, Phra Samut Chedi District to pay homage to Luang Poh Tho (Big Buddha), walk under the main chapel, visiting the images of the past abbots and grand masters, Wat Sakhla Museum and the ancient leaning pagoda which was built in Ayutthaya period. Then visit the making of ‘stretched prawns’, the renowned delicacy of Baan Sakhla which can be said that it is the only one in the world. In the afternoon, the group visited the natural environment of the green area that is named as the ‘lung for Bangkok residents’ at the ‘pig stomach’ area or Bang Kachao. The first stop was at the Sri Nakhon Khuean Khan Park or the public park of the capital at Bang Kachao Subdistrict, Phra Pradaeng District to listen the briefing on the project. After the briefing, the members of the media enjoyed cycling in the natural settings of the orchards. It was the last activity of the day. The press trip activity of the campaign “9 Wonders of Samut Prakan: For All Year Round Visits’ was honored by Mr. Akkrawat Asavahame, Deputy President of Samut Prakan Provincial Organization to welcome the media members and join the group for the whole day trip. This press trip activity was organized on 15 August, 2014. Apart from enjoyment, participants also enjoyed delicious local delicacies of Samut Prakan very much.

9


10 Hall of Frame

ทำ�เนียบของดีสมุทรปราการ

Products of Paknam ท�ำเนียบ OTOP เมืองปากน�้ำ (1) เป็นโอกาสดีที่ได้แวะเวียนมายังสมุทรปราการอีกครั้ง ที่มีทั้ง แหล่ง กิน เที่ยว ช็อป มากมาย แต่ก็ไม่วายก่อนที่จะกลับ ลองแวะ ช็อปสินค้าโอท็อปคุณภาพดีไปฝากคนใกล้ตัว หรือจะซื้อกลับไปเป็น ของที่ระลึกให้กับตัวเองก็ยังได้ It was another good opportunity to revisit Samut Prakan where destinations including tourism, shopping and eateries. But, before heading back home, we could not resist temptation to shop for quality OTOP products as souvenirs for our family members or just as a memorabilia.

Exquisite Egg Shells เปลือกไข่ วิจิตรศิลป์

ด้วยแรงบันดาลใจจากไข่ ฟาแบร์เช (Fabergé) ของ รัสเซียที่มีราคาสูงถึงใบละ 200 ล้านบาท เปลี่ยนเป็นแรงผลักดัน สู่การคิดค้นให้เป็นแบบเฉพาะของไทย ด้วยการน�ำไข่นกกระจอก เทศ ไข่ห่าน ไข่นกกระทา ไข่เป็ด ไข่ไก่ ไข่เต่า บรรจงออกแบบวาด ลวดลายอันสวยงาม ผ่านเทคนิคขั้นสูง ด้วยการเขียนลายด้วย วิธี ลงยา หรือสีผสมเคลือบ ให้สวยงามและดูโดดเด่น จนกลายเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

OTOP ระดับ 5 ดาว ติดต่อ : เลขที่ 307/166 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ 0-2730-7368

The works of Russia’s Faberge that each piece is highly expensive at around 200 million Baht inspired the works in Thai style from ostrich eggs, goose eggs, quail eggs, duck eggs, hen eggs or turtle eggs. The artists carefully draw the delicate designs and with advanced techniques in enamel make the finished works stunning and outstanding that they become very popular. OTOP 5-Star Award Contact: No. 307/166 Bang Phli Yai Sub-district, Bang Phli District, Samut Prakan Tel. 0-2730-7368

Glass Blowing ศิลปะการเป่าแก้ว ถ้าท่านก�ำลังมองหาของขวัญ ของช�ำร่วยแบบไทยๆ ทีม่ คี วามหมายมงคล ต้องไม่พลาดเครือ่ งแก้วหลากหลายรูปแบบทัง้ ขนาดจิว๋ และขนาดใหญ่ บรรจุ ในตูก้ ระจกสวยงาม เช่น เรือสุพรรณหงส์ ราชรถ ชุดช้างไทย มังกรคู่ มังกร เดีย่ ว สัตว์นานาชนิด ผ่านงานฝีมอื ทีต่ อ้ งใช้ความประณีตในทุกขัน้ ตอนการท�ำ OTOP ระดับ 5 ดาว ติดต่อ : นายประพจน์ แย้มพราย เลขที่ 98/40 หมู่ 7 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ : 0-2316-8098, 0-2316-9443

If you are looking for a gift with Thai identity representing good luck or fortune, you should not miss the glass figurines from a very tiny size to a large one in beautiful glass box such as the Supannahong Royal Barge, Royal Carriage, set of Thai elephants, couple of dragon or single dragon, and other animals. It is a work of art that requires meticulous attention in every step of the making. OTOP 5-Star Award Contact: Mr. Prapoj Yamprai, No. 98/40 Moo 7, Bang Phli Yai Subdistrict, Bang Phli District, Samut Prakan Tel. 0-2316-8098, 0-2316-9443

Ceramic Works เครื่องปั้นดินเผาเซรามิก หัตถกรรมคุณภาพระดับ OTOP 5 ดาว ชิน้ งานแต่ละชิน้ เป็นฝีมอื จาก คนในพืน้ ที่ เช่น ทีร่ องแก้ว แก้ว ชาม ไปจนถึงงานขนาดใหญ่ทมี่ ลี วดลาย สวยงาม ทัง้ งานแบบขึน้ รูปและแบบ ปัน้ งานส่วนใหญ่จะมีลวดลายที่ไม่ ตายตัว ท�ำให้เป็นทีช่ นื่ ชอบ

OTOP ระดับ 5 ดาว ติดต่อ : กลุม่ ส่งเสริมพัฒนาอาชีพสตรี เลขที่ 1100 หมู่ 3 ซอยโรงเรียน เทพศิรนิ ทร์สมุทรปราการ ถนนเทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ : 08-9990-4331

Handicrafts with OTOP 5-star quality. Each piece, be it coaster, mug, bowl or those big pieces with exquisite design, is made by residents in the village from shaping to the finished products. There is no fixed design which makes the works more attractive to shoppers. OTOP 5-Star Award Contact: Female Occupational Development Group, No. 1100 Moo 3, Soi Thepsirinsamutprakan School, Theparak Road, Theparak Subdistrict, Muang District, Samut Prakan Tel. 08-9990-4331


กันยายน 2557 / September 2014

11

Lamp Shade From Husk of Coconut ชุดโคมไฟกาบเขียงมะพร้าว

ชุดโคมไฟกาบเขียงมะพร้าว ผลิตภัณฑ์ Hand Made (ท�ำมือ) ภายใต้ แบรนด์ชื่อ “สวนศิลป์” เหมาะส�ำหรับนักตกแต่งบ้านที่ชอบความแปลกใหม่ ซึ่งท�ำจากวัสดุธรรมชาติที่หาได้ ในท้องถิ่น การออกแบบแต่ละชิ้นไม่ซ�้ำใคร ปัจจุบันมีบริษัทตกแต่งบ้านในประเทศไทยน�ำไปจ�ำหน่าย ทั้งสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง และอื่นๆ มากมาย

รางวัล OTOP ระดับ 2 ดาว ติดต่อ : กลุ่มพัฒนาสตรีและอาชีพ เลขที่ 43 หมู่ 10 ซอยเพชรหึงษ์ 52 ถนนเพชรหึงษ์ ต.บางกอบัว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ : 0-2461-0816, 08-3305-5699

Model of Thai Style House

Sets of lamp shade from green husk of coconut are homemade products under the brand name “Suan Silpa” suitable for interior designers who prefer novelty in home décor. The lamp shade is made from natural products available locally and each piece differs from the others. At present, there is a Thai home décor company exports the lamps to the US, Japan, Hong Kong and many other countries. OTOP 2-Star Award Contact: Female Occupational Development Group, No. 3 Moo 10, Soi Petch Heung 52, Petch Heung road, Bang Kobua Subdistrict, Phra Pradaeng District, Samut Prakan Tel. 0-2461-0816, 08-3305-5699

เรือนไทยไม้สักหลังเล็ก

ถ้าใครชื่นชอบงานประดิษฐ์คงต้องสนใจ “เรือนไทยไม้สัก หลังเล็ก” เพราะความละเอียดประณีตในทุกขั้นตอนการท�ำ และ ประสบการณ์จากการเป็นครูศิลปะจึงสร้างสรรค์ออกมาได้อย่าง สวยงาม เหมาะกับการน�ำไปประดับตกแต่ง หรือจะเป็นชิน้ ของขวัญ ในโอกาสส�ำคัญๆ ก็ยังได้ รางวัล OTOP ระดับ 5 ดาว ติดต่อ : เลขที่ 10/45 หมู่ 8 ถนนศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ : 08-7028-7345 For those who love handicrafts, they should be interested in “Teak wood Thai style house model” because of its meticulous and delicate details in every step of the making. It’s the works of experienced art teacher who created such a miraculous work of art that is suitable for house décor or as a gift on various occasions. OTOP 5-Star Award Contact: 10/45 Moo 8, Srinakarin Road, Bang Muang Subdistrict, Muang District, Samut Prakan Tel. 08-7028-7345

Engraved Brass Wares

เครื่องทองเหลืองสลักลาย

งานฝีมอื ชัน้ เอก ทีต่ อ้ งอาศัยความช�ำนาญ เฉพาะด้าน ด้วยฝีมอื การสลักเครือ่ งทองเหลือง เพียงหนึง่ เดียวในสมุทรปราการ ที่ได้รบั การ ถ่ายทอดมรดกเก่าแก่จากบรรพบุรษุ กว่า 50 ปี จุดเด่นคือลวดลายทีส่ ร้างสรรค์และออกแบบ เองตามจินตนาการ รวมถึงลูกค้าสามารถออกแบบ ลวดลายได้เองตามใจชอบ มีผลิตภัณฑ์ ให้เลือก เช่น บาตรน�ำ้ มนต์ หอยสังข์ ชุดขันน�ำ้ พานรอง ปิน่ โต ภายใต้แบรนด์ “ศิรนิ ารถเครือ่ งทองเหลือง” รางวัล OTOP ระดับ 4 ดาว ติดต่อ : ศิรินารถเครื่องทองเหลือง เลขที่ 1196 ซอยเพชรวิฑูรย์ ถนนเทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ : 08-6098-1913

This handicraft art requires special skill and experience in engraving brass ware, and is the only one in Samut Prakan that has been passed from ancestors for over 50 years. The highlight of the works is the creative designs following the imagination including the fact that customers can design their own designs as well. The product collection includes holy water bowls, conch shells, set of bowl with pedestal stand, tiffin-carriers which are under the brand “Sirinart Brass Wares”. OTOP 3-Star Award Contact: Sirinart Brass Wares, No. 1196 Soi Petchvitoon, Theparak Road, Theparak Subdistrict, Muang District, Samut Prakan Tel. 08-6098-1913


12 Rest in Natural สีสันใต้เงาไม้

Pee Sua Samut Fort..

Home to Flying Fox


กันยายน 2557 / September 2014

ป้อมผีเสื้อสมุทร..

บ้านของค้างคาวแม่ไก่

รือทหารพาพวกเราล่องจากฝัง่ พระสมุทรเจดียข์ า้ มไปยัง ‘ป้อมผีเสือ้ สมุทร’ เกาะเล็กๆ กลางแม่นำ�้ เจ้าพระยา จุดยุทธศาสตร์สำ� คัญทางทหารในอดีต ซึง่ โอบล้อมด้วย พันธุ์ไม้และความเขียวขจี ท�ำให้พนื้ ทีแ่ ห่งนีม้ คี วามน่าสนใจไม่ น้อย ทัง้ ตัวสถาปัตยกรรมทีส่ ำ� คัญทางประวัตศิ าสตร์ และความ อุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ นอกเหนือจากนัน้ ยังเป็นแหล่งพัก อาศัยของสัตว์ปกี กลางคืนอย่างค้างคาวแม่ไก่ ทีม่ จี ำ� นวนนับ พันตัว ทริปนีเ้ ราจะพาทุกท่านล่องเรือชมค้างคาว สีสนั อีกอย่าง ของป้อมผีเสือ้ สมุทร เจ้าหน้าทีพ่ าพวกเราล่องเรืออ้อมเกาะไปทางด้านขวาฝัง่ ติดกับแม่นำ�้ เจ้าพระยา เป็นบริเวณทีพ่ บค้างคาวแม่ไก่มากทีส่ ดุ พอเรือไปถึงก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับภาพค้างคาวนับพัน ที่เกาะ กิ่งแมกไม้ห้อยหัวเรียงรายกันเป็นกลุ่มใหญ่ ตามต้นโกงกาง ต้นล�ำพู ความยาวกว่า 200 เมตร ซึง่ เจ้าหน้าทีบ่ อกว่าค้างคาว เหล่านี้อาศัยอยู่บนเกาะป้อมผีเสื้อสมุทรมาเนิ่นนาน ก่อนมี การสร้างป้อมเสียอีก A naval boat took us crossing from Phra Samut Chedi to Pee Sua Samut Fort on a small islet in the middle of the Chao Phraya River which used to be a strategic stronghold in the history. The fort is embraced by lush green trees that make this area quite interesting with historical valued architecture and the fertile nature. Moreover, it is the living area of nocturnal animal like thousands of flying fox. This trip we will take you to watch flying fox, another lively attraction of Pee Sua Samut Fort. The officers took us round to the right side of the islet on the Chao Phraya River where flying foxes are living in large group. When the boat arrived, we were thrilled with the sight of thousands of flying foxes hanging head down from the branches of mangroves and cork trees all the way through the length of approximately 200 m. The officer also told us that these flying foxes have been living in this area long before the construction of the fort.

13


14 Rest in Natural สีสันใต้เงาไม้

‘ค้างคาวแม่ไก่’ เป็นค้างคาวสายพันธุท์ มี่ ขี นาดใหญ่ทสี่ ดุ ใน โลก มีลกั ษณะหน้าตาคล้ายสุนขั จิง้ จอก จมูกและใบหูเล็ก ตาโต มี ขนสีนำ�้ ตาลแกมแดง ปีกเป็นพังผืดบางๆ สีดำ� เชือ่ มติดระหว่างนิว้ มี เล็บแหลมคมส�ำหรับเกาะกิง่ ไม้ และมีปกี บินได้เหมือนนก เมือ่ โตเต็ม วัยจะมีนำ�้ หนักกว่า 800 กรัม หากกางปีกออกแล้ววัดจากปลายปีก ด้านซ้ายถึงด้านขวายาวประมาณ 3 ฟุต ออกลูกครัง้ ละตัว และมัก อาศัยอยู่ในทีร่ กทึบ ห่างไกลผูค้ น อย่างเช่นบนเกาะป้อมผีเสือ้ สมุทร การนัง่ เรือชมสัตว์ปกี ชนิดนี้ ต้องมาชมตอนกลางวัน ถ้ามากลาง คืนจะไม่เห็นแม้เงา เพราะค้างคาวเป็นสัตว์ทนี่ อนตอนกลางวัน และบิน ออกหาอาหารตอนกลางคืน ดังนัน้ ตัง้ แต่ชว่ งตะวันโพล้เพล้ยนั พลบค�ำ่ มันจะออกไปหากินตามแหล่งอาหารต่างๆ กลับมาอีกทีกก็ อ่ นรุง่ สาง ของอีกวัน ส�ำหรับอาหารทีพ่ วกมันชอบ คือ ผลอ่อนของต้นโพธิ์ ไทร มะม่วง มะขาม นุน่ ฝรัง่ ฯลฯ โดยมักจะเคีย้ วกินเฉพาะน�ำ้ ผลไม้ แล้วคายกากทิง้ ซึง่ สังเกตได้จากลูกมะม่วงทีแ่ หว่งเป็นโพรง ก็ดว้ ย ฝีมอื การกินของเจ้าค้างคาวนีเ่ อง เมือ่ เรือล่องมาจนสุดบริเวณแหล่งทีอ่ ยูอ่ าศัยของค้างคาวแม่ไก่ เจ้าหน้าทีก่ พ็ าพวกเราขึน้ ไปยังเกาะป้อมผีเสือ้ สมุทร เพือ่ ออกเดิน ส�ำรวจในเส้นทางศึกษาธรรมชาติอนั รมรืน่ ทอดยาวไปในดงต้นจาก ความยาวกว่า 400 เมตร เจ้าหน้าทีบ่ อกว่าสะพานชมธรรมชาติเส้น นีส้ ร้างขึน้ มากว่า 10 ปีแล้ว แต่สภาพในปัจจุบนั ได้ทรุดโทรมลงตาม กาลเวลา จึงต้องเดินเสพบรรยากาศความเขียวขจีของพันธุ์ไม้อย่าง ระมัดระวัง ก่อนจะแวะไปยังตัวป้อมผีเสือ้ สมุทร ซึง่ เป็นอนุสรณ์สถาน ทางประวัตศิ าสตร์อนั ส�ำคัญของสยามประเทศ “Flying fox” is the world largest species of bat. Its face looks like a fox with small nose and ears, big eyes, brownish feature and red cheeks. The wings are black thin webs connected all the fingers and the nails are sharp in order to hold on steadily to the branches and with wings for flying like birds. Fully grown flying fox may weight over 800 grams and the width from the left tip to the right tip of the wings is approximately 3 feet. Female flying fox bears one baby at a time. They live in the dense of trees far from people such as at Pee Sua Samut Fort islet. To watch flying foxes, watchers should come during the day time because fire foxes rest during the day and going out for food in the night. Therefore, if you come at the night time you won’t see a single fire fox. At dusk fire foxes will start flying out and return by dawn of the following day. Their preferred food includes young pods of banyan trees, fig, mango, tamarind, kapok, guava, etc. They would take only the juice and leave the pulp. If we see mango with a hole, it’s the work of flying foxes. When the boat cruised to the end of the flying fox living area, officers led us ashore at Pee Sua Samut Fort islet taking a walk along the pleasant 400 m. long natural trail into the grove of nipa palm trees. The officers told us this walking plank was built 10 years ago and now in a dilapidated condition. Thus, we had to be careful while enjoying the natural atmosphere before reaching the Pee Sua Samut Fort, another important historical memorial site of Siam.


กันยายน 2557 / September 2014

‘ป้อมผีเสือ้ สมุทร’ สร้างขึน้ ตัง้ แต่ พ.ศ.2362 ในสมัยพระบาท สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงโปรดให้สร้าง ป้อมปราการสองฝัง่ ปากแม่นำ�้ ทัง้ หมด 6 ป้อม หนึง่ ในจ�ำนวนนัน้ มี ป้อมผีเสือ้ สมุทรรวมอยูด่ ว้ ย เพราะเป็นเกาะกลางแม่นำ�้ เจ้าพระยา ตัง้ อยูป่ ากทางเข้าแม่นำ�้ พอดีเหมาะทีจ่ ะเป็นป้อมปืนไว้ ใช้ ในคราว ต่อสูก้ บั ข้าศึกศัตรู เกาะแห่งนีม้ พี นื้ ที่ 30 ไร่ 3 งาน 38 ตาราง วา ภายในประกอบด้วยก�ำแพงก่ออิฐโบราณ เปิดช่องไว้สำ� หรับ ติดตัง้ ปืนใหญ่ และอุโมงค์ดนิ ส�ำหรับเป็นทีพ่ กั ของนายทหาร ทีป่ ระจ�ำการ สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2365 และได้มกี าร เปลีย่ นแปลงเรือ่ ยมา จนเป็นคลังเก็บวัตถุระเบิดและดอกไม้ เพลิง อยู่ในความดูแลของกรมสรรพาวุธทหารเรือ หลังจากเดินส�ำรวจสถาปัตยกรรมทางประวัตศิ าสตร์อนั แปลกตาจนครบถ้วน พวกเราก็ขอตัวเดินเสพบรรยากาศรอบ เกาะ เพือ่ เก็บเกีย่ วภาพความเขียวขจีของแมกไม้ สูดอากาศ บริสทุ ธิก์ ลางน�ำ้ ให้เต็มปอด ก่อนจะโบกมือลาป้อมผีเสือ้ สมุทร บ้านของค้างคาวแม่ไก่ทเี่ ราไปเยีย่ มชม

15

ปืนใหญ่อาร์มสตรอง ตั้งอยู่ภายในป้อมผีเสื้่อสมุทร Armstrong Gun inside Pee Sua Samut Front

“Pee Sua Samut Fort” was built in 2362 B.E. (1819 A.D.) in the reign of King Rama II who ordered to erect 6 forts on both banks of the Chao Phraya River. Pee Sua Samut Fort was one among the six forts because as it was an islet in the middle of the Chao Phraya River right at the estuary which was the strategic site for defending. This islet covers an area of 30 rais, 3 ngan and 38 sq. wah. (48,338 sq. m.) The remaining of the fort includes ancient brick walls with turrets for cannons and earth tunnel served as living quarters for officers stationed at the fort. The construction was completed in 2365 B.E. (1822 A.D.) and there have been many alterations. Lately, it becomes explosive and fireworks storage under the supervision of the Naval Ordnance Department. After surveying the quaint historical architecture, we took a leisure walk around to absorb the lush green environment and fresh air before bade farewell to Pee Sua Samut Fort.. home of flying foxes.

Tips ท่อส�ำหรับระบายอากาศ มีทงั้ หมด 12 ท่อ ซึง่ ต่อกับอุโมงค์ ทีพ่ กั ของทหารทีป่ ระจ�ำการอยูท่ ี่ ป้อมผีเสื้อสมุทร It is ventilation conected to the soldiers’s rest room.


16 Rest in Natural สีสันใต้เงาไม้

ที่ตั้ง : ป้อมผีเสื้อสมุทร ตั้งอยู่บนเกาะในแม่น�้ำเจ้าพระยา ด้านทิศใต้ขององค์พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ จ่าเอก บุญชัย นุชพุก โทรศัพท์ 08-7538-5535

Pee Sua Samut Fort is situated on an islet in the middle of the Chao Phraya River on the southern side of Phra Samut Chedi in Samut Prakan. For more information, please call Petty Officer 1st Class Boonchai Nuchpook Tel. 08-7538-5535


กันยายน 2557 / September 2014

17

ค้างคาวแม่ไก่ ชื่อภาษาอังกฤษ Flying foxes

วงศ์ (familly) Pteropodidae

ลักษณะหน้าตาคล้ายสุนัขจิ้งจอก จมูกและใบหูเล็ก ตาโต มีขนสี น�้ำตาลแกมแดง ปีกเป็นพังผืดบางๆ สีด�ำเชื่อมติดระหว่างนิ้ว มีเล็บแหลมคมส�ำหรับเกาะกิ่งไม้ บินได้เหมือนนก

Flying foxes is the world’s largest species of bat with the face like a fox with small nose and ears, big eyes, reddish brown feather. The wings are black thin web between the fingers that have sharp nails to hold on to tree branches and it can fly like a bird.

The Flying foxes มารู้จัก..ค้างคาวแม่ไก่

ค้างคาวที่มี

ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

Largest Species of Bat

เมื่อโตเต็มวัยจะมีน�้ำหนักประมาณ 800 กรัม หากกางปีกออกแล้ววัดจากปลายปีก ด้านซ้ายถึงด้านขวายาวประมาณ 3 ฟุต This species of bat when it is fully grown will weight approximately 800 grams. From the tip of the left wing to the tip of the right wing is about 3 feet long.

“ค้างคาวแม่ไก่” หรือ Flying foxes เป็นค้างคาวทีม่ ขี นาดใหญ่ ทีส่ ดุ ในโลก ลักษณะหน้าตาคล้ายสุนขั จิง้ จอก จมูกและใบหูเล็ก ตาโต มีขนสีนำ�้ ตาลแกมแดง ปีกเป็นพังผืดบางๆ สีดำ� เชือ่ มติดระหว่างนิว้ มีเล็บแหลมคมส�ำหรับเกาะกิง่ ไม้ บินได้เหมือนนก ส�ำหรับอาหารทีพ่ วกมันชอบ ได้แก่ ผลและใบอ่อนของต้นโพธิ์ ไทร มะม่วง มะขาม นุน่ ฝรัง่ ฯลฯ โดยมันจะเคีย้ วกินเฉพาะน�ำ้ ผลไม้ แล้วคายกากทิง้ และถ่ายมูลเป็นของเหลว ค้างคาวแม่ไก่ในพืน้ ทีภ่ าคกลางของประเทศไทย มักจะอาศัยบน เกาะ 16 แห่ง โดยจะอาศัยอยูใ่ นป่าดิบชืน้ หรือพืน้ ทีใ่ กล้สวนผลไม้ ปัจจุบนั ค้างคาวแม่ไก่เป็นสัตว์ปา่ คุม้ ครองตามพระราชบัญญัตสิ งวนและคุม้ ครอง สัตว์ปา่ พุทธศักราช 2535

Flying foxes is the world’s largest species of bat with the face like a fox with small nose and ears, big eyes, reddish brown feather. The wings are black thin web between the fingers that have sharp nails to hold on to tree branches and it can fly like a bird. Their favorite foods include young fruits and leaves of Bodhi tree, banyan tree, mango, tamarind, kapok, guava, etc. They eat their foods by chewing and sucking only the juice and spit out the pulp. Their dropped dung is quite watery. Flying foxes in the central plain of Thailand are found on 16 small islands in rainforest or the area close to orchards. The amount that is considered quite a large quantity that is hard for farmers to accept. At present, flying fox is a preserved wildlife listed in the Wildlife Preservation and Protection B.E. 2535. อ้างอิง/Referance : www.wikipedia.com


18 Did You Know รู้ไว้ก่อนเที่ยว

08

Safety Tips for

Lone Female

Travelers

8 วิธีป้องกันตัวเวลาเที่ยวคนเดียว ส�ำหรับสาวๆ ปัจจุบนั มีสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วผุดขึน้ มากมายตามกระแสนิยม เพือ่ ตอบสนองความต้องการทีห่ ลากหลายของคนรุน่ ใหม่ โดยเฉพาะสาวๆ ทีเ่ สาะแสวงหาแหล่งท่องเทีย่ วทีต่ นเองชืน่ ชอบ จนบางครัง้ อาจเผลอ ลืมไปว่า บางสถานทีท่ เี่ ราไปนัน้ อาจมีอนั ตรายหลบซ่อนอยูโ่ ดยทีไ่ ม่รู้ ตัว วันนีเ้ รามีวธิ กี ารป้องกันตัวฉบับพกพาส�ำหรับสาวๆ ทีช่ อบไปเทีย่ ว คนเดียวมาฝากกัน At present, there are many in trend tourist destinations coming up in response to the requirements of the new generation particularly young girls looking for their preferred destinations. They may forget that some places they visit may have hidden dangers that they do not know about. Today, we have some self protection tips for lone female travelers.

Choose the Upper Berth

เดินทางด้วยรถไฟตู้นอนให้เลือกเตียงบนเสมอ

2 ส�ำหรับผูห้ ญิงทีเ่ ดินทางโดย รถไฟ และเลือกใช้บริการตูน้ อน ถือ เป็นเรือ่ งปกติธรรมดาส�ำหรับการเดิน ทางระยะไกล ดังนัน้ ควรเลือกเตียง บนเสมอ เพราะปลอดภัยทีส่ ดุ ด้วย ความแคบ และสูงของเตียง มันยาก มากที่ใครจะมาท�ำร้ายคุณบนเตียง นี้ได้ โดยทีค่ นอยูเ่ ตียงล่างไม่รตู้ วั ไม่ตอ้ งกลัวว่าเตียงบนจะจองยาก เพราะเตียงล่างมักเต็มเร็วก่อนเสมอ

For female travelers, traveling by overnight train is a normal means for long distance travel. They should consider taking the upper berth. The narrowness and the height to the berth make it safer for you as nobody can attack you without disturbing the person in the lower berth. Do not afraid that upper berth is difficult to reserve because the lower berths are always fully booked before the upper ones.

1

Keep your valuables belongings

ซ่อนของมีค่าให้มิดชิด

อย่าโชว์รวย นีค่ อื โลกแห่งโซเชียลเน็ตเวิรค์ เป็นธรรมดาทีเ่ วลา เดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว สาวๆ ก็มกั อยากทีจ่ ะแชร์เรือ่ งราวการ เดินทางของเราให้ ใครต่อใครอิจฉา หยิบไอโฟนรุน่ ล่าสุด หรือไอแพด ราคาแพงออกมานัง่ จิม้ ๆ ตัง้ แต่ระหว่างรอรถ สะพายกล้องเดินถ่ายรูป เป็นสาวเท่ เซลฟ์ฟก่ี นั ไปตามสถานทีต่ า่ งๆ แน่ใจหรือไม่วา่ ไม่มีใครบาง คนทีก่ ำ� ลังจับจ้องคุณอยู่ เพราะฉะนัน้ ต้องระวังกันให้ดี As we live in the world of social network, don’t show off that you are rich. It is a normal practice for lone female travelers to share their experiences. They may take out their expensive latest model iPhone or iPad sharing on the network while waiting for the bus; or being a cool girl carrying a camera for photo taking and selfies while visiting various locations. Are you sure that there is nobody watching you? Therefore, you should be aware and alert.

Dress properly

แต่งกายมิดชิด

การเดินทางคนเดียวขอ แนะน�ำว่าควรเป็นกางเกงที่ถอด ออกให้ยากทีส่ ดุ ถ้าเป็นเอีย๊ มแบบ ถอดยากก็จะยิ่งดีใหญ่ ในกรณีที่ โดนฉุด อย่างน้อยก็ยังมีเวลาตั้ง สติคิดหาหนทาง ถ้าอยากแต่ง ตัวเซ็กซีก่ นั แนะน�ำว่าให้หาคนมา เป็นเพือ่ นด้วยเพือ่ ความปลอดภัย

It is suggested that lone female travelers should wear slacks that are difficult to take off. If your cloth is a one piece top and slacks that is difficult to take off, that is better. In case you are being attacked at least there is time that you can think of finding the way to get away. If you like sexy dress, it is recommended that you should have some friends with you.

3


กันยายน 2557 / September 2014

19

Emergency Number Be Careful Yourself Don’t be a drinker

Carry some weapons

พกอาวุธมีด้ามไว้บ้าง

อาวุธมีดา้ มของคุณอาจเป็น ไม้เท้า หรือร่ม สิง่ เหล่านีจ้ ะช่วยคุณ ได้บา้ งในยามฉุกเฉิน ขวดน�ำ้ หอม อาจดีกว่าสเปรย์พริกไทย (แถมใน บ้านเรา สเปรย์พริกไทยก็ดนั ถือ เป็นของผิดกฎหมายด้วย) ไม่ตอ้ ง เสียดาย พกติดตัวเอาไว้ และฉีดใส่ หน้าคนร้ายได้เลย จะท�ำให้คนร้าย ตกใจ และแสบตาเช่นกัน

4

Your weapons could be a cane or an umbrella which could be useful in case of emergency. Carrying a small bottle of perfume spray may be better than a bottle of pepper spray (in our country pepper spray is illegal). In case of emergency, spray the perfume direct into the face of attacker. It will scare the attacker off and pierce his eyes.

567 ตั้งหมายเลขฉุกเฉิน

คอยสังเกตสิ่งต่างๆ

sos

be careful

โทรศัพท์มอื ถือของคุณไม่ได้ มีไว้เซลฟ์ฟอ่ี ย่างเดียวเท่านัน้ ยังมี ฟังค์ชนั่ ตัง้ หมายเลขฉุกเฉินไว้บน ปุม่ ใดปุม่ หนึง่ ซึง่ จะท�ำให้สามารถ โทรออกอัตโนมัตไิ ด้ แต่ควรเป็น เบอร์ของคนสนิท พ่อแม่พนี่ อ้ ง ที่ ไม่มนี สิ ยั ไม่ชอบรับสายนะ

Your mobile phone is not for you to selfie only. It also has the function to set up emergency number on the dial pad that will make an automatic call. The number should be the number of people who know you very well such as your parents or siblings. Mind you one thing it should be the number of the person who have the habit of always taking the calls.

8

มองหน้า มองหลัง ดูถนนหนทาง ให้ดี อาจมีใครที่คอยจับจ้องคุณอยู่ อย่าได้ไว้ ใจ ให้คอยสังเกต พยายาม วางตัวให้ดไู ม่ออ่ นแอบอบบาง เพราะ ผู้ไม่หวังดีมักเลือกเหยื่อที่ดูป้องกัน ตัวเองไม่ได้ ถึงเราจะบอบบางหุ่น ดี แต่ก็ ไม่ใช่ตอ้ งท�ำตัวให้ดบู อบบาง

Always looking around, looking carefully while on the road as there may be somebody watching you. Don’t trust anybody, always notice every movement. Try not to make yourself look vulnerable as ill wishers pick their prey that looks vulnerable. Though you are physically slim but you must not make yourself look vulnerable.

นักดืม่ จริงๆ มักควบคุมตัวเอง ได้ คุณเป็นแบบนั้นหรือเปล่า ถ้า ไม่ใช่ ก็ ไม่ควรดื่มเมื่อเดินทางคน เดียว เพื่อให้มีสติอยู่เสมอ

Drinkers know their limits. If you are a drinker, do you know your limit? If not, you should not drink when traveling alone in order to be mindful at all time.

Don’t Trust Male Strangers

อย่าไว้วางใจผู้ชายแปลกหน้า

ส�ำหรับผู้หญิงที่เดินทางท่องเที่ยวคนเดียว มักถูก มองว่า กล้า ก๋ากั่น สาวมั่น ดังนั้นคุณต้องระวังตัวเอา ไว้ อย่าไว้วางใจออกไปกับใครที่ไม่รู้จัก ไม่ว่าจะดูน่าไว้ วางใจขนาดไหนก็ตาม ถ้าถูกปล้นให้ โยนของมีค่าไปอีก ด้านไกลๆ ตัว เพื่อที่คุณจะวิ่งหนีไปอีกทางได้

4

ถ้าคุณเป็นคนชอบดื่ม

Lone female travelers are often being assumed as being dare devil girls. Therefore, you should take precaution, don’t going out with strangers even though how trustworthy they look.

Don’t Trust! แหล่งอ้างอิง/Reference: travel.mthai.com


Travel

20 App for Traveling พก App พาเที่ยวอุ่นใจ..

Core qualification

คุณสมบัติเด่น

Locations Map : ค้นหารีววิ สถานทีเ่ ทีย่ ว ทีก่ นิ ทีพ่ กั รอบๆ ตัวคุณ Top10 : ดู 10 อันดับ สถานทีท่ อ่ งเทีย่ วยอดนิยมของคนไทยในแต่ละเดือน Search : ค้นหารีววิ สถานทีท่ อ่ งเทีย่ ว ทีก่ นิ ทีพ่ กั แบบคัดกรองแล้ว Sort : จัดแบ่งหมวดหมูร่ วี วิ ตามรูปแบบการท่องเทีย่ วทัว่ ไทย เพือ่ ให้ คุณค้นหารีววิ ได้งา่ ยขึน้ Favorite : เก็บรีววิ ทีค่ ณ ุ ชืน่ ชอบไว้ และเรียกดูได้ทกุ เมือ่ Add : เพิม่ รีววิ ของคุณลงใน App เทีย่ วไทย เพือ่ เป็นแรงบันดาลใจให้ นักท่องเทีย่ วคนอืน่ ๆ Video : ดูวดี โี อทีน่ า่ สนใจของสถานทีเ่ ทีย่ ว Location : Maps: Reviews on attractions, eateries and accommodation within your proximity Top 10 : List the top 20 attractions for Thai tourists in each calendar month Search : Search over 20,000 screened reviews on attractions, eateries, and accommodations Sort : Categorize reviews into groups according to travel style for an easy searching Favorite : Save your favorite reviews for viewing at anytime Add : Add your reviews in Touring Thailand Application as an inspiration for other travelers Video : View interesting video clips of the attractions

Touring Mission

แอพฯเดียวเที่ยวทั่วไทย

108 1009 ภารกิจเทีย่ ว แอพพลิเคชันติดเครือ่ งส�ำหรับคนหลงรัก การท่องเทีย่ วโดยเฉพาะ ซึง่ จะพบกับการรีววิ จากประสบการณ์จริงของ นักท่องเทีย่ วแบบคัดสรรกว่า 20,000 เรือ่ ง ทัง้ ทีพ่ กั ทีเ่ ทีย่ ว และร้าน อาหาร โดยจัดแบ่งหมวดหมู่ พร้อมเครือ่ งมือให้คน้ หาได้อย่างสะดวกง่าย ขึน้ แอพพลิเคชันนี้ได้ถกู พัฒนาจากการท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย จึง เป็นเครือ่ งการันตีเรือ่ งความถูกต้อง และความครบถ้วนของข้อมูลแน่นอน 108 1009 Touring Mission is a particular application for touring lovers’ installation. From the App, users will find over 20,000 reviews of selective true experiences from tourists be it about accommodation, attractions and restaurants which are categorized and completed with search engines for easy finding. This App is developed by Tourism Authority of Thailand (TAT) which guarantee for the accuracy and completeness of the information therein.

ส�ำหรับคนรักการท่องเทีย่ ว ต้องไม่ควรพลาดทีจ่ ะโหลดแอพพลิเคชัน นี้ไว้ตดิ เครือ่ ง เพราะเราสามารถชมภาพบรรยากาศสวยๆ และอ่านรีววิ จากผูท้ ี่ได้ไปเทีย่ วจริงๆ สัมผัสความรูส้ กึ จริงๆ รวมถึงเราสามารถแชร์ ประสบการณ์ได้แค่ปลายนิว้ ขานักเทีย่ วคงไม่รอช้าสามารถเข้าไปโหลด ตามลิงค์ดา้ นล่างได้ฟรี เก็บไว้พกติดตัวกันได้เลย Touring lovers should not miss download this application as we can view interesting photographs and read reviews by tourists who have been there themselves including that we can share our experiences at our finger tips. Do not hesitate to download the below link to your mobile phone.

Reference/อ้างอิง : http://www.iphone-droid.net



22 Cover Story เรื่องจากปก

ตลาดโบราณบางพลี เป็นตลาดไม้เก่าแก่ตั้งอยู่ริมคลองสำ�โรงมาช้านาน Bang Phli Ancient Market is old wood market where stayed at Somrong Canal nowaday.


antique Market ตลาดโบราณ..ต�ำนานเมืองปากน�ำ้ ..รอบทศวรรษที่ผ่านมา กระแสความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเข้าสู่ภาวะหวนคืนสู่ความเก่า ดั้งเดิม ออกไปใน แนวอนุรักษ์มากขึ้น ถ้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติก็ต้องแบบดิบๆ ยิ่งปรุงแต่งน้อยเท่าไรกลับยิ่งกลายเป็นจุดขาย และเพิ่มแรงจูงใจกระตุ้นให้อยากเข้ามาค้นหามากขึ้นเท่านั้น จากกระแสความนิยมย้อนยุคได้สง่ ผลมาถึงการพลิกฟืน้ แหล่งท่องเทีย่ งประเภทตลาดโบราณหรือแหล่งการค้า เก่าที่มีเรื่องเล่าและต�ำนานให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง บางแห่งพุ่งแรงถึงขนาดสร้างผลก�ำไรให้ผู้ที่ท�ำมาค้าขาย ร�ำ่ รวยเป็นกอบเป็นก�ำ มีเงินหมุนเวียนในแต่ละวันมหาศาล..แต่สถานการณ์ล่าสุดมนต์เสน่ห์และความขลังที่ใช้ความ เก่าเป็นจุดขายก�ำลังถูกท้าทายด้วยกระแสธุรกิจและถูกภาวะความทันสมัย (Modernization) เข้าครอบง�ำ แปรสภาพ จากตลาดโบราณแท้ๆ กลายเป็นตลาดร่วมสมัย จะเก่าก็ ไม่ใช่ จะใหม่ก็ ไม่เชิง สร้างความผิดหวังให้กบั ผูม้ าเยือน ถึงขัน้ คนท้องถิ่นต้องลุกขึ้นมาเรียกร้องขอความเก่าแก่กลับคืน..ซึ่งอาจจ�ำเป็นต้องใช้เวลายาวนานหรือบางแห่งอาจถึงขั้น หมดโอกาสคืนสภาพเก่าไปแล้วก็ ได้ ทั้งหลายทั้งปวงล้วนเป็นไปตามพลวัตของสรรพสิ่งที่ไม่อาจหยุดนิ่งไปตามการเปลี่ยนแปลงของเวลาได้ แต่กระนั้นก็ ไม่ได้หมายความว่า “ตลาดโบราณ” จะไร้สิ้นกลิ่นเสน่ห์ของความดั้งเดิมไปเสียทั้งหมด ยังมีอยู่ 2 แห่งที่กองบรรณาธิการ @SAMUTPRAKARN Travel กล้าการันตีว่า เป็นตลาดเก่าที่สามารถยืนหยัดต้านทาน กระแสการถูกภาคธุรกิจครอบง�ำเอาไว้ได้อย่างทีน่ กั ท่องเทีย่ วเองก็กงั ขา สองตลาดทีว่ า่ นีก้ ค็ อื ตลาดคลองสวน 100 ปี และตลาดโบราณบางพลี โดยทั้งคู่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการ เก่าอย่างไรก็ยังคงสภาพเก่าอยู่อย่างนั้น

อะไรคือเสน่ห์และสีสัน รวมไปถึงความต่างที่ท�ำให้นักท่องเที่ยวต่างหลงใหล ยังคงแวะเวียนมาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย นี่คือปริศนาที่ท้าทายให้ต้องค้นหาความน่าอัศจรรย์ด้วยตาของท่านเอง แวะมาเที่ยวตลาดโบราณสมุทรปราการ เท่ากับได้ย้อนต�ำนานเมืองปากน�้ำ..


