Samwa_21.59x29.21cm.pdf
1
3/28/17
11:02 AM
Siam Control_21.59x29.21cm.pdf
1
3/30/17
9:26 AM
Mennekes_21.59x29.21cm_Cre.pdf
1
3/30/17
3:05 PM
CONTENT September-October
สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย 28 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 31 การไฟฟ้านครหลวง 34 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 38 บริษัท ผลิตไฟฟ้า จ�ำกัด (มหาชน) 41 บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จ�ำกัด (มหาชน)
SPECIAL AREA
63 เทคนิคการตรวจวัดวิเคราะห์สภาพหม้อแปลงไฟฟ้า
66
68
70
72
74
ARTICLE
50 ความร่วมมือระหว่างมนุษย์และเครื่องกลในยุคถัดไป
เดลล์ เทคโนโลยีส์
76
ด้วยวิธี On-line Partial Discharge (PD) แบบไม่ตอ้ ง ดับไฟขณะท�ำงาน บริษัท พีดี โซลูชั่นส์ จ�ำกัด Color Mark Sensors E3S-DC/E3NX-CA Series บริษัท ออมรอน อีเลคทรอนิคส์ จ�ำกัด RAPTION 50 … DC Fast Charging Station for Electric Vehicles บริษัท เอวีรา ่ จ�ำกัด เทคโนโลยีจัดการพลังงาน..เปลี่ยนอาคารธรรมดา ให้เป็นอาคารอัจฉริยะ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิตคืออะไร? บริษัท ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) จ�ำกัด สัญญาณเตือน สิ่งส�ำคัญที่ไม่ควรมองข้าม บริษัท แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จ�ำกัด XDK110 คืออะไร? ATOM-MIC POWER
SPECIAL SCOOP
EXHIBITION
52 “ไดนาเฟล็กซ์” นวัตกรรมน�ำ้ มันเชื้อเพลิงของเชลล์
กองบรรณาธิการ 55 “คอนกรีตบล็อกทนความร้อนผลิตไฟฟ้า” ด้วยวัสดุ ตั้งต้นจากเปลือกไข่ไก่ กองบรรณาธิการ 58 Taiwan 2017 กับ Green Industry กิตติ วิสุทธิรัตนกุล
SCOOP
60 ศูนย์การวิเคราะห์เพือ่ พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์
ของดาว เคมีคอล เพือ่ เสริมศักยภาพอุตสาหกรรม 4.0 ของไทย กองบรรณาธิการ 82 Emerson ...ท้าทายความยากในอุตสาหกรรมด้วย ระบบคอมเพรสเซอร์ คอนเดนเซอร์ กองบรรณาธิการ September-October 2017
2017
77 Metalex 2017 งานแสดงสินค้า สัมมนา ส�ำหรับ
เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน 80 บริษทั แวลูเอชัน่ เอ็นจิเนียริง่ จ�ำกัด ในงาน Thailand Lighting Fair 2017
IT ARTICLE
84 ประโยชน์ 6 ข้อ ส�ำหรับธุรกิจที่จะได้รับจากบล็อกเชน IFS
46 IEEE Power & Energy Society
- Thailand (IEEE PES - Thailand) 88 PRODUCT 91 PR NEWS 94 MOVEMENT 97 SEMINAR 99 INDUSTRY NEWS 101 IT NEWS
EDITOR TALK
September-October
2017
เวลาในแต่ละวันแต่ละเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก นี่ก็เข้าสู่เดือนกันยายนแล้ว อีกเพียง 3 เดือนก็จะสิ้นปี 2560 แล้ว ใครที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าปีนี้จะต้องท�ำอย่างนั้นอย่างนี้ คงต้องรีบท�ำแล้ว เพราะเวลาไม่เคยคอยใคร แต่การเริ่มต้นไม่มีคำ� ว่า สาย ขอให้ตั้งใจและมุ่งมั่นจริงจัง ผลที่ออกมาก็จะสร้างความภาคภูมิใจว่าเราได้ท�ำเต็มที่แล้ว นิตยสารไฟฟ้าและอุตสาหกรรมฉบับประจ�ำเดือนกันยายน-ตุลาคม ก็ยังคงมีเนื้อหาเข้มข้นเช่นเดิม มีการกล่าวกันว่า ในปี 2030 องค์กรทุกแห่งจะกลายเป็นองค์กรด้านเทคโนโลยี เทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) วิทยาการหุน่ ยนต์ (Robotics) เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality) เทคโนโลยีเออาร์ (Augmented Reality) และคลาวด์ คอมพิวติ้ง จะเข้ามาพลิกโฉมการใช้ชีวิตและการท�ำงานของเราภายในทศวรรษหน้า เดลล์ เทคโนโลยีส์ จึงน�ำเสนอบทความ เรื่อง ความร่วมมือระหว่างมนุษย์และเครื่องกลในยุคถัดไป เพื่อช่วยให้องค์กรมีเข็มทิศในการก้าวไปสู่โลกที่ไม่แน่นอนและ เตรียมพร้อมรับอนาคต เมื่อเร็วๆ นี้ ทีมนักวิจัยฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ประสบความส�ำเร็จในการวิจยั และพัฒนานวัตกรรมสิง่ ประดิษฐ์ “คอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริกผลิตไฟฟ้าจากความร้อนโดย การใช้วสั ดุตงั้ ต้นจากเปลือกไข่ไก่” ได้เป็นทีแ่ รกในประเทศไทยและของโลก ไปติดตามกันว่าทีมนักวิจยั เขามีขนั้ ตอนและวิธที า� อย่างไร ส่วน Special Scoop เป็นการน�ำเสนอประสบการณ์จากการไปเยีย่ มชมธุรกิจอุตสาหกรรมทีป่ ระเทศไต้หวัน ซึง่ เป็นบริษทั ในกลุ่ม Green Industry ติดตามได้ในบทความเรื่อง “Taiwan 2017 กับ Green Industry” นอกจากนั้นยังมี Scoop เกี่ยวกับ บริษัท ดาว เคมิคอล ที่ได้เปิดให้เยี่ยมชม ศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ เป็นศูนย์ที่มีเครื่องมือและ เทคโนโลยีด้านการวิเคราะห์ขั้นสูงที่ทันสมัย ส่วนคอลัมน์ Special Area ยังมีบทความทีน่ า่ สนใจมากมายเช่นเดิม อาทิ บทความเรือ่ ง “เทคนิคการตรวจวัดวิเคราะห์ สภาพหม้อแปลงไฟฟ้า ด้วยวิธี On-line Partial Discharge (PD) แบบไม่ต้องดับไฟขณะท�ำงาน” เรียบเรียงโดย สุริยะ มงคลสาธิตพงศ์ บริษัท พีดี โซลูชั่นส์ จ�ำกัด บทความเรื่อง “เทคโนโลยีจัดการพลังงาน..เปลี่ยนอาคารธรรมดาให้เป็นอาคาร อัจฉริยะ” ของบริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค รวมทั้งบทความเรื่อง “สัญญาณเตือน สิ่งส�ำคัญที่ไม่ควรมองข้าม” จากบริษัท แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จ�ำกัด พบกันใหม่ฉบับหน้า กิตติ วิสุทธิรัตนกุล
ที่ปรึกษา : รศ.ฉดับ ปัทมสูต / รศ. ดร.สุธี อักษรกิตติ์ / ไกรสีห์ กรรณสูต พรเทพ ธัญญพงศ์ชัย / เฉลิมชัย รัตนรักษ์ / ประเจิด สุขแก้ว ผศ.พิชิต ล�ำยอง / วัลลภ เตียศิริ / พรชัย องค์วงศ์สกุล / ดร.กมล ตรรกบุตร ศ. ดร.พีรศักดิ์ วรสุนทโรสถ / รศ. ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รศ. ดร.ปริทรรศน์ พันธุบรรยงก์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : กิตติ วิสุทธิรัตนกุล บรรณาธิการวิชาการ : ดร.สุรพล ด�ำรงกิตติกุล ผู้ช่วยบรรณาธิการ : นิภา กลิ่นโกสุม เลขากองบรรณาธิการ : ปัฐฐมณฑ์ อุ่ยพัฒน์ / จีราภา รักแก้ว พิสูจน์อักษร : อ�ำพันธุ์ ไตรรัตน์ ศิลปกรรมรูปเล่ม / ศิลปกรรมโฆษณา : กันยา จ�ำพิมาย ฝ่ายโฆษณา : ศิริภรณ์ กลิ่นขจร / มนัส ไชยเพส / กษิรา เหมบัณฑิตย์ / กัลยา ทรัพย์ภิรมณ์ เลขานุการฝ่ายโฆษณา : ชุติมันต์ บัวผัน ฝ่ายสมาชิก : นันธิดา รักมาก
September-October 2017
บทความที่ปรากฏใน ELECTRICITY & INDUSTRY Magazine เป็นความคิดเห็น ส่ ว นตั ว ของผู ้ เขี ย น ไม่ มี ส ่ ว นผู ก พั น กั บ บริ ษั ท เทคโนโลยี มี เ ดี ย จ� ำ กั ด แต่ อ ย่ า งใด หากบทความใดที่ผู้อ่านเห็นว่ามีการลอกเลียนหรือแอบอ้าง กรุณาแจ้งที่กองบรรณาธิการ ELECTRICITY & INDUSTRY Magazine บทความต่ า งๆ ที่ ป รากฏในหนั ง สื อ ได้ ผ ่ า นการตรวจทานอย่ า งถี่ ถ ้ ว นเพื่ อ ให้ เ กิ ด ความถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด หากเกิดความผิดพลาดจะมีการชี้แจงและแก้ไขต่อไป เจ้าของ
บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จ�ำกัด
471/3-4 อาคารพญาไทเพลส ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0-2354-5333 โทรสาร 0-2640-4260 http:// www.technologymedia.co.th เพลท-แยกสี : บริษัท อิมเมจิ้น กราฟิค จ�ำกัด พิมพ์ที่ : บริษัท ฐานการพิมพ์ จ�ำกัด จัดจ�ำหน่าย : บริษัท ธนบรรณ ปิ่นเกล้า จ�ำกัด
AD_Circontrol-7.pdf 1 9/6/2017 6:51:20 PM
Post eVolve รุน Smart S Type 2 Type 1 (2 Socket) (Adapter)
ทางเลือกใหม ที่สดใสให ยานยนต Plug-In Hybrid
Post eVolve รุ น Smart S
ชาร จไฟฟ าได ไว ง าย ๆ สบาย ๆ ใคร ๆ ก็ชอบ • • • • • •
รองรับรถ Plug-In Hybrid ได ทุกรุ นตามมาตรฐาน IEC 61851 มีระบบป องกันไฟฟ ารั่วลงดิน ระยะเวลาในการชาร จเร็วสุด 25 นาที* มีโปรแกรมบร�หารจัดการเคร�่องอัดประจ�ไฟฟ าสำหรับยานยนต ไฟฟ า ออกแบบโลโก ลงบนตัวเคร�่องได รองรับ RFID Card Reader (Optional)
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
ลืมไปเลยว าเคย เติมน้ำมัน
*ความเร็วในการชาร จไฟฟ าข�้นอยู กับกระแส, แรงดัน และขนาดความจ�ของแบตเตอร�่รถยนต ไฟฟ า
AVERA
ผู จัดจำหน ายและเป นผู เชี่ยวชาญด าน • อุปกรณ ไฟฟ ากำลังภายในตู สว�ทช บอร ด • ระบบบร�หารช องจอดรถ งานบร�การหลังการขายและการบำรุงรักษา
อุปกรณ ป องกันไฟฟ ากระชากภายในและภายนอก ระบบและอุปกรณ อัดประจ�ไฟฟ าสำหรับยานยนต ไฟฟ า
ติดต อสอบถามรายละเอียดได ที่
AVERA Co., Ltd.
Tel : 088-001-0416 Website : www.avera.co.th E-mail : sales@avera.co.th
KNIPEX Quality – Made in Germany
KNIPEX Tethered Tools*
www.knipex.com
สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้ สาหกรรมไฟฟ้าาแห่ แห่งงประเทศไทย ประเทศไทย
ขอแสดงความยินดีแก่อดีตผู้ว่าการ กฟผ.
วี ร ะวั ฒ น์ ชลายน อดี ต ผู ้ ว ่ า การการไฟฟ้ า ฝ่ า ยผลิ ต แห่ ง ประเทศไทย (กฟผ.) เข้ า รั บ โล่ แ ละใบประกาศเกี ย รติ คุ ณ “วิศวจุฬากิตติคุณอาวุโสดีเด่น ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2560” ของ สมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนือ่ งจากเป็นผูม้ ปี ระวัตแิ ละผลงานโดดเด่นทีอ่ ทุ ศิ ตนเพือ่ ประโยชน์ แก่สถาบัน สังคม และประเทศชาติ ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ โรงแรม พลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน กรุงเทพฯ
นวัตกรรม Big Data และบุคลากร คือ 3 ปัจจัยหลักของ กฟผ. รองรับการเปลี่ยนแปลง ในงานเสวนา “ทิศทาง กฟผ.”
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2560 สายงานรองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า (รวฟ.) ได้จัดการเสวนาในหัวข้อ “ทิศทาง กฟผ.” โดยมี กรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผูว้ า่ การ กฟผ. พฤหัส วงศ์ธเนศ รองผูว้ า่ การนโยบาย และแผน (รวผ.) และ นิกลู ศิลาสุวรรณ รองผูว้ า่ การผลิตไฟฟ้า (รวฟ.) ร่วมเสวนา โดยมี จรัญ ค�ำเงิน ผูอ้ ำ� นวยการโรงไฟฟ้าน�ำ้ พอง (อฟพ.) เป็นผู้ด�ำเนินการเสวนา และมี วิศาล เพ่งวาณิชย์ ผู้อ�ำนวยการ โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ (อฟน.) กล่าววัตถุประสงค์การจัดเสวนา โดยมีผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. เข้าร่วมรับฟังจ�ำนวนมาก ณ หอประชุมเกษม จาติกวณิช 1-2 อาคาร ต.040 ส�ำนักงานใหญ่ กฟผ. ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กระแสของพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ก�ำลังมาแรงในปัจจุบัน รวมถึงเรือ่ งการพัฒนาทางเทคโนโลยีทเี่ ปลีย่ นแปลงไปอย่างรวดเร็ว หรือ Disruptive Technology และสิ่งที่ตามมาหลังจากนี้คือ การใช้ Energy Storage เพื่ อ กั ก เก็ บ พลั ง งานไฟฟ้ า ที่ ผ ลิ ต ได้ จ ากแผง โซลาร์เซลล์ นอกจากนี้ ระบบการผลิตขนาดเล็กที่กระจายตัวตาม พื้นที่ในลักษณะของ Micro Smart Grid รวมถึงการบริหารจัดการ ข้อมูลด้านพลังงานทีม่ อี ยูม่ ากมายมหาศาลในเชิงดิจทิ ลั (Big Data) ให้สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้มาเพิ่มประสิทธิภาพในการท�ำงาน เป็น เรื่องของนวัตกรรมที่จะท�ำให้ กฟผ. เดินไปข้างหน้าได้ โดยจะต้อง พึ่งพางานวิจัยมากขึ้น September-October 2017
“กฟผ. มีเรือ่ งใหม่ ๆ มากมาย ทีร่ อให้เราคิดเป็นคนแรก ท�ำไม เราต้องรอให้คนอืน่ คิดแล้วเราจึงเดินตาม ดังนัน้ จงอย่าหยุดคิด ทัง้ ในเรือ่ งนวัตกรรม และ Big Data คือสองสิง่ หลักทีเ่ ราต้องเร่งผลักดัน เพราะจะเป็นเครื่อ งมือ เพื่อ รองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต นอกจากนี้ ยังรวมถึงการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับเรื่องดังกล่าว ด้วย” ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว รองผูว้ า่ การนโยบายและแผน กล่าวว่า แม้พลังงานหมุนเวียน จะเข้ามาในระบบมากขึ้น แต่โรงไฟฟ้าหลักและระบบส่งก็ยังมี ความส�ำคัญ โควต้าพลังงานหมุนเวียนในแผนพีดพี ใี นส่วนของ กฟผ. เดิมอยู่ที่ 500 เมกะวัตต์ เราได้ปรับเปลี่ยนใหม่เพิ่มเป็น 2,000 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการน�ำเสนอไปยังกระทรวงพลังงาน ซึง่ สิง่ นีแ้ สดงให้เห็นว่า กฟผ. ได้ดำ� เนินการสอดรับกับนโยบายภาครัฐ ที่ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนให้เข้ามาในระบบมากขึ้น รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า กล่าวว่า องค์การจะต้องมีความ สามารถในการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทุกๆ คน จะต้องช่วยกันคิด และน�ำพาไปสู่อนาคตตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าทั้งในปัจจุบันและอนาคตจะต้องอยู่ร่วมกับ สังคมและสิ่งแวดล้อมให้ได้ โดยจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและ สิง่ แวดล้อม การเสวนา “ทิศทาง กฟผ.” เป็นส่วนหนึง่ ของงาน Utility of the Future นอกจากการจัดเสวนาแล้ว ยังมีการจัดนิทรรศการ โรงไฟฟ้าต้นแบบ (Model Plant) ให้ผบู้ ริหารและผูป้ ฏิบตั งิ านได้รบั ชม ด้วย
การไฟฟ้าฝ่าฝ่ายผลิ ายผลิตตแห่แห่งงประเทศไทย ประเทศไทย การไฟฟ้
6
คำ�ถาม
“สายไหน ไฟแรงเว่อร์” เมื่อพูดถึงค�ำว่า “ไฟฟ้าแรงสูง” หลายคนอาจจะรู้สึกไกลตัว แต่จริงๆ แล้ว 24 ชั่วโมงของแต่ละวัน ไฟฟ้าที่เราใช้ได้ผ่านระบบส่ง ไฟฟ้าแรงสูงมาแล้วทั้งนั้น เพราะสายส่งไฟฟ้าแรงสูงเปรียบเสมือน เส้นเลือดใหญ่ของแหล่งพลังงาน ที่ส่งจ่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าไปยัง ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกทิศทั่วไทย
ค�ำถาม 1 : ไฟฟ้ามาถึงบ้านของทุกคนได้อย่างไร?
ค�ำตอบคือ กระแสไฟฟ้าแรงดันสูงนับแสนโวลต์จะวิง่ ระยะทาง ไกล จากแหล่งผลิตไฟฟ้าผ่านสายส่ง ไฟฟ้าแรงสูง และผ่านหม้อแปลง แรงดั น ไฟฟ้ า ที่ ส ถานี ไ ฟฟ้ า แรงสู ง ไปยังสายส่งไฟฟ้าทีแ่ รงดันต�ำ่ ลง ของ การไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้า ส่ ว นภู มิ ภ าค ก่ อ นที่ จ ะลดแรงดั น เหลือ 220 โวลต์วิ่งเข้าสู่บ้านเรา
การซ่อมสายแตกชำ�รุด
ค�ำถาม 2 : ทำ�ไมต้องส่งไฟฟ้าแรงดันสูงมาใน
ตอนแรก ทำ�ไมไม่สง่ แรงดันต�ำ่ มาเลย จะได้ไม่ตอ ้ ง ผ่านหม้อแปลงแรงดัน?
ค�ำตอบคือ ระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงจะสามารถ ส่งกระแสไฟฟ้าไปได้ในระยะทางที่ไกล และมีการสูญเสียทาง ไฟฟ้าต�่ำกว่าระบบไฟฟ้าที่มีแรงดันไฟฟ้าต�่ำ ซึ่งแหล่งผลิตไฟฟ้า หลักๆ ของประเทศกระจายกันอยู่ตามภาคต่างๆ ซึ่งมีระยะทาง ไกลเป็นหลายร้อยกิโลเมตร ดังนั้นเสาและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง จึงจ�ำเป็นต้องอยู่ในสภาพดีอยู่ตลอดเวลา
ค�ำถาม 3 : ระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
แห่งประเทศไทย มีระดับแรงดันไฟฟ้าเท่าใดบ้าง?
ค�ำตอบคือ ในปัจจุบันระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ใช้ระดับแรงดันไฟฟ้า คือ 69 กิโลโวลต์ (ปัจจุบันใช้อยู่น้อยมาก) 115 กิโลโวลต์ 230 กิโลโวลต์ และ 500 กิโลโวลต์ ซึง่ ถือเป็นไฟฟ้าแรงสูงทัง้ หมด และในอนาคตหากมีความต้องการพลังงาน ไฟฟ้ามากขึ้นและต้องส่งพลังงานไฟฟ้าในระยะไกลมากขึ้น อาจจะมีระดับแรงดัน ไฟฟ้าที่มากกว่า 500 กิโลโวลต์ โดยเสาส่งไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่มี 3 ชนิด คือ เสาคอนกรีต เสาโครงเหล็ก และ เสาชนิด Monopole ซึง่ จะใช้เสาประเภทใดนัน้ ขึน้ อยูก่ บั เงือ่ นไขและความเหมาะสม ของสภาพพืน้ ทีท่ ตี่ งั้ เสาไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า และจ�ำนวนสายทีใ่ ช้ในระบบของ กฟผ. September-October 2017
สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้ สาหกรรมไฟฟ้าาแห่ แห่งงประเทศไทย ประเทศไทย
ค�ำถาม 4 : เราจะทราบได้อย่างไรว่าสายไฟฟ้าแบบไหนเป็นสายไฟฟ้า
แรงสูง?
ค�ำตอบคือ วิธีสังเกตว่าเป็นไฟฟ้าแรงสูงง่ายๆ คือ ระดับความสูงของสายไฟ สายไฟฟ้าแรงสูง มักจะอยู่สูงจากพื้นดินตั้งแต่ 9 เมตรขึ้นไป ยิ่งสายไฟอยู่สูง แสดงว่าแรงดันไฟฟ้ายิ่งสูง นอกจากนี้ เนื่องจากสายไฟฟ้าแรงสูงมีระยะอันตรายที่ไฟฟ้าจะกระโดดข้ามได้ ดังนั้น จึงต้อง มีการจับยึดสายไฟฟ้าด้วยวัสดุที่เป็นฉนวนไฟฟ้า ที่เรียกว่า “ลูกถ้วย” ในจ�ำนวนที่พอเหมาะกับไฟฟ้า แรงสูงนั้น ซึ่งจ�ำนวนชั้นของลูกถ้วยจะบ่งบอกถึงระดับแรงดันไฟฟ้าด้วย
การเช็ดทำ�ความสะอาดลูกถ้วย
ค�ำถาม 5 : ลูกถ้วยสำ�หรับสายส่งไฟฟ้า มีคุณสมบัติอะไร?
ค�ำตอบคือ ลูกถ้วยเป็นอุปกรณ์ที่ใช้รองรับสายไฟฟ้าแรงสูง มีคณ ุ สมบัตเิ ป็นฉนวนไฟฟ้า ป้องกันกระแสไฟฟ้าไหลจากสายตัวน�า ไปสู่โครงสร้างเสา ลูกถ้วยที่ใช้อยู่ในสายส่งของ กฟผ. ท�ำจากกระเบื้องเคลือบ หรือแก้ว ซึ่งจะมีเนื้อละเอียดกว่าเซรามิกและแก้วที่ใช้ท�ำถ้วยชาม ฉาบผิวด้วยสารเคลือบเงาเพือ่ ให้เรียบ ลืน่ สกปรกยาก ทีม่ คี ณ ุ สมบัติ พิเศษคือมีความเป็นฉนวนมาก และมีความแข็งแรง ทนทาน แต่ เมื่อใช้ไปนานๆ สัมผัสกับอากาศนานเข้าจะมีฝุ่นละอองมาเกาะ ท�ำให้เกิดการน�ำไฟฟ้าได้ จึงต้องมีการท�ำความสะอาดลูกถ้วยอย่าง สม�่ำเสมอ
ก่อนดำ�เนินการต้องมีการวางแผน / การฉีดทำ�ความสะอาดลูกถ้วย September-October 2017
ค�ำถาม 6 : สายไฟฟ้าแรงสูงมีอนั ตรายหรือไม่
และเราควรปฏิบต ั ิอย่างไรในเขตระบบไฟฟ้าแรงสูง
ค�ำตอบคือ กระแสไฟฟ้าสามารถกระโดดจากสายไฟฟ้าข้าม ผ่านอากาศได้ โดยไม่จำ� เป็นต้องสัมผัสถูกสายไฟฟ้า แค่เพียงเข้าใกล้ สายไฟฟ้าก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวติ ได้ การใช้ประโยชน์ทดี่ นิ ในเขต ระบบโครงข่ายไฟฟ้าจะต้องควบคุมดูแลและจ�ำกัดการท�ำงานต่างๆ อย่างระมัดระวังและให้มีความปลอดภัยสูงสุด โดยไม่ควรเข้าใกล้ สายส่งไฟฟ้าแรงสูงในรัศมี 4 เมตร ถ้าหากสายไฟฟ้าแรงสูงเกิดข้อขัดข้องด้วยสาเหตุประการใด ก็ตาม ย่อมส่งผลเสียในวงกว้าง กฟผ. จึงได้มกี ารบ�ำรุงรักษาสายส่ง ไฟฟ้าแรงสูงที่พร้อมด�ำเนินการตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการช�ำรุด ของเสาและสายส่ง หรือการมีสงิ่ แปลกปลอมไปติดทีเ่ สาและสายส่ง กฟผ. พร้อมด�ำเนินการแก้ไขอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า สามารถช่วยกันดูแลและ ปกป้องสายส่งไฟฟ้าแรงสูงได้อีกทางหนึ่ง เช่น ระมัดระวังขณะใช้ เครื่องจักรกลใกล้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เช่น รถตัก รถเครน อย่า ให้ชิ้นส่วนใดของรถเข้าใกล้สายส่งในรัศมี 4 เมตร ไม่เผาพืชใน บริเวณใกล้แนวสายส่ง จุดประทัด พลุ หรือบั้งไฟ ใกล้แนวสายส่ง ไม่ปีนป่ายโครงเสาส่งไฟฟ้า ไม่เล่นว่าว เครื่องร่อน หากพบความ ผิดปกติกบั สายส่งไฟฟ้าแรงสูง พบต้นไม้ใหญ่หรือสูงเกินกว่า 3 เมตร ใกล้สายส่งไฟฟ้าแรงสูง ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบโดยเร็ว ที่ศูนย์ บริการข้อมูล กฟผ. 1416 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
านครหลวง การไฟฟ้าฝ่ายผลิการไฟฟ้ ตแห่งประเทศไทย
59 ปี กฟน. เดินหน้าสู่การเป็น “มหานครไร้สาย”
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ครบรอบ 59 ปี ในวันที่ 1 สิงหาคม 2560 พร้อมก้าวสูป่ ที ี่ 60 อย่างมัน่ คง ด้วยภารกิจทีส่ ำ� คัญ ในการขับเคลื่อนการเป็นมหานครไร้สาย เดินหน้าน�ำสายไฟฟ้าลง ใต้ดินอย่างต่อเนื่อง และการประกาศตัวเป็น the MetGE ในฐานะ องค์กรที่จัดการระบบโครงข่ายไฟฟ้าแห่งอนาคต ภายใต้ค่านิยม ระบบไฟฟ้ามั่นคง บริการมั่นใจ ห่วงใยสังคม ตอบสนองวิสัยทัศน์ การเป็นองค์กรชั้นน�ำด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในระดับสากล ชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า ในวาระครบรอบ 59 ปี แห่งการสถาปนา กฟน. ในวันที่ 1 สิงหาคม 2560 นี้ กฟน. ยังเติบโตอย่างต่อเนือ่ ง พร้อม มุ่งสู่ปีที่ 60 อย่างมั่นคง โดย ผลประกอบการครึง่ ปีแรก กฟน. มีรายได้รวม 94,000 ล้านบาท คาดว่าสิน้ ปี 2560 จะสามารถ ท�ำรายได้ถงึ 192,000 ล้านบาท ก�ำไรสุทธิคาดการณ์ที่ 9,000 ล้ า นบาท ซึ่ ง ในครึ่ ง ปี แรกนี้ กฟน. สามารถส่งรายได้เข้าสูร่ ฐั ชัยยงค์ พัวพงศกร สูงกว่าประมาณการตรงตาม กรอบเวลาที่กำ� หนดไว้ โดยในปีนี้ กฟน. เร่งเดินหน้าการน�ำสายไฟฟ้าลงใต้ดนิ อย่าง ต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนการเป็น “มหานครไร้สาย Smart Metro” ปัจจุบันพื้นที่ที่ด�ำเนินการย้ายสายไฟฟ้าลงใต้ดินแล้วเสร็จ รวม ระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 41.9 กิโลเมตร โดยมุ่งเน้นใจกลางพื้นที่ ทางเศรษฐกิจ และบริเวณสถานที่ส�ำคัญ เช่น ถ.สีลม ถ.สุขุมวิท
ถ.เพลินจิต ถ.พญาไท ถ.สุโขทัย ถ.พหลโยธิน เป็นต้น ส�ำหรับ โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินของ กฟน. ที่ด�ำเนินการอยู่ในปัจจุบันมีระยะทาง 172.7 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด คือ กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ ซึ่ ง พื้ น ที่ ที่ อ ยู ่ ร ะหว่ า งการด� ำ เนิ น โครงการรวม 45.4 กิ โ ลเมตร ได้แก่ ถ.ราชปรารภ ถ.ศรีอยุธยา ถ.โยธี ถ.เพชรบุรี ถ.รัชดาภิเษก ถ.เทียมร่วมมิตร ถ.พระราม 4 ถ.พระราม 3 ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ ถ.สาธุประดิษฐ์ ถ.สาทร ถ.นางลิ้นจี่ และโครงการเพื่อรองรับการ เป็นมหานครแห่งอาเซียน ระยะที่ 1 ระยะทาง 127.3 กิโลเมตร นอกจากนี้ กฟน. ยังมุง่ มัน่ ในการย้ายสายสือ่ สารลงใต้ดนิ พร้อมกับ จัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการแก้ไข ปัญหาสายสือ่ สารรกรุงรัง สร้างทัศนียภาพทีส่ วยงามให้แก่มหานคร โดยล่าสุด กฟน. เตรียมรื้อถอนเสาไฟฟ้า และย้ายสายสื่อสารลง ใต้ดินบริเวณ ถ.พหลโยธิน ซึ่งเป็นพื้นที่จ�ำหน่ายกระแสไฟฟ้าโดย
September-October 2017
สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้ สาหกรรมไฟฟ้าาแห่ แห่งงประเทศไทย ประเทศไทย
ระบบสายไฟฟ้าใต้ดินเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ที่ผ่านมา กฟน. ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ด�ำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีพื้นที่ที่ ด�ำเนินการจัดระเบียบไปแล้ว เช่น ถ.สุขมุ วิท ถ.เพชรบุรี ถ.พระราม 1 ถ.พระราม 3 ถ.พระราม 4 ถ.รามค�ำแหง ถ.สุขสวัสดิ์ ถ.ราชด�ำริ และ ถ.พญาไท เป็นต้น ขณะทีใ่ นปัจจุบนั กฟน. ยังได้ดำ� เนินการเพิม่ เติม ในพื้นที่บางส่วนของ ถ.งามวงศ์วาน ถ.สารสิน ถ.สาทรเหนือ ถ.สาทรใต้ ถ.กาญจนาภิเษก และ ถ.ราชด�ำเนินกลาง รวมระยะทาง การด�ำเนินงานนับจากปี พ.ศ. 2557 ถึงปัจจุบัน จัดระเบียบมาแล้ว ทั้งสิ้นมากกว่า 570 กิโลเมตร
ผูว้ า่ การ กฟน. กล่าวต่อไปว่า นอกจากการเดินหน้าโครงการ สายใต้ดินอย่างต่อเนื่องแล้ว กฟน. ยังประกาศตัวเป็น the MetGE (เดอะ เมทจ์) ซึ่งมาจากค�ำว่า “Metro Grid Enabler” เป็นการใช้ นวัตกรรมล�้ำสมัยเพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าที่มั่นคง ภายใต้หน้าที่ ก�ำกับ ดูแล จัดการ ให้ค�ำปรึกษา อนุญาตการเชื่อมต่ออุปกรณ์ ต่างๆ ควบคุมระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ พร้อมรองรับเทคโนโลยี ด้านพลังงานสู่รูปแบบ Smart Metro มหานครแห่งอนาคต เพื่อ สนับสนุนแนวคิดประเทศไทย 4.0 ภายใต้การด�ำเนินงานใน 4 ด้าน ได้แก่ Smart Metro, Smart Metro Solar, Smart Super EV Multi Charging Port และ Smart Super EV Application นอกจากนี้ยัง September-October 2017
พัฒนา MEA Smart Life Application อย่างต่อเนือ่ ง เพือ่ ช่วยอ�ำนวย ความสะดวกแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าเกี่ยวกับการขอรับบริการในด้านต่างๆ ของ กฟน. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบค่าไฟฟ้า การช�ำระ ค่าไฟฟ้า และแจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้อง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กฟน. ยังคงขับเคลื่อนองค์กรภายใต้ค่านิยม ระบบไฟฟ้ามั่นคง บริการมั่นใจ ห่วงใยสังคม เพื่อสร้างความยั่งยืน ให้แก่ธุรกิจ ตอบสนองวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรชั้นน�ำด้านธุรกิจ พลังงานไฟฟ้าในระดับสากล ซึ่งนอกเหนือจากการน�ำสายไฟฟ้า ลงใต้ดนิ และการประกาศตัวเป็น the MetGE แล้ว กฟน. ยังด�ำเนิน ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการออกแบบและ ติดตัง้ แผงโซลาร์เซลล์ในหน่วยงานราชการ ตลอดจนการด�ำเนินงาน ด้านสังคมและสิง่ แวดล้อม ทัง้ ในภาคประชาชน เช่น การออกหน่วย ให้บริการชุมชน การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้แก่สถานศึกษา และเยาวชน ภายใต้โครงการ Energy Mind Award ซึง่ ปีนดี้ ำ� เนินการ มาเป็นปีที่ 10 รวมไปถึงในภาคธุรกิจอย่างโครงการ Energy Saving Building ซึ่งโครงการดังกล่าว ช่วยให้ กฟน. รับรางวัลรัฐวิสาหกิจ ดีเด่น ประจ�ำปี 2559 ประเภทรางวัลการด�ำเนินงานเพื่อสังคมและ สิ่งแวดล้อมดีเด่น พร้อมๆ กับประเภทรางวัลการบริหารจัดการ องค์กรดีเด่น และรางวัลชมเชยนวัตกรรมดีเด่น จากผลงาน Field Force Management (FFM) ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนได้เป็นอย่างดีถึง
านครหลวง การไฟฟ้าฝ่ายผลิการไฟฟ้ ตแห่งประเทศไทย
ผลการด�ำเนินงานทีด่ เี ยีย่ มของ กฟน. ในฐานะองค์กรชัน้ น�ำด้านธุรกิจ พลังงานไฟฟ้าทีเ่ ติบโตอย่างต่อเนือ่ ง พร้อมรับกับการเปลีย่ นแปลง ของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ก้าวสู่วาระ 60 ปี กฟน. อย่างมั่นคงและ ยั่งยืน เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2560 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนา อย่างยัง่ ยืน” ให้ความส�ำคัญกับการพัฒนาไปสู่ “มหานครไร้สาย” โดยน�ำสายไฟฟ้า-สายสือ่ สารลงใต้ดนิ น�ำร่องโครงการถนนพหลโยธิน จากแยกลาดพร้าวถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นการบูรณาการ การท�ำงานระหว่างกระทรวงมหาดไทย การไฟฟ้านครหลวง และ หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เร่งด�ำเนินการโครงการอื่นๆ อย่าง ต่อเนือ่ ง เพือ่ สร้างความมัน่ คงด้านระบบไฟฟ้าและภาพลักษณ์ของ ประเทศ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) พร้อมตอบสนองนโยบาย นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล โดยมีความมุ่งมั่นตั้งใจ เร่งรัด ด�ำเนิน การโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อน�ำไปสู่ “มหานครไร้สาย Smart Metro” เสริมสร้างความมัน่ คง เพียงพอ ของระบบจ�ำหน่าย พลังงานไฟฟ้า และความปลอดภัยของประชาชน และยังช่วยให้ เมืองมีทัศนียภาพที่สวยงามอีกด้วย กฟน. ได้ด�ำเนินการเปลี่ยน
ระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อ ให้แล้วเสร็จจาก 10 ปี เหลือเพียง 5 ปี ตามนโยบายรัฐบาล อีกทั้ง เป็นผู้น�ำในการประสานงานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาสายสื่อสารโทรคมนาคมรกรุงรังบนเสาไฟฟ้าที่ อยู่มาเวลานานให้ส�ำเร็จ พร้อมรื้อถอนเสาไฟฟ้าในพื้นที่โครงการ ที่จ่ายไฟฟ้าด้วยระบบสายไฟฟ้าใต้ดินแล้ว ล่าสุด น�ำร่องโครงการ ถนนพหลโยธิน จากแยกลาดพร้าวถึงอนุสาวรียช์ ยั สมรภูมิ ระยะทาง 8 กิโลเมตร โดยได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการน�ำสายสื่อสารร้อยท่อ สายใต้ดนิ ในส่วนทีส่ ำ� รองไว้ในพืน้ ทีโ่ ครงการฯ พหลโยธินได้ ทีส่ ำ� คัญ กฟน. ได้นำ� เทคโนโลยี Air Blown System หรือการร้อยสายสือ่ สาร ด้วยแรงดันลมมาใช้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมร้อยสายสือ่ สารได้รวดเร็ว อีกทัง้ ยังใช้พนื้ ทีด่ ำ� เนินการ น้อย ช่วยลดผลกระทบด้านการท�ำงานบนพืน้ ทีผ่ วิ จราจร การด�ำเนิน งานแบ่งเป็น 4 ระยะ เริ่มด�ำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2560 แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ส�ำหรับเสาไฟฟ้าในโครงการที่ รื้อถอนแล้วจ�ำนวน 800 ต้น กฟน. ได้มอบให้กับกรุงเทพมหานคร ไปใช้ ป ระโยชน์ ส นั บ สนุ น โครงการปลู ก ป่ า ในใจคนตามศาสตร์ พระราชาของกรุงเทพมหานคร ช่วยฟื้นฟูและป้องกันการกัดเซาะ ชายฝัง่ ทะเลกรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน ทัง้ นี้ กฟน. ยังได้จดั กิจกรรม ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ รับฟังความคิดเห็นจาก ประชาชน น�ำมาแก้ไขเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และหาก ประชาชนมีขอ้ สงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิม่ เติมได้ทศี่ นู ย์บริการ ข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center โทร. 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ กฟน. มีความพร้อมที่จะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องด�ำเนินการน�ำสายสื่อสารลงใต้ดินในทุกเส้นทางที่ กฟน. จ่ายไฟฟ้าด้วยระบบสายไฟฟ้าใต้ดนิ แล้ว เพือ่ แก้ปญ ั หาสายสือ่ สาร ดังกล่าว โดยน�ำความส�ำเร็จของโครงการฯ พหลโยธินครั้งนี้เป็น แนวทางเร่งเดินหน้าสร้างมหานครไร้สายให้ส�ำเร็จตามนโยบาย รัฐบาลต่อไป
September-October 2017
สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้ สาหกรรมไฟฟ้าาแห่ แห่งงประเทศไทย ประเทศไทย
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคว้า 2 รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำ�ปี 2560 การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสดีเด่นกับการดำ�เนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจ�ำปี 2560 โดยมีกรรมการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย ยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รศ. ดร.วิสทุ ธิ์ สุนทรกนกพงศ์ ยงยุทธ โกเมศ ร่วมแสดงความยินดี ในโอกาสที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ. หรือ PEA) ได้รับรางวัล รัฐวิสาหกิจดีเด่น 2 รางวัล โดย เสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจ�ำปี 2560 ด้านการเปิดเผยข้อมูลและโปร่งใสดีเด่น และ สมภพ เต็งทับทิม รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม รับรางวัลการด�ำเนินงาน เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ส�ำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดพิธี มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น หรือ SOE Award ประจ�ำปี 2560 ภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชา พัฒนาประชารัฐวิสาหกิจไทย” น้อมน�ำ “ศาสตร์พระราชา” พัฒนารัฐวิสาหกิจให้ยงั่ ยืนด้วยความ พอเพียง โดยลงทุนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เพือ่ ความสมดุล ทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างความแข็งแกร่งของ รัฐวิสาหกิจให้มีความยั่งยืนในระยะยาว น�ำความรู้ นวัตกรรมและ เทคโนโลยีในการให้บริการประชาชน รวมทั้งส่งเสริมการน�ำหลัก คุณธรรม จริยธรรม มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการองค์กร เพื่อให้รัฐวิสาหกิจเป็นองค์กรคุณธรรม รางวัลการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสดีเด่นที่การไฟฟ้า ส่วนภูมิภาคได้รับ แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการที่โปร่งใส เป็น ธรรมขององค์กร มีรายงานความยัง่ ยืนและเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศ ที่ค�ำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามมาตรฐานการก�ำกับดูแลกิจการ ที่ดีในระดับสากล การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในยุค PEA 4.0 มุ่งสู่การ September-October 2017
เป็นการไฟฟ้าแห่งอนาคต “The Electric Utility of the Future” มุ่งเน้นการพัฒนาคนด้วยนวัตกรรม พัฒนางานด้วยเทคโนโลยี ขับเคลื่อนองค์กรด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม มีนโยบาย ด้านการเปิดเผยข้อมูลขององค์กรตามพระราชบัญญัตขิ อ้ มูลข่าวสาร ของราชการ พ.ศ. 2540 และค่านิยมองค์กร “ทันโลก บริการดี มีคณ ุ ธรรม” ผ่านปัจจัยขับเคลือ่ น TRUST+E ด้วยความโปร่งใส เป็น ธรรม ตรวจสอบได้ตามหลักธรรมมาภิบาล มีส�ำนักงาน กฟภ. และ ศูนย์ พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของ กฟภ. ในส่วนกลางและส่วนภูมภิ าค ทั่วประเทศ โดยศูนย์ข้อมูลข่าวสารต้นแบบจ�ำนวน 32 แห่ง ได้รับ โล่ประกาศเกียรติคุณศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการต้นแบบระดับ กระทรวง ในนามกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่ปี 2555-2559 มีการ เปิดเผยข้อมูลดีเยี่ยม ท�ำให้ได้รับโล่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการ ต้นแบบโดดเด่นจากนายกรัฐมนตรีในปี 2559 กฟภ. ยังได้รบั รางวัลเกียรติยศ “รัฐวิสาหกิจทีม่ กี ารพัฒนา สู่ความเป็นเลิศในการจัดท�ำแผนงานเสริมสร้างคุณธรรมและ ความโปร่งใสในการด�ำเนินงาน” จากส�ำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้ “โครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการด�ำเนินงานของ หน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA)” ในปี 2559 ซึ่ง กฟภ. ร่วมประเมิน ITA ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน โดยมีการด�ำเนินการตามนโยบายการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าคโปร่งใสและ พัฒนาสู่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโปร่งใส 2.0 เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งองค์กร ในปี 2560 ศูนย์ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของ กฟภ. ผ่านเกณฑ์ ขั้ น สู ง ของส� ำ นั ก งานคณะกรรมการข้ อ มู ล ข่ า วสารของราชการ ส�ำนักงานปลัดส�ำนักนายกรัฐมนตรีจำ� นวน 46 แห่ง นอกจากนี้ ยังมี ศูนย์บริการผูใ้ ช้ไฟฟ้า 1129 PEA Call Center ช่องทางสือ่ สารภายใน และภายนอกองค์กรที่หลากหลายส�ำหรับให้บริการข้อมูลข่าวสาร
