คณะที่ปรึกษา ดร.ปยสวสัด์ิ อมัระนนัทน ดร.อศัวนิ จนิตกานนท ดร.ประเสรฐิ ภัทรมยั ประสงค ธาราไชย ดร.ประเสรฐิ สนิสขุประเสรฐิ ไกรฤทธ์ิ นลิคหูา ดร.ทวารฐั สตูะบตุร รศ. ดร.สงิห อนิทรชโูต
นนินาท ไชยธรีภญ ิ โญ ศ. ดร.ธงชยั พรรณสวสัด์ิ พานชิ พงศพโิรดม ดร.กมล ตรรกบตุร ดร.วฑิรูย สมิะโชคดี ดร.สรุพล ดาํรงกติตกิลุ ชาย ชวีะเกตุ
บรรณาธิการอำนวยการ/ บรรณาธิการผูพิมพโฆษณา กติติ วสิทุธริตันกลุ บรรณาธิการ กติติ วสิทุธริตันกลุ บรรณาธิการขาว สุรียพร วงศศรีตระกูล กองบรรณาธิการ ณัฐชยา แกนจันทร พิสูจนอักษร อำพันธุ ไตรรัตน ศิลปกรรม พฤติยา นิลวัตร, กันยา จำพิมาย ประสานงาน ภัทรกนัต กจิสนิธพชยั ฝายการตลาด กลัยา ทรพัยภริมย เลขานุการฝายการตลาด ชตุมินัต บวัผนั ฝายวิเทศสัมพันธ ศิรินทิพย โญธาพันธ แยกสี บจก. คลาสสคิสแกน โรงพิมพ หจก.รุงเรืองการพิมพ
Editor Talk สวัสดีครับ ท่านสมาชิกและท่านผู้อ่านทุกท่าน เป็นประจำ�ทุกปี เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์ ของปีถัดไป คนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะต้องเผชิญปัญหาค่าฝุ่น PM2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดจิ๋วที่เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดิน หายใจ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำ�ตัว เช่น หอบหืด หัวใจ ภูมิแพ้ และโรคเส้นเลือดในสมองตีบ มูลเหตุที่ทำ�ให้ค่าฝุ่น เกินมาตรฐานมาจากหลาย ๆ ปัจจัยด้วยกัน จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า มีสาเหตุมาจากไอเสียรถยนต์ การใช้ฟืนถ่านเพื่อหุงต้มอาหาร การเผา ขยะและเผาหญ้ารวมทั้งพืชในการทำ�การเกษตร และมาจากการเผาเชื้อเพลิง ของโรงงานอุตสาหกรรม ในส่วนของพื้นที่ภาคเหนือก็เช่นกัน ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป คนใน พื้นที่ภาคเหนือต้องเผชิญปัญหาฝุ่น PM2.5 ปกคลุมทั่วจังหวัด จากปัญหาการ เผาป่าทั้งจากในประเทศและเพื่อนบ้าน นอกจากค่าฝุ่น PM2.5 ที่เกินมาตรฐาน แล้ว ในปีนี้ดูจะแตกต่างกว่าทุกปี ตรงที่คนไทยต้องรับมือกับสถานการณ์การ แพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น ไปพร้อม ๆ กัน ทั้งสองสิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของคนไทยทุกคนอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สวมหน้ากากอนามัย 100% ล้างมือบ่อย ๆ โดยใช้สบู่และน้ำ� หรือเจลล้างมือที่มีส่วนผสมหลักเป็น แอลกอฮอล์ เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และให้สงั เกตตนเอง หากมี ไข้ ไอ หายใจลำ�บาก จมูกไม่ได้กลิ่น และท้องเสีย โปรดไปพบแพทย์ โดยด่วน สำ�หรับนิตยสาร Green Network ฉบับส่งท้ายปี 2020 นี้ ขอเกาะติด สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ด้วยรายงานพิเศษ “ถึงเวลาคนไทยร่วมใจปรับเปลี่ยน พฤติกรรมช่วงหน้าหนาว สู้ภัยฝุ่นจิ๋ว”, “4 บริษัทชั้นนำ�จับมือมูลนิธิ 3R ร่วม ยกระดับการรี ไซเคิลกระป๋องอะลูมิเนียมแบบครบวงจรหนึ่งเดียวในอาเซียน”, “บ้านปู เน็กซ์” ร่วมกับ “ภูเก็ต พัชทรี ทัวร์” เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวสีเขียว ด้ ว ยเรื อ ท่ อ งเที่ ย วไฟฟ้ า ทางทะเลลำ� แรกของไทยที่ ป ลอดภั ย สู ง -ประหยัด พลังงาน”, “บาฟส์ อินเทค เปิดตัวรถเติมน้�ำ มันอากาศยานพลังงานไฟฟ้า 100% ลดการใช้นำ�้ มันเชื้อเพลิงดีเซลมากถึง 6,300 ลิตรต่อปี”
เจาของ บรษิทั เทคโนโลยี มเีดยี จาํกดั
471/3-4 อาคารพญาไทเพลส ถ.ศรอียธุยา แขวงทงุพญาไท เขตราชเทวี กรงุเทพฯ 10400 โทรศพัท 0-2354-5333 (ฝายการตลาด ext. 503) แฟกซ 0-2640-4260 http://www.technologymedia.co.th http://www.greennetworkthailand.com e-Mail : editor@greennetworkthailand.com
สวัสดีปีใหม่ ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง Strong Together กิตติ วิสุทธิรัตนกุล
Contents November-December 2020
9
24 25
9
13
16
18
Report
ถึงเวลาคนไทยรวมใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชวงหนาหนาว สูภัยฝุนจิ๋ว สุรียพร วงศศรีตระกูล
BCG
4 บริษัทชั้นนําจับมือมูลนิธิ 3R รวมยกระดับการรีไซเคิล กระปองอะลูมิเนียมแบบครบวงจรหนึ่งเดียวในอาเซียน กองบรรณาธิการ
Automotive
เอ็มจี เปดตัว NEW MG EP ขับเคลื่อนดวยพลังงานไฟฟา 100% รุนแรกของไทย เดินหนาติดตั้งสถานี “MG Super Charge อีกกวา 500 แหง ภายในป ’64 กองบรรณาธิการ
บี.กริม เพาเวอร ‘BGRIM’ จัดงาน CG Day 2020 ชูแนวคิด ESG : Empowering Sustainability Growth กองบรรณาธิการ หยุด! เกมซื้อขายเวลา โรงไฟฟาพลังงานขยะชุมชน 400 MW พิชัย ถิ่นสันติสุข
IEEE
28 สัมมนาเชิงวิชาการ “ระบบไฟฟาและสื่อสารเคเบิลใตดิน สําหรับโครงการพัฒนาในเมืองหลวงและเมืองใหญ” กองบรรณาธิการ
Tourism
“บานปู เน็กซ” รวมกับ “ภูเก็ต พัชทรี ทัวร” เปดประสบการณทองเที่ยวสีเขียว ดวยเรือทองเที่ยวไฟฟา ทางทะเลลําแรกของไทยที่ปลอดภัยสูง-ประหยัดพลังงาน สุรียพร วงศศรีตระกูล
Energy
Environment
29 วิศวฯ จุฬาฯ จับมือสถานีวิทยุจุฬาฯ จัดโครงการ 30
32 34
Envi Mission ปที่ 2 “Waste a Moment เปดประเด็นเรื่องขยะ” กองบรรณาธิการ เนสทเลหนุนการเกษตรแบบฟนฟู มุงสูการใชพลังงานไฟฟา หมุนเวียน ลดการปลอยกาซเรือนกระจก รับมือ Climate Change กองบรรณาธิการ
CSR
บานปูฯ เปดคายเยาวชนวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม เพาเวอรกรีน ครั้งพิเศษที่อุทยานแกงกระจาน ปลูกจิตสํานึกใหแกเยาวชน ณัฐชยา แกนจันทร มูลนิธิกลุมอีซูซุมอบทุนกวา 4 ลานบาทใหแกเยาวชน ปนโอกาสทางการศึกษาสูสังคมที่ยั่งยืน กองบรรณาธิการ
Innovation
20 นักวิจัย มจธ. พัฒนา “ทอเพิ่มความรอนฯ”
และ “นวัตกรรมอุปกรณแลกเปลี่ยนความรอน” เพิ่มสมรรถนะทางความรอนใหสูงขึ้น-ประหยัดพลังงาน มากยิ่งขึ้น กองบรรณาธิการ
22
BIZ
25
Report เช้าวันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา กองจัดการคุณภาพ อากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานสถานการณ์คณ ุ ภาพ อากาศในพืน้ ทีก่ รุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่าพืน้ ทีม่ ปี ริมาณ ฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) และเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึง 56 พื้นที่ (พื้นที่สีส้ม) จากนั้น ในวันรุ่งขึ้น (15 ธันวาคม 2563) ตรวจวัดได้ 42-102 ไมโครกรัม/ ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) มากถึง 66 พื้น ที่ ขณะที่วัน ที่ 16 ธันวาคม ค่าฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลปรับตัวลดลง จากเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ในหลายพื้นที ่ แต่ภาพรวมยังอยู่ระดับสูง ที่ต้องเฝ้าระวังจากปัจจัยสภาพการจราจรที่หนาแน่น และสภาพ อุตนุ ยิ มวิทยาเกิดความกดอากาศในรูปแบบฝาชีครอบ ความเร็วลมต่�ำ ความชื้ น สั ม พั ท ธ์ สู ง การยกตั ว ของอากาศไม่ ดี และอากาศนิ่ง เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนอ่อนกำ�ลังลง ส่งผลให้ ฝุ่ น ละอองขนาดไม่ เ กิ น 2.5 ไมครอน (PM2.5) กระจายตัวได้ยาก และสะสมมากขึ้น รัฐบาล โดย ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทาง อากาศ ซึง่ จัดตัง้ ขึน้ เมือ่ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ได้เข้ามาเร่งแก้ปญ ั หามลพิษทางอากาศ เนือ่ งจาก ในช่วงเข้าฤดูหนาวไทยต้องเผชิญปัญหาค่าฝุ่น PM2.5 เป็นประจำ�ทุกปี แต่ในปีนี้จะแตกต่างกว่า ทุ ก ปี ต รงที่ ต้ อ งรั บ มื อ กั บ สถานการณ์ ก ารแพร่ ระบาดของเชือ้ COVID-19 ไปพร้อม ๆ กัน ซึง่ ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของคนไทยทุกคน
สุรีย์พร วงศ์ศรีตระกูล
ถึงเวลาคนไทย
รวมใจปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ชวงหนาหนาว
สูภัยฝุนจิ๋ว
สภาวิศวกร จี้รัฐใช้มาตรการ ‘รีดภาษีฝุ่นรถยนต์’ หลังพบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน-มีผลต่อสุขภาพ
ศ. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภา วิ ศ วกร และอธิ ก ารบดี ส ถาบั น เทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ฝุ่น PM2.5 ยังคงเป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากเสี่ยงกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ คนที่มีภูมิต้านทานต่ำ� อย่างเด็กเล็กและผู้สูงอายุ โดยหากเล็ดลอดเข้าไปในกระแสเลือดอาจจะ อันตรายถึงชีวิต ซึ่งมีพิษร้ายเทียบเท่าควันบุหรี่ โดยเฉพาะช่วงอากาศปิด ค่าฝุ่นจะยิ่งทวีคูณ สูงขึ้น ซึ่งล่าสุดจากรายงานสถานการณ์ คุณภาพอากาศ โดยสำ�นักวิจยั นวัตกรรม เมืองอัจฉริยะ (SCiRA) สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ณ วันที่ 14 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 น. พบค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงมากกว่า
9
GreenNetwork4.0 November-December
2020
200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) หรืออยู่ในระดับ 5 (สีแดง) ซึง่ ถือเป็น คุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
แนะ 3 ทางออกแก้ปัญหาฝุ่นพิษ
สำ�หรับปัจจัยหลักของการเกิดฝุ่นนั้นยังคงเป็นปัญหาเดิม โดยเฉพาะ รถยนต์และเครื่องจักรที่ใช้นำ้�มันดีเซล รวมถึงการเผาในที่โล่งแจ้ง จากแหล่ง กำ�เนิดในสถานทีต่ า่ ง ๆ เพือ่ ให้ PM2.5 ภัยพิบตั ริ ะดับชาติ ได้รบั การแก้ไขอย่าง จริงจัง เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยที่ยั่งยืนในระยะยาว สภาวิศวกร จึงแนะ 3 ทางออกไว้ดงั รายละเอียดต่อไปนี้ ภาครัฐ ต้องยกระดับปัญหาฝุน่ เป็น ภัยพิบตั ขิ องประเทศ ในทางด้านกฎหมาย ผ่านการเก็บภาษีรถยนต์ปล่อยควันดำ� ยกระดับมาตรฐานรถยูโร 4 สู่มาตรฐาน EURO 5-6 ปรับค่ามาตรฐานน้ำ�มันเพื่อ สามารถใช้งานกับเครื่องยนต์ EURO 5-6 ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลเป็นเชื้อเพลิง จากก๊าซธรรมชาติ หรือพลังงานไฟฟ้า รวมถึงจำ�กัดปริมาณรถบรรทุกในพืน้ ทีก่ รุงเทพฯ ด้านงานวิจัย ควรลงทุนงบประมาณในการพัฒนานวัตกรรมแก้ปัญหาฝุ่น เพื่อลด การนำ�เข้าเทคโนโลยีต่างประเทศ เช่น ป้ายรถเมล์อัจฉริยะจาก สจล. เครื่องวัดฝุ่น ขนาดเล็กจาก สวทช. ฯลฯ และด้านการวางระบบผังเมืองใหม่ ที่เน้นการเพิ่มพื้นที่ สีเขียวจากปัจจุบัน 2-3 ตร.ม.ต่อคน เพิ่มเป็นอย่างน้อย 9-10 ตร.ม.ต่อคน ขณะที่ ภาคเอกชน ควรให้ความร่วมมือในการแสดงผลข้อมูลปริมาณฝุ่น ผ่านจอโฆษณา LED แบบเรียลไทม์ และ ภาคประชาชน ควรตระหนักถึงผลกระทบ ถึงฝุ่น PM2.5 ว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว และสามารถส่งผลกระทบร้ายแรงถึงชีวิตของ ทั้งตนเอง รวมถึงบุคคลในครอบครัว
10
GreenNetwork4.0 November-December
2020
เผย กทม. รถติด ยิ่งปล่อย CO2 เพิ่มเป็น 2 เท่า ปริมาณปล่อยก๊าซเทียบเท่าตึกมหานคร 23,000 ตึกต่อปี
