วารสารส่งเสริมสุขภาพจิต ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2558 ฉบับที่ 60
จะเข้มแข็งหรือจะอ่อนแอ P.2 แบบทดสอบทายนิสัยลึกๆ ในตัวคุณ P.4 หมอเจี๊ยบ ลลนา กับความมุ่งมั่น
อันตรายวันลอยกระทง P.10
เรียนแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น P.6
ทุนป.โท ที่ออสเตรเลีย P.14
เคล็ดไม่ลับ ดูแลผิวสวยใสในฤดูหนาว P.8
ภาษาอังกฤษใครว่ายาก P.15
สานักงานให้คาปรึกษาและช่วยเหลือนักศึกษา (D1 127) 0-5391-6666, 0-5391-6167-9 e-mail : Student-support@mfu.ac.th facebook.com/LLSCMFU
ผู้จัดทาวารสาร Guide ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่ปรึกษา ผู้จัดทา special thanks
อาจารย์ศุภวัลย์ คาวัง พี่เหมียว พี่ดาว พี่เว พี่กล้วย ป้าน้อย พี่นึก
พิมพ์ที่หน่วยผลิตสื่อสิ่งพิมพ์และเอกสารกลางจานวน 800 เล่ม
สวัสดีพี่น้องชาวมฟล.ทุกคนค่ะ เข้าสู่ช่วงปลายปีกันแล้วแต่อากาศยังไม่ ค่อยหนาวเท่าไหร่เลยเนาะ อุตส่าห์เตรียมผ้าพันคอสวยๆ ไว้ ยังไม่มีโอกาสได้ใส่สักที นี่ก็เพิ่งผ่านช่วงสอบกลางภาคมาไม่นาน อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะต้องฮึดกัน อีกเพื่อเตรียม สอบปลายภาค หวังว่าทุกคนจะสบายดีและเตรียมตัวเตรียมใจ ให้พร้อมสาหรับ การสอบ แล้วก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ สาหรับใครที่ยังมีเรื่องรบกวนจิตใจ สานักงานให้คาปรึกษาฯ ยินดีรับฟัง และช่วยเหลือเสมอ วันนี้มีข้อคิดดีๆ จากคุณหมอสุกมล วิภาวีพลกุล จิตแพทย์ชื่อดัง มาฝาก เพื่อเป็นกาลังใจให้ทุกคนที่กาลังเผชิญกับปัญหาต่างๆ ค่ะ "ปัญหาใดที่แก้ไขได้"
ก็ใช้ปัญญาค่อยๆ หาทางคลี่คลาย
"ปัญหาใดที่ยังแก้ไขไม่ได้" ก็ใช้สติประคองใจไม่ให้เป็นทุกข์ บางเรื่อ งอาจต้ องรอเวลา หรื อการเปลี่ ยนแปลงของเหตุปัจจั ย ไม่มี ปัญ หาใด คงทนได้นาน จึงไม่ต้องยึดติดจนทุกข์ใจเกินความจาเป็น ^___^ ด้วยรักและกาลังใจ โดยสานักงานให้คาปรึกษาและช่วยเหลือนักศึกษา
ด้วยและกาลังใจ “จะเข้มแข็ง....หรือจะอ่อนแอ” ชีวิตคนเราบางครั้งก็มคี วามท้อแท้ อ่อนแอเกิดขึ้นได้เช่นกันแต่หากมีความอ่อนแออยู่เป็น ประจาก็จะทาให้เป็นคนล้มเหลว ระหว่างผู้เข้มแข็งและผู้ที่ อ่อนแอนั้นมีบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกัน คือ 1.