Electricity & Industry Magazine Issue May - June 2020

Page 1







Samwa_21.59x29.21cm.pdf

1

3/28/17

11:02 AM


L;b++O*@Yh;9Wg

­¯ ³³± ³±µµ 7 O ¯­µ© ¯®® Smart Solution Week www.smartsolutionweek.com



CONTENTS MAY-JUNE

2020

14 IEEE POWER & ENERGY SOCIETY THAILAND (IEEE PES-THAILAND)

16 18 20 22 24

สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัท ผลิตไฟฟ้า จ�ำกัด (มหาชน) บริษัท ราช กรุ๊ป จ�ำกัด (มหาชน)

SPECIAL AREA 26 Flying Trigger Technology

บริษัท ออมรอน อีเลคทรอนิคส์ จ�ำกัด

บริษัท แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จ�ำกัด

48 NEW SOCKET for Industrial Relays (GZP) 50 PowerTag เซ็นเซอร์วัดค่าพลังงานไฟฟ้า

แบบไร้สายที่เล็กที่สุดในโลก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค 52 การเลือกใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์แรงดันปานกลาง (Medium Voltage Circuit Breakers : MVCB) บริษัท ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) จ�ำกัด COVER STORY 30 LS Electric’s Smart Energy Brightens Up

the Better Future LSIS Bangkok

SCOOP 34 “หมอชนะ” แอปพลิเคชันเพื่อการระวังภัยโควิด-19

กองบรรณาธิการ

ARTICLE 36 เสริมภูมิคุ้มกันธุรกิจ ต้านโควิด-19 ด้วยไอที

สุภัค ลายเลิศ

กุญแจส�ำคัญช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า อีริคสัน

38 เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) คือ

May-June 2020

40 ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพจากมลพิษฝุ่นจิ๋ว

PM2.5 และข้อปฏิบัติตัวที่ส�ำคัญ ศ. นพ.ชายชาญ โพธิรัตน์

SPECIAL SCOOP 43 10 ผลงานนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์

รางวัล “สุดยอดนวัตกรรมช่างชุมชน” กองบรรณาธิการ

IT ARTICLE 56 การโจมตีทางไซเบอร์และเหตุฉุกเฉินที่เพิ่มสูงขึ้น

ส่งผลกระทบองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เดลล์ เทคโนโลยีส์ 58 10 เทรนด์เทคโนโลยีที่มาแรงที่สุดในปี 2563 การ์ทเนอร์ 62 PRODUCT 66 PR NEWS 68 MOVEMENT 70 INDUSTRY NEWS 72 IT NEWS



EDITOR TALK

MAY-JUNE

2020

สถานการณ์โรคระบาดไวรัสโควิด-19 ทีโ่ ลกของเราก�ำลังเผชิญอยู่ ถือว่าเป็นสถานการณ์ทรี่ า้ ยแรงทีส่ ดุ ครัง้ หนึง่ ทีโ่ ลกต้องเผชิญ เพราะ ครั้งนี้โรคระบาดได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของประชาชนทั่วไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนเป็นประเทศแรกของโลก และมีแนวโน้มที่จะระบาดหนัก แต่ด้วยความร่วมมือกันของประชาชนที่ พร้อมใจปฏิบตั ติ ามค�ำแนะน�ำอย่างเคร่งครัด กอปรกับขีดความสามารถของบุคลากรด้านสาธารณสุขของไทย ท�ำให้สถานการณ์กลับคลีค่ ลาย ได้อย่างรวดเร็ว จนได้รบั ค�ำชมไปทัว่ โลก ซึง่ เป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดีวา่ คนไทยเราถ้ามุง่ มัน่ ตัง้ ใจจะท�ำอะไรแล้ว ก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก และ หวังว่าไวรัสโควิด-19 นีจ้ ะมีวคั ซีนรักษาได้ในเร็ววันนี้ หลังจากนีไ้ ปก็จะเป็นช่วงเวลาฟืน้ ฟูเศรษฐกิจ ซึง่ ก็ตอ้ งอาศัยความร่วมมือจากประชาชน เช่นกัน เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าได้อย่างเข้มแข็งต่อไป ส�ำหรับ Electricity & Industry Magazine ฉบับนี้ ก็ยังคงมีเนื้อหาหลากหลายเช่นเดิม อาทิ บทความเรื่อง เจาะลึก “แนวทาง การเชื่อมโยงพลังงานหมุนเวียนสู่ระบบไฟฟ้าแห่งอนาคตของอาเซียน” จาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือกิจกรรมการจัด โครงการรณรงค์ “การใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและประหยัด (SAVE THAI)” ของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก็เป็นอีกโครงการที่น่าสนใจ ั หาหนึง่ ทีพ่ บว่าเป็นอุปสรรคต่อการท�ำงาน และคุกคามชีวติ บุคลากรทางการแพทย์อย่างมาก จากวิกฤตโรคระบาด “โควิด-19” มีปญ คือการปกปิดข้อมูลของประชาชนในกลุม่ เสีย่ งติดเชือ้ โควิด-19 ท�ำให้ในหลายๆ ครัง้ แพทย์และพยาบาลต้องหยุดการท�ำงานทีละเป็นกลุม่ ใหญ่ เพือ่ กักตัวเองหรือแม้กระทัง่ ล้มป่วย ดังนัน้ จึงได้มกี ารท�ำแอปพลิเคชันเพือ่ การระวังภัยโควิด-19 “หมอชนะ” ขึน้ เพือ่ ลดความเสีย่ งบุคลากร ทางการแพทย์ในภารกิจพิชิตไวรัสร้าย โดยรายละเอียดและการใช้งานสามารถติดตามหาอ่านได้ในฉบับนี้ ในส่วนของ Article นั้น ก็ยังคงน่าสนใจมากเช่นกัน โดยมีบทความจาก อีริคสัน เรื่อง เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) คือ กุญแจ ส�ำคัญช่วยเพิม่ ประสบการณ์ทดี่ แี ก่ลกู ค้า หรือบทความเรือ่ ง ผลกระทบต่อชีวติ และสุขภาพจากมลพิษฝุน่ จิว๋ PM2.5 และข้อปฏิบตั ติ วั ทีส่ ำ� คัญ เขียนโดย ศ. นพ.ชายชาญ โพธิรตั น์ ซึง่ ท่านเป็นแพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญหน่วยโรคระบบการหายใจ เวชบ�ำบัดวิกฤตและภูมแิ พ้อายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเรือ่ ง เสริมภูมคิ มุ้ กันธุรกิจ ต้านโควิด-19 ด้วยไอที โดย สุภคั ลายเลิศ จากบริษทั ยิบอินซอย จ�ำกัด คอลัมน์ Special Scoop เป็นการรายงานผลงาน 10 ผลงานนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ รางวัล “สุดยอดนวัตกรรมช่างชุมชน” ส่วน IT Article มีบทความน่าสนใจคือ การโจมตีทางไซเบอร์และเหตุฉกุ เฉินทีเ่ พิม่ สูงขึน้ ส่งผลกระทบองค์กรในภูมภิ าคเอเชียแปซิฟกิ โดย เดลล์ เทคโนโลยีส์ ทั้งหมดนี้ทางกองบรรณาธิการได้คัดสรรเพื่อให้เป็นความรู้แก่ทุกท่าน พบกันใหม่ฉบับหน้า กิตติ วิสุทธิรัตนกุล

ที่ปรึกษา : รศ. ดร.สุธี อักษรกิตติ์ / ไกรสีห์ กรรณสูต / พรเทพ ธัญญพงศ์ชัย / เฉลิมชัย รัตนรักษ์ / ประเจิด สุขแก้ว / ผศ.พิชิต ล�ำยอง / วัลลภ เตียศิริ / พรชัย องค์วงศ์สกุล / ดร.กมล ตรรกบุตร / ศ. ดร.พีรศักดิ์ วรสุนทโรสถ / รศ. ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม / รศ. ดร.ปริทรรศน์ พันธุบรรยงก์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : กิตติ วิสุทธิรัตนกุล บรรณาธิการวิชาการ : ดร.สุรพล ด�ำรงกิตติกุล ผู้ช่วยบรรณาธิการ : นิภา กลิ่นโกสุม กองบรรณาธิการ : ธิดาวดี บุญสุยา / ทัศนีย์ เรืองติก / ณัฐชยา แก่นจันทร์ พิสูจน์อักษร : อ�ำพันธุ์ ไตรรัตน์ ศิลปกรรมรูปเล่ม / ศิลปกรรมโฆษณา : ชุติภา จริตพันธ์ / ศศิธร มไหสวริยะ ฝ่ายโฆษณา : ศิริภรณ์ กลิ่นขจร / มนัส ไชยเพส / กษิรา เหมบัณฑิตย์ / กัลยา ทรัพย์ภิรมณ์ / วีระวรรณ พุทธโอวาท เลขานุการฝ่ายโฆษณา : ชุติมณฑน์ บัวผัน ฝ่ายสมาชิก : ศิรินทิพย์ โยธาพันธ์

May-June 2020

บทความที่ปรากฏใน ELECTRICITY & INDUSTRY Magazine เป็นความคิดเห็น ส่ ว นตั ว ของผู ้ เขี ย น ไม่ มี ส ่ ว นผู ก พั น กั บ บริ ษั ท เทคโนโลยี มี เ ดี ย จ� ำ กั ด แต่ อ ย่ า งใด หากบทความใดที่ผู้อ่านเห็นว่ามีการลอกเลียนหรือแอบอ้าง กรุณาแจ้งที่กองบรรณาธิการ ELECTRICITY & INDUSTRY Magazine บทความต่ า งๆ ที่ ป รากฏในหนั ง สื อ ได้ ผ ่ า นการตรวจทานอย่ า งถี่ ถ ้ ว นเพื่ อ ให้ เ กิ ด ความถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด หากเกิดความผิดพลาดจะมีการชี้แจงและแก้ไขต่อไป เจ้าของ

บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จ�ำกัด

471/3-4 อาคารพญาไทเพลส ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0-2354-5333 โทรสาร 0-2640-4260 http:// www.technologymedia.co.th เพลท-แยกสี : บริษัท อิมเมจิ้น กราฟิค จ�ำกัด พิมพ์ที่ : ห้างหุ้นส่วนจ�ำกัด รุ่งเรืองการพิมพ์





สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย

“แนวทางการเชื่อมโยง พลังงานหมุนเวียน สู่ระบบไฟฟ้า แห่งอนาคตของอาเซียน” เจาะลึก

เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้พลิกโฉมรูปแบบพลังงานเดิมให้เปลี่ยนไป การพัฒนา ทางเทคโนโลยีอาจไปเร็วกว่าที่เราคิด โดยเฉพาะเรื่องของ “พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy หรือ RE)” ทีก่ ลายมาเป็นกระแสหลักในตลาดพลังงานโลก และ มีบทบาทในการชีท้ ศิ ทางนโยบายของรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ในยุคนี้ เนือ่ งจาก เป็นพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล การเข้ามา ของพลังงานหมุนเวียน ท�ำให้ กฟผ. ต้องศึกษาหาแนวทางรับมือและปรับเปลีย่ นวิธกี าร เพื่อให้ระบบพลังงานหมุนเวียนสามารถบูรณาการร่วมกับระบบพลังงานในรูปแบบ เดิมได้ เพื่อให้การผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. มีความมั่นคงและทันสมัย สอดรับกับความ เปลี่ยนแปลงของโลก โดย พัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. ได้กล่าวถึงแนวทางบูรณาการจัดการพลังงานไฟฟ้าเพื่อน�ำไปสู่ทิศทางการพัฒนาที่ดี มากขึ้นกว่าเดิม

ผสานการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้เข้ากับระบบไฟฟ้า ที่มีอยู่เดิม (Thailand RE Grid Integration)

จากการเข้ามาของพลังงานหมุนเวียน ท�ำให้เกิดความร่วมมือระหว่าง กฟผ. กับ ส�ำนักงานพลังงานสากล (International Energy Agency : IEA) ในการศึกษาความเป็น ไปได้ของผลกระทบทีม่ ตี อ่ ระบบผลิตไฟฟ้าของไทยในอนาคต หรือทีเ่ รียกว่า Thailand May-June 2020

Renewable Grid Integration Assessment เพื่อ หาแนวทางเชื่อมต่อระบบผลิตไฟฟ้าแบบใหม่ เข้ากับแบบเก่า ซึง่ ผลของการศึกษาได้ชใี้ ห้เห็นว่า จ� ำ เป็ น ต้ อ งปรั บ ปรุ ง ระบบผลิ ต ไฟฟ้ า ของไทย ให้มีความยืดหยุ่น (Flexibility) หรือการท�ำ Grid Modernization ดังนั้น กฟผ. จึงได้ด�ำเนินการศึกษาเพื่อ ปรับปรุงโรงไฟฟ้าให้มคี วามอัจฉริยะและยืดหยุน่ รวมถึงศึกษาเพื่อจัดตั้งระบบพยากรณ์การผลิต ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (RE Forecast Center) และศู น ย์ ค วบคุ ม การผลิ ต ไฟฟ้ า จากพลั ง งาน หมุนเวียน (RE Control Center) โดย กฟผ. จะต้อง ดูแลบริหารจัดการความสามารถในการจ่ายไฟฟ้า ให้สอดคล้องกับความต้องการการใช้ไฟฟ้าของ ประชาชน นอกจากนี้ การติดตัง้ ระบบกักเก็บพลังงาน ไฟฟ้า (Battery Energy Storage System : BESS) ก็เป็นสิ่งจ�ำเป็นเช่นกัน กฟผ. จึงต้องด�ำเนินการ ศึ ก ษาเพื่ อ ติ ด ตั้ ง ระบบกั ก เก็ บ พลั ง งานไฟฟ้ า โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีศักยภาพการผลิตไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียนด้วย ไม่เพียงเท่านี้ ยังได้ ร่ ว มกั บ องค์ ก ารพลั ง งานระหว่ า งประเทศ (International Energy Agency : IEA) ท�ำการศึกษา การสร้างความยืดหยุน่ ของระบบไฟฟ้า (In-Depth Grid Flexibility Study) โดยต้องท�ำความเข้าใจถึง พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึง ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย ดังนั้น เราจึงคาดว่า จะสามารถรั บ มื อ กั บ สถานการณ์ ที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น ในอนาคต ซึ่งมาเร็วกว่าที่คาดไว้ได้ โดยเฉพาะ พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop)

สร้างเสถียรภาพการใช้พลังงาน หมุนเวียนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม (RE Integration Solution as a Firm Power Supply)

นอกจากการเชื่ อ มต่ อ ระบบผลิ ต ไฟฟ้ า แบบใหม่เข้ากับแบบเก่าแล้ว กฟผ. ยังได้ศึกษา แนวทางการรับมือกับพลังงานหมุนเวียน เพื่อ ให้การผลิตไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและ มีเสถียรภาพ หนึ่งในโครงการที่ กฟผ. ได้ริเริ่ม ด�ำเนินการคือ โซลาร์เซลล์ลอยน�ำ้ (Hydro Floating


การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย Solar) เนื่องจากประเทศไทยมีแหล่งน�้ำที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ ประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้น หากน�ำระบบเซลล์แสงอาทิตย์ มาติดตั้งบนผืนน�้ำที่มีอยู่แล้ว เพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าควบคู่ไปด้วยกัน ก็จะท�ำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากขึน้ ซึง่ เป็นการใช้ประโยชน์จาก สิ่งที่มีอยู่ให้คุ้มค่า ไม่เพียงเท่านี้ กฟผ. ยังได้ด�ำเนินโครงการ EGAT Energy Excellent Center (EGAT EEC) ซึง่ มีเป้าหมายคือการเผยแพร่ความรู้ และประสบการณ์ตรง เพื่อเป็นตัวอย่างและเป็นแนวทางให้แก่ ผูท้ สี่ นใจ รวมถึงหน่วยงานอืน่ ๆ ต่อไปในอนาคต โดย EGAT EEC นัน้ จะรวบรวมเทคโนโลยีดา้ นพลังงานหมุนเวียน ทัง้ พลังงานแสงอาทิตย์ ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) เครื่องยนต์ก๊าซ (Gas Engine) ระบบไฮโดรเจน (Hydrogen System) และระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (Battery Energy Storage System หรือ BESS) ควบรวมไปกับ ระบบอินเวอร์เตอร์ของ กฟผ. (EGAT Inverter Model) ซึง่ ทัง้ หมดนี้ จะแสดงให้ เ ห็ น ถึ ง การใช้ เ ทคโนโลยี ใ นด้ า นพลั ง งานหมุ น เวี ย น เพือ่ เพิม่ ศักยภาพในการเชือ่ มโยงกับโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Microgrid) ในอนาคต ทีน่ จี่ งึ จะเป็นตัวอย่างแรกของภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทีม่ กี ารน�ำเทคโนโลยีดา้ นพลังงานหมุนเวียนจ�ำนวนมากทีส่ ดุ ทีม่ อี ยู่ ในตลาดพลังงานไฟฟ้ามาใช้ดว้ ยกัน โดยร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทีม่ บี ทบาทในด้านพลังงานไฟฟ้า จึงเห็นได้วา่ กฟผ. จะสามารถหา แนวทางในการบูรณาการพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้ระบบไฟฟ้า มั่นคงและมีเสถียรภาพได้อย่างแน่นอน

สร้างความมั่นคงทางพลังงานร่วมกันของ ทั้งภูมิภาคอาเซียน (Regional RE Integration and Beyond)

หากมองภาพรวมของระบบไฟฟ้าในภูมิภาค จะเห็นได้ถึง ความแตกต่างของแต่ละประเทศในอาเซียน ซึ่งมีศักยภาพในด้าน การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น สปป.ลาว ที่มีศักยภาพสูงมากในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน�้ำ ในขณะทีเ่ วียดนามมีศกั ยภาพสูงในด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน ลมและน�ำ้ ส่วนประเทศไทยนั้นมีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าจาก พลังงานแสงอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แต่ละประเทศในอาเซียนมองร่วมกัน นัน่ ก็คอื การให้ความส�ำคัญกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เนื่องจากพลังงานหมุนเวียนนั้นเป็นกระแสที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว และแพร่หลายไปทั่วเกือบทุกภูมิภาค ด้วยเหตุผลเช่นนี้แล้ว จึง ไม่อาจปฏิเสธได้วา่ เราจ�ำเป็นทีจ่ ะต้องเชือ่ มโยงระบบการผลิตไฟฟ้า ระหว่างประเทศเข้าด้วยกัน เพือ่ ทีจ่ ะร่วมกันผลิตพลังงานไฟฟ้าแล้ว ซื้อขายกันระหว่างประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดการเอื้อประโยชน์กัน ในประเทศอาเซียน

ดังนั้น สาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างระบบส่งไฟฟ้าจึงจ�ำเป็น และควรจะท�ำให้มีการเชื่อมต่อกันระหว่างประเทศด้วย ปัจจุบัน ประเทศไทยมีสายส่งไฟฟ้าทีส่ ามารถเชือ่ มโยงกับประเทศเพือ่ นบ้าน แล้ว ซึง่ เป็นสายส่ง 500 kV ใช้เชือ่ มต่อกับระบบไฟฟ้าของ สปป.ลาว ซึ่งเป็นความร่วมมือแบบทวิภาคีภายใต้การตกลงการซื้อขายไฟฟ้า ของทั้ง 2 ประเทศ แต่ในอนาคตจะมีการขยายความร่วมมือเป็น แบบพหุภาคีภายใต้ความร่วมมือจากหลากหลายประเทศในอาเซียน อนาคตของพลังงานหมุนเวียนนั้นดูมีความหวัง เนือ่ งจากเทคโนโลยีในปัจจุบนั มีความก้าวหน้า รวมไปถึงเรายังมี ประสบการณ์ และความรู้ความช�ำนาญที่สะสมบ่มเพาะไว้ นอกจากนี้ ระบบไฟฟ้าของเราที่มีอยู่เดิมก็สามารถพัฒนา ให้ ร องรั บ พลั ง งานหมุ น เวี ย นได้ โ ดยสิ่ ง ที่ ต ้ อ งท� ำ ต่ อ ไปก็ คื อ ประสานความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เพือ่ ให้ระบบไฟฟ้าของเรา เชือ่ มโยงกัน ซึง่ หัวใจส�ำคัญก็คอื ต้องพยายามพัฒนาระบบไฟฟ้า ซึง่ เป็นสาธารณูปโภคพืน้ ฐาน รวมถึงการบริหารจัดการการซือ้ ขาย ไฟฟ้าให้เกิดขึน้ โดยสิง่ นีจ้ ะเป็นหนทางสูก่ ารบูรณาการการซือ้ ขาย พลังงาน ซึ่งมีพลังงานหมุนเวียนเข้ามาในระบบ นอกจากนี้ ยังเป็นการยกระดับแหล่งพลังงานต่างๆ ที่มีอยู่ในภูมิภาค ด้วย พัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. จะเห็นได้ว่า จากกระแสสังคมที่ให้ความส�ำคัญต่อการรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม โดยค�ำนึงถึงความยัง่ ยืนของโลก ได้ส่งผลให้วงการไฟฟ้าของไทยรวมไปถึงในหลากหลายประเทศ ต้องมีการปรับเปลีย่ นวิธกี ารผลิตให้สอดรับกับนโยบายของรัฐ และ สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ซึ่งจะเพิ่มมากขึ้นตาม เทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าและทันสมัย ดังนั้น กฟผ. จึงต้องด�ำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้าน การผลิตไฟฟ้าให้กับประเทศไทย นั่นก็คือการจัดท�ำแพลตฟอร์ม เพื่อใช้ส�ำหรับการบริหารด้านพลังงาน (Energy Management Platform) เพื่อให้การผลิต การส่ง และการใช้ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สงู สุด โดยใช้ความรูท้ หี่ ลากหลายมาประกอบสร้าง ให้เกิดขึน้ นอกจากนี้ จะต้องท�ำให้คำ� ว่า “นวัตกรรมไฟฟ้าเพือ่ ชีวติ ที่ดีกว่า (Innovate Power Solution for a Better Life)” นั้น เกิดขึน้ จริง เพราะจะก่อให้เกิดประโยชน์กบั ประเทศไทยและประเทศ ต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนอย่างเห็นได้ชัด บทความจาก https://www.egat.co.th/index.php? option=com_content&view=article&id=3439:20200402-art01 &catid=49:public-articles-egat&Itemid=251 May-June 2020


สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย

โครงการส่งเสริม

การประหยัดไฟฟ้า ด้วยหลอด LED กลุ่มเป้าหมาย

อาคารและโรงงานขนาดกลางและขนาดเล็กทีไ่ ม่ได้ขนึ้ ทะเบียน ในการควบคุมของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรกั ษ์พลังงาน (พพ.) ที่อยู่ในพื้นที่จ�ำหน่ายของ กฟน. (กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ)

คุณสมบัติผู้ขอรับการสนับสนุน

หลักการและเหตุผล

ต้ อ งเป็ น นิ ติ บุ ค คลที่ จั ด ตั้ ง ตามกฎหมายไทย โดยเป็ น สถานประกอบการประเภทอาคาร/โรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในการควบคุมของกรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และต้องเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่ให้ บริการของ กฟน.

กระทรวงพลังงาน ได้กำ� หนดแผนอนุรกั ษ์พลังงาน พ.ศ. 25582579 (Energy Efficiency Plan : EEP 2015) โดยมีมาตรการหนึง่ ใน กลยุทธ์ภาคบังคับ ได้แก่ มาตรการบังคับใช้เกณฑ์มาตรฐานอนุรกั ษ์ พลังงานส�ำหรับผู้ผลิตและผู้จ�ำหน่ายพลังงาน (Energy Efficiency Resources Standards : EERS) ซึง่ เป็นมาตรการทีก่ ำ� หนดให้ผผู้ ลิต และผู้จ�ำหน่ายพลังงานจะต้องมีส่วนร่วมส่งเสริมให้ผู้ใช้พลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2566-2579 ดังนั้น เพื่อให้มาตรการดังกล่าวบรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม ในปี พ.ศ. 2562 กฟน. จึงได้ดำ� เนินโครงการส่งเสริมการประหยัดไฟฟ้ำ ด้วยหลอด LED ในกลุ่มอาคาร/โรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก ด้วยการกระตุ้นให้เกิดการใช้หลอดไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงในระบบ แสงสว่างเพื่อลดปัญหาสภาวะโลกร้อน และการประหยัดการใช้ ไฟฟ้าของประเทศ

หลักเกณฑ์การสนับสนุน

วัตถุประสงค์

อัตราการสนับสนุน

1. เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนทางด้านพลังงาน และเพิม่ ขีดความสามารถในการแข่งขัน 2. เพือ่ สนับสนุนให้ลกู ค้าใช้หลอดไฟฟ้าทีม่ คี ณ ุ ภาพ ประหยัด พลังงาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทดแทนหลอดไฟฟ้าเดิม ที่ใช้พลังงานมาก ท�ำลายสุขภาพสายตา และก่อให้เกิดมลพิษต่อ สิ่งแวดล้อม

May-June 2020

1. กฟน. จะพิจารณาคัดเลือกผูเ้ ข้าร่วมโครงการฯ ตามหลักเกณฑ์ ความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสารใบสมัครตามล�ำดับก่อนหลัง 2. ส�ำหรับมาตรการที่ได้ด�ำเนินการไปแล้วหรือมาตรการที่ ขอรับการสนับสนุนทีซ่ ำ�้ ซ้อนกับโครงการสนับสนุนอืน่ ๆ ของหน่วยงาน ภาครัฐและของ กฟน. ไม่สามารถน�ำมาขอรับการสนับสนุนได้ 3. ผูข้ อรับการสนับสนุนจะต้องลงนามและปฏิบตั ติ ามบันทึก ข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างผู้ขอรับการสนับสนุนและ ที่ปรึกษาโครงการส่งเสริมการประหยัดไฟฟ้าด้วยหลอด LED ตาม รูปแบบที่ กฟน. ก�ำหนด 4. ผูข้ อรับการสนับสนุนทีไ่ ด้รบั การอนุมตั กิ ารสนับสนุนจาก กฟน. แล้ว จะต้องด�ำเนินการปรับเปลีย่ นหลอดไฟฟ้าแสงสว่างเป็น ประเภท LED ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 กฟน. จะให้การสนับสนุนการลงทุนแก่สถานประกอบการทีม่ ี การปรับเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าแสงสว่างเป็นประเภท LED และมีการ ตรวจวัดพิสจู น์ผลประหยัดพลังงานเฉพาะผลประหยัดทีป่ ระเมินว่ำ จะเกิดขึน้ ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนแรก ในอัตรา 1 บาทต่อ 1 หน่วย (kWh) และมีวงเงินสนับสนุนไม่เกิน 30,000 บาท (สามหมืน่ บาทถ้วน) ต่อนิตบิ คุ คล ในวงเงินสนับสนุนรวมทัง้ โครงการฯ จ�ำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน)


การไฟฟ้านครหลวง

การสมัครเข้าร่วมโครงการ

1. ผู้ประสงค์จะขอรับการสนับสนุนสามารถขอรับเอกสาร ใบสมัครได้ที่ ที่ปรึกษาโครงการฯ หรือสามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.mea.or.th โดยสามารถยืน่ ใบสมัครขอรับการสนับสนุนตัง้ แต่ วันที่ 9 เมษายน 2562 จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 หรือจนกว่ำ เงินสนับสนุนจะหมด 2. เอกสารการสมัครขอรับการสนับสนุน ประกอบด้วย 2.1 ใบสมัครขอรับการสนับสนุนโครงการส่งเสริมการ ประหยัดไฟฟ้าด้วยหลอด LED 2.2 ส�ำเนาใบแจ้งหนี้คา่ ไฟฟ้า 1 เดือน 2.3 ส� ำ เนาหนั ง สื อ จดทะเบี ย นนิ ติ บุ ค คลหรื อ ส� ำ เนำ หนังสือรับรองจากกระทรวงพาณิชย์ 3. ผู ้ ข อรั บ การสนั บ สนุ น ส่ ง เอกสารทางไปรษณี ย ์ ม าที่ โครงการทีป่ รึกษาเพือ่ ศึกษาและด�ำเนินโครงการส่งเสริมการประหยัด ไฟฟ้าด้วยหลอด LED ห้อง 408 ตึกฮันส์ บันตลิ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน

กรุงเทพฯ 10330 โดยจะพิจารณาใบสมัครตามล�ำดับก่อนหลังในการ ยื่นเอกสาร โดยยึดจากวันประทับรับ ณ ไปรษณีย์ต้นทางเป็นหลัก 4. ผู้ขอรับการสนับสนุนที่ได้รับแจ้งผลผ่านการพิจารณาใน เบือ้ งต้นแล้ว จะต้องท�ำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใน ระยะเวลาที่ก�ำหนด ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผูร้ บั ผิดชอบโครงการ : ฝ่ายเศรษฐกิจพลังไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง ที่ปรึกษาโครงการ : ศูนย์เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านเทคโนโลยี ไฟฟ้าก�ำลัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิม่ เติมได้ที่ : กองบริหารนโยบายเศรษฐกิจ พลังงาน ฝ่ายเศรษฐกิจพลังไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง โทรศัพท์ : 0-2220-5764, 0-2220-5000 ต่อ 4568 ที่ปรึกษาโครงการฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทร. 0-2218-6642, 08-5045-2300, 09-6042-0342 https://www.facebook.com/ac.chula, Line : @imo2631z

เพิ่ม Platform ยกระดับบริการไฟฟ้ากลุ่มคอนโดฯ MEA จับมือ Origin

ไม่ต้องเดินทางลดความเสี่ยงติดไวรัส COVID-19

นันทวรรณ ธรรมวิไลวัฒน์ ผู้อำ� นวยการฝ่ายพัฒนาระบบ งานประยุกต์ การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ร่วมกับ สิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษทั พาร์ค ลักชัวรี่ จ�ำกัด ในเครือบริษทั ออริจนิ้ พร็อพเพอร์ตี้ จ�ำกัด (มหาชน) เปิดตัว โครงการ พัฒนา MEA Smart Life Platform เพื่อยกระดับการให้บริการ และอ�ำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า ในโครงการของบริษัท ออริจนิ้ พร็อพเพอร์ตี้ จ�ำกัด (มหาชน) ซึง่ จะช่วยลดความเสีย่ งในการ ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากการเดินทาง ณ โครงการ พาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์ ซอยสุขุมวิท 24 เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมำ MEA ในฐานะหน่วยงานผู้ให้บริการด้านระบบไฟฟ้าในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ได้เล็งเห็นถึงความส�ำคัญ ในการยกระดับงานบริการที่ทันสมัย ตอบรับความต้องการวิถีชีวิต คนเมืองมหานคร และอ�ำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในกลุ่ม ผู ้ อ ยู ่ อ าศั ย คอนโดมิ เ นี ย ม โดยการลงนามบั น ทึ ก ความเข้ า ใจใน โครงการนีจ้ ะเป็นการเชือ่ มต่อ Platform งานบริการบางส่วนจาก MEA Smart Life Application ในฟังก์ชนั ส�ำคัญให้สามารถใช้งานใน Origin

Connect TH ซึ่งเป็น Application ที่ช่วยอ�ำนวยความ สะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จ�ำกัด (มหาชน) โดยการเชื่อมต่อครั้งนี้ จะท�ำให้ผใู้ ช้งาน Application สามารถตรวจสอบค่าไฟฟ้า ช� ำ ระเงิ น ผ่ า นการสแกน QR Code หรื อ Barcode ตรวจสอบประวัติการใช้ไฟฟ้าย้อนหลังได้สูงสุด 6 เดือน แจ้งไฟฟ้าขัดข้องและรับแจ้งประกาศดับไฟฟ้าล่วงหน้า อีกทัง้ ยังมีแผนทีจ่ ะพัฒนางานบริการด้านอืน่ ๆ เพิม่ เติม ในอนาคต ทั้งนี้ ส�ำหรับผู้ประกอบการรายใดที่สนใจ และมี Application ส�ำหรับผูอ้ ยูอ่ าศัยในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อรับการเชือ่ มต่อ Platform จาก MEA Smart Life Application ได้ที่ ฝ่ายพัฒนาระบบงานประยุกต์ MEA โทร. 0-2289-0151 ต่อ 5579

May-June 2020


สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย

PEA จัดโครงการรณรงค์

“การใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและประหยัด (SAVE THAI)” ชวนคนไทย “ใช้ไฟ เซฟ เซฟ” เป็นฮีโร่ช่วยชาติ

