Electricity & Industry Magazine Issue July - August 2020

»‚·Õè 27 ©ºÑº·Õè 4 ¡Ã¡®Ò¤Á - ÊÔ§ËÒ¤Á 2563

áÅÐ IEEE Power & Energy Society - Thailand

Energy Saving Solution (ESS) Smart Transformer Solution & IIoT

หม้อแปลงเจริญชัยที�ลดต้นทุนค่าไฟฟ้ าสูงสุดถึง 22.16 %

• ลดต้นทุนค่าไฟฟ้ าได้สงู สุดถึง 22.16 % • ยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในการบํารุงรักษา เครื�องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้ า • การตรวจสอบระบบไฟฟ้ าและสามารถบันทึก พลังงานแบบต่อเนื� องไร้ขีดจํากัด (work from home)

Smart City

Smart Building Smart Factory Smart Energy Smart Service

บริษัท เจริญชัยหมอแปลงไฟฟา จํากัด สํานักงานใหญ: 9 ซอยประชาอุทิศ 21 แขวงราษฎรบูรณะ เขตราษฎรบูรณะ กรุงเทพฯ 10140 โทรศัพท :02-409-6655 โทรสาร : 02-409-6613

Samwa_21.59x29.21cm.pdf

1

3/28/17

11:02 AM

L;b++O*@Yh;9Wg

­¯ ³³± ³±µµ 7 O ¯­µ© ¯®® Smart Solution Week www.smartsolutionweek.com

CONTENTS JULY-AUGUST

2020

14 IEEE POWER & ENERGY SOCIETY THAILAND (IEEE PES-THAILAND)

16 18 20 22 24

สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัท ผลิตไฟฟ้า จ�ำกัด (มหาชน) บริษัท ราช กรุ๊ป จ�ำกัด (มหาชน)

ARTICLE 30 “ทรู ดิจิทัล โรโบคอร์” โซลูชันหุ่นยนต์อัจฉริยะ

ครบวงจร ทรู ดิจิทัล โซลูชันส์ 32 ยูนเิ วอร์ซลั โรบอท ผูส้ ร้างนวัตกรรมหุน่ ยนต์โคบอท

ยูนิเวอร์ซัล โรบอท

SPECIAL SCOOP 36 แชมป์ Imagine the Future Scenarios

Competition 2020 Thailand สู่การแข่งขันออกแบบเมืองแห่งอนาคต กองบรรณาธิการ

INTERVIEW 38 วิศิษฎ์ เจียรนัย Trust...สร้างความเชื่อมั่น

ด้วยการสื่อสารที่ชัดเจน กองบรรณาธิการ

COVER STORY 41 CVM-A1500 Supply Quality Management

in Industry บริษัท เอวีร่า จ�ำกัด

SCOOP 45 หอผู้ป่วยวิกฤตระบบการหายใจบ้านปู

กุญแจส�ำคัญลดความเสี่ยง-เร่งการรักษาผู้ป่วย โควิด-19 กองบรรณาธิการ

SPECIAL AREA

บริษัท แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จ�ำกัด

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค

เทคโนโลยีสุญญากาศส�ำหรับคอนแทคเตอร์ บริษัท ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) จ�ำกัด

48 Network Power Meter

50 ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Easy Series ชไนเดอร์ อิเล็คทริค 52 Vacuum Technology for Contactor

IT ARTICLE 56 โควิด-19 ส่งผลการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกลดลง

การ์ทเนอร์ 58 การท�ำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติ : ระบบอัตโนมัติ

เป็นกุญแจส�ำคัญในการก�ำกับดูแลความปลอดภัย

และก่อให้เกิดวัฒนธรรมในการท�ำงานร่วมกัน

มาสสิโม เฟอรารี่ 62 PRODUCT 66 PR NEWS 68 MOVEMENT 70 INDUSTRY NEWS 72 IT NEWS

July-August 2020

EDITOR TALK

JULY-AUGUST

2020

สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่สถานการณ์โดยรวมของทั้งโลกไม่ดีขึ้นเลย แต่ละวันมีสถิติผู้ติดเชื้อ เพิม่ ขึน้ จ�ำนวนมาก และมีผเู้ สียชีวติ เพิม่ สูงขึน้ เช่นกัน ส�ำหรับประเทศไทยนัน้ ถึงแม้จะไม่มผี เู้ สียชีวติ มาหลายวันแล้ว แต่กต็ อ้ งเฝ้าระวังกันต่อไป รวมทัง้ ประชาชนเองก็ตอ้ งให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ แต่กย็ งั มีหลายๆ คนทีล่ ะเลย ไม่ตระหนักถึงความปลอดภัยร่วมกันในสังคม ขอให้ทกุ ท่าน ปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำของภาครัฐอย่างพร้อมเพรียงเพื่อความปลอดภัยของพวกเราทุกคน นิตยสารไฟฟ้าและอุตสาหกรรมฉบับนี้ ยังคงมีเนื้อหาที่น่าสนใจมากมายเช่นเดิม เมื่อเร็วๆ นี้ทางบอร์ดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง ประเทศไทย (กฟผ.) ได้เห็นชอบให้ “บุญญนิตย์ วงศ์รกั มิตร” เข้ารับต�ำแหน่งผูว้ า่ การ กฟผ. คนใหม่ โดยจะเริม่ ด�ำรงต�ำแหน่งอย่างเป็นทางการ ในช่วงปลายปีนี้...ขอแสดงความยินดีมา ณ โอกาสนี้ ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค (PEA) นัน้ ได้นำ� เสนอการพัฒนาโครงข่ายระบบสือ่ สารเพือ่ รองรับระบบงานของ PEA ในอนาคต เป็นการ เตรียมความพร้อมเพือ่ รองรับการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ซึง่ การพัฒนาและก้าวให้ทนั การเปลีย่ นแปลงอยูเ่ สมอ จึงเป็นสิง่ จ�ำเป็น ส�ำหรับการท�ำธุรกิจในยุคนี้ โดยได้พัฒนาโครงข่ายสื่อสารหลัก ‘IP Core Network’ ให้มีทั้งเสถียรภาพ ประสิทธิภาพสูง เพื่อทดแทนระบบ สือ่ สารเดิมทีไ่ ม่สามารถตอบโจทย์การท�ำงานของ PEA ได้อย่างเพียงพอ ทัง้ นี้ ยังเป็นการรองรับการปรับเปลีย่ นองค์กรสูก่ ารเป็น Digital Utility อีกด้วย บทความในฉบับนี้จะเป็นเรื่องของหุ่นยนต์ โดย ทรู ดิจิทัล โซลูชันส์ ได้เปิดตัว “ทรู ดิจิทัล โรโบคอร์” (True Digital RoboCore) ซึ่งเป็นโซลูชันหุ่นยนต์อัจฉริยะครบวงจรรายแรกในไทย ที่โดดเด่นด้วยสมองกลอันชาญฉลาดจากระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ สามารถสั่งการ และควบคุมหุ่นยนต์หลากประเภทหลายฟังก์ชัน โซลูชันนี้จะช่วยลดอุปสรรคให้ภาคธุรกิจไทยเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้มากกว่าที่เคย ส่วน ยูนิเวอร์ซัล โรบอท (Universal Robots) บริษัทชั้นน�ำด้านหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน หรือโคบอท ได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับบริษัท เบนช์มาร์ค อิเลคทรอนิคส์ (Benchmark Electronics) ในประเทศไทย ด้วยการติดตัง้ หุน่ ยนต์โคบอทส�ำหรับกระบวนการประกอบและทดสอบ ในโรงงานทีโ่ คราช เบนช์มาร์ค อิเลคทรอนิคส์ เป็นบริษทั ทีใ่ ห้บริการด้านวิศวกรรมและการผลิต พร้อมทัง้ โซลูชนั เทคโนโลยีครบวงจรส�ำหรับ โออีเอ็มทั่วโลก นอกจากนัน้ ในคอลัมน์ Interview ได้รว่ มพูดคุยกับ วิศษิ ฎ์ เจียรนัย กรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั เอวีรา่ จ�ำกัด ถึงแนวทางในการบริหาร จัดการบริษทั ให้อยูร่ อดในช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้ ซึง่ หลักๆ ก็คอื ใช้หลัก Trus เป็นการสร้างความเชือ่ มัน่ ให้แก่พนักงาน คูค่ า้ และลูกค้านัน่ เอง คอลัมน์ IT Article ฉบับนี้มี 2 เรื่องที่น่าสนใจ โดยบทความจากการ์ทเนอร์ที่รายงานถึงแนวโน้มการใช้จ่ายไอทีทั่วโลก พ.ศ. 2563 ทีค่ าดว่าจะลดลง 8% จาก พ.ศ. 2562 ซึง่ เป็นผลกระทบจากโควิด-19 และผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทัว่ โลกนัน่ เอง นอกจากนัน้ ยังมีเรือ่ งการท�ำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติ : ระบบอัตโนมัตเิ ป็นกุญแจส�ำคัญในการก�ำกับดูแลความปลอดภัย และก่อให้เกิดวัฒนธรรมในการ ท�ำงานร่วมกัน จากผู้บริหารของเร้ดแฮท พบกันใหม่ฉบับหน้า กิตติ วิสุทธิรัตนกุล

ที่ปรึกษา : รศ. ดร.สุธี อักษรกิตติ์ / ไกรสีห์ กรรณสูต / พรเทพ ธัญญพงศ์ชัย / เฉลิมชัย รัตนรักษ์ / ประเจิด สุขแก้ว / ผศ.พิชิต ล�ำยอง / วัลลภ เตียศิริ / พรชัย องค์วงศ์สกุล / ดร.กมล ตรรกบุตร / ศ. ดร.พีรศักดิ์ วรสุนทโรสถ / รศ. ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม / รศ. ดร.ปริทรรศน์ พันธุบรรยงก์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : กิตติ วิสุทธิรัตนกุล บรรณาธิการวิชาการ : ดร.สุรพล ด�ำรงกิตติกุล ผู้ช่วยบรรณาธิการ : นิภา กลิ่นโกสุม กองบรรณาธิการ : ธิดาวดี บุญสุยา / ทัศนีย์ เรืองติก / ณัฐชยา แก่นจันทร์ พิสูจน์อักษร : อ�ำพันธุ์ ไตรรัตน์ ศิลปกรรมรูปเล่ม / ศิลปกรรมโฆษณา : ชุติภา จริตพันธ์ / ศศิธร มไหสวริยะ ฝ่ายโฆษณา : ศิริภรณ์ กลิ่นขจร / มนัส ไชยเพส / กษิรา เหมบัณฑิตย์ / กัลยา ทรัพย์ภิรมณ์ / วีระวรรณ พุทธโอวาท เลขานุการฝ่ายโฆษณา : ชุติมณฑน์ บัวผัน ฝ่ายสมาชิก : ศิรินทิพย์ โยธาพันธ์ July-August 2020

บทความที่ปรากฏใน ELECTRICITY & INDUSTRY Magazine เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของ ผู้เขียน ไม่มีส่วนผูกพันกับบริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จ�ำกัด แต่อย่างใด หากบทความใดที่ผู้อ่านเห็นว่า มีการลอกเลียนหรือแอบอ้าง กรุณาแจ้งที่กองบรรณาธิการ ELECTRICITY & INDUSTRY Magazine บทความต่างๆ ที่ปรากฏในหนังสือได้ผ่านการตรวจทานอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้เกิดความถูกต้องและ สมบูรณ์ที่สุด หากเกิดความผิดพลาดจะมีการชี้แจงและแก้ไขต่อไป เจ้าของ

บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จ�ำกัด

471/3-4 อาคารพญาไทเพลส ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0-2354-5333 โทรสาร 0-2640-4260 http:// www.technologymedia.co.th เพลท-แยกสี : บริษัท อิมเมจิ้น กราฟิค จ�ำกัด พิมพ์ที่ : ห้างหุ้นส่วนจ�ำกัด รุ่งเรืองการพิมพ์

ระบบโครงข่ายไฟฟ้า

สมาร์ทกริด

IEEE Thailand Section และ IEEE Power & Energy Society-Thailand ร่วมกับ Smart Grid Research Unit (SGRU) คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ทกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จดั สัมมนาเชิงวิชาการ เรือ่ ง “ระบบโครงข่ายไฟฟ้าสมาร์ทกริด : แนวคิด ความทันสมัย การควบรวมเทคโนโลยีสารสนเทศ และเทคโนโลยีการด�ำเนินการ โครงสร้างพืน้ ฐาน การวิเคราะห์ การจัดการด้านข้อมูล มาตรฐานและการท�ำงานร่วมกันได้ บทเรียนที่ได้รับ” ในวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2563 ณ โรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ การสัมมนาครัง้ นีไ้ ด้รบั เกียรติจาก พรเทพ ธัญญพงศ์ชยั ทีป่ รึกษา IEEE Power & Energy Society-Thailand Chapter เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และวิทยากรจากมหาวิทยาลัย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค และหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง

July-August 2020

สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย

บอร์ด กฟผ. เห็นชอบ

“บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร”

เข้ารับตำ�แหน่ง ผู้ว่าการ กฟผ.

July-August 2020

บอร์ด กฟผ. มีมติเห็นชอบ บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร เข้ารับต�ำแหน่ง ผูว้ า่ การ กฟผ. คนที่ 15 พร้อมเตรียมเสนอ กระทรวงการคลังพิจารณาค่าตอบแทน ก่อนน�ำเสนอกระทรวง พลั ง งาน รองนายกรั ฐ มนตรี ท่ี ก� ำ กั บ ดู แ ลเพื่ อ น� ำ เสนอ คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป คณะกรรมการ กฟผ. ในการประชุมครั้งที่ 6/2563 วันศุกร์ท่ี 22 พฤษภาคม 2563 มีมติเห็นชอบให้ บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เข้ารับต�ำแหน่ง ผูว้ า่ การ กฟผ. ตามทีค่ ณะกรรมการสรรหาผูว้ า่ การเสนอสืบแทน วิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ซึ่งจะครบวาระการด�ำรงต�ำแหน่งในวันที่ 3 ธันวาคม 2563 ทั้งนี้ โดยขั้นตอนต่อไป กฟผ. จะน�ำเสนอ กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน รองนายกรัฐมนตรีทก่ี ำ� กับ ดูแล เพื่อน�ำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ต่อไป ทั้งนี้ บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร เกิดวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2506 อายุ 56 ปี จบการศึ ก ษาระดั บ ปริ ญ ญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ (วิศวกรรมเครือ่ งกล) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญาโท บริหารธุรกิจ (Energy Management) University of Montreal ประเทศแคนาดา อีกทั้งยังผ่านการอบรมในหลักสูตรส�ำคัญ มากมาย อาทิ หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร จากวิทยาลัย ป้ อ งกั น ราชอาณาจั ก ร สถาบั น วิ ช าการป้ อ งกั น ประเทศ หลักสูตรการก�ำกับดูแลกิจการส�ำหรับกรรมการและผู้บริหาร ระดับสูงขององค์กรก�ำกับดูแล (Regulator) รัฐวิสาหกิจและ องค์การมหาชน จากสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรวิทยาการ การจัดการส�ำหรับนักบริหารระดับสูง จากสถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ หลักสูตร Advanced Management Program, Harvard Business School จากสหรัฐอเมริกา หลักสูตร Leadership Succession Program จากมูลนิธิ สถาบันวิจยั และพัฒนาองค์กรภาครัฐ หลักสูตรทีจ่ ดั โดย สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษทั ไทย และหลักสูตร Director Certification Program (DCP) เป็นต้น ส� ำ หรั บ ประวั ติ ก ารท� ำ งานที่ ส� ำ คั ญ มี ดั ง นี้ พ.ศ. 2556-พ.ศ. 2558 ด�ำรงต�ำแหน่งผู้จัดการใหญ่ บริษทั อีแกท ไดมอนด์ เซอวิส จ�ำกัด พ.ศ. 2558-พ.ศ. 2559 ด�ำรงต�ำแหน่งผูช้ ว่ ยผูว้ า่ การบริหารธุรกิจ พ.ศ. 2559-พ.ศ. 2560 ด�ำรงต�ำแหน่งรองผูว้ า่ การกิจการสังคม พ.ศ. 2560-พ.ศ. 2561 ด�ำรงต�ำแหน่งรองผู้ว่าการพัฒนาธุรกิจ พ.ศ. 2561-ปัจจุบัน ด�ำรงต�ำแหน่งรองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

กฟผ. โชว์ชุดอุปกรณ์เติมแก๊สฉนวนไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่ อุปกรณ์เชื่อมต่อ พร้อมชุดวาล์วนิรภัย

1AB7-11 : SF6 Gas Filling Cart Set (Actual Picture)

ชุดเชื่อมต่ออุปกรณ์ (Coupling/Adapter)

(Coupling/Adapter Set with Safety Valve)

รถเคลื่อนย้ายถังแก๊สปรับระดับ (SF6 Gas Cylinder Cart)

มาตรวัดและ เครื่องควบคุมแรงดัน

(Pressure Gauges with SF6 Gas Regulator)

ชุดสายเติมแก๊ส (Filling Hose)

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ชิ้นส่วนของอุปกรณ์ภายในสถานี ไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดย ระบุว่าเป็นรถขนผักนั้น กฟผ. ขอชี้แจงว่า อุปกรณ์ดังกล่าวคือ ชุดอุปกรณ์เติมแก๊สฉนวนไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่ (SF6 Gas Filling Cart Set) ที่ใช้กับสถานีไฟฟ้าแรงสูงที่ระดับแรงดันไฟฟ้า 500,000 โวลต์ ของ กฟผ.

ส�ำหรับชุดอุปกรณ์เติมแก๊สฉนวนไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่ของ กฟผ. ประกอบด้วยอุปกรณ์ 5 อย่าง คือ 1. รถเคลือ่ นย้ายถังแก๊สปรับระดับ (SF6 Gas Cylinder Cart)

เป็นรถเคลือ่ นย้ายทีร่ บั น�ำ้ หนักถังแก๊สได้ถงึ 500 กิโลกรัม

และสามารถปรับระดับสูง-ต�ำ่ ได้ 2. ชุดเชื่อมต่ออุปกรณ์ (Coupling/Adapter) ใช้ปรับเปลี่ยน

ชุดเชื่อมต่อจากมาตรฐานผู้ผลิตประเทศญี่ปุ่นให้เป็น

มาตรฐานสากล

3. ชุดสายเติมแก๊ส (Filling Hose) คุณสมบัติทนแรงดันสูง

ป้องกันความชื้น 4. มาตรวัดแรงดันแก๊สและเครื่องควบคุมแรงดัน (Pressure

Gauges with SF6 Regulator) สามารถปรับและควบคุม

แรงดันแก๊สเพื่อเติมแก๊สเข้ากับอุปกรณ์ 5. อุปกรณ์เชื่อมต่อกับชุดวาล์วนิรภัย (Coupling/Adapter

Set with Safety Valve) เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อระหว่างชุด

เติมแก๊สเข้ากับอุปกรณ์ไฟฟ้า 500,000 โวลต์ มีคณ ุ สมบัติ

ทนแก๊สแรงดันสูง โดยมีระบบป้องกันการรัว่ ไหลเพือ่ ความ

ปลอดภัยต่อคนและอุปกรณ์ ชุดอุปกรณ์ดงั กล่าวถือเป็นอุปกรณ์สำ� คัญส�ำหรับสถานีไฟฟ้า แรงสูงทีท่ นั สมัยของ กฟผ. ซึง่ เป็นสถานีไฟฟ้าแรงสูงทีถ่ กู ออกแบบ ให้อยูภ่ ายในอาคาร ลดการใช้พน้ื ทีใ่ ห้มขี นาดเล็กลง และลดผลกระทบ ต่อสภาพแวดล้อม โดยใช้แก๊สเป็นฉนวนไฟฟ้าป้องกันการลัดวงจร เมือ่ แรงดันแก๊สฉนวนไฟฟ้าต�ำ่ ชุดอุปกรณ์เติมแก๊สฉนวนไฟฟ้าแบบ เคลือ่ นทีจ่ ะเติมแก๊สเข้ากับอุปกรณ์ของสถานีไฟฟ้าให้กลับสูแ่ รงดัน ปกติ สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ อุปกรณ์เติมแก๊สฉนวนไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่น�ำเข้ามา พร้อมกับสถานีไฟฟ้าแรงสูง GIS จากประเทศญีป่ นุ่ ชุดละประมาณ 152,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่รวมค่าอุปกรณ์ ค่าอากรน�ำเข้า ภาษี มูลค่าเพิ่ม และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ July-August 2020

สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย

การปฐมพยาบาล

การช่วยเหลือ

ผู้ประสบภัย จากไฟฟ้า

ผู้ท่ีจะช่วยเหลือผู้ท่ีประสบอันตรายจากไฟฟ้าต้องรู้จักวิธีท่ีถูกต้อง ในการช่วยเหลือดังนี้ อย่าใช้มือเปล่าแตะต้องตัวผู้ที่ติดอยู่กับกระแสไฟฟ้าหรือตัวน�ำที่เป็น ต้นเหตุให้เกิดอันตรายเป็นอันขาด เพื่อป้องกันมิให้ถูกกระแสไฟฟ้า

จนได้รับอันตรายไปด้วยอีกผู้หนึ่ง รีบหาทางตัดกระแสไฟฟ้าโดยฉับไว จะด้วยการถอดปลั๊กหรืออ้าสวิตช์ ออกก็ได้ ใช้วัตถุท่ีไม่เป็นสื่อไฟฟ้า เช่น ผ้า ไม้แห้ง เชือกที่แห้ง สายยาง หรือ พลาสติกที่แห้งสนิท ถุงมือยางหรือผ้าแห้งพันมือให้หนา แล้วจึงผลัก

หรือฉุดตัวผู้ประสบอันตรายให้หลุดออกมาโดยเร็ว เขี่ยสายไฟให้หลุด

ออกจากตัวผู้ประสบอันตราย หากเป็นสายไฟฟ้าแรงสูง ให้พยายามหลีกเลี่ยงแล้วรีบแจ้งการไฟฟ้า นครหลวงให้เร็วที่สุด (ดูข้อควรระวังจากสายไฟฟ้าแรงสูงขาด) อย่าลงไปในน�ำ้ กรณีทม่ี กี ระแสไฟฟ้าอยูใ่ นบริเวณทีม่ นี ำ้� ขัง ต้องหาทาง เขีย่ สายไฟฟ้าออกให้พน้ หรือตัดกระแสไฟฟ้าก่อน จึงค่อยไปช่วยผูป้ ระสบ

อันตราย การช่วยผู้ประสบอันตรายจากไฟฟ้าดังที่กล่าวมาแล้ว จ�ำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องกระท�ำด้วยความรวดเร็ว รอบคอบ และระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย

1.

2.

3.

4.

5.

July-August 2020

เมื่อได้ท�ำการช่วยเหลือผู้ประสบอันตราย มาได้แล้ว จะด้วยวิธีใดก็ตาม หากปรากฏว่า ผู้เคราะห์ร้ายที่ช่วยออกมานั้นหมดสติไม่รู้สึกตัว หัวใจหยุดเต้นและไม่หายใจ ซึง่ สังเกตได้จากอาการ ทีเ่ กิดขึน้ ดังนี้ คือ ริมฝีปากเขียว สีหน้าซีดเขียวคล�า้ ทรวงอกเคลื่อนไหวน้อยมาก หรือไม่เคลื่อนไหว ชี พ จรบริ เวณคอเต้ น ช้ า และเบามาก ถ้ า หั ว ใจ หยุดเต้นจะคล�ำชีพจรไม่พบ ม่านตาขยายค้าง ไม่หดเล็กลง หมดสติไม่รู้สึกตัว ต้องรีบท�ำการ ปฐมพยาบาลทันที เพื่อให้ปอดและหัวใจท�ำงาน โดยวิธีการผายปอดด้วยการให้ลมทางปาก หรือ ทีเ่ รียกว่า “เป่าปาก” ร่วมกับการนวดหัวใจ ก่อนน�า ผู้ป่วยส่งแพทย์

การผายปอดโดยวิธีให้ลมทางปาก

ให้ผู้ป่วยนอนราบ จัดท่าที่เหมาะสมเพื่อ เปิดทางอากาศเข้าสู่ปอด โดยผู้ปฐมพยาบาล อยูท่ างด้านข้างขวาหรือข้างซ้ายบริเวณศีรษะของ ผู้ป่วย ใช้มือข้างหนึ่งดึงคางผู้ป่วยมาข้างหน้า พร้อมกับใช้มอื อีกข้างหนึง่ ดันหน้าผากไปทางหลัง เป็นวิธปี อ้ งกันไม่ให้ลนิ้ ตกไปอุดปิดทางเดินหายใจ แต่ต้องระวังไม่ให้นิ้วมือที่ดึงคางนั้นกดลึกลงไป ในส่วนเนื้อใต้คาง เพราะจะท�ำให้อุดกั้นทางเดิน หายใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในเด็กเล็กๆ ส�ำหรับ เด็ ก แรกเกิ ด ไม่ ค วรนอนหงายคอมากเกิ น ไป เพราะแทนที่จะเปิดทางเดินหายใจ อาจจะท�ำให้ หลอดลมแฟบและอุดตันทางเดินหายใจได้ สอด นิ้วหัวแม่มือเข้าไปในปากจนปากอ้า ล้วงสิ่งของ ในปากที่จะขวางทางเดินหายใจออกให้หมด เช่น ฟันปลอม เศษอาหาร เป็นต้น ผู้ปฐมพยาบาล อ้าปากให้กว้าง หายใจเข้าเต็มที่ มือข้างหนึง่ บีบจมูก ผูป้ ว่ ยให้แน่นสนิท ในขณะทีม่ อื อีกข้างยังคงดึงคาง ผู้ป่วยมาข้างหน้าแล้วจึงประกบปิดปากผู้ป่วย พร้อมเป่าลมเข้าไป ท�ำในลักษณะนี้เป็นจังหวะ 12-15 ครั้งต่อนาที ขณะท�ำการเป่าปาก ตาต้อง เหลือบดูด้วยว่าหน้าอกผู้ป่วยมีการขยายขึ้นลง หรือไม่ หากไม่มกี ารกระเพือ่ มขึน้ ลง อาจเป็นเพราะ

การไฟฟ้านครหลวง

การให้โลหิตไหลเวียนโดยวิธีนวดหัวใจ

เมื่อพบว่าหัวใจผู้ป่วยหยุดเต้นโดยทราบได้จากการฟังเสียงหัวใจเต้น และการจับชีพจรดู การเต้นของหลอดเลือดแดงที่คอ ที่ขาหนีบ ที่ข้อพับแขน หรือที่ข้อมือ ต้องรีบท�ำการช่วยให้หัวใจ กลับเต้นทันที ด้วยการนวดหัวใจดังวิธีการต่อไปนี้ ให้ผปู้ ว่ ยนอนราบกับพืน้ แข็งๆ หรือใช้ไม้กระดานรองทีห่ ลังของผูป้ ว่ ย ผูป้ ฐมพยาบาลหรือ ผูป้ ฏิบตั คิ กุ เข่าลงข้างขวาหรือขางซ้ายบริเวณหน้าอกผูป้ ว่ ย คล�ำหาส่วนล่างสุดของกระดูกอก

ทีต่ อ่ กับกระดูกซีโ่ ครง โดยใช้นว้ิ สัมผัสชายโครงไล่ขน้ึ มา (หากคุกเข่าข้างขวาใช้มอื ขวาคล�ำหา

กระดูกอก หากคุกเข่าข้างซ้ายใช้มือซ้าย) วางนิ้วชี้และนิ้วกลางตรงต�ำแหน่งที่กระดูกซี่โครงต่อกับกระดูกอกส่วนล่างสุด วางสันมือ อีกข้างบนต�ำแหน่งถัดจากนิ้วชี้และนิ้วกลางนั้น ซึ่งต�ำแหน่งของสันมือที่วางอยู่บนกระดูก

หน้าอกนี้จะเป็นต�ำแหน่งที่ถูกต้องในการนวดหัวใจต่อไป วางมืออีกข้างทับลงบนหลังมือที่วางในต�ำแหน่งที่ถูกต้อง แล้วเหยียดนิ้วมือตรงแล้วเกี่ยว นิว้ มือ 2 ข้างเข้าด้วยกัน แล้วเหยียดแขนตรงโน้มตัวตัง้ ฉากกับหน้าอกผูป้ ว่ ย ทิง้ น�ำ้ หนักลง

บนแขนขณะกดกับหน้าอกผูป้ ว่ ย ให้กระดูกลดระดับลง 1.5-2 นิว้ เมือ่ กดสุดให้ผอ่ นมือขึน้

โดยทีต่ ำ� แหน่งมือไม่ตอ้ งเลือ่ นไปจากจุดทีก่ ำ� หนด ขณะกดหน้าอกนวดหัวใจ ห้ามใช้นว้ิ มือ

กดลงบนกระดูกซี่โครงผู้ป่วย เพื่อให้ช่วงเวลาการกดแต่ละครั้งคงที่ และจังหวะการสูบฉีดเลือดออกจากหัวใจพอเหมาะ กับที่ร่างกายต้องการ ใช้วิธีนับจ�ำนวนครั้งที่กด ดังนี้ หนึ่ง และสอง และสาม และสี่ และ

ห้า...โดยกดทุกครั้งที่นับตัวเลข และปล่อยตอนค�ำว่าและ สลับกันไป ให้ได้อัตราการกด

ประมาณ 80-100 ครั้งต่อนาที ถ้าผู้ปฏิบัติมีคนเดียว ให้นวดหัวใจ 15 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก 2 ครั้ง ท�ำสลับกันเช่นนี้ จนครบ 4 รอบ แล้วให้ตรวจชีพจรและการหายใจ หากคล�ำชีพจรต้องนวดหัวใจต่อ แต่ถ้า

คล�ำชีพจรได้และยังไม่หายใจ ต้องเป่าปากต่อไปอย่างเดียว ถ้ามีผู้ปฏิบัติ 2 คน ให้นวดหัวใจ 5 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก 1 ครั้ง โดยขณะที่เป่าปาก อีกคนหนึ่งต้องหยุดนวดหัวใจ ในเด็กแรกเกิดหรือเด็กอ่อน การนวดหัวใจใช้เพียงนิว้ หัวแม่มอื กดกลางกระดูกหน้าอกให้ได้ อัตราเร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที โดยใช้นิ้วมือโอบรอบทรวงอก 2 ข้าง แล้วใช้หัวแม่มือกด

1.

2.

3.

4.

5.

6.