ผู้ที่เข้มแข็งจะไม่ลดละความพยายาม ไม่ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ เริ่มต้นจะพยายามหาข้อมูลและหาเหตุผลเพื่อที่จะเอาชนะ ปัญหาอุปสรรค แต่ผู้ที่อ่อนแอมักทาในสิ่งที่ตรงกันข้าม 2. ผู้ที่เข้มแข็งจะไม่พร่าบ่นถึงปัญหาส่วนตัวหรือนามาเกี่ยวข้องกับการทางานแต่จะจัดลาดับ ความสาคัญของงานแยกแยะ 3. ผู้ที่เข้มแข็งจะคิดใหญ่ คิดว่าตนเองมีความสามารถพัฒนาความรู้ของตนเองอยู่เสมอ มีความมุ่งมั่นและคิดว่าตนเองเป็นผู้ที่มีความสามารถเช่นเดียวกับผู้อื่น แต่ผู้ที่อ่อนแอ มักมองสิ่งที่ตรงกันข้าม 4. ผู้ที่เข้มแข็งจะไม่บอกความลับแก่ใครและไม่ตอ้ งการรู้ความลับของผู้อื่นอีกทั้งสนใจเฉพาะ สิ่งที่สร้างสรรค์ แต่ผู้ที่อ่อนแอมักทาในสิ่งที่ตรงกันข้าม 5. ผู้ที่เข้มแข็งไม่กลัวความล้มเหลวคิดว่าความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติที่สามารถเริ่มต้นใหม่ แก้ไขปรับปรุงใหม่ได้เสมอ แต่ผู้ที่อ่อนแอมักทาในสิ่งที่ตรงกันข้าม 6. ผู้ที่เข้มแข็งไม่ต้องการทราบว่าผู้อื่นคิดเห็นกับตนอย่างไร มีความเชื่อมั่นทาในสิ่งที่ ถูกต้องและมีความมุ่งมัน่ แต่ผู้ที่อ่อนแอมักทาในสิ่งที่ตรงกันข้าม 7. ผู้ที่เข้มแข็งไม่คิดว่าตัวเองเคราะห์ร้าย แต่มีความยินดีที่ยอมรับและต่อสู้กับอุปสรรคอย่าง หน้าชื่นตาบานไม่คิดท้อแท้ยอมจานน แต่ผู้ที่อ่อนแอมักจะทาในสิ่งตรงกันข้าม ที่มา : www.pattanakit.net/รวมแนะนาบทความดีๆ
ที่มา http://www.bloggang.com/
แบบทดสอบทายใจ: ทายนิสัยลึก ๆ ในตัวคุณ พักสมองหลังจากสอบกลางภาคด้วยแบบทดสอบสนุก ๆ กันนะคะ ที่สาคัญห้ามดูเฉลยก่อน (เพื่อความแม่นยา) พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยค่ะ 1. หากคุณเดินเข้าถ้า คุณเอาเทียนไปกี่เล่ม 2. หากคุณเดินสะดุดอะไรบางอย่าง คุณจะหันไปดูไหม ถ้าหันแล้วคุณจะเอาเทียนจ่อไหม 3. พอคุณเดินต่อแล้วพบฤๅษี เขาบอกว่าสิ่งที่คุณเดินสะดุดนั้นเป็นของวิเศษ คุณจะกลับไป เอาไหม 4. พอคุณออกจากถ้าแล้วเจอป่าไม่ค่อยทึบ คุณคิดว่าคุณจะพบสัตว์อะไรอย่างแรก 5. พอคุณเข้าไปในป่าทึบคุณคิดว่าคุณจะพบสัตว์อะไร
--------- ตอบคาถามกันเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ ไปดูเฉลยกันเลยค่ะ -----------
1. เทียน หมายถึง ความเจ้าชู้ของคุณ 2. หากคุณเดินสะดุดอะไรบางอย่างแล้วหันไปมองมอง แปลว่า คุณเป็นคนอยากรู้อยากเห็น แล้วยิ่งนาเทียนไปจ่อ แปลว่า คุณเป็นคนอยากรู้อยากเห็นมาก ๆ แต่ถ้าคุณเดินสะดุดอะไร บางอย่างแล้วไม่หันไปมอง แปลว่าคุณเป็นคนไม่อยากรู้อยาก เห็น และไม่นาเทียนไปจ่อ แปลว่าเป็นคนเฉย ๆ ไม่มีความ กระตือรือร้นไม่อยากเห็นโลกภายนอก 3. หากคุณเดินต่อแล้วพบฤๅษี เขาบอกว่าสิ่งที่คุณเดินสะดุดนั้นเป็นของวิเศษ แล้วคุณ กลับไปเอาแปลว่าคุณเป็นคนโลภมาก แต่หากคุณไม่เดินกลับไปเอา แปลว่าคุณเห็นค่าสิ่งที่ คุณมีอยู่แล้ว 4. การเจอสัตว์ในป่าที่ไม่ทึบ หมายถึง นิสัยภายนอกของคุณเหมือนกับสัตว์ที่คุณเลือก 5. การเจอสัตว์ในป่าทึบ หมายถึง นิสัยภายในของคุณเหมือนกับสัตว์ที่คุณเลือก ที่มา http://horoscope.sanook.com
หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์ เรียนจบ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ปัจจุบัน เป็นแพทย์ประจาโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี เปิดใจ ในรายการพราวไนท์ ออกอากาศเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 57 เล่าถึงที่มาที่ไปของความฝันที่อยากเป็นหมอรักษา คนไข้ว่า “ตอนเรียน ม.ปลาย ไม่ได้คิดอยากเป็นหมอเลย แต่ชอบไปลองทาข้อสอบของหลาย ๆ ที่ จึงลองทาข้อสอบของแพทย์ศิริราชดูบ้าง ึึ่งต้องไปฝึกงานที่โรงพยาบาลก่อนถึงจะสอบได้ เจี๊ยบจึง ตัดสินใจไปดูงานในโรงพยาบาลใกล้บ้าน พอไปถึงโรงพยาบาลวันแรกถึงกับอึ้ง เมื่อเห็นคนไข้ จานวนมากนั่งรอหมออยู่นานแสนนาน ในตอนนั้นก็เลยคิดขึ้นมาทันทีว่า ถึงมีเงินก็ช่วยเขาไม่ได้ แต่ถ้าได้เป็นหมอ คงวิ่งเข้าไปช่วยคนไข้ได้ทันที และยิ่งถ้าเปิดฟรีคลินิกรักษาคนไข้แบบไม่คิดเงินช่วง วันเสาร์-อาทิตย์ได้ก็คงดีมาก และตั้งใจเลือกเรียนแพทย์ฉุกเฉินด้วย เพราะคิดว่าถ้ามีเคสด่วนๆ จะ ได้ช่วยได้ทันที”
หลายคนอาจจะคิดว่าหมอเจี๊ยบต้องเรียนเก่งมากแน่ๆ แต่เธอกลับบอกว่า "ไม่เลยค่ะ" วิชาเลข เธอเรียนได้เกรด 0 ด้วยึ้า และที่บ้านก็ไม่ได้คาดหวังเรื่องการเรียนด้วย แต่เมื่อตั้งใจจะเป็นแพทย์ ให้ได้ ก็เลยต้องฝึกฝนวิชาเลขอย่างหนักจนเกิดความเข้าใจ "อยากบอกน้องๆ ที่อยากจะเป็นแพทย์ แต่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง อย่าคิดอย่างนั้นเลย เพราะคนเราเวลาตั้งใจทาอะไร ให้ไปถึงความฝัน มันสามารถพาเราไปถึงจุดนั้นได้จริงๆ แต่ต้องอดทน ตั้งใจ และมุ่งมั่น
อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของเจี๊ยบก็คือ การเข้าเวทีประกวดนางสาวไทย ึึ่งไม่เคยอยู่ในความคิดมาก่อน เพราะไม่ได้เป็นคนรักสวยรักงาม ไม่ชอบ โพสท่าถ่ายรูป เดินแบบ แต่แล้วก็ยอมไปสมัครในวันสุดท้ายพอดี เพราะ เห็นว่าน่าจะเป็นวิธีที่ทาให้เธอหาเงินทุนมาเปิดฟรีคลินิกได้ และคุณแม่ก็ แนะนาว่า ถ้าเราเป็นคนมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะทาอะไรก็ดูน่าเชื่อถือ ถ้าเจี๊ยบไป ประกวดนางสาวไทยแล้วได้ตาแหน่ง ก็จะเป็นที่รู้จักและเป็นใบเบิกทางใน การเปิดฟรีคลินิกได้”
