คู่มือ Life in the UK ฉบับแปลภาษาไทย จัดทำ�โดย Dr. Khanungnit Garnett แปลและเรียบเรียงโดย Kanlaya Coulsting แจกฟรี ห้ามจำ�หน่าย NOT FOR SALE
TOGETHER, WE HELP EACH OTHER This book is completely FREE and is designed to be used as a reference for Thai candidates booking for Life in the UK tests. Thank you all parties who have kindly sponsored the making of this book.
หนังสือเล่มนีจ้ ดั ทำ�ขึน้ เป็นวิทยาทาน สำ�หรับแจกฟรี ให้กบั คนไทยในสหราชอาณาจักร (ห้ามจำ�หน่ายเด็ดขาด) กราบอนุโมทนาบุญทุกท่านทีม่ สี ว่ นร่วมในการจัดทำ�หนังสือเล่มนี้ อ. ดร. คนึงนิจ การ์เน็ทท์ ในนามของคณะผูจ้ ดั ทำ�หนังสือ Life in the UK ภาคภาษาไทย ฉบับปรับปรุง ครัง้ ที่ 3 ปี ค.ศ 2016
Life
in the
UK
3rd Edition
KINDLY SPONSORED by (รายนามผูบ้ ริจาค) CP Foods (UK) Ltd £2,000 Vesey Solicitors UK £2,000 Double Four Agency £1,760 Smile Education and Services Ltd £1,000 Mr Roger & Dr Khanungnit Garnett £1,000 Manning Impex £750 New Loon Moon £750 Thai Embassy (London, UK) £500 Dhammapadipa Temple & Cultural Centre (Scotland) £500
คำ�นำ�
Life
in the
UK
ดิฉนั “ในนามตัวแทนของชาวไทยในยูเค” ขอกราบขอบพระคุณ The Stationery Office (TSO) ของ Home Office ทีอ่ นุญาตให้คณะทีมงานของเรา “จัดแปลหนังสือคูม่ อื Life in the United Kingdom: A Guide for New Residents (3rd Edition) เป็นฉบับภาษาไทย” เพือ่ แจกฟรีให้แก่ ชาวไทยทีป่ ระสงค์ใช้เป็นคูม่ อื อ่านประกอบการสอบ Life in the United Kingdom ในการยืน่ ขอวีซา่ ถาวร (Settlement Visa) และ/หรือ ขอแปลงสัญชาติเป็นบริตชิ (British Citizenship) ของประเทศสหราชอาณาจักร และดิฉันเชื่อว่า คู่มือฉบับแปลเป็นภาษาไทยเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำ�หรับชาวไทย ที่พักอาศัย และประกอบอาชีพในยูเค เพราะมันจะเป็นส่วนช่วยอันสำ�คัญในการเสริมสร้าง ความรู้ และความเข้าใจอย่างถูกต้องให้แก่คนไทยได้ทราบกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ ข้อควรปฏิบตั ิ และความรับผิดชอบต่างๆ ทีไ่ ด้ประกาศใช้ภายในสหราชอาณาจักร และโดย Home Office ดิฉนั “ขอกราบอนุโมทนาบุญ” มา ณ โอกาสนี้ กับ sponsors ทุกทุกท่านทีม่ สี ว่ นร่วมในการ จัดทำ�หนังสือเล่มนีใ้ ห้ส�ำ เร็จลุลว่ งโดยดี (สาธุฯ)...
ดร. คนึงนิจ การ์เน็ทท์ 24 กันยายน 2016
สารบัญ
Life
in the
UK
CHAPTER 1
The values and principles of the UK This section covers the responsibilities and privileges of being a British citizen or permanent resident of the UK. • The values and principles of the UK • Becoming a permanent resident • Taking the Life in the UK test
CHAPTER 2
What is the UK? In this section you will learn about the countries which make up the UK.
CHAPTER 3
A long and illustrious history In this section you will learn about the historical events and people that have helped to shape the UK. • Early Britain • The Middle Ages • The Tudors and Stuarts • The global power • The 20th century • Britain since 1945
08 12 14 16 23
29 30 39 48 70 99 112
CHAPTER 4
A modern, thriving society This section will tell you about aspects of life in the UK today The UK today • Religion • Customs and traditions • Sport • Arts and culture • Leisure • Places of interest
CHAPTER 5
The UK Government, the law and your role This section will tell you about the UK’s democratic system of government will help you understand your role in the wider community • The development of British democracy • The British constitution • The government • The UK and international institutions • Respecting the law • Fundermental principles • Your role in the community
133 136 149 154 162 173 192 205 219
222 223 236 254 259 273 283
CHAPTER 1
THE VALUES AND PRINCIPLES OF THE
UNITED
Kingdom คุณค่าและหลักการที่สำ�คัญ ของประเทศสหราชอาณาจักร
THE VALUES AND PRINCIPLES OF THE UNITED KINGDOM
10 Life in the UK 3rd Edition
Britain is a fantastic place to live: a modern, thriving society with a long and illustrious history. Our people have been at the heart of the world’s political, scientific, industrial and cultural development. We are proud of our record of welcoming new migrants who will add to the diversity and dynamism of our national life. อังกฤษเป็นประเทศที่น่าอยู่ มีสังคมเจริญก้าวหน้า ทันสมัย และมีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และยาวนาน คนอังกฤษมีบทบาทที่ส�ำคัญในวิวัฒนาการทางด้านการเมือง วิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรมและวัฒนธรรมทั่วโลก เราภูมิใจในประวัติของความเป็นชาติที่อ้าแขนต้อนรับคน กลุ่มใหม่ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ซึ่งจะช่วยก่อให้เกิดความหลากหลาย และความเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงในชีวิตของชุมชนอังกฤษมากยิ่งขึ้น Applying to become a permanent resident or citizen of the UK is an important decision and commitment. You will be agreeing to accept the responsibilities which go with permanent residence and to respect the laws, values and traditions of the UK. Good citizens are an asset to the UK. We welcome those seeking to make a positive contribution to our society. การยืน่ ค�ำขออยูอ่ าศัยแบบถาวร หรือเป็นพลเมืองอังกฤษเป็นการตัดสินใจทีส่ �ำคัญทีต่ อ้ งอาศัย ความมุ่งมั่นเป็นพิเศษ คุณจะต้องยินดียอมรับความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับสิทธิการเป็น ผู้อยู่อาศัยแบบถาวร และต้องเคารพเชื่อฟังกฎหมาย ตลอดจนยึดถือปฏิบัติตามคุณค่าและ ขนบธรรมเนียมประเพณีของอังกฤษ พลเมืองดีเป็นสินทรัพย์อนั มีคา่ ของสหราชอาณาจักร เรา ยินดีต้อนรับผู้ที่ต้องการจะเข้ามามีส่วนช่วยพัฒนาสังคมของเราในทางที่สร้างสรรค์อยู่เสมอ Passing the Life in the UK test is part of demonstrating that you are ready to become a permanent migrant to the UK. This handbook is designed to support you in your preparation. It will help you to integrate into society and playa full role in your local community. It will also help ensure that you have a broad general knowledge of the culture, laws and history of the UK. การสอบผ่าน Life in the UK เป็นส่วนหนึง่ ทีแ่ สดงว่าคุณพร้อมทีจ่ ะอพยพเข้ามาตัง้ ถิน่ ฐานอยู่ ในสหราชอาณาจักรเป็นการถาวร หนังสือคูม่ อื เล่มนีจ้ ดั ท�ำขึน้ เพือ่ ช่วยเหลือคุณในการเตรียมตัว ในเรือ่ งนี้ และจะช่วยให้คณ ุ สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมและมีบทบาทร่วมในชุมชนท้องถิน่ ของ คุณได้อย่างราบรื่น และยังจะช่วยให้คุณมีความรู้อย่างกว้างขวางโดยทั่วไปเกี่ยวกับวัฒนธรรม กฎหมายและประวัติศาสตร์ของประเทศสหราชอาณาจักรด้วย Life in the UK 11
THE VALUES AND PRINCIPLES OF THE UK
คุณค่าและหลักการที่ส�ำคัญของ ประเทศสหราชอาณาจักร British society is founded on fundamental values and principles which all those living in the UK should respect and support. These values are reflected in the responsibilities, rights and privileges of being a British citizen or permanent resident of the UK. They are based on history and traditions and are protected by law, customs and expectations. There is no place in British society for extremism or intolerance. สังคมอังกฤษมีคุณค่าและหลักการที่ส�ำคัญเป็นพื้นฐานรองรับ ปวงชนที่อาศัยอยู่ใน สหราช อาณาจักรควรเคารพและให้การสนับสนุนคุณค่าและหลักการเหล่านี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นใน ความรับผิดชอบสิทธิ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของบุคคลที่มีสถานะเป็นพลเมืองอังกฤษ หรือผู้อยู่อาศัยแบบถาวรในสหราชอาณาจักร คุณค่าและหลักการดังกล่าวมีรากฐานมาจาก ประวัติศาสตร์และจารีตประเพณี ภายใต้การคุ้มครองโดยกฎหมาย ขนบธรรมเนียม และ ความคาดหวังของคนในสังคม ความคิดเห็นหรือพฤติกรรมแบบสุดโต่งหรือการไม่ยอมรับความ แตกต่างของผู้อื่นเป็นสิ่งที่สังคมอังกฤษยอมรับไม่ได้ The fundamental principles of British life include: • Democracy • The rule of law • Individual liberty • Tolerance of those with different faiths and beliefs • Participation in community life. หลักการที่ส�ำคัญในชีวิตของคนอังกฤษ ได้แก่: • หลักการประชาธิปไตย • หลักนิติธรรม • สิทธิเสรีภาพของปัจเจกบุคคล • การยอมรับผู้ที่มีความเชื่อแตกต่างและนับถือศาสนาอื่น • การมีส่วนร่วมในชีวิตของชุมชน
12 Life in the UK 3rd Edition
As part of the citizenship ceremony, new citizens pledge to uphold these values. The pledge is: ‘I will give my loyalty to the United Kingdom and respect its rights and freedoms. I will uphold its democratic values. I will observe its laws faithfully and fulfil my duties and obligations as a British citizen.’ ในพิธีปฏิญาณตนเป็นพลเมืองอังกฤษ ผู้ที่จะมีสถานะเป็นพลเมืองใหม่จะต้องให้ค�ำปฏิญาณที่ จะยึดมั่นในคุณค่าที่ส�ำคัญ ดังนี้: ‘ข้าพเจ้าจะจงรักภักดี และเคารพสิทธิและเสรีภาพของสหราชอาณาจักร ข้าพเจ้าจะยึด มั่นในคุณค่าของระบอบประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักร ข้าพเจ้าจะเคารพและปฏิบัติ ตามกฎหมายของสหราชอาณาจักร และจะปฏิบัติตนตามหน้าที่และพันธะผูกพันในฐานะ พลเมืองอังกฤษ’ Flowing from the fundamental principles are responsibilities and freedoms which are shared by all those living in the UK and which we expect all residents to respect. หลักการทีส่ �ำคัญของสหราชอาณาจักรจะครอบคลุมถึงความรับผิดชอบและเสรีภาพ ทีป่ วงชน ผู้อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรมีส่วนร่วมเสมอกันถ้วนหน้า และเป็นสิ่งที่เราคาดหวังให้ทุกคน เคารพยึดถือ If you wish to be a permanent resident or citizen of the UK, you should: • respect and obey the law • respect the rights of others, including their right to their own opinions • treat others with fairness • look after yourself and your family • look after the area in which you live and the environment. หากคุณประสงค์ที่จะอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรแบบถาวร หรือมีสถานะเป็นพลเมือง อังกฤษ คุณควร: • เคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย • เคารพสิทธิ รวมถึงสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลอื่นๆ • ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเป็นธรรม • ดูแลตัวคุณและครอบครัวของคุณ • ดูแลรักษาเขตที่อยู่อาศัยของคุณและบริเวณพื้นที่รอบข้าง Life in the UK 13
In return, the UK offers: • freedom of belief and religion • freedom of speech • freedom from unfair discrimination • a right to a fair trial • a right to join in the election of a government. สหราชอาณาจักรจะตอบแทนคุณด้วยสิ่งต่อไปนี้ คือ: • เสรีภาพในความเชื่อและศาสนา • เสรีภาพในการพูด • ความเป็นอิสระจากการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม • สิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม • สิทธิในการมีส่วนร่วมในการออกเสียงเลือกตั้งรัฐบาล BECOMING A PERMANENT RESIDENT
การยื่นค�ำขอเป็นผู้อยู่อาศัยอย่างถาวร
To apply to become a permanent resident or citizen of the UK, you will need to: • speak and read English • have a good understanding of life in the UK. การยื่นค�ำขออยู่อาศัยในสหราชอาณาจักรแบบถาวร หรือเป็นพลเมืองอังกฤษ คุณจะต้อง มีคุณสมบัติ ดังนี้: • พูดและอ่านภาษาอังกฤษได้ • มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการด�ำรงชีวิตในสหราชอาณาจักรเป็นอย่างดี There are currently (as of January 2013) two ways you can be tested on these requirements: • Take the Life in the UK test. The questions are written in a way that requires an understanding of the English language at English for Speakers of Other Languages (ESOL) Entry Level 3, so there is no need to take a separate English language test. People here on work visas, including those on Tier 1 and Tier 14 Life in the UK 3rd Edition
2 of the points ¬based system, normally must pass the Life in the UK test to become permanent residents. • Pass an ESOL course in English with Citizenship. You will need to take this course if your standard of English is below ESOL Entry Level 3. The course will help you to improve your English and learn more about life in the UK. At the end of the course you will take a test. ในปัจจุบัน (ตั้งแต่มกราคม ค.ศ. 2013) คุณสามารถเข้ารับการทดสอบคุณสมบัติตาม ข้อก�ำหนดได้ 2 แนวทาง ดังนี้: • สอบข้อสอบ Life in the UK (ชีวิตในสหราชอาณาจักร) ค�ำถามในข้อสอบนี้จัดท�ำ ขึ้ น โดยใช้ ภ าษาอั ง กฤษเที ย บเท่ า ระดั บ Entry Level 3 ของหลั ก สู ต รภาษาอั ง กฤษ ส�ำหรับคนที่พูดภาษาอื่นๆ (ESOL) ดังนั้น คุณจึงไม่จ�ำเป็นต้องสอบภาษาอังกฤษอีกต่าง หาก บุ ค คลที่ อ ยู ่ ที่ นี่ ด ้ ว ยเหตุ ผ ลเนื่ อ งจากมี วี ซ ่ าท�ำงาน รวมถึ ง บุ ค คลที่ ยื่ น ค�ำขอภายใต้ กลุ่ม Tier 1 และ Tier 2 ตามวิธีการพิจารณาการเข้าเมืองด้วยระบบคะแนน (PBS) ปกติ จะต้องสอบให้ผ่าน Life in the UK จึงจะได้รับอนุญาตให้เป็นผู้อยู่อาศัยแบบถาวรได้ • เรียนและสอบผ่านภาษาอังกฤษควบคูว่ ชิ าหน้าทีพ่ ลเมืองในหลักสูตร ESOL คุณจะต้องเรียน หลักสูตรนี้หากคุณมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษทั่วไปต�่ำกว่าระดับ ESOL Entry Level 3 หลักสูตรนี้จะช่วยยกระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของคุณ และคุณจะ ได้เรียนรู้ถึงการด�ำรงชีวิตในสหราชอาณาจักรมากยิ่งขึ้น ในตอนท้ายของหลักสูตรจะมีการ ทดสอบวัดความรู้ของคุณ Once you have passed one of these tests, you can make an application for permanent residence or British citizenship. The form that you have to complete and the evidence that you need to provide will depend on your personal circumstances. There is a fee for submitting an application, which is different for the various types of application. All of the forms and a list of fees can be found on the UK Border Agency website, www.ukba.homeoffice.gov.uk เมือ่ คุณสอบผ่านข้อสอบเหล่านีแ้ ล้ว คุณสามารถยืน่ ค�ำขออยูอ่ าศัยแบบถาวรหรือเป็นพลเมือง อังกฤษได้ คุณจะต้องกรอกแบบฟอร์มและแสดงหลักฐานประกอบค�ำขอทีถ่ กู ต้องและเหมาะสม ตามสถานภาพส่วนตัวของคุณ และจะต้องช�ำระค่าธรรมเนียมในการยืน่ ค�ำขอ ซึง่ ค่าธรรมเนียม เหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามประเภทของค�ำขอ คุณสามารถหาดูแบบฟอร์มและรายการ ค่าธรรมเนียมทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ของ UK Border Agency (หน่วยงานก�ำกับดูแลคนเข้าเมือง ของสหราชอาณาจักร) www.ukba.homeoffice.gov.uk
Life in the UK 15
From October 2013, the requirements will change. From that date, for permanent residence or British citizenship, you will need to: • Pass the Life in the UK test AND • Produce acceptable evidence of speaking and listening skills in English at B1 of the Common European Framework of Reference. This is equivalent to ESOL Entry Level 3. ตัง้ แต่เดือนตุลาคม ค.ศ. 2013 เป็นต้นไป จะมีการเปลีย่ นแปลงข้อก�ำหนดเหล่านี้ และตัง้ แต่ วันทีด่ งั กล่าว ผูท้ ปี่ ระสงค์จะยืน่ ค�ำขออยูอ่ าศัยแบบถาวร หรือเป็นพลเมืองอังกฤษ จะต้อง: • สอบผ่าน Life in the UK และ • แสดงหลักฐานรับรองความรู้ความสามารถในการพูดและการฟังภาษาอังกฤษระดับ B1 ซึ่ง เป็นที่ยอมรับตามกรอบบังคับอ้างอิงร่วมของยุโรป (CEFR) และเทียบเท่ากับระดับ Entry Level 3 ของหลักสูตร ESOL The requirements for citizenship applications may also change in the future. Further details will be published on the UK Border Agency website and you should check the information on that website for current requirements before applying for settlement or citizenship. ข้อก�ำหนดส�ำหรับการยืน่ ค�ำขอเป็นพลเมืองอังกฤษอาจมีการเปลีย่ นแปลงต่อไปในอนาคตด้วย เช่นกัน เว็บไซต์ของ UK Border Agency จะตีพมิ พ์รายละเอียดเพิม่ เติมในเรือ่ งนี้ คุณควรตรวจ สอบข้อมูลเกี่ยวกับข้อก�ำหนดในปัจจุบันในเว็บไซต์ดังกล่าวก่อนที่จะยื่นค�ำขอตั้งถิ่นฐาน หรือ ยื่นค�ำขอเป็นพลเมืองอังกฤษ TAKING THE LIFE IN THE UK TEST
การสอบข้อสอบ Life in the UK (ชีวิตในประเทศสหราชอาณาจักร)
This handbook will help prepare you for taking the Life in the UK test. The test consists of 24 questions about important aspects of life in the UK. Questions are based on ALL parts of the handbook. The 24 questions will be different for each person taking the test at that test session. 16 Life in the UK 3rd Edition
หนังสือคู่มือนี้จะช่วยคุณในการเตรียมตัวสอบ Life in the UK ข้อสอบนี้จะมีค�ำถาม 24 ข้อ ซึง่ เป็นค�ำถามเกีย่ วกับชีวติ ในด้านต่างๆ ทีส่ �ำคัญในสหราชอาณาจักร ค�ำถามเหล่านีจ้ ะเกีย่ วข้อง กับเนื้อหาจากทุกๆส่วนในหนังสือคู่มือและค�ำถามทั้ง 24 ข้อนี้จะแตกต่างกันไปส�ำหรับผู้เข้า สอบแต่ละคนที่สอบในช่วงเวลาสอบเดียวกัน The Life in the UK test is usually taken in English, although special arrangements can be made if you wish to take it in Welsh or Scottish Gaelic. ปกติการสอบข้อสอบ Life in the UK จะเป็นภาษาอังกฤษ แต่หากคุณต้องการที่จะสอบ เป็นภาษาเวลส์ หรือภาษาเกลิกของชาวสก็อตแลนด์ ก็จะมีการจัดการให้เป็นพิเศษตามความ ต้องการของคุณได้ You can only take the test at a registered and approved Life in the UK test centre. There are about 60 test centres around the UK. You can only book your test online, at www.lifeintheuktest.gov.uk. You should not take your test at any other establishment as the UK Border Agency will only accept certificates from registered test centres. If you live on the Isle of Man or in the Channel Islands, there are different arrangements for taking the Life in the UK test. คุณสามารถเข้าสอบได้ทศี่ นู ย์การสอบ Life in the UK ทีจ่ ดทะเบียนและได้รบั การรับรองแล้ว เท่านัน้ ศูนย์การสอบเหล่านีม้ ปี ระมาณ 60 แห่งทัว่ ประเทศสหราชอาณาจักร คุณสามารถจอง ทีน่ งั่ สอบของคุณได้ทางออนไลน์เท่านัน้ โดยจองที่ www.lifeintheuktest.gov.uk คุณไม่ควร ไปสอบทีส่ ถาบันอืน่ เนือ่ งจากหน่วยงาน UK Border Agency จะยอมรับใบรับรองจากศูนย์การ สอบจดทะเบียนเท่านั้น หากคุณอาศัยอยู่ในเกาะแมน (Isle of Man) หรือในหมู่เกาะช่องแคบ อังกฤษ (Channel Islands) วิธีด�ำเนินการสอบข้อสอบ Life in the UK จะแตกต่างกัน When booking your test, read the instructions carefully. Make sure you enter your details correctly. You will need to take some identification and proof of your address with you to the test. If you don’t take these, you will not be able to take the test. ในการจองที่นั่งสอบ คุณควรอ่านค�ำแนะน�ำอย่างรอบคอบ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวคุณอย่างถูกต้องดีแล้ว คุณจะต้องน�ำหลักฐานแสดงตัว และ หลักฐานที่อยู่ของคุณติดตัวไปด้วยในวันสอบ หากคุณไม่น�ำหลักฐานเหล่านี้ไปแสดง คุณจะ ไม่สามารถเข้าสอบได้
Life in the UK 17
HOW TO USE THIS HANDBOOK
วิธีการใช้หนังสือคู่มือเล่มนี้
Everything that you will need to know to pass the Life in the UK test is included in this handbook. The questions will be based on the whole book, including this introduction, so make sure you study the entire book thoroughly. The handbook has been written to ensure that anyone who can read English at ESOL Entry Level 3 or above should have no difficulty with the language. หนังสือคู่มือเล่มนี้มีข้อมูลทุกอย่างที่คุณจ�ำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อสอบผ่าน Life in the UK ใน ข้อสอบจะมีค�ำถามเกีย่ วกับเนือ้ หาทัง้ หมดในหนังสือคูม่ อื รวมถึงค�ำน�ำนีด้ ว้ ย จึงขอให้คณ ุ ศึกษา ข้อมูลในหนังสือโดยตลอด หนังสือคูม่ อื นีจ้ ดั ท�ำขึน้ โดยใช้ภาษาอังกฤษทีเ่ ห็นแล้วว่าไม่ยากเกินไป ส�ำหรับผู้ที่มีความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษระดับ ESOL Entry Level 3 หรือสูงกว่านี้ The glossary at the back of the handbook contains some key words and phrases, which you might find helpful. อภิธานศัพท์ในตอนท้ายของหนังสือคูม่ อื จะมีค�ำและวลีทสี่ �ำคัญๆ ซึง่ อาจเป็นประโยชน์ส�ำหรับคุณ The ‘Check that you understand’ boxes are for guidance. They will help you to identify particular things that you should understand. Just knowing the things highlighted in these boxes will not be enough to pass the test. You need to make sure that you understand everything in the book, so please read the information carefully. กรอบ ‘ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ’ ได้จัดท�ำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางส�ำหรับช่วยคุณในการ มองหาสิ่งต่างๆ ที่คุณควรเรียนรู้และเข้าใจเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้เฉพาะเรื่องที่ เน้นไว้ในกรอบเหล่านี้ยังนับว่าไม่เพียงพอที่จะช่วยให้คุณสอบผ่านได้ คุณจะต้องทบทวนให้ แน่ใจว่าคุณได้เรียนรูแ้ ละเข้าใจทุกเนือ้ หาทีม่ อี ยูใ่ นหนังสือแล้ว ดังนัน้ จึงขอให้คณ ุ อ่านหนังสือ คู่มือเล่มนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
18 Life in the UK 3rd Edition
WHERE TO FIND MORE INFORMATION
การหาข้อมูลเพิ่มเติม
You can find out more information from the following places: • The UK Border Agency website: www.ukba.homeoffice.gov.uk for more information about the application process and the forms you will need to complete • The Life in the UK test website: www.lifeintheuktest.gov.uk for more information about the test and how to book a place to take one • Gov.uk (www.gov.uk) for information about ESOL courses and how to find one in your area. คุณสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแหล่งข้อมูลต่อไปนี้: • หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการยื่นค�ำขอและแบบฟอร์มที่คุณต้องกรอกรายละเอียด เกี่ยวกับตัวคุณได้ที่เว็บไซต์ของหน่วยงาน UK Border Agency (www.ukba.homeoffice. gov.uk) • หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบและวิธีการจองที่นั่งสอบ Life in the UK ได้ที่เว็บไซต์ เกี่ยวกับการสอบ Life in the UK (www.lifeintheuktest.gov.uk) • หาข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร ESOL และสถานที่เปิดสอนหลักสูตร ESOL ใกล้บ้านคุณได้ที่ Gov.uk (www.gov.uk) CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The origin of the values underlying British society √ The fundamental principles of British life √ The responsibilities and freedoms which come with permanent residence √ The process of becoming a permanent resident or citizen √ รากฐานที่มาของคุณค่าที่ส�ำคัญอันเป็นพื้นฐานรองรับสังคมอังกฤษ √ หลักการที่ส�ำคัญส�ำหรับปวงชนชาวอังกฤษ √ ความรับผิดชอบและสิทธิเสรีภาพที่มาพร้อมกับสถานะผู้อยู่อาศัยแบบถาวร √ กระบวนการยื่นค�ำขออยู่อาศัยแบบถาวร หรือการยื่นค�ำขอเป็นพลเมืองอังกฤษ Life in the UK 19
IT’S A LONG JOURNEY FROM YOUR SPOUSE VISA TO GETTING A BRITISH PASSPORT. We are here to help you on that path and make sure you don’t make a mistake. The rules are complicated and whilst they may appear simple the applications are not always. We can assist you with either a full service where we do the applications or where you can have your application checked over by us. As we have Thai Caseworkers and English speakers in the office we can make sure nothing is lost in translation. We meet many people who’ve come to us because they’ve been turned down. The cost of making that right far exceeds having it done properly in the first place.
22 Life in the UK 3rd Edition
CHAPTER 2
WHAT IS THE
UNITED
Kingdom?
ความหมายของคำ�ว่าสหราชอาณาจักร
WHAT IS THE UNITED KINGDOM?
24 Life in the UK 3rd Edition
The UK is made up of England, Scotland, Wales and Northern Ireland. The rest of Ireland is an independent country. สหราชอาณาจักรประกอบด้วยประเทศต่างๆ 4 ประเทศ คือ อังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ ไอร์แลนด์ส่วนที่เหลือมีสถานะเป็นประเทศเอกราช
SCOTLAND
NORTHERN IRELAND WALES
ENGLAND
The official name of the country is the United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland. ‘Great Britain’ refers only to England, Scotland and Wales, not to Northern Ireland. The words ‘Britain’, ‘British Isles’ or ‘British’, however, are used in this book to refer to everyone in the UK. สหราชอาณาจักรมีชอื่ เรียกเป็นทางการว่า ‘สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ’ (United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland) ค�ำว่า ‘บริเตนใหญ่’ หมาย ถึง อังกฤษ สก็อตแลนด์ และเวลส์ ยกเว้นไอร์แลนด์เหนือ อย่างไรก็ตาม ในหนังสือเล่มนี้จะ ใช้ค�ำว่า ‘บริเตน’ ‘หมู่เกาะอังกฤษ’ หรือ ‘อังกฤษ’ เพื่ออ้างถึงทุกคนในสหราชอาณาจักร
Life in the UK 25
There are also several islands which are closely linked with the UK but are not part of it: the Channel Islands and the Isle of Man. These have their own governments and are called ‘Crown dependencies’. There are also several British overseas territories in other parts of the world, such as St Helena and the Falkland Islands. They are also linked to the UK but are not a part of it. นอกจากนี้ ยังมีเกาะต่างๆ อีกมากที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหราชอาณาจักร แต่ไม่ได้เป็น ส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ได้แก่ หมู่เกาะช่องแคบอังกฤษ (Channel Islands) และ เกาะแมน (Isle of Man) หมู่เกาะเหล่านี้มีรัฐบาลปกครองตนเอง และได้ชื่อว่าเป็น ‘ดินแดน ของราชวงศ์อังกฤษที่มีอิสรภาพปกครองตนเอง (Crown dependencies)’ และยังมีดินแดน โพ้นทะเลของอังกฤษอีกมากในพืน้ ทีส่ ว่ นต่างๆ ของโลก เช่น หมูเ่ กาะเซนต์เฮเลน่า (St Helena) และหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ (Falkland) ซึ่งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับสหราชอาณาจักร แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร The UK is governed by the parliament sitting in Westminster. Scotland, Wales and Northern Ireland also have parliaments or assemblies of their own, with devolved powers in defined areas. สหราชอาณาจักรอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐสภาที่ประชุมอภิปรายกันในเวสต์มินสเตอร์ ส�ำหรับสก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือจะมีรัฐสภาหรือสภาแห่งชาติที่มีอ�ำนาจในการ ปกครองและดูแลกิจการบางอย่างของตนเองตามที่ก�ำหนดไว้
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The different countries that make up the UK √ ประเทศต่างๆ ที่รวมตัวกันเป็นสหราชอาณาจักร
26 Life in the UK 3rd Edition
CPF IS A WORLD CLASS FOOD PRODUCER, AND WE ARE DEDICATED TO CREATING REAL FOOD.
FOOD THAT IS • healthy and safe • consistent, traceable, and reliable • innovative and unusual • tailor-made for our customers’ requirements We are one of the largest added value food producers in the world. Our vision statement incorporates the message that we will be the
“Kitchen of the World”. The company is based in Thailand and we have manufacturing facilities throughout South East Asia.
www.cpfworldwide.com www.cpthailand.com CP Foods (UK) Limited is a member of the CPF Group of companies, and is the UK division of the worldwide CPF Group
28 Life in the UK 3rd Edition
CHAPTER 3
A LONG
history AND
ILLUSTRIOUS
ประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และยาวนาน
Life in the UK 29
CHAPTER CONTENTS • Early Britain • The Middle Ages • The Tudors and Stuarts • A global power • The 20th century • Britain since 1945
เนื้อหาในบทนี้
• ยุคแรกของอังกฤษ • ประวัติศาสตร์ยุคกลาง • ราชวงศ์ทิวดอร์และราชวงศ์สจ๊วร์ต • ยุคอังกฤษครองโลก • ยุคศตวรรษที่ 20 • อังกฤษตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945
EARLY BRITAIN
ยุคแรกของอังกฤษ
The first people to live in Britain were hunter-gatherers, in what we call the Stone Age. For much of the Stone Age, Britain was connected to the continent by a land bridge. People came and went, following the herds of deer and horses which they hunted. Britain only became permanently separated from the continent by the Channel about 10,000 years ago. คนกลุ่มแรกที่อาศัยอยู่ในอังกฤษเป็นชนเผ่า เร่ร่อนล่าสัตว์และแสวงหาของกินในป่าในสมัย ที่เราเรียกกันว่ายุคหิน ช่วงเวลาส่วนใหญ่ในยุค หินนี้ อังกฤษกับผืนแผ่นดินใหญ่ยุโรปยังมีแผ่น ดินเชื่อมต่อถึงกัน ผู้คนในเวลานั้นได้ใช้แผ่นดิน เชื่อมต่อนี้เป็นทางสัญจรไปมาระหว่างอังกฤษ กับผืนแผ่นดินใหญ่ยโุ รปเพือ่ ตามล่าและไล่ตอ้ น ฝูงกวางและม้า อย่างไรก็ตาม เมื่อประมาณ 10,000 ปีลว่ งมาแล้ว แผ่นดินเชือ่ มต่อนีไ้ ด้หาย ไปและเกิดเป็นช่องแคบที่ตัดขาดอังกฤษออก จากผืนแผ่นดินใหญ่ยุโรปโดยสิ้นเชิง
30 Life in the UK 3rd Edition
The World Heritage Site of Stonehenge แหล่งมรดกโลก สโตนเฮนจ์
The first farmers arrived in Britain 6,000 years ago. The ancestors of these first farmers probably came from south-east Europe. These people built houses, tombs and monuments on the land. One of these monuments, Stonehenge, still stands in what is now the English county of Wiltshire. Stonehenge was probably a special gathering place for seasonal ceremonies. Other Stone Age sites have also survived. Skara Brae on Orkney, off the north coast of Scotland, is the best preserved prehistoric village in northern Europe, and has helped archaeologists to understand more about how people lived near the end of the Stone Age. ชาวไร่ชาวนากลุ่มแรกได้เดินทางเข้ามาในอังกฤษเมื่อ 6,000 ปีล่วงมาแล้ว บรรพบุรุษของ ชาวไร่ชาวนารุ่นแรกคงจะมาจากยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ชนกลุ่มนี้ได้ก่อสร้างบ้านเรือน หลุม ฝังศพและอนุสาวรีย์ขึ้นมาในที่ดินอังกฤษ หนึ่งในอนุสาวรีย์เหล่านี้ คือ สโตนเฮนจ์ ที่ยังคงตั้ง อยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นมณฑลวิลท์เชียร์ของอังกฤษในปัจจุบัน ผู้คนสมัยนั้นคงจะใช้สโตนเฮนจ์เป็น สถานชุมนุมพิเศษส�ำหรับประกอบพิธเี ฉลิมฉลองตามฤดูกาล นอกจากนี้ ยังมีแหล่งชุมชนยุคหิน อื่นๆ หลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน เช่น สแกร่า เบร (Skara Brae) บนเกาะออร์คนีย์ นอกชายฝั่ง ทางเหนือของสก็อตแลนด์ สแกร่า เบร เป็นหมูบ่ า้ นยุคก่อนประวัตศิ าสตร์ในยุโรปเหนือทีย่ งั คง สภาพเดิมไว้ได้ดีที่สุด และช่วยให้นักโบราณคดีได้เรียนรู้เข้าใจเกี่ยวกับการด�ำรงชีวิตของผู้คน ในสมัยยุคหินตอนปลายได้มากยิ่งขึ้น Life in the UK 31
Around 4,000 years ago, people learned to make bronze. We call this period the Bronze Age. People lived in roundhouses and buried their dead in tombs called round barrows. The people of the Bronze Age were accomplished metalworkers who made many beautiful objects in bronze and gold, including tools, ornaments and weapons. The Bronze Age was followed by the Iron Age, when people learned how to make weapons and tools out of iron. People still lived in roundhouses, grouped together into larger settlements, and sometimes defended sites called hill forts. A very impressive hill fort can still be seen today at Maiden Castle, in the English county of Dorset. Most people were farmers, craft workers or warriors. The language they spoke was part of the Celtic language family. Similar languages were spoken across Europe in the Iron Age, and related languages are still spoken today in some parts of Wales, Scotland and Ireland. The people of the Iron Age had a sophisticated culture and economy. They made the first coins to be minted in Britain, some inscribed with the names of Iron Age kings. This marks the beginnings of British history. เมือ่ ประมาณ 4,000 ปีลว่ งมาแล้ว มนุษย์เราได้เรียนรูก้ ารท�ำเครือ่ งมือเครือ่ งใช้จากทองสัมฤทธิ์ เราเรียกยุคนั้นว่า ‘ยุคทองสัมฤทธิ์’ ผู้คนสมัยนั้นอาศัยอยู่ในบ้านทรงกลม และฝังศพคนตาย ไว้ในหลุมฝังศพที่เรียกว่าเนินดินกลม คนในยุคทองสัมฤทธิ์เป็นช่างโลหะที่มีฝีมือสูง ช่างโลหะ เหล่านี้ได้ประดิษฐ์สิ่งของที่สวยงามจากทองสัมฤทธิ์และทองขึ้นมามากมาย อาทิ เครื่องมือ เครื่องประดับตกแต่ง และอาวุธ ต่อจากยุคทองสัมฤทธิ์ คือ ยุคเหล็ก เป็นยุคที่มนุษย์เราเรียน รู้วิธีการน�ำเหล็กมาใช้ท�ำเป็นอาวุธและเครื่องมือเครื่องใช้ อย่างไรก็ตาม ผู้คนในยุคนั้นยังคง อาศัยอยูใ่ นบ้านทรงกลม และตัง้ ถิน่ ฐานเป็นกลุม่ ใหญ่รวมกัน และบางครัง้ ก็ชว่ ยกันสูร้ บป้องกัน ป้อมปราการที่เรียกว่าป้อมเนิน ปัจจุบันนี้ยังมีป้อมเนินที่น่าประทับใจหลงเหลืออยู่ที่ปราสาท เมเด็นในมณฑลดอร์เส็ทของอังกฤษ คนส่วนใหญ่ในยุคนั้นมีอาชีพเป็นชาวไร่ชาวนา ช่างฝีมือ หรือนักรบ ภาษาทีพ่ ดู เป็นส่วนหนึง่ ของตระกูลภาษาเซลติก ผูค้ นทัว่ ทวีปยุโรปในยุคเหล็กก็พดู ภาษาที่คล้ายคลึงกัน ในปัจจุบันผู้คนในพื้นที่บางส่วนของเวลส์ สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์ยัง คงพูดภาษาที่เกี่ยวเนื่องกับภาษาเซลติกอยู่ มนุษย์ยุคเหล็กมีวัฒนธรรมและระบบเศรษฐกิจที่ ละเอียดซับซ้อน คนยุคนี้ได้ท�ำเหรียญกษาปณ์ขึ้นมาในอังกฤษเป็นครั้งแรก เหรียญบางชนิด จารึกพระนามของกษัตริยบ์ างองค์ในยุคเหล็ก และนีค่ อื จุดเริม่ ต้นของประวัตศิ าสตร์แห่งอังกฤษ
32 Life in the UK 3rd Edition
The Romans
อังกฤษยุคโรมัน
Julius Caesar led a Roman invasion of Britain in 55 BC. This was unsuccessful and for nearly 100 years Britain remained separate from the Roman Empire. In AD 43 the Emperor Claudius led the Roman army in a new invasion. This time, there was resistance from some of the British tribes but the Romans were successful in occupying almost all of Britain. One of the tribal leaders who fought against the Romans was Boudicca, the queen of the Iceni in what is now eastern England. She is still remembered today and there is a statue of her on Westminster Bridge in London, near the Houses of Parliament. เมือ่ 55 ปีกอ่ นคริสตศักราช จูเลียส ซีซาร์ ได้นำ� ทัพโรมันเข้ารุกรานอังกฤษแต่ไม่สำ� เร็จ อังกฤษ ยังคงเป็นอิสระจากการแผ่อ�ำนาจยึดครองของจักรวรรดิโรมันนานเกือบ 100 ปี อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ. 43 จักรพรรดิคลอเดียสได้น�ำทัพโรมันบุกเข้ามาในอังกฤษอีก และครั้งนี้ชนพื้นเมือง อังกฤษบางเผ่าได้ต่อสู้ป้องกันดินแดนของตน แต่ทัพโรมันมีชัยชนะสามารถเข้ายึดครองพื้นที่ เกือบทั้งหมดของอังกฤษได้ หนึ่งในบรรดาผู้น�ำเผ่าที่สู้รบกับชาวโรมัน คือ พระราชินีบูดิกกา ผูน้ ำ� ชนเผ่าไอซินซี งึ่ เคยครอบครองพืน้ ทีภ่ าคตะวันออกของอังกฤษในปัจจุบนั ทุกวันนีช้ าวอังกฤษ ยังคงระลึกถึงพระราชินบี ดู กิ กา และมีอนุสาวรียข์ องพระนางอยูบ่ นสะพานเวสต์มนิ สเตอร์ใกล้ กับตึกรัฐสภาในกรุงลอนดอน Areas of what is now Scotland were never conquered by the Romans, and the Emperor Hadrian built a wall in the north of England to keep out the Picts (ancestors of the Scottish people). Included in the wall were a number of forts. Parts of Hadrian’s Wall, including the forts of Housesteads and Vindolanda, can still be seen. It is a popular area for walkers and is a UNESCO (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) World Heritage Site. อาณาบริเวณที่เป็นพื้นที่สก็อตแลนด์ในปัจจุบันไม่เคยตกอยู่ภายใต้การยึดครองของชาวโรมัน และจักรพรรดิเฮเดรียนได้ทรงสร้างก�ำแพงขึน้ มาในพืน้ ทีต่ อนเหนือของอังกฤษ เพือ่ ป้องกันการ รุกรานจากชนเผ่าพิกต์ (บรรพบุรษุ ของชาวสก็อตแลนด์) นอกจากจะสร้างก�ำแพงแล้ว ยังมีการ สร้างป้อมปราการขึ้นมาด้วย บางส่วนของก�ำแพงเฮเดรียน ตลอดจนป้อมเฮาส์สเตด และป้อม วินโดแลนดา ยังมีปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน ก�ำแพงเฮเดรียนเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยม จากนักเดินเที่ยว และได้รับเลือกให้เป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ) Life in the UK 33
The Romans remained in Britain for 400 years. They built roads and public buildings, created a structure of law, and introduced new plants and animals. It was during the 3rd and 4th centuries AD that the first Christian communities began to appear in Britain. ชาวโรมันปักหลักอยู่ในอังกฤษเป็นเวลานาน 400 ปี และได้สร้างถนนและอาคารสาธารณะ ตลอดจนจัดวางระเบียบโครงสร้างทางกฎหมาย และน�ำพืชพันธุ์และสัตว์ชนิดใหม่เข้ามาใน อังกฤษ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 และที่ 4 ชุมชนชาวคริสต์กลุ่มแรกได้เริ่มปรากฏตัวขึ้นใน อังกฤษ The Anglo-Saxons
อังกฤษยุคแองโกล-แซกซัน The Roman army left Britain in AD 410 to defend other parts of the Roman Empire and never returned. Britain was again invaded by tribes from northern Europe: the Jutes, the Angles and the Saxons. The languages they spoke are the basis of modern-day English. Battles were fought against these invaders but, by about AD 600, Anglo-Saxon kingdoms were established in Britain. These kingdoms were mainly in what is now England. The burial place of one of the kings was at Sutton Hoo in modern Suffolk. This king was buried with treasure and armour, all placed in a ship which was then covered by a mound of earth. Parts of the west of Britain, including much of what is now Wales, and Scotland, remained free of Anglo¬Saxon rule. ทัพโรมันได้เดินทางออกจากอังกฤษในปี ค.ศ. 410 เพื่อไปท�ำสงครามสู้รบป้องกันดินแดน ส่วนอื่นๆ ของจักรวรรดิโรมัน และไม่ได้ยกทัพกลับเข้ามาในอังกฤษอีกเลย จากนั้นอังกฤษได้ ถูกชนเผ่าอื่นๆ จากตอนเหนือของยุโรปรุกรานเข้ามา ได้แก่ เผ่าจูท แองเกิล และแซกซัน ชน เผ่าเหล่านีพ้ ดู ภาษาทีเ่ ป็นรากฐานของภาษาอังกฤษยุคปัจจุบนั ชาวพืน้ เมืองในอังกฤษได้ทำ� การ สู้รบกับผู้รุกรานเหล่านี้ แต่ในราวปี ค.ศ. 600 ผู้บุกรุกก็สามารถสถาปนาอาณาจักรแองโกลแซกซันขึ้นมาได้ในอังกฤษ อาณาจักรเหล่านี้ครอบครองพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่คือประเทศอังกฤษ ปัจจุบัน เวลานี้ยังมีที่ฝังพระศพของกษัตริย์องค์หนึ่งอยู่ที่ซัททันฮูในมณฑลซัฟโฟล์ค พระศพ ของกษัตริย์องค์นี้ได้ถูกฝังพร้อมทรัพย์สมบัติและเสื้อเกราะวางรวมกันไว้ในเรือ แล้วฝังกลบ ด้วยเนินดินพูนสูง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ทางตะวันตกของอังกฤษ รวมถึงดินแดนส่วนใหญ่ที่เป็น เวลส์ และสก็อตแลนด์ในปัจจุบัน ยังคงเป็นอิสระจากการยึดครองของชาวแองโกล-แซกซัน 34 Life in the UK 3rd Edition
The Anglo-Saxons were not Christians when they first came to Britain but, during this period, missionaries came to Britain to preach about Christianity. Missionaries from Ireland spread the religion in the north. The most famous of these were St Patrick, who would become the patron saint of Ireland (see page 151 for more about patron saints), and St Columba, who founded a monastery on the island of lona, off the coast of what is now Scotland. St Augustine led missionaries from Rome, who spread Christianity in the south. St Augustine became the first Archbishop of Canterbury (see page 150 for more about the Archbishop of Canterbury and the Church in Britain today). เมื่อเข้ามาในอังกฤษครั้งแรก กลุ่มชนแองโกล-แซกซันยังไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ แต่ในช่วง เวลานี้ได้มีคณะผู้เผยแผ่ศาสนาเดินทางเข้ามาเผยแพร่ค�ำสอนของศาสนาคริสต์ที่อังกฤษ คณะผู้เผยแผ่ศาสนาจากไอร์แลนด์ได้ท�ำการเผยแผ่ศาสนาในภาคเหนือ พระที่มีชื่อเสียงมาก ที่สุด คือ นักบุญเซนต์แพทริค ซึ่งต่อมาได้รับยกย่องเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของไอร์แลนด์ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักบุญองค์อุปถัมภ์ที่หน้า 151) และนักบุญเซนต์โคลัมบา ผู้ก่อตั้ง วัดบนเกาะไอโอนานอกชายฝ่ังพื้นที่สก็อตแลนด์ในปัจจุบัน นักบุญเซนต์ออกัสตินได้น�ำคณะ ผู ้ เ ผยแผ่ ศ าสนาเดินทางจากกรุงโรมเข้ามาเผย แผ่ค ริส ตศาสนาในภาคใต้ และนัก บุญ เซนต์ออกัสตินได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัครสังฆราชแห่งแคนเทอร์เบอรี่ (Archbishop of Canterbury) องค์แรกของอังกฤษ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัครสังฆราชแห่งแคนเทอร์เบอรี่ และคริสตจักรของอังกฤษในปัจจุบันที่หน้า 150) An Anglo-Saxon helmet found at Sutton Hoo -currently on display at the British Museum หมวกเหล็กของชาวแองโกล-แซกซัน พบที่ซัททันฮู จัดแสดงที่พิพิธิภัณฑ์บริติช มิวเซียมในปัจจุบัน
Life in the UK 35
The Vikings
อังกฤษยุคไวกิ้ง
The Vikings came from Denmark and Norway. They first visited Britain in AD 789 to raid coastal towns and take away goods and slaves. Then, they began to stay and form their own communities in the east of England and Scotland. The AngloSaxon kingdoms in England united under King Alfred the Great who defeated the Vikings. Many of the Viking invaders stayed in Britain - especially in the east and north of England, in an area known as the Danelaw (many place names there, such as Grimsby and Scunthorpe, come from the Viking languages). The Viking settlers mixed with local communities and some converted to Christianity. ชาวไวกิ้งเป็นกลุ่มชนจากเดนมาร์กและนอร์เวย์ พวกไวกิ้งบุกเข้ามาในอังกฤษครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 789 เพือ่ ปล้นสินค้าในเมืองต่างๆ ทีต่ งั้ อยูบ่ นชายฝ่งั ทะเลและจับตัวผูค้ นไปเป็นทาส จากนัน้ ชาวไวกิง้ ได้เริม่ เข้ามาอาศัยอยูแ่ ละตัง้ ชุมชนของตนเองขึน้ มาในภาคตะวันออกของอังกฤษและ สก็อตแลนด์ พระเจ้าอัลเฟร็ดมหาราชได้ทรงผนวกอาณาจักรแองโกล-แซกซันต่างๆ ในอังกฤษ เข้าด้วยกัน และน�ำทัพเข้าสู้รบและตีพวกไวกิ้งแตกพ่ายไป อย่างไรก็ตามชาวไวกิ้งผู้รุกราน จ�ำนวนมากยังคงอาศัยอยู่ในอังกฤษต่อไป โดยเฉพาะในภาคตะวันออกและภาคเหนือของ อังกฤษ ในอาณาบริเวณทีเ่ รียกว่า เดนลอว์ (ชือ่ สถานทีห่ ลายแห่งทีน่ นั่ เช่น กริมสบี และสกันธอร์ป เป็นชื่อที่มาจากภาษาไวกิ้ง) ชาวไวกิ้งที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่ได้แต่งงานและมีความสัมพันธ์กับคน ในชุมชนพื้นเมืองและบางคนหันมานับถือศาสนาคริสต์ Anglo-Saxon kings continued to rule what is now England, except for a short period when there were Danish kings. The first of these was Cnut also called Canute. กษัตริยช์ าวแองโกล-แซกซัน ยังคงปกครองอาณาบริเวณซึง่ เป็นพืน้ ทีป่ ระเทศอังกฤษใน ปัจจุบนั ยกเว้นช่วงระยะเวลาหนึ่งที่มีกษัตริย์ชาวเดนมาร์กปกครอง กษัตริย์ชาวเดนมาร์กองค์แรกมี พระนามว่า คนูท หรือคานูท In the north, the threat of attack by Vikings had encouraged the people to unite under one king, Kenneth MacAlpin. The term Scotland began to be used to describe that country. กลุม่ ชนในภาคเหนือทีห่ วาดเกรงการบุกรุกโจมตีจากพวกไวกิง้ ได้เข้ารวมตัวกันอยูภ่ ายใต้การน�ำ ของกษัตริย์ เคนเนธ แม็คอัลพิน และเริ่มมีการใช้ค�ำว่า ‘สก็อตแลนด์’ เพื่อพูดถึงประเทศใน ส่วนนั้น 36 Life in the UK 3rd Edition
The Norman Conquest
ยุคนอร์มันครองเมือง
In 1066, an invasion led by William, the Duke of Normandy (in what is now northern France), defeated Harold, the Saxon king of England, at the Battle of Hastings. Harold was killed in the battle. William became king of England and is known as William the Conqueror. The battle is commemorated in a great piece of embroidery, known as the Bayeux Tapestry, which can still be seen in France today. ในปี ค.ศ. 1066 วิลเลียม ดยุคแห่งนอร์มังดี (พื้นที่ตอนเหนือของฝรั่งเศสในปัจจุบัน) ได้ทรง ยกทัพบุกเข้ามาในอังกฤษ พระเจ้าแฮโรลด์ กษัตริย์ชาวแซกซันแห่งอังกฤษพ่ายแพ้ต่อ วิลเลียมในการสูร้ บทีเ่ มืองเฮสติง้ ส์ พระเจ้าแฮโรลด์ทรงถูกฆ่าตายในสนามรบ วิลเลียมได้รบั การ สถาปนาขึน้ เป็นกษัตริยแ์ ห่งอังกฤษ และมีสมญานามว่า ‘วิลเลียมผูพ้ ชิ ติ ’ การรบทีส่ มรภูมเิ ฮสติง้ ส์ เป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้เป็นอนุสรณ์ในผลงานเย็บปัก ถักร้อยฝีมือเยี่ยมที่เรียกว่า ผ้าปักบายู (Bayeux Tapestry) ซึ่งยังคงสามารถชมกันได้ที่ฝรั่งเศสในปัจจุบัน Part of the Bayeux Tapestry -the linen cloth is nearly 70 metres (230 feet) long and is embroidered with coloured wool ส่วนหนึ่งของผ้าปักบายู ผ้าลินินความยาวเกือบ 70 เมตร ถักร้อยด้วยไหมพรมหลายสี
The Norman Conquest was the last successful foreign invasion of England and led to many changes in government and social structures in England. Norman French, the language of the new ruling class, influenced the development of the English language as we know it today. Initially the Normans also conquered Wales, but the Welsh gradually won territory back. The Scots and the Normans fought on the border between England and Scotland; the Normans took over some land on the border but did not invade Scotland. ชัยชนะของชาวนอร์มันเป็นความส�ำเร็จครั้งสุดท้ายของชนต่างแดนที่รุกรานเข้ามายึด ครอง อังกฤษ และได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมายในระเบียบการปกครองและ Life in the UK 37
โครงสร้างสังคมของอังกฤษ ภาษานอร์มันเฟรนช์ซึ่งเป็นภาษาของชนชั้นปกครองกลุ่มใหม่ ได้ มีอิทธิพลต่อวิวัฒนาการของภาษาอังกฤษที่เรารู้จักทุกวันนี้ ในช่วงแรกๆ ชาว นอร์มันได้เข้า ยึดครองเวลส์เช่นกัน แต่ชาวเวลส์ต่อสู้ช่วงชิงดินแดนกลับคืนมาทีละน้อย ชาวสก็อตและชาว นอร์มันได้สู้รบกันในพื้นที่ตามชายแดนระหว่างอังกฤษกับสก็อตแลนด์ ชาวนอร์มันยึดครอง ที่ดินตามชายแดนได้บางส่วน แต่ไม่ได้บุกเข้าไปในสก็อตแลนด์ William sent people all over England to draw up lists of all the towns and villages. The people who lived there, who owned the land and what animals they owned were also listed. This was called the Domesday Book. It still exists today and gives a picture of society in England just after the Norman Conquest. พระเจ้าวิลเลียมได้ทรงส่งคนไปส�ำรวจและจัดท�ำรายชื่อเมืองและหมู่บ้านทุกแห่งทั่วอังกฤษ และสัง่ ให้บนั ทึกรายชือ่ ผูค้ นทีอ่ าศัยอยูแ่ ละเป็นเจ้าของทีด่ นิ ในเมืองและหมูบ่ า้ นเหล่านัน้ ตลอด จนรายการสัตว์ต่างๆ ที่พวกเขามีอยู่ในความครอบครองด้วย เอกสารบันทึกนี้มีชื่อว่า ‘บันทึก ดูมส์เดย์’ ซึง่ ปัจจุบนั นีย้ งั คงมีอยู่ และเป็นเอกสารทีช่ ว่ ยให้มองเห็นภาพสังคมในอังกฤษภายหลัง การยึดครองของชาวนอร์มันได้ดี
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The history of the UK before the Romans √ The impact of the Romans on British society √ The different groups that invaded after the Romans √ The importance of the Norman invasion in 1066 √ ประวัติศาสตร์อังกฤษก่อนยุคโรมัน √ อิทธิพลของชาวโรมันที่มีต่อสังคมอังกฤษ √ กลุ่มชนต่างๆ ที่รุกรานเข้ามาในอังกฤษหลังยุคโรมัน √ ความส�ำคัญของการรุกรานโดยชาวนอร์มันในปี ค.ศ. 1066
38 Life in the UK 3rd Edition
THE MIDDLE AGES
อังกฤษยุคกลาง
War at home and abroad
สงครามภายในและนอกประเทศ
The period after the Norman Conquest up until about 1485 is called the Middle Ages (or the medieval period). It was a time of almost constant war. ระยะหลังจากยุคนอร์มันครองเมืองไปจนถึงราวปี ค.ศ.1485 เป็นช่วงเวลาที่เรียกว่ายุคกลาง (สมัยกลาง) ในช่วงเวลานี้มีสงครามเกิดขึ้นแทบจะไม่ว่างเว้น The English kings fought with the Welsh, Scottish and Irish noblemen for control of their lands. In Wales, the English were able to establish their rule. In 1284 King Edward I of England introduced the Statute of Rhuddlan, which annexed Wales to the Crown of England. Huge castles, including Conwy and Caernarvon, were built to maintain this power. By the middle of the 15th century the last Welsh rebellions had been defeated. English laws and the English language were introduced. กษัตริย์อังกฤษได้สู้รบกับขุนนางหรือชนชั้นสูงชาวเวลส์ สก็อตแลนด์ และไอริชเพื่อเข้าไปมี อ�ำนาจยึดครองทีด่ นิ ของคนเหล่านี้ และต่อมาคนอังกฤษสามารถจัดวางระเบียบปกครองเวลส์ ได้สำ� เร็จ ในปี ค.ศ. 1284 พระเจ้าเอ็ดเวิรด์ ที่ 1 แห่งอังกฤษทรงประกาศใช้บทกฎหมายริธแลน (Statute of Rhuddlan) ผนวกพื้นที่เวลส์ให้เป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์อังกฤษ และได้มีการ สร้างปราสาททีใ่ หญ่โต เช่น ปราสาทคอนวี และปราสาท แคร์นาวอน ขึน้ มาเพือ่ รักษาดุลอ�ำนาจ นี้ไว้ เมื่อถึงกลางศตวรรษที่ 15 อังกฤษก็สามารถปราบกบฎเวลส์ครั้งสุดท้ายได้อย่างราบคาบ และได้น�ำกฎหมายและภาษาอังกฤษเข้ามาใช้ในเวลส์ In Scotland, the English kings were less successful. In 1314 the Scottish, led by Robert the Bruce, defeated the English at the Battle of Bannockburn, and Scotland remained unconquered by the English. แต่กษัตริย์อังกฤษไม่ประสบความส�ำเร็จมากนักในสก็อตแลนด์ ในปี ค.ศ. 1314 โรเบิร์ต เดอะ บรูซได้นำ� ชาวสก็อตแลนด์เข้าต่อสูแ้ ละตีทพั อังกฤษแตกพ่ายไปในการสูร้ บทีแ่ บนน็อคเบิรน์ และ อังกฤษยังคงไม่สามารถเข้ายึดครองสก็อตแลนด์ได้ Life in the UK 39
At the beginning of the Middle Ages, Ireland was an independent country. The English first went to Ireland as troops to help the Irish king and remained to build their own settlements. By 1200, the English ruled an area of Ireland known as the Pale, around Dublin. Some of the important lords in other parts of Ireland accepted the authority of the English king. ในระยะช่ ว งต้ น ของยุ ค กลาง ไอร์ แ ลนด์ มี ส ถานะเป็ น ประเทศเอกราช อั ง กฤษยกทั พ เข้ า ไปในไอร์ แ ลนด์ ค รั้ ง แรกเพื่ อ ช่ ว ยเหลื อ กษั ต ริ ย ์ ไ อริ ช และได้ ตั้ ง ถิ่ น ฐานอยู ่ ต ่ อ ไปใน ไอร์แลนด์ ในปี ค.ศ. 1200 อังกฤษได้เข้าครองพื้นที่รอบเมืองดับลินในไอร์แลนด์ ที่เรียกกัน ว่า เพล (Pale) ซึ่งหมายถึงเขตพื้นที่ในไอร์แลนด์ภายใต้การบังคับของอังกฤษโดยตรง ขุนนาง คนส�ำคัญบางคนในส่วนอื่นๆ ของไอร์แลนด์ได้ยอมรับอ�ำนาจของกษัตริย์อังกฤษ During the Middle Ages, the English kings also fought a number of wars abroad. Many knights took part in the Crusades, in which European Christians fought for control of the Holy Land. English kings also fought a long war with France, called the Hundred Years War (even though it actually lasted 116 years). One of the most famous battles of the Hundred Years War was the Battle of Agincourt in 1415, where King Henry V’s vastly outnumbered English army defeated the French. The English left France in the 1450s. ในช่วงยุคกลาง กษัตริย์อังกฤษยังได้สู้รบท�ำสงครามในต่างประเทศด้วย กษัตริย์หลายองค์ได้ เข้าร่วมสู้รบในสงครามครูเสด ซึ่งเป็นสงครามที่ชาวคริสต์จากยุโรปได้เข้าต่อสู้ แย่งชิงอ�ำนาจ ในการครอบครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์นอกจากนี้กษัตริย์อังกฤษยังได้สู้รบท�ำสงครามระยะยาว กับฝรั่งเศส ที่เรียกกันว่า สงครามร้อยปี (แต่มีการสู้รบกันจริงๆ นานถึง 116 ปี) การสู้รบที่ มีชื่อเสียงมากที่สุดครั้งหนึ่งในสงครามร้อยปี คือ การสู้รบที่แอจินคอร์ทในปี ค.ศ. 1415 ซึ่ง พระเจ้าเฮนรี่ที่ 5 สามารถเอาชนะทัพฝรั่งเศสได้ ทั้งๆ ที่มีทหารน้อยมาก เมื่อเทียบกับจ�ำนวน ทหารฝรั่งเศส อังกฤษได้ออกจากฝรั่งเศสในช่วงทศวรรษปี 1450
40 Life in the UK 3rd Edition
The Black Death มรณะดํา The Normans used a system of land ownership known as feudalism. The king gave land to his lords in return for help in war. Landowners had to send certain numbers of men to serve in the army. Some peasants had their own land but most were serfs. They had a small area of their lord’s land where they could grow food. In return, they had to work for their lord and could not move away. The same system developed in southern Scotland. In the north of Scotland and Ireland, land was owned by members of the ‘clans’ (prominent families). ชาวนอร์มันใช้ระบบการถือครองที่ดินตามระบอบศักดินา กษัตริย์จะมอบที่ดินให้แก่ขุนนาง ของพระองค์ เพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยเหลือพระองค์สู้รบในสงคราม เจ้าของที่ดินจะต้อง ส่งชายฉกรรจ์จำ� นวนหนึง่ ไปเป็นทหารในกองทัพ ชาวนาบางคนมีทดี่ นิ ของตนเอง แต่สว่ นใหญ่ มีสถานะเป็นข้าทาส ข้าทาสเหล่านีจ้ ะมีทดี่ นิ ผืนเล็กๆ ทีข่ นุ นางผูเ้ ป็นเจ้านายอนุญาตให้ใช้เป็น พื้นที่ปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหารได้ และเพื่อเป็นการตอบแทน ข้าทาสเหล่านี้จะต้องท�ำงานให้กับ เจ้านายของตนและจะย้ายไปที่อื่นไม่ได้ ในตอนใต้ของสก็อตแลนด์ได้มีการน�ำระบบเดียวกัน นี้มาใช้ด้วย แต่ในตอนเหนือของสก็อตแลนด์และในไอร์แลนด์ สมาชิกของ ‘ตระกูลชนเผ่า’ (ตระกูลชั้นผู้น�ำ) จะมีสิทธิเ์ป็นเจ้าของที่ดินร่วมกัน In 1348, a disease, probably a form of plague, came to Britain. This was known as the Black Death. One third of the population of England died and a similar proportion in Scotland and Wales. This was one of the worst disasters ever to strike Britain. Following the Black Death, the smaller population meant there was less need to grow cereal crops. There were labour shortages and peasants began to demand higher wages. New social classes appeared, including owners of large areas of land (later called the gentry), and people left the countryside to live in the towns. In the towns, growing wealth led to the development of a strong middle class. ในปี ค.ศ. 1348 ได้มีโรคระบาดแพร่เข้ามาในอังกฤษ เรียกว่ามรณะด�ำ หรือแบล็คเดธ โรคนี้ ได้คร่าชีวติ ผูค้ นไปถึงหนึง่ ในสามของประชากรอังกฤษ และมีผ้คู นเสียชีวิตด้วยโรคนี้ในจ�ำนวน ใกล้เคียงกันในสก็อตแลนด์และเวลส์ แบล็คเดธได้ก่อให้เกิดความเสียหายที่ร้ายแรงที่สุดเมื่อ เทียบกับทีเ่ คยเกิดขึน้ ในอังกฤษ เมือ่ แบล็คเดธผ่านพ้นไปแล้ว ความต้องการในการปลูกพืชพันธุ์ ธัญญาหารได้ลดลงเนื่องจากจ�ำนวนประชากรมีน้อยลง แต่เกิดมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน Life in the UK 41
ชาวนาเริม่ เรียกร้องค่าแรงสูงขึน้ มีชนชัน้ ใหม่ๆ เกิดขึน้ ในสังคม รวมถึงเจ้าของทีด่ นิ ขนาดกว้าง ใหญ่ไพศาล (ต่อมาเรียกว่า ผู้ดีชนบท) และผู้คนได้อพยพจากชนบทเข้ามาอาศัยอยู่ในเมือง ความมั่งคั่งในเมืองต่างๆ ได้ก่อให้เกิดชนชั้นกลางที่เข้มแข็งขึ้นมา In Ireland, the Black Death killed many in the Pale and, for a time, the area controlled by the English became smaller. ในไอร์แลนด์ แบล็คเดธได้คร่าชีวิตคนจ�ำนวนมากในเขตพื้นที่เพล และในช่วงระยะเวลาหนึ่ง พื้นที่ภายใต้การบังคับของอังกฤษเหล่านี้ได้หดตัวเล็กลง Legal and political changes การเปลี่ยนแปลงทางด้านกฎหมายและการเมือง In the Middle Ages, Parliament began to develop into the institution it is today. Its origins can be traced to the king’s council of advisers, which included important noblemen and the leaders of the Church. ในยุคกลาง รัฐสภาได้เริ่มวิวัฒนาการเป็นสถาบันอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ต้นก�ำเนิดของรัฐสภา ในรูปแบบปัจจุบันสามารถย้อนกลับไปถึงสภาที่ปรึกษาของกษัตริย์ อันประกอบด้วยขุนนาง หรือชนชั้นผู้ดีและผู้น�ำคริสตจักรที่ส�ำคัญๆ There were few formal limits to the king’s power until 1215. In that year, King John was forced by his noblemen to agree to a number of demands. The result was a charter of rights called the Magna Carta (which means the Great Charter). The Magna Carta established the idea that even the king was subject to the law. It protected the rights of the nobility and restricted the king’s power to collect taxes or to make or change laws. In future, the king would need to involve his noblemen in decisions. ในช่ ว งเวลาก่ อ นปี ค.ศ. 1215 อั ง กฤษไม่ มี ตั ว บทกฎหมายที่ จ ะจ� ำ กั ด อ� ำ นาจกษั ต ริ ย ์ ได้มากนัก ในปี ค.ศ. 1215 กลุ่มขุนนางของพระเจ้าจอห์นได้บีบบังคับให้พระองค์ยอมรับข้อ เรียกร้องหลายอย่าง ซึง่ ส่งผลให้มกี ฎบัตรว่าด้วยสิทธิ เรียกว่า แม็กนาคาร์ตา (ซึง่ มีความหมาย ว่า มหากฎบัตร) มหากฎบัตรแม็กนาคาร์ตาเป็นรากฐานของความคิดทีว่ า่ แม้กษัตริยเ์ องก็ตอ้ ง อยู่ภายใต้กฎหมายแม็กนาคาร์ตาได้ปกป้องสิทธิของชนชั้นขุนนาง และจ�ำกัดพระราชอ�ำนาจ 42 Life in the UK 3rd Edition
ของกษัตริย์ในการเรียกเก็บภาษี หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมาย โดยที่ในอนาคตกษัตริย์จะ ต้องให้ขุนนางของพระองค์มีส่วนร่วมพิจารณาตัดสินด้วย In England, parliaments were called for the king to consult his nobles, particularly when the king needed to raise money. The numbers attending Parliament increased and two separate parts, known as Houses, were established. The nobility, great landowners and bishops sat in the House of Lords. Knights, who were usually smaller landowners, and wealthy people from towns and cities were elected to sit in the House of Commons. Only a small part of the population was able to join in electing the members of the Commons. ในอังกฤษจะมีการเรียกประชุมรัฐสภาเมื่อกษัตริย์ทรงต้องการที่จะปรึกษาหารือกับบรรดา ขุนนาง โดยเฉพาะเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีเพื่อหาเงิน จ�ำนวนผู้เข้าประชุม รัฐสภาได้เพิ่ม สูงขึ้น ต่อมาจึงได้มีการจัดแยกรัฐสภาออกเป็นสภาสองส่วน คือ สภาสูง หรือสภาขุนนางซึ่ง เป็นที่นั่งของขุนนางหรือผู้ดีชั้นสูง เจ้าของที่ดินผู้มีอ�ำนาจ และพระสังฆราช ส่วนสภาล่างหรือ สภาสามัญนั้นประกอบด้วยอัศวิน ซึ่งปกติคือพวกเจ้าของที่ดินขนาดเล็ก และคนมั่งมีจาก เมืองเล็กเมืองใหญ่ที่ได้รับเลือกให้เข้ามานั่งใน สภาสามัญ เวลานั้นมีประชาชนเพียงส่วนน้อย ที่สามารถเข้าร่วมในการเลือกตั้งสมาชิกสภาสามัญได้ A similar Parliament developed in Scotland. It had three Houses, called Estates: the lords, the commons and the clergy. ในสก็อตแลนด์ได้มีการพัฒนารัฐสภาในรูปแบบเดียวกัน แต่ประกอบด้วยสภาสามส่วน เรียก ว่า เอสเตท (Estates) คือ สภาขุนนาง สภาสามัญ และสภาบาทหลวง This was also a time of development in the legal system. The principle that judges are independent of the government began to be established. In England, judges developed ‘common law’ by a process of precedence (that is, following previous decisions) and tradition. In Scotland, the legal system developed slightly differently and laws were ‘codified’ (that is, written down). ในช่วงเวลานีย้ งั ได้มกี ารพัฒนาระบบกฎหมายด้วย และเริม่ มีการก�ำหนดหลักการให้ผพู้ พิ ากษา มีอ�ำนาจที่ไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ผู้พิพากษาในอังกฤษได้พัฒนา ‘กฎหมายจารีต ประเพณี’ โดย อาศัยกฎหมายหรือหลักเกณฑ์ที่มีมาก่อน (คือว่าตามการตัดสินในคดีความครั้งก่อนๆ) และ ประเพณีในสก็อตแลนด์ได้มกี ารพัฒนาระบบกฎหมายแตกต่างกันไปเล็กน้อย โดยการ ‘จัดท�ำ ไว้เป็นระบบหมวดหมู่’ (คือ จารึกไว้เป็นประมวลกฎหมาย) Life in the UK 43
A distinct identity
เอกลักษณ์ที่โดดเด่น
The Middle Ages saw the development of a national culture and identity. After the Norman Conquest, the king and his noblemen had spoken Norman French and the peasants had continued to speak Anglo-Saxon. Gradually these two languages combined to become one English language. Some words in modern English -for example, ‘park’ and ‘beauty’ -are based on Norman French words. Others -for example, ‘apple’, ‘cow’ and ‘summer’ -are based on Anglo-Saxon words. In modern English there are often two words with very similar meanings, one from French and one from Anglo-Saxon. ‘Demand’ (French) and ‘ask’ (Anglo-Saxon) are examples. By 1400, in England, official documents were being written in English, and English had become the preferred language of the royal court and Parliament. อังกฤษยุคกลางเป็นช่วงเวลาของการพัฒนาวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ประจ�ำชาติ หลังจาก ชาวนอร์มันเข้าครอบครองอังกฤษ กษัตริย์และขุนนางหรือผู้ดีชั้นสูงต่างก็พูด ภาษานอร์มั นเฟรนช์ในขณะที่ชาวไร่ชาวนายังคงพูดภาษาแองโกล-แซกซัน ต่อมาทั้งสองภาษานี้ได้ผสม กลมกลืนกันและวิวฒ ั นาการเป็นภาษาอังกฤษ ค�ำอังกฤษบางค�ำใน ปัจจุบนั เช่น ‘park (สวน)’ และ ‘beauty (ความงาม)’ มีรากฐานมาจากค�ำในภาษานอร์มันเฟรนช์ ค�ำอื่นๆ เช่น ‘apple (แอปเปิล้ )’ ‘cow (วัว)’ และ ‘summer (ฤดูรอ้ น)’ มีรากฐานมาจากค�ำในภาษาแองโกล-แซกซัน ภาษาอังกฤษปัจจุบันมักจะมีค�ำสองค�ำที่มีความหมายคล้ายกัน ค�ำหนึ่งมาจากภาษาฝรั่งเศส และอีกค�ำหนึ่งมาจากภาษาแองโกล-แซกซัน ตัวอย่างเช่น ค�ำว่า ‘Demand (เรียกร้อง)’ (ภาษาฝรั่งเศส) และ ‘ask (ขอร้อง)’ (ภาษาแองโกล-แซกซัน) ในอังกฤษปี ค.ศ. 1400 ได้มี การเขียนเอกสารทางการเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาอังกฤษได้กลายเป็นภาษาที่นิยมใช้กัน ในวังหลวงและรัฐสภา In the years leading up to 1400, Geoffrey Chaucer wrote a series of poems in English about a group of people going to Canterbury on a pilgrimage. The people decided to tell each other stories on the journey, and the poems describe the travellers and some of the stories they told. This collection of poems is called The Canterbury Tales. It was one of the first books to be printed by William Caxton, the first person in England to print books using a printing press. Many of the stories are still popular. Some have been made into plays and television programmes. 44 Life in the UK 3rd Edition
ในช่วงเวลาหลายปีกอ่ นถึงปี ค.ศ. 1400 เจฟฟรีย์ ชอสเซอร์ได้แต่งบทกลอนฉบับยาวเป็นภาษา อังกฤษเกีย่ วกับกลุม่ ผูค้ นทีเ่ ดินทางจาริกแสวงบุญไปยังเมืองแคนเทอร์เบอรี่ นักแสวงบุญเหล่านี้ ได้ตกลงที่จะเล่าเรื่องสู่กันฟังในระหว่างการเดินทาง และในบทกลอนได้มีการบรรยายภาพ ผูเ้ ดินทางแสวงบุญ และเรือ่ งราวทีพ่ วกเขาได้บอกเล่าไว้ บทกลอน ชุดนีม้ ชี อื่ ว่า The Canterbury Tales (นิยายแคนเทอร์เบอรี)่ และเป็นหนึง่ ในหนังสือกลุม่ แรกทีจ่ ดั พิมพ์โดย วิลเลียม แคกซ์ตนั ผูท้ พี่ มิ พ์หนังสือโดยใชเ้ครือ่ งพิมพ์เป็นคนแรกในอังกฤษ นิยายแคนเทอร์เบอรีห่ ลายเรือ่ งยังคง เป็นทีน่ ยิ มชมชอบในปัจจุบนั และได้มกี ารน�ำนิยายบางเรือ่ งไปสร้างเป็นบทละครและรายการ โทรทัศน์ In Scotland, many people continued to speak Gaelic and the Scots language also developed. A number of poets began to write in the Scots language. One example is John Barbour, who wrote The Bruce about the Battle of Bannockburn. คนส่วนใหญ่ในสก็อตแลนด์ยงั คงพูดภาษาเกลิก และได้มกี ารพัฒนาภาษาสก็อตแลนด์ขนึ้ มาด้วย กวีกลุ่มหนึ่งเริ่มแต่งบทกลอนเป็นภาษาสก็อตแลนด์ ตัวอย่างเช่น จอห์น บาร์บัวร์ผู้แต่งเรื่อง The Bruce (เดอะ บรูซ) เกี่ยวกับการสู้รบที่แบนน็อคเบิร์น The Middle Ages also saw a change in the type of buildings in Britain. Castles were built in many places in Britain and Ireland, partly for defence. Today many are in ruins, although some, such as Windsor and Edinburgh, are still in use. Great cathedrals -for example, Lincoln Cathedral -were also built, and many of these are still used for worship. Several of the cathedrals had windows of stained glass, telling stories about the Bible and Christian saints. The glass in York Minster is a famous example. ยุคกลางเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบสิ่งก่อสร้างในอังกฤษด้วย ในช่วงเวลานี้ ได้มีการสร้างปราสาทในที่ต่างๆ หลายแห่งในอังกฤษและไอร์แลนด์ ส่วนหนึ่งก็เพื่อใช้เป็น สถานที่ป้องกันข้าศึก ปัจจุบันปราสาทเหล่านี้อยู่ในสภาพปรักหักพัง ยกเว้นปราสาทบางแห่ง ที่ยังคงใช้ประโยชน์ได้ เช่น ปราสาทวินด์เซอร์ในกรุงเอดินเบอเรอะ นอกจากนี้ยังได้มีการ สร้างมหาวิหารที่ส�ำคัญๆ เช่น มหาวิหารลินคอล์น มหาวิหารหลายแห่งยังคงใชเ้ป็นสถานที่ ประกอบพิธีทางศาสนาอยู่ในปัจจุบัน และมหาวิหารส่วนใหญ่มีหน้าต่างกระจกสีสเตนกลาส บอกเล่าเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิลและนักบุญของชาวคริสต์ ตัวอย่างที่มีชื่อเสียง คือ กระจก สีสเตนกลาสในมหาวิหารยอร์ค มินสเตอร์
Life in the UK 45
York Minster stained glass กระจกสีสเตนกลาสที่มหาวิหารยอร์ค มินสเตอร์
During this period, England was an important trading nation. English wool became a very important export. People came to England from abroad to trade and also to work. Many had special skills, such as weavers from France, engineers from Germany, glass manufacturers from Italy and canal builders from Holland. ในช่วงเวลานี้ประเทศอังกฤษเป็นศูนย์การค้าขายที่ส�ำคัญ ขนสัตว์อังกฤษเป็นสินค้าออกที่ ส ำคัญมาก คนต่างประเทศเดินทางเข้ามาในอังกฤษเพื่อค้าขายสินค้าและ ท�ำงาน ส่วนใหญ่ มีฝีมือและความรู้ความช�ำนาญพิเศษ เช่น ช่างทอผ้าจากฝรั่งเศส วิศวกรจากเยอรมนี ผู้ผลิต กระจกจากอิตาลี และช่างขุดและสร้างคลองจากฮอลแลนด์ เป็นต้น The Wars of the Roses
สงครามดอกกุหลาบ
In 1455, a civil war was begun to decide who should be king of England. It was fought between the supporters of two families: the House of Lancaster and the House of York. This war was called the Wars of the Roses, because the symbol of Lancaster was a red rose and the symbol of York was a white rose. The war ended with the Battle of Bosworth Field in 1485. King Richard III of the House of York was killed in the battle and Henry Tudor, the leader of the House of Lancaster, became King Henry VII. Henry then married King Richard’s niece, Elizabeth of York, and united the two families. Henry was the first king of the House of Tudor. The symbol of the House of Tudor was a red rose with a white rose inside it as a sign that the Houses of York and Lancaster were now allies.