24 Cover Story เรื่องจากปก

Ancient Wooden Market by Samrong Canal

Bang Phli Market ตลาดโบราณบางพลี เสน่ห์ตลาดไม้เก่าแก่ ริมคลองส�ำโรง


กันยายน 2557 / September 2014

25

Origin of the Canal

for Bang Phli People ต้นก�ำเนิด สายน�้ำชาวบางพลี

“คลองส�ำโรง” สันนิษฐานว่าขุดตั้งแต่เมื่อครั้งขอมเรืองอ�ำนาจ ระหว่าง พ.ศ. 978-1700 มีระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร นานวัน เข้าจึงตืน้ เขินจนเรือใหญ่แล่นไปมาไม่สะดวก ราว พ.ศ.2041 ในรัชกาล สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา โปรดฯ ให้ขุดลอกช�ำระ คลองส�ำโรง เพื่อใช้เป็นคลองยุทธศาสตร์ และได้พบเทวรูปส�ำริด 2 องค์ มีจารึกชื่อ ว่า “พญาแสนตา” กับ “บาทสังขรณ์” พระองค์จึง ได้จัดท�ำพิธีบวงสรวงสังเวยเทวรูปนั้น สถานที่ที่ท�ำพิธีบวงสรวงเรียก ว่า “บัตรพลี” นานๆ เข้าจึงเพี้ยนมาเป็น “บางพลี” คลองแห่งนีจ้ งึ เปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ของชาวบางพลี และเป็นเส้นทางการคมนาคมที่ส�ำคัญ เพราะเป็นล�ำคลองที่ทอดยาว ผ่านหลายพืน้ ที่ เช่น อ�ำเภอเมืองสมุทรปราการ อ�ำเภอบางพลี อ�ำเภอ บางเสาธง อ�ำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โดยปากคลองจะเริม่ ที่ แม่นำ�้ เจ้าพระยา ลัดเลาะตัง้ แต่ตำ� บลส�ำโรง อ�ำเภอเมืองสมุทรปราการ ไปบรรจบอีกฝัง่ กับแม่นำ�้ บางปะกง ทีต่ ำ� บลท่าสะอ้าน อ�ำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ท�ำให้เรือสินค้าทีล่ อ่ งมาทางฝัง่ ตะวันออก ซึง่ จะน�ำ สินค้าไปขายยังพระนคร ถ้าไม่หันหางเสือเรือบังคับทิศทางเข้าคลอง ประเวศบุรีรมย์ จุดก�ำเนิดตลาดคลองสวน ก็ต้องเปลี่ยนทิศมาทาง คลองส�ำโรง ซึ่งตลอดระยะทางกว่า 55 กิโลเมตร ไม่ปรากฏตลาด เก่าริมน�้ำ นอกจากบริเวณวัดบางพลีใหญ่ใน อดีตชาวบางพลี มีอาชีพท�ำไร่นา สวนผลไม้ และมีบัวหลวงอยู่ ทุกหนแห่ง เป็นจุดรวมของคน 3 เชือ้ ชาติ ไทย มอญ ลาว พืน้ ทีบ่ ริเวณ นี้จึงมีความคึกคักมาอย่างช้านาน โดยเฉพาะตรงบริเวณวัดบางพลี ใหญ่ใน ซึ่งชาวบ้านในสมัยนั้นต่างแจวเรือมากราบไหว้หลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิส์ ทิ ธิไ์ ม่เว้นแต่ละวัน จึงท�ำให้บริเวณนัน้ คราคร�ำ่ ไปด้วย ผู้คนมากหน้าหลายตา ดังปรากฏในนิราศเมืองแกลงของสุนทรภู่ ว่า..

ถึงบางพลีมีเรือนอารามพระ ดูระกะดาษทางไกลไปกลางทุ่ง เป็นเลนลุ่มลึกเหลวเพียงเอวพุง ต้องลากจูงจ้างควายอยู่รายเรียง ดูเรือแพแออัดอยู่ยัดเยียด เข้าเบียดเสียดแทรกกันสนั่นเสียง แจวตะกูดเกะกะประกะเชียง บ้างทุ่มเถียงโดนดุนกันวุ่นวาย จากบทนิราศเมืองแกลง ของสุนทรภู่ที่เอ่ยถึง “บางพลี” เมือ่ ครัง้ ล่องเรือผ่านเข้ามายังคลองส�ำโรง ในระหว่างเดินทางกลับเมืองจันทบุรี เมือ่ ปี 2350 หรือกว่า 200 ปี

It is presumed that ‘Samrong Canal’ was dug since the Ancient Khmer was in power circa 978-1700 B.E. (435-1157 A.D.) The canal was approximately 55 km. long. With the passing time, the canal became shallow that it big boats could not pass. Circa 2041 B.E. (1498 A.D.) King Ramathibodi II of Ayutthaya ordered the dredging of Samrong Canal in order to use it as a strategic canal for maneuvering. During the dredging, two bronze deity figurines were found. Each had name inscribed as ‘Phya Saenta’ and ‘Batasangkara’. Therefore, the king ordered to organize a ceremony to make an oblation to those deity figurines. The location where the oblation took place was called “Batra Phli’ and with the passing time the name was worn down to ‘Bang Phli’. This canal served as the main artery for villagers in Bang Phli as it was a key transportation route that passed through many areas in Samut Prakan such as Muang District, Bang Phli District, Bang Saotong District, and Bang Bo District. The mouth of the canal started at the Chao Phraya River at Samrong Subdistrict in Samut Prakan Muang District and cutting through many areas before joining with Bangpakong River at Tha Sa-an Subdistrict in Bangpakong District, Chacheongsao. If the cargo barges from the eastern part heading for Bangkok did not turn into Prawes Burirom Canal, the origin point of Klongsuan Market, they had to turn into Samrong Canal where along the 55 km. distance there was no old market by the waterfront anywhere except at Wat Bang Phli Yai Nai. In the past, villagers of Bang Phli were mostly farmers. Sacred lotus could be found everywhere. And as this area was the gathering point of 3 ethnics i.e. Thai, Mon and Laos, Bang Phli became a busy area particularly at Wat Bang Phli Yai Nai where everyday people would row in to pay homage to Luang Poh Toh (Big Buddha image). The atmosphere was witnessed in Nirat Muang Klaeng (a type of Thai poetic lyrics mostly about the story of a trip taken by the poet) by Sunthorn Pu, a renowned court poet of the early Rattanakosin period that when he arrived at Bang Phli he could see houses and temples scattered around the area which was very muddy crowded with boats that oarsmen shouted loudly at each other. The scene was quite chaotic.


26 Cover Story เรื่องจากปก

Visit the Old Market of

the bygone days

สัมผัสตลาดเก่า เมื่อวันวาน ตลาดบางพลี หรือที่ในปัจจุบนั เรียกว่า ตลาดโบราณ บางพลี สร้างขึน้ เมือ่ ใดไม่มหี ลักฐานปรากฏชัดแน่นอน แต่ สันนิษฐานจากประวัตศิ าสตร์ ทีช่ าวจีนมาตัง้ ถิน่ ฐานบริเวณ บางพลี เมื่อปี พ.ศ.2400 หรือประมาณ 157 ปีก่อน ซึ่ง เป็นบริเวณที่ติดกับวัดบางพลีใหญ่ใน บางแห่งสันนิษฐาน ว่าชือ่ ตลาดศิรโิ สภณ แต่ไม่มขี อ้ มูลทีแ่ น่ชดั คราคร�ำ่ ไปด้วย ผู้คนมากมาย สภาพตลาดเป็นพื้นไม้ สามารถเดินติดต่อ กันได้ยาวประมาณ 500 เมตร ริมคลองส�ำโรง ต่อมา มีการซื้อขายเปลี่ยนเจ้าของเรื่อยมาจนปัจจุบันนั้นตลาด โบราณบางพลี มีเจ้าของคือตระกูลโตเจริญ ซึ่งนางชุติมา นัยสายัณห์ ทายาทรุ่นที่ 3 เล่าว่า ต้นตระกูลคือนายป้อ (อดีตก�ำนันต�ำบลบางพลีใหญ่) นางเจียม โตเจริญ เป็น คนบางพลีโดยก�ำเนิด มีอาชีพท�ำโรงสีข้าวและโรงน�้ำแข็ง ตรงบริเวณฝั่งตรงข้ามวัดบางพลีใหญ่ใน ด้วยความที่นาย ป้อและนางเจียมเป็นคนกว้างขวาง มีคนรูจ้ กั เยอะ เมือ่ ใคร เดือดร้อนก็จะมายืมเงินและน�ำทีด่ นิ มาจ�ำนองไว้ ถ้าใครไม่มี เงินมาคืนที่ดินนั้นก็จะตกเป็นของยายเจียม ท�ำให้ตระกูล โตเจริญมีที่ทางมาก ทั้งบางพลี (ริมคลองส�ำโรง) บางบ่อ และบางปลา ซึ่งมีลูกทั้งหมด 5 คน หนึ่งในนั้นคือนายถวิล โตเจริญ ซึ่งเป็นคุณตาได้ แต่งงานกับยายหยวน โตเจริญ โดยแบ่งหน้าที่กันท�ำมา หากิน คุณตาถวิลได้ไปท�ำโรงเรื่อยไม้ที่จังหวัดระยอง ชื่อ โรงไม้ โตเจริญ ส่วนยายหยวนอยู่ที่บางพลี ข้างหลังบ้าน ท�ำเป็นโรงคั่วกาแฟ ส่งขายตามร้านในละแวกนั้น ต่อมา ยายหยวน โตเจริญ ได้ซื้อที่ดินพร้อมตลาดบางพลี เมื่อปี พ.ศ. 2477 นับแต่นั้นคุณยายหยวน โตเจริญ จึงเป็นผู้ ดูแล และมีรายได้หลักจากการเก็บค่าเช่าที่นับแต่นั้นมา ซึ่งมีทั้งหมด 40 คูหา เป็นทั้งตลาดและบ้านเช่า ในทุกๆ เช้าบ้านไหนที่ขายของจะเปิดแต่เช้าตรู่ มีร้านขายของช�ำ ขายอาหาร ร้านขายยา ร้านทอง ซึ่งจะมีชาวบ้านในชุมชน ใกล้เคียงพายเรือมาซื้ออย่างไม่ขาดสาย ตลาดนี้เรียกว่า ตลาดบางพลี ตัง้ อยูบ่ ริเวณปากคลองสวน ในเวลาเดียวกัน มีการต่อเติมตลาด ถึง 2 ช่วง ตัง้ แต่สะพานข้ามคลองสวน ไปจนถึงปากคลองบัวคลี่ และช่วงสุดท้ายจนถึงวัดบางพลี ใหญ่ใน เรียกว่า ตลาดใหม่ ซึ่งที่ในบริเวณนี้เป็นของลูก คนอื่นๆ ซึ่งยายเจียม โตเจริญ ผู้เป็นแม่ ได้มอบมรดก ที่ดินให้ จนชาวบ้านแถวนั้นเรียกรวมๆ ทั้ง 2 ตลาดว่า “ตลาดยายเจียม”

ภาพวาดสีน้ำ�มัน บริเวณตลาดโบราณบางพลี

Bang Phli Ancient Market Oil Painting

Bang Phli Market or at present is called Bang Phli Ancient Market did not have a proper record as to when it was built. However, from historical assumption it is assumed that Chinese people settled down in Bang Phli around 2400 B.E. (1857 A.D.) or 157 years ago in the area next to Wat Bang Phli Yai Nai. Some assumptions said that the market name was Sirisopon Market, but there is no vivid supporting evidence. The market was busy with people. The floor of the market was in wood with about 500 m. wooden walkway along the Samrong Canal. Later on the market was changed hands for many times. At present, the owner is the ‘Tohcharoen’ family. Mrs. Chutima Naisayan, the 3rd generation of the family, told us that Mr. Por (ex-village chief of Bang Phi Yai Sub-district), her primogenitor, and his wife Mrs. Jiam Tohcharoen were born in Bang Phli and earned their living by managing rice mill and icehouse opposite Wat Bang Phli Yai Nai. As Mr. Por and Mrs. Jiam were very popular, knowing many people that they would come to borrow money in case of emergency. Many money borrowers mortgaged their lands as security against their debts. If they did not redeem, the lands would change hands to Mrs. Jiam. Thus, the Tohcharoen family had a large collection of land in Bang Phli (by Samrong Canal), Bang Bo and Bang Pla as well. They had 5 children. One of the children was Mr. Tawil Tohcharoen who was her grandfather. He married Mrs. Yuan. The couple divided their roles that Mr. Tawil took up the sawmill business in Rayong Province while Mrs. Yuan was in Bang Phli. She opened the back of her house to roast coffee beans for sell to shops in the area. Later on in 2477 B.E. (1934 A.D.), Mr. Yuan bought the land where Bang Phli Market situated. Since then she was the caretaker of the market and rental fee was her main income. The market had altogether 40 shop houses. It was both the market and house for rent. Every day the shops be it groceries, eateries, pharmacies or goldsmiths, would open very early in the morning. Villagers in Bang Phli and nearby villages would paddle their boats to shop all day. This market was called Bang Phli Market and was at the mouth of Klongsuan Canal. At the same time two extended parts were added to the market. The first part was from the bridge over Klongsuan Canal to the mouth of Buaklee Canal and the latter part was extended to Wat Bang Phli Yai Nai which was called New Market where other children of Mrs. Jiam received the land as inheritance. The people also called this market “Yai Jiam Market” (‘yai’ is a Thai word for granny).


กันยายน 2557 / September 2014

บริเวณนี้ในอดีตจะมีคนมอญมาท�ำนากันมาก คนเฒ่าคนแก่ใน ละแวกนัน้ เล่าว่า ทุกวันจะมีคนมอญทีท่ ำ� กระถางเครือ่ งปัน้ ดินเผา พายเรือ มาจอดขายบริเวณตลาด และร้านทีม่ มี ากทีส่ ดุ คือ ร้านท�ำผม ร้านท�ำธูป เทียนเครือ่ งสังฆทาน ก็เพราะบริเวณตลาดจะอยูใ่ กล้กบั วัดบางพลีใหญ่ใน นัน้ เอง ในอดีตยังมีรา้ นทีส่ ำ� คัญนัน่ ก็คอื ร้านทองเก่าแก่ชอ่ื “เล้าหลีเ่ ส็ง” ซึง่ ยังคงอนุรกั ษ์อปุ กรณ์ทำ� ทองสมัยโบราณ เช่น เครือ่ งมือชัง่ ทอง (ตา ชู) เครือ่ งรีดทอง เครือ่ งดึงทอง เครือ่ งมือเลีย่ มฟันทอง แต่นา่ เสียดาย ทีเ่ กิดเหตุไฟไหม้ทำ� ให้พนื้ ทีต่ รงบริเวณตลาดเก่าเสียหายไปกว่า 20 คูหา รวมถึงร้านทองเล้าหลีเ่ ส็งด้วย แต่ยงั มีอกี สิง่ หนึง่ ทีย่ งั คงเอกลักษณ์นนั้ ก็คอื ธนาคารออมสินริมน�ำ้ ตัง้ อยูใ่ กล้ๆ กับสะพานเรือ ซึง่ ในอดีตชาวบ้านในละแวกนัน้ จะพายเรือ น�ำเงินมาฝาก หรือบางช่วงจะมีเรือของธนาคารล่องไปในบริเวณนัน้ ป่าว ประกาศรับฝากและเปิดบัญชีกนั ถึงท่าน�ำ้ หน้าบ้าน ซึง่ ในปัจจุบนั ธนาคาร ออมสินสาขานี้ได้ปดิ ตัวลง ทางตระกูลโตเจริญจึงซือ้ ทีด่ นิ ตรงบริเวณนัน้ เก็บไว้ โดยอาคารกลายเป็นบ้านเช่า แต่ยงั คงหลงเหลือป้ายอะลูมเิ นียม แบบโบราณ เขียนว่า “ธนาคารออมสิน” เป็นอนุสรณ์จนถึงปัจจุบนั เมือ่ ความเจริญเข้ามา บริเวณนัน้ เกิดเป็นถนนเทพารักษ์ ท�ำให้การเดินทางไป มาสะดวกขึน้ การสัญจรทางเรือจึงลดน้อยลง ท�ำให้ความคึกคักของตลาด เริม่ จางหายไป จนเมือ่ ปี พ.ศ. 2540 สภาวัฒนธรรมอ�ำเภอบางพลี ได้จดั กิจกรรมเพือ่ ฟืน้ ฟูยอ้ นอดีต และตัง้ ชือ่ ว่า “ตลาดโบราณบางพลี” เพือ่ แสดง ถึงความเก่าแก่และต้องการให้ตลาดแห่งนีก้ ลับมามีชวี ติ ชีวาอีกครัง้ หนึง่

27

In the past, there were many Mon people cultivating rice in the area. The elderly in the community recounted that everyday Mon people who made earthenware pots would bring their products by boat and sell them in the market area. Shops that were in a large number in the market were hair salons, shops making incense sticks and offerings to the monks because the market was close to Wat Bang Phli Yai Nai. In the past the important shop was a goldsmith ‘Lao Lee Seng’ that conserved ancient gold making tools such as balancing scale for gold weighting, gold flattening tool, gold stretching tool, tool for making golden crown for tooth, etc. Unfortunately, a fire broke out and destroyed over 20 shop houses in the old market including ‘Lao Lee Seng’ goldsmith too. Another location that still maintains the original identity was the Government Savings Bank that is standing near the bridge. In the past, people in the area would come to deposit their savings by boats or sometimes the bank would send a boat out inviting people to do savings or open new accounts right in front of their own homes. At present, this branch of Government Savings Bank was closed down. The Tohcharoen family bought the land where the bank situated and turned the building into house for rent. What remained of the bank is the old-fashioned aluminum signboard of the bank. When modernization spreads into the area, Theparak Road was built which makes transportation more convenient and water transport is reduced. Thus, the bustle of the market began to fade. Subsequently in 2540 B.E. (1997 A.D.), Cultural Council of Bang Phli District launched an activity to retrospect the glorious past and named this market ‘Bang Phli Ancient Market’ to portray the antiquity with the purpose to make this market alive again.


28 Cover Story เรื่องจากปก

Restoration of the Past..

Toฟื้นthe Present ฟูอดีต สู่ยุคปัจจุบัน ตลาดโบราณบางพลีในปัจจุบนั ยังคงรักษารูปทรงทางสถาปัตยกรรม เป็นเรือนไม้ชนั้ เดียว มีประตูไม้ทำ� เป็นบานพับหรือทีเ่ รียกว่า “เฟีย้ น” และ มีเก้าอี้ไม้ ให้ได้นงั่ รับลมเย็นๆ ริมตลิง่ คลองส�ำโรง เหมือนเมือ่ ครัง้ อดีต ทัง้ ร้านรวงเก่าแก่อนั เป็นเสน่ห์ และวิถชี วี ติ ของชุมชนชาวตลาดทีย่ งั คง กลมกลืนกับสายน�ำ้ ท�ำให้บรรยากาศการจับจ่ายซือ้ ขายยังคึกคัก เต็มไปด้วย สินค้าทีห่ ลากหลาย อาทิ เครือ่ งครัว อุปกรณ์การเกษตร ของใช้เบ็ดเตล็ด ก๋วยเตีย๋ วสูตรโบราณ ขนมหวานต้นต�ำรับ ฯลฯ ทีล่ ว้ นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถึงแม้ ในบริเวณใกล้เคียงจะมีหา้ งสรรพสินค้าเกิดขึน้ แต่ชาวบ้านในละแวก นัน้ ก็ยงั ออกมาจับจ่ายซือ้ ของเหมือนเช่นเคย อาจเป็นความคุน้ เคยกันมา แต่อดีตและสามารถต่อรองราคากันได้อย่างเป็นกันเอง ส่วนร้านรวงทีเ่ ปิดขาย บางร้านเป็นร้านเก่าแก่คา้ ขายมาพร้อม กับตลาด ไม่วา่ จะเป็นร้านขายของช�ำ ร้านขายยาแผนโบราณ ร้านขาย อุปกรณ์การเกษตร ร้านขายผ้า ร้านขายสังฆทาน ฯลฯ ทีล่ ว้ นเป็นร้าน ดัง้ เดิม สังเกตจากป้ายหน้าร้าน เพราะร้านส่วนใหญ่ยงั ใช้ปา้ ยแบบเก่า

The present ‘Bang Phli Ancient Market’ maintains the original architectural designs as a single storey shop house with folding wooden door panels, wooden bench by the bank of Samrong Canal as in the past. Old shop houses are the alluring charms together with the market community way of life that is also still in harmony with the waterway enhancing busy shopping atmosphere for variety of goods such as kitchenware, agricultural tools, groceries, authentic recipe noodles, traditional sweetmeats, etc. Each shop has its own characteristics. Though there are modern trade stores opening in the proximity, people in the vicinity still like to shop in the market as they used to in the past. It may be because of the familiar habits since the old days that they can make friendly bargain. Some of the shops that open for business are those which have been trading since the founding of the market be it groceries, traditional pharmacies, shops selling agricultural tools, selling clothes, selling offerings to Buddhist monks, etc. All of which are original shops. We can notice them by their old shop signboards.


กันยายน 2557 / September 2014

29

ส�ำหรับอาหารที่วางขายก็ล้วนมีความน่าสนใจ สามารถ สะท้อนวิถีชีวิตชาวตลาดได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน สูตรโบราณ อย่าง ข้าวห่อใบบัว ข้าวต้มมัด ขนมครก ขนมใส่ไส้ ขนมเทียน ขนมตาล ฯลฯ ร้านทีข่ นึ้ ชือ่ เรือ่ งความอร่อยเด็ด ชนิด ที่ว่ามาตลาดโบราณบางพลีแล้วห้ามพลาด จะมีร้านแม่แฉล้ม กระยาสารทสูตรโบราณ ที่คุณป้าใจป�้ำลงมือท�ำให้ดูกันสดๆ ทุก ขั้นตอน ร้านเจ้อ้อก๋วยเตี๋ยวหมูน�้ำตก ที่ขายดิบขายดีมีลูกค้า ต่อคิวกันยาวเหยียด และร้านหมีก่ รอบโบราณแม่กหุ ลาบ ของฝาก ขึ้นชื่อประจ�ำตลาด ที่ลูกค้าติดอกติดใจสั่งซื้อเข้ามาไม่ขาดสาย นอกจากนั้นบริเวณกลางตลาดยังมีนิทรรศการภาพเก่า เล่าเรื่อง ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชม ซึ่งมีการจัดแสดง รูปภาพวิถีชีวิตของชาวบางพลี เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของตลาด แห่งนี้ คือเรือชักข้ามคลองส�ำโรง ที่ตั้งอยู่บริเวณท้ายตลาด เนื่องด้วยบริเวณตลาดไม่มีสะพานข้าม ชาวบ้านจึงน�ำเรือ 2 ล�ำมาต่อกันเป็นสะพานเรือ เพื่อใช้ข้ามคลองไปยังฝั่งตรงข้าม โดยคิดค่าบริการเพียงครั้งละ 1 บาทเท่านั้น ซึ่งถ้าใครอยากจะ ทดลองข้ามดูสักรอบสองรอบก็เพลิดเพลินดีไม่น้อย นับว่าเป็นตลาดไม้เก่าแก่รมิ คลองทีอ่ ยูค่ กู่ บั ชาวบางพลีมา ช้านาน เปรียบเสมือนสถานที่บันทึกเรื่องราวส�ำคัญในวันวาน อันเต็มเปีย่ มไปด้วยเสน่หเ์ ฉพาะตัว ทีห่ าดูหาชมได้ยากในปัจจุบนั

ขอขอบคุณผู้ ให้ข้อมูล นางชุติมา นัยสายัณห์ ทายาทผู้ดูแลตลาด รุ่นที่ 3 สภาวัฒนธรรมอ�ำเภอบางพลี Thanks to information provider Mrs. Chutima naisayan, the 3rd generation of the market caretaker Cultural Council, Bang Phli District

Food sold in the market is also very interesting because it can well reflect the way of life of the people in the market be it traditional recipe sweetmeats such as steamed rice wrapped in lotus leaf, ‘kaotom mud’ (steamed sticky rice with coconut milk and banana stuffing), ‘kanom krok’ (Thai style pudding made of coconut cream, flour and sugar baked in cup shaped pan), ‘kanom saisai’ (steamed rice flour with sweet coconut meat stuffing), ‘kanom tian’ (steamed rice flour with bean paste stuffing), ‘kanom taan’ (steamed meat of palm fruit with shredded coconut), etc. The best selling delicious foods that visitors should not miss include Mae Chalaem whose famous sweet is ‘krayasart’ (mixed cereals with honey) that Auntie Chalaem willingly showed us the making of krayasart in every step; Jae Orr Pork Noodle that the queue for the order is very long and old recipe crispy noodle at Mae Kularb which is a renowned souvenir of the market that customers love. Besides, in the center of the market there is a photo exhibition telling story of Bang Phli that visitors could visit to learn about the way of life of Bang Phli people. Another alluring attraction of this market is the ferry across Samrong Canal located at the end of the market. As there is no bridge in the market area, therefore, villagers tied to boats together and pull them when passengers want to cross from one side to another side. The fee is only 1 Baht per trip per person. If you wish, you could try crossing the canal for a round or two. Bang Phli Ancient Market is an old market that has been with the Bang Phli people for a long time. It serves as a venue with interesting records of the years gone by that full of charms which could rarely be found these days.


30 Cover Story เรื่องจากปก

1

Kanom Taan Original Recipe

ขนมตาล สูตรดั้งเดิม

ขนมตาล เป็นหนึง่ ในขนมไทยที่ได้รบั ความนิยมมายาวนาน แต่จะมีสกั กี่ ร้านทีท่ ำ� แล้วติดปากลูกค้าชนิดขายหมดก่อนเทีย่ งทุกครัง้ เหมือนขนมตาลร้าน คุณหนิง ทีเ่ น้นท�ำตามสูตรโบราณ และไปเลือกซือ้ ลูกตาลจากเมืองเพชรบุรี แหล่งปลูกตาลพันธุด์ เี ลยทีเดียว ซึง่ เนือ้ ขนมมีลกั ษณะเป็นแป้งสีเหลืองเข้ม นุม่ ฟู มีกลิน่ ตาลหอมหวาน เพราะท�ำจากผลตาลทีส่ กุ งอม ผสมแป้งข้าวเจ้า กะทิ และน�ำ้ ตาล โรยมะพร้าวขูด และน�ำไปนึง่ จนสุก จากนัน้ ก็จะได้ขนมตาล เนือ้ เหลืองนวลชวนรับประทาน

ร้านครัวขนมไทย โทรศัพท์ 08-7709-5633 Kanom Taan (steamed palm meat with shredded coconut) has long been a popular Thai sweet. But, how many shops that make Kanom Taan can make it so delicious that the sweet is sold out before noon every day like Kanom Taan at Khun Nhing’s shop that emphasizes on following the old recipe. She buys her palm fruits from Petchburi Province which is the area cultivating the thoroughbred palm. The texture of the sweetmeat is soft and spongy with deep yellow color and good smell of the palm fruit. The ingredients include well ripen palm meat, mixed with rice flour, coconut milk and sugar topped with shredded coconut and then steamed until cooked. The result is a mouthwatering yellow Kanom Taan.

ร้านน่าชิม Recommended Stalls

Krua Kanom Thai Shop Tel. 08-7709-5633

2

Kanom Krok..Ancient Recipe

ขนมครกโบราณป้าแต๋ว

ขนมครกโบราณป้าแต้ว เป็นอีกร้านทีม่ คี วามน่าสนใจ และยังเป็นเสน่ห์ ประจ�ำตลาด เพราะแกมีวธิ กี ารท�ำแบบดัง้ เดิม โดยใช้ขา้ วเจ้าแช่นำ�้ โม่รวมกับ หางกะทิ ข้าวสวย และมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ผสมเกลือเล็กน้อย ส่วนหน้าของ ขนมครกเป็นหัวกะทิ รสชาติของขนมครกร้านนีจ้ งึ ไม่หวานจนเลีย่ น แต่จะหวาน ก�ำลังดี ไม่กรอบมาก มีกลิน่ หอมชวนชิม ราคาขาย กล่องละ 20 บาท นอกจาก นัน้ ยังมี หอยทอด ขนมถัว่ แปบ ขนมด้วง ขนมกล้วย และขนมฟักทอง วางขาย ให้ได้เลือกซือ้ หาตามความชอบ

ร้านขนมครกสูตรโบราณป้าแต๋ว โทรศัพท์ 08-1627-1288 Kanom Krok (Thai style pudding made of coconut cream, flour and sugar baked in cup shaped pan) with ancient recipe at Auntie Taew is another interesting shop and also a charm of the market because she makes her sweet by the original procedures starting from soaking rice grains overnight then grinding the grains together with cooked rice, finely shredded coconut meat and light coconut milk with old style grinding stone. A little salt will be added to taste. The topping is the coconut cream. The taste of Kanom Krok at this shop is not too sweet and not too crispy but has a mouthwatering aroma. The selling price is Baht 20 for a box. Moreover, there are also fried mussel pancake, kanom tuw pab (steamed rice flour stuffed with mung beans topped with sugar and sesame), kanom duang (short noodle rolled in coconut meat and sugar), kanom gluay (steamed mashed banana), and kanom fugthong (steamed mashed pumpkin) Auntie Taew’s Ancient Recipe Kanom Krok, Tel. 08-1627-1288

After walking round and round the market chatting with almost every vendors, we would like to recommend some stalls that if you happen to visit this market, you can drop by to shop for fresh seafood.

3

Delicious Baked Glutinous Rice

ข้าวเหนียวปิ้ง เจ้าอร่อย

ร้านข้าวเหนียวปิง้ คุณนิตย์ ถือเป็นร้านเจ้าเก่าประจ�ำตลาด เพราะ เปิดค้าขายมาตัง้ แต่เปิดตลาดยุคแรกๆ ท�ำให้มลี กู ค้าประจ�ำแวะมา อุดหนุนไม่ขาดสาย ซึง่ รสชาติของข้าวเหนียวกับความหวานอร่อยของ ไส้ตา่ งๆ ของร้านนี้ จะมีรสชาติไม่เหมือนใคร และยังมีไส้ ให้เลือกอย่าง หลากหลาย อาทิ ไส้หมูหยอง ไส้ถวั่ แดง ไส้ถวั่ ด�ำ ไส้มนั ไส้สงั ขยา ไส้ ฟักทอง ไส้เผือก ไส้กงุ้ และไส้เค็ม ทีพ่ ร้อมเสิรฟ์ ร้อนๆ จากเตา ด้วย กลิน่ หอมกรุน่ ให้ได้ลมิ้ ลอง ร้านข้าวเหนียวปิ้งคุณนิตย์ โทรศัพท์ 08-9233-7418 Baked glutinous rice at Khun Nit’s shop is another old shop in the market because the shop has been opening since the early time of the market that regular customers always frequent the shop for baked glutinous rice with variety of stuffing such as shredded pork, red bean paste, black bean paste, Thai custard, pumpkin, taro, shrimp and savory stuffing.

Khun Nit’s Baked Glutinous Rice, Tel. 08-9233-7418


กันยายน 2557 / September 2014

31

ตลาดโบราณบางพลี

Bang Phli Antique Market เรือนแพกาแฟสายน้ำ� Ruen Pair Coffee

สะพานเรือ Boad Bridge

ก๋วยเตี๋ยวน้ำ�ข้นริมคลอง Kuay Tiew Rimklong

คลองสวน Klong Suan

สวัสดิ์นวดแผนไทย Swad Thai Massage

อาปาพานิชก๋วยเตี๋ยวหมู Archa Panich Noodle ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น สุขเจริญ Sakjaroen Noodle

ขนมหวานบ้านจินดา Baan Jinda Dessert ขนมไทยคุณหนิง Khun Ning Dessert

หมี่กรอบโบราณ Crispy Fried Noodle

เครื่องหอมโบราณ Perfume Shop

ประตูทางเข้า Entrance

บุญศรี ขนมชั้น Kind of Thai Sweetmeat

ง ำำ โร องส คล

ซันเซท คาเฟ่ Sunsat Cafe

m Sa

klee Bua

ng

ng

Klo

Ro

Kio คล่ี งบวั คลอ

จุดให้อาหารปลา Feed the Fish

ng ล่องเรือชมวิว Boat Floating ที่ตั้ง : ตลาดโบราณบางพลี อยู่บริเวณคลองสำ�โรง หมู่ที่ 10 ต.บางพลี ใหญ่ อ.บางพลี สมุทรปราการ เปิดบริการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-15.00 น. การเดินทาง : ใช้ถนนเทพารักษ์ มุ่งหน้าสู่อำ�เภอบางพลี หลังจากนั้นให้เลี้ยวเข้าไปที่วัดบางพลี ใหญ่ ใน ด้านหลังวัดจะติดกับคลองสำ�โรง ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของตลาดโบราณบางพลี Location : Bang Phli Antique Moo 10, Bang Phli Yai Subdistrict, Bang Phli District, Samut Prakan Opening : Saturday - Sunday and Holiday 8.00 A.M. - 3.00 P.M.

วัดบางพลีใหญ่ใน Wat Bang Phli Yai Nai


32 Cover Story เรื่องจากปก

100 years market

Klong Suan

ย้อนรอยตลาดคลองสวน 100 ปี สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนดั้งเดิม

The Origin of the Market ก�ำเนิดคลองประเวศฯ ก�ำเนิดตลาด

ลองประเวศบุรรี มย์ เป็นคลองทีข่ ดุ ต่อจากคลองพระโขนงทีม่ ตี น้ ทางจากแม่นำ�้ เจ้าพระยา มีลำ� น�ำ้ คดเคีย้ ว ความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร ขุดตัง้ แต่ในยุครัชกาลที่ 3 ต่อมาใน สมัยรัชกาลที่ 5 ฝรัง่ เศสแผ่อำ� นาจจักรวรรดินยิ มรุกเข้าไปยึดเวียดนาม เขมร และลาว ประเทศไทยจึงต้องตระเตรียมรับภัยทีจ่ ะมาทางทิศตะวันออก และทรงด�ำริให้ขดุ คลองต่อจาก คลองพระโขนง ไปออกแม่นำ�้ บางปะกง เห็นว่าการขุดคลองในครัง้ นีจ้ ะเป็นประโยชน์แก่ราษฎร ซึง่ จะช่วยให้บา้ นเมืองเจริญรุง่ เรืองขึน้ เนือ่ งจากการเพาะปลูกและการค้าขายต้องอาศัยเส้นทาง น�ำ้ เพือ่ การขนส่งสินค้าและการเดินทางจะได้สะดวกขึน้

สะพานอัศวาณิชย์ Asavanich Bridge

I

n the past ten years the trend of retro tourism particularly preserved old-fashioned markets has becoming popular that it makes many sleepy old-fashioned markets revived. Travelers are yearning for the yesteryear atmosphere that still maintains its original identity be it in mixing of architecture, way of life and shop houses like that at Klongsuan Centennary Market, an ancient market that maintains its originality which is full of enchanting history. Klongsuan Centenary Market is an old wooden market by Prawes Burirom Canal and was built in the reign of King Rama V. The “Asavanich” was the first family to set up business in this market. In the past, this market was busy with people rowing their boats to shop for goods. Originally, there were only 40 shop houses and subsequently increased to 70 and 100 shop houses respectively. It is presumed that this market was built at the time of Prawes Burirom Canal digging in 2412 B.E. (1878 A.D.) The canal is between the boundary of two provinces i.e. between Klongsuan Sub-district in Bang Bo District, Samut Prakan and Thepraja Sub-district in Bang Pho District, Chachoengsao. Prawes Burirom Canal and Phraya Nagaraja Canal serve as the boundary line of the two provinces. Therefore, Klongsuan Centenary Market is actually having two zones i.e. Samut Prakan zone and Chachoengsao zone with a wooden bridge connecting the market of the two provinces together as if there were no boundary at all.

ภาพสเก็ตช์ตลาดคลองสวน วาดโดย “ครู.สน” Sketches of Klong Suan Market Artist : Kru Son


กันยายน 2557 / September 2014

กว่าจะกลายมาเป็นตลาดเก่า อายุกว่า 136 ปีเหมือนเช่นปัจจุบัน ก็ต้องผ่านเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละยุคสมัยมานับไม่ถ้วน However, before becoming an ancient market aged over 136 years as at present, this market has weathered numerous stories during the passing time.

และได้เกณฑ์แรงงานชาวจีนมาขุดลอกคลอง เมือ่ ปี พ.ศ. 2421 คลองนีจ้ ะเป็นเส้นตรง ไม่คดเคีย้ วเหมือนคลองอืน่ ๆ ท�ำให้สามารถย่น ระยะทางให้สนั้ ลง และชาวบ้านเดินทางได้รวดเร็วกว่าคลองทีค่ ดเคีย้ ว และทรงพระราชทานเงินทุนจากกระทรวงพระคลังมหาสมบัติจ�ำนวน 80,000 บาท ส่วนทุนสร้างทีเ่ หลือเป็นเงิน 32,752 บาท ทรงให้ราษฎร ช่วยเสียค่าขุดคลอง โดยจะได้รบั ผลประโยชน์จากการจับจองทีด่ นิ สอง ฝั่งคลองเป็นค่าตอบแทน เริ่มตั้งแต่เขตประเวศ ผ่านลาดกระบัง สมุทรปราการ และไปจรดแม่นำ�้ บางปะกงที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา รวมระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ขุดเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2423 และ ได้รับพระราชทานนามว่า ‘คลองประเวศบุรีรมย์’ นับแต่นนั้ มาคลองประเวศบุรรี มย์จงึ เปรียบเสมือนสายน�ำ้ แห่งชีวติ ของผู้คนทั้ง 3 จังหวัดทั้ง กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา มีการสัญจรทางน�ำ้ หล่อเลีย้ งการเกษตรของชาวบ้านได้เป็นอย่างดี มี ตลาดการค้าเกิดขึ้นริมคลองมากมายเช่น ตลาดหัวตะเข้ ตลาดหลวง แพ่ง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ และตลาดคลองสวน ตลาด 2 เมือง ที่ มีลำ� คลองเล็กๆ คัน่ กลางระหว่างจังหวัดสมุทรปราการและฉะเชิงเทรา

สะพานไม้เต็งสำ�หรับข้ามฝั่ง

Wooden bridge connecting the market of the two provinces

Klongsuan Market Community set up by the same time as Prawes Burirom Canal which was dug from Bangkok passing through Prawes District, Ladkrabang District and Samut Prakan and joined with Bangpakong River at Ban Pho District in Chachoengsao Province. The total distance is over 50 km. This canal was one of national strategic canals that in the reign of King Rama III when Siam was at war with Vietnam. Chao Phraya Bodindecha (Singh Singhaseni) was the Commander in Chief who led Siamese army to fight with Laos, Cambodia and Vietnam for 15 years. Another time was in the reign of King V when France expanded its imperialistic domination over Vietnam, Cambodia and Loas, Thailand had to prepare her defensive force to retaliate the threat from the East. However, the digging of the canal was not completed in the first time that after 2412 B.E. (1878 A.D.) King Rama V employed Chinese coolies to finish digging the canal to join with Bangpakong River. However, in this second round digging, the route was dug in a straight line which made the transportation quicker. Villagers also made donation to support the canal digging. When completed, King Rama V named this canal ‘Prawes Burirom Canal’. About the time the canal was completed, Thai, Chinese and Mon people claimed the land on both banks of the canal for cultivation. The area turned into a community by the canal with diverse cultures. The “Asavanich” family migrated from China and settled down in the area. As the Chinese are very skillful in trading, they built the Klongsuan Market at the intersection where two canals namely Prawes Burirom and Phraya Nagaraja crossing.

