Thaismile#159

Page 1

In Remembrance of

The Greatest King

VOLUME 17 ISSUE 159


S P E C I A L F E AT U R E WORDS SAWIKA KHUNRAM PHOTOGRAPHY OUN SIRICHOTE

ภาพจ�ำลองพระเมรุมาศโดย นายวิบูลย์ ถนัดกิจ ส�ำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร

112

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


THAISMILE 159

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพ ิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์

วั น ที่ 13 ตุ ล าคม 2559 นั บ เป็ น วั น ที่ ค นไทยทั้ ง ประเทศและทั่ ว โลกต่ า งจดจ�ำ ไม่มวี น ั ลืมเลือน… หลังสิน ้ เสียงประกาศของส�ำนักพระราชวังว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 15.52 น. หัวใจของคนไทยแทบสิ้นสลาย นับเป็นความ สูญเสียทีเ่ ศร้าโศกอาดูรเหลือคณานับ เย็นวันเดียวกัน ภายใต้สภาพจิตใจทีบ ่ อบช�ำ้ คณะท�ำงานหลายฝ่ายต่างเรียกประชุมกันแข็งขันเพื่อจัดเตรียมงานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพ ส่วนจิตอาสาก็พร้อมใจกันมาสมัครช่วยกันท�ำงาน เพื่อถวายแด่พระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย ทุกหัวใจหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อ “พ่อ” จนงานแล้วเสร็จอย่างสมพระเกียรติ

เพื่อน้อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริยร์ ชั กาลที่ 9 แห่งราชจักรีวงศ์ และเพือ่ เผยแพร่คณ ุ ค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย ทีม่ คี วามประณีตงดงาม ต่อไปนีค้ อื เรือ่ งราวทีเ่ กีย่ วข้องกับการจัดสร้างพระเมรุมาศ และเครือ่ งประกอบต่างๆ ในการออกพระเมรุมาศ รวบรวมมาให้ผู้อ่านได้ชมกัน พระราชพิธีพระบรมศพพระมหากษัตริย์ไทย ในอดีตถึงปัจจุบัน

ธรรมเนียมปฏิบัติตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พระราชพิธีพระบรมศพ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสูงสุด ต่อพระมหากษัตริย์ ตามความเชื่อที่ว่า พระมหากษัตริย์เป็นดั่งสมมติเทพอวตารลงมายังโลกมนุษย์เพื่อ คุ้มครองให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข เมื่อสวรรคตก็เสด็จกลับสรวงสวรรค์ สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 4 นิยมสร้างพระเมรุมาศขนาดใหญ่ สถิติสูงสุดคือ พระเมรุมาศสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สูง 120 เมตร (ความสูงประมาณองค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม) พอสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ขอให้ยกเลิกงานพระเมรุใหญ่ นัน้ เสีย เพราะเปลืองทัง้ แรงคนและพระราชทรัพย์ จึงมีการปรับลดขนาดพระเมรุมาศตัง้ แต่สมัยรัชกาลที่ 5 และปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบัน

1


2

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


THAISMILE 159

พระเมรุมาศรัชกาลที่ 9 ศิลปกรรมแห่งยุคสมัย

นายก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรม ส�ำนักสถาปัตยกรรม กรมศิ ล ปากร ผู ้ อ อกแบบพระเมรุ ม าศและสิ่ ง ปลู ก สร้ า งประกอบ พระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพรัชกาลที่ 9 เล่าว่า พระเมรุมาศของพระมหากษัตริย์ต้องเป็น “ทรงบุษบก” เขาจึง ศึกษาพระเมรุมาศจากสมัยรัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 8 เพือ่ เป็นแนวคิดในการออกแบบ ร่างมา 3 แบบ จนมาลงตัวทีท่ รงบุษบก 9 ยอด แต่บันไดทางขึ้นดูคับแคบ จนได้มาเห็นแบบพระเมรุมาศ รัชกาลที่ 6 ซึ่งบันไดทางขึ้นกว้างใหญ่ เขาจึงปรับแต่งใหม่ โดยได้ เค้าโครงการวาง 9 ยอดจากเจดียภ์ กั ดีประกาศ จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะการวางยอดสวยงาม คล้ายวัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายก่อเกียรติเคยเป็นลูกมือพลอากาศตรี อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปิน แห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประยุกต์ศิลป์) สาขาย่อยสถาปัตยกรรม ผูอ้ อกแบบพระเมรุมาศถึง 3 ครัง้ คือ พระเมรุมาศสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี พระเมรุมาศสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และพระเมรุมาศ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ แต่ส�ำหรับการ ออกแบบพระเมรุมาศของพระมหากษัตริย์ นับเป็นครั้งแรกที่เขาได้ ท�ำงานถวายอย่างเต็มก�ำลัง “เราวางผังการก่อสร้างไว้ 2 แบบ แบบแรกจะเหมือนสมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนแบบที่สองสมเด็จพระเทพฯ ทรงเลือก เป็นทรงบุษบก 9 ยอด โดยหันหน้าพระเมรุมาศไปทางทิศตะวันตก ซึง่ ระหว่างงานพิธชี ว่ งบ่าย ด้านหน้าพระที่นั่งทรงธรรมจะเป็นร่มเงา แสงไม่ส่องเข้าหาที่ประทับ ส่วนช่วงเย็นความเปล่งปลั่งของแสงจะกระทบกับยอดพระเมรุมาศ สีทอง สวยงาม พระเมรุมาศของพระมหากษัตริย์มีการระบุไว้ว่า ต้องเป็นพระเมรุมาศทอง ส�ำหรับของรัชกาลที่ 9 ก็จะพ้องกับสีประจ�ำ วันพระราชสมภพคือสีเหลือง” “พระเมรุมาศทรงบุษบก 9 ยอด สื่อถึงความสมพระเกียรติของ รัชกาลที่ 9 มีการใส่รายละเอียด วางประติมากรรม ช้าง ม้า โค สิงห์ สระอโนดาด ฉัตรต่างๆ ฉากบังเพลิง ครุฑ เสาโคมไฟครุฑ ฯลฯ ก�ำหนด สัดส่วนความกว้าง ความสูงแล้วส่งต่อไปยังประติมากรและจิตรกร เพือ่ ออกแบบต่อ โจทย์ของงานประติมากรรมในครัง้ นี้ คือการออกแบบ ลวดลายเสมือนจริง มีกล้ามเนื้อ โดยใส่ลวดลายไทยเป็นลักษณะ ดอกไม้ ลายพฤกษา เพือ่ ให้งานดูออ่ นหวาน ส่วนการลงสีกต็ อ้ งทดลอง กับงานจริงหลายครัง้ จนได้ขอ้ สรุปกับรูปปัน้ เทวดาในสรวงสวรรค์ เป็น โทนสีขาว ครีม ให้สีเหมือนจริง มีแสงเงา มีมิติของกล้ามเนื้อ เพื่อให้ สอดคล้องกับพระเมรุมาศที่ใช้สีขาว เทา ทอง เป็นส่วนประกอบของ สีหลัก ยอดพระเมรุมาศ มีประติมากรรมพระโพธิสัตว์ประดับซุ้ม บันแถลงระดับชั้นเชิงกลอนที่ 7 โดยน�ำต้นแบบมาจากตราประจ�ำ พระราชวั ง ดุ สิ ต ความสูง พระเมรุม าศรัชกาลที่ 9 อยู่ที่ 50 เมตร 49 เซนติเมตร พื้นที่ใช้สอย 2 ใน 3 ของพื้นที่สนามหลวง”

3


บุษบก 9 ยอด

ประกอบด้วย อาคารทรงบุษบก 9 องค์ ตั้งอยู่บนฐานรูปสี่เหลี่ยม จัตุรัส 4 ชั้น มีบันไดทางขึ้น 4 ทิศ ด้านตะวันตกหันหน้าเข้าพระที่นั่ง ทรงธรรม ทิศเหนือติดตั้งสะพานเกรินส�ำหรับเชิญพระบรมโกศจาก ราชรถปืนใหญ่ขึ้นพระเมรุมาศ ทิศตะวันออกและทิศใต้ติดตั้งลิฟต์ มี บุษบกองค์ประธานอยู่กึ่งกลางชั้นบนสุด 1 องค์ เป็นอาคารทรงบุษบก เชิงกลอน 7 ชั้น ภายในเป็นที่ตั้งของพระจิตกาธาน (เชิงตะกอน) ที่ ประดิษฐานพระบรมโกศ ผนังโดยรอบเปิดโล่ง ติดตัง้ พระวิสตู ร (ผ้าม่าน) และฉากบังเพลิง ส่วนฐานบุษบกประธานประดับเทพพนม 28 องค์ โดยรอบ ถัดลงมาเป็นครุฑยุดนาคโดยรอบรองรับด้วยฐานสิงห์ ยอด บนสุดประดิษฐานพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร (ฉัตรขาว 9 ชั้น) ตรงฐานชาลาชั้นที่ 3 ประดับประติมากรรมเทพชุมนุม 132 องค์ โดยรอบ รองรับด้วยฐานสิงห์ มุมทั้ง 4 ของฐานชาลาชั้นที่ 3 เป็นที่ตั้ง ของซ่าง 4 องค์ อาคารทรงบุษบกเชิงกลอน 5 ชั้น ส�ำหรับพระพิธีธรรม 4 ส�ำรับ (1 ส�ำรับจะมีพระสงฆ์ 4 รูป) นั่งสวดพระอภิธรรมเวียนกันไป ตัง้ แต่พระบรมศพประดิษฐานบนพระจิตกาธาน กระทัง่ ถวายพระเพลิง พระบรมศพแล้วเสร็จ ฐานชาลาชัน้ ที่ 2 มีหอเปลือ้ งทรงบุษบก 4 องค์ ตัง้ อยูใ่ นมุมทัง้ สี่ จัด เก็บพระโกศทองใหญ่ พระโกศจันทน์ และอุปกรณ์สำ� หรับงานพระราชพิธี ส่วนฐานชาลาชั้นที่ 1 (ล่างสุด) มีฐานสิงห์เป็นรั้วราชวัตร ฉัตร แสดง อาณาเขตพระเมรุมาศ มีเทวดานั่งคุกเข่า และมุมทั้งสี่ของฐานมี ประติมากรรมท้าวจตุโลกบาลประทับยืนหันหน้าเข้าสู่บุษบกองค์ ประธาน พื้นรอบฐานพระเมรุมาศมีสระอโนดาดทั้ง 4 ทิศ และเขามอ จ�ำลอง ภายในสระตกแต่งด้วยประติมากรรมสัตว์หมิ พานต์อกี มากมาย “ช่างสิบหมู่” ศิลปะไทยสมัยอยุธยา

นายกัมพล จันทรังษี นักวิชาการช่างศิลป์ ช�ำนาญการพิเศษ ผู้อ�ำนวยการกลุ่มประณีตศิลป์ ส�ำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ได้ แจกแจงงานให้ฟังว่า ส�ำนักช่างสิบหมู่ รับผิดชอบกัน 3 กลุ่มงานคือ กลุ่มประติมากรรม รับผิดชอบงานปั้นทั้งหมด กลุ่มจิตรกรรม รับหน้าที่ เพนต์สี เขียนฉากบังเพลิง วาดภาพโครงการพระราชด�ำริผนังพระที่นั่ง 4

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


THAISMILE 159

ทรงธรรม และกลุ่มประณีตศิลป์ รับหน้าที่สร้างสรรค์งานประณีตศิลป์ ทั้งหมด เช่น งานพระโกศจันทน์ พระหีบจันทน์ พระโกศทองค�ำลงยา งานบูรณะและจัดสร้างราชรถ ราชยาน โดยเฉพาะพระมหาพิชยั ราชรถ ที่ได้จัดท�ำผ้าม่านลายทองแผ่ลวด ศิลปะสมัยอยุธยา ที่มีท�ำอยู่ที่เดียว ในโลกคือทีส่ ำ� นักช่างสิบหมู่ นอกนัน้ ก็เป็นเครือ่ งระย้าทีท่ ำ� ด้วยเงินกว่า 100 ชิ้น กระจก 2 มิลลิเมตร 2-3 หมื่นชิ้น เพื่อตกแต่งราชรถ ราชยาน ส�ำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพรัชกาลที่ 9 การท�ำงาน เริม่ จากศูนย์ เป็นการล้างของเดิมออกเหลือไว้แต่โครง แล้วมาลงรักปิดทอง ใหม่ เช่น พระทีน่ งั่ ราเชนทรยาน สมัยรัชกาลที่ 1 พระราเชนทรยานน้อย ซึ่งจัดสร้างใหม่ ล�ำพังแค่เจ้าหน้าที่ช่างสิบหมู่งานคงไม่ส�ำเร็จ ถ้าไม่มี จิตอาสาเข้ามาช่วย

5


พระโกศจันทน์ ในรัชกาลที่ 9 เป็นทรงแปดเหลี่ยม ประกอบด้วย

3 ส่วนคือ ส่วนยอด ส่วนองค์ และส่วนฐานซึ่งจะติดกับส่วนองค์ บน พระโกศประดับด้วยลายเทพพนม ส่วนพระหีบประดับด้วยลายครุฑ เป็นครัง้ แรกในประเทศไทยทีม่ กี ารน�ำทองมาติดลวดลายบางส่วนของ พระโกศจันทน์และพระหีบจันทน์ ประกอบด้วยลายฉลุไม้จันทน์ถึง 46 แบบ มากกว่า 4 หมืน่ ชิน้ ออกแบบโดย นายสมชาย ศุภลักษณ์อำ� ไพพร นายช่างศิลปประยุกต์และเครื่องเคลือบดินเผา ส�ำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร

6

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

พระโกศทองใหญ่ หรือพระลองทองใหญ่ เป็นเครื่องประกอบ

พระอิ ส ริ ย ยศพระบรมศพ ใช้ ส� ำ หรั บ บรรจุ พ ระบรมศพลงในหี บ พระบรมศพแทนการลงพระโกศ พระโกศทองใหญ่รัชกาลที่ 9 ท�ำด้วย ไม้แกะสลักลวดลายทรงแปดเหลี่ยม หุ้มด้วยทองค�ำประดับกระจก อัญมณีตลอดองค์ ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ที่ให้ ประชาชนเข้ากราบสักการะ



ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังตระการตา ณ พระที่นั่งทรงธรรม

ออกแบบโดย นายมณเฑียร ชูเสือหึง จิตรกรเชีย่ วชาญ ส�ำนักช่างสิบหมู่ เป็นภาพวาดเรือ่ งราวโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชด�ำริ คัดเลือกมา 46 โครงการเพื่อเขียนลงบนผืนผ้าใบแคนวาสขนาดเท่าพื้นที่จริง โดย แบ่งผนังส�ำหรับติดภาพไว้ 3 ด้าน มีผู้รับผิดชอบงาน 3 กลุ่มหลักคือ วิทยาลัยช่างศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ รับหน้าที่วาดภาพผนัง ต�ำแหน่งมุขซ้าย เป็นเรือ่ งราวโครงการพระราชด�ำริพนื้ ทีภ่ าคกลางและ ภาคใต้ ส่วนผนังกลาง ส�ำนักช่างสิบหมู่เป็นผู้รับผิดชอบ วาดเรื่องราว

8

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา โครงการพระราชด�ำริในพื้นที่ กรุ ง เทพฯ และปริ ม ณฑล และวิ ท ยาลั ย เพาะช่ า ง มหาวิ ท ยาลั ย เทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ รับผิดชอบผนังต�ำแหน่งมุขด้านขวา วาดเรื่องราวโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และโครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้าน การเกษตรห้วยซอน-ห้วยซั้ว สปป.ลาว ทุกภาพน�ำเสนอเรื่องราว ตรงกับบรรยากาศจริงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยเสด็จพระราชด�ำเนิน ยังโครงการนั้นๆ


THAISMILE 159

ฉากบังเพลิง…ศิลปะอันวิจิตร

ในงานพระราชพิธีพระบรมศพ “ฉากบังเพลิง” มีไว้กั้นลมไม่ให้ ไฟแตกกระจาย และไม่ให้เห็นภาพอันไม่เหมาะสมขณะท�ำพิธี ฉากบังเพลิงสมัยรัชกาลที่ 9 แบ่งเป็น 2 ส่วน ด้านหน้าออกแบบโดย นายมณเฑียร ชูเสือหึง จิตรกรเชี่ยวชาญ ส�ำนักช่างสิบหมู่ น�ำเสนอ เรือ่ งราวลายเทวดา ลายพระนารายณ์อวตารซึง่ น้อมน�ำมาถ่ายทอด เพียง 8 ปาง (จากทั้งหมด 10 ปาง) โดยฉากทั้งหมดมี 4 ด้าน แต่ละด้านมี 4 ชิ้น แบ่งเป็น 2 ช่อง ด้านบนเป็นภาพของการอวตาร และเทวดา ส่วนด้านล่างเป็นสถานที่โครงการอันเนื่องมาจาก พระราชด�ำริ แบ่งเป็นหมวดดิน น�้ำ ลม ไฟ โดยทิศตะวันออกเป็น

หมวดของดิน ทิศเหนือเป็นหมวดของน�ำ้ ทิศตะวันตกเป็นหมวดของ ลม และทิศใต้เป็นหมวดของไฟ ส่วนด้านหลังฉากออกแบบโดย นายเกียรติศักดิ์ สุวรรณพงศ์ จิตรกรช�ำนาญการพิเศษ ส�ำนักช่าง สิบหมู่ เป็นภาพลายดอกไม้สวรรค์ ประกอบด้วย ดอกมณฑาทิพย์ ดอกบัวสวรรค์ ดอกปาริชาติ มีการอัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. เรียงร้อยด้วยดอกดาวเรืองและดอกราชพฤกษ์ ส่วนภาพดอกบัว สวรรค์จะสอดแทรกศาสตร์พระราชา มีพันธุ์ปลานิล พันธุ์ข้าว ต้น หญ้าแฝก หยดน�้ำฝนหลวง และนกเจ้าฟ้าสิรินธร ด้านหลังฉากใช้ โทนสี 2 โทน โดยทิศเหนือ-ใต้ ใช้สีส้ม สื่อถึงสีของวันสวรรคต ทิศ ตะวันออก-ตะวันตก ใช้สชี มพู สือ่ ถึงสีทใี่ นหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงโปรด

9


ประติมากรรมงานพระเมรุมาศ…ความสง่างามเสมือนจริง

นายประสพสุข รัตน์ใหม่ ผู้อ�ำนวยการกลุ่มประติมากรรม ส�ำนักช่างสิบหมู่ เล่าว่า งานประติมากรรมในครัง้ นีต้ งั้ แต่รปู เทวดายืน เทวดานัง่ ครุฑ พญานาค สัตว์มงคลประจ�ำ ทิศ ช้าง ม้า โค สิงห์ พระพิเนก-พระพินาย จะมีความคล้ายคลึงกับมนุษย์มากขึน้ ทัง้ แวว ตา โครงสร้างกล้ามเนื้อ เครื่องประกอบต่างๆ เครื่องประดับ รวมทั้งฉลองพระองค์ที่ใส่ ลวดลายให้มคี วามละเอียดเพือ่ ความสง่างามมากขึน้ โดยกลุม่ งานจิตรกรรมด�ำเนินการ ออกแบบลายเส้น กลุ่มประติมากรรมออกแบบเป็นรูปทรง 3 มิติ แล้วปั้นขยายต้นแบบ เท่าขนาดจริง ขึ้นโครงสร้าง ขึ้นดินโกลนหุ่น ปั้นกายวิภาค ท�ำพิมพ์ หล่อไฟเบอร์ชิ้นงาน น�ำมาตกแต่งพ่นสีรองพืน้ แล้วเขียนสี จนถึงขัน้ ตอนติดตัง้ ประกอบพระเมรุมาศ ส่วนสัตว์ หิมพานต์ทั้งหลาย ช่างเมืองเพชร เป็นผู้ด�ำเนินการปั้นปูนสด ยกเว้นช้างสิบตระกูล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาลัยเพาะช่าง เป็นผู้ด�ำเนินการ จนแล้วเสร็จ แล้วน�ำไปลงสีโดยกลุ่มงานจิตรกรรม ส�ำนักช่างสิบหมู่ และจิตอาสา จากหลายๆ ฝ่ายที่ร่วมแรงกายแรงใจจนงานแล้วเสร็จสมบูรณ์

10

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


THAISMILE 159

11


ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2560 ประชาชนสามารถเข้าชมนิทรรศการ “พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์” ได้ ณ พระที่นั่งทรงธรรม บริเวณพระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง ซึ่งจะมีการแสดงมหรสพให้ชมด้วย พระมหาพิชัยราชรถ เป็นราชรถไม้ทรงบุษบกที่มีอิสริยศักดิ์สูงสุด

ใช้เฉพาะพระมหากษัตริย์ หรือพระบรมวงศ์สำ� หรับอัญเชิญพระบรมโกศ ทองใหญ่ทรงพระบรมศพออกจากพระบรมมหาราชวังไปยังพระเมรุมาศ ท�ำด้วยไม้แกะสลักลงรักปิดทองประดับกระจก สร้างสมัยรัชกาลที่ 1 น�้ำหนัก 13.7 ตัน ต้องใช้จ�ำนวนพลฉุดชักถึง 216 นาย ราชรถน้อย ลักษณะคล้ายพระมหาพิชัยราชรถแต่มีขนาดเล็กกว่า มี 3 องค์ ท�ำด้วยไม้แกะสลัก ทรงบุษบกลงรักปิดทองประดับกระจก สร้างสมัยรัชกาลที่ 1 ท�ำหน้าที่เป็นรถพระน�ำ (รถสวด) ส�ำหรับสมเด็จ พระสังฆราชประทับ ส่วนอีกสององค์เป็นราชรถโยงพระภูษาจาก พระบรมโกศ และเป็นราชรถโปรยทานแก่ประชาชนที่มาเฝ้ากราบ พระบรมศพส�ำหรับพระบรมวงศ์ประทับ เกรินบันไดนาค ใช้อญ ั เชิญพระบรมโกศขึน้ หรือลงจากพระมหาพิชยั ราชรถ ขอบฐานแกะสลักลายปิดทองประดับกระจก ท้ายเกรินเป็นพื้น ลดระดับลงมา ราวทั้งสองข้างตกแต่งเป็นรูปพญานาค 12

