สำนักพิมพ์ภาราดาบุ๊ค www.paradabook.com
หมวดครอบครัว
เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ ให้พ่อแม่สติแตก และ นิทานเอ็นทรานซ์
โดย อาจารย์อู๋ ลูกเรียนไม่เก่ง โรงเรียนชื่อไม่ดัง เรียนอยู่ต่างจังหวัด อย่าได้กังวล รวมสุดยอดคำแนะนำทีจ่ ะทำให้พอ่ แม่ผอ่ นคลาย ลูกสอบติดแบบสบายๆ
เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย
คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
อาจารย์อ ู๋ มกราคม 2552 ราคา 159 บาท สงวนลิขสิทธิ ์
ข้อมูลทางบรรณานุกรมหอสมุดแห่งชาติ
อาจารย์อ ู๋ เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก - อุบลราชธานี; ภาราดาบุ๊ค, 2552 176 หน้า 1.เรื่องสั้น ไทย- ISBN 978-974-618-623-0
จัดจำหน่ายทั่วประเทศโดย : บริษัท อมรินทร์บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด 108 หมู่ 2 ถ.บางกรวย-จงถนอม ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จังหวัด นนทบุรี 11130 โทรศัพท์ 0-2423-9999 โทรสาร 0-2449-9561-3 Homepage : http://www.naiin.com
จัดทำโดย : สำนักพิมพ์ภาราดาบุ๊ค http://www.PARADABOOK.com 163/2 ถ.พิชิตรังสรรค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 34000 โทรศัพท์ 045-263479 E-mail : THANKRIT@Gmail.com บรรณาธิการ : วลัยพร พรพงศ์ แบบปก : ธัญกฤต คงจันทร์ ภาพประกอบ : กิตยางกูร ผดุงกาญจน์ รูปเล่ม : http://khunnaipui.multiply.com พิมพ์ที่ โรงพิมพ์เดือนตุลา โทรศัพท์ 0-2996-7393-4 โทรสาร 0-2996-7395 ถ้ามีการชำรุดบกพร่องหรือผิดพลาดเนื่องจากการพิมพ์ โปรดส่งคืนหรือนำมาเปลี่ยนได้ที่ WWW.PARADABOOK.COM ถ้าสั่งซื้อจำนวนมาก หรือต้องการนำไปบริจาค ทางสำนักพิมพ์จะลดให้เป็นพิเศษ โปรดติดต่อ Tel : 089-9491049 Fax : 045-263479 E-mail : THANKRIT@Gmail.com
สำนักพิมพ์ภาราดาบุ๊ค www.paradabook.com
สอบเข้าเรียน มหา’ลัย แสนสนุก มันส์ทุกยุค ทุกสมัย ทุกพอศอ เปลี่ยนระบบ มันทุกปี ไม่มีรอ กรรมของพ่อ เวรของแม่ ปวดกบาล เห็นลูกสอบ ลูกเครียด พ่อแทบคลั่ง แม่ต้องนั่ง สมาธิ ยุบพองหนอ สติแตก ร้องลั่นบ้าน คล้ายบ้าบอ ก็เพราะรอ ลุ้นผลสอบ ลูกตัวเอง เรียนคุณพ่อ คุณแม่ อย่าได้เครียด เพียงท่านเจียด เวลาว่าง ฟัง อ.อู๋ ขอชี้แนะ เผยเคล็ดลับ ให้ท่านดู ช้าใยอยู่ รีบซื้ออ่าน กันเถิดเอย
อาจารย์อู๋ 11
คำนำ
เบื่อมั้ยครับกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของลูก เครียดมั้ยครับที่ต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลา หรือสติสตังของท่านเริม่ เปราะบางเต็มทนหรือยัง ถ้าใช่เพียงข้อใดข้อหนึ่ง ท่านหยิบหนังสือถูกเล่มแล้ว ครับ รีบนำกลับไปอ่านที่บ้านอย่าได้รอช้า แต่ถ้ามีอาการครบทั้ง สามข้อ แนะนำให้หยิบเพิ่มไปอีกเล่ม เผื่อสามีหรือภรรยาของท่าน ด้วย อ่านเป็นคู่จะได้ผลดียิ่งขึ้น หนังสือเล่มนี้ก็เหมือนยาขนานเอกทั่วไป ที่เมื่อได้มาแล้ว ก็ต้องลองใช้ดู คำแนะนำบางคำแนะนำก็เหมาะกับบางท่าน บางคำ แนะนำก็เหมาะกับอีกท่านหนึ่ง เลือกหยิบใช้ได้ตามความพอใจ แต่ มั่นใจว่าทุกคำแนะนำได้บรรจงเขียนไว้อย่างครอบคลุมระบบการ สอบเข้ามหาวิทยาลัยในสมัยปัจจุบันและในอนาคต ท่านใดใช้ดี อ่านแล้วเกิดความสบายใจนั้น อย่าเก็บงำไว้ คนเดี ย ว บอกต่ อ เพื่ อ นของท่ า นที่ ก ำลั ง อยู่ ใ นสภาพทุ ก ข์ ใ จด้ ว ย ช่วยคนอื่นให้คลายความกังวลนั้นได้กุศลแรงครับ ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ภาราดาบุ๊คและทีมงานเบื้องหลัง ทุกคนที่ลงแรงกายแรงใจเพื่อให้หนังสือเล่มนี้ได้สำเร็จออกมา อาจารย์อู๋เขียนคำนำนี้ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือน มหามงคลของชาวไทยที่จะได้ฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ในหลวง” อันเป็นที่รักของพวกเรา ทุกคน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ อาจารย์อู๋ ธันวาคม 2551
สารบัญ ลูกเครียดเท่าไหร่ พ่อแม่เครียดสองเท่า
17
คำแนะนำที่ 1 ใจเย็นๆ
23
คำแนะนำที่ 2 รู้เขารู้ลูกเรา
31
คำแนะนำที่ 3 ฝันของลูกหรือฝันของเรา
37
คำแนะนำที่ 4 ติดตามดีกว่าตามติด
45
คำแนะนำที่ 5 อ่านหนังสือให้น้อยเล่ม
51
คำแนะนำที่ 6 ภาษาอังกฤษราคาประหยัด
57
คำแนะนำที่ 7 ข้อสอบเก่า
63
คำแนะนำที่ 8 ผ่อนคลายและสบายๆ
69
คำแนะนำที่ 9 รู้ทัน GAT PAT
75
คำแนะนำที่ 10 สมาธิ
81
คำแนะนำที่ 11 ความคาดหวัง
89
สารบัญ คำแนะนำที่ 12 เลียนพิเศษ
95
คำแนะนำที่ 13 พรหมวิหาร 4
101
คำแนะนำที่ 14 เรียนไม่เก่ง โรงเรียนชื่อไม่ดัง อยู่ต่างจังหวัด อย่าได้กังวล
107
คำแนะนำที่ 15 สอนลูกให้มั่ว
113
คำแนะนำที่ 16 ก่อนวันสอบ
119
คำแนะนำที่ 17 วันสอบ
125
คำแนะนำที่ 18 เมื่อสอบเสร็จแล้ว
129
คำแนะนำที่ 19 คณะและสถาบัน
135
คำแนะนำที่ 20 สอบสัมภาษณ์แบบสบายๆ
141
คำแนะนำที่ 21 รางวัล
145
คำแนะนำที่ 22 มหาวิทยาลัยไม่ ใช่ทุกอย่าง
149
นิทานเอ็นทรานซ์
155
ลูกเครียดเท่าไหร่ พ่อ แม่เครียดสองเท่า
อาจารย์อู๋ 17
ลูกเครียดเท่าไหร่ พ่อแม่เครียดสองเท่า เพราะสอบ 160,000 รับเพียง 80,000 Entrance Admission, O-net, A-net Gat Pat
การ
สอบเข้ามหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเรียกชื่อว่าอะไร ไม่ว่า จะใช้ระบบไหน หากจำนวนคนสอบกับจำนวนคนรับ มีอัตรา 2:1 อย่างที่ อาจารย์อู๋ ได้จั่วหัวไว้แล้วละก็ รับประกันว่า ยังคงสยอง น่าสะพรึงกลัว และสร้างความเครียดได้อย่างไม่ต้อง สงสัย
คนสอบไม่ต้องพูดถึง เครียดแน่นอน บางคนอาจยิ้มได้ บางคนอาจฝืนยิ้ม แต่ขึ้นชื่อว่าการสอบไม่มีเด็กคนไหนชอบ ลูกเครียดพ่อแม่ยิ่งเครียดกว่า อยากจะลงไปสอบแทน ซะให้รู้แล้วรู้รอด ที่เรียนพิเศษกวดวิชาที่ไหนที่ว่าแน่ แพงเท่าไหร่ ทุ่มไม่อั้น สอบติดที่ไหนลูกอยากได้สิ่งใดขอให้เอ่ยปากมา ยอมทำ ทุกอย่างขอให้ลูกสอบติด พ่ อ แม่ บ างท่ า นเครี ย ดหนั ก ออกอาการ จากเป็ น คน อารมณ์ดีกลายเป็นคนไม่ค่อยพูด จากสุขภาพแข็งแรง กลายเป็น หน้าตาหมองคล้ำลงทุกวัน บางครอบครัวไม่รู้จะพึ่งอะไรหันหน้า เข้ า หาสิ่ ง ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ที่ ไ หนที่ ว่ า แน่ เ จ้ า แม่ ไ หนที่ ว่ า ดั ง ต้ อ งพาลู ก
ไปเยี่ยมเยียน ตระเวนจนหมดเป็นอันไม่ต้องอ่านหนังสือกัน
18 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