การไฟฟ้ า ส่ ว นภู มิ ภ าค (PEA) จั ด โครงการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ “การใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและประหยัด (SAVE THAI)” เพือ่ ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แนวคิด “เซฟไทย คนไทยใช้ไฟ เซฟ เซฟ” ชวนคนไทย ทุกคนเป็นฮีโร่ชว่ ยชาติประหยัดไฟ ด้วยการเรียนรู้ ท�ำความเข้าใจ และร่วมกันปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและ ประหยัด กว่า 60 ปีทกี่ ารไฟฟ้าส่วนภูมภิ าคหรือ PEA อยูเ่ คียงข้างและ เติมเต็มความสว่างไสว และส่งเสริมคุณภาพชีวติ ให้กบั คนไทยทัว่ ทุก ภูมภิ าค พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และงานบริการด้านพลังงานไฟฟ้า และพร้อมส�ำหรับการก้าวสูท่ ศวรรษที่ 7 โดยการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค May-June 2020

จะมุง่ พัฒนามาตรฐานสินค้าและบริการด้านพลังงานไฟฟ้า น�ำไปสู่ องค์กรทีย่ งั่ ยืนเพือ่ ตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของ ผูใ้ ช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนือ่ ง พร้อมทีจ่ ะเดินหน้าผลักดันโครงการส�ำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ไฟฟ้าและประเทศชาติ โครงการนีม้ เี ป้าหมายสร้างความเชือ่ มัน่ ในสินค้าและบริการ ทั้งด้านความปลอดภัยและการประหยัดพลังงานไฟฟ้า พร้อมทั้ง จัดกิจกรรมรณรงค์ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจังและส่งเสริม คุณภาพชีวติ ให้กบั ประชาชนผูใ้ ช้ไฟฟ้า ส�ำหรับรูปแบบการด�ำเนินการ ของโครงการฯ จะยึดหลักการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผูใ้ ช้ไฟฟ้า เล็งเห็นความจ�ำเป็น และมองว่าการประหยัดเป็นเรือ่ งใกล้ตวั ผ่าน ทุกช่องทางมีเดีย ทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึง


การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

ประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง โดยจะ น� ำ เสนอแนวคิ ด สื่ อ สารข้ อ มู ล ที่ เ ป็ น ประโยชน์ การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด และปลอดภัย การแจ้งเตือน ตลอดจน ข่ า วกิ จ กรรมที่ ก ารไฟฟ้ า ส่ ว นภู มิ ภ าค จัดขึ้น โดยยึดหลักสื่อสารตาม “ฤดูกาล” ประกอบด้ ว ย “SAVE THE SUMMER” ร้อนนี้ คนไทยใช้ไฟ ‘เซฟ เซฟ’ จะเน้นประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เดือน เมษายนถึงมิถุนายน ซึ่งในช่วงหน้าร้อน ประเทศไทยจะพบกั บ สภาพอากาศ ที่ร้อนจัด และจะมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า มากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ ท�ำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และ จากสถานการณ์ปจั จุบนั หลายหน่วยงาน เริ่มมีมาตรการให้พนักงานท�ำงานที่บ้าน หรือ Work from Home สนองนโยบาย เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ที่ ทั่ ว โลกน� ำ มาใช้ เ พื่ อ ช่ ว ยลดการแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงต้อง ให้ความส�ำคัญกับกระบวนการประหยัดไฟ และใช้ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ โดยใน ช่วงฤดูร้อนปีนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จั ด กิ จ กรรมลุ ้ น ทองทั่ ว ไทย #เซฟไทย เซฟไฟ ลุน้ ทอง เชิญชวนประชาชนช่วยกัน เซฟค่าไฟ เพียงถ่ายรูปบิลค่าไฟ 2 เดือน (ตั้ ง แต่ เ ดื อ นมี น าคม-เมษายน) หรื อ (ตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม) แล้ว ส่งมาทีแ่ ฟนเพจเซฟไทย ผูใ้ ช้ไฟทีม่ คี า่ ไฟ ลดลงสามารถร่วมลุ้นรับทองค�ำมูลค่า กว่า 5 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีการ เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา 3 ชุด เริ่ม ออนแอร์ตั้งแต่ปลายมีนาคมเป็นต้นไป เพื่ อ รณรงค์ ใ ห้ ป ระชาชนปรั บ เปลี่ ย น พฤติ ก รรมการใช้ ไ ฟฟ้ าอย่ า งประหยั ด ค่าไฟได้มากขึ้น ต่อด้วย “SAFE IN THE RAIN” ฝนนี้ คนไทยใช้ไฟ ‘เซฟ เซฟ’ พุ่งเป้า ไปที่การสื่อสารตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึง กันยายน ซึง่ ช่วงหน้าฝนมีอตั ราเสีย่ งจาก สภาพอากาศทีเ่ ปลีย่ นแปลง รวมทัง้ อาจ

เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ ลมพายุ ฝนรุนแรง น�ำ้ ท่วม ไฟดับ ย่อมส่งผลกระทบ ด้ า นความปลอดภั ย ของการใช้ ไ ฟฟ้ า อย่างมาก จึงต้องเร่งให้ความรูค้ วามเข้าใจ ด้านการจัดการความปลอดภัยอย่างเข้มข้น โดยเตรียมเปิดตัวเพลง พร้อมมิวสิควิดโี อ ร่วมแสดงโดยนักร้องชัน้ น�ำของเมืองไทย และ PEA แบรนด์แอมบาสเดอร์ รวม ไปถึงการจัดโรดโชว์ลงพื้นที่ ตรวจความ ปลอดภัยของการใช้ไฟฟ้าภายในอาคาร บ้านเรือน สถานประกอบการ และให้ ค�ำแนะน�ำพร้อมรับมือการใช้ไฟฟ้าอย่าง ปลอดภัยในหน้าฝน ปิ ด ท้ า ยด้ ว ย “SAVE THAI’S HAPPINESS” รอยยิ้มทั่วไทย คนไทย ใช้ไฟ ‘เซฟ เซฟ’ ในช่วงเดือนตุลาคม ถึงธันวาคม ด้วยสภาพอากาศหนาวเย็น และอัดแน่นด้วยเทศกาลส�ำคัญๆ มากมาย จึงเป็นช่วงที่คนไทยจะรื่นเริงสนุกสนาน กับงานเทศกาลแห่งความสุขยามค�่ำคืน มากขึ้น ย่อมมีความต้องการใช้ไฟฟ้า ส�ำหรับการเฉลิมฉลองและจัดงานที่เต็ม ไปด้วยแสง สี เสียง นั่นท�ำให้หลายคน อาจหลงลืมเรื่องการใช้ไฟอย่างประหยัด และปลอดภัยในช่วงเวลานั้นๆ ได้ โครงการนี้มีเป้าหมายส�ำคัญคือ สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และปรับเปลีย่ น พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย และประหยั ด พร้ อ มทั้ ง สนั บ สนุ น ให้ ประชาชนมีส่วนร่วม ด้วยรูปแบบการ สื่อสารข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็น ประโยชน์ เพือ่ ให้ทกุ วันเป็นวันสว่างสดใส ของทุกคน ตามสโลแกน Brightness for life quality สว่างทั่วทิศ สร้างคุณภาพ ชีวิตทั่วไทย มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับโครงการ ใช้ ไ ฟฟ้ า อย่ า งปลอดภั ย และประหยั ด ชวนคนไทย “ใช้ไฟ เซฟ เซฟ” ทุกฤดูกาล โดยสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรม ต่ า งๆ ได้ ท าง Facebook Fanpage เซฟไทย May-June 2020


สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย

เอ็กโก กรุป๊ โดยมูลนิธไิ ทยรักษ์ปา่ องค์กรสาธารณกุศล ก่อตั้งและสนับสนุน การด�ำเนินงานโดย เอ็กโก กรุ๊ป เพื่อการ อนุ รั ก ษ์ แ ละฟื ้ น ฟู ป ่ า ต้ น น�้ ำ และความ หลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ส�ำคัญของ ประเทศให้เกิดความยั่งยืน จับมืออุทยาน แห่งชาติดอยอินทนนท์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช และกลุ่มมัคคุเทศก์ ท้องถิ่น ปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิว่ แม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ หลังเปิดให้บริการ เส้นทางฯ มากว่า 20 ปี เพื่อรักษาระบบ นิเวศป่าเมฆ 1 ใน 3 แห่งของประเทศ ซึ่ง เป็นป่าต้นน�้ำสายส�ำคัญในพื้นที่สูงสุดของ ประเทศไทย ควบคู่กับการปลูกจิตส�ำนึก รั ก ษ์ ป ่ า ต้ น น�้ ำ อย่ า งยั่ ง ยื น แก่ เ ยาวชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยได้จัดพิธี ส่งมอบเส้นทางฯ กิว่ แม่ปาน ทีป่ รับปรุงใหม่ ให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา เอ็กโก กรุป๊ ตระหนักถึงความส�ำคัญ ของทรัพยากรธรรมชาติ และก�ำหนดให้ การเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมและใส่ใจต่อ ชุมชนและสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในพันธกิจ ขององค์กรตั้งแต่เริ่มด�ำเนินกิจการ ในปี พ.ศ. 2545 ได้กอ่ ตัง้ มูลนิธไิ ทยรักษ์ปา่ ด้วย เจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนการอนุรักษ์และ ฟื้นฟูป่าต้นน�้ำและความหลากหลายทาง ชีวภาพในพืน้ ทีป่ า่ ต้นน�ำ้ ส�ำคัญของประเทศ ให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งการพัฒนาเส้นทาง ศึกษาธรรมชาติให้เป็นแหล่งเรียนรู้ระบบ นิเวศป่าต้นน�้ำ เป็นหนึ่งในภารกิจที่มูลนิธิ ไทยรักษ์ป่าได้สานต่อการด�ำเนินงานจาก เอ็กโก กรุ๊ป มาอย่างต่อเนื่อง กิว่ แม่ปานเป็นป่าเมฆและป่าต้นน�า้ ส� ำ คั ญ ในพื้ น ที่ สู ง สุ ด ของประเทศไทย เป็นต้นก�ำเนิดแม่นำ�้ ปิง ทีไ่ หลรวมเป็นแม่นา�้ เจ้าพระยา มีความหลากหลายทางชีวภาพ สูง และเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติทไี่ ด้รบั ความนิยมล�ำดับต้นๆ จากนักท่องเที่ยว May-June 2020

เอ็ก โก กรุ๊ป โดยมูลนิธิไทยรักษ์ป่า จับมือ อช.ดอยอินทนนท์

ปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติ

กิ่วแม่ปาน

1. ทั้งในและต่างประเทศ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไม่ต่�ำกว่า 2 แสนคนเดินทางมาศึกษา ท่องเที่ยว ชมความงามของธรรมชาติป่าเมฆและป่าต้นน�ำ้ แห่งนี้ “กิว่ แม่ปานเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งแรกทีเ่ อ็กโก กรุป๊ ร่วมกับกรมป่าไม้ บุกเบิก ขึน้ ในปี พ.ศ. 2540 เพือ่ ให้เป็นแหล่งเรียนรูป้ า่ ต้นน�ำ้ ของประเทศ และปี พ.ศ. 2550 มูลนิธิ ไทยรักษ์ป่าได้พัฒนาเส้นทางฯ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ปัจจุบันสภาพเส้นทางฯ และระบบนิเวศ มีการเปลีย่ นแปลง ทัง้ จากสภาพภูมอิ ากาศและการรองรับผูค้ น จึงเป็นทีม่ าของการปรับปรุง เส้นทางฯ ร่วมกับอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ภายใต้แนวคิดลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ โดยยังคงความกลมกลืนกับธรรมชาติ ให้มีความปลอดภัย มีมาตรฐาน และส่งเสริมการ เรียนรู้ ตามทีเ่ คยด�ำเนินการมาตลอด” ธงชัย โชติขจรเกียรติ ผูช้ ว่ ยกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ สายบริหารองค์กร เอ็กโก กรุ๊ป และกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า กล่าวถึงที่มาของการ ปรับปรุงเส้นทางฯ ในขณะที่ มานนีย์ พาทยาชีวะ ผู้จัดการส่วนมูลนิธิเอ็กโก กรุ๊ป และเลขาธิการ มูลนิธไิ ทยรักษ์ปา่ เล่าว่า “ปัจจุบนั เส้นทางฯ กิว่ แม่ปานมีประเด็นด้านผลกระทบต่อระบบ นิเวศ ท�ำให้การปรับปรุงครัง้ นี้ มูลนิธฯิ ให้ความส�ำคัญกับการลดผลกระทบเพือ่ ความยัง่ ยืน ของระบบนิเวศเป็นล�ำดับแรก ด้วยการส�ำรวจระบบนิเวศและผลกระทบที่เกิดขึ้น และ สรุปร่วมกันท�ำทางเดินยกระดับหรือบอร์ดวอล์ค โดยใช้เข็มเหล็กเจาะเฉพาะจุดเป็นฐานราก ซึ่งเป็นวิธีที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน้อยที่สุด รวมถึงใช้แผ่นไม้เนื้อแข็งเป็นทางเดิน


บริษัท ผลิตไฟฟ้า จ�ำกัด (มหาชน)

4. 2.

5.

3. เพื่อความกลมกลืนกับธรรมชาติ ซึ่งทางเดินยกระดับนี้ช่วยลดการเดินบนพื้นดิน โดยตรง แก้ปัญหาหน้าดินแน่นแข็ง ที่ท�ำให้น�้ำไม่ซึมผ่านไปยังใต้ดิน อันเป็นสาเหตุ ของน�ำ้ ท่วมขังและการชะล้างหน้าดินซึง่ มีแร่ธาตุตา่ งๆ เมือ่ ฝนตก นอกจากนัน้ ยังช่วย เปิดพื้นที่ให้พืชพันธุ์ต่างๆ เติบโต คลุมดินได้ และเป็นทางผ่านส�ำหรับสัตว์ขนาดเล็ก ด้วย” นอกจากการปรับปรุงเส้นทางฯ แล้ว มูลนิธิฯ ยังได้จัดท�ำป้ายสื่อความหมาย ธรรมชาติใหม่ตลอดเส้นทาง ตัง้ แต่การทบทวนประเด็นและข้อความในการสือ่ ความหมาย การเปลี่ยนวัสดุของป้ายให้มีความทนทานต่อสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงมากขึ้น ตลอดจนร่วมกับอุทยานฯ พัฒนาแอปพลิเคชันส�ำหรับการลงทะเบียนจองคิว และ เดินในเส้นทางฯ ซึ่งจะอ�ำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวลดความแออัด อีกทั้ง สอดคล้องกับการเรียนรู้และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันอีกด้วย “เอ็กโก กรุป๊ และมูลนิธไิ ทยรักษ์ปา่ มุง่ หวังให้การปรับปรุงเส้นทางฯ กิว่ แม่ปานนี้ เป็นต้นแบบของความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อความยั่งยืนของระบบนิเวศอย่าง แท้จริง เพราะการอนุรักษ์ดูแลสิ่งแวดล้อมไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็น หน้าที่ของทุกคนที่จะร่วมกันรักษาให้กิ่วแม่ปานเป็นมรดกทางธรรมชาติที่ยังคงอยู่ เพือ่ ส่งต่อคุณค่าของป่าเมฆและห้องเรียนธรรมชาติปา่ ต้นน�ำ้ แห่งนีจ้ ากรุน่ สูร่ นุ่ ต่อไป”

6. 1. พิธีส่งมอบเส้นทางศึกษาธรรมชาติ

กิ่วแม่ปาน 2. จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน 3. มัคคุเทศก์ท้องถิ่นให้ข้อมูลป่าต้นน�้ำและ การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติในเส้นทาง 4. ป้ายสื่อความหมายธรรมชาติ 5. แอปพลิเคชันรักษ์ปา่ ส�ำหรับการลงทะเบียน จองคิวและเดินในเส้นทาง 6. ท างเดิ น ยกระดั บ หรื อ บอร์ ด วอล์ ค บน เส้นทางฯ กิ่วแม่ปานที่ปรับปรุงใหม่

May-June 2020


สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย

ราช กรุ๊ป สนับสนุน

ทุนจัดหาอุปกรณ์ ทางการแพทย์ ราช กรุ๊ป ได้รบ ั

เครื่องหมาย คาร์บอนฟุตพริ้นท์ องค์กร ปี 2562

บริษทั ราช กรุป๊ จ�ำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน สถาบันบ�ำราศนราดูร โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) จ�ำนวนเงินรวม 900,000 บาท เพือ่ ด�ำเนินการจัดหาอุปกรณ์ ทางการแพทย์ส�ำหรับป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ และ ดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่เหมาะสมต่อไป บริษัทฯ ตระหนักและซาบซึ้งในความเสียสละทุ่มเทของ บุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจ�ำหมูบ่ า้ น ตลอดจนหน่ ว ยงานที่ เ กี่ ย วข้ อ งทุ ก ภาคส่ ว นอย่ า งจริ ง ใจ บริษทั ฯ ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มทีก่ บั มาตรการ “อยูบ่ า้ น หยุดเชือ้ เพือ่ ชาติ” ร่วมกับทุกภาคส่วนเพือ่ หยุดการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยเร็วที่สุด

May-June 2020

บริษัท ราช กรุ๊ป จ�ำกัด (มหาชน) เดินหน้าบริหาร จัดการก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดปัญหาผลกระทบจากการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ซึ่งมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อีกทั้งเตรียมพร้อมรับแนวทางการ พัฒนาประเทศสู่ “สังคมคาร์บอนต�่ำ” ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้น�ำกลไกการลดก๊าซเรือนกระจก โดยสมัครใจ ได้แก่ การจัดท�ำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization) และโครงการลดก๊าซ เรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction : T-VER) เข้ามาใช้ บริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกภายในอาคารส�ำนักงาน และ โรงไฟฟ้าหลักของบริษัทฯ ส่งผลให้เมื่อเร็วๆ นี้ อาคาร ส�ำนักงานใหญ่ของบริษทั ฯ ทีจ่ งั หวัดนนทบุรไี ด้รบั การรับรอง เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร จากองค์การบริหาร จัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) ต่อเนือ่ งเป็น ปีที่ 2 เช่นเดียวกับโรงไฟฟ้าราชบุรแี ละโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ ที่ได้รับการรับรองเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 และ พ.ศ. 2558 ตามล�ำดับ


บริษัท ราช กรุ๊ป จ�ำกัด (มหาชน)

กิจจา ศรีพัฑฒางกุระ

กิ จ จา ศรี พั ฑ ฒางกุ ร ะ กรรมการผู ้ จั ด การใหญ่ บริษทั ราช กรุป๊ จ�ำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลกระทบจาก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ โลกก้าวเข้าสูส่ งั คมคาร์บอนต�ำ่ โดยทุกภาคส่วนต้องช่วยกันลด การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมต่างๆ ในระดับที่ ธรรมชาติสามารถดูดซับ ปรับเปลีย่ นพฤติกรรมลดการบริโภค ทรัพยากรทีเ่ กินความจ�ำเป็นและใช้ชวี ติ แบบเรียบง่าย ตลอดจน ดูแลรักษาและใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่าง คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ เทคโนโลยีคาร์บอนต�่ำเพื่อทดแทนเทคโนโลยีดั้งเดิม บริษัทฯ ตระหนักและเตรียมพร้อมด้วยการลงทุนพัฒนาการผลิตไฟฟ้ำ จากพลังงานทดแทนในสัดส่วนมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ได้ วางมาตรการลดการใช้ ท รั พ ยากรและอนุ รั ก ษ์ พ ลั ง งาน โดยเฉพาะในโรงไฟฟ้าหลักของเรา เพื่อลดปริมาณการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกจากการผลิตและการด�ำเนินธุรกิจของบริษทั ฯ “บริษัทฯ ได้น�ำกลไกการจัดท�ำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของ องค์กรของ อบก. มาใช้ในการจัดท�ำฐานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก ทีป่ ล่อยจากการด�ำเนินงานขององค์กร เพือ่ ก�ำหนดแนวทางและ วางแผนการบริหารจัดการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทัง้ นี้ ได้ให้ความส�ำคัญกับการลดการใช้ ไฟฟ้าและเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นแหล่งก�ำเนิดก๊าซเรือนกระจกที่มี นัยส�ำคัญทัง้ ในโรงไฟฟ้าและอาคารส�ำนักงาน อีกทัง้ ยังเข้าร่วม โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของ ประเทศไทย และได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว 3 โครงการ รวม ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 2,602 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปีดว้ ย บริษทั ฯ มีเจตนารมณ์ แน่วแน่ที่จะเป็นพลังร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคม คาร์บอนต�ำ่ เพือ่ ช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อนอย่าง เต็มความสามารถ” กิจจา กล่าว

โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้

ปริมาณคาร์บอนฟุตพริน้ ท์ของอาคารส�ำนักงานใหญ่ของบริษทั ฯ ทีไ่ ด้รบั การรับรองในปี พ.ศ. 2562 เท่ากับ 1,153 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่า ลดลง 2.5% จากปี พ.ศ. 2561 อันเป็นผลจากมาตรการอนุรกั ษ์ พลังงานและลดการใช้ไฟฟ้าทีด่ ำ� เนินการอย่างจริงจังและต่อเนือ่ ง ส�ำหรับ โรงไฟฟ้าราชบุรซี งึ่ มีกำ� ลังการผลิตติดตัง้ 3,645 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้ำ ไตรเอนเนอจี้ ก�ำลังการผลิตติดตัง้ 720 เมกะวัตต์นนั้ มีปริมาณคาร์บอน ฟุตพริ้นท์เท่ากับ 5,225,436 และ 98,606 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่า ตามล�ำดับ นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าราชบุรียังมีโครงการ T-VER ที่ได้รับการ ขึ้นทะเบียนจาก อบก. 3 โครงการ ประกอบด้วย • โครงการเพิม่ ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ด้วยการปรับเปลีย่ น อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่างเป็นหลอด LED ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ 771 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ระยะเวลาคิดคาร์บอนเครดิต ของโครงการ 7 ปี (1 กรกฎาคม 2560 ถึง 30 มิถุนายน 2567) • โครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนผิวน�้ำ (Solar Floating) ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ 1,774 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าต่อปี ระยะเวลาคิดคาร์บอนเครดิตของโครงการ 7 ปี นับตัง้ แต่ เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าในปีนี้ • โครงการปลูกป่าอย่างยัง่ ยืน โรงไฟฟ้าราชบุรลี ด/ดูดกลับปริมาณ ก๊าซเรือนกระจกได้ 57 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ระยะเวลำ คิดคาร์บอนเครดิตของโครงการ 20 ปี (1 กันยายน 2562 ถึง 31 สิงหาคม 2582)

โรงไฟฟ้าราชบุรี

May-June 2020


Special Area

> บริษัท ออมรอน อีเลคทรอนิคส์ จ�ำกัด

Flying Trigger เป็นการบูรณาการทางเทคโนโลยีของ

เซอร์โวมอเตอร์และกล้องอุตสาหกรรม เพือ่ ลดเวลาในการตรวจสอบ ชิน้ งานมากถึง 10 เท่า แต่ให้ความแม่นย�ำสูง และสามารถปรับเปลีย่ น ความเร็วของเครื่องจักรโดยที่ไม่ส่งผลต่อต�ำแหน่งของการตรวจจับ ภาพ

ระบบนี้ต้องใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยของออมรอน ไม่ว่าจะเป็น กล้องอุตสาหกรรมความเร็วสูง ระบบเซอร์โวที่มีความแม่นย�ำและ รวดเร็ว ทั้งการเคลื่อนที่และข้อมูลต�ำแหน่งผนวกกับฟังก์ชัน AI ทีพ่ ฒ ั นาโดยเฉพาะ เพือ่ การก�ำหนดจ�ำนวนการท�ำงานทีส่ อดคล้อง กับความเร็วของเครื่องจักร Conventional

Control Unit “Predictive Sync Control” Algorithm : FB “Time-Specifying Output Method” NX Unit

Trigger Output Target Image

Flying Trigger

Image Part

Flying Trigger ใช้หลักการท�ำงานของเซอร์โวมอเตอร์ที่ ท�ำหน้าที่ 2 อย่างคือ ขับเคลื่อนกล้องและเลนส์ไปยังต�ำแหน่งของ สินค้าที่ต้องการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและครอบคลุม ในขณะ เดียวกันใช้ตำ� แหน่งของเซอร์โวมอเตอร์ทคี่ ำ� นวณล่วงหน้าด้วยระบบ AI เป็นตัวกระตุ้นการถ่ายภาพ (Trigger) แทนที่ Trigger เซนเซอร์ แบบเดิมๆ ระบบ AI ดังกล่าวจะปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ล่วงหน้า อย่างอัตโนมัตเิ มือ่ ความเร็วเครือ่ งจักรเปลีย่ นไป (Adaptive Shutter Control) คงความแม่นย�ำในจังหวะการท�ำงานของกล้อง ไม่ว่า ความเร็วของเครื่องจักรไม่คงที่ ผลคือเซอร์โวมอเตอร์สามารถรองรับหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี ไม่มีการหยุดรอสัญญาณที่มาจากเซนเซอร์ ทุกอุปกรณ์ท�ำงาน ประสานกัน ท�ำให้การตรวจสอบคุณภาพลดเวลาลงถึงกว่า 10 เท่าจริง May-June 2020

ทัง้ หมดนีพ้ บได้ในเทคโนโลยีของออมรอนเท่านัน้ ออมรอน ยังเป็นผู้น�ำทั้งทางด้าน Factory Automation และระบบ Vision System ส่งมอบขีดความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ เครื่องจักรของลูกค้าอย่างก้าวกระโดด

บริษท ั ออมรอน อีเลคทรอนิคส์ จำ�กัด

โทร. 0-2942-6700 เว็บไซต์ : https://web.omron-ap.com/th/ flying-trigger อีเมล : th_enquiry@ap.omron.com




Wed. - Fri.


Cover Story > LSIS Bangkok

May-June 2020


May-June 2020


May-June 2020


May-June 2020


Scoop

> กองบรรณาธิการ

“หมอชนะ” แอปพลิเคชัน

เพื่อการระวังภัยโควิด-19 ลดความเสี่ยงบุคลากรทางการแพทย์ ในภารกิจพิชิตไวรัสร้าย

#โหลดแับอป เท่าก

บริจาค May-June 2020

จากวิกฤตโรคระบาด “โควิด-19” ปัญหา หนึ่งที่พบว่าเป็นอุปสรรคต่อการท�ำงาน และ คุกคามชีวิตบุคลากรทางการแพทย์อย่างมาก คือการปกปิดข้อมูลของประชาชนในกลุ่มเสี่ยง ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งหลายครั้งท�ำให้แพทย์และ พยาบาลต้องหยุดการท�ำงานทีละเป็นกลุ่มใหญ่ เพื่อกักตัวเองหรือแม้กระทั่งล้มป่วย เมื่อพบใน ภายหลังว่าผู้มารับบริการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยปัญหาดังกล่าว ภาครัฐและเอกชน จึ ง ผนึ ก ก� ำ ลั ง ร่ ว มกั น พั ฒ นาแอปพลิ เ คชั น “หมอชนะ” ขึน้ ซึง่ เป็นระบบเก็บข้อมูลการเดินทาง ของประชาชน เพือ่ ให้ผใู้ ช้งานสามารถตรวจสอบ และประเมิ น ระดั บ ความเสี่ ย งในการติ ด เชื้ อ โควิด-19 จากสถานทีต่ า่ งๆ ได้ดว้ ยตัวเอง อีกทัง้ ยั ง สนั บ สนุ น บุ ค ลากรทางการแพทย์ ใ นการ วิ เ คราะห์ ร ะดั บ ความเสี่ ย งในการติ ด เชื้ อ ของ ประชาชนที่เข้ารับการรักษาพยาบาลได้อย่าง รวดเร็ว แม่นย�ำ เสริมมาตรการเว้นระยะห่างทาง สังคม (Social Distancing) ให้มปี ระสิทธิภาพและ วัดผลได้ โดยคนไทยทุกคนสามารถลดการระบาดได้ อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยวิธงี า่ ยๆ เพียงดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” และเช็คอินด้วยแอปนี้ เมื่อเข้าสู่อาคารสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

แอป “หมอชนะ” จะใช้เทคโนโลยี GPS และ Bluetooth ติดตามต�ำแหน่งของผู้ใช้แอป และแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้แอปได้ผ่านพื้นที่ที่เป็น พื้นที่เสี่ยงมาหรือไม่ ท�ำให้เมื่อผู้มารับบริการ ทางการแพทย์แสดงข้อมูลในแอป บุคลากรทาง การแพทย์กจ็ ะสามารถจัดล�ำดับความเร่งด่วนและ วางมาตรการในการรักษาหรือส่งตรวจได้อย่าง รวดเร็วและแม่นย�ำ นอกจากนัน้ ส�ำหรับผูใ้ ช้แอป ทั่วไปที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ก็สามารถ ตรวจดูแอปเพื่อประเมินได้ว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่ เสีย่ ง แล้วปรับเปลีย่ นแผนการเดินทางหรือบริหาร จัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม ซึ่งย่อมจะ ท�ำให้ทุกคนสามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย อนึ่ง แอป “หมอชนะ” เป็นผลลัพธ์ของ การผนึกก�ำลังระหว่าง “ทีมพัฒนาร่วมประชาชน เอกชนและภาครัฐ” น�ำโดยกลุม่ ผูพ้ ฒ ั นาซอฟต์แวร์ อิสระ ภายใต้ชื่อ “Code for Public” และกลุ่ม ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ และการ วิเคราะห์ขอ้ มูลภายใต้ชอื่ “กลุม่ ช่วยกัน” ซึง่ ได้รบั การสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสถาบันการศึกษา เครื อ ข่ า ยโรงพยาบาลและองค์ ก รสาธารณสุ ข หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรธุรกิจจ�ำนวนมาก


แอป “หมอชนะ” ได้รบั การออกแบบ ให้ใช้งานง่าย และมุ่งประสิทธิผลในการ คัดกรองความเสี่ยง โดยไม่ให้กระทบต่อ สิทธิเสรีภาพและข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น การลงทะเบียนใช้แอปจึงเป็นแบบไม่ระบุ ตัวตน (Anonymous) ยิ่งกว่านั้น คณะรวม อาสาสมัครยังได้ร่วมกับส�ำนักงานพัฒนา รัฐบาลดิจิทัล จัดตั้งกรรมการอิสระเพื่อ ตรวจสอบกระบวนการจัดการข้อมูลให้เป็น ไปตาม พ.ร.บ.คุม้ ครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยเมื่อผ่านวิกฤตการณ์โควิด-19 แล้ว ข้อมูลทั้งหมดจะถูกท�ำลายทิ้งทันที อี ก ทั้ ง การโค้ ด แอปยั ง มี ลั ก ษณะเป็ น ‘โอเพ่นซอร์ส (Open Source)’ เพือ่ ให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และง่ายต่อการส่งต่อไปยัง ระบบอื่นๆ เพื่อขยายผลต่อไปอีกด้วย ทั้งนี้ หัวใจการท�ำงานของแอปอยู่ ทีก่ ารรายงานผลเป็นค่าสีตา่ งๆ ตามระดับ ความเสี่ยง แบ่งเป็น ส� ำ หรั บ บุ ค คลที่ มี ค วามเสี่ ย งต�่ า มาก ซึ่งเป็นคนที่ไม่มีอาการ ไม่มีประวัติ ไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยง ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ส�ำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงน้อย ซึ่งอาจจะมีอาการไข้หวัด แต่ไม่มีประวัติ ไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยง ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ส� ำ หรั บ บุ ค คลที่ มี ค วามเสี่ ย ง เพราะเป็นคนที่มีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วัน ที่ผ่านมา แต่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการ ไม่เด่นชัด คนในกลุม่ นีต้ อ้ งกักตัวอยูก่ บั บ้าน จนครบ 14 วัน พร้อมทัง้ เฝ้าระวัง ถ้ามีอาการ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที ส� ำ หรั บ บุ ค คลที่ มี ค วามเสี่ ย งสู ง มาก เพราะทั้งมีอาการ และมีประวัติไป ต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงใน ช่วง 14 วันทีผ่ า่ นมา จะต้องรีบไปโรงพยาบาล ทันที

