INTERCRYSTALLAR

Page 1

➛ โครงสร้างสามมิติของเอนไซม์ยูราซิล -ดีเอ็นเอไกลโคซิเลส (Uracil-DNA glycosylase, UNG) ซึ่งเป็นเอนไซม์ส�ำคัญที่ท�ำหน้าที่ซ่อมแซมล�ำดับดีเอ็นเอซึ่งผิดเพี้ยนไปของสิ่งมีชีวิต   ความเข้าใจโครงสร้างของเอนไซม์ชนิดนี้ในเชิงลึกอาจท� ำให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบความ  แตกต่างของเอนไซม์ในเชื้อก่อโรค (ในภาพคือเอนไซม์  UNG จากไวรัสโรคเริม) และในมนุษย์  ซึ่งอาจน�ำไปสู่การออกแบบยาที่ออกฤทธิ์จ�ำเพาะเจาะจงกับไวรัสก่อโรค แต่ไม่ส่งผลข้างเคียง แก่ผู้ป่วย  ผลงานวิจัยของ ผศ. ดร. เกื้อการุณย์  ครูส่ง ภาควิชาชีวเคมี  คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เอนไซม์ ซ ่ อ มดี เ อ็ น เอของไวรั ส โรคเริ ม

ภาพจ�ำลองสามมิติ ของไวรัสโรคเริมที่ช่วยให้เห็นลักษณะที่ชัดเจน กว่าภาพถ่ายสองมิติ

ไวรั ส เอดส์   HIV

โปรตีน p24 หรือ gag เป็นองค์ประกอบหลักของเปลือกหุม้ ไวรัสเอดส์   ลักษณะคล้ายดอกไม้หกกลีบ  เรียงตัวกันเป็นเกลียวหุ้มพันรอบสารพันธุกรรมของไวรัสที่เรียกว่าอาร์เอ็นเอ (RNA) (เส้นผ่าน  ศูนย์กลางดอกไม้ประมาณ ๙.๒ นาโนเมตร)  มันท�ำหน้าทีป่ อ้ งกันอาร์เอ็นเอ ช่วยให้ไวรัสเอดส์คงทน ต่อสภาพแวดล้อมและการรักษาด้วยยา  ยาต้านเอดส์หลายชนิดจึงออกแบบมาเพื่อออกฤทธิ์กับ  โปรตีน p24   ➛ สัญลักษณ์วันเอดส์โลก ๑ ธันวาคม ๒๕๕๗

86

ธันวาคม  ๒๕๕๗

ธันวาคม  ๒๕๕๗

87


http://en.wikipedia.org/wiki/Plasmodium_falciparum

เอนไซม์ จ ากเชื้ อ มาลาเรี ย ดื้ อ ยา

โครงสร้างของเอนไซม์ไดไฮโดรโฟเลตรีดักเทส-ไทมิดิเลตซินเทส (dihydrofolate reductasethymidylate synthase, DHFR-TS) ของเชื้อมาลาเรียที่กลายพันธุ์  ช่วยให้นักวิจัยเข้าใจกลไกการ ดื้อยากลุ่มแอนติโฟเลตของเชื้อมาลาเรีย จนสามารถออกแบบยาต้านมาลาเรียชนิดใหม่ ๆ เพื่อหลีก เลี่ยงการดื้อยาได้   ผลงานวิจัยสุดเจ๋งของทีมวิจัยของ ศ. ดร. ยงยุทธ ยุทธวงศ์  หน่วยวิจัยชีววิทยา โมเลกุลทางการแพทย์  ศูนย์พนั ธุวศิ วกรรมและเทคโนโลยีชวี ภาพแห่งชาติ  และ รศ. ดร. จิรนั ดร ยูวะนิยม  ภาควิชาชีวเคมี  คณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยมหิดล (ภาพเล็ก) เชื้อมาลาเรียในเลือด