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

พระที่นั่งราเชนทรยาน พระราชยานทรงบุษบกย่อมุมไม้สิบสอง

หลังคาซ้อน 5 ชัน้ สร้างสมัยรัชกาลที่ 1 เป็นไม้สกั แกะสลักลงรักปิดทอง ประดับกระจก มีพนักพิงและกระจังปฏิญาณแกะสลักภาพเทพพนมไว้ ตรงกลาง มีรูปครุฑยุดนาคประดับที่ฐาน มีคานส�ำหรับหาม 4 คาน ใช้ อัญเชิญพระโกศทองค�ำพระบรมอัฐพิ ระมหากษัตริย์ หรือพระบรมวงศ์ จากพระเมรุมาศไปยังพระบรมมหาราชวัง พระราเชนทรยานน้อย คล้ายพระที่นั่งราเชนทรยาน เป็นพระ ราชยานทรงบุษบกสร้างด้วยไม้สกั แกะสลักลงรักปิดทองประดับกระจก ทั้งองค์ สร้างขึ้นใหม่ส�ำหรับอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร พระยานมาศสามล� ำ คาน ใช้ ส� ำ หรั บ อั ญ เชิ ญ พระบรมโกศ ทองใหญ่ทรงพระบรมศพจากพระทีน่ ง่ั ดุสติ มหาปราสาท มาประดิษฐาน บนพระมหาพิ ชั ย ราชรถ และอั ญ เชิ ญ พระบรมโกศทองใหญ่ ท รง พระบรมศพจากพระมหาพิชัยราชรถวนอุตราวัฏ (เวียนซ้าย) รอบ พระเมรุมาศ 3 รอบ


ราชรถปืนใหญ่ ใช้อัญเชิญพระบรมโกศทองใหญ่ทรงพระบรมศพ

จากพระมหาพิชัยราชรถวนอุตราวัฏ (เวียนซ้าย) รอบพระเมรุมาศ 3 รอบ เริ่มใช้ครั้งแรกสมัยรัชกาลที่ 6 และครั้งหลังสุดในรัชกาลที่ 8 แทน พระยานมาศสามล�ำคาน โดยราชรถปืนใหญ่จะใช้กับพระบรมศพ พระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ที่ทรงรับราชการทหารเมื่อครั้งด�ำรง พระชนม์ชีพอยู่เท่านั้น พระวิสต ู ร (ผ้าม่าน) ประดับพระมหาพิชยั ราชรถ เป็นลายทองแผ่ลวด มีการท�ำสายรัดผ้าม่านขึ้นใหม่ โดยท�ำรูปร่างคล้ายมาลัยแต่ประดิษฐ์ ด้วยคริสตัลและลูกปัด ตรงพู่ห้อยน�ำแนวคิดมาจากเรือสุพรรณหงส์ ซึ่งใช้ขนจามรี แต่ส�ำหรับสายรัดผ้าม่านครั้งนี้เลือกใช้ปีกแมลงทับ เนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 มักจะใช้ปีกแมลงทับสร้างงานศิลปาชีพค่อนข้างเยอะ เปรียบเสมือน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ยังอยู่ใกล้ชิดกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม้จันทน์หอม ไม้ต้นผลัดใบ สูง 10-20 เมตร เป็นไม้มีค่าหายากที่ ถูกน�ำมาใช้ในงานพระราชพิธสี ำ� หรับพระมหากษัตริยแ์ ละพระบรมวงศ์ ตัง้ แต่สมัยอยุธยา เหตุทเี่ ลือกไม้จนั ทน์หอมมีความเชือ่ ว่าช่วยรักษาศพ

ไม่ให้มีกลิ่นเหม็น โดยจะเลือกไม้จันทน์หอมที่ยืนต้นตาย อายุ 100 ปี ขึ้นไป เพราะแก่นไม้จะมีกลิ่นหอม ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพรัชกาลที่ 9 น�ำไม้จันทน์หอมมาจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดอกดารารัตน์ (Daffodil) ดอกไม้ที่รัชกาลที่ 9 ทรงมอบให้กับ สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถเมือ่ ครัง้ ยังไม่ได้ราชาภิเษกสมรส เป็นดอกไม้ทรงโปรดของสมเด็จพระราชินใี นรัชกาลที่ 9 เป็นสัญลักษณ์ ของดอกไม้จนั ทน์ในงานพระราชพิธถี วายพระเพลิงพระบรมศพรัชกาลที่ 9 ขอขอบคุณ : -ข้อมูลจากกลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร -ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ส�ำนักช่างสิบหมู่ เจ้าหน้าที่ส�ำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร และจิตอาสา -ข้ อ มู ล จากหนั ง สื อ ธรรมเนี ย มปฏิ บั ติ เ กี่ ย วกั บ งานพระบรมศพ กรมศิ ล ปากร กระทรวงวัฒนธรรม -ข้อมูลจากหนังสือ ค�ำศัพท์ที่เกี่ยวเนื่องกับงานพระราชพิธีพระบรมศพพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


SMILE EDITOR

FOUNDER / PRESIDENT Dr. Narisa Chauvidul - AW

ดร.นริสา เชื้อวิดุลย์ - AW

CONTENT EDITOR Virunan Chiddaycha

วิรุนันท์ ชิตเดชะ

ASSISTANT CONTENT EDITOR Kanchanit Tantivanitchkit

กันต์ชนิต ตันติวาณิชกิจ

CONTRIBUTORS

ถวายคารวาลัย พระเสด็จสู่ฟ้า สถิตในหทัยราษฎร์ ประทับมิ่ง ประทับขวัญ

ครรไลลา เสวยสวรรค์ นาถนิรันดร์ ประชาชน

เวลาผ่านไปหนึ่งปีแล้ว นับจากวันที่นาฬิกาในประเทศไทยหยุดเดิน ชั่วขณะ ณ เวลา ๑๕.๕๒ น. ของวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ณ วินาทีนั้น หัวใจคนไทยทุกดวงเหมือนจะหยุดเต้นไปเสียให้ได้ น�้ำตาแห่งความอาลัยของคนไทยไหลนองทั่วแผ่นดิน ไม่เว้นแม้แต่ คนไทยในต่างแดน ผ่านไปหนึ่งปีความโศกเศร้ายังคงปกคลุมในหัวใจ ชาวไทยทุกคน ไม่มีวันไหนที่พวกเราชาวไทยจะหยุดน้อมร�ำลึกถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเราได้เลย ณ บัดนี้ พระองค์ได้เสด็จฯ ไปประทับยังทิพยวิมาน เบือ้ งบนแล้ว แม้จะตระหนักว่านีเ่ ป็นเรือ่ งของสัจธรรม แต่ในฐานะทีย่ งั เป็นปุถุชนคนธรรมดา ก็ยังยากที่จะท�ำใจได้จริงจริง เพื่อน้อมร�ำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ และเพือ่ เผยแพร่คณ ุ ค่าของศิลปวัฒนธรรมไทยทีม่ คี วามประณีตงดงาม ไทยสไมล์ฉบับนี้ ขอน�ำเสนอบทความพิเศษ การเตรียมพระราชพิธถี วาย พระเพลิงพระบรมศพ และเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดสร้างพระเมรุมาศ และเครื่องประกอบต่าง ๆ ท้ายนีพ้ วกเราทีมงานไทยสไมล์ขอสัญญาว่า เราจะน�ำพระบรมราโชวาท และพระราชด�ำรัสของพระองค์ มาปรับใช้ในการด�ำเนินชีวิตและ การท�ำงาน และจะพยายามน�ำความรูค้ วามสามารถเท่าทีพ่ วกเรามีอยู่ ไปท�ำประโยชน์แก่ผอู้ นื่ เพือ่ สืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ตอ่ ไป

กราบทูลลา ฝ่าพระบาท ในชาตินี้ หากแม้นมี โอกาส ในชาติหน้า ขอกุศล ผลบุญ หนุนน�ำพา เกิดเป็นข้า รองพระบาท ทุกชาติไป

ด้วยส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ดร.นริสา เชื้อวิดุลย์-Aw เจ้าของและผู้ก่อตั้งนิตยสารไทยสไมล์

Pramaha V.Vajiramedhi Chamnongsri Hanchanlash Werachai Anuworakarn Manta Maythachatchaval Kitti Kaewhin Sakon Boonyakiet Kitty Vongprasert Sebastian Holmes Luke Farrell Surasak Laoprom Laksawadee Gurney Dr. Phatarachate klaiklern Asst. Prof. Prakasit Chirappapha

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี คุณหญิงจ�ำนงศรี หาญเจนลักษณ์ วีระชัย อนุวรกาญจน์ มันตา เมธาชัชวาล กิตติ แก้วหิน สกล บุณยเกียรติ คิตตี้ โวหาร-วงศ์ประเสริฐ เซบาสเตียน โฮมส์ ลุค แฟร์เรล สุระศักดิ์ เหลาพรม ลักษวดี เกอร์นี่ นพ.ภัทรเชษฐ คล้ายเคลื่อน ผศ.นพ. ประกาศิต จิรัปปภา

WRITERS Pornthip Satissarat Boonsong Chaletorn Adisak Phetsong Passamon Hall

พรทิพย์ สาทิสสะรัต บุญส่ง ชเลธร อดิศักดิ์ เพ็ชรสงค์ พรรษมนตร์ ฮอลล์

MARKETING MANAGER Kadsuda Priyanu Suphavas Varamali

เกศสุดา ปรัยนุ สุภวัส วรมาลี

ART DEPARTMENT

Patcharin Sirichote พัชรินทร์ ศิริโชติ OWNER ThaiSmile Media Limited

Building 3, North London Business Park Oakleigh Road South, London N11 1GN www.thaismile.com For all enquiries please contact

editor@thaismile.com +44 (0) 20 3478 3757, +44 (0) 79 8561 8228 ThaiSmile Magazine is published by ThaiSmile Media Limited. No part of this publication may be copied or distributed without prior written agreement from ThaiSmile Media Limited.

14

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


The World’s Premium Quality

Thai Jasmine Rice

GOLD - SINGAPORE

Tel: +44 (0) 1276 406 887/8 Email: sales@manningimpex.com www.manningimpex.com




SMILE CONTENTS

01 01 SPECIAL FEATURE

40 SMILE SENIOR

20 SMILE CHEF

44 SMILE MIND

22 SMILE TASTE

48 TWO TALK

26 SMILE SPECIAL

50 SMILE HEALTH

30 SMILE TRENDS

52 SMILE GOING OUT

32 SMILE STORY

56 SMILE SHORT STORY

36 SMILE THINK

60 SMILE FAMILY

38 SMILE LIFE

54

52

30

20



SMILE CHEF

WORDS SEB HOLMES AND DAN TURNER, FARANG

Sebby Holmes Head Chef , Farang London www.faranglondon.co.uk

‘AROMATIC BEEF’ BRAISED IN COCONUT CREAM AND GINGER

20

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


THAISMILE 159

SERVES 2 / GF 400g, beef cheeks, excess fat removed and chopped into 3cm by 3cm chunks 2 sticks lemongrass, bruised in a pestle and mortar 4 kaffir lime leaves, torn to release flavour 2 long red chillies, bruised in a pestle and mortar 15g, Thai shallots, peeled and whole (any small, sweet shallot will do) 20g, peeled ginger, fine julienne 600-700ml coconut cream (enough to submerge the beef) 20-25ml fish sauce 1 heaped tablespoon soft brown sugar 1 heaped tablespoon of tamarind paste 10g Thai sweet basil (more common Italian basil will do) 50ml, good olive oil 1 tablespoon coarse sea salt 10g coriander, picked and washed

T

here is nothing more appetising for the home-cook than a one pot wonder and this is certainly one to try. Using coconut cream and fish sauce instead of stock and salt to braise beef produces some seriously amazing results. This stew is one to try on a cold winters day when you need something simple to cook that warms the soul. METHOD Begin by coating the beef in the olive oil and the coarse sea salt and mix well with your hands ensuring that all the meat gets a good coating of oil and salt. Next in a large oven proof tray add the beef, lemongrass, kaffir lime leaves, long red chillies, Thai shallots, two thirds of the julienne ginger, coconut cream, tamarind, fish sauce and the sugar then tightly wrap the tray in tin foil to protect the contents from direct heat of the oven, all ingredients should be completely submerged in the coconut cream. Next place this tray on the middle shelf in an oven that is pre-heated to 140 degrees centigrade and cook for 5-6 hours. Once the time has passed take the beef out and check that it is cooked correctly, you should be able to break up the piece of meat with a spoon as it is so tender. The trick to this dish is low and slow, let the heat of the oven do all the work and all you need to do is assemble all the ingredients into one tray. Once the beef is ready to come out taste the coconut broth to ensure that you are happy with the seasoning. It should be delicately sweet from the coconut cream and moreishly salty from the fish sauce, add a little more of either if you think necessary. Once ready serve the stew in bowls topped with more julienne ginger and fresh coriander leaves, this is great served with steamed jasmine rice. See you next time, Eat well!

21


S M I L E TA S T E

BITTER SWEET

22

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

WORDS / PHOTOGRAPHY CHEF KITTY VONGPRASERT

Sugar & Sunshine www.sugarandspice15.com

You know the season’s changed when you suddenly get a wintery chill instead of a summer breeze, and you notice that the leaves have started to turn a different colour as well…


THAISMILE 159

CHICKEN NOODLE SOUP

WITH CHINESE BITTER GOURD

T

his sort of weather just makes me crave something warm and hearty to eat while snuggled on a sofa with my favourite blanket. And nothing fits the bill more than a lovely bowl of soup. I always love to offer you something a little bit different, so here we are, a soup that is somewhat unusual but highly recommend for your taste buds – a deconstructed noodle soup which has one special ingredient in it called ‘bitter melon’, also known as ‘bitter gourd’. Thai cooking is comprised of five sensational tastes: sour, sweet, salty, savoury and bitter. This particular dish is a great example of how we incorporate the bitter taste in our food, and how we balance the flavours all together. Bitter melon is widely used in Chinese and Thai cooking. Despite its bitter taste, this gourd comes with all the wonderful healing properties of bitter foods that many Eastern cultures believe can help to protect you from cold and flu when the season changes. It is also believed to help with indigestion and lower the blood sugar level. This noodle soup is supposed to adjust the Yin-Yang energy in your body as well, so you should feel very energised after having a dose of this dish!

All over Thailand you can find stalls offering this kind of noodle soup as a type of fast food, in places such as markets, coach stations, petrol stations, and department store food courts. It is an all-day breakfast type of meal that we can get on-the-go from the street stalls, without needing to cook it ourselves. What a happy life!

INGREDIENTS

METHOD

5 tbsp. Vegetable oil 4 Chicken thighs 10 cups Water 1 Chinese bitter gourd 1 tbsp. Sea salt 1/4 cup Oyster sauce 3 tbsp. Light soy sauce 3 tbsp. Dark sweet soy sauce 8 cloves Garlic – keep whole 5 Coriander roots 1 tbsp. White pepper 100 g. Dry rice noodles – soaked in cold water for 2 hrs. 1/2 cup Vegetable oil for frying 1 tbsp. Crispy-fried garlic (I used a readymade one) 1/4 cup Spring onion – finely sliced 1/4 cup Coriander leaves – finely chopped

Prepare the chicken crackling by pulling the skin from the thighs and seasoning it with a little bit of salt and pepper. Arrange the chicken skin on a baking tray and oven dry at 80˚C for about 20 minutes. Set aside. Slice the bitter gourd in half lengthwise, and scrape off any pulp in the middle. Cut into 5cm cubes, rub these pieces with 1 tbsp. of sea salt and rest in the bowl for about 20 minutes before rinsing off with cold water. Drain in a colander and set aside. Prepare the chicken stock in a large pot by first adding water, sea salt, oyster sauce, light soy, dark soy, garlic, coriander roots and white pepper. Put on a high heat until it reaches a rolling boil, then add the chicken thighs and bitter gourd. Close the lid and reduce the heat to low. Then simmer for 30-40 minutes or until the chicken is tender. Skim off any scum that’s risen to the top. You should be left with a clear stock at the end of the cooking. While the chicken broth is simmering, in another saucepan boil the rice noodles in some hot water for 2 minutes. Drain in a colander and stir in some vegetable oil just to separate the noodle strands. Set aside. In a wok, heat up 1/2 cup of vegetable oil on medium heat. When the oil is hot, add the chicken skin and fry until golden brown. Drain on some kitchen towel and set aside. To set up the dish together, place the rice noodles in the middle, followed by shredded chicken meat, chicken crackling, bitter gourd, and then the chopped spring onion and coriander on top. Serve the chicken broth on the side (or over if prefer). And if you like spicy, you could perk it up with some chilli flakes or Sriracha chilli sauce, and you are good to go!

For those of you who would like to entertain but don’t want to cook (or are unable to for whatever reason), you could let me do the job for you! You can now check out my new website at www.sugarandspice15.com for all your bespoke catering service needs. You can also follow me on Instagram: @sugar_and_sunshine for my foodie footage and everything else! 23


S M I L E TA S T E

ILLUSTRATE 123RF

หวานเป็นลม ขมเป็นยา สุภาษิตของไทยที่ทุกคนคงจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาตั้งแต่เด็ก แต่จะมีกี่คนที่จะรู้ว่าสุภาษิตนี้ตั้งใจจะสอนอะไรแก่ผู้ฟัง

ตัวดิฉนั เองก็ไม่เคยได้ทราบมาก่อน ผูห้ ลักผูใ้ หญ่เคยสอนว่าเวลาเรา ไม่รู้อะไรให้ถามดีกว่าเก็บความสงสัยเอาไว้แล้วเดาเอาเองเพราะไม่ใช่ ว่าทุกสิง่ จะเป็นอย่างทีเ่ ราคิดมโนไปเองเสียหมด ดิฉนั ก็โตมาอย่างทีเ่ ป็น คนชอบถามตลอดเวลา ถามตัวเองเป็นส่วนมาก ถามคนอืน่ ก็บอ่ ย บางที ก็ถามจนคนถูกถามนึกว่าดิฉนั จะมาสัมภาษณ์งาน แต่ดฉิ นั ก็ยงั คิดว่าการ ถามค�ำถามเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากการถามค�ำถาม นี่แหละ ได้ความรู้ใหม่ๆจากการถามค�ำถาม ได้พัฒนาตนเองจาก ความรู้ใหม่ที่เราได้มา ค�ำพูดที่ว่า อายครูไม่รู้วิชา นี่คงไม่ได้ใช้กับดิฉัน เพราะดิฉันไม่เคยอายครูแต่กระหายความรู้จนครูต้องกลัว เอาเป็นว่า ถามได้แต่ตอ้ งดูอาการคนถูกถามนิสนุงว่าร�ำคาญกันบ้างไหม ไม่อย่างนัน้ อาจได้อย่างอื่นสวนมาแทนที่จะเป็นค�ำตอบ! อ้าว แล้วตกลง หวานเป็นลม ขมเป็นยา มีความหมายว่าอย่างไร มัวแต่โม้จนเกือบลืมเล่าให้ฟงั ล้อมวงกันเข้ามาค่ะ สุภาษิตนีห้ มายความ ว่า ค�ำหวานนั้นมีแต่จะให้เราหลงระเริงไปกับค�ำชมจนเราลืมตัว แต่ขม นั้นเปรียบเสมือนเป็นค�ำติ ที่หากว่าเราน�ำมาใช้เพื่อเป็นการปรับปรุง ตนเองนั้นก็จะกลายเป็นยาเพื่อให้ประโยชน์กับชีวิตนั่นเอง พูดเรื่องความขมความหวานมากๆก็ชักจะหิว อากาศเย็น ฝนตก กระหน�่ำแบบช่วงเปลี่ยนฤดูนี้จะมีอะไรเหมาะสมกับการหาอะไรร้อนๆ ซดให้ชื่นใจ ดังเช่นก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นมะระสูตรดั้งเดิม (ดั้งจมูกของเดิม ไม่ได้เสริมแต่อย่างใด - เอ้าจะเอาฮากันไปไหน!) ที่ดิฉันน�ำมาแยกน�้ำ แยกเส้น โดยส่วนตัวแล้วดิฉันไม่ชอบทานหนังไก่ต้มจึงแยกหนังไก่ น�ำไปทอดกรอบเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทาน หลายคนทานมะระไม่เป็นเพราะอาจกลัวขม แต่ทราบหรือไม่ว่า ความขมนัน้ เป็นประโยชน์กบั ร่างกายตรงตามสุภาษิตได้วา่ ไว้ทกุ ประการ เบต้าแคโรทีนในผลมะระนั้นช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคและปกป้อง เซลล์จากการท�ำลายของสารก่อมะเร็งต่างๆ ช่วยบ�ำบัดและรักษาโรค เบาหวาน ช่วยลดระดับน�้ำตาลในเลือด ช่วยปรับสมดุลดับพิษร้อน ในร่างกาย มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน และช่วยในการย่อยอาหาร นี่เป็น แค่การยกตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น คุณสมบัติของมะระนั้นยังมีอีก เพียบ แต่เท่าทีส่ าธยายมาก็นา่ จะท�ำให้มะระเป็นผักทีน่ า่ ทานขึน้ มาทันที การปรุงอาหารด้วยมะระแล้วไม่ให้ขม มีเทคนิคง่ายนิดเดียว เพียง แค่ผ่ามะระตามยาว ขูดเมล็ดออกด้วยช้อน หั่นเป็นชิ้นตามใจชอบ แล้ว น�ำมาขย�ำกับเกลือ พักไว้ พอน�้ำแกงเดือดได้ที่แล้วก็น�ำมะระมาล้างน�้ำ เปล่าอีกครั้ง ใส่ลงไปในหม้อตอนที่น�้ำซุปเดือดจัดปิดฝาหรี่ไฟลงเป็น ปานกลาง เคี่ยวจนสุก แค่นี้คุณก็จะได้น�้ำซุปก๋วยเตี๋ยวที่หอมกลมกล่อม และอุดมไปด้วยประโยชน์ของมะระแล้ว และทีส่ ำ� คัญคือไม่ขม แต่บางที การที่มีความขมนิดๆ นั้นก็ไม่ได้แย่ หากแต่มันจะท�ำให้เราเห็นคุณค่า ของความหวานเหมือนกับชีวิตที่มีทั้งหวานทั้งขมเป็นรสชาติที่สลับกัน ไปมาเพื่อเติมเต็มรสชาติของชีวิตท�ำให้ไม่น่าเบื่อจนเกินไปนั่นเอง 24

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นมะระ ส่วนผสม

สะโพกไก่ 4 ชิ้น - ล้างให้สะอาด ลอกหนังเอาไว้ส�ำหรับทอด น�้ำเปล่า 10 ถ้วย มะระจีน 1 ลูก - หั่นตามยาว ขูดเมล็ดออก หั่นเป็นชิ้น เหลี่ยมประมาณ 5x5 ซม. เกลือสมุทร 1 ชต. น�้ำมันหอย 1/4 ถ้วย ซีอิ๊วขาว 3 ชต. ซีอิ๊วด�ำหวาน 3 ชต. กระเทียม 1 หัว - แกะออกเป็นกลีบ แต่ไม่ต้องปอกเปลือก รากผักชี 5 ราก เม็ดพริกไทยขาว 1 ชต. เส้นก๋วยเตี๋ยวตามชอบ น�้ำมันส�ำหรับทอดหนังไก่ 1/2 ถ้วย กระเทียมเจียว (ดิฉันใช้กระเทียมเจียวส�ำเร็จรูป) ผักชีต้นหอมซอย 1/2 ถ้วย เครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยว เช่น พริกดองน�้ำส้ม, น�้ำตาล, น�้ำปลา และพริกป่น วิธีท�ำ

ท�ำหนังไก่ทอดโดยซับน�้ำให้แห้งด้วยกระดาษครัว โรยเกลือ พริกไทยเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ เรียงหนังไก่ใส่ถาดอบ ผึ่ง หนังไก่เพื่อให้แห้งในเตาอบ ใช้ไฟอ่อนอุณหภูมิประมาณ 80 องศาเซลเซียสประมาณ 20 นาที พักไว้ • ขย�ำชิ้นมะระด้วยเกลือป่น 1 ชต. พักไว้ 20 นาที แล้วน�ำมา ล้างน�้ำสะอาด พักใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน�้ำ • ต้มน�้ำซุปโดยใส่น�้ำเปล่า เกลือสมุทร น�้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วด�ำหวาน กระเทียม รากผักชี เม็ดพริกไทยในหม้อ ตั้งไฟ แรงให้น�้ำเดือดพล่าน ใส่สะโพกไก่และมะระจีนที่เตรียมไว้ลง ไปปิดฝา ลดไฟลง เคีย่ วต่อไปใช้ไฟอ่อนประมาณ 30 - 40 นาที หรือจนสะโพกไก่และมะระนุ่ม ระหว่างนี้คอยช้อนฟองทิ้ง ก็จะได้น�้ำซุปที่ใส น่ารับประทาน • ระหว่างที่ต้มน�้ำซุปก๋วยเตี๋ยว เตรียมลวกเส้นแล้วคลุกกับ น�้ำมันเล็กน้อย พักไว้ • ทอดหนังไก่ในน�ำ้ มันปานกลาง จนเหลืองทอง ตักขึน ้ ซับน�ำ้ มัน พักไว้ • จัดเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่จาน ปรุงรสตามใจชอบโรยด้วยกระเทียม เจียว ฉีกเนือ้ ไก่เป็นเส้นวางเรียงลงไปข้างๆ จัดเรียงหนังไก่ทอด มะระชิ้น ตักน�้ำซุปใส่ถ้วย โรยผักชีต้นหอมซอย เสริฟทันที •


THAISMILE 159

25


SMILE SPECIAL

WORDS PAPASSAR NUTSATABHORN TRANSLATED BY WARANDHORN PHOTISARO PHOTO IVY ELAINE RUOLIN

DINER EN BLANC Diner en Blanc, the famous dinner party that people from all over the world dream to attend at least once in a lifetime. There’s something about this party that makes it special- the object of desire of all those people and gives it its reputation as the most extravagant and elegant party in the world.