นอกจากนี้ ในอนาคตเมือ่ มีฐานข้อมูล เพียงพอ ค่าสียงั มีการเปลีย่ นแปลงอัปเดต แบบเรียลไทม์ตามข้อมูลการพบผู้ติดเชื้อ รายใหม่ ท�ำให้ทุกครั้งที่มีการพบผู้ติดเชื้อ รายใหม่และระบบพบว่าผู้ใช้งานมีประวัติ การเดินทางเข้าใกล้ผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้น ในช่ ว งที่ ผ ่ า นมา แอปจะเตื อ นผู ้ ใช้ ง าน ให้รบั รูถ้ งึ ความเสีย่ งทีเ่ ปลีย่ นไปด้วยค่าสีใหม่ ซึ่งจะน�ำไปสู่ความระมัดระวังและการปรับ พฤติกรรมของผู้ใช้ได้อย่างดีขึ้น ด้วยเหตุนี้ แอป “หมอชนะ” จึง เป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ทัง้ บุคลากรทางการแพทย์ ประชาชนทุกคน และภาคธุรกิจ • ช่วยแพทย์ แอปท�ำหน้าทีต่ ดิ ตาม ข้อมูลการเดินทางและการเช็คอินในสถานที่ ต่างๆ ของประชาชนผู้ใช้แอป และแสดง ระดั บ ความเสี่ ย งของบุ ค คลนั้ น ได้ แ บบ อั ต โนมั ติ แ ละเรี ย ลไทม์ โดยหากพบว่ า ผู้ใช้แอปที่มาขอรับบริการทางการแพทย์ มีความเสีย่ งสูง แพทย์กจ็ ะสามารถป้องกัน ตนเองได้อย่างพอเพียง อีกทั้งจัดล�ำดับ ความเร่งด่วนและวางมาตรการในการรักษา หรือส่งตรวจบุคคลผู้นั้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของ บุคลากรทางการแพทย์ และท�ำให้ภาครัฐ สามารถควบคุ ม สถานการณ์ ไ ด้ อ ย่ า งมี ประสิทธิภาพ • ช่วยประชาชน ผูใ้ ช้แอป “หมอชนะ” จะมีช่องทางรับรู้ข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับ

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อของประเทศที่ถูกต้อง ครบถ้วน และอัปเดตทีส่ ดุ ผ่านการตรวจสอบ ค่าสีความเสี่ยงของตนเอง นอกจากนั้น แอปยังช่วยแสดงวิธกี ารปฏิบตั ติ นทีเ่ หมาะสม กับระดับความเสี่ยงของผู้ใช้งานแต่ละคน และในอนาคตจะมีการแจ้งเตือนหากพบ ผู้ป่วยรายใหม่ที่เคยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง กับผู้ใช้แอป ณ เวลาใดเวลาหนึ่งที่ผ่านมา อีกด้วย • ช่วยภาคธุรกิจ ผูใ้ ช้แอป “หมอชนะ” ที่เป็นผู้ประกอบการต่างๆ ไม่ว่าห้างร้าน โรงงาน สถานที่ หรือธุรกิจใดๆ จะสามารถ ขอตรวจสอบความเสี่ ย งของลู ก ค้ า หรื อ พนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และวาง มาตรการบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม ซึ่ ง ย่ อ มจะช่ ว ยให้ ก ารท� ำ มาค้ า ขายหรื อ กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติได้ รวดเร็วกว่าเดิม

“หมอชนะ” ร่วมโหลด ร่วมใจ ชนะภัยโควิด-19

ดาวน์โหลดแอป “หมอชนะ” ทั้งบนระบบ iOS และ Android ได้ทาง QR Code https://morchana.app.link/download May-June 2020


Article

> สุภัค ลายเลิศ กรรมการอ�ำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ยิบอินซอย จ�ำกัด

เสริมภูมิคุ้มกันธุรกิจ

ต้านโควิด-19 ด้วยไอที ไม่มีใครคาดคิดว่า ไวรัสโควิด-19 จะสร้างพลังทำ�ลายล้าง และสร้างภาวะถดถอย ทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก

จากการเปิดเผยของไอดีซชี วี้ า่ ธุรกิจทีไ่ ด้รบั ผลกระทบสูงสุด เป็นอันดับแรกจากการระบาดของโควิด-19 ได้แก่ ธุรกิจการขนส่ง และภาคบริการซึ่งเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขณะที่ เว็บไซต์บลูมเบิร์กได้รายงานตัวเลขความสูญเสียทางเศรษฐกิจจาก พิษโควิด-19 ที่สูงถึง 2.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว ท�ำให้ รัฐบาลในหลายประเทศทัว่ โลกต้องอัดฉีดเม็ดเงินมหาศาลเพือ่ พยุง ระบบเศรษฐกิจ ชนิดทีเ่ รียกว่าเป็น บาซูกา้ ทางการคลัง เลยทีเดียว เมื่อแนวทางลดการแพร่กระจายของโรคคือ การหยุดการ เคลื่อนย้ายของคนและการเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นการท�ำงาน จากบ้าน (Work from Home) ขณะทีธ่ รุ กิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ต่างๆ ยังต้องไปต่อ องค์กรทีม่ กี ารเตรียมแผนบริหารความต่อเนือ่ ง ของธุรกิจ (Business Continuity Plan) การออกแบบระบบไอทีและ ระบบข้อมูลส�ำรองทีด่ ี เพือ่ ให้พนักงานสามารถเชือ่ มเข้าสูร่ ะบบและ ท�ำงานจากทีไ่ หนก็ได้อย่างปลอดภัย ย่อมได้เปรียบต่อการรับมือกับ สถานการณ์ทไี่ ม่คาดฝัน เช่น โรคระบาด หรือภัยพิบตั ิ มองมุมบวก ถือเป็นจังหวะดีทอี่ งค์กรจะได้ปดั ฝุน่ แผนบริหารธุรกิจในสถานการณ์ ฉุกเฉิน ตรวจเช็คเทคโนโลยีเดิม เพิม่ เติมเทคโนโลยีใหม่ อาทิ คลาวด์ แพลตฟอร์มออนไลน์ โซเชียลมีเดีย การประชุมแบบเสมือน เป็นต้น เพือ่ สร้างพืน้ ทีก่ ารท�ำงานแบบเสมือน หรือ Virtual Workplace เพื่อให้พนักงานยังสามารถท�ำงานได้ตามปกติ แม้ไม่สามารถ เข้าไปยังส�ำนักงานได้ และถือโอกาสเรียนรูไ้ ปพร้อมกับพนักงาน ในการพัฒนาศักยภาพการท�ำงานและธุรกิจผ่านเทคโนโลยี ใหม่ๆ ตามแนวทางเวอร์ชวลไลเซชัน ซึ่งจะกลายเป็นวิถีปกติ (New Normal) ส�ำหรับองค์กรยุคดิจิทัลในอนาคต May-June 2020

คลาวด์ คอมพิวติ้ง นับว่าเป็นแพลตฟอร์มที่พร้อมต่อ การรองรับการท�ำงานจากระยะไกล (Remote Workforce) เพราะ คลาวด์ถูกสร้างมาให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมการท�ำงานแบบ เวอร์ชวลไลเซชัน และยังรองรับอุปกรณ์เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต หลากหลายชนิด จึงมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวสูง ท�ำให้องค์กร สามารถ “เติม-ปรับ-ปัน” ทรัพยากรไอทีในระบบให้สอดคล้องกับ มาตรการรักษาระยะห่างทีอ่ าจเปลีย่ นแปลง หรือเพิม่ เติมได้ตลอด เวลา โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการท�ำงานและการด�ำเนินธุรกิจ ตัวอย่างเช่น การหยิบเอา Cloud VDI (Cloud Virtual Desktop Infrastructure) ซึ่งใช้เทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชันในการ ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ BYOD ของพนักงาน ทั้งเครื่องพีซี แล็บท็อป อุปกรณ์โมบายด์ตา่ งๆ ให้กลายเป็นเครือ่ งเดสก์ทอ็ ปเสมือน (Virtual Desktop) เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนกลางสามารถแจกจ่าย ทรัพยากรไอทีให้เหมาะสมกับการปฏิบัติงานของแต่ละคน เช่น การเพิ่มซีพียู หน่วยความจ�ำ หรือพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้กับงาน


บางประเภท การอั ป เกรดหรื อ ควบคุ ม การติ ด ตั้ ง ซอฟต์ แ วร์ แอปพลิเคชันต่างๆ อย่างถูกต้อง คอยสอดส่องการใช้อปุ กรณ์ BYOD ต่างๆ เพื่อลดการติดไวรัสหรือมัลแวร์ ควบคุมไม่ให้เกิดการรั่วไหล หรือป้องกันการลักลอบน�ำข้อมูลออกไป รวมถึงมีระบบส�ำรองและ กู้คืนข้อมูลเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ (Disaster Recovery) แนวทางการใช้-รับมือ ข้อมูลและแอปพลิเคชัน จากการ ท�ำงานนอกส�ำนักงานโดยอุปกรณ์ส่วนตัวของพนักงาน ปัจจุบันมี แพลตฟอร์มการท�ำงานและการจัดการธุรกิจบนคลาวด์ให้เลือกใช้ ได้ตามงบประมาณ และมีความปลอดภัยสูงในรูปแบบของการ ให้บริการไอที (SaaS) บริการแพลตฟอร์ม (PaaS) แอปพลิเคชันบน อุปกรณ์โมบายด์ หรือเว็บแอปพลิเคชัน อาทิ โปรแกรมพื้นฐานใน การจัดการเอกสารทั่วไป อย่าง เวิร์ด สเปรดชีท เช่น ออฟฟิศ 365 แพลตฟอร์มการบริหารงานองค์กรและลูกค้า เช่น อีอาร์พี เอชอาร์ การวิเคราะห์ข้อมูล ซีอาร์เอ็ม เป็นต้น ท�ำให้เกิดข้อมูลปริมาณ มากผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต ซึง่ ท�ำให้องค์กร อาจต้องเตรียมการเพิ่มประสิทธิภาพของ ระบบประมวลผลข้อมูล ระบบบริหารจัดการ ใช้งานศูนย์ขอ้ มูลจากระยะไกล หรือการจัดตัง้ ศูนย์ข้อมูลและระบบจัดเก็บข้อมูลส�ำรอง บนคลาวด์ เพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึง แชร์ ใช้ และจั ด เก็ บ ไฟล์ ข ้ อ มู ล ต่ า งๆ ได้ สะดวกและรวดเร็ ว ไม่ ต ่ า งกั บ การท� ำ งาน อยู่ในส�ำนักงาน และมีความปลอดภัยสูง ปัจจุบนั มีเครือ่ งมือทีช่ ว่ ยให้การใช้งาน บริการไอที แอปพลิเคชันบนเว็บหรืออุปกรณ์ มือถือ หรือการใช้งานเครือข่ายภายในองค์กร ผ่านอุปกรณ์ BYOD มีความยืดหยุ่นและ ปลอดภัย อย่าง วีเอ็มแวร์ เวิร์คสเปซวัน (VMware Workspace One) ส�ำหรับองค์กรที่เน้นความส�ำคัญเรื่องการควบคุมนโยบาย และการปกป้องข้อมูล สามารถสร้างเครือ่ งมือระบุตวั ตนชัน้ ป้องกัน พิเศษ (Multi-Factor Authentication) ได้ ทั้งการใช้งานผ่านคลาวด์ สาธารณะ หรือคลาวด์ในองค์กร รวมถึง วีเอ็มแวร์ ฮอริซนั (VMware Horizon) ซึง่ ช่วยสนับสนุน Cloud VDI ในการสร้างเดสก์ทอ็ ปและ แอปพลิเคชันแบบเสมือน (Virtual Desktop & Virtual Application) บนเซิรฟ์ เวอร์ ซึง่ ท�ำให้พนักงานสามารถเชือ่ มต่ออุปกรณ์ตา่ งๆ เพือ่ ท�ำงานจากที่ไหนก็ได้ การจัด แพลตฟอร์มการสือ่ สาร ทีป่ ลอดภัยหลายช่องทาง ให้เลือกใช้ในการติดต่อทางธุรกิจระหว่างพนักงาน ผู้บริหาร คู่ค้า และลูกค้า อย่าง อีเมล ระบบส่งข้อความแบบทันที ระบบประชุม ทางไกลผ่านวิดโี อ คอนเฟอเรนซ์ หรือเว็บ คอนเฟอเรนซ์ การเพิม่ ช่องทางการสือ่ สารเฉพาะกลุม่ ท�ำงาน เช่น กรุป๊ ไลน์ ห้องแชทเฉพาะ ทีม (Team Room) รวมถึงดึงเอาศักยภาพของเครือ่ งมือดิจทิ ลั เช่น ไอโอที เอไอ วีอาร์ มาเสริมกิจกรรมการขายและสื่อสารการตลาด (Digital Marketing) การน�ำเสนอสินค้าและบริการผ่านช่องทาง โซเชียลมีเดียต่างๆ เพือ่ ทดแทนการทีเ่ ราไม่สามารถเข้าถึงตัวลูกค้า ได้โดยตรง

การท�ำงานผ่านอินเทอร์เน็ตโดยผู้ใช้งานจากหลายต�ำแหน่ง แห่งที่ หลากหลายแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน คงท�ำให้เราพอ มองเห็นภาพปริมาณของข้อมูล และการเชื่อมต่ออุปกรณ์จ�ำนวน มาก ดังนั้น ประสิทธิภาพของ ระบบเครือข่าย จึงต้องรวดเร็ว โดยเฉพาะแบนด์วิธ ซึ่งอาจไต่ระดับไปถึงการใช้เทคโนโลยี 5G อย่างไรก็ตาม ควรจัดสรรแบนด์วธิ ให้เหมาะกับข้อมูลและงานแต่ละ ประเภท เช่น ช่องแบนด์วธิ ทีไ่ ม่สงู มากเอาไว้สำ� หรับการส่งไฟล์งาน เอกสารทัว่ ไป ส่วนแบนด์วธิ สูงๆ เอาไว้สำ� หรับการประชุมผ่านวิดโี อ คอนเฟอเรนซ์ การน�ำเสนอไฟล์พรีเซ็นเตชัน การใช้งานวีอาร์ หรือ เอไอ นอกจากนี้ อาจจัดการท�ำงานให้เหลือ่ มเวลากันในการออนไลน์ เข้าสู่ระบบ เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งใช้แบนด์วิธจนท�ำให้การท�ำงาน ล่าช้า หรือระบบล่ม

การตระหนักถึง ความปลอดภัย ก็เป็นเรือ่ งส�ำคัญ เนือ่ งจาก เป็นการเชื่อมต่อการท�ำงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสาธารณะ นอกองค์กร ไม่ใช่เป็นการท�ำงานผ่านอินทราเน็ต หรือระบบเครือข่าย ภายใน ที่องค์กรมีอ�ำนาจควบคุมนโยบายและระบบรักษาความ ปลอดภัยได้เต็มรูปแบบ ดังนั้น องค์กรควรพิจารณาถึงระบบความ ปลอดภัยของผูใ้ ห้บริการอินเทอร์เน็ต หรือผูใ้ ห้บริการแพลตฟอร์ม สาธารณะต่างๆ ร่วมด้วย รวมถึงมีมาตรการคุมเข้มเรื่องการระบุ ตัวตน สิทธิในการเข้าถึงระบบธุรกิจหลัก หรือศูนย์ขอ้ มูลขององค์กร เฉพาะทีจ่ ำ� เป็นต่อการท�ำงาน และการตรวจสอบอุปกรณ์ทเี่ ชือ่ มต่อ เข้าสู่ระบบเพื่อป้องกันไม่ให้ภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตที่มาจาก การใช้งานอุปกรณ์ BYOD ของพนักงานสามารถเจาะเข้าสู่ระบบ ไอทีขององค์กรในทุกทาง ทีก่ ล่าวมาทัง้ หมดเป็นเพียงตัวอย่างทีพ่ อให้องค์กรได้เห็นภาพ การใช้ ง านเทคโนโลยี เ พื่ อ สนั บ สนุ น การท� ำ งานและธุ ร กิ จ จาก ส�ำนักงานสู่บ้านให้เกิดประสิทธิภาพและปลอดภัยได้ทุกที่ ทุกเวลา ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาด และมาตรการเว้นระยะห่างทีค่ งอยู่ กับเราไปอีกพักใหญ่ เทคโนโลยีไอทีจึงกลายเป็นเครื่องมือส�ำคัญ ที่ช่วยต่อติดชีวิตผู้คนในสังคม และต่ออายุธุรกิจให้ยืนระยะกันไป ยาวๆ จนกว่าวันอวสานโควิด-19 จะมาถึง May-June 2020


Article > อีริคสัน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ คือกุญแจสำ�คัญ

ช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดี แก่ลูกค้า อีริคสัน (NASDAQ : ERIC) เปิดเผย ผลรายงานการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า ผ่านเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติ พบว่า ผูใ้ ห้บริการด้านการสือ่ สารทัว่ โลกต่างตระหนักถึง ความจ�ำเป็นทีจ่ ะต้องน�ำเทคโนโลยีปญ ั ญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัตมิ าปรับใช้ในการด�ำเนินงาน เพื่อให้การเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าเป็นไปได้ อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าการลงทุน ทั้งนี้ เนื่องจากระบบ 5G จะมีบทบาทส�ำคัญต่อการ ขับเคลือ่ น Internet of Things (IoT) และ Industry 4.0

จากผลการศึกษาพบข้อมูลสำ�คัญ ดังนี้

• 90% ของผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร ระบุว่า AI มีส่วนส�ำคัญในการเพิ่มประสบการณ์ ของลูกค้า • ผูใ้ ห้บริการด้านการสือ่ สาร 8 ใน 10 ราย คาดว่าต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และความซับซ้อนที่มี มากขึ้น เป็นผลจากการเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ • 92% ของผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร ได้ปรับการใช้ขอ้ มูลเชิงลึกของเครือข่าย เพือ่ เพิม่ ประสิทธิภาพการท�ำงานในช่วงปีที่ผ่านมา • ผูใ้ ห้บริการด้านการสือ่ สาร 9 ใน 10 ราย เห็ น ว่ า การเพิ่ ม ประสบการณ์ ข องลู ก ค้ า และ การเพิ่มรายได้เป็นเรื่องที่ส�ำคัญมาก • ผูใ้ ห้บริการด้านการสือ่ สาร 7 ใน 10 ราย คิดว่าการปรับเปลี่ยนด้านเทคโนโลยีเป็นเรื่อง ส�ำคัญที่ท้าทายในการด�ำเนินงาน

May-June 2020

ปีเตอร์ ลอริน รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายการบริหารจัดการ เครือข่าย ของอีรคิ สัน กล่าวว่า “การเข้ามาของเทคโนโลยี 5G และ IoT การเพิม่ จ�ำนวนอย่างมากของอุปกรณ์เชือ่ มต่อต่างๆ และการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นเพือ่ ให้ทนั กับกระแสการเปลีย่ นแปลงนี้ ล้วนส่งผลกระทบอย่างมากต่อวิธกี ารท�ำงาน ของเน็ตเวิร์กและฝ่ายไอที จากการที่ 5G เปิดตัวทั่วโลก ท�ำให้ผู้ให้บริการด้าน การสือ่ สารต้องเผชิญกับความท้าทายในการน�ำ 5G ไปปรับใช้รว่ มกับเทคโนโลยี อืน่ ๆ พร้อมการน�ำไปใช้งานจริง รวมถึงความต้องการด้านการบริการใหม่ๆ และ การจัดแบ่งทรัพยากรระบบประมวลผล ระบบสือ่ สารทางกายภาพให้กบั เครือข่าย ต่างๆ เพือ่ ให้บริการภายใต้ระบบ 5G (Virtualization and Network Slicing) ซึง่ เมื่อค�ำนึงถึงสิ่งเหล่านี้แล้ว ความซับซ้อนของการจัดการเน็ตเวิร์กรุ่นต่อๆ ไป ก็จะต้องเพิม่ ขึน้ อย่างแน่นอน ดังนัน้ เราจึงเตรียม Ericsson Operations Engine ซึง่ เป็นแพลตฟอร์มขับเคลือ่ น AI ส�ำหรับจัดการเน็ตเวิรก์ ในอนาคต ทีจ่ ะช่วยให้ ผู้ให้บริการสามารถก้าวข้ามการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ไปได้”


จากรายงานยังพบว่า เทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติ ในการด�ำเนินงานนั้นได้เปลี่ยนจากแนวคิดไปสู่การใช้งานจริงใน ห้องประชุมของผูใ้ ห้บริการด้านการสือ่ สารทัว่ โลก นอกจากนี้ ยังเป็น การแสดงให้เห็นถึงวิธีที่ผู้บริหารด้านสายงานปฏิบัติการใช้งาน AI และระบบอัตโนมัตเิ พือ่ ขับเคลือ่ นผลลัพธ์ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ ได้อย่างไร รวมถึงการที่พวกเขาจัดการกับความท้าทายต่างๆ เช่น การปรับปรุงตัวชีว้ ดั ความพึงพอใจของลูกค้า (Net Promoter Score : NPS) ซึง่ เป็นตัวชีว้ ดั ทีช่ ดั เจนของประสบการณ์ทดี่ ขี องผูบ้ ริโภค และ คุ้มค่าต่อการลงทุน ส�ำหรับประเทศไทย อีริคสันและบริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมู นิ เคชั่ น จ�ำกั ด (มหาชน) หรื อ ดี แ ทค ได้เ ปิด ตัวรูปแบบ การด�ำเนินงานด้านเน็ตเวิรก์ ทีเ่ น้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (CustomerCentric Network) ตัง้ แต่เดือนมกราคมของปีนี้ เป็นไปตามการลงนาม ในข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนเมื่อปีที่แล้ว โดยอีริคสันมีหน้าที่เข้ามา ดูแลจัดการการด�ำเนินงานด้านเน็ตเวิร์กของดีแทคทั่วประเทศด้วย การใช้แพลตฟอร์ม Ericsson Operations Engine โดยทีด่ แี ทคยังคง ดูแลรับผิดชอบทางด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของเน็ตเวิร์กและ เป็นเจ้าของสินทรัพย์ต่อไป นาดีน อัลเลน ประธานบริษทั อีรคิ สันประเทศไทย กล่าวว่า “เราจะใช้ประสบการณ์ระดับโลกของอีริคสันผนวกกับเครื่องมือ และเทคโนโลยีล่าสุดใน AI, ระบบ Automation และ Machine Learning (ML) เพื่อดึงข้อมูลเชิงลึกมาให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เพือ่ เพิม่ ประสิทธิภาพในการท�ำงานโดยมุง่ เน้นทีป่ ระสบการณ์ลกู ค้า เป็นหลัก” จากงานวิจัยของอีริคสัน พบว่า ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร ส่วนใหญ่ทำ� งานเกีย่ วกับการริเริม่ ใช้ AI และระบบ Automation กัน อยูแ่ ล้ว อย่างไรก็ตาม ผูใ้ ห้บริการเหล่านัน้ กล่าวว่าการใช้เทคโนโลยี เพียงอย่างเดียวนัน้ ไม่เพียงพอ จ�ำเป็นต้องมีทกั ษะและวิธกี ารท�ำงาน

ใหม่ๆ ประกอบด้วย เพือ่ ให้มคี วามเป็นดิจทิ ลั มากขึน้ และอย่างน้อย ทีส่ ดุ การเปลีย่ นแปลงด้านองค์กรก็มคี วามส�ำคัญเทียบเท่ากับด้าน เทคโนโลยีเช่นกัน ในแง่ของความส�ำเร็จในการเปลี่ยนผ่านไปเป็น ดิจิทัลมากขึ้น รายงานฉบับนีย้ งั แสดงให้เห็นว่า ผูใ้ ห้บริการด้านการสือ่ สาร มักจะมองว่า พวกเขาจะต้องควบคุมดูแลค่าใช้จ่ายในส่วนการ ด�ำเนินงานมากเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนีพ้ วกเขาให้ความ ส�ำคัญกับการเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้า และรับทราบถึงบทบาท ของตนที่จะต้องให้ความส�ำคัญกับกลยุทธ์เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโต เป็นล�ำดับแรก อีริคสันเปิดสวิตช์ 5G ให้กับผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ในด้าน IoT, Industry 4.0 และระบบดิจทิ ลั นอกจากนัน้ แพลตฟอร์ม Ericsson Operations Engine ยังสร้างความแตกต่างอย่างยั่งยืนด้วยการ พัฒนาจากการใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network-Centric) มาเป็น การใช้ประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (User-ExperienceCentric) แทน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงลึกถึงระดับฐานรากจาก ปฏิบตั กิ ารเชิงรับเป็นเชิงรุก โดยมีการใช้ประโยชน์จากข้อมูล ระบบ Automation และปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มรูปแบบ อนึง่ อีรคิ สันสนับสนุนผูใ้ ห้บริการด้านการสือ่ สารในการสร้าง มูลค่าสูงสุดจากการเชื่อมต่อ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทครอบคลุม เครือข่าย (Networks) การบริการดิจทิ ลั (Digital Services) การบริหาร จัดการเครือข่าย (Managed Services) และธุรกิจเกิดใหม่ทกี่ ำ� ลังเติบโต (Emerging Business) และมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าให้ มุ่งสู่ระบบดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพและมองหารายได้รูปแบบใหม่ การลงทุนเพื่อพัฒนา นวัตกรรมของอีริคสันได้มอบประโยชน์จาก ระบบโทรศัพท์และเครือข่ายเคลื่อนที่ให้แก่ผู้คนหลายพันล้านคน ทั่วโลก

May-June 2020


Article

> ศ. นพ.ชายชาญ โพธิรัตน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหน่วยโรคระบบการหายใจ เวชบ�ำบัดวิกฤตและภูมิแพ้อายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ จากมลพิษฝุ่นจิ๋ว PM2.5 และข้อปฏิบัติตัวที่สำ�คัญ ศ. นพ.ชายชาญ โพธิรัตน์

ราชวิ ท ยาลั ย อายุ ร แพทย์ แ ห่ ง ประเทศไทย มีความเป็นห่วงผลกระทบต่อ ชีวิตและสุขภาพจากมลพิษฝุ่นจิ๋ว PM2.5 ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ ภาคเหนือตอนบน ไม่ว่าจะเป็นจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย หรือจังหวัดใกล้เคียง โดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้กล่าว ไว้วา่ “การหายใจด้วยอากาศทีม่ คี ณ ุ ภาพ ถือเป็นสิทธิขนั้ พืน้ ฐานของมนุษย์ทกุ คน” ดังนัน้ เมือ่ อนุภาคมลพิษอากาศขนาดเล็ก ทีม่ เี ส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 มีสว่ นประกอบส�ำคัญหลักคือ คาร์บอนอินทรีย์ สาร PAHs เกลือซัลเฟต เกลือไนเตรท โลหะหนัก มีสัดส่วนเปลี่ยน May-June 2020

ไปบ้างตามแหล่งก�ำเนิดมลพิษและฤดูกาล เนื่องจาก PM2.5 มีขนาดเล็กกว่าเม็ดเลือดแดง จึงเข้าสูท่ กุ เซลล์ของระบบอวัยวะได้อย่างรวดเร็ว เมือ่ สูดหายใจเข้าไป จึงอาจมีผลกระทบต่อ แทบทุกระบบอวัยวะของร่างกาย จะมีผลกระทบมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยส�ำคัญ ดังนี้ 1.) ระดับความเข้มข้นของ PM2.5 ทีร่ า่ งกายได้รบั 2.) ระยะเวลาสะสมทีร่ า่ งกายได้รบั PM2.5 3.) สัดส่วนของสารประกอบชนิดต่างๆ ใน PM2.5 4.) สภาวะของร่างกายขณะได้รบั PM2.5 (ทารกในครรภ์มารดาและช่วงวัยต่างๆ ความไวต่อมลพิษของบุคคล ความเจ็บป่วยทีม่ อี ยูเ่ ดิม ความแข็งแรงของร่างกาย) ผลกระทบดังกล่าวอาจมีได้หลายรูปแบบ ตัง้ แต่ยงั ไม่ปรากฏอาการ ไม่มีการอักเสบ ไม่ปรากฏอาการแต่มีการอักเสบแฝงในระบบอวัยวะจนเกิดอาการผิดปกติ ซึ่งเกิดได้ทั้งฉับพลันทันทีทันใด แบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง โดยผลกระทบตามระยะ ต่างๆ อาจท�ำให้เกิดโรคขึน้ ใหม่หรือท�ำให้โรคเดิมรุนแรงขึน้ ท�ำให้เซลล์ของอวัยวะต่างๆ เสือ่ ม จนท�ำให้อวัยวะท�ำงานเสื่อมเร็วและรุนแรงขึ้น อาจท�ำให้เซลล์กลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็ง ตัวอย่างผลกระทบจาก PM2.5 ต่อระบบอวัยวะส�ำคัญหลักในการด�ำรงชีวิต ได้แก่ ระบบ การหายใจ (เช่น โพรงจมูกอักเสบทั้งแบบภูมิแพ้ และติดเชื้อหลอดคอ กล่องเสียง และ หลอดลมอักเสบ หอบหืด โรคปอดอุดกัน้ เรือ้ รัง ปอดอักเสบ) การอักเสบจาก PM2.5 ส่งเสริม ให้ระบบการหายใจมีการอักเสบมากขึ้นเป็นทวีคูณเมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้และการอักเสบ จาก PM2.5 ยังท�ำให้ตดิ เชือ้ (เช่น ไวรัสไข้หวัด ไวรัสไข้หวัดใหญ่ แบคทีเรีย) ได้งา่ ยและรุนแรง มากขึน้ หลายเท่า และจ�ำนวนไม่นอ้ ยทีเ่ กิดการอักเสบทัง้ แบบภูมแิ พ้และแบบติดเชือ้ ผสมผสาน กัน ระบบหัวใจ (กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจตาย


หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจล้มเหลว) ระบบ หลอดเลือด (หลอดเลือดไปเลีย้ งสมองเสือ่ ม โรค Stroke ของหลอดเลือดสมอง ความดัน โลหิ ต สู ง หลอดเลื อ ดเลี้ ย งหั ว ใจตี บ หลอดเลือดด�ำอุดตัน) ระบบสมอง (สมอง ด้อยประสิทธิภาพ สมองเสื่อม สมาธิสั้น และระบบจิตประสาท (อารมณ์แปรปรวน ความผิ ด ปกติ ท างจิ ต แบบซึ ม เศร้ า และ ฆ่าตัวตาย) และมีสว่ นท�ำให้เกิดมะเร็งของ อวัยวะต่างๆ (โดยเฉพาะมะเร็งปอด) ดังนัน้ PM2.5 จึงเป็นมลพิษที่เป็นสาเหตุส�ำคัญ ต่อการเสียชีวติ ทัง้ แบบฉับพลัน เฉียบพลัน และท�ำให้อายุขัยสั้นลง เป็นสาเหตุส�ำคัญ ของการเจ็บป่วยทัง้ ฉับพลันและเฉียบพลัน อาจรุนแรงถึงกับต้องไปรับการรักษาทีแ่ ผนก ฉุกเฉินหรือต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยเป็นโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคภูมแิ พ้ โรคระบบการหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือท�ำให้โรค เรือ้ รังดังกล่าวมีความรุนแรงเพิม่ ขึน้ รวมทัง้ เป็นสาเหตุสำ� คัญทีท่ ำ� ให้เกิดโรคมะเร็งปอด ส่ ว นระดั บ ค่ า เฉลี่ ย ของ PM2.5 รายวัน นิยมใช้ในการศึกษาวิจยั ผลกระทบ ต่อการสูญเสียชีวิตและสุขภาพในระยะสั้น และค่าเฉลีย่ รายปี นิยมใช้ในการศึกษาวิจยั ผลกระทบระยะยาวต่อการเกิดโรคเรื้อรัง ของระบบอวัยวะต่างๆ รวมทั้งโรคมะเร็ง และช่วงอายุขยั ส่วนค่า PM2.5 รายชัว่ โมง มี ผ ลกระทบต่ อ สุ ข ภาพได้ เช่ น เดี ย วกั น ส่วนจะมากน้อยแตกต่างกันตามปัจจัยทัง้ 4 ทีก่ ล่าวข้างต้น จึงนิยมใช้เตือนประชาชนใน การวางแผนบริหารความเสีย่ งในการด�ำเนิน กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจาวันในชั่วโมง ถัดไป แม้จะไม่มคี า่ PM2.5 ทีต่ ำ�่ สุดทีถ่ อื ว่า ปลอดภัยไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ องค์การอนามัยโลกได้แนะน�ำความเป็นไปได้ ที่ประเทศต่างๆ ควรมีแผนการด�ำเนินการ ก�ำหนดเป้าหมายให้ระดับ PM2.5 ไม่เกิน ค่ า ที่ แ นะน� ำ เพื่ อ ลดผลกระทบต่ อ ชี วิ ต และสุขภาพให้เหลือน้อยเท่าที่จะบริหาร จัดการได้ตามหลักฐาน งานวิจยั ทัว่ โลกทีใ่ ช้ ประกอบค�ำแนะน�ำ (ค่าเฉลีย่ รายวันไม่เกิน 25 มคก./ลบ.ม และค่าเฉลี่ยรายปีไม่เกิน 10 มคก./ลบ.ม) ส่วนแต่ละประเทศจะก�ำหนด ค่ามาตรฐานของประเทศตนเองอย่างไร ขึน้ อยูก่ บั ระดับมลพิษ PM2.5 การชัง่ ความ

