คณิตซูเปอร์โมเดล

Page 1

BANA NA

ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ

ม� พด ดี แตง หนงั สอื ล ม ห า ลงิ พ ยใจ มแี ง ม มุ อ

กุ สน ะไร

คี่ น ? ก ว าแล �ข ม น

ติ ศาสตรข องเอสเชอร จ ณ ค ะ ตั รุ สั กล ศลิ ป ขอ ิติ ” งแ ม

ลนิ งค ฟร

สนกุ กบั ผลกึ หมิ ะ สนกุ กบั “กล อ ง 4

ให พ�มพ แค คำเดียว กี่ป จะเสร�จเนี่ย

ดร. บัญชา ธน บุญสมบัติ มากินมันฝรั่งทอด อย างเป นคณิตศาสตร กันเถอะ 0'

A

B'

0

A'

FOCAL ARC

B

ราคา 170 บาท

ISBN 978-616-7767-39-0

WEST

170.-

หมวดว�ทยาศาสตร

EAST

นิ เรว� แคไ หน ? โ ล ก นมี้ คี เสารเ ด น ไดโน เ ค ยเก ดิ


M i n d & C r e a t i v i t y

4

จากผู้เขียน วิธีการหนึ่งที่มักจะช่วยให้เราเข้าใจสิ่งต่าง ๆ  ได้คมชัดยิ่งขึ้น  ได้แก่  การสร้างแบบจ�ำลองที่บรรจุแก่นสาระส�ำคัญของสิ่งนั้นเอาไว้  ทั้งนี้  หากเราเข้าใจหลักคิดและวิธคี ำ� นวณ  ก็จะช่วยให้เราตีความผลลัพธ์  ได้อย่างถูกต้องหรือใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด หนังสือเล่มนี้น�ำเสนอแบบจ�ำลองซึ่งใช้คณิตศาสตร์ในการ  อธิบายหรือคาดการณ์ปรากฏการณ์ต่าง ๆ  บางเรื่องแม้ดูเหมือน  ว่าไกลตัว  แต่รไู้ ว้กส็ นุกดี  และหากคุณผูอ้ า่ นได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ  ที่ท�ำให้ฉุกคิด  หรือถึงขนาดน�ำวิธีคิดหรือผลลัพธ์ไปประยุกต์ใช้  ในบริบทอื่น ๆ  ผมก็จะยินดีอย่างที่สุดครับ บัญชา  ธนบุญสมบัติ ศุกร์  18  ตุลาคม  2556

AW��������.indd 4

19/3/2014 18:02


สาร บัญ มิติพิศวงของเอสเชอร์ 7 จัตุรัสกลของแฟรงคลิน 17 ลิงจิ้มดีดมั่ว ๆ  จะเขียนหนังสือเสร็จเมื่อไร ? 22 แง่มุมสนุก ๆ  ใน  “ลมหายใจหนึ่งเฮือก” 28 ภูเขาสูงสุดได้แค่ไหน  ใครรู้บ้าง ? 33 คิดเรียบง่าย...สไตล์สองอัจฉริยะ 40 รู้ได้อย่างไรว่าไดโนเสาร์เคลื่อนที่เร็วแค่ไหน ? 49 น�้ำไหลวนลงอ่าง...หมุนทางเดียวกับพายุหมุนเขตร้อนจริงหรือ ? 56 ไม่มีวันที่  3-13  กันยายน  ค.ศ.  1752  ในปฏิทินอังกฤษ ! 61 โลกจะมีคนมากแค่ไหน  พยากรณ์ได้อย่างไร ? 66 โลกนี้มีคนเคยเกิดขึ้นมาแล้วกี่คน ? 71 ก�ำเนิดมาตราริกเตอร์ 80 รากที่  3  ของ  2  มาได้อย่างไร...หลากหลายมิติ 86 สนุกกับผลึกหิมะ 92 โอริงามิกับการแบ่งสัดส่วนทางคณิตศาสตร์ 100 ไฮพาร์...พื้นผิวอัศจรรย์ 105 สนุกกับ  “กล่อง  4  มิติ” 115 125 ดัชนี

AW��������.indd 5

19/3/2014 18:02


คณิตซูเปอร์ โมเดล ดร.  บัญชา  ธนบุญสมบัติ

AW��������.indd 6

19/3/2014 18:02


7

ค ณิ ต ซู เ ป อ ร์ โ ม เ ด ล

มิติพิศวง ของเอสเชอร์

Encounter  (ค.ศ.  1944)

