UNDO Magazine issue13 - f0nt.com

Page 1

issue 13 - f0nt.com

special issue


editor's talk magazine special issue 01 issue

NOW

www.undomag.com

ปีที่ผ่านมา เป็นปีที่ประเทศไทยของเรา ผ่านเรื่องราวมากมายหลายอย่าง มีทั้งเรื่องดีและ เรื่องเลวร้าย อย่างเช่น มหาอุทกภัยน้ำ�ท่วม เมื่อ ปลายปีที่ผ่านมา สร้างความเสียหายมากมาย แต่ ในเรื่องราวร้ายๆ เราก็ได้พบกับน้ำ�ใจงามๆของคน ไทยเพิ่มมากขึ้น การช่วยเหลือสังคม และการเห็น อกเห็นใจที่เราคิดว่า มันหายไปจากสังคมไทย ก็กลับมาพบเจอกับสิ่งดีๆ เมื่อคนเราประสบกับ ปัญหา อยากให้ช่วยรักษาบรรยากาศแห่งการ พึ่งพาอาศัยกันแบบนี้ ไม่ทะเลาะกัน ปีนี้จะเป็นปีที่ น่าอยู่สำ�หรับคนไทยทุกคน เหมือน UNDO Magazine ที่ผ่านพ้น ไปหนึ่งขวบปี ทำ�ให้เราได้ค้นพบกับบุคคลให้กำ�ลังใจ มากมายที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้แก่ทุกคนในสังคม UNDO Magazine ของพวกเราจะยังคงสร้าง แรงบันดาลใจกันต่อไป โดยในปีนี้ เราได้ใช้​้ชื่อว่า UNDOMAG เพื่อให้เรียกง่ายขึ้นและสอดคล้องกับ เว็บไซต์ของเรา www.undomag.com ปีนี้เรายังเปิดหัวหนังสือใหม่ เน้น ๆกับ เรื่องราวการออกแบบดีไซน์ UNDOMAG+ เป็น

Magazine รวบรวมผลงานจากนักศึกษา ทั้งงาน ภาพประกอบ ภาพถ่าย รวมทั้งบทสัมภาษณ์น้องๆ ที่มีฝีมือด้านการออกแบบ เป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้ แสดงผลงาน ส่งผลงานกันมาได้นะครับ อยากเป็น Magazine อีกเล่มที่เปิดพื้นที่ให้ทุกคน UNDOMAG ฉบับนี้ พบกับเรื่องราว ของฟอนต์ การออกแบบฟอนต์ ว่า มีความสำ�คัญ อย่างไร ฟอนต์ต้องมีบุคลิกของมันด้วยเหรอ จาก หลายคนที่คิดว่า โหลดฟรีมาใช้ก็จบกันไป วันนี้เรา จะได้ทราบเรื่องราวของ พี่แอน ปรัชญา สิงห์โต เจ้าของเว็บ f0nt.com และ fail.in.th และเจ้าตัวยัง เป็นคนออกแบบฟอนต์ตระกูล iannnnn ใครอยากรู้ ที่มาของ f0nt.com และเว็บโพสรูปฮาๆ อย่าง fail. in.th ตามอ่านให้จบนะครับ อีกบทสัมภาษณ์ เรื่องราวคุณหมอ บดินทร์ เทพรัตน์ หมอยาใจดี ช่วยเหลือสังคม UNDOMAG และ UNDOMAG+ จะออกสองเดือนเล่ม และออกทุกวันที่ 20 เหมือนเดิม ขอบคุณที่ติดตามและสนับสนุนผลงานกัน FB: chai.sakchai ฝาก Share อ่านกันเยอะๆครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดปีนี้ครับ Sakchai Piyaboon Editor-In-Chief

free on your style

เปิ ด พื้ น ที่ สำ � หรั บ นั ก เขี ย นหน้ า ใหม่ ที่ ต้ อ งการนำ � เสนอเรื่องราวของตัวเอง ผ่านงานเขียนบทความ เรื่องสั้น ภาพถ่าย งานศิลปะ งาน Illustrator, Animation , Motion Graphic และหนังสั้น ฯลฯ ผลงานของน้อง ๆ จะ ได้เผยแพร่ใน undmag และ undomag+ undomagazine@gmail.com

undo magazine


contents

contributors

16

03 EDITOR TALK 06 MUZIK : เหตุการณ์น่าสนใจในวงกานดนตรี 2011 08 STUDENT LIFE : SEASON CHANGES 14 NEW YEAR’S RESOLUTIONS 46 COOKING : แกงกระหรี่ญี่ปุ่น

48

INTERVIEW 92 94 98 100 104

D.I.Y. - ONLY LOVE ONLY YOU GAME : PS Vita เรื่องสั้น : ปล่อยมือ EVENT : ปั่นจักรยาน ชมงานศิลปะ ปั้นงานเซรามิก ธรมมะ บันทึกแม่หมอ : ความรัก...ศิราณี...บนวิถีแห่งกรรมสัมพันธ์ 1

29

B.A.D. Night 2011

52

เจ้าหญิงแห่งความฝัน เมื่อเรายังเด็ก ทุกคนมีฝัน เก็บ ดูแลฝันนั้นไว้ สักวันหนึ่งฝันจะดูแลเราเอง

iannnnn ( Founder of f0nt.com/ fail.in.th

INTERVIEW

บดินทร์ เทพรัตน์ หมอยาใจดี

Kik สาวโฆษณา ด้วยไลฟ์สไตล์ชอบ Hang Out กับกลุ่มเพื่อน ใจรักการทำ�อาหาร หลาก หลายเมนูที่เคยผ่านสายตา จึงไม่พลาดที่จะชวน มาถ่ายทอดสูตรอาหารดีๆ

DayWalker ชายหนุ่มผู้ให้ความสำ�คัญกับชีวิต เปิด กว้างกับศิลปะทุกรูปแบบ รักเด็กและสุนัข

Neng แอร์สาวกับการถ่ายทอดเรื่องราว แนวธรรมมะ

Atom บัณฑิตหนุ่มจากรัฐศาสตร์ มช. ผู้หลงไหลในการ เขียนและการวาดรูปเป็นชีวิตจิตใจ

Windy สาวน้อยบ้า fashion รักการแต่งตัว หลงใหลการ Mix & Match เป็นชีวิตจิตใจ

TRAVEL

PHUKET BACKPACKER web www.undomag.com facebook www.facebook.com/undomagazine twitter undomagazine issuu issuu.com/undomagazine

Consults

ติดต่อโฆษณา คุณชัย 08-1649-3997

Rawin Cheasagul

ภู หนุ่มน้อยที่ไปศึกษาปริญญาโทต่อที่อเมริกา จะมาเล่าเรื่องราวตั้งแต่การใช้ชีวิตของนักศึกษา และการท่องเที่ยวในแง่มุมต่างๆ ปัจจุบันอยู่ที่ Columbia, Missouri

@GMAIL.com UNDOMAGAZINE@

Sombat Piyaboon Surapong Thammabuht

Suwanit Downing สาวสวยผู้ยอมเสียสละเวลาอันมีค่า ให้เกียรติมา เขียนเรื่องราวการท่องเที่ยวและใช้ชีวิตที่ Australia ปัจจุบันเธออยู่ท่ี Melbourne รับงานอิสระกับ บริษัท โฆษณา ชื่อดังใน Melbourne และ Sydney

Editor in Chief Sakchai Piyaboon

Deputy Editor Apinantn S.Pruek

Interviewer

Iggy de Guy นักเขียน/ศิลปินอิสระ ในอดีตเคยออกเดินทางฝึกวิชาอยู่ในภูเก็ต และหลังจากที่ค้นพบสัจธรรมของชีวิตแล้ว ในปัจจุบันเขากำ�ลังวนเวียนอยู่กับการอ่าน การวาด และการเขียน อยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งบนโลกใบนี้

iggy de guy

Graphic Designer Sakchai Piyaboon

All rights reserved. No part of this publication may be reproduced in whole or in part without permission from publisher. The views expressed in Undo Magazine are those of the respective contributors and are not necessarily shared by the publisher.

cover : iannnnn photo : iggy de guy music : sanamluang music

needalittletimeto-wakeup นักเขียนหน้าใหม่นำ�เสนอมุมมองดนตรีมากมาย


MUZIK เหตุการณ์น่าสนใจในวงการดนตรี รอบปี 2011

อัลบั้มเด่นโดนใจ mylo xyloto สตูดิโออัลบั้มล่าสุดจาก Coldplay การที่วงดนตรีสักวงจะเริ่มต้นสร้างชื่อเสียงทีละน้อยจน เป็นที่ยอมรับ และสามารถขึ้นถึงจุดสุดยอดในเส้นทาง ของตัวเองนับว่าเป็นสิ่งที่ยากเย็นแสนเข็ญสักเพียงใด หากแต่การรักษาความสุดยอดนั้นไว้ต่างหากคือสิ่งที่ยาก เย็นยิ่งกว่า วงดนตรีหลายวงเมื่อขึ้นถึงส่วนบนสุดของภูเขาแห่ง ความสำ�เร็จแล้ว ก็มักล่วงหล่นลงมาสู่เบื้องล่างอย่างไม่ อาจหลีกเลี่ยง หากแต่คริส มาร์ตินและผองเพื่อน กลับทำ�ในสิ่งที่ ต่างออกไป นั่นคือการขึ้นไปยืนค้างเติ่งอยู่บนจุดสุดยอด แห่ ง นั้ น อย่ า งไม่ มี ที ท่ า ว่ า จะหล่ น ลงสู่ เ บื้ อ งล่ า งแต่ อ ย่ า ง ใด เมื่อ mylo xyloto สตูดิโออัลบั้มล่าสุดลำ�ดับที่ 5 ของสุดยอดบริทป็อป ระดับตำ�นานที่ยังมีลมหายใจของ Coldplay จะถูกปล่อยออกมาให้โลกดนตรีที่ดูเหมือน กำ�ลังตกอยู่ในภาวะตีบตัน ได้มีสีสันขึ้นมาอีกครั้ง กระทั่งตัวโน๊ตแรกเริ่มบรรเลง บทเพลงอย่าง mylo xyloto, paradise (เพลงนี้นอกจากเพลงจะเพราะแล้ว MV ยังสวยงามมาก ๆ ด้วย), Every Teardrop is a Waterfall, Major Mimus, Princess of China หรือ แม้แต่ Don’t Let it Break Your Heart ก็ไม่เคยสร้าง ความผิดหวังให้กับโลกแห่งเสียงเพลง รักษาความเป็น สุดยอดไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ กระทั่งยังไม่มีวงดนตรีรุ่น ใหม่ในอังกฤษวงใดจะสามารถก้าวตามได้ทันทั้งในแง่ของ ความสำ�เร็จและการรักษาคุณภาพของตัวงาน

“ชีวิตไม่ได้มีด้านเดียว” บทเพลงตอบสนองอัธยาศัย อันหลากหลายของสัตว์โลก ทางด้านของฝั่งเพลงไทยในรอบปีที่ผ่ านมาในซอก มุมเล็กๆ ของวงการดนตรีก็ได้ก่อเกิดอัลบั้ม “ชีวิตไม่ได้มีด้าน เดียว” Compilation จาก 5 กลุ่มศิลปินประกอบด้วย Srirajah Rockers, Crescendo, So Cool, Desktop Error และวง Plot (สองวงหลังจากค่ายเพลงอิสระ So:On Dry Flower ที่ ผลิตผลงานเพลงได้น่าสนใจมากๆ - จะกล่าวถึงในโอกาสต่อไป) ที่ได้ร่วมกันผลิตผลงานเพลงซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมะ ของ พ.นวลจันทร์ ด้วยการจุดประกายไฟของบุรินทร์ ปัณฑุยา กร มาปล่อยให้ดาวน์โหลดกันแบบฟรีๆ ด้วยจุดประสงค์เผยแพร่ ธรรมให้กับสังคม เพี ย งแค่ แ นวคิ ด ก็ น่ า สนใจจนไม่ อ ยากให้ พ ลาดงาน ดีๆ แบบนี้ไปได้ ทั้งในแง่ของคุณภาพดนตรีของแต่ละวง ตลอด จนเนื้ อ หาแฝงแนวความคิ ด ตามหลั ก ธรรมของพระอาจารย์ นวลจันทร์ กิตติปัญโญ ที่มุ่งนำ�พาสังคมสู่ความดีงาม และการ มองโลกในอีกแง่ที่เราหลายอาจกำ�ลังละเลยและมองข้ามไปโดย ตั้งใจและไม่ตั้งใจ อย่างที่สังคมบิดเบี้ยวแห่งนี้กำ�ลังต้องการเป็นอย่างยิ่ง ดาวน์โหลดผลงานทั้งหมดแบบฟรี ๆ เพื่ออิ่มบุญ เป็น จุดเริ่มสู่การมุ่งทำ�ความดีแม้เพียงเล็กน้อยกันถ้วนหน้าได้ที่ http://www.facebook.com/SIDEOFLIVE ความสูญเสียในวงการดนตรี เป็นธรรมดาของทุกสรรพสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น ดำ�รง อยู่ แล้วก็ดับไป ไม่เว้นแม้แต่วงการดนตรีเมื่อปีกลายเป็นปีที่เกิด เหตุการณ์ความสูญเสียขึ้นหลายเหตุการณ์ด้วยกัน ทั้งในเมือง ไทยเอง และของวงการดนตรีโลกเฉกเช่นเดียวกับความตายที่ไม่ อาจมีใครหลีกหนี 23 กรกฎาคม 2011 โลกดนตรีทั้งใบต่างตกอยู่ใน ความตะลึงเมื่อมีผู้พบร่างอันไร้ซึ่งวิญญาณของเอมี่ ไวท์เฮ้าส์ นัก ร้องสาวเสียงโซลเจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ดนอนแน่นิ่งอยู่ที่อ พาร์ทเม้นท์ของเธอเองในกรุงลอนดอน จบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 27 ปี