33


34 Cover Story เรื่องจากปก

Booming Business

of ‘Asavanich’ Family

ตระกูล ‘อัศวาณิชย์’ แห่งบ้านคลองสวน บริเวณเขตรอยต่อระหว่าง ต�ำบลคลองสวน จังหวัดสมุทรปราการ กับ ต�ำบลเทพราช จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มคี นไทย อิสลาม พากันมา จับจองทีด่ นิ สองฝัง่ คลองเป็นทีท่ ำ� กิน กลายเป็นชุมชนริมคลองทีห่ ลาก วัฒนธรรม โดยเฉพาะชาวจีนทีถ่ อื เป็นต้นก�ำเนิดของตลาดคลองสวน 100 ปี อย่างอาเสีย่ บรรจง แซ่เบ้ ทีอ่ พยพมาจากเมืองจีน เมือ่ ผ่าน คลองสวน ได้มาพบรักและได้แต่งงานกับหญิงสาวชาวไทยคือนางจรุง สุขวัฒน์ ชาวต�ำบลคลองสวน หลังจากนัน้ ได้เปลีย่ นมาใช้นามสกุลใหม่ ชือ่ “อัศวาณิชย์” ซึง่ “อัศว” แปลว่า ม้า โดยไปสอดคล้องกับค�ำว่า “เบ้” นามสกุลเดิม ทีแ่ ปลว่า ม้า เหมือนกัน ด้วยความทีอ่ าเสีย่ บรรจง เป็นคนจีน จึงมีความเก่งและถนัดในด้านค้าขาย ได้นำ� ทีด่ นิ ของนางจรุง ทีต่ ดิ ริมคลองประเวศบุรรี มย์ มาสร้างเป็นตลาดเล็กๆ เริม่ แรกตลาดคลองสวน เป็นเพิงไม้มงุ หลังคาด้วยจาก จ�ำนวน 8 ห้อง ให้ชาวจีนทีอ่ พยพมาด้วยกันเช่าขายของ หลังจากนัน้ จึงสร้าง เพิม่ เป็น 40 และเปลีย่ นมามุงด้วยสังกะสี นับแต่นนั้ มีการขยายเป็น 70 ห้อง และ 100 ห้อง ซึง่ ตัวตลาดเป็นห้องแถวโครงสร้างเป็นไม้เนือ้ แข็งและเนือ้ อ่อน ตลาดเรือนไม้เก่าแก่นี้ไม่มที างเดินเท้าริมน�ำ้ เหมือน ตลาดริมน�ำ้ ในปัจจุบนั ทีส่ ร้างและต่อเติมด้วยคอนกรีตขึน้ มาใหม่ และ มีหลังคาสังกะสีตอ่ เป็นชายคาคลุมทางเดินเท้า ตัวร้านค้าเป็นห้องๆ ยาวจากริมน�ำ้ ขึน้ มาบนบก ด้านหลังตลาดมีรอ่ งน�ำ้ เล็กๆ และปลูกต้น ไผ่เป็นทิวแถวหนาแน่นป้องกันลมพายุ และป้องกันโจรขโมยเข้าตลาด ถือเป็นช่วงทีต่ ระกูลอัศวาณิชย์รำ�่ รวยอย่างมาก นายปวริศ สุขวัฒน์ ประธานตลาดคลองสวน ซึง่ เป็นหลานของ คุณจรุง อัศวาณิชย์ เล่าว่า “ในยุคนัน้ นอกจากจะมีตลาดคลองสวนแล้ว ยังท�ำกิจการโรงสีขา้ ว เพราะสมัยก่อนชาวนาจะไม่มลี านตากข้าว เมือ่ น�ำมาขาย ข้าวจึงมีความชืน้ ท�ำให้ขายไม่ได้ราคา ฉะนัน้ โรงสีจงึ ซือ้ ข้าว ได้ถกู เมือ่ น�ำมาตากให้แห้งทีล่ านตากข้าว และน�ำไปขายก็จะได้ราคา ดี ท�ำให้ได้เงินส่วนต่างมากมาย และอาเสีย่ บรรจง สามารถท�ำข้าวนึง่ คือข้าวทีเ่ ปียกแล้วเอามานึง่ ก็จะกลายเป็นข้าวหัก ซึง่ บ้านเราไม่กนิ แต่ เขาส่งไปขายทีอ่ นิ เดียจนร�ำ่ รวย นอกจากนัน้ ยังเป็นตัวแทนขายน�ำ้ มัน และมีโรงฝิน่ ในตลาด ซึง่ ในยุคนัน้ โรงฝิน่ เป็นสิง่ ทีถ่ กู กฎหมาย แต่พอ ก็มกี ฎหมายห้ามซือ้ ขายฝิน่ โรงฝิน่ ทีต่ ลาดจึงปิดลง ช่วงแรกๆ มีเรือ่ ง เล่าติดตลกว่าจิง้ จกแถวนัน้ ตายหมด เพราะจิง้ จกเองก็ตดิ ฝิน่ ” พอมายุคหลัง ลูกๆ ทัง้ 8 คน ของอาเสีย่ บรรจง กับคุณนายจรุง อัศวาณิชย์ ต่างไปเล่าเรียนและมีหน้าทีก่ ารงานของตนเองกันหมด โรงสีขา้ วก็ตอ้ งปิดตัวลงเพราะไม่มีใครสืบทอดกิจการ เหลือไว้เพียง โกดังและปล่องควันขนาดใหญ่ ตัง้ ตระหง่านอยูบ่ ริเวณด้านหน้าตลาด

อาเสีย่ บรรจง อัศวาณิชย์

Mr. Banchong Asavanich

คุณนายจรุง อัศวาณิชย์

Mrs. Jaroong Asavanich

Klongsuan Market on Samut Prakan side and Chachoengsao side were own by two different families. Klongsuan Market on Samut Prakan side was totally owned by Asavanich family and managed by Mr. Banchong and Mrs. Jaroong Asavanich who made the market booming tremendously. Besides, they owned rice trading, rice mills, oil trading, pharmacy and opium den. Thus, they were wealthy and their businesses were all booming. Mr. Pawaris Sukawat, chairman of Klongsuan Market Community, recounted that “In those days the Asavanich family became wealthy with the rice mill business. Formerly, farmers did not have rice drying ground. Therefore, rice mill could buy rice with high humidity at a very cheap price. Thus, the owner gained very high difference. Secondly, Mr. Banchong could manage to make parboiled rice by steaming the rice with high humidity and drying before milling. The milled rice grains would be broken that Thai people did not eat. Mr. Banchong exported the parboiled rice to India and made a lot of money. Besides, he represented an oil company selling oil and he also had opium den in the market which was legal at that time. In the reign of King Rama V, a law was enacted to prohibit the buying and selling of opium that caused the closure of the opium den. When the opium den closed down, there was a joke that lizards in the den were all dead because they were all addicts to opium as well. The eight children of Mr. Banchong attended schooling and had their own occupation. Therefore, the rice mill was subsequently closed down because there was no one to carry on the business. The remains of the glorious past are the warehouse and the big mill chimney standing in front of Klongsuan Market.


กันยายน 2557 / September 2014

35

in Glorious Time ตลาด 2 เมือง

ตลาดคลองสวนนอกจากจะอยูฝ่ ง่ั จังหวัดสมุทรปราการแล้ว ยังพาดผ่านไปยังฉะเชิงเทรา ในต�ำบลเทพราช โดยมีคลองพระยา นาคราชเป็นตัวก�ำหนดกั้นกลาง ซึ่งในฝั่งฉะเชิงเทราจะมีเจ้าของ คนละตระกูล แต่สร้างมาในเวลาไล่เลีย่ กัน ในส่วนตัวร้านค้ามีการ ใช้เนื้อที่ท�ำกิจกรรมทางด้านการค้าและพักอาศัย ซึ่งในหนึ่งห้อง จะประกอบด้วย ชานพักท่าน�้ำ ทางเดินสัญจร ร้านค้าประกอบ กิจการ และมีโถงบันไดขึ้นชั้นสอง (เล่าเต๊ง) มีห้องน�้ำ ห้องครัว ชักล้าง อาบน�้ำ สวนครัว ท�ำให้ผู้ขายมีความผูกพันกับตลาดอย่าง แน่นแฟ้น เพราะทั้งค้าขายและอยู่อาศัยในตลาดเสมือนบ้าน ซึ่ง เรียกว่าเป็นชุมชนตลาด ที่พ่อค้าแม่ค้าต่างคุ้นหน้าและรู้จักสนิท สนมกันเป็นอย่างดี ตลาดคลองสวนในอดีต มีความเจริญรุง่ เรืองอย่างมาก อาจ ด้วยการสัญจรในอดีตจะใช้เรือเป็นยานพาหนะ เพราะไม่มีถนน หนทางเหมือนปัจจุบัน ผู้คนละแวกนั้นส่วนใหญ่มีอาชีพท�ำนา ท�ำ เกษตรกรรม ก็จะแวะเวียนมาตลาดเพื่อจับจ่ายซื้อสินค้าที่จ�ำเป็น อย่างพริก กระเทียม เกลือ น�้ำตาล และพวกอุปกรณ์การเกษตร ต่างๆ ท�ำให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของชุมชน เพราะคน สมัยก่อนไม่มีตู้เย็น เลิกจากการท�ำนา 3 ทุ่ม 4 ทุ่ม ก็ยังต้องเดิน ทางมาซื้อของที่ตลาด ตลาดเป็นเหมือนศูนย์รวมทุกอย่าง ทั้งการค้าขาย แหล่ง บันเทิง แหล่งพบปะสังสรรค์ เป็นท่าเรือโดยสาร ท�ำให้ผู้คนต่าง คุน้ เคยรูจ้ กั กันดี แม้จะต่างวัฒนธรรม ทัง้ ชาวไทย อิสลาม และจีน แต่ก็อยู่ร่วมกันอย่างเปี่ยมสุข ยิ่งในช่วงวันที่มีการแสดงลิเก ฉาย หนัง เล่นงิว้ ชกมวย ในวิกตลาด เรือชาวบ้านจะแน่นล�ำคลองยาว เหยียด เพราะนานทีปหี นจะมีมโหรสพหรือสิง่ บันเทิงมาให้ชม หรือ ในช่วงงานหลวงพ่อโสธรทีจ่ งั หวัดฉะเชิงเทรา ตลาดคลองสวนจะ คึกคักและเต็มไปด้วยผู้คนนับหมื่น ที่มาขึ้นเรือ บริเวณท่าน�้ำหน้า ตลาด ไปยังวัดหลวงพ่อโสธร ส�ำหรับใครที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในสมัยนั้น ก็จะมีเรือ เมล์ขาวของนายเลิศ ซึง่ เป็นเพียงล�ำเดียวที่ให้บริการโดยสาร กว่า จะเดินทางถึงกรุงเทพฯ จะใช้เวลาเป็นวัน เรือจะแล่นผ่านประตู ท่าถั่ว (ฉะเชิงเทรา) ผ่านตลาดคลองสวน (สมุทรปราการ) ตลาด หลวงแพ่ง ตลาดหัวตะเข้ (เขตลาดกระบัง) เขตประเวศ แล้วแล่น เข้าสู่ประตูน�้ำ (วังสระปทุม) การที่เรือแล่นช้าเป็นเพราะต้องจอด แวะรับส่งสินค้ารายทางเป็นเวลานาน คนที่ไปจึงต้องแวะพักค้าง คืนที่กรุงเทพฯ แล้วค่อยเดินทางกลับตลาดในช่วงเช้าของอีกวัน

Originally, the market was just a row of wooden shacks with thatch roofs and later on was changed to corrugated roofs. At first, there were only 8 shop houses, subsequently increased to 40, 70 and 100 wooden shop houses. The old market with wooden shop houses differed from other markets by the canal as the present walkway is in concrete covered with corrugated roof. Shop houses are in long row lining from the waterfront. At the back of the market there was a sewage ditch and dense bamboo fence to protect the market from the storm and theft. On part of the shop house, the area is allocated for both trading and living. A single shop house comprises of a pier, verandah by the pier, trading area and stair hall leading to the second floor where there are toilet, kitchen, washing area, bathroom, and small kitchen garden. The structure of the shop house makes the vendors having a close tie with the market as they do their business and live in the market as if it were their homes. It is a market community that vendors are all familiar faces and knowing each other very well. During the first period of the set up, Klongsuan Market was very prosperous. It was probably because at that time boats were the popular mode of transportation as road was not available. Most of the people in the area were farmers and they frequented the market to buy necessary goods such as chilies, garlic, salt, sugar and agricultural tools. The market was busy and became the center of the community as in the old days there was no refrigerator so when they finished their chores in the fields around 9-10 p.m., they had to come to the market to buy the stuffs. The canal was busy with row boats coming to shop or to sell their produces. On the day that there were entertainments such as Likae (folk drama), movies, Chinese Opera, or boxing at the theatre in the market, the boats would be crowded along the canal as entertainment was rare in those days. Or, during the festival to pay homage to Luang Poh Sothorn (Sothorn Buddha image) in Chachoengsao, Klongsuan Market would be extremely busy with ten thousands of people who disembarked at the market before going to the temple. For those who traveled to Bangkok in those days, there was a white boat service of Nai Lert serving the route. It took a day to travel to Bangkok. The boat would pass through Chachoengsao, Klongsuan Market to the last stop at Pratunam (Srapratum Palace). The boat was slow because it made several stops to load and unload goods along the way. Those who traveled to Bangkok had to overnight in Bangkok before making the return trip in the morning the following day.


36 Cover Story เรื่องจากปก


กันยายน 2557 / September 2014

บ้านทุกหลังจะติดธงไว้หน้าบ้าน เป็นเพราะสมัยก่อนมี เรื่องของคอมมิวนิสต์ ซึ่งเรื่องลัทธิรุนแรงมาก แล้วคนในตลาด เป็นคนจีนเสียส่วนใหญ่ จึงกลัวถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่ม คอมมิวนิสต์ คนในตลาดจึงต้องติดธงชาติเพื่อให้เห็นว่ามีความ จงรักภักดี จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครน�ำธงนั้นลงแม้แต่บ้านเดียว เป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์จนทุกวันนี้ ร้านค้าในตลาดคลองสวน จะเป็นร้านที่ค้าขายมาตั้งแต่รุ่น บรรพบุรษุ อย่างเช่นร้านกาแฟแป๊ะหลี่ ทีข่ ายกาแฟมาตัง้ แต่อายุ 9 ขวบ และคัว่ กาแฟเองสดๆ ตัง้ อยูฝ่ ง่ั ฉะเชิงเทรา และร้านแป๊ะเก๊า ที่ชงกาแฟใส่กระติกแล้วน�ำไปส่งตามบ้าน ที่อยู่ฝั่งสมุทรปราการ ‘ร้านสวนทอง’ เป็นร้านที่เปิดกิจการมากว่า 60 ปี ซึ่งนาย ทนงค์ ธนสิทธิเวช อายุ 81 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า “ช่วงแรกๆ ขายเครื่องมือเครื่องใช้ของชาวนามีพวกเชือก อุปกรณ์ทุกอย่างที่ เกษตรกรเขาใช้ พวกเสือ้ ผ้าด�ำ แต่กอ่ นชาวนาเขาจะชอบมาซือ้ พริก หอม กระเทียม น�้ำตาล เป็นหลัก พอถึงช่วงฤดูกาลไถนา เขาก็จะ มาซือ้ แอก เชือก เพราะใช้ควายไถนาในฤดูฝน แต่กอ่ นขายปุย๋ ยา ปล่อยหนี้ให้ชาวนา แล้วไปเก็บข้าว ถึงจุดหนึง่ แล้วมันค้าข้าวล�ำบาก มันเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย มีสหกรณ์การเกษตรเข้ามา แล้วคน เข้าสหกรณ์กันหมด ก็เลยเปลี่ยนมาขายเครื่องทองเหลืองแทน” และ ‘ร้านตัดผม’ ของนายด�ำรงค์ จันทร์ประเสริฐ ที่เปิด บริการมากว่า 80 ปี เล่าถึงอดีตให้ฟังว่า “ร้านตัดผมสมัยก่อนจะ ใช้ตะเกียงเจ้าพายุ เพราะยังไม่มีไฟฟ้า เจ้าพายุดวงหนึ่ง น�้ำมัน ก๊าดขวดละบาท ร้านผมใช้ปัตตาเลี่ยนมือแบบเก่า มีดโกนแบบ เก่าใบจะหนาๆ หน่อย ไฟฟ้าเพิ่งเข้ามาประมาณ 40 กว่าปี แต่ ก่อนจะจุดตะเกียงให้สว่างหน้าบ้านกัน ห้องละดวงๆ ผมมีเชือ้ สาย อิสลาม ซึ่งเป็นร้านอิสลามร้านเดียวในตลาด”

แป๊ะหลี่

Grandpa Lee

Market Community

Way of life

ฟื้นฟูตลาดให้กลับมามีชีวิต หลังจากมีการปรับเปลีย่ นเส้นทางคมนาคม จากการสัญจร ทางเรือ เปลีย่ นมาใช้รถใช้ถนน ตลาดคลองสวนก็เริม่ ได้รบั ความ นิยมน้อยลง และซบเซาเป็นเวลานานถึง 30 ปี จนกระทั่งเกิด กระแสการอนุรักษ์ตลาดไม้เก่า ให้เป็นตลาดเชิงท่องเที่ยวในปี 2546 ตลาดคลองสวนจึงเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง แต่เป็นการฟื้นตัว ในภาพลักษณ์ ใหม่ ที่มาในชื่อ ‘ตลาดคลองสวน 100 ปี’ ซึ่ง การเติมค�ำว่า 100 ปีเข้าไปนั้น เพื่อต้องการบ่งบอกถึงความ เก่าและมีมาอย่างยาวนาน ช่วงนัน้ นายสุธรี ์ อัศวาณิชย์ (ลูกชายของอาเสีย่ บรรจง) ผู้ สืบทอดตลาดคลองสวน กับนายปวริศ สุขวัฒน์ ประธานตลาด คลองสวน เป็นผู้บริหารอยู่ที่เทศบาลต�ำบลคลองสวน จึงช่วย กันพัฒนาตลาด โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อแขนงต่างๆ จน ตลาดเริ่มกลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยมีจดุ ขายในเรือ่ งของวิถชี วี ติ ชาวตลาดทีย่ งั ไม่เปลีย่ นแปลง และเรื่องความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมตลาดไม้เก่า จนได้รับ รางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นของสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรม ราชูปถัมภ์ ประเภทชุมชนพื้นถิ่นดีเด่น พ.ศ.2547 โดยคุณสุธีร์ อัศวาณิชย์ เป็นผูร้ บั พระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และในปี พ.ศ.2552 ยังได้เป็น สถานที่ท่องเที่ยวอันดับที่ 2 จากการโหวตของคนทั่วประเทศ จัดโดยโครงการ “9 Destinations Awards 2009” ของบริษัท โพสต์ พับลิชชิง จ�ำกัด (มหาชน) ผูผ้ ลิตหนังสือพิมพ์ Bangkok Post และโพสต์ทเู ดย์ นับจากนัน้ มาตลาดคลองสวน 100 ปี ได้ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

37


38 Cover Story เรื่องจากปก

The original Klongsuan way of life was a mixture of diverse ethnics and cultures be it Buddhist Thai, Thai-Chinese and Thai-Muslim. They lived together peacefully witnessed by the variety of architectural styles in the area be it Chinese almshouse and shrines, Buddhist temples and Muslim mosques standing by each others. It proves as an evidence of the unity of the people in the market community. In the old days, the market served as the center of everything be it for trading, entertainment, meeting point, passenger pier, etc. All of the activities made the people knowing each other very well though they were from different cultural background they could live happily together. The meeting point in the market would be at Pae Lee Coffee House (Grandpa Lee’s Coffee House) who started making coffee since he was only 9 years old. He roasted his coffee beans on Chacheongsao side. There was Pae Kow Coffee Shop on Samut Prakan side that he made the coffee and put in water canteen before making house delivery. In the past every house would raise the flag in front of their houses because at that time Communist ideology was a very strong issue. Most of the people in the market were of Chinese ethnic, therefore, there were afraid that the authority would regard them as communist supporters so they raised Thai flag as a symbol of their loyalty to Thailand. Nowadays, not a single house has lowered the flag down. Mr. Damrong Chanprasert, owner of the barber shop that has been in business for over 80 years, told us that “In the old days, the barber shop used storm lantern because electricity was not yet available. We had a storm lantern and a bottle of kerosene as fuel. We used old-fashioned hand held hair clipper and razor. Electricity just came 40 years ago. In the past, we would light a lantern and hung it in front of each house. I am a Muslim and the only Muslim shop in this market.” Mr. Thanong Thanasitthivech, 81 years old the owner of Suanthong Shop, told us that “My shop was open about 60 years. At first I sold agricultural tools to farmers, just everything farmers needed and black

clothing. In the past, major goods that farmers bought included chilies, red onion, garlic and sugar. When the time to plough their fields, they would come to buy yoke and rope because they used water buffaloes to plough the fields in rainy season. Formerly, I used to sell fertilizers and pesticides to farmers on credit that after the harvest I would collect the debts in form of rice. But, later on rice trading became very difficult. The situation changed with the passing time and with the opening of cooperatives, the farmers turned to deal with cooperatives. So, I changed to sell brassware instead.” After mode of transportation was changed from using boats on the waterway to car on the roads, Klongsuan Market became less popular and was stagnated for 30 years. When the trend to conserve old wooden markets as tourist attraction came into view in 2546 B.E. (2003 A.D.), Klongsuan Market starts to return to life again in a new image known as “Klongsuan Centenary Market”. The addition of the word ‘centenary’ is to let the people known of its long standing and history. At that time, Mr. Suthira Asavanich, the inheritor of the market, and Mr. Pawaris Sukawat, chairman of Klongsuan Market Community, were members of the administration board of Klongsuan Sub-district Municipality. They jointly developed the market by means of public relations through various media channels until the market becomes lively again. The highlight of the market is the unchanged way of life and the historic architecture of the old wooden market that won the award as Outstanding Architecture in the class of Outstanding Native Community from the Association of Siamese Architects under the Royal Patronage in 2547 B.E. (2004 A.D.) Mr. Suthira Asavanich received the award from HRH Princess Maha Chakri Sirindhorn. Subsequently, in 2552 B.E. (2009 A.D.) the market was named as the 2nd tourist attraction from the national vote in the campaign “9 Destinations Awards 2009” by Post Publishing Pcl., the publisher of Bangkok Post and Post Today newspapers. From there onward, Klongsuan Centenary Market becomes widely popular.


กันยายน 2557 / September 2014

39


40 Cover Story เรื่องจากปก

The Present Attractiveness

เสน่ห์ตลาดเก่าในปัจจุบัน

เสน่ห์ของตลาดคลองสวน 100 ปี ในปัจจุบัน คือความเก่าแก่ ของตลาดไม้ริมน�้ำที่ยังคงสถาปัตยกรรมแบบเดิมเหมือนครั้งวันวาน และความสมัครสมานสามัคคีของชาวตลาด แม้จะต่างเชือ้ ชาติ ศาสนา วัฒนธรรม แต่กส็ ามารถอยูร่ ว่ มกันได้อย่างมีความสุข ซึง่ นับว่าหาชมได้ ยากในสังคมปัจจุบัน และอีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นจุดเด่น คือร้านรวงของ พ่อค้าแม่ค้าที่ยังคงความเก่า อาทิ ร้านตัดผม ร้านขายยา ร้านทอง ร้านขายอุปกรณ์การเกษตร ร้านขายเสื้อผ้าอาภรณ์ ร้านขายอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ ร้านกาแฟ และร้านขายของช�ำต่างๆ นอกจากนั้นยังมีขนมหวานรสอร่อยฝีมือชาวบ้าน ทั้งฝอยทอง ขนมเปี๊ยะ ตะโก้ ขนมดอกบัว ขนมใส่ไส้ ข้าวห่อใบบัว และอาหารคาว รสเด็ด อย่างก๋วยเตี๋ยวเรือ ต้มย�ำ ข้าวราดแกง อาหารอิสลาม ฯลฯ ซึ่ง ล้วนมีสสี นั ชวนรับประทาน ทัง้ ยังมีรา้ นเด็ดประจ�ำตลาดทีข่ นึ้ ชือ่ อยูห่ ลาย ร้าน เช่น ร้านกุนเชียงหมูท�ำเอง ของแป๊ะงึ้น-ยายพร ที่ใครเดินผ่านไป ผ่านมาเป็นอันต้องหยุดดู เพราะแกท�ำเองกับมือทุกขัน้ ตอน แถมรสชาติ กุนเชียงยังอร่อยสมค�ำร�่ำลือ ส่วนสินค้าขึ้นชื่อของตลาด คือ ปลาสลิด ปลาแห้ง ไข่เค็ม เป็ดพะโล้ เนื้อหมูแดดเดียว และกุนเชียงสูตรดั้งเดิม มาแล้วอย่าลืมแวะไปอุดหนุน “นับว่าเป็นตลาดไม้อายุ 136 ปีที่มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีตให้ได้ค้นหา เหมาะกับการมาเดินเสพบรรยากาศเก่า เลือกซื้อสินค้าท้องถิ่น กินอาหารฝีมือ ชาวบ้าน นั่งเรือชมวิถีชีวิต เพียงเท่านี้ชีวิตก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข”

The present attractiveness of Klongsuan Centenary Market is the original wooden shop houses by the waterfront that still maintain the original architecture of the day gone by and the unity of the people in the market. Though they are from different ethnics, religions and cultures, they live together harmoniously and happily which is very difficult to find elsewhere these days. Another highlight is that all shops still maintain their original trade such as barbers, goldsmiths, agricultural tools shops, clothes shops, electronics parts shops, coffee shops and groceries. Moreover, there are shops selling traditional sweetmeats by villagers be it ‘foithong’ (golden thread), ‘kanom piah’ (Chinese cake with bean paste stuffing), ‘tako’ (Thai pudding with coconut cream topping), ‘kanom dokbua’ (deep fried rice flour in lotus shape), ‘kanom saisai’(steamed rice flour with sweet coconut meat stuffing), steamed rice wrapped in lotus leaf, and other yummy savories such as boat noodles, ‘tomyum’ (spicy and sour soup), rice topped with curry, Muslim dishes, etc. All the foods in the market are mouthwatering. There are also many famous shops in the market such as the shop selling homemade Chinese sausages by Pae Ngeun and Grany Porn that every visitor would stop watching them make the sausages every step by hand. And additionally the taste of the sausage is very good. The popular goods in the market include sun-dried gourami, dried fishes, salted eggs, casserole duck, sun-dried pork and Chinese sausages. Whenever you are visiting the market, do not forget to buy those products. Klongsuan Centenary Market is the 136 years old wooden market that is very charming with stories of the past. It is suitable for a visit to admire the bygone atmosphere, shop for local products, enjoy delicious foods by villagers and take a cruise to see the way of life on the waterfront. It is enough for a happy time in your life.

Monument อนุสรณ์สถาน

อาเสี่ยบรรจง และคุณนายจรุง อัศวาณิชย์ ถัดจากศาลเจ้าพ่อคลองสวนก็จะเป็นอนุสรณ์ สถานของอาเสีย่ บรรจง และคุณนายจรุง อัศวาณิชย์ ทั้งสองเป็นอดีตเจ้าของตลาดคลองสวน พี่น้อง ชาวตลาดรู้สึกส�ำนึกในความมีพระคุณที่ท่านทั้ง สองได้ ให้ที่อยู่อาศัย อยู่กันมาจนชั่วลูกชั่วหลาน จึงได้ร่วมกันบริจาคสร้างศาลและหล่อรูปเหมือน ของอาเสีย่ และคุณนายเมือ่ วันที่ 9 มีนาคม 2543 ทีท่ ำ� ให้พนี่ อ้ งชาวคลองสวนอยูด่ ว้ ยกันอย่างมีความ สุขจนทุกวันนี้ โดยอาเสี่ยและคุณนายได้สั่งเสีย ลูกหลานให้ดูแลพี่น้องชาวคลองสวน

Next to Klongsuan Guardian Spirit Shrine is the monument of Mr. Banchng and Mrs. Jaroong Asavanich. They were the founders and past owners of the market. The residents in the market are in gratitude to their generosity in providing houses that they live happily for generations. Thus, the villagers donated money to build the shrine and cast their statues on 9 March 2543 B.E. (2000 A.D.) Mr. Banchong and Mrs. Jaroong gave their descendants the parting instructions for Klongsuan people


กันยายน 2557 / September 2014

ตลาดคลองสวน 100 ปี Klong Suan 100 Year Market อนุสรณ์สถาน อาเสี่ยบรรจง กับคุณนายจรุง อัศวาณิชย์ Monument

ศาลเจ้าพ่อคลองสวน Chao Por Klong Suan Shrine

โรงสีเก่า Old Mill

ล Paาrนk จอดรถ ing

ร้านสวนทอง

Suan Tong Shop

l

ร้านแป๊ะงึ้น-ยายพร ขายกุนเชียงทำ�เอง

Ca na

รถ ด อ นจ ing ลาPark

aw et

Bur iro

m

Pae - Ngeun - Yai Porn Sausage

บุร ีรม ย์ P r

ร้านกาแฟแป๊ะเก๊า

คล องป ระเว ศ

Pae Kow Coffee

ร้านตัดผม

Babershop

สะพานไม้เต็งข้ามคลอง Hardwood Bridge

สะพานอัศวานิชย์ Assavanit Bridge

พิพิธภัณฑ์ ตลาดคลองสวน 100 ปี

Klong Suan 100 year Market Museum

ร้านกาแฟแป๊ะหลี่ Pae Lee Coffee

คลอง

พระย าน

าครา ช

P ra

Ya N akar ach

สุเหร่า Mosque Can al

วัดคลองสวน Wat Klong Suan

ที่ตั้ง : ตลาดคลองสวน 100 ปี ต.คลองสวน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เปิดบริการทุกวัน แต่จะคึกคักเป็นพิเศษช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม: เทศบาลตำ�บลคลองสวน โทร.0-2739-3253, 0-2739-3329, 0-2704-1273 การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพฯ-ชลบุรี) ไปจนถึงทางแยกอ่อนนุช ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวง 3001 (ถนนสายอ่อนนุช- ฉะเชิงเทรา) เดินทางไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร ทางเข้าตลาดคลองสวน 100 ปี อยู่ด้านซ้ายมือ บริเวณด้านหน้าตลาดมีลานจอดรถ Location : Klong Suan 100 Year Market, Klong Suan Subdistrict., Bang Bo District., Samut Prakan Open : Every Day, For more information : Tasaban Klong Suan Municipality, Telephon : 0-2739-3253, 0-2739-3329, 0-2704-1273

41


42 Cover Story เรื่องจากปก

ภาพวาดจาก ศิลปะในสวน

photo by Art in the Garden


กันยายน 2557 / September 2014

43


3 Style Tourism Market

Floating Market ตลาดน้ำ�

ปัจจุบนั มีแหล่งท่องเทีย่ วหลากสไตล์เกิดขึน้ ใหม่มากมาย หนึง่ ในนัน้ คงหนีไม่พน้ “ตลาดน�ำ้ ” พ่วงอยูด่ ว้ ย แต่ละ ที่ต่างมีคาแรคเตอร์เฉพาะของตัวเอง บางแห่งสร้างใหญ่โตอลังการเน้นไปในทางธุรกิจ แต่ในสมุทรปราการกลับใช้ พื้นที่ในชุมชน ถึงแม้ไม่ใหญ่โตนักก็เพื่อต้องการให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม น�ำอาหาร สินค้าท้องถิ่น มาวางขายในราคาไม่ แพง และแอบแฝงไปด้วยคอนเซปต์ชวนหลงใหลมากมาย ถือเป็นแดนสวรรค์ของคนรักการหม�ำ่ เป็นชีวติ จิตใจ เพราะ ไม่ว่าท่านจะลองเดินไปมุมไหนก็ต้องพบกับเมนูคาว ก๋วยเตี๋ยว ส้มต�ำ หอยครก ไข่ปลาหมึกห่อใบตอง อาหารพื้นถิ่น ของปิ้ง ของทอด มีให้เลือกไม่อั้น ส่วนของหวานมี หม้อแกง ข้าวเกรียบ ลูกชุบ ขนมไทย ขนมลูกจาก ขนมตาล สูตรโบราณทั้งหลายอีกเพียบ

ใครชอบของฝากน่ารักๆ กระจุกกระจิก สินค้าแฮนด์เมด เสื้อลายการ์ตูนกิ๊บเก๋ ล้วนถูกคัดสรรจากคนในชุมชน มาอย่างดิบดี ที่เกริ่นมานี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ต้องขอบอกว่าของจริงยังมีอีกเยอะ! พร้อมกันแล้วก็เริ่มออกเดิน ทางไปชิม ชม ช็อป แบบจุใจกันได้เลย

Among the many styles of tourist attractions coming into the scene at present, floating marketing is unavoidably one attraction among others. Each floating market has its own characteristics where some places prefer building on a grand scale for pure business purposes. But in Samut Prakan, floating markets opt to use the community space, though not a large space, for the villagers to be a part of the activities by bringing their farm produces, homemade food, and others local products for sale at reasonable price. Each has its own charming characteristics. It is the heaven for food lovers because wherever you walk you will encounter variety of foods be it savory such as noodles, spicy papaya salad, scallops baked in cup-shaped pan, baked squid roes in banana leaves, native delicacies,

etc. For desserts, there are traditional Thai desserts such as ‘kanom mohkaeng’ (baked beans and custard pudding), crispy crackers, ‘look chup’ (delectable imitation fruits), ‘kanom look jaak’ (desserts made with nipa palm fruits), ‘kanom taan’ (steamed sugar palm meat with rice flour and shredded coconut), and many more of authentic recipes. There are also cool souvenirs, handmade products, T-shirts with cute cartoon prints, etc. which have been carefully selected by the villagers. The aforementioned are just a fraction and there are many more at the floating markets in Samut Prakan. Are you ready? If yes, we will start our journey to see, to taste and to shop to your satisfaction.



46 Cover Story เรื่องจากปก

Floating Market

Bang Nam Pheung ตลาดน� ำ ้ บางน� ำ ้ ผึ ง ้ แหล่งจ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน..เพื่อคนท้องถิ่น

ลาดน�้ำบางน�้ำผึ้ง ถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยลักษณะพื้นที่เป็นสวนผลไม้ ขนาดใหญ่ มีล�ำน�้ำสายเล็กไหลผ่ากลางตลาด ห้อมล้อม ด้วยร้านรวงของพ่อค้าแม่ค้า ที่ตั้งแผงขายผลิตภัณฑ์ OTOP ของ ชุมชน ทั้งไข่เค็มสมุนไพร ดอกไม้ประดิษฐ์ สินค้าพื้นบ้านมอญ และ ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว บ้างค้าขายบนบก บ้างค้าขายบนเรือ บ้างค้าขายใต้ถุนบ้านทรงไทย ทอดยาวในสวนอันร่มรื่นของแมกไม้ กว่า 2 กิโลเมตร ตลาดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2547 โดยความร่วมมือระหว่าง องค์การบริหารส่วนต�ำบลบางน�้ำผึ้งและชาวบ้านในชุมชน มี วัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาผลผลิตการเกษตรล้นตลาด ซึ่งได้ผลดี อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากจะเป็นที่ระบายสินค้าการเกษตรแล้ว ยัง สามารถสร้างงานสร้างรายได้ ให้กับชุมชน และได้เสียงตอบรับจาก นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี

B

ang Nampheung Floating Market is another destination for travelers, both Thai and foreigners alike. The area is a big orchard with a small waterway running through the market. The market is surrounded with shops and booths of vendors selling community OTOP products be it herbal salted eggs, artificial flowers, Mon ethnic native products and handicrafts from coconut shells. Some vendors are selling their products on land while some in their boats. Some are opening their business under the elevated Thai style houses. The market is put up in the lush green orchard for almost 2 km. long. This market was founded in 2547 B.E. (2004 A.D.) with the cooperation of Bang Nampheung Sub-district Administrative Organization and people in the community. The main purpose is to solve the oversupply of agricultural products problem. The result is unbelievably good. Apart from being the distribution center of agricultural products, the market could generate income to the community and is well received by visitors.


กันยายน 2557 / September 2014

จุดเด่นของตลาดน�ำ้ บางน�ำ้ ผึง้ คือ ผูข้ ายเป็นคนในชุมชน มีการจ�ำกัด จ�ำนวนผูข้ ายและสินค้าต้องผลิตขึน้ เอง จึงท�ำให้มสี นิ ค้าหลากหลาย แตกต่าง จากตลาดแห่งอืน่ อาทิ ผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา ลูกประคบสมุนไพร ภาพ ประดิษฐ์จากรกมะพร้าว ธูปปัน้ สมุนไพร และสินค้าพืน้ บ้านมอญ ท�ำให้แต่ละ ชุมชนในพืน้ ทีเ่ กิดการรวมกลุม่ งัดของดีของเด่นออกมาจ�ำหน่าย สร้าง ความสมัครสมานสามัคคี และมีรายได้เข้ากระเป๋าอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึง่ ผลิตภัณฑ์บางตัวเป็นสินค้า OTOP ขึน้ ชือ่ ทีก่ ารันตีดว้ ยคุณภาพระดับ 5 ดาว นอกจากผลิตภัณฑ์สงิ่ ประดิษฐ์แล้ว ยังมีของกินอร่อยๆ ตัง้ เรียงรายให้ ได้ลมิ้ ลอง ทัง้ ขนมไทยรสหวาน อย่าง ทองหยอด เม็ดขนุน ฝอยทอง ลูกชุบ กะละแม ขนมใส่ไส้ ข้าวต้มมัด ขนมตาล ฯลฯ และของคาว อย่าง ก๋วยเตีย๋ ว ผัดไทย ข้าวมันไก่ กระเพาะปลา ไส้กรอกหมู ไส้อวั่ และหมูปง้ิ ให้ได้เลือก ซือ้ หา หรือหากต้องการของฝากจากชุมชนก็มหี ลายประเภท อาทิ กุง้ แห้ง กะปิ หอยดอง น�ำ้ พริก ปลาต้มเค็ม มะม่วงน�ำ้ ดอกไม้พระประแดง ฯลฯ ถ้าเดินไปยังโซนริมน�ำ้ จะพบกับสินค้าทีข่ ายบนเรือหางยาว เสน่หส์ ไตล์ ตลาดน�ำ้ ทีห่ าชมได้ยาก ซึง่ มีเหล่าแม่คา้ พายเรือค้าขายอยูร่ มิ ตลิง่ โดยมีลกู ค้า นัง่ ทานอยูบ่ นฝัง่ สินค้าส่วนใหญ่เป็นจ�ำพวกของกินมือ้ ใหญ่ อย่าง ต้มย�ำกุง้ ข้าวผัด ข้าวขาหมู ฯลฯ และเมนูกนิ เล่นอย่างลูกชิน้ ปิง้ ข้าวโพดปิง้ มันเผา เผือกเผา ฯลฯ ในบรรยากาศคึกคัก บริเวณกลางตลาดยังมีลานไม้สวน ซึง่ เป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจ ทีม่ ี กิจกรรมศิลปะในสวนและดนตรีในสวน ให้ได้สนุกเพลิดเพลินกับจินตนาการ ถ้าชอบศิลปะก็อย่าลืมแวะไปแสดงฝีไม้ลายมือ ซึง่ มีทงั้ วาดภาพระบายสี เพ้นท์สเี สือ้ เพ้นท์สตี กุ๊ ตาปูนปลาสเตอร์ หรือถ้ามีดนตรีในหัวใจ ก็ไม่ควร พลาดไปนัง่ ฟังเสียงเพลงของวงดนตรีในสวน ทีท่ างตลาดจัดเตรียมไว้ ให้ นับว่าเป็นตลาดน�ำ้ แห่งใหม่ทมี่ อี ายุเพียง 10 ปี แต่มวี ธิ คี ดิ วิธจี ดั การทีน่ า่ สนใจ ไม่นอ้ ย เพราะเป็นตลาดทีส่ ร้างขึน้ เพือ่ ชาวชุมชนให้มแี หล่งสร้างรายได้ สร้าง อาชีพ ซึง่ เปิดค้าขายทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เหมาะแก่ การมาเดินเลือกซือ้ สิน้ ค้า อุดหนุนผลิตภัณฑ์ชมุ ชนในบรรยากาศตลาดน�ำ้

47

The highlight of Bang Nampheung Floating Market is that all vendors are the people in the community. The committee set a limit on the number of vendors and that the product should be handmade. Thus, the goods are diverse and different from other markets such as handicrafts from water hyacinth, herbal compress balls, framed pictures made from coconut membrane, herbal incense sticks, and Mon native products. This endeavor encourages people of each community in the area to unite and bring out their best community products for sale which enhance unity and more income. Some of the products are guaranteed with 5-star award. Apart from handicrafts there are arrays of delicious food for visitors to try be it traditional Thais desserts like ‘tongyod’ (golden ball), ‘med kanuon’ (sweet mung bean paste coated with egg yolk), ‘foitong’ (golden thread), ‘lookchup’ (delectable imitation fruits), ‘kalamae’ (Thai sweetmeat made from rice flour, sugar and coconut cream), ‘kanom saisai’ (steamed rice flour and coconut with sweet stuffing), ‘kaotom mud’ (stuffed sticky rice in banana leaf), ‘kanom taan’ (steamed meat of palm fruit), etc. And, for savory there are for example noodle, padthai, chicken rice, fish maw soup, pork sausage, Chiangmai herbal sausage, grilled pork on skewers, etc. for visitors to select. If you are looking for souvenirs from the local community, there are many things for you to choose such as dried shrimps, shrimp paste, preserved shellfishes, various dips, salty slow-cooked fishes, the famous ‘namdokmai’ mango of Phra Pradaeng, etc. If you walk to the zone on the waterfront you will see goods sold on boat. The sight is another charm of floating market that could hardly be seen these days. Vendors row their boats close to the banks selling their foods for customers sitting on the banks. Most of the food sold in this zone are heavy meal such as ‘tomyum koong’(spicy lemongrass soup with shrimps), fried rice, rice topped with stewed pork leg, etc. There are other snacks such as grilled meatball on skewers, grilled corn, baked sweet potato, baked taro, etc. The scene is a busy atmosphere. In the middle of the market is a patio garden for resting where arts activities and music in the garden take place. It is the place where visitors can enjoy showing their imagination. If you are an art lover, do not forget to drop by and show your artistic talent and skill which include drawing, painting, shirt painting, toy painting, etc. Should you be a music lover, do not miss listening to the music in the garden by live band. This market is a new market that has been open for only 10 years but the managerial concept is very interesting. It is a market founded as the venue for the people in the community to generate occupation for more income. This market opens every Saturday, Sundays and public holidays and it is a venue worth visiting for community product shopping in the floating market atmosphere.


