Foodstylist issue 70

Page 1


Cover Story

words a lot like me

Canada

New Latitude Food Product บนดินแดนที่ตั้งอยู่ใกล้ช่องฟรีซของโลกอย่างขั้วโลกเหนือ ผืนดินก้อนยักษ์ที่อยู่ด้านเหนือ สุดของแผนที่โลกบนทวีปอเมริกาเหนือ ประเทศนี้หลอมรวมผู้คนหลายชาติหลายเผ่าพันธุ์ ทั้ ง ชาวพื้ น เมื อ ง และชนชาติ ที่ เ ข้ า มาบุ ก เบิ ก อาศั ย ยึ ด ครองดิ น แดนที่ มี ลั ก ษณะทาง

ภูมิศาสตรที่แสนอัศจรรย์ ราวกับใครสักคนผู้สร้างโลกบรรจงหยิบจิ๊กซอว์ชิ้นใหญ่ที่สุดรอง จากรั ส เซี ย วางไว้ ต รงกลางระหว่ า งมหาสมุ ท ร 3 แห่ ง นั่ น คื อ มหาสมุ ท รอาร์ ก ติ ก มหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทรแปซิฟิก ให้คนที่ใช้ภาษาต่างกัน มีวิถีชีวิตต่างกัน มาอยู่บนดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและมีความหลากหลายของสายพันธุ์ สิ่งมีชีวิต บ้างก็จินตนาการไว้ว่า แคนาดาคงมีผืนน้ำผืนดินที่ขาวโพลนไปหมด บ้างเดาไปว่าเมืองนี้ คงคล้ายคลึงกับลานสกียักษ์ มีหมีขั้วโลกเล่นสกีกันเพลินใจ ในความเป็นจริงของแคนาดา ที่ถือเป็นความอัศจรรย์ซึ่งคุณอาจไม่เคยรู้ก็คือ ที่นี่คือแหล่งของอาหารการกินที่หลากหลาย วัตถุดิบสำหรับทำอาหารเมนูชั้นเลิศต่างๆ ของโลก พืชพันธุ์ ธัญพืช เนื้อสัตว์ระดับ พรีเมียม และอาหารทะเลคุณภาพสูงที่เหมาะกับการรังสรรค์เมนูต่างๆ ในห้องอาหาร ระดับห้าดาว สิ่งเหล่านี้ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังความเหน็บหนาว ป่าไม้ ทุ่งหญ้าสีเขียว และสี ขาวโพลนของหิมะ บนเดินแดนครัวของโลกที่ชื่อ “แคนาดา”

85 foodstylist


อาหารแห่งแคนาดา การผสมผสานแห่งวัฒนธรรมบนเปลือกน้ ำแข็ง ขัว้ โลก

ก่อนจะเดินทางไปสู่เส้นทางของอาหาร ต้องเล่าความเป็นมาของดินแดน เดียวของโลกที่มีสัญลักษณ์เป็นใบเมเปิ้ลสักนิด เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่ถึงแก่น แห่งแคนาดา สำหรับคนที่เคยเยือนในฐานะของอาคันตุกะ แบกเป้สะพาย กระเป๋าเก๋ๆ เดินเตร็ดเตร่ที่แคนาดา หลายคนจะมีรูปถ่ายของทิวทัศน์และ บรรยากาศของธรรมชาติที่สวยงาม แคนาดามีฤดูกาลที่แตกต่าง ทำให้ผู้คนและสิ่งมีชีวิตได้ปรับเปลี่ยนชีวิต ไม่ ว่าจะเป็นฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูไมใบไม้ร่วง และฤดูร้อน ด้วยการ จัดสรรของผู้สร้างโลก ได้จัดเตรียมทรัพยกรธรรมชาติแบบเขตหนาวอย่าง สมบูรณ์ แม้จะขาวโพลนไปด้วยหิมะตามสไตล์ของเขตขั้วโลกเหนือเป็น ส่วนใหญ่ แต่ก็พร้อมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ ป่าไม้ ต้นไม้ ลำธาร ทะเล ทำให้มีชนเผ่าพื้นเมืองตั้งรกรากมานานแสนนาน กลุ่มคนพื้นเมืองที่คนทั้ง โลกคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีก็คือ ชาวเอสกิโม หรือให้ถูกต้องก็คือ ชาวอิน นูอิต คนที่อาจถือเป็นเจ้าถิ่นตัวจริงที่สืบทอดการล่าสัตว์ ทำการประมง ทำการเกษตรแบบดั้งเดิม แต่แล้วยุคก่อนการล่าอาณานิคม เมื่อมีผู้มา เยือนจากชาติอื่นบนแผ่นดินนี้ ช่วงเวลานี้เองที่ทำให้เกิดการผสมผสาน วัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษ ชาวยุโรปตะวันตก คน 86 foodstylist

