การบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชนบ้านชากแง้ว

Page 1


พิมพ์ครั้งที่ 1 : ตุลาคม 2561 ที่ปรึ กษา : พั นเอก ดร. นาฬิกอติภัค แสงสนิท, นายทวีพงษ์ วิ ชัยดิษฐ, ดร. ชูวิ ทย์ มิตรชอบ นายพลากร บุปผาธนากร, นายธิติ จั นทร์แต่งผล นักวิ จั ย : รศ. ดร. เทิดชาย ช่วยบ�ำรุง, อ. ขวัญฤทั ย ครองยุติ ตรวจสอบข้อมูล : ณวรรณ ทินราช, กฤษณ์ ภูมิสุวรรณ, ปรารณา เทพศรีหา ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้ว ประสานงาน : ณวรรณ ทินราช องค์การบริหารการพั ฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) 118/1 อาคารทิปโก้ ชั้น 31 ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร 0 2357 3580-7 ต่อ 212 แฟกซ์ 0 2357 3599 เว็บไซต์ http://www.dasta.or.th ผลิตโดย บริษัท แมงโก้ ดี ไซน์ จ�ำกัด เลขที่ 41 ซอย อยูเ่ ย็น 3 ถนน อยูเ่ ย็น แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230 โทร 081-812-1323 อีเมล mangodesign.mail@gmail.com


สารบัญ เรื่อง ค�ำชี้ แจง แบบทดสอบก่อนเรียน บทน�ำ องค์การบริหารการพั ฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. หลักเกณฑ์ดา้ นการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืนส�ำหรับแหล่งท่องเที่ยว (GSTC-D) การบริหารจั ดการการท่องเที่ยวโดยชุ มชนเชิงวัฒนธรรมโดยกระบวนการมี ส่วนร่วมของชุ มชนบ้านชากแง้ว อ�ำเภอบางละมุง จั งหวัดชลบุรี การพั ฒ นาการท่ องเที่ ย วโดยชุ ม ชนอย่ างยั่ ง ยื น ตามหลั ก เกณฑ์ GSTC ของชุ มชนบ้านชากแง้ว โดย อพท. กระบวนการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชนของชุ มชนบ้านชากแง้ว ระยะที่ 1 กระบวนการรับรองแหล่งท่องเที่ยวโดยชุ มชน ระยะที่ 2 ผลการด�ำเนินงานการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุ มชน แบบทดสอบหลังเรียน ขอบคุณข้อมูล

ค�ำชีแ้ จง หน้า 1 3 6 7 9 20 23 27

38 42

เอกสารกรณีศึกษาฉบับนีจ้ ั ดท�ำเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้จากการปฏิบัติงานขององค์การบริ หาร การพั ฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ในการพั ฒนาการ ท่องเที่ยวสูค่ วามยัง่ ยืนและสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืน (The Global Sustainable Tourism Criteria : GSTC) โดยเน้นการให้ความส�ำคัญกับการพั ฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และการพั ฒนาการท่องเที่ ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่ พิเศษตามแนวทางหลักเกณฑ์ GSTC โดยเน้น กระบวนการมีสว่ นร่วมของชุมชน ซึง่ สถาบันการศึกษาที่เปิดสอนในระดับอุดมศึกษาทางด้านการจัดการ การท่องเที่ยวสามารถใช้เอกสารกรณีศึกษานีป้ ระกอบการจั ดกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิ ชาที่ เกี่ยวข้องกับการพั ฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนได้ซึ่งจะเป็นผลให้นสิ ิต นักศึกษา ได้เรียนรู้และเข้าใจ สภาพการด�ำเนินงานด้านการพั ฒนาการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปัจจุบัน นอกจากนีก้ ารจั ดการ เรี ย นการสอนโดยใช้ ก รณี ศึ ก ษาเป็ น สื่ อ การเรี ย นรู ้ (Case Method Learning) ยั ง สามารถ ส่งเสริมให้เกิดการเชื่ อมโยงองค์ความรู้ระหว่างภาคทฤษฎีกับการปฏิบัติได้มากยิ่งขึ้น องค์ประกอบส�ำคัญภายในเอกสารกรณีศึกษาประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนเรียน สาระส�ำคัญที่ มีเนือ้ หาสอดคล้องกับสภาพบริบทท้องถิ่นและการประยุกต์ ใช้หลักเกณฑ์ดา้ นการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืน ส�ำหรับ แหล่งท่องเที่ยว (Global Sustainable Tourism Criteria for Destinations: GSTC-D) ในการพั ฒนาการท่องเที่ ยวในพื้นที่ พิเศษ และค�ำถามท้ายบท ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวเหมาะแก่การ จั ดกิจกรรมการสอนในรูปแบบการใช้กรณีศึกษาเป็นสื่อการเรียนรู้ (Case Method Learning) หรือ รูปแบบการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based learning) เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ผ ่าน กระบวนการวิ เคราะห์ สังเคราะห์ ประกอบการตัดสินใจหาค�ำตอบเพื่อแก้ปัญหาให้กับกรณีศึกษา อย่างมีเหตุมีผล เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการอภิปรายและแสดงความคิดเห็นบนพื้นฐาน องค์ความรู้ หลักการ แนวคิด และทฤษฎี ได้อย่างถูกต้อง ทั้ งนี้เพื่อให้การใช้เอกสารกรณีศึกษา เกิดผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ ผู้สอนควรจั ดกิจกรรมการสอนโดยเริ่ มจากการทดสอบความรู้ก่อนเรียน เพือ่ ประมวลความรูพ้ นื้ ฐานของผูเ้ รียน และน�ำเข้าสูส่ าระส�ำคัญผ่านการอภิปรายกลุม่ ตามประเด็นต่างๆ เชื่ อมโยงกับการหาค�ำตอบค�ำถามท้ายบทเพือ่ ฝึกการวิเคราะห์และทดสอบความรูค้ วามเข้าใจในบทเรียน และสรุปสาระส�ำคัญเพื่อน�ำไปสู่การประยุกต์ ใช้องค์ความรู้ ในอนาคตต่อไป

1


วัตถุประสงค์การเรียนรู้ 1 2 3

แบบทดสอบก่อนเรียน

เพือ่ ให้มคี วามรูค้ วามเข้าใจในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืนตามหลักเกณฑ์ดา้ นการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืนส�ำหรั บ แหล่งท่องเที่ ยว (Global Sustainable Tourism Criteria for Destinations: GSTC-D) ของสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Council) เพือ่ ให้เรียนรูก้ ระบวนการบริหารจัดการขององค์การบริหารการพัฒนาพืน้ ทีพ่ เิ ศษเพือ่ การท่องเทีย่ ว อย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ในการสนับสนุนการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชน ของชุมชนบ้านชากแง้วโดยกระบวนการมีสว่ นร่วมของชุมชน และการแก้ไขปัญหาการพั ฒนาการ ท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน เพื่อให้นักศึกษาสามารถประยุกต์ ใช้หลักเกณฑ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะเกณฑ์ ส�ำหรับแหล่งท่องเที่ยว (Global Sustainable Tourism Criteria for Destinations : GSTC-D) ในการขับ เคลื่อนการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชนอย่างยั่งยืน

1. เหตุ ใด อพท. จึงได้น�ำหลักเกณฑ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนส�ำหรับ แหล่งท่องเที่ยว (Global Sustainable Tourism Criteria for Destinations: GSTC-D) มาใช้ ในการพั ฒนาการท่องเที่ยวใน ประเทศไทย ก. เพื่อสร้างระบบข้อมูลพื้นฐานส�ำหรับการส่งเสริมกระบวนการพั ฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความ ยั่งยืนในระดับท้องถิ่น ข. ก�ำหนดแนวทางในการแก้ ไขปัญหาความยากจน ความเท่าเทียมทางเพศสภาพ ความยั่งยืน ทางวัฒนธรรมและการเปลี่ยนแปลงของค่านิยมทางสังคมได้ ค. ใช้เป็นแนวทางในการพั ฒนาการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืนในระดับท้องถิ่นและพั ฒนา บุคลากรด้านการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ ง. ก�ำหนดมาตรฐานการรับรองความเป็นเลิศทางด้านวัฒนธรรม ภูมิศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวสู่สากล

ระยะเวลาในการเรียน

2. ข้อใดเป็นหลักการส�ำคัญในการพั ฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ก. การค�ำนึงถึงขีดความสามารถในการรองรับของพืน้ ที่ทั้งระบบนิเวศ สังคม เศรษฐกิจ และ วัฒนธรรม ท้องถิ่น ข. เน้นการบูรณาการอย่างมีสว่ นร่วมของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผูป้ ระกอบการธุรกิจจากภายนอก ชุ มชนเป็นกลไกในการขับ เคลื่อนการท่องเที่ยว ค. ให้ความส�ำคัญกับการเสริมสร้างรายได้ ให้แก่คนในท้องถิ่น ให้มีคุณภาพชี วิ ตที่ดี ขึ้น เกิดการจ้างงานเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้แก่ชุ มชน ง. การปลูกจิ ตส�ำนึกให้แก่นักท่องเที่ยวให้ยอมรับในความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม สังคม และเกิดจิ ตส�ำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

3 ชั่วโมง

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

ด้านความรู้ ผูเ้ รียนมีความรูแ้ ละเข้าใจในแนวคิดการพั ฒนาการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืน การพั ฒนา การท่องเที่ยวโดยชุมชน หลักเกณฑ์ดา้ นการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืนส�ำหรับแหล่งท่องเที่ยว (Global Sustainable Tourism Criteria for Destinations: GSTC-D) และบทบาทหน้าที่ของ อพท. ในการประสาน ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพั ฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการ สนับสนุนการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ด้านความสัมพั นธ์ระหว่างบุคคล ผูเ้ รียนได้มโี อกาสในการประสานและท�ำงานร่วมกับผูอ้ ื่น ผ่าน กิจกรรมการเรียนรูก้ ลุม่ เพือ่ มุง่ สูค่ วามส�ำเร็จของการท�ำงานเป็นหมูค่ ณะ ส่งเสริมสัมพั นธภาพที่ดี กับผูอ้ ื่นและสนับสนุนให้มผี ลการท�ำงานการขับ เคลือ่ นการท�ำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านคุณธรรมจริยธรรม ผูเ้ รียนเป็นผูม้ คี วามรับผิดชอบในงานที่ ได้รบั มอบหมาย สามารถวางแผน การด�ำเนินงานเพือ่ ให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านกระบวนการการมีสว่ นร่วมของ สมาชิกในทีม เรียนรูถ้ งึ ความทุม่ เท ความเสียสละต่อการท�ำงานในการสนับสนุนให้ตนเองและ ผูอ้ ื่นท�ำงานได้ประสบความส�ำเร็จบนพืน้ ฐานของหลักคุณธรรมและจริยธรรม ด้านปัญญา ผูเ้ รียนได้มโี อกาสเรียนรูข้ อ้ มูลเชิงประจักษ์ที่จะสามารถเสริมสร้างมุมมองในการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ และสะท้อนปัญหาเกีย่ วกับการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความ ยัง่ ยืนผ่านการพัฒนาการท่องเทีย่ วโดยชุมชน และสามารถประยุกต์ใช้แนวคิดการพัฒนาการท่องเทีย่ ว สูค่ วามยัง่ ยืนตามหลักเกณฑ์ดา้ นการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืนส�ำหรับแหล่งท่องเที่ยว (GSTC-D) 2

3. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ด้านการท่องเที่ ยวอย่างยั่งยืนส�ำหรับ แหล่งท่องเที่ ยว (Global Sustainable Tourism Criteria for Destinations: GSTC-D) ที่ครอบคลุม 4 มิติ ก. การบริหารจั ดการด้านความยั่งยืนที่มีประสิทธิภาพ (Demonstrate effective sustainable management) ข. การเพิ่มผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบทางเศรษฐกิจและประสบการณ์การท่องเที่ยว (Maximize economic and experience benefits to visitors) ค. การเพิ่มผลประโยชน์และลดผลกระทบด้านลบทางสิ่งแวดล้อม (Maximize benefits to the environment and minimize negative impacts) ง. การเพิ่มผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบทางสังคม-เศรษฐกิจแก่ชุมชนท้องถิ่น (Maximize economic benefits to the host community and minimize negative impacts) 3


์มาตรฐานการบริหารจั ดการ 4. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับ เกณฑ ท. ได้มีการประยุกต์มาจาก แหล่งท่องเที่ยวโดยชุ มชนที่ อพ เกณฑ์ GSTC ี่ยวโดยชุ มชน ก. การบริหารจั ดการการท่องเท และคุณภาพชี วิ ต ข. การจั ดการเศรษฐกิจ สังคม ีคุณภาพแก่นักท่องเที่ยว ค. การสร้างประสบการณ์ที่ม ดกทางวัฒนธรรม ง. การอนุรักษ์และส่งเสริมมร

5. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความคาดหวังในการน�ำหลักเกณฑ์ GSTC ไปใช้กับองค์กรหรือ หน่วยงานที่รับผิ ดชอบด้านการบริหารจั ดการการท่องเที่ยวในประเทศไทย ก. ช่วยให้สร้างความเข้มแข็งให้กับชุ มชนท้องถิ่นในการพั ฒนาการท่องเที่ยวของชุ มชน ข. ช่วยให้สื่อมวลชนให้ข้อมูลและสื่อสารต่อสาธารณชนเรื่องแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนได้ ค. ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หรือ NGOs มีแนวทางในการพั ฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ง. สามารถใช้เป็นแนวทางขั้นพื้นฐานส�ำหรับ แหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการมุ่งสู่ความยั่งยืน

6. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกีย่ วกับการบริหารจัดการด้านความยัง่ ยืนที่มปี ระสิทธิภาพ การท่องเที่ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้ว ก. มีการจั ดท�ำข้อตกลงในการเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการพั ฒนาการท่อง เที่ยวโดยชุ มชนอย่างเป็นรูปธรรม ข. มีการประชุ มเพื่อการวางแผนการด�ำเนินงานของตลาดและแก้ ไขปัญหาร่วม กันระหว่างชมรมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ค. มีการวางระบบการประเมินผล และติดตามผลการบริหารจั ดการการท่อง เที่ยวโดยชุ มชนที่มีประสิทธิภาพ ง. จั ด ท� ำ ประกาศและแนวปฏิ บั ติ เ กี่ ย วกั บ การใช้ ท รั พ ยากรธรรมชาติ แ ละ สิ่งแวดล้อมแก่คนในท้องถิ่น 4

7. ชุมชนบ้านชากแง้วมีการด�ำเนินการในด้านบริหารจัดการเพือ่ แก้ไขปัญหาการเพิม่ ผลประโยชน์ และลดผลกระทบเชิงลบทางสังคม-เศรษฐกิจแก่ชุมชนท้องถิ่น ยกเว้นข้อใด ก. มีข้อตกลงและก�ำหนดแนวปฏิบัติร่วมกันระหว่างชมรมและกลุ่มผู้ประกอบการ ข. จั ดท�ำระบบการวัดผลและติดตามผลการใช้จา่ ยของนักท่องเที่ยว การจ้างงาน และการกระจายรายได้ ค. จั ดประชุ มเพื่อรับฟังความคิดเห็น รายงานผลการด�ำเนินงาน และวางแผนการด�ำเนินงาน เดือนละ 1 ครั้ง ง. เปิดโอกาสให้ทุกคนในชุ มชมชนมีส่วนร่วมในการบริหารและพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชน 8. ข้อใดไม่ใช่การบริหารจั ดการด้านความยั่งยืนที่มีประสิทธิภาพของชุ มชน บ้านชากแง้ว ก. แผนยุทธศาสตร์การพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของชุมชนบ้านชากแง้ว ข. ติดตาม ประเมินผลการด�ำเนินงานของชุมชนโดยคณะท�ำงานรับรองแหล่ง ท่องเที่ยวโดยชุ มชน ค. ออกแบบสิ่งอ�ำนวยความสะดวกโดยค�ำนึงถึงผู้พิการและผู้ที่ต้องการได้ รับความช่วยเหลือพิเศษ ง. ประเมินความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวเพื่อปรับปรุงคุณภาพการบริการ 9. ชุ มชนบ้านชากแง้วควรด�ำเนินการข้อใดเพือ่ พั ฒนาผลการด�ำเนินงานในด้านการ เพิ่มผลประโยชน์และลดผลกระทบด้านลบทางสิ่งแวดล้อม ก. วางแนวทางในการอนุรักษ์พลังงานและการใช้น�้ำอย่างประหยัด ข. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุ มชนในการอนุรักษ์วิ ถีชี วิ ตและวัฒนธรรมให้คงอยู่ ค. จั ดท�ำแผนการจั ดการความเสี่ยงเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ง. เสริมสร้างภาคีเครือข่ายการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชนให้มีความเข้มแข็ง และยั่งยืน 10. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการด�ำเนินงานด้านการเพิ่มผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบ ทางวัฒนธรรมแก่ชุ มชนและนักท่องเที่ยวของชุ มชนบ้านชากแง้ว ก. จั ดท�ำข้อปฏิบัติของนักท่องเที่ยวและแนวปฏิบัติร่วมกันระหว่างชมรมและกลุ่มผู้ประกอบการ ข. ออกประกาศข้อควรปฏิบัติส�ำหรับนักท่องเที่ยว ค. จั ดท�ำเอกสารแผ่นพั บ เพื่อให้ข้อมูลแทนการใช้คนในการสื่อความหมายแก่นักท่องเที่ยว ง. ก�ำหนดแนวทางในการอนุรักษ์วัฒนธรรมจีนของชุ มชน 5


บทน�ำ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ โดยในปี พ.ศ. 2560 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านล้านบาท ทั้ งนีก้ ารที่จะพั ฒนาการท่องเที่ยวให้เกิด ความยั่งยืนจะมีการพั ฒนาโดยรักษาความสมดุลใน 3 มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดย การพั ฒนาการท่องเที่ยวในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจะน�ำไปสูก่ ารพั ฒนาเศรษฐกิจทั้งระดับ ประเทศและระดับภูมิภาค นอกจากนีย้ ังเป็นการเครื่องมือส�ำคัญในการสืบทอด วิ ถีชี วิ ต ความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมที่ดี งามให้คงอยู่ควบคู่ไปกับความก้าวหน้าของสังคมไทยต่อไป การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมครอบคลุมถึงประวัติศาสตร์ โบราณคดี และ พิพธิ ภัณฑ์งานสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ศิลปะ หัตถกรรม ศาสนา ดนตรี การแสดง ละคร ภาษาและวรรณกรรมวิถีชี วิต ประเพณี และ ภูมปิ ญ ั ญาท้องถิ่น โดยจุด ประสงค์ของการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้เกิดความยัง่ ยืนประกอบด้วย 1. มุ่งเน้นคุณค่าของวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น 2. ทุกฝ่ายที่เกีย่ วข้องต้องดูแลรักษาให้ถงึ คุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณค่าของ วัฒนธรรมอย่างยั่งยืน 3. นักท่องเที่ ยวได้รับความพึงพอใจสูงสุดแต่ในขณะเดี ยวกันต้องเคารพใน วัฒนธรรมท้องถิ่นด้วย 4. ชุ มชนท้องถิ่นได้รับประโยชน์ตอบแทนอย่างเพี ยงพอ พร้อมทั้ งปรับปรุง คุณภาพชี วิ ตของชุ มชนท้องถิ่นให้ดี ขึ้น ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 ได้ร่วมกับชุ มชนในการฟื้นคืนวิ ถี ชี วิ ตบ้านชากแง้วสูก่ ารเป็นชุมชนค้าขาย แบบจีนโบราณอายุกว่า 100 ปี และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ ทีย่ งั คงรักษากลิน่ อายของวัฒนธรรมประเพณี สืบทอดมานานท�ำให้ตลาดจีนโบราณบ้านชากแง้วเริ่มเป็นที่รจู้ ักของนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเที่ยวชม อย่างต่อเนื่อง จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านชากแง้วเกิดจากความต้องการอนุรักษ์และถ่ายทอด เรื่องราวต่างๆ และวิ ถีชี วิ ตในอดี ต ผ่านกลุ่มแกนน�ำที่เข้มแข็งและชาวบ้านที่มี ใจรักถิ่นฐานบ้านเกิด เป็นพลังขับเคลือ่ นในการพั ฒนาการท่องเที่ยวของชุมชนโดยมี อพท. เป็นหน่วยงานพี่เลีย้ ง ในการส่งเสริม และสนับสนุนให้มกี ารพั ฒนาและรักษาสิง่ แวดล้อมเพือ่ การท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืนร่วมกับองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นและชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้ว กรณีศกึ ษานีจ้ ัดท�ำขึน้ เพือ่ ถอดบทเรียนแห่งความส�ำเร็จในการพัฒนาการท่องเทีย่ วของชุมชนบ้านชากแง้ว ที่มกี ารบริหารจัดการการท่องเที่ยวด้วยกระบวนการมีสว่ นร่วมของชุมชน โดยการขับ เคลือ่ นด้วยพลังของ คนในชุ มชนผ่านกระบวนการพั ฒนาการท่องเที่ ยวอย่างมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่ายเพื่อให้เกิดการ พั ฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามหลักเกณฑ์ GSTC 6

องค์การบริหารการพัฒนาพืน้ ทีพ่ เิ ศษ เพือ่ การท่องเทีย่ วอย่างยัง่ ยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. มีภารกิจในการประสาน ส่งเสริม สนับสนุนเพื่อบริหาร จั ดการการท่องเที่ ยวในพื้นที่ พิเศษให้เกิดความยั่งยืนในมิติสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม ให้เกิดการพั ฒนาอย่างยั่งยืน สร้างงาน กระจายรายได้ เกิดความ อยู่ดี มีสุขของคนในชุ มชนจากการท่องเที่ยว โดย อพท. มีความตั้งใจ พั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชนให้มีสว่ นช่วยพั ฒนาการท่องเที่ยวไปสู่ ความยั่ ง ยื น หรื อ เป็ น การท่ องเที่ ย วทางเลื อ กที่ จ ะน� ำ ไปสู ่ การ พั ฒนาการท่อเที่ยวอย่างยั่งยืน ปัจจุบัน อพท. มีการพั ฒนาชุ มชน ต้นแบบจ�ำนวน 4 ชุ มชนใน 6 พื้นที่ พิเศษ และขยายไปในเขต พั ฒนาการท่องเที่ยว (Cluster) มากกว่า 160 ชุ มชน โดยสร้าง กระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุ มชนตั้งแต่ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ ร่วมรับผิ ดชอบ ร่วมรับผลประโยชน์ และกระจายผล ประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างทั่ วถึงและเป็นธรรมผ่านเครื่องมือ การพั ฒนาการท่องเที่ ยวโดยชุ มชนอย่างยั่งยืน การพั ฒนาความรู้ และเปลี่ยนประสบการณ์ตลอดจนติด ตามประเมินผล และมีการ พั ฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน อพท. มีพื้นที่พิเศษรับผิ ดชอบการบริหารจั ดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 9 แห่ง ได้แก่ 1. ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษ 1 คุ้งบางกระเจ้า 2. ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษ 2 อารยธรรมอีสานใต้ 3. ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 ฝั่งทะเลตะวันออก 4. ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษ 4 มรดกโลกด้านวัฒนธรรม 5. ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษ 5 วิ ถีชี วิ ตลุ่มแม่น�้ำโขง 6. ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษ 6 อารยธรรมล้านนา 7. ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษ 7 ลุ่มน�้ำเจ้าพระยาตอนกลาง 8. ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษ 8 ฝั่งทะเลตะวันตก 9. ส�ำนักงานพื้นที่พิเศษ 9 อันดามันและหมู่เกาะทะเลใต้ 7


ทั้ งนี้ อพท. พั ฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวโดยชุ มชนในทุกพื้นที่พิเศษ โดยมีหน่วยงานหลักของ อพท. อาทิ ส�ำนักท่องเที่ยวโดยชุ มชน (สทช.) และส�ำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 ท�ำหน้าที่เป็นตัวกลางใน การประสานส่งเสริ มและสนับสนุนให้ชุ มชนและภาคีเครื อข่ายการพั ฒนาการท่องเที่ ยวของชุ มชน บ้านชากแง้ว ได้ท�ำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพในการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดย ชุ มชนอย่างยั่งยืน ผ่านกระบวนการตามเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจั ดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุ มชน เพือ่ การพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึง่ มีเครือ่ งมือและกลไกการท�ำงานที่สำ� คัญอยู่ 4 องค์ประกอบคือ 1. เกณฑ์การพั ฒนาการท่องเที่ ยวโดยชุ มชนของประเทศไทย หรือที่ เรียกว่า CBT Thailand ที่ ประยุกต์มาจากเกณฑ์ของ GSTC ซึ่งมีองค์ประกอบ 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการบริหารจั ดการการท่องเที่ยวโดยชุ มชน ด้านการจั ดการเศรษฐกิจสังคม และคุณภาพชี วิ ตที่ดี ด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดก ทางวัฒนธรรม ด้านการจั ดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ด้านบริการและความปลอดภัย

บริหาร จั ดการอย่าง ยั่งยืน

บริการและ ความ ปลอดภัย

สิ่งแวดล้อม

การท่องเที่ยว โดยชุ​ุ มชน อย่างยั่งยืน

เศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชี วิ ต

วัฒนธรรม

ภาพที่ 1 เกณฑ์การพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชน ของประเทศไทย หรือที่เรียกว่า CBT Thailand ที่มา : เกณฑ์การพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชนของประเทศไทย (2559)

2. กล่องความคิด 9+1 Building Blocks เครื่องมือช่วยระดมสมองชุ มชนใน การวางแผนการพั ฒนาการท่องเที่ยวของชุ มชน 3. เครื่องมือการบริ หารจั ดการผลประโยชน์จากการท่องเที่ ยวโดยชุ มชน (Community Benefitting Through Tourism หรือ CBTT) 4. หลักสูตรการท่องเที่ยวโดยชุมชนเพือ่ ชุมชน (CBT Integrated) เป็นหลักสูตร เพือ่ เสริมสร้างทักษะการเป็นวิทยากรและช่วยสร้างความรูค้ วามเข้าใจแก่ผสู้ นใจ เรื่องการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ส�ำหรับกลไกในการขับ เคลื่อนการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชนอย่างยั่งยืนของชุ มชนนั้น อพท. ได้ สนับสนุนให้ชุมชนได้มกี ารจัดตัง้ “ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน” โดยให้ชุมชนได้รว่ มกันคัดเลือก ตัวแทนเข้ามาเป็นคณะกรรมการชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพือ่ ท�ำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลาง ในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน และขับ เคลือ่ นกิจกรรมการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ของชุมชนบ้านชากแง้ว 8

หลักเกณฑ์ดา้ นการท่องเทีย่ วอย่างยัง่ ยืนส�ำหรับแหล่งท่องเทีย่ ว (Global Sustainable Tourism Criteria for Destinations: GSTC-D) แนวทางขัน้ พืน้ ฐานที่หน่วยงานที่รบั ผิดชอบการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวไปสูค่ วามยัง่ ยืนสามารถ ยึดถือปฏิบตั ิ โดยหลักเกณฑ์ดา้ นการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืนส�ำหรับแหล่งท่องเที่ยวได้ถกู ออกแบบและ พั ฒนาโดยสภาการท่องเที่ยวยัง่ ยืนโลก (Global Sustainable Tourism Council) โดยมีความคาดหวัง ในการน�ำหลักเกณฑ์นี้ ไปใช้โดยองค์กรที่รับผิดชอบการบริหารจัดการการท่องเที่ยว ดังนี้ เป็นแนวทางขั้นพื้นฐานส�ำหรับ แหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการมุ่งสู่ความยั่งยืน ช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจในแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ช่วยให้สื่อมวลชนให้ข้อมูลและสื่อสารต่อสาธารณชนเรื่องแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนได้ ช่วยให้โปรแกรมการรับรองคุณภาพในแต่ละที่มีมาตรฐานในการพั ฒนาหลักเกณฑ์ ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หรือ NGOs สามารถมีแนวทางการพั ฒนาโครงการที่เกีย่ วข้อง กับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เป็นแนวทางขั้นพื้นฐานส�ำหรับอบรมและพั ฒนาบุคลากร เช่น มหาวิ ทยาลัย เป็นต้น ทั้ งนี้ หลักเกณฑ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนส�ำหรับ แหล่งท่องเที่ยว (GSTC-D) ได้ก�ำหนด หลักเกณฑ์และตัวชี้ วัดไว้ ดังนี้

หมวด A : การบริหารจั ดการด้านความยั่งยืนที่มีประสิทธิภาพ หลักเกณฑ์ รายละเอียดของหลักเกณฑ์ IN-A1 a. มีการด�ำเนินยุทธศาสตร์ของแหล่งท่อง เที่ยวในระยะยาว ซึง่ เน้นไปที่ความยัง่ ยืนและการ ท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืน โดยครอบคลุมประเด็นทาง เศรษฐกิจ สังคม สิง่ แวดล้อม วัฒนธรรม คุณภาพ สุขภาพ และความปลอดภัย IN-A1 b. มีการด�ำเนินยุทธศาสตร์หรือแผนงาน ของแหล่งท่องเทีย่ วในระยะยาวทีม่ คี วามเป็นปัจจุบนั โดยจะมีการปรับปรุงทุกๆ 4 ปีและสาธารณชน สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากการสืบค้นออนไลน์ IN-A1 c. แผนยุทธศาสตร์หรือกลยุทธ์ของแหล่ง ท่องเที่ยวในระยะยาว ได้รับการพั ฒนาจากการมี ส่วนร่วมของประชาชน โดยดูได้จากรายงานการ ประชุ ม/ประมวลภาพกิจกรรมระดมความคิดเห็น เพื่อจั ดท�ำแผนแหล่งท่องเที่ยว

A1 การด�ำ เนินงานตามกลยุทธ์ ในการบริ หาร จั ดการด้านความยั่งยืน แหล่งท่องเที่ ยวมีการด�ำเนินงานตามกลยุทธ์ ใน การบริ หารจั ดการด้านความยั่งยืน ซึ่งพิจารณา ตามความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ที่จั ดการท่อง เที่ ยว ตลอดจนพิจารณาจากสภาพสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม คุณภาพสุขอนามัย ความปลอดภัย และความงดงามตามธรรมชาติ อันเกิดจากความร่วมมือของประชาชน

9


หลักเกณฑ์

A2 ตัวแทนหรือกลุม่ ตัวแทนที่มีประสิทธิภาพอัน มาจากส่วนภาครัฐและเอกชน แหล่งท่องเที่ ยวมีตัวแทนหรื อกลุ่มตัวแทนที่ มี ประสิทธิภาพอันมาจากส่วนภาครั ฐและเอกชน โดยตัวแทนหรื อกลุ่มตัวแทนหรื อกลุ่มตัวแทน ดังกล่าวมีความรับผิ ดชอบในการบริ หารจั ดการ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม

รายละเอียดของหลักเกณฑ์

หลักเกณฑ์

รายละเอียดของหลักเกณฑ์

IN-A1 d. มีสญ ั ญาประชาคม (สัญญาเชิงการเมือง) ในการน�ำเอาแผนงานของแหล่งท่องเที่ยวในระยะ ยาวไปปฏิบัติ และมีหลักฐานแสดงการน�ำเอาไป ปฏิบัติจริงโดยสามารถพิจารณาจากรายงานการ ติดตามความก้าวหน้า

A5 ระบบป้องกันความเสี่ยงอันเกิดจากภัยพิบัติ ตามธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวมีระบบป้องกันความเสี่ยงอันเกิด จากภัยพิบัติตามธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้ งนี้ จะต้องมีการให้ความรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกับภัยพิบตั ิ ที่อาจเกิดขึน้ ได้ ให้กบั ผูค้ นในท้องถิ่นและนักท่อง เที่ยว

IN-A5 a. มีระบบการปรับตัวต่อการเปลีย่ นแปลง สภาพภู มิ อากาศ และประเมิ น ความเสี่ ย งถึ ง แนวทางการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม IN-A5 b. มี ก ฎหมายหรื อ นโยบายเพื่ อ การ บรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ และสนับสนุนเทคโนโลยีส�ำหรับการ บรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศอย่างชัดเจน IN-A5 c. มีโปรแกรมให้ความรู้และสร้างการ ตระหนั ก รู ้ ในเรื่ องการเปลี่ ย นแปลงสภาพภู มิ อากาศให้แก่บคุ คลทั่วไป ผูป้ ระกอบการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจน

A6 การประเมินสถานที่ตลอดจนสภาพแวดล้อม แหล่งท่องเที่ยวควรมีการประเมินสถานที่ตลอด จนสภาพแวดล้อมที่ยงั คงอยูอ่ ย่างสม�ำ่ เสมอ โดย เฉพาะอย่างยิง่ พืน้ ที่ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม

IN-A6 a. มีการจั ดท�ำรายชื่ อและแบ่งชนิดของ ทรัพยากรและสิง่ ดึงดูดใจด้านการท่องเที่ยว รวม ถึงแหล่งธรรมชาติและวัฒนธรรมเพื่อสร้างสรรค์ กิจกรรมทางการท่องเที่ยว

A7 การปฏิบัติตามกฎระเบี ยบ ข้อก�ำหนด และ หรือนโยบาย แหล่งท่องเที่ยวมีการปฏิบัติตามกฎระเบี ยบ ข้อ ก�ำหนดหรือนโยบายต่างๆ เพื่อรักษาพื้นที่และ สถานที่ทอ่ งเที่ยวส�ำหรับการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืน กฎระเบียบ ข้อก�ำหนด และนโยบายดังกล่าวนีถ้ กู ใช้เพื่อรักษาพื้นที่

IN-A7 a. มี แนวทาง ข้ อ บั ง คั บ และ/หรื อ นโยบาย การจั ด ผั ง เมื องหรื อ จั ด โซน ในการ ปกป้องทรัพยากรทางธรรมชาติและวัฒนธรรม IN-A7 b. มี แนวทาง ข้ อ บั ง คั บ และ/หรื อ นโยบาย ที่จั ดการการใช้ที่ดิน การออกแบบ การ ก่อสร้าง และรื้อท�ำลาย อย่างยั่งยืน IN-A7 c. มี แนวทาง ข้ อ บั ง คั บ และ/หรื อ นโยบาย ของการจั ดผังเมืองจั ดท�ำขึ้นจากการมี ส่ ว นร่ ว มให้ ค วามคิ ด เห็ น จากชุ ม ชน และมี กระบวนการทบทวนอย่างละเอียด IN-A7 d. มีแนวทาง ข้อบังคับ และ/หรื อ นโยบาย ของการจั ดผังเมือง ได้รับการสื่อสาร เผยแพร่สู่สาธารณะ และมีการบังคับใช้

IN-A2 a. มีการจั ดตั้งคณะท�ำงาน ซึ่งรับผิ ดชอบ ในการประสานภาคี ในการบริหารจัดการการท่อง เที่ยวอย่างยั่งยืน IN-A2 b. หน่วยงานภาคเอกชนและภาครัฐมี ส่วนร่วมกับกลุม่ ท่องเที่ยวในการประสานงานและ บริการด้านการท่องเที่ยว IN-A2 c. หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวมีขนาดที่ เหมาะสมกับ แหล่งท่องเที่ยวตามโครงสร้าง IN-A2 d. มีการบริ หารจั ดการการท่องเที่ ยว ในรูปแบบคณะกรรมการซึ่งระบุหน้าที่และความ รับผิ ดชอบงานของแต่ละฝ่าย IN-A2 e. หน่วยงานมีเงินทุนที่เหมาะสม

A3 ระบบการตรวจสอบ ดูแล รายงานความคืบหน้า แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย วมี ร ะบบการตรวจสอบ ดู แ ล รายงานความคืบหน้า และตอบสนองต่อประเด็น ที่ เกี่ ย วข้ องกั บ สิ่ ง แวดล้ อ ม เศรษฐกิจ สัง คม วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ ระบบการตรวจสอบดูแลดังกล่าวจะต้องได้รับการ ประเมินอย่างสม�่ำเสมอ