I

n 1988, 29 years ago, a French man named François Pasquier wished to bring his friends together for a picnic in Bois de Boulogne Park in Paris. In order to help them find one another, he asked them to each dress from head to toe in all white- thus was the start of a tradition that is still kept very much alive today. What started out as a small picnic among friends has expanded over the years to incorportate tens of thousands of people and over 70 cities annually worldwide, now known as the “Diner en Blanc”.

26

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


THAISMILE 159

WHAT HAPPENS AT DINER EN BLANC? One of the most intriguing motifs of Diner en Blanc is that it occurs in a location that remains a secret up until the last possible minute. Attendees will not know where the event takes place, only that the day of they must choose one of several pre-determined locations at which they will meet a designated group leader who will then take them to the secret location. Registration takes place online, where participants will also have the opportunity to pre-purchase food and drinks for collection on the night of. On the day of the event, these attendees, armed with picnic accessories such as tables, chairs and decorations, will gather at a meeting point such as a tube station, in order to travel as a group to the venue. It is not uncommon to see all these people carrying a lot of table decorations as these attendees take dressing up their tables very seriously! THE GREAT WHITE DINNER PARTY Diner en Blanc has long established a reputation as the world’s most elegant dinner party. All diners are required to come dressed head to toe in white – shoes and accessories included – so often will choose extravagant, creative white outfits. Invitations come in three stages, and attendance is only possible if you are an existing member of Diner en Blanc International. First timers to Diner en Blanc are eligible to attend either as a guest of a pre-existing member, or have made it through the waiting list. Diner en Blanc International has over 100,000 members worldwide. This year’s September 14th marked the date of the official Diner en Blanc London, which was, for the first time, hosted by a Thai woman, Dr. Patrapa Chadist (Kaimook), who is determined to bring the magic back to this city she calls her second home Dr. Patrapa Chadist graduated with a Bachelor’s degree in Accounting from Thammasat University before moving to the UK to pursue her PhD in Supply Chain and Logistics at Cass Business School. She is now a specialist in Supply Chain Risk Management, and is one of the very few Thai people who have been selectively chosen to work in Amazon – a globally renowned supply chain giant. After many years at Amazon, she decided to forgo her career in order to pursue her dreams, turning the lifestyle she held with a passion into a business. FROM PERSONAL LIFESTYLE TO BUSINESS “Everyone that knows me knows I am a traveler. I am often and always in search of something new – new places, new restaurants, new experiences. I enjoy following and updating myself on these trends – a personal passion. This passion has led me to open restaurants in Thailand such as Vesper in Bangkok’s Soi Convent, our now famed Italian restaurant Il Fumo, and more recently, La Dotta, a newly opened pasta bar. In London, I founded a Thai street food business with friends called Pigachic, serving grilled pork, grilled chicken and other various takeaway dishes- the epitome of classic Thai food! This love for food and its scene prompts friends to approach me every time they come to London. “What should I eat?”, “Where should I go?”, “What are good new restaurants in London?”, and my personal favorite – “Could you please help me make this reservation?!” are questions I’ve gotten from friends in the past ten years, so I took a leaf out of one of my favorite character’s book- “If you find yourself good at something, don’t do it for free!” And if you love what you do,

as I love what I’m doing, you will never have to work a day in your life, and this is the origin of London Privilege Lifestyle. WHAT DOES LP LIFESTYLE DO? “Most people are familiar with concierge services that hotels offer to give their guests advice on what to do and where to go. LP Lifestyle does the same. We are essentially a lifestyle management and concierge service, which is exactly what it sounds like – we help plan and organise trips from start to finish, to the UK or anywhere that tickles your fancy, making sure that all of these details are personalised and tailored to the individual. This often includes restaurant reservations at hard-to-book restaurants, providing VIP access to big football matches (which is incredibly popular in the UK) such as Chelsea and Man Utd games, as well as making bookings at top hotels all around the world. The thing about these experiences is that not just anyone can walk in and book them, so when Thai people are visiting and they want to try all these new things, this is definitely something we can help with. If you are looking to visit London, please feel free to visit our website www.lp-lifestyle.com, Instagram @pat.london (my personal Instagram account) and @lp.lifestyle.com, or e-mail us at pat@lp- lifestyle.com. RESERVATIONS IN LONDON ARE HARD TO MAKE – HOW IS IT YOU CAN? Once, Dr. Patrapa accompanied the editor of a well-known magazine to dinner at Chiltern Firehouse when it first opened in London. “I remember the queue was insane because the restaurant was so new and popular,” he says. “But Pat took us directly through it all and got us a table immediately- and what an amazing table it was! Serena Williams sat on our left, with Adele on our right – what an incredible experience.” This of course had us wondering- how could this wonder woman do it? What was the secret that made her so special she could score a table at the hottest restaurant in London in just the blink of an eye? “There actually is no secret”, Dr. Patrapa says, smiling as if we’ve asked her something silly. “But if there was, it would be in the way you treat people. Everyone looks at me and assumes that I’ve been here in the UK since I was young, but the truth is I’ve only just arrived in my 20s. I stepped off that plane like every other person who came to study here- no connections, no renowned name or face- but I like to think that the reason I’ve come so far is that I care a lot about the people that I meet, and this applies to those I meet in restaurants as well. I try to remember the little details about them – who they are and where they come from, because they have a story, just like the rest of us. The first time I go to a new restaurant, it’s always as a customer who just wants to try their food, but by the time I leave, I leave as a new friend because I’ve taken the time to listen to their story. There is always something you can learn from every person you meet, whether it is knowledge of wine from a sommelier, knowledge of another country from a waiter- once you embrace this fact and step out of your comfort zone to make conversation, you will develop friends that are happy to welcome you with open arms to their restaurant, just as you are as happy to see them again.” WHEN WAS THE FIRST TIME YOU ATTENDED DINER EN BLANC? “The first time I went to Diner en Blanc was in 2015. My friend, Renee Waters (who is one of the hosts of Diner en Blanc as well this year), invited me to an event. The catch was, however, that she wouldn’t tell me what it was, only that she was sure I would

27


love it. She told me I had to dress in all white from top to toe, and prepare an insane list of items – a picnic table, chairs, a picnic basket of food. I was free at the time, so agreed to attend with her. The event in 2015 was at Lewis Cubitt Park near King’s Cross Station – and wow, was I amazed at the turnout. What felt like thousands of people had come together, all dressed in white, armed with picnic baskets and food and table decorations- all for a picnic in a place they didn’t know of before! The thing that I loved the most about this event was that everyone was so welcoming and happy, and ready to meet new friends.” THE START OF EUROPE’S BIGGEST DINNER PARTY. “After Diner en Blanc London in 2015, the event skipped a year in 2016 because there was an issue with the venue. Then this year, my friend that I went to Diner en Blanc with in 2015 told me that Diner en Blanc International was looking for a new team to organize the event here, which I thought was a very interesting prospect because LP Lifestyle already does a lot of event management and organisation. So we put together a very manypaged proposal to send to the founding organisation which is based in Montreal, Canada, to say we’ve got a strong team, we have advantages that a lot of other applicants may not have etc. We had several interviews with them, and in the end it all worked out!” WHY DID DINER EN BLANC INTERNATIONAL CHOOSE YOU? “In order to submit an application, we had to form a team of three people. I think Diner en Blanc International were impressed with our team as each member contributed a unique strength that would have been hard to rival, and we were exactly what they were looking for. They wanted people that had connections to various industries, such as media, in order to efficiently promote the event- a condition which was more than fulfilled by one of our hosts who works in the fashion industry here in London. Another condition was the knowledge of supply chain and logistics, which was exactly up my alley, and then some knowledge of events and finance which the other host was very experienced in. Together, I think we made a formidable team!” HOW DID IT FEEL TO BE CHOSEN? “London is a city I love- my second home. There is a lot of charm in the way the city grew over the years, which makes it perfect for a sophisticated and elegant event such as Diner en Blanc. Words cannot express how happy and proud I am to be able to be a part of this amazing event.” ORGANISATION OF DINER EN BLANC “We’ve been working on putting together this event since February. We wanted the day of the event to be during summer, so we

28

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

chose September because in August, London will be very quiet – everybody knows that there are no Londoners in London in August! We chose the 14th of September specifically because from the 15th onwards is London Fashion Week, where the city will be bustling with interest. Another important factor to consider for this event was the venue, which needed to be an iconic location that represented London. The requirements were that the venue had to be an outdoor location, but the recent disturbances in London of terrorist attacks, made it difficult to find a venue that would host an event for thousands of people. In the end, we were so fortunate to acquire Somerset House, which was one of our top candidates. DO YOU THINK YOU WILL HOST ANOTHER DINER EN BLANC NEXT YEAR? “If I had this opportunity again, I would take it in a heartbeat. Luckily for us, we do have a long term contract with Diner en Blanc International, so we are looking forward to many more years to come!” WILL WE HAVE A CHANCE TO SEE DINER EN BLANC IN THAILAND? “While London is an amazing city, Bangkok will always be my first home. This was actually one of the first things I thought of when I applied for Diner en Blanc in London, that one day I’d like to bring this event back to Bangkok to host with my friends.” TO THOSE WHO WANT TO FOLLOW THEIR DREAMS AND SUCCEED: “Whatever you dream of, do it. Sometimes there isn’t always a need to plan everything. Everywhere I look, people around me are planning- writing out their dreams on paper and in their heads instead of stepping up to take action. The most important thing is to come to know and understand what you love and what you stand for- your hopes, dreams and passions- and then chase them. Don’t focus on what you will get out of it, but instead do what you love and do it well, and success will come to you. With Diner en Blanc, what I would get out of this event was never something that occurred to me. I chose to dedicate my time to it because I wanted to, wanted to hold an amazing event that would be the most memorable night of the year for many people to come. What you learn from work, from experience, is so much more valuable than any profit you could ever make, and as long as you are willing to take on everything that comes at you, nothing is impossible. The most important thing anyone has ever taught me was a lesson from my grandfather, who taught me to never think of what I get out of doing things to help people, but rather always remember when people help us.” – Dr. Patrapa Chadist (Kaimook).


THAISMILE 159

29


SMILE TRENDS

WORDS

BUSINESS OF DEATH ทุกวันนี้เรามีลูกน้อยลงเรื่อยๆ แต่กลับกันเรามีสัตว์เลี้ยงอยู่ใน บ้านมากขึ้นนะครับ จิตวิทยา อย่างหนึ่งที่อธิบายเรื่องที่คนเรา ต้องการสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านคือ ลึกๆ เราอยากดูแลอะไรสักอย่าง หนึ่ง สัตว์เลี้ยงจึงเป็นตัวเลือกที่ ดีเปรียบเสมือนทั้งเพื่อนและลูก ของใครหลายคน

นอกเหนือจากธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยงจะโตวัน โตคืนแล้ว ธุรกิจหนึ่งที่ก�ำลังได้รับความนิยม มมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็คือ “ธุรกิจหลังความ ตาย” ส�ำหรับสัตว์เลี้ยง ถือเป็นธุรกิจที่ก้าว กระโดดทัง้ ในแง่ของความซับซ้อนของรูปแบบ และราคาซึ่งถือว่าไม่เบาเลย เราลองไปดูทญ ี่ ปี่ นุ่ กัน ไม่นานมานีญ ้ ปี่ นุ่ มีการ จัดงาน Pet Rainbow Fiesta เป็นงานจัดแสดง สินค้าว่าด้วย “งานศพส�ำหรับสัตว์เลีย้ ง” งาน นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานอาหารสัตว์งานดูแล สัตว์ แต่เป็นเรือ่ งของบริการส�ำหรับจัดงานศพ เพี ย งอย่ า งเดี ย วแบบครบวงจร ญี่ ปุ ่ น เป็ น ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องของความเป็นระเบียบ เรียบร้อยและให้ความส�ำคัญกับสัตว์เลีย้ งมาก ใครที่จะเปิดร้านสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่นจะต้องได้ รับอนุญาติจากทางการ ผ่านการทดสอบอย่าง เข้มงวด สัตว์ตัวที่จ�ำหน่ายในร้านสามารถ สืบย้อนกลับมาได้ถึงตัวผู้ขาย ผู้เพาะพันธุ์

30

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

เนื่องจากที่ญี่ปุ่นป้องกันสัตว์หลุดหายหรือ สัตว์จรจัด ฉะนั้นสัตว์เลี้ยงที่จ�ำหน่ายในญี่ปุ่น ว่ากันตั้งแต่หนู งู หรือตัวอะไรก็แล้วแต่ ต้องมี ไมโครชิพ มีรายละเอียดเกี่ยวกับสัตว์อย่าง ละเอียด การเลี้ยงสัตว์ส�ำหรับคนญี่ปุ่น ก็ไม่ ต่างจากการเลี้ยงลูกเลยล่ะครับ มีค่าใช้จ่าย หยุมหยิมและความยุง่ ยากอยูเ่ ต็มไปหมด เมือ่ ได้มายาก การจากจึงเป็นเรื่องยากกว่า ธุรกิจ เรือ่ งความตายของสัตว์เลีย้ งจึงเป็นทีน่ ยิ มและ เฟื ่ อ งฟู ข้ อ มู ล ของ AsiaOne บอกเราว่ า ปัจจุบันมีธุรกิจให้บริการงานศพสัตว์เลี้ยงใน ญี่ปุ่นมีมากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ งานศพ สัตว์เลี้ยงหรือที่เรียกว่า Petto Ceremoni- Makoto ในญี่ปุ่น คิดค่าบริการตั้งแต่ 95,800 เยน หรือประมาณ 28,000 บาทส�ำหรับสัตว์ เลี้ยงน�้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลกรัม(เช่น หนู งู นก ปลา กระรอก ฯลฯ) และราคาอาจเพิ่มสูงขึ้น ไปถึง 114,800 เยน หรือราว 34,000 บาท ส�ำหรับสัตว์เลีย้ งน�ำ้ หนัก 20 กิโลกรัม นอกจาก นีย้ งั มีคา่ ใช้จา่ ยอืน่ ๆ ทีเ่ จ้าของต้องจ่ายอีก เช่น ค่าดอกไม้ในงานศพสัตว์เลีย้ งเริม่ ต้นที่ 30,000 เยน(ประมาณ 8,900 บาท) ยังมีค่านักดนตรี ที่มาเล่นในงานศพ พิธีกรรมทางศาสนา ฯลฯ และหลังจากพิธีฌาปนกิจเสร็จสิ้น เจ้าของยัง สามารถเก็บเถ้ากระดูกของสัตว์เลี้ยง ไว้ที่ สุสานสัตว์โดยมีค่าบริการ 5,000 เยนหรือ ประมาณ 1,3000 บาทต่อปี ส่วนทีส่ หรัฐฯ ก็ไม่นอ้ ยหน้ากันนะครับ เว็บไซต์ Fortune อ้างข้อมูลจาก 2017-2018 APPA National Pet Owners Survey ระบุว่า 68%

เอกศาสตร์ สรรพช่าง


THAISMILE 159

ของครัวเรือนอเมริกันมีสัตว์เลี้ยงอย่างน้อย 1 ตัว นั่นเท่ากับชาวอเมริกันมีสัตว์เลี้ยงรวมกัน ประมาณ 85 ล้านตัวขณะที่ยอดใช้จ่ายเพื่อ สัตว์เลี้ยงของคนอเมริกันก็เติบโตสวนทางกับ ภาวะเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปี 2007 ในปี 2016 คนในประเทศนีใ้ ช้เงินซือ้ ของเพือ่ สัตว์เลีย้ งราว 66,750 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.2 ล้าน ล้านบาท) และคาดว่าปีนี้สามารถไต่ไปถึง 69,000 ล้านดอลลาร์ (2.3 ล้านล้าน) เมื่อ เจาะลึกลงไปถึงธุรกิจจัดงานศพเพือ่ สัตว์เลีย้ ง พบว่าปีหนึ่งๆ มีการจัดพิธีศพสัตว์เลี้ยงเฉลี่ย อยู่ที่ 500,000 ตัวต่อปี และค่าบริการเริ่มต้น ที่ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6,800 บาท) และแปรผันไปตามความอลังการและน�ำ้ หนัก ของสัตว์ ราคานี้ยังไม่รวมการเก็บเถ้ากระดูก การท�ำหลุมฝังศพ ซึ่งหากใครอยากวางแผน ว่าจะมีหลุมศพใกล้ๆ สัตว์เลี้ยงของตน ก็ต้อง วางแผนกันไว้ล่วงหน้า ล่าสุดอเมริกาก้าว ไปอี ก ขั้ น ส� ำ หรั บ การท� ำ ศพสั ต ว์ เ ลี้ ย งใน

หนั ง สื อ พิ ม พ์ Seattle Times แนะน� ำ วิ ธี Resting Waters ที่น�ำกระบวนการย่อยสลาย ทีเ่ รียกว่า Alkaline hydrolysis หรือ aquamation มาแทนการเผา เพราะการเผาท�ำให้เกิด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ แต่ ราคาก็ยงั ไม่มกี ารเปิดเผย แต่คาดว่าน่าจะแพง ในประเทศไทยราคาการจัดงานศพนัน้ ไม่แพง ขนาดนี้ น ะครั บ ตามวั ด ในกรุ ง เทพฯ หรื อ เมืองใหญ่อย่างภูเก็ต เชียงใหม่ราคาเริ่มต้น ประมาณ 1,900 บาท เท่านั้น บริบทของสัตว์เลี้ยงของคนในเมืองใหญ่สมัย นี้ไม่ใช่เรื่องของการเลี้ยงไว้ใช้งานอีกต่อไป แล้ว แต่เป็นเรื่องการหาความส�ำราญ การหา สมาชิกใหม่ในครอบครัว ฉะนั้นการสูญเสีย สมาชิกในครอบครัวย่อมเป็นเรือ่ งเจ็บปวดกว่า การสูญเสียแค่สตั ว์เลีย้ งภายในบ้านแน่นอน

31


SMILE STORY

WORDS

DANIEL GIDEON

คุณค่าของคน อยู่ที่ไหน ใครที่ยังไม่ได้ดูวีดีโอหนังสั้นเรื่องนี้ ขอแนะน�ำให้ดูวันนี้เลยค่ะ สแกน QR Code ตรงนี้แล้วดูผ่านยูทูป เราจะเห็นใครสักคนที่ไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์แบบแบบคนหลายๆ คน แต่เขาท�ำอะไรหลายๆ อย่างได้มากกว่าพวกเราอีกหลายคนเสียอีก นั่นเพราะเขาได้รับ แรงบันดาลใจจากบุคคลท่านหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจ ก�ำลังใจ และเป็นทุกอย่างของ ผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ ครูเชาว์ และของคนไทยอีกหลายล้านคน

เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสกลับบ้านเกิดประจ�ำปี อีกครั้ง และได้ไปท�ำงานอาสาสมัครให้บ้านเด็กก�ำพร้าแถบชายแดน 2-3 แห่งทีไ่ ปทุกปี แต่ปนี เี้ รามีเพือ่ นร่วมเดินทางเพิม่ ทัง้ คนไทยและคน ต่างชาติอีก 3 ครอบครัว รวมถึงสุภาพสตรีชาวอเมริกันคนหนึ่งที่เป็น บาทหลวงมีโบสถ์อยูใ่ กล้ๆ บอสตัน บาทหลวงเบตตี้ จีนน์ เคยเห็นวีดโี อ ที่พวกเราตั้งใจท�ำกัน แล้วเกิดความประทับใจเลยขอตามมาด้วย ความสุขของพวกเราและของคนท�ำงานอาสาหลายๆ คน ไม่ใช่แค่ ความสุขชั่วคราวในการไปแจกของ แจกขนมแจกเสื้อผ้า หรือให้เงิน ช่วยเหลือเด็กๆ ก�ำพร้าเหล่านี้แค่อย่างเดียว แต่มีอีกสึ่งหนึ่งเป็นสิ่งที่ ถึงแม้ว่าเราจะได้มีโอกาสรับรู้หรือไม่สามารถรับรู้ได้เลย นั่นคือความ หวังว่าสักวันหนึ่งในอนาคต เด็กก�ำพร้าที่เราช่วยเขา เด็กๆ เหล่านี้ไม่ ว่าจะพิการหรือไม่กต็ าม เมือ่ เขาเติบโตขึน้ มา จะมีสกั แค่คนเดียว (หรือ หลายคนก็ได้) ที่มีความคิดแบบครูเชาว์ที่เกิดมาในบ้านเด็กก�ำพร้า จะได้เห็นความสุขทีแ่ ท้จริง นัน่ คือการไปช่วยเหลือคนอืน่ ต่อ เหมือนที่ พวกเราไปช่วยพวกเขาเมื่อเขายังเล็กอยู่ตอนนี้ หลังจากทีไ่ ด้ดวู ดี โี อ “คุณค่าของคนอยูท่ ไี่ หน” อีกรอบ เป็นการบอก ย�้ำสิ่งที่พวกเราคิดอยู่เสมอว่า สิ่งที่เราคิดและท�ำเล็กๆ ทุกปีนี้ มันเป็น แค่เศษเสี้ยวเล็กน้อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ในหลวง 32

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

รัชกาลที่ ๙ได้ทรงท�ำเพือ่ ราษฎรทัว่ ประเทศมาโดยตลอด พระองค์เป็น แรงบันดาลใจให้พวกเราและคนไทยอีกมากมายหลายล้านคน ไม่ว่า ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง การออกค่ายอาสาของหน่วยงานต่างๆ เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ เป็นต้น การท�ำงานอาสาของพวกเราและอีกหลายๆ คนนับไม่ถ้วน ณ เวลานีพ้ ระองค์ได้เสด็จไปประทับยังทิพยวิมานเบือ้ งบนแล้ว ถึง แม้ความโศกเศร้าเสียใจยังคงปกคลุมอยู่ในหัวใจของพวกเราอยู่ ไม่ อาจเลือนลางหายไปได้โดยง่าย พวกเราสัญญาว่าจะน้อมรับและ น�ำพระบรมราโชวาสและพระราชด�ำรัสของพระองค์ไปใช้ในการ ด�ำเนินชีวิตและการท�ำงาน และน�ำความรู้ความสามารถที่พวกเรามี อยู่ ไปท�ำประโยชน์แก่ผู้อื่นเพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ ต่อไป พวกเราจะช่วยกันขยายเมล็ดพันธุ์รักบนใจคนอื่นเพื่อพระองค์ ตลอดไปตราบที่พวกเรายังมีลมหายใจอยู่ โอกาสนีผ้ เู้ ขียนขออนุญาตรวบรวมพระบรมราโชวาท และ พระราช ด�ำรัสบางส่วนของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาไว้ในไทยสไมล์ฉบับนี้ เพื่อให้พวกเราทีมงาน คนอ่านไทยสไมล์ และชาวไทยทุกคน ได้จดจ�ำค�ำสอนของพระองค์ พร้อมทั้งร่วมส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้...