หากสุ่มถามนักคณิตศาสตร์ว่า  ผลงานของศิลปินคนใดที่ซุกซ่อน  แง่มมุ ทางคณิตศาสตร์เอาไว้อย่างแยบยล  ค�ำตอบทีเ่ ราน่าจะได้รบั   ในอันดับต้น ๆ  ก็คือ  เมาริทส์  คอร์เนลิส  เอสเชอร์  (Maurits  Cornelis  Escher)  หรือที่มักเรียกย่อ ๆ  ว่า  M.  C.  Escher ผลงานที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเอสเชอร์  ได้แก่  ภาพในลักษณะกระเบื้องปูพื้น  (tessellation)  คือเป็นภาพที่  ประกอบด้วยหน่วยย่อยคล้าย ๆ  กระเบือ้ ง  โดย  “กระเบือ้ ง”  แต่ละ  แผ่นมีลวดลายซึ่งต่อกันสนิทกับแผ่นข้าง ๆ  เกิดเป็นภาพรวมที่มี  ความหมายชัดเจน  ลวดลายที่เอสเชอร์ออกแบบมักเป็นสัตว์ต่าง ๆ

AW��������.indd 7

19/3/2014 18:02


M i n d & C r e a t i v i t y

8

เอสเชอร์ใน  ค.ศ.  1967

เช่น  ปลา  นก  แมลง  แต่กม็ ลี วดลายอืน่  ๆ  เช่น  ดอกไม้  คนขีม่ า้   ลายเรขาคณิต  เป็นต้น ประวัติในวัยเด็กระบุว่า  เอสเชอร์ชอบจัดระเบียบรูปทรง  เรขาคณิตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  ต่อมาเมื่อมีความรู้และทักษะทาง  ศิลปะก็ได้สร้างผลงานแนวนี้ไว้สามชิ้นในช่วง  ค.ศ.  1920-1926 จุ ด หั ก เหส�ำ คั ญ ในชี วิ ต ของเอสเชอร์   คื อ   การที่ เ ขาได้  เดินทางไปเยือนปราสาทอัลฮัมบรา  (Alhambra)  ในเมืองกรา-  นาดา  ประเทศสเปน  เมือ่   ค.ศ.  1922  ปราสาทแห่งนีเ้ ป็นสุดยอด  ผลงานของพวกแขกมัวร์ซงึ่ สร้างขึน้ ในช่วง  ค.ศ.  1238-1391  โดย  สร้างขึน้ จากแรงบันดาลใจในเรือ่ งสรวงสวรรค์จากมหาคัมภีรอ์ ลั กุร-  อาน ลวดลายเรขาคณิตบนผนังโมเสกในปราสาทอัลฮัมบราท�ำให้  เอสเชอร์ทึ่ง  โดยเขาได้สเกตช์ลวดลายบางแบบเอาไว้  ต่อมา  เอสเชอร์ได้กล่าวถึงการเดินทางครั้งนั้นว่า  “เป็นแหล่งสร้างแรง  บันดาลใจมากที่สุดเท่าที่ผมเคยพบ”

AW��������.indd 8

19/3/2014 18:02


9

ค ณิ ต ซู เ ป อ ร์ โ ม เ ด ล

ปราสาทอัลฮัมบราในยามค�่ำคืน

ภาพสเกตช์ลวดลาย บนผนังปราสาทอัลฮัมบราโดยเอสเชอร์

เอสเชอร์ยังโชคดีที่ได้เรียนรู้แนวคิดทางคณิตศาสตร์ที่เรียก  ว่า  กรุ๊ปสมมาตรบนระนาบแบน  (plane  symmetry  group)  จากการได้อ่านบทความวิชาการของ  George  Pólya  บทความ  นี้พี่ชายคนหนึ่งของเอสเชอร์  ชื่อ  เบเรนด์  (Berend)  ส่งมาให้ใน  ค.ศ.  1937 เมื่อมีทั้งฝีมือเป็นทุนเดิม  มีแรงบันดาลใจช่วยจุดประกาย  และมีความรูว้ ชิ าการเป็นแรงเสริม  เอสเชอร์กส็ ามารถสร้างผลงาน