ภาพ : บันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช

โปรตี น จากเชื้ อ มาลาเรี ย

การที่เชื้อไวรัสหรือเชื้อมาลาเรียจะก่อโรคได้นั้น ต้องใช้โปรตีนเป็นเครื่องมือโจมตีสิ่งมีชีวิตเจ้าบ้าน   หากนักวิจัยเข้าใจถึงกลไกการท�ำงานของมันได้อย่างลึกซึ้ง ก็อาจค้นพบวิธีหยุดยั้งการเกิดโรคได้   ภาพนี้คือโครงสร้างสามมิติของโปรตีน VAR2CSA บนผิวของเม็ดเลือดขาวติดเชื้อมาลาเรีย ซึ่ง  ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจกลไกการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อมาลาเรียในสตรีมีครรภ์  ผลงานของกลุ่มวิจัยของ ดร. พงค์ศักดิ์  ขุนแร่  ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ➛

88

ธันวาคม  ๒๕๕๗

เม็ดเลือดขาวกับเม็ดเลือดแดงที่มองเห็นจากกล้องจุลทรรศน์

http://biology-igcse.weebly.com/blood-cells--structure-and-functions.html

ธันวาคม  ๒๕๕๗

89


เอนไซม์ จ ากข้ า ว

➛ ดอกข้าว

90

ธันวาคม  ๒๕๕๗

ภาพ : ประเวช ตันตราภิรมย์

โครงสร้างของเอนไซม์  Beta-glucosidase จากข้าว ฝีมือของคณะวิจัย ศ. ดร. ม.ร.ว. ชิษณุสรร  สวัสดิวัตน์  จากห้องปฏิบัติการชีวเคมี  สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์   ศ. ดร. Jim Ketudat-Cairns ส�ำนัก  วิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี  และ รศ. ดร. จิรันดร ยูวะนิยม ภาควิชาชีวเคมี  คณะ วิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยมหิดล ที่อาจช่วยให้เราออกแบบเอนไซม์ชนิดใหม่ ๆ เพื่อการผลิตสาร คาร์โบไฮเดรตที่เป็นประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรม

ธันวาคม  ๒๕๕๗

91


ภาพ : ประเวช ตันตราภิรมย์

ไวรั ส ไข้ เ ลื อ ดออก

โครงสร้างสามมิติในระดับอะตอมของไวรัสไข้เลือดออก (Dengue virus) สร้างขึ้นโดยเทคนิค  CryoEM และ X-ray crystallography (เส้นผ่านศูนย์กลางราว ๓๐๐ นาโนเมตร) ช่วยให้เราเข้าใจ กระบวนการบุกรุกและการประกอบตัวกันของไวรัส ซึง่ เป็นประโยชน์ตอ่ การออกแบบอนุภาคไวรัสจ�ำลอง  (Virus-like particle) เพื่อน�ำไปท�ำเป็นวัคซีนและจักรกลนาโนส�ำหรับขนส่งยาเข้าไปจัดการกับไวรัส (ภาพเล็ก) ยุงลาย

โปรตี น ฆ่ า ลู ก น�้ ำ ยุ ง

โครงสร้างสามมิติของโปรตีนสารพิษฆ่าลูกน�้ำยุง Cry4Ba จากแบคทีเรียบาซิลลัส ทูรินจิเอนซิส  (Bacillus thuringiensis) (ขนาดประมาณ ๔x๕x๖ นาโนเมตร) ซึ่งอาจท�ำให้เราสังเคราะห์โปรตีน  สารพิษฆ่าแมลงชนิดใหม่ที่ทรงอานุภาพ สามารถก�ำจัดและควบคุมยุงลายและยุงก้นปล่อง ช่วยลด  การระบาดของโรคร้ายที่มียุงเป็นพาหะ เช่นไข้เลือดออกและมาลาเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย  ไม่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม  ผลงานวิจัยของ ศ. ดร. ชนันท์  อังศุธนสมบัติ  ห้องปฏิบัติ การชีวฟิสิกส์และชีวเคมีเชิงโครงสร้าง สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล  http://www.komunich.de/vincentsanchis/france/bacillus-thuringiensis.html

