UNDO ISSUE 01 - P' Jay / Penguin Villa

Page 1

laugh in penguin

villa

issue 01

music travel food



free on your style undo magazine

editor talk

สวัสดีครับผม ทุกวันนี้มีนิตยสารดีๆที่ให้ความรู้ ความบันเทิง ให้เราได้เสพสิ่งดีๆ มากมาย ผม เป็นอีกคนหนึ่งที่อยากทำ�นิตยสาร จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำ�ซักที จนวันหนึ่งผมมี โอกาสได้สอนหนังสือแก่นักศึกษา มุมมองของผมคิดว่า น้องๆ หลายคนมีฝีมือ มีไอเดียแต่ไม่มีพื้นที่ในการแสดงออก อีกทั้งน้องๆหลายคนกำ�ลังเดินหลงทางกัน อยู่ ผมจึงเกิดแนวคิดอยากทำ�นิตยสารซักเล่ม ที่ใครๆ ก็สามารถขีดเขียน แสดง ความคิดเห็น นำ�เสนอผลงาน ไอเดีย ถ่ายทอดเรื่องราวตามสิ่งที่เราถนัด เป็น พื้นที่ที่แสดงความสามารถ จึงเกิดที่มาของนิตยสารเล่มนี้ UNDO MAGAZINE โดยบทสัมภาษณ์ในแต่ละเล่ม ผมจะเน้นสัมภาษณ์คนหลากหลายอาชีพ หลาก หลายแนวคิด ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนในการดำ�เนินชีวิต หาแนวทางของ ตัวเอง บางครั้งคิดว่า สิ่งที่เราเลือกแล้ว เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ลองฟังมุมมองจากด้าน อื่นๆ อาจทำ�ให้เราได้มุมมองและความคิดที่แปลกใหม่ เปิดเล่มแรกต้นปี 2554 ด้วยการสัมภาษณ์พิเศษพี่เจ เจตมนต์ มละโยธา นัก ร้อง นักแต่งเพลงโฆษณา นักร้องนำ�วง Penguin Villa บุกถึงบ้าน เสาะหา เรื่องราวชีวิตของพี่เจ การเริ่มเข้าสู่วงการเพลง มุมมองความรักที่น่าเอาเป็นแบบ อย่าง และแนวคิดดีๆที่มีประโยชน์กับน้องๆที่ต้องการทำ�งานเพลง ส่วนใครที่อยากมีส่วนร่วมในการเขียนบทความ เรื่องสั้น ภาพถ่าย งานภาพ ประกอบ หนังสั้น ส่งมาได้ที่ undomagazine@gmail.com เรื่องใครดีจะเอา มาลงในเล่มต่อๆ ไปนะครับ เริ่มปีใหม่ มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตนะครับ Sakchai Piyaboon Editor-In-Chief ttp://twitter.com/psakchai

เปิดพื้นที่สำ�หรับนักเขียนหน้าใหม่ที่ต้องการนำ�เสนอเรื่องราวของ ตัวเอง ผ่านงานเขียน บทความ เรื่องสั้น ภาพถ่าย งานศิลปะ งาน Illustrator, Animation, Motion Graphic และหนังสั้น ฯลฯ ส่งได้ไม่จำ�กัดแนว ผลงานของน้องๆ จะได้เผยแพร่และลงบน UNDO MAGAZINE


HOME AWAY FROM HOME

INTERVIEW

P’ Jay Jattamon Malayota

03

EDITOR TALK

07

CONTRIBUTORS

08

HOME AWAY FROM HOME

12

INTERVIEW: JAY PENGUIN VILLA

21

MUZIK: ONCE

22

MY FAVORITE PLACE “ASUKA”

28

LIFESTYLE IN USA

45

VIRGINIA BEACH

63

COOKING BY KIK: สปาเก็ตตี้เส้นดำ�ไวท์ครีม

76

D.I.Y: ที่คาดผมง่ายๆ

77

HOROSCOPE BY TAROT

สไตล์ Handmade

MY FAVORITE PLACE “ASUKA”

Consults

Sombat Piyaboon Surapong Thammabuht

Editor in Chief Sakchai Piyaboon

Deputy Editor Apinantn S. Pruek

All rights reserved. No part of this publication may be reproduced in whole or in part without permission from publisher. The views expressed in Undo Magazine are those of the respective contributors and are not necessarily shared by the publisher.

WHERE TO FIND US web www.undomag.com facebook www.facebook.comundomag twitter undomag advertising enquiries can be directed to UNDOMAGAZINE@GMAIL.com


facebook.com/penguinvillamusic


calendar นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “สีแสง แสดงชีวิต” ในสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี THE COLORS OF LIFE

วันที่ 10 ธ.ค. 2553 ถึง 6 ก.พ. 2554 นิทรรศการ ชั้น 8 ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์จำ�นวน 165 ภาพ เป็นภาพถ่ายจากการเสด็จ เยือนตามที่ต่างๆ ทั้งในไทย และต่างประเทศ ในช่วงระยะปี 2553 http://bacc.or.th

Contemporary Japanese Crafts Exhibition 14 ม.ค. - 13 ก.พ. 2554 พบกับผลงาน 64 ชิ้นที่จะสะท้อนถึงความงาม ร่วมสมัยในงานหัตถกรรมของญี่ปุ่น ห้องกระจก ชั้น 2 http://bacc.or.th

“Life in Yangon” by Yan Naing Tun / Curated by Arnold Obermayr runs: January 11th - January 30th opening reception is on Friday, 14th January, from 7 to 9 pm @ Whitespace Gallery

ภาพยนตร์เยอรมันกลางแจ้ง 7 ธ.ค. 2553 - 22 ก.พ. 2554 ทุกเย็นวันอังคาร เวลา 19.30 น. ณ สถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย ไม่เสียค่าเข้าชม Bangkok Noir

นิทรรศการ “เครื่องรางของขลัง” @ MuseumSiam

6 - 30 มกราคม 2553 (ทุกวันพุธ - อาทิตย์ 9.00-16.00 น.) พิธีเปิด: 6 ม.ค. 2553 / 19.00 น. ภาพยนตร์: 12 ม.ค. 2553 / 18.00 น. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ หอศิลปะ (4 ถนนเจ้าฟ้า พระนคร กรุงเทพฯ) ไม่เสียค่าเข้าชม

Glimpses of the Past

ภาพถ่ายโดยแฮร์มันน์ ชเลงเคอร์ เกี่ยวกับชาวเขาทางภาคเหนือของประเทศไทย (ระหว่างปี พ.ศ. 2504-2508) 10 - 31 มกราคม พ.ศ.2554 ห้องจัดนิทรรศการ สถาบันเกอเธ่ฯ

วงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย (TPO ฤดูกาลที่ 6)

CUBIC WORKSHOP Simply Skin (Photoshop Workshop)

วันอาทิตย์ 30 มกราคม 2554 @ Smart Bar ชั้น 3 Fortune Town

คอนเสิร์ตถึงกันยายน 2554 ณ อาคารภูมิพลสังคีต มหาวิทยาลัยมหิดล

CUBIC WORKSHOP Mood and Tone (Photoshop Workshop)

วันอาทิตย์ 6 กุมภาพันธ์ 2554 @ Smart Bar ชั้น 3 Fortune Town


Tomomi Hamada

I met her at Osaka. Generous girl has more good view in lifestyle. I finally persuaded her to write topics about her hometown. ได้พบสาวญี่ปุ่นใจดีเมื่อ ครั้งไปโอซาก้า มุมมองและแนวคิดดีๆ เลยชวนมาถ่ า ยทอดเรื่ อ งราวต่ า งๆ เกี่ยวกับญี่ปุ่น

Kik

Suwanit Downing

สาวโฆษณา ด้วยไลฟ์สไตล์ชอบ Hang Out กับกลุ่มเพื่อน ใจ รักการทำ�อาหาร หลากหลาย เมนูที่เคยผ่านสายตา จึงไม่พลาด ที่จะชวนมาถ่ายทอดสูตรอาหารดีๆ

ภาพถ่ า ยโดยแฮร์ มั น น์ ชเลงเคอร์เกี่ยวกับชาว

l2aven ภาพถ่ า ยโดยแฮร์ มั น น์ ชเลงเคอร์เกี่ยวกับชาว

Golfie Suthanun ภาพถ่ า ยโดยแฮร์ มั น น์ ชเลงเคอร์เกี่ยวกับชาว

contributors at Phone

Ryan Golff

สาวกปี ศ าจแดงผู้ ห ลงเสน่ ห์ ดนตรี britpop และคิดว่าตัว เองใช้ชีวิตอยู่ในยุค 90’s ตลอด เวลา

Pan

บทกลอนเหมือนกาลเวลาที่ผ่าน ไป จะจดจำ�ได้ก็ต่อเมื่อเราได้อ่าน

การวาดการ์ตูนน่าจะเหมาะกับ สาวน้อยช่างฝันคนนี้ ทุกภาพที่ วาดออกมาแสดงถึงเรื่องราวได้ มากกว่าคำ�อธิบาย

Moobrador

ภาพถ่ายโดยแฮร์มันน์ ชเลงเค อร์เกี่ยวกับชาว

Charlee

หนุ่ ม นั ก วาดภาพประกอบที่ สื่ อ ถึงความเป็นตัวตน ความอิสระ ในความคิด จากคณะศิลปกรรม มหาวิยาลัยกรุงเทพ

undo magazine DayWalker

Plengindie

ผู้หลงใหลเพลงอินดี้จากต่างประเทศ และจะหลงใหลมันตลอดไป ตราบที่ โลกนี้ยังมีดนตรีดีๆ ในเสพ

ชายหนุ่ ม ผู้ ใ ห้ ค วามสำ � คั ญ กั บ ชีวิต เปิดกว้างกับศิลปะทุกรูป แบบ รักเด็กและสุนัขตัวเล็กๆ

Sa ภาพถ่ า ยโดยแฮร์ มั น น์ ชเลงเคอร์เกี่ยวกับชาว

THANK YOU


Home away from home Melbourne, the sophisticated city, inspires a deep passion in those who live here.


Photography & Story by Suwanit Downing at suwanitdowning


MELBOURNE HAS BEEN RANKED AS ONE OF THE TOP THREE WORLD’S MOST LIVABLE CITIES BY THE ECONOMIST GROUP’S INTELLIGENCE UNIT’S 2009 LIVEABILITY SURVEY. MELBOURNE, WITH A POPULATION OF MORE THAN THREE MILLION, IS AUSTRALIA’S SECOND LARGEST CITY.

CULTURAL CAPITAL OF AUSTRALIA Melbourne is a true multicultural city with more than one third of melbourne’s population were born overseas. The city is extremely racially tolerant and very easy to work and live in. it is very much about lifestyle. It is a city of energy, sophistication, innovation, and history and cultural diversity. It is modern, cutting-edge designs add to the fascinating mix of heritage architecture and ensure the skyline is constantly changing.


OPPOSITE PAGE: LUNA PARK St Kilda, a historic amusement park built in 1912. THIS PAGE FROM THE TOP: Docklands An entire new precinct filled with shops, bars, restaurants and a stadium with a waterside setting. The National Gallery of Victoria The Australia’s oldest art gallery on St Kilda Road. St Kilda Pier Popular spot for fishing and walking. Southgate Arts & Leisure Precinct,

Melbourne is a diverse and multicultural city, with cultural endeavours spanning major events and festivals, drama, musicals, sports, comedy, music, art, architecture, and literature. There are more than 100 galleries in Melbourne. Most notably it is home to Australia’s oldest art gallery, the National Gallery of Victoria.

SUBURBS AND DISTRICTS

Like any large city, Melbourne is divided up into many suburbs and districts each with its own distinct character and personality. In the CBD, the cobblestoned laneways are filled with the aroma of espresso coming from a myriad of cafes and a large range of restaurants and cafes offering high quality food, and representating various cultures and countries. Further afield, Richmond – Victoria Street (popular Vietnamese restaurants), Sydney Road in Brunswick is known for its many Middle Eastern, Lebanese, Greek and Turkish restaurants. Fitzroy, South Melbourne and Prahran also offer great cafe strips, with a more laid-back feel. The popular tourist area of St Kilda offers a large number of good quality restaurants and cafes, especially on Acland Street, and Fitzroy Street.

COFFEE CULTURE

Melbourne has a long and rich coffee culture beginning with Victorian era coffee palaces and further enhanced by Italian migrants arriving in the aftermath of World War II, and since then the love affair with coffee has not stopped. Melbourne’s coffee culture surrounds you in the laneways and arcades with street cafés and funky coffee shops around every other corner. Degraves Street, Centre Place and Block Place are lined with small eateries, most with an alfresco dining option, offering everything from coffee and paninis to sushi, soup and pasta. The most famous Italian style café is Pellegrini’s, Bourke Street, Melbourne city. Fitzroy is known for funky, bohemian-style cafés. Collins Street features many elegant cafés. Many Italian style cafés are found in Carlton. Partake in tea and cake at the historic Hopetoun Tea Rooms (since1893) in the Block Arcade, grab an authentic Belgian waffle from Waffle On in Degraves Street or climb the stairs to Hell’s Kitchen in Centre Place.