THAISMILE 159

ความเจริญของประเทศชาติ

“…ความเจริญของประเทศชาติ เป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่งเกิดจากผลงานหรือผลของการกระท�ำของคนทั้งชาติ ถือได้ว่าทุกคนแบ่งหน้าที่กันท�ำประโยชน์ให้แก่ชาติ ตามความถนัดและความสามารถ และเกื้อกูลกันและกัน ไม่มีผู้ใดจะอยู่ได้และท�ำงานให้แก่ประเทศชาติได้โดยล�ำพังตนเอง…” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2513 คนสุจริต

“…คนไม่มีความสุจริต คนไม่มีความมั่นคง ชอบแต่มักง่าย ไม่มีวันจะสร้างสรรค์ประโยชน์ส่วนรวมที่ส�ำคัญอันใดได้ ผู้ที่มีความสุจริตและความมุ่งมั่นเท่านั้น จึงจะท�ำงานส�ำคัญยิ่งใหญ่ที่เป็นคุณประโยชน์แท้จริงได้ส�ำเร็จ…”

พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ในพิธพี ระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมือ่ วันที่ 12 กรกฎาคม 2522 การรู้จักใช้เงิน

“…ถ้าเราสะสมเงินให้มาก เราก็สามารถที่จะใช้ดอกเบี้ย ใช้เงินที่เป็นดอกเบี้ยโดยไม่แตะต้องทุน ถ้าเราใช้มากเกินไปหรือเราไม่ระวัง เรากินเข้าไปเป็นทุน ทุนมันก็น้อยลงๆ จนหมด…”

พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2518 ผู้หนักแน่นในสัจจะ

“ …ผู้หนักแน่นในสัจจะ พูดอย่างไรท�ำอย่างนั้น จึงจะได้รับความส�ำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธา เชื่อถือ และความยกย่องสรรเสริญจากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วท�ำ คือพูดจริงท�ำจริง จึงเป็นปัจจัยส�ำคัญ ในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด…” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2540 การปิดทองหลังพระ

“ …การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจ�ำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมาก ไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้…” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2506 ประเพณีของชาติไทย

“ …ประเพณีทั้งหลายย่อมมีประโยชน์ในการด�ำเนินชีวิตของแต่ละคน เรามีประเพณีของชาติไทยเป็นสมบัติ เราควรจะยินดีอย่างยิ่งและช่วยกันส่งเสริมรักษาไว้ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ…” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2503 การรู้จักนับถือความรู้

“ …เราเป็นนักเรียน เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ถ้าหากว่าในด้านไหนก็ตาม เวลาไปปฏิบัติให้ถือว่า เราเป็นนักเรียน ชาวบ้านเป็นครูหรือ ‘ธรรมชาติเป็นครู’ การที่ท่านทั้งหลายจะออกไป ก็จะไปหลายๆ ด้าน... ก็จะต้องเข้าใจว่า เราอาจจะเอาความรู้ไปให้เขา แต่ก็ต้องนับถือความรู้ของเขาด้วย จึงจะมีความสําเร็จ…” พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่บัณฑิตอาสาสมัครพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยขอนแก่น ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดําริอําเภอเมือง จังหวัด สกลนคร เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2520 การมีเสรีภาพ

“…การมีเสรีภาพนั้นเป็นของดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้จําเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและ ความรับผิดชอบมิให้ล่วง ละเมิดเสรีภาพของผู้อื่น ที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึง สวัสดิภาพและความเป็นปกติสุขของส่วนรวม ด้วย มิฉะนั้น จะทําให้มีความยุ่งยากจะทําสังคมและ ชาติประเทศต้องแตกสลายโดยสิ้นเชิง…” พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแถลงการณ์สภาการวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติตาม แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (สวชพ.) เรื่อง ‘การใช้เสรีภาพเพื่อการปรองดองสมานฉันท์’ เนื่องในวันนักข่าว เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2520 การคิดก่อนพูด

“…หลักของคุณธรรมคือ การคิดด้วยจิตใจที่เป็นกลาง ก่อนจะพูดจะทําสิ่งไร จําเป็นต้อง หยุดคิดเสียก่อน เพื่อรวบรวมสติ ให้ตั้งมั่น และจิตสว่างแจ่มใส ซึ่งเมื่อฝึกหัดคุ้นเคยชํานาญแล้ว จะกระทําได้คล่องแคล่วช่วยให้สามารถแสดงความรู้ ความคิดในเรื่องต่างๆ ให้ผู้ฟังได้เข้าใจได้ง่าย ได้ชัด ไม่ผิด ทั้งหลักวิชา ทั้งหลักคุณธรรม…” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2535

33


สัจจวาจา

“…สัจจวาจา นั้นเป็นรากฐานของการท�ำงาน หรือการด�ำรงชีวิตที่ดีที่งามที่มีความก้าวหน้า มีความส�ำเร็จ “สัจ” เป็นการตั้งใจ ตั้งจิตใจ “วาจา” เป็นค�ำพูดออกมา แสดงถึงค�ำพูดนั้นต้องออกมาจากใจ คือเป็นการตั้งใจที่จะท�ำอะไรเพื่อความส�ำเร็จในงานนั้น…”

พระราชด�ำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่ผู้พิพากษาประจ�ำกระทรวงยุติธรรมเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2525 การด�ำรงชีวิตที่ดี

“… การด�ำรงชีวิตที่ดีจะต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา การปรับปรุงตัวจะต้องมีความเพียรและความอดทนเป็นที่ตั้ง ถ้าคนเราไม่หมัน่ เพียร ไม่มคี วามอดทน ก็อาจจะท้อใจไปโดยง่าย เมือ่ ท้อใจไปแล้ว ไม่มที างทีจ่ ะมีชวี ติ เจริญรุง่ เรืองแน่ๆ…” พระราชด�ำรัสของ พระราชทานแก่ครูและนักเรียน โรงเรียนจิตรลดา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2523 ความเจริญในการท�ำงาน

“ …ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากประพฤติชอบและการหาเลี้ยงชีพชอบเป็นหลักสําคัญ ผู้ที่จะสามารถประพฤติชอบ และหาเลี้ยงชีพชอบได้ด้วยนั้น ย่อมจะมีทั้งวิชาความรู้ ทั้งหลักธรรมทางศาสนา เพราะสิ่งแรกเป็นปัจจัยสําคัญสําหรับใช้กระทําการทํางาน สิ่งหลัง เป็นปัจจัยสําคัญสําหรับส่งเสริมความประพฤติและการปฏิบัติงานให้ชอบคือให้ถูกต้องและเป็นธรรม…”

พระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ครูโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนา อิสลาม 4 จังหวัดภาคใต้จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2519 ความพอเพียง

“… ความพอเพียงนีไ้ ม่ได้หมายความว่าทุกครอบครัวจะต้องผลิตอาหารของตัว จะต้องทอผ้า ใส่เอง อย่างนัน้ มันมากเกินไป แต่ในหมู่บ้านหรือในอําเภอ จะต้องมีความพอเพียงพอสมควร บางสิ่งบางอย่างที่ผลิตได้มากกว่าความต้องการ ก็ขายได้แต่ในที่ไม่ห่างไกลเท่าไหร่ ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง มากนัก ...มีเงินเดือนเท่าไหร่จะต้องใช้ภายในเงินเดือน... กู้เงินนั้น เงินจะต้องให้เกิดประโยชน์มิใช่กู้สําหรับ ไปเล่น ไปทําอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์… ” พระราชดํารัสในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540 ชาติบ้านเมือง

“ …ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวง ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิตร่างกาย ชีวิตร่างกายดํารงอยู่ได้เพราะอวัยวะใหญ่น้อยทํางานเป็นปรกติพร้อมกันอย่างไร ชาติบ้านเมืองก็ดํารงอยู่ได้เพราะสถาบันต่างๆ ตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมมูลอย่างนั้น…”

พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตํารวจและอาสาสมัครพลเรือน ในพิธีตรวจพลสวนสนามในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2514 คนดี

“ …ในบ้านเมืองนี้มีทั้งคนดีและคนไม่ดีไม่มีใครที่จะทําให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทําให้ บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทําให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดี ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอํานาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ …” พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมชนลูกเสือแห่งชาติค่ายลูกเสือวชิราวุธจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2512 การท�ำหน้าที่ของข้าราชการ

“…ข้าราชการไม่ว่าจะอยู่ตําแหน่งใด ระดับไหน มีหน้าที่อย่างไร ล้วนแล้วแต่มีส่วนสําคัญ อยู่ในงานของแผ่นดินทั้งสิ้น ทุกคนจึงต้องตั้งใจปฏิบัติหน้าที่โดยเต็มกําลังความสามารถด้วยอุดมคติด้วยความเข้มแข็งเสียสละและระมัดระวังให้การ ทุกอย่างในหน้าที่เป็นไปอย่างถูกต้องเที่ยงตรงด้วยความระลึกรู้ตัว อยู่เสมอว่าการปฏิบัติตัว ปฏิบัติงานของตน มีผลเกี่ยวเนื่องถึงสุขทุกข์ของประชาชน ตลอดจนความเจริญขึ้นหรือเสื่อมลงของประเทศชาติ...” พระบรมราโชวาทเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2557 ความสามัคคี

“…สามัคคีนี้ก็คือการเห็นแก่บ้านเมือง และช่วยกันทุกวิถีทาง เพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้ เข้มแข็ง ด้วยการเห็นอกเห็นใจ ซึ่งกันและกัน และทํางานด้วยการซื่อสัตย์สุจริต ต้องส่งเสริมงานของกัน และกัน และไม่ทําลายงานของกันและกัน มีเรื่องอะไรให้ได้พูดปรองดองกัน อย่าเรื่องใครเรื่องมัน และงานก็ทํางานอย่างตรงไปตรงมา นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม...” พระราชดํารัสที่พระราชทานในพิธีประดับยศนายตํารวจชั้นนายพล เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2519

34

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


THAISMILE 159

Unit7-9 Meridian Trading Estate Bugsby’s Way Charlton SE7 7SJ Tel: 0845 388 1688 Fax: 0845 269 8709

WARWICK VESEY SOLICITORS

Vesey Solicitors have recently merged with another local Solicitors and are now known as Warwick Vesey Solicitors. บริษัททนายความ Vesey Solicitors ได้ร่วมธุรกิจกับ บริษัททนายอีกแห่งหนึ่ง ขณะนี้บริษัทใช้เชื่อใหม่คือ Warwick Vesey Solicitors We now offer a number of new services and have 2 Thai Caseworkers who can assist clients who prefer to speak in Thai to give instructions.

ถ้าลูกค้าอยากคุยเป็นภาษาไทย ทางบริษัทมีพนักงานคนไทยไว้คอยให้บริการ OUR SERVICES INCLUDE: IMMIGRATION BUSINESS IMMIGRATION IMMIGRATION ENFORCEMENT CIVIL PENALTY NOTICES

should you receive one of these please contact us immediately as whilst we can’t guarantee it we may be able to get the fine mitigated or removed in some cases.

WARWICK VESEY SOLICITORS 194 Alcester Street Birmingham B12 0NQ T: 0121 778 1188 F: 0121 771 3028 M: 0773 452 7491 email: ian.vesey@warwickvesey.com You can contact us on the numbers below. We are also on Facebook with a Thai Page and you can like that page and message us directly on that page. These messages will be answered by our Thai Caseworkers. We can arrange skype interviews or in certain circumstances we are able to offer appointments in London, Leicester, Bristol and Banbury. Other area’s of the Country by arrangement. (fee’s are payuable for out of office appointments).

CONVEYANCING BUSINESS LEASES FAMILY LAW CRIMINAL AND MOTORING LAW (INCLUDES FOOD HYGIENE LAW) 35


SMILE THINK

ผู้น�ำที่ดีต้องนั่งอยู่ ในหัวใจคน การเป็ น ผู ้ น� ำ ที่ ดี นั้ น จะต้ อ ง เข้ า ไปนั่ ง อยู ่ ใ น “หั ว ใจ” คน ไม่ใช่นั่งอยู่บน “หัว” คน 36

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

WORDS

พระมหาวุฒิชัย (ท่าน ว.วชิรเมธี) PHOTOGRAPHY SIGNNAGAS

อยู่บนหัวคน ก็คือ การเป็นผู้น�ำที่นิยมการ ใช้อ�ำนาจบาตรใหญ่ มีความต้องการอะไร ก็สั่งๆๆ ให้ลูกน้องท�ำตาม กดข่มลูกน้อง ด้วยอ�ำนาจ ด้วยอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเอง เป็นใหญ่ ลูกน้องท�ำงานไม่ทันใจ ทั้งนาย และลูกน้องก็มีสิทธิ์หัวใจวายหรือกลาย เป็นคนเครียดสะสม


THAISMILE 159

พระมหาวุฒิชัย (ท่าน ว.วชิรเมธี)

เหตุการณ์ในครั้งหนึ่งผ่านไปจนไม่มีใคร ก็ไม่รจู้ ะท�ำอย่างไร ก็เลยได้แต่ยนื น�ำ้ ตาซึม สนใจจ�ำอีกแล้ว ในจดหมายเหตุราชกิจ ด้วยความซาบซึ้งใจ รายวันก็คงไม่มีบันทึกไว้เป็นแน่ อาตมาเคยถามนิ สิ ต ว่ า ถ้ า เป็ น เธอถู ก ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จฯ ต่างจังหวัด ในหลวงทายาหม่ อ งให้ ที่ มื อ เธอจะท� ำ เพื่อทรงตรวจเยี่ยมโครงการต่างๆ และ อย่างไรในขณะนัน้ นิสติ คนหนึง่ ตอบว่า ถ้า พบปะราษฎร ขณะพลบค�่ำแล้วพระองค์ หนูตายให้ตัดมือออก แล้วเอาสตัฟฟ์ไว้ที่ ก�ำลังจะเสด็จฯ กลับ วันนั้นพระองค์และ ข้างฝา ห้ามเผาเด็ดขาด เป็นมือข้างเดียว ข้าราชบริพารถูกตัวบึ้งกัด ตอนนั้นเวลา ในโลกที่ พ ระมหากษั ต ริ ย ์ ท รงทายาและ ประมาณสองสามทุ่ม นวดให้ พระองค์ทรงพระด�ำเนินผ่านข้าราชบริพาร ในโลกนีจ้ ะมีผนู้ ำ� สักกีค่ นทีม่ คี วามละเมียด แล้วตรัสถามว่า “ใครถูกบึ้งกัด” ละไมกับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาได้ขนาดนี้ เจ้าหน้าที่กรมชลประทานคนหนึ่งตอบว่า “ข้าพระพุทธเจ้า” พระองค์ตรัสถามแล้วก็ ไม่ได้ตรัสอะไรต่อ เสด็จขึน้ รถยนต์พระทีน่ งั่ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พระองค์ท่านท�ำเช่นนี้ได้ เพราะว่าพระองค์ ไม่เคยทรงมองข้ามหัวของคนเล็ก คนน้อย ทรงให้เกียรติคนทุกคน ไม่ว่าเขาจะสูงด้วย อ� ำ นาจราชศั ก ดิ์ ห รื อ ต�่ ำ ต้ อ ยติ ด เส้ น ดิ น เส้นหญ้าก็ตาม เมื่อได้ใจคน ก็ได้งาน ได้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ทีเ่ ดินทางมากับขบวน งาน ก็ได้ประโยชน์สุข เสด็ จ ก็ เ ตรี ย มตั ว ขึ้ น รถกลั บ พร้ อ มคณะ ข้าราชบริพาร เพราะฉะนั้นคนที่ไปท�ำงานกับพระองค์ ก็ ยอมรั บ นั บ ถื อ และกล้ า เปลี่ ย นแปลง แต่ที่ไหนได้ ประมาณ ๓ นาที พระองค์ เปลีย่ นแปลงวิธคี ดิ วิธที ำ� งาน วิธกี ารใช้ชวี ติ เสด็จฯ ลงมา ปรากฏว่า ทรงขึ้นรถไปเพื่อ ทัง้ หมด เพราะมีความรูส้ กึ ดีทไี่ ด้ทำ� งานกับ หายาหม่อง แล้วก็ย้อนมาที่ข้าราชบริพาร สุดยอดเจ้านาย สุดยอดผู้น�ำในดวงใจ ลูก ชุดเดิม น้ อ งมี ค วามรู ้ สึ ก ว่ า ดี ใ จที่ ไ ด้ ท� ำ งานกั บ เจ้านายแบบนี้ วิเศษจริงๆ พลางตรัสถามว่า “ใครถูกบึง้ กัด” พอทราบ ตัวคนที่ถูกบึ้งกัดแล้ว พระองค์ก็ทรงจับมือ ผู้น�ำที่ดีควรจะก่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีงาม เลย ทรงควักยาหม่องออกมาทาๆ ที่ข้าราช ในหัวใจผู้ตาม หรือก่อให้เกิดภาวะที่ “คน บริพารคนนั้น อื่นอยากเดินตาม” เจ้าหน้าที่งงเป็นไก่ตาแตก เพิ่งเคยเห็น จนเขาอุทานออกมาได้วา่ “ช่างเป็นผูน้ ำ� ที่ ในหลวงทายาหม่องให้ข้าราชบริพาร แถม ยอดเยี่ยมจริงๆ” ยังทรงนวดให้อย่างดีด้วย เสร็จแล้วทุกคนก็ไม่รู้จะท�ำอย่างไร เพราะ ว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ จะขอบคุณ 37


SMILE LIFE

WORDS

คุณหญิงจ�ำนงศรี หาญเจนลักษณ์ (ป้าศรี) ILLUSTRATE 123RF

“สมอดึงใจ” ตั้งแต่เด็กจนแก่ ข้าพเจ้ากราบพระพุทธรูป ไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนหน 38

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


THAISMILE 159

คุณหญิงจ�ำนงศรี หาญเจนลักษณ์

เริ่มจากสักแต่ว่ากราบตามผู้ใหญ่ ตาม ประเพณี มาจนกราบด้ว ยความรู้สึก ความเข้ า ใจที่ เ พิ่ ม พู น ตามวั ย และ วุฒิภาวะ และมารู้สึกมาเข้าใจลึกซึ้ง ขึ้นอีก เมื่อได้มาสร้างพระประธานเพื่อ ประดิษฐานบนลานปฏิบัติธรรมกลาง แจ้ง ในชนบทอันเงียบงามท่ามกลาง ขุนเขาจังหวัดเชียงราย ลานลมโชยนี้อยู่บนยอดเนินในเขตวัด ป่าเย็นบุญ จังหวัดเชียงราย เนินที่ราย ร่มด้วยแมกไม้นี้ท�ำให้ย้อนนึกไปถึงเขา พุทธทองของสวนโมกข์ฯ ที่ข้าพเจ้าเคย คุ้นสมัยเป็นศิษย์ท่านอาจารย์พุทธทาส ผู ้ ซึ่ ง เคยพร�่ ำ เตื อ นชาวพุ ท ธไม่ ใ ห้ เ อา ‘พระพุทธรูปบังพระพุทธเจ้า’ ไม่ให้เอา สัญลักษณ์มาบังสัจธรรม “พระพุทธรูปซึ่งสร้างขึ้นบูชาตามความ มุ่งหมายเดิม ก็เพียงเพื่อเป็นอนุสาวรีย์ เครื่องเตือนใจให้เกิดกุศลจิต เป็นความ ระลึก ความเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาค เจ้า ครั้นต่อมาความหลงอันเป็นสมบัติ เดิมในใจของผู้นิยมของอัศจรรย์ ก็ท�ำ พระพุทธรูปนัน้ ให้กลายเป็นของศักดิส์ ทิ ธิ์ ส�ำหรับอ้อนวอนขอสิ่งต่างๆ ตามที่ตน ปรารถนา หรือตามแต่ที่ตนจะสมมุติให้ พระพุทธรูปนั้นๆ มีอานุภาพอย่างใด...” พระพุทธรูปเป็นสัญลักษณ์ความบริสทุ ธิ์ ความเมตตากรุณา และปัญญาทีเ่ ข้าถึง สั จ ธรรมความไม่ ค งทนเที่ ย งแท้ แ ละ ความไม่เป็นตัวเป็นตนของสรรพสิง่ เป็น เครื่ อ งเตื อ นใจว่ า มนุ ษ ย์ เ ราสามารถ บรรลุถงึ อิสรภาพจากทุกข์ทางใจด้วยตัว ของตัวเอง ไม่ใช่ด้วยการวอนไหว้สิ่ง ภายนอก แม้กระทั่งองค์พระพุทธรูป การกราบสั ญ ลั ก ษณ์ นี้ จึ ง เป็ น เสมื อ น