เฉกเช่นเดียวกับร็อคสตาร์อีกหลายคนที่ต้องสิ้นชีพลงในวัย เดียวกันก่อนหน้านี้อย่างเคิร์ท โคเบน ราชาเพลงกรั๊น แห่ง Nirvana, เทพเจ้ากีต้าร์อันดับหนึ่งตลอดกาลอย่างเจมี่ เฮน ดริกซ์, เจนิส จ๊อบลิน หรือแม้แต่ จิม มอริสันแห่งวงเดอะ ดอร์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตใน ครั้งนี้ไว้ว่าเกิดจากการติดสารเสพติดและสุรามาเป็นเวลานาน สร้างความสูญเสียแก่โลกดนตรีครั้งสำ�คัญที่สุดครั้งหนึ่ง อีกรายแม้จะไม่ได้เป็นศิลปินดนตรีแต่คงไม่มีใคร ปฏิเสธได้ว่าเขาผู้นี้คือผู้ปฏิวัติวงการดนตรีให้กลายเข้าสู่ยุค ดิจิตอลอย่างแท้จริง เมื่อเขาเป็นผู้เสกคาถาให้ซีดีและเครื่อง เล่นวอล์กแมนกลายเป็นสิ่งล้าสมัย และสร้างวัฒนธรรมไฟล์ เพลงดิจิตตอลตลอดจนสร้างเครื่องเล่นเพลงบันลือโลกอย่าง ไอพอดออกมาเปลี่ยนแปลงโลกไปอย่างสิ้นเชิง แน่นอนเขาผู้นั้นคือ สตีฟ จ๊อบส์ อัจฉริยะผู้ สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับโลกซึ่งได้ละทิ้งสังขารที่ ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายด้วยวัยเพียง 56 ปี “การเป็ น คนรวยที่ สุ ด ในสุ ส านไม่ ใ ช่ สิ่ ง ที่ ผ ม ต้องการ แต่การที่ผมได้นอนหลับบนเตียงและพูดว่า วันนี้เรา ได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ทิ้งไว้ให้กับโลก คือสิ่งที่ผมต้องการมาก ที่สุด” สตีฟ กล่าวไว้กับ The Wall Street Journal ปี 1993 ทิ้งความเป็นตำ�นานไว้ให้โลกได้จดจำ�จนกระทั่งปัจจุบัน อย่างไรก็ตามทางด้านของวงการเพลงไทยเองก็ไม่ อาจหลีกหนีความสูญเสียเฉกเช่นเดียวกันไปได้ เมื่อไก่ อดิศร กิ่งพะโยม นักร้องนำ� มือกีต้าร์และผู้ก่อตั้งวงดนตรีเร้กเก้แถว หน้าของเมืองไทย Kai-Jo Brothers ได้เสียชีวิตลงด้วยโรค หอบ ทิ้งไว้เพียงตำ�นานหน้าหนึ่งของวงการดนตรีเร้กเก้เมือง ไทยอย่างแสนเศร้า เมื่อในที่สุดทางวงตัดสินใจยุบวงและแยก ย้ายกันไปตามทางของตัวเอง... แต่ช้าก่อน ล่าสุดด้วยความหลงใหลในเสียงดนตรี อย่างถอนตัวไม่ขึ้นของโจ้ สรพันธ์ กิ่งพะโยม พี่ชาย/ผู้ก่อตั้ง วงได้ได้ออกมาประกาศผ่านหน้า facebook ของตัวเองว่า กำ�ลังกลับมาทำ�อัลบั้มอีกครั้งแต่เปลี่ยนมาใช้ชื่อวงว่า Kai-Jo Alls tar ซึ่งแว่ว ๆ มาว่าอาจได้ฟังกันภายในปีนี้อย่างแน่นอน แฟนๆ เร้กเก้ติดตามข้อมูลต่างๆ อย่างใกล้ชิดได้ที่ facebook Sorapan Kingpayome

Story by needalittletimeto-wakeup

ผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำ�ท่วมที่มีต่อวงการเพลง เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นภาย หลังวิกฤติน้ำ�ท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าแม้แต่ วงการเพลงเองก็มิอาจหลีกหนีความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ อาจ เป็นเพราะวลี “เอาอยู่” ของผู้มีอำ�นานใจบ้านเมืองที่ผลลัพธ์ ปรากฏออกมาเป็นอย่างไรคงไม่ต้องบรรยายกันอีก อย่ า งไรก็ ต ามหลายคอนเสิ ร์ ต ใหญ่ ใ นเมื อ งไทย ต่างมีอันต้องเลื่อนกำ�หนดการออกไป ซึ่งบ้างก็มีกำ�หนดการ แน่นอนออกมาแล้ว และไม่น้อยเลยที่ยังคงหากำ�หนดการใหม่ ไม่ลงตัวกระทั่งปัจจุบัน เช่น คอนเสิร์ต สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นทส์ พิตบูลล์ ไลฟ์ อิน แบงค็อค เลื่อนจากวันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2554 แต่ยังไม่แจ้งกำ�หนดการใหม่ออกมาอย่างเป็นทางการ คอนเสิร์ต BODYSLAM นั่งเล่นเลื่อนกำ�หนดการ แสดงจากในวันศุกร์ที่ 4 เสาร์ที่ 5 และอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2554ไปเป็นวันศุกร์ที่ 10 เสาร์ที่ 11 และอาทิตย์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2555 สถานที่เดิม IMPACT EXHIBITION HALL1 เมืองทองธานี เทศการดนตรีกระทิงแดงแฟตเฟสฯ กรุงเทพ จากเดิม กำ�หนดการไว้วันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2554 เลื่อนมาเป็นวัน ที่ 3-4 ธันวาคม 2554 แต่กระนั้นก็ตามสถานการณ์น้ำ�ท่วม ยังคงไม่ดีขึ้น กระทั่งต้องเลื่อนมาเป็นวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ 2555 และเปลี่ยนสถานที่จากม.กรุงเทพฯ รังสิต กลับมาเป็น ริมทะเลสาบเมืองทองเช่นเดิมเหมือนเมื่อปีกลาย JETSETER MUSIC INSPIRATION CONCERT รอบ แสดงจากเดิม วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 เลื่อนเป็น วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2555 อย่างไรก็ตามเรื่องปี 2554 ที่ผ่านมายังคงมีเรื่อง ราวอื่น ๆ ในวงการดนตรีที่น่าสนใจเช่น กรณีของเสก โลโซ ที่ถูกเปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเรื่องราวก็ยังคงคา ราคาซังมากระทั่งทุกวันนี้ว่า ท้ายที่สุดแล้วต้นสังกัดอย่างแก รมมี่จะดำ�เนินเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร และจะยังคงรับเสกเข้ามา เป็นศิลปินในสังกัดอีกหรือไม่ ต้องคอยติดตาม เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ศิลปินอย่างเสก โลโซ นับ เป็นศิลปินที่ยังคงสามารถครองใจแฟนเพลงทั่วประเทศได้ อย่างต่อเนื่องตราบจนปัจจุบัน และนั่ น เองย่ อมเป็น ที่ มาของรายได้มหาศาลที่ ท างต้น สั งกัด และตัวศิลปินเองจะได้รับต่อไป...


student life

CHAPTER

Story & Photography by l2aven

สวัสดีชาว Undo Magazine รับปี 2012 ครับ (ผ่านมาเดือนกว่า ๆ แล้ว… ป่อยย :P) เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ ครับ ถ้าคนเรามีอายุไขจริง ๆ ตอนนี้เราก็ใช้เวลาชีวิตผ่านไป อีก หนึ่งปีแล้ว… ลองคิดทบทวน ดูนะครับ ว่าเราใช้ชีวิตที่มี อย่าง คุ้มค่​่าไปรึยัง ถ้ายังก็ถือโอกาสปีใหม่นี้ ตั้งใจเริ่มต้นใหม่ ใช้ชีวิต ให้เต็มที่นะครับ สำ�หรับเดือนกุมภาพันธ์นี้ ใครที่ยังไม่ค่อยกล้า ไม่ค่อยมีโอกาสที่จะบอกรักคนที่คุณรัก ก็ถือโอกาสนี้แสดงความ รักเพื่อลดความเขินนะครับ แต่ผมคิดว่า มันไม่จำ�เป็นต้องเป็น วันพิเศษ เพื่อที่จะบอกรักใคร เราสามารถทำ�ให้วันทุกวัน เป็นวัน แห่งความรักได้ จริงไหมครับ ความเดิมเล่มที่แล้ว ผมได้ทิ้งท้ายไว้เรื่องชีวิตความ เป็นอยู่เทอมแรกที่เรียน ด้วยความที่ค่าเทอมแพงมาก ค่าที่อยู่ ก็แพง บวกกับเพิ่งแยกออกมาอยู่ด้วยตัวเอง (เดิมอยู่กับญาติ) ทำ�ให้ผมประหยัดมากกกก ครับ คิดคำ�นวณเงินกลับเป็นเงินไทย แล้ว แทบไม่กล้าซื้อของอะไรเลย ไปกิน McDonald ก็สั่งแต่ Dollar Menu (คล้าย ๆ กับเมนู 19 บาทของไทยนั่นหละครับ ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังมีอยู่รึเปล่า) ร้าน Fast Food ที่อเมริกาไม่มี เบอร์เกอร์หมูนะครับ หายากมาก จากเดิมที่ผมไม่ทานเนื้อตอน อยู่เมืองไทย ก็เลยต้องทานไปตามระเบียบ เพราะเบอร์เกอร์ไก่มัน ไม่อร่อย (ความชอบส่วนตัว)

Season Changes


ประโยชน์ของการมาเรียนเมืองนอกที่เห็น ชัดเลยคือเรื่องทำ�อาหารครับ จากทำ�ไม่ ค่อยเป็น อยู่เมืองไทย หิวเมื่อไหร่ เดิน ออกไปปากซอยก็มีของให้เลือกเพียบ อย่างมากก็ 30-40 บาท แต่ที่อเมริกา นี่ไม่เลยครับ อย่างถูก ๆ ก็ 7-8 USD ละ (200 กว่าบาท) เลยต้องขยันทำ� กับข้าวทานเอง

ช่วงแรกจำ�ได้เลยครับ รถก็ไม่มี คณะที่เรียนก็อยู่ ไกล ประมาณกิโลกว่า ๆเลยครับ จากที่อพาร์ทเมนต์ อากาศ หนาวมากๆด้วย ออกไปเรียนชั่วโมงแรก ประมาณแปดโมงเช้า นี่ เย็นมากกกกก ยิ่งวันหิมะตกนี่ เรียกได้ว่ากว่าจะแซะตัวเอง ออกจากที่นอน (สองเดือนแรกเป็นถุงนอน) ได้นี่ เหน่ือยกัน เลยทีเดียว อาหารการกินก็ต้องอาศัยพี่คนไทยที่มีรถ พา ไปซื้อ ซื้อทีนึงเยอะๆ เพราะต้องอยู่กับมันทีนึงหลายอาทิตย์ เวลาของหมด ก็จะต้องโทรไปบอกพี่ที่มีรถ ว่าจะไปซื้อของเมื่อ ไหร่รบกวนบอกด้วย เพราะจะได้ติดรถเค้าไป… ประโยชน์ของการมาเรียนเมืองนอกที่เห็นชัดเลย คือเรื่องทำ�อาหารครับ จากทำ�ไม่ค่อยเป็น อยู่เมืองไทย หิว เมื่อไหร่ เดินออกไปปากซอยก็มีของให้เลือกเพียบ อย่างมาก ก็ 30-40 บาท แต่ที่อเมริกานี่ไม่เลยครับ อย่างถูก ๆ ก็ 7-8 USD ละ (200 กว่าบาท) เลยต้องขยันทำ�กับข้าวทาน เอง ช่วงแรกๆดีหน่อย ต้องขอบคุณทีมงาน Skype ครับ ที่คิดโปรแกรมนี้ขึ้นมา ผมเลยออนไลน์ให้แม่สอนข้ามทวีปได้ เหมือนให้แม่ Phone in กำ�กับ (ฮาาาาา) ถ้วยชามเป็นของ หนึ่งในไม่กี่อย่าง ที่ผมซื้อเองในห้อง เพราะที่เหลือไปเก็บเอา จากกองขยะทั้งนั้น พวกโคมไฟ โซฟา ชั้นวางหนังสือ ทีวี ใช้ เวลาสะสมนานเลยทีเดียว ช่วงแรกๆ นี่ตอนห้องยังโล่ง นั่ง พื้นทานข้าวเลยครับ ใช้ลังกระดาษแข็ง ๆ หน่อยเป็นโต๊ะ วาง ข้างๆ ถุงนอนที่นอนเลย ชีวิตน่าอนาถมาก ๆ T^T หลัง จากนั้นซักสองสามเดือน ทุกอย่างถึงค่อยเข้าที่เข้าทาง มีของ เยอะขึ้น