AW��������.indd 9

19/3/2014 18:02


M i n d & C r e a t i v i t y

48

ขุมทรัพย์ทางปัญญา

ขอแนะน�ำแหล่งข้อมูลต่อไปนี้ http://www.lanl.gov/history/atomicbomb/trinity.s  html  (เอกสาร  My  Observations  During  the  Explosion  at  Trinity  on  July  16,  1945  เขียนโดย  Enrico  Fermi  ต้นฉบับในรูปแบบ  pdf  -  เลือก  RELATED  READING  ด้านขวาในชื่อ  Enrico  Fermi’s  Observations  at  Trinity) http://www2.vo.lu/homepages/geko/atom/report.htm  และ  http://www.atomicarchive.com/Docs/Trinity/Fermi.shtml  (เอกสาร  My  Observations  During  the  Explosion  at  Trinity  on  July  16,  1945  เขียนโดย  Enrico  Fermi  ต้นฉบับในรูปแบบ  html) http://www.math.utah.edu/~zajac/BlastRadius.pdf  (บท  ความ  Estimate  of  the  energy  released  in  the  first  Atomic  Bomb  explosion  ในรูปแบบ  pdf) http://www.deas.harvard.edu/brenner/taylor/physic_today/  taylor.htm  (ประวัติและผลงานของ  G.  I.  Taylor) http://www.life.com/search/?type=images&q0=trinity+  1945  (ภาพจากนิตยสาร  Life  แสดงการระเบิดทีท่ รินติ ใี น  ค.ศ.  1945) หนังสือ  The  Fermi  Solution  :  Essays  on  Science  เขียนโดย  Hans  Christian  von  Baeyer  จัดพิมพ์โดยส�ำนักพิมพ์  Random  House,  New  York,  1993  (ISBN  0-679-40031-1)  มีบทความเรือ่ ง  “The  Fermi  Solution”  ในหน้า  3-12

AW��������.indd 48

19/3/2014 18:02


49

ค ณิ ต ซู เ ป อ ร์ โ ม เ ด ล

รู้ได้อย่างไรว่าไดโนเสาร์ เคลื่อนที่เร็วแค่ ไหน ? ใครที่สนใจไดโนเสาร์จะรู้ดีว่า  นอกจากโครงกระดูกแล้ว  ฟอสซิล  รอยตีนของสัตว์โบราณเหล่านี้ก็น่าสนใจมากมาย  เพราะเพียงแค่  รูปร่างของรอยตีนเดีย่ ว ๆ  ก็พอจะบอกลักษณะบางอย่างเจ้าของรอย  ได้  เช่น  ถ้าไปเจอรอยตีนรูปกลมรี  แถมมีเล็บโผล่ออกมานิดหน่อย  ก็แสดงว่าเป็นพวกซอโรพอด  (sauropod)  ซึ่งเป็นไดโนเสาร์  เดินสี่ขา  ตัวใหญ่  คอยาว  กินพืช  และเดินแบบเต็มฝ่าตีน  แต่ถ้า  เจอรอยตีนมีสามนิ้วเรียวแหลม  ก็แสดงว่าเป็นพวกเทอโรพอด  (theropod)  ซึ่งเป็นพวกเดินสองขา  กินเนื้อ  และเดินเขย่งบนนิ้ว  และหากสนใจลึ ก ลงไปอี ก นิ ด ก็ ยั ง อาจบอกได้ อี ก ว่ า นิ้ ว ไหนรั บ  น�้ำหนักตัวไว้มากที่สุดได้อีก  เป็นต้น

ภายในอาคารจัดแสดงรอยตีน ไดโนเสาร์ที่ลาร์กควอร์รี

AW��������.indd 49

19/3/2014 18:02


M i n d & C r e a t i v i t y

50

รอยตีนไดโนเสาร์จะน่าตืน่ เต้นยิง่ ขึน้ หากเจอเป็นแนวทางเดิน  เรียกว่า  รอยทางเดินไดโนเสาร์ที่กลายเป็นฟอสซิล  (fossil-  ized  dinosaur  track)  เพราะอาจช่วยให้เราจินตนาการฉาก  เหตุ ก ารณ์ ที่ ท�ำ ให้ เ กิ ด รอยตี น นั้ น ได้ ด ้ ว ย  ตั ว อย่ า งเช่ น   ถ้ า พบ  รอยตีนไดโนเสาร์เป็นฝูง  โดยมีตัวใหญ่อยู่ด้านนอก  ตัวเล็กอยู่  ด้านใน  ก็เป็นไปได้ว่าพ่อแม่หรือญาติ ๆ  สูงวัยก�ำลังปกป้องลูก  หลานขณะเดินทางไปด้วยกัน  หรือถ้าเจอว่ามีไดโนเสาร์ตัวเล็ก  จ�ำนวนมากทิ้งรอยตีนกระเจิดกระเจิง  โดยมีรอยตีนไดโนเสาร์นัก  ล่าวิ่งไล่  ก็คงจะพอมองเห็นภาพนาทีชีวิตได้ไม่ยาก  กรณีหลังนี้  เคยพบที่ลาร์กควอร์รี  (Lark  Quarry)  ประเทศออสเตรเลีย  ว่า  มีไดโนเสาร์ขนาดเล็กราว  150  ตัววิ่งกระเจิดกระเจิงวิ่งหนีเจ้าตัว  ใหญ่กินเนื้อซึ่งก�ำลังไล่ล่าอย่างดุเดือด ประเด็นหนึ่งที่หลายคนอาจสงสัยก็คือ  นักวิทยาศาสตร์รู้ได้  อย่างไรว่าไดโนเสาร์ก�ำลังเดินหรือวิ่งอยู่เร็วแค่ไหน ?  ในปัจจุบัน  นักวิทยาศาสตร์มีวิธีการอย่างน้อยสองวิธีหลักส�ำหรับประมาณ  อัตราเร็วในการเคลื่อนที่ของไดโนเสาร์ดังนี้ครับ วิ ธี แ รกคื อ   ใช้ ค วามรู ้ ท างชี ว กลศาสตร์ แ ละคอมพิ ว เตอร์  จ�ำลองเหตุการณ์ในการคิดค�ำนวณว่าสัตว์ทมี่ โี ครงสร้างของร่างกาย  ลักษณะหนึ่ง ๆ  น่าจะเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดแค่ไหน  นักวิจัยที่ใช้แนว  ทางนี ้ เช่น  ดร.  บิลล์  เซลเลอรส์  (Bill  Sellers)  และศาสตราจารย์  ฟิลปิ   แมนนิง  (Philip  Manning)  แห่งมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์  คนแรกเป็นนักชีวกลศาสตร์  ส่วนคนหลังเป็นนักบรรพชีวินวิทยา งานวิจยั ของทีมแมนเชสเตอร์ท�ำนายว่า  คนหนัก  71  กิโล-  กรัม  อาจวิ่งได้เร็ว  17.7  กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ซึ่งแม้ว่าจะต�่ำกว่า  สถิติของนักวิ่งลมกรดระดับโลก  คือราว  36  กิโลเมตรต่อชั่วโมง  (วิ่ง  100  เมตรในเวลา  10  วินาทีโดยประมาณ)  แต่ก็ถือว่าพอ  ใช้ได้โดยประมาณส�ำหรับการวิง่ ของคนส่วนใหญ่ทไี่ ม่ได้วงิ่ เร็วทีส่ ดุ   ตลอดเวลา ตัวอย่างไดโนเสาร์ทใี่ ช้การค�ำนวณด้วยวิธนี คี้ อื   คอมป์ซอก-  นาทัส  (comsognathus)  ซึง่ เป็นไดโนเสาร์ขนาดเล็ก  หนักเพียง