For more information about Melbourne www.visitvictoria.com


P'J Jettamon Malayota Interview

File: Jay01.mov

เริ่มเข้าสู่วงการเพลงได้อย่างไร ? เราเตะบอลอยู่ที่ลาดกระบังตอนนั้นเรียนอยู่ที่สถาปัตย์ฯ ลาดกระบัง ตอนปีหนึ่งก็มีรุ่นพี่ที่จบไปแล้วกลับมาเตะบอล ด้วยกันที่ ชื่อ พี่พิชซ่า (ชัยบรรฑิต พืชผลทรัพย์ มือ เบสวงพราว) พี่เค้าจะเป็นคนที่รอบรู้เรื่องเพลงทางฝั่ง อังกฤษเยอะมาก แล้วพี่เค้าจะมาดีดกีต้าร์ร้องเพลงอยู่ใน คณะ ตอนนั้นเราก็คิดว่า มันมีเพลงแบบนี้ด้วยหรอ ตอน นั้นเราก็ฟังแต่พวก Nirvana พี่พิชซ่าก็เอาเพลงพวกนี้ มาเล่นให้ฟัง เราก็คิดมันก็เพราะดี แล้ววันนึงเราเตะบอล อยู่ พี่พิชซ่าก็ถามว่า “เฮ้ย! มีมือกลองไหม?”... ตอนนั้น ผมก็ตอบพี่พิชซ่าไปว่า “ผมนี่แหละตีกลองได้” หลังจาก นั้นเราก็ไปทำ�เพลงเดโม่ที่บ้านพี่พิชซ่า คิดลายกลองตอน นั้นผมก็คิดว่าเพลงนี้ลายกีตาร์มมันก็น่าจะได้ คือ จริงๆ แล้วผมเล่นกีต้าร์แต่ตีกลองได้ ไม่อยากปล่อยโอกาสนี้ให้ มันผ่านไป เราก็เลยรู้สึกว่าไปตีกลองก็ได้ แต่ปรากฏ ว่าพอเข้าไปถึงเราก็เข้าเริ่มเข้าไปยุ่งกับลายกีตาร์ของเพลง ไปๆ มาๆ พี่พิชซ่าก็... เออ! ไปเล่นกีต้าร์ดีกว่ามั๊งเนี่ย?... ก็เลยมีมือกีต้าร์ 2 คนของวงพราว... หลังจากนั้นเราก็ มีนักร้องนำ�เข้ามา ทีแรกเราว่า จะร้องกันเองคิดไปคิดมา ไม่ Work แล้วตอนนั้นก็ยังร้องไม่เป็นตอนนี้ร้องเป็นขึ้น มานิดนึง แล้วเราก็เลยหานักร้องกันแล้วก็ไปได้พี่เล็ก ซึ่ง เป็นนักร้องนำ�วงพราวในปัจจุบัน ที่แรกพี่เล็กมาช่วยทำ�

MV กับพี่ปุ๊ย ตีสิบ ตอนนั้นพี่ปุ๊ยเป็นผู้กำ�กับอยู่และยัง เป็นรุ่นพี่ที่นิเทศฯที่ลาดกระบัง ได้พาพี่เล็กมาซึ่งเพลงแรก ในยุคนั้นของวงพราว คือ เพลงเหรียญสลึงของวงพราว ตอนนั้นยังเป็นพี่พิชซ่าร้องอยู่เลยครับ พอพี่เล็กเข้ามา เราก็เห็นหน่วยก้าน คือเราได้เห็นพี่เล็กร้องแพลงตั้งแต่ สมัยเรียนเราก็เลยไปชวนพี่เล็กมาร้องเพลง และนี้ก็คือ จุดเริ่มต้นของเราที่ได้ทำ�ดนตรี ตอนนั้นที่เริ่มทำ�เราก็ไม่ได้ คิดจริงจังมาก เราก็แค่สนุกๆ แล้วอีกอย่างมีสาเหตุและ ตัวแปร คือ ก่อนหน้านี้เราเคยปฏิเสธวงวงหนึ่งที่ชื่อ “วง ครับ” มันเลยทำ�ให้เรารู้สึกว่า ถ้ามีโอกาสเข้ามาอีกเราจะ ไม่ปล่อยมันไป ตอนแรกพี่รุ่ง (รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์ มือเบสวงครับ) ที่ตอนนี้เป็นผู้บริหาร Smallroom เคย มาชวนไปเล่นเบสในวง ตอนนั้นผมก็บอกพี่เค้าไปว่าผม อยากเล่นกีต้าร์ อีโก้ อีโก้หน่อย ซึ่งสมัยนั้น วงครับ เป็น วงที่แบบเทพเลย ผมก็คิดนะ ถ้าตอนนั้นเราไปอยู่วงครับ ชีวิตผมก็คงเป็นอีกแบบหนึ่ง พอพี่พิชซ่าชวนไปตีกลอง ผมก็เลยตัดสินใจว่าไปตีกลองก็ได้เพราะตอนนั้นอยากทำ� เพลงแต่ก็ปรากฏว่าผมได้กลายเป็นมือกีต้าร์ หลังจากนั้น เราก็ได้เรียนรู้บรรยากาศของการทำ�เพลงการแต่งเพลง ซึ่งตอนนั้นผมก็คิดแต่จะเล่นกีต้าร์ แล้วอยู่มาวันหนึ่งผม ก็คิดอยากจะแต่งเพลงขึ้นมา


laugh in penguin villa

File: Jay02.mov

แล้วอะไรคือแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงครั้งนั้น ? ตอนนั้นที่คิดอยากจะแต่งเพลง เราก็ยังไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่มีวัตถุดิบ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง แต่เราก็ไม่ได้ซีเรียสที่จะต้องแต่งเพลงอย่างจริงจัง แล้ว วันหนึ่งก็มีเรื่องราวที่มาสร้างแรงบันดาลใจ คือว่า ช่วงนั้นคือมันวัยรุ่นมาก มีรุ่นน้องผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามา ตอนนั้นเราก็เป็นพี่ปีสอง ที่แบบว่าพอ มีรุ่นน้องปีหนึ่งเข้ามา พวกเราก็จะไปดูแฟ้มที่น้องๆ เข้ามารายงานตัวก่อนเลย แบบว่ายังไม่เห็นหน้าเราจะไปดูรูปในแฟ้มก่อนเลยว่าน้องคนไหนน่า รัก เราก็ไปดูรูป เห็นน้องคนหนึ่งหน้าตาน่ารักมาก แล้วเราก็เก็บเอาหน้าน้องไปฝัน ซึ่งมันก็ตลกดี ซึ่งในฝันคือหลงตัวเองมากเลยนะ คือจะมีน้องผู้ หญิงเข้ามาทักทายแบบเรียงแถวด้วยนะ แล้วพอถึงคนสุดท้ายในแถวเป็นน้องที่หุ่นดีแบบนางแบบเลย เค้าก็คือ น้องคนที่ผมเห็นในรูปแล้วเก็บเอาไปฝัน ปรากฏว่าในฝันนะน้องคนนี้ไม่ทักเราเค้าเดินเลยไปเลย เราก็เลยตื่นขึ้นมาแล้วประโยคแรกที่เกิดขึ้นมาก็คือ เธอคือความฝัน... แล้วหลังจากที่เราฝันเราก็ได้เจอน้องเค้าตัวจริง น้องเค้านั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารของคณะ เราก็แอบมองน้องเค้าอยู่ แล้วน้องเค้าก็ลุกยืนขึ้นมา ตอนที่น้องเค้าลุกยืนเราก็คิดว่า... นี่น้องเค้ายืนแล้วหรอ คือน้องเค้าตัวเล็กแต่น้องเค้าน่ารักมาก คืนในฝันน้องเค้าหุ่นนางแบบมาก ถ้าเล่าจริงอาจจะเลี่ยนมาก ก็คือว่า น้องคนนั้นก็คือแฟนของผมในปัจจุบัน ผมก็ได้แต่งเพลง เธอคือความฝัน ขึ้นมาแล้วแพลงนี้ก็กลายเป็นเพลงฮิต ของวงพราวไปด้วยอะไรก้อไม่รู้ ตอนแรกเพลงนี้จะไม่ได้อยู่ในอัลบั้มซะด้วยซ้ำ�เพราะว่ามัน Popไป มันไม่อัลเตอร์ แล้วหลังจากนั้นเราก็เลยรู้สึกว่านี้ขนาดเพลงแรงของเรา เรายัง ทำ�ได้ขนาดนี้เราก็เลยคิดว่าเราน่าจะทำ�อะไรแบบนี้ได้เลยเป็นแรงบันดาลใจของเรา พอมาช่วงปิดเทอมซึ่งตรงกับที่วงพราวหมดช่วงโปรโมท หลังจาก ที่เราเล่นมากันได้ปีกว่า และช่วงปิดเทอมจำ�ได้ว่าตอนนั้นเราแต่งเพลงไว้ประมาณ 80 เพลงได้ จำ�ได้ว่าช่วงปิดเทอมเราก็สะเดาะกลอนห้องเล็คเชอร์ เปิดแอร์ เข้าไปสิงนั่งแต่งเพลงในนั้นเย็นสบาย (น้องๆ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ ฮา) แต่งแล้วก็อัดใส่เทปไว้ เราจะแต่งเพลงเก็บไว้ ตอนนั้นเราก็ ไม่ได้คิดว่าจะมาแต่งเพลงเราคิดว่าเราต้องเป็นสถาปนิก แต่ตอนที่เรียนจบใหม่เป็นช่วงฟองสบู่แตกงานที่เกี่ยวกับสถาปัตย์งานที่เกี่ยวกับงานก่อสร้าง มันไม่ค่อยมี แล้วบังเอิญเราก็ได้ไปทำ�งานกับพี่พิชซ่าอีกแหละ คือ บ้านพี่พิชซ่าทำ�รับเหมาก่อสร้างตอนนั้นเราไปทำ�ที่ภูเก็ตแฟนตาซีไปทำ�ในส่วนอินที เรีย เราไปเป็นโฟว์แมน พองานเสร็จเราก็กลับมากรุงเทพ ตอนนั้นเราก็เป๋ ๆ กับชีวิตว่าจะเอาอย่างไรว่า จะเรียนต่อไหม ตอนนั้นก็งงๆ พี่พิชซ่า ก็ชวนมาทำ�เพลงอีกครั้งให้เราลองมาใช้โปรแกรมในการแต่งเพลง พี่พิชซ่าก็บอกว่าเดียวนี้เค้าใช้คอมพิวเตอร์ในการทำ�เพลงแล้วนะ เราเข้ามาในตอน นั้นก็มีพี่พิชซ่า พี่แจ๊ค มือกีต้าร์วงพราวอีกคน พี่รุ่งโรจน์ วงครับ พีส่ ามคนกำ�ลังทำ�เพลงแบบที่เป็น Showreal คือ เหมือนกับการทำ�เพลงเดโม่ ว่า เราสามารถทำ�เพลงแนวไหนได้บ้าง Electro, Pop, Rock หรือ ทำ�เพลงลูกทุ่งก็ได้เพื่อเป็น Portfolio เพื่อไปเสนองานตามบริษัทต่างๆ เพื่อที่ จะให้เค้าจ้างเราไม่ว่าจะเป็นการทำ�เพลงโฆษณา เพลงหนัง เพลงประกอบรายการ อะไรทำ�นองนี้ ผมก็เข้าไปเล่นๆเหมือนเข้าไปฝึกงาน มันก็เลยเป็น เหมือนจุดเริ่มต้นของ Smallroom แล้วเราก็เริ่มมีงานโฆษณาเข้ามาเราก็ทำ�เพลงไปเรื่อยๆแต่ตอนนั้นยังไม่ใช้ชื่อว่าเป็นบริษัท Smallroom ตอนนั้น เราก็แค่คิดว่าทำ�งานหาเงิน


การทำ�เพลงโฆษณาต่างจากการทำ�เพลงในอัลบั้มอย่างไร ? ตอนแรกเราก็ยังไม่รู้ก็ทำ�ไปเรื่อยๆ ตอนแรกผมก็เริ่มศึกษาการเรียบเรียง การทำ�ทำ�นอง ซึ่งมันก็เกิดจากการฟัง ว่าเพลงแบบนี้เป็นอย่างไร มันก็เหมือนการ แกะเพลง การเข้าถึงอารมณ์เพลงนี้ว่าเป็นอย่างไร การดำ�เนินไปของเพลง มันส่งผลอย่างไรกับความรู้สึกของเรา เราก็ต้องมาคิดว่าเราจะทำ�อย่างไรให้มันสนุก ให้มันซึ้ง ให้มันหวาน อันนี้ก็เริ่มเรียนรู้จากการฟังทั่วๆ ไป เพราะเวลาเราทำ�เพลงโฆษณามันจะมีเพลงไกด์มาให้เรา เพราะจะได้เห็นไปในทิศทางตรงกันเราก็ต้อง เริ่มศึกษาจากเพลงไกด์ที่เค้าให้มาว่ามันเรียบเรียงอย่างไร แล้วเราก็เริ่มเรียนรู้ไปหลังจากนั้นประมาณสักปีหนึ่งเราก็เริ่มคล่องแคล่วในการทำ�เพลงมากขึ้น เพลงโฆษณาที่คนรู้จักมีเพลงอะไรบ้าง ? ารทำ�เพลงโฆษณามันดีอย่างคือเราได้นำ�เสนอตัวตนของเราแฝงเข้าไปในนั้น ซึ่งมันส่งผลต่อคนฟังทำ�ให้คนฟังรู้สึกคุ้นหูเรามามากขึ้น ส่วนเพลงโฆษณาที่คน รู้จักได้ยินบ่อยสุดก็น่าจะเป็นเพลงโฆษณาของ Dtac เพลง Feel Good ที่เป็นเพลงผิวปากมีเนื้อร้องที่ติดหูว่า “ทุกครั้งก็ยังสงสัย เมื่อทำ�อะไรที่ดูไม่มีความ หมาย” แล้วก็อีกฝั่งหนึ่งของค่ายโทรศัพท์คือ AIS “แค่เพียงอาทิตย์ละครั้งเราได้ใช้เวลาด้วยกัน อาทิตย์ละครั้ง” แล้วก็มีบิวตี้ ดริ้ง มีเนสกาแฟ อันนี้ทำ�ให้ กอล์ฟวง Superbaker ร้อง ที่ร้องว่า... “รู้ไหมอะไรที่ทำ�ให้เราได้พบกัน”... การที่เราจะทำ�เพลงโฆษณาให้ติดหูจะว่ายากมันก็ไม่ยาก จะว่าง่ายมันก็ไม่ง่ายเรา ต้องทำ�ให้คำ�มันเป็นกราฟิค ทำ�ให้มันเห็นภาพ ต้องทำ�ให้เมโลดี้ที่ง่ายๆ น้อยๆ ไม่น่าเบื่อ