ทางเดินหายใจอักเสบจากการสูดฝุ่นมรณะ

เพดาน

ปอดอักเสบจากการสูดฝุ่นมรณะ

สมดุลเรื่องชีวิตและสุขภาพกับงบประมาณการลงทุน เพื่อปรับปรุงสภาวะแวดล้อมของ แต่ละประเทศ ตลอดจนความเข้าใจ ความตั้งใจ และความจริงจังในการปรับปรุงคุณภาพ อากาศของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยพิจารณาจากการที่ฝ่ายปกครองมี ค�ำมัน่ สัญญาทีช่ ดั เจนเป็นรูปธรรม ก�ำหนดนโยบาย งบประมาณ แผนการด�ำเนินการ วิธกี าร ด�ำเนินการ และการประเมินผล ทีม่ กี รอบระยะเวลาทีช่ ดั เจนทันต่อสถานการณ์แนวโน้มระดับ มลพิษอากาศ จากการศึกษาในต่างประเทศในหลายประเทศพบว่า งบการลงทุนเพือ่ ปรับปรุง คุณภาพอากาศมีความคุม้ ทุนสูงมากหลายสิบเท่า และเห็นผลดีอย่างรวดเร็วทัง้ ในด้านชีวติ สุขภาพ และเศรษฐกิจ ท�ำให้เศรษฐกิจเจริญก้าวหน้าควบคู่ไปกับอากาศที่มีคุณภาพได้ ตัวอย่างเช่น จีน สหรัฐอเมริกา ไนจีเรีย เป็นต้น จากการศึกษาวิจัยพบว่า ประชากรของประเทศไทยได้รับผลกระทบด้านชีวิตและ สุขภาพจากฝุน่ มลพิษแทบทุกภาคมาอย่างยาวนานกว่าทศวรรษ และทวีความรุนแรงมากขึน้ ในช่วงฤดูแล้ง (ช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน) โดยเฉพาะ 3-5 ปีลา่ สุด โดยแหล่งก�ำเนิดมลพิษ ที่เป็นปัญหาและมีผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนมากที่สุดในช่วงฤดูแล้ง คือ การเผาในพืน้ ทีเ่ กษตรเพิม่ ขึน้ จากการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตร (โดยเฉพาะอุตสาหกรรม อ้อย ข้าวโพด และข้าว ในทุกภาคยกเว้นภาคใต้) และยังมีการท�ำเกษตรพืชเชิงเดีย่ วในพืน้ ที่ May-June 2020


ภูเขา บ่อยครั้งที่ไฟลุกลามออกนอกพื้นที่ปลูกกลายเป็น สาเหตุสำ� คัญส่วนหนึง่ ของไฟป่า (ภาคเหนือตอนบน) ตลอดจน มีการเพิม่ การเผาพืน้ ทีเ่ กษตรจากการส่งเสริมอุตสาหกรรม เกษตรในประเทศเพือ่ นบ้านด้วยเช่นกัน ท�ำให้พนื้ ทีท่ กุ ภาค ยกเว้นภาคใต้ได้รับผลกระทบจาก PM2.5 ในช่วงฤดูแล้ง กันอย่างถ้วนทั่ว รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ได้รับ PM2.5 จากการเผาอุตสาหกรรมเกษตรเป็นหลักด้วยเช่นกัน เพราะกระแสลมที่พัดมวล PM2.5 จากแหล่งก�ำเนิดเข้าสู่ กรุงเทพฯ และปริมณฑลร่วมกับสภาพความกดอากาศ การกั ก ขั ง อากาศไม่ มี ก ารถ่ า ยเทเอื้ อ ให้ ม ลพิ ษ PM2.5 ลอยแขวนในบรรยากาศอยูน่ าน ท�ำให้สดั ส่วนแหล่งก�ำเนิด PM2.5 มาจากการเผาอุ ต สาหกรรมเกษตรมี อิ ท ธิ พ ล มากกว่ามลพิษจากการจราจรหรือมลพิษจากปล่องโรงงาน อุ ต สาหกรรม กล่ าวโดยสรุ ป ได้ ว ่ า มลพิ ษ PM2.5 ใน ประเทศไทยในช่วงฤดูแล้งเกิดจากการเผาอุตสาหกรรม เกษตร อ้อย ข้าวโพด และข้าว เป็นหลัก และถูกซ�้ำเติม ด้วยการเผาอุตสาหกรรมเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งสาธารณรัฐกัมพูชาและสาธารณรัฐเมียนมาร์

สัมพันธ์กับค่าฝุ่นมรณะที่เกินค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก เปรียบเทียบในช่วงฤดูเผาเกษตร ปี 2560, 2561, 2562

คำ�แนะนำ�หลักสำ�หรับประชาชนในการดูแลตนเอง ช่วงวิกฤตมลพิษ

1. ติ ด ตามค่ า ดั ช นี คุ ณ ภาพอากาศในบริ เวณที่ ตั ว เองอยู ่

หรือใกล้เคียงทีส่ ดุ เป็นระยะๆ โดยเลือกดัชนีทสี่ ะท้อนผลกระทบต่อ สุขภาพในช่วงเวลาชั่วโมงล่าสุดเป็นส�ำคัญ หากไม่มีค่าคุณภาพ อากาศในบริเวณใกล้เคียงทีต่ วั เองอยู่ การใช้เครือ่ งวัด PM2.5 แบบ พกพา แม้ไม่แม่นย�ำเท่าเครือ่ งมาตรฐาน แต่ได้คา่ สอดคล้องกันเป็น อย่างดี มีประโยชน์ในการติดตามแนวโน้มค่ามลพิษส่วนบุคคล และ สามารถร่วมกันท�ำเป็นเครือข่ายในพืน้ ทีท่ ลี่ ะเอียดขึน้ (แต่มขี อ้ จ�ำกัด หากวัดในที่ความชื้นสูงมาก จึงต้องหมั่นตรวจสอบและปรับค่า) ไม่ควรใช้ดัชนีคุณภาพอากาศรายวันมาใช้ในการวางแผนด�ำเนิน กิจกรรมในชีวิตประจ�ำวัน 2. ปิดประตูหน้าต่างเพื่อไม่ให้มลพิษอากาศเข้ามาสะสม ในอาคาร และใช้เครือ่ งฟอกอากาศในอาคารทีท่ ำ� งานหรืออยูอ่ าศัย เช่น ห้องท�ำงาน ห้องนอน หรือห้องที่อยู่อาศัยเป็นเวลานาน หาก ปิดห้องนานๆ ระบบไหลเวียนอากาศไม่เพียงพอ (รู้สึกอึดอัด ปวด หรือมึนศีรษะ) ให้เปิดแง้มห้องเพือ่ ระบายอากาศระยะสัน้ ๆ แล้วปิด ตามเดิม อาจต้องท�ำสลับเช่นนี้จนคุณภาพอากาศลดลงมาอยู่ใน ระดับที่ปลอดภัยส�ำหรับแต่ละบุคคล 3. ควรสวมหน้ากากที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ (N95) และสวมให้ถูกวิธี จ�ำเป็นต้องเลือกขนาดที่ใส่ได้กระชับกับ รูปจมูกและใบหน้า หากเริม่ อึดอัดหรือเหนือ่ ยให้ถอดออกเพียงชัว่ ครู่ ก็จะรู้สึกสบายขึ้นแล้วรีบสวมใหม่ ท�ำสลับกันไปเช่นนี้จนดัชนี คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยกับตนเอง การใส่หน้ากาก N95 ทีม่ วี าล์วระบายลมหายใจออกจะท�ำให้อดึ อัดน้อยลง ใส่ได้นาน ขึ้น May-June 2020

จ�ำนวนผู้เสียชีวิตรายวันชาวเชียงใหม่ที่เพิ่มขึ้น การเสี ยชีวติ ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ค่า PM2.5 > 25 มคก./ลบ.ม (6-7 วัน นับจากวันที่ค่า PM2.5 เพิ่ม) 1 มกราคม-31 พฤษภาคม ในปี 2560-2562

จ�ำนวนวันที่

PM2.5 > 25 mcg/m3

จ�ำนวนผูเ้ สี ยชีวติ ที่เพิม่ ขึ้นจากวันที่มี

PM2.5 = 25

4. หลีกเลี่ยงการออกก�ำลังกายนอกอาคารหรือในอาคาร

(โรงยิม) ทีไ่ ม่มรี ะบบฟอกอากาศนานๆ หรืออาจต้องงดออกก�ำลังกาย ขึน้ กับระดับคุณภาพอากาศในช่วงเวลานัน้ และปัจจัยเสีย่ งของแต่ละ บุคคล 5. หลีกเลี่ยงการอยู่ในอาคารที่ไม่มีระบบฟอกอากาศ (เช่น โรงแรม ศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ทไี่ ม่มรี ะบบฟอกอากาศ) ถ้าจ�ำเป็นต้องอยู่ควรสวมหน้ากาก N95 และท�ำตามข้อ 3 6. ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง หรือโรคระบบหายใจเรื้อรัง เช่น หอบหืด ปอด อุดกัน้ เรือ้ รัง ควรหมัน่ สังเกตอาการ โรคก�ำเริบ ถ้ามีอาการควรใช้ยา หรือรักษาเบือ้ งต้นตามทีแ่ พทย์เคยแนะน�ำและไปพบแพทย์โดยเร็ว หากอาการไม่หายเป็นปกติ 7. ผู้ที่ไม่มีโรคประจ�ำตัวหรือแข็งแรง ถ้ามีอาการผิดปกติที่ รบกวนชีวิตประจ�ำวันควรรีบพบแพทย์เช่นกัน อาการส�ำคัญที่ควร รีบไปพบแพทย์อย่างฉุกเฉิน ได้แก่ แน่นอกหรือเจ็บอก หรือเจ็บท้อง ใต้ลนิ้ ปีเ่ หมือนมีของหนักกดทับ เหนือ่ ยหอบผิดปกติ ปวดมึนศีรษะ ชาหรืออ่อนแรงที่ใบหน้าหรือแขนขาซีกใดซีกหนึ่งอย่างฉับพลัน มุมปากตก ปากเบีย้ ว พูดไม่ชดั พูดไม่ออก สับสน มองไม่เห็นฉับพลัน อาการไอเป็นชุดๆ ไอมีเสียงดังหวีด มีไข้ และหอบเหนื่อย เป็นต้น 8. สวมแว่ น ตาขนาดใหญ่ เ พื่ อ ป้ อ งกั น ดวงตาจากมลพิ ษ ใช้นำ�้ เกลือมาตรฐานล้างตาหากรู้สึกระคายเคืองตา 9. ใช้น�้ำเกลือล้างจมูกเพื่อล้างฝุ่นควันลดอาการคัดจมูก หรือกลั้วคอเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ 10. ไม่เป็นผู้ก่อมลพิษเอง เช่น ไม่เผาทุกชนิด ไม่สูบบุหรี่ ไม่ใช้รถควันด�า


Special Scoop > กองบรรณาธิการ

ผลงานนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์

“สุดยอดนวัตกรรมช่างชุมชน”

บริษทั ช.การช่าง จ�ำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ส�ำนักงานนวัตกรรม แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และ สถาบันเชนจ์ฟิวชั่น จัดพิธีมอบรางวัล “สุดยอดนวัตกรรมช่างชุมชน” พร้อมเปิดตัว 10 ผลงานสิง่ ประดิษฐ์และนวัตกรรมเพือ่ แก้ไขปัญหาชุมชน เพือ่ รับทุน พัฒนาสิง่ ประดิษฐ์มลู ค่ารวมกว่า 600,000 บาท พร้อมรับค�ำปรึกษา จากผูเ้ ชีย่ วชาญและโอกาสขอรับทุนสนับสนุนจากภาครัฐ นอกจากนี้ ยั ง มี กิ จ กรรมเวิ ร ์ ค ช็ อ ปการพั ฒ นาแนวคิ ด นวั ต กรรมช่ า งชุ ม ชน แบบ 4 มิติ (การออกแบบ กลไกและวิศวกรรม ต้นทุนราคา การท�า การตลาด) เพือ่ ยกระดับศักยภาพสูก่ ารเป็น “นวัตกรช่างชุมชน” และ ขยายผลสูร่ ะดับประเทศ นับเป็นโครงการความร่วมมือครัง้ แรกของ ประเทศไทยระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิน่ เพื่อส่งเสริมช่างชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมและครบวงจรบนแนวคิด ของการแก้ไขปัญหาทางสังคมด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) โดยน�ำเอาต้นแบบสิ่งประดิษฐ์ของช่างชุมชน มาต่อยอด ผ่านการให้ค�ำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญและโอกาสเข้าถึง ทรัพยากรในด้านต่างๆ ทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ เทคนิคทาง วิศวกรรม การบริหารจัดการธุรกิจ และการเชือ่ มโยงความร่วมมือเพือ่ พัฒนานวัตกรรมกับหน่วยงานภาครัฐ ดร.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู ้ จั ด การใหญ่ บริ ษั ท ช.การช่าง จ�ำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ช.การช่าง มีความภูมิใจที่ได้เห็น การด�ำเนิน “โครงการส่งเสริมนวัตกรรม ช่างชุมชน” ร่วมกับพันธมิตรอย่าง ดร.สุภามาส ตรีวิศวเวทย์ ส�ำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การ มหาชน) และสถาบันเชนจ์ฟวิ ชัน่ ได้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่งมาจนถึง วันนี้ ซึ่งเราได้เห็นผลงานต่างๆ จากความคิดสร้างสรรค์และความ สามารถของคนไทยในชุมชนต่างๆ ทัว่ ประเทศ ทีม่ ที งั้ ศักยภาพและ มีโอกาสที่จะน�ำมาต่อยอด ขยายขีดสามารถจากการใช้แก้ปัญหา ของพื้นที่ในแต่ละท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้งานในบริบทที่กว้างขึ้น เราพร้ อ มอย่ า งยิ่ ง ที่ จ ะมี ส ่ ว นร่ ว มในการสนั บ สนุ น เงิ น ทุ น และ

การถ่ายทอดองค์ความรูแ้ ละเทคนิคต่างๆ โดยเฉพาะในด้านวิศวกรรม ให้แก่ช่างชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อการพัฒนานวัตกรรมที่ก่อ ให้เกิดคุณค่าต่อสังคม ชุมชน เศรษฐกิจ และสิง่ แวดล้อมอย่างยัง่ ยืน สอดคล้องกับพันธกิจของ ช.การช่าง ทีม่ งุ่ ยกระดับคุณภาพชีวติ ของ ผู้คนและพัฒนาประเทศ ผ่านโครงสร้างพื้นฐานและการค�ำนึงถึง ประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก และมีความมุง่ มัน่ เดินหน้าสานต่อ โครงการดีๆ แบบนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่องในอนาคต” ด ร . พั น ธุ ์ อ า จ ชั ย รั ต น ์ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานนวัตกรรม แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า “การจัด ‘โครงการส่งเสริม นวัตกรรมช่างชุมชน’ เป็นอีกหนึ่ง บทพิสจู น์ให้เห็นว่าคนไทยในท้องถิน่ ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ทั่ ว ประเทศล้ ว นมี ทั ก ษะในด้ า น นวัตกรรมและกระบวนการคิดเชิงออกแบบที่มีศักยภาพ สามารถ น�ำมาพัฒนาต่อยอดเป็นนวัตกรรมเพือ่ สังคมทีช่ ว่ ยยกระดับคุณภาพ ชีวิตผู้คนได้ ด้วยจ�ำนวนผลงานที่ส่งเข้าประกวดจ�ำนวนมาก หลาย ผลงานมีพนื้ ฐานมาจากการพัฒนาเพือ่ ใช้ประโยชน์ทางเกษตรกรรม ซึง่ เป็นวิถชี วี ติ ของคนไทยส่วนใหญ่ในท้องถิน่ เช่น เครือ่ งจักรกลเกษตร ระบบชลประทาน การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทหี่ าได้อย่างแพร่หลาย ในประเทศไทย แต่สามารถน�ำมาพัฒนาเพื่อน�ำไปใช้งานในบริบท ที่กว้างขึ้น กลายเป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับ คนไทยในวงกว้างหากมีโอกาสได้เข้าถึงการสนับสนุนจากทัง้ ภาครัฐ และเอกชน ทัง้ ในด้านทรัพยากร องค์ความรู้ และแหล่งทุนอย่างเป็น รูปธรรม” ส�ำหรับผลงานนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ที่ผ่านการคัดเลือก รอบแรกทั้ง 10 ทีม ประกอบด้วย จักรยานปีนต้นมะพร้าว สว่าน เจาะดินนิวบอร์น รถไถนัง่ ขับอีลยุ เรือรดน�ำ้ อัตโนมัติ เครือ่ งตัดหญ้า โซลาร์เซลล์ ตะบันน�้ำถังแก๊ส ของเล่นไม้กลไกเคลื่อนไหว กาลักน�ำ้ ประปาภูเขา เครื่องอูดยุง และเครื่องบดผสมปุ๋ยหมัก และดินปลูก May-June 2020


โครงการส่งเสริมนวัตกรรมช่างชุมชน

“โครงการส่งเสริมนวัตกรรมช่างชุมชน” เกิดจากความ ร่วมมือกันระหว่าง บริษัท ช.การช่าง จ�ำกัด (มหาชน) ส�ำนักงาน นวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และสถาบันเชนจ์ฟิวชั่น (Change Fusion) ภายใต้ มู ล นิ ธิ บู ร ณชนบทแห่ ง ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีจดุ ประสงค์เพือ่ พัฒนานวัตกรรม และ ยกระดับทักษะช่างชุมชนผ่านโครงการประกวดสิง่ ประดิษฐ์ทมี่ งุ่ เน้น แก้ไขปัญหาชุมชนท้องถิ่น การด�ำเนินงานของโครงการฯ เริ่มจากการเปิดรับสมัคร ช่างชุมชนทีม่ คี วามสามารถและความคิดสร้างสรรค์จากทัว่ ประเทศ ร่วมส่งผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมเข้าประกวด เพื่อ ชิงทุนสนับสนุนเพือ่ พัฒนาสิง่ ประดิษฐ์ มูลค่ารวมกว่า 600,000 บาท พร้อมรับโอกาสในการยกระดับการท�ำงานสู่การเป็น “นวัตกรช่าง ชุมชน” และต่อยอดขีดความสามารถของสิง่ ประดิษฐ์อย่างรอบด้าน จากค�ำแนะน�ำของผูเ้ ชีย่ วชาญก่อนขยายผลสูร่ ะดับประเทศ ตลอดจน โอกาสในการขอรับทุนสนับสนุนจากภาครัฐต่อไป เจ้าของผลงานที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกทั้ง 10 ทีม จะได้ รับทุนสนับสนุนส�ำหรับการพัฒนาผลงานในเบือ้ งต้น พร้อมเข้าร่วม กิจกรรมอบรมด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ก่อนที่จะมีการคัดเลือกผลงานที่ดีที่สุด 3 ชิ้นเพื่อเข้ารอบสุดท้าย ซึ่งจะได้รับรางวัลเป็นทุนสนับสนุนส�ำหรับการพัฒนาอีกรางวัลละ

100,000 บาท พร้อมโอกาสในการรับค�ำปรึกษาอย่างใกล้ชิดจาก ผู้เชี่ยวชาญในสาขาเทคนิควิศวกรรมการออกแบบผลิตภัณฑ์ และ การจัดการธุรกิจนวัตกรรม โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อปรับปรุงและ พัฒนาผลงานดังกล่าวให้เป็นเลิศทัง้ ในด้านประโยชน์ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการใช้งานโครงสร้าง คุณสมบัตริ ปู ลักษณ์ ความสะดวก ในการใช้งาน การบ�ำรุงรักษา ฯลฯ จนได้เป็นนวัตกรรมต้นแบบที่ สามารถเผยแพร่ใช้งานในวงกว้างเพื่อตอบโจทย์ปัญหาชุมชนและ สังคมในบริบทต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ “โครงการส่งเสริมนวัตกรรมช่างชุมชน” ถือเป็นครั้งแรก ของเมืองไทยที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมมือกับภาคชุมชน ท้องถิน่ เพือ่ พัฒนานวัตกรช่างชุมชนอย่างเป็นรูปธรรมและครบวงจร บนพื้นฐานของการส่งเสริมการแก้ไขปัญหาของชุมชนและสังคม อย่างตรงจุดด้วยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) โครงการฯ จะใช้วธิ นี ำ� เอาต้นแบบสิง่ ประดิษฐ์ของช่างชุมชน ที่มีศักยภาพมาพัฒนาต่อยอดด้วยการถ่ายทอดทักษะความรู้จาก องค์กรผูเ้ ชีย่ วชาญให้แก่ผเู้ ข้าแข่งขัน ทัง้ นีผ้ ลลัพธ์ทไี่ ด้จากโครงการฯ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานส�ำคัญของ การพัฒนาประเทศอย่างยัง่ ยืน สอดคล้องกับภารกิจของ ช.การช่าง ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ ประเทศไทย

สิ่งประดิษฐ์ : จักรยานปีนต้นมะพร้าว นวัตกรช่างชุมชน : ณรงค์ หงส์วิชุลดา จังหวัดสุรินทร์ หมายเลขติดต่อ 062-348-3150 แนวคิดในการพัฒนา : พัฒนาขึ้นจากความต้องการแก้ไขปัญหาการหาคนปีน ต้นมะพร้าวได้ยาก เนื่องจากเป็นงานอันตราย ท�ำให้การเก็บลูกมะพร้าว ลูกตาล ลูกหมาก และการตัดแต่งกิง่ ไม้บนต้นไม้สงู มีความปลอดภัย และสามารถออกแบบ ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการปีนต้นไม้แต่ละชนิดได้

ประโยชน์ที่ได้รับ • ลดการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บของเกษตรกร • สามารถอยู่บนต้นไม้ได้เป็นระยะเวลายาวนาน โดยไม่เกิดความเมื่อยล้า จึงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ มากขึ้น ท�ำให้รายได้เพิ่มขึ้น May-June 2020


สิ่งประดิษฐ์ : สว่านเจาะดินนิวบอร์น นวัตกรช่างชุมชน : ปรีชา บุญส่งศรี จังหวัดลพบุรี หมายเลขติดต่อ 086-618-2302 แนวคิดในการพัฒนา : เริ่มต้นจากความต้องการที่จะปลูกกล้วยนับพันต้น แต่พบว่าการขุดหลุมปลูกทีละต้นทั้งเหนื่อยและใช้เวลามาก เครื่องเจาะดิน ที่หาซื้อได้ก็ไม่ทนทาน ใช้งานยาก และก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จึงพยายาม คิดค้นเครื่องขุดดินตั้งแต่เสียมขนาดใหญ่ที่ทนทาน และมีที่เหยียบส�ำหรับ เพิม่ิ แรงในการขุด มาเป็นสว่านเจาะดินมือหมุน จนกระทัง่ พัฒนาต่อยอดมาเป็น เครือ่ งเจาะดินแบบรถเข็นล้อเดีย่ ว ทีเ่ หมาะกับการลากเคลือ่ นย้ายในพืน้ ทีข่ รุขระ และช่วยในการควบคุมทิศทางการเจาะดินได้ดี ซึง่ อุปกรณ์ทพี่ ฒ ั นาขึน้ มีจดุ เด่น ที่ใช้งานได้สะดวก ราคาไม่แพง เกษตรกรสามารถเข้าถึงได้ง่าย ประโยชน์ที่ได้รับ • เพิ่มรายได้ และลดต้นทุนในการปลูกพืชสวนที่ต้องใช้ต้นกล้าจ�ำนวนมาก • ลดต้นทุนแรงงานในการก่อสร้างขนาดเล็กในพืน้ ทีเ่ กษตรกรรม เช่น การสร้าง โรงเรือนเพาะเห็ด เสาค้างส�ำหรับพืชเถาเลื้อย ฯลฯ สิ่งประดิษฐ์ : รถไถนั่งขับอีลุย นวัตกรช่างชุมชน : วิมล สุวรรณ จังหวัดสกลนคร หมายเลขติดต่อ 081-206-2305 แนวคิดในการพัฒนา : จากประสบการณ์รับจ้างไถปรับหน้าดิน ด้วยรถไถเดินตามมาอย่างยาวนาน ความเมือ่ ยล้าทีเ่ กิดขึน้ จนเกือบ จะประสบอุบตั เิ หตุทำ� ให้ตอ้ งคิดค้นหาวิธกี ารทีจ่ ะท�ำให้รถไถเดินตาม ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ด้วยขาดแคลนทุนทรัพย์จึงอาศัยเรียนรู้จาก กลไกของรถไถขนาดใหญ่ และหาอะไหล่มือสองมาดัดแปลงรถไถ เดินตามคู่ใจ จนกระทั่งกลายเป็นรถไถนั่งขับที่สามารถท�ำงานได้ ไม่แพ้รถไถราคาแพงขนาดใหญ่ อีลุย คือชุดอุปกรณ์ดัดแปลงรถไถเดินตามที่เกษตรกรมีกัน อยู่ทุกบ้านให้กลายเป็นรถไถนั่งขับได้ในราคาไม่แพง พร้อมติดตั้ง ระบบต่อพ่วงอุปกรณ์เกรดหน้าดิน ผานไถ พ่วงลาก ฯลฯ ตามความ ต้องการของผู้ใช้ โดยเฉพาะเกษตรกรสูงวัย ให้สามารถท�ำงานใน พื้นที่เกษตรกรรมได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น สิ่งประดิษฐ์ : เรือรดน�้ำอัตโนมัติ นวัตกรช่างชุมชน : สายธาร ม่วงโพธิ์เงิน จังหวัดนครปฐม หมายเลขติดต่อ 094-369-5361

ประโยชน์ที่ได้รับ • สร้างรายได้เพิ่ม โดยปัจจุบันได้เปิดให้บริการกับผู้สนใจน�ำรถไถ เดินตามมาติดตั้งชุดอุปกรณ์ดัดแปลงนั่งขับ ซึ่งมีผู้สนใจเข้ามา ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

แนวคิดในการพัฒนา : การวางระบบสปริงเกลอร์รดน�้ำแบบที่สวนอื่นท�ำ “ยังไม่ใช่คำ� ตอบ” เพราะต้นทุนสูงกว่าหลายเท่า “โจทย์ตอนนัน้ คือ ท�ำให้เป็น โรบอท ท�ำยังไงให้เรากดสวิตช์ปบุ๊ แล้วไม่ตอ้ งสนใจ ปล่อยมันไป ให้มนั ท�ำงาน” ‘เรือรดน�ำ้ อัตโนมัต’ิ อาศัยเครือ่ งยนต์เบนซินสองจังหวะ มอเตอร์ โฟม เหล็ก ท่อพีวีซี และกล่องควบคุมที่เขียนโปรแกรมให้กับไมโครคอนโทรลเลอร์เพื่อ ควบคุมความเร็วของมอเตอร์ให้คงที่ เมือ่ ติดเครือ่ งแล้ว สามารถปล่อยให้รดไป รอบๆ สวนได้เอง ประโยชน์ที่ได้รับ • ลดการใช้แรงงานในการรดน�ำ้ พืชไร่พืชสวนได้ • ประหยัดต้นทุนในการท�ำการเกษตร May-June 2020


สิ่งประดิษฐ์ : เครื่องตัดหญ้าโซลาร์เซลล์ ตัดหญ้าทั้งวัน ไม่สิ้นเปลือง น�้ำมันแม้แต่หยดเดียว!!! นวัตกรช่างชุมชน : กฤษณะ สิทธิหาญ จังหวัดล�ำปาง หมายเลขติดต่อ 084-042-9847 แนวคิดในการพัฒนา : เครือ่ งตัดหญ้าติดแผงโซลาร์เซลล์ในตัวเป็นทางเลือกให้กบั เกษตรกร ท�ำงานด้วยมอเตอร์กำ� ลังสูงทีส่ ามารถใช้งานได้อย่างต่อเนือ่ งได้ทงั้ วัน แผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็ก ทีส่ ามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนือ่ งในระหว่างการใช้งาน หรือถึงแม้จะเป็นวันทีไ่ ม่มี แสงอาทิตย์กส็ ามารถใช้งานได้ดว้ ยแบตเตอรีส่ ำ� รอง การออกแบบมือจับแบบพิเศษทีช่ ว่ ยเพิม่ องศาจากจุดหมุนเพือ่ ตัดหญ้าได้กว้างกว่ามือจับแบบทัว่ ไป ด้วยตัวเครือ่ งทีม่ นี ำ�้ หนักเบาและ กะทัดรัด เครื่องตัดหญ้าติดแผงโซลาร์เซลล์ในตัว ประโยชน์ที่ได้รับ • ประหยัดการใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่าย • สร้างรายได้เพิ่ม สิ่งประดิษฐ์ : ตะบันน�้ำถังแก๊ส นวัตกรช่างชุมชน : อุดม อุทะเสน จังหวัดเลย หมายเลขติดต่อ 087-216-5686

แนวคิดในการพัฒนา : ด้วยทักษะช่างเครือ่ งยนต์เล็ก และความรับผิดชอบ ในฐานะผู้ใหญ่บ้านแห่งบ้านทุ่งเทิง ต�ำบลโป่ง อ�ำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย คุณอุดม อุทะเสน ได้พยายามแสวงหาวิธกี ารทีจ่ ะน�ำน�ำ้ ทีไ่ หลมาจากป่าต้นน�า้ เพื่อให้ชาวบ้านในหมู่บ้านได้มีน�้ำในการบริโภคและใช้ในการเกษตร แต่ด้วย สภาพพืน้ ทีท่ หี่ า่ งไกล หลายพืน้ ทีไ่ ฟฟ้าเข้าไม่ถงึ ตะบันน�ำ้ จึงกลายเป็นทางเลือก ที่เหมาะสมกับหมู่บ้านที่อยู่ในเขตป่าต้นน�ำ้ คุณอุดมได้พัฒนาตะบันน�้ำอย่าง ต่อเนือ่ ง จากเดิมใช้ทอ่ พลาสติกพีวซี ี มาเป็นท่อเหล็ก ต่อมาเป็นถังน�ำ้ ยาแอร์ และท้ า ยที่ สุ ด ได้ หั น มาใช้ ถั ง แก๊ ส มื อ สองที่ มี ค วามทนทานและมี ข นาดที่ เหมาะสม ประโยชน์ที่ได้รับ • ท�ำให้เข้าถึงแหล่งน�ำ้ สะอาดเพือ่ สุขภาวะทีด่ สี ำ� หรับครัวเรือนในชนบท และ การชลประทานเกษตรที่ช่วยเพิ่มรายได้ • ส่งเสริมการอนุรกั ษ์พนื้ ทีป่ า่ ต้นน�ำ้ โดยตะบันน�ำ้ จะยังคงท�ำงานได้อย่างต่อเนือ่ ง ก็ต่อเมื่อมีนำ�้ ไหลลงมาตามล�ำธารอย่างต่อเนื่อง

สิ่งประดิษฐ์ : ของเล่นไม้กลไกเคลื่อนไหว นวัตกรช่างชุมชน : โรงเล่นและพิพิธภัณฑ์เล่นได้ 48 หมู่ 3 ต�ำบลป่าแดด อ�ำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย 57180 หมายเลขติดต่อ 089-999-8537 หรือแฟนเพจ “โรงเล่นพิพธิ ภัณฑ์ เล่น” https://web.facebook.com/PlayableMuseum/ แนวคิดในการพัฒนา : ของเล่นทีแ่ ค่เห็นก็สนุกแล้ว จากฝีมอื ของ กลุ่มคนเฒ่าคนแก่ใจดี ช่างไม้นักท�ำของเล่นกว่า 20 คน ที่ช่วยกัน พัฒนาต่อยอดจากของเล่นพื้นบ้าน ใช้วัสดุธรรมชาติท่ีหาได้ใน ท้องถิน่ มาเป็นวัตถุดบิ สร้างสรรค์ชนิ้ งานด้วยเครือ่ งมือช่างพืน้ บ้าน เพิ่มเติมด้วยจินตนาการของผู้ใหญ่ที่อยากให้ลูกหลานได้เรียนรู้ และจินตนาการไปไกลกว่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยความมุ่งมั่นของ สองพี่น้องนักก่อการเล่น ผู้ประสานงานของกลุ่มคนเฒ่าคนแก่ ที่ท�ำหน้าที่เชื่อมประสานผู้อาวุโสนักประดิษฐ์ของเล่น จึงท�ำให้ ของเล่นเหล่านี้มีการพัฒนารูปแบบและกลไก May-June 2020

