หนังสือ ช�าแหละวิทยาศาสตร์จอมปลอม ผู้เขียน ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ สงวนลิขสิทธิโดยส�านักพิมพ์สารคดี ในนามบริษัทวิริยะธุรกิจ จ�ากัด ห้ามการลอกเลียนไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือ นอกจากจะได้รับอนุญาต พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 255 จ�านวนพิมพ์ 3,000 เล่ม ราคา 190 บาท ข้อมูลบรรณานุกรม บัญชา ธนบุญสมบัติ. ช�าแหละวิทยาศาสตร์จอมปลอม.--กรุงเทพฯ : สารคดี, 255 . 1 0 หน้า. I. วิทยาศาสตร์กับชีวิตประจ�าวัน. Ⅱ. วิทยาศาสตร์กับมนุษย์. 1. ชื่อผู้เขียน. 500.2 B 97 - 1 -77 7-1 -5
คณะผู้จัดท�า บรรณาธิการเล่ม : ปณต ไกรโรจนานันท์ ผูช้ ว่ ยบรรณาธิการ : น มล สุวรรณอ่อน ออกแบบปก : ชาญศักดิ สุขประชา จัดรูปเล่ม : นัทธินี สังข์สุข พิสูจน์อักษร : นวลจันทร์ ทองมาก ควบคุมการผลิต : ธนา วาสิกศิริ จัดพิมพ์ ส�านักพิมพ์สารคดี (ในนามบริษัทวิริยะธุรกิจ จ�ากัด) จัดจ�าหน่าย บริษัทวิริยะธุรกิจ จ�ากัด 2 , 30 ถนนปรินายก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทร. 0-22 1- 110 (อัตโนมัติ) โทรสาร 0-22 2-7003 เพลต เอ็นอาร์ ล์ม โทร. 0-2215-7559 พิมพ์ โรงพิมพ์ สิกส์เซ็นเตอร์ โทร. 0-2433-7704 ส�านักพิมพ์สารคดี ผู้อ�านวยการ : สุวพร ทองธิว ผู้จัดการทั่วไป : จ�านงค์ ศรีนวล ที่ปรึกษากฎหมาย : สมพจน์ เจียมพานทอง ผู้อ�านวยการฝ่ายการตลาด/โ ษณา : ปฏิมา หนูไชยะ ผู้อ�านวยการฝ่ายศิลป/ฝ่ายผลิต : จ�านงค์ ศรีนวล ผู้จัดการฝ่ายตลาด : พิเชษฐ ยิ้มถิน ที่ปรึกษาส�านักพิมพ์ : สุดารา สุจฉายา บรรณาธิการส�านักพิมพ์ : สุวัฒน์ อัศวไชยชาญ หนังสือเล่มนี้ใช้หมึกพิมพ์ซึ่งมีส่วนผสมของน�้ามันถั่วเหลือง ช่วยลดการใช้วัตถุดิบจากน�้ามันปโตรเลียม ช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
p1-7.indd 2
9/23/13 11:56 AM
จากสา ักพิมพ์
3
ช� า แ ห ล ะ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ จ อ ม ป ล อ ม
“ราคาน�้ามันขึ้นได้ก็ขึ้นไป มาใช้น�้ามันเบนซินจากพืชฝีมือ คนไทยกันดีกว่า พิสูจน์แล้ว วิ่งฉิวจริง “ยังไม่พอ หากอยากประหยัดเงินมากขึ้นไปอีก ใช้ปลัก ประหยัดน�้ามัน ‘Pra ad od’ สิ เสียบที่จุดบุหรี่ปุ บ ประหยัด น�า้ มันปับ ประดิษฐ์จากหลักการวิทยาศาสตร์ชนั้ สูง อาจารย์สถาบัน ชั้นน�าทดสอบแล้วบอกว่า เยี่ยมสุดในสามโลก” ถามจริง ๆ เถอะคุณเชื่อหรือไม่ มีเหตุผลใดที่เชื่อ และมี เหตุผลใดที่ไม่เชื่อ หากไม่ทราบ ก็ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ โดย ดร. บัญชา ธนบุญ- สมบัต ิ จะตีแผ่กลยุทธ์ของพวกลวงโลกทีน่ า� หลักการทางวิทยาศาสตร์ จริงมาผสมปนเปจนมัว่ หรือน�ามาใช้อย่างไม่ถกู ต้อง หรืออ้างถึงท ษฎี ยาก ๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ โดยยกตัวอย่างผลิตภัณ ์หรือ ความเชือ่ ที ่ “จับได้” แล้วว่าเป็นพวกหลอกลวงต้มตุนแท้ ๆ เช่น เครือ่ ง ตรวจระเบิด T200 ทีไ่ ม่ต่างอะไรจากไม้ลา้ งป่าช้า น�า้ มหัศจรรย์ท ี่ อ้างว่าเพิม่ ก�าลังวังชา เรือ่ งโลกแตกเมือ่ ปี ค.