46 Life in the UK 3rd Edition
ในปี ค.ศ. 1455 สงครามกลางเมืองเพื่อช่วงชิงอ�ำนาจการครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ ได้เริ่มก่อตัวขึ้น สงครามนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนผู้ดีชั้นสูงสองตระกูล คือ ราชวงศ์แลงแคสเตอร์และราชวงศ์ยอร์ค สงครามนี้ได้ชื่อว่า สงครามดอกกุหลาบ เนื่องจาก ราชวงศ์แลงแคสเตอร์มีสัญลักษณ์เป็นดอกกุหลาบสีแดง และราชวงศ์ยอร์คมีสัญลักษณ์ เป็นดอกกุหลาบสีขาว สงครามกลางเมืองนี้สิ้นสุดลงที่สมรภูมิบอส เวิร์ธในปี ค.ศ. 1485 เมื่อพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 แห่งราชวงศ์ยอร์คได้ถูกสังหารในการรบ และเฮนรี่ ทิวดอร์ผู้น�ำ ราชวงศ์แลงแคสเตอร์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ ทรงพระนามว่าพระเจ้า เฮนรี่ที่ 7 จากนั้นพระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 ได้ทรงอภิเษกสมรสกับอลิซาเบธแห่งยอร์ค ซึ่งเป็นพระ ภาติยะ (หลานสาว - ลูกของพี่ชาย) ของพระเจ้าริชาร์ด และผนวกสองตระกูลนี้เข้าเป็นอัน หนึ่งอันเดียวกัน พระเจ้าเฮนรี่ทรงเป็นกษัตริย์องค์แรกแห่งราชวงศ์ทิวดอร์มีสัญลักษณ์เป็น ดอกกุหลาบสีแดงโดยมีดอกกุหลาบสีขาวภายใน เพื่อเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเวลานี้ราชวงศ์ยอร์ค และแลงแคสเตอร์เป็นพันธมิตรกันแล้ว
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The wars that took place in the Middle Ages √ How Parliament began to develop √ The way that land ownership worked √ The effects of the Black Death √ The development of English language and culture √ The Wars of the Roses and the founding of the House of Tudor √ สงครามต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอังกฤษยุคกลาง √ รัฐสภามีวิวัฒนาการอย่างไร √ วิธีการปฏิบัติตามระบบการถือครองที่ดิน √ ผลกระทบจากมรณะด�ำ หรือแบล็คเดธ √ พัฒนาการของภาษาอังกฤษและวัฒนธรรมอังกฤษ √ สงครามดอกกุหลาบและการสถาปนาราชวงศ์ทิวดอร์
Life in the UK 47
THE TUDORS AND STUARTS
ราชวงศ์ทิวดอร์และราชวงศ์สจ๊วร์ต Religious Conflicts
ความขัดแย้งทางศาสนา
After his victory in the Wars of the Roses, Henry VII wanted to make sure that England remained peaceful and that his position as king was secure. He deliberately strengthened the central administration of England and reduced the power of the nobles. He was thrifty and built up the monarchy’s financial reserves. When he died, his son Henry VIII continued the policy of centralising power. หลังจากทีไ่ ด้ชยั ชนะในสงครามดอกกุหลาบแล้ว พระเจ้าเฮนรีท่ ี่ 7 ทรงมีพระราชประสงค์ทจี่ ะ ท�ำให้องั กฤษมีความสงบสุข และรักษาราชบัลลังก์ของพระองค์ให้มนั่ คงถาวรสืบไป พระองค์จงึ ได้ทรงเริม่ รวมศูนย์อำ� นาจการปกครองให้แข็งแกร่งยิง่ ขึน้ และลดทอนอ�ำนาจของพวกผูด้ ชี นั้ สูง ให้ลดน้อยลง พระองค์ทรงระมัดระวังในการใช้จ่าย และได้สะสมเงินทุนส�ำรองของกษัตริย์ให้ เพิ่มพูนมากขึ้น เมื่อพระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 เสด็จสวรรคต พระราชบุตร คือ พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก็ได้ ทรงสืบสานพระราชนโยบายรวมศูนย์อ�ำนาจนี้ไว้ต่อไป Henry VIII was most famous for breaking away from the Church of Rome and marrying six times. พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทรงมีชื่อเสียงมากที่สุดจากการแยกตัวออกจากคริสตศาสนจักรแห่งกรุงโรม และอภิเษกสมรส 6 ครั้ง
Henry VIII was king of England from 21 April 1509 until his death on 28 January 1547 พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1509 จนถึงวันที่สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1547
48 Life in the UK 3rd Edition
The Six Wives of Henry VIII
พระมเหสี 6 พระองค์ของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 Catherine of Aragon - Catherine was a Spanish princess. She and Henry had a number of children but only one, Mary, survived. When Catherine was too old to give him another child, Henry decided to divorce her, hoping that another wife would give him a son to be his heir. พระราชินีแคทเธอรีนแห่งอารากอน - พระนางเจ้าแคทเธอรีนเป็นเจ้าหญิงสเปน พระนางกับ พระเจ้าเฮนรีท่ รงมีโอรสและธิดาด้วยกันหลายองค์ แต่มพี ระธิดาชือ่ เจ้าหญิงแมรีเ่ พียงองค์เดียว ที่มีชีวิตรอด เมื่อพระนางเจ้าแคทเธอรีนมีพระชนมายุสูงขึ้นจน ไม่สามารถที่จะให้ก�ำเนิดบุตร ได้อีก พระเจ้าเฮนรี่ได้ตัดสินพระทัยหย่าขาดจากพระนาง เพราะหวังว่าพระชายาองค์ใหม่จะ ให้ก�ำเนิดพระโอรสเป็นรัชทายาทสืบต่อบัลลังก์ของพระองค์ได้ Anne Boleyn - Anne Boleyn was English. She and Henry had one daughter, Elizabeth. Anne was unpopular in the country and was accused of taking lovers. She was executed at the Tower of London. พระราชินีเแอนน์ โบลีน - พระนางแอนน์ โบลีนเป็นชาวอังกฤษ พระนางกับพระเจ้าเฮนรี่ ทรงมีพระธิดาด้วยกันหนึ่งองค์ชื่อเจ้าหญิงอลิซาเบธ พระนางแอนน์โบลีนไม่เป็นที่นิยมของ ประชาชนในประเทศอังกฤษ และทรงถูกกล่าวหาว่ามีชู้รัก พระนางถูกประหาร ชีวิตที่หอคอย แห่งลอนดอน Jane Seymour - Henry married Jane after Anne’s execution. She gave Henry the son he wanted, Edward, but she died shortly after the birth. พระราชินเี จน ซีมวั ร์ –พระเจ้าเฮนรีท่ รงอภิเษกสมรสกับพระนางเจนหลังจากพระนาง แอนน์ ถูกประหารชีวิต พระนางเจนทรงให้ก�ำเนิดพระโอรส คือ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด แก่พระเจ้าเฮนรี่ สมใจปรารถนา แต่พระนางเจนสิ้นพระชนม์หลังคลอดพระโอรสได้ไม่นาน Anne of Cleves - Anne was a German princess. Henry married her for political reasons but divorced her soon after. พระราชินีแอนน์แห่งคลีฟ - พระนางแอนน์เป็นเจ้าหญิงเยอรมัน พระเจ้าเฮนรี่ทรงอภิเษก สมรสกับพระนางด้วยเหตุผลทางการเมือง แต่ได้ทรงหย่าจากพระนางในเวลาต่อมาไม่นาน
Life in the UK 49
Catherine Howard - Catherine was a cousin of Anne Boleyn. She was also accused of taking lovers and executed. พระราชินแี คทเธอรีน โฮเวิรดิ์ - พระนางแคทเธอรีนเป็นลูกพีล่ กู น้องของพระนาง แอนน์ โบลีน พระนางแคทเธอรีนทรงถูกกล่าวหาว่ามีชู้และถูกประหารชีวิต Catherine Parr -Catherine was a widow who married Henry late in his life. She survived him and married again but died soon after. พระราชินแี คทเธอรีน พาร์ - พระนางแคทเธอรีนเป็นแม่มา่ ย ทรงอภิเษกสมรสกับพระเจ้าเฮนรี่ เมื่อพระองค์ย่างเข้าวัยสูงอายุมากแล้ว พระเจ้าเฮนรี่เสด็จสวรรคตก่อนพระนาง และพระนาง ได้สมรสอีกครั้งหนึ่ง แต่สิ้นพระชนม์หลังจากสมรสได้ไม่นาน To divorce his first wife, Henry needed the approval of the Pope. When the Pope refused, Henry established the Church of England. In this new Church, the king, not the Pope, would have the power to appoint bishops and order how people should worship. ในการหย่าพระมเหสีองค์แรก พระเจ้าเฮนรี่จะต้องได้รับการเห็นชอบจากพระสันตปาปา เมื่อ พระสันตปาปาทรงปฏิเสธไม่ให้ความเห็นชอบ พระเจ้าเฮนรี่จึงได้ก่อตั้งศาสนจักรแห่งอังกฤษ ขึ้นมาเอง ศาสนจักรใหม่นี้ท�ำให้กษัตริย์อังกฤษมีอ�ำนาจที่จะแต่งตั้งพระสังฆราช และสั่งให้ ประชาชนประกอบพิธีบูชาตามวิธีการที่พระองค์เห็นสมควรโดยที่พระสันตปาปาไม่มีอ�ำนาจ บังคับได้อีก At the same time the Reformation was happening across Europe. This was a movement against the authority of the Pope and the ideas and practices of the Roman Catholic Church. The Protestants formed their own churches. They read the Bible in their own languages instead of in Latin; they did not pray to saints or at shrines; and they believed that a person’s own relationship with God was more important than submitting to the authority of the Church. Protestant ideas gradually gained strength in England, Wales and Scotland during the 16th century. ในเวลาเดียวกันได้มีการปฏิรูปเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ ทั่วยุโรป ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อต่อ ต้านอ�ำนาจของพระสันตปาปา ตลอดจนความคิดและวิธีการปฏิบัติศาสนกิจของคริสตจักร โรมันคาทอลิก พวกโปรเตสแตนท์ได้กอ่ ตัง้ โบสถ์ของตนขึน้ มา และอ่านพระคัมภีรไ์ บเบิลทีเ่ ป็ น
50 Life in the UK 3rd Edition
ภาษาของตนเอง ไม่ใช่ภาษาละติน ชาวโปรเตสแตนท์ไม่สวดมนต์ออ้ นวอนนักบุญหรือต่อหน้า แท่นบูชา และเชื่อว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวของแต่ละบุคคลกับพระเจ้ามีความส�ำคัญยิ่งกว่า การสยบตัวยอมรับอ�ำนาจของคริสตจักร แนวความคิดของชาวโปรเตสแตนท์เริ่มเป็นที่นิยม แพร่หลายมากยิ่งขึ้นในอังกฤษ เวลส์ และสก็อตแลนด์ในช่วงศตวรรษที่ 16 In Ireland, however, attempts by the English to impose Protestantism (alongside efforts to introduce the English system of laws about the inheritance of land) led to rebellion from the Irish chieftains, and much brutal fighting followed. อย่างไรก็ตาม อังกฤษพยายามที่จะให้ไอร์แลนด์เข้ารีตเป็นโปรเตสแตนท์ (และพยายามน�ำ ระบบกฎหมายเกี่ยวกับมรดกที่ดินเข้ามาใช้บังคับในไอร์แลนด์) หัวหน้าเผ่าชาวไอริชจึงได้ ก่อการกบฎขึ้น และได้มีการสู้รบกันอย่างโหดเหี้ยมระหว่างอังกฤษกับฝ่ายกบฎไอริช During the reign of Henry VIII, Wales became formally united with England by the Act for the Government of Wales. The Welsh sent representatives to the House of Commons and the Welsh legal system was reformed. ในรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ได้มีการผนวกเวลส์เข้ากับอังกฤษอย่างเป็นทางการ โดย อาศัยอ�ำนาจตามพระราชบัญญัติแห่งการปกครองของเวลส์ (Act for the Government of Wales) ชาวเวลส์ได้ส่งผู้แทนของตนไปท�ำหน้าที่ในสภาสามัญ และได้มีการปฏิรูประบบ กฎหมายของเวลส์ Henry VIII was succeeded by his son Edward VI, who was strongly Protestant. During his reign, the Book of Common Prayer was written to be used in the Church of England. A version of this book is still used in some churches today. Edward died at the age of 15 after ruling for just over six years, and his half-sister Mary became queen. Mary was a devout Catholic and persecuted Protestants (for this reason, she became known as ‘Bloody Mary’). Mary also died after a short reign and the next monarch was her half-sister, Elizabeth, the daughter of Henry VIII and Anne Boleyn. พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 6 พระโอรสของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระบิดา พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเป็นโปรเตสแตนท์ที่เคร่งครัดมาก ในรัชสมัยของพระองค์ได้มีการเขียน หนังสือสวดมนต์ (Book of Common Prayer) ขึ้นมาใช้ในคริสตจักรแห่งอังกฤษ ปัจจุบัน ยังคงมีการใช้หนังสือสวดมนต์นี้อยู่ในโบสถ์บางแห่ง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด เสด็จสวรรคตเมื่อทรง Life in the UK 51
มีพระชนมายุ 15 ปี หลังจากที่ครองราชย์ได้นานเพียงหกปีกว่าเท่านั้น พระนางแมรี่ซึ่งเป็น พระภคินีต่างพระมารดา (พี่สาว) ของพระองค์ได้เสด็จขึ้ครองราชย์เป็นพระราชินีนาถแห่ง อังกฤษ พระนางแมรี่เป็นโรมันคาทอลิกที่เคร่งครัดมาก และได้ทรงกดขี่ข่มเหงชาวโปรเตส แตนท์ (ด้วยเหตุนี้ พระนางจึงมีสมญานามว่า ‘แมรี่ผู้กระหายเลือด’ พระนางแมรี่สิ้นพระชนม์ หลังจากครองราชย์ได้ไม่นานเช่นกัน พระราชินีนาถที่เสด็จขึ้นครองราชย์องค์ต่อไป คือ พระนางเจ้าอลิซาเบธ ซึ่งเป็นพระขนิษฐาต่างพระมารดา (น้องสาว) ของพระนางแมรี่ พระนางเจ้าอลิซาเบธเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กับพระนางแอนน์ โบลีน Queen Elizabeth I
สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1
Elizabeth I was the younger daughter of Henry VIII พระนางเจ้าอลิซาเบธ เป็นพระราชธิดาองค์เล็ก ของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
Queen Elizabeth I was a Protestant. She reestablished the Church of England as the official Church in England. Everyone had to attend their local church and there were laws about the type of religious services and the prayers which could be said, but Elizabeth did not ask about people’s real beliefs. She succeeded in finding a balance between the views of Catholics and the more extreme Protestants. In this way, she avoided any serious religious conflict within England. Elizabeth became one of the most popular monarchs in English history, particularly after 1588, when the English defeated the Spanish Armada (a large fleet of ships), which had been sent by Spain to conquer England and restore Catholicism. สมเด็ จ พระราชิ นี น าถอลิ ซ าเบธที่ 1 ทรงนั บ ถื อ นิ ก าย โปรเตสแตนท์ พระนางได้ทรงฟื้นฟูและสถาปนาคริสตจักร แห่ ง อั ง กฤษขึ้ น มาเป็ น คริ ส ตจั ก รประจ� ำ ชาติ อั ง กฤษ ประชาชนทุกคนจะต้องเข้าโบสถ์ใกล้บ้านของตน และ มีกฎหมายบังคับเกี่ยวกับการประกอบพิธีทางศาสนาใน รูปแบบต่างๆ รวมทั้งการเปล่งเสียงสวดมนต์ แต่พระนาง
52 Life in the UK 3rd Edition
เจ้าอลิซาเบธจะไม่ซักไซ้ไล่เลียงถึงความเชื่อที่แท้จริงของประชาชน พระนางทรงประสบ ความส�ำเร็จในการปรับสร้างความสมดุลระหว่างความคิดเห็นของชาวคาทอลิกและชาว โปรเตสแตนท์ที่สุดโต่ง ด้วยวิธีการนี้ พระนางจึงสามารถหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่รุนแรงทาง ศาสนาภายในอังกฤษได้ พระนางเจ้าอลิซาเบธเป็นพระราชินีนาถที่ประชาชนนิยมชมชอบ มากที่สุดองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์อังกฤษ โดยเฉพาะหลังจากปี ค.ศ. 1588 เมื่ออังกฤษ ได้ตีทัพเรืออาร์มาดา (กระบวนทัพเรือ) ของสเปนแตกพ่ายไป สเปนได้ส่งกระบวนทัพเรือ อาร์มาดามาโจมตีเพื่อยึดครองอังกฤษและฟื้นฟูศาสนาโรมันคาทอลิกขึ้นมาใหม่ในอังกฤษ The Reformation in Scotland and Mary, Queen of Scots
การปฏิรปู ในสก็อตแลนด์ และพระนางเจ้าแมรี่ พระราชินนี าถของชาวสก็อตแลนด์ Scotland had also been strongly influenced by Protestant ideas. In 1560, the predominantly Protestant Scottish Parliament abolished the authority of the Pope in Scotland and Roman Catholic religious services became illegal. .A Protestant Church of Scotland with an elected leadership was established but, unlike in England, this was not a state Church. สก็อตแลนด์ได้รับอิทธิพลจากแนวความคิดโปรเตสแตนท์มากเช่นกัน ในปี ค.ศ. 1560 รัฐสภา สก็อตแลนด์ ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยชาวโปรเตสแตนท์ ได้ยกเลิกอ�ำนาจของพระสันตปาปา ในสก็อตแลนด์ และประกาศให้การประกอบพิธีทางศาสนาของโรมันคาทอลิกเป็นการกระท�ำ ที่ผิดกฎหมาย ได้มีการก่อตั้งคริสตจักรแห่งสก็อตแลนด์นิกายโปรเตสแตนท์ขึ้นมาพร้อมกับ ผู้น�ำที่ได้รับเลือกตั้ง แต่คริสตจักรแห่งสก็อตแลนด์ไม่ได้มีสถานะเป็นคริสตจักรประจ�ำชาติ เหมือนในอังกฤษ The Queen of Scotland, Mary Stuart (Often now called ‘Mary, Queen of Scots’) was a Catholic. She was only a week old when her father died and she became queen. Much of her childhood was spent in France. When she returned to Scotland, she was the centre of a power struggle between different groups. When her husband was murdered, Mary was suspected of involvement and fled to England. She gave her throne to her Protestant son, James VI of Scotland. Mary was Elizabeth I’s cousin and hoped that Elizabeth might help her, but Elizabeth suspected Mary of wanting to take over the English throne, and kept her a prisoner for 20 years. Mary was eventually executed, accused of plotting against Elizabeth I. Life in the UK 53
พระนางเจ้าแมรี่ สจ๊วร์ต พระราชินนี าถแห่งสก็อตแลนด์ (ปัจจุบนั คนส่วนใหญ่เรียกว่า ‘แมรี่ ราชินี ของชาวสก็อต’) เป็นคาทอลิก พระราชบิดาของพระนางสิน้ พระชนม์เมือ่ พระนางมีพระชนมายุ ได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ พระนางได้รับการสวมมงกุฎเป็นพระราชินี และทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ ในวัยเด็กอยู่ที่ฝรั่งเศส เมื่อเสด็จกลับมายังสก็อตแลนด์ พระนางทรงเป็นจุดศูนย์กลางของการ ต่อสู้แย่งชิงอ�ำนาจระหว่างกลุ่มต่างๆ เมื่อพระสวามีของพระนางถูกปลงพระชนม์ มีผู้สงสัย ว่าพระนางมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย พระนางจึงได้เสด็จหนีไปอังกฤษ พระนางได้มอบบัลลังก์ให้ พระเจ้าเจมส์ท่ี 1 แห่งสก็อตแลนด์ พระราชโอรสที่นับถือนิกายโปรเตสแตนท์ พระนางเจ้า แมรี่ทรงเป็นลูกพี่ลูกน้องของพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 1 และทรงหวังว่าพระนางเจ้าอลิซาเบธ อาจให้ความช่วยเหลือแก่พระนาง แต่พระนางเจ้าอลิซาเบธทรงสงสัยว่าพระนางเจ้าแมรี่มี พระประสงค์ที่จะแย่งชิงบัลลังก์อังกฤษ พระนางเจ้าอลิซาเบธจึงได้ทรงกักขังพระนางเจ้า แมรี่ไว้เป็นเวลานาน 20 ปี ในที่สุดพระนางเจ้าแมรี่ก็ได้ถูกประหารชีวิตด้วยข้อกล่าวหาว่า วางแผนที่จะก�ำจัดพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 1 Exploration, poetry and drama
ยุคแห่งการส�ำรวจ บทกวี และบทละคร
The Elizabethan period in England was a time of growing patriotism: a feeling of pride in being English. English explorers sought new trade routes and tried to expand British trade into the Spanish colonies in the Americas. Sir Francis Drake, one of the commanders in the defeat of the Spanish Armada, was one of the founders of England’s naval tradition. His ship, the Golden Hind, was one of the first to sail right around (‘circumnavigate’) the world. In Elizabeth I’s time, English settlers first began to colonise the eastern coast of America. This colonisation, particularly by people who disagreed with the religious views of the next two kings, greatly increased in the next century. ยุคสมัยของพระนางเจ้าอลิซาเบธเป็นช่วงเวลาที่กระแสความรักชาติในอังกฤษได้ก่อตัวสูงขึ้น ผูค้ นรูส้ กึ ภาคภูมใิ จในการเป็นคนอังกฤษ นักส�ำรวจชาวอังกฤษได้แสวงหาเส้นทางการค้าใหม่ๆ และพยายามแผ่ขยายการค้าของอังกฤษเข้าสู่อาณานิคมของสเปนในภาคพื้นทวีปอเมริกา เซอร์ฟรานซิส เดร้ค ผูบ้ ญ ั ชาการทัพเรือทีพ่ ชิ ติ กองทัพเรืออาร์มาดาของสเปน เป็นหนึง่ ในกลุม่ ผู้ก่อตั้งธรรมเนียมการปฏิบัติของราชนาวีอังกฤษ เรือของท่านชื่อ เดอะ โกลเด้น ไฮนด์ เป็น หนึ่งในเรือรุ่นแรกที่เดินทางรอบโลก (‘เดินเรือรอบโลก’) ในรัชสมัยของพระนางเจ้าอลิซาเบธ ชาวอังกฤษได้เริ่มตั้งถิ่นฐานสร้างอาณานิคมเป็นครั้งแรกในดินแดนชายฝั่งตะวันออกของ 54 Life in the UK 3rd Edition
อเมริกา ผู้ที่เข้ามาตั้งรกรากในอาณานิคมใหม่นี้ได้มีจ�ำนวนเพิ่มสูงขึ้นมากในศตวรรษต่อมา โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นทางศาสนาของกษัตริย์อังกฤษองค์ใหม่สองพระองค์ The Elizabethan period is also remembered for the richness of its poetry and drama, especially the plays and poems of William Shakespeare. ยุ ค สมั ย ของพระนางเจ้ า อลิ ซ าเบธยั ง คงเป็ น ที่ เ ลื่ อ งลื อ สื บ ต่ อ กั น มาว่ า เป็ น ยุ ค ทองแห่ ง วรรณกรรม ซึ่งมีทั้งบทกวีและบทละคร โดยเฉพาะบทละครและบทกวีที่แต่งโดย วิลเลียม เชคสเปียร์ William Shakespeare (1564-1616)
วิลเลียม เชคสเปียร์ (ค.ศ. 1564-1616)
Shakespeare is widely regarded as the greatest writer in the English language เชคสเปียร์ได้รบั การยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็น นักเขียนทีย่ งิ่ ใหญ่ทสี่ ดุ ในโลกภาษาอังกฤษ
Shakespeare was born in Stratford-upon-Avon, England. He was a playwright and actor and wrote many poems and plays. His most famous plays include A Midsummer Night’s Dream, Hamlet, Macbeth and Romeo and Juliet. He also dramatised significant events from the past, but he did not focus solely on kings and queens. He was one of the first to portray ordinary Englishmen and women. Shakespeare had a great influence on the English language and invented many words that are still common today. Lines from his plays and poems which are often still quoted include: • Once more unto the breach (โจมตีเข้าไปอีก) (เฮนรี่ที่ 5) • To be or not to be (อยู่กับตายอันไหนดีกว่ากัน) (Hamlet) • A rose by any other name (กุหลาบแม้จะเรียกเป็นชื่ออื่นก็ยังหอมอยู่ดี) (โรเมโอ แอนดจูเลียต) • All the world’s a stage (โลกนี้คือละคร) (As You Like It) • The darling buds of May (เดอะดาร์ลิง บัดส์ ออฟ เมย์) (โคลงซอนเน็ต 18 -Shall I Compare Thee To A Summer’s Day (ให้ฉันเปรียบเธอเป็นวันในฤดูร้อนดีไหม)) Life in the UK 55
เชคสเปียร์เกิดในเมืองสแตรทฟอร์ด-อะพอน-เอว่อน ประเทศอังกฤษ เขาเป็นนักแต่งบทละคร และนักแสดง และได้เขียนบทกวีและบทละครต่างๆ ไว้มากมาย บทละครที่มีชื่อเสียงที่สุดของ เขา ได้แก่ A Midsummer Night’s Dream (ฝันในคืนกลางฤดูร้อน) Hamlet (แฮมเล็ต) Macbeth (แม็คเบธ) และ Romeo and Juliet (โรเมโอแอนด์จูเลียต) นอกจากนั้นเขายัง ได้น�ำเหตุการณ์ที่ส�ำคัญๆ ในอดีตมาเขียนเป็นบทละครด้วย แต่ไม่ได้เจาะจงเฉพาะเรื่องราว เกี่ยวกับกษัตริย์และพระราชินีเท่านั้น เชคสเปียร์เป็นหนึ่งในนักเขียนกลุ่มแรกที่แต่งเล่าเรื่อง ราวของหญิงชายอังกฤษทีเ่ ป็นคนธรรมดาสามัญ เชคสเปียร์มอี ทิ ธิพลต่อภาษาอังกฤษมาก และ เขาได้สร้างค�ำใหม่ๆ ขึ้นมาหลายค�ำที่ยังคงใช้กันทั่วไปในทุกวันนี้ ค�ำพูดจากบทละครและ บทกลอนบางบรรทัดซึ่งมีผู้น�ำมากล่าวอ้างบ่อยครั้ง ได้แก่: • Once more unto the breach (โจมตีเข้าไปอีก) (เฮนรี่ที่ 5) • To be or not to be (อยู่กับตายอันไหนดีกว่ากัน) (Hamlet) • A rose by any other name (กุหลาบแม้จะเรียกเป็นชื่ออื่นก็ยังหอมอยู่ดี) (โรเมโอ แอนดจูเลียต) • All the world’s a stage (โลกนี้คือละคร) (As You Like It) • The darling buds of May (เดอะดาร์ลิง บัดส์ ออฟ เมย์) (โคลงซอนเน็ต 18 -Shall I Compare Thee To A Summer’s Day (ให้ฉันเปรียบเธอเป็นวันในฤดูร้อนดีไหม)) Many people regard Shakespeare as the greatest playwright of all time. His plays and poems are still performed and studied in Britain and other countries today. The Globe Theatre in London is a modern copy of the theatres in which his plays were first performed. เชคสเปียร์ได้รับการยกย่องจากคนส่วนใหญ่ว่าเป็นสุดยอดนักเขียนบทละครที่ยิ่งใหญ่ตลอด กาล ทุกวันนี้ยังมีการแสดงละครและการศึกษาบทละครและบทกวีของเขาในอังกฤษและใน ประเทศต่างๆ โรงละคร Globe Theatre ในกรุงลอนดอนเป็นโรงละครที่เลียนแบบโรงละคร ต่างๆ ที่มีการแสดงละครของเชคสเปียร์ในครั้งแรกๆ James VI and I
พระเจ้าเจมส์ที่ 6 และที่ 1 Elizabeth I never married and so had no children of her own to inherit her throne. When she died in 1603 her heir was her cousin James VI of Scotland. He became King James I of England, Wales and Ireland but Scotland remained a separate country. 56 Life in the UK 3rd Edition
พระนางเจ้าอลิซาเบธไม่เคยอภิเษกสมรสกับผู้ใด พระนางจึงไม่มีพระโอรสหรือธิดาที่จะ สืบทอดราชบัลลังก์ เมื่อพระนางเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1603 พระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสก็อต แลนด์ รัชทายาทซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของพระนางได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์ แต่สก็อตแลนด์ยังคงเป็นประเทศเอกราชอยู่ The King James Bible
คัมภีร์ ไบเบิลฉบับพระเจ้าเจมส์
One achievement of King James’ reign was a new translation of the Bible into English. This translation is known as the ‘King James Version’ or the ‘Authorised Version’. It was not the first English Bible but is a version which continues to be used in many Protestant churches today. ผลงานส�ำคัญชิ้นหนึ่งในรัชสมัยของพระเจ้าเจมส์ คือ การแปลพระคัมภีร์ไบเบิลฉบับใหม่เป็น ภาษาอังกฤษ ซึ่งมีชื่อว่า คัมภีร์ไบเบิล ‘ฉบับพระเจ้าเจมส์’ หรือ ‘ฉบับรับรองความถูกต้อง’ คัมภีร์ไบเบิลฉบับพระเจ้าเจมส์มิใช่คัมภีร์ไบเบิลภาษาอังกฤษเล่มแรก แต่เป็นฉบับที่โบสถ์ โปรเตสแตนท์หลายแห่งยังคงใช้กันอยู่จวบจนทุกวันนี้ Ireland
ไอร์แลนด์
During this period, Ireland was an almost completely Catholic country. Henry VII and Henry VIII had extended English control outside the Pale (see page 40) and had established English authority over the whole country. Henry VIII took the title ‘King of Ireland’. English laws were introduced and local leaders were expected to follow the instructions of the Lord Lieutenants in Dublin. ในช่วงเวลานี้ ไอร์แลนด์เป็นคาทอลิกเกือบทั้งประเทศ นอกเหนือจากเขตพื้นที่เพล (ดูหน้า 40) แล้ว พระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 และพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ยังได้แผ่ขยายอ�ำนาจของอังกฤษเพื่อ ควบคุมเขตพื้นที่ในไอร์แลนด์เพิ่มขึ้น จนในที่สุดไอร์แลนด์ทั้งประเทศก็ตกอยู่ภายใต้อ�ำนาจ บังคับของอังกฤษ พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทรงประกาศพระองค์เป็น ‘กษัตริย์แห่งไอร์แลนด์’ ได้มี การน�ำกฎหมายอังกฤษเข้ามาใช้บังคับในไอร์แลนด์ และผู้น�ำในไอร์แลนด์จะต้องปฏิบัติตาม ค�ำสั่งของผู้ส�ำเร็จราชการแทนพระองค์ในเมืองดับลิน Life in the UK 57
During the reigns of Elizabeth I and James I, many people in Ireland opposed rule by the Protestant government in England. There were a number of rebellions. The English government encouraged Scottish and English Protestants to settle in Ulster, the northern province of Ireland, taking over the land from Catholic landholders. These settlements were known as plantations. Many of the new settlers came from south-west Scotland and other land was given to companies based in London. James later organised similar plantations in several other parts of Ireland. This had serious long-term consequences for the history of England, Scotland and Ireland. ในรัชสมัยของพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 1 และพระเจ้าเจมส์ที่ 1 คนส่วนใหญ่ในไอร์แลนด์ต่อ ต้านการปกครองของรัฐบาลโปรเตสแตนท์ในอังกฤษ ชาวไอริชได้ก่อการกบฎขึ้นหลายครั้ง รัฐบาลอังกฤษได้ส่งเสริมให้คนสก็อตแลนด์และคนอังกฤษที่นับถือนิกายโปรเตสแตนท์เข้าไป ยึดครองที่ดินของเจ้าของที่ดินชาวคาทอลิกในอัลสเตอร์ มณฑลทางภาคเหนือของไอร์แลนด์ และตั้งถิ่นฐานอยู่บนที่ดินเหล่านั้น การตั้งถิ่นฐานดังกล่าวเรียกว่าการเข้ายึดครองไร่นา ผู้เข้า มาปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่นี้ส่วนใหญ่มาจากภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสก็อตแลนด์ นอกจากนี้ ยังมีการริบที่ดินไปแจกจ่ายให้กับบริษัทต่างๆ ในลอนดอนด้วย ต่อมาพระเจ้าเจมส์ทรงมีพระ ราชนโยบายให้มีการยึดครองไร่นาแบบเดียวกันในพื้นที่ส่วนอื่นๆ อีกหลายแห่งในไอร์แลนด์ การท�ำเช่นนี้มีผลเสียที่ร้ายแรงในระยะยาวสืบเนื่องต่อมาในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ สก็อต แลนด์ และไอร์แลนด์ The rise of Parliament
การขึ้นสู่อ�ำนาจของรัฐสภา
Elizabeth I was very skilled at managing Parliament. During her reign, she was successful in balancing her wishes and views against those of the House of Lords and those of the House of Commons, which was increasingly Protestant in its views. พระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 1 ทรงมีพระปรีชาสามารถในการควบคุมรัฐสภา ในรัชสมัยของ พระนาง พระนางทรงประสบความส�ำเร็จในการปรับพระราชประสงค์และความคิดเห็นของ ตนให้สมดุลกับความปรารถนาและความคิดเห็นของสมาชิกในสภาสูงและสภาล่าง ซึง่ มีกระแส โน้มเอียงไปทางโปรเตสแตนท์มากยิ่งขึ้น 58 Life in the UK 3rd Edition
James I and his son Charles I were less skilled politically. Both believed in the ‘Divine Right of Kings’: the idea that the king was directly appointed by God to rule. They thought that the king should be able to act without having to seek approval from Parliament. When Charles I inherited the thrones of England, Wales, Ireland and Scotland, he tried to rule in line with this principle. When he could not get Parliament to agree with his religious and foreign policies, he tried to rule without Parliament at all. For 11 years, he found ways in which to raise money without Parliament’s approval but eventually trouble in Scotland meant that he had to recall Parliament. พระเจ้าเจมส์ที่ 1 และพระโอรส คือ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 มีพระปรีชาสามารถทางด้านการเมือง ด้อยกว่า ทั้งสองพระองค์ทรงเชื่อมั่นในปรัชญาเทวสิทธิ์ที่มีแนวความคิดว่า ‘กษัตริย์ได้รับ อ�ำนาจจากสวรรค์’ นัน่ คือ กษัตริยไ์ ด้รบั การแต่งตัง้ โดยตรงจากพระผูเ้ ป็นเจ้าให้เป็นผูม้ อี ำ� นาจ ปกครองแผ่นดิน ทั้งสองพระองค์ทรงคิดว่ากษัตริย์ควรสามารถที่จะกระท�ำการตามพระราช ประสงค์ได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา เมื่อพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 เสด็จขึ้นสืบทอด ราชบัลลังก์อังกฤษ เวลส์ ไอร์แลนด์ และสก็อตแลนด์ พระองค์ได้พยายามที่จะใช้อ�ำนาจ ปกครองตามหลักการที่ว่านี้ และเมื่อไม่สามารถท�ำให้รัฐสภาเห็นชอบกับพระราชนโยบาย ด้านศาสนาและต่างประเทศของพระองค์ได้ พระองค์ก็พยายามใช้อ�ำนาจปกครองโดยไม่รับ ฟังความคิดเห็นของรัฐสภาอีกต่อไป พระเจ้าชาร์ลส์ได้พบวิธีการเรียกเก็บภาษีเพื่อหาเงินโดย ไม่ขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเป็นเวลานานถึง 11 ปี แต่ในที่สุดพระองค์ก็ต้องเรียกประชุม รัฐสภาเนื่องจากมีปัญหาความวุ่นวายเกิดขึ้นในสก็อตแลนด์ The beginning of the English Civil War
ก�ำเนิดสงครามกลางเมืองในอังกฤษ
Charles I wanted the worship of the Church of England to include more ceremony and introduced a revised Prayer Book. He tried to impose this Prayer Book on the Presbyterian Church in Scotland and this led to serious unrest. A Scottish army was formed and Charles could not find the money he needed for his own army without the help of Parliament. In 1640, he recalled Parliament to ask it for funds. Many in Parliament were Puritans, a group of Protestants who advocated strict and simple religious doctrine and worship. They did not agree with the king’s religious views and disliked his reforms of the Church of Life in the UK 59
England. Parliament refused to give the king the money he asked for, even after the Scottish army invaded England. พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 มีพระราชประสงค์ที่จะให้มีศาสนพิธีเพิ่มเติมและให้น�ำหนังสือสวดมนต์ ฉบับปรับปรุงใหม่มาใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาของคริสตจักรอังกฤษ พระองค์ทรง พยายามที่จะให้ชาวคริสต์นิกายเพรสไบเทอเรียนในสก็อตแลนด์ใช้หนังสือสวดมนต์เดียวกัน ซึง่ ส่งผลให้ชาวสก็อตแลนด์ลกุ ฮือขึน้ มาต่อต้านอย่างรุนแรงจนถึงขัน้ จัดตัง้ ทัพขึน้ มาบุกอังกฤษ พระเจ้าชาร์ลส์ไม่สามารถเรียกเก็บภาษีหาเงินส�ำหรับกองทัพของพระองค์ได้โดยไม่ได้รบั ความ ช่วยเหลือจากรัฐสภา ในปี ค.ศ. 1640 พระองค์ได้ทรงเรียกประชุมรัฐสภาเพือ่ ขอเงินสนับสนุน สมาชิกรัฐสภาหลายคนเป็นเพียวริตัน คือกลุ่มผู้นับถือนิกายโปรเตสแตนท์ที่ยึดมั่นในหลัก ความเชื่อและพิธีการทางศาสนาที่เคร่งครัดและเรียบง่าย พวกเขาไม่เห็นด้วยกับความคิด เห็นทางศาสนาของพระเจ้าชาร์ลส์ และไม่ชอบการปฏิรูปคริสตจักรแห่งอังกฤษของพระองค์ รัฐสภาปฏิเสธทีจ่ ะออกเสียงสนับสนุนการให้เงินทีพ่ ระองค์ตอ้ งการ แม้ในเวลาทีก่ องทัพสก็อต แลนด์ได้บุกเข้ามาในอังกฤษแล้วก็ตาม Another rebellion began in Ireland because the Roman Catholics in Ireland were afraid of the growing power of the Puritans. Parliament took this opportunity to demand control of the English army -a change that would have transferred substantial power from the king to Parliament. In response, Charles I entered the House of Commons and tried to arrest five parliamentary leaders, but they had been warned and were not there. (No monarch has set foot in the Commons since.) Civil war between the king and Parliament could not now be avoided and began in 1642. The country split into those who supported the king (the Cavaliers) and those who supported Parliament (the Roundheads). ผู้คนในไอร์แลนด์ได้เริ่มก่อการกบฎขึ้นมาอีก เนื่องจากชาวโรมันคาทอลิกในไอร์แลนด์ หวาดกลัวการแผ่ขยายอ�ำนาจของชาวเพียวริตันที่มีมากขึ้น รัฐสภาถือโอกาสนี้เรียกร้องที่ จะบังคับบัญชากองทัพอังกฤษเอง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะถ่ายโอนอ�ำนาจส่วนใหญ่ จากกษัตริย์มาให้รัฐสภา พระเจ้าชาร์ลส์ทรงด�ำเนินการโต้ตอบด้วยการเสด็จเข้าไปในสภา สามัญ และพยายามจับกุมผู้น�ำรัฐสภาห้าคน แต่ผู้น�ำทั้งห้าได้รับการเตือนล่วงหน้าจึงหลบ หนีไปก่อน (ตั้งแต่นั้นมาไม่มีกษัตริย์หรือพระราชินีองค์ใดย่างพระบาทเข้าไปในสภาสามัญ อีก) สงครามกลางเมืองระหว่างกษัตริยแ์ ละรัฐสภาเป็นสิง่ ทีไ่ ม่อาจหลีกเลีย่ งได้ และได้ปะทุขนึ้ ในปี ค.ศ. 1642 ผู้คนในประเทศแตกแยกออกเป็นสองฝ่าย คือฝ่ายสนับสนุนกษัตริย์ (กลุ่ม คาวาเลียร์) และฝ่ายสนับสนุนรัฐสภา (กลุ่มหัวเกรียน หรือราวด์เฮด) 60 Life in the UK 3rd Edition
Oliver Cromwell and the English republic
โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ และสาธารณรัฐอังกฤษ
Shakespeare is widely regarded as the greatest writer in the English language เชคสเปียร์ได้รบั การยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นนัก เขียนทีย่ งิ่ ใหญ่ทสี่ ดุ ในโลกภาษาอังกฤษ
The king’s army was defeated at the Battles of Marston Moor and Naseby. By 1646, it was clear that Parliament had won the war. Charles was held prisoner by the parliamentary army. He was still unwilling to reach any agreement with Parliament and in 1649 he was executed. กองทัพของกษัตริยพ์ า่ ยแพ้ในการสูร้ บทีม่ าร์สตัน มัวร์ และเนสบี พอถึงปี ค.ศ. 1646 ก็เห็นได้ชดั ว่ารัฐสภาเป็นฝ่ายชนะสงคราม พระเจ้าชาร์ลส์ทรงถูกทหารรัฐสภาจับตัวกักขังไว้ แต่พระองค์ ยังไม่ทรงเต็มพระทัยที่จะประนีประนอมกับรัฐสภา พระองค์จึงถูกส�ำเร็จโทษในปี ค.ศ. 1649 England declared itself a republic, called the Commonwealth. It no longer had a monarch. For a time, it was not totally clear how the country would be governed. For now, the army was in control. One of its generals, Oliver Cromwell, was sent to Ireland, where the revolt which had begun in 1641 still continued and where there was still a Royalist army. Cromwell was successful in establishing the authority of the English Parliament but did this with such violence that even today Cromwell remains a controversial figure in Ireland. อังกฤษได้ประกาศสถาปนาประเทศเป็นสาธารณรัฐ ภายใต้ชอื่ ‘เครือจักรภพ’ โดยไม่มกี ษัตริย์ เป็นประมุข ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง คนอังกฤษไม่ทราบแน่ชัดว่าควรจะมีรูปแบบการปกครอง อย่างไร จึงให้กองทัพมีอำ� นาจควบคุมไปก่อน โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ นายพลท่านหนึง่ ได้ถกู ส่งตัว ไปปราบกบฏในไอร์แลนด์ ซึ่งก่อตัวขึ้นในปี ค.ศ. 1641 นอกจากนี้ยังมีกองทัพฝ่ายสนับสนุน กษัตริย์อยู่ที่ไอร์แลนด์ด้วย ครอมเวลล์ประสบความส�ำเร็จในการท�ำให้ไอร์แลนด์ตกอยู่ภายใต้ Life in the UK 61
บังคับของรัฐสภาอังกฤษ แต่เขาได้ใช้วิธีการปราบปรามที่โหดเหี้ยมและรุนแรงมาก จนกระทั่ง ทุกวันนี้ครอมเวลล์ยังคงเป็นบุคคลที่มีทั้งคนรักและคนเกลียดชังในไอร์แลนด์ The Scots had not agreed to the execution of Charles I and declared his son Charles II to be king. He was crowned king of Scotland and led a Scottish army into England. Cromwell defeated this army in the Battles of Dunbar and Worcester. Charles II escaped from Worcester, famously hiding in an oak tree on one occasion, and eventually fled to Europe. Parliament now controlled Scotland as well as England and Wales. คนสก็อตแลนด์ไม่เห็นด้วยกับการส�ำเร็จโทษพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 และได้สถาปนาพระโอรสของ พระองค์ คือพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ขึ้นเป็นกษัตริย์ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ทรงได้รับการสวมมงกุฏ เป็นกษัตริย์แห่งสก็อตแลนด์ และได้ทรงน�ำทัพสก็อตแลนด์บุกเข้าไปในอังกฤษ ครอมเวลล์ได้ น�ำทัพเข้าต่อสูแ้ ละได้ชยั ชนะในการรบทีด่ นั บาร์และวูสเตอร์ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 เสด็จหนีออก จากวูสเตอร์ และมีเรือ่ งเล่าขานว่ามีอยูค่ รัง้ หนึง่ พระองค์ได้ทรงซ่อนตัวอยูใ่ นต้นโอ๊ค และเสด็จ หนีไปยุโรปได้ในที่สุด สก็อตแลนด์ อังกฤษ และเวลส์จึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐสภา After his campaign in Ireland and victory over Charles II at Worcester, Cromwell was recognised as the leader of the new republic. He was given the title of Lord Protector and ruled until his death in 1658. When Cromwell died, his son, Richard, became Lord Protector in his place but was not able to control the army or the government. Although Britain had been a republic for 11 years, without Oliver Cromwell there was no clear leader or system of government. Many people in the country wanted stability. People began to talk about the need for a king. หลังจากปราบกบฏในไอร์แลนด์จนราบคาบ และรบชนะพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ที่วูสเตอร์แล้ว ครอมเวลล์ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้น�ำสาธารณรัฐใหม่ของอังกฤษ และได้รับต�ำแหน่ง เป็นเจ้าผู้พิทักษ์สาธารณรัฐอังกฤษ (Lord Protector) ครอมเวลล์มีอ�ำนาจปกครองอังกฤษ จนกระทั่งเขาถึงแก่อสัญกรรมในปี ค.ศ. 1658 เมื่อครอมเวลล์ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว ริชาร์ด บุตรชายของเขาได้เข้ารับต�ำแหน่งเจ้าผู้พิทักษ์สาธารณรัฐอังกฤษสืบต่อไป แต่ริชาร์ด ไม่สามารถควบคุมกองทัพหรือรัฐบาลได้ แม้ว่าอังกฤษจะมีสถานะเป็นสาธารณรัฐมานาน ถึง 11 ปี แต่เมื่อขาดโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ไปแล้ว อังกฤษก็ไม่มีผู้น�ำที่มีความสามารถหรือ ระบบการปกครองที่ชัดเจน คนส่วนใหญ่ในอังกฤษต้องการให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ และเริ่ม พูดคุยกันถึงความจ�ำเป็นที่จะต้องมีกษัตริย์ 62 Life in the UK 3rd Edition
The Restoration
การฟื้นฟูพระราชวงศ์
In May 1660, Parliament invited Charles II to come back from exile in the Netherlands. He was crowned King Charles II of England, Wales, Scotland and Ireland. Charles II made it clear that he had ‘no wish to go on his travels again’. He understood that he could not always do as he wished but would sometimes need to reach agreement with Parliament. Generally, Parliament supported his policies. The Church of England again became the established official Church. Both Roman Catholics and Puritans were kept out of power. ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1660 รัฐสภาได้อญ ั เชิญพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ทีเ่ สด็จหนีไปประทับลีภ้ ยั อยูใ่ นเนเธอร์แลนด์ให้กลับคืนสูอ่ งั กฤษ พระองค์ทรงได้รบั การสวมมงกุฏเป็นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ เวลส์ สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ทรงปฏิบตั ติ วั ให้ทกุ คนทราบ แน่ชัดว่าพระองค์ ‘ไม่ปรารถนาที่จะเสด็จลี้ภัยไปที่ไหนอีก’ พระองค์เข้าพระทัยว่าพระองค์ไม่ สามารถท�ำสิง่ ทีท่ รงปรารถนาได้ทกุ อย่าง แต่จะต้องตกลงประนีประนอมกับรัฐสภาในบางครัง้ อย่างไรก็ตาม โดยทัว่ ไปแล้ว รัฐสภาได้ให้การสนับสนุนพระราชนโยบายของพระองค์ คริสตจักร แห่งอังกฤษได้รับการฟื้นฟูให้เป็นคริสตจักรประจ�ำชาติอีกครั้งหนึ่ง แต่ชาวคริสต์นิกาย โรมันคาทอลิกและนิกายเพียวริตันได้ถูกกีดกันจากการมีอ�ำนาจ During Charles II’s reign, in 1665, there was a major outbreak of plague in London. Thousands of people died, especially in poorer areas. The following year, a great fire destroyed much of the city, including many churches and St Paul’s Cathedral. London was rebuilt with a new St Paul’s, which was designed by a famous architect, Sir Christopher Wren. Samuel Pepys wrote about these events in a diary which was later published and is still read today. ในรัชสมัยของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ในปี ค.ศ. 1665 ได้เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ขึ้นในลอนดอน ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปเป็นจ�ำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตอาศัยของคนยากจน ในปีต่อมาได้เกิด ไฟไหม้ครั้งใหญ่ ซึ่งท�ำลายเมืองไปมากมาย รวมทั้งโบสถ์หลายแห่ง และมหาวิหารเซนต์พอล ได้มีการสร้างเมืองลอนดอนขึ้นมาใหม่ พร้อมกับมหาวิหารเซนต์พอลใหม่ที่ออกแบบโดย เซอร์ คริสโตเฟอร์ เรน สถาปนิกผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง แซมมวล พีปส์ได้เขียนเล่าเหตุการณ์เหล่านี้ ไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัว ซึ่งต่อมาได้รับการตีพิมพ์และยังคงมีผู้อ่านกันอยู่จวบจนทุกวันนี้ The Habeas Corpus Act became law in 1679. This was a very important piece of legislation which remains relevant today. Habeas corpus is Latin for ‘you must Life in the UK 63
present the person in court’. The Act guaranteed that no one could be held prisoner unlawfully. Every prisoner has a right to a court hearing. พระราชบัญญัติ Habeas Corpus Act เป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้นในปี ค.ศ. 1679 กฎหมาย นี้มีความส�ำคัญมากและยังคงมีผลเกี่ยวเนื่องมาถึงปัจจุบัน Habeas corpus เป็นภาษาละติน หมายถึง ‘ท่านจะต้องน�ำตัวบุคคลมาที่ศาล’ พระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นกฎหมายที่ห้ามไม่ให้ ผูใ้ ดถูกกักขังตัวไว้เป็นนักโทษอย่างไม่ถกู ต้องตามกฎหมาย นักโทษทุกคนมีสทิ ธิทจี่ ะขอให้ศาล พิจารณาคดีของตนได้ Charles II was interested in science. During his reign, the Royal Society was formed to promote ‘natural knowledge’. This is the oldest surviving scientific society in the world. Among its early members were Sir Edmund Halley, who successfully predicted the return of the comet now called Halley’s Comet, and Sir Isaac Newton. พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ทรงสนพระทัยในวิทยาศาสตร์ ในรัชสมัยของพระองค์ได้มีการก่อตั้งราช สมาคมแห่งลอนดอนขึน้ มาเพือ่ ส่งเสริม ‘ความรูเ้ กีย่ วกับโลกธรรมชาติ’ และเป็นสมาคมส่งเสริม วิทยาศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงมีอยู่ในโลกนี้ สมาชิกรุ่นแรกๆ ของราชสมาคมแห่งลอนดอน ได้แก่ เซอร์ เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ ผูพ้ ยากรณ์การโคจรกลับมาของดาวหางทีป่ จั จุบนั มีชอื่ ว่า ดาวหาง ฮัลเลย์ได้ส�ำเร็จ และเซอร์ ไอแซค นิวตัน Isaac Newton {1643-1727}
ไอแซค นิวตัน {ค.ศ. 1643-1727}
Born in Lincolnshire, eastern England, Isaac Newton first became interested in science when he studied at Cambridge University. He became an important figure in the field. His most famous published work was Philosophiae Naturalis Principia Mathematica (‘Mathematical Principles of Natural Philosophy’), which showed how gravity applied to the whole universe. Newton also discovered that white light is made up of the colours of the rainbow. Many of his discoveries are still important for modern science. ไอแซค นิวตัน เกิดในลินคอล์นเชียร์ในภาคตะวันออกของอังกฤษ เขาเริ่มสนใจวิทยาศาสตร์ เมื่อเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ต่อมา ไอแซค นิวตันได้กลายเป็นบุคคลส�ำคัญใน 64 Life in the UK 3rd Edition
วงการวิทยาศาสตร์ ผลงานตีพิมพ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเขา คือ Philosophiae Naturalis Principia Mathematica (‘หลักการคณิตศาสตร์ว่าด้วยปรัชญาธรรมชาติ’) ซึ่งแสดงให้ เห็นว่าแรงโน้มถ่วงมีผลกระท�ำต่อทุกวัตถุทั่วทั้งจักรวาลอย่างไร นอกจากนี้ นิวตันยังได้พบว่า แสงสีขาวนัน้ ประกอบด้วยรุง้ สีตา่ งๆ การค้นพบส่วนใหญ่ของไอแซค นิวตัน ยังคงมีความส�ำคัญ ส�ำหรับวิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบัน A Catholic king
กษัตริย์คาทอลิก
Charles II had no legitimate children. He died in 1685 and his brother, James, who was a Roman Catholic, became King James II in England, Wales and Ireland and King James VII of Scotland. James favoured Roman Catholics and allowed them to be army officers, which an Act of Parliament had forbidden. He did not seek to reach agreements with Parliament and arrested some of the bishops of the Church of England. People in England worried that James wanted to make England a Catholic country once more. However, his heirs were his two daughters, who were both firmly Protestant, and people thought that this meant there would soon be a Protestant monarch again. Then, James’s wife had a son. Suddenly, it seemed likely that the next monarch would not be a Protestant after all. พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ไม่มพี ระราชโอรสหรือธิดาทีถ่ กู ต้องตามกฏหมาย เมือ่ พระองค์เสด็จสวรรคต ในปี ค.ศ. 1685 พระเจ้าเจมส์ พระอนุชาซึง่ เป็นชาวคริสต์นกิ ายโรมันคาทอลิกของพระองค์ ได้ เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์ และเป็นพระเจ้า เจมส์ที่ 7 แห่งสก็อตแลนด์ด้วย พระเจ้าเจมส์ทรงโปรดปรานชาวโรมันคาทอลิก และอนุญาต ให้คนเหล่านี้เป็นนายทหารในกองทัพ ซึ่งขัดต่อข้อห้ามในพระราชบัญญัติแห่งรัฐสภา พระเจ้า เจมส์มิได้ขอความคิดเห็นเพื่อการตกลงร่วมกันกับรัฐสภา และได้ทรงจับกุมพระสังฆราช บางรูปของคริสตจักรแห่งอังกฤษ ประชาชนในอังกฤษพากันวิตกกังวลว่าพระเจ้าเจมส์มี พระราชประสงค์ที่จะให้อังกฤษกลับไปเป็นคาทอลิกอีก อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงมี รัชทายาทเป็นพระธิดาที่นับถือนิกายโปรเตสแตนท์อย่างเคร่งครัดสองพระองค์ ผู้คนจึงคิดว่า ในไม่ช้าอังกฤษจะมีพระราชินีเป็นโปรเตสแตนท์อีกครั้งหนึ่ง แต่พระชายาของพระเจ้าเจมส์ ทรงให้กำ� เนิดพระราชโอรส จึงดูเหมือนว่าอังกฤษคงไม่มโี อกาสทีจ่ ะมีกษัตริยห์ รือพระราชินเี ป็น โปรเตสแตนท์ตามที่คาดหวังได้ Life in the UK 65
The Glorious Revolution
การปฏิวัติที่งดงาม
James II’s elder daughter, Mary, was married to her cousin William of Orange, the Protestant ruler of the Netherlands. In 1688, important Protestants in England asked William to invade England and proclaim himself king. When William reached England, there was no resistance. James fled to France and William took over the throne, becoming William III in England, Wales and Ireland, and William II of Scotland. William ruled jointly with Mary. This event was later called the ‘Glorious Revolution’ because there was no fighting in England and because it guaranteed the power of Parliament, ending the threat of a monarch ruling on his or her own as he or she wished. James II wanted to regain the throne and invaded Ireland with the help of a French army. William defeated James II at the Battle of the Boyne in Ireland in 1690, an event which is still celebrated by some in Northern Ireland today. William re-conquered Ireland and James fled back to France. Many restrictions were placed on the Roman Catholic Church in Ireland and Irish Catholics were unable to take part in the government. เจ้าหญิงแมรี่ พระราชธิดาองค์โตของพระเจ้าเจมส์ที่ 2 ทรงอภิเษกสมรสกับลูกพี่ลูกน้องของ พระองค์ คือเจ้าชายวิลเลียมแห่งออเรนจ์ เจ้าผู้ครองเนเธอร์แลนด์ที่นับถือนิกายโปรเตสแตน ท์ ในปี ค.ศ. 1688 ชาวโปรเตสแตนท์คนส�ำคัญๆ ในอังกฤษได้กราบทูลอัญเชิญให้พระเจ้าวิล เลียมยกทัพบุกเข้ามาในอังกฤษ และสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ เมื่อพระเจ้าวิลเลียมยก ทัพมาถึงอังกฤษ ปรากฎว่าไม่มีผู้ใดต่อต้าน พระเจ้าเจมส์เสด็จหนีไปฝรั่งเศส และพระเจ้า วิลเลียมเสด็จขึ้นครองบัลลังก์เป็นพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 แห่งอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์ และ เป็นพระเจ้าวิลเลียมที่ 2 แห่งสก็อตแลนด์ด้วย พระเจ้าวิลเลียมทรงปกครองแผ่นดินร่วมกัน กับพระนางแมรี่ ต่อมามีผู้เรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ‘การปฏิวัติที่งดงาม’ เนื่องจากไม่มีการสู้รบ กันในอังกฤษ และเป็นการปฏิวัติที่รับประกันอ�ำนาจของรัฐสภา และยุติโอกาสที่กษัตริย์หรือ พระราชินีจะทรงใช้อ�ำนาจปกครองตามพระทัยต้องการ พระเจ้าเจมส์ที่ 2 ทรงปรารถนาที่จะ กอบกู้ราชบัลลังก์อังกฤษ และได้ยกทัพบุกไอร์แลนด์ด้วยความช่วยเหลือจากกองทัพฝรั่งเศส พระเจ้าวิลเลียมได้สู้รบชนะพระเจ้าเจมส์ที่ 2 ในการรบที่เมืองบอยน์ในไอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1690 ทุกวันนี้ประชาชนบางกลุ่มในไอร์แลนด์เหนือยังคงฉลองชัยชนะครั้งนั้นอยู่ พระเจ้า วิลเลียมทรงเข้ายึดครองไอร์แลนด์อีก และพระเจ้าเจมส์ได้เสด็จหนีกลับไปฝรั่งเศส อังกฤษ 66 Life in the UK 3rd Edition
ได้วางข้อจ�ำกัดหลายอย่างให้กับคริสตจักรโรมันคาทอลิกในไอร์แลนด์ และชาวไอริชที่เป็น คาทอลิกไม่สามารถเข้ารับราชการได้ There was also support for James in Scotland. An attempt at an armed rebellion in support of James was quickly defeated at Killiecrankie. All Scottish clans were required formally to accept William as king by taking an oath. The MacDonalds of Glencoe were late in taking the oath and were all killed. The memory of this massacre meant some Scots distrusted the new government. พระเจ้าเจมส์ยังมีกลุ่มผู้สนับสนุนอยู่ในสก็อตแลนด์ และได้มีกบฏติดอาวุธก่อการร้ายขึ้น เพื่อช่วยเหลือพระเจ้าเจมส์ แต่ถูกปราบอย่างรวดเร็วในการรบที่คิลลีแครงกี้ ตระกูลชนเผ่า ของสก็อตแลนด์ทุกตระกูลจะต้องท�ำพิธีสาบานตนเพื่อยอมรับพระเจ้าวิลเลียมเป็นกษัตริย์ แต่ตระกูลชนเผ่าแม็คโดนัลด์แห่งเกลนโคได้มาเข้าท�ำพิธีสาบานตนสาย และถูกฆ่าตายหมด ทุกคน การสังหารหมู่ครั้งนั้นยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจ�ำของชาวสก็อตแลนด์ และท�ำให้ชาว สก็อตแลนด์บางคนไม่ไว้ใจผู้ปกครองกลุ่มใหม่ Some continued to believe that James was the rightful king, particularly in Scotland. Some joined him in exile in France; others were secret supporters. James’ supporters became known as Jacobites. มีบางคนโดยเฉพาะในสก็อตแลนด์ที่ยังคงเชื่อว่าพระเจ้าเจมส์เป็นกษัตริย์ที่ถูกต้องชอบธรรม บางคนได้เข้าร่วมลี้ภัยไปอยู่ในฝรั่งเศสกับพระองค์ คนอื่นๆ ให้การสนับสนุนอยู่อย่างลับๆ กลุ่มผู้สนับสนุนพระเจ้าเจมส์นี้ได้ชื่อว่าแจ็คคอไบท์
Life in the UK 67
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ How and why religion changed during this period √ The importance of poetry and drama in the Elizabethan period √ About the involvement of Britain in Ireland √ The development of Parliament and the only period in history when England was a republic √ Why there was a restoration of the monarchy √ How the Glorious Revolution happene √ ในช่วงเวลานี้ ได้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านศาสนาอย่างไร และเพราะเหตุใด √ ความส�ำคัญของบทกวีและบทละครในยุคสมัยพระนางเจ้าอลิซาเบธ √ เรื่องราวเกี่ยวกับการที่อังกฤษเข้าไปเกี่ยวข้องในไอร์แลนด์ √ พัฒนาการของรัฐสภาและช่วงเวลาเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ที่อังกฤษเป็น สาธารณรัฐ √ การฟื้นฟูราชวงศ์กษัตริย์เกิดขึ้นด้วยเหตุใด √ การปฏิวัติที่งดงามเกิดขึ้นอย่างไร
68 Life in the UK 3rd Edition
VISITOR & STUDENT VISA’S Now your here in the UK you may well want friends and family to come to see you or even study here. Again we can assist with this and via Skype we can talk to the applicant. These visa’s are applied for online so there is no problem for us to make the application and advise your family member on what documents need taking to the centre to support the application. These visa’s like all of them are English Law and so the best people to assist are English lawyers.