IN-A3 a. มีการติดตามประเมินผลเชิงรุก และ มีรายงานผลการติด ตามและประเมินผลด้ า น สิง่ แวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิถีชี วิต เผยแพร่สู่สาธารณะผ่านทางเว็บไซต์ IN-A3 b. มีการทบทวนและประเมินผลระบบ ติดตามอย่างสม�่ำเสมอ IN-A3 c. มีการจัดสรรเงินทุนให้แก่กระบวนการ บรรเทาปัญหาผลกระทบจากการท่องเที่ยว และ มีการด�ำเนินกระบวนการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วมของคนในชุ มชน

A4 การจั ดการท่องเที่ยวตามฤดูกาล IN-A4 a. มียุทธศาสตร์การตลาดนอกฤดูกาล แหล่งท่องเที่ยวมีการจัดการท่องเที่ยวตามฤดูกาล ให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ ยวได้ตลอดปีผ ่าน ให้เหมาะสมกับความต้องการทางด้านเศรษฐกิจ กิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ สังคมวัฒนธรรม ตลอดจนสิ่งแวดล้อมของชุ มชน 10

11


หลักเกณฑ์

รายละเอียดของหลักเกณฑ์

A8 สถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งอ�ำนวยความสะดวก สถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งอ�ำนวยความสะดวก จะ ต้องอ�ำนวยความสะดวกให้กับบุคคลทุพ พลภาพ หรือผู้มีข้อจ�ำกัดทางด้านสภาพร่างกาย ทั้ งนีห้ าก มีการออกแบบ เปลี่ยนแปลง ก่อสร้างในสถานที่ ดังกล่าว จะต้องมีการแจ้งให้ผู้รับผิ ดชอบดูแล ทราบล่วงหน้าเท่านั้น

IN-A8 a. มีนโยบายที่สนับสนุนการเข้าถึงแหล่ง ท่องเทีย่ วและสิง่ อ�ำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งแหล่ง ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม เพือ่ ให้ผพู้ กิ ารและผู้ ต้องการความช่วยเหลือ สามารถเข้าถึงได้ อย่างเหมาะสม IN-A8 b. มีวิ ธีการจั ดการกับ เรื่องความสามารถ ในการเข้าถึงของแหล่งท่องเที่ยวนั้นจะต้องค�ำนึง ถึงความกลมกลืนเข้ากันกับ แหล่งท่องเที่ยว และ มีการจัดหาสิง่ อ�ำนวยความสะดวกให้แก่ผพู้ กิ ารให้ เหมาะสมอย่างสมเหตุสมผล

A9 กฎหมายและข้อบังคับการด�ำรงรักษาไว้ซึ่ง แหล่งท่องเที่ยว กฎหมายและข้อบังคับการสืบเนือ่ งมาจากการด�ำรง รักษาไว้ซ่ึงแหล่งท่องเที่ยว จะต้องมีผลบังคับใช้ อย่ า งเคร่ ง ครั ด ทั้ งนี้ ห ากมี ก ารออกแบบ เปลีย่ นแปลง ก่อสร้างในสถานที่ดงั กล่าว จะต้องมี การแจ้งให้ผรู้ ับผิดชอบดูแลทราบล่วงหน้าเท่านัน้ A10 การตรวจสอบและรายงานความพึงพอใจของ นักท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวควรมีการตรวจสอบและรายงาน ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวที่มตี อ่ สถานที่ดว้ ย หากมีประเด็นใดที่ควรแก้ไขหรือปรับปรุง ควรจะ ท�ำทั นทีเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด

IN-A9 a. มีนโยบายหรือตัวบทกฎหมายที่มีการ บังคับใช้ ได้จริง IN-A9 b. มีนโยบายหรือตัวบทกฎหมายที่ค�ำนึง ถึงสิทธิมนุษยชนของคนพื้นเมือง ค�ำนึงถึงการ หารือในวงสาธารณะ และให้การยินยอมในการตัง้ รกรากเฉพาะเมื่อได้รับการเห็นชอบและ/หรือมี การจ่ายค่าชดเชยอย่างสมเหตุสมผล IN-A10 a. มีการเก็บข้อมูลและรายงานผลความ พึงพอใจของนักท่องเที่ยวสู่สาธารณะ IN-A10 b. มีระบบที่จะน�ำผลความพึงพอใจของ นักท่องเที่ยวมาใช้ในการพั ฒนาการด�ำเนินงานบน ฐานของข้อมูลการติด ตามประเมินผลความพึง พอใจของนักท่องเที่ยว

A11 การสนับสนุนหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่าง ยั่งยืนในกลุ่มธุรกิจต่างๆ แหล่งท่องเที่ ยวให้การสนับสนุนหลักเกณฑ์การ ท่องเที่ ยวอย่างยั่งยืนในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ตาม นโยบายของ GSTC ทั้ งนีค้ วรมีการจั ดท�ำรายชื่ อ องค์กรที่ ได้รับจากการรับรองและได้มาตรฐาน เพื่อเป็นข้อมูลส�ำหรับสาธารณชน

IN-A11 a. มีการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืน หรื อการรั บรองระบบการจั ด การ สิ่งแวดล้อมที่ ได้รับการสนับสนุนจากภาคธุรกิจ IN-A11 b. มีการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืน หรื อการรั บรองระบบการจั ด การ สิ่งแวดล้อม ยอมรับจาก GSTC IN-A11 c. มีการตรวจสอบประเมินธุรกิจการ ท่องเที่ ยวที่ เข้าร่วมในการรับรองมาตรฐานด้าน การท่องเที่ ยวหรื อการรั บรองระบบการจั ด การ สิ่งแวดล้อม 12

หลักเกณฑ์

รายละเอียดของหลักเกณฑ์ IN-A11 d. มี เ อกสารเผยแพร่ รายชื่ อ สถาน ประกอบการที่ ได้รับการรับรอง

A12 การสอดส่องดูแล ป้องกัน และรายงาน แหล่งท่องเที่ยวควรจัดตัง้ ระบบการสอดส่องดูแล ป้ อ งกั น และรายงานต่ อ สาธารณะในเรื่ อ ง อาชญากรรม การรั ก ษาความปลอดภั ย และ อันตรายที่อาจเกิดต่อร่างกาย

IN-A12 a. มี การตรวจสอบความปลอดภั ย ด้านอัคคีภัย ความสะอาดของอาหาร และความ ปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในแหล่งท่องเที่ยวอย่าง จริงจังอยูเ่ ป็นประจ�ำ IN-A12 b. มีการด�ำ เนินการป้องกันและการ ช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุเบื้องต้น IN-A12 c. ระบบป้องกันและตอบสนองต่อ อาชญากรรม IN-A12 d. มีระบบใบอนุญาตการขนส่งสาธารณะ ที่ถกู ต้อง ราคาที่ชดั เจน และระบบจุดขึน้ -ลง ณ จุดที่ นกั ท่องเที่ยวเข้ามาถึง IN-A12 e. มีการรายงานด้านความปลอดภัยและ การรักษาความปลอดภัย

A13 การวางแผนเพือ่ ตอบรับต่อวิกฤตการณ์หรือ สถานการณ์ฉุกเฉิน แหล่งท่องเที่ยวควรมีการวางแผนเพือ่ ตอบรับต่อ วิ กฤตการณ์หรือสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ที่อาจ เกิดขึ้นในสถานที่ที่อยู่ในความรับผิ ดชอบ ควรมี การชี้ แจงประเด็นส�ำคัญ ให้ผพู้ ำ� นักอาศัย นักท่อง เที่ ยว และธุรกิจต่างๆได้รั บทราบ ตลอดจน แนวทางการปฏิบัติตน มีการก�ำหนดแผนเพื่อน�ำ ไปสู่การฝึกอบรมให้กับ เจ้าหน้าที่ นักท่องเที่ยว และผู้พ�ำนักอาศัย

IN-A13 a. มีแผนการรับมือกับ เหตุวิ กฤติและ เหตุฉุกเฉินที่ เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ ยวให้ บุคคลทั่ วไปได้ทราบ IN-A13 b. มีทรัพยากรบุคคลและเงินทุนส�ำหรับ การน� ำ แผนการรั บ มื อ กั บ เหตุ วิ ก ฤติ แ ละเหตุ ฉุกเฉินไปปฏิบัติ ใช้ IN-A13 c. มีการดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมในการ ออกแบบแผนการรับมือกับ เหตุวิ กฤติและเหตุ ฉุกเฉิน และมีกระบวนการสือ่ สารทั้งก่อนและหลัง เหตุวิกฤติหรือเหตุฉกุ เฉิน IN-A13 d. ในแผนการรับมือกับ เหตุวิ กฤติและ เหตุฉุกเฉินจะต้องมีจั ดสรรทรั พ ยากรที่ จ�ำ เป็น และการอบรมให้แก่พนักงาน นักท่องเที่ยว และ ผู้อาศัยในแหล่งท่องเที่ยว IN-A13 e. แผนการรับมือกับ เหตุวิกฤติและเหตุ ฉุกเฉินจะต้องมีการท�ำให้เป็นปัจจุบัน 13


หลักเกณฑ์

รายละเอียดของหลักเกณฑ์

หลักเกณฑ์

รายละเอียดของหลักเกณฑ์

A14 การประชาสัมพั นธ์ขา่ วสาร การประชาสัมพั นธ์ขา่ วสารต่างๆ ควรด�ำเนินการ ให้เหมาะสมกับแหล่งท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์/ สินค้า ที่จั ดจ�ำหน่าย ตลอดจนบริการต่างๆที่จั ดอยู่ใน พื้ นที่ ท ่ องเที่ ย วนั้ น ๆ ทั้ ง นี้ ข่ า วสารและการ ประชาสัมพั นธ์ที่ น�ำเสนอจะต้องให้การสนับสนุน ให้ความเคารพและให้เกียรติกับชุ มชนในพื้นที่

IN-A14 a. ข้อความการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ แหล่งท่องเที่ ยวสื่อออกไปด้วยความจริ งแท้และ ความเคารพต่อชุมชนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว IN-A14 b. ข้อความการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ แหล่งท่องเที่ยวสือ่ ออกไปอย่างตรงไปตรงมาทั้งใน รายละเอียดของผลิตภัณฑ์และการบริการ

B3 การมีส่วนร่วมในสังคม การมีส่วนร่วมในสังคม แหล่งท่องเที่ยวจะต้องมี ระบบส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนในสังคม ใน กระบวนการวางแผนเกีย่ วกับแหล่งท่องเที่ยวและ การตัดสินใจในระยะยาว

IN-B3 a. มีระบบอ�ำนวยให้ภาคประชาชน ภาค ธุรกิจ และผู้มีส่วนได้เสียในชุ มชนมีส่วนในการ วางแผนและการตัดสินใจในการจัดการแหล่งท่อง เที่ยวโดยผ่านการประชุ มประจ�ำปี IN-B3 b. ในแต่ละปี มีการประชุมหารือสาธารณะ เพือ่ หารือประเด็นการจัดการแหล่งท่องเที่ยว

B4 ความคิดเห็นชุ มชนท้องถิ่น ความคิดเห็นของชุ มชนท้องถิ่ น แหล่งท่องเที่ยว จะต้องควบคุม ป้องกัน และฟื้นฟูการเข้าถึง แหล่งท่องเที่ ยวจะต้องได้รับการจดบันทึกอย่าง สม�่ำเสมอ และรายงานต่อสาธารณะในเวลาอัน สมควร

IN-B4 a. มีการเก็บ ตรวจสอบ บันทึก และ เผยแพร่รายงานข้อมูลของความต้องการ ข้อกังวล และความพึงพอใจของผู้อยู่อาศัยต่อการจั ดการ แหล่งท่องเที่ยวอยู่เป็นประจ�ำ IN-B4 b. การเก็บ ตรวจสอบ บันทึก และเผย แพร่รายงานข้อมูลเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม

B5 การเข้าถึงพื้นที่ของคนในท้องถิ่น การเข้าถึงพืน้ ที่ของคนในท้องถิ่น แหล่งท่องเที่ยว จะต้องควบคุม ป้องกัน และฟืน้ ฟูการเข้าถึงแหล่ง ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของคนใน ท้องถิ่น ทั้ งนี้ เพื่อไม่ให้สถานที่ท่องเที่ยวเกิดการ บุกรุกหรือถูกท�ำลาย

IN-B5 a. มีแผนงานการตรวจสอบ ป้องกัน และ ฟืน้ ฟู หรือซ่อมแซม การเข้าถึงแหล่งทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมของคนท้องถิ่น IN-B5 b. มีการติดตามประเมินพฤติกรรม และ คุณลักษณะของคนท้องถิน่ และนักท่องเทีย่ วทั้งจาก ในประเทศและต่างประเทศที่มตี อ่ แหล่งท่องเที่ยว

หมวด B : การเพิม่ ผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบ ทางสังคม-เศรษฐกิจแก่ชุมชนท้องถิ่น B1 การควบคุมดูแลเศรษฐกิจ การควบคุมดูแลเศรษฐกิจ สภาพเศรษฐกิจที่ดีขนึ้ ซึ่งเป็นผลจากการท่องเที่ ยวในแหล่งท่องเที่ ยว นั้นๆ ทั้ งทางตรงและทางอ้อม จะต้องได้รับการ จดบันทึกและรายงานต่อสาธารณะอย่างน้อยปีละ หนึ่งครั้ ง หมายรวมถึง จ�ำนวนการใช้จ่ายของ ผู้มาเที่ยว รายรับต่อห้องพั ก อัตราการจ้างงาน ตลอดจนข้อมูลการลงทุน

IN-B1 a. มีการวัดผลและรายงานข้อมูลการใช้จา่ ย ของนักท่องเที่ยว รายได้ต่อห้องพั ก การจ้างงาน และการลงทุน IN-B1 b. มีการวัดผลและรายงานการลงทุนทางตรง และทางอ้อมด้านการท่องเทีย่ วอย่างน้อยปีละ 1 ครัง้ IN-B1 c. มีการเก็บข้อมูลและรายงานเผยแพร่ ข้ อ มู ล การจ้ า งงานในธุ ร กิ จ ที่ เ กี่ ย วข้ องกั บ การ ท่องเที่ยว โดยแบ่งเป็นเพศและอายุ

B2 โอกาสในการประกอบอาชี พของคนในท้องถิ่น โอกาสในการประกอบอาชี พของคนในท้องถิ่ น บริษทั ต่างๆในแหล่งท่องเที่ยวที่ตอ้ งให้โอกาสการ จ้างงาน การฝึกอบรมแก่คนในท้องถิ่น รวมทั้ ง ความปลอดภัยในการท�ำงานอย่างเท่าเทียมกัน

IN-B2 a. มีข้อกฎหมายและนโยบายที่สนับสนุน ให้เกิดโอกาสที่ เท่า เที ยมกันในการจ้างงานทั้ ง ผู ้ ห ญิ ง เยาวชน ผู ้ พิ การ ชนกลุ ่ ม น้ อ ย และ ประชาชนผู้ด้อยโอกาสอื่นๆ IN-B2 b. มีการฝึกอบรมที่สามารถเข้าถึงได้อย่าง เท่าเทียมทั้ งผู้หญิง เยาวชน ผู้พิการ ชนกลุ่มน้อย และประชาชนผู้ด้อยโอกาส IN-B2 c. มีขอ้ กฎหมายและนโยบายที่สนับสนุน ให้เกิดความปลอดภัยในการท�ำงาน IN-B2 d. มีขอ้ กฎหมายและนโยบายที่สนับสนุน ในเกิดการให้ผลตอบแทนการจ้างงานที่เป็นธรรม ส�ำหรับทั้ งผู้หญิง เยาวชน ผู้พิการ ชนกลุ่มน้อย และประชาชนผู้ด้อยโอกาสอื่นๆ 14

B6 ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว IN-B6 a. มีแผนงานการเพิม่ ความตระหนักรูท้ ั้ ง ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แหล่ง ในระดับชุมชน โรงเรียน และมหาวิ ทยาลัยในเรื่อง ท่องเที่ยวจะต้องจัดการให้ความรูแ้ ก่ชุมชนเพือ่ เพิม่ ของบทบาทการท่องเที่ยวที่มีพื้นที่ ความเข้าใจเกี่ยวกับโอกาส ความท้าทายของการ ท่องเที่ยว และความส�ำคัญของความยั่งยืน B7 การป้ อ งกั น การแสวงหาประโยชน์ โดย ไม่ชอบธรรม การป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์ โดยไม่ชอบ ธรรม แหล่งท่องเที่ ยวจะต้องมีกฎหรื อวิ ธีการ ปฏิบัติที่ป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์ โดยไม่ ชอบธรรม หรือเป็นการคุกคามผู้อื่นไม่ว่าโดยวิ ธี การใดๆที่อาจเกิดขึ้นกับ เด็กและสตรี กฎหมาย และวิธปี ฏิบตั นิ จี้ ะต้องประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

IN-B7 a. มีกฎหมายหรือแผนงานในการป้องกัน การแสวงหาประโยชน์ โดยมิชอบทั้ งในเชิงการค้า (ของผิดกฎหมาย) การค้าประเวณี หรือในรูปแบบ อื่นๆ / หรือการเลือกปฏิบัติ หรือการล่วงละเมิด ใดๆ จากคนในชุ มชนและตัวนักท่องเที่ยว IN-B7 b. กฎหมายหรือแผนงานมีการสื่อสาร ออกไปในระดับสาธารณะ 15


หลักเกณฑ์

รายละเอียดของหลักเกณฑ์

หลักเกณฑ์

รายละเอียดของหลักเกณฑ์

B8 สนับสนุนชุ มชน การสนับสนุนชุ มชน แหล่งท่องเที่ ยว จะต้องมี ระบบที่ส่งเสริมบริษัทต่างๆ นักท่องเที่ยว และ สาธารณชนให้มีส ่วนร่วมในการสนับสนุนชุ มชน และการเริ่มต้นโครงการต่างๆอย่างยั่งยืน