92

ธันวาคม  ๒๕๕๗

➛ แบคทีเรียบาซิลลัส ทูรินจิเอนซิส หรือที่นิยมเรียกย่อว่า Bt

ธันวาคม  ๒๕๕๗

93


เ ท ค นิ ค ผ ลิ ก ศ า ส ต ร์ รั ง สี เ อ ก ซ์ ภาพ : บันสิทธิ์ บุณยะรัตเวช

นักวิจัยเตรียมยิงผลึก ด้วยเครื่องยิงรังสีเอกซ์ ขนาดเล็กของหน่วยวิจัย โครงสร้างและการท�ำงาน ของโปรตีน คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ก่อนที่จะหา

http://polarnacht.deviantart.com/art/Protein-Crystals-315478584

โครงสร้างของสารสักอย่างหนึ่ง ต้องเริ่มจาก  การตกผลึกสารนั้นให้ได้เสียก่อน การตกผลึกสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน ดีเอ็นเอ เอนไซม์  หรือแม้แต่ยา ก็มีหลักการเหมือนการตก  ผลึกเกลือสมัยที่เราเรียนตอนเป็นเด็ก  ในการตกผลึกเกลือ เราต้องมี เกลือปริมาณมหาศาลเพื่อปรุงสารละลายจนอิ่มตัว  ในการตกผลึก โปรตีนหรือเอนไซม์ก็เช่นกัน นักวิทยาศาสตร์ต้องผลิตสารที่จะตกผลึก ให้ได้ปริมาณมากและบริสุทธิ์  รวมทั้งต้องหาวิธีท�ำให้มันอยู่ในความ  เข้มข้นใกล้อิ่มตัว โดยไม่ตกเป็นตะกอนขยะออกมา  ในอดี ต นั ก วิ ท ยาศาสตร์ อ าจต้ อ งฆ่ า สั ต ว์ ท ดลองจ� ำ นวนมาก  เพื่ อ ให้ ไ ด้ โ ปรตี น มาแค่ เ พี ย งหยิ บ มื อ   แต่ ใ นปั จ จุ บั น เทคนิ ค ทาง  พันธุวิศวกรรมช่วยให้สามารถผลิตโปรตีนได้ในจุลินทรีย์  เช่น ยีสต์  หรือแบคทีเรีย ท�ำให้การผลิตโปรตีนง่ายขึ้น และได้ผลผลิตปริมาณ  มาก  อี ก ทั้ ง ยั ง สามารถปรั บ แต่ ง สมบั ติ ต่า ง ๆ  โดยการเปลี่ ย นกรด  อะมิโนของโปรตีนได้ด้วย

แต่แม้จะผลิตโปรตีนที่ต้องการได้แล้ว การตกผลึกโปรตีนหรือ เอนไซม์นั้นก็ยังเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก เพราะโครงสร้างที่ซับซ้อน  เป็นสายยาวของโปรตีนมีความเปราะบางสูง  ถ้าสภาวะแวดล้อม  ไม่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิสูงไป ปริมาณเกลือในสารละลายมากเกิน ไป หรือแม้แต่มีแรงกระท�ำรุนแรงกับมันมากเกินไป โปรตีนก็จะเริ่ม  เสียสภาพ อาจบิดเบีย้ ว ไม่ตกเป็นผลึก  หรือถ้าหนักหน่อยก็อาจคลาย ตัวตกเป็นขยะตะกอนสีขาวหรือน�้ำตาล  แต่ถ้าโชคดี  โปรตีนก็จะเข้า เรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบในสามมิติ  ค่อย ๆ ตกลงมาแล้วโตใหญ่ ขึ้นเป็นผลึกที่สวยงาม ผลึ ก โปรตี น ที่ มี ข นาดพอเหมาะจะน�ำ ไปถ่ า ยภาพการกระเจิ ง  รังสีเอกซ์ด้วยแหล่งก�ำเนิดรังสีเอกซ์ความเข้มสูงที่เรียกว่า ไซโคลตรอน (cyclotron)  และซิ น โครตรอน  (synchrotron)  ซึ่ ง ช่ ว ยให้ ก ารหา  โครงสร้างโปรตีนจากผลึกพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และได้โครงสร้าง ที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น