48 Cover Story เรื่องจากปก

ร้านน่าชิม Recommended Stalls

1

Kanom Mohgaeng ขนมหม้อแกงรัชนี

ขนมหม้อแกงรัชนี ของกลุม่ ท�ำขนมต�ำบลบางยอ ถือเป็นเจ้า อร่อยที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นขนมหม้อแกงที่บรรจุในหม้อดิน ขนาดจิ๋ว รูปทรงแปลกตา มีทั้งไส้เผือก ไข่ และถั่ว อันมีรสชาติ เป็นเอกลักษณ์ ทัง้ ความหวาน หอม รสชาติกำ� ลังดี ทีก่ ารันตีดว้ ย จ�ำนวนลูกค้าที่มาต่อแถวเรียงคิวกันยาวเหยียด กลุม่ ท�ำขนมต�ำบลบางยอ ติดต่อรัชนีขนมไทย โทรศัพท์ 08-0083-8077

2

Rachanee’s Kanom Mohgaeng is the product of Bang Yor Desserts making Group that should not be missed. The sweetmeat is sold in small earthen pots in various shapes. There are varieties of this sweetmeat such as taro, eggs or mung bean paste. Each has its own taste identity but all are delicious, aromatic with perfect sweetness. The long queue of buyers is the guarantee of how good their kanom mohgaeng is.

Herbal Salted Eggs ไข่เค็มสมุนไพร

เพียงเดินเข้ามาในตลาด ก็ตอ้ งสะดุดตากับไข่เค็มหลากสีสนั ของกลุม่ เศรษฐกิจพอเพียงต�ำบลบางน�ำ้ ผึง้ หมู่ 7 ซึง่ มีสเี ปลือกไข่ เค็มเป็นทีเด็ด เพราะล้วนท�ำมาจากสีของสมุนไพรในท้องถิน่ ไม่วา่ จะเป็นตะไคร้ อัญชัน ใบเตย ฝาง ท�ำให้ไข่เค็มมีสสี นั แปลกจากที่ อืน่ อาทิ สีเหลือง สีฟา้ สีชมพู และสีครีม ส่วนเรือ่ งรสชาติไม่ตอ้ ง พูดถึง ทัง้ หอม มัน ไม่เค็มจนฝาดคอ แต่มรี สชาติกำ� ลังดี เหมาะ กับการซือ้ หาไปเป็นของฝาก กลุม่ เศรษฐกิจพอเพียงต�ำบลบางน�ำ้ ผึง้ หมู่ 7 ติดต่อเจ๊เอ็ด โทรศัพท์ 08-1427-9085

Upon arriving at the market, the salted eggs by the Sustainable Economy Group of Moo 7 Bang Nampheung Sub-district are very striking with multi colored-eggshells. They are made from local herbs be it lemongrass, blue vine, pandanus leaves, sappan, etc. Therefore, salted eggs here differ from elsewhere because they come in with yellow, blue, pink or creamy white, colors. It is not necessary to talk about the superb taste that makes them worth buying as souvenirs. The Sustainable Economy Group of Moo 7 Bang Nampheung Subdistrict, Tel. 08-1427-9085

Bang Yor Desserts Making Group, contact Rachanee Thai Desserts Tel. 08-0083-8077


กันยายน 2557 / Septembere 2014

49


50 Cover Story เรื่องจากปก

มุมน่าแวะ Worth Visiting Corner

1

Art in The Garden ศิลปะในสวน

มุมนีเ้ หมาะส�ำหรับคนทีม่ ศี ลิ ปะในหัวใจ เพราะในบริเวณ ตลาดน�ำ้ บางน�ำ้ ผึง้ มีพนื้ ทีต่ ระเตรียมให้ได้อวดฝีมอื ด้านศิลปะ ทัง้ วาดภาพ ระบายสีนำ�้ เพ้นท์ลายเสือ้ เพ้นท์กระเป๋าผ้า หรือเพนท์สี ตุก๊ ตาปูนปลาสเตอร์ ให้เด็กๆ ได้สนุกเพลิดเพลินกับจินตนาการ ใน บรรยากาศสวนอันร่มรืน่ ของต้นไม้ เมือ่ วาดภาพระบายสีเสร็จแล้วยัง สามารถน�ำงานศิลปะฝีมอื ตัวเองกลับไปชืน่ ชมความงามทีบ่ า้ นได้อกี ด้วย ตัง้ อยูก่ ลางตลาดน�ำ้ บางน�ำ้ ผึง้ เปิดบริการทุกเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Art in the Garden is an activity for arts lovers. In the Bang Nampheung, an area is provided for visitors to demonstrate their artistic skills be it drawing, painting, shirt painting, fabric bags paintings, dolls paintings for children, etc. that they will enjoy applying their imagination in the activities among the lush green garden. When they finish their painting, they can bring their works home too. Situated in the center of Bang Nampheung Floating Market, opens every weekend and public holidays

2

Handicrafts from Coconut Shells

ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว

ถ้าใครก�ำลังมองหาผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านสไตล์กลมกลืนกับ สิง่ แวดล้อม แนะน�ำให้รบี เดินตรงมายังร้านนี้ เพราะเป็นแหล่งรวบรวม ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว ทีถ่ กู รังสรรค์ขนึ้ อย่างประณีต ผ่านลวดลาย อันวิจติ ร กลายเป็นเครือ่ งใช้แสนเก๋หลากสไตล์ ทัง้ โคมไฟกะลา โมบาย ไม้ ตุก๊ ตากะลา ฯลฯ ให้ได้ซอื้ หา น�ำกลับไปตกแต่งบ้านให้สวยงาม

ร้านปัน้ แต่ง ติดต่อคุณเมืองมนต์ กรรณนุช โทรศัพท์ 08-9774-0772 If you are looking for home décor items that blend in with natural atmosphere, we recommend you visit this shop. Here is the house of handicrafts from coconut shells that are elaborately made with fantastic designs to be cool products such as lamp, wooden mobile hangings, dolls, etc. for visitors to select for their home décor. Pantang Shop Contact Khun Muangmon Kannanuch, Tel. 08-9774-0772


ยายน2557 2557/ /September September2014 2014 กักันนยายน

51 51

ตลาดน้ำ�บางน้ำ�ผึ้ง

Bang Nampheung Floating Market

ที่ตั้ง : ตลาดน้ำ�บางน้ำ�ผึ้ง วัดบางน้ำ�ผึ้งใน ต.บางน้ำ�ผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ การเดินทาง : จากถนนสุขสวัสดิ์ ขับตรงไปเรื่อยๆ จนถึงสามแยกพระประแดง แล้วเลี้ยวขวา พอถึงตลาดพระประแดงให้เลี้ยวซ้ายอีกที เข้าสู่ถนนเพชรหึงษ์ ตลาดน้ำ�บางน้ำ�ผึ้งจะตั้งอยู่ ในซอยเพชรหึงษ์ 26 (เข้าไป ในซอยประมาณ 1 กม.) Location : Bang Nampheung Floating Market, Wat Bang Nampheung Nai, Bang Nampheung Subdistrict Phra Pradaeng district, Samut Prakan

แผงค้าขาย Shop

ซ.บัวผึ้งพัฒน าS oi B u

Na mp heu n

g

ศิลปะในสวน Art in the Garden

งค้า Sh ขาย op แผ

ซ.วั ดบางนำ้ำ ผึ้งใน So iW

t Bang

ng

heung Pattana

แผงค้าขาย Shop

K lo างน ้ำำผ ึ้ง

เรือนนมสด Ruean Nom Sod

a

แผ งค้า Sh ขาย op

วัดบางน้ำ�ผึ้งใน Wat Bang Nampheung Nai

Paที่จอด rki รถ ng

คลอ งบ

ร Re ้านอา sta หา ura ร nt

Ba ng

สถานีอนามัยบางน้ำ�ผึ้ง Bang Nampheung Health Center

aP

Namphe ung Na

i

แผงค้าขาย Shop


52 Cover Story เรื่องจากปก

Wat Bang Huasua

Market By

The Canal ตลาดริมน�้ำวัดบางหัวเสือ

ชิม & ชม อาหารพื้นถิ่น ราคาประหยัด

ลาดริมน�้ำวัดบางหัวเสือ เป็นตลาดเล็กๆ แหล่ง รวมของกินคาวหวาน และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ล้วน มาจากฝีมอื ของชาวบ้านในชุมชน คอยเปิดประตู ต้อนรับนักท่องเทีย่ วในทุกๆ วันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนใหญ่เป็น อาหารบ้านๆ ที่ได้รับสืบทอดจากบรรพบุรุษ แถมราคาก็ ไม่ แพง ตลาดแห่งนีจ้ ะไม่เน้นไปในทางธุรกิจ แต่กลับคอยช่วย เหลือชาวบ้านในชุนชนที่มีความสามารถในการท�ำอาหาร และประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ มาวางขายเป็นอาชีพ

Wat Bang Huasua Market is a small market famous for local foods, be it savory or sweets, cooked by dwellers in the community. The market opens every weekend to welcome visitors. Most of the foods are local dishes whose recipes were handed down by their ancestors plus the price is very cheap. This market is not business oriented but wants to encourage villagers who are skillful in cooking and other handicrafts to earn some extra income.


กันยายน 2557 / September 2014

53

เมื่อมาสัมผัสตลาดแห่งนี้จะรับรู้ถึงความเรียบง่าย เป็นกันเอง ด้วยความที่ว่าเป็นตลาดชุมชนทุกคนจึงใส่ใจในคุณภาพของสินค้า สด สะอาด อร่อย อยู่เสมอ จนท�ำให้ตลาดแห่งนี้เปิดมาได้กว่า 5 ปีแล้ว จุดเด่นอีกสิ่งหนึ่งก็คือ พื้นที่แห่งนี้เปรียบเสมือนตลาดชุมชน ที่ผู้เฒ่า ผู้แก่ หลายคนที่ได้รับฉายาจากคนในละแวกนั้นว่า “แม่ครัว โบราณ” ออกมาประชันฝีมือท�ำกับข้าวให้ลูกๆ หลานๆ ได้ชิมกัน อย่างเอร็ดอร่อย พร้อมแบ่งเป็นโซนให้ได้เลือกช็อปกันตามใจชอบ ทั้ง 2 โซนด้วยกัน When visiting this market we could feel the simplicity and friendliness. Since it is the community market, vendors pay attention to quality of their goods that it should always be fresh, delicious and hygienic. This market has been in business for 5 years. Another highlight of this market is that it is the gathering of the elderly to show off their cooking skills for their descendants to deliciously enjoy. For an enjoyable shopping, the market is divided into 2 zones as follows

โซนที่ 1

เหมาะส�ำหรับคนชอบของฝาก ของทอดและขนมต่างๆ เช่น กล้วย และเผือกอบ ขนมบ้าบิน่ ขนมรังผึง้ ข้าวเกรียบหลากสี ขนมจาก ข้าวหมาก ขนมลูกจากลอยแก้ว ทีน่ ำ� มาท�ำสดๆ จากต้น ขนมไทยหลากชนิด และ ร้าน กล้วยทอดน้องแอล ที่คนแถวนั้นแอบกระซิบว่า บางช่วงแม่ค้าทอด กล้วยขายกันแทบไม่ทัน

The 1st Zone is for those who enjoy shopping for souvenirs, fried bits, traditional Thai snacks and desserts such as dried banana and taro, ‘baa bin’ (glutinous rice cake with coconut meat), Chinese style waffle, crispy crackers, ‘kanom jaak’(grilled nipa palm meat and glutinous rice flour wrapped in nipa palm leaves), fresh nipa palm fruits in light syrup, and other Thai delicacies. We recommend you try fried banana in batter at Nong Elle’s stall that the villagers secretly told us that fried banana here sold like hot cake.


54 Cover Story เรื่องจากปก

โซนที่ 2

จะเป็นในส่วนของกินจานเด็ด ทั้งก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น สูตรโบราณ ผัดไทย ข้าวผัดกะปิ ข้าวหมูแดง ขนมจีนน�้ำพริก ข้าวย�ำแหนมสด ขนมจีบ และน�้ำแข็งใสเย็นๆ ดับกระหาย ส่วนโซนอื่นก็จะมีเสื้อผ้า น�้ำ สมุนไพร เครือ่ งดืม่ ชนิดต่างๆ ไว้คอยต้อนรับแขกผูม้ าเยือนทัง้ หลาย นี่ เป็นแค่สว่ นหนึง่ ของอาหารเด็ดๆ ทีต่ ลาดแห่งนี้ ถ้าว่างๆ ก็ลองแวะเวียน ไปสัมผัสตลาดชุมชนแห่งนี้กันได้ เปิดบริการในวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.30-15.00 น. แนะน�ำว่าให้มาช่วงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.30-12.00 น. จะคึกคัก เป็นพิเศษ รับประทานอาหารกันแล้วอย่าลืมลองเดินแวะไปชมวิว สูด อากาศ ริมแม่นำ�้ เจ้าพระยาแบบใกล้ชดิ กันได้ ซึง่ อยูบ่ ริเวณด้านข้างวัด ติดกับแม่น�้ำเจ้าพระยา The 2nd Zone is dedicated to signature dishes be it ancient recipe noodle with casserole pork, ‘pad Thai’(fried rice noodle with bean curd, bean sprouts, preserved radish and grounded peanut), ‘kao pad kapi’ (fried rice with shrimp paste), ‘kao moo daeng’ (rice topped with BBQ pork and gravy), kanom jeen namprik’ (rice noodle in sweet curry sauce), ‘kao yum namsod’ (rice with salad of fermented pork), ‘kanom jeeb’ (dimsum) and shaved ice with syrup to quench your thirst. The other zone is allocated for selling clothing, herbal drinks and other drinks. The above is just a fraction of sumptuous menu available at this market. If you have spare time, should consider visiting this community market. The market opens every Saturdays and Sundays from 07.30 a.m. to 03.00 p.m. We would recommend you visit this market on Sunday from 07.30 a.m. to 12.00 noon when the market will be in full swing. After fill your stomach with delicious food, do not forget to take a stroll to the bank of Chao Phraya River by the side of the temple where you can inhale a full lung of fresh air from the river.


ร้านน่าชิม

กันยายน 2557 / September 2014

55

Recommended Stalls

1

Auntie Nom’s ร้านป้านอม แม่ครัวโบราณ

แม่ครัวโบราณ คือสมญานาม ของป้านอม แม่ครัว เก่าแก่ของชาวบางหัวเสือ เมื่อมีโอกาสได้แวะเวียนมา ต้องไม่พลาดที่จะเข้าไปลิ้มรส ไม่ว่าจะเป็น ข้าวผัดกะปิ ราดหน้า ข้าวหมูแดง ขนมจีนน�้ำพริก ที่ตักให้เต็มจาน แถมราคาก็ถูกแสนถูก โดยร้านจะตั้งอยู่ โซนอาหารตรง กลางตลาดสามารถมองเห็นได้ง่าย เปิดบริการตั้งแต่ 07.30 น. เป็นต้นไป

The authentic cook is the nickname of Auntie Nom who has been the skillful cook of Bang Huasua for quite a long time. Her signature dishes that should not be missed include ‘kao pad kapi’ (fried rice with shrimp paste), ‘rad naa’ (stir-fried noodle topped with marinated pork in thick gravy), ‘kao moo daeng’ (rice topped with BBQ pork and gravy), kanom jeen namprik’ (rice noodle in sweet curry sauce) that she gives big scoops to every plate and the price is very cheap. This stall is situated in the food zone in the center of the market which is easily noticeable and opens from 07.30 a.m onward.

2

Noodle with Stewed Pork ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น สูตรโบราณ

ด้วยความเปื่อยของหมู ที่ผ่านการตุ๋นด้วยกรรมวิธีเฉพาะ ที่ ได้รับการถ่ายทอดสูตรการท�ำมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ถือเป็นอีกหนึ่งร้าน ที่ต้องไม่พลาด เส้นเล็กหมูตุ๋น เป็นเมนูยอดนิยมของร้านนี้ ธรรมดา 30 พิเศษ 35 กับปริมาณที่อยู่ในชามก�ำลังพอเหมาะ ถือว่าราคาไม่ แพงเลยทีเดียว ร้านตั้งอยู่ด้านหน้าสุด ของโซนอาหาร ใครเดินผ่าน ไปมาต้องผ่านร้านนี้ทุกคน เปิดบริการตั้งแต่ 07.30 น. เป็นต้นไป

The pork is so tender because it was stewed with special procedure following the family recipe handed down from parents. This is another stall that should not be missed. The popular order is the small rice noodle with stewed pork. The price of an ordinary order is 30 Baht and special order at 35 Baht depending on the quantity of ingredients in each bowl. The stall is in the front of the food zone and opens from 07.30 a.m. onward.

3

Pad Thai At Wat Bang Hua Sua

ผัดไทย ตลาดริมน�้ำบางหัวเสือ

หนึง่ ในเมนูเด็ดคงหนีไม่พน้ “ผัดไทย” แต่ถา้ ใครมาลิม้ ลองทีต่ ลาด แห่งนีค้ งต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่ธรรมดา” ก็เพราะด้วยปริมาณ ที่ให้จนหลายคนกินแทบไม่หมด ทีแ่ ปลกก็คอื ร้านทัว่ ไปจะน�ำไข่ลงไปผัด กับเส้นจนเข้ากัน แต่ของทีร่ า้ นนี้ จะเป็นวิธกี ารน�ำกุง้ สดผสมกับไข่ แล้ว ทอดเหมือนไข่เจียว หลังจากนัน้ จะพักไว้กอ่ นแล้วจึงน�ำเส้นไปผัดให้เข้ากัน พร้อมกับน�ำไข่เจียวกุง้ สดวางโปะจนเต็มจาน เรียกว่าไม่เหมือนใครจริงๆ เมนูเด็ดๆ มีทงั้ ผัดไทยกุง้ สด ผัดไทยไข่เค็ม ร้านตัง้ อยูใ่ กล้ๆ กับก๋วยเตีย๋ ว หมูตนุ๋ สนนราคาอยูท่ ี่ 35-40 บาท เปิดบริการตัง้ แต่ 07.30 น. เป็นต้นไป

One of the signature dishes is unavoidably ‘Pad Thai’ that whoever has tried at this market will agree that it is not an ordinary ‘Pad Thai’. The difference is in the way the vendor fries the noodle. ‘Pad Thai ‘ vendors elsewhere will add egg to the noodles and stir fry with other condiments until well mixed. But, here the vendor will mix fresh prawns with egg batter and fry the mixture first, like making an omelet, and set aside. Then the noodle and other condiments will be fried together until well mixed, put on a plate and then top with the prawn omelet. The popular orders include Pad Thai with fresh prawns, Pad Thai with salted eggs. The stall is close to the stall selling noodle with stewed pork. The price is 35-40 Baht and the stall opens from 07.30 a.m. onward.


56 Cover Story เรื่องจากปก

มุมน่าแวะ Worth Visiting Corner

2

1

Wat Bang Huasua ไหว้พระที่วัดบางหัวเสือ

อิ่มอร่อยครบรสกันแล้ว ก่อนขับรถออกจากวัดลองแวะเข้าไป ไหว้พระที่วัดบางหัวเสือ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของอ�ำเภอพระประแดง เดิมเรียกว่า บางศีรษะเสือ อายุกว่า 240 ปี สร้างประมาณปี พ.ศ. 2300 มีสถานที่ส�ำคัญ เช่น หอพระไตรปิฎก พระอุโบสถที่ก่อสร้าง ด้วยเซรามิกทั้งหลังและจิตรกรรมฝาผนังภาพปูนปั้น 3 มิติ After filling up your stomach, before driving back you can drop in to pay homage to Buddha image at Wat Bang Huasua which is an old temple in Phra Pradaeng District. Formerly this village was called Bang Srisasua and aged about 240 years. It is assumed that the temple was built circa around 2300 B.E. (1757 A.D.) Important archaeological interests include Hall of Buddhist Scripture, the main chapel built in ceramics and the 3 dimension bas reliefs.

วัWatดบางหั วเสือ Bang Huasua เป็นวัดที่ส�ำคัญและเก่าแกของอ�ำเภอพระประแดง Old and important Temple of Phrapradang District

Sacred Buddha image พระพุทธรูปศักดิ์สิทธ์

นอกจากนีย้ งั สามารถไปกราบไหว้พระพุทธรูปศักดิส์ ทิ ธ์ ทีต่ งั้ อยู่ ภายในอาคารนอกพระอุโบสถ ซึ่งมีน�้ำหยดจากใต้พระหัตถ์อุปมาตร ตลอดเวลา เป็นทีอ่ ศั จรรย์จนชาวบ้านขนานนามพระพุทธรูปองค์นวี้ า่ “หลวงพ่อน�ำ้ มนต์ทพิ ย์” ต่างมาไหว้ขอพรและน�ำน�ำ้ มนต์กลับไปดืม่ และ อาบ เพือ่ ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เป็นการเสร็จสิน้ การมาเทีย่ ว ตลาดริมน�้ำวัดบางหัวเสือที่ได้ทั้งอิ่มท้อง และอิ่มเอมใจกลับบ้านไป Additionally, visitors can pay homage to the sacred Buddha image enshrined in a building outside the main chapel which has water dropping from the hand at all time. It is a miracle that made villagers named this Buddha image “Luang Poh Nammontip” (Buddha of holy water) that people will pray for luck and fortune and take the holy water back with them for worshiping or sipping or bathing to rid off the illness. This activity will conclude the visit to Wat Bang Huasua Market.


กันยายน 2557 / September 2014

ตลาดริมน้ำ�วัดบางหัวเสือ

Bang Hua Sua Market

ลุงสง ขนมบ้าบิ่น

Lung Song Thai Dessert

ป้านวยขนมจาก

Pa Nuy Thai Decsert

น้องเนย กล้วยอบ

Nong Noi Bake Banana

ข้าวแกง

Pa Nom Old Kitchen

ขนมหวาน Dessert

น้ำ�แข็งใสโบราณ

NON

Shared Ice

NON O

เครื่องดื่ม

Beverage

้า NO

ra

ป้านอมแม่ครัวโบราณ

ผัดไทย

Pat Thai Noodle

แม ่น้ำำ

ะยา ร พ เจา้

a Ch

h oP

ya

r iR ve

น้ำ�สมุนไพร

Herbal Juice

ร้านข ายเส ื้อผ

Rice and Curry

ก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรโบราณ

ศาลาริมน้ำ� Pavilion

Noodle

น้องแอลกล้วยทอด Nong Aew Deep-Fried Sliced Banana

ข้าวยำ�แหนมสด

Khao Yam Naem Sod

ของฝาก Souvenir

วัดบางหัวเสือ Wat Bang Hua Sua

ที่ตั้ง : ซอยเทศบาลสำ�โรงใต้ ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 0-2383-0198 การเดินทาง : ถ้ามาจากแยกบางนา ให้ ใช้ถนนสุขุมวิท ผ่านศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์สำ�โรง เมื่อถึงแยกไฟแดง ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนปู่เจ้าสมิงพราย ตรงไปสักระยะจึงเลี้ยวเข้าซอยเทศบาลสำ�โรงใต้ 9 เข้ามาเรื่อยๆ จนพบวัดบางหัวเสือ Location : Soi Tesaban Somrong Tai, Bang Hua Sua Subdistrict., Phra Pradaeng District, Samut Prakan 0-2383-1198

57



3 Style Tourism Market

SeaFood Market ตลาดอาหารทะเล ริมทะเลปากอ่าวไทยสมุทรปราการ พืน้ เพอาชีพดัง้ เดิมของชาวบ้านในละแวกนัน้ คือการออกเรือประมงหาปลา ตามน่านน�้ำตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ เลี้ยงชีพจนปัจจุบัน ซึ่งรวมความอุดมสมบูรณ์ ทั้งแหล่ง กุ้ง หอย ปู และปลาน้อยใหญ่ ส่งตรงยังท่ารับซื้อในหลายพื้นที่ของจังหวัด รวมไปถึงน�ำออกขายสู่ย่านตลาดใกล้เคียง คนปากน�้ำจึงมีแหล่งอาหาร ทะเลสดๆให้เลือกซื้อแบบใกล้ชิดหลายแห่ง ไม่ต้องขวนขวายไปตามที่ต่างๆ

“คลองด่าน” แหล่งเลี้ยงหอยแมลงภู่ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ด้วยภูมิปัญญาการเลี้ยงหอยแมลงภู่กลางทะเล เรือประมง ของคนพื้นถิ่นต่างน�ำหอยแมลงภู่กองมหึมาล่องเรือน�ำเข้ามาขายยังตลาดคลองด่านไม่เว้นแต่ละวัน ถือเป็นเสน่ห์ของ วิถีชีวิตที่ยังพบเห็นได้ในปัจจุบัน “ตลาดปากน�้ำ” สุดยอดแหล่งรวมของกิน เที่ยว ช็อป ได้ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะถ้าใครต้องการ อาหารทะเล สดๆ ต่างต้องบึ่งรถมาเลือกซื้อแต่เช้าตรู่ เพราะด้วยความที่ติดกับทะเลอ่าวไทย ท�ำให้เรือประมงของชาวบ้านแถวนี้น�ำของ สดๆ ส่งตรงในทุกๆ วัน Samut Prakan is a coastal province on the Gulf of Thailand where the main occupation of its residents has been fishery since their forefathers’ time until presently. Samut Prakan is the gathering point abundant with marine catches be it prawns, shellfishes, crabs and variety of fishes. Every day fresh catches will be delivered direct to many fishing quays in the province including markets in the nearby vicinity. Residents of Paknam are, therefore, fortunate to have fresh seafood markets close at hand that they don’t have to travel far to get seafood. “Klongdan” is the largest area that nurtures cockles

in Thailand. They adopt the local wisdom to nurture cockles in the sea. Every day local fishing boats bring mountains of cockles to Klongdan Market. It is a charming way of life that we still can find these days. ‘Paknam Market” is the best gathering place of all fresh foods, delicacies and consumer products that visitors can shop almost on 24-hour basis particularly those who want to get the best share of fresh seafood should arrive very early in the morning as it is close to the sea at the Gulf of Thailand and fishing boats bring in fresh catches every day.


60 Cover Story เรื่องจฟากปก


กันยายน 2557 / September 2014

61

Fresh SeaFood Shopping Place

Klong Darn

Market เที่ยวตลาดคลองด่าน

เดินช็อปอาหารทะเลสดๆ

ลองด่าน พืน้ ทีป่ ระมงชายฝัง่ ริมอ่าวไทย ทางทิศ ตะวันออกของสมุทรปราการ แหล่งชุมนุมของกุง้ หอย ปู ปลา ทุกๆ เช้าตรู่ จะมีเรือประมงของ ชาวบ้าน น�ำอาหารทะเลสดๆ หลากหลายชนิด เทียบท่า บริเวณตลาด เรือ่ งความสดใหม่คงไม่ตอ้ งพูดถึง ทีส่ ำ� คัญ อาหารบางชนิดราคาถูกกว่าทีอ่ นื่ ๆ โดยเฉพาะหอยแครง หอยแมลงภู่ ที่โด่งดังขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย Klongdan is situated in the fishing area of the Gulf of Thailand on the eastern part of Samut Prakan where shrimps, prawns, shellfishes, crabs or fishes are gathering in abundance. Early every morning, fishermen will bring their boats loaded with diverse fresh captures to the market pier. Freshness is not a question here. The important point is that the price is cheaper than elsewhere particularly cockles and mussels that are reputable their freshness.

Mussels Nurturing Area

The Largest in Thailand

แหล่งเลี้ยงหอยแมลงภู่ ใหญ่สุดในเมืองไทย ลึกออกไปในทะเลประมาณ 3-4 กิโลเมตร ด้วยภูมปิ ญ ั ญาของชาวบ้าน จะสร้างโป๊ะไม้ไผ่ไว้กลางทะเล เพือ่ ให้หอยแมลงภูเ่ กาะจับอาศัยตามธรรมชาติ มันจะกินลูกกุง้ ลูกปลา แมลงแพลงก์ตอน หลังจากนัน้ 3 เดือนจะสามารถจับ หอยแมลงภูเ่ ข้ามาขายทีต่ ลาดคลองด่านได้แล้ว คลองด่านจึงเป็นแหล่งเลีย้ ง หอยแมลงภูท่ ี่ใหญ่ทสี่ ดุ ในประเทศไทย ใช้พนื้ ทีป่ ระมาณสองหมืน่ ไร่เลยทีเดียว นอกจากหอยแมลงภูแ่ ล้ว เรือ่ งความอร่อยของหอยแครง ทีน่ ข่ี นึ้ ชือ่ ลือชา ก็ เพราะบริเวณนีเ้ ป็นพืน้ ทีช่ ายเลนท�ำให้เนือ้ หอยแตกต่างจากหอยแครงที่ได้จาก พืน้ ทราย แม้จะตัวไม่ใหญ่เท่าหอยสุราษฎร์ แต่เรือ่ งรสชาติกอ็ ร่อยไม่แพ้ ใคร ทีส่ ำ� คัญในตัวหอยจะไม่มเี ม็ดทรายเข้าไปปะปนให้กวนใจเวลารับประทานกันอีก Fishermen apply the local wisdom in building stakes from bamboo in the sea about 3 to 4 km. from the shore where mussels will naturally cling to the bamboo posts. Those mussels will take small shrimps, fishes, insects and plankton as their food. After three months, those mussels are ready for sell at Klongdan Market. Thus, Klongdan becomes the largest mussels nurturing area in Thailand, approximately 20,000 rais (6,700 acres). Besides mussels, cockles are also renowned for the delicious meat as this area is a mud flat therefore cockles from this area differ from those nurtured on the sand based area. Though the size is not as big as those from Surat Thani, the taste is second to none. Importantly, there is no sandy element in the meat while eating.


62 Cover Story เรื่องจากปก


กันยายน 2557 / September 2014

63

บรรยากาศยามเช้าบริเวณตลาดคลองด่าน The morning in Klong Darn market


64 Cover Story เรื่องจากปก

Seafood Market ตลาดอาหารทะเล

ตลาดคลองด่านเปิดบริการทุกวันตัง้ แต่เวลา ตี 4 จนถึง 1 ทุ่ม ยิ่งช่วงเช้ามืดจะคึกคักไปด้วยกองทัพอาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา ส่งตรงถึงตลาดคลองด่านเป็นแห่งแรก ก่อนที่บางส่วน จะทยอยน�ำส่งขายทีต่ ลาดปากน�ำ้ และตลาดมหาชัย จึงท�ำให้ทนี่ ี่ อาหารทะเลจะสดและบางชนิดมีราคาถูกกว่าที่อื่นหลายเท่าตัว บรรดาผู้ที่หลงใหลอาหารทะเลบางคน ต่างจับจองอาหาร ทะเลสดๆ จากหน้าโป๊ะรับซื้อ บางคนไม่ชอบความวุ่นวาย เดิน เลือกตามแผงขายอาหารทะเลหลาย 10 แผง พ่อค้าแม่ค้าต่าง ส่งเสียงเชื้อเชิญตามสไตล์แต่ละคน จนดังระงมไปทั่ว มีให้เห็น จนชินตา แต่ถา้ ใครชอบกินกุง้ ก็มีให้เลือกทัง้ กุง้ ทะเล กุง้ แชบ๊วยทะเล ตัวโตๆ กุ้งแม่น�้ำ ส่วนกั้งทะเล หอยหวาน ปูม้าไข่ หอยเชลล์ ปลากระเบน ปลาหมึก ก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน แต่ก็ต้องสะดุดตา กับลูกปลาฉลามตัวก�ำลังพอเหมาะ เจ๊เจ้าของร้านบอกว่านานๆ จะมีสกั ครัง้ วางขายแป๊บเดียวก็หมดอย่างรวดเร็ว ซึง่ จะน�ำไปท�ำ เมนูผัดเผ็ดปลาฉลาม หลังจากเดินเลือกซื้ออาหารทะเลแล้ว ที่ นี่ยังมีของแห้งที่ท�ำจากสัตว์ทะเลไว้คอยบริการอีกหลายร้าน ไม่ ว่าจะเป็น ปลาหมึกแห้ง ปลาทูหอม หอยแมลงภู่ตากแห้ง และ อีกมากมาย ตลาดแห่งนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบอาหารทะเลสดๆ ส่งตรงจากเรือประมง ที่ส�ำคัญราคาไม่แพง Klongdan Market opens everyday from 4.00 a.m. to 7.00 p.m. Very early in the morning fresh seafood parades to Klongdan Market first before being resold to Paknam Market or Mahachai Market which serve as a reference that seafood here is fresher and some kinds of seafood are cheaper than in other markets by many f olds. Some seafood lovers like to shop for their fresh products right at the market pier. However, those who do not like the hurly-burly will shop from tens of stalls where vendors call out for customers in their own style. For those who love prawns, there are lobsters, banana shrimps, or even river prawns. Rock lobsters, spotted Babylon, blue crabs with roes, scallops, stingrays and squids are very popular as well. The most striking product is a baby shark of the right size that the vendor tending the stall told us that it is a rare catch that once available it will be gone quickly. Baby shark is popular for making hot and spicy stir-fried dish. After shopping for the fresh products, here there are many shops selling dried seafood be it dried squid, salted mackerels, dried mussels and many more. This market is a must for lovers of fresh seafood directly from the fishing boats and the most important is that the price is very reasonably.


กันยายน 2557 / September 2014

1

65

Jae Joy’s Fresh Seafood เริ่มกันที่ร้านเจ๊จอย อาหารทะเลสด

ร้านนีเ้ รียกว่า เปิดกันแบบหามรุง่ หามค�ำ่ ตัง้ แต่ 05.00-19.00 น. แขกไปใครมาถ้าชอบกินปู ต้องไม่พลาดร้านนี้ มีให้เลือกตัง้ แต่ปเู นือ้ ปู ทะเล ปูไข่ ตัวโตๆ มีให้เลือกมากมาย นอกจากนีก้ ย็ งั มีปลาหมึกให้เลือก อีกหลายขนาดทีส่ ำ� คัญราคาไม่แพง ตัง้ อยูฝ่ ง่ั ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ บริเวณข้างร้านทองเยาวราช โทรศัพท์ : 09-3969-2925

Opens almost on 24-hour basis from 05.00 a.m. to 7.00 p.m. Crab lovers should not miss this stall as there are choices of crabs with intact meats, crabs with roes, big black crabs. Additionally, there are squids and octopus of various sizes to suit your choice. The price is very reasonable. Located opposite Bangkok Bank near Yaowaraj Goldsmith Tel: 09-3969-2925

2

Jae Orn’s ร้านเจ๊อร

ร้านนี้ก็ ไม่แพ้กัน เปิดตั้งแต่ 05.00 น. ไล่ยาวไปจนบ่ายแก่ๆ อาหารทะเลเด็ดๆ ของร้านนี้ก็มี ปลากระเบน หลากไซต์ ที่มีให้เลือก ไม่เว้นแต่ละวัน หรือจะเป็นหอยหวาน ปูม้าไข่ ปลาหมึก กั้งทะเล ยิ่ง ช่วงเสาร์-อาทิตย์ จะขายดีเป็นพิเศษ เจ๊อรบอกว่าต้องมาแต่เช้าๆ ไม่ อย่างนั้นอดได้อาหารทะเลสดๆ กลับบ้านไปแน่

ตัง้ อยูร่ มิ ถนนข้างทางขึน้ สะพานคลองด่าน โทรศัพท์ : 08-5056-1172

This one opens from 05.00 a.m. until late in the afternoon. The highlight seafood of this stall available on daily basis is stingray of various sizes or be it spotted Babylon, blue crabs with roes, squid, rock lobsters. During weekend, seafood at this stall is sold like hot cake that you must arrive early or else you will, for sure, miss the opportunity to take fresh seafood back home. Located by the road near the foot of the bridge over Klongdan Canal Tel: 08-5056-1172

ร้านน่าชิม Recommended Stalls

หลังจากเดินวนซ้าย วนขวา พูดคุยกับพ่อค้า แม่ค้ามาตลอดทาง เกือบทุกร้าน เราขอแนะน�ำร้านขายอาหารทะเล 3 สไตล์ มาให้เลือก ตามใจชอบ เผื่อว่าวันไหนมีโอกาสจะได้แวะเวียนไปอุดหนุนกัน After walking round and round the market chatting with almost every vendors, we would like to recommend some stalls that if you happen to visit this market, you can drop by to shop for fresh seafood.

3

Jae Nongs Seafood ร้านเจ๊น้อง อาหารทะเลสด-แห้ง

เปิดบริการตัง้ แต่ 05.00 -18.00 น. ใครชอบทานหอยแครง หอย แมลงภูต่ อ้ งไม่พลาดร้านนี้ วางขายตัง้ แต่เช้ายันเย็น แถมราคาก็ยอ่ มเยา ทีส่ ำ� คัญนอกจากจะขายอาหารทะเลสดๆ แล้ว ร้านนีย้ งั มีอาหารทะเลแห้ง จ�ำหน่าย ไม่วา่ จะเป็น ปลาหมึกแห้ง กุง้ แห้ง ปลาทูหอม และชนิดอืน่ ๆ ทีส่ ำ� คัญหอยแมลงภูต่ ากแห้งทีน่ ถี่ อื ว่าเป็นสินค้าขายดี จนพ่อค้า แม่คา้ ยังกว้านซือ้ ไปขายยังตลาดอาหารทะเลแถวจังหวัดระยองเลยทีเดียว ตัง้ อยูบ่ ริเวณทางเข้าตลาด ตรงทางกลับรถใต้สะพาน โทรศัพท์ : 08-1687-8391

Opens from 05.00 a.m.- 06.00 p.m. Those who like mussels and cockles should not miss this stall that opens from dawn until dusk. Apart from fresh seafood, dried seafood is also available such as dried squid, dried shrimps, salted mackerels and etc. Here, dried mussel is considered one of the bestsellers as other vendors always come to buy them for reselling in Rayong seafood market.

Located by the entrance to the market, near the U-turn under the bridge Tel: 08-1687-8391


66 Cover Story

มุมน่าแวะ เรื่องจากปก

Worth Visiting Corner

หลังจากเดินเลือกซื้ออาหารทะเลกันเสร็จแล้ว แวะพักสักหน่อย ก่อนกลับ เข้าไปที่วัดมงคลโคธาวาส สักการะขอพรหลวงพ่อปาน พระเกจิอาจารย์ชอื่ ดังในย่านนี้ ก่อนออกเดินทางเพือ่ ความเป็นสิรมิ งคล After shopping for seafood products, make a stop at Wat Mongkol Katawas to pay homage to the image of Luang Poh Pan, a well respected grand master in this area, praying for luck before going back home.

Wat Mongkol Kotawas

วัดมงคลโคธาวาส สักการะหลวงพ่อปาน ตัง้ อยูใ่ นบริเวณตลาดคลองด่าน เดิมมีชอื่ ว่า “วัดบางเหีย้ นอก” เพราะพืน้ ทีเ่ ดิมเป็นแหล่งชุกชุมของ กุง้ หอย ปู ปลา มาอาศัยและ วางไข่ จึงมีตวั “เหีย้ ” จ�ำนวนมากมาดักกินสัตว์เหล่านัน้ เป็นอาหาร จึงมีชอื่ เดิมว่า “บางเหีย้ ” ต่อมาเมือ่ ปี พ.ศ.2452 พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จมาทอดพระเนตรประตู กัน้ และระบายน�ำ้ ในแม่นำ�้ บางเหีย้ จึงได้พระราชทานชือ่ เพือ่ เป็นมงคล แก่ชาวบางเหีย้ ว่า “คลองด่าน” และพระองค์ยงั ได้พระราชทานนาม วัดบางเหีย้ ใหม่วา่ “วัดมงคลโคธาวาส” วัดแห่งนีม้ เี กจิอาจารย์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 นามว่า หลวงพ่อปาน เหล่าเซียนพระทัง้ หลายจะรูด้ ถี งึ พุทธานุภาพและอิทธิฤทธิข์ องวัตถุมงคล ทีห่ ลวงพ่อปานได้ปลุกเสกไว้จำ� นวนมาก จนกลายเป็นวัดส�ำคัญของ อ�ำเภอบางบ่อในปัจจุบนั หลังจากกราบไหว้ขอพรกันแล้ว ถ้ายังมีเวลา ลองเดินออกไปบริเวณด้านหน้าของวัด ซึง่ หันหน้าเข้าสูค่ ลองด่าน ยังเป็น สถานทีท่ เี่ หมาะส�ำหรับการนัง่ พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย

หลวงพ่อปาน พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เป็นที่ เคารพและศรัทธาของชาวคลอง ด่าน รวมทัง้ ชาวสมุทรปราการ และใกล้เคียง Loung Poh Parn Be famous monk as The respect and trust of people

This temple is situated in the Klongdan Market. Formerly it was called “Wat Bang Hia Nok” because the area was plentiful with shellfishes, prawn, shrimps, crabs and fishes and water monitors (in Thai called ‘Hia’) were also living in abundant in the area taking those marine animals as their prey. Thus became the name of the village as “Bang Hia”. Subsequently, in 2452 B.E. (1909 A.D.) King Rama V visited the area to inspect the floodgate and irrigation system of Bang Hia River. He then gave an auspicious name to the village of Bang Hia as ‘Klongdan’ and he also gave the name to the temple as ‘Wat mongkol Kotawas’. In the reign of King Rama V, there was a grand master at this temple named Luang Poh Pan. The amulets experts are well aware of the holy power of the amulets consecrated by Luang Poh Pan that make this temple an important temple in Bang Bo until the present days. After paying homage to the image and praying for luck, if time permits, take a walk to the back of the temple that faces the canal, it is a place worth for taking a leisure rest.