ผศ. ดร.นิรมล เสรีสกุล ผูอ้ �ำ นวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC-CEUS) กล่าวว่า ปัญหามลภาวะทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาด เล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีสาเหตุส�ำ คัญจาก การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของรถยนต์บนท้องถนน ด้วยกรุงเทพฯ เป็นเมือง ทีม่ ปี ริมาณรถยนต์มหาศาล สวนทางกับสัดส่วนพืน้ ทีถ่ นน ก่อให้เกิดปัญหา การจราจรติดขัดและยิง่ เป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมลภาวะทางอากาศทีเ่ กิดขึน้ ซ้�ำ เป็นประจำ�ทุกปี โดนเฉพาะช่วงปลายปี ถึงต้นปี จากข้ อ มู ล ของกรมการขนส่ ง ทางบก ระบุ ว่ า ตั ว เลขรถยนต์ จดทะเบียนในกรุงเทพฯ มีสงู ถึง 11 ล้านคัน และมีแนวโน้มเพิม่ ขึน้ ถึงปีละ กว่า 300,000 คัน หรือร้อยละ 17 ซึง่ สูงกว่าทุกเมืองในโลก ขณะทีข่ อ้ มูล ของ UddC-CEUS ยังชี้ว่า สัดส่วนรถยนต์ในกรุงเทพฯ ไม่สอดคล้องกับ พืน้ ทีถ่ นนทีม่ เี พียงร้อยละ 7 ขณะทีเ่ มืองทีด่ คี วรมีพนื้ ทีถ่ นนร้อยละ 25-30 ของพืน้ ทีท่ งั้ หมด ประกอบกับเป็นเมืองทีผ่ คู้ นต้องพึง่ พารถยนต์ตลอดเวลา จึงทำ�ให้กรุงเทพฯ มีสภาพการจราจรติดขัด ทั้งนี้ ยิ่งรถติดยิ่งปล่อย ก๊ า ซคาร์ บ อนไดออกไซด์ เ ป็ น 2 เท่ า ข้ อ มู ล ชี้ ว่ า เมื่ อ รถติ ด จะปล่ อ ย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 400 กรัม ต่อ 1 กิโลเมตร ขณะที่ผลสำ�รวจ ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยบอกว่า รถยนต์ในกรุงเทพฯ ปล่อยก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์มากเท่ากับตึกมหานคร 23,000 ตึกต่อปี ซึ่งเป็น ปัญหา ของเมืองที่น่ากังวลและต้องเร่งหาทางออกอย่างเร่งด่วน
11
ยูดีดีซี เสนอเมืองเดินได้-เมืองกระชับ” แก้วิกฤตจากฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม การศึกษาของโครงการเมืองเดินได้-เมืองเดินดี (Goodwalk) โดย UddC-CEUS ร่วมกับ สำ�นักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พบว่า คนกรุงเทพฯ ยินดีเดินเท้า ในระยะ 800 เมตร ซึง่ เทียบเท่าผูค้ นในเมืองพัฒนาแล้ว อาทิ ฮ่องกง โตเกียว นิวยอร์ก ฯลฯ จึงควรสนับสนุนให้เกิดการฟืน้ ฟูเมืองเพือ่ ส่งเสริม ให้ผู้คนหัน มาเลือกวิธีการสัญจรด้วยการเดินเท้าและปั่นจักรยาน พร้อมกับพัฒนาระบบขนส่งมวลชนคุณภาพ อันเป็นแนวทางสำ�คัญ ในการแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผศ. ดร.นิรมล กล่าวว่า UddC-CEUS มีขอ้ เสนอแนวทางแก้ไข มลภาวะทางอากาศ 2 ประการ ประการแรก ส่งเสริมให้คนลดการใช้ รถยนต์ ส่ ว นบุ ค คลเดิ น ทาง นั่ น แปลว่ า ต้ อ งส่ ง เสริ ม ระบบขนส่ ง มวลชนที่ มี คุ ณ ภาพ รวมทั้ ง ส่ ง เสริ ม การเดิ น ทางที่ ไ ม่ ใ ช้ ร ถยนต์ (Non-motorized Transportation) อย่างการเดินเท้าและการ ปั่นจักรยาน ประการที่สอง เมืองต้องลดการเดินทางของผู้คน ต้อง เป็นเมืองกระชับ (Compact City) ที่บ้านและงานอยู่ไ ม่ไกลกัน ภายในย่านมีทั้งที่อยู่อาศัย แหล่งงาน แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ แหล่ง จับจ่ายใช้สอย เพื่อเอื้อให้ผู้คนใช้ชีวิตในย่านนั้น ๆ ได้โดยไม่ต้อง เดินทางไกล หรือถ้าต้องการเดินข้ามย่าน ก็ใช้ระบบขนส่งมวลชน ที่มีคุณภาพ โดยที่ปัญหามลภาวะทางอากาศถือเป็น wake up call ที่ท�ำ ให้ทุกฝ่ายตื่นตัว และยอมรับว่าปัญหาเมืองเป็นเรื่องของทุกคน
GreenNetwork4.0 November-December
2020
มองสุขภาพเป็นเรื่องของทุกคน แก้ปัญหาฝุ่นพิษได้
เมือ่ เร็ว ๆ นี้ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย จัดเสวนา PM2.5 Series 7 หัวข้อ “ราษฎร์-รัฐ ร่วมใจสูภ้ ยั ฝุน่ จิว๋ ” โดยมี นพ.รุง่ เรือง กิจผาติ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุขระดับ 11 และโฆษกกระทรวง สาธารณสุข ศ. พญ.อรุณวรรณ พฤทธิพันธุ์ กรรมการราชวิทยาลัย กุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และ อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรม ควบคุมมลพิษ ร่วมเสวนาให้ความรู้ ดำ�เนินรายการโดย นพ.ไพศาล เลิศฤดีพร กุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาล กรุงเทพ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุขระดับ 11 และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์ คุณภาพอากาศ พบค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีแดงมากๆ หากไม่มี ความจำ�เป็นต้องออกนอกบ้านให้อยูท่ บี่ า้ น ในส่วนของผูท้ อี่ อกกำ�ลังกาย กลางแจ้งให้เฝ้าระวัง พร้อมแนะนำ�ให้ออกกำ�ลังกายที่บ้าน อย่างไร ก็ตาม หากหลีกเลีย่ งการทำ�กิจกรรมนอกบ้านไม่ได้ ให้ใส่เครือ่ งป้องกัน และรีบเดินทางกลับบ้าน ส่วนการทำ�กิจกรรมกลางแจ้งให้เปลีย่ นมาทำ� ในที่ร่มแทน สำ�หรับกลุ่มเสี่ยง คือ 1. เด็กเล็ก 2. ผู้สูงอายุ 3. คนมีโรค ประจำ�ตัว ได้แก่ หอบหืด หัวใจ ภูมิแพ้ และโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะแตกและตันได้ “PM2.5 แก้ ไ ด้ ต้ อ งอาศั ย ความร่ ว มมื อ ร่ ว มใจ ปรั บ เปลี่ ย น พฤติกรรม ครอบครัวต้องช่วยกันใช้รถยนต์คันเดียวกัน ดูแลรักษา รถยนต์ สำ�หรับช่วงนี้ให้งดการเผา โดยฝังกลบไปก่อน ต้องมองในเชิง ระดับนโยบายดูแลพีน่ อ้ งประชาชนให้สขุ ภาพดี เพราะสุขภาพเป็นเรือ่ ง ของเราทุกคน ถ้าเราใช้หลักคิดแบบนี้ จะแก้ไขได้” นพ.รุ่งเรือง กล่าว
ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ แนะเด็ก-หญิงมีครรภ์ หลีกเลี่ยงเผชิญฝุ่นพิษ
ศ.พญ.อรุณวรรณ พฤทธิพันธุ์ กรรมการราชวิทยาลัยกุมาร แพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่ง ประเทศไทย ได้ออก Infographic พร้อมให้ค�ำ แนะนำ�ในการดูแลสุขภาพ เด็กและหญิงตั้งครรภ์ในการรับมือฝุ่น PM2.5 ดังต่อไปนี้ 1. ทารก ในครรภ์มารดา มีการเจริญเติบโตและอยู่ในช่วงกำ�ลังพัฒนาอวัยวะ ต่าง ๆ เช่น ปอด และสมอง การได้รบั มลพิษในช่วงนีอ้ าจส่งผลระยะยาว ต่อการทำ�งานของอวัยวะต่าง ๆ ดังนัน้ หญิงตัง้ ครรภ์ควรหลีกเลีย่ งมลพิษ เป็นพิเศษ โดยเฉพาะหญิงทีม่ อี ายุครรภ์นอ้ ยกว่า 6 เดือน 2. ในเด็กปกติ ระดับคุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและกิจกรรมในชีวิต ประจำ�วันคือ ระดับ AQI มากกว่า 100 หรือ PM2.5 มากกว่า 50 มคก./
12
ลบ.ม. 3. เด็กที่มีปัญหาทางระบบหายใจเรื้อรัง เช่น โรคหืด โรคปอด เรือ้ รัง เยือ่ บุจมูกอักเสบจากภูมแิ พ้และโรคหัวใจ ระดับคุณภาพอากาศ ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและกิจกรรมในชีวิตประจำ�วันคือ ระดับ AQI มากกว่า 50 หรือ PM2.5 มากกว่า 37 มคก./ลบ.ม. 4. ระดับ คุณภาพอากาศในอาคารที่เหมาะสม คือ ระดับ AQI ไม่เกิน 50 หรือ PM2.5 ไม่เกิน 37 มคก./ลบ.ม. เมื่อระดับคุณภาพอากาศภายนอก เกินเกณฑ์มาตรฐาน ควรปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด โดยระวังอย่าให้ ห้องร้อนเกินไป ไม่สูบบุหรี่หรือจุดธูป ในอาคาร ถูพื้นโดยใช้ผ้าเปียก เพือ่ ลดการฟุง้ กระจายของฝุน่ ละออง หากภายในอาคารมีมลพิษสูง ควร ใช้เครือ่ งปรับอากาศหรือเครือ่ งฟอกอากาศทีส่ ามารถกำ�จัด PM2.5 ได้ ไม่ควรใช้เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องฟอกอากาศที่มีการผลิตโอโซน เพราะโอโซนในปริมาณมากเป็นมลพิษอย่างหนึ่ง และ 5.โรงเรียนควร ติดตามรายงานคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ และพิจารณา ปรับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เมื่อระดับ AQI มากกว่า 100 หรือ PM2.5 มากกว่า 50 มคก./ลบ.ม. ควรสวมหน้ากากอนามัยและไม่ควรออก กำ�ลังกายกลางแจ้ง เมือ่ ระดับ AQI มากกว่า 200 หรือ PM2.5 มากกว่า 90 มคก./ลบ.ม. ควรหลีกเลีย่ งการอยูก่ ลางแจ้งและพิจารณาหยุดเรียน สำ�หรับการเลือกใช้หน้ากากป้องกันฝุน่ PM2.5 หากเป็นหน้ากาก ผ้าที่มีเส้นใยยิ่งแน่นจะยิ่งกรองได้มาก ส่วน Surgical Mask กรองได้ดี แต่ถา้ ใส่ไม่แนบก็จะไม่มปี ระโยชน์ ขณะทีห่ น้ากาก N95 กรองได้ดมี าก แต่ใส่แล้วอาจจะอึดอัดได้ ทั้งนี้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับสุขภาพ ส่วน ต้ นไม้ มี ต้ นไม้ สำ � คั ญ บางชนิ ด ช่ ว ยดู ด ฝุ่ นได้ ซึ่ ง ทางราชวิ ท ยาลั ย กุมารแพทย์ฯ จะจัดให้ความรู้อีกครั้งในเดือนมกราคมปีหน้า
คพ. เผยหากประชาชนไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แก้ปัญหาฝุ่นพิษได้ยาก
อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหา มลพิษทางอากาศ กล่าวว่า รัฐบาลได้บรรจุการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นแผนวาระแห่งชาติทั้งระยะสั้นและระยะยาว ระยะสั้น แก้ปัญหา ทันที ส่วนระยะยาว จุดเปลีย่ นอยูท่ กี่ ารใช้เครือ่ งยนต์ที่ได้มาตรฐานยูโร 5-6 ซึ่งทำ�ให้เกิด PM2.5 น้อยที่สุด ซึ่งต้องใช้เวลา “สำ�หรับแผนระยะสัน้ ถ้าออกแผนแต่ประชาชนไม่รว่ มมือ ยังใช้รถ ไม่ได้คุณภาพ น้ำ�มันคุณภาพต่ำ� ก็แก้ไขปัญหาได้ลำ�บาก สิ่งแรกต้อง ให้ประชาชนให้ความร่วมมือ เปลี่ยน ยอมรับว่าจะกระทบต่อชีวิต ปัจจุบนั ใช้รถสาธารณะ ใช้แอปพลิเคชันวางแผนเดินทาง รถทีม่ คี วันดำ� อาจต้องตั้งจุดสกัดร่วมกัน กรมการขนส่ง สำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ และ กทม. ถ้าทุกคนช่วยจะเบาบางลง ระยะยาว เปลี่ยนจากรถไฟฟ้า จากใช้รถสันดาปไปใช้รถไฟฟ้า” อรรถพล กล่าว นอกจากนีภ้ าครัฐยังร่วมมือกับเอกชน 2 ราย ผลิตน้�ำ มันกำ�มะถัน ต่ำ� ลดฝุ่น PM2.5 เกรดพรีเมี่ยมจำ�หน่ายให้ประชาชน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม-28 กุมภาพันธ์ 2564 เท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวของ ประเทศไทยในทุกปี เพื่อลดการเกิดวิกฤตฝุ่นละอองลง ซึง่ น้�ำ มันชนิดนี้ใช้ได้กบั รถทุกรุน่ ทัง้ รถเก่าและรถใหม่ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์
GreenNetwork4.0 November-December
2020
“บานปู เน็กซ”รวมกับ
“ภูเก็ต พัชทรี ทัวร” Tourism เปดประสบการณทองเที่ยวสี เขียว สุรียพร วงศศรีตระกูล ดวยเรือทองเที่ยวไฟฟาทางทะเลลำแรกของไทย
ของไทยที่ปลอดภัยสูง-ประหยัดพลังงาน
จากสถานการณการแพรระบาดของเชือ้ ไวรัส COVID-19 ในชวงหลายเดือนทีผ่ า นมา ทําใหสงิ่ แวดลอม และระบบนิเวศทางทะเลไดพกั และฟน ฟูกลับมาดังเดิม สงผลใหในวันนีท้ อ งทะเลสวยงาม น้าํ ทะเลใส หาดทราย ขาวสะอาด ฝูงปลาแหวกวายเต็มทองทะเล ดึงดูดใจใหนกั ทองเทีย่ วกลับไปสัมผัสมนตเสนหข องทองทะเลไทย อีกครั้ง ดวยเหตุนี้ “บานปู เน็กซ” จึงรวมกับ “ภูเก็ต พัชทรี ทัวร” นําเรือทองเที่ยวไฟฟาทางทะเลลําแรก ของไทย หรือที่เรียกวา “บานปู เน็กซ อีเฟอรรี่ (Banpu NEXT e-Ferry)” มาใหบริการนักทองเที่ยวในภูเก็ต เปนแหงแรกในเสนทางภูเก็ต-พังงา ใหทกุ คนไดสมั ผัสประสบการณใหมกบั การลองเรือพลังงานสะอาด ไมมี เสียงรบกวน ไมมคี ราบน้าํ มัน และไมมมี ลพิษทางอากาศ ทีส่ าํ คัญปลอดภัย ดวยการทองเทีย่ วสีเขียว (Green Tourism) ที่จะสรางความประทับใจใหกับนักทองเที่ยวทุกคน
สมฤดี ชัยมงคล
13
GreenNetwork4.0 November-December
2020
เปดตัวเรือทองเที่ยวไฟฟาทางทะเลลําแรกของไทย ชูจุดเดนปลอดภัยสูง-ประหยัดพลังงาน
สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจาหนาทีบ่ ริหาร บริษทั บานปู จํากัด (มหาชน) และ บริษัท บานปู เน็กซ จํากัด กลาววา ดวยความมุงมั่นในการขับเคลื่อน องคกรใหเติบโตอยางยั่งยืนภายใตกลยุทธ Greener & Smarter บานปู เน็กซ บริษั ทในเครือของกลุมบานปูฯ ในฐานะผูใหบริการพลังงานสะอาดชั้น นํา ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟก จึงไดพัฒนา “บานปู เน็กซ อีเฟอรรี่ (Banpu NEXT e-Ferry)” เรือทองเทีย่ วไฟฟาทางทะเลลําแรกของไทย ตัวเรือยาวถึง 20 เมตร มีหองผูโดยสารกวางขวาง มีทั้งหมด 74 ที่นั่ง รองรับผูโดยสารไดสูงสุด 90 คน เรือลํานี้มีสองลําเรือ ใตทองเรือโปรง สามารถรักษาความสมดุลของเรือใหมี ความคลองตัวและนิง่ มีความเสถียรบนคลืน่ น้าํ สามารถขับเคลือ่ นดวยความเร็ว เดินทางประมาณ 15 นอต (knots) คิดเปนระยะทาง 30 กม./ชม. ซึ่งมีจ�ดเดน ที่ 1. มีความปลอดภัยสูง ไมจม เนื่องจากติดตั้งแบตเตอรี่ไวกลางลําเรือ เพื่อ ลดการสัน่ สะเทือนจากเหตุการณตา งๆ ตัวเรือใชวสั ดุหลักเปนอะลูมเิ นียมในการ ผลิตเรือ แข็งแรงทนทาน ไมเปนสนิม ชวยลดการซอมแซม และการเปลี่ยน อะไหลบอย ผานการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 ระบบบริหารงาน คุณภาพในการผลิตเรือทุกขั้นตอน (Quality Management System) และ 2. ประหยัดพลังงาน รักษาสิง่ แวดลอม ไมมคี ราบน้าํ มัน ไมมเี สียงรบกวน และ ไมมีมลพิษทางอากาศ ขับเคลื่อนดวยพลังงานสะอาดจากแบตเตอรี่ลิเทียม ไอออน (LiB) ขนาด 625 กิโลวัตตชั่วโมง รวมถึงมีระบบบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System) ทําใหสามารถควบคุมการผลิต สงจาย และ นําพลังงานมาใชบนเรือไดอยางมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพตลอดการ เดินทาง ลดตนทุนคาใชจายได 20-30% และลดคาใชจายในการบํารุงรักษา 30% นอกจากนี้ยังใชแพลตฟอรม IoT (Internet of Things) เพื่อเก็บขอมูล นักทองเที่ยวเปน Smart Analysis อีกดวย
ในสวนของราคาเรือไฟฟาทางทะเลอยูท ี่ 35 ลานบาท เทียบกับ เรือทั่วไปราคา 20 ลานบาท อายุการใชงานเรือ 20 ป สวนแบตเตอรี่ มีอายุการใชงาน 10 ป ขณะนี้บานปู เน็กซ มีออเดอรเรือไฟฟาแลว 27 ลํา โดยที่บานปู เน็กซ มีกําลังการผลิตเรือไฟฟา 30 ลํา/ป
จับมือภูเก็ต พัชทรี ทัวร มุงสราง Smart Tourism ในภูเก็ตรับ Smart City
การที่ บานปู เน็กซ ไดรวมกับ ภูเก็ต พัชทรี ทัวร ผูใหบริการ เดินเรือรายใหญในจังหวัดภูเก็ตนําเรือลํานี้มาใหบริการในการเที่ยว ทะเลภูเก็ตเปนแหงแรกในไทย เนื่องจากภูเก็ตเปนจ�ดหมายปลายทาง ของนักทองเที่ยวทั่วโลก อีกทั้งภูเก็ตเปน Smart City ซึ่งมี City Development นอกจากการเดินทางโดยรถแลวยังมีการเดินทางโดยเรือ บานปู เน็กซ ตองการผลิตโซลูชนั ทีเ่ ปนมิตรตอสิง่ แวดลอม จึงไดพฒ ั นา เรือทองเที่ยวทางทะเลในทุกทาเรือ โดยรวมมือกับผูประกอบการที่ ดําเนินธุรกิจทาเรือ เพื่อกาวสู Smart Tourism “เราจึงอยากสรางการทองเที่ยวมิติใหม ใหกับนักทองเที่ยว ชาวไทยและตางชาติที่เริ่มทยอยกลับมาเที่ยวภูเก็ตอีกครั้ง หลังจาก การเปดประเทศตามแผนฟนฟูการทองเที่ยวของรัฐบาล ดังนั้นการ นําเรือทองเทีย่ วไฟฟามาใหบริการจะเปนการยกระดับการบริการดาน การทองเที่ยวใหมีความยั่งยืน และผลักดันการทองเที่ยวเชิงคุณภาพ ที่ใสใจสิ่งแวดลอมและชุมชนในระยะยาว” สมฤดี กลาว
บานปู เน็กซ อีเฟอรรี่ สําเร็จได ดวยความรวมมือของทั้ง 3 ฝาย
สําหรับ บานปู เน็กซ อีเฟอรร่ี ทีบ่ า นปู เน็กซ ผลิตใหพชั ทรี ทัวร เปนความ รวมมือของพารทเนอร 3 ฝาย ไดแก บริษทั สกุลฎซี อินโนเวชัน่ จํากัด ทําหนาที่ พัฒนาเครื่องยนต สวน สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีแหงชาติ (สวทช.) ชวยออกแบบเรือ ขณะทีบ่ า นปู เน็กซ ผลิตแบตเตอรีข่ นาด 1 กิกะวัตต ชั่วโมง (GWh) ซึ่งมีขนาดใหญมากปอน โดยบานปูบริษัทแมไดรวมกับบริษัท Dura Power Holdings จํากัด ซึ่งเชี่ยวชาญดานการออกแบบผลิต และติดตั้ง ระบบแบตเตอรี่จัดเก็บพลังงานแบบลิเทียมไอออน สําหรับรถยนตและระบบ ไฟฟาสํารองเปดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนมาตรฐานโลกในประเทศ จีน ซึ่งสามารถรองรับการผลิตแบตเตอรี่ขนาด 1 กิกะวัตตชั่วโมง โดย Dura Power Holdings ไดสงผูเชี่ยวชาญจากไตหวันมาชวยติดตั้งแบตเตอรี่ พรอม ทาเรือที่ติดตั้ง Charge Station และอูซอมเรือ
ไชยา ระพือพล
บานปู เน็กซ อีเฟอรรี่ เรือทองเทีย่ วไฟฟาทางทะเล ลําแรกของไทย 14
GreenNetwork4.0 November-December
2020
บานปู เน็กซ อีเฟอรรี่ ลําแรกของไทย พรอมใหบริการในเสนทาง เกาะเจมส บอนด
บานปู เน็กซ อีเฟอรรี่ พรอมใหบริการเสนทาง เกาะเจมสบอนด เรือทองเทีย่ วไฟฟาชวยลดตนทุนคาเชือ้ เพลิง 70% สรางโอกาสธุรกิจ และบริการใหมีคุณภาพยิ่งขึ้น
ไชยา ระพือพล กรรมการผูจัดการ บริษัท ภูเก็ต พัชทรี ทัวร จํากัด ในฐานะนายกสมาคมธุรกิจทองเที่ยวอันดามัน ซึ่งดําเนินธุรกิจ เดินเรือในอาวพังงา จังหวัดภูเก็ตมากวา 25 ปกลาววา แมสถานการณ COVID-19 จะทําใหนักทองเที่ยวตางชาติลดลงมาก กลาวคือ ปจจ�บัน มีนักทองเที่ยวชาวไทยมาเยือนภูเก็ต 8,000 คน/วัน จากเดิมที่มีจํานวน นักทองเที่ยว 40,000-45,000 คน/วัน ทาเรือมีนักทองเที่ยว 8,000 คน ตอนนีเ้ หลือเพียง 8 คน แตสง่ิ ทีบ่ ริษัทฯ เล็งเห็น คือ โอกาสในการเตรียม ธุรกิจและบริการของเราใหมคี ณ ุ ภาพยิง่ ขึน้ รวมถึงการแสดงจ�ดยืนของ บริษัทฯ ที่ใหความสําคัญกับการผลักดันการทองเทีย่ วสีเขียวควบคูไปกับ การมอบบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งขณะนี้ธรรมชาติและสัตวทะเลฟนฟู ดีขึ้นมาก การทองเที่ยวสีเขียวจะชวยรักษาระบบนิเวศทางทะเล และ ความสวยงามของธรรมชาติใหคงอยูอยางยั่งยืน ทีส่ าํ คัญ การนําเรือทองเทีย่ วไฟฟามาใหบริการ ยังเปนการลงทุน ที่คุมคาในระยะยาว ชวยลดตนทุนคาเชื้อเพลิง 70% เดิมทีเรือน้ํามัน ดีเซลจะมีตนทุนอยูที่ 10,000 บาทตอเที่ยว แตสําหรับเรือไฟฟาจะมี ตนทุนดานพลังงานเหลือเพียง 2,500 บาทตอการชารจหนึง่ ครัง้ และลด คาใชจายในการบํารุงรักษา รวมถึงชวยปลูกจิตสํานึกใหทุกคนเที่ยว แบบรักษโลก ตลอดจนชวยสรางความยั่งยืนใหกับธุรกิจ สิ่งแวดลอม และชุมชนไปพรอมกัน “บริษัท เจิ้ลไท จํากัด ประเทศจีนมองวาถาธุรกิจเรือทองเที่ยว ไฟฟาไปไดดี จะนําไปวิ่งที่เกาะพีพี ซึ่งเปนบริษั ทจีนรายแรก จะชวย ขยายตลาดไปตางประเทศได อีก 4-5 ปขา งหนา เทรนดดา นสิง่ แวดลอม จะมา รถไฟฟา (EV Car) จะเปด การสราง Smart Pier และ Smart Boat เปนการเตรียมความพรอมสรางโอกาสทางธุรกิจใหมทจี่ ะเกิดขึน้ ” ไชยา กลาว
15
สําหรับบานปู เน็กซ อีเฟอรร่ี ลําแรกของไทยชื่อ “นพมัลลี” พรอมให บริการนักทองเที่ยวในเสนทางเกาะเจมส บอนด เริ่มจากทาเทียบเรืออาวปอ ไปยังอาวพังงา ซึง่ ประกอบดวย เกาะพนัก เกาะหอง เขาตะปู (เกาะเจมสบอนด) และเขาพิงกัน ใชเวลาลองไป-กลับราว 3 ชัว่ โมง เจาะกลุม ตลาดระดับพรีเมียม มีการจัดตัง้ บริษัท ภูเก็ตพัชทรี พรีเมียมทัวร จํากัด เพือ่ ดูแลธุรกิจนีโ้ ดยเฉพาะ หากสถานการณ COVID-19 ในประเทศไทยมีแนวโนมที่ดี คาดวาในปหนา จะเปดอีกเสนทางที่เกาะพีพี ชนิต สุวรรณพรินทร ผูอํานวยการอาวุโส กลุมธุรกิจยานพาหนะไฟฟา บริษทั บานปู เน็กซ จํากัด กลาวเสริมวา บานปู เน็กซ มีความเชีย่ วชาญทางดาน Energy Power เนือ่ งจากจัดตัง้ โรงงานผลิตแบตเตอรีร่ ว มกับบริษัท Dura Power Holdings สวนเรือไฟฟาทางทะเล บริษัทฯ จะมีบริการใหเชา เพือ่ ชวยแบงเบา ภาระผูป ระกอบการ นอกจากเรือไฟฟา ในสวนของรถยนตไฟฟา บานปู เน็กซ จับมือ HAUPCAR ใหบริการเชารถยนตไฟฟา FOMM ผานแอปพลิเคชัน มีสถานที่รับและคืนรถ 200 จ�ดทั่ว กทม. ทั้งนี้สามารถเรียกรับรถจ�ดหนึ่งและ คืนรถอีกจ�ดหนึง่ ตามจ�ดบริการทีม่ ี ซึง่ ในอนาคตมีแผนทีจ่ ะนําบริการเชารถยนต พลังงานไฟฟา FOMM มาใหบริการในจังหวัดภูเก็ต เพื่อกาวสู Smarty City
หากเรือ 2,000 ลําเปลีย่ นมาใชเรือไฟฟาใน 1 ป ลดนํา้ มันไดกวา 53 ลานลิตร-ลดการปลอยกาซ CO2 1.4 แสนตัน
ปจจ�บนั มีเรือทองเทีย่ วทางทะเลประมาณ 3,000 ลํา โดยกวา 2,000 ลํา ใหบริการอยู ในแถบทะเลอันดามันและอาวไทยใน 4 จังหวัด ไดแก ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎรธานี หากเปลี่ยนมาเปนเรือไฟฟารูปแบบเดียวกับบานปู เน็กซ อีเฟอรรี่ และนํามาใหบริการเปนเวลา 1 ป จะชวยลดการใชพลังงาน เชื้อเพลิงไดกวา 53 ลานลิตร และลดการปลอยกาซ CO2 ไดถึง 1.4 แสนตัน หรือเทียบเทากับปลูกตนไม 17 ลานตน จึงอยากใหผูประกอบการหันมาใช เรือทองเที่ยวไฟฟากันมากขึ้น และขอเชิญชวนนักทองเที่ยวทุกคนมาสัมผัส การทองเที่ยวสีเขียวของภูเก็ต “ในอนาคตเราเตรียมแผนจะพัฒนา Smart Mobility Town ที่ทาเรือ อาวปอ โดยจะนําเรือไฟฟา รถยนตไฟฟา รวมถึงโซลูชันดานพลังงานสะอาด อื่นๆ มาเติมเต็มการใชพลังงานสะอาดเพื่อสนับสนุนการทองเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) ใหครบวงจรยิ่งขึ้น” สมฤดี กลาวทิ้งทาย
GreenNetwork4.0 November-December
2020
BCG กองบรรณาธิการ
ไทยเบเวอรเรจแคน-แองโกล เอเชีย กรุปยูเอซีเจ-ชบา จับมือมูลนิธิ 3R
รวมยกระดับการรีไซเคิลกระปองอะลูมิเนียม
บริษัท ไทยเบเวอรเรจแคน จํากัด ผนึก พั น ธมิ ต ร บริ ษั ท แองโกล เอเชี ย กรุ ป (ประเทศไทย) จํ า กั ด บริ ษั ท ยู เ อซี เ จ (ประเทศไทย) จํากัด บริษัท ชบาบางกอก จํากัด และมูลนิธิการจัดการทรัพยากรอยาง ยั่ ง ยื น (มู ล นิ ธิ 3R) ประกาศความพร อ ม ชู น วั ต กรรมและกระบวนการจั ด การขยะ กระปองอะลูมเิ นียมที่ไดมาตรฐานระดับสากล และครบวงจร โดยการนําบรรจ�ภัณฑที่ใชแลว มาผ า นกระบวนการรี ไ ซเคิ ล จากนั้ น นํ าไป ขึน้ รูปเพือ่ นํากลับมาใชใหมเพือ่ ลดปริมาณขยะ อยางยั่งยืน โดยหากไดรับการสงเสริมจาก รัฐบาลก็จะชวยสรางประโยชนดา นสิง่ แวดลอม เศรษฐกิ จ และสั ง คม ผ า นการขั บ เคลื่ อ น ประเทศแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) จากกระปองอะลูมิเนียมตอไป
แบบครบวงจรหนึ่งเดียวในอาเซียน
บรรจุภัณฑกระปองอะลูมิเนียมที่ผานการรีไซเคิล ผานมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
สาโรช ชยาวิวัฒนกุล กรรมการผูจัดการ บริษัท ไทยเบเวอรเรจแคน จํากัด กลาววา บริษัท ไทยเบเวอรเรจแคน จํากัด หรือ TBC ในฐานะผูน าํ ในตลาด บรรจ�ภัณฑกระปองและฝาอะลูมิเนียมชั้น นําของไทยและเอเชียตะวันออก เฉียงใต มุงมั่นที่จะเปนตนแบบและผูนําดานความยั่งยืนในธุรกิจบรรจ�ภัณฑ โดยรวมมือกับทั้ง 4 องคกร ประกอบดวย บริษัท แองโกล เอเชีย กรุป (ประเทศไทย) จํากัด บริษทั ยูเอซีเจ (ประเทศไทย) จํากัด บริษทั ชบาบางกอก จํากัด และมูลนิธิการจัดการทรัพยากรอยางยั่งยืน (มูลนิธิ 3R) ที่มีความตั้งใจ เดียวกันในการลดปริมาณขยะ นําเทคโนโลยีรี ไซเคิลที่ทันสมัยเขามาชวย เปลี่ ย นขยะอะลู มิ เ นี ย มให ก ลั บ มาเป น บรรจ� ภั ณ ฑ อ าหารและเครื่ อ งดื่ ม ที่ ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ สามารถนํากลับมาใชประโยชนได 100% เกิดการ หมุนเวียนของทรัพยากรอยางมีประสิทธิภาพแทจริง เพือ่ ลดโอกาสทีข่ ยะจะถูก นําไปฝงกลบ หรือหลุดไปเปนขยะทะเล ปจจ�บนั ประเทศไทยมีการผลิตกระปองอะลูมเิ นียมประมาณ 6,500 ลาน กระปองตอป แบงเปน 50% จะวนอยู ในประเทศไทย ซึ่งไทยเปนประเทศ หนึง่ เดียวในอาเซียนทีม่ คี วามพรอมในการจัดการขยะอะลูมเิ นียมไดครบวงจร ผานความรวมมือกับองคกรตางๆ เริม่ ตนการรีไซเคิลโดย บริษทั แองโกล เอเชีย กรุป (ประเทศไทย) จํากัด ที่พรอมใหบริการรีไซเคิลเศษกระปองอะลูมิเนียม ในขั้นตอนตั้งแตนํากระปองอะลูมิเนียมที่ถูกคัดแยกออกจากวัสดุอื่นๆ ผาน เครื่องคัดแยก และทําความสะอาดแลว มาเขาเครื่องตัดบดใหเปนชิ้นเล็กๆ และปอนเขาสูกระบวนการขจัดสีเคลือบแล็กเกอร ผานกระบวนการผลิต 16
ไดมาตรฐานจากวัตถุดิบรีไซเคิลสูงถึง 99% จากนั้นสงตอไป ยัง บริษัท ยูเอซีเจ (ประเทศไทย) จํากัด โรงงานผลิตแผน อะลูมิเนียมชั้นนําแหงเอเชียตะวันออกเฉียงใต ใหดําเนินการ ตอ ตั้งแตกระบวนการหลอวัตถุดิบในอุณหภูมิสูงถึง 730 ํC เพือ่ ความสะอาดปลอดภัยจากสิง่ ปนเปอ น ไปจนถึงกระบวนการ รี ด เป น แผ น อะลู มิ เ นี ย มโดยใช เ ทคโนโลยี ขั้ น สู ง ภายใต ความรูความเขาใจในการปฏิบัติงานที่ไดบมเพาะมาเปนเวลา นาน ขณะที่ทาง TBC จะทําการขึ้นรูปทรงใหมตามประเภท ของการใช ง าน ทั้ ง ที่ เ ป น วั ต ถุ ดิ บ ในการผลิ ต สิ น ค า และ บรรจ� ภั ณ ฑ ที่ เ หมาะสมต อไป พร อ มสนั บ สนุ น เศรษฐกิ จ หมุ น เวี ย นภายใต ก รอบความยั่ ง ยื น ผ า นการวิ จั ย และ