เกือบทุกท่านไม่รู้วิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะว่าไปก็เปรียบเหมือนลูกของ ท่ า นเป็ น นั ก ฟุ ต บอลที่ ก ำลั ง ลงทำศึ ก นั ด สำคั ญ ส่ ว นตั ว ท่ า นเอง ก็เหมือนดั่งผู้จัดการทีมที่ต้องนั่งดูอยู่ข้างสนาม ไม่มีผู้จัดการทีมคนใดลงไปเตะซะเอง ผู้ จั ด การที ม ชั้ น เซี ย นนั้ น ต้ อ งคอยเฝ้ า มองลู ก ที ม ไม่ ใ ห้ คลาดสายตา ไม่ไปตะโกนโหวกเหวกโวยวายให้นักเตะเสียสมาธิ แต่ นั่ ง ใคร่ ค รวญดู จุ ด แข็ ง จุ ด อ่ อ นอย่ า งเยื อ กเย็ น จนเมื่ อ ยามที่ ลู ก ที ม หั น มองหาคำแนะนำ ผู้ จั ด การที ม คนนั้ น ก็ จ ะสามารถชี้ จุดอ่อนจุดแข็งพร้อมปลุกกำลังใจนักเตะได้ในทันทีทันใด คนนั้น
แล้วทำอย่างไรล่ะจึงจะปฏิบัติตนได้อย่างผู้จัดการทีม พ่อแม่ทุกท่านไม่ต้องเป็นห่วง เพียงท่านมีหนังสือเล่มนี้ติดกาย
อาจารย์อู๋จะคอยแนะนำกลเม็ดเด็ดพรายที่ปฏิบัติง่าย แต่ เ มื่ อ ท่ า นปฏิ บั ติ แ ล้ ว จะส่ ง ผลดี ต่ อ บุ ต รหลานของท่ า นอย่ า ง มหาศาล อาจารย์อู๋รับประกัน
อาจารย์อู๋ 19
20 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นประกอบด้วยสองส่วน หนึ่ง คือ ความสามารถ สอง คือ สภาพจิตใจ
อาจารย์อู๋ 21
22 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 1
ใจเย็นๆ
อาจารย์อู๋ 23
อย่าง
ที่ อ าจารย์ อู๋ ไ ด้ เ กริ่ น ไปแล้ ว ว่ า ผู้ จั ด การที ม ชั้ น เซียนนั้น ต้องทำตัวนิ่งอยู่ขอบสนาม ไม่กระโตก กระตากโวยวายใส่ลูกทีมให้เสียขวัญ
คุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ เ องก็ เ ช่ น กั น ต้ อ งใจเย็ น และนิ่ ง เข้ า ไว้
ให้มากที่สุด อาจารย์ อู๋ เ ข้ า ใจว่ า ทุ ก ท่ า นต้ อ งร้ อ นรนอยู่ ใ นใจ คล้ า ย คนใกล้ ส ติ แ ตก แต่ ช่ ว งนี้ ข อให้ ทุ ก ท่ า นเก็ บ อาการไว้ สั ก เล็ ก น้ อ ย อย่างได้แสดงว่าท่านเป็นกังวล ด้วยกัน
การสอบเข้ า มหาวิ ท ยาลั ย นั้ น ประกอบด้ ว ยสองส่ ว น
หนึ่ง คือความสามารถของลูกท่านเองว่าหัวดีปานใด หรือตั้งใจอ่านหนังสือแค่ไหน สอง คือสภาพจิตใจ ถ้าจิตใจของลูกท่านต้องไม่สบายใจ เสียแล้ว ข้อสอบที่ว่าง่ายก็ดูเป็นยากไปหมด ความไม่สบายใจนั้น เกิดจากตัวของลูกท่านเองส่วนหนึ่งแล้ว หากคุณพ่อคุณแม่ไปช่วย โวยวายอย่างโน้นอย่างนี้ ไปกระโตกกระตากไม่นิ่งเสียแล้ว ลูกของ ท่านย่อมเสียขวัญไปกันใหญ่
24 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
จะว่าไปแล้ว จิตใจนั้นสำคัญยิ่งกว่าสมอง หรือความสามารถเสียอีก
อาจารย์อู๋ 25
แนวทาง
ขอเล่าเรื่องลูกศิษย์ของ อาจารย์อู๋ สองคนไว้พอเป็น
สมชาย (นามสมมุติ) เป็นเด็กเรียนเก่ง จัดอยู่ในระดับ ขั้นเทพ ถามได้ตอบได้ และได้รับการคาดหมายจากพ่อแม่ว่าสอบ อะไรเป็นติด สมใจ (นามสมมุติ) เป็นเด็กเรียนปานกลาง ถามได้บ้าง ตอบไม่ได้บ้าง สมใจได้รับการคาดหมายจากพ่อแม่เล็กน้อยว่าอาจ จะสอบติดที่ใดที่หนึ่ง เมื่อลงสนามสอบพร้อมกันใครกดดันกว่ากัน แน่ นอนว่ามือรองย่อมทำข้อสอบได้ด้วยจิตใจที่มั่นคง กว่านิ่งกว่า เวลาสอบสองชั่ วโมงของสมชายนั้ น ไม่ ไ ด้มี ส องชั่ ว โมง เพราะสมชายจะนั่งสั่นลนลานไปแล้วครึ่งชั่วโมง เหลือเวลามีสติ
สตังทำข้อสอบเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง แต่กับสมใจซึ่งทำสบายๆ ง่ายๆ ทำไปเรื่อยๆ ได้แค่ไหน เอาแค่นั้น อย่างน้อยที่สุดสมใจจะมีเวลาทำข้อสอบโดยไม่สติแตก อยู่สองชั่วโมงเต็มๆ
26 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
นี่เพียงยกตัวอย่างในขณะเข้าห้องสอบ เวลาอื่นๆ ของ สมชายก็เช่นกัน จิตใจจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะได้รับการคาดหวัง คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายทราบแล้วต้องระวังไว้ว่า ขอให้ ท่านใจเย็น หากจะร้อนรนก็ให้เก็บอาการร้อนรนนั้นไว้ ไม่นานครับ เพียงแค่ช่วงระยะเวลาที่ลูกของท่านกำลังจะสอบเท่านั้นก็เพียงพอ เชื่อว่าพวกท่านน่าจะทำได้ไม่ยาก หากท่านซึ่งเป็นพ่อแม่จิตใจมั่นคงและนิ่งแล้ว เชื่ อ มั่ น เหลื อ เกิ น ว่ า ลู ก ของท่ า นจะไม่ พ่ า ยแพ้ ใ นการ ลงสนามครั้งนี ้
อาจารย์อู๋ 27
28 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
เพราะการสอบเข้ามหาวิทยาลัย มันไม่ได้วัดการที่ความสามารถ
มันวัดกันที่ ใจ
อาจารย์อู๋ 29
30 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 2
รู้เขารู้ลูกเรา
อาจารย์อู๋ 31
รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งฉันใด รู้เขารู้ลูกเราก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สบายฉันนั้น
อยาก
แนะนำคุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ ทั้ ง หลายอย่ า งนี้ ค รั บ
รู้เขาที่ อ าจารย์ อู๋ ห มายถึ ง ก็ คื อ รู้ ว่ า การสอบ ที่ลูกเราต้องเผชิญอยู่นั้นมันมีลู่ทางอย่างไรบ้าง มีเส้นสนกลในอะไร อย่ า งไรบ้ า ง อาจารย์ อู๋ ข ออธิ บ ายระบบการสอบมหาวิ ท ยาลั ย
ฉบับปี 2552 ไว้คร่าวๆ ดังนี้ครับ การสอบ O-net เจ้ า ตั ว นี้ เ ป็ น การสอบที่ ท ำขึ้ น เพื่ อ วัดความรู้และระดับมาตรฐานของโรงเรียนต่างๆ ข้อสอบจะง่าย ออกโดยคุณครูจากโรงเรียนมัธยมช่วยกันคิดช่วยกันออก การสอบ A-net เจ้าตัวนี้แหละครับที่เป็นการสอบเพื่อ คัดแยกคนเพื่อเข้าสู่มหาวิทยาลัย สอบเหมือนระบบเอ็นทรานซ์ แบบเดิ ม ที่ เ คยสอบกั น มานมนาน ข้ อ สอบยาก เพราะออกโดย บรรดาคุณครูจากมหาวิทยาลัยต่างๆ
คุ ณ พ่ อ คุ ณ แ ม่ อ า จ ฉุ ก คิ ด ขึ้ น ม า ไ ด้ ว่ า แล้วทำไมต้องสอบทั้งสองตัวด้วย
32 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
อาจารย์อู๋ขอเรียนอย่างนี้ครับ O-net นั้นจุดมุ่งหมาย ที่กำเนิดของมันก็เพื่อทดสอบมาตรฐานทางวิชาการของโรงเรียน แต่ ล ะโรงเรี ย นทั่ ว ประเทศ จะได้ ป รั บ ปรุ ง โรงเรี ย นใดที่ ค ะแนน
O-net ยังอ่อนอยู่ให้ดีขึ้นนั่นเอง แต่ ว่ า ทำไมเขาถึ ง นำคะแนนมาใช้ ใ นการสอบเข้ า มหาวิทยาลัยด้วยล่ะ ก็เพราะว่าหากเป็นการสอบประเภทไม่ก่อ
ให้ เ กิ ด ผลอะไรแล้ ว จะมี ใ ครบ้ า งที่ ตั้ ง ใจสอบกั น อย่ า งจริ ง จั ง
เด็ ก น้ อ ยคนนั ก จะใส่ ใ จ ด้ ว ยเหตุ นี้ จึ ง มี ก ารนำคะแนน O-net มารวมอยู่ด้วย เพื่อให้เด็กนั้นตั้งใจสอบนั่นเอง คะแนน O-net และ A-net นี่แหละครับที่บุตรหลาน ของท่านจะต้องนำไปยื่น Admission เพื่อคัดผู้โชคดีที่จะได้เข้าไป นั่งเรียนในมหาวิทยาลัยปิดอีกที ยุ่งยากและวุ่นวายมั้ยครับ
ทำไมนะคนคิดระบบจึงไม่เห็นใจเด็กเลย ทำยัง กับไม่เคยสอบเข้ามหาวิทยาลัยในเมืองไทยอย่างนั้น แหละ
อาจารย์อู๋ 33