พูดถึงไปเก็บของจากกองขยะ มันไม่ได้เป็น แบบเมืองไทยนะครับ จริงๆ คือการไปตระเวณขับรถดู ตามบ้านเช่า หรือหอพักหลายๆ ที่ในเมืองช่วงระหว่าง เปลี่ยนเทอม เพราะจะมีคนย้ายออก แล้วทิ้งของไว้ มากมายตามหน้าบ้าน หรือว่า ที่ทิ้งขยะอันใหญ่ๆ เรา ก็ไปเลือก ของที่ยังใช้ได้มาใช้ต่อ (พวกผมชอบใช้คำ�ว่า ไป Shopping) เพราะของบางอย่าง ยังใหม่มากๆ จริงๆ เหมือนแทบไม่ได้ใช้ ยกตัวอย่างเช่น Sofa Bed (โซฟา ที่พับกลายเป็นเตียงนอนได้) อันนี้ประทับใจมาก เพราะ วันนั้น ผมไป party ที่บ้านพี่คนไทยอีกบ้านมา แล้ว กลับบ้านดึกมาก ประมาณตีสองกว่าๆ มีพี่คนนึงขับ รถมาส่งที่บ้าน กลับมาถึงบ้าน ปรากฎว่า มีโซฟาวาง อยู่หน้าลิฟท์ ดูใหม่มากกกก ปรกติ บริเวณหน้าลิฟท์ ของที่อพาร์ทเมนต์ จะเป็นที่วางของที่ไม่ใช่แล้วของคน ที่ย้ายออกไป เผืิ่อใครต้องการจะได้มาหยิบไปใช้ได้ เห็น แล้วไม่รอช้าเลยครับ โทรเรียกพี่ที่เพิ่งมาส่ง ขอแรงเค้า มาช่วยยก แต่ก่อนหน้าที่จะยกขึ้นห้อง ก็มีการรอพอ เป็นพิธีก่อน (ประมาณ 15 นาที ฮาาา) เป็นอันเรียบร้อยครับ ได้โซฟาสมใจ ตอนรุ่งเช้ามาดู ก็ ไม่เห็นมีใครมาปิดประกาศ ว่าโซฟาหายแต่อย่างใด ^^ เทอมแรกเป็นเทอมที่เป็นเด็กดีสุดๆ ครับ ขยันเรียน ออกนอกบ้านน้อยมาก ไป party นับครั้ง ได้ (party ที่นี่ บางครั้งก็ไม่มีแอลกอฮอล์นะครับ ไป ทานข้าวด้วยกันเฉย ๆ แต่ละคนก็ทำ�กับข้าว หรือเอา อาหารไปแจม) พออากาศเริ่มอุ่นขึ้นแหละครับ ถึงได้ ออกมาพบหน้าผู้คนบ้าง อย่างน้อยเวลาอ่านหนังสือ เครียดๆ ก็จะออกไปถ่ายรูปเล่นนอกบ้าน เพราะหลัง จากอากาศเริ่มอุ่นขึ้น เข้าช่วงเปลี่ยนเป็นฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้จะเริ่มบาน ต้นไม้จะเริ่มแตกยอดอ่อน มองไป ทางไหนก็สีสันสวยงาม ดูแล้วสบายตาจริงๆ ครับ บวกกับอากาศเย็นสบายกำ�ลังดี ประมาณ18 องศา 24 องศา พอให้ใส่เสื้อยืดเดินเล่นได้ แต่บางครั้ง ฝนจะ ตกบ่อย เหมือนที่เมืองไทย ตอนเปลี่ยนฤดูนั่นแหละครับ

พูดถึงเวลาเปลี่ยนฤดู ห้างที่นี่จะเปลี่ยนการจัด ร้านไปเลยครับ โดยเฉพาะร้านขายเสื้อผ้า จากเดิมที่ขายเสื้อ ผ้าหนาๆ พวกเสื้อกันหนาว สีทึมๆ จืดๆ จะเปลี่ยนมาขาย เสื้อผ้าฤดูใบไม้ผลิครับ สีสันสดใสรับกับดอกไม้ที่จะแข่งกัน เบ่งบาน เสื้อผ้าจะออกแนวพริ้วๆ บางมากขึ้น เสื้อผ้าหน้า หนาวก็จะกระหน่ำ�ลดราคา ของที่อเมริกา ถ้าลดราคาแล้ว มันลดจริงๆ ครับ คือ มันจะมี Clearance Zone ซึ่งปกติ จะลดอยู่แล้วประมาณ 40-60% แต่ถ้าพอเข้าช่วง Sale หนักๆ จะลด 50% จากป้ายที่ลดราคาลงไปแล้ว 40-60% อีก เรียกได้ว่า ได้เสื้อผ้าดีๆ ราคาข้างถนนเมืองไทยกันเลย ทีเดียว ผมจำ�ได้ว่า เสื้อของ Abercrombi ที่เมืองไทยแพง มาก เสื้อยืดตัวนึงเป็นพัน แต่ที่นี่พอช่วง Sale สามารถ หาได้ในราคาตัวละ 200-300 บาทเท่านั้น อย่างกับเดิน ซื้อเสื้อในสยามเลย XD อยู่อเมริกาจะต้องมีความอดทนสูง จริงๆครับ ต้องตั้งใจว่าจะซื้อของที่ถูกใจจริงๆเท่านั้น เพราะ หลายๆ ครั้ง ซื้อมาเพราะมันถูกมาก ลดราคาเยอะ แต่ไม่ได้ ใช้เลย TT^TT พออากาศเริ่มอุ่นขึ้น รอบๆตัวอะไรก็สวยงามไป หมด สาวๆที่นี่ก็เริ่มแต่งตัวกันมากขึ้น จากเดิมที่ใส่เหมือน ชุดนอนมาเรียน กางเกงผ้าหนาๆ กับเสื้อแขนยาว ก็เปลี่ยน เป็นกระโปรงบ้าง กางเกงขาสั้น (มาก) บ้าง แถมวันไหน ถ้าอากาศอุ่นขึ้นมามากๆ ตามสนามหญ้า ก็จะมีหนุ่มๆ สาวๆ ใส่ชุดว่ายน้ำ�มานอนอาบแดดกันเพียบ โดยเฉพาะตาม หน้าหอพักในมหาวิทยาลัยนี่หละ สระว่ายน้ำ�กลางแจ้งก็จะ เปิดบริการอีกครั้ง เป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยมีชีวิตชีวาจริงๆ ครับ

หลั ง จากผลสอบกลางภาคเรี ย นออกมาเป็ น ที่ น่ า พอใจ ผมเองก็เริ่มจะคลายเครียดลงไปได้บ้าง มีเวลาออกไป เดินเล่นถ่ายรูป บวกกับเป็นช่วงที่ดอกไม้สวยพอดี บางครั้ง ก็ลืมเวลาไปเลยครับ บางทีรู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมง บางครั้งอยู่ที่ดอกไม้ดอกเดียว ทีนึงมากกว่​่าครึ่งชั่วโมงเลยที เดียว ^^” พอออกไปถ่ายรูปมากขึ้นๆ ก็ไฟติดครับ เลยเริ่ม วางแผนว่าจะไปเที่ยวช่วงฤดูร้อน เพราะมีที่ ที่อยากไปมานาน มากแล้ว ตั้งแต่ดูสารคดีที่เมืองไทย นั่นก็คือ Yellowstone National Park นั่นเอง ส่วนรายละเอียดหลังจากชวนเพื่อน ได้ครบก๊วน ที่จะไปเที่ยวแล้ว จะวางแผนยังไง สนุกแค่ไหน แล้วทริปนี้จะมีเหตุการณ์น่าตื่นเต้นอะไรอีก โปรดติดตามชม ตอนต่อไป ในเล่มหน้าครับ :D


M

ost of us want to change one aspect or

another in our lives to make us be a better person.

New Year’s

Resolutions

So we ambitiously set resolutions, hoping that

we were asked to share our great experience in

one day we will be a better person, living a better

the year just past. I thought “Oh dear! Do I have

life style. Resolutions can be anything. One of

any ‘great experiences’ or ‘big achievements’ to

the most popular is losing weight, followed by

share with these people? What I’m gonna talk

getting fit, stopping smoking, travelling overseas,

about?” Then it was my turn. I started nervously

spending less and drinking less. Breaking habits is

with something very small like “I joined the tennis

not easy, it takes a lot of hard work, commitment,

club” – very little but it was something I did for

will power and support from close friends and

myself and I love it. Then I came up with another

family. We’ve got to start somewhere. Who

story… and another story… They are many small

knows, this year could be the year.

things that make us happy. But most of the time

M

we choose to ignore them or forget about them–

any textbooks tell us rules we can follow to

‘underrated’ achievements. We didn’t break any

keep a resolution. They suggest it is better to keep

rules being happy with small things, or making

our goal simple and realistic. Don’t over-promise.

minor achievements. They don’t need to be big.

Write down a realistic list of what you want to

Sometimes small fish are better than no fish at all.

go by you won’t remember the resolutions you

O

made. So write them down and stick them where

If you have an unfulfilled resolution, instead of

you can see your list, like on the fridge, bathroom

making a list of things you’ll do next year, you

mirror, note on your phone or keep it in your

can make a ‘maybe someday’ list. That could

wallet or your handbag. Remember don’t to start

be a good start too. By taking the time to finish

with big resolutions; they need be realistic and

up what’s left undone, you are actually setting

achievable. A few years ago I went to my friend’s

the stage for a future that includes greater

family for Christmas lunch and during the lunch

accomplishment and satisfaction.

achieve and reasons why. Otherwise as the months

K, not all resolutions succeed each year.

G

ood luck with your resolutions and be on your

way to a healthier, happier and wonderful 2012!

Happy New Year! It’s the time that many of us set resolutions, but how many actually succeed in keeping them. The idea of a resolution is to commit ourselves to some kind of personality improvement. It seems a good idea to start at the beginning of the year – a fresh start.

to-d o lis t

Story & by suwanit

downing


interview with

คำ�ถามแรกครับ เผื่อบางคนอาจจะยังไม่รู้จักกับคำ�ว่าฟอนต์ และไทโปกราฟฟี่ พี่แอนครับ ฟอนต์และไทโปกราฟฟี่ คืออะไร ครับ - ไทโปกราฟฟี่ (Typography) มันเป็นศาสตร์หนึ่ง ว่า ด้วยการเอาตัวอักษรมาใช้ในการออกแบบ มันคือศาสตร์แห่ง การจัดวางตัวอักษร (ฟอนต์) หรือศิลป์ในการออกแบบ ส่วน ฟอนต์ ก็เป็นเหมือนกับผลิตภัณฑ์หนึ่งที่นำ�มาจัดเรียงให้เป็น คำ� เป็นประโยค โดยอาศัยไทโปกราฟฟี่ หรือศิลปะในการจัด วางฟอนต์ มาช่วยจัดวางให้สวยงาม คนที่ใช้ฟอนต์เป็น คือ คนที่จัดวางเป็น และในประเทศไทยเราเองก็มีกฎหมายที่ระบุ ว่า ฟอนต์ คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่จับเอามา ใส่ พิมพ์เรียงกันให้สวยงาม เมื่อก่อนฟอนต์หมายถึงตัวพิมพ์ ที่เป็นตัวตะกั่ว เป็นแท่นพิมพ์ แต่ทุกวันนี้ ฟอนต์คือโปรแกรม คอมพิวเตอร์ จากจุดเริ่มต้นที่ทำ�ฟอนต์ iannnnnUBC ขึ้นมา อะไรคือ แรงบันดาลใจต่อ ๆมาที่ทำ�ให้เกิดฟอนต์ในตระกูล iannnnn ตัวอื่นๆ และทำ�ให้เกิดเว๊บฟอนต์ครับ - ต้องบอกว่ามันเป็นงานอดิเรก ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ ทำ� แล้วสนุกดี พี่เป็นคนทำ�งานออกแบบหลายๆอย่าง พอทำ�แล้ว ถ้ารู้สึกว่ามันขาดอะไรไปบางอย่าง ก็จะหาวิธีมาเติมเต็ม คิด ว่าดีไซเนอร์ส่วนใหญ่ก็เป็นเหมือนกัน พออยากได้ฟอนต์ของ ตัวเอง ก็เลยทำ�เองซะเลย ตั้งแต่ฟอนต์ UBC เป็นต้นมาจน กระทั่งตัวสมัยนี้ที่อยู่ในเว๊บฟอนต์ นักออกแบบคนอื่น ๆก็มี แนวคิดเหมือนกัน อยากได้ก็ทำ�มันซะเลย

ในทุกวันนี้ สื่อที่ถูกผลิตจากงานกราฟฟิกดีไซน์ก็มีมากขึ้น เรื่อยๆ และถ้าพูดถึงเรื่องของกราฟฟิกดีไซน์ ก็มีศิลปะอยู่แขนง หนึ่งที่ลืมไปไม่ได้เลยก็คือ งานออกแบบฟอนต์ หรือออกแบบตัวอักษร และไทโปกราฟฟี่ หรือการจัดวางตัวอักษร และเมื่อพูดถึงฟอนต์ คิดว่า หลายๆคนก็คงจะนึกถึงเว๊บไซต์เว๊บหนึ่ง นั่นคือ ฟอนต์ดอทคอม (f0nt.com) แหล่งรวมฟอนต์แจกฟรีในไทย หรือเรียกได้อีกชื่อว่าเป็น เว๊บสหกรณ์ฟอนต์ในประเทศไทยนั่นเองครับ วันนี้ครับ UNDOMAG ก็จะพาทุกคนมาทำ�ความรู้จักกับผู้ก่อตั้งเว๊บ ฟอนต์ดอทคอม(ต่อไปนี้ขอเรียกว่า เว๊บฟอนต์) เรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิก เว๊บสหกรณ์ฟอนต์ในประเทศไทยเลยก็ได้ ขอแนะนำ�ให้รู้จักกับ พี่แอน ปรัชญา สิงห์โต หรือที่หลายคนน่าจะรู้จักกันในนาม iannnnn ครับ