File: Jay03.mov

เคยรู้สึกท้อในการทำ�เพลงบ้างไหม ? ถ้าในแง่ของการทำ�เพลงโฆษณาจะไม่ค่อยมีมุมที่ท้อเพราะมันจะมี Deadline ที่เราต้องส่ง คือมันจะไม่มีช่วงเวลาที่ตัน เพราะมันจะต้องคิดให้ออก มันต้องส่งแล้ว เวลาช่วงที่เริ่มลังเลว่าเพลงโฆษณามันทำ�ความต้องการของคนอื่น ซึ่งในธรรมชาติของนักดนตรีมันมีความเป็นศิลปิน ความอีโก้ ความไม่เน้นขาย คือ เรา ว่าคนที่ทำ�งานศิลปะมันต้องมีอีโก้ระดับหนึ่งไม่อยากให้ใครมาแก้มาเปลี่ยน แล้วการทำ�เพลงโฆษณามันต้องมีการแก้การเปลี่ยนมันเลยทำ�ให้รู้สึกไม่ค่อยดี หลาย ครั้งเราก็รู้สึกอยากทำ�เพลงแบบของตัวเองก็เลยเป็นจุดที่ได้คุยกันกับพี่รุ่ง ว่าเราต้องลดบทบาทของเพลงโฆษณาลง เราจะแต่งเนื้อร้อง จะไม่ได้ลงไปโปรดักชั่น แบบเต็มๆเหมือนแต่ก่อน จะเป็นเหมือนที่ปรึกษาให้น้องๆที่เริ่มเข้ามาทำ�งานตรงนี้ เพราะไม่อย่างนั้นเราจะไม่ได้ทำ�เพลงของตัวเองเดียวจะแก่ซะก่อนที่จะกระโดด ได้ นั้นก็เลยเป็นช่วงเวลาที่เราได้กลับมาทำ�เพลงอีกครั้ง มาเริ่มทำ�อัลบั้มเป็นของตัวเองที่ใช้ชื่อว่า Penguin Villa ได้อย่างไร ? ช่วงนั้นมันเริ่มมีบรรยากาศของวงการเพลงไทยมันไม่ค่อยสนุกเราก็เลยคิดว่า มันขาดอะไรไปบางอย่าง เราก็เลยคุยกันเรื่องทำ�อัลบั้ม แล้วอัลบั้ม Smallroom 001 ก็ได้เกิดขึ้น ณ ตอนนั้นแต่การที่เราคิดที่จะทำ�อัลบั้มมันยาก ที่จะทำ�วงวงหนึ่งขึ้นมาแล้วทำ�เพลง มันยากกว่านั้น เราต้องคิดเยอะมาก เราก็เลยคิดว่าเราไปชวนเพื่อนๆมาทำ�เพลง คนละเพลงดีกว่า มันง่ายดี โดย ใช้ Theme ว่าเป็น Pop นะ แต่เป็น Pop ในแบบของแต่ละคน คือให้แต่ละ คนทำ�เพลงให้มีความต่างกันในตัวเพลงเพื่อให้เป็นทางเลือกของคนฟัง คือ พวกเราถ้าเรียกกันในสมัยนี้ก็คงเป็นเด็กแนวแต่เป็นเด็กแนวใน 10 ปีที่แล้ว เราก็เริ่มทำ�กัน โดยผมก็ได้ทำ�เพลงหนึ่งโดยใช้ชื่อวงว่า Penguin Villa ชื่อ วงก็อ้างอิงมาจากการ์ตูน ดร.สลัมกับหนูน้อยอาราเล่ คือผมไม่รู้จะใช้ชื่ออะไร ซึ่งผมก็ชอบ เพนกวินด้วย ผมก็เลยนึกถึงหมู่บ้านเพนกวิน ผมก็เลยใช้ชื่อนี้ เราทำ�เพลงกันโดยทุกวงต้องมาผ่านการโปรดักชั่นที่ Smallroom แล้วผม ก็ได้เรียนรู้การทำ�เพลงที่มันหลากหลายจากเพื่อนๆแต่ละวงที่เข้ามาทำ�ด้วยกัน มีทั้ง Stylist Nonsense ในปัจจุบัน ป๋าเต็ด (ยุทธนา บุญอ้อม) ก็เคย ทำ�ด้วยกัน แต่ตอนนั้นใช้ชื่อวงว่า โบนัส มีพี่ซีส (ดีเจซีส นรเศรษฐ หมัดคง), วงสี่เต่าเธอ พอทำ�ออกมาปรากฏว่าก็มีแฟนๆที่ติดตามพวกเรามาจากช่วง

อัลเทอร์เนทีฟ ที่เป็นแฟนวงครับ, วงพราว, วงสี่เต่าเธอ ก็ติดตามพวก เรา ขณะเดียวกัน มันก็มีบรรยากาศของความเป็นอินดี้เข้ามาพร้อมๆกัน มี วิทยุคลื่น Fat ในปีแรก แล้วมาพอดีตรงที่เราทำ�อัลบั้มนี้ มันก็เลยทำ�ให้เรา มีที่เผยแพร่ เราก็เลยส่ง Single ที่มีชื่อว่า จิตรกรรม ไปที่ Fat แล้วก็ขึ้น อันดับ 1 ถึง 4 สัปดาห์ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ดี เราก็คิดว่ามีคนฟังเรา เราก็ เลยเริ่มลุยต่อ แล้วมันก็เลยทำ�ให้คนที่ทำ�เพลงเข้ามาหาเรา มันก็เลยกลายเป็น ค่ายที่มีศิลปินในแบบเดียวกับเราเข้ามาหาเรานั่นก็เลยทำ�ให้เราได้ทำ�ค่ายเพลง อย่างจริงจังมากขึ้น แล้วก็ได้มีอัลบั้มเดี่ยวของผมที่มีชื่อวงว่า Penguin Villa ในอัลบั้ม “ออกไปข้างนอก” ตอนนั้นอัลบั้มออกไปข้างนอกมันก็เกิด จากเพลงที่เราแต่งๆ เอาไว้ที่บอกไว้คราวแรกที่ว่าแต่งเอาไว้ 80 เพลงที่เริ่ม เข้ามาทำ� Smallroom เราก็อยากเอาเพลงที่เราแต่งเอาไว้มาทำ�ให้มันเป็น เพลงอย่างจริงจังมากขึ้น เราก็เลยเอาเพลงเข้ามาในจังหวะนี้ พอผมได้เอา เพลง 80 เพลงกลับมาฟังแล้วรู้สึกว่ามันใช่ไม่ได้เลย ก็ไม่น่าเชื่อว่านอกจาก เพลง เธอคือความฝันแล้ว เพลงที่เหลือเป็นเพลงอะไรไม่รู้ แต่ก็มีที่เล็ดลอดมา ได้ใน 80 เพลงก็มีเพลงที่ชื่อว่า เครื่องมือ แล้วอีกเพลงคือเพลง Frog ที่ เหลือในอัลบั้มออกไปข้างนอกแต่งใหม่หมดเลย


ในอัลบั้มใหม่ Live in Penguin Villa สมาชิกทั้ง 4 คนมารวมตัวกันได้อย่างไร ? ตอนที่เราทำ� Penguin Villa ชุดแรก เราทำ� คนเดียว เหมือนอยู่คนเดียวในถ้ำ� เหมือนพูดคน เดียว ตะโกนคนเดียวเวลาไปเล่นสดคนที่มาช่วยเรา ตะโกนนั้นคือ Backup ผมก็เลยรู้สึกว่าเค้าตะโกน ไปในทิศทางที่เรารู้สึกแปลกๆ เวลาเค้ามาเล่นลา ยกีต้าร์ที่เราเล่น มันรู้สึกแปลกๆ ก็เลยคิดว่าถ้า เราทำ�วงขึ้นมาแล้วให้วงเล่นตอนบันทึกเสียงด้วย ไม่ได้เป็นแค่ backup มันน่าจะสื่อสารมีอะไรที่มัน น่าสนใจมากขึ้น เราไม่ได้ตะโกนออกไปคนเดียวเรา อาจจะพูดออกไปพร้อมกันทั้ง 4 คน ส่วนตัวผม ก็เคยทำ�วงมาก่อนเราคิดถึงบรรยากาศของการทำ� วงดนตรีขึ้นมาก็เลยชวน ตั้ม วิศุทธิ์ พรนิมิตร ที่ เราเคยเล่นกันมาใน Smallroom ชุกแรก ก็เคย ให้ตั้มมาช่วยเล่นในการเล่นสด เราก็คิดถึงตั้มมา ตลอด ก่อนหน้านั้นผมก็ชวนกระชาย (วง Death of A Salesman) มาเล่นเบสแต่กระชายอาจจะ มีเวลาไม่พอเพราะกระชายมีงานประจำ� แต่ว่าตั้มไม่ ได้ทำ�งานประจำ� ตั้มเขียนการ์ตูน HeSheIt หลาย คนคงรู้จัก ผมก็ถามตั้มว่า ตั้มจะมีเวลาพอหรือ เปล่า ตั้มก็บอกว่า ตั้มอยากออกเทป ตั้มอยากทำ� เพลงด้วย ผมก็เลยถามตั้มว่า ตั้มจะมีเวลาพอเห รอ เพราะการ์ตูนของตั้มก็ประสบความสำ�เร็จ ถ้า มาทำ�เพลงมันจะไม่เบียดเบียนเวลางานของตั้มหรอ ตั้มก็ให้คำ�ตอบมาว่า...

“เราก็เหมือนน้ำ� คือ มันมีบางอย่างที่เราเจอ บาง วัตถุเราเจอแล้วเราก็เข้าไปในตัวมัน หรือบางทีเรา ก็แค่กระทบแล้วเราก็ผ่านไป แต่นี้เราเจอแล้วเรา สามารถเข้าไปในตัวมันได้” ผมก็คิดในใจว่านั่นคือ คำ�ตอบเหรอ? (ฮา)... ง่ายๆ ก็คือ ตั้มก็อยาก ทำ�เพลงนั้นแหละ ส่วนมือเบส เนม สุธัช นฤนาท วานิช เป็นลูกศิษย์ของคุณเช่ The Richman Toy เนมมีข้อดีอย่างหนึ่ง คือ เค้าชอบเพลง Acrophobia เค้าชอบเพลงเรา ถ้าเค้าไม่ชอบมัน ก็อาจจะเป็นอีกอารมณ์หนึ่ง มือกีตาร์ เอ็ด สกุล ชาย จูฑะพล เป็นมือกีตาร์ของญารินดานั่นเอง แล้วคุณเอ็ดก็ยังเป็นโปรดิวเชอร์อยู่ที่ Smallroom ด้วย เราก็จะเคยเห็นฝีมือกันมาก่อนเราก็เลยรวม ตัวกันไปเล่นงาน Fat เหยียบ 10 จริงๆแล้วพวก เราเหมือนเพิ่งจะทำ�วงกัน มันไม่เหมือนวงอื่นๆที่เค้า รวมตัวกันมาตั้งแต่มหาวิทยาลัย หรือสมัยมัธยม มันเลยเหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เราก็เลย รู้สึกว่าเราต้องลุยกันอีกยาว ต้องสู้กันอีกนาน เราก็คิดว่ามันเป็นการเริ่มต้นทั้งหมดเลย และมันก็ เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วบรรยากาศมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ณ ถึงวันนี้ก็น่าจะ 3 เดือนกว่าแล้วเราเริ่มมีการ บันทึกเสียงอัดพร้อมกันในอัลบั้มเล่นดนตรีพร้อม กัน 4 ชิ้นอยากจะแต่งเพลงขึ้นมา

ได้ดู MV ใหม่ เพลง Good Morning หลาย คนสงสัยว่าทำ�ไมมันไปคล้ายๆ MV เพลงจำ� ทำ�ไมของ วง Tattoo Colour อันนี้มีที่มาที่ ไปยังไง? มันเริ่มจากตอนที่เราทำ�เพลงโฆษณามันก็จะมีช่วง เวลาเดินทางเราก็จะแต่งเพลงไว้เยอะ แล้วเพลงมันก็ น่าทำ� เราเลยเลือกเพลง Good Morning คือ ก่อนที่จะออก Single เราได้เคยเล่นให้หลายๆคนใน บริษัทได้ฟังนานแล้ว หลายๆ คนชอบ เราก็เลยคิด ว่าเราน่าจะเริ่มด้วยเพลงนี้แหละ เราก็เลยส่งแพลง Good Morning เป็น Single แรกของอัลบั้ม ก็มีเสียงตอบรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกที่เราได้ ปล่อยเพลงนี้ออกไป มันค่อนข้างที่ยังเงียบซึ่งทาง Smallroom ก็เริ่มวิตก เพราะมันมีปัจจัยอย่าง หนึ่งที่ทำ�ให้วิตกคือว่าโปรเจ็คปีนี้ที่ Smallroom เปิดตัว เรียกว่า 8 สยาม คือ 8 อัลบั้ม 8 วง ดนตรี ทั้งหมดก็มี Slur, จิดา, Superbaker, Tattoo Colour, เป้ อารักษ์, มารีญา,

File: Jay04.mov


The Jukks และ Penguin Villa เพลงที่ส่ง Single ไปอย่าง แกล้งป่วย ของ จิดา, ออกซิเจนของ Superbaker, เซโรงัง ของ Slur, ลับสุดยอด ของ Tattoo Colour ส่งไปแล้ว “มา” (ดัง) หมด ส่วน เพลง Good Morning ช่วงอาทิตย์ สองอาทิตย์แรก เหมือนกับเงียบ ยังไม่ค่อยมา เราก็เลยวิตกกันว่ามัน เป็นเพราะไร? ทำ�ไมเพลงที่พวกเราชอบมันยังไม่มา เราก็เลยกลับมาคิดว่า เพลงนี้มันเป็นเพลงที่สบายๆ ฟัง เรื่อยๆ เราก็ปล่อยมันไปให้คนฟังได้ทำ�ความเข้าใจกับเพลงไปเรื่อยๆ แล้วก็ส่งต่อกันไป พอหลังจากนั้นปรากฏ ว่า มันมา! เราก็มาคิดว่าทำ�ยังไงให้มิวสิควีดีโอ มันได้ทำ�งานต่อหลังจากที่ผลมีการตอบรับที่ดีแล้ว เราก็มาคุยกับพี่รุ่งว่าเพลง Good Morning เป็นเพลงที่ฟังสบายเราก็น่าจะทำ� MV ให้แบบสวยๆ นั่งเหงาๆ เอาก็ได้ พี่รุ่งก็บอกว่าไม่ได้มันต้องทอล์ค! พี่รุ่งก็เลยเสนอขึ้นมา ที่แรกเราก็ลองเปิดหนังลองหาภาพอ้างอิงวา ภาพมันน่าจะเป็นโทนไหน ก็ดู Youtube เปิดไปเรื่อยๆก็ไปเจอเพลง จำ�ทำ�ไม ของ Tattoo Colour เรา ก็เลยตกลงกันว่าจะเอาแบบนี้ แต่ให้น้องได๋ ไดอานา Happy ขึ้นมา พอทำ�ออกมาผมว่าภาพมันก็สวยดีแล้ว การทำ� MV แบบนี้มันก็เป็นประเด็นให้ทีม PR ทำ�งานได้ง่ายขึ้น แต่ยังไงตัวเพลงนี้มันก็ได้ทำ�งานไปก่อนหน้านี้ แล้ว ผมเลยไม่ได้ซีเรียสว่า MV มันต้องขยี้อะไรมากมาย พวกเราก็ทำ�หน้าที่ถ่ายถอดเพลงนี้ในการแสดงสด