7. ท่านอนไม่ดหี รือมีสิ่งกีดขวาง ทางเดินหายใจ ในรายทีผ่ ปู้ ว่ ย อ้าปากไม่ได้ หรือด้วยสาเหตุ ใดที่ ไ ม่ ส ามารถเป่ า ปากได้ ให้ เ ป่ า ลมเข้ า ทางจมู ก แทน โดยใช้วิธีปฏิบัติท�ำนองเดียว กับการเป่าปาก ในรายเด็กแรกเกิดหรือ เด็กเล็ก ใช้วิธีเป่าลมเข้าทาง ปากและจมูกไปพร้อมกัน

“ในการนวดหัวใจตามทีก่ ล่าวมาทัง้ หมดนี้ ต้องท�ำอย่างระมัดระวังและถูกวิธี ถ้าท�ำไม่ถกู วิธี หรือรุนแรง อาจเกิดอันตรายได้ เช่น กระดูกซี่โครงหัก ตับและม้ามแตก โดยเฉพาะในเด็กเล็กยิ่ง ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ” “การเป่าปากเพื่อช่วยหายใจและการนวดหัวใจเพื่อช่วยในการไหลเวียนเลือดนี้ ต้องท�ำให้ สัมพันธ์กัน แต่อย่าท�ำพร้อมกันในขณะเดียวกัน เพราะจะไม่ได้ผลทั้ง 2 อย่าง” “เมือ่ ช่วยหายใจและนวดหัวใจอย่างได้ผลแล้ว 1-2 นาที ให้สงั เกตว่าผูป้ ว่ ยมีหวั ใจเต้นได้เอง อย่างต่อเนื่องหรือไม่ สีผิว การหายใจ และความรู้สึกตัวดีขึ้นหรือไม่ ม่านตาหดเล็กลงหรือไม่ หากผู้ป่วยมีอาการดังกล่าว แสดงว่าการปฐมพยาบาลได้ผล” July-August 2020

สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย

การไม่ยอมเปลีย่ นแปลง ก็เหมือนรอเวลา ให้จดุ จบเดินทางมาถึงอย่างช้าๆ โดยเฉพาะใน ยุคของเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ซึง่ อาจท�ำให้สง่ิ ทีเ่ คย ตอบสนองความต้องการนัน้ ไม่ได้เป็นทีต่ อ้ งการ อีกแล้ว การพัฒนาและก้าวให้ทนั การเปลีย่ นแปลง อยู่เสมอจึงเป็นสิ่งจ�ำเป็นส�ำหรับการท�ำธุรกิจ ในยุคนี้ ดังนั้นเพื่อให้การท�ำงานตอบสนองต่อ ความเปลีย่ นแปลงในด้านต่างๆ ทัง้ ธุรกิจพลังงาน ระบบการท�ำงานทีม่ คี วามซับซ้อนขึน้ ตลอดจน รองรับธุรกิจใหม่และธุรกิจเสริม การไฟฟ้าส่วน ภูมิภาค (PEA) จึงต้องพัฒนาโครงข่ายสื่อสาร หลัก ‘IP Core Network’ ให้มีทั้งเสถียรภาพ ประสิทธิภาพสูง เพือ่ ทดแทนระบบสือ่ สารเดิม ที่ไม่สามารถตอบโจทย์การท�ำงานของ PEA ได้อย่างเพียงพอ ทั้งนี้ ยังเป็นการรองรับการ ปรับเปลี่ยนองค์กรสู่การเป็น Digital Utility อีกด้วย

เทคโนโลยี SDH จุดเริ่มต้นโครงข่าย สื่อสารอันทันสมัย

พ.ศ. 2545 PEA เริ่ ม ติ ด ตั้ ง อุ ป กรณ์ และวางโครงข่ายสือ่ สารเคเบิลใยแก้วน�ำแสง เพือ่ รองรับโครงการควบคุมการสัง่ จ่ายไฟฟ้า (SCADA) พื้นที่ภาคกลาง 5 แห่ง พ.ศ. 2546 ใช้ เ ทคโนโลยี SDH หรื อ Synchronous Digital Hierarchy เพื่อรองรับ การสื่อสารระหว่างสถานีไฟฟ้าและส�ำนักงาน การไฟฟ้าไปยังศูนย์สง่ั การระบบไฟฟ้า เนือ่ งจากมี ความเหมาะสมกับระบบควบคุมทีต่ อ้ งการสัง่ งาน ในลักษณะ Real-Time และมีชอ่ งสัญญาณเฉพาะ ทั้งยังถูกใช้เชื่อมโยงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ของ PEA เข้าด้วยกัน รวมถึงระบบสือ่ สารทางภาพ และเสียงด้วย พ.ศ. 2550 PEA ได้ขยายโครงข่ายระบบ สือ่ สารผ่านเคเบิลใยแก้วน�ำแสงไปยังภูมภิ าคอืน่ ๆ จนครอบคลุมทั้งประเทศ ท�ำให้โครงข่ายระบบ สื่ อ สารครอบคลุ ม ทั่ ว ประเทศ โดยยั ง คงใช้ โครงข่ายหลัก SDH เหมือนเดิม แต่เป็นรุน่ ทีม่ คี วาม ทันสมัยมากขึน้ จนโครงข่ายครอบคลุมสถานีไฟฟ้า ครบถ้วนทุกสถานี และครอบคลุมส�ำนักงานการ ไฟฟ้า ชัน้ 1, 2 และ 3 และบางส่วนของการไฟฟ้า ชัน้ 4 ด้วยโครงข่ายเคเบิลใยแก้วน�ำแสงความยาว กว่า 20,000 กิโลเมตร และอุปกรณ์โนด (Node)

July-August 2020

IP CORE NETWORK พัฒนาโครงข่ายระบบสื่อสาร เพื่อรองรับระบบงานของ PEA ในอนาคต

SDH มากกว่า 1,000 โนด หรือ 1,000 แห่ง พ.ศ. 2556 SDH ใช้งานมาครบ 10 ปี ซึ่ง PEA ตั้งใจจะไม่ลงทุนขยายโนด ของ SDH ซึ่งหมายถึงการขยายจุด แต่ยังมีการปรับปรุง SDH ในบางจุดที่ยังมีความ จ�ำเป็น เพื่อให้สามารถใช้งานโครงข่ายได้ถึง พ.ศ. 2565 ก่อนจะทยอยเปลี่ยนให้เป็น โครงข่าย IP Network ทั้งหมด

จากยุค SDH Network สู่ IP Core Network

โครงข่าย SDH ในระยะเริ่มต้นถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับระบบควบคุม และสั่งการสถานีไฟฟ้าเป็นหลัก แต่ทว่าในช่วงหลังๆ 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ ปริมาณการ ใช้งานรับ-ส่งข้อมูลและติดต่อสือ่ สารผ่านโครงข่ายสือ่ สารของ PEA เพิม่ ขึน้ อย่างมาก และ SDH ไม่สามารถรองรับการท�ำงานได้เพียงพอ PEA จึงต้องปรับเปลีย่ นโครงข่าย สื่อสารหลักมาเป็น IP เพื่อให้รองรับกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพือ่ เชือ่ มโยงระบบสารสนเทศและระบบงานต่างๆ ของ PEA เช่น PEA Wi-Fi ระบบ Internet/Intranet ระบบ SAP ระบบสารสนเทศภูมศิ าสตร์ GIS ระบบ Voice Over IP ระบบ Video Conference ระบบควบคุมการจ่ายไฟ หรือ SCADA/DMS ระบบสือ่ สาร ภายในสถานีไฟฟ้า ระบบ Digital Radio ระบบโทรศัพท์ภายใน ฯลฯ

ประโยชน์ที่ได้รบ ั จากการเปลี่ยนมาใช้ IP Core Network

• เป็นการใช้อปุ กรณ์และเทคโนโลยีใหม่ซงึ่ มีความมัน่ คงของโครงข่ายมากกว่า ราคาอุปกรณ์ถกู กว่า โครงข่ายเดิมทันสมัยกว่า รองรับการสือ่ สารความเร็วสูง เหมาะสม กับการใช้งานของพนักงาน PEA ในปัจจุบันและอนาคต • รองรับปริมาณการรับ-ส่งข้อมูลที่มีการขยายตัวและมีความซับซ้อนได้ดีขึ้น เนื่องจากมีการออกแบบโครงข่ายและการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ จึงท�ำให้ พนักงาน PEA สื่อสารได้สะดวกไม่ติดขัดและรวดเร็ว • การสื่อสารของ PEA ทั้ง Data Center ระบบ SCADA ใหม่ รวมถึงระบบ งานใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ Smart Grid หรือสถานีไฟฟ้า IEC 61850 จะรับ-ส่งข้อมูลใน

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

โครงข่าย IP Core Network เป็นการปรับกระบวนการสื่อสารให้ ทันสมัยทั้งระบบ • รองรับการท�ำงานของสถานีไฟฟ้าที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อให้ บริการด้านพลังงานไฟฟ้าได้ดี ทันสมัย เหมาะสมต่อการใช้ชวี ติ ของ ผู้ใช้ไฟฟ้ายิ่งขึ้น

IP Core Network โครงข่ายสื่อสารที่ตอบโจทย์ การทำ�งานได้มากกว่า

ตามแผนงานการพัฒนาระบบ ศูนย์สง่ั การการจ่ายไฟ (SCADA) ระบบ Smart Grid และระบบสารสนเทศของส�ำนักงาน PEA ท�ำให้ ต้องใช้โครงข่ายระบบสือ่ สารทีม่ คี วามเร็วสูงครอบคลุม และเป็นแบบ IP เพิ่มขึ้นอย่างมาก PEA จึงท�ำการปรับเปลี่ยนสู่โครงข่ายสื่อสาร ใหม่ คือ IP Network ซึง่ ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ Core Network (โครงข่ายหลัก) และ Access Network (โครงข่ายย่อย) ซึ่งเริ่มต้น พัฒนาและปรับปรุงตั้งแต่ พ.ศ. 2556 โดยให้ระบบที่เชื่อมต่ออยู่ ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด การเปลีย่ นแปลงสู่ IP Network ตาม Roadmap การพัฒนา โครงข่ายสื่อสารในระยะแรก เป็นการติดตั้ง Core Router จ�ำนวน 24 โนด หรือ 24 แห่งในการไฟฟ้าเขตทั้ง 12 เขต ส�ำนักงานใหญ่ และระหว่างทางอีก 12 แห่ง ด้วยความเร็ว 10 กิกะบิต (Gigabit) ต่อวินาที โดยมี Core Router เป็นอุปกรณ์ในการรับ-ส่งสัญญาณ ที่จะส่งผ่านทางเคเบิลใยแก้วน�ำแสง (Fiber Optic Cable) แต่ด้วย ความที่ Core Router อยู่ไกลกัน จึงต้องอาศัยเทคโนโลยี DWDM เป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณระยะไกลจาก Core Router ตัวหนึง่ ถึงอีกตัวหนึง่ เนือ่ งจากความสามารถการส่งสัญญาณของ Router ถึง Router มีระยะทางจ�ำกัดได้เพียง 40-60 กิโลเมตร แต่ถา้ ใช้เทคโนโลยี

โครงข่าย DWDM เข้ามาช่วยจะสามารถส่งสัญญาณได้ไกลนับพัน กิโลเมตรเลยทีเดียว การท�ำงานร่วมกันของโครงข่าย Core Router และ DWDM จึงเรียกว่า ‘IP Core Network’ อันจะเป็นโครงข่าย หลักของ PEA ที่เปรียบได้กับการสร้างถนนมอเตอร์เวย์ท่ีตัดผ่าน ไปยังเมืองใหญ่ๆ ที่รองรับความเร็วสูง ช่วยแก้ปัญหาการจราจร หรือความหนาแน่นของระบบและแอปพลิเคชันต่างๆ ทีจ่ ะเข้ามาวิง่ อยูบ่ นโครงข่ายเดียวกันนีเ่ อง ขณะเดียวกัน PEA ได้ขยายโครงข่าย เคเบิลใยแก้วน�ำแสงออกไปอย่างต่อเนือ่ ง ซึง่ ปัจจุบนั มีระยะทางกว่า 38,000 กิโลเมตร ครอบคลุมทัว่ ทุกภูมภิ าคของประเทศไทย ทีจ่ ะให้ การท�ำงานทุกระบบของ PEA ต่อเนือ่ ง ไม่สะดุด จึงมีความมัน่ คงสูง และสามารถรองรับรูปแบบการท�ำงานใหม่ๆ ในอนาคต หาก Core Router ทั้ง 24 โนด ส�ำคัญในภาคเหนือ กลาง อีสาน ใต้ เปรียบเป็นถนนมอเตอร์เวย์ที่จะให้รถหรือข้อมูลผ่านได้ สะดวกและไม่สะดุด การติดตั้งโครงข่าย ‘IP Access Network’ ส�ำหรับเชื่อมโยงข้อมูลภายในภูมิภาค ภายในการไฟฟ้าและเขต ก็เหมือนการสร้างทาง ถนนสายย่อย ทางลอด เพือ่ เชือ่ มระบบต่างๆ ให้สามารถท�ำงานไปด้วยกันได้ อย่างไรก็ตาม ในระยะเวลาการพัฒนา IP Core Network ช่วงแรก โครงข่าย SDH จะยังถูกอัปเกรดให้รองรับการท�ำงานอย่าง เต็มที่จนกว่าจะถูกแทนที่ด้วย IP Network ทั้งหมดใน พ.ศ. 2565 แม้ว่าการขยายโครงข่ายครั้งนี้เป้าหมายหลักจะเกี่ยวข้อง กับระบบภายในองค์กร เพื่อให้ระบบการท�ำงานมีความมั่นคงและ มีประสิทธิภาพ แต่ปลายทางก็ยงั คงเป็นการพัฒนาเพือ่ มุง่ มัน่ ให้บริการ พลังงานไฟฟ้า และธุรกิจเกีย่ วเนือ่ งอย่างมีประสิทธิภาพ เชือ่ ถือได้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืน

July-August 2020

สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย

เอ็กโก กรุ๊ป ประกาศกำ�ไรจาก การดำ�เนินงานไตรมาส 1/2563 และ 3 โครงการก่อสร้าง ก้าวหน้าตามแผน พร้อม COD พ.ศ. 2563-พ.ศ. 2565

บริษทั ผลิตไฟฟ้า จ�ำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุป๊ ประกาศ ก�ำไรจากการด�ำเนินงานไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2563 จ�ำนวน 2,357 ล้าน บาท เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจตามแผนการบริหารความต่อเนื่องทาง ธุรกิจ ย�้ำความมั่นใจด�ำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ตลอดห่วงโซ่ธรุ กิจ โดยโครงการก่อสร้าง 3 โครงการ มีความก้าวหน้า ตามแผนงาน พร้อมเดินเครือ่ งเชิงพาณิชย์ตง้ั แต่ พ.ศ. 2563-พ.ศ. 2565

EGCO Group Posts Operating Profit for Q1/2020 and 3 Project Progress Ensures Commercial Operation in 2020-2022 Electricity Generating Public Company Limited or EGCO Group reported Bt2,357 million operating profit for the first quarter in 2020 and continued to operate its business according to the business continuity plan (BCP). The Company is strongly confident in its ability to operate its business smoothly and maintain high efficiency throughout the entire supply chain and in the progress of the construction of three major projects, which are expected to start commercial operation from 2020-2022 as planned.

Dr.Gumpanart Bumroonggit, Senior Executive Vice President – Strategy & Asset Management and Acting President of EGCO Group, disclosed that the Company’s operating profit (not including the effects of foreign exchange, deferred income tax, impairment of assets, valuation of July-August 2020

ดร.กัมปนาท บ�ำรุงกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ รักษาการกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยผลก�ำไรจากการด�ำเนินงาน ในไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2563 ว่า บริษทั ฯ มีกำ� ไรจากการด�ำเนินงาน (ไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลีย่ น ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี การด้อยค่าของสินทรัพย์ การวัดมูลค่าเครือ่ งมือทางการเงิน และ การรับรู้รายได้แบบสัญญาเช่า) จ�ำนวน 2,357 ล้านบาท ลดลง จ�ำนวน 558 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับ ไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2562 โดยมีสาเหตุหลักจากผลประกอบการ ที่ลดลงของโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี เคซอน และไซยะบุรี “แม้วิกฤตโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อการด�ำเนินงานใน ระยะสัน้ ของบริษทั ฯ บ้าง ได้แก่ การสัง่ การผลิตไฟฟ้า (Dispatch) น้อยลง ซึง่ แปรผันตามความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศทีล่ ดลง

financial instruments and lease income) was Bt2,357 million, a decrease of Bt558 million or 19% compared to the same period in 2019, mainly due to weaker performance of BLCP, Quezon and Xayaburi power plants.

“The outbreak of COVID-19 pandemic has a temporary impact on our operations.” said Dr.Gumpanart. “We have observed reduced dispatch due to lower domestic power consumption and the postponement of maintenance service at some overseas power plants to the second half of this year due to limitation on travel and equipment transport. In general, EGCO Group continues to operate our business seamlessly with high efficiency throughout the supply chain, thanks to our BCP prepared for both EGCO Group’s headquarters and all our power plants. We have regularly reviewed and updated our BCP to best respond to the rapidly changing environment.

Until today, all our 28 power plants in Thailand and overseas have been continuously operating and seamlessly supplying electricity to the distribution system. The construction of our projects and new investment projects have all satisfactorily made progress as planned.”

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จ�ำกัด (มหาชน)

และการเลือ่ นแผนการบ�ำรุงรักษาโรงไฟฟ้าบางแห่งในต่างประเทศ ออกไปเป็นช่วงครึง่ ปีหลังของ พ.ศ. 2563 เนือ่ งจากข้อจ�ำกัดเรือ่ ง การเดินทางและการขนส่งอุปกรณ์ซอ่ มบ�ำรุงต่างๆ แต่ในภาพรวม การด�ำเนินงาน เอ็กโก กรุป๊ ยังสามารถด�ำเนินธุรกิจอย่างต่อเนือ่ ง และมีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่ธรุ กิจ ตามแผนการบริหารความ ต่อเนือ่ งทางธุรกิจ (Business Continuity Plan : BCP) ทีไ่ ด้จดั ท�า ทั้งส�ำหรับส�ำนักงานใหญ่และโรงไฟฟ้าต่างๆ ในกลุ่มเอ็กโก โดย มีการทบทวนแผน BCP ให้สอดคล้องกับสถานการณ์อยู่เสมอ และจนถึงปัจจุบัน โรงไฟฟ้า 28 แห่ง ในกลุ่มเอ็กโก ทั้งในและ ต่างประเทศ ยังคงเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ได้อย่างราบรืน่ รวมถึงการก่อสร้างโครงการต่างๆ และการลงทุน ใหม่มคี วามก้าวหน้าและเป็นไปตามแผนงาน” ดร.กัมปนาท กล่าว ความส�ำเร็จที่สำ� คัญในช่วงไตรมาสที่ 1 จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ ความก้าวหน้าในโครงการทีอ่ ยูร่ ะหว่างก่อสร้าง ปัจจุบนั เอ็กโก กรุป๊ มีโครงการทีอ่ ยูร่ ะหว่างก่อสร้าง 3 โครงการ ประกอบ ด้วย โครงการโรงไฟฟ้า 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าเซลล์เชือ้ เพลิง “กังดง” ในเกาหลีใต้ ด�ำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 91.55 ซึง่ คาดว่าจะเริม่ เดินเครือ่ งเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 4 พ.ศ. 2563 โรงไฟฟ้าพลังน�้ำ “น�ำ้ เทิน 1” ใน สปป.ลาว ด�ำเนินการก่อสร้าง แล้วเสร็จร้อยละ 69.23 ซึ่งคาดว่าจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ใน ไตรมาสที่ 2 พ.ศ. 2565 นอกจากนีย้ งั มีโครงการธุรกิจพลังงานที่

The major achievements from the first quarter this year until today include solid progress of the three projects under construction. The Gangdong fuel cell project in South Korea has already been 91.55% completed and is expected to start commercial operation in the 4th quarter of 2020. The Nam Theun 1 hydro power project in Lao PDR has achieved 69.23% completion and is expected to start commercial operation in the 2nd quarter of 2022. The third is the Oil Pipeline Extension to Northeastern Region project, which is an energy-related business, has been 31.32%

เกีย่ วเนือ่ ง 1 โครงการ ได้แก่ โครงการขยายระบบขนส่งน�ำ้ มันทางท่อ ไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด�ำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 31.32 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มด�ำเนินการในไตรมาสที่ 4 พ.ศ. 2564 นอกจากนั้น ด้านการลงทุน เอ็กโก กรุ๊ป ได้ซื้อหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 25 ในบริษัท หยุนหลิน โฮลดิ้ง จีเอ็มบีเอช จ�ำกัด ซึ่งถือหุ้น ทัง้ หมดในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝัง่ ทะเล “หยุนหลิน” ก�ำลังการผลิต 640 เมกะวัตต์ ในไต้หวัน โดยการซื้อขายหุ้นได้เสร็จ สมบูรณ์เมือ่ วันที่ 17 เมษายน 2563 ซึง่ นับเป็นความส�ำเร็จในการขยาย การลงทุนสู่พื้นที่ใหม่ในไต้หวันอย่างเป็นทางการ “เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงมุ่งมั่นขยายขอบเขตการด�ำเนินธุรกิจตาม ทิศทางการด�ำเนินงานที่ได้ก�ำหนดไว้ ทั้งด้านการผลิตและให้บริการ ด้านพลังงาน ครอบคลุมการผลิตไฟฟ้า ซึ่งยังคงเป็นธุรกิจหลักและ เป็นความเชี่ยวชาญทั้งโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและพลังงาน หมุนเวียน รวมทั้งแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ในธุรกิจพลังงานที่ เกี่ยวเนื่อง เช่น Smart Energy Solution เพื่อเพิ่มมูลค่าและส่งเสริม การด�ำเนินธุรกิจในภาพรวม ตลอดจนเปิดกว้างเรื่องพื้นที่การลงทุน ที่ไม่ได้จ�ำกัดอยู่ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เราจึง มัน่ ใจว่า เอ็กโก กรุป๊ จะเติบโตได้อย่างต่อเนือ่ งและยัง่ ยืนในอนาคต” ดร.กัมปนาท กล่าวทิ้งท้าย

completed and is expected to start commercial operation in the 4th quarter of 2021.

Considering new investment, EGCO Group has completely acquired 25% stake in Yunlin Holding GmbH (Yunlin) which holds entire stakes in the 640-MW offshore wind farm project in Taiwan. The share purchase was completed on 17 April 2020, marking a significantly new milestone in EGCO Group’s plan to expand its investment in new area in Taiwan.

“EGCO Group continues our commitment to expanding our business according to our operating plan, especially in electricity generation and energy services. While fossil-fuel and renewable energy power plants remain our core business and our area of expertise, we always seek opportunities to make new investment in related energy businesses, such as in the Smart Energy Solution which can increase added value and boost our overall performance. In addition, we are open about investment location and do not limit ourselves in only Thailand and the Asia Pacific. This makes us strongly confident in constant and sustainable future growth.” said Dr.Gumpanart.

July-August 2020

สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย บริษทั ราช กรุป๊ จ�ำกัด (มหาชน) เดินหน้าสร้างการเติบโตธุรกิจไฟฟ้า รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นจากวิถีปกติใหม่ในทุกภูมิภาค ของโลก ซึ่งทุกกิจกรรมจะต้องใช้ไฟฟ้าเป็นปัจจัยพื้นฐาน ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจาร่วมลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าหลายแห่งในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยมีกำ� ลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 800 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่า จะสามารถสรุปข้อตกลงในปีน้ี เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทฯ ประสบความส�ำเร็จ ร่วมทุนในโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก ประเภทโคเจนเนอเรชัน 2 แห่ง ในประเทศไทย มูลค่าการลงทุนส่วนทุนรวม 888 ล้านบาท

ราช กรุ๊ป มั่นใจธุรกิจไฟฟ้าเติบโต ต่อเนื่องหลังวิกฤติโควิด-19 เดินหน้าเจรจาปิดดีลโรงไฟฟ้าต่างประเทศปีนี้ ไตรมาสแรกกำ�ไร 1,360.82 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษทั ฯ จะต่อยอดการลงทุนพัฒนาโครงการทีเ่ ป็นโครงสร้าง พืน้ ฐานส�ำหรับวิถชี วี ติ ปกติใหม่จากธุรกิจทีล่ งทุนแล้ว ได้แก่ โครงข่าย Internet of Things (IoT) ซึง่ เป็นเทคโนโลยีพนื้ ฐานในยุคเศรษฐกิจดิจทิ ลั หลังวิกฤติโควิด-19 ในไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2563 บริษทั ฯ มีกำ� ไรก่อนรับรูผ้ ลกระทบอัตราแลกเปลีย่ น จ�ำนวน 1,983.85 ล้านบาท เพิม่ ขึน้ ร้อยละ 16.5 จากไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2562 และ เมือ่ รับรูก้ ารขาดทุนทางบัญชีอตั ราแลกเปลีย่ น บริษทั ฯ มีกำ� ไร 1,360.82 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21.8 จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว กิจจา ศรีพฑ ั ฒางกุระ กรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จ�ำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษทั ฯ ยังมุง่ มัน่ ขับเคลือ่ นการเติบโตของธุรกิจ ผลิตไฟฟ้าให้บรรลุเป้าหมาย 10,000 เมกะวัตต์ ภายใน พ.ศ. 2566 เนื่องจากความต้องการใช้ ไฟฟ้าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังวิกฤติ โควิด-19 คลีค่ ลาย จากนโยบายกระตุน้ เศรษฐกิ จ ของภาครั ฐ และการ ส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะ อุ ต สาหกรรมการแพทย์ แ ละ อุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับ สุขภาพมีแนวโน้มที่จะเติบโต มากขึ้น อีกทั้งจะมีการพัฒนา คิ ด ค้ น นวั ต กรรม และน� า เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั เข้ามาเปลีย่ น รูปแบบการท�ำธุรกิจและการ กิจจา ศรีพัฑฒางกุระ ด�ำเนินชีวิตรองรับวิถีปกติใหม่ หลังจากนี้ เพือ่ ให้เกิดการรักษา ระยะห่างทางสังคม ลดความ July-August 2020

เสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 และโรคอุบัติใหม่ท่ีจะ เกิดขึ้นในอนาคต “จากวิกฤติโควิด-19 บริษัทฯ มองเป็นทั้งความ เสีย่ งและโอกาส จึงได้เพิม่ น�ำ้ หนักในการบริหารจัดการ ความเสีย่ งจากโรคระบาด รวมทัง้ การจัดการความต่อเนือ่ ง ทางธุรกิจ เพือ่ ป้องกันและลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ และสังคม ส�ำหรับโอกาสนั้น เรามองเห็นศักยภาพใน การลงทุนพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ธุรกิจสีเขียว โครงการ Independent Power Supply (IPS) เพือ่ รองรับภาคอุตสาหกรรมการผลิต การต่อยอด ธุรกิจจากโครงข่าย IoT เพื่อตอบสนองภาคธุรกิจและ ผู้บริโภค การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ รวมถึงการลงทุน พัฒนานวัตกรรมทีต่ อบโจทย์วถิ ปี กติใหม่ของธุรกิจและ สังคมร่วมกับกลุ่ม กฟผ. นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ใช้ โอกาสจากการท�ำงานทางไกล ยกระดับศักยภาพของ องค์ ก รเพื่ อ ปรั บ รู ป แบบการท� ำ งานให้ เ ป็ น Smart Workplace ด้วยการน�ำเทคโนโลยีมาใช้ทำ� งานเชือ่ มต่อ กันภายในและซัพพลายเชน น�ำระบบแอปพลิเคชันที่ รองรับการท�ำงานของพนักงานแต่ละวัย สิง่ ทีต่ ามมาคือ รูปแบบการท�ำงานแบบบุคคลที่เปลี่ยนไปสู่การท�ำงาน เป็นทีมดิจิทัล ซึ่งท�ำให้เกิดประสิทธิภาพในการท�ำงาน มากยิ่งขึ้น ทั้งยังลดการใช้ทรัพยากรและต้นทุนการ ด�ำเนินธุรกิจด้วย” กิจจา กล่าวปิดท้าย ผลการด�ำเนินงานไตรมาสที่ 1 พ.ศ. 2563 รายได้ จากส่วนแบ่งก�ำไรกิจการร่วมทุนเติบโตขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง โดยมีสดั ส่วนร้อยละ 32.9 ของรายได้รวม ปัจจัยส�ำคัญ มาจากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนหงสาทีม่ กี ารเดินเครือ่ ง เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงโรงไฟฟ้าเบิกไพรโคเจนเนอเรชัน โรงไฟฟ้ า พลั ง น�้ ำ เซเปี ย นเซน�้ ำ น้ อ ย และโรงไฟฟ้ า ราชโคเจนเนอเรชัน ที่จะเริ่มรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้ ส�ำหรับรายได้รวมมีจำ� นวน 4,506.78 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากการขายและบริการ และรายได้ ตามสัญญาเช่าการเงินของโรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ ควบคุม จ�ำนวน 2,925.01 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 64.9 ส่วนแบ่งก�ำไรของกิจการร่วมทุนจ�ำนวน 1,480.64 ล้านบาท และรายได้จากดอกเบี้ยและอื่นๆ จ�ำนวน 101.13 ล้านบาท ฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 มีสินทรัพย์รวมจ�ำนวน 103,448.31 ล้านบาท หนีส้ นิ จ�ำนวน 44,440.97 ล้านบาท และส่วนของผูถ้ อื หุน้ จ�ำนวน 59,007.34 ล้านบาท ศักยภาพทางการเงินของ บริษัทฯ ในการจัดหาเงินเพื่อขยายการลงทุนให้บรรลุ เป้าหมาย 10,000 เมกะวัตต์ ภายใน พ.ศ. 2566 สะท้อน จากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.46 เท่า อัตราส่วน ความสามารถในการช�ำระหนี้ (DSCR) 7.73 เท่า และ อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น 10.66%

บริษัท ราช กรุ๊ป จ�ำกัด (มหาชน)

RATCH Group Public Company Limited (RATCH Group) moves forward to boost electricity business growth due to increasing electricity demand from the new normal activities that mainly requires electricity to function. The company is under ongoing negotiation for joint venture in several power plant projects in Asia-Pacific which are in its pipeline with combined installed capacity of approximately 800 megawatts and the conclusion is expected by this year. Recently, the company has successfully invested 888 million bath capitals in two domestic Small Power Producer (SPP) Cogeneration power plants. RATCH Group will make further investment in the fundamental infrastructure for the digital economy which is the next normal after COVID-19 crisis in the already invested business such as the Internet of Things (IoT) network.

RATCH Group’s confidence in power business growth after COVID-19 crisis heading to close power project’s deals overseas this year, posted 1,360.82 MB profit for Q1 operation

For the first quarter of 2020, the company recorded 1.983 billion baht profit before unrealized foreign exchange loss, 16.5% higher than the first quarter of 2019. The profit after the foreign exchange loss in the first quarter booked 1.36 billion baht decreasing 21.8% compared to same period last year.

Mr.Kijja Sripatthangkura, RATCH Group CEO, said that the company is striving for accomplishing electricity business growth at 10,000-megawatt capacity in 2023. It expects that increase of electricity demand after the ease about Covid-19 pandemic will result from the government’s economic stimulus policies and the promotion for private investment in various industries. The medical and related healthcare industries in particular obviously show growth prospect. Moreover, the innovation and digital technology will be applied and play a key role in transforming business model and way of our life in the next normal where physical distancing is still required to mitigate the risk of infection of COVID-19 and emerging diseases in future.

“RATCH Group perceived Covid-19 pandemic as risk and opportunity.

In aspect of risk, the company takes pandemic risk management and business continuity into the account ensuring economic and social impacts prevented and limited. For opportunity, we keep eyes on several investment potentials including Smart Grid project, green business, Independent Power Supply (IPS) project to accommodate the industrial sector. Also, extending the IoTs network to Business-to-Business, Business-to-Consumer business and Smart City are among the potential investment. The development of innovative solutions for the new normal targeting in both business and

social living is accelerated by joining hands with EGAT Group. The company also invests in ‘Work From Home’ measure to upgrade and transform its internal procedures into a Smart Workplace by deploying interconnection technology for remote working of employees and supply chain. Several applications enabling all generations working from home are also employed. Consequently, individual working style seems to turn into digital teamwork which leads to increase work efficiency and reduce use of resources and operating costs.” added Mr.Kijja.

In the first quarter of 2020, the company realized growing revenues from joint venture shared 32.9% of total revenue. The result derived from better generation efficiency of Hongsa Thermal Power Plant and realization of full-year revenues from Berkprai Cogeneration Power Plant, Xepian Xe Namnoy Hydroelectric Power Plant and RATCH Cogeneration Power Plant.

Out of the recorded 4.506-billion-baht revenues in total, revenues from sale, service and financial lease or accounting was 2.925-billion-baht representing 64.9% of total revenues, profit sharing of joint venture companies and interest and other incomes were 1.480-billion-baht and 0.101-billionbaht respectively.

As of March 31, 2020, the company recorded total asset of 103.448 billion baht and liabilities of 44.440 billion baht and the shareholders’ equity of 59.007 bil ion baht. The company’s financial capability to fund 10,000 megawatt capacity target in 2023 reflected by key financial ratios; net debt to equity ratio of 0.46 times, the debt service coverage ratio of 7.73 times and return on equity of 10.66%.

July-August 2020

Hitachi ABB Power Grids Commences Operations

Complementary portfolios and technology strengths to ensure continuity, enhance customer value and bring growth opportunities In accordance with the agreement signed on December 17, 2018, Hitachi Ltd. and ABB Ltd. have announced the completion of all required procedures as planned, and the formation of Hitachi ABB Power Grids Ltd. Hitachi has an 80.1 percent stake in this new joint venture entity (which has business volumes of approximately 10 billion USD) and ABB holds the balance.

Toshikazu Nishino, Executive Vice President of Hitachi, is the Chairman of the new entity and Claudio Facchin the CEO. The new entity is headquartered in Zurich, Switzerland and the current management team will ensure business continuity.

“Hitachi’s leading digital technologies merged with world-class power grid solutions will help us to play an active role in the global transformation and decarbonization of energy systems for a sustainable energy future. Intelligent solutions for a more dynamic grid will also contribute to the UN’s Sustainable Development Goal 7 of ‘affordable, reliable and clean energy’”, said Toshikazu Nishino.

The joint venture brings together two highly respected companies to create a new global power leader. The alliance with Hitachi will facilitate expansion opportunities for the new entity in areas such as mobility, smart cities, industry, energy storage and data centers, besides providing financial muscle to support ambitious projects and enabling access to Japan, the third largest economy in the world.

“Synergies and access to new and growing markets

provided by Hitachi, will help take Power Grids to the next stage of its development, further strengthening its leading position”, said Timo Ihamuotila, CFO of ABB and Director of the Board of Hitachi ABB Power Grids. “Hitachi brings long-term commitment to the new entity and strengthens the existing business partnership between our companies”, he added.

“Combining our respective technology strengths will bring us new market opportunities and enable us to deliver greater customer value”, said Claudio Facchin, CEO, Hitachi ABB Power Grids. “We remain committed to powering good for a sustainable energy future, with pioneering and digital technologies, as the partner of choice for enabling a stronger, smarter and greener grid.”

About Hitachi ABB Power Grids, Ltd.