YOU MAY WANT TO GO TO EUROPE NOW YOUR HERE. WE CAN HELP YOU WITH THIS
A GLOBAL POWER
มหาอ�ำนาจระดับโลก
Constitutional monarchy -the Bill of Rights
การปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ - พระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิ At the coronation of William and Mary, a Declaration of Rights was read. This confirmed that the king would no longer be able to raise taxes or administer justice without agreement from Parliament. The balance of power between monarch and Parliament had now permanently changed. The Bill of Rights, 1689, confirmed the rights of Parliament and the limits of the king’s power. Parliament took control of who could be monarch and declared that the king or queen must be a Protestant. A new Parliament had to be elected at least every three years (later this became seven years and now it is five years). Every year the monarch had to ask Parliament to renew funding for the army and the navy. ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าวิลเลียมและพระนางเจ้าแมรี่ ได้มีการอ่านค�ำ ประกาศสิทธิ ซึ่งรับรองว่ากษัตริย์จะไม่สามารถเรียกเก็บภาษี หรือบริหารการอ�ำนวยความ ยุติธรรมได้อีกแล้ว หากไม่ได้รับความยินยอมจากรัฐสภาเสียก่อน ดุลอ�ำนาจระหว่างกษัตริย์ กับรัฐสภาจึงได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร พระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิ ปี ค.ศ. 1689 เป็น กฎหมายทีย่ นื ยันรับรองสิทธิของรัฐสภาและก�ำหนดขอบเขตการใช้พระราชอ�ำนาจของกษัตริย์ รัฐสภามีอ�ำนาจที่จะเลือกผู้ที่จะเป็นกษัตริย์ และได้ประกาศว่าพระราชาและพระราชินีจะ ต้องเป็นชาวคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ นอกจากนั้น สมาชิกรัฐสภายังจะต้องได้รับการเลือก ตั้งใหม่ทุกๆ 3 ปี (ต่อมาเปลี่ยนเป็นทุกๆ 7 ปี และปัจจุบันมีการเลือกตั้งใหม่ทุกๆ 5 ปี) และ กษัตริย์จะต้องขอให้รัฐสภาพิจารณางบประมาณใหม่ส�ำหรับกองทัพบกและราชนาวีทุกๆ ปี These changes meant that, to be able to govern effectively, the monarch needed to have advisers, or ministers, who would be able to ensure a majority of votes in the House of Commons and the House of Lords. There were two main groups in Parliament, known as the Whigs and the Tories. (The modern Conservative Party is still sometimes referred to as the Tories.) This was the beginning of party politics. การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ท�ำให้กษัตริย์จ�ำเป็นต้องมีที่ปรึกษา หรือรัฐมนตรีที่จะสามารถขอ ความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกรัฐสภาในสภาสามัญและสภาขุนนางได้ ทั้งนี้ 70 Life in the UK 3rd Edition
เพื่อให้การปกครองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในรัฐสภามีสมาชิกอยู่สองกลุ่มใหญ่ คือ กลุ่ม วิก (Whigs) และกลุ่มทอรี่ (Tories) (บางครั้งพรรคอนุรักษ์นิยมสมัยปัจจุบันยังคงถูกเรียกว่า ‘ทอรี่’) และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเมืองระบบพรรค This was also an important time for the development of a free press (newspapers and other publications which are not controlled by the government). From 1695, newspapers were allowed to operate without a government licence. Increasing numbers of newspapers began to be published. ยุคนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่ส�ำคัญส�ำหรับการพัฒนาเสรีภาพของสื่อ (หนังสือพิมพ์ และสิ่งตีพิมพ์ ต่างๆ ที่ไม่อยู่ในการควบคุมของรัฐ) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1695 เป็นต้นมา หนังสือพิมพ์สามารถที่จะ ด�ำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาล การจัดพิมพ์หนังสือพิมพ์จึงมีเพิ่มมากขึ้น The laws passed after the Glorious Revolution are the beginning of what is called ‘constitutional monarchy’. The monarch remained very important but was no longer able to insist on particular policies or actions if Parliament did not agree. After William III, the ministers gradually became more important than the monarch but this was not a democracy in the modern sense. The number of people who had the right to vote for members of Parliament was still very small. Only men who owned property of a certain value were able to vote. No women at all had the vote. Some constituencies were controlled by a single wealthy family. These were called ‘pocket boroughs’. Other constituencies had hardly any voters and were called ‘rotten boroughs’. กฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาในช่วงหลังการปฏิวัติที่งดงาม เป็นกฎหมายที่ก่อให้ เกิดระบอบการปกครองที่เรียกว่า ‘การปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ’ กษัตริย์ ยังคงเป็นบุคคลที่มีความส�ำคัญมาก แต่พระองค์ไม่สามารถที่จะยืนกรานในนโยบายหรือการ ด�ำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งได้ หากไม่ได้รับการเห็นชอบจากรัฐสภา ภายหลังรัชสมัยของ พระเจ้าวิลเลียมที่ 3 รัฐมนตรีเริม่ มีความส�ำคัญยิง่ กว่ากษัตริย์ แต่การปกครองเวลานัน้ ก็ยงั ไม่ใช่ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากคนที่มีสิทธิออกเสียง เลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายังมีจ�ำนวนน้อยมาก ผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่มีค่าเท่านั้นที่จะ สามารถออกเสียงเลือกตั้งได้ และผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเลย เขตเลือกตั้งบางเขตอยู่ภายใต้ การควบคุมของตระกูลคนมัง่ มีตระกูลเดียว เขตเลือกตัง้ เหล่านีเ้ รียกว่า ‘เขตเลือกตัง้ ใต้อทิ ธิพล (pocket boroughs)’ เขตเลือกตัง้ อืน่ ๆ แทบจะไม่มผี อู้ อกเสียง เขตเหล่านีเ้ รียกว่า ‘เขตเลือกตัง้ ที่ไม่เหมาะสม (rotten boroughs)’ Life in the UK 71
A growing population
การเพิ่มของจ�ำนวนประชากร
This was a time when many people left Britain and Ireland to settle in new colonies in America and elsewhere, but others came to live in Britain. The first Jews to come to Britain since the Middle Ages settled in London in 1656. Between 1680 and 1720 many refugees called Huguenots came from France. They were Protestants and had been persecuted for their religion. Many were educated and skilled and worked as scientists, in banking, or in weaving or other crafts. ช่วงเวลานี้คนอังกฤษจ�ำนวนมากได้อพยพออกจากอังกฤษและไอร์แลนด์ไปตั้งถิ่นฐานอยู่ใน อาณานิคมใหม่ในอเมริกาและที่อื่นๆ ในขณะเดียวกันก็มีผู้คนจากที่อื่นๆ เข้ามาตั้งรกราก อาศัยอยู่ในอังกฤษ ชาวยิวรุ่นแรกที่เข้ามาในอังกฤษตั้งแต่ยุคกลางได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ท่ีลอนดอน ในปี ค.ศ. 1656 และได้มีผู้ลี้ภัยจากฝรั่งเศสชื่อว่า ‘ฮูเกอน็อทส์’ จ�ำนวนมากอพยพเข้ามาใน อังกฤษในช่วงปี ค.ศ. 1680 ถึง 1720 ฮูเกอน็อทส์เป็นชาวคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ที่ถูกกลั่น แกล้งเนื่องจากความเชื่อทางศาสนา หลายคนมีการศึกษาและฝีมือช่าง และได้ท�ำงานเป็นนัก วิทยาศาสตร์ หรือการธนาคาร บางคนเป็นช่างทอผ้า หรือท�ำงานช่างฝีมืออื่นๆ The Act or Treaty of Union in Scotland
พระราชบัญญัติหรือสนธิสัญญาสหภาพในสก็อตแลนด์
William and Mary’s successor, Queen Anne, had no surviving children. This created uncertainty over the succession in England, Wales and Ireland and in Scotland. The Act of Union, known as the Treaty of Union in Scotland, was therefore agreed in 1707, creating the Kingdom of Great Britain. Although Scotland was no longer an independent country, it kept its own legal and education systems and Presbyterian Church. สมเด็จพระราชินีแอนน์เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อจากพระเจ้าวิลเลียมและพระนางเจ้าแมรี่ พระนางเจ้าแอนน์ไม่มีราชโอรสหรือธิดาที่มีชีวิตอยู่ เรื่องนี้ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยว กับการสืบทอดราชบัลลังก์ในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์ และในสก็อตแลนด์ ดังนั้น จึงได้ มีการท�ำข้อตกลงในปี ค.ศ. 1970 เพื่อให้อังกฤษกับสก็อตแลนด์ผนวกกันเป็นราชอาณาจักร บริเตนใหญ่ (Kingdom of Great Britain) ภายใต้พระราชบัญญัติสหภาพ (Act of Union) 72 Life in the UK 3rd Edition
ที่เรียกกันในสก็อตแลนด์ว่า สนธิสัญญาสหภาพ (Treaty of Union) ถึงแม้ว่าสก็อตแลนด์ จะไม่ได้มีสถานะเป็นรัฐอิสระอีกต่อไป แต่สก็อตแลนด์ยังคงมีระบบกฎหมายและระบบ การศึกษา และคริสตจักรนิกายเพรสไบเทอเรียนของตนเองเหมือนเดิม The Prime Minister
นายกรัฐมนตรี
When Queen Anne died in 1714, Parliament chose a German, George I, to be the next king, because he was Anne’s nearest Protestant relative. An attempt by Scottish Jacobites to put James II’s son on the throne instead was quickly defeated. George I did not speak very good English and this increased his need to rely on his ministers. The most important minister in Parliament became known as the Prime Minister. The first man to be called this was Sir Robert Walpole, who was Prime Minister from 1721 to 1742. หลังจากทีพ่ ระนางเจ้าแอนน์สวรรคตในปี ค.ศ. 1714 รัฐสภาได้เลือกพระเจ้ายอร์ชที่ 1 เชือ้ สาย เยอรมันให้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์อังกฤษ เนื่องจากพระเจ้ายอร์ชที่ 1 ทรงเป็นพระญาติที่ ใกล้ชดิ ทีส่ ดุ ของพระนางเจ้าแอนน์ และทรงนับถือนิกายโปรเตสแตนท์ อย่างไรก็ตาม กลุม่ กบฏ แจ็คคอไบท์ชาวสก็อตแลนด์ได้พยายามทีจ่ ะกอบกูบ้ ลั ลังก์คนื ให้กบั พระโอรสของพระเจ้าเจมส์ ที่ 2 แต่ถูกปราบอย่างรวดเร็ว พระเจ้ายอร์ชที่ 1 ทรงพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ดีนัก พระองค์จึง ต้องพึง่ พาอาศัยรัฐมนตรีของพระองค์มากยิง่ ขึน้ รัฐมนตรีทสี่ ำ� คัญมากทีส่ ดุ ในรัฐสภามีตำ� แหน่ง ทีเ่ รียกกันต่อมาว่า ‘นายกรัฐมนตรี’ บุรษุ คนแรกทีเ่ ข้ารับต�ำแหน่งนี้ คือ เซอร์ โรเบิรต์ วาลโพล ท่านได้ด�ำรงต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1721 ถึงปี ค.ศ. 1742 The rebellion of the clans
การก่อกบฏของตระกูลชนเผ่าในสก็อตแลนด์ In 1745 there was another attempt to put a Stuart king back on the throne in place of George I’s son, George II. Charles Edward Stuart (Bonnie Prince Charlie), the grandson of James II, landed in Scotland. He was supported by clansmen from the Scottish highlands and raised an army. Charles initially had some successes but was defeated by George II’s army at the Battle of Culloden in 1746. Charles escaped back to Europe. Life in the UK 73
ในปี ค.ศ. 1745 ได้มีการก่อกบฏขึ้นอีกเพื่อให้กษัตริย์ราชวงศ์สจ๊วตเสด็จขึ้นครองบัลลังก์ แทนที่จะเป็นพระเจ้ายอร์ชที่ 2 ซึ่งเป็นพระโอรสของพระเจ้ายอร์ชที่ 1 พระเจ้าชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ด สจ๊วต (บอนนี่ พรินซ์ ชาร์ลี) พระราชนัดดาของพระเจ้าเจมส์ที่ 2 ทรงยกพลขึ้นบก ในสก็อตแลนด์ พระองค์ได้รับการสนับสนุนจากคนของตระกูลชนเผ่าจากพื้นที่ราบสูงของ สก็อตแลนด์ และได้จัดตั้งกองทัพขึ้นมา พระจ้าชาร์ลส์ทรงประสบชัยชนะในการสู้รบบ้าง ในระยะแรกๆ แต่ต้องพ่ายแพ้ต่อกองทัพของพระเจ้ายอร์ชที่ 2 ในการสู้รบที่คัลโลเดน ในปี ค.ศ. 1746 พระเจ้าชาร์ลส์ทรงเสด็จหนีกลับไปยุโรป The clans lost a lot of their power and influence after Culloden. Chieftains became landlords if they had the favour of the English king, and clansmen became tenants who had to pay for the land they used. ตระกูลชนเผ่าในสก็อตแลนด์ต้องสูญเสียอ�ำนาจและอิทธิพลไปมากหลังเหตุการณ์รบที่ คัลลูเดน หัวหน้าตระกูลจะเป็นเจ้าของที่ดินได้ก็ต่อเมื่อกษัตริย์อังกฤษทรงโปรดปรานเท่านั้น สมาชิกในตระกูลถูกลดฐานะไปเป็นผู้เช่า และต้องช�ำระเงินแลกเปลี่ยนกับการใช้ที่ดิน A process began which became known as the ‘Highland Clearances’. Many Scottish landlords destroyed individual small farms (known as ‘crofts’) to make space for large flocks of sheep and cattle. Evictions became very common in the early 19th century. Many Scottish people left for North America at this time. กระบวนการที่เรียกกันในเวลาต่อมาว่า ‘การไล่ที่บนพื้นที่ราบสูง (Highland Clearances)’ ได้เริ่มเกิดขึ้น เจ้าของที่ดินชาวสก็อตแลนด์หลายรายได้แผ้วถางฟาร์มเล็กๆ แต่ละแห่ง (ซึ่ง เรียกว่า ‘ที่ดินท�ำกินขนาดเล็ก’) เพื่อให้เป็นพื้นที่ส�ำหรับเลี้ยงแกะและวัวฝูงใหญ่ ในช่วงต้น ศตวรรษที่ 19 การขับไล่ผู้คนออกจากที่ดินท�ำกินเกิดขึ้นบ่อยจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา ใน ช่วงเวลานั้นจึงมีคนสก็อตแลนด์จ�ำนวนมากละทิ้งถิ่นฐานไปอยู่ที่อเมริกาเหนือ Robert Burns (1759-96)
โรเบิร์ต เบิร์น (1759-96)
Known in Scotland as ‘The Bard’, Robert Burns was a Scottish poet. He wrote in the Scots language, English with some Scottish words, and standard English. He also revised a lot of traditional folk songs by changing or adding lyrics. Burns’ best-known work is probably the song Auld Lang Syne, which is sung 74 Life in the UK 3rd Edition
by people in the UK and other countries when they are celebrating the New Year (or Hogmanay as it is called in Scotland). โรเบิรต์ เบิรน์ มีชอื่ เป็นทีร่ จู้ กั ในสก็อตแลนด์วา่ ‘The Bard (นักกวี)’ เขาเป็นกวีชาวสก็อตแลนด์ ที่ประพันธ์บทกลอนเป็นภาษาสก็อตแลนด์ และภาษาอังกฤษปนสก็อตแลนด์ และภาษา อังกฤษทั่วไป นอกจากนี้ โรเบิร์ต เบิร์น ยังได้ปรับแต่งเพลงพื้นบ้านดั้งเดิมหลายเพลง โดย เปลี่ยนหรือเพิ่มเนื้อร้องใหม่เข้าไป ผลงานของเบิร์นที่เป็นรู้จักกันมากที่สุดน่าจะเป็นเพลง Auld Lang Syne (โอลด์แลงซายน์) ผู้คนในสหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ จะร้องเพลงนี้ ในช่วงงานฉลองเทศกาลปีใหม่ (หรือที่คนในสก็อตแลนด์เรียกว่า เทศกาลฮอกมาเนย์) The Enlightenment
ยุคเรืองปัญญา
During the 18th century, new ideas about politics, philosophy and science were developed. This is often called ‘the Enlightenment’. Many of the great thinkers of the Enlightenment were Scottish. Adam Smith developed ideas about economics which are still referred to today. David Hume’s ideas about human nature continue to influence philosophers. Scientific discoveries, such as James Watt’s work on steam power, helped the progress of the Industrial Revolution. One of the most important principles of the Enlightenment was that everyone should have the right to their own political and religious beliefs and that the state should not try to dictate to them. This continues to be an important principle in the UK today. ในช่วงศตวรรษที่ 18 ได้มีแนวความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นทั้งในด้านการเมือง ปรัชญา และ วิทยาศาสตร์ ช่วงเวลานี้จึงมักจะได้รับการกล่าวขานถึงเสมอว่าเป็น ‘ยุคเรืองปัญญา’ ในยุค นี้มีนักคิดชาวสก็อตแลนด์ที่โด่งดังอยู่หลายคน เช่น อดัม สมิธ ผู้พัฒนาแนวความคิดในเรื่อง เศรษฐกิจที่ยังคงใช้อ้างอิงกันอยู่ในปัจจุบัน และเดวิด ฮูม ผู้มีความคิดเกี่ยวกับธรรมชาติ ของมนุษย์ที่ยังคงมีอิทธิพลต่อนักปรัชญามาโดยตลอด การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ในยุคนี้ ได้แก่ ผลงานของเจมส์ วัตต์เกี่ยวกับพลังไอน�้ำ ซึ่งช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าในการปฏิวัติ อุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม หลักการที่ส�ำคัญมากที่สุดประการหนึ่งในยุคนี้ คือ หลักการ ที่ว่ามนุษย์ทุกคนควรมีสิทธิเสรีภาพในการมีความคิดเห็นทางการเมืองและความเชื่อทาง ศาสนาของตนเอง โดยทีร่ ฐั ไม่ควรพยายามใช้อำ� นาจบังคับให้พวกเขามีความคิดหรือความเชือ่ Life in the UK 75
อย่างใดอย่างหนึ่ง หลักการนี้ยังคงมีความส�ำคัญและเป็นที่ยึดถือกันอยู่ในสหราชอาณาจักร จวบจนทุกวันนี้ The Industrial Revolution
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
Before the 18th century, agriculture was the biggest source of employment in Britain. There were many cottage industries, where people worked from home to produce goods such as cloth and lace. ในช่วงเวลาก่อนศตวรรษที่ 18 ผู้คนในอังกฤษส่วนใหญ่จะรับจ้างท�ำงานในภาคเกษตรกรรม มากที่สุด และยังมีผู้ประกอบอุตสาหกรรมในครัวเรือนจ�ำนวนมากที่ผลิตสินค้า เช่น ทอผ้า และถักลูกไม้ อยู่ที่บ้าน The Industrial Revolution was the rapid development of industry in Britain in the 18th and 19th centuries. Britain was the first country to industrialise on a large scale. It happened because of the development of machinery and the use of steam power. Agriculture and the manufacturing of goods became mechanised. This made things more efficient and increased production. Coal and other raw materials were needed to power the new factories. Many people moved from the countryside and started working in the mining and manufacturing industries. การปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในอังกฤษใน ศตวรรษที่ 18 และ 19 อังกฤษเป็นชาติแรกที่ก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรมในระดับ มหภาค ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากพัฒนาการในด้านเครื่องจักรและการใช้พลังไอน�้ำ ซึ่งท�ำให้มีการน�ำระบบเครื่องจักรมาใช้ในงานเกษตรกรรมและการผลิตสินค้า การท�ำงาน จึงมีประสิทธิภาพสูงและสามารถท�ำการผลิตได้มากขึ้น โรงงานใหม่ๆ ต้องการถ่านหินและ วัตถุดิบอื่นๆ มาใช้เพื่อสร้างพลังงานขับเคลื่อนเครื่องจักรกล คนจ�ำนวนมากอพยพโยกย้าย ออกจากชนบท และเริ่มท�ำงานในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการผลิต The development of the Bessemer process for the mass production of steel led to the development of the shipbuilding industry and the railways. Manufacturing jobs became the main source of employment in Britain. 76 Life in the UK 3rd Edition
การพัฒนากระบวนการเบสซีเมอร์ส�ำหรับการผลิตเหล็กกล้าจ�ำนวนมากได้น�ำไปสู่การพัฒนา อุตสาหกรรมการต่อเรือและการสร้างทางรถไฟ อุตสาหกรรมการผลิตได้กลายเป็นแหล่ง จ้างงานที่ส�ำคัญในอังกฤษ Richard Arkwright (1732-92)
ริชาร์ด อาร์คไรท์ (ค.ศ. 1732-92)
Born in 1732, Arkwright originally trained and worked as a barber. He was able to dye hair and make wigs. When wigs became less popular, he started to work in textiles. He improved the original carding machine. Carding is the process of preparing fibres for spinning into yarn and fabric. He also developed horse¬driven spinning mills that used only one machine. This increased the efficiency of production. Later, he used the steam engine to power machinery. Arkwright is particularly remembered for the efficient and profitable way that he ran his factories. ริชาร์ด อาร์คไรท์ เกิดในปี ค.ศ. 1732 แรกเริ่มเดิมทีเขาได้ฝึกและท�ำงานเป็นช่างตัดผม เขา สามารถย้อมผมและท�ำวิกผมได้ เมื่อมีผู้นิยมใช้วิกผมน้อยลง เขาจึงเริ่มท�ำงานในด้านสิ่งทอ และได้พัฒนาเครื่องสางใยแบบเดิมให้ดีขึ้น การสางใยเป็นกระบวนการเตรียมเส้นใยเพื่อน�ำ ไปปั่นเป็นเส้นด้ายและผืนผ้า นอกจากนี้ เขายังได้พัฒนาโรงงานปั่นด้ายที่ใช้เครื่องจักรเพียง เครื่องเดียวแบบขับเคลื่อนด้วยม้าลาก ซึ่งช่วยเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการผลิต ต่อมาเขาได้ หันมาใช้เครื่องยนต์พลังไอน�้ำเพื่อขับเคลื่อนเครื่องจักร ผู้คนจะจดจ�ำริชาร์ด อาร์คไรท์ ได้ เป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องที่เขาสามารถด�ำเนินโรงงานด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพและสร้าง ผลก�ำไรได้มาก Richard Arkwright’s carding machine เครือ่ งสางใยของริชาร์ด อาร์คไรท์
Life in the UK 77
Better transport links were needed to transport raw materials and manufactured goods. Canals were built to link the factories to towns and cities and to the ports, particularly in the new industrial areas in the middle and north of England. อังกฤษจ�ำเป็นต้องมีระบบการคมนาคมเชื่อมโยงที่ดีขึ้น เพื่ออ�ำนวยความสะดวกในการขนส่ง วัตถุดบิ และสินค้าทีผ่ ลิตออกมา ด้วยเหตุนี้ จึงมีการขุดสร้างคลองเป็นเส้นทางเชือ่ มต่อระหว่าง โรงงานกับเมืองเล็กเมืองใหญ่และท่าเรือต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตอุตสาหกรรมใหม่ๆ ในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือของอังกฤษ Working conditions during the Industrial Revolution were very poor. There were no laws to protect employees, who were often forced to work long hours in dangerous situations. Children also worked and were treated in the same way as adults. Sometimes they were treated even more harshly. สภาพแวดล้อมการท�ำงานในช่วงการปฏิวตั อิ ตุ สาหกรรมนับว่าแย่มาก เวลานัน้ ยังไม่มกี ฎหมาย คุ้มครองลูกจ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ถูกบีบบังคับให้ท�ำงานเป็นเวลานานหลายชั่วโมงในสภาพที่เป็น อันตราย เด็กๆ ก็ท�ำงานด้วย และนายจ้างปฏิบัติต่อเด็กเหล่านี้เหมือนกันกับลูกจ้างที่เป็น ผู้ใหญ่ และบางครั้งการปฏิบัติต่อเด็กเหล่านี้ยังยิ่งเลวร้ายกว่าเสียอีก This was also a time of increased colonisation overseas. Captain James Cook mapped the coast of Australia and a few colonies were established there. Britain gained control over Canada, and the East India Company, originally set up to trade, gained control of large parts of India. Colonies began to be established in southern Africa. ยุคนี้ยังเป็นช่วงเวลาการแผ่ขยายอาณานิคมในดินแดนโพ้นทะเลด้วย กัปตันเจมส์ คุก ได้จัด ท�ำแผนที่ชายฝั่งของออสเตรเลีย และได้ก่อตั้งอาณานิคมบางแห่งขึ้นที่นั่น อังกฤษเข้าไปมี อ�ำนาจควบคุมแคนาดา และบริษัท อีสต์ อินเดีย ซึ่งแต่เดิมก่อตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์ทางการ ค้า ได้เข้าไปมีอ�ำนาจควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอินเดีย และเริ่มมีการก่อตั้งอาณานิคมขึ้นใน แอฟริกาตอนใต้ Britain traded all over the world and began to import more goods. Sugar and tobacco came from North America and the West Indies; textiles, tea and spices came from India and the area that is today called Indonesia. Trading and settlements overseas sometimes brought Britain into conflict with other countries, particularly France, which was expanding and trading in a similar way in many of the same areas of the world. 78 Life in the UK 3rd Edition
อังกฤษได้ท�ำการค้าทั่วโลกและเริ่มน�ำสินค้าเข้าประเทศมากขึ้น น�้ำตาลและยาสูบเป็นสินค้า ที่มาจากอเมริกาเหนือและหมู่เกาะเวสต์อินดีส สินค้าประเภทสิ่งทอ ชา และเครื่องเทศมา จากอินเดียและพื้นที่ซึ่งเรียกว่าอินโดนีเซียในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การค้าและการตั้งถิ่นฐาน ในดินแดนโพ้นทะเลบางครั้งก็ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างอังกฤษกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะฝรั่ ง เศสซึ่งได้ข ยายการค้าในท�ำนองคล้ายคลึงกัน เข้าไปในเขตพื้น ที่เดียวกัน หลายแห่งทั่วโลก Sake Dean Mahomet (1759-1851)
เชค ดีน มูฮัมหมัด (ค.ศ. 1759-1851)
Mahomet was born in 1759 and grew up in the Bengal region of India. He served in the Bengal army and came to Britain in 1782. He then moved to Ireland and eloped with an Irish girl called Jane Daly in 1786, returning to England at the turn of the century. In 1810 he opened the Hindoostane Coffee House in George Street, London. It was the first curry house to open in Britain. Mahomet and his wife also introduced ‘shampooing’, the Indian art of head massage, to Britain. มูฮัมหมัดเกิดในปี ค.ศ. 1759 และเติบโตขึ้นในเขตพื้นที่ของรัฐเบงกอลในอินเดีย เขาได้เข้า รับราชการเป็นทหารในกองทัพเบงกอล และเข้ามาในอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1782 จากนั้นเขา ได้ย้ายไปอยู่ที่ไอร์แลนด์ และเขากับเด็กสาวชาวไอริช ชื่อว่า เจน ดาลี ได้หนีตามกันไปในปี ค.ศ. 1786 และกลับสู่อังกฤษในช่วงเปลี่ยนศตวรรษ ต่อมาในปี ค.ศ. 1810 เขาได้เปิดร้าน ฮินดูสเตน คอฟฟี่ เฮาส์ บนถนนยอร์ช ในลอนดอน ร้านนี้เป็นร้านขายข้าวแกงกะหรี่แห่งแรก ในอังกฤษ มูฮัมหมัดและภรรยายังได้แนะน�ำ ‘Shampooing (การแชมพู)’ ศิลปะการนวด ศีรษะของอินเดียเข้ามาในอังกฤษด้วย The slave trade
การค้าทาส
This commercial expansion and prosperity was sustained in part by the booming slave trade. While slavery was illegal within Britain itself, by the 18th century it was a fully established overseas industry, dominated by Britain and the American colonies. Life in the UK 79
การค้าทาสที่แพร่หลายอย่างรวดเร็วเป็นส่วนหนึ่งที่หล่อเลี้ยงการขยายตัวและความรุ่งเรือง ทางการค้าของอังกฤษ แม้ว่าการค้าทาสจะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในอังกฤษ แต่เมื่อถึงศตวรรษ ที่ 18 ก็ได้มีการค้าทาสกันอย่างเป็นล�่ำเป็นสันในดินแดนโพ้นทะเล ส่วนใหญ่โดยอังกฤษและ อาณานิคมในอเมริกา Slaves came primarily from West Africa. Travelling on British ships in horrible conditions, they were taken to America and the Caribbean, where they were made to work on tobacco and sugar plantations. The living and working conditions for slaves were very bad. Many slaves tried to escape and others revolted against their owners in protest at their terrible treatment. ทาสส่วนใหญ่มาจากแอฟริกาตะวันตก พวกเขาถูกส่งตัวขึ้นเรืออังกฤษและต้องเดินทางใน สภาพที่น่าเวทนา ทาสเหล่านี้ถูกน�ำตัวไปท�ำงานในไร่อ้อยและไร่ยาสูบในอเมริกาและ หมู่เกาะคาริบเบียน พวกเขาท�ำงานในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายและมีสภาพความเป็นอยู่ที่ น่าเอน็จอนาถ ทาสหลายคนพยายามหลบหนี และมีหลายคนทีแ่ ข็งข้อกับเจ้านายเพือ่ ประท้วง การที่เจ้านายปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างทารุณ There were, however, people in Britain who opposed the slave trade. The first formal anti-slavery groups were set up by the Quakers in the late 1700s, and they petitioned Parliament to ban the practice. William Wilberforce, an evangelical Christian and a Member of Parliament, also played an important part in changing the law. Along with other abolitionists (people who supported the abolition of slavery), he succeeded in turning public opinion against the slave trade. In 1807, it became illegal to trade slaves in British ships or from British ports, and in 1833 the Emancipation Act abolished slavery throughout the British Empire. The Royal Navy stopped slave ships from other countries, freed the slaves and punished the slave traders. After 1833, 2 million Indian and Chinese workers were employed to replace the freed slaves. They worked on sugar plantations in the Caribbean, in mines in South Africa, on railways in East Africa and in the army in Kenya. อย่างไรก็ตาม ในอังกฤษมีกลุม่ ผูค้ นทีไ่ ม่เห็นด้วยกับการค้าทาส พวกเควกเกอร์ได้กอ่ ตัง้ กลุม่ ต่อ ต้านการค้าทาสขึ้นมาเป็นกลุ่มแรกในช่วงปลายทศวรรษปี 1700 และได้ย่ืนค�ำร้องต่อรัฐสภา เพื่อขอให้ออกกฎหมายห้ามการค้าทาส วิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ซ ชาวคริสต์นิกายอิวานเจลิคัล ซึ่งเป็นสมาชิกรัฐสภาคนหนึ่ง ได้มีบทบาทที่ส�ำคัญในการเปลี่ยนแปลงกฎหมายด้วย วิลเลียม 80 Life in the UK 3rd Edition
พร้อมกับผูร้ ณรงค์ให้มกี ารเลิกทาสคนอืน่ ๆ (ผูส้ นับสนุนการเลิกทาส) ได้ประสบความส�ำเร็จใน การเปลี่ยนกระแสความรู้สึกนึกคิดของประชาชนทั่วไปให้หันมาต่อต้านการค้าทาส และในปี ค.ศ. 1807 การค้าทาสในเรืออังกฤษหรือจากท่าเรืออังกฤษได้กลายเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ต่อ มาในปี ค.ศ. 1833 ได้มีการออกพระราชบัญญัติเลิกทาส (Emancipation Act) ประกาศให้ มีการเลิกทาสทั่วจักรวรรดิอังกฤษ ราชนาวีอังกฤษได้สั่งหยุดเรือขนส่งทาสจากประเทศอื่นๆ เพื่อปลดปล่อยทาสให้เป็นอิสระ และลงโทษพ่อค้าทาส หลังจากปี ค.ศ. 1833 ได้มีการจ้าง คนงานชาวจีนและอินเดีย 2 ล้านคน เข้าท�ำงานแทนทาสที่ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ คนงาน ชาวจีนและอินเดียเหล่านี้ได้ท�ำงานในไร่อ้อยในหมู่เกาะคาริบเบียน ที่เหมืองแร่ในแอฟริกาใต้ การรถไฟในแอฟริกาตะวันออก และในกองทัพบกในเคนยา The American War of Independence
สงครามประกาศอิสรภาพของอเมริกา
By the 1760s, there were substantial British colonies in North America. The colonies were wealthy and largely in control of their own affairs. Many of the colonist families had originally gone to North America in order to have religious freedom. They were well educated and interested in ideas of liberty. The British government wanted to tax the colonies. The colonists saw this as an attack on their freedom and said there should be ‘no taxation without representation’ in the British Parliament. Parliament tried to compromise by repealing some of the taxes, but relationships between the British government and the colonies continued to worsen. Fighting broke out between the colonists and the British forces. In 1776, 13 American colonies declared their independence, stating that people had a right to establish their own governments. The colonists eventually defeated the British army and Britain recognised the colonies’ independence in 1783. ภายในช่วงทศวรรษปี 1760 มีอาณานิคมอังกฤษเกิดขึ้นมากมายในอเมริกาเหนือ อาณานิคม เหล่านี้มีความมั่งคั่งและส่วนใหญ่จะควบคุมดูแลกิจการอาณานิคมของตนเอง ครอบครัวชาว อาณานิคมส่วนมากได้อพยพไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในอเมริกาเหนือครั้งแรกเพื่อจะได้มีเสรีภาพใน การนับถือศาสนา คนเหล่านี้มีการศึกษาสูงและสนใจในแนวความคิดเรื่องเสรีภาพ รัฐบาล อังกฤษต้องการเรียกเก็บภาษีจากชาวอาณานิคม แต่ชาวอาณานิคมเห็นว่าการท�ำเช่นนั้น Life in the UK 81
เป็นการขัดต่อเสรีภาพของพวกเขา และประกาศว่าอังกฤษ ‘ไม่ควรเรียกเก็บภาษี ถ้าไม่มีผู้ แทน’ ของชาวอาณานิคมในรัฐสภาอังกฤษ รัฐสภาอังกฤษได้พยายามประนีประนอมกับชาว อาณานิคม โดยยกเลิกภาษีบางอย่าง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลอังกฤษกับอาณานิคม เหล่านีเ้ ลวร้ายลงอย่างต่อเนือ่ ง การต่อสูร้ ะหว่างชาวอาณานิคมและกองทัพอังกฤษได้ปะทุขนึ้ และในปี ค.ศ. 1776 อาณานิคม 13 แห่งในอเมริกาได้ประกาศอิสรภาพ และแถลงการณ์ว่า ประชาชนมีสิทธิท่ีจะตั้งรัฐบาลของตนเองขึ้นมาได้ ในที่สุดชาวอาณานิคมก็สู้รบชนะกองทัพ อังกฤษ และอังกฤษได้รับรองเอกราชของอาณานิคมเหล่านี้ในปี ค.ศ. 1783 War with France
สงครามกับฝรั่งเศส
During the 18th century, Britain fought a number of wars with France. In 1789, there was a revolution in France and the new French government soon declared war on Britain. Napoleon, who became Emperor of France, continued the war. Britain’s navy fought against combined French and Spanish fleets, winning the Battle of Trafalgar in 1805. Admiral Nelson was in charge of the British fleet at Trafalgar and was killed in the battle. Nelson’s Column in Trafalgar Square, London, is a monument to him. His ship, HMS Victory, can be visited in Portsmouth. The British army also fought against the French. In 1815, the French Wars ended with the defeat of the Emperor Napoleon by the Duke of Wellington at the Battle of Waterloo. Wellington was known as the Iron Duke and later became Prime Minister. ในช่วงศตวรรษที่ 18 อังกฤษได้สู้รบท�ำสงครามกับฝรั่งเศสหลายครั้ง ในปี ค.ศ. 1789 ได้มี การปฏิวัติเกิดขึ้นในฝรั่งเศส และต่อมาไม่นานรัฐบาลใหม่ของฝรั่งเศสก็ได้ประกาศสงคราม กับอังกฤษ นโปเลียนได้สถาปนาตนเป็นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศสและท�ำสงครามต่อไป ราชนาวี อังกฤษได้ต่อสู้กองทัพเรือร่วมของฝรั่งเศสกับสเปน และสามารถพิชิตศัตรูได้ในการสู้รบที่ ทราฟัลการ์ในปี ค.ศ. 1805 นายพลเนลสันท�ำหน้าที่เป็นแม่ทัพเรืออังกฤษที่ทราฟัลการ์ และ ถูกฆ่าตายในการสู้รบ อังกฤษได้สร้างเสาเนลสันเป็นอนุสรณ์ร�ำลึกถึงเขาไว้ที่จัตุรัสทราฟัลการ์ ในลอนดอน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมเรือรบ HMS Victory ของนายพลเนลสันได้ที่ เมืองพอร์ทสมัธ นอกจากการต่อสู้ทางเรือแล้ว กองทัพบกอังกฤษก็ได้สู้รบกับฝรั่งเศสด้วย สงครามฝรั่งเศสสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1815 เมื่อดยุคแห่งเวลลิงตันสามารถรบชนะจักรพรรดิน โปเลียนได้ในการรบที่วอเตอร์ลู นายพลเวลลิงตันมีสมญานามว่าดยุคเหล็ก และเขาได้ก้าวขึ้น เป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษในเวลาต่อมา 82 Life in the UK 3rd Edition
The Union Flag
ธงสหภาพ
Although Ireland had had the same monarch as England and Wales since Henry VIII, it had remained a separate country. In 1801, Ireland became unified with England, Scotland and Wales after the Act of Union of 1800. This created the United Kingdom of Great Britain and Ireland. One symbol of this union between England, Scotland, Wales and Ireland was a new version of the official flag, the Union Flag. This is often called the Union Jack. The flag combined crosses associated with England, Scotland and Ireland. It is still used today as the official flag of the UK. แม้ว่าไอร์แลนด์จะมีกษัตริย์ปกครององค์เดียวกันกับอังกฤษมาโดยตลอดตั้งแต่สมัยพระเจ้าเฮ นรี่ที่ 8 แต่ไอร์แลนด์ยังคงเป็นประเทศอิสระต่างหาก ในปี ค.ศ. 1801 ไอร์แลนด์ได้ผนวกเข้า กับอังกฤษ สก็อตแลนด์ และเวลส์ หลังจากที่มีการออกพระราชบัญญัติสหภาพปี ค.ศ. 1800 สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ (United Kingdom of Great Britain and Ireland) จึงได้ก่อก�ำเนิดขึ้นมา โดยมีธงชาติใหม่เป็นสัญลักษณ์ของสหภาพระหว่างอังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์ เรียกว่า ธงสหภาพ ที่คนส่วนใหญ่เรียกว่าธงยูเนียนแจ็ค ธง สหภาพประกอบด้วยกางเขนรูปกากบาทที่เกี่ยวเนื่องกับอังกฤษ สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์ ปัจจุบันนี้ยังมีการใช้ธงสหภาพเป็นธงประจ�ำชาติของสหราชอาณาจักรกันอยู่ The Union Flag consists of three crosses: • The cross of St George, patron saint of England, is a red cross on a white ground. • The cross of St Andrew, patron saint of Scotland, is a diagonal white cross on a blue ground. • The cross of St Patrick, patron saint of Ireland, is a diagonal red cross on a white ground. Life in the UK 83
ธงสหภาพประกอบด้วยกางเขน 3 อัน ดังนี้: • กางเขนของเซนต์จอร์จ นักบุญองค์อุปถัมภ์ของอังกฤษ เป็นรูปกากบาทสีแดงบนพื้นสีขาว • กางเขนของเซนต์แอนดรูว์ นักบุญองค์อุปถัมภ์ของสก็อตแลนด์ เป็นรูปกากบาทไขว้สีขาว บนพื้นสีน�้ำเงิน • กางเขนของเซนต์แพทริค นักบุญองค์อุปถัมภ์ของไอร์แลนด์ เป็นรูปกากบาทไขว้สีแดงบน พื้นสีขาว
+ Saint George’s Cross (England)
Saint Andrew’s Cross (Scotland)
+ Flag of Great Britain (1707-1801)
Saint Patrick’s Cross (Ireland)
Union Flag (1801-present)
The crosses of the three countries which combined to form the Union Flag กางเขนของประเทศทั้งสามที่ประสานรวมกันเป็นธงสหภาพ St. George’s Cross of England กางเขนเซนต ์จอร ์จของอังกฤษ St. Andrew’s Cross of Scotland กางเขนเซนต ์แอนดรูว ์ของสก็อตแลนด St. Patrick’s Cross of Ireland กางเขนเซนต ์แพทริคของไอร ์แลนด ์ Union Flag of the UK ธงสหภาพของสหราชอาณาจักร
84 Life in the UK 3rd Edition
There is also an official Welsh flag, which shows a Welsh dragon. The Welsh dragon does not appear on the Union Flag because, when the first Union Flag was created in 1606 from the flags of Scotland and England, the Principality of Wales was already united with England. นอกจากนี้ยังมีธงประจ�ำชาติเวลส์ที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปมังกรเวลส์ด้วย เหตุผลที่มังกรเวลส์ ไม่ได้ปรากฏอยู่บนธงสหภาพก็เนื่องจากเมื่อมีการสร้างธงสหภาพครั้งแรกในปี ค.ศ. 1606 ด้วยธงของสก็อตแลนด์และธงอังกฤษ แคว้นเวลส์ได้ผนวกรวมเข้ากับอังกฤษแล้ว The official Welsh flag ธงประจ�ำชาติเวลส์
The Victorian Age
อังกฤษยุควิคตอเรีย
In 1837, Queen Victoria became queen of the UK at the age of 18. She reigned until 1901, almost 64 years. At the date of writing (2013) this is the longest reign of any British monarch. Her reign is known as the Victorian Age. It was a time when Britain increased in power and influence abroad. Within the UK, the middle classes became increasingly significant and a number of reformers led moves to improve conditions of life for the poor. พระนางเจ้าวิคตอเรียเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระราชินีนาถของสหราชอาณาจักรในปี ค.ศ. 1837 เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ 18 พรรษา พระนางเจ้าวิคตอเรียทรงครองราชย์จนถึงปี ค.ศ. 1901 รวมเวลาเกือบ 64 ปี ขณะเขียนหนังสือเล่มนี้ (ค.ศ. 2013) พระนางเจ้าวิคตอเรีย ทรงเป็นพระราชินีที่ครองราชย์นานที่สุด เมื่อเทียบกับกษัตริย์หรือพระราชินีอังกฤษทุก พระองค์ รัชสมัยของพระนางได้ชื่อว่ายุควิคตอเรีย เป็นช่วงเวลาที่อังกฤษได้แผ่ขยายอ�ำนาจ และอิทธิพลไปในดินแดนต่างประเทศ ภายในสหราชอาณาจักรมีชนชั้นกลางที่เริ่มมีบทบาท ส�ำคัญมากขึ้น และมีกลุ่มผู้น�ำนักปฏิรูปเริ่มด�ำเนินการเคลื่อนไหวเพื่อช่วยให้คนยากจนมี สภาพชีวิตที่ดีขึ้น Life in the UK 85
The British Empire
จักรวรรดิอังกฤษ
During the Victorian period, the British Empire grew to cover all of India, Australia and large parts of Africa. It became the largest empire the world has ever seen, with an estimated population of more than 400 million people. ในช่วงสมัยวิคตอเรีย จักรวรรดิอังกฤษได้ขยายดินแดนครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของอินเดีย ออสเตรเลีย และส่วนใหญ่ของแอฟริกา และได้กลายเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคย พบเห็นกันมาในโลก ประมาณว่าประชากรของจักรวรรดิอังกฤษมีจ�ำนวนกว่า 400 ล้านคน Many people were encouraged to leave the UK to settle overseas. Between 1853 and 1913, as many as 13 million British citizens left the country. People continued to come to Britain from other parts of the world. For example, between 1870 and 1914, around 120,000 Russian and Polish Jews came to Britain to escape persecution. Many settled in London’s East End and in Manchester and Leeds. People from the Empire, including India and Africa, also came to Britain to live, work and study. คนส่วนใหญ่ได้รบั การส่งเสริมให้อพยพจากสหราชอาณาจักรไปตัง้ ถิน่ ฐานในดินแดนโพ้นทะเล ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1853 ถึง 1913 พลเมืองอังกฤษจ�ำนวนมากถึง 13 ล้านคนได้อพยพออกจาก ประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้คนจากส่วนอื่นๆ ของโลกยังคงหลั่งไหลเข้ามาในอังกฤษ ยกตัวอย่าง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1870 ถึง 1914 มีชาวรัสเซียและชาวยิวจากโปแลนด์ประมาณ 120,000 คน เดินทางเข้ามาในอังกฤษเพื่อหนีภัยจากการถูกข่มเหงรังแก หลายคนตั้งรกรากอยู่ในเขตอีสต์ เอนด์ของลอนดอน และในเมืองแมนเชสเตอร์ และเมืองลีดส์ นอกจากนี้ยังมีผู้คนจากดินแดน ของจักรวรรดิอังกฤษ รวมถึง อินเดีย และแอฟริกา ได้อพยพเข้ามาอาศัย ท�ำงานและเรียน หนังสืออยู่ในอังกฤษด้วย Trade and industry
การค้าและอุตสาหกรรม
Britain continued to be a great trading nation. The government began to promote policies of free trade, abolishing a number of taxes on imported goods. One
86 Life in the UK 3rd Edition
example of this was the repealing of the Corn Laws in 1846. These had prevented the import of cheap grain. The reforms helped the development of British industry, because raw materials could now be imported more cheaply. ประเทศอังกฤษยังคงเป็นศูนย์การค้าที่ส�ำคัญ รัฐบาลอังกฤษเริ่มด�ำเนินการส่งเสริมนโยบาย การค้าเสรี โดยเลิกเก็บภาษีสนิ ค้าขาเข้าหลายประเภท ตัวอย่างเช่น การยกเลิกกฎหมายอากร ข้าว (Corn Laws) ในปี ค.ศ. 1846 กฎหมายเหล่านี้ได้ป้องกันการน�ำเข้าสินค้าธัญพืชราคา ถูกจากต่างประเทศ การปฏิรูปได้ช่วยให้การพัฒนาอุตสาหกรรมของอังกฤษเจริญก้าวหน้า เนื่องจากเวลานี้สินค้าเข้าประเภทวัตถุดิบมีราคาถูกลง Working conditions in factories gradually became better. In 1847, the number of hours that women and children could work was limited by law to 10 hours per day. Better housing began to be built for workers. สภาพการท�ำงานในโรงงานได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นตามล�ำดับ ในปี ค.ศ. 1847 ได้มีการออก กฎหมายจ�ำกัดจ�ำนวนชั่วโมงการท�ำงานส�ำหรับผู้หญิงและเด็กๆ ให้สามารถท�ำงานได้ไม่เกิน 10 ชั่วโมงต่อวัน ต่อมาได้เริ่มมีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้นส�ำหรับคนงาน Transport links also improved, enabling goods and people to move more easily around the country. Just before Victoria came to the throne, the father and son George and Robert Stephenson pioneered the railway engine and a major expansion of the railways took place in the Victorian period. Railways were built throughout the Empire. There were also great advances in other areas, such as the building of bridges by engineers such as Isambard Kingdom Brunel. ระบบเชื่อมโยงการคมนาคมได้พัฒนาก้าวหน้าขึ้นด้วย การขนส่งสินค้าและการเดินทางของ ผู้คนทั่วประเทศจึงสามารถท�ำได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในช่วงเวลาก่อนที่พระนางเจ้า วิคตอเรียจะเสด็จขึ้นครองราชย์ สองพ่อลูกชื่อว่า ยอร์ชและโรเบิร์ต สตีเฟนสัน ได้บุกเบิก พัฒนาเครื่องยนต์ส�ำหรับหัวรถจักรลากจูงขบวนรถไฟ และการเติบโตขยายตัวของระบบ การขนส่งทางรถไฟครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นในสมัยวิคตอเรีย ได้มีการสร้างระบบรถไฟตลอดทั่ว จักรวรรดิอังกฤษ นอกจากนี้ ยังมีความก้าวหน้าที่ส�ำคัญในด้านอื่นๆ เช่น การสร้างสะพาน โดยวิศวกร เช่น อิแซมบาร์ด คิงดอม บรูเนล เป็นต้น
Life in the UK 87
Isambard Kingdom Brunel (1806-59)
อิแซมบาร์ด คิงดอม บรูเนล (ค.ศ. 1806-59)
Brunel was originally from Portsmouth, England. He was an engineer who built tunnels, bridges, railway lines and ships. He was responsible for constructing the Great Western Railway, which was the first major railway built in Britain. It runs from Paddington Station in London to the south west of England, the West Midlands and Wales. Many of Brunel’s bridges are still in use today. บรูเนลมาจากเมืองพอร์ทสมัธในอังกฤษ เขาเป็นวิศวกรผู้สร้างอุโมงค์ สะพาน ทางรถไฟ และ เรือใหญ่ บรูเนลเป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้าง เกรท เวสเทิร์น เรลเวย์ ทางรถไฟสายใหญ่ ที่สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในอังกฤษ ขบวนรถไฟสายนี้เชื่อมต่อการเดินทางจากสถานีแพ็ดดิงตัน ในลอนดอนไปถึงภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ รวมทั้งเวสต์มิดแลนด์ และเวลส์ ทุกวันนี้ ยังมีการใช้สะพานหลายแห่งของบรูเนลกันอยู่ British industry led the world in the 19th century. The UK produced more than half of the world’s iron, coal and cotton cloth. The UK also became a centre for financial services, including insurance and banking. In 1851, the Great Exhibition opened in Hyde Park in the Crystal Palace, a huge building made of iron and glass. Exhibits ranged from huge machines to handmade goods. Countries from all over the world showed their goods but most of the objects were made in Britain. ในศตวรรษที่ 19 อังกฤษเป็นผู้น�ำโลกในด้านอุตสาหกรรม อังกฤษผลิตเหล็ก ถ่านหิน และ ผ้าฝ้ายเป็นจ�ำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับจ�ำนวนทั้งหมดที่ผลิตทั่วโลก นอกจากนี้ อังกฤษยังเป็นศูนย์ธุรกิจบริการด้านการเงิน รวมถึง ธุรกิจประกันภัย และการธนาคาร ใน ปี ค.ศ. 1851 ได้มีการเปิดงานนิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่ที่สวนสาธารณะไฮด์ปาร์คในคริสตัล พาเลซ ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตมโหฬาร สร้างด้วยเหล็กและแผ่นกระจก นิทรรศการนี้ จัดแสดงสินค้าต่างๆ ตั้งแต่เครื่องจักรขนาดใหญ่โต ไปจนถึงสินค้าท�ำด้วยมือ มีประเทศต่างๆ จากทั่วโลกเข้าร่วมแสดงสินค้าจากประเทศของตน แต่สิ่งของส่วนใหญ่ท�ำในอังกฤษ The Crimean War
สงครามไครเมีย
From 1853 to 1856, Britain fought with Turkey and France against Russia in the Crimean War. It was the first war to be extensively covered by the media through news stories and photographs. The conditions were very poor and 88 Life in the UK 3rd Edition
many soldiers died from illnesses they caught in the hospitals, rather than from war wounds. Queen Victoria introduced the Victoria Cross medal during this war. It honours acts of valour by soldiers. ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1853 ถึง 1856 อังกฤษกับตุรกีและฝรั่งเศสได้ผนึกก�ำลังกันสู้รบกับรัสเซียในสง ครามไครเมีย สงครามนี้มีสื่อรายงานข่าว ตลอดจนเรื่องราว และภาพถ่ายจากสมรภูมิอย่าง กว้างขวางเป็นครั้งแรก พวกทหารมีสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้ายมาก และทหารส่วนใหญ่ เสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บอันเกิดจากการติดเชื้อขณะอยู่ในโรงพยาบาล มิใช่ด้วยบาดแผล จากการสู้รบ สมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรียทรงเริ่มน�ำเหรียญตราวิคตอเรียครอส มามอบให้แก่ ทหารที่มีความกล้าหาญเป็นพิเศษในช่วงสงครามนี้ Florence Nightingale (1820-1910)
ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล (ค.ศ. 1820-1910)
Florence Nightingale was born in Italy to English parents. At the age of 31, she trained as a nurse in Germany. In 1854, she went to Turkey and worked in military hospitals, treating soldiers who were fighting in the Crimean War. She and her fellow nurses improved the conditions in the hospital and reduced the mortality rate. In 1860 she established the Nightingale Training School for nurses at St Thomas’ Hospital in London. The school was the first of its kind and still exists today, as do many of the practices that Florence used. She is often regarded as the founder of modern nursing. ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล เกิดในประเทศอิตาลี บิดามารดาของเธอเป็นชาวอังกฤษ เมื่อฟลอเรนซ์ อายุได้ 31 ปี เธอได้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นพยาบาลที่เยอรมนี ในปี ค.ศ. 1854 ฟลอเรนซ์ ได้เดินทางไปท�ำงานในโรงพยาบาลทหารที่ประเทศตุรกี เพื่อรักษาพยาบาลทหารที่ต่อสู้ในสง ครามไครเมีย เธอและกลุ่มเพื่อนพยาบาลได้ช่วยกันปรับปรุงสภาพแวดล้อมในโรงพยาบาล และสามารถลดจ�ำนวนผูเ้ สียชีวติ ลงได้ ในปี ค.ศ. 1860 เธอได้กอ่ ตัง้ โรงเรียนฝึกอบรมไนติงเกล เพื่อฝึกอบรมพยาบาลที่โรงพยาบาลเซนต์โทมัสในลอนดอน โรงเรียนนี้เป็นสถานฝึกอบรม พยาบาลแห่งแรก และยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน เช่นเดียวกับวิธีการปฏิบัติหลายอย่างที่ฟลอเรนซ์ เคยใช้ในอดีต ฟลอเรนซ์ ไนติงเกลได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกการพยาบาลสมัยใหม่
Life in the UK 89
Ireland in the 19th century
ไอร์แลนด์ ในยุคศตวรรษที่ 19
Conditions in Ireland were not as good as in the rest of the UK. Two-thirds of the population still depended on farming to make their living, often on very small plots of land. Many depended on potatoes as a large part of their diet. In the middle of the century the potato crop failed, and Ireland suffered a famine. A million people died from disease and starvation. Another million and a half left Ireland. Some emigrated to the United States and others came to England. By 1861 there were large populations of Irish people in cities such as Liverpool, London, Manchester and Glasgow. ผู้คนในไอร์แลนด์มีสภาพการด�ำรงชีวิตที่ไม่ดีนัก เมื่อเทียบกับผู้คนในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของ สหราชอาณาจักร สองในสามของจ�ำนวนประชากรในไอร์แลนด์ยังคงท�ำนาท�ำไร่เลี้ยงชีพ ส่วนใหญ่บนที่ดินผืนเล็กมาก หลายคนรับประทานมันฝรั่งเป็นอาหารหลักประจ�ำวัน ใน ช่วงกลางศตวรรษนี้ การเพาะปลูกมันฝรั่งล้มเหลว และไอร์แลนด์ประสบทุพภิกขภัยหรือ การขาดแคลนอาหาร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บและความอดอยากเป็นจ�ำนวน หลายล้านคน อีกล้านห้าแสนคนพากันอพยพออกจากไอร์แลนด์ คนบางกลุ่มอพยพไปอยู่ที่ สหรัฐอเมริกา บางกลุ่มอพยพเข้ามาในอังกฤษ เมื่อถึงปี ค.ศ. 1861 มีประชากรไอริชจ�ำนวน มากอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น ลิเวอร์พูล ลอนดอน แมนเชสเตอร์ และกลาสโกว์ The Irish Nationalist movement had grown strongly through the 19th century. Some, such as the Fenians, favoured complete independence. Others, such as Charles Stuart Parnell, advocated ‘Home Rule’, in which Ireland would remain in the UK but have its own parliament. ความเคลื่อนไหวของชาวไอริชผู้รักชาติได้ก่อตัวรุนแรงขึ้นตลอดช่วงศตวรรษที่ 19 ชาวไอริช ผู้รักชาติบางกลุ่ม เช่น กลุ่มชาวไอริชในกระบวนการเฟเนียน ต้องการให้ไอร์แลนด์แยกตัว เป็นอิสระโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม ชาวไอริชคนอื่นๆ เช่น ชาร์ลส์ สจ๊วต พาร์เนลล์ ต้องการ ‘ระบบการปกครองตนเอง’ โดยที่ไอร์แลนด์จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร แต่ มีรัฐสภาของตนเอง
90 Life in the UK 3rd Edition
The right to vote
สิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง As the middle classes in the wealthy industrial towns and cities grew in influence, they began to demand more political power. The Reform Act of 1832 had greatly increased the number of people with the right to vote. The Act also abolished the old pocket and rotten boroughs (see page 71) and more parliamentary seats were given to the towns and cities. There was a permanent shift of political power from the countryside to the towns but voting was still based on ownership of property. This meant that members of the working class were still unable to vote. ชนชั้นกลางในเมืองอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งเมืองเล็กและเมืองใหญ่ เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น และ เริ่มเรียกร้องที่จะมีอ�ำนาจทางการเมืองเพิ่มขึ้นด้วย พระราชบัญญัติการปฏิรูป ค.ศ. 1832 ได้ท�ำให้ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งมีจ�ำนวนสูงเพิ่มขึ้นมาก พระราชบัญญัตินี้ยังได้ยกเลิกเขต เลือกตั้งใต้อิทธิพล และเขตเลือกตั้งที่ไม่เหมาะสม (ดูหน้า 71) และเพิ่มที่นั่งในรัฐสภาให้ กับเมืองเล็กเมืองใหญ่มากขึ้น อ�ำนาจทางการเมืองที่เคยมีอยู่ในชนบทได้เปลี่ยนไปเป็นของ คนในเมืองต่างๆ อย่างถาวร อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติการมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งยังขึ้นอยู่ กับเงือ่ นไขการเป็นเจ้าของทรัพย์สนิ ซึง่ หมายถึงว่ากลุม่ คนในชนชัน้ กรรมาชีพยังคงไม่สามารถ มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งได้ A movement began to demand the vote for the working classes and other people without property. Campaigners, called the Chartists, presented petitions to Parliament. At first they seemed to be unsuccessful, but in 1867 there was another Reform Act. This created many more urban seats in Parliament and reduced the amount of property that people needed to have before they could vote. However, the majority of men still did not have the right to vote and no women could vote. การเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิในการเลือกตั้งส�ำหรับชนชั้นกรรมาชีพและผู้ไร้ทรัพย์สิน คนอื่นๆ ได้เริ่มก่อตัวขึ้น กลุ่มผู้รณรงค์ที่เรียกว่า ชาร์ติสท์ หรือกลุ่มผู้เรียกร้องสิทธิทางการ เมือง ได้ยื่นค�ำร้องต่อรัฐสภา ตอนแรกดูเหมือนว่าความพยายามของพวกเขาจะไร้ผล แต่ใน ปี ค.ศ. 1867 ได้มีการตราพระราชบัญญัติการปฏิรูปขึ้นมาอีกหนึ่งฉบับ ซึ่งส่งผลให้จ�ำนวนที่ นั่งในรัฐสภาของผู้แทนในเขตเมืองเพิ่มขึ้นอีกหลายที่นั่ง และปรับลดจ�ำนวนทรัพย์สินที่เป็น เงื่อนไขของการมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งให้น้อยลง อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ยังคงไม่มีสิทธิ ที่จะออกเสียงเลือกตั้ง และผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเลย Life in the UK 91
Politicians realised that the increased number of voters meant that they needed to persuade people to vote for them if they were to be sure of being elected to Parliament. The political parties began to create organisations to reach out to ordinary voters. Universal suffrage (the right of every adult, male or female, to vote) followed in the next century. นักการเมืองเริ่มตระหนักแล้วว่า เมื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงมีจ�ำนวนเพิ่มขึ้น หากพวกเขาต้องการที่ จะได้รับเลือกเข้าเป็นผู้แทนในรัฐสภา พวกเขาจะต้องพยายามชักชวนให้คนเหล่านี้ลงคะแนน เสียงให้พวกเขา พรรคการเมืองต่างๆ จึงเริ่มตั้งองค์กรขึ้นมาเพื่อหาเสียงกับประชาชนทั่วไป ที่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง การมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั่วไป (การมีสิทธิเลือกตั้งของผู้ใหญ่ ทุกคนไม่ว่าชายหรือหญิง) ได้เกิดขึ้นในศตวรรษต่อมา In common with the rest of Europe, women in 19th century Britain had fewer rights than men. Until 1870, when a woman got married, her earnings, property and money automatically belonged to her husband. Acts of Parliament in 1870 and 1882 gave wives the right to keep their own earnings and property. In the late 19th and early 20th centuries, an increasing number of women campaigned and demonstrated for greater rights and, in particular, the right to vote. They formed the women’s suffrage movement and became known as ‘suffragettes’ เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป ผู้หญิงในยุคศตวรรษที่ 19 มีสิทธิน้อยมากเมื่อเทียบกับ ผู้ชาย ในเวลาก่อนหน้านี้จวบจนถึงปี ค.ศ. 1870 เมื่อผู้หญิงแต่งงาน รายได้ตลอดจนทรัพย์สิน เงินทองของเธอจะตกเป็นของสามีทันที ต่อมาพระราชบัญญัติของรัฐสภาในปี ค.ศ. 1870 และปี ค.ศ. 1882 ได้ก�ำหนดให้ภรรยามีสิทธิที่จะครอบครองรายได้และทรัพย์สินของตนเอง ได้ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ผู้หญิงจ�ำนวนมากได้เริ่มรณรงค์ ประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิมากขึ้น โดยเฉพาะสิทธิในการเลือกตั้ง ผู้หญิงเหล่านี้ได้ด�ำเนิน การเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้ผู้หญิงมีสิทธิในการเลือกตั้ง และมีชื่อเป็นที่รู้จักว่า ‘กลุ่มสตรี ผู้เรียกร้องสิทธิเลือกตั้ง’
92 Life in the UK 3rd Edition
Emmeline Pankhurst (1858-1928)
เอ็มมิลีน แพงค์เฮิร์สท์ (ค.ศ. 1858-1928)
Emmeline Pankhurst was born in Manchester in 1858. She set up the Women’s Franchise League in 1889, which fought to get the vote in local elections for married women. In 1903 she helped found the Women’s Social and Political Union (WSPU). This was the first group whose members were called ‘suffragettes’. The group used civil disobedience as part of their protest to gain the vote for women. They chained themselves to railings, smashed windows and committed arson. Many of the women, including Emmeline, went on hunger strike. In 1918, women over the age of 30 were given voting rights and the right to stand for Parliament, partly in recognition of the contribution women made to the war effort during the First World War. Shortly before Emmeline’s death in 1928, women were given the right to vote at the age of 21, the same as men. เอ็มมิลีน แพงค์เฮิร์สท์ เกิดที่เมืองแมนเชสเตอร์ในปี ค.ศ. 1858 เธอได้ก่อตั้งสมาพันธ์ส่งเสริม สิทธิของสตรีในการออกเสียงเลือกตัง้ (Women’s Franchise League) ขึน้ มาในปี ค.ศ. 1889 เพื่อต่อสู้ให้ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วมีสิทธิออกเสียงในการเลือกตั้งในท้องถิ่น ในปี ค.ศ. 1903 เธอ ได้ชว่ ยก่อตัง้ สหภาพส่งเสริมสถานะทางการเมืองและสังคมของสตรี (WSPU) ขึน้ มา สหภาพฯ นี้เป็นกลุ่มแรกที่สมาชิกของกลุ่มถูกเรียกว่า ‘สตรีผู้เรียกร้องสิทธิในการเลือกตั้ง’ ผู้หญิงกลุ่ม นี้ได้ใช้วิธีการดื้อแพ่งที่เรียกว่า ‘อารยะขัดขืน’ เป็นส่วนหนึ่งในการประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ สตรีมีสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง พวกเขาได้ใช้โซ่ล่ามตัวเองเข้ากับราวรั้วกั้น ทุบกระจก หน้าต่าง และวางเพลิง ผู้หญิงส่วนใหญ่ รวมทั้งเอ็มมิลีน ได้พากันอดอาหารประท้วง ต่อมา ในปี ค.ศ. 1918 รัฐบาลก็ได้อนุญาตให้ผู้หญิงอายุเกิน 30 ปีขึ้นไปมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง และมีสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภาได้ ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นการให้เกียรติ ยอมรับผู้หญิงในการมีส่วนช่วยเหลือประเทศชาติในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ก่อนหน้าที่ เอ็มมิลนี จะถึงแก่ความตายในปี ค.ศ. 1928 ไม่นานนัก ผูห้ ญิงก็ได้รบั อนุญาตให้มสี ทิ ธิออกเสียง เลือกตั้งได้เมื่ออายุครบ 21 ปี เช่นเดียวกับผู้ชาย
Life in the UK 93
The future of the Empire
อนาคตของจักรวรรดิอังกฤษ
Although the British Empire continued to grow until the 1920s, there was already discussion in the late 19th century about its future direction. Supporters of expansion believed that the Empire benefited Britain through increased trade and commerce. Others thought the Empire had become over-expanded and that the frequent conflicts in many parts of the Empire, such as India’s north¬west frontier or southern Africa, were a drain on resources. Yet the great majority of British people believed in the Empire as a force for good in the world. แม้ว่าจักรวรรดิอังกฤษจะยังคงเติบโตขยายตัวไปจนถึงช่วงทศวรรษปี 1920 แต่ในช่วงปลาย ศตวรรษที่ 19 คนอังกฤษก็ได้เริ่มพูดคุยกันถึงทิศทางในอนาคตของจักรวรรดิอังกฤษ กลุ่ม ผู้สนับสนุนการขยายอ�ำนาจของจักรวรรดิอังกฤษเชื่อว่าอังกฤษจะได้รับประโยชน์จากการ ค้าและการพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นในดินแดนของจักรวรรดิ คนอื่นๆ คิดว่าจักรวรรดิอังกฤษขยาย ตัวมากเกินไป และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่ส่วนต่างๆ ของจักรวรรดิ เช่น ชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย หรือแอฟริกาใต้ ท�ำให้อังกฤษสิ้นเปลืองทรัพยากร ไปมาก อย่างไรก็ตาม คนอังกฤษส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าจักรวรรดิอังกฤษเป็นพลังสร้างสรรค์ ความดีงามในโลก The Boer War of 1899 to 1902 made the discussions about the future of the Empire more urgent. The British went to war in South Africa with settlers from the Netherlands called the Boers. The Boers fought fiercely and the war went on for over three years. Many died in the fighting and many more from disease. There was some public sympathy for the Boers and people began to question whether the Empire could continue. As different parts of the Empire developed, they won greater freedom and autonomy from Britain. Eventually, by the second half of the 20th century, there was, for the most part, an orderly transition from Empire to Commonwealth, with countries being granted their independence. สงครามบัวร์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1899 ถึง 1902 ท�ำให้อนาคตของจักรวรรดิอังกฤษเป็น เรื่องที่ต้องพูดคุยกันอย่างรีบด่วนมากขึ้น อังกฤษได้เข้าท�ำสงครามในแอฟริกาใต้กับกลุ่มผู้ตั้ง ถิ่นฐานจากเนเธอร์แลนด์ที่ชื่อว่าชาวบัวร์ พวกบัวร์ได้ต่อสู้อย่างดุเดือด และสงครามบัวร์ได้ ด�ำเนินไปเป็นเวลากว่าสามปี หลายคนเสียชีวิตในการสู้รบ และอีกหลายคนเสียชีวิตจากโรค ภัยไข้เจ็บ ประชาชนอังกฤษบางส่วนเห็นใจและเข้าข้างพวกบัวร์ ผู้คนเริ่มสงสัยว่าจักรวรรดิ 94 Life in the UK 3rd Edition
อังกฤษจะยังด�ำรงอยู่ต่อไปได้หรือไม่ เนื่องจากดินแดนส่วนต่างๆ ของจักรวรรดิอังกฤษได้ พัฒนาก้าวหน้าขึ้น อังกฤษจึงอนุญาตให้ประเทศเหล่านี้มีเสรีภาพและอ�ำนาจปกครองตนเอง ได้มากยิ่งขึ้น ในที่สุดเมื่อถึงช่วงหลังของศตวรรษที่ 20 ดินแดนส่วนใหญ่ของจักรวรรดิอังกฤษ ได้เปลีย่ นสถานะไปเป็นกลุม่ ประเทศในเครือจักรภพ โดยทีป่ ระเทศต่างๆ เหล่านีไ้ ด้รบั เอกราช จากอังกฤษ Rudyard Kipling (1865-1936)
รัดยาร์ด คิปลิง (ค.ศ. 1865-1936)
Rudyard Kipling was born in India in 1865 and later lived in India, the UK and the USA. He wrote books and poems set in both India and the UK. His poems and novels reflected the idea that the British Empire was a force for good. Kipling was awarded the Nobel Prize in Literature in 1907. His books include the Just So Stories and The Jungle Book, which continue to be popular today. H is poem If has often been voted among the UK’s favourite poems. It begins with these words: ‘If you can keep your head when all about you Are losing theirs and blaming it on you; If you can trust yourself when all men doubt you, But make allowance for their doubting too; If you can wait and not be tired by waiting, Or being lied about, don’t deal in lies, Or being hated, don’t give way to hating, And yet don’t look too good, nor talk too wise’ (If, Rudyard Kipling) รัดยาร์ด คิปลิง เกิดในอินเดียในปี ค.ศ. 1865 และต่อมาได้อาศัยอยูใ่ นอินเดีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เขาได้เขียนหนังสือและแต่งบทกวีที่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งในอินเดียและ สหราชอาณาจักร เนื้อหาของบทกลอนและนวนิยายของเขาสะท้อนความคิดให้คนอ่านเห็น ว่าจักรวรรดิอังกฤษเป็นพลังของความดี คิปลิงได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในปี ค.ศ. 1907 หนังสือที่เขาแต่ง ได้แก่เรื่อง Just So Stories และ The Jungle Book (เมาคลีลูก หมาป่า) ซึ่งทุกวันนี้ยังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย บทกลอน If (ถ้า) ได้รับการโหวตบ่อยครั้ง จากผูอ้ า่ นในสหราชอาณาจักรว่าเป็นหนึง่ ในบรรดาบทกลอนทีพ่ วกเขาชืน่ ชอบมาก บทกลอน If (ถ้า) ขึ้นต้นด้วยค�ำประพันธ์ต่อไปนี้: Life in the UK 95
‘ถ้าท่านท�ำใจให้สงบได้ เมื่อทุกคนรอบตัวท่าน ขาดสติและโทษว่าท่านเป็นคนผิด; ถ้าท่านเชื่อมั่นในตัวเอง เมื่อคนทั้งมวลไม่ไว้วางใจท่าน, แต่ควรเปิดใจรับฟังข้อสงสัยของพวกเขาด้วย; หากท่านรอคอยได้ และไม่เบื่อกับการรอคอย, หรือเมื่อมีคนใส่ร้าย ท่านอย่าตอบโต้ด้วยค�ำเท็จ, หรือเมื่อมีคนเกลียดชัง อย่าให้ความเกลียดเข้าครอบง�ำใจท่าน, แต่อย่าแสดงตัวว่าดีเด่น หรือพูดราวกับมีปัญญาเหลือล้น’ (ถ้า โดยรัดยาร์ด คิปลิง)
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The change in the balance of power between Parliament and the monarchy √ When and why Scotland joined England and Wales to become Great Britain √ The reasons for a rebellion in Scotland led by Bonnie Prince Charlie √ The ideas of the Enlightenment √ The importance of the Industrial Revolution and development of industry √ The slave trade and when it was abolished √ The growth of the British Empire √ How democracy developed during this period √ การปรับเปลี่ยนสมดุลทางอ�ำนาจระหว่างรัฐสภาและกษัตริย์ √ สก็อตแลนด์เข้าร่วมกับอังกฤษและเวลส์ เพื่อผนวกรวมกันเป็น ‘บริเตนใหญ่’ เมื่อไร และด้วยเหตุผลใด √ สาเหตุที่ท�ำให้มีกบฏเกิดขึ้นในสก็อตแลนด์ภายใต้การน�ำของ บอนนี่ พรินซ์ ชาร์ลี √ แนวความคิดในยุคเรืองปัญญา √ ความส�ำคัญของการปฏิวัตอุตสาหกรรม และการพัฒนาอุตสาหกรรม √ การค้าทาสและปีที่มีการเลิกทาส √ การเติบโตของจักรวรรดิอังกฤษ √ กระบวนการพัฒนาของประชาธิปไตยในช่วงเวลานี้ 96 Life in the UK 3rd Edition
NO5 CHAMBERS
is one of the largest sets of barristers chambers in the UK offering advice and representation across all aspects of the law. We are able to help you find the best solution to your legal problem and can help you find a specialist team to suit your circumstances and budget. Some of the legal problems No5 most commonly can help you deal with include: • Employer Rights • Licensing Issues • Regulation & Non Compliance • Health and Safety Issues • Landlord & Tenant Problems • Environmental Issues For more information on how we can help you please visit our website
www.No5.com
or contact Practice Director
Tony McDaid on Tel: +44(0)845 210 5555 Email: info@no5.com
98 Life in the UK 3rd Edition
THE 20th CENTURY
ศตวรรษที่ 20
The First World War
สงครามโลกครั้งที่ 1
The early 20th century was a time of optimism in Britain. The nation, with its expansive Empire, well-admired navy, thriving industry and strong political institutions, was what is now known as a global ‘superpower’. It was also a time of social progress. Financial help for the unemployed, old-age pensions and free school meals were just a few of the important measures introduced. Various laws were passed to improve safety in the workplace; town planning rules were tightened to prevent the further development of slums; and better support was given to mothers and their children after divorce or separation. Local government became more democratic and a salary for members of Parliament (MPs) was introduced for the first time, making it easier for more people to take part in public life. ต้นศตวรรษที่ 20 เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนในอังกฤษมีทัศนะการมองโลกที่สดใส จักรวรรดิอังกฤษ มีพื้นที่ครอบคลุมดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาล กองทัพเรืออังกฤษมีประสิทธิภาพน่าเกรงขาม อุตสาหกรรมอังกฤษเจริญก้าวหน้า และสถาบันการเมืองก็เข้มแข็ง ถ้าจะว่าตามค�ำนิยาม ยุคปัจจุบัน อังกฤษสมัยนั้นคือประเทศ ‘มหาอ�ำนาจ’ ของโลกนั่นเอง ยุคนี้ยังเป็นช่วงเวลา ที่สังคมมีความเจริญรุ่งเรือง รัฐบาลมีนโยบายจัดสรรเงินสวัสดิการช่วยเหลือคนตกงาน เบี้ย บ�ำนาญผู้สูงอายุ และอาหารฟรีที่โรงเรียน มาตรการเหล่านี้เป็นเพียงบางตัวอย่างที่ส�ำคัญ นอกจากนี้ ยังมีการออกกฎหมายเพื่อปรับปรุงสถานที่ท�ำงานให้มีความปลอดภัยมากยิ่ง ขึ้น และมีการก�ำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการวางผังเมืองเพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้น ของชุมชนสลัม รัฐได้ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่สตรีผู้เป็นมารดาและบุตรหลังการหย่าขาด หรือแยกทางจากสามี องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เริ่มได้รับเงินเดือนเป็นครั้งแรก เปิดโอกาสให้คนส่วนใหญ่ สามารถเข้าร่วมในกิจการสาธารณะผ่านการเลือกตั้งได้ง่ายขึ้น This era of optimism and progress was cut short when war broke out between several European nations. On 28 June 1914, Archduke Franz Ferdinand of Austria was assassinated. This set off a chain of events leading to the First World War Life in the UK 99
(1914-18). But while the assassination provided the trigger for war, other factors -such as a growing sense of nationalism in many European states; increasing militarism; imperialism; and the division of the major European powers into two camps -all set the conditions for war. แต่ความก้าวหน้าและความหวังอันสดใสของผู้คนในยุคนี้ต้องสลายลง เมื่อสงครามได้ปะทุขึ้น ระหว่างหลายประเทศในยุโรป เมือ่ วันที่ 28 มิถนุ ายน ค.ศ. 1914 อาร์ชดยุค ฟรานซ์ เฟอร์ดนิ านด์ แห่งออสเตรียถูกลอบปลงพระชนม์ เหตุการณ์นี้ได้จุดชนวนความขัดแย้งที่ลุกสามไปสู่ สงครามโลกครั้งที่ 1 (ค.ศ. 1914-18) ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์จะเป็นชนวน จุดระเบิดสงคราม แต่องค์ประกอบอืน่ ๆ เช่น กระแสชาตินยิ มทีก่ อ่ ตัวสูงขึน้ ในรัฐต่างๆ ในยุโรป รวมถึงลัทธินิยมทางทหาร ลัทธิจักรวรรดินิยมที่แพร่หลาย และการแบ่งกลุ่มมหาอ�ำนาจยุโรป ออกเป็นสองฝ่าย ทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนปูทางน�ำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 The conflict was centred in Europe, but it was a global war involving nations from around the world. Britain was part of the Allied Powers, which included (amongst others) France, Russia, Japan, Belgium, Serbia -and later, Greece, Italy, Romania and the United States. The whole of the British Empire was involved in the conflict -for example, more than a million Indians fought on behalf of Britain in lots of different countries, and around 40,000 were killed. Men from the West Indies, Africa, Australia, New Zealand and Canada also fought with the British. The Allies fought against the Central Powers -mainly Germany, the Austro-Hungarian Empire, the Ottoman Empire and later Bulgaria. Millions of people were killed or wounded, with more than 2 million British casualties. One battle, the British attack on the Somme in July 1916, resulted in about 60,000 British casualties on the first day alone. ความขัดแย้งนี้มีศูนย์กลางอยู่ในยุโรป แต่ได้ลุกลามเป็นสงครามโลกที่มีประเทศต่างๆ จาก ทั่วโลกเข้ามาเกี่ยวพัน อังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งได้แก่ ฝรั่งเศส รัสเซีย ญี่ปุ่น เบลเยี่ยม เซอร์เบีย โดยมี กรีซ อิตาลี โรมาเนีย และสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมภายหลัง กลุ่มประเทศในจักรวรรดิอังกฤษล้วนมีส่วนเกี่ยวพันในสงคราม ตัวอย่างเช่น ทหารอินเดีย กว่าล้านคนได้เข้าสู้รบให้กับอังกฤษในหลายประเทศ และประมาณ 40,000 คนถูกฆ่า ตายในสนามรบ นอกจากนี้ ยังมีชายฉกรรจ์จากหมู่เกาะเวสต์อินดีส แอฟริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดาเข้าสู้รบเคียงข้างทหารอังกฤษด้วย ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ต่อสู้กับฝ่าย มหาอ�ำนาจกลางอันประกอบด้วย เยอรมนี จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี จักรวรรดิออตโตมัน โดยมีบัลกาเรียเข้าร่วมภายหลัง ผู้คนจ�ำนวนหลายล้านคนถูกฆ่าตายหรือได้รับบาดเจ็บ และ 100 Life in the UK 3rd Edition
ทหารอังกฤษต้องเสียชีวติ ไปกว่า 2 ล้านคน ในการสูร้ บครัง้ หนึง่ เมือ่ อังกฤษบุกเข้าประจัญบาน กับข้าศึกในบริเวณพื้นที่แม่น�้ำซอมม์ในเดือนกรกฏาคม ค.ศ. 1916 ส่งผลให้ทหารอังกฤษเสีย ชีวิตไปราว 60,000 คน ในการรบเพียงแค่วันแรกเท่านั้น The First World War ended at 11.00 am on 11th November 1918 with victory for Britain and its allies. สงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลงเมื่อ 11.00 นาฬิกา ของวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 โดยที่ อังกฤษและกลุ่มประเทศพันธมิตรเป็นฝ่ายขนะสงคราม The partition of Ireland
การแบ่งแยกดินแดนของไอร์แลนด์
In 1913, the British government promised ‘Home Rule’ for Ireland. The proposal was to have a self-governing Ireland with its own parliament but still part of the UK. A Home Rule Bill was introduced in Parliament. It was opposed by the Protestants in the north of Ireland, who threatened to resist Home Rule by force. ในปี ค.ศ. 1913 รัฐบาลอังกฤษได้สัญญาที่จะให้อ�ำนาจ ‘การปกครองตนเอง’ แก่ไอร์แลนด์ ตามข้อเสนอของอังกฤษ ไอร์แลนด์จะมีอิสระในการปกครองตนเองและมีรัฐสภาของตนเอง โดยที่ไอร์แลนด์จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และได้มีการส่งร่างกฎหมาย ‘การปกครองตนเอง’ ให้รัฐสภาอังกฤษพิจารณา แต่ถูกต่อต้านจากกลุ่มชาวโปรเตสแตนท์ใน ภาคเหนือของไอร์แลนด์ ซึ่งขู่ว่าจะใช้ก�ำลังต่อต้านร่างพระราชบัญญัติการปกครองตนเองนี้ The outbreak of the First World War led the British government to postpone any changes in Ireland. Irish Nationalists were not willing to wait and in 1916 there was an uprising (the Easter Rising) against the British in Dublin. The leaders of the uprising were executed under military law. A guerrilla war against the British army and the police in Ireland followed. In 1921 a peace treaty was signed and in 1922 Ireland became two countries. The six counties in the north which were mainly Protestant remained part of the UK under the name Northern Ireland. The rest of Ireland became the Irish Free State. It had its own government and became a republic in 1949.
Life in the UK 101
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้น รัฐบาลอังกฤษได้เลื่อนสัญญาการเปลี่ยนแปลงที่ให้ไว้กับ ไอร์แลนด์ กลุ่มชาวไอริชผู้รักชาติไม่เต็มใจที่จะรอคอย และได้ก่อการกบฏต่อต้านอังกฤษ ขึ้นที่เมืองดับลินในปี ค.ศ. 1916 (กบฏอีสเตอร์) หัวหน้ากบฏได้ถูกประหารชีวิตภายใต้ กฎอัยการศึก ต่อมากองทัพและต�ำรวจอังกฤษในไอร์แลนด์ได้ถูกโจมตีในรูปแบบสงคราม กองโจร อังกฤษกับไอร์แลนด์ได้ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพในปี ค.ศ. 1921 และในปี ค.ศ. 1922 ประเทศไอร์แลนด์ได้ถูกแยกออกเป็นสองส่วน โดยที่ 6 มณฑลในภาคเหนือ ซึ่ง ส่วนใหญ่เป็นโปรเตสแตนท์ได้รวมกันเป็นไอร์แลนด์เหนือ และยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสหราช อาณาจักร ไอร์แลนด์ส่วนที่เหลือกลายเป็นรัฐไอริชอิสระที่มีรัฐบาลของตนเอง และต่อมา ในปี ค.ศ. 1949 ได้สถาปนาประเทศเป็นสาธารณรัฐไอร์แลนด์ There were people in both parts of Ireland who disagreed with the split between the North and the South. They still wanted Ireland to be one independent country. Years of disagreement led to a terror campaign in Northern Ireland and elsewhere. The conflict between those wishing for full Irish independence and those wishing to remain loyal to the British government is often referred to as ‘the Troubles’. ในดินแดนไอร์แลนด์ทั้งสองส่วนนี้ มีผู้คนที่ไม่เห็นด้วยกับการแบ่งแยกไอร์แลนด์เป็นส่วน เหนือและส่วนใต้ คนกลุ่มนี้ต้องการให้ไอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีอิสรภาพปกครองตนเอง ทั้งหมด ความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันนี้คุกรุ่นมานานหลายปี ส่งผลให้มีการก่อการร้ายขึ้นใน ไอร์แลนด์เหนือและที่อื่นๆ ความขัดแย้งที่ส่วนใหญ่เรียกว่า ‘ความวุ่นวาย’ นี้เป็นปัญหาที่ เกิดขึ้นระหว่างฝ่ายที่ประสงค์จะให้ไอร์แลนด์เป็นเอกราชทั้งประเทศกับฝ่ายที่ประสงค์จะ จงรักภักดีต่อรัฐบาลอังกฤษต่อไป The inter-war period
ช่วงเวลาระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กับครั้งที่ 2 In the 1920s, many people’s living conditions got better. There were improvements in public housing and new homes were built in many towns and cities. However, in 1929, the world entered the ‘Great Depression’ and some parts of the UK suffered mass unemployment. The effects of the depression of the 1930s were felt differently in different parts of the UK. The traditional heavy industries such as shipbuilding were badly 102 Life in the UK 3rd Edition
affected but new industries -including the automobile and aviation industries ¬developed. As prices generally fell, those in work had more money to spend. Car ownership doubled from 1 million to 2 million between 1930 and 1939. In addition, many new houses were built. It was also a time of cultural blossoming, with writers such as Graham Greene and Evelyn Waugh prominent. The economist John Maynard Keynes published influential new theories of economics. The BBC started radio broadcasts in 1922 and began the world’s first regular television service in 1936. ในช่วงทศวรรษปี 1920 คนส่วนใหญ่มีสภาพการด�ำรงชีวิตที่ดีขึ้น รัฐบาลได้พัฒนาปรับปรุงที่ อยูอ่ าศัยส�ำหรับคนยากจน และได้มกี ารสร้างบ้านใหม่ๆ ขึน้ มาในเมืองเล็กเมืองใหญ่หลายแห่ง อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ. 1929 ได้เกิด ‘ภาวะเศรษฐกิจตกต�่ำครั้งใหญ่’ ขึ้นทั่วโลก และในเขต พื้นที่บางแห่งของสหราชอาณาจักรได้มีคนตกงานเป็นจ�ำนวนมาก ในทศวรรษปี 1930 ภาค ธุรกิจต่างๆ ในสหราชอาณาจักรได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต�่ำแตกต่างกันไป อุต สากรรมหนักแบบเก่า เช่น อุตสาหกรรมการต่อเรือได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แต่อุตสาหกร รมใหม่ๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมการบินกลับพัฒนาเติบโต และเนือ่ งจาก ราคาสินค้าโดยทั่วไปลดลง ผู้ที่ท�ำงานจึงมีเงินส�ำหรับการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 ถึง 1939 ผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์มีจ�ำนวนเพิ่มขึ้นสองเท่าจาก 1 ล้าน เป็น 2 ล้านคน และยัง มีการสร้างบ้านใหม่ๆ ขึ้นอีกมากมาย ในช่วงเวลานี้วัฒนธรรมอังกฤษเจริญรุ่งเรืองขึ้น มีนัก เขียนชื่อเสียงเด่นดัง เช่น เกรแฮม กรีน และอีฟเวอลีน วาห์ และนักเศรษฐศาสตร์ ชื่อ จอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ ได้ตีพิมพ์ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจและการเมือง ด้วย องค์กรกระจายเสียงแห่งอังกฤษ หรือ บีบีซี ได้ให้บริการกระจายเสียงทางวิทยุในปี ค.ศ. 1922 และเริม่ ให้บริการแพร่ภาพทางโทรทัศน์เป็นประจ�ำเป็นครัง้ แรกในโลกเมือ่ ปี ค.ศ. 1936 The Second World War
สงครามโลกครั้งที่ 2
Adolf Hitler came to power in Germany in 1933. He believed that the conditions imposed on Germany by the Allies after the First World War were unfair; he also wanted to conquer more land for the German people. He set about renegotiating treaties, building up arms, and testing Germany’s military strength in nearby countries. The British government tried to avoid another war. However, when Hitler invaded Poland in 1939, Britain and France declared war in order to stop his aggression. Life in the UK 103
อดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ก้าวขึ้นสู่อ�ำนาจในเยอรมนีเมื่อปี ค.ศ. 1933 ฮิตเลอร์เชื่อว่ากลุ่มสัมพันธมิตร ได้วางเงื่อนไขสัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่อเยอรมนีหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และเขาต้องการ ยึดครองดินแดนเพิ่มเติมให้กับเยอรมันด้วย เขาจึงได้เริ่มเจรจาต่อรองเพื่อแก้ไขสนธิสัญญา ต่างๆ และเริ่มสะสมก�ำลังทหารและอาวุธ และทดสอบความแข็งแกร่งทางการทหารของ เยอรมนีในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง รัฐบาลอังกฤษพยายามหลีกเลี่ยงการเกิดสงครามอีก แต่เมื่อฮิตเลอร์ยกทัพบุกเข้าโปแลนด์ในปี ค.ศ. 1939 อังกฤษกับฝรั่งเศสก็ประกาศสงคราม กับเยอรมนีเพื่อสกัดกั้นการรุกรานของฮิตเลอร์ The war was initially fought between the Axis powers (fascist Germany and Italy and the Empire of Japan) and the Allies. The main countries on the allied side were the UK, France, Poland, Australia, New Zealand, Canada, and the Union of South Africa. สงครามในระยะแรกเป็นการสู้รบระหว่างมหาอ�ำนาจฝ่ายอักษะ (เยอรมนี และอิตาลีที่ นิยมลัทธิฟาสซิสต์ และจักรวรรดิญี่ปุ่น) กับฝ่ายสัมพันธมิตร ประเทศที่ส�ำคัญๆ ทางฝ่าย สัมพันธมิตร ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส โปแลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา และสหภาพแอฟริกาใต้ Having occupied Austria and invaded Czechoslovakia, Hitler followed his invasion of Poland by taking control of Belgium and the Netherlands. Then, in 1940, German forces defeated allied troops and advanced through France. At this time of national crisis, Winston Churchill became Prime Minister and Britain’s war leader. หลังจากยึดครองออสเตรียและบุกเข้าเช็คโกสโลวาเกียแล้ว ฮิตเลอร์ก็ได้บุกเข้าโปแลนด์ และ ต่อจากนั้นได้เข้ายึดครองเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1940 กองทัพเยอรมัน ได้รบชนะกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรและเดินทัพเข้าฝรั่งเศส ในภาวะวิกฤตระดับชาตินี้ วินส ตัน เชอร์ชิลล์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้น�ำการท�ำสงครามของอังกฤษ
104 Life in the UK 3rd Edition
Winston Churchill (1874-1965)
วินสตัน เชอร์ชิลล์ (ค.ศ. 1874-1965)
Winston Churchill, best known for his leadership of the UK during the Second World War วินสตัน เชอร์ชิลล์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก มากที่สุดในฐานะผู้น�ำของอังกฤษในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2
Churchill was the son of a politician and, before becoming a Conservative MP in 1900, was a soldier and journalist. In May 1940 he became Prime Minister. He refused to surrender to the Nazis and was an inspirational leader to the British people in a time of great hardship. He lost the General Election in 1945 but returned as Prime Minister in 1951. เชอร์ชิลล์ เป็นบุตรชายของนักการเมือง เขาเคยเป็นทหารและนักหนังสือพิมพ์ก่อนที่จะได้รับ เลือกตัง้ เป็นสมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคอนุรกั ษ์นยิ มในปี ค.ศ. 1900 เชอร์ชลิ ล์ได้รบั แต่งตัง้ ให้เป็น นายกรัฐมนตรีเมือ่ เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1940 เขาปฏิเสธทีจ่ ะยอมแพ้ตอ่ ทัพนาซี และเป็นผูน้ ำ� ที่สร้างขวัญก�ำลังใจให้แก่คนอังกฤษในช่วงเวลาที่ล�ำบากแสนสาหัส เชอร์ชิลล์พ่ายแพ้ในการ เลือกตั้งทั่วไปในปี ค.ศ. 1945 แต่ได้กลับคืนสู่ต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในปี ค.ศ. 1951 He was an M P until he stood down at the 1964 General Election. Following his death in 1965, he was given a state funeral. He remains a much-admired figure to this day, and in 2002 was voted the greatest Briton of all time by the public. เชอร์ชิลล์ เป็น ส.ส. จนถึงปี ค.ศ. 1964 เมื่อเขาไม่ได้ลงสมัครในการเลือกตั้งทั่วไป เขาถึงแก่ อสัญกรรมในปี ค.ศ. 1965 และอังกฤษได้ให้เกียรติจัดงานศพอย่างเป็นพิธีการให้กับเขา เชอ ร์ชิลล์เป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องมาจนถึงทุกวันนี้ และในปี ค.ศ. 2002 คนอังกฤษได้โหวต ให้เชอร์ชิลล์เป็นยอดคนอังกฤษผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล During the War, he made many famous speeches including lines which you may still hear: เชอร์ชิลล์ได้กล่าวค�ำสุนทรพจน์ที่มีชื่อเสียงในช่วงเวลาสงครามไว้มากมาย ต่อไปนี้เป็นค�ำพูด ที่ท่านอาจเคยได้ยินกันบ้าง: Life in the UK 105
‘I have nothing to offer but blood, toil, tears and sweat’
Churchill’s first speech to the House of Commons after he became Prime Minister, 1940
‘ผมไม่มีอะไรที่จะมอบให้นอกจาก เลือด งานหนัก น�้ำตา และหยาดเหงื่อ’
สุนทรพจน์ครัง้ แรกทีเ่ ชอร์ชลิ ล์กล่าวต่อสภาสามัญหลังจากทีเ่ ขาได้รบั แต่งตัง้ เป็นนายกรัฐมนตรี ค.ศ. 1940
‘We shall fight on the beaches, ‘เราจะสู้บนชายหาด, we shall fight on the landing grounds, เราจะสู้บนผืนดินที่เรายกพลขึ้นบก, we shall fight in the fields and in the streets, เราจะสู้ในทุ่งหญ้าและบนท้องถนน, we shall fight in the hills; เราจะสู้บนเนินเขา; we shall never surrender’ Speech to the House of Commons after Dunkirk (see below), 1940
เราจะไม่มีวันยอมแพ้’ สุนทรพจน์กล่าวต่อสภาสามัญหลังเหตุการณ์ดันเคิร์ก (ดูขา้ งล่าง) ค.ศ. 1940
‘Never in the field of human conflict was so much owed by so many to so few’ Speech to the House of Commons during the Battle of Britain (see below), 1940
‘ในสนามความขัดแย้งของมนุษย์ ไม่มีครั้งใดเลยที่คนจ�ำนวนมหาศาลจะเป็นหนี้บุญคุณ คนเพียงหยิบมือได้มากเช่นนี้’ สุนทรพจน์ตอ่ สภาสามัญในช่วงการรบทีเ่ รียกว่ายุทธการแห่งอังกฤษ (ดูขา้ งล่าง) ค.ศ. 1940
As France fell, the British decided to evacuate British and French soldiers from France in a huge naval operation. Many civilian volunteers in small pleasure and fishing boats from Britain helped the Navy to rescue more than 300,000 men from the beaches around Dunkirk. Although many lives and a lot of equipment were lost, the evacuation was a success and meant that Britain was better able to continue the fight against the Germans. The evacuation gave rise to the phrase ‘the Dunkirk spirit’. 106 Life in the UK 3rd Edition
เมือ่ ฝรัง่ เศสถูกเยอรมนีตแี ตก คนอังกฤษตัดสินใจทีจ่ ะอพยพทหารอังกฤษและฝรัง่ เศสออกจากฝรัง่ เศส โดยอาศัยปฏิบัติการทางเรือครั้งมโหฬาร พลเรือนอาสาสมัครจ�ำนวนมากได้น�ำเรือหาปลาและเรือ สันทนาการล�ำเล็กจากอังกฤษมาช่วยราชนาวีขนถ่ายทหารกว่า 300,000 คนออกจากบริเวณชายหาด รอบดันเคิรก์ มาได้ แม้วา่ หลายคนจะเสียชีวติ และอังกฤษได้สญ ู เสียอุปกรณ์ไปเป็นจ�ำนวนมาก แต่องั กฤษ ประสบความส�ำเร็จในการอพยพทหารครั้งนี้ ซึ่งหมายถึงว่าอังกฤษจะสามารถท�ำการสู้รบกับทหาร เยอรมันต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิง่ ขึน้ การอพยพครัง้ นีเ้ ป็นทีม่ าของวลี ‘สปิรติ แห่งดันเคิรก์ ’ From the end of June 1940 until the German invasion of the Soviet Union in June 1941, Britain and the Empire stood almost alone against Nazi Germany. ช่วงเวลาตั้งแต่ปลายมิถุนายน ค.ศ. 1940 ไปจนถึงเมื่อทัพเยอรมันบุกโจมตีสหภาพโซเวียตในเดือน มิถนุ ายน ค.ศ. 1941 อังกฤษและกลุม่ ประเทศในจักรวรรดิองั กฤษได้ตอ่ สูก้ บั นาซีเยอรมนีแทบจะเรียก ได้วา่ ตามล�ำพัง Hitler wanted to invade Britain, but before sending in troops, Germany needed to control the air. The Germans waged an air campaign against Britain, but the British resisted with their fighter planes and eventually won the crucial aerial battle against the Germans, called ‘the Battle of Britain’, in the summer of 1940. The most important planes used by the Royal Air Force in the Battle of Britain were the Spitfire and the Hurricane -which were designed and built in Britain. Despite this crucial victory, the German air force was able to continue bombing London and other British cities at night-time. This was called the Blitz. Coventry was almost totally destroyed and a great deal of damage was done in other cities, especially in the East End of London. Despite the destruction, there was a strong national spirit of resistance in the UK. The phrase ‘the Blitz spirit’ is still used today to describe Britons pulling together in the face of adversity. ฮิตเลอร์ตอ้ งการบุกเข้าอังกฤษ แต่กอ่ นทีจ่ ะส่งทหารเข้าไปได้ เยอรมนีจำ� เป็นต้องควบคุมน่านฟ้าอังกฤษ ให้ได้เสียก่อน ทหารเยอรมันได้ทำ� สงครามกลางเวหากับอังกฤษ แต่องั กฤษได้ใช้เครือ่ งบินต่อสูเ้ ข้าปะทะ ก�ำลังกับทัพอากาศเยอรมัน และในทีส่ ดุ ก็สามารถเอาชนะเยอรมันได้ในยุทธการกลางเวหาครัง้ ส�ำคัญ ทีเ่ รียกกันว่า ‘ยุทธการแห่งอังกฤษ’ ในฤดูรอ้ นปี ค.ศ. 1940 เครือ่ งบินทีส่ ำ� คัญทีส่ ดุ ทีก่ องทัพอากาศอังกฤษ ได้ใช้สรู้ บในยุทธการแห่งอังกฤษ คือ เครือ่ งบินต่อสู้ สปิทไฟร์ และเฮอริเคน ซึง่ ออกแบบและสร้างขึน้ ใน อังกฤษ แม้องั กฤษจะประสบชัยชนะในการยุทธ์ครัง้ ส�ำคัญนี้ แต่กองทัพอากาศเยอรมันยังคงสามารถ ทิง้ ระเบิดในยามค�ำ่ คืนทีก่ รุงลอนดอนและเมืองใหญ่อนื่ ๆ ของอังกฤษได้อย่างต่อเนือ่ ง การทิง้ ระเบิดอย่าง ต่อเนือ่ งนี้ เรียกว่า เดอะบลิทซ์ เมืองโคเวนทรีได้รบั ความเสียหายแทบย่อยยับจากการทิง้ ระเบิดของ เยอรมัน และเมืองใหญ่อนื่ ๆ ได้รบั ความเสียหายมาก โดยเฉพาะในเขตอีสต์เอนด์ของลอนดอน ถึงแม้จะ Life in the UK 107
ได้รบั ความสูญเสียมากมาย แต่คนอังกฤษทัว่ ประเทศยังคงมีขวัญและก�ำลังใจทีเ่ ข้มแข็งในการต่อสู้ ทุกวัน นีย้ งั มีการใช้คำ� ว่า ‘เดอะ บลิทซ์ สปิรติ ’ เพือ่ บรรยายภาพคนอังกฤษทีร่ วมพลังเป็นน�ำ้ หนึง่ ใจเดียวกันใน ยามทีต่ อ้ งเผชิญกับสถานการณ์อนั เลวร้าย At the same time as defending Britain, the British military was fighting the Axis on many other fronts. In Singapore, the Japanese defeated the British and then occupied Burma, threatening India. The United States entered the war when the Japanese bombed its naval base at Pearl Harbour in December 1941. ทหารอังกฤษต้องต่อสูป้ อ้ งกันประเทศอังกฤษ และในเวลาเดียวกันก็ตอ้ งสูร้ บกับกองทัพฝ่ายอักษะตาม แนวรบอีกหลายด้าน ญีป่ นุ่ รบชนะอังกฤษทีส่ งิ คโปร์ แล้วเข้าครอบครองพม่า และมีทที า่ ว่าจะบุกเข้า อินเดียด้วย สหรัฐอเมริกาประกาศเข้าร่วมท�ำสงครามเมือ่ ญีป่ นุ่ ทิง้ ระเบิดฐานทัพเรือของอเมริกาทีอ่ า่ ว เพิรล์ ฮาร์เบอร์ เมือ่ เดือนธันวาคม ค.ศ. 1941 That same year, Hitler attempted the largest invasion in history by attacking the Soviet Union. It was a fierce conflict, with huge losses on both sides. German forces were ultimately repelled by the Soviets, and the damage they sustained proved to be a pivotal point in the war. ในปีเดียวกันนัน้ เอง ฮิตเลอร์ได้พยายามด�ำเนินการรุกรานครัง้ ใหญ่ทสี่ ดุ ในประวัตศิ าสตร์ โดยบุกเข้าโจมตี สหภาพโซเวียต ทหารทัง้ สองฝ่ายสูร้ บกันอย่างดุเดือด และต่างฝ่ายต่างสูญเสียทหารไปมากมาย ในทีส่ ดุ โซเวียตก็สามารถขับไล่กองทัพเยอรมันออกไปได้ กองทัพเยอรมันได้รบั ความเสียหายอย่างรุนแรง และ เหตุการณ์ครัง้ นีไ้ ด้กลายเป็นจุดเปลีย่ นทีส่ ำ� คัญในสงคราม
The Royal Air Force helped to defend Britain in the Second World War
กองทัพอากาศช่วยสู้รบป้องกันอังกฤษในสงครามโลกครั้งที่ 2
The allied forces gradually gained the upper hand, winning significant victories in North Africa and Italy. German losses in the Soviet Union, combined with the support of the Americans, meant that the Allies were eventually strong enough to attack Hitler’s forces in Western Europe. On 6 June 1944, allied forces landed in Normandy (this event is often referred to as ‘D-Day’). Following victory on the beaches of Normandy, the allied forces pressed on through France and eventually into Germany. The Allies comprehensively defeated Germany in May 1945. 108 Life in the UK 3rd Edition
กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรเริม่ ได้เปรียบขึน้ ตามล�ำดับ และได้รบั ชัยชนะทีส่ ำ� คัญในแอฟริกาเหนือและอิตาลี เยอรมันพ่ายแพ้ตอ่ สหภาพโซเวียต และการสนับสนุนจากอเมริกาได้ชว่ ยให้ฝา่ ยสัมพันธมิตรเข้มแข็งมาก พอทีจ่ ะบุกโจมตีกองทัพฮิตเลอร์ในยุโรปตะวันตกได้ในทีส่ ดุ กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรได้ยกพลขึน้ บกที่ ชายหาดนอร์มงั ดีเมือ่ วันที่ 6 มิถนุ ายน ค.ศ. 1944 (เหตุการณ์นมี้ กั จะเรียกกันว่าวันเผด็จศึก ‘ดี-เดย์’) หลังจากสูร้ บได้ชยั ชนะทีช่ ายหาดนอร์มงั ดี กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรก็รกุ ต่อเข้าไปในฝรัง่ เศสและในทีส่ ดุ ก็บุกเข้าไปในเยอรมนี ฝ่ายสัมพันธมิตรรบชนะศึกทุกด้านและพิชิตเยอรมนีได้อย่างราบคาบในเดือน พฤษภาคม ค.ศ. 1945 The war against Japan ended in August 1945 when the United States dropped its newly developed atom bombs on the Japanese cities of Hiroshima and Nagasaki. Scientists led by Ernest Rutherford, working at Manchester and then Cambridge University, were the first to ‘split the atom’ and took part in the Manhattan Project in the United States, which developed the atomic bomb. The war was finally over. สงครามกับญีป่ นุ่ สิน้ สุดลงในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1945 เมือ่ สหรัฐอเมริกาทิง้ ระเบิดปรมาณูทคี่ ดิ ค้นพัฒนา ขึน้ มาใหม่ทเี่ มืองฮิโรชิมาและนางาซากิของญีป่ นุ่ คณะนักวิทยาศาสตร์นำ� โดย เออร์เนสต์ รัทเธอร์ฟอร์ด ซึง่ ท�ำงานทีม่ หาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์และต่อมาทีม่ หาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เป็นนักวิทยาศาสตร์กลุม่ แรกที่ สามารถ ‘แยกอนุภาคอะตอม’ ได้ และพวกเขาได้เข้าร่วมในโครงการแมนฮัตตันทีส่ หรัฐอเมริกาเพือ่ ช่วย พัฒนาระเบิดปรมาณู ในทีส่ ดุ สงครามโลกครัง้ ที่ 2 ก็ได้สนิ้ สุดลง
Alexander Fleming (1881-1955)
อเล็กซานเดอร์ เฟลมิง (ค.ศ. 1881-1955)
Born in Scotland, Fleming moved to London as a teenager and later qualified as a doctor. He was researching influenza (the ‘flu’) in 1928 when he discovered penicillin. This was then further developed into a usable drug by the scientists Howard Florey and Ernst Chain. By the 1940s it was in mass production. Fleming won the Nobel Prize in Medicine in 1945. Penicillin is still used to treat bacterial infections today. อเล็กซานเดอร์ เฟลมิง เกิดในสก็อตแลนด์ เขาย้ายมาอยูท่ ลี่ อนดอนขณะเป็นวัยรุน่ และต่อมาเข้าศึกษา วิชาการแพทย์และเรียนจบเป็นนายแพทย์ เขาได้คน้ พบเพนิซลิ ลินขณะท�ำการวิจยั เกีย่ วกับโรคไข้หวัดใหญ่ (‘ไข้หวัดใหญ่’) ในปี ค.ศ. 1928 ต่อมานักวิทยาศาสตร์ ชือ่ โฮเวิรด์ ฟลอเรย์ และเอิรน์ สท์ เชน ได้พฒ ั นา เพนิซลิ ลินให้เป็นยาทีใ่ ช้รกั ษาโรคได้ ในช่วงทศวรรษปี 1940 ได้มกี ารผลิตยาเพนิซลิ ลินเป็นจ�ำนวนมาก เฟลมิงได้รบั รางวัลโนเบลสาขาการแพทย์เมือ่ ปี ค.ศ. 1945 เพนิซลิ ลินเป็นยาปฏิชวี นะทีย่ งั คงใช้รกั ษาโรค ติดเชือ้ จากแบคทีเรียกันอยูจ่ วบจนทุกวันนี้ Life in the UK 109
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The change in the balance of power between Parliament and the monarchy √ When and why Scotland joined England and Wales to become Great Britain √ The reasons for a rebellion in Scotland led by Bonnie Prince Charlie √ The ideas of the Enlightenment √ The importance of the Industrial Revolution and development of industry √ The slave trade and when it was abolished √ The growth of the British Empire √ How democracy developed during this period √ การปรับเปลี่ยนสมดุลทางอ�ำนาจระหว่างรัฐสภาและกษัตริย์ √ สก็อตแลนด์เข้าร่วมกับอังกฤษและเวลส์ เพื่อผนวกรวมกันเป็น ‘บริเตนใหญ่’ เมื่อไร และด้วยเหตุผลใด √ สาเหตุที่ท�ำให้มีกบฏเกิดขึ้นในสก็อตแลนด์ภายใต้การน�ำของ บอนนี่ พรินซ์ ชาร์ลี √ แนวความคิดในยุคเรืองปัญญา √ ความส�ำคัญของการปฏิวัตอุตสาหกรรม และการพัฒนาอุตสาหกรรม √ การค้าทาสและปีที่มีการเลิกทาส √ การเติบโตของจักรวรรดิอังกฤษ √ กระบวนการพัฒนาของประชาธิปไตยในช่วงเวลานี้
110 Life in the UK 3rd Edition
THE ASSOCIATION OF THAI BUSINESSES IN THE UK Based in London, the purpose of ATBUK is to support Thai Businesses and their employees operating in the UK. We aim to offer advice on UK employment law; visa and work permit requirements as well as address any other concerns within the Thai Business Community.