File: Jay05.mov

ในอนาคตมีโอกาสที่จะกลับไปรวมวงกับวงพราว อีกหรือเปล่า ? มีครับ ผมยังรู้สึกว่ายังชอบเป็นมือกีตาร์ ชอบมาก พอ ๆ กับการออกมาร้องเพลงนะ และผมคิดว่านัก ร้องที่ Peak ที่สุดของผมก็คือ พี่เล็กวงพราวนี่ แหละ ก็เลยรู้สึกว่าวันหนึ่งจะกลับไปทำ�งานรวมกับ พราวอีกครั้งแต่คงจะลดการกระโดดการโยกหัว ลง ผมว่าทุกคนก็ยังคงคิดถึงวงพราวอยู่ และ ผมก็ยังคิดถึงเสียงพี่เล็กอยู่ ผมมีหลายเพลงที่ แต่งแล้วยังรู้สึกว่าเพลงนี้พี่เล็กน่าจะได้ร้อง ผมก็ ยังเก็บไว้อยู่เลย

laugh in

penguin villa

จะให้ช่วยแนะแนวคิดให้กับน้องๆที่อยากจะเข้ามา สู่วงการเพลงแบบนี้? ถ้าเราอยากทำ�จริงๆก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเรา อยากทำ�จริงขนาดไหน ขนาดผมที่ไม่รู้ว่าทำ�จริง หรือเปล่ายังมาถึงได้ขนาดนี้ หรือว่าถ้ายังไม่รู้จริงๆ ลองดูก่อนก็ได้ยิ่ง ถ้ารู้นิดๆ ยิ่งดีใหญ่เลยว่าเรารู้ ว่าเราอยากทำ�เพลงแล้ว ยิ่ ง ตอนนี้ มั น มี ช่ อ งทางการเรี ย นรู้ หรือการที่เราจะไปติดต่อใครที่ทำ�เพลงเดียวนี้มัน ง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะ อินเตอร์เน็ตก็มีเยอะ ไม่ จำ�เป็นว่าจะต้องเป็นคนรู้จัก แล้วดูว่าเราพร้อม ที่จะลุยแค่ไหนแล้วก็การทำ�เพลงมันมีหลากหลาย รูปแบบ อาจจะเริ่มจากการทำ�เพลงคนเดียวกับ คอมพิวเตอร์ เราก็ลองไปศึกษาดูหรือว่าจะทำ�กับ เพื่อน 2 คน 3 คน ทำ�เป็นวง หรือไม่ชอบทำ� เป็นวงก็ลองทำ�คนเดียวแล้วก็มาดูอีกว่าเราอยาก ทำ�อัลบั้มหรือเปล่า หรือเราอยากทำ�เพลงประกอบ โฆษณา Jingle เพลงประกอบรายการ ประกอบ หนัง ถ้าเราชอบที่จะทำ�เพลงลองดูง่ายๆว่าในชีวิต ประจำ�วันเราเจอเพลงในอะไรบ้างในหนัง ในวิทยุ ใน เพลงที่เป็นอัลบั้ม มีมากมาย แล้วลองสังเกตตัว เองว่าเรารู้สึกว่าอะไรมันมาโดนเรา แล้วเราลองมุ่ง มั่นกับมันดู แล้วมันจะทำ�ให้เราสนุกและอยู่กับมันได้


ฟังเพลงเพราะๆ

P'J

กับบรรยากาศแสนสบายกับ

PENguin Villa

Do IT

บก. และ ทีมงานอธิบายแนวคิด ของนิตยสารเล่มนี้

ฮาเสมอกับเรื่องเล่าของพี่เจ

ออกรสออกชาติกับบรรยากาศสบายๆ

พูดคุยขอไอเดียดีๆ จากพี่เจ

ตั้งกล้องเตรียมตัว คนเราถ้าไม่หมดความหวัง ความฝัน และแรงบันดาล ใจ ก็สามารถทำ�ได้ดั่งที่ฝันและตั้งใจ เหมือนอย่างที่ UNDO MAGAZINE ถือกำ�เนิดขึ้น โดยพี่เจ เจตมนต์ มละโยธา คือ คนที่เราหาตามแนวคิดของนิตยสารเล่มนี้ เน้นสร้างแรงบันดาลใจให้แก่น้องๆ ต้องขอขอบคุณพี่เจ ที่ เอื้อเฟื้ออารมณ์ขัน ความสุข ความเป็นกันเอง แนวคิด ชีวิต การทำ�งาน บทสัมภาษณ์ดีๆ บ้านสวยๆ ของพี่เจ และที่สำ�คัญที่สุด คือ อาหารกลางวันจากฝีมือของคุณ แม่พี่เจด้วยครับ

^_^

งานแรกของพิธีกร

เจอคำ�ถามยากๆ ขอนึกก่อน

เราทุกคนเป็นเกียรติอย่างยิ่งกับสิ่งที่พี่เจ มอบให้แก่น้องๆ ทุกคนที่ได้อ่าน MAG. ฉบับนี้ น้องๆ อยากให้พี่สัมภาษณ์ใครที่สามารถ เป็นแรงบันดาลใจได้ ลองเสนอไอเดียมา ได้ที่ undomagazine@gmail.com หรือ facebook/undomagazine


Illustrated by Phone at facebook.com//ranchida.pramotpiphop





My favorite place

"AsukA"

I live in Nara next to Osaka (the second city in Japan) which is located a bit down from the middle of Japan.

Photography & Story by Tomomi Hamada at facebook.com/Tomomi Hamada


Nara still has lots of nature especially in south area. Since I was a child, I had a strong connection with “Asuka”. My parents took us to Asuka to experience growing rice by our hands through a year and participating rice cake making festival in the end of every year to celebrate our successful harvest. Through a year, Asuka shows us variety of scene. In Spring time there are thousands of cherry blossoms on a ground and also on a mountain and local people and also many tourists enjoy having lunch or dinner under their trees with a beer in their hand every year.

As another event in Spring time, Asuka is very famous place for having terraced rice fields around this area. The view is very beautiful especially in autumn season with lots of cluster amaryllis. People and some volunteers gather around and start planting rice which will be grown up in autumn season when the rice fields are colored all golden brown and shining under the sun. At that season people afraid of birds (especially crows) coming and trying to eat the rice. Therefore, people start thinking to make something to be instead of human being while people are not around the field. Then scarecrow (“Kakashi”in Japanese), human being shaped statues standing in the field was made.


In nowadays, Kakashi festival is held every autumn season. People bring their own hand made Kakashi and they put their own one on the road and compete with other handmade Kakashi. Many visitors come and vote for the one they liked the most. From the young generations to the old generations, they have their own wishes such as world peace, health of family and luck for next coming year. If you come to Asuka, you can feel real Japan. Thousands of years ago, people called “Asuka” as “Asuku” which came from the word “comfortable home” in Japanese and this was the original meaning of “Asuku” and later on this changed the form and now it is called “Asuka” among people. Asuka is not a very touristic town so If you like strolling around quite a bit far from the city for relaxing or finding truly Japan,

I definitely recommend to get there. Positively!!


私は大阪から程近くにある奈良に住んでいます。奈良には、今でも 自然が残っており、特に南の地域では豊かな自然が見られます。 幼少期から、両親の影響もあり、飛鳥の地に関わりがありました。 汗水流して自分たちの手でお米を育て、一年の終わりには、 その 年の収獲を祝って餅つき大会をしました。 四季折々で色々な表情 を見せる飛鳥では、春になると桜が満開になり、地元の人や、観光 で訪れた人たちがお花見を楽しみます。昼夜関係なく皆ビールを 片手に桜の木の下で食事を楽しみます。飛鳥は、棚田の景色で有 名で、秋になると、彼岸花が咲き、 とても美しい景色が見られます。 地元の人を始め、 ボランティアの方々が集まり春になると田植え が始まります。秋には実がなり、 まるで太陽に照らされた黄金のじ ゅうたんの様にも見えます。米の収獲の時期になると、昔から人々 は米を狙う鳥たちを恐れ、何か人間の代わりになるものをと考え てきました。 そこで出来たものが人の形をした 「案山子」 です。飛鳥 では毎年、彼岸花の咲く9月頃に案山子祭りが開催されます。 み な、 自分で作った案山子を持参し、 田んぼの淵に立てて、競い合う というものです。 それぞれの案山子には、沢山の願いが込められて おり、世界平和や、家族、友人の幸せ、来年への豊富など老若男女 関係なく、楽しんで拝観することができます。優勝は地元の人たち や、観光客によって投票され、決定されます。

飛鳥には、昔の懐かしい日本を感じさせる何かがあります。 何千年も昔、飛鳥という名の以来は 「あすく」 と言われており、 当時の人々が読んだ 「あすく」 とは、 「心地よい故郷」 という語源からきてい ると伝えられています。 当時の 「あすく」 から形を変えて、今の 「飛鳥」 になったと言われています。 飛鳥の地は、奈良や京都などの観光地に比べると、人も少ない為、 ゆっくり日本を感じたい方や、本当の日本を探索したい方には、非常 にお勧めしたい場所です。第二の故郷探しに出かけましょう!


FishgRill


Illustrated by ชาลี - สร้างสรรค์ สมกุศล (ชาลี) at facebook.com//charlee.angleo

I WANT GO TO TOILET


Photography & Story by ภู at facebook.com/l2aven

(รวินท์ เจี่ยสกุล)

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน อ่านเรื่องชีวิตนักเรียนใน ต่างประเทศมาก็มาก เรียกได้ว่าเป็นแรงบันดาลใจกันเลย ทีเดียว ว่า ซักวัน เราจะต้องไปเรียนเมืองนอกให้ได้ และ ประเทศที่ผมใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กก็แน่นอนละครับ เป็นใคร ใครจะอยากจะเดินตามรอยเท้าพ่อกันทั้งนั้น “อเมริกา” นั่นเองครับ


lifestyle

in usa


ด้วยความที่พ่อพูดฝังหัวมาตั้งแต่เด็ก และโดนดูถูกมาตั้งแต่เด็กอีกเช่น กัน หน้าอย่างงี้เหรอจะเข้ามหาวิทยาลัยดังๆ ได้, แค่ลูกชาวสวน จะไป เรียนเก่งได้ไง, บลาๆๆๆๆ ผมไม่ได้น้อยใจเลยครับ ที่เกิดมาเป็นลูกของ เกษตรกร กลับภูมิใจซะอีก ที่พ่อเราเป็น หนึ่งใน “กระดูกสันหลัง” ของ ชาติ ไม่ใช่ “รากหญ้า” แต่อย่างใด… เรื่องราวส่วนใหญ่ที่ผมอ่าน ส่วนใหญ่จะเป็นประสบการณ์การใช้ชีวิต ไป เที่ยว เรียน ทำ�กิจกรรมซะเป็นส่วนใหญ่… แต่ไม่ค่อยจะเห็นใคร เขียนถึง เรื่องที่ตัวเองทำ�วีรกรรมเอาไว้ ซักเท่าไหร่นัก มาเข้าเรื่องกันดีกว่า…ตั้งแต่เข้าเรียนปริญญาตรี เรียนหนัก แถมยังขี้ เกียจ บ้ากิจกรรม ความคิดที่จะเรียนต่อเริ่มจางหายไปเรื่อยๆ แต่พอ หลังจากฝีกงาน ถึงได้รู้ว่า เดี๋ยวนี้ ปริญญาตรีมันไม่พอซะแล้ว… ความ คิดที่จะเรียนต่อเลยเริ่มกลับมาอีกครั้ง… หลังจากเรียนจบ พยายามสอบ TOEFL สอบ GRE (สำ�หรับสายวิทย์ส่วนใหญ่ เวลาจะสมัครเรียน จะ ต้องใช้คะแนน GRE ประกอบ) ระหว่างทำ�งาน ก็ยื่นใบสมัครเข้าเรียน ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ไปเรื่อยๆ แต่สุดท้าย ก็ยังไม่มีมหาวิทยาลัยไหน ตอบรับ พ่อเลยบอกว่า งั้นไปเรียนภาษาก่อนละกัน แล้วสอบใหม่ ให่้ได้ คะแนนดีๆ เรียนภาษาที่อเมริกา ยังไงซะมันก็จำ�เป็น เพราะเราจะต้อง ปรับตัว มันต่างจากเรียนภาษาอังกฤษที่เมืองไทยมาก…

ไปๆ มาๆ ก็เลยได้มาเรียนภาษาที่เมือง Atlanta รัฐ Georgia ซึ่งอยู่ ทางใต้ของอเมริกา เพราะมีญาติ อยู่ที่นั่น…ตอนก่อนจะมา เพื่อนถาม หลายคน ว่าจะไปเรียนภาษาที่ไหน พอบอกไปว่า Georgia ทุกคนจะ คิดไปถึงประเทศจอร์เจีย ทางแถวๆ รัสเซีย โน่น…แล้วก็ตกใจกันยกใหญ่ ตอนนั้นส่วนใหญ่เลยต้องบอกว่าไป Atlanta คนรู้จักมากกว่า เพราะ เคยจัดกีฬา Olympic ตอนวันที่ขึ้นเครื่อง ญาติๆ มาส่งกันเพียบ พ่อ แม่พี่น้อง มากันหมด ยิ่งมาเยอะ ใจหายมากครับ… แทบร้องไห้ แต่อาย เลยกลั้นเอาไว้ หลังจากเดินเข้า Gate ก็ตามคนอื่นไปเรื่อยๆ ครับ หวัง ว่า…คงจะเจอใครซักคน ที่ไปอเมริกาเหมือนกัน… แต่โชคร้ายครับ flight นั้นนอกจากจะ ไม่ค่อยมีคนไทยแล้ว คนส่วนใหญ่ ยังไปลงที่เกาหลี กัน หมด… การเดินทางก็เรียบร้อยดีครับ จากไทยไปเกาหลี ไม่มีปัญหา อะไรมากมาย ออกเดินทาง flight ดึก ก็หลับยาวครับ ตื่นมาก็ถึงท่า อากาศยาน Incheon ที่เกาหลีละ


