การวิเคราะห์การพัฒนาด้านเศรษฐกิจหมู่บ้านมรดกริมน้ำวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์

การวิเคราะห์การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ หมู่บ้านมรดกริมน้ำวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์

โดย เกรก ซาลูซโทร ไมเคิล เมเนลลี่ และวันเรารวี ธนกัญญา คณะบริหารรัฐกิจ วิทยาลัยการผังเมืองและกิจการรัฐ มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์แห่งชิคาโก สหรัฐอเมริกา

ที่มาภาพ : Maps of Riverside https://www.olmstedsociety.org/resources/maps-of-riverside/

ที่มาภาพ : https://igrewupinriversideillinois.blogspot.com/2019/10/in-photos-fall-2019-in-riverside.html

คำนำ ต้นปี ค.ศ. 2012 ระหว่างที่ผู้เขียนกำลังศึกษาในภาคเรียนสุดท้ายของหลักสูตรปริญญาโทที่คณะบริหารรัฐกิจ วิทยาลัยการผังเมืองและกิจการรัฐ มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์แห่งชิคาโก สหรัฐอเมริกา คุณปีเตอร์ สกาเลอร่า ผู้จัดการเมืองของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ได้ลงนามในสัญญากับมหาวิทยาลัยเพื่อให้ทีมนิสิต 3 คน คือ คุณเกรก ซาลูซโทร คุณไมเคิล เมเนลลี่ และผู้เขียน วันเรารวี ธนกัญญา จัดทำโครงการวิจัยเพื่อแก้โจทย์สำคัญ ในการปรับปรุงฟื้นฟูเมืองให้กับย่านสำคัญทางประวัติศาสตร์ระดับชาติของสหรัฐอเมริกาในหมู่บ้านวิลเลจออฟ ริเวอร์ไซด์ (Village of Riverside) ออกแบบโดยเฟรเดอริก ลอว์ โอล์มสเต็ด (Frederick Law Olmsted) บิดาแห่งภูมิสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เมื่อปี ค.ศ. 1869 ที่เงียบเหงาให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง โดยเน้น ไปที่การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในพื้นที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านโดยคาดหวังให้เกิดความรุ่งเรือง เป็นที่ นิยมทั้งในการอยู่อาศัยและการเยี่ยมชมเหมือนดังที่เคยเป็นในอดีต นอกจากนี้ หลังจากการก่อตั้งหมู่บ้านใน ระยะแรก สถาปนิกชื่อดังก้องโลกหลายคนยังได้ฝากผลงานการออกแบบสถาปัตยกรรมไว้ที่หมู่บ้านแห่งนี้ด้วย อาทิ แฟรงก์ ลอยด์ ไรต์ (Frank Lloyd Wright) หลุยส์ ซัลลิแวน (Louis Sullivan) และวิลเลียม เลอ บารอน เจนนี่ (William Le Baron Jenney) ในเดือนสิงหาคมของปีนี้ ผู้เขียนหวนคิดถึงช่วงที่ทำงานวิจัยชิ้นนี้กับเพื่อนร่วมทีม จึงได้ค้นหาภาพและข้อมูล ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ในปัจจุบัน พบว่า หมู่บ้านได้ทำการปรับปรุงฟื้นฟูย่านศูนย์กลางธุรกิจให้ คึกคัก สวยงาม น่าอยู่ มีผลประกอบการที่ดีมากยิ่งขึ้นเป็นที่เรียบร้อย ดังที่ทีมวิจัยของเราเคยนำเสนอต่อ สภาหมู่บ้านเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2012 ผู้เขียนจึงทำการแปลผลงานวิจัยจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านและหากมีโอกาส ผู้เขียนจะไป เยือนหมู่บ้านมรดกริมน้ำวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์อีกครั้งเพื่อประจักษ์ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริงด้วยความ ร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง วันเรารวี ธนกัญญา นักผังเมืองชำนาญการ กลุ่มงานประเมินผลและมาตรฐานทางผังเมือง ส่วนผังเมืองรวม สำนักงานวางผังเมือง สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร 11 พฤศจิกายน 2564

ภาพหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2021 โดย Treetop Flyer ที่มาภาพ : https://www.youtube.com/watch?v=p1_kfyoH8wE

สารบัญ

หน้า

1. บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

1

2. บทนำ

4

3. ความเป็นมาและประวัติศาสตร์ของพื้นที่

8

4. วัตถุประสงค์โครงการ

14

5. ที่ตั้งและสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ

16

6. การวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจ

22

7. ผลการสำรวจความคิดเห็นและการสัมภาษณ์

26

8. บทวิเคราะห์และข้อเสนอแนะ

50

9. บทสรุป

56

1. บทสรุปสำหรับผู้บริหาร เทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ร่วมกับสำนักงานวางแผนมหานครชิคาโก (Chicago Metropolitan Agency for Planning: CMAP) อยู่ระหว่างการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดิน การจราจร การ พัฒนาด้านพาณิชยกรรมและการค้าปลีก การจัดโซนนิ่งพื้นที่ และการสร้างความเติบโตด้านเศรษฐกิจ คุณปีเตอร์ สกาเลอร่า ผู้จัดการเมืองของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ได้ทำสัญญากับมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์แห่ง ชิคาโก ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี ค.ศ. 2012 เพื่อให้นิสิตปริญญาโทหลักสูตรการบริหารรัฐกิจจัดทำโครงการวิจัยเพื่อ บูรณาการความรู้ (Capstone Project) ดังนี้ 1) จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นของผู้นำชุมชน ผู้นำภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ 2) เปรียบเทียบกิจกรรมด้านพาณิชยกรรมย่านศูนย์กลางธุรกิจในเขตเทศบาลหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์กับ เทศบาลอื่น ๆ ผลการวิจัยของคณะผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาย่านศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District: CBD) เพื่อให้เกิดพื้นที่จุดรวมตัวของประชาชนผู้อยู่อาศัย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้มาเยือน รวมทั้ง สร้างรายได้เพิ่มให้แก่เทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์จากการเก็บภาษีการค้า โดยคณะผู้ศึกษาได้ดำเนินการต่าง ๆ ดังนี้ • ทำการสำรวจธุรกิจที่มีอยู่เดิมรวมถึงข้อมูลทางเศรษฐกิจและข้อมูลธุรกิจ ประกอบด้วย รูปแบบประชากร ลักษณะกิจกรรมทางธุรกิจ รูปแบบการจับจ่ายซื้อสินค้าในย่านศูนย์กลางธุรกิจ • ออกแบบสอบถาม จำนวน 2 ชุด และนำไปใช้ในการเก็บข้อมูล ชุดที่ 1 เป็นแบบสอบถามสำหรับส่งให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยในเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ ระบุระดับความ พึงพอใจการให้บริการชุมชนต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และร่วมกำหนดประเภทของธุรกิจที่ประชาชน ผู้อยู่อาศัยต้องการให้มีในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน ชุดที่ 2 เป็นแบบสอบถามสำหรับส่งให้ผู้ประกอบธุรกิจในเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ระบุระดับรายได้ จากผลประกอบการในปัจจุบัน เหตุผลในการทำธุรกิจในเขตเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ รวมถึงปัญหา ความท้าทายด้านต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบธุรกิจกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน • สัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักในชุมชนเพื่อให้ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและให้ข้อเสนอแนะ • จัดทำข้อเสนอแนะและสรุปผลการวิจัย ภาพหน้าซ้าย : ประชาชนในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ร่วมฉลองวันชาติสหรัฐอเมริกา วันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 ที่มาภาพ : The 4th of July in Riverside, Illinois, 2021 https://igrewupinriversideillinois.blogspot.com/2021/07/the-4th-of-july-in-riverside-illinois.html

หน้า 1

หลังจากเสร็จสิ้นการวิจัย คณะผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะหลัก 8 ประการ ดังต่อไปนี้ 1. เทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ควรกำหนดเขตพื้นที่ระดมทุนจากส่วนเพิ่มภาษี (Tax Increment Financing: TIF) แบบวัตถุประสงค์เดียวในย่านศูนย์กลางธุรกิจ 2. พัฒนาและบังคับใช้มาตรฐานการแบ่งโซนนิ่งของพื้นที่ (Zoning Standard) ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้นเพื่อเป็นการ ให้รางวัลแก่เจ้าของที่ดิน อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการเก็งกำไรจากการถือครองทรัพย์สิน "นอกตลาด" และ เพื่อไม่ให้มีการละเลยการบำรุงรักษาที่ดินและอาคาร 3. ออกพันธบัตรขนาดเล็กเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้ดีขึ้นและดำเนินการพัฒนาทรัพย์สินใหม่ของชุมชน เพื่อให้มีการใช้งานอาคารตลอดอายุของพันธบัตร 4. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการการตลาดของหอการค้าเพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านผ่าน ช่องทางการตลาดในพื้นที่ 5. ติดตั้งป้ายบอกทางบนแยกถนนฮาร์เล็มตัดกับถนนเบอร์ลิงตัน และบนแยกถนนเดสเพลนส์ตัดกับถนนที่ 26 เพื่อนำไปยัง "ย่านการค้าประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์” 6. สร้างความร่วมมือกับองค์กรทางวัฒนธรรมที่ไม่แสวงกำไรในชิคาโกเพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะช่วยเพิ่ม มูลค่าทางเศรษฐกิจมาสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน 7. สำรวจโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่จะดึงดูดผู้ค้าปลีกและผู้อยู่อาศัย เช่น มีจุดฮอตสปอตอินเทอร์เน็ต ไร้สายสาธารณะทั่วย่านศูนย์กลางธุรกิจ 8. ปรับปรุงมาตรฐานการออกแบบชุมชนเมืองเพื่อสร้างลักษณะเฉพาะที่มีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์สำหรับ ย่านศูนย์กลางธุรกิจ ทั้งนี้ คณะผู้ศึกษาเชื่อมั่นว่าหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีเหตุผลสนับสนุนทุกประการที่จะมองเห็นอนาคตที่ดี ของย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน วิสัยทัศน์ของคณะผู้ศึกษา คือ พื้นที่ที่พลุกพล่านและเฟื่องฟูด้วยการรวมตัวกัน ของร้านค้าปลีกที่มีอยู่เดิมและร้านค้าใหม่ ๆ ที่เข้ามาตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้อยู่อาศัยและกลุ่มลูกค้า ผู้ร่ำรวยที่มาจากชุมชนอื่น ๆ โดยรอบ ประกอบกับการมีกิจกรรมพิเศษที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของสำนักงานสวน สาธารณะ ห้องสมุดประชาชน องค์กรทางวัฒนธรรม องค์กรประวัติศาสตร์ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

หน้า 2

ภาพฤดูใบไม้ร่วง เดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2019 ที่มาภาพ : https://igrewupinriversideillinois.blogspot.com/2019/10/in-photos-fall-2019-in-riverside.html

หน้า 3

2. บทนำ 2.1 ภาพรวมพื้นที่ศึกษา หมู่บ้านมรดกริมน้ำที่ชื่อ "วิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ (Village of Riverside)" มีที่ตั้งชุมชนขนานไปกับแม่น้ำเดสเพลนส์ (Des Plaines River) อยู่ห่างจากใจกลางเมืองชิคาโกด้านตะวันตกเป็นระยะทาง 10 ไมล์ การวางผังชุมชนได้รับการ ออกแบบโดยเฟรเดอริก ลอว์ โอล์มสเต็ด (Frederick Law Olmsted) ในปี ค.ศ. 1869 ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในชุมชน ของสหรัฐอเมริกาที่มีการวางผังออกแบบในยุคแรก ผังการออกแบบชุมชนของเฟรเดอริก ลอว์ โอล์มสเต็ดครอบคลุมพื้นที่ 1,600 เอเคอร์ ประกอบด้วยถนนคดเคี้ยวที่ จัดวางตามเส้นชั้นความสูงทางธรรมชาติของพื้นโลก พื้นที่เปิดโล่ง บ้านเรือนของคนในหมู่บ้านมีขนาดและรูปแบบทาง สถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน ย่านศูนย์กลางธุรกิจมีบรรยากาศรื่นรมย์คล้ายสวนสาธารณะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์สามารถคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ โดยในปี ค.ศ. 1970 หมู่บ้านมรดกริมน้ำ วิลเลจออฟริเวอร์ไซด์แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นย่านสำคัญทางประวัติศาสตร์ระดับชาติของสหรัฐอเมริกา จนถึง ทุกวันนี้ ประชาชนผู้อยู่อาศัยมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในความสำคัญทางประวัติศาสตร์และความสวยงามอันเป็น เอกลักษณ์ที่ดึงดูดใจ ย่านศูนย์กลางธุรกิจของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ตั้งอยู่โดยรอบสถานีรถไฟริเวอร์ไซด์ (Riverside Station) และหอเก็บน้ำ (Tower House) ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน อีกทั้งยังมีอาคารสาธารณะ เช่น ห้องสมุด ประชาชน ศาลาเทศบาล สถานีตำรวจ และมีการผสมผสานระหว่างพื้นที่โล่งและอาคารพาณิชย์ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ การก่อตั้งหมู่บ้านจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม หลายปีที่ผ่านมาธุรกิจและร้านค้าขนาดเล็กจำนวนมากที่ให้บริการแก่ กลุ่มลูกค้าหลักซึ่งเป็นประชาชนผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านต้องปิดกิจการลง ทำให้เกิดอาคารพาณิชย์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จำนวนมาก ประชาชนผู้อยู่อาศัยมีความเห็นว่าทางเลือกในการจับจ่ายซื้อของมีไม่มาก เจ้าของธุรกิจกังวลเกี่ยวกับ จำนวนผู้ซื้อที่มีน้อยเกินไป ส่วนสมาชิกสภาหมู่บ้านมีความเห็นว่ารายได้จากภาษีการค้าปลีกต่ำกว่าศักยภาพที่ควรเป็น คุณปีเตอร์ สกาเลอร่า ผู้จัดการเมืองของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ได้ทำสัญญากับมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์แห่ง ชิคาโกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี ค.ศ. 2012 เพื่อให้นิสิตปริญญาโทหลักสูตรการบริหารรัฐกิจจัดทำโครงการวิจัยเพื่อ บูรณาการความรู้ (Capstone Project) ดังนี้ 1) จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นของผู้นำชุมชน ผู้นำภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ 2) เปรียบเทียบกิจกรรมด้านพาณิชยกรรมย่านศูนย์กลางธุรกิจในเขตเทศบาลหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์กับ เทศบาลอื่น ๆ

หน้า 4

ผลการวิจัยของคณะผู้ศึกษาได้ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาย่านศูนย์กลางธุรกิจเพื่อให้เกิดพื้นที่จุดรวมตัว ของประชาชนผู้อยู่อาศัย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้มาเยือน รวมทั้งสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เทศบาล วิลเลจออฟริเวอร์ไซด์จากการเก็บภาษีการค้า โดยข้อเสนอแนะต่าง ๆ เหล่านี้จะนำไปสู่การสร้างแผนยุทธศาสตร์ ซึ่งเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ร่วมกับสำนักงานวางแผนมหานครชิคาโก (Chicago Metropolitan Agency for Planning: CMAP) กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน การจราจร การพัฒนาด้านพาณิชยกรรม และการค้าปลีก การจัดโซนนิ่งพื้นที่ และการสร้างความเติบโตด้านเศรษฐกิจ

2.2 โครงสร้างรายงานวิจัย รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อระบุประเด็นสำคัญที่สำนักงานวางแผนมหานครชิคาโก (Chicago Metropolitan Agency for Planning: CMAP) ยังไม่ได้ทำการศึกษา โครงสร้างรายงานวิจัยมีดังนี้ ความเป็นมาและประวัติศาสตร์ของพื้นที่ : เนื้อหาส่วนนี้มาจากการสำรวจข้อมูลประชากรของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ ทบทวนการก่อตั้งชุมชนชานเมือง ที่ได้รับการวางแผนไว้ในยุคแรกของสหรัฐอเมริกา อธิบายการวางผังของเฟรเดอริก ลอว์ โอล์มสเต็ดสำหรับการ สร้าง "ชุมชนในสวน" และสรุปประวัติย่อของชุมชนที่มีอายุมากกว่า 140 ปี แผนงานและวัตถุประสงค์โครงการ : สรุปขอบเขตของงานและสิ่งที่คณะผู้ศึกษาได้รับมอบหมายให้ทำการสำรวจค้นคว้าให้สำเร็จ โดยแสดงรายการ ส่วนประกอบหลักของโครงการ ข้อมูลที่ตั้งชุมชนและสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ : ทบทวนลักษณะทางกายภาพของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ โครงสร้างพื้นฐาน และความสำคัญทาง ประวัติศาสตร์ของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ การวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ : ตรวจสอบภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ รวมถึงการเปรียบเทียบกับเทศบาลอื่นอีก 2 แห่ง คือ เทศบาลลาเกร็นจ์ (La Grange) และเทศบาลบรู๊คฟิลด์ (Brookfield) รัฐอิลลินอยส์ ผลการสำรวจและการสัมภาษณ์ : อธิบายผลจากการสัมภาษณ์และการออกแบบสอบถามที่ใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการให้ข้อเสนอแนะที่ปรากฏ ในรายงานฉบับนี้ โดยแสดงผลลัพธ์เชิงปริมาณ ผลลัพธ์เชิงคุณภาพ และตีความสิ่งที่ค้นพบ