ละติน และเอเชีย ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าเมืองหลวงอย่างออตตาวา และมณฑล ทั้ง 10 ของแคนาดา 3 เทอริทอรี่ จึงมีความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และอาหารที่ผสมผสานของคนหลายชาติ ท่ามกลางความอุดม สมบูรณ์ของธรรมชาติ

จากธรรมชาติสคู่ รัว

แคนาดาอาจแบ่งฤดูกาลเป็นสี่ฤดูกาล แต่สำหรับคนเขตร้อนทั่วไปอย่าง เรา คงไม่อาจเรียกเป็นอย่างอื่นได้ นี่มันฤดูหนาว หนาว หนาว และก็ หนาว และด้วยความหนาวเย็นคงพูดได้ว่าสดใหม่เหมือนหยิบมาจากตู้เย็น ราวกับพอเด็ดจากต้นก็หล่นลงไปในตู้เย็นกันเลยทีเดียว ผลิตภัณฑ์อาหาร ของแคนาดาแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ตามแหล่งที่ไปที่มา นั่นก็คือ จากผืนป่า หรือไร่ และจากผืนน้ำ มหาสมุทร ลำธาร หรือแหล่งน้ำที่มีการเพาะพันธุ์ (โดยมากมาจากแหล่งธรรมชาติ) จากที่ได้เกริ่นกันไป ประเทศแคนาดานั้นกว้างใหญ่เป็นตู้เย็นยักษ์ ตั้งอยู่ ท่ามกลางทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์จนคนทั่วโลกอิจฉา เกษตรกรหรือผู้ผลิต อาหารของดินแดนแห่งนี้รักษาเครดิตคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของตนเอง เป็นอย่างดี มีขั้นตอนการผสมผสานการอนุรักษณ์และเทคโนโลยีชั้นสูงใน การผลิ ต พร้ อ มยั ง มี ผู้ เ ชี่ ย วชาญอย่ า งแท้ จ ริ ง ในการควบคุ ม พั ฒ นา


know Canada

know Canada ภู มิ ป ระเทศที่ ล้ อ มรอบด้ ว ยมหาสมุ ท ร พื้นที่ที่อุดมไปด้วยป่าเขาลำเนาไพร จึง ทำให้ แ คนาดาเป็ น แหล่ ง ผลิ ต น้ ำ ดื่ ม

ที่ ส ำคั ญ และมี ชื่ อ เสี ย ง ซึ่ ง ถื อ เป็ น

แหล่ ง ผลิ ต น้ ำ 25 เปอร์ เ ซ็ นต์ ข องโลก

โดยเฉพาะน้ำแร่ที่ได้รับการยอมรับและ นิยมมาก

แม้คนจะนึกถึงหิมะ ลานสกี หรือน้ำแข็ง เป็นส่วนใหญ่ ทว่าป่าไม้ ของแคนาดาอันอุดมสมบูรณ์ ล้วนเป็นแหล่งที่ผลิตอาหาร และ โอโซนขนาดใหญ่ของโลก อีกทั้งส่งเสริมในการผลิตสินค้าอาหารที่ ขึ้นชื่อ อย่างพืชผัก ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ดอกไม้และพันธุ์พืชที่กลาย เป็นสินค้าเกษตรกว่า 120 ชนิด รวมไปถึงที่เป็นสินค้าแปรรูปที่ สำคัญอย่างเมเปิ้ลไซรัป

ผลิตภัณฑ์ และส่งออกสินค้าอาหาร ความโชคดีที่ได้อยู่ในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ และการถนอมรักษาความโชคดีด้วยการพัฒนาคุณภาพและรักษาธรรมชาติ จึง ทำให้ แ คนาดาค่ อ ยๆ ขยั บ ขึ้ น เป็ น ผู้ ส่ ง ออกด้ า นอาหารแถวหน้ า ของโลกใน ปัจจุบัน ด้วยการยอมรับให้เป็นแหล่งผลิตสินค้าที่มีคุณภาพจากธรรมชาติ และ มีความปลอดภัยสูง