การไฟฟ้ ส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิ ตแห่งาประเทศไทย
แก่ประชาชนเพือ่ รับรูก้ ารด�ำเนินการ ต่างๆ ขององค์กร กฟภ. รางวัลการด�ำเนินงานเพื่อ สั ง คมและสิ่ ง แวดล้ อ มดี เ ด่ น สะท้ อ นให้ เ ห็ น ถึ ง บทบาทของ กฟภ. ในการส่งเสริมการด�ำเนินงาน เพื่ อ สั ง คมและสิ่ ง แวดล้ อ มอย่ า ง ต่อเนือ่ ง มีนโยบายและแผนการด�ำเนินงาน ชัดเจน มีกระบวนการมีสว่ นร่วมและการสร้างจิตส�ำนึกให้แก่พนักงาน และมีโครงการที่สะท้อนถึงผลลัพธ์ตามนโยบายด้านสังคมและ สิ่งแวดล้อมขององค์กรอย่างแท้จริง กฟภ. มี น โยบายด้ า นความรั บ ผิ ด ชอบต่ อ สั ง คมและ สิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นแนวปฏิบัติทั่วทั้งองค์กรตั้งแต่ปี 2554 จนถึง ปัจจุบัน โดยตระหนักถึงความส�ำคัญของการเป็นองค์กรแห่งความ ยัง่ ยืนทีม่ งุ่ พัฒนาการด�ำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อมให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับกรอบหลักการสากลของ International Organization for Standardization หรือ ISO 26000 มีแผนเสริมสร้างการมีส่วนร่วมกับสังคม ชุมชนและพันธมิตร เพื่อ พัฒนาคุณภาพชีวติ และการใช้พลังงานอย่างประหยัดและปลอดภัย ภายใต้โครงการ “ชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA” (สู่ท่ามะกาโมเดล) ก�ำหนดพืน้ ทีช่ มุ ชนต้นแบบในการด�ำเนินโครงการครบวงจร เพือ่ เป็น ศูนย์การเรียนรู้ให้กับชุมชนในเรื่องการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและ ปลอดภัย โดยวิทยากรผูเ้ ชีย่ วชาญของ กฟภ. มีกจิ กรรมรณรงค์และ ช่างประจ�ำชุมชนตรวจสอบแก้ไขระบบไฟฟ้า ท�ำให้ชุมชนท่ามะกา ประหยัดพลังงานไฟฟ้าลดลงอย่างน้อย 5% นอกจากนี้ กฟภ. ยังส่งเสริมความรูแ้ ก่เยาวชนและประชาชน เรือ่ งการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและตรวจสอบ ปรับปรุงระบบไฟฟ้า ทีช่ ำ� รุดภายในครัวเรือนให้ชมุ ชนอย่างต่อเนือ่ งตลอดระยะเวลา 4 ปี (ปี 2556-2559) ครอบคลุมพื้นที่ 74 จังหวัด กว่า 1 ล้านครัวเรือน มีกระบวนการติดตามประเมินผลรายไตรมาสและรายปี โดยมี เป้าหมายพัฒนาการด�ำเนินโครงการให้ทั่วถึงทุกครัวเรือน เพื่อให้ ประชาชนใช้ไฟฟ้าอย่างถูกวิธีและเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชนเป็นส�ำคัญ รางวัลเกียรติยศการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสดีเด่น และรางวัลการด�ำเนินงานเพือ่ สังคมและสิง่ แวดล้อมดีเด่น น�ำความ ภาคภูมิใจมาสู่ผู้บริหารและพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่มุ่งมั่น ทุ่มเทและพัฒนากระบวนการด�ำเนินงาน โดยเปิดเผยข้อมูลให้ ประชาชนและผูม้ สี ว่ นได้สว่ นเสียสามารถตรวจสอบการด�ำเนินงาน ขององค์กรได้ด้วยความโปร่งใส มีมาตรฐานและเป็นแนวทาง เดียวกันทั้งองค์กร รวมถึงมีการด�ำเนินการที่แสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนและเติบโต คู่กับสังคมอย่างยั่งยืนตลอดไป
เอบีบีและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ
พัฒนาบุคลากรและระบบงาน รองรับเทคโนโลยีอนาคต
ชั ย ยศ ปิ ย ะวรรณรั ต น์ กรรมการผู ้ จั ด การ บริษัท เอบีบี จ�ำกัด ผู้น�ำด้านเทคโนโลยีไฟฟ้าก�ำลังและ เทคโนโลยีอัตโนมัติ ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ ทางวิชาการ กับผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เสริมสกุล คล้ายแก้ว เพือ่ แลกเปลีย่ นความรูด้ า้ นเทคนิคและประสบการณ์ ทีเ่ ป็นประโยชน์ในการพัฒนาองค์กร บุคลากรและระบบงาน รองรับเทคโนโลยีด้านระบบไฟฟ้าและพลังงานในอนาคต อาทิ Smart Grid, Microgrid, Energy Storage, Power Quality, EV Charging Infrastructure, Digital Substation, Asset Management ฯลฯ ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ และความร่วมมือทางด้านวิชาการของทั้งสององค์กร เพื่อ น�ำความรู้และเทคโนโลยีที่ได้มาใช้ในการพัฒนาการท�ำงาน ให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด อันจะน�ำมาซึ่งการ พัฒนาประเทศต่อไป September-October 2017
สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้ สาหกรรมไฟฟ้าาแห่ แห่งงประเทศไทย ประเทศไทย
PEA พัฒนาต้นแบบระบบบริหารและจัดการพลังงานอัจฉริยะ (PEA HiVE Platform) สำ�หรับบ้านพักอาศัย การน�ำนวัตกรรมและพลังงานทดแทนมาใช้ ตลอดจนเพิ่ม ประสิทธิภาพในการท�ำงานและสนับสนุนธุรกิจใหม่ๆ ตอบโจทย์ ด้านการบริการ มุง่ สู่ “การไฟฟ้าแห่งอนาคต” PEA วิจยั และพัฒนา แพลตฟอร์มเพื่อเชื่อมอุปกรณ์ภายในบ้านและอาคาร จัดการด้าน พลังงานให้มปี ระสิทธิภาพสูงสุด ส่งเสริมการใช้พลังงานจากพลังงาน ทดแทน เช่น ระบบผลิตพลังงานไฟฟ้า หรือ PEA HiVE Platform PEA HiVE Platform เป็นแพลตฟอร์มระบบบริหารและจัดการ พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ มีจุดเด่นด้านการจัดการพลังงานเป็นเลิศ ส�ำหรับบ้านพักอาศัยและสอดคล้องกับพลังงานทดแทนที่ผลิตได้ เช่น Solar PV Rooftop เพื่อให้การใช้พลังงานสุทธิของบ้านเป็น ศูนย์ (Net-Zero Energy) หรือใกล้เคียง และรองรับการใช้พลังงานใน ภาวะฉุกเฉิน ซึง่ จะเปลีย่ นบ้านพักอาศัยธรรมดาให้เป็นบ้านอัจฉริยะ (Smart Home)
เสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA เป็นประธานในพิธเี ปิดงาน “การพัฒนาต้นแบบแพลตฟอร์ม ระบบบริหารและจัดการพลังงานอัจฉริยะการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค (PEA HiVE Platform) ส�ำหรับบ้านพักอาศัย” โดยมีคณะกรรมการ การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค ประกอบด้วย สุรงค์ บูลกุล ดนุชา พชิยนันท์ ปฏิคม วงษ์สวุ รรณ รศ. ดร.วิสทุ ธิ์ สุนทรกนกพงศ์ และ พรรณิภา อภิชาตบุตร ผูบ้ ริหาร PEA พร้อมด้วยผูแ้ ทนจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การประปา ส่วนภูมิภาค (กปภ.) บริษัท ทีโอที จ�ำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท. โทรคมนาคม จ�ำกัด (มหาชน) ร่วมพิธี ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 6 อาคาร LED ส�ำนักงานใหญ่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษเรื่อง PEA HIVE Platform และการสัมมนา PEA HiVE Platform ส�ำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ IoT และ Smart Appliances ทีม่ าจากทัง้ หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ มหาวิทยาลัย องค์กรเอกชนและนักพัฒนาอิสระ ปัจจุบัน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก้าวเข้าสู่ยุค PEA 4.0 “พัฒนาคนด้วยนวัตกรรม พัฒนางานด้วยเทคโนโลยี” ส่งเสริม September-October 2017
การด�ำเนินการดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ติดตั้งใช้ประโยชน์อย่าง เต็มที่และคุ้มค่ามากที่สุด โดยมีประโยชน์ในการติดตาม ควบคุม การท�ำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งจากในและนอกบ้าน มีระบบการ เรียนรูด้ ว้ ยตัวเอง เพือ่ บริหารจัดการพลังงาน วิเคราะห์ขอ้ มูล รวบรวม สถิติการใช้พลังงานภายในบ้านและเป็นระบบที่เปิดให้นักพัฒนา ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้เข้ามาร่วมพัฒนาอุปกรณ์และแอพพลิเคชัน่ ให้ตรงความต้องการมากขึ้น
การไฟฟ้ ส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิ ตแห่งาประเทศไทย
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จับมือ TEMCA จัดงาน สัมมนาผู้ใช้ไฟฟ้าธุรกิจอุตสาหกรรม ครั้งที่ 33 ประจำ�ปี 2560
สุรศักดิ์ ไตรทาน รองผูว้ า่ การ การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค หรือ PEA สุจิ คอประเสริฐศักดิ์ นายกสมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครือ่ งกลไทย ร่วมเป็นประธานพิธีเปิดงานสัมมนาผู้ใช้ไฟฟ้าธุรกิจอุตสาหกรรม ครั้งที่ 33 ประจ�ำปี 2560 โดยมีผู้บริหาร พนักงาน PEA และผู้ใช้ไฟ รายใหญ่เข้าร่วมพิธี ณ ศูนย์ประชุมพีช โรงแรมรอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุป๊ พัทยา จ.ชลบุรี การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค ร่วมกับ สมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและ เครื่องกลไทย จัดสัมมนาผู้ใช้ไฟฟ้าธุรกิจอุตสาหกรรม ครั้งที่ 33 ประจ�ำปี 2560 นับเป็นปีที่ 14 โดยปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด “PEA 4.0 : Moving Toward the Electric Utility of the Future” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยกระดับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสู่ยุค 4.0 และ มุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เป็นการไฟฟ้าแห่งอนาคต ด้วยนโยบาย “พัฒนาคนด้วยนวัตกรรม พัฒนางานด้วยเทคโนโลยี” เพื่อให้การ ไฟฟ้าเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และธุรกิจใหม่ พร้อมทั้งพัฒนากระบวนการท�ำงานที่ รองรับยุคดิจิทัล ประกอบกับการสร้างมาตรฐานงานบริการที่เป็น เลิศ มีระบบไฟฟ้าที่ทันสมัย มั่นคง เชื่อถือได้ สามารถตอบสนอง ความต้องการของผูใ้ ช้ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ส่งเสริม
คุณภาพชีวิต เสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีและสังคมที่ยั่งยืน ควบคู่กับ การด�ำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล อีกทั้งเป็นเวทีแลกเปลี่ยน เรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกับบริษัทผู้ผลิต ผู้จ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า ผูใ้ ช้ไฟฟ้า โดยการน�ำเทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างความเป็นเลิศในการให้บริการแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าและพัฒนา ระบบไฟฟ้าให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น การจั ด งานสั ม มนาในครั้ ง นี้ ไ ด้ มี ผู ้ ใช้ ไ ฟรายใหญ่ แ ละ ผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้าเอกชนเข้าร่วมงานจ�ำนวน 500 กิจการ ประมาณ 1,000 คน ภายในงานได้จัดให้มีการบรรยายพิเศษจาก ผู้บริหารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เรื่อง “การบริการสมัยใหม่ในยุค PEA 4.0” และ “อุตสาหกรรมยุคใหม่ในยุค 4.0” นอกจากนี้ ยังมี การบรรยายในหัวข้อต่างๆ ทีม่ งุ่ เน้นการให้ความรูเ้ พือ่ ยกระดับงาน ด้านบริการคุณภาพไฟฟ้า การอนุรักษ์พลังงาน พลังงานทดแทน และเทคโนโลยีสมัยใหม่ในระบบไฟฟ้า โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ อีกทั้งยังมีการจัดแสดงบูธนิทรรศการ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัทผู้ผลิต ผู้จำ� หน่ายผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า และคลินกิ ให้คำ� ปรึกษา ถามตอบปัญหาด้านไฟฟ้าธุรกิจอุตสาหกรรม แก่ผู้ใช้ไฟที่เข้าร่วมงาน
September-October 2017
สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้ สาหกรรมไฟฟ้าาแห่ แห่งงประเทศไทย ประเทศไทย เอ็กโก กรุ๊ป โดยมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ลงนามความร่วมมือกับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมส่งมอบ “3 เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เขาหลวง” มูลนิธไิ ทยรักษ์ปา่ องค์กรสาธารณกุศล ซึง่ ก่อตัง้ และสนับสนุน การด�ำเนินงานโดยบริษทั ผลิตไฟฟ้า จ�ำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุป๊ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปา่ และพันธุพ์ ชื เพือ่ ร่วมด�ำเนินโครงการอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติใน พืน้ ทีป่ า่ อนุรกั ษ์ ระหว่างปี 2560-2564 พร้อมส่งมอบเส้นทางศึกษา ธรรมชาติ 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางศึกษาธรรมชาตินำ�้ ตกพรหมโลก น�้ำตกกะโรม และน�้ำตกอ้ายเขียว ในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าต้นน�้ำภาคใต้ ส�ำหรับเยาวชน ประชาชน และนักท่องเทีย่ ว ในโอกาสครบรอบ 25 ปี ของการก่อตัง้ เอ็กโก กรุ๊ป
ชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการ รักษาการกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป และประธานกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า กล่าวว่า เอ็กโก กรุป๊ ในฐานะผูผ้ ลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ ตระหนัก ถึงความส�ำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ได้กำ� หนดให้การเป็นสมาชิก ที่ดีของสังคม ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในพันธกิจขององค์กร ตัง้ แต่เริม่ ด�ำเนินกิจการ และก่อตัง้ มูลนิธไิ ทยรักษ์ปา่ ในปี 2545 ด้วย เจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและผืนป่าต้นน�้า ล�ำธารที่ส�ำคัญของประเทศให้เกิดความยั่งยืน มูลนิธิไทยรักษ์ป่าเริ่มด�ำเนินงานในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นป่าต้นน�้ำส�ำคัญของประเทศ และร่วมมือกับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พัฒนาและสนับสนุน โครงการในพืน้ ทีป่ า่ อนุรกั ษ์ ตัง้ แต่ปี 2551 เป็นต้นมา และในโอกาส ที่เอ็กโก กรุ๊ป ครบรอบ 25 ปีของการก่อตั้งบริษัท จึงสานต่อการ ด�ำเนินงานดังกล่าว ด้วยการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ปี 2560-2564 ภายใต้กรอบการด�ำเนินงานหลัก 5 ข้อ ได้แก่ 1) การสือ่ ความหมายธรรมชาติ 2) การสนับสนุนการปฏิบตั งิ านของ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 3) การสนับสนุนงานส�ำรวจ วิจัย และส่งเสริม บุคลากร เพือ่ การอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลาย ทางชีวภาพ 4) การสร้างเครือข่ายชุมชนและเยาวชน เพื่อการมี ส่วนร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และ 5) การอนุรักษ์และฟื้นฟู ป่าต้นน�ำ้ ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติฯ และชุมชนในพืน้ ที่ เพือ่ การ มีส่วนร่วมรักษาป่าของประเทศ
ส่งมอบ 3 เส้นทางศึกษาธรรมชาติ อช.เขาหลวง
ชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการ รักษาการกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป และประธานกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า และ สืบศักดิ์ ชูฤทธิ์ กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั ผลิตไฟฟ้าขนอม จ�ำกัด ในกลุ่มเอ็กโก ร่วมส่งมอบเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง ในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ให้แก่ ธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยมี ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง ผูอ้ ำ� นวยการส�ำนักอุทยานแห่งชาติ และ วิกรานต์ ทัว่ ด้าว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ร่วมเป็นสักขีพยาน September-October 2017
ส�ำหรับการพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่ง เรียนรูร้ ะบบนิเวศป่าต้นน�ำ้ เพือ่ ให้เยาวชน ประชาชน และนักท่องเทีย่ ว เกิดความรูค้ วามเข้าใจ แรงบันดาลใจทีจ่ ะต่อยอดการเรียนรูเ้ กีย่ วกับ ธรรมชาติ ตระหนักในคุณค่าของป่าต้นน�ำ้ และร่วมรักษาไว้ให้ยงั่ ยืน มูลนิธิฯ เริ่มจากการพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เส้นทางศึกษาธรรมชาติน�้ำตก มณฑาธาร อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และได้ขยายสู่พื้นที่ ภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาหลวง พัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาตินำ�้ ตกพรหมโลก น�ำ้ ตกกะโรม และ น�้ำตกอ้ายเขียว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ได้รับความนิยม และนักท่องเทีย่ วสามารถเข้าถึงได้งา่ ย โดยการปรับปรุงเส้นทางเดิน ให้มคี วามปลอดภัย จัดท�ำป้ายสือ่ ความหมายธรรมชาติตลอดเส้นทาง และก่อสร้างอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว พร้อมจัดท�ำแผ่นพับ เพือ่ เผยแพร่พชื พรรณไม้ทสี่ ำ� คัญและระบบนิเวศในเส้นทางทัง้ 3 แห่ง ซึง่ การพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติทงั้ หมดนีเ้ สร็จสมบูรณ์ในปี 2559
บริษัทาฝ่ ผลิายผลิ ตไฟฟ้ตาแห่จ�งำกัประเทศไทย ด (มหาชน) การไฟฟ้
“ส�ำหรับแผนการด�ำเนินงานในพื้นที่ภาคใต้ ภายใต้บันทึก ข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ มูลนิธิฯ จะร่วมกับอุทยานแห่งชาติ เขาหลวง พัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติน�้ำตกกรุงชิง ระยะทาง ประมาณ 4 กิโลเมตร พร้อมทั้งการพัฒนาเครือข่ายชุมชนและ เยาวชน เพือ่ ร่วมอนุรกั ษ์ผนื ป่าเขาหลวง รวมทัง้ มีแผนทีจ่ ะด�ำเนินงาน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทีจ่ งั หวัดชัยภูมิ เพิม่ เติมจากการด�ำเนินงาน อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ป่าต้นน�้า ที่ส�ำคัญในแต่ละภูมิภาคของประเทศ” ชนินทร์ กล่าวเสริม ธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุพ์ ชื กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปา่ และพันธุพ์ ชื ให้ ความส�ำคัญกับการมีสว่ นร่วมของทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมเพือ่ ให้เกิดความยัง่ ยืน อุทยาน แห่งชาติเขาหลวงนับเป็นแหล่งท่องเทีย่ วเชิงนิเวศทีส่ ำ� คัญของภาคใต้
เนือ่ งจากมีนำ�้ ตกสวยงามรอบเขาหลวงถึง 15 แห่ง การพัฒนาเส้นทาง ศึกษาธรรมชาตินำ�้ ตกพรหมโลก น�ำ้ ตกกะโรม และน�้ำตกอ้ายเขียว เป็นความร่วมมือทีส่ ำ� คัญระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติฯ และมูลนิธิ ไทยรักษ์ป่า ที่จะเป็นเครื่องมือในการศึกษา เพิ่มพูนความรู้ และ กระตุ้นให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าและความส�ำคัญของผืนป่า เขาหลวง ซึง่ เป็นป่าต้นน�ำ้ ทีส่ งู ทีส่ ดุ ของภาคใต้ และเป็นแหล่งต้นน�า้ ล�ำธารที่ส�ำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี “อุทยานแห่งชาติเขาหลวงมีศักยภาพสูงที่จะช่วยบอกเล่า เรื่องราวของธรรมชาติ ถ่ายทอดคุณค่าความเป็นผืนป่าต้นน�ำ้ ที่มี ความส�ำคัญอย่างยิง่ และคอยหล่อเลีย้ งจังหวัดในภาคใต้ ผมหวังว่า เส้นทางศึกษาธรรมชาติทงั้ 3 เส้นทางนี้ จะสามารถอ�ำนวยประโยชน์ ให้ กั บ นั ก ท่ อ งเที่ ย วตามวั ต ถุ ป ระสงค์ ข องการพั ฒ นาเส้ น ทาง” ธัญญา กล่าวเสริม
เอ็กโก กรุ๊ป โชว์กำ�ไรครึ่งปีแรก ทะยานกว่า 6,400 ล้านบาท ลุยขยายพอร์ตไฟฟ้าต่างประเทศต่อเนื่อง ชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการ รักษาการกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จ�ำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยผลการด�ำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2560 ว่า การด�ำเนินงาน ในช่วงครึง่ ปีแรกเป็นไปตามแผนงาน โดยมีกำ� ไรสุทธิ 6,494 ล้านบาท เพิม่ ขึน้ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีทผี่ า่ นมา จ�ำนวน 1,857 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40 และหากพิจารณาเฉพาะผลการด�ำเนินงาน ในไตรมาส 2 ของปี 2560 บริษทั ฯ มีกำ� ไรสุทธิจำ� นวน 3,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจ�ำนวน 1,482 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 72 เนื่องจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า ขนาดใหญ่ทงั้ ในและต่างประเทศ ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษทั ได้ อ นุ มั ติ ใ ห้ จ ่ า ยเงิ น ปั น ผลระหว่ า งกาลจากผลการด� ำ เนิ น งาน ครึง่ ปีแรกของปี 2560 ในอัตราหุน้ ละ 3.50 บาท ในวันที่ 15 กันยายน 2560 นี้ “นอกจากนั้น เอ็กโก กรุ๊ป ยังมีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจ อย่างต่อเนื่อง โดยโรงไฟฟ้า “คลองหลวง” จ.ปทุมธานี ได้ก่อสร้าง แล้วเสร็จ เริม่ เดินเครือ่ งเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเมือ่ วันที่ 20 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป และคาดว่าโรงไฟฟ้า SPP ประเภทโคเจนเนอเรชัน่ อีกแห่ง หนึง่ คือ โรงไฟฟ้า “บ้านโป่ง” จ.ราชบุรี ก�ำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ จะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือน ตุลาคมนี้ ซึ่งจะท�ำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นอีก” ชนินทร์ กล่าว ส�ำหรับการด�ำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ตามแผนกลยุทธ์ ที่วางไว้ โดยให้ความส�ำคัญกับธุรกิจไฟฟ้าซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญ และเน้นขยายธุรกิจในต่างประเทศทีม่ ฐี านอยูแ่ ล้วและสามารถขยาย
ตลาดได้อีก เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อย่างน้อย ร้อยละ 10 “ปัจจุบนั ต้องยอมรับว่า โอกาสการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าใน ประเทศมีคอ่ นข้างจ�ำกัด เนือ่ งจากนโยบายการพัฒนาไฟฟ้ามุง่ ไปที่ โรงไฟฟ้าขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ เช่น โรงไฟฟ้าชีวมวล ดังนัน้ แนวทาง การเติบโตของบริษัทในอนาคตจะยังคงขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เรามีฐานการด�ำเนินธุรกิจอยู่ แล้ว และจะพัฒนาแบบต่อยอดจากพื้นที่ที่มีอยู่ เช่น ฟิลิปปินส์ ที่เราเข้าไปลงทุนตั้งแต่ปี 2551” ชนินทร์ กล่าวเสริม ปัจจุบนั เอ็กโก กรุป๊ มีความคืบหน้าของโครงการทีอ่ ยูร่ ะหว่าง การพัฒนาในต่างประเทศ 4 โครงการ ได้แก่ สปป.ลาว 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังน�ำ้ “ปากแบง” กระบวนการรับฟังความคิดเห็น โดย คณะกรรมาธิการแม่นำ�้ โขง (MRC) ได้ด�ำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และ อยูร่ ะหว่างการเตรียมข้อมูลเพือ่ เริม่ เจรจาค่าไฟฟ้า (Tariff MOU) กับ กฟผ. และโรงไฟฟ้าพลังน�ำ้ “น�ำ้ เทิน 1” ร่างสัญญาซือ้ ขายไฟฟ้า (PPA) ผ่านการพิจารณาจากอัยการสูงสุดแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมการ เพื่อลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. และเจรจาสัญญาเงินกู้ กับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน ใต้พิภพ “สตาร์ เอนเนอร์ยี่ ส่วนขยาย (หน่วยที่ 3 และ 4)” ประเทศ อินโดนีเซีย อยูร่ ะหว่างการเจาะส�ำรวจแหล่งไอน�ำ้ เพิม่ เติมเพือ่ ยืนยัน ปริมาณไอน�ำ้ ส�ำหรับโรงไฟฟ้า หน่วยที่ 3 และการเจรจาค่าไฟฟ้ากับ การไฟฟ้าอินโดนีเซีย และโรงไฟฟ้าถ่านหิน “กวางจิ” ประเทศเวียดนาม อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเริ่มเจรจาสัญญาหลักต่างๆ เช่น สัญญาซือ้ ขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าเวียดนาม สัญญาเช่าทีด่ นิ สัญญา สัมปทานและสัญญารับประกัน กับรัฐบาลเวียดนาม September-October 2017
สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้ สาหกรรมไฟฟ้าาแห่ แห่งงประเทศไทย ประเทศไทย
โรงไฟฟ้าคลองหลวง เริ่มเดินเครื่อง เชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว เมื่อเดือนกรกฎาคม
ชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการ รักษาการกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จ�ำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า “โรงไฟฟ้าคลองหลวง ในกลุ่มเอ็กโก ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น ร้อยละ 100 เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งโรงไฟฟ้านี้จะช่วยเพิ่ม รายได้ให้แก่บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ของปี 2560 เป็นต้นไป และยังช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมี ประสิทธิภาพด้วยระบบพลังความร้อนร่วม (Cogeneration) ตลอดจน เสริมสร้างความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าของประเทศอีกด้วย” โรงไฟฟ้าคลองหลวง ตั้งอยู่ที่ต�ำบลคลองหนึ่ง อ�ำเภอ คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Cogeneration) ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มีก�ำลังการผลิต ติดตัง้ รวม 121 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยเครือ่ งกังหันก๊าซ (Gas Turbine) ขนาดก�ำลังการผลิต 47 เมกะวัตต์ จ�ำนวน 2 เครือ่ ง และเครือ่ งกังหัน ไอน�้ำ (Steam Turbine) ขนาดก�ำลังการผลิต 27 เมกะวัตต์ จ�ำนวน 1 เครื่อง มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าประเภทผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (Small Power Producer-SPP) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย September-October 2017
(กฟผ.) จ�ำนวน 90 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 25 ปี ในขณะที่ก�ำลัง การผลิตไฟฟ้าส่วนที่เหลือจะจ�ำหน่ายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม อนึ่ง บริษัท ผลิตไฟฟ้า จ�ำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุ๊ป จัดพิธีเปิดโรงไฟฟ้าคลองหลวงอย่างเป็นทางการ โดยมี มนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และ ชนินทร์ เชาวน์นริ ตั ศิ ยั กรรมการ รักษาการกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ เอ็กโก กรุป๊ เป็นประธานในพิธี เมือ่ วันที่ 31 สิงหาคม 2560 ทีผ่ า่ นมา ณ โรงไฟฟ้า คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าคลองหลวงเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ วันที่ 20 กรกฎาคม 2560 เป็นโรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น ที่ใช้ ก๊าซธรรมชาติเป็นเชือ้ เพลิง มีกำ� ลังการผลิตติดตัง้ รวม 121 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าประเภทผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จ�ำนวน 90 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 25 ปี ในขณะที่ก�ำลังการผลิตไฟฟ้าส่วนที่เหลือ จ�ำหน่ายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม
บริษัท ผลิตการไฟฟ้ ไฟฟ้าราชบุ ีโฮลดิต้งแห่จ�งำกัประเทศไทย ด (มหาชน) าฝ่ารยผลิ
ราชบุรีโฮลดิ้ง กำ�ไร 3,559 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% ครึ่งปีแรก ลงทุนเพิ่ม 3 โครงการ คาดปีนี้บรรลุเป้าหมาย 7,500 เมกะวัตต์ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จ�ำกัด (มหาชน) รายงานผล การด�ำเนินงานของบริษัทฯ รอบ 6 เดือนแรกปี 2560 ยังคงเติบโต อย่างต่อเนื่อง โดยรับรู้ก�ำไรจ�ำนวน 3,559.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นก�ำไรต่อหุ้นที่ 2.45 บาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการลงทุนใหม่อีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพู โครงการโรงไฟฟ้าพลัง ความร้อนร่วม Riau อินโดนีเซีย และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ในออสเตรเลีย รวมก�ำลังผลิตตามการถือหุ้น 360 เมกะวัตต์ เทียบเท่า ซึง่ จะส่งผลให้กำ� ลังผลิตรวมของบริษทั ฯ เพิม่ ขึน้ เป็น 7,373 เมกะวัตต์เทียบเท่า กิจจา ศรีพฑ ั ฒางกุระ กรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ บริษทั ผลิตไฟฟ้า ราชบุรีโฮลดิ้ง จ�ำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การด�ำเนินงานปีนี้มุ่งหมาย เพิ่มก�ำลังผลิตให้เติบโตถึง 7,500 เมกะวัตต์ ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ สามารถด�ำเนินงานก้าวหน้า 98% เมื่อเทียบกับเป้าหมายของปีน ี้ ส�ำหรับก�ำไรที่เติบโตขึ้นสะท้อนถึงประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าที่ สามารถสร้างผลตอบแทนดีขนึ้ และคาดว่าเป้าหมายปีนจี้ ะสามารถ ด�ำเนินการได้สำ� เร็จ เพราะยังมีโครงการทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ ประมาณ 1,002 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งบางโครงการ มีความเป็นไปได้ที่จะได้ข้อสรุปในปีนี้ “แนวโน้มการด�ำเนินงานปีนี้ จะมุ่งเน้นเพิ่มก�ำลังผลิตจาก การลงทุ น ใหม่ ใ นธุ ร กิ จ ผลิ ต ไฟฟ้ า พลั ง งานทดแทน โครงการ สาธารณูปโภคพื้นฐาน และธุรกิจอื่นนอกภาคพลังงานและไฟฟ้า โดยเป้าหมายการลงทุนครอบคลุมประเทศอาเซียนและจีน ซึง่ มีการ เติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อนื่อง ขณะเดียวกัน ก็รักษาการเติบโต ของรายได้จากการบริหารประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะ
กิจจา ศรีพัฑฒางกุระ
โรงไฟฟ้าหงสา (1,878 เมกะวัตต์) ใน สปป.ลาว ซึง่ ปีนกี้ ำ� หนดค่าความ พร้อมจ่ายเทียบเท่า (Equivalent Availability Factor) ไว้ที่ประมาณ 80% นอกจากนี้ ยังต้องควบคุมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก 4 แห่ง ก�ำลังผลิตรวม 517 เมกะวัตต์ ให้คบื หน้าตามแผนงาน โดยโรงไฟฟ้า พลังงานลมเมาท์เอเมอรัลด์ ก�ำลังผลิตตามการถือหุ้น 144.36 เมกะวัตต์ ในออสเตรเลีย มีกำ� หนดเดินเครือ่ งเชิงพาณิชย์ในปี 2561” กิจจา กล่าว ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถเพิ่มก�ำลังผลิตได้ 360 เมกะวัตต์เทียบเท่า ส่งผลให้กำ� ลังผลิตรวมเติบโตขึน้ เป็น 7,373 เมกะวัตต์เทียบเท่า จากการลงทุนใน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพูและรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ก�ำลังผลิตเทียบเท่า 191 เมกะวัตต์ โครงการพลังงานความร้อนร่วม Riau ในอินโดนีเซีย ก�ำลังผลิตตามการถือหุน้ 134.75 เมกะวัตต์ และโครงการ Collinsville Solar PV ก�ำลังผลิตตามการถือหุ้น 34 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ บริษทั ฯ ยังมีโครงการทีส่ ร้างอีก 4 แห่ง รวมก�ำลัง ผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 517 เมกะวัตต์ ซึ่งมีความคืบหน้าตาม แผนงานที่วางไว้ ประกอบด้วย โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม เมาท์เอเมอรัลด์ ในออสเตรเลีย ก�ำลังผลิตตามการถือหุ้น 144.36 เมกะวัตต์ ก�ำหนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ปี 2561 โครงการพลังงาน น�ำ้ เซเปียน เซน�ำ้ น้อย ใน สปป.ลาว ก�ำลังผลิตตามการถือหุน้ 102.5 ก� ำ หนดเดิ น เครื่ อ งเชิ ง พาณิ ช ย์ ป ี 2562 เช่ น เดี ย วกั บ โครงการ เบิกไพรโคเจนเนอเรชั่น จังหวัดราชบุรี ก�ำลังผลิตตามการถือหุ้น 34.73 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟงั เชงกัง ระยะที่ 2 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ก�ำลังผลิตตามการถือหุน้ 236 เมกะวัตต์ มีกำ� หนดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปี 2564 ส�ำหรับผลการด�ำเนินงาน 6 เดือนแรกปี 2560 บริษัทฯ มี รายได้จ�ำนวน 23,123.98 ล้านบาท หากไม่รวมค่าเชื้อเพลิงจาก บริษัทย่อย รายได้รวมมีจ�ำนวน 7,958.88 ล้านบาท ซึ่งรายได้จาก การจ�ำหน่ายไฟฟ้าและสัญญาทางการเงินมีสดั ส่วน 71.6% ของรายได้ รวม และรายได้จากส่วนแบ่งก�ำไรจากกิจการร่วมค้ามีสดั ส่วน 24.0% เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยส�ำคัญ ซึ่งเป็นผลจากส่วนแบ่งก�ำไรของโรงไฟฟ้า หงสา ด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมมีจำ� นวน 19,911.97 ล้านบาท ลดลง 18% ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 มีสนิ ทรัพย์รวมจ�ำนวน 97,113.71 ล้านบาท หนีส้ นิ จ�ำนวน 33,729.63 ล้านบาท ส่วนของผูถ้ อื หุน้ 63,384.08 ล้านบาท ก�ำไรสะสมจ�ำนวน 50,572.08 ล้านบาท September-October 2017
The 7 Edition of Thailand’s Most Successful Oil & Gas and Petrochemical Exhibition!