Interview and Photo by

iggy de Guy

ผมอ่านที่มาของฟอนต์ในตระกูล iannnnn... หลายๆตัว มีที่มาจากของที่อยู่ใกล้ตัวพี่ทั้งนั้น พี่แอนมีอะไรที่อยากจะ แนะนำ�น้องๆ ในการมองหาแรงบันดาลใจที่อยู่รอบตัวมั่ง ครับ - แค่ให้รู้จักสังเกต เหมือนอย่างเวลาที่พี่อ่านการ์ตูน พี่ ชอบการ์ตูนในสมัยที่ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์ตัวอักษร บรรยาย แต่ใช้ลายมือเขียนตัวอักษรบรรยายแทน มีอยู่ ลายมือหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ ทำ�ให้พี่อยากได้ลายมือ แบบนี้เป็นของตัวเอง เลยได้ฟอนต์ iannnnnJPG ขึ้น มา ซึ่งในสมัยนี้ เขาใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์ตัวอักษรบรรยาย และฟอนต์ตัวนี้ก็ถูกนำ�ไปใช้ในการ์ตูน ก็เหมือนกับฝันเป็น จริง อยู่ ๆ ฟอนต์ลายมือตัวเองก็เข้าไปอยู่ในการ์ตูน ฟอนต์ ลายมือแบบที่พี่เคยอยากได้ลายมือแบบนี้ แล้วฟอนต์ iannnnnPDA มีที่มายังไงครับ - ตอนนั้นรับจ้างทำ�งานชิ้นหนึ่ง ก็ได้ของขวัญมาเป็น PDA ปัจจุบันนี้ก็เหมือน Smart Phone มีปากกาให้ เขียน พอได้เริ่มใช้ไปก็คิดว่า มันมีอะไรให้เล่น มันสามารถ สร้างรูปร่าง ดัดรูปร่างได้ ก็เลยเกิดฟอนต์ iannnnnPDA ขึ้นมา... iannnnnPDA มันคือฟอนต์ผี ตอนนี้มัน กลายเป็นตัวแทนของเรื่องราวเกี่ยวกับผีไปแล้ว ก็เหมือนกับเรามีอุปกรณ์ใกล้ตัวชิ้นหนึ่ง ลักษณะเด่นมันคือ อะไร เขียนง่าย เล่นง่าย ก็เลยเอามาทดลองทำ� มันมีฟอนต์ อีกตัวหนึ่งที่สร้างขึ้นมา คือ iannnnnPDF มีอยู่วันหนึ่ง ได้เข้าไปดูเว๊บ fontstruct.com เจอฟอนต์ที่มีการดีไซน์ ลักษณะเป็นก้อนๆ เหมือนเอา Lego มาวางต่อๆกัน ก็ กลายมาเป็นตัวอักษรตัวหนึ่งแล้ว ความที่เป็นข้อจำ�กัดของ ฟอนต์นั้น คือ มันจะต้องดีไซน์เป็นบล๊อกเท่านั้น จึงเริ่ม ดีไซน์และได้ฟอนต์ iannnnnPDF ขึ้นมา


ฟอนต์ในดวงใจของพี่แอนคือฟอนต์อะไรครับ - มีฟอนต์ภาษาไทยตัวหนึ่ง ฟอนต์สารบรรณ (TH SarabunPSK) ได้รับรองจากรัฐบาลว่าให้ใช้ในงานราชการ ต่างๆ ก็ดีใจแทนคนทำ�ฟอนต์ พอเราเห็นตัวนี้ ก็รู้สึกว่า มัน น่าจะมีคนคิดฟอนต์แบบนี้มาตั้งนานแล้ว ใช้ง่าย อ่านง่าย สะดวก ไม่เชย ไม่ใหม่ มีบุคลิกในตัวมันเอง ลงตัวทุกอย่าง

ถ้าอยากจะผลิตฟอนต์ของตัวเองมาเผยแพร่ในเว๊บ ฟอนต์บ้าง ต้องทำ�ยังไงครับ - เริ่มลงมือทำ�เลยครับ จนถึงตอนนี้ ก็มีคน ออกแบบมา และนำ�มาเสนอว่า ตัวนี้จะพัฒนาไปเป็น ฟอนต์ได้รึเปล่า หรือบางคน อยู่ๆก็ดีไซน์ ก.ไก่ ชนิด ใหม่ของโลกขึ้นมา พวกเราก็มาช่วยกันวิจารณ์ จริงๆมันก็คือระบบเดียวกับมหาวิทยาลัย เอามา ใช้ ทดลองใช้ อย่างฟอนต์ตัวนี้ เวลาเอามาใช้จริง มีปัญหาแบบนี้ ก็แก้ไขปัญหา องค์ความรู้ก็จะเริ่ม พัฒนา ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น จนออกมาเป็น ฟอนต์ที่เอามาใช้ได้ ถ้าอยากลองเอามาแจก เว๊บ ฟอนต์ก็ยินดี ถ้าอยากทำ�ฟอนต์ขายเอง ยากไหมครับ - ถ้าทำ�ขาย คนที่ซื้อก็จะคาดหวังประมาณหนึ่ง ยิ่ง ถ้าคนซื้อเป็นคนไทยด้วย สินค้าอะไรที่จับต้องไม่ได้ คนซื้อก็จะมีความคาดหวังมากๆ การที่เราจะจ่ายเงินซื้ออะไรสักอย่าง มันต้องดี พอ อย่างฟอนต์ไทย มีหลายๆแบบที่ทำ�ขายออก มา ประสบความสำ�เร็จบ้าง ไม่ประสบความสำ�เร็จ บ้างก็มี และฟอนต์ที่ซื้อไป จะต้องใช้ได้จริงอย่างที่ ต้องการ อย่างฟอนต์ที่เป็นตัวละติน หรืออักษรไทย ที่ไปใช้ภาษาฝรั่ง

ฟอนต์ที่ดี ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง - ยากนะ เหมือนถามว่า งานศิลปะที่ดีเป็นยังไง... จริงๆมันอยู่ ที่คนใช้ว่าฟอนต์ที่ใช้มันตอบโจทย์ในสิ่งที่ต้องการรึเปล่า อย่าง เช่น อยากทำ�ขนมถุงขึ้นมา มันมีฟอนต์อะไรล่ะที่จะเหมาะกับ ขนมถุง... ฟอนต์ดีหรือไม่ดี ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ แล้วนักออกแบบฟอนต์ที่ดี ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างครับ - สำ�คัญที่สุดคือ ช่างสังเกต มีอาจารย์ท่านหนึ่ง ชื่อ อาจารย์ โรจน์ สยามรวย ออกแบบฟอนต์ชื่อดังหลายๆตัว บอกว่า “คุณเคยเดินไปตามท้องถนน เคยเห็นเหรียญสลึงตกไหม? ถ้า คุณเป็นคนที่เจอเหรียญสลึงบ่อยๆ คุณทำ�ฟอนต์ได้” ซึ่งมัน คือเรื่องจริง เวลาที่อาจารย์พาเดินดูวัด ดูวัง อาจารย์จะไม่ดู ตามที่เราเห็นเหมือนในโปสการ์ด บางทีอาจารย์เดินไปดูน็อต ตะปู ป้ายร้านค้า ร้านขายข้าวแกง ป้ายที่แม่บ้านเขียนไว้ ทุก อย่างเอามาเป็นแรงบันดาลใจได้หมด ซึ่งพี่คิดว่า สิ่งเหล่านี้มัน มีกระจายอยู่ทั่วไป อยู่ที่ว่าเราสังเกตเห็นรึเปล่า ฟอนต์ iannnn มีอยู่ 24 แบบครับ คือ iannnnnAMD, iannnnnBMX, iannnnnCPU, iannnnnCTX-9000, iannnnnCTX-9001, iannnnnCTX-9002, iannnnnDVD, iannnnnGMM, iannnnnGMO, iannnnnGTO, iannnnnHBO, iannnnnITV, iannnnnJPG, iannnnnMTV, iannnnnSME, iannnnnSMS, iannnnnSOS, iannnnnTKO, iannnnnUBC, iannnnnBKK, iannnnnISO, iannnnnPDA, iannnnnVCD และ iannnnnPDF หาโหลดกันในเว๊บฟอนต์ได้เลยครับ)

ถ้าเปรียบให้พี่แอนเป็นฟอนต์ตัวหนึ่ง พี่แอนคิดว่าตัวเองคือ ฟอนต์อะไร และน่าจะนำ�ไปใช้กับงานแบบไหน - ฟอนต์เป็นหนึ่งในงานอดิเรกที่พี่สนใจ และพี่ก็มีงานอดิเรก ประเภทอื่นๆด้วย... ถ้าเปรียบกับฟอนต์ พี่ก็เป็นฟอนต์ที่ ใช้งานได้หลายอย่าง น่าจะเป็นฟอนต์ที่ชื่อ เลย์อิจิ มหา นิยม (layiji) ของพี่เลย์ ฟอนต์ตัวนี้เป็นฟอนต์ที่เอาไปวาง กับอะไรก็สวย ฟอนต์มันดูเป็นมิตร ไม่น่าเชื่อว่า ฟอนต์ตัว หนึ่งจะไปโผล่ในนิทานเด็กก็ได้ ในหนัง ในการ์ตูน ในอะไร ก็ได้ ลักษณะมันไม่ได้ววางท่ามาก แต่เก่ง และมีประโยชน นอกจากเว๊บฟอนต์แล้ว มีอีกเว๊บหนึ่งที่พี่แอนดูแลอยู่ นั่นก็ คือ เว๊บเฟล (fail.in.th) เว๊บรวมภาพฮาโดนใจ พี่แอนมีหลัก เกณฑ์ยังไงในการคัดเลือกภาพมาลงเว๊บครับ - ส่วนใหญ่ใช้ตัวเองเป็นคนตัดสินล้วนๆ จะบอกว่า เรื่องตลก ไม่ใช่เรื่องประชาธิปไตยเลย มันเป็นเรื่องของรสนิยมโดยเฉพาะ ในเว๊บ เราก็เหมือนเป็นบรรณาธิการคัดกรองภาพ ในที่นี้เรา เรียกว่าเฟลาธิการ ถ้าส่งมาแล้วมันเข้าแก็ป ก็ให้ผ่าน ส่วน ตัวก็ชอบอะไรแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ไปที่ไหนก็เจอป้ายตลก ก็ ไปถ่ายรูปมา รู้สึกว่า มันมีอะไรแบบนี้กระจายอยู่เต็มประเทศ แล้วจะมีคนนิสัยแบบนี้เหมือนกับเรารึเปล่า ปรากฎว่า มีเยอะ มาก

หลายๆ ภาพในเว๊บเฟลนี่ มันเป็นแฮปเปนนิ่งอาร์ต ขั้นเทพ รวมถึง มาจากสุดยอดพลังสังเกต และ ความช่างคิดของผู้ถ่าย พี่แอนคิดว่าอะไรคือแรง บันดาลใจของผู้ถ่ายภาพในเว๊บเฟลครับ - คงจะมีอะไรบอกใบ้สักอย่างว่า สิ่งที่เห็นหรือสังเกต มันเจ๋งดี จริงๆแล้วทุกคนก็มีพลังของตัวเอง แม่ บ้านอาจจะเป็นคนที่ถูบ้านเก่งที่สุดในโลกก็ได้ ถ้ารู้ว่า ตัวเองมีความสามารถ ทำ�อะไรก็ดี

“คุณเคยเดินไปตามท้อง ถนน เคยเห็นเหรียญสลึง ตกไหม? ถ้าคุณเป็นคนที่ เจอเหรียญสลึงบ่อยๆ คุณ ทำ�ฟอนต์ได้”


ตอนนี้รู้สึกยังไงกับเว๊บฟอนต์และเว๊บเฟลบ้างครับ มันบรรลุจุดประสงค์ของมันรึยัง และมีโครงการอะไร อีกในอนาคต เกี่ยวกับ 2 เว๊บนี้ - สำ�หรับเว๊บฟอนต์ พี่ตั้งใจจะให้เหมือนรายการคุณ พระช่วย ยกขึ้นมาไว้ว่า จงทำ�ประโยชน์แก่บ้านเมือง เถอะ ส่วนเว๊บเฟล ก็เป็นเหมือนชิงร้อยชิงล้าน เอา ฮา เรตติ้งดี ๆ กับเว๊บฟอนต์ พี่อยากจะพัฒนาให้มันดีกว่านี้ แต่ติด ที่เรามีงานประจำ� ปีนี้จะกลับมาทำ�งานอย่างจริงจัง ทำ�เว๊บฟอนต์ให้สนุก และต่อไปคงจะมีโปรเจ็กต์อะไร จากเว๊บฟอนต์อีก ส่วนเว๊บเฟล ตอนนี้ก็มีรวมเล่ม มาเป็นหนังสือแล้วครับ จากการที่ได้ก่อตั้งและดูแล 2 เว๊บนี้มา พี่แอนได้ เรียนรู้อะไรจาก 2 เว๊บนี้บ้างครับ - ทั้ง 2 เว๊บนี้มีลักษณะ Community ที่ฉีก ออกจากกัน เราจะได้รู้จักคนที่เราไม่รู้จักจำ�นวน มาก ไม่รู้ว่ามันมีอะไรแบบนี้มาก่อน อย่างเว๊บฟอนต์ ตอนที่มันเกิดขึ้นมา ไม่มีใครพูดเรื่องฟอนต์ รู้แค่ ว่า ฟอนต์ไปหาโหลดเถื่อนได้ จนในวันหนึ่ง เราได้ รู้ว่ามันมีคุณค่า มีค่าใช้จ่ายในความคิด มันเลยมี คำ�ว่าทรัพย์สินทางปัญญา การให้เครดิตหรือการ ให้เกียรติเป็นสิ่งสำ�คัญ ให้รู้ว่า งานทุกชิ้นมันมี คนสร้างสรรค์อยู่ ไม่ได้งอกขึ้นมาเอง ขอให้เชื่อใน คุณค่าของการสร้างสรรค์

ขอบคุณพี่แอนมากๆนะครับ ที่สละเวลาให้พวก เรา UNDO Magazine บุกบ้านสัมภาษณ์ เรื่องราวเกี่ยวกับการออกแบบตัวอักษร ซึ่งการ ออกแบบฟอนต์นั้น คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยให้ ความสำ�คัญ แต่คิดว่า การสนทนาในครั้งนี้จะมี ประโยชน์แก่ทุกคนแน่ๆครับ