GreenNetwork4.0 November-December
เศษกระปองอะลูมิเนียมที่ใชแลวถูกสงเขา เครื่องบดในขั้นตอนบดละเอียด รอเขาสู กระบวนการขจัดสี 2020
สาโรช ชยาวิวัฒนกุล
ดร.วิฑูรย สิมะโชคดี
บรรจุภัณฑกระปองอะลูมิเนียมที่ผานการรีไซเคิล ดวยเทคโนโลยีทันสมัยและผานมาตรฐานความ ปลอดภัยระดับสากล สรางสรรคนวัตกรรมผลิตภัณฑทตี่ อบสนองความตองการของตลาดไดอยาง ตรงจ�ด พรอมรับมือกับแนวโนมการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เกิดขึ้นตลอด เวลา ขณะนี้ บริษัท ชบาบางกอก จํากัด ผูนําและผูเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ เครือ่ งดืม่ จากผลไม เปนหนึง่ ในบริษัททีม่ กี ารใชบรรจ�ภณ ั ฑกระปองอะลูมเิ นียม ที่ผานการรี ไซเคิลมาแลวในกระบวนการผลิตสินคา 100% แสดงถึงการให ความสําคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดลอม โดยตระหนักถึงปญหามลภาวะ ตางๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหวางกระบวนการผลิต รวมถึงภาวะโลกรอนที่อาจ สงผลกระทบตอคุณภาพชีวิตมนุษยและระบบนิเวศได ดาน ดร.วิฑรู ย สิมะโชคดี ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิการจัดการ ทรัพยากรอยางยั่งยืน (มูลนิธิ 3R) กลาววา ความรวมมือในครั้งนี้มุงเนน
วงศวุธ กูลปยะวาจา การรี ไซเคิลกระปองอะลูมิเนียมแบบครบวงจร เพื่อพัฒนา เปนตนแบบการนําขยะกลับไปใชประโยชนใหมไดอยางมี ประสิทธิภาพ และลดปริมาณขยะรวมในระบบ ซึ่งสอดคลอง กับพันธกิจหลักของมูลนิธิ 3R ในฐานะองคกรในการผลักดัน ใหเกิดการบริหารจัดการทรัพยากรอยางยัง่ ยืน ภายใตแนวคิด 3R ประกอบดวย การลดการใช (Reduce) เพิ่มการใชซํ้า (Reuse) และนํากลับมาใชใหม (Recycle) พรอมสงเสริม แนวคิดการออกแบบผลิตภัณฑและการพัฒนานวัตกรรมตาม หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy เพิ่ม การนําทรัพยากรกลับมาใชใหม ควบคูกับการสรางความ ไดเปรียบในการแขงขันใหกับธุรกิจในประเทศไทย ถือเปน อีกกาวสําคัญของประเทศไทยในการขับเคลือ่ นการจัดการขยะ เพื่อสงเสริมใหเกิดการจัดการทรัพยากรอยางยั่งยืนตอไป ความรวมมือในครัง้ นีต้ อกย้าํ ถึงความมุง มัน่ ในการแกไข ปญหาขยะอยางยั่งยืนของภาคเอกชน ที่เล็งเห็นถึงความ สําคัญของปญหาสิง่ แวดลอมทีเ่ กิดขึน้ ตัง้ แตอดีตจนถึงปจจ�บนั พรอมผลักดันให “การรีไซเคิลกระปองอะลูมเิ นียม” เปนหนึง่ ในตนแบบการจัดการขยะ ซึง่ หากรัฐบาล ใหการสนับสนุนการรีไซเคิลกระปอง อะลู มิ เ นี ย ม ก็ จ ะช ว ยผลั ก ดั น ให เกิดการรีไซเคิลในประเทศมากขึน้ ถื อ เป น การสร า งประโยชน ด า น สิง่ แวดลอม เศรษฐกิจ และสังคม
สําหรับการรีไซเคิลกระปองอะลูมิเนียมสงเสริมใหเกิดประโยชนครอบคลุม 3 ดาน ไดแก
ดานเศรษฐกิจ เสริมสรางการจางงานในอุตสาหกรรมรีไซเคิล สงเสริมอาชีพรับซื้อขยะรีไซเคิลทั้งรานรับซื้อของเกา และซาเลง ซึ่งมีอยูประมาณ 150,000 รายทั่วประเทศ ทั้งยังลดตนทุนในการผลิตและการนําเขาวัตถุดิบจากตางประเทศไดอีกทาง ดานสังคม สรางการรับรูใหแกผูบริโภคในการชวยกันเพิ่มการจัดเก็บบรรจ�ภัณฑที่ใชแลวใหถูกตอง กระตุนใหหนวยงานที่เกี่ยวของหันมาบูรณาการใช นโยบายและระบบบริหารจัดการขยะอยางจริงจัง ดานสิง่ แวดลอม ลดผลกระทบดานสิง่ แวดลอม ซึง่ เปนปญหาสําคัญทีท่ ว่ั โลกกําลังเผชิญ โดยเฉพาะผลกระทบจากการทําเหมืองอะลูมเิ นียม อีกทัง้ ลดปริมาณ ขยะฝงกลบและขยะที่หลุดไปในทะเล นอกจากนี้ยังเปนการใชทรัพยากรหมุนเวียนอยางคุมคา มีประสิทธิภาพ เพื่อชวยอนุรักษสิ่งแวดลอมอยางยั่งยืน
17
GreenNetwork4.0 November-December
2020
Automotive กองบรรณาธิการ
บริษทั เอสเอไอซี มอเตอร - ซีพี จํากัด และ บริษทั เอ็มจี เซลส (ประเทศไทย) จํากัด ผูผ ลิตและ ผูจําหนายรถยนตเอ็มจีในประเทศไทย ผูนําตลาด รถยนตพลังงานทางเลือก เปดตัว “NEW MG EP” รถยนตในรูปแบบสเตชั่นแวกอนขับเคลื่อนดวย พลังงานไฟฟา 100% ดวยแนวคิด “Everyone ตอบโจทยทุกฟงกชัน รถยนตพลังงานไฟฟาของ ทุกคน” เพื่อสะทอนมาตรฐานขั้นตนของรถยนต พลังงานไฟฟาในประเทศไทยที่ตองประกอบดวย องคประกอบพื้นฐาน ไดแก ขนาดของหองโดยสาร และพื้น ที่ ใชสอยที่กวางขวางรองรับการบรรทุก ทั้งคนและสิ่งของ โดดเดนดวยสมรรถนะของ EV เทคโนโลยีที่ ใหกําลังเพียงพอตอการใชงานจริง ในชีวิตประจําวัน ใหความสะดวกสบายและมั่นใจ ในการขับขี่ดวยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน รวมทั้งคุมคาในการเปนเจาของดวยคาใชจายดาน พลังงานทีต่ า่ํ รับประกันแบตเตอรีน่ านถึง 8 ป หรือ 180,000 กิโลเมตร และคาบํารุงรักษาที่ต่ํา ชวย ประหยัดคาใชจายไดในระยะยาว พรอมเผยแผน ติดตั้งสถานีอัดประจ�ไฟฟาของเอ็มจี ภายใตชื่อ “MG Super Charge” ที่ดีลเลอรเอ็มจีติดตั้งครบ 100 แหงแลวในปนี้ และขยายอีกกวา 500 แหง ภายในปหนา โฉมหนา NEW MG EP ซึ่งจะเปนมาตรฐานขั้นตน ของรถยนตพลังงานไฟฟา 100% หรือ Entry EV 18
GreenNetwork4.0 November-December
2020
พงษศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ รองกรรมการผูจัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส (ประเทศไทย) จํากัด กลาววา เอ็มจีนําเสนอยานยนตดวย 3 แนวคิดหลัก ไดแก ความทันสมัยหรือแฟชั่น เทคโนโลยี และความคุมคา ซึ่งทั้ง 3 แนวคิดหลักนี้จะถูก นํามาใชตงั้ แตการออกแบบ การคิดคนนวัตกรรม สมรรถนะ ฟงกชนั การใชงาน และ ระบบความปลอดภัย โดย NEW MG EP จะเปนมาตรฐานขัน้ ตนของรถยนตพลังงาน ไฟฟา 100% หรือ Entry EV ของตลาดรถยนตเมืองไทยนับจากนี้ ดวยจ�ดเดนของการ เปน EV For Everyone ที่สามารถตอบโจทยการใชงานของลูกคาไดทุกรูปแบบ ทั้งขนาดของหองโดยสารที่กวางขวาง รวมถึงพื้นที่ ใชสอยที่สะดวกสบาย ความจ� ในการบรรทุกสัมภาระทีเ่ หนือกวา สมรรถนะของเทคโนโลยีของรถยนตไฟฟา 100% ระบบความปลอดภัยครบครัน และความคุมคาในการเปนเจาของ ยิ่งไปกวานั้น ขณะนี้ สถานีอัดประจ�ไฟฟาของเอ็มจีภายใตชื่อ MG Super Charge ไดติดตั้งที่ ดีลเลอรเอ็มจีครบ 100 แหง และอยูในระหวางทดลองระบบ ซึ่งคาดวาจะสามารถ ใชไดจริงในเดือนมกราคมนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนจะขยายจ�ดใหบริการ MG Super Charge อีกกวา 500 แหงภายในปหนา ซึง่ บริษัทฯ เชือ่ มัน่ วารถยนตไฟฟาของเอ็มจี จะสามารถใชงานไดจริงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศในเวลาอันใกลนี้ “MG Super Charge” ซึ่งดีลเลอรเอ็มจีติดตั้งครบ 100 แหงแลวในปนี้ และขยายอีกกวา 500 แหงภายในปหนา
แบบเร็ว ซึง่ ใชระยะเวลาเพียง 40 นาที มีคา ใชจา ยตอการ ชารจเต็มแตละครัง้ เพียง 200** บาท และคาบํารุงรักษา ตลอดระยะเวลา 5 ป หรือ 100,000 กิโลเมตร อยูที่ 7,828 บาท นอกจากนี้ ยังไดรับการประกันคุณภาพ และการดูแลบริการหลังการขายภายใต MG Passion Service นาน 4 ป หรือ 120,000 กิโลเมตร และการ รับประกันแบตเตอรีน่ านถึง 8 ป หรือ 180,000 กิโลเมตร
NEW MG EP มาพรอมพื้นที่หองโดยสารกวางขวาง นั่งสบาย และพื้นที่เก็บ สัมภาระขนาดใหญ โดยเมื่อพับเบาะหลังจะสามารถเพิ่มพื้นที่ความจ�ไดมากสูงสุด ถึง 1,456 ลิตร รองรับการบรรทุกทัง้ คนและสิง่ ของไดเปนอยางดี มีระบบความปลอดภัย และสิ่งอํานวยความสะดวก (Safety & Convenience) ที่ครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัย คูหนา ระบบเบรก ABS พรอมระบบชวยกระจายและเสริมแรงเบรกดวยไฟฟา ระบบ ควบคุมเสถียรภาพในการขับขี่ กลองมองหลัง ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง ปุมเบรกมือไฟฟาและปุม Auto Hold ขับเคลื่อนดวย EV เทคโนโลยี (EV Technology) ดวยมอเตอรไฟฟาที่มีกําลังสูงสุด 163 แรงมา มีอัตราเรง 0-100 กิโลเมตร ภายใน เวลาเพียง 8.8 วินาที พรอมโหมดการขับขี่ใหเลือก 3 รูปแบบ คือ Eco, Normal และ Sport รวมทั้งมีระบบชารจไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ สําหรับแบตเตอรี่ของ NEW MG EP เปนลิเทียมไอออนแบบโมดูล ที่สามารถแยกซอม แตละโมดูลไดอสิ ระ โดยมีขนาดความจ�ถงึ 50.3 กิโลวัตตชว่ั โมง ใหระยะทางในการขับขี่ ไดไกลถึง 380 กิโลเมตรตอการชารจเต็มหนึ่งครั้ง* ซึ่งสามารถชารจไฟได 2 รูปแบบ คือ การชารจในรูปแบบ Normal Charge จาก 0-100% ผาน MG Home Charger ที่ ใชเวลา 7.15 ชัว่ โมง และรูปแบบ Quick Charge จาก 0-80% ผานสถานีอดั ประจ�ไฟฟา 19
*ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน New European Driving Cycle - NEDC **อัตราคาไฟฟาเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 3.96 บาทตอหนวย ไมรวมคา FT และภาษีมูลคาเพิ่ม อางอิงจากขอมูลของ คณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน ณ เดือนมิถุนายน 2563
GreenNetwork4.0 November-December
2020
Innovation กองบรรณาธิการ
โฉมหนาผลงาน “ทอเพิ่มความรอน สําหรับเพิ่มสมรรถนะทางอุณหภาพ”
นกัวจิยั มจธ. พฒ ั นา
“ทอเพิ่มความรอนฯ” และ “นวตักรรมอปุกรณ
แลกเปลี่ยนความรอน” เพิ่มสมรรถนะทางความรอนใหสงูขึ้นประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น
ผลงาน “ทอเพิ่มความรอนสําหรับเพิ่มสมรรถนะทางอุณหภาพ” โดย ศ. ดร.สมชาย วงศวิเศษ อาจารยประจําภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะ วิศวกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลาธนบุรี (มจธ.) และ คณะนักวิจัย ซึ่งประกอบดวย ดร.คณิต อรุณรัตน ดร.สุริยัน เลาหเลิศเดชา ธน อากาศอํานวย และ รชต ลีลาประชากุล ควา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จาก Thailand Energy of Innovation and Technology Awards 2019 (TE-IT 2019) ในโครงการประกวดการเพิม่ ประสิทธิภาพดานการอนุรกั ษพลังงาน และพลังงานทดแทน ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษพลังงาน (พพ.) ณ หองแกรนด เอบี โรงแรมมิราเคิล แกรนด คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ผลงาน “นวัตกรรมอุปกรณแลกเปลีย่ นความรอนแบบทอติดครีบเกลียว เพือ่ การประหยัดพลังงาน” โดย ศ. ดร.สมชาย วงศวเิ ศษ และ ร.ท. ดร.ปริญญา เกียรติภาชัย ยังไดรับรางวัลนวัตกรรมที่นาสนใจเปนพิเศษอีกดวย ศ. ดร.สมชาย วงศวิเศษ อาจารยประจําภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลาธนบุรี (มจธ.) กลาววา ผลงานทัง้ 2 เปนการคิดคนแนวทางในการเพิม่ ประสิทธิภาพ ใหกบั อุปกรณแลกเปลีย่ นความรอน ซึง่ เปนอุปกรณทม่ี คี วามเกีย่ วของ กับระบบพลังงาน สามารถนําไปประยุกตใชไดอยางแพรหลายใน อุตสาหกรรมตางๆ โดยเพิม่ สมรรถนะทางความรอนใหสงู ขึน้ จะทําให การใชพลังงานเปนไปอยางมีประสิทธิภาพ และสามารถประหยัด พลังงานไดมากยิ่งขึ้น ปจจ�บันนักวิจัยพยายามใชเทคนิคตางๆ เพื่อเพิ่มการถายเท ความรอน ปรับปรุงสมรรถนะทางความรอนของอุปกรณใหสามารถ แลกเปลีย่ นความรอนใหดขี น้ึ ซึง่ เทคนิคการทําผิวทอใหขรุขระเปนหนึง่ ในวิธที งี่ า ยทีส่ ดุ ทอเพิม่ ความรอน (Enhanced Tube) สามารถเพิม่ การถายเทความรอนโดยสรางการไหลแบบปน ปวน (Turbulent 20