E: info@atbuk.org W: www.atbuk.org
BRITAIN SINCE 1945
อังกฤษตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945 The welfare state
รัฐสวัสดิการ
Although the UK had won the war, the country was exhausted economically and the people wanted change. During the war, there had been significant reforms to the education system and people now looked for wider social reforms. ถึงแม้จะเป็นประเทศที่ชนะสงคราม แต่อังกฤษต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายไปเป็นจ�ำนวนมาก และ ประชาชนอังกฤษต้องการความเปลีย่ นแปลง ในช่วงสงครามได้มกี ารปฏิรปู การศึกษาครัง้ ใหญ่ ในอังกฤษ และเวลานี้คนอังกฤษต้องการให้มีการปฏิรูปทางสังคมมากยิ่งขึ้น In 1945 the British people elected a Labour government. The new Prime Minister was Clement Attlee, who promised to introduce the welfare state outlined in the Beveridge Report. In 1948, Aneurin (Nye) Bevan, the Minister for Health, led the establishment of the National Health Service (NHS), which guaranteed a minimum standard of health care for all, free at the point of use. A national system of benefits was also introduced to provide ‘social security’, so that the population would be protected from the ‘cradle to the grave’. The government took into public ownership (nationalised) the railways, coal mines and gas, water and electricity supplies. ในปี ค.ศ. 1945 พรรคแรงงานได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาลโดยประชาชนอังกฤษ คลีเมนท์ แอทท์ลี นายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ให้สัญญาไว้ว่าจะเริ่มสร้างรัฐสวัสดิการในอังกฤษการตาม แผนที่แจกแจงไว้ใน ‘รายงานประกันสังคมของเบเวอริดจ์’ ต่อมาในปี ค.ศ. 1948 อนายริน (นาย) เบฟเวน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นผูน้ ำ� การก่อตัง้ องค์กรสาธารณสุขแห่งชาติ (National Health Service (NHS)) เพื่อเป็นหลักประกันให้ทุกคนได้รับการดูแลสุขภาพ มาตรฐานเดียวเสมอกันถ้วนหน้าและฟรีทุกครั้ง นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ริเริ่มระบบเงิน สงเคราะห์ส�ำหรับพลเมืองทั่วประเทศ เพื่อสร้าง ‘หลักประกันสังคม’ ที่ให้การคุ้มครองทุกคน ตัง้ แต่ ‘ครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน’ และตามนโยบายของรัฐ การรถไฟ เหมืองถ่านหิน กิจการก๊าซ น�้ ำ ประปาและไฟฟ้ า ได้ ถู ก โอนให้ เ ป็ น กรรมสิ ท ธิ์ แ ละอยู ่ ภ ายใต้ ก ารด� ำ เนิ น การของรั ฐ (รัฐวิสาหกิจ) 112 Life in the UK 3rd Edition
Another aspect of change was self-government for former colonies. In 1947, independence was granted to nine countries, including India, Pakistan and Ceylon (now Sri Lanka). Other colonies in Africa, the Caribbean and the Pacific achieved independence over the next 20 years. ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่าง คือ การอนุญาตให้อาณานิคมเก่าก่อนมีอ�ำนาจปกครองตนเองได้ ในปี ค.ศ. 1947 อังกฤษได้ให้เอกราชแก่ประเทศต่างๆ 9 ประเทศ รวมถึงอินเดีย ปากีสถาน และซีลอน (ปัจจุบันคือศรีลังกา) ประเทศอาณานิคมอื่นๆ ในแอฟริกา หมู่เกาะคาริบเบียน และแปซิฟิกต่างก็ได้รับเอกราชในเวลา 20 ปีต่อมา The UK developed its own atomic bomb and joined the new North Atlantic Treaty Organization (NATO), an alliance of nations set up to resist the perceived threat of invasion by the Soviet Union and its allies. สหราชอาณาจักรได้พฒ ั นาระเบิดปรมาณูขนึ้ มาเอง และเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสญ ั ญา ป้องกันแอตแลนติกเหนือ (องค์การนาโต้ - NATO) ทีต่ งั้ ขึน้ ใหม่ กลุม่ ประเทศพันธมิตรได้กอ่ ตัง้ องค์การนี้ขึ้นเพื่อต่อต้านภัยคุกคามจากสหภาพโซเวียตและกลุ่มพันธมิตรของสหภาพโซเวียต Britain had a Conservative government from 1951 to 1964. The 1950s were a period of economic recovery after the war and increasing prosperity for working people. The Prime Minister of the day, Harold Macmillan, was famous for his ‘wind of change’ speech about decolonisation and independence for the countries of the Empire. พรรคอนุรักษ์นิยมได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาลปกครองอังกฤษตั้งแต่ปี ค.ศ. 1951 ถึง 1964 ทศวรรษ ปี 1950 เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวหลังสงคราม ผู้ที่มีงานท�ำมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น ฮาโรลด์ แมคมิลแลน นายกรัฐมนตรีองั กฤษในเวลานัน้ ได้พดู ถึง ‘สายลมแห่งการเปลีย่ นแปลง’ ซึ่งเป็นสุนทรพจน์ที่โด่งดังเกี่ยวกับการปลดปล่อยอาณานิคมและการให้เอกราชแก่กลุ่ม ประเทศในจักรวรรดิอังกฤษ
Life in the UK 113
Clement Attlee (1883-1967)
คลีเมนท์ แอทท์ลี (ค.ศ. 1883-1967)
Clement Attlee was born in London in 1883. His father was a solicitor and, after studying at Oxford University, Attlee became a barrister. He gave this up to do social work in East London and eventually became a Labour MP. He was Winston Churchill’s Deputy Prime Minister in the wartime coalition government and became Prime Minister after the Labour Party won the 1945 election. He was Prime Minister from 1945 to 1951 and led the Labour Party for 20 years. Attlee’s government undertook the nationalisation of major industries (like coal and steel), created the National Health Service and implemented many of Beveridge’s plans for a stronger welfare state. Attlee also introduced measures to improve the conditions of workers. คลีเมนท์ แอทท์ลี เกิดที่กรุงลอนดอนในปี ค.ศ. 1883 บิดาของเขาเป็นทนายความ เมื่อเรียน จบจากมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดแล้ว แอทท์ลีได้ประกอบอาชีพเป็นทนายความ แต่ต่อมาเขา ได้เลิกเป็นทนายความเพื่อหันมาท�ำงานสังคมสงเคราะห์ในพื้นที่เขตตะวันออกของลอนดอน และในที่สุดก็ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. พรรคแรงงาน คลีเมนท์ แอทท์ลี ด�ำรงต�ำแหน่งรองนายก รัฐมนตรีในสมัยที่วินสตัน เชอร์ชิลล์ เป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลผสมในช่วงสงครามโลก ต่อมาแอทท์ลีได้ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากที่พรรคแรงงานชนะการเลือกตั้งใน ปี ค.ศ. 1945 และด�ำรงต�ำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีต้ังแต่ ค.ศ. 1945 ถึง 1951 เขาเป็น ผู้น�ำพรรคแรงงานนานถึง 20 ปี รัฐบาลของแอทท์ลีได้โอนกิจการขนาดใหญ่มาเป็นของรัฐ (เช่น ถ่านหิน และเหล็กกล้า) และได้ก่อตั้งองค์กรสาธารณสุขแห่งชาติ (NHS) ขึ้นมา และ ด�ำเนินการตามแผนส่วนใหญ่ที่วางไว้ในรายงานประกันสังคมของเบเวอริดจ์ เพื่อวางรากฐาน ของรัฐสวัสดิการให้มั่นคงยิ่งขึ้น แอทท์ลียังได้ริเริ่มมาตรการต่างๆ เพื่อปรับปรุงสภาพการ ท�ำงานของคนงานให้ดีขึ้นด้วย William Beveridge (1879-1963)
วิลเลียม เบเวอริดจ์ (ค.ศ. 1879-1963)
William Beveridge (later Lord Beveridge) was a British economist and social reformer. He served briefly as a Liberal M P and was subsequently the leader of the Liberals in the House of Lords but is best known for the 1942 report 114 Life in the UK 3rd Edition
Social Insurance and Allied Services (known as the Beveridge Report). The report was commissioned by the wartime government in 1941. It recommended that the government should find ways of fighting the five ‘Giant Evils’ of Want, Disease, Ignorance, Squalor and Idleness and provided the basis of the modern welfare state. วิลเลียม เบเวอริดจ์ (ต่อมาเป็น ลอรด์ เบเวอริดจ์) เป็นนักเศรษฐศาสตร์และนักปฏิรูปสังคม ชาวอังกฤษ เขาท�ำหน้าที่เป็น ส.ส. พรรคเสรีนิยมไม่นาน และต่อมาได้เป็นผู้น�ำพรรคเสรีนิยม ในสภาสูง อย่างไรก็ตาม เขามีชื่อเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากรายงาน Social Insurance and Allied Services (รายงานประกันสังคมและบริการคุ้มครอง) ปี ค.ศ. 1942 (ที่เรียกว่า รายงานประกันสังคมของเบเวอริดจ์) รัฐบาลในช่วงสงครามโลกได้สั่งให้จัดท�ำรายงานนี้ขึ้น ในปี ค.ศ. 1941 รายงานนี้ได้เสนอแนะให้รัฐบาลแสวงหาแนวทางในการขจัด ‘ความชั่วร้าย ที่ใหญ่หลวง’ 5 ประการ นั่นคือ ความขาดแคลนสิ่งจ�ำเป็นต่อการด�ำรงชีวิต ความเจ็บป่วย ความโง่เขลา ความเสื่อมทราม และความเกียจคร้าน และควรวางรากฐานของรัฐสวัสดิการ สมัยใหม่ให้มั่นคงต่อไป RA Butler (1902-82)
อาร์ เอ บัตเลอร์ (ค.ศ. 1902-82) Richard Austen Butler (later Lord Butler) was born in 1902. He became a Conservative M P in 1923 and held several positions before becoming responsible for education in 1941. In this role, he oversaw the introduction of the Education Act 1944 (often called ‘The Butler Act’), which introduced free secondary education in England and Wales. The education system has changed significantly since the Act was introduced, but the division between primary and secondary schools that it enforced still remains in most areas of Britain. ริชาร์ด ออสติน บัตเลอร์ (ต่อมาเป็น ลอร์ด บัตเลอร์) เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1902 เขาได้รับเลือกตั้ง เป็น ส.ส. พรรคอนุรักษ์นิยมในปี ค.ศ. 1923 และด�ำรงต�ำแหน่งอื่นๆ อีกมากมายก่อนจะเข้า มาท�ำหน้าที่รับผิดชอบด้านการศึกษาในปี ค.ศ. 1941 ขณะท�ำหน้าที่นี้ เขาได้ก�ำกับดูแลการ บังคับใช้พระราชบัญญัติการศึกษา ค.ศ. 1944 (ที่มักเรียกกันว่า ‘พระราชบัญญัติบัตเลอร์’) ซึ่งริเริ่มการให้การศึกษาฟรีในระดับมัธยมศึกษาในอังกฤษและเวลส์ นับแต่พระราชบัญญัติ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับเป็นต้นมา ระบบการศึกษาของอังกฤษได้เปลี่ยนแปลงไปมาก อย่างไร Life in the UK 115
ก็ตาม การแบ่งแยกโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาออกจากกันภายใต้บังคับของพระ ราชบัญญัติฉบับนี้ยังคงท�ำกันอยู่ในเขตพื้นที่ส่วนใหญ่ของอังกฤษปัจจุบัน Dylan Thomas (1914-53)
ดีแลน โทมัส (ค.ศ. 1914-53)
Dylan Thomas was a Welsh poet and writer. He often read and performed his work in public, including for the BBC. His most well-known works include the radio play Under Milk Wood, first performed after his death in 1954, and the poem Do Not Go Gentle into That Good Night, which he wrote for his dying father in 1952. He died at the age of 39 in New York. There are several memorials to him in his birthplace, Swansea, including a statue and the Dylan Thomas Centre. ดีแลน โทมัส เป็นนักเขียนและกวีชาวเวลส์ เขาได้อ่านและแสดงละครวิทยุจากผลงานของ ตนเองต่อสาธารณชนบ่อยครั้ง และส�ำหรับองค์กร บีบีซี ด้วย ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของ เขา ได้แก่ ละครวิทยุเรื่อง Under Milk Wood แสดงครั้งแรกหลังจากที่เขาถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1954 และบทกวี Do Not Go Gentle into That Good Night ที่เขาแต่งให้กับพ่อที่ ใกล้เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1952 ดีแลน โทมัสถึงแก่กรรมในนิวยอร์คเมื่ออายุได้ 39 ปี ปัจจุบันนี้ ที่เมืองสวอนซีบ้านเกิดของเขา มีอนุสรณ์มากมายที่สร้างขึ้นเพื่อร�ำลึกถึงเขา เช่น รูปปั้นและ ศูนย์นิทรรศการดีแลน โทมัส Migration in post-war Britain
การอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในอังกฤษช่วงหลังสงคราม Rebuilding Britain after the Second World War was a huge task. There were labour shortages and the British government encouraged workers from Ireland and other parts of Europe to come to the UK and help with the reconstruction. In 1948, people from the West Indies were also invited to come and work. การบูรณะฟื้นฟูประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นภาระที่หนักหน่วง และอังกฤษประสบ กับปัญหาขาดแคลนแรงงาน รัฐบาลอังกฤษจึงสนับสนุนให้คนงานจากไอร์แลนด์และส่วนอืน่ ๆ 116 Life in the UK 3rd Edition
ของยุโรปเข้ามาในสหราชอาณาจักร เพือ่ ช่วยในการบูรณะฟืน้ ฟูบา้ นเมือง และในปี ค.ศ. 1948 อังกฤษได้เรียกร้องให้ผู้คนจากหมู่เกาะเวสต์อินดีสเข้ามาท�ำงานในสหราชอาณาจักรด้วย During the 1950s, there was still a shortage of labour in the UK. Further immigration was therefore encouraged for economic reasons, and many industries advertised for workers from overseas. For example, centres were set up in the West Indies to recruit people to drive buses. Textile and engineering firms from the north of England and the Midlands sent agents to India and Pakistan to find workers. For about 25 years, people from the West Indies, India, Pakistan and (later) Bangladesh travelled to work and settle in Britain. ในช่วงทศวรรษปี 1950 สหราชอาณาจักรยังคงประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน เพื่อเป็นการ ส่งเสริมสถานะเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลจึงสนับสนุนให้คนต่างชาติอพยพเข้ามาท�ำงานใน อังกฤษเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ยังได้โฆษณารับสมัครคนงานจาก ต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น มีการจัดตั้งศูนย์รับสมัครคนงานขึ้นในหมู่เกาะเวสต์อินดีส เพื่อรับ สมัครคนขับรถโดยสาร และบริษัทผู้ประกอบธุรกิจสิ่งทอ และบริษัทวิศวกรรมในภาคเหนือ และภาคกลางของอังกฤษ ได้ส่งตัวแทนบริษัทไปหาคนงานที่ประเทศอินเดียและปากีสถาน ภายในเวลาประมาณ 25 ปี ได้มีผู้คนจากหมู่เกาะเวสต์อินดีส ประเทศอินเดีย และปากีสถาน อพยพเข้ามาท�ำงานและตั้งถิ่นฐานอยู่ในอังกฤษ และ (ต่อมา) มีผู้คนจากบังคลาเทศเดินทาง ตามเข้ามาภายหลัง Social change in the 1960s
การเปลี่ยนแปลงทางสังคมในทศวรรษปี 1960 The decade of the 1960s was a period of significant social change. It was known as ‘the Swinging Sixties’. There was growth in British fashion, cinema and popular music. Two well-known pop music groups at the time were The Beatles and The Rolling Stones. People started to become better off and many bought cars and other consumer goods. ทศวรรษปี 1960 เป็นช่วงเวลาที่สังคมมีพลวัตการเปลี่ยนแปลงสูง เป็นช่วงที่เรียกกันว่า ‘สวิงกิ้ง ซิกตี้ (Swinging Sixties)’ แฟชั่น ภาพยนตร์ และเพลงป็อปหรือเพลงสมัยนิยม ในอังกฤษเฟื่องฟูมาก วงดนตรีป็อปชื่อดังสองวงของอังกฤษในเวลานั้น คือ เดอะบีเทิลส์ Life in the UK 117
(สี่เต่าทอง) และโรลลิ่งสโตนส์ คนอังกฤษร�่ำรวยขึ้น และหลายคนใช้จ่ายเงินไปกับการซื้อ รถยนต์และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ It was also a time when social laws were liberalised, for example in relation to divorce and to abortion in England, Wales and Scotland. The position of women in the workplace also improved. It was quite common at the time for employers to ask women to leave their jobs when they got married, but Parliament passed new laws giving women the right to equal pay and made it illegal for employers to discriminate against women because of their gender. ในช่วงเวลานี้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสังคมก็มีความเปิดกว้างมากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น กฎหมายเกี่ยวกับการหย่าร้างและการท�ำแท้งในอังกฤษ เวลส์ และสก็อตแลนด์ สถานะของ สตรีในที่ท�ำงานได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเช่นกัน ในเวลานั้น ผู้คนถือว่าเป็นเรื่องค่อนข้าง ปกติที่นายจ้างจะขอให้ผู้หญิงออกจากงานหลังจากเธอแต่งงาน อย่างไรก็ตาม รัฐสภาได้ออก กฎหมายใหม่ให้สตรีมีสิทธิได้รับค่าแรงเท่าเทียมกับผู้ชาย และห้ามมิให้นายจ้างเลือกปฏิบัติ ต่อสตรีด้วยเหตุผลในเรื่องเพศ The 1960s was also a time of technological progress. Britain and France developed the world’s only supersonic commercial airliner, Concorde. New styles of architecture, including high-rise buildings and the use of concrete and steel, became common. นอกจากนี้ ทศวรรษปี 1960 ยังเป็นช่วงเวลาของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อังกฤษและ ฝรัง่ เศสได้พฒ ั นาสร้างคองคอร์ด เครือ่ งบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงหนึง่ เดียวของโลก และ ยังมีสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึน้ รวมถึงอาคารสูงระฟ้า และการก่อสร้างด้วยคอนกรีต และเหล็ก ซึ่งได้กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาในงานก่อสร้าง The number of people migrating from the West Indies, India, Pakistan and what is now Bangladesh fell in the late 1960s because the government passed new laws to restrict immigration to Britain. Immigrants were required to have a strong connection to Britain through birth or ancestry. Even so, during the early 1970s, Britain admitted 28,000 people of Indian origin who had been forced to leave Uganda. จ�ำนวนผู้อพยพจากหมู่เกาะเวสต์อินดีส ประเทศอินเดีย ปากีสถาน และประเทศที่ปัจจุบันนี้ ชือ่ ว่า บังคลาเทศ ได้ลดน้อยลงในช่วงปลายทศวรรษปี 1960 เนือ่ งจากรัฐบาลได้ออกกฎหมาย ใหม่เพื่อจ�ำกัดจ�ำนวนผู้อพยพที่เข้ามาในอังกฤษ ด้วยเงื่อนไขที่ว่าผู้อพยพที่เข้ามาจะต้องมี 118 Life in the UK 3rd Edition
สายสัมพันธ์แนบแน่นกับอังกฤษ เช่น โดยก�ำเนิด หรือทางบรรพบุรุษ อย่างไรก็ตาม ในช่วง ต้นทศวรรษปี 1970 อังกฤษได้รับชาวอินเดีย 28,000 คนที่ถูกขับออกจากประเทศยูกันดา ให้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในสหราชอาณาจักร Some great British inventions of the 20th century
ประดิษฐกรรมที่ยอดเยี่ยมของอังกฤษในศตวรรษที่ 20
Britain has given the world some wonderful inventions. Examples from the 20th century include: อังกฤษได้สร้างสรรค์ผลงานประดิษฐกรรมต่างๆ ที่ดีเด่นให้กับโลก ตัวอย่างประดิษฐกรรม ของอังกฤษตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 มีดังนี้: The television was developed by Scotsman John Logie Baird (1888-1946) in the 1920s. In 1932 he made the first television broadcast between London and Glasgow. โทรทัศน์ ได้รับการพัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษปี 1920 โดย จอห์น โลกี แบร์ด ชาวสก็อตแลนด์ (ค.ศ. 1888-1946) ในปี ค.ศ. 1932 เขาได้ท�ำการแพร่ภาพโทรทัศน์ระหว่างลอนดอนกับ กลาสโกว์เป็นครั้งแรก Radar was developed by Scotsman Sir Robert Watson-Watt (1892-1973), who proposed that enemy aircraft could be detected by radio waves. The first successful radar test took place in 1935. เรดาร์ เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นโดย เซอร์ โรเบิร์ต วัตสัน-วัตต์ ชาวสก็อตแลนด์ (ค.ศ. 18921973) ตามข้อเสนอของเขาทีว่ า่ การตรวจจับเครือ่ งบินของข้าศึกสามารถท�ำได้โดยใช้คลืน่ วิทยุ การทดสอบการท�ำงานของเรดาร์ประสบความส�ำเร็จเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1935 Working with radar led Sir Bernard Lovell (1913-2012) to make new discoveries in astronomy. The radio telescope he built at Jodrell Bank in Cheshire was for many years the biggest in the world and continues to operate today. การท�ำงานกับเรดาร์ได้ช่วยให้ เซอร์ เบอร์นาร์ด โลเวลล์ (ค.ศ. 1913-2012) ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ในวิชาดาราศาสตร์ กล้องโทรทรรศน์วทิ ยุทเี่ ขาสร้างขึน้ ทีห่ อดูดาว จอเดรลล์ แบงค์ ในเชสเชียร์ เป็นกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมานานหลายปี และยังคงใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน Life in the UK 119
A Turing machine is a theoretical mathematical device invented by Alan Turing (1912-54), a British mathematician, in the 1930s. The theory was influential in the development of computer science and the modern-day computer. เครื่องจักรทัวริง เป็นอุปกรณ์ค�ำนวณในรูปแบบทฤษฏีที่ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นโดย แอลัน ทัวริง (ค.ศ. 1912-54) นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษในช่วงทศวรรษปี 1930 ทฤษฎีนมี้ บี ทบาททีส่ ำ� คัญ ยิ่งต่อการพัฒนาวิทยาการคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบัน The Scottish physician and researcher John Macleod (1876¬-1935) was the co-discoverer of insulin, used to treat diabetes. จอห์น แมคลอยด์ (1876-¬1935) นายแพทย์และนักวิจัยชาวสก็อตแลนด์ เป็นผู้ร่วมค้นพบ อินซูลินที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวาน The structure of the DNA molecule was discovered in 1953 through work at British universities in London and Cambridge. This discovery contributed to many scientific advances, particularly in medicine and fighting crime. Francis Crick (1916-¬2004), one of those awarded the Nobel Prize for this discovery, was British. โครงสร้างโมเลกุลของ ดีเอ็นเอ (DNA) ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1953 จากการท�ำงานใน มหาวิ ท ยาลั ย ต่ า งๆ ในอั ง กฤษที่ ก รุ ง ลอนดอนและเคมบริ ด จ์ การค้ น พบนี้ มี ส ่ ว นส� ำ คั ญ ที่ก่อให้เกิดความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านการแพทย์ และ การปราบปรามอาชญากรรม ฟรานซิส คริก (1916¬-2004) ชาวอังกฤษ เป็นผู้หนึ่งที่ร่วม รับรางวัลโนเบลส�ำหรับการค้นพบนี้ The jet engine was developed in Britain in the 1930s by Sir Frank Whittle (1907-96), a British Royal Air Force engineer officer. เครื่องยนต์ไอพ่น ได้รับการคิดค้นพัฒนาขึ้นในอังกฤษในช่วงทศวรรษปี 1930 โดย เซอร์ แฟรงค์ วิทเทิล (ค.ศ. 1907-96) วิศวกรการบินแห่งกองทัพอากาศอังกฤษ Sir Christopher Cockerell (1910-99), a British inventor, invented the hovercraft in the 1950s. เซอร์ คริสโตเฟอร์ ค็อกเคอเรลล์ (1910-99) นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ เป็นผู้ประดิษฐ์เรือ โฮเวอร์คราฟท์ในช่วงทศวรรษปี 1950 120 Life in the UK 3rd Edition
Britain and France developed Concorde, the world’s only supersonic passenger aircraft. It first flew in 1969 and began carrying passengers in 1976. Concorde was retired from service in 2003. ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสได้พัฒนาสร้างคองคอร์ด เครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียง หนึ่งเดียวของโลก เครื่องบินคองคอร์ดบินเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1969 และเริ่มบรรทุก ผู้โดยสารในปี ค.ศ. 1976 เครื่องบินคองคอร์ดหยุดให้บริการในปี ค.ศ. 2003 The Harrier jump jet, an aircraft capable of taking off vertically, was also designed and developed in the UK. เครื่องบินรบแฮริเออร์ เป็นเครื่องบินขึ้น-ลงทางดิ่งที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาในประเทศ สหราชอาณาจักรด้วยเช่นกัน In the 1960s, James Goodfellow (1937-) invented the cash-¬dispensing ATM (automatic teller machine) or ‘cashpoint’. The first of these was put into use by Barclays Bank in Enfield, north London in 1967. ในทศวรรษปี 1960 เจมส์ กู๊ดเฟลโลว์ (ค.ศ. 1937-) ได้ประดิษฐ์เครื่องเบิกเงินสด หรือเครื่อง เอทีเอ็ม (เครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ) หรือ ‘เครื่องกดเงินสดจากธนาคาร’ ธนาคารบาร์เคลย์ ได้น�ำเครื่องเอทีเอ็มมาใช้งานเป็นเครื่องแรกที่เอ็นฟิลด์ในพื้นที่เขตเหนือของลอนดอนเมื่อ ปี ค.ศ. 1967 IVF (in-vitro fertilisation) therapy for the treatment of infertility was pioneered in Britain by physiologist Sir Robert Edwards (1925-) and gynaecologist Patrick Steptoe (1913-¬88). The world’s first ‘test-tube baby’ was born in Oldham, Lancashire in 1978. กระบวนการบ�ำบัด ไอวีเอฟ (การผสมเทียมในหลอดแก้ว) เพื่อรักษาผู้มีบุตรยาก เป็นเทคนิค วิธีการที่บุกเบิกพัฒนาขึ้นในอังกฤษโดย เซอร์ โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส์ นักสรีรศาสตร์ (ค.ศ. 1925-) และแพทริค สเต็บโท สูตินรีแพทย์ (1913¬-88) ‘เด็กหลอดแก้ว’ คนแรกของโลกเกิดที่เมือง โอลด์แฮม แลงแคสเชียร์ ในปี ค.ศ. 1978 In 1996, two British scientists, Sir Ian Wilmot (1944-) and Keith Campbell (19542012), led a team which was the first to succeed in cloning a mammal, Dolly the sheep. This has led to further research into the possible use of cloning to preserve endangered species and for medical purposes. Life in the UK 121
ในปี ค.ศ. 1996 นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษสองท่าน คือ เซอร์ เอียน วิลม็อท (ค.ศ. 1944-) และ คีธ แคมป์เบลล์ (ค.ศ. 1954-2012) ได้เป็นผู้น�ำทีมงานแรกที่ประสบความส�ำเร็จในการ ท�ำโคลนนิ่งแกะดอลลี่ ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ความส�ำเร็จครั้งนี้ได้ปูทางน�ำไปสู่การวิจัย เพิ่มเติม เพื่อหาทางที่จะใช้ประโยชน์จากการโคลนนิ่งในการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญ พันธุ์ และเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ Sir Peter Mansfield (1933-), a British scientist, is the co-inventor of the MRI (magnetic resonance imaging) scanner. This enables doctors and researchers to obtain exact and non-¬invasive images of human internal organs and has revolutionised diagnostic medicine. เซอร์ ปีเตอร์ แมนส์ฟิลด์ (ค.ศ. 1933-) นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษเป็นผู้ร่วมประดิษฐ์ เครื่องตรวจด้วยสนามแม่เหล็กแรงสูง หรือ เอ็มอาร์ไอ (สร้างภาพด้วยคลื่นสะท้อนในสนาม แม่เหล็ก) เครื่องเอ็มอาร์ไอช่วยให้แพทย์และนักวิจัยสามารถตรวจอวัยวะภายในร่างกายคน ได้จากภาพเสมือนจริงที่สร้างขึ้น โดยไม่ต้องมีการเจาะตรวจ และเป็นนวัตกรรมที่พลิกโฉม เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อการวินิจฉัยโรค The inventor of the World Wide Web, Sir Tim Berners-Lee (1955-), is British. Information was successfully transferred via the web for the first time on 25 December 1990. เซอร์ ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี เป็นชาวอังกฤษผู้ประดิษฐ์คิดค้น เวิลด์ไวด์เว็บ (ค.ศ. 1955-) การ ถ่ายโอนข้อมูลผ่านเว็บสามารถท�ำได้ส�ำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1990 Problems in the economy in the 1970s
ปัญหาทางเศรษฐกิจในทศวรรษปี 1970
In the late 1970s, the post-war economic boom came to an end. Prices of goods and raw materials began to rise sharply and the exchange rate between the pound and other currencies was unstable. This caused problems with the ‘balance of payments’: imports of goods were valued at more than the price paid for exports.
122 Life in the UK 3rd Edition
ในปลายทศวรรษปี 1970 ภาวะเศรษฐกิจเฟื่องฟูในช่วงเวลาหลังสงครามได้สิ้นสุดลง ราคา สินค้าและวัตถุดิบเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ระหว่างเงินปอนด์กับเงินสกุลอื่นๆ ได้ก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับ ‘ดุลการช�ำระเงิน’: นั่นคือ มูลค่าสินค้าเข้าสูงกว่ารายได้จากสินค้าส่งออก Many industries and services were affected by strikes and this caused problems between the trade unions and the government. People began to argue that the unions were too powerful and that their activities were harming the UK. ธุรกิจส่วนใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการได้รับผลกระทบจากการนัดหยุดงานของ ลูกจ้าง เรื่องนี้ก่อให้เกิดปัญหาระหว่างสหภาพแรงงานและรัฐบาล ผู้คนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ กันว่าสหภาพแรงงานมีอ�ำนาจมากเกินไป และกิจกรรมการเคลื่อนไหวของสหภาพแรงงาน ก�ำลังสร้างความเสียหายให้กับสหราชอาณาจักร The 1970s were also a time of serious unrest in Northern Ireland. In 1972, the Northern Ireland Parliament was suspended and Northern Ireland was directly ruled by the UK government. Some 3,000 people lost their lives in the decades after 1969 in the violence in Northern Ireland. ทศวรรษปี 1970 ยั ง เป็ น ช่ ว งเวลาของความวุ ่ น วายที่ บ านปลายเป็ น ความรุ น แรงใน ไอร์แลนด์เหนือด้วย ในปี ค.ศ. 1972 รัฐสภาของไอร์แลนด์เหนือได้ถูกระงับชั่วคราว และ รัฐบาลอังกฤษได้เข้าปกครองไอร์แลนด์เหนือโดยตรง ในช่วงทศวรรษต่อๆ มาหลังปีค.ศ. 1969 ได้มีผู้คนสูญเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความรุนแรงในไอร์แลนด์เหนือราว 3,000 คน Mary Peters (1939-nono)
แมรี่ ปีเตอร์ (ค.ศ. 1939-nono) Born in Manchester, Mary Peters moved to Northern Ireland as a child. She was a talented athlete who won an Olympic gold medal in the pentathlon in 1972. After this, she raised money for local athletics and became the team manager for the women’s British Olympic team. She continues to promote sport and tourism in Northern Ireland and was made a Dame of the British Empire in 2000 in recognition of her work. Life in the UK 123
แมรี่ ปีเตอร์ เกิดในเมืองแมนเชสเตอร์ และย้ายไปอยู่ที่ไอร์แลนด์เหนือขณะยังเป็นเด็ก เธอ เป็นนักกรีฑาที่มีความสามารถสูง และได้รับเหรียญทองโอลิมปิกจากการแข่งขันเบญจกรีฑา ในปี ค.ศ. 1972 หลังจากนั้นเธอได้ระดมทุนหาเงินสนับสนุนกรีฑาในท้องถิ่น และได้ท�ำหน้าที่ เป็นผู้จัดการทีมนักกีฬาโอลิมปิกหญิงอังกฤษ เธอยังคงด�ำเนินการส่งเสริมการกีฬาและการ ท่องเที่ยวในไอร์แลนด์เหนืออย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูผลงานของแมรี่ ปีเตอร์ เธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคุณหญิงแห่งจักรวรรดิอังกฤษในปี ค.ศ. 2000 Europe and the Common Market
ยุโรปและองค์การตลาดร่วม
West Germany, France, Belgium, Italy, Luxembourg and the Netherlands formed the European Economic Community (EEC) in 1957. At first the UK did not wish to join the EEC but it eventually did so in 1973. The UK is a full member of the European Union but does not use the Euro currency. ประเทศเยอรมนีตะวันตก ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม อิตาลี ลักเซมเบิร์ก และเนเธอร์แลนด์ ได้รวมตัว กันก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (อีอีซี) ขึ้นมาในปี ค.ศ. 1957 ในตอนแรกสหราชอาณาจักร ไม่ตอ้ งการทีจ่ ะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของอีอซี ี แต่ในทีส่ ดุ ก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในปี ค.ศ. 1973 สหราชอาณาจักรเป็นสมาชิกสามัญของประชาคมเศรษฐกิจยุโรป แต่ไม่ได้ใช้เงินสกุลยูโร Conservative government from 1979 to 1997
รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยม ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979 ถึง 1997
Margaret Thatcher, Britain’s first woman Prime Minister, led the Conservative government from 1979 to 1990. The government made structural changes to the economy through the privatisation of nationalised industries and imposed legal controls on trade union powers. Deregulation saw a great increase in the role of the City of London as an international centre for investments, insurance and other financial services. Traditional industries, such as shipbuilding and coal mining, declined. In 1982, Argentina invaded the Falkland Islands, a British overseas territory in the South Atlantic. A naval taskforce was sent from the UK and military action led to the recovery of the islands. 124 Life in the UK 3rd Edition
มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอังกฤษได้เป็นผู้น�ำของรัฐบาลพรรค อนุรักษ์นิยมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979 ถึง 1990 รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมได้ท�ำการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างทางเศรษฐกิจของอังกฤษ โดยการแปรรูปกิจการรัฐวิสาหกิจให้เป็นของเอกชน และ ได้ออกกฎหมายเพื่อควบคุมอ�ำนาจของสหภาพแรงงาน การผ่อนคลายกฎระเบียบได้เพิ่ม ความส�ำคัญของมหานครลอนดอนในการมีบทบาทเป็นศูนย์กลางนานาชาติด้านการลงทุน การประกันภัย และบริการอื่นๆ ทางด้านการเงิน ส�ำหรับอุตสาหกรรมดั้งเดิม เช่น การต่อเรือ และกิจการเหมืองแร่ ได้ตกต�่ำลง ในปี ค.ศ. 1982 อาร์เยนตินาได้รุกรานหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ซึง่ เป็นดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษในมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ รัฐบาลได้สง่ ก�ำลังทางเรือจาก สหราชอาณาจักรไปท�ำการสู้รบและสามารถช่วงชิงหมู่เกาะฟอล์กแลนด์คืนมาได้ John Major was Prime Minister after Mrs Thatcher, and helped establish the Northern Ireland peace process. จอห์น เมเจอร์ เข้ารับต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากมิสซิส แทตเชอร์ และได้มีส่วนช่วยเหลือ ในกระบวนการสร้างสันติภาพในไอร์แลนด์เหนือ
Life in the UK 125
Margaret Thatcher (1925-2013)
มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ (ค.ศ. 1925-2013)
Margaret Thatcher was the daughter of a grocer from Grantham in Lincolnshire. She trained as a chemist and lawyer. She was elected as a Conservative M P in 1959 and became a cabinet minister in 1970 as the Secretary of State for Education and Science. In 1975 she was elected as Leader of the Conservative Party and so became Leader of the Opposition. มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ เป็นลูกสาวเจ้าของร้านขายของช�ำจากเมืองแกรนแธมในลินคอล์นเชียร์ เธอได้ร�่ำเรียนเพื่อจบมาท�ำงานเป็นนักเคมีและทนายความ เธอได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. สังกัด พรรคอนุรักษ์นิยมในปี ค.ศ. 1959 และได้รับต�ำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และวิทยาศาสตร์ในคณะรัฐมนตรีในปี ค.ศ. 1970 ต่อมาในปี ค.ศ. 1975 เธอได้รับเลือกให้ เป็นผู้น�ำพรรคอนุรักษ์นิยม และได้กลายเป็นผู้น�ำฝ่ายค้านในสภาสามัญ Following the Conservative victory in the General Election in 1979, Margaret Thatcher became the first woman Prime Minister of the UK. She was the longest-serving Prime Minister of the 20th century, remaining in office until 1990. หลังจากที่พรรคอนุรักษ์นิยมได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปในปี ค.ศ. 1979 มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ก็ได้เข้ารับต�ำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของสหราชอาณาจักร และเป็นนายก รัฐมนตรีที่อยู่ในต�ำแหน่งนานที่สุดในศตวรรษที่ 20 โดยด�ำรงต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนถึง ปี ค.ศ. 1990 During her premiership, there were a number of important economic reforms within the UK. She worked closely with the United States President, Ronald Reagan, and was one of the first Western leaders to recognise and welcome the changes in the leadership of the Soviet Union which eventually led to the end of the Cold War. ในช่วงเวลาที่แทตเชอร์เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่ส�ำคัญๆ เกิดขึ้นใน สหราชอาณาจักร เธอท�ำงานโดยใกล้ชิดกับประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน แห่งสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึง่ ในกลุม่ ผูน้ ำ� ประเทศตะวันตกทีร่ บั รองและตอบรับการเปลีย่ นแปลงเกีย่ วกับภาวะ ผู้น�ำของสหภาพโซเวียต ซึ่งได้น�ำไปสู่การสิ้นสุดของสงครามเย็นในท้ายที่สุด
126 Life in the UK 3rd Edition
Roald Dahl (1916-1990)
โรอัลด์ ดาห์ล (ค.ศ. 1916-1990)
Roald Dahl was born in Wales to Norwegian parents. He served in the Royal Air Force during the Second World War. It was during the 1940s that he began to publish books and short stories. He is most well-known for his children’s books, although he also wrote for adults. His best-known works include Charlie and the Chocolate Factory and George’s Marvellous Medicine. Several of his books have been made into films. โรอัลด์ ดาห์ล เกิดที่เวลส์ บิดามารดาของเขาเป็นคนนอร์เวย์ เขาเข้ารับราชการในกองทัพ อากาศในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในช่วงทศวรรษปี 1940 เขาได้เริ่มพิมพ์หนังสือและเรื่อง สั้นของเขา เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากการแต่งหนังสือส�ำหรับเด็ก แต่เขาก็เขียน หนังสือส�ำหรับผู้ใหญ่ด้วย งานเขียนของเขาซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุด ได้แก่ หนังสือเรื่อง ชาร์ลี และโรงงานช็อกโกแล็ต (Charlie and the Chocolate Factory) และ ยาวิเศษของจอร์จ (George’s Marvellous Medicine) หนังสือของเขาหลายเล่มได้ถกู น�ำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ Labour government from 1997 to 2010
รัฐบาลพรรคแรงงานอังกฤษ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 ถึง 2010
In 1997 the Labour Party led by Tony Blair was elected. The Blair government introduced a Scottish Parliament and a Welsh Assembly (see page 241). The Scottish Parliament has substantial powers to legislate. The Welsh Assembly was given fewer legislative powers but considerable control over public services. In Northern Ireland, the Blair government was able to build on the peace process, resulting in the Good Friday Agreement signed in 1998. The Northern Ireland Assembly was elected in 1999 but suspended in 2002. It was not reinstated until 2007. Most paramilitary groups in Northern Ireland have decommissioned their arms and are inactive. Gordon Brown took over as Prime Minister in 2007. ในปี ค.ศ. 1997 พรรคแรงงานโดยการน�ำของ โทนี่ แบลร์ ได้รับเลือกตั้งให้ขึ้นมามีอ�ำนาจ รัฐบาลแบลร์ได้สนับสนุนให้มีรัฐสภาแห่งสก็อตแลนด์ และสภาแห่งชาติเวลส์ (ดูหน้า 241) รัฐสภาสก็อตแลนด์มีอ�ำนาจนิติบัญญัติสูงมาก เมื่อเทียบกับสภาแห่งชาติเวลส์ที่มีอ�ำนาจใน การร่างกฎหมายไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม สภาแห่งชาติเวลส์มีอ�ำนาจในการควบคุมหน่วย Life in the UK 127
งานภาครัฐในเวลส์ค่อนข้างมาก รัฐบาลแบลร์สามารถสานต่อกระบวนการสร้างสันติภาพใน ไอร์แลนด์เหนือ ส่งผลให้มีการลงนามในสัญญาข้อตกลงกู๊ดฟรายเดย์ (Good Friday Agreement) ในปี ค.ศ. 1998 สภาแห่งไอร์แลนด์เหนือได้รบั การเลือกตัง้ ในปี ค.ศ. 1999 แต่ถกู ระงับ ชั่วคราวในปี ค.ศ. 2002 และไม่ได้กลับเข้ามาท�ำหน้าที่อีกจนกระทั่งปี ค.ศ. 2007 กองก�ำลัง กึ่งทหารส่วนใหญ่ในไอร์แลนด์เหนือได้ปลดอาวุธออกจากประจ�ำการและหยุดการเคลื่อนไหว ต่อต้าน กอร์ดอน บราวน์ ได้เข้ารับต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากโทนี่ แบลร์ในปี ค.ศ. 2007 Conflicts in Afghanistan and Iraq
การสู้รบในอัฟกานิสถานและอิรัก
Throughout the 1990s, Britain played a leading role in coalition forces involved in the liberation of Kuwait, following the Iraqi invasion in 1990, and the conflict in the Former Republic of Yugoslavia. Since 2000, British armed forces have been engaged in the global fight against international terrorism and against the proliferation of weapons of mass destruction, including operations in Afghanistan and Iraq. British combat troops left Iraq in 2009. The UK now operates in Afghanistan as part of the United Nations (UN) mandated 50-nation International Security Assistance Force (lSAF) coalition and at the invitation of the Afghan government. ISAF is working to ensure that Afghan territory can never again be used as a safe haven for international terrorism, where groups such as AI Qa’ida could plan attacks on the international community. As part of this, ISAF is building up the Afghan National Security Forces and is helping to create a secure environment in which governance and development can be extended. International forces are gradually handing over responsibility for security to the Afghans, who will have full security responsibility in all provinces by the end of 2014. ตลอดช่วงทศวรรษปี 1990 อังกฤษมีบทบาทเป็นผู้น�ำในกองก�ำลังผสมที่เข้าร่วมท�ำสงคราม ปลดปล่อยคูเวต ภายหลังการบุกเข้าอิรักในปี ค.ศ. 1990 และการสู้รบในสาธารณรัฐ ยูโกสลาเวียเดิม ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา กองทัพอังกฤษได้เข้าร่วมในการรบทั่วโลกเพื่อ ต่อสู้ขัดขวางการก่อการร้ายระหว่างประเทศ และต่อต้านการสะสมและครอบครองอาวุธที่มี อานุภาพในการท�ำลายล้างสูง รวมถึงการปฏิบัติการรบในอัฟกานิสถานและอิรัก หน่วยทหาร รบของอังกฤษได้ถอนทัพออกจากอิรักในปี ค.ศ. 2009 เวลานี้สหราชอาณาจักรท�ำหน้าที่ 128 Life in the UK 3rd Edition
เป็นส่วนหนึ่งของกองก�ำลังสนับสนุนความมั่นคงระหว่างประเทศ (International Security Assistance Force (lSAF)) อันประกอบด้วยกองทหารจาก 50 ประเทศ โดยเข้าร่วมปฏิบัติ การรบในอัฟกานิสถานตามที่ได้รับมอบหมายจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และตาม ค�ำเชิญของรัฐบาลอัฟกานิสถาน กองก�ำลัง ISAF ได้ร่วมมือกันปฏิบัติงาน เพื่อไม่ให้กลุ่ม ผู้ก่อการร้าย อย่างเช่น อัลเคด้า สามารถใช้ดินแดนอัฟกานิสถานเป็นฐานคุ้มกันส�ำหรับการ วางแผนโจมตีชุมชนทั่วโลก หรือก่อการร้ายระหว่างประเทศได้อีกต่อไป การท�ำงานที่ส�ำคัญ อีกอย่างหนึ่งของกองก�ำลังผสม ISAF ก็คือการฝึกต�ำรวจและทหารอัฟกานิสถาน เพื่อเสริม สร้างกองก�ำลังรักษาความมัน่ คงแห่งชาติอฟั กานิสถาน (Afghan National Security Forces) และสร้างสภาพแวดล้อมที่มั่นคงปลอดภัย เพื่อรองรับการพัฒนาและการปกครองที่สามารถ ขยายต่อออกไปได้อีก กองก�ำลังนานาชาติเริ่มค่อยๆ โอนความรับผิดชอบในการรักษาความ มั่นคงให้แก่กองก�ำลังอัฟกานิสถาน ซึ่งจะรับผิดชอบในการท�ำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย ในจังหวัดต่างๆ ทั้งหมดภายในสิ้นปี ค.ศ. 2014 Coalition government 2010 onwards
รัฐบาลผสมตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010
In May 2010, and for the first time in the UK since February 1974, no political party won an overall majority in the General Election. The Conservative and Liberal Democrat parties formed a coalition and the leader of the Conservative Party, David Cameron, became Prime Minister. ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2010 ปรากฏว่าไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้าง มาก ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1974 เป็นต้นมา ที่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ในสหราชอาณาจักร พรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคเสรีประชาธิปไตยจึงได้จับมือกันตั้งรัฐบาล ผสม โดยมีเดวิด คาเมรอน ผู้น�ำพรรคอนุรักษ์นิยมด�ำรงต�ำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี
Life in the UK 129
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The establishment of the welfare state √ How life in Britain changed in the 1960s and 1970s √ British inventions of the 20th century (you do not need to remember dates of births and deaths) √ Events since 1979 √ การสร้างรัฐสวัสดิการ √ ชีวติ ในอังกฤษมีการเปลีย่ นแปลงอย่างไรบ้างในทศวรรษปี 1960 และทศวรรษปี 1970 √ ประดิษฐกรรมของอังกฤษในศตวรรษที่ 20 (คุณไม่จำ� เป็นต้องจ�ำวันเดือนปีเกิด และวันตาย ของนักประดิษฐ์) √ เหตุการณ์ตา่ งๆ ทีเ่ กิดขึน้ ตัง้ แต่ปี ค.ศ. 1979
130 Life in the UK 3rd Edition
BRINGING YOUR SON OR DAUGHTER FROM THAILAND CAN BE A DIFFICULT PROCESS. The Home Office want to know certain things before they will allow you to bring your children to the UK. I have seen many heartbroken couples in the office as they have made the application but have got it wrong. This is very difficult to correct as the Home Office will be suspicious of a change of facts from one application to another. We have been able to persuade the Home Office to overturn their decision on many occasions. This is an area where the assistance of a Solicitor is vital to ensuring you get the happy family that you want.
CHAPTER 4
Society A MODERN,
thriving
สังคมที่เจริญรุ่งเรืองและทันสมัย
A MODERN, THRIVING SOCIETY
134 Life in the UK 3rd Edition
CHAPTER CONTENTS • The UK today • Religion • Customs and traditions • Sport • Arts and culture • Leisure • Places of interest
เนื้อหาในบทนี้
• สหราชอาณาจักรในปัจจุบัน • ศาสนา • ขนบธรรมเนียมประเพณี • กีฬา • ศิลปะและวัฒนธรรม • สันทนาการ • สถานที่น่าสนใจ
Life in the UK 135
THE UK TODAY
สหราชอาณาจักรในปัจจุบัน The UK today is a more diverse society than it was 100 years ago, in both ethnic and religious terms. Post-war immigration means that nearly 10% of the population has a parent or grandparent born outside the UK. The UK continues to be a multinational and multiracial society with a rich and varied culture. This section will tell you about the different parts of the UK and some of the important places. It will also explain some of the UK’s traditions and customs and some of the popular activities that take place. สังคมในสหราชอาณาจักรยุคปัจจุบันประกอบด้วยผู้คนที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ และศาสนามากขึ้น เมื่อเทียบกับ 100 ปีก่อน ในช่วงหลังสงครามมีผู้คนจ�ำนวน มากอพยพ เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในสหราชอาณาจักร ดังนั้นเกือบ 10% ของประชากรอังกฤษจึงมีพ่อแม่ หรือปู่ย่าตายายที่ไม่ได้เกิดในสหราชอาณาจักร สังคมในสหราชอาณาจักรยังคงประกอบด้วย ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม เนื้อหาในหมวดนี้จะบอกให้คุณทราบเกี่ยวกับเขต พื้นที่ต่างๆ ของสหราชอาณาจักร และสถานที่ส�ำคัญๆ ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณี และกิจกรรมบางอย่างซึ่งเป็นที่นิยมของผู้คนในสหราชอาณาจักร 136 Life in the UK 3rd Edition
The Nations of the UK
เขตแคว้นต่างๆ ของสหราชอาณาจักร The UK is located in the north west of Europe. The longest distance on the mainland is from John O’Groats on the north coast of Scotland to Land’s End in the south-west corner of England. It is about 870 miles (approximately 1,400 kilometres). สหราชอาณาจักรตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป ระยะทางยาวไกลที่สุดบนพื้นที่ เกาะอังกฤษสามารถวัดได้โดยเริ่มจากจุดเหนือสุดที่ จอห์น โอโกรทส์ ตรงชายฝั่งทางเหนือ ของสก็อตแลนด์ไปจนถึงใต้สุดที่แลนด์สเอนด์ ตรงมุมตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ คิดเป็น ระยะทางประมาณ 870 ไมล์ (ประมาณ 1,400 กิโลเมตร) Most people live in towns and cities but much of Britain is still countryside. Many people continue to visit the countryside for holidays and for leisure activities such as walking, camping and fishing. คนอังกฤษส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กและเมืองใหญ่ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของอังกฤษยังคง เป็นชนบท ผู้คนยังคงนิยมไปเที่ยวพักผ่อนวันหยุด และท�ำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจ เช่น เดินเล่น กางเต๊นท์พักแรม และตกปลาในพื้นที่ชนบทกันอยู่เป็นจ�ำนวนมาก Life in the UK 137
Cities of the UK
เมืองใหญ่ในสหราชอาณาจักร
138 Life in the UK 3rd Edition
Life in the UK 139
The nations of the UK
เขตแคว้นต่างๆ ของสหราชอาณาจักร The UK is located in the north west of Europe. The longest distance on the mainland is from John O’Groats on the north coast of Scotland to Land’s End in the south-west corner of England. It is about 870 miles (approximately 1,400 kilometres). สหราชอาณาจักรตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรป ระยะทางยาวไกลที่สุดบนพื้นที่ เกาะอังกฤษสามารถวัดได้โดยเริ่มจากจุดเหนือสุดที่ จอห์น โอโกรทส์ ตรงชายฝั่งทางเหนือ ของสก็อตแลนด์ไปจนถึงใต้สุดที่แลนด์สเอนด์ ตรงมุมตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ คิดเป็น ระยะทางประมาณ 870 ไมล์ (ประมาณ 1,400 กิโลเมตร) Most people live in towns and cities but much of Britain is still countryside. Many people continue to visit the countryside for holidays and for leisure activities such as walking, camping and fishing. คนอังกฤษส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กและเมืองใหญ่ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของอังกฤษยังคง เป็นชนบท ผู้คนยังคงนิยมไปเที่ยวพักผ่อนวันหยุด และท�ำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจ เช่น เดินเล่น กางเต๊นท์พักแรม และตกปลาในพื้นที่ชนบทกันอยู่เป็นจ�ำนวนมาก UK currency
สกุลเงินของสหราชอาณาจักร The currency in the UK is the pound sterling (symbol f). There are 100 pence in a pound. The denominations (values) of currency are: • coins: 1p, 2p, 5p, l0p, 20p, 50p, £1 and £2 • notes: £5, £10, £20, £50. สกุลเงินที่ใช้กันอยู่ในสหราชอาณาจักร คือ ปอนด์สเตอร์ลิง (สัญลักษณ์ £) เงิน 1 ปอนด์ แบ่งได้ 100 เพนนี มูลค่าของหน่วยเงินตรา (ตัวเลข) มีดังนี้: • เหรียญ: 1 เพนนี, 2 เพนนี, 5 เพนนี, l0 เพนนี, 20 เพนนี, 50 เพนนี, 1ปอนด์ และ 2 ปอนด์ • ธนบัตร: 5 ปอนด์, 10 ปอนด์, 20 ปอนด์, 50ปอนด์ 140 Life in the UK 3rd Edition
Northern Ireland and Scotland have their own banknotes, which are valid everywhere in the UK. However, shops and businesses do not have to accept them. ไอร์ แ ลนด์ เ หนื อ และสก็ อ ตแลนด์ มี ธ นบั ต รของตนเองที่ ส ามารถใช้ ไ ด้ ทุ ก หนแห่ ง ใน สหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม ร้านค้าและผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ อาจจะปฏิเสธไม่ยอมรับ ธนบัตรเหล่านี้ก็ได้ Languages and dialects
ภาษาและภาษาถิ่น
There are many variations in language in the different parts of the UK. The English language has many accents and dialects. In Wales, many people speak Welsh -a completely different language from English -and it is taught in schools and universities. In Scotland, Gaelic (again, a different language) is spoken in some parts of the Highlands and Islands, and in Northern Ireland some people speak Irish Gaelic. ในเขตพื้นที่ภาคต่างๆ ในสหราชอาณาจักรจะมีการใช้ภาษาที่ต่างกันมากมาย และมีการพูด ภาษาอังกฤษด้วยส�ำเนียงต่างๆ รวมถึงภาษาถิ่น หลายคนในเวลส์พูดภาษาเวลส์ที่ไม่เหมือน กับภาษาอังกฤษเลย และมีการสอนภาษาเวลส์ตามโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ ด้วย ใน สก็อตแลนด์จะมีคนพูดภาษาเกลิก (ที่ไม่เหมือนกับภาษาอังกฤษ) ในพื้นที่ราบสูงและหมู่เกาะ บางแห่ง และในไอร์แลนด์เหนือจะมีบางคนที่พูดภาษาไอริชเกลิก
Life in the UK 141
Population
จ�ำนวนประชากร The table below shows how the population of the UK has changed over time. ข้อมูลในตารางข้างล่างนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของจ�ำนวนประชากรในสหราชอาณาจักร ตลอดเวลาที่ผ่านมา POPULATION GROWTH IN THE UK YEAR
POPULATION
1600
Just over 4 million
1700
5 million
1801
8 million
1851
20 million
1901
40 million
1951
50 million
1998
57 million
2005
Just under 60 million
2010
Just over 62 million
Source: National Statistics
การเพิ่มขึ้นของจ�ำนวนประชากรในสหราชอาณาจักร ปี ค.ศ. จ�ำนวนประชากร 1600
4 ล้านกว่า
1700
5 ล้าน
1801
8 ล้าน
1851
20 ล้าน
1901
40 ล้าน
1951
50 ล้าน
1998
57 ล้าน
2005
เกือบ 60 ล้าน
2010
62 ล้านกว่า
Source: National Statistics 142 Life in the UK 3rd Edition
Population growth has been faster in more recent years. Migration into the UK and longer life expectancy have played a part in population growth. หลายปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของประชากรได้เพิ่มสูงขึ้นเร็วมาก การเพิ่มของจ�ำนวน ประชากรมีสาเหตุที่ส�ำคัญเนื่องมาจากมีผู้คนอพยพเข้ามาในสหราชอาณาจักรและประชากร มีอายุยืนยาวขึ้น The population is very unequally distributed over the four parts of the UK. England more or less consistently makes up 84% of the total population, Wales around 5%, Scotland just over 8%, and Northern Ireland less than 3%. อย่างไรก็ตาม ในเขตแคว้นทั้งสี่ของสหราชอาณาจักร ปรากฏว่ามีการกระจายตัวในแต่ละ พื้นที่ไม่เท่ากัน ประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่อังกฤษอย่างต่อเนื่องมีสัดส่วนสูงถึง 84% ของจ�ำนวนประชากรรวมทั้งหมด ในเวลส์มีประมาณ 5% ในสก็อตแลนด์สูงกว่า 8% เล็กน้อย และในไอร์แลนด์เหนือมีไม่ถึง 3% An ageing population
ประชากรผู้สูงอายุ
People in the UK are living longer than ever before. This is due to improved living standards and better health care. There are now a record number of people aged 85 and over. This has an impact on the cost of pensions and health care. ประชากรในสหราชอาณาจักรมีอายุยืนยาวกว่าแต่ก่อนมาก สาเหตุเนื่องมาจากมาตรฐานการ ด�ำรงชีวิตและการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น ผู้ที่มีอายุ 85 ปีขึ้นไปมีจ�ำนวนสูงมากเป็นประวัติการณ์ เรื่องนี้มีผลกระทบต่อค่าบ�ำเหน็จบ�ำนาญและค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ
Life in the UK 143
Ethnic diversity
ความหลากหลายทางเชื้อชาติ The UK population is ethnically diverse and changing rapidly, especially in large cities such as London. It is not always easy to get an exact picture of the ethnic origin of all the population. ประชากรของสหราชอาณาจักรประกอบด้วยผู้คนหลายเชื้อชาติ และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ ตลอดเวลา โดยเฉพาะในมหานคร อย่างเช่น ลอนดอน จึงเป็นการยากที่จะหาข้อมูลที่จะช่วย ให้มองเห็นภาพเกี่ยวกับเชื้อชาติของประชากรทั้งหมดได้อย่างชัดเจน There are people in the UK with ethnic origins from all over the world. In surveys, the most common ethnic description chosen is white, which includes people of European, Australian, Canadian, New Zealand and American descent. Other significant groups are those of Asian, black and mixed descent. ในสหราชอาณาจักรมีผู้คนเชื้อชาติต่างๆ จากหลายประเทศทั่วโลก ในการส�ำรวจพบว่า เชื้อชาติที่มีผู้เลือกกาเครื่องหมายมากที่สุด คือ คนผิวชาว ซึ่งรวมถึงกลุ่มคนที่เป็นลูกหลาน ของคนยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และอเมริกัน กลุ่มอื่นๆ ที่พบมาก ได้แก่ กลุ่ม คนที่เป็นลูกหลานของคนเอเชีย คนผิวด�ำ และคนเชื้อชาติผสม An equal society
สังคมที่ทุกคนมีความเสมอภาค Within the UK, it is a legal requirement that men and women should not be discriminated against because of their gender or because they are, or are not, married. They have equal rights to work, own property, marry and divorce. If they are married, both parents are equally responsible for their children. สหราชอาณาจักรมีบทบัญญัติทางกฎหมายห้ามไม่ให้ผู้ใดเลือกปฏิบัติต่อผู้อื่น ไม่ว่าชายหรือ หญิง ด้วยเหตุผลในเรื่องเพศ หรือเพราะพวกเขาแต่งงาน หรือไม่ได้แต่งงานกัน ประชาชน ทั้งชายและหญิงมีสิทธิในการท�ำงาน เป็นเจ้าของทรัพย์สิน แต่งงาน หรือหย่าร้างได้โดยเสรี ในกรณีที่แต่งงานกัน สามีภรรยาจะมีความรับผิดชอบในการปกครองดูแลบุตรเท่าเทียมกัน
144 Life in the UK 3rd Edition
Women in Britain today make up about half of the workforce. On average, girls leave school with better qualifications than boys. More women than men study at university. ปัจจุบันนี้สตรีที่ท�ำงานในอังกฤษมีจ�ำนวนประมาณครึ่งหนึ่งของคนท�ำงานทั้งหมด โดยเฉลี่ย เมื่อเรียนจบเด็กผู้หญิงจะมีคะแนนการเรียนดีกว่าเด็กผู้ชาย และมีผู้หญิงเรียนต่อในระดับ มหาวิทยาลัยมากกว่า เมื่อเทียบกับผู้ชาย Employment opportunities for women are much greater than they were in the past. Women work in all sectors of the economy, and there are now more women in high-level positions than ever before, including senior managers in traditionally male-dominated occupations. Alongside this, men now work in more varied jobs than they did in the past. ผู้หญิงอังกฤษในปัจจุบันมีโอกาสสูงมากที่จะได้ออกไปท�ำงานหาเงินเลี้ยงชีพ เมื่อเทียบกับใน อดีต สหราชอาณาจักรมีผู้หญิงท�ำงานในทุกภาคเศรษฐกิจ และเวลานี้มีผู้หญิงที่ด�ำรงต�ำแหน่ง ระดับสูงเป็นจ�ำนวนเพิม่ ขึน้ มาก ทัง้ นี้ รวมถึงต�ำแหน่งระดับผูจ้ ดั การอาวุโสในสาขาอาชีพทีเ่ คย ถือว่าเป็นอาชีพส�ำหรับผูช้ ายเท่านัน้ ในเวลาเดียวกัน ผูช้ ายในปัจจุบนั ก็ทำ� งานในอาชีพทีห่ ลาก หลายกว่าที่เคยท�ำกันมาในอดีต It is no longer expected that women should stay at home and not work. Women often continue to work after having children. In many families today, both partners work and both share responsibility for childcare and household chores. คนอังกฤษไม่ได้คาดหวังให้ผู้หญิงต้องเก็บตัวและท�ำงานอยู่แต่ในบ้านอีกต่อไป ส่วนใหญ่หลัง จากมีบุตรแล้ว ผู้หญิงจะกลับไปท�ำงานต่อ และในหลายครอบครัวเวลานี้ คู่ครองทั้งสองคน จะท�ำงานและรับผิดชอบในการดูแลบุตรและท�ำงานบ้านร่วมกัน
Life in the UK 145
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The capital cities of the UK √ What languages other than English are spoken in particular parts of the UK √ How the population of the UK has changed √ That the UK is an equal society and ethnically diverse √ The currency of the UK √ เมืองหลวงต่างๆ ของสหราชอาณาจักร √ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ ยังมีภาษาอะไรอีกบ้างที่ใช้พูดกันในบางเขตพื้นที่ของ สหราชอาณาจักร √ ประชากรของสหราชอาณาจักรมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร √ ข้อมูลที่ว่าสหราชอาณาจักรเป็นสังคมที่มีความเสมอภาคและประกอบด้วยผู้คน หลายเชื้อชาติ √ สกุลเงินตราของสหราชอาณาจักร
146 Life in the UK 3rd Edition
148 Life in the UK 3rd Edition
RELIGION
ศาสนา
The UK is historically a Christian country. In the 2009 Citizenship Survey, 70% of people identified themselves as Christian. Much smaller proportions identified themselves as Muslim (4%), Hindu (2%), Sikh (1 %), Jewish or Buddhist (both less than 0.5%), and 2% of people followed another religion. There are religious buildings for other religions all over the UK. This includes Islamic mosques, Hindu temples, Jewish synagogues, Sikh gurdwaras and Buddhist temples. However, everyone has the legal right to choose their religion, or to choose not to practise a religion. In the Citizenship Survey, 21 % of people said that they had no religion. สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์มาแต่ครั้งโบราณกาล ผลส�ำรวจส�ำมะโน ประชากรปี ค.ศ. 2009 พบว่าประชาชนที่ระบุตนเองเป็นชาวคริสต์มีจ�ำนวน 70% ของ ประชากรทั้งหมดในสหราชอาณาจักร ผู้ที่ระบุตนเองว่านับถือศาสนาอื่นๆ มีจ�ำนวนคิดเป็น สัดส่วนน้อยกว่านี้มาก คือ เป็นมุสลิม (4%) ฮินดู (2%) ซิกข์ (1 %) เป็นยิว หรือพุทธ (ไม่ถึง 0.5% ทัง้ คู)่ และอีก 2% นับถือศาสนาอืน่ ตลอดทัว่ สหราชอาณาจักรจะมีศาสนสถานส�ำหรับผู้ นับถือศาสนาอื่นๆ ได้แก่ มัสยิดอิสลาม วัดฮินดู โบสถ์ชาวยิว วัดซิกข์ และวัดชาวพุทธ อย่างไร ก็ตาม กฎหมายอนุญาตให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกนับถือศาสนาใดก็ได้ หรือจะไม่ นับถือศาสนาใดเลยก็ได้ ผลส�ำรวจส�ำมะโนประชากรพบว่า 21 % ของประชากรรวมทั้งหมด ระบุตนเองเป็นบุคคลที่ไม่มีศาสนา
Christian churches
คริสตจักรแห่งอังกฤษ
In England, there is a constitutional link between Church and state. The official Church of the state is the Church of England (called the Anglican Church in other countries and the Episcopal Church in Scotland and the United States). It is a Protestant Church and has existed since the Reformation in the 1530s (see page 50 for an explanation).
Life in the UK 149
ในประเทศอังกฤษ ศาสนจักรกับอาณาจักรจะมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันภายใต้รัฐธรรมนูญ คริสต์ศาสนาประจ�ำชาติอังกฤษ คือ ศาสนจักรนิกายอังกฤษ (Church of England) (ซึ่งใน ประเทศอื่นๆ เรียกว่า ศาสนจักรนิกายแองกลิคัน (Anglican Church) และในสก็อตแลนด์ และสหรัฐอเมริกาเรียกว่า ศาสนจักรอิพิสโคพอล (Episcopal Church)) คริสตจักรแห่ง อังกฤษเป็นนิกายโปรเตสแตนท์ และมีมาตั้งแต่การปฏิรูปที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษปี 1530 (ดูค�ำอธิบายที่หน้า 50) The monarch is the head of the Church of England. The spiritual leader of the Church of England is the Archbishop of Canterbury. The monarch has the right to select the Archbishop and other senior church officials, but usually the choice is made by the Prime Minister and a committee appointed by the Church. Several Church of England bishops sit in the House of Lords (see page 229). พระมหากษัตริย์ หรือสมเด็จพระราชินนี าถ ทรงเป็นประมุข หรือผูป้ กครองสูงสุดของศาสนจักร นิกายอังกฤษ ผู้น�ำทางศาสนาของศาสนจักรนิกายอังกฤษ คือ อัครสังฆราชแห่งแคนเทอร์เบ อรี่ (Archbishop of Canterbury) กษัตริย์หรือพระราชินีทรงมีสิทธิท่ีจะเลือกและแต่งตั้ง อัครสังฆราชและพระสังฆราชชั้นอาวุโสอื่นๆ แต่ปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคริสตจักรจะเป็นผู้เลือก ในสภาขุนนางจะมีนักบวชสมณศักดิ์ระดับสูง ของศาสนจักรอังกฤษนั่งอยู่เป็นจ�ำนวนมาก (ดูหน้า 229) In Scotland, the national Church is the Church of Scotland, which is a Presbyterian Church. It is governed by ministers and elders. The chairperson of the General Assembly of the Church of Scotland is the Moderator, who is appointed for one year only and often speaks on behalf of that Church. ศาสนจักรประจ�ำชาติในสก็อตแลนด์ คือ คริสตจักรแห่งสก็อตแลนด์ ซึ่งเป็นศาสนจักรนิกาย เพรสไบเทอเรียน และมีคณะนักบวชและผู้อาวุโสปกครองดูแล ประธานของสภาคริสตจักร แห่งสก็อตแลนด์ (General Assembly of the Church of Scotland) คือ นักบวชหรือ ผูอ้ าวุโส (Moderator) ทีไ่ ด้รบั การแต่งตัง้ ให้รบั ต�ำแหน่งเพียงหนึง่ ปี และส่วนใหญ่จะท�ำหน้าที่ เป็นปากเป็นเสียงแทนศาสนจักรดังกล่าว
150 Life in the UK 3rd Edition
There is no established Church in Wales or Northern Ireland.
เวลส์ หรือไอร์แลนด์เหนือไม่มีศาสนจักรประจ�ำชาติ
Other Protestant Christian groups in the UK are Baptists, Methodists, Presbyterians and Quakers. There are also other denominations of Christianity, the biggest of which is Roman Catholic. ผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์กลุ่มอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร ได้แก่ กลุ่มแบพติสท์ กลุ่มเมโธดิสท์ กลุ่มเพรสไบเทอเรียน และกลุ่มเควกเกอร์ นอกจากนี้ยังมีชาวคริสต์นิกายอื่นๆ และที่ใหญ่ที่สุด คือ กลุ่มชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก Patron saints’ days
วันเฉลิมฉลองนักบุญองค์อุปถัมภ์ England, Scotland, Wales and Northern Ireland each have a national saint, called a patron saint. Each saint has a special day: • 1 March: St David’s Day, Wales • 17 March: St Patrick’s Day, Northern Ireland • 23 April: St George’s Day, England • 30 November: St Andrew’s Day, Scotland. อังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ ต่างก็มีนักบุญประจ�ำชาติ หรือนักบุญองค์ อุปถัมภ์ของชาติตน และจะมีวันเฉลิมฉลองนักบุญแต่ละองค์ ดังนี้: • 1 มีนาคม: วันเฉลิมฉลองนักบุญ เซนต์เดวิด เวลส์ • 17 มีนาคม: วันเฉลิมฉลองนักบุญ เซนต์แพทริค ไอร์แลนด์เหนือ • 23 เมษายน: วันเฉลิมฉลองนักบุญ เซนต์จอร์จ อังกฤษ • 30 พฤศจิกายน: วันเฉลิมฉลองนักบุญ เซนต์แอนดรูว์ สก็อตแลนด์ Only Scotland and Northern Ireland have their patron saint’s day as an official holiday (although in Scotland not all businesses and offices will close). Events are held across Scotland, Northern Ireland and the rest of the country, especially where there are a lot of people of Scottish, Northern Irish and Irish heritage.