IN-B8 a. มีแผนงานในการริเริ่มให้ผู้ประกอบ การ นักท่องเที่ยว และบุคคลทั่วไป สนับสนุนการ ท�ำนุบ�ำรุงชุ มชน และรักษาความหลากหลายทาง ชี วภาพ และ/หรือการพั ฒนาสาธารณูปโภค

IN-C3 a. มีคู่มือข้อควรปฏิบัติของนักท่องเที่ยว เพื่อการท่องเที่ ยวในแหล่งที่ มีความอ่อนไหลทั้ ง ทางด้านวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม IN-C3 b. มี ข ้ อ กฎเกณฑ์ การปฏิ บั ติ ง านของ มัคคุเทศก์และบริษัทน�ำเที่ยว

B9 สนับสนุนท้องถิ่นและการค้าโดยเป็นธรรม การสนับสนุนท้องถิ่ นและการค้าโดยชอบธรรม แหล่งท่องเที่ ยวต้องมีระบบที่ สนับสนุนท้องถิ่ น บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมถึงส่งเสริม และพั ฒนาความยั่งยืนของสินค้าท้องถิ่น โดยยึด หลักส�ำคัญของการค้าโดยชอบธรรมที่มพี นื้ ฐานมา จากธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น หมายรวม ถึงอาหารและเครื่องดืม่ งานฝีมอื ศิลปะการแสดง และสินค้าทางการเกษตร เป็นต้น

IN-B9 a. มีแผนงานการสนับสนุนและเพิ่มขี ด ความสามารถให้แก่ผู้ประกอบการขนาดเล็กและ ขนาดกลาง IN-B9 b. มีแผนงานการส่งเสริมให้ผู้ประกอบ การซื้อสินค้าและบริการจากชุ มชน IN-B9 c. มีแผนงานในการส่งเสริมและพั ฒนา ผลิตภัณฑ์ชุ มชนที่ยั่งยืน จากฐานทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมของชุ มชนเอง IN-B9 d. มีแผนงานในการน�ำช่างฝีมือท้องถิ่น เกษตรกร และผูผ้ ลิตต่างๆ มาอยูใ่ นห่วงโซ่คณ ุ ค่า ของการท่องเที่ยว

C3 พฤติกรรมนักท่องเที่ยว พฤติกรรมนักท่องเทีย่ ว แหล่งท่องเทีย่ วจะต้องตีพมิ พ์ คูม่ อื การปฏิบตั ติ วั ในการท่องเที่ยวสถานที่ที่มผี ลต่อ ความรูส้ กึ ด้านจิตใจและความศรัทธา (Sensitive Sites) เช่น วัดวาอาราม เป็นต้น คูม่ อื ดังกล่าวจะสร้าง ความเข้าใจและช่วยลดผลกระทบเชิงลบที่จะตามมา ตลอดจนเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมทีด่ จี ากนักท่องเทีย่ ว C4 การปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม การปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว จะต้องมีกฎหมายเกีย่ วกับการค้า การแลกเปลีย่ น การจั ดการแสดงและการให้ของขวัญที่ เกี่ยวกับ โบราณวัตถุ และวัตถุทางประวัติศาสตร์ C5 การให้ขอ้ มูลที่ถกู ต้องเกีย่ วกับสถานที่ทอ่ งเที่ยว การให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว จั ดให้มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวฉบับ แปล ไว้อย่างถูกต้อง ซึ่งจั ดเตรียมไว้ ในสถานที่ ท่อง เที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมต่างๆ ข้อมูลที่ เตรี ย มไว้ ต้ อ งเป็ นข้ อ มู ล ที่ เหมาะสมในเชิ ง วัฒนธรรมซึง่ เกิดจากการพั ฒนาขึน้ จากความร่วม มือของคนในชุ มชน และมีการประชาสัมพั นธ์ด้วย ภาษาที่เหมาะสมกับนักท่องเที่ยว

หมวด C : การเพิ่มผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบ ทางวัฒนธรรมแก่ชุ มชน และนักท่องเที่ยว C1 การปกป้องดูแลสถานที่ท่องเที่ยว การปกป้องดูแลสถานที่ทอ่ งเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว ต้องมีนโยบายและระบบในการวัดผล การฟื้นฟู รักษาธรรมชาติและสถานที่ทอ่ งเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมถึงมรดกสิง่ ปลูกสร้าง (เชิงประวัตศิ าสตร์และ โบราณคดี) และทัศนียภาพทั้งในเมืองและชนบท

IN-C1 a. มีระบบการจั ดการเพื่อปกป้องแหล่ง ธรรมชาติและวัฒนธรรม รวมถึงการสร้างสภาพ ทิวทั ศน์ที่ดี ให้แก่แหล่งมรดก IN-C1 b. มีระบบการจัดการเพือ่ ตรวจสอบ วัดผล และบรรเทาผลกระทบจากการท่องเที่ ยวที่ มีต่อ แหล่งท่องเที่ยว

C2 การจั ดการนักท่องเที่ยว IN-C2 a. มีกลไกเชิงบริหารที่รับผิ ดชอบน�ำเอา การจัดการนักท่องเทีย่ ว แหล่งท่องเทีย่ วต้องมีระบบ แผนและการปฏิบัติการจั ดการนักท่องเที่ยวไปใช้ ในการจัดการนักท่องเที่ยวส�ำหรับสถานที่ทอ่ งเที่ยว ต่างๆ หมายรวมถึงมาตรการในการรักษา ป้องกัน และพัฒนาสมบัตทิ างธรรมชาติและวัฒนธรรม 16

IN-C4 a. มีกฎหรือข้อบังคับ เพื่อปกป้องแหล่ง ประวัตศิ าสตร์และโบราณคดี รวมถึงแหล่งใต้นำ�้ และมีหลักฐานการใช้จริง IN-C4 b. มีแผนงานเพื่อปกป้องและประกาศ ยกย่องมรดกทางวัฒนธรรมที่จั บต้องไม่ได้ IN-C5 a. มีขอ้ มูลสือ่ ความหมายแก่นกั ท่องเที่ยว ในศูนย์ขอ้ มูลท่องเที่ยว และ ในแหล่งท่องเที่ยวทั้ง ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม IN-C5 b. มีข้อมูลสื่อความหมายที่มีความเหมาะ สมทางวัฒนธรรม IN-C5 c. ชุ มชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการพั ฒนา ข้อมูลสื่อความหมาย IN-C5 d. มีข้อมูลสื่อความหมายเป็นภาษาที่ นัก ท่องเที่ยวโดยส่วนใหญ่สามารถเข้าใจได้ IN-C5 e. มีการฝึกอบรมมัคคุเทศก์ ในเรื่องการ ใช้ข้อมูลสื่อความหมาย IN-C6 a. มีกฎหมาย ข้อบังคับ หรือแผนงาน เพือ่ C6 ทรัพย์สินทางปัญญา แหล่งท่องเที่ ยวต้องมีระบบในการสร้างการมี ปกป้องทรัพย์สนิ ทางปัญญาให้กบั คนในชุมชนและ ส่วนร่วมที่ เกี่ยวกับการป้องกันและการวางแผน ชุมชน ทรัพย์สินทางปัญญาของชุ มชนและบุคคล

หมวด D: การเพิ่มผลประโยชน์และลดผลกระทบด้านลบทางสิ่งแวดล้อม D1 ความเสี่ยงทางด้านสิ่งแวดล้อม ความเสีย่ งทางด้านสิง่ แวดล้อม แหล่งท่องเทีย่ วควร มีการระบุความเสีย่ งทางด้านสิง่ แวดล้อมและระบบ ในการแก้ปญ ั หาความเสีย่ งเกีย่ วกับสิง่ แวดล้อม

IN-D1 a. ในช่วง 5 ปีทผี่ า่ นมามีการประเมินด้านความ ยัง่ ยืน และการ(ค้นหา)ระบุความเสีย่ งด้านสิง่ แวดล้อม IN-D1 b. มีระบบที่จะรับมือกับความเสี่ยงที่ ได้ ระบุนั้นๆ

17


หลักเกณฑ์

D2 การปกป้องสิ่งแวดล้อมที่มีความเสี่ยง การปกป้องสิง่ แวดล้อมที่มคี วามเสีย่ ง แหล่งท่อง เที่ยวจะต้องมีระบบการควบคุมและดูแลผลกระทบ จากการท่องเที่ยวที่อาจมีตอ่ สิง่ แวดล้อม ทั้งนี้ เพือ่ ธ�ำรงไว้ซงึ่ การรักษาถิ่นที่อยูอ่ าศัย พันธุส์ ตั ว์ ระบบ นิเวศ และการป้องกันการแพร่ระบาดของแมลงและ โรคต่างๆ D3 การปกป้องสิ่งมีชี วิ ตในป่า การปกป้องสิง่ มีชีวติ ในป่า แหล่งท่องเทีย่ วต้องปฏิบตั ิ ตามกฎหมายท้องถิน่ กฎหมายประจ�ำชาติและกฎหมาย ระหว่างประเทศในการเก็บเกีย่ ว การล่า การแสดง และ การค้าสิง่ มีชีวิตจากป่า รวมทั้งพันธุ์ไม้และพันธุส์ ตั ว์ D4 ปรากฏการณ์เรือนกระจก ปรากฏการณ์เรือนกระจก แหล่งท่องเทีย่ วจะต้องส่ง เสริมให้บริษทั ต่างๆ ตรวจวัด ดูแล และลดระดับ การปล่อยควันพิษอันเป็นสาเหตุของปรากฏการณ์ เรือนกระจกให้นอ้ ยลง ทั้งจากทุกภาคส่วนของการ ปฏิบตั งิ าน พร้อมรายงานผลต่อสาธารณะ รวมถึง การปล่อยควันพิษจากผู้ให้บริการด้วย D5 การประหยัดพลังงาน การประหยัดพลังงาน แหล่งท่องเที่ยวต้องมีระบบ การส่งเสริมให้บริษทั ต่างๆ ตรวจวัด ดูแล ลดการ ใช้พลังงาน และรายงานต่อสาธารณะ รวมทั้งการลด การใช้พลังงานจากแร่ธาตุธรรมชาติ

รายละเอียดของหลักเกณฑ์

IN-D2 a. มีการเก็บข้อมูลรายการสัตว์ป่าและ แหล่งที่อยูอ่ าศัยของสัตว์ปา่ หายากและถูกคุกคาม ซึง่ มีการท�ำให้เป็นปัจจุบนั เสมอ IN-D2 b. มีระบบการจั ดการส�ำหรับการตรวจ สอบผลกระทบและปกป้องระบบนิเวศ สิง่ แวดล้อม ที่เปราะบาง และสิ่งมีชี วิ ตต่างๆ IN-D2 c. มีระบบป้องกันการเข้ามาของสายพันธุต์ า่ งถิน่ IN-D3 a. มีการใช้อนุสญ ั ญา CITES (อนุสญ ั ญา ว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึง่ ชนิดสัตว์ปา่ และ พืชป่าที่ ใกล้สญ ู พั นธุ)์ IN-D3 b. มีขอ้ บังคับและมาตรฐานเพือ่ ควบคุม การเลีย้ ง จับ แสดง และขาย พืชและสัตว์ IN-D4 a. มีแผนงานในการช่วยเหลือผูป้ ระกอบ การในการวัด ตรวจสอบ ลด และรายงานการปลด ปล่อยก๊าซเรือนกระจก IN-D4 b. มีระบบเพือ่ ช่วยผูป้ ระกอบการในการลด การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

IN-D5 a. มีแผนงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน การวัด การตรวจสอบ การลด และการเผยแพร่ รายงานปริมาณการใช้พลังงาน IN-D5 b. มีนโยบายและระบบแรงจูงใจในการลด การใช้พลังงานฟอซซิล ปรับ ปรุงการใช้พลังงาน อย่างมีประสิทธิภาพ D6 การจั ดการน�้ำ IN-D6 a. มีแผนงานการช่วยเหลือผูป้ ระกอบการ การจัดการน�ำ้ แหล่งท่องเที่ยวต้องมีระบบส่งเสริม ในวัด ตรวจสอบ ลด และเผยแพร่รายงานปริมาณ ให้บริษทั ต่างๆ ตรวจวัด ดูแล ลดการใช้นำ�้ และ การใช้นำ�้ รายงานต่อสาธารณะ D8 คุณภาพน�้ำ IN-D8 a. มีระบบการจัดการเพือ่ ตรวจสอบและ คุณภาพน�ำ้ แหล่งท่องเทีย่ วต้องมีระบบดูแลคุณภาพ เผยแพร่รายงานคุณภาพน�้ำดื่มและน�้ำใช้ ในการ น�้ำดื่มและน�้ำ เพื่อนันทนาการโดยใช้มาตรฐาน นันทนาการ คุณภาพน�ำ้ และรายงานต่อสาธารณะ รวมทั้งแหล่ง IN-D8 b. มีการเผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบ ท่องเที่ ยวจะสามารถจั ดการกับ ปัญหาเกี่ยวกับ IN-D8 c. มีระบบการรับมือกับ ประเด็นเรื่อง คุณภาพน�ำ้ ที่เกิดขึน้ ได้ตามเวลาที่เหมาะสม 18 คุณภาพน�ำ้ ที่ทันท่วงทีภายในเวลาที่เหมาะสม

หลักเกณฑ์

รายละเอียดของหลักเกณฑ์

D9 น�้ำเสีย น�ำ้ เสีย แหล่งท่องเที่ยวจะต้องมีคมู่ อื ที่ชดั เจนเกีย่ ว กับการพั กน�้ำเสีย การรักษาสภาพน�้ำ และการ ทดสอบน�ำ้ ทีถ่ กู ระบายออกจากท่อระบายน�ำ้ เพือ่ ให้ แน่ใจว่าน�ำ้ เสียเหล่านัน้ ได้ถกู บ�ำบัดและน�ำมาใช้ใหม่ หรือถูกปล่อยออกไปโดยมีผลกระทบต่อประชากร และสิง่ แวดล้อมน้อยที่สดุ

IN-D9 a. มีขอ้ บังคับในเรื่องการวางสถานที่ การ บ�ำรุงรักษา และการทดสอบการปล่อยของเสียออก จากบ่อเกรอะ และระบบการบ�ำบัดน�ำ้ เสีย และมี หลักฐานว่ามีการใช้ขอ้ บังคับนัน้ จริง IN-D9 b. มีขอ้ บังคับในการก�ำหนดขนาดและชนิด ของระบบการบ�ำบัดน�ำ้ เสียให้เหมาะสมและเพียงพอ กับสถานที่ และมีหลักฐานว่ามีการใช้ขอ้ บังคับนัน้ จริง IN-D9 c. มีแผนงานการช่วยเหลือผูป้ ระกอบการ ในการบ�ำบัดน�ำ้ เสียและน�ำน�ำ้ ที่บำ� บัดแล้วกลับมา ใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิผล IN-D9 d. มีแผนงานในดูแลการบ�ำบัด การน�ำ กลับมาใช้ หรือการปล่อยน�้ำเสียให้มีผลกระทบ เชิงลบต่อชุมชนและสิง่ แวดล้อมน้อยที่สดุ

D10 การลดจ�ำนวนขยะ การลดจ�ำนวนขยะ แหล่งท่องเทีย่ วจะต้องมีระบบส่ง เสริมให้บริษทั ต่างๆ ลดจ�ำนวนขยะ การแปรรูปขยะ และน�ำกลับมาใช้ใหม่ และขยะที่เหลือสามารถน�ำมา แปรรูปหรือน�ำกลับมาใช้ใหม่จะต้องได้รบั การก�ำจัด อย่างปลอดภัยและยัง่ ยืน

IN-D10 a. มีระบบการเก็บขยะที่มกี ารแจ้งบันทึก ปริมาณของขยะที่เก็บได้อยูเ่ สมอ IN-D10 b. มีแผนการการจัดการขยะที่มกี ารไป ปฏิบัติจริง และมีเป้าหมายเชิงปริมาณในการลด ขยะให้เหลือน้อยที่สดุ รวมถึงการจัดการขยะที่ ไม่ สามารถน�ำมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้อย่างปลอดภัย IN-D10 c. มีแผนงานการช่วยเหลือผูป้ ระกอบการใน การลดขยะ การน�ำขยะกลับมาใช้ใหม่ การรีไซเคิลขยะ IN-D10 d. มีแผนงานในการลดการใช้ขวดน�ำ้ ทั้ง จากสถานประกอบการและนักท่องเที่ยว IN-D11 a. มีแนวทางและข้อบังคับในการลด มลภาวะทางเสียงและแสงลงให้นอ้ ยที่สดุ IN-D11 b. มีแผนงานสนับสนุนผู้ประกอบการ ปฏิ บั ติ ตามหลั ก เกณฑ์ แ ละข้ อ บั ง คั บ ในการลด มลภาวะทางเสียงและแสงลง IN-D12 a. มีแผนงานในการเพิม่ การใช้การขนส่ง ที่มผี ลกระทบต�ำ่ IN-D12 b. มีแผนงานในการท�ำให้แหล่งท่องเที่ยว มีขีดความสามารถในการน�ำเอาระบบการเดินทาง ที่ ได้ออกก�ำลังมาใช้

D11 มลภาวะทางแสงและเสียง มลภาวะทางแสงและเสียง แหล่งท่องเที่ยวควรมี คูม่ อื และกฎข้อบังคับในการลดมลภาวะทางแสงและ เสียง และส่งเสริมให้บริษทั ต่างๆ ปฏิบตั ติ าม D12 การขนส่งที่ส่งผลกระทบต�่ำ การขนส่งที่ส่งผลกระทบต�่ำ แหล่งท่องเที่ยวจะ ต้องมีระบบในการส่งเสริ มให้เพิ่มการใช้ระบบ ขนส่งที่มีผลกระทบต�่ำ รวมถึงการใช้ระบบขนส่ง สาธารณะและระบบขนส่งที่ ไม่ตอ้ งใช้พลังงาน เช่น การเดิน หรือการปั่นจั กรยาน