มหกรรมครั้งที่ 7 ของการจัดแสดงสินคาและเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมปโตรเลียมและปโตรเคมีที่ใหญที่สุดในไทย
The 3rd Edition of
10-12 OCTOBER 2017 BITEC, Bangkok, Thailand
thai@asiafireworks.com
www.oilgasthai.com Premium Exhibitors By :
Endorsed By :
Ministry of Industry
Department Of Industrial Promotion
Industrial Estate Authority of Thailand
Thailand Institute of Scientific and Technological Research (TISTR)
Petroleum Institute of Thailand (PTIT)
Welding Institute of Thailand
PTT Maintenance and Engineering Company Limited
Bangchak Petroluem Public Company Limited
ExxonMobil Limited
Official Media :
The Petroleum and Petrochemical College Chulalongkorn University
Technology Promotion Oil Industry Environmental Association Safety Group Association(IESG) (Thailand-Japan)
Thai - German Institute
Design And Engineering Consulting Service Center
Thailand Exhibition Association (TEA)
Oil & Gas Today Magazine
Juz Talk (Thailand)
Fireworks Media (Thailand) Co., Ltd Part of The Fireworks Trade Media Group
PAE Technical Service Company Limited
งานสัมมนาเชิงวิชาการ
“ปัญหาคุณภาพไฟฟ้าและการแก้ไข : ทฤษฎีและกรณีศึกษา” ครั้งที่ 2
คุณสมบัติ จันทร์กระจ่าง ผู้อำ�นวยการ ฝ่ายอุปกรณ์งานจำ�หน่าย การไฟฟ้า นครหลวง, ประธานฝ่ายฝึกอบรม IEEE Thailand Section และกรรมการบริหาร IEEE Power & Energy Society – Thailand เป็นประธานกล่าวเปิดการสัมมนา
IEEE Power and Energy Society จัดสัมมนา เชิงวิชาการเรื่อง “ปัญหาคุณภาพไฟฟ้าและการ แก้ไข : ทฤษฎีและกรณีศึกษา” ครั้งที่ 2 ในวันที่ 21-23 ส.ค. 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยได้รับเกียรติจาก คุณสมบัติ จันทร์กระจ่าง ผูอ้ ำ� นวยการฝ่ายอุปกรณ์งานจ�ำหน่าย การไฟฟ้านครหลวง และประธานฝ่ายฝึกอบรม IEEE Thailand Section และกรรมการบริหาร IEEE Power & Energy Society - Thailand เป็นประธานกล่าวเปิดการสัมมนา และ เรืออากาศตรี ดร.โตศักดิ์ ทัศนานุตริยะ เป็น Session chairman ด�ำเนินการสัมมนา วิทยากรเป็นผูเ้ ชีย่ วชาญ จาก กฟผ. กฟน. กฟภ. อาจารย์จากสถาบันอุดมศึกษา และบริษัทเอกชน มีผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนากว่า 100 คน
รศ. ดร.ธวัชชัย เตชัสอนันต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานหลักสูตร ปัญหาคุณภาพไฟฟ้าและ การแก้ไข : ทฤษฎีและกรณีศึกษา
September-October 2017
September-October 2017
งานสัมมนาเชิงวิชาการ
“การป้องกันระบบไฟฟ้า : ทฤษฎีและกรณีศึกษา” ครั้งที่ 2
คุณณรงค์ ตันติฉายากร ผู้อำ�นวยการ ฝ่ายบำ�รุงรักษาสถานีไฟฟ้าและระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, ประธานหลักสูตร การป้องกันระบบไฟฟ้า : ทฤษฎีและกรณี ศึกษา และกรรมการบริหาร IEEE Power & Energy Society – Thailand เป็น ประธานกล่าวเปิดการสัมมนา
IEEE Power and Energy Society จัดสัมมนา เชิงวิชาการเรือ่ ง “การป้องกันระบบไฟฟ้า : ทฤษฎี และกรณีศกึ ษา” ครัง้ ที่ 2 ในวันที่ 18-20 ก.ย. 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสริ กิ ติ ิ์ โดยได้รบั เกียรติจาก คุณณรงค์ ตันติฉายากร ผูอ้ ำ� นวยการฝ่ายบ�ำรุงรักษา สถานีไฟฟ้าและระบ บไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค, ประธานหลักสูตร การป้องกันระบบไฟฟ้า : ทฤษฎี และกรณีศึกษา และกรรมการบริหาร IEEE Power & Energy Society - Thailand เป็นประธานกล่าว เปิดการสัมมนา และเรืออากาศตรี ดร.โตศักดิ์ ทัศนานุตริยะ เป็น Session chairman ด�ำเนินการ สัมมนา วิทยากรเป็นผู้เชี่ยวชาญจาก กฟผ. กฟน. กฟภ. อาจารย์จากสถาบันอุดมศึกษา มีผสู้ นใจเข้าร่วม สัมมนากว่า 100 คน
September-October 2017
September-October 2017
Article
> เดลล เทคโนโลยีส
ความรวมมือระหวาง
มนุษย และเคร�่องกล
ในยุคถัดไป
ในป 2030 องคกรทุกแหงจะกลายเปนองคกรดานเทคโนโลยี และดวยเหตุนี้ องคกรธุรกิจ จึงตองเริ่มคิดตั้งแตวันนี้วาจะทําใหระบบโครงสรางพื้นฐานและคนทํางานสามารถรองรับอนาคต ไดอยางไร สอดคลองตามรายงานที่เผยแพรโดยเดลล เทคโนโลยีส การวิจยั ซึง่ นําโดย สถาบันเพือ่ อนาคต (IFTF-Institute for the Future) พรอมผูเ ชีย่ วชาญ ดานธุรกิจ ดานวิชาการ และดานเทคโนโลยี 20 รายจากทั่วโลก ไดพิจารณาเกี่ยวกับเทคโนโลยี เกิดใหม เชน ปญญาประดิษฐ (Artificial Intelligence) วิทยาการหุนยนต (Robotics) เทคโนโลยี ความเปนจริงเสมือน (Virtual Reality) เทคโนโลยีเออาร (Augmented Reality) และคลาวด คอมพิวติ้ง วาจะพลิกโฉมการใชชีวิตและการทํางานของเราภายในทศวรรษหนาอยางไรบาง รายงานในหัวขอ “The Next Era of Human-Machine Partnerships” เกี่ยวกับความรวมมือระหวางมนุษยและเครื่องกลในยุคถัดไป ยังให มุมมองเชิงลึกวาผูบ ริโภคและองคกรธุรกิจสามารถเตรียมพรอมรับมือกับการเปลีย่ นแปลงทีเ่ กิดขึน้ ในสังคมอยาง ตอเนื่องไดอยางไรเชนกัน ตามรายงานไดคาดการณวา เทคโนโลยีเกิดใหมที่ไดแรงสนับสนุนจากความกาวหนามหาศาล เรื่องของซอฟตแวร บิ๊กดาตา และพลังในการประมวลผล จะเปนตัวเปลี่ยนโฉมชีวิตผูคน สังคม จะเขาสูปฐมบทใหมวาดวยความสัมพันธระหวางเครื่องกล ซึ่งจะทําใหมีคุณลักษณะดังตอไปนี้ ● ใหประสิทธิภาพและความเปนไปไดมากขึ้นกวาที่เคยมีมา ชวยใหมนุษยอยูเหนือขอจํากัดทั้งปวง ● มนุษยจะมีบทบาทคือเปน “ผูควบคุมดิจิทัล” โดยมีเทคโนโลยีทําหนาที่เปนสวนขยายอีกภาค ชวยใหควบคุม และจัดการชีวิตประจําวันไดดียิ่งขึ้น ● งานจะวิง ่ เขาหาผูค น การนําเทคโนโลยีจบั คูท ลี่ า้ํ หนาและขับเคลือ่ นดวยขอมูล จะชวยใหองคกรเฟนหาและวาจางผูท มี่ คี วาม สามารถพิเศษจากทั่วโลกที่เหมาะกับงานได ● ผู ค นจะเรี ย นรู กั บ คํ า ว า “ในตอนนี้ ” เพราะย า งก า วของการเปลี่ ย นแปลงจะเกิ ด ขึ้ น เร็ ว จนก อ ให เ กิ ด อุ ต สาหกรรมใหม ขึ้ น พรอมกับที่ตองอาศัยทักษะใหมๆ มาชวยใหอุตสาหกรรมนั้นอยูรอดได เดลล เทคโนโลยีส ไดสนับสนุนการจัดทําการศึกษาขึน้ เพือ่ ชวยใหองคกรมีเข็มทิศในการกาวไปสูโ ลกทีไ่ มแนนอนและเตรียมพรอม รับอนาคต ปจจุบันการปฏิรูปสูดิจิทัลทําใหอุตสาหกรรมตางๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปอยางสิ้นเชิง เปนครั้งแรกในประวัติศาสตร สมัยใหมที่ผูนําโลกไมสามารถทํานายไดวาอุตสาหกรรมจะดําเนินตอไปตามเสนทางอยางไร สอดคลองตามดัชนีการปฏิรูปสูดิจิทัล ของเดลล ที่วา 61 เปอรเซ็นตของผูนําธุรกิจในภาคพื้นเอเชียแปซิฟกและญี่ปุนมีประสบการณครั้งสําคัญจากการปฏิรูปที่เกิดขึ้น ในอุตสาหกรรมของตนอันเปนผลพวงมาจากเทคโนโลยีดิจิทัล และกวาครึ่งขององคกรธุรกิจเชื่อวามีความเปนไปไดที่บริษัทของตน จะถูกทิ้งใหอยูขางหลังภายใน 3 ถึง 5 ปขางหนา “เราไดรบั รูภ าพรวมทีส่ ดุ โตงใน 2 มุมมองเกีย่ วกับเครือ่ งกลและอนาคต ปญหาทีเ่ กิดจากความกังวลเรือ่ งการวางงานเนือ่ งจาก ความกาวหนาทางเทคโนโลยี (Technological Unemployment) หรือมุมมองในแงบวกเกินไปที่วาเทคโนโลยีจะรักษาอาการปวยของ สังคมและสภาพแวดลอมทัง้ หมดได” ราเชล แมคไกวร ผูอ าํ นวยการฝายวิจยั สถาบันแหงอนาคต กลาว “ในทางกลับกัน เราตองเนน ทีค่ วามสัมพันธรปู แบบใหมระหวางเทคโนโลยีและผูค นวาจะเปนยังไงมากกวา และเราจะเตรียมรับมือเรือ่ งนีไ้ ดอยางไร ซึง่ ถาเราไดมี สวนรวมในการทํางานอยางหนักเพือ่ สรางขุมพลังแหงความรวมมือระหวางมนุษยและเครือ่ งกลไดสาํ เร็จ ผลกระทบตอสังคมก็จะชวย ใหทุกคนไดรับประโยชน” September-October 2017
p.50-51_Article.indd 50
9/15/17 4:39 PM
“องคกรธุรกิจทั่วภาคพื้นเอเชียแปซิฟกไมควรเพิกเฉย และ ควรคิดเสียตัง้ แตวนั นีว้ า จะรวมมือและใชเครือ่ งกลอยางไรในอนาคต ความรวมมือระหวางมนุษยและเครือ่ งกลจะกลายเปนหัวใจสําคัญ ในการผลักดันใหเกิดขอไดเปรียบทางการแขงขันในอีกไมกี่ปที่จะ ถึงนี”้ เดวิด เว็บสเตอร ประธานฝายเอ็นเตอรไพรซประจําภาคพืน้ เอเชียแปซิฟกและญี่ปุน เดลล อีเอ็มซี กลาว “เทคโนโลยีเกิดใหม เหลานี้ จะชวยสรางความรวมมือดังกลาว ซึง่ องคกรเอ็นเตอรไพรซ เองตองมั่นใจวามีระบบโครงสรางพื้นฐานไอทีสมัยใหมซึ่งเปนสิ่ง จําเปนในการเรงสรางอนาคตในโลกดิจิทัลได” รายงานยังไดเนนใหเห็นถึงประเด็นตอไปนี้ ● ในป 2030 การพึ่งพาเทคโนโลยีของมนุษย จะพัฒนา ไปสูความรวมมืออยางจริงจัง อันจะนํามาซึ่งทักษะ เชน ความคิด สร า งสรรค ความปรารถนา และกรอบความคิ ด ของการเป น ผูป ระกอบการ ทีจ่ ะดําเนินไปอยางสอดคลองกับความสามารถของ เครือ่ งกลทีม่ าพรอมความเร็ว ระบบออโตเมชัน และประสิทธิภาพ และจะใหผลลัพธในแงของผลผลิตทีจ่ ะชวยสรางบทบาทและโอกาส ใหมๆ ใหกับอุตสาหกรรม ● เมื่อถึงป 2030 ผูชวยที่เปน AI (Artificial Intelligence) หรือปญญาประดิษฐซึ่งทําหนาที่ไดแบบบูรณาการและใหความ ชวยเหลือไดตรงความตองการเฉพาะ จะชวยงานไดมากกวาที่ ผูชวยจริงๆ ทําไดในปจจุบัน โดยผูชวยที่เปนปญญาประดิษฐนี้ จะอาศัยการคาดการณและการดําเนินการในแบบอัตโนมัติเขามา ชวยดูแลเรา ● เทคโนโลยี ไ ม จํ า เป น ว า จะเข า มาแทนที่ ค นทํ า งาน แต กระบวนการในการหางานจะเปลี่ยนไป การทํางานจะไมใชเรื่อง ของสถานที่ แตจะเปนเรื่องของงานที่ตองทําตอๆ ไป เทคโนโลยี การเรียนรูดวยตัวเองของเครื่องกลจะทําใหสามารถคนหาทักษะ ของแตละคน รวมถึงความสามารถในการแขงขันได และองคกร ก็จะตามหาผูที่มีความสามารถพิเศษที่โดดเดนที่สุดสําหรับงาน แตละงาน
จาก 85 เปอรเซ็นเตอรของงานที่ประเมินในป 2030 ยัง ไมเกิดขึ้น กาวยางแหงความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นรวดเร็วจนผูคน เรียนรูคําวา “ในตอนนี้” ในการใชเทคโนโลยีใหม เชน AR และ VR ทั้งนี้ ความสามารถในการไดมาซึ่งความรูใหมจะมีคามากวาตัว ความรูเอง “ผูคนทํางานเคียงบาเคียงไหลกับเครื่องกลมาเปนเวลาหลาย ทศวรรษ โดยในภาคพื้นเอเชียแปซิฟกและญี่ปุน เราเห็นวามีการนํา เทคโนโลยีเกิดใหมมาใชอยางรวดเร็ว เชน VR คลาวด และ AI ทําให เกิดการปฏิวัติดานความรวมมือและเกิดพลังระหวางมนุษยและ เครื่องกล” อมิท มิธา ประธานฝายคอมเมอรเชียลประจําภาคพื้น เอเชียแปซิฟกและญี่ปุน เดลล อีเอ็มซี กลาว “ความรวมมือนี้จะเปน สิ่งที่ตองอยูรวมกันไป เครื่องกลใหความเร็ว ใหการทํางานในแบบ อัตโนมัติ และมนุษยเปนผูต ดั สิน ทีม่ คี วามคิดสรางสรรค และมีความ สามารถในการแกปญหา” สถาบันเพื่ออนาคต (IFTF : Institute for the Future) คือ องคกรอิสระที่ไมแสวงหากําไร 501(c)(3) ดานการวิจัยเชิงกลยุทธ และการศึ ก ษาที่ มี ป ระสบการณ ก ารคาดการณ ล ว งหน า มาเกื อ บ 50 ป หัวใจในการทํางานของเราคือการจําแนกแนวโนมทีเ่ กิดขึน้ ใหม (Emerging Trend) และภาวะการขาดการตอเนื่องที่จะเปลี่ยนแปลง สังคมและตลาดธุรกิจทั่วโลก งานวิจัยของเรากอใหเกิดการมอง การณไกลลวงหนาที่จําเปนตอการสรางมุมมองในเชิงลึกที่นําไปสู การดําเนินการและขยายขอบเขตอันกวางขวางของอนาคตทีส่ ามารถ เปลี่ยนแปลงได จากสุขภาพและการใหบริการทางสาธารณสุขไปจน ถึงเทคโนโลยี สถานทํางาน การเรียนรู และอัตลักษณของมนุษย ใน ฐานะของสถาบันการศึกษา IFTF พยายามอยางเต็มทีท่ จี่ ะดําเนินการ ตามมาตรฐานการใชงานที่เปนธรรมและตีพิมพเฉพาะแมตทีเรียล ที่เปนสาธารณะ ภายใตสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส 4.0 (the Creative Commons 4.0 International License: CC BY-NC-ND 4.0) สถาบันเพื่ออนาคต (IFTF) ตั้งอยูที่พาโล อัลโต มลรัฐแคลิฟอรเนีย (www.iftf.org) ●
เดลล เทคโนโลยีส ประกอบดวยกลุมธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะที่มอบโครงสรางพื้นฐานที่จําเปนและ สําคัญในการสรางอนาคตดิจทิ ลั ใหแกองคกรธุรกิจ ทัง้ เปลีย่ นรูปแบบของไอที และใหการปกปองขอมูลทีถ่ อื เปน สินทรัพยสําคัญ เดลล เทคโนโลยีสใหการดูแลสนับสนุนลูกคาทุกขนาดองคกรใน 180 ประเทศ - เริ่มตั้งแต 98 เปอรเซ็นตของบริษัทที่จัดอันดับใน Fortune 500 ไปจนถึงลูกคารายยอย – ดวยสายผลิตภัณฑนวัตกรรม ที่สมบูรณพรอมที่สุดตั้งแตปลายทางสูสวนกลางตลอดจนคลาวด เดลล เทคโนโลยีส ประกอบดวยแบรนด ตางๆ ดังตอไปนี้ เดลล เดลล อีเอ็มซี พิโวทอล อารเอสเอ ซิเคียวเวิรคส เวอรทุสสตรีม และวีเอ็มแวร Copyright © 2017 Dell Inc. or its subsidiaries. All Rights Reserved. Dell Inc. and the Dell Technologies logo are trademarks of Dell Technologies in the United States and/or other jurisdictions. All other marks and names mentioned herein may be trademarks of their respective companies.
September-October 2017
p.50-51_Article.indd 51
9/15/17 4:39 PM
Special Scoop > กองบรรณาธิการ
“ไดนาเฟล็กซ์”
นวัตกรรมน้ำ�มันเชื้อเพลิงของเชลล์
September-October 2017
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จ�ำกัด เริ่มด�ำเนินกิจการ ในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2435 หรือเมื่อ 125 ปีที่แล้ว ตลอดเวลา ผลิตภัณฑ์ของเชลล์ได้ชอื่ ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทมี่ คี ณ ุ ภาพ มีการน�ำเสนอ นวัตกรรมต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีน�้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง ให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวทางการ ท�ำงาน ...เชลล์เติมสุขให้ทุกชีวิต Making Life’s Journey Better... เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จ�ำกัด ตอกย�้า ความเป็นผู้น�ำด้านเทคโนโลยีน�้ำมันเชื้อเพลิง เปิดตัวเทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” นวัตกรรมน�ำ้ มันเชือ้ เพลิงล่าสุดทีท่ ำ� ให้นำ�้ มันเชือ้ เพลิง ทุกชนิด รวมถึงเชลล์ วี-เพาเวอร์ น�้ำมันที่ดีที่สุดของเชลล์ดีขึ้นไป อีกขัน้ ซึง่ เป็นผลจากการวิจยั และพัฒนาร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ เชลล์และเฟอร์รารี่นั่นเอง ในฐานะผูน้ ำ� เทคโนโลยีนำ�้ มันเชือ้ เพลิงระดับโลก เชลล์ทมุ่ เท ด้านการวิจัยและพัฒนาน�้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือ กับพันธมิตรระดับโลก เช่น เฟอร์รารี่ บีเอ็มดับเบิลยู และบริษทั ผูผ้ ลิต รถยนต์ชั้นน�ำ โดยมีการจัดสรรงบประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท ต่อปี เพือ่ คิดค้นสูตรน�ำ้ มันทีด่ ที สี่ ดุ ส�ำหรับเครือ่ งยนต์ประเภทต่างๆ ทั้งของรถยนต์ส่วนบุคคล รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เครื่องจักรหนัก รวมถึงการคิดค้นเชื้อเพลิงที่สะอาดและยั่งยืนส�ำหรับรถยนต์ใน อนาคตอีกด้วย อรอุทยั ณ เชียงใหม่ กรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก ประจ�ำประเทศไทย กล่าวว่า “คุณภาพของน�้ำมันเชื้อเพลิง คือ หัวใจของการท�ำธุรกิจของเชลล์ เชลล์จึงมุ่งพัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์ และบริการให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า มากทีส่ ดุ ส�ำหรับเทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” นัน้ เป็นนวัตกรรมน�ำ้ มัน เชื้อเพลิงล่าสุดที่เป็นผลจากความทุ่มเทของนักวิทยาศาสตร์เชลล์ ในการค้นคว้าและท�ำวิจัยร่วมกับเฟอร์รารี่เป็นเวลานานกว่า 5 ปี จนเกิดเป็นเทคโนโลยีนำ�้ มันเชือ้ เพลิงทีช่ ว่ ยเพิม่ ความแรง สมรรถนะ และประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ทุกประเภท ตั้งแต่รถยนต์ทั่วไป ที่ใช้งานในชีวิตประจ�ำวัน ไปจนถึงเครื่องจักรหนักและรถที่ใช้ใน ภาคอุตสาหกรรม ท�ำให้มนั่ ใจในทุกการใช้งาน การเปิดตัวสุดยอด
อรอุทัย ณ เชียงใหม่
เทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” ในประเทศไทย เป็นการเปิดตัวน�้ำมัน สูตรใหม่ครั้งยิ่งใหญ่ของเชลล์ทั่วโลก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ ของผู้ขับขี่ในประเทศไทยทุกคน และมอบประสบการณ์ใหม่ในการ เดินทางบนท้องถนนทีด่ ยี งิ่ ขึน้ พร้อมทัง้ ผลักดันให้เชลล์เป็นแบรนด์ ที่คนไทยรักมากที่สุด” ส�ำหรับน�ำ้ มันเชลล์ วี-เพาเวอร์ สูตรใหม่ ทีม่ าพร้อมเทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” ให้ความแรงและประสิทธิภาพที่มากขึ้นกว่าน�้ำมัน เกรดธรรมดา ซึ่งได้รับการออกแบบร่วมกับสคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ จึงท�ำให้นำ�้ มันเชลล์ วี-เพาเวอร์ สูตรใหม่ มีส่วนประกอบใกล้เคียง กับน�้ำมันที่ใช้ในการแข่งรถสูตรหนึ่งของทีมสคูเดอเรีย เฟอร์รารี่ ถึง 99% ส�ำหรับน�้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 มีสาร ท�ำความสะอาด และลดแรงเสียดทานมากกว่าถึง 3 เท่า จึงช่วย ขจัดสิ่งสกปรกที่จะบั่นทอนสมรรถนะของเครื่องยนต์ในชิ้นส่วน ส�ำคัญของระบบน�้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 80% ในขณะที่น�้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล สามารถช่วยลดสิ่งสกปรกสะสมที่หัวฉีดน�้ำมัน เชื้อเพลิง และคืนพลังให้เครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 100% น�้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ สูตรใหม่ ได้ผ่านการทดสอบว่าเป็นน�้ำมันคุณภาพที่ดี ที่สุดของเชลล์ ทั้งในห้องทดลองและจากการทดสอบบนถนนจริง
คุณสมบัติของเทคโนโลยีไดนาเฟล็กซ์ (Dynaflex)
ช่วยท�ำความสะอาดคราบสะสมที่หัวฉีด และป้องกันการก่อตัวใหม่ จึงช่วยประหยัดน�้ำมัน ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มแรงบิดและ ก�ำลังของเครื่องยนต์ให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และควันด�ำ จึงช่วยให้ธุรกิจลดผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมด้วย เพิ่มความเสถียรในการท�ำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น และช่วยให้น�้ำมันเชื้อเพลิงคงความเสถียรเมื่อผสมกับไบโอดีเซล ลดโอกาสการ เสื่อมสภาพของน�้ำมัน และลดการก่อตัวของตะกอน ท�ำให้เครื่องยนต์และเครื่องจักรใช้ได้นาน ช่วยยับยั้งการกัดกร่อนในอุปกรณ์ส�ำคัญของระบบเชื้อเพลิงและถังน�้ำมัน จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบ�ำรุง ลดการเกิดฟองอากาศขณะเติมน�้ำมัน จึงลดความเสี่ยงที่น�้ำมันจะหกล้นจากถัง ขณะเดียวกันยังช่วยประหยัดเวลาในการเติม น�้ำมัน ซึ่งเป็นการเพิ่มชั่วโมงการท�ำงานให้กับธุรกิจอีกทางหนึ่ง
September-October 2017
เทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” ยังมีอยู่ในน�ำ้ มันเชื้อเพลิง เชลล์ ฟิวเซฟ และเชลล์ E20 แก๊สโซฮอล์ ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะช่วยปกป้อง เครือ่ งยนต์ให้ทำ� งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพือ่ รองรับการขับขี่ ทุกรูปแบบ ผูบ้ ริโภคสัมผัสความแรงเต็มสมรรถนะและประสิทธิภาพ ที่ดีขึ้นอีกขั้นของน�้ำมันเชื้อเพลิงสูตรใหม่จากเชลล์ ที่มาพร้อม เทคโนโลยี ธาดา เชียงกูล กรรมการบริหาร ธุรกิจน�้ำมันเชื้อเพลิง อุตสาหกรรม กล่าวว่า เทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” เป็นนวัตกรรมที่ พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้ลูกค้าทางอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ทรานสปอร์ต ออนโรด ออฟโรด หรืออุตสาหกรรม เครือ่ งจักรกลการ เกษตร ก่อสร้าง ซึง่ จะท�ำให้ลกู ค้าได้ใช้เครือ่ งจักรอย่างมีประสิทธิภาพ มากขึ้น ได้ก�ำลังมากขึ้น ประหยัดน�ำ้ มันมากขึ้น
โคลิ่น ชิน
ธาดา เชียงกูล
“เชลล์ ประเทศไทย จะมีอายุครบ 125 ปี ในปีนี้ ก็ภูมิใจที่ เป็นก�ำลังหลักหนึง่ ทีพ่ ฒ ั นาอุตสาหกรรมในประเทศไทย ในแต่ละปี จะใช้งบวิจัยพัฒนามากกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อจะพัฒนา ในเรือ่ งของผลิตภัณฑ์ ท�ำให้มนั่ ใจว่าเราเป็นผูน้ ำ� ทางด้านเทคโนโลยี รวมทั้งยังท�ำงานร่วมกับทางลูกค้าทางอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ เพื่อพัฒนาเรื่องพวกนี้มาโดยตลอด เหมือน อย่างที่เห็น เชลล์-เฟอร์รารี่” เทคโนโลยี “ไดนาเฟล็กซ์” จะช่วยบ�ำรุง ท�ำความสะอาด เครื่องยนต์ที่ใช้มานาน หรือแม้แต่รถยนต์ใหม่ก็ตาม จะช่วยรักษา ความสะอาดของหั ว ฉี ด ให้ เ ครื่ อ งยนต์ ดี เซลท� ำ งานได้ อ ย่ า งมี ประสิทธิภาพ เต็มสมรรถนะ และสามารถทีจ่ ะท�ำให้ประหยัดน�ำ้ มัน ได้อีกด้วย September-October 2017
ส่วน โคลิ่น ชิน ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของเชลล์ กล่าว ว่า ไดนาเฟล็กซ์ เป็นเทคโนโลยีใหม่ เป็นดูโอ้ อินเทลลิเจน หรือว่า เป็นการมีสายชะล้างที่เป็นดูโอ้ มี Double Action จากเดิมที่ท�ำงาน อยูเ่ พียงด้านเดียว ตอนนีเ้ ป็น Double Action จากสมัยรุน่ เก่า น�ำ้ มัน ดีเซลก็จะมีเฉพาะในเรือ่ งของ Give Clean คือท�ำให้หวั ฉีดสะอาด แต่ ไม่มกี าร Clean Up คือการเอาทีส่ กปรกอยูแ่ ล้ว ท�ำให้มนั สะอาดเหมือน เดิมหรือสะอาดมากขึ้น สมัยก่อนไม่มี และนี่คือ Next Generation การท�ำงานของเครือ่ งยนต์ดเี ซล เราต้องการการสเปรย์ของน�ำ้ มันทีด่ ี เพือ่ ท�ำให้มนั เผาไหม้หมดจด สะอาดและประหยัดน�ำ้ มัน ตรงนัน้ ถ้า เกิดสมมุติว่ามีการใช้งานไป เกิดตะกรันไปติดพวกหัวฉีด ก็จะท�ำให้ การสเปรย์ของน�้ำมันมันไม่ดีอย่างที่ออกแบบ ก�ำลังเครื่องยนต์ก็ ตกลง หรือต้องใช้นำ�้ มันมากขึ้น “เครื่องยนต์ดีเซล เวลาใช้งาน โดยเฉพาะเครื่องจักรหนัก ที่ต้องการก�ำลังทอล์กที่สปิดต�่ำ ไม่เหมือนพวกที่ใช้ไฮเวย์ต่างๆ เมื่อใช้งานไปได้ระยะหนึ่งเครื่องยนต์จะสกปรกขึ้น เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะเครื่องยนต์สมัยใหม่ที่ท�ำงานด้วยเพลสเจอร์ของน�้ำมัน ที่สูงขึ้น โอกาสที่จะท�ำให้สิ่งสกปรกไปเกาะมีมากขึ้น ท�ำให้การ เผาไหม้ไม่ดีเท่าที่ควรหรือตกลง เพราะฉะนั้น เพาเวอร์ที่ต้องการ หรือทอล์กที่ต้องการในการใช้งานก็จะต�่ำลง แต่ด้วยเทคโนโลยี ไดนาเฟล็ ก ซ์ น�้ ำ มั น ตั ว ใหม่ ที่ ส ามารถท� ำ ความสะอาดได้ ด ้ ว ย ก็สามารถไปท�ำความสะอาดสิ่งที่สกปรกที่ติดหัวฉีด ท�ำให้สะอาด ขึ้น เมื่อสะอาดก็สามารถเรียกพลังงานที่สูญเสียจากการใช้งานไป ช่วงหนึ่งกลับมา เพราะฉะนั้น เมื่อใช้นำ�้ มันตัวนี้ก�ำลังก็จะกลับมาดี ขึน้ เครือ่ งแรงขึน้ การใช้งานโดยเฉพาะเครือ่ งจักรกลหนักทีต่ อ้ งการ เร่งสปิดในอัตราต�่ำ ทอล์กก็จะดีขึ้นอย่างชัดเจน”
Special Scoop
> กองบรรณาธิการ
“คอนกรีตบล็อก ทนความร้อนผลิตไฟฟ้า” ด้วยวัสดุตั้งต้นจาก เปลือกไข่ไก่
ทีมนักวิจัยคอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริกผลิตไฟฟ้า จากความแตกต่างความร้อน
ทีมนักวิจัยฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ประสบความส�ำเร็จ ในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ “คอนกรีตบล็อก เทอร์โมอิเล็กทริกผลิตไฟฟ้าจากความร้อนโดยการใช้วสั ดุตงั้ ต้น จากเปลือกไข่ไก่” ได้เป็นทีแ่ รกในประเทศไทยและของโลก จากการ พัฒนาคอนกรีตบล็อกทนความร้อนสูงมากกว่า 1,000 องศาเซลเซียส และประดิษฐ์อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าส�ำหรับฝังในคอนกรีตบล็อก จาก การสกัดแคลเซียมออกไซด์จากเปลือกไข่ไก่ ซึง่ เป็นวัสดุสำ� คัญส�ำหรับ การผลิตอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าที่เรียกว่า “โมดูลเทอร์โมอิเล็กทริก” ซึ่งทนความร้อนได้สูงถึง 900 องศาเซลเซียส สามารถน�ำไปก่อ เป็นก�ำแพงทนไฟแล้วผลิตไฟฟ้าในอุตสาหกรรมความร้อนได้ เช่น ก�ำแพงทนไฟส�ำหรับเป็นเตาหลอมโลหะ เตาชีวมวล หรือเตาเผาขยะ ขนาดใหญ่ เพื่อผันพลังงานความร้อนที่ปล่อยทิ้งเปล่าประโยชน์ ให้เป็นไฟฟ้า พร้อมเร่งต่อยอดพัฒนาวัสดุเทอร์โมอิเล็กทริกในช่วง
แท่นทดลอง 1
ความร้อนแสงแดด หวังน�ำไปประยุกต์เป็นผนังคอนกรีตและหลังคา ผลิตไฟฟ้าในสมาร์ทโฮม หรือแม้กระทั่งถนนผลิตไฟฟ้า ผศ. ดร.เชรษฐา รั ต นพั น ธ์ อาจารย์ ป ระจ� ำ ห้ อ งวิ จั ย เทอร์โมอิเล็กทริก สาขาวิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ สถาบัน เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ผู้วิจัย และที่ปรึกษาในโครงการวิจัย “คอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริก ผลิตไฟฟ้าจากความร้อนโดยการใช้วสั ดุตงั้ ต้นจากเปลือกไข่ไก่” กล่าวว่า ปัจจุบันสถาบันการศึกษาทั่วโลกได้หันมาให้ความส�ำคัญ ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่าง จริงจัง ซึง่ สจล. ในฐานะสถาบันการศึกษาผูน้ ำ� ด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ได้สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาการใช้ประโยชน์จาก พลังงานอย่างคุม้ ค่า จึงได้รว่ มกับนักวิจยั ได้แก่ ชัยวัฒน์ พรหมเพชร นักศึกษาปริญญาเอก และ จักรกฤษ กอบพันธ์ นักศึกษาปริญญาตรี สาขาวิชาฟิสกิ ส์ สจล. พัฒนาคอนกรีตบล็อกทนความร้อนสูงมากกว่า 1,000 องศาเซลเซียส ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในตัวจากความต่าง ความร้อน ในช่วง 400-900 องศาเซลเซียส ได้เป็นทีแ่ รกในประเทศไทย และยังไม่พบสิ่งประดิษฐ์นี้ในระดับโลก ซึ่งขณะนี้ได้ท�ำการยื่น จดสิทธิบัตรขอรับการคุ้มครองสิทธิในสิ่งประดิษฐ์ และได้รับเลขที่ ค�ำขอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผศ. ดร.เชรษฐา อธิบายว่า ผลงานการประดิษฐ์นวัตกรรมชิน้ นี้ เป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. คอนกรีตบล็อกทนความร้อนสูง โดยทีมวิจยั สามารถท�ำให้ ทนความร้อนได้สงู กว่า 1,000 องศาเซลเซียส และ 2. อุปกรณ์ผลิต
อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้า 1
คอนกรีตบล็อกทนไฟ
การจัดเรียงอุปกรณ์ ผลิตไฟฟ้าในบล็อก
วัสดุผลิต โมดูลเทอร์โมอิเล็กทริก
September-October 2017
ไฟฟ้าส�ำหรับฝังในคอนกรีตบล็อก โดยทีมวิจัยได้พัฒนา “วัสดุ เทอร์โมอิเล็กทริก” จากการสกัดแคลเซียมออกไซด์จากเปลือก ไข่ไก่ ซึ่งเป็นวัสดุส�ำคัญส�ำหรับการผลิตอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าภายใน ตัวบล็อกที่เรียกว่า “โมดูลเทอร์โมอิเล็กทริก” ซึ่งโมดูลดังกล่าว สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 900 องศาเซลเซียส เมื่อตัวบล็อก ทนความร้อนได้รับความแตกต่างของอุณหภูมิความร้อนระหว่าง สองด้าน กล่าวคือด้านหนึง่ ของตัวบล็อกมีอณ ุ หภูมสิ งู กว่าอีกด้านหนึง่ ความแตกต่างความร้อนจะถูกส่งผ่านไปยังโมดูลเทอร์โมอิเล็กทริก ที่ฝังไว้ในบล็อกที่ประดิษฐ์ขึ้นจากวัสดุเทอร์โมอิเล็กทริก 10 ตัว ท�ำให้เกิดการเคลื่อนที่ของประจุไฟฟ้า ซึ่งจากการทดสอบโดยน�า คอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริกผลิตไฟฟ้า 2 ก้อน มาต่อวงจรแบบ อนุกรม สามารถท�ำให้หลอด LED ขนาด 105 mW สว่างได้ เมือ่ ด้าน อุณหภูมิสูงของตัวบล็อกถูกให้ความร้อนที่ 600 องศาเซลเซียส หากน�ำมาประยุกต์ใช้กับโรงหลอมโลหะ โดยใช้คอนกรีตบล็อก เทอร์โมอิเล็กทริก 6,000 ก้อน จะได้กำ� ลังไฟฟ้าตัง้ แต่ 1.2 kW-6 kW ดังนัน้ การออกแบบขนาดบล็อกและเพิม่ จ�ำนวนโมดูลให้เหมาะสม กับการใช้งาน จึงสามารถน�ำไปประยุกต์เป็นเครื่องผลิตไฟฟ้าจาก แหล่งความร้อนต่างๆ ได้ตามต้องการ “เนือ่ งจากเป็นงานวิจยั นวัตกรรมใหม่ในประเทศไทย ขณะนี้ จึ ง ยั ง ไม่ ส ามารถเที ย บต้ น ทุ น และความคุ ้ ม ค่ า ได้ อ ย่ า งชั ด เจน แต่หากเทียบกับราคาคอนกรีตบล็อกทนไฟธรรมดา ราคาอยูท่ กี่ อ้ นละ 100-700 บาท ขึน้ อยูก่ บั ความทนไฟ แต่เมือ่ พัฒนาคอนกรีตบล็อก ทนไฟทั่วไปให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในตัว แม้จะท�ำให้ต้นทุนต่อ ก้อนสูงกว่าประมาณ 2-4 เท่า แต่หากมองในภาพรวมถือว่าคุ้มค่า เป็นอย่างมาก เพราะตัวคอนกรีตที่ทนความร้อนที่ฝังอุปกรณ์ผลิต ไฟฟ้า ในย่านความร้อนช่วง 300-900 องศาเซลเซียส และใช้วัสดุ ขั้วไฟฟ้าและสายน�ำกระแสไฟฟ้าที่สามารถทนความร้อนสูงเกิน 1,000 องศาเซลเซียส สามารถน�ำไปก่อเป็นก�ำแพงทนไฟแล้วผลิต ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมความร้อนได้ เช่น ก่อเป็นผนังก�ำแพงทนไฟ ส�ำหรับเป็นเตาหลอมโลหะ ก�ำแพงทนไฟส�ำหรับเป็นเตาชีวมวล หรือเตาเผาขยะขนาดใหญ่ และหากในอนาคตหากมีการพัฒนา ต่อยอดเชิงพาณิชย์เชื่อว่าต้นทุนจะต�่ำลงอีกมาก” ทั้งนี้ งานวิจัย “คอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริกผลิต ไฟฟ้าจากความร้อนโดยการใช้วัสดุตั้งต้นจากเปลือกไข่ไก่” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดโครงงานวิจัยระดับ อุดมศึกษากลุ่มฟิสิกส์ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2560 และก�ำลังลงนาม สัญญาโครงการพัฒนานักวิจยั และงานวิจยั เพือ่ อุตสาหกรรม (พวอ.) ระดับปริญญาเอก ของส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ขณะเดียวกันยังอยูร่ ะหว่างการพัฒนาวัสดุเทอร์โมอิเล็กทริกในช่วง ความร้อนแสงแดดเพือ่ ประยุกต์ไปเป็นผนังคอนกรีตและหลังคาผลิต September-October 2017