Hitachi ABB Power Grids is global technology leader with a combined heritage of almost 250 years, employing around 36,000 people in 90 countries. Headquartered in Switzerland, the business serves utility, industry and infrastructure customers across the value chain, and emerging areas like sustainable mobility, smart cities, energy storage and data centers. With a proven track record, global footprint and unparalleled installed base, Hitachi ABB Power Grids balances social, environmental and economic values, and. It is committed to powering good for a sustainable energy future, with pioneering and digital technologies, as the partner of choice for enabling a stronger, smarter and greener grid.

https://www.hitachiabb-powergrids.com

Article

> ทรู ดิจิทัล โซลูชันส์

“ทรู ดิจิทัล โรโบคอร์”

เชิงดิจิทัล ทั้ง IoT, AI, Blockchain, Data Analytics และ Cyber Security รวมถึงเครือข่าย โซลูชน ั หุ่นยนต์อจั ฉริยะครบวงจร พันธมิตรผู้น�ำนวัตกรรมระดับโลก ร่วมยกระดับ ความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มประสิทธิภาพการ ด�ำเนินงานให้ภาคธุรกิจในประเทศไทย “ทรู ดิจทิ ลั โรโบคอร์” จึงเป็นพัฒนาการครัง้ ส�ำคัญแห่งวงการหุน่ ยนต์ของประเทศไทย ทรู ดิจทิ ลั โซลูชนั ส์ ในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง รุกสร้างสรรค์ดิจิทัลโซลูชันล�้ำสมัย ปั จ จุ บั น ภาคธุ ร กิ จ ในหลากหลายอุ ต สาหกรรมทั่ ว โลก เพื่ อ เพิ่ ม ศั ก ยภาพของธุ ร กิ จ ในทุ ก อุ ต สาหกรรม ต่างมองหาเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะมาช่วยสร้างความแตกต่างและ เดินหน้าปฏิวตั วิ งการหุน่ ยนต์สำ� หรับการใช้งานในภาคธุรกิจ พัฒนา เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจ หุ่นยนต์นับเป็นหนึ่งใน นวัตกรรมที่พร้อมเชื่อมต่อ True 5G สร้างอัจฉริยภาพสู่โลกใหม่ เมกะเทรนด์ของโลกที่ภาคธุรกิจน�ำมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพ ทีย่ งั่ ยืน เปิดตัว “ทรู ดิจทิ ลั โรโบคอร์” (True Digital RoboCore) ในการท�ำงาน ในหลายอุตสาหกรรมมีการน�ำหุ่นยนต์เข้ามาท�ำงาน โซลูชันหุ่นยนต์อัจฉริยะครบวงจรรายแรกในไทยที่โดดเด่นด้วย ร่วมกับมนุษย์ หรือทีเ่ รียกว่า Cobot หรือ Collaborative Robot โดย สมองกลอันชาญฉลาดจากระบบปฏิบตั กิ ารอัจฉริยะ สามารถสัง่ การ ทรู ดิจิทัล โซลูชันส์ ได้ผสานความร่วมมือกับคลาวด์มายด์ ซึ่งเป็น และควบคุมหุน่ ยนต์หลากประเภทหลายฟังก์ชนั ผสานการท�ำงานบน ผู้น�ำด้านโรโบติกส์ระดับโลก น�ำ “หุ่นยนต์คลาวด์ เอไอ” (Cloud AI เครือข่ายและเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ทีด่ ที สี่ ดุ ของกลุม่ ทรู โดยเฉพาะเครือข่าย Robotics) มาพัฒนาเป็นโซลูชันหุ่นยนต์อัจฉริยะ พร้อมให้บริการ True 5G ดิจิทัลแพลตฟอร์ม และบริการดิจิทัลครบวงจร รวมถึง เชิงพาณิชย์เป็นครัง้ แรกในประเทศไทยในรูปแบบ Robot as a Service ทีมงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในแต่ละอุตสาหกรรม ให้ค�ำปรึกษา (RaaS) หรือระบบสมัครสมาชิก (Subscription Model) คิดค่าใช้จา่ ย และออกแบบโซลูชันตอบโจทย์ตรงความต้องการใช้งานของภาค ตามการใช้งานจริง ยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ ธุรกิจได้ครบทุกรูปแบบอย่างแท้จริง พร้อมให้ธุรกิจใช้งานโซลูชัน ตามความต้องการ จึงช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ลดอุปสรรค หุน่ ยนต์อจั ฉริยะได้งา่ ยและประหยัดค่าใช้จา่ ย ด้วยบริการเชิงพาณิชย์ ให้ธุรกิจไทยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้ง่ายกว่าที่เคย แบบ Robot as a Service (Raas) ลดอุปสรรคให้ภาคธุรกิจไทยเข้าถึง ทรู ดิจิทัล โรโบคอร์ เป็นโซลูชันหุ่นยนต์อัจฉริยะครบวงจร เทคโนโลยีที่ทันสมัยได้มากกว่าที่เคย ที่สามารถน�ำไปใช้งานในหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัย เอกราช ปัญจวีณนิ กรรมการผูจ้ ดั การ ธุรกิจดิจทิ ลั โซลูชนั โรงพยาบาล โรงงานอุตสาหกรรม การจัดประชุม และสัมมนา และ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จ�ำกัด กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล โซลูชันส์ มุ่งมั่น อีกหลายอุตสาหกรรมที่สามารถใช้หุ่นยนต์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ พัฒนาดิจิทัลโซลูชันล�้ำสมัยอย่างต่อเนื่อง ของงานด้านต่างๆ ได้ ซึ่งทรู ดิจิทัล โซลูชันส์ พร้อมออกแบบและ และท�ำงานร่วมกับพันธมิตรเทคโนโลยี น�ำเสนอโซลูชันหุ่นยนต์อัจฉริยะให้เหมาะกับความต้องการใช้งาน ชัน้ น�ำ เพือ่ สร้างสรรค์บริการทีส่ ามารถ ของแต่ละธุรกิจ โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างๆ ตอบโจทย์ ก ารท� ำ งานของธุ ร กิ จ แนะน�ำและให้คำ� ปรึกษาในการเลือกใช้หนุ่ ยนต์ประเภทต่างๆ รวมถึง ยุคใหม่ในทุกอุตสาหกรรม พร้อมทัง้ โครงข่ายและเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ทีห่ ลากหลายของกลุม่ ทรู ทัง้ True 5G, สร้ า งประโยชน์ ใ ห้ แ ก่ ค นในสั ง คม ดิจิทัลแพลตฟอร์ม และดิจิทัลคอนเวอร์เจนซ์ ที่รวมเอาเทคโนโลยี องค์ ก ร และประเทศอย่ า งยั่ ง ยื น เช่น ไอโอที (Internet of Things : IoT) โดยมุ่งเน้นดิจิทัลเป็นแกนหลักในการ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : พัฒนาธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม ภายใต้ AI) ระบบอนาไลติ ก ส์ (Analytics) วิสัยทัศน์ “Digital is a Core” ล่าสุด เปิดตัว ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ “ทรู ดิจทิ ลั โรโบคอร์” (True Digital RoboCore) โซลูชนั หุน่ ยนต์ (Cybersecurity) และบล็อกเชน อัจฉริยะครบวงจร ชูจุดเด่นสมองกลที่ท�ำงานด้วยระบบปฏิบัติการ (Blockchain) ทีเ่ หมาะสม เพือ่ พัฒนา อัจฉริยะ มาพร้อมกับหุน่ ยนต์หลากหลายประเภททีส่ ามารถรองรับ โซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการ ได้ทกุ รูปแบบความต้องการใช้งานของภาคธุรกิจ เชือ่ มโยงการควบคุม และเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้ธุรกิจ และสั่งการผ่านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัลของกลุ่มทรู ได้ โดยเฉพาะเครือข่าย True 5G เสริมความแข็งแกร่งของบริการด้วย ทัง้ นี้ ทรู ดิจทิ ลั โซลูชนั ส์ พันธมิตรในระบบนิเวศของกลุ่มทรู (True Ecosystem) ไม่ว่าจะเป็น เตรี ย มน� ำ หุ ่ น ยนต์ ค ลาวด์ องค์กรธุรกิจชั้นน�ำในแวดวงเทคโนโลยี สตาร์ตอัป และทีมงานที่มี นานาประเภทมาให้บริการ ความเชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรม มาช่วยคัดสรรและพัฒนา pepper “ทรู ดิจทิ ลั โรโบคอร์” ดังนี้ โซลูชนั ทีเ่ หมาะสมทีส่ ดุ ส�ำหรับการใช้งานผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ของ แต่ละองค์กร ตลอดจนความพร้อมของดิจทิ ลั แพลตฟอร์มและดิจทิ ลั คอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู ที่ผสานเทคโนโลยีกับความสามารถ July-August 2020

• หุน่ ยนต์คลาวด์สำ�หรับการต้อนรับและบริการด้านข้อมูล (True 5G Cloud Intelligent Greeting & Service Robot) • Ginger หุ ่ น ยนต์ ต ้ อ นรั บ รู ป ร่ า งคล้ า ยมนุ ษ ย์ ท่ี มี เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) และสามารถ ท�ำกิจกรรมทีซ่ บั ซ้อนได้ใกล้เคียงกับมนุษย์ โดยใช้สายตาของ หุน่ ยนต์เอง เช่น สามารถเป็นผูช้ ว่ ยหยิบจับสิง่ ของ การเปิดประตู แม้กระทั่งการร้อยเข็ม เป็นต้น รวมทั้งยังสามารถให้ข้อมูลได้ ทุกภาษา การจดจ�ำใบหน้า ท่าทาง และอารมณ์ของมนุษย์ได้ • Pepper หุ่นยนต์ต้อนรับที่สามารถได้ยินเสียงแม้ใน ทีผ่ คู้ นพลุกพล่านด้วยระบบไมค์ตดั เสียง ท�ำให้สามารถโต้ตอบ ได้อย่างแม่นย�ำยิง่ ขึน้ มีฐานข้อมูลทีร่ องรับการประมวลภาษา มนุษย์ (Natural Language Processing) ท�ำให้สามารถสนทนา ในหลากหลายหัวข้อได้อย่างเป็นธรรมชาติและแม่นย�ำ สามารถ ช่วยท�ำการนัดหมายและจองคิวต่างๆ ให้ขอ้ มูลด้านการบริการ สามารถบอกเส้นทางและให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้า • หุ่นยนต์คลาวด์สำ�หรับฆ่าเชื้อและทำ�ความสะอาด (True 5G Cloud Intelligent Disinfection and Cleaning Robot) ที่ ส ามารถล้ า งท� ำ ความสะอาดและพ่ น น�้ ำ ยาฆ่ า เชื้ อ ได้ หลากหลายพืน้ ผิว และเข้าถึงมุมอับได้ อีกทัง้ ยังมีระบบชาร์จไฟ ด้วยตัวเอง • หุ่นยนต์คลาวด์สำ�หรับการส่งเอกสารและพัสดุภัณฑ์ (True 5G Cloud Intelligent Delivery Service Robot) ทีส่ ามารถ

ออกแบบเส้นทางได้ด้วยตนเอง สั่งงานด้วยเสียง สามารถ ส่งเอกสารและพัสดุภัณฑ์ที่ต้องการการดูแลรักษาที่ดีเยี่ยม เช่น เอกสารส�ำคัญทางการแพทย์ อาหารและยา เป็นต้น • หุ ่ น ยนต์ ค ลาวด์ สำ�หรั บ การตรวจการและการวั ด สภาพแวดล้อมโดย IoT และ Sensor (True 5G Cloud Intelligent Patrol & Environmental Monitoring Robot) ทีส่ ามารถระบุใบหน้า เลขทะเบียนรถ พร้อมกับตรวจจับสิง่ ต่างๆ ได้หลากหลาย ทั้งอุณหภูมิ ก๊าซ ความร้อน (ร่างกายมนุษย์ และอัคคีภยั ) และปริมาณฝุน่ PM 2.5 สามารถใช้งานภายนอก อาคารและสภาวะเสี่ยงได้เป็นเวลานาน • หุน่ ยนต์คลาวด์ในรูปแบบ Virtual (True 5G Cloud Intelligent Virtual Robot) หุน่ ยนต์ให้ขอ้ มูลเชิงลึกได้ในทุกภาษา สามารถ น�ำไปติดตั้งและใช้งานผ่านจอภาพ ป้ายอิเล็กทรอนิกส์ และ แท็บเล็ต โดยปรับเปลี่ยนใบหน้าของหุ่นยนต์ได้หลากหลาย ตามความต้องการ อีกทัง้ ยังสามารถใช้ประโยชน์ดา้ นการศึกษา ทางไกลได้ • หุน่ ยนต์คลาวด์ในรูปแบบหมวกอัจฉริยะ (True 5G Cloud Intelligent AI Rescue Helmet) หมวกหุ่นยนต์ผู้ช่วยฉุกเฉิน ที่ ม าพร้ อ มระบบลดเสี ย งรบกวนรอบข้ า ง กล้ อ งวิ ดี โ อ ไมโครโฟน อินเทอร์คอม และจีพเี อส ทีท่ ำ� งานแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นย�ำ ลดข้อจ�ำกัดด้านพื้นที่และสภาพแวดล้อมการใช้งาน

อนึ่ง ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป หนึ่งในธุรกิจหลักของกลุ่มทรู มุ่งเป็นผู้น�ำด้านดิจิทัลแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดินหน้าขยายธุรกิจและการให้บริการอย่างต่อเนือ่ งเพือ่ ส่งมอบบริการด้านดิจทิ ลั คุณภาพสูงให้แก่ลกู ค้า โดยทรู ดิจทิ ลั กรุป๊ น�ำเสนอ บริการด้านดิจิทัลผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม แพลตฟอร์มที่เชื่อมระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ (O2O) และสิทธิประโยชน์หลากหลาย รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics), Internet of Things (IoT) และดิจิทัล โซลูชัน โดยบริการด้านดิจิทัลของกลุ่มทรูมีโอกาส เติบโตสูงจากความต้องการใช้บริการด้านดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง July-August 2020

Article

> ยูนิเวอร์ซัล โรบอท

ยูนิเวอร์ซล ั โรบอท ผู้สร้างนวัตกรรม หุ่นยนต์โคบอท เพิ่มประสิทธิภาพให้เบนช์มาร์ค อิเลคทรอนิคส์ ในประเทศไทย

ยูนิเวอร์ซัล โรบอท (Universal Robots) บริษัทชั้นน�ำด้าน หุน่ ยนต์รว่ มปฏิบตั งิ าน หรือโคบอทส์ ได้เพิม่ ขีดความสามารถให้ กับบริษัท เบนช์มาร์ค อิเลคทรอนิคส์ (Benchmark Electronics) ในประเทศไทย ด้วยการติดตั้งหุ่นยนต์โคบอท 6 ตัว ส�ำหรับ กระบวนการประกอบและทดสอบในโรงงานที่ โ คราช ซึ่ ง เบนช์มาร์ค อิเลคทรอนิคส์ เป็นบริษทั สัญชาติอเมริกนั ทีใ่ ห้บริการ ด้านวิศวกรรมและการผลิต พร้อมทั้งโซลูชันเทคโนโลยีครบวงจร ส�ำหรับโออีเอ็ม (ผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิม) ทั่วโลก เป็นโรงงานผลิต ขนาดใหญ่ ที่ ผ ลิ ต สิ น ค้ า อุ ต สาหกรรมและโทรคมนาคม และ มีพนักงาน 1,500 คน บุญเลิศ อัคราภิชาต ผูอ้ ำ� นวยการฝ่ายปฏิบตั กิ ารประจ�ำ เบนช์มาร์ค อิเลคทรอนิคส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “เราได้ เพิม่ ประสิทธิภาพการด�ำเนินงาน 25% และประหยัดพืน้ ทีก่ ารผลิต 10% ด้วยโคบอทของยูนิเวอร์ซัล โรบอท หรือยูอาร์ ท�ำให้เรา โอนย้ายพนักงาน 16 คน ไปท�ำงานที่มีทักษะสูงขึ้น และเรายังมี แผนเพิม่ โครงการอัตโนมัตอิ กี 4 โครงการ ทีจ่ ะปรับใช้กบั โคบอท ในแอปพลิเคชันที่คล้ายกันส�ำหรับลูกค้ารายอื่น”

โคบอทส์ และตำ�แหน่งในวิวฒ ั นาการ เอส-เคิร์ฟ (S-Curve)

โรโบติ ก ส์ หรื อ หุ ่ น ยนต์ เป็ น 1 ใน 5 อุ ต สาหกรรม “เอส-เคิร์ฟ” (S-Curve) ใหม่ ที่รัฐบาลไทยให้ความสนใจควบคู่ ไปกับดิจิทัล เชื้อเพลิงชีวภาพและชีวเคมี การแพทย์ การบิน และโลจิสติกส์ ที่มีศักยภาพอย่างมากในการพัฒนาแรงงานไทย ให้พร้อมส�ำหรับการใช้เทคโนโลยีข้ันสูงด้านหุ่นยนต์ ซึ่งสามารถ รับประกันค่าตอบแทนที่ดีขึ้นของพนักงานที่มีทักษะ และในทาง กลับกันผลผลิตและผลก�ำไรที่มากขึ้นส�ำหรับองค์กรที่มีหุ่นยนต์ และก�ำลังคนที่มีทักษะดังกล่าว โคบอทส์ หรือ “หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน” เป็นหุ่นยนต์ ที่ท�ำงานได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยเคียงข้างกับมนุษย์ในพื้นที่ ขนาดเล็กทีใ่ ช้รว่ มกัน แตกต่างจากหุน่ ยนต์อตุ สาหกรรมแบบดัง้ เดิม ทีม่ ขี นาดใหญ่ ออกแบบมาเพือ่ ท�ำงานอย่างอิสระโดยไม่ตอ้ งอาศัย มนุษย์มาก เพือ่ ให้มนั่ ใจแบบ “ความปลอดภัยด้วยการแยกจากกัน” (Safety by Isolation) แต่สำ� หรับโคบอทส์ จะท�ำงานร่วมกับมนุษย์

July-August 2020

ได้ดีแบบ “ปลอดภัยด้วยออกแบบ” (Safety by Design) โดย ไม่จ�ำเป็นต้องมีการป้องกันความปลอดภัย โคบอทส์นั้นมีความ ยอดเยี่ยมในกระบวนการสนับสนุนและท�ำซ�้ำ ที่ต้องการความ สม�ำ่ เสมอ การวางโปรแกรมไว้ ใช้งานง่าย และปลอดภัย ในขณะที่ ยังคงให้มนุษย์ควบคุมและท�ำงานร่วมกันได้ ดังนัน้ แล้ว โคบอทส์ จะให้มนุษย์ทงั้ ประสิทธิผลและผลก�ำไรร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในเอเชีย หุ่นยนต์และมนุษย์ท่ีมีทักษะการท�ำงานจะสามารถ ท�ำงานร่วมกันได้เหมาะสมที่สุด โดยตลาดรวมของโคบอทส์ใน เอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีท่ี 45.46% มีมลู ค่า 13.17 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก พ.ศ. 2563-พ.ศ. 25691

ประสบการณ์ของเบนช์มาร์คกับโคบอทส์

เมื่อต้องการขยายการผลิต เบนช์มาร์ค ประเทศไทย จึง ตัดสินใจใช้โคบอทส์ในส่วนของสายการประกอบชิน้ ส่วนอัตโนมัติ และสายการทดสอบการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต คุณภาพการผลิต ความพึงพอใจของลูกค้า และอนาคตทีพ่ สิ จู น์ได้ ได้ติดตั้งหุ่นยนต์โคบอทส์ รุ่น UR5 จ�ำนวน 4 ตัว และ UR10e จ�ำนวน 2 ตัว จากยูนิเวอร์ซัล โรบอท ในสายงานการประกอบ โคบอทส์จะท�ำหน้าที่ยกสินค้ำ และวางแผ่นวงจรพิมพ์ (Printed Circuit Board) หรือ PCB และโมดูล โดยจะเคลื่อนย้ายสินค้าไปยังเครื่องสกรูอัตโนมัติ เครื่ อ งสแกนภาพจะลงทะเบี ย นหมายเลขซี เรี ย ลเฉพาะของ ผลิตภัณฑ์ จากนั้นโคบอทจะจับแผ่นคลื่นความถี่วิทยุ (RF) และ วางบนผลิตภัณฑ์ ส�ำหรับสายงานการทดสอบ โคบอทจะหยิบผลิตภัณฑ์ ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วไปยังเครื่องทดสอบและล็อกอย่างแน่นหนำ เพือ่ ทดสอบอัตโนมัติ หลังจากการทดสอบ 15 นาทีแล้ว ผลการ ทดสอบจะถูกป้อนไปยังระบบของเบนซ์มาร์ค จากนั้นโคบอทจะ น�ำผลิตภัณฑ์ออกมำ เบนช์มาร์ค ประเทศไทย ต้องการแพลตฟอร์มหุ่นยนต์ ที่ง่ายต่อความเข้าใจ เรียนรู้ และการปรับใช้ ซึ่งแตกต่างจาก บางแพลตฟอร์ม โดยโคบอทส์จากยูอาร์ใช้หน้าจอสัมผัสในการ “สอน” และ “โหมดไดรฟ์ฟรี” ทีผ่ ปู้ ฏิบตั งิ านสามารถเรียนรูไ้ ด้อย่าง รวดเร็วและสร้างโปรแกรมได้ พร้อมทั้งปรับแต่งได้อย่างง่ายดาย

“เราประเมินหุ่นยนต์และโคบอทส์จ�ำนวนมากจากผู้ค้า ที่แตกต่างกัน และเราก็พบว่า ยูนิเวอร์ซัล โรบอท หรือยูอาร์ (Universal Robots : UR) เป็นหุน่ ยนต์ทด่ี ที ส่ี ดุ ทีต่ อบสนองความ ต้องการทั้งปัจจุบันและอนาคตของเรา โคบอทส์ ยูอาร์ นั้นง่าย อย่างเหลือเชื่อในการโปรแกรมและการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งท�ำงานร่วมกันได้อย่างปลอดภัย” บุญเลิศ กล่าว ด้ า น อุ ด มศั ก ดิ์ อิ น โซม วิ ศ วกรผลิ ต ภั ณ ฑ์ บริ ษั ท เบนช์มาร์ค อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด เปิดเผยว่า “เราได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากตัวแทนจ�ำหน่ายของยูอาร์ คือ บริษัท ออโตเฟล็กซิเบิ้ล แอดวานซ์ เอ็นจิเนียริ่ง จ�ำกัด ที่ฝึกอบรมตั้งแต่เริ่มต้น หลังจากนั้นผู้ปฏิบัติงานทุกคนพบว่า โคบอทส์งา่ ยต่อการเรียนรูแ้ ละท�ำงาน เราประหยัดค่าใช้จา่ ยในการ ปรับการท�ำงานโดยไม่จำ� เป็นต้องมีเจ้าหน้าทีร่ กั ษาความปลอดภัย” ด้าน เกีรยติก้อง บุญการุณ ผู้เชี่ยวชาญด้านโคบอทส์ บริษทั เบนช์มาร์ค อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด กล่าวว่า “ยูอาร์ โคบอทส์ ง่ายต่อการเรียนรู้ วางโปรแกรม และการใช้งาน ผมใช้เวลา 2 วันเท่านั้นในการเรียนรู้ที่จะใช้งาน” เบนช์มาร์ค ประเทศไทย ได้เห็นคุณภาพการผลิตที่มี คุณภาพมากขึ้นและในปริมาณงานที่สม�่ำเสมอ ด้วยการผลิตที่มี ประสิทธิภาพสูงขึน้ และความผิดพลาดจากมนุษย์นอ้ ยลง บริษทั ฯ คาดว่าจะคืนการลงทุนภายใน 18 เดือน

ยูอาร์ไฟว์ โคบอท (UR5 Cobot) และ ยูอาร์เท็นอี โคบอท (UR10e Cobot)

UR5 ส่วนใหญ่จะใช้ในผู้ผลิตที่ใช้อุปกรณ์ในโรงงานแบบ ดั้งเดิม หรือ OEMs โดย UR5 เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ CB3 ทีเ่ ป็นหุน่ ยนต์ทมี่ นี ำ�้ หนักเบาและปรับได้ และสามารถท�ำงาน ร่วมกันได้ สามารถจัดการผ่านแอปพลิชนั ในระดับกลางทีม่ คี วาม ยืดหยุน่ สูง มีรศั มีการท�ำงาน 850 มม. น�ำ้ หนัก 18.4 กก. รองรับ น�้ำหนักบรรทุกสูงสุด 5 กก. และมีรอยเท้าเพียง 149 มม.

UR10e เป็ น หนึ่ ง ในสมาชิ ก ของหุ ่ น ยนต์ รุ ่ น อี - ซี รี ส ์ (e-Series) มีรศั มีการท�ำงาน 1,300 มม. น�ำ้ หนัก 33.5 กก. รองรับ น�ำ้ หนักบรรทุกได้มากถึง 10 กก. ในขณะทีม่ รี อยเท้าขนาดเล็กเพียง 190 มม. เหมาะอย่างยิ่งส�ำหรับการใช้งานในการดูแลเครื่องจักร

การจัดวางบนพาเลต และบรรจุภัณฑ์ ยูนเิ วอร์ซลั โรบอท หรือ ยูอาร์ (Universal Robots : UR) ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2548 เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี หุ่นยนต์ได้โดยการพัฒนาหุ่นยนต์ขนาดเล็กที่ใช้งานง่าย ราคำ สมเหตุสมผล และมีความยืดหยุ่นที่สามารถท�ำงานร่วมกันได้ หรือที่เรียกว่า โคบอทส์ (Cobots) ได้อย่างปลอดภัย นับตั้งแต่ เปิดตัวโคบอท (Cobot) ครัง้ แรกใน พ.ศ. 2551 บริษทั ฯ ก็ได้เติบโต ขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้โคบอทเป็นมิตรต่อผู้ใช้ท่ีวางจ�ำหน่ายทั่วโลก บริษทั ฯ เป็นส่วนหนึง่ ของ Teradyne Inc. มีสำ� นักงานใหญ่ในเมือง โอเดนซ์ ประเทศเดนมาร์ก และมีส�ำนักงานภูมิภาคในประเทศ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี อังกฤษ โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี โรมาเนีย โรมาเนีย รัสเซีย ตุรกี จีน อินเดีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และเม็กซิโก ส่วน เบนช์มาร์ค อิเลคทรอนิคส์ อิงค์ (Benchmark Electronics, Inc.) เป็นผูใ้ ห้บริการโซลูชนั ทีค่ รอบคลุมผลิตภัณฑ์ อย่างครบวงจร และยังเป็นผูน้ ำ� ทางด้านเทคโนโลยีทเี่ ป็นนวัตกรรม และให้บริการออกแบบทางวิศวกรรม โดยใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่ อุปทานทั่วโลกอย่างเหมาะสม และให้การบริการด้านการผลิต ระดับโลก ได้แก่ อุตสาหกรรม การบินเชิงพาณิชย์ การป้องกัน การค�ำนวณขัน้ สูง การสือ่ สารโทรคมนาคมยุคใหม่ อุตสาหกรรม ทีซ่ บั ซ้อน การแพทย์และอุปกรณ์ดา้ นเซมิคอนดักเตอร์ เบนช์มาร์ค มีหน่วยปฏิบัติงานทั่วโลก ประกอบด้วยโรงงานใน 7 ประเทศ และมีหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ภายใต้สัญลักษณ์ BHE

1

งานวิจยั และการตลาดในเดือนธันวาคม 2562 ส�ำหรับ ตลาดหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน หรือ โคบอทส์ ในเอเชีย แปซิฟกิ ระหว่าง พ.ศ. 2563-พ.ศ. 2569 โดยการน�ำเสนอ น�้ำหนักบรรทุก แอปพลิเคชัน กลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะ และประเทศ : แนวโน้มการคาดการณ์และโอกาสใน การเติบโต (https://www.researchandmarkets.com/ reports/4876666/asia-pacific-collaborative-robotsmarket-2020.)

July-August 2020

The leading collaborative robots (cobots) company Universal Robots has empowered Benchmark Electronics in Thailand with a successful deployment of six cobots in their assembly and testing processes in the plant in Korat, Thailand.

Benchmark Electronics, an American stalwart in providing engineering and manufacturing services and integrated technology solutions for OEMs (original equipment manufacturers) globally, is a sizable facility producing industrial and telecommunication products and employs 1,500 people.

“We have improved operational efficiency by 25 percent and saved 10 percent in manufacturing space. With the UR cobots, we have 16 employees transferred to handle higher-skilled tasks. We are looking at four additional automation projects that will deploy more cobots in similar applications for other customers.” said Boonlert Aukkarapichata, Director of Operations, Benchmark Electronics, Thailand.

Cobots and their place in the S-Curve Evolution

Leading Cobots Innovator Universal Robots Improves Operational Efficiency of Benchmark Electronics in Thailand July-August 2020

Robotics is one of the five new “S-Curve” industries the Thai government is focusing on, alongside digital, biofuels and biochemicals, medical, aviation and logistics. There is a great potential in developing the Thai workforce to gear up for advanced technologies in robotics which can promise better remuneration for skilled employees, and in turn, greater productivity and profits for enterprises equipped with robotics and relevant skilled manpower.

Cobots are robots that work seamlessly and safely alongside humans in shared spaces. Unlike traditional industrial robots which are designed to work independently without much human presence to ensure “safety by isolation”, cobots work together with humans very well through “safety by design”, with no necessity for safety guarding, subject to risk assessment.

Cobots are excellent for repetitive and supporting processes that require consistency, programmability, ease of use, and safety, while continuing to provide human operators control and collaboration. As such, cobots provide humans a productive and profitable co-existence. Especially in Asia, cobots and skilled human operators are an ideal match for an efficient facility.

The cobots market in Asia Pacific has been projected to grow at a CAGR of 45.46% with a cumulative market of US$13.17 billion from 2020 to 2026.1

The Benchmark Experience with Cobots

While expanding, Benchmark Thailand determined that an automated assembly and testing production line with cobots can improve production efficiency, output quality, customer satisfaction, and future-proofing. Through this implementation, Benchmark deployed four UR5 and two UR10e cobots in its line.

On the assembly line, a cobot lifts the product and fits a printed circuit board (PCB) and a module and transfers it to an automated screwing machine. A visual scanner registers dedicated serial numbers from the product.

Then the cobot picks up a radio frequency (RF) cover and places that cover over the product.

On the testing line, a cobot picks up the completed product on a testing machine and locks it securely in place for automated testing. After a 15-minute test, the test results are fed through the Benchmark system and the cobot releases the product.

Benchmark Thailand needed a robotics platform that was easy to understand, learn, and deploy. Unlike some platforms, the UR cobots use a simple touch-screen teach pendant on free drive mode that operators can learn quickly and create programs, and tweak fine adjustments easily.

“We evaluated many robots and cobots from different vendors, and we found Universal Robots’ (UR) cobots to be the best cobots brand to serve our current and future needs.

They are incredibly easy to program and made light work for our operators to learn quickly, and are safe to work alongside with.” said Aukkarapichata.

“We had great support from the UR distributor Autoflexible Advanced Engineering, who trained us in the initial setup. Thereafter, every operator found the cobots easy to learn and work with. We saved hefty work cell remodelling costs as no safety guards were needed.” said Udomsak Insome, Product Engineer, Benchmark Electronics, Thailand.

“The UR cobots are easy to learn, program and use.

It took me only two days to learn to operate them.” said Kiatkong Boonkaroon, Cobot Specialist, Benchmark Electronics, Thailand.

Benchmark Thailand has seen greater production quality and consistency in its throughput, with higher productivity and minimal human error. The company is expected to achieve ROI within just 18 months.

UR5 Cobot and UR10e Cobot

Frequently used in OEMs (original equipment manufacturers), the UR5 of the CB3 product range is a lightweight, adaptable, collaborative robot that manages medium-duty applications with great flexibility. It has a reach of 850 mm, weighs 18.4 kg, handles a payload of up to 5 kg, and has a footprint of only 149 mm.

A member of Universal Robots e-Series family, the UR10e has a longer reach of 1,300 mm, weighs 33.5 kg, handles a payload of up to 10 kg, while having a reasonably small footprint of just 190 mm. It is excellent for applications in machine tending, palletising, and packaging.

Universal Robots (UR) was founded in 2005 to make robot technology accessible to all by developing small, user-friendly, reasonably priced, flexible collaborative robots (cobots) that are safe to work with. Since the first cobot was launched in 2008, the company has experienced considerable growth with the user-friendly cobot now sold worldwide. The company, which is a part of Teradyne Inc., is headquartered in Odense, Denmark, and has regional offices in the United States, Germany, France, Spain, Italy, UK, Czech Republic, Poland, Hungary, Romania, Russia, Turkey, China, India, Singapore, Japan, South Korea, Taiwan and Mexico.

Benchmark Electronics, Inc. provides comprehensive solutions across the entire product life cycle; leading through its innovative technology and engineering design services; leveraging its optimized global supply chain; and delivering world-class manufacturing services in the following industries: commercial aerospace, defense, advanced computing, next generation telecommunications, complex industrials, medical, and semiconductor capital equipment.

Benchmark’s global operations include facilities in seven countries and its common shares trade on the New York Stock Exchange under the symbol BHE. Visit www.bench.com

1

Research and Markets, 2019, December, AsiaPacific Collaborative Robots Market 2020-2026

by Offering, Payload, Application, Industry Vertical, and Country: Trend Forecast and Growth Opportunity, https://www.researchandmarkets.com/ reports/4876666/asia-pacific-collaborative-robotsmarket-2020.