ศ. ดร.สมชาย วงศวิเศษ อาจารยประจําภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร มจธ. Flow) และเพิม่ พืน้ ที่ในการถายเทความรอน ทอเพิม่ ความรอน มีอยูหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือ ทอที่มีรองเกลียวภายใน (Internally Corrugated Tube) ทอชนิดนี้สามารถนําไป ประยุกตใชแทนทอเรียบในอุปกรณแลกเปลี่ยนความรอนได ทุกประเภท ผลที่ตามมาคือ จะทําใหสมรรถนะทางอุณหภาพ ของอุปกรณแลกเปลี่ยนความรอนสูงขึ้น สงผลใหอุปกรณ แลกเปลี่ยนความรอนมีขนาดเล็กลง หรือชวยเพิ่มอัตราการ ถายเทความรอนใหมากยิ่งขึ้น ในขณะที่อุปกรณแลกเปลี่ยน ความรอนมีขนาดเทาเดิม นวั ต กรรมนี้ เ หมาะสํ า หรั บ อุ ต สาหกรรมเครื่ อ งทํ า ความเย็นและเครื่องปรับอากาศ ทอที่มีรองเกลียวสามารถ นําไปใชแทนทีท่ อ เรียบ ทัง้ ในคอนเดนเซอรและอีวาโปเรเตอร ท อ ชนิ ด นี้ ส ามารถนํ าไปประยุ ก ต ใ ช ใ นกระบวนการทาง ความรอนไดทกุ ประเภทอีกดวย เชน นําไปใชเปนทออุปกรณ แลกเปลีย่ นอุปกรณความรอนแบบเปลือกและทอ หรือใชเปน ทอในหมอไอน้ํา “เราพัฒนาทอแลกเปลี่ยนความรอนมาแลว 3 แบบ แบบแรกเปนทอมีครีบภายใน แบบที่ 2 เปนทอที่มีลักษณะ เกลียวขางใน และแบบที่ 3 เปนทอที่มีปุมอยูขางในทอ ซึ่ง ทอทั้ง 3 แบบที่พัฒนาขึ้นมา แบบที่เปนปุมจะใหการถายเท ความรอนไดดีที่สุด แตใหคาความดันลด (Pressure Drop) สูงทีส่ ดุ หากนําไปใชงานจริง ทอแบบนีจ้ ะใหการถายเทความรอน ไดดีที่สุด แตตองใชพลังงานในการขับเคลื่อนของไหลสูง จึง ขึ้นอยูกับวัตถุประสงคในการนําไปใชงาน ตองพิจารณาวา ควรเลือกใชงานแบบไหน” ศ. ดร.สมชาย กลาว
GreenNetwork4.0 November-December
2020
ทอที่มีรองเกลียวภายใน
“EXTUBA TURBO TUBE” ผลงานวิจัยชิ้นแรกที่ มจธ. รวมกับภาคเอกชนนําไปใชงานจริง ศ. ดร.สมชาย ในฐานะผูเชี่ยวชาญดานกลศาสตร ของไหลและการถายเทความรอน ทําการวิจัยและพัฒนา เกี่ยวกับทอแลกเปลี่ยนความรอนมานานกวา 20 ป มีผลงาน ตีพิมพมากกวา 500 เรื่อง และผลงานไดถูกนําไปตอยอด งานวิจยั อืน่ ๆ อีกเปนจํานวนมาก แมวา ศ. ดร.สมชาย จะเนน การทํางานเพื่อการตีพิมพ ไมไดตั้งเปาวาจะผลิตออกมาใช เชิงพาณิชยหรือใชกบั ภาคอุตสาหกรรม แตผลงานวิจยั ไดรบั ความสนใจจาก รชต ลีลาประชากุล กรรมการผูจัดการ บริษทั ไทย-เยอรมัน โปรดักส จํากัด (มหาชน) หรือ TGPRO ซึ่งเปนโรงงานผลิตทอและแผนสเตนเลส ที่ติดตอใหชวย พัฒนาทอใหมีประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนความรอน ใหดีขึ้น “EXTUBA TURBO TUBE” จึงเปนผลงานที่รวมกัน พัฒนาขึน้ ระหวาง มจธ. และ TGPRO ซึง่ ผลจากการวิจยั และ ทดลองสมรรถนะการถายเทความรอนพบจ�ดเดนคือ การ สรางครีบรองเกลียวภายในทอ จะสงผลใหผนังทอมีพื้นที่ผิว สําหรับแลกเปลีย่ นความรอนสูงขึน้ กวา 30% ทําใหจาํ นวนทอ ทีต่ อ งใชในการแลกเปลีย่ นความรอนมีจาํ นวนนอยลง ขณะที่ สมรรถนะในการถายเทความรอนเทาเดิม ทําใหจํานวนทอ อุปกรณแลกเปลี่ยนความรอนมีขนาดเล็กลงอยางเห็นไดชัด มีความกะทัดรัดมากขึ้น สัมประสิทธิ์การถายเทความรอน (Heat Transfer Coefficient) สูงขึ้นประมาณ 50% เมื่อ
เปรียบเทียบกับทอธรรมดาทั่วไป ขณะที่ความแข็งแรงไดมาตรฐาน โดยผานการ ทดสอบมาตรฐานสากล อาทิ ASTM (American Society of Testing Materials), PED (Pressure Equipment Directive) จากสถาบัน BUREAU VERTA’s “ถือเปนผลงานชิ้นแรกๆ ที่พัฒนาขึ้นจากงานวิจัยที่เราทําขึ้นเอง และเรา สามารถนําไปสูการใชงานจริงในภาคอุตสาหกรรมดวยตัวเราเอง ตางจากที่ผานมา ทีอ่ าจจะมีผอู นื่ นํางานวิจยั ของเราไปตอยอดในเชิงอุตสาหกรรม” ศ. ดร.สมชาย กลาว สําหรับผลงานนวัตกรรมอุปกรณแลกเปลี่ยนความรอนแบบทอติดครีบเกลียว ที่ วิ จั ย ขึ้ น นี้ ได รั บ รางวั ล เหรี ย ญทองเกี ย รติ ย ศจากเวที ร ะดั บ โลก จากผลงาน Enhanced Tubes for Improving the Thermal Performance ในงานนิทรรศการ สิ่งประดิษฐใหมของโลก 44th International Exhibition and Invention of Geneva 2016 ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอรแลนด
ศ. ดร.สมชาย วงศวิเศษ พรอมทีมวิจัย รับรางวัล TE-IT 2019 ทอที่มีครีบภายใน
ชูจุดเดนกินไฟนอยลงแตเย็นเหมือนเดิม ประสานผูผลิตเครื่องปรับอากาศนําไปใชงานในเชิงพาณิชย
ศ. ดร.สมชาย กลาววา ไดมกี ารพูดคุยกับบริษัททีผ่ ลิตเครือ่ งปรับอากาศ เพือ่ ใหนําผลงานวิจัยทอแลกเปลี่ยนความรอนที่เราวิจัยนําไปใช ซึ่งจากงานวิจัยพบวา การถายเทความรอนและการประหยัดพลังงานดีกวาทอแบบเรียบ ซึง่ จะทําใหกนิ ไฟ นอยลง แตยังใหความเย็นเหมือนเดิม อยางไรก็ตาม ถาจะนําไปใชจริง ทางผูประกอบการก็ตองคํานวณเรื่องการ สูญเสียของพลังงานในการไหลดวย เพราะจากผลงานวิจัยพบวา มีทั้งขอไดเปรียบ และเสียเปรียบ ดังนั้นจึงตองดูจ�ดที่เหมาะสมที่สุด 21
GreenNetwork4.0 November-December
2020
GREEN
BIZ
บาฟส อินเทค
เปดตัวรถเติมน้ำมันอากาศยาน พลังงานไฟฟา 100% ลดการใชน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล มากถึง 6,300 ลิตรตอป
บริ ษัท บาฟส์ อิ น เทค จำ� กั ด ผู้ ใ ห้ บ ริ ก ารออกแบบ ผลิ ต ประกอบ รถเติมน้ำ�มันอากาศยานและระบบให้บริการน้ำ�มันอากาศยาน บริษั ทในเครือ กลุ่มบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ หรือบาฟส์กรุ๊ป เปิดตัวรถเติมน้ำ�มัน อากาศยานพลังงานไฟฟ้ารุ่น EV-HDC17LPM ซึ่งเป็นรถเติมน้ำ�มันอากาศยาน แบบ Electric Hydrant Cart ที่ทำ�งานด้วยไฟฟ้าทั้งระบบ 100% เน้นย้ำ�แนวทาง การดำ�เนินธุรกิจทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม ผลักดันการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ในพืน้ ทีท่ า่ อากาศยานให้มากทีส่ ดุ โดยเริม่ นำ�มาใช้งานทีท่ า่ อากาศยาน นานาชาติดอนเมืองแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ รถเติมน้ำ�มันอากาศยานพลังงานไฟฟ้ารุ่น EV-HDC17LPM เป็นรถเติม น้�ำ มันแบบ Electric Hydrant Cart ทีป่ ระกอบไปด้วยรถแทรกเตอร์พลังงานไฟฟ้า และรถเติมน้ำ�มันแบบ Refueler ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งระบบ ทำ�ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นในการเติมน้ำ�มันอากาศยานได้ทุกรุ่น โดยมีอัตรา การไหลของเชือ้ เพลิงอยูท่ ี่ 1,700 ลิตรต่อนาที และมีอตั ราการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์เป็นศูนย์ จึงช่วยลดการใช้น�ำ้ มันเชือ้ เพลิงดีเซลในการดำ�เนินกิจกรรม ทางธุรกิจได้มากถึง 6,300 ลิตรต่อปี หรือเทียบเท่ากับปริมาณก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ 15 ตันต่อปี ปัจจุบัน บาฟส์ อินเทค ได้เริ่มนำ�รถรุ่นนี้มาให้บริการ เติมน้�ำ มันอากาศยานแล้วตัง้ แต่วนั ที่ 10 พฤศจิกายน ทีผ่ า่ นมา ณ ท่าอากาศยาน นานาชาติดอนเมือง
บาฟส์ อินเทค ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและนำ�เสนอ ผลิตภัณฑ์และการบริการทีม่ ปี ระสิทธิภาพและเป็นมิตร กั บ สิ่ ง แวดล้ อ ม ตอกย้ำ � แนวทางการดำ � เนิ น ธุ ร กิ จ ของกลุ่ ม บริ ษั ท ฯ ที่ ต้ อ งการลดปริ ม าณการปล่ อ ย คาร์ บ อนไดออกไซด์ ใ ห้ ไ ด้ ม ากที่ สุ ด อี ก ทั้ ง ยั ง เป็ น การร่ ว มสนั บ สนุ น โครงการ Airport Carbon Accreditation ในระยะที่ 3 ของท่ า อากาศยาน นานาชาติดอนเมืองอีกด้วย 22
GreenNetwork4.0 November-December
2020
ผูวาการ กฟผ. คนที่ 15
แจงนโยบายขับเคลื่อน กฟผ. สูผูใหบริการดานพลังงานอยางครบวงจร
ผูว า การ กฟผ. คนที่ 15 เผยหลักการบริหารแบบ “ยืดหยุน ทันการณ ประสานประโยชน” ขับเคลือ่ น กฟผ. สูผ ใู หบริการดาน พลังงานอยางครบวงจรในยุค Disruption ทัง้ การรักษาความมัน่ คง ในระบบไฟฟาของประเทศ และบริการดานพลังงานที่ตอบโจทย ความตองการของผูใชไฟฟาที่หลากหลาย พรอมเดินหนาสราง พันธมิตรตอยอดธุรกิจใหม ควบคูก ารดูแลสังคม ชุมชน สิง่ แวดลอม อยางยั่งยืน หลังเขารับตําแหนงผูวาการ กฟผ. คนที่ 15 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผานมา บุญญนิตย วงศรักมิตร ผูวาการการไฟฟา ฝายผลิตแหงประเทศไทย (กฟผ.) พรอมทีมผูบริหาร กฟผ. รวมพูดคุยกับสื่อมวลชนถึงทิศทางการดําเนินงานของ กฟผ. และแนวทางการบริหารงาน ณ หอประชุมเกษม จาติกวณิช สํานักงานใหญ จังหวัดนนทบุรี บุญญนิตย วงศรกั มิตร ผูว า การ กฟผ. กลาววา สถานการณ การแพรระบาดของ COVID-19 และการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยีสง ผลกระทบโดยตรงตอความตองการใชไฟฟา รวมถึง รูปแบบการผลิตไฟฟา ซึ่งถูกกําหนดโดยผูใชไฟฟามากขึ้น กฟผ. จึงตองปรับตัวใหสอดคลองกับอุตสาหกรรมไฟฟาในยุค New Normal ปรับวิธคี ดิ และการดําเนินงานภายใตแนวคิด “EGAT for ALL” หรือ กฟผ. เปนของทุกคน และทําเพือ่ ทุกคน เพราะนอกจาก การผลิตและสงไฟฟาเพื่อรักษาความมั่นคงในระบบไฟฟาของ ประเทศแลว การดําเนินงานของ กฟผ. ยังตองตอบโจทยความ ตองการของผูใ ชไฟฟาทีม่ คี วามหลากหลายในยุค Disruption โดย ตั้งเปาเดินหนาสูการเปนผูใหบริการดานพลังงานอยางครบวงจร (Energy Solutions Provider) ดวยหลักการบริหารแบบ “ยืดหยุน ทันการณ ประสานประโยชน” เดินหนาผลักดันงานที่มีอยูใหมี ประสิทธิภาพสูงสุด อาทิ การพัฒนาโรงไฟฟาตามแผน PDP2018 Rev.1 ให แ ล ว เสร็ จ ตามกํ า หนด มุ ง เน น นํ า นวั ต กรรมและ เทคโนโลยีมาชวยเพิ่มประสิทธิภาพในทุกการดําเนินงาน ตั้งแต การพัฒนาระบบผลิตไฟฟาดวยโรงไฟฟาดิจิทัล (Digital Power Plant) ทํ าให โ รงไฟฟ า มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพสู ง ขึ้ น ช ว ยลดต น ทุ น การผลิต พัฒนาการผลิตไฟฟาจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ ผสมผสาน อาทิ โครงการโซลารลอยน้ําในเขื่อน การผลิตไฟฟา จากกังหันลมรวมกับเซลลเชือ้ เพลิง โรงไฟฟาพลังน้าํ แบบสูบกลับ 23
ดานระบบสงไฟฟา กฟผ. มุง พัฒนาโครงขายระบบสงไฟฟาเชือ่ มโยง ประเทศเพื่อนบาน (Grid Connectivity) ยกระดับสูการเปนศูนยกลาง ซื้อขายพลังงานของภูมิภาค และปรับปรุงระบบสงไฟฟาในประเทศใหมี ความมั่นคงแข็งแรง โดยในป พ.ศ. 2564 จะเรงดําเนินสรางสายสงไฟฟา 230 กิ โ ลโวลต เชื่ อ มโยงบริ เ วณชายแดนไทย-กั ม พู ช า (วั ฒ นานคร จังหวัดสระแกว-พระตะบอง 2 กัมพูชา) เพื่อรองรับการซื้อขายไฟฟา ปริมาณ 300 เมกะวัตต ภายในป พ.ศ. 2566 ตลอดจนการพัฒนาโครงขาย ไฟฟาใหมีความทันสมัย (Grid Modernization) รองรับการเพิ่มขึ้นของ พลังงานหมุนเวียน โดยไมสง ผลกระทบตอความมัน่ คงของระบบไฟฟาหลัก ไดแก การจัดตั้งศูนยพยากรณการผลิตไฟฟาจากพลังงานหมุนเวียนของ ประเทศ (RE Forecast Center) ซึ่งสามารถพยากรณ กําลังการผลิตไฟฟาจากพลังงานหมุนเวียนไดละเอียด ในระดับราย 30 นาที จนถึงในอีก 7 วันถัดไปไดอยาง แมนยํา ปรับปรุงโรงไฟฟาของ กฟผ. ใหมคี วามยืดหยุน (Flexible Power Plant) มีความพรอมจายสูง โดย เริ่มนํารองที่โรงไฟฟาวังนอย ชุดที่ 4 แลว ทําให สามารถตอบสนองต อ การเปลี่ ย นแปลงของ ระบบไฟฟาไดอยางรวดเร็ว พรอมทั้งพัฒนา แบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System : BESS) ทีส่ ถานีไฟฟาแรงสูง บําเหน็จณรงค จังหวัดชัยภูมิ และสถานีไฟฟา แรงสูงชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เพื่อแกปญหา คุ ณ ภาพไฟฟ า ในพื้ น ที่ ที่ มี พ ลั ง งานหมุ น เวี ย น เชื่อมตอเขาระบบไฟฟาปริมาณมาก นอกจากนี้ กฟผ. ยังเตรียมบุกธุรกิจใหม อาทิ ธุรกิจยานยนตไฟฟา (EV) ไดแก สถานีอัด ประจ�ไฟฟา, เครื่องอัดประจ�ไฟฟาแบบเร็ว (EGAT DC Quick Charger) ขนาด 100 กิโลวัตต, ธุรกิจ สมารทอีวีชารจเจอรขนาดเล็กแบบครบวงจรภายใต แบรนด Wallbox, ชุดดัดแปลงสภาพรถยนตใหกลาย เปนรถยนตไฟฟา (EV Kit), ธุรกิจแบตเตอรี่อัจฉริยะ (Batt 20C) สามารถจายกระแสไฟฟาไดอยางรวดเร็ว, ธุรกิจซื้อขายเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC)
GreenNetwork4.0 November-December