ไฟฟ้าในสมาร์ทโฮม หรือแม้กระทั่งถนนผลิตไฟฟ้า เป็นต้น พร้อม กับปรับปรุงวัสดุเทอร์โมอิเล็กทริกให้มคี วามสามารถในการผันไฟฟ้า ให้ได้สูงขึ้นด้วย ผศ. ดร.เชรษฐา กล่าว ชัยวัฒน์ พรหมเพชร นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชาฟิสกิ ส์ คณะวิทยาศาสตร์ สจล. กล่าวว่า เทคนิคส�ำคัญทีท่ ำ� ให้คอนกรีตบล็อก ทนความร้อนได้สูง และสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการหล่อคอนกรีตบล็อกขึ้นจาก “คอนกรีตบล็อกทนไฟ” เพื่อ ท�ำหน้าที่เป็นด้านรับความร้อน ส�ำหรับส่งความร้อนไปยังอุปกรณ์ ผลิตไฟฟ้าที่ฝังไว้ภายใน และ “คอนกรีตฉนวนความร้อน” เพื่อ ท�ำหน้าที่ลดการถ่ายเทความร้อน จากชั้นคอนกรีตบล็อกทนไฟลง จึงสามารถผลิตไฟฟ้าได้เอง เมื่อมีความแตกต่างของอุณหภูมิเกิด ขึน้ ในบล็อกโดยไม่ตอ้ งระบายความร้อน และเมือ่ น�ำไปรวมกับวัสดุ เทอร์โมอิเล็กทริกที่เตรียมและสังเคราะห์ได้เองในห้องปฏิบัติการ ซึง่ เป็นวัสดุเทอร์โมอิเล็กทริกประเภทออกไซด์ ทีม่ วี ธิ กี ารสังเคราะห์ แบบเฉพาะให้เหมาะสมกับขนาดความแตกต่างของอุณหภูมิความ ร้อนจากตัวบล็อก ต่อเข้ากับวัสดุการต่อขัว้ ไฟฟ้าและสายน�ำกระแส ไฟฟ้า ที่ออกแบบและเลือกวัสดุที่ใช้ในวิธีการต่อขั้วโมดูลและ ขั้วกระแสไฟฟ้า ให้สามารถทนความร้อนได้สูงกว่าเกิน 1,000 องศาเซลเซียส จึงสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีเสถียรภาพ ขณะที่ จักรกฤษ กอบพันธ์ นักศึกษาปริญญาตรี สาขา วิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ สจล. กล่าวเสริมว่า เนื่องจาก “วัสดุเทอร์โมอิเล็กทริก” ซึ่งเป็นวัสดุส�ำคัญในการผลิตอุปกรณ์ ผลิตไฟฟ้า ที่เรียกว่า “โมดูลเทอร์โมอิเล็กทริก” นั้น ใช้สารตั้งต้น ส่วนใหญ่เป็น “แคลเซียมออกไซด์” ที่มีความบริสุทธิ์ 99% ขึ้นไป มีราคาตั้งแต่กิโลกรัมละ 1,500-2,000 บาท แต่สารดังกล่าวก็มี ในเปลือกไข่ไก่ จึงทดลองน�ำเปลือกไข่ไก่เหลือทิ้งจากโรงอาหาร คณะวิทยาศาสตร์ มาผ่านกระบวนการเตรียมและสังเคราะห์ในห้อง ปฏิบัติการ เพื่อให้ได้แคลเซียมออกไซด์ที่เป็นวัสดุต้ังต้นในการท�า อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้า ซึ่งนอกจากช่วยลดการน�ำเข้าจากต่างประเทศ แล้ว ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับเปลือกไข่ไก่เหลือทิ้งอีกด้วย จึงไม่ เพียงแต่จะเป็นการลดต้นทุน แต่ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับผลิตภัณฑ์ด้วย โดยปัจจุบันราคาโมดูลเทอร์โมอิเล็กทริกที่ วางขายตามท้องตลาดนั้น ชนิดที่ผันไฟฟ้าได้จากความร้อนในย่าน 100 องศาเซลเซียส ราคาอยู่ที่ตัวละ 150-500 บาท ข้อเสียคือ ทนทานความร้อนได้ไม่ถึง 200 องศาเซลเซียส แต่หากเป็นชนิด ที่ทนความร้อนในระดับ 300-600 องศาเซลเซียส ราคาประมาณ 3,000-15,000 บาท ส่วนชนิดทนความร้อนเกินกว่า 500 และ 1,000 องศาเซลเซียส ราคาจะสูงมาก เพราะต้องใช้เทคโนโลยีการ ท�ำขัว้ ไฟฟ้า และต้องใช้วสั ดุทตี่ อ้ งทนทาน แต่เมือ่ น�ำสารสังเคราะห์ จากเปลือกไข่ไก่มาผลิตเป็นวัสดุโมดูลเทอร์โมอิเล็กทริกพบว่า ช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้ โดยคาดว่าหากได้รบั การต่อยอดอย่าง สมบูรณ์ ราคาจะถูกกว่าท้องตลาดถึง 3 เท่า
คอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริก
คอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริกสามารถผลิตไฟฟ้าขึ้นได้ ในตัวคอนกรีตบล็อก เมือ่ ตัวบล็อกได้รบั ความร้อนทีอ่ ยูโ่ ดยรอบตัว บล็อก โดยตัวคอนกรีตบล็อกสามารถทนความร้อนสูงเกิน 1,000 องศาเซลเซียส ตัวบล็อกสามารถผลิตไฟฟ้าได้เมื่อความแตกต่าง ของความร้อนเกิดขึ้นบนตัวบล็อก โดยตัวบล็อกถูกหล่อขึ้นจาก คอนกรีตที่ทนไฟและเป็นคอนกรีตบล็อกฉนวนความร้อน เพื่อ ให้เกิดการส่งความร้อนและฉนวนความร้อนให้กับตัวผลิตไฟฟ้า เทอร์โมอิเล็กทริกที่อยู่ภายใน จึงท�ำให้ตัวคอนกรีตสามารถผลิต ไฟฟ้าขึ้นได้เมื่อมีความแตกต่างของอุณหภูมิความร้อนเกิดขึ้น โดย ตัวผลิตไฟฟ้าเทอร์โมอิเล็กทริกทางคณะผู้วิจัยได้พัฒนาสูตรการ สังเคราะห์สารวัสดุเทอร์โมอิเล็กทริกขึ้น ที่มีวิธีการสังเคราะห์แบบ เฉพาะให้เหมาะสมกับขนาดความแตกต่างของอุณหภูมิความร้อน จากตัวบล็อก ใช้วัสดุขั้วไฟฟ้าและสายน�ำกระแสไฟฟ้าที่สามารถ ทนความร้อนได้สงู และสามารถทนความร้อนได้สงู กว่า 1,000 องศา เซลเซียส ดังนั้นคอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริกจึงสามารถให้ ก�ำเนิดไฟฟ้าขึน้ ได้เลยในเมือ่ มีความแตกต่างความร้อน ซึง่ สามารถ น�ำคอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริกดังกล่าวก่อเป็นผนังก�ำแพง ทนไฟส�ำหรับเป็นเตาหลอมโลหะหรือเตาเผาขยะขนาดใหญ่ได้
การเกิด ∆T ของคอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริกผลิตไฟฟ้า เมือ่ ให้ความร้อนมากขึน้ เป็นเวลา 60 นาที โดยการวัดอุณหภูมจิ าก กล้องสแกนความร้อนอินฟราเรด Spot 1 อุณหภูมิคอนกรีตบล็อก ต�ำแหน่งที่ 1 (อุณหภูมิด้านเย็น) Spot 2 อุณหภูมิคอนกรีตบล็อก ต�ำแหน่งที่ 2 (อุณหภูมดิ า้ นเย็น) Spot 3 อุณหภูมเิ ตาไฟฟ้า (อุณหภูมิ ด้านร้อน)
คอนกรีตบล็อกฝังเทอร์โมอิเล็กทริกสามารถจุดหลอด LED สว่าง
ลักษณะเด่น
คอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริกผลิตไฟฟ้าสามารถทนความ ร้อนได้เกิน 1,000 oC สามารถผลิตไฟฟ้าทันทีทันใดในตัวเอง เมื่อ มีความแตกต่างของอุณหภูมิร้อนในตัวเองโดยไม่ต้องมีการระบาย ความร้อน
การประยุกต์ใช้งาน
ต้นแบบคอนกรีตบล็อกเทอร์โมอิเล็กทริกผลิตไฟฟ้า
ลั ก ษณะทางกายภาพภายนอกของคอนกรี ต บล็ อ ก เทอร์โมอิเล็กทริกผลิตไฟฟ้าขนาดต่างๆ ทีป่ ระดิษฐ์ขนึ้ ในห้องปฏิบตั ิ การวิจัยวัสดุเทอร์โมอิเล็กทริกดังแสดงในรูป
การทดสอบ
สามารถผลิ ต ไฟฟ้ าได้ เ องจาก ความร้อน สามารถสร้างค่าศักย์ไฟฟ้า และก�ำเนิดกระแสไฟฟ้าได้ ผ่านการ ทดสอบโดยใช้ ก ล้ อ งอิ น ฟราเรด ตรวจจั บ ความร้ อ นแสดงให้ เ ห็ น ถึ ง ผลต่างของอุณหภูมทิ เี่ กิดขึน้ การทดสอบ โมดูลเทอร์โมอิเล็กทริกทนความร้อน ได้ เ กิ น 100 องศาเซลเซี ย ส และ คอนกรีตบล็อกฝังเทอร์โมอิเล็กทริก สามารถจุดหลอด LED ขนาด 105 mW สว่างได้ โดยไม่ตอ้ งมีการระบายความร้อน ดังแสดงในรูป
ก่อเป็นก�ำแพงทนไฟต่างๆ แล้วผลิตไฟฟ้าได้ เช่น ก่อเป็น ผนังก�ำแพงทนไฟส�ำหรับเป็นเตาหลอมโลหะ ก�ำแพงทนไฟส�ำหรับ เป็นเตาชีวมวล หรือเตาเผาขยะขนาดใหญ่ บ้านผลิตไฟฟ้าจาก คอนกรีตบล็อก TE (Smart home) คอนกรีตบล็อก TE ร่วมกับความ ร้อนเหลือทิ้งในอุตสาหกรรม หรือถนนเทอร์โมอิเล็กทริก เป็นต้น อนึง่ จักรกฤษ กอบพันธ์ นักศึกษาชัน้ ปีที่ 4 ภาควิชาฟิสกิ ส์ คณะวิทยาศาสตร์ สจล. ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จาก โครงงานเรื่อง “คอนกรีตบล็อกผลิตไฟฟ้าจากความร้อนโดยการ ใช้วัสดุตั้งต้นจากเปลือกไข่ไก่” ในการประชุมวิชาการ การประกวด โครงงานวิจยั ระดับอุดมศึกษา กลุม่ ฟิสกิ ส์ จัดโดยคณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 โดยมี ผศ. ดร.เชรษฐา รัตนพันธ์ เป็นอาจารย์ ที่ปรึกษาโครงงาน
สิ่งประดิษฐ์ตามเลขคำ�รับสิทธิบัตร September-October 2017
Special Scoop > กิตติ วิสุทธิรัตนกุล
Taiwan 2017
กับ Green Industry การมาเยือนไต้หวันครั้งที่ 3 ของผมครั้งนี้มีระยะห่างจาก ครั้งที่ 2 ประมาณ 14 ปี ได้เห็นความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม ประเทศไต้หวัน นับเป็นประเทศอุตสาหกรรมได้เต็มตัว จากการวาง โครงสร้างพืน้ ฐานทีด่ ใี นช่วงญีป่ นุ่ ปกครอง 50 ปี (ค.ศ. 1895-1945) ความช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1950-1964 การปฏิรปู ด้านต่างๆ ด้วยกลไกของรัฐ การชักน�ำนักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยี เชื้อสายจีนจากทั่วโลกมาวางรากฐานความรู้ได้อย่างมั่นคง ธุรกิจ อุตสาหกรรมไต้หวันทีไ่ ด้ไปเยือนครัง้ นีอ้ ยูใ่ นกลุม่ Green Industry ที่ ทาง Green Trade Project Office (GTPO) ได้ประสานงานไว้ร่วม กับ Taiwan External Trade Development (TAITRA) TECO Corp. (www.teco.com.tw/en_version/index.asp) เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1956 ในนามบริษัท TECO Electric and Machinery Co., Ltd. เริม่ ต้นจากการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าอุตสาหกรรม ธุรกิจได้ขยายตัวและเติบโตสู่ธุรกิจระดับโลก มีความร่วมมือกับ Westing House นอกจากเป็นที่ยอมรับในผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกล ไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นผูน้ ำ� การผลิตด้านผลิตภัณฑ์เครือ่ งใช้ในบ้าน ระบบ การสื่อสารทางการแพทย์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) Semiconductor, Optronics, Network, Software, wind turbine อุตสาหกรรมอาหาร ระบบการกระจายสินค้า ได้กา้ วสูก่ ารเป็นบริษทั ระดับโลก กลุม่ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชนั้ สูง กลุม่ บริษทั TECO Group มีบริษทั ในเครือทัว่ โลกประมาณ 30 แห่งในทวีปเอเชีย อเมริกา และ กลุม่ ประเทศยุโรป มีพนักงานมากกว่า 10,000 คน บริษทั มีการพัฒนา งานวิจัยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ได้มีเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ คุณภาพสูงสู่การแข่งขันในตลาด ด้วยบุคลากรที่มีความสามารถสูง Chung-Hsin Electric & Machinery MFG. Corp. (CHEM) www.chem.com.tw/ เป็นผู้ผลิตและจัดจ�ำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า การก่อสร้างโครงการและติดตัง้ โครงการทางวิศวกรรมทีด่ ำ� เนินการ ประกอบด้วย โครงการไฟฟ้าก�ำลัง โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน�้ำ ระบบปรับอากาศ เครื่องก�ำเนิดไฟฟ้า ระบบจัดการสิ่งแวดล้อม เครื่องจักร เครื่องมืออุปกรณ์ ที่ผลิตได้มี Chillers, Generator sets, hight voltage circuit breakers, smart grid electric power automation equipment, customized fuel systems, parking facilities Chung-Hsin Electric & Machinery Corp. (CHEM) ผลิต อุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ทางวิศวกรรมจ�ำหน่ายทั่วโลก September-October 2017
Motech Industries Inc. www.motechsolar.com/en/ index.php เป็นผูผ้ ลิตทีใ่ ห้ความส�ำคัญของงานวิจยั และพัฒนา เป็น ผู้ผลิตและให้บริการแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (PV) คุณภาพสูง, PV Modules, PV Power System ในช่วงหลายปีนี้ Motech Industries ได้ ข ยายประสบการณ์ แ ละบริ ก ารสู ่ ก ารจั ด หาห่ ว งโซ่ ก ารผลิ ต การจัดหาในตลาดทั่วโลกเป็นผู้ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์รายใหญ่ของ โลก จุดเด่นของ Motech ที่มีงานวิจัยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่พร้อม ออกสู่ตลาดโลกอีกมาก เพียงให้ถึงเวลาและต้นทุนการผลิตเชิง พาณิชย์ที่เหมาะสม Enrestec, Inc www.enrestec.com.tw ก่อตัง้ ขึน้ ค.ศ. 2005 มีความเชี่ยวชาญและมีลิขสิทธิ์ด้านเทคโนโลยีการเผากากของเสีย โดยใช้ความร้อนสูงแบบ Pyrolysis โดยเฉพาะในกลุ่มของเสียที่ เป็น พลาสติก ยาง การรีไซเคิลของเสียอินทรีย์ เทคโนโลยีการคาย ความร้อน และการปรับปรุงดิน Enrestec, Inc ให้บริการออกแบบ และก่อสร้างการด�ำเนินการผลิตและเทคนิคการควบคุมคุณภาพ มีวิสัยทัศน์ (mission) หาข้อสรุปวิธีการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันจะต้องป้องกันปัญหาสิง่ แวดล้อมใหม่ทอี่ าจตามมา
ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และปัญหาโลกร้อน เป็นปัญหาที่เราเผชิญอยู่ การใช้ซ�้ำทรัพยากร และการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เป็นสิ่งจ�ำเป็นยิ่ง ในปี 2013 Enrestec, Inc ได้น�ำเสนอระบบการก�ำจัดเศษยางอย่าง สมบูรณ์แบบ China Ecotek Corporation (CEC) http://www.ecotek.com.tw หน่วยของรัฐ The commision of National Corporation, Ministry of Economic Affairs แห่งไต้หวัน ได้มอบหมายให้ China Steel Corporation รวบรวมองค์กรทีเ่ กีย่ วข้องร่วมกันก่อตัง้ China Ecotek Corporation (CEC) เมือ่ เดือนธันวาคม ค.ศ. 1993 โดยน�ำประสบการณ์ และความส�ำเร็จอันโดดเด่นของ China Steel Corporation ด้าน วิศวกรรมจักรกลไฟฟ้าและวิศวกรรมสิง่ แวดล้อม อาทิ incinerators, water treatment facilities and water treatment plants CEC ได้ ข ยายธุ ร กิ จ ออกไปในแขนง Steam-electricity cogeneration, railways and metro systems, biotechnology, corrostion and leak resistance engineering และโครงการแบบ Turnkey ในอนาคตมีการขยายธุรกิจสูง ความร่วมมือกับหน่วยงาน ภายในประเทศและต่างประเทศ ในงานด้านสิ่งแวดล้อมในระดับ เทคโนโลยีที่สูงขึ้น Delta Electronics, Inc http: //www.deltaww.com/about/ company Delta Electronics, Inc ก่อตัง้ ในปี ค.ศ. 1971 ด้วยพัฒนาการ ด้านการวิจัยพัฒนาและการขยายตัวทางธุรกิจ Delta ได้เป็นผู้น�า ของโลกในปี ค.ศ. 2002 ด้าน switching power supply solutions ในปี ค.ศ. 2006 เป็นผู้น�ำด้าน brushless fans Delta เป็นผู้ผลิต อุปกรณ์ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในการใช้พลังงาน อาทิ switching power supplies ประสิทธิภาพสูงกว่า 90% telecom power สูงกว่า 98% PV inverters ประสิทธิภาพสูงกว่า 96% Delta จะลงทุนด้าน R&D ที่ระดับ 6%-7% ของยอดขาย มีศูนย์ R&D อยู่ทั่วโลก อาทิ จีน ยุโรป อินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไทย และสหรัฐอเมริกา การเดินทางมาไต้หวันครั้งนี้ได้เห็นการลงทุนและทุ่มเท กับงาน R&D ของทุกบริษัทอย่างจริงจังและยาวนาน ซึ่งจะเป็น เหตุผลส�ำคัญทีจ่ ะท�ำให้สนิ ค้าผลิตภัณฑ์เครือ่ งจักรอุปกรณ์และ เทคโนโลยีจากประเทศไต้หวันได้เป็นที่ยอมรับ มีการค�ำนึงถึง ความเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมในทุกขัน้ ตอนของการด�ำเนินการ Taiwan Green Industry มีความน่าสนใจและเป็นแบบอย่าง ให้ได้ศึกษาเป็นต้นแบบที่ดี September-October 2017
Scoop
> กองบรรณาธิการ
ศูนย์การวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ (Center for Advanced Analytical Technology)
จากการทีภ่ าครัฐเร่งเดินหน้าผลักดันโครงการพัฒนาระเบียง เศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอซี ี ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 1.5 ล้าน ล้านบาท เพื่อวางรากฐานพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ภายในระยะ เวลา 5 ปี (2560-2564) และการขับเคลื่อนประเทศสู่อุตสาหกรรม 4.0 นั้น ภาคเอกชนถือเป็นตัวแปรส�ำคัญในการสนับสนุนนโยบาย ดังกล่าวของไทย ทั้งทางด้านความรู้ เทคโนโลยี และบุคลากร เพือ่ เป็นการตอบสนองนโยบายดังกล่าว บริษทั ดาว เคมิคอล บริษัทชั้นน�ำด้านวิทยาศาสตร์ของโลก ได้เปิด ศูนย์การวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ (Center for Advanced Analytical Technology) ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จังหวัดระยอง นับเป็นศูนย์ใหม่ล่าสุดของบริษัท ประจ�ำภูมิภาค เอเซียแปซิฟิก มีเครื่องมือและเทคโนโลยีด้านการวิเคราะห์ขั้นสูง ที่ทันสมัยที่สุด พร้อมด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์และนักวิเคราะห์ที่มี ความเชีย่ วชาญสูง โดยมีมลู ค่าเงินลงทุนในการก่อสร้างและพัฒนา เทคโนโลยีรวมทั้งสิ้นมากกว่า 340 ล้านบาท หรือประมาณกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสามารถรับบุคลากรด้านวิเคราะห์และวิจัย ได้ 35 ต�ำแหน่ง September-October 2017
“ศูนย์การวิเคราะห์เพือ่ พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์” นับเป็น 1 ใน 4 ศูนย์ภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งเริ่มด�ำเนินการก่อสร้างมา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกก้าวส�ำคัญของ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ที่จะสามารถรองรับการเติบโตของ ฐานการผลิตในประเทศไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตใหญ่ที่สุด ของดาว ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้านงานวิจัยและพัฒนาที่ต้อง อาศัยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ขนั้ สูง อีกทัง้ ยังท�ำให้ประเทศไทย เป็นทีต่ งั้ ของศูนย์การวิเคราะห์เพือ่ พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ ศูนย์แรกที่มีเทคโนโลยีด้านการวิเคราะห์ที่ทันสมัยที่สุดของดาว ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ ศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ เป็น หน่วยที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง ที่ช่วย ส่ ง เสริ ม โซลู ชั น เพื่ อ การขั บ เคลื่ อ นอุ ต สาหกรรมการผลิ ต ด้ ว ย เทคโนโลยีการวัดค่าและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย และทีมนักวิเคราะห์ทมี่ คี วามเชีย่ วชาญ ศูนย์แห่งนีเ้ ป็นศูนย์วเิ คราะห์ เพื่อสนับสนุนงานด้านการผลิตแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ปฏิบัติการด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เทคโนโลยีสำ� หรับการวิเคราะห์ขั้นสูง ประกอบด้วย 1. การวิเคราะห์สารอินทรีย์ เทคนิค : Gas Chromatography, Liquid Chromatography, Mass Spectrometry ครอบคลุมการวิเคราะห์สารอินทรียท์ มี่ คี วามเข้มข้นสูงจนถึง ต�่ำ (sub-pbb) ทั้งในตัวอย่างของแข็ง ของเหลว และก๊าซ เพื่อระบุ ชนิดของสาร และท�ำวิเคราะห์การหาปริมาณ 2. การวิเคราะห์สารอินทรีย์ และเคมีทั่วไป เทคนิค : Titration, X-ray Fluorescence, Elemental Analysis ระบุและหาปริมาณของธาตุ โดยใช้คุณสมบัติเฉพาะทาง เคมี และการวัดช่วงความเข้มข้นที่กว้าง ทดสอบธาตุได้เกือบทุกตัว ในตารางธาตุ เช่น การวิเคราะห์โลหะในตัวอย่างต่างๆ ในรูปแบบ ของเหลว ของแข็ง ผง สารตกค้าง หรือเจล 3. การวิเคราะห์เชิงแสง เทคนิค : Infrared amd Ultraviolet ศึกษาสารอินทรีย์ในตัวอย่างที่ไม่สามารถระบุชนิดได้ และ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีได้อย่างรวดเร็ว 4. การวิเคราะห์เชิงจุลทรรน์ เทคนิค : Optical Microscope
วิเคราะห์อนุภาค เจล หรือวัสดุทมี่ คี วามละเอียดสูง ด้วยภาพ จากกล้องจุลทรรศน์ สามารถใช้สำ� หรับการศึกษาอนุภาค ฟิลม์ หรือ การแก้ปัญหาทั่วไป 5. การวิเคราะห์เชิงปฏิกิริยาเคมี ประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากปฏิกิริยาทางเคมี รองรับการวิเคราะห์เพือ่ ตอบสนองต่อเหตุฉกุ เฉินภายใน 24 ชัว่ โมง
จิรศักดิ์ สิงห์มณีชัย กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “ศูนย์การวิเคราะห์เพือ่ พัฒนาเทคโนโลยีและ ผลิตภัณฑ์แห่งใหม่นี้ นอกจากจะช่วยรองรับการเติบโตของธุรกิจ ดาวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลกด้วยการสร้างนวัตกรรม เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ และช่วยแก้ปัญหารวมทั้งเพิ่มมูลค่า ให้กับลูกค้าแล้ว ยังเป็นแหล่งถ่ายทอดศาสตร์การวิเคราะห์ทาง วิทยาศาสตร์ขั้นสูงให้กับบุคลากรไทย รวมไปถึงการส่งเสริมให้ อุตสาหกรรมไทยก้าวไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 อีกด้วย” ด้าน เคย์ เบิร์นส ผู้อ�ำนวยการฝ่ายปฏิบัติการด้านการ วิเคราะห์เพือ่ พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ บริษทั ดาว เคมิคอล กล่าวว่า “ศูนย์การวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ ของบริษัท ดาว เคมิคอล แห่งนี้เป็นแห่งแรกของดาวในภูมิภาค
พันธกิจปัจจุบัน
พันธกิจในอนาคต (ปี พ.ศ. 2561-2563)
การวิเคราะห์สารระเหยโดยการแยก
การวิเคราะห์สารตกค้างเพื่อสารปนเปื้อน
การวิเคราะห์กลิ่นและสี
การวิเคราะห์สิ่งปนเปื้อนในเจล
การวิเคราะห์เพื่อหาปริมาณไอออนบวกและลบ
การวิเคราะห์โลหะหนักปริมาณต�่า
การเตรียมตัวอย่างขั้นสูง (การยอยตัวอย่าง)
การให้คำ� ปรึกษา และพัฒนาด้านเทคนิคการวิเคราะห์
การพัฒนาวิธีการและเทคโนโลยีใหม่
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
การทดสอบและตรวจสอบคุณสมบัติการติดไฟ คุณสมบัติเชิงเคมี และคุณสมบัติเชิงอุณหภูมิ
การวิเคราะห์โครงสร้างเพื่อระบุชนิดของสารที่ไม่ระเหย การตรวจสอบพื้นผิวขั้นสูง รวมถึงการวิเคราะห์ เพื่อระบุชนิดของธาตุ
การวัดความร้อน และการวิเคราะห์เชิงอุณหภูมิขั้นสูง ผ่านการสร้างแบบจ�ำลองทางคณิตศาสตร์ส�ำหรับปริมาณ วิเคราะห์ September-October 2017
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย
กลุ่ มบริ ษัท ดาว ประเทศไทย เป็นบริษัท ชั้นน� ำด้าน วิทยาศาสตร์ในประเทศไทย ประกอบไปด้วย กลุ่มบริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย รวมถึงกลุ่มบริษัทร่วมทุน เอสซีจี-ดาว ทั้งนี้ ดาว ประเทศไทย นับเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของดาว ในภูมภิ าคเอเชียแปซิฟกิ และเป็นผูน้ ำ� ในด้านการน�ำเข้าเคมีภณ ั ฑ์ ส�ำหรับภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่หลากหลาย รวมถึง ผลิตภัณฑ์ก�ำจัดแมลงที่ใช้ส�ำหรับภาคการเกษตรและครัวเรือน ซึ่งกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการพัฒนา นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และมุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือ และเครือข่ายเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งต่อธุรกิจและสังคม
ดาว เคมิคอล
บริษัท ดาว เคมิคอล ผสานพลังของวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ เพื่อความก้าวหน้า และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนในโลก รวมทั้งเพื่อมุ่งแก้ปัญหาที่ ท้าทายยิ่งของโลก อาทิ ปัญหาการขาดแคลนอาหารที่สดใหม่ การคมนาคมขนส่งทีย่ งั่ ยืนและปลอดภัย น�ำ้ สะอาด การประหยัด พลังงาน โครงสร้างพื้นฐานที่คงทน และการเพิ่มผลผลิตทางการ เกษตร ทัง้ นี้ ดาว เคมิคอล ในฐานะผูน้ ำ� อุตสาหกรรมและขับเคลือ่ น ตลาดในหลายแขนงรวมกัน ได้นำ� เสนอทั้งผลิตภัณฑ์และโซลูชัน ต่างๆ ทีห่ ลากหลายให้แก่ลกู ค้ามากกว่า 175 ประเทศ โดยเฉพาะ อย่างยิง่ ในธุรกิจทีม่ กี ารเติบโตสูง เช่น ธุรกิจบรรจุภณ ั ฑ์ โครงสร้าง พืน้ ฐาน การคมนาคมขนส่ง สินค้าอุปโภคบริโภค อิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจเกษตร การอ้างอิงถึง “ดาว” หรือ “บริษัท” หมายถึง บริษัท ดาว เคมิคอล และบริษัทในเครืออื่นๆ เว้นแต่ระบุไว้ ชัดเจน
เอเซียแปซิฟิก ที่สามารถประเมินวิเคราะห์อันตรายของ ปฏิกิริยาเคมีที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างครอบคลุม ซึ่งถือเป็น การวิเคราะห์เชิงป้องกัน มีประโยชน์ตอ่ การน�ำไปใช้ออกแบบ การสร้างโรงงาน หรือใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อป้องกัน การระเบิ ด หรื อ อุ บั ติ เ หตุ จ ากปฏิ กิ ริ ย าเคมี เพิ่ ม ความ ปลอดภัยให้กับการปฏิบัติงานและกระบวนการผลิตได้ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” นอกจากนี้ เครื่องมือวิเคราะห์ภายในศูนย์ฯ ยัง สามารถรองรับการวิเคราะห์ทมี่ คี วามซับซ้อน ทัง้ สารเคมี ในระดับความเข้มข้นสูงและต�่ำ ในตัวอย่างทุกสถานะ ไม่ว่าจะเป็นของแข็ง ของเหลว และก๊าซ และยังสามารถ รองรับการวิเคราะห์สารเคมีได้เกือบทัง้ หมดในตารางธาตุ ด้ ว ยระบบอั ต โนมั ติ แ ละอุ ป กรณ์ ท างการวิ เ คราะห์ ที่ หลากหลายในการท�ำงาน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของ นักวิจัยในการสัมผัสกับสารเคมี ช่วยเพิ่มความแม่นย�า ของผลวิเคราะห์ รวมถึงลดเวลาและค่าใช้จา่ ยในการท�ำงาน ศู น ย์ ก ารวิ เ คราะห์ เ พื่ อ พั ฒ นาเทคโนโลยี แ ละ ผลิตภัณฑ์ มุง่ เน้นการพัฒนาในระยะยาวทัง้ ด้านเทคโนโลยี และบุ ค ลากร ด� ำ เนิ น งานด้ ว ยความรั บ ผิ ด ชอบต่ อ สิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน ทางศูนย์ยังมีนโยบาย ในการสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นน�ำต่างๆ อาทิ การจัดการอบรม การศึกษาดูงาน การฝึกงานภายใน ศู น ย์ เพื่ อ เปิ ด โอกาสให้ นิ สิ ต นั ก ศึ ก ษาได้ เรี ย นรู ้ ผ ่ า น ปฏิบตั กิ ารจริง มุง่ เน้นส่งเสริมนิสติ นักศึกษาให้เป็นนักวิจยั ทีม่ ศี กั ยภาพและสร้างผูเ้ ชีย่ วชาญเฉพาะทางในประเทศไทย ให้ เ พิ่ ม มากขึ้ น อั น จะเป็ น ก� ำ ลั ง ส� ำ คั ญ ในการพั ฒ นา อุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 ตามนโยบายของ ภาครัฐต่อไป
เมือ่ วันที่ 22 สิงหาคม 2560 กลุม่ บริษทั ดาว ประเทศไทย ได้ ท�ำพิธเี ปิด “ศูนย์การวิเคราะห์เพือ่ พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์” อย่างเป็นทางการ ณ นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยมีคณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผูน้ ำ� ชุมชน และแขกผูม้ เี กียรติเข้าร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคัง่ อาทิ ั นา ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มงคล พฤกษ์วฒ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม สุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการ จังหวัดระยอง พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาคณะกรรมการ การทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม สภานิตบิ ญ ั ญัตแิ ห่งชาติ และ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ ชุมชนเมือง วิฑูรย์ อยู่ทิม รองผู้ว่าการ นิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จีรศักดิ์ สิงห์มณีชัย กรรมการ ผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เคย์ เบิร์นส ผู้อำ� นวยการฝ่าย ปฏิบัติการด้านการวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ บริษัท ดาว เคมิคอล September-October 2017
Special Area
> สุริยะ มงคลสาธิตพงศ์ (PD Solution Co., Ltd.)