นอกจากจะยึดอุดมการณ์อย่างแรงกล้าใน การเป็นแพทย์เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แล้ว หมอเจี๊ยบ ยังรับอุปการะดูแลคนอีก 4 คน โดยส่งเสียเงินให้ ทุกเดือนตั้งแต่ เป็นนักศึกษาแพทย์ ทั้งคุณยายที่เจอ กั น โดยบั ง เอิ ญ เด็ ก ที่ สู ญ เสี ย แม่ ก ะทั น หั น ผู้ ป่ ว ย อัมพาต รวมทั้งน้องปกรณ์พล มงคลวงศ์ เด็กหนุ่มที่ สอบติดแพทย์ได้แต่ไม่มีเงินเรียน หมอเจี๊ยบบอกว่ามี คุณแม่เป็นไอดอล เพราะเห็นคุณแม่ช่วยเหลือคนอื่นมา ตั้งแต่เธอยังเด็กๆ จึงึึมึับสิ่งเหล่านี้มาเรื่อยๆ ถ้าช่วย ได้ก็ช่วย เพราะยังมีคนที่ด้อยโอกาสกว่าเรา "ถ้ามีโอกาสเราจะหยิบยื่นให้เขา การที่เรา เกิดเป็นคน ในชีวิตหนึ่งตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยเราได้ทาความดีไว้ หรือทาสิ่งที่เป็น ประโยชน์ มันดีที่สุดแล้ว เราจะมีบ้านมีรถหรืออะไรก็แค่นั้น แต่ถ้าเราทาความดี เราจะรู้สึกภูมิใจใน ความที่เราเป็นมนุษย์คนหนึ่ง" ทั้งสวยและจิตใจดีแบบนี้ขอชื่นชมจากใจจริงค่ะ เรียบเรียงเนื้อหาจาก http://women.kapook.com
หนาวนี้วัยใสเตรียมตัวดูแลผิวกันอย่างไรบ้าง? ทุก ๆ ปีเหล่าวัยใสมักมีเรื่องทุกข์ใจกับ ผิวพรรณที่แตก แห้งลอก เป็นขุย ไม่ชุ่มชื้น และตามมาด้วยความไม่มั่นใจ ดังนั้น Guide มีเคล็ด ดี ๆ มาเสนอวัยใสให้เตรียมพร้อมรับมือกับฤดูหนาวมาบอก.. บารุงผิวด้วยโลชั่น ครีมบารุงผิว ครีมทามือ หมั่นทาครีมบารุงผิวเป็นประจา หลังการอาบในฤดูหนาวทุกครั้ง เพื่อชดเชยน้าหล่อเลี้ยงผิวที่สูญเสียไป รวมถึงการทา ครีมบารุงฝ่ามือ เพราะมือและนิ้วมักผ่านการล้าง และสัมผัสมากกว่าผิวหนัง ส่วนอื่นจึง เป็นผิวหนังที่แตกระแหงจนรู้สึกได้ก่อนส่วนอื่น อาบน้าอุ่น-น้าเย็น น้าอุ่นเป็นสิ่งที่หลายคนถวิลหาช่วงฤดูหนาว แต่การอาบน้าอุ่นจนร้อน มากเกินไป หรือถี่เกินไปทาให้ผิวแห้ง สากเป็นขุย หากเป็นไปได้หลักการอาบน้าอุ่น ควรชโลมน้าเย็นปิดท้ายเพื่อเป็นการปิดรูขุมขน และคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว อีกทั้ง การอาบน้าเย็นปิดท้ายทาให้รู้สึกอบอุ่นด้วยนะ การทาความสะอาดผิวหน้า หลีกเลี่ยงการขัดถูใบหน้าด้วยน้าอุ่นเพื่อป้องการ การสูญเสียน้าหล่อเลี้ยงผิว เพราะจะให้ผิวหน้าแตกเป็นขุยได้ง่าย และควรทา ครีมบารุงผิวทันทีที่ล้างหน้าเสร็จ สาหรับคุณผู้ชายที่ต้องโกนหนวดเครา ก็ อย่าลืมใช้ครีมโกนหนวดแบบบารุงผิว และทาครีมที่ใบหน้าทันทีที่โกนหนวด และทาความสะอาดใบหน้าเสร็จ
ครีมกันแดด แสงแดดฤดูหนาวเป็นอีกหนึ่งตัวการสาคัญที่ทาให้ผิวแห้งกร้าน เนื่องจาก แดดฤดูหนาวแรงไม่ต่างกับ เส้นผม การสระผมบ่อยๆ นั้นนอกจากจะเป็นการขจัดน้ามันใน ธรรมชาติของผิวหนังศีรษะและเส้นผมให้ออกไปแล้ว ยังจะทาให้ผิวหนังศีรษะ แห้ง เกิดรังแคและอาการคันได้ง่าย รวมไปทั้งยังเกิดไฟฟ้าสถิตจากความแห้ง ของเส้นผมอีกด้วย ทุกครั้งที่สระผมอย่าลืมใช้ครีมนวดผมเพื่อคืนความชุ่มชื้น ให้แก่เส้นผม ที่สาคัญของการดูแลผิวสาหรับฤดูหนาวควรดื่มน้าสะอาดมาก ๆ เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื่น ในกับผิว และร่างกายจะได้มีผิวสวยใสตลอดฤดูหนาว