คำ�ถามสุดท้ายครับ ถ้ามีน้องเดินมาบอกพี่แอนว่า “อยากเก่ง อยากทำ�ได้เหมือนพี่แอน” พี่แอนมีอะไร จะบอกกับเขาครับ - ก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงเรื่องของการสังเกตและ การหาแรงบันดาลใจ... คือ กว่าที่พี่จะมาถึงตรงนี้ เมื่อก่อน การดีไซน์ฟอนต์มันทำ�ลำ�บากมาก ต้อง มานั่งเขียนแบบด้วยมือ ข้อดีคือ มันจะช่วยให้เรา ค่อยๆปูทักษะมาเรื่อยๆ แต่สมัยนี้มันมี Shortcut ทุกอย่างสะดวก มีแรงบันดาลใจขั้นเทพออนไลน์อยู่ มากมาย เราสามารถทำ�งานแบบเขาได้ ถ้าเราตั้งใจ ทำ� แต่ว่า สิ่งที่หายไปคือ กว่าจะมาถึงตอนนี้ วิธีคิด งาน กระบวนการทำ�งาน มันมีอะไรบ้าง ขบวนการ คิดจะต้องค่อยๆพัฒนา ต้องรู้ว่าอันนี้เขาทำ�ยังไง การลอกเลียนมันง่าย ที่อยากให้น้องๆสนใจมากก็ คือ การสังเกต และวิธีคิดของแต่ละแนวคิด เบื้อง หลังของงานแต่ละชิ้นที่มันสำ�เร็จแล้ว ข้างหลังมัน ผ่านความเจ็บปวดอะไรมาบ้าง เห็นคนประสบความ สำ�เร็จ ก็อยากเป็นเหมือนกันบ้าง จริงๆมันเป็นวิธี เดียวกับการขายตรง มีเงิน มีบ้าน มีรถ แต่ว่า ระหว่างนั้น ต้องไปเจอกับอะไรมาบ้าง ต้องผ่านการ ลองผิด-ลองถูกอะไรมาบ้าง อยากให้น้องๆลองไป หัดดู สมมุติวันหนึ่งเราพบว่าเราสนใจอะไร ก็ทำ�ให้ เต็มที่

DO IT

พี่แอน กับ กาย พิธีกรและช่างภาพ

บรรยากาศการสัมภาษณ์


yellowstone natural park

Photography by l2aven




TRAVEL Interview and Photo by iggy

นิทรรศการภาพถ่าย “โลกตะแคง” (The Upside Down World of Philippe Ramette) Time: February 16, 2012 to April 29, 2012 Location: Bangkok Art and Culture Centre City/Town: Bangkok,Thailand Website or Map: http://www.bacc.or.th Phone: 02 214 6630-8 Read More: http://www.portfolios.net/events/the-upside-down-world

de Guy










cooking

แกงกะหรี่ญี่ปุ่น

Photography & Story by Kik

2 เตรียมซีฟู้ดต่างๆ ที่ชอบไว้ เช่น เต้าหู้ปลา ปลาหมึก หอยลาย

3

ใช้ก้อนกะหรี่สำ�เร็จรูปของญี่ปุ่น โดยเลือกระดับความเผ็ดได้ ตามที่ชอบ พร้อมผงกะหรี่ นมจืด และ ช็อคโกแลต

1เตรียมวัตถุดิบต่างๆ ที่ต้องการใส่ เช่น มะเขือม่วง

แครอท มันฝรั่ง หอมหัวใหญ่ ล้างและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมไว้

5

นำ�ก้อนกะหรี่สำ�เร็จรูปใส่ลงไปประมาณ 3 - 4 ก้อน คน ให้เข้ากัน และตามด้วย นมจืด ผงกะหรี่เล็กน้อย และ ช็อคโกแลตประมาณ 3 - 4 ก้อนลงไป เพื่อเพิ่มรสชาติให้ กลมกล่อมมากขึ้น

4 ตั้งกะทะ ใส่น้ำ�เปล่า แครอท มันฝรั่ง ลงไปต้มให้พอสุก และตามด้วยหอมหัว ใหญ่ มะเขือม่วง

6 ตามด้วยซีฟู้ดที่เตรียมไว้ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน และตั้งไฟอ่อน ต่อไปประมาณ 15 - 20 นาที (โดยที่ให้มั่นคนเรื่อยๆ เพื่อที่ ก้นกะทะ จะได้ไม่ไหม้) ก็เป็นอันเสร็จสิ้น พร้อมรับประทาน กับข้าวสวยร้อนๆ


เริ่มเปิดร้านมานานหรือยัง? เปิดร้านได้สองปีครึ่งแล้ว เริ่มเปิดเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2552 Story & Photography by atom

จุดเริ่มต้นที่ทำ�ให้ย้ายมาอยู่เชียงใหม่คือ? เบื่อกรุงเทพเลยย้ายมาอยู่เชียงใหม่ เพราะอยู่กรุงเทพมา หลายปีจนเห็นความเปลี่ยนแปลงที่มันเลวร้ายลง เลยคิดว่า คงอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว ถ้าเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้วยังโอเค ยัง ชอบอยู่ แต่กรุงเทพทุกวันนี้มันรถติด คนเยอะ ควันพิษเยอะ วุ่นวาย เรารู้สึกว่ามันน่าอยู่น้อยลงเลยย้ายมาอยู่เชียงใหม่ ที่มาของชื่อร้าน? เพื่อนตั้งให้ เป็นคนไม่ชอบชื่อร้านยา สังเกตว่าร้านยาส่วนใหญ่ จะเป็นร้านที่ตั้งชื่อเชย อย่างร้านเหล้าจะตั้งชื่อเท่ๆ แปลกๆ แต่ ร้านยาเป็นร้านที่ติดอันดับการตั้งชื่อเชยมากที่สุด เอะอะก็ เรือนยา บ้านยา หมอยา หรือไม่ก็ สมชายเภสัช หรือใช้ชื่อคน เราเลยเอาชื่ออาร์ตดีกว่า เลยขอประชามติให้เพื่อนตั้งให้ ตั้งไป ตั้งมาก็ถูกใจปันยามากที่สุด เพราะมันดูเล่นคำ� แต่ก็ดูไม่ล้ำ�เกิน ไปจนคนไม่กล้าเข้า ชื่อมันมีความหมายว่าแบ่งปันยา แต่ใครมา ก็ต้องซื้อแม้จะไม่มีการแบ่งบัน แต่ก็ตั้งชื่อเอาเคล็ด

หากต้องกรอกแบบสอบถามว่า มีอาชีพอะไรชาย คนนี้อาจจะต้องคิดหนักสักหน่อย เพราะเขาคนนี้สวมหมวก อาชีพเอาไว้หลายใบเลยทีเดียว เส้นทางชีวิตของหนุ่มชัยนาทที่ออกเดินทางจาก เมืองหลวง ท่องเที่ยวหาประสบการณ์ จนตัดสินใจมาลง หลักปักฐานในจังหวัดเชียงใหม่ บดินทร์ เทพรัตน์ ใช้ชีวิต อยู่ ท่า มกลางบรรยากาศอั น เต็มไปด้วยสีสันในยามราตรี เขาจะประจำ�การอยู่ที่ร้านปันยา (Midnight Pharmacy) ร้านขายยาที่เปิดตั้งแต่เย็นย่ำ�ไปจนถึงรุ่งเช้า นอกจากเป็น เจ้าของร้านยาแล้ว เขายังเป็นคอลัมนิสต์ และผู้ก่อตั้ง ”ปัน ยามูฟวี่คลับ” (Punya Movieclub) กิจกรรมฉายหนัง เล็กๆที่คนชอบดูหนังให้ความสนใจไม่น้อย วันนี้เราจะมาพูดคุยกับเขา เชิญรับชมได้ ณ บัดนี้

เรื่องราวจะสนุกสนานแค่ไหน

ทำ�ไมถึงต้องเปิดร้านตอนเย็นและยาวไปจนถึงเช้าของอีกวัน (17.30น.-06.00น.)? เหตุผลหลักคือคู่แข่งเยอะ เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีร้านขายยาเยอะ มาก บางตรอกซอกซอยไม่น่ามีร้านขายยาอยู่ได้ ก็ยังอุตส่าห์ มี ยิ่งร้านยาเยอะการแข่งขันก็ยิ่งสูง เกิดสงครามราคา ตัด ราคากัน ซึ่งต่อให้เราทุนหนักขนาดไหนก็สู้ร้านใหญ่ๆหรือร้าน เก่าแก่บ้างร้านที่เปิดมา 40 กว่าปีไม่ได้ บางร้านก็ทุนใหญ่หรือ ร้านจากกรุงเทพมาเปิดก็มี เลยคิดว่าถ้าเปิดแบบธรรมดา คง เอาตัวไม่รอดแน่นอน กระแสทุนนิยมมันเชี่ยวกราก ก็คิดว่า เปลี่ยนไปเปิดกลางคืนดีกว่า เพราะว่าจากการเที่ยวเชียงใหม่จะ สังเกตว่า คนเชียงใหม่นอนกันดึกมาก เพราะมีผับ แต่ร้านยา เชียงใหม่จะเปิดไม่ค่อยดึกเท่าไร บางร้านสองสามทุ่มก็ปิดแล้ว บางทีคนที่มีไลฟ์สไตล์อย่างพวกเรา ก็จะหาซื้อยาตอนดึกๆไม่ ได้ แล้วชัยภูมิของร้านก็อยู่ในย่านของคนที่ใช้ชีวิตกลางคืนอยู่ แล้ว ก็เลยคิดว่าเปิดกลางคืนเพื่อเป็นการหนีคู่แข่ง อย่างน้อย เวลาคนไม่สบายตอนดึกๆ ก็จะจำ�ร้านเราได้ แล้วเขาก็จะกลับ มา บางคนขี่รถมาสิบกิโลเพื่อมาซื้อยาก็มี ไว้ก่อนแล้ว คนจะไปซื้อร้านอื่น เช่นยาโรคหัวใจ โรคความดัน เขาจะต้องเตรียมเอาไว้อยู่แล้ว คงไม่ต้องมาซื้อแบบฉุกเฉิน

เขามาซื้ออะไรกันตอนดึกๆ ? ก็หลายอย่างครับ ส่วนใหญ่จะเป็นยาฉุกเฉิน เช่น ยาโรค กระเพาะ ยาท้องเสีย ยาแก้ไอ เจ็บคอ หรือไม่ก็เป็นยาคุม กำ�เนิด ยาคุมฉุกเฉิน ถุงยาง เพราะว่าแถวนี้มีสาวเชียร์ เบียร์ค่อนข้างเยอะ มีโรงแรม มีคาราโอเกะ มีที่ขายบริการ ทางเพศ ทำ�ให้สินค้าประเภทนี้ขายดี ถ้าเป็นยาที่ต้องซื้อ โดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว คนจะไปซื้อร้านอื่น เช่นยาโรค หัวใจ โรคความดัน เขาจะต้องเตรียมเอาไว้อยู่แล้ว คงไม่ ต้องมาซื้อแบบฉุกเฉิน ถ้าหากเราป่วยกะทันหัน การเข้าโรงพยาบาลก็ดูจะเป็น เรื่องใหญ่เกินไป? ใช่ครับ คนเชียงใหม่ ไม่ค่อยชอบไปโรงพยาบาล เพราะ ว่ามันยุ่งยากหลายอย่าง แล้วก็โรงพยาบาลในเชียงใหม่ ก็ราคาแพง บางทีนอกเวลาก็ สองสามร้อย เข้าโรง พยาบาลได้ยามาไม่กี่ตัวเสียเงินไปหกเจ็ดร้อย คนจะคิดว่า มันไม่คุ้ม ไปร้านขายยาดีกว่า เปิดร้านดึกขนาดนี้ ทำ�ให้ได้เห็นสังคมคมเชียงใหม่ยาม ค่ำ�คืนในแง่มุมไหนบ้าง? ได้เห็นสังคมเชียงใหม่อีกมุมหนึ่ง เพราะคนชอบคิดถึง เชียงใหม่ตอนกลางวันว่ามีเสน่ห์ ไปกินเค้ก กินข้าวซอย เชียงใหม่ในตอนกลางคืนก็เป็นเหมือนอีกโลกหนึ่ง ที่มี ความดิบกว่า ซึ่งคนอาจมองว่ากลางคืนมันอันตราย แต่มันก็มีสีสันของกลางคืน บางคนนอนกลางวันแล้ว ตื่นกลางคืนไปเที่ยว ได้เจอเด็กแว๊น สาวเชียร์เบียร์ คน ทำ�งานกลางคืน คนทำ�งานโรงแรม คนที่ออกไปหาอะไร กินตอนกลางคืน แล้วก็ยังมีพวกฟรีแลนซ์ ออกแบบ เว็บ กราฟฟิค ที่ชอบทำ�งานกันตอนกลางคืนเยอะ ช่วงกลาง คืนก็สวยไปอีกแบบ ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าดีหรือแย่กว่า ตอนกลางวัน มันแล้วแต่คนชอบ แต่ผมชอบแบบกลางคืน มากกว่า มันได้เห็นอะไรแปลกๆมากกว่า แล้วก็บรรยากาศ สงบกว่าตอนกลางวัน มันไม่ค่อยมีรถ เวลาทำ�อะไรก็จะมี สมาธิ บรรยากาศการพูดคุยก็คนละแนวกับตอนกลางวัน ใครอยากรู้ต้องมาลองใช้ชีวิตดู น่าจะพอนึกภาพออก อยากแนะนำ�ว่า ใครที่มาเชียงใหม่หลายครั้ง ซึ่งวนไปแต่ ร้านเดิมๆ ความจริงเชียงใหม่มีอะไรให้ดูอีกมากมาย มันมี อะไรให้เที่ยวมากกว่าการจะมาจมกับที่เที่ยวซ้ำ�ๆสามสี่ที่ มี อะไรที่น่าค้นหาอีกมาก แต่อยู่ที่ว่าคุณจะออกไปค้นหามัน หรือเปล่า