กันยายน 2557 / September 2014

6767

ตลาดคลองด่าน

Klong Dan Market

Bo R

d.

ร้านเจ้จอย อาหารทะเลสด

วัดมงคลโคธาวาส Wat Mongkol Kothawas

Ban g

Jae Joy Seafood

ld r out e) -

ร้านเจ้น้อง อาหารทะเลสด-แห้ง

อ่ S ukh um vit (O

Jae Nong Seafood

Jae On Seafood

ถ .ส ุขมุ วทิ สาย เ

คลองด ่าน K long

n Da Sซ.หลวงพ

ธนาคารออมสิน Government Saving Bank

ก่าบา งบ

ร้านเจ้อร อาหารทะเล

oi L

uan ่อปานส g Po าย1 r Pa ฝั่งเ rn1 หนือ (No rth)

ซ.หล Soi L วงพ่อปา uang นสาย Por 1 ฝั่งใ Parn ต้ 1 (S outh )

ถ .ส ุขุมว ิทส ายเ ก

่า-บ

างป ู(

Old r o

ute) -

Ban gP uR

d.

โรงน้ำ�แข็ง Icehouse

คลอ ง ด ่า นK

วัดสร่างโศก Wat Sang sok

ที่ตั้ง : บริเวณริมคลองด่าน หมู่ที่11 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ การเดินทาง : ใช้ถนนสุขุมวิทสายเก่า ผ่านสถานตากอากาศบางปูตรงมาเรื่อยๆ จนข้ามสะพาน คลองด่านสังเกตด้านซ้ายมือจะพบตลาด Location : Riveside Klong Dan Moo.11, Klong Dan Subdistrict, Bang Bo District., Samut Prakan

lo n g

ธนาคารกรุงเทพ Bangkok Bank

D an


68 Cover Story เรื่องจากปก


กันยายน 2557 / Septembere 2014

69

Seafood Market Close to Bangkok

Paknam Market ตลาดปากน�้ำ แหล่งซีฟู้ด ใกล้กรุงฯ

ลาดเก่าแก่คเู่ มืองปากน�ำ้ เป็นแหล่งรวมของกิน เทีย่ ว ช็อป และบรรดาสุดยอดร้านอาหาร ของฝาก ทัง้ เก่าและใหม่ ไว้ ใน ทีเ่ ดียว จึงเป็นตลาดทีค่ รองใจชาวสมุทรปราการมาจนถึงทุกวัน นี้ โดยเฉพาะถ้านึกถึงอาหารทะเล “ตลาดปากน�ำ้ ” คงเป็นทางเลือกล�ำ ดับต้นๆ ทีท่ กุ คนต้องนึกถึง An ancient market of Paknam is the place where visitors can enjoy shopping variety of fresh foods including many eateries, souvenirs both old and new, etc. in just one place. It is the popular market for residents of Paknam at all time particularly if you think of fresh seafood Paknam Market is at the top of the list that everybody will think of.


70 Cover Story เรื่องจากปก

Shopping for Seafood

in the Morning

เดินเลือกอาหารทะเลยามเช้า ตลาดปากน�้ำ ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวไทย ขึ้นชื่อ เรื่องอาหารทะเลไม่แพ้ที่ใด เมื่อถึงเวลาหลังเที่ยงคืน จะเริ่มมีเรือประมงเข้าเทียบท่า หนุ่มตังเกรูปร่างก�ำย�ำ ต่างช่วยกันยก เข็นอาหารสดๆ ออกจากเรือ พร้อมส่ง ตรงถึงร้านค้าหลากหลายชนิด ตลาดอาหารทะเลจึง เปิดคอยต้อนรับผู้ที่หลงใหลในอาหารซีฟู้ดตั้งแต่เวลา 01.00-19.00 น. ยิง่ ช่วงเทศกาลส�ำคัญๆ ทีแ่ ห่งนีจ้ ะเปิด บริการ 24 ชั่วโมงกันเลย ช่วงเวลาตี 4.30 น. เป็นต้นไป แถวนี้จะเริ่ม พลุกพล่านไปด้วยบรรดาผู้คนที่มาเลือกซื้อ กุ้งทะเล กุ้ง แม่น�้ำตัวโตๆ หอยเชลล์ หอยหวาน ปลาเก๋า ปลาทะเล หลากหลายสายพันธุ์ ปูมา้ ไข่ ปูทะเลก้ามโตๆ โดยเฉพาะ ผูท้ ชี่ นื่ ชอบการกินปลาหมึก ต้องไม่พลาดเพราะเป็นแหล่ง รวมปลาหมึกกว่า 10 สายพันธุ์ ทัง้ ไทยและเทศ ได้คดั แยก ส่วนต่างๆ ให้เลือกซื้อไปย่าง ย�ำ ตามใจชอบอีกกว่า 30 ชนิด เรียกว่ามาแล้วไม่ผดิ หวังแน่นอน แต่ถา้ ใครมาแล้ว กลัวจะเลือกไม่ถกู เราขอแนะน�ำร้านขายปลาหมึกที่ใครๆ มาย่านนี้ต้องไม่พลาดที่จะแวะมาอุดหนุน Paknam Market is located near the coast of the Gulf of Thailand and is famous for fresh seafood. Every day after midnight when the fishing boats come to the pier, robust fishermen will carry their diverse fresh catches from the boats and deliver them to the stalls. The fresh seafood market opens from 01.00 a.m.-07.00 p.m. During important festivals, this market opens on 24-hour basis. Around 4.30 a.m. onward, the market will be quite hurly-burly with people coming to select the best products be it prawns, big river prawns, scallops, spotted babylon, grouper or other diverse fishes from the sea, crabs with roes, black crabs with gigantic claws, etc. Those who love squids or octopus should not miss shopping here because there are more than 10 species of squids, both Thai and foreign, in whole or in parts for buyers to choose to their satisfaction. Seafood shoppers will not be disappointed. But if you want to buy but are not sure how to select the best, we would like to recommend a few stalls selling squids that shoppers should not miss.


กันยายน 2557 / September 2014

Tong Paknam

ร้านต๋อง ปากน้ำ�

Ko-Iang Paknam ร้านโก๊ะ-เอียง ปากน้ำ�

ตัง้ อยู่ใจกลางตลาด เมือ่ เดินเข้ามาสามารถสังเกต เห็นได้ชดั เจน เพราะต้องมาสะดุดตากับแผงปลาหมึกอัน มหึมา เต็มพรึบไปด้วยหมึกกว่า 10 ชนิด เจ๊เจ้าของร้าน เล่าให้ฟงั ว่า จะขายเฉพาะปลาหมึกเท่านัน้ ซึง่ ทุกเช้าจะ มีเรือประมงมาส่งถึงร้าน ก่อนแช่แข็งแล้วน�ำมาขายแบบ สดๆ ทุกวัน เช่นหมึกกล้วย หมึกสาย หมึกกระดอง หมึก หอม หมึกไข่ นอกจากนี้เจ๊เจ้าของร้านยังบอกเทคนิคใน การดูปลาหมึกอีกว่า ให้ดูที่สี ถ้าตัวไหนสีออกใสๆ ขาวๆ จะเป็นหมึกไทย แต่ถา้ ตัวไหนสีตวั ออกเข้มๆ ด�ำๆ ฟันธง ไปได้เลยว่าเป็นปลาหมึกต่างประเทศแน่นอน ถ้าใคร รู้อย่างนี่แล้วก็สามารถแวะไปอุดหนุนกันได้ ซึ่งร้านจะ เปิดทุกวันตัง้ แต่เวลา 01.00-19.00 น. หรือจะโทรไปสัง่ ซื้อล่วงหน้ากันได้ที่ 08-1699-8863 , 08-6574-6051 Situated in the center of the market, when you come inside you can easily notice this stall with huge display of more than 10 species of squid. The owner told us that every morning the fishermen will deliver the fresh squids to the stall that she will freeze them and sell them fresh day by day. For example, squids sold at this stall include various species of squids and octopus. Moreover, the owner also told us the technique how to identify the origin of squids that the ones that look white and quite transparent should be Thai breed but the ones that look darker are definitely the foreign breed. This stall opens every day from 01.00 a.m. to 07.00 p.m. or you can order in advance at 08-1699-8863, 08-6574-6051.

ตัง้ อยูต่ ดิ กับร้านโก๊ะ-เอียง ปากน�ำ้ ถึงแม้จะมีปลาหมึก ให้เลือกซือ้ ไม่มากเหมือนร้านก่อน แต่กค็ ดั สรรปลาหมึกยอด นิยมไว้ครบถ้วน โดยเฉพาะถ้าใครมาเลือกซือ้ ปลาหมึกร้านนี้ เขามีบริการขายน�้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติเด็ด กลับไปรับประทาน พร้อมๆ กัน แต่ถ้าใครมาซื้ออาหารทะเลที่นี่ก็ ไม่ต้องกลัวว่า รถจะเปรอะน�้ำจากอาหารทะเล เพราะเขามีบริการใส่กล่อง โฟม อัดน�้ำแข็งเย็นๆ ให้แบบฟรีๆ สามารถโทรสอบถามกัน ได้ที่ 08-4665-8229 ช่วงเช้านอกจากความคึกคักของตลาดอาหารทะเลแล้ว บริเวณรอบนอกในตอนเช้าตรู่ ก็ยงั พลุกพล่านไปด้วยผูค้ นทีม่ า จับจ่ายซื้อของทั้งผักสดและผลไม้ บรรดาร้านอาหาร-ของ ฝาก ทั้งเก่าและใหม่ ต่างรูดม่านเปิดประตู เตรียมข้าวของ พร้อมขาย เรียกได้ว่าบริเวณย่านนี้ต่างรวมสุดยอดร้านเด่น ร้านดัง เก่าแก่ไว้มากมายเลยทีเดียว This stall is next to Ko-Iang Paknam. Though this stall does not have as large selection as the previous one but is also loaded with all types of squid. For those who buy squids from this stall, spicy seafood sauce will be provided free of charge and buyers do not have to worry about fishy spills in the car as they will pack the seafood in ice-packed foam boxes, also free of charge. Call 08-4665-8229 for more information. In the morning, apart from the busy seafood market, the outer part of the market is also busy with people come to shop for the day be it for fresh vegetables or fruits. Shops selling foods and souvenirs are opening their doors for business early in the morning as well. It can be said that this area gathers many famous stores and eateries.

71


72 Cover Story

ร้านน่าชิม

เรื่องจากปก

Recommended Stalls

เดินรอบตลาด แวะร้านน่าชิม กินอาหารอร่อย

นอกจากอาหารทะเลจะสร้างสีสนั ให้กบั ตลาดปากน�ำ้ แล้ว ทีแ่ ห่งนีย้ งั เป็น แหล่งรวมของกิน ทีก่ ารันตีเรือ่ งรสชาติมาอย่างยาวนาน เราลองไปตระเวนดู กันว่ามีรา้ นอาหารร้านไหนทีน่ า่ สนใจ เมือ่ ไปปากน�ำ้ แล้ว “ต้องไม่พลาด” Not only seafood that makes Paknam Market colourful, eateries are also famous with guaranteed taste for a long time. We will take a look which restaurants that visitors should not miss trying when visiting Paknam

1

Hainanese Chicken Rice ข้าวมันไก่ตอนเฮียจก

สูตรการท�ำถูกถ่ายทอดจากคนจีนไหหล�ำแท้ๆ จึงท�ำให้มรี สชาติ ตามแบบฉบับดั้งเดิม ไก่ที่ร้านนี้จะเนื้อนุ่ม ไม่เละ เมื่อรับประทาน พร้อมกับน�้ำจิ้มรสชาติ เปรี้ยว เค็ม หวาน จึงเข้ากันได้ดี และที่ เป็นหัวใจส�ำคัญก็คอื จะใช้เตาถ่านหุงข้าว เพราะจะได้ขา้ วทีห่ อมสุก ทั่วทุกเม็ด และข้าวจะไม่มันมาก ท�ำให้เวลารับประทานจะไม่รู้สึก เลีย่ น รูอ้ ย่างนีแ้ ล้วก็สามารถแวะเวียนไปลิม้ ลองความอร่อยกันได้ ร้านเปิดเวลา 6.30-15.00 น. อยู่ตรงบริเวณวงเวียนศาลหลักเมือง โทรศัพท์ : 08-6516-7351

The recipe has been passed on from genuine Hainanese chef. Therefore, the taste is authentically Hainanese. Chicken meat is tender and going well with the sauce that has the perfect combination of sour, salty and sweet tastes. The core importance is that they used charcoal in cooking rice. Thus, the rice will have good smell and well cooked and not too oily. The shop opens from 6.30 a.m. to 3.00 p.m. and is situated near the City Pillar Circle. Tel. 08-6516-7351

2

Fish Maw Soup กระเพาะปลาเฮียหนุ่ย

กระเพาะปลาอาแป๊ะหัวล้าน คือสมญานามทีไ่ ด้มา ตัง้ แต่ พ.ศ. 2493 หรือประมาณ 64 ปีกอ่ น ของอาเตีย่ ซึง่ เฮียหนุย่ ผูส้ บื ทอดต�ำนานความอร่อยรุน่ ที่ 2 เล่าให้ ฟังว่าตอนอาเตีย่ อยูท่ ปี่ ระเทศจีน ได้เคยท�ำกระเพาะ ปลาขายมาก่อน หลังจากอพยพมาอยูท่ เี่ มืองปากน�ำ้ จึง น�ำความรูน้ นั้ มาประกอบอาชีพ ซึง่ ถือได้วา่ เป็นเจ้าแรกทีข่ าย กระเพาะปลาในสมัยนัน้ อยูท่ รี่ าคาชามละ 50 สตางค์ จะท�ำใส่ หม้อทองเหลือง หาบใส่บา่ เดินเร่ขาย ด้วยความทีเ่ ป็นต้นต�ำรับ คง ไม่ตอ้ งบรรยายเรือ่ งคุณภาพและรสชาติ จึงท�ำให้ปจั จุบนั นีย้ งั มีแขกเจ้าประจ�ำ และหน้าใหม่สบั เปลีย่ นเข้ามาลิม้ ลองอย่างไม่ขาดสาย ตั้งอยู่บริเวณถนนประโคนชัย ใกล้ๆ กับตลาดปากน�้ำ โทรศัพท์ : 08-4758-7558, 08-8222-9007 Bald head papa’s fish maw soup was the nickname people gave to Brother Nui’s father since 2493 B.E. (1950 A.D.) or 64 years ago. At present Brother Nui is the second generation. He told us that when his papa was living in mainland China he used to sell fish maw soup. Therefore when he migrated to Paknam, he started selling fish maw soup as his main occupation and he was the first to introduce fish maw soup to Paknam community. By that time, he sold the soup at only 50 stangs a bowl. Every day he would make the soup in a large brass pot and carry on balancing pole selling on the street. As this is the authentic recipe, there is no question about how delicious the soup is as witnessed by the throng of regular diners and new faces that frequent this shop.

The fish maw soup shop is by Prakonechai Road close to Paknam Market. Tel. 08-4758-7558,08-8222-9007


กันยายน 2557 / September 2014

3

73

Noodle with Fish Balls

แป๊ะหงอก ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา

ร้านแห่งนีก้ ารันตีเรือ่ งความอร่อยตัง้ แต่รนุ่ บรรพบุรษุ โดยเฉพาะลูกชิ้นปลาและน�้ำซุปที่เป็นสูตรดั้งเดิม ความ พิเศษอยู่ที่วัตถุดิบ เกี๊ยวปลา เกี๊ยวหมู และลูกชิ้นปลาล้วน ท�ำเองทั้งหมดตามสูตรดั้งเดิม อาหารจานเด็ดคงหนีไม่พ้น ก๋วยเตี๋ยวหมูลูกชิ้นปลา หรือจะเป็นเกี๊ยวปลาเปล่าๆ ก็ ได้ รสชาติไปอีกแบบ หมูเด้งมาพร้อมกับหมูแดงชิน้ โต จึงท�ำให้ เป็นอีกหนึ่งร้านที่ครองใจชาวปากน�้ำ

ตัง้ อยูต่ รงถนนกายสิทธิ์ บริเวณตลาดปากน�ำ้ เปิดบริการตัง้ แต่เวลา 08.00-17.00 น. โทรศัพท์ : 02-395-3591 The good taste of this noodle shop has been guaranteed since their ancestors’ time particularly for the fish balls and the soup which are both the authentic family recipe. The specialty lies on the raw ingredients. Fish wontons, pork wontons or fish balls are all homemade following the original recipe. The signature dish is unavoidably the noodle with pork and fish balls or fish wontons. Marinated minced pork and big chunks of BBQ pork add to the list that make this noodle shop popular with Paknam residents.

4

Coffee Club ลุงเป็ด สภากาแฟ

ร้านกาแฟดั้งเดิมอายุกว่าร้อยปี เปิดให้กับบรรดานักดื่มกาแฟทั้งหลายได้ แวะเวียนมาใช้บริการไม่ขาดสาย แม้ไม่มีชื่อร้านแขวนไว้ แต่เกียรติศักดิ์และความ ผูกพันจึงสามารถท�ำให้ผู้คนจดจ�ำได้เป็นอย่างดี ด้วยรสชาติความเป็นกาแฟโบราณ รับประทานพร้อมไข่ลวกสูตรพิเศษจากปัตตานี แซวการเมือง เล่นหมากรุก หมากฮอส ถือเป็นเสน่ห์ที่ชวนหลงใหล ไม่เว้นแม้แต่คนรุ่นใหม่ที่คลั่งไคล้กาแฟโบราณ

The shop is situated on Gayasit Road in the vicinity of Paknam Market. Open from 08.00 a.m. to 5.00 p.m. Tel. 02-395-3591

ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดกลางวรวิหาร ไม่ใกล้ไม่ไกลบริเวณตลาดปากน�้ำ คอยเสิร์ฟ ความอร่อยตั้งแต่เวลา 05.00-17.00 น. Traditional coffee shop aged over a century that its door has been opened for continuous throng of customers to enjoy the traditional coffee even though there has never been a nameplate of the shop. People come for the traditional coffee with original taste taken together with special Pattanai style poached egg while enjoy discussing political developments, playing games of chess or checkers. It is another charming atmosphere even for the new generations who like traditional coffee. The shop is situated in front of Wat Klang Voravihara, not far from Paknam Market. Open from 05.00 a.m. to 5.00 p.m.

The secret of palatability guaranteed by 5 outstanding cooking awards lies in gravy with intense taste and aroma of diverse herbs together with meticulous slow cooking for many hours. The result is tender and mouth watering pork skin. Apart from rice topped with stewed pork leg which is the signature dish, there are other delicious dishes such as rice topped with crispy fried pork with crackling and minced pork with seaweed soup to go with rice dishes.

Location: Situated on Prakonechai Rroad before crossing the bridge to Taibaan Circle; look on the right hand side you will see the shop selling Stewed Pork Leg with 5 Awards Tel. 0-2389-2019, 08-1486-8225

5

Thai Noodle ขาหมู 5 รางวัลอร่อย

น�ำ้ ราดรสเข้มข้น พร้อมกลิน่ หอมจากเครือ่ งเทศนานาชนิด ประกอบ กับขัน้ ตอนการท�ำอย่างพิถพี ถิ นั เคีย่ วไฟอ่อนนานหลายชัว่ โมง จนหนังหมู นุม่ น่ารับประทาน ถือเป็นสูตรเด็ดของความอร่อยของร้านนี้ แถมยังกวาด มาได้ถงึ 5 รางวัล เป็นการการันตีความอร่อยอีกด้วย นอกจากข้าวขาหมู จะถือเป็นจานเด็ดของทีน่ แี่ ล้ว ยังมี ข้าวหมูกรอบ ก๋วยเตีย๋ วลูกชิน้ น�ำ้ ใส ต้มจืดหมูสบั สาหร่าย ซดร้อนๆ ให้คล่องคอ เป็นการปิดท้ายความอร่อย ตัง้ อยู่ : ถ.ประโคนชัย ก่อนข้ามสะพานไปวงเวียนท้ายบ้านให้สงั เกตด้านซ้ายมือ จะพบร้านร้านขาหมู 5 รางวัลอร่อย โทรศัพท์ : 0-2389-2019 , 08-1486-8225


74 Cover Story เรื่องจากปก

6

Amnuay Panich’s ข้าวเหนียวมูน อ�ำนวยพานิช

อร่อย หอมหวาน สะอาด ถูกหลักอนามัย คือค�ำจ�ำกัดความทีบ่ ง่ บอกถึง รสชาติได้เป็นอย่างดี โดยจะใช้เฉพาะข้าวเหนียวเขีย้ วงูอย่างดีเท่านัน้ วิธที ำ� ก็ไม่ซบั ซ้อนอะไรมาก เมือ่ ได้ขา้ วเหนียวมาแล้วน�ำไปแช่นำ�้ ไว้หนึง่ คืน หลังจาก นัน้ ท�ำการนึง่ ปกติ แต่สงิ่ ทีต่ อ้ งควรระวังคือจะต้องไม่นงึ่ เร็วเกินไปเพราะจะ ได้ขา้ วเหนียวทีแ่ ข็ง ถ้านึง่ นานเกินไปข้าวเหนียวจะแฉะ ส่วนส�ำคัญก็คอื การ ตัง้ ไฟและเวลาในการนึง่ ต้องพอดีกนั ข้าวเหนียวทีอ่ อกมาก็จะน่ารับประทาน คือสูตรส�ำเร็จของความอร่อยของข้าวเหนียวมูนร้านนี้ แขกไปใครมาต้อง แวะซือ้ กลับบ้านทุกครัง้ ไป จนถึงทุกวันนี้ กว่า 70 ปี ทีย่ งั สืบทอดจากรุน่ สูร่ นุ่ ปัจจุบนั มีขา้ วเหนียวให้เลือกมากมาย เช่น ใบเตย ดอกอัญชัน งาด�ำ เป็นต้น รวมถึงของฝากทัง้ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมหวาน กระยาสารท เปิดทุกวันตัง้ แต่เวลา 05.00-19.00 น. สามารถไปอุดหนุนกันได้ จะอยูบ่ ริเวณหน้า ตลาดปากน�ำ้ โทรศัพท์ 0-2395-1639 Delicious, good smell and hygienic are the definitions of sweet glutinous rice at this stall that clearly says how tasty it is. They use only premium grade glutinous rice and the making is not complicated which starting from soaking glutinous rice overnight. The next morning, the well soaked glutinous rice will be steamed. There is only one precaution that the steaming time should be precise. If the timing is too short the cooked glutinous rice will be hard but if the timing is too long it will be too watery. So, the heat and the steaming time should be precise and the glutinous rice will have the right texture. This is the small secret that makes sweet glutinous rice at this stall consistently delicious that visitors have to drop by for take home sweet glutinous rice. It has been over 70 years that this stall has been keeping the recipe in the family. At present there are variety of glutinous rice such cooked with pandanus leaves, blue vine, and black sesame. There are also other sweets such as ‘thong yip’ (golden sweetmeat in small porcelain cup), ‘thong yod’ (golden ball), ‘foi thong’ (golden thread), ‘krayasart’ (mixed cereal jam with honey). The stall is in front of Paknam Market and opens everyday from 05.00 a.m. to 07.00 p.m. Tel. 0-2395-1639

7

Mae Samruay’s Thai Desserts

ขนมไทย แม่ส�ำรวย

นอกจากตลาดปากน�ำ้ จะเต็มไปด้วยแหล่งอาหารทะเล ผัก และผลไม้แล้ว ขนมหวานก็มีให้เห็นทัว่ ไป โดยเฉพาะร้านขนมไทย แม่สำ� รวย ทีอ่ ยูค่ ตู่ ลาดแห่งนีม้ ากว่า 30 ปี ด้วยความหลากหลาย ของขนมไทย เช่น ขนมเปียกปูน ขนมถ้วยฟู ขนมต้ม ขนมตาล ขนม ฟักทอง ขนมกล้วย ลอดช่อง ยิง่ ในช่วงบ่ายจะมีการเสริมขนมประเภท เชือ่ มไว้คอยบริการทัง้ มันเชือ่ ม กล้วยเชือ่ ม ฟักทองเชือ่ ม เป็นต้น

ตัง้ อยูต่ รงบริเวณทางเข้าท่าเรือวิบลู ย์ศรี เปิดบริการตัง้ แต่ 05.00-17.00 น. ส่วนราคาก็ถูกแสนถูกอยู่ที่ 10-20 บาท Paknam Market does not have only busy fresh seafood stalls, vegetables and fruits but Thai desserts and sweets stalls are seen busy everywhere. Mae Samruay’s Thai desserts stall has been in this market for over 30 years showcasing variety of traditional Thai desserts such as ‘kanom piak poon (steamed charcoaled pancake with shredded coconut), ‘ kanom tuay foo’ (fluffy rice flour cake), ‘kanom tom’ (rice flour dumpling with sweetened coconut stuffing), ‘kanom taan’ (steamed palm meat with flour and shredded coconut), ‘kanom fhugthong’ (steamed pumpkin meat with flour topped with shredded coconut), ‘kanam kluay’ (steamed mashed banana with flour topped with shredded coconut), ‘lod chong’(finger rice flour dumpling in coconut syrup), etc. In the afternoon, the additional of desserts in thick syrup be it yam, banana, pumpkin, etc. will be added to the selection. The stall is at the entrance to Viboonsri pier, opens from 05.00 a.m. to 05.00 p.m. The price is very cheap between 10-20 Baht only.


มุมน่าแวะ

กันยายน 2557 / September 2014

75

Worth Visiting Corner

หลังจากเดินชิมกันอยู่สักพัก คราวนี้เราลองเดินไปสักการะ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตกัน ซึ่งสถาน ทีแ่ ห่งนีต้ งั้ อยูบ่ นถนนประโคนชัย ในละแวกตลาดปากน�ำ้ ของเรานีเ่ อง After walking and tasting food, we should move on to City Pillar Shrine t to pay homage and too pray for luck and fortune. The shrine is situated on Prakonechai Road in the vicinity of Paknam Market.

City Pillar Shrine ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

เดิมเป็นอาคารทรงไทย อายุกว่า 200 ปี เมื่อล่วงเลยมาจึงมีสภาพ ช�ำรุดทรุดโทรม ประกอบกับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นทีน่ บั ถือของชาวไทยเชือ้ สายจีน จึงมีการบูรณะให้สวยงามขึน้ เจ้าพ่อหลักเมืองมีลกั ษณะเป็นรูปปัน้ ขุนนางจีนโบราณ สวมเครื่องแบบเต็มยศ นั่งบนบัลลังก์ ภายในศาลยัง มีเสาหลักเมืองตั้งรวมอยู่ มีลักษณะเป็นไม้กลม สูง 6 ศอก แต่แกะสลัก รูปมังกรพันเสาหลักเมืองตามแบบจีน แต่ยังคงใช้ผ้าเจ็ดสี พันไว้รอบเสา ศาลแห่งนีถ้ อื ว่าเป็นสัญลักษณ์ของชาวปากน�ำ้ เมือ่ ใครมีโอกาสผ่านไปผ่านมา ก็จะแวะเข้าไปกราบไหว้ขอพรอยู่เป็นประจ�ำ

เจ้าพ่Pillar อหลัGodกเมือง เป็นสิง่ ยึดเหนีย่ วจิตใจของชาวปากน�ำ้ Pillar God is spiritual anchor of people

The shrine was originally a Thai style pavilion aged over 200 years and was badly in dilapidated condition. When it came under renovation because of the reason that this shrine was the sacred shrine of Thai-Chinese ethnic, it was renovated with the image of high ranking Chinese nobleman in full regalia sitting on a throne enshrined for worshipping. Inside, the old city pillar is still kept. The old city pillar is a circular tree trunk standing high at 6 sok (3 m.) with the Chinese style carved dragon coiling up the pillar. However, seven color clothes are also wrapped around the pillar as well. This shrine is regarded as a symbol of Paknam that visitors will stop by to pray for luck and fortune.


76 Cover Story เรื่องจากปก

Hua Rod Chak Market

Place of Delicacies ตลาดหัวรถจักร.. ที่เดียว อิ่ม อร่อย

ารมาตลาดปากน�ำ้ หนนี้ ถ้ายังเดินเทีย่ วชิมอาหารไม่จใุ จ เราขอแนะน�ำ ว่ายังมีตลาดเฉพาะกิจ คือ “ตลาดหัวรถจักร” จะจัดขึน้ ฝัง่ ตรงข้าม ตลาดปากน�ำ้ หรือตรงวงเวียนหัวรถจักร ในทุกๆ วันที่ 1 ของเดือน แต่ถา้ ช่วงไหนตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะเลือ่ นมาจัดในวันศุกร์แทน เริม่ ตัง้ แต่ 5 โมงเย็น เป็นต้นไป ความพิเศษของตลาดหัวรถจักรแห่งนี้ จะเป็นแหล่งรวบรวมของเด็ดๆ ขอย�ำ้ ว่า เด็ดจริงๆ ทัง้ ของกิน ของฝาก ผลิตภัณฑ์ขนึ้ ชือ่ ในละแวกปากน�ำ้ จาก ทัง้ ตลาดราชา วงเวียนท้ายบ้าน หน้าศาลหลักเมือง มาอยูร่ วมกัน ณ จุดเดียว เรียกว่ามาทีเ่ ดียว ได้ทงั้ ความอร่อยและของดีมคี ณ ุ ภาพ ราคาถูก ซือ้ ติดไม้ ติดมือกลับบ้านกันทุกคน เหมาะส�ำหรับคนชอบเดินน้อยแต่ได้รบั ความสุข แบบครบถ้วนจริงๆ อาหารรสเด็ดมีให้เลือกมากมาย ทัง้ ของคาวของหวาน ราดหน้าหมูหมัก กระเพาะปลาเฮียหนุย่ ข้าวมันไก่ตอนเฮียจก หรือจะแวะซือ้ หมูสะเต๊ะร้อนๆ แกงส้มปลานิลตัวโต รสชาติจดั จ้าน ติดไม้ตดิ มือกลับไปรับประทานก็ยงั ได้ มาต่อกันทีข่ องหวานต้องร้านขนมหวาน “เจ๊องุน่ ขนมหวาน 7 อ่าง” เจ้าเก่า แห่งตลาดราชา ไม่วา่ จะเป็น กล้วยไข่เชือ่ ม แปะก๊วยน�ำ้ มะพร้าว ทับทิมกรอบ มะพร้าวกะทิ เต้าทึง ใครชอบแบบไหนเลือกซือ้ ได้ตามสบาย นีเ่ ป็นแค่อาหาร ส่วนหนึง่ เท่านัน้ ยังมีผลไม้และอาหารอืน่ ๆ ให้เลือกอีก แถมยังมีผลิตภัณฑ์ เครือ่ งหอม และผลไม้อบแห้ง ถ้ามีโอกาสก็สามารถแวะเวียนกันไปได้

I

f visitors are not yet totally satisfied with just visiting the Paknam Market, we would recommend another specific market i.e. ‘Hua Road Chak Market’ which is just opposite the Paknam Market and held on the first date of each month but if it falls on weekend, the market will move to open on Friday instead. This market opens from 5.00 p.m. onward. The specialty of this market is that it is the gathering place of very best products of Paknam be its ready to eat food or souvenirs from other markets such as Raja Market, Taibaan Circle, in front of City Pillar Shrine, etc. will gather here. It can easily be said that you visit this market and will get everything be it delicious foods and other products of good quality but all at reasonable prices. It suits those who want to get everything they need in one shopping without walking round and round. Arrays of delicious foods are for you to select to suit your palate both savory or sweets such as ‘rad naa’ (stir-fried noodle topped with marinated pork in thick gravy), Brother Nui’s fish maw soup, Brother Jok’s Hainanese chicken rice or you can drop by to buy grilled pork satay, spicy and tasty sour big tilapia in clear curry soup. Next stop should be at the traditional Thai desserts stalls like at “Jae Ar-ngun’s 7 Bowls of Desserts”, the authentic desserts from Raja Market. They are all delicious be it ‘kluay chuem’(banana in thick syrup), Pae guai nam maprow’(gingko nuts in coconut juice), ‘tubtim grob’ (tiny crispy water chestnut bit dumplings in coconut milk syrup), ‘maprow kati’ (milky coconut meat), ‘toa tueng’ (Chinese mixed cereals in light syrup). Choose and buy to your satisfaction. The aforementioned are only a fraction of foods sold in this market. There are many other delicious foods and other

Tips : ตลาดหัวรถจักร..เป็นตลาดทีร่ วมสุดยอด อาหารอร่อยย่านปากน�้ำไว้ ในที่เดียว Here is the center of delicious food of Pak Nam Subdistrict


กันยายน 2557 / September 2014

77

ตลาดปากน้ำ�

Paknam Market

ข้Brother าวมันJok’sไก่เฮียจก

Mae Samruay’s Thai Desserts

aiyasit ิ์ Soi K

ถ.หลักเมอื ง Lak Muang Rd.

ซ.กายสิทธ

Amnuay Panich Sweet Glutinous Rice

i Sam ut R d.

ข้าวเหนียวมูนอำ�นวยพานิช

ถ.ศร ีสมุท ร Sr

Cha oP hra

แม่น ้ำำเจ้า พระ ยา

ตลาดปากน้ำ� Paknam Market

ya

Rive r

Hainanese Chicken Rice

กระเพาะปลาเฮียหนุ่ย Brother Nui’s Fish Maw Soup

ซ.กา ยสท ิ ธิ์ S

o i Ka

ลุงเป็ดสภากาแฟ

Uncle Ped’s Coffee Club

So

kan i P ra

i Sa mut Rd.

ถ .ด

่านเ

ก่า

การ ซ.ปรา

Kao

Rd.

Grandpa Ngok’s Noodle with Fish Balls

Dan

ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง Cha o Por Lak Muang Shrine

iyasit

แป๊ะหงอก ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา

ถ .ศ ร สี มท ุ รS r

วัดพิชัยสงคราม Wat Phichai Songkhram ซ.ปราการ Soi Prakan

ขนมไทยแม่สำ�รวย

ถ.ประโค นชยั Prak hon Chai Rd.

วงเวียนหัวรถจักร Wong Wian Hua Rot Chak

ตลาดราชา Racha Market ที่ตั้ง : ต.ปากน้ำ� อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ การเดินทาง : เริ่มจากสี่แยกบางนา มุ่งหน้าเข้า จังหวัดสมุทรปราการ ผ่านห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลสำ�โรง ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ตรงมาสักระยะจะพบตลาดปากน้ำ� Location : Paknam Subdistrict, Samut Prakan district, Samut Prakan

วัดกลางวรวิหาร Wat Klang Worawihan


78 Interview

Fall in Love with Samut Prakan

หลงรัก..สมุทรปราการ(เข้าแล้ว)

ฉบับที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเข้าไปสอบถามความรู้สึกของครอบครัวชาวยุโรปที่มาท่องเที่ยวในสมุทรปราการเป็นครั้งแรกกันไปแล้ว มาคราวนี้เรามาลองฟังความรู้สึกของบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่ชาวสมุทรปราการกันครับว่า เขาหลงรักสมุทรปราการในมุมไหนกันบ้าง In the last issue, we had the opportunity to interview a European family about their views on Samut Prakan. In this issue, we will listen to the viewpoints of general public, who are not residents of Samut Prakan, on what they fall in love with in Samut Prakan.

นายเฉลิมวัชร์ ใจมั่น Mr. Chalermwat Jaimun •••

นางสาวศุภมณฑา กัญโส

Miss Suppamontha Kanyaso •••

“เคยมาเดินเทีย่ วทีต่ ลาดน�ำ้ บางน�ำ้ ผึง้ กับครอบครัวแล้ว 1 ครั้งค่ะ ประทับใจใน ความสวยงาม วิถีชีวิตของชาวบ้าน รวม ทั้งมีของกินให้เลือกหลากหลาย แถมราคา ถูก และภายในตลาดยังมีกิจกรรมให้ท�ำอีก มากมาย ซึ่งถ้ามีโอกาสจะพาครอบครัวมา ทานอาหารที่นี่อีกค่ะ” “I used to visit Bang Nampheung Floating Market with my family once and very much impressed with the beauty of the way of life. Additionally, there is variety of food to try at very reasonable price. Within the market there are also many other activities. If time permits, I will take my family to dine here again.”

“ผมมาจากเทศบาลต�ำบลระแหง อ.ลาดหลุม แก้ว จ.ปทุมธานีครับ มาศึกษาดูงานทีต่ ลาดน�ำ้ บางน�ำ้ ผึง้ ว่าเขามีการจัดการอย่างไรถึงได้รบั ความนิยมอย่างมาก ไม่วา่ จะเป็นสถานที่ อาหาร สินค้าและผลิตภัณฑ์ตา่ งๆ ซึง่ จะน�ำไปเป็นต้นแบบในการท�ำตลาดน�ำ้ ระแหง ใน พืน้ ทีเ่ ทศบาลระแหง ปทุมธานีในอนาคตครับ” “I come from Rahang Subdistrict Municipality in Ladlumkaew District, Pathumthani on a study trip to Bang Nampheung Floating Market to learn how the market is managed that makes it so successful be it about the site, food, goods, and other products. I will bring what I learn from here for the set up of Rahang Floating Market in Rahang Subdistrict Municipality, Pathumthani in the future.”

นายกรัณย์ วุฒิเลิศเดชา Mr. Karan Vithilertdecha •••

“ผมอยูก่ รุงเทพฯ มานานแต่กลับหา บรรยากาศแบบนี้ไม่ได้เลยครับ จึงเลือก มาท่องเที่ยวในสมุทรปราการ เพราะมี ธรรมชาติที่ร่มรื่น ไม่ร้อน ซึ่งครั้งนี้ผม ตัง้ ใจมาเทีย่ วทีต่ ลาดบางน�ำ้ ผึง้ และปัน่ จักรยานเข้ามาดูนกทีส่ วนศรีนครเขือ่ นขันธ์ ด้วยครับ”

“I have been living in Bangkok for a long time but never find such an ambience. Therefore, I choose to travel to Samut Prakan because of the pleasant atmosphere, not too hot. This time I intend to visit Bang Nampheung Floating Market and ride a bicycle to Sri Nakhon Khuean Khan Park for bird watching too.”


กันยายน 2557 / September 2014

79

นายวเรศ ศิริทรัพย์

Mr. Wares Sirisup •••

“ผมเคยมาเที่ยวบางปู ตลาดโบราณ บางพลี ตลาดน�้ำบางน�้ำผึ้ง ผมสามารถรับรู้ ถึงประวัตศิ าสตร์และวิถชี วี ติ ของชาวบ้านได้ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะตลาดทั้งสองแห่งที่มี สินค้า อาหารให้เลือกชิมมากมาย ที่ส�ำคัญ อร่อยและราคาไม่แพงครับ”

นายธิษณัฐ ไพโรหกุล Mr. Thitthanut Pairohakul •••

“ผมมาเที่ยวในสมุทรปราการเป็นครั้ง แรกครับ ที่เลือกมาปั่นจักรยานที่บางกะเจ้า เพราะเพื่อนๆ แนะน�ำให้มาก็เลยลองดู จึงรู้ ว่าที่นี่สงบและสวยงามมาก ที่ส�ำคัญเหมาะ กับคนที่ชอบปั่นจักรยานมากเลยครับ” “This is my first time to visiting Samut Prakan. My friends recommended me to ride bicycle in Bang Kachao. So, I try and find out that here is so serene and beautiful. And most important, it is suitable for those who love cycling.”

สมุทรปราการ..เมืองที่ปกคลุมไปด้วยธรรมชาติมากมาย Samut Prakan City of Nature

“I used to visit Bang Pu, Bang Phli Ancient Market, Bang Nampheung Floating Market where I get the knowledge on the history and people’s way of life particularly at both markets there are many foods to try which are both delicious and very reasonable price.”

นายณัฐพงษ์ นันฑบุญ

Mr. Nattaphong Nanthaboon •••

“เมื่อได้มีโอกาสเข้ามาท่องเที่ยวใน สมุทรปราการ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม ผม สามารถเห็นวิถีชีวิตต่างๆ อันเรียบง่าย ของ คนที่นี่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งนี้เองที่ผมไม่ สามารถสัมผัสมันได้เลยในกรุงเทพฯ” “When I have the opportunity to visit Samut Prakan wherever I go I could clearly see simple way of life of the people here. Such a feeling I have never experienced in Bangkok.”