หน้า 5

บทวิเคราะห์และข้อเสนอแนะ : ระบุหัวข้อหลักที่ใช้ในการทำงานวิจัยและข้อเสนอแนะสำหรับการพัฒนาย่านศูนย์กลางธุรกิจ โดยคำนึงถึง ทรัพยากรที่จำกัด ความจำเป็นสำหรับการลงฉันทามติของสภาหมู่บ้าน และการเคารพในความสำคัญทาง ประวัติศาสตร์ของย่านศูนย์กลางธุรกิจ สรุป : เสนอการวิเคราะห์เชิงอัตนัยจากคณะผู้ศึกษาเกี่ยวกับอนาคตของย่านศูนย์กลางธุรกิจ และกระบวนการวางแผน เชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องโดยร่วมมือกับสำนักงานวางแผนมหานครชิคาโก (Chicago Metropolitan Agency for Planning: CMAP)

ภาพกิจกรรมงานเทศกาล The 45th Annual Riverside Holiday Stroll ในหมู่บ้าน เดือนธันวาคม ค.ศ. 2019 ที่มาภาพ : https://www.rblandmark.com/2019/12/10/photos-riverside-and-brookfield-2019-holiday-celebrations/ ?utm_source=FacebookShare&utm_medium=FacebookShare&utm_campaign=FacebookShare

หน้า 6

ภาพฤดูหนาว เดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2020 ที่มาภาพ : https://igrewupinriversideillinois.blogspot.com/2020/01/riverside-illinois-this-month-in.html

หน้า 7

3. ความเป็นมาและประวัติศาสตร์ของพื้นที่ 3.1 ด้านประชากรศาสตร์ การสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2010 รายงานว่า เทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ มีประชากรจำนวน 8,875 คน ลักษณะทางเชื้อชาติของประชาชนในเขตเทศบาลประกอบด้วย ประชากร ผิวขาว 91.3% และประชากรเชื้อสายฮิสแปนิกหรือลาติน 10.5% 57.1% ของจำนวนประชากรทั้งหมดมีการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า 81.5% ของผู้อยู่อาศัยถือครองกรรมสิทธิ์บ้านของตนเอง มูลค่าราคาบ้านโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 430,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14.42 ล้านบาท ในขณะที่รายได้ ครัวเรือนเฉลี่ยอยู่ที่ 86,875 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี หรือประมาณ 2.91 ล้านบาท/ปี (อัตราแลกเปลี่ยนธนาคาร แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2564: 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 33.51 บาท) หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ จำนวนประชากร

รัฐอิลลินอยส์

8,875 คน (ค.ศ. 2010) 12,869,257 คน (ค.ศ. 2011)

เปอร์เซ็นต์ประชากรผิวขาว

91.3%

71.5%

เปอร์เซ็นต์ประชากรเชื้อสายฮิสแปนิก/ลาติน

10.5%

15.8%

การศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า

57.1%

30.0%

กรรมสิทธิ์บ้าน

81.5%

69.2%

มูลค่าราคาบ้านโดยเฉลี่ย

$430,400

$202,500

รายได้ครัวเรือนโดยเฉลี่ย

$86,875

$55,735

ตามผังการออกแบบของเฟรเดอริก ลอว์ โอล์มสเต็ด บ้านทุกหลังจะต้องอยู่ห่างจากแนวถนนเพียงพอในการปลูก ต้นไม้ใหญ่และมีสนามหญ้ากว้าง ๆ หน้าบ้านเพื่อสร้างบรรยากาศการมีบ้านท่ามกลางสวนสาธารณะที่ร่มรื่น ที่มาภาพ : https://www.olmstedsociety.org/resources/maps-of-riverside/ หน้า 8

3.2 ประวัติศาสตร์ของพื้นที่ หมู่บ้านมรดกริมน้ำวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ได้รับการออกแบบในปี ค.ศ. 1869 โดยเฟรเดอริก ลอว์ โอล์มสเต็ด (Frederick Law Olmsted) จากบันทึกของกรมอุทยานแห่งชาติ (National Parks Service) โอล์มสเต็ดได้รับการ ยกย่องว่าเป็นผู้ก่อตั้งด้านภูมิสถาปัตยกรรมของสหรัฐอเมริกาและผู้สร้างสวนสาธารณะระดับแนวหน้าของประเทศ เขาเป็นที่รู้จักเนื่องจากได้รับมอบหมายให้ทำการออกแบบสวนสาธารณะหลักที่สำคัญของเมืองต่าง ๆ ที่กำลังเจริญ เติบโต ผลงานการออกแบบสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีที่สุด คือ สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค ในมหานครนิวยอร์ก ส่วนผลงานการออกแบบสวนสาธารณะในเมืองชิคาโก้ของเขา ได้แก่ สวนสาธารณะมาร์แก ตต์พาร์ค สวนสาธารณะแจ็คสันพาร์ค และการออกแบบภูมิทัศน์ในวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยชิคาโก โอล์มสเต็ดทำการออกแบบผังชุมชนชานเมืองหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ จำนวนพื้นที่ 1,600 เอเคอร์ แนวถนน เป็นเส้นโค้งคดเคี้ยวคล้ายลักษณะเส้นทางของแม่น้ำเดสเพลนส์ ซึ่งจัดวางตามระนาบรูปทรงธรรมชาติของระดับ พื้นโลก หมู่บ้านมีพื้นที่เปิดโล่ง บ้านเรือนที่สร้างขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีขนาดและรูปแบบทางสถาปัตยกรรม ที่แตกต่างกันออกไป ย่านศูนย์กลางเมืองและย่านธุรกิจมีที่ตั้งประหนึ่งตั้งอยู่ในสวน

ผังการออกแบบชุมชนชานเมืองหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ โดย Olmsted, Vaux & Co. Landscape Architects ในปี ค.ศ. 1869 ที่มาภาพ : https://www.olmstedsociety.org/resources/maps-of-riverside/ หน้า 9

เมื่อโอล์มสเต็ดได้ทำการสำรวจพื้นที่เป็นเวลา 5 วัน เขาพบว่าความงามตามธรรมชาติของแม่น้ำเดสเพลนส์เป็นสิ่งที่ ควรดำรงรักษาไว้ เขาจึงออกแบบผังชุมชนชานเมืองแห่งนี้ให้มีเส้นทางถนนคดเคี้ยวเหมือนการไหลของแม่น้ำ โดยให้ ระดับถนนอยู่ต่ำกว่าระดับสนามหญ้าตามระนาบผืนดินทางธรรมชาติ เมื่อมีรถวิ่งผ่านและมองจากระยะไกลจะเห็น เหมือนแนวถนนหายไปและรถวิ่งบนผืนหญ้า ที่มาภาพ : http://www.riversidemuseum.net/videos.html หน้า 10

ขณะที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1869 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกากำลังเจริญ เติบโตอย่างรวดเร็ว ได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในเมืองชิคาโก เป็นผลให้ครอบครัวที่ร่ำรวยจำนวนมาก ย้ายมาสร้างบ้านหลังใหญ่เป็นจำนวนมากนอกเมืองชิคาโกที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ นอกจากนี้ ยังมีการสร้าง โรงแรม จำนวน 1 แห่ง อาคารเทศบาลและอาคารพาณิชย์หลายแห่งตามผังการออกแบบของโอล์มสเต็ด ภายหลัง มีผลงานสถาปัตยกรรมของสถาปนิกชื่อดังก้องโลก เช่น แฟรงก์ ลอยด์ ไรต์ หลุยส์ ซัลลิแวน และวิลเลียม เลอ บารอน เจนนี่ ตั้งตระหง่านอยู่ในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์จนถึงทุกวันนี้อีกด้วย หมายเลข 2 Water Tower ออกแบบโดย วิลเลียม เลอ บารอน เจนนี่

หมายเลข 3 Coonley Residence โดย แฟรงก์ ลอยด์ ไรต์

หมายเลข 1 F.F. Tomek House ออกแบบโดย แฟรงก์ ลอยด์ ไรต์

หมายเลข 4 Coonley Playhouse โดย แฟรงก์ ลอยด์ ไรต์

ที่มา : https://www.riverside.il.us/DocumentCenter/View/69/Wright-in-Riverside-PDF?bidId= ที่มาภาพ : https://www.flickr.com หน้า 11

ต่อมา หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ได้เติบโตขึ้นอย่างช้า ๆ เป็นเวลาหลายปี ต้นปี ค.ศ. 1920 เริ่มมีการก่อสร้าง บ้านขนาดกลางเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งปี ค.ศ. 1960 การก่อสร้างบ้านได้ดำเนินการครบจำนวนตามผังหมู่บ้านที่ โอล์มสเต็ดได้ออกแบบไว้ อย่างไรก็ตาม จำนวนประชากรจากยุคนั้นจนถึงปัจจุบันยังมีจำนวนคงที่ ในปี ค.ศ. 1970 หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นย่านสำคัญทางประวัติศาสตร์ระดับชาติของสหรัฐอเมริกา และได้รับการบันทึกไว้ว่า "หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์เป็นชุมชนต้นแบบแห่งแรกในประเทศที่ได้รับการวางแผนไว้ ให้มีพื้นที่เปิดโล่งและสวนสาธารณะเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในเมือง" จวบจนทุกวันนี้ หมู่บ้านมรดกริมน้ำวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ยังคงภาคภูมิใจในความสำคัญทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน และประชาชนผู้อยู่อาศัยต่างมุ่งมั่นที่จะรักษาความงามตามธรรมชาติของที่ตั้งและความรู้สึกการเป็นเจ้าของชุมชน ร่วมกันที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นแรงบันดาลใจ อาคารบ้านเรือน พื้นที่ละแวกบ้านของชุมชน สวนสาธารณะ และอาคาร เทศบาลได้รับการดูแลเป็นอย่างดี อาคารพาณิชย์หลายแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารที่มีเจ้าของครอบครองแสดงถึง ความก้าวหน้าทางประวัติศาสตร์เป็นระยะเวลามากกว่า 140 ปี ได้รับการบำรุงรักษาอย่างพิถีพิถัน หมู่บ้านมีรถไฟ BNSF Metra วิ่งผ่านและหยุดที่ป้ายสถานีริเวอร์ไซด์จำนวนความถี่หลายครั้งต่อวัน โดยตัวอาคารสถานีรถไฟทำจาก หินแกรนิตสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1901 ห้องสมุดประชาชนที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1931 ยังคงมีประชาชนเข้ามา ใช้ห้องสมุดอย่างพลุกพล่าน คึกคัก เนื่องจากทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมกิจกรรมของชุมชนด้วย สวนสาธารณะและพื้นที่ สันทนาการได้ถูกใช้จัดกิจกรรมดำเนินโครงการที่ประสบความสำเร็จหลายอย่างเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่โดยรอบอาคาร หอเก็บน้ำประวัติศาสตร์ซึ่งออกแบบโดยวิลเลียม เลอ บารอน เจนนี่ และสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1870 มีศาลากลาง หมู่บ้านซึ่งเป็นอาคารเทศบาลที่ใหญ่ที่สุดตั้งเด่นชัดและรายล้อมด้วยอาคารพาณิชย์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จำนวน 4 แห่ง ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1890 - ค.ศ. 1914

เส้นขอบฟ้าของเมืองชิคาโก้ซึ่งอยู่ห่างออกไป 10 ไมล์ สามารถเห็นได้จากทางตะวันออกของหมู่บ้าน ที่มาภาพ : https://interactive.wttw.com/ten/towns/riverside หน้า 12

ที่มาภาพ : https://igrewupinriversideillinois.blogspot.com/2019/05/historic-homes-of-riverside-illinois.html หน้า 13

4. วัตถุประสงค์โครงการ รายงานวิจัยฉบับนี้จะช่วยยืนยันว่าแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ซึ่งเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์และสำนักงาน วางแผนมหานครชิคาโก (CMAP) กำลังร่วมกันดำเนินการพัฒนาจะนำไปสู่การเติบโตและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ในอนาคต โดยผู้จัดการของหมู่บ้านและสภาหมู่บ้านได้วางวิสัยทัศน์สำหรับย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านวิลเลจ ออฟริเวอร์ไซด์ ไว้ดังต่อไปนี้ เป็นจุดนัดพบสำหรับประชาชนผู้อยู่อาศัย เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้มาเยือน และ เป็นแหล่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากภาษีการค้าเพื่อลดการพึ่งพาภาษีอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ดังกล่าว คณะผู้ศึกษาได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้ ทำการสำรวจธุรกิจที่มีอยู่เดิมรวมถึงข้อมูลทางเศรษฐกิจและข้อมูลธุรกิจ อันประกอบด้วย รูปแบบประชากร ลักษณะกิจกรรมทางธุรกิจ รูปแบบการจับจ่ายซื้อสินค้าในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ออกแบบสอบถาม จำนวน 2 ชุด และนำไปใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ ชุดที่ 1 เป็นแบบสอบถามสำหรับส่งให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยในเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ระบุระดับความ พึงพอใจการให้บริการชุมชนต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันและร่วมกำหนดประเภทของธุรกิจที่ประชาชน ผู้อยู่อาศัยต้องการให้มีในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ชุดที่ 2 เป็นแบบสอบถามสำหรับส่งให้ผู้ประกอบธุรกิจในเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ระบุระดับรายได้ จากผลประกอบการในปัจจุบัน เหตุผลในการทำธุรกิจในเขตเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ และปัญหา ความท้าทายด้านต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบธุรกิจกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน สัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักของหมู่บ้านเพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและให้ข้อเสนอแนะ จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อเพิ่มกิจกรรมทางธุรกิจและรายได้ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ

กิจกรรมการค้าย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ในปัจจุบัน ค.ศ. 2021 ที่มาภาพ : https://www.riverside.il.us/320/Starting-a-Business

หน้า 14

การตกแต่งภูมิทัศน์เมืองช่วงเทศกาลคริสมาสต์ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ เดือนธันวาคม 2019 ที่มาภาพ : https://igrewupinriversideillinois.blogspot.com/2019/12/christmas-day-around-riverside-illinois.html

หน้า 15

5. ที่ตั้งและสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ 5.1 ที่ตั้ง หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์เป็นหมู่บ้านชานเมืองชิคาโกที่มีความมั่งคั่งในเทศมณฑลคุ๊ก เคาน์ตี้ รัฐอิลลินอยส์ พื้นที่ส่วนสำคัญของหมู่บ้านคือย่านภูมิสถาปัตยกรรมซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ แห่งชาติของสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1970 จากการสำรวจสำมะโนประชากรในปี ค.ศ. 2000 หมู่บ้านมีประชากร จำนวน 8,895 คน ที่ตั​ั้งของหมู่บ้านอยู่ห่างจากตัวเมืองชิคาโกไปทางตะวันตกประมาณ 10 ไมล์ และมีพื้นที่อยู่ห่าง นอกเขตเมืองชิคาโก้อีก 2 ไมล์

แผนที่แสดงที่ตั้งหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ ที่มา : https://www.riverside.il.us/DocumentCenter/View/891/CMAP-Plan-for-Riversides-CentralBusiness-District-PDF

หน้า 16

5.2 ภูมิศาสตร์ หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ตั้งอยู่ที่ 41°49′51″N, 87°48′58″W. จากข้อมูลของสำนักการสำรวจสำมะโนประชากร แห่งสหรัฐอเมริกา มีพื้นที่ทั้งหมด 2.04 ตารางไมล์ (5.3 ตารางกิโลเมตร) โดยเป็นที่ดิน จำนวน 2.0 ตารางไมล์ (5.2 ตารางกิโลเมตร) และอีก 0.04 ตารางไมล์ (0.10 ตารางกิโลเมตร หรือ 1%) ของหมู่บ้านเป็นพื้นที่แม่น้ำเดสเพลนส์ (Des Plaines River) ที่ไหลผ่านหมู่บ้าน หมู่บ้านชานเมืองที่มีพรมแดนติดกัน ได้แก่ หมู่บ้านนอร์ธริเวอร์ไซด์ หมู่บ้านเบอร์วิน หมู่บ้านบรู๊คฟิลด์ และหมู่บ้านไลออนส์

5.3 การคมนาคมขนส่ง การบริการขนส่งสาธารณะไปยังหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์สามารถเดินทางได้โดย 1) รถไฟสาย BNSF จากสถานีรถไฟยูเนี่ยน สเตชั่น (Union Station) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองชิคาโก มายังสถานีรถไฟริเวอร์ไซด์ (Riverside Station) จะใช้เวลาเดินทาง 19 นาที และ 2) บริการรถโดยสารในพื้นที่ คือ ระบบรถบัส PACE สนามบินที่ใกล้ที่สุดคือสนามบิน Chicago Midway Airport ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 10 นาที ในขณะที่หากเดินทางไปสนามบินนานาชาติ Chicago O'Hare Airport ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 19 นาที หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีทางหลวงหลัก 3 สาย ได้แก่ ถนนสาย I-290 ถนนสาย I-55 และถนนสาย I-88