เทคนิคการตรวจวัดวิเคราะห์สภาพหม้อแปลงไฟฟ้า ด้วยวิธี On-line Partial Discharge (PD) แบบไม่ต้องดับไฟขณะทำ�งาน บทความนีจ้ ะกล่าวถึงวิธกี ารตรวจวัดสภาพหม้อแปลงไฟฟ้า ด้วยวิธี On-line PD แบบไม่ดบั ไฟขณะท�ำงาน เพือ่ การบ�ำรุงรักษา เชิงป้องกันส�ำหรับหม้อแปลงฉนวนนาํ้ มันและหม้อแปลงฉนวน แห้ง โดยจะแนะน�ำ sensor ที่ใช้ในการตรวจวัด แสดงตัวอย่าง รูปแบบสัญญาณของแต่ละ sensor และเปรียบเทียบการเลือก ใช้ sensor ให้เหมาะสมกับหม้อแปลงแต่ละชนิด พร้อมทัง้ แสดง ประสบการณ์กรณีศกึ ษาตัวอย่างจากการตรวจวัดจากหม้อแปลง จริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้ความรู้แก่ผู้ใช้งานหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อมีทางเลือกในการบ�ำรุงรักษาต่อไป
1. บทนำ�
ปัจจุบันหม้อแปลงไฟฟ้ามีความส�ำคัญมากในระบบไฟฟ้า หลังการติดตั้งใช้งานไปแล้วจ�ำเป็นต้องมีการบ�ำรุงรักษาเป็นประจ�า ทุกปี ซึ่งการตรวจวัดสภาพทั่วไปจ�ำเป็นต้องดับไฟท�ำงานและ ใช้เวลานานในการตรวจวัด มีค่าใช้จ่ายที่สูง ในบทความนี้จึงเสนอ วิธีการตรวจวัดสภาพของหม้อแปลงไฟฟ้าด้วยวิธี On-line PD โดย ไม่ต้องดับไฟขณะท�ำงาน ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ สะดวก และรวดเร็วในการตรวจสอบสภาพของหม้อแปลงทั้งชนิดฉนวน นํ้ามันและฉนวนแห้ง การเลือกใช้ sensor กับหม้อแปลงแต่ละชนิด ให้เหมาะสมจึงมีความส�ำคัญ และรวมถึงรูปแบบสัญญาณ PD แต่ละชนิดของ sensor การประเมินสภาพหม้อแปลงว่าควรใช้งาน ต่อหรือเปลี่ยนใหม่ ซ่อมแก้ไข ก็มีความส�ำคัญอย่างมาก
2. Sensor ทีใ่ ช้ตรวจวัดสัญญาณ PD แบบต่างๆ
2.1 Acoustic Emission (AE) sensor คือ อุปกรณ์ทใี่ ช้ตรวจจับสัญญาณเสียงของ PD ทีเ่ ดินทางผ่าน ตัวกลางฉนวนนํ้ามันและตัวถังโลหะหม้อแปลง สัญญาณเสียงนี้ สามารถค�ำนวณหาต�ำแหน่ง PD ได้ ความถี่ของ sensor จะอยู่ใน ช่วงประมาณ 30-300 kHz ได้แสดงตามรูปที่ 1
รูปที่ 1 แสดงการติดตั้งและการหาตำ�แหน่งของ AE sensor
2.2 Acoustic Airborne (AA) sensor คื อ อุ ป กรณ์ ที่ ใช้ ตรวจจั บ สั ญ ญาณเสี ย ง ผ่านตัวกลางอากาศที่เกิด จาก PD ภายนอกหม้อแปลง เช่น บริเวณ bushing ขัว้ ต่อ ต่างๆ และผิวของหม้อแปลง รูปที่ 2 แสดงการใช้งาน AA sensor (Dry Type) แสดงตามรูปที่ 2 2.3 High Frequency Current Transformer (HFCT) sensor คือ อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจจับสัญญาณของประจุไฟฟ้าที่เป็น กระแสพัลส์ทเี่ กิดจาก PD ของตัวหม้อแปลง โดยสามารถใช้ sensor นี้ติดตั้งที่สายตัวน�ำหรือสายกราวด์ได้แสดงตามรูปที่ 3
รูปที่ 3 แสดงการติดตั้งของ HFCT sensor
2.4 Transient Earth Voltage (TEV) senor คือ อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจจับ สั ญ ญาณ Electromagnetic Waves ที่เกิดจาก PD ของตัว หม้ อ แปลงมาเหนี่ ย วน� ำ ท� ำ ให้ เกิดกระแสพัลส์วิ่งที่ผิวโลหะของ ตู ้ ค รอบโลหะหม้ อ แปลง โดย sensor จะติดตั้งที่ตู้ครอบโลหะ หม้อแปลง ความถี่ของ sensor ที่ใช้ในการตรวจจับคือ 4 MHz รูปที่ 4 แสดงการติดตั้ง ของ TEV sensor 100 MHz แสดงตามรูปที่ 4 September-October 2017
2.5 UHF sensor คือ อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจจับสัญญาณ Electromagnetic Waves ทีค่ วามถีร่ ะดับสูงมากในช่วงความถีป่ ระมาณ 200-1200 MHz เพือ่ ตรวจจับ PD ที่อยู่ในหม้อแปลง วิธีการติดตั้งส่วนใหญ่จะสอดใส่ sensor เข้าไปในช่องวาล์วปล่อยนํา้ มันด้านล่างของตัวถังหม้อแปลง แสดงตามรูปที่ 5
4.2 สัญญาณ PD ของ AE sensor รูปแบบตัวอย่างสัญญาณ PD ของ AE sensor เทียบกับ ความถี่ระบบ 50 Hz แสดงตามรูปที่ 7
รูปที่ 7 ตัวอย่างสัญญาณ PD ของ AE sensor
รูปที่ 5 แสดงการติดตั้งของ UHF sensor
2.6 Thermal Imager sensor คื อ อุ ป กรณ์ ที่ ใช้ ต รวจจั บ สั ญ ญาณความร้ อ นภายในตั ว หม้อแปลง และ bushing ทีเ่ กิดจาก PD ภายในตัวหม้อแปลง แสดง ตามรูปที่ 6
รูปที่ 6 แสดงการใช้งาน Thermal Imager sensor
4.3 สัญญาณของ HFCT sensor รูปแบบตัวอย่างสัญญาณ PD ของ HFCT sensor เทียบกับ ความถี่ระบบ 50 Hz แสดงตามรูปที่ 8
รูปที่ 8 ตัวอย่างสัญญาณ PD ของ HFCT sensor
4.4 สัญญาณของ TEV sensor รูปแบบตัวอย่างสัญญาณ PD ของ TEV sensor เทียบกับ ความถี่ระบบ 50 Hz แสดงตามรูปที่ 9
3. การเปรียบเทียบความเหมาะสมในการใช้งานำ ของแต่ละ Sensor กับหม้อแปลงแต่ละชนิด
ส�ำหรับ sensor ที่ใช้งานกับหม้อแปลงแต่ละชนิด ขอแนะน�า ดังนี้ Sensor
หม้อแปลง ก�ำลังฉนวน น�้ำมัน
หม้อแปลง จ�ำหน่ายฉนวน น�้ำมัน
หม้อแปลง จ�ำหน่ายฉนวน แห้ง
AA AE HFCT TEV UHF Thermal
++ +++ ++ +++ ++
++ +++ +++ ++ ++
++ +++ +++ + ++
หมายเหตุ : + พอใช้ได้ ++ ดี และ +++ ดีมาก
4. ตัวอย่างรูปคลืน ่ สัญญาณ PD ของแต่ละ Sensor
4.1 สัญญาณ PD ของ AA sensor รูปแบบสัญญาณ PD ของ AA sensor จะเป็นสัญญาณเสียง เหมือนเสียงทอดอาหารในกระทะนํา้ มัน ความแรงของเสียงขึน้ อยูก่ บั สัญญาณ PD และระยะห่างระหว่าง sensor กับจุดที่เกิด PD September-October 2017
รูปที่ 9 ตัวอย่างสัญญาณของ TEV sensor
4.5 สัญญาณ PD ของ UHF sensor รูปแบบตัวอย่างสัญญาณ PD ของ UHF sensor เทียบกับ ความถี่ระบบ 50 Hz แสดงตามรูปที่ 10
รูปที่ 10 ตัวอย่างสัญญาณของ TEV sensor
4.6 Thermal Imager sensor รูปแบบตัวอย่างภาพของ Thermal Imager sensor แสดงตามรูปที่ 11 รูปที่ 11 ตัวอย่างภาพของ Thermal Imager sensor
5. กรณีศก ึ ษาตัวอย่างการวิเคราะห์และประเมินผล
กรณีศึกษาตัวอย่างนี้เป็นการตรวจวัดหม้อแปลงจะหน่าย ฉนวนนํ้ามันแรงดัน 22 kV ที่บริษัทผู้ผลิตแห่งหนึ่งมีการใช้ HFCT sensor ในการตรวจวัด ติดตั้งที่สายตัวน�ำและสายกราวด์ของ หม้อแปลง แสดงดังรูปที่ 12 พบว่ามีเพียง sensor ที่ติดตั้งที่ตัวน�า เท่านั้นที่ตรวจวัดสัญญาณ PD ส่วน sensor ติดตั้งที่สายกราวด์ ไม่พบสัญญาณ PD
ได้มีการแนะน�ำให้ลดกระแสโหลดของหม้อแปลงลูกนี้ให้ มากที่สุด ผลปรากฏว่าค่า PD มีค่าลดลงอย่างมาก แสดงกราฟใน รูปที่ 16 แต่หลังจากนั้นอีกประมาณ 10 วัน ค่า PD ก็กลับมาเพิ่ม ขึน้ อีก แต่กย็ งั สามารถใช้งานต่อไปได้ จนกระทัง่ ถึงวันก�ำหนดแผนที่ จะแก้ไข (ประมาณอีก 3 เดือน) ถึงมีการถอดมาซ่อมและแก้ไข ผลปรากฏว่าหม้อแปลงมีการช�ำรุดและขดลวดไหม้จริง แสดงตาม รูปที่ 17 และ 18
รูปที่ 12 แสดงการติดตั้งของ HFCT sensor ที่สายตัวนำ�และสายกราวด์
รูปที่16 แสดงกราฟผลการตรวจวัดแบบ On-line PD Monitoring System อ่านค่า PD ทุก 6 ชั่วโมง
ส�ำหรับการตรวจวัดในครั้งแรกปี 2015 พบว่าหม้อแปลงยัง สามารถใช้งานต่อไปได้ แต่ในปี 2016 พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของ สัญญาณ PD ที่ผิดปกติ แสดงตามรูปที่ 13 และ 14 ภายในระยะ เวลาไม่กี่เดือน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นและต้องรีบ วางแผนซ่อมโดยด่วน
รูปที่ 17 หม้อแปลงทีชำ ่ �รุดรอการตรวจสอบ
รูปที่ 13 กราฟเปรียบเทียบผลการตรวจวัดปี 2015-2016 รูปที่ 18 หม้อแปลงที่ตรวจสอบแล้วพบขดลวดไหม้
6. สรุป รูปที่14 แสดงสัญญาณ PD ที่เกิดขึ้นในหม้อแปลง ปี 2016
แต่เนื่องจากหม้อแปลงลูกนี้ต้องจ่าย ไฟในส่วนงานที่ส�ำคัญ และไม่มีหม้อแปลง ส�ำรองมาสับเปลี่ยนในขณะนั้น จึงไม่สามารถ ที่ จ ะซ่ อ มได้ ทั น ที จ� ำ เป็ น ต้ อ งติ ด ตั้ ง ระบบ On-line PD Monitoring แสดงตามรูปที่ 15 เพื่อประเมินอย่างใกล้ชิด หากมีค่าเกินกว่า ค่าที่ยอมรับได้บริษัทผู้ผลิตจะท�ำการดับไฟ หม้อแปลงลูกนี้ทันที รูปที่15 แสดงการติดตั้งระบบ On-line PD Monitoring System
เทคนิคการตรวจวัดวิเคราะห์สภาพหม้อแปลงไฟฟ้าด้วย วิธี On-line Partial Discharge แบบไม่ดับไฟท�ำงาน สรุปได้ดังนี้ สามารถตรวจวัดสภาพและป้องกันการระเบิดของหม้อแปลง ได้จริงและท�ำการตรวจวัดได้ตลอดเวลา โดยระบบการผลิต ของโรงงานยังสามารถด�ำเนินการต่อไปได้ การประเมินสภาพหม้อแปลงทีจ ่ ะใช้งานต่อหรือเปลีย่ นใหม่ มีความส�ำคัญอย่างยิง่ เนือ่ งจากหากประเมินผิดพลาดจะมีความ เสียหายมูลค่าที่สูง ดังนั้นผู้ประเมินควรต้องมีประสบการณ์ ระบบ On-line PD Monitoring System จะช่วยท�ำให้การ ประเมิ น มี ค วามแม่ น ย� ำ สู ง และสามารถเฝ้ า ติ ด ตามการ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การตรวจวัดด้วยวิธี On-line Partial Discharge ช่วยลดระยะ เวลาการตรวจสอบ และไม่เสียรายได้จากการผลิตเมือ่ เทียบ กับวิธีตรวจวัดสภาพทั่วไปที่ต้องดับไฟท�ำงาน September-October 2017
Special Area
> บริษัท ออมรอน อีเลคทรอนิคส์ จ�ำกัด
Color Mark Sensors
E3S-DC/ E3NX-CA
New Omron’s Mark Sensor ตอบสนอง ทุกความต้องการในการตรวจจับมาร์ค
“ต้องการความเสถียรในการตรวจจับมาร์ค เมือ่ วัสดุเป็น Aluminum Vapor หรือวัสดุที่มีความมันวาวมาก” มาร์คเซนเซอร์ทวั่ ไป เมือ่ ตรวจจับวัสดุทมี่ คี วามมันวาวมากๆ จะได้รับแสงสะท้อนกลับมามากเกินไป ท�ำให้ค่าระหว่างมาร์คกับ พืน้ หลังมีความแตกต่างกันไม่มากพอ การแก้ปญ ั หาโดยการปรับมุม เซนเซอร์ให้เอียงเพือ่ ลดปริมาณแสงสะท้อนกลับ อาจท�ำให้บางครัง้ ค่าแสงทีส่ ะท้อนกลับมาน้อยเกินไปจนต�ำ่ กว่าค่าตัดสินใจ เซนเซอร์ จึงไม่สามารถแยกแยะได้ระหว่างมาร์คกับพื้นหลัง
Series
Packaging ของสิ น ค้ า ปั จ จุ บั น ถู ก ออกแบบให้ มี ค วาม หลากหลาย เพือ่ ดึงดูดความสนใจจากผูซ้ อื้ วัสดุทนี่ ำ� มาท�ำ Packaging อาจท�ำมาจากวัสดุหลากหลายประเภท บางครัง้ ส่งผลต่อการตรวจจับ มาร์คบน Packaging (ในขั้นตอนการบรรจุผลิตภัณฑ์) ซึ่งมาร์ค เซนเซอร์รุ่นเดิมอาจตรวจจับได้แต่ไม่มีความเสถียร เช่น วัสดุ ที่ท�ำมาจาก Aluminum Vapor จะมีความมันวาวมากขึ้น บางวัสดุ สีของมาร์คกับสีของพื้น (Background) มีความใกล้เคียงกันจนแยก ไม่ออก รวมถึงวัสดุบางตัวอาจมีความสามารถในการสะท้อนแสงไม่ดี เช่น ฟิลม์ ทัง้ หมดนีล้ ว้ นแล้วเป็นสาเหตุทสี่ ง่ ผลกระทบต่อกระบวนการ ผลิตทั้งสิ้น ตอบโจทย์ทุกปัญหาการตรวจจับมาร์คด้วย Color Mark Sensors รุ่นใหม่จากออมรอน
E3S-DC
E3NXCA
ตรวจจับมาร์คได้ทุกประเภท ตรวจจับมาร์คบนพื้นใสได้ดี แยกแยะความแตกต่างของสีได้ละเอียด ตรวจจับคงที่แม้มีการเปลี่ยนแปลง Lot Packaging
September-October 2017
หมดปัญหาการตรวจจับวัสดุทมี่ คี วามมันวาวด้วยฟังก์ชนั่ High Dynamic Range ขยายจุดอิม่ ตัวในการรับแสงเพิม่ ขึน้ และฟังก์ชนั่ ขจัดสัญญาณ รบกวน Smart Noise Technology
“ต้องการตรวจจับ มาร์คให้มีความเสถียร หากสี ข องมาร์ ค และ พื้นหลังใกล้เคียงกัน” ปัจจุบนั Packaging ถู ก ออกแบบให้ มี สี สั น สวยสดใสมากขึ้น สีของ มาร์ ค กั บ สี ข องพื้ น หลั ง บางครั้งมีความแตกต่าง กันได้ไม่มาก ท�ำให้ S/N Ratio* มีค่าน้อย จึงไม่ สามารถตรวจจับมาร์ค ได้ (* S/N Ratio คืออัตราส่วนระหว่างความเข้มของแสงที่มาร์ค กับความเข้มของแสงที่พื้นหลัง เช่น มาร์ควัดความเข้มได้ 1000 พื้นหลังวัดความเข้มได้ 100 อัตราส่วนคือ 10:1 อัตราส่วนนี้หาก มีค่าต่างกันมากหมายถึงการตรวจจับจะมีเสถียรภาพมาก) หมดปัญหาการตรวจจับวัตถุที่สีของมาร์คและสีของพื้นหลัง ใกล้เคียงกัน ด้วยฟังก์ชัน High S/N Ratio System Design ส�ำหรับ ตรวจจับมาร์คกับพื้นหลังที่มีสีใกล้เคียงกันมาก
“ต้อ งการตรวจจับ มาร์คให้มีความเสถียร เมื่อมีการ เปลี่ยนแปลง Lot Packaging” สีของวัสดุทนี่ ำ� มาท�ำ Packaging อาจมีผดิ เพีย้ นไปบ้างเล็กน้อย ถ้าไม่เปลีย่ นแปลงพารามิเตอร์อาจท�ำให้เกิดปัญหาในการตรวจจับ ส่งผลให้เครื่องจักรหยุดท�ำงาน
หมดปัญหาตรวจจับมาร์คไม่ได้ เนื่องจาก Packaging สีผดิ เพีย้ น ด้วยระบบ Visualization Variation System ค่า RGB ของ Packaging ใน แต่ละ Lot จะถูกบันทึกเก็บไว้ในฐานข้อมูล เพื่อ ก�ำหนดค่าตัดสินใจที่เหมาะสมผ่านระบบสื่อสาร I/O link หรือ EtherCAT ท�ำให้เปลี่ยนแปลงค่าตัดสินใจ ได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสม ลดการหยุดท�ำงานของไลน์ การผลิต
เพิ่ม 9 เท่า
เพิ่ม 4 เท่า
ดูข้อมูล เพิ่มเติมได้ที่
http://www.omron-ap.co.th/solutions/ product/colormarksensors/ September-October 2017
< Special Area < บริษัท เอวีร่า จ�ากัด
RAPTION 50
DC Fast Charging Station for Electric Vehicles RAPTION 50 ถูกออกแบบมาเพื่อติดตั้งและใช้งานทั้งในพื้นที่สาธารณะ ศู น ย์ ก ารค้ า สนามบิ น จุ ด พั ก รถ และในส่ ว นของพื้ น ที่ เ อกชน เช่ น บริษทั เอกชนทีม่ รี ถยนต์ไฟฟ้าจ�นวนมาก และในสถานทีท่ รี่ ถยนต์ไฟฟ้าจ�เป็น ต้องมีความต้องการที่จะใช้รถต่อไปในระยะเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง แนวคิดการออกแบบ
อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าของหรือ ผู้ประกอบการที่ให้บริการ Charge Point ซึ่งตัวชาร์จแต่ละเครื่องที่ ให้บริการนั้นจะเป็นการจ่ายไฟแบบไฟฟ้าสลับ (AC Charging) ซึ่งจะ ต้องใช้เวลาในการชาร์จแต่ละครั้งนาน แต่ส�าหรับ RAPTION 50 นั้น มีความรวดเร็วในการชาร์จเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการชาร์จไฟฟ้า แบบกระแสตรง (DC Quick Charging) ท�าให้สามารถชาร์จรถยนต์ ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วแค่ภายใน 15 นาที (ความเร็วในการชาร์จนั้นขึ้น September-October 2017 September - October 2017
อยู่กับกระแส ความดันและความจุของแบตเตอรี่รถยนต์) จึงสามารถ ตอบโจทย์ในเรือ่ งของการชาร์จอย่างรวดเร็วหรือ Fast Charging ท�าให้ ช่วงระยะเวลาการให้บริการนัน้ สัน้ ลง ท�าให้รองรับผูใ้ ช้บริการได้มากขึน้ และคุณสมบัติที่ส�าคัญอีกประการหนึ่งคือ การออกแบบภายนอกที่ได้ รับการเอาใจใส่อย่างพิเศษ ตัวเครื่องมีลักษณะเรียบหรู บางเบา และ ทนทาน ถือได้ว่าเหมาะกับทุกสภาพพื้นที่การใช้งาน ตั้งแต่พื้นที่ในเขต ชุมชนเมืองทีม่ คี วามโก้หรูไปจนถึงสถานประกอบการด้านอุตสาหกรรม
เหตุผลที่ต้องเลือกใช้ RAPTION 50 ส�ำหรับผู้ ใช้งำน (End User) • หน้าจอแบบสัมผัสทีอ่ า่ นได้แม้ในเวลากลางวัน ไม่ใช่มไี ว้เพียง เพื่อแจ้งหรือแสดงค�าแนะน�าการใช้งาน (เช่น แจ้งให้เปลี่ยน ต�าแหน่ง EV ทีไ่ ม่ถกู ต้องเพือ่ เริม่ ชาร์จ) และสถานะปลั๊ก (เช่น อาจมีผใู้ ช้งานคนอืน่ จองไว้แล้ว) เท่านัน้ แต่ผใู้ ช้งานยังสามารถ เลือกภาษาที่ต้องการได้อีกด้วย • มีการติดตั้งไฟแสงสีอ่อนภายในตัวเครื่อง ที่อ�านวยความ สะดวกในการตั้งเครื่องในจุดให้บริการทีม่ ีแสงสว่างน้อย และ ช่วยให้ผใู้ ช้งานสามารถอ่านค�าแนะน�าการใช้งานได้สะดวกขึน้ • ออกแบบมาเพื่อให้ผู้พิการสามารถเข้าถึงการให้บริการได้ เป็นไปตามมาตรฐานสากลเกี่ยวกับความสูงของตัวเชื่อมต่อ หน้าจอแสดงผลที่อ�านวยความสะดวกในการใช้งาน
เหตุผลที่ต้องเลือกใช้ RAPTION 50 ส�ำหรับผู้ประกอบกำร (Owner)
Models Specifications Model AC power supply AC Voltage Power Factor Efficiency Frequency Electrical input protection Overcurrent protections Safety protection Network connection Compliance
Raption 50 Series 3P + N + PE 400 VAC +/- 10% >0.98 95 % at nominal output power 50 / 60 Hz Main breaker disconnection MCB RCD 30mA Type A Ethernet 10/100 BaseTX CE / Combo-2(DIN 70121; ISO15118) EN61851-1; EN61851-23 CHAdeMO certified
• เทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าแบบหน่วยย่อย ท�าให้ระยะเวลา การให้บริการยาวนาน (ลดค่าใช้จ่ายจากสภาวะหยุดการ ท�างานของตัวเครือ่ ง) เนือ่ งจากในกรณีทห่ี วั จ่ายพลังงานหนึง่ เกิดการผิดพลาดหรือไม่สามารถจ่ายไฟได้ แต่หวั จ่ายอืน่ ๆ จะ ยังคงท�าหน้าที่ชาร์จได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด • ประหยัดพลังงาน กินไฟน้อย ท�าให้ค่าใช้จ่ายในการบ�ารุง รักษาต�่า รักษาระดับประสิทธิภาพการท�างานสูง โดยมีระบบ ตัดการจ่ายไฟเมื่อ EV แจ้งเตือนว่าพลังงานไฟฟ้าต�่า • โครงสร้างของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้สามารถปรับ ก�าลังไฟฟ้าได้ (เช่น จาก 25 kW ไปจนถึง 50 kW) ซึง่ สามารถ ตอบสนองกับความต้องการแบตเตอรี่ EV ที่เพิ่มมากขึ้นใน ปัจจุบันและอนาคต • การเชื่อมต่อสายเสียบมีความปลอดภัย ด้วยคุณสมบัติ ของตัวล็อกสายส่งจ่ายพลังงาน และการออกแบบสายเสียบ แบบลอย ซึง่ ช่วยลดความเสีย่ งจากการเสียหายของสายชาร์จ ลดค่าใช้จ่ายในการบ�ารุงรักษา ยืดอายุการท�างานของเครื่อง • ประตูล็อคกุญแจด้านหน้าสองชั้น ช่วยให้สามารถเปิด ดูเพื่อตรวจสอบภายในตัวเครื่องชาร์จได้ง่าย ซึ่งส่งผลให้ ค่ า ใช้ จ ่ า ยในการบ� า รุ ง รั ก ษาลดน้ อ ยลง อั น เนื่ อ งมาจาก การติ ด ตั้ ง และการบริ ก ารซ่ อ มบ� า รุ ง ที่ ร วดเร็ ว ขึ้ น นั่ น เอง นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งเครื่องชาร์จไว้ข้างผนัง เพื่อช่วย ประหยัดพื้นที่ใช้สอยอีกทางหนึ่ง
Enclosure rating Enclosure material Operating temperature Ambient temperature storage Operating humidity RFID system
Display HMI Power limit control DC cable lenght CCS DC cable lenght CHAdeMO AC cable lenght Lights for status indication Interface protocol Dimensions (D x W x H) Cooling system Operational noise level AC Meter
IP54 / IK10 Stainless steel -5 °C to + 45 °C -20 °C to + 60 °C 5 % to 95 % Non-condensing ISO / IEC14443A / B MIFARE Classic / DESFire EV1 ISO 18092 / ECMA-340 NFC 13.56MHz 8" anti vandal touch screen DC & AC by software 3 meters RGB colours indicator OCCP 1.2 / 1.5 / XML 350 x 940 x 1800 mm Air Cooling fans 55 dBA Complies with the EN 50470 (MID European standards) or IEC 62052-11
รับปรึกษาและวางแผนระบบบริหารจัดการพลังงานสอบถามรายละเอียดด้านล่าง อาคารศุภาลัยแกรนด์ ทาวเวอร์ ห้องเลขที่ 02, 03 ชัน้ ที่ 15 เลขที่ 1011 ถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
AVERA Co., Ltd.
Mobile : Tel : Fax : E-mail :
088-001-0416 0-2074-4411 0-2074-4400 sales@avera.co.th
September-October 2017 September - October 2017
Special Area > ชไนเดอร อิเล็คทริค
เทคโนโลยีจัดการพลังงาน... เปลี่ยนอาคารธรรมดาใหเปน
อาคารอัจฉริยะ
‘กุ ญ แจสํ า คั ญ ที่ ทํ า ให อ าคารมี ค วามฉลาดขึ้ น มี 3 สิ่ง เทคโนโลยี ซอฟตแวร และนวัตกรรม’ การพิสจู นวา อาคารนัน้ เปนอัจฉริยะหรือไม สามารถ ดูไดวาอาคารสามารถปรับอุณหภูมิและอากาศหมุนเวียน ในแตละชั่วโมงไดโดยอัตโนมัติตามจํานวนผูใชงาน ไมวา จะเป น ในแต ล ะห อ งหรื อ สํ า หรั บ อาคารทั้ ง หมดก็ ต าม วิธีการนี้จะชวยประหยัดพลังงานได และทําใหทั้งโรงเรียน อาคารสํานักงานและอาคารตางๆ ไมเพียงแตไดรับความ สะดวกสบายมากยิ่ ง ขึ้ น ผลลั พ ธ ต อ มาที่ ไ ด คื อ การลด คาใชจายในการดําเนินการ บางครั้งลดคาใชจายลงไดมาก โดยตามรายงานจากการสํ า รวจผู พั ก อาศั ย ในอาคาร มีความพึงพอใจมากขึ้นถึง 27% จากประสิทธิภาพที่ไดรับ จากการระบายอากาศ การควบคุมความรอน และแสงสวาง ของอาคารที่ ช ว ยให ผู อ าศั ย อยู ใ นอาคารทํ า งานได เ กิ ด ประสิทธิผลยิ่งขึ้น สิ่งที่ทําใหอาคารมีความเปนอัจฉริยะมากขึ้น คือ ระบบจัดการพลังงานสําหรับอาคาร หรือ BEMS (Building energy management systems) โดยสถาบันวิจยั Navigant Research ไดใหนิยามเรื่องดังกลาวไวในรายงานวา “เปน โซลูชันที่ใชฐานไอทีมาขยายความสามารถในเรื่องของ การตรวจจับ (Sensing) การควบคุม รวมถึงฮารดแวร ในระบบอัตโนมัติ (Automation Hardware) มาควบคุม การดําเนินงานของระบบ และ/หรือปรับปรุงงานที่ตอง ทําเองใหดําเนินไปไดในแบบอัตโนมัติ ดวยการนําขอมูล ที่มาจากหลายทางมาชวยในเรื่องดังกลาว”
September-October 2017
p.70-71_Area Schneider.indd 70
9/15/17 4:39 PM
มีการคาดการณถึงตลาดระบบจัดการอาคาร ในสวนของฮารดแวรและซอฟตแวรและการบริการ ทั่วโลกวา จะมีการเติบโตอยางรวดเร็ว จาก 2.7 พันลานในปจจุบัน เปน 12.8 พันลาน ในป 2025 คิดเปนอัตราการเติบโตประจําปที่ 18.2 เปอรเซ็นต โดย Navigant Research กล า วว า รายได ก ว า 90 เปอร เซ็ น ต มาจากการขายซอฟต แวร แ ละ บริการ ซึ่งเปนเหตุเปนผล เนื่องจากกิจกรรมทั้งหมด จะเป น เรื่ อ งของการปรั บ ปรุ ง และอั พ เกรดอาคาร เดิม รวมถึงระบบการจัดการอาคาร ซึ่งถาตัวเซ็นเซอร แอคทูเอเตอร (Actuator) และวาลว ยังคงใชงานไดอยู ก็ไมตองทําอะไรกับมัน แคเปลี่ยนซอฟตแวรอยางเดียว ก็พอ
เมือ่ พูดถึงเทคโนโลยีการบริหารจัดการพลังงานสําหรับอาคาร หรือโซลูชัน BEMS ก็จะมีอยูหลากหลายโซลูชัน แตองคประกอบ ทั่วไปไมทิ้งหางจากสิ่งเหลานี้ การผสานรวมการทํางานผาน BACnet การเก็บขอมูลโดยอาศัยการสื่อสารผานระบบไรสายและ โมบายอินเทอรเน็ต มีซอฟตแวรวิเคราะหที่ทํางานบนคลาวด ที่สามารถเขาถึง ผานเว็บหรืออุปกรณสื่อสารได มีศูนยกลางปฏิบัติการเครือขาย ผูใหบริการรายใหญบางรายมีการนําเสนอโซลูชันครบวงจร ที่สรางขึ้นโดยใชองคประกอบดังกลาวเหลานี้ สวนบางบริษัทที่มี ขนาดเล็กกวา อาจจับมือกับพารทเนอรหรือซัพพลายเออร เพื่อ สร า งโซลู ชั น ครบวงจร หนึ่ ง ในความท า ทายที่ ผู ผ ลิ ต ต อ งพบคื อ ทั้งเทคโนโลยีและกรณีการใชงานที่ตองมีการพัฒนาอยูตลอด การใชงานสิ่งเหลานี้มีอะไรบาง ซึ่งโดยธรรมชาติสิ่งเหลานี้ จะรวมเรือ่ งของการจัดการพลังงานเขามาดวย (ซึง่ ก็คอื ระบบบริหาร จัดการพลังงาน ทีอ่ ยูใ นโซลูชนั การบริหารจัดการพลังงานในอาคาร) การลงทุนดังกลาวแสดงใหเห็นถึงการประหยัดคาใชจายดานระบบ สาธารณูปโภค เปนการวัดที่เห็นไดงายเรื่องประสิทธิภาพที่ดีขึ้น กรณีการใชงานอืน่ ๆ คือการเพิม่ ความคลองตัวในเรือ่ งการซอมและ บํารุงรักษา รวมถึงการปรับปรุงดานการจัดการสินทรัพยไดดขี น้ึ ผลที่ ตามมาคือการลดคาใชจายในการดําเนินการและลดชวงดาวนไทม ลงได ● ●
●
●
นอกจากนี้ อาจมีกรณีการใชงานอืน่ ๆ ได อยางเชน การเนน การใชพื้นที่ใหเกิดประโยชนสูงสุด โดยดูจากขอมูลติดตามเรื่อง พื้นที่วาง เมื่อพบพื้นที่ซึ่งถูกปลอยวางและสามารถนําไปใชใหเกิด ประโยชนได เรื่องนี้จะเปนประโยชนโดยเฉพาะสําหรับพื้นที่ธุรกิจ สํานักงานและหนวยงานรัฐบาล ซึ่งอาจเปนพื้นที่ที่มีราคาแพง แนวโนมสุดทายทีเ่ ปนตัวขับเคลือ่ นนวัตกรรมดานเทคโนโลยี และซอฟตแวร จะเกี่ยวกับเรื่องการมีสวนรวมของผูเชาในอาคาร เนือ่ งจากกลุม Gen M ปจจุบนั เปนกลุม ใหญทสี่ ดุ ในบรรดาคนทํางาน คนเหลานี้รูสึกสะดวกสบายกับการใชสมารทโฟนและแอปพลิเคชัน ทั้งหลายที่เกี่ยวของ คนเหลานี้คาดหวังพฤติกรรมบางอยางจาก ระบบอัตโนมัติ รวมถึงระบบบริหารจัดการพลังงานในอาคาร การจะ ใหความสามารถเหลานี้แกอาคารได ตองมีการเปลี่ยนแปลงในการ จัดการระบบบริหารจัดการอาคารนั่นเอง และทีก่ ลาวมาทัง้ หมด ก็คอื ภาพรวมของระบบบริหารจัดการ พลั ง งานในอาคารในวั น นี้ ซึ่ ง เป น ตลาดที่ มี ก ารขยายตั ว และมี พัฒนาการในเรื่องฟเจอรหลัก รวมถึงปจจัยขับเคลื่อนทั่วไป โดย พื้นฐานแลวอาคารจะมีความเปนอัจฉริยะมากขึ้นตามเหตุและผล ในเชิงเศรษฐกิจ ทัง้ ในแงของการประหยัดเงินและเพิม่ ผลิตผลในการ ทํางาน
September-October 2017
p.70-71_Area Schneider.indd 71
9/15/17 4:39 PM
Special Area
> บริษัท ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) จำ�กัด
ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิตคืออะไร ? ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต (Consumer Unit) เป็นชุดกล่องเหล็กหรือกล่องพลาสติกสำ�หรับ ใส่ฟิวส์หรือเบรกเกอร์ ส่วนใหญ่จะเรียงกันอยู่ในแถวเดียว นิยมใช้เป็นแผงไฟฟ้าสำ�เร็จรูป ตามบ้านหรือสำ�นักงานที่ใช้ ไฟฟ้าระบบ 1 เฟส 220 โวลต์ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 1. แบบปลั๊กอิน (Plug-in type) 2. แบบเดินราง (Din-rail type) Consumer Unit ทัง้ 2 ชนิด จะประกอบไปด้วย เซอร์กติ เบรกเกอร์เมน (Main Circuit Breaker) หรือเรียกสัน้ ๆ ว่าเมนเบรกเกอร์ (2 ขัว้ ) และเซอร์กติ เบรกเกอร์วงจรย่อย (Branch Circuit Breaker) หรือเรียกว่าเบรกเกอร์ย่อย (1 ขั้ว) ที่เสียบต่ออยู่กับบัสบาร์ (Bus bar) มีขั้วต่อสายนิวทรัล และ ขัว้ ต่อสายกราวด์ ขนาดทีน่ ยิ มใช้ทวั่ ไปจะมีจ�ำ นวนเบรกเกอร์ยอ่ ยหรือวงจรย่อยตัง้ แต่ 4-18 วงจร การเลือก Consumer Unit มาใช้งานนั้นให้พิจารณาจากจำ�นวนวงจรย่อยที่ต้องการและ ควรเผื่อไว้ 1-2 วงจรสำ�หรับโหลดในอนาคต การซื้อ Consumer Unit ส่วนใหญ่จะได้รับเพียง กล่องเหล็กเท่านั้น ต้องซื้อเมนและเบรกเกอร์ย่อยแยกต่างหาก เนื่องจากความต้องการใช้เมน และเบรกเกอร์ยอ่ ยของผูใ้ ช้แต่ละรายไม่เหมือนกัน โดยขนาดของเมนเบรกเกอร์สามารถเลือกได้ ตามต้องการเบรกเกอร์ MCB แบบ 2 Pole ที่จะนำ�มาใช้เป็นเมนเบรกเกอร์ ในกรณีของระบบ ไฟฟ้าภายในบ้านพักอาศัยทั่วไปมาตรฐานได้กำ�หนดค่า IC ของเมนเบรกเกอร์ต้องไม่ต่ำ�กว่า 10 kA ซึ่งค่าดังกล่าว คือค่าพิกัดการทนกระแสลัดวงจรสูงสุดของตัวเบรกเกอร์ การติดตัง้ เบรกเกอร์ลงในตู้ Consumer ต้องเปิดฝาครอบออกก่อนแล้วจึงต่อเมนเบรกเกอร์ ลงในช่องด้านซ้ายมือสุดซึง่ สายมีไฟ (สาย line) จะต่ออยูด่ า้ นขวาของเบรกเกอร์ ส่วนสายนิวทรัล จะต่อด้านซ้ายมือของเบรกเกอร์ หากต่อผิดจะทำ�ให้มีไฟฟ้าค้างในวงจร เพราะเบรกเกอร์ จะตัดสายนิวทรัลแทน ซึ่งมีอันตรายมาก อาจสังเกตจุดต่อสายง่ายๆ คือจะมีตัวอักษร L และ N กำ�กับไว้ Consumer Unit (คอนซูมเมอร์ยูนิต หรือตู้คอนซูมเมอร์) คือตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าแบบ Single Phase 220V สามารถจ่ายออกได้ ตั้งแต่ 6, 10, 14, 18 วงจร แล้วแต่ยี่ห้อของผู้ผลิต บางวงจรที่ต้องการป้องกันไฟฟ้าดูดเพิ่มเติมก็สามารถใส่ ELCB (Earth Leakage Circuit Breaker) มาใส่เฉพาะวงจรนั้นๆ เช่น เครื่องทำ�น้ำ�อุ่น ตู้เย็น ส่วนวงจรไฟฟ้าสำ�หรับแสงสว่างอาจไม่จำ�เป็นต้องใช้เบรกเกอร์สำ�หรับกันไฟฟ้าดูด ก็ อ าจจะใส่ MCB ที่ กั น ไฟฟ้ า ลั ด วงจรและกระแสเกิ น ก็ พ อในตู้ ค อนซู ม เมอร์ นี้ ว งจรย่ อ ยแต่ ล ะวงจรจะเป็ น อิ ส ระต่ อ กั น เช่ น ถ้ า ตู้ เ ย็ น มี ไฟฟ้ารั่ว เวลาคนไปสัมผัสที่ตู้เย็น ELCB ก็จะตัดวงจรนั้น ส่วนวงจรอื่นๆ ยังใช้งานได้ปกติ
Miniature Circuit Breakers
เซอร์กิตเบรกเกอร์ (MCBs)
เซอร์กติ เบรกเกอร์เป็นอุปกรณ์ปอ้ งกันทางไฟฟ้าทีท่ �ำ หน้าทีใ่ นการป้องกันการใช้ไฟฟ้าเกินพิกดั (Overload) และกระแสลัดวงจร (Short Circuit) กล่าวคือ เมื่อใดก็ตามที่มีการใช้กระแสไฟฟ้าสูงเกิน กว่าที่สายไฟฟ้าจะทนได้ จนเกิดความร้อนสะสมขึ้น อาจทำ�ความเสียหายต่อสายไฟฟ้าและอุปกรณ์ ไฟฟ้า รวมถึงเมือ่ เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร เซอร์กติ เบรกเกอร์จะทำ�การตัดกระแสไฟฟ้าออกจากระบบ โดยอัตโนมัติ เพือ่ ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายทีอ่ าจนำ�ไปสูก่ ารเกิดอัคคีภยั ในทีส่ ดุ ดังนัน้ การเลือก ใช้เซอร์กติ เบรกเกอร์ตอ้ งคำ�นึงถึงค่าความสามารถในการตัดกระแสไฟ้าลัดวงจรต้องสูงกว่าค่ากระแส ไฟฟ้าลัดวงจรของระบบไฟฟ้าที่ตำ�แหน่งติดตั้ง และค่ากระแสพิกัดจะต้องน้อยกว่าค่ากระแสไฟฟ้า ที่สายไฟจะทนได้ • เซอร์กิตเบรกเกอร์ของ HYUNDAI สามารถตัดวงจรได้ภายใน 4 มิลลิวินาที (0.004 วินาที) • เซอร์กิตเบรกเกอร์ของ HYUNDAI มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน September-October 2017
• การติดตั้งทางไฟฟ้าสำ�หรับประเทศไทย สำ�หรับที่ใช้งานกับบ้านที่อยู่อาศัย และ มาตรฐานทั่วไปตามมาตรฐาน IEC 60898 และสำ�หรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมมาตรฐาน IEC 60947-2 เหมาะสำ�หรับติดตัง้ ในตู้ Consumer Unit หรือการติดตัง้ ในตู้ Panel Board 3 เฟส • เซอร์กิตเบรกเกอร์ของ HYUNDAI สามารถใช้อุปกรณ์เสริม เช่น Auxiliary Contact, Signal Contact, Shunt Trip และ Under Voltage ได้ เป็นต้น Miniature Circuit Breaker : MCB • เป็น CB ขนาดเล็ก ใช้ติดตั้งในแผงจ่ายไฟ (Panelboard) และแผงจ่ายไฟของที่อยู่อาศัย (Consumer Unit) • เพื่อป้องกันวงจรย่อยของระบบไฟฟ้าของบ้าน สำ�นักงานหรืออุตสาหกรรม • MCB สามารถทำ�ตามมาตรฐาน IEC 60898, IEC 60947-2 • IEC 60898 Domestic, Unskilled people • IEC 60947-2 Commercial, Industrial Installations
ทำ�ไมต้องเลือกใช้ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต “Hyundai Brand” • • • • • •
ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต ระบบ Bolt On Busbar Link เป็นทองแดงชุบดีบุก สามารถทนกระแสสูงสุด 160A ตู้ท�ำ จากเหล็กไร้สนิมชุบด้วยไฟฟ้าและพ่นด้วยสีฝุ่น (Epoxy Powder Pain Coating) แท่ง N, G ทำ�จากทองเหลือง หัวต่อเข้าสาย (Connector Kit 1 Ea) มีให้ส�ำ หรับช่วยเข้าสายใหญ่ (Incoming up 95mm2) MCB ได้มาตรฐานทั้งยุโรปและอเมริกา Standard : IEC 60898, IEC 60947-2 Approval : KEMA, TSE CE : Community European : TÜV Rheinlend, GOST-R
ติดต่อ : บริษัท ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) จำ�กัด 22/26 ถ.สุขาภิบาล 2 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250 โทร. 0-2002-4395-97 แฟกซ์ 0-2002-4398 E-mail : info@tdpowertech.com September-October 2017
Special Area
> บริษัท แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จ�ำกัด
สัญญาณเตือน
สิ่งสำ�คัญที่ไม่ควรมองข้าม
ในระบบควบคุ ม อั ต โนมั ติ นั้ น มี หั ว ใจส� ำ คั ญ อยู ่ ที่ ร ะบบ ประมวลและปฏิบตั กิ าร แต่สว่ นประกอบอืน่ ๆ ก็สำ� คัญไม่ยงิ่ หย่อน ไปกว่ากัน เช่น ระบบสัญญาณเตือน เพราะจะเป็นการเตือนถึง อันตรายหรือความผิดปกติที่จะเกิดขึ้นตามมา หากไม่ได้รับการ ตรวจสอบ ซึ่งมีหลากหลายแบบชนิดให้เลือกใช้งาน เช่น
Tower Light หรือ Signal Tower เป็นหลอดไฟ
แสดงสถานะการท�ำงาน รวมไปถึงสัญญาณเตือนที่มีหลายสี ในชุดเดียว มีหลากหลายแบบประเภท และมีคณ ุ ลักษณะจ�ำเป็น ที่ต้องมีดังนี้ เป็นหลอดไฟชนิด LED เนื่องจากช่วยประหยัดพลังงานและ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยมีแรงดันไฟฟ้า 24VAC/DC หรือ 230VAC ให้เลือกเป็นอย่างน้อย September-October 2017
หลอดไฟต้องมีชนิดติดกระพริบและติดค้างได้ เพือ่ เลือกการเตือน หรือแสดงสถานะการท�ำงานได้อย่างเหมาะสม หลอดไฟต้องมีหลายสีให้เลือก เพือ ่ จะได้แสดงสถานะการท�ำงาน ได้หลายแบบ สามารถต่อพ่วงเป็นชั้นๆ ได้เอง เพื่อความสะดวกในการติดตั้ง สามารถใส่สญ ั ญาณชนิดเสียงได้ ซึง่ เสียงต้องเป็นชนิดทีส่ ามารถ ดังค้างหรือดังเป็นจังหวะได้ เสียงเตือนต้องมีความดังไม่นอ ้ ยกว่า 90 dB เพือ่ จะได้ยนิ ถึงอันตราย ที่เกิดขึ้น มีอุปกรณ์เสริมส�ำหรับการติดตั้งหลายชนิด เพื่อให้เหมาะกับ พื้นที่ที่ติดตั้ง ต้องใช้พลังงานน้อย จะท�ำให้สามารถต่อได้กับ PLC ได้โดยตรง สามารถติ ด ตั้ ง ในพื้ น ที่ ก ลางแจ้ ง ได้ โ ดยมี ร ะดั บ ป้ อ งกั น น�้ ำ ฝุ ่ น อย่างน้อย IP66 มีหลากหลายขนาดให้เลือก เช่น 30 มม., 40 มม., 50 มม., 60 มม., 70 มม. มีรุ่นที่สามารถติดผนัง ได้ด้วย (Half dome) ต้องได้รับมาตรฐานสากล เช่น CE, UL
หลอด LED ชั้นสูง
Warning light and alarm เป็นการรวมการเตือนของ
ทัง้ 2 แบบทีผ่ า่ นมาเข้าอยูใ่ นชุดเดียวกัน เพือ่ ประหยัดพืน้ ทีแ่ ละ ง่ายต่อการติดตั้ง แต่ยังคงประสิทธิภาพการท�ำงานได้ดังเดิม เน้นแสงตือน หลอดไฟก็จะมีขนาดใหญ่กว่ำ เน้นเสียงเตือน ล�ำโพงที่ใช้ในการเตือนก็จะมีขนาดใหญ่กว่ำ เน้นทั้ง 2 แบบ แสงและเสียงจะมีขนาดเท่ากัน
Signal light หรือ Warning light เป็นหลอดไฟแสดง
สถานะการท�ำงานหรือเตือน เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้นใน ระบบปฏิบตั งิ านหรือในเครือ่ งจักร เหมาะกับพืน้ ทีท่ มี่ คี นปฏิบตั ิ งานอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ต้องมีหลากหลายรุ่นที่ติดตั้งได้หลายแบบ เช่น ติดผนัง ติดตั้ง หน้าตู้ สามารถติดตั้งกลางแจ้งได้ โดยมีระดับป้องกันน�้ำ ฝุ่น IP66 ต้องมีหลอดไฟให้เลือกหลายแบบ เช่น LED, หลอดไส้ ต้องมีหลายขนาดให้เลือกใช้ หลอดไฟต้องสามารถติดค้างหรือกระพริบได้ในตัวเดียวกัน ต้องได้รับมาตรฐานสากล เช่น CE, UL
Audible หรือที่นิยมเรียกว่า “ไซเรน” หรือ “ฮอร์น” หรือ
“บัสเซอร์” เป็นเสียงเตือนที่มักท�ำงานเมื่อมีความผิดปกติของ ระบบ ซึ่งจะท�ำให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ไกลออกไปสามารถ รับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ และสามารถแก้ไขปัญหาได้ ทันท่วงที ต้องสามารถปรับความดังได้ ต้องสามารถเลือกชนิดของเสียงได้หลากหลายแบบในตัวเดียว สามารถติดตั้งกลางแจ้งได้ โดยมีระดับป้องกันน�้ำ ฝุ่น IP66 เสี ย งเตื อ นต้ อ งสามารถส่ ง เสี ย งไปได้ ไ กล เพื่ อ ให้ เ หมาะกั บ การใช้งาน ต้องได้รับมาตรฐานสากล เช่น CE, UL
Ex-Proof นอกจากการใช้งานทัว่ ไปแล้ว ต้องมีรนุ่ ทีใ่ ช้สำ� หรับ พืน้ ทีท่ มี่ คี วามเสีย่ งต่อการเกิดประกายไฟ อันเป็นเหตุให้มคี วาม เสี่ยงต่อการเกิดระเบิดได้ เช่น ในงานโรงกลั่นน�้ำมัน ซึ่งก็จะมี การเตือนเหมือนการใช้งานทั่วไป แสงเตือน เสียงเตือน แสงและเสียงเตือนในชุดเดียวกัน
โดย Auer Signal ผู้ผลิตอุปกรณ์สัญญาณเตือนคุณภาพ สูง มีอปุ กรณ์ครอบคลุมครบทุกรูปแบบทีก่ ล่าวมา ผลิตจากประเทศ ออสเตรีย ก่อตัง้ มากว่ำ 100 ปี ส่งสินค้าไปทัว่ โลก สินค้าได้ผา่ นการ ทดสอบมาตรฐานสากลมากมาย เช่น UL, ATEX, CE ซึ่งเป็นการ การันตีถึงคุณภาพของสินค้ำ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ บริษัท แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จำ�กัด โทร 02-194-8738-9 แฟกซ์ 02-003-2215 E-mail : info@mit-thailand.com www.mit-thailand.com September-October 2017
Special Area
> บริษัท อะตอม-มิค เพาเวอร์ จ�ำกัด
Accelero - Meter Acoustic-Sensor
light Sensor
Accelero - Meter Acoustic-Sensor
Accelero - Meter Acoustic-Sensor Humidity sensor Humidity sensor
light Sensor
light Sensor
Gyroscope Gyroscope
Gyroscope
MagnetoHumidity Magneto- Pressure Pressure sensormeter meter sensor sensor Magnetometer
Pressure sensor
Temperature Temperature sensor sensor Temperature sensor
Built-in Sensor
XDK110 คืออะไร?