19


การบริหารจัดการการท่องเทีย่ วโดยชุมชนเชิงวัฒนธรรม โดยกระบวนการมีสว่ นร่วมของชุมชนบ้านชากแง้ว อ�ำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี “บ้านชากแง้ว” ตั้งอยู่ในพื้นที่ต�ำบลห้วยใหญ่ อ�ำเภอบางละมุง จั งหวัดชลบุรี เป็นชุ มชนชาวจีน เก่าแก่ที่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่และตั้งถิ่นฐานมายาวนานกว่า 100 ปี จนถึงปัจจุบันก็ยังคง รักษาสภาพห้องแถวไม้ที่ปลูกเรียงรายเป็นทางยาวตลอดแนวถนน วิถีชี วิตและวัฒนธรรมที่ผสมผสาน ระหว่างความเป็นไทย-จีนได้อย่างมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว วิ ถี ชี วิ ตความเป็นอยู่ สถาปัตยกรรมที่ มี ความโดดเด่นของชุ มชนชากแง้ว เช่น สภาพบ้านเรือนเป็นห้องแถวไม้มีมากกว่า 300 หลังคาเรือน ซึง่ ใช้เป็นร้านค้าโบราณที่จำ� หน่ายสินค้าท�ำมือ อาหารพืน้ เมืองของชุมชน รวมทั้งมีศาสนสถานที่บง่ บอก ถึงความเป็นชุ มชนจีนโบราณ เช่น ศาลเจ้าแม่ทั บทิม โรงงิ้ว โรงเจ โรงฝิ่น หรือแม้กระทั่ งโรงหนัง ชากแง้วราม่า ปัจจุบนั ชุมชนบ้านชากแง้วและหน่วยงานในท้องถิ่นได้ทำ� การปรับปรุงชุมชนบ้านชากแง้ว ให้กลายเป็นถนนคนเดินที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม ทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00 - 21.00 น. รวมทั้ งมีการประดับตกแต่งด้วยโคมไฟสไตล์จนี โบราณสีแดง และพ่อค้าแม่คา้ ในชุ ดแต่งกายสไตล์จนี โบราณที่บง่ บอกความเป็นชุมชนของคนจีนในชากแง้ว จากร่องรอยความรุง่ เรืองในอดีตของชากแง้วผ่าน สภาพอาคารบ้านเรือนที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและวิถีชี วิตอันทรงคุณค่าและอัตลักษณ์เปีย่ มเสน่ห์ ของชุ มชนจีนโบราณ โดยนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อประสานงานเพื่อขอรับข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ชุ มชนบ้านชากแง้ว ณ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้วได้ทุกวัน ตลาดจีนโบราณชุ มชนบ้านชากแง้วได้เปลี่ยนความเงียบเหงาจากการที่ลูกหลานไปท�ำงานในเมือง ใหญ่ให้กลับมีชี วิ ตชี วา ฟื้นคืนวิ ถีชี วิ ตของคนในชุ มชนขึ้นอีกครั้ง ผ่านการน�ำของดี ของอร่อยมาขายใน ตลาดและยังส่งเสริมให้คนในชุมชนได้มสี ว่ นร่วมในการพั ฒนารูปแบบการบริหารจัดการตลาดก่อให้เกิด ความสามัคคีและมีรายได้เสริ มจากการท่องเที่ ยว โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ในชุ มชนประกอบอาชี พ เกษตรกรรม ท�ำไร่มันส�ำปะหลัง เผาถ่าน และการประมง สภาพพื้นที่ โดยทั่ วไปเป็นที่ราบลุ่มเชิงเขา มีลำ� คลองชากแง้วไหลผ่านกลางชุมชน ประชาชนนับถือศาสนาพุทธ มีการคมนาคมที่สะดวกและสามารถ เชื่ อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นในบริเวณใกล้เคียงได้ เช่น เขาชีจรรย์ สวนนงนุช ไร่องุ่น หรือใน ตัวเมืองพั ทยา ทั้งนี้ชุมชนบ้านชากแง้ว ได้รับการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ นกั ท่องเที่ยวได้สมั ผัส กับวิ ถี ชี วิ ตและวัฒนธรรมของคนจีนโบราณโดยมีสถานที่และกิจกรรมเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุ มชน ประกอบด้วย

20

ศาลเจ้าแม่ทั บทิม ซึ่งจะมีเทศกาลไหว้เจ้าแม่ทั บทิม เพื่อความเป็นสิริมงคลของ ชุ มชนชากแง้วเป็นประจ�ำทุกปี โรงหนังโบราณ ชากแง้วราม่า ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2497 ในสมัย ร.ต.อ. ประเมิน เพื่อเป็นสถานบันเทิงและพั กผ่อนหย่อนใจของคนชากแง้วในย่านพาณิช ยกรรม สถาปัตยกรรมการสร้างเรือนไม้ที่พั กอาศัยเป็นรูปทรงตัว L ที่บ ่งบอกความเป็น ชุ มชน คนจีนในอดี ตซึ่งเกิดจากการวางผังเมืองให้มีถนนระหว่างอาคารเรือนไม้เหมือน บ้านจั ดสรรในเวลานี้ กิจกรรมที่ เกี่ยวกับ ประเพณีวัฒนธรรมจีนที่ ทางชุ มชนได้จั ดให้มีขึ้นทุกปี เช่น เทศกาลไหว้เจ้าแม่ทั บทิม เทศกาลไหว้พระจั นทร์ เทศกาลกินเจ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลเชงเม้ง โรงงิ้วโบราณ ซึ่งเป็นสถานที่ ในการแสดงงิ้วในเทศกาลส�ำคัญต่างๆ ตลาดจีนโบราณบ้านชากแง้ว โดยมีการจ�ำลองรูปแบบการใช้รถลากและการจ�ำหน่าย สินค้าท�ำมือ การจ�ำหน่ายอาหารและขนมของชุ มชนคนจีนโบราณ เป็นต้น เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในชุ มชนหรือตลาดจีนชากแง้ว นักท่องเที่ยวจะได้เห็นคุณค่าทางด้าน สถาปัตยกรรม ที่สะท้อนวัฒนธรรมและอดีตที่รงุ่ เรืองและยังคงหลงเหลือร่องรอยของการค้าอันรุง่ เรือง ของชุมชนบ้านชากแง้ว วัฒนธรรมด้านอาหารบางอย่างที่คนรุน่ หลังไม่รจู้ ักและใกล้จะเลือนหายไปตาม ยุคสมัย ทั้ งนีท้ างชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้ว ได้มีข้อตกลงกับนักท่องเที่ยวที่ เข้ามาท่องเที่ยวในชุ มชนเพื่อการพั ฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน ได้แก่ ศึกษาข้อมูลสถานที่และการเดินทางก่อนออกเดินทาง พูดคุยกับคนในชุ มชนเพื่อเรียนรู้ความเป็นมาและภูมิปัญญาท้องถิ่น ควรแต่งกายให้สุภาพ ให้เกียรติสถานที่และเหมาะสมกับกาลเทศะ เคารพสถานที่ วัฒนธรรม และผู้คนที่พบเจอ ติดต่อชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุ มชนบ้านชากแง้วเพื่อขอข้อมูล เพิ่มเติมหรือให้การน�ำเที่ยว มีความรับผิ ดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทิ้งขยะให้ลงถังเพื่อทิวทั ศน์ที่ น่ามอง เปิดใจกว้าง ลองกิน ลองท�ำแบบชุ มชน อุดหนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น กระจายรายได้ต่อชุ มชน 21


ชุ มชนบ้านชากแง้ว จึงกลายเป็นชุ มชนตัวอย่างและได้พั ฒนามาเป็นชุ มชนท่องเที่ ยวจนได้รับรางวัล มากมาย อาทิ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านชากแง้ว ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในการท่องเที่ยวเชิง สร้างสรรค์ (Creative Tourism) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รางวัลดี เด่นประเภท องค์กรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวจากการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับ ประเทศ ปี พ.ศ. 2558 เป็นต้น จากการสัมภาษณ์ผแู้ ทนชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว กล่าวว่าการมีตลาดไม่ใช่แค่ ท�ำให้มีรายได้ มีกิจกรรมที่ ได้ท�ำร่วมกันเพี ยงเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระชับความสัมพั นธ์ ในครอบครัว มากขึน้ ด้วย การที่ลกู หลานกลับมาเยีย่ มบ้านในช่วงวันหยุดที่มตี ลาดหรือในบางครอบครัวลูกหลานย้าย กลับมาประกอบอาชี พและอาศัยอยู่บา้ นถาวร ท�ำให้บรรยากาศภายในชุ มชนคึกคักและมีชี วิ ตชี วาขึ้นอีก ครั้ง มีการรื้อฟื้นประเพณีวัฒนธรรมขึ้นมาเป็นกิจกรรมให้แก่นักท่องเที่ยว เช่น การเขี ยนหน้ากากงิ้ว ซึง่ ได้รับการพั ฒนาเป็นของที่ระลึกขายให้แก่นกั ท่องเที่ยว และยังได้รับการถ่ายทอดให้คนรุน่ หลังผ่าน การบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นกับการจั ดการเรียนการสอนในหลักสูตรท้องถิ่นของโรงเรียนรวมทั้ งมี การประกวดการท�ำหน้ากากงิ้วในงานประจ�ำปีอีกด้วย จุดแข็งชุมชนบ้านชากแง้ว คือ ด้านสังคม วัฒนธรรม และวิถีชี วิต ชุมชนมีความ เข้มแข็ง มีประเพณีและวัฒนธรรมที่ดีงาม มีทรัพยากรอาหารที่สมบูรณ์ มีกลุม่ อาชี พที่สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นและภูมิทั ศน์วัฒนธรรมของคนจีนโบราณที่ งดงามเก่าแก่ จุดอ่อนของชุ มชนบ้านชากแง้ว คือ ปัญหาการอพยพย้ายถิ่นของคนรุ่นใหม่ใน ชุมชน ที่ตอ้ งการหลีกหนีจากวิถีชี วิตเกษตรกรรมหรือการประมงเพือ่ ไปสูอ่ าชี พ อุตสาหกรรมใหม่ในเมืองใหญ่ โอกาสและอุปสรรคของชุ มชนบ้านชากแง้ว ได้รับโอกาสที่ดจี ากหน่วยงานของ รัฐให้การสนับสนุนและพั ฒนาพืน้ ที่ ให้เป็นแหล่งเรียนรูแ้ ละศึกษาดูงานจนเป็น ที่ ส นใจของหน่วยงานทั่ วไป แต่ยังขาดการประสานงานที่ ดี และต่อเนื่อง ของหน่วยงานต่างๆ ที่ ให้การสนับสนุน งบประมาณค่อนข้างจ�ำกัด (ส�ำนักท่อง เที่ยวโดยชุ มชน, 2557)

22

การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน ตามหลักเกณฑ์ GSTC ของชุมชนบ้านชากแง้ว โดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของชุมชนบ้านชากแง้ว ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้ว เป็นการบริหารจั ดการการท่องเที่ยวโดยชุ มชน ที่มกี ารจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ผสานกับการสืบสานวัฒนธรรมชุมชนจีนโบราณ เทศบาลต�ำบล ห้วยใหญ่ อ�ำเภอบางละมุง จั งหวัดชลบุรี เป็นหน่วยงานที่ริเริ่มให้บริการด้านการท่องเที่ยว มาตั้งแต่ พ.ศ. 2558 ต่อมาเทศบาลต�ำบลห้วยใหญ่ เล็งเห็นถึงศักยภาพการพั ฒนาการท่องเที่ยวของชุ มชน บ้านชากแง้ว ด้วยฐานประเพณีวัฒนธรรมจีนโบราณ อาทิ ความหลากหลายของวัฒนธรรมจีนใน ด้านสิ่งปลูกสร้าง เช่น ศาลเจ้าแม่ทั บทิม โรงงิ้ว โรงเจ ตลอดจนวิ ถีชี วิ ตของคนจีนในสมัยเมื่อ 100 ปี ที่ผ ่านมา ทั้ งด้านประเพณีวัฒนธรรมที่ผูกพั นกับอาชี พการเกษตร และการประมง อีกทั้ งวิ ถีชี วิ ตเรื่อง การแต่งกาย อาหารการกิน ที่เป็นต้นต�ำรับของคนจีนโพ้นทะเล เช่น ต้มกะหล�่ำ ฮ่อยจ๊อ ก๋วยจั๊ บ ขนมเปี๊ยะ ขนมกุ้ยช่าย หมูหยอง บ๊ะจ่าง ห่อหมกปลาช่อนนา เป็นต้น การบริหารจั ดการการท่องเที่ยวของชุ มชนบ้านชากแง้ว มีความยั่งยืน จากการจั ดสรรผลประโยชน์ จากการจั ดการการท่องเที่ ยวให้แก่ชุ มชนที่ เป็นเจ้าของพื้นที่ อย่างแท้จริ ง เชิญชวนประชาชนเข้ามามี ส่วนร่วมในการจัดการท่องเที่ยว ต่อมาใน ปี พ.ศ.2558 ได้จัดตัง้ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน บ้านชากแง้ว และร่วมกันคิดพั ฒนากิจกรรมต่างๆ รองรับนักท่องเที่ยวให้ ได้สัมผัสบรรยากาศและ วิถีชี วิตของชุมชนชาวจีนโบราณ ที่มวี ิถีชี วิตอยูร่ ว่ มกับชาวไทยได้อย่างกลมกลืน รวมทั้งชมสถาปัตยกรรม สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ บ ่งบอกถึงความเจริ ญรุ่งเรืองของชุ มชนชากแง้วในอดี ต เช่น การมีโรงหนัง ชากแง้วราม่า โรงงานมันส�ำปะหลัง โรงฝิ่น ซึ่งล้วนเป็นวิ ถีชี วิ ตและวัฒนธรรมของชาวจีนโพ้นทะเลที่ อพยพมาอยูใ่ นชุมชนชากแง้ว เมือ่ 100 กว่าปีที่แล้ว ได้สร้างความประทับใจให้แก่นกั ท่องเที่ยวอย่างยิง่

23


อพท. มีบทบาทในการส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชน อย่างยั่งยืนของชุ มชนบ้านชากแง้ว ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ ได้ประยุกต์ ใช้มาจาก หลักเกณฑ์ GSTC-D เพื่อเป็น แนวทางในการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยัง่ ยืน แล้วยังเป็นเครื่องมือวัดระดับการพั ฒนาการ ท่องเที่ยวโดยชุ มชนอย่างยั่งยืน นอกจากนีส้ �ำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 ยังให้การช่วยเหลือสนับสนุนชุ มชน และรับหน้าที่เป็นสื่อกลางในการประสานงานการบริหารจั ดการการท่องเที่ยว รวมทั้ งประสานการใช้ อ�ำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิ สาหกิจ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐใน ระดับพื้นที่ เพื่อบูรณาการการบริหารจั ดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนแก่ชุ มชน (ส�ำนักท่องเที่ยวโดย ชุ มชน, 2557) กระบวนการท�ำงานของ อพท. จะเป็นการด�ำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายผู้เชี่ ยวชาญ และมีประสบการณ์ด้านต่างๆ ที่จะมีบทบาทในการช่วยส่งเสริมให้การพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชน ให้มีความยั่งยืน ชมรมส่งเสริ มการท่องเที่ ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้วประกอบด้วย บุคลากรในหน่วยงานต่างๆ ทางด้านวิ ชาการ ด้านพั ฒนาองค์กร ด้านการตลาด ด้านชุ มชน และด้านตัวแทนองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการพั ฒนาการท่องเที่ยว นอกจากนี้ อพท. ยังมีกล่องความคิด 9+1 Building Blocks และ กระบวนการ Co-Creation ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือหลักในการระดมสมองของชุ มชนใน การวางแผนการพั ฒนาการท่องเที่ยวของชุมชนตามเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว โดยชุ มชน 100 ข้อ 5 ด้าน ประกอบไปด้วย 1. ด้านการบริหารจั ดการการท่องเที่ยวโดยชุ มชน 2. ด้านการจั ดการเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชี วิ ตที่ดี 3. ด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรม 4. ด้านการจั ดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบและยั่งยืน 5. ด้านบริการและความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบัน อพท. ได้มีการพั ฒนาเกณฑ์ ในการด�ำเนินงานการท่องเที่ยวโดยชุ มชนเป็น “เกณฑ์การ พั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชนของประเทศไทย หรือที่เรียกว่า CBT Thailand” ที่ ใช้ ในการพั ฒนา การท่องเที่ยวโดยชุ มชนทั่ วประเทศ (อพท. 2560) การจั ดตั้งชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชนเป็นกลไกการขับ เคลื่อนการพั ฒนาการท่องเที่ยว โดยชุ มชนอย่างยั่งยืนของชุ มชนที่ อพท. ได้ก�ำหนดให้ชุ มชน ได้ร่วมกันคัดเลือกตัวแทนเข้ามาเป็นคณะ กรรมการชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชน เพื่อท�ำหน้าที่เป็นหน่วยกลางการบริหารจั ดการการ ท่องเที่ยวโดยชุ มชน และขับ เคลื่อนกิจกรรมการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชนของชุ มชน ด�ำเนินการ ตามวิ สัยทั ศน์ พั นธกิจ วัตถุประสงค์ เป้าหมายของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้ว ติดตามประเมินผลในการด�ำเนินงานด้านการท่องเที่ยว ด้านการด�ำเนินงานและที่เกีย่ วข้อง และรายงาน ผลการด�ำเนินงาน ตลอดจนปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องในการด�ำเนินงานต่อชุ มชนหรือองค์กรภาคี เครือข่ายด้านการท่องเที่ยว 24

โครงสร้างของชมรมฯ ที่ครอบคลุมกระบวนการท�ำงานการท่องเที่ยวของชุ มชนบ้านชากแง้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 – 2560 โดยมีรายละเอียดของหน้าที่และความรับผิ ดชอบ ดังนี้