ที่มาภาพ : https://www.riverside.il.us/320/Starting-a-Business หน้า 17

5.4 สถาปัตยกรรมอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ได้รับการออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของผังการออกแบบ หมู่บ้านของโอล์มสเต็ดในปี ค.ศ. 1869 หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์เป็นชุมชนต้นแบบแห่งแรกในประเทศของ สหรัฐอเมริกาที่ได้รับการวางแผนชุมชนให้มีพื้นที่เปิดโล่งและสวนสาธารณะเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในเมือง อาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เป็นจุดหมายตาในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน ได้แก่ อาคารหอส่งน้ำ (Water Tower) อาคารพาณิชย์ริเวอร์ไซด์สโตร์ ศาลาว่าการเทศบาล (Riverside Township Hall) และห้องสมุด ประชาชน (Riverside Public Library) ที่มาภาพถ่ายทางอากาศ : https://www.google.com/maps ที่มาภาพ : วันเรารวี ธนกัญญา ถ่ายเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2012 Water Tower

Riverside Store

Riverside Township Hall Riverside Station

Riverside Public Library Des Plaines River

หน้า 18

ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ในปี ค.ศ. 2012 สภาพค่อนข้างเงียบเหงา

Riverside Garage

ร้านกาแฟในสถานีรถไฟ Riverside Station

Cleaner & Tailors

Aunt Diana's

ที่มาภาพถ่ายทางอากาศ : https://www.google.com/maps ที่มาภาพ : วันเรารวี ธนกัญญา ถ่ายเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2012

Riverside Bank

Medical Clinic

Beauty Salon

Riverside Foods

PNC Bank

หน้า 19

5.4.1 สภาพอาคาร อาคารในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์อยู่ในสภาพดี มีความสะอาดและได้รับการดูแล รักษาอย่างดี อย่างไรก็ตาม อาคารพาณิชย์บางแห่งทั้งหลังยังว่างไม่มีการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารที่อยู่ ริมถนนมีอัตราว่างของการใช้พื้นที่ระดับสูง

5.4.2 คุณภาพทัศนวิสัยทางสายตา การจัดภูมิทัศน์ชุมชน อุปกรณ์ประกอบถนน โคมไฟส่องสว่าง และการปลูกพืชพันธุ์ต่าง ๆ ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ที่ช่วยส่งเสริมทัศนียภาพอาคารที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ได้รับการดูแล รักษาเป็นอย่างดี องค์ประกอบทางภูมิทัศน์เหล่านี้ช่วยขับเน้นให้อาคารพาณิชย์ที่มีอายุยาวนานมีความโดดเด่น แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะทางสถาปัตยกรรมที่มีความหลากหลายและลักษณะสภาพพื้นที่ทางธรรมชาติ ทั้งนี้ คณะผู้ศึกษามีความเห็นว่าการปรับปรุงองค์ประกอบการภูมิทัศน์ให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น เช่น การมีป้ายบอก ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ เพิ่มการปลูกต้นไม้และพืชพันธุ์ ปรับปรุงคุณภาพของทางเดินเท้า ฯลฯ จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ ให้ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านมีภาพลักษณ์ที่น่าดึงดูดใจให้เข้ามาทำกิจกรรมและใช้พื้นที่มากขึ้น

5.4.3 เครือข่ายถนนและที่จอดรถ เครือข่ายถนนภายในหมู่บ้านมาจากการออกแบบวางผังชุมชนดั้งเดิมของ โอล์มสเต็ดในปี ค.ศ. 1869 จากการสำรวจพื้นที่ในปี ค.ศ. 2012 พบว่า การจราจรติดขัดเล็กน้อยช่วงเวลาเร่งด่วนในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งหากกิจการ ด้านพาณิชยกรรมมีการขยายตัวมากขึ้นอาจจำเป็นต้องมีสัญญาณไฟจราจรเพื่อ ช่วยควบคุมการไหลของการจราจร นอกจากนี้ ปริมาณที่จอดรถในหมู่บ้าน มีจำกัดแต่ยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน คณะผู้ศึกษาจึงเห็นว่า หากกิจการค้าปลีกในย่านศูนย์กลางธุรกิจมีการเติบโตมากขึ้น เทศบาลควร พิจารณาเพิ่มที่จอดรถให้เพียงพอต่อการใช้งานในอนาคต ที่มาภาพ : วันเรารวี ธนกัญญา ถ่ายเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 หน้า 20

เทศบาลดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ชุมชนในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2016 ที่มาภาพ : https://www.flickr.com/photos/riversideil/albums/72157667582675020/with/26348873443/

ภาพถ่ายภูมิทัศน์ชุมชนในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2017 ที่มาภาพ : https://www.flickr.com/photos/riversideil/albums/72157692784045111 หน้า 21

6. การวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ 6.1 ลักษณะทางเศรษฐกิจ ลักษณะทางเศรษฐกิจของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมการค้าปลีกเป็นอย่างมาก โดยกิจกรรม ทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่มีการกระจุกตัวในย่านศูนย์กลางธุรกิจตามแนวถนนฮาร์เล็ม จากแผนภูมิแท่งด้านล่างที่แสดงการเปรียบเทียบจำนวนสถานประกอบการแต่ละประเภทของหมู่บ้าน 3 แห่ง คือ หมู่บ้านบรู๊คฟิลด์ หมู่บ้านลาเกรนจ์ และหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ พบว่า หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีจำนวน สถานประกอบการค้าปลีกมากกว่าหมู่บ้านบรู๊คฟิลด์และหมู่บ้านลาเกรนจ์เป็นสองเท่า รวมทั้งยังมีประสิทธิภาพของ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจให้เช่าอาคารและทรัพย์สินสูงกว่า อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาสถานประกอบการค้าปลีก เป็นส่วนใหญ่ยังหมายความว่าส่วนแบ่งการตลาดของภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับหมู่บ้าน ใกล้เคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจการก่อสร้าง ธุรกิจการผลิต ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ และธุรกิจการให้บริการ วิชาชีพเฉพาะ การขาดความหลากหลายนี้แสดงให้เห็นถึงการกระจายฐานภาษีที่ไม่เพียงพอและน่าเป็นห่วง

หน้า 22

6.2 การวิเคราะห์ธุรกิจการค้าปลีก การวิเคราะห์ในส่วนนี้เป็นการตรวจสอบภาพรวมเศรษฐกิจการค้าปลีกของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ใน สถานประกอบการตามแนวถนนฮาร์เล็มและในย่านศูนย์กลางธุรกิจใจกลางเมือง โดยเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย เป็นเปอร์เซ็นต์ของธุรกิจแต่ละประเภทระหว่างภาพรวมทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา รัฐอิลลินอยส์ และ หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ จากแผนภูมิแท่งด้านล่างแสดงให้เห็นว่าธุรกิจค้าปลีกของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีความหลากหลายน้อยกว่า ธุรกิจค้าปลีกของรัฐอิลลินอยส์และของประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากขนาดพื้นที่ของหมู่บ้านมีสเกลเล็กกว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้อาจเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาประกอบการในพื้นที่และเติบโตมากขึ้น อาทิ สถานีบริการน้ำมัน ร้านวัสดุก่อสร้างอาคารและสวน ร้านขายสินค้าตกแต่งบ้าน และร้านอาหาร นอกจากนี้ ธุรกิจ ในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ที่มีผลประกอบการที่ดีอยู่แล้วและมีสัดส่วนการตลาดดีอยู่แล้วจะมาจากร้านขาย สินค้ากีฬา ร้านขายสินค้าจิปาถะ ธุรกิจด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านขายเสื้อผ้า และเครื่องประดับ

หน้า 23

แผนภูมิแท่งนี้แสดงยอดการค้าปลีกทั้งหมดของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์เปรียบเทียบกับหมู่บ้านอีกสองแห่ง ในเขตเทศบาลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง คือ หมู่บ้านลาเกรนจ์ (La Grange) และหมู่บ้านบรู๊คฟิลด์ (Brookfield) เมื่อทำการเปรียบเทียบแล้วจะเห็นได้ว่า ยอดการค้าปลีกของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีมูลค่าสูงที่สุด โดยคู่แข่ง หลักด้านการค้าปลีกของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์คือหมู่บ้านลาเกรนจ์ได้รับประโยชน์จากยอดขายยานยนต์ ร้านขายอาหารและเครื่องดิ่ม และร้านค้าที่ให้บริการด้านอาหารมากกว่า นอกเหนือจากกิจกรรมการค้าปลีก 3 ประเภทดังกล่าวแล้ว หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีประสิทธิภาพทางการค้าปลีกเหนือกว่าหมู่บ้านลาเกรนจ์ และหมู่บ้านบรู๊คฟิลด์ในกิจกรรมการค้าปลีกทุกประเภทและมียอดการค้าปลีกโดยรวมสูงที่สุด

หน้า 24

การจัดงานเทศกาล Holiday Stroll ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน เดือนธันวาคม ค.ศ. 2017 ที่มาภาพ : https://www.flickr.com/photos/riversideil/albums/72157689204406581/with/38832589431/ หน้า 25

7. ผลการสำรวจความคิดเห็นและการสัมภาษณ์ ข้อมูลที่ได้จากประชาชนผู้อยู่อาศัย เจ้าของธุรกิจ ผู้บริหารของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ และผู้นำด้านธุรกิจ เป็นขั้นตอนสำคัญในการวิเคราะห์ระดับความพึงพอใจในปัจจุบัน (ค.ศ. 2012) เกี่ยวกับการใช้พื้นที่ย่านศูนย์กลาง ธุรกิจของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ และทำให้ทราบถึงแนวโน้มการเติบโตและการพัฒนาทางธุรกิจที่อาจเกิดขึ้น ในอนาคต คณะผู้ศึกษาใช้วิธีวิจัย 2 วิธี ได้แก่ การสำรวจเชิงปริมาณสำหรับประชาชนผู้อยู่อาศัยและเจ้าของธุรกิจ โดยใช้แบบสอบถาม และการสำรวจเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่

7.1 การออกแบบสอบถามสำหรับประชาชนผู้อยู่อาศัย 7.1.1 ระเบียบวิธีวิจัย คณะผู้ศึกษาได้ทำการทดสอบแบบสอบถามสำหรับประชาชนผู้อยู่อาศัยและเจ้าของธุรกิจโดยใช้การตอบ แบบสอบถามด้วยวิธีสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูล จำนวน 10 คน เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2012 หลังจากแก้ไขข้อคำถามแล้ว คณะผู้ศึกษาได้นำส่งให้แก่สำนักงานผู้จัดการเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์เพื่อส่งต่อให้กับประชาชนและเจ้าของ ธุรกิจที่เคยสมัครรับข้อมูลข่าวสารจากเทศบาลทางอีเมล์ จำนวน 1,297 ชื่ออีเมล์ แบบสอบถามดังกล่าวประกอบ ด้วย 10 ข้อคำถามเกี่ยวกับการใช้พื้นที่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน และความต้องการให้ย่านศูนย์กลางธุรกิจ ของหมู่บ้านปรับปรุงเพิ่มเติมการให้บริการ เช่น ความถี่การใช้พื้นที่ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการจับจ่ายซื้อของแต่ละครั้ง ร้านค้าที่ชอบเข้าไปซื้อของบ่อย และข้อมูลด้านประชากรของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยแบบสอบถามออนไลน์เปิดให้ ประชาชนผู้อยู่อาศัยและเจ้าของธุรกิจทำการตอบระหว่างวันที่ 7 - 26 มีนาคม 2012 ซึ่งไม่มีข้อคำถามใดบังคับให้ ตอบเพื่อให้คณะผู้ศึกษาสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากร้อยละที่ทำให้ได้รับคำตอบที่แม่นยำมากขึ้น จำนวนข้อคำถาม ทั้งหมดปรากฎในภาคผนวก 7.1.2 ข้อจำกัดในการใช้แบบสอบถาม เนื่องจากการส่งแบบสอบถามให้แก่ประชาชนผู้อยู่อาศัยและเจ้าของธุรกิจเป็นการจัดส่งทางอีเมล์ การวิจัยนี้จึงมี ข้อจำกัดหลัก 2 ประการ คือ 1) ประชาชนและเจ้าของธุรกิจที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตที่บ้านอาจไม่ได้ทำการตอบ แบบสอบถาม และ 2) ประชาชนและเจ้าของธุรกิจที่ไม่ได้สมัครรับข้อมูลข่าวสารจากเทศบาลทางอีเมล์อาจไม่ได้ ทำการตอบแบบสอบถาม อย่างไรก็ตาม การจัดส่งแบบสอบถามไปยังประชาชนผู้อยู่อาศัยและเจ้าของธุรกิจ จำนวน 1,100 คน นับเป็น สัดส่วนประชากรที่มีขนาดใหญ่ ทำให้คณะผู้ศึกษามีความมั่นใจว่าจะได้รับข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถามที่มีภูมิหลัง ทางสังคมและทางเศรษฐกิจที่หลากหลายและถือได้ว่าเป็นตัวแทนของผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านโดยเฉลี่ย

หน้า 26

7.1.3 ผลลัพธ์ที่ได้รับ คณะผู้ศึกษาได้รับคำตอบกลับมาจากประชาชนผู้อยู่อาศัยและเจ้าของธุรกิจ จำนวน 423 คน และมีผู้ตอบคำถาม บางส่วนจำนวน 32.6% จากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง อายุระหว่าง 35 - 54 ปี และอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์เป็นระยะเวลา 21 ปี รายละเอียดข้อมูลประชากรปรากฏ ดังตารางด้านล่างนี้ เพศ

จำนวน

ร้อยละ (%)

ชาย

163

38.7 %

หญิง

258

61.3 %

อายุ

จำนวน

ร้อยละ (%)

น้อยกว่า 18 ปี

1

0.2 %

18 - 24 ปี

1

0.2 %

25 - 34 ปี

22

5.2 %

35 - 54 ปี

220

52.1 %

มากกว่า 55 ปี ขึ้นไป

178

42.2 %

จำนวนผู้ตอบแบบสอบถามข้อนี้

422

100.0 %

ระยะเวลาในการอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน

จำนวน

ร้อยละ (%)

1 - 10 ปี

104

26.1 %

11 - 20 ปี

101

25.3 %

21 - 30 ปี

86

21.5 %

31 - 40 ปี

56

14.1 %

41 - 50 ปี

37

9.2 %

51 - 60 ปี

8

2.0 %

มากกว่า 60 ปี ขึ้นไป

7

1.8 %

จำนวนผู้ตอบแบบสอบถามข้อนี้

399

100.0 %

ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศหญิง จำนวน 61.3% และจำนวน 38.7% เป็นเพศชาย ในแง่อายุของผู้ตอบแบบสอบถาม กลุ่มอายุ 35 - 54 ปี เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด จำนวน 52.1% และหากนับรวมผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มอายุ 35 - 54 ปี และกลุ่มอายุ 55 ปี ขึ้นไปเข้าด้วยกัน จะเป็นจำนวน 94.3% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด หมายเหตุ : ข้อมูลที่ได้รับอาจเป็นตัวแทนหรือไม่ใช่ตัวแทนประชากรทั้งหมดของหมู่บ้านก็ได้ ควรมีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ของแบบสอบถามนี้

หน้า 27

คำถามข้อที่ 1 ความพึงพอใจของประชาชนผู้อยู่อาศัยที่มีต่อย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน ผู้ตอบคำถามซึ่งเป็นประชาชนผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านถูกขอให้ระบุระดับความพึงพอใจที่มีต่อ ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน จำนวน 8 ข้อ โดยแบ่งเป็นระดับความพึงพอใจเป็น 4 ระดับ ได้แก่ พึงพอใจ เฉย ๆ ไม่พึงพอใจ และไม่ทราบ รายละเอียดมีดังนี้

1.1 ความสะดวกในการจอดรถและการเข้าถึงพื้นที่ จำนวนร้อยละ 39.5% ตอบว่า "พึงพอใจ"

1.2 ตัวเลือกสินค้าและบริการ จำนวนร้อยละ 76.1% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ"

1.3 ราคาสินค้าและบริการ จำนวนร้อยละ 54.1% ตอบว่า "เฉย ๆ " จำนวนร้อยละ 31.7% ตอบว่า "พึงพอใจ" กลุ่มคนส่วนใหญ่ที่ตอบว่า "เฉย ๆ " อาจแสดงแนวโน้ม ธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่ค่อยพอใจกับราคา แม้ว่าจะมี ราคาถูกเพียงใด (ลองนึกถึงเจ้าของธุรกิจ หากถูกถามว่าภาษีสูงเกินไปใช่หรือไม่ ส่วนใหญ่ แทบจะตอบว่า "ใช่") 1.4 ความปลอดภัย ประชาชนส่วนใหญ่จำนวนร้อยละ 72.6% ตอบว่า "พึงพอใจ"

หน้า 28

1.5 ทัศนียภาพที่ปรากฏในย่านนี้ ประชาชนส่วนใหญ่จำนวนร้อยละ 53.4% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ"

1.6 จำนวนชั่วโมงในการเปิดให้ซื้อสินค้าและบริการ ผู้ตอบคำถามมีความเห็นแตกต่างกัน คนกลุ่มใหญ่ที่สุด จำนวนร้อยละ 39.7% ตอบว่า "เฉย ๆ " ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่ง จำนวนร้อยละ 35.7% ตอบว่า "พึงพอใจ"

1.7 อัตราการเติบโตของย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน ผู้ตอบคำถามจำนวนร้อยละ 84.2% แสดงความคิดเห็น อย่างชัดเจนว่า "ไม่พึงพอใจ" กับอัตราการเติบโตของย่าน