ศ. 2012 ซึง่ ไม่แตกจริง รวมทั้งแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่เข้าใจผิดกันบ่อย ๆ อย่างไรก็ตามตัวอย่างในหนังสือเล่มนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง เท่านัน้ ในสังคมของเรายังมีวทิ ยาศาสตร์จอมปลอมแฝงตัวหลอกลวง เราอยูอ่ กี มาก การได้รกู้ ลยุทธ์การตลาดของวิทยาศาสตร์ปลอมจะ เป็นภูมิคุ้มกันทางปัญญาให้เราได้รู้เท่าทัน ไม่ถูกหลอกไปเรื่อย ๆ ส�านักพิมพ์สารคดี
p1-7.indd 3
9/23/13 11:56 AM
M i n d & C r e a t i v i t y
4
จาก ขย ท�าไมผมจึงเขียนหนังสือเล่มนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ดูเหมือนว่าวงการวิทยาศาสตร์ และวงการสื่อสารมวลชนในบ้านเราได้ให้ความส�าคัญกับการสร้าง ความตระหนักทางวิทยาศาสตร์แก่สาธารณชน (Public Awareness of cience) มากทีเดียว กิจกรรมนี้บางครั้งก็เรียกว่า การสร้าง ความรูค้ วามเข้าใจทางวิทยาศาสตร์แก่สาธารณชน (Public nder- standing of cience) ทีเ่ ป็นเช่นนีผ้ มเข้าใจว่าส่วนหนึง่ เกิดจากการทีป่ ระเด็นส�าคัญ ทีเ่ กิดขึน้ ในสังคมมักต้องใช้ความรูท้ างวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ในการท�าความเข้าใจด้วยไม่มากก็นอ้ ย ประเด็นดังกล่าวอาจมีตงั้ แต่ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนตัว เช่น จะเลือกใช้ผลิตภัณ ์ชนิดหนึ่ง ๆ ไหม ? ไปจนถึงเรื่องใหญ่ที่มีผลกระทบต่อส่วนรวม เช่น จะเอา MOs ไหม ? จะเอาโรงไ านิวเคลียร์ไหม ? และจะแก้ปัญหา (หรือแม้แต่ใช้ประโยชน์จาก) โลกร้อนอย่างไร ? เป็นต้น การสร้าง “ความตระหนัก” ดังกล่าวนีต้ อ้ งท�าอย่างถูกต้อง ทันท่วงที และทีส่ า� คัญคือต้องมีศลิ ปะในการพลิกแพลงให้สอดคล้อง กับกลุ่มเปาหมายซึ่งอาจเป็นกลุ่มจ�าเพาะ (เช่น ผู้มีอ�านาจในการ ก�าหนดนโยบาย หรือชุมชนหนึง่ ๆ) หรือเป็นกลุม่ ขนาดใหญ่ทมี่ ผี คู้ น จ�านวนมาก (เช่น สังคมโดยรวม) มิเช่นนัน้ แล้วกิจกรรมทีท่ า� ไปอาจ สูญเปล่า หรือเลวร้ายทีส่ ดุ คือ กลับไปสร้าง “ความตระหนก” ในหมู่ สาธารณชนแทน (ไม้หันอากาศหายไปตัวเดียว... เป็นเรื่อง) จากประสบการณ์ของผมและเพือ่ นร่วมงานหลายคนพบว่า มีความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นซ�้าแล้วซ�้าเล่า ซึ่งเมื่อแก้ไขแล้วก็ ยัง นกลับมาอีก บางทีกม็ าในรูปแบบเดิม บางทีกม็ าในรูปแบบใหม่
p1-7.indd 4
9/23/13 11:56 AM
ช� า แ ห ล ะ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ จ อ ม ป ล อ ม
ความผิดปกติที่ว่านี้ ได้แก่ ความเข้าใจในวิทยาศาสตร์ที่ผิดพลาด คลาดเคลื่อน ซึ่งมีแง่มุมหลากหลาย แต่ที่ส�าคัญคือ มีผู้น�าไปใช้ หลอกลวงคนจ�านวนไม่น้อย หนังสือเล่มนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์จอมปลอม และมีกรณีศกึ ษาทีส่ า� คัญบางกรณี (เช่น T200 และกรณีโลกแตก 2012) ซึ่งเคยเป็นข่าวดังทั้งในระดับประเทศและระดับโลกมาก่อน ผมหวังว่าข้อมูลทีใ่ ห้ไว้นคี้ งจะช่วยให้คณ ุ ผูอ้ า่ นได้แง่คดิ ทีเ่ ป็นประโยชน์ ในการเสพข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทีป่ ระดังเข้ามาแทบทุกวันในปัจจุบนั บัญชา ธนบุญสมบัติ ส�านักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ศุกร์ 5 ตุลาคม 2555 www.facebook.com/buncha2509 buncha2509 gmail.com