Life in the UK 151
เฉพาะสก็อตแลนด์และไอร์แลนด์เหนือเท่านั้นที่ประกาศให้วันเฉลิมฉลองนักบุญองค์อุปถัมภ์ ของชาติตนเป็นวันหยุดราชการ (แต่ในสก็อตแลนด์ ธุรกิจหรือส�ำนักงานบางแห่งยังเปิดท�ำงาน อยู่) ในวันนักบุญองค์อุปถัมภ์จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองทั่วสก็อตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือ และ ที่อื่นๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ที่มีประชาชนเชื้อสายสก็อตแลนด์ ชาวไอริชจาก ไอร์แลนด์เหนือ และชาวไอริชรวมกันอยู่เป็นจ�ำนวนมาก While the patron saints’ days are no longer public holidays in England and Wales, they are still celebrated. Parades and small festivals are held all over the two countries. ถึงแม้วา่ วันนักบุญองค์อปุ ถัมภ์จะไม่ใช่วนั หยุดราชการในอังกฤษและเวลส์ แต่ผคู้ นยังคงจัดงาน เฉลิมฉลองวันนักบุญเหล่านี้อยู่ เช่น มีการจัดขบวนแห่ และการจัดงานเทศกาลเล็กๆ ตลอด ทั่วอังกฤษและเวลส์
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The different religions that are practised in the UK √ That the Anglican Church, also known as the Church of England, is the Church of the state in England (the ‘established Church’) √ That other branches of the Christian Church also practise their faith in the UK without being linked to the state √ That other religions are practised in the UK √ About the patron saints √ ศาสนาต่างๆ ที่มีผู้นับถือกันอยู่ในสหราชอาณาจักร √ ศาสนจักรนิกายแองกลิคัน หรือที่เรียกว่า ศาสนจักรนิกายอังกฤษ เป็นคริสตจักร ประจ�ำชาติอังกฤษ (‘ศาสนจักรแห่งชาติ’) √ ศาสนจักรของชาวคริสต์กลุ่มอื่นๆ ที่นับถือคริสต์ศาสนาในสหราชอาณาจักรเช่นกัน แต่ไม่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับรัฐ √ ศาสนาอื่นๆ ที่มีผู้นับถือกันอยู่ในสหราชอาณาจักร √ ความรู้เกี่ยวกับนักบุญองค์อุปถัมภ์ 152 Life in the UK 3rd Edition
“ONE STOP SERVICE” ส�ำหรับท่านที่ต้องการมีบ้าน, ที่ดิน, ตึกแถว, อพาร์ตเมนต์, ตึกพาณิชย์และอสังหาริมทรัพย์ ใดๆ ในประเทศไทย Double Four Agency สามารถช่วยท่านได้
เรามีบริการแบบครบวงจรไว้รอท่าน ตั้งแต่... (1) การรับจัดหาอสังหาริมทรัพย์ ให้ตรงกับวัตถุประสงค์, ความต้องการของ ท่าน รวมไปถึงความสอดคล้องกับงบประมาณในการจัดซื้อ (2) ช่วยด�ำเนินการด้านเอกสารและสินเชื่อ เพื่อที่อยู่อาศัย (3) รับจัดการในด้านกฏหมายและท�ำนิติกรรมในการด�ำเนินการการซื้อ/ขาย ทุกขั้นตอน สนใจติดต่อ
คุณนัทธ (UK) 07445 828 289 คุณชุติมา (เมืองไทย) 08 649 44 551
Email: doublefouragency@gmail.com www.double4agency.com
CUSTOMS AND TRADITIONS
ขนบธรรมเนียมประเพณี
The main Christian festivals
เทศกาลที่ส�ำคัญๆ ของชาวคริสต์
Christmas Day, 25 December, celebrates the birth of Jesus Christ. It is a public holiday. Many Christians go to church on Christmas Eve (24 December) or on Christmas Day itself. วันคริสต์มาส วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซูคริสต์ และเป็น วันหยุดราชการ ชาวคริสต์ส่วนใหญ่จะไปโบสถ์ในวันก่อนวันคริสต์มาส (24 ธันวาคม) หรือ ในวันคริสต์มาส 154 Life in the UK 3rd Edition
Christmas is celebrated in a traditional way. People usually spend the day at home and eat a special meal, which often includes roast turkey, Christmas pudding and mince pies. They give gifts, send cards and decorate their houses. Christmas is a special time for children. Very young children believe that Father Christmas (also known as Santa Claus) brings them presents during the night before Christmas Day. Many people decorate a tree in their home. ชาวคริสต์จะฉลองเทศกาลวันคริสต์มาสตามธรรมเนียมที่มีการปฏิบัติสืบต่อกันมา ปกติแล้ว ผู้คนจะใช้เวลาอยู่ที่บ้านกับครอบครัว และรับประทานอาหารมื้อพิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่จะมี ไก่งวงอบ ขนมพุดดิ้งคริสต์มาส และมินซ์พาย นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนของขวัญ ส่ง บัตรอวยพรให้กันและกัน และตกแต่งบ้านเรือนให้สวยงาม คริสต์มาสเป็นช่วงเวลาที่พิเศษ ส�ำหรับเด็ก เด็กเล็กๆ เชื่อว่าผู้เฒ่าที่เป็นบิดาแห่งคริสต์มาส (หรือที่เรียกว่า ซานตาคลอส) จะ น�ำของขวัญมาให้ในตอนกลางคืนก่อนวันคริสต์มาส หลายคนจะมีตน้ คริสต์มาสทีป่ ระดับตกแต่ง อย่างสวยงามในบ้านของตน A typical Christmas Day meal
อาหารที่นิยมรับประทานกันในวันคริสต์มาส
Boxing Day is the day after Christmas Day and is a public holiday. บ็อกซิ่งเดย์ เป็นวันหลังวันคริสต์มาส และเป็นวันหยุดราชการ Easter takes place in March or April. It marks the death of Jesus Christ on Good Friday and his rising from the dead on Easter Sunday. Both Good Friday and the following Monday, called Easter Monday, are public holidays. อีสเตอร์ ชาวคริสต์มีเทศกาลอีสเตอร์ในเดือนมีนาคมหรือเมษายน เพื่อร�ำลึกถึงวันที่พระเยซู คริสต์สิ้นพระชนม์ขณะตรึงบนไม้กางเขนในวันศุกร์ (กู๊ดฟรายเดย์) และเพื่อเฉลิมฉลองการ กลับฟื้นคืนพระชนม์ชีพของพระองค์ในวันอาทิตย์ (อีสเตอร์ซันเดย์) วันศุกร์ที่เรียกว่า กู๊ดฟรายเดย์ และวันจันทร์ถัดมาที่เรียกว่า อีสเตอร์มันเดย์ เป็นวันหยุดราชการทั้งสองวัน The 40 days before Easter are known as Lent. It is a time when Christians take time to reflect and prepare for Easter. Traditionally, people would fast during this period and today many people will give something up, like a favourite food. The day before Lent starts is called Shrove Tuesday, or Pancake Day. People eat Life in the UK 155
pancakes, which were traditionally made to use up foods such as eggs, fat and milk before fasting. Lent begins on Ash Wednesday. There are church services where Christians are marked with an ash cross on their forehead as a symbol of death and sorrow for sin. ช่วงเวลา 40 วัน ก่อนวันอีสเตอร์ เรียกว่า ช่วงเวลาถือศีล (Lent) ชาวคริสต์จะใช้เวลานีพ้ จิ ารณา ทบทวนชีวติ ทีผ่ า่ นมาและเตรียมตัวฉลองวันอีสเตอร์ และจะพากันอดอาหารในช่วงเวลาถือศีล ตามประเพณีดั้งเดิม และวันนี้คนส่วนใหญ่จะตั้งจิตอธิษฐานที่จะลดละบางสิ่ง เช่น เลิกทาน อาหารทีช่ อบมาก วันอังคารก่อนวันเริม่ ถือศีล เรียกว่า วันโชรฟทิวสเดย์ หรือวันแพนเค้ก ผูค้ น จะรับประทานแพนเค้ก ซึ่งเป็นสิ่งที่ท�ำสืบเนื่องกันมาแต่อดีต เพื่อใช้อาหารที่เหลืออยู่ เช่น ไข่ ไขมันและน�้ำนม ให้หมดก่อนที่จะเริ่มอดอาหาร การถือศีลจะเริ่มต้นในวันพุธรับเถ้า ที่เรียก ว่า แอชเวนส์เดย์ ตามโบสถ์ต่างๆ บาทหลวงจะท�ำพิธีแตะเถ้าเป็นรูปกางเขนบนหน้าผากของ คริสตศาสนิกชน เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความตายและความเศร้าโศกเสียใจกับบาปที่ ก่อไว้ Easter is also celebrated by people who are not religious. ‘Easter eggs’ are chocolate eggs often given as presents at Easter as a symbol of new life. คนที่ไม่เคร่งศาสนาก็นิยมฉลองวันอีสเตอร์ด้วย พวกเขานิยมมอบของขวัญเป็นไข่ช็อกโกแลต หรือ ‘ไข่อีสเตอร์’ ให้กันและกันในวันอีสเตอร์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ส�ำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ Other religious festivals
เทศกาลที่ส�ำคัญของศาสนาอื่นๆ
Diwali normally falls in October or November and lasts for five days. It is often called the Festival of Lights. It is celebrated by Hindus and Sikhs. It celebrates the victory of good over evil and the gaining of knowledge. There are different stories about how the festival came about. There is a famous celebration of Diwali in Leicester. เทศกาลดิวาลี ปกติจะมีขึ้นในเดือนตุลาคม หรือพฤศจิกายน และจะมีการเฉลิมฉลองเป็น เวลา 5 วัน เทศกาลนีส้ ว่ นใหญ่เรียกกันว่า เทศกาลแห่งแสงไฟ ชาวฮินดูและชาวซิกข์จะจัดงาน เทศกาลดิวาลี เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของความดีเหนือความชั่วและการได้รับความรู้ มีเรื่อง เล่าขานมากมายเกี่ยวกับต�ำนานความเป็นมาของเทศกาลดิวาลี งานฉลองเทศกาลดิวาลีที่มี ชื่อเสียงของอังกฤษจัดขึ้นที่เมืองเลสเตอร์ 156 Life in the UK 3rd Edition
Diwali is popularly known as the Festival of Lights
ดิวาลีเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นเทศกาลแห่งแสงไฟ
Hannukah is in November or December and is celebrated for eight days. It is to remember the Jews’ struggle for religious freedom. On each day of the festival a candle is lit on a stand of eight candles (called a menorah) to remember the story of the festival, where oil that should have lasted only a day did so for eight. ฮานุกกะห์ มีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน หรือธันวาคม และมีการเฉลิมฉลองกันนานถึง 8 วัน เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อร�ำลึกถึงการต่อสู้เพื่อเสรีภาพทางศาสนาของชาวยิว ในช่วงเทศกาล ฮานุกกะห์แต่ละวันจะมีการจุดเทียนบนเชิงเทียนที่มีแขนใส่เทียน 8 เล่ม (เรียกว่า เมโนราห์) เพือ่ ร�ำลึกถึงต�ำนานเทศกาลทีเ่ ล่ากันว่า น�ำ้ มันทีน่ า่ จะเป็นเชือ้ เพลิงหล่อเลีย้ งแสงเทียนได้เพียง หนึ่งวัน สามารถท�ำให้เทียนส่องสว่างได้นานถึง 8 วัน Eid al-Fitr celebrates the end of Ramadan, when Muslims have fasted for a month. They thank Allah for giving them the strength to complete the fast. The date when it takes place changes every year. Muslims attend special services and meals. อีดิลฟิตรี เทศกาลฉลองวันสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวมุสลิมถือศีลอดอาหาร นาน 1 เดือน เทศกาลนี้มีขึ้นเพื่อขอบคุณพระอัลเลาะห์ที่ทรงประทานความเข้มแข็งให้พวก เขาอดอาหารได้ตลอดทั้งเดือน วันเริ่มต้นเทศกาลอีดิลฟิตรีจะไม่ตรงกันในแต่ละปี ชาวมุสลิม จะเข้าท�ำพิธีสวดมนตร์และรับประทานอาหารมื้อพิเศษ Eid ul Adha remembers that the prophet Ibrahim was willing to sacrifice his son when God ordered him to. It reminds Muslims of their own commitment to God. Many Muslims sacrifice an animal to eat during this festival. In Britain this has to be done in a slaughterhouse. อีดิลอัฎฮา มีขึ้นเพื่อร�ำลึกถึงความดีงามของอิบราฮิมที่ยอมเสียสละบุตรชายของตนตาม ค�ำสัง่ ของพระผูเ้ ป็นเจ้า และเตือนใจให้ชาวมุสลิมมุง่ อุทศิ ตนให้แก่พระเจ้า ชาวมุสลิมส่วนใหญ่ จะฆ่าสัตว์ของตนเพื่อรับประทานในช่วงเทศกาลนี้ ส�ำหรับในอังกฤษ เจ้าของสัตว์จะต้องน�ำ สัตว์ไปฆ่าที่โรงฆ่าสัตว์ Vaisakhi (also spelled Baisakhi) is a Sikh festival which celebrates the founding of the Sikh community known as the Khalsa. It is celebrated on 14 April each year with parades, dancing and singing. Life in the UK 157
เวสาขี (จะสะกดว่า เบสาขี ก็ได้) เป็นเทศกาลของชาวซิกข์ที่มีขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้ง ชุมชนชาวซิกข์ ที่เรียกว่า ‘คาลซา’ ชาวซิกข์จะจัดให้มีขบวนแห่ การเต้นระบ�ำร�ำฟ้อน และ ร้องเพลง เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ในวันที่ 14 เมษายน ของทุกๆ ปี Other festivals and traditions
เทศกาลและงานประเพณีอื่นๆ
New Year, 1 January, is a public holiday. People usually celebrate on the night of 31 December (called New Year’s Eve). In Scotland, 31 December is called Hogmanay and 2 January is also a public holiday. For some Scottish people, Hogmanay is a bigger holiday than Christmas. เทศกาลปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม เป็นวันหยุดราชการ ประชาชนส่วนใหญ่จะเฉลิมฉลองกันใน คืนวันที่ 31 ธันวาคม (เรียกว่า วันส่งท้ายปีเก่า) ส�ำหรับในสก็อตแลนด์ วันที่ 31 ธันวาคม เรียก ว่า ฮอกมาเนย์ และวันที่ 2 มกราคม ก็เป็นวันหยุดราชการด้วยเช่นกัน คนบางกลุ่มในสก็อต แลนด์ให้ความส�ำคัญกับวันหยุดฮอกมาเนย์มากกว่าวันคริสต์มาส Valentine’s Day, 14 February, is when lovers exchange cards and gifts. Sometimes people send anonymous cards to someone they secretly admire. วันวาเลนไทน์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่คู่รักแลกเปลี่ยนบัตรอวยพรและของขวัญ บาง ครั้งมีการส่งบัตรอวยพรที่ไม่ระบุชื่อผู้ส่งให้กับผู้ที่เขาแอบชื่นชม April Fool’s Day, 1 April, is a day when people play jokes on each other until midday. The television and newspapers often have stories that are April Fool jokes. วันโกหกแห่งเมษายน วันที่ 1 เมษายน เป็นวันทีผ่ คู้ นจะโกหกหรือหลอกกันเล่นจนถึงเทีย่ งวัน โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์มักจะน�ำเสนอเรื่องราว เพื่อหลอกให้ผู้ชมและผู้อ่านหลงเชื่อว่าเป็น ความจริง Mothering Sunday (or Mother’s Day) is the Sunday three weeks before Easter. Children send cards or buy gifts for their mothers. วันอาทิตย์ส�ำหรับแม่ (หรือ วันแม่) เป็นวันอาทิตย์ สามสัปดาห์ก่อนถึงวันอีสเตอร์ เป็นวันที่ ลูกๆ ส่งบัตรอวยพร หรือซื้อของขวัญให้แม่ของตน 158 Life in the UK 3rd Edition
Father’s Day is the third Sunday in June. Children send cards or buy gifts for their fathers. วันพ่อ เป็นวันอาทิตย์ของสัปดาห์ที่สามในเดือนมิถุนายน เป็นวันที่ลูกๆ ส่งบัตรอวยพร หรือ ซื้อของขวัญให้พ่อของตน Halloween, 31 October, is an ancient festival and has roots in the pagan festival to mark the beginning of winter. Young people will often dress up in frightening costumes to play ‘trick or treat’. People give them treats to stop them playing tricks on them. A lot of people carve lanterns out of pumpkins and put a candle inside. วันฮาลโลวีน วันที่ 31 ตุลาคม เป็นเทศกาลที่เก่าแก่มาก และมีรากเหง้ามาจากเทศกาลของ กลุ่มคนนอกศาสนาที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันเริ่มต้นฤดูหนาว เด็กวัยรุ่นจะพากันแต่งตัวใน ลักษณะที่น่ากลัวเพื่อเล่น ‘หลอกให้คนตกใจเพื่อของแลกเปลี่ยน หรือ ทริค ออร์ ทรีต’ การ ให้ขนมหรือช็อคโกแลตอาจท�ำให้เด็กหยุดหลอกคุณได้ หลายคนจะน�ำฟักทองมาแกะสลักเป็น โคมไฟและจุดเทียนไว้ข้างใน Bonfire Night, 5 November, is an occasion when people in Great Britain set off fireworks at home or in special displays. The origin of this celebration was an event in 1605, when a group of Catholics led by Guy Fawkes failed in their plan to kill the Protestant king with a bomb in the Houses of Parliament. คืนฉลองกองไฟกลางแจ้ง วันที่ 5 พฤศจิกายน เป็นวันทีผ่ คู้ นในอังกฤษมีโอกาสได้จดุ ดอกไม้ไฟ เล่นกันทีบ่ า้ น หรือในบริเวณทีม่ กี ารแสดงดอกไม้ไฟเป็นพิเศษ การเฉลิมฉลองนีม้ ตี น้ ตอมาจาก เหตุการณ์ในปี ค.ศ. 1605 เมื่อกลุ่มชาวคาทอลิก ซึ่งมี กาย ฟอคส์ เป็นผู้น�ำ ได้วางระเบิดใน ที่ท�ำการรัฐสภาตามแผนลอบสังหารกษัตริย์โปรเตสแตนท์ แต่แผนล้มเหลว Remembrance Day, 11 November, commemorates those who died fighting for the UK and its allies. Originally it commemorated the dead of the First World War, which ended on 11 November 1918. People wear poppies (the red flower found on the battlefields of the First World War). At 11.00 am there is a twominute silence and wreaths are laid at the Cenotaph in Whitehall, London. วันทหารผ่านศึก วันที่ 11 พฤศจิกายน เป็นวันร�ำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากการสู้รบป้องกันสหราช อาณาจักรและกลุ่มประเทศสัมพันธมิตร แรกเริ่มเดิมที วันทหารผ่านศึกได้จัดขึ้นเพื่อร�ำลึก ถึงทหารผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 ใน วันนี้ประชาชนจะสวมเสื้อติดดอกป๊อบปี้ (ดอกไม้สีแดงที่พบในสมรภูมิรบในสงครามโลก ครั้งที่ 1) และเมื่อเวลา 11:00 นาฬิกา ทุกคนจะสงบนิ่งไว้อาลัย 2 นาที และมีการวางพวงหรีด ที่อนุสาวรีย์ร�ำลึกถึงทหารผู้เสียชีวิต ที่ไวท์ฮอลล์ กรุงลอนดอน Life in the UK 159
Unveiled in 1920, the Cenotaph is the centrepiece to the Remembrance Day service มีการท�ำพิธีเปิดอนุสาวรีย์นี้ในปี ค.ศ. 1920 เพื่อใช้เป็นอนุสรณ์สถานส�ำหรับการท�ำพิธีในวัน ทหารผ่านศึก Bank Holidays
วันหยุดธนาคาร
As well as those mentioned previously, there are other public holidays each year called bank holidays, when banks and many other businesses are closed for the day. These are of no religious significance. They are at the beginning of May, in late May or early June, and in August. In Northern Ireland, the anniversary of the Battle of the Boyne in July is also a public holiday. นอกเหนือจากวันหยุดที่กล่าวถึงไปแล้ว ยังมีวันหยุดราชการอื่นๆ อีกในแต่ละปี เรียกว่า วัน หยุดธนาคาร ซึ่งเป็นวันที่ธนาคารและธุรกิจอื่นๆ หลายแห่งปิดท�ำการ วันหยุดธนาคารไม่มี ความส�ำคัญในทางศาสนา วันหยุดธนาคารจะมีในต้นเดือนพฤษภาคม ปลายพฤษภาคม หรือ ต้นเดือนมิถุนายน และในเดือนสิงหาคม ส�ำหรับในไอร์แลนด์เหนือ วันครบรอบปีของการสู้รบ ที่เมืองบอยน์ในเดือนกรกฎาคมก็เป็นวันหยุดราชการด้วยเช่นกัน
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The main Christian festivals that are celebrated in the UK √ Other religious festivals that are important in the UK √ Some of the other events that are celebrated in the UK √ What a bank holiday is √ เทศกาลส�ำคัญๆ ที่ชาวคริสต์เฉลิมฉลองกันในสหราชอาณาจักร √ เทศกาลที่ส�ำคัญของศาสนาอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร √ งานส�ำคัญอื่นๆ ที่มีการฉลองกันในสหราชอาณาจักร √ วันหยุดธนาคาร คืออะไร 160 Life in the UK 3rd Edition
SPORT
กีฬา
Sports of all kinds play an important part in many people’s lives. There are several sports that are particularly popular in the UK. Many sporting events take place at major stadiums such as Wembley Stadium in London and the Millennium Stadium in Cardiff. กีฬาต่างๆ ทุกประเภทเป็นส่วนหนึ่งที่ส�ำคัญในชีวิตของคนอังกฤษจ�ำนวนมาก มีกีฬาหลาย ประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางเป็นพิเศษในสหราชอาณาจักร การแข่งขันกีฬา ส่วนใหญ่จะจัดขึ้นที่สนามกีฬาที่ส�ำคัญๆ เช่น สนามกีฬาเวมบลีย์ในลอนดอน และสนามกีฬา มิลเลนเนียมในคาร์ดิฟฟ์ Local governments and private companies provide sports facilities such as swimming pools, tennis courts, football pitches, dry ski slopes and gymnasiums. Many famous sports, including cricket, football, lawn tennis, golf and rugby, began in Britain. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบริษัทเอกชนต่างๆ จะอ�ำนวยความสะดวกและจัดหาบริการ สถานที่ส�ำหรับการเล่นกีฬา เช่น สระว่ายน�้ำ สนามเทนนิส สนามฟุตบอล ที่ลาดชันส�ำหรับฝึก เล่นสกี และโรงยิม กีฬาทีม่ ชี อื่ เสียงหลายชนิด เช่น คริกเก็ต ฟุตบอล เทนนิสสนาม กอล์ฟ และ รักบี้ ล้วนเริ่มเล่นกันที่อังกฤษ The UK has hosted the Olympic Games on three occasions: 1908, 1948 and 2012. The main Olympic site for the 2012 Games was in Stratford, East London. The British team was very successful, across a wide range of Olympic sports, finishing third in the medal table. สหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 3 ครั้ง คือ ในปี ค.ศ. 1908 ค.ศ. 1948 และ ค.ศ. 2012 สถานที่หลักในการจัดงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปี ค.ศ. 2012 อยู่ใน สแตรทฟอร์ด เขตพื้นที่ตะวันออกของลอนดอน ทีมนักกีฬาอังกฤษประสบความส�ำเร็จอย่าง สูงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกประเภทต่างๆ และติดอันดับที่สามในตารางสรุปเหรียญรางวัล โอลิมปิก The Paralympic Games for 2012 were also hosted in London. The Paralympics have their origin in the work of Dr Sir Ludwig Guttman, a German refugee, at 162 Life in the UK 3rd Edition
the Stoke Mandeville hospital in Buckinghamshire. Dr Guttman developed new methods of treatment for people with spinal injuries and encouraged patients to take part in exercise and sport. ลอนดอนยังเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก ปี ค.ศ. 2012 ด้วยเช่นกัน กีฬาพารา ลิมปิกมีต้นตอมาจากงานของเซอร์ ลุดวิก กูทมัน ผู้ลี้ภัยชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นนายแพทย์ที่โรง พยาบาลสโต๊ก แมนเดวิลล์ ในบัคกิงแฮมเชียร์ นายแพทย์กูทมันได้พัฒนาวิธีการแนวใหม่ขึ้น มาเพื่อรักษาผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง และส่งเสริมให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมการ ออกก�ำลังกายและเล่นกีฬา Notable British sportsmen and wome
นักกีฬาชายและหญิงชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียง
Sir Roger Bannister (1929-) was the first man in the world to run a mile in under four minutes, in 1954. เซอร์ โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ (ค.ศ. 1929-) เป็นนักกีฬาชายคนแรกของโลกที่ท�ำสถิติการวิ่ง ระยะทาง 1 ไมล์ ภายในเวลาไม่ถึง 4 นาที ในปี ค.ศ. 1954 Sir Jackie Stewart (1939-) is a Scottish former racing driver who won the Formula 1 world championship three times. เซอร์ แจ๊กกี้ สจ๊วร์ต (ค.ศ. 1939-) อดีตนักแข่งรถชาวสก็อตแลนด์ที่ครองแชมป์ชนะเลิศ รายการชิงแชมป์โลก ฟอร์มูล่าวัน ถึง 3 ครั้ง Moore (1941-93) captained the English football team that won the World Cup in 1966. มัวร์ (ค.ศ. 1941-93) กัปตันผู้น�ำทีมฟุตบอลอังกฤษที่ชนะเลิศในรายการฟุตบอลชิงแชมป์ โลก หรือเวิลด์คัพในปี คศ. 1966 Sir Ian Botham (1955-) captained the English cricket team and holds a number of English Test cricket records, both for batting and for bowling. เซอร์ เอียน โบแธม (ค.ศ. 1955-) กัปตันทีมคริกเก็ตของอังกฤษ มีประวัติการเล่นที่ดีเด่น ทั้งในด้านการตีและการขว้างลูกบอลในการแข่งขันคริกเก็ตนัดต่างๆ ของอังกฤษหลายครั้ง Life in the UK 163
Jayne Torvill (1957-) and Christopher Dean (1958-) won gold medals for ice dancing at the Olympic Games in 1984 and in four consecutive world championships. เจย์น ทอร์วิลล์ (ค.ศ. 1957-) และ คริสโตเฟอร์ ดีน (ค.ศ. 1958-) คว้ารางวัลเหรียญทองใน การแข่งขันสเกตน�้ำแข็งแบบไอซ์แดนซิ่งในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปี ค.ศ. 1984 และได้ครอง แชมป์โลกติดต่อกันสี่ปี Sir Steve Redgrave (1962-) won gold medals in rowing in five consecutive Olympic Games and is one of Britain’s greatest Olympians. เซอร์ สตีฟ เรดเกรฟ (ค.ศ. 1962-) คว้ารางวัลเหรียญทองในการแข่งเรือกรรเชียงในมหกรรม กีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นติดต่อกัน 5 ครั้ง และเป็นนักกีฬาโอลิมปิกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของ อังกฤษ Baroness Tanni Grey-Thompson (1969-) is an athlete who uses a wheelchair and won 16 Paralympic medals, including 11 gold medals, in races over five Paralympic Games. She won the London Marathon six times and broke a total of 30 world records. บารอนเนส ทันนิ เกรย์-ทอมป์สัน (ค.ศ. 1969-) เป็นนักกรีฑานั่งรถเข็นคนพิการ เธอได้รับ รางวัลเหรียญกีฬาพาราลิมปิก 16 เหรียญ ซึ่งในจ�ำนวนนี้เป็นเหรียญทอง 11 เหรียญ ในการ แข่งขันกีฬาพาราลิมปิกที่จัดขึ้น 5 ครั้ง เธอชนะเลิศในการแข่งขัน ลอนดอนมาราธอน 6 ครั้ง และท�ำลายสถิติโลกรวมทั้งหมด 30 ครั้ง Dame Kelly Holmes (1970-) won two gold medals for running in the 2004 Olympic Games. She has held a number of British and European records. เดม เคลลี โฮล์ม (ค.ศ. 1970-) คว้าสองเหรียญทองจากการวิ่งแข่งในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปี ค.ศ. 2004 เธอท�ำสถิติการวิ่งที่ดีเด่นในรายการวิ่งแข่งของยุโรปและอังกฤษหลายครั้ง Dame Ellen MacArthur (1976-) is a yachtswoman and in 2004 became the fastest person to sail around the world singlehanded. เดม เอลเลน แม็คอาร์เธอร์ (ค.ศ. 1976-) นักแข่งเรือยอทช์หญิง ในปี ค.ศ. 2004 เธอได้ท�ำ สถิติเป็นผู้ที่สามารถแล่นเรือยอทช์รอบโลกได้เร็วที่สุดตามล�ำพัง
164 Life in the UK 3rd Edition
Sir Chris Hoy (1976-) is a Scottish cyclist who has won six gold and one silver Olympic medals. He has also won 11 world championship titles. เซอร์ คริส ฮอย (ค.ศ. 1976-) นักปัน่ จักรยานชาวสก็อตแลนด์ทคี่ ว้ารางวัลเหรียญทองโอลิมปิก 6 เหรียญ และเหรียญเงินโอลิมปิก 1 เหรียญ และยังได้ครองต�ำแหน่งแชมป์โลกถึง 11 ครัง้ ด้วย David Weir (1979-) is a Paralympian who uses a wheelchair and has won six gold medals over two Paralympic Games. He has also won the London Marathon six times. เดวิด เวียร์ (ค.ศ. 1979-) เป็นนักกีฬาพาราลิมปิกนั่งรถเข็นคนพิการ เขาคว้ารางวัลเหรียญ ทอง 6 เหรียญ ในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกที่จัดขึ้น 2 ครั้ง และยังชนะเลิศในการแข่งขัน ลอนดอนมาราธอน ถึง 6 ครั้งด้วย Sir Bradley Wiggins (1980-) is a cyclist. In 2012, he became the first Briton to win the Tour de France. He has won seven Olympic medals, including gold medals in the 2004, 2008 and 2012 Olympic Games. เซอร์ แบรดลีย์ วิกกินส์ (ค.ศ. 1980-) เป็นนักปั่นจักรยาน ในปี ค.ศ. 2012 เขาเป็นคน อังกฤษคนแรกที่ชนะการแข่งจักรยาน ทัวร์ เดอ ฟรานซ์ เขาสามารถคว้าเหรียญโอลิมปิกมา ครองได้ 7 เหรียญ รวมทั้งเหรียญทอง ในการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่มีขึ้นในปี คศ. 2004, 2008 และ 2012 Mo Farah (1983-) is a British distance runner, born in Somalia. He won gold medals in the 2012 Olympics for the 5,000 and 10,000 metres and is the first Briton to win the Olympic gold medal in the 10,000 metres. โม ฟาราห์ (ค.ศ. 1983-) เป็นนักวิ่งแข่งระยะทางไกลของอังกฤษ เกิดในโซมาเลีย เขาคว้า รางวัลเหรียญทองในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปี ค.ศ. 2012 ในรายการวิ่งแข่งระยะทาง 5,000 และ 10,000 เมตร และเป็นคนอังกฤษคนแรกที่ได้รับเหรียญทองโอลิมปิกในการวิ่งแข่งระยะ ทาง 10,000 เมตร Jessica Ennis (1986-) is an athlete. She won the 2012 Olympic gold medal in the heptathlon, which includes seven different track and field events. She also holds a number of British athletics records.
Life in the UK 165
เจสสิกา เอนนิส (ค.ศ. 1986-) เป็นนักกรีฑา เธอคว้ารางวัลเหรียญทองโอลิมปิก ปี ค.ศ. 2012 ในการแข่งขันสัตตกรีฑา ซึ่งเป็นการแข่งขันผสมทั้งลู่และลาน 7 ประเภท และเธอยังท�ำสถิติดี เด่นในการแข่งขันกรีฑาของอังกฤษหลายครั้งด้วย Andy Murray (1987-) is a Scottish tennis player who in 2012 won the men’s singles in the US Open. He is the first British man to win a singles title in a Grand Slam tournament since 1936. In the same year, he won Olympic gold and silver medals and was runner-up in the men’s singles at Wimbledon (see page 170). แอนดี เมอร์เรย์ (ค.ศ. 1987-) นักเทนนิสชาวสก็อตแลนด์ที่ครองแชมป์ชนะเลิศประเภทชาย เดี่ยวในการแข่งขันเทนนิส ยูเอส โอเพ่น ในปี ค.ศ. 2012 และเป็นคนอังกฤษคนแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936 ที่ชนะเลิศรายการเทนนิสชายเดี่ยวระดับแกรนด์สแลม เขาได้รับเหรียญทองและ เหรียญเงินโอลิมปิกในปีเดียวกัน คือ ปี ค.ศ. 2012 และได้ครองต�ำแหน่งรองชนะเลิศในรายการ เทนนิสประเภทชายเดี่ยวในการแข่งขันที่วิมเบิลดัน (ดูหน้า 170) Ellie Simmonds (1994-) is a Paralympian who won gold medals for swimming at the 2008 and 2012 Paralympic Games and holds a number of world records. She was the youngest member of the British team at the 2008 Games. เอลลี ซิมมอนด์ (ค.ศ. 1994-) นักกีฬาพาราลิมปิกที่คว้ารางวัลเหรียญทองจากรายการว่าย น�้ำในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก ปี ค.ศ. 2008 และ 2012 และท�ำสถิติดีเด่นในการแข่งขัน ระดับโลกหลายครั้ง เธอเป็นนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุดของทีมชาติอังกฤษในการแข่งขันกีฬาพา ราลิมปิก ปี ค.ศ. 2008 Cricket
คริกเก็ต
Cricket originated in England and is now played in many countries. Games can last up to five days but still result in a draw! The idiosyncratic nature of the game and its complex laws are said to reflect the best of the British character and sense of fair play. You may come across expressions such as ‘rain stopped play’, ‘batting on a sticky wicket’, ‘playing a straight bat’, ‘bowled a googly’ or ‘it’s just not cricket’, which have passed into everyday usage. The most famous competition is the Ashes, which is a series of Test matches played between England and Australia. 166 Life in the UK 3rd Edition
คริกเก็ตมีต้นก�ำเนิดมาจากอังกฤษ และปัจจุบันเป็นที่นิยมเล่นกันในหลายประเทศ การ แข่งขันคริกเก็ตสามารถใช้เวลาเล่นถึง 5 วันได้ โดยที่ผลออกมายังคงเสมอกัน! ว่ากันว่า เอกลักษณ์และกฎระเบียบการแข่งขันที่ซับซ้อนของคริกเก็ต สะท้อนถึงอุปนิสัยใจคอและ จิตส�ำนึกของคนอังกฤษที่เคารพและปฏิบัติต่อกันด้วยความเสมอภาค คุณอาจได้ยินค�ำพูด อย่างเช่น ‘rain stopped play (ฝนตก เล่นไม่ได้)’, ‘batting on a sticky wicket (ตกที่นั่ง ล�ำบากเพราะท�ำไม่ถูก)’, ‘playing a straight bat (เล่นตามกติกา)’, ‘bowled a googly (สร้างความประหลาดใจ)’ หรือ ‘it’s just not cricket (มันไม่ยุติธรรม)’ ซึ่งกลายมาเป็น ค�ำพูดที่ใช้กันทั่วไปในชีวิตประจ�ำวัน รายการที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ The Ashes ซึ่งเป็น การแข่งขันคริกเก็ตติดต่อกันหลายนัดระหว่างทีมอังกฤษกับออสเตรเลีย Cricket is one of the many famous sports originating in Britain คริกเก็ตเป็นหนึ่งในกีฬาที่มีชื่อเสียงหลายประเภทที่มีต้นตอมาจากอังกฤษ Football
ฟุตบอล
Football is the UK’s most popular sport. It has a long history in the UK and the first professional football clubs were formed in the late 19th century. ฟุตบอลเป็นกีฬาที่คนอังกฤษนิยมชมชอบมากที่สุด และมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานใน สหราชอาณาจักร สโมสรฟุตบอลอาชีพกลุ่มแรกได้ก่อตั้งขึ้นในปลายศตวรรษที่ 19 England, Scotland, Wales and Northern Ireland each have separate leagues in which clubs representing different towns and cities compete. The English Premier League attracts a huge international audience. Many of the best players in the world play in the Premier League. Many UK teams also compete in competitions such as the UEFA (Union of European Football Associations) Champions League, against other teams from Europe. Most towns and cities have a professional club and people take great pride in supporting their home team. There can be great rivalry between different football clubs and among fans. อังกฤษ สก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือต่างก็มีฟุตบอลลีกของตนต่างหาก ฟุตบอลลีก เหล่านีจ้ ะมีสโมสรฟุตบอลทีเ่ ป็นตัวแทนการแข่งขันของเมืองเล็กและเมืองใหญ่ตา่ งๆ การแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษได้รับความสนใจจากผู้ชมจ�ำนวนมหาศาลทั่วโลก นักฟุตบอลที่ Life in the UK 167
เก่งที่สุดในโลกหลายคนเล่นในพรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ ทีมฟุตบอลของสหราชอาณาจักรหลาย ทีมยังเข้าร่วมในรายการแข่งขันต่างๆ เช่น ยูฟ่า แชมเปียน ลีกส์ (UEFA) (สมาคมฟุตบอลแห่ง ยุโรป) เพื่อแข่งสู้กับทีมอื่นๆ จากยุโรป เมืองเล็กเมืองใหญ่ส่วนมากจะมีสโมสรฟุตบอลอาชีพ และผูค้ นในเมืองนัน้ ๆ จะสนับสนุนทีมฟุตบอลของตนเองอย่างภาคภูมใิ จ การแข่งขันชิงดีชงิ เด่น ระหว่างสโมสรฟุตบอลและแฟนบอลทีมต่างๆ จะดุเดือดเข้มข้นมาก Each country in the UK also has its own national team that competes with other national teams across the world in tournaments such as the FIFA (Federation Internationale de Football Association) World Cup and the UEFA European Football Championships. England’s only international tournament victory was at the World Cup of 1966, hosted in the UK. แต่ละประเทศในสหราชอาณาจักรจะมีทีมชาติของตนที่จะเข้าร่วมแข่งขันกับทีมชาติอื่นๆ ทัว่ โลก ในรายการแข่งขัน อย่างเช่น การแข่งขันฟุตบอลโลกของ ฟีฟา่ (FIFA) (สหพันธ์ฟตุ บอล ระหว่างประเทศ) และรายการฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปของยูฟ่า (UEFA) อังกฤษได้ครองแชมป์ ชนะเลิศการแข่งขันระหว่างประเทศเพียงครั้งเดียวในรายการฟุตบอลโลก ปี ค.ศ. 1966 ที่ สหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพ Football is also a popular sport to play in many local communities, with people playing amateur games every week in parks all over the UK. ฟุตบอลเป็นกีฬาซึ่งเป็นที่นิยมเล่นกันในชุมชนอังกฤษหลายแห่ง โดยมีการจัดการแข่งขัน ฟุตบอลสมัครเล่นทุกๆ สัปดาห์ในสวนสาธารณะต่างๆ ทั่วสหราชอาณาจักร Rugby
รักบี้
Rugby originated in England in the early 19th century and is very popular in the UK today. There are two different types of rugby, which have different rules: union and league. Both have separate leagues and national teams in England, Wales, Scotland and Northern Ireland (who play with the Irish Republic). Teams from all countries compete in a range of competitions. The most famous rugby union competition is the Six Nations Championship between England, Ireland, Scotland, Wales, France and Italy. The Super League is the most well-known rugby league (club) competition. 168 Life in the UK 3rd Edition
รักบี้เป็นกีฬาที่ก�ำเนิดขึ้นในอังกฤษในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 และได้รับความนิยมสูงมากใน สหราชอาณาจักรในปัจจุบัน รักบี้มีอยู่สองประเภท คือ รักบี้ยูเนียน และรักบี้ลีก รักบี้ทั้งสอง ประเภทนี้มีกฎและกติกาการเล่นที่ไม่เหมือนกัน และต่างก็มีรักบี้ลีก และทีมชาติของตนเอง ต่างหากในอังกฤษ เวลส์ สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ (ซึ่งแข่งกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์) ทีมรักบี้จากทุกประเทศจะแข่งขันกันในรายการต่างๆ มากมาย การแข่งขันรักบี้ยูเนียนที่มีชื่อ เสียงมากที่สุด คือ รายการชิงแชมป์รักบี้ 6 ชาติ (Six Nations Championship) ระหว่าง อังกฤษ ไอร์แลนด์ สก็อตแลนด์ เวลส์ ฝรั่งเศส และอิตาลี รายการชิงแชมป์เดอะซูเปอร์ลีก (The Super League) เป็นรายการแข่งขันรักบี้ลีก (สโมสร) ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากที่สุด Horse racing
การแข่งม้า
There is a very long history of horse racing in Britain, with evidence of events taking place as far back as Roman times. The sport has a long association with royalty. There are racecourses all over the UK. Famous horse-racing events include: Royal Ascot, a five-day race meeting in Berkshire attended by members of the Royal Family; the Grand National at Aintree near Liverpool; and the Scottish Grand National at Ayr. There is a National Horseracing Museum in Newmarket, Suffolk. การแข่งม้าในอังกฤษมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานมาก มีหลักฐานบ่งชี้ว่าการจัดงานแข่ง ม้าได้มีขึ้นในอดีตย้อนหลังไปถึงยุคสมัยโรมัน กีฬาแข่งม้ามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับราชวงศ์ อังกฤษมาช้านาน สนามแข่งม้าจะมีอยูต่ ลอดทัว่ สหราชอาณาจักร ส�ำหรับเทศกาลแข่งม้าทีม่ ชี อื่ เสียง ได้แก่ เทศกาล รอยัล แอสคอต ที่มีการจัดรายการแข่งม้านัดต่างๆ 5 วัน ในบาร์คเชียร์ โดยมีสมาชิกของราชวงศ์อังกฤษเสด็จเข้าร่วมชม และยังมีเทศกาลแข่งม้า แกรนด์ เนชั่นแนล ที่เอนทรี ใกล้ลิเวอร์พูล และเทศกาลแข่งม้า สก็อตติช แกรนด์ เนชั่นแนล ที่เมืองแอร์ สก็อต แลนด์ พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการแข่งม้าแห่งชาติมีอยู่ที่เมืองนิวมาร์เก็ตในซัฟโฟล์ค
Life in the UK 169
Golf
กอล์ฟ The modern game of golf can be traced back to 15th century Scotland. It is a popular sport played socially as well as professionally. There are public and private golf courses all over the UK. St Andrews in Scotland is known as the home of golf. กีฬากอล์ฟสมัยใหม่สามารถย้อนต�ำนานไปได้ถึงสก็อตแลนด์ในยุคศตวรรษที่ 15 กอล์ฟเป็น กีฬาที่ผู้คนนิยมเล่นเพื่อการสังสรรค์ หรือเล่นเป็นอาชีพ ตลอดทั่วสหราชอาณาจักรจะมี สนามกอล์ฟสาธารณะ และสนามกอล์ฟของเอกชนอยูท่ วั่ ไป เมืองเซนต์แอนดรูวใ์ นสก็อตแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นถิ่นก�ำเนิดของกีฬากอลฟ์ The Open Championship is the only ‘Major’ tournament held outside the United States. It is hosted by a different golf course every year. รายการกอล์ฟ ดิ โอเพ่น (The Open Championship) เป็นการแข่งขัน ‘รายการใหญ่ที่สุด’ ซึ่งจัดขึ้นนอกประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีสนามกอลฟ์ต่างๆ ผลัดกันเป็นเจ้าภาพทุกๆ ปี Tennis
เทนนิส
Modern tennis evolved in England in the late 19th century. The first tennis club was founded in Leamington Spa in 1872. The most famous tournament hosted in Britain is The Wimbledon Championships, which takes place each year at the All England Lawn Tennis and Croquet Club. It is the oldest tennis tournament in the world and the only ‘Grand Slam’ event played on grass. เทนนิสสมัยใหม่ในอังกฤษมีววิ ฒ ั นาการมาตัง้ แต่ปลายยุคศตวรรษที่ 19 สโมสรเทนนิสแห่งแรก ก่อตั้งขึ้นที่เมืองเลมมิงตั้น สปา ในปี ค.ศ. 1872 รายการแข่งขันเทนนิสที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทีอ่ งั กฤษเป็นเจ้าภาพ คือ การแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดัน (The Wimbledon Championships) ซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่ ออล อิงแลนด์ ลอน เทนนิส และสโมสร โครเกต คลับ การแข่งขันเทนนิส วิมเบิลดันเป็นรายการแข่งขันที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นการแข่งขันระดับ ‘แกรนด์สแลม’ รายการเดียวที่แข่งขันกันบนพื้นหญ้า
170 Life in the UK 3rd Edition
Water sports
กีฬาทางน�้ำ
Sailing continues to be popular in the UK, reflecting our maritime heritage. A British sailor, Sir Francis Chichester, was the first person to sail single-handed around the world passing the Cape of Good Hope (Africa) and Cape Horn (South America), in 1966/67. Two years later, Sir Robin Knox-Johnston became the first person to do this without stopping. Many sailing events are held throughout the UK, the most famous of which is at Cowes on the Isle of Wight. การแล่นเรือใบยังคงได้รบั ความนิยมในสหราชอาณาจักร และสะท้อนถึงวัฒนธรรมทางทะเลที่ สืบทอดกันมาแต่ดั้งเดิม นักเดินเรือชาวอังกฤษ เซอร์ ฟรานซิส ชิเชสเตอร์ เป็นคนแรกที่แล่น เรือใบรอบโลกตามล�ำพังผ่านแหลมกูด๊ โฮป (แอฟริกา) และแหลมฮอร์น (อเมริกาใต้) ในปี ค.ศ. 1966/67 สองปีต่อมา เซอร์ โรบิน น็อกซ์-จอห์นสัน ได้เป็นคนแรกที่แล่นเรือใบตามล�ำพังรอบ โลกโดยไม่หยุดพักเลย ในสหราชอาณาจักรจะมีการจัดงานเทศกาลแข่งขันเรือใบหลายแห่งทัว่ ประเทศ เทศกาลแข่งขันเรือใบทีม่ ชี อื่ เสียงมากทีส่ ดุ จัดขึน้ ทีเ่ มืองคาววิส บนเกาะ ไอล์ ออฟ ไวท์ Rowing is also popular, both as a leisure activity and as a competitive sport. There is a popular yearly race on the Thames between Oxford and Cambridge Universities. การพายเรือกรรเชียงก็ได้รบั ความนิยมสูงเช่นกัน ทัง้ ในด้านกิจกรรมสันทนาการและกีฬาแข่งขัน ทุกๆ ปี จะมีการแข่งเรือกรรเชียงในแม่นำ�้ เทมส์ระหว่างมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดกับมหาวิทยา ลัยเคมบริดจ์ที่มีผู้สนใจชมกันอย่างล้นหลาม Motor sports
กีฬายานยนต์
There is a long history of motor sport in the UK, for both cars and motor cycles. Motor-car racing in the UK started in 1902. The UK continues to be a world leader in the development and manufacture of motor-sport technology. A Formula 1 Grand Prix event is held in the UK each year and a number of British Grand Prix drivers have won the Formula 1 World Championship. Recent British winners include Damon Hill, Lewis Hamilton and Jensen Button. Life in the UK 171
กีฬายานยนต์ในสหราชอาณาจักรมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ทั้งในด้านการแข่งรถยนต์ และการแข่งรถจักรยานยนต์ การแข่งรถยนต์ในสหราชอาณาจักรเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1902 และ สหราชอาณาจักรยังคงเป็นผู้น�ำโลกในด้านการพัฒนาและการผลิตเทคโนโลยีส�ำหรับกีฬา ยานยนต์ ทุกๆ ปี จะมีการจัดรายการกรังด์ปรีซ์ ฟอร์มูล่าวัน ในสหราชอาณาจักร และนัก แข่งกรังด์ปรีซข์ องอังกฤษได้ครองแชมป์โลก ฟอร์มลู า่ วัน หลายครัง้ แชมป์โลกชาวอังกฤษเมือ่ ไม่นานมานี้ ได้แก่ เดม่อน ฮิลล์, ลูอิส แฮมิลตัน และ เจนเสน บัทตั้น Skiing
การเล่นสกี Skiing is increasingly popular in the UK. Many people go abroad to ski and there are also dry ski slopes throughout the UK. Skiing on snow may also be possible during the winter. There are five ski centres in Scotland, as well as Europe’s longest dry ski slope near Edinburgh. สกีเป็นกีฬาที่มีผู้นิยมเล่นกันมากขึ้นในสหราชอาณาจักร คนส่วนใหญ่จะไปเล่นสกีในต่าง ประเทศ และยังมีทลี่ าดชันทีส่ ร้างขึน้ ส�ำหรับผูท้ ตี่ อ้ งการเล่นสกีตลอดทัว่ สหราชอาณาจักร การ เล่นสกีบนหิมะอาจท�ำได้ในช่วงฤดูหนาว ในสก็อตแลนด์มีศูนย์การเล่นสกี 5 แห่ง และมีที่ลาด ชันส�ำหรับการเล่นสกีที่ยาวที่สุดในยุโรปอยู่ใกล้กับเมืองเอดินเบอระ
172 Life in the UK 3rd Edition
ARTS AND CULTURE
ศิลปะและวัฒนธรรม Music
ดนตรี
Music is an important part of British culture, with a rich and varied heritage. It ranges from classical music to modern pop. There are many different venues and musical events that take place across the UK. ดนตรีเป็นมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมอันสูงส่งและหลากหลายที่ส�ำคัญส่วนหนึ่งของอังกฤษ ตั้งแต่ดนตรีคลาสสิกไปจนถึงดนตรีสมัยใหม่ หรือเพลงป็อป ในสหราชอาณาจักรมีสถานที่ จัดแสดงดนตรีหลายแห่ง และมีการจัดงานเทศกาลดนตรีในที่ต่างๆ ตลอดทั่วประเทศ The Proms is an eight-week summer season of orchestral classical music that takes place in various venues, including the Royal Albert Hall in London. It has been organised by the British Broadcasting Corporation (BBC) since 1927. The Last Night of the Proms is the most well-known concert and (along with others in the series) is broadcast on television. เดอะพรอมส์ (The Proms) เป็นเทศกาลงานดนตรีคลาสสิก 8 สัปดาห์ ในช่วงฤดูร้อน โดยมี วงออร์เคสตราบรรเลงเพลงคลาสสิกตามสถานที่ต่างๆ รวมถึง หอแสดงดนตรี รอยัล อัลเบิร์ต ฮอลล์ ในกรุงลอนดอน เทศกาลดนตรี เดอะพรอมส์ นี้จัดขึ้นโดยองค์การกระจายเสียงและ แพร่ภาพของอังกฤษ (บีบีซี) มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1927 การแสดงคอนเสิร์ต “คืนสุดท้ายของ เดอะพรอม” มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากที่สุด และได้รับการแพร่ภาพและเสียงทางโทรทัศน์ (พร้อมกับชุดการแสดงคอนเสิร์ตอื่นๆ) Classical music has been popular in the UK for many centuries. Henry Purcell (1659-95) was the organist at Westminster Abbey. He wrote church music, operas and other pieces, and developed a British style distinct from that elsewhere in Europe. He continues to be influential on British composers. ดนตรีคลาสสิกได้รับความนิยมจากประชาชนในสหราชอาณาจักรมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ เฮนรี่ เพอร์เซลล์ (ค.ศ. 1659-95) เป็นคนเล่นออร์แกนที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ เขาได้ แต่งเพลงศาสนา เพลงอุปรากร และผลงานเพลงชิ้นอื่นๆ และได้พัฒนาดนตรีสไตล์อังกฤษ ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่นๆ ในยุโรป เฮนรี่ เพอร์เซลล์ยังคงมีอิทธิพลต่อนักแต่งเพลง อังกฤษมาจนถึงทุกวันนี้ Life in the UK 173
The German-born composer George Frederick Handel (1685-¬1759) spent many years in the UK and became a British citizen in 1727. He wrote the Water Music for King George I and Music for the Royal Fireworks for his son, George II. Both these pieces continue to be very popular. Handel also wrote an oratorio, Messiah, which is sung regularly by choirs, often at Easter time. นักแต่งเพลงทีเ่ กิดในเยอรมนี ยอร์ช เฟรเดอริก แฮนเดล (ค.ศ. 1685-¬1759) ใช้เวลาอยูใ่ นสห ราชอาณาจักรหลายปี และได้แปลงสัญชาติเป็นพลเมืองอังกฤษในปี ค.ศ. 1727 เขาได้แต่งเพลง Water Music ให้กับพระเจ้ายอร์ชที่ 1 และเพลง Music for the Royal Fireworks ให้กับ พระราชโอรสของพระองค์ คือ พระเจ้ายอร์ชที่ 2 ผลงานเพลงทัง้ สองชิน้ นีย้ งั คงได้รบั ความนิยม อย่างสูงจวบจนปัจจุบนั นอกจากนี้ แฮนเดลยังได้แต่งบทเพลง ออราทอริโอ ชือ่ ว่า Messiah ซึง่ คณะนักร้องประสานเสียงจะน�ำเพลงนี้มาขับร้องเป็นประจ�ำ ส่วนใหญ่ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ More recently, important composers include Gustav Holst (1874¬-1934), whose work includes The Planets, a suite of pieces themed around the planets of the solar system. He adapted Jupiter, part of the Planets suite, as the tune for I vow to thee my country, a popular hymn in British churches. นักแต่งเพลงคนส�ำคัญๆ ล่าสุดกว่านี้ ได้แก่ กุสตาฟ โฮลสท์ (ค.ศ. 1874-¬1934) ที่มีผลงาน อย่างเช่น บทเพลงชุด The Planets ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับดาวเคราะห์ในระบบสุริยจักรวาล เขาได้ปรับท�ำนองเพลง Jupiter ส่วนหนึ่งในบทเพลงชุด The Planets ให้เป็นท�ำนองเพลง I vow to thee my country ซึ่งเป็นเพลงสวดยอดนิยมในโบสถ์ของอังกฤษ Sir Edward Elgar (1857-1934) was born in Worcester, England. His best-known work is probably the Pomp and Circumstance Marches. March No 1 (Land of Hope and Glory) is usually played at the Last Night of the Proms at the Royal Albert Hall. เซอร์ เอ็ดเวิร์ด เอลการ์ (ค.ศ. 1857-1934) เกิดที่วูสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ผลงานของเขาซึ่ง เป็นที่รู้จักมากที่สุดเห็นจะเป็นเพลงมาร์ชชุด Pomp and Circumstance Marches ปกติ จะมีการเล่นเพลงมาร์ช นัมเบอร์วัน (Land of Hope and Glory) ในการแสดงคอนเสิร์ต “คืนสุดท้ายของเดอะพรอมส์” ณ หอแสดงดนตรี รอยัล อัลเบิร์ต ฮอลล์
174 Life in the UK 3rd Edition
The Royal Albert Hall is the venue for the Last Night of the Proms รอยัล อัลเบิร์ต ฮอลล์ เป็นสถานที่แสดงคอนเสิร์ต คืนสุดท้ายของเดอะพรอมส์ Ralph Vaughan Williams (1872-1958) wrote music for orchestras and choirs. He was strongly influenced by traditional English folk music. ราล์ฟ วอน วิลเลียมส์ (ค.ศ. 1872-1958) แต่งเพลงให้กับวงออร์เคสตรา และคณะร้องเพลง ประสานเสียง เขาได้รับอิทธิพลส่วนใหญ่จากดนตรีพื้นบ้านหรือเพลงท้องถิ่นของอังกฤษ Sir William Walton (1902-83) wrote a wide range of music, from film scores to opera. He wrote marches for the coronations of King George VI and Queen Elizabeth II but his best-known works are probably Facade, which became a ballet, and Balthazar’s Feast, which is intended to be sung by a large choir. เซอร์ วิลเลียม วอลตัน (ค.ศ. 1902-83) แต่งเพลงหลายประเภท ตัง้ แต่เพลงประกอบภาพยนตร์ ไปจนถึงเพลงอุปรากร เขาได้แต่งเพลงมาร์ชที่เล่นในงานพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้ายอร์ชที่ 4 และพระนางเจ้าอลิซาเบธที่ 2 อย่างไรก็ตาม ผลงานชิ้นเยี่ยมที่มีผู้รู้จักมากที่สุดเห็นจะเป็น Facade ซึ่งกลายเป็นการแสดงบัลเลต์ และเพลง Balthazar’s Feast ที่เขาตั้งใจแต่งขึ้นเพื่อ ให้ขับร้องโดยคณะร้องเพลงประสานเสียงวงใหญ่ Benjamin Britten (1913-76) is best known for his operas, which include Peter Grimes and Billy Budd. He also wrote A Young Person’s Guide to the Orchestra, which is based on a piece of music by Purcell and introduces the listener to the various different sections of an orchestra. He founded the Aldeburgh festival in Suffolk, which continues to be a popular music event of international importance. เบนจามิน บริทเทน (ค.ศ. 1913-76) มีชอื่ เสียงเป็นทีร่ จู้ กั มากทีส่ ดุ จากผลงานอุปรากรเรือ่ งต่างๆ ทีเ่ ขาแต่งขึน้ เช่น ปีเตอร์ ไกรมส์ แอนด์ บิลลี่ บัดด์ (Peter Grimes and Billy Budd) นอกจาก นี้ เขายังได้แต่งเพลง คู่มือแนะน�ำวงออร์เคสตราส�ำหรับเยาวชน (A Young Person’s Guide to the Orchestra) โดยอาศัยผลงานเพลงชิ้นหนึ่งของเพอร์เซลล์ และแนะน�ำให้ผู้ฟังได้รู้จัก ส่วนต่างๆ ของวงออร์เคสตรา เขาเป็นผู้ก่อตั้งเทศกาลงานดนตรีออลด์เบอเรอะ (Aldeburgh) ในซัฟโฟล์ค ซึง่ เป็นงานแสดงดนตรีทยี่ งั คงได้รบั ความนิยมและมีความส�ำคัญในระดับนานาชาติ Other types of popular music, including folk music, jazz, pop and rock music, have flourished in Britain since the 20th century. Britain has had an impact on popular music around the world, due to the wide use of the English language, Life in the UK 175
the UK’s cultural links with many countries, and British capacity for invention and innovation. เพลงหรือดนตรีประเภทอื่นๆ ที่อยู่ในกระแสนิยม รวมถึง เพลงพื้นบ้าน เพลงแจ๊ส เพลงป๊อป และเพลงร็อค ได้เฟื่องฟูในอังกฤษมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 20 อังกฤษมีอิทธิพลต่อเพลงสมัย นิยมทัว่ โลก เนือ่ งจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาทีม่ ผี ใู้ ช้กนั อย่างกว้างขวาง และสหราชอาณาจักร มีการติดต่อเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมกับหลายประเทศ และคนอังกฤษมีความสามารถในการ ประดิษฐ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ด้วย Since the 1960s, British pop music has made one of the most important cultural contributions to life in the UK. Bands including The Beatles and The Rolling Stones continue to have an influence on music both here and abroad. British pop music has continued to innovate - for example, the Punk movement of the late 1970s, and the trend towards boy and girl bands in the 1990s. ตั้งแต่ทศวรรษปี 1960 เป็นต้นมา เพลงป๊อปของอังกฤษได้มีส่วนช่วยสร้างสรรค์วัฒนธรรม ส่วนหนึง่ ทีส่ ำ� คัญมากทีส่ ดุ ส�ำหรับชีวติ ผูค้ นในสหราชอาณาจักร วงดนตรี อย่างเช่น เดอะบีทเทิลส์ (สีเ่ ต่าทอง) และโรลลิง่ สโตนส์ ยังคงมีอทิ ธิพลต่อวงการเพลงทีน่ แี่ ละในต่างประเทศ เพลงป๊อป ของอังกฤษได้มีการพัฒนาในแนวทางที่แปลกใหม่มาโดยตลอด ตัวอย่างเช่น ความเคลื่อนไหว ของแนวเพลงพังค์ในปลายทศวรรษปี 1970 และแนวโน้มทีน่ ำ� ไปสูก่ ารก่อตัง้ วงดนตรีชายล้วน และหญิงล้วนในทศวรรษปี 1990 There are many large venues that host music events throughout the year, such as: Wembley Stadium; The 02 in Greenwich, south-east London; and the Scottish Exhibition and Conference Centre (SECC) in Glasgow. สหราชอาณาจักรมีสถานที่ขนาดใหญ่หลายแห่งส�ำหรับการจัดงานดนตรีต่างๆ ตลอดทั้งปี เช่น สนามกีฬาเวมบลีย์, ดิ โอทู ที่กรีนนิชในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของลอนดอน และศูนย์การ ประชุมและนิทรรศการของสก็อตแลนด์ (SECC) ในเมืองกลาสโกว์ Festival season takes place across the UK every summer, with major events in various locations. Famous festivals include Glastonbury, the Isle of Wight Festival and the V Festival. Many bands and solo artists, both well-known and up-and-coming, perform at these events. ตลอดทัว่ สหราชอาณาจักรจะมีการจัดเทศกาลงานดนตรีทกุ ๆ ฤดูรอ้ น และมีการจัดงานใหญ่ใน ทีต่ า่ งๆ หลายแห่ง เทศกาลงานดนตรีทมี่ ชี อื่ เสียง ได้แก่ เทศกาลดนตรี กลาสตันเบอรี่ เทศกาล 176 Life in the UK 3rd Edition
ดนตรี ไอล์ ออฟ ไวท์ และเทศกาลดนตรี วี ในงานแสดงดนตรีเหล่านี้จะมีวงดนตรีและศิลปิน เดี่ยวทั้งที่มีชื่อเสียงและเพิ่งเป็นที่รู้จัก มาร่วมกันให้ความบันเทิงแก่ฝูงชน The National Eisteddfod of Wales is an annual cultural festival which includes music, dance, art and original performances largely in Welsh. It includes a number of important competitions for Welsh poetry. เทศกาลงาน National Eisteddfod of Wales เป็นเทศกาลวัฒนธรรมประจ�ำปีในเวลส์ ในงาน นี้จะมีการแสดงต่างๆ เช่น ดนตรี การเต้นร�ำ ศิลปะ และการแสดงครั้งแรก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ภาษาเวลส์ นอกจากนี้ยังมีการประกวดแข่งขันบทกวีภาษาเวลส์ที่ส�ำคัญๆ ด้วย The Mercury Music Prize is awarded each September for the best album from the UK and Ireland. The Brit Awards is an annual event that gives awards in a range of categories, such as best British group and best British solo artist. แต่ละปีในเดือนกันยายนจะมีการจัดงานประกวดมอบรางวัล เมอร์คิวรี มิวสิค ไพรซ์ ส�ำหรับ สุดยอดอัลบั้มผลงานเพลงดีเด่นจากสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ และยังมี บริท อวอร์ดส์ ที่จัดขึ้นเป็นประจ�ำทุกปี เพื่อให้รางวัลยกย่องผลงานดีเด่นในประเภทต่างๆ เช่น สุดยอด วงดนตรีอังกฤษ และศิลปินเดี่ยวที่ดีเด่นที่สุดของอังกฤษ Theatre
โรงละคร
There are theatres in most towns and cities throughout the UK, ranging from the large to the small. They are an important part of local communities and often show both professional and amateur productions. London’s West End, also known as ‘Theatreland’, is particularly well known. The Mousetrap, a murdermystery play by Dame Agatha Christie, has been running in the West End since 1952 and has had the longest initial run of any show in history. ในเมืองเล็กเมืองใหญ่ตลอดทัว่ สหราชอาณาจักรจะมีโรงละครอยูม่ ากมาย ตัง้ แต่โรงละครเล็กๆ ไปจนถึงโรงละครขนาดใหญ่ โรงละครเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ส�ำคัญในชีวิตของชุมชนท้องถิ่น และส่วนใหญ่จะจัดการแสดงละครเวทีทั้งระดับมืออาชีพและสมัครเล่น ย่านเวสต์เอนด์ของ ลอนดอน หรือที่เรียกกันว่า ‘ดินแดนแห่งโรงละคร’ มีชื่อเสียงเลื่องลือเป็นพิเศษ ละครเวที แนวฆาตกรรมลึกลับเรื่อง The Mousetrap (กับดักหนู) ที่แต่งโดยคุณหญิง อกาธา คริสตี้ Life in the UK 177
ได้ออกแสดงในเวสต์เอนด์มาตัง้ แต่ปี ค.ศ. 1952 และได้สร้างสถิตแิ รกของการแสดงทีจ่ ดั ขึน้ ต่อ เนื่องยาวนานที่สุด เมื่อเทียบกับการแสดงละครเวทีใดๆ ที่เคยมีมาก่อนในโลก There is also a strong tradition of musical theatre in the UK. In the 19th century, Gilbert and Sullivan wrote comic operas, often making fun of popular culture and politics. These operas include HMS Pinafore, The Pirates of Penzance and The Mikado. Gilbert and Sullivan’s work is still often staged by professional and amateur groups. More recently, Andrew Lloyd Webber has written the music for shows which have been popular throughout the world, including, in collaboration with Tim Rice, Jesus Christ Superstar and Evita, and also Cats and The Phantom of the Opera. ในสหราชอาณาจักรยังมีละครเพลงที่มีการแสดงสืบทอดกันมาแต่อดีต ในศตวรรษที่ 19 กิลเบิรต์ แอนด์ ซัลลิแวน ได้แต่งบทละครอุปรากรแนวชวนหัวทีส่ ว่ นใหญ่จะล้อเลียนวัฒนธรรม สมัยนิยมและการเมือง ละครอุปรากรเหล่านี้ ได้แก่ เรื่อง HMS Pinafore (เรือหลวงพินาโฟร์) The Pirates of Penzance (โจรสลัดแห่งเพนแซนส์) และ The Mikado (เดอะ มิคาโด) คณะนักแสดงมืออาชีพและสมัครเล่นส่วนใหญ่ยังคงน�ำผลงานของกิลเบิร์ต แอนด์ ซัลลิแวน มาแสดงบนเวที และล่าสุดกว่านี้ แอนดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์ ได้แต่งเพลงส�ำหรับละครเพลง ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก รวมถึงละครเพลงที่แต่งร่วมกับ ทิม ไรซ์ เช่น เรื่อง Jesus Christ Superstar (จีซัส ไครสท์ ซูเปอร์สตาร์) Evita (เอวิต้า) Cats (แมว) และ Phantom of the Opera (ปีศาจแห่งโรงอุปรากร) One British tradition is the pantomime. Many theatres produce a pantomime at Christmas time. They are based on fairy stories and are light-hearted plays with music and comedy, enjoyed by family audiences. One of the traditional characters is the Dame, a woman played by a man. There is often also a pantomime horse or cow played by two actors in the same costume. ละครใบ้เป็นการแสดงทีเ่ ก่าแก่อย่างหนึง่ ของอังกฤษ โรงละครหลายแห่งจะจัดแสดงละครใบ้ใน ช่วงเทศกาลคริสต์มาส ละครใบ้เหล่านี้จะมีเค้าโครงมาจากเทพนิยาย และเป็นการแสดงแบบ สนุกสนานและตลกขบขันพร้อมเสียงเพลงประกอบ เพื่อให้ความบันเทิงแก่ผู้ชมที่มากันเป็น ครอบครัว ตัวละครที่ไม่เคยขาดตั้งแต่อดีต คือ คุณหญิง (Dame) ที่เล่นโดยผู้ชาย นอกจากนี้ ยังมีตัวละครม้าใบ้ และวัวใบ้ ที่เล่นโดยนักแสดงสองคนที่สวมชุดแต่งกายเหมือนกัน The Edinburgh Festival takes place in Edinburgh, Scotland, every summer. It is a series of different arts and cultural festivals, with the biggest and most well178 Life in the UK 3rd Edition
known being the Edinburgh Festival Fringe (‘the Fringe’). The Fringe is a showcase of mainly theatre and comedy performances. It often shows experimental work. ทุกๆ ปีจะมีการจัดเทศกาลศิลปวัฒนธรรมเอดินเบอระในกรุงเอดินเบอระ โดยมีการแสดงศิลปะ และวัฒนธรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องกันหลายครั้ง งานใหญ่ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากที่สุด คือ Edinburgh Festival Fringe (‘เดอะฟรินจ์’) เทศกาล เดอะฟรินจ์ ส่วนใหญ่จะเป็นการ แสดงรายการจ�ำพวกละครและรายการตลกข�ำขัน และมักจะมีการแสดงแบบทดลองเพื่อหยั่ง กระแสการตอบรับจากผู้ชม The Laurence Olivier Awards take place annually at different venues in London. There are a variety of categories, including best director, best actor and best actress. The awards are named after the British actor Sir Laurence Olivier, later Lord Olivier, who was best known for his roles in various Shakespeare plays. งานมอบรางวัล ลอเรนซ์ โอลิเวียร์ อวอร์ด จัดขึ้นที่สถานที่ต่างๆ ในลอนดอนเป็นประจ�ำทุกปี และมีรางวัลส�ำหรับผู้ที่มีผลงานดีเด่นหลายประเภท ได้แก่ รางวัลส�ำหรับผู้ก�ำกับภาพยนตร์ ยอดเยี่ยม นักแสดงน�ำชายยอดเยี่ยม และนักแสดงน�ำหญิงยอดเยี่ยม รางวัลเหล่านี้ได้รับการ ตัง้ ชือ่ ตาม เซอร์ ลอเรนซ์ โอลิเวียร์ ต่อมาเป็นลอร์ด โอลิเวียร์ นักแสดงชาวอังกฤษ ซึง่ มีชอื่ เสียง เป็นที่รู้จักมากที่สุดจากบทบาทการแสดงละครเวทีเรื่องต่างๆ ของเชคสเปียร์ Art
ศิลปะ During the Middle Ages, most art had a religious theme, particularly wall paintings in churches and illustrations in religious books. Much of this was lost after the Protestant Reformation but wealthy families began to collect other paintings and sculptures. Many of the painters working in Britain in the 16th and 17th centuries were from abroad ¬for example, Hans Holbein and Sir Anthony Van Dyck. British artists, particularly those painting portraits and landscapes, became well known from the 18th century onwards. ในสมัยยุคกลาง ศิลปะส่วนใหญ่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตรกรรม ฝาผนังในโบสถ์ต่างๆ และภาพประกอบในหนังสือเกี่ยวกับศาสนา ภายหลังการปฏิรูปศาสนา เป็นนิกายโปรเตสแตนท์ ศิลปะเหล่านี้ได้สูญหายไปมาก แต่ตระกูลที่มั่งคั่งได้เริ่มสะสมผลงาน จิตรกรรมและประติมากรรมอื่นๆ จิตรกรที่ท�ำงานในอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17 Life in the UK 179
ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น ฮันส์ โฮลไบน์ และเซอร์ แอนโทนี แวน ไดค์ ส�ำหรับ จิตรกรชาวอังกฤษ โดยเฉพาะจิตรกรทีว่ าดภาพเหมือนของบุคคลและภาพทิวทัศน์ ได้เริม่ สร้าง ชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา Works by British and international artists are displayed in galleries across the UK. Some of the most well-known galleries are The National Gallery, Tate Britain and Tate Modern in London, the National Museum in Cardiff, and the National Gallery of Scotland in Edinburgh. นิทรรศการแสดงงานศิลปะที่สร้างสรรค์โดยศิลปินชาวอังกฤษและชาวต่างชาติจะหาชมได้ใน หอศิลป์ตลอดทั่วสหราชอาณาจักร หอศิลป์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ได้แก่ หอศิลป์แห่งชาติ หอศิลป์เทตบริเตน และหอศิลป์เทตโมเดิร์น ในกรุงลอนดอน และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติในเมือง คาร์ดิฟฟ์ และหอศิลป์แห่งชาติสก็อตแลนด์ในเมืองเอดินเบอระ Notable British artists
ศิลปินอังกฤษที่มีชื่อเสียง
• Thomas Gainsborough (1727-88) was a portrait painter who often painted people in country or garden scenery. • David Allan (1744-96) was a Scottish painter who was best known for painting portraits. One of his most famous works is called The Origin of Painting. • Joseph Turner (1775-1851) was an influential landscape painter in a modern style. He is considered the artist who raised the profile of landscape painting. • John Constable (1776-1837) was a landscape painter most famous for his works of Dedham Vale on the Suffolk-Essex border in the east of England. • The Pre-Raphaelites were an important group of artists in the second half of the 19th century. They painted detailed pictures on religious or literary themes in bright colours. The group included Holman Hunt, Dante Gabriel Rossetti and Sir John Millais. • Sir John Lavery (1856-1941) was a very successful Northern Irish portrait painter. His work included painting the Royal Family. • Henry Moore (1898-1986) was an English sculptor and artist. He is best known for his large bronze abstract sculptures. • John Petts (1914-91) was a Welsh artist, best known for his engravings and stained glass. 180 Life in the UK 3rd Edition
• Lucian Freud (1922-2011) was a German-born British artist. He is best known for his portraits. • David Hockney (1937-) was an important contributor to the ‘pop art’ movement of the 1960s and continues to be influential today. • ทอมัส เกนส์เบอเรอ (ค.ศ. 1727-88) จิตรกรผู้วาดภาพเหมือนของบุคคล ส่วนใหญ่เขาจะ วาดภาพคนท่ามกลางทิวทัศน์ชนบทหรือสวนดอกไม้ • เดวิด แอลลัน (ค.ศ. 1744-96) จิตรกรชาวสก็อตแลนด์ที่มีชื่อเป็นที่รู้จักมากที่สุดด้วย ผลงานการวาดภาพเหมือน ผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดชิ้นหนึ่งของเขาชื่อว่า The Origin of Painting • โจเซฟ เทอร์เนอร์ (ค.ศ. 1775-1851) เป็นจิตรกรผู้วาดภาพทิวทัศน์สไตล์ทันสมัยที่มีอิทธิพล คนหนึ่ง เขาได้รับการนับถือว่าเป็นศิลปินที่ยกระดับศิลปะจิตรกรรมภาพทิวทัศน์ให้สูงขึ้น • จอห์น คอนสเตเบิล (ค.ศ. 1776-1837) จิตรกรผู้วาดภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดจาก ผลงานภาพทิวทัศน์ของหุบเขาเดดัม ในพืน้ ทีแ่ นวตะเข็บชายแดนระหว่างซัฟโฟล์คกับเอสเซกส์ ในเขตตะวันออกของอังกฤษ • กลุ่มพรี-ราฟาเอลไลท์ เป็นศิลปินที่ส�ำคัญกลุ่มหนึ่งในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 จิตรกร กลุม่ นีไ้ ด้สร้างสรรค์ผลงานภาพวาดทีม่ เี นือ้ หาทางศาสนาหรือวรรณกรรมด้วยสีสนั ทีส่ ดใสและ แน่นไปด้วยรายละเอียด จิตรกรในกลุ่มนี้ ได้แก่ โฮลแมน ฮันท์, ดันเท กาเบรียล รอสเซ็ตตี และ เซอร์ จอห์น มิลเลส์ • เซอร์ จอห์น เลเวอรี (ค.ศ. 1856-1941) เป็นจิตรกรไอริชจากไอร์แลนด์เหนือที่ประสบความ ส�ำเร็จอย่างสูงในการวาดภาพเหมือนของบุคคล ผลงานของเขามีภาพวาดของราชวงศ์อังกฤษ รวมอยู่ด้วย • เฮนรี่ มัวร์ (ค.ศ. 1898-1986) ศิลปินและนักประติมากรชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก มากที่สุดด้วยผลงานประติมากรรมทองเหลืองแบบนามธรรมขนาดใหญ่ • จอห์น เพทส์ (ค.ศ. 1914-91) ศิลปินชาวเวลส์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากที่สุดด้วยผลงาน แกะสลักและกระจกสี • ลูเซียน ฟรอยด์ (ค.ศ. 1922-2011) ศิลปินชาวอังกฤษที่เกิดในเยอรมัน เขามีชื่อเสียงเป็นที่ รู้จักมากที่สุดด้วยผลงานภาพวาดเหมือนจริง • เดวิด ฮ็อคนีย์ (ค.ศ. 1937-) เป็นผู้ที่มีส่วนส�ำคัญในการสนับสนุนความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ ‘ศิลปะสมัยนิยม’ ในช่วงทศวรรษปี 1960 และยังคงมีอิทธิพลมาจวบจนทุกวันนี้ Tate Modern is based in the former Bankside Power Station in central London หอศิลป์เทต โมเดิร์น ตั้งอยู่ในสถานีไฟฟ้าแบงค์ไซด์เก่าในใจกลางกรุงลอนดอน