1.8 ภาพรวมความพึงพอใจของประชาชนผู้อยู่อาศัยที่มีต่อ ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน ประชาชนส่วนใหญ่จำนวนร้อยละ 67.4% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ"

หน้า 29

การเข้ามาใช้พื้นที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจของของประชาชนผู้อยู่อาศัยในปัจจุบัน คำถามข้อที่ 2 ท่านซื้อสินค้าและบริการในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านบ่อยแค่ไหน ประชาชนผู้อยู่อาศัยจำนวนรวม 78.2% ตอบว่า ซื้อสินค้าและ บริการในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จำนวนร้อยละ 14.9% ตอบว่า มาซื้อสินค้าและบริการเดือนละครั้ง จำนวนร้อยละ 6.9% ตอบว่า นาน ๆ ครั้งจะมาซื้อสินค้าและบริการ หรือไม่เคยมาซื้อสินค้าและบริการเลย คำถามข้อที่ 3 ท่านใช้จ่ายเป็นจำนวนเท่าใดในการซื้อสินค้าและบริการที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน โดยเฉลี่ยต่อครั้ง

ในการเข้ามาซื้อสินค้าและบริการที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน ประชาชนร้อยละ 57.7% ตอบว่า ใช้จ่ายโดยเฉลี่ยระหว่าง 15-50 ดอลลาร์ / ครั้ง จำนวนร้อยละ 25.8% ตอบว่า ใช้จ่ายโดยเฉลี่ยระหว่าง 51-100 ดอลลาร์ / ครั้ง จำนวนร้อยละ 11.8% ตอบว่า ใช้จ่ายโดยเฉลี่ยน้อยกว่า 15 ดอลลาร์ / ครั้ง และมีจำนวนเพียง 4.7% ที่ตอบว่า ใช้จ่ายมากกว่า 100 ดอลลาร์ / ครั้ง คำถามข้อที่ 4 การพัฒนาย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมมีความสำคัญเพียงใด

ประชาชนผู้ตอบแบบถามจำนวนร้อยละ 75.1% มีความเห็นว่า การพัฒนาย่านธุรกิจใจกลางเมืองของหมู่บ้าน "มีความสำคัญมาก" ต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม จำนวนร้อยละ 21.8% ตอบว่า "ค่อนข้างสำคัญ" และมีจำนวนร้อยละเพียง 3.1% เท่านั้นที่มีความเห็นว่า การพัฒนาย่านธุรกิจใจกลางเมือง "ไม่สำคัญขนาดนั้น"

หน้า 30

คำถามข้อที่ 5 ธุรกิจใหม่ใดต่อไปนี้ที่ท่านอยากเห็นในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน ผู้ตอบแบบสอบถามถูกขอให้เลือกประเภทธุรกิจใหม่ที่พวกเขาต้องการเห็นในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน ซึ่งประชาชนผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับธุรกิจ 3 ประเภท ได้แก่ 1) จำนวนร้อยละ 80.5% ตอบว่า "ร้านอาหาร" 2) จำนวนร้อยละ 53.3% ตอบว่า "ตลาดนัดสินค้าเกษตรจากผู้ผลิต" 3) จำนวนร้อยละ 50.5% ตอบว่า "ร้านกาแฟ" ในแง่ของรูปแบบธุรกิจ ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนร้อยละ 72.6% ต้องการเห็น "ร้านค้าดั้งเดิมที่สืบทอดกันมา ในครอบครัว" มากกว่าธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ที่มีผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวนร้อยละ 34.8%

คำถามข้อที่ 6 ท่านทราบหรือไม่ว่าย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน เป็นเขตอนุรักษ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ จำนวนร้อยละ 87.9% ตอบว่า "ทราบ" คำถามข้อที่ 7 ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านที่เป็นเขตอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ แห่งชาติมีความสำคัญกับท่านใช่หรือไม่ จำนวนร้อยละ 76.3% ตอบว่า "ใช่" หน้า 31

7.2 การออกแบบสอบถามสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ 7.2.1 ระเบียบวิธีวิจัย แบบสอบถามสำหรับผู้ประกอบธุรกิจถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้คำถามที่มีความเหมาะสมกับสภาพประชากรและลักษณะ ทางเศรษฐกิจที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ แบบสอบถามนี้ประกอบด้วยคำถาม จำนวน 16 ข้อ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1) การประเมินธุรกิจของผู้ตอบแบบสอบถาม และ 2) การประเมินนโยบาย และการให้บริการของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ โดยหอการค้าของหมู่บ้านนำส่งให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 112 ราย และเปิดให้ตอบแบบสอบถามได้ตั้งแต่วันที่ 12 - 29 มีนาคม ค.ศ. 2012 7.2.2 ข้อจำกัดในการใช้แบบสอบถาม กลุ่มประชากรที่ตอบแบบสอบถามสำหรับผู้ประกอบธุรกิจมีข้อจำกัดน้อยกว่าแบบสอบถามสำหรับประชาชน ผู้อาศัยในหมู่บ้านเนื่องจากเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่จดทะเบียนธุรกิจทั้งหมดในหมู่บ้าน รวมถึงกิจการทั้งหมด ที่อยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกหอการค้าของหมู่บ้านจะไม่ได้ร่วม ตอบแบบสอบถาม นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจที่ตอบแบบสอบถามบางส่วนเลือกที่จะไม่ตอบคำถามทุกข้อ 7.2.3 ผลลัพธ์ที่ได้รับ แบบสอบถามสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ส่งออกไป จำนวน 112 ชุด ได้รับการตอบกลับ จำนวน 34 ชุด คำถามข้อที่ 1 ธุรกิจของท่านเปิดกิจการในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มาแล้วกี่ปี จำนวนร้อยละ 32% ตอบว่า ธุรกิจของพวกเขาเปิดกิจการมาแล้ว 1 - 5 ปี จำนวนร้อยละ 26% ตอบว่า มากกว่า 30 ปี จำนวนร้อยละ 18% ตอบว่า ระหว่าง 5 - 10 ปี และจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามที่เปิดกิจการในหมู่บ้านเป็นเวลา 11 - 20 ปี และกลุ่มที่เปิดกิจการ เป็นเวลา 20 - 30 ปี มีสัดส่วนร้อยละ 12% เท่ากัน

หน้า 32

คำถามข้อที่ 2 ท่านได้ย้ายกิจการของท่านจากชุมชนอื่นเพื่อมาทำธุรกิจที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ใช่หรือไม่ ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 44.1% (15 คน จากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 34 คน) ย้ายจากชุมชนอื่นเพื่อมาทำธุรกิจที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ โดยผู้ที่ย้ายมาจากเมืองชิคาโก มีจำนวน 40% ผู้ที่ย้ายมาจากหมู่บ้านนอร์ธ ริเวอร์ไซด์ (North Riverside) หมู่บ้านบรู๊คฟิลด์ (Brookfield) และหมู่บ้านมิชิแกน (Michigan) มีจำนวน 13.3% เท่ากัน และที่เหลือย้ายมาจาก ที่อื่น ๆ เช่น หมู่บ้านเบอร์วิน (Berwyn) หมู่บ้านเวสเชสเตอร์ (Westchester) และหมู่บ้านโอ๊คบรู๊ค (Oak Brook)

คำถามข้อที่ 3 ผลประกอบการโดยรวมจากธุรกิจของท่านในปี ค.ศ. 2011 เป็นจำนวนเท่าใด เมื่อถามถึงรายได้รวมของธุรกิจในปี ค.ศ. 2011 ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 54.5% แจ้งว่ามีรายได้น้อยกว่า 250,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ จำนวน 36.4% แจ้งว่ามีรายได้ 250,000 - 1 ล้านดอลลาร์ เจ้าของธุรกิจจำนวน 3% แจ้งว่ามีรายได้ระหว่าง 1 - 5 ล้านดอลลาร์ และจำนวน 6.1% แจ้งว่ามีรายได้มากกว่า 5 ล้านดอลลาร์

หน้า 33

คำถามข้อที่ 4 ทำไมท่านจึงทำธุรกิจที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ เจ้าของธุรกิจต่างบอกเหตุผลที่เลือกมาทำธุรกิจที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ ดังนี้ เจ้าของธุรกิจจำนวน 47.1% ตอบว่า มีที่อยู่ในใจกลางเมืองของหมู่บ้าน จำนวน 38.2% ตอบว่า คุณภาพชีวิต จำนวน 29.4% ตอบว่า ความพร้อมของอาคารพาณิชย์/ที่ดิน จำนวน 29.4% ตอบว่า ฐานลูกค้า จำนวน 26.5% ตอบว่า อาศัยอยู่ที่นี่มาตลอด จำนวน 14.7% ตอบว่า มีระบบขนส่งสาธารณะ (รถไฟ/ถนนทางหลวง) จำนวน 8.8% ตอบว่า เป็นการทำธุรกิจที่บ้าน จำนวน 8.8% ตอบว่า มีกฎหมาย/ระเบียบข้อบังคับที่เป็นมิตรต่อธุรกิจ ส่วนจำนวน 20.6% ตอบว่า เหตุผลอื่น ๆ เช่น อยู่ใกล้กับที่ตั้งธุรกิจเดิมก่อนหน้าและอยู่ใกล้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกัน เติบโตในหมู่บ้านและ/หรือต้องการสนับสนุนธุรกิจในหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีผู้ตอบแบบสอบถามรายหนึ่งกล่าวว่า เขาทำงานในองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ดำเนินงานในอาคารที่ได้รับบริจาคจากผู้ก่อตั้งองค์กรและเป็นประชาชน ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มาเป็นเวลานาน

คำถามข้อที่ 5 ท่านวางแผนที่จะทำธุรกิจของท่านที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ต่อไปอีก 3 - 5 ปี ข้างหน้า ใช่หรือไม่ เจ้าของธุรกิจจำนวน 94.1% ตอบว่ามีการวางแผน ที่จะทำธุรกิจต่อไปอีกใน 3 - 5 ปี ข้างหน้า

หน้า 34

คำถามข้อที่ 5a หากใช่ ท่านกำลังวางแผนที่จะซื้อ เช่า หรือสร้างอาคารใหม่เพื่อประกอบธุรกิจใช่หรือไม่ ผู้ตอบคำถามจำนวน 6.3% เท่านั้นที่ตอบว่ากำลังวางแผน ที่จะซื้อ เช่า หรือสร้างอาคารใหม่เพื่อประกอบธุรกิจ

คำถามข้อที่ 5b หากไม่ใช่ การตัดสินใจของคุณขึ้นอยู่กับเหตุผลใด มีผู้ตอบเพียงคนเดียวที่ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะ ค่าใช้จ่ายที่ดิน/อาคาร ภาษีอสังหาริมทรัพย์ และขาดผู้ซื้อที่ไม่ใช่ ประชาชนผู้อยู่อาศัยที่นี่ คำถามข้อที่ 6 ท่านเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้เช่าสถานประกอบการสำหรับทำธุรกิจ

ผู้ตอบคำถามจำนวน 50% ตอบว่า เป็นเจ้าของสถานประกอบการในปัจจุบัน จำนวน 47% ตอบว่า เป็นผู้เช่า มีเพียงผู้ตอบคำถาม 1 คนเท่านั้นที่ตอบว่า เป็นทั้งเจ้าของ สถานประกอบการและผู้เช่าอาคาร คำถามข้อที่ 7 ธุรกิจของท่านในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีพนักงานที่จ้างเต็มเวลากี่คน

เจ้าของธุรกิจจำนวน 60.7% ตอบว่า มีพนักงาน 1 - 3 คน เจ้าของธุรกิจจำนวน 25% ตอบว่า มีพนักงาน 4 - 6 คน และเจ้าของธุรกิจจำนวน 14.3% ตอบว่า มีพนักงาน 7 - 10 คน คำถามข้อที่ 8 ธุรกิจของท่านในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีพนักงานที่จ้างพาร์ตไทม์กี่คน

เจ้าของธุรกิจจำนวน 60.9% ตอบว่า มีพนักงานที่จ้างพาร์ตไทม์ 1 - 3 คน เจ้าของธุรกิจจำนวน 26.1% ตอบว่า มีพนักงานที่จ้าง พาร์ตไทม์ 4 - 6 คน และเจ้าของธุรกิจจำนวน 13% ตอบว่า มีพนักงานที่จ้าง พาร์ตไทม์ 7 - 10 คน หน้า 35

คำถามข้อที่ 9 ในอีก 3 - 5 ปี ข้างหน้า ท่านคาดว่าจำนวนพนักงานของท่านจะเปลี่ยนไปอย่างไร

ในอีก 3 - 5 ปีข้างหน้า เจ้าของธุรกิจจำนวน 56% คาดว่าระดับการจ้างงานจะยังคงเท่าเดิม เจ้าของธุรกิจจำนวน 41% คาดว่าจะเพิ่มจำนวนพนักงาน ในขณะที่ เจ้าของธุรกิจจำนวน 3% คาดว่า จะลดจำนวนพนักงาน คำถามข้อที่ 10 ท่านมีความเห็นว่าภาพลักษณ์ธุรกิจโดยรวมของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์เป็นอย่างไร

เจ้าของธุรกิจจำนวน 44.1% มีความเห็นว่าภาพรวมของธุรกิจ ในย่านใจกลางเมืองของหมู่บ้านมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี เจ้าของธุรกิจจำนวน 32.4% มีความเห็นว่าภาพรวมของธุรกิจ ในย่านใจกลางเมืองของหมู่บ้านมีภาพลักษณ์ที่พอใช้ และเจ้าของธุรกิจจำนวน 23.5% มีความเห็นว่าภาพรวมของธุรกิจในย่านใจกลางเมืองของหมู่บ้านมีภาพลักษณ์ที่ดี คำถามข้อที่ 11 โปรดเลือกระดับความพึงพอใจของท่านที่มีต่อหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ตามปัจจัยต่อไปนี้ เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อธุรกิจของท่าน

11.1 การติดต่อกับเจ้าหน้าที่เทศบาล เจ้าของธุรกิจจำนวน 58.8% ตอบว่า "พึงพอใจ" เจ้าของธุรกิจจำนวน 20.6% ตอบว่า "พึงพอใจมาก" ในขณะที่ เจ้าของธุรกิจจำนวน 5.9% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" และเจ้าของธุรกิจจำนวน 2.9% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจมาก" โดยเจ้าของธุรกิจจำนวนอีก 11.8% ไม่แสดงความคิดเห็น 11.2 ความได้เปรียบในการแข่งขันจากสถานที่ตั้งธุรกิจ ในส่วนของความได้เปรียบในการแข่งขันจากสถานที่ตั้งธุรกิจ เจ้าของธุรกิจจำนวน 44.1% ตอบว่า "พึงพอใจ" เจ้าของธุรกิจจำนวน 5.9% ตอบว่า "พึงพอใจมาก" เจ้าของธุรกิจจำนวน 14.7% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" จำนวน 8.8% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจมาก" โดยเจ้าของธุรกิจจำนวนอีก 26.5% ไม่แสดงความคิดเห็น หน้า 36

11.3 ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่เทศบาล เจ้าของธุรกิจจำนวน 51.5% ตอบว่า "พึงพอใจ" จำนวน 27.3% ตอบว่า "พึงพอใจมาก" มีเพียงจำนวน 9.1% ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" โดยเจ้าของธุรกิจจำนวนอีก 12.1% ไม่แสดงความคิดเห็น 11.3 แรงงานมีฝีมือ เจ้าของธุรกิจจำนวน 58.8% ตอบว่า "พึงพอใจ" และ มีจำนวน 11.8% ตอบว่า "พึงพอใจมาก" กับแรงงาน มีฝีมือในพื้นที่ โดยเจ้าของธุรกิจจำนวนอีก 29% ไม่แสดงความคิดเห็น

11.4 ความพร้อมของอสังหาริมทรัพย์ในการทำธุรกิจ เจ้าของธุรกิจจำนวน 41.2% ตอบว่า "พึงพอใจ" กับความพร้อมของอสังหาริมทรัพย์ในการทำธุรกิจ จำนวน 23.5% ไม่แสดงความคิดเห็น จำนวน 14.7% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" และ จำนวน 8.8% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจมาก"

11.5 ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินและโซนนิ่ง เจ้าของธุรกิจจำนวน 35.3% ตอบว่า "พึงพอใจ" และ จำนวน 2.9% ตอบว่า "พึงพอใจมาก" กับข้อกำหนด การใช้ประโยชน์ที่ดินและโซนนิ่ง จำนวน 23.5% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" และจำนวน 14.7% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจมาก" โดยเจ้าของธุรกิจจำนวนอีก 23.5% ไม่แสดงความคิดเห็น