p1-7.indd 5
9/23/13 11:56 AM
สาร ัญ
กลยุทธ์การตลาดของวิทยาศาสตร์จอมปลอม ลูกเล่นลวงโลกของน�้ามหัศจรรย์ น�้ามันเบนซินชนิดใหม่ต้องผ่านข้อก�าหนดอะไรบ้าง ? ระวัง “สเตนเลสเกรดย้อมแมว” ! แผนที่ชิวหาพาหลงทาง (ร่วม 100 ปี) ! กรณี T200 เมื่อวิทยาศาสตร์จอมปลอม สั่นสะเทือนสังคมไทย ไขปริศนาโลกแตก ค.ศ. 2012 หลังปี ค.ศ. 2012 มีค�าท�านายโลกแตกปีไหนอีกบ้าง ? เข้าใจ “พายุสุริยะ” ให้ลึกกว่าข่าวในสื่อ พายุสุริยะมีผลกระทบต่อวงการบินอย่างไร ? แนวคิดวิทย์...ที่เข้าใจผิดกันบ่อย ๆ “แนวค�าตอบ” แนวคิดวิทย์...ที่เข้าใจผิดกันบ่อย ๆ ภาคผนวก ดัชนี
p1-7.indd 6
22 2 35 3 43 9 105 130 137 14 1 0 175
9/23/13 11:56 AM
รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมการตลาด ของวิทยาศาสตร์ปลอม ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ
p1-7.indd 7
9/23/13 11:56 AM
M i n d & C r e a t i v i t y
8
กลยุทธ์การตลาดของ วิทยาศาสตร์จอมปลอม
กรณี T200 และการหลอกลวงต้มตุนที่เกิดขึ้นในบ้านเราหลาย กรณีท�าให้เราเห็น ทธิเดชของวิทยาศาสตร์จอมปลอมว่าสามารถ ท�าให้สงั คมสับสนวุน่ วายได้มากมายเพียงใด จึงน่าจะเป็นประโยชน์ หากเรามาดูกันให้ชัด ๆ ว่า วิทยาศาสตร์จอมปลอมคืออะไร และ วิธีการที่น�ามาใช้ต้มตุนเหยื่อจ�านวนมากให้หลงเชื่อมีอะไรบ้าง ลองมาดูค�าว่า “วิทยาศาสตร์จอมปลอม” กันก่อน ผมใช้ ค�านี้ครอบคลุมในหลายระดับ ตั้งแต่ (1) การเข้าใจแนวคิดทางวิทยาศาสตร์แบบผิด ๆ (2) มายาคติ (3) วิทยาศาสตร์เทียม (4) การหลอกลวงต้มตุน การเข้าใจแนวคิดทางวิทยาศาสตร์แบบผิด ๆ (mis- conception) เช่น “ส�าหรับผลไม้ที่ติดอยู่บนต้น หากแรงกิริยา คือแรงที่โลกดึงดูดผลไม้ แรงปฏิกิริยาก็คือแรงที่กิ่งไม้ดึงผลไม้นั้น
p8-21.indd 8
9/23/13 11:57 AM
9
ช� า แ ห ล ะ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ จ อ ม ป ล อ ม
เอาไว้” ข้อความที่ว่ามานี้ผิด เพราะที่ถูกต้องคือ “ส�าหรับผลไม้ท ี่ ติดอยู่บนต้น หากแรงกิริยาคือแรงที่โลกดึงดูดผลไม้ แรงปฏิกิริยา ก็คือแรงที่ผลไม้นั้นดึงดูดโลก” ต่างหาก เรื่องนี้อย่าท�าเป็นเล่นไป เพราะมีคนที่สอนพื้นฐานผิด ๆ แบบนี้ไปเปดส�านักกวดวิชา โดยการสนับสนุนจากองค์กรใหญ่ โปรโมตกันแบบจัดหนักมาแล้ว ! ความเข้าใจผิดเช่นนี้อาจดูเหมือนเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่น่าจะมี ผลเสียมากมาย แต่ปัญหาก็คือ ความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานแบบ ผิด ๆ ย่อมท�าให้ไม่สามารถต่อยอดความรู้ได้อย่างถูกต้อง แถม ยังเปดโอกาสให้ถูกหลอกลวงได้โดยง่าย ไม่ว่าจะถูกชักจูงให้ซื้อ ผลิตภัณ ์ หรือถูกชี้น�าให้ลุ่มหลงเป็นสาวกของลัทธิความเชื่อที่ ผิดเพี้ยน หากการเข้าใจแนวคิดทางวิทยาศาสตร์แบบผิด ๆ เกิดขึ้น มานาน ก็จะกลายเป็นความเชื่อแบบฝังหัวที่แก้ไขได้ยากมาก ๆ เรียกว่า มายาคติ (myth) ตัวอย่างเช่น ความเชื่อที่ว่า “ปลายลิ้น รับรู้เฉพาะรสหวาน โคนลิ้นรับรู้เฉพาะรสขม” ข้อความที่ว่ามานี้ผิด เพราะที่ถูกต้องคือ “ปลายลิ้นไวต่อรสหวาน โคนลิ้นไวต่อรสขม” ต่างหาก ใครสนใจสามารถอ่านเรื่อง “แผนที่ชิวหา พาหลงทาง (ร่วม 100 ปี) !” ในหนังสือเล่มนี้ได้
แผนที่ต่อมรับรสบนลิ้นที่เคยเชื่อกันมานาน เป็นมายาคติที่แก้ไขได้ยากยิ่ง
p8-21.indd 9
9/23/13 11:57 AM
M i n d & C r e a t i v i t y
10
มายาคติในเรือ่ งต่าง ๆ เป็นเรือ่ งใหญ่ และอาจส่งผลกระทบ ได้ถงึ ระดับสังคมทีเดียว เช่น มายาคติทางประวัตศิ าสตร์อาจท�าให้ เกิดอคติทางชาติพันธุ์ ดูถูกดูแคลนชนชาติอื่นว่าด้อยกว่าชาติตน ส่วนมายาคติทางวิทยาศาสตร์อาจท�าให้ตัดสินใจผิดพลาด หรือ เพิ่มความเสี่ยงภัยต่อสุขภาพและชีวิตได้ทีเดียว วิทยาศาสตร์จอมปลอมอีกรูปแบบหนึง่ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทียม (Pseudo-Science หรือเขียนว่า Pseudoscience ก็ได้) ซึง่ หมายถึง ระบบความเชือ่ ทีอ่ า้ งว่าเป็นวิทยาศาสตร์ มีหลักการและ ท ษฎีของตนเอง แต่เอาเข้าจริงแล้วหลักการและท ษฎีเหล่านั้น ไม่ได้ผา่ นการตรวจสอบตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทถี่ กู ต้อง ตัวอย่างวิทยาศาสตร์เทียม เช่น พลังจิต สิง่ บินลึกลับ ( O) โหรา- ศาสตร์ ไม้ล้างป่าช้า (dowsing rod) เครื่องจักรชั่วนิรันดร์ (per- petual machine) และกรณีโลกแตก ค.ศ. 2012 เป็นต้น น่ า รู ้ ด ้ ว ยว่ า วิ ท ยาศาสตร์ เ ที ย มมี ทั้ ง ส่ ว นที่ จ ริ ง (ในบาง เงื่อนไข) ส่วนที่เท็จ ผสมปนเปไปกับส่วนที่เป็นความเชื่อหรือการ คาดเดา ซึ่งแยกแยะได้ไม่ง่ายนัก อย่างไรก็ดีมีเกณ ์ทางปรัชญา ที่ใช้ตัดสินว่าอะไรเป็นวิทยาศาสตร์แท้ ( cience) อะไรเป็นวิทยา ศาสตร์เทียม (Pseudoscience) ได้แก่ หลักพิสูจน์ว่าเป็นเท็จ (falsifiability principle) ซึ่งเสนอโดยนักปรัชญาชื่อ คาร์ล พอปเพอร์ ( arl Popper) กล่าวโดยย่อที่สุดคือ ข้อความหรือ
เซอร์คาร์ล พอปเพอร์ นักปรัชญาผู้เสนอหลักการ แยกแยะวิทยาศาสตร์แท้ออกจากวิทยาศาสตร์เทียม
p8-21.indd 10
9/23/13 11:57 AM
11
ช� า แ ห ล ะ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ จ อ ม ป ล อ ม
ท ษฎีอะไรก็ตามที่จะถือว่าเป็นวิทยาศาสตร์ได้นั้นจะต้องสามารถ ถูกพิสูจน์ว่าเป็นเท็จได้ ในทางวิทยาศาสตร์นั้น ไม่ว่าผลการสังเกตหรือผลการ ทดลองจะออกมาสอดคล้องกับท ษฎีสักกี่ครั้งก็ตาม เราก็ไม่อาจ มัน่ ใจได้วา่ ผลการทดลองในครัง้ ต่อไปจะไม่ขดั แย้งกับท ษฎี เรือ่ งนี ้ ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้วา่ “ o amount of e perimentation can ever prove me right a single e periment can prove me wrong” นั่นคือ “ไม่ว่าจะท�าการทดลองมากมายเพียงไร