ตอนกลางวันทำ�อะไร บางวันก็นอน บางวันก็ออกไปเที่ยว บางวันก็เขียนหนังสือ ช่วงนี้ก็ทำ�งานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ไม่ แน่นอนว่าจะทำ�อะไร นอกจากเปิดร้านขายยาแล้ว ทำ�อะไรอีกบ้าง? เขียนบทความลงนิตยสาร”Starpic” เขียนบทความ เกี่ยวกับภาพยนตร์และสังคม เขียนวิจารณ์หนังแล้วก็ เขียนสกู๊ปทั่วไป แล้วก็เขียนลงวารสาร”อ่าน”เป็นบาง ครั้ง เกี่ยวกับสังคมการเมือง และก็ยังจะเขียนต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดไฟ ตอนนี้ยังไม่หมดไฟเท่าไร ถ้าเกิดหมดไฟ ก็อาจจะหยุดแต่ยังไม่ใช่เร็วๆนี้ มาเริ่มทำ�ปันยามูฟวี่คลับได้อย่างไร? เริ่มได้ประมาณสองปี อยู่เชียงใหม่แล้วรู้จักกับสถาบันสอน ศิลปะแห่งหนึ่ง เขาเห็นว่ารู้เรื่องเกี่ยวกับหนังดี เลยชวนให้ ไปฉายหนัง พอฉายหลายๆครั้งก็เลยได้ไปฉายที่นู่น ที่นั่น ที่นี่ จนได้ไปฉายเรื่องแสงศตวรรษที่แกลเลอลี่ของคุณอังกฤษ อัจฉริยโสภณ ที่เชียงราย พอฉายไปฉายมา ทำ�โปสเตอร์ เลยคิดว่าควรมีชื่อกลุ่ม เพราะเราไม่อยากเอาชื่อจริงออก สื่อ เลยใช้ชื่อปันยาดีกว่า เพื่อนก็เลยออกแบบโลโก้มาให้ใช้ ฉายหนังแนวไหนบ้าง? เนื่องจากเป็นคนที่ชอบสนใจเรื่องสังคมการเมืองของไทย เลยคิดว่าจะจัดฉายหนังไทยที่มีเนื้อหาเชิงการเมือง ซึ่งคน ก็จะมองว่าปันยาชอบฉายหนังการเมือง ที่จริงไม่ได้ตั้งใจ แต่ฉายไปฉายมามันก็ไปอิงการเมือง จะหนีก็หนีไม่พ้น แต่ มันก็ไม่ใช่การเมืองจ๋าขนาดนั้น บางทีก็เอาหนังเกี่ยวกับ การศึกษา ชีวิตในมหาลัย การถูกกดขี่ เกี่ยวกับเพศที่ สาม ที่ถูกมองอย่างแปลกแยก ถึงจะเป็นหนังการเมืองแต่ ผมจะมองว่า การเมืองมันอยู่ในทุกอณูในทุกสิ่งรอบตัวเรา อะไรก็เป็นการเมืองได้ เช่น น้ำ�ท่วมก็เป็นการเมืองได้ ทำ�ไม กรุงเทพน้ำ�ท่วมช้า ทำ�ไมคนปฏิบัติธรรมแล้วคิดว่าตัวเอง เป็นคนดี แต่พอเห็นคนที่มีความคิดต่างกับตนเองถูกยิง ตายแล้วกลับดีใจ มันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมนี้บ้าง การเมือง มันแทรกอยู่ในทุกอณูทุกความคิด ต่อให้คนไม่สนใจ จะมี ซักกี่คนที่เป็นกลางจริงๆ การเมืองมีทุกรูปแบบ หากเรา มองไปมันก็มีให้ศึกษาได้ไม่สิ้นสุด ซึ่งเครื่องมือหนึ่งในการ ศึกษาก็คือหนัง การดูหนังก็จะทำ�ให้เราเห็นอะไรแปลกๆ น่าสนใจได้มากขึ้นเรื่อยๆ

การเอาหนั ง ที่ ไ ม่ ส ามารถหาดู ไ ด้ ทั่ ว ไปมาฉายก็ เ หมื อ น เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆให้ผู้ชมใช่ไหม? ใช่ครับ ทำ�ให้ได้เห็นมุมมองแปลกๆใหม่ๆ เปิดโลก มีอะไร มากระตุ้นความคิด เหมือนเราอ่านหนังสือ บางทีเราอาจ จะอยู่ในกรอบความคิดเดิมๆ เจออะไรเดิมๆ พบปะแต่เพื่อน เดิมๆ ซึ่งบางทีมันก็น่าเบื่อ แต่ถ้าหากเราได้ไปดูหนัง ได้ เปิดความคิด จะให้ดีก็คือ ควรดูหนังแปลกๆ มีหนังหลาย เรื่องที่ดูแล้วรู้สึกเหมือนมีอะไรมาทุบหัว มันก็จะทำ�ให้เรา มองโลกในมุมมองแปลกใหม่ไปจากเดิม กล้าที่จะคิดนอก กรอบ กล้าที่จะหลุดพ้นไปจากมายาคติเดิมๆ ซึ่งมายา คตินั้นอาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ แต่มันสำ�คัญที่ว่า เรากล้าที่ จะวิเคราะห์มันอย่างแท้จริงหรือเปล่า หนังมันก็ช่วยเปิด ความคิดของเราในอีกแง่มุมหนึ่งได้มากขึ้น การฉายหนังจะช่วยเปลี่ยนแปลงสังคมได้หรือไม่? ได้อยู่ครับ มีหนังหลายเรื่องที่เปลี่ยนโลก แต่อาจจะไม่ได้ เปลี่ยนแปลงแบบเฉียบพลัน ไม่ใช่ว่าฉายปุ๊บ คนออกไป ประท้วง ไปปฏิวัติ แต่ว่ามันเป็นการวางรากฐานความ คิดของคนในสังคม เช่นคนที่เคยยอมถูกกดขี่มานานมากๆ พอดูหนังที่แสดงให้เห็นว่า คนเรามีความเท่าเทียมกันทุก คน ก็อาจจะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านอำ�นาจนิยม มันมีอำ�นาจ ในหนังหลายอย่าง ไม่ได้ว่าความคิดแบบไหนถูกหรือผิด แต่มันก็มีความคิดที่ปลูกฝังอยู่ในหนัง มันมีประเด็น มุม มอง และมายาคติ ที่ซ่อนอยู่ในหนังแต่ละเรื่องที่อาจจะส่ง ผลต่อผู้ชมได้ ไปฉายที่ไหนบ้าง? การปฏิบัติงานหลักของปันยามูฟวี่คลับจะไม่มีสถานที่ ก็ ไปขอฉายตามที่ต่างๆ อุปกรณ์ก็จะไปขอความช่วยเหลือ โปสเตอร์ให้คนออกแบบให้ ซึ่งแต่ละคนก็ให้ความช่วยเหลือ ด้วยใจ ไม่เอาอะไรตอบแทนซึ่งก็ต้องขอขอบคุณผ่านมา ทางหน้ากระดาษนี้ด้วยครับ ให้คนดูฟรี? ที่จริงก็อยากเก็บเงินเหมือนกัน แต่เก็บเงินคงไม่มีใครมา แน่ๆ ก็จะจัดไปเรื่อยๆจนกว่าจะแบกรับคนเดียวไม่ไหว ก็คง ต้องหาสปอนเซอร์มาช่วย

ให้คนดูฟรี? ที่จริงก็อยากเก็บเงินเหมือนกัน แต่เก็บเงินคงไม่มีใครมา แน่ๆ ก็จะจัดไปเรื่อยๆจนกว่าจะแบกรับคนเดียวไม่ไหว ก็คง ต้องหาสปอนเซอร์มาช่วย ยังคิดจะทำ�ต่อไปอีกนานขนาดไหน? ก็จะทำ�ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดไฟ ก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่า จะหมดไฟเมื่อไร แต่ก็คงจะจัดแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่แน่ถ้าเกิด จัดแล้วไม่มีคนมาดู หรือมีคนมาดูเยอะแต่ว่าเบื่อ ฉายไป สังคมก็ยังคมเลวร้ายเหมือนเดิม ก็อาจจะเลิกจัด แต่ตอน นี้ความคิดที่จะเลิกยังไม่อยู่ในหัว ก็จะจัดต่อไปแบบนี้ซัก 3-4 เดือนต่อครั้ง ทุกวันนี้ก็คือทำ�งาน สามอย่าง ทั้งขายา เขียนหนังสือและ ฉายหนัง? ใช่ครับ แต่ยังพอแบ่งเวลาได้ ถ้าเกิดแบ่งไม่ได้ก็คงต้องยุบ สักอัน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอะไร ทั้งสามอย่างนี้ คิดว่างานไหนสนุกที่สุด? มันก็มีทั้งด้านที่ดีและไม่ดีในแต่ละงาน บอกไม่ถูก บางงาน อาจจะระเบียบเยอะ ได้เงินเยอะ อีกงานอาจจะอิสระกว่าแต่ ได้เงินน้อยกว่า ก็ต้องสมดุลชีวิตเราเองว่าจะจัดสมดุลของ เรายังไงให้เราอยู่ได้ ไม่ทำ�ให้เสียงาน แล้วก็ชีวิตมีความสุข มากที่สุด มันก็จะเป็นเหมือนโลกคนละโลก มันก็มีดีและไม่ดี คนละอย่าง บอกไม่ได้เหมือนกันว่า ชอบอะไรมากกว่ากัน ก็เลยเหยียบเรือสามแคมอยู่อย่างนี้ ถ้าเกิดวันไหนทีชีวิต แปรผัน รู้สึกเบื่อชีวิตด้านใดด้านหนึ่งก็อาจจะทิ้งด้านนั้น ไปเลย


BAD Night 2011 วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 ณ ลาน Central World Garden สมาคมผู้กำ�กับศิลป์บางกอก (Bangkok Art Director Association) จัดงานประกวดสำ�หรับคนโฆษณาประจำ�ปี 2011 B.A.D. Awards 2011 เป็นงานประกวดที่ให้เหล่าครีเอทีฟ คิดและสร้างสรรค์ งานโฆษณา มาประชันกัน UNDO Magazine ได้รับโอกาสเป็นส่วนหนึ่งกับ สมาคมผู้กำ�กับศิลป์บางกอกในการช่วยทำ�เว็บไซต์ เข้าไปเก็บภาพในงาน B.A.D. Night 2011 : Party to the bone ลักษณะของงานประกวดมีหลากหลาย สาขา เช่น Print Poster, TVC, Radio, Graphic Design, Digital Online งานประกวดมากมาย นอกจากเด่นเรื่องไอเดีย จากครีเอทีฟแล้ว การ Production ที่สุดยอด โดยฝีมือคนไทย งานโฆษณาไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกแน่นอน!!!


สุรชัย พุฒิกุลางกูร จาก illusion (คนซ้ายสุด)

พี่ชง สุวิทย์ จตุริยสัจจกุล (คนที่สองจากขวา) และพี่ตี่ วิชิต เจียมศิริกาญจน์ (คนขวาสุด) Executive Creative Director แห่ง HUA CREATIVE นายกสมาคมผู้กำ�กับศิลป์บางกอกปี 2011


ผลงานประกวด


ทีมงาน UNDO Magazine ทำ�ภารกิจการเสร็จสมบูรณ์ งานนี้ต้องขอขอบคุณ พี่ชง และ สมาคมผู้กำ�กับศิลป์บางกอก ที่ให้โอกาส Magazine น้องใหม่ ได้มีส่วนร่วมกับการ ทำ�งานระดับประเทศครั้งนี้ ประสบการณ์ครั้งนี้ช่วยเปิดมุมมอง ไอเดียดี ๆ พวกเราจะนำ� กลับพัฒนา UNDO Magazine เพื่อตอบสนองโจทย์การเป็นแรงบันดาลใจและเป็นพื้นที่ แสดงผลงานให้แก่น้องๆ เหมือนเดิม ศักดิ์ชัย ปิยะบูรณ์ บ.ก. UNDO Magazine และ UNDOMAG+


Print Craft judGe b.a.d. awards 2011 วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2555 ณ โรงแรมเดวิส สุขุมวิท เป็นวันตัดสิน Print Craft สำ�หรับงาน B.A.D. Awards 2011 Print Craft หมายถึง สื่องานโฆษณาที่มีการถ่ายภาพ ตกแต่งภาพ ทั้ง Photoshop, Illustrator, 3D, เทคนิควาดด้วยลายเส้นหรืออื่นๆ เพื่อช่วยเติมเต็มจินตนาการที่ไม่มีวันหมดของเหล่าครีเอทีฟ เราได้มีโอกาสไปเก็บภาพบรรยากาศการตัดสินในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้ดู บรรยากาศการตัดสินที่เข้มข้น ถกเถึยงในเรื่องประเด็นของการสร้างงานศิลปะ เพื่อได้งานสุดยอด Print Craft ในการประกวดครั้งนี้


คุณอนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง Remix Studio Bangkok ตัดสินงานประกวด


ผลงานที่ส่งเข้าประกวด หลากหลายไอเดียที่นำ�เสนอกันออกมา



คุณสมบัติ ปิยะบูรณ์ Cubic Studio

ก่อนการกดให้คะแนน


วิเคราะห์ผลงานของการโหวต


Advertising Agency : JWT, Shanghai , China Executive Creative Directors : Yang Yeo, Elvis Chau Creative Directors : Hattie Cheng, Rojana Chuasakul Art Directors : Hattie Cheng, Rojana Chuasakul, Haoxi Lv, Danny Li, Surachai Puthikulangkura Copywriter : Marc Wong Account Supervisors : Sophia Ng, Lily Zheng Producers : Anotai Panmongkol, Somsak Pairew Illustrators : Surachai Puthikulangkura, Supachai U-Rairat Production House : illusion Animator : illusion Print Pruduction : Joseph Yu, Lulu Zhang, Isaac Xu


Mansion 7 Advertising Agency : Grey (Thailand) co.,Ltd. Executive Creative Director : วิชิต เจียมศิริกาญจน์, สุวิทย์ จตุริยสัจจกุล Copywriter : วิชิต เจียมศิริกาญจน์, อินทร์ศิริ นันทะศิริ Art Director : สุวิทย์ จตุริยสัจจกุล, อภินันทน์ สุมทุมพฤกษ์, สุรมนัส จันทิมา Illustrator : Visionary Group


B.A.D. ยันต์ Advertising Agency : Grey (Thailand) co.,Ltd. Executive Creative Director : วิชิต เจียมศิริกาญจน์, สุวิทย์ จตุริยสัจจกุล Copywriter : วิชิต เจียมศิริกาญจน์, อินทร์ศิริ นันทะศิริ Art Director : สุวิทย์ จตุริยสัจจกุล, อภินันทน์ สุมทุมพฤกษ์, สุรมนัส จันทิมา Illustrator : Visionary Group

Gain More superrich 1965 mao / elizabeth / lincoln Advertising Agency : Ogilvy & Mather, Bangkok, Thailand Executive Creative Directors : Wisit Lumsiricharoenchoke, Nopadol Srikieatikajohn Creative Director : Gumpon Laksanajinda Copywriters : Nopparat Wattanawaraporn, Kris Garfold Spindler Art Directors : Wisit Lumsiricharoenchoke, Nopadol Srikieatikajohn, Thongrob Chantarak, Komson Yamshuen



It Works Fingerprint Security System : Home / lab / office Advertising Agency : SpicyH, Bangkok, Thailand Production company : MasterScene Executive Creative Director : Woon Hoh Siew Creative Director : Gaek Bee Lee Art Directors : Apiwat Pattalarungkhan, Adam Pamungkas Copywriter : Irvine Prisilia Photographer : Clarissa Peddy Photography Retoucher : OIC!