การทอดสมอดึงใจให้นงิ่ มัน่ นุม่ นวล แต่ เข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิง่ ยามคลืน่ ปัน่ ลมป่วน ส�ำหรับข้าพเจ้า การสร้างพระพุทธรูป จึ ง เป็ น การสร้ า งปณิ ธ านที่ ด� ำ เนิ น ใน เส้ น ทางอิ ส รภาพที่ พ ระพุ ท ธองค์ ท รง ชีแ้ นะ คนเดินทางตัง้ จุดหมายปลายทาง ไว้...จะถึงหรือไม่ถงึ ไม่ใช่ประเด็นส�ำคัญ ส�ำคัญที่การก้าวเดิน พระพุทธรูปที่สร้างเพื่อลานนี้ มีขนาด หน้าตักสามศอก สูงสองเมตรครึ่ง สร้าง โดยไม่ตั้งใจโยงกับพุทธศิลป์ยุคใด หาก เน้นความอ่อนโยนแน่นนิ่ง เรียบเย็น ศิลปินผูป้ น้ั เป็นพุทธศิลปินเมืองฝาง ขึน้ รูปต้นแบบด้วยดินเหนียว ซึง่ น�ำไปสร้าง เป็นแม่พมิ พ์ (mold) เพือ่ เทปูนคอนกรีต ผสมสีฝุ่นทับโครงเหล็กที่เตรียมไว้ แล้ว เอาสีบางๆ ทาให้ซึมเข้าไปในเนื้อปูน แล้วแต่งขัดให้เรียบ แต่แรกนั้นตั้งใจจะชวนญาติมิตรเพียง ไม่กคี่ น แต่ได้รบั การทักท้วงว่า การสร้าง พระประธานตามธรรมเนียมโบร�ำ่ โบราณ นัน้ ต้องบอกบุญกว้างขวางทีส่ ดุ ไม่วา่ จะ เป็นคนที่เรารู้จักหรือไม่รู้จัก ถ้าผู้ให้ให้ ด้วยความสุขและเต็มใจ บาทสองบาท ก็มคี วามหมายล�ำ้ ลึกในความเป็นเพือ่ น ร่วมเดินทาง ในเส้นทางการพัฒนาใจให้ อิ่มเนียน และพระพุ ท ธรู ป ที่ ไ ปประดิ ษ ฐานอยู ่ บนลานร่ ม ให้ ผู ้ ค นได้ ไ ปปฏิ บั ติ ธ รรม เปลื้องใจจากนานาพันธนาการ ก็มา ประดิษฐานอยูก่ ลางใจทุกครัง้ ทีร่ ะลึกถึง เป็นเสมือนสมอดึงใจให้นิ่งมั่นยามคลื่น ปั่นลมป่วน

เข็นครก ตัวเบา ผู้แต่ง คุณหญิงจ�ำนงศรี หาญเจนลักษณ์ ภาพประกอบ ศักดิ์สิริ มีสมสืบ กวีซีไรต์-ศิลปินศิลปาธร ขนาด หนังสือไซส์ใหญ่ ขนาด 16 หน้ายกพิเศษ จ�ำนวน 360 หน้า ราคา 285 บาท วางจ�ำหน่าย ตุลาคม พ.ศ. 2558 ค�ำนิยม โดย • อ.ประมวล เพ็งจันทร์ ผู้เขียน “เดินสู่อิสรภาพ” • ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย “เข็นครกตัวเบา” เป็นหนังสือที่น�ำเนื้อหา ของหนั ง สื อ Best Seller 2 เล่ ม คื อ “เข็นครกลงเขา” และ “วิชาตัวเบา” มาพิมพ์ รวมในเล่ ม เดี ย ว โดยได้ ท�ำการแก้ ไ ข ปรั บ ปรุ ง ให้ ส มบู รณ์ ยิ่ ง ขึ้ น และเพิ่ ม เติ ม “เนื้อหาใหม่” ที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์เป็นเล่มมา ก่ อ นจ�ำนวน 26 บท (“เข็ น ครกลงเขา” จ�ำนวน 34 บท “วิชาตัวเบา” จ�ำนวน 34 บท และเนื้อหาใหม่ 26 บท รวมเป็น 94 บท) นับเป็นเรื่องน่ายินดีส�ำหรับนักอ่าน ทั้งที่ เป็นแฟนหนังสือเดิม-เคยอ่านทั้งสองเล่ม มาแล้ว จะได้ซึมซับอรรถรสเดิม และได้ ลิ้มลองอรรถรสใหม่ที่ยังไม่เคยสัมผัส ส่วน ผูท้ ยี่ งั ไม่เคยอ่านหนังสือทัง้ สองเล่มมาก่อน ก็จะได้เปิดโลกแห่งการเขียนของคุณหญิง จ�ำนงศรี หาญเจนลักษณ์ กันอย่างเต็มอิ่ม จุใจ ติดต่อสอบถามรายละเอียด คุณปุ้ย 089-8163116 cpk695@gmail.com

39


SMILE SENIOR

WORDS

เสริมศักดิ์ นรินทร์วงษ์ ILLUSTRATE DESIGNED BY OSABA / FREEPIK

Smile Senior ฉบับนี้จะได้น�ำเรื่อง “นาฬิกาชีวิต” มาเสนอแด่แฟนๆ ที่ติดตามคอลัมน์นี้ โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ (สว.) เพื่อจะได้เข้าใจและสามารถดูแลสุขภาพ ของตนเองให้สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ต่อตนเอง ครอบครัวและสังคมต่อไป

40

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


THAISMILE 159

สุขภาพของมนุษย์มีความสัมพันธ์กับกลางวันและกลางคืนอย่าง แยกกันไม่ออก วงการแพทย์ตะวันออกมองลึกลงไปว่า ช่วงเวลา ๒๔ ชั่ ว โมงในวั น คื น หนึ่ ง ๆ นั้ น ภายในร่ า งกายมนุ ษ ย์ มี ก ารไหลเวี ย น ของพลังชีวิตที่ผ่านอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายทั้งอวัยวะที่กลวง และอวัยวะที่ตัน อวัยวะทีก่ ลวง ได้แก่ กระเพาะอาหาร ล�ำไส้เล็ก ล�ำไส้ใหญ่ ถุงน�ำ้ ดี กระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น อวัยวะที่ตัน ได้แก่ หัวใจ เหยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับและไต เป็นต้น ลมปราณคือการไหลเวียนของพลังชีวิตที่ผ่านแต่ละอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเรา จะใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ ๒ ชั่วโมง อวัยวะที่กลวง และอวัยวะที่ตันทั้งสองประเภทนี้รวามแล้วมี ๑๒ อวัยวะ จึงเป็น ๒๔ ชั่วโมง ครบรอบหนึ่งวันเรียกว่า “นาฬิกาชีวิต”

ระหว่างเวลา ๐๓.๐๐ - ๐๕.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของ ปอด ควรตืน่ นอนเพือ่ สูดอากาศบริสทุ ธิใ์ นช่วงนีเ้ วลานี้ หากใครท�ำได้

เป็นประจ�ำปอดจะดีและมีผวิ พรรณสวยงาม แต่ในความเป็นจริงของคน ทั่วไป น้อยคนนักที่ตื่นนอนในช่วงเวลาดังกล่าว ระหว่างเวลา ๐๕.๐๐ - ๐๗.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของ ล�ำไส้ใหญ่ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่ล�ำไส้ใหญ่จะขับถ่ายอุจจาระ เราจึง

ควรอุจจาระในเวลานีเ้ ป็นให้เป็นนิสยั หากไม่ถา่ ยควรดืม่ น�ำ้ อุน่ สักแก้ว สองหรือสามแก้ว หรือน�ำ้ อุน่ ผสมมะนาวและน�ำ้ ผึง้ หากยังไม่ถา่ ยอีกก็ ลองเดินไปมา หรือหายใจเข้าแล้วก้มลงหายใจออก หรือเอามือเท้าเข่า แขม่วท้อง เมื่อขับถ่ายอุจจาระออกแล้วเราจะรู้สึกสบายเนื้อสบายตัว ร่างกายเรามีกลไกในการปรับตัวและสร้างสารคัดหลั่งฮอร์โมน อวัยวะภายในมีการเคลื่อนไหวของพลังชีวิตเป็นระบบที่แน่นอนและ ระหว่างเวลา ๐๗.๐๐ - ๐๙.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของ มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเวลา (นาฬิกาชีวิต) เป็นระบบการท�ำงาน กระเพาะอาหาร หากเรารับประทานอาหารเช้าในช่วงเวลานีท้ กุ วัน ของอวัยวะต่างๆ ที่เป็นไปตามสภาพธรรมชาติของร่างกายที่มีการ กระเพาะอาหารจะแข็งแรงและท�ำงานได้ดี หากไม่รับประทานอาหาร ในช่วงเวลาดังกล่าว จะท�ำให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ ส่งผลให้แข้งขา เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการด�ำเนินชีวิตประจ�ำวัน ควร ไม่มแี รง ปวดข้อเข่าและท�ำให้แก่เร็วกว่าวัย รวมถึงท�ำให้เป็นคนขีก้ งั วล ให้สอดคล้องกับการเปลีย่ นแปลงของสภาพธรรมชาติอวัยวะในร่างกาย และการตัดสินใจเชื่องช้า ด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลของการมีสุขภาพที่ดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ - ๑๑.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของ ท�ำให้มีอายุยืนยาวนาน นี่เป็นความปรารถนาของมนุษย์ทุกคน ช่วงเวลาทีส่ มั พันธ์กนั และเกีย่ วข้องกับ ๑๒ อวัยวะในการไหลเวียน ม้าม ม้ามมีหน้าทีส่ ร้างน�ำ้ เหลือง ควบคุมไขมัน ควบคุมเม็ดเลือด ม้าม ของพลังชีวิต ซึ่งแบ่งเป็นช่วงเวลาได้ดังนี้ คือ ตัง้ อยูช่ ายโครงด้านซ้าย คนทีป่ วดศรีษะบ่อยๆ มักเกิดจากความผิดปกติ ระหว่างเวลา ๐๑.๐๐ - ๐๓.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของตับ ควรพักผ่อน ของม้าม เช่น ม้ามโต จะเบียดปอดจึงท�ำให้เหนื่อยง่าย สร้างเม็ดเลือด นอนหลั บ ให้ ส นิ ท ในช่ ว งเวลานี้ เ พราะตั บ จะหลั่ ง สารมี ร าโทนิ น ขาวได้นอ้ ย ท�ำให้ผอมเหลือง ตาเหลือง ม้ามชืน้ หากม้ามชืน้ จะท�ำให้เรา (meratonin) เพื่อฆ่าเชื้อโรคและท�ำให้ใบหน้าอ่อนกว่าวัย และยังหลั่ง อ้วนง่ายเพราะอาหารและน�้ำที่กินเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมัน และ สารเอนโดรฟิน (endorphin) ออกมาด้วย หากเรารับประทานอาหาร ถ้าหากเรานอนในช่วงเวลาดังกล่าวม้ามจะอ่อนแอ หากเราต้องการให้ ม้ามแข็งแรงจึงควรพูดน้อย กินน้อย เพราะม้ามเชือ่ มโยงไปถึงริมฝีปาก ในช่วงเวลานี้จะท�ำให้ตับท�ำงานหนักขึ้นและเสื่อมเร็ว ตับมีหน้าที่ขับสารพิษออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นหน้าที่หลัก หน้าที่ รองคือช่วยไตในการดูแลเส้นผม ขนและเล็บ หากตับมีปัญหา ผม ขน ระหว่างเวลา ๑๑.๐๐ - ๑๓.๐๐ น. เป็นช่วงเวลา เล็บก็จะไม่สวยไม่แข็งแรง และตับยังมีหน้าทีช่ ว่ ยกระเพาะย่อยอาหาร ของหัวใจ ในช่วงเวลานี้หัวใจจะท�ำงานหนัก เราจึงควรหลีกเลี่ยง หากเรากินบ่อยๆ ตับจะท�ำงานหนักขึน้ และไม่ได้ทำ� หน้าทีห่ ลัก สารพิษ สาเหตุที่ท�ำให้เราคิดหนักหรือวิตกกังวล ควรหลีกเลี่ยงความเครียด ก็จะตกค้างในตับมากขึ้นซึ่งเป็นต้นเหตุให้เจ็บป่วย ทัง้ หลาย และรูจ้ กั ควบคุมอาการตกใจหรือควบคุมอารมณ์ตนื่ เต้นให้ได้

41


SMILE SENIOR

ระหว่างเวลา ๑๓.๐๐ - ๑๕.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของล�ำไส้เล็ก เพื่อเปิด

โอกาสให้ล�ำไส้เล็กได้ท�ำงานเต็มที เราจึงควรรับประทานอาหารกลางวันก่อนบ่ายโมง และงด อาหารทุกประเภทช่วงระหว่าง ๑๓.๐๐ - ๑๕.๐๐ น. หน้าทีล่ ำ� ไส้เล็กคือดูดซึมสารอาหารทีเ่ ป็นน�ำ้ ทุกชนิด เช่น โปรตีนและวิตามินต่างๆ เพื่อสร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างกรด อะมิโน สร้างไข่ส�ำหรับผู้หญิง หากกรดอะมิโนมีน้อย ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือน ธรรมชาติจึง สร้างให้ผู้หญิงมีล�ำไส้ยาวกว่าผู้ชายประมาณ ๑๑ ฟุต เพื่อจะได้ดูดกรดอะมิโนได้มากขึ้น ระหว่างเวลา ๑๕.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ

ช่วงเวลานีค้ วรออกก�ำลังกายให้เหงือ่ ออกจะช่วยให้กระเพาะปัสสาวะแข็งแรง กระเพาะปัสสาวะ เกี่ยวข้องกับระบบความจ�ำ ไทรอยด์รวมถึงระบบเพศทั้งหมด กระเพาะปัสสาวะมีแนวพลังเริ่ม จากหัวตา ผ่านหน้าผาก ศรีษะ ท้ายทอย แผ่นหลังทั้งแผ่น นิ้วก้อย สะโพก ขาด้านหลัง หัวเข่า น่อง สันเท้า เมื่อปวดปัสสาวะอย่าอั้นหรือกั้นปัสสาวะ มิฉะนั้นน�้ำปัสสาวะจะถูกดูดซึมเข้าสู่ กระแสเลือดท�ำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็น และเป็นอันตรายด้วย

ระหว่างเวลา ๑๗.๐๐ - ๑๙.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของไต จึงควรท�ำจิตใจ

ให้สดชื่น อย่าง่วงเหงาหาวนอนในช่วงนี้ หากใครง่วงนอนในเวลานี้แสดงว่าไตเริ่มเสื่อม หาก ไตเสื่อมหนักมักจะนอนฝันเพ้อ ไตมีสองข้างคือ ไตขวา ไตขวาจะควบคุมสมองด้านซ้าย ควบคุมด้านความจ�ำ หากผูใ้ ดไตขวาเสือ่ มจะมีปญ ั หา เรื่องความจ�ำ ขี้หลงขี้ลืม และเป็นคนขี้หนาว ไตซ้าย ไตซ้ายจะควบคุมสมองด้านขวา ควบคุมด้านความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรีย์ ชอบแต่งตัวรักสวยรักงาม หากผู้ใดไตซ้ายมีปัญหา อารมณ์ที่กล่าวมานั้นจะหมดไป กลายเป็น คนปล่อยเนื้อปล่อยตัว และมักเป็นคนขี้ร้อนหรือหงุดหงิดอยู่เสมอ ผู้ใดมีไตดีแข็งแรง ผู้นั้นจะมีอายุยืน สุขภาพแข็งแรงและมักเป็นคนกล้าหาญ เราจึงควรงด เว้นอาหารที่มีไขมันมาก เพราะหากล�ำไส้เล็กมีไขมันเกาะมาก อาหารที่อยู่ในรูปสารละลายจะ ผ่านล�ำไส้เล็กไม่ได้ ท�ำให้ไตต้องท�ำงานหนักเกินกว่าปกติ และท�ำให้เป็นโรคไต ผู้ใดที่เป็นโรค ไตจะมีอาการปวดหลังง่าย เป็นหวัดง่ายและมีเสลดในล�ำคอ รวมถึงสมองเสื่อมเร็วด้วย จึง ไม่ควรกินอาหารที่เค็มจัด ควรดื่มน�้ำให้มาก และควรอาบน�้ำเย็นในตอนเช้า อาบน�้ำอุ่นใน ตอนเย็น หากอาบน�้ำไม่ได้ก็ใช้เท้าแช่น�้ำสมุนไพร

ระหว่างเวลา ๑๙.๐๐ - ๒๑.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของเยือ ่ หุม ้ หัวใจ ปัญหาของ

เยือ่ หุม้ หัวใจคือ เส้นเลือดหัวใจตีบ หัวใจโต หัวใจรั่ว หากผู้ใดมีปัญหาเรื่องโรคหัวใจจึงควรระวัง เรื่องการตื่นเต้น ดีใจหรือเสียใจสุดขีด ในกรณีที่เส้นเลือดขอดควรดูแลเยื่อหุ้มหัวใจเป็นพิเศษ วิธที ดี่ คี วรสวดมนต์ไหว้พระ เจริญสติภาวนาเป็นประจ�ำ เพือ่ ให้จติ ใจสุขสงบและระบบหัวใจปกติ ระหว่างเวลา ๒๑.๐๐ - ๒๓.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาที่ต้องท�ำให้ร่างกาย อบอุ่น จึงไม่ควรอาบน�้ำเย็นในช่วงเวลานี้ เพราะจะท�ำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ง่าย และไม่ควร

ตากลม เพราะเวลาช่วงนี้ลมมีมลพิษมากกว่าปกติ

ระหว่างเวลา ๒๓.๐๐ - ๐๑.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของถุงน�ำ้ ดี ควรดืม่ น�ำ้ ก่อน เข้านอนหรือก่อนเวลา ๒๓.๐๐ น. (ถุงน�้ำดีเป็นถุงส�ำรองเก็บน�้ำย่อยที่ออกมาจากตับ) อวัยวะ ใดใดในร่างกายเมื่อขาดน�้ำก็จะมาดึงน�้ำจากถุงน�้ำดี จึงท�ำให้ถุงน�้ำดีข้น ส่งผลให้ผู้นั้นสายตา เสือ่ ม มีอารมณ์ฉนุ เฉียว หรือปวดฟัน เหงือกบวม มักนอนไม่คอ่ ยหลับตืน่ กลางดึก มีอาการจาม ในตอนเช้า และถุงน�ำ้ ดีจะโยงไปถึงปอด มักปวดหัวข้างเดียวหรือทัง้ สองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ เวลานอนไม่ควรสวมชุดนอนที่เป็นใยสังเคราะห์ เช่น ไนล่อน แพร เป็นต้น เพราะใยสังเคราะห์ จะไปดูดน�้ำในร่างกาย ควรสวมชุดนอนที่เป็นผ้าฝ้ายดีที่สุด

42

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


• โอนเงินออนไลน์ ไปทั่วโลก • ง่าย สะดวก ได้เรทดีที่สุด • ลูกค้าสามารถจ่ายโดยใช้บัตรเดบิทการ์ด เครดิตการ์ด หรือ โอนเงินเข้าธนาคารได้


SMILE MIND

44

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

WORDS

ทาญ่ า วาคาบายาชิ


THAISMILE 159

ภาค 2

ARTHUR CONAN DOYLE เซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ โคนัน ดอยล์ เข้าเรียน ทางด้านหมอ ถูกร้องขอ เป็นผู้ช่วย อาจารย์เขา ชื่อว่า ‘เบล’ ปราดเปรื่อง อยู่ไม่เบา โชคโน้มน้าว ฝึกฝน จนช�ำนาญ อาจารย์เบล สามารถ ท�ำนายทัก ไม่รู้จัก มาก่อน แต่เขาเห็น ด้วยสังเกต สิ่งเล็กน้อย ไม่ยากเย็น เหมือนดั่งเป็น ผู้หยั่งรู้ ในฟ้าดิน มาคิดดู ได้เรียนรู้ ไม่ใช่น้อย โคนันดอยล์ ถ่ายทอดเบล ในงานเขียน มาสู่โฮมส์ ตัวละคร อย่างแนบเนียน เหมือนดั่งเรียน นอกต�ำรา จากอาจารย์ ตัวดอยล์เอง เขียนบท ลงเล่นด้วย เป็นผู้ช่วย หมอวัทสัน แม้ต้องเสี่ยง ถึงไหน ก็ถึงกัน ไม่เคยเลี่ยง ขอแต่เพียง ใช้ชีวิต ที่สร้างสรรค์ งานเขียนดอยล์ ประสบกับ ความส�ำเร็จ เขียนเรื่องเด็ด ไม่สนแล้ว งานด้านหมอ ผู้อ่านติด ตามเรื่อง ไม่รั้งรอ ใจจดจ่อ ติดตาม ตอนต่อไป พอเขาเบื่อ เขียนให้โฮมส์ ถึงจุดจบ ต้องประสบ แฟนต่อว่า ให้เขียนต่อ โคนันดอยล์ คาดผิด ต้องเออออ เขียนเรื่องต่อ ให้โฮมส์อยู่ คู่แฟนเอย

ที่มาของเชอร์ล็อค โฮมส์ อาจารย์เบล ผู้ให้แรงบันดาลใจในการ สร้างสรรค์เรื่องขึ้นมา อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ ผู้สร้างสรรค์ด้วย ปลายปากกา เชอร์ล็อค โฮมส์ นักสืบชั้นเยี่ยม อาเธอร์ โคนั น ดอยล์ เกิ ด วั น ที่ 22 พฤษภาคม 1930 ที่เมืองเอดินบะระ สกอตแลนด์ มารดาชื่อแมรี่ บิดาชื่อ ชาลล์ เป็นโรคสุราเรื้อรัง ในบั้นปลาย ชี วิ ต ต้ อ งเข้ า พั ก อยู ่ ที่ โ รงพยาบาล จิตแพทย์ ดอยล์เป็นบุตรคนที่ 2 ใน จ�ำนวนพี่น้องทั้งหมด 7 คน เมื่อมีอายุ เพียง 11 ขวบ ดอยล์ถูกส่งไปเรียนที่ เมืองแลงแคชเชียร์ ได้เขียนกลอนส่ง จดหมายถึงแม่ บทกลอนชือ่ ‘Student’s Dream’ โดยทั่ ว ไปดอยล์ รั ก การอ่ า น การเขียนวรรณกรรมตั้งแต่วัยเด็ก Student’s Dream The student he lay on his narrow bed he dreamt not of the morrow confused thoughts they filled his head and he dreamt of his home with sorrow ------------------He thought of birch stinging stroke and he thought with fear on the morrow he wriggled and tumbled and nearly awoke and again he signed with sorrow (เขียนในวันที่ 31 ตุลาคม 1870 - น�ำมาจาก ข้อมูล อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ Encyclopedia)