ประโยชน์ที่ได้รับ • เกิดกระบวนการส่งต่อความรู้ไปยังเด็กรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง • ของเล่นแนวเคลื่อนไหวที่สนุกสนานหลากหลายแบบที่ราคา ไม่แพงและเล่นได้ไม่รู้เบื่อ


สิ่งประดิษฐ์ : กาลักน�ำ้ ประปาภูเขา นวัตกรช่างชุมชน : กลุ่มช่างชุมชนเมืองจัง จังหวัดน่าน หมายเลขติดต่อ 091-071-8902 แนวคิดในการพัฒนา : พัฒนาขึ้นจากปัญหาการสิ้นเปลืองงบประมาณ ในการสูบน�้ำเพื่อประโยชน์ด้านการชลประทานภายในหมู่บ้าน จึงพัฒนา เครือ่ งสูบน�ำ้ แบบกาลักน�ำ้ ทีอ่ าศัยหลักทางวิทยาศาสตร์ โดยไม่ตอ้ งใช้พลังงาน จากภายนอก เพื่อประโยชน์ในการสูบน�้ำจากแหล่งกักเก็บไปยังล�ำรางส่งน�้า ของหมู่บ้าน ประโยชน์ที่ได้รับ • ลดต้นทุนในการสูบน�้ำเพื่อสาธารณูปโภคและการเกษตรภายในหมู่บ้าน • ช่วยให้ชาวบ้านเข้าถึงแหล่งน�ำ้ สะอาดอันส่งผลต่อสุขภาพทีด่ ี และเพิม่ รายได้ จากการเกษตรที่เข้าถึงระบบชลประทาน สิ่งประดิษฐ์ : เครื่องอูดยุง นวัตกรช่างชุมชน : สุริยา ค�ำคนซื่อ จังหวัดนครพนม หมายเลขติดต่อ 095-289-6855

สิ่งประดิษฐ์ : เครื่องบดผสมปุ๋ยหมักและดินปลูก เลิกเผา ลดควัน ด้วยการแปลงเศษใบไม้ทไี่ ด้ในแต่ละวัน ให้เป็นดินพร้อมปลูก นวัตกรช่างชุมชน : สุรเดช ภูมิชัย จังหวัดล�ำพูน หมายเลขติดต่อ 081-612-8254 แนวคิดในการพัฒนา : เกษตรกรชาวสวนล�ำไยและสวน มะม่วงต้องตัดแต่งกิ่งเป็นประจ�ำทุกวัน จึงรวบรวมใบล�ำไย และใบมะม่วงมาผลิตเป็นปุ๋ยหมักและดินพร้อมปลูก โดยการ สนับสนุนจากส�ำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดล�ำพูน ท�ำให้ทางกลุม่ สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ดินพร้อมปลูกจากปุ๋ยหมักใบล�ำไย และใบมะม่วงที่ขายดีจนต้องสั่งจองล่วงหน้า เครื่องบดผสม อเนกประสงค์ต้นทุนต�่ำจากถังน�้ำมัน 200 ลิตร สามารถใช้ใน การผลิตปุ๋ยหมักและดินพร้อมปลูกบรรจุถุงคุณภาพสูงได้มาก ถึง 4 ตันต่อวัน

แนวคิดในการพัฒนา : พัฒนาขึน้ จากปัญหาเครือ่ งพ่นยุงแบบสะพายหลัง ดั้งเดิมที่มีขนาดใหญ่ เสียงดัง สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และมีราคาแพง ท�ำให้มีจ�ำนวนเครื่องไม่เพียงพอกับการใช้งานครอบคลุม 80 หมู่บ้าน ของต�ำบลท่าลาด จึงสร้างเครื่องพ่นสารก�ำจัดยุงขนาดเล็กที่ตัวแทน อสม. แต่ละหมูบ่ า้ นสามารถพกพาและใช้งานได้งา่ ย อีกทัง้ ยังมีราคาถูก จึงสามารถผลิตได้จำ� นวนมาก อีกทัง้ ยังช่วยให้การฉีดก�ำจัดยุงท�ำได้อย่าง รวดเร็ว ประโยชน์ที่ได้รับ • ลดความเสีย่ งด้านสุขภาพของชาวบ้านในชุมชน โดยเฉพาะโรคติดต่อ ที่มียุงเป็นพาหะ • ลดรายจ่ายของภาครัฐในการรักษาผูป้ ว่ ยจากโรคทีม่ ยี งุ เป็นพาหะ และ ลดรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ในการจัดสรรงบประมาณ เพื่อก�ำจัดยุงตามหมู่บ้าน

ประโยชน์ที่ได้รับ • ช่วยลดการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรได้อย่างรวดเร็ว • สร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกร May-June 2020


Special Arearelays (GZP) NEW SOCKET for Industrial

> บริษัท แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จ�ำกัด

เนื�องด้วยปั จจุบนั ระบบควบคุมอัตโนมัติ ได้ชว่ ยให้การทํางานของเราง่ายแ คือ “รีเลย์”

รีเลย์ทาํ หน้าที� รับคําสังจากหน่ � วยประมวลผล เพือ� สังการให้ � อุปกรณ์ท จําเป็ นต้องใช้อปุ กรณ์ชนิด Push-in เพือ� ให้มนใจได้ ั� ว่า วงจรยังอยูใ่ นสภาวะ

NEW SOCKET for Industrial Relays (GZP)

Relpol ผูผ้ ลิต รีเลย์ ชัน� นําจากประเท�โปแลนด์ ได้พฒั นาซ็อกเก็ตสําหรับ เครือ� งร่อน, ระบบราง, ระบบสายพานลําเลียง เป็ นต้น ซ็อกเก็ตชนิด Push-in มีทงั � ชนิดใช้สาํ หรับ

 Miniature relays (GZP80) ใช้กบั รีเลย์ RM84, RM85, RMP84,  Industrial relays (GZP4) ใช้กบั รีเลย์ R2N, R4N

เนื�องด้วยปั จจุบนั ระบบควบคุมอัตโนมัติ ได้ชว่ ยให้การทํางานของเราง่ายและแม่นยํามากข�น� ส่วนประกอบสําคัญสาํ หรับระบบความคุมอัตโนมัติ ซ็อกเก็ตทัง� � ชนิดติดตัง� บนราง DIN ขนาด �� มม. โดยทีน� ยิ มใช้กนั มาก คือ “รีเลย์”

300VAC) และ R4N (รีเลย์ 4 Contact @8A, 300VAC)

รีเลย์ทาํ หน้าที� รับคําสังจากหน่ � วยประมวลผล เพือ� สังการให้ � อุปกรณ์ทาํ งานได้ตามคําสังที � ต� อ้ งการ ซ�ง� ในเครือ� งจักรทีม� กี ารสันสะเทื � อนสูง จําเป็ นต้องใช้อปุ กรณ์ชนิด Push-in เพือ� ให้มนใจได้ ั� ว่า วงจรยังอยูใ่ นสภาวะปกติ สายไฟไม่หลุดหรือหลวม Relpol ผูผ้ ลิต รีเลย์ ชัน� นําจากประเท�โปแลนด์ ได้พฒั นาซ็อกเก็ตสําหรับรีเลย์ชนิด Push-in เพือ� รองรับพืน� ทีต� ดิ ตัง� ทีม� กี ารสันสะเทื � อนสูงเช่น เครือ� งร่อน, ระบบราง, ระบบสายพานลําเลียง เป็ นต้น ซ็อกเก็ตชนิด Push-in มีทงั � ชนิดใช้สาํ หรับ  Miniature relays (GZP80) ใช้กบั รีเลย์ RM84, RM85, RMP84, RMP85  Industrial relays ใช้กมบั อัรีตเโนมั ลย์ R2N, เนือ่ งด้วยปั จจุบนั (GZP4) ระบบควบคุ ตไิ ด้ชว่ R4N ยให้การท�ำงาน ของเราง่ายและแม่นย�ำมากขึ้น ส่วนประกอบส�ำคัญส�ำหรับระบบ

ซ็อกเก็ควบคุ ตทัง� ม�อัชนิ ดติตดิคตัือง� บนราง ตโนมั “รีเลย์”DIN ขนาด �� มม. โดยทีน� ยิ มใช้กนั มากคือ GZP4 เนื�องจากใช้กบั รีเลย์ชนิด R2N (รีเลย์ 2 Contact @12A, 300VAC) และรีเลย์ R4Nท�ำ(รีหน้ เลย์ @8A, 300VAC) เพือ่ สัง่ การให้ าทีร4่ บั Contact ค�ำสัง่ จากหน่ วยประมวลผล อุปกรณ์ท�ำงานได้ตามค�ำสั่งที่ต้องการ ซึ่งในเครื่องจักรที่มีการ สัน่ สะเทือนสูงจ�ำเป็นต้องใช้อปุ กรณ์ชนิด Push-In เพือ่ ให้มนั่ ใจได้วำ่ วงจรยังอยู่ในสภาวะปกติ สายไฟไม่หลุดหรือหลวม Relpol ผู้ผลิตรีเลย์ชั้นน�ำจากประเทศโปแลนด์ ได้พัฒนำ ซ็อกเก็ตส�ำหรับรีเลย์ชนิด Push-In เพื่อรองรับพื้นที่ติดตั้งที่มีการ สั่นสะเทือนสูง เช่น เครื่องร่อน ระบบราง ระบบสายพานล�ำเลียง เป็นต้น ซ็อกเก็ตชนิด Push-In มีทั้งชนิดใช้ส�ำหรับ • Miniature Relays (GZP80) ใช้กบั รีเลย์ RM84, RM85, RMP84, RMP85 • Industrial Relays (GZP4) ใช้กับรีเลย์ R2N, R4N ซ็อกเก็ตทั้ง 2 ชนิดติดตั้งบนราง DIN ขนาด 35 มม. โดยที่ นิยมใช้กันมากคือ GZP4 เนื่องจากใช้กับรีเลย์ชนิด R2N (รีเลย์ 2 Contact @12A, 300VAC) และ R4N (รีเลย์ 4 Contact @8A, 300VAC) May-June 2020

Socket Push-In GZP4


Features

• มีช่องใส่สายไฟได้ถึง 2 เส้นใน 1 ขั้ว เพื่อช่วยให้งา่ ยต่อการต่อพ่วงวงจร • สามารถใส่ติด Label ที่ Socket ได้เลย • คลิปล็อกมีหลายชนิดให้เลือกใช้ เช่น Retainer Clip, Spring Wire Clip, Retractor Clip • คลิปล็อกชนิด Retractor Clip สามารถใส่ Description Plate ได้ • มีช่องส�ำหรับใส่สาย Prob ของมิเตอร์ส�ำหรับตรวจสอบวงจร • สามารถใส่สายไฟขนาดสูงสุดได้ขนาด 1.5 มม.2 • ใส่ง่ายๆ ด้วยการกดสายไฟไปในช่องต่อสาย • ถอดง่ายๆ ด้วยการใช้ไขควงกดปุ่มปลดล็อก และดึงสายไฟออกได้ทันที

คลิปล็อกสามารถใส่ Description Plate ได้

Socket ติด Lable ได้

ใส่ ด้วยการกดเข้าได้ทันที ถอด ด้วยการใช้ ไขควงกด แล้วดึง

มีช่องแยกใส่ Prob มิเตอร์

THINK RELAY THINK RELPOL

บริษท ั แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จำ�กัด โทร. 0-2194-8738-9 แฟกซ์ 0-2003-2215 E-mail : info@mit-thailand.com เว็บไซต์ : www.mit-thailand.com

THINK RELAY THINK RELPOL May-June 2020


Special Area > ชไนเดอร์ อิเล็คทริค

PowerTag อุปกรณ์ใหม่ลา่ สุดทีม่ าเสริมทัพโซลูชนั EcoStruxureTM Power ทีใ่ ห้ศกั ยภาพ

ด้าน IoT ช่วยสร้างโอกาสใหม่ให้กบั ระบบพลังงาน และแอปพลิเคชันบริหารจัดการพลังงานในปัจจุบนั • เซ็นเซอร์วดั ค่าพลังงานไฟฟ้าทีโ่ หลดปลายทางแบบไร้สายทีเ่ ล็กทีส่ ดุ ในโลก ระดับคลาส 1 รองรับ การท�ำงานร่วมกับโปรแกรมทีใ่ ห้ประสิทธิภาพด้านพลังงาน ช่วยให้สามารถจัดสรรค่าใช้จา่ ย ด้านพลังงาน อีกทั้งท�ำงานสอดคล้องตามมาตรฐานโลก เช่น มาตรฐาน ISO 50001 • การสือ่ สารแบบไร้สายทีท่ รงพลัง สอดคล้องตามมาตรฐานทีไ่ ด้รบั การยอมรับ และเชือ่ ถือได้ ไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับวัสดุอุปกรณ์และการติดตั้ง • ติดตัง้ และเริม่ ด�ำเนินงานได้งา่ ยและรวดเร็ว เนือ่ งจากใช้เวลาน้อยในการทดสอบหรือผสาน การท�ำงานร่วมกัน • ให้ศักยภาพในการปรับขยาย ช่วยให้ปรับเปลี่ยนการท�ำงานได้สอดคล้องตามกฎข้อบังคับ ข้อเรียกร้อง หรือตามการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจได้ง่าย • มีฟีเจอร์แจ้งเตือนใกล้กับโหลด (แรงดันไฟตก ไฟโอเวอร์โหลด) PowerTag ออกแบบมาเพือ่ เสริมประสิทธิภาพการมอนิเตอร์หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ต่างๆ โดยออกแบบมาเพื่อช่วยให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้าง่ายและรัดกุม และด้วยการสื่อสาร ผ่านระบบไร้สาย จึงท�ำให้การตรวจสอบและวัดค่าพลังงานท�ำได้ทงั้ ในพืน้ ทีเ่ ป็นโซนและในระดับของ ตัวโหลด May-June 2020


เซ็นเซอร์วด ั ค่าพลังงานไฟฟ้า ที่โหลดปลายทางตัวแรกที่เล็กที่สุด

PowerTag เป็นเซ็นเซอร์วัดค่าพลังงาน ไฟฟ้าทีโ่ หลดปลายทาง ทีอ่ อกแบบมาส�ำหรับใช้กบั อาคารทุกประเภท ช่วยตรวจสอบและวัดกระแส ไฟฟ้า รวมถึงแรงดัน ก�ำลังไฟ ค่าตัวประกอบก�ำลัง ไฟฟ้า และค่าพลังงาน โดยข้อมูลจะถูกส่งผ่าน ระบบไร้สายไปยัง Concentrator ซึ่งสามารถ ส่งข้อมูลให้กับระบบบริหารจัดการพลังงานหรือ ระบบบริหารจัดการอาคารได้ โดยผู้ใช้สามารถดู ผ่านหน้าเว็บเพจ พร้อมปรับแต่งให้มกี ารแจ้งเตือน ผ่านอีเมลได้ ทั้งยังช่วยให้ผู้จัดการฝ่ายบริหาร ทรัพยากรอาคาร สามารถตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ได้จากระยะไกล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่การสื่อสาร ผ่านระบบไร้สายโดยไร้สิ่งรบกวน ช่วยให้บริหาร จัดการโหลดได้ดยี งิ่ ขึน้ ช่วยสร้างความน่าเชีอ่ ถือ และช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการติดตัง้ ระบบไฟ • เซ็นเซอร์วัดค่าพลังงานไฟฟ้าที่โหลด ปลายทางแบบไร้สายที่เล็กที่สุดในโลก ผ่านการ รับรองมาตรฐานด้านความเทีย่ งตรงระดับคลาส 1 เพื่ อ สนั บ สนุ น โปรแกรมให้ ป ระสิ ท ธิ ภ าพด้ า น พลังงาน หรือการจ�ำแนกค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน • การสื่ อ สารผ่ า นระบบไร้ ส ายที่ มั่ น คง สอดคล้องตามมาตรฐานต่างๆ และสามารถ เชื่อถือได้ ไม่สร้างผลกระทบแต่อย่างใดต่อวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ และการติดตั้ง • ให้ความสามารถในการน�ำมาปรับใช้งาน และขยายขีดความสามารถได้ โดยปรับเปลี่ยน ตามความต้องการทางธุรกิจได้งา่ ย หากมีการออก นโยบายใหม่ๆ หรือมีการเปลีย่ นแปลงข้อก�ำหนด ต่างๆ • ติดตัง้ และด�ำเนินการได้งา่ ยและรวดเร็ว ไม่ต้องใช้แผงในการติดตั้ง และช่วยลดเวลาใน การผสานการท�ำงานร่วมกัน ด้วยความที่เซ็นเซอร์วัดค่าพลังงานไฟฟ้า มีขนาดกะทัดรัด ประหยัดพืน้ ที่ จึงเหมาะเจาะลงตัว ส�ำหรับตูค้ วบคุมไฟฟ้า (Distribution Board) ทีใ่ ช้ อยูเ่ ดิม รวมถึงรุน่ ใหม่ได้เป็นอย่างดี PowerTag® สร้ า งขึ้ น เพื่ อ การใช้ ง านร่ ว มกั บ แพลตฟอร์ ม EcoStruxure ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เพื่อเป็น โซลูชันในการตรวจสอบและควบคุมการท�ำงาน ของระบบไฟได้ในแบบ All-In-One

ให้ขุมพลังการเชื่อมต่อกับ EcoStruxure Power

PowerTag เป็นส่วนประกอบหลักในแพลตฟอร์ม EcoStruxureTM Power โดย เป็นส่วนหนึง่ ของโซลูชนั EcoStruxure ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ซึง่ เป็นระบบเปิดและ ท�ำงานร่วมกับระบบสถาปัตยกรรมส�ำหรับอาคาร โครงข่ายไฟฟ้า อุตสาหกรรม และ ดาต้าเซ็นเตอร์ โดย PowerTag นับเป็นส่วนส�ำคัญทีเ่ ข้ามาต่อยอดผลิตภัณฑ์เชือ่ มต่อ ชัน้ น�ำของอุตสาหกรรมทีช่ ไนเดอร์ อิเล็คทริค น�ำเสนอ และเป็นแพลตฟอร์มใหม่ทใี่ ห้ คุณค่าภายในเครือข่ายที่ผสานรวมด้านการจ่ายพลังงาน EcoStruxure เป็นโซลูชันระบบเปิดของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่มีศักยภาพ ด้าน IoT มอบคุณค่าที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องของความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และการเชื่อมต่อให้กับลูกค้าของเรา อีโคสตรัคเจอร์ยัง ยกระดับความก้าวหน้าในเรือ่ งของ IoT โมบิลติ ี้ การตรวจจับ คลาวด์ การวิเคราะห์ และ ระบบรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ (Cybersecurity) มาใช้ในการมอบนวัตกรรมใน ทุกระดับ (Innovation at Every Level) ซึง่ ครอบคลุมในเรือ่ งของการเชือ่ มต่อผลิตภัณฑ์ (Connected Products) ระบบควบคุมปลายทาง (Edge Control) ตลอดจนแอปพลิเคชัน รวมถึงการวิเคราะห์และการบริการต่างๆ (Apps, Analytics, and Services) โดย EcoStruxure ได้มีการติดตั้งใช้งานมากกว่า 450,000 ไซต์งาน โดยมีผู้วางระบบและ ผูพ้ ฒ ั นากว่า 9,000 รายทีใ่ ห้การสนับสนุนในการเชือ่ มต่ออุปกรณ์มากกว่า 1 พันล้าน อุปกรณ์ May-June 2020


Special Area

> บริษัท ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) จ�ำกัด

การเลือกใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์แรงดันปานกลาง (Medium Voltage Circuit Breakers : MVCB)

เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบสุญญากาศ (VCB)

เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบสุญญากาศ (VCB DRAWOUT TYPE) May-June 2020

เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบสุญญากาศ (VCB FIXED TYPE)

เซอร์กิตเบรกเกอร์ เป็นอุปกรณ์ ที่ใช้ส�ำหรับเปิดและปิดวงจรทั้งในขณะที่ ระบบไฟฟ้ า ก� ำ ลั ง อยู ่ ใ นภาวะปกติ แ ละ ภาวะผิดปกติ การเปิด-ปิดวงจรในภาวะ ปกติ จ ะท� ำ ด้ ว ยมื อ เมื่ อ ไรก็ ไ ด้ ต ามความ ต้องการ แต่เมื่อระบบอยู่ในภาวะผิดปกติ เซอร์กิตเบรกเกอร์จะต้องตัดอย่างรวดเร็ว ทีส่ ดุ เท่าทีจ่ ะท�ำได้ จึงจ�ำเป็นต้องมีอปุ กรณ์ อืน่ ๆ ช่วยตรวจจับภาวะผิดปกติ และสัง่ ให้ เซอร์กิตเบรกเกอร์เปิดหรือปิดวงจรโดย อัตโนมัติ ความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องถึง ลักษณะสมบัติและหลักการของเซอร์กิต เบรกเกอร์ เป็นส่วนส�ำคัญที่ช่วยให้เข้าใจ เรื่องวิศวกรรมการป้องกันได้ดีขึ้น เพราะ ในการก�ำจัดฟอลต์นั้นต้องมีการท�ำงาน ร่วมกันระหว่างเซอร์กติ เบรกเกอร์และรีเลย์ ป้องกัน ฉนวนที่ใช้ดับอาร์กของเซอร์กิต เบรกเกอร์จะมีหลายแบบ โดยขณะใช้งาน หน้าสัมผัสจะถูกห่อหุม้ ด้วยฉนวน เช่น ก๊าซ SF6 หรือน�้ำมัน โดยมีตัวถังท�ำหน้าที่เป็น กราวด์อุปกรณ์และมีหน้าสัมผัสต่อเข้ากับ ระบบ ในบางทีฉนวนจะท�ำหน้าทีด่ บั อาร์ก และระบายความร้อนในระบบไปพร้อมๆ กัน ตัวถังของเซอร์กิตเบรกเกอร์จะต้อง ออกแบบเพื่อให้เวลาที่บรรจุฉนวนลงไป แล้วมีค่า Dielectric Strength ที่เพียงพอ ความแตกต่างของเซอร์กิตเบรกเกอร์จะ ขึ้นอยู่กับชนิดของฉนวน เช่น ก๊าซ น�้ำมัน อากาศ สุญญากาศ และตัวกลไกในการสัง่ ท�ำงาน เช่น ใช้สปริงร่วมกับลม (Pneumatic) หรือน�ำ้ มันไฮดรอลิก (Hydraulic) แต่สว่ นหลัก จริงๆ ที่พิจารณาคือชนิดของฉนวน เช่น น�ำ้ มัน ไม่ตอ้ งการพลังงานจากกลไกเพือ่ ใช้ ดับอาร์ก เพราะใช้พลังงานโดยตรงจากอาร์ก ที่เกิดขึ้น เป็นต้น


โครงสร้างภายนอกเซอร์กิตเบรกเกอร์แบบสุญญากาศ

โครงสร้างภายในเซอร์กิตเบรกเกอร์แบบสุญญากาศ

ประเภทของเซอร์กิตเบรกเกอร์

เซอร์กิตเบรกเกอร์ที่นิยมใช้ปัจจุบันมี 2 ชนิด ได้แก่ 1. เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบสุญญากาศ (Vacuum Circuit Breaker) เมื่อหน้าสัมผัสของเซอร์กิตเบรกเกอร์ แยกออกจากกัน จะท�ำให้เกิดอาร์กขึ้น ซึ่งอาร์กที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย อิเล็กตรอน ไอออน ส่วนผสมของก๊าซ รวม เรียกว่า พลาสมา (Plasma) ซึ่งท�ำให้เกิดการน�ำไฟฟ้าขึ้นได้ การเกิ ด อาร์ ก นี้ ท� ำ ให้ ห น้ า สั ม ผั ส ของเซอร์ กิ ต เบรกเกอร์ เสียหายได้ ดังนั้น จึงจ�ำเป็นต้องดับอาร์กในเวลาที่เร็วที่สุด เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบสุญญากาศ เป็นการดับอาร์ก แบบลดความดันคือ ทีค่ วามดันต�ำ่ มาก จะมีคา่ ความคงทนของ ไดอิเล็กตริกสูงพอสมควร และมีโมเลกุลของอากาศเหลือน้อย มาก เนื่องจากเข้าใกล้สุญญากาศ เมื่อโมเลกุลของอากาศ เหลือน้อยท�ำให้เกิดอาร์กได้ยาก และเมือ่ กระแสสลับผ่านศูนย์ ลงไปแล้ว จะลดความรุนแรงของอาร์กลงและค่าคงทนของ ไดอิเล็กตริกสูงพอสมควร จึงท�ำให้อาร์กสามารถดับลงได้ เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบสุญญากาศส่วนมากจะติดตั้ง ภายในอาคาร และตัวหน้าสัมผัส (Interrupter) ไม่ต้องการ การบ�ำรุงรักษา เพราะหน้าสัมผัสของเซอร์กิตเบรกเกอร์ แบบสุญญากาศอยู่ในสุญญากาศ จึงไม่มีสิ่งสกปรกและจะมี อายุการใช้งานยาวนาน แต่การผลิตเซอร์กิตเบรกเกอร์แบบ สุญญากาศนั้นท�ำได้ยาก เพราะหน้าสัมผัสจะเป็นโลหะชนิด พิเศษ และไม่สามารถสร้างให้มีแรงดันสูงมากๆ ได้

โครงสร้างภายใน Vacuum Interrupter

ข้อดีของ Vacuum CB คือ  หน้าสัมผัสสึกกร่อนช้า ทําให้อายุใช้งานยาว  มีขนาดเล็ก  สามารถติดตั้งได้ทุกตําแหน่ง ข้อเสียของ Vacuum CB คือ  Vacuum CB ตัดกระแสด้วยเวลาสั้นมาก ทําให้เกิด Switching Overvoltage ที่สูง  ในการใช้งาน Vacuum CB บริษัทผู้ผลิตจะแนะนําให้ติด Surge Absorber ซึ่งเป็นวงจร R-C เข้าช่วยด้วย May-June 2020


2. เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบ SF6 ซึ่งก๊าซ SF6 เป็นก๊าซที่ ไม่มสี ี ไม่มกี ลิน่ ไม่มรี ส ไม่ตดิ ไฟ ไม่ชว่ ยให้ตดิ ไฟ และไม่ทำ� ปฏิกริ ยิ า กับสารอื่น ทนความร้อนได้สูง มีความหนาแน่นมากกว่าอากาศ และมีความคงทนของสารไดอิเล็กตริกสูงมาก ก๊าซ SF6 จะมีแรงดัน เบรกดาวน์สงู เนือ่ งจากสามารถจับตัวอิเล็กตรอนอิสระในสนามไฟฟ้า ได้มาก ดังนั้น อิเล็กตรอนจะไปเกาะก๊าซ SF6 ท�ำให้มีคุณสมบัติ ทางไฟฟ้าเป็นขัว้ ลบทีเ่ คลือ่ นทีไ่ ด้ชา้ เป็นผลท�ำให้อตั ราการเพิม่ ของ อิเล็กตรอนอิสระถูกหน่วงให้ชา้ ลงด้วย ส่งผลให้กา๊ ซ SF6 มีแรงดัน เบรกดาวน์สูงกว่าก๊าซชนิดอื่น จึงเหมาะในการน�ำมาใช้เป็นฉนวน ของเซอร์กิตเบรกเกอร์ จากรูป เซอร์กติ เบรกเกอร์แบบ SF6 แสดงโครงสร้างการท�ำงาน ของห้องดับอาร์กของเซอร์กิตเบรกเกอร์แบบ SF6 รูปแบบหนึ่งใน ห้องดับอาร์ก ประกอบด้วย หน้าสัมผัสที่อยู่กับที่ และหน้าสัมผัส ทีเ่ คลือ่ นทีไ่ ด้กบั ก๊าซ SF6 ทีบ่ รรจุในห้องดับอาร์ก โดยก๊าซ SF6 จะ ถูกเป่าเข้ามาในทรงกระบอก เมือ่ มีการแยกออกของหน้าสัมผัสของ เซอร์กติ เบรกเกอร์ ท�ำให้ความดันในห้องดับอาร์กมีความดันเพิม่ ขึน้ เมื่อก๊าซ SF6 เป่าล�ำอาร์ก ท�ำให้เกิดแรงดันตกคร่อมล�ำอาร์กและ ท�ำให้อาร์กแตกตัวเป็นล�ำแคบๆ และรอบๆ จะมีอณ ุ หภูมติ ำ�่ ท�ำให้ อาร์กสามารถดับได้ และก๊าซ SF6 สามารถกลับคืนสภาพได้อย่าง รวดเร็ว จึงท�ำให้ยากต่อการเกิดแรงดันตกคร่อมหน้าสัมผัส (Recovery Voltage)

ก๊าซ SF6 การตัดกระแสจะเป็นแบบ Soft Switching ทําให้ได้ Overvoltage ตํ่ามาก จึงเหมาะสําหรับการตัดต่อวงจรมอเตอร์ หม้อแปลง เป็นต้น การเลือกใช้งาน  MVCB ต้องใช้รว ่ มกับรีเลย์ปอ้ งกัน ให้การป้องกันได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับ Relay ที่ใช้ ไม่เหมือน HV HRC Fuses ซึ่งป้องกันได้ อย่างเดียวคือ กระแสเกิน (Overcurrent) และลัดวงจร (Short Circuit) เท่านั้น  CB มีราคาแพง ใช้กบ ั ระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น อาคารขนาดใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรม และสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) เป็นต้น พิกัดที่ต้องพิจารณามีดังต่อไปนี้ 1. พิกัดแรงดัน 2. ค่า BIL 3. พิกัดกระแสปกติ 4. พิกัดกระแสลัดวงจร

ทำ�ไมต้องเลือกใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ แบบสุญญากาศ “Hyundai Brand”

TYPES

เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบ SF6

SF6 CB  ก๊าซ SF6 ได้ถก ู นาํ มาใช้เป็นฉนวนและตัวดับอาร์ก ใช้ใน HV CB อย่างได้ผลมานานแล้ว  ขณะนี้ได้มีการนํามาใช้ในระดับแรงดัน MV  ใน MVCB CB แบบนี้ การตัดกระแสทําใน Chamber ซึ่งบรรจุ May-June 2020

COMPACT DESIGN  PERFECT COMPATIBILITY  VARIOUS TYPE OF CRADLE  ADVANCED BUT PROVED TECHNOLOGY & TEST 


COMPACT DESIGN

PERFECT COMPATIBILITY

PROVED TECHNOLOGY - VI

RELIABLE TEST EVIDENCE

บริษัท ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) จ�ำกัด

22/28-29 ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250 โทร. 0-2002-4395-97 แฟกซ์ 0-2002-4398 E-mail : ejlee@tdpowertech.com, lalida@tdpowertech.com May-June 2020


IT Article > เดลล์ เทคโนโลยีส์

การโจมตีทางไซเบอร์

และเหตุฉุกเฉินที่เพิ่มสูงขึ้น

ส่งผลกระทบองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Dell Technologies Global Data Protection Index 2020 Snapshot ชี้ให้ เห็นความท้าทายหลักที่ส่งผลต่อความพร้อม ในการปกป้องข้อมูล