ฝ่าย

หน้าที่และความรับผิ ดชอบ

1. ฝ่ายประชาสัมพั นธ์และ เชื่ อมโยงกิจกรรมการท่องเที่ยวของชุมชนสูก่ ลุม่ นักท่องเที่ยวเป้าหมาย การตลาด โดยผ่านเครื่องสือ่ สารที่เหมาะสม สือ่ สารภายในชุมชนเพือ่ ให้เกิดความรูค้ วามเข้าใจที่ตรงกันโดยการท�ำ จดหมายแจ้งเวียน หรือผ่านเสียงตามสายของชุมชน ดูแลสือ่ ออนไลน์ ได้แก่ เว็บไซต์ของการท่องเที่ยวชุมชน เว็บไซต์ชุมชน ออนไลน์ (Social Media) และเว็บไซต์ที่เกีย่ วข้อง หมั่นตรวจสอบความ คิดเห็น ตอบค�ำถามและให้ขอ้ มูลที่ถกู ต้องและรวดเร็ว สร้างกิจกรรมการตลาดเพือ่ ดึงดูดนักท่องเที่ยว ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกีย่ วข้องกับการตลาดท่องเที่ยว เช่น ททท. อพท. สมาคมการท่องเที่ยวต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรมทางการท่องเทีย่ วกับหน่วยงานต่างๆตามความเหมาะสม 2. ฝ่ายการเงินและบัญชี จัดท�ำระบบการเงิน บัญชี รับ-จ่ายของชุมชน ดูแลทรัพย์สนิ และผลประโยชน์ของชุมชน 3. ฝ่ายวิชาการ ศึกษา ค้นคว้าและรวบรวมเรื่องราวต่างๆ ของชุมชน เพือ่ น�ำมาเป็น ข้อมูลการท่องเที่ยวของชุมชน เก็บรวบรวมข้อมูลการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ ให้ขอ้ มูลที่ถกู ต้องและทันสมัยแก่ฝา่ ยต่างๆ 4. ฝ่ายพั ฒนาและควบคุม ออกแบบเส้นทาง/ กิจกรรมการท่องเทีย่ วในชุมชน น�ำเสนอเป็นรายการ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ ท่องเที่ยว (Package Tour) แก่บริษทั จัดน�ำเที่ยวและตัวแทนจัดจ�ำหน่าย ควบคุมรูปแบบการท่องเที่ยวและการบริการให้มีมาตรฐานและคง อัตลักษณ์ของชุมชน พั ฒนาและออกแบบสินค้าของฝากและของที่ระลึก ควบคุมคุณภาพและราคาของสินค้าและบริการเพื่อให้เกิดความเป็น ธรรมแก่คนในชุมชนและนักท่องเที่ยว 5. ฝ่ายดูแลสถานที่ บ�ำรุง บ�ำรุง รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมของชุมชน รั ก ษาสิ่ ง แวดล้ อ มและ ปรับปรุงภูมทิ ัศน์ของชุมชน ปรับปรุงภูมทิ ัศน์ สร้าง ซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารสถานที่ ถนน และระบบบ�ำบัดน�ำ้ เสีย ภายในชุมชน ประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกีย่ วข้องตามสมควร 25


ฝ่าย

หน้าที่และความรับผิ ดชอบ

6. ฝ่ายสาธารณสุข

- ให้ความรูด้ า้ นสุขศึกษาและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่คนในชุมชน - ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม เช่น จัดหาถังขยะให้เพียงพอ สร้าง ส้วมที่ถกู สุขลักษณะ - รณรงค์ ให้คนในชุมชนใส่ใจในเรื่องความสะอาดและสุขลักษณะของแหล่ง ท่องเที่ยว สถานประกอบการ และอาหารที่ ให้บริการนักท่องเที่ยว 7. ฝ่ายทะเบียน - พั ฒนาระบบฐานข้อมูลด้านการท่องเที่ยวและบริการในด้านต่างๆ ใน ชุมชน ได้แก่ แหล่งท่องเที่ยว สถานประกอบการและผูป้ ระกอบการ รวมทั้ง ข้อมูลนักท่องเที่ยวให้ทันสมัยและง่ายต่อการใช้งาน - รวบรวมข้อมูลและพั ฒนาฐานข้อมูลให้ทันสมัย 8. ฝ่ายรักษาความปลอดภัย - ดูแลความสงบเรียบร้อยในชุมชน เช่น จัดเวรยามป้องกันรักษาความสงบ - ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในชุมชน - กิจกรรมอื่น ๆ เช่น รณรงค์ปอ้ งกันยาเสพติดและ ลดอาชญากรรม 9. ฝ่ายพัฒนาสังคม - สร้างทัศนคติที่ดีของชุมชนและภาคี - การวางแผนและจัดท�ำโครงการพัฒนาชุมชนโดยเฉพาะการส่งเสริมอาชีพ - การขอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการและเอกชนตามที่เห็นสมควร - การแก้ไขปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องที่เกีย่ วกับการพั ฒนา ทั้งนีช้ ุมชนบ้านชากแง้วได้รบั การประเมินชุมชนตามเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว โดยชุมชน เรียบร้อยแล้วตามกระบวนการ ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ชมรมส่งเสริ มการท่องเที่ ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้วประเมินตนเองตามเกณฑ์ มาตรฐานการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ขัน้ ตอนที่ 2 ส�ำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน (สทช.) และส�ำนักงานพืน้ ที่พเิ ศษเมืองพั ทยาและพืน้ ที่ เชื่อมโยงและชุมชนร่วมกันประเมินชุมชนบ้านชากแง้วตามเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการแหล่ง ท่องเที่ยวโดยชุมชน ขัน้ ตอนที่ 3 สทช. สรุปผลการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการแหล่งท่องเทีย่ วโดยชุมชน ขัน้ ตอนที่ 4 คณะท�ำงานรับรองแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ลงพืน้ ที่ประเมินผลภาพรวม นอกจากนี้ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้วยังมีกฎระเบียบของชมรมส�ำหรับคณะ กรรมการและสมาชิกทุกคนเพือ่ ขับ เคลือ่ นการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้เป็นไปอย่างต่อเนือ่ งและ มีประสิทธิภาพ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 – ปัจจุบนั ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้วได้ พั ฒนาการด�ำเนินงานตามแนวทางเกณฑ์การพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชนของประเทศไทย (CBT Thailand) ที่มงุ่ เน้นการพั ฒนาการท่องเที่ยวให้ชุมชนสามารถพึง่ พาตนเองได้ เกิดการกระจายรายได้และ สามารถช่วยลดความเหลือ่ มล�ำ้ ในชุมชนได้อกี ทางหนึง่ นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2561 เกณฑ์การพั ฒนาการ ท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทยได้รับการรับรอง GSTC-Recognized จาก GSTC เป็นที่เรียบร้อย 26

กระบวนการพัฒนาการท่องเทีย่ วโดยชุมชนของชุมชนบ้านชากแง้ว อพท. ได้เข้ามามีบทบาทส�ำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานการพัฒนาการ การท่องเทีย่ ว โดยชุมชนของชุมชน โดยมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดของ อพท.ประกอบด้วยส�ำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน (สทช.) และส�ำนักงานพืน้ ที่พเิ ศษเมืองพั ทยาและพืน้ ที่เชื่ อมโยง เข้ามาท�ำหน้าที่สง่ เสริม สนับสนุนและ ประสานงานการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของชุมชนบ้านชากแง้ว ดังนี้ ระยะที่ 1 กระบวนการรับรองแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ประกอบด้วย 3 ขัน้ ตอน ขัน้ ตอนที่ 1 จัดตัง้ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว ประธาน ฝ่ายประชาสัมพั นธ์และการตลาด

ฝ่ายวิชาการ

ฝ่ายการเงินและบัญชี

ฝ่ายพั ฒนาสังคม

ฝ่ายพั ฒนาและควบคุมมาตรฐาน

ฝ่ายดูแลสถานที่

ฝ่ายสาธารณสุข

ฝ่ายทะเบียน

ฝ่ายรักษาความปลอดภัย

คณะกรรมการชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชน รับผิ ดชอบพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชน บ้านชากแง้ว 6 ข้อคือ 1. วิเคราะห์ ส่งเสริมและพั ฒนาการท่องเที่ยว และก�ำหนดแนวทางการ ด�ำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนพั ฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ 2. จัดท�ำแผนการท่องเที่ยว เพือ่ เป็นแผนแม่บทของการส่งเสริมและ พั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว 3. เชื่ อมโยงแผนงานและบูรณาการแผนงานงบประมาณ เพื่อให้เกิด ประโยชน์สงู สุดด้านการท่องเที่ยวที่มปี ระสิทธิภาพ 4. ด�ำเนินการตามวิสยั ทัศน์ พั นธกิจ วัตถุประสงค์ เป้าหมายของชมรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว 5. ติดตาม ประเมินผลในการด�ำเนินงานด้านการท่องเที่ยวด้านการ ด�ำเนินงานและที่เกีย่ วข้อง 6. รายงานผลการด�ำเนินงาน ตลอดจนปัญหาอุปสรรค ข้อขัดข้องในการ ด�ำเนินงานต่อชุมชน องค์กรภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว 27


ขัน้ ตอนที่ 2 เสริมสร้างศักยภาพและเตรียมความพร้อมของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้าน ชากแง้ว ตัง้ แต่ปี พ.ศ.2556 -2559 อพท. โดยส�ำนักท่องเที่ยวโดยชุมชนและส�ำนักงานพืน้ ที่พเิ ศษเมือง พั ทยาและพืน้ ที่เชื่ อมโยง ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพและเตรียมความพร้อมแก่ชุมชนบ้านชากแง้ว ดังนี้ 1. ประชุมชี้ แจงท�ำความเข้าใจเกีย่ วกับ เกณฑ์รับรองแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน 2. ชมรมเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลีย่ นเรียนรูศ้ กึ ษาดูงาน บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช 3. สทช.ประชุมหารือท�ำความเข้าใจภายใต้แผนพัฒนา ฯ ตามกระบวนการรับรองแหล่งท่องเทีย่ วโดยชุมชน 4. ชมรมจัดท�ำกฎระเบียบและข้อตกลงเพือ่ การบริหารการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน 5. จัดท�ำแผนที่ทอ่ งเที่ยวชุมชนเพือ่ เป็นฐานทรัพยากรการท่องเที่ยวโดยชุมชน 6. คณะกรรมการรับรองแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนประเมินพั ฒนาการของชมรม 7. ชมรมร่วมอบรมกระบวนการวางแผนการท่องเที่ยวโยงชุมชน 9+1 Building Blocks 8. จัดกิจกรรมแลกเปลีย่ นเรียนรูแ้ ละศึกษาดูงานเพือ่ เสริมสร้างความรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกับการพัฒนาการ ท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืน 9. ฝึกอบรมและศึกษาดูงานชุมชนต้นแบบ 10. โครงการเสริมสร้างศักยภาพการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว ขัน้ ตอนที่ 3 ติดตามความก้าวหน้าการด�ำเนินงานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว โดยด�ำเนินการผ่านกระบวนย่อยในการติดตาม 2 กระบวนการคือ 1. กระบวนการประเมินชุมชนตามเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยมีขนั้ ตอนการด�ำเนินการ 4 ขัน้ ตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้วประเมินตนเองตามเกณฑ์มาตรฐาน การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ขั้นตอนที่ 2 ส�ำนักท่องเที่ยวโดยชุ มชนและส�ำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองพั ทยาและพื้นที่เชื่ อมโยงและ ชุมชน ร่วมกันประเมินชุมชนตามเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการแหล่งท่องเทีย่ วโดยชุมชน ขั้นตอนที่ 3 ส�ำนักท่องเที่ยวโดยชุ มชน สรุปผลการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจั ดการ แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ปี 2559 และน�ำผลเปรียบเทียบกับผลการด�ำเนินงานในปีที่ผา่ นมา (พ.ศ. 2558) ขั้นตอนที่ 4 คณะท�ำงานรับรองแหล่งท่องเที่ยวโดยชุ มชน ลงพื้นที่ประเมินผลภาพรวม เพื่อรับรอง ผลการประเมิน ปี 2559

28

2. กระบวนการติดตามผลการพั ฒนาชุมชนต้นแบบ โดยมีขนั้ ตอนการด�ำเนินการ 4 ขัน้ ตอนคือ ขัน้ ตอนที่ 1 รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มูลจากผลการประเมิน ปี 2558 และ รายงานการติดตามพั ฒนาการ ประจ�ำเดือนของชุมชนบ้านชากแง้วใน พ.ศ. 2559 ขัน้ ตอนที่ 2 คณะท�ำงานรับรองแหล่งท่องเทีย่ วโดยชุมชนลงพืน้ ทีท่ ดลองกิจกรรมท่องเทีย่ วและประเมินผล ร่วมกับชุมชนบ้านชากแง้ว ขัน้ ตอนที่ 3 ฝ่ายเลขานุการ (ส�ำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน) รวบรวมข้อมูล การประเมิน สรุปผล และรายงาน ให้คณะท�ำงานรับรองแหล่งท่องเที่ยว และชุมชนบ้านชากแง้ว ได้รับทราบ ขัน้ ตอนที่ 4 มอบประกาศนียบัตรรับรองผลการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน

ผลการด�ำเนินงานการพั ฒนาการท่องเที่ ยวโดยชุ มชนของชมรมส่งเสริ มการท่องเที่ ยว โดยชุมชนบ้านชากแง้ว ตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2556 – 2559 ตารางสรุปผลการบริหารจั ดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุ มชนของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยชุ มชน ชากแง้ว (ตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการการท่องเที่ยวชุมชนบ้านชากแง้ว ซึง่ ประยุกต์จากเกณฑ์ มาตรฐานด้านการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืนส�ำหรับแหล่งท่องเที่ยว (GSTC-D) 5 ด้าน) เกณฑ์มาตรฐาน การท่องเทีย่ วอย่าง ยัง่ ยืน ของ อพท.

1

ด้านการบริหาร จัดการการท่องเที่ยว โดยชุมชน

ผลการด�ำเนินงานของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว พ.ศ.2556

พ.ศ.2557

พ.ศ.2558

พ.ศ.2559

มีการตั้งชมรมฯ อย่างเป็นทางการ โดยมี ค� ำ สั่ ง จาก เทศบาลรองรับ มีแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ครอบคลุมทั้ง 3 มิติ มีทะเบียนประวัติ สมาชิก รวบรวม โดยเทศบาล มีขอ้ ตกลงร่วม กันภายในชมรม

- ชมรมฯ มีสว่ น ร่วมในกิจกรรม ต่างๆของชุมชน เช่น เทศกาลไหว้ พระจันทร์ เป็นต้น - มีกจิ กรรมการ ออกบูธผลิตภัณฑ์ ต่างๆ ของชุมชน - มีแผนการท�ำ ปฏิทนิ ท่องเที่ยว ร่วมกับสมาคม ศาลเจ้าแม่ทับทิม

- คนในชุ ม ชนมี ส่วนร่วมในชมรมฯ มากขึน้ - มีการบูรณาการ แผนการท่องเทีย่ ว ของชุ มชนในการ สอนในโรงเรียน - มีโครงสร้างการ บริ หารจั ด การที่ ชัดเจนและเผยแพร่ ให้ ค นในชุ มช น รับทราบ

- มี ข ้ อ ตกลงใน การบริหารจัดการ ด้านธรรมชาติ - มี การประชุ ม รวมกันกับผูข้ ายกัน ทุกเดือนในการ วางแผนตลาด โบราณ และแก้ไข ปัญหาทีพ่ บ รวมถึงการวาง แนวปฏิ บั ติ ข อง ผูข้ ายกับกรรมการ ชมรม

29


เกณฑ์มาตรฐาน การท่องเทีย่ วอย่าง ยัง่ ยืน ของ อพท.

ผลการด�ำเนินงานของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว พ.ศ.2556

พ.ศ.2557

- มีขอ้ ควรปฏิบตั ิ ส� ำ หรั บ นั ก ท่ อ ง เทีย่ ว - มีเทศบาลเป็น ภาคีหลักและเป็น ผู้ขับ เคลื่อนหลัก ในชมรมฯ - มี แ ผ ่ น พั บ แนะน� ำ ช มรมฯ โดย อพท. เป็นผู้ จัดท�ำให้ - มีสมุดบัญชี ของ ชมรมฯ

2

ด้านการจัดการ เศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชี วิต ที่ดี

- ชมรมมี ผลิตภัณฑ์ดา้ น อาหารที่ โดดเด่น - มีกลุ่มสตรีเข้า มามี ส ่ ว นร่ ว มใน การด�ำเนินงาน ด้านการท่องเที่ยว

- มีการจัด กิจกรรมท่องเทีย่ ว เทศกาลไหว้ พระจั นทร์ และ เทศกาลจีนอื่นๆที่ สอดคล้องกับวิ ถี ชี วิ ต ชุ ม ช น จี น โบราณ - มี ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ท้ อ งถิ่ นที่ เป็ น เอกลั ก ษณ์ เช่ น ขนมเปี๊ยะ หมูหยอง ข้าวหลาม เป็นต้น - มี ก ารแสดง ศิ ล ปวั ฒ นธรรม 30

พ.ศ.2558

พ.ศ.2559

- มีการแบ่ง หน้าที่รับผิ ดชอบ แต่ละฝ่ายได้อย่าง ดี - มีการประชุมกัน ทุ ก เดื อ นในการ วางแผนตลาด โบราณ - มีเทศบาลเป็นผู้ สนั บ สนุ น อย่ า ง ใกล้ชดิ - มีแผนพั ฒนา นักสือ่ ความหมาย เยาวชน

- มีหน่วยงานภาค รัฐเข้ามาสนับสนุน มากขึน้ เช่น ททท. กระทรวงพาณิช ย์ รวมถึงภาคเอกชน ที่ ให้ ค วามสนใจ เช่นรายการทีวีมา ถ่ายท�ำที่ตลาด

- มี รายได้ จ าก การให้บริ การรถ ลากเที่ ย วตลาด และของที่ระลึก - มีการจัดการรูป แบบของตลาดที่ สอดคล้องกับวิ ถี ชี วิ ต ดั้ ง เดิ ม ของ ชุมชน - มี ก ารสร้ า ง กิ จ ก ร ร ม จ า ก ผลิตภัณฑ์ที่ โดด เด่นของชุ มชนให้ นั ก ท่ อ งเที่ ย วได้ ทดลองท� ำ เช่ น ฮ่อยจ๊อ กุยช่าย

- มี การจั ด สรร รายได้ เพือ่ น�ำมา ใช้ ในการบริ หาร จัดการตลาด เช่น ค ่ า ที่ จ อ ด ร ถ ค่าท�ำความสะอาด - คนในชุ ม ชนมี ความสามัคคี มี การพูดคุยปรึกษา แนวทางในการ ด�ำเนินงานอย่าง ต่อเนือ่ ง

เกณฑ์มาตรฐาน การท่องเทีย่ วอย่าง ยัง่ ยืน ของ อพท.