80 Linger Around แวะชิมริมทาง

A Meeting Point

Morning Cup Coffee มอร์นิ่ง คัพ คอฟฟี่ จุดนัดพบของกาแฟ เค้ก หนังสือ และร่มไม้

อร์นิ่ง คัพ คอฟฟี่ จุดนัดพบ และพักผ่อนหย่อนใจ ส�ำหรับคนรักกาแฟและเสพติดคาเฟอีนโดยเฉพาะ มาพร้อมรสชาติเข้มข้นหอมกรุ่น ในบรรยากาศร่มรื่น ใต้เงาไม้ ส�ำหรับผู้ที่โนคาเฟอีนก็สามารถมาลิ้มรสเครื่องดื่ม ประเภทอื่นที่นี่ได้เช่นกัน คาเฟ่แห่งนี้ถูกตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์บาหลี เมื่อเงยหน้ามองหลังคาจะไม่พบฝ้าเพดาน ท�ำให้ดูโล่ง ไม่อึดอัด มีความกลมกลืนกับธรรมชาติสูง ในคราวเดียวกันก็มีความ คลาสสิกซ่อนอยู่ เนื่องจากตัวร้านใช้วัสดุจากไม้ และถูกเพิ่ม ความเท่ด้วยการโชว์ โครงสร้างผนังปูนเปลือยดูดิบๆ แบบลอฟท์ พร้อมพื้นที่ชานระเบียงให้นั่งรับลมใต้ร่มไม้ ยิ่งเมื่อทอดสายตา ไปรอบๆ บริเวณ หากใครชอบต้นไม้ รักความร่มรื่นเป็นทุนเดิม อยู่แล้ว รับรองได้เลยว่าจะเกิดอาการปลื้มปริ่มตั้งแต่แรกเห็น


กันยายน 2557 / September 2014

M

orning Cup Coffee is a meeting point for coffee lovers and caffeine addicts. The coffee here has intense flavor and aroma served under the shade of trees. For those who prefer non-caffeine beverage, there are many other drinks to enjoy. This cafe’ is decorated in Balinese style with high ceiling that makes the place looks spacious and well blended in with the surrounding natural environment. But, at the same time the cafe’ itself has hidden classical characteristics which include the roof is in natural wood while the wall is just bare plaster in loft style with outdoor verandah under shade of trees. For plant lovers, you will be pleased with the lush greens and shady atmosphere.

81


82 Linger Around แวะชิมริมทาง

พอก้าวเข้ามาภายในร้านเราจะได้กลิน่ หอมของกาแฟอบอวล เมือ่ สอบถามไปยังบาริสต้า จึงได้ทราบว่าทีน่ เี่ ลือกใช้เมล็ดกาแฟ สายพันธุอ์ าราบิกา้ คุณภาพดี ความเคยชินท�ำให้เราเลือกสัง่ คาปูชโิ นเย็น เมนูสุดโปรดมาดับร้อนก่อน แต่ใจจริงเราอยากชิมความหอม กรุ่นทุกระดับความเข้มข้น ถ้าไม่เกรงกลัวว่าเดี๋ยวจะต้องนัง่ ยิม้ ถึงตี 4 เพราะฤทธิค์ าเฟอีน พร้อมกับก้มๆ เงยๆ เลือกเค้กหลากชนิด ทีล่ อ่ ตาล่อใจอวดโฉมอยู่ในตูก้ ระจก แต่เราขอเลือกเค้กฝอยทอง และเครปเค้กเรนโบว์ราดซอสสตรอว์เบอร์รี การมาลิ้มรสกาแฟและเครื่องดื่มที่นี่จะไม่มีพนักงาน ไปรับออร์เดอร์ ต้องเดินเข้าไปสัง่ ทีเ่ คาน์เตอร์ดว้ ยตัวเอง เนือ่ งจาก มีบาริสต้าคอยบริการเพียงคนเดียว อาจจะล่าช้าไปบ้างเพราะฉะนัน้ ใครที่เร่งรีบอยากจิบกาแฟของที่นี่จึงต้องเผื่อเวลาสักนิด แต่ส�ำหรับผู้ที่มีเวลาเหลือเฟือถือว่าไม่เป็นอุปสรรคเพราะ ระหว่างรอสามารถเดินชมบรรยากาศรอบร้านที่พาชิล แถมมี ของแฮนด์เมดจุกจิกน่ารักให้เลือกเพลินๆ หรือจะหยิบนิตยสาร และหนังสือขึ้นมาอ่านคร่าเวลาก็ตามแต่อัธยาศัย เมื่อได้เมนูที่ต้องการแล้ว เราพาตัวเองไปยังมุมที่จับจ้อง ไว้ บ ริ เ วณริ ม ระเบี ย งใต้ ร ่ ม ไม้ กลิ่ น หอมกรุ ่ น ของกาแฟ ยั่วยวนท�ำให้เราต้องค่อยๆ ละเลียดชิม สัมผัสความเข้มข้น นุ่มลึก ที่มีความหวาน มัน ซ่อนตัวอยู่ในความขมทานคู่กับ เบเกอรีเ่ นือ้ นุม่ ละมุนลิน้ เข้ากันได้อย่างลงตัว รับกับบรรยากาศ สุดสบาย ร่มรื่น ลมเย็น เงียบสงบ และด้วยปัจจัยเหล่านี้ ท�ำให้เราอดไม่ได้ที่จะหยิบหนังสือเล่มโปรดที่พกติดตัวไว้ ขึ้นมาอ่าน แล้วนั่งแช่อยู่ที่นี่นานๆ ก่อนที่จะสั่งเอสเพรสโซเย็น อีกแก้วมาดับความง่วง เพื่อให้คุ้มค่าแก่การมาเยือน

FOI THONG CAKE


กันยายน 2557 / September 2014

Upon entering the cafe’ we will be engulfed with aromatic smell of the brewed coffee. The barista told us that here they use only the premium quality Arabica coffee beans. To cool off, we ordered our favorite iced cappuccino. In fact, we would like to order coffee at every level of intensity but we were afraid that we might have to stay up awake all night because of caffeine effects. We also ordered, from the bakery display cabinet, a piece of cake with golden thread topping and a piece of rainbow cake with strawberry sauce topping to go with our drink. At Morning Cup Coffee, you have to make your order at the counter where there is only one barista tending the order which may take some time to get your order. Therefore, those who are in a rush to taste the coffee here should consider spare a little more time. But, for those who has plenty of time, this is not a big problem as they can walk around enjoy the pleasant ambience while waiting for your order, or admiring cute handmade souvenirs or else take a book or magazine and kill your time reading it under the shady trees. Once you get your order, you can proceed to where you want to sit under the shady trees. The aromatic smell of coffee is so alluring for a slow sip in order to get the full taste of coffee with hidden sweet in the bitterness. It is just perfect to have your coffee with sumptuous bakery. It’s a great pleasure in such a pleasant atmosphere with soothing breeze and serenity that we could not resist taking our favorite book to read so that we could pass the time in order to stay longer and subsequently another order of iced espresso to fend off drowsiness which made it worth our visit.

CAPUCHINO ICE

ITALIAN SODA

CHOCOLATE PUDDING การเดินทาง จากทางด่วนกาญจนาภิเษก บางพลี-สุขสวัสดิ์ ให้ลงทีถ่ นน สุขสวัสดิ์ตรงมาเรื่อยๆ เมื่อเข้าเขตอ�ำเภอพระประแดง ให้เข้ามาในซอยสุขสวัสดิ์ 70 วิ่งไปเรื่อยๆ จนพบซอย15 จะเห็นที่จอดรถของร้านเป็นลานกว้างทางซ้ายมือ

RAINBOW CREPE CAKE SAUCE STRAWBERRY

ที่ตั้ง : มอร์นิ่ง คัพ คอฟฟี่ ถนนสุขสวัสดิ์ 70 (ซอย15) ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เปิดบริการ ทุกวัน (ยกเว้นวันศุกร์) เวลา 08.00-20.00 น. โทรศัพท์ : 08-9893-6335, 09-3818-4671 หรือ www.facebook.com/morningcupcoffee Location : Morning Cup Coffee Suksawat 70 (Soi 15), Bang Kru Subdistrict, Phra Pradaeng District, Samut Prakan Opening hours : Every day (except Fridays) 08.00-20.00 hours Tel : 08-9893-6335, 09-3818-4671 or www.facebook.com/moringcupcoffee

83


84 Living Guide พักนี้..ที่ผ่อนคลาย

Pack Up to Enjoy the Sea Breeze

Plai Nam Farm เก็บกระเป๋าไปนอนรับลมทะเล “ปลายน้ำ�ฟาร์ม” พื้

นทีต่ ำ� บลนาเกลือ อ�ำเภอพระสมุทรเจดีย์ ตัง้ อยูร่ มิ ปากอ่าว ไทย จึงอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมาย วิถชี วี ติ ของ ชาวบ้านจึงมีความผูกพันกับน�ำ้ มาเนิน่ นานตัง้ แต่อดีต ตลอด สองข้างทางเต็มไปด้วยบ่อเลีย้ งกุง้ หอย ปู และปลา ระหว่างทาง เราจึงสามารถขับรถกินลมชมวิวได้อย่างเพลิดเพลิน ก่อนทีจ่ ะมาถึง ยังสถานทีพ่ กั ผ่อนทีจ่ ะท�ำให้เราได้ ใกล้ชดิ ธรรมชาติมากยิง่ ขึน้ นั่นคือ ปลายน�้ำฟาร์ม.. การท�ำประมงชายฝัง่ ยังคงเป็นอาชีพหลักของชาวต�ำบลนา เกลือ ปลายน�ำ้ ฟาร์ม ก็ยงั คงเอกลักษณ์นนั้ ไว้เช่นกัน เมือ่ เข้ามาภายใน พืน้ ทีฟ่ าร์มจะพบกับเวิง้ น�ำ้ ขนาดใหญ่ทอดยาวสุดลูกหูลกู ตาไปถึงปาก อ่าวเนือ้ ทีก่ ว่า 1,000 ไร่ เป็นแหล่งของอาหารทะเลนานาชนิด ทัง้ กุง้ หอย ปู และปลา ที่เลี้ยงกันแบบปล่อยตามธรรมชาติโดยมี

แนวป่าชายเลนขนาบข้าง ช่วยสร้างความสวยงาม และอุดมสมบูรณ์ ในคราวเดียวกัน บ้านพักแต่ละหลังภายในปลายน�ำ้ ฟาร์ม ไม่ได้เน้นความ สวยงามตามหลักสถาปัตยกรรม แต่ถูกออกแบบตกแต่งโดย อาศัยความคิดสร้างสรรค์และไอเดียที่ตั้งอยู่บนรากฐานของ ความเรียบง่าย ทั้งยังสะท้อนความเป็นวิถีชาวบ้านออกมาได้ พอดิบพอดี แต่ละหลังมีชานระเบียงเหมาะแก่การนั่งชมวิว ริมน�้ำ และรับลมเย็นที่พัดผ่านตลอดวัน ส�ำหรับห้องพักนั้น มีหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งแบบวิลล่า ห้อง s บ้านพักสอง ชั้นหลังใหญ่ สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมว่ามากัน จ�ำนวนกี่คน ถ้าจะให้ดีควรติดต่อจองไว้ล่วงหน้ากันพลาด


กันยายน 2557 / September 2014

N

a Kluea Subdistrict in Phra Samut Chedi District is situated by the Gulf of Thailand estuary that is why it is rich with diverse natural resources. The villagers’ way of life is closely tied with the waterway since the old days. Many nursery ponds nurturing prawns, shell fishes, crabs and fishes are lining along the way. Therefore, we very much enjoyed a pleasant drive before arriving at the resort where we will be close to the nature.. at “Plai Nam Farm”. Coastal fishery is still the main occupation of the residents in Na Kluea Subdistrict. Upon arriving at Plai Nam Farm we saw a large lagoon stretches toward the estuary as far off as the eyes can see. The farm covers the area over 1,000 rais (approx.

85

335 acres) nurturing variety of seafood be it prawns, shellfishes, crabs and fishes in the natural way. The lagoon is lined on all sides with mangrove forest that helps adding beauty and fertility at the same time. Each bungalow at Plai Nam Farm does not emphasize on architectural beauty but is built on creativity based on simplicity perfectly reflecting the villagers’ way of life. Each bungalow has a verandah for visitors to sit leisurely admiring the life on the river while enjoying the soothing breeze. There are many types of accommodation to suit the preference of the guests such as villa type, s room, or 2-storey houses that visitors can choose based on the number of members in the group. It is better to make an advanced reservation.


86 Living Guide พักนี้..ที่ผ่อนคลาย

ภายในฟาร์มยังมีกจิ กรรมให้นกั ท่องเทีย่ วได้ทำ� อีกมากมาย เช่น พายเรือคายัค ปัน่ จักรยานน�ำ้ ชมนกและป่าชายเลน หรือจะเพิม่ ความ สนุกสนานขึน้ มาอีกระดับด้วยการลงบ่องมหอยแครง ตกปลา และ ชมการเบิกกุง้ ก่อนทีจ่ ะปิดท้ายกิจกรรมยามเย็นสุดโรแมนติกด้วยการ นั่งเรือชมพระอาทิตย์ที่ก�ำลังจะลับขอบฟ้า พร้อมถ่ายรูปคู่กับ ธรรมชาติ ถือว่าเป็นไฮไลต์เด็ดที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทัง้ ปวง ช่วงวันหยุด ใครอยากพาครอบครัวมาพักผ่อนหรือมาออกทริป กับเพื่อนฝูง ที่นี่ก็นับว่าเหมาะไม่น้อย บ้านพักเล็กๆ เงียบสงบ นอนหลับสบาย รับลมเย็นๆ จากทะเล ใกล้ชดิ ธรรมชาติ ตืน่ ขึน้ มาได้ สูดอากาศบริสทุ ธิ์ พร้อมกิจกรรมมากมาย ถือเป็นอีกหมุดหมายของ นักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด แต่สำ� หรับใครทีก่ ำ� ลังมองหาร้านอาหารทะเลอร่อยๆ ปลายน�ำ้ ฟาร์ม ก็เหมาะอย่างยิง่ เพราะนอกจากจะเป็นบ้านพักให้ทกุ คนมาอิงแอบ ธรรมชาติรับลมทะเลแล้ว ยังพ่วงต�ำแหน่งร้านอาหารสุดอร่อยใน บรรยากาศสบายๆ ทีอ่ ดุ มไปด้วยเมนูซฟี ดู้ มากมาย ซึง่ วัตถุดบิ ทัง้ หมด มาจากภายในฟาร์ม ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา คัดไซต์ ใหญ่ๆ มากันครบ การันตีดว้ ยคุณภาพความสดใหม่ ชนิดทีว่ า่ เพิง่ ขึน้ จากน�ำ้ แบบหมาดๆ ส่วนเมนูพนื้ บ้านที่ไม่ควรพลาดคือ ย�ำชะคราม รสชาติออกหวาน มัน เผ็ดนิดๆ และมีรสเค็มอ่อนๆ ของใบชะคราม พร้อมกลิน่ หอมของ กะทิและพริกแกง อร่อยอย่าบอกใคร ซึง่ ชะครามนัน้ หาได้ทวั่ ไปใน พืน้ ทีบ่ ริเวณฟาร์ม มักขึน้ ตามคันบ่อ และป่าชายเลน นอกจากนีย้ งั มี หอยแครงลวก ปูไข่นงึ่ กุง้ เผา เนือ้ หวานแน่นจนสัมผัสได้ถงึ ความสด โดยเฉพาะเนือ้ ปู เวลาแกะออกมาเนือ้ จะล่อนเป็นก้อน หรือจะเป็น ต้มแซบปลากระเบน ต้มย�ำปลาเก๋า ข้าวผัดปู ก็อร่อยไม่แพ้กัน สาวกอาหารทะเลสามารถแวะไปลิ้มรสกันได้ ครัวเปิดตั้งแต่ 10.30-23.00 น.

The resort also provides many activities for tourists such as kayaking, water bicycle, bird watching, mangrove forest. Or, adding up the enjoyment by getting into the nursery ponds trying to collect cockles, or fishing and watching prawn catching before closing the activities of the day with the most romantic cruise in the evening to watch the sun set on the horizon and take photographs of the enchanting nature. This last activity is the highlight that should not be missed by all means. Apart from being a resort for tourists to enjoy the sea breeze and stay close to nature, it is also praised as the best restaurant with very delicious seafood menu emphasizing on freshness of fresh catches from the nursery ponds. Big size prawns, shellfishes, crabs and fishes are selected for sumptuous menu such as spicy and sour stingray soup, ‘chakram’ (Suaeda maritima or annual seablite) salad, par-boiled cockles, steamed crabs with roes, grilled prawns served with succulent chili sauce, etc. (the aforementioned dishes are only a fraction of the whole menu). Here, it is suitable for taking family or get together with friends with simple and quiet accommodation where guests can rest peacefully, enjoy the coolness of the soft sea breeze, wake up in the morning to inhale a full lung of fresh air and get ready for many activities. It is another destination that tourists should not miss.. Plai Nam Farm.


กันยายน 2557 / September 2014

ชะคราม (Suaeda maritima (L.) Dumort.) เป็นวัชพืช ทีเ่ จริญเติบโตในบริเวณทีด่ นิ เค็ม ใบของชะครามจะดูดเอาเกลือจากดิน มาเก็บไว้ จึงท�ำให้ ใบมีรสเค็ม และยังมีธาตุไอโอดีนสะสมอยู่ด้วย ในแถบต�ำบลนาเกลือจะพบเห็นได้ตามคันบ่อเลีย้ งสัตว์นำ�้ สามารถน�ำมา ประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น ย�ำชะคราม แกงคั่วชะครามหอย แครง แกงส้มชะครามกุ้งสด เป็นต้น Suaeda maritime is a kind of weed grown in salt marshes that the leaves will absorb the salt from the soil that makes the leaves salty and rich with accumulated iodine. This kind of plant can be seen in Na Kluea Sub-district grown on the dyke around nursery ponds. The leaves are used in many dishes for example spicy salad, curry with cockles, spicy sour curried light soup with fresh prawns, etc.

87

CHAKRAM PRAWNS SALAD

GRILLED PRAWNS

การเดินทาง เมื่อลงจากสะพานภูมิพลเข้าสู่ถนนสุขสวัสดิ์ มุ่งหน้า ทางพระสมุทรเจดีย์ เลี้ยวขวาที่สามแยกหอนาฬิกา ตรงไปจนข้ามสะพานคลองสรรพสามิต เลี้ยวขวาเข้าเส้น ทางไป อบต.แหลมฟ้าผ่า ตรงไปจนพบโรงเรียนสาขลา สุทธีราอุปถัมภ์ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยโรงเรียน ที่ตั้ง : ปลายน�้ำฟาร์ม 305 หมู่ 4 ถนนสุขสวัสดิ์สาขลา ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ 09-5469-9131, 08-0270-3198 ร้านอาหาร เปิดบริการ 10.30-23.00 น. Location : Praynam Farm 305 Mo 4, Suksawat-Sakhla Road, Nakluea Subdistrict, Phra Samut Chedi District, Samut Prakan Tel : 09-5469-9131, 08-0270-3198 Restaurant opens : 10.30-23.00 hours


88 Familiar Path มุมบันดาลใจ


กันยายน 2557 / September 2014

89

The Only One in Thailand and the World

Garuda Museum @ Samut Prakan พิพิธภัณฑ์ครุฑฯ สมุทรปราการ

วั

หนึ่งเดียวในไทย แห่งเดียวในโลก

นทีท่ อ้ งฟ้าโปร่ง ลมพัดก�ำลังดี พวกเราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังซอย 9A นิคมอุตสาหกรรมบางปู สถานทีต่ งั้ พิพธิ ภัณฑ์ครุฑ ของธนาคารธนชาต ที่จัดตั้งโดยคณะผู้บริหารธนาคาร เพื่อเก็บ รวบรวมองค์ครุฑพระราชทาน และสร้างห้องจัดแสดงเรื่องราวของ พญาครุฑตามต�ำนาน อาทิ ห้องครุฑพิมาน ห้องนครนาคราช และห้องอมตะ จ้าวเวหา ซึง่ ล้วนเชือ่ มโยงตามคติความเชือ่ ต่างๆ อันเกีย่ วเนือ่ งกับองค์ครุฑ ที่เราจะพามาเยี่ยมชม “ครุฑ” เป็นเทพพระพาหนะของพระนารายณ์ ซึง่ ตามคติการปกครอง แบบเทวราชที่สังคมไทยเรายึดถือจากอินเดีย ถือว่าพระมหากษัตริย์ เป็นองค์สมมติเทพของพระนารายณ์ เสด็จอวตารลงมาปกป้อง ดูแล รักษาพสกนิกรและประเทศชาติ โดยความเชื่อของคนไทยที่มีต่อครุฑ ไม่เพียงจ�ำกัดเฉพาะสัญลักษณ์แทนของสูงเท่านั้น แต่ครุฑยังถือเป็น สัตว์ที่ก�ำเนิดขึ้นภายใต้ความเชื่อของการก�ำเนิดโลกและจักรวาล มี ความสัมพันธ์กับลัทธิทางศาสนาแบบพราหมณ์-ฮินดู ซึ่งเป็นพื้นฐาน ของศาสนาพุทธและเผยแพร่ไปทั่วภูมิภาคเอเชีย ได้รับการยกย่องว่า เป็นเทพเจ้าแห่งท้องฟ้า เป็นเจ้าแห่งนกทั้งปวง

T

he weather was fine when we started traveling out of Bangkok heading for Soi 9A in Bang Pu Industrial Estate where the Garuda Museum situated. The museum is established by the management of Thanachart Bank to display the Garuda figures which were graciously conferred to the bank by royal command. Inside the museum is divided into three exhibition halls displaying related Garuda mythology namely the ‘Krut Piman’ (Garuda Celestial Palace), ‘Nakorn Nagaraja’ (City of Naga) and ‘Amata Chao Veha’ (Immortal King of the Sky). All exhibition hall names are related to the myth and belief on Garuda. “Garuda” (in Thai called “Krut”) is believed to be the vehicle of Narayana, one of the three supreme gods in Hinduism. According to the divine lordship governing system, a monarch is actually Naraya incarnates to protect the people and the nation. The Thai people have long adopted this belief from India. And their belief on Garuda is not just a symbol of high respect but Garuda is also a creature created following the belief on creation of earth and universe. Such a belief is closely tied with the Brahmin Hinduism which is also the one of the foundations of Buddhist cosmology that had been widely spread in Asia. Garuda is regarded as the mightiest creature in the sky, the king of all birds.


90 Familiar Path มุมบันดาลใจ


กันยายน 2557 / September 2014

เรือ่ งราวเกีย่ วกับองค์ครุฑนัน้ มีความ สัมพันธ์กบั สถาบันพระมหากษัตริยแ์ ละสังคม ไทยมาช้านาน ดังจะเห็นตราสัญลักษณ์องค์ ครุฑตามสถานที่ราชการต่างๆ นอกจากนั้น ยังเชือ่ มโยงตามหลักศาสนา มีเรือ่ งเล่าขาน เป็นต�ำนาน ซึ่งถูกรวบรวมจัดแสดงไว้ ใน พิพธิ ภัณฑ์ครุฑแห่งนี้ ที่มีเพียงหนึ่งเดียวใน ไทยและแห่งเดียวในโลก Garuda has long been associated with the monarchy institute and Thai society for ages. We often see Garuda in all government buildings. The links to religious belief and legend have been collected and displayed in this only museum in Thailand and the world.

91


92 Familiar Path มุมบันดาลใจ

RECEPTION HALL ห้องโถงต้อนรับ เมือ่ ย่างก้าวเข้ามาภายในพิพธิ ภัณฑ์ ก็จะเจอกับห้องโถงขนาดใหญ่ ที่จัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายในอดีตของธนาคารนครหลวงไทย ตรงกลางมีวดี ที ศั น์แนะน�ำเรือ่ งราวขององค์ครุฑในเบือ้ งต้น ส่วนด้านขวา มือมีกาพย์หอ่ โคลงทีก่ ล่าวถึงพญาครุฑในแง่มมุ ทางพุทธศาสนา ประพันธ์ โดยอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีแห่งยุครัตนโกสินทร์ ซึง่ บรรยากาศ โดยรอบอบอวลไปด้วย ไฟ แสง สี สวยงาม และยังมีเก้าอีร้ ปู ทรงแปลกตา ให้ได้นั่งออมแรง ก่อนขึ้นบันไดไปยังชั้นที่ 2 Upon entering the museum we will arrive in a large reception hall where the photo exhibition of the Siam City Bank is on display. In the center of the hall there is a video presentation on the story of Garuda. On the right hand side is the poetical composition telling the story of Garuda in religious aspect composed by national artist, Nawarat Pongpaiboon, a renowned contemporary Rattanakosin poet. The overall atmosphere is a feast of the eyes with stunning light and sound. There are stylish chairs for visitors to watch the exhibition and presentation before proceeding to the second level.

KRUT PIMAN HALL ห้องครุฑพิมาน เดินขึ้นมาด้านบนก็จะพบกับห้องครุฑพิมาน หรือวิมานแห่ง ครุฑ นับว่าเป็นห้องที่ประดับ ตกแต่ง อย่างตระการตามากทีเดียว ซึ่ง เจ้าหน้าทีบ่ อกว่ามีการรังสรรค์ ให้หอ้ งนีเ้ ป็นเสมือนป่าหิมพานต์ ตามความ เชือ่ ว่าถิน่ ทีอ่ ยูอ่ าศัยของพญาครุฑ คือป่าหิมพานต์ ดินแดนทีก่ ำ� เนิดขึน้ ภายใต้แนวคิดศูนย์กลางจักรวาลตามความเชื่อศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และพุทธศาสนาที่เชื่อถือกันมาหลายพันปีแล้ว โดยถือว่าเขาพระสุเมรุนั้นตั้งอยู่ใจกลางจักรวาล รายล้อมด้วย เขาสัตตบริภัณฑ์ หรือเขาบริวารทั้งเจ็ด ประกอบด้วยเขายุคนธร อิสินธร กรวิก เนมินธร สุทัศนะ วินันตกะ และอัสสกัณณะ ซึ่งเป็นที่ สถิตของท้าวมหาจาตุราชิกา ทิพยเทวดา นางฟ้าเทพยดาทัง้ หลาย และ ในบรรดาเขาเหล่านี้ มีเขาวินันตกะที่ปรากฏในต�ำนานว่าเป็นที่พ�ำนัก ของมารดาแห่งพญาครุฑ โดยบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เขาพระสุเมรุเป็น


กันยายน 2557 / September 2014

ที่ประทับของพระศิวะหรือพระอิศวรเจ้า เทพสูงสุดของชาวฮินดู ผู้มี อิทธิฤทธิเ์ หนือเทพทัง้ มวล เขาพระสุเมรุและเขาบริวารสูงเหนือมหานที สีทันดรเบื้องล่างเป็นระยะทางกว่า 23,000 โยชน์ หากนับเป็นตัวเลข แบบทีม่ นุษย์ปกติเข้าใจก็เทียบเท่าได้กบั 1,344,000 กิโลเมตร หรือการ เดินรอบโลกกว่า 31 รอบ ในส่วนดินแดนมนุษย์จะปรากฏทวีปทั้งสี่โคจรอยู่ทั้ง 4 ทิศ ได้แก่ อุตรกุรุ บุรพวิเทห อมรโคยาน และชมพูทวีป ว่ากันว่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ ในแต่ละทวีปล้วนมีหน้าตาตามสันนิษฐานทีต่ นอยู่ คล้ายจะเปรียบได้กบั มนุษย์ ในปัจจุบัน ที่แบ่งเป็นชนชาติอยู่บนแผ่นดินโลกขึ้นไป ชนชาติ เอเชียตะวันออก ชนชาติฝรั่งตะวันตก และสุดท้ายคือ แดนชมพูทวีป แหล่งที่อยู่ของชนชาติอินเดีย จากความเชื่อแห่งไตรภูมิจักรวาลและ พุทธจักรวาล โดยมีดินแดนครึ่งหนึ่งทางด้านใต้เป็นที่อยู่ของมนุษย์ ดินแดนทางเหนืออีกครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่ของแดนหิมพานต์ อันมี สระอโนดาตเป็นศูนย์กลางส�ำคัญ ดังนั้นห้องนี้จึงมีการจ�ำลองพื้นที่กลางห้องเป็นสระอโนดาต โดย มีสายน�้ำไหลจากปากสัตว์ป่าหิมพานต์ตั้งอยู่รอบๆ คือ สายน�้ำไหลผ่าน ปากช้าง, สายน�้ำไหลผ่านปากราชสีห์, สายน�้ำไหลผ่านปากโค, สายน�้ำ ไหลผ่านปากม้า ฯลฯ อันล้อมรอบด้วยต้นมักกะลีผล และสัตว์หมิ พานต์ ชื่อแปลกๆ อย่าง มยุระเวนไตย, นกหัสดีลิงค์ และกุมภีนิมิตร ให้ความ รู้สึกเหมือนเราก�ำลังท่องอยู่ในโลกของป่าหิมพานต์เลยทีเดียว

93

On the second floor, we will see the Krut Piman Hall or literally means the celestial palace of Garuda. According to the staff on duty, this hall is elaborately decorated as if it were the Himavanta, legendary forest believed to be the residing place of Garuda. Himavanta was a mythical forest created under the concept on the center of earth pursuant to the Hinduism and Buddhist cosmology over thousands of years ago. The legend had it that Sumeru Mountain was situated at the center of the universe surrounding by seven satellite mountains namely Yugandhara, Isadhara, Karavika, Nemindhara, Sudassana, Vinandhaka, and Assakanna. Sumeru Mountain was said to be the residence of Lord Chatumaharajika, angels, gods, and goddesses. The legend had it that Vinandhaka was the residence of Garuda’s mother. Sumeru Mountain was the residence of Shiva, the Supreme God of Hinduism who had supernatural power over all gods and goddesses. It is said that the Sumeru and satellite mountains were high above the Great Sidhandara Sea by 23,000 yojana or approximately 1,344,000 km. which equivalent to over 31 rounds of earth circumference. On part of earth where human being and other living creatures are found, the cosmology had pointed out 4 continents on 4 directions namely Udharaguru, Burapavidheha, Amaragoyana, and Chompootaveep. Inhabitants in each continent had the physical looks pursuant to where they live. It is comparable to the present where people of different races live in each continent i.e. East Asia, Western countries and the last one is Chompootaveep where Indian race lives. From the cosmological belief on Traibhumi and Buddhist cosmology, there was a land under the celestial level that half of the land on the south designated as the place for human beings and living creatures and the other half on the northern side was the land of Himavanta where Anodad Pond served as the significant center of the forest. Therefore, this exhibition hall has created the space in the middle of the hall as Anodad Pond with water flowing from the mouths of Himavanta mythical creatures for example from the mouths of elephant, lion, cow, horse, etc. The pond is surrounded by Makaliphon trees and Himavanta mythical creatures with quaint names such as Mayuravenataya, Hasdiling Bird, or Gumpinimitra, etc. It is as if we were right in the Himavanta Forest.


94 Familiar Path มุมบันดาลใจ

NAKORN NAGARAJA HALL ห้องนครนาคราช เมื่อเดินออกจากห้องครุฑพิมาน ก็จะพบกับอุโมงค์ทางเดินกว่า 10 เมตร ซึง่ เนรมิตให้เป็นนครนาคราช ถิน่ ทีอ่ ยูอ่ าศัยของเทพเจ้าแห่ง สายน�ำ้ อย่างพญานาค คูป่ รปักษ์ตลอดกาลของพญาครุฑ โดยในห้องมี จิตรกรรมฝาผนังครุฑยุดนาค ทีบ่ ง่ บอกถึงความสัมพันธ์ของพญาครุฑ และพญานาค ซึ่งพญานาคในความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจัด เป็นพาหนะขณะบรรทมเหนือเกษียรสมุทรขององค์พระนารายณ์เจ้า เทพผู้ปกป้องรักษาโลก อันได้ชื่อว่า ‘พญาอนันตนาคราช’ ซึ่งเป็นน้อง ต่างมารดาของพญาครุฑ ที่มีจ�ำนวน 1,000 ตน ได้ท้าให้พญาครุฑชิง เอาน�้ำอมฤตกลับมาเพื่อตนจะได้เป็นอมตะ แลกเปลี่ยนกับการปลด ปล่อยมารดาของพญาครุฑให้พ้นจากความเป็นทาส แต่ถูกพญาครุฑ ใช้สติปัญญาความเฉลียวฉลาดน�ำน�้ำอมฤตกลับไปได้ ทั้งคู่จึงยังคง เป็นศัตรูคู่แค้นกันมาตลอด After leaving Krut Piman Hall, we will see a walking tunnel about 10 m. long that has been created into the city of Naga, Protecting God of the Water and eternal enemy of Garuda. Inside the hall, there is a mural painting of Garuda wresting with Naga. According to Hindu cosmology, a Naga named ‘Phaya Anantanagaraja’ served as the throne over the ‘Kasirasamut’ or the milky ocean where Naraya, the Earth Protecting God, was sleeping. Phya Anantanagaraja was the half brother of Garuda which has altogether 1,000 in beings. Naga wanted to be immortal so he challenged Garuda to fight him for the elixir in exchange for Garuda’s mother that Naga had held hostage. However, Garuda used his intellectual ingenuity snatch back the elixir. Therefore, Garuda and Naga became eternal enemies.

AMATA CHAO VEHA HALL ห้องอมตะจ้าวเวหา ห้องถัดมาชื่ออมตะจ้าวเวหา เป็นห้องชมสื่อมัลติมีเดียที่ฉายบน ผนังโค้งครึ่งวงกลม เมื่อพวกเราเดินเข้ามายังห้องนี้ก็พบกับความมืด เงียบสงัด เพราะเจ้าหน้าทีบ่ อกว่าเป็นห้องชมวีดที ศั น์ เรือ่ งราวทีแ่ สดง ถึงคุณธรรมอันยิง่ ใหญ่ของพญาครุฑในด้านความกตัญญูกตเวทิตา พละ ก�ำลัง และความเสียสละ ซึ่งตามต�ำนานเล่าขานว่าพญาครุฑพยายาม ช่วยปลดปล่อยมารดาให้พน้ จากความเป็นทาสของพญานาคด้วยความ อุตสาหะ จนได้รบั สรรเสริญว่าเป็นผูแ้ บกรับภาระอันหนัก สมควรแก่การ ได้รับนามว่า “ครุฑ” นอกจากนั้นในห้องยังมีองค์ครุฑจ�ำนวนมากติด ประดับไว้ดา้ นบน และมีนทิ รรศการฝาผนังเล็กๆ จัดแสดงไว้ ให้ได้อา่ น


กันยายน 2557 / September 2014

OLD TEAK GARUDA FIGURES HALL ห้องจัดแสดงครุฑไม้สักเก่า The next hall is named Amata Chao Veha Hall is for viewing multimedia presentation on the hemispherical curved wall. The presentation portrays the moral integrity of Garuda in his high gratitude, strength and sacrifice. The legend has it that Garuda tried hard with perseverance to liberate his mother from being held slave to Naga. He was highly praised for shouldering heavy burden. Inside this hall, there are a number of Garuda figures on display with a small exhibition on the wall for more detail.

ห้องนี้เป็นโซนกลางแจ้ง ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลต์หลัก ของพิพธิ ภัณฑ์แห่งนี้ เพราะเป็นสถานทีร่ วบรวมองค์ครุฑ พระราชทานของธนาคารนครหลวงไทยสาขาต่างๆ ครัง้ ประกอบ กิจการ แต่พอรวมกิจการกับธนาคารธนชาต จึงน�ำองค์ครุฑ พระราชทานเหล่านัน้ มาเก็บรวบรวมไว้ ในห้องนี้ ซึง่ มีตงั้ แต่ ครุฑไม้สกั เก่าแก่ลำ้� ค่า ครุฑแต่ละองค์กม็ รี ปู ทรงแตกต่างกัน ทั้งขนาด สี และไม้สัก This is an outdoor exhibition area which is the highlight of this museum. It is the place where collection of Garuda figures gracious conferred to branches of Siam City Bank by royal command since the bank was in the business. Subsequently, when Siam City Bank merged with Thanachart Bank, those Garuda figures, ranging from invaluable old teak Garuda figures, were removed to keep in this hall. Each Garuda figure has different shape, size, color and teakwood.

95


96 Familiar Path มุมบันดาลใจ

พวกเราเดินเยี่ยมชมองค์ครุฑของแต่ละสาขาไปเรื่อยๆ ไล่ตั้งแต่สาขาถนนมิตรภาพ  สาขานางรอง  สาขาพัทลุง สาขายะลา สาขาเขาวัง สาขาถนนบวร ฯลฯ เจ้าหน้าที่บอกว่า องค์ครุฑเก่าแก่ที่สุด คือองค์ครุฑประจ�ำสาขาราชด�ำเนิน ซึ่ง เป็นครุฑพระราชทานสาขาแรกของธนาคารนครหลวงไทย มีอายุกว่า 70 ปีมาแล้ว เมื่อดื่มด�่ำกับเรื่องราวขององค์ครุฑในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จนครบถ้วนพวกเราก็ขอตัวมานัง่ เอกเขนกบนเก้าอีน้ มุ่ ๆ ในห้องโถง ชัน้ แรก เพือ่ ซึมซับบรรยากาศโดยรวม ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ We took a look at the Garuda figure of each branch starting from Mitrapab Branch, Nangrong Branch, Pattalung Branch, Yala Branch, Khao wang Branch, Boworn Branch etc. The museum staff told us that the oldest Garuda figure is the one from Rachadamnoen Branch which is the first branch of Siam City Bank that was conferred Garuda figure by royal command 70 years ago. After taking tour of the museum, we chose to take a rest in the stylish chairs in the reception hall to savour the overall atmosphere before heading back to Bangkok.

KHAO WANG BRANCH

สาขาเขาวัง

BOWORN BRANCH

สาขาถนนบวร

การเดินทาง จากถนนศรีนครินทร์ ซึง่ ไปบรรจบกับถนนสุขมุ วิทสายเก่า ในบริเวณสามแยกการไฟฟ้า เลีย้ วซ้ายไปตามถนนสุขมุ วิท ตรงไปอีก 12 กม. ให้เลีย้ วซ้ายเข้านิคมอุตสาหกรรมบางปู พิพิธภัณฑ์ครุฑ ธนาคารธนชาต จะตั้งอยู่ ซอย 9A

RACHADAMNOEN BRANCH

สาขาราชดำ�เนิน

ที่ตั้ง : พิพิธภัณฑ์ครุฑ พิพิธภัณฑ์ครุฑ ธนาคารธนชาต นิคมอุตสาหกรรมบางปู ซอย 9A 179/279 หมู่ 3 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทรศัพท์ 1770 Location : Garuda Museum Garuda Museum Thanachart Bank, Bang Pu Industrial Estate Soi 9A 179/279 Moo 3, Praekasa Mai Subdistrict, Muang District, Samut Prakan Tel : 1770


Worship Festival

Phra13-24 Samut Chedi October 2014 เที่ยวงานนมัสการ องค์พระสมุทรเจดีย์ 13-24 ตุลาคม 2557

ณ บริเวณวัดพระสมุทรเจดีย์ หมู่ 3 บ้านเจดีย์ ตำ�บลปากคลองบางปลากด อำ�เภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ

At Wat Phra Samut Chedi Moo. 3 Baan Chedi, Pakkhong Bangplakod Subdistrict, Phra Samut Chedi District, Samut Prakan


98 On The Way สุดฟ้า..ล่าตะวัน

For All Year Round Visit

9 Wonders of Samut Prakan ตามรอย 9 อัศจรรย์สมุทรปราการ เที่ยวทั้งปีไม่มีเบื่อ

มุทรปราการ เป็นอีกเมืองท่องเที่ยวที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย จังหวะ ของเมืองแห่งนี้มีความหลากหลาย ทั้งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ ประเพณี วิถีชีวิต ที่อ้าแขนต้อนรับรอการมาเยือน และถึงแม้ว่า จะไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยวเป้าหมายหลักของคนทั่วไป แต่เมืองหน้าด่าน แห่งนี้ก็เป็นเป้าหมาย ลองที่ต้องมาเยือนสักครั้ง ด้วยการเที่ยวตามรอย ‘9Wonders : 9 อัศจรรย์สมุทรปราการ เทีย่ วได้ตลอดปี’ แคมเปญใหญ่นำ� ร่องของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ทีช่ ว่ ยตอกย�ำ้ ความน่าสนใจให้นกั ท่องเทีย่ ว เข้ามาพบความอัศจรรย์ทั้ง 9 ที่จะท�ำให้มุมมองเกี่ยวกับเมืองนี้เปลี่ยนไป..

S

amut Prakan is another tourist attraction town for everyone with diverse destinations be it for historical, natural, cultural, or way of life interests that open its arms to embrace all visitors. Though Samut Prakan is not a destination at the top of the list, but this outpost town is suitable for a trial trip for just once by following the route of the “9 Wonders of Samut Prakan: All year Round Visit”, the pioneer tourism campaign of Samut Prakan Provincial Administration Organiztion highlighting the 9 wonders of Samut Prakan which will eventually change visitors’ views on this particular town.