หน้าตาของผลึก โปรตีนกลูโคสไอโซเมอเรส ที่เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการ

แบบแผนของการกระเจิงรังสีเอกซ์ที่สลับซับซ้อน  ของโปรตีน ต�ำแหน่งและความเข้มของจุดกระเจิงรังสีเอกซ์  ที่กระจายไปทั่วบนฟิล์มเอกซเรย์หรือกล้องซีซีดี    จะถูกน�ำมาวิเคราะห์อย่างละเอียดในคอมพิวเตอร์    เพื่อสร้างแผนที่ความหนาแน่นของอิเล็กตรอนที่บ่งชี ้ ถึงต�ำแหน่งของแต่ละอะตอมในโมเลกุล

protein data bank

โครงร่างกรงไก่สีน�้ำเงิน (ด้านนอก) แสดงแผนที่ความหนาแน่นของอิเล็กตรอนที่ความละเอียดต่าง ๆ  ในหน่วยอังสตรอม (angstro¨ m, Å, เท่ากับ ๐.๑ นาโนเมตร)   ส่วนโครงสร้างโครงลวดสีเขียว (ด้านใน) แสดงต�ำแหน่งของพันธะเคมีที่เชื่อมอะตอม ภายในกรดอะมิโนแต่ละตัวของโปรตีนเข้าด้วยกัน > แบบจ�ำลองสามมิติที่ละเอียดในระดับอะตอม สร้างขึ้นมาจากแผนที่ความหนาแน่น ของอิเล็กตรอน ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ ออกแบบโปรตีนหรือเอนไซม์ใหม่ ๆ  ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้  (ภาพโปรตีน Bt toxin งานวิจัยของ  ดร. ป๋วย อุ่นใจ และ ศ. ดร. ชนันท์  อังศุธนสมบัติ)

แผนผังแสดงขั้นตอนทั่วไปของผลิกศาสตร์รังสีเอกซ์

94

ธันวาคม  ๒๕๕๗

protein data bank

ธันวาคม  ๒๕๕๗

95


วิวัฒนาการของแบบ

จำ�ลองโมเลกุลจากผลิกศาสตร์รังสีเอกซ์

ศ. ดร. แมกซ์  เพอรุตซ์  ประกอบโมเดลสามมิตขิ องโปรตีนเฮโมโกลบิน นี้ขึ้นมาจากไม้บัลซาใน ค.ศ. ๑๙๕๙  โครงสร้างหน้าตาประหลาดนี้ช่วย  ให้เขาอธิบายกลไกการจับออกซิเจนของเฮโมโกลบินในเลือด และอธิบาย ได้ว่าท�ำไมเลือดมนุษย์  (และสัตว์หลาย ๆ ชนิด) จึงมีสีแดง  โครงสร้าง  ไม้บัลซาแบบนี้ใช้อย่างแพร่หลายในยุคบุกเบิกก่อนที่คอมพิวเตอร์กราฟิก จะถือก�ำเนิดขึ้น

ศ. ดร. โดโรที  ฮอดจ์กิน พิมพ์ความหนาแน่นของอิเล็กตรอนของ  ยาปฏิชีวนะเพนิซิลลินลงบนแผ่นเพล็กซีกลาส (plexiglass) แล้วน� ำมา  เรียงซ้อนกันเพื่อแสดงเป็นโครงสร้างสามมิติ   โมเดลเพล็กซีกลาสแบบนี้  ใช้แสดงโครงสร้างโปรตีนและเอนไซม์อีกหลายชนิด