แต่อาจารย์อู๋ก็อยากให้คุณพ่อคุณแม่มองในแง่ดีอย่างนี้ ครับว่า ไม่ว่าระบบการสอบมันจะเปลี่ยนไปอีกสักกี่ครั้ง เรียกชื่อว่า อะไรบ้างนั้น ขอให้ทุกท่านอย่าไปกังวล เพราะทุกคนที่จะสอบเข้า มหาวิทยาลัยในปีนั้นก็ต้องเจอแบบเดียวกันหมด ดังนั้นไม่ต้องไป กั ง วลการได้ เ ปรี ย บเสี ย เปรี ย บ หากจะมี บ้ า งก็ ไ ม่ ส่ ง ผลอย่ า งมี นัยสำคัญครับ ขอเพียงท่านให้บุตรหลานของท่านเตรียมตัวให้เต็มที่ รับประกันว่าต้องสมหวังแน่นอน มาถึงรู้เราบ้าง ต้องพยายามเหลือบมองดูครับ ว่าลูก ของคุณพ่อคุณแม่นั้นมีแนวทางการเตรียมตัวอย่างไร ตรงนี้สำคัญ มากครับ ถือเป็นเคล็ดลับสุดยอดว่า ถ้าลูกของท่านถนัดแนวทาง ใดอยู่ก็ให้เขาเหล่านั้นใช้แนวทางนั้นไปเช่น นายสมชาย นามสมมุติอีกเช่นเคย ถนัดการอ่านหนังสือ ด้วยตนเอง ไม่ชอบไปเรียนพิเศษที่ไหน แต่ว่าเมื่อต้องสอบเข้า มหาวิทยาลัย สมชายโดนพ่อแม่ที่หวังดีแบบผิดลู่ทางเคี่ยวเข็ญ ให้ไปเรียนกวดวิชา ผลก็คือสมชายไม่สามารถปลดปล่อยศักยภาพ ที่มีอยู่ออกมาได้เต็มที่ครับ เพราะไปนั่งเรียนกวดวิชาก็ไม่ได้อะไร ยั ง เสี ย พลั ง งานเสียเวลาที่จะต้องเอามาอ่านหนังสือด้วยตนเอง ไปซะเปล่า
34 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
ตรงกันข้ามกับนายสมใจ ที่ไม่ชอบไปเรียนพิเศษเช่นกัน อ่ า นหนั ง สื อ เอง แถมยั ง ชอบเล่ น กี ต าร์ ผ่ อ นคลายอารมณ์ ด้ ว ย ในระหว่างที่พักจากการอ่าน แต่ด้วยเป็นคนมีบุญเกิดมาพบพ่อแม่ ที่เข้าใจ ให้สมใจได้เตรียมตัวในแนวทางของตัวเอง สมใจย่อมจะทำ ข้อสอบได้ดีกว่าแน่นอนครับ คุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ ค งจะเคยดู ที ม ชาติ บ ราซิ ล เตะฟุ ต บอล สไตล์ของทีมนี้คือ ความสามารถเฉพาะตัวสูงมาก เล่นบอลกับพื้น เลี้ยงหลบซ้ายหลบขวาพาทีมฝั่งตรงข้ามหัวหมุนไปตามๆ กัน ทั้งที่ นั ก ฟุ ต บอลที ม บราซิ ล ก็ ตั ว ขนาดนั ก ฟุ ต บอลไทยนี่ แ หละครั บ แต่เมื่อเขาได้เล่นในแนวทางที่เขาถนัด ผลก็พิสูจน์ได้ด้วยการเป็น แชมป์โลกมากสมัยที่สุด ตรงกันข้ามกับทีมฟุตบอลจากบางประเทศ ตัวไม่ใหญ่ นัก และโดยเนื้อแท้แล้วชอบโชว์เดี่ยว เมื่อต้องถูกจับไปเล่นในสไตล์ บอลอังกฤษที่ถนัดเล่นลูกโด่ง แถมยังถูกสั่งว่าต้องให้เล่นเป็นทีม อย่าไปโชว์ความสามารถเฉพาะตัวให้มาก ผลก็คือทีมฟุตบอลทีมนั้นไปไหนไม่ได้ไกลเลย ลูกของท่านก็เช่นกัน คุณพ่อคุณแม่ต้องกล้าปล่อยให้เขา ได้ใช้แนวทางของเขา เอาชนะศึกครั้งนี้ครับ รู้เขารู้ลูกเรา จะสอบร้อยครั้งก็ติดร้อยครั้งครับ
อาจารย์อู๋ 35
36 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 3
ฝันของลูก หรือ ฝันของเรา
อาจารย์อู๋ 37
ถ้าเปรียบเป็นนก ก็ ได้เวลาที่ลูกนกจะต้องลองบินดูแล้ว บินในแนวทางของตัวเอง ปล่อยให้ลูกของท่านได้ลองโบยบินเถอะครับ
38 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
ทุกคนมีความฝันของตัวเอง ลู ก ของคุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ บ างคนอาจมี ค วามฝั น ที่ แ ปลก ออกไปจากฝันของท่านเอง บ่อยครั้งเหลือเกินครับที่พ่อแม่ต่างวาดฝันเอาไว้ว่าอยาก จะให้ลูกของตนทำงานนั้นทำงานนี้ เชื่อแน่นอนเหลือเกินว่าทุกท่าน ทำด้วยความปรารถนาดีอันเต็มเปี่ยม แต่บางครั้งโลกของลูกกับโลกของพ่อแม่ก็ไม่เหมือนกัน อาชี พ บางอย่ า งอาจดู ดี แ ละเหมาะสมในสายตาคนเป็ น พ่ อ แม่
แต่มันช่างห่างไกลเหลือเกินกับความฝันของลูก
อาจารย์อู๋ 39
อาจารย์ อู๋ แ นะนำอย่ า งนี้ ปล่ อ ยให้ ลู ก ของท่ า นได้ ล อง โบยบินเถอะครับ หากท่านซึ่งใฝ่ฝันอยากเห็นลูกเรียนหมอ แต่ลูก อยากเป็นนักดนตรี ก็ปล่อยให้เขาลองเดินตามฝันของเขาเถอะครับ ถ้าเปรียบเป็นนก ก็ได้เวลาที่ลูกนกจะต้องลองบินดูแล้ว บินใน แนวทางของตั ว เอง ไม่ หั ด ให้ บิ น ตอนนี้ จะไปหั ด ตอนไหนครั บ
ตอนนี้ยังดีที่พ่อแม่นกยังได้คอยดู แต่หากปล่อยเนิ่นนานจนลูกนก ขี้ ก ลั ว ไม่ ก ล้ า เลื อ กเส้ น ทางบิ น ของตั ว เอง วั น หน้ า เมื่ อ ต้ อ งบิ น
โดยลำพังลูกนกย่อมลำบากแน่นอน คุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ อุ ต สาห์ เ ลี้ ย งดู อ บรมลู ก นกตั ว นี้ ม าตั้ ง
สิบกว่าปีแล้ว ท่านต้องมั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่ท่านปั้นมากับมือ บางท่านอาจเกิดคำถามว่า แล้วถ้าเส้นทางนั้นมันไม่ดี ไม่ประสบความสำเร็จล่ะ เรี ย นตามตรงว่ า อย่ า งน้ อ ยที่ สุ ด ก็ เ ป็ น เส้ น ทางที่ ลู ก
ได้เลือกเองครับ เขาเลือกแล้ว มันไม่ใช่ เดี๋ยวเขาก็หาหนทางใหม่ ได้เอง อาจารย์ อู๋ เ ชื่ อ ว่ า คนทุ ก คนย่ อ มต้ อ งมี ช่ ว งเวลาที่ ควานหาหนทางไปสู่ ค วามฝั น กั น ทั้ ง นั้ น มี ช่ ว งเวลาที่ ต้ อ ง ลำบากบ้างเพื่อพบกับความสำเร็จ
40 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
ขอยกตัวอย่างลูกนกสองตัว ลูกนกสมชาย เติบโตมาในชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ พ่อแม่ได้วางเส้นทางอันสวยหรูไว้ให้ ไม่ว่าจะเลือกโรงเรียน เลือก คณะ เลือกมหาวิทยาลัย เลือกอาชีพ ซึ่งสมชายก็ทำได้ดีเสมอมา แต่สิ่งที่สมชายขาดคือ ความสามารถในการเผชิญโลกด้วยตนเอง ไม่เคยลองล้มแล้วลุก ไม่มีภูมิคุ้มกัน แล้วอย่างนี้ชีวิตมันจะไปมี รสชาติได้อย่างไรครับ เปรียบกับลูกนกสมใจ ซึ่งพ่อแม่ก็ได้ให้ลองเลือกชีวิต
เองดู สมใจเลือกเข้าเรียนตามสิ่งที่ชอบ เลือกทำในสิ่งที่อยากทำ ล้มบ้างคลุกดินบ้าง แต่เมื่อล้มแล้วสมใจก็ลุกขึ้นได้อีกครั้ง อาจารย์ อู๋รับประกันครับว่าสมใจจะทั้งเก่งและแกร่งในที่สุด หากต้องล้ม สมใจก็ ลุ ก ได้ ที่ ส ำคั ญ ยั ง มี ป ระสบการณ์ ชี วิ ต มั น ส์ ๆ ไปเล่ า ให้ ลูกหลานฟังได้อีก
อาจารย์อู๋ 41
โลกมันแปรเปลี่ยนไปทุกวันครับ โลกในวันข้างหน้า เป็นโลกของรุ่นลูก ต้องลองให้เขาเดินตามฝันของตัวเองดู เราอาจได้เห็นนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ นักสร้างหนังระดับโลก นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล หรือนักฟุตบอลแข้งทองคำ ถ้าลอง ให้เขาเลือกเส้นทางของเขาเหล่านั้นเองครับ
42 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
ก่อนจะช่วยลูกเลือกคณะที่จะเรียน หยุดคิดสักนิดก่อนว่า นี่มันฝันของลูกหรือฝันของเรา
อาจารย์อู๋ 43
44 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 4 ติดตามดีกว่าตามติด
อาจารย์อู๋ 45
อาจารย์
อู๋ ไ ด้ เ คยนำการสอบไปเปรี ย บการ ลงสนามของนักฟุตบอลมาทีหนึ่งแล้ว
หนนี้เพื่อการเห็นภาพที่แจ่มชัด ขอนำมาเปรียบให้ฟัง อีกครั้งหนึ่ง ยอดบรมกุ น ซื อ ผู้ จั ด การที ม ฟุ ต บอลนั้ น จะทำการ ติดตามความเคลื่อนไหวของนักเตะในทีมอยู่ตลอด ไม่ว่านักเตะจะ ทำอะไรมักจะอยู่ในสายตาตลอด แต่ว่าผู้จัดการทีมไปเดินตามติด นักเตะคนนั้นตลอดเวลาหรือเปล่า คำตอบคือเปล่า วิธีการนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถนำมาปรับใช้กับลูกของ ท่านได้เลย พ่ อ แม่ บ างรายมี เ วลาเหลื อ เฟื อ โชคดี ไ ด้ ท ำงานที ่
น่ า อิ จ ฉา จึ ง มี เ วลาติ ด สอยห้ อ ยตามคุ ณ ลู ก ไปไหนมาไหนด้ ว ย ไปเรียนพิเศษ ไปรับไปส่งที่โรงเรียน วันสอบมาถึงก็ยกโขยงกันไป ปูเสื่อเฝ้าลูกสุดที่รักกันหน้าห้องสอบเลย แบบนี้ดูจะอบอุ่นเกินกว่าเหตุ