1

กันยายน 2557 / September 2014

99

NAVAL RECORD

สมุทรบันทึก

Chulachomklao Fort ป้อมพระจุลจอมเกล้า ปืนเสือหมอบ crouching tiger

เรือรบหลวงแม่กลอง H.M.S. Mae Klong

ทางเดินภายในป้อมปืนเสือหมอบ

Interior corridor crouching tiger Fort

แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วเชิ ง ประวั ติ ศ าสตร์ หากใครที่ได้มาเยือนแนะน�ำให้เริม่ ต้นด้วยการสัก การะพระบรมราชานุสาวรียร์ ชั กาลที่ 5 ร�ำลึกถึง พระมหากรุณาธิคณ ุ ทีพ่ ระองค์ทรงมีตอ่ ประเทศ ชาติและปวงชนชาวไทย เมื่อครั้ง ร.ศ.112 ปราการทางน�ำ้ แห่งนีท้ ำ� หน้าทีป่ กป้องสยามจาก อริราชศัตรู โดยอาวุธหลักคือปืนใหญ่อาร์ม สตรอง 7 กระบอก เรียงอยู่ในหลุมคล้ายอุโมงค์ ทีเ่ ดินทะลุถงึ กันได้ ซึง่ เวลายิงไปแล้วปืนจะหมอบลง เลยเป็นที่มาของชื่อเรียกกันว่า ปืนเสือหมอบ อีกจุดที่ไม่ควรพลาด เรือรบหลวงแม่กลอง เรื อ ที่ เ ก่ า ที่ สุ ด เป็ น อั น ดั บ 2 ของโลก (รองจากเรือ GUN SHIP ชือ่ GOANA JUATA ของประเทศเม็กซิโก) พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ล� ำ แรกในประเทศไทย ตามประวั ติ เ รื อ นี้ ออกปฏิบตั ภิ ารกิจในน่านน�ำ้ ไทยครัง้ แรกเมือ่ ปี 2480 เคยเป็นเรือพระที่นั่งในรัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9 ในเวลาทีม่ กี ารเสด็จพระราชด�ำเนิน ทางน�้ ำ รวมถึ ง ได้ เ ข้ า ร่ ว มรบในสงคราม มหาเอเชียบูรพา และด้วยประวัติอันโชกโชน ท�ำให้เรือรบหลวงแม่กลองเป็น “เรือครู” ใช้ฝกึ นักเรียนนายเรือมาแล้วหลายต่อหลายรุน่

A historical destination that we would like to suggest visitors to first pay respect to King Rama V monument as a tribute to his benevolence to the country and Thai people. During the Rattanakosin Era 112 Crisis this fort served as the front line naval post to protect Siam from intruders. The main weapons used in that historical national protection were 7 Armstrong cannons lining in pitches outlined like a connected tunnel. Those cannons would automatically move down after firing which served as the origin of the name “crouching tiger” cannons. Another point of interest that should not be missed is the H.M.S. Mae Klong, the world second oldest naval vessel (second only to naval gunship ‘Goana Juata’ of Mexico). After retiring from naval services, H.M.S. Mae Klong was turned into the first outdoor museum in Thailand. According to historical record, this ship was first launched into operation in Siamese marine territory in 2480 B.E. (1937 A.D.) It was served as the royal vessel for Kings Rama VIII and IX and also in the World War II. With such a long history, H.M.S. Mae Klong had been serving as the ‘training’ naval vessel for many generations of naval cadets. ที่ตั้ง : ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ Location : Phra Samut Chedi District, Samut Prakan


100 On The Way สุดฟ้า..ล่าตะวัน

200 Years Leaning Pagoda at Baan Sakhla เจดีย์เอียง 200 ปี บ้านสาขลา

ถนนเส้นเล็กๆ ภายในชุมชนชาวประมง เก่าแก่ที่มีการตั้งถิ่นฐานมาหลายชั่วอายุคน ริมปากอ่าว ชวนให้เราเดินทอดน่องเพือ่ ไปพบกับ บ้านเรือนแบบดั้งเดิมของชาวบ้าน ที่ส่วนใหญ่ ยังขายอาหารทะเลสดและแปรรูป สลับกับ ร้ า นโชว์ ห ่ ว ย โดยในทุ ก วั น เสาร์ - อาทิ ต ย์ ตลาดโบราณบ้ า นสาขลาจะเปิ ด ขายของ อย่างเต็มรูปแบบเพือ่ ให้บรรดานักท่องเทีย่ วได้ จับจ่ายได้อย่างเต็มที่ ดื่ ม ด�่ ำ บรรยากาศภายในชุ ม ชนเสร็ จ แล้ว มุ่งหน้ามายัง “วัดสาขลา” วัดเก่าแก่คู่ ชุมชน สักการะหลวงพ่อโต พระพุทธรูปศิลปะ สมัยอู่ทอง ปางมารวิชัย เสร็จแล้วสามารถ เดินลอดพระวิหารเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมชม “พระปรางค์เอียง” ทีค่ าดว่าสร้างขึน้ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง เป็นการผสมผสาน ทางศิลปกรรมโดยน�ำเจดีย์ทรงปราสาทแบบ เขมรมาย่อมุมให้เกิดความสวยงามอย่างไทย (ย่อมุมไม้สิบสอง) ส่วนสาเหตุที่พระปรางค์ เอียงเกิดจากที่ตั้งอยู่ริมคลอง เมื่อกว่าร้อยปี ทีแ่ ล้วเกิดน�ำ้ ท่วมใหญ่ ดินเกิดการทรุดตัวท�ำให้ พระปรางค์เอียงไปด้านข้าง แต่ก็ ไม่มที ที า่ ว่าจะ ล้มลงแต่อย่างใด ใครได้มาเห็นแล้วต้องแปลกใจ

The narrow walkway within the community leads us to the original style housing intermittent with groceries. Villagers earn their living by selling fresh and processed seafood. Every weekend, Baan Sakhla Ancient Market is open in full scale for visitors to shop. After touring the community settlement, visitors should head for Wat Sakhla, an ancient Buddhist monastery of the community, to pay homage to Luang Poh Tho (Big Buddha), a Buddha image cast in U-Thong period in Subduing Mara (demon) posture. After paying homage to Buddha image, it is a must to walk under the Vihara (small chapel) for good luck. Then visit the ‘leaning pagoda’ which presumably built in the mid-Ayutthaya period by adapting the Khmer style with the indented corners of Thai style pagoda. The pagoda is leaning because it was built by the canal and over a century ago there was a big flood that made the soil eroded. Thus, the pagoda leaned on one side but did not fall down and everybody upon viewing this pagoda always mesmerized how it keeps standing until today. ที่ตั้ง : ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ Location : Na Kluea Subdistrict, Phra Samut Chedi District, Samut Prakan

ตลาดโบราณบ้านสาขลา Baan Sakhla Ancient Market


2

กันยายน 2557 / September 2014

101

TEMPLES

หันหน้าเข้าหาวัด Wat Bang Namphueng Nok วัดบางน้ำ�ผึ้งนอก

เยีย่ มชมพิพธิ ภัณฑ์เก็บรวบรวมวัตถุโบราณ ทีส่ ามารถบอกเล่าเรือ่ งราวความเป็นมาของวัด เช่น ดาบรัชกาลที่ 5 ลงอักขระคาถาของสมเด็จ พุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํส)ี และข้าวของเครือ่ งใช้ทมี่ ี สัญลักษณ์ จปร. อีกหลายชิ้น ท�ำให้สันนิษฐาน กันว่าวัดแห่งนีเ้ คยเป็นทีป่ ระทับของรัชกาลที่ 5 เมือ่ ครัง้ เสด็จมาตรวจป้อมต่างๆ ในบริเวณปากอ่าว แม่น�้ำเจ้าพระยาเมื่อครั้ง ร.ศ.112 นอกจากนี้ ภายในอุโบสถและวิหารหลังเก่ามีภาพจิตรกรรม อายุกว่า 200 ปี หนึ่งในนั้นคือภาพสาวมอญ ในอิรยิ าบถอ่อนช้อย จนถูกขนานนามจาก น.ณ อุโบสถหลังเก่า ปากน�้ำ ปราชญ์แห่งศิลปะไทย ยกย่องให้เป็น the old main เพชรน�้ำเอกแห่งจิตรกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ ตอนต้น แม้ว่าปัจจุบันจะเลือนรางไปตาม กาลเวลาแต่ยงั คงความสวยงามไว้ ให้เราได้ชนื่ ชม ที่ตั้ง : ต.บางน�้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ Location : Bang Namphueng Subdistrict, Phra Pradaeng District, Samut Prakan

Should visit the museum in the temple where artifacts that could tell the story of the temple have been collected such as sword of King Rama V with inscription of holy prayers by Somdej Phra Buddhacharn (Toh Phomarangsi) and other utensils with King Ram V’s supreme name. Thus, it is assumed that King Rama V used to make a stop at this temple during his trip to inspect the forts on the Chao Phraya estuary in Rattanakosin Era 112. Besides, inside the old main and small chapels, there are mural paintings aged over 200 years. One of the paintings is the painting of a young Mon girl in an elegant manner which was praised by a famous Thai artist, Nor Na Paknam, as the crown jewel work of art of the early Rattanakosin period. Though nowadays the painting is faded with the passing time, it is still very beautiful.

ดาบรัชกาลที่ 5 ลงอักขระคาถาของสมเด็จ พุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)

Sword of King Rama V with inscription of holy prayers by Somdej Phra Buddhacharn (Toh Phomarangsi)

ภาพจิตกรรมสาวมอญในอิริยาบถอ่อนช้อย the painting of a young Mon girl


102 On The Way สุดฟ้า..ล่าตะวัน

Wat Prodket Chettaram วัดโปรดเกศเชษฐาราม

วัดพุทธไทยแห่งเดียวในย่านพระประแดง ถิ่นชาวมอญ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 เอกลักษณ์จึงอยู่ที่ หลังคามุงด้วยกระเบื้องมอญเก่า ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา และหน้าบันมีศลิ ปะปูนปัน้ ลายเครือเถา ประสมเครือ่ งลายคราม และมณฑปหลังคามุง ด้วยกระเบือ้ งรายรอบด้วยเก๋งจีนกลางน�ำ้ ท�ำให้ วัดแห่งนีด้ แู ปลกตากว่าวัดทัว่ ไป ภายในอุโบสถ มีภาพจิตรกรรมของ “ขรัวอินโข่ง” ช่างเขียน ชั้นครูในสมัยรัชกาลที่ 4 ผู้ริเริ่มการเขียนภาพ แบบตะวันตก ให้ชมอีกด้วย

This is the only Thai Buddhist temple in Phra Pradaeng, the settlement of the Mon ethnic. The temple is the 3rd class royal monastery built in the reign of King Rama II. Therefore, the outstanding identity is in the roof with old style Mon tiles without ‘chorfah’ (horn like finial on the roof ridge) and ‘bairaga’ (toothlike ridges on the sloping edges of the gable). The gable is decorated with stucco in creeping vines designs and porcelains. There are small Chinese style pavilions in the ponds surrounding the main chapel which makes this temple look differently from other Buddhist temples. Inside the main chapel, there are mural paintings by “Krua In Khong” a famous master painter who introduced the western style painting to Thai artists. He lived in the reign of King Rama IV. ที่ตั้ง : ถนนทรงธรรม ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ. สมุทรปราการ Location : Songtham Road, Songkanong Subdistrict, Phra Pradaeng District, Samut Prakan

ภาพจิตรกรรมของ “ขรัวอินโข่ง” paintings by “Krua In Khong”

Wat Srangsok วัดสร่างโศก

ชมอุโบสถหลังเก่า อายุกว่า 200 ปี ที่มีรูปแบบด�ำเนินรอยตามสถาปัตยกรรมสมัย กรุงศรีอยุธยาตอนปลายผสมผสานศิลปะ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นอย่างวิจติ รงดงาม ประกอบไปด้วยหน้าบัน ท�ำจากไม้แกะสลัก ลายกระหนกเทพนม มีเสานางเรียงรองรับน�้ำ หนักของหลังคาโดยรอบ ส่วนกรอบหน้าบันปัน้ รูปลายบัวกลีบขนุนประดับแทนใบระกา ต�ำแหน่ง ช่อฟ้าและหางหงส์ทำ� จากอิฐถือปูนรูปพญานาค แทนการใช้เครื่องไม้ และถูกออกแบบให้มี ประตูเข้า-ออกทางเดียว ผนังด้านข้างสอบเข้า เพื่อรับน�้ำหนักแทนเสา เรียกว่า โบสถ์มหาอุด ตามคติความเชื่อของชาวมอญ ด้วยเงื่อนไข ของกาลเวลาท�ำให้อุโบสถแห่งนี้เสื่อมโทรม ลงไป แต่ ก็ เ ป็ น สถานที่ ที่ ค นรุ ่ น หลั ง ควร เข้ามาศึกษา

Visitors should visit the old main chapel aged over 200 years which was built with artistic style of late Ayutthaya period that is beautifully mixed with the early Rattanakosin period style. The wooden gable was carved with traditional Thai designs. The roof was supported by lines of columns around the building. The frame of the gable was decorated with stucco instead of ‘bairaga’ (toothlike ridges on the sloping edges of the gable). The places where there should be ‘chorfah’ (horn like finial on the roof ridge) and ‘hang hong’ (small finials jutting out of the two corners of the gable) were made in brick and mortar in the design of Naga instead of the traditional wooden elements. The building was designed with only one entrance and the two side walls were leaning in to support the weight of the roof top instead of columns. According to Mon belief, this style of building is called ‘Bot Maha Ud’. With the passing time,

this main chapel is in dilapidated condition. However, it is a place where younger generations should visit to learn about the history. ที่ตั้ง : ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ Location : Klong Dan Subdistrict, Bang Bo District, Samut Prakan


กันยายน 2557 / September 2014

103


104 On The Way

Phra Samut Chedi

สุดฟ้า..ล่าตะวัน

พระสมุทรเจดีย์

ปูชนียสถานเก่าแก่ที่มีส�ำคัญและเป็น ตราสัญลักษณ์ประจ�ำจังหวัดสมุทรปราการ นอกเหนือจากความเก่าแก่ นัน่ คือความงดงาม องค์เจดีย์สีขาวนวลงามสง่าตั้งโดดเด่นรับกับ ท้องฟ้าและทัศนียภาพริมแม่น�้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้ในวันแรม 5 ค�่ำเดือน 11 ของทุกปี จะมีการจัดงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์ โดยชาวบ้านจะช่วยกันเย็บผ้าแดงผืนใหญ่ เพื่อใช้ห่มองค์พระสมุทรเจดีย์ พร้อมจัดขบวน แห่ผา้ แดงทัง้ ทางบกและทางน�ำ้ ภายในงานมีพธิ ี บวงสรวงดวงวิญญาณของพระพุทธเลิศหล้า นภาลัย และพระบาทสมเด็จพระนัง่ เกล้าเจ้าอยูห่ วั ตลอดจนพระเทพารักษ์ และยังมีการออกร้าน ขายของ มหรสพ ถือว่าเป็นงานวัดที่เก่าแก่ เต็มรูปแบบทีค่ วรมาสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครัง้

FESTIVALS ON THE WATERWAY OF SAMUT PRAKAN

ประเพณีแห่งสายน้ำ� คู่เมืองปราการ

‘Rub Bua’ Festival ประเพณีรับบัว

“รั บ บั ว ” หรื อ “โยนบั ว ” ประเพณี แห่งสายน�ำ้ อันงดงามของชาวบางพลีทสี่ บื ทอด กันมาอย่างยาวนาน ถือก�ำเนิดจากความศรัทธา ในพระพุทธศาสนาและมิตรไมตรีของคนทัง้ สาม เชือ้ ชาติ ระหว่าง ชาวไทย ชาวมอญ และชาวลาว โดยในช่วงเช้าตรู่ของวันขึ้น 14 ค�่ำ เดือน 11 ของทุกปี คลองส�ำโรงจะแออัดไปด้วยเรือล�ำเล็ก ของคนในท้ อ งถิ่ น ที่ มี บ ้ า นติ ด กั บ ริ ม คลอง ทีพ่ ร้อมใจกันแจวเรือมาร่วมงานกันอย่างเนืองแน่น เมือ่ ถึงเวลาประมาณ 7.00 น. ขบวนเรือหลวงพ่อโต จะเคลือ่ นมาถึงหน้าวัดบางพลีใหญ่ใน ชาวบ้าน จะพากันตั้งจิตอธิษฐานและพร้อมใจกันโยน ดอกบัวลงที่หน้าตักองค์หลวงพ่อโตจ�ำลอง ถือเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด

Phra Samut Chedi is an important ancient sacred sanctuary of Samut Prakan that it is used as an emblem or seal of the province. Apart from its antiquity is its physical beauty. The stupa is in white color and stands elegantly against the sky and the scenery of the Chao Phraya River. Apart from worth visiting, on the 5th day of the waning moon of the 11th lunar month there will be a festival that villagers will prepare a huge piece of red cloth and organize a procession on waterway and on the road as well carrying the cloth to wrap around the stupa. There will be a ceremony to pay homage to the spirits of King Rama II and King Rama III including all guardian angels. In the fair there will be entertainment and stalls selling variety of products. It is an authentic temple fair that worth visiting and experiencing the atmosphere.

‘Rub Bua’ (receiving lotus) or ‘Yone Bua’ (tossing lotus) is a magnificent festival on the waterway of Bang Phli for quite a long time. Its origin lied in the faith in Buddhism and the friendship among the Thai, Mon ที่ตั้ง : ต.ปากคลองบางปลากด and Laotian ethnics. Every year early in the morning of the 14th day of the waxing อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ moon in the 11th lunar month, Samrong Location : Pakklong Bangplakod Subdistrict, Canal will be congested with small boats Phra Samut Chedi District, Samut Prakan packed with villagers living by the canal. Around 7.00 a.m. the procession of Luang Poh Tho will arrive at the front of Wat Bang Phli Yai where flocks of villagers are waiting. They will faithfully make their prayers and toss lotus flowers onto the lap of Luang Poh Tho replica. It is an impressive moment. ที่ตั้ง : บริเวณคลองส�ำโรง หน้าวัดบางพลีใหญ่ใน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ Location : Sam Rong Canal, in Front of Wat Bang Phli Yai Nai, Bang Phli Yai Nai Subdistrict, Bang Phli District, Samut Prakan


กันยายน 2557 / September 2014

105

GETTING AWAY FROM SHOPPING CENTERS FOR A WHILE

ห่างห้างสักพัก 100 Years Klong Suan Market ตลาดคลองสวน 100 ปี

ตลาดโบราณอายุกว่าศตวรรษทีถ่ อื ก�ำเนิด มาตัง้ แต่สมัยรัชกาลที่ 5 ตัง้ อยูร่ มิ คลองประเวศ บุรรี มย์ เขตรอยต่อ 2 จังหวัด คือ ต.คลองสวน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และ ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา นับว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ อบอวลด้วยร้านรวงหนาตา เข้าร้านนัน้ ออกร้านนี้ ทั้ ง ของกิ น ของเล่ น ของใช้ ใครมาที่ นี่ นอกจากจะต้องมีน่องที่แข็งแรงแล้วยังต้อง พกเวลามาเยอะๆ ด้วย เพราะความเพลิดเพลิน อาจท�ำให้เผลอลืมมองนาฬิกา

Here is an ancient market aged over a century founded in the reign of King Rama V situated by Prawes Burirom Canal, on the boundary of 2 provinces i.e. Klong Suan Subdistrict in Bang Bo District, Samut Prakan and Thepraj Subdistrict in Ban Pho District, Chacheongsao. It is considered a big market with many stores selling diverse products be it foods, toys, utensils, etc. It is said that visitors visiting this market should have strong legs and plenty of time because they will enjoy themselves that they forget the passing time. ที่ตั้ง : ต.คลองสวน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ Location : Klong Suan Subdistrict, Bang Bo District, Samut Prakan

Bang Nampheung Floating Market ตลาดน้ำ�บางน้ำ�ผึ้ง

ตั้งอยู่เลียบล�ำคลองที่แตกแขนงมาจาก แม่น�้ำเจ้าพระยา เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิต ชาวบ้านที่สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่น อัดแน่น ด้วยสินค้าของดี ของอร่อยมากมายที่มาจาก ชาวบ้านในชุมชน ทั้งพืชผัก ผลไม้ ขนมหวาน อาหารคาว หากให้นิยามที่นี่อาจกล่าวได้ว่า “สวรรค์ของนักกิน” เปิดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ 08.00-15.00 น. ภายในชุมชนบางน�้ำผึ้งยังมี กิจกรรมให้นกั ท่องเทีย่ วได้ทำ� เช่น ปัน่ จักรยาน ชมธรรมชาติ นั่ ง เรื อ ชมหิ ง ห้ อ ยยามเย็ น หรือติดใจอยากอยู่ต่อก็พักโฮมสเตย์ ในชุมชน บางน�ำ้ ผึง้ นอนดูดาวแนบชิดธรรมชาติให้หน�ำใจ ขนมหม้อแกง Khanom Maw Kaeng

ที่ตั้ง : ต.บางน�้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ Location : Bang Nampheung Subdistrict, Phra Pradaeng District, Samut Prakan

Located along the canal branched out from the Chao Phraya River. It is a place to learn about villagers’ way of life with native identities. There are plenty of products from the community be it vegetables, fruits, traditional sweets, foods, etc. If we were to define the name of the place, it could be ‘heaven for food connoisseurs’. The market opens only on weekend during 08.00-15.00 hours. Additionally, the Bang Nampheung Community has other interesting activities for visitors such as cycling to admire the virgin nature, cruising to watch fireflies in the evening or if visitors would like to overnight, home stays are also available in Bang Nampheung where visitors can sleep under the starry sky in the embrace of the nature.


5 106 On The Way สุดฟ้า..ล่าตะวัน

NATURAL RESOURCES CLOSE TO THE CAPITAL

แหล่งธรรมชาติใกล้กรุง

นกกระสานวล Grey Heron

Bang Pu บางปู

สถานที่ท่องเที่ยวริมชายทะเลอ่าวไทย ที่ได้รบั ความนิยมมาตัง้ แต่อดีต และยังขึน้ ชือ่ ใน เรื่องการดูนก ชมธรรมชาติ เพราะป่าชายเลน ย่านบางปูแห่งนีเ้ ป็นทีอ่ าศัยของนกน�ำ้ นานาชนิด ใครที่มาเยือนสามารถเดินทอดน่องกินลม ชมวิวไปตาม “สะพานสุขตา” ที่ทอดยาว ลงไปสู่ทะเลอ่าวไทยสุดปลายสะพานจะพบ “ศาลาสุขใจ” ภายในมีฟลอร์ลลี าศ ร้านอาหาร และห้องจัดเลีย้ ง เดินลึกเข้าไปอีกด้านหลังอาคาร จะพบจุดชมวิวสามารถมองเห็นทิวทัศน์อา่ วไทย ได้อย่างสุดลูกหูลูกตา โดยมีกระแสลมพัดเอา อากาศบริสทุ ธิจ์ ากทะเลและป่าชายเลนมาเป็น ของก�ำนัลให้รสู้ กึ ผ่อนคลายสบายปอด อีกหนึง่ ช่วงเวลาพิเศษคือฤดูหนาวของทุกปี นักท่องเทีย่ ว จะได้ตื่นตาตื่นใจกับฝูงนกนางนวลจ�ำนวน มหาศาลทีอ่ พยพมาจากไซบีเลีย ทิเบต และจีน

Bang Pu has been a popular tourist destination on the Gulf of Thailand since the old days. It is also famous for bird watching and mangrove forest because Bang Pu is the area abound with water birds of many species. Visitors can take a stroll on ‘Sapan Sukta’ (Sukta bridge), a long jetty jutting into the sea where at the end it is ‘Sala Sukjai’ that houses ballroom dancing floor, a restaurant and function rooms. Take a walk to the back of the building, there is a viewing point where the scenery of the Gulf of Thailand is as far as the eye can see. Soothing breeze blows in refreshing air from the Gulf and the mangrove forest as if it is a gift for visitors to enjoy. Another high time is during the cool season when visitors will be thrilled with thousands of migratory sea gulls from Siberia, Tibet and China ที่ตั้ง : สถานตากอากาศบางปู ถ.สุขุมวิท (สายเก่า) ต.บางปู อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ Location : Bang Pu Seaside Resort (Old) Sukhumvit Road, Bang Pu Subdistrict, Muang District, Samut Prakan


กันยายน 2557 / September 2014

107

Bang Kachao บางกะเจ้า

ผืนป่าธรรมชาติทเี่ กิดจากการสะสมของ ตะกอนดิน มีเนื้อที่กว่า 11,819 ไร่ ครอบคลุม 6 ต�ำบล ได้แก่ ทรงคนอง บางกระสอบ บางยอ บางน�้ำผึ้ง บางกะเจ้า และบางกอบัว ด้วยความที่เป็นพื้นที่สีเขียว อุดมสมบูรณ์ ด้วยพรรณไม้และสัตว์นานาชนิด ถูกโอบล้อม แม่น�้ำเจ้าพระยา ที่นี่จึงเป็นแหล่งผลิตอากาศ บริสุทธิ์ให้คนเมือง รวมถึงเป็นสวนสาธารณะ และแหล่งศึกษาระบบนิเวศพืชและสัตว์ และ ด้วยบรรยากาศและความสวยงามทีถ่ กู ปรุงแต่ง โดยธรรมชาติทำ� ให้ดนิ แดนแห่งนีก้ ลายเป็นสวรรค์ ของนักดูนกและนักปัน่ ทีส่ ามารถมาใกล้ชดิ ผืนป่า โดยไม่ต้องเดินทางไกล

A natural forest from the sedimentation of alluvial soil covering an area of 11,819 rais (3,940 acres) in 6 subdistricts i.e. Songkanong, Bang Krasob, Bang Yor, Bang Nampheung, Bang Kachao and Bang Korbua. As the area is fertile with diverse species of flora and fauna embraced by the Chao Phraya River, it is the place producing fresh air for the urban dwellers. Besides, it serves as a public park and the venue to learn about the flora and fauna eco-system. With the natural atmosphere, this area becomes the heaven for bird watchers and cyclists who can get close to nature without travelling far. ที่ตั้ง : ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ Location : Bang Kachao Subdistrict, Phra Pradaeng District, Samut Prakan

นอกจากแหล่งท่องเที่ยวที่กล่าวมาแล้ว ยังเป็นแหล่งของอร่อยขึ้นชื่ออีกมากมาย ทั้ง “กุ้งเหยียด” ของดีประจ�ำบ้านสาขลา “ปลาสลิด” อ�ำเภอบางบ่อ ที่โด่งดังไกลทั่วประเทศ “ขนมจาก” ขนมหวานคูเ่ มืองปากน�ำ้ และสุดยอดผลไม้ขนึ้ ชือ่ “มะม่วงน�ำ้ ดอกไม้" จากบางกะเจ้า เนื้อสีเหลืองจ�ำปาแน่น รสชาติหวานหอม ทั้งหมดนี้รวมอยู่ที่ สมุทรปราการ.. Apart from the aforementioned destinations, there are many places famous for certain foods such as ‘stretched prawns’ at Baan Sakhla; national famous sun-dried gourami at Bang Bo; ‘Kanom Jaak’ the famous snack of Paknam and the ‘sweet Nam Dok Mai’ mango from Bang Kachao. All of which can be found in Samut Prakan.


106 Stories of Paknam 108 ร้อยเรื่องเมืองปากน้ำ�

Environmentalist with

Green Heart นักอนุรักษ์ หัวใจสีเขียว

ลายคนคงเคยร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลนมาบ้างไม่มาก ก็ น ้ อ ย แต่ เ คยสงสั ย กั น ไหมว่ า เบื้ อ งหลั ง ของต้ น ไม้ หลากสายพั น ธุ ์ ที่ ถื อ อยู ่ ใ นมื อ เหล่ า นั้ น มาจากไหน ใครเป็ น คนเพาะพั น ธุ ์ ผ่ า นขั้ น ตอนการปลู ก อย่ า งไรบ้ า ง กว่ า จะมาเป็ น ต้ น กล้ า พร้ อ มปลู ก ที่ มี ถุ ง พลาสติ ก สี ด� ำ ห่ อ หุ ้ ม อย่างสวยงาม ซึ่งเราจะพาทุกท่านเดินทางไปหาค�ำตอบพร้อมๆ กัน ที่บ้านสวนริมคลองของลุงชรินทร์ ตรีสิน เกษตรกรผู้เพาะไม้ ชายเลนขายเป็นอาชีพ

M

any people have participated in the mangrove forest reforestation program. However, have you ever wondered where those different species of sapling come from, who grow them, how many steps are there in the nurturing process before they become saplings in small black plastic bag? We will take you the find the response together at the farmhouse by the canal of Uncle Charin Tri-zin, the farmer who nurtures mangrove tree saplings as his occupation.


กันยายน สิงหาคม 25572557 / September / August 2014

107 109


110 Stories of Paknam ร้อยเรื่องเมืองปากน้ำ�

บ้านสวนริมคลองบนพื้นที่ 20 ไร่ ล้อมรอบไปด้วย ไม้ชายเลนกว่า 50 สายพันธุ์ ให้ความร่มรื่น เย็นสบาย ไม่ตา่ งจากอยู่ในห้องทีม่ เี ครือ่ งปรับอากาศ ทีน่ เี่ ป็นแปลง เพาะปลูกไม้ชายเลน เพื่อส่งขายให้กับโครงการปลูกป่า ชายเลนของหน่วยงานต่างๆ ทีเ่ ข้ามารับซือ้ อย่างสม�ำ่ เสมอ ซึ่งคุณลุงบอกว่ามันคือผลพลอยได้ เพราะจุดประสงค์ แต่แรกเริ่ม คือปลูกเพื่อความเพลิดเพลิน ว่างก็ปลูก เล่นเรื่อยเปื่อย ใครมาขอซื้อเราก็ขาย มาขอฟรีเราก็ให้ The farmhouse occupies the area of 20 rais (7 acres) surrounding by over 50 species of mangrove trees which provide shading and coolness like being in an air-conditioned room. Here is the plot for nurturing mangrove tree saplings for sale to the reforestation programs of various organizations that regularly call for supply. Uncle Charin told us that selling saplings is a by-product because his initial purpose was for pleasure. He nurtures the saplings in his free time and sells to those who ask to buy or give away to those who ask for free saplings.


กันยายน 2557 / September 2014

111

ต้นฝาดแดง Lumnitzera littorea

ต้นโกงกางใบเล็ก Rhizophora apiculata

ต้นรุ่ย Bruguiera cylindrical

ต้นล�ำพู Sonneratia caseolaris

แม้ คุ ณ ลุ ง จะบอกว่ า เพาะปลู ก เพื่ อ ความ เพลิ ด เพลิ น แต่ ดู เ หมื อ นว่ า ตอนนี้ จ ะกลายเป็ น อาชีพหลักไปโดยปริยาย ด้วยจ�ำนวนไม้ชายเลนกว่า 300 ต้น ที่ถูกจัดวางเป็นสัดส่วน อาทิ คักดอกขาว คักดอกแดง โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ ฝาดขาว ฝาดแดง แสมด� ำ แสมขาว ล� ำ พู ล� ำ แพน โพทะเล รุ่ย เตยทะเล หงอนไก่ทะเล ตะบูนขาว ตะบูนด�ำ และปอทะเล ซึ่งต้นไม้เหล่านี้นอกจาก จะให้รม่ เงาแล้วยังมีประโยชน์อกี หลายอย่าง ทัง้ ช่วยลด การกัดเซาะตลิ่ง เป็นยารักษาโรค และมีบางชนิด ที่สามารถน�ำมาประกอบอาหารได้อีกด้วย เรียกได้ว่า ยิ่งปลูกยิ่งได้ประโยชน์ Though he said that he has done this chore for pleasure but it seems that nowadays it implicitly becomes his main occupation. Over 300 saplings of mangrove trees are lined up in group such as Lumnitzera racemosa, Lumnitzera littorea, Rhizophora apiculata, Rhizophora mucronata, Lumnitzera racemosa, Lumnitzera littorea, Avicennia officinalis, Avicennia alba, Sonneratia caseolaris, Sonneratia ovate, Thespesia populnea, Bruguiera cylindrical, Pandanus odoratissimus, Heritiera littoralis, Xylocarpus granatum, Xylocarpus moluccensis and Hibiscus tillaceus. Those trees not only providing shades but also have other benefits like preventing coastal erosion, medicinal properties and some plants are also used as ingredients in daily cooking. Let’s say the more you plant, the more benefits you will get.


112 Stories of Paknam ร้อยเรื่องเมืองปากน้ำ�


กันยายน 2557 / September 2014

113

ส่วนขัน้ ตอนการปลูกไม้ชายเลนก็ไม่มอี ะไรซับซ้อน เพียงตระเตรียมดินใส่ถุงพลาสติกสีด�ำ จากนั้นน�ำ ฝักของพันธุ์ ไม้ชนิดต่างๆ เสียบลงในถุง แล้วจัด แปลงเป็นระเบียบป้องกันต้นกล้าล้ม ส่วนเรื่องปุ๋ย คุ ณ ลุ ง บอกว่ า ใช้ เ พี ย งน�้ ำ หมั ก ชี ว ภาพธรรมดา ไม่ ไ ด้ มี สู ต รอะไรพิ เ ศษ ต้ น ไม้ ช ายเลนปลู ก ง่ า ย ดูแลง่าย ไม่ต้องกลัวศัตรูพืช เพราะศัตรูพืชมักกัดกิน เพียงใบอ่อน พอหมดใบอ่อนมันจะบินหนีหายไป ขอให้หมั่นรดน�้ำพรวนดิน แค่นี้ก็จะได้ต้นกล้าที่ แตกกิ่งก้านสวยงาม The nurturing of saplings is not complicated. You just prepare the soil and put it in black plastic bag then put a pod of your choice of saplings in the bag. After that, you just align those bags in plots so that the saplings can grow orderly. Regarding the fertilizer, Uncle Charin said that it is not necessary. He uses only regular bio-extract and doesn’t have to worry about plant pests because plant pests will only damage the young leaves. However, it is necessary to water and loose the ground regularly in order to have the saplings grow beautifully.

พื้นที่แห่งนี้นอกเหนือจากเป็นแปลงพันธุ์ไม้แล้ว อีกด้านหนึ่งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศของชุมชน แหล่งข้อมูลวิจัยของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่มัก แวะเวียนมาศึกษาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งคุณลุงยินดี เปิดบ้านต้อนรับเสมอ เพราะลุงบอกกับเราว่าสิ่งที่ท�ำ ในทุกวันนี้ท�ำด้วยความรักต้นไม้ จึงอยากเห็นคนน�ำ ต้นไม้ที่ลุงเพาะไปปลูก เพียงแค่นี้ก็เป็นความสุข ของนักอนุรักษ์หัวใจสีเขียวคนนี้แล้ว This compound is not only a sapling plot on the other hand it serves as the community ecological system learning center, research information center for university lecturers who take turn to visit Uncle Charin. He always welcome them with open arms as he told us that he loves plants and it makes him happy seeing people planting trees from his saplings. It is the happiness for this respectable environmentalist with green heart. การเดินทาง จากถนนสุขสวัสดิ์ เลีย้ วเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 70 ตรงไปจนสุดทาง แล้วเลีย้ วซ้ายไปยังซอยประชาอุทศิ 90 มุง่ หน้าไปทีว่ ดั คลองสวน จากนัน้ เลีย้ วเข้าซอยข้างวัด ตรงไปสุดทาง จะเจอท่าเรือข้ามฟากไปวัดศรีคงคาราม จากนัน้ นัง่ เรือเข้าไปบ้านสวนริมคลองลุงชนินทร์ อีก 1 กิโลเมตร (ควรติดต่อนัดหมายล่วงหน้า) ที่ตั้ง : บ้านสวนริมคลอง ลุงชนินทร์ ตรีสิน 44/4 ม.4 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ 08-5149-3465 Location : Uncle Charin Tri-zin 44/4 Moo 4, Baan Klong Suan Subdistrict, Phra Samut Chedi District, Samut Prakan Tel. 08-5149-3465


114 High Time เยือนบ้านงานมือ

Keepers of Knowledge from the Past until Present

Ship Builders ช่างต่อเรือ..แก่นความรู้จากอดีตสู่ปัจจุบัน

ลองด่าน พื้นที่ธรรมชาติขนาดใหญ่บนอ่าวไทยตอนในของสมุทรปราการ เรารู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของหมู่บ้านชาวประมงริมอ่าว อันน่าหลงใหลของเมืองไทย ทีน่ จี่ งึ เป็นหนึง่ ในจุดหมายของการเดินทางส�ำหรับ นักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่..เสน่ห์ของคลองด่าน ยังไม่จบเพียงเท่านี้เพราะวิถีชีวิต ชาวประมงอันเป็นจุดเด่นส�ำคัญคงจะเกิดขึน้ ไม่ได้หากขาด “เรือ” พาหนะคูท่ กุ ข์คสู่ ขุ ของ ชาวประมง SAMUTPRAKAN Travel ฉบับนี้ จะพาคุณไปมองหาเรื่องราวใน “อู่เรือ” และเข้าถึงเสน่ห์ของเหล่า “ช่างต่อเรือ” จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อเปิดประสบการณ์ ใหม่ ให้ต่าง จากเรื่องราวของคลองด่านที่คุณเคยรู้มา

K

longdan is a Gulf of Thailand coastal area in Samut Prakan already known as green tourist attraction with enchanting fisherman village. It is another destination of world travelers. However, the charm of Klongdan does not lie only on the fisherman way of life which could not be present if there is no ‘boat’, the indispensable vehicle for fishermen. In this issue, @SAMUTPRAKAN Travel will open the new horizon-the world of ‘shipyard’ and those charming ‘ship builders’ who are there from generation to generation. This story will give you a new experience of Klongdan different from what you already know about.


กันยายน 2557 / September 2014

115


116 High Time เยือนบ้านงานมือ

อู่เรือ คลองด่าน เป็นอู่เรือคานไม้ขนาดใหญ่ของ สมุทรปราการ สามารถรองรับงานสร้างและซ่อมแซม เรือพร้อมกันได้ประมาณ 20 ล�ำ โดยเรือที่มาใช้บริการ นัน้ มีตงั้ แต่เรือหาปลาขนาดเล็ก เรือลากอวนขนาดใหญ่ เรือประมง เรือท่องเที่ยว ซึ่งมาจากที่ต่างๆ อาทิ พัทยา เกาะล้าน แหลมบาลีฮาย เป็นต้น เรือเหล่านี้จะวิ่งเข้า มาจอดที่ท่าน�้ำของอู่ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากปากอ่าวมาก นัก เพื่อความสะดวกและป้องกันปัญหาการเดินเรือใน ช่วงน�ำ้ ลด จากนัน้ ใช้สลิงดึงเรือขึน้ ไปตามรางทีท่ อดยาว เข้าสู่จุดส�ำหรับด�ำเนินงาน โดยจัดแบ่งไว้เป็นช่องๆ พัก เรือประมาณหนึ่งวันก็เริ่มซ่อมแซมได้ การซ่อมแซมเรือ เป็นงานทีย่ งุ่ ยากกว่าการต่อเรือ มากนัก ใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป เพราะต้อง อาศัยช่างที่มีประสบการณ์ผ่านงานมานานเป็นผู้ดูแล อย่างการจับรัว่ (หารอยรัว่ ) ก็ใช้เพียงการสังเกตรอยร้าว บนผิวเรือของช่างเป็นเครือ่ งตัดสิน ว่าต้องซ่อมแซมจุด ไหนและจุดใดไม่ต้องดูแล หากช่างไม่มีความช�ำนาญ อาจมองผ่านจุดที่เรือเสียหายอยู่ก็เป็นได้ หรือหากต้อง เปลี่ยนไม้แผ่นใหม่ ก็ต้องเลือกไม้ที่มีความคงทนหรือ ยืดหยุ่นให้เหมาะสมกับตัวเรือบริเวณนั้น เลื่อยไม้ ให้ได้ ขนาดเข้ากับเหลี่ยมมุมไม้แผ่นอื่นและต้องประกอบได้ สนิทไม่มีช่องว่าง ต่างจากการประกอบเรือใหม่ที่ไม้จะ ตัดแบ่งเป็นขนาดต่างๆ และจัดกลุม่ แยกไว้เรียบร้อยแล้ว ส�ำหรับ งานต่อเรือ เอง แม้จะบอกว่าไม่ยงุ่ ยากเท่า การซ่อมแซม แต่ก็ต้องใช้ทักษะและความช�ำนาญของ ช่างไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะการสร้างเรือแต่ละล�ำ นัน้ มีขนั้ ตอนมากมาย โดยเริม่ ตัง้ แต่การศึกษาแปลนเรือ

เลือกไม้ ออกแบบและวางกระดูกงู ขึ้นโขน วางโครง ขึ้นกระดานแผ่นแรก ได้ออกมาเป็นเรือ ท�ำการตอก หมัน ทาสี ติดตั้งเครื่องยนต์และน�ำลงสู่ทะเลทดสอบ สมรรถนะ ส่วนประกอบอันมากมายจากขัน้ ตอนเหล่านี้ จะต้องสอดรับกันอย่างสมบูรณ์ เพือ่ ให้เรือแข็งแรงและ มีความสมดุลมากที่สุด ช่างต่อเรือจะต้องมุง่ เน้นเรือ่ งความแข็งแรง ทนทาน ของตัวเรือเป็นส�ำคัญ เพราะเมือ่ ออกทะเลในแต่ละครัง้ นัน้ จะใช้เวลาหลายเดือน แม้เป็นเรือลากอวนที่ท�ำงาน ทั้งวันทั้งคืน ก็ยังกินเวลากว่า 15 วัน ในระหว่างนั้น เรือจ�ำเป็นจะต้องทนทานต่อสภาพอากาศและแรงคลืน่ ลมให้ได้ก่อนกลับถึงฝั่ง เรื่องที่ส�ำคัญไม่แพ้กันก็คือ ความสมดุล เมื่อน�ำลงน�้ำแล้ว ต้องไม่เอียงข้างใดข้าง หนึ่ง สัดส่วนของเรือที่จมและลอยต้องไม่เกินกันโคลง มิฉะนัน้ เมือ่ เจอพายุทะเล เรืออาจจะล่มได้ ท�ำให้งานต่อ เรือต้องอาศัยช่างประกอบ 6 คนและช่างหมัน (ตอกยา) อีก 10 คน ช่วยกัน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าราคาของ เรือแต่ละล�ำนั้น จะมีตั้งแต่หลักล้านขึ้นไป ปัจจุบนั อาชีพช่างต่อเรือ เริม่ ลดน้อยลงทุกที อาจ ด้วยข้อจ�ำกัดหลายอย่างทัง้ แรงงาน ทรัพยากรป่าไม้ หรือ ปัจจัยส�ำคัญอย่าง องค์ความรู้ ที่ได้ล้มหายตายจากไป พร้อมกับตัวช่างต่อเรือ แต่เรื่องจริงข้อหนึ่งคือ อาชีพ ประมงและอาชีพต่อเรือ เป็นสิง่ ที่ไม่สามารถแยกออกจาก กันได้ ในวันข้างหน้า..ก็คงมีเพียงชาวคลองด่านทีจ่ ะเป็น ผู้เลือกว่าจะสืบทอด ทักษะการต่อเรือ ไว้ ให้คนรุ่นหลัง หรือไม่ หากไม่แล้ว อาชีพประมงคลองด่านก็คงจะถึง ทางตันด้วยเช่นกัน..