Life in the UK 181
The Turner Prize was established in 1984 and celebrates contemporary art. It was named after Joseph Turner. Four works are shortlisted every year and shown at Tate Britain before the winner is announced. The Turner Prize is recognised as one of the most prestigious visual art awards in Europe. Previous winners include Damien Hirst and Richard Wright. รางวัลเทอร์เนอร์ได้มีขึ้นในปี ค.ศ. 1984 เพื่อเฉลิมฉลองศิลปะร่วมสมัย รางวัลนี้ตั้งชื่อตาม โจ เซฟ เทอร์เนอร์ ในแต่ละปีจะมีการคัดเลือกผลงานเข้าสู่การตัดสินรอบสุดท้าย 4 ชิ้น และจัด แสดงไว้ทหี่ อศิลป์เทตบริเตน ก่อนจะประกาศชือ่ ผูช้ นะเลิศ รางวัลเทอร์เนอร์ได้รบั การยอมรับ ว่าเป็นรางวัลหนึง่ ทีม่ ชี อื่ เสียงมากทีส่ ดุ ในยุโรปส�ำหรับศิลปินผูส้ ร้างผลงานทัศนศิลป์ ผูช้ นะเลิศ ได้รับรางวัลเทอร์เนอร์รุ่นก่อนๆ ได้แก่ เดเมียน เฮิร์สต์ และริชาร์ด ไรท์ Architecture
สถาปัตยกรรม
The architectural heritage of the UK is rich and varied. In the Middle Ages, great cathedrals and churches were built, many of which still stand today. Examples are the cathedrals in Durham, Lincoln, Canterbury and Salisbury. The White Tower in the Tower of London is an example of a Norman castle keep, built on the orders of William the Conqueror (see pages 37 and 213). สหราชอาณาจักรมีมรดกตกทอดทางสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่และมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน หลายรูปแบบ ในยุคกลางได้มีการก่อสร้างมหาวิหารที่ใหญ่โตและโบสถ์ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ ยังคงตั้งมั่นมาจนถึงปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น มหาวิหารเดอรัม มหาวิหารลินคอล์น มหาวิหาร แคนเทอร์เบอรี่ และมหาวิหารซอลส์เบอรี่ หอคอยสีขาวที่หอคอยแห่งลอนดอนเป็นตัวอย่าง สถาปัตยกรรมป้อมปราการของชาวนอร์มัน วิลเลียมผู้พิชิตเป็นผู้สั่งให้สร้างหอคอยสีขาวนี้ ขึ้นมา (ดูหน้า 37 และ 213) Gradually, as the countryside became more peaceful and landowners became richer, the houses of the wealthy became more elaborate and great country houses such as Hardwick Hall in Derbyshire were built. British styles of architecture began to evolve. เมือ่ เวลาผ่านไป พืน้ ทีใ่ นชนบทเริม่ มีความสงบมากขึน้ และเจ้าของทีด่ นิ ร�ำ่ รวยมากยิง่ ขึน้ การออกแบบ ที่อยู่อาศัยของคนมีเงินก็ยิ่งมีความประณีตซับซ้อน คฤหาสน์ที่ใหญ่โต เช่น ฮาร์ดวิค ฮอลล์ ได้ 182 Life in the UK 3rd Edition
ถูกสร้างขึน้ มาในดาร์บเี ชียร์ และสถาปัตยกรรมรูปแบบอังกฤษได้เริม่ วิวฒ ั นาการมาตามล�ำดับ In the 17th century, Inigo Jones took inspiration from classical architecture to design the Queen’s House at Greenwich and the Banqueting House in Whitehall in London. Later in the century, Sir Christopher Wren helped develop a British version of the ornate styles popular in Europe in buildings such as the new St Paul’s Cathedral. ในศตวรรษที่ 17 อินิโก โจนส์ ได้ออกแบบต�ำหนักพระราชินีที่กรีนนิช และตึกเลี้ยงรับรองใน ไวท์ฮอลล์ในลอนดอน โดยได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุคคลาสสิก ต่อมาในศตวรรษ เดียวกัน เซอร์ คริสโตเฟอร์ เรน ได้ช่วยพัฒนาสไตล์การตกแต่งที่หรูหราตามความนิยมใน ยุโรปให้มีเอกลักษณ์เป็นของอังกฤษในสิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น มหาวิหารเซนต์พอลที่สร้างใหม่ In the 18th century, simpler designs became popular. The Scottish architect Robert Adam influenced the development of architecture in the UK, Europe and America. He designed the inside decoration as well as the building itself in great houses such as Dumfries House in Scotland. His ideas influenced architects in cities such as Bath, where the Royal Crescent was built. ในศตวรรษที่ 18 การออกแบบที่เรียบง่ายเริ่มได้รับความนิยม โรเบิร์ต อดัม เป็นสถาปนิกชาว สก็อตแลนด์ท่ีมีอิทธิพลต่อการพัฒนาสถาปัตยกรรมในสหราชอาณาจักร ยุโรป และอเมริกา เขาได้ออกแบบการตกแต่งภายในและตัวอาคารในคฤหาสน์หลังใหญ่ เช่น ดัมฟรีส์ เฮาส์ ใน สก็อตแลนด์ แนวความคิดของเขามีอิทธิพลต่อสถาปนิกในเมืองใหญ่ เช่น เมืองบาธ ที่ได้มีการ ก่อสร้างอาคาร รอยัล เครสเซนต์ ขึ้นมา In the 19th century, the medieval ‘gothic’ style became popular again. As cities expanded, many great public buildings were built in this style. The Houses of Parliament and St Pancras Station were built at this time, as were the town halls in cities such as Manchester and Sheffield. ในศตวรรษที่ 19 สถาปัตยกรรมสไตล์ ‘โกธิค’ สมัยกลางเริ่มได้รับความนิยมใหม่อีกครั้งหนึ่ง เมือ่ เมืองใหญ่ๆ มีการขยายพืน้ ทีอ่ อกไป อาคารสาธารณะทีส่ ำ� คัญหลายแห่งได้ถกู สร้างขึน้ ในรูป แบบสไตล์โกธิค อาคารรัฐสภา และสถานีรถไฟ เซนต์แพนคราส ก็ได้สร้างขึน้ มาในเวลาเดียวกัน เช่นเดียวกับศาลากลางในเมืองใหญ่ต่างๆ เช่น เมืองแมนเชสเตอร์ และเชฟฟิลด์ In the 20th century, Sir Edwin Lutyens had an influence throughout the British Empire. He designed New Delhi to be the seat of government in India. After Life in the UK 183
the First World War, he was responsible for many war memorials throughout the world, including the Cenotaph in Whitehall. The Cenotaph is the site of the annual Remembrance Day service attended by the Queen, politicians and foreign ambassadors (see page 159). ในศตวรรษที่ 20 เซอร์ เอ็ดวิน ลัทเยนส์ เป็นสถาปนิกที่มีอิทธิพลตลอดทั่วจักรวรรดิอังกฤษ เขาได้ออกแบบก่อสร้างกรุงนิวเดลีให้เป็นเมืองที่ตั้งของรัฐบาลในอินเดีย หลังสงครามโลก ครั้งที่ 1 เขาได้รับผิดชอบในการออกแบบก่อสร้างอนุสรณ์สถานร�ำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตใน สงครามหลายแห่งทัว่ โลก รวมถึง อนุสาวรียใ์ นไวท์ฮอลล์ ซึง่ เป็นสถานทีจ่ ดั งานวันทหารผ่านศึก ประจ�ำปี โดยมีสมเด็จพระราชินีนาถ นักการเมือง และคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ เข้า ร่วมพิธีร�ำลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงคราม (ดูหน้า 159) Modern British architects including Sir Norman Foster, Lord (Richard) Rogers and Dame Zaha Hadid continue to work on major projects throughout the world as well as within the UK. สถาปนิกอังกฤษยุคปัจจุบัน เช่น เซอร์ นอร์มัน ฟอสเตอร์, ลอร์ด (ริชาร์ด) โรเจอร์ และ คุณหญิง ซาฮา ฮาดิด ยังคงท�ำงานออกแบบสถาปัตยกรรมในโครงการใหญ่ที่ส�ำคัญๆ ทั่วโลก และภายในประเทศสหราชอาณาจักร Alongside the development of architecture, garden design and landscaping have played an important role in the UK. In the 18th century, Lancelot ‘Capability’ Brown designed the grounds around country houses so that the landscape appeared to be natural, with grass, trees and lakes. He often said that a place had ‘capabilities’. Later, Gertrude Jekyll often worked with Edwin Lutyens to design colourful gardens around the houses he designed. Gardens continue to be an important part of homes in the UK. The annual Chelsea Flower Show showcases garden design from Britain and around the world. การออกแบบสวนและภูมิทัศน์มีบทบาทที่ส�ำคัญควบคู่กับวิวัฒนาการทางสถาปัตยกรรมใน สหราชอาณาจักร ในศตวรรษที่ 18 ลานสล็อต ‘เค้ปอะบิลิตี้’ บราวน์ ได้ออกแบบบริเวณพื้นที่ ล้อมรอบคฤหาสน์ใหญ่ในชนบท เพื่อสร้างสรรค์ภูมิทัศน์ที่ดูเป็นธรรมชาติ มีสนามหญ้า ต้นไม้ และทะเลสาบ เขาพูดย�ำ้ อยูเ่ สมอว่าแต่ละสถานทีม่ ี ‘ศักยภาพ’ ทีจ่ ะได้รบั การพัฒนาให้สวยงาม เป็นธรรมชาติ ต่อมา เกอร์ทรูด เจคิลล์ กับ เอ็ดวิน ลัทเยนส์ ได้ร่วมมือกันออกแบบจัดสวนที่มี สีสนั สดสวยในบริเวณพืน้ ทีร่ อบบ้านทีเ่ ขาเป็นผูอ้ อกแบบก่อสร้าง สวนยังคงเป็นพืน้ ทีส่ ว่ นหนึง่ ที่ ส�ำคัญของบ้านในสหราชอาณาจักร ในงานแสดงดอกไม้ประจ�ำปีของเชลซี (Chelsea Flower Show) มีการจัดแสดงสวนดอกไม้ที่ออกแบบจากอังกฤษและทั่วโลก 184 Life in the UK 3rd Edition
Fashion and design
แฟชั่นและการออกแบบ
Britain has produced many great designers, from Thomas Chippendale (who designed furniture in the 18th century) to Clarice Cliff (who designed Art Deco ceramics) to Sir Terence Conran (a 20th-century interior designer). Leading fashion designers of recent years include Mary Quant, Alexander McQueen and Vivienne Westwood. อังกฤษได้สร้างนักออกแบบที่มีชื่อเสียงขึ้นมาหลายคน ตั้งแต่ โทมัส ชิปเปนเดล (ผู้ออกแบบ เฟอร์นิเจอร์ในศตวรรษที่ 18) จนถึง แคลรีส คลิฟฟ์ (ผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์เซรามิกแบบศิลปะ ตกแต่ง) ไปจนถึง เซอร์ เทอเรนซ์ คอนราน (นักออกแบบตกแต่งภายในยุคศตวรรษที่ 20) นักออกแบบแฟชัน่ ชัน้ น�ำในช่วงหลายปีทผี่ า่ นมา ได้แก่ แมรี่ ควอนท์, อเล็กซานเดอร์ แม็คควีน และวิเวียน เวสต์วูด Literature
วรรณกรรม
The UK has a prestigious literary history and tradition. Several British writers, including the novelist Sir William Golding, the poet Seamus Heaney, and the playwright Harold Pinter, have won the Nobel Prize in Literature. Other authors have become well known in popular fiction. Agatha Christie’s detective stories are read all over the world and Ian Fleming’s books introduced James Bond. In 2003, The Lord of the Rings by JRR Tolkien was voted the country’s best ¬loved novel. วรรณกรรมของสหราชอาณาจักรมีประวัตชิ อื่ เสียงทีโ่ ด่งดังมาเป็นเวลาช้านาน นักเขียนอังกฤษ หลายคน ได้แก่ เซอร์ วิลเลียม โกลดิง้ นักแต่งนวนิยาย ตลอดจน เชมัส ฮีนนี นักกวี และแฮโรลด์ พินเตอร์ นักเขียนบทละคร ต่างก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม และมีนักประพันธ์คน อื่นๆ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการนิยายยอดนิยม ผู้อ่านนิยายนักสืบของอกาธา คริสตี มีอยู่ ทัว่ โลก และเอียน เฟลมมิงได้แต่งหนังสือทีแ่ นะน�ำให้โลกได้รจู้ กั กับเจมส์ บอนด์ ในปี ค.ศ. 2003 หนังสือเรือ่ ง The Lord of the Rings (เจ้าของแหวนแห่งอ�ำนาจ) แต่งโดย เจอาร์อาร์ โทลเกียน ได้รับการโหวตให้เป็นยอดนวนิยายที่คนอังกฤษทั่วประเทศชื่นชอบมากที่สุด The Man Booker Prize for Fiction is awarded annually for the best fiction novel written by an author from the Commonwealth, Ireland or Zimbabwe. It has Life in the UK 185
been awarded since 1968. Past winners include Ian McEwan, Hilary Mantel and Julian Barnes. ทุกๆ ปีจะมีการจัดงานมอบรางวัล Man Booker Prize for Fiction (รางวัลแมนบุคเกอร์) ส�ำหรับยอดนวนิยายที่แต่งโดยนักประพันธ์จากเครือจักรภพอังกฤษ ไอร์แลนด์ หรือซิมบับเว การจัดงานมอบรางวัลนีไ้ ด้มขี นึ้ ตัง้ แต่ปี ค.ศ. 1968 นักเขียนทีไ่ ด้รบั รางวัลชนะเลิศในอดีต ได้แก่ เอียน แม็คยวน, ฮิลารี แมนเทล และจูเลียน บาร์นส์ Notable authors and writers
นักประพันธ์และนักเขียนที่มีชื่อเสียง
Jane Austen (1775-1817) was an English novelist. Her books include Pride and Prejudice and Sense and Sensibility. Her novels are concerned with marriage and family relationships. Many have been made into television programmes or films. เจน ออสเตน (ค.ศ. 1775-1817) เป็นนักเขียนนวนิยายชาวอังกฤษ หนังสือที่เธอแต่ง ได้แก่ เรื่อง Pride and Prejudice (ทิฎฐิมานะและอคติ) และ Sense and Sensibility (เหตุผลกับ ความรู้สึก) นวนิยายของเธอจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแต่งงานและความสัมพันธ์ในครอบครัว และได้มีผู้น�ำเรื่องที่เธอแต่งไปสร้างเป็นภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์หลายเรื่องด้วยกัน Charles Dickens (1812-70) wrote a number of very famous novels, including Oliver Twist and Great Expectations. You will hear references in everyday talk to some of the characters in his books, such as Scrooge (a mean person) or Mr Micawber (always hopeful). ชาร์ลส์ ดิคเกนส์ (ค.ศ. 1812-70) เขียนนวนิยายที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง เช่น Oliver Twist (โอลิเวอร์ ทวิสต์) และ Great Expectations (ความคาดหวังอันสูงส่ง) ทุกวันนี้คุณจะได้ยิน ค�ำพูดอ้างถึงตัวละครในหนังสือของเขาในชีวติ ประจ�ำวัน เช่น สกรูจ๊ (คนขีเ้ หนียว) หรือ มิสเตอร์ มิคอว์เบอร์ (ผู้มีความหวังอยู่เสมอ) Robert Louis Stevenson (1850-94) wrote books which are still read by adults and children today. His most famous books include Treasure Island, Kidnapped and Dr Jekyll and Mr Hyde. โรเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนสัน (ค.ศ. 1850-94) เขียนหนังสือที่ผู้ใหญ่และเด็กๆ ยังคงอ่านกันอยู่ใน ปัจจุบนั นวนิยายทีม่ ชี อื่ เสียงมากทีส่ ดุ ของเขา ได้แก่ เรือ่ ง Treasure Island (เกาะมหาสมบัต)ิ , 186 Life in the UK 3rd Edition
Kidnapped (ลักพาตัว) และ Dr Jekyll and Mr Hyde (ดร. เจเคิล และมิสเตอร์ไฮด์) Thomas Hardy (1840-1928) was an author and poet. His best-known novels focus on rural society and include Far from the Madding Crowd and Jude the Obscure. โทมัส ฮาร์ดี (ค.ศ. 1840-1928) เป็นนักประพันธ์และกวี นวนิยายซึง่ เป็นทีร่ จู้ กั มากทีส่ ดุ ของเขา ส่วนใหญ่จะเน้นถึงสังคมในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ อย่างเช่น เรื่อง Far from the Madding Crowd (ไกลจากฝูงชนที่บ้าคลั่ง) และ Jude the Obscure (จูดที่ไม่มีใครรู้จัก) Sir Arthur Conan Doyle (1859-1930) was a Scottish doctor and writer. He was best known for his stories about Sherlock Holmes, who was one of the first fictional detectives. เซอร์ อาร์เธอร์ โคแนน ดอยล์ (ค.ศ. 1859-1930) เป็นนายแพทย์และนักเขียนชาวสก็อตแลนด์ เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากนวนิยายที่เขาแต่งเกี่ยวกับ เชอร์ล็อค โฮล์มส์ นักสืบใน นวนิยายรุ่นแรก Evelyn Waugh (1903-66) wrote satirical novels, including Decline and Fall and Scoop. He is perhaps best known for Brideshead Revisited. เอฟลีน วาห์ (ค.ศ. 1903-66) เขียนนวนิยายประเภทเสียดสีสังคม เช่น เรื่อง Decline and Fall (ความเสื่อมและความตกต�่ำ) และ Scoop (สกู๊ปข่าว) แต่ดูเหมือนคนจะรู้จักเขามากที่สุด จากนวนิยายเรื่อง Brideshead Revisited (ย้อนร�ำลึกถึงไบรด์สเฮด) Sir Kingsley Amis (1922-95) was an English novelist and poet. He wrote more than 20 novels. The most well known is Lucky Jim. เซอร์ คิงส์ลีย์ เอมิส (ค.ศ. 1922-95) เป็นนักเขียนนวนิยายและกวีชาวอังกฤษ เขาได้เขียน นวนิยายมากกว่า 20 เรื่อง นวนิยายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเขา คือเรื่อง Lucky Jim (จิม ผู้โชคดี) Graham Greene (1904-91) wrote novels often influenced by his religious beliefs, including The Heart of the Matter, The Honorary Consul, Brighton Rock and Our Man in Havana. เกรแฮม กรีน (ค.ศ. 1904-91) เป็นนักเขียนนวนิยายที่ได้รับอิทธิพลจากความเชื่อทางศาสนา อย่างเช่น เรื่อง The Heart of the Matter (หัวใจของเรื่อง) The Honorary Consul (กงสุล ผูม้ เี กียรติ) Brighton Rock (ไบรท์ตนั ร็อค) และ Our Man in Havana (คนของเราในฮาวานา) Life in the UK 187
J K Rowling (1965-) wrote the Harry Potter series of children’s books, which have enjoyed huge international success. She now writes fiction for adults as well. เจ เค โรว์ลิง (ค.ศ. 1965-) ผู้แต่งหนังสือเรื่อง Harry Potter (แฮรี่ พอตเตอร์) หนังสือส�ำหรับ เด็กชุดนีป้ ระสบความส�ำเร็จและได้รบั การตอบรับจากผูอ้ า่ นทัว่ โลกอย่างสูง เวลานีเ้ ธอได้เขียน นวนิยายส�ำหรับผู้ใหญ่ด้วย British poets
นักกวีอังกฤษ
British poetry is among the richest in the world. The Anglo-Saxon poem Beowulf tells of its hero’s battles against monsters and is still translated into modern English. Poems which survive from the Middle Ages include Chaucer’s Canterbury Tales and a poem called Sir Gawain and the Green Knight, about one of the knights at the court of King Arthur. กวีนพิ นธ์ของอังกฤษมีถอ้ ยค�ำพรรณาทีไ่ พเราะไม่แพ้กวีนพิ นธ์ภาษาอืน่ ใดในโลก บทกลอนของ ชาวแองโกล-แซกซัน เรื่อง Beowulf (เบโอวูลฟ์) บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างวีรบุรุษกับ ปีศาจ และยังคงได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษสมัยใหม่ บทกลอนต่างๆ ที่หลงเหลือมาจาก ยุคกลาง ได้แก่ Canterbury Tales (นิยายแคนเทอร์เบอรี่) ของชอสเซอร์ และบทกลอนเรื่อง Sir Gawain and the Green Knight (เซอร์ กาเว็น และอัศวินเขียว) ซึ่งเกี่ยวกับอัศวินผู้หนึ่ง ในราชส�ำนักของกษัตริย์อาร์เธอร์ As well as plays, Shakespeare wrote many sonnets (poems which must be 14 lines long) and some longer poems. As Protestant ideas spread, a number of poets wrote poems inspired by their religious views. One of these was John Milton, who wrote Paradise Lost. นอกจากจะเขียนบทละครแล้ว เชคสเปียร์ยังแต่งโคลงซอนเน็ตไว้หลายชิ้น (โคลงที่ต้องมี ความยาว 14 บรรทัด) และได้เขียนบทกลอนบางชิ้นที่ยาวกว่านี้ ในช่วงที่ความคิดตามแนว โปรเตสแตนท์เริ่มแพร่ขยาย กวีหลายคนได้แต่งบทกลอนโดยอาศัยมุมมองทางศาสนาของตน เป็นแรงบันดาลใจ หนึง่ ในกวีเหล่านี้ คือ จอห์น มิลตัน ผูเ้ ขียนเรือ่ ง Paradise Lost (สวรรค์หาย) Other poets, including William Wordsworth, were inspired by nature. Sir Walter Scott wrote poems inspired by Scotland and the traditional stories and songs from the area on the borders of Scotland and England. He also wrote novels, many of which were set in Scotland. 188 Life in the UK 3rd Edition
กวีคนอื่นๆ เช่น วิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ธ ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เซอร์ วอลเตอร์ สก็อต ได้ประพันธ์บทกลอนโดยอาศัยแรงบันดาลใจจากสก็อตแลนด์ รวมทั้งเพลงและนิยายพื้นบ้าน จากเขตพื้นที่พรมแดนระหว่างสก็อตแลนด์กับอังกฤษ นอกจากนี้ เขายังได้เขียนนวนิยาย หลายเรื่องที่มีฉากอยู่ในสก็อตแลนด์ด้วย Poetry was very popular in the 19th century, with poets such as William Blake, John Keats, Lord Byron, Percy Shelley, Alfred Lord Tennyson, and Robert and Elizabeth Browning. Later, many poets - ¬for example, Wilfred Owen and Siegfried Sassoon - were inspired to write about their experiences in the First World War. More recently, popular poets have included Sir Walter de la Mare, John Masefield, Sir John Betjeman and Ted Hughes. กวีนิพนธ์ได้รับความนิยมสูงมากในศตวรรษที่ 19 กวีอังกฤษที่ส�ำคัญๆ ได้แก่ วิลเลียม เบลค, จอห์น คีทส์, ลอร์ด ไบรอน, เพอร์ซี เชลลีย,์ อัลเฟรด ลอร์ด เทนนีสนั , และ โรเบิรต์ กับอลิซาเบธ บราวนิง ต่อมากวีหลายคน – อย่างเช่น วิลเฟร็ด โอเว่น และซิกฟรีด ซัสซูน¬ – ได้แต่งบทกวี โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ของตนในสงครามโลกครั้งที่ 1 และกวีที่ได้รับความ นิยมล่าสุดกว่านี้ ได้แก่ เซอร์ วอลเตอร์ เดอ ลา แมร์, จอห์น เมสฟิลด์, เซอร์ จอห์น เบทเชอมัน และเท็ด ฮิวส์ Some of the best-known poets are buried or commemorated in Poet’s Corner in Westminster Abbey. กวีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดบางท่านมีศพบรรจุหรือค�ำยกย่องเกียรติคุณอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า “มุมกวี” ในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ Some famous lines include: ค�ำกลอนที่มีชื่อเสียง ได้แก่: ‘Oh, to be in England now that April’s there And whoever wakes in England sees, some morning, unaware, That the lowest boughs and the brushwood sheaf Round the elm-tree bole are in tiny leaf While the Chaffinch sings on the orchard bough In England -Now!’ (Robert Browning, 1812-89 -Home Thoughts from Abroad) ‘โอ้ การมีชีวิตอยู่ในอังกฤษเมื่อย่างเข้าเมษายน และผู้ที่ลืมตาตื่นขึ้นในอังกฤษ เช้าบางวัน มองเห็น โดยไม่รู้ตัว Life in the UK 189
กิ่งก้านต�่ำสุดและสุมทุมพุ่มใบของพงไม้ ต้นเอล์มกับใบไม้เล็กๆ สะพรั่งรอบล�ำต้น นกแชฟฟินช์ส่งเสียงร้องบนกิ่งก้านในสวนผลไม้ ที่อังกฤษ – เวลานี้!” (โรเบิร์ต บราวนิง, ค.ศ. 1812-89 – คิดถึงบ้านจากต่างประเทศ) ‘She walks in beauty, like the night Of cloudless climes and starry skies; And all that’s best of dark and bright Meet in her aspect and her eyes’ (Lord Byron, 1788-1824 - She Walks in Beauty) เธอเดินอยู่ท่ามกลางความงาม, ดุจราตรี ยามไร้เมฆและท้องฟ้าพร่างพราวด้วยหมู่ดาว; และที่สุดของความเข้มและความสดใส มารวมกันอยู่ที่อุปนิสัยและในดวงตาของเธอ’ (ลอร์ด ไบรอน, ค.ศ. 1788-1824 – เธอเดินอยู่ท่ามกลางความงาม) ‘I wander’d lonely as a cloud That floats on high o’er vales and hills, When all at once I saw a crowd, A host of golden daffodils’ (William Wordsworth, 1770-1850 - The Daffodils) ‘ฉันท่องเที่ยวตามล�ำพังประดุจเมฆ ล่องลอยสูงเหนือหุบเหวและเนินเขา, พลันสายตาของฉันได้ประสบ, ดอกแดฟโฟดิลสีทองบานสะพรั่ง’ (วิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ธ, ค.ศ. 1770-1850 – ดอกแดฟโฟดิล) ‘Tyger! Tyger! Burning bright In the forests of the night, What immortal hand or eye Could frame thy fearful symmetry?’ (William Blake, 1757-1827 - The Tyger) ‘เสือ! เสือ! พลังเผาไหม้ ในป่าใหญ่ยามรัตติกาล, 190 Life in the UK 3rd Edition
มือหรือดวงตาสวรรค์อันเป็นอมตะ จะควบคุมอ�ำนาจที่น่าเกรงขามของเจ้าได้หรือ’ (วิลเลียม เบลค, ค.ศ. 1757-1827 – เสือ) ‘What passing-bells for these who die as cattle? Only the monstrous anger of the guns. Only the stuttering rifles’ rapid rattle Can patter out their hasty orisons.’ (Wilfred Owen, 1893-1918 - Anthem for Doomed Youth) ‘เสียงระฆังส่งวิญญาณทหารที่ล้มตายอย่างไร้ค่าดุจฝูงวัวจะมีหรือ มีเพียงเสียงปืนพิโรธกึกก้อง มีเพียงเสียงปืนยาวดังรัวติดๆ กันเท่านั้น คือเสียงสวดมนต์ที่พวกเขาได้รับ’ (วิลเฟรด โอเว่น, ค.ศ. 1893-1918 – เพลงส�ำหรับคนหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย)
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ Which sports are particularly popular in the UK √ Some of the major sporting events that take place each year √ Some of the major arts and culture events that happen in the UK √ How achievements in arts and culture are formally recognised √ Important figures in British literature √ มีกีฬาใดบ้างที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในสหราชอาณาจักร √ เทศกาลงานแข่งขันกีฬาครั้งใหญ่ที่ส�ำคัญบางรายการที่จัดขึ้นในแต่ละปี √ เทศกาลงานศิลปะและวัฒนธรรมครั้งใหญ่ที่ส�ำคัญบางรายการที่จัดขึ้นในสหราช อาณาจักร √ วิธีการให้เกียรติยกย่องผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะและวัฒนธรรมที่ดีเด่นอย่างเป็น ทางการ √ บุคคลที่ส�ำคัญๆ ในวงการวรรณกรรมของอังกฤษ Life in the UK 191
LEISURE
กิจกรรมนันทนาการ
People in the UK spend their leisure time in many different ways. ผู้คนในสหราชอาณาจักรใช้เวลาว่างในการท�ำกิจกรรมต่างๆ หลายรูปแบบ Gardening
การท�ำสวน
A lot of people have gardens at home and will spend their free time looking after them. Some people rent additional land called ‘an allotment’, where they grow fruit and vegetables. Gardening and flower shows range from major national exhibitions to small local events. Many towns have garden centres selling plants and gardening equipment. There are famous gardens to visit throughout the UK, including Kew Gardens, Sissinghurst and Hidcote in England, Crathes Castle and Inveraray Castle in Scotland, Bodnant Garden in Wales, and Mount Stewart in Northern Ireland. คนอังกฤษส่วนใหญ่มีสวนที่บ้านและใช้เวลาว่างในการดูแลสวนของตน บางคนเช่าที่ดิน นอกบ้านทีเ่ รียกกันว่า ‘ทีด่ นิ เช่าท�ำสวน’ เพือ่ ใช้เป็นทีป่ ลูกพืชผักและผลไม้เพิม่ เติม นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานเทศกาลสวนและดอกไม้ในสหราชอาณาจักร ตั้งแต่งานใหญ่ อย่างเช่น งาน มหกรรมพืชสวนแห่งชาติ ไปจนถึงงานพืชสวนเล็กๆ ในท้องถิ่น และในเมืองหลายแห่งจะ มีศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงที่ขายต้นไม้และเครื่องมือท�ำสวน ตลอดทั่วสหราชอาณาจักรจะมี สวนพฤกษศาสตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเปิดให้ผู้คนเข้าเยี่ยมชม เช่น สวนคิว สวนซิสซิงเฮิร์สท์ และสวนฮิดโคท ในอังกฤษ และปราสาทแครทธิส และปราสาทอินเวอร์แอรีย์ ในสก็อตแลนด์ และสวนบ็อดนันท์ ในเวลส์ และเมานท์ สจ๊วร์ต ในไอร์แลนด์เหนือ The countries that make up the UK all have flowers which are particularly associated with them and which are sometimes worn on national saints’ days: ประเทศที่ผนวกรวมกันเป็นสหราชอาณาจักรต่างก็มีดอกไม้ที่มีความส�ำคัญเกี่ยวเนื่องเป็น พิเศษกับชาติของตน บางครั้งจะมีการประดับหรือติดดอกไม้เหล่านี้ในวันเฉลิมฉลองนักบุญ องค์อุปถัมภ์ประจ�ำชาติ:
192 Life in the UK 3rd Edition
the thistle
the shamrock
the rose
the daffodil
• England - the rose • Scotland - the thistle • Wales - the daffodil • Northern Ireland - the shamrock • ดอกไม้ประจ�ำชาติอังกฤษ – ดอกกุหลาบ • ดอกไม้ประจ�ำชาติสก็อตแลนด์ – ดอกทิสเซิล • ดอกไม้ประจ�ำชาติเวลส์ – ดอกแดฟโฟดิล • ดอกไม้ประจ�ำชาติไอร์แลนด์เหนือ – ดอกแชมร็อก
Shopping
การซื้อของ
There are many different places to go shopping in the UK. Most towns and cities have a central shopping area, which is called the town centre. Undercover shopping centres are also common - these might be in town centres or on the outskirts of a town or city. Most shops in the UK are open seven days a week, although trading hours on Sundays and public holidays are generally reduced. Many towns also have markets on one or more days a week, where stallholders sell a variety of goods. สถานที่ส�ำหรับการจับจ่ายซื้อของหรือช็อปปิ้งในสหราชอาณาจักรมีมากมายหลายแห่ง ตาม เมืองเล็กเมืองใหญ่จะมีเขตพืน้ ทีช่ อ็ ปปิง้ ในย่านใจกลางเมือง และศูนย์การค้าในร่มก็มอี ยูท่ วั่ ไป – ศูนย์การค้าเหล่านีอ้ าจตัง้ อยูใ่ นพืน้ ทีใ่ จกลางเมือง หรือในบริเวณรอบนอกเมืองหรือมหานคร ร้านค้าส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักรเปิดให้บริการลูกค้าทุกวัน แต่ปกติจะลดจ�ำนวนชั่วโมง เปิดท�ำการในวันอาทิตย์หรือวันหยุดราชการ นอกจากนี้ ในเมืองต่างๆ หลายแห่งยังมีตลาดนัด ซึง่ จัดขึน้ หนึง่ วันหรือสองวันขึน้ ไปทุกสัปดาห์ โดยมีพอ่ ค้าแม่คา้ มาตัง้ แผงลอยขายสินค้าในตลาด
Life in the UK 193
Cooking and food
อาหารและการปรุงอาหาร Many people in the UK enjoy cooking. They often invite each other to their homes for dinner. A wide variety of food is eaten in the UK because of the country’s rich cultural heritage and diverse population. คนส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักรชอบท�ำอาหารกินเอง และมักจะผลัดกันเป็นเจ้าภาพเชิญ เพื่อนๆ มารับประทานอาหารที่บ้าน อาหารที่รับประทานกันในสหราชอาณาจักรมีมากมาย หลายชนิด เนื่องจากประเทศสหราชอาณาจักรมีประชากรที่มีเชื้อชาติและวัฒนธรรมต่างๆ หลากหลาย Traditional foods
อาหารพื้นเมืองของคนอังกฤษ There are a variety of foods that are traditionally associated with different parts of the UK: • England: Roast beef, which is served with potatoes, vegetables, Yorkshire puddings (batter that is baked in the oven) and other accompaniments. Fish and chips are also popular. • Wales: Welsh cakes - a traditional Welsh snack made from flour, dried fruits and spices, and served either hot or cold. • Scotland: Haggis - a sheep’s stomach stuffed with offal, suet, onions and oatmeal. • Northern Ireland: Ulster fry - a fried meal with bacon, eggs, sausage, black pudding, white pudding, tomatoes, mushrooms, soda bread and potato bread. อาหารพื้นเมืองในเขตภูมิภาคต่างๆ ของสหราชอาณาจักรมีหลายชนิด ดังนี้: • อังกฤษ: เนื้อวัวอบ รับประทานกับมันฝรั่งและผักต่างๆ และยอร์คเชียร์พุดดิ้ง (แป้งผสม น�้ำและน�ำเข้าอบในเตาอบ) และเครื่องเคียงอื่นๆ นอกจากนี้ คนอังกฤษยังนิยมรับประทาน ปลาชุบแป้งทอดและมันฝรั่งทอดด้วย • เวลส์: ขนมเค้กของเวลส์ – อาหารพื้นเมืองส�ำหรับรับประทานเป็นของว่าง ท�ำด้วยแป้ง ผลไม้แห้งและเครื่องเทศ จะรับประทานร้อนหรือเย็นก็ได้ • สก็อตแลนด์: แฮกกิส – กระเพาะแกะยัดไส้ด้วยเครื่องในสัตว์ ไขมัน หัวหอมใหญ่และ ข้าวโอ๊ตป่น 194 Life in the UK 3rd Edition
• ไอร์แลนด์เหนือ: อัลสเตอร์ฟราย หรืออาหารเช้าครบเครือ่ ง – อาหารทอดน�ำ้ มัน ประกอบด้วย เนื้อเบค่อน ไข่ ไส้กรอก พุดดิ้งด�ำ พุดดิ้งขาว มะเขือเทศ เห็ด ขนมปังโซดา และขนมปังมันฝรั่ง Films
ภาพยนตร์ British film industry อุตสาหกรรมภาพยนตร์อังกฤษ The UK has had a major influence on modern cinema. สหราชอาณาจักรมีอิทธิพลส�ำคัญต่อวงการภาพยนตร์สมัยใหม่มาเป็นเวลานาน Films were first shown publicly in the UK in 1896 and film screenings very quickly became popular. From the beginning, British film makers became famous for clever special effects and this continues to be an area of British expertise. From the early days of the cinema, British actors have worked in both the UK and USA. Sir Charles (Charlie) Chaplin became famous in silent movies for his tramp character and was one of many British actors to make a career in Hollywood. การฉายภาพยนตร์ให้สาธารณชนรับชมเป็นครั้งแรกในสหราชอาณาจักรมีขึ้นในปี ค.ศ. 1896 และหลังจากนั้นการชมภาพยนตร์ก็เริ่มได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว นักสร้างภาพยนตร์ ชาวอังกฤษเริ่มมีชื่อเสียงในด้านการใช้สเปเชียลเอฟเฟกต์อย่างมีประสิทธิภาพ และทั่วโลก ยังคงยอมรับความรู้ความสามารถของอังกฤษในด้านนี้ ตั้งแต่ระยะแรกของวงการภาพยนตร์ นักแสดงอังกฤษได้ท�ำงานทั้งในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา เซอร์ ชาร์ลส์ (ชาร์ลี) แชปลิน เริ่มมีชื่อเสียงจากการรับบทแสดงเป็นคนจรจัดในภาพยนตร์เงียบ และเป็นหนึ่งใน บรรดานักแสดงชาวอังกฤษหลายคนที่ประสบความส�ำเร็จในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด British studios flourished in the 1930s. Eminent directors included Sir Alexander Korda and Sir Alfred Hitchcock, who later left for Hollywood and remained an important film director until his death in 1980. During the Second World War, British movies (for example, In Which We Serve) played an important part in boosting morale. Later, British directors including Sir David Lean and Ridley Scott found great success both in the UK and internationally. Life in the UK 195
ทศวรรษปี 1930 เป็นยุคที่โรงถ่ายท�ำภาพยนตร์ของอังกฤษก�ำลังเฟื่องฟู อังกฤษมีผู้ก�ำกับ ภาพยนตร์ที่โดดเด่น ได้แก่ เซอร์ อเล็กซานเดอร์ คอร์ดา และเซอร์ อัลเฟรด ฮิทช์ค็อก ซึ่ง ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่ฮอลลีวู้ดและยังคงเป็นผู้ก�ำกับภาพยนตร์ที่มีความส�ำคัญตราบจนกระทั่ง เขาถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1980 ในช่วงสงครามโลก ภาพยนตร์อังกฤษ (เช่น ภาพยนตร์เรื่อง In Which We Serve (ผู้รับใช้ชาติ)) มีส่วนส�ำคัญในการสร้างขวัญและก�ำลังใจให้แก่คน อังกฤษ ต่อมาผู้ก�ำกับภาพยนตร์ชาวอังกฤษ รวมถึง เซอร์ เดวิด ลีน และ ริดลีย์ สก็อต ได้ ประสบความส�ำเร็จอย่างสูงภายในสหราชอาณาจักรและทั่วโลก The 1950s and 1960s were a high point for British comedies, including Passport to Pimlico, The Ladykillers and, later, the Carry On films. ภาพยนตร์ แ นวตลกขบขั น ของอั ง กฤษประสบความส� ำ เร็ จ อย่ า งสู ง ในทศวรรษปี 1950 และ 1960 ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง Passport to Pimlico (ใบเบิกทางไปพิมลิโก) The Ladykillers (ผู้สังหารสุภาพสตรี) และภาพยนตร์ชุด Carry On (เดินหน้าต่อไป) Many of the films now produced in the UK are made by foreign companies, using British expertise. Some of the most commercially successful films of all time, including the two highest-grossing film franchises (Harry Potter and James Bond), have been produced in the UK. Ealing Studios has a claim to being the oldest continuously working film studio facility in the world. Britain continues to be particularly strong in special effects and animation. One example is the work of Nick Park, who has won four Oscars for his animated films, including three for films featuring Wallace and Gromit. ปัจจุบันนี้ ภาพยนตร์ที่ถ่ายท�ำในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่จะสร้างโดยบริษัทต่างประเทศ ที่ต้องการใช้ความรู้ความสามารถของคนอังกฤษ ภาพยนตร์บางเรื่องที่ประสบความส�ำเร็จ ในการท�ำรายได้สูงสุดตลอดกาล รวมถึงหนังแฟรนไชส์ที่ท�ำเงินได้มากที่สุดสองเรื่อง (แฮรี่ พอตเตอร์ และเจมส์ บอนด์) เป็นผลงานที่สร้างขึ้นในสหราชอาณาจักร อีลิ่ง สตูดิโอ ได้ชื่อว่า เป็นสถานทีถ่ า่ ยท�ำภาพยนตร์ทเี่ ก่าแก่ทสี่ ดุ ในโลกและยังคงด�ำเนินงานอยูอ่ ย่างต่อเนือ่ ง อังกฤษ ยังคงด�ำรงสถานะความเป็นผู้น�ำที่มีความรู้ความสามารถเป็นพิเศษในด้านสเปเชียลเอฟเฟกต์ และภาพเคลื่อนไหว ดังจะเห็นได้จากผลงานของ นิค พาร์ค ที่ได้รับรางวัลออสการ์จาก ภาพยนตร์แอนิเมชั่น 4 เรื่อง ซึ่งในจ�ำนวนนี้มี 3 เรื่องที่เป็นผลงานภาพยนตร์ในชุด วอลเลซ แอนด์ กรอมิท Actors such as Sir Lawrence Olivier, David Niven, Sir Rex Harrison and Richard Burton starred in a wide variety of popular films. British actors continue to be 196 Life in the UK 3rd Edition
popular and continue to win awards throughout the world. Recent British actors to have won Oscars include Colin Firth, Sir Antony Hopkins, Dame Judi Dench, Kate Winslet and Tilda Swinton. นักแสดงอังกฤษ เช่น เซอร์ ลอเรนซ์ โอลิเวียร์, เดวิด นิเวน, เซอร์ เร็กซ์ แฮริสัน และ ริชาร์ด เบอร์ตัน เป็นดาราน�ำในภาพยนตร์ยอดนิยมหลายเรื่อง นักแสดงอังกฤษได้รับความนิยม มาอย่างต่อเนื่อง และยังคงได้รับรางวัลยกย่องความสามารถจากทั่วโลก นักแสดงอังกฤษ ทีไ่ ด้รบั รางวัลออสการ์ในช่วงเวลาไม่กปี่ ที ผี่ า่ นมา ได้แก่ คอลิน เฟิรธ์ , เซอร์ แอนโทนี ฮอปกินส์, คุณหญิง จูดี้ เดนช์, เคท วินสเล็ท และ ทิลดา สวินตัน The annual British Academy Film Awards, hosted by the British Academy of Film and Television Arts (BAFTA), are the British equivalent of the Oscars. ทุกปีจะมีการมอบรางวัลยกย่องภาพยนตร์ดีเด่นประจ�ำปีของอังกฤษ หรือรางวัลบาฟต้า ทีจ่ ดั โดยสถาบันศิลปะภาพยนตร์และโทรทัศน์แห่งอังกฤษ (บาฟต้า) รางวัลบาฟต้าของอังกฤษ เทียบได้กับรางวัลออสการ์ Some famous British films • The 39 Steps (1935), directed by Alfred Hitchcock • Brief Encounter (1945), directed by David Lean • The Third Man (1949), directed by Carol Reed • The Belles of St Trinian’s (1954), directed by Frank Launder • Lawrence of Arabia (1962), directed by David Lean • Women in Love (1969), directed by Ken Russell • Don’t Look Now (1973), directed by Nicolas Roeg • Chariots of Fire (1981), directed by Hugh Hudson • The Killing Fields (1984), directed by Roland Joffe • Four Weddings and a Funeral (1994), directed by Mike Newell • Touching the Void (2003), directed by Kevin MacDonald. ภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ • The 39 Steps (39 ขั้น วันสิ้นชื่อ) (ค.ศ. 1935) ก�ำกับการแสดงโดย อัลเฟรด ฮิทช์ค็อก • Brief Encounter (พบกันเพียงชั่ววูบ) (ค.ศ. 1945) ก�ำกับการแสดงโดย เดวิด ลีน • The Third Man (ชายคนที่ ส าม) (ค.ศ. 1949) ก� ำ กั บ การแสดงโดย คาโรล รี้ ด • The Belles of St Trinian’s (สาวสวยแห่งเซนต์ทริเนียน) (ค.ศ. 1954) ก�ำกับการแสดง โดย แฟรงค์ ลอนเดอร์ Life in the UK 197
• Lawrence of Arabia (ลอเรนซ์แห่งอาราเบีย) (ค.ศ. 1962) ก�ำกับการแสดงโดย เดวิด ลีน • Women in Love (หญิงที่ก�ำลังมีความรัก) (ค.ศ. 1969) ก�ำกับการแสดงโดย เคน รัสเซลล์ • Don’t Look Now (อย่าเพิ่งมอง) (ค.ศ. 1973) ก�ำกับการแสดงโดย นิโคลัส โรก • Chariots of Fire (เกียรติยศแห่งชัยชนะ) (ค.ศ. 1981) ก�ำกับการแสดงโดย ฮิวจ์ ฮัดสัน • The Killing Fields (ทุ่งสังหาร) (ค.ศ. 1984) ก�ำกับการแสดงโดย โรแลนด์ จอฟฟ์ • Four Weddings and a Funeral (เมื่อหัวใจนั่งเฉยไม่ได้) (ค.ศ. 1994) ก�ำกับการแสดง โดย ไมค์ นิวเวลล์ • Touching the Void (สัมผัสความว่างเปล่า) (ค.ศ. 2003) ก�ำกับการแสดงโดย เควิน แม็คโดนัลด์ British comedy
การแสดงประเภทตลกขบขันของอังกฤษ The traditions of comedy and satire, and the ability to laugh at ourselves, are an important part of the UK character. ประเพณีการเล่นตลกล้อเลียนและเสียดสีสังคม และความสามารถที่จะหัวเราะเยาะตนเองได้ เป็นบุคลิกลักษณะที่ส�ำคัญอย่างหนึ่งของคนอังกฤษ Medieval kings and rich nobles had jesters who told jokes and made fun of people in the Court. Later, Shakespeare included comic characters in his plays. In the 18th century, political cartoons attacking prominent politicians - and, sometimes, the monarch or other members of the Royal Family - became increasingly popular. In the 19th century, satirical magazines began to be published. The most famous was Punch, which was published for the first time in the 1840s. Today, political cartoons continue to be published in newspapers, and magazines such as Private Eye continue the tradition of satire. กษัตริย์และชนชั้นสูงผู้มั่งคั่งทางโภคทรัพย์ในยุคกลางจะมีตัวตลกหรือจ�ำอวดมาแสดงหรือ เล่าเรื่องตลกขบขันและล้อเลียนคนในราชส�ำนัก ต่อมา เชคสเปียร์ได้สร้างตัวละครตลกไว้ใน บทละครของเขาด้วย ในศตวรรษที่ 18 การเขียนภาพการ์ตนู โจมตีนกั การเมืองทีเ่ ด่นดัง – และ กษัตริย์หรือราชินี หรือสมาชิกองค์อื่นๆ ในราชวงศ์ – เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น นิตยสาร ประเภทเสียดสีสงั คมเริม่ ได้รบั การตีพมิ พ์ในศตวรรษที่ 19 และทีม่ ชี อื่ เสียงมากทีส่ ดุ คือ นิตยสาร
198 Life in the UK 3rd Edition
พันช์ (Punch) ซึ่งจัดพิมพ์เป็นครั้งแรกในช่วงทศวรรษปี 1840 ปัจจุบันนี้ยังคงมีการเขียนภาพ การ์ตูนล้อการเมืองบนหน้าหนังสือพิมพ์ และนิตยสารอย่างเช่น ไพรเวท อาย (Private Eye) ยังสืบทอดการตีพิมพ์เนื้อหาเสียดสีสังคมต่อไป Comedians were a popular feature of British music hall, a form of variety theatre which was very common until television became the leading form of entertainment in the UK. Some of the people who had performed in the music halls in the 1940s and 1950s, such as Morecambe and Wise, became stars of television. การสร้างความบันเทิงเพื่อเรียกเสียงหัวเราะโดยจ�ำอวดหรือตัวตลกในหอแสดงดนตรีของ อังกฤษเป็นหนึง่ ในรายการวาไรตีท้ ไี่ ด้รบั ความนิยมทัว่ ไปในช่วงเวลาก่อนหน้าทีโ่ ทรทัศน์จะเริม่ มีบทบาทส�ำคัญในการให้ความบันเทิงในสหราชอาณาจักร นักแสดงบางคนทีเ่ คยออกแสดงใน รายการบันเทิงของหอแสดงดนตรีในทศวรรษปี 1940 และ 1950 เช่น มอร์แคมบ์ และไวส์ ได้กลายเป็นดาราโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียง Television comedy developed its own style. Situation comedies, or sitcoms, which often look at family life and relationships in the workplace, remain popular. Satire has also continued to be important, with shows like That Was The Week That Was in the 1960s and Spitting Image in the 1980s and 1990s. In 1969, Monty Python’s Flying Circus introduced a new type of progressive comedy. Stand-up comedy, where a solo comedian talks to a live audience, has become popular again in recent years. การแสดงแนวตลกขบขันทางโทรทัศน์มรี ปู แบบการพัฒนาเฉพาะตัว ละครตลกตามเหตุการณ์ หรือ ซิตคอม ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องราวชีวิตในครอบครัวและความสัมพันธ์ของผู้คนในที่ ท�ำงาน ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง รายการเสียดสีสังคมยังคงมีบทบาทที่ส�ำคัญ อย่าง เช่น รายการ That Was The Week That Was ในทศวรรษปี 1960 และ Spitting Image ในทศวรรษปี 1980 และ 1990 ต่อมาในปี ค.ศ. 1969 ได้มีการน�ำเสนอ Monty Python’s Flying Circus รายการหรรษาแบบก้าวหน้าแนวใหม่ นอกจากนี้ รายการยืนพูดตลกบนเวที ซึง่ เป็นการแสดงสดทีม่ คี นๆ เดียวพูดและเล่าเรือ่ งตลกเพือ่ เรียกเสียงหัวเราะจากผูฟ้ งั เริม่ กลับ มาได้รับความนิยมอีกครั้งในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา
Life in the UK 199
Television and radio
โทรทัศน์และวิทยุ
Many different television (TV) channels are available in the UK. Some are free to watch and others require a paid subscription. British television shows a wide variety of programmes. Popular programmes include regular soap operas such as Coronation Street and East Enders. In Scotland, some Scotland-specific programmes are shown and there is also a channel with programmes in the Gaelic language. There is a Welsh-language channel in Wales. There are also programmes specific to Northern Ireland and some programmes broadcast in Irish Gaelic. สหราชอาณาจักรมีสถานีโทรทัศน์ชอ่ งต่างๆ ให้รบั ชมได้หลายช่อง รายการทีวบี างช่องสามารถ รับชมได้ฟรี แต่บางช่องจะต้องจ่ายค่าสมาชิก รายการโทรทัศน์ของอังกฤษมีมากมายหลาย ประเภท รายการที่ได้รับความนิยมจากผู้ชม ได้แก่ ละครทีวี (ที่คนไทยบางคนเรียกว่า ละคร น�้ำเน่า) ที่ออกอากาศต่อเนื่องเป็นประจ�ำ ได้แก่ เรื่อง Coronation Street (ถนนโคโรเนชั่น) และ East Enders (ชาวบ้านในย่านอีสต์เอนด์) ในสก็อตแลนด์มีรายการโทรทัศน์บางรายการ ที่จัดท�ำขึ้นเฉพาะสก็อตแลนด์ และมีช่องรายการภาคภาษาเกลิกด้วย ส�ำหรับในเวลส์จะมีช่อง รายการภาคภาษาเวลส์ นอกจากนี้ ยังมีรายการโทรทัศน์พิเศษเฉพาะส�ำหรับไอร์แลนด์เหนือ และบางรายการมีการกระจายเสียงและแพร่ภาพเป็นภาษาไอริชเกลิก Everyone in the UK with a TV, computer or other medium which can be used for watching TV must have a television licence. One licence covers all of the equipment in one home, except when people rent different rooms in a shared house and each has a separate tenancy agreement - those people must each buy a separate licence. People over 75 can apply for a free TV licence and blind people can get a 50% discount. You will receive a fine of up to £1,000 if you watch TV but do not have a TV licence. ทุกคนทีอ่ าศัยอยูใ่ นสหราชอาณาจักร และมีโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์สอื่ สารอืน่ ๆ ที่ สามารถใช้รับชมรายการโทรทัศน์ได้ จะต้องมีใบอนุญาตส�ำหรับดูโทรทัศน์ และใช้ใบอนุญาต เพียงหนึง่ ใบส�ำหรับทีอ่ ยูแ่ ห่งเดียวทีม่ อี ปุ กรณ์ทงั้ หมดเหล่านี้ ยกเว้นกรณีการเช่าบ้านแบบแบ่ง ห้องให้เช่าที่ผู้เช่าแต่ละคนท�ำสัญญาเช่าแยกกันต่างหาก – ในกรณีนี้ ผู้เช่าแต่ละคนจะต้องซื้อ ใบอนุญาตดูโทรทัศน์เฉพาะส�ำหรับตนเอง อย่างไรก็ตาม ประชาชนอายุ 75 ปีขนึ้ ไป สามารถยืน่ ขอใบอนุญาตดูโทรทัศน์ได้ฟรี และคนตาบอดจะมีสิทธิ์ขอส่วนลดได้ 50% ของค่าใบอนุญาตดู โทรทัศน์ หากคุณดูโทรทัศน์โดยไม่มใี บอนุญาต คุณจะถูกลงโทษโดยเสียค่าปรับถึง 1,000 ปอนด์ 200 Life in the UK 3rd Edition
The money from TV licences is used to pay for the British Broadcasting Corporation (BBC). This is a British public service broadcaster providing television and radio programmes. The BBC is the largest broadcaster in the world. It is the only wholly state ¬funded media organisation that is independent of government. Other UK channels are primarily funded through advertisements and subscriptions. เงินที่ได้จากค่าใบอนุญาตดูโทรทัศน์จะน�ำมาใช้จ่ายเป็นงบประมาณอุดหนุนองค์การกระจาย เสียงและแพร่ภาพของอังกฤษ (บีบีซี) ซึ่งเป็นองค์กรแพร่ภาพและกระจายเสียงภาครัฐของ อังกฤษทีใ่ ห้บริการจัดท�ำรายการโทรทัศน์และวิทยุ บีบซี เี ป็นองค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นองค์กรสื่อสารมวลชนเพียงแห่งเดียวที่ด�ำเนินงานเป็นอิสระโดย ไม่ขึ้นกับรัฐบาล แต่ได้รับเงินอุดหนุนทั้งหมดจากรัฐ ส�ำหรับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ ใน สหราชอาณาจักรส่วนใหญ่จะได้รับเงินจากค่าโฆษณาและค่าสมาชิก There are also many different radio stations in the UK. Some broadcast nationally and others in certain cities or regions. There are radio stations that play certain types of music and some broadcast in regional languages such as Welsh or Gaelic. Like television, BBC radio stations are funded by TV licences and other radio stations are funded through advertisements. ในสหราชอาณาจักรยังมีสถานีวิทยุต่างๆ หลายแห่ง สถานีวิทยุบางแห่งจะถ่ายทอดกระจาย เสียงทั่วประเทศ บางแห่งถ่ายทอดกระจายเสียงเฉพาะในบางมืองหรือเขตพื้นที่ สถานีวิทยุ บางแห่งจะเปิดเพลงเฉพาะบางประเภท และบางแห่งจะกระจายเสียงเป็นภาษาถิ่นที่ใช้ สื่อสารในเขตภูมิภาคนั้นๆ เช่น ภาษาเวลส์ หรือภาษาเกลิก สถานีวิทยุและโทรทัศน์ของบีบีซี จะเหมือนกันในข้อที่ว่าได้รับเงินอุดหนุนจากค่าใบอนุญาตดูโทรทัศน์ ส่วนสถานีวิทยุอื่นๆ ได้รับเงินจากค่าโฆษณา Social networking
เครือข่ายสังคมออนไลน์ Social networking websites such as Facebook and Twitter are a popular way for people to stay in touch with friends, organise social events, and share photos, videos and opinions. Many people use social networking on their mobile phones when out and about.
Life in the UK 201
เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น เฟสบุ๊ค และทวิตเตอร์ เป็นบริการที่ผู้คนนิยมใช้ในการ ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนฝูง หรือเพื่อจัดงานสังสรรค์ แบ่งปันรูปภาพ โพสต์คลิปวีดีโอ และความ คิดเห็น คนส่วนใหญ่จะใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์บนมือถือของตนขณะเดินทางหรือออกไป ท�ำกิจธุระนอกบ้าน Pubs and night clubs
ผับและไนท์คลับ
Public houses (pubs) are an important part of the UK social culture. Many people enjoy meeting friends in the pub. Most communities will have a ‘local’ pub that is a natural focal point for social activities. Pub quizzes are popular. Pool and darts are traditional pub games. To buy alcohol in a pub or night club you must be 18 or over, but people under that age may be allowed in some pubs with an adult. When they are 16, people can drink wine or beer with a meal in a hotel or restaurant (including eating areas in pubs) as long as they are with someone over 18. ร้านขายเหล้า (ผับ) เป็นส่วนหนึ่งที่ส�ำคัญในชีวิตของผู้คนในสังคมสหราชอาณาจักร หลายคน นิยมการนัดพบกับเพือ่ นๆ ในผับ ในชุมชนส่วนใหญ่ของอังกฤษจะมีผบั ‘ใกล้บา้ น’ เป็นศูนย์รวม การสังสรรค์และการท�ำกิจกรรมทางสังคมร่วมกัน คนอังกฤษนิยมเล่นเกมทายปัญหาในผับ นอกจากนี้ ยังมีเกมสนุกเกอร์และปาเป้าที่มีการเล่นกันในผับทั่วไป ผู้ท่ีต้องการซื้อเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ในผับหรือไนท์คลับจะต้องมีอายุ 18 ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ผับบางแห่งอาจอนุญาต ให้คนอายุต�่ำกว่านี้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถ้ามากับผู้ใหญ่ ผู้ที่มีอายุ 16 ปี สามารถดื่มไวน์ หรือเบียร์ขณะรับประทานอาหารในโรงแรมหรือร้านอาหารได้ (รวมถึงพืน้ ทีร่ บั ประทานอาหาร บางส่วนในผับ) แต่จะต้องมีคนอายุ 18 ปีขึ้นไปอยู่ด้วย Pubs are usually open during the day from 11.00 am (12 noon on Sundays). Night clubs with dancing and music usually open and close later than pubs. The licensee decides the hours that the pub or night club is open. ปกติแล้วผับจะเปิดในช่วงเวลากลางวันตั้งแต่ 11.00 นาฬิกา (วันอาทิตย์ตั้งแต่เที่ยงวัน) เป็นต้นไป ไนท์คลับที่มีการเต้นร�ำและเปิดเพลงหรือเล่นดนตรีปกติจะเปิดและปิดช้ากว่าผับ เจ้าของกิจการผู้ได้รับใบอนุญาตจะก�ำหนดเวลาเปิดผับหรือไนท์คลับของตนเอง
202 Life in the UK 3rd Edition
Betting and gambling
การเดิมพันและการพนัน
In the UK, people often enjoy a gamble on sports or other events. There are also casinos in many places. You have to be 18 to go into betting shops or gambling clubs. There is a National Lottery for which draws are made every week. You can enter by buying a ticket or a scratch card. People under 16 are not allowed to participate in the National Lottery. คนในสหราชอาณาจักรชอบเล่นการพนันที่เกี่ยวกับการกีฬาหรือการแข่งขันอื่นๆ และมีบ่อน คาสิโนในที่ต่างๆ หลายแห่ง ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในร้านเดิมพันหรือสโมสรการพนัน จะต้องมีอายุไม่ต�่ำกว่า 18 ปี นอกจากนี้ ในสหราชอาณาจักรยังมีสลากกินแบ่งแห่งชาติ ที่มีการจับรางวัลใหญ่ทุกสัปดาห์ คุณสามารถซื้อสลากกินแบ่งหรือบัตรขูดเพื่อเสี่ยงโชคได้ แต่ผู้ที่อายุต�่ำกว่า 16 ปี จะไม่สามารถซื้อสลากกินแบ่งแห่งชาติเพื่อเข้าร่วมเสี่ยงโชคได้ Pets
สัตว์เลี้ยง A lot of people in the UK have pets such as cats or dogs. They might have them for company or because they enjoy looking after them. It is against the law to treat a pet cruelly or to neglect it. All dogs in public places must wear a collar showing the name and address of the owner. The owner is responsible for keeping the dog under control and for cleaning up after the animal in a public place. คนจ�ำนวนมากในสหราชอาณาจักรมีสัตว์เลี้ยง เช่น แมวและสุนัข ที่พวกเขาอาจเลี้ยงไว้เป็น เพื่อนแก้เหงา หรือเพราะพวกเขาชอบดูแลสัตว์เหล่านี้ การเลี้ยงดูสัตว์แบบโหดร้าย หรือ ปล่อยปละละเลยสัตว์เลี้ยง เป็นการท�ำผิดกฎหมาย เมื่อเข้าไปในที่สาธารณะ สุนัขทุกตัวจะ ต้องมีปลอกสวมคอที่มีชื่อและที่อยู่ของเจ้าของ เจ้าของจะต้องรับผิดชอบในการควบคุมดูแล สุนัขของตน และเมื่อสุนัขถ่ายทิ้งไว้ในพื้นที่สาธารณะ ก็ต้องเก็บท�ำความสะอาดให้เรียบร้อย Vaccinations and medical treatment for animals are available from veterinary surgeons (vets). There are charities which may help people who cannot afford to pay a vet. คุณสามารถน�ำสัตว์เลี้ยงไปรับการฉีดวัคซีน หรือขอรับการรักษาพยาบาลได้จากแพทย์ด้าน สัตวแพทยศาสตร์ (สัตวแพทย์) หากคุณไม่มเี งินพอทีจ่ ะจ่ายค่ารักษาให้สตั วแพทย์ คุณสามารถ ขอความช่วยเหลือจากองค์กรการกุศลส�ำหรับสัตว์ที่เจ็บป่วยได้ Life in the UK 203
204 Life in the UK 3rd Edition
PLACES OF INTEREST
สถานที่น่าท่องเที่ยว
The UK has a large network of public footpaths in the countryside. There are also many opportunities for mountain biking, mountaineering and hill walking. There are 15 national parks in England, Wales and Scotland. They are areas of protected countryside that everyone can visit, and where people live, work and look after the landscape. สหราชอาณาจักรมีทางเดินสาธารณะในพื้นที่ชนบทติดต่อเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายที่กว้าง ใหญ่ไพศาล และยังมีพื้นที่มากมายส�ำหรับการปั่นจักรยานเสือภูเขา ปีนเขา และเดินขึ้นเขา อุทยานแห่งชาติในอังกฤษ เวลส์ และสก็อตแลนด์มีอยู่ 15 แห่ง อุทยานเหล่านี้เป็นพื้นที่ ป่าสงวนในเขตชนบทภายใต้การอนุรกั ษ์คมุ้ ครอง คนทัว่ ไปสามารถเข้าเยีย่ มชมอุทยานแห่งชาติ ได้ และมีคนอาศัยอยู่ และท�ำงานและดูแลภูมิทัศน์ในเขตพื้นที่เหล่านี้ด้วย There are many museums in the UK, which range from small community museums to large national and civic collections. Famous landmarks exist in towns, cities and the countryside throughout the UK. Most of them are open to the public to view (generally for a charge). ในสหราชอาณาจักรมีพิพิธภัณฑ์อยู่หลายแห่ง ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ในชุมชนเล็กๆ ไปจนถึง พิพิธภัณฑ์ใหญ่ระดับชาติ และหอแสดงประวัติและผลงานศิลปะของพลเมืองในเมืองต่างๆ ในเมืองเล็กเมืองใหญ่และเขตพื้นที่ชนบททั่วสหราชอาณาจักรจะมีสถานที่ส�ำคัญที่มีชื่อเสียง โดดเด่นประจ�ำเมืองหรือพืน้ ที่ และส่วนใหญ่จะเปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้ (โดยเก็บเงินค่าเข้าชม) Many parts of the countryside and places of interest are kept open by the National Trust in England, Wales and Northern Ireland and the National Trust for Scotland. Both are charities that work to preserve important buildings, coastline and countryside in the UK. The National Trust was founded in 1895 by three volunteers. There are now more than 61,000 volunteers helping to keep the organisation running. พื้นที่ชนบทและสถานที่น่าท่องเที่ยวหลายแห่งจะเปิดให้สาธารณชนเข้าเที่ยวชมโดยองค์กร National Trust (ทรัสต์ผพู้ ทิ กั ษ์ดแู ลสมบัตแิ ห่งชาติ) ในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ และ องค์กร National Trust ของสก็อตแลนด์ ทั้งสององค์กรนี้เป็นองค์กรการกุศลที่มีจุดมุ่งหมาย ในการท�ำงาน เพือ่ อนุรกั ษ์คมุ้ ครองตึกอาคารทีส่ ำ� คัญๆ และพืน้ ทีช่ ายฝัง่ ทะเล และพืน้ ทีช่ นบท ในสหราชอาณาจักร องค์กร National Trust ก่อตัง้ ขึน้ ในปี ค.ศ. 1895 โดยอาสาสมัครสามคน ปัจจุบันนี้อาสาสมัครที่ช่วยเหลือในการด�ำเนินงานขององค์กรมีจ�ำนวนมากกว่า 61,000 คน Life in the UK 205
Image: Samuel Zeller
Big Ben
หอนาฬิกาบิ๊กเบน Big Ben is the nickname for the great bell of the clock at the Houses of Parliament in London. Many people call the clock Big Ben as well. The clock is over 150 years old and is a popular tourist attraction. The clock tower is named ‘Elizabeth Tower’ in honour of Queen Elizabeth II’s Diamond Jubilee in 2012. บิ๊กเบน เป็นชื่อเล่นของระฆังใบใหญ่ของหอนาฬิกาที่รัฐสภาในกรุงลอนดอน คนส่วนใหญ่ เรียกหอนาฬิกานี้ว่า บิ๊กเบน ด้วยเช่นกัน หอนาฬิกาบิ๊กเบนมีอายุเก่าแก่กว่า 150 ปี และเป็น สัญลักษณ์ยอดนิยมที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว หอนาฬิกานี้ได้รับการขนานนามว่า ‘หออลิซาเบธ’ เพื่อเทิดพระเกียรติของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ในวาระมหามงคล เฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปีของพระองค์ในปี ค.ศ. 2012 206 Life in the UK 3rd Edition
Image: 123rf
The Eden Project
อีเด็นโปรเจคท ์
The Eden Project is located in Cornwall, in the south west of England. Its biomes, which are like giant greenhouses, house plants from all over the world. The Eden Project is also a charity which runs environmental and social projects internationally. อีเด็นโปรเจคท์ตั้งอยู่ในคอร์นวอลล์ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ เป็นสถานที่อันประกอบ ด้วยชีวนิเวศ (กลุ่มสังคมของพืชและสัตว์ในภูมิอากาศเฉพาะ) ลักษณะคล้ายเรือนกระจกยักษ์ ที่มีพืชพรรณไม้นานาชนิดจากท่ัวโลกปลูกรวมกันอยู่ภายใน อีเด็นโปรเจคท์ยังเป็นองค์กรการ กุศลที่ ด�ำเนินโครงการพัฒนาสังคมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศด้วย Life in the UK 207
Image: Omar Yassen
Edinburgh Castle
ปราสาทเอดินเบอระ
The Castle is a dominant feature of the skyline in Edinburgh, Scotland. It has a long history, dating back to the early Middle Ages. It is looked after by Historic Scotland, a Scottish government agency. ปราสาทแห่งนี้ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ในเมืองเอดินเบอระของสก็อตแลนด์ และมีประวัติที่ ยาวนานย้อนไปถึงยุคกลางตอนต้น ปราสาทเอดินเบอระได้รับการดูแลโดยองค์การ Historic Scotland ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐสก็อตแลนด์ 208 Life in the UK 3rd Edition
Image: 123rf
The Giant’s Causeway
ทางยักษ์ข้าม
Located on the north-east coast of Northern Ireland, the Giant’s Causeway is a land formation of columns made from volcanic lava. It was formed about 50 million years ago. There are many legends about the Causeway and how it was formed. Giant’s Causeway (ทางยักษ์ข้าม) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกเฉียงเหนือของ ไอร์แลนด์เหนือ มีลกั ษณะเป็นเสาหินอันเกิดจากลาวาภูเขาไฟเรียงต่อยืน่ ขึน้ มาเป็นผืนแผ่นดิน แผ่นดินนี้ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 50 ล้านปีก่อน และมีต�ำนานและเรื่องเล่าขานต่างๆ มากมาย เกี่ยวกับการก่อก�ำเนิดของทางยักษ์ข้ามนี้ Life in the UK 209
Image: Matt Thornhill
Loch Lomond and the Trossachs National Park
ทะเลสาบน�้ำจืดโลมอนด์ และอุทยานแห่งชาติทรอสซัค
This national park covers 720 square miles (1,865 square kilometres) in the west of Scotland. Loch Lomond is the largest expanse of fresh water in mainland Britain and probably the best ¬known part of the park. อุทยานแห่งชาติทรอสซัคครอบคลุมพืน้ ที่ 720 ตารางไมล์ (1,865 ตารางกิโลเมตร) ทางตะวันตก ของสก็อตแลนด์ ทะเลสาบโลมอนด์เป็นทะเลสาบน�้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในผืนแผ่นดินใหญ่ของ อังกฤษ และอาจกล่าวได้วา่ เป็นสถานท่องเทีย่ วทีม่ ชี อื่ เสียงเป็นทีร่ จู้ กั มากทีส่ ดุ ของอุทยานแห่งนี้ 210 Life in the UK 3rd Edition
Image: Bruno Abatti
London Eye
ลอนดอนอาย
The London Eye is situated on the southern bank of the River Thames and is a Ferris wheel that is 443 feet (135 metres) tall. It was originally built as part of the UK’s celebration of the new millennium and continues to be an important part of New Year celebrations. ลอนดอนอายตั้งอยู่บนริมฝั่งทางใต้ของแม่น�้ำเทมส์ และเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงถึง 443 ฟุต (135 เมตร) ลอนดอนอายถูกสร้างขึ้นแต่แรกเพื่อใช้ร่วมในการเฉลิมฉลองและต้อนรับ สหัสวรรษใหม่ในสหราชอาณาจักร และต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ส�ำคัญในการฉลอง ปีใหม่ของคนอังกฤษ Life in the UK 211
Image: Mark Taylor
Snowdonia
สโนว์โดเนีย
Snowdonia is a national park in North Wales. It covers an area of 838 square miles (2,170 square kilometres). Its most well-known landmark is Snowdon, which is the highest mountain in Wales. สโนว์ โ ดเนี ย เป็ น อุ ท ยานแห่งชาติใ นเขตพื้นที่นอร์ธ เวลส์ อุทยานแห่งนี้ค รอบคลุมพื้น ที่ 838 ตารางไมล์ (2,170 ตารางกิโลเมตร) สัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอุทยานแห่งนี้ คือ ภูเขาสโนว์ดอน ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเวลส์ 212 Life in the UK 3rd Edition
Image: 123rf
The Tower of London
หอคอยแห่งลอนดอน
The Tower of London was first built by William the Conqueror after he became king in 1066. Tours are given by the Yeoman Warders, also known as Beefeaters, who tell visitors about the building’s history. People can also see the Crown Jewels there. หอคอยแห่งลอนดอนสร้างขึ้นมาครั้งแรกโดย วิลเลียมผู้พิชิต หลังจากที่พระองค์ได้ขึ้นครอง บัลลังก์เป็นกษัตริย์ในปี ค.ศ. 1066 ทหารรักษาการณ์ (Yeoman Warders) หรือที่เรียกกัน ว่า บีฟอีทเตอร์จะเป็นผูน้ ำ� เทีย่ วและบอกเล่าประวัตขิ องตึกหอคอยให้แก่ผมู้ าเยือน นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถเข้าชมมงกุฏเพชรของราชวงศ์อังกฤษได้ที่นี่ด้วย Life in the UK 213
Image: buttermere
The Lake District
อุทยานแห่งชาติเลคดิสตริค The Lake District is England’s largest national park. It covers 885 square miles (2,292 square kilometres). It is famous for its lakes and mountains and is very popular with climbers, walkers and sailors. The biggest stretch of water is Windermere. In 2007, television viewers voted Wastwater as Britain’s favourite view. เลคดิสตริค เป็นอุทยานแห่งชาติทใี่ หญ่ทสี่ ดุ ในอังกฤษ มีพนื้ ทีค่ รอบคลุม 885 ตารางไมล์ (2,292 ตารางกิโลเมตร) ภูมทิ ศั น์อนั ประกอบด้วยทะเลสาบและภูเขาอันงดงามท�ำให้อทุ ยานแห่งนีม้ ชี อื่ เสียง และเป็นสถานท่องเที่ยวยอดนิยมของบรรดานักปีนเขา นักเดินเที่ยว และนักแล่นเรือใบ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด คือ ทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ ในปี ค.ศ. 2007 ทะเลสาบวาสท์วอเตอร์ ได้ รับการโหวตจากผู้ชมโทรทัศน์ว่าเป็นทัศนียภาพที่โปรดปรานของคนอังกฤษ 214 Life in the UK 3rd Edition
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ Some of the ways in which people in the UK spend their leisure time √ The development of British cinema √ What the television licence is and how it funds the BBC √ Some of the places of interest to visit in the UK √ วิธีการพักผ่อนหย่อนใจในเวลาว่างของผู้คนในสหราชอาณาจักร √ วิวัฒนาการของภาพยนตร์อังกฤษ √ ใบอนุญาตดูโทรทัศน์และการใช้เงินค่าใบอนุญาตดังกล่าวเป็นงบอุดหนุนองค์การบีบซี ี √ สถานที่น่าสนใจและควรไปเที่ยวชมในสหราชอาณาจักร
Life in the UK 215
IN ADDITION TO DEALING WITH IMMIGRATION MATTERS, WE ALSO DEAL WITH SUCH AREAS AS BUSINESS FORMATIONAND BUSINESS LEASES. WILLS FAMILY LAW & CRIMINAL MATTERS.
You’r in the UK and you want to set up your own business, we can guide you through the complexities of this to ensure you don’t fall foul of the rules in particular as this may impact on your Visa application. We also have links with the Chamber of commerce and accountants in order to get you the right advice and assistance in setting up the firm - there may be grants available to you. We try to offer an all round service. Our help doesn’t finish at us completing the work you’ve engaged us for. You want to buy a house, we work with a specialist firm in this area to deal with the onveyancing needed to get the ownership in your name.