ที่มา: http://www.skyscanner.co.th/news/
Health & Beauty วันเพ็ญเดือนสิบสอง...ใกล้วันลอยกระทงกันแล้ว Guide ฉบับเดือนพฤศจิกายน จัดคอลัมน์ เตือนอันตราย “วันลอยกระทง” แก่ผู้อ่านสักเล็กน้อย เพื่อให้ผู้อ่านทุก ท่านมีความสุข สนุกสนาน กับวันลองกระทง จมน้า ภัยน่ากลัวที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเด็ก ๆ ผู้ใหญ่เองก็ต้องระมัดระวัง เป็นพิเศษ เนื่องจากประเพณีลอยกระทงมักจัดในช่วงเวลากลางคืนทาให้ทัศน์วิสัย ในการมองเห็นไม่ชัดเจน อาจทาให้เดินผลัดตกน้า หรือตอนปล่อยกระทงอาจ ชะโงกมากเกินทาให้พลัดตกน้าได้ นอกจากนี้ ช่วงเวลานี้ยังมี ผู้ลงไปเล่นน้ารับแสงจันทร์หรือที่ เรียกว่าอาบน้าเพ็ญก็ต้องระมัดระวังอันตรายจากการจมน้าด้วย สาลักน้า น้าใส ๆ ในช่วงวันลอยกระทงที่หลายคนคิดว่าสะอาดใส แต่แท้จริงแล้วอาจแฝง ด้วยเชื้อร้ายโดยเฉพาะน้าบ่อ ท่อ คลอง จะเป็นที่อยู่ของเชื้อฝีสมองและฝีตับได้ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อ อะมีบ้าที่ึ่อนอยู่ในน้าจืด และการเล่นน้าแล้วสาลักจะทาให้เชื้อนี้ขึ้นสมองได้ พ ลุ ร ะ เ บิ ด พ ลุ กั บ ด อ ก ไ ม้ ไ ฟ ถื อ เ ป็ น สี สั น ข อ ง ง า น ล อ ย ก ร ะ ท ง ไ ม่ ว่ า จะเป็น ไฟเย็น กระจับ โอ่ง ฯลฯ นับว่าเป็นอันตรายทั้งสิ้น และมักเกิดกับเด็กหรือ วัย รุ่ นที่ เ ล่ นสนุ ก จนลื มตั ว พลุ อ าจระเบิ ด ใส่หน้ า ตาบอด นิ้ว ขาด และช่ว งนี้ ต้ อ ง ระมัดระวังเรื่องไฟไหม้บ้านกันด้วยนะคะ ติ ด โ ร ค รั ก ห นุ่ ม ส า ว คู่ รั ก มั ก พ า กั น ม า ล อ ย ก ร ะ ท ง แ ล้ ว มี โ ป ร แ ก ร ม อื่ น ต่ อ ก็ ต้ อ ง ร ะ วั ง โ ร ค ติ ดต่ อ ท าง เพ ศ สั ม พั นธ์ เ ช่ น ห น อ ง ใ น ก า ม โ รค ต ก ข าว เ อ ด ส์ ตับอักเสบบี ึิฟิลิส ฯลฯ ึึ่งอาจกลายเป็นควันหลังไม่รู้ลืมหลังคืนวันลอยกระทง
โรคผิวหนัง เกิดจากการสัมผัสน้าโดยตรง อาจทาให้เกิดผื่นคัด ติดเชื้อรา และตาแดง ดังนั้นหากลอยกระทงแล้วควรล้างมือให้สะอาดแล้วึับให้แห้ง เพื่อป้องกันการอับชื้น ไฟดูด อีกเรื่องหนึ่งไม่ควรประมาท เพราะลอยกระทงต้องเกี่ยวกับ น้า และไฟประดับ งาน ดังนั้นควรสวมร้องเท้ายางหุ้มส้นเพื่อป้องกันไฟดูดไปลอยกระทงกันด้วยนะคะ แมลงสั ต ว์ กั ด ต่ อ ย ในเวลากลางคื น เป็ น เวลาที่ สั ต ว์ มี พิ ษ ออกหา กิน เช่น แมลงก้นกระดก, มดคันไฟ, ตะขาบหรืองู อาจทาให้เกิด อันตรายต่อชีวิตได้ ควรเตรียมไฟฉาย และหลีกเลี่ยงการเดินในที่รกชัด อย่ างไรก็ ต าม อั น ตรายเหล่านี้ อ าจเกิ ด ขึ้ นได้ กั บ ทุก คนในวั น ลอย กระทง ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุด คือการไม่ประมาท และไม่ดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติ แค่นี้วัน ลอยกระทงก็เป็นวันที่มีความสุข สนุกสนานแล้ว