AW��������.indd 50

19/3/2014 18:02


51

ค ณิ ต ซู เ ป อ ร์ โ ม เ ด ล

3  กิโลกรัม  พบว่าเจ้าไดโนเสาร์ตัวเล็กชนิดนี้วิ่งได้เร็วถึง  64  กิโลเมตรต่อชัว่ โมง  หรือวิง่ ระยะ  100  เมตรในเวลาเพียง  6  วินาที  ชนะนักวิ่งลมกรดเหรียญทองโอลิมปิกแบบขาดลอย  ! วิ ธี ก ารนี้ ส ามารถระบุ เ พดานบนของอั ต ราเร็ ว สู ง สุ ด โดย  ประมาณ  ค่าที่ค�ำนวณได้นี้สามารถน�ำไปใช้ในการอ้างอิงและ  เปรียบเทียบกับผลการค�ำนวณด้วยวิธีอื่น วิ ธี ที่   2  ใช้ ข ้ อ มู ล จากหลั ก ฐานรอยตี น และแนวทางเดิ น  เท่ า นั้ น   วิ ธี นี้ ริ เ ริ่ ม โดย  โรเบิ ร ์ ต   แมกนี ล   อะเล็ ก ซานเดอร์  (Robert  McNeil  Alexander)  นักสัตววิทยาชาวอังกฤษแห่ง  มหาวิทยาลัยลีดส์ อะเล็กซานเดอร์ศกึ ษาลักษณะการเดินของคนและสัตว์หลาย  ชนิดทีม่ อี ยูใ่ นปัจจุบนั   (เช่น  ช้าง  นก)  และตีพมิ พ์บทความเผยแพร่  เมือ่   ค.ศ.  1976  (พ.ศ.  2519)  โดยการใช้สมมุตฐิ านว่า  ลักษณะ  การเคลื่อนที่ของสัตว์ต่าง ๆ  ที่ศึกษาสามารถใช้กับไดโนเสาร์ได้  วิธีนี้พบว่าอัตราเร็วของไดโนเสาร์สามารถค�ำนวณได้จากขนาด  รอยตีนและข้อมูลแนวทางเดินตามสมการต่อไปนี้  v  =  0.25√g SL1.67h-1.17 โดย  v  คืออัตราเร็วของการเคลือ่ นทีใ่ นหน่วยเมตรต่อวินาที  SL  (stride  length)  คือระยะก้าวซึ่งคิดจากตีนใดตีนหนึ่งเป็น

ฟิลปิ   แมนนิง  กับ  บิล  เซลเลอรส์  ก�ำลังศึกษาการเคลือ่ นทีข่ องฮาโดรซอร์  (hadrosaur)  ซึ่งเคลื่อนที่ได้เร็วถึง  25  ไมล์/ชั่วโมงหรือ  40  กิโลเมตร/ ชั่วโมง