CHAPTER 5
your role
THE UK GOVERNMENT, and
the law
รัฐบาลสหราชอาณาจักร กฏหมายและบทบาทหน้าที่ของพลเมืองอังกฤษ
THE UK GOVERNMENT, THE LAW AND YOUR ROLE
220 Life in the UK 3rd Edition
CHAPTER CONTENTS • The development of British democracy • The British constitution • The government • The UK and international institutions • Respecting the law • Fundamental principles • Your role in the community
เนื้อหาในบทนี้
• พัฒนาการของระบอบ ประชาธิปไตยในอังกฤษ • รัฐธรรมนูญอังกฤษ • รัฐบาล • สถาบันของสหราชอาณาจักร และ องค์การระหว่างประเทศ • การเคารพกฎหมาย • หลักการพื้นฐานที่ส�ำคัญ • บทบาทหน้าที่ของคุณในชุมชน
Life in the UK 221
THE DEVELOPMENT OF BRITISH DEMOCRACY
พัฒนาการของระบอบประชาธิปไตยในอังกฤษ
Democracy is a system of government where the whole adult population gets a say. This might be by direct voting or by choosing representatives to make decisions on their behalf. ระบอบประชาธิปไตยเป็นรูปแบบการปกครองที่ประชาชนในวัยผู้ใหญ่ทั่วประเทศมีสิทธิ เสรีภาพทีจ่ ะแสดงความคิดเห็นได้ อาจจะโดยการลงคะแนนเสียง หรือเลือกผูแ้ ทนให้ทำ� หน้าที่ ตัดสินใจแทนตนเอง At the turn of the 19th century, Britain was not a democracy as we know it today. Although there were elections to select members of Parliament (MPs), only a small group of people could vote. They were men who were over 21 years of age and who owned a certain amount of property. ในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 อังกฤษไม่ได้มีระบอบประชาธิปไตยอย่างที่เรารู้จักใน ทุกวันนี้ ถึงแม้วา่ จะมีการเลือกตัง้ เพือ่ เลือกสมาชิกรัฐสภา (ส.ส.) แต่กม็ เี พียงคนกลุม่ น้อยเท่านัน้ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ผู้ที่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งกลุ่มนี้เป็นผู้ชายอายุ 21 ปีขึ้นไป และเป็นเจ้าของทรัพย์สินตามข้อก�ำหนด The franchise (that is, the number of people who had the right to vote) grew over the course of the 19th century and political parties began to involve ordinary men and women as members. สิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง (จ�ำนวนคนที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง) ได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วง ศตวรรษที่ 19 และบรรดาพรรคการเมืองเริ่มรณรงค์หาเสียงกับคนธรรมดาทั่วไป ทั้งหญิงและ ชาย เพื่อชักชวนให้เข้ามาเป็นสมาชิกของพรรค In the 1830s and 1840s, a group called the Chartists campaigned for reform. They wanted six changes: ในช่วงทศวรรษปี 1830 และ 1840 กลุ่มผู้เรียกร้องสิทธิทางการเมืองที่เรียกว่า ชาร์ติสท์ ได้ รณรงค์ให้มีการปฏิรูป และเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง 6 ข้อ ดังนี้: • for every man to have the vote • elections every year • for all regions to be equal in the electoral system 222 Life in the UK 3rd Edition
• secret ballots • for any man to be able to stand as an MP • for MPs to be paid. • ให้ผู้ชายทุกคนมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง • ให้มีการเลือกตั้งทุกปี • ให้ประชาชนในทุกภูมิภาคมีสิทธิเท่าเทียมกันในระบบการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง • ให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งลับ • ให้ผู้ชายไม่ว่าใครก็ตาม สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกรัฐสภาได้ • ให้สมาชิกรัฐสภาได้รับเงินเดือน At the time, the campaign was generally seen as a failure. However, by 1918 most of these reforms had been adopted. The voting franchise was also extended to women over 30, and then in 1928 to men and women over 21. In 1969, the voting age was reduced to 18 for men and women. เวลานัน้ คนทัว่ ไปคิดว่าการรณรงค์นลี้ ม้ เหลว อย่างไรก็ตาม เมือ่ ถึงปี ค.ศ. 1918 การปฏิรปู ส่วน ใหญ่ได้เกิดขึน้ ตามข้อเรียกร้องเหล่านี้ สิทธิในการออกเสียงได้ขยายครอบคลุมไปถึงผูห้ ญิงอายุ 30 ขึน้ ไป และในปี ค.ศ. 1928 ชายและหญิงอายุ 21 ปีขนึ้ ไปได้รบั การยินยอมให้มสี ทิ ธิอ์ อกเสียง เลือกตั้ง ในปี ค.ศ. 1969 ได้มีการลดอายุให้ชายและหญิงอายุ 18 ปีมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งได้
THE BRITISH CONSTITUTION
รัฐธรรมนูญอังกฤษ
A constitution is a set of principles by which a country is governed. It includes all of the institutions that are responsible for running the country and how their power is kept in check. The constitution also includes laws and conventions. The British constitution is not written down in any single document, and therefore it is described as ‘unwritten’. This is mainly because the UK, unlike America or France, has never had a revolution which led permanently to a totally new system of government. Our most important institutions have developed over hundreds of years. Some people believe that there should be a single document, but others believe an unwritten constitution allows for more flexibility and better government. Life in the UK 223
รัฐธรรมนูญ คือ กฎหมายสูงสุดที่มีหลักการต่างๆ ที่จะต้องยึดถือส�ำหรับการปกครองประเทศ รัฐธรรมนูญอังกฤษประกอบด้วยสถาบันและองค์กรทัง้ หมดทีม่ หี น้าทีร่ บั ผิดชอบในการบริหาร ประเทศ โดยที่องค์กรหลายฝ่ายมีการตรวจสอบอ�ำนาจซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญ ยังครอบคลุมถึงกฎหมายและจารีตประเพณีด้วย อย่างไรก็ตาม อังกฤษไม่มีรัฐธรรมนูญเขียน ไว้เป็นหนังสือแม้เพียงเล่มเดียว รัฐธรรมนูญอังกฤษจึงได้ชื่อว่าเป็นรัฐธรรมนูญ ‘ที่ไม่เป็นลาย ลักษณ์อักษร’ เหตุผลที่ส�ำคัญก็คือ สหราชอาณาจักรไม่เคยมีการปฏิวัติที่ก่อให้เกิดระบบการ ปกครองในรูปแบบใหม่สุดอย่างถาวร ดังเช่นที่เกิดขึ้นในอเมริกา หรือฝรั่งเศส สถาบันที่ส�ำคัญ ต่างๆ ของอังกฤษมีการพัฒนาและด�ำรงมาได้นับร้อยๆ ปี บางคนเชื่อว่าสหราชอาณาจักรควร มีรฐั ธรรมนูญเป็นเอกสารหนึง่ ฉบับ แต่อกี หลายคนเชือ่ ว่าการมีรฐั ธรรมนูญทีไ่ ม่เป็นลายลักษณ์ อักษรจะท�ำให้สถาบันต่างๆ สามารถปรับใช้หลักกฎหมายตามสถานการณ์ และปกครอง ประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Constitutional institutions
สถาบันที่ส�ำคัญภายใต้รัฐธรรมนูญ
In the UK, there are several different parts of government. The main ones are: ในสหราชอาณาจักรมีสถาบันและองค์กรต่างๆ ท�ำหน้าทีบ่ ริหารและปกครองประเทศ สถาบัน หลักที่ส�ำคัญ มีดังนี้: • the monarchy • Parliament (the House of Commons and the House of Lords) • the Prime Minister • the cabinet • the judiciary (courts) • the police • the civil service • local government. • สถาบันพระมหากษัตริย์ • รัฐสภา (สภาสามัญหรือสภาผู้แทนราษฎร และสภาขุนนาง) • นายกรัฐมนตรี • คณะรัฐมนตรี • สถาบันตุลาการ (ศาล) • ต�ำรวจ 224 Life in the UK 3rd Edition
• ข้าราชการ • องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น In addition, there are devolved governments in Scotland, Wales and Northern Ireland that have the power to legislate on certain issues. นอกจากนี้ยังมีการถ่ายโอนอ�ำนาจการปกครองจากส่วนกลางไปให้สก็อตแลนด์ เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ เพื่อให้องค์การบริหารส่วนภูมิภาคเหล่านี้มีอ�ำนาจในการร่างกฎหมาย เกี่ยวกับเรื่องที่ส�ำคัญได้ The monarchy
สถาบันพระมหากษัตริย์ Queen Elizabeth II is the head of state of the UK. She is also the monarch or head of state for many countries in the Commonwealth. The UK has a constitutional monarchy. This means that the king or queen does not rule the country but appoints the government, which the people have chosen in a democratic election. The monarch invites the leader of the party with the largest number of MPs, or the leader of a coalition between more than one party, to become the Prime Minister. The monarch has regular meetings with the Prime Minister and can advise, warn and encourage, but the decisions on government policies are made by the Prime Minister and cabinet (see the section on ‘The government’). สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นประมุขของประเทศสหราชอาณาจักร และยังทรง เป็นพระราชินหี รือประมุขของอีกหลายประเทศในเครือจักรภพอังกฤษด้วย สหราชอาณาจักร มีการปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ภายใต้ระบอบการปกครองนี้ กษัตริย์หรือ พระราชินีไม่มีอ�ำนาจในการปกครองประเทศ แต่จะทรงแต่งตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยขึน้ มาเป็นผูบ้ ริหารประเทศ กษัตริยห์ รือพระราชินจี ะ ทรงเชิญผู้น�ำของพรรคที่มีจ�ำนวนสมาชิกรัฐสภามากที่สุด หรือผู้น�ำของพรรคผสมหนึ่งพรรค ขึ้นไป ให้ขึ้นด�ำรงต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรี และจะทรงนัดพบกับนายกรัฐมนตรีเป็นประจ�ำ ถึง แม้ว่ากษัตริย์หรือพระราชินีจะสามารถให้ค�ำแนะน�ำ ตักเตือน และส่งเสริมนายกรัฐมนตรี แต่ การตัดสินใจเกีย่ วกับนโยบายของรัฐจะเป็นหน้าทีข่ องนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเท่านัน้ (ดูเนื้อหาในหัวข้อ ‘รัฐบาล’) The Queen has reigned since her father’s death in 1952, and in 2012 she celebrated her Diamond Jubilee (60 years as queen). She is married to Prince Life in the UK 225
Philip, the Duke of Edinburgh. Her eldest son, Prince Charles (the Prince of Wales), is the heir to the throne. สมเด็จพระราชินนี าถอลิซาเบธที่ 2 เสด็จขึน้ ครองราชย์ตงั้ แต่พระบิดาของพระองค์สนิ้ พระชนม์ ในปี ค.ศ. 1952 และในปี ค.ศ. 2012 พระองค์ได้ทรงฉลองงานพิธพี ชั ราภิเษก (พระราชินผี ทู้ รง ครองราชย์ครบรอบ 60 ปี) พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินเบอระ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (มกุฎราชกุมารแห่งเวลส์) เป็นรัชทายาททีจ่ ะสืบต่อราชบัลลังก์ของพระองค์ The Queen has important ceremonial roles, such as the opening of the new parliamentary session each year. On this occasion the Queen makes a speech which summarises the government’s policies for the year ahead. All Acts of Parliament are made in her name. สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงมีบทบาทที่ส�ำคัญในพระราชพิธีต่างๆ เช่น การเปิดประชุมสภา สมัยใหม่ในแต่ละปี เนื่องในวโรกาสนี้ สมเด็จพระราชินีนาถฯ จะทรงมีพระราชด�ำรัสสรุป ชี้แจงนโยบายของรัฐบาลในการด�ำเนินงานปีต่อไป การตราพระราชบัญญัติทุกฉบับจะกระท�ำ ในนามของพระองค์ The Queen represents the UK to the rest of the world. She receives foreign ambassadors and high commissioners, entertains visiting heads of state, and makes state visits overseas in support of diplomatic and economic relationships with other countries. สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงเป็นตัวแทนของสหราชอาณาจักรในการกระชับความสัมพันธ์กับ ประเทศทั่วโลก พระองค์ทรงต้อนรับคณะทูตานุทูตและข้าหลวงใหญ่จากต่างประเทศ ตลอด จนจัดงานเลี้ยงต้อนรับประมุขของรัฐที่มาเยือนอังกฤษ และเสด็จไปเยือนต่างประเทศเพื่อ ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจกับประเทศอื่นๆ The Queen has an important role in providing stability and continuity. While governments and Prime Ministers change regularly, the Queen continues as head of state. She provides a focus for national identity and pride, which was demonstrated through the celebrations of her Jubilee. สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งเสถียรภาพและความต่อเนื่องที่ส�ำคัญ รัฐบาล และนายกรัฐมนตรีอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่สมเด็จพระราชินีนาถฯ จะทรงเป็นประมุขของรัฐ ตลอดไป พระองค์ทรงเป็นจุดศูนย์รวมใจของประชาชนที่ภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของความ เป็นคนอังกฤษ ดังจะเห็นได้จากการแสดงความชืน่ ชมยินดีของพสกนิกรในงานฉลองการครอง สิริราชสมบัติของพระองค์ 226 Life in the UK 3rd Edition
The National Anthem
เพลงชาติอังกฤษ
The National Anthem of the UK is ‘God Save the Queen’. It is played at important national occasions and at events attended by the Queen or the Royal Family. The first verse is: เพลงชาติของสหราชอาณาจักร คือ ‘God Save the Queen (ขอพระเจ้าทรงคุ้มครอง พระราชินี)’ เพลงชาติอังกฤษจะบรรเลงในงานใหญ่ระดับชาติที่ส�ำคัญและในงานที่สมเด็จ พระราชินีนาถฯ หรือสมาชิกในราชวงค์อังกฤษเสด็จเข้าร่วม เนื้อเพลงบทแรก มีดังนี้: ‘God save our gracious Queen! Long live our noble Queen! God save the Queen! Send her victorious, Happy and glorious, Long to reign over us, God save the Queen! ‘ ‘ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองพระราชินีผู้งามสง่า! ขอองค์ราชินีผู้สูงศักดิ์มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน! ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองพระราชินี! ขอจงดลบันดาลให้พระนางมีชัยชนะ, มีความสุขและความเจริญ, คุ้มเกล้าปวงประชาตลอดไป, ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองพระราชินี! ‘ New citizens swear or affirm loyalty to the Queen as part of the citizenship ceremony. ผู ้ ที่ มี ส ถานะเป็ น พลเมื อ งใหม่ จ ะต้ อ งสาบานตั ว หรื อ รั บ รองว่ า จะจงรั ก ภั ก ดี ต ่ อ สมเด็ จ พระราชินีนาถอังกฤษ Oath of allegiance
ค�ำถวายสัตย์ปฏิญาณตน
I (name) swear by Almighty God that on becoming a British citizen, I will be faithful and bear true allegiance to Her Majesty Queen Elizabeth the Second, her Heirs and Successors, according to law. Life in the UK 227
ข้าพเจ้า (ชือ่ ) ขอสาบานต่อหน้าพระผูเ้ ป็นเจ้าและให้คำ� สัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าผูไ้ ด้รบั สัญชาติ เป็นพลเมืองอังกฤษจะมีความซือ่ สัตย์และจงรักภักดีตอ่ องค์สมเด็จพระราชินนี าถอลิซาเบธที่ 2 ตลอดจนองค์รัชทายาทและผู้สืบสันตติวงศ์ตามกฎหมายของพระองค์ Affirmation of allegiance
การรับรองค�ำถวายสัตย์ปฏิญาณตน
I (name) do solemnly, sincerely and truly declare and affirm that on becoming a British citizen, I will be faithful and bear true allegiance to Her Majesty Queen Elizabeth the Second, her Heirs and Successors, according to law. ข้าพเจ้า (ชื่อ) ขอให้ค�ำรับรองและยืนยันอย่างหนักแน่น ซื่อตรงและจริงใจว่า ข้าพเจ้าผู้ได้ รับสัญชาติเป็นพลเมืองอังกฤษจะมีความซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อองค์สมเด็จพระราชินีนาถ อลิซาเบธที่ 2 ตลอดจนองค์รัชทายาทและผู้สืบสันตติวงศ์ของพระองค์ตามกฎหมาย System of government
ระบบการปกครองของสหราชอาณาจักร The system of government in the UK is a parliamentary democracy. The UK is divided into parliamentary constituencies. Voters in each constituency elect their member of Parliament (MP) in a General Election. All of the elected MPs form the House of Commons. Most MPs belong to a political party, and the party with the majority of M Ps forms the government. If one party does not get a majority, two parties can join together to form a coalition. สหราชอาณาจักรมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา และมีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ในสหราชอาณาจักรออกเป็นหลายเขต ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงในแต่ละเขตเลือกตั้งจะลงคะแนน เสียงเลือกสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร (ส.ส.) ของตนในการเลือกตัง้ ทัว่ ไป สภาสามัญจะประกอบ ด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่ จะเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และพรรคการเมืองที่มีจ�ำนวน ส.ส. มากที่สุดจะเป็นฝ่ายจัดตั้ง รัฐบาล ในกรณีที่ไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งได้เสียงข้างมาก ก็ต้องหาพรรคอื่นเข้ามาร่วมจัดตั้ง เป็นรัฐบาลผสมต่อไป The Houses of Parliament, one of the centres of political life in the UK and a World Heritage Site 228 Life in the UK 3rd Edition
อาคารรัฐสภาเป็นศูนย์อ�ำนาจทางการเมืองแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร และได้รับเลือกให้ ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก The House of Commons
สภาสามัญ หรือสภาผู้แทนราษฎร
The House of Commons is regarded as the more important of the two chambers in Parliament because its members are democratically elected. The Prime Minister and almost all the members of the cabinet are members of the House of Commons (MPs). Each MP represents a parliamentary constituency, which is a small area of the country. MPs have a number of different responsibilities. They: • represent everyone in their constituency • help to create new laws • scrutinise and comment on what the government is doing • debate important national issues. รัฐสภาประกอบด้วยสองสภาใหญ่ๆ แต่สภาสามัญหรือสภาผู้แทนราษฎรมีความส�ำคัญ เหนือกว่า เมื่อเทียบกับสภาขุนนาง เนื่องจากสมาชิกของสภาผู้แทนราษฎรได้มาจากการ เลือกตัง้ แบบประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีและสมาชิกในคณะรัฐมนตรีเกือบทุกคนเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ส.ส. แต่ละคนท�ำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรในแต่ละเขตการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเขตพื้นที่เล็กๆ ภายในประเทศ ส.ส. มีหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ มากมาย ดังนี้: • เป็นผู้แทนของราษฎรทุกคนในเขตเลือกตั้งของตน • เสนอหรือพิจารณาร่างกฎหมายใหม่ • ตรวจสอบและแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่รัฐบาลก�ำลังด�ำเนินการ • อภิปรายปัญหาหรือประเด็นที่ส�ำคัญๆ ของชาติ The House of Lords
สภาขุนนาง
Members of the House of Lords, known as peers, are not elected by the people and do not represent a constituency. The role and membership of the House of Lords has changed over the last 50 years. Life in the UK 229
Until 1958, all peers were: • ‘hereditary’, which means they inherited their title, or • senior judges, or • bishops of the Church of England. สมาชิกสภาขุนนางที่เรียกกันว่า “เพียร์ส” นั้น ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และไม่ได้เป็นผู้แทน ราษฎรในเขตเลือกตั้ง ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา บทบาทหน้าที่และสมาชิกภาพของสภาขุนนาง ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ในช่วงเวลาก่อนถึงปี ค.ศ. 1958 สมาชิกสภาขุนนาง หรือเพียร์ส ทั้งหมด: • เป็นขุนนาง ‘สืบฐานันดรศักดิ์’ คือมีการสืบทอดต�ำแหน่งทางสายเลือด หรือมิฉะนั้นก็เป็น • ผู้พิพากษาอาวุโส หรือ • นักบวชสมณศักดิ์ในคริสตจักรอังกฤษ Since 1958, the Prime Minister has had the power to nominate peers just for their own lifetime. These are called life peers. They have usually had an important career in politics, business, law or another profession. Life peers are appointed by the monarch on the advice of the Prime Minister. They also include people nominated by the leaders of the other main political parties or by an independent Appointments Commission for non-party peers. ตัง้ แต่ปี ค.ศ. 1958 เป็นต้นมา นายกรัฐมนตรีมอี ำ� นาจในการเสนอชือ่ เพียร์ส เพือ่ ให้เป็นสมาชิก สภาขุนนางเพียงชั่วอายุขัยของพวกเขา สมาชิกสภาขุนนางประเภทนี้เรียกว่าเพียร์สตลอดชีพ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ประสบความส�ำเร็จในหน้าที่การงานในแขนงอาชีพการเมือง ธุรกิจ กฎหมาย หรือวิชาชีพอื่นๆ สมาชิกสภาขุนนางตลอดชีพได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระราชินีนาถโดย การแนะน�ำของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ รวมถึงผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากหัวหน้าพรรคการเมือง ใหญ่อนื่ ๆ หรือโดยคณะกรรมาธิการแต่งตัง้ อิสระส�ำหรับสมาชิกสภาขุนนางทีไ่ ม่ได้สงั กัดพรรค การเมืองใดๆ ด้วย Since 1999, hereditary peers have lost the automatic right to attend the House of Lords. They now elect a few of their number to represent them in the House of Lords. ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 เป็นต้นมา สมาชิกสภาขุนนางประเภทเพียร์สตลอดชีพ ได้สูญเสียสิทธิใน การเข้าร่วมประชุมในสภาขุนนางโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้พวกเขาสามารถที่จะ เลือกผู้แทนจ�ำนวนหนึ่งให้ท�ำหน้าที่แทนตนเองในสภาขุนนางได้ 230 Life in the UK 3rd Edition
The House of Lords is normally more independent of the government than the House of Commons. It can suggest amendments or propose new laws, which are then discussed by MPs. The House of Lords checks laws that have been passed by the House of Commons to ensure they are fit for purpose. It also holds the government to account to make sure that it is working in the best interests of the people. There are peers who are specialists in particular areas, and their knowledge is useful in making and checking laws. The House of Commons has powers to overrule the House of Lords, but these are not used often. สภาขุนนางมีความเป็นอิสระจากรัฐบาลมากกว่า เมื่อเทียบกับสภาผู้แทนราษฎร สภาขุนนาง สามารถแนะน�ำให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม หรือเสนอร่างกฎหมายใหม่ ซึ่ง ส.ส. จะน�ำไปอภิปราย กันต่อไปในสภาผู้แทนราษฎรได้ สภาขุนนางจะตรวจพิจารณากฎหมายที่สภาผู้แทนราษฎร ลงคะแนนเสียงรับรองแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าเหมาะสมกับจุดประสงค์ที่ต้องการ นอกจากนี้ สภาขุนนางยังสามารถทีจ่ ะขอค�ำชีแ้ จงจากรัฐบาลได้ เพือ่ ให้มนั่ ใจว่ารัฐบาลท�ำหน้าทีโ่ ดยค�ำนึง ถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน สมาชิกสภาขุนนางบางคนเป็นผู้ที่มีความรู้ความช�ำนาญ เฉพาะด้าน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการร่างและตรวจสอบพิจารณากฎหมาย แม้ว่า สภาผู้แทนราษฎรมีอ�ำนาจที่จะลบล้างเสียงของสภาขุนนางได้ แต่การใช้อ�ำนาจนี้จะเกิดขึ้น นานๆ ครั้ง The Speaker
ประธานสภาสามัญ Debates in the House of Commons are chaired by the Speaker. This person is the chief officer of the House of Commons. The Speaker is neutral and does not represent a political party, even though he or she is an MP, represents a constituency and deals with constituents’ problems like any other MP. The Speaker is chosen by other MPs in a secret ballot. ประธานสภาผู้แทนราษฎรท�ำหน้าที่เป็นหัวหน้าควบคุมการอภิปรายในสภาสามัญให้ด�ำเนิน ไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีความเป็นกลางทางการเมือง และไม่ได้เป็นผู้แทนของพรรคการเมืองใด แม้ว่าเขาหรือเธอจะเป็น ส.ส. ซึ่งเป็นผู้แทนราษฎร ในเขตการเลือกตั้ง และมีหน้าที่ให้ค�ำแนะน�ำหรือแก้ปัญหาของราษฎรในเขตเลือกตั้งของตน เช่นเดียวกับ ส.ส. คนอื่นๆ ประธานสภาได้รับเลือกให้ท�ำหน้าที่นี้จากเพื่อนสมาชิกสภาด้วย กัน โดยการลงคะแนนเลือกตั้งลับ Life in the UK 231
The Speaker keeps order during political debates to make sure the rules are followed. This includes making sure the opposition (see the section on ‘The government’) has a guaranteed amount of time to debate issues which it chooses. The Speaker also represents Parliament on ceremonial occasions. ประธานสภาท�ำหน้าที่จัดล�ำดับการอภิปรายในการประชุมสภาให้เป็นไปตามกฎระเบียบ รวม ถึงการดูแลให้ฝ่ายค้าน (ดูเนื้อหาในหัวข้อ ‘รัฐบาล’) มีเวลาเพียงพอที่จะอภิปรายประเด็น ปัญหาในหัวข้อทีไ่ ด้กำ� หนดไว้ นอกจากนี้ ประธานสภายังเป็นตัวแทนของรัฐสภาในงานพิธกี าร ต่างๆ อีกด้วย Elections
การเลือกตั้ง
UK elections การเลือกตั้งในสหาราชอาณาจักร MPs are elected at a General Election, which is held at least every five years. กฎหมายก�ำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นอย่าง น้อยทุกๆ 5 ปี If an MP dies or resigns, there will be a fresh election, called a by-election, in his or her constituency. ในกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียชีวิตหรือลาออก จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ เรียกว่าการ เลือกตั้งซ่อม ในเขตเลือกตั้งของ ส.ส. ที่ว่างลง MPs are elected through a system called ‘first past the post’. In each constituency, the candidate who gets the most votes is elected. The government is usually formed by the party that wins the majority of constituencies. If no party wins a majority, two parties may join together to form a coalition. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะได้รับการเลือกตั้งภายใต้ระบบที่เรียกว่า ‘first past the post’ ในแต่ละเขตเลือกตั้ง นั่นคือ ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะการ เลือกตั้ง และพรรคการเมืองที่ได้จ�ำนวนที่นั่งจากเขตเลือกตั้งต่างๆ มากที่สุดจะเป็นฝ่ายจัดตั้ง รัฐบาล ในกรณีที่ไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งได้เสียงข้างมาก ก็ต้องหาพรรคอื่นเข้ามาร่วมจัดตั้ง เป็นรัฐบาลผสมต่อไป 232 Life in the UK 3rd Edition
European parliamentary elections
การเลือกตั้งสมาชิกสภายุโรป
Elections for the European Parliament are also held every five years. Elected members are called members of the Eu¬ropean Parliament (MEPs). Elections to the European Par¬liament use a system of proportional representation, where seats are allocated to each party in proportion to the total number of votes it has won. การเลือกตัง้ สมาชิกสภายุโรปก�ำหนดให้มขี นึ้ ทุกๆ 5 ปี เช่นกัน สมาชิกทีไ่ ด้รบั การเลือกตัง้ เรียก ว่าสมาชิกสภายุโรป (เอ็มอีพี) การเลือกตั้งสมาชิกสภายุโรปใช้ระบบการเลือกตั้งแบบสัดส่วน โดยที่แต่ละพรรคจะได้จ�ำนวนที่นั่งในสภาตามสัดส่วนของคะแนนเสียงรวมทั้งหมดที่ได้รับ Contacting elected members
การติดต่อกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือกตั้ง All elected members have a duty to serve and represent their constituents. You can get contact details for all your representatives and their parties from your local library and from www.parliament.uk. MPs, Assembly members, members of the Scottish Parliament (MSPs) and MEPs are also listed in The Phone Book, published by BT, and in Yellow Pages. สมาชิกสภาที่ได้รับเลือกตั้งทุกคนมีหน้าที่ให้บริการรับใช้และเป็นผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้ง ของตน คุณสามารถติดต่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับผู้แทนเหล่านี้ หรือพรรคการเมืองที่พวกเขา สังกัดได้จากห้องสมุดใกล้บ้านคุณ และจากเว็บไซต์ www.parliament.uk นอกจากนี้ คุณยัง สามารถหาดูรายชื่อของ ส.ส. สมาชิกสภาแห่งชาติของเวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ตลอดจน สมาชิกรัฐสภาสก็อตแลนด์ (เอ็มเอสพี) และสมาชิกสภายุโรปได้ในสมุดรายนามโทรศัพท์ ที่ จัดพิมพ์โดย บีที องค์กรผู้ให้บริการโทรคมนาคมของอังกฤษ และในสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง You can contact MPs by letter or telephone at their constituency office, or at their office in the House of Commons: The House of Commons, Westminster, London SW1A OAA, telephone 020 7729 3000. In addition, many MPs, Assembly members, MSPs and MEPs hold regular local ‘surgeries’, where constituents can go in person to talk about issues that are of concern to them. These surgeries are often advertised in the local newspaper. Life in the UK 233
คุณสามารถติดต่อ ส.ส. ได้ทางจดหมาย หรือโทรศัพท์ตดิ ต่อทีส่ ำ� นักงานในเขตเลือกตัง้ ของ ส.ส. หรือส�ำนักงานของ ส.ส. ในสภาสามัญ ที่อยู่คือ The House of Commons, Westminster, London SW1A OAA โทรศัพท์ 020 7729 3000 ส.ส. สมาชิกสภาแห่งชาติของเวลส์ หรือ ไอร์แลนด์เหนือ และสมาชิกรัฐสภาสก็อตแลนด์ และสมาชิกสภายุโรป ส่วนใหญ่จะจัด ‘รายการ นัดพบกับประชาชน’ ในท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนในเขตพื้นที่นั้นๆ สามารถพูดคุยถึงปัญหา ต่างๆ ที่พวกเขากังวลใจกับผู้แทนได้ด้วยตนเอง และปกติจะประกาศให้ทราบถึงสถานที่ นัดพบเหล่านี้ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ How democracy has developed in the UK √ What a constitution is and how the UK’s constitution is different from those of most other countries √ The role of the monarch √ The role of the House of Commons and House of Lords √ What the Speaker does √ How the UK elects MPs and MEPs √ ประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักรมีพัฒนาการอย่างไร √ รัฐธรรมนูญหมายถึงอะไร และรัฐธรรมนูญของสหราชอาณาจักรต่างจากของ ประเทศอื่นๆ อย่างไร √ บทบาทของพระมหากษัตริย์หรือสมเด็จพระราชินีนาถ √ บทบาทของสภาสามัญหรือสภาผู้แทนราษฎร และสภาขุนนาง √ ประธานสภามีหน้าที่อะไร √ วิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสหราชอาณาจักร และการเลือกตั้ง สมาชิกสภายุโรป
234 Life in the UK 3rd Edition
FAMILY & WILLS Sometimes relationships break down. It is important then to get proper advice as to what to do. Most important if you are on a spouse visa. You may still be able to stay. I’ve seen many clients in the office who have been told they must go home because the relationship has broken down. This is not always true & it is vital to check. Wills are documents that simply say what should happen to your property & who should look after your children if you. It’s not a subject most people want to talk about but it is important especially if you have children. If there is no will then the Government has laid down what happens in a statute. This may not be what you want to happen. It is also a lot slower than having a will. Wills are inexpensive and well worth the time and money in obtaining one.
THE GOVERNMENT
รัฐบาล
The Prime Minister
นายกรัฐมนตรี
The Prime Minister (PM) is the leader of the political party in power. He or she appoints the members of the cabinet (see below) and has control over many important public appointments. The official home of the Prime Minister is 10 Downing Street, in central London, near the Houses of Parliament. He or she also has a country house outside London called Chequers. นายกรัฐมนตรีอังกฤษเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมาก นายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้ง บุคคลในคณะรัฐมนตรี (ดูขา้ งล่าง) และมีอำ� นาจบริหารงานส�ำคัญต่างๆ ของรัฐ บ้านพักประจ�ำ ต�ำแหน่งของนายกรัฐมนตรี คือ บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง ในใจกลางกรุงลอนดอนใกล้กับ ที่ท�ำการรัฐสภา นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังมีบ้านพักตากอากาศในชนบทเป็นคฤหาสน์หลัง ใหญ่นอกกรุงลอนดอน เรียกว่า คฤหาสน์เช็คเกอร์ The Prime Minister can be changed if the MPs in the governing party decide to do so, or if he or she wishes to resign. The Prime Minister usually resigns if his or her party loses a General Election. ต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีอาจเปลี่ยนแปลงได้ หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพรรคที่บริหาร ประเทศลงมติถอดถอน หรือนายกรัฐมนตรีตัดสินใจลาออกเอง ปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีจะ ลาออกเมื่อพรรคของตนพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งทั่วไป The cabinet
คณะรัฐมนตรี
The Prime Minister appoints about 20 senior M Ps to become ministers in charge of departments. These include: • Chancellor of the Exchequer - responsible for the economy • Home Secretary - responsible for crime, policing and immigration • Foreign Secretary - responsible for managing relationships with foreign 236 Life in the UK 3rd Edition
countries • other ministers (called ‘Secretaries of State’) responsible for subjects such as education, health and defence. นายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้ง ส.ส. ระดับสูงประมาณ 20 คน ให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ต่างๆ ซึ่งได้แก่: • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง – มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย – มีหน้าที่รับผิดชอบในการปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความสงบภายใน และคนเข้าเมือง • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ – มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารความสัมพันธ์กับ ต่างประเทศ • ‘รัฐมนตรีว่าการ’ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านอื่นๆ เช่น รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม These ministers form the cabinet, a committee which usually meets weekly and makes important decisions about government policy. Many of these decisions have to be debated or approved by Parliament. บุคคลเหล่านีไ้ ด้รบั แต่งตัง้ ให้เป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล โดยปกติแล้ว คณะรัฐมนตรีจะนัดพบ ประชุมกันเป็นประจ�ำทุกสัปดาห์ เพือ่ ปรึกษาหารือและพิจารณานโยบายทีส่ ำ� คัญๆ ของรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องน�ำไปอภิปรายหรือลงมติให้ความเห็นชอบในรัฐสภา Each department also has a number of other ministers, called Ministers of State and Parliamentary Under-Secretaries of State, who take charge of particular areas of the department’s work. นอกจากนี้ ในแต่ละกระทรวงจะมีรัฐมนตรีอื่นๆ ร่วมปฏิบัติงานอยู่ด้วย เรียกว่า รัฐมนตรีช่วย ว่าการ และปลัดกระทรวง ท�ำหน้าที่บริหารจัดการและรับผิดชอบดูแลงานของกระทรวงที่ได้ รับมอบหมายเป็นการเฉพาะ The opposition
พรรคฝ่ายค้าน
The second-largest party in the House of Commons is called the opposition. The leader of the opposition usually becomes Prime Minister if his or her party wins the next General Election. Life in the UK 237
พรรคฝ่ายค้านคือพรรคที่ได้คะแนนเสียงมากเป็นอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้า พรรคฝ่ายค้านมีความหวังที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี หากพรรคของตนชนะการเลือกตั้งทั่วไป ในสมัยหน้า The leader of the opposition leads his or her party in pointing out what they see as the government’s failures and weaknesses. One important opportunity to do this is at Prime Minister’s Questions, which takes place every week while Parliament is sitting. The leader of the opposition also appoints senior opposition MPs to be ‘shadow ministers’. They form the shadow cabinet and their role is to challenge the government and put forward alternative policies. หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านท�ำหน้าทีเ่ ป็นผูน้ ำ� พรรคในการชีใ้ ห้เห็นความล้มเหลวและจุดบกพร่องของ รัฐบาล โดยเฉพาะในช่วงการตอบข้อซักถามของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นโอกาสส�ำคัญที่จะชี้จุด บกพร่องของรัฐบาล ช่วงเวลาดังกล่าวจัดให้มีขึ้นทุกสัปดาห์ในสมัยการประชุมสภา นอกจาก นี้ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านยังแต่งตั้ง ส.ส. ระดับสูงฝ่ายค้านขึ้นมาเป็น ‘รัฐมนตรีเงา’ รัฐมนตรี เงาของอังกฤษจะรวมตัวก่อตัง้ เป็นคณะรัฐมนตรีเงา และมีบทบาทหน้าทีใ่ นการทักท้วงวิพากษ์ วิจารณ์การท�ำงานของรัฐบาล และน�ำเสนอนโยบายทางเลือกใหม่ The party system
ระบบพรรคการเมือง
Anyone aged 18 or over can stand for election as an MP but they are unlikely to win unless they have been nominated to represent one of the major political parties. These are the Conservative Party, the Labour Party, the Liberal Democrats, or one of the parties representing Scottish, Welsh or Northern Irish interests. บุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ แต่ โอกาสชนะการเลือกตัง้ จะมีนอ้ ย เว้นแต่วา่ เขาจะได้รบั เลือกให้เป็นตัวแทนของพรรคการเมือง ใหญ่ๆ ได้แก่ พรรคอนุรกั ษ์นยิ ม พรรคแรงงาน พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือพรรคใดพรรคหนึง่ ที่เป็นผู้แทนดูแลผลประโยชน์ให้กับชาวสก็อตแลนด์ เวลส์ หรือไอร์แลนด์เหนือ There are a few MPs who do not represent any of the main political parties. They are called ‘independents’ and usually represent an issue important to their constituency. 238 Life in the UK 3rd Edition
อย่างไรก็ตาม มี ส.ส. บางคนที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใหญ่ใดๆ ส.ส. กลุ่มนี้เรียกว่า ‘ส.ส. อิสระ’ ซึ่งปกติจะท�ำหน้าที่เป็นผู้แทนที่เป็นปากเป็นเสียงในเรื่องที่ส�ำคัญของประชาชนในเขต เลือกตั้งของตน The main political parties actively look for members of the public to join their debates, contribute to their costs, and help at elections for Parliament or for local government. They have branches in most constituencies and hold policy-making conferences every year. พรรคการเมืองใหญ่จะมุ่งเฟ้นหาสมาชิกจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้เข้าร่วมการ อภิปราย และสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่าย และให้ความช่วยเหลือในการเลือกตั้ง ทั้งในการ เลือกตัง้ สมาชิกรัฐสภาและการเลือกตัง้ ท้องถิน่ พรรคเหล่านีม้ สี าขาอยูใ่ นเขตการเลือกตัง้ เกือบ ทุกเขต และจะจัดการประชุมใหญ่เพื่อก�ำหนดนโยบายเป็นประจ�ำทุกปี Pressure and lobby groups are organisations which try to influence government policy. They play an important role in politics. Some are representative organisations such as the CBI (Confederation of British Industry), which represents the views of British business. Others campaign on particular topics, such as the environment (for example, Greenpeace) or human rights (for example, Liberty). กลุ่มอิทธิพลและกลุ่มผู้รณรงค์หาเสียงสนับสนุน เป็นองค์กรที่พยายามวิ่งเต้นด�ำเนินการเพื่อ ให้มผี ลต่อแนวนโยบายของรัฐ องค์กรเหล่านีม้ บี ทบาททีส่ ำ� คัญอย่างยิง่ ในทางการเมือง องค์กร บางกลุม่ เป็นตัวแทนของผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เช่น ซีบไี อ (สมาพันธ์ภาคอุตสาหกรรมของ อังกฤษ) ซึ่งท�ำหน้าที่เป็นผู้แทนแสดงความคิดเห็นและมุมมองของผู้ประกอบธุรกิจในอังกฤษ องค์กรอืน่ ๆ ท�ำหน้าทีร่ ณรงค์ในเรือ่ งต่างๆ เช่น สิง่ แวดล้อม (ตัวอย่างเช่น องค์กรกรีนพีซ) หรือ สิทธิมนุษยชน (ตัวอย่างเช่น องค์กรลิเบอร์ตี้) The civil service
ข้าราชการ
Civil servants support the government in developing and implementing its policies. They also deliver public services. Civil servants are accountable to ministers. They are chosen on merit and are politically neutral - they are not political appointees. People can apply to join the civil service through an application process, like other jobs in the UK. Civil servants are expected to carry out their Life in the UK 239
role with dedication and a commitment to the civil service and its core values. These are: integrity, honesty, objectivity and impartiality (including being politically neutral). ข้าราชการมีหน้าที่สนับสนุนการท�ำงานของรัฐบาล โดยการวางแผนพัฒนาและด�ำเนินการ เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐ และมีหน้าที่ให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนด้วย การปฏิบัติ หน้าที่ของข้าราชการจะขึ้นตรงต่อรัฐมนตรี และข้าราชการจะได้รับการคัดเลือกโดยพิจารณา จากความสามารถเป็นหลัก ข้าราชการต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง – ไม่ใช่ผู้ได้รับการ แต่งตั้งทางการเมือง บุคคลทั่วไปสามารถเข้ารับราชการได้ โดยด�ำเนินการตามขั้นตอนการ รับสมัคร เช่นเดียวกับการสมัครงานอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร ข้าราชการจะต้องปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความทุ่มเทเอาใจใส่ และมุ่งมั่นและยึดถือคุณค่าที่ส�ำคัญในการปฏิบัติราชการ ได้แก่ คุณธรรม ความซื่อสัตย์ ความเป็นกลางและไม่มีความล�ำเอียง (รวมถึง ความเป็นกลางทาง การเมือง) Local government
การปกครองส่วนท้องถิ่น
Towns, cities and rural areas in the UK are governed by democratically elected councils, often called ‘local authorities’. Some areas have both district and county councils, which have different functions. Most large towns and cities have a single local authority. เมืองเล็กเมืองใหญ่และเขตพื้นที่ชนบทในสหราชอาณาจักรอยู่ภายใต้การบริหารของสภา เทศบาล หรือคณะเทศมนตรี ที่ปกติเรียกกันว่า ‘องค์การเทศบาล’ อันประกอบด้วยสมาชิก ที่ได้มาจากการเลือกตั้ง ในพื้นที่บางเขตมีทั้งสภาเทศบาลเขตหรืออ�ำเภอ และสภาเทศบาล จังหวัด ซึง่ ท�ำหน้าทีแ่ ตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม โดยทัว่ ไปแล้วเมืองใหญ่ๆ จะมีองค์การเทศบาล เพียงองค์กรเดียว Local authorities provide a range of services in their areas. They are funded by money from central government and by local taxes. องค์การเทศบาลจะให้บริการต่างๆ ที่จ�ำเป็นส�ำหรับประชาชนในเขตพื้นที่ของตน และได้รับ งบประมาณที่จัดสรรให้จากรัฐบาลส่วนกลาง และจากการเรียกเก็บภาษีเทศบาลในท้องถิ่น Many local authorities appoint a mayor, who is the ceremonial leader of the council. In some towns, a mayor is elected to be the effective leader of the administration. London has 33 local authorities, with the Greater London 240 Life in the UK 3rd Edition
Authority and the Mayor of London coordinating policies across the capital. For most local authorities, local elections for councillors are held in May every year. Many candidates stand for council election as members of a political party. สภาเทศบาลหลายแห่งจะแต่งตั้งนายกเทศมนตรี ซึ่งจะเป็นผู้น�ำในงานพิธีต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในบางเมืองนายกเทศมนตรีจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้น�ำของฝ่ายบริหาร กรุงลอนดอนมี สภาเทศบาลส�ำหรับแต่ละพื้นที่ 33 เขต โดยมีองค์การบริหารมหานครลอนดอน (Greater London Authority) และนายกเทศมนตรีแห่งกรุงลอนดอน ท�ำหน้าที่ประสานนโยบาย ระหว่างสภาเทศบาลเหล่านี้ตลอดทั่วกรุงลอนดอน สภาเทศบาลส่วนใหญ่จะจัดให้มีการ เลือกตัง้ สมาชิกสภาเทศบาลในเดือนพฤษภาคมทุกๆ ปี ผูส้ มัครรับเลือกตัง้ สมาชิกสภาเทศบาล ส่วนใหญ่จะสังกัดพรรคการเมือง Devolved administrations
การโอนอ�ำนาจในการปกครอง
Since 1997, some powers have been devolved from the central government to give people in Wales, Scotland and Northern Ireland more control over matters that directly affect them. There has been a Welsh Assembly and a Scottish Parliament since 1999. There is also a Northern Ireland Assembly, although this has been suspended on a few occasions. ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1997 เป็นต้นมา รัฐบาลกลางได้เริ่มกระจายอ�ำนาจบางส่วน เพื่อเปิดโอกาสให้ ประชาชนในเวลส์ สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ เข้ามามีอ�ำนาจบริหารควบคุมเรื่องต่างๆ ที่มีผลต่อพวกเขาได้โดยตรง และได้มีการจัดตั้งสภาแห่งชาติเวลส์ และรัฐสภาสก็อตแลนด์ขึ้น มาบริหารงานปกครองในส่วนของตนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 และยังมีสภาแห่งไอร์แลนด์เหนือ ซึ่ง ถูกระงับอ�ำนาจชั่วคราวไปแล้วสองสามครั้ง Policy and laws governing defence, foreign affairs, immigration, taxation and social security all remain under central UK government control. However, many other public services, such as education, are controlled by the devolved administrations. นโยบายและกฎหมายการป้องกันประเทศ การต่างประเทศ การควบคุมคนเข้าเมือง การเรียก เก็บภาษี และระบบประกันสังคมยังคงอยูภ่ ายใต้การบริหารควบคุมของรัฐบาลกลางแห่งสหราช อาณาจักร อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง เช่น หน่วยงานการศึกษา อยู่ภายใต้การ ควบคุมขององค์การบริหารส่วนภูมิภาคที่ได้รับการโอนอ�ำนาจจากส่วนกลาง Life in the UK 241
The devolved administrations each have their own civil service. องค์การบริหารส่วนภูมิภาคที่ได้รับโอนอ�ำนาจเหล่านี้ต่างก็มีระบบราชการของตนเอง The Welsh government
รัฐบาลแห่งชาติเวลส์
The Welsh government and National Assembly for Wales are based in Cardiff, the capital city of Wales. The National Assembly has 60 Assembly members (AMs) and elections are held every four years using a form of proportional representation. Members can speak in either Welsh or English, and all of the Assembly’s publications are in both languages. รัฐบาลแห่งชาติเวลส์และสภาแห่งชาติเวลส์ตงั้ อยูท่ คี่ าร์ดฟิ ฟ์ เมืองหลวงของเวลส์ สภาแห่งชาติ เวลส์มีสมาชิกสภาทั้งหมด 60 คน และมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาทุกๆ 4 ปี โดยใช้ระบบการ เลือกตั้งแบบสัดส่วน สมาชิกสภาแห่งชาติเวลส์จะพูดภาษาเวลส์หรือภาษาอังกฤษก็ได้ และ เอกสารสิ่งตีพิมพ์ทั้งหมดจะมีทั้งสองภาษา The Assembly has the power to make laws for Wales in 20 areas, including: • education and training • health and social services • economic development • housing. สภาแห่งชาติเวลส์มีอ�ำนาจที่จะผ่านกฎหมายส�ำหรับเวลส์ได้ 20 เรื่อง รวมถึง: • การศึกษาและการอบรม • บริการสาธารณสุข และสังคมสงเคราะห์ • การพัฒนาเศรษฐกิจ • การเคหะ Since 2011, the National Assembly for Wales has been able to pass laws on these topics without the agreement of the UK Parliament. ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 เป็นต้นมา สภาแห่งชาติเวลส์สามารถที่จะผ่านกฎหมายในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ได้ โดยไม่ต้องได้รับการยินยอมจากรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักร 242 Life in the UK 3rd Edition
The Scottish Parliament
รัฐสภาแห่งสก็อตแลนด์
The Scottish Parliament was formed in 1999. It sits in Edinburgh, the capital city of Scotland. รัฐสภาแห่งสก็อตแลนด์กอ่ ตัง้ ขึน้ ในปี ค.ศ. 1999 ทีก่ รุงเอดินเบอระ เมืองหลวงของสก็อตแลนด์ There are 129 members of the Scottish Parliament (MSPs), elected by a form of proportional representation. The Scottish Parliament can pass laws for Scotland on all matters which are not specifically reserved to the UK Parliament. The matters on which the Scottish Parliament can legislate include: • civil and criminal law • health • education • planning • additional tax-raising powers. รัฐสภาแห่งสก็อตแลนด์ประกอบด้วยสมาชิกสภา 129 คน ที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบบผู้ แทนแบบสัดส่วน รัฐสภาสก็อตแลนด์สามารถออกกฎหมายส�ำหรับใช้บังคับในสก็อตแลนด์ได้ ในทุกๆ เรื่อง ยกเว้นเรื่องที่สงวนไว้ส�ำหรับรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักร เรื่องที่รัฐสภาสก็อต แลนด์สามารถออกกฎหมายบังคับได้ ได้แก่: • กฎหมายแพ่งและอาญา • การสาธารณสุข • การศึกษา • การวางผังเมือง • การเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม The Northern Ireland Assembly
สภาแห่งไอร์แลนด์เหนือ
A Northern Ireland Parliament was established in 1922, when Ireland was divided, but it was abolished in 1972, shortly after the Troubles broke out in 1969 (see page 101). Life in the UK 243
รัฐสภาแห่งไอร์แลนด์เหนือก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1922 เมื่อมีการแบ่งแยกไอร์แลนด์ออกเป็น ไอร์แลนด์และไอร์แลนด์เหนือ แต่รัฐสภานี้ได้ถูกยกเลิกไปในปี ค.ศ. 1972 หลังจากที่มีความ ยุ่งยากเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1969 ได้ไม่นาน (ดูหน้า 101) The Northern Ireland Assembly was established soon after the Belfast Agreement (or Good Friday Agreement) in 1998. There is a power-sharing agreement which distributes ministerial offices amongst the main parties. The Assembly has 108 elected members, known as MLAs (members of the Legislative Assembly). They are elected with a form of proportional representation. สภาแห่งไอร์แลนด์เหนือได้รับการก่อตั้งขึ้นหลังจากที่มีการท�ำข้อตกลงสันติภาพในสัญญา เบลฟาสต์ (หรือ สัญญากู๊ดฟรายเดย์) ในปี ค.ศ. 1998 ได้ไม่นาน ในสัญญานี้มีการท�ำข้อตกลง ที่จะแบ่งสรรอ�ำนาจบริหารกระทรวงระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ๆ สภาแห่งไอร์แลนด์เหนือ มีสมาชิกสภาที่ได้มาจากการเลือกตั้ง 108 คน เรียกว่า เอ็มแอลเอ (สมาชิกสภานิติบัญญัติ) สมาชิกสภาเหล่านี้ได้รับการเลือกตั้งโดยใช้ระบบผู้แทนแบบสัดส่วน The Northern Ireland Assembly can make decisions on issues such as: • education • agriculture • the environment • health • social services. สภาแห่งไอร์แลนด์เหนือมีอ�ำนาจที่จะพิจารณาตัดสินในเรื่องต่างๆ เช่น: • การศึกษา • การเกษตร • สิ่งแวดล้อม • การสาธารณสุข • สังคมสงเคราะห์ The UK government has the power to suspend all devolved assemblies. It has used this power several times in Northern Ireland when local political leaders found it difficult to work together. However, the Assembly has been running successfully since 2007. รัฐบาลสหราชอาณาจักรมีอำ� นาจทีจ่ ะระงับสภาทีไ่ ด้รบั การโอนอ�ำนาจได้ตามทีเ่ ห็นสมควร และ เท่าที่ผ่านมา รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ใช้อ�ำนาจนี้ในไอร์แลนด์เหนือไปแล้วหลายครั้ง เมื่อ 244 Life in the UK 3rd Edition
ผู้น�ำพรรคการเมืองในท้องถิ่นมีปัญหาในการท�ำงานร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 เป็นต้นมา ปรากฏว่าสภาแห่งไอร์แลนด์เหนือสามารถท�ำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น The media and government
บทบาทของสื่อมวลชนและรัฐบาล
Proceedings in Parliament are broadcast on television and published in official reports called Hansard. Written reports can be found in large libraries and at www. parliament.uk. Most people get information about political issues and events from newspapers (often called ‘the press’), television, radio and the internet. การประชุมอภิปรายในรัฐสภาจะถูกถ่ายทอดทางโทรทัศน์ และตีพิมพ์ในรายงานของทาง ราชการที่เรียกว่า แฮนซาร์ด (Hansard) เอกสารรายงานเหล่านี้จะหาดูได้ตามห้องสมุดใหญ่ๆ และในเว็บไซต์ www.parliament.uk อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่จะได้รบั ทราบข้อมูลเกีย่ วกับ ปัญหาและเหตุการณ์ทางการเมืองจากหนังสือพิมพ์ (มักจะเรียกกันว่า ‘ข่าว’) โทรทัศน์ วิทยุ และทางอินเทอร์เน็ต The UK has a free press. This means that what is written in newspapers is free from government control. Some newspaper owners and editors hold strong political opinions and run campaigns to try to influence government policy and public opinion. สื่อมวลชนในสหราชอาณาจักรมีเสรีภาพในการน�ำเสนอข่าว โดยที่รัฐบาลจะไม่เข้าไปควบคุม ข่าวสารทีเ่ ขียนลงในหนังสือพิมพ์ เจ้าของและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์บางฉบับเป็นผูม้ คี วาม คิดเห็นทางการเมืองที่ชัดเจน และมักด�ำเนินการรณรงค์เพื่อให้มีผลต่อนโยบายของรัฐ และ ความคิดเห็นของสาธารณชน By law, radio and television coverage of the political parties must be balanced and so equal time has to be given to rival viewpoints. ตามกฎหมาย สถานีวิทยุและโทรทัศน์จะต้องน�ำเสนอข่าวและการหาเสียงของพรรคการเมือง ต่างๆ อย่างสมดุลกัน และจัดสรรพื้นที่หรือเวลาในการประชาสัมพันธ์นโยบายหรือความ คิดเห็นของพรรคคู่แข่งแต่ละพรรคให้เท่าเทียมกัน
Life in the UK 245
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The role of the Prime Minister, cabinet, opposition and shadow cabinet √ The role of political parties in the UK system of government √ Who the main political parties are √ What pressure and lobby groups do √ The role of the civil service √ The role of local government √ The powers of the devolved governments in Wales, Scotland and Northern Ireland √ How proceedings in Parliament are recorded √ The role of the media in keeping people informed about political issues √ บทบาทของนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ฝ่ายค้าน และคณะรัฐมนตรีเงา √ บทบาทของพรรคการเมืองในระบบการปกครองของสหราชอาณาจักร √ พรรคการเมืองใหญ่ในสหราชอาณาจักรมีพรรคอะไรบ้าง √ กลุ่มอิทธิพลและกลุ่มผู้รณรงค์หาเสียงสนับสนุนท�ำอะไร √ บทบาทของข้าราชการ √ บทบาทขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น √ อ�ำนาจขององค์การปกครองในเวลส์ สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ ที่ได้รับการ โอนอ�ำนาจจากรัฐบาลกลาง √ มีการบันทึกการประชุมอภิปรายในรัฐสภาด้วยวิธีการใด √ บทบาทของสื่อมวลชนในการน�ำเสนอข่าวสารทางการเมืองให้สาธารณชนได้รับ ทราบอย่างต่อเนื่อง
246 Life in the UK 3rd Edition
Who can vote?
ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
The UK has had a fully democratic voting system since 1928 (see pages 223). The present voting age of 18 was set in 1969 and (with a few exceptions) all UK-born and naturalised adult citizens have the right to vote. สหราชอาณาจักรมีระบบการลงคะแนนเสียงเลือกตัง้ ตามระบอบประชาธิปไตยเต็มรูปแบบมา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1928 (ดูหน้า 223) ปัจจุบันผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องมีอายุ 18 ปี ตามคุณสมบัติ ที่ก�ำหนดไว้ในปี ค.ศ. 1969 ผู้ที่เกิดในสหราชอาณาจักร และผู้ที่แปลงสัญชาติเป็นคนอังกฤษ แล้วทุกคน (ยกเว้นบางกรณี) มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งได้ Adult citizens of the UK, and citizens of the Commonwealth and the Irish Republic who are resident in the UK, can vote in all public elections. Adult citizens of other EU states who are resident in the UK can vote in all elections except General Elections. พลเมืองทีเ่ ป็นผูใ้ หญ่ในสหราชอาณาจักร และพลเมืองของเครือจักรภพอังกฤษ และสาธารณรัฐ ไอร์แลนด์ ที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร สามารถลงคะแนนเสียงได้ในทุกๆ การเลือกตั้งที่ ประชาชนมีส่วนร่วม พลเมืองที่เป็นผู้ใหญ่ของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่อาศัยอยู่ในสห ราชอาณาจักรมีสิทธิลงคะแนนเสียงในทุกๆ การเลือกตั้งด้วย ยกเว้นการเลือกตั้งทั่วไปของ สหราชอาณาจักร The electoral register
ทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
To be able to vote in a parliamentary, local or European election, you must have your name on the electoral register. ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา หรือสมาชิกสภาเทศบาล หรือสมาชิกสภายุโรป คุณจะต้องมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (electoral register) If you are eligible to vote, you can register by contacting your local council electoral registration office. This is usually based at your local council (in Scotland it may be based elsewhere). If you don’t know which local authority you come under, you can find out by visiting www.aboutmyvote.co.uk and entering your postcode. You can also download voter registration forms in English, Welsh and some other languages. Life in the UK 247
หากคุณมีคุณสมบัติตรงตามข้อก�ำหนดในการลงคะแนนเสียง คุณสามารถลงทะเบียนใน บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ โดยติดต่อกับส�ำนักทะเบียนการเลือกตั้งของสภาเทศบาลใน ท้องถิ่น ซึ่งปกติจะตั้งอยู่ที่สภาเทศบาลของคุณ (แต่ในสก็อตแลนด์อาจตั้งอยู่ท่ีอื่น) หากคุณ ไม่ทราบว่าคุณขึ้นอยู่กับองค์กรท้องถิ่นใด คุณสามารถหาข้อมูลได้โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ www. aboutmyvote.co.uk และใส่รหัสไปรษณีย์ของคุณ นอกจากนี้ คุณยังสามารถดาวน์โหลด ใบลงทะเบียนส�ำหรับผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งที่มีให้เลือกเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาเวลส์ หรือ ภาษาอื่นๆ ได้ด้วย The electoral register is updated every year in September or October. An electoral registration form is sent to every household and this has to be completed and returned with the names of everyone who is resident in the household and eligible to vote. ข้อมูลในทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้รับการปรับปรุงแก้ไขในเดือนกันยายน หรือ ตุลาคมทุกๆ ปี แบบฟอร์มการลงทะเบียนเลือกตั้งจะถูกส่งไปยังทุกบ้าน และเจ้าบ้านจะต้อง กรอกชื่อของสมาชิกทุกคนในบ้านที่มีสิทธิเลือกตั้ง และส่งกลับคืนให้ทางการต่อไป In Northern Ireland a different system operates. This is called ‘individual registration’ and all those entitled to vote must complete their own registration form. Once registered, people stay on the register provided their personal details do not change. For more information see the Electoral Office for Northern Ireland website at www.eoni.org.uk ในไอร์แลนด์เหนือมีการใช้ระบบการลงทะเบียนทีต่ า่ งออกไปทีเ่ รียกว่า ‘การลงทะเบียนเป็นราย บุคคล’ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนจะต้องกรอกใบลงทะเบียนของตนเอง เมื่อลงทะเบียนแล้ว ชื่อ ของคุณจะปรากฏอยูใ่ นทะเบียนนีต้ ลอดไปจนกว่ารายละเอียดเกีย่ วกับตัวคุณจะเปลีย่ นแปลง ไปจากเดิม คุณสามารถติดต่อขอทราบข้อมูลเพิม่ เติมได้ทสี่ ำ� นักงานเลือกตัง้ แห่งไอร์แลนด์เหนือ หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ของส�ำนักงานนี้ได้ที่ www.eoni.org.uk By law, each local authority has to make its electoral register available for anyone to look at, although this has to be supervised. The register is kept at each local electoral registration office (or council office in England and Wales). It is also possible to see the register at some public buildings such as libraries. ตามกฎหมายแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ในแต่ละเขตพืน้ ทีจ่ ะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชน สามารถเข้าดูทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยก�ำกับดูแลอยู่ ทะเบียน ดังกล่าวจะเก็บไว้ทสี่ ำ� นักทะเบียนการเลือกตัง้ ท้องถิน่ (หรือส�ำนักเทศบาลในอังกฤษและเวลส์) นอกจากนี้ ประชาชนทั่วไปยังอาจหาดูทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ในอาคารสาธารณะ ต่างๆ เช่น ห้องสมุด 248 Life in the UK 3rd Edition
Where to vote
สถานที่เลือกตั้ง
People vote in elections at places called polling stations, or polling places in Scotland. Before the election you will be sent a poll card. This tells you where your polling station or polling place is and when the election will take place. On election day, the polling station or place will be open from 7.00 am until 10.00 pm. ประชาชนจะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในสถานที่ที่เรียกว่า “หน่วยเลือกตั้ง” หรือในสก็อต แลนด์เรียกว่า “สถานที่เลือกตั้ง” ก่อนหน้าการเลือกตั้ง คุณจะได้รับบัตรรายละเอียดเกี่ยวกับ การเลือกตั้งส่งไปให้คุณที่บ้าน เพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าหน่วยเลือกตั้งของคุณอยู่ที่ไหน และจะ มีการเลือกตั้งเมื่อไร ในวันเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้งจะเปิดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาลงคะแนนตั้งแต่ เวลา 7.00 นาฬิกา จนถึง 22.00 นาฬิกา When you arrive at the polling station, the staff will ask for your name and address. In Northern Ireland you will also have to show photographic identification. You will then get your ballot paper, which you take to a polling booth to fill in privately. You should make up your own mind who to vote for. No one has the right to make you vote for a particular candidate. You should follow the instructions on the ballot paper. Once you have completed it, put it in the ballot box. เมือ่ คุณมาถึงทีห่ น่วยเลือกตัง้ แล้ว เจ้าหน้าทีจ่ ะสอบถามชือ่ และทีอ่ ยูข่ องคุณ ในไอร์แลนด์เหนือ คุณจะต้องน�ำเอกสารแสดงตัวทีม่ รี ปู ภาพของคุณไปแสดงต่อเจ้าหน้าทีด่ ว้ ย จากนัน้ คุณจะได้รบั บัตรเลือกตัง้ ของคุณ คุณจะต้องน�ำบัตรนีไ้ ปลงคะแนนด้วยตนเองทีค่ หู าเลือกตัง้ คุณควรตัดสิน ใจเองว่าจะลงคะแนนเสียงให้ใคร ไม่มีผู้ใดที่จะมีสิทธิ์บังคับให้คุณลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัคร คนใดคนหนึ่งได้ คุณควรปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำในบัตรเลือกตั้ง เมื่อคุณกาบัตรลงคะแนนแล้ว ให้น�ำบัตรไปหย่อนลงในหีบบัตรเลือกตั้ง If it is difficult for you to get to a polling station or polling place, you can register for a postal ballot. Your ballot paper will be sent to your home before the election. You then fill it in and post it back. You can choose to do this when you register to vote. หากคุณมีปัญหาในการเดินทางไปลงคะแนนเสียงที่หน่วยเลือกตั้ง คุณสามารถลงทะเบียนขอ บัตรเลือกตั้งเพื่อลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ได้ บัตรเลือกตั้งของคุณจะถูกส่งไปให้คุณที่บ้าน ก่อนการเลือกตั้ง จากนั้นคุณจะต้องกาบัตรลงคะแนนเสียงแล้วส่งกลับคืนทางไปรษณีย์ คุณ สามารถเลือกท�ำแบบนี้ได้ตอนที่คุณก�ำลังลงทะเบียนเลือกตั้ง Life in the UK 249
Standing for office
การสมัครรับเลือกตั้งเข้าท�ำหน้าที่เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชน Most citizens of the UK, the Irish Republic or the Commonwealth aged 18 or over can stand for public office. There are some exceptions, including: • members of the armed forces • civil servants • people found guilty of certain criminal offences. พลเมืองส่วนใหญ่ของสหราชอาณาจักร สาธารณรัฐไอร์แลนด์ หรือเครือจักรภพอังกฤษ ที่ มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มีสิทธิ์ที่จะสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเข้าท�ำหน้าที่รับใช้สาธารณชนได้ ยกเว้น: • ข้าราชการทหาร • ข้าราชการพลเรือน • บุคคลที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา Members of the House of Lords may not stand for election to the House of Commons but are eligible for all other public offices. สมาชิกสภาขุนนางไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาสามัญ แต่มีสิทธิ์ที่จะสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเข้าด�ำรงต�ำแหน่งหน้าที่ราชการอื่นๆ ได้ The UK Parliament
รัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักร The public can listen to debates in the Palace of Westminster from public galleries in both the House of Commons and the House of Lords. ประชาชนทัว่ ไปสามารถเข้ารับฟังการอภิปรายในพระราชวังเวสต์มนิ สเตอร์ (รัฐสภาเวสต์มนิ ส เตอร์) ได้ในห้องที่จัดไว้ส�ำหรับสาธารณชนในสภาสามัญและสภาขุนนาง You can write to your local MP in advance to ask for tickets or you can queue on the day at the public entrance. Entrance is free. Sometimes there are long queues for the House of Commons and people have to wait for at least one or two hours. It is usually easier to get in to the House of Lords. คุณสามารถเขียนจดหมายไปถึง ส.ส. ที่เป็นผู้แทนของคุณ เพื่อขอบัตรผ่านเข้ารัฐสภาได้ล่วง หน้า หรืออาจไปเข้าแถวรอตรงทางเข้าส�ำหรับประชาชนในวันนั้นๆ ซึ่งไม่มีการเก็บค่าผ่าน ประตูบางครั้งจะมีประชาชนยืนรอที่จะเข้าไปในสภาสามัญเป็นแถวยาวเหยียด คุณอาจต้อง รออย่างน้อยหนึ่งถึงสองชั่วโมง ปกติแล้วการเข้าไปฟังการอภิปรายที่สภาขุนนางจะง่ายกว่า 250 Life in the UK 3rd Edition
You can find further information on the UK Parliament website at www.parliament.uk หารายละเอียดเพิม่ เติมได้จากเว็บไซต์ของรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักร www.parliament.uk Northern Ireland Assembly
สภาแห่งไอร์แลนด์เหนือ
In Northern Ireland elected members, known as MLAs, meet in the Northern Ireland Assembly at Stormont, in Belfast. ในไอร์แลนด์เหนือ สมาชิกผู้ได้รับเลือกตั้งที่เรียกว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติ จะประชุมกันใน สภาแห่งไอร์แลนด์เหนือที่สตอร์มอนท์ในกรุงเบลฟาสต์ There are two ways to arrange a visit to Stormont. You can either contact the Education Service (details are on the Northern Ireland Assembly website at www.niassembly.gov.uk) or contact an MLA. การขอเข้าเยี่ยมชมสตอร์มอนท์สามารถท�ำได้สองวิธี คือ ติดต่อศูนย์บริการการศึกษา (หา รายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของสภาแห่งไอร์แลนด์เหนือที่ www.niassembly.gov.uk) หรือ ติดต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติของไอร์แลนด์เหนือ Scottish Parliament
รัฐสภาแห่งสก็อตแลนด์
In Scotland the elected members, called MSPs, meet in the Scottish Parliament building at Holyrood in Edinburgh (for more information, see www.scottish.parliament.uk). สมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งในสก็อตแลนด์ที่เรียกว่า สมาชิกรัฐสภาสก็อตแลนด์ จะประชุมกัน ในตึกรัฐสภาแห่งสก็อตแลนด์ทโี่ ฮลีร่ ดู้ ในกรุงเอดินเบอระ (หาข้อมูลเพิม่ เติมได้ทเี่ ว็บไซต์ www. scottish.parliament.uk) You can get information, book tickets or arrange tours through visitor services. You can write to them at the Scottish Parliament, Edinburgh, EH99 1 SP, telephone 0131 3485200 or email sp.bookings@scottish.parliament.uk คุณสามารถหาข้อมูลเพิม่ เติม จองตัว๋ หรือติดต่อขอเข้าเยีย่ มชมเป็นกลุม่ ได้ทฝี่ า่ ยบริการนักท่อง เทีย่ ว หรือติดต่อทางจดหมาย โดยเขียนส่งไปที่ The Scottish Parliament, Edinburgh, EH99 1 SP หรือโทรศัพท์ 0131 3485200 หรือส่งอีเมลไปที่ sp.bookings@scottish.parliament.uk Life in the UK 251
National Assembly for Wales
สภาแห่งชาติเวลส์
In Wales the elected members, known as AMs, meet in the Welsh Assembly in the Senedd in Cardiff Bay (for more information, see www.wales.gov.uk). สมาชิกทีไ่ ด้รบั การเลือกตัง้ ในเวลส์ทเี่ รียกว่า สมาชิกสภาแห่งชาติเวลส์ จะประชุมกันในสภาแห่ง ชาติเวลส์ทอี่ าคารเซเนธด์ ในอ่าวคาร์ดฟิ ฟ์ (หาข้อมูลเพิม่ เติมได้ทเี่ ว็บไซต์ www.wales.gov.uk) The Senedd is an open building. You can book guided tours or seats in the public galleries for the Welsh Assembly. To make a booking, contact the Assembly Booking Service on 0845010 5500 or email assembly.bookings@wales.gsi.gov.uk เซเนธด์ เป็นอาคารเปิดต้อนรับสาธารณชน คุณสามารถจองทัวร์น�ำเที่ยว หรือจองที่นั่งในห้อง ที่จัดไว้ส�ำหรับประชาชนในสภาแห่งชาติเวลส์ได้ โดยติดต่อศูนย์บริการของสภาแห่งชาติเวลส์ ทางโทรศัพท์ที่ 0845010 5500 หรือส่งอีเมลไปที่ assembly.bookings@wales.gsi.gov.uk
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ Who is eligible to vote √ How you register to vote √ How to vote √ Who can stand for public office √ How you can visit Parliament, the Northern Ireland Assembly, the Scottish Parliament and the Welsh Assembly √ ใครบ้างที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง √ คุณจะลงทะเบียนเลือกตั้งอย่างไร √ การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งท�ำอย่างไร √ ใครบ้างที่มีสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งเข้าท�ำหน้าที่รับใช้สาธารณชน √ การขอเข้าเยี่ยมชมรัฐสภาเวสต์มินสเตอร์ สภาแห่งไอร์แลนด์เหนือ รัฐสภาแห่ง สก็อตแลนด์ และสภาแห่งชาติเวลส์ ท�ำได้อย่างไร 252 Life in the UK 3rd Edition
รับติว และ สอน เพื่อเตรียมตัวสอบ SERVICES • ใบประก�ศนียบัตรภ�ษ�อังกฤษ (A1, B1) • Life in the UK - สำ�หรับผู้ประสงค์ขอวีซ่� ถ�วรEDUCATION (ILR) และผู้ขอสัญช�ติบริติช และถือ British Passport English Courses ESOL, A1, A2, B1, B2
Life in the UK *แจกฟรีเอกสารเป็นภาษาไทย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและคอร์สอื่นๆ ได้ที่ และ สอน เพื่อเตรียมตัวสอบ โทร.รั• บใบประก�ศนี 020ติว 3478 3757 ยบัตรภ�ษ�อังกฤษ (A1, B1) emai•ถ�วรLifel : (ILR) educat oและผูn@t-้ขอสัสำh�aiญหรัsช�ติบmiผูl้ปบeระสงค์ .ริcตomิช และถืขอวีซอ่� in the iUK
รับจดทะเบียนบริษัท
REGISTER
NOW ราคาตั้งแต่ £199 ขึ้นไป Tel. 020 3478 3757 Mobile 07985 618228
รับทำ�บัญชี
คว�มรู้เบื้องต้นท�งบัญชีและก�รเงิน
British Passport
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและคอร์สอื่นๆ ได้ที่ โทร. 020 3478 3757 email : education@thaismile.com
SERVICES รับจดทะเบียนบริษัท ราคาตั้งแต่ £199 ขึ้นไป
รับทำ�บัญชี
www.thaismile.com/education Emai l. education@thaismile.com www.thaismile.com/education Email. education@thaismile.com Building Building 3,3, North North London London Business Business Park, Park, Oakleigh Oakleigh Road Road South, South, London London N11 N11 1GN 1GN
THE UK AND INTERNATIONAL INSTITUTIONS
สหราชอาณาจักรและองค์การระหว่างประเทศ The Commonwealth
เครือจักรภพอังกฤษ
The Commonwealth is an association of countries that support each other and work together towards shared goals in democracy and development. Most member states were once part of the British Empire, although a few countries which were not have also joined. เครือจักรภพอังกฤษ คือ กลุ่มประเทศที่ให้การสนับสนุนและพึ่งพากันและกัน และร่วมมือกัน ท�ำงานเพือ่ เสริมสร้างรากฐานของประชาธิปไตยและการพัฒนาอันเป็นเป้าหมายสูงสุดร่วมกัน ประเทศสมาชิกส่วนใหญ่เคยเป็นส่วนหนึง่ ของจักรวรรดิองั กฤษ อย่างไรก็ตาม มีบางประเทศที่ ไม่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ แต่ต้องการเข้าร่วมเป็นสมาชิก The Queen is the ceremonial head of the Commonwealth, which currently has 54 member states (see table below). Membership is voluntary. The Commonwealth has no power over its members, although it can suspend membership. The Commonwealth is based on the core values of democracy, good government and the rule of law. สมเด็จพระราชินีนาถแห่งราชวงศ์อังกฤษทรงเป็นประมุขทางพิธีการของเครือจักรภพอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วยสมาชิก 54 ประเทศ (ดูตารางข้างล่าง) ประเทศเหล่านี้เข้าร่วมเป็น สมาชิกด้วยความสมัครใจ และเครือจักรภพอังกฤษไม่มอี ำ� นาจเหนือประเทศสมาชิก แต่มสี ทิ ธิ์ ที่จะสั่งพักสมาชิกภาพของประเทศสมาชิกได้ เครือจักรภพอังกฤษก่อตั้งขึ้นบนพื้นฐานของ คุณค่าหลักทีส่ ำ� คัญ นัน่ คือ ประชาธิปไตย การใช้อำ� นาจปกครองทีม่ คี ณ ุ ธรรม และหลักนิตธิ รรม COMMONWEALTH MEMBERS Antigua and Barbuda
Australia
The Bahamas
Bangladesh
Barbados
Belize
Botswana
Brunei Darussalam
Cameroon
Canada
Cyprus
Dominica
254 Life in the UK 3rd Edition
COMMONWEALTH MEMBERS Fiji (currently suspended)
Ghana
Grenada
Gunaya
India
Jamaica
Kenya
Kiribati
Lesotho
Malawi
Malaysia
Maldives
Malta
Mauritius
Mozambique
Namibia
Nauru
New Zealand
Nigeria
Pakistan
Papua New Guinea
Rwanda
Samoa
Seychelles
Sierra Leone
Singapore
Solomon Islands
South Africa
Sri Lanka
St Kitts and Nevis
St Lucia
St Vincent and the Grenadines
Swaziland
Tanzania
Tonga
Trinidad and Tobago
Tuvalu
Uganda
UK
Vanuatu
Zambia
การเพิ่มขึ้นของจ�ำนวนประชากรในสหราชอาณาจักร แอนติกา และบาร์บูดา
ออสเตรเลีย
บาฮามาส
บังคลาเทศ
บาร์เบโดส
เบลีซ
บอตสวานา
บรูไนดารุสซาลาม
คาเมรูน
แคนาดา
ไซปรัส
โดมินิกา
ฟิจิ (ปัจจุบันถูกสั่งพักสมาชิกภาพ)
กานา
เกรนาดา
กายอานา
อินเดีย
จาเมกา
เคนยา
คิริบาส
เลโซโท
มาลาวี
มาเลเซีย
มัลดีฟส์
มอลตา
มอริเชียส
โมซัมบิก
นามิเบีย
นาอูรู
นิวซีแลนด์
ไนจีเรีย
ปากีสถาน
ปาปัวนิวกินี
รวันดา
ซามัว
เซเชลส์
Life in the UK 255
การเพิ่มขึ้นของจ�ำนวนประชากรในสหราชอาณาจักร เซียราลีออน
สิงคโปร์
หมู่เกาะโซโลมอน
แอฟริกาใต้
ศรีลังกา
เซนต์คิตส์และเนวิส
เซนต์ลูเซีย
เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์
สวาซิแลนด์
แทนซาเนีย
ทองก้า
ทรินิแดด แอนด์ โทบาโก
ตูวาลู
ยูกันดา
สหราชอาณาจักร
วานูอาตู
แซมเบีย
The European Union
สหภาพยุโรป
The European Union (EU), originally called the European Economic Community (EEC), was set up by six western European countries (Belgium, France, Germany, Italy, Luxembourg and the Netherlands) who signed the Treaty of Rome on 25 March 1957. The UK originally decided not to join this group but it became a member in 1973. There are now 27 EU member states (see table below). Croatia will also become a member state in 2013. สหภาพยุโรป (อียู) เดิมชื่อ ประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (อีอีซี) จัดตั้งขึ้นโดยประเทศในยุโรป ตะวันตก 6 ประเทศ (เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ลักเซมเบิร์ก และเนเธอร์แลนด์) ซึ่งลงนามในสนธิสัญญากรุงโรมเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1957 เดิมทีสหราชอาณาจักร ตัดสินใจไม่เข้าร่วมกลุ่มประเทศเหล่านี้ แต่ต่อมาได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในปี ค.ศ. 1973 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในปัจจุบันมี 27 ประเทศ (ดูรายชื่อในตารางข้างล่าง) และโครเอเชียเข้าร่วมเป็นสมาชิกด้วยในปี ค.ศ. 2013 EU MEMBER STATES Austria
Belgium
Bulgaria
Croatia
Cyprus
Czech Republic
Denmark
Estonia
Finland
France
Germany
Greece
Hungary
Ireland
Italy
Latvia
Lithuania
Luxembourg
256 Life in the UK 3rd Edition
EU MEMBER STATES Malta
Netherlands
Poland
Portugal
Romania
Slovakia
Slovenia
Spain
Sweden
ออสเตรีย
เบลเยี่ยม
บัลแกเรีย
โครเอเชีย
ไซปรัส
สาธารณรัฐเช็ก
เดนมาร์ก
เอสโตเนีย
ฟินแลนด์
ฝรั่งเศส
เยอรมนี
กรีซ
ฮังการี
ไอร์แลนด์
อิตาลี
ลัตเวีย
ลิทัวเนีย
ลักเซมเบิร์ก
มอลตา
เนเธอร์แลนด์
โปแลนด์
โปรตุเกส
โรมาเนีย
สโลวาเกีย
สโลวีเนีย
สเปน
สวีเดน
UK
ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป
สหราชอาณาจักร
EU Law is legally binding in the UK and all the other EU member states. European laws are called directives, regulations or framework decisions. กฎหมายของสหภาพยุโรปมีผลผูกพันทางกฎหมาย สามารถบังคับใช้ได้ในสหราชอาณาจักร และประเทศสมาชิกอื่นๆ ของสหภาพยุโรปทุกประเทศ กฎหมายยุโรปมีชื่อเรียกว่า ค�ำสั่ง ข้อบังคับ หรือโครงร่างการตัดสินใจ The Council of Europe
คณะมนตรีแห่งยุโรป
The Council of Europe is separate from the EU. It has 47 member countries, including the UK, and is responsible for the protection and promotion of human rights in those countries. It has no power to make laws but draws up conventions and charters, Life in the UK 257
the most well-known of which is the European Convention on Human Rights and Fundamental Freedoms, usually called the European Convention on Human Rights. คณะมนตรีแห่งยุโรปเป็นองค์กรแยกต่างหากจากสหภาพยุโรป ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 47 ประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักร คณะมนตรีแห่งยุโรปมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้อง และส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในกลุ่มประเทศสมาชิก คณะมนตรีแห่งยุโรปไม่มีอ�ำนาจในการ ร่างกฎหมาย แต่ท�ำหน้าที่ร่างอนุสัญญาและกฎบัตรต่างๆ อนุสัญญาซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากที่สุด คือ อนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ที่เรียกกัน ทั่วไปว่า อนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน The United Nations
องค์การสหประชาชาติ
The UK is part of the United Nations (UN), an international organisation with more than 190 countries as members. สหราชอาณาจักรเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ ประกอบด้วยสมาชิกกว่า 190 ประเทศ The UN was set up after the Second World War and aims to prevent war and promote international peace and security. There are 15 members on the UN Security Council, which recommends action when there are international crises and threats to peace. The UK is one of five permanent members of the Security Council. องค์การสหประชาชาติก่อตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันการ เกิดสงคราม และเพื่อส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ คณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประกอบด้วยสมาชิกจาก 15 ประเทศ ท�ำหน้าที่ให้ค�ำชี้แนะแก่ องค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับการด�ำเนินการ เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ หรือมีภัยคุกคามต่อความ สงบสุขระหว่างประเทศ สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในกลุ่มสมาชิกถาวร 5 ประเทศของคณะ กรรมาธิการความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ The North Atlantic Treaty Organization (NATO)
องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้)
The UK is also a member of NATO. NATO is a group of European and North American countries that have agreed to help each other if they come under 258 Life in the UK 3rd Edition
attack. It also aims to maintain peace between all of its members. นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังเป็นสมาชิกองค์การนาโต้ ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มประเทศจาก ยุโรปและอเมริกาเหนือที่สัญญากันไว้ว่าจะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในกรณีที่ประเทศ สมาชิกถูกคุกคามหรือโจมตีจากภายนอก องค์การนาโต้มีจุดมุ่งหมายในการรักษาสันติภาพ ระหว่างประเทศสมาชิกทั้งหมดด้วย CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ What the Commonwealth is and its role √ Other international organisations of which the UK is a member √ เครือจักรภพอังกฤษ คืออะไร และมีบทบาทอย่างไร √ องค์การอื่นๆ ระหว่างประเทศที่สหราชอาณาจักรเป็นสมาชิก
RESPECTING THE LAW
การเคารพกฎหมาย
One of the most important responsibilities of all residents in the UK is to know and obey the law. This section will tell you about the legal system in the UK and some of the laws that may affect you. Britain is proud of being a welcoming country, but all residents, regardless of their background, are expected to comply with the law and to understand that some things which may be allowed in other legal systems are not acceptable in the UK. Those who do not respect the law should not expect to be allowed to become permanent residents in the UK. พลเมืองทุกคนทีอ่ าศัยอยูใ่ นสหราชอาณาจักรมีความรับผิดชอบทีส่ ำ� คัญทีส่ ดุ ประการหนึง่ นัน่ คือ การเรียนรู้และปฏิบัติตามกฎหมาย เนื้อหาในหมวดนี้จะชี้แจงให้คุณทราบเกี่ยวกับระบบ กฎหมายในสหราชอาณาจักร และกฎหมายบางข้อที่อาจมีผลต่อตัวคุณ อังกฤษเป็นประเทศ ที่ยินดีต้อนรับผู้ที่เข้ามาอาศัยอยู่เสมอ และมีความภูมิใจในข้อนี้ อย่างไรก็ตาม เราคาดหวังให้ พลเมืองทุกคน ไม่ว่าจะมีภูมิหลังเช่นใด ยึดถือปฏิบัติตามกฎหมายของเรา และเข้าใจว่าการ กระท�ำบางอย่างที่กฎหมายของประเทศอื่นยอมรับ อาจไม่เป็นที่ยอมรับในสหราชอาณาจักร Life in the UK 259
ใครก็ตามที่ไม่เคารพกฎหมาย ไม่สมควรที่จะได้รับอนุญาตให้เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในสหราช อาณาจักรได้อย่างถาวร The law is relevant to all areas of life in the UK. You should make sure that you are aware of the laws which affect your everyday life, including both your personal and business affairs. กฎหมายมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับชีวิตของผู้คนในสหราชอาณาจักรในทุกๆ ด้าน คุณควร แน่ใจว่าคุณได้เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่มีผลต่อการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวันของคุณ รวมถึงกฎหมายที่มีผลต่อการประกอบธุรกิจและชีวิตส่วนตัวของคุณ The law in the UK
กฎหมายในสหราชอาณาจักร Every person in the UK receives equal treatment under the law. This means that the law applies in the same way to everyone, no matter who they are or where they are from. ประชาชนในสหราชอาณาจักรมีสิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมายอย่างเสมอภาค กัน ซึ่งหมายถึงว่าทุกคนจะได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายเท่าเทียมกัน โดยไม่ยกเว้นว่าเขา ผู้นั้นเป็นใคร หรือมาจากไหน Laws can be divided into criminal law and civil law: • Criminal law relates to crimes, which are usually investigated by the police or another authority such as a council, and which are punished by the courts. • Civil law is used to settle disputes between individuals or groups. กฎหมายอังกฤษแบ่งออกเป็น กฎหมายอาญา และ กฎหมายแพ่ง: • กฎหมายอาญาจะใช้กับการท�ำความผิดประเภทอาชญากรรม ซึ่งปกติเป็นคดีสืบสวนของ ต�ำรวจหรือองค์กรอื่นๆ ที่มีอ�ำนาจ เช่น สภาองค์กร โดยมีศาลเป็นผู้ตัดสินลงโทษ • กฎหมายแพ่งใช้ในการตัดสินคดีพิพาทระหว่างบุคคล หรือกลุ่มบุคคล Examples of criminal laws are: • Carrying a weapon: it is a criminal offence to carry a weapon of any kind, even if it is for self-defence. This includes a gun, a knife or anything that is made or adapted to cause injury. 260 Life in the UK 3rd Edition