เป็นอุปกรณ์อยู่ในรูปแบบแนวคิด IoT (Internet of Things) โดยสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่าน Bluetooth 4.0 และ Wireless Lan ตามข้อก�ำหนดในการสื่อสารของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของ IEEE802.15.1 และ IEEE802.11 b/g/n ซึ่งมีเซ็นเซอร์ติดตั้งมากับ เครื่อง โดยมีเซ็นเซอร์ 8 รูปแบบ ได้แก่ Accelero-Meter วัดความเร่งในการเอียงเครื่อง ทั้ง 3 ทิศ ส�ำหรับแกน XYZ Acoustic-Senso วัดค่าของเสียง Digital light Sensor วัดค่าความเข้มของแสง Gyroscpoe ตรวจจับลักษณะการหมุนเครือ่ ง 3 ทิศ ส�ำหรับแกน XYZ Humidity วัดค่าความชื้นสัมพัทธ์ Magneto-meter วัดค่าความเข้มสนามแม่เหล็ก Pressure Sensor ตรวจวัดความดัน Temperature Sensor ตรวจวัดอุณหภูมิที่ -20 ºC ถึง 60 °C
โดยผู้ใช้สามารถน�ำเซ็นเซอร์เหล่านี้มาพัฒนาในรูปแบบ ของตนเองได้โดยการเขียนโปรแกรมภาษา C/C++ โดยเขียนผ่าน โปรแกรม “XDK workbench” อาทิเช่น ใช้กับการส่งพัสดุสินค้าใน การดูสภาพแวดล้อมของสินค้าจากการอ่านค่าความชื้น อุณหภูมิ ความดัน ลักษณะการวางของวัตถุขณะขนส่ง หรือสามารถน�ำไป ติดตั้งในห้องที่บ้านเพื่อให้ผู้ใช้รับรู้ค่าเหล่านี้ในบ้าน ใช้ส�ำหรับดูแล บ้านของเรา ให้เราได้อุ่นใจได้มากขึ้น เพราะสามารถเชื่อมต่อกับ อุปกรณ์ได้ตลอดเวลา ทัง้ นีผ้ ใู้ ช้สามารถประยุกต์ใช้งานกับ XDK110 ได้ในหลากหลายรูปแบบ เช่น ที่โรงพยาบาล งานอุตสาหกรรม หุน่ ยนต์ โครงงานส�ำหรับนักศึกษา สถานทีจ่ อดรถ เพราะอุปกรณ์มี ขนาดเล็ก พกพาสะดวก (60 x 40 x 22 mm³) และสามารถรับข้อมูล ได้ RealTime อีกทั้งยังมี Application ที่รองรับได้ทั้งระบบ Android และ iOS
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
บริษัท อะตอม-มิค เพาเวอร์ จ�ำกัด โทร : 0-2503-3535 โทรสาร : 0-2503-3519-20 E-Mail : info@atommicpower.com WebSite : www.atommicpower.com Line : atommicpower Facebook : atommicpower.amp September-October 2017
Exhibition
METALEX 2017 งานแสดงสินค้า สัมมนา
สำ�หรับเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
“แปลก ใหม่ ใหญ่ ครบเครื่อง เรื่องโลหการ”
ภายใต้แนวคิด
บริษทั รีด้ เทรดเด็กซ์ จัดงาน Metalex 2017 งานแสดงสินค้า สัมมนา ส�ำหรับเครือ่ งจักรกลและเทคโนโลยีโลหการ ภายใต้แนวคิด “แปลก ใหม่ ใหญ่ ครบเครื่อง เรื่องโลหการ” โดยได้รวบรวม สินค้าส�ำหรับเครือ่ งจักรกลด้านโลหการในทุกแขนงจาก 50 ประเทศ ทัว่ โลก กว่า 3,300 แบรนด์ชนั้ น�ำมาอยูภ่ ายในงานเดียวกัน บนพืน้ ที่ 64,000 ตารางเมตร เต็มพื้นที่อาคารไบเทคทั้ง 10 ฮอลล์ ระหว่าง วันที่ 22-25 พฤศจิกายน 2560
อาเซียน โดยได้รวบรวมสินค้าส�ำหรับเครื่องจักรกลด้านโลหการใน ทุกแขนงจาก 50 ประเทศทั่วโลก กว่า 3,300 แบรนด์ชั้นน�ำมาอยู่ ภายในงานเดียวกัน บนพื้นที่ 64,000 ตารางเมตร เต็มพื้นที่อาคาร ไบเทคทั้ง 10 ฮอลล์ นอกจากนี้ยังมีการจัดหัวข้อสัมมนาก้าวล�้ ำน�ำเทรนด์จาก เจ้าของเทคโนโลยีในแต่ละแบรนด์ครบทุกโลหการที่น่าสนใจจาก ผู้ประกอบการทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศ ร่วมถ่ายทอด องค์ความรู้และประสบการณ์ตรงในการด�ำเนินธุรกิจผลิตโลหการ ตอบสนองผู้ประกอบการส�ำหรับน�ำไปใช้งานในแต่ละแขนงธุรกิจ ได้อย่างเหมาะสม เช่น เครือ่ งมือวัดทีเ่ ร็วทีส่ ดุ ในโลก Robot หุน่ ยนต์ แขนกลที่น�ำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมขนาดต่างๆ ยานยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอากาศยาน เครื่องปรับอากาศและท�ำความเย็น เครื่อง พับโลหะแผ่นที่มีความซับซ้อนสูง เครื่องพิมพ์ชิ้นงานโลหะ 3 มิติ เป็นต้น วันละ 5 หัวข้อในทุกวันของการจัดงานระหว่างวันที่ 22-25 พฤศจิกายน 2560 บริเวณเวทีกลาง ฮอลล์ 106
ไฮไลต์ของการจัดงาน Metalex 2017 ศิริรัตน์ สังข์วิชัย
ศิรริ ตั น์ สังข์วชิ ยั ผูอ้ ำ� นวยการโครงการ บริษทั รีด้ เทรดเด็กซ์ จ�ำกัด กล่าวว่า จากความส�ำเร็จในการจัดงาน The Grand Metalex 2016 ในปีที่ผ่านมา ด้วยยอดผู้เข้าชมงาน 90,516 คน แบ่งเป็น คนไทย 90 เปอร์เซ็นต์ และคนต่างชาติ 10 เปอร์เซ็นต์ ท�ำให้คณะ ผู้จัดงานของบริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการ ตระเตรียมงานส�ำหรับจัดงาน Metalex 2017 งานแสดงสินค้า สัมมนา ส�ำหรับเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีโลหการในปีนี้ โดยยึดแนวคิด การจัดงาน “แปลก ใหม่ ใหญ่ ครบเครื่อง เรื่องโลหการ” จาก ปี 2559 ที่ผ่านมา เพื่อต่อยอดการแสดงเครื่องจักรกลด้านโลหการ ในทุกมิติที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมโลหการในประเทศไทยและ
ส�ำหรับไฮไลต์ของการจัดงาน Metalex 2017 ในปีนี้ทาง คณะผู้จัดงานได้แบ่งโซนพื้นที่การจัดงานรองรับในทุกๆ มิติของ เครื่องจักร ทั้งตัด เจาะ กลึง พับ เชื่อม ตรวจวัด ที่มีประสิทธิภาพ ในการท�ำงานทีเ่ ร็วทีส่ ดุ แม่นย�ำทีส่ ดุ ในแต่ละบูทจัดแสดงสินค้าของ ผู้ประกอบการ ให้ผู้เข้าชมงานได้รับความสะดวกในการเลือกชม สินค้าแบ่งตามโซนสินค้าทีส่ นใจ ประกอบไปด้วย บริเวณฮอลล์ 106 จะเป็นพื้นที่หลักและเวทีหลักของการจัดงาน มีไฮไลต์หลักที่สำ� คัญ คือ จะเป็นการน�ำ Super Robot หุ่นยนต์แขนกลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ใช้งานจริงในอุตสาหกรรม สามารถยกรถได้ทั้งคัน ยกจากพื้น สูงขึ้นไปได้ 8 เมตร ท�ำงานได้ 360 องศา ยกชิ้นงานในมุมต่างๆ ของการผลิตได้อย่างครบวงจรน�ำมาจัดแสดง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ ส�ำหรับให้ผปู้ ระกอบการทีป่ ระกอบธุรกิจด้าน Factory Automation, Pumps & Valves Equipment, Accessories, Robot Welding, September-October 2017
Machine Tool, Sheet Metalex, Wire & Tube และ Metrology, Tools & Tooling น�ำสินค้าและเทคโนโลยีมาร่วมออกบูทในบริเวณนี้ นอกจากนี้แล้วบริเวณฮอล์ 106 จะเป็นเวทีสัมมนา Metalex Talk ที่จะน�ำเสนอมุมมองของผู้ประกอบการที่ท�ำธุรกิจในแบรนด์ชั้นน�า มาถ่ายทอดประสบการณ์แก่ผู้เข้าชมงานที่สนใจ เป็นต้น นอกจากนี้ พืน้ ทีฮ่ อลล์อนื่ ๆ จะเป็นการน�ำสินค้าและนวัตกรรม ก้าวล�้ำตอบโจทย์ทั้งเทรนด์ Thailand 4.0 และ Industry 4.0 ของ ผู้ประกอบการที่น�ำสินค้าและนวัตกรรมเข้าร่วมออกบูทภายในงาน ซึง่ ตอนนีม้ ปี ระมาณ 100 สินค้าจากกว่า 1,000 สินค้า และนวัตกรรม ที่ผู้ประกอบการทยอยส่งรายชื่อเข้ามาเพื่อให้คณะท�ำงานคัดเลือก แล้วท�ำการประชาสัมพันธ์ให้ผเู้ ข้าร่วมงานรับทราบเพือ่ เป็นแนวทาง ในการเลือกชมบูทแสดงสินค้าภายในงานมีความสะดวกและคล่องตัว สนใจสินค้าและบริการของผูป้ ระกอบการรายใดจะได้ไม่พลาดการชม บริเวณฮอลล์ 105 จะเป็นฮอลล์แสดงสินค้าและนวัตกรรมของ ผู้ประกอบการในส่วนของ Factory Automation, Pumps & Valves Equipment, Accessories, Internationl Pavilon และ Factory Automation ต่อมาเป็นพืน้ ทีฮ่ อลล์ตงั้ แต่ 101-104 จะเป็นพืน้ ทีแ่ สดง สินค้าและนวัตกรรมของผู้ประกอบการในส่วนของ Machine Tools ในส่วนบริเวณฮอลล์ 100 จะเป็นฮอลล์แสดงสินค้าและนวัตกรรมของ ผู้ประกอบการในส่วนของ Factory Automation, Pumps & Valves Equipment, Accessories, Robot Welding และ Sheet Metalex, Wire & Tube บริเวณฮอลล์ 99 จะเป็นฮอลล์จัดแสดงสินค้าและ นวัตกรรมของ International Pavilion จากต่างประเทศที่ทางคณะ ผู้จัดงานได้ไปโรดโชว์ให้ผู้ประกอบการในประเทศนั้นน�ำสินค้าและ นวัตกรรมด้านโลหการเข้ามาร่วมออกบูทภายในงาน เช่น ประเทศ จีน เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และ เชคโกสโลวาเกีย เป็นต้น และฮอลล์ 98 เป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้า และนวัตกรรม Metrology, Tools & Tooling
การอำ�นวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมงาน
เพือ่ ให้การเข้าชมงาน Metalex 2017 มีความคล่องตัวในทุกๆ ด้าน ทางคณะผู้จัดงานได้อ�ำนวยความสะดวกในการเพิ่มที่จอดรถ จ�ำนวนมากขึ้น เนื่องจากในการจัดงานครั้งนี้ทางไบเทคเปิดพื้นที่ พร้อมทัง้ 100 เปอร์เซ็นต์ มีทจี่ อดรถทัง้ ในอาคารและพืน้ ทีน่ อกอาคาร September-October 2017
ไม่น้อยกว่า 7,000-9,000 คัน มีพื้นที่ตรงข้ามไบเทคที่เป็นบริเวณ บางกอกมอลล์ และพื้นที่บริเวณอิเกียอีกกว่า 1,000 คันรองรับ เพิม่ เติม โดยจะมีรถตูบ้ ริการรับส่งผูจ้ อดรถในพืน้ ทีน่ อกอาคารและ พืน้ ทีเ่ พิม่ เติมนอกไบเทคทุกๆ 9 นาที แต่อยากแนะน�ำให้ผเู้ ข้าชมงาน เดินทางมาด้วยรถสาธารณะจะสะดวกกว่า ทั้งทาง BTS ลงที่สถานี บางนาแล้วเดินเข้ามาชมงานเพียง 200 เมตร รถประจ�ำทาง เป็นต้น นอกจากนี้แล้วทางคณะผู้จัดงานได้เปิดให้ผู้เข้าชมงานลงทะเบียน ล่วงหน้าในการเข้าชมงานเพือ่ ความสะดวกรวดเร็ว ไม่ตอ้ งมารอคิว ในการลงทะเบียนบริเวณหน้างานได้แล้วในขณะนี้ ผ่านช่องทาง โซเชียล ประกอบไปด้วย E-mail : metalex@reedtradex.com Line : @metalexexpo www.facebook/metalexpage หรือติดต่อ เจ้าหน้าทีท่ างโทรศัพท์เพือ่ ลงทะเบียนล่วงหน้าได้ทเ่ี บอร์ 02-686-7299 และสามารถเข้าไปชมอัพเดตความเคลือ่ นไหวการเตรียมการจัดงาน Metalex 2017 ได้ตลอดเวลาที่ www.metalex.co.th ส�ำหรับในส่วน ของการอ�ำนวยความสะดวกเรื่องสถาบันการเงินที่จะมีบริการให้ แก่ผู้ซื้อภายในงานในขณะนี้มีการเจรจาอยู่ประมาณ 7 สถาบัน การเงินด้วยกัน
ความคาดหวังของการจัดงาน Metalex 2017
การประสบความส�ำเร็จในการจัดงาน The Grand Metalex 2016 ในปีที่ผ่านมา ท�ำให้การจัดงาน Metalex 2017 ในปีนี้คณะ ผูจ้ ดั งานมีการตระเตรียมงานหนักขึน้ น�ำเสนอสินค้าและนวัตกรรม ให้ ดี ยิ่ ง ๆ ขึ้ น จากปี ที่ ผ ่ า นมา ทั้ ง การไปโรดโชว์ ก ารจั ด งานให้ ผู้ประกอบการในต่างประเทศและผู้ประกอบการภายในประเทศ เชิญชวนผูป้ ระกอบการทีย่ งั ไม่เคยเข้ามาร่วมน�ำสินค้าและบริการเข้ามา ร่วมจัดแสดงภายในงาน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมชมงานทั้งผู้ประกอบการ อุตสาหกรรม ประชาชนทั่วไปและนิสิตนักศึกษาได้เห็นสินค้าและ นวัตกรรมจากผู้ประกอบการที่น�ำมาจัดภายในงานอย่างใกล้ชิด ให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าและนวัตกรรมด้านโลหการได้มีโอกาส ได้พดู คุยเจรจาธุรกิจภายในงานนี้ เบือ้ งต้นคาดว่าจะมีผเู้ ข้าร่วมงาน ไม่น้อยกว่า 100,000 คน มีการสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท September-October 2017
Exhibition
บริษัท แวลูเอชั่น เอ็นจิเนียริ่ง จำ�กัด ในงาน THAILAND LIGHTING FAIR 2017 สัมฤทธิ์ ทองรุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แวลูเอชัน่ เอ็นจิเนียริง่ จ�ำกัด ได้ให้สมั ภาษณ์ เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท และแนวโน้มการ เติบโตของบริษัท
Q : ขอทราบภาพรวมผลิตภัณฑ์
ของบริษัทฯ ทางบริ ษั ท เป็ น ผู ้ น� ำ ของผลิ ต ภั ณ ฑ์ ด้านการประหยัดพลังงาน โดยผลิตภัณฑ์ของ บริษทั แวลูเอชัน่ เอ็นจิเนียริง่ จ�ำกัด นัน้ เป็นสินค้า Industrial Grade มีประสิทธิภาพสูง อายุการใช้งานนาน พร้อมทั้ง มีบริการติดตั้งและบ�ำรุงรักษาตลอดอายุการรับประกันอีกด้วย
Q : ขอทราบเกี่ยวกับการวิจยั ออกแบบและพัฒนา
เทคโนโลยีเพื่อการประหยัดพลังงาน (Energy Saving) ของบริษัทฯ September-October 2017
ทีมออกแบบและวิจัยของบริษัทฯ นั้นได้ศึกษาเทคโนโลยี จากหลายๆ ประเทศทั่วโลก โดยน�ำวัสดุตั้งต้น (Raw Material) น�ำมาวิจัย ทดสอบ และประกอบเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ใน ราคาที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น หลอดไฟแอลอีดีที่ผลิตโดยบริษัทฯ มีประสิทธิภาพความส่องสว่างได้ถึง 150 lm/Watt และที่ส�ำคัญคือ ท� ำ ให้ เ กิ ด การสู ญ เสี ย พลั ง งาน น้อยลง แต่ได้ประสิทธิภาพการ ส่องสว่างเท่าเดิม
Q : ปัจจุบนั ผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์ แอลอีดี ของบริษทั
มีการพัฒนาเป็นรุน่ ใดบ้างและรองรับการใช้งานด้านใดบ้าง ส�ำหรับผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์ แอลอีดี ของบริษัทนั้น กลุ่ม ลูกค้าหลักๆ ของเราจากเดิมเป็นกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม เพราะ ลูกค้ากลุ่มนี้มีการใช้พลังงานค่อนข้างสูง และชั่วโมงการใช้งานมาก ซึ่งเหมาะกับสินค้าของเราที่ช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงาน แต่ ในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ขยายตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มลูกค้า ผู้บริโภคทั่วไป (Consumer) โดยได้ปรับขยายรุ่นของสินค้ากับราคา ให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ใช้งานที่ต่างกัน
Q : ตลาดประเทศไทยมีความต้องการผลิตภัณฑ์
โซลาร์เซลล์ แอลอีดี อย่างไรบ้าง ทัง้ ในภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ และผู้ใช้งานตามบ้าน สามารถกล่าวได้ว่า ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า เป็นค่าใช้จ่ายหลักในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ หรือแม้กระทัง่ ผูใ้ ช้งานตามทีพ่ กั อาศัย และเป็นค่าใช้จา่ ย ทีต่ อ้ งจ่ายในทุกๆ เดือน ท�ำให้ปจั จุบนั ทุกภาคส่วนต่างให้ความส�ำคัญ ในการหาวิธีลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ ซึ่งทางแวลูเอชั่น เอ็นจิเนียริ่ง นั้น เป็นผูน้ ำ� และให้ความส�ำคัญในด้านผลิตภัณฑ์ทชี่ ว่ ยประหยัดพลังงาน อยู่แล้ว สินค้าโซลาร์เซลล์ และแอลอีดี ของเราจึงเป็นสินค้าที่ ตอบโจทย์และแก้ปัญหาได้
Q:
ขอทราบตัวอย่าง โครงการความสำ�เร็จ ในการติดตั้งผลิตภัณฑ์/ โซลูช่น ั โซลาร์เซลล์ แอลอีดี ของบริษัทฯ และช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ได้ในด้าน การประหยัดพลังงานของโครงการนั้นๆ เป็นอย่างไรบ้าง ลูกค้าในภาคส่วนอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจของเรา เช่น กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทย บริดจสโตนกรุ๊ปในประเทศไทย กลุ่มบริษัทอาปิโก และบริษัท คอบร้า อินเตอร์เนชั่นแนล จ�ำกัด
Q : ในมุมมองของแวลูเอชั่น มีความเห็นว่า ปัจจัยใด
ที่ช่วยสนับสนุนความต้องการของตลาดต่อผลิตภัณฑ์ โซลาร์เซลล์ แอลอีดี ปัจจัยส�ำคัญที่จะช่วยสนับสนุนความต้องการของตลาดต่อ ผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์และแอลอีดี หรือในด้านการประหยัดพลังงาน
คือการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยภาครัฐต้องเป็นแรงกระตุ้นและ ผลักดันให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความส�ำคัญและประโยชน์ที่ แต่ละคนจะได้รับในการเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน รวมทั้งจัดตั้งโครงการต่างๆ เพื่อเป็นแรงจูงใจ เช่น ให้เงินสนับสนุน ลดหย่อนภาษี หรืออื่นๆ ส�ำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงจัดให้ มีกฎหมายบังคับใช้ เพื่อก�ำหนดระยะเวลาในการด�ำเนินโครงการ ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว
Q : ผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์ แอลอีดี
ช่วยส่งเสริมความเป็น Smart Home หรือ Smart City ได้อย่างไรบ้าง บ้านอัจฉริยะ และเมืองอัจฉริยะ (Smart Home & Smart City) เป็นเทรนด์ ทีก่ ำ� ลังเป็นทีน่ า่ สนใจในขณะนี้ ซึง่ ในส่วนของ ผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์และแอลอีดี ก็ถือเป็น พาร์ทหลักๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดบ้านอัจฉริยะ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ทชี่ ว่ ยในเรือ่ งประหยัดพลังงาน และเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น ดังตัวอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ คือหลอดไฟแอลอีดีที่ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟทั่วไป แต่ให้ ประสิทธิภาพความสว่างสูง และในปัจจุบันก็สามารถหาได้ในราคา ย่อมเยา สามารถเพิ่มจ�ำนวนการติดตั้งในท้องที่ต่างๆ ที่มีโอกาส เกิดอาชญากรรมและถือเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สัญจร และพักอาศัยในท้องที่นั้นๆ และในส่วนของโซลาร์เซลล์ทเี่ ป็นพลังงานทางเลือกอีกแขนง หนึ่ง ที่ท�ำให้ผู้ใช้งานสามารถผลิตไฟฟ้าได้ด้วยตนเอง และด้วย เทคโนโลยีในปัจจุบันท�ำให้สามารถเชื่อมต่อการใช้งานได้ทั้งระบบ โดยเพิ่มความสะดวกสบายในการควบคุมทั้งจากระยะใกล้และ ระยะไกล หรือสามารถควบคุมเชื่อมต่อด้วยกันได้ทั้งเมือง ซึ่งเป็น การผนวกแนวคิดบ้านแบบอัจฉริยะ (Smart Home) ร่วมกับบ้าน ประหยัดพลังงาน อันน�ำไปสู่เมืองอัจฉริยะได้
Q : ในงาน Thailand Lighting Fair 2017 ผูเ้ ข้าชมงาน
หรือผู้ประกอบการจะได้สม ั ผัสกับผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์ แอลอีดีของแวลูเอชั่นเพื่อต่อยอดธุรกิจได้อย่างไรบ้าง ผลิตภัณฑ์ที่ทางแวลูเอชั่น เอ็นจิเนียริ่ง จะน�ำเข้าไปแสดง ในงาน Thailand Lighting Fair 2017 เป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ของ ทางบริษัท อย่างหลอด LED โดยเราจะแสดงรุ่นที่ให้ประสิทธิภาพ ความสว่างสูงถึง 165 lm/watt และนอกจากนั้น ในส่วนระบบ โซลาร์เซลล์ เราจะจัดกลุม่ สินค้า แพ็คเกจพิเศษส�ำหรับบ้านพักอาศัย เป็นราคาที่จับต้องได้และมีคุณภาพ พบกับบริษทั แวลูเอชัน่ เอ็นจิเนียริง่ จ�ำกัด และผลิตภัณฑ์ ไฟฟ้าแสงสว่างเพื่อการประหยัดพลังงานได้ ในงาน Thailand Lighting Fair 2017 ซึง่ จะจัดขึน้ ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2560 ณ ฮอลล์ 10-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนำ September-October 2017
Scoop
> กองบรรณาธิการ
Emerson ...
ท้าทายความยาก ในอุตสาหกรรม ด้วยระบบ
คอมเพรสเซอร์ คอนเดนเซอร์
อิเมอร์สัน เป็นบริษัทชั้นน�ำของโลกที่ผสมผสานเทคโนโลยี และระบบวิศวกรรม เพือ่ น�ำเสนอระบบและนวัตกรรมส�ำหรับลูกค้ำ ในภาคอุตสาหกรรม การพาณิชย์ และกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลก โดย ธุรกิจโซลูชั่นระบบอัตโนมัติของอิเมอร์สัน (Emerson Automation Solutions) ช่วยในส่วนของกระบวนการ ระบบไฮบริด และผูผ้ ลิตราย ย่อย ในการเพิม่ การผลิต ปกป้องบุคลากรและสิง่ แวดล้อมในขณะที่ September-October 2017
เพิ่ ม ประสิ ท ธิ ภ าพด้ า นพลั ง งาน และค่าใช้จา่ ยในการด�ำเนินงาน ส่วน อิ เ มอร์ สั น คอมเมอร์ เชี ย ล แอนด์ เรซิเดนเชียล โซลูชนั่ (Emerson Commercial and Residential Solutions) ช่วยให้เกิด ความสบายต่อสุขภาพของมนุษย์ ปกป้อง คุ ณ ภาพและความปลอดภั ย ของ อาหาร เพิ่มการใช้พลังงานอย่าง มีประสิทธิภาพ และสร้างโครงสร้าง พื้ น ฐานอย่ า งยั่ ง ยื น อิ เ มอร์ สั น มี ส� ำ นั ก งานใหญ่ อ ยู ่ ที่ เซนต์ ห ลุ ย ส์ มลรัฐมิสซูรี่ ประเทศสหรัฐอเมริกำ อิเมอร์สัน คอมเมอร์เชียล แอนด์ เรซิ เ ดนเชี ย ล โซลู ชั่ น หนึ่ ง ในกลุ ่ ม ธุ ร กิ จ อิเมอร์สนั (NYSE: EMR) เป็นผูใ้ ห้บริการระบบเครือ่ งปรับอากาศ ระบบ ท�ำความเย็น ระบบระบายความร้อน และระบบอากาศส�ำหรับทีพ่ กั อาศัย อุตสาหกรรม และการพาณิชย์ชนั้ น�ำของโลก โดยผสมผสาน เทคโนโลยี เข้ า กั บ ความสามารถด้ า นวิ ศ วกรรม การออกแบบ การจัดจ�ำหน่าย การติดตั้ง และการตรวจสอบ เพื่อน�ำเสนอระบบ ควบคุมอุณภูมิและความชื้นแบบบูรณาการที่สามารถตอบสนอง ความต้องการเฉพาะของลูกค้าทั่วโลก โดยโซลูชั่นของอิเมอร์สัน คอมเมอร์เชียล แอนด์ เรซิเดนเชียล โซลูชั่น ประกอบด้วยแบรนด์ ชัน้ น�ำ อาทิ โคปแลนด์สโครล (Copeland Scroll) ทีไ่ ด้รบั การออกแบบ มาเพื่อช่วยเพิ่มความสบายให้แก่ผู้ใช้ ช่วยถนอมอาหาร และยัง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ธอมัส ซอฟกี้
อิเมอร์สัน คอมเมอร์เชียล แอนด์ เรซิเดนเชียล โซลูชั่น ได้เข้ามาด�ำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตั้งโรงงานที่ จังหวัดระยอง ด�ำเนินการผลิตสโครลคอมเพรสเซอร์คณ ุ ภาพสูงเพือ่ การส่งออกให้แก่ลูกค้าในเอเชีย ยุโรป อเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และผลิตมามากกว่า 80 ล้านลูก ทัง้ นี้ อิเมอร์สนั ยึดมัน่ ทีจ่ ะเป็นผูน้ ำ� ทางด้านระบบความร้อน ความเย็น ปรับอากาศและตูแ้ ช่เย็น (HVACR) พร้อมทัง้ มอบผลิตภัณฑ์ และระบบโซลูชั่นคุณภาพสูงในตลาดโลก กระตุ้นเศรษฐกิจ ของอุตสาหกรรมสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เช่นเดียวกันกับการให้ความส�ำคัญของชีวิตและสังคม ธอมัส ซอฟกี้ รองประธานฝ่ายปฏิบตั กิ ารภาคพืน้ เอเชีย อิเมอร์สนั คอมเมอเชียล แอนด์ เรซิเดนเชียล โซลูชั่น กล่าวว่า “อิเมอร์สันมีความยินดีอย่างยิ่ง ส�ำหรับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับประเทศไทยมาอย่าง ยาวนานกว่า 20 ปี ที่ผ่านมาได้นำ� เสนอนวัตกรรมและ โซลูชั่นที่เชื่อถือได้ในการสร้างมูลค่าแก่ลูกค้าและหุ้นส่วน ของเรา เทคโนโลยีของอิเมอร์สันช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ สามารถควบคุมได้และมอบความสะดวกสบายในสถานที่ท�ำงาน ต่างๆ ด้วยพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบความร้อน การระบาย อากาศ เครื่องปรับอากาศและระบบท�ำความเย็นที่มีคุณภาพสูง (HVACR) เพือ่ การพาณิชย์และทีอ่ ยูอ่ าศัย จุดมุง่ หมายของเราคือการ แก้ไขและท้าทายความยากในอุตสาหกรรมด้วยระบบคอมเพรสเซอร์ คอนเดนเซอร์ การแลกเปลี่ยนความร้อนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับการเพิ่มปริมาณก๊าซทั้งหมดด้วย เทคโนโลยี ค อมเพรสเซอร์ ที่ ช ่ ว ยยื ด อายุ การใช้งาน มีความน่าเชื่อถือสูงขึ้น และ ประสิ ท ธิ ภ าพของ ชิ้นส่วนต่างๆ ที่ดี ขึ้น”
“ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมของอิเมอร์สัน ทางบริษัทฯ ได้ยึดมั่นและให้ความส�ำคัญด้านคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย ของผู้คนในที่ท�ำงานและที่อยู่อาศัย เราสร้างสภาพแวดล้อมการ ท�ำงานที่ปลอดภัยส�ำหรับพนักงานตามกฎความปลอดภัยระดับ โลก มาตรฐานสุขภาพ รวมถึงการติดตามและการตรวจสอบต่างๆ” ธอมัส กล่าวเพิ่มเติม นอกจากนั้ น สนั บ สนุ น ชุ ม ชนด้ ว ยการพั ฒ นาชี วิ ต ความ เป็นอยู่ สนับสนุนและสร้างสรรค์ให้ชุมชนเป็นสถานที่ๆ น่าท�ำงาน และน่าอยู่เช่นเดียวกัน “ตลอดเวลาที่ผ่านมา อิเมอร์สันได้ท�ำงานอย่างใกล้ชิดกับ ภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดระยอง โดยเฉพาะอย่างยิง่ บริเวณ พืน้ ทีป่ ลวกแดง มีการพัฒนาคุณภาพชีวติ และ ความเป็นอยู่ อาทิ การศึกษาโดยมีอาสาสมัคร ไปช่วยสอนและท�ำโปรเจกต์ในโรงเรียน ต่ า งๆ การให้ บ ริ ก ารด้ า นสุ ข ภาพ การบริจาคและช่วยเหลือสร้างบ้าน ศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงการเป็น เจ้าภาพจัดทริปไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ต่างๆ” ส�ำหรับการย่างเข้ำ สู ่ ป ี ที่ 21 อิ เ มอร์ สั น คอมเมอร์เชียล แอนด์ เรซิเดนเชียล โซลูชน่ั จะพัฒนาธุรกิจใน ประเทศไทยไปอีกขัน้ ด้ ว ยการวางแผนการ พั ฒ นาเศรษฐกิ จ และ ระบบอุตสาหกรรมของไทย ภายในเขตพืน้ ทีเ่ ศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ร่วมไปกับ การขานรับนโยบายประเทศไทย 4.0 โดย ธอมัส กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราได้เริ่มลงทุนในด้านการน�า เอาหุน่ ยนต์เฉพาะด้านมาใช้ในการท�ำงานร่วมกับโปรแกรมประยุกต์ ที่มี การประมวลผลธุรกรรม การจัดการข้อมูล รวมถึงการสื่อสาร กับระบบดิจิทัลอื่นๆ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อจะน�ำมาปรับใช้ในการ เพิ่มจ�ำนวนและเสริมสร้างอัตราการผลิตของเรา” ปัจจุบันอิเมอร์สันมีโรงงานกว่า 10 แห่ง และศูนย์ให้บริการ ด้านการขายอีก 30 แห่งในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย บริษัทฯ ท�ำยอดขายได้มากกว่า 1 พันล้าน และมีพนักงานมากกว่า 9,000 คนทั่วภูมิภาค ส�ำหรับโรงงานอิเมอร์สัน ประเทศไทย ตั้งอยู่ บนเนื้อที่กว่า 60 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัด ระยอง ซึ่งผลิตภัณฑ์หลักคือ สโครล คอมเพรสเซอร์ (Scroll Compressor) ที่ใช้ส�ำหรับอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและ อุตสาหกรรมท�ำความเย็น September-October 2017
IT Article > สตีฟ ทรีกัสต ผูอํานวยการดานอุตสาหกรรมการเงิน การบริหารทรัพยากรมนุษยและการวางกลยุทธ บริษัท ไอเอฟเอส STEVE TREAGUST Global Industry Director for Finance, HCM & Strategy, IFS
6 ข อ สำหรับธุรกิจที่จะไดรับจาก ประโยชน
บล็อกเชน
บล็อกเชน (Blockchain) ถือกําเนิดขึ้นเพื่อรับรองความ ถูกตองใหกบั บิทคอยน (Bitcoin) ระบบสกุลเงินทีส่ รางปรากฏการณ ใหกับอุตสาหกรรมการเงินอยางมากเมื่อป 2008 (พ.ศ. 2551) แกนหลักของเทคโนโลยีนคี้ อื การกําจัดระบบควบคุมแบบเบ็ดเสร็จ จากสวนกลาง ดวยการนําเสนอเครือขายแบบกระจายทีม่ ขี อ กําหนด และกฎระเบียบในแบบฉบับของตัวเอง นอกจากนีย้ งั สามารถสราง ประโยชนทางธุรกิจไดอยางคาดไมถึงดวย จริงๆ แลว 2 สิ่งนี้ ไมไดมีอะไรที่เหนือกวากัน แตขึ้นอยูกับวาใครจะนําสิ่งไหนไปใช ประโยชนไดมากกวา
Blockchain was born to provide legitimacy to its Bitcoin master after the financial cataclysm of 2008. At its heart is a rebellious disdain for central authoritative control, offering instead a decentralized network of self-compliance and regulation. But the servant has become the master, offering business benefits not envisaged during its conception. In fact, it’s nothing short of a game changer for those who can master it.
6 BUSINESS
BENEFITS OF BLOCKCHAIN
September-October 2017
p.84-87_it Article.indd 84
9/15/17 4:40 PM
บล็อกเชนคืออะไร
BitcoinBlockchain เปนบัญชีแยกประเภทระบบอิเล็กทรอนิกส ที่มีความปลอดภัย โดยเชื่อมตอกับหลายภาคสวนบนเครือขายที่มี ความนาเชื่อถือและไวใจได ทั้งยังชวยอํานวยความสะดวกในการ ถายโอนสินทรัพยและขอมูลทีเ่ กีย่ วของกับสินทรัพยดงั กลาวดวย โดย เบือ้ งตนแลว เทคโนโลยีนถ้ี กู สรางขึน้ เพือ่ ใชเปนเครือ่ งมือของบิทคอยน ในการรับรองความถูกตองของสกุลเงินอิเล็กทรอนิกสหลังจากที่เกิด เหตุการณครั้งใหญในโลกการเงินจนนําไปสูวิกฤตการณทางการเงิน ระดับโลกเมื่อป พ.ศ. 2551 ทุกธุรกรรมในระบบดิจทิ ลั จะไดรบั การเก็บบันทึกอยางปลอดภัย ในหวงโซ (เชน) ที่เชื่อมตอกันดวยคียดิจิทัลที่มีการเขารหัสไวสําหรับ ใชแสดงความถูกตองเมื่อไดรับการตรวจสอบจากเครือขาย การสราง สําเนา การแกไข หรือการลบธุรกรรมจะไดรับการปองกันโดยเชน ซึ่ ง มี อ ยู ใ นคอมพิ ว เตอร ข องแต ล ะคนบนเครื อ ข า ย ยิ่ ง บล็ อ กเชน ยาวมากเทาไรและเครือขายกวางไกลมากเพียงใด คียด จิ ทิ ลั ก็ยงิ่ มีความ ซับซอนมากขึ้น ดังนั้นบล็อกเชนจึงมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นไปอีก
WHAT IS BLOCKCHAIN?
BitcoinBlockchain is a secure distributed electronic ledger, connecting multiple parties in a network of trust and integrity, facilitating the transfer of assets and the information pertaining to those assets. It was initially created as the means by which Bitcoin could be legitimized as genuine electronic currency after the seismic events in the financial world that lead to the global financial crisis in 2008. It does this by securely recording digital transactions in a sequential chain using cryptographic digital keys, which are verified by the network as authentic. Duplication, editing or removal of transactions is prevented by the chain, which is held on everyone’s computer on the network. The longer the Blockchain and the wider the network the more complex the digital key, and hence the more secure the Blockchain.
แพลตฟอร มการค าขายแลกเปลี่ยนแบบใหม
โดยปกติแลวรูปแบบของการคาขายแลกเปลีย่ นจะเปนการ แลกเปลี่ยนสินทรัพยระหวางกันอยางนอย 2 คนขึ้นไป (ยกเวน การแลกเปลี่ยนแบบใชสินคาแลกกัน) และมักจะตองมีคนกลาง ในการทําใหขอ ตกลงบรรลุผล ตลอดจนชวยสรางความนาเชือ่ ถือ ใหกบั กระบวนการซือ้ ขายโดยแลกกับคาตอบแทนในการทําหนาที่ คนกลางดังกลาว (ซึง่ คาตอบแทนดังกลาวมีมลู คามากถึง 1.7 ลาน ลานดอลลารฯ ในป 2014 จากขอมูลของนักเศรษฐศาสตร) บล็อกเชนไดเขามาเปลี่ยนแปลงระบบคาขายดังกลาว ดวยการนําแตละคนหรือกลุม ตางๆ มารวมเขาดวยกันบนเครือขาย ทีเ่ ชือ่ ถือไดและไมมบี คุ คลทีส่ ามเปนตัวกลาง ทัง้ ยังสามารถบันทึก การทําธุร กรรมแตล ะรายการไดอยางตอเนื่ องและปลอดภัย โดยภาพรวมการทํางานของบล็อกเชนสามารถดูไดจากคลิปวิดโี อ ของ MIT ความยาว 2 นาที ที่มีชื่อวา Blockchain – A short Introduction
A NEW TRADING PLATFORM
Any type of trade requires exchanging assets between two or more parties, and unless the trade follows the bartering system, there is always at least one central third party that is brokering the deal, providing trust into the trade and seeking their own compensation for the role that they undertake ($1.7Tn in 2014 according to the economist). Blockchain alters this trading platform by bringing parties together in a trusted network without a third party and by recording each transaction sequentially and securely. This is illustrated succinctly in this two-minute MIT video, Blockchain – A short introduction.