AW��������.indd 51

19/3/2014 18:02


M i n d & C r e a t i v i t y

52

โรเบิร์ต  แมกนีล  อะเล็กซานเดอร์ แผนภาพแสดงการวัดค่า  SL  และ  FL

หลัก  (โปรดดูภาพประกอบ)  มีหน่วยเป็นเมตร  h  คือความยาวของ  ขาหรือความสูงจากตีนถึงจุดหมุนทีส่ ะโพก  มีหน่วยเป็นเมตร  และ  g  คือความเร่งเนือ่ งจากแรงโน้มถ่วงของโลก  (ประมาณ  9.8  เมตร  ต่อวินาทียกก�ำลังสอง) ในเบื้องต้นอะเล็กซานเดอร์เสนอว่า  ความยาวของขามีค่า  เป็นสี่เท่าของความยาวของตีน  (footlength,  FL)  โดยประมาณ  นั่นคือ h  =  4  FL นอกจากจะบอกได้ว่าไดโนเสาร์ก�ำลังเคลื่อนที่เร็วแค่ไหน  แล้ว  ข้อมูลทีม่ อี ยูย่ งั สามารถบอกได้อกี ว่าไดโนเสาร์กำ� ลังเดินช้า ๆ  (walking)  กึง่ เดิน-กึง่ วิง่   (trotting)  หรือวิง่   (running)  โดยการ  ค�ำนวณค่าอัตราส่วน  SL/h  ดังตารางสรุปต่อไปนี้

AW��������.indd 52

19/3/2014 18:02


วิ่ง มากกว่าหรือ เท่ากับ  2.9

53

ค ณิ ต ซู เ ป อ ร์ โ ม เ ด ล

ลีลาการเคลือ่ นไหว เดิน กึ่งเดิน-กึ่งวิ่ง (gait) ค่า  SL/h น้อยกว่า อยูร่ ะหว่าง  หรือเท่ากับ  2.0 2.0  กับ  2.9

รอยตีนไดโนเสาร์ที่ลาร์กควอร์รี

ตัวอย่างการค�ำนวณ  &  ข้อสังเกต เพือ่ ให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน  ลองมาดูขอ้ มูลจริงกันสักหน่อย  ทีร่ ฐั ควีนส์-  แลนด์  ประเทศออสเตรเลีย  เคยมีการค้นพบรอยตีนไดโนเสาร์เทอโรพอด  (พวกเดินสองขา)  ขนาดใหญ่ทมี่ ชี วี ติ อยูใ่ นยุคครีเทเชียสตอนปลาย  รอยตีน  แต่ละรอยยาว  64  เซนติเมตร  และระยะก้าวประมาณ  3.31  เมตร จากข้อมูลนี ้ เรารูค้ า่   FL  =  64  เซนติเมตร  =  0.64  เมตร  ซึง่ ท�ำให้  ประมาณความยาวของขาได้จาก  h  =  4  FL  =  4  (0.64  เมตร)  =  2.56  เมตร น�ำค่าระยะก้าว  SL  =  3.31  เมตร  และความยาวขา  =  2.56  เมตร  แทนลงในสูตรของอะเล็กซานเดอร์  จะพบว่า  เจ้าเทอโรพอดตัวนี้เคลื่อนที่  เร็ว  v  =  1.92  เมตร/วินาที  หรือราว  7  กิโลเมตร/ชัว่ โมง  (ค่านีเ้ ร็วกว่า  คนปกติซึ่งเดินเร็วในช่วง  3.6-5.4  กิโลเมตร/ชั่วโมง) หากลองค�ำนวณค่า  SL/h  =  3.31/2.54  =  1.3  ซึง่ น้อยกว่า  2.0  ท�ำ  ให้ตีความได้ว่า  ไดโนเสาร์ตัวนี้ก�ำลังเดินอยู่นั่นเอง

AW��������.indd 53

19/3/2014 18:02


M i n d & C r e a t i v i t y

54

ข้อมูลต่อไปนีแ้ สดงตัวอย่างอัตราเร็วของไดโนเสาร์ชนิดต่าง ๆ  ที่ค�ำนวณได้จากสูตรของอะเล็กซานเดอร์

ไดโนเสาร์

อัตราเร็ว สเตโกซอรัส  (Stegosaurus) 6-8  กิโลเมตร/ชั่วโมง

ซอโรพอด  12-17  กิโลเมตร/ชั่วโมง (เร็วสุดอาจถึง  20-30  กิโลเมตร/ชั่วโมง)

เทอโรพอดขนาดใหญ่  เช่น  ทีเร็กซ์  (T-rex)  20  กิโลเมตร/ชั่วโมง

ไทรเซราท็อป  (Triceratop)  25  กิโลเมตร/ชั่วโมง ออร์นิโทมิมัส  (Ornithomimus)  60  กิโลเมตร/ชั่วโมง