3

ด้านการอนุรักษ์ และส่งเสริม มรดกวัฒนธรรม

ผลการด�ำเนินงานของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว พ.ศ.2556

- มีการรวบรวม ข้อมูลด้าน ประวัตศิ าสตร์ วิถีชี วิต โดย เฉพาะเรื่องของ ประเพณีจนี ต่างๆ - มีการส่งเสริ ม กิจกรรมประเพณี จีน และการสาธิต การท�ำอาหารให้ นักท่องเที่ยว - มีการจัด กิจกรรมตาม ประเพณีจนี โบราณ เช่น ไหว้ พระจันทร์

พ.ศ.2557

พ.ศ.2558

ของชุ ม ชน เช่ น กา ร แส ด ง เชิ ด สิงห์ โต

- มีจุ ดจ�ำหน่าย สินค้าของที่ระลึก ที่ศนู ย์ชมรมฯ

- มี บุ ค ลากรที่ สามารถถ่ายทอด ประวัติความเป็น มาของชุมชน - มี การจั ด งาน ภาพเก่าเล่า เรื่ อง เพื่อหวนระลึกถึง อดีต มีการ ประชาสั ม พั นธ์ กิจกรรมประจ�ำปี เช่น งานไหว้ พระจันทร์ผา่ น ช่องทางต่างๆ เช่น ป้าย รถวิง่ ประกาศ - สมาชิกชมรมฯมี ส่วนร่วมในการจัด งานเทศกาลไหว้ พระจั นทร์ อ ย่ าง ต่อเนือ่ ง

- มีการรวบรวม เรือ่ งราวของชุมชน เช่น ประวัตศิ าสตร์ วัฒนธรรมจีน ไว้ และ มีการ ถ่ า ยทอดให้ นั ก ท่องเที่ยวได้ทราบ - มีการประชาสัมพั นธ์กิจกรรม ตลาดจี น อย่ า ง ชัดเจน - มีการน�ำเสนอ วิ ถี ชี วิ ตของชุ มชน ผ่านอาหาร การ แต่งกาย และ การแสดงที่จัดขึน้ ในตลาดจีน

31

พ.ศ.2559

- มีความชัดเจน ในแนวทางการ จั ดการตลาดมาก ขึน้ เช่นการรักษา วัฒนธรรมดัง้ เดิม การอนุรักษ์ สิง่ แวดล้อม และ การน�ำเสนอ กิจกรรมการ ท่องเที่ยวเชิง สร้างสรรค์เน้น การลงมือท�ำ


เกณฑ์มาตรฐาน การท่องเทีย่ วอย่าง ยัง่ ยืน ของ อพท.

4

การจัดการ ทรัพยากร ธรรมชาติและ สิง่ แวดล้อม อย่างเป็นระบบ และยัง่ ยืน

5

ด้านการบริการ และความ ปลอดภัย

ผลการด�ำเนินงานของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว พ.ศ.2556

พ.ศ.2557

- มี แ ผ น ก า ร กระจายนั ก ท่ อง เ ที่ ย ว ต า ม จุ ด กิ จ กรรมต่ า งๆ เพือ่ ไม่ให้เกิดความ แออัด - มีการจัดเตรียม ที่จอดรถเพียงพอ ส� ำ หรั บ นั ก ท่ อ ง เที่ยว

- มีการส�ำรวจ เส้นทางเชื่ อมโยง กับตลาดน�ำ้ 4 ภาค - มีเจ้าหน้าที่ อสม. และ เทศบาลคอยเป็น ผูป้ ระสานงาน หลักในกรณีที่ เกิดเหตุการณ์ ฉุกเฉิน

- มี บุ ค ลากรใน การให้ข้อมูลด้าน ประวัติความเป็น มาของชุมชน - มีผลิตภัณฑ์ที่ สะท้อนอัตลักษณ์ ของชุมชนจีนได้ดี - มีตวั แทนชุมชน ในการประสาน งานด้านการท่อง เที่ยวและให้ขอ้ มูล ของชุมชน

32

พ.ศ.2558

พ.ศ.2559

- มีการวางแผน ก า ร จั ด พื้ น ที่ ส�ำหรับผู้มาเยือน ตลาดอย่ า งเป็ น ระบบ - มี ก ารจั ดภู มิ ทั ศ น ์ ชุ ม ช น ให ้ สอดคล้องกับวิ ถี ชี วิ ต เช ่ น การ ประดับโคมแดง

- มี ก ารจั ด โซน พืน้ ที่ภายในตลาด ได้เหมาะสม - มี กา ร แบ ่ ง หน้ า ที่ ก ารดู แ ล ร้ า นค้ า ภายใน ตลาด - มีการวางแผน การจัดการขยะใน ตลาด โดยร่วมกับ ชุ ม ชน เทศบาล และโรงเรียน

- มี การประชุ ม เพื่อสรุปข้อเสนอ แนะของนั ก ท่ อง เที่ ย วให้ ส มาชิ ก ช มรมฯ ได้ รั บ ทราบ - มีการวางระบบ การรั ก ษาความ ปลอดภั ย ภายใน ตลาด

- มีการประเมิน ผลความพึงพอใจ ของนักท่องเที่ ยว แ ล ะ น� ำ ผ ล ม า ป รั บ ป รุ ง ก า ร ด�ำเนินงาน

โดยสรุปการด�ำเนินงานของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้วระหว่างปี พ.ศ. 2556 – 2559 ตามเกณฑ์มาตรฐานการบริหารจัดการแหล่งท่องเทีย่ วโดยชุมชนของ อพท. ซึง่ เป็นเกณฑ์ที่ ได้ประยุกต์ ใช้มาจากหลักเกณฑ์ GSTC-D ครอบคลุมทั้ง 5 ด้านพบว่ามีการพัฒนาในทิศทางที่ดีขนึ้ อย่างต่อเนือ่ ง ดังนี้

1. ด้านการบริหารจั ดการการท่องเที่ยวโดยชุ มชน มีการบริหารจั ดการการท่องเที่ยวโดยการมี ส่วนร่วมของชุมชน การจัดการตลาด การเพิม่ กิจกรรมให้นกั ท่องเที่ยวได้ลงมือท�ำ มีการเก็บค่าเช่า แผงเพือ่ ใช้ในการบริหารจัดการ มีขอ้ ตกลงร่วมกันมีรายได้จากการจ�ำหน่ายของที่ระลึกและรถลาก เที่ยวตลาด มีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบแต่ละฝ่ายชัดเจน และทุกคนรูแ้ ละท�ำหน้าที่ของตนเองได้ ดี มีการประชุมร่วมกันทุกเดือน ระหว่างผูข้ ายกับกรรมการชมรม มีหน่วยงานภาครัฐสนับสนุน เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ และมีรายการทีวมี าถ่ายท�ำ มีรายงานการใช้จา่ ย เงินในการประชุมประจ�ำเดือนของคณะกรรมการ และเยาวชนได้เข้ามามีสว่ นร่วมในการท่องเที่ยวโดย ชุมชนมากขึน้ 2. ด้านการจัดการเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชี วิตที่ดี มีการจัดสรรรายได้เพือ่ น�ำมาใช้ในการ บริหารจัดการตลาด คนในชุมชนมีความสามัคคี ได้พดู คุยปรึกษากัน และมีกจิ กรรมที่สอดคล้อง กับวิถีชี วิต มีรายได้เพิม่ ขึน้ มีการน�ำผลิตภัณฑ์ที่ โดดเด่นของชุมชนให้นกั ท่องเที่ยวได้ทำ� กิจกรรมมี จุดจ�ำหน่ายสินค้าของที่ระลึก ไม่มกี ารใช้แรงงานเด็ก มีระบบการรักษาความปลอดภัย 3. ด้านการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรม มีการรวบรวมเรื่องราวของชุ มชน ด้าน ประวัตศิ าสตร์ วัฒนธรรมจีนและถ่ายทอดให้นกั ท่องเที่ยวทราบ มีการประชาสัมพั นธ์การตลาด ชัดเจน มีการน�ำเสนอวิถีชีวิตของชุมชนผ่านอาหาร การแต่งกาย และการแสดงและมีการน�ำวิถีชีวิต มาพั ฒนาให้นกั ท่องเที่ยวได้ลงมือท�ำ เช่น การเรียงเม็ดข้าวสาร การวาดหน้างิว้ บนหน้ากาก สมาชิก ชมรมฯ มีส่วนร่วมกับสมาคมศาลเจ้าแม่ทั บทิมในการจั ดงานเทศกาลไหว้พระจั นทร์ซึ่งเป็นการ อนุรักษ์ประเพณีดงั้ เดิมของชุมชนจีน 4. ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อมอย่างเป็นระบบและยัง่ ยืน มีการจัดการ พืน้ ที่ตลาดได้เหมาะสม มีการแบ่งหน้าที่การดูแลผูค้ า้ ตามโซนที่ ได้รบั มอบหมาย มีการบริหารจัดการ เก็บขยะในวันที่มตี ลาด มีกจิ กรรม Big Cleaning Day ร่วมกันระหว่างชุมชนและโรงเรียน มีการ คัดแยกขยะชุมชมโดยให้ความส�ำคัญกับการจัดการขยะและความสะอาดมากขึน้ 5. ด้านบริการและความปลอดภัย มีการจัดท�ำแผนที่ทอ่ งเที่ยวชุมชนบ้านชากแง้ว มีการสอบถาม พูดคุยกับนักท่องเที่ยว และน�ำมาประชุมหารือเพือ่ ปรับปรุงในการประชุมประจ�ำเดือน มีการปิดถนน ไม่ให้รถยนต์เข้ามาในช่วงจัดกิจกรรม และมีการประชาสัมพันธ์การป้องกันระวังของสูญหาย ผ่านเสียง ตามสาย การจัดเส้นทางเดินตลาดที่มคี วามน่าสนใจ มีเครือข่ายในการบริหารจัดการกรณีฉกุ เฉิน มี การจัดการระบบส่งต่อไปโรงพยาบาล มีการแต่งตัง้ ผูป้ ระสานงานหลักเพือ่ ประสานต่อไปยังสมาชิก แต่ละกลุม่ ของชุมชนต่อไป 33


ระยะที่ 2 ผลการด�ำเนินงานการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้วโดยกระบวนการมีสว่ นร่วม ของชุมชน

การพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยัง่ ยืนของชุมชนบ้านชากแง้วตามหลักเกณฑ์ GSTC เกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria) ของสภาการท่องเที่ยว อย่างยัง่ ยืนโลก (Global Sustainable Tourism Council) มีเป้าหมายหลัก 4 ประการคือ 1. เพือ่ น�ำเสนอการจัดการสถานที่ทอ่ งเที่ยวอย่างเป็นระบบและรักษาสิง่ แวดล้อม 2. เพือ่ เพิม่ ผลประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจให้กบั เจ้าของชุมชนและลดผลกระทบในเชิงลบ 3. เพือ่ ประโยชน์สงู สุดที่ชุมชนพึงได้รับตลอดจนผูม้ าเยือน และเพือ่ ประโยชน์เชิงมรดกวัฒนธรรมและ เพือ่ ลดผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึน้ 4. เพือ่ ประโยชน์สงู สุดทางสิง่ แวดล้อมและลดผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึน้ โดยหลักเกณฑ์ดา้ นการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืนส�ำหรับแหล่งท่องเที่ยวได้กำ� หนดมุมมองในการบริหารจัดการ การท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืน ครอบคลุมองค์ประกอบ 4 ด้านประกอบด้วย 1. การบริหารจัดการอย่างยัง่ ยืนที่มปี ระสิทธิภาพ 2. การเพิม่ ผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบทางสังคม เศรษฐกิจ และชุมชนท้องถิ่น 3. การเพิม่ ผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบทางวัฒนธรรมแก่ชุมชนและนักท่องเที่ยว 4. การเพิม่ ผลประโยชน์และผลกระทบด้านลบทางสิง่ แวดล้อม ซึง่ จากการวิเคราะห์การท่องเที่ยวโดย ชุมชนบ้านชากแง้ว มีดงั นี้ ตารางสรุปผลการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชนอย่างยัง่ ยืนภายใต้หลักเกณฑ์ GSTC ส�ำหรับ แหล่ง ท่องเที่ยวของชุมชนบ้านชากแง้ว พบว่าชุมชนบ้านชากแง้วมีการพั ฒนาการท่องเที่ยวตาม หลักเกณฑ์ GSTC ส�ำหรับแหล่งท่องเที่ยว ดังนี้

A A1

A2

การบริหารจัดการ ด้านความยัง่ ยืนที่มปี ระสิทธิภาพ การด�ำเนินงานตามกลยุทธ์ ในการบริหารจัดการ ด้านความยัง่ ยืน แผนยุทธศาสตร์การพั ฒนาการท่องเที่ ยวโดย ชุมชนของชุมชนบ้านชากแง้ว พ.ศ. 2555-2560 ตัวแทนหรือกลุม่ ตัวแทนที่มปี ระสิทธิภาพอันมา จากส่วนภาครัฐและเอกชน ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้ว

B

การเพิม่ ผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบ ทางสังคม-เศรษฐกิจแก่ชุมชนท้องถิ่น

B2

โอกาสในการประกอบอาชี พของคนในท้องถิ่น มีการรวมกลุม่ การด�ำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยว และการผลิตสินค้าก่อให้เกิดการจ้างงานสร้าง รายได้

B3 34

การมีสว่ นร่วมในสังคม เปิดโอกาสให้ทุกคนในชุ มชมชนมีส่วนร่วมในการ บริหารและพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน

A A3

การบริหารจัดการ ด้านความยัง่ ยืนที่มปี ระสิทธิภาพ ระบบการตรวจสอบ ดูแล รายงานความคืบหน้า มีการติดตามและประเมินผลการด�ำเนินงานของ ชุมชนอย่างต่อเนือ่ งโดยคณะท�ำงานรับรองแหล่ง ท่องเที่ยวโดยชุมชน

B

การเพิม่ ผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบ ทางสังคม-เศรษฐกิจแก่ชุมชนท้องถิ่น

B4

ความคิดเห็นชุมชนท้องถิ่น จั ดประชุ มเพื่อรับฟังความคิดเห็น รายงานผล การด�ำเนินงาน และวางแผนการด�ำเนินงานเดือน ละ 1 ครั้ง

ดการท่องเที่ยวตามฤดูกาล ความรูค้ วามเข้าใจเกีย่ วกับการท่องเที่ยว A4 การจั B6 ปฏิทนิ กิจกรรมการท่องเที่ยวที่ชดั เจนตลอดทั้งปี ชุมชนมีความรูค้ วามเข้าใจในการบริหารจัดการการ ท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืน

นสถานที่ตลอดจนสภาพแวดล้อม การป้องกันการแสวงหาประโยชน์ โดยไม่ชอบธรรม A6 การประเมิ B7 มีความโดดเด่นของเอกลักษณ์วฒ ั นธรรมจีนที่สอื่ มีขอ้ ตกลงและก�ำหนดแนวปฏิบตั ริ ว่ มกันระหว่าง ออกมาผ่านการตกแต่งและบรรยากาศของตลาดจีน

ชมรมและกลุม่ ผูป้ ระกอบการ

อบังคับการด�ำรงรักษาไว้ซงึ่ แหล่ง สนับสนุนชุมชน A9 กฎหมายและข้ B8 ท่องเที่ยว มีการจัดสรรเงินรายได้เพือ่ ใช้ในการบริหารจัดการ มีขอ้ ตกลงและก�ำหนดแนวปฏิบตั ริ ว่ มกันระหว่าง ชมรมและกลุม่ ผูป้ ระกอบการ และออกประกาศ ข้อควรปฏิบตั สิ ำ� หรับนักท่องเที่ยว

ตลาดและพั ฒนาสาธารณูปโภค

การตรวจสอบและรายงานความพึงพอใจของ

B9

A10 นักท่องเที่ยว

มีการประเมินความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวเพือ่ พัฒนาคุณภาพการบริการและกิจกรรมการท่องเทีย่ ว

A12 การสอดส่องดูแล ป้องกัน และรายงาน

มีความร่วมมือกับ อสม. มูลนิธสิ ว่างบริบรู ณ์ และ ต�ำรวจในการดูแลรั กษาความปลอดภัยให้แก่ นักท่องเที่ยว 35

สนับสนุนท้องถิ่นและการค้าโดยเป็นธรรม มีขอ้ ตกลงและก�ำหนดแนวปฏิบตั ริ ว่ มกันระหว่าง ชมรมและกลุม่ ผูป้ ระกอบการ


A

B

การบริหารจัดการ ด้านความยัง่ ยืนที่มปี ระสิทธิภาพ

การเพิม่ ผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบ ทางสังคม-เศรษฐกิจแก่ชุมชนท้องถิ่น

A13 การวางแผนเพื่อตอบรั บต่อวิ กฤตการณ์หรื อ

สถานการณ์ฉกุ เฉิน มีแผนการรับมือกับเหตุการณ์ฉกุ เฉินที่อาจเกิดขึน้ และมีการซักซ้อมแผนอยูเ่ สมอ

A

B

การบริหารจัดการ ด้านความยัง่ ยืนที่มปี ระสิทธิภาพ

องกันความเสีย่ งอันเกิดจากภัยพิบตั ติ าม A5 ระบบป้ B1 ธรรมชาติ วางแผนระยะยาวเพื่ อ รองรั บ และปรั บ ตั ว กั บ สภาวะความเปลีย่ นแปลงทางสภาพภูมอิ ากาศ

A14 การประชาสัมพันธ์ขา่ วสาร

การเพิม่ ผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบ ทางสังคม-เศรษฐกิจแก่ชุมชนท้องถิ่น การควบคุมดูแลเศรษฐกิจ พั ฒนาระบบการวัดผลและติดตามผลการใช้จา่ ย ของนักท่องเที่ยว การจ้างงาน และการกระจาย รายได้