ก็ ไม่สามารถพิสูจน์ว่าผมถูกต้องได้ แต่การทดลองเพียงการทดลอง เดียวก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าผมผิด” การแยกแยะระหว่างวิทยาศาสตร์แท้กบั วิทยาศาสตร์เทียมนี้ มีรายละเอียดน่ารู ้ คุณผูอ้ า่ นสามารถค้นค�าเว็บด้วยค�าว่า falsi ca- tion, falsi able และ falsi ability principle รวมทั้งชื่อ arl Popper ดูได้ วิทยาศาสตร์จอมปลอมในระดับที่รุนแรงที่สุด ได้แก่ การ หลอกลวงต้มตุน ๋ (fraud) ซึง่ หมายถึงผลิตภัณ ห์ รือลัทธิความเชือ่ ทีผ่ ผู้ ลิต ผูข้ าย หรือผูเ้ สนอลัทธิความเชือ่ จงใจอวดอ้างสรรพคุณเกิน จริงไปมาก อย่างกรณี T200 ก็เข้าข่ายการหลอกลวงต้มตุนโดยใช้ หลักการของไม้ลา้ งป่าช้า ซึง่ เป็นวิทยาศาสตร์เทียมแบบหนึง่ นัน่ เอง คราวนี้ลองมาดูกันว่า ผู้ที่เผยแพร่วิทยาศาสตร์จอมปลอม ใช้กลยุทธ์อะไรจนท�าให้คนจ�านวนมากหลงเชื่อ ดังนี้
กลยุทธ์ที่ 1 : น�าเสนอผลิตภัณฑ์หรือลัทธิความเชื่อ ทีม่ ผี คู้ นสนใจจ�านวนมาก โดยอ้างว่าสิง่ ทีน ่ า� เสนอนัน ้ สอดคล้อง กับทางวิทยาศาสตร์ แฉกลยุทธ์ท ี่ 1 : ผลิตภัณ ด์ งั กล่าวมักอ้างว่าเป็นนวัต- กรรมล่าสุด โดยอาจอ้างถึงการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ แถมด้วย ศัพท์วิทยาศาสตร์ยาก ๆ ซึ่ง ังดูไ เทค ค�าที่ถูกใช้บ่อย ๆ จนน่า สังเกต ได้แก่ พลังแม่เหล็ก นาโน ควอนตัม และชีวภาพ
p8-21.indd 11
9/23/13 11:57 AM
M i n d & C r e a t i v i t y
12
ส่วนลัทธิความเชื่อนั้น มักปักธงข้อสรุปไว้ล่วงหน้าว่า ลัทธิ ความเชื่อ “เหนือกว่า” วิทยาศาสตร์ เช่น เจ้าลัทธิได้ค้นพบความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันจนหมดสิ้นแล้ว แถมยังรู้สิ่งที่วิทยา ศาสตร์ในปัจจุบันยังไม่รู้อีกด้วย (โดยเฉพาะเรื่องจิต) วิธีการที่ พบก็คือ การแสร้งกล่าวเชิดชูวิทยาศาสตร์ตอนต้น แต่กลับเหยียบ ให้ต�่ากว่าลัทธิที่น�าเสนอตอนหลัง เพื่อให้ลัทธิดังกล่าวดูสูงส่งน่า เลื่อมใสนั่นเอง ไม่วา่ จะเป็นผลิตภัณ ห์ รือลัทธิทอี่ งิ วิทยาศาสตร์จอมปลอม จะพบว่ามีการน�าค�าศัพท์ ท ษฎี และผลลัพธ์ทางวิทยาศาสตร์มา ใช้อย่างสับสน ผิดที่ผิดทาง คือไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของท ษฎีที่ เกี่ยวข้อง • หากเป็นผลิตภัณ ์ ก็จะไม่พบหลักฐานทางวิชาการที่ เชื่อถือได้สนับสนุน เช่น บทความวิจัยที่ได้รับการตรวจสอบโดย ผู้ทรงคุณวุฒิ
ข่าวองค์การอาหารและยา (อย.) เตือนเกี่ยวกับชุดชั้นในอินฟราเรด ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ หน้า 5 (เศรษฐกิจ)
p8-21.indd 12
9/23/13 11:57 AM
13
ช� า แ ห ล ะ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ จ อ ม ป ล อ ม