46 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
กระบวนการในการสอบ ตั้งแต่การเข้าสอบ การไปเรียน พิเศษ การเตรียมตัวอ่านหนังสือ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้สมาธิ ไม่เหมาะเลยครับที่คุณพ่อคุณแม่จะไปร่วมอยู่ด้วย เพราะนอกจาก จะมากั ง วลกั บ การเข้ า ห้ อ งสอบแล้ ว ยั ง ต้ อ งมาห่ ว งพลพรรค พันธมิตรพ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายายที่มาให้กำลังใจอีก แถมยังอาจจะ อายเพื่อนฝูง ไม่เป็นผลดีแน่ ลองนึกเป็นตัวท่านเองก็ได้ครับ ไปทำงานหอบลูกไปด้วย จริงอยู่ครับอบอุ่นได้ใกล้ชิด หนิดหนม แต่ไม่ได้ทำงานแน่นอน จึงเรียนคุณพ่อคุณแม่ด้วยความเคารพครับ อาจารย์อู๋แนะนำว่า ปล่อยให้คุณลูกเขาได้ลงสนามไป เพี ย งลำพั ง เถอะครั บ คุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ ยื น อยู่ ข อบสนามทำตั ว เป็ น
ผู้จัดการทีมที่คอยติดตามการเคลื่อนไหวก็พอ อย่าให้ถึงขั้นลงไป ประกบติดทำตัวเป็นนักเตะฝาแฝดเลยครับ เดี๋ยวไปขัดแข้งขัดขา กันพ่อแม่ลูกได้เตะกันตายพอดี การตามติดนั้นลืมไปได้เลย
อาจารย์อู๋ 47
แล้วติดตามเป็นอย่างไร ติดตามนั้นก็แอบสอดส่องดูความเคลื่อนไหวอยู่ไม่ห่าง ว่ า ลู ก นั้ น ต้ อ งการความช่ ว ยเหลื อ อั น ใดบ้ า ง ลู ก นั้ น ยั ง เด็ ก ได้
ความสดใหม่ ไ ฟแรงพละกำลั ง เหลื อ เฟื อ พ่ อ แม่ นั้ น มากไปด้ ว ย ประสบการณ์ที่จะแนะนำให้ลูกฟังได้ ให้ลูกได้เห็นมุมมองที่มากไป ด้วยประสบการณ์ ติดตามถามไถ่ดูว่าลูกนั้นสอบวันไหนเวลาไหน พ่อแม่
ชั้นเซียนอย่างเราจะได้คอยปลุกเผื่อลูกไม่ตื่นไปสอบ ติดตามถามไถ่ดูว่าลูกมีแนวโน้มจะเข้าเรียนในสาขาใด เผื่อว่าลูกอยากได้คำแนะนำของเราไปประกอบการตัดสินใจเลือก คณะ
48 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
การติดตามของท่านนั้นทำไม่ยากเลย เพียงแค่ระลึกไว้ ในใจอยู่เสมอว่าลูกของท่านนั้นโตจนจะเข้ามหาวิทยาลัยอยู่แล้ว หากคุณพ่อคุณแม่ระลึกได้อย่างนี้รับรองว่าแนวทางการปฏิบัติต้อง ออกมาสวยงามกว่าการคิดว่าลูกของท่านยังแบเบาะอยู่ การติ ด ตามนั้ น จะเว้ น ระยะห่ า งให้ ทุ ก ท่ า นได้ แ สดง อาการตื่นเต้นลุ้นสุดขีดได้ โดยที่ลูกไม่รู้ตัว แล้วลูกของท่านจะรู้สึก สบายใจกับ การสอบมากขึ้น แต่ไม่ว่าท่านจะติดตามหรือตามติด อาจารย์อู๋ก็รู้ว่าทุกท่านต้องลุ้นตัวโก่งกันอยู่ดี หรือว่าไม่จริง
อาจารย์อู๋ 49
50 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 5 อ่านหนังสือให้น้อยเล่ม
อาจารย์อู๋ 51
“อ่านหนังสือให้น้อยเข้าไว้” แล้วครับคุณพ่อคุณแม่ สายตาของท่านไม่ได้เสียแต่อย่าง ใด และหนังสือเล่มนี้ไม่ได้พิมพ์ผิด อาจารย์อู๋ย้ำอีกทีว่า ควรแนะนำลูกของท่านอ่านหนังสือให้น้อยเล่มเข้าไว้
ถูก
อั น นี้ เ ป็ น เคล็ ด ลั บ สุ ด ยอดสำหรั บ การสอบเข้ า มหาวิทยาลัยเลยครับ เหตุผลเหรอครับ การสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้น เขาสอบกันไม่กี่วิชาหรอก ครับ ที่เห็นหนังสือมากมายล้นเหลือนั่นเป็นเพราะมาจากหลาย ผู้เขียนหลายสำนักนั่นเอง และทุกเล่มก็เป็นเนื้อหาเดียวกันหมด แตกต่างกันบ้างเล็กน้อยตรงลีลาและท่าทางของผู้เขียน แต่ละคน ด้ ว ยเนื้ อ หาที่ ไ ม่ แ ตกต่ า งกั น แล้ ว อ่ า นหลายเล่ ม ไปก็ เสียเวลาไปเปล่าๆ
52 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
ดั ง นั้ น อาจารย์ อู๋ แ นะนำให้ คุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ เ ลื อ กหนั ง สื อ คู่ มื อ ให้ บุ ต รหลานของท่ า นเพี ย งเล่ ม เดี ย วที่ ลู ก ถู ก ใจก็ พ อครั บ
หรืออย่างมากก็ไม่เกินสองเล่ม พอมีหนังสือน้อย ก็จะอ่านได้จบไว และอ่านได้หลายรอบ มากขึ้น ลูกของท่านจะจำได้แม้กระทั่งเนื้อหาตรงนี้อยู่ที่ตำแหน่ง ไหนของหนังสือเล่มนั้น หากว่ามีหนังสือหลายเล่มแล้ว ก็จะเกิดความงุนงงและ งงงวย เพราะแม้จะเนื้อหาเดิมเมื่อเปลี่ยนเล่มหนังสือก็ย่อมคล้าย กับการเริ่มต้นอ่านใหม่ เสียเวลาโดยใช่เหตุ หลายท่านอาจคิดว่าแล้วถ้าเกิดเนื้อหาในหนังสือเล่มใด เล่มหนึ่งมันเกิดผิดขึ้นมาจะทำอย่างไร อาจารย์อู๋ตอบได้เลยว่า เนื้อหาที่ใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นเขาสอนกันมาเป็นสิบปี ผู้พิมพ์ หนั ง สื อ ก็ พิ ม พ์ ม าไม่ รู้ กี่ ร อบต่ อ กี่ ร อบ โอกาสที่ จ ะพิ ม พ์ ผิ ด หรื อ เนื้อหาผิดไปนั้นพอมีอยู่ครับ แต่น้อยมาก ส่วนโอกาสที่อ่านหนังสือหลายเล่มแล้วจะทำให้เกิด อาการงงงวย จำเนื้อหาไม่ ได้นั้น รับรองว่ามีสูงครับ
อาจารย์อู๋ 53
54 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
เน้นให้ชัดๆ อีกสักรอบครับ ว่าหนังสือของแต่ละวิชานั้น สักสองเล่มก็เกินพอ วิธีการเลือกหนังสือนั้นก็แนะนำให้ลูกของท่าน ลองไปยืนอ่านดูว่า อ่านแล้วเข้าใจเนื้อหาที่สำนักไหนเขาอธิบายไว้ ได้ ดี ที่ สุ ด ให้ ซื้ อ เล่ ม นั้ น ไม่ ต้ อ งไปสนใจว่ า จะต้ อ งเขี ย นด้ ว ยเกจิ ชื่อดังแต่อย่างใดครับ แล้วก็แถมหนังสือข้อสอบเก่าของแต่ละวิชาเข้าไปอีกสัก เล่ม เพียงเท่านี้บุตรหลานของท่านก็พร้อมสำหรับการสอบเข้า มหาวิทยาลัย แบบสบายๆ แต่ได้ผลแล้วครับ คุณพ่อคุณแม่หลายท่านด้วยมีฐานะที่มีกินมีใช้จึงทุ่มซื้อ หนังสือให้ลูกเป็นตั้งกองราวกับยอดเขาเอเวอร์เรสต์ท่วมหัวลูก แค่เห็นลูกก็สยองตั้งแต่ยังไม่เริ่มอ่านแล้วครับ ดั ง นั้ น ก่ อ นทุ่ ม ซื้ อ หนั ง สื อ มาให้ ลู ก ก็ ส อบถามความ ต้องการของลูกเสียหน่อยว่ามีหนังสือวิชานี้หรือยัง อยากได้เพิ่ม หรือเปล่าหรือพอแล้ว ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะกลายเป็น หนังสือท่วมหัวเอาตัวไม่รอด อาจารย์อู๋ 55
56 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 6 ภาษาอังกฤษ ราคาประหยัด
อาจารย์อู๋ 57
คุณพ่อ
คุ ณ แม่ ห ลายท่ า นต่ า งก็ มี ค วามกั ง วลอยู่ ลึกๆ ในใจว่า ภาษาอังกฤษแบบ snake snake fish fish หรือแบบงูงูปลาปลาของบุตรหลานนั้น จะเป็นตัว ดับฝันการทะยานเข้าสู้รั้วมหาวิทยาลัย
หลายท่านจึงพยายามหาหนทางให้บุตรหลานเก่งวิชานี้ ให้จงได้ หลายท่านเริ่มสอนภาษาอังกฤษให้บุตรหลานกันตั้งแต่ แบเบาะ บางท่านก็เริ่มกันตั้งแต่ในท้อง และหลายท่านใช้วิธีลัด
ทุ่มจ้างอาจารย์ฝรั่งผมทองมาสอนกันที่บ้านเลยทีเดียว หากครอบครัวใดประสบความสำเร็จไปแล้ว อาจารย์อู๋ก็ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ แต่สำหรับท่านที่ยังหาหนทางไม่ถูก อาจารย์อู๋ขอแนะนำวิธีที่ง่าย ประหยัด รวดเร็วและ เพลิดเพลินครับ ข้อสอบภาษาอังกฤษสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้น เป็นบุญของชนชาวไทยเหลือเกินที่เขาสอบเพียงแต่ข้อเขียน ไม่ได้ สอบสนทนาหรือสอบการฟังด้วย ดังนั้นหากบุตรหลานของท่าน มีทักษะการอ่านที่ดีแล้ว ข้อสอบก็หวานหมู