ผลวิ จั ย ดั ช นี ก ารปกป้ อ งข้ อ มู ล ทั่ ว โลก 2020 ของเดลล์ เทคโนโลยีส์ หรือ Global Data Protection Index 2020 Snapshot เผยให้เห็นว่า องค์กรในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นโดยเฉลี่ยก�ำลัง จัดการข้อมูลทีม่ ากกว่าทีเ่ คยเป็นในช่วงปีทผี่ า่ นมา 64% ด้วยการเพิ่มสูงขึ้นของข้อมูลท�ำให้เกิดความ ท้าทายอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ ผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่ (77%) รายงานว่าโซลูชันการปกป้อง คุ้มครองข้อมูลในปัจจุบันจะไม่สามารถตอบโจทย์ ความต้องการในทางธุรกิจในอนาคตได้ทั้งหมด รายงานสรุปดังกล่าวซึง่ เป็นดัชนีการป้องกันข้อมูล ทั่วโลกที่จัดท�ำขึ้นในทุก 2 ปี ได้ท�ำการส�ำรวจ ผูม้ อี ำ� นาจตัดสินใจด้านไอทีจำ� นวน 1,000 คน ใน 15 ประเทศทีอ่ ยูใ่ นองค์กรภาครัฐและองค์กรเอกชน ที่มีพนักงานกว่า 250 คน เพื่อศึกษาเกี่ยวกับ ผลกระทบของความท้าทายต่างๆ และเทคโนโลยี ชั้นสูงมีต่อความพร้อมในด้านการปกป้องข้อมูล จากจ�ำนวนผู้มีอ�ำนาจตัดสินใจด้านไอทีทั้งหมด 1,000 คน 1 ใน 4 มาจากภูมภิ าคเอเชียแปซิฟกิ และ ญีป่ นุ่ การค้นพบในระดับภูมภิ าคยังแสดงให้เห็นถึง ความคืบหน้าในเชิงบวกจากจ�ำนวน 75% ของ องค์กรในภูมภิ าคในปี ค.ศ. 2019 สูงขึน้ จากจ�ำนวน 74% ในปี ค.ศ. 2018 ทีม่ องข้อมูลในฐานะสินทรัพย์ ที่มีค่า และก�ำลังวางแผนที่จะดึงมูลค่าของข้อมูล ออกมาหรือก�ำลังวางแผนทีจ่ ะท�ำเช่นนัน้ ในอนาคต May-June 2020

“ข้อมูลคือสิ่งที่มีความส�ำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจและเป็นกุญแจที่จะไขไปสู่ การปฏิรปู ทางดิจทิ ลั ขององค์กร” เบธ ฟาเลน ประธานด้านการปกป้องข้อมูลของ เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว “เมือ่ เราเข้าสูท่ ศวรรษหน้าของข้อมูล (Next Data Decade) กลยุทธ์การปกป้องข้อมูลทีย่ ดื หยุน่ เชือ่ ถือได้ และทันสมัย คือสิง่ ส�ำคัญทีช่ ว่ ยให้ธรุ กิจ สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิง่ ขึน้ รวดเร็วมากขึน้ รวมทัง้ จัดการกับผลกระทบ จากการดิสรัปชันที่มีราคาแพง” “การเติบโตอย่างมหาศาลของข้อมูลผสานเข้ากับมูลค่าของข้อมูลทีเ่ พิม่ สูงขึน้ ก�ำลังสร้างให้เกิดโอกาสต่างๆ ขึ้นเป็นจ�ำนวนมาก แต่ก็ยังสร้างความเสี่ยงใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นจากการที่องค์กรต้องรับมือกับการที่ว่าจะปกป้องข้อมูลได้อย่างน่าเชื่อถือ และยัง่ ยืนได้อย่างไร” อเล็กซ์ เล่ย รองประธานโซลูชนั ด้านการปกป้องข้อมูล เดลล์ เทคโนโลยีส์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าว “จากการที่มูลค่าข้อมูลของ องค์กรระดับเอนเทอร์ไพรส์เพิ่มสูงขึ้น มูลค่าของการสูญเสียข้อมูลก็เพิ่มมากขึ้น อย่างเห็นได้ชดั ในปี ค.ศ. 2020 และปีถดั ไป องค์กรทีใ่ ช้ประโยชน์จากความสามารถ ในการจัดการข้อมูลและการป้องกันทีค่ รอบคลุมในสภาพแวดล้อมแบบมัลติ-แพลตฟอร์ม และมัลติ-คลาวด์ จะได้รบั การเตรียมพร้อมเพือ่ ลดความเสีย่ งใหม่ๆ ทีเ่ กิดขึน้ กระตุน้ การพัฒนานวัตกรรม รวมทั้งลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) ตลอดจนเพิ่ม ประสิทธิภาพสูงสุดให้กับผลลัพธ์ในการด�ำเนินธุรกิจ”

เหตุฉุกเฉินและภัยภิบต ั ิที่เพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่น่าตกใจ

จากการศึกษาพบว่าองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ก�ำลังจัดการ ข้อมูลจ�ำนวนถึง 13.31 เพตาไบต์ (PB) ซึ่งเพิ่มขึ้น 64% จากจ�ำนวนเฉลี่ย 8.13 เพตาไบต์ (PB) ในปี ค.ศ. 2018 และเป็นจ�ำนวนเพิม่ ขึน้ 693% จากการจัดการข้อมูล จ�ำนวน 1.6 เพตาไบต์ ขององค์กรในปี ค.ศ. 2016 ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อข้อมูล ทัง้ หมดนีด้ เู หมือนจะเป็นการเพิม่ จ�ำนวนสูงขึน้ ของเหตุฉกุ เฉินและภัยพิบตั ิ (Disruptive Events) ต่างๆ ทั้งจากการโจมตีทางไซเบอร์ไปจนถึงการสูญหายของข้อมูล และ การเกิดการหยุดการท�ำงานของระบบ (System Downtime) องค์กรส่วนใหญ่ (84% ในปี ค.ศ. 2019 เมื่อเทียบกับ 80% ในปี ค.ศ. 2018) ได้รับความเสียหายจากเหตุ ฉุกเฉินเหล่านี้ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ จ�ำนวนอีก 70% หวาดกลัวว่า องค์กรของพวกเขาจะประสบเหตุการณ์ฉุกเฉินนี้ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ยิ่งไปกว่านั้นคือการค้นพบว่าองค์กรที่ใช้ผู้ให้บริการปกป้องข้อมูลมากกว่า 1 รายนัน้ มีความเสีย่ งมากกว่าเกือบ 4 เท่าด้านความปลอดภัยบนไซเบอร์ทปี่ อ้ งกัน การเข้าถึงข้อมูล (42% ขององค์กรที่ใช้ผู้ให้บริการ 2 รายหรือมากกว่ากับ 11% ของ ผู้ใช้ผู้ให้บริการเพียงรายเดียว) แต่การใช้ผู้ให้บริการด้านการปกป้องข้อมูลจ�ำนวน หลากหลายก�ำลังเพิม่ ขึน้ 83% จากการทีอ่ งค์กรเลือกทีจ่ ะใช้โซลูชนั ด้านการปกป้อง ข้อมูลจากผูใ้ ห้บริการมากกว่า 2 ราย คิดเป็นจ�ำนวนเพิม่ ขึน้ 25% จากปี ค.ศ. 2016 ค่าใช้จ่ายของดิสรัปชันยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าตกใจ ต้นทุนโดยเฉลี่ยของการ หยุดท�ำงาน หรือ Downtime ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้น 61% จากปี ค.ศ. 2018-ค.ศ. 2019 ส่งผลต่อการประมาณมูลค่าต้นทุนรวมอยูท่ ี่ 794,308 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 2019 เพิม่ ขึน้ จาก 494,869 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 2018 ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายโดยประมาณของการสูญเสียข้อมูลเพิ่มขึ้นจาก 939,703 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 2018 เป็น 1,301,524 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี ค.ศ. 2019 โดยเฉลี่ย


98% 98% 98%

52% 52% 52%

are investing are investing areininvesting in in emerging emerging technologies emerging technologies technologies

reportreport a lack report aof lack data aoflack data of data protection protection solutions protection solutions for solutions for for newernewer technologies newer technologies technologies as a as a as a challenge challenge they challenge face they face they face

Which new/emerging Which new/emerging technologies technologies are are organizations are organizations struggling struggling to find to find Which new/emerging technologies organizations struggling to find datadata protection data protection solutions solutions for?for?for? protection solutions

67% 67% 67%64% 64% 64%60% 60% 60%54% 54% 54%48% 48% 48% 5G/Cloud 5G/Cloud Edge 5G/Cloud Edge Edge AI/machine AI/machine AI/machine (infrastructure) (infrastructure) (infrastructure) learning learning learning

Cloud-native Cloud-native Cloud-native applications applications applications

โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยส�ำคัญส�ำหรับองค์กรที่ใช้ ผูใ้ ห้บริการปกป้องข้อมูลมากกว่าหนึง่ ราย โดยมีคา่ ใช้จา่ ยทีเ่ กีย่ วข้อง กับการหยุดท�ำงานของระบบสูงขึ้นเกือบ 4 เท่า และเกือบ 12 เท่า ส�ำหรับค่าใช้จ่ายในการสูญเสียของข้อมูลโดยเฉลี่ย

SaaS SaaS SaaS applications applications applications

Containers Containers Containers

• การท�ำตามวัตถุประสงค์ตามระดับการให้บริการส�ำรอง และกู้คืนข้อมูล (60%)

การปกป้องข้อมูลผนึกกำ�ลังเข้ากับคลาวด์

องค์กรธุรกิจตอบรับรูปแบบการผสมผสานการใช้งานคลาวด์ รูปแบบต่างๆ เข้าด้วยกันเมือ่ มีการใช้งานแอปพลิเคชันทางธุรกิจใหม่ๆ และเพือ่ ปกป้องเวิรก์ โหลดต่างๆ อาทิ คอนเทนเนอร์ แอปพลิเคชัน จากการทีเ่ ทคโนโลยีเกิดใหม่ หรือ Emerging Technologies คลาวด์-เนทิฟและแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ในรูปแบบการบริการ ยังคงก้าวหน้าและเป็นตัวก�ำหนดภูมิทัศน์ดิจิทัล องค์กรต่างก�ำลัง (SaaS) ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าองค์กรผู้ตอบแบบสอบถามใน เรี ย นรู ้ วิ ธี ก ารใช้ เ ทคโนโลยี เ หล่ า นี ้ เ พื ่ อ ผลลั พ ธ์ ท างธุ ร กิ จ ที ่ ด ี ข ้ ึ น ภูมิภtheir าคเอเชี ยแปซิ ฟิกenvironments, ชื่นชอบการใช้ งานพับบลิคคลาวด์/SaaS To bridge To bridge To the bridge the datathe data protection data protection protection gapgap across gap across across their multi-cloud their multi-cloud multi-cloud environments, environments, การศึ ก ษาระบุ ว ่ า องค์ ก รผู ้ ต อบแบบสอบถามในภู มิ ภ าคเอเชี ย (46%) ไฮบริดคลาวด์ (38%) และไพรเวทคลาวด์ (36%) เนื่องจาก most most organizations most organizations organizations relyrely on rely data on data on protection data protection protection solutions solutions solutions from from multiple from multiple multiple vendors vendors vendors แปซิฟิกเกือบทั้งหมดก�ำลังลงในเทคโนโลยีใหม่ หรือเทคโนโลยี สภาพแวดล้อมการใช้งานแอปพลิเคชันทีใ่ หม่กว่าเช่นนี้ ขณะเดียวกัน and this trend this increasing… is 76% increasing… is increasing… ที่ก�ำลังจะเกิดขึ้นใน 5 อันดับแรก (Top 5) ดัand งนี้ and 1.)this แอปพลิ เtrend คชัis นtrend ขององค์กรที่ส�ำรวจระบุว่าเป็นข้อบังคับหรือเป็นสิ่งที่ส�ำคัญ อย่างยิ่งส�ำหรับผู้ให้บริการการปกป้องข้อมูลที่จะให้การปกป้อง คลาวด์ หรือ Cloud-Native Applications (64%) 2.) ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชันคลาวด์-เนทิฟ ในรูปแบบการบริการ (Software-as-a-Service : SaaS) (58%) จากการที่มีการเคลื่อนย้ายของข้อมูล ทั้งที่ผ่านไปหรืออยู่ 3.) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีน เลิร์นนิ่ง (ML) (50%) 4.) 5G โดยรอบสภาพแวดล้อมของเอจด์ ผูต้ อบแบบสอบถามจ�ำนวนมาก และโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ เอดจ์ (49%) และ 5.) อินเทอร์เน็ต กล่าวว่าต้องการการส�ำรองข้อมูลบนระบบคลาวด์มากกว่า โดย 60% ออฟ ธิงส์/เอ็นด์ พ้อยต์ (End Point) (45%) ระบุเป็นไพรเวทคลาวด์ และ 59 ต้องการพับบลิคคลาวด์เนื่องจาก ถึงกระนั้น 3 ใน 4 (75%) ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า แนวทางในการจัดการและปกป้องข้อมูลของพวกเขาสร้างขึน้ ในพืน้ ที่ เทคโนโลยีเกิดใหม่เหล่านี้สร้างความซับซ้อนในการป้องกันข้อมูล ของเอจด์ (Edge Locations) ให้มากขึ้น ในขณะที่ 72% ระบุว่าเทคโนโลยีเกิดใหม่ก่อให้เกิด เดลล์ เทคโนโลยีส์ มอบหมายให้แวนสัน บอร์น (Vanson ความเสี่ยงต่อการปกป้องข้อมูล นอกจากนี้ มากกว่าครึ่งของผู้ที่ใช้ Bourne) ในการท�ำ Global Data Protection Index 2020 Snapshot เทคโนโลยีเกิดใหม่ต่างพยายามค้นหาโซลูชันการปกป้องข้อมูล ที่เพียงพอส�ำหรับเทคโนโลยีทั้งหลายเหล่านี้ อันได้แก่ ซึ่งต่อเนื่องกับ Global Data Protection Index ที่จัดท�ำขึ้นทุก 2 ปี • 5G และโครงสร้used างพืmultiple ้used นฐานคลาวด์ เอดจ์ (75%) โดยเริ ่มจากปี ค.ศ. 2014, ค.ศ. 2016 และ ค.ศ. 2018 งานวิจัย use multiple use multiple use data multiple data data multiple used data multiple data data used multiple used multiple used data multiple data data • แพลตฟอร์ม AIprotection และprotection MLvendors (72%) ส�ำvendors รวจความคิดprotection เห็นprotection ของผู ้มีอvendors �ำนาจการตั vendors protection vendors ด สิ น ใจด้ า นไอที จ� ำ นวน protection vendors vendors protection protection vendors protection vendors in 2019 in 2019 in 2019 in 2016 in 2016 in 2016 in 2018 in 2018 in1,000 2018 คน ใน 15 ประเทศ • คลาวด์-เนทิฟ แอปพลิ เคชั น (64%) 14 อุตสาหกรรมที่มีพนักงานจ�ำนวน • อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์/เอ็นด์ พ้อยต์ (59%) มากกว่า 250 คน เพือ่ ให้เข้าใจถึงผลกระทบของคลาวด์ และความ • กระบวนการอัตโนมัติในหุ่นยนต์ (56%) ซับซ้อนของเทคโนโลยีชั้นสูงในด้านความพร้อมของการปกป้อง การศึกษายังพบว่า 77% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ข้อมูล จากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดมีจำ� นวน 250 คนที่มาจาก ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แวนสัน บอร์น ได้เริ่มด�ำนินการส�ำรวจใน โซลูชันการปกป้องข้อมูลที่มีอยู่เดิมขององค์กรของพวกเขาจะไม่ However, However, there are there are significant significant risks torisks this to this approach. ช่วrisks งระหว่ าto งเดืthis อapproach. นพฤศจิ กapproach. ายน-ธันวาคม 2019 ประเทศที่ได้รับการ สามารถตอบสนองความท้However, าทายทางธุ รthere กิจในอนาคตได้ ทare ั้งหมดsignificant ส�ำรวจ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรัง่ เศส เยอรมนี และจีน ทีม่ ี โดยผู้ตอบแบบสอบถามระบุความไม่มั่นใจในส่วนต่างๆ ดังนี้ : Compared to those those toworking those working working withwith a single with aผูsingle adata single data protection data protection protection vendor, ข้อมูลCompared จากการโจมตี บto นไซเบอร์ (70%) ้ตอบแบบสอบถาม 100 vendor, คนในแต่ ลvendor, ะประเทศ รวมถึงเม็กซิโก • การกู้คืนCompared on average on average on average organizations organizations organizations using using multiple using multiple multiple data data protection data protection protection vendors vendors vendors are • การกูค้ นื ข้อมูลจากเหตุการณ์การสูญหายของข้อมูล (66%) บราซิล อาฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ are อิตาลีare ออสเตรเลีย ญีป่ นุ่ • การท�ำตามกฎระเบียบของการก�ำกัlikely บดูแlikely ลข้to อlikely มูexperience ลto ในระดั เกาหลี ใต้ almost... อินเดีย และสิงคโปร์ ทีม่ ผี ตู้ อบแบบสอบถามประเทศละ experience toบexperience almost... almost... ภูมิภาค (65%) 50 คน

เทคโนโลยีเกิดใหม่ ความท้าทายสำ�หรับโซลูชน ั การปกป้องข้อมูล

60% 60% 60% 76% 76% 76% 80% 80% 80%

higher higher data higher data loss data loss costs loss costs costs 5x5x 5x

higher higher downtime higher downtime downtime related related related costs costs costs 2x2x 2x

May-June 2020


IT Article > การ์ทเนอร์

10

เทรนด์เทคโนโลยี ที่มาแรงที่สุดในปี 2563

การ์ทเนอร์ระบุถงึ แนวโน้มเทคโนโลยีทสี่ ำ� คัญซึง่ จะก่อให้เกิดความ เปลีย่ นแปลงครัง้ ใหญ่ในอนาคต โดยตอนนีย้ งั อยูใ่ นระยะเริม่ ต้นและคาดว่า จะได้รบั การใช้งานอย่างแพร่หลายและสร้างแรงกระเพือ่ มในวงกว้างมากขึน้ หรือมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างรวดเร็วจนถึงระดับสูงสุดในช่วงอีก 5 ปี ข้างหน้า มร.เดวิด เซียร์ลีย์ รองประธานและผู้เชี่ยวชาญอาวุโสของ การ์ทเนอร์ กล่าวว่า “People-Centric Smart Space คือโครงสร้างที่ใช้ ในการจัดการและประเมินผลกระทบหลักของเทรนด์เทคโนโลยีที่ส�ำคัญ ทีส่ ดุ ทีก่ าร์ทเนอร์ใช้ ส�ำหรับปี พ.ศ. 2563 การก�ำหนดกลยุทธ์ดา้ นเทคโนโลยี โดยยึดเอาผูใ้ ช้เป็นศูนย์กลางนับเป็นหนึง่ ในแง่มมุ ทีส่ ำ� คัญทีส่ ดุ ของเทคโนโลยี โดยพิจารณาถึงผลกระทบของเทคโนโลยีทมี่ ตี อ่ ลูกค้า พนักงาน คูค่ า้ สังคม และภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การด�ำเนินการทั้งหมดขององค์กรจะต้อง ค�ำนึงถึงผลกระทบโดยตรงและโดยอ้อมที่จะเกิดขึ้นต่อบุคคลและกลุ่ม ต่างๆ และนีค่ อื แนวทางการด�ำเนินงานทีใ่ ห้ความส�ำคัญกับบุคคลเป็นหลัก” “สมาร์ทสเปซสร้างขึน้ จากแนวคิดทีใ่ ห้ความส�ำคัญกับคน สมาร์ทสเปซ เป็นสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ผู้คนและระบบที่อาศัยเทคโนโลยี มีปฏิสัมพันธ์กันในระบบนิเวศน์อัจฉริยะที่เปิดกว้าง มีการเชื่อมต่อถึงกัน และมีการประสานงานร่วมกันมากขึน้ หลายๆ องค์ประกอบ รวมถึงบุคคล กระบวนการ บริการ และอุปกรณ์ต่างๆ ท�ำงานร่วมกันในสมาร์ทสเปซ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์โต้ตอบแบบอินเทอร์แอคทีฟและกลมกลืน อย่างอัตโนมัติยิ่งขึ้น” มร.เซียร์ลีย์ กล่าวเพิ่มเติม

May-June 2020

10 แนวโน้มเทคโนโลยีที่สำ�คัญทีส่ ุด

สำ�หรับปี 2563 มีดงั นี้

1

Hyperautomation

Hyperautomation เป็นการผสานรวมเทคโนโลยี Machine Learning (ML) ซอฟต์แวร์สำ� เร็จรูป และ เครือ่ งมือต่างๆ ส�ำหรับระบบงานอัตโนมัตเิ ข้าไว้ดว้ ยกัน เพือ่ รองรับการท�ำงานไฮเปอร์ออโตเมชัน นอกจากจะ ครอบคลุมเครื่องมือที่หลากหลายแล้ว ยังครอบคลุม ทุกขั้นตอนของระบบงานอัตโนมัติ (ค้นหา วิเคราะห์ ออกแบบ ด�ำเนินการโดยอัตโนมัติ ตรวจวัด ก�ำกับดูแล และประเมินผล) การท�ำความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกที่ หลากหลายของระบบอัตโนมัติ รวมถึงความเกีย่ วข้องกัน ของกลไกเหล่านี้ และแนวทางการผสานรวมกลไกต่างๆ เพื่อให้ท�ำงานร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ถือเป็นหัวใจ ส�ำคัญของไฮเปอร์ออโตเมชัน เทรนด์ดังกล่าวเริ่มต้นจากกระบวนการท�ำงาน แบบอัตโนมัติ (Robotic Process Automation : RPA) อย่างไรก็ตาม ล�ำพังเพียงแค่ RPA ไม่ถอื ว่าเป็นไฮเปอร์ ออโตเมชัน เพราะระบบไฮเปอร์ออโตเมชันจ�ำเป็นต้อง อาศัยการผสานรวมเครือ่ งมือต่างๆ เพือ่ ท�ำหน้าทีแ่ ทน มนุษย์


2

Multiexperience

จนถึงปี พ.ศ. 2571 ประสบการณ์การใช้งานของผูใ้ ช้จะมี การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในส่วนที่เกี่ยวกับวิธีที่ผู้ใช้รับรู้ และสัมผัสกับโลกดิจิทัล รวมถึงวิธีการโต้ตอบและมีปฏิสัมพันธ์กับ โลกดิจิทัล แพลตฟอร์มการสนทนา (Conversational Platforms) ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงส�ำหรับรูปแบบการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้ กับโลกดิจทิ ลั ขณะที่ Virtual Reality (VR), Augmented Reality (AR) และ Mixed Reality (MR) ท�ำให้รูปแบบการรับรู้และสัมผัสกับ โลกดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไป การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ทั้งในส่วน ของรูปแบบการรับรู้และการมีปฏิสัมพันธ์จะน�ำไปสู่ประสบการณ์ แบบพหุประสาทสัมผัส (Multisensory) ในหลากหลายรูปแบบ (Multimodal) มร.ไบรอัน เบิร์ก รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “โมเดลดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบของผู้ใช้ที่ เรียนรูเ้ กีย่ วกับเทคโนโลยีไปสูร่ ปู แบบของเทคโนโลยีทเี่ รียนรูเ้ กีย่ วกับ ผู้ใช้ หน้าที่ในการแปลความหมายจะเปลี่ยนย้ายจากผู้ใช้ไปสู่ คอมพิวเตอร์ ความสามารถในการติดต่อสือ่ สารกับผูใ้ ช้ผา่ นประสาท รับรู้หลายๆ ด้านของมนุษย์จะก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่มีความ หลากหลายส�ำหรับการน�ำเสนอข้อมูลทีม่ คี วามแตกต่างกันในระดับ ที่ละเอียดลึกซึ้งมากขึ้น”

3

4

Human Augmentation

Human Augmentation เป็นการใช้เทคโนโลยีเพือ่ ปรับปรุง ทางด้านการรับรู้และกายภาพ โดยเป็นส่วนส�ำคัญของ ประสบการณ์ของผู้ใช้ Augmentation ในด้านกายภาพจะช่วย ปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงขีดความสามารถของมนุษย์ ด้วยการ ปลูกถ่ายหรือติดตั้งส่วนประกอบทางด้านเทคโนโลยีไว้บนร่างกาย ของมนุษย์ เช่น อุปกรณ์สวมใส่ ส่วน Augmentation ในด้านการรับรู้ จะอาศัยการเข้าถึงข้อมูลและการใช้แอปพลิเคชันบนระบบคอมพิวเตอร์ ทัว่ ไป รวมถึงอินเทอร์เฟซแบบ Multiexperience ในสภาพแวดล้อม ของสมาร์ทสเปซ ในช่วง 10 ปีขา้ งหน้า จะมีการยกระดับ Human Augmentation ทัง้ ด้านกายภาพและการรับรู้ โดยจะได้รบั การใช้งาน อย่างแพร่หลายเพือ่ เสริมสร้างประสบการณ์ของผูใ้ ช้ และจะน�ำไปสู่ กระแส “Consumerization” รูปแบบใหม่ ซึง่ พนักงานจะพยายามใช้ เทคโนโลยีเพือ่ เสริมสร้างและขยายขีดความสามารถและประสบการณ์ ของตนเอง และปรับปรุงสภาพแวดล้อมการท�ำงานภายในส�ำนักงาน

Democratization of Expertise

Democratization การเปิดโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงความ เชีย่ วชาญด้านเทคนิค (เช่น ML การพัฒนาแอปพลิเคชัน) หรือความเชีย่ วชาญด้านธุรกิจ (เช่น กระบวนการขาย การวิเคราะห์ ทางเศรษฐศาสตร์) ผ่านประสบการณ์ที่เรียบง่ายกว่าเดิม และไม่ จ�ำเป็นต้องเข้ารับการฝึกอบรมที่ยาวนานและเสียค่าใช้จ่ายจ�ำนวน มาก ตัวอย่างเช่น นักพัฒนาทั่วไปที่สามารถท�ำหน้าที่เป็นดาต้า ไซแอนทิส (Data Scientists) หรือผู้ติดตั้งระบบโดยไม่ต้องมีความ เชีย่ วชาญเฉพาะด้าน หรือสามารถพัฒนาโปรแกรมหรือสร้างโมเดล ข้อมูลโดยไม่ต้องเขียนโค้ด จนถึงปี พ.ศ. 2566 การ์ทเนอร์คาดว่า 4 ปัจจัยทีส่ ำ� คัญทีเ่ ป็น ตัวเร่งแนวโน้ม Democratization ให้เกิดขึน้ ได้แก่ Democratization ในด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ (เครือ่ งมือทีใ่ ช้สำ� หรับนักวิทยาศาสตร์ ข้อมูลจะขยายไปสู่ชุมชนนักพัฒนาระดับมืออาชีพ) การพัฒนา (ใช้เครื่องมือ AI ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน) การออกแบบ (ขยาย ไปสู ่ ก ระบวนการที่ ไ ม่ ต ้ อ งมี ก ารเขี ย นโค้ ด หรื อ ใช้ โ ค้ ด น้ อ ยมาก โดยอาศัยฟังก์ชันการพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มเติมที่ท�ำงานแบบ อัตโนมัติ เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่นักพัฒนาทั่วไป) และความรู้ (บุคลากรที่ไม่ได้อยู่ในสายงานไอทีสามารถใช้เครื่องมือและระบบ ความเชี่ยวชาญเพื่อปรับใช้ทักษะเฉพาะด้าน)

https://pixabay.com/illustrations/blockchaincryptocurrency-bitcoin-3212312/ May-June 2020


5

Transparency and Traceability

ผู้บริโภคมีความตระหนักรู้เพิ่มมากขึ้นว่าข้อมูลส่วนตัว ของตนมีมลู ค่า ดังนัน้ จึงต้องการทีจ่ ะควบคุมข้อมูลดังกล่าว องค์กรต่างๆ รับรู้ถึงความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นของการปกป้องและ จัดการข้อมูลส่วนตัว ขณะที่รัฐบาลเริ่มบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด เพื่อให้มีการคุ้มครองและจัดการข้อมูลดังกล่าวอย่างเหมาะสม ความโปร่ ง ใส (Transparency) และการตรวจสอบย้ อ นกลั บ (Traceability) ถือเป็นองค์ประกอบส�ำคัญทีจ่ ะช่วยสนับสนุนจริยธรรม ทางดิจิทัล (Digital Ethics) และการปกป้องความเป็นส่วนตัว ความโปร่งใสและการตรวจสอบย้อนกลับหมายรวมถึงแนวคิด การด�ำเนินการ เทคโนโลยีทรี่ องรับ และแนวทางปฏิบตั ทิ ไี่ ด้รบั การ ออกแบบเป็นพิเศษเพือ่ รองรับกฎระเบียบทีเ่ กีย่ วข้อง และสนับสนุน แนวทางทีถ่ กู ต้องตามหลักจริยธรรมส�ำหรับการใช้เทคโนโลยีปญ ั ญา ประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) และเทคโนโลยีขนั้ สูงอืน่ ๆ รวมทัง้ แก้ไขปัญหาการขาดความน่าเชือ่ ถือของบริษทั ต่างๆ องค์กรทีพ่ ยายาม จะสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือจ�ำเป็นที่จะต้องมุ่งเน้น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ (1) AI และ ML (2) การเก็บรักษา การครอบครอง และการควบคุมข้อมูลส่วนตัว และ (3) การออกแบบทีส่ อดคล้องกัน ตามหลักจริยธรรม

6

การเพิ่มขีดความสามารถให้กบ ั ส่วนขอบ ของเครือข่าย (Empowered Edge)

เอดจ์คอมพิวติ้ง (Edge Computing) เป็นโครงสร้าง เครื อ ข่ า ยคอมพิ ว เตอร์ ที่ จั ด วางการประมวลผลข้ อ มู ล และการ รวบรวมและน�ำเสนอคอนเทนต์ไว้ใกล้กบั แหล่งทีม่ า คลังข้อมูล และ ผู ้ ใช้ ข ้ อ มู ล ดั ง กล่ า ว โดยพยายามที่ จ ะท� ำ ให้ แ ทรฟฟิ ก และการ ประมวลผลอยูใ่ นเครือข่ายโลคอล เพือ่ ลดความหน่วง ใช้ประโยชน์ จากทรัพยากรที่ส่วนขอบของเครือข่าย และเพิ่มอ�ำนาจในการ ควบคุมและตัดสินใจให้กับระบบที่อยู่ส่วนขอบของเครือข่าย มร.เบิร์ก กล่าวว่า “ความสนใจเอดจ์คอมพิวติ้งในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มาจากความจ�ำเป็นของระบบ IoT ทีต่ อ้ งรองรับการท�ำงาน ในลักษณะกระจัดกระจายในโลกของ IoT ที่มีอยู่ในอุปกรณ์ต่างๆ ส�ำหรับอุตสาหกรรมหนึง่ ๆ เป็นการเฉพาะ เช่น อุตสาหกรรมการผลิต หรือค้าปลีก อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเอดจ์คอมพิวติง้ จะเป็นปัจจัย ส�ำคัญต่อทุกกลุ่มอุตสาหกรรมและทุกการใช้งาน เพราะส่วนที่อยู่ รอบนอกของเครือข่ายถูกเสริมศักยภาพด้วยทรัพยากรประมวลผล ทีก่ า้ วล�ำ้ และรองรับการใช้งานเฉพาะด้านมากขึน้ รวมไปถึงอุปกรณ์ จัดเก็บข้อมูลทีม่ ากขึน้ อุปกรณ์ลกู ข่ายทีซ่ บั ซ้อน เช่น หุน่ ยนต์ โดรน ยานพาหนะไร้คนขับ และระบบปฏิบตั กิ าร จะเร่งให้เกิดการเปลีย่ นแปลง รวดเร็วยิ่งขึ้น”

May-June 2020

7

ระบบคลาวด์แบบกระจาย (Distributed Cloud)

ระบบคลาวด์แบบกระจาย หมายถึงการกระจายตัวของ บริการคลาวด์สาธารณะไปยังสถานทีต่ า่ งๆ โดยทีผ่ ใู้ ห้บริการต้นทาง ของคลาวด์สาธารณะมีหน้าที่ควบคุม ก�ำกับดูแล ปรับปรุง และ พัฒนาบริการดังกล่าว ซึง่ นับเป็นการเปลีย่ นแปลงครัง้ ส�ำคัญจากเดิม ทีบ่ ริการคลาวด์สาธารณะส่วนใหญ่มลี กั ษณะรวมศูนย์ (Centralized) และการเปลี่ยนแปลงนี้จะน�ำไปสู่ศักราชใหม่ของคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing)

8

อุปกรณ์อัตโนมัติ (Autonomous Things)