• หากเป็นลัทธิความเชื่อ ก็จะใช้การตีความค�าศัพท์และ ท ษฎีต่าง ๆ เพื่อให้ดูประหนึ่งว่าลัทธิของตนนั้นช่างสอดคล้องกับ วิทยาศาสตร์สมัยใหม่เสียนี่กระไร กลยุทธ์ที่ 2 : อ้างหลักฐานสนับสนุน เช่น สิทธิบัตร ผลการทดสอบจากสถาบัน และคัมภีร์ทางศาสนา แฉกลยุทธ์ที่ 2 : หากสนใจผลิตภัณ ์หนึ่ง ๆ ที่อ้างว่า ได้รับสิทธิบัตร ก็ควรตรวจสอบว่าสิทธิบัตรนั้นมีจริงหรือไม่ และ ข้อมูลในสิทธิบัตรสอดคล้องกับสรรพคุณต่าง ๆ ที่ผลิตภัณ ์นั้น กล่าวอ้างหรือไม่ เคยมีก รณี “น�้า มัน เบนซินลวงโลก” กรณีหนึ่งที่อ้างว่า “ผ่านการทดสอบคุณภาพในทุกรายการที่ส่งทดสอบ” ซึ่ง ังเผิน ๆ เหมือนว่าน่าจะใช้งานได้ แต่ข้อเท็จจริงก็คือ มาตรฐานก�าหนดให้ ทดสอบน�้ามันชนิดใหม่ต้องผ่านการทดสอบกว่า 20 รายการ โดย ผู้ผลิตน�้ามันเบนซินลวงโลกดังกล่าวส่งน�้ามันของตนเข้าทดสอบ เพียงแค่หา้ รายการเท่านัน้ (และก็ผา่ นทัง้ ห้ารายการนีต้ รงตามอ้าง)
ตัวอย่างข่าวซึ่งระบุว่ามีการคิดค้นน�้ามันเบนซินชนิดใหม่ ที่อ้างว่ามีคุณภาพดี แต่มีราคาถูกกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุดว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ปีที่ 2 ฉบับที่ 519 วันอังคารที่ 18 มีนาคม 2546 หน้า 1
p8-21.indd 13
9/23/13 11:57 AM
M i n d & C r e a t i v i t y
42
p38-42.indd 42
ขุมทรัพย์ทางปัญญา
ขอแนะน�าบทความต่อไปนี้ • แผนที่ลิ้นลวงโลก ในนิตยสาร UpDATE ปีที่ 19 ฉบับที่ 207 ธันวาคม 2547 หน้า 34-39 เขียนโดย ดร. ว่าที่ ร.ต. เจษฎา เด่นดวง- บริพันธ์ • “The Taste Map : All Wrong” ใน Scientific American, March 2001 หรือที่ http://www.geocities.com/franzbardon/ tastemap.html • Collection of References Regarding the Chemotopic Organization of Taste ที ่ http://www.med-rz.uni-sb.de/med_fak/ physiol1/LDM/chemotopic_1.htm
9/23/13 11:59 AM
43
ช� า แ ห ล ะ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ จ อ ม ป ล อ ม
กร มอวิทยาศาสตร์จอมปลอม สั ส ทอ สัง ม ทย
ในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 มี ข่าวใหญ่ซงึ่ เป็นทีส่ นใจของคนไทยโดยทัว่ ไปข่าวหนึง่ ได้แก่ ข้อสงสัย เกี่ ย วกั บ ประสิ ท ธิ ภ าพการใช้ ง าน T200 ซึ่ ง ผู ้ ผ ลิ ต อ้ า งว่ า เป็ น อุปกรณ์แบบพกพาทีส่ ามารถตรวจหาวัตถุระเบิด (หรือสารเสพติด) จากระยะไกลได้ ในที่สุดจึงมีการจัดตั้งคณะกรรมการทดสอบประสิทธิภาพ T200 และมีการทดสอบอุปกรณ์นใี้ นวันอาทิตย์ท ี่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 ทีบ่ า้ นวิทยาศาสตร์สริ นิ ธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โดยต่อมานายกรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ได้แถลงผลการ ทดสอบต่อสื่อสารมวลชนเมื่อวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 โดยมีข้อความซึ่งเป็นสาระส�าคัญดังนี้ (ถอดเสียงพูดจากคลิปข่าว ช่อง 9 ใน ouTube) “ผลของการทดลองก็ปรากฏว่า การใช้อุปกรณ์นี้สามารถ ชี้ได้ถูกกล่อง 4 ครั้งจาก 20 ครั้ง ซึ่งไม่มีนัยส�าคัญทางสถิติ ก็คือ หมายความว่าไม่ได้แตกต่างจากกรณีที่สุ่มเอา”
p43-65.indd 43
9/23/13 11:59 AM
M i n d & C r e a t i v i t y
44