July-August 2020

Special Scoop > กองบรรณาธิการ

ภาพบรรยากาศการแข่งขัน Imagine the Future Scenarios Competition 2020 Thailand ที่จัดการแข่งขันในรูปแบบ Virtual เป็นครั้งแรก

บริษทั เชลล์แห่งประเทศไทย จ�ำกัด ส่งเสริมการมีสว่ นร่วมของเยาวชนไทย ในการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศ ล่าสุดหลังเดินหน้าจัดการแข่งขัน “Imagine the Future Scenarios Competition 2020 Thailand” ที่สนับสนุนให้เยาวชน น�ำเสนอแบบจ�ำลองสถานการณ์ของโลกอนาคตต่อเนื่องเป็นปีท่ี 3 และเพื่อความ ปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้เข้าร่วมการแข่งขันและทีมงานทุกคน เป็นครั้งแรก ทีจ่ ดั การแข่งขันในรูปแบบ Virtual นิสติ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทัว่ ประเทศเข้าร่วม การแข่งขันกว่า 32 ทีม โดยร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สร้างสรรค์โครงการในแบบดิจิทัล และน�ำเสนอผลงานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ในหัวข้อ “More and Cleaner Energy in an Asia Pacific or Middle Eastern City–How will residents live, work, and play?” เชลล์ก�ำหนดโจทย์นี้โดยเน้นรูปแบบสร้างการมีส่วนร่วมและเตรียม ความพร้อมเยาวชนสูก่ ารเปลีย่ นผ่านไปสูอ่ นาคต ทีใ่ ห้ความส�ำคัญกับพลังงานทีส่ ะอาด เพิม่ ประสิทธิภาพ และดีตอ่ สิง่ แวดล้อม ผูเ้ ข้าร่วมโครงการได้เรียนรูก้ ารใช้เครือ่ งมือ Shell Scenarios ประกอบการแลกเปลีย่ นความคิดเห็นและมุมมองเกีย่ วกับเมืองในอนาคต July-August 2020

ปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จ�ำกัด กล่าวว่า “เมืองต่างๆ ทั่วโลกเผชิญกับสถานการณ์การ แพร่ ร ะบาดของเชื้ อ ไวรั ส โควิ ด -19 และได้ รั บ ผลกระทบในช่วงเวลาและลักษณะที่แตกต่างกัน ในหลายแง่มมุ จึงต้องมีการเตรียมรับมือทีแ่ ตกต่าง กันไป การมองไปข้างหน้าและเตรียมรับมือกับ ความท้าทายและผลกระทบอื่นๆ ที่จะตามมา เป็นเรือ่ งส�ำคัญ เชลล์ประเทศไทยจึงยังคงด�ำเนิน โครงการ Imagine the Future Scenarios Competition 2020 Thailand ที่เปิดโอกาสให้ คนรุ่นใหม่ได้จ�ำลองสถานการณ์เมืองในอนาคต และเหตุการณ์เสมือนจริง โดยเฉพาะการปรับ รูปแบบการด�ำเนินชีวติ เพือ่ เข้าสูช่ วี ติ วิถใี หม่ หรือ New Normal เราต้องการความร่วมมืออย่างใกล้ชดิ แบบทีไ่ ม่เคยมีมาก่อน ทัง้ ระหว่างภาคส่วนต่างๆ และคนต่างวัยต่างเจนเนอเรชันด้วย และนั่นจะ ท�ำให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนว่าควรจะใช้พลังงาน ทีส่ ะอาดขึน้ มีประสิทธิภาพมากขึน้ เพือ่ อนาคต ที่ดีกว่าของเราทุกคนได้อย่างไร”

ปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำ�กัด

ลิว เชียวเวย รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กร เชลล์ เอเชียแปซิฟิค

ลิว เชียวเวย รองประธานฝ่ายสือ่ สาร องค์กร เชลล์ เอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า “เชลล์ได้นำ� เสนอความคิดเรือ่ งพลังงานแห่ง อนาคตในรูปแบบของสถานการณ์จ�ำลอง ต่างๆ จากการใช้เครือ่ งมือ Shell Scenarios มาเป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว เชลล์ มีความยินดีอย่างยิง่ ทีเ่ ยาวชนไทยให้ความ สนใจและเข้าร่วมโครงการ Imagine the Future อย่างต่อเนือ่ ง ขอบคุณผูเ้ ข้าแข่งขัน ทุกคนทีไ่ ด้รว่ มออกแบบสถานการณ์จำ� ลอง อนาคตร่วมกัน อาจมีเพียงทีมเดียวที่ชนะ การแข่งขันและเป็นตัวแทนประเทศไทย ในการแข่ ง ขั น ระดั บ ภู มิ ภ าคเอเชี ย และ ตะวันออกกลาง แต่สำ� หรับเชลล์แล้ว ทุกทีม ทีเ่ ข้าแข่งขันล้วนเป็นผูช้ นะทีเ่ ราภูมใิ จ เพราะ เขาเหล่านี้คืออนาคตของเราทุกคน”

ทีม Good Night Consulting จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทีมชนะเลิศจากการแข่งขัน Imagine the Future Scenarios Competition 2020 Thailand ส�ำหรับโครงการ Imagine the Future Scenarios Competition 2020 Thailand เชลล์มวี ตั ถุประสงค์หลักเพือ่ มอบโอกาสให้คนรุน่ ใหม่ได้เรียนรูแ้ ละฝึกฝนทักษะในการ จ�ำลองสถานการณ์ของเมืองในอนาคต ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า Shell Scenarios ซึ่ง ถูกคิดค้นขึน้ เมือ่ 50 ปีทแ่ี ล้ว เครือ่ งมือจ�ำลองสถานการณ์นไ้ี ด้ถกู น�ำไปประยุกต์ใช้จริง อย่างแพร่หลาย ทัง้ ในภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา ตลอดจนภาครัฐ รวมไปถึงการจ�ำลอง สถานการณ์เพื่อก�ำหนดนโยบายและการออกแบบผังเมืองต่างๆ ในหลายประเทศ มาแล้ว ทีมเยาวชนที่ร่วมโครงการได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ความยัง่ ยืน และวิทยาศาสตร์แห่งโลกอนาคต ผ่านเวิรก์ ช้อปออนไลน์ โดยผูเ้ ชีย่ วชาญ ทั้งไทยและต่างประเทศ และพิเศษส�ำหรับปีน้ี เชลล์ประเทศไทยได้เปิดโอกาสให้ พนักงานคนรุ่นใหม่ในองค์กรสมัครเข้าร่วมโครงการในฐานะพี่เลี้ยงอาสาสมัคร (Volunteer Mentor) เพือ่ แบ่งปันประสบการณ์และให้คำ� ปรึกษากับรุน่ น้องในทีมทีต่ นเอง รับผิดชอบด้วย ผู้เข้าแข่งขันต้องน�ำเสนอภาพจ�ำลองเกี่ยวกับการใช้ชีวิต การท�ำงาน และการพักผ่อนของผู้คนในอนาคต พร้อมการใช้พลังงานที่ย่ังยืนได้อย่างชัดเจน สมเหตุสมผล น่าเชือ่ ถือ ครอบคลุม และสามารถสร้างความเชือ่ มโยงระหว่างสถานการณ์ ทีจ่ ะเกิดขึน้ กับตัวแปรรอบด้าน ทัง้ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิง่ แวดล้อม รวมถึงปัจจัย อื่นที่อาจไม่ได้คาดคิดมาก่อน เช่น การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ การแข่งขันจ�ำลองสถานการณ์ในอนาคต Imagine the Future Scenario Competition 2020 Thailand ได้มีการประกาศผลการแข่งขันรอบสุดท้ายไปแล้วเมื่อ เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยทีมชนะเลิศ ได้แก่ ทีม Good Night Consulting จาก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้เป็นตัวแทน ประเทศไทยเข้าแข่งขันในเวทีระดับภูมภิ าคเอเชียแปซิฟกิ และตะวันออกกลาง ซึง่ จะจัดขึน้ ในเดือนสิงหาคม 2563 นี้ ในรูปแบบ Virtual เช่นกัน ติดตามข้อมูลและการแข่งขันได้ที่ www.shell.co.th หรือ Facebook: Imagine the Future Competition July-August 2020

Interview > กองบรรณาธิการ

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ท�ำให้หลายๆ ประเทศด�ำเนินนโยบาย Lock Down เพือ่ ควบคุม การแพร่ระบาด ด้วยนโยบายที่เข้มงวดนี้ได้ส่งผลกระทบต่อ ธุรกิจเกือบทุกประเภท ผูป้ ระกอบการบางรายทีป่ รับตัวไม่ทนั หรือสายป่านไม่ยาวพอก็จำ� เป็นต้องปิดตัวลง ในขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจที่ปรับตัวได้ทันก็ต้องด�ำเนินธุรกิจต่อไป ถึงแม้ ปัจจุบนั สถานการณ์จะเริม่ ดีขน้ึ แต่การเฝ้าระวังก็ตอ้ งด�ำเนิน อย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดกลับมาใหม่ ทางกองบรรณาธิ ก ารได้ ร ่ ว มพู ด คุ ย สั ม ภาษณ์ วิศิษฎ์ เจียรนัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอวีร่า จ�ำกัด ผู้ท่ีอยู่ในวงการด้านไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน เกี่ยวกับเรื่อง สถานการณ์ COVID-19 นั้นส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ของประเทศไทยอย่างไร และบริษทั มีวธิ กี ารรับมือและแก้ไข ให้ทันกับสถานการณ์อย่างไร เนื่องจากวิกฤตในครั้งนี้ ส่งผลกระทบทัว่ ทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ AVERA ที่ ด� ำ เนิ น ธุ ร กิ จ จ� ำ หน่ า ยอุ ป กรณ์ ไ ฟฟ้ า ก� ำ ลั ง ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ต้องน�ำเข้าจากต่างประเทศ ถึงแม้จะประสบปัญหา แต่ AVERA ก็พร้อมทีจ่ ะ ก้าวไปข้างหน้าอย่างรอบคอบและมั่นคงยิ่งขึ้น ด้วยเป็นผลจากวิธีคิดบวกและการปรับตัวอย่าง ทันท่วงทีของผู้บริหารนั่นเอง “วิกฤตครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงที่สุดเท่าที่พวกเราเคย ประสบมา เพราะส่งผลกระทบทุกอุตสาหกรรมและเป็นไป ทั่วโลก แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องผ่านไปให้ได้ ก็ทำ� ให้ได้ ตระหนักว่า การก้าวต่อไปข้างหน้าเราต้องเพิม่ ความระมัดระวัง ให้มากขึน้ รอบคอบมากขึน้ การขยายการลงทุนจะต้องมองถึง ความเสีย่ งให้มากขึน้ แต่จะไม่ให้วกิ ฤตนีม้ าหยุดยัง้ การเติบโต ของบริษัท อาจจะต้องมีปรับการท�ำงานบ้าง แต่เป้าหมาย ของเราไม่เปลี่ยน ต้องพยายามท�ำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุ เป้าหมายที่เคยตั้งไว้ โดยจุดยืนคือ ขายสินค้าตรงตามสเปค ทันเวลาพร้อมบริการทีป่ ระทับใจ เราพูดได้เลยว่า ไม่มแี ม้แต่ ครัง้ เดียวทีข่ ายสินค้าไม่ตรงตามสเปค หรือส่งสินค้าทีไ่ ม่ถกู ต้อง ถึงแม้บางครัง้ ต้องสูญเสียผลประโยชน์ไปบ้าง แต่เราก็ยงั ยึดมัน่ ความถูกต้องไว้เสมอ อย่างน้อยสิ่งที่ท�ำถึงแม้จะเป็นเพียง ส่วนเล็กๆ ในสังคม แต่ถา้ มีคนท�ำมากขึน้ ๆ สังคมก็ยอ่ มดีขน้ึ ๆ ตามไปด้วย” July-August 2020

15 ปีที่เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยจุดเด่นที่ ส่งมอบสินค้าตามสเปค ส่งมอบตามกำ�หนด ระยะเวลา และการบริการที่ครบวงจร

บริ ษั ท เอวี ร ่ า จ� ำ กั ด เกิ ด จากประสบการณ์ ข อง บุคลากรทีม่ คี วามเชีย่ วชาญด้านไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน ท�ำให้ บริษัทเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างถ่องแท้ และด้วยความพร้อมสูงสุดในการให้บริการด้วยความจริงใจ อีกทัง้ ความมุง่ มัน่ ในการเป็นผูค้ ดั สรรอุปกรณ์ดา้ นไฟฟ้าก�ำลัง ทีม่ คี วามเหมาะสมทัง้ ด้านราคาและคุณภาพ เพือ่ ส่งให้ถงึ มือ ผู้บริโภคได้อย่างมั่นใจ สินค้าจาก AVERA ได้รับการยอมรับ จากกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแพร่หลาย ดังนั้นปัจจุบันและต่อไปใน อนาคต AVERA ยังคงไม่หยุดนิง่ ทีจ่ ะพัฒนาและคัดสรรสินค้า คุณภาพที่ดีท่ีสุดให้แก่ผู้บริโภคต่อไป พร้อมทั้งการบริการ ทั้งด้านการปรึกษา การดูแลรักษาอย่างครบวงจรในตลาด ประเทศอย่างยั่งยืน “สินค้าของ AVERA ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์จากยุโรป เพราะคนไทยส่วนใหญ่เชื่อว่าสินค้าจากยุโรปจะเป็นสินค้า มีคณ ุ ภาพ มีมาตรฐานทีด่ ี และใช้เทคโนโลยีอย่างทันสมัย แต่ เมื่อเกิดปัญหาไม่สามารถน�ำเข้าได้ ทาง AVERA อาจจะให้ ความสนใจสินค้าในเอเชียมากขึน้ สินค้าเดิมเราจะรักษาไว้ และ มองหาสินค้าใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของ ลูกค้าเราให้ครอบคลุมมากทีส่ ดุ ดังนัน้ ทางบริษทั ก็ตอ้ งปรับตัว และบริหารจัดการส�ำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ต่อไป” AVERA มี ก ารดู แ ลงานบริ ก ารหลั ง การขายด้ ว ย ทีมงานมืออาชีพตลอด 24 ชั่วโมง มีบริการตรวจสอบงาน ติดตัง้ และซ่อมบ�ำรุงอุปกรณ์ภายในตูส้ วิตช์บอร์ด นอกจากนัน้ ยังมีการสอบเทียบมิเตอร์ (Calibration) เพื่อตรวจสอบความ เที่ ย งตรงของมิ เ ตอร์ แ ละค่ า พารามิ เ ตอร์ ท างไฟฟ้ า ต่ า งๆ รวมถึงบริการให้ค�ำแนะน�ำการใช้งานสินค้าและตอบปัญหา ข้อมูลทางเทคนิคต่างๆ SPECIALISING IN THE BUSINESS 1. Intelligent Energy Management System 2. Internal and External Lightning Protection 3. Premium Indoor Parking Guidance System 4. Intelligent Charging Solutions for Electric Vehicles 5. Electrical Low Voltage and Medium Voltage Products 6. Preventive Maintenance and Service “จุดแข็งของ AVERA คือ เราเป็นบริษัทขนาดไม่ใหญ่ ท�ำให้การตัดสินใจต่างๆ ท�ำได้รวดเร็ว เข้าถึงได้งา่ ย แตกต่าง จากบริษทั ใหญ่ ซึง่ ส่วนใหญ่เป็นบริษทั ข้ามชาติ การด�ำเนินการ ต่างๆ มีขนั้ ตอนมากกว่า นอกจากนี้ ผูบ้ ริหารยังได้มอบอ�ำนาจ การตัดสินใจให้แก่หวั หน้างาน เพือ่ ท�ำให้การท�ำงานได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยจุดแข็งนี้ ท�ำให้ AVERA สามารถยืนหยัด ในตลาดมามากกว่า 15 ปีแล้ว”

“หลักเศรษฐกิจพอเพียง” ข้อคิดเพื่อการดำ�เนินธุรกิจ อย่างมีสติ

ก่อนเกิดโควิด-19 AVERA เตรียมความพร้อมทีจ่ ะขยายการลงทุน มากขึน้ เพราะคิดว่าเป็นโอกาสให้เติบโต แต่เมือ่ ต้องประสบกับวิกฤตโควิด-19 สิ่งหนึ่งที่ตระหนักคือ ต้องท�ำทุกอย่างอย่างมีสติ จึงเริ่มกลับมาคิดว่า สิง่ ต่างๆ ทีอ่ ยากท�ำต้องค�ำนึงถึงความเสีย่ งทีเ่ กิดขึน้ ดังพระราชด�ำรัสของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” “ค�ำว่าเศรษฐกิจพอเพียงนั้นไม่ใช่หมายความว่าไม่ให้ท�ำอะไรเลย ไม่ลงทุน ไม่ทำ� ธุรกิจ แต่หมายความว่าทุกอย่างทีท่ ำ� ต้องอยูบ่ นความมีสติ มีความพร้อม ไม่ประมาท มองทุกอย่างให้รอบด้าน อย่าคิดแค่สงิ่ ทีจ่ ะได้ ว่าต้องรีบขยายงานขยายตลาด มีโอกาสแล้วต้องรีบกู้เงินมาลงทุน คิดเพียงแค่ว่ามันเป็นโอกาสดี แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ทั้งหมด ต่อไปจากนี้ จะท�ำอะไรก็ต้องคิดให้รอบคอบมากขึ้น” นอกจากการท�ำงานอย่างมีสติแล้ว วิกฤตครัง้ นีย้ งั ท�ำให้ คุณวิศษิ ฎ์ ได้ข้อคิดในการท�ำธุรกิจว่า การที่ธุรกิจจะก้าวไปข้างหน้านั้นต้องเตรียม ความพร้อมในหลายๆ ด้าน อาทิ การสือ่ สารกับพนักงานให้มคี วามเชือ่ มัน่ ต่อบริษทั ควบคุมและดูแลค่าใช้จา่ ยอย่างเหมาะสม ดูแลลูกค้าอย่างทัว่ ถึง รักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ให้ได้ และมองหาลูกค้าหรือตลาดใหม่ๆ พัฒนา คุณภาพการท�ำงาน ซึ่งทาง AVERA ได้น�ำระบบ ERP ของต่างประเทศ มาใช้เป็นการเพิม่ ประสิทธิภาพการท�ำงานภายในบริษทั ให้ดขี นึ้ นอกจากนัน้ ต้องเสนอโซลูชน่ั ทีค่ มุ้ ค่าให้แก่ลกู ค้า ท�ำให้ลกู ค้าท�ำงานง่ายขึน้ ปลอดภัยขึน้ สอดรับกับวิถี New Normal ในปัจจุบัน

Turst สร้างความเชื่อมั่นด้วยการสื่อสารที่ชด ั เจน ต่อผู้เกี่ยวข้อง

ด้วยนโยบาย Lock Down ส่งผลให้การส่งออก-น�ำเข้าสินค้าได้รบั ผลกระทบมากที่ สุ ด สายการบิ น ทุ ก สายต้ อ งหยุ ด ให้ บ ริ ก ารชั่ ว คราว ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อธุรกิจของบริษัทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะธุรกิจของ บริษัทต้องน�ำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ สิ่งที่ผู้บริหารรีบด�ำเนินการคือ การบริ ห ารจั ด การเพื่ อ สร้ า งความเชื่ อ มั่ น ให้ แ ก่ ทุ ก ฝ่ า ยที่ เ กี่ ย วข้ อ ง ทั้งพนักงาน คู่ค้า และลูกค้า คุณวิศิษฎ์ กล่าวว่า “สิง่ ทีต่ อ้ งบริหารจัดการคือ “Turst” นัน้ คือ การสือ่ สารกับพนักงาน อย่างตรงไปตรงมาว่าสถานการณ์ในปัจจุบนั ของบริษทั เป็นอย่างไร บริษทั ไม่เลือกวิธีลดเงินเดือนพนักงาน เพราะบริษัทจะไม่สามารถเดินหน้าได้ ถ้าขาดคนท�ำงาน แต่เราใช้วธิ เี พิม่ ศักยภาพของพนักงานแทน โดยพนักงาน จะต้องท�ำงานได้หลายหน้าที่ สร้างความพร้อมรับมือและหาวิธกี ารแก้ไข ปัญหาต่างๆ ด้วยความร่วมมือกัน ซึ่งจะท�ำให้พนักงานกับบริษัทเดินไป ข้างหน้าพร้อมกัน” ในส่วนของลูกค้านัน้ บริษทั ได้สอบถามลูกค้าว่าประสบปัญหาใดบ้าง เพื่อหาจุดที่เหมาะสมร่วมกัน ช่วยกันแก้ไขปัญหา บางส่วนบริษัทก็ยินดี ลดราคาให้เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ใช้สินค้าที่หลากหลายขึ้น หรือแม้ กระทั่งยืดระยะเวลาการช�ำระเงินก็ตาม เพราะหากพอใจ ต่อไปก็จะได้ เป็นลูกค้าระยะยาวต่อไปได้ ด้วยวิธกี ารท�ำงานร่วมกันเช่นนี้ ก็เพือ่ ช่วยให้ ลูกค้าสามารถท�ำงานได้ เพราะถ้าลูกค้าอยู่ไม่ได้บริษัทก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน July-August 2020

รวดเร็ว จริงใจ โปร่งใส และเป็นธรรม

“นอกจากพนักงานและลูกค้าที่บริษัทต้องสร้างความเชื่อมั่นแล้ว คูค่ า้ หรือซัพพลายเออร์กเ็ ป็นอีกส่วนประกอบส�ำคัญหนึง่ ทีม่ องข้ามไม่ได้ เช่นกัน เราเข้าใจดีว่าทางซัพพลายเออร์เองก็มีเป้าหมายทางการตลาด ดั ง นั้ น เราจึ ง ต้ อ งพยายามช่ ว ยซั พ พลายเออร์ บ รรลุ เ ป้ า หมายให้ ไ ด้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกัน หากเราท�ำไม่ได้ คู่ค้าขาดความ เชือ่ มัน่ อาจจะมองหาคูค่ า้ รายอืน่ ทีค่ ดิ ว่ามีศกั ยภาพกว่า แต่หากเราเลือก ทีจ่ ะท�ำก�ำไรน้อยลงแต่ยงั รักษาปริมาณการจัดจ�ำหน่าย มันจะสร้างความ เชื่อมั่นให้ซัพพลายเออร์ได้ และส่งผลดีในระยะยาวมากกว่า”

CLMV ตลาดที่น่าสนใจแต่ต้องศึกษาให้ละเอียด

ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการไทยจ�ำนวนมากได้เข้าไปลงทุนในตลาด CLMV โดยเฉพาะเวียดนามที่มีอัตราการเติบโตด้านเศรษฐกิจสูงกว่า ประเทศอืน่ ๆ แต่ในส่วนของธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้านัน้ คุณวิศษิ ฎ์ยอมรับว่า การจะประสบความส�ำเร็จไม่ง่ายเลย “AVERA สนใจตลาด CLMV เช่นกัน แต่จากการศึกษาบริษทั อืน่ ๆ ที่เข้าไปท�ำตลาดก่อนเราพบว่า ธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้ามีผู้ประสบผลส�ำเร็จ น้อยมาก อาจจะด้วยวัฒนธรรม วิถชี วี ติ โดยเฉพาะการจะเข้าไปตัง้ บริษทั ด�ำเนินธุรกิจโดยตรงไม่ใช่เรื่องง่าย ทางเลือกคือส่งสินค้าให้กับคู่ค้าโดย ให้เขาท�ำตลาดเอง หรือตั้งบริษัทร่วมทุนก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ปัจจุบัน เวียดนามมีแนวโน้มที่จะพัฒนาได้อีกมาก ด้วยจุดแข็งที่รัฐบาลให้การ สนับสนุนเต็มที่ แก้ไขกฎหมายต่างๆ ทีเ่ คยเป็นปัญหา ทักษะความพร้อม ทั้งด้านภาษาและแรงงาน และประชาชนให้ความสนใจด้านค้าขาย สิ่งเหล่านี้สามารถดึงความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติได้ แต่จุดอ่อนคือ ระบบสาธารณูปโภคทีย่ งั ไม่พร้อมนัก การจะเข้าไปท�ำตลาดต้องศึกษาให้ ละเอียด รอบคอบ” July-August 2020

ด้วยวิกฤตโควิด-19 ที่ท�ำให้ภาคเอกชนแทบจะ ไม่มีการลงทุนเพิ่ม ยกเว้นกลุ่มอุตสาหกรรมบางกลุ่ม เช่น ยานยนต์ ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้น จากการประกาศ เพิ่มทุนของกลุ่มทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ท่ีจะใช้ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ส่งออก ดังนั้นเมื่อภาคเอกชนไม่มีการลงทุน ก็ต้องพึ่งพาการ ลงทุนของภาครัฐเป็นหลักที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของ ประเทศให้ดีขึ้นบ้าง “กลุม่ ตลาดเป้าหมายของ AVERA ทีผ่ า่ นมาจะเน้น ไปที่ภาคเอกชนเป็นหลัก แต่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเน้น ไปทีภ่ าครัฐมากขึน้ แต่ภาครัฐเองก็ตอ้ งปรับการท�ำงาน ให้รวดเร็ว จริงใจ โปร่งใส และเป็นธรรม ภาครัฐ จะต้องเอื้อให้ภาคเอกชนท�ำงานได้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะการน�ำเข้า-ส่งออก ศุลกากรควรใช้เวลาน้อยลง เมื่อผู้ประกอบการท�ำงานได้สะดวกขึ้นย่อมส่งผลให้ เศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวเร็วขึ้น ภาครัฐจะต้องท�ำงาน ด้วยความจริงใจ ที่ผ่านมาภาครัฐสามารถควบคุมการ แพร่ระบาดโควิด-19 อย่างได้ผล แต่บางเรือ่ งต้องสือ่ สาร อย่างตรงไปตรงมา เพือ่ ให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ ได้ทันท่วงที ส่วนเรื่องความโปร่งใสนั้น ด้วยมาตรการ หลายอย่างทีม่ กี ารประกาศออกมานัน้ ยอมรับว่าบางเรือ่ ง ยังลงไม่ถึงผู้ประกอบการรายเล็ก การก�ำหนดนโยบาย ต้องมีความเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน ผู้ประกอบการ รายเล็กรายใหญ่ตอ้ งเสมอภาคกันจึงจะช่วยให้เศรษฐกิจ ของประเทศฟื้นตัวได้อย่างมั่นคง” สุดท้าย คุณวิศิษฎ์ เจียรนัย กล่าวย�้ำว่า ถึงแม้ จะไม่ อ าจทราบได้ ว ่ า การระบาดของไวรั ส โควิ ด -19 จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องค�ำนึงถึง ก็คอื การเตรียมตัวทีจ่ ะเผชิญหน้ากับความเปลีย่ นแปลง ต่างๆ ทั้งด้านพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภค ด้าน รูปแบบการด�ำเนินธุรกิจทัง้ ภายในและภายนอกประเทศ ดังนั้นทุกคนต้องเร่งปรับตัว ปรับทัศนคติ รวมไปถึง การปรั บ แผนกลยุ ท ธ์ ใ ห้ เข้ า กั บ สถานการณ์ ป ั จ จุ บั น เพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้าและสร้างประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลในการท�ำธุรกิจให้มากทีส่ ดุ รวมทัง้ ต้องไม่ลมื การตอบแทนสังคมเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

Cover Story > บริษัท เอวีร่า จ�ำกัด

Supply Quality Management in Industry

ITIC Curve

เมื่ อ พู ด ถึ ง การวิ เ คราะห์ ดิจติ อลมิเตอร์ รุน่ CVM-A1500 สามารถแสดงกราฟ ITIC (เช่น CBEMA และ SEMIF47) คุณภาพไฟฟ้านั้น เป็นการตีความ บนหน้าจอแสดงผลด้วยการคลิกเพียง 3 ครัง้ บนอุปกรณ์เครือ่ งมือวัด ท�ำให้ผใู้ ช้ไฟเข้าใจกราฟ ข้ อ มู ล โดยวิ ศ วกรไฟฟ้ า ผู ้ เชี่ ย วชาญ ITIC ของระบบไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น กราฟนี้แสดงผลเป็นรูปสามเหลี่ยมสีแดงในแต่ละครั้ง การติ ด ตั้ ง อุ ป กรณ์ ไ ฟฟ้ า บางประเภท ที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แสดงจ�ำนวนเหตุการณ์คุณภาพไฟฟ้าที่เกิดขึ้น มี ก ารติ ด ตั้ ง อุ ป กรณ์ ไ ฟฟ้ า ที่ มี คุ ณ ภาพ หมายความว่าผูใ้ ช้สามารถเห็นถึงปัญหาทีก่ ำ� ลังเผชิญอยูไ่ ด้อย่างรวดเร็ว หากสามเหลีย่ ม ผู้ใช้งานจึงไม่มีปัญหาในการตีความข้อมูลที่ อยูใ่ นพืน้ ทีส่ เี ขียวแสดงว่ามีเหตุการณ์ (ไฟกระชาก หรือแรงดันไฟฟ้าตก) ซึง่ ไม่ได้ทำ� ให้ ตรวจวัดได้ โดยทัว่ ไปเครือ่ งวัดวิเคราะห์คณ ุ ภาพ อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ในโรงงานของคุณเสียหายได้ อย่างไรก็ตาม หากสามเหลีย่ ม ไฟฟ้ามักจะเป็น “Black Boxes” ซึ่งไม่ได้แสดง อยู่ในพื้นที่สีแดง นั่นหมายถึงปริมาณแรงดันไฟฟ้าที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเพิ่ม ข้อมูลพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าแต่อย่างใด หากไม่ได้ มากขึน้ ซึง่ ท�ำให้อปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ของคุณเสียหายมากทีส่ ดุ ยิง่ สามเหลีย่ ม เชื่อมต่อผ่านซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล อยูใ่ กล้กบั ด้านบนซ้ายมากเท่าไหร่ อุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์กจ็ ะเสียหาย ดังนั้นนอกเหนือจากประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ มากขึน้ เนือ่ งจากมีคา่ และระยะเวลาทีส่ งู ในทางตรงกันข้าม หากสามเหลีย่ ม ในการดาวน์โหลดข้อมูลจากเครื่องมือวัดแล้ว ผู้ใช้งาน อยูใ่ นขอบเขตสีเหลือง หมายความว่ามีแรงดันไฟฟ้าตก ซึง่ แรงดันไฟฟ้าตก จะต้องรู้ถึงการตีความจากข้อมูลทางไฟฟ้าที่ตรวจวัดได้ ทีเ่ กิดขึน้ นีอ้ าจส่งผลกระทบต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ทม่ี ตี ดิ ตัง้ อยูภ่ ายใน ด้วยเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่ท�ำให้ทาง บริษัท เอวีร่า จ�ำกัด เครื่องจักรกลเกิดการหยุดการท�ำงานอันเนื่องจากแรงดันไฟฟ้าตก มีการพัฒนาคัดสรรผลิตภัณฑ์ทม่ี คี ณ ุ ภาพเหมาะสมกับการใช้งาน (Under Voltage) เพียงแค่ผใู้ ช้งานสังเกตกราฟทีบ่ นหน้าจอมิเตอร์ เพือ่ ตอบโจทย์กบั ความต้องการของผูใ้ ช้งานมากยิง่ ขึน้ ซึง่ ในครัง้ นี้ ของเครือ่ งมือวัดนี้ ก็ทำ� ให้ผจู้ ดั การฝ่ายบ�ำรุงรักษาสามารถรูไ้ ด้วา่ ทางบริษทั ขอน�ำเสนอผลิตภัณฑ์ Digital Meter เครือ่ งมือวัดวิเคราะห์ ท�ำไมระบบไฟฟ้าจึงมีความผิดปกติ นอกจากนี้ หากเกิดขึน้ ซ�ำ้ ๆ การใช้พลังงานไฟฟ้าทีเ่ ป็น Class A ตามมาตรฐาน IEC 61000-4-30 เป็นประจ�ำ ข้อมูลนีจ้ ะช่วยน�ำไปวางแผนการใช้งานเพือ่ ลด ด้วยราคามิตรภาพย่อมเยา กับฟังก์ชันที่หลากหลายประเภท Power ผลกระทบของเหตุ ก ารณ์ ค วามเสี ย หายที่ เ กิ ด ขึ้ น ได้ Quality Analyzer นั่นคือรุ่น CVM-A1500 แบรนด์ CIRCUTOR เป็ น แนวทางในการหลี ก เลี่ ย งการหยุ ด ชะงั ก ของ กระบวนการผลิต และการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงการสูญเสียทางการเงินได้อีกด้วย July-August 2020

รายละเอียดในการป้องกันปัญหาคุณภาพไฟฟ้า

การตัดสินใจและการพิจารณาข้อก�ำหนดในการป้องกันทาง ไฟฟ้าให้กับระบบคอมพิวเตอร์และระบบควบคุมในทุกวันนี้ เราจะ ยึดถือกราฟเส้นโค้ง CBEMA ของสมาคมผูผ้ ลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เชิงธุรกิจ (Computer Business Equipment Manufacture Association : CBEMA) ซึง่ ต่อมาได้เปลีย่ นชือ่ มาเป็น สภาอุตสาหกรรมสารสนเทศ (Information Technology Industry Council : ITI) เมื่อปี พ.ศ. 2543

รูปที่ 1 แสดงกราฟ ITIC (CBEMA)

ตามรูปที่ 1 กราฟเส้นโค้งนี้จะแสดงถึงระดับที่อุปกรณ์ในระบบ อิเล็กทรอนิกส์สามารถยอมรับให้แรงดันไฟฟ้าเปลีย่ นแปลงได้ ซึง่ จะ หมายถึงการน�ำเอาอุปกรณ์ไฟฟ้ามาใช้งานนั่นเอง เส้นโค้งดังกล่าว ท�ำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าสามารถน�ำไปก�ำหนดเป็นสมรรถนะที่ใช้ งานเช่นกัน การใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เกีย่ วกับเส้นโค้งและขอบเขตทีย่ อมรับได้ในข้างต้นนัน้ จะถูกแยกออก เป็น 2 ประการ คือ 1. คอมพิวเตอร์ในสมัยใหม่ส่วนใหญ่ใช้วิธีการสวิตช์ในการ จ่ายก�ำลังไฟฟ้า (Switched Moe Power Supplies : SMPS) ที่ยอม ให้แรงดันไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงได้สูงมากกว่าที่แสดงในเส้นโค้ง 2. ต�ำแหน่งที่อยู่ของเส้นโค้งเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของ แรงดันไฟฟ้าปกติระหว่างสายที่มีไฟด้านเข้า หรือสายเฟสเทียบ นิวทรัล โดยทีไ่ ม่ได้คดิ ถึงการรบกวนของแรงดันไฟฟ้าระหว่างนิวทรัล กับกราวด์ เทคโนโลยี SMPS ไม่ได้รวมถึงหม้อแปลงลดแรงดันและ หม้อแปลงแบบแยกขดลวด (Step Down/Isolation) ทีเ่ ป็นส่วนหนึง่ ในการจ่ายก�ำลังไฟฟ้าก่อน SMPS ซึง่ จะมีแรงดันไฟฟ้าทีม่ คี ลืน่ รบกวน ของนิวทรัลเทียบกับกราวด์ท่ีระบบคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ ดังนั้น ความจ�ำเป็นและการใช้งานรวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์จึงควรน�ำมา พิจารณาร่วมด้วย