หน้า 37

11.6 การเก็บภาษีของเทศบาล เจ้าของธุรกิจจำนวน 32.4% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" และ จำนวน 29.4% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจมาก" กับการเก็บภาษี ของเทศบาล จำนวน 20.6% ไม่แสดงความคิดเห็น จำนวน 14.7% ตอบว่า "พึงพอใจ" และจำนวน 2.9% ตอบว่า "พึงพอใจมาก" คำถามข้อที่ 12 โปรดเลือกระดับความพึงพอใจของท่านที่มีต่อบริการชุมชนของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ 12.1 โรงเรียนรัฐบาล เจ้าของธุรกิจ จำนวน 44.1% ตอบว่า "พึงพอใจมาก" จำนวน 4.1.2% ตอบว่า "พึงพอใจ" จำนวน 5.9% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" จำนวน 5.9% ไม่แสดงความคิดเห็น และจำนวน 2.9% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจมาก" 12.2 สถานพยาบาล เจ้าของธุรกิจ จำนวน 44.1% ตอบว่า "พึงพอใจ" จำนวน 41.2% ไม่แสดงความคิดเห็น จำนวน 8.8% ตอบว่า "พึงพอใจมาก" จำนวน 2.9% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" จำนวน 2.9% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจมาก" 12.3 สถาบันการเงิน เจ้าของธุรกิจ จำนวน 56% ตอบว่า "พึงพอใจ" กับคุณภาพ ของสถาบันการเงินในหมู่บ้าน จำนวน 23.5% ตอบว่า "พึงพอใจมาก" จำนวน 11.8% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" และ จำนวน 8.8% ไม่แสดงความคิดเห็น

หน้า 38

11.4 สถาบันอุดมศึกษา เจ้าของธุรกิจจำนวน 44.1% ตอบว่า "พึงพอใจ" กับ การศึกษาระดับอุดมศึกษา จำนวน 32.4% ไม่แสดงความคิดเห็น จำนวน 14.7% ตอบว่า "พึงพอใจมาก" จำนวน 5.9% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" จำนวน 2.9% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจมาก" 11.5 การให้บริการสนับสนุนด้านธุรกิจจากหน่วยงานเทศบาล เจ้าของธุรกิจจำนวน 32.4% ตอบว่า "พึงพอใจ" จำนวน 23.5% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" จำนวน 20.6% ไม่แสดงความคิดเห็น จำนวน 17.6% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจมาก" จำนวน 5.9% ตอบว่า "พึงพอใจมาก"

11.6 การให้บริการสนับสนุนด้านธุรกิจจากหอการค้า เจ้าของธุรกิจจำนวน 38.2% ตอบว่า "พึงพอใจมาก" จำนวน 35.3% ตอบว่า "พึงพอใจ" จำนวน 14.7% ตอบว่า "ไม่พึงพอใจ" จำนวน 11.8% ไม่แสดงความคิดเห็น

หน้า 39

คำถามข้อที่ 13 ปัจจุบันมีการให้บริการทางธุรกิจในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ที่ช่วยให้ธุรกิจของท่าน มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นหรือไม่ คำตอบจากเจ้าของธุรกิจ

สื่อสิ่งพิมพ์ประชาสัมพันธ์ของชุมชน การมีส่วนร่วมในงานศิลปะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ "Riverside Arts Weekend" เป็นการสนับสนุนเพื่อส่งเสริมบริการต่าง ๆ ตลาดนัดสินค้าเกษตรกร หอการค้า ออกใบอนุญาตกลั่น การใช้บริการในพื้นที่แทนการใช้บริการที่อยู่นอกเมือง ออกใบอนุญาตที่จำเป็นเพื่อให้ธุรกิจสามารถตั้งอยู่ในหมู่บ้านได้ ออกใบอนุญาตก่อสร้างและให้คำแนะนำด้านกฎหมายอาคารที่จำเป็น ความเห็นอื่น ๆ ได้แก่ 1. ทำให้มีธุรกิจมากขึ้นในชุมชนใกล้เคียง 2. หากปราศจากธุรกิจใหม่ ๆ งานอีเวนต์ หรือโฆษณาที่นำผู้คนมาที่หมู่บ้าน วิลเลจออฟริเวอร์ไซด์คุณจะเห็นการย้ายธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบันออกไป มากขึ้น 3. หมู่บ้านต่อต้านธุรกิจมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 โดยเพิกเฉยต่อความพยายาม ในการสร้างหมู่บ้านที่ตอบสนองความต้องการของคนยุคศตวรรษที่ 21 ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ย้ายไปที่อื่น ร้านที่ย้ายออกไป เช่น ร้าน A&P ร้านขายอัญมณี ร้านขายยา 3 แห่ง ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ 1 ร้าน ร้านอาหารจำนวนมาก สถานีบริการ ร้านฮาร์ดแวร์ ร้านพิซซ่า ร้านอาหารสำเร็จรูป ร้านช่างตัดผม ร้าน The Mister Shop ฯลฯ รวม

จำนวน เปอร์เซ็นต์ (%)

1 7.14% 1 7.14%

1 7.14% 1 7.14% 1 7.14% 1 7.14% 1 7.14% 1 7.14% 6 42.86%

14 100%

หน้า 40

คำถามข้อที่ 14 ท่านต้องการให้มีบริการอะไรบ้างในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ที่จะช่วยให้ธุรกิจของท่าน มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นหรือไม่ คำตอบจากเจ้าของธุรกิจ

จำนวน เปอร์เซ็นต์

การปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ควรทำให้ถนนสายหลักมีความสวยงามมากขึ้นและดูเป็นหนึ่งเดียวกัน ตกแต่งย่านธุรกิจใจกลางเมืองให้สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรมีม้านั่งและ ดอกไม้ประดับมากขึ้นเพื่อให้ผู้คนสามารถนั่งพักผ่อนได้ หากเทศบาลไม่สามารถ จัดหาได้ก็ช่วยฉันติดตั้งม้านั่งของฉัน สนับสนุนเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบการปรับปรุงด้านหน้าอาคาร (façade) ทำการบำรุงรักษากระบะต้นไม้ ทางเท้า และสนามหญ้าให้ดีขึ้น

4

28.57%

แนวทางสำหรับผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่และสิ่งจูงใจ สร้างแนวทางที่เป็นมิตรกับธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนและ ผู้ประกอบการ ถึงแม้ว่าแนวทางที่สร้างขึ้นใหม่อาจไม่สอดคล้องกับหลายหน่วยงาน ในเมืองแต่จำเป็นต้องทำให้ประสบความสำเร็จในเชิงรุก การลดภาษีให้ต่ำลงจะเป็นแรงจูงใจที่ดึงดูดให้มีธุรกิจมากขึ้น ธุรกิจใหม่ต้องการใบอนุญาตที่คล่องตัวและสร้างความก้าวหน้า ซึ่งอาจต้องใช้เวลา หลายเดือนในการเริ่มต้นธุรกิจเนื่องจากค่าคอมมิชชั่นทั้งหมดที่ธุรกิจจะต้องเผชิญ

3

21.43%

การตลาดและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมให้หมู่บ้านเป็นที่รู้จักด้วยการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ อาทิ ทำปฏิทิน พร้อมโฆษณาธุรกิจ สร้าง Blog ของหมู่บ้าน โฆษณาในหนังสือพิมพ์ที่ช่วยส่งเสริม ธุรกิจในเมือง จัดอีเว้นต์หรืองานเลี้ยงต่าง ๆ เช่น Village Night ฯลฯ เพื่อส่งเสริม ธุรกิจและเพิ่มความตระหนัก

3

21.43%

ด้านการสร้างความร่วมมือและการมีส่วนร่วม เปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากเจ้าของธุรกิจและทำงานร่วมกันมากขึ้น ฉันจะมองหาการสนทนาทางธุรกิจที่เปิดกว้างมากขึ้น ทุกอย่างตอนนี้ดูเหมือนจะ "ต่อต้านการพัฒนาไม่ให้มาอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง"

2

14.29%

การวางแผนสำหรับธุรกิจใหม่ ดูเหมือนว่ายังไม่มีการวางแผนเกี่ยวกับการวางตำแหน่งที่ตั้งธุรกิจใหม่ ๆ หรือ ประเภทธุรกิจที่ควรได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาอยู่ในชุมชน เช่น ตอนนี้ มีร้านดอกไม้ 2 ร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกัน

1

7.41%

หน้า 41

คำตอบจากเจ้าของธุรกิจ ออกกฎหมายควบคุมการติดตั้งป้ายให้ดีขึ้น ควรมีกฎหมายควบคุมการติดตั้งป้ายที่ดีขึ้นเพื่ออนุญาตให้มีรูปแบบป้ายที่มีความ สร้างสรรค์และน่าสนใจเนื่องจากปัจจุบันป้ายที่มีอยู่ในหมู่บ้านส่วนใหญ่ไม่สวยงาม ซึ่งข้อเสนอใหม่สำหรับการอนุญาตติดตั้งป้ายนี้อาจได้รับการคัดค้านจากผู้จัดการ ทรัพย์สินของหมู่บ้านบางคน จึงจำเป็นต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจาก ทุกภาคส่วนเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องเก็บภาษีป้ายเพิ่มขึ้นอาจได้รับ การต่อต้านจากธุรกิจบางแห่งที่มีผู้ซื้อสินค้า/บริการจำนวนน้อยในระยะเริ่มต้น รวม

จำนวน เปอร์เซ็นต์

1

7.14%

14

100%

คำถามข้อที่ 15 ธุรกิจประเภทใดในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ที่จะช่วยให้ธุรกิจของท่าน มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

ผู้ประกอบการจำนวนเกือบ 70% มีความเห็นว่าหากมีธุรกิจประเภทร้านอาหารเพิ่มขึ้นจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจของ พวกเขามีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น จำนวน 42.4% ต้องการเห็นร้านค้าดั้งเดิมของคนในครอบครัวที่ สืบทอดกันมาจากคนรุ่นคุณพ่อคุณแม่ (Mom and Pop Store) มากขึ้น จำนวน 39.4 % ต้องการเห็นร้านกาแฟ จำนวน 36.4% ต้องการให้มีบาร์นั่งดื่ม จำนวน 30.3% ต้องการให้มีโรงแรมประเภทที่พักพร้อมอาหารเช้าหรือ ที่พักให้เช่าระยะสั้น จำนวน 24.2% อยากให้มีตลาดสดสินค้าเกษตร (Farmer Market) ร้านอาหารแฟรนไชส์และ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด จำนวน 15.2% ต้องการให้มีสโมสรสุขภาพ ร้านขายยา และสถานประกอบการที่เป็นวิชาชีพ เฉพาะ เช่น นักบัญชี ทนายความ และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น จำนวน 12.1% ต้องการให้มีร้าน ขายของชำ และสำนักงานพาณิชย์ นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจประเภทอื่น ๆ ที่กลุ่มผู้ประกอบการแนะนำว่าในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ควรมีเพิ่ม ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร ธุรกิจแฟรนไชส์ ​ร้านขายสินค้าหรูหรา แกลเลอรี่ ทัวร์ประวัติศาสตร์ ธุรกิจท่องเที่ยว ร้านค้าปลีกที่มีเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ ร้านหนังสือ ร้านขายสินค้าแอนทีค ร้านซ่อมเครื่องดนตรี ร้านขาย หน้า 42

ของขวัญชนิดพิเศษ ร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านวัสดุสิ้นเปลือง สปา ร้านตกแต่งภายใน ร้านขายการ์ด ร้านสินค้าแปลกใหม่ ร้านเสื้อผ้า ร้านผลิตภัณฑ์ความงาม ร้านขายเครื่องเขียน ฯลฯ คำถามข้อที่ 16 ท่านมีความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่ท่านต้องการให้ปรับปรุงในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ของหมู่บ้านหรือไม่ คำตอบจากเจ้าของธุรกิจ 1. คงจะดีหากหมู่บ้านอนุญาตให้มีการติดตั้งป้ายสำหรับธุรกิจที่ดีขึ้น 2. ควรประเมินความต้องการที่จอดรถที่แท้จริงของธุรกิจใหม่ ๆ ที่เข้ามาประกอบการ 3. เสนอสิ่งจูงใจเพื่อส่งเสริมให้มีธุรกิจใหม่ ๆ เข้ามาเปิด 4. ย่านศูนย์กลางธุรกิจจะยังคงมีปัญหาตราบใดที่หน้าร้านจำนวนมากถูกควบคุมโดย เจ้าของที่ขาดความรับผิดชอบเพียงคนเดียว 5. ต้องการให้มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนม/บริการแบรนด์เนมที่เป็นที่รู้จักมากขึ้นเพื่อ ดึงดูดผู้คนให้มาที่หมู่บ้านมากขึ้น 6. อนุญาตให้มีร้านอาหาร สถานบันเทิงยามค่ำคืน บาร์ และร้านกาแฟเพิ่มขึ้น 7. เชิญชวนให้มีร้านค้าปลีกบางประเภทและการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ที่เข้ากับ ลักษณะเฉพาะของชุมชนเพื่อสร้างแกนกลางที่สำคัญบนถนนควินซี่ เช่น มีธุรกิจ เกี่ยวกับศิลปะ ร้านของขวัญ และร้านอาหารมากขึ้น 8. กิจกรรมและนโยบายต่าง ๆ ในปัจจุบันกีดกันธุรกิจไม่ให้เข้ามาเปิดและอยู่ที่นี่ต่อ 9. ธุรกิจค้าปลีกไม่ได้รับการสนับสนุน 10. ควรมีนิตยสารของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์/แคตตาล็อกข้อมูลที่ส่งเสริมธุรกิจ ในตัวเมืองและธุรกิจบนถนนฮาร์เล็ม 11. ปรับปรุงแสงไฟส่องสว่าง 12. ปรับปรุงทางเท้าเพื่อให้สามารถรับประทานอาหารกลางแจ้งนอกร้านและจัดให้มี ชั้นวางจักรยานที่ใช้งานได้จริง 13. ไม่ควรคิดเพียงแต่ว่า “ย่านศูนย์กลางธุรกิจมีไว้สำหรับชาวริเวอร์ไซด์เท่านั้น” 14. ข้าราชการรที่ถูกคัดเลือกให้เข้ามาทำงานควรเป็นผู้ที่เต็มใจทำงานและสนับสนุน ธุรกิจในริเวอร์ไซด์ 15. มีกรรมาธิการที่ไร้อำนาจมากเกินไป การพัฒนาช้า เสียเวลาและเงิน

จำนวน เปอร์เซ็นต์ 3 3 2 2

1

1 1

1 1 1

1 1

1 1

1

9.09% 9.09% 6.06% 6.06%

3.03%

3.03% 3.03%

3.03% 3.03% 3.03%

3.03% 3.03%

3.03% 3.03%

3.03%

หน้า 43

คำถามข้อที่ 16 ท่านมีความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่ท่านต้องการให้ปรับปรุงในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ของหมู่บ้านหรือไม่ (ต่อ) คำตอบจากเจ้าของธุรกิจ 16. แทนที่จะปลูกพืชคลุมดินที่สวยงามดูดีเพียงเดือนเดียวเท่านั้นในแต่ละปีและต้องมี อาสาสมัครในการดูแล หมู่บ้านควรติดตั้งกระถางต้นไม้ที่อยู่ระดับเหนือพื้นดิน 17. ไม่ควรมี "ภาษีการกิน (eating tax)" หรืออย่างน้อยก็จัดสรรเงินเพื่อปรับปรุงย่าน ศูนย์กลางธุรกิจและสนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบการกำลังเสียภาษีให้กับหมู่บ้าน 18. ส่งเสริมให้เจ้าที่ดินเลือกที่จะไม่ใช้มาตรา 8 (เคหะ) ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ 19. เจ้าของอาคารในริเวอร์ไซด์ควรได้รับการสนับสนุนให้ปรับปรุงพื้นที่ภายในอาคารของ ตนเองให้แล้วเสร็จและจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการใช้งานเอนกประสงค์สำหรับผู้เช่า 20. อนุมัติให้มีระบบประปาขั้นพื้นฐาน ปรับปรุงระบบดับเพลิง (เช่น สปริงเคิล) 21. ระบบปรับอากาศรวมเพิ่มต้นทุนให้กับผู้เช่าและส่งผลกระทบต่อบรรยากาศ ทางธุรกิจทั้งหมดโดยเฉพาะเมื่อมีอาคารที่ถูกปล่อยร้างและหน้าร้านไม่ได้รับ การปรับปรุงและยังส่งผลเสียต่อชุมชนและธุรกิจที่มีอยู่เนื่องจากไม่มีการกระตุ้น ให้มีลูกค้าเข้ามา 22. ไม่ควรมีพื้นที่สีเขียวเนื่องจากมันไม่สะดวกสำหรับผู้นั่งโดยสารที่จะออกจากรถ และคนขับรถที่เดินทางไปทำธุรกิจ ฉันอายุมากพอที่จะพูดว่าพื้นที่ที่ทำให้ถนนมีโคลน เหล่านี้ไม่ได้อยู่ในผังออกแบบชุมชนดั้งเดิมของโอล์มสเต็ด (Olmsted) 23. ติดตั้งป้ายสัญลักษณ์ทางม้าลายตรงกึ่งกลางบล็อกอาคารที่เด่นชัดเพื่อให้รถยนต์หยุด หรืออย่างน้อยก็ขับช้าลง 24. มีรถยนต์ที่ขับเร็วเกินไปเมื่อผ่านย่านศูนย์กลางธุรกิจ 25. ปรับปรุงทางเข้าหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ 26. ปลูกต้นไม้ริมถนนฟอเรสต์โดยเริ่มจากถนนที่ 1 (1st Avenue) ไปจนถึงสะพาน 27. พัฒนาอุโมงค์ใต้รางรถไฟสำหรับรถยนต์และคนเดินเท้า รวม