แต่จากเกาหลีไปอเมริกาเนี่ยสิ มีปัญหากับเรื่องการเลือกอาหารมาก ๆ แอร์โฮสเตจที่เป็น คนเกาหลี (น่ารักมาก) พอเห็นผมทีไร ทำ�ไมซัดแต่ ภาษาเกาหลีใส่ทุกที ทุกคนเหมือนกันหมดเลยจริง ๆ หน้าผมก็ไม่ได้ออก ไปทางหนุ่มเกาหลีเลย ออกจะจีนปนลาวซะมากกว่า (ฮา) โดยเฉพาะเวลา ที่เอา อาหารมาให้ ผมได้แต่ตอบไปว่า “ไอ แค้น อันเด้อ สะแตน คอ เรียน” หรืออีกนัยก็ ผมไม่เข้าใจภาษาเกาหลี… หลังจากนั้นปัญหาเกิด อีกครับ เพราะทุกมื้อ จะมีอาหารสองอย่างให้เลือก บางมื้อเป็นอาหาร เกาหลีทั้งสองอย่าง…เอาละสิ ชื่ออาหารดันเป็นภาษาเกาหลีอีก… หรือว่า จริง ๆ มันเป็นภาษาอังกฤษ แต่ภาษาผมไม่แข็งแรง เลยฟังเป็นภาษา เกาหลีมันซะเลย… เลยได้แต่ชี้เอา แบบว่า… ขอแบบคนข้าง ๆ กลายเป็น เมนูเหมือนคนข้าง ๆ ตลอดทั้งเที่ยวบิน เหมืิอนจะฮา แต่ฮาไม่ออกเลย ครับ เพราะ มันจะมีของเผ็ดหนึ่งอย่าง ตามสไตล์เกาหลี และของที่ไม่ เผ็ดอีกอย่าง บางมื้อก็เป็นอาหารเกาหลี บางมื้อก็ไม่ใช่ โชคร้ายมาเยือน ครับ ผมไม่ทานเผ็ด…ถ้า Jackpot แตก เจอเมนูเผ็ด กว่าจะกินหมด แทบร้องไห้กันเลยทีเดียว… สั่งใหม่มันก็เปลืองเงินอีก ก็เลยต้องทน… เที่ยวบินมาถึง Atlanta, Georgia อย่างราบรื่น ไม่มีตกหลุมอากาศ ให้ตื่นเต้นแต่อย่างใด (ก่อนมาดู Series เรื่อง Lost โคตรจะกลัว เครื่องบินตก lol) หลังจากลงจากเครื่องบินก็โทรศัพท์ หาลูกพี่ลูกน้อง

“ถึงแล้วเหรอ เดินตามทางมาเรื่อยๆ นะ แล้วขึ้นรถไฟ มาผ่าน Concourse A แต่ยังไม่ต้องลงนะ ให้มาลงที่ Baggage Claim เลย” “ครับ” ตอบรับอย่างมั่นใจ วางโทรศัพท์เสร็จท่องเพื่อ Confirm อีก ที…”นั่งรถไฟผ่าน Concourse A ไป แล้วลงที่ Baggage Claim” อืมมมม เสร็จแล้วก็ขึ้นรถไฟ…Concourse C…B…A… เอาวะ ใกล้ละ… พอจอดปุ๊ป คนลงที่นี่กันหมดทั้งตู้เลย… ใจหายนะสิครับ ด้วยความ ตกใจ นึกอีกรอบ มันกลายเป็น “ลงที่ Concourse A นะ แล้วเดินไป Baggage claim” ว่าแล้วก็รีบเดินตาม คนอื่นลงจากรถ ก็เห็นป้าย Baggage Claims… เชื่อไหมครับ…มันเดินไกลมาก ประมาณสองป้ายรถไฟ…เดินสะพาย กระเป๋ากล้อง กระเป๋าเป้ อย่างหนักเลยครับ เดินประมาณเกือบ 20 นาที ถึงจะถึง หลังจากนั้นทุกอย่างก็ผ่านไปอย่างราบรื่น รับกระเป๋า ขึ้นรถ ตื่นเต้นมาก อากาศร้อนกว่าที่คิด แสบผิวมาก ๆ ครับ อากาศ มันแห้ง ๆ หลังจากนั้นก็ขึ้นรถ กลับบ้านครับ ถึงซะที ดินแดนแห่ง เสรีภาพ สหรัฐอเมริกา…กว่าจะมาถึงได้ ยังมีเรื่องวุ่น ๆ ขนาดนี้…ไม่ ต้องบอกเลยครับว่าหลังจากนี้จะขนาดไหน…ยังไงขอพักไว้ก่อนละกัน ครับ มาต่อกันอีกที โอกาสหน้า…


Photography by ภู (รวินท์ เจี่ยสกุล) at facebook.com/l2aven

Anthropology by Belle Columbia Fashion Shot











Story by Ryan

Golff

จงปลุกพลังคอสโม่ ให้ลุกโชนทุกครั้ง เมื่อกลับไปเยือนถิ่นเก่า เคยจากบ้านเกิดหรือถิ่น เก่าไปนานๆ ไม๊ครับ? ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยได้รับคำ�ถามนี้จากใครๆ เลย เนื่องจากเกิดที่ กทม. โตที่กทม. และถ้า ไม่มีอะไรผิดพลาดคงตายที่กทม. นี่แหละครับ ส่วนโอกาสที่จะได้จากบ้านเกิดไปเรียนต่อเมืองนงเมืองนอกยิ่งไม่มีโอกาส เข้าไปใหญ่ ลำ�พังแค่เข็นตัว เองให้เรียนจบปริญญาตรีมาได้ก็แทบจะแย่แล้ว ดังนั้นจึงขอบายกับการเรียนในระบบอีกต่อไป (จริงๆ ไม่มีปัญญาไปเมืองนอกมากกว่า คริ คริ) ผมมีเพื่อนๆ หรือ รุ่นพี่ รุ่นน้อง หลายๆ คนที่มีโอกาสได้จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานๆ ไม่ว่าจะไปเรียนต่อ ไปทำ�งาน หรือไปตั้งรกรากทั้งที่ต่าง จังหวัด หรือต่างประเทศ และกำ�ลังรอว่าจะมีใครไปต่างดาวเป็นคนแรกรึเปล่า... เวลาเห็นพวกเค้าบ่นอยู่หลายๆ ครั้งว่า คิดถึงบ้านบ้าง ไม่คุ้นเคย กับที่ใหม่ๆ คนใหม่ๆ บ้าง ผมก็ไม่เข้าใจพวกเค้าทุกครั้งว่า โตป่านนี้แล้วพวกเอ็งจะทำ�ตัวเป็นลูกแหง่บ่นอะไรแบบนี้ไปทำ�ไม แทนที่จะบ่นคิดถึงบ้านก็ สู้ไปลั้นลากับสถานที่หรือผู้คนที่ตัวเองอยู่ ณ เวลานั้นๆ ไม่ดีกว่าเหรอ?... ไม่มีเสียงตอบรับใดๆแม้ กระทั่งเสียงจากระบบอัตโนมัติแบบในโทรศัพท์มือถือจากคำ�ถามที่ผมโยนไปยัง บุคคลเหล่านั้น มันจะมีได้ยังไงล่ะครับ ก็ ผมแค่ถามในใจคนเดียวอยู่ มิได้เคยเอ่ยปากสอบถามไปยังพวกเค้าเหล่านั้นซักแอะ ถ้ามีตอบกลับมาผมคงวิ่งป่าราบแหงๆ อย่างไรก็ดี หลายๆ ครั้งเวลาที่เพื่อนๆ ผู้ไกลบ้านเหล่านั้นแวะกลับมาเยี่ยมเยือนบ้านเกิด หรือถิ่นพำ�นักของพวกเค้า ผมก็มักจะได้รับรังสีออร่าจาก ความปลื้มปิติผสมกับความคิดถึง ที่คล้ายกับพวกเค้าวิ่งซอยเท้าอยู่กับที่หลายๆ ครั้ง แล้วบรรจงวิ่งเข้ามาซัดความรู้สึกนั้นราวกับจอมสับสยอง โลก “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” เวลาปั่นบอลข้ามกำ�แพงฝ่ายตรงข้ามเข้าทำ�ประตู... ผมรับรู้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อการกลับมาเยือนถิ่นเก่าของผู้คน เหล่านั้นได้อย่างชัดเจนจริงๆครับ


ผม จึงสงสัยว่า ไอ้ความรู้สึกที่ว่านั้น ถ้ามันเกิดขึ้นกับตัวผมเอง ผมจะรู้สึกอย่างไรบ้าง จะสามารถแผ่ออร่านั้นให้ชาวบ้านรับรู้ได้หรือไม่ หรือจะสามารถ ปลุกพลังคอสโม่ให้ลุกโชนแบบการ์ตูนเซ็นต์เซย่าได้รึเปล่า เพราะผมก็อยากเป็นโกลด์เซ็นต์กะเค้าเหมือนกัน (ชักจะไปกันใหญ่ละ สมงสมอง) จน กระทั่ง ผมได้กลับไปร่วมงานปาร์ตี้ของที่ทำ�งานเก่า จึงเริ่มที่จะเข้าใจอะไรเกี่ยวกับความรู้สึกของคนไกลบ้านข้างต้นเหล่านั้น แล้วว่า ทำ�ไมผู้คนเหล่า นั้นถึงสามารถแผ่รังสีออร่าแห่งความปิตินั้นออกมาให้คนอื่น รับรู้ได้ เรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วจากตัวผมเองครับ ซึ่งความรู้สึกดังกล่าวนั้นมันเกิดขึ้น จากเวลาที่เราต้องจากผู้คนที่เราเคย สนิทสนม หรือรู้จักมักจี่กันไปเป็นเวลานาน เมื่อมีโอกาสกลับมาพบกันอีกครั้ง ในใจเรามันจะตั้งคำ�ถามขึ้นมาเองโดย อัตโนมัติ ทั้งๆ ที่เราอาจจะไม่ได้ทันรู้ตัวว่าใจเราได้ตั้งคำ�ถามนั้นไปตั้งแต่เมื่อไร และ คำ�ถามดังกล่าวนั้นก็ อาทิ “เค้าจะคุยกับเราเหมือนเดิมรึเปล่านะ?... จะยิ้มให้เรารึเปล่านะ?... จะกล้าเมาท์แบบไม่หมกเม็ดกับเราเหมือนเดิมรึ เปล่านะ? ฯลฯ”

อยาก จะบอกถิ่นเก่า ทุกๆ ที่ที่ผมจากมาจัง เลยครับว่า “ดีใจมากๆ ที่ได้จากมา” (เพราะ จะได้กลับไปเยี่ยมและมี โอกาสปลุกพลังคอสโม่ ขึ้นมาให้ตัวเองอีกครั้ง)

อย่างไรก็ดี หลายๆ ครั้งเวลาที่เพื่อนๆ ผู้ไกลบ้านเหล่านั้นแวะกลับมาเยี่ยมเยือนบ้านเกิด หรือถิ่นพำ�นักของพวกเค้า ผมก็มักจะได้รับรังสีออร่าจากความ ปลื้มปิติผสมกับความคิดถึง ที่คล้ายกับพวกเค้าวิ่งซอยเท้าอยู่กับที่หลายๆ ครั้ง แล้วบรรจงวิ่งเข้ามาซัดความรู้สึกนั้นราวกับจอมสับสยองโลก “คริส เตียโน่ โรนัลโด้” เวลาปั่นบอลข้ามกำ�แพงฝ่ายตรงข้ามเข้าทำ�ประตู... ผมรับรู้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อการกลับมาเยือนถิ่นเก่าของผู้คนเหล่านั้นได้อย่าง ชัดเจนจริงๆ ครับ สุดท้าย เมื่อสิ่งที่เราได้รับกลับมา มันคือความรู้สึกแบบเดิมๆที่เราเคยได้ก่อนจากไป เมื่อกลับมาเยี่ยมกันคราวนี้ ความรู้สึกเดิมๆแบบ ธรรมดาเมื่อครั้งก่อน ที่แม้ในเวลานั้นเราไม่ได้อินกับมันเท่าไร แต่ ณ เวลานี้ อยู่ๆ ไอ้ความรู้สึกที่เราไม่ได้อินกะมันเท่าไรนั่นแหละ ที่สามารถจุดพลังคอส โม่ของเราให้ลุกโชน และพร้อมที่จะแผ่ความรู้สึกปิติอันนั้นออกมาให้ชาวบ้านได้รับทราบอย่างไม่ เคอะเขิน หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวผมจึงได้ข้อสรุปกับตัวเอง ว่า หากเราไม่จากสถานที่หรือความรู้สึกเดิมๆออกมา บางครั้งเราก็อาจจะไม่ใส่ใจต่อความรู้สึกธร รมดาๆเหล่านั้น และปล่อยให้มันแห้งตายไปกับทุกๆวินาทีที่เราได้เผาผลาญเวลาผ่านมันไป แต่หากการที่เราได้ก้าวผ่านวันเวลาเดิมๆที่แสนจะธรรมดาเหล่านั้นออกมาสู่ความ เป็นจริงที่ใหม่กว่า ออกมาผจญความโหดร้ายใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยมา ก่อน เมื่อกลับมาพบกับคนเดิมๆ สถานที่เดิมๆ และความรู้สึกธรรมดาของวันเก่าๆแบบเดิมๆ อีกครั้ง ไอ้ความรู้สึกนั้นนั่นแหละจะช่วยเยียวยาและเสริม พลังให้เราแผ่รังสีออร่า แห่งความปิติและความรู้สึกดีๆจนเราอิ่มเอมในพลังนั้นได้อย่างไม่รู้ตัว และอาจจะทำ�ให้เพื่อนๆ หรือคนรู้จักคนอื่นๆแอบตั้งคำ�ถาม แบบตัวผมเองในตอนต้น ก็ได้ว่า ทำ�ไมเจ้าหมอนี่ถึงต้องรู้สึกดีๆ ทุกครั้งที่มันได้กลับมาเยือนถิ่นเก่า!