45


SMILE MIND

ในปี 1976 ดอยล์เข้าเรียนแพทย์ทมี่ หาวิทยาลัยเอดินบะระ และ ได้พบกับศาสดาจารย์ โจเซฟ เบล (Professor Joseph Bell) เป็นบุคคลทีม่ อี ทิ ธิพลต่ออนาคตของดอยล์มากทีเดียว ในปีการ ศึกษาที่ 2 ดอยล์ได้ท�ำงานเป็นผู้ช่วยอาจารย์เบล ผู้มีวิธีการ รักษาคนไข้โดยการศึกษาประวัติคนไข้ และใช้วิธีการสังเกต เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวคนไข้โดยรวม ซึ่งช่วยในการรักษา ได้อย่างถูกต้องและตรงจุด (Deductive Reasoning Method)

งานเขียน นวนิยาย 240 เรื่อง เรื่องกวี 101 บท บทความ 1,053 เรื่อง บรรยายและอภิปราย ในประเทศ และต่างประเทศ บทละคร สัมภาษณ์

อาจารย์เบลจะรู้จักคนไข้โดยไม่ต้องคุยกับคนไข้เลย แต่เขาจะ สังเกตสิ่งรอบตัวเช่นว่า อาชีพการงาน เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋าเงิน การแต่งหน้าส�ำหรับผูห้ ญิง รวมทัง้ กลิน่ ตัวคนไข้เอง สิ่งเหล่านี้อาจารย์เบลย�้ำว่าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการ วินิจฉัยอาการคนไข้ หรือการสรุปผลของการมรณกรรมได้ อย่างเที่ยงตรง

ครอบครัว โคนัน ดอยล์สมรส 2 ครั้งและมีบุตร 5 คน ใน สงครามโลกครั้งที่ 1 ดอยล์สูญเสียลูกชาย และญาติพี่น้องใน เวลาใกล้เคียงกันท�ำให้เขาหันมาพึ่งทางศาสนา และเริ่มสนใจ ในเรื่องไสยศาสตร์อย่างจริงจังมากขึ้น

ดอยล์เคยเห็นอาจารย์เบลหวดศพด้วยไม้หลายครั้งอย่างแรง ซึง่ สร้างความตระหนกตกใจ อาจารย์เบลได้อธิบายกับนักศึกษา ว่าเขาต้องการให้นกั ศึกษาได้เห็นว่า ในกรณีทเี่ ราหวดศพอย่าง แรงจะท�ำให้เกิดรอยช�้ำบนตัวศพได้หรือไม่ เมื่อร่างกายนั้นได้ สิน้ ชีพไปแล้ว? การทดลองนีเ้ ป็นประโยชน์ในการปูวางแนวทาง ในการสืบสวนคดีอาญา (Forensic science) ในเวลาต่อมา เป็นอย่างมาก

ความขอบคุณ จากสถาบันส�ำคัญต่างๆ อาทิเช่น สถาบันแพทย์ศาสตร์ (The National Center for Biotechnology) (PMC - NCBI) อีกทั้ง คุณประโยชน์ ทีม่ ตี อ่ องค์การต�ำรวจสืบสวนอาชญากรรมต่างๆ ที่ได้น�ำเอาวิธีการของเชอร์ล็อกโฮมส์​์ Deductive Reasoning Methods ที่ไม่เคยล้าสมัยยังน�ำมาใช้และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ มีการยกเอามาพูดและแสดงความขอบคุณผ่านสื่อต่างๆ เป็น ครั้งคราว อาทิเช่น โทรทัศน์ วิทยุ และตามหน้าหนังสือพิมพ์

ได้แสดงความขอบคุณต่ออาเธอร์ โคนัน ดอยล์ผู้สร้างสรรค์ อาจารย์เบลสามารถบอกได้ว่าบุคคลนี้มีอาชีพอะไร โดยการดู และด้วยความขอบคุณอย่างซาบซึง้ ต่อศาสดาจารย์ โจเซฟ เบล ที่มือและการสัก (Tattoos) และให้ความรู้ในเรื่อง การสังเกต ผู้สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เรื่องขึ้นมา วิถกี ระสุน หรือระยะการยิงว่าอยูใ่ นระยะใกล้ไกลแค่ไหน ความ ละเอียดถี่ถ้วนของอาจารย์เบลเป็นที่ประทับใจของนักศึกษา มรณกรรมในปี 1930 อายุได้ 71 ปี แพทย์เป็นอย่างมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งในระหว่าง lecture อาจารย์ เบลโชว์แก้วน�้ำที่มียาพิษ เขาเอานิ้วจุ่มลงไปในถ้วยน�้ำที่มี ยาพิษนั้น แล้วยกขึ้นแตะที่ปลายลิ้น นักศึกษาท�ำเสียงฮือฮา ด้วยความตกใจ แต่เหมือนอาจารย์เบลไม่ได้เป็นอะไรไปเลย อาจารย์เบลกลับหัวเราะแล้วบอกนักศึกษาว่า นักศึกษายังขาด ความสังเกตที่ดี เพราะว่านิ้วที่เขาจุ่มลงไปในถ้วยยาพิษเป็น คนละนิ้วกับที่เขาแตะลิ้น แรงบันดาลใจ ดอยล์ได้รบั แรงบันดาลใจจากความเก่งกาจ ปราชญ์เปรือ่ งของ อาจารย์เบล ท�ำให้เป็นที่มาของการสร้างเรื่องขึ้นมา ในชุดของ References 1. Fitzgerald, F.T. MD & Tierney Jr., L.M. MD (1982). The Adventure of Sherlock Holmes ในเวลาต่อมา

Bedside Sherlock Holmes. Western Journal of Medicine, V137(2), pp: 169-175. Retrieved from https://www.ncbi.nlm. ในสมัยนั้น มีผู้อ่านหลายท่านได้ถามดอยล์โดยตรงว่าตัวละคร nih.gov/pmc/articles/PMC1274053/

ของ Holmes นี้มีส่วนคล้ายกับของอาจารย์เบลมาก และถาม ด้วยว่าเอาเค้าโครงบุคลิก และแนวการท�ำงานของอาจารย์เบ ลมาใส่ในเนือ้ เรือ่ งรึเปล่า แม้ตวั อาจารย์เบลเองก็รสู้ กึ ภูมใิ จ และ ประทับใจทีล่ กู ศิษย์เห็นคุณค่าในความสามารถ ในแนวทางการ ท�ำงานของเขาแต่ก็ติงด้วยความถ่อมตัวว่า เนื้อเรื่องบางตอน ใน Sherlock Holmes ค่อนข้างจะขยายความเก่งเกินความจริง ไปบ้าง อีกทัง้ ตัวโคนันดอยล์นนั้ ใส่บทบาทและบุคลิกของตัวเอง แสดงเป็นหมอวัทสันที่เป็นผู้ช่วยในการสืบสวนคดี ร่วมกับ เชอร์ล็อกโฮมส์ 46

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

2. The Arthur Conan Doyle Encyclopedia, (1930). A Student’s Dream. Retrieved from https://www.arthur-conan-doyle.com/index. php?title=A_Student%27s_Dream 3. Wikipedia, the free encyclopedia, (2017). Arthur Conan Doyle Retrieved from https://en.wikipedia.org/wiki/Arthur_Conan_ Doyle



T W O TA L K

MULTILINGUAL CHILDREN สวัสดีค่ะสมาชิกเพื่อนชมรมหญิงไทยในสหราชอาณาจักรทุกท่าน และแล้วเดือนตุลาคมก็มาถึง เดือนที่หัวใจคนไทนจะแตกสลายกันอีกครั้ง เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจจะยังไม่หายจากความเจ็บปวดเมื่อปีก่อน แต่เมื่อช่วงเวลาแห่งการสูญเสียจะมาถึงอีกครั้ง เราก็ย่อมท�ำใจยอมรับให้ได้นะคะ ดิฉันเชื่อว่าเราเพื่อนคนไทยจะเป็นก�ำลังใจให้กันและกัน เพื่อผ่านพ้นเวลาแห่งการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้กันไปให้ได้

ฉบับที่แล้วเราพูดกันถึงเรื่อง 5 ขั้นตอนแรกในการเลี้ยงลูกให้พูดได้ สองหรือหลายภาษา นั่นก็คือ • ตกลงเรื่องการใช้หลายภาษา • รู้ว่าต้องคาดหวังอะไรและเมื่อไหร่ • จะใช้กี่ภาษา - อะไรที่ใช้ได้จริง? • ตัดสินใจว่าระบบภาษาไหนเหมาะส�ำหรับคุณ • อย่ารีรอ - ตอนนี้คือเวลาเพอร์เฟคที่สุด!!! ฉบับนี้เราจะมาว่ากันต่อถึง 5 ขั้นตอนที่เหลือกันค่ะ ขั้นตอนที่ว่าคือ • ประกาศความตั้งใจของคุณ - ก่อนที่เด็กจะคลอด ทุกคนอาจจะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับชื่อที่จะตั้งให้เด็ก แต่เมื่อได้ชื่อ แล้ว ทุกคนก็หยุดพูดถึงเรื่องนี้ การตัดสินใจให้เด็กพูดหลายภาษาก็ เป็นลักษณะเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าทุกคนจะต้องมีความคิดเห็นแตก ต่างกันก่อนที่คุณจะเริ่มต้น แต่เมื่อคุณเริ่มแล้ว ทุกคนจะยอมรับกัน ไปเอง วิ ธีที่ ดี ที่สุ ด คื อ พยายามอย่า ถามให้เพื่อนหรือญาติๆ ให้ สนับสนุนหรือให้เห็นด้วยเกี่ยวกับการสอนภาษาให้ลูกของคุณ วิธีที่ ดีคอื อย่าเปิดโอกาสให้มกี ารอภิปราย เพียงแค่ “แจ้ง” ให้เขาเหล่านัน้ ทราบถึงการตัดสินใจของคุณ คุณสามารถปฏิเสธความคิดเห็นที่ คัดค้านการตัดสินใจของคุณโดยสุภาพได้ง่ายๆ โดยการพยักหน้า หรือยิม้ หรืออาจจะพูดเพียงว่า “ก็นา่ สนใจดี” อะไรท�ำนองนี้ แต่หาก เป็นความคิดเห็นของคนทีค่ ณ ุ แคร์ คุณก็อาจจะใช้วธิ กี ารโน้มน้าวให้ เขาเห็นด้วย โดยการให้ความรู้ ขจัดความเข้าใจผิดเกีย่ วกับเด็กทีเ่ รียน รูห้ ลายภาษา และแสดงให้เขาเห็นถึงข้อได้เปรียบแทน ก็จะสามารถ โน้มน้าวให้เขาเหล่านั้นเห็นด้วยกับคุณได้ • สร้างเครือข่ายสนับสนุน - หาแรงสนับสนุนจากผู้ที่ร่วม แนวทางกับคุณ การท�ำกิจกรรมต่างๆ กับผู้ที่มีความคิดเห็นในทาง เดียวกันจะเพิ่มความสนุกสนานและช่วยให้สิ่งที่ท�ำได้ผลดียิ่งขึ้น นอกจากทีค่ ณ ุ ได้เพือ่ นไว้คอยพูดคุยปรึกษาถึงศิลปะในการเลีย้ งลูก หลายภาษาแล้ว คุณยังได้มโี อกาสสร้างเครือข่ายของคนไทยด้วยกัน ด้วย นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกของคุณได้ยิน พูด และโต้ตอบกับเด็กคนอื่นๆ ที่พูดภาษาไทยด้วย และนี่เป็น แรงบันดาลใจที่ส�ำคัญส�ำหรับเด็กๆ หากในที่ที่คุณอยู่มีแม่คนไทย ท่านอื่น สนามเด็กเล่นอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และอาจจะยังท�ำให้ ลูกได้เพื่อนอีกด้วย และการมีเพื่อนที่พูดภาษาไทยก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด

48

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

WORDS

ชมรมเพื่อนหญิงไทยในสหราชอาณาจักร PHOTOGRAPHY FLICKR.COM


THAISMILE 159

ที่ จ ะให้ ลู ก ของคุ ณ ได้ ฝ ึ ก ภาษาไทยอย่ า ง ต่อเนื่อง ่ วข้อง - การให้ลกู • หาอุปกรณ์ทเี่ กีย ได้อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูภาพยนต์ หรือเล่น ของเล่นที่เป็นภาษาไทยจะท�ำให้สนุกสนาน และมีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ นอกจากนี้ของ เล็กๆ น้อยๆ ในบ้าน เช่น แผ่นรองจาน จาน ชาม โปสเตอร์ ฯลฯ จะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ ได้อีกทางหนึ่ง ่ • ตัง้ เป้าหมาย แต่คงความยืดหยุน - อาจจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ท�ำให้กลยุทธ์ ในการเรียนภาษาไขว้เขวไปได้ สิ่งที่ร้ายแรง ทีส่ ดุ ก็ได้แก่การหย่าร้างหรือการสูญเสียพ่อแม่ สิ่งที่รองๆ ลงไปก็เช่นพี่เลี้ยงที่พูดภาษาไทย ลาออก เป็นต้น สถานการณ์ทเี่ ปลีย่ นแปลงไป เหล่านีต้ อ้ งได้รบั การประเมิน และการใช้ความ ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์จะ ท�ำให้คงการเรียนรู้ต่อไปได้ การที่ลูกได้อยู่ใน สภาวะแวดล้อมทีไ่ ด้ใช้ภาษาไทยน้อยลงไม่ใช่ จุดสิ้นสุดของการเรียนรู้เสียทีเดียว เพราะเด็ก จะจ�ำได้ว่าเคยได้เรียนรู้และคุณสามารถเพิ่ม การปฏิสัมพันธ์กับลูกได้อีกครั้ง สิง่ ส�ำคัญทีส่ ดุ ทีต่ อ้ งพยายามหลีกเลีย่ งคือ การ ปฏิเสธทีจ่ ะพูด เมือ่ คุณพบปัญหานีค้ ณ ุ จะต้อง พยายามหาวิธีที่จะท�ำให้ลูกได้เรียนรู้เพิ่มเติม หรือคุณอาจจะต้องเปลี่ยนเป้าหมาย เช่นคุณ อาจจะใช้วิธีให้ลูกเรียนโดยทางอ้อม คุณต้อง ประเมินว่าวิธนี เี้ พียงพอหรือไม่ หากไม่พอ คุณ อาจจะเปลี่ยนเป้าหมายโดยเพิ่มหนทางแห่ง การเรียนรู้ให้เป็นทางตรงมากขึ้น จุดนี้ถือเป็นเรื่องส�ำคัญมาก เพราะถือเป็น จุดหัวเลีย้ วหัวต่อทีเ่ ด็กจะพูดภาษาไทยได้หรือ ไม่ได้ ดิฉันจึงอยากยกตัวอย่างเพื่อนรักของ ดิฉัน คือ คุณ แม่กุ๊ก ไก่ แม่ข องเจ้าดีแ ลนด์ ฮาร์ดคอ ก.ไก่ (เจ้าของคอลัมน์สไมล์แฟมิลี่) ถึงแม้กุ๊กไก่จะสอนให้ดีแลนด์ได้เรียนรู้ภาษา ไทยมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อประมาณสามปีก่อน กุ๊กไก่เริ่มเห็นว่าถึงแม้ดีแลนด์จะอ่านและ เขียนภาษาไทยได้ แต่ดีแลนด์เริ่มปฏิเสธที่จะ พูดภาษาไทย กุก๊ ไก่เริม่ เห็นปัญหาทีจ่ ะเกิดขึน้ กุ ๊ ก ไก่ จึ ง ต้ อ งประเมิ น สถานการณ์ ใ หม่ ประกอบกับค�ำแนะน�ำของคุณชุมศรี (ประธาน

ชมรมฯ) กุ๊กไก่จึงได้วิธีการที่จะให้ดีแลนด์พูด ภาษาไทยมากขึน้ นัน่ ก็คอื กุก๊ ไก่ตงั้ กฎว่า หาก อยู่ที่บ้านดีแลนด์จะต้องพูดภาษาไทยกับแม่ เท่านั้น และกุ๊กไก่ก็รักษากฎนี้อย่างเคร่งครัด วิธีนี้ได้ผลมาก ดิฉันสนิทกับครอบครัวนี้พอ สมควร และเห็นพัฒนาการของดีแลนด์มา ตลอด สามปีให้หลัง ดีแลนด์พูดภาษาไทย คล่องมาก ซึง่ เป็นสิง่ ทีน่ า่ ชืน่ ชมอย่างมาก ใคร จะน�ำวิธีนี้ไปใช้หวังว่ากุ๊กไก่คงไม่หวงนะคะ • ต้องอดทดและอย่าหยุดยั้ง - การ เลี้ ย งลู ก ให้ เ ติ บ โตขึ้ น มาเป็ น เด็ ก ที่ มี ทั ก ษะ หลายภาษานั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทน อย่ า งมาก อย่ า กั ง วลหากลู ก ของคุ ณ ไม่ สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เร็วเท่ากับเพื่อน ฝรัง่ ของเขา หรือยังเก่งไม่เท่าเพือ่ ฝรัง่ เหล่านัน้ ให้โฟกัสไปที่ความส�ำเร็จ ยกย่องในสิ่งที่ลูก ของคุณสามารถท�ำได้แล้ว และต้อง ชม ชม และชม! อย่าลืมว่าหากคุณไม่ลงมือ คุณก็จะ ไม่ประสบความส�ำเร็จอะไรเลย ดิฉันแน่ใจว่า หากลูกคุณพูดเป็นภาษาไทยว่า “ขอกอดหน่อย” คุณจะแทบร้องไห้ด้วยความภาคภูมิใจ แต่ ขณะนี้ หากต้องใช้ความพยายาม และรอผล ก็ช่างมัน - อดทนไว้ค่ะ เอาละคะจบถ้ ว น 10 ขั้ น ตอนที่ ว ่ า กั น แล้ ว อย่าลืมนะคะการเรียนภาษาเป็นกระบวนการ ทีต่ ้องใช้เวลาและความอดทด หากคุณท้อแท้ ในการสอนภาษาให้ลกู ให้นกึ ถึงวันทีค่ ณ ุ เรียน ภาษาอังกฤษ ลองทบทวนว่าคุณต้องใช้ความ อดทนและความพยายามแค่ไหน และลอง พิจารณาดูว่าวันนี้ วันที่คุณพูดได้ทั้งไทยทั้ง อั ง กฤษ มั น มี ป ระโยชน์ ม ากแค่ ไ หน ดิ ฉั น เชื่ อ ว่ า ประสบการณ์ ข องตั ว เราเอง เป็ น แรงบันดาลใจ และก�ำลังใจทีด่ ที สี่ ดุ แต่เรามัก จะลืมคิดถึงมันไปก็แค่นั้นเอง จริงมั๊ยค่ะ เนื้ อ หาส่ ว นใหญ่ ข องเรื่ อ งนี้ ไ ด้ จ าก http:// www.multilingualchildren.org/ ดิฉันขอเป็น ก�ำลังใจให้แม่ๆ ทีต่ งั้ ใจสอนให้ลกู พูดภาษาไทย นะคะ แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ สวัสดีคะ่

49


S M I L E H E A LT H

ธรรมะ และมะเร็งเต้านม อนิจจังทุกขังอนัตตา การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ใดใดในโลกล้วนเป็นไปตามกฎแห่งไตรลักษณ์ ไม่เว้นแม้แต่ มะเร็ง

50

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

นพ.ภัทรเชษฐ คล้ายเคลื่อน


THAISMILE 159

“เกิดขึ้น”

เซลล์มะเร็งคือเซลล์ผิดปกติที่เกิดจากการกลายพันธุ์ขณะมีการ เจริญเติบโต (แบ่งตัว) การกลายพันธุ์เกิดจากการลอกแบบผิดพลาด ที่ต�ำแหน่งชุดพันธุกรรมส�ำคัญ 2 ชุด ได้แก่ชุดที่ควบคุมการแบ่งตัว ของเซลล์และชุดที่ควบคุมการซ่อมแซมความผิดพลาด การเกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ปกติจนกลายเป็นเซลล์มะเร็งนั้น เกิดขึ้นได้หลายครั้งในช่วงชีวิต จนอาจกล่าวได้ว่าทุกๆ วันจะมีการ กลายพันธุ์ของเซลล์เกิดขึ้นในร่างกาย แต่การกลายพันธุ์นั้นมักจะได้ เซลล์ที่ผิดปกติและอ่อนแอจนส่วนใหญ่ตายไปเอง หรือร่างกายที่แข็ง แรงสามารถตรวจจับความผิดปกตินนั้ และท�ำลายโดยระบบภูมคิ มุ้ กันได้ อย่างไรก็ตาม การศึกษาเพื่อเรียนรู้ว่าปัจจัยอะไรเป็นสิ่งที่ท�ำให้ มีการ ”เกิดขึน้ ” ของเซลล์มะเร็งก็เป็นสิง่ ทีน่ า่ สนใจ โดยสามารถแบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ 1 ปัจจัยที่ท�ำให้เซลล์มีการแบ่งตัวเร็วขึ้น เช่น ฮอร์โมนภายนอก สภาวะใดก็ตามที่กระตุน้ ให้เซลล์มีความถี่ของการแบ่งตัวมากขึ้นย่อม ท�ำให้มโี อกาสทีจ่ ะกลายพันธุม์ ากขึน้ ตามไปด้วย โดยอาจรวมถึงความ ไม่พร้อมในการเตรียมตัวขององค์ประกอบในเซลล์นั้น 2 ปัจจัยที่รบกวนการแบ่งตัวของเซลล์เช่นสารเคมีและมลพิษรวม ถึงสารก่อมะเร็ง การแบ่งตัวของเซลล์เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและ อ่อนไหว ขั้นตอนส�ำคัญคือการลอกแบบดีเอ็นเอซึ่งท�ำหน้าที่ควบคุม การท�ำงานและการแสดงออกของเซลล์ ในกระบวนการนี้หากมีสิ่งใด ไปรบกวนอาจท�ำให้เกิดการลอกแบบผิดพลาดและในกรณีที่ความ ผิดพลาดนัน้ เกิดขึน้ กับชุดพันธุกรรมส�ำคัญ 2 ชุดได้แก่ชดุ ทีค่ วบคุมการ แบ่งตัวของเซลล์และชุดทีค่ วบคุมการซ่อมแซมความผิดพลาด สุดท้าย เราจะเรียกเซลล์ที่เป็นผลผลิตของกระบวนการที่เลวร้ายนี้ว่า เซลล์ มะเร็ง