58 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
การพัฒนาทักษะการอ่านก็คือ อ่านบ่อยๆ และอ่าน มากๆ นั่นเอง แนะนำให้ท่านสมัครสมาชิกหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ รายวันไว้ที่บ้าน เพื่อให้ลูกของท่านได้ฝึกอ่านอยู่เป็นประจำ ย้ำ อย่างยิ่งว่าควรเป็นรายวันครับ ไม่แนะนำรายสัปดาห์ เพราะสิ่งที่ เราต้องการคือความคุ้นเคย คุ้นชิน อ่านบ้างไม่อ่านบ้างไม่ว่ากัน แต่ อ ย่ า งน้ อ ยที่ สุ ด ต้ อ งเห็ น พาดหั ว ตั ว โตๆ ผ่ า นตาทุ ก วั น อย่ า ง แน่นอน หนั ง สื อ พิ ม พ์ ร ายวั น นั้ น มี ม ากมายหลากหลายส่ ว น
ทั้ ง การเมื อ ง เศรษฐกิ จ กี ฬ า ไปจนถึ ง ข่ า วซุ บ ซิ บ นิ น ทาดารา ลูกของท่านสามารถเลือกอ่านได้ตามความสนใจ ไม่ต้องฝืนอ่าน ทั้งเล่ม ชอบตรงไหนอ่านตรงนั้นครับ ทำแบบนี้ ไ ปสั ก หกเดื อ น รั บ รองเห็ น ผลทั น ตาครั บ ทักษะการอ่านจะดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ผ่านการอ่านข่าวเป็นหน้า มาแล้ว เจอข้อสอบไม่กี่บรรทัดรับรองว่าสบาย
อาจารย์อู๋ 59
60 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
งบประมาณสำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ก็มีราคาไม่แพงครับ หนังสือพิมพ์รายวันฉบับละ 15 บาท ถ้าท่านรับทุกวัน เดือนหนึ่ง ก็ ร าวสี่ ร้ อ ยห้ า สิ บ บาท หรื อ หากรั บ แต่ ฉ บั บ วั น ธรรมดาไม่ รั บ
ฉบับเสาร์อาทิตย์ก็จะเหลือเดือนละสามร้อยบาท แต่หากใครที่งบ ประมาณจำกัดก็สามารถรับเฉพาะฉบับวันเสาร์อาทิตย์ก็พอครับ เดือนหนึ่งก็ร้อยยี่สิบบาท ด้วยวิธีง่ายๆ แบบนี้แหละครับ ที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษ ของลูกท่านได้ในเวลาอันรวดเร็วและราคาถูก เดี๋ ย วนี้ ธุ ร กิ จ การบิ น เขามี ส ายการบิ น ราคาประหยั ด
ที่เรียกว่า low cost airline มีสโลแกนเท่ๆ ว่า ใครๆ ก็บินได้ วิ ธี ฝึ ก ปรื อ ภาษาอั ง กฤษแบบนี้ ก็ เ รี ย กได้ ว่ า เป็ น low cost English หรือภาษาอังกฤษราคาประหยัด สโลแกนของเราก็เท่ไม่แพ้กัน ใครๆ ก็เก่งภาษาอังกฤษได้
อาจารย์อู๋ 61
62 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 7
ข้อสอบเก่า
อาจารย์อู๋ 63
นักกีฬาที่ฝึกซ้อมก่อนแข่งมาอย่างดี เมื่อลงสู่สนามย่อมไม่มีอาการตื่นสนาม คนที่ทำข้อสอบเก่ามาเยอะก็เช่นกัน
ต่อเนื่อง
จากตอนที่ แ ล้ ว อาจารย์ อู๋ ไ ด้ แ นะนำ เรื่องหนังสือไปว่านอกจากจะมีหนังสือ ในส่วนเนื้อหาอย่างละสองเล่มแล้ว อาจารย์อู๋ได้กล่าวถึงหนังสือรวมข้อสอบเก่าไว้ด้วยว่า ต้องมีของแต่ละวิชาไว้อย่างละหนึ่งเล่ม ข้อสอบเก่านี่แหละครับเป็นจุดสำคัญที่สุด การซ้อมก่อนลงแข่งสำหรับนักกีฬาแล้วมีความสำคัญ มากเป็นที่สุด เรียกได้ว่าต้องซ้อมจนเข้าเนื้อ การทำข้อสอบเก่าก็สำคัญไม่ต่างกัน จะได้ แ ต้ ม หรื อ ไม่ ไ ด้ แ ต้ ม จะทำข้ อ สอบได้ ห รื อ ไม่ ไ ด้ ข้อสอบเก่าเป็นตัวตัดสิน
ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก 64 เมื่อลูกสอบเข้
ใครที่ไม่เคยทำข้อสอบเก่าเลย หรือทำข้อสอบเก่ามา น้อยปี เมื่อเจอสนามสอบจริง จะตื่นสนามครับลนลานทำอะไร ไม่ถูก เสียเวลาตกใจกับข้อสอบไปราวครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แต่หากลูกของท่านผ่านการทำข้อสอบเก่ามาแล้วไม่ต่ำ กว่าห้าปี รับรองว่าอย่างน้อยที่สุดจะไม่ตื่นสนาม ที่สำคัญเนื้อหาใน การสอบเข้ า มหาวิ ท ยาลั ย มั น ก็ ว นไปเวี ย นมาไม่ อ อกไปไหนไกล หรอกครับ ใครที่เคยทำข้อสอบเก่าย่อมจับทางถูก นักกีฬาที่ฝึกซ้อมก่อนแข่งมาอย่างดีเมื่อลงสู่สนามย่อม ไม่มีอาการตื่นสนามให้เห็น คนที่ทำข้อสอบเก่ามาเยอะก็เช่นกัน แนะนำเพิ่มเติมไว้อีกสักเล็กน้อยว่าการทำข้อสอบเก่านั้น ไม่ใช่แต่เพียงว่าทำไปงั้นๆ แต่ให้ทำอย่างจริงจังโดยการจับเวลา ให้เหมือนสอบจริง ข้อสอบให้สอบสองชั่วโมงก็ทำเลยรวดเดียว สองชั่วโมง แล้วลองตรวจดูคำตอบว่าถูกหรือไม่
อาจารย์อู๋ 65
66 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
ทำผิด
ทำไปหลายๆ ปี ตรงไหนที่ผิดก็อ่านเฉลยดูว่าทำไมถึง
ปี แ รกๆ ที่ ท ำคะแนนที่ ท ำอาจน้ อ ยหน่ อ ยเพราะยั ง จั บ ทางไม่ ถู ก บอกลู ก ของท่ า นอย่ า ได้ ต กใจครั บ ลองทำไปอี ก หลายๆ ปี คะแนนจะค่อยๆ สูงขึ้นเอง ทำจนหมดแล้ ว จะวนกลั บ มาทำปี ที่ ท ำไปแล้ ว ก็ ไ ม่ ผิ ด กติกาแต่อย่างใด แต่ควรทิ้งไว้ให้ลืมคำตอบเสียหน่อย ไม่ใช่ว่าทำ แล้วตรวจคำตอบคะแนนน้อยเลยทำอีกรอบซะเลย อย่างนี้มันก็ เกินไป ทำไปทำมาแล้วลูกของท่านจะจับทางได้เองว่า เนื้อหา ตรงไหนที่ยังอ่อนอยู่ เนื้อหาตรงไหนสบายมากทำผ่านฉลุย หรือเนื้อหาตรงไหนยากมากทำไปก็เสียเวลาเปล่าข้าม ได้เลย เรียนให้ทราบไว้ตรงนี้เลยครับว่าข้อสอบจะยากจะง่ายนั้น คะแนนเท่ากัน หากยากไปเสียเวลาทำก็ข้ามไปก่อนได้ครับ ไม่ต้อง มาทนทุกข์ทรมานให้เสียเวลา รีบโกยแต้มจากข้อที่ถนัดดีกว่า ครับ
ความชำนาญแบบนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อทำข้อสอบเก่าบ่อยๆ เรียกได้ว่าทำข้อสอบเก่าจนเก๋านั่นเอง
อาจารย์อู๋ 67
68 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 8 ผ่อนคลายและสบายๆ
อาจารย์อู๋ 69
ความ
เครียดและความกังวลไม่ ได้ช่วยอะไร รังแต่ จะทำให้ ลู ก เรามี โ อกาสสอบไม่ ติ ด มากกว่ า ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ครับ อาจารย์อู๋ แนะนำว่าคุณพ่อคุณแม่ควรมี ท่าทีที่ผ่อนคลายและสบายๆ กับการสอบครั้งนี้ให้มากที่สุด
ผ่อนคลายอย่างไร เริ่มจากตัวท่านเองก่อน คุณพ่อคุณ แม่ผ่านโลกมามากย่อมรับรู้ได้ดีกว่าลูกว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นจุดเล็กๆ จุดหนึ่งในชีวิต ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป คนที่ประสบ ความสำเร็จหลายคนไม่ได้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ คน หลายคนเสียอีกที่เรียนตั้งหลายปริญญากลับไม่ประสบความสำเร็จ แนะนำว่าให้ท่านพยายามผ่อนคลายให้มาก จริงอยู่ครับ ว่าทุกท่านคงยังไม่อาจลบความกังวลออกไปได้ เพียงแต่อยากจะให้ ทำทีและทำท่าว่าผ่อนคลายและสบายๆ ก็ได้ครับ ลูกเห็นแล้วจะได้ รู้สึกตามไปด้วย บางครั้งจะเผลอเผยความกังวลบ้างก็ไม่ว่ากันครับ ไม่โดนตัดคะแนนแต่อย่างใด เอาเป็นว่ายามใดที่ระลึกได้ก็พยายาม สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้เกิดขึ้น