กราฟแสดงความคงทนของอุปกรณ์ ไฟฟ้าต่อแรงดันไฟตกชั่วขณะ กราฟ CBEMA ITIC

กราฟ CBEMA (Computer Business Equipment Manufacturers Association) จะถู ก ใช้ กั บ อุ ป กรณ์ ค อมพิ ว เตอร์ ใ นการตรวจสอบ การท�ำงานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ระหว่างเกิดแรงดันไฟฟ้าตกชั่วขณะ หรือแรงดันไฟฟ้าสูงเกินชัว่ ขณะ โดยทีก่ ราฟ CBEMA จะถูกใช้กบั อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ที่พิกัดแรงดันไฟฟ้า 120V 60Hz ซึ่งเป็นแรงดันไฟฟ้าแรงต�า่ ของสหรัฐอเมริกาโดยจะมีลกั ษณะดังรูปที่ 1 ต่อมาองค์กร CBEMA ได้ถกู เปลี่ยนเป็น ITIC (The Information Technology Industry Council) และ ได้มีการปรับปรุงกราฟใหม่ คือกราฟ ITIC ดังแสดงในรูปที่ 2 และยังคงใช้ กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอยู่ระดับแรงดัน ไฟฟ้า 120V 60Hz เช่นกัน

กราฟ SEMIF47

นอกจากกราฟทั้ง 2 ที่ได้กล่าวไปเบื้องต้นแล้ว องค์กร Semiconductor Equipment and Materials International (SEMI) ยังได้พฒ ั นาเรือ่ ง ของมาตรฐานและการเชื่อมต่ออุปกรณ์ข้ึนอีกหลายอย่าง และได้จัดท�า กราฟ SEMIF47 ขึน้ มาเพือ่ ก�ำหนดช่วงของแรงดันไฟฟ้าตกชัว่ ขณะช่วงสัน้ ที่เกิดขึ้น ว่ามีขนาดและช่วงเวลาการเกิดเป็นอย่างไรที่จะไม่มีผลกระทบ ต่ออุปกรณ์ในกระบวนการผลิตสารกึ่งตัวน�ำ ซึ่งมาตรฐาน SEMIF47 นี้ เป็นมาตรฐานด้านอุตสาหกรรมทีจ่ ะพิจารณาผลทางด้านแรงดันไฟฟ้าตก ชั่วขณะเท่านั้น ไม่ได้พิจารณาในกรณีท่ีเกิดแรงดันไฟฟ้าสูงเกินชั่วขณะ (ดังรูปที่ 2) และยังคงใช้กับแรงดันไฟฟ้าแรงต�่ำเช่นเดียวกัน (อาจได้ถึง July-August 2020

รูปที่ 2 เส้นโค้ง ITIC ที่แสดงสมรรถนะมาตรฐาน ส�ำหรับอุปกรณ์ ไฟฟ้าที่ ได้พัฒนาใหม่ 600V 3 Phase 50/60Hz) โดยในรูปที่ 3 ได้แสดงระดับ แรงดันไฟฟ้าทีอ่ ปุ กรณ์สารกึง่ ตัวน�ำต้องสามารถทนต่อแรงดัน ไฟฟ้าตกชัว่ ขณะทีเ่ กิดขึน้ ในช่วงเวลาและทีร่ ะดับแรงดันต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในระบบไฟฟ้าได้ ความแตกต่างระหว่างเส้นโค้ง CBEMA กับ ITIC คือ เส้นโค้ง CBEMA ใช้ได้กับแรงดันไฟฟ้าทั้งหมด ในขณะที่ เส้นโค้ง ITIC จะถูกน�ำมาใช้กับแรงดันไฟฟ้าที่เฉพาะเจาะจง มากขึ้น

พารามิเตอร์อื่นๆ ที่สามารถตรวจวัดได้ Harmonics

อุปกรณ์เครื่องวัดนี้สามารถแสดงล�ำดับของฮาร์มอนิกได้ถึง 63 ล�ำดับ และสามารถเห็นระดับฮาร์มอนิกของโหลดที่เกิดขึ้น ฮาร์มอนิกทีเ่ กิดขึน้ สามารถส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการใช้งาน ของอุปกรณ์ไฟฟ้าได้โดยตรงในรูปแบบของความร้อนสูง หรือความ ผิดปกติในการท�ำงานของโหลดประเภทอิเล็กทรอนิกส์

หน้าจอแสดงผล

ดิ จิ ต อลมิ เ ตอร์ รุ ่ น CVM-A1500 มี เว็ บ เซิ ร ์ ฟ เวอร์ ท่ี มี หน่วยความจ�ำในตัว ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่บันทึกไว้บนเว็บ เบราว์เซอร์ (Internet Explorer, Firefox, Google Chrome ฯลฯ) เพือ่ ตรวจสอบพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าทัง้ หมดแบบเรียลไทม์ การสร้างกราฟ และสามารถดูตารางแสดงเหตุการณ์คณ ุ ภาพไฟฟ้าและรูปคลืน่ ไซน์ อีกทั้งดึงข้อมูลได้อย่างง่ายดายใน Excel บวกกับอุปกรณ์นี้ยัง สามารถรวมเข้ากับซอฟต์แวร์การจัดการพลังงาน Power Studio (EMS) เพือ่ ให้เห็นภาพรวมของสถานะของโหลดทีต่ ดิ ตัง้ อยูใ่ นระบบ ไฟฟ้าทั้งหมด

Panel power analyzer with power quality measurement

Eenergy Management Software integrated Eenergy Management Software PowerStudio Embedded integrated.

WebServer access

PowerStudio access

คุณภาพการส่งผ่านข้อมูลที่รวดเร็ว

ดังทีเ่ ราได้เห็นด้วยเครือ่ งวิเคราะห์คณ ุ ภาพไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟฟ้า CVM-A1500 ผู้ใช้สามารถควบคุมพารามิเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งสามารถพิจารณาความผิดปกติใดๆ และตรวจสอบว่ามีความผิดปกติทางไฟฟ้าหรือไม่ โดยการส่งผ่านข้อมูลไปยังผู้ดูแลบ�ำรุง รักษาให้สามารถน�ำข้อมูลไปปรึกษากับการไฟฟ้าฯ ในกรณีทมี่ กี ารหยุดการท�ำงานอันเนือ่ ง มาจากคุณภาพของแหล่งจ่ายไฟฟ้าทีไ่ ม่ดี หรืออาจต้องการการรับประกันส�ำหรับเครือ่ งจักร ทั้งหมดที่มีการท�ำงานที่ผิดปกติเพราะสามารถตรวจสอบได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด หรือเพื่อ ความผิดปกติของตัวเครื่องจักรเองก็ตาม July-August 2020

circuit events such as overvoltages, gaps, and Current Quality from the correct point of view electric supply interruptions, as well as Technical featuresmeasurement circuit Power supply Power supply voltage Maximum the associated voltage and current wave circuit AC frequency transformation AC consumption ratios shapes (transients). Any malfunction in DC consumption Maximum energy meter value (total) the installation caused by an event will be Voltage Voltage range Accuracy class The CVM-A1500 records power quality measurement (.../5 A) displayed on screen Frequency (Consult other events such as overvoltages, gaps,using and event charts circuit accuracies) Current Current measurement CBEMA, ITIC and SEMIF47 curves. featuresmeasurement Input current m the correct point of view electric supplyand interruptions, as well as Technical

Frequency

40...70 Hz

Current measurement

4 (3 phases + 1 neutra

Input current

.../5 A or .../1 A or .../2

100...240 Vac / 120...300 Vdc Primary V: 500,000 (500 kV) 50...60 Hz to 1.0 (10 kA) in .../5 A and .../1 A, 63...2 Primary A: 999.9 29,4A V·A Prim Vmax x Prim < 60 MW max 11,9 W If (Primary A / Secondary A) < 1000 (2 GW) max 13,8 W (SDC model) If (Primary A / Secondary A) ≥ 1000 (2 TW) 20 Vp-n - 600 Vp-p Voltage 0,1 ±1 digit (20...600 V (up to 600 V / 1000 Vp-p) Neutral voltage p-n 0,5 ±1 digit (55...500 V 40...70 Hz Current 0,1 ±1 digitMeasurem (0,05...8 A 4 (3 phases + 1 neutral) Neutral current 1 ±1 digit (0,1...6 A) .../5 A or .../1 A or .../250 mA Active Power 0,2 ±1 digit circuit Power supply Power supply voltage 100...240 Vac / 120...300 V 1 ±1 digit (0,05...6 A) Maximum Primary V: 500,000 (500Reactive kV) dc Power circuit AC frequency 50...60 Hz to 1.0 (10Active transformation Primary A: 999.9 kA) in .../5 A and .../1 A, 63...2000 A in MC energy 0,2S AC consumption 29,4A V·A ratios Prim Vmax x Prim < 60 MWReactive energy 1 DC consumption max 11,9 W Maximum energy If Harmonics (Primary A / Secondary A) < 1000 (2 GW) Voltage / Current up to the 63rd max 13,8 W (SDC model) meter value (total) If (Primary A / Secondary ≥ 1000 (2 TW) Digital inputs 2,A) Optoisolated potential-free contact Voltage Voltage range 20 Vp-n - 600 Vp-p Accuracy class Voltage 0,1 ±1 digit (20...600 Va.c.)

Digital 2, NPN Vp-p) transistor (up outputs to 600 V / 1000 measurement (.../5 A) Neutral voltage p-n 0,5 ±1 digit (55...500 Va.c.)

2, to relay circuit Frequency 40...70 Hz (Consult other Current 0,1 ±1 digitMeasurement (0,05...8 A) Modbus Communications Protocols / BACne andRTU Control accuracies) Current Current measurement 4 (3 phases + 1 neutral) Neutral current 1 ±1 digit (0,1...6 A) IP 65 with airtight Build features Front panel protection degree IP 40 ( measurement Technical features Input current .../5 A or .../1 A or .../250 mA Active Power 0,2 ±1 digit circuit Back panel protection degree IP 30 Power supply Power supply voltage 100...240 Vac / 120...300 Vdc Power 1 ±1 digit (0,05...6 A) Maximum Primary V: 500,000 (500Reactive kV) CAT III 300/520 Vac according to EN 61010, class II double insulati Safety circuit AC frequency 50...60 Hz to 1.0 (10Active transformation Primary A: 999.9 kA) in .../5 A and .../1 A, 63...2000 A in MC energy 0,2S IEC 62053-22, ANSI (Class 0.2S), IEC 62053-24 (Class 1) / ANSI C1 Standards AC consumption 29,4A V·A ratios Prim Vmax x Prim < 60 MWReactive energy 1 class A acc. to IEC 61000-4-30, IEC 61010, IEC 61000, UNE-EN 5 DC consumption max 11,9 W Maximum energy If Harmonics (Primary A / SecondaryVoltage A) < 1000 (2 GW) rd / Current up to acc. the to63MID, Measurement UL certification IEC 61000-4-2, IEC 610 max 13,8 W (SDC model) meter value (total) If (Primary A / Secondary ≥ 1000 (2 TW) IEC 61000-4-11, Digital inputs 2,A) Optoisolated potential-free contactIEC 61000-4-4, IEC 61000-4-5 600 V Voltage Voltage range 20 V p-n p-p Accuracy class Voltage 0,1 ±1 digit (20...600 Va.c.)

Digital 2, NPN Vp-p) transistor (up outputs to 600 V / 1000 measurement (.../5 A) Neutral voltage p-n 0,5 ±1 digit (55...500 Va.c.)

2, to relay circuit Frequency 40...70 Hz (Consult other Current 0,1 ±1 digit (0,05...8 A) Modbus RTU / BACnet References Communications Protocols accuracies) Current Current measurement 4 (3 phases + 1 neutral) Neutral current 1 ±1 digit (0,1...6 A) seal) measurement se Build features Front panel (IP 65 with airtight measurement Type Code Current Input current .../5 A or .../1 A or .../250 mA protection degree IP 40 Active Power 0,2 ±1 digit circuit Back panel protection degree IP 30 CVM-A1500-ITF-RS485-ICT2 M56311 .../5 or .../1 A or ...250 mA Power 1 ±1 digit (0,05...6 A) * Maximum Primary V: 500,000 (500Reactive kV) CAT III 300/520 Vac according to EN 61010, class II double insulation Safety M5631100F0000 .../5 or .../1 A or ...250 mA CVM-A1500-SDC-ITF-485-ICT2 transformation Primary A: 999.9 to 1.0 (10Active kA) in .../5 A and .../1 A, 63...2000 A in MC energy 0,2S IEC 62053-22, ANSI (Class 0.2S), IEC 62053-24 (Class 1) / ANSI C12.1 (Class 2), Standards ratios Prim V x Prim A < 60 MWReactive energy * Power 20...120 Vdc class A1 acc. supply to IEC 61000-4-30, IEC 61010, IEC 61000, UNE-EN 55022 Maximum energy If Harmonics (Primary A / SecondaryVoltage A) < 1000 (2 GW) rd / Current up to acc. the to63MID, Measurement UL certification IEC 61000-4-2, IEC 61000-4-3, meter value (total) If (Primary A / Secondary A) ≥ 1000 (2 TW) IEC 61000-4-11, Digital inputs 2, Optoisolated potential-free contactIEC 61000-4-4, IEC 61000-4-5 Accuracy class Voltage 0,1transistor ±1 digit (20...600 Va.c.)

Digital outputs 2, NPN (.../5 A) Neutral voltage 0,5 ±1 digit (55...500 Va.c.)

2, to relay (Consult other Current 0,1 ±1 digit (0,05...8 A) Modbus RTU / BACnet References Communications Protocols accuracies) Neutral Vialairtight Sant seal Jordi, 1 ±1 digit (0,1...6degree A) CIRCUTOR, 65 -with ) s/n Build current features Front panel protection IP 40 (IPSA Type Code Current measurement secondary Active Power 0,2 ±1 digit 08232 Viladecavalls (Barcelona) Spain Back panel protection degree IP 30 CVM-A1500-ITF-RS485-ICT2 M56311 .../5 or .../1 A or ...250 mA Reactive Power 1 ±1 digit (0,05...6 A)Tel.* (+34) 93 745 29 00 - Fax: (+34) 93 745 29 14 CAT III 300/520 Vac according to EN 61010, class II double insulation Safety M5631100F0000 .../5 or .../1 A or ...250 mA CVM-A1500-SDC-ITF-485-ICT2 Active energy 0,2S central@circutor.com IEC 62053-22, ANSI (Class 0.2S), IEC 62053-24 (Class 1) / ANSI C12.1 (Class 2), Standards Reactive energy * Power 20...120 Vdc class A1 acc. supply to IEC 61000-4-30, IEC 61010, IEC 61000, UNE-EN 55022 rd CIRCUTOR, SA reserves the Harmonics Voltage / Current up to acc. the to63MID, Measurement UL certification IEC 61000-4-2, IEC 61000-4-3, C2M5L3 any information contained in IEC 61000-4-11, Digital inputs 2, Optoisolated potential-free contactIEC 61000-4-4, IEC 61000-4-5 Digital outputs 2, NPN transistor Panel power analyzer with power quality measurement 2, to relay

Your network quality, at a glance the associated voltage and current wave

Waveform capture

shapes (transients). Any malfunction in the installation caused by an event will be 500 records power quality displayed on screen as overvoltages, gaps,using and event charts CBEMA, ITIC and SEMIF47 curves. ect point of view yand interruptions, as well as

CVM

Power ana with powe

d voltage and current wave sients). Any malfunction in n caused by an event will be power quality screen es, gaps,using and event charts and SEMIF47 curves. s,ITIC as well as

current wave alfunction in an event will be event charts MIF47 curves.EVENTS

CVM-A150 Quality in e Power analyzer quality

เครื่องวัดสามารถวิเคราะห์และตรวจจับรูปคลื่นของแรงดันและกระแสเมื่อ ตรวจพบความผิดปกติ หรือการเสียรูปของรูปคลืน่ แรงดันเก็บไว้ภwith ายในหน่วpower ยความจ�า เพื่อวิเคราะห์ออนไลน์หรือดาวน์โหลดข้อมูลไปยัง Power Studio

Oscilloscope in real timeQuality in every sense

CBEMA

ITIC

SEMIF47

Class A according IEC 61000-4-30

EVENTS

CBEMA

Communications

References Protocols

Modbus RTU / BACnet

CIRCUTOR, Vialairtight Sant seal Jordi, ITIC SEMIF47 65 -with ) s/n Build features Front panel protection degree IP 40 (IPSA Type Code Current measurement secondary 08232 Viladecavalls (Barcelona) Spain .../5 or .../1 A or ...250 mA Tel. (+34) 93 745 29 00 - Fax: (+34) 93 745 29 14 central@circutor.com IEC 62053-22, ANSI (Class 0.2S), IEC 62053-24 (Class 1) / ANSI C12.1 (Class 2), * Power 20...120 Vdc class A acc. supply to IEC 61000-4-30, IEC 61010, IEC 61000, UNE-EN 55022 Back panel protection degree IP 30 CVM-A1500-ITF-RS485-ICT2 M56311

rk quality, at a glance Class A according IEC 61000-4-30 Safety

* CAT III 300/520 Vac according to EN 61010, class II double insulation M5631100F0000 .../5 or .../1 A or ...250 mA CVM-A1500-SDC-ITF-485-ICT2

Standards

Measurement acc. to MID, UL certification IEC 61000-4-2, IEC 61000-4-3, C2M5L3 IEC 61000-4-11, IEC 61000-4-4, IEC 61000-4-5

CIRCUTOR, SA reserves the right to change any information contained in this catalogue.

สามารถแสดงลูกคลื่นแรงดันและกระแสในเวลาจริง และมีตัวเลือกส�ำหรับ การซูมคลื่นในแต่ละช่วงเวลาเพื่อการแสดงผลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น CIRCUTOR, SA - Vial Sant Jordi, s/n CBEMA ITIC SEMIF47 Type secondary Events CBEMA08232 Code นอกเหนื(Barcelona) อCurrent จากเนื้อmeasurement หาที ่ได้กล่าวมาแล้ วนั้น ดิจิตอลมิเตอร์ CVM-A1500 ยังมี Viladecavalls Spain CVM-A1500-ITF-RS485-ICT2 M56311 .../5 or .../1 A or ...250 mA Tel. (+34) 93 745 29 00 Fax: (+34) 93 745 29 14 งก์ชนั รองรับอีกมากมายที ่ Aอบรั บความต้ ั โดยสามารถสอบถาม .../5 or .../1 ต or ...250 mA องการในยุคปัจจุบน CVM-A1500-SDC-ITF-485-ICT2 ฟัM5631100F0000 central@circutor.com A according IEC 61000-4-30 * Power supply 20...120 Vdc ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เอวีร่า จ�ำกัด References

*

C2M5L3

ITIC

SEMIF47

ITIC

SEMIF47

C 61000-4-30

CIRCUTOR, SA - Vial Sant Jordi, s/n 08232 Viladecavalls (Barcelona) Spain Tel. (+34) 93 745 29 00 - Fax: (+34) 93 745 29 14 central@circutor.com C2M5L3

July-August 2020

CIRCUTOR, SA reserves the right to change any information contained in this catalogue.

บริษัท เอวีร่า จ�ำกัด

รับปรึกษาและวางแผนบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้า ด้วยประสบการณ์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและมีผลิตภัณฑ์ ให้เลือก หลากหลายไว้คอยอ�ำนวยความสะดวก Tel : 088-001-0416 E-mail : info@avera.co.th Website : www.avera.co.th CIRCUTOR, SA reserves the right to change any information contained in this catalogue.

Technology fo

Scoop

> กองบรรณาธิการ

หอผู้ป่วยวิกฤต ระบบการหายใจบ้านปู กุญแจสำ�คัญลดความเสี่ยงเร่งการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มองย้ อ นไปถึ ง วิ ก ฤตการณ์ โ ควิ ด -19 ของประเทศไทยในระยะการแพร่ระบาดที่เริ่ม ทวีความรุนแรงจนน่าเป็นห่วงเมื่อช่วงเดือน มีนาคม-เมษายนทีผ่ า่ นมา ถือว่าเป็นบททดสอบ ชุดใหญ่ของการรับมือของคนไทยทุกคน ไม่ว่า จะเป็นบุคคลทัว่ ไปทีต่ อ้ งปรับเปลีย่ นพฤติกรรม ตนเองเพื่อให้ปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดการ แพร่ระบาดของเชื้อ หรือบุคลากรทางการ แพทย์ที่ต้องรักษาผู้ป่วยให้หายเป็นปกติ ท่ามกลางความเสีย่ งจากการติดเชือ้ ระหว่าง ปฏิบัติหน้าที่

ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ผ่าน “ห้องความดันลบ”

ในช่วงทีผ่ า่ นมา นอกจากการทีบ่ คุ ลากร ทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทัพหน้า ของการต่อสูก้ บั ไวรัสโควิด-19 ได้รบั ก�ำลังแรงใจ อย่างท่วมท้นจากสังคมในฐานะฮีโร่ของคนไทย อีกหนึง่ ปัจจัยทีจ่ ะสนับสนุนให้พวกเขาเหล่านัน้ สามารถปฏิบัติงานได้อย่างบรรลุผลส�ำเร็จคือ ความพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่มีคุณภาพและเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนของห้องความดันลบ (Negative Pressure) ด ้ ว ย คุ ณ ส ม บั ติ ที่ ส า ม า ร ถ ป ้ อ ง กั น ก า ร แพร่กระจายเชือ้ ทางอากาศภายในห้องออกไปสู่ นอกห้องได้ เนื่องจากอากาศภายในห้องที่ใช้ ส�ำหรับรักษาผูต้ ดิ เชือ้ อาจปนเปือ้ นเชือ้ โรคหรือ ละอองฝอยทีเ่ กิดจากการจามหรือไอของผูป้ ว่ ย ห้องความดันลบจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยส�ำคัญใน การช่วยหยุดการแพร่กระจายเชือ้ ไวรัสโควิด-19 รวมทั้งยังช่วยท�ำให้บุคลากรทางการแพทย์ท่ี ต้องดูแลผูป้ ว่ ยติดเชือ้ เกิดความอุน่ ใจในระหว่าง ปฏิบัติหน้าที่

ความมุ่งมั่นเพื่อคนไทยของ “บ้านปูฯ”

ในประเทศไทย โรงพยาบาลทีเ่ ป็นศูนย์กลางในการดูแลผูป้ ว่ ยติดเชือ้ ไวรัสโควิด-19 นัน้ มีจำ� นวนไม่มากนัก เนือ่ งจากความพร้อมของบุคลาการทางการแพทย์และเครือ่ งมือ ที่ใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเป็นหนึ่งใน โรงพยาบาลศูนย์กลางที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แหล่งส�ำคัญของ ประเทศไทย รวมทัง้ ยังเป็นโรงพยาบาลทีร่ องรับการโอนย้ายผูป้ ว่ ยทีต่ รวจพบการติดเชือ้ จากโรงพยาบาลอืน่ ๆ มาดูแลรักษาอีกด้วย บริษทั บ้านปู จ�ำกัด (มหาชน) จึงเห็นถึงความ ส�ำคัญเร่งด่วนในการส่งต่อความช่วยเหลือไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ด้วยการสร้าง หอผูป้ ว่ ยวิกฤตระบบการหายใจแบบความดันลบ (Negative Pressure) ทีม่ เี ฮป้าฟิลเตอร์ July-August 2020

ชนินท์ ว่องกุศลกิจ

สมฤดี ชัยมงคล

(HEPA Filter) กรองเชื้อโรคได้เล็กถึง 0.3 ไมครอน สามารถดักจับ ไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจัดหาเครื่องช่วยหายใจ รวมถึง อุปกรณ์ทางการแพทย์ตา่ งๆ ทีจ่ ำ� เป็นต่อการจัดการโรคอุบตั ใิ หม่นี้ เช่น ระบบเชื่อมต่อข้อมูลเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจและ ความดันจากในห้องความดันลบสู่จอมอนิเตอร์นอกห้องเพื่อให้ บุ ค ลากรทางการแพทย์ ส ามารถวิ เ คราะห์ อ าการผู ้ ป ่ ว ยได้ จ าก ภายนอกห้อง ช่วยลดความเสี่ยง รองรับการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสริมก�ำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ผู้ปฏิบัติหน้าที่ฝ่าวิกฤต เพื่อคนไทยครั้งนี้ไปด้วยกัน ชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ และ สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จ�ำกัด (มหาชน) ได้ เห็นพ้องต้องกันในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนนี้ และได้เปิดหอผูป้ ว่ ย วิกฤตระบบการหายใจบ้านปูทสี่ ร้างเสร็จพร้อมใช้งานแล้ว กล่าวว่า บ้านปูฯ ให้ความส�ำคัญต่อการพัฒนาอย่างยัง่ ยืนและการเป็นองค์กร พลเมืองที่ดีเสมอมา ในยามที่ประเทศไทยอันเป็นบ้านเกิดของเรา ต้องเผชิญวิกฤตเช่นนี้ เราก็มงุ่ หาหนทางทีจ่ ะช่วยเหลือและบรรเทา ปัญหาต่างๆ โดยเร็ว จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง บ้านปูฯ จึงได้ร่วมมือ กับกลุ่มมิตรผล จัดตั้งกองทุน “มิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทย สูภ้ ยั COVID-19” มูลค่ารวม 500 ล้านบาท เพือ่ สร้างความพร้อม อย่างรวดเร็วและเป็นขวัญก�ำลังใจให้บคุ ลากรทางการแพทย์ รวมทัง้ สร้างแรงบันดาลใจให้องค์กรในทุกภาคส่วนมาร่วมแรงร่วมใจกัน ฝ่าวิกฤตครั้งนี้ โดยเป็นการระดมทุนกันบริษัทละ 250 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือองค์กรด้านการแพทย์และสาธารณสุขเป็นล�ำดับแรก เพราะเป็นภาคส่วนที่มีบทบาทส�ำคัญและความจ�ำเป็นเร่งด่วน อย่างมากในการดูแลรักษาผูป้ ว่ ยและควบคุมสถานการณ์ของวิกฤต โควิด-19 พร้อมกับยกระดับมาตรฐานประเทศไทยในสายตานานา ประเทศถึงเรื่องความปลอดภัยและความพร้อมด้านสาธารณสุข

July-August 2020

ศ. ดร.สุรพล นิติไกรพจน์

รศ. นพ.พฤหัส ต่ออุดม

ห้องความดันลบ เพื่อเสี่ยงรับเชื้อจากภายนอก

ศ. ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เ ฉลิ ม พระเกี ย รติ ได้ ใ ห้ ข ้ อ มู ล ว่ า ห้องความดันลบนั้นมีคุณสมบัติในการปรับความดันอากาศภายใน ห้องให้เป็น Negative หรือมีแรงดันต�ำ่ กว่าภายนอกห้อง จึงท�ำให้ อากาศภายในห้องทีอ่ าจจะมีเชือ้ โรคปนเปือ้ นไม่สามารถแพร่ออกสู่ ภายนอกห้องได้ โดยเดิมโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ มีหอ้ งความดันลบ จ�ำนวน 4 ห้อง ซึง่ ไว้ใช้รกั ษาผูป้ ว่ ยติดเชือ้ ต่างๆ เช่น วัณโรค จนกระทัง่ มีโรคอุบัติใหม่นี้ขึ้นมา นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบัน ทาง โรงพยาบาลได้รับผู้ที่เข้าข่ายสงสัยติดเชื้อมาตรวจคัดกรองทั้งสิ้น 1,018 ราย และมีจ�ำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ในความดูแล มากถึง 31 ราย บ้านปูฯ เป็นองค์กรแรกๆ ที่ให้ความส�ำคัญกับ การสร้างห้องความดันลบ โดยมอบเงินถึง 30 ล้านบาท เพือ่ พัฒนา หอผูป้ ว่ ยวิกฤตระบบการหายใจบ้านปู ซึง่ น่าจะเป็นหอผูป้ ว่ ยวิกฤต ระบบการหายใจทีด่ ที ส่ี ดุ ของประเทศแห่งหนึง่ ในขณะนี้ ช่วยยกระดับ ความพร้อมให้บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลฯ สามารถ ดูแลผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งท�ำให้โรงพยาบาล ธรรมศาสตร์ฯ มีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือ โรงพยาบาลในระดับภูมภิ าคทีไ่ ม่สามารถรองรับผูป้ ว่ ยวิกฤตเหล่านี้ ได้ และท�ำให้โรงพยาบาลสามารถแยกผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเป็น สัดส่วน เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถน�ำห้องปกติไปช่วยดูแลผู้ป่วย โรคอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป นอกจากนี้ ห้องแห่งนี้ยังสามารถเปลี่ยนระบบอากาศให้ เหมาะสมกับการใช้งานรองรับผูป้ ว่ ยอืน่ ๆ ได้อกี ด้วย อย่างการปรับ ให้ดา้ นในห้องผูป้ ว่ ยมีความดันสูงกว่าด้านนอก ซึง่ จะเป็นประโยชน์ ในการดูแลผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต�่ำให้ไม่เสี่ยงรับเชื้อจากภายนอก อีกด้วย ส่วนเครือ่ งช่วยหายใจก็มคี วามจ�ำเป็นส�ำหรับการดูแลผูป้ ว่ ย โควิด-19 ที่มีภาวะล้มเหลวจากการหายใจที่เกิดจากปอดอักเสบ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือที่มีความส�ำคัญเช่นกัน ทางโรงพยาบาล ธรรมศาสตร์ฯ ต้องขอขอบคุณบ้านปูฯ เป็นอย่างสูงที่ท�ำหน้าที่ ช่วยเหลือประชาชน

พร้อมเปิดให้นก ั ศึกษาเข้ามาเรียนรู้ต่อยอด

1. ห้องผู้ป่วยความดันลบ (Negative Pressure) แบบ

ส�ำหรับการช่วยเหลือเพือ่ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ในครัง้ นี้ บริษทั บ้านปู จ�ำกัด (มหาชน) ได้มอบเงินสนับสนุนจ�ำนวน 30,000,000 บาท แก่โรงพยาบาล ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพือ่ ให้การช่วยเหลือด้านอุปกรณ์และเครือ่ งมือ ทางการแพทย์โดยเฉพาะ ซึ่งประกอบไปด้วย

นอกจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แล้ว บ้านปูฯ ยังได้ใช้งบประมาณจากกองทุนฯ เพือ่ จัดสรร มอบเงินสนับสนุนแก่โรงพยาบาลและหน่วยงานทาง การแพทย์ตา่ งๆ ในการช่วยเหลือและสนับสนุนอุปกรณ์ ที่จ�ำเป็นในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว รวมไปถึงยังได้มอบถุงยังชีพ อันประกอบด้วย ข้าวของ อุ ป กรณ์ ที่ จ� ำ เป็ น ในการด� ำ รงชี วิ ต ให้ ห น่ ว ยงานและ ประชาชนในจังหวัดต่างๆ อย่างทั่วถึง เพราะบริษัทฯ เล็งเห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในวงกว้างซึ่งไม่ได้จ�ำกัด แค่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มคนอีกหลายกลุ่ม ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการตกงาน สภาวะเศรษฐกิจ หดตัว ส่งผลให้ขาดรายได้และกระทบต่อชีวติ ความเป็นอยู่ อีกด้วย โดยตลอดการบริจาคจนถึง ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2563 กองทุนมิตรผล-บ้านปู ได้บริจาคไปแล้วกว่า 200 ล้านบาท อนึง่ บริษทั บ้านปู จ�ำกัด (มหาชน) เป็นผูน้ ำ� ธุรกิจ ด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งเอเชีย-แปซิฟิก ด�ำเนิน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจแหล่งพลังงาน ธุรกิจผลิต พลังงาน และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ใน 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ลาว มองโกเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม

นอกจากการแก้ วิ ก ฤตโควิ ด -19 รศ.เกศิ นี วิ ฑู ร ชาติ อธิ ก ารบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังได้มองถึงโอกาสการต่อยอดประโยชน์จาก ห้องความดันลบที่ได้มาจากบ้านปูฯ ในด้านการศึกษาของนักศึกษาแพทย์ เพราะ “ห้องความดันลบ” นับว่าเป็นการลงทุนทีม่ มี ลู ค่าสูงมาก ทีผ่ า่ นมาจ�ำเป็น ต้องใช้ส�ำหรับรับรองผู้ป่วยโรคติดเชื้อมาโดยตลอด โดยเฉพาะโรควัณโรค ดังนัน้ เมือ่ จบวิกฤตโควิด-19 แล้ว จ�ำนวนห้องทีเ่ พิม่ ขึน้ นีจ้ ะช่วยเปิดโอกาสให้ ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สามารถประสานความร่วมมือกับทางโรงพยาบาล เพื่อให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ ได้มาเรียนรู้ท�ำความเข้าใจเครื่องมือที่ ครบครันและได้มาตรฐาน โดยนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์จะเป็นก�ำลังส�ำคัญ ในการช่วยดูแลผูป้ ว่ ยและพัฒนาวงการแพทย์ในอนาคต นอกจากนีย้ งั เป็นการ ยกระดับศักยภาพของห้องปฏิบตั กิ ารรักษาผูป้ ว่ ยในความดูแลของโรงพยาบาล ธรรมศาสตร์ฯ อีกด้วย เพราะจากแนวโน้มของมลพิษและความผันผวน ของธรรมชาติในปัจจุบนั ก็เป็นไปได้วา่ จะมีผปู้ ว่ ยทีเ่ กีย่ วกับโรคปอด หัวใจ และระบบทางเดินหายใจ หรือการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อ อื่นๆ ที่อาจอุบัติขึ้นได้ใหม่