“ดับไป”

การดับไปของเซลล์มะเร็ง เกิดขึน้ ได้ทงั้ จากภายในเซลล์เอง คือเซลล์ มีความผิดปกติมากจนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ หรือเกิดจากระบบ ภูมิคุ้มกันของร่างกาย หรือแม้กระทั่งการจัดการจากบุคคลภายนอก ที่เรียกว่าการรักษา การก�ำจัดด้วยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเกิดได้เพราะความ ผิดปกติที่โครงสร้างพันธุกรรมของเซลล์จะถูกแสดงออกมาที่ผิวเซลล์ เสมอ ระบบการท�ำงานทีซ่ บั ซ้อนของภูมคิ มุ้ กันจะก�ำจัดเซลล์ทผี่ ดิ ปกติ นี้โดยเม็ดเลือดขาวจะจับเซลล์นั้นกินหลังตรวจเจอความผิดปกติที่ แสดงออกมาที่ผิวเซลล์ นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ท�ำให้คนแข็งแรงปลอดภัย จากมะเร็งมากกว่าคนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ในที่สุดก็จะมีเซลล์จ�ำนวนหนึ่งที่รอดมาได้และ ก่อโรค แต่มะเร็งเต้านมคือมะเร็งที่ยังมีวิธีการรักษาที่ได้ผลดี การผ่าตัด คือการก�ำจัดต้นตอของโรคทีเ่ ต้านม การผ่าตัดจะก�ำจัด เนื้อมะเร็งทั้งหมดหรือส่วนใหญ่ออก (ทั้งหมดที่เห็นด้วยตาเปล่า) การ ก�ำจัดต้นตอคือการตัดโอกาสการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ถ้า มะเร็งยังไม่ได้แพร่กระจายไปทีใ่ ดการผ่าตัดเพียงอย่างเดียวก็สามารถ รักษาให้หายขาดได้ การฉายรังสี คือการรักษาเฉพาะที่ที่เต้านม เป้าหมายคือฆ่าเซลล์ มะเร็งเล็กๆ ที่ไม่เห็นด้วยตาเปล่าที่ยังอาจหลงเหลืออยู่บริเวณแผล ผ่าตัด การให้ยาเคมี คือการรักษาที่หวังผลทั่วร่างกาย ยาที่ให้ไปตาม กระแสเลือดจะฆ่าเซลล์มะเร็งเล็กๆที่อาจจะกระจายไปแล้วในที่ต่างๆ แต่ยังไม่ได้เจริญเติบโตขึ้นมาจนเป็นก้อนจนสามารถตรวจพบได้ การให้ยาต้านออร์โมน คือการป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนไปกระตุน้ ให้ มะเร็งทีย่ งั อาจหลงเหลืออยูเ่ จริญเติบโตจนกลับมาใหม่(เฉพาะมะเร็งที่ ตรวจพบแล้วว่ามีตัวรับฮอร์โมน) “ตั้งอยู่” กล่าวโดยสรุปได้ว่า ด้วยวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน เมื่อมีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้น เซลล์มะเร็งส่วนใหญ่จะอ่อนแอมากและ อัตราการหายจากโรคโดยเฉลี่ยมากกว่า 60-70% หรือถ้าเป็นมะเร็ง ตายไปเอง แต่ก็อาจมีเซลล์บางส่วนที่ไม่ได้อ่อนแอนักและสามารถ ระยะที่หนึ่ง อัตราการหายอาจสูงได้ถึงมากกว่า 90% คงตัวอยูไ่ ด้ภายในระยะเวลาหนึง่ ถ้าเซลล์นนั้ สามารถมีชีวติ รอดอยูไ่ ด้ ก็จะเริม่ สะสมอาหารและเจริญเติบโต (แบ่งตัว) ในทีส่ ดุ จากเซลล์เดียว สุดท้ายนี้ ก็จะโตขึ้นจนเป็นก้อนมะเร็ง ซึ่งคุณสมบัติประการหนึ่งของเซลล์มะเร็ง “ใดๆ ในโลกล้วนเป็นไปตามกฏแห่งไตรลักษณ์ ไม่เว้นแม้แต่ ก็คือเมื่อมีการแบ่งตัวมักจะมีการลอกแบบพันธุกรรมผิดไปเรื่อยๆ จน มะเร็ง” ในที่สุดในก้อนนั้นแม้เซลล์จะคล้ายกันแต่จะไม่มีเซลล์ใดเลยในก้อน มะเร็งที่เหมือนกัน100% (ความแตกต่างกันของเซลล์มะเร็งภายใน มีเหตุให้เกิดขึ้นได้ ก็จะมีการด�ำเนินไป และย่อมมีหนทางแห่ง ก้อนนี่เองที่เป็นเหตุผลท�ำให้เราเห็นก้อนมะเร็งมีลักษณะตะปุ่มตะป�่ำ การดับ อยู่ที่การรับรู้และจัดการครับ เพราะมีการเจริญเติบโตรวดเร็วไม่เท่ากัน) การ”ตั้งอยู่”ของเซลล์มะเร็งเมื่อเจริญเติบโตไปจนถึงระดับหนึ่ง จะมีการกระตุ้นให้มีเส้นเลือดมาเลี้ยงก้อนมะเร็งและกระบวนการนี้ คือจุดเปลีย่ นส�ำคัญทีเ่ ซลล์มะเร็งมีโอกาสแพร่กระจายโดยหลุดลอยไป ตามกระแสเลือดหรือน�้ำเหลือง

51


Noen

SMILE GOING OUT

WORDS

พอ ศิ ริ โ ชติ

PHOTOGRAPHY

เนินมะปราง อ�ำเภอเล็กๆ ไม่ใกล้ไม่ไกล ที่ใครๆ ก็คิดว่าเป็นแค่ทางผ่าน แต่เนินมะปรางมีความงามที่ซ่อนอยู่มากมาย รอให้เข้าไปสัมผัส เนินมะปรางเป็นอ�ำเภอเล็กๆ เรียบๆ ที่อุดมไปด้วยความสุขของจังหวัดพิษณุโลก อยู่ห่างตัวเมืองออกไปราว 68 กิโลเมตร

52

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

oun


THAISMILE 159

Maprang บ้านมุง เป็นหนึ่งในต�ำบลของอ�ำเภอเนินมะปราง ประกอบไปด้วยหมูบ่ า้ นเก่าแก่ เล็กๆ 8 หมู่ โอบล้อมไปด้วยวิวภูเขาหินอายุราว 300 ล้านปีที่สวยแปลกแตกต่างกันไป ตามฤดูกาล มีถนนสายหลักทางเข้าหมูบ่ า้ นชือ่ น่ารักทีน่ กั ท่องเทีย่ วและชาวบ้านช่วย กันเรียกว่า ถนนแลนด์มาร์ก ยามเช้าหมู่บ้านจะสงบงามตามวิถีชาวบ้าน เหมาะแก่การขับรถลัดเลาะท้องทุ่ง ไปถ่ายภาพภูเขาหินปูน แนะน�ำให้ออกสตาร์ทบนถนนแลนด์มาร์กกันตั้งแต่หกโมง เช้า เก็บเกี่ยวภาพแรกของวันคือควันจากรถเข็นขายไก่ปิ้งที่ลอยล้อขึ้นไปกับเขาสูง รถแดงโดยสารผ่านหมูบ่ า้ น มอเตอร์ไซด์ และพระสงฆ์ทจี่ ะเริม่ เดินบิณฑบาตจากวัด ด้านในออกมาสู่หมู่บ้านบนถนนแลนด์มาร์ก และทั้งหมดที่ว่ามาจะมีแผงภูเขาหิน ล้านปีสวยงามอลังการเป็นฉากหลัง วิถีชีวิตแท้ๆ ของคนบ้านมุง ต้นแบบแห่งวิถีสโลว์ไลฟ์แบบตัวจริงเสียงจริง เสียง รถตักรถไถแล่นผ่านไปช้าๆ เสียงนก เสียงน�้ำตกเบาๆ ในยามเช้าที่ไม่เร่งรีบ ควรค่า แก่การมาสูดลมหายใจยาวๆ

53


SMILE GOING OUT

ขั บ เลยจากถนนแลนมาร์ ก เข้ า มาในตั ว หมู ่ บ ้ า น เราจะผ่ า น ทุ่งนาและเขาหิน ถนนบางช่วงลาดยาง บางช่วงลูกรัง ลัดเลาะไปตาม ตีนเขา เดาเอาด้วยสายตาแบบไม่อิงหลักฐานทางธรณีวิทยาว่าภูเขา หินปูนของที่นี่มีความคล้ายคลึงกับภูเขาอวตารหรือจางเจียเจี้ยแห่ง เมืองจีน จนบางคนเรียกว่า คุนหมิงเมืองไทย ภูเขาหินอายุกว่าล้านปีนี้ โอบล้อมชาวบ้านมุงมายาวนาน วิธชี มภูเขาหินทีส่ ลับซับซ้อนนัน้ ไม่ซบั ซ้อนอะไรเลย แค่ขับรถไปตามทางเรื่อยๆ อยากถ่ายรูปจุดไหนก็แวะ จอดข้างทาง ยิ่งถ้ามาเที่ยวในช่วงหน้าฝนอย่างนี้ ทุ่งนาก�ำลังเขียวขจี ภาพวิถีชาวนาที่มีภูเขาหินล้านปีสูงตระหง่านเป็นฉากหลังสวยงามล�้ำ กว่าที่จินตนาการไว้มาก คนบ้านมุงเล่าให้ฟังว่าตามภูเขาหินสลับซับซ้อนที่บางแห่งยังพบ ร่องรอยของเปลือกหอยนั้นมีถ�้ำอยู่เยอะ เช่น ถ�้ำผาท่าพล ในเขตห้าม ล่าพันธุ์สัตว์ป่าถ�้ำผาท่าพล ที่เปิดให้เข้าชมได้แล้ว ถ�้ำนเรศวร ถ�้ำเรือ ถ�ำ้ เดือน-ถ�ำ้ ดาว และยังมีถำ�้ ทีร่ อการส�ำรวจอีกมากมาย ส่วนถ�ำ้ ไฮไลท์ ที่ต้องมาตอนเย็นคือถ�้ำบ้านมุง บ้านของฝูงค้าวคาวราวๆ ล้านตัว ทุกๆ เย็นประมาณหกโมงกว่า ชาวบ้านมุงจะคุ้นตากับฝูงค้างคาวที่บินออก จากถ�ำ้ เพือ่ ออกหากิน ช่วงนีค้ า้ งคาวออกช้าหน่อย ประมาณหกโมงครึง่ ถึงเกือบๆ หนึง่ ทุม่ แต่กย็ งั ออกเป็นประจ�ำทุกวันไม่เคยขาด หากใครไป รอแล้ว ขอให้มั่นใจได้ว่าจะได้เห็น จุดชมค้างคาวจะมีป้ายบอกไว้ ถ้า หาไม่เจอจริงๆ ถามใครก็ได้ ชาวบ้านมุงรู้จักค้างคาวฝูงนี้กันทุกคน เพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชาวบ้านบ้านมุงเหมือนกัน จริงๆ แล้วถ�้ำ ค้างคาวของที่นี่มีอยู่ถึง 3 ถ�้ำ คือ ถ�้ำผาท่าพล ถ�้ำขุนศึกและถ�้ำบ้านมุง แต่ถ้าจะเอาปริมาณเยอะๆ น่าตื่นตะลึงต้องที่ถ�้ำบ้านมุงนี้เลย

54

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


THAISMILE 159

55


SMILE SHORT STORY

56

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

WORDS

พรทิพย์ สาทิสสะรัต ILLUSTRATE สกล บุณยเกียรติ


THAISMILE 159

“เดวิด” หนุม ่ น้อยลูกครึง ่ แม่ชาวไทยพ่อชาวอังกฤษ เขาเพิง ่ ย้ายมาโรงเรียน ใหม่ เพราะครอบครัวของเขาย้ายบ้านมาอยูเ่ มืองนี้ วันแรกทีเ่ ขาแนะน�ำตัวกับ เพือ ่ นๆ เยียร์ 11 เขารูส ้ ก ึ ประหม่ามาก เพราะตืน ่ เต้นทีต ่ อ ้ งเจอกับเพือ ่ นใหม่ แต่เพือ ่ นๆ กลับต้อนรับเขาเป็นอย่างดี พวกผูห ้ ญิงยิม ้ เล็กยิม ้ น้อยให้ ส่วนพวก ผูช ้ ายชวนไปนัง ่ ด้วย “เราชือ ่ เจคอบ นีท ่ อม ส่วนนัน ้ ปีเตอร์”

เจคอบแนะน�ำตัวทุกคนให้ พวกเขาดูเป็น เด็กดี ดูสุภาพเรียบร้อย เดวิดรู้สึกสบายใจที่ได้ พวกเขาเป็นเพื่อน “แต่นายระวังพวกหลังห้องหน่อยนะ พวกนัน้ น่ะเกรียน ชอบแกล้งคนอื่นไปทั่ว” ทอมชี้ไปที่ กลุ่มที่นั่งอยู่หลังห้อง “ใช่ พวกนั้นอันตรายมาก นายอย่าเฉียดไป ใกล้เชียว” ปีเตอร์กำ� ชับ เดวิดมองไปทางพวกนัน้ พยายามจ�ำหน้าทุกคนในกลุ่มไว้ เผื่อไปเดินเจอ กันตรงไหน จะได้หลบหลีกได้ทัน

“เอาสิๆ บรรยาศอึมครึมแบบนี้ เหมาะแก่การ เล่น” ทอมเป็นหน่วยสนับสนุนตลอด “ไม่ได้หรอก แม่เราไม่ให้เล่นซ่อนหา เราเล่น ไม่ได้” เดวิดท�ำหน้าบอกไม่ถูก “แม่ไม่ให้เล่น!!!!” เพือ่ นสามคนพูดพร้อมกัน “เดวิดนี่นายโตแล้วนะ นายยังท�ำตัวเป็นลูก แหง่กลัวแม่อยู่อีกเหรอ” ทอมโวยวาย “นัน่ สิ พวกเราเคยไปบ้านนายหลายครัง้ เจอ แม่นายมาแล้ว แม่นายสวยมาก ออกจะใจดี หาขนมมาเลี้ยงพวกเราทุกที แถมเธอดูตามใจ นายมาก กะอีแค่เล่นซ่อนหา แม่นายไม่ห้าม หรอก ตลกว่ะ” เจคอบส่ายหัว “นัน่ สิอย่าไปแคร์ เอาน่ะๆ เราเล่นกันเถอะว่า แต่ใครจะเป็นหา” ปีเตอร์ชี้หน้าทุกคน “ผมไม่เล่นจริงๆ ครับ เพราะแม่ของผมสั่งไว้ นั ก หนาว่ า ห้ า มเล่ น ผมต้ อ งเชื่ อ ฟั ง ค� ำ สั่ ง แม่ ผมขอโทษ ผมเล่นไม่ได้จริงๆ” เดวิดถอยหลังกรูด ดูเขากลัวมาก “เอาล่ะๆ ในเมื่อไม่อยากเล่นก็ไม่ต้องเล่น งั้นพวกเราไปบ้านผมกันเถอะ เตรียมเครื่องดื่ม ไว้ให้แล้ว” เจคอบตัดบท เพราะนึกสงสารเดวิด

เวลาผ่านไป เดวิดกลายเป็นหนึง่ ในกลุม่ ของ เจคอบ พวกเขานัดไปไหนไปด้วยกันตลอด พวก เขาผลัดกันไปเทีย่ วบ้านของแต่ละคน จนถึงช่วง วันหยุดฮาฟเทอม ตรงกับวันฮาโลวีน พวกเจคอบ นัดกันไว้วา่ จะออกไปเดินเล่น เดวิดออกจากบ้าน เตรียมเดินไปสวนสาธาระณะแถวบ้าน เพื่อไป เจอเพื่อนๆ ตามที่นัดหมาย แต่ระหว่างทางเขา เห็นกลุม่ เด็กหลังห้องก�ำลังเดินมาทางทีเ่ ขาก�ำลัง จะไป เขารีบวิ่งเข้าไปแอบหลังพุ่มไม้ ในใจคิด แต่วา่ ขอให้พวกนัน้ มองไม่เห็นเขา เสียงฝีเท้าของ พวกนัน้ แต่ละคนค่อยๆ เดินผ่านไป เดวิดคิดในใจ “มันจะผ่านไป เราต้องผ่านไปได้” ช่วงเวลา ช่วงที่พวกเขาเตรียมตัวเดินออกจากปาร์ค สั้ น ๆ ที่ ย าวนานนี้ ท�ำ ให้เดวิด ถึง กับเหงื่อไหล จูๆ่ พวกเขาถูกล้อมไว้ด้วยกลุ่มเด็กหลังห้อง ในขณะที่อากาศหนาวเย็น “ไง ไอ้พวกป๊อด ใครให้พวกแกออกมาเดิน เพ่นพ่านที่นี่ ที่นี่มันเป็นที่ของพวกข้า พวกแกไม่ ช่วงที่เขาก�ำลังขวัญผวาจู่ๆ มีคนมาเขย่าบ่า มีสิทธ์” หัวโจกกระชากคอเสื้อเจคอบแล้วผลัก เขา เขาล้มลง “เดวิดมาหลบท�ำไมอยูต่ รงนี”้ เจคอบดึงเดวิด “เฮ้ย พวกเรา ไอ้พวกป๊อดมันอยากโดนดี เล่น ออกจากพุ่มไม้ มันเลย” จบค�ำพูดของเขา พวกลูกสมุนพากันวิ่ง “เพือ่ นๆ รออยูท่ สี่ วนกันหมดแล้ว” เจคอบเอา ไล่จับกลุ่มของเดวิด แน่นอนว่าทุกคนพากันหนี มือเกาะบ่าเดวิดแล้วพากันเดินไปปาร์ค อย่างอลหม่าน แต่ในความมืดท�ำให้การไล่ล่า “ว่ า แต่ เ มื่ อ กี้ ซ ่ อ นตั ว ท� ำ ไม” เจคอบยั ง คง ยากขึน้ หัวโจกสัง่ ลูกน้องปิดทางเข้าออก เพือ่ ปิด สงสัย ส่วนเดวิดได้แต่อำ�้ อึง้ ไม่อยากตอบ เพราะ ประตูตีแมว รูส้ กึ เสียหน้าทีต่ อ้ งบอกเพือ่ นว่าเขากลัวกลุม่ เด็ก “ไอ้พวกป๊อด อยากเล่นซ่อนหาใช่ไหม ข้าจะ หลังห้อง กลัวเพื่อนๆ จะล้อ ปิดบัญชีทีละคนเลยไอ้หน้าอ่อน” ฮ่าฮ่าฮ่า เขา “สงสัยเดวิดอยากเล่นซ่อนหา จริงสิ วันนี้วัน หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ฮาโลวีน พวกเราเล่นซ่อนหากันดีไหม น่าสนุก เจคอบหนี ไ ปซ่ อ นหลั ง พุ ่ ม ไม้ ใ หญ่ พ ร้ อ ม นะ” ปีเตอร์ นึกขึ้นมาได้ เดวิด

“ซวยฉลองฮาโลวีนจริงๆ เลยพวกเรา นี่ถ้า โดนจับได้ ต้องโดนย�ำทีนเละแหงๆ” เจคอบบ่น เบาๆ แต่พอหันไปดูเดวิด เขานั่งสั่นมือกุมอก ดู เขากลัวมาก “เดวิดนายโอเคหรือเปล่า” เจคอบเป็นห่วง “แม่สั่งไว้ว่าไม่ให้เล่นซ่อนหา แต่ตอนนี้ผม ก�ำลังซ่อนตัวอยู่ ผม…ผม…ผมก�ำลังเล่นซ่อนหา แย่ แ น่ มั น ต้ อ งแย่ แ น่ ๆ ถ้ า แม่ ผ มรู ้ ผมต้ อ ง เดือดร้อนแน่ๆ” เดวิดเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง คล้ายจะ ร้องไห้ “เฮ้ย นีน่ ายยังจะมากลัวแม่อกี ตอนนีเ้ อาตัว ให้รอดก่อนเถอะ” เจคอบส่ายหัว “ไอ้พวกชายกระโปรง แก...อยู่...ไหน... ออก มาให้จับซะดีๆ” พวกมันพากันโห่ร้อง หนึ่งใน กลุ่มพวกมันเห็นอะไรไหวๆ ข้างหลังพุ่มไม้ เขา จึงวิ่งไปดู “ข้ารูน้ ะว่าแกซ่อนอยูต่ รงนี”้ เขากระโจนเข้า ใส่พุ่มไม้ แต่กลับไม่เจอใครตรงนั้น แต่หางตา เห็นเงาไหวๆ คลานเข้าพุ่มไม้ที่ลึกเข้าไป เขาจึง วิ่งตามเข้าไปอีก แล้วหายไปในความมืด ส่วน อีกคนเห็นเงาวิ่งผ่านหน้าเขาไป ตรงไปยังป่าลึก หลังปาร์ค แน่นอนว่าเขาชวนเพื่อนอีกคนวิ่ง ตามไป และพวกเขาก็หายไปกับความมืดอีก ส่วนหัวโจก เดินตะโกนลัน่ ปาร์ค ถือไม้ทอ่ นใหญ่ เตรียมฟาดอริ เขาได้ยินมีคนตะโกน “ไอ้หน้าปลาจวด ข้าอยู่ทางนี้” มีคนร้องท้า เขา ยิง่ ท�ำให้เขาโกรธมากขึน้ จึงปาไม้ไปยังเสียง เรียก กะให้โดนคนท้าเขา ท่อนไม้ถูกปาออกไป เข้าไปยังพุ่มไม้สูง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินตาม เข้าไป ท่อนไม้กลับถูกตีกลับ พุ่งตรงมายังเขา ปักเข้ากลางอกทะลุออกข้างหลังของเขาพอดี ไม่ให้โอกาสเขาได้ร้องสักแอะ เดวิดเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาเริ่มร้องไห้ จริงจัง “แม่ครับ ผมไม่ได้เล่นซ่อนหานะครับ ผมถูก พวกมันต้อน ผมไม่ได้ท�ำๆ” เดวิดยกมือขึ้นพนม เหนือหัว “เฮ้ย อะไรวะนั่น เกิดอะไรขึ้น” เจคอบเอง 57