ที่มา: http://www.thaihealth.or.th
Guide ฉบับนี้ขอแนะนาหนังสือจากห้องสมุดกาลังใจ ที่มีเนื้อหาสบายๆ เนื้อหาสั้น ๆ อ่าน สนุกแบบต่อเนื่อง จานวนเล่มนะคะ น้องๆคนไหนที่ 3 ต้องการหาหนังสือดี ๆ สักเล่มไว้อ่าน พักผ่อนหลังสอบ เชิญได้ที่สานักงานให้คาปรึกษาฯ อาคาร D1 ห้อง 727 นะคะ มีมุมสงบๆ ให้บริการอ่านหนังสือ หากอ่านไม่จบสามารถยืมกลับไปอ่านต่อได้นะคะ
กระจ่างกลางใจ (Bloom in my heart) ผู้เขียน: เสาวลักษณ์ ลีละบุตร สานักพิมพ์: สาวิกา หมวด: อื่น ๆ ร้ อ ยเรี ย งเรื่ อ งราว ผ่ า นประสบการณ์ แ สนประทั บ ใจผ่ า นบทความ 72 บทความสั้น ๆ อย่างต่อเนื่องที่ผู้เขียนบรรยายผ่านตัวอักษร และพร้อมแบ่งปันความสุขทั้งหลาย เหล่านี้ให้แกคุณผู้อ่านทุกท่าน แต่ละบทความจะมีความประทับใจอย่างไรติดตามได้ในกระจ่างกลางใจ (Bloom in my heart)
ปัญหาคือยาวิเศษ ผู้เขียน: หนุ่มเมืองจันท์ สานักพิมพ์: มติชน หมวด: อื่น ๆ แม้คนส่วนใหญ่จะเชื่อว่า “กีฬาคือยาวิเศษ” แต่หนุ่มเมืองจันท์ไม่เชื่อและเถียง เขาบอกว่า “ปัญหา” ต่างหากคือ “ยาวิเศษ” เพราะเป็นแรงที่เสริมให้มนุษย์สร้างสิ่งใหม่ที่งดงาม บนโลกใบนี้ ลองคิดดู หากไม่มีปัญหาเรื่องความมืด เอดิสัน คงไม่คิดสร้างหลอดไฟขึ้นมา
ความรู้สึกเย็บเล่ม ผู้เขียน: บ่นบ่น สานักพิมพ์: Springbooks หมวด: อื่น ๆ สมุดภาพสะสมความรู้สึกของ “บ่นบ่น” บอกเล่าถึงความรู้สึกที่หลายหลาย ทั้งความสุข ความทุกข์ ความรัก แรงบันดาลใจ ความสัมพันธ์ ความหวัง เพื่อเป็นเพื่อนที่คอยเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากทุกคนในทุก ๆ วัน โดยบ่นบ่น ได้รวมรวม ความรู้สึกเหล่านี้จากเพจออนไลน์ แล้วถ่ายถอดออกมาเป็นรูปเล่มสาหรับพกพา
Australian National University มอบทุนเรียนต่อปริญญาโท สาขาวิชา International Relations The Australian National University (ANU) มอบทุนการศึกษาสาหรับผู้ที่ต้องการเข้าเรียน ต่อในระดับปริญญาโท สาขาวิชา International Relations ปีการศึกษา 2559 ทุนการศึกษานี้ จะมอบให้นักศึกษาทุกๆ ปี ปีละ 4 ทุนขึ้นไป โดยแต่ละทุนครอบคลุมค่าเล่าเรียนทั้งหมด ประมาณ 24 เดือน คุณสมบัติของผู้สมัคร – สมัครเข้าเรียนในสาขาวิชาที่กาหนด – สมัครเข้าเรียนในระดับปริญญาโท – จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ด้วยคะแนนไม่ต่ากว่า 70 เปอร์เึ็นต์ (3.00) – สามารถผ่านข้อกาหนดพื้นฐานทางภาษาอังกฤษได้