จำนวน เปอร์เซ็นต์ (%) 1

1

1 1

1 1

1

1

1 1 1 1 33

3.03%

3.03%

3.03% 3.03%

3.03% 3.03%

3.03%

3.03%

3.03% 3.03% 3.03% 3.03% 100%

หน้า 44

งานจัดแสดงรถยนต์คลาสสิคในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน เดือนกันยายน ค.ศ. 2015 ที่มาภาพ : https://www.flickr.com/photos/riversideil/albums/72157692190516040/with/40985357700/

งานจัดแสดงรถที่ใช้ในการปฏิบัติงานของเทศบาล เช่น รถขยะ รถตักดิน รถตำรวจ ฯลฯ ในงาน "Touch-A-Truck" เดือนกันยายน ค.ศ. 2017 ที่มาภาพ : https://www.flickr.com/photos/riversideil/albums/72157694020685074

งานออกร้านขายสินค้าชุมชน "Riverfest in the Park" เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2017 ที่มาภาพ : https://www.flickr.com/photos/riversideil/albums/72157686660620286 หน้า 45

7.3 การสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย คณะผู้วิจัยได้รับข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักในหมู่บ้านวิจเลจออฟริเวอร์ไซด์ตาม รายชื่อที่ได้รับจากคำแนะนำของผู้จัดการหมู่บ้าน ประกอบด้วย ผู้นำภาคประชาชนและภาคธุรกิจที่มีความรู้ เป็นอย่างดีเกี่ยวกับหมู่บ้าน ประชาชนผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านและอยู่อาศัยในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งมีส่วนร่วม ในบทบาทการเป็นผู้นำและเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญในอนาคต ระเบียบวิธีวิจัย ผู้จัดการหมู่บ้าน (คุณปีเตอร์ สกาเลรา) ได้ให้รายชื่อผู้นำที่สามารถให้ความคิดเห็นจากมุมมองของรัฐบาลส่วน ท้องถิ่น หน่วยงานรัฐ และองค์กรต่างๆ อาทิ สถานีตำรวจ ห้องสมุดประชาชน และสำนักงานสวนสาธารณะและ พื้นที่สันทนาการที่มีสำนักงานตั้งอยู่ภายในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ดังนั้น ความคิดเห็นของผู้นำเหล่านี้จึงมีความสำคัญ เป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเห็นจากประธานสภาหมู่บ้านและประธานหอการค้าซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้นำเมือง สองคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการพัฒนาย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน คำถามการวิจัยได้รับการออกแบบมาให้เป็นคำถามปลายเปิดเพื่อให้ผู้ถูกสัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นส่วนตัวของ ตนเองในระดับมหภาค โดยกระบวนการสัมภาษณ์ดำเนินการด้วยการเข้าพบผู้นำเพื่อหารือและการสัมภาษณ์ทาง โทรศัพท์ ระหว่างวันที่ 1 - 8 เมษายน ค.ศ. 2012 ทั้งนี้ การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และข้อจำกัดของการ พัฒนาเมือง (SWOT Analysis) ไม่อยู่ในขอบเขตของงานวิจัยฉบับนี้ ผู้ถูกสัมภาษณ์ มีจำนวน 6 คน ดังนี้ 1. คุณเดวิด โมราเวเช็ค ตำแหน่ง ประธานหอการค้า 2. คุณทอม ไวท์เซล ตำแหน่ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจ 3. คุณไมค์ กอร์แมน ตำแหน่ง ประธานหมู่บ้าน 4. คุณแดน มาร์ชิโอดิ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานสวนสาธารณะและพื้นที่นันทนาการ 5. คุณปีเตอร์ สกาเลรา ตำแหน่ง ผู้จัดการหมู่บ้าน 6. คุณเจนิส ฟิชเชอร์ ตำแหน่ง หัวหน้าบรรณารักษ์

หน้า 46

คำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์ 1. ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับบรรยากาศทางธุรกิจโดยรวมภายในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ 2. ขอให้ท่านอธิบาย "ความได้เปรียบในการแข่งขันด้านธุรกิจ" ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งมูลค่าทางธุรกิจที่หมู่บ้านมีและที่อื่นไม่มี) 3. ท่านคิดว่ามีโอกาสใดบ้างสำหรับธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งกำลังเติบโต?

4. ทำไมท่านถึงคิดว่ามีธุรกิจใหม่ ๆ ที่ต้องการเข้ามาประกอบการในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ 5. ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจ/ผู้นำเมือง ขอให้ท่านอธิบายวิสัยทัศน์ของท่านในการทำให้ย่านศูนย์กลางธุรกิจ ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ประสบความสำเร็จ 6. อะไรคือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน และอะไรคืออุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดที่อาจ ขัดขวางการพัฒนาธุรกิจ 7. ขอให้ท่านยกตัวอย่างธุรกิจในหมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จ และทำไมท่านจึงคิดเช่นนั้น สรุปผลจากการสัมภาษณ์ จากการตอบคำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกจำนวนหนึ่งซึ่งคณะผู้วิจัย ได้ทำการประมวลและมีคำพูดโดยตรงของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีความน่าสนใจที่คณะผู้วิจัยบันทึกไว้ มีดังนี้ 1. บรรยากาศโดยรวมของธุรกิจ ความคิดเห็นของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับบรรยากาศโดยรวมของการประกอบธุรกิจในย่านศูนย์กลางธุรกิจ มีความขัดแย้งกัน บางท่านแสดงความคิดเห็นว่าบรรยากาศทางธุรกิจไม่ดี มีอาคารร้านค้าและอาคารสำนักงานว่าง จำนวนมาก บางท่านให้ความเห็นว่าย่านนี้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้าน ได้อย่างเพียงพอแล้ว แต่ในภาพรวม มีผู้ที่เห็นว่ามีโอกาสเติบโตสำหรับการทำธุรกิจที่ให้บริการแก่คนนอกพื้นที่ และ ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านควรเป็นแหล่งทรัพยากรสำหรับประชาชนผู้อยู่อาศัยให้มีความพึงพอใจกับสภาพที่ เป็นอยู่มากขึ้น “ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านไม่ได้มีไว้เพื่อขับเคลื่อนรายได้จากการเก็บภาษี แต่ควรมีไว้เพื่อให้บริการแก่ ประชาชนในพื้นที่” “หากต้องการพัฒนาย่านใจกลางเมืองสำหรับผู้ซื้อที่ไม่ใช่ประชาชนผู้อยู่อาศัย เราจำเป็นต้องนำผู้ที่มีชื่อเสียงระดับ ประเทศเข้ามา” “เคยมีผู้ที่เป็นกังวลจำนวนมากว่าหมู่บ้านไม่เปิดรับการพัฒนาเมืองใหม่ ๆ แต่เมืองกำลังจะเปลี่ยนเพราะมีผู้จัดการ หมู่บ้าน (Mr. Peter)” หน้า 47

“ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านให้บริการแก่ลูกค้าเฉพาะกลุ่มทำให้บางอย่างขาดหายไป แต่โดยรวมแล้วหมู่บ้าน เรามีทุกสิ่งที่ต้องการ” 2. ความได้เปรียบในการแข่งขัน และวิสัยทัศน์การพัฒนาย่านศูนย์กลางธุรกิจ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความเห็นพ้องตรงกันอย่างเป็นเอกฉันท์ถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านในแง่อายุ ความสำคัญด้านสถาปัตยกรรมอาคาร และความสะดวกการใช้งานรถไฟโดยสารสาธารณะ หลายคนกล่าวถึง ผลงานการออกแบบผังหมู่บ้านของเฟรเดอริก ลอว์ โอล์มสเต็ด (Frederick Law Olmsted) และงานออกแบบ สถาปัตยกรรมของแฟรงค์ ลอยด์ ไรท์ (Frank Lloyd Wright) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกล่าวถึงความผูกพันธ์และการมีส่วนร่วมของสมาชิกชุมชน บางท่านเห็นว่ารายได้ของประชาชน หลังหักภาษีแล้วมีจำนวนสูง หมู่บ้านมีความหลากหลายของกลุ่มประชากรและผู้ซื้อมีโอกาสที่จะได้รับประสบการณ์ การจับจ่ายที่หลากหลาย บางท่านเห็นข้อดีในการพัฒนาย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจให้มีความคล้ายคลึงกับเมืองอื่น ๆ เช่น เมืองลองกรู๊ฟ (Long Grove) ในขณะที่บางท่านเห็นว่าการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของเมืองลองกรู๊ฟเป็นตัวอย่างการพัฒนาที่แออัดและไม่พึง ปรารถนา ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแบ่งออกเป็นสองกลุ่มในจำนวนที่เท่ากัน กลุ่มหนึ่งมีความเห็นว่า ย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจควร ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับประชาชนผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านเป็นหลัก อีกกลุ่มหนึ่งต้องการให้ย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจ ดึงดูดกลุ่มประชาชนจากเมืองเบอร์วิน (Berwyn) ที่มักไปเที่ยวสวนสัตว์บรู๊คฟิลด์ (Brookfield Zoo) บ่อยครั้ง และ กลุ่มประชากรทั้งหมดภายในพื้นที่เขตการศึกษาเดียวกันให้มากขึ้น “ผู้สูงอายุไม่ต้องการย้ายออกจากหมู่บ้านไปอยู่ที่อื่น แต่ไม่มีร้านค้าที่มีสินค้าที่หลากหลายที่สามารถรองรับความ ต้องการของคนกลุ่มนี้ได้อีกต่อไป ร้านขายเสื้อผ้าและร้านขายยาต้องปิดกิจการไป ในทางตรงกันข้าม คนที่มีอายุ น้อยกว่าไม่มีปัญหาในการเดินทางเป็นระยะทางหลายไมล์เพื่อไปซื้อของใช้จำเป็นที่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ในพื้นที่ อื่น ดังนั้น คนกลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้จึงต้องการให้มีร้านขายสินค้าเฉพาะทางและร้านอาหารที่มีความพิเศษใน หมู่บ้าน” “ตอนนี้เราเพิ่งเริ่มทำการตลาดให้กับหมู่บ้านอย่างอิสระในแบบใดก็ได้ ดังนั้นจึงมีโอกาสมหาศาลที่จะทำให้ธุรกิจ เติบโต” “เราคงจะไม่มีผู้ซื้อจำนวนหลายพันคนจากที่อื่นที่ขับรถมาซื้อของในหมู่บ้าน แต่เราสามารถมีร้านช่างฝีมือที่ดึงดูด ผู้บริโภคที่ร่ำรวยและมีการศึกษาดีซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่และในบริเวณใกล้เคียง”

หน้า 48

3. โอกาสในการเติบโตทางธุรกิจของกิจการที่มีอยู่เดิมและการดึงดูดธุรกิจใหม่ ๆ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกล่าวว่าตอนนี้ในหมู่บ้านมีครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่ประกอบวิชาชีพเฉพาะทางและมีรายได้สูงย้าย เข้ามาอยู่เป็นจำนวนมากเนื่องจากที่นี่มีโรงเรียนที่ดีและมีถนนที่ปลอดภัย หลายท่านสนับสนุนความต้องการของ ประชาชนที่อยากให้มีร้านอาหาร ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ร้านช่างฝีมือ และร้านค้าปลีกสำหรับกลุ่มลูกค้าเฉพาะ เพิ่มขึ้น ร้านค้าปลีกที่เข้ามาเปิดกิจการใหม่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าและมีผลประกอบการที่ดี จึงควรมีการส่ง เสริมให้ร้านค้าเฉพาะทางเข้ามาทำธุรกิจในหมู่บ้านมากขึ้น นอกจากนี้ เนื่องจากภายในย่านศูนย์กลางธุรกิจมีสิ่ง อำนวยความสะดวกทางสังคมให้แก่ประชาชน เช่น ห้องสมุด สวนสาธารณะและพื้นที่สันทนาการ และบริการอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจึงทำให้มีความรู้สึกเป็นชุมชนรวมศูนย์ในพื้นที่ที่มีความเข้มแข็ง “ผู้คนที่นี่เป็นผู้บริโภคที่มีการศึกษาสูงและมีความรู้ดี พวกเขาชื่นชมการออกแบบผังหมู่บ้านของเฟรเดอริก ลอว์ โอล์มสเต็ด (Frederick Law Olmsted) เราจึงควรตั้งเป้าที่จะตีตลาดไปที่คนกลุ่มนี้” 4. ภัยคุกคามและอุปสรรค ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายท่านกล่าวถึงปัญหาของเจ้าที่ดินและเจ้าของอาคารในย่านศูนย์กลางธุรกิจโดยมี บุคคลหนึ่งคนถูกกล่าวถึงบ่อยเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการร้องเรียนว่าเจ้าที่ดินและเจ้าของอาคารคนนี้ไม่ได้ ทำการบำรุงรักษาอาคาร อีกทั้งยังไม่ยอมปล่อยให้เช่า ส่งผลให้มีอัตราการหมุนเข้าหมุนออกของธุรกิจสูง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียบางท่านเสนอแนะว่าสภาหมู่บ้านจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขส่วนนี้ ปัญหาการเข้าถึงพื้นที่มาจากการจัดเส้นทางสัญจรรถยนต์ที่ทำให้ผู้ซื้อที่ไม่คุ้นเคยกับแผนผังถนนในหมู่บ้าน มีความสับสน ในทำนองเดียวกัน หากธุรกิจต้องเติบโตมากขึ้น อาจต้องเพิ่มพื้นที่จอดรถ ปัญหาค่าเช่าอาคารสูง เศรษฐกิจที่ซบเซาของพื้นที่ บางท่านกล่าวถึงความกังวลในหมู่ประชาชนผู้อยู่อาศัยว่าหากย่านศูนย์กลางธุรกิจมีความเจริญรุ่งเรืองในเชิง พาณิชย์ พื้นที่นี้อาจจะสูญเสียเอกลักษณ์ดั้งเดิมการออกแบบผังหมู่บ้านของเฟรเดอริก ลอว์ โอล์มสเต็ด (Frederick Law Olmsted) ที่มีชื่อเสียงในด้านความสงบ ความเงียบ และความงาม “บางคนคิดว่ากาลเวลาทำให้ยุครุ่งเรืองของหมู่บ้านผ่านไปแล้ว แต่ผมคิดว่าไม่ใช่ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการที่คนใน หมู่บ้านยอมแพ้และไม่ช่วยกันผลักดันให้ย่านศูนย์กลางธุรกิจของเรากลับมามีชีวิตชีวาและคึกคัก” “ธุรกิจที่ดีและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในพื้นที่นี้มีขนาดเล็กเกินไปที่จะไปรอดหากไม่ได้รับความช่วยเหลือด้าน ทรัพยากรและพลังจากภาคประชาสังคม ดังนั้น ร้านค้าเล็ก ๆ ที่เราต้องการให้มีอาจไม่สามารถประกอบการ ในพื้นที่นี้ได้ และคนในชุมชนก็ไม่ต้องการให้มีบริษัทหรือร้านค้าขนาดใหญ่ย้ายเข้ามาแทนที่” “ชาวบ้านต้องช่วยกันทำหน้าที่สนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่นให้ดีขึ้น เพราะตอนนี้ผู้ซื้อส่วนใหญ่มาจากที่อื่น” หน้า 49

8. บทวิเคราะห์และข้อเสนอแนะ 8.1 บทวิเคราะห์ หลังจากดำเนินการตามแผนการวิจัยแล้ว คณะผู้วิจัยระบุความท้าทายหลักที่เทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์และ ภาคธุรกิจในชุมชนต้องเผชิญในการพัฒนาย่านศูนย์กลางธุรกิจ เนื้อหาส่วนนี้ประกอบด้วยข้อเสนอแนะด้านนโยบาย ที่มีความเป็นไปได้สำหรับนำไปใช้หารือระหว่างหน่วยงานเทศบาลของหมู่บ้านและการประชุมปรึกษาหารือกับผู้ ประกอบการภาคธุรกิจและประชาชนผู้อยู่อาศัย ผลจากแบบสอบถามและผลจากการสัมภาษณ์ทำให้เห็นประเด็นหลัก ดังนี้ ประการที่ 1 มีความจำเป็นในการพัฒนาและสงวนรักษาภาพลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมอาคารผ่านการบังคับใช้ กฎหมายผังเมืองในการจัดโซนนิ่งการใช้ประโยชน์ที่ดิน การอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ การคำนึงถึง สภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน รวมถึงการพัฒนาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ประการที่ 2 มีความจำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณในการดึงดูดธุรกิจใหม่ ๆ ให้เข้ามาในพื้นที่และนำมาใช้ปรับปรุง โครงสร้างพื้นฐานในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ประการที่ 3 ปัจจุบันมีพื้นที่อาคารที่ถูกปล่อยว่างและไม่ได้ใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมากจึงถือเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง สำหรับการพัฒนาย่านศูนย์กลางธุรกิจ อย่างไรก็ตามในอีกแง่หนึ่ง พื้นที่อาคารว่างที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ อาจพลิกกลับเป็นจุดแข็งในการสรรหาธุรกิจใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับเป้าหมายของหมู่บ้านมาส่งเสริมให้มี การประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้นในย่านนี้ ซึ่งจะช่วยทำให้การปรับปรุงย่านศูนย์กลางธุรกิจสามารถดำเนินการ ได้อย่างรวดเร็วและเติมเต็มพื้นที่ว่างอาคารให้มีการใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น พันธกิจของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ “เพื่อส่งเสริมย่านธุรกิจการค้าที่มีชีวิตชีวาซึ่งน่าดึงดูดใจและมีประโยชน์ใช้สอยสำหรับสมาชิกชุมชนทั้งภาคธุรกิจและ ภาคประชาชนผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์” วิสัยทัศน์ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ “เพื่อส่งเสริมให้เกิดการฟื้นฟูเมืองอย่างเหมาะสมในพื้นที่ธุรกิจที่มีอยู่เดิมเพื่อให้เกิดการใช้งานสูงสุดและดีที่สุด ในย่านธุรกิจการค้า เพิ่มเอกลักษณ์ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์จากประวัติศาสตร์ของชุมชนอันยาวนาน และตอบสนองต่อการเติบโตและความต้องการเปลี่ยนแปลงของประชาชนผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านริเวอร์ไซด์และ ผู้มาเยือน” หน้า 50

เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของแผนยุทธศาสตร์ ค.ศ. 2012 เพื่อปรับปรุงกรอบการแบ่งเขตพื้นที่ประกอบธุรกิจที่สะท้อนประเภทธุรกิจที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ ต้องการดึงดูดและเพิ่มพูนลักษณะสำคัญทางประวัติศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อขยายขีดความสามารถในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ช่วยส่งเสริมและสรรหาประเภทธุรกิจที่พึงประสงค์รวมทั้ง สนับสนุนผลประโยชน์ของธุรกิจที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ เพื่อประสานความร่วมมือให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองที่ประสบความสำเร็จตามวิสัยทัศน์และ วัตถุประสงค์ที่มีร่วมกันให้มีความสอดคล้องกับนโยบายด้านการจราจรขนส่ง การใช้ประโยชน์ที่ดิน โครงสร้าง พื้นฐาน และเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ 8.2 ข้อเสนอแนะ 1. กำหนดเขตพื้นที่ระดมทุนจากส่วนเพิ่มภาษี (Tax Increment Financing: TIF) แบบวัตถุประสงค์เดียว ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ การกำหนดเขตพื้นที่ระดมทุนจากส่วนเพิ่มภาษี (TIF Zone) ถูกนำมาใช้ในชุมชนต่าง ๆ ของรัฐอิลลินอยส์และ รัฐอื่น ๆ ของสหรัฐอเมริกาเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาพื้นที่ที่ต้องการให้เศรษฐกิจได้รับการฟื้นฟูอีกครั้งโดยการ ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รายได้จากการระดมทุนจากส่วนเพิ่มภาษี (TIF) ในย่านศูนย์กลางธุรกิจควรนำมาใช้ในการให้เงินอุดหนุนภาษีแก่ ธุรกิจใหม่ที่จะช่วยเสริมศักยภาพให้แก่ธุรกิจร้านค้าที่มีอยู่เดิม ดึงดูดประชาชนผู้อยู่อาศัยให้เข้ามาซื้อสินค้า และ ทำให้พื้นที่กลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาเพิ่มมากขึ้น โดยประชาชนผู้อยู่อาศัยต้องการเห็นธุรกิจขนาดเล็กแบบร้านค้า ของคนรุ่นคุณพ่อคุณแม่ที่สืบทอดมายังรุ่นลูก ร้านขายสินค้าบูติก ร้านอาหาร และร้านขายสินค้าชนิดพิเศษ สำหรับคนในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์และผู้ซื้อที่มีฐานะร่ำรวย มีการศึกษาดีจากชุมชนชานเมืองใกล้เคียง 2. พัฒนาและบังคับใช้มาตรฐานการแบ่งโซนนิ่งของพื้นที่ (Zoning Standard) ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการให้รางวัลแก่เจ้าของที่ดิน อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการเก็งกำไรจากการถือครองทรัพย์สิน "นอกตลาด" และเพื่อไม่ให้มีการละเลยการบำรุงรักษาที่ดินและอาคาร ผู้ประกอบการและลูกบ้านจำนวนหนึ่งกล่าวถึงความคับข้องใจเกี่ยวกับอัตราว่างของอาคารที่ไม่มีการใช้งาน ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันเจ้าของทรัพย์สินได้รับอนุญาตให้ปล่อยเช่าอาคารในราคาค่าเช่าที่สูงกว่า ราคาตลาด บางอาคารปล่อยร้างและเพิกเฉยต่อการบำรุงรักษาอาคารให้คงสภาพดี ข้อเสนอแนะจากคณะผู้วิจัย คือ ไม่ว่าอาคารจะว่างหรือมีการใช้งานของพื้นที่ อาคารจะต้องได้รับการบำรุง รักษาให้คงสภาพดั้งเดิมที่พร้อมใช้งานเพื่อดึงดูดธุรกิจใหม่ ๆ ดังนี้

หน้า 51

2.1 สภาเทศบาลหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ควรดำเนินการปรับปรุงฟื้นฟูอาคารและซ่อมแซมโครงสร้างอาคาร ที่ถูกทิ้งร้างและอยู่ในสภาพทรุดโทรมโดยทันที เพื่อป้องกันมิให้ชุมชนถูกทำลายคุณค่าดั้งเดิมและเกิดความ เสื่อมโทรมที่มีผลกระทบต่อมูลค่าทรัพย์สินของอาคารที่อยู่ใกล้เคียงและพื้นที่ถัดจากย่านศูนย์กลางธุรกิจของ หมู่บ้าน นอกจากนี้ ยังเป็นการทำให้เกิดความปลอดภัยของสาธารณะ เพิ่มความมีชีวิตชีวาและความน่าอยู่ ของธุรกิจและชุมชนที่อยู่อาศัย 2.2 สภาเทศบาลหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ควรกำหนดมาตรการที่จำเป็นตามความเหมาะสมเพื่อควบคุมมิให้ มีอาคารและโครงสร้างที่ถูกทิ้งร้างซึ่งมีผลกระทบด้านลบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์และผลกระทบที่เป็น อันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ความปลอดภัยสาธารณะ และสวัสดิการสาธารณะ ในแง่ของการก่อสร้าง การบำรุงรักษา การซ่อมแซม การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอาคารและโครงสร้างอื่น ๆ ภายในย่านธุรกิจของ หมู่บ้าน 2.3 ในกรณีที่เจ้าของอาคารปฏิเสธหรือละเลยที่จะใช้งานอาคารเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่ระบุไว้ในข้อกำหนด การใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมืองรวม และเจ้าของอาคารมิได้แสดงความพยายามในการประกาศขายหรือ ประกาศให้เช่าอาคารแก่ผู้แจ้งความประสงค์ขอซื้อหรือขอเช่าอาคารอย่างแข็งขัน สภาเทศบาลหมู่บ้าน วิลเลจออฟริเวอร์ไซด์สามารถกำหนดให้เป็นอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ปล่อยว่าง โดยไม่มีการใช้งานของพื้นที่ และหากเป็นที่ประจักษ์ถึงความละเลยของเจ้าของอาคารทุกวันเป็นเวลาต่อเนื่อง สภาเทศบาลหมู่บ้าน วิลเลจออฟริเวอร์ไซด์สามารถใช้บทลงโทษเป็นค่าปรับในมูลค่าเทียบเท่ากับมูลค่าตลาดของประมาณการ ค่าเช่าอาคารในพื้นที่เดียวกัน การบังคับใช้ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมืองรวมนี้ รวมถึง การแจ้งให้เจ้าของอาคารทราบการฝ่าฝืน กฎหมาย การออกใบสั่ง การบังคับใช้กฎหมายโดยการยื่นฟ้องต่อศาลสิ่งแวดล้อมและการออกหนังสือรับรอง การใช้ประโยชน์ที่ดินเมื่อมีการปฏิบัติตามใบอนุญาตการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม คณะ ผู้ศึกษาขอเสนอว่าสภาเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ควรใช้ความพยายามในการขอความร่วมมือจากเจ้าของที่ดิน โดยการเจรจาต่อรองและทำความตกลงกันเพื่อรักษาความเจริญรุ่งเรืองของส่วนรวมในย่านศูนย์กลางธุรกิจ 3. ออกพันธบัตรขนาดเล็กเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้ดีขึ้นและดำเนินการพัฒนาทรัพย์สินใหม่ของชุมชน เพื่อให้มีการใช้งานอาคารตลอดอายุของพันธบัตร เพื่อดึงดูดธุรกิจใหม่ ๆ และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่ เทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ควรให้ความสำคัญ กับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเป็นลำดับแรก คณะผู้ศึกษาคาดว่าคำแนะนำและข้อเสนอแนะจาก CMAP จะ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ เทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดจราจรโดย รถยนต์และทางเดินเท้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตลอดจนการสร้างทางเดินเท้า เพิ่มพื้นที่สีเขียว และจัดช่องทางสัญจร โดยรถยนต์ให้มีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น หน้า 52

เทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ควรออกพันธบัตรเทศบาลและทยอยชำระคืนตลอดอายุของโครงการ ด้วยวิธีนี้ ผู้ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานจะเป็นผู้จ่ายค่าก่อสร้างร่วมกัน โดยรายได้ของเทศบาลจากการจัดเก็บภาษีที่ผ่านมาและ มีอยู่ในเงินทุนสำรองจ่ายทั่วไปจะไม่ถูกนำมาใช้อุดหนุนการก่อสร้างปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสำหรับประชาชน ผู้อยู่อาศัยในอนาคต 4. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการการตลาดของหอการค้าเพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน ผ่านช่องทางการตลาดในพื้นที่ โอกาสสำคัญของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ คือ 1) ฐานลูกค้าที่เป็นประชาชนผู้อยู่อาศัยที่มีฐานะร่ำรวย มีการศึกษาดี และ 2) ระยะทางที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองชิคาโก จากแบบสอบถามของคณะผู้ศึกษาพบว่า ลูกบ้าน ที่เป็นนักธุรกิจและผู้ประกอบการที่ย้ายเข้ามาหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์จะย้ายมาจากเทศบาลอื่นซึ่งเดิม เคยประกอบธุรกิจในเมืองชิคาโก ผู้ประกอบการจำนวนมากกำลังมองหาทำเลสำหรับเปิดธุรกิจที่สอง (หรือ ธุรกิจหลัก) ในย่านชานเมืองใกล้กับที่พักอาศัยของตน หอการค้าควรเน้นทำการตลาดให้หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับ นักธุรกิจในชิคาโกที่ต้องการนำธุรกิจเข้าสู่ตลาดชานเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักธุรกิจที่มีลูกค้าที่ร่ำรวยและ มีการศึกษา ประกอบกับมีชาวเมืองชิคาโกจำนวนมากที่ไม่ทราบถึงความสำคัญของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ ในแง่การเป็นทรัพย์สินทางประวัติศาสตร์ สุนทรียศาสตร์ และคุณค่าทางเศรษฐกิจอันอุดมสมบูรณ์ 5. ติดตั้งป้ายบอกทางบนแยกถนนฮาร์เล็มตัดกับถนนเบอร์ลิงตัน และบนแยกถนนเดสเพลนตัดกับถนนที่ 26 เพื่อนำไปยัง "ย่านการค้าประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์” เพื่อให้เป็นองค์ประกอบการตลาด ในย่านศูนย์กลางธุรกิจที่มีความถาวรและส่งผลกระทบที่ดีที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน วิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ทราบข้อมูลที่ตั้งของพื้นที่ประวัติศาสตร์ กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว และความสำคัญของ หมู่บ้าน 6. สร้างความร่วมมือกับองค์กรทางวัฒนธรรมที่ไม่แสวงกำไรในชิคาโกเพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะ ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจมาสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน คณะผู้ศึกษามีความเห็นว่า องค์กรท้องถิ่น เช่น สวนพฤกษศาสตร์ชิคาโก (Chicago Botanic Garden) มูลนิธิ สถาปัตยกรรมชิคาโก (Chicago Architectural Foundation) องค์กรดนตรีบาโรก (Music of Baroque) และ หน่วยงาน Active Transport Alliance มีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเมื่อพิจารณาจาก อายุและความสนใจของประชาชนผู้อยู่อาศัยซึ่งจะช่วยดึงดูดให้มีทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาทำกิจกรรม ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านมากขึ้น ทั้งนี้ หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ควรร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร ดังกล่าวในการจัดกิจกรรมเป็นประจำตลอดทั้งปี ไม่จำกัดการจัดงานเฉพาะช่วงฤดูร้อน (เช่น ตลาดสินค้าเกษตร) หน้า 53

หรืออย่างน้อยควรจัดกิจกรรมพิเศษทุกไตรมาสเพื่อให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่เป็นประจำ อย่างต่อเนื่อง การจัดกิจกรรมดังกล่าวอาจได้รับการสนับสนุนเงินทุนอุปถัมภ์จากสปอนเซอร์ที่เป็นประชาชน ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการหรือเป็นกรรมการบริหารขององค์กรธุรกิจ/ บริษัทในเมืองชิคาโก 7. สำรวจโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่จะดึงดูดผู้ค้าปลีกและผู้อยู่อาศัย เช่น มีจุดฮอตสปอตอินเทอร์เน็ต ไร้สายสาธารณะทั่วย่านศูนย์กลางธุรกิจ แม้ว่าย่านศูนย์กลางธุรกิจจะมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่สิ่งที่มีค่าที่สุดที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ สามารถทำได้คือการสานต่อเรื่องราวในอดีตไปสู่อนาคตโดยจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น อินเทอร์เน็ต ไร้สายทั่วย่านศูนย์กลางธุรกิจซึ่งจะทำให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยใช้เวลาในย่านศูนย์กลางธุรกิจมากขึ้น ดึงดูด ผู้มาเยือนรายใหม่ และช่วยเพิ่มเวลาที่ใช้ในการช็อปปิ้งและการทำกิจกรรมทางธุรกิจ 8. ปรับปรุงมาตรฐานการออกแบบชุมชนเมืองเพื่อสร้างลักษณะเฉพาะที่มีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์สำหรับ ย่านศูนย์กลางธุรกิจ การออกแบบชุมชนเมืองสามารถใช้เป็นเครื่องมือบูรณาการเพื่อเพิ่มความสวยงามของย่านศูนย์กลางธุรกิจ การปรับปรุงสิ่งแวดล้อมทางกายภาพทั้งหมดควรสนับสนุนเอกลักษณ์ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ ประชาชนผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนควรได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเข้าถึง พื้นที่สาธารณะ อาคารสำคัญที่เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ควรได้รับการดูแลบำรุงรักษาและปกป้องในฐานะ ที่เป็นงานศิลปะที่สร้างความประทับใจทั้งในแง่องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมและความรู้สึกถึงความสำคัญของ สถานที่ โดยเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ควรจัดให้มีมาตรฐานที่ใช้สำหรับย่านศูนย์กลางธุรกิจในการออกแบบ ปรับปรุงด้านหน้าอาคาร การปรับปรุงภูมิทัศน์ การปลูกต้นไม้และพืชพันธุ์ การติดตั้งป้าย และการออกแบบ แสงสว่างให้มีความสอดคล้องกันในแง่ของรูปแบบและรายละเอียดวัสดุ

ที่มาภาพ : https://www.flickr.com/photos/riversideil/25822107434/in/album-72157691695163541/ หน้า 54

ตลาดนัดสินค้าเกษตร (Farmer Market) เดือนกันยายน ค.ศ. 2016 ที่มาภาพ : https://www.flickr.com/photos/riversideil/albums/72157669797862613/with/29223607415/

กิจกรรมเก็บไข่เทศกาลอีสเตอร์ (Easter Egg Hunt) เดือนเมษายน ค.ศ. 2017 ที่มาภาพ : https://www.flickr.com/photos/riversideil/albums/72157669797862613/with/29223607415/

กิจกรรมวิ่งระยะสั้น 5 กิโลเมตร ในงาน "Independence Day 5K" วันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 ที่มาภาพ : https://www.flickr.com/photos/riversideil/albums/72157685769781976 หน้า 55