Photography & Story by Golfie at facebook.com/Golfie Suthanun

Try on another way of living... VIRGINIA BEACH… There’s more to this than soft sands and rolling waves. It’s the way you feel when your lungs fill with salt air and the possibility of a day all to yourself. Or the sensation of the warm sun as it evaporates tiny drops of ocean from your skin. There’s the echo of birds and laughter that cause you to wonder what you’ll see when you open your eyes. You might be dreaming. You might be feeling this for the first time in a long time. You might be more yourself than ever….


Virginia Beach is an independent city located in the Hampton Roads metropolitan area of Virginia, on the Atlantic Ocean at the mouth of the Chesapeake Bay. Virginia Beach is the most populous city in Virginia and the 41st largest city in the United States, with an estimated population of 440,415 in 2008. Virginia Beach is the easternmost city of Hampton Roads that make up the core of the Virginia Beach-Norfolk-Newport News, VA-NC MSA. This area, known as “America’s First Region”, also includes the independent cities of Chesapeake, Hampton, Newport News, Norfolk, Portsmouth, and Suffolk, as well as other smaller cities, counties and towns of Hampton Roads.


VIRGINIA BEACH… Virginia Beach is a resort city with miles of beaches and hundreds of hotels, motels, and restaurants along its oceanfront. Every year the city hosts the East Coast Surfing Championships as well as the North American Sand Soccer Championship, a beach soccer tournament. It is also home to several state parks, several long-protected beach areas, three military bases, a number of large corporations, two universities, and numerous historic sites. The city is listed in the Guinness Book of Records as having the longest pleasure beach in the world. It is located at the southern end of the Chesapeake Bay Bridge-Tunnel, the longest bridge-tunnel complex in the world.

Parks and recreation

Virginia Beach is home to 210 city parks, encompassing over 4,000 acres (1,600 ha), including neighborhood parks, community parks, district parks, and other open spaces. Each park is unique and offers something for everyone, from wide open spaces to playgrounds, picnic shelters, and ballfields.

A 31 feet (9.4 m) bronze statue of Neptune sits on the boardwalk at 31st street

Virginia Beach ยังมีอะไรอีกมากมายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะ เป็นกิจกรรมชายหาดประจำ�ปี สีสันของร้านค้า ประวัติความ เป็นมา ร้านอาหารอร่อยๆ แต่โชคร้ายที่ตอนนี้ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว บรรยากาศอาจจะดูเหงาๆไปบ้าง นี่เป็นแค่มุมมองบางส่วนที่ สามารถไปเก็บภาพมาให้ดูกันในช่วงเวลาสั้นๆ หวังว่ารูปภาพ พวกนี้ คงเป็นการพักผ่อนสายตาของเพื่อนๆ จากความวุ่นวาย ในเมือง กองหนังสือรกๆบนโต๊ะทำ�งาน หรือเทคโนโลยี่ต่างๆ บนหน้าจอมอนิเตอร์ที่ทำ�ให้เราลืมไปว่า บางครั้งการได้อยู่กับ ธรรมชาติ ความสงบ เพียงชั่วครู่ อาจจะทำ�ให้เรามีพลัง กลับ มาต่อเติมชีวิต และมีกำ�ลังที่จะคิดและสร้างสิ่งที่ดีๆให้กับชีวิตเรา คนใกล้ตัวเรา และสังคมของเรา นะคะ *v*


Story by Pan at facebook.com/Nathalie Serirak


Photography by Kenny P at facebook.com/HyperKenny















Photography & Story by Kik at facebook.com/Kik Supatra

สปาเก็ตตี้

เส้นดำ� ไวท์ครีม

1

เส้นดำ� มีหลายแบบ สามารถคัดสรรได้ตาม รสที่ชอบ แล้วก็นำ�มาต้ม จับเวลาประมาณ 8 นาที สามาถสังเกตง่ายๆ ว่าสุก หรือยัง โดยการกัด หาก กัดไปแล้วไม่แข็ง ก็แปลว่า สุก เรียบร้อย

2

เทน้ำ�ร้อนออก แล้วเอาน้ำ� เย็นจัด ราดลงไปหนึ่งรอบ แล้วก็เอาน้ำ�มันคลุกเคล้า เล็กน้อย เพื่อกันไม่ให้เส้น ติด พักไว้

3

การทำ�ซอสไวท์ครีม เริ่มจากใส่เนยในกะทะจนเนยละลาย ตามด้วยกระเทียมปริมาณตาม ความอยาก ปลาหมึก นมจืดพร่องมันเนย 1 กล่อง เกลือ พริกไทยดำ� อาลิกาโน่ สิ่งเหล่านี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัว ใครอยากได้เค็ม เผ็ด แค่ไหนก็แล้ว แต่สะดวกนำ�ซอสที่ได้ ราดบนเส้นดำ� ที่เตรียมไว้ ก็เรียบร้อยพร้อมรับประทาน

4

นำ�ซอสที่ได้ ราดบน เส้นดำ�ที่เตรียมไว้ ก็ เรียบร้อยพร้อม รับประทาน


Free on your style: student contest at facebook.com/cubicstudio


โกวุฒิ ศุภวาณิชย์ลีลา Bangkok University


จิรนันท์ สุขนิยม Bangkok University




ธันย์ชนก เตมียชาติ Bangkok University




บริพัฒน์ สิงห์แก้ว Bangkok University


พชร์ เอื้อเชิดกุล Bangkok University


วิรุฬห์ ปัญญลิขิต Bangkok University


สาวิตร์ เนตรทัศน์ Bangkok University


by นางสาววินดี้ at facebook.com/นางสาววินดี้

D. I. Y.

Step 1

ที่คาดผมง่ายๆ สไตล์

HAND MADE

ก่อนที่จะเริ่มทำ� D.I.Y กันเรามาเตรียม อุปกรณ์กันก่อนดีกว่าอุปกรณืของเราก็มีด้วย กันดัวนี้ 1. ผ้าที่เหลือจากการใช้งาน จะเป็นเศษผ้าก็ได้นะ 2. กระดาษแข็ง 3. ดินสอ 4. กรรไกร 5. เข็มกับด้าย 6. ปืนกาว 7. ลูกปัดสวยงาม หรือกระดุมเสื้อ 8.ริบบิ้นผ้าสีขาวขนาดไหนก็ได้

Step 2

send mail to เพื่อนๆ คนไหน มี idea เจ๋งๆ อยากแบ่งปัน ส่งผ่าน idea นั้นมา ที่ editor@undomag.com ได้นะ ค่ะ เราพร้อมน้อมรับ idea จาก ทุกๆ คนเสมอค่ะ

หลังจากเตรียมอุปกรณ์เสร็จแล้วเรามาเริ่มลงมือทำ�กัน เลยดีกว่า ขั้นตอนแรกในการทำ� D.I.Y นำ�กระดาษแข็งหรือกระดาษ ปกสมุดที่เราไม่ได้ใช้แล้วมาวาดรูปกลีบดอกไม่ลงไปขนาด เล็กหรือใหญ่ วาดตามใจชอบเลยแต่ขอแนะนำ�ขนาดใหญ่ นะ

Step 3 ตั ด กระดาษตามรู ป ที่

Step 6 นำ � ปื น กาวมาดิ ต ลู ก ปี ด ลงกลางดอกไม้ แ ละติ ด ดอกไม้เข้ากับริบบิ้นผ้าทีเราได้เตรียมไว้

เราวาดไว้แล้วหลังจาก นั้ น เราก็ จ ะได้ ตั ว แบบ ของดอกไม้ให้เรานำ�ไป วางทาบบนผ้ า ที่ เ รา เตรียมไว้แล้วเขียนร่าง เบาๆ ตามแบบที่เราได้ ทำ�ขึ้นมา วาดไว้หลายๆ ดอกเลยนะค่ะ

Step 5 นำ�เขํมกับด้ายมาเย็บดอกไม้ให้ติดกันโดย วางซ้อนกันเป็นชั้นๆ

Step 4 นำ�กรรไกรมาตตัดผ้าให้ได้ตามที่ เราวาดไว้ ก รรไกรที่ นำ � มาตั ด ผ้ า ต้องคมหน่อยนะไม่งั้นผ้าของเราจะ ลุ่ย แล้ว กลีบดอกไม้ของเราก็จะ ไม่สวย

Step 7

เมื่อติดเสร็จแล้วก็เป็นอันเรียบร้อย ได้ที่คาดผมเก๋ ๆไม่ซ้ำ�ใครอีกด้วย้

แค่นี้เราก็จะ


Horoscope by TAROT Reading with โดย หมอโหน่ง (นันทวัฒน์ มั่นคง) คำ�ทำ�นายประจำ�ปี พ.ศ. 2554

CAPRICORNUS AQUARIUS ราศีมังกร :: 21Dec-20Jan ราศีกุมภ์ :: 21Jan-18Feb

การงาน ปี 2554 นี้ คุณจะมีโอกาส ได้รับบทหนัก ที่ต้องรับผิดชอบสูงกว่าปี ที่ผ่านมามาก จะเป็นงานหรือการเรียน ก็ได้ (เพราะการเรียนก็คือ งานของ นักศึกษา) บางคนก็ได้จ๊อบพิเศษ บาง คนก็ออกมาในรูปของงานที่ต้องอดหลับ อดนอน ทำ�งานกันทั้งวันทั้งคืน ควร วางแผนจัดตารางงานให้ดีหรือแบ่งงาน ให้คนอื่นไว้บ้าง ไม่เช่นนั้นคุณก็จะกลาย เป็นคนที่ต้องแบกภาระเกินตัวเหมือนทาส สมัยโบราณที่ต้องแบกซุงไว้ถึง 10 ต้น งานเยอะ เงินเยอะก็จริง แต่ตอนถ้าต้อง กลายเป็นค่ายาตอนแก่ก็คงไม่คุ้ม

ไพ่สิบไม้เท้า การเงิน ช้อปกระหน่ำ� รูดกระจาย จ่ายกระจุย แต่ถ้าเป็นคนมัธยัสถ์ก็จะ เจอโจทย์อื่น คือจะการซ่อมบ้านหรือ ซื้อของใหญ่มาใช้ ทำ�ให้เงินสดขาดมือ อยู่ ถ้าคุณมีนิสัยขยันขันแข็งเป็นทุน เดิม ก็จะมีคนโยนงานใหญ่ มาให้ทำ� จนรายได้งามเกินหน้าเกินตาเพื่อนฝูง ความรัก ถ้ายังโสดจะพบรักกับคนตัว ใหญ่ โครงร่างแบบฝรั่ง ถ้ามีแฟนแล้ว ปีนี้แฟนจะหน้าแก่เร็วกว่าปรกติ เรียกว่า แซงหน้าคุณไปไกล แตะเบรกไว้หน่อยก็ ดี ไม่จำ�เป็นก็อย่าคุยกันให้ซีเรียสเกิน ไป เดี๋ยวหน้าจะแก่ไปกันใหญ่ทั้งสองคน สุขภาพ ทำ�งานนานเกินไป เครียดมาก เกินไป ก็เลยป่วยกระเสาะกระแสะได้ง่าย จะปวดหลังบ่อยถ้าเป็นแล้วก็ทำ�ใจได้เลย อีกนานกว่าจะหาย

ไพ่ 2 ไม้เท้า การงาน ถ้าอยากย้ายงาน จะได้งาน ประมาณเดือนมีนาคม แต่ถ้าไม่อยาก ย้ายงาน ก็จะได้โปรโมต คนทำ�ธุรกิจจะ ได้ลูกค้าขาประจำ�รายใหม่ การเงิน รายได้ผลิดอกออกผล เงิน ออมงอกเงย โดยเฉพาะงานด้านการ สอน การแพทย์ ที่ปรึกษา หรือค้าขาย ระหว่างประเทศ จะทำ�รายได้ดีมาก ความรัก ที่ยังโสดจะสมหวัง ส่วนที่มี แฟน จะได้รับความคิดและกำ�ลังใจตลอดปี ความรักโอเคเลย สุขภาพ ปีนี้จะใส่ใจในการดูแลชีวิตความ เป็นอยู่ ทำ�ให้สุขภาพจะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว มาก คนที่ป่วยกระเสาะกระแสะมานาน ปี นี้จะฟื้นตัว

Pisces ราศีมีน :: 19Feb-20March

ไพ่ 1 ไม้เท้า

การงาน สมหวังในเรื่องงาน จะได้งานที่ อยากทำ� จะมีคนมาชวนให้ไปอยู่ที่อื่น ที่มี รายได้สูงขึ้น ถ้าคุณทำ�ธุรกิจส่วนตัวก็จะ ได้ลูกค้าใหม่ ออเดอร์ใหม่ตั้งแต่ต้นปี การเงิน ไม่มีโชคลาภฟลุ้กๆ หรือถูก ล็อตเตอรี่ แต่มีโชคด้านการเงินจากกา ทำ�งานที่ประสพผลสำ�เร็จธุรกิจจะได้ กำ�ไรงาม ความรัก คนโสดจะทำ�งานหนัก และมี ความรักเกิดขึ้นจากงาน จะได้แฟนที่เป็น คนเก่ง ที่มีแฟนแล้ว งานจะก้าวหน้า มาก สุขภาพ สุขภาพดี โรคประจำ�ตัวหาย ต๋อม ชีวิตจะมีความสุขขึ้น ให้ระวัง อาการบาดเจ็บที่ข้อมือ

TAURUS ราศีพฤษ :: 21April-20May

การงาน ดวงการเงินผันผวนไปมา มรสุมทางการเงินกำ�ลังจะมา อาจหมุน เงินไม่ทันแล้วเหนื่อยตายได้ ควรดัก จังหวะอีกนิด แล้วชีวิตจะราบรื่นเหมือน แล่นเรือใบในทะเลสาปที่ผิวน้ำ�ราบเรียบ จะหมุนเงินมือเป็นระวิง

Aries ราศีเมษ :: 21March-20April ไพ่ 2 เหรียญ

ไพ่ 1 ถ้วย การงาน จะประสพความสำ�เร็จโดยได้ รับแรงสนับสนุนจากคนรอบข้าง เป็น เด็กสร้างว่างั้นเถอะ! ทำ�งานสนุก งาน มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และกินดี อยู่ดีทุกวันเหมือนโต๊ะประชุมแปลงร่าง เป็นโต๊ะจีน การเงิน ชีวิตที่ดูดีมีความสุข งานเดิน เงินดี เงินเหลือๆ มีเวลาว่างไปช้อป สบายใจ แต่ก็อย่าประมาทออมเงินเผื่อไว้ ปีหน้าบ้างนะครับ ความรัก คุณจะสมหวังในรัก คุยกันรู้ เรื่อง คนที่อิ่มตัวกับความรักแล้ว โชค ทางด้านความรักก็ตีความ เป็นโชคทาง ด้านการงาน สุขภาพ อาจจะมีปัญหาที่กระเพาะอาหาร ในเดือนกรกฎาคมครับ แต่สุขภาพทั่วไป แข็งแรงดี