70 เมื่อลูกสอบเข้ ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คุณพ่อคุณแม่คงทราบดีว่าการออกกำลังกายนั้น หาก หักโหมทำโดยไม่มีการหยุดพัก นอกจากไม่เกิดผลดีแล้ว อาจทำให้ กล้ามเนื้อบาดเจ็บหรือฉีกขาดเสียด้วย สมองน้อยๆ ของลูกท่านก็เช่นกันครับ อ่านมากไปมีแต่ จะหัวพังเอา รู้แบบนี้แล้วจะไปหักโหมกันทำไมครับ ควรจะได้มี เวลาว่างไว้ทำอย่างอื่นบ้าง ได้ดูหนัง ฟังเพลง และออกไปเที่ยว เล่นตามประสาวัยรุ่นบ้างก็จะเป็นการดี สมองจะได้มีการพัก ซึ่งไม่ใช่แค่พักอย่างเดียวนะครับ สมองจะพั ก และทำการเรี ย บเรี ย งตั ว มั น เองในขณะที่ พั ก ครั บ
การพักผ่อนเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายจึงมีประโยชน์มหาศาล
อาจารย์อู๋ 71
อาจารย์อู๋ขอแนะนำสูตรเด็ดสำหรับการอ่าน หนังสือสอบครับ สูตรนั้นคือการจัดตารางเวลาครับ แนะนำให้บุตรหลานของท่านจัดตารางเวลาแบบสบายๆ คือทำได้ง่ายๆ และไม่หักโหม เช่นจัดไว้เลยว่าจะอ่านหนังสือวันละหนึ่งบท ทุกวัน ทำ แบบนี้จะไม่หักโหมครับ ค่อยๆ อ่านค่อยๆ สะสมไป เนื้อหาแต่ละ วิชาโดยปกติก็มีอยู่ราว 15-18 บท นั่นแสดงว่าใช้เวลาอ่านราว สองสามอาทิ ต ย์ ก็ จ ะจบหนึ่ ง วิ ช า นี่ คื อ อ่ า นทุ ก วั น ตลอดเจ็ ด วั น
แต่อาจารย์อู๋แนะนำว่าในเจ็ดวันอย่าอ่านทุกวัน ให้กำหนดวันหยุด มาเสียหนึ่งวัน อาจจะเลือกวันศุกร์ก็ได้ วันศุกร์ทั้งทีควรจะมีความสุข Friday night ควรได้ พั ก ผ่ อ น หยุ ด นี่ คื อ หยุ ด เลยครั บ ไม่ อ่ า น หนังสือ ไม่ทำข้อสอบเลย ไม่ต้องสนใจ ส่วนวันที่เหลือก็พยายาม ทำตามที่ตั้งใจไว้คือวันละเพียงหนึ่งบท 72 เมื่อลูกสอบเข้ ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
หากคิดแบบรวมวันหยุดที่ว่าไว้ด้วย ภายใน 3 สัปดาห์
ก็จะจบหนึ่งวิชาแบบสบายๆ วิชาที่ใช้สอบสูงสุดก็ไม่เกิน 6 วิชา
ใช้เวลาทั้งหมด 18 สัปดาห์ หรือราวสี่เดือนก็อ่านจบหมดทุกวิชา เพี ย งแนะนำให้ ลู ก ท่ า นทำแบบนี้ ก็ จ ะสามารถอ่ า น หนังสือสอบจบได้อย่างผ่อนคลายและสบายๆ ครับ หากคุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ ไ ด้ ส ร้ า งบรรยากาศผ่ อ นคลายและ สบายๆ แล้ว เชือ่ แน่วา่ ลูกของท่านจะสอบติดแบบสบายๆ แน่นอนครับ
อาจารย์อู๋ 73
74 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 9 รู้ทัน GAT PAT
อาจารย์อู๋ 75
GPAX 20 O-NET 30 GAT 10-50 PAT 0-40
และ
แล้วสำหรับปี 2553 เราก็จะได้ระบบสอบคัดเลือก เข้ามหาวิทยาลัยแบบใหม่ถอดด้าม นามว่า GAT PAT เราจึงควรมาทำความรู้จักและรู้ทันกันหน่อย
ในปี 2553 การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะพิจารณาจาก ส่วนประกอบต่างๆ ดังนี้ครับ 1 GPAX เขี ย นเป็ น ภาษาอั ง กฤษไว้ ใ ห้ ดู น่ า กลั ว
แต่ จ ริ ง แล้ ว มั น ก็ คื อ เกรดเฉลี่ ย ตลอดมั ธ ยมปลายนี่ แ หละครั บ
ใช้ 20 % 2 O-net อย่ า งที่ อ าจารย์ อู๋ ไ ด้ เ คยเล่ า ไปแล้ ว ครั บ
ว่าเป็นข้อสอบวัดความรู้ของชั้นมัธยมปลาย ข้อสอบง่าย ไม่ยาก แต่ก็อย่าประมาท ใช้ 30% 3 GAT 10-50% 4 PAT 0-40% รวม 100 %
76 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
ที นี้ ก็ ม ารู้ จั ก สองพระนางของเรากั น เสี ย หน่ อ ย เริ่ ม ที่ พระเอกของเราก่อน GAT หรือ คุณแกท คุ ณ แกท ได้ ชื่ อ มาจากคำเต็ ม ว่ า General aptitude test เหลือเชื่อว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไทย ไม่ สามารถหาภาษาไทยมาบัญญัติหัวข้อการสอบได้ จึงได้แต่แปลตาม ตัวอักษรว่า การทดสอบความถนัดทั่วไป แบ่งเป็นสองส่วนครับ 1. คื อ ความสามารถในการอ่ า น เขี ย น คิ ด วิ เ คราะห์ และแก้ปัญหา 2. คื อ ทดสอบทั ก ษะทางด้ า นภาษาอั ง กฤษ อย่ า เพิ่ ง ตกใจครับ ยังไม่มีการทดสอบการฟังหรือพูดแต่อย่างใด อ่านเขียน ล้วนๆ
อาจารย์อู๋ 77
ไปต่อกันที่ นางเอกของเรา น้อง PAT หรือ น้องแพท ชื่อเต็มว่า Professional and Academic Test ชื่อยาว จริง เรียกเป็นภาษาไทยว่า การทดสอบความถนัดทางวิชาชีพและ วิชาการ ข้อสอบของน้องแพท ก็คือ a-net เดิมนี่แหละครับ แบ่งเป็นรายวิชาต่างๆ รวมกับทดสอบความถนัดเฉพาะด้านของ แต่ละคณะด้วย อาทิเช่น ความถนัดทางวิชาชีพครู ความถนัดทาง วิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น
คะแนนของน้องแพทและคุณแกท เก็บไว้ใช้ได้สองปีครับ เปิดให้สอบปีละสามครั้ง ด้วยค่าสอบที่สวนกระแสเศรษฐกิจที่วิชา ละสองร้อย ใครทำสอบไม่ค่อยได้ต้องเก็บตังค์รอไว้เยอะหน่อยครับ
78 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
สังเกตอะไรมั้ยครับ เก็บคะแนนไว้ได้สองปี นั่นแปลว่า เด็กที่กำลังจะขึ้น ม.5 ในกลางปี 2552 นั้นเริ่มสอบได้แล้ว ถูก ต้องแล้วครับ การสอบครั้งแรกจะเริ่มขึ้นในเดือน มีนาคม 2552 ส่วนการสอบครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนกรกฏาคม 2552 ครับ ระเบี ย บการสอบ วั น เวลาที่ แ น่ น อน และตั ว อย่ า ง ข้อสอบให้พอดูเพลินๆ นั้น อยู่ที่ เวปไซต์ของ สถาบันทดสอบการ ศึกษาแห่งชาติครับ ที่ www.niets.or.th ทางสถาบันได้จัดทำคู่มือ สีสันสดใสแต่ดูน่ากลัวไว้ให้ฟรีครับ คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายเห็นแล้วอาจหูตาลายสับสนบ้าง เล็กน้อย อาจารย์อู๋ขอเรียนว่าไม่ต้องตกใจครับ แค่ให้คุณพ่อคุณแม่ รู้จักและรู้ทันไว้พอสังเขป เพื่อจะได้ไม่ตกอกตกใจเวลาบุตรหลาน มาขอสตางค์ไปสอบ GAT PAT ก็พอ เพราะเขาสอบกันวิชาละ 200 บาทเชียวแหละครับ
อาจารย์อู๋ 79
80 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 10 สมาธิ
อาจารย์อู๋ 81
อย่ า งที่ เ คยเรี ย นคุ ณ พ่ อ คุ ณ แม่ ไ ปแล้ ว ว่ า การสอบเข้ า มหาวิทยาลัยนั้น ประกอบด้วยสองส่วนสำคัญคือ สมองและจิตใจ อย่าง
อาจารย์อู๋ขอนำเสนอสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มพลังทั้งสอง นั่นคือการฝึกสมาธิ
หลายท่านอ่านมาถึงตรงนี้อาจคิดไปไกลว่า การจะสอบ เข้ามหาวิทยาลัยต้องไปไกลถึงขั้นถือศีลกินเจเข้าวัดปฏิบัติธรรมกัน เลยหรือเนี่ย ไม่ต้องถึงขนาดนั้นครับคุณพ่อคุณแม่ที่เคารพ อาจารย์อู๋แนะนำว่า วิธีการฝึกสมาธิแบบง่าย นั้นทำได้ หลายแบบ เริ่มจากเล็กๆ อย่าง การรดน้ำต้นไม้ การรดน้ำต้นไม้นี่เป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่งครับ ท่านใด ที่เคยรดน้ำต้นไม้จะสังเกตมั้ยครับว่ารู้สึกว่าสมองจะปลอดโปร่ง และจิตใจสบาย เป็นเพราะในขณะที่รดน้ำนั้น สมองจะได้หยุดพัก และผ่อนการทำงานลง ในเวลานั้นเองในหัวน้อยๆ ของลูกท่านจะ เกิดสมาธิขึ้น สมองจะทำการจัดระเบียบความรู้ต่างๆ ในหัวให้เข้า ที่เข้าทาง เมื่อจะดึงมาใช้ย่อมทำได้อย่างรวดเร็ว เป็นการเพิ่มพลังสมองทางหนึ่ง
82 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
ส่วนทางจิตใจนั้นก็เป็นผลต่อเนื่องกันครับ เมื่อเราผ่อน คลายได้ พั ก จากการอ่ า นหนั ง สื อ อย่ า งคร่ ำ เคร่ ง มารดน้ ำ ต้ น ไม้