M Wrap Chicken / Pork / Fish Advertising Agency : Creative Juice\g1\TBWA, Bangkok, Thailand Chief Creative Officer : Thirasak Tanapatanakul Executive Creative Director : Prangthip Seelos Art Directors : Anchalika Ketwattanachai, Thirasak Tanapatanakul Copywriter : Nattawut Sittiwaraphan Account Manager : Pongsuree Asanasen Photographers : Anuchai Secharunputon, Nok Pipattungkul



shera Advertising Agency : Ogilvy, Thailand Executive Creative Directors : Wisit Lumsiricharoenchoke, Nopadol Srikieatikajohn Art Directors : Wisit Lumsiricharoenchoke, Nopadol Srikieatikajohn, Gumpon Laksanajinda, Watchara Tansrikeat, Yod Kosolnirattiwong Copywriter : Kris Garfold Spindler Illustrators : Surachai Puthikulangkura / Illusion Agency Producer : Paiboon Suwansangroj



Twister Sweeper XL : Bedroom / Kitchen / Living Room Advertising Agency : The Leo Burnett Group Thailand, Bangkok Creative Directors : Keeratie Chaimoungkalo, Sompat Trisadikun Art Directors : Piti Pongrakananon, Sompat Trisadikun Copywriter : Chatchai Butsabakorn, Paruj Daorai Photographer : Chub Nokkaew / Chubcheevit Account Supervisors : Purita Usnabhiraks, Salin Ngaotheppitak


do it yourself

only o only you v e D.I.Y. by Windy

พบกันอีกครั้งกับ D.I.Y ง่ายๆที่ใครก็ทำ�ได้ใน UNDO MAGAZINE D.I.Y ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของปี 2555 เราไม่ได้เจอกันมานานคิดถึงกันบ้างหรือป่าว เพื่อ เป็นการตอนรับการกลับมาของคอลัม D.I.Y เรา จะมาเริ่มต้นด้วยการทำ� D.I.Y ที่แสนง่ายแถบยัง เป็นที่นิยมในตอนนี้ ถ้าใครที่เป็นนักแฟชันตัวยงคง จะไม่ปฎิเสธกระแสของที่คาดผมดอกไม้ที่ไม่ว่าจะหัน ไปทางไหนเห็นก็จะเห็นเจ้าคาดผมดอกไม้ไปซะทุกที่ และเพื่อในสอดคล้องกับเดือนแห่งความรักเราจะมา จับเอาดอกกุหลาบที่เป็นตัวแทนของความรักมาทำ� เป็นผลงาน D.I.Y ของเราในครั้งนี้ โดยเราจะตั้ง ชื่อให้กับผลงานของเราในครั้งนี้ว่า ONLY LOVE ONLY YOU ถ้าพร้อมแล้วเรามาเตรียมอุปกรณ์ สำ�หรับ D.I.Y ONLY LOVE ONLY YOU ของเรากันเลยดีกว่า

Step 2

Step 1 เรามาเริ่มจัดเตรียมอุปกรณ์กันเลย 1. ดอกกุหลาบปลอมสีแดง 4-5 ดอก ใครที่มีดอกไม้ชนิดอื่นก็สามารถนำ�มาใช้ได้นะคะ 2.โครงที่คาดผม หรือจะเป็นที่คาดผม อันเก่าของเราที่มีอยู่ก็จะยิ่งดี 3. กรรไกร 4.ปืนกาว

นำ�ช่อดอกกุหลาบหรือใครที่มีดอก ไม้ชนิดอื่นไม่จำ�เป็นต้องเป็นดอก กุหลาบก็สามารถนำ�มาประยุกต์ใช้ งานได้นะค่ะ เมื่อเรานำ�ช่อดอกไม้ มานั้นสิ่งแรกเราต้องทำ�คือเด็ด เอาดอกออกเสียก่อน เด็ดออกมา ประมาณ 4-5 ดอก

Step 3 ตัดในส่วนของโคนดอกไม้ถ้า เพื่อนๆคนไหนเด็ดดอกไม้ออก มาจากช่อแล้วจะพบว่ามันมี ส่วนของโค้นพลาสติกติกอยู่เรา ก็ทำ�การตัดในส่วนนั้นออกขั้น ตอนนี้จะช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัส ในขั้นตอนของการติดกาว

Step 4 ดึงเอาฐานรองของดอกไม้ออกแล้วติด กลับเข้าไปเหมือนเดิมโดยใช้ปืนกาวดิต ร่วมด้วยเพื่อที่จะทำ�ให้ดอกไม้ของเรามี การยึดติดที่แน่นหนาจะได้ไม่หลุดง่ายๆ นะค่ะในขั้นตอนนี้ถ้าเพื่อนๆคนไหนคิด ว่าดอกไม้ของตัวเองมีขนาดใหญ่เกิน ไปสามารถแกะเอากลีบดอกไม้ออกให้ เหลือขนาดที่เราต้องการแล้วติดฐาน ดอกไม้เขาไปใหม่

send mail to เพื่อนๆ คนไหนมี idea เจ๋งๆ อยากแบ่งปันส่ง ผ่าน idea นั้นมาที่ undomagazine@gmail.com ได้นะค่ะ เราพร้อมน้อมรับ idea จากทุก ๆ คนเสมอค่ะ

Step 5 Step 6 เมื่อได้ตำ�แหน่งตรงกลางของที่คาดผม แล้วเราก็นำ�ดอกไม้มาติดจนเต็มที่คาด ผมของเราซึ้งจำ�นวนดอกไม้ที่ติดลงบนที่ คาดผมของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากันทั้งนี้ ขึ้นอยู่กลับขนาดของดอกไม้ที่เรานำ�มา ใช้นะค่ะ หลังจากนั้นเราก็รอให้กาวแห้ง สนิทแล้วเราก็ทำ�การเก็บรายละเอียดของ งานโดยหาจุดที่ยังติดกาวไม่แน่ให้ย้ำ�กาว ลงไปอีกคร้งเพื่อเวลานำ�ไปใช้งานจะได้ไม่ หลุดง่ายๆนะค่ะ

นำ�ดอกไม้มาติดกับโครงที่คาดผมของเราโดยตำ�แหน่ง แรกแนะนำ�ให้เริ่มจากตรงกึ่งกลางของคาดผมและใช้ปืน กาวในการยึดติดในขั้นตอนนี้เราต้องจับดอกไม้ไว้จนกว่า กาวจะแห้งสนิทไม่อย่างนั้นดอกไม้ของเราจะหลุดได้ง่ายถ้า เพื่อนคนไหนมีไดร์เป่าผมก็สสามารถนำ�มาเป่าเพื่อช่วยให้ กาวแห่งเร็วขึ้น

Step 7 แค่นี้เราก็จะได้ที่คาดผมดอกไม้สวยเก๋ ไม่ซ้ำ�ใครไว้ ใส่เล่นแนะนำ�ให้เวลาใส่ให้กดที่คาดผมมาด้านหน้า จะได้ลุคที่ดูหวานๆไม่ซ้ำ�ใคร หรือเพื่อนคนไหนที่มีไอ เดีย D.I.Y แบบนี้ก็ลองส่งเข้ามาแลกเปลี่ยนกันได้ที่ UNDO MAGAZINE ของเรา แล้วพบกันใหม่ใน ฉบับหน้านะคะ


GAME

ผมมองดูแล้วว่าคงไม่ได้ใช้ประโยชน์จาก 3G เท่า ไหร่ และสามารถใช้ smart phone ที่มีกระจาย สัญญาณ wifi ให้ PS Vita ได้ถ้าต้องการเล่นเกม ออนไลน์ เลยจัดรุ่น Wifi มาครับ อ้อ เครื่องรุ่น 3G จะมีออกมา 3 โซนนะครับ คือ Jap / Asia / US ถ้าจะใส่ซิม 3G บ้านเราต้องเครื่องโซน Asia เท่านั้นนะครับ

Story & Photography by daywalker

สวัสดีปี 2555 ครับเพื่อนๆชาว UNDO Mag ทุกท่าน กลับมาจากฉลองปีใหม่ครั้ง นี้ เพื่อนๆทุกท่านคงได้ให้ของขวัญปีใหม่ตัวเองกันบ้างซักอย่างสองอย่างนะครับ ผมเองก็ได้ โอกาสจัดของขวัญปีใหม่ให้กับตัวเอง 1 ชิ้นไปก็คือเจ้าเครื่องเล่นเกมแบบพกพาของ Sony PS Vita นั่นเองครับ เพื่อนๆที่ติดตามข่าวคราวของเจ้า Vita ตัวนี้คงจะพอคุ้นเคยกับมันบ้าง ผม ขอถือโอกาสมาเล่าสู่กันฟังกับเพื่อนๆ ที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับมันนะครับ

ที่มาของภาพ : manager.co.th

PS Vita นี่เป็นเครื่องเล่นเกมแบบพกพาของ Sony ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก PSP นะครับ เรียกได้ว่าลูกค้าเก่าที่เคยครอบครอง PSP น่าจะสนใจกับ Vita ไม่มากก็น้อยแน่นอนเลยครับ ด้วยจอแบบ OLED ที่ใหญ่ชัดเจนยิ่งกว่าเดิมรองรับระบบทัชสกรีนแบบ iPhone จอยอนาล๊อก ทั้ง 2 ข้างซ้ายขวาแบบจอยของ PS3 แถมมาพร้อมกับสเปคเครื่องแรงๆ ทำ�ให้คอ gadget อย่าง เราๆต้องตาลุกวาวเลยทีเดียว ลองมาดูสเปคของเจ้า PS Vita กันดูครับ

เครื่อง Vita ที่ออกวางจำ�หน่ายจะมี 2 รุ่นนะครับ คือ 3G/Wifi กับ Wifi ซึ่งถ้าซื้อรุ่น 3G/wifi จะสามารถใส่ซิม 3G แล้วใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น GPS Navigator ได้ แต่ไม่สามารถใช้เล่นเกม ออนไลน์ได้นะครับ ซึ่งราคาบ้านเรารุ่น 3G จะแพง กว่ารุ่น Wifi ประมาณ 2000 บาทครับ


ลองดูภาพถ่ายหน้าจอของ PS Vita กันนะครับ ถ่ายด้วย iPhone 4 นะครับ

เครื่อง PS Vita ที่ผมซื้อมาเป็นชุด Value Set Wifi นะครับ คือเป็นชุดที่ขายเครื่องพร้อม กับแผ่นเกม Uncharted: Golden Abyss + เมมโมรี่ + อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เพื่อนๆที่สนใจจะ ซื้อเครื่อง จะต้องหาซื้อเมโมรี่มาด้วยนะครับ เพราะเกมบางเกมจะไม่สามารถเล่นได้เลย ถ้าไม่ใส่ เมมโมรี่ในเครื่อง ซึ่งเมมโมรี่จะมีทั้งขนาด 4GB / 8GB / 16GB และ 32GB นะครับ ในกล่องของผม เค้าแถม 4GB มาให้เลย ราคาซื้อขายตอนนี้ประมาณ 1000 บาทครับ ส่วนผมจัดเมม 8GB มาเพิ่ม อีกตัว เพราะคิดว่าจะได้ซื้อเกมผ่านระบบออนไลน์ด้วย ราคาในบ้านเราประมาณ 1600 บาทครับ มาพูดเรื่องตัวเกมกันบ้าง เกมที่ผมได้มาพร้อมกับเครื่องคือ Uncharted: Golden Abyss ครับ ซึ่งเป็นภาคแรกๆของ PS3 เรื่องราวก็คล้ายคลึงกันกับ Uncharted ภาคก่อนๆ ครับ คือผจญภัยไปตามหาของ ส่วนภาพที่ได้จาก PS Vita นั้นถือว่าเยี่ยมยอดครับ อาจะไม่สวย ไม่ละเอียดเท่า PS3 แต่สำ�หรับจอเครื่องเล่นเกมแบบพกพาเนี่ย ถือว่าสุดยอดเกินความคาดหมาย ไปเลยครับ ยิ่งฉากที่เราสามารถหมุมมุมกล้อง เพื่อดูวิวในทิศทางต่างๆ เรียกได้ว่าเพลินตาเพลินใจ จริงๆเลยครับ

ซึ่งเกมนี้ ถือว่าเป็น 1 ใน 2 เกมที่เป็น Eng นะครับ และดูท่าว่าผู้ผลิตต้องการสร้างเกมนี้ ขึ้นมาใช้ในการโชว์ความสามารถต่างๆของเครื่องด้วย ทั้งการ Touch screen ทั้งหน้าและหลัง การใช้จอยอนาล๊อกทั้ง 2 ข้างในการควบคุม อีกเกมหนึ่งก็คือ Little Deviants ครับ ซึ่งเป็นเกม แนวน่ารักๆเล่นได้ทั้งครอบครัว ซึ่งผมซื้อผ่านออนไลน์เอา ตกประมาณ 800 บาทครับ คุ้มค่าดี ครับสำ�หรับภาพสวยๆน่ารัก ลูกเล่นดีน่าสนใจเล่นได้เพลิน ๆดีครับ