“เพราะฉะนั้นในขณะนี้สิ่งที่ชัดเจนแน่นอนก็คือว่า จะไม่มี การซื้ออุปกรณ์นี้เพิ่มเติม “เพราะว่าทางหน่วยงานผู้ปฏิบัติเขาก็ยังมีความเชื่อของ เขาอยู่ แล้วก็อาจจะยังไม่ทราบ และอาจจะยังไม่เข้าใจถึงแนววิธี การในการทดลอง เพราะฉะนั้นก็ต้องเอาข้อมูลนี้ไปให้เขาเข้าใจ ขณะนี้ในชั้นนี้ก็ต้องแจ้งให้เขาทราบโดยเร็วที่สุด”
ข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ปีที่ 9 ฉบับที่ 04 วันพ หัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 255
p43-65.indd 44
9/23/13 11:59 AM
4
ช� า แ ห ล ะ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ จ อ ม ป ล อ ม
เพื่อเป็นการบันทึกกรณีส�าคัญต่อวงการวิทยาศาสตร์และ สังคมไทยโดยรวมนี้ไว้ ผมจะขอแสดงข้อมูล หลักการ และทัศนะ ต่อกรณี T200 นี้ในสามประเด็นหลัก ได้แก่ 1. มุมมองเชิงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : เหตุใด T200 จึงไม่อาจท�างานได้ตามข้อมูลทางเทคนิคที่บริษัทผู้ผลิตกล่าวอ้าง กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ เหตุใด T200 จึงเข้าข่ายอุปกรณ์ลวงโลก ในมุมมองทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. มุมมองเชิงสถิติและคณิตศาสตร์ : การทดสอบ T 200 เมือ่ วันที ่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 มีแก่นสารอย่างไร และเหตุใด T200 จึง “สอบตก” นัน่ คือ ไม่ผา่ นเกณ ท์ สี่ ามารถยอมรับว่าเป็น อุปกรณ์ที่ใช้งานได้จริง หากเราเข้าใจหลักการแปลผลทางสถิติในการทดสอบ ครั้งแรกนี้ ก็ย่อมจะช่วยให้เราเข้าใจผลการทดสอบอุปกรณ์อื่น ๆ ด้วยวิธีการในท�านองเดียวกันซึ่งอาจมีขึ้นอีกในอนาคต (เช่น กรณี อุปกรณ์ตรวจจับสารเสพติด ALPHA เป็นต้น) 3. ข้อสังเกตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณี GT200 : กรณี T200 มีประเด็นส�าคัญทีเ่ กีย่ วข้องมากมาย อีกทัง้ ยังส่งผลกระทบ ต่อสังคมไทยในแง่มมุ ต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ในหัวข้อนีผ้ มจะกล่าว ถึงกรณีตัวอย่างที่มีผู้เสนอไว้ รวมทั้งประเด็นที่ใหญ่กว่า T200 นั่นคือ การสร้างความตระหนักเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์จอมปลอม หรือ Public Awareness of Pseudo- cience
1. มุมมองเชิงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
พิจารณาเอกสารซึง่ ระบุขอ้ มูลทางเทคนิคของ T200 จาก บริษัท lobal Technical ในภาพ ข้อมูลส�าคัญทีเ่ กีย่ วข้องกับสมรรถนะของเครือ่ งว่าจะสามารถ ท�างานได้ตามที่กล่าวอ้าง เช่น ตรวจจับวัตถุระเบิด และ/หรือ สาร เสพติด ฯลฯ มีอย่างน้อยสี่อย่าง ได้แก่ แหล่งพลังงาน (Power ource) วิธีการตรวจจับ (Detection Method) ระยะห่างที ่ สามารถตรวจจับได้ (Detection Distance) และปริมาณน้อยทีส่ ดุ
p43-65.indd 45
9/23/13 11:59 AM
M i n d & C r e a t i v i t y
2