September-October 2017
p.84-87_it Article.indd 85
9/15/17 4:40 PM
ข อดีทางธุรกิจ
การใช ร ะบบค า ขายแลกเปลี่ ย นแบบใหม นี้ ส ามารถสร า ง ประโยชนใหกับธุรกิจไดอยางมากมาย แตสวนใหญแลวจะมุงเนน ไปที่ความสามารถอยางนอย 1 ใน 6 อยาง ดังนี้ : ขอดีที่ 1 : ประสิทธิภาพ การทําธุรกรรมระหวางบุคคลหรือกลุมที่เกี่ยวของสามารถ เสร็จสมบูรณไดโดยตรงและไมตอ งมีคนกลาง ทัง้ ยังสามารถใชขอ มูล ในรูปแบบดิจิทัล จึงทําใหการดําเนินธุรกรรมเปนไปอยางรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถใช ‘สัญญาอัจฉริยะ’ (Smart Contract) เพื่อ ผลักดันใหการดําเนินการดานการคาเปนไปตามเกณฑที่กําหนดไว ในสัญญาดังกลาว แนวทางนี้ชวยเสริมสรางประสิทธิภาพใหกับ กระบวนการทํางานไดอยางมาก อีกทัง้ ยังชวยกําจัดเวลาและตนทุน ในการทําธุรกรรมดวย บทความเรื่อง “How Utilities Are Using Blockchain to Modernize the Grid” โดย Oliver Wyman Consulting มีรายละเอียดเกี่ยวกับการใชประโยชนแนวทางนี้ในอุตสาหกรรม พลังงาน
ขอดีที่ 2 : ความพรอมที่จะใหตรวจสอบบัญชี เนื่องจากธุรกรรมแตละรายการไดรับการเก็บบันทึกอยาง ตอเนือ่ งและไมมกี าํ หนด ดังนัน้ จึงสามารถดําเนินการตรวจสอบได ตลอดทัง้ วงจรชีวติ ของสินทรัพย สิง่ นีจ้ ะยิง่ มีความสําคัญอยางมาก หากขอมูลตนฉบับเปนสิ่งจําเปนที่ตองใชในการตรวจสอบความ ถูกตองของสินทรัพย และขอดีดังกลาวนี้ไดรับการยืนยันแลว จากบริษทั Everledger ในการติดตามตรวจสอบเพชรตามทีม่ ขี อ มูล สรุปไวในบทความเรือ่ ง “How the blockchain is helping stop the spread of conflict diamonds” ในนิตยสาร Wired ขอดีที่ 3 : ความสามารถดานการติดตาม การติดตามสินคาในซัพพลายเชนจะไดรับประโยชนหาก ตองการติดตามตรวจสอบวาตอนนีช้ นิ้ สวนตางๆ อยูท ใี่ ดบาง โดย ขอมูลที่เกี่ยวของกับชิ้นสวนดังกลาวจะถูกสงไปยังหรือไดรับจาก เจาของใหมเพือ่ ดําเนินการในดานอืน่ ๆ ตอไป ขอดีนมี้ รี ายละเอียด ในบทความของ Harvard Business Review เรือ่ ง “Global Supply Chains Are About to Get Better, Thanks to Blockchain”
BUSINESS BENEFITS
Utilizing this new trading platform can bring many business benefits, but most are centered on delivering one or more of six competencies: Benefit #1 : Efficiency As transactions are completed directly between the relevant parties with no intermediary and with digitized information, settling the transaction can be quick. Added to this is the ability to operate ‘smart contracts’ which automatically trigger commercial actions based on satisfying the criteria laid out in the contract. This can dramatically streamline processes and in doing so, remove time and cost from transacting. The article, “How Utilities Are Using Blockchain to Modernize the Grid,” by Oliver Wyman Consulting outlines how this is being utilized currently in the energy industry. Benefit #2 : Auditability As each transaction is recorded sequentially and indefinitely, it provides an indelible audit trail for the life of an asset even between parties. This is especially important if source data is essential in verifying an assets authenticity. Currently, this benefit is being realized by the company Everledger to track diamonds as summarized in this article in Wired magazine, “How the blockchain is helping stop the spread of conflict diamonds.” Benefit #3 : Traceability Tracking goods forwards in a supply chain can be advantageous when seeking to trace where components are currently residing. Information relating to the component can then relayed to or from the new owner for possible action. This benefit is succinctly described in this Harvard Business Review article, “Global Supply Chains Are About to Get Better, Thanks to Blockchain.” September-October 2017
p.84-87_it Article.indd 86
9/15/17 4:40 PM
ขอดีที่ 4 : ความโปรงใส ในบางครัง้ การขาดความโปรงใสทางการคาอาจนําไปสูค วาม ลาชาในการดําเนินธุรกิจและสามารถทําลายความสัมพันธระหวาง กันได ซึ่งการใหรายละเอียดของการทําธุรกรรมอยางชัดเจนจะชวย เพิ่มความนาเชื่อถือใหกับกระบวนการคาขาย ทั้งยังชวยเสริมสราง ความสัมพันธใหมั่นคงยิ่งขึ้นตามระดับความโปรงใสที่มีอยูดวย ขอดีที่ 5 : ความปลอดภัย ธุรกรรมแตละรายการจะไดรบั การตรวจสอบภายในเครือขาย โดยใชการเขารหัสลับที่ซับซอนและไดรับการตรวจสอบอยางอิสระ ดังนั้นจึงสามารถมั่นใจในความถูกตองของขอมูลได และขอมูล ที่นาเชื่อถือดังกลาวเปนหนึ่งในพื้นฐานสําคัญของการใชประโยชน จากแนวทางอินเทอรเน็ต ออฟ ธิงค (Internet of Things : IoT) ซึ่ง เปนกระบวนการทํางานเชื่อมโยงสินทรัพยที่ใชงานอยูผานระบบ อินเทอรเน็ตที่มีการควบคุมในระบบปด แนวทางนี้กําลังไดรับการ นําไปใชในอุตสาหกรรมดานกลาโหมสําหรับการตรวจสอบความ ถูกตองของคําสั่งและการปองกันทรัพยสินทางปญญา ซึ่งสามารถดู รายละเอียดไดในบทความของ Ascent เรือ่ ง “Securing 3D-Printing: Could Blockchain be the Answer?” ขอดีที่ 6 : ความเห็น ด ว ยความสามารถในการติ ด ตามสิ น ทรั พ ย ค รอบคลุ ม ทั้ ง วงจรชีวิต ผูออกแบบและผูผลิตสินทรัพยจึงสามารถปรับรูปแบบ การบริหารจัดการสินทรัพยตลอดวงจรชีวิตไดอยางเหมาะสมและ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยอาศัยขอมูลในดานตางๆ ไมวาจะ เปนการจัดสง การติดตั้ง การบํารุงรักษา และการรื้อถอน
Benefit #4 : Transparency Lack of commercial transparency can sometimes lead to delays in commerce and a breakdown in relations. By providing details of transactions against the commercial construct, further trust can be enlisted within the process and so provide a more stable relationship based on transparency rather than negotiation. Benefit #5 : Security As each transaction is verified within the network using independently verified complex cryptography, the authenticity of the information can be assured. Assured information is one of the fundamental keys to unlocking the benefits of the Internet of Things (IoT), which is a closed loop cyber autonomous process linking assets to actions. A version of this is currently being used in the defense Industry for verification of instructions and protection of IP, as illustrated in this article by Ascent, “Securing 3D-Printing: Could Blockchain be the Answer?” Benefit #6 : Feedback With full traceability throughout the lifecycle of an asset, the asset designers and manufacturers can accommodate through-life asset management into their products to make them more effective. This can allow for information returning from shipping, installation, maintenance and decommissioning. September-October 2017
p.84-87_it Article.indd 87
9/15/17 4:40 PM
ดิจิทัลมิเตอร์
EasyLogicTM PM2000 series รุ่น PM2100 series
รุ่น PM2200 series
EasyLogicTM PM2000 series ดิจิทัลมิเตอร์ไฟฟ้าคุณภาพสมราคา จาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ช่วยให้ควบคุมและจัดการระบบไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น ครอบคลุมฟังก์ชนั การใช้งาน ด้วยเครือ่ งมือวัดและการจัดการโหลดไฟฟ้าทีม่ า พร้อมกับการเชื่อมต่อผ่าน RS485 (เฉพาะรุ่น 2120, 2130, 2220, 2230) มี ให้เลือก 2 ซีรีส์ รุน ่ PM2100 series หน้าจอแสดงผลแบบ LED ตัวเลขขนาดใหญ่ แสดงผลค่าข้อมูล 3 บรรทัด มองเห็นได้ในระยะไกล มีสญ ั ลักษณ์บอกชนิดของ ข้อมูลบริเวณ 2 แถวด้านข้าง ให้ตัวเลขที่แม่นย�ำและประหยัดพื้นที่มากกว่า แบบเข็มดั้งเดิม รุ่น PM2200 series หน้าจอแสดงผลแบบ LCD สี Monochrome (โมโนโครม) ตัวเลขขนาดใหญ่ สามารถอ่านข้อมูลได้ 3 เฟสพร้อมกัน โดดเด่น ด้วยระบบ Anti-glare display เพื่อป้องกันแสงสะท้อน และมี backlight ที่ ช่วยให้งา่ ยในการอ่านค่า แม้ในทีแ่ สงมากหรือมุมมองทีไ่ ม่ตงั้ ฉากกับหน้าจอ นอกจากนี้ ยังมีเมนูที่หลากหลาย รองรับหลายภาษาอีกด้วย EasyLogicTM ทัง้ 2 รุน่ มีความโดดเด่นเรือ่ งของความง่ายในการใช้งาน และราคาทีส่ มเหตุสมผล ติดตัง้ ง่าย เหมาะสมกับโรงงาน อาคารในยุคดิจทิ ลั ช่วยลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการท�ำงานอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.schneider-electric.co.th/th
AspenTech Extends Optimization’s Reach Across Design, Operations and Maintenance with
ASPENONE® VERSION 10 SOFTWARE Aspen Technology, Inc. the asset optimization software company, today announced the general availability of aspenONE® Version 10 software. The latest Asset Performance Management, Engineering and Manufacturing & Supply Chain software release supports the company’s evolution from process optimization to asset optimization, the next frontier of optimization that makes the best companies even better by driving increased financial return over the entire asset lifecycle. The aspenONE Version 10 software release includes aspenONE® Asset Performance Management (APM), an industryfirst complete suite for site, process and equipment performance management. Combining over 30 years of deep process modeling expertise with real time big data and machine-learning solutions, AspenTech’s new APM suite is designed to increase asset uptime, improve reliability, extend the life of equipment, and achieve optimal process performance system-wide to drive increased profitability. The integrated suite of APM analytics provides prescriptive guidance to address multiple levels of asset performance: Site Wide Risk Analysis with Aspen Fidelis Reliability September-October 2017
software helps identify asset availability and utilization risks through reliability modeling and simulation. Process Analytics include Aspen Asset Analytics software to assess the root causes of process disruptions, predict future occurrences and prescribe actions to avoid them. Rapidly configured and deployed, prepackaged analytics for column troubleshooting use ensemble modeling to provide operational guidance. Included as well, Aspen ProMV® software improves process reliability and asset uptime using advanced multivariate process analytics for continuous and batch monitoring. Equipment Performance Analytics with Aspen Mtell® software provides machine-learning analytics that predict when failures will occur, understand why they will occur and prescribe what to do to avoid the failure. Version 10 software is available immediately. Customers on the aspenONE Licensing Model can upgrade to the new version for no additional cost. For more information, visit http://www.aspentech.com/ products/v10-release/.
“DOD RC500S” บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จ�ำกัด ส่ง “DOD RC500S” ที่มา พร้อมกล้องหน้าและหลัง สุดยอดนวัตกรรมกล้องติดรถยนต์รุ่นใหม่ ล่าสุดจากแบรนด์อันดับ 1 ของไต้หวัน DOD RC500S เป็นกล้องติดรถยนต์รุ่นเรือธงใหม่ล่าสุดจาก “DOD” (ดีโอดี) ซึ่งได้รับการออกแบบดีไซน์มาเป็นพิเศษด้วยการตัด จอแสดงผล LCD ด้านหลังกล้องออกไป เพื่อไม่รบกวนการขับขี่ แต่ ผูใ้ ช้งานสามารถจะดูภาพเรียลไทม์และย้อนหลังได้อย่างสะดวกสบาย ผ่านแอพฯ โดยเชื่อมต่อด้วยสัญญาณ Wi-Fi ระหว่างกล้องเข้ากับ สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต พร้อมดาวน์โหลดไฟล์เข้ามือถือได้อย่าง รวดเร็วและง่ายดาย โดยแอพฯ ยังมีฟงั ก์ชนั การตัดต่อวิดโี อ และเขียน ข้อความหรือลายเส้นในวิดีโอเพื่อเน้นให้เห็นหลักฐานส�ำคัญในวิดีโอ นั้นๆ ที่ส�ำคัญยังเป็นกล้องติดรถยนต์ตัวแรกที่ใช้ SONY STARVIS CMOS Sensor ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพหรือบันทึก วิดีโอในสภาวะแสงน้อยหรือเวลากลางคืนได้สว่างชัดเจนเหมือนตอน กลางวัน ส่วนเทคโนโลยี WDR (Wide Dynamic Range) ส�ำหรับปรับ แสงอัตโนมัติ และค่า ISO 12800 รวมถึงรูรบั แสงขนาดใหญ่แบบเลนส์ กระจกที่มีความกว้างขนาด F/1.6 ท�ำให้ผู้ใช้สามารถจับภาพต่างๆ ได้ อย่างรวดเร็วและให้ความละเอียดคมชัดสูงในทุกช่วงเวลา กล้องติดรถยนต์ DOD RC500S สามารถบันทึกภาพวิดีโอ แบบ 2 ช่องทาง ทั้งกล้องด้านหน้าและด้านหลังด้วยคุณภาพความ คมชัดระดับ Full HD 1080p ทั้งยังได้ภาพในมุมกว้างถึง 145 องศา จากกล้องด้านหน้าและ 140 องศาจากกล้องด้านหลัง แถมยังมีระบบ โพลาไรซ์ ซึ่งเป็นตัวกรองช่วยในการปรับลดแสงสะท้อนจากกระจก หน้ารถและเพิม่ ความอิม่ ตัวของสีในเวลาเดียว ทัง้ ยังมีระบบปฏิบตั กิ าร GPS ที่มีความเร็ว 10 Hz ที่จะช่วยให้อัพเดทข้อมูลได้อย่างรวดเร็วถึง 10 ครั้งต่อวินาที พร้อมแจ้งเตือนความเร็วและเส้นทางการขับขี่ไป พร้อมๆ กับบันทึกภาพวิดีโอได้อย่างแม่นย�ำ รวมถึงเทคโนโลยีเลนส์ กระจก 6 ชั้นอย่างดีที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ท�ำให้ภาพสดใสคมชัด ไม่ต้องกังวลเรื่องเลนส์เปลี่ยนรูปเมื่อโดนความร้อนจากการตากแดด เป็นเวลานาน นอกจากนี้ ยังรองรับฟังก์ชนั Parking Mode ทีจ่ ะช่วยบันทึกภาพ อัตโนมัติระหว่างจอดรถทิ้งไว้ ท�ำให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว แน่นอน ทั้งยังรองรับ Micro SD Memory Card ที่มีความจุสูงถึง 256 GB เพื่อให้คุณสามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นกว่ากล้องติดรถยนต์ รุ่นเดิมถึง 4 เท่า หรือสามารถบันทึกภาพได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง ติดตามรายละเอียดเพิม่ เติมได้ที่ www.rtbtechnology.com
RTB Technology Co., Ltd. ntroduces “DOD RC500S” featuring wifi connected camera with front and rear view, state-of-the-art dash cam innovation from Taiwan’s No. 1. The DOD RC500S is the latest flagship dash camera from DOD, specially designed to remove LCD screen not to distract driving. Users can view real time moment and replay video simply via Application connecting Wi-Fi between camera and smartphone or tablet. User can download files to mobile phone quickly and easily by the App, available with video editing and marking function to highlight evidence in the video. The DOD RC500S is the first dash camera using SONY STARVIS CMOS, latest top of the line sensor from Sony, to enhance visibility in low light condition or at nighttime, as bright as daytime. The WDR (Wide Dynamic Range) technology helps balance exposure ISO 12800 and the large F/1.6 aperture with 6-element sharp glass lens to capture clear image at high speed in every lighting condition. The DOD RC500S comes with dual video recording from front and rear cameras delivering Full HD 1080p quality covering 145-degree wide angle from front camera and 140-degree from rear camera, recording with wider and clearer coverage. The camera is packed with a great deal of advanced technologies including polarize system to reduce reflection from windshield while increasing color saturation, the 10Hz GPS allows data updating with speed up to 10 times per second, reporting speed and route while recording video with precise driving information when playing with DOD player. The 6-layer glass lens finely made from Japan ensures bright and clear pictures throughout usage with no concern about lens deformation when exposed to heat or sunlight for a long period. The camera supports Parking Mode activating auto recording when parking. You will not miss any motion. The Micro SD Memory Card up to 256 GB works with the camera to allow 4 times storage capacity as much as previous models or up to 18 hours of recording. For more information, visit www.rtbtechnology.com.
September-October 2017
TRAILBLAZER AT DSEI 2017
-- the new GVA Driver and LSAS Camera for military vehicles TRAILBLAZERTM improves driver and crew effectiveness by extending the field of view beyond the normal spectrum, even in adverse weather and low-light conditions. It offers a new, best-in-class driver camera sub-system for military vehicle system integrators tasked with delivering to the most demanding specifications within tight timescales and budgets. Navigating an unfamiliar terrain safely, in a degraded visual environment, is a common challenge in the modern battlefield. When the field of view is limited and threats are unknown, total command of the road ahead and complete situational awareness are essential for success. Where primary vision is restricted, such as in armoured vehicles operating with hatches down, TRAILBLAZER’s dual-channel daylight and infrared video sensors, along with RFEL’s sophisticated image processing technology, can give the driver, crew and commander views from ahead and behind, in all weathers, day or night. Over 2016/17, industry engagement events with stakeholders, such as government requirements managers, platform owners and operators, vehicle system primes and system integrators, have validated the RFEL TRAILBLAZER product approach. The RFEL philosophy of delivering the lowest latency, the highest available resolution and leveraging a comprehensive digital enhancement library delivered at the sensor, has struck a chord with all audiences. This is largely due to the commitment RFEL has made to realise this under the flexible and open architecture design approach mandated by the UK-GVA standard. Following that design model has created a product that is September-October 2017
compatible not only with GVA, but also with the closely related NATO-GVA STANAG 4754 work and in fact with other proprietary networked Electronic Architectures. TRAILBLAZER’s features include a dual channel daylight/ thermal sensor package, RFEL’s Video Fusion algorithm, wide and driving field of view options, multiple and independent channel outputs on both the network interface and a complementary, native digital video HD-SDI output. This means that a wide variety of flexible integration topologies can be supported. Visitors to DSEI can explore these interactively with RFEL representatives. TRAILBLAZER incorporates RFEL’s multi-resolution, advanced Digital Video Fusion technique, which is superior to common blending, averaging and overlay approaches typically taken to make use of thermal scene data within an otherwise obscured, daylight field of view. It has recently been reviewed by UK governmental research audiences, working in the field of situation awareness, who were impressed with its utility. RFEL’s algorithm intelligently generates a composite output video stream on a pixel-by-pixel basis. This means no loss of higher resolution features from any one sensor, no reduction in colour content due to bland and uniform thermal regions and a truly intuitive augmented view of the widest spectrum of scenery data. This is further enhanced by pre-processing techniques such as contrast enhancement and, optionally, high frequency Digital Stabilisation and/or customisable pseudo-colour highlighting. For More information is available at www.rfel.com
นวัตกรรมก๊าซจากบีไอจีคว้ารางวัล Thailand Energy Award 2017 ด้านพลังงานสร้างสรรค์ BIG’s Oxygen Application won Thailand Energy Awards 2017
ทีซีซีเทค ร่วมกับสมาคมฟินเทคฯ และไอดีซี ไฟแนนเชียลอินไซต์ จัดงาน “ฟินเทคไดนามิคส์อินเอเชีย” TCCtech joins hands with Thai Fintech Association and IDC Financial Insights to hold ‘Fintech Dynamics in Asia’
ปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำ�กัด หรือบีไอจี รับมอบรางวัลดีเด่น Thailand Energy Award 2017 ด้านพลังงาน สร้างสรรค์ ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จากพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ด้วยผลงาน Oxygen Lancing Technology for Incinerator ถือเป็นรางวัลทีช่ ว่ ยตอกย้�ำ ความเป็นผูน้ าำ นวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรม รายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัล Thailand Energy Award มาครอง 2 ปีติดต่อกัน
บริษัท ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จำ�กัด ร่วมกับ สมาคมฟินเทค ประเทศไทย และ ไอดีซี ไฟแนนเชียลอินไซต์ จัดงาน “ฟินเทคไดนามิคส์อินเอเชีย” โดย มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็น ประสบการณ์ ตลอดจนอัพเดทแนวโน้ม ของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเงินการธนาคาร กับกลุ่มฟินเทคในประเทศไทย ภายในงานมีผู้แทนจากหลากหลายหน่วยงานด้านการเงิ นการธนาคาร กลุ่ ม ฟินเทคสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการด้านฟินเทค และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าร่วมมากกว่า 70 ท่าน
Mr.Piyabut Charuphen, Managing Director of Bangkok Industrial Gas Co., Ltd. (BIG), received Thailand Energy Awards 2017 in the category of Creative Energy from Air Chief Marshal Prajin Juntong, Deputy Prime Minister. In the event held by Department of Alternative Energy Development and Efficiency (DEDE), Ministry of Energy, BIG has been awarded from the project “Oxygen Lancing Technology for Incinerator. BIG is the first and only one leading industrial gas company in Thailand who has been awarded for two consecutive years.
TCCtech, Thai Fintech Association and IDC Financial Insights held ‘Fintech Dynamics in Asia’ at Dream office of C asean. The objective of event was aimed to create interactions among technology and finance companies within Fintech Ecosystem. The program was designed in an interactive format that bridged financial and technology people to share their business & technology aspects and experiences. More than 70 participants attended the session including representatives of financial institutes, startups, investors, venture capitalists, and technology experts etc.
ซีเกท ประเทศไทย ร่วมปลูกต้นไม้และปล่อยพันธุ์สัตว์น�้ำ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจ�ำปี 2560 Seagate Thailand plants trees and releases the aquatic animals to celebrate National Mother’s Day 2017
นวลพรรณ ใจงาม ผู้ อำ � นวยการฝ่ า ยวิ ศ วกรรมหั ว อ่ า นสำ � เร็ จ รู ป บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำ�กัด โรงงานโคราช พร้อมด้วยผู้บริหาร และพนักงานโรงงานซีเกท โคราช ร่วมปลูกต้นไม้และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ�ลงสู่ แหล่งน้ำ�ลำ�ตะคองใน “โครงการส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝก” ซึ่งเป็นกิจกรรม อนุรักษ์ดิน น้ำ� และทรัพยากรป่าไม้ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำ�ปี 2560 โดยมี ประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ในพิธี ณ บริเวณพื้นที่ลำ�ตะคอง หมู่ที่ 7 ต.บุ่งขี้เหล็ก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา Mrs.Nualpun Jai-Ngam, HSA Engineering Director, Seagate Technology (Thailand) Limited, Korat plant along with other Seagate Korat management and employees, joined with the local community in planting trees as well as releasing the fish and aquatic animals into the Lumtakong Dam to support the “Vetiver Grass Plantation Project”. This project is aimed to promote local plantation activities as well as sustain the forest area and ecology in Lumtakong area, Sungnoen District, Nakorn Ratchasima province. It is part of the company’s ongoing CSR program to celebrate National Mother’s Day 2017.
September-October 2017
ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ โชว์ Hitachi Visualization Suite (HVS) Hitachi Data Systems launches Hitachi Visualization Suite (HVS) Latest innovation for Smart Cities
ITE จัดฝึกอบรมให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ PEA ITE Organized Training with PEA-related Agency
มร.คีท รอสคาเรล ผู้อ�ำ นวยการด้านความปลอดภัยสาธารณะและเมือง อัจฉริยะ ประจำ�ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็ม และ ดร.มารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำ�ประเทศไทยและพม่า บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ร่วมกันจัดงานสัมมนา “HITACHI SECURITY INNOVATION FORUM” ภายใต้แนวคิด Smart Cities are Safe Cities through Hitachi Social Innovation เพือ่ นำ�เสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมของฮิตาชิฯ ทีม่ คี วามพร้อมสำ�หรับการสร้าง เมืองอัจฉริยะและความปลอดภัยสาธารณะ ซึง่ ฮิตาชิฯ ทำ�สำ�เร็จแล้วในหลายเมือง ของเอเชียแปซิฟิก
ณัษฐา ประโมจนีย์ รองกรรมการผูจ้ ดั การ และ ชรินทร์ กูลประดิษฐศิลป์ ผู้ จั ด การอาวุ โ สฝ่ า ยผู้ เชี่ ย วชาญระบบไฟฟ้ า (Electrical Expert Division) บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำ�กัด ให้การต้อนรับผู้แทนเข้าอบรมจากการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค (PEA) ในหัวข้อ “SIFANG & ITE Training for PEA-2016” โดยมี เหลียนฟาง หยิน ผูจ้ ดั การผลิตภัณฑ์อาวุโส Beijing Sifang Automation Co., Ltd. (Sifang) บริษัทชั้นนำ�ของจีนที่พัฒนาระบบ Power Automation และเป็นบริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เป็นวิทยากร ณ อาคารอิตัลไทยทาวเวอร์
Mr.Keith Roscarel, Director Public Safety and Smart Cities - APAC at Hitachi Data Systems and Mr.Marut Manistitya, Managing Director of Hitachi Data Systems Thailand and Myanmar hold seminar “HITACHI SECURITY INNOVATION FORUM” under the concept of Smart Cities are Safe Cities through Hitachi Social Innovation. The main point is presenting latest Hitachi Technology Innovation which can help the cities to be smart and safe which it’s already done in many cities in Asia Pacific.
เมโทรซิสเต็มส์ฯ ร่วมกับ HP Inc จัดงาน “The next generation of A3” Metro System Co., Ltd. and HP Inc. jointly organized the “The next generation of A3”.
Mr.Nuttha Pramojaneeya, Deputy Vice President, along with Mr.Charin Kulpraditsilp, Senior Electrical Expert Division Manager of Italthai Engineering Co., Ltd. welcomed the training representatives from the PEA (Provincial Electricity Authority) for “SIFANG & ITE Training for PEA-2016”, being held at the Italthai Tower. Mr.Liang Fang Yin, Senior Manager was invited as the guess speaker from the Beijing Sifang Automation Co., Ltd (Sifang), a leading company from China on Power Automation and is listed on the Shanghai Stock Exchange. ธงชัย หล่�ำ วีระกุล ผูอ้ �ำ นวยการกลุม่ ดิจติ อลพริน้ ติง้ บริษทั เมโทรซิสเต็มส์ คอร์ ป อเรชั่ น จำ � กั ด (มหาชน) ร่ ว มกั บ ปวิ ณ วรพฤกษ์ กรรมการผู้ จั ด การ บริษัท เอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) จำ�กัด พร้อมคณะผู้บริหาร จัดงาน “The next generation of A3” เพื่อแนะนำ�เครื่องพิมพ์ HP PageWide A3 MFP นวัตกรรม ล่าสุด พร้อมนำ�เยี่ยมชมศูนย์สาธิต “HP PageWide Technology Center” เพื่อให้ ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ของนวัตกรรมเครื่องพิมพ์แห่งอนาคต พร้อมเข้า ร่วมกิจกรรมพิเศษที่ทางเอชพี อิงค์ (ประเทศไทย) ได้จัดขึ้น ณ สำ�นักงานใหญ่ บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำ�กัด (มหาชน) Mr.Thongchai Lumveerakul, Director of Digital Printing Group, Metro Systems Corporation (Public) Co., Ltd., together with Mr.Pavin Vorapruk, Managing Director of HP Inc. (Thailand) Co., Ltd., and the Organizing Committee of the next generation of A3, introduced the HP PageWide A3 MFP, the latest innovation and provided a visit to the “HP PageWide Technology Demonstration Center”, in order to allow customers to experience the future printing innovation and to join the special activity organized by HP, Inc. (Thailand) at the headquarters of Metro Systems Corporation (Public) Co., Ltd.
September-October 2017
กระทรวงอุตสาหกรรมลงพื้นที่เยี่ยม บริษัท เห็ดทอดนาโหนด ฟู้ดส์ จำ�กัด The Ministry of Industry visited the Hedthodnanode Foods Co., Ltd.
ถิรไทย ฉลองครบรอบ 30 ปี วันก่อตั้งบริษัท TRT (Public) Co., Ltd. celebrated its 30th Years’ Anniversary of its Company Establishment.
เดชา เกื้อกูล ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่เข้าเยี่ยม บริษัท เห็ดทอดนาโหนด ฟู้ดส์ จำ�กัด ตั้งอยู่เลขที่ 190 หมู่ 11 ตำ�บลนาโหนด อำ�เภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ประกอบกิจการประเภทอุตสาหกรรมอาหาร เข้าร่วมโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแปรรูป การเกษตรในภูมิภาค “One Province One Agro-Industrial Product” (OPOAI) ใน ปี 2560 หลังการปรับปรุงสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตได้ 11.58% 2,623,316 บาท/ปี หรือเพิ่มขึ้น 13.52% โดยการเยี่ยมสถานประกอบการมี ชัยยงค์ คชพันธ์ ผูจ้ ดั การบริษทั เห็ดทอดนาโหนด ฟูด้ ส์ จำ�กัด ร่วมให้การต้อนรับ ณ ทีท่ �ำ การบริษทั จังหวัดพัทลุง
ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานกรรมการ พร้อมด้วย สัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำ�กัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้นำ�ตลาดหม้อแปลง ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมด้านพลังงานรายใหญ่ของประเทศ “ฉลองครบรอบ 30 ปี วันก่อตั้งบริษัท” พร้อมเปิดตัวโรงงานผลิตหม้อแปลงขนาดกลางและขนาดเล็ก แห่งใหม่ เพือ่ เพิม่ กำ�ลังการผลิต และตอกย้�ำ ความเป็นผูน้ �ำ ตลาดอุตสาหกรรมไฟฟ้า ของไทย โดยมี มร.สเตฟเฟ่น ริชเตอร์ และ มร.แอนดรี เซอร์เกล ร่วมแสดง ความยินดี ณ อาคารสวัสดิการถิรไทย นิคมอุตสาหกรรมบางปู สมุทรปราการ เมื่อเร็วๆ นี้
Mr.Decha Kuakul, Inspector General of the Ministry of Industry visited the Hedthodnanode Foods Co., Ltd., which is located at 190 Moo 11, NaNode Sub-district, Muang District, Phatthalung Province. It is a food industry business and it is a project member of the “One Province One Agro-Industrial Product Development (OPOAI)”. In the year 2017, after the improvement, the production capacity was increased to 11.58%, 2,623,316 baht/year, or increased by 13.52% Mr.Chaiyong Kotchaphand, the Company Manager of Hedthodnanode Foods Co., Ltd. in Patthalung Province joined in welcoming the visiting group.
Dr.Pisit Leeahtam, Chairman, together with Mr.Sumpan Vongphan, Managing Director of TRT (Public) Co., Ltd., or TRT, the leader in transformer market and the nation’s largest energy industry, “celebrated its 30th anniversary of its establishment”. It also launched its new medium and small size transformer plants for increasing its production capacity and reinforces its leadership in the Thai electrical industry. At this event, Mr.Steven Richter and Mr.Andreas Serkel joined in congratulating the Company at the TRT Welfare Building of Bangpoo Industrial Estate, Samutprakarn Province recently.
เบรกเกอร์ ไฟฟ้า ยี่ห้อ “ฮุนได” ร่วมออกงาน ENERGY DAY 2017 เมือ่ วันพุธที่ 30 สิงหาคม 2560 ตัวแทนจำ�หน่ายเบรกเกอร์ไฟฟ้า ยีห่ อ้ “ฮุนได” ในเขตภาคเหนือ ห้างหุ้นส่วนจำ�กัด นครพิงค์ สวิทช์บอร์ด นำ�โดย คุณบุญชอบ คชานันท์ ได้ร่วมจัดบูธ ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ENERGY DAY 2017 งานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานประจำ�ปี 2017 ภายในงาน มีการจัดแสดงบูธโชว์สนิ ค้าเบรกเกอร์ไฟฟ้า ยีห่ อ้ “ฮุนได” อาทิเช่น บูธโชว์นวัตกรรม และคุณสมบัตขิ อง Molded Case Circuit Breaker, Magnetic Contactor & Overload Relay ทั้งนี้ยังมีตัวอย่างตู้สวิตช์บอร์ด MDB ที่มีการใส่เบรกเกอร์การใช้งานจริงให้ คณาจารย์นกั ศึกษาและผูท้ ส่ี นใจทัว่ ไปได้เห็นภาพชัดเจนยิง่ ขึน้ พร้อมทัง้ Load Center และ Consumer เพื่อให้ความรู้ในด้านพลังงานต่างๆ และร่วมเล่นเกมส์ลุ้นรับของ รางวัล ภายในงานได้รบั ความสนใจจากผูเ้ ข้าร่วมงานมากมาย ซึง่ เป็นคณาจารย์และ นักศึกษาในภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและหลากหลายภาควิชา ในจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงผู้ที่สนใจทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้แนวคิดการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อ ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า และส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้า เบรกเกอร์ไฟฟ้า ยี่ห้อ “ฮุนได” สนใจผลิตภัณฑ์ตดิ ต่อ T&D Powertech (Thailand) Co., Ltd. Tel. 0-2002-4395-7 E-mail : info@tdpowertech.com
September-October 2017
Movement
เชลล์ จัดสัมมนา “SHELL Innovation for Sugar Industry 4.0” น�ำเสนอนวัตกรรม ส�ำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานน�ำ้ ตาล
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จ�ำกัด ได้จัดการสัมมนา เรื่อง “SHELL Innovation for Sugar Industry 4.0” ขึ้น ณ อัตตา รีสอร์ท คีรมี ายา เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยได้รบั เกียรติจาก ดร.ประเสริฐ ตปนียางกูร กรรมการผูท้ รงคุณวุฒใิ นคณะกรรมการ สิ่ ง แวดล้ อ มแห่ ง ชาติ นายกสมาคมวิ ศ วกรรมสิ่ ง แวดล้ อ มแห่ ง ประเทศไทย และอุปนายกสภาวิศวกรคนที่สอง เป็นประธานเปิด การสัมมนาอย่างเป็นทางการ พร้อมบรรยายพิเศษ หัวข้อ “อุตสาหกรรม อ้อยและน�้ำตาลและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ส�ำหรับการจัดงานสัมมนาดังกล่าว มีวตั ถุประสงค์สำ� คัญเพือ่ เสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับนโยบาย และสถานการณ์ภาพรวม ของอุตสาหกรรมการผลิตน�ำ้ ตาลในประเทศไทย รวมถึงเพือ่ อัพเดต ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตน�ำ้ ตาล อันจะ เป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ทั้งยัง เป็นเวทีในการพบปะ แลกเปลีย่ นความคิดเห็นระหว่างผูป้ ระกอบการ ในภาคอุตสาหกรรม ผูผ้ ลิตและจ�ำหน่ายสินค้าและบริการทีเ่ กีย่ วข้อง กับกระบวนการผลิตน�้ำตาล เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เท่าทัน ต่อสถานการณ์การแข่งขันของโลกธุรกิจในปัจจุบัน
บรรยายภาพ
1. ดร.ประเสริฐ ตปนียางกูร ประธานเปิดการสัมมนาอย่างเป็น ทางการ 2. คุณวีธรา ตระกูลบุญ กรรมการบริหารฝ่ายการตลาดธุรกิจ น�้ำมันหล่อลื่น ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จ�ำกัด 3. มอบของที่ระลึก 4. ผู้ประกอบการโรงงานน�้ำตาล วิศวกร เจ้าหน้าที่จัดซื้อ ให้การ ตอบรับเข้าร่วมสัมมนาเป็นจ�ำนวนมาก 5. ร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก 6.-8. กิจกรรมงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าหลังงานสัมมนา September-October 2017
เทคโนโลยี มีเดีย ร่วมออกบูธงาน TEMCA 2017
บริษทั เทคโนโลยี มีเดีย จ�ำกัด ได้เข้าร่วมออกบูธในงานสัมมนาและแสดงสินค้า ระบบไฟฟ้า “TEMCA FPRUM & EXHIBITION 2017 PATTAYA” จัดโดยสมาคม ช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรมพัฒนาฝีมือและ แรงงาน และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระหว่างวันที่ 18-19 สิงหาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุมพีช รอยัลคลิฟ พัทยา ภายในงานมีบริษัทที่มีชื่อเสียงน�ำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาร่วมแสดงมากมาย ถือเป็นงานแสดงสินค้าด้านระบบไฟฟ้าทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ งานหนึง่ ของประเทศไทย นอกจากนัน้ ยังมีงานสัมมนาในหัวข้อที่น่าสนใจมากมาย รวมทั้งการแข่งขันทดสอบมาตรฐานฝีมือ แรงงานแห่งชาติ สาขาไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ 1 ประจ�ำปี 2560
September-October 2017
Movement
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวชิ ยั คว้ารางวัลชนะเลิศภาคใต้ “Cabling Contest 2017”
บริษทั อินเตอร์ลงิ้ ค์ คอมมิวนิเคชัน่ จ�ำกัด (มหาชน) ผูน้ ำ� เข้า และจัดจ�ำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ร่วมมือกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงแรงงาน จัดการแข่งขัน “สุดยอดฝีมือสายสัญญาณ ปี 5 (Cabling Contest)” ภายใต้การสนับสนุนของแบรนด์ LINK จาก สหรัฐอเมริกา ผลการแข่งขันรอบคัดเลือกภาคใต้ ผูช้ นะเลิศ ได้แก่ อภิสทิ ธิ์ เต็ ม แก้ ว นั ก ศึ ก ษามหาวิ ท ยาลั ย เทคโนโลยี ร าชมงคลศรี วิ ชั ย รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ธนกร สามัคคี และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ พงศกร ไชยจุติ นอกจากนี้ยังมีผู้ผ่านการคัดเลือกอีก 7 คน ที่ได้รับสิทธิ์เข้าแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศปลายปีนี้ ทั้งนี้ ผู้ผ่านการคัดเลือก 55 คนจากทั่วประเทศ จะได้รับ สิทธิ์เข้าไปแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และขวั ญ ก� ำ ลั ง ใจอย่ า งยิ่ ง ที่ ส มเด็ จ พระเทพรั ต นราชสุ ด าฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลให้แก่ผู้ชนะเลิศ พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท และมีโอกาสเป็น ตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งขันระดับโลก World Skills ASEAN ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทาทา สตีล เปิดบ้านต้อนรับสื่อมวลชน
พาชมนวัตกรรมเหล็กเส้นขึ้นรูป ตัดและดัด (CUT & BEND)
บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จ�ำกัด (มหาชน) เปิดโรงงานต้อนรับสื่อมวลชน พาชมนวัตกรรมเหล็กเส้น ขึน้ รูปตัดและดัด (CUT & BEND) ช่วยเพิม่ ประสิทธิภาพงาน ก่อสร้าง และชมการทดสอบเหล็กเส้นคุณภาพสูง เหล็กเส้น ข้ออ้อย ทาทา ทิสคอน เอส ซุปเปอร์ ดั๊กไทร์ เหล็กต้านแรง สั่นสะเทือนแผ่นดินไหว วั น เลิ ศ การวิ วั ฒ น์ รองกรรมการผู ้ จั ด การใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จ�ำกัด (มหาชน) ได้กล่าว ต้อนรับคณะสือ่ มวลชน และน�ำสือ่ มวลชนเข้าเยีย่ มชมโรงงาน เอ็น.ที.เอส. สตีลกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มทาทา สตีล (ประเทศไทย) ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี อ.ศรีราชา จ.ชลบุ รี โดยโรงงานแห่ ง นี้ ไ ด้ ติ ด ตั้ ง เครื่ อ งจั ก รเพื่ อ ผลิ ต เหล็กเส้นขึน้ รูปตัดและดัด (CUT & BEND) สามารถตัดและดัด เหล็กเส้นก่อสร้างได้ตามขนาดความยาวและองศาตรงตาม แบบอย่างมีคณ ุ ภาพ เป็นการเพิม่ มูลค่างานและโครงการ
September-October 2017
การเลือกใช้ การออกแบบ การติดตั้ง และการบำ�รุงรักษาแผงสวิตซ์แรงต�่ำ (MDB) (รุ่นที่ 3) การอบรมเชิงวิชาชีพเรื่อง
วันพุธที่ 11 ตุลาคม 2560 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคาร วสท. ซอยรามคำ�แหง 39 (เทพลีลา) จัดโดย คณะกรรมการสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สนับสนุนโดย สภาวิศวกร
หลักการและเหตุผล
แผงสวิตช์แรงต�่ำ (MDB) เป็นบริภัณฑ์ไฟฟ้าที่ส�ำคัญและจ�ำเป็นส�ำหรับการ จ่ายกระแสไฟฟ้าจากผู้จัดจ�ำหน่ายไฟฟ้าต่างๆ ไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท ทุกขนาด ทั้งในบ้านพักอาศัย โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล ฯลฯ บุคลากรในระดับผู้ใช้ไฟฟ้าที่จะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับแผงสวิตช์แรงต�่ำ (MDB) คือ ผู้บริหาร/ผู้จัดการโครงการ ผู้ออกแบบระบบไฟฟ้า ผู้จัดหา ผู้ติดตั้ง และผู้ดูแล บ�ำรุงรักษาระบบไฟฟ้า บุคคลเหล่านีม้ หี น้าทีร่ บั ผิดชอบในการเลือกใช้ การออกแบบ การติดตั้ง และการบ�ำรุงรักษาบริภัณฑ์ไฟฟ้าเหล่านี้ ให้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้ำ ไปสู่การใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย การเลือกใช้ ออกแบบ ติดตัง้ และบ�ำรุงรักษาแผงสวิตช์แรงต�ำ่ (MDB) ได้อย่าง ถูกต้อง มีคณ ุ ภาพและปลอดภัยนัน้ ไม่ได้เป็นสิง่ ทีอ่ ยูใ่ นเอกสาร ต�ำราหรือมีการสอน ทัว่ ไป สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า วสท. จึงจัดการอบรมเชิงวิชาชีพนีข้ นึ้ เพือ่ ให้ผเู้ ข้ารับการ อบรมได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องจากวิทยากรผู้ช�ำนาญเฉพาะเรื่อง อีกทั้ง เป็นโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ประสบการณ์กับวิทยากรและระหว่าง ผู้เข้าร่วมอบรมด้วยกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานที่รับผิดชอบ
ผู้ที่ควรเข้าอบรม
ผู ้ บ ริ ห า ร / ผู ้ จั ด ก า ร โ ค ร ง ก า ร ผู้ออกแบบ/ที่ปรึกษา วิศวกร ช่างเทคนิค ผู้ติดตั้ง ผู้ดูแลระบบไฟฟ้า และผู้สนใจ ทั่วไป
คณะวิทยากร
1. คุณพิชิตคเชนทร์ คณีกุล วิศวกรไฟฟ้า 10 การไฟฟ้านครหลวง 2. คุณเตชทัต บูรณะอัศวกุล กรรมการและเลขานุการสาขาวิศวกรรม ไฟฟ้า วสท.