รูปวาดสีชอล์ก (pastel illustration) ของโครงสร้างริบบอน (Ribbon  diagram) ของเอนไซม์ไตรโอสฟอสเฟตไอโซเมอเรส (triosephosphate  isomerase)  รูปโครงสร้างโปรตีนแบบริบบอนนี้คิดค้นขึ้นโดย ศ. ดร. เจน  เอส. ริชาร์ดสัน (Jane S. Richardson) จากมหาวิทยาลัยดุก๊  โดยจะวาด โครงสร้างสายหลักของโปรตีนลักษณะคล้ายริบบิ้นซึ่งอาจบิดเป็นเกลียว  (สีทอง) หรือเป็นแผ่น (สีเขียว)  การแสดงรูปโปรตีนแบบนีไ้ ด้รบั ความนิยม แพร่หลายมากในปัจจุบัน

รูปกราฟิกแบบต่าง ๆ ที่ใช้แสดงลักษณะโครงสร้างโปรตีน (ในภาพ คือโปรตีนเรืองแสงสีเขียว Green fluorescent protein, GFP)  แถวบน  (จากซ้ายไปขวา) โครงสร้างลายเส้น (Line) ใช้เส้นแทนพันธะเคมีในสาย  โปรตีน, โครงสร้างกรงลวด (Wireframe) ใช้โครงสร้างลวดแทนพันธะ  ในสายโปรตีน, โครงสร้างแบบสเปซฟิลลิง (Space filling) ใช้ลูกบอล  ขนาดต่าง ๆ แทนอะตอมชนิดต่าง ๆ  แถวล่าง (จากซ้ายไปขวา) โครงสร้าง บอลและสติก (Ball & stick) ใช้ลูกบอลแทนอะตอม และใช้โครงลวด  แทนพั น ธะทางเคมี ,   โครงสร้ า งริ บ บอน  (Ribbon)  ใช้ แ สดงลั ก ษณะ  โครงสร้างทุติยภูมิของโปรตีน, โครงสร้างผิว (Surface) ใช้แสดงลักษณะ  พื้นผิวของโปรตีน

(ภาพ : MRC Laboratory of Molecular Biology, Cambridge University)

๒ โมเดลไส้กรอกสร้างขึ้นโดย ดร. จอห์น เคนดรูว์  ในปลายทศวรรษ ๑๙๕๐ เพือ่ ท�ำความเข้าใจการท�ำงานของโปรตีนไมโอโกลบิน (myoglobin)  ในกล้ามเนือ้   เขาทาสีขาวส�ำหรับโครงร่างสายหลัก (backbone) ทีพ่ บั ไป  พับมาของโปรตีน และสีแดงส�ำหรับฮีม (heme) ส่วนที่เก็บธาตุเหล็กไว้  ภายใน

(ภาพ : MRC Laboratory of Molecular Biology, Cambridge University)

๔ ภาพฉายความหนาแน่นอิเล็กตรอน (electron density map) ของ  ฮอร์โมนอินซูลินโดย ศ. ดร. โดโรที  ฮอดจ์กิน (ภาพ : MRC Laboratory of Molecular Biology, Cambridge University)

(ภาพ : MRC Laboratory of Molecular Biology, Cambridge University)

๖ คอมพิวเตอร์กราฟิกช่วยให้เรามองเห็นภาพโปรตีนเป็นสามมิติและ หมุนดูโครงสร้างของโปรตีนได้ทุกมุมบนจอคอมพิวเตอร์  ปัจจุบันสถาบัน  วิจัยหลายแห่งพัฒนาห้องปฏิบัติการ Virtual Reality ที่สามารถพินิจ  โครงสร้างในระดับนาโนของโปรตีนและสารอื่น ๆ ได้อย่างละเอียดและ  น่าทึ่ง โดยไม่ต้องเสียเวลานับเดือนสร้างโมเดลด้วยมือเหมือนในอดีต (ภาพ : Univeristy of Arkansas)

๘ เทคโนโลยีการพิมพ์ภาพสามมิติ  3D printer ช่วยให้เราพิมพ์โมเดล สามมิตขิ องโปรตีนออกมาหยิบจับชืน่ ชมและช่วยเป็นสือ่ การเรียนการสอน และการวิเคราะห์หารือกันได้อย่างสะดวก (ภาพ : University of Minnesota)

96

ธันวาคม  ๒๕๕๗

ธันวาคม  ๒๕๕๗

97


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.