ผลงานของอะเล็กซานเดอร์เป็นจุดเริม่ ต้นให้นกั วิจยั ไดโนเสาร์  จ�ำนวนหนึง่ น�ำไปต่อยอด  เช่น  มีการเสนอสูตรประมาณความยาว  ของขาไดโนเสาร์ให้แม่นย�ำขึน้   เช่น  ทูลบอร์น  (Thulborn)  เสนอ

AW��������.indd 54

19/3/2014 18:02


55

ค ณิ ต ซู เ ป อ ร์ โ ม เ ด ล

ไว้ใน  ค.ศ.  1990  เช่น  เทอโรพอดขนาดเล็ก  (ความยาวตีน  FL  <  25  เซนติเมตร)  สูตรค�ำนวณความยาวขาควรจะเป็น  h  =  4.5  เท่าของ  FL  แต่หากเป็นเทอโรพอดขนาดใหญ่  (ความยาวตีน  FL  >  25  เซนติเมตร)  สูตรควรจะเป็น  h  =  4.9  เท่าของ  FL  เป็นต้น นอกจากนีท้ ลู บอร์นยังเสนอสูตรค�ำนวณอืน่  ๆ  ส�ำหรับไดโน-  เสาร์ที่ก�ำลังวิ่งไว้อีกรูปแบบหนึ่ง  และเสนอว่า  ส�ำหรับไดโนเสาร์  กึ่งเดิน-กึ่งวิ่ง  ก็ให้ใช้ค่าเฉลี่ยอัตราเร็วที่ค�ำนวณได้จากสูตรของ  อะเล็กซานเดอร์กับสูตรที่เขาเสนอใหม่  (ในขณะนั้น) คุณผู้อ่านท่านใดสนใจรายละเอียดสามารถศึกษาข้อมูลได้  จากเว็บ  Dinosaur  Speed  Calculator  ที่ให้ไว้ในขุมทรัพย์  ทางปัญญา รอยตี น ไดโนเสาร์ เ ป็ น ตั ว อย่ า งที่ ดี ที่ ช ่ ว ยให้ เ ราเห็ น ภาพ  ชัดเจนขึ้นว่า  หากเราทราบข้อมูลพื้นฐาน  (เช่น  ลักษณะรูปร่าง  ของไดโนเสาร์)  และเข้าใจลักษณะพฤติกรรมบางอย่าง  (เช่น  การ  เคลื่อนไหวร่างกาย)  เราก็สามารถจินตนาการถึงภาพเหตุการณ์  ในอดีต  และปะติดปะต่อเรือ่ งราวต่าง ๆ  ได้อย่างมีหลักการน่าสนุก  ไม่น้อยทีเดียว

ขุมทรัพย์ทางปัญญา

ขอแนะน�ำเว็บที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ http://www.dinosaurtrackways.com.au/stampede-story  (เรื่องราวเกี่ยวกับรอยตีนไดโนเสาร์ที่  Lark  Quarry) http://en.wikipedia.org/wiki/Lark_Quarry_Conservation_  Park Animal  Simulation  Laboratory  จัดท�ำโดย  ดร.  บิลล์  เซลเลอรส์  ที่  http://www.animalsimulation.org/  Dinosaur  Speed  Calculator  จัดท�ำโดย  Sorby  Geology  Group  แห่ง  University  of  Sheffield  ที ่ http://www.sorbygeology.  group.shef.ac.uk/DINOC01/dinocal1.html  (มีสตู รและวิธกี ารค�ำนวณ  แบบละเอียด)

AW��������.indd 55

19/3/2014 18:02


M i n d & C r e a t i v i t y

114

ขุมทรัพย์ทางปัญญา

ขอแนะน�ำแหล่งข้อมูลต่าง ๆ  ต่อไปนี้ -  Hyperbolic  paraboloid  (มีวธิ พี บั โมเดล)  :  http://erikdemaine.  org/hypar/ -  Philips  pavilion  :  http://en.wikipedia.org/wiki/Philips_  Pavilion -  บทความ  Polyhedral  Sculptures  with  Hyperbolic  Parabo-  loids  :  http://erikdemaine.org/papers/BRIDGES99/paper.pdf

AW��������.indd 114

19/3/2014 18:03


115

ค ณิ ต ซู เ ป อ ร์ โ ม เ ด ล

สนุกกับ “กล่อง  4  มิติ”