2020
Energy กองบรรณาธิการ
บี.กริม เพาเวอร์
‘BGRIM’ จัดงาน CG Day 2020 ชูแนวคิด ESG : Empowering
Sustainability Growth
24
ดร.ฮาราลด์ ลิ ง ค์ ประธาน บี . กริ ม เป็ น ประธานเปิ ด งาน ส่งเสริมการกำ�กับดูแลกิจการทีด่ ี ประจำ�ปี 2563 หรือ CG Day 2020 (Corporate Governance Day) ภายใต้แนวคิด “ESG : Empowering Sustainability Growth” ทีแ่ สดงถึงเจตนารมณ์และความมุง่ มัน่ ต่อการ ขับเคลื่อนองค์กรภายใต้หลักการกำ�กับดูแลกิจการที่ดี พร้อมเติบโต อย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมและปลูกฝังวัฒนธรรม องค์กรให้พนักงานทุกระดับตระหนักถึงความสำ�คัญด้านการกำ�กับดูแล กิจการที่ดี ที่มีการบริหารงานอย่างมืออาชีพและเป็นองค์กรโปร่งใส ซึ่งเป็น พื้นฐานสำ�คัญสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตลอดจน เป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ดีซึ่งเกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ภายในงานได้จัดเสวนา หัวข้อ “ESG : Empowering Sustainability Growth” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม เกศรา มัญชุศรี อดีตกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย และ อนันตชัย ยูรประถม สถาบันพัฒนาธุรกิจอย่าง ยัง่ ยืน มาร่วมแสดงวิสยั ทัศน์และแนวทางการขับเคลือ่ นการกำ�กับดูแล กิจการที่ดี การดำ�เนินงานด้านความยั่งยืน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูล ด้าน ESG (Environmental, Social and Governance) อันนำ�ไปสูก่ าร สร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจและการพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศที่มี การเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ภายในงานยังได้จัดนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการกำ�กับดูแลกิจการที่ดี การ ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และการดำ�เนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมี คณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการกำ�กับดูแลกิจการ และผู้บริหาร ระดับสูง พร้อมพนักงานเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ ห้องประชุมชั้น 7 อาคาร ดร.เกฮาร์ด ลิงค์ เมื่อเร็วๆ นี้
GreenNetwork4.0 November-December
2020
Energy พิชัย ถิ่นสันติสุข
หยุด! เกมซื้อขายเวลา
โรงไฟฟาพลังงานขยะชุมชน
400 MW
การจัดการขยะของประเทศกําลังพัฒนา สิ่ ง ที่ ไ ม แ ตกต า งกั น มากนั ก ก็ คื อ ป ญ หาด า น ผลประโยชน ต ลอด Supply Chain ตั้ ง แต หน ว ยงานจั ด เก็ บ ขยะจนถึ ง ใบอนุ ญ าต PPA (Power Purchase Agreement) เรามาลอง สรางสรรคแผนธุรกิจ (Business Model) รองรับ Supply Chain ที่อยูในเสนทางวิกฤตนี้ดู… และ เพื่อกระชับเวลาการกอสรางโรงไฟฟาพลังงาน ขยะหลังได PPA ใหจายไฟฟาตามเวลาที่ลงนาม ในสัญญา ขอเสนอวิธีการหยุดเกมซื้อขายเวลา มาประกอบการพิจารณาดังนี้…
25
ขอเริ่มดวยตํานานการจัดการขยะในประเทศไทยโดยยอราว 20 ปมาแลว ความรับผิดชอบของการจัดการขยะชุมชน มีกระทรวงมหาดไทยและกรมควบคุม มลพิษ ผลัดกันรับผิดชอบ ขึ้นอยูกับวาชวงเวลานั้นปลัดกระทรวงไหน Active กวากัน การขอ PPA (Power Purchase Agreement) กอนตัง้ กกพ. (คณะกรรมการกํากับกิจการ พลังงาน) ก็มีคณะกรรมการ RE: Renewable Energy ซึ่งมีปลัดกระทรวงพลังงาน เปนประธาน มีการประชุมเกือบทุกเดือน โครงการทีผ่ า นคณะกรรมการชุดนีจ้ ะได PPA ทันที ในชวงนั้น PPA ยังไมมีราคามากนัก เนื่องจากใชเวลาไมมากในการขอใบอนุญาต ซึ่งใน คณะกรรมการ RE ก็มีผูทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวของครบไมตางจากคณะกรรมการชุดใหญ ในปจจ�บัน ขั้นตอนและวิธีการไมเกิน 6 เดือนก็จะได PPA สิ่งที่ยากที่สุดสมัยนั้นก็คือ การทํา ประชาคม และการถูก สคร. (สํานักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ) ตีความวาเปน โครงการรวมลงทุนกับรัฐ จึงเสียเวลากันไปชวงหนึง่ ดังนัน้ อปท. (องคกรปกครองสวนทองถิน่ ) จึงเรียกรองใหยกเลิกกฎหมายรวมทุน ทางกระทรวงมหาดไทยจึงมี พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และความเปนระเบียบเรียบรอยของบานเมือง พ.ศ. 2560 ขึน้ เพือ่ ดึงอํานาจจากกรมควบคุม มลพิษและกระทรวงพลังงานมารวมอยู ใน พ.ร.บ. ฉบับนี้ทั้งหมด จนถึงปจจ�บัน องคกร ปกครองสวนทองถิ่นจึงเสมือนหนีเสือปะจระเขในที่สุด
GreenNetwork4.0 November-December
2020
ขั้นตอนการขอ PPA (Power Purchase Agreement) ขยะชุมชนในปจจุบัน
มีการปรับจาก 10 กวาขั้นตอน เหลือ 9 ขั้นตอน (ดังภาพ) แตเนื้อหา ความยุงยากเทาเดิม ใครคิดจะเดินขึ้นบันไดตั้งแตขั้นที่ 1 คงตองหายใจยาว ๆ เนือ่ งจากตองใชเวลาอยางนอย 5 ป กวาจะไดลงนามในสัญญา PPA และใชเวลา สรางโรงไฟฟาอีกกวา 2 ป แตถาทานคอยไมได ก็สามารถซื้อเวลา 5 ป ไดดวย เงินประมาณ 100 ลานบาท สําหรับโรงไฟฟาขยะ ขายไฟ 8-9 เมกะวัตต เฉลี่ย คาเวลาปละ 20 ลานบาท ดวย IRR ประมาณ 12-15% หากทานมีเวลาเดินขึ้น บันได 9 ขั้น จะขอแนะนําดังนี้ … บันไดขั้นที่ 1 อปท. จัดทําขอเสนอการศึกษาและวิเคราะหโครงการ ขั้ น ตอนแรกนี้ เ ป น ขั้ น ตอนที่ จํ า เป น และค อ นข า งยาก เป น เรื่ อ งของ ผลประโยชน หากตกลงกันไดสมประโยชนทกุ ฝาย ก็จะออกมาเปนผลการศึกษา เลมหนา 2 นิ้ว เนื้อหาสําคัญประมาณ 30 หนา บรรยายถึงที่มาและความพรอม อยางนอย 4 ดาน เชน พื้นที่ดําเนินโครงการชุมชนไมตอตาน ปริมาณขยะ เพียงพอตลอดระยะเวลาสัญญา เทคโนโลยีเหมาะสม มีการคัดแยกขยะ ชุมชน เห็นดวย และมีความเปนไปไดในเชิงพาณิชย เอกชนสามารถคืนทุนและมีกําไร คําแนะนําก็คือ… หากใชชื่อมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงเปนผูศึกษาโครงการ ทาน กรรมการอาจซักถามไมมาก ขั้นตอนที่ 2 คณะกรรมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัด พิจารณาขอเสนอโครงการและใหจังหวัดเสนอโครงการ เปนขัน้ ตอนทีท่ างทองถิน่ ตองจับมือกับภาคเอกชน ที่สนใจลงทุน ประสานกับทางจังหวัด หากลงตัว ทุกดาน เรื่องก็จะผานจากระดับจังหวัดไป กระทรวงมหาดไทย นับเปนขั้นตอนที่ สําคัญอีกขั้นตอนหนึ่งทีเดียว
26
ขัน้ ตอนที่ 3 กรมสงเสริมการปกครองทองถิน่ วิเคราะหขอ เสนอ โครงการฯ ขัน้ ตอนที่ 4 คณะกรรมการกลัน่ กรองโครงการกําจัดมูลฝอย ของ อปท.ฯ ใหความเห็น ขั้นตอนที่ 5 คณะกรรมการกลางการจัดการสิ่งปฏิกูลและ มูลฝอยพิจารณาใหความเห็น 3 ขั้นตอนนี้ควรรวมเปนขั้นตอนเดียว เนื่องจากปญหาตาง ๆ มีการกําหนดวิธีแกไขไวใน COP ขยะแลวเปนสวนใหญ และให ประกาศกําหนดระยะเวลาการพิจารณาตาม พ.ร.บ.อํานวยความ สะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ซึ่งจะ ลดเวลาลงไดกวา 1 ป ขั้นตอนที่ 6 รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยใหความ เห็นชอบ เปนขัน้ ตอนสําคัญทีส่ ดุ ก็วา ได ทางผูเ สนอโครงการตองมีการ ประสานกับทุก ๆ ฝาย เพื่อกระชับเวลาลง ขั้นตอนที่ 7 องคกรปกครองสวนทองถิ่นเจาของโครงการ คัดเลือกเอกชน พรอมเสนอรางสัญญาใหอัยการสูงสุดตรวจสอบ ขอควรรูสําหรับขั้นตอนนี้: 1. การคัดเลือกเอกชนควรใชวธิ เี จาะจงตามประกาศกระทรวง มหาดไทย 2. เคยมีการประสานกับทางอัยการสูงสุดใหมีแบบฟอรม มาตรฐาน 2-3 แบบ เพือ่ เลือกใชไดโดยไมตอ งตรวจใหมทกุ โครงการ และไดคาํ ตอบอยางไมเปนทางการวา “ทานอัยการแตละทานมีความ คิดเห็นแตกตางกัน” สวนอัยการจังหวัดมีความเห็นตามอัยการสูงสุด ขั้นตอนที่ 8 อปท. ลงนามสัญญาวาจางเอกชน ขัน้ ตอนนีด้ เู หมือนจะจบ รอทําสัญญากับการไฟฟาทีเ่ กีย่ วของ ลองอานขั้นตอนที่ 9 ดูกอน
GreenNetwork4.0 November-December
2020
ขั้นตอนที่ 9 ดําเนินการตามระเบียบ กกพ. มีขอเสนอและคําแนะนํา ดังตอไปนี้ 1. กพช. (คณะกรรมการพลังงานแหงชาติ) ควรใหอาํ นาจ กกพ. ในการรับซื้อไฟฟาจากพลังงานขยะไดโดยตรง และ กกพ. ควรมีการ ประชุมรับซื้อไฟฟาอยางสม่ําเสมอ และรับซื้อไฟฟาตามความพรอม “First Come, First Serve” 2. COP (Code of Practice) เปนเรือ่ งจําเปนทีภ่ าคเอกชนตอง เสียทั้งเวลาและคาใชจาย แตก็คุมคาการลงทุน ถาจะถามวา Key Success ของโรงไฟฟาขยะชุมชนอยูต รงไหน ตอบไดเลยวาอยูที่แผนธุรกิจ ถา IRR ลงตัวก็หมายถึงสมประโยชน ทุกฝาย ไมควรไปโทษ อปท. ผูร บั ผิดชอบขยะวาเปนตนเหตุของปญหา แตเพียงฝายเดียว PPA ขยะชุมชนจะใชเวลา 6 เดือน 1 ป 2 ป หรือ 5-6 ป ขึ้นอยูกับกลไกภาครัฐจะใหเปนไป หยุดเกมซือ้ ขายเวลาโรงไฟฟา หมายถึงโรงไฟฟาพลังงานทดแทน ทุกประเภทเชือ้ เพลิง ซึง่ เจาของ PPA สวนใหญไมใชนกั ลงทุน แตเปน ผูพ ฒ ั นาโครงการ (Developer) เมือ่ ไดสญ ั ญาแลว จึงตองวิง่ ขาย PPA ทํากําไร ซึง่ อาจตองใชเวลามาก หากตองการไดราคาทีด่ ี จึงเปนภาระ ตอภาครัฐทีต่ อ งมาพิจารณาเหตุผลการตอสัญญา จึงขอเสนอแนวทาง ใหมดวยการลดระยะเวลาในสัญญาขายไฟลง เชน สัญญา 20 ป จะลดลงเรื่อย ๆ ตามเวลาที่ลาชา ไมวาจะดวยเหตุสุดวิสัยใดก็ตาม ยกเวนเปนนโยบายของรัฐ วิธีนี้จะชวยเรงใหผูขาย PPA ตองรีบขาย กอนราคาจะลดลงเรื่อย ๆ ตามระยะเวลา
การลดจํานวนปของสัญญา PPA ตามปที่ขายไฟฟาลาชา สมมติฐาน ดังนี้ Gross Capacity 9.90 MW Sale to PEA 9.00 MW สัดสวนการลงทุน ชนิดเชื้อเพลิง ไมชิพ + เปลือกไม กูธนาคาร 70% ราคาเชื้อเพลิง 950.00 บาท ทุนเจาของ 30% คาความรอน 2,300 kcal/kg งบประมาณการลงทุน 835,000,000.00 บาท ปที่ 20 19 18 17 16 15 13 11 10
% Project IRR 10.66% 10.49% 10.24% 9.95% 9.60% 9.17% 8.11% 6.24% 4.91%
% Equity IRR 13.59% 13.37% 13.06% 12.67% 12.18% 11.56% 9.90% 6.54% 3.74%
การจัดการขยะสําหรับประเทศไทย ยังตองมีการออกระเบียบหรือ กฎหมายใหเชื้อเพลิงขยะ RDF : Refuse Derived Fuel เปนเชื้อเพลิงเชิง พาณิชย ซื้อขายในตลาดไดเหมือนเชื้อเพลิงอื่น ๆ เชน ไมสับ กาซธรรมชาติ น้ํามัน และถานหิน สวนการนําขยะไปเปนเชื้อเพลิงโรงไฟฟาก็ควรมีการ ปรับปรุงคุณภาพเปน RDF กอน เพื่อรักษาสิ่งแวดลอมตามแนวทางสากล Circular Economy และนโยบายของรัฐบาล สวนการพิจารณาขอใบอนุญาต PPA ควรใชหลักเกณฑการพิจารณาแบบงาย ๆ แตมีประสิทธิภาพของ กกพ. คือ พิจารณาความพรอมอยางนอย 4 ดาน คือ 1. ดานพืน้ ที่ 2. ดานเทคโนโลยี 3. ดานเชื้อเพลิง 4. ดานการลงทุน สวนที่จะเร็วหรือชาจะอยูที่นโยบาย 27
GreenNetwork4.0 November-December
2020
IEEE กองบรรณาธิการ
สัมมนาเชิงวิชาการ “ระบบไฟฟ้าและสื่อสารเคเบิลใต้ดิน
สำ�หรับโครงการพัฒนาในเมืองหลวงและเมืองใหญ่”
สมาคมสถาบันวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็คโทรนิคส์แห่งประเทศไทย (IEEE Thailand Section) และ IEEE Power & Energy Society - Thailand Chapter จัดสัมมนาเชิงวิชาการ “ระบบไฟฟ้าและสือ่ สารเคเบิลใต้ดนิ สำ�หรับ โครงการพัฒนาในเมืองหลวงและเมืองใหญ่: โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี การออกแบบ ติดตั้ง ทดสอบ ปฏิบัติการ และบำ�รุงรักษา” ขึ้น ระหว่างวันที่ 19-21 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 08.30-16.30 น. ณ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจพื้นฐานของระบบไฟฟ้าและสื่อสาร เคเบิลใต้ดิน เทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน แก่ผู้ให้บริการออกแบบ ติดตั้ง ทดสอบ ปฏิบตั กิ าร และบำ�รุงรักษา ตลอดจนวิศวกรและเจ้าหน้าทีท่ ป่ี ฏิบตั งิ าน เกีย่ วข้อง และขัน้ ตอนการบริหารสินทรัพย์ของระบบเคเบิลใต้ดนิ ให้สามารถ ทำ�งานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยได้รับเกียรติจาก สมชาย หอมกลิ่นแก้ว รองผู้ว่าการวิชาการและ บริหารพัสดุ การไฟฟ้านครหลวง ประธานกล่าวเปิดงาน ดร.อัศวิน ราชกรม ผู้ตรวจการ การไฟฟ้านครหลวง และเป็น Session Chairman และวิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และสถาบันอุดมศึกษา