อุปกรณ์อัตโนมัติ หมายถึงอุปกรณ์ทางกายภาพที่ใช้ AI เพื่อท�ำงานต่างๆ โดยอัตโนมัติ โดยเข้ามาแทนที่มนุษย์ อุปกรณ์ อัตโนมัติที่พบเห็นได้ทั่วไปก็คือ หุ่นยนต์ โดรน ยานพาหนะ/เรือ ไร้คนขับ และเครือ่ งมือต่างๆ ทีท่ ำ� งานได้เอง การท�ำงานแบบอัตโนมัติ ทีว่ า่ นีจ้ ะครอบคลุมขอบเขตมากกว่าการท�ำงานอัตโนมัตติ ามโมเดล ทีต่ งั้ ค่าไว้อย่างตายตัว กล่าวคือ อุปกรณ์เหล่านีจ้ ะใช้ AI เพือ่ ท�ำงาน ขัน้ สูง และโต้ตอบกับคนหรือสิง่ รอบข้างได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก ขึ้น ขณะที่ความสามารถทางเทคโนโลยีได้รับการพัฒนาปรับปรุง อย่างต่อเนื่อง กฎระเบียบก็มีการเปิดกว้างและอนุญาตให้ใช้งาน อุปกรณ์เหล่านี้มากขึ้น และสังคมให้การยอมรับเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง จะส่งผลให้อุปกรณ์อัตโนมัติถูกใช้งานมากขึ้นในพื้นที่สาธารณะ


เรียกคืนสินค้า การใช้งานบล็อกเชนในอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความ เป็นไปได้กค็ อื การจัดการตัวตนผูใ้ ช้ นอกจากนีย้ งั สามารถตัง้ ค่าสัญญา แบบ Smart Contract ไว้ในบล็อกเชน เพื่อให้เหตุการณ์อย่างใด อย่างหนึ่งเป็นทริกเกอร์ให้เกิดการด�ำเนินการอื่นต่อไป เช่น ระบบ จะปลดล็อกการช�ำระเงินหลังจากลูกค้าได้รับสินค้า มร.เบิร์ก กล่าวว่า “บล็อกเชนยังขาดความพร้อมส�ำหรับ การใช้งานในระดับองค์กร เนือ่ งจากยังมีปญ ั หาด้านเทคนิคมากมาย หลายประการ เช่น ขาดเสถียรภาพ และไม่สามารถใช้งานร่วมกัน ได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะมีปญ ั หาท้าทายดังกล่าว แต่ เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพที่สูงมากส�ำหรับการพลิกโฉมอุตสาหกรรม และการสร้างรายได้ ดังนัน้ องค์กรต่างๆ จึงควรเริม่ ต้นพิจารณาและ ประเมินความเป็นไปได้ของบล็อกเชน แต่เราคาดว่ายังคงไม่มีการ ปรับใช้เทคโนโลยีนี้อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมในอนาคตอันใกล้” https://pixabay.com/photos/hand-commercial-3044387/ ที่ปราศจากการควบคุม มร.เบิรก์ กล่าวว่า “ขณะทีอ่ ปุ กรณ์อตั โนมัตไิ ด้รบั การใช้งาน อย่างแพร่หลายมากขึน้ เราคาดว่าจะมีการเปลีย่ นแปลงจากอุปกรณ์ อัจฉริยะทีท่ ำ� งานตามล�ำพังไปสูก่ ลุม่ อุปกรณ์อจั ฉริยะหลายๆ เครือ่ ง ทีท่ ำ� งานร่วมกัน โดยอาจแยกเป็นอิสระจากคนหรืออาจมีการป้อน ค�ำสั่งโดยมนุษย์ ตัวอย่างเช่น แขนกลหลากหลายรูปแบบที่ท�ำงาน อย่างสอดประสานกันในโรงงานประกอบชิน้ ส่วน ในส่วนของธุรกิจ ขนส่ง โซลูชนั ทีม่ ปี ระสิทธิภาพมากทีส่ ดุ ก็คอื การใช้อปุ กรณ์อตั โนมัติ เพื่อเคลื่อนย้ายพัสดุไปยังพื้นที่เป้าหมาย โดยหุ่นยนต์และโดรน ทีเ่ ดินทางไปพร้อมกับยานพาหนะอาจจะท�ำหน้าทีจ่ ดั ส่งพัสดุถงึ มือ ผู้รับปลายทาง”

9

บล็อกเชนที่ใช้งานได้ในทางปฏิบัติ

เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) มีศกั ยภาพทีจ่ ะพลิกโฉม อุตสาหกรรมต่างๆ โดยจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส และรองรับการแลกเปลีย่ นมูลค่าในระบบนิเวศน์ทาง ธุรกิจ ทัง้ ยังช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จา่ ย เพิม่ ความรวดเร็วในการท�า ธุรกรรม และปรับปรุงกระแสเงินสด เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้ สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของสินทรัพย์ จึงลดโอกาสที่จะมีการ สลับเปลี่ยนเป็นสินค้าปลอม นอกจากนี้ การตรวจสอบติดตาม สินทรัพย์ยงั มีประโยชน์ในด้านอืน่ ๆ เช่น การตรวจสอบสินค้าประเภท อาหารในซัพพลายเชนเพื่อระบุแหล่งที่มาของการปนเปื้อน หรือ การตรวจสอบชิ้นส่วนที่เฉพาะเจาะจงเพื่อเพิ่มความสะดวกในการ

10

ระบบรักษาความปลอดภัย AI

AI และ ML จะยังคงถูกใช้งานเพื่อยกระดับการ ตัดสินใจของมนุษย์ในการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการรองรับระบบไฮเปอร์ออโตเมชัน และ การใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์อัตโนมัติเพื่อปรับปรุงธุรกิจ แต่ใน ขณะเดียวกันก็ทำ� ให้เกิดปัญหาท้าทายใหม่ๆ ส�ำหรับทีมงานฝ่ายไอที ทีด่ แู ลด้านความปลอดภัยและผูบ้ ริหารทีต่ อ้ งจัดการดูแลความเสีย่ ง เพราะจะท�ำให้มีช่องทางการโจมตีเพิ่มขึ้นอย่างมากจากการใช้งาน IoT คลาวด์คอมพิวติง้ ไมโครเซอร์วสิ และระบบทีม่ กี ารเชือ่ มต่อกัน อย่างกว้างขวางในสมาร์ทสเปซ ผู้บริหารฝ่ายรักษาความปลอดภัย และความเสี่ยงควรจะให้ความส�ำคัญกับ 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ การปกป้องระบบทีข่ บั เคลือ่ นด้วย AI การใช้ AI เพือ่ ปรับปรุงระบบ รักษาความปลอดภัย และการคาดการณ์เกี่ยวกับการใช้งาน AI โดยคนร้ายที่ต้องการโจมตีเครือข่าย อนึง่ บริษทั การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) (NYSE : IT) คือบริษทั วิจัยและให้คำ� ปรึกษาชั้นน�ำของโลก และมีรายชื่ออยู่ในดัชนี S&P 500 บริษัทฯ ให้ข้อมูลเชิงลึก ค�ำแนะน�ำ และเครื่องมือต่างๆ แก่ ผูบ้ ริหารองค์กรธุรกิจ เพือ่ รองรับการด�ำเนินภารกิจส�ำคัญทีม่ อี ยูใ่ น ปัจจุบันและสร้างองค์กรให้ประสบความส�ำเร็จในอนาคต การ์ทเนอร์นำ� เสนองานวิจยั ทีข่ บั เคลือ่ นด้วยข้อมูล ด�ำเนินการ โดยผู้เชี่ยวชาญ และใช้แหล่งข้อมูลจากผู้ปฏิบัติงานจริง เพื่อชี้น�า ลูกค้าส�ำหรับการตัดสินใจที่ถูกต้องเหมาะสมในเรื่องที่ส�ำคัญที่สุด การ์ทเนอร์ท�ำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นกลางและเป็นที่ปรึกษา ที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรต่างๆ กว่า 15,000 แห่ง ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทุกส่วนงานส�ำคัญๆ ในทุกกลุ่ม อุตสาหกรรมและองค์กรทุกขนาด

May-June 2020


ผลิตภัณฑ์คลัสเตอร์

AI Atlas 900 ผลิตภัณฑ์คลัสเตอร์ AI Atlas 900 ของหัวเว่ยได้รบั รางวัล ชนะเลิศ Red Dot Award 2020 จากผลิตภัณฑ์หลายพันรายการ ทีเ่ ข้าร่วมการประกวดในครัง้ นี้ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ ผูท้ รงคุณวุฒิ ด้วยการออกแบบทีส่ ะท้อนความเป็นนวัตกรรมล�ำ้ สมัย และชาญฉลาด โดยนับจากผลิตภัณฑ์ Atlas 300 และ Atlas 500 ผลิตภัณฑ์ Atlas 900 นีไ้ ด้กลายเป็นสมาชิกล�ำดับที่ 3 ของครอบครัว ผลิตภัณฑ์ Huawei Atlas ที่ได้รับการยกย่องจากการประกวด Red Dot Award ซึ่งรางวัลอันทรงเกียรติเหล่านี้ถือเป็นเครื่องหมาย ที่แสดงถึงคุณภาพระดับสูงสุดและการออกแบบที่เหนือชั้นของ สายผลิตภัณฑ์ Huawei Atlas คลัสเตอร์ AI Atlas 900 ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ดว้ ยคลัสเตอร์ เครือข่ายชัน้ น�ำ การติดตัง้ แบบโมดูล (Modular Deployment) : ระบบ กระจายความร้อน ดีไซน์การออกแบบแบบองค์รวม เพิม่ การรองรับ การขยายตัว ประสิทธิภาพการท�ำงาน และรายละเอียดปลีกย่อย ที่ค�ำนึงถึงผู้ใช้งาน (Human-Centric Details) เครือข่ายคลัสเตอร์ชั้นน�ำ : ผลิตภัณฑ์ Atlas 900 ซึ่งเป็น จุดสูงสุดของประมวลผลคอมพิวเตอร์แบบ AI ประกอบด้วยหน่วย ประมวลผลกลาง AI Huawei Ascend 910 นับหมืน่ ชิน้ ทีส่ ร้างสรรค์ คลัสเตอร์ส�ำหรับฝึก (Training Cluster) AI ที่รวดเร็วที่สุดในโลก นอกจากนี้ ในเชิงการวิจยั ทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมทางธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ Atlas 900 ยังได้เพิม่ ขีดความสามารถให้กบั เหล่านักวิจยั กว่า 900 คน ด้วยความเร็วแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในการฝึกหัด AI โมเดลต่างๆ ด้วยข้อมูลทัง้ ในแบบรูปภาพและวิดโี อ และด้วยความ สมบูรณ์แบบทีเ่ หมาะแก่การน�ำไปใช้ในกิจกรรมประจ�ำวันหรือภารกิจ ทีซ่ บั ซ้อนเช่นนี้ จึงอาจกล่าวได้วา่ คลัสเตอร์นไี้ ด้เพิม่ ขีดความสามารถ วิธีที่เราใช้ส�ำรวจจักรวาล การพยากรณ์สภาพอากาศ การส�ำรวจ ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงได้น�ำเทคโนโลยียานพาหนะไร้คนขับ มาสู่ท้องตลาด การติดตัง้ แบบโมดูล (Modular Deployment) : คลัสเตอร์ AI Atlas 900 นี้ได้ส่งมอบโซลูชันที่มีความยืดหยุ่นในการอ�ำนวย ความสะดวกด้านการขยายขีดความสามารถในสถานการณ์เฉพาะทาง รูปแบบต่างๆ ยิ่งไปกว่านั้น ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ยังเพียบพร้อมไปด้วย ทรัพยากรเพื่อการประมวลผลคอมพิวเตอร์ท่ีครบครันในรูปแบบ ของการบริการคลาวด์ ซึง่ ท�ำให้เข้าถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและ AI แบบครอบคลุม (Inclusive) ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ระบบการกระจายความร้อนทีด่ ที สี่ ดุ : ผลิตภัณฑ์ Atlas 900 นี้ได้รับการออกแบบการระบายความร้อนโดยใช้ของเหลวแบบ May-June 2020

ผสมผสานทีล่ ำ�้ สมัย ซึง่ ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีทไี่ ม่มี การส่งผ่านความร้อนเข้าหรือออกจากระบบ (Adiabatic Technology) โดยมีการแยกราง (Rack Scale) เพื่อการน�ำส่งของเหลวระบาย ความร้อนในอัตราส่วนที่สูงถึง 95% การออกแบบเช่นนี้มีส่วนช่วย กระจายความร้อนส�ำหรับแต่ละราง Rack ได้อย่างดีเยี่ยม โดยใช้ พลังงานที่ 50 กิโลวัตต์ และมีค่าประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน (Power Usage Effectiveness หรือ PUE) น้อยกว่า 1.1 ซึง่ นับเป็น การใช้ พ ลั ง งานได้ อ ย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพที่ สุ ด ส� ำ หรั บ ศู น ย์ ข ้ อ มู ล (ระดับ PUE ในอุดมคติ) อีกทั้งผลิตภัณฑ์ Atlas 900 ยังท�ำงาน โดยใช้พลังงานและท�ำให้เกิดเสียงรบกวนน้อยทีส่ ดุ ซึง่ ช่วยประหยัด พื้นที่ในห้องเก็บอุปกรณ์ได้ถึง 80% ดีไซน์การออกแบบแบบองค์รวม : คลัสเตอร์ AI Atlas 900 มีลักษณะที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยรางทั้ง 2 ข้างได้ ประกอบร่างเป็นรูปวงเล็บใหญ่ “[ ]” และในศาสตร์ของวิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ วงเล็บใหญ่นถี้ กู น�ำไปใช้เป็นสัญลักษณ์ของกลุม่ ตัวอักษร รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของการคูณร่วมน้อย ในทฤษฎีจ�ำนวน ซึ่ง ตรรกะชุดนี้ถือเป็นตรรกะที่มีความสมบูรณ์แบบส�ำหรับคลัสเตอร์ AI Atlas 900 เนื่องจากการเพิ่มของจ�ำนวนเครื่องมือต่างๆ ไม่ได้ เป็นเพียงสูตรค�ำนวณง่ายๆ อย่าง 1 + 1 = 2 แต่มันคือการเติบโต อย่างก้าวกระโดดของขุมพลัง ประสิทธิภาพการท�ำงาน : ในทางสถาปัตยกรรม การลับคม มุมเหลี่ยมและพื้นผิวหน้าของคลัสเตอร์ AI Atlas 900 ส่งผลให้ได้ ผลิตภัณฑ์ทมี่ รี ปู ลักษณ์นา่ ดึงดูดและทันสมัย ประหนึง่ หลุดออกมา จากโลกอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับประสิทธิภาพการท�ำงานชั้นยอด อันเป็นที่ต้องการในยุคดิจิทัล การรองรับขยายตัว : การออกแบบเช่นนี้น�ำไปสู่ความ สามารถในการรองรับการขยายตัวของ Atlas 900 ซึ่งประกอบ ไปด้วยการเพิ่มจ�ำนวนของราง (Rack) นอกจากนี้ กลุ่มคลัสเตอร์ ของรางได้คงไว้ซึ่งความรู้สึกแห่งความต่อเนื่องอย่างเป็นธรรมชาติ และประสิทธิภาพที่สะท้อนความลื่นไหลของข้อมูลในคลัสเตอร์ รายละเอียดปลีกย่อยทีค่ ำ� นึงถึงผูใ้ ช้งาน : ผลิตภัณฑ์ Atlas 900 นี้ใส่ใจกับรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้วของคลัสเตอร์นี้ แสดง ให้เห็นถึงคุณภาพทัง้ ในเชิงสุนทรียภาพและเชิงเทคโนโลยี อันมีความ เป็นธรรมชาติและเปรียบเสมือนการปฏิวตั วิ งการในขณะเดียวกัน สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย www.huawei.com


New 75W DIN Rail Power Supply at 27mm Wide Delta introduces the slimmest model in the Lyte series of DIN rail power supply. It is a 75W DIN rail at 27mm wide. It comes with 12V (DRL-12V75W1AZ), 24V (DRL-24V75W1AZ) and 48V (DRL-48V 75W1AZ) output voltages, which can easily fit into a spaceconstrained control panel. Based on a convection-cooled design, the Lyte series operates between -20°C to +70°C, with full power available from -10°C to +50°C at 230Vac. It allows cold start at -30°C even in extreme condition. The overcurrent protection is designed to operate in constant current mode, which makes the product suitable for inductive and capacitive load applications. The 75W Lyte series is certified according to safety standards IEC 60950-1, IEC/EN/UL 62368-1 and IEC 61010-1. In addition,

อีโคสตรัคเจอร์ ไมโคร ดาต้าเซ็นเตอร์ ขนาด 6 ยู

ขนาดกะทัดรัด แขวนผนังได้

they also meet the EMI approvals to EN 55032 Class B and are fully RoHS compliant for environmental protection. Highlights & Features • Universal AC input voltage range • Built-in constant current circuit for reactive loads • Up to 90% efficiency • Full power from -10°C to +50°C @ 230Vac with -30°C Cold Start • Compliance to SEMI F47 @ 200Vac • NEC Class 2 / Limited Power Source (LPS) certified (DRL-24V75W1AZ & DRL-48V75W1AZ)

อีโคสตรัคเจอร์ ไมโคร ดาต้าเซ็นเตอร์ 6 ยู (EcoStruxure Micro Data Center 6U) หรือ MDC 6U นวัตกรรมส�ำหรับธุรกิจทีต่ อ้ งใช้ไอทีในยุค 4.0 จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ด้วยรูปทรงขนาดเล็ก กะทัดรัด ช่วยประหยัดพืน้ ทีใ่ นส�ำนักงาน สามารถเลือกติดผนัง หรือตั้งพื้น ใส่ล้อเลื่อนได้ มาพร้อมระบบอัจฉริยะระดับโลก EcoStruxure IT Expert และ Asset Advisor สามารถรีโมตมอนิเตอร์ดูสถานะการท�ำงานผ่านระบบคลาวด์เบส ด้วย สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊กได้ MDC 6U ผลิตจากวัสดุที่ให้ความแข็งแรง ทนทาน ทันสมัย มาพร้อมพัดลมระบาย ความร้อนในตัว และแผงฟิลเตอร์กรองฝุน่ ละอองแบบถอดเปลีย่ นได้ ช่วยปกป้องอุปกรณ์ภายใน ให้ใช้งานได้อย่างราบรื่น และด้วยการออกแบบที่ค�ำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก ท�ำให้ติดตั้ง อุปกรณ์ภายในได้อย่างลงตัว ไม่วา่ จะเป็นเซิรฟ์ เวอร์ ระบบส�ำรองไฟ (UPS) ซึง่ รองรับแบตเตอรี่ แบบลิเทียมได้ทงั้ 1U และ 2U สามารถติดตัง้ กล้องรักษาความปลอดภัยตรวจจับการบุกรุกเพิม่ เติม อย่าง NetBotz HD Security Camera และอุปกรณ์ตรวจจับความชืน้ NetBotz Temperature/ Humidity Sensor โดยไม่เปลืองพื้นที่ในการติดตั้งอุปกรณ์หลักอีกด้วย นอกจากนี้ MDC 6U ยังสามารถช่วยธุรกิจให้ไม่ต้องลงทุนสร้างห้องดาต้าเซ็นเตอร์ หรือซือ้ ตูแ้ รคขนาดใหญ่เกินความจ�ำเป็นทัง้ งบประมาณและพืน้ ทีใ่ ช้สอย โดยสามารถเพิม่ เติม MDC 6U ได้เมือ่ มีความจ�ำเป็นต้องขยายธุรกิจในอนาคต (Modular System) ในแบบค่อยเป็น ค่อยไปได้อีกด้วย เหมาะส�ำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และธุรกิจที่ต้องการ ท�ำเอจด์คอมพิวติ้ง เช่น โรงงาน โรงแรม สปา เฮลล์แคร์ สมาร์ทฟาร์มมิ่ง ร้านอาหาร สาขา ธนาคาร สถาบันการศึกษา เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัยทีเ่ ปิดการเรียนการสอนออนไลน์ ฯลฯ May-June 2020


We Are Offering

Free & Discounted Remote Assistance

to Customers Through April 30th How Remote Assistance Can Help Your Organization Right Now

Manufacturing goods needed for survival are essential now more than ever. From bleach wipes to packaged foods, these resources are especially important tools, and they are being depleted from stores in droves. It is our responsibility to replenish these goods as quickly and efficiently as possible. As we continue to actively monitor the ongoing COVID-19 crisis, we want to ensure our customers are aware of the measures we are taking to safely continue operations. The health and security of our employees, customers, and the general public are our primary concerns, and therefore, we must remain vigilant.

To do our part, we are working to minimize the potential impact on our customers’ business and working toward solutions that keep production lines moving and all personnel safe in the process. We are reducing personnel and travel to and from manufacturing sites to essential staff only, however, when a production line goes down, time is of the essence. To mitigate this response, we are leaning on our remote assistance program now more than ever to provide no contact solutions where the situation allows. In an effort to support our customers during this difficult time, we are offering one free hour and discounted consecutive hours of remote assistance to all of our customers. This offer will run through April and is available to new and existing remote assistance users. If you would like to inquire about Remote Assistance now, e-mail us at RemoteAssist@rajones.com

IQD launches a new GNSS Disciplined OCXO

IQD’s newest addition to its range of advanced oscillator modules is its IQCM-112 series of disciplined OCXOs. This new design incorporates an internal GNSS receiver with a 1PPS output which is compatible with an external GPS, GLONASS, BEIDOU and GALILEO source and is housed in a 14-pin 60mm square package. When coupled to an external aerial via the incorporated SMA connector, in the event of the loss of the GNSS signal the highly specified 10MHz OCXO will switch-in with a holdover capability of 1.5 µSeconds for a 24-hour period thereby maintaining lock until restoration of the reference signal. The standard operating temperature range of May-June 2020

the module is -20 to 75 degrees C but is also available with a -40 to 85 degrees C operating temperature range. Other holdover specifications can be considered upon request. The required power supply is 5V with the output being standard HCMOS. Current consumption is 2A maximum during warm-up with this reducing to 1A once the steady-state condition is reached. The design incorporates an internal adaptive algorithm which enables the module to ‘learn’ the parameters of the GNSS signal after a period of 3 days of lock so that the holdover function can start in the event of signal failure. An internal alarm is built-in to indicate lock failure and subsequent restoration of signal. In addition, the unit incorporates a serial connection for more detailed interrogation of the device’s performance. Intended for a range of applications including land based telecommunications systems as well as marine based navigation systems the IQCM-112 forms part of a range of highly specified modules and Oven Controlled Crystal Oscillators available from IQD. Further details are available on IQD’s website at www. iqdfrequencyproducts.com or for further advice, speak to a member of our Applications Support Team.


Small, Accurate and Very Versatile

Although the WSEN-TIDS temperature sensor from Würth Elektronik measures just 2.0 x 2.0 x 0.5 mm, its range of application is wide: Its accuracy in the measuring range -40 to 125°C is ±0.5°C, while in the range -10 to 60°C it goes down to ±0.25°C. Applications extend from PCB temperature monitoring and system monitoring for power supplies, heating, ventilation, air conditioning and cold chain monitoring, to sensor technology in industrial controls, domestic appliances or wearables. The sensor is factory calibrated and can therefore be used without time-consuming remeasurements. The sensor’s 16-bit output signal can be read out via an I²C interface with different output data rates up to a maximum of 200 Hz. An additional interrupt pin can optionally be used to indicate when a programmed temperature threshold value is exceeded. WSEN-TIDS is perfectly suited for battery powered applications as it operates from 1.5 to 3.6 V and draws a current of only 1.75 μA. A development kit is available for the temperature sensor. Long-term availability is guaranteed with this proven industrial sensor. WSEN-TIDS is available from stock without a minimum order quantity.

Robust, Resilient, Mountable Würth Elektronik complements its AEC-Q200 product group of qualified radio interference suppression chokes with an SMT-mountable model : WE-RCIS. The rod core choke, available in four versions, is characterized by its high current-carrying capacity and very high saturation power. WE-RCIS is suitable for integrated DC/DC converters, for low-consumption use and energy harvesting solutions, embedded systems, portable devices and, of course, for automotive electronics applications. The inductance is qualified to AEC-Q200 Grade 1 and accordingly has an operating temperature range of -40 to +150°C. The robust design and the contacts, which provide for a large area solder connection, make the coil suitable for shockproof circuits. WE-RCIS is now available from stock in any quantity as component belts on reels. Würth Elektronik eiSos Group is a manufacturer of electronic and electromechanical components for the electronics industry and a technology company that spearheads pioneering electronic solutions. The company currently employs 7,300 staff and generated sales of 822 million euros in 2019. Würth Elektronik eiSos is one of the largest European manufacturers of passive components and is active in 50 countries. Production sites in Europe, Asia and North America supply a growing number of customers worldwide. The product range includes EMC components, inductors, transformers, RF components, varistors, capacitors, resistors, quartz crystals, oscillators, power modules, Wireless Power Transfer, LEDs, sensors, connectors, power supply elements, switches, push-buttons, connection technology, fuse holders and solutions for wireless data transmission.

The unrivaled service orientation of the company is characterized by the availability of all catalog components from stock without minimum order quantity, free samples and extensive support through technical sales staff and selection tools. Through its technology partnership with the Audi Sport ABT Schaeffler Formula E Team and its support for the Formula Student racing series, the company demonstrates its innovative strength in eMobility (www.we-speedup-the-future.com). Würth Elektronik eiSos is part of the Würth Group, the world market leader for assembly and fastening technology. Further information at www.we-online.com May-June 2020


ปตท.สผ. มอบเงินสนับสนุนการพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัย โควิด-19 แก่สถาบันวิทยสิริเมธี พงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษทั ปตท.ส�ำรวจและผลิตปิโตรเลียม จ�ำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุนจ�ำนวน 2,000,000 บาท แก่สถาบันวิทยสิรเิ มธี (VISTEC) เพือ่ น�ำไปพัฒนาชุดตรวจวินจิ ฉัย โควิด-19 โดยมี ศ. ดร.จ�ำรัส ลิม้ ตระกูล อธิการบดีสถาบันวิทยสิรเิ มธี ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี เป็นผู้รับมอบชุดตรวจวินิจฉัยโควิด-19 ทีว่ จิ ยั และพัฒนาโดยสถาบันวิทยสิรเิ มธี ร่วมกับภาคีเครือข่าย สามารถตรวจวินจิ ฉัย โควิด-19 ได้รวดเร็วกว่าห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ทั่วไป มีความแม่นย�ำ และมีต้นทุนการผลิตต�่ำ การมอบเงินสนับสนุนดังกล่าวจัดขึ้น ณ ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ กรุงเทพฯ

กฟผ. มอบเงินช่วยเหลือโรงพยาบาล สังคม และ ชุมชน ฝ่าวิกฤติ COVID-19

กฟผ. ร่วมสนับสนุนสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์ฯ พัฒนา หุ่นยนต์ช่วยแพทย์สู้ COVID-19

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) น�ำโดย วิบูลย์ ฤกษ์ศริ ะทัย ผูว้ า่ การ กฟผ. และผูบ้ ริหาร กฟผ. สนับสนุนเงิน 30 ล้านบาท ร่วมช่วยเหลือโรงพยาบาล สังคม และชุมชน ฝ่าวิกฤติการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) โดยมอบให้กับ 7 โรงพยาบาลที่เป็น ศูนย์หลักในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 ในการจัดซื้ออุปกรณ์ ทางการแพทย์ จ�ำนวน 15 ล้านบาท เพือ่ ให้บคุ ลากรทางการแพทย์ปฏิบตั ิ หน้าที่ได้อย่างคล่องตัวและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และจ�ำนวนเงินอีก 15 ล้านบาท ช่วยเหลือโรงพยาบาลในต่างจังหวัด สังคม ชุมชน รอบเขต เขือ่ น โรงไฟฟ้า กฟผ. ทัว่ ประเทศ ตามความต้องการของพืน้ ที่ เพือ่ ร่วมเป็น ส่วนหนึ่งในการดูแลสังคมไทยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19

ศ.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล กรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พร้อมด้วย วิบลู ย์ ฤกษ์ศริ ะทัย ผูว้ า่ การ กฟผ. และ ภัทรกฤช เตชะศิกานต์ รองผูว้ า่ การ การเงินและบัญชี กฟผ. ร่วมมอบเงินสมทบทุนให้กับสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จ�ำนวน 1 ล้านบาท สนับสนุน CU-RoboCOVID โครงการพัฒนาหุน่ ยนต์และอุปกรณ์สนับสนุนทางการแพทย์สภู้ ยั COVID-19 จ�ำนวน 103 ตัว โดยโครงการประกอบด้วยหุน่ ยนต์ 3 ชุดหลัก ได้แก่ หุน่ ยนต์สง่ ของ (Remote Control Delivery Robot) หุ่นยนต์สื่อสารทางไกล (Telepresence Robot) และหุ่นยนต์ เครือ่ งช่วยหายใจ (Ambu Bag) เพือ่ มอบให้กบั โรงพยาบาลทัว่ ประเทศ ให้สามารถลด ความเสีย่ งจากการติดเชือ้ สนับสนุนการท�ำงาน และเพิม่ ประสิทธิภาพการท�ำงานของ บุคลากรทางการแพทย์ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชือ้ ไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) เมือ่ วันที่ 7 เมษายน 2563 ณ สมาคมนิสติ เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฯ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

Dow จับมือ Solvay บริจาคน�้ำยาฆ่าเชื้อไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 2 แสนลิตร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ผู้น�ำด้านแมททีเรียล ไซแอนซ์ (Materials Science) ร่วมกับกลุม่ บริษทั โซลเวย์ (Solvay) บริจาคน�ำ้ ยาฆ่าเชือ้ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dow และ Solvay ให้แก่จังหวัดระยองและ เทศบาลต่างๆ จ�ำนวน 200,000 ลิตร ส�ำหรับใช้ลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เสริม สุขอนามัยและความปลอดภัยของชุมชน โดยมี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงสาธารณสุข และ สุรศักดิ์ เจริญศิรโิ ชติ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดระยอง เป็นผูร้ บั มอบ จาก เดชา พาณิชยพิเชฐ ผูอ้ ำ� นวยการโรงงาน กลุม่ บริษทั ดาว ประเทศไทย ในกิจกรรม การรณรงค์ท�ำความสะอาดของจังหวัดระยอง (Rayong Big Cleaning Day) เพื่อป้องกัน และฆ่าเชือ้ โรคโควิด-19 ณ หอพระพุทธอังคีรส สวนศรีเมือง อ�ำเภอเมือง จังหวัดระยอง

May-June 2020


SYS มอบชุดห่วงใย ปลอดภัยห่างไกลโควิด-19 จากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 อย่างต่อเนือ่ ง นัน้ บริษทั เหล็กสยามยามาโตะ จ�ำกัด หรือ SYS ผูผ้ ลิตเหล็กเอชบีม ไวด์แฟลงค์ มานานกว่า 25 ปี ภายใต้นโยบายการด�ำเนินธุรกิจ “ลูกค้าคือคนส�ำคัญ เราต้อง ดูแลใส่ใจ เพื่อก้าวไปด้วยกัน” โดย พงษ์ศักดิ์ แห่ล้อม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการด�ำเนินชีวิตของลูกค้า จัดท�ำ “ชุดห่วงใย” อันประกอบด้วย หน้ากากผ้า SYS และเจลแอลกอฮอล์สำ� หรับพกพา เพือ่ เป็นก�ำลังใจ ให้กบั ลูกค้าก้าวผ่านวิกฤติในครัง้ นีไ้ ปด้วยกัน และพร้อมกระจายการส่งมอบถึงลูกค้ำ เร็วๆ นี้

ปตท.สผ. มอบเงินสนับสนุนซื้อรถพยาบาลและ เครื่องช่วยหายใจ รองรับผู้ป่วยโควิด-19

กลุ่มพนักงาน TCC Technology Group จัดโครงการ “น้อยนิด มหาศาล”

พงศธร ทวีสนิ ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหารและกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ บริษทั ปตท.ส�ำรวจและผลิตปิโตรเลียม จ�ำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน จ�ำนวน 4,050,000 บาท แก่ ศ. ดร.สุรพล นิตไิ กรพจน์ ประธานกรรมการ บริหาร โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพือ่ น�ำไปจัดซือ้ รถพยาบาล และเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับโรงพยาบาลสนาม ธรรมศาสตร์ ในการตรวจรักษาและรองรับผูป้ ว่ ยติดเชือ้ โควิด-19 การมอบเงิน สนับสนุนดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี

ตัวแทนพนักงานกลุม่ บริษทั TCC Technology ผูข้ บั เคลือ่ นโครงการ “น้อยนิด มหาศาล” น�ำโดย อดิศกั ดิ์ จาบทะเล ผูอ้ ำ� นวยการฝ่ายปฏิบตั กิ าร บริษทั ลีพ โซลูชนั่ เอเชีย จ�ำกัด และ ปวีณา มณีวงษ์ ผูจ้ ดั การฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษทั ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จ�ำกัด เป็นตัวแทนส่งมอบหน้ากากเฟสชิลด์ จ�ำนวน 500 ชิ้น (แรก) ให้กับส�ำนักงาน เขตสาทร โดยหน้ากากเฟสชิลด์ดงั กล่าวจะน�ำไปแจกจ่ายให้กบั เจ้าหน้าทีข่ องส�ำนักงาน เขตสาทร ซึง่ ปฏิบตั หิ น้าทีด่ แู ลประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชือ้ ไวรัส โควิด-19 รวมถึงเจ้าหน้าที่ อปพร.เขตสาทร เจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจ กอ.รมน.กทม. จิตอาสา และเจ้าหน้าทีอ่ าสาของมูลนิธฯิ ทัง้ นี้ โครงการน้อยนิด มหาศาล มีกำ� หนดการส่งมอบ หน้ากากเฟสชิลด์อกี จ�ำนวน 500 ชิน้ ให้กบั เจ้าหน้าทีส่ ำ� นักงานเขตบางนา และส่งมอบ เจลแอลกอฮอล์ เป็นล�ำดับต่อไป

เดลต้า คว้ารางวัลความเป็ นเลิศด้านความยั่งยืน จาก ENERGY STAR® เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน เดลต้า ผู้ผลิตชั้นน�ำของโลกด้านโซลูชันการจัดการพลังงานและความร้อน ได้รับ รางวัลพันธมิตรประจ�ำปี 2563 จาก ENERGY STAR® เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน มอบโดยองค์กร พิทกั ษ์สงิ่ แวดล้อมของสหรัฐอเมริกา (U.S. Environmental Protection Agency หรือ EPA) ส�ำหรับโซลูชัน Delta Breez ในการจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) ที่สามารถ ประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท�ำงานได้อย่างน่าเชือ่ ถือและไร้เสียงรบกวน อีกทัง้ รางวัลครัง้ นีย้ งั นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันทีบ่ ริษทั ได้รบั รางวัล “ความเป็นเลิศด้านความยัง่ ยืน” (Sustained Excellence) ซึง่ นับเป็นเกียรติสงู สุดของรางวัลจาก ENERGY STAR® ทีพ่ จิ ารณำ มอบให้เฉพาะบริษทั ทีม่ ผี ลงานโดดเด่นสูงกว่าเกณฑ์ทกี่ ำ� หนดรางวัลพันธมิตรแห่งปี (Partner of Year)

May-June 2020


Movement

เดลต้า บริจาค พัดลม DC เพื่อพัฒนาชุดป้องกัน ส่วนบุคคลส�ำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการ รับมือโควิด-19

บริษทั เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด (มหาชน) บริจาค พัดลม DC ประสิทธิภาพสูง (Original High-Efficiency DC Brushless Blowers) จ�ำนวน 10,500 เครือ่ ง แก่สำ� นักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และรัฐบาล เพือ่ สนับสนุนการพัฒนาและผลิต ชุดปลอดเชือ้ ความดันบวกและหน้ากากป้องกันเชือ้ โรคแบบคลุมศีรษะ พร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (Powered Air Purifying Respirator หรือ PAPR) รวมถึงชุดป้องกันส่วนบุคคลของบุคลากรทางการแพทย์ (Personal Protective Equipment หรือ PPE) ทีป่ ฏิบตั งิ านอยูแ่ นวหน้า ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 พิธรี บั มอบครัง้ นีจ้ ดั ขึน้ ทีส่ ำ� นักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา โดยมีตวั แทนจากเดลต้า ประเทศไทย ตัวแทนจากรัฐบาล และตัวแทน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมประกาศความส�ำเร็จในการพัฒนา ชุดปลอดเชือ้ ความดันบวกและหน้ากากป้องกันเชือ้ โรคแบบคลุมศีรษะ รวมถึงชุดป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) ส�ำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ในการรับมือกับผู้ป่วยโควิด-19

ความร่วมมือเพื่อน�าโซลูชัน AI เสริมการรักษาโควิด-19

สราวุธ กองบุญมา ตัวแทนจากเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จันวาณิชย์ จ�ำกัด พร้อมด้วย ติง เลอร์ ผูอ้ ำ� นวยการกลุม่ ธุรกิจพาร์ทเนอร์คลาวด์ บริษทั หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย (จ�ำกัด) ส่งมอบโซลูชนั AI เทคโนโลยีเดียวกับ ที่เคยใช้ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ในโรงพยาบาลชั้นน�ำของจีน ให้แก่โรงพยาบาล กรุงเทพพัทยา โดยมี นพ.ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม 3 เครือ BDMS รับมอบ ความร่วมมือในครั้งนี้ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ในเครือ BDMS ท�ำหน้าที่สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์เพื่อช่วยตรวจวินิจฉัย พร้อมทั้ง ทดสอบการใช้งานและรับการถ่ายทอดเทคนิค และรูปแบบการวิเคราะห์ ร่วมกับผูเ้ ชีย่ วชาญจากประเทศจีน โดยได้รบั การสนับสนุนเทคโนโลยีจากหัวเว่ย และ HY Medical เป็นผูถ้ า่ ยทอดแนวคิดและบทเรียนส�ำหรับแนวทางการติดตัง้ ระบบ ผ่านระบบการสือ่ สารทางไกลจากประเทศจีน โดยมีบริษทั Chanwanich เป็นผูน้ ำ� มาประยุกต์ใช้กบั การท�ำงานให้เหมาะสมกับประเทศไทย โดยมีการระดม ความคิดเห็นร่วมกันทัง้ จากแพทย์ผเู้ ชีย่ วชาญด้านรังสีวทิ ยา และการวิเคราะห์ ภาพถ่าย X-Ray และ CT-Scan พร้อมทั้งฝ่ายสนับสนุนสารสนเทศของทาง โรงพยาบาล และระบบสนับสนุนทางเทคนิคของทีมงานทัง้ 4 ฝ่าย ทีป่ รึกษา และผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีน เพื่อท�ำให้ระบบสามารถใช้งานได้อย่างดี

May-June 2020


ยิบอินซอย รวมใจต้านภัยโควิด-19

มรกต ยิบอินซอย กรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ และประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร พร้อม แววรัตน์ ช�ำนาญภักดี ผูอ้ ำ� นวยการสายงานประชาสัมพันธ์ และทรัพยากรบุคคล บริษัท ยิบอินซอย จ�ำกัด เข้าร่วมกิจกรรม “พม. ห่วงใย สู้ภัยโควิด-19” มอบข้าวสารอาหารแห้ง ซึง่ ทางบริษทั ยิบอินซอย จ�ำกัด ได้จัดซื้อจากผู้ประกอบการอิสระร่วมด้วย อาทิ ไข่เค็ม หัวไชโป๊ว น�้ำพริกน�้ำย้อย กุนเชียง ปลาทูน่ากระป๋อง นมจืด บะหมี่อบแห้ง เป็นต้น เพือ่ ช่วยเหลือผูป้ ระกอบการและประชาชน 2 ทอด โดยมี สุทธิ จันทรวงษ์ อธิบดีกรมพัฒนาสังคม และสวัสดิการ และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. เป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อน�ำไปจัดท�ำถุงยังชีพ แจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ณ บริเวณโถงชัน้ 1 อาคารกรมพัฒนา สังคมและสวัสดิการ

หัวเว่ย ประเทศไทย ร่วมจัด ฝึกอบรม 5G มุ่งพัฒนาความร่วมมือเชิงลึก เสริมความรู้ให้แก่คณาจารย์ไทย

คณาจารย์กว่า 21 คน จากสถาบันการศึกษา ในความดู แ ลของส� ำ นั ก งานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษา (สอศ.) เข้าร่วมการฝึกอบรมเกี่ยวกับ เทคโนโลยี 5G กั บ บริ ษั ท หั ว เว่ ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จ�ำกัด โดยจัดอบรม ณ ศูนย์ฝกึ อบรม หัวเว่ย ประเทศไทย นับเป็นก้าวแรกของความร่วมมือ เชิงลึกระหว่างหัวเว่ย และ สอศ. การฝึกอบรมครั้งนี้ ออกแบบมาเพื่อสร้าง ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี 5G ให้กับคณาจารย์ ของ สอศ. ไม่วา่ จะเป็นขัน้ ตอนการวางมาตรฐานของ ข้อก�ำหนดกฎเกณฑ์ 5G ความคืบหน้าของอุตสาหกรรม พัฒนาการของระบบ E2E เทคโนโลยีรักษาความ ปลอดภัย 5G สถาปัตยกรรมของระบบเครือข่าย เครือข่ายทีเ่ น้นด้านการบริการ และเทคโนโลยีสำ� คัญ อื่นๆ อีกมากมาย

May-June 2020


Industry News

นักศึกษาชนะเลิศโครงการ Schneider Go Green ผุดไอเดียพลังงานลมควบแสงอาทิตย์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) จัดโครงการ ชไนเดอร์ โก กรีน (Schneider Go Green 2020) ซึง่ เป็นโครงการ ประกวดแนวคิดในการใช้นวัตกรรมยุคดิจทิ ลั ในการสร้างความยัง่ ยืน ให้เมืองและโลกของเรา ซึง่ จัดเป็นประจ�ำทุกปี นับตัง้ แต่ปี ค.ศ. 2013 เดิมใช้ชอื่ ว่า Go Green in the City และในปีนมี้ นี กั ศึกษาไทยส่งผลงาน การประกวดเป็นจ�ำนวนมาก โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 หมวด ได้แก่ ความยัง่ ยืนและการเข้าถึงพลังงาน อาคารในอนาคต โรงงาน ในอนาคต และโครงข่ายไฟฟ้าในอนาคต ซึง่ ประเทศไทยมีนกั ศึกษา เข้าร่วมน�ำเสนอผลงานจ�ำนวนมาก แต่ทมี่ คี ะแนนสูงจากกรรมการ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญมี 3 อันดับ ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โครงการ Hybrid Wind Solar จากทีม Changer ประกอบด้วย นางสาวนภชล ดอกไม้เพ็ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนางสาวพัชรพร กาญจโนภาส มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยแนวคิดของโครงการ คือการน�ำโซลูชนั แผงพลังแสงอาทิตย์ควบคูก่ บั กังหันรับพลังงานลม ทีไ่ ด้จากรถวิง่ ผ่าน ท�ำให้เกิดพลังงานถึง 2 แหล่งทีม่ า ให้กบั ไฟถนน จากเดิ ม ไฟถนนที่ ติด เฉพาะแผงโซลาร์ มั ก เกิ ด ปัญ หาพลัง งาน ไม่เพียงพอส�ำหรับใช้ในช่วงเวลากลางคืน หรือในบางช่วงฤดูกาลที่ แสงแดดน้อย รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โครงการ PM2.5 Spray : Save the world, save the bill จากทีม DoubleT นายญาณพัฒน์ เพลงเกษม และนางสาวณัฐปัณชญา จิรทีปต์กุลเมธ สถาบัน เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งเป็นสเปรย์ที่ ช่วยจับ PM2.5 ให้ตกลงสู่พื้น

May-June 2020

รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โครงการ Air Humidifier Water จากทีม MIT นายดรัสพงศ์ อินทรปัญญา และนางสาวกาญจน์รพี ศิวาพรเสถียร จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึง่ เป็นการดึงเอาไอน�ำ้ ในอากาศออกมาใช้ประโยชน์ในการอุปโภคบริโภค โครงการ Schneider Go Green ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นการแข่งขันนานาชาติดา้ นพลังงานระดับโลก ส�ำหรับนักศึกษาทีม่ ี แนวคิดช่วยโลกในการอนุรกั ษ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านพลังงาน เพื่อช่วยให้เมืองต่างๆ มีความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น โดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะเฟ้นหาแนวคิดที่สร้างสรรค์และท�ำได้จริงมากที่สุด โดยผูท้ เี่ ข้าร่วมโครงการประกวดต้องเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย และ แต่ละทีมต้องมีสมาชิกเป็นผูห้ ญิงอย่างน้อย 1 คน เพือ่ ให้สอดคล้อง ตามนโยบายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในเรือ่ ง Schneider Electric’s Policy of Promoting Diversity and Inclusion ซึง่ เป็นการสนับสนุน ความเสมอภาคทางเพศและความหลากหลาย

โดยน้องๆ จากทีม Changer ทีไ่ ด้รบั รางวัลชนะเลิศประเทศไทย เจ้าของผลงาน Hybrid Wind Solar จะได้รบั การถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านเทคโนโลยีระดับโลกของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เพื่อต่อยอด แนวคิดก่อนแข่งรอบชิงชนะเลิศระดับอาเซียนกับอีก 8 ประเทศ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ชไนเดอร์ อิเลคทริค #SchneiderGoGreen #WhatsYourBoldIdea #Meaningful #Inclusive #Empowered


บอร์ด GPI อนุมัติเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ 9 MW บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI เตรียมเข้า ลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าหลังบอร์ดอนุมัติใช้งบลงทุน 250 ล้านบาท เข้าถือหุน้ 25.45% ในบริษทั ทรูเอ็นเนอร์จี จ�ำกัด เพือ่ ลงทุนโครงการ โรงไฟฟ้าเชือ้ เพลิงจากขยะในจังหวัดนครสวรรค์ ก�ำลังการผลิตติดตัง้ 9 MW ที่มีสัญญาจ�ำหน่ายไฟฟ้าแก่ กฟภ. และได้รับ Adder 3.50 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 7 ปี นับจากวันทีเ่ ริม่ ต้นจ�ำหน่ายไฟฟ้า เพิ่มความมั่นคงจากรายได้ประจ�ำ คาดเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจ�ำหน่าย เชิงพาณิชย์ช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ดร.ปราจิน เอีย่ มล�ำเนา ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษทั กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จ�ำกัด (มหาชน) หรือ GPI ผู้น�า สร้างสรรค์การจัดกิจกรรมให้บริการข่าวสาร ข้อมูล สาระ เพือ่ สร้าง ประสบการณ์ แ ละความบั น เทิ ง ที่ น ่ า ประทั บ ใจ ตอบสนองทุ ก ไลฟ์สไตล์ของผูใ้ ช้ยานยนต์ เปิดเผยว่า บริษทั ฯ ได้มองโอกาสขยาย ธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเพิ่มความมั่นคงแก่ผลการด�ำเนินงานในอนาคต ล่าสุดเมือ่ วันที่ 31 มีนาคม ทีผ่ า่ นมา ทีป่ ระชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษทั ฯ มีมติอนุมตั เิ ข้าซือ้ หุน้ 25.45% ในบริษทั ทรูเอ็นเนอร์จี จ�ำกัด ซึ่งเป็นผู้ด�ำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้า เพื่อเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้า พลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ ในอ�ำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ ก�ำลังการผลิตติดตั้ง 9 เมกะวัตต์ (MW) โดยใช้งบลงทุน 250 ล้าน บาท ซึ่งมาจากกระแสเงินสดจากการด�ำเนินงานของบริษัทฯ การลงทุนดังกล่าวถือเป็นการขยายธุรกิจครัง้ ส�ำคัญของบริษทั ฯ โดยมองว่าโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะเป็นธุรกิจที่มีรายได้ มัน่ คงจากสัญญาการจ�ำหน่ายไฟฟ้า ขณะเดียวกันบริษทั ฯ จะได้รบั สิทธิเ์ ป็นกรรมการในบริษทั ทรูเอ็นเนอร์จี จ�ำกัด ส่วนทรูเอ็นเนอร์จี จะรับผิดชอบการบริหารโรงไฟฟ้าและการจัดหาขยะชุมชนเพื่อน�า มาแปรรูปเป็นเชือ้ เพลิง RDF (Refuse Derived Fuel) เพือ่ ผลิตไฟฟ้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันมีแหล่งขยะเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง ผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อย ด้าน พีระพงศ์ เอีย่ มล�ำเนา ประธานเจ้าหน้าทีป่ ฏิบตั กิ าร GPI กล่าวว่า ปัจจุบนั โครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีความคืบหน้าใกล้ แล้วเสร็จ คาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจ�ำหน่ายเชิงพาณิชย์ในช่วง ไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยจะได้รับ Adder หรือส่วนเพิ่มราคารับซื้อ ไฟฟ้าในอัตรา 3.50 บาทต่อหน่วย (Kwh) เพิ่มจากค่าไฟฐานเป็น ระยะเวลา 7 ปีนับจากวันที่เริ่มต้นจ�ำหน่ายไฟฟ้า นอกจากนี้ บริษทั ทรูเอ็นเนอร์จี จ�ำกัด ได้ทำ� สัญญารับก�ำจัดขยะ โดยวิธีคัดแยกกับเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ มีอายุสัญญา 25 ปี (นับจาก 12 พฤศจิกายน 2558) เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านเชื้อเพลิง

ในการผลิตกระแสไฟฟ้า จากการประเมินปริมาณขยะจากบ่อฝังกลบ ของเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ พบว่ามีปริมาณขยะจากบ่อฝังกลบ 3 แห่งรวมประมาณ 5 แสนตัน ในจ�ำนวนนีป้ ระมาณ 70% สามารถ น�ำมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง RDF ซึ่งเมื่อรวมกับปริมาณขยะที่มี แนวโน้มเพิม่ ขึน้ ในอนาคต มัน่ ใจว่าจะมีปริมาณขยะเพียงพอต่อการ แปรรูปเป็นเชือ้ เพลิง RDF ตลอดอายุสญ ั ญาจ�ำหน่ายไฟฟ้า นอกจากนี้ ทรูเอ็นเนอร์จีวางแผนจัดหาแหล่งขยะส�ำรอง โดยประสานงานกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ในจังหวัดนครสวรรค์และพืน้ ทีใ่ กล้เคียง เช่น เทศบาลต�ำบลท่าตะโก เทศบาลเมืองตาคลี ฯลฯ รวมถึงได้ เจรจากับภาคเอกชนเพื่อท�ำสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิง RDF เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าดังกล่าวได้มีมาตรการป้องกันและ ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่สอดคล้องกับเงื่อนไข และข้อก�ำหนดตามประมวลหลักการปฏิบตั ิ หรือ Code of Practice (COP) เพื่อให้ความมั่นใจแก่ผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง อาทิ การออกแบบอาคารเป็นระบบปิด ติดตั้งปล่องระบายมลพิษทาง อากาศที่มีความสูงตามหลักเกณฑ์ Good Engineering Practice มาตรการควบคุมการปล่อยสารมลพิษตามเกณฑ์มาตรฐาน ติดตั้ง เครือ่ งตรวจวัดคุณภาพอากาศจากปล่องระบายมลพิษแบบต่อเนือ่ ง และตรวจวัดคุณภาพอากาศปีละ 2 ครัง้ ควบคุมคุณสมบัตเิ ชือ้ เพลิง RDF ได้ตามมาตรฐาน ตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมด้านอื่นๆ ฯลฯ “ประเมินว่าการลงทุนครั้งนี้จะใช้ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 5 ปี ประเมินอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (Economic Internal Rate of Return : EIRR) ที่ 11% ต่อปี ถือว่าค่อนข้างเร็ว ซึง่ จะส่งผลดี ต่อผลการด�ำเนินงานอย่างสม�่ำเสมอ จากปัจจุบันที่มีแหล่งรายได้ จากธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าด้านยานยนต์และกิจกรรมส่งเสริม การตลาด ธุรกิจงานพิมพ์ และธุรกิจสื่อ” พีระพงศ์ กล่าว May-June 2020


w

เร้ดแฮท แต่งตั้ง พอล คอร์เมียร์ ด�ำรงต�ำแหน่ง ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารแทน จิม ไวท์เฮิร์ท

เร้ดแฮท อิงค์ ผู้น�ำระดับโลกด้านโอเพ่นซอร์สโซลูชัน ประกาศแต่งตั้ง พอล คอร์เมียร์ ด�ำรงต�ำแหน่งประธานและ หัวหน้าเจ้าหน้าทีบ่ ริหารของเร้ดแฮท แทน จิม ไวท์เฮิรท์ ซึง่ ย้าย ไปด�ำรงต�ำแหน่งประธานที่บริษัทไอบีเอ็ม คอร์เมียร์เคยด�ำรง ต�ำแหน่งประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของเร้ดแฮท คอร์เมียร์ เริ่มท�ำงานที่เร้ดแฮทตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา การเป็นผูม้ วี สิ ยั ทัศน์และมีความเป็นผูน้ ำ� ท�ำให้คอร์เมียร์ ผลักดันกลยุทธ์สำ� คัญและขยายพอร์ตโฟลิโอกลุม่ ผลิตภัณฑ์และ บริการต่างๆ ของเร้ดแฮท รวมถึงได้รบั การยกย่องว่าเป็นผูบ้ กุ เบิก รูปแบบการให้บริการแบบสมาชิก (Subscription Model) ซึง่ เป็น การเปลี่ยนแปลงเร้ดแฮทจากผู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงด้าน โอเพ่นซอร์สรายหนึง่ ให้กลายเป็นเทคโนโลยีหลักส�ำคัญส�ำหรับ องค์กร เปลี่ยน Red Hat Linux จากระบบปฏิบัติการที่ใครๆ ก็ ดาวน์โหลดได้อย่างอิสระ ไปเป็น Red Hat Enterprise Linux ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Linux ส�ำหรับองค์กรในระดับแนวหน้าของ วงการ ที่บริษัทใน Fortune 500 มากกว่า 90% ในปัจจุบัน ใช้บริการ คอร์เมียร์ มีสว่ นขับเคลือ่ นให้เร้ดแฮทเข้าซือ้ กิจการมากกว่า 25 แห่ง ท�ำให้บริษัทขยายตัวไปได้ไกลกว่าการให้บริการเฉพาะ Linux และได้ช่วยสร้างกลุ่มงานด้านไอทีที่ทันสมัยที่ท�ำงานบน นวัตกรรมโอเพ่นซอร์ส ซึง่ นับว่าเป็นการเปลีย่ นแปลงวงการไอที ขนานใหญ่ ทั้งนี้การที่สามารถน�ำผลิตภัณฑ์ด้านโอเพ่นซอร์ส ระดับองค์กรทีเ่ ชือ่ ถือได้ไปใช้กบั กลุม่ งานด้านเทคโนโลยีทงั้ หลาย และการเปลี่ยนรูปแบบทางธุรกิจ ท�ำให้โอเพ่นซอร์สกลายเป็น แหล่งนวัตกรรมที่ใช้งานจริงในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ซึ่งส่งผล ให้การพัฒนาต่างๆ รุดหน้าเร็วกว่าการพึง่ พาผูข้ ายซอฟต์แวร์ทมี่ ี กรรมสิทธิ์เพียงอย่างเดียว

May-June 2020

คอร์เมียร์ เป็นผู้น�ำวิสัยทัศน์ด้านไฮบริดคลาวด์มากว่ำ ทศวรรษ ด้วยต้องการให้ลกู ค้าได้รบั ความยืดหยุน่ ในการใช้บริการ แอปพลิเคชันทุกชนิดได้ทุกที่บนโครงสร้างพื้นฐานทุกประเภท ไม่วา่ จะเป็นบนอุปกรณ์ปลายทาง (Edge) และบน Bear Metal ทีต่ ดิ ตัง้ อยูใ่ นองค์กร ไปจนถึงมัลติพบั ลิคคลาวด์ ด้วยวิธกี ารทีใ่ ช้ ร่วมกันได้และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน วิสยั ทัศน์ดงั กล่าวยังช่วย สร้างให้เกิด Red Hat OpenShift ซึง่ เป็นแพลตฟอร์มคูเบอร์เนทีส ระดับองค์กรทีค่ รบวงจรทีส่ ดุ ในอุตสาหกรรม และนับเป็นแกนหลัก ของการใช้ ง านไฮบริ ด คลาวด์ ใ นอุ ต สาหกรรมทุ ก ประเภท คอร์เมียร์ได้มงุ่ มัน่ สร้างพันธมิตรในรูปแบบทีเ่ ป็นการเปลีย่ นโฉม อุตสาหกรรม รวมถึงการเป็นพันธมิตรหลักกับไมโครซอฟต์ เพื่อน�ำเสนอทางเลือกที่มากขึ้นในการใช้งานไฮบริดคลาวด์ ให้กบั ลูกค้า เขายังมีบทบาทส�ำคัญในการผสานรวมโครงสร้างของ เร้ดแฮทกับไอบีเอ็ม โดยเน้นไปที่การปรับขนาดของบริษัทและ เร่งการเติบโตของเร้ดแฮทให้เร็วขึ้น ในขณะเดียวกันยังต้องคง ความเป็นอิสระและความเป็นกลางไว้ให้ได้ Red Hat คือผู้ให้บริการชั้นน�ำด้านซอฟต์แวร์โซลูชัน โอเพ่นซอร์สส�ำหรับองค์กร โดยใช้พลังของสังคมโอเพ่นซอร์ส เพื่อน�ำเสนอเทคโนโลยี Linux, Hybrid Cloud, Container และ Kubernetes ทีเ่ ชือ่ ถือได้และมีประสิทธิภาพสูง Red Hat ให้การ สนั บ สนุ น ลู ก ค้ า ในการผสานรวมแอปพลิ เ คชั น ใหม่ แ ละที่ ใช้ อยู่เดิม ในการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ Cloud-Native เพื่อ ยกระดับระบบปฏิบัติการชั้นน�ำของภาคอุตสาหกรรม รวมถึง บริหารจัดการสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนให้เป็นระบบอัตโนมัติ และปลอดภัย ด้วยการบริการด้านการสนับสนุน อบรม และ ให้ค�ำปรึกษาที่ได้รับความเชื่อถือและการยอมรับด้วยรางวัล มากมาย Red Hat จึงได้รับการไว้วางใจในการเป็นที่ปรึกษาแก่ บริษัทในเครือ Fortune 500 ด้วยบทบาทของ Red Hat ในการ เป็นพันธมิตรต่อผูใ้ ห้บริการคลาวด์ ผูเ้ ชีย่ วชาญด้านการผนวกรวม ระบบ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ลูกค้า และชุมชนโอเพ่นซอร์ส Red Hat จะสามารถสนับสนุนและผลักดันองค์กร เพือ่ พร้อมรับ กับโลกดิจิทัลแห่งอนาคต Red Hat, Red Hat Enterprise Linux, the Red Hat logo and OpenShift are trademarks or registered trademarks of Red Hat, Inc. or its subsidiaries in the U.S. and other countries. Linux® is the registered trademark of Linus Torvalds in the U.S. and other countries.


ELECTRICITY & INDUSTRY

magazine ปี 2563

ข้าพเจ้า ชื่อ ............................................................................................. สกุล .......................................................................................................... ตำ�แหน่ง .................................................................................... บริษัท/ห้าง/ร้าน ...................................................................................... ที่อยู่ (ที่ทำ�งาน) ......................................................................... แขวง/ตำ�บล ............................................................................................. เขต/อำ�เภอ ................................................................................ จังหวัด .................................................... รหัสไปรษณีย์ .......................... โทร ............................................................................................ แฟกซ์ ....................................................................................................... ที่อยู่ (ที่บ้าน) ............................................................................. แขวง/ตำ�บล ............................................................................................. เขต/อำ�เภอ ................................................................................ จังหวัด ................................................... รหัสไปรษณีย์ ........................... โทร ............................................................................................ แฟกซ์ ....................................................................................................... รหัสสมาชิก ...............................................................................

ประสงค์จะบอกรับนิตยสาร “ไฟฟ้าและอุตสาหกรรม” 1 ปี 6 ฉบับ 480 บาท 2 ปี 12 ฉบับ 960 บาท สมาชิกต่ออายุ 2 ปี 12 ฉบับ 800 บาท ตั้งแต่ฉบับที่ ............. เดือน .................................... ปี ..................... โดยส่งนิตยสารไปที่ ที่บ้าน ที่ท�ำ งาน พร้อมกันนี้ได้ส่งค่าสมาชิกเป็นจำ�นวนเงิน ................................. บาท (ตัวอักษร ..........................................................................................) เช็คธนาคาร ................................................................................. สาขา ................................................................................................. เช็คคร่อมสั่งจ่าย “บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จำ�กัด”

ธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “คุณวาสนา แซ่อึ้ง” ที่ทำ�การไปรษณีย์โทรเลขบางกอกน้อย โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จำ�กัด” ชื่อธนาคาร สาขา เลขที่บัญชี กรุงเทพ สะพานพระปิ่นเกล้า 162-0-74737-6 กสิกรไทย บางยี่ขัน 047-2-56333-5 ทหารไทย จรัญสนิทวงศ์ 020-2-27244-9 ไทยพาณิชย์ จรัญสนิทวงศ์ ซ.48 121-2-04080-0 หมายเหตุ กรุณาส่งแฟกซ์ หรือสำ�เนาใบเข้าบัญชี (Pay-in Slip) มาให้ บริษัทฯ พร้อมเขียนชื่อ-นามสกุล และรหัสสมาชิก (ถ้ามี) กำ�กับมาด้วย

บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จำ�กัด 471/3-4 อาคารพญาไทเพลส ถนนศรีอยุธย� แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. +66 (0)26 444 555, +66 (0)23 545 333 ต่อ 301 โทรสาร +66 (0)26 446 649, +66 (0)23 545 322


ELECTRICITY & INDUSTRY MAGAZINE

ปีที่ 27 ฉบับที่ 3 พฤษภาคม-มิถุนายน 2563 กรุณากรอกข้อมูลดังกล่าวให้ครบถ้วนเพือ่ การติดต่อจัดส่งข้อมูลกลับไปยังท่านต่อไป ชื่อ .............................................................................................. สกุล .............................................................................................................. ที่อยู่ ........................................................................................... แขวง/ตำ�บล ................................................................................................. เขต/อำ�เภอ ................................................................................. จังหวัด ................................................... รหัสไปรษณีย์ ............................... โทร ............................................................................................. แฟกซ์ ...........................................................................................................

ดัชนีสินค้าประจำ�เดือนพฤษภาคม - มิถุนายน พ.ศ. 2563 บริษัท

โทรศัพท์

โทรสาร

ABB CO., LTD. ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK INTERMACH LSIS

0-2665-1000 0-2036-0500 0-2036-0500 083-149-9994

0-2324-0502 -

MAXIMIZE INTEGRATED TECHNOLOGY CO., LTD. THAILAND LIGHTING FAIR

ประเภทสินค้า

อุปกรณ์ไฟฟ้า งานแสดงสินค้า งานแสดงสินค้า ผู้น�ำด้านระบบสั่งจ่ายและ ระบบจ�ำหน่ายไฟฟ้าครบวงจร 0-2194-8738-9 0-2003-2215 อุปกรณ์ไฟฟ้า

0-2664-6488 ต่อ 208, 211 RENT (THAILAND) CO., LTD. 0-2136-7104 REINHAUSEN (THAILAND) CO., LTD. 0-2130-6170 SAMWHA (THAILAND) CO., LTD. 0-3884-7571-3 ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) บจก. 0-2002-4395-97 เพาเวอร์ เรด บจก. 0-2300-5671-3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 0-2441-6059 รัตนโกสินทร์ ลีฟเพาเวอร์ บจก. 0-2300-5671-3 เวอร์ทัส บจก. 0-2876-2727-8 เอส เอ วี เมคคานิคคอล เซอร์วิสส์ แอนด์ 0-2702-0581-8 ซัพพลายส์ หจก. เอส.พี.วาย แอนด์ เคเบิ้ล บจก. 0-2434-0099

0-2130-6306 0-3884-7575 0-2002-4398 0-2300-5937 -

งานแสดงสินค้า เครื่องมือซ่อมในการดึงสายไฟ ระบบไฟฟ้า+ซ่อมบ�ำรุง MR OLTC จ�ำหน่าย ติดตั้งคาปาซิเตอร์ อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า -

0-2300-5937 อุปกรณ์ไฟฟ้า 0-2476-1711 Couplings 0-2377-5937 ติดตั้ง EOCR อิเล็กทรอนิกส์ โอเวอร์โหลดรีเลย์ ป้องกันมอเตอร์ไหม้ 0-2434-3251 อุปกรณ์ไฟฟ้า

หน้า ปกหลังนอก 29 28 ปกหน้า, ปกหน้าใน 6 8 27 ปกหลังใน 7 9 3 13 5 4 13 11




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook

Articles inside

Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.