ภาพที่  1  :  กล่อง  4  มิติ

ในบทความนี ้ ผมขอเชิญชวนคุณผูอ้ า่ นท�ำสิง่ ประดิษฐ์จากกระดาษ  ชิ้นหนึ่ง  ซึ่งจะมองว่าเป็นของเล่นก็ดี  หรือเป็นสื่อการเรียนรู้คณิต-  ศาสตร์กไ็ ด้  ชือ่ ของสิง่ นีค้ อื   กล่อง  4  มิต ิ (4-dimensional  box)  ซึ่งบ่งแย้มนิด ๆ  ว่าภายในกล่องจะต้องมีอะไรน่าสนใจซ่อนอยู่เป็น  แน่  ลองดูภาพใกล้ ๆ  นี้สิครับ  (ภาพที่  1) หากเปิดฝากล่องโดยค่อย ๆ  ดึงออกมาก็จะพบ  “มิติที่ซอ่ น  เร้น”  หรือ  “มิติที่  4”  ได้แก่  ลูกบาศก์หลากสี  คลายตัวออกมา  อย่างน่าพิศวง  (ภาพที่  3) ผมเคยสาธิตกล่อง  4  มิตินี้หลายครั้ง  ครั้งที่อยากบันทึก  ไว้  ณ  ที่นี้  ได้แก่  ค่ายเยาวชนนานาชาติเอเปก  (APEC  Youth  Science  Festival)  เมือ่ วันที ่ 22  และ  24  สิงหาคม  ค.ศ.  2011

AW��������.indd 115

19/3/2014 18:03


M i n d & C r e a t i v i t y

116

และค่ายเยาวชนอาเซียน+3  ในปี  ค.ศ.  2013  (ASEAN+3  Youth  Camp)  โดยทัง้ สองค่ายสามารถเรียกเสียงฮือฮากระหึม่ ห้องทีเดียว ทั้งนี้ผมได้สอนวิธีพับโมเดลกล่อง  4  มิตินี้ในค่ายเยาวชน  อาเซียน+3  ด้วย  ซึ่งแม้จะใช้เวลาพอสมควรในการพับและการ  ประกอบ  แต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่าอย่างยิ่ง  (ภาพที่  2) ขอบันทึกเหตุการณ์เล็ก ๆ  ที่เกี่ยวกับกล่อง  4  มิตินี้ไว้สัก  เล็กน้อย  คือในค่ายอาเซียน+3  นี้  ปรากฏว่า  เยาวชนเวียดนาม  ชือ่   Hoang  Bich  Thuy  ซึง่ มีชอื่ เล่นว่า  มุนมุน  (Mun  Mun)  ได้  วิ่งมาหาผมตอนที่พับกล่อง  4  มิติใกล้จะส�ำเร็จ  เมื่อผมแนะน�ำ  ไปอีกเล็กน้อย  เธอก็สร้างกล่อง  4  มิติได้เป็นคนแรกของค่ายนี้  เพื่อน ๆ  ที่อยู่ใกล้ ๆ  เลยปรบมือให้ลั่นห้องประชุม  เล่นเอาคนอื่น  หันมามองด้วยความชื่นชม...แกมอิจฉานิด ๆ  อิอิ  (ภาพที่  4) มุนมุนขอรางวัลเป็นโมเดลซานตาคลอส  ซึ่งเธอเรียกว่า  Snowman  ผมก็เลยพับให้ไปสองตัวสองสี  แต่แล้วลูกศิษย์คนนี้  ก็เซอร์ไพรส์ผม  โดยบอกให้รอสักครู่เพราะว่ามีอะไรจะมอบให้  หลังจากนัน้ ราว  5  นาที  เธอก็มอบโมเดลดาว  3  มิต ิ ทีห่ ดั พับมา  จากพี่ ๆ  ชมรมนักพับกระดาษไทย  (มาช่วยงานนี้แบบจิตอาสา)  ตอนมอบดาว  3  มิติให้ผม  ก็บอกว่าขอบคุณที่มาสอนในค่ายนี้  (ปลื้มเลย)

ภาพที่  2  :  เยาวชนและพี่เลี้ยงใน  ASEAN+3 Youth  Camp ก�ำลังพับกล่อง  4  มิติ

AW��������.indd 116

19/3/2014 18:03


117

ค ณิ ต ซู เ ป อ ร์ โ ม เ ด ล

ภาพที่  3  :  การเล่นกล่อง  4  มิติ

ขอกลับไปที่โมเดลกล่อง  4  มิติสุดเท่อีกครั้ง  โมเดลนี้ยังมี  แง่มมุ ทีค่ าดไม่ถงึ   นัน่ คือ  เมือ่ ยืดกล่องออกจนสุดแล้ว  หากเราดัน  ฝาและตัวกล่องเข้าหากันเพียงเบา ๆ  ลูกบาศก์ที่อยู่ภายในก็จะ  ค่ อ ย ๆ  ยุ บ ตั ว ลงอย่ า งน่ า ทึ่ ง   จนโมเดลกลั บ เข้ า ที่ เ หมื อ นตอน  ตั้งต้น  พูดง่าย ๆ  ก็คือ  แม้กล่อง  4  มิติจะไม่มีชีวิต  แต่ก็เสมือน  หนึ่งว่ามีความจ�ำนั่นเอง  !