สมชาย หอมกลิ่นแก้ว รองผู้ว่าการวิชาการ และบริหารพัสดุ การไฟฟ้านครหลวง
รังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจสื่อสารไร้สาย บริษัท ทีโอที จำ�กัด (มหาชน)
28
GreenNetwork4.0 November-December
2020
ดร.อัศวิน ราชกรม ผู้ตรวจการ การไฟฟ้านครหลวง
ผศ. ดร.ชาญณรงค์ บาลมงคล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Environment
วิศวฯ จุฬาฯ จับมือ สถานีวิทยุจุฬาฯ
กองบรรณาธิการ
จัดโครงการ Envi Mission ปีที่ 2 “Waste a Moment เปิดประเด็นเรือ่ งขยะ” คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดทำ�โครงการ Envi Mission ภารกิจรักษ์สงิ่ แวดล้อม ปีที่ 2 ภายใต้หวั ข้อ “Waste a Moment เปิดประเด็นเรื่องขยะ” มุ่งสร้างความเข้าใจเรื่อง การจัดการขยะ และส่งเสริมการจัดการขยะแบบครบวงจรและ ยั่งยืนให้กับนักเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ศ. ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัจจุบันขยะเป็น ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลก จึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ของทุกคนเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ประเทศไทยกำ�ลังเผชิญ ปัญหาการจัดการขยะ เช่น ขยะพิษ และขยะพลาสติก แม้ จะมีการจัดการปัญหาไปบ้างแล้ว แต่ยงั คงต้องการการจัดการ อย่างยั่งยืน เพื่อให้แก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว โดยเฉพาะเยาวชนที่เป็นกำ�ลังสำ�คัญในการจัดการปัญหา สิ่ ง แวดล้ อ มในอนาคต ทั้ ง ในระดั บ ครอบครั ว โรงเรี ย น ชุมชน และระดับประเทศ โครงการ Envi Mission ภารกิจ รักษ์สงิ่ แวดล้อม สามารถแก้ปญ ั หาอย่างยัง่ ยืน ด้วยการสร้าง การเรียนรู้นอกห้องเรียนสำ�หรับเยาวชนจากทุกภูมิภาคของ ประเทศ เสริมสร้างความเป็นผูน้ ำ�ให้กบั เยาวชนเพือ่ ทำ�ให้เกิด การแก้ไขปัญหาด้านสิง่ แวดล้อมภายในชุมชน รวบรวมความรู้ ให้เป็นแหล่งอ้างอิงทางวิชาการเพื่อถ่ายทอดความรู้สู่สังคม อีกทัง้ สร้างเครือข่ายการมีสว่ นร่วมอันเป็นหัวใจสำ�คัญของการ แก้ไขปัญหาสิง่ แวดล้อมอย่างยัง่ ยืน ซึง่ สอดคล้องกับวิสยั ทัศน์ ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการ ส่งมอบนวัตกรรมสู่สังคมเพื่อความยั่งยืน
29
อาจารย์สุภาพร โพธิ์แก้ว รักษาการกรรมการผู้อำ�นวยการสถานีวิทยุ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะสื่อมวลชน ตระหนักถึงความสำ�คัญเรื่อง สิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ทั้งด้านการศึกษาและเผยแพร่ความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความตระหนัก ผ่านรายการ Envi Insider ทาง FM 105 MHz โดย คณาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จึงเกิดโครงการ Envi Mission ภารกิจรักษ์ สิง่ แวดล้อม เป็นโครงการทีจ่ ดั ขึน้ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถานีวทิ ยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โครงการนี้ ได้ด�ำ เนินการต่อเนือ่ งมาเป็นปีท่ี 2 โดยมีเป้าหมายเพือ่ ปลูกฝังแนวคิดรักษ์สง่ิ แวดล้อม ให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ส่งเสริมให้นักเรียนนำ�ความรู้และ ประสบการณ์ที่ ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหา สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริงในชุมชนของตนเอง ผ่านการทำ�โครงงาน ทั้งนี้เนื่องจาก ปัญหาขยะมูลฝอยเป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมสำ�คัญของประเทศ ในแต่ละปี ปริมาณขยะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามจำ�นวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ในช่วงปีทผี่ า่ นมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชือ้ COVID-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ประชาชนต้องกักตัวอยู่ในที่พักอาศัย ส่งผลให้ปริมาณ ขยะพลาสติกจากการสั่งสินค้าและอาหารในรูปแบบออนไลน์หรือเดลิเวอรีเพิ่ม มากขึ้นกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นที่มาของหัวข้อโครงการในปีนี้ที่เน้นเรื่องการ จัดการขยะ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจของสถานีวิทยุจุฬาฯ ที่ต้องการสร้างการ เรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับพลเมืองยุคใหม่ ที่ ไม่เพียงมีความรู้อยู่ ในตัวเองเท่านั้น แต่สามารถมองบริบทรอบข้าง มีจิตสำ�นึกที่ดีต่อชุมชน และพร้อมที่จะร่วมพัฒนา ชุมชนให้ยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน ศ. ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล รองคณบดีด้านยุทธศาสตร์นวัตกรรมและความ ยัง่ ยืน คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า รูปแบบการดำ�เนิน โครงการเป็นการจัดกิจกรรมค่ายพักแรม 3 วัน 2 คืน ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายในค่ายนักเรียนจะได้เรียนรูแ้ นวคิดและหลักการการจัดการขยะแบบครบวงจร และยั่งยืน และได้เยี่ยมชมการจัดการขยะแบบครบวงจรจากสถานที่จริง อีกทั้ง เรายังเปิดโอกาสให้นกั เรียนนำ�ความรูแ้ ละประสบการณ์ที่ได้รบั จากค่ายไปต่อยอด ผ่านการทำ�โครงงานการจัดการขยะในชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีสื่อประกอบการเรียนรู้ออนไลน์ ภายใต้ Chula MOOC ตอน ขยะ: ปัญหา สำ�คัญหรือทองคำ�ของสังคม สำ�หรับให้ประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจด้านการ จัดการขยะได้เรียนรู้ด้วยตนเองอีกด้วย
GreenNetwork4.0 November-December
2020
Environment กองบรรณาธิการ
ในฐานะบริษัทที่ร่วมลงนามในปฏิญาณ ‘Business Ambition for 1.5 ํC’ ของ สหประชาชาติ เนสท์เล่นบั เป็นบริษทั แห่งแรก ๆ ทีอ่ อกมาเปิดเผยรายละเอียดและกรอบ เวลา พร้อมดำ�เนินการตามแผนให้เร็วกว่าทีก่ ำ�หนด เนสท์เล่ได้นำ�มาตรการหลายอย่าง มาใช้เพือ่ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงครึง่ หนึง่ ภายในปี พ.ศ. 2573 และลดปริมาณ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเหลือศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2593 พร้อม กับสร้างความเติบโตให้บริษัทฯ ในเวลาเดียวกัน
การดำ�เนินการของเนสท์เล่ มุ่งเน้น ที่การสนับสนุนเกษตรกร และซัพพลายเออร์ให้สามารถทำ� การเกษตรแบบฟืน้ ฟู ตลอดจนปลูก ต้ นไม้ ห ลายร้ อ ยล้ า นต้ น ภายในอี ก 10 ปีขา้ งหน้า และปรับองค์กรไปสูก่ ารใช้ พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนได้ทงั้ 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี พ.ศ. 2568 นอกจากนี้ เนสท์เล่ยงั พยายาม เพิม่ จำ�นวนแบรนด์ในเครือที่ “ปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์” ให้มากขึน้ พอล บุลเก้ ประธานกรรมการของเนสท์เล่ กล่าวว่า คณะกรรรมการ บริษั ทฯ ตระหนักดีว่าการใช้มาตรการที่เฉียบขาดในการรับมือกับการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น เป็นสิ่งสำ�คัญในเชิงกลยุทธ์ เพราะมี ส่วนช่วยทัง้ เร่งและยกระดับการทำ�งานของเราให้พฒ ั นาไปสูค่ วามสำ�เร็จ ระยะยาวได้ และมีบทบาทช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้แก่คนรุ่นหลัง แนวทางตามแผนงานนี้ เกิดจากการทบทวนภาพรวมของธุรกิจ และการดำ�เนินงานของเนสท์เล่เพื่อให้เข้าใจประเด็นความท้าทายนี้ ได้อย่างลึกซึ้ง และตัดสินใจดำ�เนิน มาตรการที่จำ�เป็นเพื่อรับมือกับ 30
สถานการณ์ โดยในปี พ.ศ. 2561 บริษัทฯ มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 92 ล้านตัน ซึง่ บริษัทฯ จะใช้เป็นปีฐานในการประเมินความก้าวหน้าต่อไป “การจัดการกับปัญหาสภาพภูมอิ ากาศเปลีย่ นแปลงเป็นเรือ่ งเร่งด่วน ที่เรารอไม่ได้ เพราะประเด็นนี้เป็นสิ่งสำ�คัญต่อความสำ�เร็จในระยะยาว ของธุรกิจเรา นับว่าเรามีโอกาสทีด่ มี าก ๆ ในการแก้ไขและจัดการปัญหา ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะเราดำ�เนินธุรกิจอยู่ในเกือบ ทุกประเทศทั่วโลก เราจึงมีความพร้อมทั้งด้านขนาด ศักยภาพ และการ เข้าถึง ที่จะทำ�ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ บริษัทจะร่วมมือกับเกษตรกร พันธมิตรในอุตสาหกรรม รัฐบาล องค์กรที่ไม่แสวงผลกำ�ไร และลูกค้า ของเรา เพื่อร่วมกันช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม” มาร์ค ชไนเดอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเนสท์เล่ กล่าว สำ�หรับการดำ�เนินงานของเนสท์เล่ในการทำ�ให้อตั ราการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ครอบคลุม 3 ด้านหลัก ดังนี้ ด้านแรก บริษัท ได้ทำ�งานร่วมกับเกษตรกรมากกว่า 500,000 ราย และซัพพลายเออร์อีก 150,000 ราย โดยสนับสนุนให้พวกเขานำ�แนวทางด้านการเกษตรฟื้นฟู ไปใช้ ซึง่ แนวทางดังกล่าวจะช่วยพัฒนาคุณภาพดิน รวมทัง้ รักษาและฟืน้ ฟู ความหลากหลายในระบบนิเวศ เนสท์เล่ได้ตอบแทนกลับสูเ่ กษตรกร ด้วย
GreenNetwork4.0 November-December
2020
การซือ้ สินค้าของพวกเขาในราคาทีส่ งู กว่าราคาตลาด รวมถึงการซือ้ สินค้า ในปริมาณมากขึ้น และร่วมลงทุนในส่วนที่ต้องอาศัยเงินลงทุน ทั้งนี้ เนสท์เล่ตั้งเป้าว่าจะต้องจัดหาวัตถุดิบต่าง ๆ จากการทำ�การเกษตรแบบ ฟื้นฟูเป็นปริมาณ 14 ล้านตัน ภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งจะไปกระตุ้นความ ต้องการในสินค้าดังกล่าวด้วย เนสท์เล่ยังได้ยกระดับโครงการปลูกป่าทดแทนให้เพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านต้นต่อปี ในช่วงอีก 10 ปีขา้ งหน้า ในบริเวณทีม่ กี ารจัดซือ้ หรือจัดหา วัตถุดบิ ต่าง ๆ เพราะการมีตน้ ไม้มากขึน้ หมายถึงร่มเงาทีเ่ พิม่ ขึน้ สำ�หรับ พืชผลต่าง ๆ ช่วยขจัดคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศได้เพิ่มขึ้น ให้ ผลผลิตทีเ่ พิม่ ขึน้ ตลอดจนเพิม่ ความหลากหลายทางชีวภาพและคุณภาพ
ดินทีด่ ขี นึ้ ด้วย สำ�หรับการจัดหาสินค้าโภคภัณฑ์หลัก ๆ ของบริษัทฯ อย่าง น้�ำ มันปาล์มและถัว่ เหลือง จะไม่มกี ารตัดไม้ทำ�ลายป่าภายในปี พ.ศ. 2565 ความพยายามในการดำ�เนินมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นการเสริมสร้าง ความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างเนสท์เล่กับชุมชนเกษตรกร ด้วยการช่วย ให้ชีวิตพวกเขามีความแน่นอนขึ้น และมีรายได้มากขึ้น ด้านการดำ�เนินงาน เนสท์เล่คาดว่าจะสามารถปรับการดำ�เนินงาน 800 แห่งใน 187 ประเทศ ให้ใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน ทั้ง 100% ได้ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งบริษัทได้เปลี่ยนรถขนส่งทั่วโลก ให้เป็นแบบทีล่ ดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดการเดินทางเพือ่ ธุรกิจ ภายในปี พ.ศ. 2565 นอกจากนี้ ยังนำ�มาตรการอนุรกั ษ์น�ำ้ และฟืน้ ฟูแหล่งน้�ำ มาใช้ รวมทั้งจัดการกับปัญหาขยะอาหารที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน อีกด้วย ด้านพอร์ตผลิตภัณฑ์ เนสท์เล่ได้ดำ�เนินการขยายฐานให้มีอาหาร และเครื่องดื่มที่ทำ�จากพืช (Plant-based) มากขึ้น และได้ปรับสูตร ผลิตภัณฑ์ให้มคี วามเป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อม นอกจากนี้ เนสท์เล่พยายาม เพิ่มแบรนด์ในเครือที่ “ปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์” ให้มีจำ�นวน มากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาการ 31
เปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศด้วย สำ�หรับแบรนด์ อาหารจากพืช Garden Gourmet และอาหารเสริม Garden of Life จะปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ได้ ภายในปี พ.ศ. 2565 ส่วนแบรนด์ Sweet Earth และอีก หลายแบรนด์จะทำ�ได้ส�ำ เร็จภายในปี พ.ศ. 2568 นอกเหนือจาก แบรนด์เหล่านี้แล้ว ยังมีแบรนด์ Nespresso, S.Pellegrino, Perrier และ Acqua Panna ที่มุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิ ให้เป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2565 ส่วนน้�ำ ดืม่ ทีเ่ หลือของ Nestle, Waters จะบรรลุเป้าหมายเดียวกันนี้ได้ภายในปี พ.ศ. 2568 แม็กดิ บาตาโต รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติงาน กล่าวว่า เกือบ 2 ใน 3 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเรามาจาก การเกษตร จะเห็นได้ชดั ว่า การทำ�การเกษตรแบบฟืน้ ฟูและการปลูกป่า ทดแทนจะเป็นจุดเปลี่ยนสำ�คัญที่จะนำ�ไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ความพยายามต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและพัฒนาความหลากหลาย ทางชีวภาพได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งเราจะพยายามลดการปล่อยก๊าซที่ เกิดจากการดำ�เนินงานอย่างต่อเนื่อง และจะพัฒนาพอร์ตผลิตภัณฑ์ ให้ดีขึ้น สิ่งที่เราทำ�นั้นเป็นเรื่องยากแต่ก็มุ่งมั่นจะทำ�ให้สำ�เร็จ
ทั้งนี้ เนสท์เล่เตรียมลงทุนกว่า 3,200 ล้านสวิสฟรังก์ (ประมาณ 109,192 ล้านบาท คำ�นวณจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2563) ในอีก 5 ปีข้างหน้าเพื่อเร่งการดำ�เนินงานของบริษั ทฯ ซึ่งใน จำ�นวนนี้จะเป็นการลงทุน 1,200 ล้านสวิสฟรังก์ (ประมาณ 40,947 ล้านบาท) เพือ่ เร่งการทำ�การเกษตรแบบฟืน้ ฟูตลอดระบบซัพพลายเชน ของบริษั ท แหล่งเงิน ทุนของการลงทุนครั้งนี้จะมาจากการบริหาร ค่าใช้จ่ายของการดำ�เนินงานทางธุรกิจและค่าใช้จ่ายทางโครงสร้าง ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อทำ�ให้ไม่เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำ�หรับ การลงทุนครั้งนี้ สำ�หรั บ เป้ า หมายในการลดการปล่ อ ยก๊ า ซเรื อ นกระจกของ เนสท์เล่ได้รบั การอนุมตั จิ าก Science Based Targets initiative (SBTi) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายที่ต้องทำ�ให้สำ�เร็จตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) โดย SBTi เป็นความร่วมมือขององค์กรไม่แสวงผลกำ�ไร ซึ่งถือเป็นมาตรฐานสูงสุดระหว่างประเทศในการประเมินความมุ่งมั่น ของภาคธุรกิจต่อเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สุทธิจนเหลือศูนย์ ซึ่งเนสท์เล่จะจัดทำ�รายงานความคืบหน้าในแต่ละปี เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำ�เนินงานต่อไป
GreenNetwork4.0 November-December
2020
CSR ณัฐชยา แกนจันทร
บานปฯู เปดคายเยาวชนวทิยาศาสตรสิ่งแวดลอม เพาเวอรกรนี ครั้งพเิศษที่อทุยานแกงกระจาน
ปลูกจิตสำนึกใหแกเยาวชน-สรางแกนนำและเครือขาย เยาวชนดานสิ่งแวดลอมในอนาคต
บริษัท บานปู จํากัด (มหาชน) ผูนําดานพลังงาน ที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ที่มุงมั่นพัฒนาสังคม อยางยั่งยืน จับมือคณะสิ่งแวดลอมและทรัพยากรศาสตร มหาวิทยาลัยมหิดล เดินหนาสานตอการสรางสรรคคาย เยาวชนวิทยาศาสตรสง่ิ แวดลอม เพาเวอรกรีน ในรูปแบบ พิเศษขึน้ ภายใตทมี Jungle Rumble เสียงกองจากปาลึก โดยจัดการแขงขันตอบคําถามในชองทางออนไลนเปน ครั้งแรก สอดรับกับสถานการณการแพรระบาดของ COVID-19 เพื่อคัดเลือกเยาวชน 15 คนไปรวมกิจกรรม เมื่ อ วั น ที่ 7-9 ธั น วาคม 2563 ณ อุ ท ยานแห ง ชาติ แกงกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ซึง่ จะชวยเสริมสราง ความรูค วามเข า ใจทางด า นวิ ท ยาศาสตร สิ่งแวดลอม และทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อ ปลูกฝงจิตสํานึกในการอนุรกั ษสงิ่ แวดลอม อย า งยั่ ง ยื น ให แ ก เ ยาวชน พร อ มทั้ ง สรางแกนนําและเครือขายเยาวชนดาน สิ่งแวดลอมในอนาคต
32
อุดมลักษณ โอฬาร ผูอ าํ นวยการสายอาวุโส สือ่ สารองคกร บริษทั บานปู จํากัด (มหาชน) กลาววา แมวา สถานการณการแพร ระบาดของ COVID-19 ในป พ.ศ. 2563 จะทําใหบริษัทฯ ไมสามารถ ดําเนินการจัดคายในรูปแบบปกติได แตบานปูฯ และคณะสิ่งแวดลอม มหาวิทยาลัยมหิดล ยังคงใหความสําคัญตอหลักปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน หรือ ESG Principles โดยเฉพาะสิ่งแวดลอมที่เราเห็นความ จําเปนในการเสริมสรางความรูความเขาใจดานวิทยาศาสตร สิ่งแวดลอมและทรัพยากรธรรมชาติเปนอยางมาก “เราได ป รั บ วิ ธี ก ารสมั ค รและการคั ด เลื อ กผ า นช อ งทาง ออนไลนเปนครั้งแรก เพื่อคัดเลือกเยาวชนจํานวน 5 ทีม เขารวม กิจกรรมเดินปา Jungle Rumble เพื่อเปนการปลูกจิตสํานึกในการ อนุรกั ษใหแกเยาวชน ซึง่ จะเติบโตไปเปนกําลังสําคัญในการจัดการ ปญหาสิ่งแวดลอมของประเทศในอนาคต” ทั้งนี้ บานปูฯ หวังเปนอยางยิ่งวาเยาวชนที่ ได เขารวมคายเพาเวอรกรีนในครั้งนี้จะนําความรูที่ ได จากคายฯ ไปปรับใชในชีวิตประจําวัน และชวนคน รอบตัวหันมาใหความสําคัญในการใชชีวิตอยูกับ ธรรมชาติอยางมีความสมดุล เพื่อรักษาสภาพ แวดลอมใหคงอยูตอไปอีกยาวนาน
GreenNetwork4.0 November-December
2020
อุดมลักษณ โอฬาร ผูอํานวยการ สายอาวุโส สื่อสารองคกร บริษัท บานปู จํากัด (มหาชน) ดร.พูนเพิ่ม วรรธนะพินทุ ผูชวยคณบดีฝายบริการวิชาการและวิทยบริการ คณะสิ่งแวดลอมและทรัพยากรศาสตร มหาวิทยาลัยมหิดล กลาววา ทุกกิจกรรม ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสรางการเรียนรูของเยาวชนในเรื่องสิ่งแวดลอมและการ อนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ โดยกิจกรรมการแขงขันตอบคําถามผานชองทางออนไลน เปนการวัดพื้นฐานความรูความเขาใจเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ และความสนใจดาน สิ่งแวดลอม ในขณะที่กิจกรรมเดินปา ณ อุทยานแหงชาติแกงกระจาน เปนกิจกรรม ที่เปดโอกาสใหเยาวชนไดประสบการณเรียนรูนอกเหนือหองเรียน จากแหลงเรียนรู ทางธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณมากที่สุดแหงหนึ่ง ในประเทศไทย “เชื่อวากิจกรรมนี้จะเปนแรงบันดาลใจใหเยาวชนรูสึกหวงแหนผืนปามากขึ้น และนําความรูมาประยุกตใชในการแกไขปญหาสิ่งแวดลอมอยางมีระบบ พรอมสงตอ แนวคิดในการอนุรักษปาไปยังกลุมคนอื่น ๆ หรือบุคคลใกลตัว” ดร.พูนเพิ่ม กลาว กิจกรรมการเรียนรูในอุทยานแหงชาติแกงกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ในครั้งนี้ จะสรางการเรียนรูและปลูกจิตสํานึกในการรักสิ่งแวดลอม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม จิตอาสา CSR พิทกั ษอทุ ยานแหงชาติ ใหเยาวชนรวมกันทําโปงเทียม เพือ่ สรางแหลง อาหารที่จําเปนสําหรับสัตวปา เชน ชาง กระทิง วัวแดง เกง กวาง รวมทั้งนกและ แมลงนานาชนิด พรอมทัง้ การศึกษาธรรมชาตินจี้ ะเปนกิจกรรมทีท่ าํ ใหเยาวชนมีความ กลาคิด กลาลงมือทํา และเปนการชวนคนรอบตัวใหหนั มาใหความสําคัญกับการใชชวี ติ อยูกับธรรมชาติอยางมีความสมดุล และสรางความยั่งยืนใหกับโลกของเรา
33
ดร.พูนเพิ่ม วรรธนะพินทุ ผูชวยคณบดี ฝายบริการวิชาการและวิทยบริการ คณะสิ่งแวดลอมและทรัพยากรศาสตร มหาวิทยาลัยมหิดล
GreenNetwork4.0 November-December
2020
CSR กองบรรณาธิการ
มูลนิธิกลุมอีซูซุ มอบทุนกวา 4 ลานบาทใหแกเยาวชน ปนโอกาสทางการศึกษาสูสังคมที่ยั่งยืน
มูลนิธิกลุ่มอีซูซุในประเทศไทย จัดพิธีมอบทุน การศึกษาพิเศษ ประเภทผลการเรียนยอดเยี่ยม ประจำ�ปี 2563 ให้แก่นสิ ติ และนักศึกษาจาก 5 สถาบัน การศึกษาในประเทศไทยจำ�นวน 34 ทุน มูลค่ารวม 1,000,000 บาท และยังได้ส่งมอบทุนเรียนดีแต่ ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้แก่สถาบันการศึกษาต่าง ๆ จำ�นวน 525 ทุน รวมทั้งสิ้น 559 ทุน มูลค่าทุนการ ศึกษารวมกว่า 4,040,000 บาท เดินหน้าสนับสนุน การมอบโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำ�กัด กล่าวว่า เนื่องจาก วิกฤตการณ์ COVID-19 ได้สง่ ผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อธุรกิจเกือบทุกภาคส่วน รวมถึงธุรกิจในกลุ่มอีซูซุ ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อีซซู ยุ งั คงเดินหน้าสนับสนุน การศึกษาไทยให้เคลือ่ นต่อไปอย่างไม่หยุดนิง่ ด้วยเรา ยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์องค์กร คือ “วิถีอีซูซุ : ผู้ใช้ สุขใจ เพิม่ พูนรายได้ ช่วยให้สงั คมพัฒนา” เสมอ ไม่วา่ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะยากลำ�บากเพียงใดก็ตาม เราจึงหวังเป็นอย่างยิง่ ว่า นักเรียน นิสติ และนักศึกษา ทุ ก คนที่ ไ ด้ รั บ ทุ น การศึ ก ษาจากมู ล นิ ธิ ก ลุ่ ม อี ซู ซุ จะบรรลุเป้าหมายทางการศึกษาได้สำ�เร็จตามความ มุ่งหมาย เพื่อที่จะได้เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำ�คัญสู่ อนาคตที่สดใสของประเทศไทยต่อไป ศุภพล ระหารนอก นักศึกษาจากคณะวิศกรรมศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย เทคโนโลยี พ ระจอมเกล้ า พระนครเหนือ (มจพ.) หนึง่ ในผูท้ ี่ได้รบั ทุนการศึกษา กล่าวว่า รูส้ กึ ปลาบปลืม้ ใจทีม่ ลู นิธกิ ลุม่ อีซซู ไุ ด้มอบทุน
ศุภพล ระหารนอก
อาทิตญา ศรีศุกรี 34
เรียนดี ให้กับพวกเราซึ่งเป็นของขวัญที่สร้างกำ�ลังใจ ในการศึ ก ษาต่ อในอนาคตได้ อ ย่ า งดี เ ยี่ ย ม คณะ วิศวกรรมศาสตร์เป็นคณะที่เรียนยากและกิจกรรม ค่อนข้างเยอะ ผมจึงต้องมีวิธีจัดสรรเวลาโดยการพก สมุดปฏิทนิ เพือ่ แบ่งเวลาสำ�หรับการเรียนและกิจกรรม ให้ลงตัวสอดคล้องกัน เพื่อให้มีเวลาทบทวนบทเรียน ได้อย่างเต็มที่และผลการเรียนออกมาดี อาทิตญา ศรีศกุ รี นักศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การได้รับทุน ของมูลนิธกิ ลุม่ อีซซู ถุ อื เป็นเกียรติกบั ตัวเอง ครอบครัว รวมถึ ง คณะและมหาวิ ท ยาลั ย ที่ เ ล็ ง เห็ น ถึ ง ความ ตัง้ ใจเรียนของเรา หลักการสำ�คัญของการได้เกรดเฉลีย่ ทีด่ ี คือ การตัง้ ใจเรียน หากไม่เข้าใจในบทเรียนให้ถาม อาจารย์ในห้องเรียนเลย อย่าให้ค้างคาใจ และควรจะ แบ่งเวลาไปทำ�กิจกรรมเพื่อเพิ่มทักษะในด้านต่าง ๆ ของตัวเองอีกด้วย “ฝากถึงน้อง ๆ ทีอ่ ยากได้รบั โอกาสดี ๆ แบบนี้ ขอให้ตง้ั ใจเรียน สนุกกับกิจกรรมทีท่ �ำ ใช้ชวี ติ ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยให้สนุก” อาทิตญา กล่าว นอกจากนี้ มูลนิธิกลุ่มอีซูซุ ยังได้ส่ง มอบทุน การศึกษาให้แก่เยาวชนที่มีผลการเรียนดี มีความ ประพฤติ ดี แต่ ข าดแคลนทุ น ทรั พ ย์ ในระดั บ ชั้ น มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา จากทั่ว ประเทศ จำ�นวน 525 คน รวมมูลค่าทุนการศึกษากว่า 3,040,000 บาท เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนคนดี ได้รับ โอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน
GreenNetwork4.0 November-December
2020