ก็เห็นเหมือนเดวิด นาทีนั้นเขาคิดเลยว่าต้อง ซ่อนตัวดีๆ หันไปดูเพื่อน เดวิดยังคงร้องไห้อยู่ “ผมไม่ได้เล่นนะครับแม่ ผมเชื่อแม่เสมอ” เดวิดยังคงยกมือไหว้ประหลกๆ “เดวิดนายจะบ้าหรือเปล่า อย่าส่งเสียงสิ เดี๋ยวถูกจับได้ พวกเราจะตายกันหมด” เจคอบ กดหัวเดวิดให้ต�่ำลง ระหว่างนั้นเขาได้ยินเสียง ผูห้ ญิงพูดช้าๆ อยูใ่ กล้ “อยู ่ ห นายยยย ออกมาซะดี ๆ แวร์ อาร์ ยูวว์ วววว” เสียงนัน้ พูดยานคางฟังแล้วดูหนาวระ เยือก เดวิ ด รี บ มุ ด ลงต�่ ำ กว่ า เดิ ม เขาก้ ม หน้ า นิ่ ง เหมื อ นกลั ว อะไรบางอย่ า งอย่ า งสุ ด ขี ด สิ่ ง ที่ เจคอบเห็นคือ มีเงาเดินวนอยู่รอบๆ พุ่มไม้ที่ พวกเขาซ่อนตัวอยู่ วินาทีนั้นเองมีมือเย็นๆ ล้วง เข้ามาในพุม่ ไม้ ควานหาพวกเขา เจคอบกับเดวิด พากั น เขยิ บ นี้ ให้ ไ กลจากมื อ นั้ น แต่ ยิ่ ง ถอย มือนัน้ ยิง่ ยาวขึน้ ยาวขึน้ ยาวจนถึงตัวเจคอบ เขา พยายามอยู่นิ่งๆ มือนั้นค่อยๆ ลูบไล้บนใบหน้า เขาเบาๆ เขาได้กลั้นหายใจไว้เพราะความกลัว แต่แล้วมือนัน้ กระชากคอเสือ้ เขาอย่างแรงจนเขา หลุดออกจากพุ่มไม้ กระเด็นไปโดนตอไม้ใหญ่ กระแทกลงส่วนแหลมของไม้ เลือดไหลออกปาก ตาค้างเติ่ง หมดค�ำพูดใดๆ ออกจากปากของ เจคอบ เดวิดเห็นทุกอย่างเขาได้แต่หลับตาปี๋ ท่อง นะโมหรื อ อะไรก็ ต ามที่ เ ขาพอจะนึ ก ได้ วินาทีนี้คิดแต่ว่า ตอนที่แม่พาไปวัด ท�ำไมไม่ สนใจเรื่องสวดมนต์ ฝ่ายปีเตอร์เห็นว่าไม่มีใครตามเขาแล้ว จึง ค่อยๆ คลานออกจากที่ซ่อน เขารู้สึกได้ถึงต้น หญ้านุ่มๆ แต่มีความเปียกชื้น ยิ่งคลานเขายิ่ง รูส้ กึ ว่าพืน้ ยิง่ เปียก ยิง่ คลานรูส้ กึ ได้วา่ ระยะใกล้ๆ แต่ไปไม่ถึงสักที เขารู้สึกได้ว่าน�้ำนองเต็มพื้น จนท่วมข้อมือของเขา เผลอแป๊ปเดียวน�ำ้ นัน้ ท่วม ถึงหน้าอก เขาพยายามลุกขึ้น แต่กลับลุกไม่ได้ เหมือนมีมือมาฉุดข้อมือและข้อขาของเขาไว้ ไม่ถึงวินาทีน�้ำนั้นท่วมขึ้นถึงปากและท่วมจนมิด หัวเขา ปีเตอร์พยายามดิ้น แต่ไม่นานเท่าไรเขา ก็ขาดใจเพราะหมดอากาศหายใจ ทอมเองมองไปรอบๆ เห็นทุกอย่างดูเงียบไป เขาเห็นเดวิดซ่อนตัวอยูไ่ ม่ไกลนัก เขาจึงวิง่ ไปหา ถึงแม้ว่าจะหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ แต่เพราะ

58

S O M U C H TO S M IL E A B O U T

ทอมเป็นคนทะเล้น แทนที่เขาจะไปเงียบๆ เขา กลับเอามือตบบ่าเดวิด “โป้ง นายแพ้แล้ว ผมจับคุณได้” เขาหัวเราะร่า “ไม่ ทอม คุณจะท�ำแบบนีไ้ ม่ได้ คุณรีบหนีไป เร็ว ก่อนทีค่ ณ ุ จะไม่ได้หนี” เดวิดรีบผลักเขาออก “หนีอะไร ท�ำไมต้องหนี” ทอมงง แต่ยังไม่ทัน ที่เดวิดจะอธิบายอะไร เถาวัลย์จากต้นไม้ใหญ่ เลือ้ ยตัวลงมาอย่างรวดเร็ว รัดคอทอมแล้วดึงเขา ขึ้นไปบนกิ่งไม้บนสุด เขาดิ้นกระแด่วๆ จนลิ้นจุก ปาก หน้าเขียวจนเปลี่ยนเป็นม่วง

เขาพูดกันเบาๆ เหมือนไม่อยากให้เดวิดได้ยิน “ผมขอบคุณคุณมาก ที่คอยดูแลเดวิดเป็น อย่างดีมาโดยตลอด เขาเป็นเด็กอาภัพ เขามักเห็น ภาพหลอนบ่อยๆ ตัง้ แต่อาภาเสียไป เขาชอบบอก ผมว่าอาภามาหาเขา มาร้องเพลงให้เขาฟัง เรือ่ ง แปลกๆ นี้ มั น เริ่ ม มาจาก ตอนที่ เ ขาไปเล่ น ทีบ่ า้ นเพือ่ นของผมกับลูกๆ ของเขา พวกเขาเล่น ซ่อนแอบกัน เขาถูกพวกเด็กๆ แกล้งโดยขังเขาไว้ ในห้องใต้ดิน จากนั้นเขากลัวการเล่นซ่อนหา กลัวจนขึน้ สมอง และกลายเป็นคนเงียบขรึมทัง้ แต่ นัน้ มา” พ่อของเดวิดกล่าวขอบคุณภรรยาของเขา เดวิดได้แต่ร้องไห้ เอามือปิดหน้าตลอดเวลา ผู้ซึ่งก้าวเข้ามาในชีวิตหลังจากที่ภรรยาคนแรก “เด…วิดดดดด... เธอรูใ้ ช่ไหมว่าถ้าเล่นซ่อนหา ของเขาเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง เธอเสียสละ มันจะเกิดอะไรขึน้ ...” เสียงผูห้ ญิงพูดยานคาง แต่ เวลาดูแลเดวิดมาตั้งแต่ยังเล็กๆ รักดุจลูกของ แล้วเสียงนั้นก็ตะวาดเสียงดัง ตัวเอง “ถ้าเธอชอบซ่อน ฉันจะหาาาาา แต่ถ้าฉันหา เธอไม่เจอ เธอจะต้องติดอยู่ในวังวนโดนผีปังตา ขณะที่เดวิดหลับตาลง เขาใกล้จะหลับลงอีก ตลอดไป” สิ้นเสียง ผู้หญิงหน้าตาน่ากลัว โผล่ ครั้ง แต่แล้วเขาได้ยินเสียงกล่อมเด็กดังเบาๆ อยู่ หน้าเข้ามาในพุม่ ไม้พร้อมพ่นทรายออกจากปาก ใกล้ๆ ใส่เดวิดจนเขาหายใจไม่ออก แล้วทุกอย่างก็ “นอนซะเถิดลูกน้อย.....” เดวิดรู้ทันที่ว่าแม่ มืดลง มืดลง ของเขามาอยู่ใกล้ๆ เขาแล้ว ในใจเดวิดนึกถึง วันที่เขาถูกเด็กอันธพาลจับขังห้องใต้ดิน เป็น เช้าวันรุ่งขึ้น เขารู้สึกตัวขึ้นเพราะแสงแดด วันเดียวที่แม่ของเขาเสีย เมื่อเขาเข้าไปอยู่ในนั้น ส่องเข้าตา นี่เราอยู่ในห้องนอนของเรา เกิดอะไร สิ่งที่เขาเห็นคือมีเงาด�ำทมึนที่อยู่มุมมืดของห้อง ขึ้นเมื่อคืน มั น เป็ น ผี เ ฝ้ า ห้ อ งใต้ ดิ น ที่ ไ ม่ ไ ด้ ไ ปผุ ด ไปเกิ ด “ตื่นแล้วเหรอลูก ดื่มนมอุ่นๆ เสียหน่อย แม่ เพราะแรงอาฆาต มันคงดีใจที่มีเหยื่อหลงมาให้ เตรียมไว้ให้” แม่ของเขาเข้ามานั่งใกล้ๆ มันระบายอารมณ์ มันเคลื่อนตัวมาหาเขาอย่าง “เมื่อคืนลูกไปไหนมา พอเราได้ยินเสียงกริ่ง ช้าๆ แล้วจับเขาเหวี่ยงไปมาด้วยความชิงชัง เขา เราวิ่งไปดู เห็นลูกนอนสลบอยู่หน้าบ้าน มันเกิด เห็ น เหล็ ก ก้ า นยาวที่ อ ยู ่ ใ นห้ อ งใต้ ดิ น ลอยขึ้ น อะไรขึ้น” พ่อของเขาถาม เหนือหัว ด้วยฝีมือของมัน เหล็กนั้นพร้อมจะปัก “พวกเราเป็นห่วงลูกมาก” ทั้งพ่อและแม่เข้า ลงใส่ตัวเขา แต่จู่ๆ มีมือขาวๆ มารับไว้ พร้อมส่ง มากอดเขา เหล็กนั้นลอยคืนกลับไปหาเงาด�ำนั้น “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น” เขายังคง มึนงง เดวิดได้แต่ร้องไห้เสียงดังเพราะความกลัว “ดีนะที่ลูกกลับบ้านมาก่อน เพราะเมื่อคืนนี้ แล้วในความมืด เขาเห็นแม่ของเขา หันมามอง เกิดเหตุฆาตกรรม มีคนตายหลายคน พ่อเสียใจ เขาด้วยใบหน้าโศกเศร้า ด้วยนะเดวิด ทีต่ อ้ งบอกว่าเพือ่ นสนิทของลูกและ เพื่อนๆ ที่โรงเรียนของลูกเสียชีวิตแล้ว พวกเขา “เดวิดลูกรัก ไม่ตอ้ งกลัว ต่อไปนีแ้ ม่จะปกป้อง ตายได้แปลกมาก คนที่ฆ่าพวกเขาโหดร้ายมาก ลูก ไม่ว่าที่ไหนเมื่อไร แม่จะอยู่กับลูกตลอดเวลา ดีแล้วลูกที่ลูกกลับบ้านมาได้” พ่อของเขายังคง แต่จ�ำไว้ อย่าเล่นซ่อนหา เพราะมันมักจะมีสิ่งที่ สวมกอดเขาไว้แน่น ไม่คาดฝันรออยู่ในเกมส์นั้นเสมอ จ�ำไว้ อย่า… เล่น…ซ่อน…หา…” แล้วเงาขาวของแม่มายืน เดวิดยังคงนิง่ เงียบไม่ได้เล่าอะไรให้พอ่ กับแม่ เคียงกับเดวิด ตัง้ แต่นนั้ มา เขาไม่เคยอยูค่ นเดียว ฟัง เขาดืม่ นมแล้วล้มตัวลงนอนอีกครัง้ ด้วยความ อีกเลย เหนือ่ ยอ่อน ฝ่ายพ่อกับแม่เดินออกจากห้อง พวก


รับปรึกษา บ�ำบัด ปัญหาสุขภาพจิต ความคิด อารมณ์ ที่มีผลกระทบต่อการด�ำเนินชีวิต กับผู้มีประสบการณ์ของการท�ำงานในโรงพยาบาล รักษาสุขภาพจิตและองค์กรต่างๆ ในบรรยากาศที่เป็นกันเองและมีความเป็นส่วนตัว สอบถามและนัดหมายล่วงหน้าที่

077 1541 2664

Email address: tayawa1326@gmail.com ทาญ่า วาคาบายาชิ MBPsS

MSc Psychology, MASC Counselling A member of British Psychological Society(BPS) Membership of Professional Practitioners

ข่าวดี!

ส�ำหรับผู้ต้องการสอบ

Live in the UK

รับติวเข้มเพื่อเตรียมสอบ ในราคาพิเศษสุดท่านละ £45 พร้อมแจกฟรีคู่มือ Live in the UK ฉบับแปลภาษาไทย ติดต่อด่วนจ�ำนวนจ�ำกัด 07950 566652


S M I L E FA M I LY

“เงิน” มีมากเท่าใด ก็ซื้อในสิ่งที่เรามีอยู่ ณ เวลานี้ไม่ได้ นั่นก็คือ “เวลาของเรา ที่มีให้กับลูก” ในเมือ ่ มีความตัง ้ ใจแล้ว ก็ต้องมีแนวทาง

“จิตใจและความประพฤติที่สะอาด และมีระเบียบ เป็นรากฐานส�ำคัญ ของชีวิตจิตใจ ทั้งความประพฤติ ดังนั้น ใช่จะเกิดมีขึ้นเองได้ หากแต่จ�ำเป็นต้องฝึกหัดอบรม และสนับสนุนส่งเสริมกันอย่าง จริงจังสม�ำ่ เสมอ นับตัง ้ แต่บค ุ คลเกิด ดังที่มนุษย์ไม่ว่าชาติใดภาษาใด ได้เฝ้าพยายามกระท�ำสืบต่อกันมา ทุกยุคทุกสมัย ทั้งเพื่อให้สามารถรักษาตัวและ มีความสุข ความส�ำเร็จ ในการครองชีวิต ทั้งให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ด้วยความผาสุกสงบ”

WORDS / PHOTOGRAPHY PASSAMON HALL

“การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุข ของผู้ประหยัดเองและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดี ไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย”

“ความเข้มแข็งในจิตใจนี้เป็นสิ่งที่ ส�ำคัญที่จะต้องฝึกฝนแต่เล็ก เพราะว่าต่อไป ถ้ามีชีวิตที่ล�ำบาก ไปประสบอุปสรรคใดๆ ถ้าไม่มีความเข้มแข็ง ไม่มีความรู้ ไม่มีทางที่จะผ่านอุปสรรคนั้นได้ เพราะว่าถ้าไม่เจออุปสรรคอะไร ก็ไม่มีอะไรที่จะมาช่วยเราได้ แต่ถ้ามีความรู้ มีอัธยาศัยที่ดี และมีความเข้มแข็ง ในกาย ในใจ ก็สามารถที่จะผ่านพ้น อุปสรรคต่างๆ นั้นได้”

พระราชด�ำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 เหมือนสุดท้าย ใกล้เข้ามา อีกครั้งหนึ่ง เมื่อมาถึง คราส่งท่าน กลับสวรรค์ ใจหล่นหาย เพราะใกล้แล้ว ใกล้ถึงวัน ส่งเทวัญ กลับสู่สรวง ล่วงลาไกล ขอพระองค์ สถิตสวรรค์ นิรันดร์เถิด แม้ลูกเกิด อีกกี่ชาติ กี่ภพไหน ขอเป็นข้า รองบาท ทุกชาติไป พ่อของไทย ของปวงข้า ปกฟ้าดิน

สุเมธินท์ แสงไตรรัตน์นกุ ลู ผูป้ ระพันธ์ 60

S O M U C H TO S M IL E A B O U T


THAISMILE 159

ในช่วงเวลาเกือบ 4 ปีทผ ี่ า่ นมา แฟน เพจหลายๆ ท่ า นถามถึ ง ว่ า ท� ำ ไม หม่ า มี้ กุ ๊ ก ไก่ ไ ม่ ค ่ อ ยได้ อัพ เดทเพจ มีเหตุผลเดียวเลยค่ะ เพราะพวกเรา ไปใช้ชว ี ต ิ กัน ฝรัง ่ น้อยเริม ่ โต จึงเริม ่ ช่วยงานหม่ามี้ และแด๊ดดี้ได้

ใน

วันธรรมดาก็มีกิจกรรมที่โรงเรียนส่วน ตอนเย็น พอเลิกเรียนก็มาช่วยหม่ามี้ เด็ดผักท�ำกับข้าวขาย วันหยุดก็ช่วยแด๊ดดี้ หยอดแค็ทตาล็อคสินค้า แพ็คของ ส่งของขาย ตามบ้าน ช่วงหน้าร้อนเราก็ไปเปิดท้ายขาย ของกัน และทุกวันอาทิตย์ฝรั่งน้อยเป็น Altar boy คือต้องไปช่วยงานบาทหลวงในโบสถ์ พอกลับจากโบสถ์ วันไหนอากาศดีหน่อย เรา ก็ถีบจักรยานน�ำเศษอาหารที่เหลือๆ ไปให้หมู กิน อีกทั้งยังต้องหาเวลาปรับปรุงบ้านหลัง น้อยทีละนิดทีละหน่อยตามก�ำลังแรง และ ก�ำลังทรัพย์ที่มีอยู่ด้วย การใช้ชีวิตให้ง่าย จริงๆ แล้วไม่ง่ายเลย ใน ตอนแรกนั้นต้องเปิดใจยอมรับเสียก่อน จาก นั้นก็ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เปลี่ยน ใช้ทั้งความ อดทน ใช้ทั้งเวลาค่ะ เลยไม่สามารถมาบอก กล่าว เล่าสู่กันฟังในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้

61


S M I L E FA M I LY

“ความพอดีที่รู้จักพอเพียง” คือมงคลชีวิต อีกข้อหนึง่ ทีห่ ม่ามีก้ กุ๊ ไก่เลือกมาใช้ในช่วงเวลา ที่มีครอบครัว พอท�ำได้หนึ่งข้อแล้ว มงคลใน ชีวิตข้ออื่นๆ จะตามมาโดยต้องใช้ชีวิตบน พืน้ ฐานแห่งการมีสติ อย่างไรก็ดี แม้จะมีมงคล ชีวติ อยูก่ บั ตัวแต่ไม่รจู้ กั รักษาไว้ หลงชืน่ ชมจน ลืมตน ชีวติ ก็จะกลับไปโง่งมยืนอยูใ่ นจุดทีช่ วี ติ ไม่มมี งคลอยูด่ .ี .. เมื่อนึกถึงพระองค์ฯทีไร น�้ำตาเริ่มมารอรื้นที่ หัวตา มีอาการจุกในอก หายใจขัดเป็นห้วงๆ ความเศร้าโศกที่ฝังไว้ลึกสุดใจเหมือนเป็น ระเบิดเวลาเริม่ ท�ำงาน แต่พอต้องกลับมา “ตืน่ ” ใช้ชวี ติ กับปัจจุบนั กับเหตุการณ์ทอี่ ยูต่ รงหน้า ตามค�ำสอนของพระราชานั้น “สติ ” ที่อยู่ๆ บังเกิดมาจากไหนก็ไม่อาจรูไ้ ด้ ท�ำการตัดสาย ระเบิดเวลาหยุดท�ำงานทันที ความเศร้าโศก

ดิง่ ลงหายไปอย่างรวดเร็ว... การด�ำเนินชีวติ ตามค�ำสอนของพระราชา มัน เหมือนมีรอยพระบาทบังเกิดอยูต่ รงหน้า เป็น แนวทางของชีวิตให้เดิน โดยมีชุดเกราะชั้นดี ให้เราใส่ไว้ปอ้ งกันอุปสรรคจากข้างทาง... ค�ำสอนของพระราชามีความเป็นสากล อยูบ่ น ผืนแผ่นดินใด ก็นำ� มาใช้ได้กบั ชีวติ จริงๆ เป็น ค�ำสอนที่เหมาะสมกับเหตุการณ์ของโลกที่มี เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทุกวัน ใช้ดับทุกข์ ดับร้อน ลบความขุน่ หมองในใจ ท�ำให้มองเห็น ความพอดี ท�ำให้เรามีความสุขจากภายใน ค�ำสอนของพระราชาคือขุมทรัพย์มหาศาล อั น ยิ่ ง ใหญ่ ข องผองชนชาวไทยที่ มิ ค วรลื ม มีลกู สอนลูกมีหลานสอนหลานค่ะ!

พลิกดินแห้ง ป่าแล้ง ให้ชุ่มชื้น ปลุกราษฎร์ตื่น จากฝิ่น พลิกชีพผัน กันน�้ำท่วม แก้น�้ำแห้ง ให้ชีวัน พ่อคนนั้น ของผองไทย ไปทั่วแดน สอนให้ลูก พอเพียง อย่าฟุ้งเฟ้อ แม้ต้องเจอ สิ่งใด อีกนับแสน ให้มีภูมิ คุ้มกัน ยึดเป็นแกน จากเมืองแมน สู่ผืนดิน ถิ่นไทยเรา จะหาพ่อ อย่างนี้ ได้ที่ไหน ห่วงคนไทย ดั่งลูก ของพ่อเขา พ่อกลับสู่ สวรรค์ เหลือเพียงเงา ให้พวกเรา ตามรอย ของพ่อไป

สุเมธินท์ แสงไตรรัตน์นกุ ลู ผูป้ ระพันธ์ ขอขอบพระคุณข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ www.cca.chula.ac.th

62

S O M U C H TO S M IL E A B O U T



Authentic Taste

TOM YUM GOONG Hot and Sour Soup with Shrimp INGREDIENTS • 4 cups shrimp stock (see recipe), chicken stock, or water • 8-12 medium sized shrimp, head and shell on if possible • 5-6 kaffir lime leaves, roughly torn or cut • 1 lemongrass stalk, smashed and cut into 1-2 inch pieces • 7-8 rounds galangal, thinly sliced. • Thai chilies, to taste, bruised and cut into large pieces • 3-4 Tbsp Thai chilli paste, optional • 1/2 cup lime juice • 3 Tbsp fish sauce • 1-2 tsp sugar • 3 cups oyster mushroom, cut or tear large ones into bite-sized pieces • Cilantro for garnish PREPARATION Add the shrimp stock, lemongrass, kaffir lime leaves, galangal and chilies to the pot. Bring to a boil and let it boil for 3-4 minutes until you can smell the fragrance of the herbs from the pot. When the soup is done simmering, add the oyster mushrooms, and bring the soup back to a boil Once the soup comes back to a boil, add the shrimp and when the soup just starts to bubble again, turn off the heat. Let the residual heat of the soup cook the shrimp completely, another minute or so. Add the lime juice, fish sauce, chili paste (if using) and sugar to your soup and stir. Taste and adjust seasoning to your liking. If you’re not using the chili paste, you may find you need to add a bit more fish sauce/sugar. But taste it first! Garnish with cilantro leaves and serve with rice or turn it into a “Kuay Tiew Tom Yum” by pouring the soup over rice noodles for a pho-style meal!

9A Gerrard St, London W1D 5PN Tel: 020 7734 3887 Fax: 020 7439 8880

New Loon Moon Supermarket

Where the world of food is brought to you!


Only the Finest

‘Far East Brands’ 75% shoppers want more choice from world foods SHOPPER INSIGHT MANAGER – I.G.D. 01 Oct 2015

Manning Impex Limited

Tel: +44 (0)1276 406888/7 Email: sales@manningimpex.com www.manningimpex.com Facebook: facebook.com/Manning-Impex-Ltd



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.