การเงิน มีรายได้ดีแต่เก็บไม่อยู่ ควรตัด รายจ่าย แล้วหารายได้เพิ่มทางอื่นไว้ด้วย ครับ ความรัก คนที่ชีวิตรักนิ่งแล้วก็จะทำ�งาน มากขึ้น มีเวลาให้คนใกล้ชิดน้อยลง คน โสดคงต้องดูใจกันไปก่อน สุขภาพ ระบบทางเดินอาหารมีปัญหา อาจมีอาการลำ�ไส้แปรปรวนเพราะเครียด จากงานด่วนทั้งปี ควรจ่ายงานให้คน อื่นไปบ้าง

Gemini ราศีมิถุน :: 21May-20Jun

ไพ่ Queen of Wands


Horoscope by TAROT Reading with โดย หมอโหน่ง (นันทวัฒน์ มั่นคง) การงาน การงานพบความสำ�เร็จ โดย จะมีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวสองสี มีไหวพริบ ให้โอกาสคุณได้แสดงความ การเงิน ไม่ว่าจะจับงานอะไรก็ประสพ ความสำ�เร็จ ได้รับผลตอบแทนสมน้ำ� สมเนื้อ จะมีรายได้หลายทาง ความรัก คู่ครองส่งเสริมเรื่องงาน ถ้า คุณเป็นหนุ่มโสด ก็จะได้พบกับผู้หญิงที่ ฉลาดเฉลียว ถ้าคุณเป็นผู้หญิงก็จะ ทุ่มเทจิตใจให้งานและการเรียนต่อมากกว่า สุขภาพ อาจมีอาการบาดเจ็บที่ขา ใน เดือนมกราคม ปวดศีรษะในเดือน เมษายน และใจสั่นเพราะเครื่องดื่มรส เข้มในเดือนสิงหาคม

น้ำ�หอม เสื้อผ้าจะมีกำ�ไรดี แต่คนที่ ทำ�งานสมบุกสมบันจะมีงานน้อยลง การเงิน มีเงินเหลือๆ ไว้ลงทุนหรือสะสม เก็บไว้เป็นเสบียงกรังได้สบาย ความรัก คนโสดจะพบคนผิวขาว เจ้า เนื้อ อายุใกล้เคียงกัน คนที่เคยอกหักจะ พบคนดี มีจิตใจดี สุขภาพ อ้วนพีเพราะกินดีอยู่ดี อาจจะมี ตุ่มคันและน้ำ�เหลืองเสีย ในเดือนพฤษภาคม และปลายเดือนตุลาคม

Libra ราศตุลย์:: 23Sep-20Oct

การงาน การงานก้าวหน้า ทั้งตำ�แหน่ง ผลตอบแทน หรือความเชื่อถือ จะเป็น เสี่ยใหญ่ คิดต่างๆจะเป็นเหตุผลมาก อะไรเพ้อฝันไกลตัว คุณจะไม่สนใจ และจะจับงานใหญ่มากขึ้น

cancer ราศีกรกฎ :: 21Jun-20July

ไพ่ 7 ไม้เท้า

ไพ่ King of Pentacles ไพ่ Knight of Cups

Virgo ราศีกันย์​์ :: 21Aug-22Sep ไพ่ 5 ถ้วย การงาน ธุรกิจการงานไปได้ เรื่อยๆ ไม่มี อะไรหวือหวาและก็ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องร้าย แรงอะไรเช่นเดียวกัน คนที่ทำ�งานด้าน สุขภาพ โรงพยาบาล ซ่อมแซมวัสดุ จะมีงานมาก การเงิน มีโอกาสซื้อของใหญ่จำ�พวก อสังหาริมทรัพย์ รายได้ใหม่ๆจะถูกเอาไป ลงทุนหรือเก็บออมไม่มีโอกาสได้ใช้เงินที่หา มาได้ จะรู้สึกขัดใจในวันนี้แต่ดีต่ออนาคต ความรัก คนโสดจะจีบใคร เป็นได้แค่กิ๊ก ถ้ามีแฟนแล้ว แฟนจะป่วยบ่อย แฟน จะเดินทางไกลหรือไม่ค่อยมีเวลาให้เพราะ งานเยอะ สุขภาพ เจริญอาหารมากจนท้องอืดและ อาหารไม่ย่อยอยู่บ่อยครั้ง ถ้าเคยเป็น ภูมิแพ้ หอบหืด จะเป็นใหม่

Leo ราศีสิงห์ :: 21July-20Aug

การงาน ชีวิตสบายๆ ไม่เร่งรีบ คุณจะ มีชีวิตที่ก้าวหน้าแต่สุขสบาย มีความ สุขแบบไม่อนาทรร้อนใจ ทำ�งานไปพัก ผ่อนไป งานเกี่ยวกับของสวยงามเช่น

การเงิน ปีนี้ จะพบความสมบูรณ์ของ เงินสด เงินเก็บ อสังหาริมทรัพย์ และ คุณภาพชีวิตที่ดี แต่คุณก็จะใช้เงินในปีนี้ ด้วยความระมัดระวังอยู่ดี ซึ่งก็ดีมากๆ ความรัก คนโสดจะพบกับคนผิวขาว และตัวใหญ่ไซส์ XL ที่มีแฟนแล้ว จะ จะวางแผนสร้างความมั่นคงทางการเงิน ขึ้นมาใหม่ี​ี สุขภาพ ระวังอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อยในเดือนพฤษภาคม

Scorpio ราศีพิจิก :: 21Oct-20Nov

ไพ่ 4 ไม้เท้า การงาน งานเป็นหลักฐานมั่นคง หรือ คิดจะเปิดกิจการใหม่จะเลี้ยงตัวเองรอด มีกำ�ไรดี ใครที่สอบแข่งขันมีโอกาสเรื่อง สอบผ่านสูง การเงิน นอกจากรายได้ประจำ�แล้ว จะ มีรายได้จากการลงทุนเพิ่มด้วย มีเงิน เก็บมาก และเก็บได้นานอีกหลายปี ความรัก สาวโสดหนุ่มโสด มีโอกาส แต่งงานสูง ที่มีครอบครัวแล้วจะมีชีวิต เป็นสุข การลงทุนทำ�ธุรกิจเล็กๆ ใน ครอบครัว มีกำ�ไรดี​ี สุขภาพ แข็งแรงดี ไม่มีโรคภัยใหม่ๆ นานๆ ครั้งโรคประจำ�ตัวก็กำ�เริบบ้าง

Sagittarius ราศีธนู :: 21Nov-20Dec

การงาน จะมีความก้าวหน้าจากต่อสู้ ฝ่าฟันและแข่งขันพิสูจน์ความสามารถ จนคนในวงการยอมรับนับถือต้องโชว์ ฝีมือเองหมดเลยทุกอย่าง ต้องกระจาย งานบ้าง ไม่งั้นร่างกายจะไปไม่ไหว แถม ผู้ร่วมงานอาจเบื่อจนยื่นใบลาออก เพราะ ไม่มีโอกาสโชว์ฝีมือ การเงิน ปีนี้ ลงทุนทำ�อะไรมักไม่ผิดหวัง ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าหยาดเหงื่อแรงงาน ไม่มีโชคลาภฟลุ้กๆ จะมีโชคจากการ ทำ�งานที่ประสพความสำ�เร็จเท่านั้น ความรัก ถ้ารักใคร จีบไว้มีสิทธิ์สมหวัง ถ้าเอาแต่เก็บความรู้สึกดีๆไว้ในใจก็มีสิทธิ์ วืด ต้องเดินหน้าลุยเท่านั้นถึงจะสมหวัง สุขภาพ ปีนี้สุขภาพดีขึ้นมาก เพราะจะ ออกกำ�ลังกายลดหุ่นต่ออายุ

ไพ่ 6 ถ้วย การงาน ชีวิตคุณก็จะก้าวหน้าไปตาม ลำ�ดับ จะถูกผู้ร่วมงานเก่าหรือลูกค้าเก่า ทาบทามให้ไปทำ�งานหรือลงทุนด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอนาคตจะดีขึ้น ถ้าคุณไม่ ไปชีวิตคุณก็จะก้าวหน้าไปตามลำ�ดับ จะ ทุบซ่อมบ้านในเดือนกรกฎาคม การเงิน ใช้เงินก้อนใหญ่ซ่อมสร้างบ้าน จะได้ลาภจากคนอายุน้อยๆ รวมถึง เพื่อนเก่า ลูกค้าเก่าคอนเน็กชั่นเก่าๆ ความรัก คนที่เคยขัดแย้งกันจะเคลียร์ ปัญหาเพื่อการจากกันด้วยดี คนโสดมี ความรักกับคนต่างวัย ถ้าอายุใกล้เคียง กัน จะร่างเล็กกว่าสเป็กที่คุณอยากได้ เป็นคนที่ชอบทำ�ตัวเด็กกว่าอายุจริง สุขภาพ จะปลงตก แสวงหาความสมดุล ของชีวิต เริ่มคิดถึงบรรยากาศในบ้าน มากกว่าการลุยงานแบบปีที่แล้ว ชีวิต หลังเลิกงานไม่เฉิดฉาย แต่เรียบง่ายและ มีความสุข


GA ME

by DayWalker at facebook.com/Day Walker

Call of Duty: Black Operations

เริ่มปีใหม่ กับเกมแนวใหม่ๆ ที่น่าเปิดใจลิ้มลอง

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาว Undo Magazine ทุกท่าน ผม DayWalker เป็นเกมเมอร์คนหนึ่งที่ชอบเล่นเกม คนหนึ่งเหมือนกับเพื่อนๆครับ โดยปกติแนวเกมส์ที่ผม ชอบๆเล่น มักจะเป็นแนว Acion ตะลุยด่าน แนว J-RPG เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ซะเป็นส่วนใหญ่ โดยส่วนตัวแล้ว แนวเกมส์ที่ผมรู้สึกเลยว่าตัวเองไม่น่าจะเล่นได้ก็แนว First Person Shooting หรือเกมส์ยิงแนวมุมมองบุคคล ที่หนึ่ง เหมือนกับที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีคือแนวของ Counter Strike นั่นแหละครับ ทีนี้ พอเริ่มกลับมาสนุกสนานกับการเล่นเกมส์ใหม่ ผ่าน ทั้ง PS3 ทั้ง xBox แผ่นกองๆอยู่เต็มบ้านทั้งแผ่นแท้ PS3 และกุ๊กกู๋ของ xBox ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วก็จะมี

แต่ Action กับ RPG ตามที่ถนัด จนกระทั่งเล่นๆไป แล้วเริ่มๆ เบื่อๆ กับแนวเกมส์เดิมๆ ก็มีเพื่อนๆแนะนำ�ว่า ให้ลองเล่นแนว FPS ดู ซึ่งเกมส์แรกที่ยอมเปิดใจเล่นก็ FPS ชื่อดังแห่งยุคตอนนั้น Call of Duty: Modern Warfare 2 ข้อจำ�กัดอย่างหนึ่งที่ทำ�ให้ผมขยาดกับเกม FPS ก็คือ มุมกล้องที่สามารถหมุนวนได้รอบๆตัวแบบ 360 องศา กับการเล็งเป้าที่แสนจะยากเย็น แต่ series CoD นี้ ช่วยแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ให้กับผมด้วยการกดปุ่มเล็ง เป้า จะล๊อกไปยังบริเวณใกล้เคียงกับจอยของเราเลย ซึ่งทำ�ให้ ผมสามารถเล่นเกม FPS นี้ผ่านไปได้แบบไม่ต้องหนักใจ กับระบบการเล็งเลย

และนั่นแหละครับ เป็นจุดเปลี่ยนอีกจุดหนึ่งของชีวิตเกม เมอร์อย่างผมไปเลยครับ เมื่อได้สัมผัสกับโลกแห่งเหล่า ทหารหาญทั้งหลาย ทั้งความเข้มข้นของเนื้อเรื่องชนิด หนังฮอลลีวู๊ดเกรดเอ ภาพที่ไหลลื่นสมจริง ความตื่นเต้น ท้าทายในเกม จนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆทั้งหลายที่มี ให้มาแบบไม่ต้องยั้ง ดังนั้น ในปีใหม่ 2554 นี้ ผมก็เลยอยากจะมาเชิญชวน เพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยลิ้มลองเกมส์ FPS ได้ลองหันมาให้ ความสนใจเปิดโลกที่แปลกใหม่กับเกมส์ FPS ยิ่งใหญ่ส่ง ท้ายปีอย่าง Call of Duty: Black Operations กัน


เกมที่เกมเมอร์หลายๆคนตั้งหน้าตั้งตารอคอยกัน ในปี 2553 ค่าย Treyarch ได้ปล่อยออกมาให้ แฟนๆได้เสพกัน เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา Call of Duty: Black Operations นั้นเรา จะสามารถเลือกเล่นได้ทั้งในโหมดเนื้อเรื่อง โหมด Multi Player Online และ Zomby Mode โหมดการเอาชีวิตรอดจาก Zomby ในโหมดเนื้อเรื่องของ Call of Duty: Black Operations นั้น เราจะได้รับบทบาทเป็นหนึ่งในทีม S.O.G. (Studies and Operations Group) ที่ถูกจับตัวมาและดูเหมือนกำ�ลังถูกสอบสวนบางสิ่ง บางอย่างอยู่ ซึ่งเรื่องราวต่างๆในโหมดนี้จะเล่าผ่าน เหตุการณ์ย้อนหลังไปในช่วงต่างๆของตัวเอกในยุค สงครามเย็น เราจะได้รับรู้ที่มาของเหตุการณ์ต่างๆ พร้อมๆกับภารกิจเอาตัวรอดในสถานที่ต่างๆ อาทิ เช่น คิวบา เวียดนาม และรัสเซีย ฯลฯ ใน สมรภูมิต่างๆ ทั้งภูเขาหิมะไปจนถึงป่าทึบ เนื้อเรื่อง ในส่วนนี้เล่าออกมาได้อย่างชาญฉลาดและเปี่ยมไป ด้วยเสน่ห์แบบหนัง Action Thriller ชั้นนำ�ของ ฮอลีวู๊ดเลยทีเดียว