• Drugs: selling or buying drugs such as heroin, cocaine, ecstasy and cannabis is illegal in the UK. • Racial crime: it is a criminal offence to cause harassment, alarm or distress to someone because of their religion or ethnic origin. • Selling tobacco: it is illegal to sell tobacco products (for example, cigarettes, cigars, roll-up tobacco) to anyone under the age of 18. • Smoking in public places: it is against the law to smoke tobacco products in nearly every enclosed public place in the UK. There are signs displayed to tell you where you cannot smoke. • Buying alcohol: it is a criminal offence to sell alcohol to anyone who is under 18 or to buy alcohol for people who are under the age of 18. (There is one exception: people aged 16 or over can drink alcohol with a meal in a hotel or restaurant -see page 202.) • Drinking in public: some places have alcohol-free zones where you cannot drink in public. The police can also confiscate alcohol or move young people on from public places. You can be fined or arrested. ตัวอย่างเกี่ยวกับกฎหมายอาญา มีดังนี้: • การพกอาวุธ: กฎหมายบัญญัติไว้ว่าการพกอาวุธใดๆ เช่น ปืน มีด หรืออะไรก็ตามที่ท�ำขึ้น หรือดัดแปลงเพือ่ ใช้เป็นอาวุธท�ำร้ายบุคคลอืน่ ให้ได้รบั บาดเจ็บ แม้ดว้ ยเหตุผลเพือ่ การป้องกัน ตัว ถือว่าเป็นการท�ำความผิดทางอาญา • ยาเสพติด: การซื้อขายยาเสพติดให้โทษ เช่น เฮโรอีน โคเคน ยาอี และกัญชา เป็นการกระท�ำ ที่ขัดต่อกฎหมายในสหราชอาณาจักร • อาชญากรรมทีม่ มี ลู เหตุมาจากการเหยียดผิวหรือเชือ้ ชาติ: การยุยงส่งเสริมให้มกี ารล่วงละเมิด หรือสร้างความรูส้ กึ หวาดผวา หรือเป็นทุกข์ให้แก่คนบางกลุม่ ด้วยเหตุผลทางด้านศาสนาหรือ เชื้อชาติ ถือว่าเป็นการท�ำความผิดทางอาญา • การขายยาสูบ: การขายผลิตภัณฑ์ยาสูบ (เช่น บุหรี่ ซิการ์ ยาสูบมวน) ให้แก่บุคคลที่มีอายุ ต�่ำกว่า 18 ปี เป็นการกระท�ำที่ขัดต่อกฎหมาย • การสูบบุหรีใ่ นทีส่ าธารณะ: การสูบบุหรีห่ รือยาสูบในอาคารสาธารณะแทบทุกแห่งในสหราช อาณาจักร เป็นการกระท�ำที่ขัดต่อกฎหมาย สถานที่เหล่านี้จะมีป้ายห้ามสูบบุหรี่ • การซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลอายุต�่ำกว่า 18 ปี หรือซือ้ เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ให้กบั บุคคลอายุตำ�่ กว่า 18 ปี ถือว่าเป็นการท�ำความผิดทางอาญา (กรณียกเว้น : บุคคลอายุ 16 ปีขนึ้ ไปสามารถดืม่ เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ขณะรับประทานอาหาร ที่โรงแรมหรือในร้านอาหารได้ – ดูหน้า 202) • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะ: สถานที่บางแห่งจะมีเขตปลอดสุรา คือ เขต Life in the UK 261
พื้นที่สาธารณะที่คุณไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ นอกจากนี้ ต�ำรวจยังสามารถที่ จะริบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสั่งให้วัยรุ่นออกไปจากพื้นที่สาธารณะ หรือลงโทษปรับหรือ จับกุมตัวคุณได้ This list does not include all crimes. There are many that apply in most countries, such as murder, theft and assault. You can find out more about types of crime in the UK at www.gov.uk รายการนีไ้ ม่ได้รวมถึงความผิดทางอาญาทุกประเภท ยังมีความผิดอืน่ ๆ อีกมากทีเ่ หมือนกับใน ประเทศส่วนใหญ่ เช่น ฆาตกรรม การลักทรัพย์ และการท�ำร้ายร่างกาย คุณจะหาข้อมูลเพิ่ม เติมเกี่ยวกับประเภทของความผิดทางอาญาในสหราชอาณาจักรได้ที่เว็บไซต์ www.gov.uk Examples of civil laws are: • Housing law: this includes disputes between landlords and tenants over issues such as repairs and eviction • Consumer rights: an example of this is a dispute about faulty goods or services. • Employment law: these cases include disputes over wages and cases of unfair dismissal or discrimination in the workplace. • Debt: people might be taken to court if they owe money to someone. ตัวอย่างเกี่ยวกับกฎหมายแพ่ง มีดังนี้: • กฎหมายทีอ่ ยูอ่ าศัย: กฎหมายนีจ้ ะใช้ในการแก้ปญ ั หาข้อพิพาทระหว่างเจ้าของบ้านและผูเ้ ช่า ในกรณีต่างๆ เช่น การซ่อมแซมบ้าน และการฟ้องขับไล่ผู้เช่า • สิทธิของผู้บริโภค: ตัวอย่างในเรื่องนี้ เช่น ข้อพิพาทเกี่ยวกับการให้บริการ หรือสินค้าที่ช�ำรุด หรือบกพร่อง • กฎหมายแรงงาน: ตัวอย่างเช่น กรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องค่าจ้าง หรือการเลิกจ้างโดย ไม่เป็นธรรม หรือการเลือกปฏิบัติในที่ท�ำงาน • หนี้สิน: ผู้ที่มีหนี้สินจากการกู้ยืมเงินใครก็ตาม อาจถูกฟ้องขึ้นศาลได้ The police and their duties
ต�ำรวจและหน้าที่ของต�ำรวจ
The job of the police in the UK is to: • protect life and property • prevent disturbances (also known as keeping the peace) • prevent and detect crime. 262 Life in the UK 3rd Edition
ต�ำรวจในสหราชอาณาจักรมีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้: • คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน • ป้องกันการก่อความไม่สงบ (หรือที่เรียกว่า การรักษาความสงบเรียบร้อย) • ป้องกันและสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรม The police are organised into a number of separate police forces headed by Chief Constables. They are independent of the government. ระบบงานต�ำรวจในสหราชอาณาจักรถูกจัดแบ่งออกเป็นหลายหน่วยปฏิบัติงาน แต่ละหน่วย มีหัวหน้าหน่วยงานต�ำรวจเป็นผู้ควบคุมดูแล ต�ำรวจมีการด�ำเนินงานที่เป็นอิสระ โดยไม่ขึ้น อยู่กับรัฐบาล In November 2012, the public elected Police and Crime Commissioners (PCCs) in England and Wales. These are directly elected individuals who are responsible for the delivery of an efficient and effective police force that reflects the needs of their local communities. PCCs set local police priorities and the local policing budget. They also appoint the local Chief Constable. ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ประชาชนทั่วไปได้ท�ำการเลือกตั้งผู้บัญชาการต�ำรวจและ ฝ่ายปราบปรามอาชญากรรม (พีซีซี) ในอังกฤษและเวลส์ ผู้บัญชาการแต่ละท่านที่ได้รับเลือก ตั้งมาโดยตรงนี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการก�ำกับดูแลการปฏิบัติงานของต�ำรวจ เพื่อให้สามารถ ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บัญชาการต�ำรวจ จะก�ำหนดจุดมุง่ หมายหลักและจัดสรรงบประมาณต�ำรวจในท้องถิน่ และแต่งตัง้ หัวหน้าหน่วย งานต�ำรวจในท้องถิ่น The police in the UK protect life and property, prevent disturbances, and prevent and detect crime ต�ำรวจในสหราชอาณาจักรมีหน้าที่คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ป้องกันการ ก่อความไม่สงบ และป้องกันและสืบสวนคดีอาชญากรรม The police force is a public service that helps and protects everyone, no matter what their background or where they live. Police officers must themselves obey the law. They must not misuse their authority, make a false statement, be rude or abusive, or commit racial discrimination. If police officers are corrupt or misuse their authority they are severely punished. ต�ำรวจเป็นหน่วยงานราชการทีจ่ ะต้องให้ความช่วยเหลือและคุม้ ครองประชาชนทุกคน ไม่วา่ เขา ผู้นั้นจะเป็นใคร มาจากไหน หรือมีภูมิหลังเช่นใด เจ้าหน้าที่ต�ำรวจจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย Life in the UK 263
และต้องไม่ใช้อ�ำนาจในทางมิชอบ หรือให้การเท็จ พูดจาหยาบคาย หรือแสดงพฤติกรรม ก้าวร้าวรุนแรง หรือเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมด้วยเหตุผลในเรื่องเชื้อชาติ หากเจ้าหน้าที่ ต�ำรวจท�ำการทุจริตในหน้าที่ หรือใช้อำ� นาจในทางมิชอบ เขาจะได้รบั การลงโทษในขัน้ ทีร่ นุ แรง Police officers are supported by police community support officers (PCSOs). PCSOs have different roles according to the area but usually patrol the streets, work with the public, and support police officers at crime scenes and major events. เจ้าหน้าที่ดูแลชุมชน (พีซีเอสโอ) จะเป็นผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนการท�ำงานของเจ้าหน้าที่ ต�ำรวจ เจ้าหน้าที่ดูแลชุมชนมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละเขตพื้นที่ แต่ปกติแล้ว เจ้า หน้าที่ดูแลชุมชนจะท�ำหน้าที่เดินตรวจบนท้องถนน ให้ความร่วมมือกับประชาชน และช่วย เหลือเจ้าหน้าที่ต�ำรวจในการตรวจสถานที่เกิดเหตุอาชญากรรม และเมื่อมีเหตุการณ์ร้ายแรง ต่างๆ เกิดขึ้น All people in the UK are expected to help the police prevent and detect crimes whenever they can. If you are arrested and taken to a police station, a police officer will tell you the reason for your arrest and you will be able to seek legal advice. พลเมืองทุกคนในสหราชอาณาจักรควรให้ความช่วยเหลือแก่ต�ำรวจในการท�ำหน้าที่ป้องกัน และสืบสวนคดีอาชญากรรมทุกครัง้ ทีส่ ามารถท�ำได้ หากคุณถูกต�ำรวจจับและน�ำตัวไปทีส่ ถานี ต�ำรวจ เจ้าหน้าที่ต�ำรวจจะแจ้งให้คุณทราบถึงเหตุผลที่คุณถูกจับ และคุณมีสิทธิ์ที่จะขอค�ำ แนะน�ำทางกฎหมายได้ If something goes wrong, the police complaints system tries to put it right. Anyone can make a complaint about the police by going to a police station or writing to the Chief Constable of the police force involved. Complaints can also be made to an independent body: the Independent Police Complaints Commission in England and Wales, the Police Complaints Commissioner for Scotland or the Police Ombudsman for Northern Ireland. หากมีปัญหาเกี่ยวกับการท�ำงานของต�ำรวจ องค์กรต�ำรวจมีระบบการร้องทุกข์เพื่อช่วยแก้ไข ความเดือดร้อนของประชาชน พลเมืองทุกคนสามารถร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ ต�ำรวจได้ โดยไปร้องทุกข์ที่สถานีต�ำรวจ หรือเขียนค�ำร้องทุกข์ไปถึงหัวหน้าต�ำรวจผู้ควบคุม หน่วยปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง หรือส่งค�ำร้องทุกข์ไปที่องค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมาธิการอิสระ ตรวจสอบการร้องเรียนของประชาชนเกี่ยวกับการท�ำงานของต�ำรวจ (The Independent Police Complaints Commission) ในอังกฤษและเวลส์ หรือคณะกรรมาธิการรับการร้อง ทุกข์ในสก็อตแลนด์ หรือศูนย์รับการร้องทุกข์เกี่ยวกับต�ำรวจในไอร์แลนด์เหนือ 264 Life in the UK 3rd Edition
Terrorism and extremism
การก่อการร้ายและลัทธิสุดโต่ง
The UK faces a range of terrorist threats. The most serious of these is from AI Qa’ida, its affiliates and like-minded organisations. The UK also faces threats from other kinds of terrorism, such as Northern Ireland-related terrorism. สหราชอาณาจักรก�ำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากการก่อการร้าย และที่ร้ายแรงมากที่สุดมาจาก องค์กรก่อการร้ายอัลเคด้า และกลุ่มที่อยู่ในเครือข่ายอัลเคด้า และองค์กรก่อการร้ายที่ยึดถือ อุดมการณ์เดียวกัน นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังมีภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในรูปแบ บอื่นๆ เช่น การก่อการร้ายที่เกี่ยวข้องกับไอร์แลนด์เหนือ All terrorist groups try to radicalise and recruit people to their cause. How, where and to what extent they try to do so will vary. Evidence shows that these groups attract very low levels of public support, but people who want to make their home in the UK should be aware of this threat. It is important that all citizens feel safe. This includes feeling safe from all kinds of extremism (vocal or active opposition to fundamental British values), including religious extremism and far- right extremism. กลุ่มผู้ก่อการร้ายจะพยายามเผยแผ่ความคิด เพื่อล้างสมองและระดมหาสมาชิกมาสนับสนุน อุดมการณ์ของตน โดยใช้วิธีการ และสถานที่เพื่อให้ได้สมาชิกมากหรือน้อยต่างกันไป มีหลัก ฐานแสดงให้เห็นว่ากลุม่ ผูก้ อ่ การร้ายเหล่านีไ้ ด้รบั การสนับสนุนจากประชาชนน้อยมาก อย่างไร ก็ตาม ผู้ท่ีต้องการตั้งถิ่นฐานอยู่ในสหราชอาณาจักรควรตระหนักถึงภัยในข้อนี้ ความรู้สึก ปลอดภัยของพลเมืองอังกฤษเป็นเรื่องที่ส�ำคัญ ทั้งนี้ รวมถึง ความรู้สึกปลอดภัยจากลัทธิสุด โต่งทุกรูปแบบ (ลัทธิตอ่ ต้านคุณค่าพืน้ ฐานทีส่ ำ� คัญของอังกฤษด้วยค�ำพูดหรือการกระท�ำ) และ จากแนวคิดสุดโต่งทางศาสนา และอุดมการณ์ประเภทขวาจัด If you think someone is trying to persuade you to join an extremist or terrorist cause, you should notify your local police force. หากคุณคิดว่ามีคนพยายามทีจ่ ะชักชวนให้คณ ุ เข้าร่วมลัทธิสดุ โต่งหรืออุดมการณ์ของผูก้ อ่ การร้าย คุณควรแจ้งต�ำรวจในเขตท้องที่ของคุณ
Life in the UK 265
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The difference between civil and criminal law and some examples of each √ The duties of the police √ The possible terrorist threats facing the UK √ ความแตกต่างระหว่างกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญา และตัวอย่างการท�ำความ ผิดกฎหมายแต่ละประเภท √ หน้าที่ของต�ำรวจ √ ภัยคุกคามจากการก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ในสหราชอาณาจักร
The role of the courts
บทบาทของศาลต่างๆ ในสหราชอาณาจักร THE JUDICIARY ฝ่ายตุลาการ Judges (who are together called ‘the judiciary’) are responsible for interpreting the law and ensuring that trials are conducted fairly. The government cannot interfere with this. ผู้พิพากษา (รวมกันแล้วเรียกว่า ‘ฝ่ายตุลาการ’) มีหน้าที่รับผิดชอบในการตีความกฎหมาย และดูแลให้มกี ารพิจารณาคดีความด้วยความเป็นธรรม โดยทีร่ ฐั บาลไม่สามารถทีจ่ ะแทรกแซง หน้าที่ของฝ่ายตุลาการได้ Sometimes the actions of the government are claimed to be illegal. If the judges agree, then the government must either change its policies or ask Parliament to change the law. If judges find that a public body is not respecting someone’s legal rights, they can order that body to change its practices and/ or pay compensation. มีบางครั้งที่รัฐบาลท�ำสิ่งที่ถูกกล่าวหาว่าผิดกฎหมาย หากผู้พิพากษาเห็นด้วยกับข้อกล่าวหา นั้น รัฐบาลจะต้องเปลี่ยนแปลงนโยบาย หรือไม่ก็ต้องร้องขอให้รัฐสภาเปลี่ยนกฎหมายใหม่ 266 Life in the UK 3rd Edition
หากผู้พิพากษาเห็นว่าองค์กรของรัฐไม่เคารพสิทธิตามกฎหมายของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผู้ พิพากษาสามารถที่จะสั่งให้องค์กรนั้นๆ เปลี่ยนแปลงวิธีการปฏิบัติ และ/หรือ ชดใช้ค่าเสีย หายให้แก่บุคคลผู้นั้นได้ Judges also make decisions in disputes between members of the public or organisations. These might be about contracts, property or employment rights or after an accident. นอกจากนี้ ผู้พิพากษายังท�ำหน้าที่พิจารณาตัดสินคดีข้อพิพาทระหว่างคนธรรมดาทั่วไป หรือ ระหว่างองค์กร ซึง่ อาจเป็นเรือ่ งเกีย่ วกับสัญญาข้อตกลง ทรัพย์สนิ หรือสิทธิตามสัญญาจ้างงาน หรือการใช้สิทธิภายหลังการเกิดอุบัติเหตุ CRIMINAL COURTS ศาลอาญา There are some differences between the court systems in England and Wales, Scotland and Northern Ireland. ระบบศาลในอังกฤษและเวลส์ กับระบบศาลในสก็อตแลนด์ และระบบศาลในไอร์แลนด์เหนือ มีความแตกต่างกันบ้าง Magistrates’ and Justice of the Peace Courts ศาลแมจิสเตรท และศาลแขวง In England, Wales and Northern Ireland, most minor criminal cases are dealt with in a Magistrates’ Court. In Scotland, minor criminal offences go to a Justice of the Peace Court. คดีอาญาส่วนใหญ่ที่ไม่ร้ายแรงในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ จะได้รับการพิจารณา ตัดสินโดยผู้พิพากษาศาลแมจิสเตรท ส�ำหรับในสก็อตแลนด์ ผู้พิพากษาศาลแขวงจะท�ำหน้าที่ พิจารณาตัดสินคดีอาญาที่ไม่ร้ายแรง Magistrates and Justices of the Peace (JPs) are members of the local community. In England, Wales and Scotland they usually work unpaid and do not need legal qualifications. They receive training to do the job and are supported by a legal adviser. Magistrates decide the verdict in each case that comes before them and, if the person is found guilty, the sentence that they are given. In Northern Ireland, cases are heard by a District Judge or Deputy District Judge, who is legally qualified and paid. Life in the UK 267
แมจิสเตรท (ผู้พิพากษาศาลแมจิสเตรท) และผู้พิพากษาศาลแขวง เป็นคนในชุมชนท้องถิ่น ปกติแล้ว แมจิสเตรท หรือผู้พิพากษาศาลแขวงในอังกฤษ เวลส์ และสก็อตแลนด์ จะท�ำหน้าที่ พิจารณาคดีความโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน และไม่จ�ำเป็นต้องมีคุณวุฒิทางกฎหมาย อย่างไร ก็ตาม ผู้พิพากษาเหล่านี้จะได้รับการอบรมเพื่อให้สามารถท�ำหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม โดยมี ที่ปรึกษาด้านกฎหมายคอยให้ความช่วยเหลือ แมจิสเตรทจะท�ำหน้าที่พิพากษาคดีที่มีการยื่น เรื่องมาให้พิจารณา และหากพบว่าจ�ำเลยมีความผิดจริง แมจิสเตรทจะตัดสินลงโทษจ�ำเลย ผู้นั้น ในไอร์แลนด์เหนือจะมีการพิจารณาคดีโดยผู้พิพากษาศาลแขวง หรือรองผู้พิพากษาศาล แขวง ที่มีคุณวุฒิทางกฎหมายและได้รับค่าตอบแทน Crown Courts and Sheriff Courts ศาลสูงคดีอาญา และศาลอ�ำเภอ The Old Bailey is probably the most famous criminal court in the world ดิ โอลด์ เบลีย์ คือ ศาลอาญากลางของอังกฤษ ที่อาจกล่าวได้ว่ามีชื่อเสียงที่สุดในโลก In England, Wales and Northern Ireland, serious offences are tried in front of a judge and a jury in a Crown Court. In Scotland, serious cases are heard in a Sheriff Court with either a sheriff or a sheriff with a jury. The most serious cases in Scotland, such as murder, are heard at a High Court with a judge and jury. A jury is made up of members of the public chosen at random from the local electoral register (see page 247). In England, Wales and Northern Ireland a jury has 12 members, and in Scotland a jury has 15 members. Everyone who is summoned to do jury service must do it unless they are not eligible (for example, because they have a criminal conviction) or they provide a good reason to be excused, such as ill health. ในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ การพิจารณาคดีอาญาร้ายแรงจะกระท�ำต่อหน้า ผู้พิพากษาและคณะลูกขุนในศาลสูงคดีอาญา ในสก็อตแลนด์จะมีการพิจารณาคดีอาญาร้าย แรงในศาลอ�ำเภอโดยผู้พิพากษา หรือผู้พิพากษากับคณะลูกขุน ส�ำหรับคดีอุกฉกรรจ์ หรือ คดีอาญาที่ร้ายแรงที่สุด เช่น คดีฆาตกรรม ในสก็อตแลนด์ จะมีการพิจารณาคดีในศาลสูงคดี อาญาต่อหน้าผู้พิพากษาและคณะลูกขุน คณะลูกขุนประกอบด้วยคนธรรมดาทั่วไปที่สุ่มเลือก จากทะเบียนรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในท้องถิ่น (ดูหน้า 247) คณะลูกขุนในอังกฤษ เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ จะประกอบด้วยสมาชิก 12 คน ส่วนคณะลูกขุนในสก็อตแลนด์จะประกอบ ด้วยสมาชิก 15 คน ผู้ที่ได้รับการเรียกตัวให้ไปท�ำหน้าที่ในคณะลูกขุนจะต้องปฏิบัติตามค�ำสั่ง ยกเว้นกรณีที่ขาดคุณสมบัติ (เช่น เนื่องจากมีประวัติการท�ำความผิดทางอาญา) หรือมีข้ออ้าง ที่มีเหตุผลสมควร เช่น เจ็บป่วย เป็นต้น 268 Life in the UK 3rd Edition
The jury has to listen to the evidence presented at the trial and then decide a verdict of ‘guilty’ or ‘not guilty’ based on what they have heard. In Scotland, a third verdict of ‘not proven’ is also possible. If the jury finds a defendant guilty, the judge decides on the penalty. คณะลูกขุนจะรับฟังพยานหลักฐานทีค่ คู่ วามน�ำมาสืบต่อศาล แล้วตัดสินชีข้ าดว่าจ�ำเลย ‘มีความ ผิด’ หรือ ‘ไม่มคี วามผิด’ โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานทีไ่ ด้รบั ฟัง ในสก็อตแลนด์ คณะลูกขุน ยังสามารถพิพากษาตามทางเลือกที่สาม นั่นคือ ‘พิสูจน์ไม่ได้ว่ากระท�ำผิด’ หากคณะลูกขุน เห็นพ้องต้องกันว่าจ�ำเลยมีความผิด ผู้พิพากษาก็จะตัดสินลงโทษตามตัวบทกฎหมายต่อไป Youth Courts ศาลคดีเยาวชน In England, Wales and Northern Ireland, if an accused person is aged 10 to 17, the case is normally heard in a Youth Court in front of up to three specially trained magistrates or a District Judge. The most serious cases will go to the Crown Court. The parents or carers of the young person are expected to attend the hearing. Members of the public are not allowed in Youth Courts, and the name or photographs of the accused young person cannot be published in newspapers or used by the media. ปกติแล้ว ในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ การพิจารณาคดีสำ� หรับผูต้ อ้ งหาทีม่ อี ายุระหว่าง 10 ถึง 17 ปี จะกระท�ำในศาลคดีเยาวชนต่อหน้าแมจิสเตรท หรือผู้พิพากษาศาลแขวงที่ผ่าน การอบรมมาเป็นพิเศษ 3 ท่าน ส�ำหรับคดีอุกฉกรรจ์ที่ร้ายแรงที่สุดจะมีการพิจารณาตัดสินที่ ศาลสูงคดีอาญา ในการพิจารณาคดีที่ศาลคดีเยาวชน ศาลคาดหมายให้ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ผู้เยาว์เข้าร่วมฟังการพิจารณาด้วย แต่ประชาชนทั่วไปจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ารับฟังการ พิจารณา และห้ามเปิดเผยชื่อ หรือภาพถ่ายของผู้เยาว์ที่ถูกกล่าวหาในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือ ใช้ในการเผยแพร่ข่าวโดยสื่อมวลชน In Scotland a system called the Children’s Hearings System is used to deal with children and young people who have committed an offence. ในสก็อตแลนด์จะมีระบบการพิจารณาคดีเด็ก (Children’s Hearings System) เพือ่ ใช้ในการ ด�ำเนินคดีกับเด็กและวัยรุ่นที่ท�ำผิดกฎหมาย Northern Ireland has a system of youth conferencing to consider how a child should be dealt with when they have committed an offence. Life in the UK 269
ไอร์แลนด์เหนือมีระบบการประชุมคดีเยาวชน เพื่อพิจารณาว่าควรด�ำเนินการกับเด็กที่ท�ำผิด กฎหมายอย่างไร CIVIL COURTS ศาลแพ่ง County Courts ศาลจังหวัด County Courts deal with a wide range of civil disputes. These include people trying to get back money that is owed to them, cases involving personal injury, family matters, breaches of contract, and divorce. In Scotland, most of these matters are dealt with in the Sheriff Court. More serious civil cases - for example, when a large amount of compensation is being claimed - are dealt with in the High Court in England, Wales and Northern Ireland. In Scotland, they are dealt with in the Court of Session in Edinburgh. ศาลจังหวัดมีหน้าทีด่ ำ� เนินการกับข้อพิพาทต่างๆ ทีเ่ ป็นคดีทางแพ่ง เช่น คดีการเรียกร้องให้ลกู หนี้ช�ำระหนี้ หรือคดีเกี่ยวกับการบาดเจ็บส่วนบุคคล คดีครอบครัว คดีการละเมิดสัญญา และ การหย่าร้าง เป็นต้น ในสก็อตแลนด์ ข้อพิพาทเหล่านี้ส่วนใหญ่จะได้รับการพิจารณาตัดสินใน ศาลอ�ำเภอ ส�ำหรับคดีแพ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ใหญ่กว่า เช่น กรณีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน จ�ำนวนมาก ศาลสูงในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือจะท�ำหน้าที่พิจารณาตัดสินคดีดัง กล่าว ในสก็อตแลนด์จะมีการพิจารณาคดีเหล่านี้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีแพ่งในกรุงเอดินเบอระ The small claims procedure
การด�ำเนินการเรียกร้องรายย่อย
The small claims procedure is an informal way of helping people to settle minor disputes without spending a lot of time and money using a lawyer. This procedure is used for claims of less than £5,000 in England and Wales and £3,000 in Scotland and Northern Ireland. The hearing is held in front of a judge in an ordinary room, and people from both sides of the dispute sit around a table. Small claims can also be issued online through Money Claims Online (www.moneyclaim.gov.uk). การด�ำเนินการเรียกร้องรายย่อย เป็นวิธกี ารแก้ปญ ั หาข้อพิพาทเล็กๆ น้อยๆ เพือ่ ช่วยให้คพู่ พิ าท 270 Life in the UK 3rd Edition
สามารถตกลงประนีประนอมกันได้โดยไม่ต้องพึ่งทนายความ ซึ่งจะท�ำให้ต้องเสียเงินและเวลา มากมาย ปกติวิธีการนี้จะใช้ในกรณีการเรียกร้องเงินจ�ำนวนไม่ถึง 5,000 ปอนด์ ในอังกฤษ และเวลส์ และไม่ถึง 3,000 ปอนด์ ในสก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ การพิจารณาข้อเรียก ร้องจะจัดขึ้นในห้องธรรมดาต่อหน้าผู้พิพากษา โดยมีคู่พิพาททั้งสองฝ่ายนั่งรอบโต๊ะ นอกจาก นี้ การเรียกร้องรายย่อยยังสามารถท�ำได้ทางอินเทอร์เน็ต โดยใช้บริการเรียกร้องเงินออนไลน์ (Money Claims Online) (เว็บไซต์ www.moneyclaim.gov.uk) You can get details about the small claims procedure from your local County Court or Sheriff Court. Details of your local court can be found as follows: • England and Wales: at www.gov.uk • Scotland: at www.scotcourts.gov.uk • Northern Ireland: at www.courtsni.gov.uk คุณสามารถขอรายละเอียดเกีย่ วกับวิธกี ารเรียกร้องรายย่อยได้ทศี่ าลจังหวัด หรือศาลอ�ำเภอใน เขตพืน้ ทีข่ องคุณ รายละเอียดเกีย่ วกับศาลในเขตพืน้ ทีข่ องคุณจะหาได้จากแหล่งข้อมูลต่อไปนี:้ • อังกฤษ และเวลส์: ที่เว็บไซต์ www.gov.uk • สก็อตแลนด์: ที่เว็บไซต์ www.scotcourts.gov.uk • ไอร์แลนด์เหนือ: ที่เว็บไซต์ www.courtsni.gov.uk Legal advice
ค�ำแนะน�ำทางกฏหมาย SOLICITORS ทนายความ Solicitors are trained lawyers who give advice on legal matters, take action for their clients and represent their clients in court. ทนายความเป็นผู้ที่เล่าเรียนและได้รับการอบรมในด้านการให้ค�ำแนะน�ำทางกฎหมายในคดี ต่างๆ หรือด�ำเนินการแทนลูกความ และเป็นตัวแทนลูกความในศาล There are solicitors’ offices throughout the UK. It is important to find out which aspects of law a solicitor specialises in and to check that they have the right experience to help you with your case. Many advertise in local newspapers and in Yellow Pages. The Citizens Advice Bureau (www.citizensadvice.org.uk) can Life in the UK 271
give you names of local solicitors and which areas of law they specialise in. You can also get this information from the Law Society (www.lawsociety.org.uk) in England and Wales, the Law Society of Scotland (www. lawscot.org.uk) or the Law Society of Northern Ireland (www. lawsoc-ni.org). Solicitors’ charges are usually based on how much time they spend on a case. It is very important to find out at the start how much a case is likely to cost. ส�ำนักงานทนายความมีอยู่ทั่วสหราชอาณาจักร คุณควรทราบว่าทนายความมีความเชี่ยวชาญ พิเศษในข้อกฎหมายที่ต่างกัน ดังนั้น คุณจึงควรตรวจสอบดูว่า ทนายความที่คุณเลือกมีความ รูแ้ ละประสบการณ์ทเี่ หมาะสมส�ำหรับช่วยเหลือในคดีของคุณหรือไม่ ทนายความส่วนใหญ่จะ โฆษณาการให้บริการในหนังสือพิมพ์ทอ้ งถิน่ และสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง และคุณจะขอทราบ รายชือ่ ทนายความในท้องถิน่ และความเชีย่ วชาญพิเศษของทนายความเหล่านีไ้ ด้จากหน่วยงาน ให้ค�ำแนะน�ำแก่ประชาชน (Citizens Advice Bureau) (เว็บไซต์ www.citizensadvice.org. uk) หรือขอข้อมูลนีจ้ ากสมาคมกฎหมาย (เว็บไซต์ www.lawsociety.org.uk) ในอังกฤษ และ เวลส์ หรือสมาคมกฎหมายของสก็อตแลนด์ (เว็บไซต์ www. lawscot.org.uk) หรือสมาคม กฎหมายของไอร์แลนด์เหนือ (เว็บไซต์ www. lawsoc-ni.org) ปกติทนายความจะคิดค่า บริการ โดยประเมินจากจ�ำนวนชั่วโมงที่ให้บริการ เป็นสิ่งส�ำคัญมากที่คุณจะต้องทราบตั้งแต่ แรกว่า คุณจะเสียค่าใช้จ่ายในคดีของคุณประมาณเท่าไร
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The role of the judiciary √ About the different criminal courts in the UK √ About the different civil courts in the UK √ How you can settle a small claim √ บทบาทหน้าที่ของฝ่ายตุลาการ √ ศาลต่างๆ ที่ท�ำหน้าที่พิจารณาคดีอาญาในสหราชอาณาจักร √ ศาลต่างๆ ที่ท�ำหน้าที่พิจารณาคดีแพ่งในสหราชอาณาจักร √ วิธีการเรียกร้องเงินรายย่อย
272 Life in the UK 3rd Edition
FUNDAMENTAL PRINCIPLES
หลักการพื้นฐานที่ส�ำคัญ
Britain has a long history of respecting an individual’s rights and ensuring essential freedoms. These rights have their roots in Magna Carta, the Habeas Corpus Act and the Bill of Rights of 1689 (see pages 42, 63 and 70), and they have developed over a period of time. British diplomats and lawyers had an important role in drafting the European Convention on Human Rights and Fundamental Freedoms. The UK was one of the first countries to sign the Convention in 1950. การเคารพสิทธิขนั้ พืน้ ฐานทีส่ ำ� คัญของปัจเจกบุคคลในอังกฤษมีประวัตคิ วามเป็นมาทีย่ าวนาน สิทธิเหล่านีม้ รี ากฐานมาจากมหากฎบัตรแม็กนาคาร์ตา พระราชบัญญัติ Habeas Corpus Act และพระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิ ปี ค.ศ. 1689 (ดูหน้า 42, 63 และ 70) และได้มีการพัฒนามา ตามล�ำดับ ทูตานุทตู และนักกฎหมายของอังกฤษมีบทบาททีส่ ำ� คัญในการร่างอนุสญ ั ญาว่าด้วย สิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขัน้ พืน้ ฐานแห่งยุโรป และสหราชอาณาจักรเป็นหนึง่ ในกลุม่ ประเทศ แรกที่ลงนามในอนุสัญญาดังกล่าวในปี ค.ศ. 1950 Some of the principles included in the European Convention on Human Rights are: • right to life • prohibition of torture • prohibition of slavery and forced labour • right to liberty and security • right to a fair trial • freedom of thought, conscience and religion • freedom of expression (speech). อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปประกอบด้วยหลักการที่ส�ำคัญๆ บางประการ ดังนี้: • สิทธิในการมีชีวิตอยู่ • ห้ามทรมาน • ห้ามบังคับบุคคลให้เป็นทาส และใช้แรงงานบังคับ • สิทธิในการมีเสรีภาพและความมั่นคงในชีวิต • สิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีด้วยความเป็นธรรม • เสรีภาพทางความคิด มโนธรรม และศาสนา • เสรีภาพในการแสดงออก (เสรีภาพในการพูด) Life in the UK 273
The Human Rights Act 1998 incorporated the European Convention on Human Rights into UK law. The government, public bodies and the courts must follow the principles of the Convention. พระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ปี ค.ศ. 1998 ได้ผนวกอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แห่งยุโรปเข้าไว้เป็นส่วนหนึง่ ของกฎหมายในสหราชอาณาจักร รัฐบาล องค์กรของรัฐ และศาล จะต้องยึดถือปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้ในอนุสัญญานี้ Equal opportunities
การมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน UK laws ensure that people are not treated unfairly in any area of life or work because of their age, disability, sex, pregnancy and maternity, race, religion or belief, sexuality or marital status. If you face problems with discrimination, you can get more information from the Citizens Advice Bureau or from one of the following organisations: • England and Wales: Equality and Human Rights Commission (www.equalityhumanrights.com) • Scotland: Equality and Human Rights Commission in Scotland (www.equalityhumanrights.com/scotland/the-commission¬in-scotland) and Scottish Human Rights Commission (www. scottishhumanrights.com) • Northern Ireland: Equality Commission for Northern Ireland (www.equalityni.org) • Northern Ireland Human Rights Commission (www.nihrc.org). ตามหลักกฎหมายของสหราชอาณาจักร พลเมืองทุกคนจะมีสทิ ธิเสรีภาพในการด�ำเนินชีวติ และ การท�ำงานเท่าเทียมกัน โดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติหรือกีดกันด้วยเหตุผลทางอายุ ความพิการ เพศ การมีครรภ์และการลาคลอด หรือเชือ้ ชาติ ศาสนา ความเชือ่ เพศวิถี หรือสถานะการสมรส หาก คุณเป็นผู้หนึ่งที่มีปัญหาถูกเลือกปฏิบัติ คุณสามารถติดต่อขอค�ำแนะน�ำหรือข้อมูลเพิ่มเติมได้ จากหน่วยงานให้คำ� แนะน�ำแก่ประชาชน (Citizens Advice Bureau) หรือจากองค์กรต่อไปนี:้ • อังกฤษและเวลส์: คณะกรรมาธิการส่งเสริมความเสมอภาคและสิทธิมนุษยชน (www. equalityhumanrights.com) • สก็อตแลนด์: คณะกรรมาธิการส่งเสริมความเสมอภาคและสิทธิมนุษยชนในสก็อตแลนด์ (www.equalityhumanrights.com/scotland/the-commission¬in-scotland) และ คณะกรรมาธิการพิทกั ษ์สทิ ธิมนุษยชนแห่งสก็อตแลนด์ (www. scottishhumanrights.com) 274 Life in the UK 3rd Edition
• ไอร์แลนด์เหนือ: คณะกรรมาธิการส่งเสริมความเสมอภาคส�ำหรับไอร์แลนด์เหนือ (www. equalityni.org) • คณะกรรมาธิการพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแห่งไอร์แลนด์เหนือ (www.nihrc.org). Domestic violence
ความรุนแรงในครอบครัว
In the UK, brutality and violence in the home is a serious crime. Anyone who is violent towards their partner - whether they are a man or a woman, married or living together - can be prosecuted. Any man who forces a woman to have sex, including a woman’s husband, can be charged with rape. การกระท�ำที่โหดร้ายและรุนแรงต่อคนในครอบครัว ถือเป็นความผิดทางอาญาขั้นรุนแรงใน สหราชอาณาจักร บุคคลที่ก้าวร้าวรุนแรงต่อคู่ครองของตนเอง – ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหญิงหรือ ฝ่ายชาย แต่งงานกันแล้ว หรือแค่อยู่กินด้วยกันก็ตาม – บุคคลผู้นั้นสามารถถูกด�ำเนินคดีได้ ตามกฎหมาย ชายที่ใช้ก�ำลังบังคับให้หญิงมีเพศสัมพันธ์ด้วย ถึงแม้จะเป็นสามีของหญิงผู้นั้น ก็อาจถูกกล่าวหาว่าท�ำความผิดฐานข่มขืนได้ It is important for anyone facing domestic violence to get help as soon as possible. A solicitor or the Citizens Advice Bureau can explain the available options. In some areas there are safe places to go and stay in, called refuges or shelters. There are emergency telephone numbers in the helpline section at the front of Yellow Pages, including, for women, the number of the nearest women’s centre. You can also phone the 24-hour National Domestic Violence Freephone Helpline on 0808 2000 247 at any time, or the police can help you find a safe place to stay. ผู้ที่มีปัญหาถูกท�ำร้ายในครอบครัวควรติดต่อขอความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด ทนายความ หรือ หน่วยงานให้ค�ำแนะน�ำแก่ประชาชน (Citizens Advice Bureau) สามารถให้คำ� แนะน�ำได้ ว่ามีทางเลือกอะไรบ้าง ในเขตพื้นที่บางแห่งจะมีสถานพ�ำนักที่ปลอดภัยส�ำหรับผู้ถูกท�ำร้าย เรียกว่า ที่พ�ำนักลี้ภัย หรือบ้านหลบภัย และในหมวดบริการโทรศัพท์สายให้ความช่วยเหลือ (Helpline) ที่ด้านหน้าของสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง จะมีหมายเลขโทรศัพท์เหตุฉุกเฉิน และ หมายเลขโทรศัพท์ของศูนย์ช่วยเหลือสตรีที่ใกล้บ้านที่สุดส�ำหรับผู้หญิงที่มีปัญหา นอกจาก นี้ คุณยังสามารถใช้บริการโทรศัพท์สายให้ความช่วยเหลือฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ส�ำหรับผู้ถูก ท�ำร้ายในครอบครัว หมายเลข 0808 2000 247 และต�ำรวจสามารถช่วยเหลือในการหาส ถานพ�ำนักที่ปลอดภัยให้คุณได้ด้วย Life in the UK 275
Female genital mutilation
การขลิบอวัยวะเพศสตรี
Female genital mutilation (FGM), also known as cutting or female circumcision, is illegal in the UK. Practising FGM or taking a girl or woman abroad for FGM is a criminal offence. การตัดหรือขลิบอวัยวะเพศสตรี (Female genital mutilation (FGM)) เป็นการกระท�ำที่ผิด กฎหมายในสหราชอาณาจักร การขลิบอวัยวะเพศสตรี หรือการน�ำเด็กหญิง หรือผู้หญิงไปรับ การขลิบอวัยวะเพศในต่างประเทศ ถือว่าเป็นการท�ำความผิดทางอาญา Forced marriage
การถูกบังคับให้แต่งงาน
A marriage should be entered into with the full and free consent of both people involved. Arranged marriages, where both parties agree to the marriage, are acceptable in the UK. ในการแต่งงาน คู่สมรสทั้งสองฝ่ายควรยินดีและเต็มใจที่จะแต่งงานกันด้วยความสมัครใจ การ แต่งงานแบบคลุมถุงชนที่คู่สมรสทั้งสองฝ่ายยินดีและเต็มใจที่จะแต่งงานกัน เป็นสิ่งที่ยอมรับ ได้ในสหราชอาณาจักร Forced marriage is where one or both parties do not or cannot give their consent to enter into the partnership. Forcing another person to marry is a criminal offence. การถูกบังคับให้แต่งงานเกิดขึ้นในกรณีที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่าย ไม่ยินยอม หรือไม่สามารถให้ค�ำยินยอมได้ว่าเต็มใจที่จะแต่งงาน การบีบบังคับให้ผู้ใดผู้หนึ่งสมรสกับอีก ผู้หนึ่ง ถือว่าเป็นการท�ำความผิดทางอาญา Forced Marriage Protection Orders were introduced in 2008 for England, Wales and Northern Ireland under the Forced Marriage (Civil Protection) Act 2007. Court orders can be obtained to protect a person from being forced into a marriage, or to protect a person in a forced marriage. Similar Protection Orders were introduced in Scotland in November 2011. มีการประกาศใช้ ค�ำสัง่ คุม้ ครองผูท้ ถี่ กู บังคับให้แต่งงาน ในอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือใน ปี ค.ศ. 2008 ภายใต้พระราชบัญญัตกิ ารคุม้ ครองผูท้ ถี่ กู บังคับให้แต่งงาน (การคุม้ ครองพลเมือง) 276 Life in the UK 3rd Edition
ปี ค.ศ. 2007 คุณสามารถยืน่ ขอค�ำสัง่ จากศาล เพือ่ คุม้ ครองตนเองจากการถูกบังคับให้แต่งงาน หรือเพือ่ คุม้ ครองผูท้ อี่ ยูใ่ นสภาพการสมรสทีเ่ กิดจากการบังคับได้ สก็อตแลนด์ได้ประกาศใช้คำ� สั่งคุ้มครองแบบเดียวกันนี้ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011 A potential victim, or someone acting for them, can apply for an order. Anyone found to have breached an order can be jailed for up to two years for contempt of court. ผู้ที่อาจถูกบังคับให้แต่งงาน หรือผู้ที่ท�ำหน้าที่แทนบุคคลเหล่านี้ สามารถยื่นค�ำร้องขอค�ำสั่ง จากศาลได้ บุคคลใดก็ตามที่ละเมิดค�ำสั่งของศาลอาจถูกตัดสินให้ต้องโทษจ�ำคุกถึง 2 ปี ด้วย ข้อหาหมิ่นประมาทศาล Taxation
การภาษีอากร INCOME TAX ภาษีเงินได้ People in the UK have to pay tax on their income, which includes: • wages from paid employment • profits from self-employment • taxable benefits • pensions • income from property, savings and dividends. ประชาชนในสหราชอาณาจักรจะต้องช�ำระภาษีเงินได้ของตนจากรายได้ต่างๆ ดังนี้: • เงินเดือน หรือค่าจ้างที่ได้รับจากการท�ำงาน • ก�ำไรจากการท�ำธุรกิจส่วนตัว • เงินสงเคราะห์จากรัฐบาลที่สามารถเรียกเก็บภาษีได้ • เงินบ�ำนาญ • รายได้จากทรัพย์สิน เงินฝากออมทรัพย์ และเงินปันผล Money raised from income tax pays for government services such as roads, education, police and the armed forces. รัฐบาลจะน�ำเงินที่ได้จากการเรียกเก็บภาษีเงินได้มาจัดสรรเป็นงบประมาณส�ำหรับการให้ บริการต่างๆ ของรัฐ เช่น การสร้างหรือบ�ำรุงรักษาถนน การศึกษา ต�ำรวจ และกองทัพ Life in the UK 277
For most people, the right amount of income tax is automatically taken from their income from employment by their employer and paid directly to HM Revenue & Customs (HMRC), the government department that collects taxes. This system is called ‘Pay As You Earn’ (PAYE). If you are self-employed, you need to pay your own tax through a system called ‘self-assessment’, which includes completing a tax return. Other people may also need to complete a tax return. If HMRC sends you a tax return, it is important to complete and return the form as soon as you have all the necessary information. คนส่วนใหญ่จะถูกหักภาษีจากเงินเดือนหรือค่าจ้างที่ได้รับในจ�ำนวนที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ โดยนายจ้างจะเป็นผูห้ กั และจ่ายภาษีโดยตรงไปทีก่ รมสรรพากรและศุลกากรอังกฤษ (HMRC) ซึง่ เป็นหน่วยงานราชการทีร่ บั ผิดชอบในการจัดเก็บภาษี ระบบการหักและจ่ายภาษีแบบนีเ้ รียก ว่า ‘ระบบการช�ำระภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย’ (PAYE) หากคุณประกอบธุรกิจส่วนตัว คุณจะต้อง ช�ำระค่าภาษีเอง ผ่านทางระบบที่เรียกว่า ‘การประเมินรายได้ของตนเอง’ โดยที่คุณจะต้อง กรอกข้อมูลในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ นอกจากนี้ยังมีคนอื่นๆ ที่อาจจ�ำเป็นต้องกรอก แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ด้วยเช่นกัน ในกรณีที่คุณได้รับแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ที่ กรมสรรพากรและศุลกากรอังกฤษส่งมาให้คณ ุ คุณจะต้องกรอกข้อมูลทีจ่ ำ� เป็นลงในแบบฟอร์ม นี้ให้เรียบร้อย แล้วส่งคืนโดยเร็วที่สุด You can find out more about income tax at www.hmrc.gov.uk/ incometax. You can get help and advice about taxes and completing tax forms from the HMRC selfassessment helpline, on 0845 300 0627, and the HMRC website at www.hmrc.gov.uk คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษีเงินได้นี้ได้ที่เว็บไซต์ www.hmrc.gov.uk/ incometax นอกจากนี้ คุณยังสามารถขอความช่วยเหลือและค�ำแนะน�ำเกี่ยวกับภาษีและการก รอกแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ โดยติดต่อสายให้ความช่วยเหลือของ HMRC ในเรื่องนี้ได้ที่ 0845 300 0627 หรือเข้าไปในเว็บไซต์ของ HMRC ที่ www.hmrc.gov.uk National Insurance
การประกันสังคมแห่งชาติ
Almost everybody in the UK who is in paid work, including self¬-employed people, must pay National Insurance Contributions. The money raised from National Insurance Contributions is used to pay for state benefits and services such as the state retirement pension and the National Health Service (NHS). 278 Life in the UK 3rd Edition
ผู้ที่มีรายได้จากการรับจ้างท�ำงานในสหราชอาณาจักรแทบทุกคน รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจส่วน ตัว จะต้องช�ำระเงินภาษีสมทบกองทุนประกันสังคมแห่งชาติ รัฐบาลจะน�ำเงินกองทุนประกัน สังคมทีไ่ ด้มานีไ้ ปใช้จา่ ยในการให้บริการแก่ประชาชน และจัดสรรเป็นเงินสวัสดิการต่างๆ เช่น เงินบ�ำนาญชราภาพ และงบประมาณส�ำหรับองค์การสาธารณสุขแห่งชาติ (NHS) Employees have their National Insurance Contributions deducted from their pay by their employer. People who are self-employed need to pay National Insurance Contributions themselves. นายจ้างจะหักเงินภาษีสมทบกองทุนประกันสังคมแห่งชาติ โดยหักจากเงินเดือนหรือค่าจ้างที่ จ่ายให้พนักงานหรือลูกจ้างของตน ส�ำหรับผูป้ ระกอบธุรกิจส่วนตัวจะต้องช�ำระเงินภาษีสมทบ กองทุนประกันสังคมแห่งชาติเอง Anyone who does not pay enough National Insurance Contributions will not be able to receive certain contributory benefits such as Jobseeker’s Allowance or a full state retirement pension. Some workers, such as part-time workers, may not qualify for statutory payments such as maternity pay if they do not earn enough. ผูท้ ชี่ ำ� ระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมแห่งชาติได้ไม่ครบ จะไม่มสี ทิ ธิไ์ ด้รบั เงินสงเคราะห์จาก รัฐในบางกรณี เช่น เงินช่วยเหลือขณะหางานท�ำ (Jobseeker’s Allowance) หรือเงินบ�ำนาญ ชราภาพเต็มตามจ�ำนวนขัน้ พืน้ ฐาน ลูกจ้างบางประเภท เช่น ลูกจ้างประเภทท�ำงานไม่เต็มเวลา หากมีรายได้ไม่เพียงพอ ลูกจ้างเหล่านีอ้ าจจะไม่มสี ทิ ธิไ์ ด้รบั เงินค่าจ้างตามทีก่ ฎหมายก�ำหนดไว้ เช่น การได้รับเงินค่าจ้างกรณีลาคลอด Further guidance about National Insurance Contributions is available on HMRC’s website at www.hmrc.gov.uk/ni โปรดหาข้อมูลหรือค�ำแนะน�ำเพิม่ เติมเกีย่ วกับการช�ำระเงินภาษีสมทบกองทุนประกันสังคมแห่ง ชาติได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากรและศุลกากรอังกฤษ www.hmrc.gov.uk/ni Getting a National Insurance number
การขอหมายเลขประกันสังคมแห่งชาติ
A National Insurance number is a unique personal account number. It makes sure that the National Insurance Contributions and tax you pay are properly recorded against your name. All young people in the UK are sent a National Insurance number just before their 16th birthday. Life in the UK 279
หมายเลขประกันสังคมแห่งชาติ เป็นหมายเลขประจ�ำตัวเฉพาะบุคคล หมายเลขประกันสังคม จะถูกใช้ในการเก็บบันทึกและตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายเงินภาษีเงินได้ และเงินภาษี สมทบกองทุนประกันสังคมแห่งชาติ ในรายการที่ตรงกับชื่อของคุณ เยาวชนทุกคนในสหราช อาณาจักรจะได้รับหมายเลขประกันสังคมแห่งชาติก่อนอายุครบ 16 ปี A non-UK national living in the UK and looking for work, starting work or setting up as self-employed will need a National Insurance number. However, you can start work without one. If you have permission to work in the UK, you will need to telephone the Department for Work and Pensions (DWP) to arrange to get a National Insurance number. You may be required to attend an interview. The DWP will advise you of the appropriate application process and tell you which documents you will need to bring to an interview if one is necessary. You will usually need documents that prove your identity and that you have permission to work in the UK. A National Insurance number does not on its own prove to an employer that you have the right to work in the UK. บุคคลสัญชาติอื่นที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร และก�ำลังมองหางานท�ำ หรือก�ำลังจะเริ่ม ท�ำงาน หรือก่อตั้งกิจการส่วนตัว จะต้องมีหมายเลขประกันสังคมแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม คุณ สามารถเริม่ ท�ำงานได้แม้วา่ จะยังไม่มหี มายเลขประกันสังคม หากคุณมีใบอนุญาตท�ำงานในสห ราชอาณาจักร คุณจะต้องโทรศัพท์ติดต่อกรมก�ำกับดูแลการท�ำงานและเบี้ยบ�ำนาญ (DWP) เพือ่ ท�ำเรือ่ งขอหมายเลขประกันสังคมของคุณ และคุณอาจต้องเข้ารับการสัมภาษณ์ กรมก�ำกับ ดูแลการท�ำงานและเบีย้ บ�ำนาญจะให้คำ� แนะน�ำเกีย่ วกับการยืน่ ขอหมายเลขประกันสังคมตาม ขั้นตอนที่ถูกต้อง และแจ้งให้ทราบว่า คุณจ�ำเป็นที่จะต้องน�ำเอกสารอะไรบ้างมาแสดงต่อเจ้า หน้าที่ในวันสัมภาษณ์ ปกติแล้วเอกสารที่น�ำไปแสดงจะต้องเป็นเอกสารที่สามารถใช้เป็นหลัก ฐานพิสูจน์ตัวตนของคุณ และรับรองได้ว่าคุณได้รับอนุญาตให้ท�ำงานในสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถใช้หมายเลขประกันสังคมเพียงอย่างเดียว เพือ่ เป็นหลักฐานยืนยัน กับนายจ้างได้ว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะท�ำงานในสหราชอาณาจักร You can find out more information about how to apply for a National Insurance number at www.gov.uk คุณสามารถหาข้อมูลเพิม่ เติมเกีย่ วกับวิธกี ารยืน่ ขอหมายเลขประกันสังคมแห่งชาติได้ทเี่ ว็บไซต์ www.gov.uk
280 Life in the UK 3rd Edition
Driving
การขับขี่
In the UK, you must be at least 17 years old to drive a car or motor cycle and you must have a driving licence to drive on public roads. To get a UK driving licence you must pass a driving test, which tests both your knowledge and your practical skills. You need to be at least 16 years old to ride a moped, and there are other age requirements and special tests for driving large vehicles. ในการขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ในสหราชอาณาจักร คุณต้องมีอายุไม่ต�่ำกว่า 17 ปี และต้องมีใบอนุญาตขับขี่ จึงจะสามารถขับรถบนถนนสาธารณะทั่วไปได้ และเพื่อให้ได้ใบ อนุญาตขับขี่ของสหราชอาณาจักร คุณจะต้องสอบใบขับขี่ให้ผ่าน การสอบใบขับขี่เป็นการ ทดสอบความรู้และทักษะในการขับรถของคุณ คุณต้องมีอายุไม่ต�่ำกว่า 16 ปี จึงจะสามารถ ขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดเบาได้ และหากต้องการขับรถยนต์หรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ คุณ ต้องมีอายุไม่ต�่ำกว่าที่กฎหมายก�ำหนดไว้ และต้องสอบใบขับขี่พิเศษให้ผ่าน Drivers can use their driving licence until they are 70 years old. After that, the licence is valid for three years at a time. ผูข้ บั ขีส่ ามารถใช้ใบอนุญาตขับขีถ่ าวรของตนเองได้จนกระทัง่ อายุ 70 ปี หลังจากนัน้ จะสามารถ ต่ออายุใบขับขี่ไปได้อีกครั้งละ 3 ปี In Northern Ireland, a newly qualified driver must display an ‘R’ plate (for restricted driver) for one year after passing the test. กฎหมายในไอร์แลนด์เหนือบังคับให้ผู้ท่ีได้รับใบอนุญาตขับขี่ใหม่ติดแสดงแผ่นป้ายที่มีอักษร อาร์ (R – Plate) (ส�ำหรับผู้ขับขี่จดทะเบียน) ไว้ที่รถ เป็นเวลาหนึ่งปีหลังจากสอบผ่าน If your driving licence is from a country in the European Union (EU), Iceland, Liechtenstein or Norway, you can drive in the UK for as long as your licence is valid. If you have a licence from any other country, you may use it in the UK for up to 12 months. To continue driving after that, you must get a UK full driving licence. หากคุณมีใบอนุญาตขับขี่จากประเทศในสหภาพยุโรป (อียู) หรือไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ หรือ นอร์เวย์ คุณจะสามารถขับรถในสหราชอาณาจักรได้ตราบเท่าที่ใบอนุญาตขับขี่ของคุณยังไม่ หมดอายุ หากคุณมีใบขับขี่จากประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่สมาชิกของสหภาพยุโรป คุณอาจใช้ใบ ขับขี่นี้ได้ในสหราชอาณาจักร แต่จะใช้ได้นานไม่เกิน 12 เดือน หลังจากนั้น คุณจะต้องด�ำเนิน การเพื่อสอบให้ได้ใบขับขี่ถาวรของสหราชอาณาจักร Life in the UK 281
If you are resident in the UK, your car or motor cycle must be registered at the Driver and Vehicle Licensing Agency (DVLA). You must pay an annual vehicle tax and display the tax disc, which shows that the tax has been paid, on the windscreen. You must also have valid motor insurance. It is a serious criminal offence to drive without insurance. If your vehicle is over three years old, you must take it for a Ministry of Transport (MOT) test every year. It is an offence not to have an MOT certificate if your vehicle is more than three years old. You can find out more about vehicle tax and MOT requirements from www.gov.uk หากคุ ณ เป็ น ผู ้ ที่ อ าศั ย อยู ่ ใ นสหราชอาณาจั ก ร คุ ณ จะต้ อ งจดทะเบี ย นรถยนต์ หรื อ รถ จักรยานยนต์ของคุณกับหน่วยงานก�ำกับดูแลใบอนุญาตขับขี่และยานพาหนะ (DVLA) ของ อังกฤษ คุณจะต้องช�ำระภาษีรถยนต์ประจ�ำปี และต้องติดแผ่นป้ายภาษีรถยนต์ไว้ที่กระจกบัง ลมหน้า เพื่อแสดงว่าคุณได้ช�ำระภาษีแล้ว และคุณต้องมีประภันภัยรถยนต์อย่างถูกต้องด้วย การขับขี่รถโดยไม่มีประกันภัยยานยนต์ ถือเป็นการท�ำความผิดทางอาญาขั้นรุนแรง หากรถ ของคุณอายุเกิน 3 ปี คุณต้องน�ำรถไปเข้ารับการตรวจสอบสภาพทุกๆ ปี ตามระเบียบข้อบังคับ ของกระทรวงคมนาคม (MOT) การขับขี่รถที่มีอายุเกิน 3 ปี โดยไม่มีใบรับรอง MOT เป็นการ ท�ำผิดกฎหมาย คุณสามารถหาข้อมูลเพิม่ เติมเกีย่ วกับภาษียานยนต์ และระเบียบข้อบังคับเกีย่ ว กับ MOT ได้จากเว็บไซต์ www.gov.uk
CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The fundamental principles of UK law √ That domestic violence, FGM and forced marriage are illegal in the UK √ The system of income tax and National Insurance √ The requirements for driving a car √ หลักการพื้นฐานที่ส�ำคัญตามกฎหมายของสหราชอาณาจักร √ ความรุนแรงในครอบครัว การขลิบอวัยวะเพศหญิง และการถูกบังคับให้แต่งงาน เป็นการท�ำผิดกฎหมายในสหราชอาณาจักร √ ระบบภาษีเงินได้ และระบบการประกันสังคมแห่งชาติ √ ข้อก�ำหนดเกี่ยวกับการขับขี่รถยนต์ 282 Life in the UK 3rd Edition
YOUR ROLE IN THE COMMUNITY
บทบาทหน้าที่ของคุณในชุมชน
Becoming a British citizen or settling in the UK brings responsibilities but also opportunities. Everyone has the opportunity to participate in their community. This section looks at some of the responsibilities of being a citizen and gives information about how you can help to make your community a better place to live and work. การโอนสัญชาติเป็นพลเมืองอังกฤษ หรือตั้งถิ่นฐานอยู่ในสหราชอาณาจักร น�ำมาซึ่งความรับ ผิดชอบ แต่กช็ ว่ ยให้คณ ุ ได้มโี อกาสใหม่ๆ ในชีวติ ด้วย ทุกคนมีโอกาสทีจ่ ะได้เข้าร่วมในกิจกรรม ของชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่ เนื้อหาในหมวดนี้จะครอบคลุมหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ ของ พลเมืองอังกฤษ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่คุณสามารถท�ำได้ เพื่อช่วยพัฒนาปรับปรุง ชุมชนของคุณให้เป็นที่ที่น่าอยู่อาศัยและเหมาะส�ำหรับการท�ำงานมากยิ่งขึ้น Values and responsibilities
คุณค่าและความรับผิดชอบ
Although Britain is one of the world’s most diverse societies, there is a set of shared values and responsibilities that everyone can agree with. These values and responsibilities include: • to obey and respect the law • to be aware of the rights of others and respect those rights • to treat others with fairness • to behave responsibly • to help and protect your family • to respect and preserve the environment • to treat everyone equally, regardless of sex, race, religion, age, disability, class or sexual orientation • to work to provide for yourself and your family • to help others • to vote in local and national government elections.
Life in the UK 283
แม้วา่ สังคมอังกฤษจะประกอบด้วยชุมชนทีม่ คี วามหลากหลายทางเชือ้ ชาติและวัฒนธรรมมาก ทีส่ ดุ แห่งหนึง่ ในโลก แต่องั กฤษมีคณ ุ ค่าและความรับผิดชอบทีท่ กุ คนเห็นสมควรทีจ่ ะยึดถือและ ปฏิบัติตามร่วมกัน คุณค่าและความรับผิดชอบเหล่านี้ ได้แก่: • การเชื่อฟังและเคารพกฎหมาย • การรับรู้เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น และเคารพสิทธิเหล่านั้น • การปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเป็นธรรม • การปฏิบัติตนด้วยความรับผิดชอบ • การช่วยเหลือและคุ้มครองครอบครัวของตนเอง • การเคารพและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม • การปฏิบตั ติ อ่ ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่คำ� นึงถึงความแตกต่างทางเพศ เชือ้ ชาติ ศาสนา อายุ ความพิการ ชนชั้น หรือเพศวิถี • การท�ำงานหาเงินเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัว • การช่วยเหลือผู้อื่น • การไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งผู้บริหารประเทศและท้องถิ่น Taking on these values and responsibilities will make it easier for you to become a full and active citizen. การยึดถือคุณค่าและความรับผิดชอบเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดี และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของคุณได้ง่ายขึ้น Being a good neighbour
การปฏิบัติตนเป็นเพื่อนบ้านที่ดี
When you move into a new house or apartment, introduce yourself to the people who live near you. Getting to know your neighbours can help you to become part of the community and make friends. Your neighbours are also a good source of help -for example, they may be willing to feed your pets if you are away, or offer advice on local shops and services. เมือ่ คุณย้ายเข้าบ้านหรืออพาร์ทเมนท์หลังใหม่ คุณควรไปแนะน�ำตัวเองกับเพือ่ นบ้านใกล้เคียง การติดต่อท�ำความรู้จักกับเพื่อนบ้านจะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวเข้ากับชุมชน และมีเพื่อน ใหม่ได้อย่างราบรื่น และท�ำให้คุณสามารถที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านได้ในยามที่ ต้องการ – เช่น เมื่อคุณไม่อยู่บ้าน เพื่อนบ้านอาจยินดีช่วยหาอาหารให้สัตว์เลี้ยงของคุณ หรือ ให้ค�ำแนะน�ำเกี่ยวกับร้านค้าหรือบริการต่างๆ ใกล้บ้าน 284 Life in the UK 3rd Edition
You can help prevent any problems and conflicts with your neighbours by respecting their privacy and limiting how much noise you make. Also try to keep your garden tidy, and only put your refuse bags and bins on the street or in communal areas if they are due to be collected. คุณสามารถช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาและความขัดแย้งกับเพื่อนบ้านของคุณได้ โดยเคารพ ในความเป็นส่วนตัวของเพื่อนบ้าน และไม่ท�ำเสียงดังรบกวนจนเกินไป นอกจากนี้ คุณควร พยายามจัดแต่งสวนของคุณให้เรียบร้อย และน�ำถุงและถังขยะออกไปวางไว้ข้างถนน หรือใน พื้นที่ส่วนรวม เมื่อถึงก�ำหนดเวลาที่พนักงานจะมาเก็บขยะ Getting involved in local activities
การเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมท้องถิ่น
Volunteering and helping your community are an important part of being a good citizen. They enable you to integrate and get to know other people. It helps to make your community a better place if residents support each other. It also helps you to fulfil your duties as a citizen, such as behaving responsibly and helping others. การเสนอตัวเข้าท�ำงานเป็นอาสาสมัครและช่วยเหลือชุมชน เป็นส่วนหนึง่ ทีส่ ำ� คัญของการเป็น พลเมืองดี การมีส่วนร่วมในกิจกรรมท้องถิ่นจะช่วยคุณในการปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ และได้ รู้จักกับคนอื่นๆ การให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันจะท�ำให้ชุมชนของคุณเป็นที่ที่น่าอยู่มาก ยิง่ ขึน้ และยังจะช่วยให้คณ ุ สามารถท�ำหน้าทีเ่ ป็นพลเมืองดีได้ตามคุณค่าทีย่ ดึ ถือ เช่น ด้วยการ ปฏิบัติตัวอย่างรับผิดชอบ และช่วยเหลือผู้อื่น How you can support your community
การให้ความสนับสนุนต่อชุมชนของคุณ
There are a number of positive ways in which you can support your community and be a good citizen. คุณสามารถปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี และให้ความร่วมมือในการท�ำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็น ประโยชน์ต่อชุมชนของคุณได้มากมายหลายวิธี Life in the UK 285
Jury service
การท�ำหน้าที่ในคณะลูกขุน As well as getting the right to vote, people on the electoral register are randomly selected to serve on a jury. Anyone who is on the electoral register and is aged 18 to 70 can be asked to do this. นอกเหนือจากการมีสทิ ธิลงคะแนนเสียงเลือกตัง้ แล้ว ประชาชนทีม่ ชี อื่ ในทะเบียนผูม้ สี ทิ ธิเลือก ตัง้ ยังได้รบั การสุม่ เลือกให้ทำ� หน้าทีใ่ นคณะลูกขุนด้วย บุคคลทีม่ ชี อื่ ในทะเบียนผูม้ สี ทิ ธิเลือกตัง้ และมีอายุ 18 ถึง 70 ปี อาจถูกเรียกตัวให้มาท�ำหน้าที่นี้ได้ทุกเวลา Helping in schools
การให้ความช่วยเหลือในโรงเรียน Parents often help in classrooms, by supporting activities or listening to children read ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะเข้ามาช่วยดูแลการท�ำกิจกรรม หรือฟังเด็กหัดอ่านหนังสือในห้องเรียน If you have children, there are many ways in which you can help at their schools. Parents can often help in classrooms, by supporting activities or listening to children read. หากคุณมีลูก คุณสามารถที่จะช่วยท�ำสิ่งต่างๆ ได้มากมายในโรงเรียนที่ลูกของคุณเรียนอยู่ ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะเข้ามาช่วยดูแลการท�ำกิจกรรม หรือฟังเด็กหัดอ่านหนังสือในห้องเรียน Many schools organise events to raise money for extra equipment or out-ofschool activities. Activities might include book sales, toy sales or bringing food to sell. You might have good ideas of your own for raising money. Sometimes events are organised by parent-teacher associations (PTAs). Volunteering to help with their events or joining the association is a way of doing something good for the school and also making new friends in your local community. You can find out about these opportunities from notices in the school or notes your children bring home. โรงเรียนหลายแห่งจะจัดงานกิจกรรม เพื่อหาเงินซื้ออุปกรณ์พิเศษ หรือเพื่อช่วยอุดหนุนการ ท�ำกิจกรรมนอกโรงเรียน การจัดงานหาเงินเหล่านี้อาจท�ำในรูปแบบต่างๆ เช่น ขายหนังสือ ขายของเล่น หรือน�ำอาหารมาขาย คุณเองอาจมีความคิดดีๆ เกี่ยวกับวิธีการที่จะช่วยหาเงิน 286 Life in the UK 3rd Edition
เข้าโรงเรียนได้บ้าง งานเหล่านี้บางครั้งจัดขึ้นโดยสมาคมครูและผู้ปกครอง (PTA) การเสนอตัว เป็นอาสาสมัครเพือ่ ช่วยเหลือในงานส�ำคัญๆ หรือเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมครูและผูป้ กครอง เป็นการท�ำสิง่ ทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรียน และจะท�ำให้คณ ุ ได้รจู้ กั เพือ่ นใหม่ๆ ในชุมชนนัน้ ด้วย คุณสามารถหาข้อมูลเกีย่ วกับการช่วยเหลือโรงเรียนได้จากประกาศทีต่ ดิ ไว้ในโรงเรียน หรือจาก จดหมายที่ลูกๆ น�ำมาที่บ้าน School governors and school boards
คณะกรรมการปกครองโรงเรียน และคณะกรรมการโรงเรียน School governors, or members of the school board in Scotland, are people from the local community who wish to make a positive contribution to children’s education. They must be aged 18 or over at the date of their election or appointment. There is no upper age limit. คณะกรรมการปกครองโรงเรียน หรือสมาชิกคณะกรรมการโรงเรียนในสก็อตแลนด์ เป็นคนทีม่ า จากชุมชนของโรงเรียนนัน้ ๆ และเป็นผูท้ ปี่ รารถนาจะมีสว่ นร่วมในการท�ำสิง่ ทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ การศึกษาของเด็กนักเรียน กรรมการจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปในวันที่ได้รับเลือกตั้งหรือได้รับ การแต่งตั้ง และไม่มีการจ�ำกัดอายุสูงสุดของกรรมการ Governors and school boards have an important part to play in raising school standards. คณะกรรมการปกครองโรงเรียน และคณะกรรมการโรงเรียน มีบทบาททีส่ ำ� คัญในการยกระดับ มาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน They have three key roles: • setting the strategic direction of the school • ensuring accountability • monitoring and evaluating school performance. คณะกรรมการฯ มีบทบาทที่ส�ำคัญ 3 ประการ ดังนี้: • ก�ำหนดทิศทางในการด�ำเนินงานของโรงเรียน • ตรวจสอบความรับผิดชอบ • ก�ำกับดูแลและประเมินผลการท�ำงานของโรงเรียน You can contact your local school to ask if they need a new governor or school board member. In England, you can also apply online at the School Governors’ One-Stop Shop at www.sgoss.org.uk Life in the UK 287
คุณสามารถติดต่อสอบถามโรงเรียนใกล้บา้ นได้วา่ ต้องการกรรมการหรือสมาชิกคณะกรรมการ โรงเรียนคนใหม่หรือไม่ ในอังกฤษ คุณสามารถสมัครได้ทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ของศูนย์บริการ ครบวงจรของคณะกรรมการปกครองโรงเรียน www.sgoss.org.uk In England, parents and other community groups can apply to open a free school in their local area. More information about this can be found on the Department for Education website at www.dfe.gov.uk ในอังกฤษ ผูป้ กครองและกลุม่ ชุมชนต่างๆ สามารถท�ำเรือ่ งขอเปิดโรงเรียน Free school ทีต่ งั้ ขึน้ โดยไม่หวังผลก�ำไรและได้รบั เงินอุดหนุนจากรัฐได้ในเขตท้องถิน่ ของตน โปรดหาข้อมูลเพิม่ เติมในเรื่องนี้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงศึกษาธิการ www.dfe.gov.uk Supporting political parties
การสนับสนุนพรรคการเมือง
Political parties welcome new members. Joining one is a way to demonstrate your support for certain views and to get involved in the democratic process. พรรคการเมืองยินดีต้อนรับสมาชิกหน้าใหม่เสมอ การสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเป็นวิธี การหนึง่ ทีเ่ ปิดโอกาสให้คณ ุ ได้แสดงจุดยืนในการสนับสนุนความคิดเห็นทีค่ ณ ุ ชืน่ ชอบ และช่วย ให้คุณได้มีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย Political parties are particularly busy at election times. Members work hard to persuade people to vote for their candidates - for instance, by handing out leaflets in the street or by knocking on people’s doors and asking for their support. This is called ‘canvassing’. You don’t have to tell a canvasser how you intend to vote if you don’t want to. ปกติพรรคการเมืองจะมีกจิ กรรมมากมายเป็นพิเศษในช่วงการเลือกตัง้ ลูกพรรคจะท�ำงานอย่าง เต็มที่ เพื่อชักชวนให้ประชาชนไปลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมัครในสังกัดพรรคการเมืองของตน เช่น โดยการแจกใบปลิว หรือไปเคาะประตูบ้านเพื่อขอเสียงสนับสนุน การท�ำเช่นนี้เรียกว่า ‘การหาเสียง’ หากคุณไม่ต้องการให้ผู้ตระเวนหาเสียงทราบว่าคุณตั้งใจที่จะลงคะแนนเสียง เลือกใคร คุณก็ไม่จ�ำเป็นต้องบอกเขา British citizens can stand for office as a local councillor, a member of Parliament (or the devolved equivalents) or a member of the European Parliament. This is an opportunity to become even more involved in the political life of 288 Life in the UK 3rd Edition
the UK. You may also be able to stand for office if you are an Irish citizen, an eligible Commonwealth citizen or (except for standing to be an MP) a citizen of another EU country. พลเมืองอังกฤษมีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล หรือสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร (หรือ สมาชิกสภาส่วนภูมิภาคที่ได้รับโอนอ�ำนาจจากรัฐบาลกลาง) หรือสมาชิกสภา ยุโรป คุณมีโอกาสที่จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตการเมืองของสหราชอาณาจักรได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ คุณอาจจะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเข้าท�ำหน้าที่รับใช้สาธารณชนได้ หาก คุณเป็นพลเมืองสัญชาติไอริช หรือเป็นพลเมืองของเครือจักรภพอังกฤษที่มีคุณสมบัติตามข้อ ก�ำหนด หรือ (ยกเว้น การลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร) พลเมืองของประเทศ อื่นที่เป็นรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป You can find out more about joining a political party from the individual party websites. คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้จากเว็บไซต์ของ แต่ละพรรคการเมือง Helping with local services
การให้ความช่วยเหลือบริการในท้องถิ่น
There are opportunities to volunteer with a wide range of local service providers, including local hospitals and youth projects. Services often want to involve local people in decisions about the way in which they work. Universities, housing associations, museums and arts councils may advertise for people to serve as volunteers in their governing bodies. คุณมีโอกาสที่จะท�ำงานเป็นอาสาสมัครกับองค์กรผู้ให้บริการด้านต่างๆ รวมถึง โรงพยาบาล และโครงการเยาวชนในท้องถิ่น องค์กรผู้ให้บริการเหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องการให้ประชาชนใน พืน้ ทีใ่ กล้เคียงเข้ามามีสว่ นร่วมในการตัดสินใจเกีย่ วกับวิธกี ารด�ำเนินงานขององค์กร นอกจากนี้ มหาวิทยาลัย สมาคมการเคหะ พิพธิ ภัณฑ์ และสภาศิลปกรรมในท้องถิน่ อาจลงประกาศโฆษณา เชิญชวนให้คนทั่วไปเข้ามาเป็นอาสาสมัครในหน่วยงานปกครองขององค์กรด้วย You can volunteer with the police, and become a special constable or a lay (non-police) representative. You can also apply to become a magistrate. You will often find advertisements for vacancies in your local newspaper or on local radio. You can also find out more about these sorts of roles at www.gov.uk Life in the UK 289
คุณสามารถเสนอตัวท�ำงานเป็นอาสาสมัครให้กับต�ำรวจ และท�ำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ต�ำรวจ พิเศษ หรือผูแ้ ทนซึง่ เป็นคนธรรมดาทัว่ ไป (ทีไ่ ม่ใช่ตำ� รวจ) ได้ หรือคุณอาจสมัครเป็นผูพ้ พิ ากษา แมจิสเตรทก็ยังได้ ปกติคุณจะเห็นประกาศต�ำแหน่งว่างลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ หรือตาม สถานีวิทยุท้องถิ่น นอกจากนี้ คุณยังสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับต�ำแหน่งอาสาสมัคร ต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.gov.uk Blood and organ donation
การบริจาคโลหิตและอวัยวะในร่างกาย
Donated blood is used by hospitals to help people with a wide range of injuries and illnesses. Giving blood only takes about an hour to do. You can register to give blood at: • England and North Wales: www.blood.co.uk • Rest of Wales: www.welsh-blood.org.uk • Scotland: www.scotblood.co.uk • Northern Ireland: www.nibts.org โรงพยาบาลจะใช้โลหิตจากผูบ้ ริจาคในการช่วยเหลือบุคคลทีไ่ ด้รบั บาดเจ็บ หรือมีความเจ็บป่วย ในด้านต่างๆ การบริจาคโลหิตใช้เวลาเพียงประมาณหนึ่งชั่วโมง คุณสามารถลงชื่อในทะเบียน ผู้ประสงค์จะบริจาคโลหิตได้ที่: • อังกฤษและนอร์ธเวลส์: www.blood.co.uk • ภาคอื่นๆ ของเวลส์: www.welsh-blood.org.uk • สก็อตแลนด์: www.scotblood.co.uk • ไอร์แลนด์เหนือ: www.nibts.org Many people in the UK are waiting for organ transplants. If you register to be an organ donor, it can make it easier for your family to decide whether to donate your organs when you die. You can register to be an organ donor at www. organdonation.nhs.uk. Living people can also donate a kidney. มีผู้คนจ�ำนวนมากในสหราชอาณาจักรที่ก�ำลังรอคอยการผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะ การลงชื่อ ในทะเบียนผู้ประสงค์จะบริจาคอวัยวะจะช่วยให้คนในครอบครัวของคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าเมื่อคุณเสียชีวิต พวกเขาควรบริจาคอวัยวะของคุณหรือไม่ คุณสามารถลงชื่อในทะเบียน ผู้ประสงค์จะบริจาคอวัยวะได้ที่ www.organdonation.nhs.uk นอกจากนี้ บุคคลที่ยังมีชีวิต อยู่ยังสามารถบริจาคไตได้ด้วย 290 Life in the UK 3rd Edition
Other ways to volunteer
การท�ำงานอาสาสมัครแบบอื่นๆ
Volunteering is working for good causes without payment. There are many benefits to volunteering, such as meeting new people and helping make your community a better place. Some volunteer activities will give you a chance to practise your English or develop work skills that will help you find a job or improve your curriculum vitae (CV). Many people volunteer simply because they want to help other people. งานอาสาสมัครเป็นการท�ำงานเพือ่ ประโยชน์ตอ่ ส่วนรวมโดยไม่ได้รบั ค่าตอบแทน แต่การท�ำงาน อาสาสมัครมีขอ้ ดีหลายประการ เช่น เปิดโอกาสให้คณ ุ ได้พบปะและรูจ้ กั เพือ่ นใหม่ และช่วยใน การพัฒนาชุมชนของคุณให้เป็นที่ที่น่าอยู่มากขึ้น กิจกรรมอาสาสมัครบางอย่างจะท�ำให้คุณมี โอกาสได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษ หรือพัฒนาทักษะการท�ำงานที่จะช่วยคุณในการหางานท�ำ หรือ ช่วยให้ประวัติข้อมูลชีวิตและการท�ำงานของคุณ (CV) น่าสนใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มีหลาย คนที่ท�ำงานอาสาสมัครเพียงเพราะต้องการที่จะช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้นเอง Activities you can do as a volunteer include: • working with animals -for example, caring for animals at a local rescue shelter • youth work - for example, volunteering at a youth group • helping improve the environment - for example, participating in a litter pick-up in the local area • working with the homeless in, for example, a homelessness shelter • mentoring - for example, supporting someone who has just come out of prison • work in health and hospitals - for example, working on an information desk in a hospital • helping older people at, for example, a residential care home. คุณสามารถท�ำงานเป็นอาสาสมัครในกิจกรรมเหล่านี้ได้ เช่น: • ท�ำงานกับสัตว์ – เช่น ดูแลสัตว์ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ใกล้บ้านคุณ • ท�ำงานเกี่ยวกับเยาวชน – เช่น ท�ำงานเป็นอาสาสมัครที่กลุ่มเยาวชน • ช่วยพัฒนาปรับปรุงสิ่งแวดล้อม – เช่น เข้าร่วมเก็บขยะที่เกลื่อนกลาดในบริเวณท้องถิ่น • ท�ำงานช่วยเหลือผู้ไร้ที่อยู่อาศัย เช่น ในสถานที่พักพิงส�ำหรับคนไร้บ้าน • เป็นพี่เลี้ยง – เช่น ให้การสนับสนุนแก่ผู้ที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก • ท�ำงานในสถานีอนามัยและโรงพยาบาล – เช่น ท�ำงานที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ในโรงพยาบาล • ช่วยเหลือผู้สูงอายุ เช่น ที่บ้านพักคนชรา Life in the UK 291
Voluntary organisations work to improve the lives of people, animals and the environment in many different ways องค์กรอาสาสมัครจะด�ำเนินงานในรูปแบบต่างๆ เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพของชีวิต ผู้คน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม There are thousands of active charities and voluntary organisations in the UK. They work to improve the lives of people, animals and the environment in many different ways. They range from the British branches of international organisations, such as the British Red Cross, to small local charities working in particular areas. They include charities working with older people (such as Age UK), with children (for example, the National Society for the Prevention of Cruelty to Children (NSPCC)), and with the homeless (for example, Crisis and Shelter). There are also medical research charities (for example, Cancer Research UK), environmental charities (including the National Trust and Friends of the Earth) and charities working with animals (such as the People’s Dispensary for Sick Animals (PDSA)). สหราชอาณาจักรมีองค์กรการกุศลและองค์กรอาสาสมัครมากมายที่มุ่งมั่นด�ำเนินงานในรูป แบบต่างๆ เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพของชีวิตผู้คน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม องค์กรเหล่า นีม้ ตี งั้ แต่องค์กรการกุศลทีเ่ ป็นสาขาขององค์กรสากลในอังกฤษ เช่น องค์กรกาชาดแห่งอังกฤษ ไปจนถึงองค์กรการกุศลเล็กๆ ภายในประเทศทีด่ ำ� เนินงานสงเคราะห์เฉพาะด้าน ได้แก่ องค์กร การกุศลที่ท�ำงานช่วยเหลือผู้สูงอายุ (เช่น องค์กร เอจ ยูเค) หรือที่ท�ำงานช่วยเหลือเด็กๆ (เช่น สมาคมป้องกันการทารุณกรรมต่อเด็ก (NSPCC) และองค์กรสงเคราะห์ผู้ไร้บ้าน (เช่น องค์กร ไครซิส และองค์กรเชลเตอร์) และยังมีองค์กรการกุศลที่สนับสนุนการวิจัยทางการแพทย์ (เช่น องค์กรส่งเสริมการวิจยั เกีย่ วกับโรคมะเร็ง หรือ แคนเซอร์ รีเสิรช์ ยูเค) องค์กรพิทกั ษ์สงิ่ แวดล้อม (เช่น องค์กรเนชัน่ แนล ทรัสต์ และองค์กรมิตรของโลก) และองค์กรการกุศลทีท่ ำ� งานช่วยเหลือ สัตว์ (เช่น องค์กรสงเคราะห์สัตว์เจ็บป่วย (PDSA)) Volunteers are needed to help with their activities and to raise money. The charities often advertise in local newspapers, and most have websites that include information about their opportunities. You can also get information about volunteering for different organisations from www.do-it.org.uk องค์กรการกุศลต้องการอาสาสมัครมาช่วยเหลือในการปฏิบัติงานและจัดกิจกรรมหาเงินเข้า องค์กร และมักจะลงประกาศหาอาสาสมัครในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น องค์กรส่วนใหญ่มีเว็บไซต์ ให้ขอ้ มูลเกีย่ วกับการรับคนเข้าท�ำงานเป็นอาสาสมัคร และคุณยังสามารถหาข้อมูลเกีย่ วกับการ เสนอตัวท�ำงานเป็นอาสาสมัครให้กับองค์กรต่างๆ ได้จากเว็บไซต์ www.do-it.org.uk 292 Life in the UK 3rd Edition
There are many opportunities for younger people to volunteer and receive accreditation which will help them to develop their skills. These include the National Citizen Service programme, which gives 16-and 17-year-olds the opportunity to enjoy outdoor activities, develop their skills and take part in a community project. You can find out more about these opportunities as follows: • National Citizen Service: at nationalcitizenservice.direct.gov.uk • England: at www.vinspired.com • Wales: at www.gwirvol.org • Scotland: at www.vds.org.uk • Northern Ireland: at www.volunteernow.co.uk คนหนุ่มสาวมีโอกาสมากมายที่จะท�ำงานอาสาสมัคร และได้รับใบรับรองที่จะช่วยให้พวกเขา สามารถพัฒนาทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตในอนาคตได้ เช่น โครงการพลเมืองของชาติ (National Citizen Service) ซึ่งเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวอายุ 16 และ 17 ปี ได้ท�ำกิจกรรม กลางแจ้ง พัฒนาทักษะ และมีส่วนร่วมในโครงการชุมชน คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับโครงการเหล่านี้ได้จากเว็บไซต์ต่อไปนี้: • โครงการพลเมืองของชาติ (NCS): ที่ ationalcitizenservice.direct.gov.uk • อังกฤษ: ที่ www.vinspired.com • เวลส์: ที่ www.gwirvol.org • สก็อตแลนด์: ที่ www.vds.org.uk • ไอร์แลนด์เหนือ: ที่ www.volunteernow.co.uk Looking after the environment
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
It is important to recycle as much of your waste as you can. Using recycled materials to make new products uses less energy and means that we do not need to extract more raw materials from the earth. It also means that less rubbish is created, so the amount being put into landfill is reduced. การรีไซเคิลขยะของเสียให้มากทีส่ ดุ เท่าทีจ่ ะท�ำได้เป็นเรือ่ งทีส่ ำ� คัญ การใช้วสั ดุรไี ซเคิลมาสร้าง สรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะช่วยลดการใช้พลังงานให้นอ้ ยลง ซึง่ หมายถึงว่าเราไม่จำ� เป็นต้องสกัด หรือขุดหาวัตถุดบิ จากพืน้ ดินขึน้ มาใช้เพิม่ มากขึน้ และยังท�ำให้มขี ยะน้อยลง ส่งผลให้ขยะทีจ่ ะ น�ำไปทิ้งในหลุมฝังกลบมีปริมาณลดลงด้วย Life in the UK 293
You can learn more about recycling and its benefits at www.recyclenow.com. At this website you can also find out what you can recycle at home and in the local area if you live in England. This information is available for Wales at www. wasteawarenesswales.org.uk, for Scotland at www.recycleforscotland.com and for Northern Ireland from your local authority. คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการรีไซเคิล และประโยชน์ของการรีไซเคิลได้จากเว็บไซต์ www. recyclenow.com ที่เว็บไซต์นี้ยังมีข้อมูลที่จะบอกให้คุณทราบว่า มีอะไรบ้างที่คุณสามารถ รีไซเคิลได้ที่บ้านและในเขตพื้นที่ใกล้บ้าน หากคุณอาศัยอยู่ในอังกฤษ ส�ำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ใน เวลส์ ข้อมูลนี้จะหาได้ที่ www.wasteawarenesswales.org.uk และในสก็อตแลนด์จะหา ดูได้ที่ www.recycleforscotland.com ส�ำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในไอร์แลนด์เหนือ ให้สอบถาม ได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของคุณ A good way to support your local community is to shop for products locally where you can. This will help businesses and farmers in your area and in Britain. It will also reduce your carbon footprint, because the products you buy will not have had to travel as far. การซื้อผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นเมื่อสามารถท�ำได้ เป็นวิธีการที่ดีอย่างหนึ่งในการสนับสนุนชุมชน ของคุณ การซื้อสินค้าพื้นถิ่นจะช่วยส่งเสริมธุรกิจและชาวไร่ชาวนาในเขตพื้นที่ของคุณและ ในประเทศอังกฤษ และยังช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินท์ (ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก) จากกิจกรรมของคุณได้ด้วย เพราะผลิตภัณฑ์ที่คุณซื้อจะไม่ถูกขนส่งมาจากทางไกล Walking and using public transport to get around when you can is also a good way to protect the environment. It means that you create less pollution than when you use a car. การเดินและใช้บริการขนส่งมวลชนในการเดินทางไปในที่ต่างๆ เมื่อสามารถท�ำได้ เป็นวิธีการ ที่ดีอีกอย่างหนึ่งในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เพราะหมายถึงว่าคุณจะสร้างมลภาวะน้อยลง เมื่อเทียบกับการใช้รถยนต์ CHECK THAT YOU UNDERSTAND
ตรวจสอบความเข้าใจของคุณ
√ The different ways you can help at your child’s school √ The role of school governors and members of school boards, √ and how you can become one 294 Life in the UK 3rd Edition
√ √ √ √ √ √ √
The role of members of political parties The different local services people can volunteer to support How to donate blood and organs The benefits of volunteering for you, other people and the community The types of activities that volunteers can do How you can look after the environment
√ คุณสามารถช่วยเหลือโรงเรียนที่ลูกคุณเรียนอยู่ได้อย่างไรบ้าง √ บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการปกครองโรงเรียน หรือสมาชิกคณะกรรมการ โรงเรียน และวิธีการสมัครเป็นกรรมการ √ บทบาทหน้าที่ของสมาชิกพรรคการเมือง √ การให้บริการต่างๆ ในท้องถิน่ ทีค่ นทัว่ ไปสามารถเสนอตัวเป็นอาสาสมัครช่วยท�ำงานได้ √ วิธีการบริจาคโลหิตและอวัยวะในร่างกาย √ การท�ำงานอาสาสมัครมีประโยชน์ต่อตัวคุณ คนอื่นๆ และชุมชนอย่างไร √ กิจกรรมประเภทต่างๆ ที่อาสาสมัครสามารถท�ำได้ √ คุณจะช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างไร You now have an overview of Britain’s history, values, laws and constitution. เวลานี้คุณได้เรียนรู้ข้อมูลโดยสังเขปเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ คุณค่าที่ส�ำคัญ กฎหมาย และ รัฐธรรมนูญของอังกฤษแล้ว We hope you found the book useful and interesting. Once you are confident you have read and understood the content of this book, you are ready to take the Life ¡n the UK test. Of course, it ¡s impossible for a book of this sort to cover everything. We hope it may have inspired you to go on to read more about the history and culture of the UK. หวังว่าหนังสือเล่มนี้คงจะน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อคุณไม่มากก็น้อย เมื่อคุณมั่นใจ ว่าคุณได้อ่านและเข้าใจเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้โดยตลอดแล้ว ก็แสดงว่าคุณพร้อมที่จะ สอบข้อสอบ Life in the UK อย่างไรก็ตาม เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ไม่สามารถครอบคลุม เรื่องต่างๆ ได้ทั้งหมด แต่เราหวังว่าหนังสือเล่มนี้คงจะช่วยกระตุ้นความสนใจ และท�ำให้ คุ ณ กระหายที่ จ ะค้ น คว้ า หาความรู ้ เ พิ่ ม เติ ม เกี่ ย วกั บ ประวั ติ ศ าสตร์ แ ละวั ฒ นธรรมของ สหราชอาณาจักรต่อไป Life in the UK 295
จัดทำ�โดย Dr. Khanungnit Garnett แปลและเรียบเรียงโดย Kanlaya Coulsting ออกแบบโดย Nattaporn Silvijan (Anna) The Fairy Caravan จัดพิมพ์โดย ThaiSmile Media Limited 283-287 King Street, Hammersmith London W6 9NH Email: info@thaismile.com Tel: +44(0) 208846 9960
คู่มือ Life in the UK ฉบับแปลภาษาไทย (Thai version)
3rd Edition แจกฟรี ห้ามจำ�หน่าย NOT FOR SALE