กันยายน 2557 / September 2014

Klongdan Dock is a big wooden beam shipyard of Samut Prakan that can accommodate the building and repairing works of 20 ships at the same time. The ships that come for service at this shipyard include small fishing boats, trawlers, cruise ships from other places such as Pattaya, Koh Lan, Balihai Cape, etc. These ships will sail into the dock’s quay which is situated not far from the estuary in order to avoid problem in low tide. After that ships will be towed by sling on to the rails to the service shed which is divided into berths. The ship will be left in the allocated berth for one day before the service will begin. Ship repairing is much more complicated than building a new one and it takes more than a month to finish each job. The repair works need ship builders with long experiences to supervise. For example, when checking for the leaks they will use only their expertise in judging which cracks on the surface of the ships needed to be repaired. If they are not an experienced one, they could overlook the damages. Or, if it is necessary to change a piece of wooden part, they should be able to advise what kind of wood that is suitable for that particular part of the ship; sawing the piece of wood to perfectly fit with the old ones that there will be no even a tiny space. This is different from building a new ship that pieces of wood will be cut to required sizes beforehand. Ship builders always emphasize on durability and strength of the ship because each seafaring will take several months. Even trawlers that work all day and night also take at least 15 days. During each seafaring, the ship should be able to withstand the changing of weather, wind and waves. The other equal importance is the balance of the ship that when launched into the water it should not tilt to one side and the ratio of ship sinking and floating should not exceed the stabilizer otherwise should the ship encounter the storm at sea, it could capsize. Thus, shipbuilding needs at least 6 part assembly men and 10 other men for sealing Therefore, it is not a surprise that the price of each ship is over a million baht up. Nowadays, the number of ship builders is decreasing may be because of many limitations such as labours, forest resources and the other important factor is that knowledge or ship building wisdom are dying with the old ship builders. However, the fact remains that the fishermen and shipbuilders are inseparable. In the future it is only the people of Klongdan to choose whether they are willing to inherit ship building skills for the next generations or else the fishing occupation of Klongdan will also come to an end.

ช่วงเดือนตุลาคม - มกราคม จะมี เรือขึ้นจากทะเลมาซ่อมแซมเป็นจ�ำนวน มาก เพราะช่วงนีล้ มสงบ น�ำ้ ทะเลใส ท�ำให้ ปลาส่วนใหญ่วา่ ยหลบอวน ชาวประมงจึง ไม่ค่อยออกทะเลกันมากนัก แต่เมื่อผ่าน ตรุษจีนไปแล้ว ทะเลจะเริม่ มีลมพัด น�ำ้ จะ เริ่มขุ่น ปลามองไม่เห็นอวน ประกอบกับ เรือซ่อมแซมแล้วเสร็จ ทะเลในช่วงนี้จึง จะเต็มไปด้วยเรือประมงมากมาย

ขอบคุณผู้ ให้ข้อมูล พี่แผน พี่เล็ก พี่ราม ช่างต่อเรือ พี่โก้ ช่างหมัน

117

During October-January there will be a large number of ships coming for repair because during this period the sea is calm and clear that the fishes can evade the fishing net. Therefore, fishermen do not go out much catching at this time of the year. After Chinese New Year, wind will start blowing again and the sea become turbid that the fishes cannot see the fishing net coupled with the ships are well repaired so that the sea will be busy with fishing ships again. Thanks to informants Brother Phan, Brother Lek, Brother Ram - ship builders Brother Ko - Ship sealer


118 At One Time เยือนสถานโบราณศิลป์


กันยายน 2557 / September 2014

119

Legend of Siamese Sovereignty Restoration

250 Years..Wat Huakoo 250 ปี..วัดหัวคู.้ .เรื่องเล่าเก่า ครั้งกอบกู้กรุง วัดหัวคู้ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี 2409 แต่เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า วัดคู้ หรือ วัดศีรษะคู้ อันน่าจะมาจากชื่อเดิมของหมู่บ้านหัวคู้ หรือเรียกตามท�ำเลที่ตั้งของวัดซึ่งอยู่บริเวณหัวโค้งล�ำคลอง โดยพื้นที่ตั้งวัดราว 23 ไร่เป็นที่ราบลุ่ม แม้จะอยู่ติดชายคลองแต่ไม่มีปัญหาเรื่องน�้ำท่วมในฤดูฝน มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม อยู่ตรงทางสามแยกระหว่างคลองหนองงูเห่า ตัดกับคลองจระเข้น้อย เชื่อมต่อเส้นทางถนนผ่านซอยลาดกระบัง 54 ในอดีตถือเป็นเส้นทางคมนาคมทางน�้ำที่ส�ำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสัญจร ติดต่อค้าขาย หรือแม้กระทั่งเป็นเส้นทางเดินเรือส�ำคัญ ครั้งพระเจ้าตากสินมหาราชกอบกู้เอกราชแก่กรุงศรีอยุธยาเมื่อกว่า 250 ปีมาแล้ว

ากค� ำ บอกเล่ า สื บ ต่ อ กั น มาของผู ้ เ ฒ่ า ผู ้ แ ก่ และนักวิชาการในท้องถิน่ แสดงให้เห็นว่าวัดแห่งนี้ มีเรื่องราวนับแต่สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช เสด็ จ ฝ่ า วงล้ อ มกองทั พ พม่ า จากกรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยามุ ่ ง ไปชลบุรีราวปี 2310 ในครั้งนั้น ได้เดินทางมาถึง หมู่บ้านหัวคู้ ซึ่งมีคูน�้ำล้อมรอบทั้งสองทาง พระองค์ ทรงเล็ ง เห็ น ว่ า เหมาะสมให้ พั ก ทั พ เพราะจุ ด นี้ ทหารพม่ า น่ า จะเข้ า โจมตี ไ ด้ ล� ำ บาก หากทั พ ไทย พลาดท่าอย่างไร ก็ยังมีทางหนีทีไล่ให้เอาชีวิตรอดได้ อี ก ทั้ ง ยั ง มี พื ช พรรณอุ ด มสมบู ร ณ์ ใ ห้ เ หล่ า ทหาร สะสมเสบียงจนพร้อมสรรพก่อนเดินทัพต่อไป เมื่อกองทัพของพระเจ้าตากสินฯ รวบรวมไพร่พล และเสบียงอาหารไว้จนพร้อมสรรพ ก่อนเคลื่อนทัพ พระองค์ ได้มอบพระพุทธรูปโลหะ (คาดว่าเป็นพระชัย หลังช้างทองค�ำ) และสมบัติบางชิ้นจากกรุงศรีอยุธยา ไว้ทวี่ ดั แห่งนี้ โดยอธิษฐานว่าบริเวณบ้านหัวคูจ้ ะกลายเป็น วั ด ในภายภาคหน้ า นายทหารผู ้ ดู แ ลและชาวบ้ า น จึงได้สร้างพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน หน้าตักกว้าง 6 เมตร ครอบองค์พระไว้ แล้วก่อเพิงไม้ครอบไว้อีกชั้นหนึ่ง ซึ่ ง สาเหตุ ที่ ไ ม่ มี ก ารสร้ า งองค์ พ ระให้ ส วยงามตาม อย่างไทยนั้น อาจเนื่องมาจากบ้านเมืองก�ำลังวิกฤต ผู ้ ค นต่ า งต้ อ งเอาชี วิ ต รอด จึ ง ไม่ มี เ วลาท� ำ นุ บ� ำ รุ ง พระพุทธศาสนามากนัก เวลาผ่านไปกว่า 170 ปี (ราวปี 2480) ในสมัย พระอุปัชฌาย์ พลอย ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าอาวาส ได้มีการ เลื่อนองค์หลวงพ่อเขียวออกไปเพื่อสร้างพระอุโบสถ

(ปัจจุบนั เป็นพระอุโบสถหลังเก่า) ท�ำให้องค์หลวงพ่อเขียว ช�ำรุดและพังทลายลง มีการพบสมบัตทิ ถี่ กู ฝังไว้ หลายชิน้ อาทิ พระบูชาทองค�ำ พระเครื่อง เครื่องประดับต่างๆ เป็นต้น แต่ที่น่าแปลกคือ สมบัติส่วนใหญ่ได้จมลงไป ในดินคล้ายธรณีสูบเกิดเป็นหลุมลึกขนาดที่ว่า ไม้รวก 1 ล�ำ (ยาวประมาณ 6 - 10 เมตร) แหย่ลงไปไม่สดุ บางท่าน บอกว่ า หลวงพ่ อ เขี ย วองค์ เ ดิ ม ก็ ไ ม่ ไ ด้ ขึ้ น มาให้ ประชาชนได้สักการะอีกเลย ส�ำหรับองค์หลวงพ่อเขียว ที่สร้างจากอิฐถือปูนนั้น ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของเจ้าอาวาส (ไม่ทราบล�ำดับ) ได้ถกู ท�ำลายลงจนหมดสิน้ มี ก ารทุ บ องค์ พ ระและเกลี่ ย ไปท� ำ พื้ น ถนนตั้ ง แต่ หน้าโบสถ์ไปจนถึงศาลาท่าน�้ำโชคไมตรีในปัจจุบัน ครั้นถึงปี 2520 ได้มีการนิมนต์หลวงพ่อบุญปลูก อุตตฺ โม นาคทอง (พระครูไพศาลพัฒนโสภณ) มาด�ำรงต�ำแหน่ง เจ้าอาวาส เมือ่ ท่านเดินทางมาถึงก็เกิดเรือ่ งแปลกขึน้ กับท่าน เพียงองค์เดียว ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าต่อกันมาว่า หลังจาก หลวงพ่อขึ้นจากเรือที่ท่าน�้ำวัดหัวคู้ฝั่งคลองหัวตะเข้ ก็ ไม่สามารถเดินบนพืน้ ถนนเข้าไปยังพระอุโบสถได้ เพราะ มีอาการอ่อนแรง ขาสั่น ก้าวขาไม่ออก แต่เมื่อลงไปเดิน บนพื้นดิน อาการที่ว่านี้กลับหายไป สามารถเดินเหินได้ เป็นปกติ แม้ท่านจะลองขึ้นไปเดินบนทางอยู่หลายครั้ง ก็ปรากฏว่าไม่ตา่ งกัน โดยเหตุการณ์ ในครัง้ นัน้ ผูพ้ บเห็นหรือ แม้แต่หลวงพ่อบุญปลูกเอง ก็ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด จากเหตุการณ์ ในครัง้ นัน้ หลวงพ่อบุญปลูกจึงตัดสิน ใจขุดรือ้ ถนนหน้าพระอุโบสถยาวไปจนถึงท่าน�ำ้ ท�ำให้พบ ชิ้นส่วนปูนปั้นบริเวณเม็ดพระศกองค์หลวงพ่อเขียวเดิม


120 At One Time เยือนสถานโบราณศิลป์

หลวงพ่อเขียว สุโขพุทโธภควา Luang Poh Keow Sukho Buddho Bhakava

ขนาดเท่าก�ำปั้นผู้ ใหญ่ อายุเก่าแก่กว่า 200 ปี ที่เคยถูกทุบทิ้งไป ฝังอยู่ใต้ถนนที่ชาวบ้าน เดินเหยียบผ่านไปมาทุกวัน สร้างความสังเวช ต่อผู้พบเห็นอย่างยิ่ง จึงได้ท�ำการก่อสร้าง องค์หลวงพ่อเขียวขึ้นใหม่ให้มีขนาดใหญ่และ สวยงามมากกว่าเดิม นอกจากนีย้ งั ได้นำ� ชิน้ ส่วน ปูนปัน้ ขององค์หลวงพ่อเขียวเดิมและพระเครือ่ ง บางพิมพ์ที่พบในปี 2480 มาบรรจุไว้ภายใน พร้อมถวายพระนามใหม่ว่า หลวงพ่อเขียว สุโขพุทโธภควา หลวงพ่อเขียวองค์ ใหม่นี้ เป็นพระพุทธรูป ขนาดใหญ่คเู่ มืองสมุทรปราการ ใช้เวลาสร้างกว่า

6 ปี จึงแล้วเสร็จ พุทธลักษณะปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 9.19 เมตร สูง 13 เมตร องค์พระสีทองคล้ายปิดด้วยทองค�ำเปลว พุทธศิลป์ส�ำคัญและมีความโดดเด่นสวยงาม ได้แก่ พระพักตร์เป็นศิลปะแบบสุโขทัย พระอุระ เป็นศิลปะแบบเชียงแสน และหน้าตักพระชงฆ์ มีลักษณะกว้าง เป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ โดยประดิ ษ ฐานเป็ น องค์ ป ระธานในพระ อุโบสถหลังใหม่ ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และ เครือ่ งยึดเหนีย่ วจิตใจของผูค้ นบางเสาธงเรือ่ ยมา นอกจากจะมีการสร้างองค์หลวงพ่อเขียว ขึน้ ใหม่ให้ยงิ่ ใหญ่และวิจติ รงดงามแล้ว ยังได้สร้าง

พลั บ พลาสมเด็ จ พระเจ้ า ตากสิ น มหาราช ขึ้ น อย่ า งสวยงาม เพื่ อ เป็ น ที่ ป ระดิ ษ ฐาน รูปปัน้ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ให้ชาวบ้าน ได้กราบสักการะและร�ำลึกถึงวีรกรรมของท่าน โดยเป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น ตกแต่ง ตามสถาปัตยกรรมและสอดแทรกนัยตาม แบบจีน ประกอบด้วย ตัวอาคาร กว้าง 9 เมตร ยาว 9 เมตร แสดงให้เห็นถึงนัยว่าจะยั่งยืน มัน่ คง เสาขนาดใหญ่ จ�ำนวน 8 ต้น สือ่ ถึงความ มั่งคั่ง ร�่ำรวย มีประติมากรรมมังกรโอบล้อม รอบเสา แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง คุ ณ งามความดี ความกล้าหาญของวีรบุรุษ และบันได จ�ำนวน 13 ขั้น สื่อถึงการด�ำรงชีวิตอย่างเหมาะสม ผูท้ มี่ ากราบสักการะนัน้ ย่อมจะได้รบั สิง่ เหล่านี้ กลับไปด้วยเช่นกัน จิตรกรรมสีน�้ำมันบนฝาผนังพลับพลา บอกเล่าเรื่องราวครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราชกอบกู้กรุง โดยเริ่มตั้งแต่ เดินทางมา ถึงหมูบ่ า้ นหัวคู้ ได้พบเห็นวิถชี วี ติ ของชาวบ้าน ซึง่ อาศัยทางน�ำ้ รอบชุมชนและความอุดมสมบูรณ์ ของผืนดินในการประกอบอาชีพประมง เกษตรกรรม และท�ำนา สองฝัง่ คลองจึงมีบา้ นเรือนอาศัยอยู่ ตลอด เหมาะต่อการตั้งทัพ สะสมเสบียงและ ก�ำลังพล ภาพบอกเล่าต่อถึงเรื่องราวระหว่าง ทางไปจันทบุรี มีการรวบรวมไพร่พลพร้อมอาสา สมัครไทย จีน จ�ำนวนมาก เมื่อผ่านวัดใดก็ ท�ำนุบ�ำรุงมิได้ขาด ผนังบางมุมแสดงให้เห็น ถึงความโหดร้ายของทัพมังมหานรธา ที่ปล้น สะดมและเข่นฆ่าชาวบ้าน เพื่อเป็นอุทาหรณ์ แก่ผู้พบเห็นว่าใครท�ำกรรมเช่นไร ย่อมต้อง ได้รับผลเช่นนั้น ปั จ จุ บั น วั ด หั ว คู ้ ได้ รั บ การพั ฒ นา บูรณปฏิสงั ขรณ์ จนมีความสวยงาม เหมาะต่อ การปฏิบตั ธิ รรมของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน จะได้เรียนรู้ ประวัติศาสตร์ส�ำคัญของบรรพบุรุษ ได้ชม ความงามขององค์หลวงพ่อเขียว สถาปัตยกรรม ไทย-จี น พลั บ พลาสมเด็ จ พระเจ้ า ตากสิ น ปูชนียวัตถุเก่าแก่หลายชิ้น หรือใครจะไปนั่ง ริมคลองให้อาหารปลานับร้อย ชมเรือยนต์ วิ่งผ่านไปมาพลางๆ รับลมที่พัดโชยมาอ่อนๆ ก็เป็นอีกหนึง่ กิจกรรมพักผ่อนที่ได้ทง้ั ความสุขกาย สุขใจจริงๆ..


กันยายน 2557 / September 2014

121

พลับพลาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช The statue of King Taksin

I

t is assumed that Wat Huakoo was built circa 2409 B.E. (1866 A.D.) Formerly the villagers called this monastery ‘Wat Koo’ or ‘Wat Srisakoo’ which could possibly derive from the name of the village ‘Baan Hua Koo’ or was called because of the location of the temple which was at the bend of the canal. The temple is situated on the low land covers an area of 23 rais (approx. 8 acres). Though it is situated by the canal, but has never experienced problems from flood in the rainy season. It is probably because the land is in triangle shape on the junction of Nong Ngu Hao Canal and Chor Rakaenoi Canal with road connection to Soi Ladkrabang 54. In the past it was regarded as a major waterway for transport, commercial and also as an important waterway route 250 years ago during the

time that King Taksin was trying to restore Ayutthaya’s sovereignty. According to the narrative stories from the elders and local scholars, it is vivid that the history of this temple has been set since the time that King Taksin led a breakout hit from the Burmese army in Ayutthaya heading for Cholburi. This heroic incident was in 2310 B.E. (1767 A.D.) after the fall of the city. Upon arriving at Wat Huakoo with surrounded by waterway on two sides, he realized that the area was suitable for his army to make a stop as the location was difficult for the Burmese forces to attack. Should the Thai forces were attacked and likely be defeated, there were choices of escape. Additionally, the area was rich with supply of food that the forces could gather the provisions for the onward mission.

When King Taksin’s army gathered enough provisions and forces, before mobilizing his army he conferred a metal Buddha image (it is assumed that this image was a golden ‘Phra Chailangchan’) and some valuable treasures from Ayutthaya in the area. He also made a solemn wish that this area would become a Buddhist temple in the future. The soldiers left for guarding the area and the villagers cooperatively built a Buddha image in brick and mortar with the width across the laps at 6 m. to cover the gold Buddha image and also a wooden shack to cover the Buddha image. The reason why they did not build a beautiful Buddha image because the country was at war, people had to look after themselves and that they did not have much time to take care of Buddhism.


122 At One Time เยือนสถานโบราณศิลป์

The time had passed over 170 years (circa 2480 B.E. or 1937 A.D.) during the time that Ordainer Ploy was the abbot, the ‘Luang Poh Keow’ (the Buddha image built by the villagers) was moved out to give way to main chapel construction (at present is the old main chapel) that made the image fell apart and the treasures such as the golden Buddha image, amulets, jewelries, etc. were found. However, it was amazing that all those treasures sunk into the ground as if they were sucked down. The hole was very deep that the stick (about 6-10 m. long) could not get to the bottom of the hole. Some people said that the old ‘Luang Poh Keow’ never came up for people to pay homage again. By the ignorance of an unknown abbot that he demolished ‘Luang Poh Keow’ image in brick and mortar and used the rubble to make the road from the main chapel to the Chokemaitri pier. In 2520 B.E. (1977 A.D.), Luang Poh Boonplook Uttamo Nakthong (Phra Kru Paisal Pattanasopon) was invited to be the abbot. Upon arriving at the temple he was the only one who encountered an odd incident. The elders passed on the story that when Luang Poh Boonplook disembarked the boat at Wat Huakoo pier on Huatakae Canal side, he could not walk on the road to the main chapel. Whenever he walked on the road he would feel very weak and his legs would give in and could not make a step. However, when he walked on the ground, he could walk normally. Though he tried to repeat the action, the results were the same

จิตกรรมฝาพนัง The mural painting

every time. Onlookers and Luang Poh himself could not understand what had happened. From that incident, Luang Poh Boonplook decided to excavate the roadway from the main chapel to the pier. He found pieces of tonsure made of motar the size of adult’s fist aged about 200 years of the old Luang Poh Keow that was demolished. Those sacred pieces were buried in the road that people walked over every day. It was very miserable for the Buddhists. Therefore, a new Luang Poh Keow image was rebuilt. The image is more beautiful and bigger than the old one. Besides, the pieces from the old image salvaged from the road and the amulets found in 2480 B.E. (1937 A.D.) were put inside the newly built image which was given the new name as ‘Luang Poh Keow Sukho Buddho Bhakava’. This new Luang Poh Keow image is a big Buddha image of Samut Prakan. It took over 6 years to complete. The attitude of subduing mara; the width across the laps is 9.19 m. and the height is at 13 m. The image is in gold color as if gilded

by gold leaves. The outstanding artistic styles of the image include the face in Sukhothai style, the breast in Chiangsaen style and the lap is wide in Rattanakosin style. The image is enshrined as the principal image in the new chapel and is considered sacred and the center of faith of Bang Saothong residents. Apart from building a new, more beautiful and bigger Luang Poh Keow image, a new pavilion to enshrine the statue of King Taksin was also beautifully built for people to pay homage and as a tribute for his heroic missions. The pavilion is a 2-storey concrete building with the mixture of Chinese style architecture and decoration that have hidden meanings and blessings. The building is 9 Times 9 meters representing the stability and sustainability; 8 huge pillars representing prosperity and with carved coiling dragons representing virtue and courage of the hero; and 13-step ladder representing proper living. Worshippers will receive all the blessings. The mural painting inside the pavilion tells the story of Siamese sovereignty restoration by King Taksin starting from arriving at Huakoo village, seeing villagers’ way of life making use of the waterway around the community and the fertility of the land in fishing and agriculture so that villagers built houses on both banks of the canals which made it suitable for the army to make a stop to gather supply of provisions and forces. The painting continued with the story of the force mobilizing to Chantaburi that along the way a large number of Thai and Chinese volunteers joined the forces. When the army passed any temple, they always took care of those monasteries. In some corners, there are paintings that depict the brutality of Maha Nawrahta and his forces that robbed and killed villagers to illustrate the teaching on whoever commits any sin will have to bear the fruit of such a sin. At present, Wat Huakoo has been well developed and restored which make it a suitable place for the monks and devout Buddhists to practice the dharma. Visitors will be able to learn about the ancestral history, to admire the artistic beauty of Luang Poh Keow image, Thai-Chinese architecture at King Taksin pavilion, many pieces of antiquities, etc. Or, if you prefer, you can feed the hundreds of fishes by the canal, watching the passing motor boats while enjoying soothing breeze. It is another leisure activity that truly brings both physical and mental happiness.


กันยายน 2557 / September 2014

พิธหี ม่ ผ้าองค์หลวงพ่อเขียว ถือเป็นประเพณีสำ� คัญ ของชาวบ้านศีรษะจระเข้น้อย ซึ่งจะจัดขึ้นกลางเดือน 3 ของทุกปี ลักษณะคล้ายห่มผ้าองค์พระสมุทรเจดีย์ แต่ใช้ ผ้าสีเหลืองแทนผ้าสีแดง ตามสีจวี รของพระสงฆ์ โดยจะ มีการแห่ผา้ รอบหมูบ่ า้ นก่อน เพือ่ ให้ทกุ คนได้รว่ มอธิษฐาน ขอพรและเข้าร่วมขบวนแห่ผ้ามายังวัด แม้จะเป็นงาน ประจ�ำปีของชุมชน แต่นับว่ามีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้งาน บุญประจ�ำปีระดับจังหวัด เพราะหลวงพ่อเขียวเป็นที่ เคารพนับถืออย่างกว้างขวาง จึงมีผู้เดินทางมาร่วมงาน ประเพณีจากทั่วทุกสารทิศ The ceremony to wrap the robe around Luang Poh Keow is considered an important tradition of Srisachorakaenoi villagers. The festival takes place in the middle of the 3rd lunar month of every year. The ceremony is the same as the festival at Phra Samut Chedi. The difference is only in the color of the robe that at Wat Huakoo villagers use yellow cloth, the same color of monk’s robe, instead of red. There will be a procession carrying the robe around the village so that everybody can pray for blessing before joining the procession to the temple. Though it is a community annual festival but it is as grand as other festivals at provincial level because Luang Poh Keow is widely worshipped by people that they travel from everywhere to join the festival.

ที่มาของ พระนามหลวงพ่อเขียวสุโขพุทโธภควา.. ค�ำเรียก “หลวงพ่อเขียว” มาจาก องค์พระเดิมนั้นเป็น อิฐถือปูน เมื่อเวลาผ่านไปจึงมีตะไคร่น�้ำจับตัวขึ้น แล ดูองค์พระมีสีเขียวมรกต ส่วน “สุโข” มาจาก พุทธ ศิลป์ขององค์หลวงพ่อเขียวในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วย พระพักตร์เป็นศิลปะแบบสุโขทัย พระอุระเป็นศิลปะแบบ เชียงแสนและหน้าตักพระชงฆ์ เป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ “พุทโธภควา “ มาจาก นามพระพุทธเจ้า พุทโธ แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ภควา แปลว่า ผู้มีโชค The origin of the name Luang Poh Keow Sukho Buddho Bhakava : the word ‘Luang Poh Keow’ derived from the old Buddha image in brick and mortar that with the passing time lichen grew all over the image which made the image looked greenish. For the word ‘Sukho’ derived from the artistic style of the current Luang Poh Keow which comprises of the face in Sukhothai style, the breast in Chiangsaen style and the lap in Rattanakosin style. The word ‘Buddho Bhakava’ derived from Lord Buddha’s name Buddho which means savant and Bhakava means fortunate.

การเดินทาง ขับรถจาก ถ.สุขมุ วิท เข้าสู่ ถ.ลาดกระบัง เลีย้ วเข้า ซ.ลาดกระบัง 54 ตรงไปตามทางประมาณ 400 เมตร วัดจะตัง้ อยูด่ า้ นซ้ายมือ

ที่ตั้ง : วัดหัวคู้ 36 ลาดกระบัง 54 ซ.สุวรรณภูมิ 5 ต.ศีรษะจระเข้นอ้ ย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ Location : Wat Huakoo 36 Ladkrabang 54, Soi Suvarnabhumi 5, Srisachorakaenai Subdistrict, Bang Sao Thong District., Samut Prakan

ขอบคุณผู้ ให้ข้อมูล

นางยุพินภรณ์ อยู่สบาย ประธานสภาวัฒนธรรม ต�ำบลศีรษะจระเข้น้อย พระครูวินัย เลขานุการเจ้าอาวาสวัดหัวคู้

Thanks to information providers

Mrs. Yupinporn Yoosabai, Chairperson of the Srisachorakaenoi Subdistrict Cultural Council Phra Kru Vinai, Secretary to the abbot of Wat Huakoo

123


124 Story Told สืบมาเล่า


กันยายน 2557 / September 2014

A Naval Battle Memorial

HTMS Thonburi

ร.ล.ธนบุรี..อนุสรณ์สถานแห่งยุทธนาวี

รือหลวงธนบุรี คือ 1 ใน 3 เรือรบส�ำคัญจากเหตุการณ์ยุทธนาวีที่เกาะช้าง ด้วยการเข้าประจัญบานอย่างกล้าหาญกับกองเรือรบฝรั่งเศส แม้จะมีก�ำลังพล ทั้งด้านจ�ำนวนเรือ ระวางขับน�้ำ ปืนหนัก ปืนเบาและพลรบน้อยกว่า อันน�ำมาซึ่ง การสูญเสียอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่การรบทางเรือตามแบบยุทธวิธีสมัยใหม่ครั้งนี้ ก็ท�ำให้ ประเทศไทยสามารถปกป้องหัวเมืองชายทะเลทางภาคตะวันออกได้ส�ำเร็จ

H

TMS Thonburi was one of the three battle ships bravely involving in the battle of Koh Chang with the intruding French Navy which was more powerful in number of soldiers, battleships, tonnage, and weapons. The Thai side was far more inferior in all aspects which unavoidably had to face with a great loss. However, this marine battle that employed modern strategy could successfully save the eastern outposts.

125


126 Story Told สืบมาเล่า

ยุทธนาวีที่เกาะช้างเป็นเหตุการณ์รบทางเรือ สืบเนื่องมาจากกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสขอให้รัฐบาลไทยท�ำสัญญาไม่รุกรานกัน ทางแหลมอินโดจีน ซึ่งรัฐบาลไทยก็ตกลงภายใต้เงื่อนไข การปรับปรุงเส้นแบ่งเขตแดน อาทิ ให้ฝรัง่ เศสคืนดินแดน ฝัง่ ขวาแม่นำ�้ โขงกลับมา เป็นต้น ซึง่ ปรากฏว่าไม่สามารถ ตกลงกันได้ ประกอบกับราษฎรได้เดินขบวนแสดงประชามติ เรียกร้องดินแดนที่เสียไป ส่งผลให้กรณีพิพาทลุกลาม และรุนแรงขึ้น จนน�ำไปสู่การใช้ก�ำลังทหารเข้าสู้รบกัน ในวันที่ 17 มกราคม 2484 เรือหลวงธนบุรไี ด้เริม่ เปิด ศึกกับเรือลามอตต์ปเิ กต์ โดยตัง้ ระยะยิงอยูท่ ี่ 13,000 เมตร แม้จะอยู่ในระยะที่คิดว่าปลอดภัยแต่กระสุนตับที่ 4 ของเรือรบฝรั่งเศสก็เจาะทะลุผ่านห้องโถงนายพลและ ระเบิดทะลุพื้นหอรบขึ้นมา เป็นเหตุให้ น.ท.หลวงพร้อม วีรพันธุ์ ผู้บังคับการเรือและทหารที่ประจ�ำในหอรบ เสียชีวติ ทันที ความเสียหายครัง้ นี้ ได้ทำ� ลายเครือ่ งติดต่อ สั่งการไปยังปืนและเครื่องถือท้ายเรือ ปืนป้อมหัวและ ปืนป้อมท้ายของเรือหลวงธนบุรี จึงต้องท�ำการยิงอิสระ โดยประเมินสถานการณ์เท่าทีท่ ำ� ได้ ในขณะทีเ่ รือรบฝรัง่ เศส ระดมยิงอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่สามารถบังคับทิศทางได้ เรือหลวงธนบุรีจึง จ�ำเป็นต้องแล่นเป็นวงกลมอยู่ถึง 4 รอบ พร้อมยิงต้าน กระสุนปืนอย่างเต็มที่ ในทีส่ ดุ เรือรบฝรัง่ เศสพลาดท่าถูก ยิงเข้ากลางล�ำ เกิดระเบิดและไฟลุกไหม้อย่างหนักจ�ำต้อง ล่าถอยกลับเพื่อไปสมทบกับเรือที่จอดอยู่ทางตะวันตก ของเกาะ จากความเสียหายนี้ท�ำให้ฝรั่งเศสตัดสินใจ

เรือหลวงธนบุรี HTMS Thonburi

ถอนเรือรบทั้งหมดออกจากน่านน�้ำประเทศไทย สงคราม จึงยุติลง ภายหลังสงครามเรือหลวงธนบุรไี ด้รบั ความเสียหาย อย่างมากและแล่นมาเกยตืน้ ทีแ่ หลมงอบ จ.ตราด กองทัพ เรือได้ลากจูงมาท�ำการซ่อมแซมในเดือนกันยายน 2484 แต่ พบว่าล�ำเรือเสียหายจากไฟไหม้หนักเกินกว่าจะซ่อมแซมได้ จึงปลดระวางประจ�ำการเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2502 ทางราชการได้น�ำส่วนป้อมปืนและหอบังคับการของ เรือหลวงธนบุรีมาจัดตั้งเป็นอนุสรณ์สถานภายใน โรงเรียนนายเรือ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อร�ำลึกถึง เหตุการณ์ยทุ ธนาวี ทีเ่ กาะช้างทีแ่ ม้ไม่ได้เป็นการยุทธ์ ใหญ่ แต่ก็นับเป็นชัยชนะและเกียรติประวัติอันน่าภาคภูมิใจ อย่างยิ่งของชาวไทย

น.ท.หลวงพร้อม วีรพันธ์ุ ผู้บังคับการเรือหลวงธนบุรี Commander Luang Phrom Viraphand


กันยายน 2557 / September 2014

ลูกปืนฝึกขนาด 8 นิ้ว Cannonshot

พังงาบังคับทิศทางเรือ Helm

The Battle of Koh Chang was a courageous sea battle resulted from the dispute between Siam and French Indochina that the French demanded that Thai authority should not invade the Indochina Cape to which Thai government agreed with conditions for example the French to adjust the boundary lines such that the French should return the occupied land on the right hand side of the Mae Khong River to Thai authority, etc. The French was not in agreement with the conditions of the Thai side coupled with there was a public referendum rally to claim back the French occupied land that escalated and intensified the dispute and finally led to use forces in fighting. On 17 January 2484 B.E. (1941 A.D.), HTMS Thonburi got in battle with Lamotte-Piquet, a French cruiser who set the firing range at 13,000 m. Though the firing range was considered a safe distance, the 4th round of firing from the French cruiser hit HTMS Thonburi chart room and killed Commander Luang Phrom Viraphand and other officers in the chart room. This casualty caused failure to ship communication with firing squads and engine room. Therefore, the cannons at bow and at stern were firing at free will by evaluating the situation as necessary while the French ships kept on salvo at HTMS Thonburi. Since Thai battle ship could not control its course of run, HTMS Thonburi had to maneuver in circle for 4 rounds while kept on firing back.

127

Finally, the French battle ship was hit heavily at the starboard that it was on fire and exploded. Thus, the French had to retreat to join the rest of its forces stationed on the western side of the island. The casualty caused the French to withdraw all its warships from Siamese territory. The war then ended. After the war HTMS Thonburi was severely damaged and was aground at Laem Ngob in Trad Province. In September 2484 B.E. (1941 A.D.) the Royal Thai Navy towed HTMS Thonburi to the dock for repair but found out that the damages were beyond repair. Therefore, HTMS Thonburi was discharged from service on 9 June, 2502 B.E. (1959 A.D.). The Royal Thai Navy has put up the turret and chart room of HTMS Thonburi within the compound of the Royal Thai Naval Academy Samut Prakan as a memorial of the Battle of Koh Chang. Though it was not a grand scale war, but the Battle of Koh Chang is a fighting legacy and victory that Thai people are proud of. ที่ตั้ง : โรงเรียนนายเรือ 204 ถ.สุขมุ วิท ต.ปากน้ำ� อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์ : 0-2394-0441-2 Location : Royal Thai Naval Academy 204 Sukhumvit Road, Paknam Subdistrict, Muang Samut Prakan District, Samut Prakan


128 Tourism Calendar ปฏิทินท่องเที่ยว

199 ปี ประเพณีรับบัว หนึ่งเดียวในโลก แห่งเดียวในประเทศไทย วันที่ 1-9 ต.ค. 57 (วันโยนบัว 7 ต.ค. 57) เริ่มเวลา 07.00 น. ณ. วัดบางพลี ใหญ่ ใน จ.สมุทรปราการ th

199 Anniversary of Lotus Receiving Tradition

The only one in the world, one only in Thailand. 1-9 October 2014. (7 Oct, 2014 is Lotus receiving) Starting in 07.00 A.M. at Wat Bang Phill Yai Nai, Samut Prakan.

Tourism

Calendar ปฏิ ทิ น ท่ อ งเที่ ย วจั ง หวั ด สมุ ท รปราการ งานลอยกระทง

ตักบาตรพระร้อยรูป

วันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2557 บริเวณเทศบาลเมืองพระประแดง และบริเวณริมเขื่อนหน้าศาลากลาง จังหวัดสมุทรปราการ

ณ วัดหัวคู้ ตําบลศีรษะจรเข้น้อย อําเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 10 ตุลาคม 2557 ณ.วัดหัวคู้ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

Loy Kratong Festival

Make Merit to 100 Monks

16-17 November 2014 At Phra Pradaeng Municipality and along the embankment in front of the Samut Prakan Town Hall.

10 October 2014 at Wat Huo Koo, Bang Sao Thong, Samut Prakan


กันยายน 2557 / September 2014

129

เทศกาลดูนกเมืองไทย ครั้งที่ 13 ณ สถานตากอากาศบางปู ระหว่างเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม 57 ตรวจสอบวันเวลาได้ที่ www.facebook.com/bcst.or.th หรือ www.bcst.or.th th

13 Thailand Bird Fair

At Bang Pu Seaside Resort. during November-December 2014 For More information www.facebook.com/bcst.or.th or www.bcst.or.th

งานแข่งเรือหน้าเมืองพระประแดง วันที่ 23-25 ตุลาคม 2557 บริเวณแม่น้ำ�เจ้าพระยา หน้าที่ว่าการ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ Phra Pradaeng Traditional Boat Race

23-25 October 2014 Chao Phraya River in front of the Phra Pradaeng District Office, Samut Prakan Hall.

งานนมัสการ องค์พระสมุทรเจดีย์ ตั้งแต่แรม 5 ค่ำ� เดือน 11 (เดือนพฤศจิกายน) บริเวณรอบ องค์พระสมุทรเจดีย์ อำ�เภอพระสมุทรเจดีย์ และหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ Phra Samut Chedi Temple Fair

from the 5th day of the waning moon, the 11th month of lunar calendar (during November) Around Phra Samut Chedi, Phra Samut Chedi District and in front of the Samut Prakan Town Hall.

งานนมัสการหลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส วันขึ้น 8 ค่ำ� เดือน 12 (ช่วงเดือนพฤศจิกายน) บริเวณที่ว่าการอำ�เภอบางบ่อ และวัดมงคลโคธาวาส อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ Luang Poh Pan Worship Festival Wat Mongkolkodhawas

the 8th day of the waxing moon, the 12th month of lunar calendar (during November) At Bang Bo District Office and Wat Mongkolkodhawas, Bang Bo District, Samut Prakan.


130 Beautiful View เช็กอินวิวสวย

check in

beautiful View เช็กอิน วิวสวย ภาพหลากสไตล์ หลายอารมณ์ เมื่อมาสัมผัสมนต์เสน่ห์..เมืองปากอ่าว ต้องไม่พลาดที่จะถ่ายภาพเช็กอิน ให้หลายคนต้องรู้สึกอิ​ิจฉา Do not miss Check-in when you touch the chaming at Samut Prakan. It’s show off time.

ค้างคาวแม่ไก่ ป้อมผีเสื้อสมุทร Lyle’s flying fox

ฝูงค้างคาวแม่ไก่ออกหากิน บริเวณพระสมุทรเจดีย์ Lyle’s flying fox go hunting

พลับพลาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดหัวคู้

เรือประมงของชาวบ้าน ที่อยู่บริเวณริมอ่าว Fish boat at bayside

พิพิธภัณฑ์ครุฑ สมุทรปราการ Garuda Museum @Samutprakan

นกยางโทนใหญ่ กำ�ลังหากิน Great egret go hunting

ภาพธรรมชาติ วิวสวยๆ และวิถีชีวิตดั้งเดิมหลากสไตล์ที่บอกเล่าเรื่องราว ผ่านมุมมองภาพจะทำ�ให้ทุกคนสัมผัสความมหัศจรรย์ที่ถูกซ่อนไว้ ในดินแดนปากอ่าวไทย

King Taksin Pavilion


กันยายน 2557 / September 2014

131

เกี่ยวข้าว Prepare for harvest

นุสาวรียัชกาลที่ 9 สวนสุขภาพลัดโพธิ์ King Rama IX Monument

สะพานระฆัง ศาลเจ้าพ่อทัพสำ�โรง Bell’s Bridge at Jao Pao Tub Shrine

เรือประมง คลองด่าน Fisherman Life Style

ตลาดน้ำ�บางน้ำ�ผึ้ง Bang Namphueng Floating Market

ใยแมงมุม สถานตากอากาศบางปู Spider web at Bang Pu

ผึ้งตัวน้อยกำ�ลังชิมน้ำ�ตาลมะพร้าว A Little bee tasting sweet palm sugar

ฝูงนกนางนวล สถานตากอากาศบางปู Seagulls at Bang Pu Seaside Resort

พระสมุทรเจดีย์ยามเย็น Twilight at Phra Samut Chedi

You will be surprised and indulging in natural Charms through my pictures in this estuary.


LOVE

BIRDSS 13th Thailand Bird Fair

SAVE HABITATS 2014 “

”(IBAs)

รักษ์นก ปกป้องถิ่นอาศัย งานเทศกาลดูนกเมืองไทย ครั้งที่ ๑๓ ประจำ�ปี ๒๕๕๗

8-9 November 2014 Bang Pu Seaside Resort, Samut Prakan วันที่ ๘-๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ สถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.