แยกห้อง เพือ่ ใช้สำ� หรับรักษาและป้องกันการแพร่กระจาย โรคส�ำหรับผู้ป่วยโควิด-19 จ�ำนวน 10 เตียง 2. ห้องหัตถการผู้ป่วยความดันลบ จ�ำนวน 1 เตียง 3. เครื่องช่วยหายใจ จ�ำนวน 11 เครื่อง 4. อุปกรณ์ทางการแพทย์ตา่ งๆ ประกอบด้วย เครือ่ งเอกซเรย์ เคลื่อนที่ระบบดิจิทัล เครื่องส่องตรวจทางเดินหายใจ เครือ่ งวัดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในลมหายใจออก และความอิม่ ตัวของออกซิเจนในเลือด เครือ่ งเฝ้าระวัง และติดตามสัญญาณชีพ เครือ่ งกดนวดหัวใจอัตโนมัติ อุปกรณ์ส่องตรวจหลอดลม และชุดป้องกันอนุภาค ที่เป็นอันตรายจากฝุ่นละอองและเชื้อโรค

July-August 2020

Special Area

> บริษัท แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จ�ำกัด

Network Power Meter

ND30 NR30

Power network meter with Ethernet, recording and graphical screen Rail mounted 3-phase power network meter with Ethernet and recording

ด้วยภาวะโลกร้อนทีท่ ำ� ให้อณ ุ หภูมเิ พิม่ ขึน้ ทุกวัน ดังนัน้ การประหยัดพลังงานเพื่อช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ จึงเป็นสิง่ จ�ำเป็นทีต่ อ้ งให้ความส�ำคัญและควรด�ำเนินการอย่าง เร่งด่วน ซึง่ การประหยัดพลังงานทีด่ อี าจจะกระทบต่อการด�ำรง ชีวติ ประจ�ำวัน หรือความสะดวกสบายอยูบ่ า้ ง ดังนัน้ จึงจ�ำเป็น ต้องใช้เทคโนโลยีเพือ่ ช่วยวัดและวิเคราะห์วธิ กี ารทีจ่ ะใช้ในการ ประหยัดพลังงาน ซึง่ ก็คอื ใช้ Network Power Meter ส�ำหรับ อ่านและบันทึกค่าการใช้พลังงานในปัจจุบัน เพื่อท�ำแผนและ วิธีการประหยัดพลังงานที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป LUMEL ผู ้ ผ ลิ ต อุ ป กรณ์ ใ นระบบออโตเมชั่ น และ เครื่องมือวัดทางไฟฟ้า ได้พัฒนาอุปกรณ์ส�ำหรับโซลูช่ันการ ประหยัดพลังงาน นั่นคือ Network Power Meter มิเตอร์ ที่วัดค่าทางไฟฟ้าและมีหน่วยความจ�ำส�ำหรับบันทึกข้อมูล การใช้ไฟฟ้าในชื่อรุ่น ND30 และ NR30 ND30, NR30 เป็น Network Power Meter ทีส่ ามารถ วัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าได้มากถึง 54 พารามิเตอร์ และ วัดค่าฮาร์โมนิกส์ได้ถงึ ล�ำดับที่ 63 ออกแบบมาให้สามารถใช้งาน ได้งา่ ยและมีความแม่นย�ำสูง (Class 0.2S ส�ำหรับค่าพลังงาน ไฟฟ้า) ซึ่งเราสามารถดูค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ผ่านโทรศัพท์ มื อ ถื อ ได้ โดยมี โ ปรโตคอลให้ เ ลื อ กใช้ ส� ำ หรั บ หลากหลาย แอปพลิเคชั่น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นเด่นๆ อีกมากมาย เช่น July-August 2020

• สามารถใช้กับระบบไฟฟ้า 1 เฟส, 3 เฟส ได้ • หน้าจอเป็นชนิด LCD TFT, 3.5” (ส�ำหรับรุ่น ND30) - หน้าจอมี 10 หน้า หน้าละ 8 พารามิเตอร์ - แสดงฮาร์โมนิกส์ 2 หน้ำ - แสดงผลอะนาล็อก 1 หน้ำ • หน้าจอเป็นชนิด Backlit LCD (ส�ำหรับรุ่น NR30) - หน้าจอมี 22 หน้า หน้าละ 3 พารามิเตอร์ - แสดงฮาร์โมนิกส์ 1 หน้ำ • มีหน่วยความจ�ำส�ำหรับค่าสูงสุดและต�่ำสุด • ตั้งค่าการเตือน (Alarm) ได้ 2 เอาต์พุต • มีออปชั่นอะนาล็อกเอาต์พุต 4-20mA และ 2xPt100 • มีหน่วยความจ�ำ 8GB (ออปชั่นส�ำหรับรุ่น ND30) • มีดิจิตอลเอาต์พุต RS485-Modbus Protocol (มาตรฐานทุกรุ่น) • ติดต่อสื่อสารด้วย Ethernet Interface 10/100 Base-T (ขึ้นอยู่กับรุ่น) - Protocol : Modbus TCP/IP, HTTP, FTP (ND30, NR30) - Service : www server, ftp server, DHCP client (ND30, NR30) - BACNET (ND30BAC, NR30BAC) - PROFINET (ND30PNET, NR30PNET) - MQTT (ND30IoT, NR30IoT) • มีแบตเตอรี่ส�ำหรับบันทึกเวลา RTC

ตัวอย่างการใช้งานในแต่ละ Protocol

และนอก�ากนั และนอก�ากนั และนอก�ากนั น� ใน น� ใน น� Network ในNetwork Network เดีเดียเดี วกั ยวกั ยนวกั ยันงยันสามารถดู งยัสามารถดู งสามารถดู ค่าคผ่​่าคาผ่​่านโทรศั าผ่นโทรศั านโทรศั พพท์มท์พือมท์ถื​ือมอถื​ืออถื(Android) อ(Android) (Android) โดยโหลด โดยโหลด โดยโหลด App App App ผ่าผ่นาผ่นาGoogle นGoogle Google Play Play Play ใน�ื ใน�ื ใน�ื �อ �อ“Lumel �อ“Lumel “LumS

และนอกจากนัน้ ใน Network เดียวกันยังสามารถดูคา่ ผ่าน โทรศัพท์มือถือ (Android) โดยโหลด App ผ่าน Google Play ใน ชื่อ “Lumel Scanner”

ขนาดโดยรวมของมิเตอร์

ขนาดโดยรวมของมิ เตอร์ ขนาดโดยรวมของมิ เตอร์ ขนาดโดยรวมของมิเตอร์

ในกร�ีท�ีอยู่ใน Network เดียวกัน สามารถดูคา่ ผ่าน Web browser �ด�ทัง� ร�น่ ND30 และ NR30

ND30 ND30 ND30 ND30

ในกรณีทอี่ ยูใ่ น Network เดียวกัน สามารถดูคา่ ผ่าน Web Browser ได้ทั้งรุ่น ND30 และ NR30

NR30 NR30 รายล�เอียดเ�ิ�มเ�ิม�ามาร��ิด��อได�ท�ี รายล�เอียดเ�ิ�มเ�ิม�ามาร��ิด��อได�ท�ี บริษัท แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จํากัด บริษัท แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จํากัด โทรยย02-194-8738-9 รายล�เอี ดเ�ิ รายล�เอี ดเ�ิ�ม�มเ�ิเ�ิมม�ามาร��ิ �ามาร��ิดด����ออได� ได�ทท�ี �ี โทร 02-194-8738-9 แฟกซ์ 02-003-2215 บริ แม็ ไไมซ์ บริษษัทัทแฟกซ์ แม็กกซิซิ02-003-2215 มซ์อิอินนทิทิเเกรทเท็ กรทเท็ดด เทคโนโลยี เทคโนโลยี จํจําากักัดด Email : info@mit-thailand.com Email : info@mit-thailand.com โทร โทร 02-194-8738-9 02-194-8738-9 www.mit-thailand.com แฟกซ์ 02-003-2215 แฟกซ์www.mit-thailand.com 02-003-2215

NR30 NR30

Email Email :: info@mit-thailand.com info@mit-thailand.com www.mit-thailand.com www.mit-thailand.com

บริษท ั แม็กซิไมซ์ อินทิเกรทเท็ด เทคโนโลยี จำ�กัด โทร. 0-2194-8738-9 แฟกซ์ 0-2003-2215 E-mail : info@mit-thailand.com เว็บไซต์ : www.mit-thailand.com

July-August 2020

และนอก�ากนัน� ใน Network เดียวกันยังสามารถดูค่าผ่านโทรศัพท์มือถือ (Android) โดยโหลด App ผ่าน Google Play ใน�ื�อ “Lumel Scanner”

Special Area > ชไนเดอร์ อิเล็คทริค

ผลิตภัณฑ์กลุ่ม

Easy Series ชไนเดอร์ อิเล็คทริค

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์นอ้ งใหม่ Easy Series ส�ำหรับธุรกิจ ขนาดกลางและขนาดเล็กที่ต้องการความปลอดภัย ด้านไฟฟ้า และการควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์ ครอบคลุมกลุม่ ผลิตภัณฑ์เซอร์กติ เบรกเกอร์ แมกเนติก คอนแทคเตอร์ อุปกรณ์ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์ และปุ่มกดไฟสัญญาณ

ผลิตภัณฑ์กลุ่มเบรกเกอร์ MCCB และ ACB

• EasyPact CVS เป็นเบรกเกอร์ MCCB (Molded Case Circuit Breaker) ทนทาน รองรับกระแสไฟฟ้าขนาด 16-600 แอมป์ มี 2 ขนาดเฟรม 100-250 แอมป์ และ 400-630 แอมป์ พิกัดทนกระแสลัดวงจร 25-50 กิโลแอมป์ ที่ 400/415 โวลต์ โดย Ics = 100% Icu ทุกขนาดกระแส จึงมีความ ทนทานสูง ใช้งานได้นาน มีให้เลือกทั้งการ เชือ่ มต่อแบบ 3 Pole และ 4 Pole ทริปยูนติ เป็นแบบ TMD โดยสามารถตัง้ ค่าทริปยูนติ ได้ จะมีการแสดงค่าบนตัวผลิตภัณฑ์ ท�ำให้งา่ ย ในการปรับตัง้ เหมาะส�ำหรับอาคารและโรงงาน ขนาดกลางและเล็ก ใช้งานกับตูค้ วบคุมไฟฟ้ำ หลัก (Main Distribution Board) และตูค้ วบคุม ไฟฟ้าส�ำรอง (Sub Distribution Board)

July-August 2020

• EasyPact EZC เป็นเบรกเกอร์ MCCB (Molded Case Circuit Breaker) ขนาดกะทัดรัด รองรับ กระแสไฟขนาด 16-400 แอมป์ พิกัดทนกระแสลัดวงจรสูงสุด 50 กิโลแอมป์ สามารถติดตั้ง ในโหลดเซ็ น เตอร์ ส� ำ หรั บ โครงการทุกประเภท

• EasyPact MVS แอร์เซอร์กติ เบรกเกอร์ (Air Circuit Breaker) หรือ ACB เบรกเกอร์ขนาดใหญ่สำ� หรับ ตู้ควบคุมไฟฟ้าหลักและตู้ควบคุมไฟฟ้าส�ำรอง ตัดวงจรได้อย่างรวดเร็ว ให้ความปลอดภัย มีการ ออกแบบทีแ่ ข็งแรงทนทาน สามารถทนกระแสได้ ตัง้ แต่ 800-4,000 แอมป์ พิกดั ทนกระแสลัดวงจร 50 กิโลแอมป์ Ics = 100% Icu ทุกขนาดกระแส จึงให้ความทนทานสูง ใช้งานได้นาน และเป็นแบบ Single Frame Size (ขนาดเบรกเกอร์เท่ากันทุก กระแส) ง่ายต่อการออกแบบติดตัง้ และซ่อมบ�ำรุง สามารถเลื อ กทริ ป ยู นิ ต แบบมี มิ เ ตอร์ ใ นตั ว ได้ นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งออปชันเสริมส�ำหรับ การมอนิ เ ตอร์ แ ละการควบคุ ม ระยะไกลได้ EasyPact MVS ยังเป็นผลิตภัณฑ์ท่ีได้รับฉลาก กรีนพรีเมียมอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ชุดอุปกรณ์ ตัดต่อและป้องกัน มอเตอร์

ผลิตภัณฑ์กลุ่มสวิตช์ และไฟสัญญาณ

ควบคุมมอเตอร์ให้มี ประสิทธิภาพสูงสุด และประหยัดพลังงาน

Harmony Easy XA2 Harmony Easy XVG

• EasyPact TVS ชุดอุปกรณ์ ตั ด ต่ อ วงจรแบบแมกเนติ ก คอนแทคเตอร์ ประกอบไปด้วย มอเตอร์โพรเทคชันเซอร์กิต เบรกเกอร์ คอนแทคเตอร์ และ โอเวอร์โหลดรีเลย์ ป้องกัน อันตรายจากการใช้งานเกิน พิกดั ด้วยการตัดต่อวงจรแบบ อัตโนมัติ ติดตั้งง่ายไม่ต้อง เดิ น สายไฟใหม่ ส� ำ หรั บ ตูค้ วบคุมมอเตอร์ ช่วยป้องกัน มอเตอร์จากการลัดวงจร และ กระแสไฟฟ้าเกิน EasyPact TVS ได้รับฉลากสิ่งแวดล้อม กรี น พรี เ มี ย ม รองรั บ ขนาด กระแสมอเตอร์ 1-630 แอมป์ มีเฟรมให้เลือก 9 ขนาด อายุ การใช้งานยาวนานถึง 1.4 ล้าน ครั้ ง เหมาะส� ำ หรั บ โรงงาน อุตสาหกรรมขนาดกลางและ ขนาดเล็ก สิง่ ทอ โรงแรม งาน บรรจุภณ ั ฑ์ สมาร์ทฟาร์ม และ เกษตรกรรม

• Harmony Easy XVG ไฟให้สัญญาณ แบบชัน้ หรือทาวเวอร์ไลต์ (Tower Light) แบบแสงต่อเนื่อง ขนาด 60 มิลลิเมตร มีให้เลือก 2-4 ชั้นตามการใช้งาน ผลิต ด้วยเทคโนโลยีเลนส์ใส มองเห็นชัดเจน 360 องศา หลอดแอลอีดคี ณ ุ ภาพดีใช้งาน ยาวนาน มาพร้อมเสียงเตือน 85 เดซิเบล รองรับแหล่งไฟ 24 โวลต์ ทัง้ กระแสสลับ และกระแสตรง ติดตั้งง่าย มีรูปแบบขำ ให้ เ ลื อ กใช้ ห ลากหลายรู ป แบบ อาทิ รุ่นขาพับ เพื่อง่ายในการเคลื่อนย้าย • Harmony Easy XA2 สวิตช์ปุ่มกด ไพลอตแลมป์ ขนาด 22 มิลลิเมตร แบบ พลาสติก ดีไซน์ทันสมัย ด้วย MetallicLook Ring ให้ความปลอดภัยขณะใช้งาน ด้ ว ย Ergonomic Curve ติ ด ตั้ ง ง่ า ย มีระบบป้องกันไม่ให้ส่วนฐานหลุดออก จากส่วนหัว สามารถเชือ่ มต่อคอนแทรค ได้สูงสุดถึง 6 คอนแทรค กันน�้ำ กันฝุ่น ระดับ IP65 มีหลากหลายหัวให้เลือก ตามลักษณะการใช้งาน ทั้งแบบปุ่มกด หัวเห็ด หัวเรียบ แบบสวิตช์กญ ุ แจ และ ปุ ่ ม กดแบบมี ไ ฟ มาพร้ อ มมาตรฐาน ระดับโลก และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

Altivar Easy 310

Altivar Easy 610

Altivar Machine Easy

• Altivar Easy 310 ออกแบบมาส�ำหรับการใช้งานกับ เครื่องจักรอุตสาหกรรม ด้วยรูปทรงขนาดกะทัดรัด สะดวกในการติดตั้ง ง่ายในการใช้งาน หน้าจอดิจิทัล บอกสถานการณ์ท�ำงาน และค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ล�้ำหน้า สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารด้วย Modbus Communication มีให้เลือกตั้งแต่ 0.37-11 กิโลวัตต์ รองรับแรงดันไฟ 380-460 VAC กับระบบไฟ 3 เฟส ใช้งานได้ทุกสภาพแวดล้อม และเคลือบแผงวงจรตาม มาตรฐาน IEC 60721-3-3 เหมาะกับการควบคุมมอเตอร์ ทั่วไป ทั้งสามารถท�ำงาน ณ อุณหภูมิ 55 องศาได้ Altivar Process Easy

• Altivar Easy 610 ถูกออกแบบมาส�ำหรับเครื่องปั๊ม และพัดลม และในกระบวนการทั่วไป โรงงาน อาคาร การบ� ำ บั ด น�้ ำ เสี ย ใช้ ง านง่ า ย คุ ้ ม ค่ า แก่ ก ารลงทุ น มาพร้อมหน้าจอดิจทิ ลั บอกสถานะและค่าพารามิเตอร์ ต่างๆ มีให้เลือกตั้งแต่ 0.75-160 กิโลวัตต์ แรงดัน 380-415 กระแสสลับ (VAC) แบบ 3 เฟส 50/60 เฮิรตซ์ มีชดุ กรองกระแส ฮาร์มอนิก (Harmonic) ชนิด DC Choke มีพอร์ตสื่อสารแบบ Modbus Serial มีการเคลือบ แผงวงจรตามมาตรฐาน IEC 60721-3-3 ระดับการป้องกัน IP20 ใช้งานร่วมกับ Induction Motor และความยาวของ สายได้ถึง 100 เมตร ท�ำงาน ณ อุณหภูมิ 45 องศาได้ และมี Profitbus เป็นออปชันเสริมได้ มาพร้อมฉลาก กรีนพรีเมียมการันตีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผลิตภัณฑ์รนุ่ Easy Series ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผลิตจากเทคโนโลยีระดับโลก มาพร้อมมาตรฐานทีส่ ากลยอมรับ และเป็นมิตร ต่อสิง่ แวดล้อม Easy Series ให้ความคุม้ ค่าในการลงทุนด้วยฟีเจอร์ทมี่ คี วามจ�ำเป็นเฉพาะตามขนาดและการใช้งานของแต่ละธุรกิจ ช่วยให้ สามารถควบคุมค่าใช้จา่ ยในการลงทุน (CAPEX) พร้อมลดค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินงาน (OPEX) เพราะผลิตภัณฑ์มีความทนทาน ใช้งานได้ ยาวนาน ติดตั้งง่ายไม่ยุ่งยาก ลดระยะเวลาในการด�ำเนินการในกระบวนการทางอุตสาหกรรม ซึ่งนับเป็นการตอกย�้ำจุดยืนของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้าและคู่ค้า ให้มีความมั่นคงและยั่งยืน July-August 2020

Special Area

> บริษัท ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) จ�ำกัด

Vacuum Technology for Contactor

เทคโนโลยีสุญญากาศส�ำหรับคอนแทคเตอร์ เนื่องจากการควบคุมระบบ Motor และ Pump ต้องการอุปกรณ์ที่มี ความน่าเชือ่ ถือไว้ใช้ในการจัดการสภาพแวดล้อมทีเ่ ลวร้ายและมีสง่ิ สกปรกสูง จึงท�ำให้เป็นสิ่งจ�ำเป็นส�ำหรับผู้ใช้งาน ผู้ผลิตตู้สวิตช์เกียร์ ผู้รับเหมาและ โรงงานผลิต หลายคนเริ่มมองหาเทคโนโลยีสุญญากาศมากขึ้น เทคโนโลยี สุญญากาศจึงกลายเป็นทางเลือกหนึง่ เพือ่ ลดการหยุดการท�ำงานของอุปกรณ์ ไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายและสกปรก โดยปกติแล้ว Contactor ถูกใช้เป็นอุปกรณ์ส�ำหรับเปิด-ปิด Motor Starter และ Pump Control โดยจะใช้หลักการแยกหน้าสัมผัสออกจากกัน และใช้อากาศเป็นตัวดับอาร์ก ในทางตรงกันข้ามนั้น Vacuum Contactor จะเป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าสัมผัสอยู่ภายในกระบอกที่ปิดทึบ หรือที่เรียกกันว่า Vacuum Interrupter (VI) ท�ำหน้าที่ขัดขวางไม่ให้อากาศเข้ามาภายใน หน้าสัมผัส เมือ่ หน้าสัมผัสถูกแยกออกจากกันแล้วเกิดอาร์กขึน้ นัน้ จะใช้การ ดับอาร์กแบบลดความดันลง

July-August 2020

Vacuum Interrupter (VI) Vacuum Interrupter คือ ผลิตภัณฑ์ทมี่ หี น้าสัมผัสอยูใ่ นภาชนะสุญญากาศทีป่ ดิ ทึบ เพือ่ ตัดต่อวงจรไฟฟ้า (Opening/Closing) ทีแ่ รงดัน และกระแสสูง Current Flow Current Flow Contact

Ceramic Insulation

Bellows

Stem

Arc movement by transverse magnetic

Vacuum Circuit Breakers

15

Arc expansion by axial magnetic field Overview and Characteristics (VI)

High Performance

Minimized Maintenance

Vacuum interrupters is a product that places conducting contacts in a sealed vacuum container for stable cutting off and opening/ closing in the high-voltage large current. 

High insulation performance in vacuum–able to cut off large Very low leak rate over long period of usage–high reliability  Special material with very low gas content–long-lasting current even in short-distance High Performance  Less arc and low contact consumption high-vacuum state Minimized Maintenance  Optimized design–compact and lightweight ˙High insulation performance in vacuum - able to cut off large current even in short-distance

˙Less arc and low contact consumption

Eco-Friendly

˙Optimized design - compact and lightweight

˙Special material with very low gas content - long-lasting highvacuum state

Compliant with International Standards

Sealed and welded under highly vacuum state not effecting Eco-Friendly or is affected by surrounding environment



Manufactured in accordance with IEC standard–can be Compliant with International Standards used by various products



˙Sealed and welded under highly vacuum state not effecting or is affected by surrounding environment

˙Manufactured in accordance with IEC standard - can be used by various products

Compact and Lightweight

MS

Vacuum Contactor เหมาะส�ำหรับการใช้งานทีแ่ รงดันสูง และในสภาพแวดล้อมทีเ่ ลวร้าย เช่น Motors, Transformers, Capacitors, Reactors, Resistive Loads อืน่ ๆ (Generators, Pumps, Variable Frequency Drives, Feeders, Power Transmitters and Switchgears) และเหมาะกับอุตสาหกรรม ต่างๆ เช่น Utilities, Industrial, Commercial, Mining, Oil & Gas, Medium Voltage

MCCB

Compact and Lightweight

Excellent Cutting-Off Performance

Excellent Cutting-Off Performance

RELAY

˙Very low leak rate over long period of usage - high reliability

ACB



VCB

Arc column

July-August 2020

Internal and External Components

1 2 3 4

ON/OFF Indicator Counter Control Plug Draw-Out Button

5 Fuse 6 Fuse Holder 7 Fuse Melting Detector (Option)

8 Manual Checking Hole 9 Emergency Trip Button Latch Device

Front Cover Name Plate Position Switch

The Design of the Cradle

Cradle of the Class E 1 Cradle Terminals 2 Position Indicator July-August 2020

Cradle of the Class F 3 Safety Shutter 4 Damper Lifting Mechanism

5 Rear Barrier 6 Interlock Support

ทำ�ไมต้องเลือกใช้ Vacuum Contactor “HYUNDAI” Vacuum Contactor HYUNDAI เป็นผลิตภัณฑ์ขนาดกะทัดรัด ปลอดภัย และใช้งานง่าย สอดคล้องกับมาตรฐาน IEC, NEMA อุปกรณ์ ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน UL และ KAS Vacuum Contactor HYUNDAI เป็นอุปกรณ์คุณภาพสูงที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก มีเทคโนโลยีข้ันสูงที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ใหม่น้ี มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น Easily Removable Fuse

DIN fuse can be easily removed Use a spring-loaded contact holder that does not require a bolted connection.

Anti Pumping

The control unit has a built-in re-lock switch-on, provides a one-time closing and opening in case of simultaneous receipt of external and local signals.





Power Supply of Different Voltage Classes

The standard operating voltage is AC/DC 100-125V and AC/DC 200-230V.  It is possible to use one control unit for two types of voltage. 

The use of Automatic Position Locks

To move the contactor in the cradle, you must Lift the locking rod and press the button. When the contactor reaches the TEST or other position, the lock will automatically trigger the position.

Noiseless

Noiseless operation is achieved through the use of PWM to control the electromagnetic system excitation.





Reduction of Current Consumption

Electricity consumption was reduced by 40% compared to existing similar devices by controlling the current using a PWM system.



Product Certification

The device is designed in accordance with IEC, NEMA standards.  Certification in the Korean Electricity certification of KAS. No separate testing is required.  UL certification in accordance with UL347; product can be used on American and Canadian markets. 

บริษัท ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) จ�ำกัด

22/28-29 ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250 โทร. 0-2002-4395-97 แฟกซ์ 0-2002-4398 E-mail : ejlee@tdpowertech.com, lalida@tdpowertech.com July-August 2020

IT Article > การ์ทเนอร์

โควิด-19 ส่งผลการใช้จ่ายไอที ทั่วโลกลดลง พิษโควิด-19 ส่งผลการใช้จ่ายไอทีโลกลดดิ่ง 8% พ.ศ. 2563

แนวโน้มการใช้จา่ ยไอทีทว่ั โลก พ.ศ. 2563 คาดว่าจะมี มูลค่า 3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยลดลง 8% จาก พ.ศ.

2562 ตามการคาดการณ์ลา่ สุดของการ์ทเนอร์องิ ค์ การระบาด ของโคโรนาไวรัสและผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั่วโลก ท�ำให้ซีไอโอหรือผู้บริหารด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ขององค์กรต้องจัดล�ำดับความส�ำคัญของการใช้จ่ายด้าน เทคโนโลยีและบริการทีถ่ อื ว่าเป็น “ภารกิจส�ำคัญยิง่ ” ต่อแนวคิด เพื่อมุ่งสู่การเติบโตหรือเปลี่ยนผ่านขององค์กร “ซีไอโอได้เข้าสู่โหมดรัดเข็มขัดปรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ซึ่งหมายความว่าการลงทุนจะลดลง และการจัดล�ำดับความ ส�ำคัญเพือ่ ท�ำให้ธรุ กิจอยูร่ อดได้จะเป็นสิง่ ส�ำคัญสูงสุดส�ำหรับ องค์กรส่วนใหญ่ตลอดทัง้ พ.ศ. 2563” จอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย บริษัทการ์ทเนอร์ กล่าว “การฟื้น คืนสู่สภาวะปกติจะไม่เป็นไปตามรูปแบบดังเช่นสถานการณ์ ทีผ่ า่ นๆ มา เนือ่ งจากพลังทีอ่ ยูเ่ บือ้ งหลังสภาวะของการถดถอย นีจ้ ะท�ำให้เกิดแรงสะท้อนอย่างรุนแรงต่อทัง้ อุปสงค์และอุปทาน ที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันอันเนื่องมาจากการผ่อนคลาย มาตรการด้านสาธารณสุข สังคม และการค้า”

July-August 2020

ตลาดไอทีทุกกลุ่มจะประสบกับการใช้จ่ายที่ลดลงใน พ.ศ. 2563 โดยในตลาดอุปกรณ์ดไี วซ์และระบบดาต้า เซ็นเตอร์ จะเผชิญกับการลดลงหนักที่สุด (ดูตารางที่ 1) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ท�ำให้เกิดรูปแบบการ ท�ำงานระยะไกลในกลุ่มย่อย เช่น บริการคลาวด์สาธารณะ (ทีม่ อี ยูห่ ลายรูปแบบ) จะเป็นกลุม่ เดียวทีม่ กี ารเติบโตเป็นบวก โดยคาดการณ์เติบโตเพิ่มขึ้น 19% ใน พ.ศ. 2563 ซึ่งจะเห็น การใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในด้านการสื่อสารผ่านโทรศัพท์ ข้อความ และการประชุมบนระบบคลาวด์ โดยเพิม่ ขึน้ 8.9% และ 24.3% ตามล�ำดับ “ใน พ.ศ. 2563 บางโปรเจ็กต์ทเ่ี ปลีย่ นแปลงมาใช้ระบบ คลาวด์ในระยะยาวอาจประสบกับการหยุดชะงัก หรือช่วง สุญญากาศระยะสัน้ ๆ แต่ระดับการใช้จา่ ยระบบคลาวด์โดยรวม ใน พ.ศ. 2566 และ พ.ศ. 2567 เราคาดว่าจะแสดงผลคาดการณ์ อย่างเร็วที่สุดใน พ.ศ. 2565” เลิฟล็อค กล่าว

พิษโควิด-19 ส่งผลการใช้จ่ายไอที ไทยลดดิ่ง 9.3% พ.ศ. 2563 “การใช้จ่ายด้านไอทีจะค่อยๆ ฟื้นตัว อย่างช้าๆ ตลอด พ.ศ. 2563 อุตสาหกรรมที่ ได้รบั ผลกระทบมากทีส่ ดุ อาทิ อุตสาหกรรม บันเทิง อุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ และอุตสาหกรรมหนัก (อุตสาหกรรมทีต่ อ้ งใช้ เครื่องจักรกล แรงงาน และเงินจ�ำนวนมาก) โดยใช้เวลานานกว่า 3 ปี ในการกลับมามี มูลค่าเทียบเท่ากับ พ.ศ. 2562” เลิฟล็อค กล่าว “ในการฟื้นคืนสู่สภาวะปกติ องค์กร ส่วนใหญ่ต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดความเชื่อ โดยตัง้ เป้าหมายมุง่ เน้นทีก่ ารก้าวไปข้างหน้า”

ตารางที่ 1 คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีท่วั โลก

(หน่วย: พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

มูลค่าการใช้จ่าย พ.ศ. 2562

มูลค่าการเติบโต พ.ศ. 2562 (%)

มูลค่าการใช้จ่าย พ.ศ. 2563

มูลค่าการเติบโต พ.ศ. 2563 (%)

ดาต้า เซ็นเตอร์

211,633

0.7

191,122

-9.7

ซอฟต์แวร์ระดับองค์กร

458,133

8.8

426,255

-6.9

อุปกรณ์ดีไวซ์

698,086

-2.2

589,879

-15.5

บริการทางด้านไอที

1,031,578

3.8

952,461

-7.7

บริการด้านการสื่อสาร

1,357,432

-1.6

1,296,627

-4.5

มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีทั้งหมด

3,756,862

1.0

3,456,344

-8.0

ที่มา : การ์ทเนอร์ (ณ เดือนพฤษภาคม 2563) การคาดการณ์แนวโน้มการใช้จา่ ยด้าน ไอทีของการ์ทเนอร์ ใช้วธิ กี ารวิเคราะห์ยอดขาย อย่างเข้มงวดจากผูค้ า้ หลายพันราย ครอบคลุม ผลิ ต ภั ณ ฑ์ แ ละบริ ก ารด้ า นไอที ทั้ ง หมด การ์ทเนอร์ใช้เทคนิคการวิจัยขั้นต้นซึ่งได้รับ การสนั บ สนุ น โดยแหล่ ง ข้ อ มู ล ทุ ติ ย ภู มิ ที่ เชื่อถือได้ในการสร้างฐานข้อมูลที่ครอบคลุม ข้อมูลขนาดตลาด ซึ่งเป็นฐานการพยากรณ์

* สามารถอ่านรายงานการคาดการณ์การใช้จ่ายด้านไอทีล่าสุดได้จาก “Gartner Market Databook, April 2020 Update” ส�ำหรับการคาดการณ์การใช้จา่ ยไอทีไตรมาสนี้ ได้รวบรวมลิงก์ไปยังรายงานการใช้จ่ายด้านไอทีล่าสุด Webinar Blog Posts และข่าว ประชาสัมพันธ์ต่างๆ * สามารถอ่านรายละเอียดการวิเคราะห์เพิม่ เติมเกีย่ วกับการคาดการณ์แนวโน้ม การใช้จา่ ยด้านไอทีได้ ผ่านการ์ทเนอร์ Webinar หัวข้อ “IT Spending Forecast, 1Q20 Update–View from the Peak” เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจัดล�ำดับความส�ำคัญ ของการบริหารจัดการต้นทุนด้วยการเน้นผลลัพธ์ทางธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ Gartner Cost Optimisation Framework

July-August 2020

IT Article

> มาสสิโม เฟอรารี่ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ - Ansible Security Automation, เร้ดแฮท

การทำ�งานร่วมกันแบบอัตโนมัติ :

ระบบอัตโนมัติเป็นกุญแจสำ�คัญ ในการกำ�กับดูแลความปลอดภัย และก่อให้เกิดวัฒนธรรม ในการทำ�งานร่วมกัน

การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กรก�ำลังได้รับการ พิจารณาตรวจสอบอย่างจริงจัง เพราะการโจมตีทางไซเบอร์และ การละเมิดสิทธิก์ ำ� ลังแพร่กระจายมากขึน้ มาสสิโม เฟอรารี่ ผูจ้ ดั การ ฝ่ายที่ปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์ ซึ่งดูแลผลิตภัณฑ์ Ansible Security Automation ของเร้ดแฮท กล่าวถึงวิธีการที่ระบบอัตโนมัติสามารถ ช่วยให้การท�ำงานด้านการรักษาความปลอดภัยต่างๆ รวมเป็นหนึง่ เดียว และเปิดโอกาสให้ผู้ดูแลด้านไอทีและผู้เกี่ยวข้องทางธุรกิจทุกฝ่าย สื่อสารกันได้ บริษัทในกลุ่ม FTSE 100 หรือ Fortune 500 มีการใช้ ชุดกฎระเบียบในการป้องกันภัยไซเบอร์ทใ่ี หญ่โตและซับซ้อน บริหาร จัดการโดยทีมงานด้านความปลอดภัยหลายทีมทีก่ ระจายกันอยูต่ าม หน่วยธุรกิจและภูมภิ าคต่างๆ ต้องใช้ความพยายามทีส่ งู มากในการ ท�ำให้ขอ้ มูลขององค์กรหนึง่ ๆ มีความปลอดภัย แต่ถงึ แม้วา่ ทีมงาน ทีด่ แู ลด้านการรักษาความปลอดภัยจะทุม่ เทอย่างมากและมีเตรียมการ อย่างดีแล้วก็ตาม แต่ทีมงานก็ยังขาดรูปแบบ (Framework) และ การสื่อสารพื้นฐานที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่ายๆ เพื่อใช้ส่ือสาร ความคิด แผนการออกแบบ และกระบวนการต่างๆ ให้ทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องเข้าใจได้ สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจะส�ำเร็จได้ด้วยการใช้เวิร์กโฟลว์และ กระบวนการท� ำ งานที่ เ ป็ น อั ต โนมั ติ ที่ ท� ำ งานด้ ว ยภาษาสากล ที่สามารถโปรแกรมได้ อย่างไรก็ตาม ภาษาที่ใช้จะต้องเป็นภาษาที่ ทุกคนเข้าถึงได้ เข้าใจง่าย เขียนง่าย เพือ่ ให้สามารถน�ำข้อมูลมาจัดท�า เป็นเอกสาร และส่งไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทุกคนที่มี July-August 2020

ความช�ำนาญในการใช้โดเมนที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ระบบอัตโนมัติท่ีจะน�ำมาใช้ควรรองรับวิธีการ ท�ำงานที่ใครก็สามารถเข้าใช้งานได้ มากกว่าจะเป็นระบบปิดที่มี กรรมสิทธิ์ ซึ่งจะส่งผลให้ระบบนิเวศด้านการรักษาความปลอดภัย อันซับซ้อนที่มีอยู่ในองค์กรขนาดใหญ่เสียสมดุลได้ โดยสรุปแล้ว ระบบจ� ำ เป็ น ต้ อ งได้ รั บ การออกแบบในลั ก ษณะแยกเป็ น โมดู ล เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องมือรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ จ�ำนวนมากที่องค์กรขนาดใหญ่นำ� มาใช้เพิ่มขึ้นตลอดเวลาได้ ทีมงานด้านไอทีและระบบเน็ตเวิร์กมีการใช้ระบบอัตโนมัติ มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นการช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมในการท�ำงาน ร่วมกันระหว่างผูม้ สี ว่ นเกีย่ วข้องกับระบบไอทีทกุ ฝ่าย อย่างไรก็ตาม การน�ำระบบอัตโนมัติมาใช้เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ซึ่งทีมไอที ต้องมองหาและน�ำเครื่องมือต่างๆ มาท�ำงานร่วมกันให้ได้อย่างมี ประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา เพื่อใช้สนับสนุนโปรแกรมอัตโนมัติ ที่ท�ำงานได้อย่างครบวงจร การที่ระบบรักษาความปลอดภัยได้ ผสานรวมอย่างแน่นหนาอยูก่ บั แผนกไอที จะช่วยให้ทมี ท�ำงานด้าน การรักษาความปลอดภัยทุกทีม รวมถึงการท�ำงานบนโปรโตคอลที่ แตกต่างกัน มีโอกาสใช้และได้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติเช่นกัน ในช่วงไม่กปี่ ที ผี่ า่ นมา เราได้เห็นผูบ้ ริหารระดับสูงของฝ่ายไอที เช่น ประธานฝ่ายสารสนเทศ (CIO) และประธานฝ่ายเทคนิค (CTO) เข้ามามีบทบาทในระดับบริหารและมีอทิ ธิพลต่อการก�ำหนดกลยุทธ์ ขององค์กรมากขึน้ และด้วยความตระหนักถึงการรักษาความมัน่ คง ปลอดภัยทางไซเบอร์ทเี่ พิม่ มากขึน้ มีการคาดการณ์วา่ ในอีกไม่นาน

คณะกรรมการบริหารขององค์กรจะพิจารณาให้ ประธานฝ่ายความปลอดภัย (CSO) และประธานฝ่าย ความปลอดภัยข้อมูล (CISO) เข้ามามีส่วนในการ ก� ำ หนดทิ ศ ทางกลยุ ท ธ์ ข ององค์ ก รด้ ว ยเช่ น กั น เมื่อผู้บริหารระดับสูงของฝ่ายความปลอดภัยได้ เข้าไปมีบทบาทในระดับสูงสุดขององค์กร ทีมงาน ของฝ่ายความปลอดภัยก็ควรมีบทบาทในหน่วยงาน ทั้งหมดขององค์กรด้วย โดยการใช้องค์ประกอบ ทีเ่ หมาะสม (ภาษาทีเ่ ป็นสากล ระบบทีท่ กุ คนสามารถ เข้าใช้งานได้ และการออกแบบโมดูลทีเ่ ป็นมาตรฐาน) ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้จะสามารถช่วยสนับสนุน เวิร์กโฟลว์ และกระบวนการอัตโนมัติท่ีสามารถ ดูแลเรื่องความปลอดภัยภาพรวมเป็นหนึ่งเดียวกับ หน่วยงานต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม การรักษาความปลอดภัยต้องมี องค์ประกอบอื่นๆ ด้วย เช่น อุปกรณ์ปลายทาง (Endpoint) เน็ตเวิร์ก และการรักษาความปลอดภัย ข้อมูล การบริหารจัดการกลุม่ คน กระบวนการ และ แอปพลิเคชัน จ�ำนวนมาก อาจมีโอกาสเกิดความเสีย่ ง ขึ้นได้หากไม่ได้ใช้เวิร์กโหลดที่เป็นระบบอัตโนมัติ ระบบรั ก ษาความปลอดภั ย แบบอั ต โนมั ติ เป็นโซลูชนั ทีด่ เี ยีย่ มเพือ่ ใช้ขจัดความท้าทายดังกล่าว ด้วยการรวมวิธีการรักษาความปลอดภัยที่แตกต่าง กันเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยการใช้ชุดเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคต่างๆ ที่มีอยู่ และช่วยให้ ผู ้ เชี่ ย วชาญด้ า นความปลอดภั ย สามารถจั ด ให้ ผูร้ ว่ มงานเข้าถึงระบบและแอปพลิเคชันต่างๆ ได้โดย การสื่อสารกับแต่ละคนผ่านสคริปต์อัตโนมัติท่ีมี ค�ำแนะน�ำเกี่ยวกับวิธีจัดการงานเฉพาะด้านต่างๆ อย่างชัดเจน และเจ้าของระบบสามารถจัดให้มี การเข้าถึงระบบและเครือข่ายได้มากเท่าที่ต้องการ เพือ่ ช่วยให้ผรู้ ว่ มงานมีแนวคิดใหม่ๆ ด้านการรักษา ความปลอดภัยของข้อมูลองค์กรมากขึ้น รวมทั้งมี ความรู้สึกวางใจและปลอดภัยที่ได้ทราบว่าระบบ ของพวกเขาจะไม่ถูกบุกรุก หรือสิทธิ์ของพวกเขา จะไม่ถกู ละเมิด อย่างไรก็ตาม หากโซลูชนั ด้านระบบ อัตโนมัตไิ ม่ได้ใช้ภาษาทีท่ กุ คนเข้าใจ ทีมงานจะต้อง เผชิญกับโค้ดและค�ำศัพท์ทม่ี แี ต่นกั พัฒนาซอฟต์แวร์ เท่านั้นที่จะเข้าใจได้ ดังนั้นผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการด้านการรักษา ความปลอดภัยจึงรับรู้และมองเห็นการท�ำงานของ ฟังก์ชันด้านความปลอดภัยทั้งหมดที่มี ในขณะ เดียวกัน ทีมงานของพวกเขาก็จะสามารถโต้ตอบ และเรียนรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบของแต่ละคน July-August 2020

> Massimo Ferrari, Consulting Product Manager Ansible Security Automation, Red Hat

Automate to collaborate :

Automation holds the key to security governance and culture of collaboration มีการพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น และแบ่งปันความรับผิดชอบ ร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ความไม่สมัครใจที่ต้องร่วมกันรับผิดชอบที่ เกิดขึน้ ในอดีตนัน้ เกิดจากการท�ำงานด้านการรักษาความปลอดภัย ที่เป็นแบบต่างคนต่างท�ำมากกว่าเกิดจากการขาดความไว้วางใจ ซึ่งกันและกัน องค์กรสามารถเลือกใช้เฟรมเวิรก์ ทีแ่ ตกต่างกันซึง่ มีอยูอ่ ย่าง มากมายได้ แต่หากระบบอัตโนมัตทิ จี่ ะเลือกมาใช้นนั้ ท�ำงานอยูบ่ น มาตรฐานระบบเปิด (Open Standard) ก็จะเป็นประโยชน์มากขึ้น เพราะตัวระบบจะมีการออกแบบที่ทุกคนสามารถเข้าใช้งานได้ ซึ่งช่วยให้การด�ำเนินงานด้านความปลอดภัยสามารถพัฒนาเป็น เวิรก์ โฟลว์ทม่ี โี ครงสร้างทีส่ ามารถท�ำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม SOAR และแอปพลิเคชัน SIEM ทีม่ อี ยูไ่ ด้ ซึง่ เป็นการช่วยเสริมศักยภาพได้ เป็นอย่างดี เฟรมเวิ ร ์ ก ของการรั ก ษาความปลอดภั ย อั ต โนมั ติ ท่ี เ ป็ น ระบบเปิดทีม่ ปี ระสิทธิภาพจะเชือ่ มต่อกับระบบต่างๆ ทีใ่ ช้งานอยูใ่ น ทุกส่วนขององค์กรผ่านเวิรก์ โฟลว์อตั โนมัติ ซึง่ ช่วยให้ผเู้ ชีย่ วชาญด้าน ความปลอดภัยสามารถออกแบบและสร้างโค้ดที่ขับเคลื่อนให้เกิด กระบวนการท�ำงานใหม่ๆ และลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ได้ ความต่อเนือ่ งทีเ่ กิดตามมาก็คอื ทีมงานด้านความปลอดภัยสามารถ ออกชุดปฏิบัติการต่างๆ ให้กับผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่แตกต่างกัน ได้เร็วขึ้นอย่างมาก ระบบอัตโนมัตทิ ำ� ให้การท�ำงานด้านการรักษาความปลอดภัย เป็นไปด้วยจิตใจทีเ่ ปิดกว้าง และพร้อมท�ำงานร่วมกัน แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่จะส�ำเร็จได้อย่างแท้จริงนั้นยังขึ้นอยู่กับปัจจัย ด้านบุคลากร และความสามารถในการท�ำให้ทมี ทีแ่ ตกต่างกันมานัง่ ลงหารือร่วมกันได้วา่ จะท�ำงานร่วมกันอย่างไรเพือ่ ให้บรรลุเป้าหมาย เดียวกัน July-August 2020

Enterprise security is coming under intense scrutiny as cyberattacks and breaches become more prevalent.

Massimo Ferrari, Consulting Product Manager, responsible for Red Hat’s Ansible Security Automation initiative, discusses how automation can help to unify security operations and open a dialogue with IT and other business stakeholders.

A typical FTSE 100 or Fortune 500 company has a vast and complex set of cyber security defenses in place; managed by multiple security operations teams spread across different business units and different geographies.

A great deal of effort is put into securing an enterprise organisation. Yet, despite the high level of diligence and preparation, security teams still lack a common framework and a common language that they can use to share designs, processes and ideas.

This can be achieved by introducing automated workflows and processes based on a universal programmable language. However, the language must be accessible to all. It must be easy to understand and easy to write; so that information can be documented and shared amongst security professionals with different domain expertise.

It should also support a completely unbiased approach, rather than a closed, proprietary system.

This would upset the delicate balance of the complex security ecosystems already in place in large organisations.

Finally, the system needs to be modular by design so that it can accommodate the vast, and growing, number of

cybersecurity tools that large enterprises amass over time.

IT and network operations teams have been using automated systems for some time. This is encouraging a culture of collaboration between different IT stakeholders. However, it’s an ongoing process and IT teams are always looking for the right combination of tools to support a comprehensive automation programme. With security becoming more tightly integrated with the IT department, security operations teams, operating on different protocols, now have an opportunity to embrace automation.

In recent years we’ve seen the posts of CIO and CTO elevated to boardroom level, with senior figures in IT now influencing corporate strategy. Due to a heightened awareness of cyber security, it won’t be long before the board looks to CSO and CISO executives for strategic direction. If security executives are having conversations at the highest level of an organisation, why shouldn’t security teams be having conversations across the entire business? With the right elements in place (universal language, unbiased system and a modular design) it’s possible to support a set of automated workflows and processes that will unify security operations.

However, security isn’t just a single entity, it’s made up of different elements such as endpoint, network and data security. Managing a sprawling mass of people, processes

and applications can be daunting prospect without having automated workloads in place.

Security automation offers an elegant solution to all of this by uniting the different security practices together using a set of automated workflows. This breaks down barriers and allows security professionals to provide colleagues with access to systems and applications. Security professionals can communicate with each other via automated scripts that contain explicit instructions on how to address specific tasks.

A system owner can provide as much access as is required to support wider enterprise security initiatives, safe in the knowledge that their systems won’t be compromised or their authority undermined. However, without a common language in place, teams are faced with impenetrable code and terminology that only a developer can understand.

Consequently, security operations managers have greater visibility across the entire security function, while the teams themselves can interact, learn more about each other’s responsibilities, develop better relationships and share accountability. However, any reluctance in the past to share accountability was born out of security being a very siloed practice rather than a lack of trust.

There are several different frameworks organisations can choose from, but it would be more conducive if the automated system was based on open standards. The system would then be unbiased by virtue of its design. This enables security operations to develop structured workflows that can be integrated into existing SOAR platforms and SIEM applications, helping to bolster capabilities.

An effective and open security automation framework connects disparate systems from across the enterprise through automated workflows. Meaning that security professionals can design and build code that can be executed to drive new processes and reduce human error. Subsequently, security operations teams can perform a series of actions across different products and solutions much faster.

Automation enables security operations to foster a spirit of openness and collaboration. However, real change is also dependent on the human factor and the ability of once disparate teams to get around a table to discuss how they can work together to achieve common goals.

July-August 2020

เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) เปิดตัว คลาวด์เราเตอร์บนเครือข่าย 4G รุ่น DX-3201L9 ส�ำหรับเชือ่ มต่ออุปกรณ์ภาคสนามเข้ากับเซิรฟ์ เวอร์บนระบบคลาวด์ เพือ่ การสือ่ สาร ในระบบอัตโนมัตงิ านอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ช่วยให้ผใู้ ช้งาน ทัว่ ภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถบริหารจัดการระบบอัตโนมัตขิ องโครงสร้าง พืน้ ฐาน โรงงาน หรืออาคารต่างๆ รวมถึงตรวจสอบสถานะและควบคุมการท�ำงานได้ จากระยะไกล ผ่านเราเตอร์ไร้สายที่ใช้งานได้หลากหลายและทนทานต่อการใช้งาน ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ผู้ใช้สามารถใช้อุปกรณ์คลาวด์เราเตอร์ รุ่น DX-3201L9 เชื่อมต่อไร้สายได้บนทุกย่าน ความถี่มาตรฐานและประยุกต์การใช้งานได้ในหลากหลายประเภท เช่น ตรวจสอบระดับน�้ำใน แม่น�้ำล�ำคลองและในสถานีโทรมาตร หรือตรวจสอบการท�ำงานของหม้อแปลง ทั้งนี้ เราเตอร์ ไร้สายมีความทนทานโดยสามารถท�ำงานภายใต้อณ ุ หภูมิ -20 ถึง 70 องศาเซลเซียส และได้ผา่ น การรับรองมาตรฐานความปลอดภัย UL 61010 เพือ่ การรับส่งข้อมูล 2 ทางอย่างราบรืน่ ระหว่าง อุปกรณ์ภาคสนามกับระบบคลาวด์ เราเตอร์ DX-3201L9 เชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานกับอุปกรณ์ควบคุมจากระยะไกลผ่าน เซิรฟ์ เวอร์บนคลาวด์ DIACloud ของเดลต้า โดยไม่จำ� เป็นต้องใช้เซิรฟ์ เวอร์ VPN ทัง้ นี้ เราเตอร์ ยังสามารถรองรับโพรโตคอลระดับอุตสาหกรรมที่หลากหลาย พร้อมอัตราการส่งข้อมูล LTE สูงสุดถึง 150Mbps (Downlink) / 50Mbps (Uplink) และเพือ่ ประสิทธิภาพทีส่ งู สุด ผูใ้ ช้สามารถ จับคูก่ ารท�ำงานร่วมกับแหล่งจ่ายไฟของเดลต้า ไม่วา่ จะเป็น DVP/CliQ/PMC Series 12/24 VDC หรือ CliQII/PMC Series 48 VDC ฝ่ายปฏิบตั กิ ารทัง้ ในภาคบริหารจัดการทรัพยากรน�ำ้ และการประปาในนิคมอุตสาหกรรม หรือในภาคเกษตรทัว่ ทัง้ ประเทศไทยและภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่างก็ให้ความเชือ่ มัน่ ในการใช้งานคลาวด์เราเตอร์ของเดลต้าเพือ่ การบริหารจัดการทีง่ า่ ยและมีประสิทธิภาพ รวมถึง การเก็บข้อมูลเพือ่ ใช้ในการวิเคราะห์และวางกลยุทธ์ เดลต้ายังมีทมี งานในท้องทีเ่ พือ่ ให้คำ� ปรึกษำ เกี่ยวกับการติดตั้งและการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้ำ สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.deltathailand.com

คลาวด์เราเตอร์ 4G รุ่น DX-3201L9

หัวเว่ย Atlas 200 DK เพื่อนักพัฒนา AI ประสิทธภาพสูง สร้างสภาพแวดล้อมการพัฒนา AI ได้ด้วยตัวเอง Huawei Atlas 200 DK AI Developer Kit Atlas 200 DK ตัวใหม่น้ี จะช่วยให้นักพัฒนำ แอปพลิเคชัน AI ได้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมการพัฒนำ โดยใช้โปรเซสเซอร์ Huawei Ascend 310 ซึง่ มาพร้อมกับ โมดูลเร่งความเร็วอย่าง Atlas 200 ส�ำหรับโปรเซสเซอร์ตวั นี้ หัวเว่ยน�ำมาใช้สำ� หรับพัฒนา AI โดยเฉพาะ และอุปกรณ์นี้ ยังมีพอร์ตภายนอกส�ำหรับนักพัฒนาเพือ่ ให้สามารถเข้าถึง และใช้ความสามารถในการประมวลผลที่ทรงพลังของ โปรเซสเซอร์ Ascend 310 อีกด้วย เนือ่ งจากโปรเซสเซอร์ Ascend สามารถใช้งานได้แบบ Full Stack ในทุกสถานการณ์ คุณจึงสามารถพัฒนาโปรแกรมต่างๆ ด้วยชุดเครื่องมือ ส�ำหรับนักพัฒนา AI Atlas 200 DK นอกจากนีย้ งั สามารถ น�ำไปติดตั้งบนอุปกรณ์อื่น เช่น Safe City โดรน หุ่นยนต์ เซิร์ฟเวอร์วิดีโอ และประตูอัจฉริยะ Atlas 200 DK มีขนาดกะทัดรัด กว้าง 13 เซนติเมตร ยาว 9 เซนติเมตร และหนา 3 เซนติเมตร น�ำ้ หนักประมาณ 200 กรัม อุปกรณ์นี้มีพอร์ตภายนอกให้นักพัฒนาเข้าถึง July-August 2020

ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยตัวอุปกรณ์มีช่องระบาย ความร้อน ด้านข้างมีปุ่มรีเซ็ต ขณะใช้งานจะมีไฟแสดง สถานการณ์การท�ำงานด้านข้าง นอกจากนี้ยังมีพอร์ตให้ เชือ่ มต่อ USB Type C และช่อง Micro SD Card เพือ่ ใช้ ในการ Boot System โดยรองรับความจุตง้ั แต่ 8 กิกะไบต์ (GB) ไปจนถึง 2 เทราไบต์ (TB) มาพร้อมช่องเชื่อมต่อ เครือข่าย (Network Interface) ส่วนในการส่งข้อมูลสามารถ เลือกได้ว่าจะส่งผ่านทางช่อง USB หรือทาง Network Interface

ชุดนักพัฒนา Atlas 200 DK

โปรเซสเซอร์ Ascend 310 AI

Zyxel launches industry’s first five -color LED smart managed switch to help businesses adopt WiFi 6 standard with ease

The XS1930 series Multi-Gigabit switch offers businesses flexible network speeds, better connectivity and a unique speed-coded LED display, for enhanced userfriendliness and experience.

Zyxel Networks, a leader in delivering secure, AI and cloud-powered home and business solutions, today launches the new XS1930 series 10/12-port Multi-Gigabit Smart Managed Switch, designed to help small and medium businesses achieve greater network flexibility and take full advantage of the latest WiFi 6 technology.

Although the roll-out of the new WiFi 6 standard boasts a lot of benefits for businesses, including faster speeds and better connectivity, it also puts a greater strain on existing bandwidth capabilities. Multi-Gigabit network switches are key to delivering a reliable network backbone to help companies unlock the full potential of WiFi 6 when they’re ready for the upgrade.

Light Up the Speed Most gigabit switches typically only provide either 1G or 10G link speeds, limiting the flexibility when looking to add 2.5G or 5G devices for new applications. Zyxel’s latest Multi-Gigabit switch, the XS1930 Series, supports variable speeds - from 100M, 1G, 2.5G, 5G to 10G– to best suit the applications and devices that require various network speeds in SMB offices. When upgrading to the XS1930, businesses can use their existing cables to best utilize the previous network investment and also be well prepared for future network expansion.

Having devices of various speeds, cable length, and cable quality in a network often results in mixed performance

that makes it hard to tell the actual speed of each connection. The XS1930 series features the industry’s first five-color LED design, which flashes one color per speed to help network administrators easily identify the actual network performance. This makes it easier to recognize port speed by colors, with the maintenance indicators much more intuitive and user-friendly.

The growing adoption of mobile, IoT and WiFi 6 devices and their diversified applications have also raised the bars of power requirements on the network backbone.

The XS1930-12HP supports the latest IEEE 802.3bt (PoE++) standard, with a large power budget of up to 375W to accommodate the high-power requirement needed by most WiFi 6 devices.

The XS1930 series also integrates with Zyxel NebulaFlexTM, giving users the flexibility to switch between standalone mode and Zyxel’s Nebula cloud. Current Nebula users can reap the full benefits of WiFi 6 with a complete solution range from the wireless edge to the backbone.

With the high bandwidth and large power budget that the XS1930 Switch offers, it can operate at 28-50 dBA–which is almost silent, making it ideal for small offices, boutique hotels, hostels or public-facing businesses.

The XS1930 series includes 2 models, the XS1930-10 with 8 Multi-Gig ports and 2 Fiber uplinks and the XS193012HP with 8 Multi-Gig PoE ports, 2 Multi-Gig ports and 2 Fiber uplinks.

For more information about the XS1930 series, please visit : https://www.zyxel.com/products_services/ 10-12-port-Multi-Gigabit-Smart-Managed-SwitchXS1930-Series/

July-August 2020

WE-WPCC Wireless Power Transfer Transmitter Coil

Würth Elektronik expands its portfolio of wireless power coils.

WE-WPCC WPT/NFC combines wireless power transmission with the Near Field Communication (NCF) standard thus enabling, for example, the combination of a charging station for smartphones with identification and payment functions. Other new additions to the world’s largest range of wireless power transfer coils include a high power coil (WE-WPCC 760308101311) with 400 W output and a “flat” version, two coils whose respective heights of 2.8 mm and 3.1 mm are only half as high as those of other transmitter coils (WE-WPCC 760308101411 and 760308101410).

The NFC coil in the WE-WPCC WPT/NFC enables data rates up to 848 kbps and the WPT coil allows wireless power transmission output up to 100 W (at 20 V input voltage) in one efficient solution. Data can be transferred while wirelessly charging sensors, smartphones, wearables, handhelds, digital cameras, smart watches or tablets. The coil combination in the compact PET sleeve with adhesive surface can be used according to the Qi (5 W and 15 W) and AirFuel Alliance standards as well as in proprietary solutions with higher power. This means the transmitter is equally

Wide Selection of High-Frequency Connectors

suitable for consumer electronics and industrial applications. Stranded wire and high-quality ferrite material ensure maximum energy transmission efficiency and the high permeability of the shielding concentrates the magnetic field and protects sensitive electronics or batteries from interference signals.

For information : https://www.we-online. com

Würth Elektronik has extended its range of coaxial connectors and published a new catalog. On 174 pages, the “Coax Connectors” English language catalog presents nine product groups. The new product families of SMB and SMP connectors is the highlight.

The following product families are featured in the coaxial catalog available today : SMA and Reverse Polarity SMA, MCX and MMCX, SMP and SMB Moreover, a range of adapters, tools and services for cable assembly is presented.

Two Additional Standards The coaxial standards SMB and SMP expand the portfolio with the appearance of the new catalog. SMBs are suitable for applications up to 4 GHz with a characteristic impedance of 50 Ohm. The SMB series is smaller than the SMAs and contact via snap-in connection. The SMP series–designed for transmission rates up to 40 GHz at 50 ohms including versions with different insertion and retention forces–s also new to the program.

The Coax Connector Catalog can be ordered now from the Würth Elektronik website or downloaded here as a pdf.

For information : https://www.we-online.com

July-August 2020

WE-CCMF

Ceramic Common Mode Filter

With WE-CCMF, Würth Elektronik offers a compact multilayer common mode choke in a 0504 package which is characterized by high common mode attenuation in the WiFi frequency range (> 30 dB @ 2450 MHz). WE-CCMF is the solution to improve the sensitivity of Wireless LAN and Bluetooth enabled devices (notebooks, laptops, routers, IoT devices) that also include interfaces with high-speed push-pull signal transmission. These devices include USB 3.1/3.2, SATA 3.0/3.2, HDMI 1.4/2.0 or Thunderbolt 2/3.

The high switching frequency of state-of-the-art data lines has made common mode interference a problem in radio reception. The ceramic common mode choke WE-CCMF achieves excellent attenuation in just this 2.45 GHz range. The LTCC design of the WE-CCMF ensures low losses and high reliability.

The reflow solderable SMT component has high temperature stability and is suitable for operating temperatures from -40°C to +85°C. The push-pull cut-off frequency of the choke is 8 GHz. For information : https://www.we-online.com

อุปกรณ์สวิตช์ตระกูล

SwitchtecTM PAX Advanced Fabric Gen 4 PCIe

บริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี จ�ำกัด (Nasdaq: MCHP) ประกาศการผลิ ต อุ ป กรณ์ ส วิ ต ช์ ใ นตระกู ล Switchtec™ PAX Advanced Fabric Gen 4 PCIe ซึง่ รองรับรูปแบบการเชือ่ มต่อทีม่ ี ความซับซ้อนด้วยความสามารถในการปรับขยายขนาดได้มากกว่า ความหน่วงต�ำ่ กว่า และสมรรถนะทีส่ งู กว่าอุปกรณ์สวิตช์ Peripheral Component Interconnect Express (PCIe) แบบเดิมๆ เพื่อ สนับสนุนคลาวด์ ศูนย์ขอ้ มูล และการประมวลผลแบบไฮเปอร์สเกล ซึง่ ช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าในเทคโนโลยีปญ ั ญาประดิษฐ์ (AI) และ การเรียนรู้ของเครื่อง (ML) อุปกรณ์สวิตช์ในตระกูล Switchtec PAX PCIe ของไมโครชิพ เป็นโซลูชนั แฟบริคแบบเบ็ดเสร็จ จึงช่วยลดเวลาในการออกสูต่ ลาด ส�ำหรับระบบต่างๆ ที่ต้องใช้โฮสต์หลายแบบเพื่อแชร์ Single Root I/O Virtualization (SR-IOV) Non-Volatile Memory (NVMe) Solid State Drives (SSDs), Graphics Processing Units (GPUs) และ อุปกรณ์ปลายทาง PCIe อื่นๆ ร่วมกัน Switchtec PAX เป็นอุปกรณ์สวิตช์ Gen 4 PCIe ทีใ่ ช้ไฟน้อย ที่สุดในวงการ จึงช่วยลดการใช้ไฟทั้งระบบลงได้อย่างมีนัยส�ำคัญ โดยอุปกรณ์สวิตช์ในตระกูล Switchtec PAX มีจำ� นวนช่องให้เลือก อย่างหลากหลาย ได้แก่ 100-lane, 84-lane, 68-lane, 52-lane, 36-lane และ 28-lane นอกจากนี้ อุปกรณ์สวิตช์ตระกูล PAX ยังมำ

พร้อมคุณสมบัติอื่นๆ ดังนี้ • การควบคุมข้อผิดพลาดขั้นสูง • ความสามารถในการตรวจสอบและแก้จุดบกพร่องแบบ

เบ็ดเสร็จ • รองรับอินเทอร์เฟซ I/O ที่มีความกว้างแตกต่างกันมาก • หน่วยประมวลผล MIPS ในตัว • มีระบบ Secure Boot เพื่อป้องกันเฟิร์มแวร์ที่ไม่ได้รับ อนุญาตผ่านการเข้ารหัสคีย์สาธารณะ อุปกรณ์สวิตช์ตระกูลใหม่ล่าสุดนี้รองรับการใช้งานหลาย รูปแบบ ได้แก่ เครื่องเวิร์กสเตชัน GPU, ระบบแฟบริค General Purpose GPU (GP-GPU) ทีส่ ามารถประกอบและปรับเปลีย่ นได้อย่าง ยืดหยุน่ ระบบมัลติโฮสต์ทส่ี ามารถปรับขนาดได้ JBOFs ทีส่ ามารถ ใช้งาน SR-IOV ได้ ระบบทีส่ ามารถแยกส่วนได้ และสถาปัตยกรรม แบบ Rack-Scale July-August 2020

กระทรวงดิจทิ ลั จับมือหัวเว่ย มอบนวัตกรรม AI ช่วยแพทย์ วินิจฉัยโควิด-19 รู้ผลภายใน 25 วินาทีต่อ 1 เคส

ทีซีซีเทค บริจาคคอมพิวเตอร์ เสริมทักษะเยาวชนไทย รองรับทิศทางการเรียนออนไลน์

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและ สังคม พร้อมด้วย นอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เลขานุการรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม และ ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผูอ้ ำ� นวยการใหญ่ ส�ำนักงาน ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจทิ ลั (ดีปา้ ) ร่วมกับ อาเบล เติง้ ประธานกรรมการบริหาร บริษทั หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จ�ำกัด ส่งมอบโซลูชนั AI เทคโนโลยีเดียวกับทีเ่ คยใช้ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ในโรงพยาบาลชั้นน�ำของจีน ให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อ ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เชิงปริมาณ เพือ่ รายงานผลตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) ในผูป้ ว่ ยต้องสงสัยติดเชือ้ โควิด-19 ลดระยะเวลาในการวิเคราะห์ผลทีจ่ ะเป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็วยิง่ ขึน้ ด้วยเวลา เพียง 25 วินาทีตอ่ 1 เคส โดยมี ศ. นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดี คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี รับมอบ

บริษัท ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จ�ำกัด (ทีซีซีเทค) บริจาคคอมพิวเตอร์พร้อม อุปกรณ์ สนับสนุนโครงการพัฒนาห้องคอมพิวเตอร์ ของโรงเรียนพานทอง สภาชนูปถัมภ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยมีตวั แทนพนักงานทีซซี เี ทค ท�ำหน้าทีส่ ง่ มอบ คอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ดงั กล่าวให้กบั นภาพร มูลเมือง ผูอ้ ำ� นวยการ โรงเรียน พานทองสภาชนูปถัมภ์ และ สานิด แขกสะอาด ผู้จัดการแผนกชุมชนสัมพันธ์ และกิจกรรมความรับผิดชอบเพือ่ สังคม บริษทั อมตะ คอร์ปอเรชัน จ�ำกัด (มหาชน) ซึ่งวัตถุประสงค์ของการบริจาคในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้กับ เยาวชนไทยสามารถใช้เทคโนโลยีในการศึกษาค้นคว้า และสร้างองค์ความรู้ด้วย ตนเองจากแหล่งเรียนรูต้ า่ งๆ รวมถึงเป็นแหล่งเสริมสร้างจินตนาการและความคิด สร้างสรรค์ สู่ความเป็นสากลที่สอดคล้องกับทิศทางการเรียนการสอนรูปแบบ ออนไลน์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทัง้ นี้ ทีซซี เี ทคด�ำเนินกิจกรรม การสนับสนุนเครือ่ งคอมพิวเตอร์ให้กบั สถานศึกษาและหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนือ่ ง เป็นเวลามากกว่า 10 ปี