ปล่อยมือ

ผู้ชายคนนั้นกอดฉัน เขากอดฉันไว้ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป...ฉันอุ่น ผู้ชายคนนั้นพยุงมือฉัน เขาจับมือฉันไว้ ไม่ให้ฉันล้ม แล้ววันนึงเขาก็ปล่อยมือจากฉัน ฉันล้มลงกับพื้น พร้อมมองหน้าเขา หัวเขาเล็ก ๆของฉันไถลไปกับพื้นเบาๆ...ฉันเจ็บ น้ำ�ตาค่อยๆเอ่อล้น และรู้สึกตัวดีว่าฉันกำ�ลังจะร้องไห้ ชายร่างใหญ่คนนั้น เดินเข้ามาหาฉันอีกครั้ง พร้อมพยุงฉันขึ้นให้เดินต่อไป ฉันอยากลุก ฉันอยากเดิน ฉันอยากก้าวต่อไป แล้ววันนึง เขาก็ปล่อมมือฉัน และมันทำ�ให้ฉันเดินต่อไปได้จนถึงทุกวันนี้ ขอบคุณที่ปล่อยมือฉัน ชายอีกคนเข้ามากอดฉัน เขากอดฉันไว้ ปรารถนาให้ฉันอยู่ข้างกาย ผู้ชายคนนั้น จับมือฉัน ราวกับว่าไม่อยากให้ฉันหนีหายไปไหน ผู้ชายคนนั้นเขาก็บอกฉันว่า เขาจะอยุ่เคียงข้างฉัน ตราบเท่าที่เขาลมหายใจ แล้ววันนึงเขาก็ปล่อยมือจากฉัน ฉันล้มลงกับพื้น พร้อมมองหน้าเขา หัวใจเล็ก ๆของฉัน ตกลงไปบนเบาๆ...ฉันเจ็บ น้ำ�ตาค่อยๆเอ่อล้นและฉันรู้ตัวดีว่าฉันกำ�ลังร้องไห้ ฉันหวังว่าเขาจะกลับมาหาฉันอีกครั้ง แล้วพยุงฉันขึ้นให้เดินต่อไป ฉันอยากลุก ฉันอยากเดิน ฉันอยากก้าวต่อไป แล้วก็ค้นพบว่า เขาไม่มีทางกลับมา ชายร่างใหญ่คนเดิมเดินเข้ามาหาฉันอีกครั้งพร้อมพยุงฉันขึ้นให้เดินต่อไป และมันทำ�ให้ฉันเดินต่อไปได้จนถึงทุกวันนี้

Poem by เจ้าหญิงแห่งความฝัน

แวะมาเจอพวกเราที่บูธ

undomag


event

ปันกัน กับงาน GM Culture Club ครั้งที่ 5

มีการจัดงานเสวนาเล็กๆ “Bicycle & Art Normal” โดย พี่โตมร ศุภปรีชา บรรณาธิการอำ�นวยการนิตยสาร GM (ที่สองจากซ้าย) สุวพร เลิศวงศ์ไพฑูรย์ เจ้าของร้านคาเฟ่ของคนรักจักรยาน Pedalicious Bike & Bistro เอกมัย (ที่สองจากขวา) วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ศิลปินศิลปากร เจ้าของแนวคิดโปรเจ๊กต์งานปกติศิลป์ (Art Normal) ศิลปะที่มีทุกบ้าน (คนกลาง) และคุณสุ จาก ปันกัน สังคมแห่งการแบ่งปัน

เสาร์ที่ 29 มกราคม 2555 UNDO Magazine ร่วมกับ ปันกัน สังคมแห่งการแบ่งปัน มีโอกาสไปร่วมงานกับ GM Magazine ในงาน GM Culture Club ครั้งที่ 5 ด้วยธีมงานสนุกสนาน “Bicycle and Art Normal” ปั่นจักรยาน ชมงานศิลปะ แวะโรงงานเซรามิกเถ้าฮงไถ่ จังหวัดราชบุรี งานนี้จัดขึ้น ที่ D Kunst หน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ราชบุรี ริมแม่น้ำ�แม่กลอง D Kunst เป็น Gallery ที่เกิดจากการซื้อบ้านเก่าขึ้นมาเพื่ออนุรักษ์ งานศิลปะของศิลปินที่อยู่ในจังหวัดราชบุรี

ปั่นจักรยานชมงานศิลป์ ส่วนหนึ่งของการปั่นจักรยาน คือเรื่องของสุขภาพ และช่วยให้อากาศดีขึ้น


หลังจากนั้นปั่นเสร็จ กินข้าว เราก็ไปเพ้นท์โอ่งเพื่อ นำ�ไปประมูลขาย

crescendo

งานนี้ขอขอบคุณ GM Magazine สำ�หรับทริป ที่สนุกสนาน / LA Bicycle เอื้อเฟื่อจักรยานให้ พวกเราได้ปั่นรอบเมือง / เถ้าฮงไถ่ ให้เราได้เพ้นท์ แจกัน และใจดีให้เอาไปประมูลเพื่อทุนการศึกษาเด็ก ไทย / ร้านก่๋วยเตี๋ยวไข่แสนอร่อย / ขอบคุณ เพื่อนร่วมทางทุกคน สนุกมากๆครับ

เจ้าของเพลงละคร "กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม" มาพร้อมกับอัลบั้มชุดใหม่ "Continue"


ธรรมมะ

บันทึกแม่หมอ : ความรัก...ศิราณี...บนวิถีแห่งกรรมสัมพันธ์ 1

“ความรักเหมือนโรคา...บันดาลตาให้มืดมน ไม่ยิน และไม่ยล อุปสรรคใดใด จากพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 เรื่อง มัทธนะพาธา .................... บางครั้งบางครา ในอารมณ์ที่วูบไหว ฉันก็เหมือน ชาวโลกคนอื่นๆ ที่อ่อนหัดปวกเปียกและ... มีบ้างที่ตาบอดเหมือนดั่งคำ�กลอนข้างบนไม่มีผิด ในวันที่ใจแห้งๆ ฟ้าดินก็ส่งกระจกบานโต ผ่านผู้คนที่มาดูดวงเรื่องความรักให้ฉันได้ พินิจพิเคราะห์ และพิจารณ์ตัวเองเต็มๆ !! ลูกค้าสาวบางคน ปาดน้ำ�ตาป้อยๆ ใช่ค่ะ... เธอร้องไห้ต่อหน้าฉันอย่างไม่แคร์ เมื่อเธอ เล่าถึงเรื่องความรักหนักหัวใจของตัวเองประกอบ ทันทีที่หน้าไพ่ชุดความรักคลี่ตัวออกมา ขณะที่ฉันผงะเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยเฉพาะช่วง เป็นแม่หมอมือใหม่ (ถึงตอนนี้ก็ออกตัว ว่าใหม่แกะกล่องอยู่ ไม่ยอมเทิร์นโปรเสียที อิอิ...) ยัยคุณ”ใจ”ของฉันนี่สิคะ...เมตตาไหลหลั่ง มาจากไหนไม่รู้ รีบกระโดดคว้าหมับนาทีทอง สวมบทบาทศิราณีความรักหน้าตาเฉย คำ�พูดอะไร ต่อมิอะไรจากตัวเองพรั่งพรู...ราวสายน้ำ� ที่ทำ�ทำ�นบแตก...มันคงไปกระแทกใจเธอด้วย แปลก...ที่เธอนั่งนิ่ง ครุ่นคิด ฟังฉันพูด อย่างตั้งใจ ...ปากฉันขยับ แต่หูสองข้างของตัวเอง มันก็แยกออกไปรับรู้ สมองก็คิดทบทวน ฉันไม่ได้พูดให้เธอคนนั้นฟังอย่างเดียว แต่เหมือนอีกภาคหนึ่งกำ�ลังส่งเสียงปาวๆ กรอกหูตัวเองไม่มีผิด !!

“ที่พูดไป จริงๆ น้องก็มีคำ�ตอบอยู่แล้วใช่มั้ย แค่ ต้องการการคอนเฟิร์ม พี่เลยจัดเต็ม” เธอหัวเราะคิกออกมากได้ “ใช่ค่ะ...แต่พี่ก็แม่นมาก ทำ�ไมพี่รู้ ?? สุดยอดไปเลย ขนลุก” นอกจากหน้าไพ่ ที่ถอดพิมพ์เขียวออกมา จากจิตอยู่แล้ว... จิตข้างในมันแอบรู้สึก proud ฟูขึ้นมาหน่อย ทันทีที่ได้รับคำ�ชม แต่สติฉันก็กดมันลงไป ฟุบเล่นบทศิราณีต่อ ...ความแม่นยำ�ไม่ใช่เป้าหมายที่แสดงถึงความสำ�เร็จ อันดับแรกของฉันสักหน่อย !! “พี่รู้...เพราะพี่ก็มีกาย มีจิตเหมือนกับน้อง เราต่างอยู่บนโลกใบเดียวกัน มีกรรมสัมพันธ์ กับผู้คนที่เข้ามาทำ�ให้เราสุข เราเศร้า ด้ไม่ต่างกันเลย พี่ก็เรียนรู้ชีวิต จากกายนี้ ใจดวงนี้สังเกต พยายามทำ�ความเข้าใจกับเรื่องราวต่างๆ ที่เข้ามากระทบด้วยสติ” เธอคนนั้นทำ�หน้าทึ่ง (จริงๆ คงอึ้งกับภาษา สำ�นวนนักเขียนของฉัน คือแปลไม่ออกรึเปล่า ?) ไม่รู้ล่ะ ฉันก็เข้าใจไปแล้วว่าเธอยอมรับ ในสิ่งที่ฉันพูดออกมา

หัวใจฟีบๆ ของฉัน เด่นดวง สว่างไสวขึ้นมาราวกับนาทีแห่งการประกาศ อืสรภาพของพระนเรศวร ก็มิปาน ! ฉันรู้สึกได้เลยว่า ฉันเข้มแข็งขึ้นมาทันที นี่คงเป็นอานิสงส์น้อยๆ แห่งการให้สติคนอื่น สังเกตตัวเองไหม? ต่อให้เราเก่งกล้า สามารถในหน้าที่การงาน เป็นที่ยอมรับในหมู่เพื่อนฝูง แต่พอ ความรักครอบงำ�ใจ คนบางคนก็สามารถพลิกบท จาก”นาย” เป็น”ทาส”ความรักได้โดยดุษฎี !! ฉันไม่เคยมองรักในแง่ร้าย เพราะอย่างไร ความรักก็สวยงามและสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ประดับ โลกา แต่กระนั้นฉันก็ไม่ได้มองความรักในแง่ดีนัก ความรัก...แฝงมากับกิเลสล้วนๆ ก็มีมากมาย หลายทีที่ลวงใจจนเน๊​๊ยนเนี​ียน... ลวงว่าใจเรา...รักเขามากล้น...ทำ�ดี เอาใจใส่เขา จริงๆ คุณก็คิดถึงตัวเอง อยากได้เขามา เพื่อสนองกิเลสตัวเองต่างหาก พอไม่ได้ดังใจ... ก็มาทุรนทุรายเจียนบ้า บางทีก็ลวงว่า เขานั้นเป็นของๆ เรา ทั้งที่จริงแล้ว...แม้แต่ตัวเราก็ยังครอบครอง บังคับกายนี้ ให้อยู่คงสภาพนั้นตลอดไปไม่ได้เลย บางทีคุณๆ ก็รู้พอๆ กับฉัน และเราอาจเคยอ่านหนังสือธรรม ะเล่มเดียวกันมาก่อนก็เป็นได้

“สติ”.... Story by neng

แต่ทำ�ไม๊...ทำ�ไม เราถึงรู้ เข้าใจ แต่ไม่”ประจักษ์”แจ้งจนพ้นสภาวะทุกข์นั้นได้เสียที ??? นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ฉันตั้งคำ�ถามจริงจังให้กับ ตัวเองบ่อยครั้ง มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะดับไฟกิเลส กองนั้นให้ราบคาบโดยไม่เหลือเชื้อ นอกเสียจาก”นิพพาน” ที่หลุดสิ้นจาก พันธนาการทางโลกทั้งมวลอันเป็นขั้นสุดยอด ฉันมิบังอาจสอนทางใครไปนิพพาน ตราบใดที่ฉันยัง กระเตาะกระแตะล้มลุก คลุกคลาน ในวัฏสงสารเช่นกัน แต่ทว่า...ฉันรู้มาอย่างหนึ่งว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นลึกล้ำ� มีหลายระดับ ตามแต่ผู้คนตั้งเป้าหมายต่างกันไป เอาแค่ทุกข์นั้นเบาบาง เจือจาง กระทบน้อยลง...แค่นี้ ก็”โอมั่กๆ” สำ�หรับมนุษย์เราๆ ที่ตกอยู่ในห้วงความรัก เลยเป็นที่มาของการ”ศึกษา” และ”วิจัย” ของฉัน :) แน่นอน...พล้อตเรื่องที่จะเขียนเรื่อง...ความรัก... ศิราณี...บนวิถีแห่ง”กรรมสัมพันธ์” Episode 2 วางเรียงอยู่ในสมองฉันเ ป็นที่เรียบร้อย แล้ว ..สั้นๆ...โปรดติดตามค่ะ


download UNDO Magazine 01

laugh in penguin villa

05

duo creative : bad awards 2011 03

08

blackcomedy paper

12

nut crescendo

02

TYM Magic Family

06

uke lovers : lula

king of ukulele

06

braille art

uke lovers

06

uke lovers : appleshow

09

la ong fong

04

03

10

ceemeagain

07

girl power

10

ceemeagain

11

flooding tears, flooding hearts


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.