9. บทสรุป คุณปีเตอร์ สกาเลอร่า ผู้จัดการหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ได้ทำสัญญากับมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ในช่วงฤดู ใบไม้ผลิปี ค.ศ. 2012 เพื่อให้คณะผู้ศึกษาซึ่งเป็นนิสิตปริญญาโทหลักสูตรการบริหารรัฐกิจดำเนินการรวบรวมข้อมูล และจัดทำข้อเสนอแนะที่จะนำไปสู่การสร้างแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองของหมู่บ้านนอกเหนือไปจากความ ร่วมมือที่มีกับสำนักงานวางแผนมหานครชิคาโก (Chicago Metropolitan Agency for Planning: CMAP) ในเรื่องการศึกษาด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน การจราจร การพัฒนาด้านพาณิชยกรรมและการค้าปลีก การจัดโซนนิ่ง พื้นที่ และการสร้างความเติบโตด้านเศรษฐกิจ ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2012 คณะผู้ศึกษาได้ออกแบบ ดำเนินการ และวิเคราะห์ แบบสอบถามที่ใช้ในการสำรวจ สร้างโปรไฟล์ที่ตั้งของหมู่บ้าน ดำเนินการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจ อีกทั้งได้นำเสนอ สิ่งที่ค้นพบและข้อเสนอแนะเชิงบวกต่อสภาหมู่บ้านในการประชุมคณะกรรมการหมู่บ้านเกี่ยวกับศักยภาพทาง เศรษฐกิจของย่านศูนย์กลางธุรกิจ สรุปได้ดังนี้ ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีเอกลักษณ์เฉพาะ ผังหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ที่เฟรเดอริก ลอว์ โอล์มสเต็ด (Frederick Law Olmsted) ออกแบบไว้ในปี ค.ศ. 1869 ทำให้หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างไปจากพื้นที่อื่นในเขตมหานคร ชิคาโก และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่มีความสำคัญในระดับประเทศ โดยการผสมผสานระหว่างสวนสาธารณะ ถนนที่คดเคี้ยว พื้นที่เปิดโล่ง และอาคารประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีเสน่ห์ชวนให้คิดถึงยุคอดีตของสหรัฐอเมริกา ความสมบูรณ์ทางประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์สามารถดำรงรักษาได้แม้จะมีการเติบโต ทางเศรษฐกิจของชุมชน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีอาคารพาณิชย์เพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่ความสมบูรณ์ทางประวัติศาสตร์โดยส่วนใหญ่ ยังคงไม่บุบสลาย เนื่องจากพื้นที่ค้าปลีกส่วนใหญ่ยังคงว่างไม่มีการใช้งาน จึงมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพัฒนา ธุรกิจโดยไม่คุกคามลักษณะสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่ วิสัยทัศน์การพัฒนาย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ได้รับความเห็นเป็นเอกฉันท์จาก ประชาชนผู้อยู่อาศัย นักธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย วิสัยทัศน์นี้เรียกร้องให้เทศบาลหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ผู้อยู่อาศัยเพื่อให้มีตัวเลือกในการจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าปลีกที่หลากหลาย ดึงดูดร้านค้า ที่หรูหราจากชุมชนโดยรอบให้เข้ามาประกอบการในพื้นที่ ในขณะเดียวกันยังคงความสมบูรณ์ทาง ประวัติศาสตร์ไว้ได้ หน้า 56

เสน่ห์ของย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีความแตกต่างจากหมู่บ้านบรู๊คฟิลด์ หมู่บ้านลากรองจ์ และชุมชนใกล้เคียงอื่น ๆ ความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจของหมู่บ้านวิลเลจ ออฟริเวอร์ไซด์มีพื้นฐานมาจากผังการออกแบบชุมชนของเฟรเดอริก ลอว์ โอล์มสเต็ด ที่เสมือนเป็นการสร้าง โอเอซิสที่ชวนให้นึกถึงอดีตท่ามกลางการเติบโตของเมืองแบบไร้ระเบียบในย่านชานเมืองของพื้นที่อื่น การดึงดูดผู้ซื้อจากชุมชนใกล้เคียงสามารถทำได้ไม่ยาก หากมีการเข้าถึงเส้นทางคมนาคมขนส่งที่สะดวก พื้นที่จอดรถกว้างขวาง ทิวทัศน์ที่สวยงาม และร้านค้าปลีกที่หลากหลายจะช่วยดึงดูดผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ ระดับสูงให้เข้ามาในพื้นที่ ข้อสรุปข้างต้นทำให้คณะผู้ศึกษาเชื่อมั่นว่าหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีเหตุผลสนับสนุนทุกประการที่จะมองเห็น อนาคตที่ดีของย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน วิสัยทัศน์ของคณะผู้ศึกษา คือ พื้นที่ที่พลุกพล่านและเฟื่องฟูด้วย การรวมตัวกันของร้านค้าปลีกที่มีอยู่เดิมและร้านใหม่ ๆ ที่เข้ามาตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้อยู่อาศัย และกลุ่มลูกค้าผู้ร่ำรวยที่มาจากชุมชนอื่น ๆ โดยรอบ ประกอบกับการมีกิจกรรมพิเศษที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือ ของสำนักงานสวนสาธารณะและพื้นที่สันทนาการ ห้องสมุดประชาชน องค์กรทางวัฒนธรรม องค์กรประวัติศาสตร์ และหน่วยงานอื่น ๆ

ประชาชนชมขบวนพาเหรดฉลองวันชาติอเมริกา (The 4th of July/Independence Day) วันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 ที่มาภาพ : https://www.flickr.com/photos/riversideil/albums/72157682740453752/with/35351392920/ หน้า 57

ภาคผนวก ก แบบสอบถามสำหรับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ โปรดตอบคำถาม 10 ข้อ ต่อไปนี้อย่างสุดความสามารถ ข้อมูลจากท่านมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการนำไปสู่แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านโดยตรง 1. โปรดให้คะแนนความพึงพอใจโดยรวมของท่านที่มีต่อย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน ความสะดวกในการจอดรถและการเข้าถึงพื้นที่ ตัวเลือกสินค้าและบริการ ราคาสินค้าและบริการ ความปลอดภัย ทัศนียภาพที่ปรากฏในย่านนี้ จำนวนชั่วโมงในการเปิดร้านให้ซื้อสินค้าและบริการ อัตราการเติบโตของย่าน ภาพรวมความพึงพอใจของท่านที่มีต่อย่านนี้

พึงพอใจ ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( )

เฉย ๆ ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( )

ไม่พึงพอใจ ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( )

ไม่ทราบ ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( )

2. ท่านซื้อสินค้าและบริการในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านบ่อยแค่ไหน ( ) มากกว่า 1 ครั้ง / สัปดาห์ ( ) สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ( ) เดือนละ 1 ครั้ง ( ) นาน ๆ ครั้ง หรือไม่เคย 3. ท่านใช้จ่ายเป็นจำนวนเท่าใดในการซื้อสินค้าและบริการที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านโดยเฉลี่ยต่อครั้ง ( ) น้อยกว่า $15 ( ) $15 - $50 ( ) $51 - $100 ( ) มากกว่า $100 4. การพัฒนาย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมมีความสำคัญเพียงใด ( ) สำคัญมาก ( ) ค่อนข้างสำคัญ ( ) ไม่สำคัญขนาดนั้น 5. ธุรกิจใหม่ใดต่อไปนี้ที่ท่านอยากเห็นในพื้นที่ใจกลางหมู่บ้าน โปรดเลือกทุกข้อที่ท่านต้องการให้มี ( ) ร้านค้าดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาในครอบครัว ( ) ตลาดนัดสินค้าเกษตรจากผู้ผลิต ( ) ร้านสะดวกซื้อ ( ) สำนักงานเพื่อการพาณิชย์ ( ) สโมสรสุขภาพ ( ) ร้านแฟรนไชส์ ( ) คลินิก / สถานพยาบาล ( ) โรงแรมประเภทให้ที่พักกับอาหารเช้า B&B ( ) ร้านขายของชำ ( ) ธนาคาร ( ) ร้านขายยา ( ) ร้านอาหาร ( ) บาร์ ( ) ร้านกาแฟ 6. ท่านทราบหรือไม่ว่าย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านเป็นเขตอนุรักษ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ ( ) ทราบ ( ) ไม่ทราบ

หน้า 58

- หน้า 2

6a. ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านเป็นเขตอนุรักษ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติที่มีความสำคัญกับท่านใช่หรือไม่ ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ 7. เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง 8. อายุ ( ) น้อยกว่า 18 ปี ( ) 18 - 24 ปี ( ) 25 - 34 ปี ( ) 35 - 54 ปี ( ) 55 ปี ขึ้นไป 9. ท่านอาศัยอยู่ในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มาแล้วกี่ปี (โปรดระบุ) ______________ ปี 10. ท่านมีความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ เกี่ยวกับย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านที่ท่านต้องการแจ้ง ให้หน่วยงานเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ทราบหรือไม่ หากมีโปรดระบุ ____________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ขอขอบคุณที่ท่านสละเวลาในการตอบคำถาม ข้อมูลที่ได้รับจากท่านจะนำไปสู่แผนพัฒนาเศรษฐกิจย่านศูนย์กลาง ธุรกิจของหมู่บ้านโดยตรงเพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมของประชาชนผู้อยู่อาศัย

หน้า 59

ภาคผนวก ข แบบสอบถามสำหรับการประเมินภาคธุรกิจ ในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ โปรดตอบคำถาม 16 ข้อ ต่อไปนี้อย่างสุดความสามารถ ข้อมูลจากท่านมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการนำไปสู่แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้านโดยตรง 1. ธุรกิจของท่านเปิดกิจการในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มาแล้วกี่ปี (โปรดระบุ) ______________ ปี 2. ท่านได้ย้ายกิจการของท่านจากที่อื่นเพื่อมาทำธุรกิจที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ใช่หรือไม่ ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ 2a. หากใช่ ท่านย้ายมาจากที่ไหน (โปรดระบุ) _________________________________________ 3. ผลประกอบการโดยรวมจากธุรกิจของท่านในปี ค.ศ. 2011 เป็นจำนวนเท่าใด ( ) น้อยกว่า $250,000 ( ) $250,000 - $1,000,000 ( ) $1,000,000 - $5,000,000 ( ) มากกว่า $5,000,000 4. ทำไมท่านจึงทำธุรกิจที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ โปรดเลือกทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ( ) มีวัฒนธรรมการทำธุรกิจที่เจริญรุ่งเรือง ( ) มีระบบขนส่งสาธารณะ (รถไฟ/ถนนทางหลวง) ( ) ความพร้อมของอาคารพาณิชย์/ที่ดิน ( ) มีกฎหมาย/ระเบียบข้อบังคับที่เป็นมิตรต่อธุรกิจ ( ) อยู่ใกล้กับบริการ/ธุรกิจที่คล้ายกัน ( ) มีที่อยู่ในใจกลางเมืองของหมู่บ้าน ( ) คุณภาพชีวิต ( ) เป็นการทำธุรกิจที่บ้าน ( ) อาศัยอยู่ที่นี่มาตลอด ( ) มีฐานลูกค้า ( ) มีแรงงาน ( ) อื่น ๆ 5. ท่านวางแผนที่จะทำธุรกิจของท่านที่หมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ต่อไปอีก 3 - 5 ปี ข้างหน้าใช่หรือไม่ ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ 5a. หากใช่ ท่านกำลังวางแผนที่จะซื้อ เช่า หรือสร้างอาคารใหม่เพื่อประกอบธุรกิจใช่หรือไม่ ( ) ใช่ ( ) ไม่ใช่ 5b. หากไม่ใช่ การตัดสินใจของคุณขึ้นอยู่กับเหตุผลใดต่อไปนี้ โปรดเลือกทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ( ) กำลังจะย้ายไปอยู่ที่อื่นหรือเกษียณ ( ) ความพร้อมของอาคารพาณิชย์/ที่ดิน ( ) ค่าใช้จ่ายที่ดิน/อาคาร ( ) กฎหมาย/ระเบียบข้อบังคับของเทศบาล ( ) อื่น ๆ 6. ท่านเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้เช่าสถานประกอบการสำหรับทำธุรกิจ ( ) เป็นเจ้าของ ( ) เป็นผู้เช่า

หน้า 60

- หน้า 2

7. ธุรกิจของท่านในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีพนักงานที่จ้างเต็มเวลากี่คน (โปรดระบุ) _________ คน 8. ธุรกิจของท่านในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์มีพนักงานที่จ้างพาร์ตไทม์กี่คน (โปรดระบุ) _________ คน 9. ในอีก 3 - 5 ปี ข้างหน้า ท่านคาดว่าจำนวนพนักงานของท่านจะเปลี่ยนไปอย่างไร ( ) เพิ่มขึ้น ( ) เท่าเดิม ( ) ลดลง การประเมินภาคธุรกิจในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ 10. ท่านมีความเห็นว่าภาพลักษณ์ธุรกิจโดยรวมของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์เป็นอย่างไร ( ) ดีมาก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) แย่ ( ) ไม่ทราบ 11. โปรดเลือกระดับความพึงพอใจของท่านที่มีต่อหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ตามปัจจัยต่อไปนี้ เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อธุรกิจของท่าน

พึงพอใจมาก พึงพอใจ ไม่พึงพอใจ ไม่พึงพอใจมาก ไม่ทราบ การติดต่อกับเจ้าหน้าที่เทศบาล ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ความได้เปรียบในการแข่งขันจากสถานที่ตั้งธุรกิจ ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่เทศบาล ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) แรงงานมีฝีมือ ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ความพร้อมของอสังหาริมทรัพย์ในการทำธุรกิจ ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินและโซนนิ่ง ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) การเก็บภาษีของเทศบาล ( ) ( ) ( ) ( ) ( )

12. โปรดเลือกระดับความพึงพอใจของท่านที่มีต่อบริการชุมชนของเทศบาลวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ พึงพอใจมาก พึงพอใจ ไม่พึงพอใจ ไม่พึงพอใจมาก ไม่ทราบ โรงเรียนรัฐบาล ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) สถานพยาบาล ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) สถาบันการเงิน ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) สถาบันอุดมศึกษา ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) การให้บริการสนับสนุนด้านธุรกิจจาก ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) หน่วยงานเทศบาล

การให้บริการสนับสนุนด้านธุรกิจจากหอการค้า ( ) ( ) ( ) ( ) ( )

หน้า 61

- หน้า 3

13. ปัจจุบันมีการให้บริการทางธุรกิจในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ที่ช่วยให้ธุรกิจของท่านมีความสามารถ ในการแข่งขันมากขึ้นหรือไม่ หากมีโปรดระบุ ______________________________________________ _______________________________________________________________________________ _______________________________________________________________________________ 14. ท่านต้องการให้มีบริการอะไรบ้างในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ที่จะช่วยให้ธุรกิจของท่าน มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นหรือไม่ หากมีโปรดระบุ ____________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ 15. ธุรกิจประเภทใดในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ที่จะช่วยให้ธุรกิจของท่านมีความสามารถในการแข่งขัน มากขึ้น โปรดเลือกทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ( ) ร้านค้าดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาในครอบครัว ( ) ตลาดนัดสินค้าเกษตรจากผู้ผลิต ( ) ร้านสะดวกซื้อ ( ) สำนักงานเพื่อการพาณิชย์ ( ) สโมสรสุขภาพ ( ) ร้านแฟรนไชส์ ( ) ร้านขายของชำ ( ) โรงแรมประเภทให้ที่พักกับอาหารเช้า B&B ( ) คลินิก/สถานพยาบาล ( ) ร้านขายยา ( ) การให้บริการด้านวิชาชีพเฉพาะ เช่น นักบัญชี ทนายความ ฯลฯ ( ) ร้านอาหาร ( ) บาร์ ( ) ร้านกาแฟ ( ) ธนาคาร ( ) อื่น ๆ โปรดระบุ __________________ 16. ท่านมีความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่ท่านต้องการให้มีการปรับปรุงในย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน หรือไม่ หากมีโปรดระบุ ______________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ขอขอบคุณที่ท่านสละเวลาในการตอบคำถาม ข้อมูลที่ได้รับจากท่านจะนำไปสู่แผนพัฒนาเศรษฐกิจย่านศูนย์กลาง ธุรกิจของหมู่บ้านโดยตรง

หน้า 62

ภาคผนวก ค : คำถามที่ใช้สัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียซึ่งเป็นกลุ่ม ผู้นำชุมชนในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ จุดประสงค์การสัมภาษณ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงคุณภาพซึ่งจะใช้ในการอภิปรายผลการวิจัย

คำถามข้อที่ 1 : ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับบรรยากาศทางธุรกิจโดยรวมภายในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ คำถามข้อที่ 2 : ขอให้ท่านอธิบาย "ความได้เปรียบในการแข่งขันด้านธุรกิจ" ของหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งมูลค่าทางธุรกิจที่หมู่บ้านมีและที่อื่นไม่มี) คำถามข้อที่ 3 : ท่านคิดว่ามีโอกาสใดบ้างสำหรับธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งกำลังเติบโต? คำถามข้อที่ 4 : ทำไมท่านถึงคิดว่ามีธุรกิจใหม่ ๆ ที่ต้องการเข้ามาประกอบการในหมู่บ้านวิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ คำถามข้อที่ 5 : ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจ/ผู้นำเมือง ขอให้ท่านอธิบายวิสัยทัศน์ของท่านในการทำให้ย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน วิลเลจออฟริเวอร์ไซด์ประสบความสำเร็จ คำถามข้อที่ 6 : อะไรคือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของย่านศูนย์กลางธุรกิจของหมู่บ้าน และอะไรคืออุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดที่อาจขัดขวาง การพัฒนาธุรกิจ คำถามข้อที่ 7 : ขอให้ท่านยกตัวอย่างธุรกิจในหมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จ และทำไมท่านจึงคิดเช่นนั้น

หน้า 63

ประวัติผู้เขียน วันเรารวี ธนกัญญา (จิ๊บ) นักผังเมืองชำนาญการ

สังกัด

กลุ่มงานประเมินผลและมาตรฐานทางผังเมือง ส่วนผังเมืองรวม สำนักงานวางผังเมือง สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร

การศึกษา

พ.ศ. 2544 สถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต สาขา สถาปัตยกรรมศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับ 2) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น พ.ศ. 2547 สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขา การออกแบบชุมชนเมือง (Urban Design, GPA. 3.56) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รับทุนผู้ช่วยสอน จำนวน 18 เดือน พ.ศ. 2555 Master of Public Administration สาขา บริหารรัฐกิจ (Public Management, GPA. 3.93) จาก University of Illinois at Chicago ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้รับทุนอมรินทร์ของ กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2560 Master of Public Policy สาขา บริหารรัฐกิจ (Policy Studies, GPA. 3.66) จาก National Graduate Institute for Policy Studies ประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (Monbukagakusho: MEXT)