ภาพที่  4  :  มุนมุน  (เยาวชนเวียดนาม)  พับกล่อง  4  มิติ  ได้เป็นคนแรกใน  ASEAN+3  Youth  Camp

AW��������.indd 117

19/3/2014 18:03


M i n d & C r e a t i v i t y

118

เมือ่ รูอ้ ย่างนีแ้ ล้ว  หลายคนคงอยากจะลองท�ำกล่อง  4  มิตนิ ี้  บ้าง  ไม่ยากเลย  เพียงอาศัยความอึดเล็กน้อยเท่านั้น  เนื่องจาก  องค์ประกอบย่อยมีรูปแบบการพับเพียงแค่สองแบบหลัก  นั่นคือ หนึ่ง  ตัวกล่องและฝา  ซึ่งมีขั้นตอนการพับเหมือนกัน  เพียง  แต่พับฝาให้มีขนาดใหญ่กว่าตัวกล่องเล็กน้อย สอง  ลูกบาศก์พบั ยุบได้  ซึง่ มีสองแบบย่อยหมุนพับในทิศทาง  ต่างกัน  แต่ขั้นตอนการท�ำเกือบทั้งหมดเหมือนกัน

ตัวกล่องและฝา

เริ่มจากกระดาษสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด15x15  เซนติเมตร  มี  ขั้นตอนการพับแปดขั้นดังแสดงในภาพที่  5  จุดแตกต่างระหว่าง  ตัวกล่อง  (body)  และฝากล่อง  (lid)  มีเพียงจุดเดียวในขั้นตอน  ที่  3 ตัวกล่อง  ให้พบั ขอบกระดาษสองด้านมาชนกันทีจ่ ดุ กึง่ กลาง  ของโมเดล  (เลข  3  ตัวโปร่งด้านขวา) ส่วนฝากล่อง  ให้พับขอบกระดาษสองด้านมาใกล้กับจุด  กึง่ กลาง  โดยเว้นระยะห่างประมาณ  4  มิลลิเมตร  (เลข  3  ตัวทึบ  ด้านซ้าย)

ลูกบาศก์พับยุบได้

ก่อนดูวิธีท�ำลูกบาศก์ซึ่งสามารถพับยุบได้  ควรรู้จักวิธีการ  ท�ำลูกบาศก์แบบธรรมดาเสียก่อน  ลูกบาศก์แต่ละลูกใช้กระดาษ  สี่ เ หลี่ ย มจั ตุ รั ส ขนาดเท่ า กั น สองชิ้ น   ในที่ นี้ ใ ช้ ข นาด  15x15  เซนติเมตร  (เท่ากับขนาดกระดาษที่ใช้พับตัวกล่องและฝา) กระดาษทั้งสองชิ้นพับเหมือนกันทุกอย่าง  (ภาพที่  6)  โดย  น�ำรูปแบบในขั้นตอนที่  7  และ  8  มาประกอบกัน  ชิ้นส่วนแต่  ละชิ้นจะมีส่วนที่เป็นลิ้นรูปสามเหลี่ยมซึ่งสามารถสอดเข้าไปใน  ช่องว่างของอีกชิ้นหนึ่ง  ทั้งนี้ต้องใช้เทปหรือกาวเพื่อยึดลิ้นให้ติด  กับช่องดังกล่าว  (ภาพที่  7  และ  8)

AW��������.indd 118

19/3/2014 18:03


119

ค ณิ ต ซู เ ป อ ร์ โ ม เ ด ล

ภาพที่  5  :  การพับตัวกล่องและฝา

AW��������.indd 119

19/3/2014 18:03


BANA NA

ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ

ม� พด ดี แตง หนงั สอื ล ม ห า ลงิ พ ยใจ มแี ง ม มุ อ

กุ สน ะไร

คี่ น ? ก ว าแล �ข ม น

ติ ศาสตรข องเอสเชอร จ ณ ค ะ ตั รุ สั กล ศลิ ป ขอ ิติ ” งแ ม

ลนิ งค ฟร

สนกุ กบั ผลกึ หมิ ะ สนกุ กบั “กล อ ง 4

ให พ�มพ แค คำเดียว กี่ป จะเสร�จเนี่ย

ดร. บัญชา ธน บุญสมบัติ มากินมันฝรั่งทอด อย างเป นคณิตศาสตร กันเถอะ 0'

A

B'

0

A'

FOCAL ARC

B

ราคา 170 บาท

ISBN 978-616-7767-39-0

WEST

170.-

หมวดว�ทยาศาสตร

EAST

นิ เรว� แคไ หน ? โ ล ก นมี้ คี เสารเ ด น ไดโน เ ค ยเก ดิ


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.