เสียบ้าง จิตใจย่อมดีขึ้นอย่างแน่นอน หลายท่านคงตาลุกวาวเมื่อได้รู้ข้อดีของกิจกรรมเล็กๆ ที่ ชื่อว่าการรดน้ำตนไม้ แล้วถ้าที่บ้านไม่มีต้นไม้ให้รดจะทำเช่นไร ถึงขั้นต้องไป ซื้อที่ปลูกต้นไม้กันหรือเปล่า กันครับ
เรียนด้วยความเคารพว่ากิจกรรมอื่นก็ให้ผลได้ใกล้เคียง
งานบ้านจำพวกที่ทำได้ง่ายๆ เช่นล้างจาน กวาดบ้าน
ก็ ใ ห้ ผ ลดี ไ ด้ ใ กล้ เ คี ย งกั น ครั บ ลู ก ท่ า นชอบงานไหนก็ ม อบหมาย งานนั้นให้เลย บางท่ า นที่ คิ ด ว่ า ลู ก จะสอบไม่ อ ยากให้ เ สี ย เวลาอ่ า น หนังสือมาทำงานบ้านอีก รู้อย่างนี้แล้วต้องรีบจัดสรรงานให้เลย หนึ่งตำแหน่ง
อาจารย์อู๋ 83
หนังจีนกำลังภายในมักจะกล่าวกันว่า จอมยุทธที่ ไม่ ได้ถือกระบี่ ไม่ ได้แปลว่าเขาปราศจากอาวุธ
84 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
การเว้นจากการอ่านหนังสือแล้วไปรดน้ำต้นไม้ก็ไม่ได้ แปลว่าเขาไม่ได้กำลังอ่านหนังสืออยู่ เขาอ่านเงียบๆ อยู่ในสมอง เรียบเรียงสิ่งที่ได้อ่านมาแล้ว ให้เป็นระบบ พูดง่ายๆ ก็คือกำลังอ่านทวนในหัวอีกรอบขณะที่มือ รดน้ำต้นไม้ไปนั่นเอง เป็นการอ่านที่ ไม่ต้องอ่าน
อาจารย์อู๋ 85
สำหรับตัวคุณพ่อคุณแม่เอง ด้วยจิตใจที่ใกล้บ้าอยู่แล้ว อาจารย์อู๋ก็แนะนำให้ท่านเองฝึกสมาธิไปพร้อมกับบุตรหลานด้วย เลือกมาซักหนึ่งอย่าง ลูกรดน้ำต้นไม้ คุณพ่อคุณแม่อาจ เลือกล้างจานเป็นต้นครับ หรือท่านจะเขยิบไปอีกขั้นหนึ่งเลยก็ได้ ท่านจะลงนั่งขัดสมาธิขวาทับซ้ายตามตำราเลยก็ได้ครับ ทำวันละไม่มากสิบห้านาทีก็เพียงพอให้สมองและจิตใจสบายไป ตลอดทั้งวัน รายละเอียดเจาะลึกว่าต้องกำหนดลมหายใจแบบใดนั้น คุณพ่อคุณแม่หาได้จากตำราฝึกสมาธิทั่วไปครับ อาจารย์อู๋ไม่ขอ กล่าวซ้ำให้เปลืองกระดาษ
86 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
หรือท่านใดสนใจการเดินจงกรมมั้ยครับ การเดินจงกรมก็ทำได้โดยการหาที่เหมาะๆ ในตัวบ้าน ไว้เดินกลับไปกลับมาช้าๆ ให้ได้สักสิบก้าว เดินไปก็ผ่อนคลายไป ส่วนรายละเอียดเจาะลึกกว่านี้ หากนำมากล่าวไว้คงไม่พอหน้า กระดาษที่มีจำกัด ทุกท่านหากได้ลองฝึกสมาธิกันแล้ว รับประกันว่าจิตใจที่เคยเป็นกังวล จะกลับมาสดใสและ แข็งแกร่งเหมือนเดิม ที่สดใส
กระซิบอีกนิดว่าผลจากการฝึกสมาธิไม่ใช่แค่จิตใจเท่านั้น หน้าตาจะกลับมาสดใสไร้รอยเหี่ยวย่นเช่นกัน คุณแม่ยังสาวทั้งหลายได้ยินแบบนี้แล้วคงตาลุกวาว
ลองฝึกสมาธิกันนะครับ อาจารย์อู๋ 87
88 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 11
ความคาดหวัง
อาจารย์อู๋ 89
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนย่อมคาดหวัง เพราะการสอบเข้ามหาวิทยาลัย มันหมายถึงได้เห็นฝั่ง อาชีพของลูกอยู่ไม่ไกล เรียกได้ว่าถ้าไม่เกิดหกล้มแพ้ภัยตัวเองใน ขณะที่ร่ำเรียนแล้ว ส่วนใหญ่ย่อมจะสำเร็จออกมาทำงานเป็นหมอ เป็นวิศวกร เป็นครู เป็นนักกฎหมาย อย่างที่ได้ร่ำเรียนมา ความคาดหวังเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความคาดหวังส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะเมื่อลูกสังเกตได้ว่าพ่อแม่คาดหวังย่อมเกิดความ กดดันมากน้อยต่างกันไปตามบุญกรรมแต่ละคน ลูกคนใดทำบุญมา เยอะก็ สั ง เกตเห็ น น้ อ ยหน่ อ ย ใครมี ก รรมก็ สั ง เกตได้ ม ากหน่ อ ย ว่าคุณพ่อคุณแม่วาดหวังเอาไว้
90 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
ทีนี้เราควรทำอย่างไร อาจารย์อู๋แนะนำเลยว่า ให้คุณพ่อคุณแม่คาดหวังได้ตาม ชอบใจ จะวาดฝันไว้ว่าอะไรก็ตามสบาย แต่อย่าเพิ่งพูดออกมา ถู ก ต้ อ งแล้ ว ครั บ เก็ บ ไว้ ก่ อ น เหมื อ นเก็ บ งำความลั บ
ไงครับ คุณพ่อคุณแม่ย่อมเคยต้องเก็บงำความลับอะไรบางอย่าง มาอยู่แล้ว บางความลับเก็บแล้วก็ไม่ได้เกิดผลดีอะไร แต่ความลับหนนี้ดี เก็บแล้วมีแต่ได้กับได้ เพราะความ ลั บ หนนี้ จ ะออกดอกออกผลให้ ท่ า นอย่ า งสวยงามหากท่ า นเฝ้ า อดทนเก็บมันไว้อย่างดี เก็บมันไว้จนถึงวันประกาศผลนั่นแหละครับจะดีอย่างยิ่ง
อาจารย์อู๋ 91
ขอแนะนำตั ว ละครที่ เ ราคุ้ น เคยกั น ดี ม าเป็ น ตั ว อย่ า ง ให้เห็นภาพ สมชายถูกคาดหวังอย่างมาก จะด้วยทำบุญมาน้อยหรือ อะไรก็แล้วแต่ คุณพ่อคุณแม่ของสมชายวาดฝันให้สมชายฟังแบบ ไม่ยั้ง จริงอยู่ครับสมชายไม่ใช่คนโง่ เป็นคนเก่งไม่ใช่เล่น แต่ว่าใคร ก็ตามเมื่ออยู่ในสถานะที่ถูกตั้งความหวังแล้ว ความสามารถย่อม หายไปหลายส่วน ไอ้ความสามารถหายนั่นยังพอทน แต่การไม่มี ความสุขทุกข์ระทมนี่มันประเมินค่าความเสียหายไม่ได้เลยนะครับ กล่าวถึงสมใจผู้ทำบุญมาเยอะกันบ้าง สมใจก็ไม่ใช่คนโง่ อะไร ฝีมือทัดเทียมกับสมชายนั่นแหละครับ คุณพ่อคุณแม่สมใจ จะคิดอะไรอยู่นั้นอาจารย์อู๋ไม่รู้ได้ แต่ที่แน่ๆ วาทะเด็ดของคุณพ่อ
คุณแม่คือ “ขอให้ทำอย่างเต็มที่ก็พอ ส่วนจะได้ ไม่ได้ หรือสอบติด อะไรก็ช่างมัน” จำไปใช้ได้เลยครับ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ คำนี้พิเศษหน่อยครับ “ช่างมัน”
92 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
เพราะถ้าอ่านหนังสือก็อ่านแล้ว สอบก็สอบแล้ว เตรียม ตัวอย่างเต็มที่แล้ว มันจะได้หรือไม่ได้ก็ต้องช่างมันแล้วแหละครับ อาจารย์อู๋รู้ครับว่าในใจลึกๆ แล้วของพ่อแม่ทุกคนย่อม ไม่อยากช่างมันอย่างที่พูดออกมา เพี ย งแต่ พู ด ออกมาเพื่ อ ให้ ลู ก ได้ ผ่ อ นคลาย ได้ เ ปิ ด ทางออก ไม่ใช่ว่ามีอยู่ทางเดียวคือต้องสอบติดเท่านั้น อย่าลืมนะครับ คาดหวั ง ได้ แต่ เ ก็ บ เป็ น ความลั บ ไว้ ใ นใจอย่ า เพิ่ ง ไปบอกลูก แล้วก็ ช่างมันบ้างก็ดี
อาจารย์อู๋ 93
94 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 12
เลียนพิเศษ
อาจารย์อู๋ 95
อาจารย์ที่เคารพของ อาจารย์อู๋ ได้สอนสิ่งน่าสนใจไว้ให้ อย่างหนึ่ง การเรียน คือ การอ่าน + ทำ อาจารย์พูดถึงเรื่องนี้ขณะที่กำลังสอนไปด้วย แล้วก็บอก เสริมด้วยว่า สำหรับการมานั่งฟังอาจารย์สอน และ การสอบนั้น ก็เพื่อให้เป็นไปตามระบบระเบียบแห่งการได้มาซึ่งใบปริญญา อาจารย์เล่าต่อไปอีกว่า ก่อนมาสอนตัวอาจารย์ก็ไปอ่าน หนังสือมาเล่มหนึ่ง แล้วก็สรุปเนื้อหาแบบย่อลงแผ่นใส จากนั้นก็ มาพูดให้พวกนักเรียนฟัง นักเรียนก็จะจดย่อของเนื้อหาอย่างย่อที่ ได้ฟังนั้นลงในสมุดของนักเรียนเอง กระบวนการจดย่อเป็นทอดๆ นี่เอง เทียบไม่ได้เลยกับ สิ่งที่เรียกว่า การอ่าน + ทำ อ่านเนื้อหาโดยตรงจากหนังสือเอง แล้วลองทำตามดู ลองทำแบบฝึกหัดดูว่าเข้าใจหรือไม่ หากเป็นเนื้อหาที่นำไปปฏิบัติ ได้ก็ลองนำไปปฏิบัติดู หากเป็นเนื้อหาที่ให้ขบคิดก็ลองขบคิดดู
96 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
นี่ต่างหากที่เรียกได้ว่าเป็น การเรียนอย่างแท้จริง