เบทาโกร มอบเจลแอลกอฮอล์ สนับสนุนการท�ำงาน 6 รพ. ฝ่าวิกฤต COVID-19

เครือเบทาโกร น�ำโดย วสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ และคณะผูบ้ ริหาร ส่งมอบเจลแอลกอฮอล์ 6,000 ขวด ให้แก่ 6 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาล ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สถาบันบ�ำราศนราดูร และโรงพยาบาลศิรริ าช ผ่านโครงการ BETAGRO #Recover19 #เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน เพื่อสนับสนุนการท�ำงานของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรด้านการแพทย์ โดยมีตวั แทนจากโรงพยาบาลเป็นผูร้ บั มอบ

July-August 2020

Dow เติมสุขด้วยน�้ำใจ เสริมรายได้ให้ชุมชน ผ่านตู้ปันสุข

กลุม่ บริษทั ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับพนักงานดาวอาสาจากโรงงาน โพลิเอทิลนี ชนิดยืดหยุน่ พิเศษ ได้รว่ มกันตัง้ ตูป้ นั สุข เติมของใช้และอาหารทีจ่ ำ� เป็น และส่งมอบให้กบั โรงพยาบาลบ้านฉาง โดยเปิดโอกาสให้ผใู้ จบุญน�ำสิง่ ของบริจาค ใส่ในตู้เพื่อแบ่งปันและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นอกจากนี้ Dow ยังได้ช่วยส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นมีรายได้ โดยจัดซื้อ สินค้าและผลิตภัณฑ์จากชุมชนในจังหวัดระยอง เพื่อน�ำไปใส่ตู้ปันสุขในจุดต่างๆ เพิ่มเติม ครอบคลุมพื้นที่ทั้งมาบตาพุดและบ้านฉาง รวมถึงท�ำงานร่วมกับกาชาด จังหวัดระยองและหน่วยงานภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ แก่ชุมชน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง

เอ็มจี ยกขบวนคาราวานส่งมอบหน้ากาก ผ่านโครงการ Together for Better Thailand

น�ำ้ ตาลขอนแก่น มอบน�้ำตาลทรายบรรจุถุงยังชีพ ช่วยประชาชน

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จ�ำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด ผู้ผลิตและผู้จ�ำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยร่วมกับ ผู้จ�ำหน่ายรถยนต์เอ็มจี ส่งขบวนคาราวาน New MG Extender ภายใต้โครงการ Together for Better Thailand ขนส่งหน้ากากอนามัยจ�ำนวน 300,000 ชิน้ เพือ่ ส่งมอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ ก่อนกระจายสู่กลุ่ม เป้าหมายในพื้นที่ชุมชนตามแผนด�ำเนินการของกระทรวงมหาดไทย การขนส่งหน้ากากอนามัยในครัง้ นี้ เริม่ ด้วยการปล่อยคาราวาน New MG Extender จาก MG Driving Experience Centre ถนนศรีนครินทร์ ด้วยความพร้อม ที่เอ็มจีมีเครือข่ายผู้จ�ำหน่ายอยู่ท่ัวประเทศ อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจาก ผู้จ�ำหน่าย ท�ำให้การขนส่งสามารถกระจายไปได้อย่างทั่วถึงในทุกจังหวัด

บริษัท น�้ำตาลขอนแก่น จ�ำกัด (มหาชน) โดย โสมนัส โพธิสัตย์ รองกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่-ส�ำนักกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ และ ศศิพร ชินธรรมมิตร์ เจ้าหน้าที่อาวุโส-งานการตลาด เป็นตัวแทนบริษัทฯ เข้ามอบน�้ำตาลทรายแก่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดย ทาวัน ทวีถาวรสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมโรงงาน และ กรณ์ภฐั วีย์ ม่วงน้อย รองอธิบดีกรมโรงงาน เป็นตัวแทน ในการรับมอบน�้ำตาลทรายจ�ำนวน 2,000 กิโลกรัม เพื่อการน�ำไปบรรจุถุงยังชีพ แจกจ่ายแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019

พีทีจี จัดแข่งขันอีสปอร์ตออนไลน์ ระดมทุนบริจาคให้ สภากาชาดไทย

เดลต้าและกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมมือจัดประชัน แผนธุรกิจสตาร์ตอัป

พร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ ผู ้ อ� ำ นวยการการตลาดและลู ก ค้ า สัมพันธ์ บริษทั พีทจี ี เอ็นเนอยี จ�ำกัด (มหาชน) หรือ PTG ได้เข้าร่วมเป็น ส่ ว นหนึ่ ง ในโครงการแบกหมอสู ้ โควิด ที่ทางกระทรวงท่องเที่ยวและ กีฬาได้เริม่ โดยจัดโครงการงานแข่งขัน อีสปอร์ตออนไลน์เพือ่ ระดมทุนบริจาค ให้ ส ภากาชาดไทย และสนั บ สนุ น บุคลากรทางการแพทย์ทมี่ กี ารท�ำงาน อย่างหนักหน่วง เพื่อต้องการยับยั้ง การระบาดของ COVID-19 การแข่ ง ขั น ครั้ ง นี้ จ ะมี ก าร แข่งขันทั้งหมด 3 เกม ได้แก่ Arena of Valor (ROV), League of Legends (LoL) และ Identity V ซึ่งจะท�ำการ แข่งขันบน omu.gg ซึง่ เป็นแพลตฟอร์ม การแข่งอีสปอร์ตออนไลน์อันดับต้นๆ ของประเทศไทย ท�ำให้ผู้ชมที่สนใจติดตาม การแข่งสามารถเข้ารับชมการแข่งขันผ่านช่องทางทางออนไลน์ได้ทบ่ี า้ น เพือ่ รณรงค์ ให้ประชาชนท�ำกิจกรรมอยู่บ้านอย่างปลอดภัย และให้สอดคล้องตามนโยบาย ของรัฐบาล “อยูบ่ า้ น หยุดเชือ้ เพือ่ ชาติ” ทีต่ อ้ งการยับยัง้ การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

บริษทั เดลต้า อีเล็กโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จ�ำกัด ร่วมมือกับ กรมส่งเสริม อุตสาหกรรม (กสอ.) จัดประชันแผนธุรกิจภายใต้โครงการ Delta Angel Fund ส�ำหรับ สตาร์ตอัปประจ�ำปี 2563 ณ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 30 ทีม จากผูส้ มัครทัง้ หมดกว่า 300 ราย เพือ่ แข่งขันชิงเงินลงทุนรวมกว่า 4 ล้านบาท โดยแต่ละทีมน�ำเสนอแผนธุรกิจต่อคณะกรรมการ และประชันกันภายใต้หัวข้อ ประเภทแนวคิดธุรกิจ ประกอบด้วย 1.ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ (Industrial Automation) 2.การจัดการพลังงาน (Energy Management) และ 3.นวัตกรรม (Innovation)

July-August 2020

Movement

บ้านปู บริจาคเงินเพือ่ ท�ำห้องผูป้ ว่ ยความดันลบ

บริษัท บ้านปู จ�ำกัด (มหาชน) ได้ท�ำพิธีมอบห้องผู้ป่วย ความดันลบ (Negative Pressure) ให้แก่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ อย่างเป็นทางการ โดย ชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ บริษทั บ้านปู จ�ำกัด (มหาชน) สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษทั บ้านปู จ�ำกัด (มหาชน) ส่งมอบ มี รศ. นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผูอ้ ำ� นวยการ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ผูบ้ ริการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง หอผูป้ ว่ ยวิกฤตระบบการหายใจบ้านปู รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ภายในประกอบด้วย ห้องผูป้ ว่ ยความดันลบ (Negative Pressure) แบบแยกห้อง รวม 11 เตียง และอุปกรณ์ทางการแพทย์ทส่ี ำ� คัญ เช่น เครือ่ งช่วยหายใจ เครือ่ งเอกซเรย์เคลือ่ นทีร่ ะบบดิจทิ ลั เครือ่ ง ส่องตรวจทางเดินหายใจ เครือ่ งวัดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในลมหายใจออกและความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด เครื่อง เฝ้าระวังและติดตามสัญญาณชีพ เครื่องกดนวดหัวใจอัตโนมัติ อุปกรณ์สอ่ งตรวจหลอดลม และชุดป้องกันอนุภาคทีเ่ ป็นอันตราย จากฝุ่นละอองและเชื้อโรค รวมมูลค่า 30 ล้านบาท

PEA ประเดิมแจกสร้อยคอทองค�ำผูโ้ ชคดี “เซฟไทยเซฟไฟลุน้ ทอง” ครั้งที่ 1 การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค (PEA) จัดกิจกรรมจับรางวัลสร้อยคอทองค�ำ ครัง้ ที่ 1 จ�ำนวน 5 รางวัล ให้แก่ผู้โชคดีในแคมเปญพิเศษแห่งปี “เซฟไทยเซฟไฟลุ้นทอง” จากโครงการ รณรงค์ประชาสัมพันธ์ การใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและประหยัด (เซฟไทย) เพือ่ ส่งเสริมการใช้ พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี จาตุรงค์ สุขะเสน รองผูว้ า่ การ การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค จุฑาพรรธน์ แก้ววัฒนะบวร ผูช้ ว่ ยผูว้ า่ การ การไฟฟ้าส่วนภูมภิ าค และผูบ้ ริหาร เป็นผูจ้ บั รางวัล เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ณ ส�ำนักงานใหญ่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยสามารถ ตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “เซฟไทย” ส�ำหรับผูท้ สี่ นใจร่วมสนุกลุน้ รับรางวัลสร้อยคอทองค�ำในการจับรางวัลอีก 2 ครัง้ ถัดไป เพียงกด Like แฟนเพจ “เซฟไทย” ถ่ายรูปบิลค่าไฟ หรือบันทึกภาพค่าไฟฟ้าทางหน้าจอ โทรศัพท์จากแอปพลิเคชัน PEA Smart Plus เปรียบเทียบบิลค่าไฟ 2 เดือน และคอมเมนต์ ใต้โพสต์กิจกรรม พร้อมทั้งติดแฮชแท็ก #SAVETHAI #เซฟไทย #เซฟไทยเซฟไฟลุ้นทอง ท่านใดทีม่ คี า่ ไฟลดลงและท�ำตามกติกาครบถ้วน สามารถลุน้ รับสร้อยคอทองค�ำหนัก 1 บาท ซึ่งกิจกรรมเซฟไทยเซฟไฟลุ้นทอง เปิดให้ร่วมกิจกรรมอีก 2 ครั้ง ครั้งที่ 2 ใช้รปู บิลค่าไฟเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 (ร่วมสนุกได้ตงั้ แต่วนั ที่ 2-20 มิถุนายน 2563 ประกาศผลวันที่ 26 มิถุนายน 2563) จ�ำนวน 5 รางวัล ครัง้ ที่ 3 ใช้รปู บิลค่าไฟเดือนพฤษภาคม-มิถนุ ายน 2563 (ร่วมสนุกได้ตง้ั แต่วนั ที่ 1-20 กรกฎาคม 2563 จะประกาศผลวันที่ 31 กรกฎาคม 2563) จ�ำนวน 10 รางวัล

July-August 2020

Dow สร้าง “บ้านดาวอาสา” หลังที่ 37 คืนคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ขาดแคลนที่พักอาศัย

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ผู้น�ำด้าน แมททีเรียล ไซแอนซ์ (Materials Science) ร่วมกับ บริษัท โตโยโก ประเทศไทย ร่วมสร้างบ้านด้วยนวัตกรรมทีเ่ ป็นมิตร ต่อสิง่ แวดล้อมให้กบั ครอบครัวของ ไพรัส เพิม่ เติมทรัพย์ ใน ต.พลา จ.ระยอง ซึง่ เป็นเจ้าของบ้านดาวอาสาหลังที่ 37 และ เป็นบ้านเฉลิมพระเกียรติหลังล่าสุดตามโครงการสร้างบ้านให้ ผูย้ ากไร้ในชุมชนของเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง เนือ่ งในโอกาส มหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยในงานได้รับเกียรติจาก สุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในพิธีรับมอบ พร้อม ด้วย วราภรณ์ เจริญศิรโิ ชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง จิรศักดิ์ ตะปะโจทย์ นายอ�ำเภอบ้านฉาง สมพร เหลือล้น นายกเทศมนตรีตำ� บลพลา เดชา พาณิชยพิเชฐ ผูอ้ ำ� นวยการ โรงงาน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย พร้อมทีมพนักงาน ดาวอาสาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าของบ้าน

กัลฟ์ ร่วมบริจาคภายใต้โครงการ “โอบช้าง” ช่วยเหลือช้างไทยต่อสู้วิกฤตโควิด-19

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จ�ำกัด (มหาชน) ก่อตั้งโครงการ “โอบช้าง” ในปี พ.ศ. 2556 เพื่อมุ่งช่วยเหลือช้างไทย สัตว์ประจ�ำชาติ โดยหลังจากที่ประเทศไทยเจอวิกฤตโควิด-19 ช้างไทย มากกว่า 1,000 เชือกทั่วประเทศก็เผชิญภาวะขาดแคลนอาหารและยา ทางกลุ่มบริษัทกัลฟ์จึงได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือช้างไทย ภายใต้โครงการ “โอบช้าง” ร่วมมอบเงิน ยา และเวชภัณฑ์เพือ่ ช่วยเหลือ ช้าง มูลค่ารวม 222,290 บาท แบ่งเป็นบริจาคยาและเวชภัณฑ์ มูลค่า 124,320 บาท แก่โรงพยาบาลช้าง สาขาภาคใต้ จ.กระบี่ ภายใต้สถาบัน คชบาลแห่งชาติ บริจาคยาและเวชภัณฑ์ มูลค่า 47,970 บาท แก่โรงพยาบาล ช้าง จ.ล�ำปาง และมอบเงินสดจ�ำนวน 50,000 บาท แก่สมาคมสหพันธ์ ช้างไทย จ.เชียงใหม่ เพื่อน�ำรายได้ส่วนนี้ไปซื้ออาหารให้แก่ช้าง สิตมน รัตนาวะดี ผู้ก่อตั้งโครงการ “โอบช้าง” และผู้ช่วยฝ่าย กิจกรรมเพื่อสังคม ในนามตัวแทนของ สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธาน เจ้าหน้าทีบ่ ริหาร บริษทั กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จ�ำกัด (มหาชน) มอบเงิน ยา และเวชภัณฑ์ช่วยเหลือช้างเพื่อสู้ภัยโควิด-19 แก่สมาคม สหพันธ์ชา้ งไทย จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลช้าง จ.ล�ำปาง และโรงพยาบาล ช้าง สาขาภาคใต้ จ.กระบี่ ภายใต้สถาบันคชบาลแห่งชาติ July-August 2020

Industry News

ซีเมนส์ แต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและซีอีโอคนไทยคนแรกในประเทศไทย

ซีเมนส์ ประกาศแต่งตัง้ สุวรรณี สิงห์ฤาเดช เป็น ประธาน เจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห ารและซี อี โ อคนไทยคนแรกในประเทศไทย ดูแลธุรกิจซีเมนส์ อินดัสเทรียล มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ซึ่งธุรกิจซีเมนส์ อินดัสเทรียล ประกอบด้วยธุรกิจกลุ่มสมาร์ท อินฟราสตรัคเจอร์ (Smart Infrastructure) กลุม่ ธุรกิจดิจทิ ลั อินดัสทรี (Digital Industries) และกลุ่มธุรกิจลาร์จไดร์ฟแอปพลิเคชัน (Large Drives Applications) ในประเทศไทย เมียนมา กัมพูชา และลาว

July-August 2020

สุวรรณี นับเป็นผู้บริหารไทยคนแรกที่ได้รับต�ำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหารและซีอโี อของซีเมนส์ในประเทศไทย สุวรรณีท�ำงานกับซีเมนส์มากว่า 23 ปี ในหลากหลายกลุ่ม ธุรกิจ ตั้งแต่กลุ่มธุรกิจสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ ไวร์เลส กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีอาคารและการบริหารจัดการ พลังงานไฟฟ้า และเคยด�ำรงต�ำแหน่งกรรมการผูจ้ ดั การซีเมนส์ ในประเทศเมียนมาและกัมพูชา โดยก่อนหน้านี้ สุวรรณี ด�ำรงต�ำแหน่งรองประธานอาวุโส หัวหน้ากลุ่มธุรกิจสมาร์ท อินฟราสตรัคเจอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของซีเมนส์ใน ภูมภิ าค ตลอดระยะเวลาทีส่ วุ รรณีรว่ มงานกับซีเมนส์ได้สร้าง การเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้แก่ทกุ กลุม่ ธุรกิจ ทัง้ ในประเทศไทย เมียนมา และกัมพูชา ในฐานะประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหารและซีอโี อของซีเมนส์ อินดัสเทรียล สุวรรณีมีความตั้งใจที่จะน�ำวิสัยทัศน์ของเธอ และการให้ ค วามส� ำ คั ญ ในเรื่ อ งนวั ต กรรมเข้ า มาผลั ก ดั น การเติบโตของธุรกิจในภาพรวม ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจ ไฟฟ้า (Electrification) ธุรกิจออโตเมชัน (Automation) และ ดิจทิ ลั ไลเซชัน (Digitalization) สุวรรณีตง้ั ใจจะสนับสนุนลูกค้า และคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาท้าทายเช่นนี้ ที่โลกได้เปลี่ยนแปลงไปด้วยวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) และ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) อนึง่ ซีเมนส์ (เบอร์ลนิ และมิวนิค) เป็นบริษทั เทคโนโลยี ด้านไฟฟ้าระดับโลกที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ด้านวิศวกรรม อันยอดเยี่ยม ด้านนวัตกรรม คุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และ ความเป็นสากลมากว่า 170 ปี บริษัทมีสาขาอยู่ทั่วโลก เน้น ธุรกิจด้านการสร้างและการกระจายกระแสไฟฟ้า ระบบอัจฉริยะ ส�ำหรับอาคารและการจ่ายพลังงาน และระบบออโตเมชัน และดิจทิ ลั ไลเซชันส�ำหรับภาคการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากนี้ยังมีซีเมนส์ โมบิลิตี้ ผู้น�ำโซลูชันด้านการขนส่ง ส�ำหรับรถไฟและรถยนต์ ด้านบริการขนส่งผูโ้ ดยสารและสินค้า และด้วยซีเมนส์เป็นผูถ้ อื หุน้ หลักในซีเมนส์กาเมซ่า รีนวิ เอเบิล เอ็นเนอร์ยี และซีเมนส์ เฮลธ์แคร์ ซีเมนส์จงึ เป็นผูน้ ำ� ระดับโลก ด้านเทคโนโลยีการแพทย์และโซลูชันการผลิตกระแสไฟฟ้า แบบลม ทัง้ แบบบนฝัง่ และนอกฝัง่ ในปี พ.ศ. 2562 ซึง่ จบไป เมื่อเดือนกันยายน 2562

เฟรเซอร์ส แต่งตั้ง “ธนพล ศิริธนชัย” ด�ำรงต�ำแหน่ง CEO คณะกรรมการ บริษทั เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ต้ี (ประเทศไทย) จ�ำกัด (มหาชน) หรือ FPT มีมติแต่งตั้ง ธนพล ศิริธนชัย ขึ้นด�ำรง ต�ำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country CEO) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จ�ำกัด (มหาชน) โดยมีผล ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป ธนพลจะรับภารกิจส�ำคัญในการเป็นหัวเรือใหญ่ท่ีจะสร้าง การเติบโตให้กับเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ต้ี (ประเทศไทย) รวมถึง การเดินหน้าภายใต้นโยบายการลงทุนของบริษทั ฯ ในการเพิม่ ศักยภาพ ที่จะเติบโตอย่างสมดุลให้อยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ด้วยการเป็น ผูน้ ำ� ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทมี่ คี วามหลากหลาย ครอบคลุม อสั ง หาริ ม ทรั พ ย์ ป ระเภทที่ อ ยู ่ อ าศั ย (Residential) โครงการ เชิงพาณิชย์ (Commercial) และพื้นที่เชิงอุตสาหกรรม (Industrial) ทัง้ นีเ้ มือ่ รวมกัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) มีสนิ ทรัพย์ รวมกว่า 100,000 ล้านบาท ธนพลเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและคร�่ำหวอดในแวดวง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กว่า 30 ปี โดยก่อนร่วมงานกับเฟรเซอร์ส เคย ด�ำรงต�ำแหน่งประธานอ�ำนวยการ บริษทั แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ต้ี ดีเวลลอปเม้นท์ จ�ำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ ผูพ้ ลิกฟืน้ จาก ที่บริษัทฯ ขาดทุน ให้กลับมามีกำ� ไรภายใน 3 ปี และก้าวกลับมาสู่ ท็อป 5 ของประเทศไทยภายใน 7 ปี พร้อมพัฒนาโครงการครอบคลุม ทั้งอาคารส�ำนักงาน เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โรงแรม และโครงการ แนวราบ เช่น บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม และล่าสุดโครงการมิกซ์ยูส ใจกลางเมืองสามย่านมิตรทาวน์ ที่ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น นอกจากนี้ ธนพลยังเคยด�ำรงต�ำแหน่งกรรมการผูจ้ ดั การของ บมจ. ยูนิเวนเจอร์ ผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโครงการอาคาร ส�ำนักงานทีด่ ที สี่ ดุ ด้วยมาตรฐานการอนุรกั ษ์พลังงานสูงทีส่ ดุ ระดับ โลก กับโครงการปาร์คเวนเชอร์ ดิ อีโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ นอกจากนี้ ธนพลยังได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อสังคมและการกุศลต่างๆ มาอย่าง ต่อเนื่อง อาทิเช่น ประธานโครงการ IMET Mentorship Academy for Excellent Leaders (IMET MAX) โครงการภายใต้มูลนิธิเพื่อ สถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย และรองผูอ้ ำ� นวยการ อาวุโส สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ ธนพล ศิริธนชัย ส�ำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้าน วิศวกรรมศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และส�ำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (MBA) จากมหาวิทยาลัยเทกซัส ออสติน ประเทศสหรัฐอเมริกา และส�ำเร็จการศึกษาหลักสูตร Advanced Management Program มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศ

สหรัฐอเมริกา บริษทั เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ต้ี (ประเทศไทย) จ�ำกัด (มหาชน) หรือ FPT เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ต้ี FPT ผู้น�ำการให้บริการแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ของประเทศไทยที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หลากหลายประเภท ภายหลั ง ควบรวมบริ ษั ท แผ่ น ดิ น ทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จ�ำกัด (มหาชน) หรือ GOLD เป็น บริษัทย่อย ท�ำให้ภาพรวมการประกอบธุรกิจของ FPT มีสินทรัพย์ รวมมากกว่า 100,000 ล้านบาท ก้าวสูค่ วามเป็นผูน้ ำ� ในการพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ท่ีมีความหลากหลาย ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัย (Residential) พาณิชยกรรมและโรงแรม (Commercial and Hospitality) และการอุตสาหกรรม (Industrial) July-August 2020

w

SVOA ประกาศทีมผู้บริหารใหม่ ขับเคลื่อนบริษัทสู่ New Normal และ Digital Age

เมื่อเร็วๆ นี้ SVOA ได้ประกาศโครงสร้างคณะผู้บริหารใหม่ ประกอบด้วย 1. นางสาวกุลภา อิงค์ธเนศ ด�ำรงต�ำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสวีโอเอ จ�ำกัด (มหาชน) 2. นายอนันต์พล นนทพันธุ์ ด�ำรงต�ำแหน่ง ผู้อำ� นวยการบริหาร กลุม่ ธุรกิจช่องทางการจ�ำหน่าย บริษทั เอสวีโอเอ จ�ำกัด (มหาชน)

3. นายกฤช กุลทรัพย์ไพศาล ด�ำรงต�ำแหน่ง ผู้อ�ำนวยการบริหาร กลุ่มธุรกิจโครงการไอที บริษัท เอสวีโอเอ จ�ำกัด (มหาชน) 4. นายอดิศร แก้วบูชา ด�ำรงต�ำแหน่ง ผู้อ�ำนวยการบริหาร กลุม่ ธุรกิจทีป่ รึกษาและวางระบบคอมพิวเตอร์ บริษทั เอสวีโอเอ จ�ำกัด (มหาชน) 5. นางสาวพิรดา อิงค์ธเนศ ด�ำรงต�ำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิเทค วัน จ�ำกัด 6. ดร.วิวสัน เตียว ยอง เพ็ง ด�ำรงต�ำแหน่ง ผู้อ�ำนวยการบริหาร ฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท เอสวีโอเอ จ�ำกัด (มหาชน) ส�ำหรับ SVOA เป็นบริษทั ชัน้ น�า ในธุรกิจการให้บริการด้านเทคโนโลยี สารสนเทศทีค่ รบวงจร มีเครือข่ายใน การให้บริการที่ครอบคลุมทุกบริการ ด้านไอที ด�ำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง มาอย่างยาวนาน โดยมีจุดเด่นคือ พันธมิตรธุรกิจและคู่ค้ามีการท�ำงาน ร่วมกันอย่างใกล้ชิด ภายใต้การน�า ของคณะผู้บริหารใหม่ ที่จะร่วมกัน ขับเคลือ่ นนโยบายแผนการด�ำเนินงาน กุลภา อิงค์ธเนศ เชิงรุกและกลยุทธ์ธุรกิจ จะสามารถ ขับเคลื่อนองค์กรสู่ Next New Normal และก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างเต็มรูปแบบ

นูทานิคซ์ แต่งตั้ง คริสเตียน อวาเรซ เป็นหัวหน้าฝ่ายพันธมิตรช่องทางการขายระดับโลก นูทานิคซ์ ประกาศเลือ่ นต�ำแหน่ง คริสเตียน อวาเรซ เป็นรองประธาน อาวุโสฝ่ายพันธมิตรช่องทางการขาย ระดับโลก มีผลตั้งแต่บัดนี้ ในฐานะผู้น�ำด้านนี้ อวาเรซ จะดูแลและก�ำหนดกลยุทธ์ภาพรวม ของธุรกิจกับพันธมิตร พร้อมสนับสนุน ให้เกิดการสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ และการพัฒนาการขายในระดับโลก รวมถึ ง โปรแกรมการกระจายสิ น ค้ า คริสเตียน อวาเรซ ส�ำหรับ Value-Added Reseller (VARs), Distributors, OEMs, GSIs และพันธมิตรด้าน Telco/XSP อวาเรซเป็ น หั ว หน้ า ฝ่ า ยพั น ธมิ ต รช่ อ งทางการขายที่ มี ประสิทธิภาพและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ July-August 2020

ด้วยประสบการณ์อนั หลากหลายกว่า 2 ทศวรรษ ช่วยพัฒนา กลยุทธ์ทม่ี ปี ระสิทธิผล ตรงต่อเป้าหมายทางธุรกิจต่อนานาประเทศ อย่างมาก อวาเรซเริ่มร่วมงานกับนูทานิคซ์ตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 ในต�ำแหน่งรองประธานฝ่ายช่องทางการขายในทวีปอเมริกา หลังจากนัน้ ได้รบั การแต่งตัง้ เป็นรักษาการหัวหน้าฝ่ายขายพันธมิตร ระดับโลกในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นับจากนั้น อวาเรซท�ำให้ ภาพรวมของการขายของพันธมิตรและโปรแกรมการตลาดต่างๆ เพื่อท�ำให้ได้ผลทางธุรกิจส�ำหรับลูกค้าและพันธมิตรเติบโตมาก ยิ่งขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีผลต่อการหยุดชะงักของ ทีมงานทัง้ โลก และท�ำให้พนักงานในองค์กรต่างๆ ต้องพากันท�ำงาน ที่บ้าน ท�ำให้ Nutanix VDI กลายเป็นสิ่งจ�ำเป็นในระดับโลก อนึง่ อวาเรซยังคงดูแลช่องทางการขายในทวีปอเมริกาจนกว่า จะมีการแต่งตั้งผู้มารับต�ำแหน่งแทน

ELECTRICITY & INDUSTRY

magazine ปี 2563

ข้าพเจ้า ชื่อ ............................................................................................. สกุล .......................................................................................................... ตำ�แหน่ง .................................................................................... บริษัท/ห้าง/ร้าน ...................................................................................... ที่อยู่ (ที่ท�ำ งาน) ......................................................................... แขวง/ตำ�บล ............................................................................................. เขต/อำ�เภอ ................................................................................ จังหวัด .................................................... รหัสไปรษณีย์ .......................... โทร ............................................................................................ แฟกซ์ ....................................................................................................... ที่อยู่ (ที่บ้าน) ............................................................................. แขวง/ตำ�บล ............................................................................................. เขต/อำ�เภอ ................................................................................ จังหวัด ................................................... รหัสไปรษณีย์ ........................... โทร ............................................................................................ แฟกซ์ ....................................................................................................... รหัสสมาชิก ...............................................................................

ประสงค์จะบอกรับนิตยสาร “ไฟฟ้าและอุตสาหกรรม” 1 ปี 6 ฉบับ 480 บาท 2 ปี 12 ฉบับ 960 บาท สมาชิกต่ออายุ 2 ปี 12 ฉบับ 800 บาท ตั้งแต่ฉบับที่ ............. เดือน .................................... ปี ..................... โดยส่งนิตยสารไปที่ ที่ท�ำ งาน ที่บ้าน พร้อมกันนี้ได้ส่งค่าสมาชิกเป็นจำ�นวนเงิน ................................. บาท (ตัวอักษร ..........................................................................................) เช็คธนาคาร ................................................................................. สาขา ................................................................................................. เช็คคร่อมสั่งจ่าย “บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จำ�กัด”

ธนาณัติ สั่งจ่ายในนาม “คุณวาสนา แซ่อึ้ง” ที่ท�ำ การไปรษณีย์โทรเลขบางกอกน้อย โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี “บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จำ�กัด” ชื่อธนาคาร สาขา เลขที่บัญชี กรุงเทพ สะพานพระปิ่นเกล้า 162-0-74737-6 กสิกรไทย บางยี่ขัน 047-2-56333-5 ทหารไทย จรัญสนิทวงศ์ 020-2-27244-9 ไทยพาณิชย์ จรัญสนิทวงศ์ ซ.48 121-2-04080-0 หมายเหตุ กรุณาส่งแฟกซ์ หรือสำ�เนาใบเข้าบัญชี (Pay-in Slip) มาให้ บริษัทฯ พร้อมเขียนชื่อ-นามสกุล และรหัสสมาชิก (ถ้ามี) กำ�กับมาด้วย

บริษัท เทคโนโลยี มีเดีย จำ�กัด 471/3-4 อาคารพญาไทเพลส ถนนศรีอยุธย� แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. +66 (0)26 444 555, +66 (0)23 545 333 ต่อ 301 โทรสาร +66 (0)26 446 649, +66 (0)23 545 322

ELECTRICITY & INDUSTRY MAGAZINE

ปีที่ 27 ฉบับที่ 4 กรกฎาคม-สิงหาคม 2563 กรุณากรอกข้อมูลดังกล่าวให้ครบถ้วนเพือ่ การติดต่อจัดส่งข้อมูลกลับไปยังท่านต่อไป ชื่อ .............................................................................................. สกุล .............................................................................................................. ที่อยู่ ........................................................................................... แขวง/ตำ�บล ................................................................................................. เขต/อำ�เภอ ................................................................................. จังหวัด ................................................... รหัสไปรษณีย์ ............................... โทร ............................................................................................. แฟกซ์ ...........................................................................................................

ดัชนีสินค้าประจำ�เดือนกรกฎาคม - สิงหาคม พ.ศ. 2563 บริษัท ABB CO., LTD. CEBIT ASEAN LSIS MAXIMIZE INTEGRATED TECHNOLOGY CO., LTD. METALEK THAILAND LIGHTING FAIR

โทรศัพท์

โทรสาร

ประเภทสินค้า

0-2665-1000 083-149-9994

0-2324-0502 อุปกรณ์ไฟฟ้า งานแสดงสินค้า ผู้น�ำด้านระบบสั่งจ่ายและระบบ จ�ำหน่ายไฟฟ้าครบวงจร 0-2194-8738-9 0-2003-2215 อุปกรณ์ไฟฟ้า

0-2664-6488 ต่อ 208, 211 RENT (THAILAND) CO., LTD. 0-2136-7104 SAMWHA (THAILAND) CO., LTD. 0-3884-7571-3 เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า บจก.

0-2409-6655 ที แอนด์ ดี เพาเวอร์ เทค (ไทยแลนด์) บจก. 0-2002-4395-97 เพาเวอร์ เรด บจก.

0-2300-5671-3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 0-2441-6059 รัตนโกสินทร์ ลีฟเพาเวอร์ บจก.

0-2300-5671-3 เวอร์ทัส บจก.

0-2876-2727-8 เอส เอ วี เมคคานิคคอล เซอร์วิสส์ 0-2702-0581-8 แอนด์ ซัพพลายส์ หจก. เอวีร่า บจก.

0-3884-7575 0-2409-6613 0-2002-4398 0-2300-5937 -

งานแสดงสินค้า งานแสดงสินค้า เครื่องมือซ่อมในการดึงสายไฟ จ�ำหน่าย ติดตั้งคาปาซิเตอร์ หม้อแปลง อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า -

0-2300-5937 อุปกรณ์ไฟฟ้า 0-2476-1711 Couplings 0-2377-5937 ติดตั้ง EOCR อิเล็กทรอนิกส์ โอเวอร์โหลดรีเลย์ ป้องกันมอเตอร์ไหม้

หน้า ปกหลังนอก 28 ปกหน้าใน 6 29 8 ปกหลังใน 7 3 5 9 27 11 4 27 ปกหน้า, 13