September-October 2017
08:30 - 09.00 น. 09:00 - 10:30 น. 10:30 - 10:45 น. 10:45 - 12:00 น.
ลงทะเบียน มาตรฐานส�ำหรับแผงสวิตช์แรงต�ำ่ (MDB) IEC 61439-2 : Low-voltage switchgear and controlgear assemblies Part 2 : Power switchgear and control gear assemblies มอก. 1436-2540 : ชุดประกอบส�ำเร็จรูป ควบคุมไฟฟ้าแรงดันต�่ำ โดย คุณพิชิตคเชนทร์ คณีกุล พักรับประทานอาหารว่าง การเลือกใช้ และการทดสอบ LV Switchboard โดย คุณเตชทัต บูรณะอัศวกุล
12:00 - 13:00 น. 13:00 - 14:00 น. 14:00 - 14:45 น. 14:45 - 15:00 น. 15:00 - 16:00 น. 16:00 - 16:30 น.
พักรับประทานอาหาร การเลือกใช้ และการทดสอบ LV Switchboard โดย คุณเตชทัต บูรณะอัศวกุล การทดสอบเฉพาะแบบตามข้อ 8.2 มาตรฐาน มอก. 1436 โดย คุณเตชทัต บูรณะอัศวกุล พักรับประทานอาหารว่าง การติดตั้ง และการบ�ำรุงรักษา LV Switchboard โดย คุณเตชทัต บูรณะอัศวกุล ถาม - ตอบ
***ก�ำหนดการ/วิทยากร อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
โปรดอ่าน
หมายเหตุ : กรณีท่านที่เป็นสมาชิกสภาวิศวกร ท่านสามารถน�ำใบเสร็จไปยื่นเพื่อขอรับเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเข้าร่วมการอบรม/สัมมนำ จากสภาวิศวกรได้ไม่เกิน 1,000 บาท/คน/ปี โดยสภาวิศวกรจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเข้าร่วมการ อบรม/สัมมนาให้แก่สมาชิก 1,000 คนแรกเท่านั้น (สอบถามข้อมูลการใช้สิทธิ์ได้ที่สภาวิศวกร โทร. 1303)
ข้อปฏิบัติกรณีการยกเลิก อบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน ทั้งในและต่างประเทศ และได้ช�ำระเงินค่าลงทะเบียนก่อนล่วงหน้า ดังนี้ กรณีที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ยกเลิกการจัดอบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน ทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากสาเหตุใดก็ตาม จะคืนเงินให้กับลูกค้าเต็มจ�ำนวน กรณีที่ผู้ลงทะเบียนแจ้งยกเลิกให้ถือปฏิบัติดังนี้ แจ้งยกเลิกก่อนวันจัดอบรม สัมมนา ดูงาน 30 วัน คืนเงินให้เต็มจ�ำนวนของค่าลงทะเบียน แจ้งยกเลิกก่อนวันจัดอบรม สัมมนา ดูงาน 15 วัน คืนเงินให้ 80% ของค่าลงทะเบียน แจ้งยกเลิกก่อนวันจัดอบรม สัมมนา ดูงาน 7 วัน คืนเงินให้ 50% ของค่าลงทะเบียน แจ้งยกเลิกก่อนวันจัดอบรม สัมมนา ดูงาน 3 วัน หรือภายในวันจัดงาน ไม่คืนค่าลงทะเบียน
ค่าลงทะเบียน
สมาชิก สมาชิก ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ บุคคลทั่วไป นิสิต/นักศึกษาปริญญาตรี
ราคาปกติ 3,000 บาท 3,000 บาท 3,000 บาท 3,000 บาท
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ September-October 2017
ราคาพิเศษเมื่อช�ำระก่อนวันที่ 4 ตุลาคม 2560 2,500 บาท 2,500 บาท 2,500 บาท 2,500 บาท
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คุณนพมาศ ปิ่นสุวรรณ โทร. 0-2184-4600-9
Industry News
ดาวดูปองท์ ได้ควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์แล้ว
DOWDUPONTTM MERGER SUCCESSFULLY COMPLETED บริษัท ดาว ดูปองท์ (NYSE:DWDP) ประกาศความส�ำเร็จ การควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ดาว เคมิคอล (ดาว) และ บริษัท อี ไอ ดูปองท์ เดอ เนอมูร์ แอนด์ คอมปะนี (ดูปองท์) ซึ่ง มีผลในวันที่ 31 สิงหาคม 2560 บริษัทจะด�ำเนินกิจการในรูปแบบ บริษทั ผูถ้ อื หุน้ รายใหญ่ (Holding Company) ภายใต้ชอื่ ดาวดูปองท์ ซึ่งประกอบด้วย 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายเกษตรกรรม ฝ่ายวัสดุศาสตร์ และ ฝ่ายผลิตภัณฑ์พิเศษ การซื้ อ ขายหุ ้ น ของดู ป องท์ แ ละดาวจะยุ ติ ล งหลั ง จาก ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดท�ำการในวันที่ 31 สิงหาคม 2560 และเริ่ ม ต้ น ในวั น นี้ บริ ษั ท ดาวดู ป องท์ จะเริ่ ม การซื้ อ ขายใน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กภายใต้ชื่อหุ้น “DWDP” ตามข้อตกลงการ ควบรวมกิจการ ผู้ถือหุ้นของดาวได้รับหุ้นดาวดูปองท์ในสัดส่วน คงที่ที่ 1 หุ้นดาวต่อ 1 หุ้นดาวดูปองท์ และผู้ถือหุ้นของดูปองท์ ได้รับหุ้นดาวดูปองท์ในสัดส่วนคงที่ที่ 1 หุ้นดูปองท์ต่อ 1.282 หุ้น ดาวดูปองท์ “วันนี้นับเป็นก้าวที่ส�ำคัญในประวัติศาสตร์ของทั้ง 2 บริษัท” แอนดรูว์ ลิเวอร์ริส ประธานผู้บริหาร ดาวดูปองท์ กล่าว “พวกเรา มีความยินดีกับความส�ำเร็จของการควบรวมกิจการในครั้งนี้มาก และก�ำลังก้าวต่อไปเพือ่ จัดตัง้ บริษทั มหาชนทีเ่ ป็นผูน้ ำ� อุตสาหกรรม ทัง้ 3 บริษทั ตามแผนการทีว่ างไว้ ถึงแม้วา่ ผลงานและความแข็งแกร่ง ของเราที่ผ่านมาจะเป็นที่น่าประทับใจก็ตาม คุณค่าที่แท้จริงของ การควบรวมกิจการครั้งนี้คือการก่อตั้งบริษัทใหม่ทั้ง 3 ซึ่งจะเป็น เสมือนแหล่งเชื้อเพลิงส�ำคัญของอุตสาหกรรมที่จะเป็นตัวก�ำหนด ตลาดและขยายการเติบโตเพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทีมงานของเราได้เตรียมแผนการแยกธุรกิจมาเป็นเวลานานมากกว่า 1 ปี และในวันนี้เราได้เวลาลงสนามและปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ ด้วยความตั้งใจที่จะให้การแยกธุรกิจเสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด” คณะกรรมการบริหารของดาวดูปองท์ประกอบด้วยสมาชิก 16 คน 8 คนมาจากคณะกรรมการของดูปองท์ และ 8 คนมาจาก คณะกรรมการของดาว นอกจากนี้ยังมีหัวหน้ากรรมการ 2 คน คือ เจฟฟรี่ เฟททิก ซึ่งเคยด�ำรงต�ำแหน่งกรรมการอิสระของดาว และ อเล็กซานเดอร์ คัทเลอร์ ซึ่งเคยด�ำรงต�ำแหน่งประธานกรรมการ อิสระของดูปองท์ ส่วน แอนดรูว์ ลิเวอร์ริส จะด�ำรงต�ำแหน่ง ประธานคณะกรรมการผู้บริหาร และ เอ็ด บรีน จะเป็นหนึ่งใน คณะกรรมการบริหาร
DowDuPont™ (NYSE:DWDP) today announced the successful completion of the merger of equals between The Dow Chemical Company (“Dow”) and E.I. du Pont de Nemours & Company (“DuPont”), effective Aug. 31, 2017. The combined entity is operating as a holding company under the name “DowDuPont™” with three divisions - Agriculture, Materials Science and Specialty Products. Shares of DuPont and Dow ceased trading at the close of the New York Stock Exchange (NYSE) on Aug. 31, 2017. Beginning today, DowDuPont will start trading on the New York Stock Exchange under the stock ticker symbol “DWDP.” Pursuant to the merger agreement, Dow shareholders received a fixed exchange ratio of 1.00 share of DowDuPont for each Dow share, and DuPont shareholders received a fixed exchange ratio of 1.282 shares of DowDuPont for each DuPont share. “Today marks a significant milestone in the storied histories of our two companies,” said Andrew Liveris, executive chairman of DowDuPont. “We are extremely excited to complete this transformational merger and move forward to create three intended industry-leading, independent, publicly traded companies. While our collective heritage and strength are impressive, the true value of this merger lies in the intended creation of three industry powerhouses that will define their markets and drive growth for the benefit of all stakeholders. Our teams have been working for more than a year on integration planning, and -- as of today -- we will hit the ground running on executing those plans with an intention to complete the separations as quickly as possible.” The Board of Directors of DowDuPont comprises 16 members - eight directors formerly on the DuPont Board and eight directors formerly on the Dow Board. There are two lead directors: Jeffrey Fettig, who previously served as the lead independent director for Dow; and Alexander Cutler, who previously served as the lead independent director for DuPont. Liveris serves as the executive chairman of the Board and Breen also serves on the Board. September-October 2017
Industry News
เทสโก้ โลตัส เลือกใช้สารท�ำความเย็น Solstice® N40 ฮันนี่เวลล์ TESCO LOTUS SELECTS HONEYWELL’S SOLSTICE® N40
ฮันนี่เวลล์ (NYSE: HON) ประกาศในวันนี้ว่า เทสโก้ โลตัส ผู้ประกอบการ ค้าปลีกชัน้ น�ำของไทยภายใต้เทสโก้ กรุป๊ ได้เปลีย่ นมาใช้สารท�ำความเย็น Solstice® N40 ของฮันนี่เวลล์ในร้านค้าเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส 900 สาขา เพื่อบรรลุเป้าหมายลด การปล่อยก๊าซคาร์บอนของบริษัทฯ โดยเทสโก้ โลตัส เป็นผู้ประกอบการค้าปลีกราย แรกในทวีปเอเชียที่เปลี่ยนมาใช้สารท�ำความเย็น Solstice® N40 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ ได้รบั การยอมรับมากทีส่ ดุ ว่าเป็นผลิตภัณฑ์สารท�ำความเย็นทีก่ อ่ ให้เกิดภาวะโลกร้อน ต�่ำที่สุดในอุตสาหกรรมซูเปอร์มาร์เก็ต เทสโก้ ซึง่ เป็นบริษทั แม่ระดับโลกของเทสโก้ โลตัสในประเทศไทยท�ำการปรับปรุง ระบบท�ำความเย็นในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลกเพื่อลดค่าการก่อภาวะโลกร้อน (GWP) ของสารท�ำความเย็น ซึง่ เป็นส่วนหนึง่ ของความมุง่ มัน่ ทีจ่ ะลดปริมาณคาร์บอนทีส่ ง่ ผล กระทบต่อสิง่ แวดล้อม โดยเทสโก้ โลตัส ได้เริม่ ด�ำเนินการเปลีย่ นมาใช้สารท�ำความเย็น Solstice® N40 (R-448A) ของฮันนี่เวลล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรสทั้งหมด 1,500 สาขาทั่วประเทศ โดยจะด�ำเนินการเปลี่ยนภายในเวลา 2 ปี ข้างหน้า จะสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้สูงสุด 10 เปอร์เซ็นต์ หรือเทียบเท่ากับ การลดจ�ำนวนรถยนต์กว่า 67,000 คันออกจากท้องถนน “เทสโก้ โลตัส มุง่ มัน่ ทีจ่ ะเป็นองค์กรค้าปลีกสีเขียวและ บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนที่บริษัทได้ตั้งเอาไว้ ผ่านโครงการ ประหยัดพลังงานหลายโครงการภายในการปฏิบตั งิ านของเรา เราภูมิใจที่ได้เป็นบริษัทค้าปลีกรายแรกในเอเชียที่เปลี่ยนมา ใช้สารท�ำความเย็นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เริ่มจาก ร้านค้าเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส 900 สาขา จาก 1,500 สาขา ภายในอีก 2 ปีขา้ งหน้า Solstice® N40 ของฮันนีเ่ วลล์มคี ณ ุ สมบัติ ตรงตามหลักเกณฑ์ส�ำคัญทุกข้อของเราในด้านการประหยัด พลังงานและประสิทธิภาพ พร้อมกับยังให้ความสะดวกง่ายดาย ในการปรับเปลีย่ นแทนทีส่ ารท�ำความเย็นเดิม จึงไม่มผี ลกระทบ มร.มิโรสลาฟ ฟริมอล ต่อการให้บริการลูกค้าของเราที่มีจำ� นวนกว่า 15 ล้านคนใน (Mr.Miroslav Friml) แต่ละสัปดาห์” มร.มิโรสลาฟ ฟริมอล ประธานกรรมการฝ่าย อสังหาริมทรัพย์ ของเทสโก้ โลตัส กล่าว
แอนนา อัน (Anna An)
“เทสโก้ โลตัส ถือเป็นผู้น�ำในการบุกเบิกแนวทางไปสู่ ผู้ประกอบการค้าปลีกเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยการปรับเปลี่ยนมาใช้โซลูชั่นส์สารท�ำความเย็นที่มีค่า การก่อภาวะโลกร้อนต�่ำเป็นรายแรกในเอเชีย” แอนนา อัน ผูจ้ ดั การทัว่ ไป บริษทั ฮันนีเ่ วลล์ แอดวานซ์ แมธิเรียลส์ ประจ�า ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กล่าว “ประเทศไทยเป็นประเทศแรก ในเอเชีย แปซิฟิก ที่ใช้ Solstice® N40 ในการแก้ปัญหาอย่าง ยั่งยืน และเป็นส่วนส�ำคัญอย่างยิ่งของการติดตั้งสารท�า ความเย็นในระดับโลกของฮันนี่เวลล์ นับเป็นสัญญาณที่น่า ยินดีทมี่ บี ริษทั ซูเปอร์มาร์เก็ตในเอเชียจ�ำนวนมากขึน้ เดินหน้า ปรับเปลีย่ นร้านค้าครัง้ ใหญ่เพือ่ ใช้สารท�ำความเย็นทีเ่ ป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อมมากกว่าด้วยความสมัครใจ” September-October 2017
Honeywell (NYSE: HON) today announced that Tesco Lotus, a leading retailer in Thailand and part of Tesco Group, is converting 900 Tesco Lotus Express stores to Honeywell’s Solstice® N40 refrigerant to voluntarily reduce carbon emissions. It is the first implementation in Asia of Solstice N40, the most widely accepted, lowest global-warmingpotential (GWP), non-flammable replacement for R-404A in the supermarket industry. Tesco—the global parent company of Tesco Lotus in Thailand—is upgrading its supermarket refrigeration systems worldwide to lower-GWP refrigerants as part of its commitment to reduce its carbon footprint. By converting all of its 1,500 Express stores in Thailand over the next two years to Honeywell’s Solstice N40 (R-448A), the retail giant aims to achieve energy savings of up to 10 percent. This is equivalent to removing more than 67,000 cars from the road. “Tesco Lotus is committed to being a green retailer and achieving our sustainability goals through a number of energy-saving initiatives within our operation. We are proud to be the first retailer in Asia to switch to a more environmentally friendly refrigerant. Honeywell’s Solstice N40 meets our key criteria for energy efficiency and performance. It is also an easy replacement for our current refrigerant, ensuring no disruption for the 15 million customers we serve on a weekly basis,” said Mr.Miroslav Friml, Property Director, Tesco Lotus. “Tesco Lotus is leading the way in implementing next-generation, lower-GWP refrigerant solutions in Asia Pacific,” said Anna An, vice president and general manager of Honeywell Advanced Materials, Asia Pacific. “Thailand is the first country in this region to implement Solstice N40 as a sustainable solution, representing a significant part of Honeywell’s global installations. It is very encouraging to see supermarket companies in Asia voluntarily accelerate large-scale store conversions to more environmentally preferable refrigerants.”
ฮิตาชิขึ้นท�ำเนียบผู้น�ำเมจิกควอแดรนท์จากการ์ทเนอร์ ด้านโซลิดสเตตอาร์เรย์ (Solid-State Arrays)
Hitachi Named a Leader in the Gartner Magic Quadrant for Solid-State Arrays
รายงานข่าวจาก บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้น�ำของควอแดรนท์ (Leaders Quadrant) ในรายงานเมจิกควอแดรนท์ด้านโซลิดสเตตอาร์เรย์ (Magic Quadrant for Solid-State Arrays) ในเดือนกรกฎาคม 2560 จากการ์ทเนอร์ อิงค์ บริษัทผู้น�ำระดับโลกด้านการวิจัย ซึ่งบริษัท ฮิตาชิเชื่อว่าด้วยการเติบโตอย่างมากและการเพิ่มประสิทธิภาพให้ กับผลิตภัณฑ์แฟลชทัง้ หมดในกลุม่ Hitachi Virtual Storage Platform (VSP) F Series ส่งผลให้บริษทั สามารถเลือ่ นระดับจากผูท้ า้ ทายของ ควอแดรนท์ (Challengers Quadrant) กลายเป็นผูน้ ำ� ของควอแดรนท์ (Leaders Quadrant) ในที่สุด ทัง้ นี ้ บริษทั การ์ทเนอร์ ระบุวา่ “ผูจ้ ำ� หน่ายในกลุม่ ผูน้ ำ� ของ ควอแดรนท์มีคะแนนสูงสุดจากความสามารถในการด�ำเนินการ และการมีวิสัยทัศน์ที่สมบูรณ์แบบ และผู้จ�ำหน่ายในกลุ่มผู้น�ำของ ควอแดรนท์ยังมีส่วนแบ่งตลาด ความน่าเชื่อถือ รวมถึงความ สามารถในการท�ำตลาดและการขายที่จ�ำเป็นต่อการผลักดันให้เกิด การยอมรับในเทคโนโลยีใหม่ๆ และผู้จ�ำหน่ายเหล่านี้ยังแสดงให้ เห็นด้วยว่าพวกเขามีความเข้าใจในสิ่งที่ตลาดต้องการอย่างแท้จริง ทัง้ ยังเป็นผูส้ ร้างสรรค์นวัตกรรมและเป็นผูน้ ำ� ทางความคิด ตลอดจน มีแผนงานที่ชัดเจน ซึ่งลูกค้าและผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าในอนาคต สามารถน�ำไปใช้เมื่อต้องการออกแบบโครงสร้างและกลยุทธ์ด้าน ระบบจัดเก็บข้อมูล นอกจากนีย้ งั มีบทบาทในภูมภิ าคหลัก ๆ ทัง้ 4 แห่ง มีสถานะทางการเงินทีแ่ ข็งแกร่งต่อเนือ่ ง และพร้อมให้การสนับสนุน แพลตฟอร์มได้อย่างครอบคลุม” มร.ริวอิจิ ออตซูกิ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ กล่าวว่า “บริษัท ฮิตาชิ มีความภูมิใจ อย่างยิ่งที่สามารถน�ำเสนอเทคโนโลยีอันทันสมัยให้กับตลาดได้ อย่างต่อเนื่อง และช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถแข่งขันในตลาด ยุคดิจทิ ลั ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามีความยินดีทไี่ ด้รบั การยกย่อง ให้เป็นผู้น�ำในอุตสาหกรรมโซลิตสเตตอาร์เรย์ และเราจะเดินหน้ำ ผลักดันมาตรฐานอุตสาหกรรมให้สูงยิ่งขึ้นไปพร้อมๆ กับยกระดับ ความส�ำเร็จให้กับลูกค้าของเราด้วย” ส� ำ หรั บ ข้ อ มู ล ฉบั บ สมบู ร ณ์ ข องรายงานการท์ เ นอร์ แมจิกควอแดรนท์ ด้านโซลิตสเตตอาร์เรย์ ปี 2560 (2017 Gartner Magic Quadrant for Solid State Arrays) สามารถดาวน์โหลดได้ที่ เว็บไซต์ : https://www.hds.com/ext/magic-quadrant-for-solidstate-arrays.html
Hitachi Data Systems (HDS), a wholly owned subsidiary of Hitachi, Ltd. (TSE:6501), today announced it has been positioned in the Leaders Quadrant of the July 2017 Magic Quadrant for Solid-State Arrays by Gartner, Inc., a leading global research firm. Hitachi believes its significant growth and enhancements to its all-flash Hitachi Virtual Storage Platform (VSP) F Series product line resulted in the company improving its position, moving it from the Challengers Quadrant to the Leaders Quadrant. According to Gartner “Vendors in the Leaders Quadrant have the highest scores for their Ability to Execute and Completeness of Vision. A vendor in the Leaders Quadrant has the market share, credibility, and marketing and sales capabilities needed to drive the acceptance of new technologies. These vendors demonstrate a clear understanding of market needs; they are innovators and thought leaders; and they have wellarticulated plans that customers and prospects can use when designing their storage infrastructures and strategies. In addition, they have a presence in all four major geographical regions, consistent financial performance and broad platform support.” Ryuichi Otsuki, CEO of Hitachi Data Systems, said. “Hitachitakes pride in bringing continuous breakthroughs to market that help our customers to be as competitive as possible in the digital age,We are pleased to be recognized as a leader in the solid-state array industry and we will continue to challenge industry standards, while positioning our customers to succeed.” To download a complimentary copy of the 2017 Gartner Magic Quadrant for Solid State Arrays report, visit : https:// www.hds.com/ext/magic-quadrant-for-solid-state-arrays.html September-October 2017
ไอเอฟเอส ประกาศซื้อ 2 บริษัท ขยายการเป็นผู้นำ� ตลาดการบริหารจัดการด้านบริการ
IFS Extends Leadership In Service Management With Two Acquisitions
บริ ษั ท ไอเอฟเอส ผู ้ น� ำ ระดั บ โลกด้ า นการพั ฒ นา แอพพลิเคชั่นส�ำหรับองค์กร เปิดเผยว่า ไอเอฟเอสได้ซื้อกิจการ ของ บริษทั เอ็มพีแอลซิสเต็มส์ จ�ำกัด และบริษทั ฟิลด์ เซอร์วสิ แมนเนจเมนท์ จ�ำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัท เอ็มพีแอล ซิสเต็มส์ จ�ำกัด เป็นผู้ให้บริการด้านศูนย์ติดต่อผ่านทุกช่องทาง (Omni-Channel Contact Center) และซอฟต์แวร์สนับสนุนลูกค้า ซึ่งจะท�ำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์ด้านการบริหารจัดการบริการชั้นน�า ของไอเอฟอส เพือ่ น�ำเสนอโซลูชนั สนับสนุนลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ครบวงจร ส�ำหรับบริษทั ฟิลด์ เซอร์วสิ แมนเนจเมนท์ จ�ำกัด ซึง่ เป็น ผูเ้ ชีย่ วชาญด้านการปรับใช้โซลูชนั การบริหารจัดการบริการภาคสนาม ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ จะเข้ามาสนับสนุนฝ่ายขาย ฝ่ายให้คำ� ปรึกษา และฝ่ายสนับสนุนช่วยเหลือด้านการบริหารจัดการ บริการของไอเอฟเอสในภูมิภาคแห่งนี้ ทัง้ นี้ บริษทั เอ็มพีแอลซิสเต็มส์ จ�ำกัด ซึง่ มีสำ� นักงานใหญ่ตงั้ อยูใ่ นสหราชอาณาจักร ได้พฒ ั นาและปรับใช้ศนู ย์ตดิ ต่อทุกช่องทาง และโซลูชันการบริหารจัดการบริการภาคสนามกับแบรนด์ที่ได้รับ การยอมรับมากทีส่ ดุ ในสหราชอาณาจักร ได้แก่ แบบคอก (Babcock International) โฮมเซิร์ฟ (HomeServe) อีโคมาสเตอร์ (Ecomaster) เอ็นจิ (ENGIE) และไอซ์แลนด์ (Iceland) ขณะทีบ่ ริษทั ฟิลด์ เซอร์วสิ แมนเนจเมนท์ จ�ำกัด เป็นพันธมิตรด้านการปรับใช้งานระบบของ ไอเอฟเอสในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ด้านการให้ค�ำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารจัดการบริการจะเข้าร่วม กั บ ส� ำ นั ก งานในสหราชอาณาจั ก รของไอเอฟเอสเพื่ อ ผลั ก ดั น ให้ตลาดในภูมิภาคแห่งนี้เกิดการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน บริษัท ฟิลด์ เซอร์วิส แมนเนจเมนท์ จ�ำกัด ได้ให้การสนับสนุน ไอเอฟเอสด้วยการติดตัง้ และปรับใช้ระบบการบริหารจัดการบริการ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดให้กับองค์กรบางแห่งในสหราชอาณาจักรเป็น ที่เรียบร้อยแล้ว เฟรดริก วอม โฮเฟ รองประธานอาวุโสของกลุม่ การพัฒนา ธุรกิจ บริษัท ไอเอฟเอส ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการใน ครั้งนี้ว่า “ไอเอฟเอสได้รับการยอมรับอยู่แล้วว่าเป็นผู้น�ำระดับโลก ด้านการบริหารจัดการบริการ และเราก�ำลังเดินหน้าขยายตัวในตลาด แห่งนี้ด้วยการเข้าซื้อกิจการของบริษัททั้ง 2 แห่งนี้ ส�ำหรับโอกาส ที่เราจะได้รับจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท เอ็มพีแอลซิสเต็มส์ ก็คือองค์กรธุรกิจทั่วโลกที่ต้องการให้บริการที่ดีเยี่ยมส�ำหรับลูกค้ำ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการแจ้งปัญหาจนกระทั่งปัญหาได้รับ การแก้ไขนัน้ จะพร้อมน�ำเสนอความสามารถด้านการบริหารจัดการ บริการที่ครอบคลุมทุกช่องทางการเชื่อมต่อที่มากที่สุดในตลาด แห่งนี้” September-October 2017
IFS, the global enterprise applications company, today announces it has completed the acquisition of mplsystems Limited and Field Service Management Limited. mplsystems Limited is a provider of omni-channel contact center and customer engagement software that, together with IFS’s leading Service Management offering, provides a complete end-to-end customer engagement solution. Field Service Management Limited, an implementation specialist of Field Service Management solutions in the UK and Ireland will bolster IFS’s Service Management sales, consulting, and support organisation in the region. UK-based mplsystems Limited develops and implements omni-channel contact center and field service management solutions at some of the UK’s most well respected brands, including: Babcock International, HomeServe, Ecomaster, ENGIE, and Iceland. The company is recognized as a Visionary by Gartner in its Magic Quadrant for Contact Center as a Service for Western Europe (published 24 October 2016) and a Niche Player in its Magic Quadrant for the CRM Customer Engagement Center (published 8 May 2017), primarily thanks to its investment in innovation that has resulted in a flexible, integrated and easy-to-use contact center management platform. Field Service Management Limited is a UK based implementation partner of IFS in the UK and Ireland. Its expert team of Service Management consultants will join IFS’s UK operation in order to drive further growth in the region. To date, Field Service Management Limited has supported IFS with some of the largest service management implementations in the UK. Commenting on the acquisitions, Fredrik vom Hofe, Group Senior Vice President for Business Development at IFS said “IFS is already recognized as a global leader in the Service Management sector, which we are extending further with these two acquisitions. The opportunity resulting from the acquisition of mplsystems will mean that businesses around the world who want to deliver the best customer service from the moment a customer makes an enquiry through to an issue being resolved, now have the most complete and connected service management proposition available on the market’.
ELECTRICITY & INDUSTRY magazine
ปี 2560
SUBSCRIPTION
ข้าพเจ้า ชื่อ .................................................................................................สกุล........................................................................................................ ตำ�แหน่ง .......................................................................................บริษัท/ห้าง/ร้าน ..................................................................................... ที่อยู่ (ที่ท�ำ งาน) ............................................................................แขวง/ตำ�บล ........................................................................................... เขต/อำ�เภอ ...................................................................................จังหวัด ......................................................รหัสไปรษณีย์ ....................... โทร ...............................................................................................แฟกซ์ ..................................................................................................... ที่อยู่ (ที่บ้าน) .................................................................................แขวง/ตำ�บล .......................................................................................... เขต/อำ�เภอ ....................................................................................จังหวัด .....................................................รหัสไปรษณีย์ ...................... โทร ...............................................................................................แฟกซ์ ..................................................................................................... รหัสสมาชิก ...............................................................................
ประสงค์จะบอกรับวารสาร “ไฟฟ้าและอุตสาหกรรม” 1 ปี 6 ฉบับ 480 บาท 2 ปี 12 ฉบับ 960 บาท สมาชิกต่ออายุ 2 ปี 12 ฉบับ 800 บาท ตั้งแต่ฉบับที่ ..............เดือน .....................................ปี ................... โดยส่งวารสารไปที่ ที่ทำ�งาน ที่บ้าน พร้อมกันนี้ได้ส่งค่าสมาชิกเป็นจำ�นวนเงิน ............................. บาท (ตัวอักษร ........................................................................................) เช็คธนาคาร .............................................................................. สาขา ............................................................................................... เช็คคร่อมสั่งจ่าย “บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จำ�กัด”
ธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “คุณวาสนา แซ่อึ้ง” ที่ทำ�การไปรษณีย์โทรเลขบางกอกน้อย โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จำ�กัด” ชื่อธนาคาร สาขา เลขที่บัญชี กรุงเทพ สะพานพระปิ่นเกล้า 162-0-74737-6 กสิกรไทย บางยี่ขัน 047-2-56333-5 ทหารไทย จรัญสนิทวงศ์ 020-2-27244-9 ไทยพาณิชย์ จรัญสนิทวงศ์ ซ.48 121-2-04080-0 หมายเหตุ กรุณาส่งแฟกซ์ หรือสำ�เนาใบเข้าบัญชี (Pay-in Slip) มาให้ บริษัทฯ พร้อมเขียนชื่อ-นามสกุล และรหัสสมาชิก (ถ้ามี) กำ�กับมาด้วย
บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จำ�กัด 471/3-4 อาคารพญาไทเพลส ถนนศรีอยุธย� แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. +66 (0)26 444 555, +66 (0)23 545 333 ต่อ 301 โทรสาร +66 (0)26 446 649, +66 (0)23 545 322
หากผู้อ่านท่านใดสนใจรายละเอียดต่างๆ ที่ปรากฏในวารสาร
ความร่วมมือระหว่างมนุษย์และเครื่องกลในยุคถัดไป เทคโนโลยีจัดการพลังงาน..เปลี่ยนอาคารธรรมดาให้เป็นอาคารอัจฉริยะ Taiwan 2017 กับ Green Industry “คอนกรีตบล็อกทนความร้อนผลิตไฟฟ้า” ด้วยวัสดุตั้งต้นจากเปลือกไข่ไก่ Emerson ...ท้าทายความยากในอุตสาหกรรมด้วยระบบคอมเพรสเซอร์ คอนเดนเซอร์ ประโยชน์ 6 ข้อ ส�หรับธุรกิจที่จะได้รับจากบล็อกเชน
ELECTRICITY & INDUSTRY MAGAZINE
KNIPEX Tethered Tools* KNIPEX Tethered Tools* KNIPEX Tethered Tools*
ปีที่ 24 ฉบับที่ 5 กันยายน-ตุลาคม 2560 * Tethered Tools; tethered = ยึดติด ต้องการข้อมูล เพิ่มเติม ติดต่อ คุณสุเมธี เชื้อสกุล โทร. 081-575-7557 E-mail : sumetee@knipex.com
www.knipex.com www.knipex.com
www.knipex.com
กรุณากรอกข้อมูลดังกล่าวให้ครบถ้วนเพื่อการติดต่อจัดส่งข้อมูลกลับไปยังท่านต่อไป ชื่อ .................................................................................................ชื่อสกุล ....................................................................................................... ที่อยู่ ..............................................................................................แขวง/ตำ�บล ................................................................................................ เขต/อำ�เภอ ....................................................................................จังหวัด .....................................................รหัสไปรษณีย์ .......................... โทร ...............................................................................................แฟกซ์ .........................................................................................................
ตำ�แหน่งงานที่ท่านรับผิดชอบ
กรรมการผู้จัดการ/เจ้าของกิจการ ผจก.โรงงาน ผจก.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ผจก.วิศวกรรม ผจก.ฝ่ายซ่อมบำ�รุง วิศวกรฝ่ายผลิต วิศวกรทดสอบ อื่นๆ โปรดระบุ ............................................
ประเภทของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมเคมี/ปิโตรเคมี
อุตสาหกรรมพลาสติก อุตสาหกรรมกระดาษ อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมงานเชื่อม อุตสาหกรรมโลหการ อื่นๆ โปรดระบุ ............................................
ประเภทของกิจการ
ผู้ผลิต
ผู้แทนจำ�หน่าย
ผู้ผลิต/ผู้แทนจำ�หน่าย
หน่วยงานราชการ
ใบอนุญาตเลขที่ ปน. (ต)/1339 ปณจ.บางกอกน้อย ถ้าฝากส่งในประเทศไม่ต้องผนึกตราไปรษณียากร
บริการธุรกิจตอบรับ
บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จำ�กัด 619/5 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
ประโยชน์ทท่ี า่ นจะได้รบั จากวารสาร “ไฟฟ้าและอุตสาหกรรม” เนื้อหา .................................................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................................ โฆษณา/รายละเอียดผลิตภัณฑ์ .............................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................................
ความคิดเห็นทีม่ ตี อ่ คอลัมน์ตา่ งๆ ทีป่ รากฏในวารสาร “ไฟฟ้าและอุตสาหกรรม” ชื่อคอลัมน์ สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย IEEE Power & Energy Society Thailand Chapter สมาคมไฟฟ้าแสงสว่างแห่งประเทศไทย Article Special Scoop Special Area IT Technology Product PR News Seminar Calendar Seminar Movement Industry News IT News
มีประโยชน์มาก
มีประโยชน์
พอใช้
ควรปรับปรุง
ดัชนีสินค้าประจำ�เดือนกันยายน - ตุลาคม พ.ศ. 2560 บริษัท
โทรศัพท์
โทรสาร
ABB CO., LTD.
0-2665-1000
0-2324-0502
อุปกรณ์ไฟฟ้า
MAXIMIZE INTEGRATED TECHNOLOGY CO., LTD.
0-2525-0299
0-2525-0298
Industrial Relays
10
MENNEKES Elektrotechnik GmbH & Co. KG
0-2741-5266
0-2741-5267
ผู้ผลิตปลั๊กอุตสาหกรรม
15
-
-
งานแสดงสินค้า
42
Oil&GAS THAILAND
0-2513-1418
-
งานแสดงสินค้า
45
RITTAL CO., LTD.
0-2704-6580
-
ผู้ผลิตและจ�ำหน่ายตู้ระบบไฟฟ้า
27
0-3884-7571-3
0-3884-7575
จ�ำหน่าย ติดตั้งคาปาซิเตอร์
7
THAILAND LIGHTING FAIR
0-2664-6499
-
งานแสดงสินค้า
44
YAMABISHI ELECTRIC CO., LTD.
0-2879-9699
0-2879-4200
ผู้ผลิตและจ�ำหน่ายมอเตอร์ไฟฟ้า, พัดลมระบายอากาศ-อุตสาหกรรม
14
เชลล์แห่งประเทศไทย บจก.
0-2262-6000
0-2657-9888
น�้ำมันหล่อลื่น
3
ซี.เค.แอล. โพลีเทค เอ็นจิเนียริ่ง บจก.
0-2149-6990
0-2149-6981
ตัวแทนจ�ำหน่ายกล่องและตู้พลาสติกกันฝุ่น และละอองน�้า
16
เซฟการ์ด เทคโนโลยี หจก.
0-2897-0303
-
ไฟฉุกเฉิน, อุปกรณ์ไฟฉุกเฉินและแสงสว่าง
42
ไทยบ�ำรุง เอ็นจิเนียริ่ง บจก.
0-2282-9191
0-2282-9200
ผู้นำ� เข้าอุปกรณ์ไฟฟ้า-คอนโทรล, ตู้โหลดเซ็นเตอร์-เซอร์กิตเบรกเกอร์
ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) บจก.
0-2002-4395-97
0-2002-4398
อุปกรณ์ไฟฟ้า
25
พี ไอ เอส พาวเวอร์ ดิสทริบิวชั่น บจก.
0-2105-3011-2
0-2105-3013
สวิตช์
4
เพาเวอร์ เรด บจก.
0-2300-5671-3
0-2300-5937
อุปกรณ์ไฟฟ้า
13
มหาธน อีเลคทริค หจก.
0-2894-3447-9
0-2416-1659
อุปกรณ์ไฟฟ้า
24
0-2540-6991
-
มิเตอร์อิเล็กทรอนิกส์
ปกหลังใน
แมนิ่ง ไวทัล โปรดักส์ บจก.
0-81-575-7557
-
คีม KNIPEX
ปกหน้า, 26
เรเซล ควอลิตี้ เทรดดิ้ง บจก.
0-2683-3040
0-2294-8198
อุปกรณ์ไฟฟ้า
12
0-2300-5671-3
0-2300-5937
อุปกรณ์ไฟฟ้า
11
0-3368-4333
-
สวิตช์เกียร์
5
0-2876-2727-8
0-2476-1711
Couplings
22
สยามคอนโทรล ซีสเต็มส์ บจก.
0-2291-3387
0-2291-3587
ชุดควบคุมเครื่องก�ำเนิดไฟฟ้า
9
ออมรอน อิเลคทรอนิคส์ บจก.
0-2942-6700
0-2937-0501
อุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบควบคุมอัตโนมัติ
8
อะตอม-มิค พาวเวอร์ บจก.
0-2503-3535
0-2503-3519-20
อุปกรณ์ไฟฟ้า
17
อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น บมจ.
0-2693-1222
0-2693-1399
สาย LAN
23
อีลีเน็ต บมจ.
0-2899-9480-1
0-2899-1256
Neutral Grounding Resistors (NGR) PCM Multiplexer
6
เอวีร่า บจก.
0-2681-5050
0-2681-5995
อุปกรณ์ไฟฟ้า
21
0-2702-0581-8
0-2377-5937
ติดตั้ง EOCR อิเล็กทรอนิกส์โอเวอร์โหลดรีเลย์ ป้องกันมอเตอร์ไหม้
14
0-2434-0099
0-2434-3251
อุปกรณ์ไฟฟ้า
19
METALEX
SAMWHA (THAILAND) CO., LTD.
มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) บจก.
ลีฟเพาเวอร์ บจก. ลูซี่ อิเล็คทริค (ประเทศไทย) บจก. เวอร์ทัส บจก.
เอส เอ วี เมคคานิคคอล เซอร์วิสส์ แอนด์ ซัพพลายส์ หจก. เอส.พี.วาย แอนด์ เคเบิ้ล บจก.
September-October 2017
ประเภทสินค้า
หน้า ปกหลัง
ปกหน้าใน
108-c4-Ad ESI-Edit.pdf
C
M
Y
CM
MY
CY
CMY
K
1
4/10/2560 BE
16:26