บตั ติ ามกฎระเบียบ ข้อก�ำหนด และหรือ การเข้าถึงพืน้ ที่ของคนในท้องถิ่น A7 การปฏิ B5 นโยบาย พัฒนาระบบประเมินผลกระทบจากการท่องเที่ยว

มีการประชาสัมพั นธ์ขอ้ มูลข่าวสารแก่นกั ท่องเที่ยว ผ่านสือ่ ที่หลากหลาย

C

การเพิม่ ผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบ ทางวัฒนธรรมแก่ชุมชนและนักท่องเที่ยว

D

การเพิม่ ผลประโยชน์ และลดผลกระทบด้านลบทางสิง่ แวดล้อม

C1

การปกป้องดูแลสถานที่ทอ่ งเที่ยว จัดท�ำข้อปฏิบตั ขิ องนักท่องเที่ยวและแนวปฏิบตั ิ ร่วมกันระหว่างชมรมและกลุม่ ผูป้ ระกอบการ

D5

การประหยัดพลังงาน เน้ น การอนุรั ก ษ์ พ ลั ง งานและการใช้ วั ส ดุ จาก ธรรมชาติ

ดการนักท่องเที่ยว C2 การจั D6 ออกประกาศข้อควรปฏิบตั สิ ำ� หรับนักท่องเที่ยว กรรมนักท่องเที่ยว C3 พฤติ สอดส่ องดู แ ลการปฏิ บั ติ ตั ว ไม่ เหมาะสมของ

ใช้วสั ดุที่ยอ่ ยสลายได้และเป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม

D11 มลภาวะทางแสงและเสียง

การให้ขอ้ มูลที่ถกู ต้องเกีย่ วกับสถานที่ทอ่ งเที่ยว มีการสือ่ ความหมายทั้งแบบใช้คนและไม่ใช้คน

แผนยุทธศาสตร์การพั ฒนาการท่องเที่ยวอย่าง ยัง่ ยืนระยะ 10 ปี

มาตรการควบคุมการใช้แสงและเสียง

ของชุมชน

่ทอ่ งเที่ยวและสิง่ อ�ำนวยความสะดวก A8 พัสถานที ฒนาสิง่ อ�ำนวยความสะดวกเพือ่ คนทั้งมวล

A11 การสนับสนุนหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืน ในกลุม่ ธุรกิจต่างๆ พั ฒนาระบบประเมินและติดตามการด�ำเนินงาน ตามเกณฑ์ GSTC-D

การจัดการน�ำ้ รณรงค์ ให้มกี ารใช้นำ�้ อย่างรูค้ ณ ุ ค่า

D10 การลดจ�ำนวนขยะ

นักท่องเที่ยว

C5

ข้อเสนอแนะส�ำหรับแนวทางการขับ เคลือ่ นการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยัง่ ยืน

C

D

การเพิม่ ผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบ ทางวัฒนธรรมแก่ชุมชนและนักท่องเที่ยว

องมรดกทางวัฒนธรรม C4 การปกป้ ออกกฎหมายหรือประกาศในการป้องกันการลอก

เลียนแบบ ปลอมแปลงมรดกทางวัฒนธรรมของ ชุมชน

พย์สนิ ทางปัญญา C6 ทรั มี ป ระกาศก� ำ หนดแนวทางในการอนุ รั ก ษ์ วัฒนธรรมจีนของชุมชน

36

37

การเพิม่ ผลประโยชน์ และลดผลกระทบด้านลบทางสิง่ แวดล้อม

D1

ความเสีย่ งทางด้านสิง่ แวดล้อม แผนการจั ดการความเสี่ยงเพื่อความยั่งยืนของ สิง่ แวดล้อม

D8

คุณภาพน�ำ้ ระบบตรวจสอบคุณภาพน�้ำเพื่อการอุปโภคและ บริโภค

D9

น�ำ้ เสีย มาตรการบ�ำบัดน�้ำเสียอย่างเป็นระบบและเป็น รูปธรรม


แบบทดสอบหลังเรียน 1. เหตุ ใด อพท. จึงได้น�ำหลักเกณฑ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนส�ำหรับ แหล่งท่องเที่ยว (Global Sustainable Tourism Criteria for Destinations: GSTC-D) มาใช้ ในการพั ฒนาการท่องเที่ยวใน ประเทศไทย ก. เพื่อสร้างระบบข้อมูลพื้นฐานส�ำหรับการส่งเสริมกระบวนการพั ฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เกิดความ ยั่งยืนในระดับท้องถิ่น ข. ก�ำหนดแนวทางในการแก้ ไขปัญหาความยากจน ความเท่าเทียมทางเพศสภาพ ความยั่งยืนทาง วัฒนธรรมและการเปลี่ยนแปลงของค่านิยมทางสังคมได้ ค. ใช้เป็นแนวทางในการพั ฒนาการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยัง่ ยืนในระดับท้องถิ่นและพั ฒนา บุคลากรด้านการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ ง. ก�ำหนดมาตรฐานการรับรองความเป็นเลิศทางด้านวัฒนธรรม ภูมิศาสตร์ และสิ่งแวดล้อมเพื่อยก ระดับการท่องเที่ยวสู่สากล 2. ข้อใดเป็นหลักการส�ำคัญในการพั ฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ก. การค�ำนึงถึงขีดความสามารถในการรองรับของพืน้ ที่ทั้งระบบนิเวศ สังคม เศรษฐกิจ และ วัฒนธรรม ท้องถิ่น ข. เน้นการบูรณาการอย่างมีสว่ นร่วมของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผูป้ ระกอบการธุรกิจจากภายนอก ชุ มชนเป็นกลไกในการขับ เคลื่อนการท่องเที่ยว ค. ให้ความส�ำคัญกับการเสริมสร้างรายได้ให้แก่คนในท้องถิ่น ให้มคี ณ ุ ภาพชี วิตที่ดีขนึ้ เกิดการจ้างงาน เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้แก่ชุ มชน ง. การปลูกจิตส�ำนึกให้แก่นกั ท่องเที่ยวให้ยอมรับในความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม สังคม และเกิด จิ ตส�ำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ 3. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ด้านการท่องเที่ ยวอย่างยั่งยืนส�ำหรับ แหล่งท่องเที่ ยว (Global Sustainable Tourism Criteria for Destinations: GSTC-D) ที่ครอบคลุม 4 มิติ ก. การบริหารจั ดการด้านความยั่งยืนที่มีประสิทธิภาพ (Demonstrate effective sustainable management) ข. การเพิ่มผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบทางเศรษฐกิจและประสบการณ์การท่องเที่ยว (Maximize economic and experience benefits to visitors) ค. การเพิ่มผลประโยชน์และลดผลกระทบด้านลบทางสิ่งแวดล้อม (Maximize benefits to the environment and minimize negative impacts) ง. การเพิ่มผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบทาง สังคม-เศรษฐกิจแก่ชุ มชนท้องถิ่น (Maximize economic benefits to the host community and minimize negative impacts) 38

4. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับ เกณฑ์มาตรฐานการบริหารจั ดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุ มชนที่ อพท. ได้มีการ ประยุกต์มาจากเกณฑ์ GSTC ก. การบริหารจั ดการการท่องเที่ยวโดยชุ มชน ข. การจั ดการเศรษฐกิจ สังคมและคุณภาพชี วิ ตที่ดี ค. การสร้างประสบการณ์ที่มีคุณภาพแก่นักท่องเที่ยว ง. การอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรม 5. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความคาดหวังในการน�ำหลักเกณฑ์ GSTC ไปใช้กับองค์กรหรื อหน่วยงานที่ รั บผิ ดชอบด้านการบริ หาร จั ดการการท่องเที่ยวในประเทศไทย ก. ช่วยให้สร้างความเข้มแข็งให้กับชุ มชนท้องถิ่นในการพั ฒนาการท่อง เที่ยวของชุ มชน ข. ช่วยให้สื่อมวลชนให้ข้อมูลและสื่อสารต่อสาธารณชนเรื่องแหล่งท่อง เที่ยวอย่างยั่งยืนได้ ค. ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หรือ NGOs มีแนวทางในการ พั ฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ง. สามารถใช้เป็นแนวทางขั้นพื้นฐานส�ำหรับ แหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการ มุ่งสู่ความยั่งยืน 6. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการบริ หารจั ด การด้านความยั่งยืนที่ มี ประสิทธิภาพการท่องเที่ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้ว ก. มีการจั ดท�ำข้อตกลงในการเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการพั ฒนาการ ท่องเที่ยวโดยชุ มชนอย่างเป็นรูปธรรม ข. มีการประชุ มเพื่อการวางแผนการด�ำเนินงานของตลาดและแก้ ไขปัญหา ร่วมกันระหว่างชมรมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ค. มีการวางระบบการประเมินผล และติดตามผลการบริหารจั ดการการ ท่องเที่ยวโดยชุ มชนที่มีประสิทธิภาพ ง. จั ดท�ำประกาศและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมแก่คนในท้องถิ่น

39


9. ชุมชนบ้านชากแง้วควรด�ำเนินการข้อใดเพือ่ พั ฒนาผลการด�ำเนินงาน ในด้านการเพิม่ ผลประโยชน์และลดผลกระทบด้านลบทางสิง่ แวดล้อม ก. วางแนวทางในการอนุรักษ์พลังงานและการใช้น�้ำอย่างประหยัด ข. ส่ ง เสริ ม การมี ส ่ ว นร่ ว มของชุ ม ชนในการอนุ รั ก ษ์ วิ ถี ชี วิ ต และ วัฒนธรรมให้คงอยู่ ค. จั ดท�ำแผนการจั ดการความเสี่ยงเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ง. เสริมสร้างภาคีเครือข่ายการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้มคี วาม เข้มแข็งและยั่งยืน 10. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการด�ำเนินงานด้านการเพิ่มผลประโยชน์และลดผลกระทบเชิงลบ ทางวัฒนธรรมแก่ชุ มชนและนักท่องเที่ยวของชุ มชนบ้านชากแง้ว ก. จั ดท�ำข้อปฏิบัติของนักท่องเที่ยวและแนวปฏิบัติร่วมกันระหว่างชมรมและกลุ่มผู้ประกอบการ ข. ออกประกาศข้อควรปฏิบัติส�ำหรับนักท่องเที่ยว ค. จั ดท�ำเอกสารแผ่นพั บ เพื่อให้ข้อมูลแทนการใช้คนในการสื่อความหมายแก่นักท่องเที่ยว ง. ก�ำหนดแนวทางในการอนุรักษ์วัฒนธรรมจีนของชุ มชน 40

1. หลักเกณฑ์ด้านการท่องเที่ ยวอย่างยั่งยืนส�ำหรับ แหล่งท่องเที่ ยว (Global Sustainable Tourism Criteria for Destinations: GSTC-D) มีความส�ำคัญอย่างไรต่อการพั ฒนาการท่องเที่ยว โดยชุ มชนของประเทศไทย 2. ชุ มชนชากแง้วควรมีแนวทางการควบคุมผลกระทบทางลบด้านสังคมวัฒนธรรมอย่างไร เพื่อป้องกันการสูญหายของวัฒนธรรมจีนโบราณท่ามกลางบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป 3. การก� ำ หนดขี ด ความสามารถในการรองรั บ นั ก ท่ องเที่ ย วมี ค วามจ� ำ เป็ น ต่ อ การพั ฒ นา การท่องเที่ยวชุ มชนชากแง้วหรือไม่ เพราะเหตุ ใด 4. ชุ มชนชากแง้วควรมีแนวทางการส่งเสริ มการมีส่วนร่วมของคนในชุ มชนและภาคีเครือข่าย การท่องเที่ยวของชุ มชนเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นของชุ มชนอย่างไร 5. ในอนาคตหากความรุนแรงของสภาวะภูมิอากาศเพิ่มมากขึ้น ท่านคิดว่าจะส่งผลกระทบต่อ การท่องเที่ยวชุมชนชากแง้วหรือไม่ และชุมชนชากแง้วควรมีการปรับตัวต่อสภาวะความเปลีย่ นแปลง ทางสภาพภูมิอากาศอย่างไร 6. จากผลการพั ฒนาการท่องเที่ ยวโดยชุ มชนอย่างยั่งยืนของชุ มชนชากแง้วภายใต้หลักเกณฑ์ GSTC-D นีท้ ่านคิดว่าชุ มชนควรให้ความส�ำคัญในการพั ฒนาปรับปรุงการด�ำเนินงานในด้านใด บ้าง และควรมีแนวทางในการพั ฒนาปรับปรุงอย่างไร 7. ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านชากแง้วควรมีแนวทางการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดย อาศัยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุ มชนอย่างไรเพื่อให้การท่องเที่ยวของชุ มชนบ้านชากแง้วมีความ ยั่งยืนและมั่นคง

เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน

8. ข้อใดไม่ใช่การบริหารจัดการด้านความยัง่ ยืนที่มปี ระสิทธิภาพ ของชุ มชนบ้านชากแง้ว ก. แผนยุทธศาสตร์การพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของชุมชน บ้านชากแง้ว ข. ติดตาม ประเมินผลการด�ำเนินงานของชุ มชนโดยคณะท�ำงาน รับรองแหล่งท่องเที่ยวโดยชุ มชน ค. ออกแบบสิ่งอ�ำนวยความสะดวกโดยค�ำนึงถึงผู้พิการและผู้ที่ ต้องการได้รับความช่วยเหลือพิเศษ ง. ประเมินความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวเพื่อปรับปรุงคุณภาพ การบริการ

ค�ำถามอภิปรายท้ายบท

1. ค. 2. ก. 3. ข. 4. ค. 5. ก. 6. ข. 7. ข. 8. ค. 9. ค. 10. ค.

7. ชุ มชนบ้านชากแง้วมีการด�ำเนินการในด้านบริหารจั ดการเพื่อแก้ ไขปัญหาการเพิ่มผลประโยชน์และ ลดผลกระทบเชิงลบทางสังคม-เศรษฐกิจแก่ชุมชนท้องถิ่น ยกเว้นข้อใด ก. มีข้อตกลงและก�ำหนดแนวปฏิบัติร่วมกันระหว่างชมรมและกลุ่มผู้ประกอบการ ข. จัดท�ำระบบการวัดผลและติดตามผลการใช้จา่ ยของนักท่องเที่ยว การจ้างงาน และการกระจายรายได้ ค. จั ดประชุ มเพื่อรับฟังความคิดเห็น รายงานผลการด�ำเนินงาน และวางแผนการด�ำเนินงานเดือนละ 1 ครั้ง ง. เปิดโอกาสให้ทุกคนในชุ มชมชนมีส่วนร่วมในการบริหารและพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชน

41


ขอบคุณข้อมูล คัชพล จั่ นเพชร และพิทั กษ์ ศิริวงศ์. (2560). การบูรณาการทุนทางวัฒนธรรมสู่การเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุ มชน: กรณีศึกษาชุ มชนบ้านชากแง้ว อ�ำเภอ บางละมุง จั งหวัดชลบุรี. Journal of Community Development Research (Humanities and Social Sciences, 10 (1), 111-121. ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้ว. (2561). การสัมภาษณ์การบริหารจั ดการการ พั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชน โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุ มชน. องค์การบริหารการพั ฒนา พื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน). ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุ มชนบ้านชากแง้ว. (2560). รายงานสรุปผลการด�ำเนินงานการ พั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชนชากแง้ว : ระบบการบริหารจั ดการการท่องเที่ยวโดยกระบวนการมี ส่วนร่วมของชุ มชน. องค์การบริหารการพั ฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การ มหาชน). เทศบาลต�ำบลห้วยใหญ่.(2555).รายงานความคืบหน้าการจั ดท�ำแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ ยว ชุ มชน. ส�ำเนาเอกสาร. บุญเชิด หนูอิ่ม. (2560). ชุ มชนบ้านชากแง้ว: การฟื้นฟูและการด�ำรงอยู่ (พ.ศ. 2552-2558). วารสารวิ ชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิ ทยาลัยบูรพา, 25(48), 103-126. รังษิมา เอกศุภผล. (2544). ชุมชนบ้านชากแง้ว : ลักษณะทางสังคม วัฒนธรรม และสุขภาพอนามัย. วิ ทยานิพนธ์ปริญญาโท สาขาวัฒนธรรมศึกษา. มหาวิ ทยาลัยมหิดล. ส�ำนักงานคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ. (2559). เกณฑ์พั ฒนาการท่องเที่ยวโดย ชุมชนของประเทศไทย : CBT Thailand. ส�ำนักงานคณะกรรมการนโยบายการท่องเทีย่ วแห่งชาติ. กรุงเทพฯ. องค์การบริหารการพั ฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน). ห้วยใหญ่ ชุ มชนจีนเก่ากับ เรื่องเล่าที่บ้านชากแง้ว. กรุงเทพฯ. องค์การบริหารการพั ฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน). (2559). หลักเกณฑ์ด้านการท่องเที่ ยวอย่างยั่งยืนส�ำหรับ แหล่งท่องเที่ ยว. การสัมมนาและนิทรรศการ ความรู้การพั ฒนาการท่องเที่ ยวอย่างยั่งยืนภายใต้เกณฑ์การท่องเที่ ยวอย่างยั่งยืนโลก; “Grow Green Together: Travel Forever,” กรุงเทพฯ องค์การบริ หารการพั ฒนาพื้นที่ พิเศษเพื่อการท่องเที่ ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน). (2561). คู่มือการพั ฒนาการท่องเที่ยวโดยชุ มชน :CBT ท�ำอย่างไรให้ยั่งยืน. องค์การบริหารการพั ฒนาพื้นที่ พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน). กรุงเทพฯ . Global Sustainable Tourism Council. (2017). GSTC-Destination Criteria. Retrieved from http://www.gstcouncil.org/en/gstc-criteria-hotels-tour-operators-destinations/sustainable-tourism-gstc-criteria.html. 42

43


องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) 118/1 อาคารทิปโก้ ชั้น 31 ถนนพระราม 6 เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400

www.dasta.or.th


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.