ส่วนหนึ่งที่ได้รับการกล่าวขานกันไปทั่วในหมู่เกมเมอร์ก็คือ ความโหดเหี้ยมสมจริงแบบบรรยากาศของสงครามเลยทีเดียว ชิ้นส่วนอวัยวะที่ขาดกระจายไม่มีชิ้นดี เสียงปืนที่วิ่งเฉี่ยวไปมารอบๆตัว รวมทั้งเอฟเฟคระเบิดที่ตูมตามอยู่รายรอบตัว ซึ่งใน ภาค Black Operations นี้ทำ�มาไม่ได้ด้อยไปกว่าภาคก่อนๆเลย ซึ่งตรงนี้กวาดแฟนๆไปจาก CoD ของอีกทีมไปได้จำ�นวน หนึ่ง รวมทั้งอาวุธต่างๆหลากหลายที่มีมาให้ใช้อย่างสนุกมือ


ส่วนที่เป็นจุดขายหลักๆของเกมส์ FPS series นี้ ก็คือโหมด Multiplayer online ซึ่งเสพเวลา หลายต่อหลายชั่วโมงของเหล่าเกมเมอร์ไปในโลกแห่ง สงครามออนไลน์นี้เลย นอกเหนือจากนี้ เรายังจะได้รับบทเป็นทหารที่ต้อง เผชิญหน้ากับสมารภูมิที่ศัตรูเป็นซอมบี้นาซี เรา ต้องฆ่าซอมบี้เพื่อเก็บแต้มนำ�ไปซื้อปืนหรืออาวุธที่จะ ช่วยทำ�ให้คุณสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ ผมเชื่อว่า หากเพื่อนๆได้ลองเปิดใจทดลองกับเกม แนวใหม่ๆที่เราไม่คุ้นเคยมาก่อน ก็น่าจะพบกับความ สนุ ก สนานกั บ โลกใบใหม่ ที่ ตั ว เองได้ ค้ น พบอย่ า ง แน่นอนครับ เหมือนกับที่ผมได้ค้นพบจาก Call of Duty นั่นเอง และนี่แหละครับ คือสาเหตุหนึ่งที่ผมนำ�เอาเกมนี้มา แนะนำ�กับเพื่อนๆ แม้ว่าอาจจะช้าไปหน่อยและอาจจะ มีเพื่อนๆหลายท่านได้ลิ้มลองกับเกมนี้มาแล้วก็ตาม หากใครยังไม่เคยได้ลิ้มลองกับเกม FPS มาก่อน ผมขอแนะนำ�เลยครับว่า สามารถเริ่มต้นกับ Cod: Black OPS ภาคนี้ได้เลยครับ แล้วเพื่อนๆจะต้อง สนุกไปกับเกมนี้อย่างแน่นอนครับ


Story by Pleng Indie at facebook.com/Pleng Indie

muzik http://www.youtube.com/watch?v=JPbC2YrUUsI

ONCE

Falling Slowly Glen Hansard & Marketa Irglova I don’t know you But I want you All the more for that Words fall through me And always fool me And I can’t react And games that never amount To more than they’re meant Will play themselves out Take this sinking boat and point it home We’ve still got time Raise your hopeful voice you have a choice You’ll make it now Falling slowly, eyes that know me And I can’t go back Moods that take me and erase me And I’m painted black You have suffered enough And warred with yourself It’s time that you won Take this sinking boat and point it home We’ve still got time Raise your hopeful voice you had a choice You’ve made it now Falling slowly sing your melody I’ll sing along

“การจะหาเพลงประกอบหนังดีๆ ซักเพลง นั่นยากเกินไป บางครั้งหนังดี แต่เพลงไม่เข้ากัน” แต่มีหนังเรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกว่า “ภาพยนตร์ลงตัว เพลง ประกอบเยี่ยมยอด” ดูแล้วซึมซับบทหนังได้เป็นอย่างดี ONCE (2007) - หนังรักโรแมนติกจากไอร์แลนด์ เรื่องราวของหนุ่มนักดนตรีข้างถนน Glen Hansard (Irish) กับ สาวขายดอกไม้ Marketa Irglova (Czech) เป็นนักดนตรีจริงๆ โดย Glen Hansard เริ่ม ก่อตั้งวง The Frames ตั้งแต่ปี 1990 จนกระทั่งมา ฟอร์มวงใหม่ชื่อ The Swell Seasons ร่วมกับ Marketa Irglova ต่อมาเป็นแฟนกันในชีวิตจริง โดยเพลง Falling Slowly นี้เป็นเพลงที่ทำ�ให้ได้รางวัล Best Original Song จาก Academy-Awards ปี 2008


เก็บเล็กผสมน้อย เรื่องน้องหมา

by Moobrador at facebook.com/moobrador

ก่อนเริ่มเขียน ต้องออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้จบสัตวแพทย์ หรือ จบด้านการรักษาสัตว์มา ผมจบบริหารโฆษณา เป็น CREATIVE ในบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง แต่ดันกลายเป็นคนที่มีความสุขกับการมีน้องหมาอยู่เคียงข้าง จาก 1 เป็น 2 3 4 5 6 7 8... ตอนนี้ความสุขเติบโต จนเรียกว่า ฟาร์มสุนัข แต่ความสุขก็ยังต่อยอดไปยังน้องหมาตัว อื่นๆ ที่เราไม่ได้เป็นเจ้าของด้วยการ เปิดสระน้ำ�สำ�หรับ “น้องหมา” ทีนี้ “ความสุขเลยล้นหลาม” ผมจึงต้อง ตั้งคำ�ถามกับตัวเอง ทำ�ไงให้เจ้าความสุข 4 ขาของผมเหล่านี้ มีชีวิตที่เปี่ยมสุขเช่นกัน ผมก็เลยเริ่มศึกษาเรื่อง ราวเกี่ยวกับน้องหมาอย่างจริงจัง ทั้งเชิงรับและเชิงรุก เริ่มจากบรรดา ลาบราดอร์ เจ้าตัวความสุขขี้อ้อนของผม เอง ทำ�ความรู้จักกับนิสัยใจคอ การดูแล การเลี้ยงดู เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดจนลางบอกเหตุก่อนที่เค้าจะป่วย


เข้าเรื่องน้องหมาที่ผมอยากแชร์ให้กับเพื่อนๆ ฟัง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพของน้องหมามีคำ�ๆหนึ่ง ที่ผมคุ้นมาก เป็นคำ�ที่เจ้าของทุกคนมักจะเปรยขึ้น มาหลังจากที่ น้องหมาตัวเองป่วยเช่นว่า “เมื่อ วานยังเห็นมันดีๆ อยู่เลยนี่” หรือ “ถ้ามันเป็น โรคอะไร ทำ�ไมฉันไม่รู้ละ” หลังจากที่คุณหมอบอก ว่าน้องหมาคุณป่วยเป็นนั่น เป็นนี้... วันนี้เลยอยาก ให้เพื่อนๆ น้องๆ ที่เลี้ยงน้องหมาอยู่ ได้รู้สัญญาณ บางอย่างที่น้องหมาพยายามจะบอกกับเรา ซึ่งเรา ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ตลอดจนไม่เคยสังเกตุสํญญาณเหล่า นี้ น้ อ งหมาแต่ ล ะตั ว จะมี สั ญ ญาณบางอย่ า งบอกว่ า ตอนนี้เค้าสบายดี ตอนนี้เค้าป่วย ป่วยมาก ป่วย น้อย นอกจากอุณหภูมิของเค้า การเต้นของหัวใจ และอัตราการหายใจซึ่งจะเป็นเครื่องบ่งชี้ที่สำ�คัญต่อ สุขภาพน้องหมาแล้ว ยังมีวิธีง่ายๆ ซึ่งคุณๆ เราๆ ก็สามารถสังเกตและรู้ได้ก่อนถึงมือหมอ การเตรียมพร้อมอยู่ตลอดจะทำ�ให้เรา รู้ว่าเค้าตอน นี้ สุขภาพเค้าเป็นยังไง เจ็บป่วยอยู่ในระดับใด ซึ่ง สัญญาณเหล่านี้สำ�คัญเท่าๆ กันซึ่ง เราๆ ท่านๆ มักมองข้าม

สัญญาณเหล่านี้เช่น สีของเหงือก ระยะเวลาการคืนตัวของเส้นเลือด ฝอย (ระยะเวลาที่เลือดไหลกลับไป สู่ เ หงื อ กหลั ง จากน้ อ งหมาถู ก กด ที่เหงือก) อย่างสุดท้ายก็คือ เช็ค ความยืดหยุ่นของผิวหนังบริเวณ คอน้องหมา

สัญญาณเหล่านี้เช่น สีของเหงือก ระยะ เวลาการคืนตัวของเส้นเลือดฝอย (ระยะ เวลาที่เลือดไหลกลับไปสู่เหงือกหลังจากน้อง หมาถูกกดที่เหงือก) อย่างสุดท้ายก็คือ เช็ค ความยื ด หยุ่ น ของผิ ว หนั ง บริ เ วณคอน้ อ ง หมา สัญญาณบอกสุขภาพทั้ง 3 ตัวนี้เป็น ข้อมูลสำ�คัญที่เกี่ยวกับสุขภาพน้องหมา เช่น น้องหมาที่อาเจียนและมีสีเหงือกชมพู มีระยะ เวลาคืนต้วของเส้นเลือดฝอยเป็นปกติ หลัง จากเอามือกด ก็ถือว่าไม่ได้มีอาการรุนแรง ในทางตรงกันข้าม น้องหมาที่อาเจียนละมี เหงือกสีแดง น้ำ�เงินซีด หรือขาว แสดงว่า เค้า ป่วยรุนแรง และมีสิทธิ์เสียชีวิตได้ เพราะ ฉะนั้น การเฝ้าสังเกตสัญญาณเหล่านี้อยู่ เป็นประจำ� คุณก็จะสามารถทราบได้ทันทีว่า มีบางอย่างเกิดขึ้นกับน้องหมาของคุณดีกว่า รู้เมื่อสายไป สีเหงือกของน้องหมา บอกถึง ปริมาณ ออกซิเจนในกระแสเลือด สามารถตรวจสอบ ได้โดยเผยริมฝีปากขึ้นมาและสังเกตสีเหงือก หรือ ริมฝีปากโดย ไม่ต้องพิจารณาเหงือก บริเวณที่เป็นสีดำ� ผมก็เลยอยากชวนเพื่อนๆ มาเปิดปากน้องหมา ดูกันเพื่อเช็คว่าสีเหงือก และริมฝีปากของสุนัข หมายความว่าอะไร

สีเหลือง สุนัขอาจมีโอกาสเป็นดีซ่าน ควรพบ สัตวแพทย์

สีฟ้า สุนัขอาจอยู่ในภาวะช็อกเนื่องจากขาด ออกซิเจน พบสัตวแพทย์ทันที

สีซีด สุนัขอยู่ในภาวะช็อก ในขั้นต้น หรืออาจ เป็นโรค โลหิตจางหรือสูญเสียเลือด พบสัตวแพทย์ทันที

สีแดง สุนัขอาจได้รับสารพิษ คาร์บอนมอน นอกไซด์ หรือมีเลือดออกในปาก พบสัตวแพทย์ทันท

สีชมพู เป็นสภาวะปกติของสุนัข


ไหนๆ เปิดปากแล้ว ลองเช็คระยะคืนตัวของเส้นเลือดฝอย หลังจากถูกกดกันหน่อยดีกว่า หากเลือดไหลเวียนเป็นปกติ เมื่อคุณใช้นิ้วกดลงบริเวณเหงือกน้องหมา จะทำ�ให้บริเวณที่ ถูกกดซีด และเมื่อปล่อยมือ บริเวณที่ถูกกด จะต้องมีเลือดไหล กลับมาหล่อเลี้ยงทันที เหงือกน้องหมาซีดอยู่นานแค่ไหน มาดู ความหมายหลังจากการกดกัน...

4 วินาที

2 วินาที

สุนัขอยู่ในภาวะช็อก ขั้นรุนแรง ควรพบ สัตวแพทย์ทันที

สุนัขอาจอยู่ในภาวะ ช็อกที่ไม่รุนแรง หรือ อาจเสียเลือด พบ สัตวแพทย์ภายในวันนี้

1-2 วินาที

เป็นสภาวะปกติของสุนัข

ความยืดหยุ่นของผิวหนังบริเวณส่วนบนของคอน้องหมา ก็นับเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงภาวการณ์ขาดน้ำ�ได้เหมือน กัน สำ�หรับน้องหมาที่มีสุขภาพดี เมื่อคุณดึงหนัง บริเวณส่วนคอ และปล่อยให้มันคืนตัว ผิวหนังจะ คืนตัวกลับไปอยู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว ในการ ทดสอบภาวการณ์ขาดน้ำ� ส่วนที่อ้วนหรือสูงอายุ ต้องตรวจสอบที่เหงือก เพราะสุนัขที่ขาดน้ำ�จะมี เหงือกแห้งและเหนียว ลองทำ�ดูครับเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถทำ�ให้กับน้อง หมาได้ ทำ�เป็นประจำ� น้องหมาจะรู้สึกถึงความรัก ที่เรามีให้ ผมว่ามันชอบนะเปิดเหงือกดูสีเหงือก ผม ทำ�ทุกวันหลังอาหาร สังเกตว่ามันจะเต็มใจยืนให้ทำ� แบบยิ้มรอเราเข้าไปตรวจเลยครับ แต่ล้างมือก่อน นะครับ ตรวจเสร็จก็ล้างมือทำ�ความสะอาดอีกที สำ�หรับน้องๆเพื่อนๆที่อยากพูดคุย คำ�ถามเกี่ยวกับ น้องหมา เข้ามาพูดคุยในคลับ facebook ได้ที่ www.facebook.com/moobrador แต่ถ้า อยากให้น้องหมาได้ออกกำ�ลังกาย ได้ว่ายน้ำ� เข้าไป ที่ www.allaboutdoghomespa.com ครับ เจอกันครับ ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล บรูซ โฟเกิล 2546 หมา ของฉันเป็นอะไร (What s up with my dog ?) เพ็ทแอนด์โฮม, กรุงเทพ, หน้า 12-23



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.