ในทุกวันนี้ คุณพ่อคุณแม่จะพบเห็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของ เด็กที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ที่แห่งนั้นคือ โรงเรียนกวดวิชา หรือที่เรียนพิเศษนั่นเอง ที่เรียนพิเศษจะมีเกจิชื่อดังเป็นเจ้าของ บางที่เปิดกัน หลายสาขา ขยายตัวไปตามจังหวัดต่างๆ มากมาย เกจิเหล่านั้น นานทีถึงจะได้เห็นตัวเป็นๆ มายืนสอน เพราะส่วนใหญ่ได้พบหน้า ผ่านทางวิดีโอวงจรปิด และคุณพ่อคุณแม่หลายคนก็หวังพึ่งเกจิเหล่านี้ให้นำพา บุตรหลานของท่านทะยานเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยให้จงได้ บางท่านต้องหอบลูกจูงหลานไปตั้งเต็นท์นอนรอหน้าที่ เรียนพิเศษ เพื่อสมัครเข้าเรียน ราวกับเปิดสอนฟรี
อาจารย์อู๋ 97
คุณพ่อคุณแม่ครับ อาจารย์อู๋ขอแนะนำอย่างนี้ครับ อย่าไปหวังพึ่งพิงที่เรียนพิเศษเหล่านี้ให้มากจนเกินไปนัก เลยครั บ สถานที่ เ รี ย นเหล่ า นี้ ก็ ไ ด้ แ ต่ ส อนตามมาตรฐานกลาง เท่านั้น เคล็ดวิชาที่ถ่ายทอดให้ก็เหมือนกันหมด ไม่ต่างอะไรกับ การใส่เสื้อโหลที่ยังไงก็ไม่พอดีตัวเหมือนเสื้อที่วัดและตัดเอง การอ่านหนังสือและลองทำข้อสอบเก่าด้วยตนเองของ ลูกๆ ต่างหากครับ ที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จที่แท้จริง อาจจะใช้ เวลานานกว่าเล็กน้อยในการค่อยๆ เตรียมตัว แต่ว่าย่อมจะได้ ผลลัพธ์ที่ดีกว่า มีความเข้าใจในเนื้อหาลึกซึ้งกว่า ลูกของท่านจะ ค้นพบเทคนิควิธีการทำข้อสอบขึ้นมาได้เองซึ่งได้ผลแน่นอนกับตัว เขาเองมากกว่ า เหมื อ นเสื้ อ ที่ วั ด และตั ด เย็ บ ให้ เ หมาะพอดี ตั ว
ย่อมจะสวมใส่ได้สวยและสบายกว่าแน่นอน หากลูกของท่านไม่เข้าใจเนื้อหาตรงจุดไหน อย่าลืมว่า
ยั ง มี คุ ณ ครู ที่ โ รงเรี ย นคอยช่ ว ยเหลื อ อยู่ ค รั บ คุ ณ ครู เ หล่ า นี้ ยิ น ดี ที่จะอธิบายอยู่ทุกเวลา หาตัวง่าย พบเจอได้เลยโดยไม่ต้องผ่าน กล้องวิดีโอวงจรปิด
98 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คุณพ่อคุณแม่หลายคน เห็นเพื่อนพาลูกไปเรียนพิเศษที่ นั่นที่โน่น ก็รีบพาลูกไปบ้างด้วยเห็นว่าดี เด็กบางคนไม่ได้พักเลย ต้องเรียนพิเศษกันทุกวิชา ขาดก็แต่วิชาพละศึกษาเท่านั้นที่พ่อแม่ ไม่ได้พาไปเข้าเรียน ก่อนจะให้ลูกไปเรียนพิเศษ คุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตดู สักนิดว่าลูกชอบไปเรียนหรือเปล่า หากเด็กบางคนไม่อยากเรียน พิเศษการอ่านหนังสือเองอยู่บ้านย่อมเป็นผลดีกว่า ส่วนลูกคนไหน ที่ ชื่ น ชอบไปเรี ย นพิ เ ศษจริ ง ๆ จะสนั บ สนุ น ไปตามแนวทางนั้ น ก็ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดครับ อาจารย์ อู๋ ข อแนะนำว่ า การแห่ พ าบุ ต รธิ ด าไปเรี ย น พิเศษโดยไม่ ได้ ไตร่ตรองให้ดี ก็เหมือนการเลียนแบบคนอื่น โดยไม่ ได้รู้เลยว่าแนวทางที่เหมาะกับลูกของตนนั้นเป็นอย่างไร การทำแบบนี้ก็ไม่น่าจะเรียกว่าเรียนพิเศษนะครับ น่าจะเรียกว่า เลียนพิเศษมากกว่าครับ อาจารย์อู๋ 99
100 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 13
พรหมวิหาร 4
อาจารย์อู๋ 101
สำหรับ
ตอนนี้ อาจารย์ อู๋ ขอแนะนำ ธรรมะ สำหรั บ พ่ อ แม่ ไ ว้ รั บ มื อ การสอบเข้ า มหาวิทยาลัยของลูกๆ ครับ ธรรมะข้อนั้นคือ หลัก พรหมวิหาร 4 ประการ
พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมของผู้เป็นใหญ่ ธรรมของ ผู้ปกครองนั่นเองครับ มีด้วยกัน สี่ข้อ ไล่เรียงมาดังนี้ครับ เมตตา หรือ ปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข ข้อนี้คงไม่ต้อง แนะนำอะไรกันมากมาย เพราะคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย ย่อมอยาก เห็นลูกมีความสุขอยู่แล้ว เมื่ออยากเห็นลูกมีความสุข ก็ต้องให้ลูก เดินตามทางของเขาเองอย่างเหมาะสม ให้ลูกของท่านได้เลือกคณะ ที่เขาอยากเรียน โดยมีตัวท่านเองคอยสนับสนุน ทำได้แบบนี้ ก็จะ สำเร็จตามธรรมะข้อนี้ครับ กรุณา หรือ ปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ข้อนี้ตรงกับ สถานการณ์ตอนนี้เลยครับ การเผชิญกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย มันช่างทุกข์ยากเหลือเกินสำหรับเด็กวัยรุ่นที่ต้องเผชิญ คุณพ่อคุณ แม่ทำได้โดยช่วยผ่อนทุกข์ให้เบาลงเสีย หรือขจัดความทุกข์ความ กังวลของลูกออกไปจากใจเสีย อย่างที่อาจารย์อู๋ได้แนะนำไปแล้วก็ เช่น การช่วยให้ลูกผ่อนคลาย เปิดทางให้ลูกไม่รู้สึกว่า หากสอบไม่ ได้แล้วชีวิตต้องถึงจุดสิ้นสุด หากทำได้ดังนี้ก็ถือได้ว่าช่วยให้ลูกพ้น จากทุกข์แล้วครับ
102 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
มุทิตา หรือแสดงความยินดีเมื่อลูกเป็นสุข ธรรมข้อนี้ เกิ ด ขึ้ น ตอนวั นประกาศผลนั่นแหละครับ ไม่ ต้อ งเหนี ยมอายแต่ อย่างใดครับ ความสำเร็จของลูกมาถึงแล้ว คุณพ่อคุณแม่แสดง ความยินดีได้เลยครับ จะมากจะน้อยก็ตามแต่ชอบครับ อุ เ บกขา ธรรมะข้ อ นี้ เ ป็ น ข้ อ สุ ด ท้ า ย แต่ อ าจารย์ อู๋ อยากเน้นถึงข้อนีใ้ ห้มากทีส่ ดุ อุเบกขา หมายถึงการวางเฉย นิง่ เฉย ข้อนี้แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ ใช้ ให้มากๆ อุเบกขาต่อความกังวลของตัวคุณพ่อคุณแม่เอง ถึงแม้ใน ใจของทุกคนจะเป็นกังวลไปกับลูก ก็อย่าได้แสดงออกมา เพราะ ไม่มีประโยชน์ครับ รังแต่จะมีโทษไปเพิ่มความกังวลให้ลูกเสียเปล่า อุเบกขาต่อความยากลำบากของลูก ในระหว่างการอ่าน หนังสือ ในระหว่างการสอบที่ลูกต้องเผชิญความยากลำบาก ก็ขอ ให้คุณพ่อคุณแม่นิ่งเฉยเอาไว้ คอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆ ให้ลูกได้ เผชิญโลกด้วยตัวเขาเอง อย่างที่ อาจารย์อู๋ได้บอกไว้ในตอนก่อน หน้า ว่าท่านต้องให้ลูกนกได้ลองเริ่มบินได้แล้ว
อาจารย์อู๋ 103
104 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
อุเบกขาต่อสิ่งไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น บุตรหลานของ ท่านอาจพลาดท่าเสียทีสอบไม่ติดขึ้นมา ท่านต้องนิ่งเฉยไว้ ไม่ตี โพยตีพายด่าว่าไปด้วย ลูกของท่านอาจร้องไห้ฟูมฟายมา จิตใจ ของท่านต้องนิ่งไว้ เพื่อจะได้ปลอบโยนและช่วยหาทางออกให้กับ ลูกครับ อุ เ บกขานั้ น เน้ น หนั ก ไปที่ ค วามนิ่ ง ของจิ ต ใจเป็ น ส่ ว น สำคัญครับ หากจิตใจนิ่งแล้ว ก็จะมีสติคิดทำสิ่งที่ถูกต้องได้เอง ตอนนี้ลูกของทุกท่านกำลังกระสับกระส่ายหัวใจไม่นิ่ง คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายควรเป็นหลักให้กับลูกๆ ได้พิง เป็นเหมือน พรหมที่คอยปกป้องดูแลรักษาและให้ความเมตตา ดังคำกล่าวที่ว่า พ่อแม่เป็นพรหมของลูก
อาจารย์อู๋ 105
106 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก
คำแนะนำที่ 14 เรียนไม่เก่ง โรงเรียนชื่อไม่ดัง อยู่ต่างจังหวัด อย่าได้กังวล
อาจารย์อู๋ 107
168 เมื่อลูกสอบเข้ามหาวิทยาลัย คำแนะนำไม่ให้พ่อแม่สติแตก