อ่านรายละเอียดและวิธีการสมัครขอรับทุนการศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.anu.edu.au/students/scholarships-support/hedley-bull-scholarship ที่มา http://www.vcharkarn.com/scholarship
สวัสดีค่ะ ผู้อ่านทุกท่าน Guide ฉบับเดือนพฤศจิกายน นี้ขอเปิดตัวคอลัมน์น้องใหม่เอาใจ ผู้อ่านทั้งหลายที่สนใจด้านภาษาอังกฤษ รวมทั้งผู้อ่านที่ยังเคอะเขินมีรู้จะนาไปใช้อย่างไร Guide จึง ขอพื้นที่เล็ก ๆ สอดแทรกเกร็ดความรู้ด้านภาษาอังกฤษให้ท่านผู้ อ่านสามารถนาไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจาวันนะคะ เริ่มกั นที่คาคุ้นหู คือ Yep, Yeah และYes หลายคนสงสัยว่าคาเหล่านี้ ึึ่งแปลว่า “ใช่ ” สามารถใช้ในโอกาสใดบ้าง… Yep จะใช้ตอบรับในโอกาสที่ไม่เป็นทางการส่วนมากใช้กับเพื่อนที่สนิทกัน ึึ่งจะมีความหมาย ประมาณ อืม เออ อื้ม เออเฮอะ Yeah เป็นการตอบรับที่แสดงความตื่นเต้น เช่น Q: Do you like durian? A: Yeah, I like it. และคาสุดท้าย Yes โดยปกติจะใช้ Yes เป็นคาตอบรับที่สุภาพและทางการและใช้ได้ทุกสถานการณ์
ที่มา: https://www.youtube.com/watch?
ปฏิทินกิจกรรม ประจาเดือนพฤศจิกายน 2558 วัน อา. 7 อา.7 - อ. 22
ศ.6 - อา. 8 ส.7
ส.7 - พฤ. 72
ศ. 73
ศ.73 - ส. 72
ส72 - อา. 75
ชื่อกิจกรรม อบรมการฟ้อนอัตลักษณ์ เชียงราย การจัดเตรียมขบวน กระทงเพื่อเข้าร่วม ประกวด กิจกรรมสร้างฝายเฉลิม พระเกียรติ กิจกรรมสร้างแรง บันดาลใจ:ปักหมุด...ที่ จุดหมาย กิจกรรมเสริมสร้าง ทักษะทางดนตรีไทย พื้นเมือง ครั้งที่ 7 2558 ประจาปีการศึกษา กิจกรรม Christmas Pass The Love Forward โครงการปันน้าใจ ประชาธิปไตยสู่ชุมชน ครั้งที่ 25 โครงการเติมฝันวันหมอก หนาว
จ.76 - อ.77 กิจกรรมแนะแนวศึกษา ต่อ
สถานที่ อาคาร D1 ห้อง 307 อาคาร D1
อุทยานดอยหลวง
หน่วยงานที่รับผิดชอบ ส่วนพัฒนานักศึกษา องค์การ สภานักศึกษา/ และส่วนพัฒนานักศึกษา ส่วนพัฒนานักศึกษา
อาคารสานักวิชา 3 สานักงานให้คาปรึกษาฯ (E3) ห้องชมรมดนตรีไทยพื้นเมือง มฟล
มหาวิยาลัยแม่ฟ้า หลวง
ส่วนพัฒนานักศึกษา
ชมรมคริสเตียน/ ส่วนพัฒนานักศึกษา
โรงเรียนบ้านขุนห้วย ชมรมรักษ์ประชาธิปไตย ไคร้ อจ. เทิง. เชียงราย โรงเรียนบ้านผาเดื่อ ชมรมเพือ่ นชาวดอยและ/ หมู่ 6 ต.แม่สลองใน ส่วนพัฒนานักศึกษา อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ศูนย์บรรณสารและ สานักงานให้คาปรึกษาฯ สื่อการศึกษา ชั้น7
วาทะ-คาคม “The roots of education are bitter, but the fruit is sweet.” -Aristotle-
“รากของการศึกษาอาจขม แต่ผลของมันนั้นหวาน”. -อริสโตตัส (นักปรัชญากรีกโบราณ)-