วงการสื่อสารมวลชน : นอกจากจะช่วยเผยแพร่ความรู้ ทางวิทยาศาสตร์สู่สาธารณชน หรือที่เรียกว่า Public nder- standing of cience แล้ว อยากให้พิจารณาการสร้างความ ตระหนักเกีย่ วกับ (พิษภัย) ของวิทยาศาสตร์จอมปลอม หรือ Public Awareness of Pseudo- cience อย่างต่อเนือ่ ง โดยไม่จา� เป็น ต้องรอให้เกิดคดีหรือกรณีใหญ่ ๆ เช่นนี้ขึ้นมาก่อน กรณี GT200 (และกรณีอน ื่ ๆ ในลักษณะเดียวกัน) เป็น บททดสอบสังคมไทยว่าจะให้ความส�าคัญกับวิชาการที่ถูกต้อง รวมทั้งข้อเท็จจริงที่สามารถตรวจสอบได้มากน้อยเพียงใด
ขุมทรัพย์ทางปัญญา
ขอแนะน�าแหล่งข้อมูลต่อไปนี้ - http://www.gt200.org (เว็บไซต์ของไทยซึง่ เกาะติดกรณี T200 และกรณีอื่น ๆ ใกล้เคียงกัน) - http://en.wikipedia.org/wiki/ T200 - http://www. ustnet.org/Lists/ T T%20Resources/ Attachments/440/moleeval_apr02.pdf (บทความจาก andia ational Laboratories ซึ่งอธิบายการทดสอบอุปกรณ์ MOL ) - http://www.tnspl.in/solutions/ urveillance/Alpha .pdf (ข้อมูลเกี่ยวกับ ALPHA จากผู้ผลิต) - http://en.wikipedia.org/wiki/Alpha_ - http://www.hazard-detection.com/images/H DD1_ presentation_2010.pdf (ข้อมูลเกี่ยวกับ H DD1 จากผู้ผลิต) - http://gotoknow.org/blog/science/33 972 (เว็บบล็อกของ ผมส�าหรับกรณี T200)
p43-65.indd 62
9/23/13 11:59 AM
เกมจ�าลองการทดสอบ GT200
3
p43-65.indd 63
ช� า แ ห ล ะ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ จ อ ม ป ล อ ม
มีกิจกรรมง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เราเข้าใจการทดสอบ T200 ด้วยวิธี การทางสถิติได้ดีขึ้น กิจกรรมนี้จ�าลองการทดสอบ T200 ให้อยู่ ในรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุด โดยเก็บแก่นสาระส�าคัญไว้ได้ ในกิจกรรมนี้จะสมมุติให้ • มี “ผูซ้ อ่ นระเบิด” หนึง่ คน ส่วนทีเ่ หลือ เป็น “ผูค้ น้ หา ระเบิด” จ�านวน “ผู้ค้นหาระเบิด” ในทางท ษฎีอาจมีกี่คนก็ได้ไม่ จ�ากัด แต่ในทางปฏิบตั สิ กั ประมาณ 100 คนก็จะให้ขอ้ มูลทางสถิต ิ ที่น่าสนใจแล้ว • มีการซ่อนระเบิดทั้งสิ้น 20 ครั้ง • แต่ละครั้งระเบิดจะถูกซ่อนในกล่องใดกล่องหนึ่งใน สี่กล่อง ที่เรียกว่า กล่อง A, B, C หรือ D วิธีการเป็นดังนี้ครับ 1) ทุกคนได้รับแผ่นเกมจ�าลองการทดสอบ T200 คนละหนึ่งแผ่น 2) “ผูซ้ อ่ นระเบิด” ซ่อนระเบิด 20 ครัง้ (โดยไม่ให้ใคร เห็น) เช่น ถ้าครัง้ ที ่ 1 ซ่อนในกล่อง B ก็จะกาช่อง 1B, ครัง้ ที ่ 2 ซ่อน ในกล่อง D ก็กาช่อง 2D ไล่ไปเรื่อย ๆ จนถึงครั้งที่ 20 3) “ผู้ค้นหาระเบิด” แต่ละคนเดาใจผู้ซ่อนระเบิดว่า แต่ละครั้งซ่อนในกล่องไหน เช่น ถ้าคิดว่าครั้งที่ 1 ซ่อนในกล่อง B ก็กาช่อง 1B (เดาถูก) ถ้าคิดว่าครั้งที่ 2 ซ่อนในกล่อง A ก็กา 2A (เดาผิด) ไล่ไปเรื่อย ๆ จนถึงครั้งที่ 20 4) เมือ่ “ผูค้ น้ หาระเบิด” ทุกคนเดาครบทุกข้อแล้ว ก็ถงึ เวลาที่ “ผู้ซ่อนระเบิด” จะเฉลย ไล่ไปเรื่อย ๆ จากครั้งที่ 1-20 5) “ผูค้ น้ หาระเบิด” แต่ละคนจะนับจ�านวนข้อทีต่ นเอง เดาถูกเอาไว้ เช่น คุณ ก เดาถูก 4 ข้อ คุณ ข เดาถูก 7 ข้อ ฯลฯ ) ประมวลภาพรวม โดยนับจ�านวนผู้ที่เดาถูก 0, 1, 2, 3, 4,..., 20 ข้อ
9/23/13 11:59 AM