ผลิตภัณฑ์อาหารทีค่ รบทุกมิติ

สภาพอาการที่หนาวเกือบตลอดทั้งปี โดยอากาศหนาวเย็นที่สุดราวๆ ติดลบ 25 องศาเซลเซียส และจะอบอุ่นหน่อยก็คือ 20 องศาเซลเซียส ทำให้เอื้อต่อการ ผลิตผลิตผลทางการเกษตรในเมืองหนาวและสินค้าการเกษตรอื่นๆ เป็นอย่างดี ซึ่งทำให้ได้ผลผลิตที่ดีและยังเป็นภาวะที่แพร่ของเชื้อโรค และเกิดศัตรูพืชได้ น้อย โดยผลผลิตอาหารของแคนาดาแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ ผักและผลไม้ ผักเมืองหนาวนานาชนิด แอปเปิ้ล ลูกแพร ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ธัญพืช ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง ฯลฯ เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล เนื้อวัว เนื้อหมูแคนาดา ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ อาหารทะเลชนิดต่างๆ แซลมอน ล็อบสเตอร์ ฯลฯ เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ไอซ์ไวน์ เมเปิ้ลไซรัป เครื่องเทศ คงต้องยอมรับกันว่าปัจจุบันนี้สินค้าอาหารหากปราศจากคุณภาพการยอมรับ ย่อมเกิดได้ยาก สำหรับสินค้าอาหารแบรนด์แคนาดานั้น ถูกควบคุมด้วยการ ควบคุมคุณภาพทั้งระบบ หากเป็นสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ เมื่อเจาะผ่านรสชาติที่ อร่อยและความสะอาดแล้วจะพบว่าเบื้องหลังคือการดูแลระบบฟาร์มอย่างดี มี กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่ล้ำสมัย การเลี้ยงแบบฟาร์มออร์แกนิกที่มีความ เป็นธรรมชาติสูง ขั้นตอนการผลิต แปรรูป ล้วนผ่านการควบคุมด้านสุขอนามัย เป็นอย่างดี โดยประเทศแคนาดาเริ่มใส่ใจกันตั้งแต่ต้นน้ำของการผลิตไปจนถึง ขั้นตอนส่งออก 87 foodstylist


know Canada รู้หรือไม่ว่าความหวานจากเมเปิ้ลไซรัปหาได้เหมือนความหวาน แบบอื่นๆ เพราะนอกจากกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว สิ่งดีๆ นั้น มี ม ากกว่ า ที่ คุ ณ รู้ สำหรั บ เมเปิ้ ล ไซรั ป แค่ เ พี ย ง ถ้ ว ยตวง ประกอบไปด้วย… 100% แมงกานีส เสริมให้กระดูก สมอง และระบบประสาท แข็งแรงทำงานได้ดี 10-38% สารต้ า นอนุ มู ล อิ ส ระปริ ม าณสู ง เที ย บกั บ แอปเปิ้ ล กล้วย หรือบรอกโคลี 88 foodstylist

5% ของแคลเซียมและโพแทสเซียม ซึ่งเสริมสร้างกระดูกและ ลดความเสี่ยงจากโรคความดันโลหิต 4% ของแมกนีเซียทำให้กระดูกแข็งแรง 11% ของธาตุเหล็กที่ร่างกายต้องการต่อวันซึ่งช่วยกระตุ้นการ เผาผลาญร่างกายและช่วยเสริมสร้างความสมดุลของน้ำตาล ในร่างกาย เมเปิ้ ล ไซรั ป ถื อ เป็ น กลู ต ามิ ก จากธรรมชาติ ที่ ใ ห้ ร สชาติ กลมกล่อมที่เรียกว่า “อูมามิ” ช่วยให้ต่อมรับรสทำงานได้ดี แถมยังแคลอรีต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ลดปริมาณน้ำตาลในเลือด หรือผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก


เมเปิล้ ไซรัป ทีส่ ดุ ความหวานของแคนาดา

คงไม่มีความหวานใดเท่าความรักที่กำลังสุกงอม แต่ความรักที่สุกงอมของ ฤดูใบไม้ผลิของแคนาดา เมเปิ้ลไซรัปสีแดง สีน้ำตาลเข้ม และสีน้ำตาล เมเปิ้ลกำลังถูกผลิตโดยธรรมชาติ พร้อมกับการสิ้นสุดของฤดูจำศีลของ เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ และเมื่อเอ่ยถึงเมเปิ้ลไซรัป แคนาดาคือแหล่งผลิตที่ ใหญ่ที่สุดของโลก หรือราวๆ 85 เปอร์เซ็นต์ของโลกใบโตๆ นี้เลยทีเดียว จะไม่ให้ผลิตกันจนเชี่ยวชาญก็คงจะแปลก เพราะความหวานชนิดนี้อยู่คู่กับ ดิ น แดนชาวอิ น นู อิ ต มานานแสนนาน นานตั้ ง แต่ ยุ ค ที่ เ ริ่ ม มี ก ารบุ ก เบิ ก อเมริกาเหนือเลยทีเดียว ปัจจุบันนี้ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากเมเปิ้ลของแคนาดาได้กระจายความอร่อย ไปแล้ว 45 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีตั้งแต่เมเปิ้ลไซรัปแบบดั้งเดิม (maple syrup) น้ำตาลเมเปิ้ล (maple sugar) เนยเมเปิ้ล (maple butter) ลูกอม เมเปิ้ล (maple candy) รวมถึงลักษณะของซีเรียลและโยเกิร์ต

สงสัยกันบ้างไหม เมเปิล้ ไซรัปท่านได้แต่ใดมา

คำตอบก็ยังคงเป็นเช่นเดิม สินค้าอาหารแคนาดาล้วนมาจากธรรมชาติ เมเปิ้ลไซรัปนั้นกลั่นจากธรรมชาติ…โดยไซรัปสีน้ำตาลหอมใสนั้นเกิดมา พร้อมๆ กับการเติบโตของแต่ต้นเมเปิ้ลเลยทีเดียว เมื่อมันเริ่มเติบโต ต้น เมเปิ้ลจะเริ่มกระบวนการกลั่นแป้งเป็นน้ำตาลผสมกับน้ำรวมไปถึงแร่ธาตุ จากรากไม้ที่แสนยาวเหยียดของต้นเมเปิ้ล เมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิ ของเหลว จากต้นเมเปิ้ลจะออกมาเป็นน้ำตาลที่ประกอบไปด้วยน้ำและแร่ธาตุถึง 97 เปอร์เซ็นต์ โดยจะมีรสและกลิ่นเฉพาะของเมเปิ้ล ความอัศจรรย์อยู่ตรงนี้ ไม่ ว่ า ของเหลวจะผลิ ต ออกมามากแค่ ไ หน ของเหลว 40 ลิ ต รจาก

ต้นเมเปิ้ลนี้สามารถนำไปทำไซรัปได้เพียงหนึ่งลิตรเท่านั้น นั่นหมายความ ว่ า ความหวานที่ ท่ า นชิ ม ผ่ า นขวดแบรนด์ แ คนาดานั้ น เป็ น ความหวาน

อันเลอค่าเลยทีเดียว ซึ่งด้วยความยากลำบากที่จะได้เมเปิ้ลไซรัปแต่ละ หยาดหยด ชาวแคนาดาเองจึงไม่เลือกที่จะเก็บของยางไม้จากต้นเมเปิ้ลนี้ มามากนักโดยจะกลั่นเพียงต้นละแค่ 1 ลิตรเท่านั้น นั่นเพราะหากกลั่นออก มามากจนเกินไป คุณภาพความอันเป็นเอกลักษณ์ของแคนาดาก็จะลดลง ไป นี่จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนเรื่องความใส่ใจในคุณภาพ

สำรวจโต๊ะอาหารแคนาดา

จากการหลอมรวมหลากหลายวั ฒ นธรรมหลายชาติ นั่ น ก็ เ สมื อ นการ

ผสมผสานทางวัฒนธรรม แคนาดาจึงมีเอกลักษณ์ด้านอาหารในลักษณะ ของการเป็นลูกผสม หรืออาหารที่เกิดจากอิทธิผลของชาติต่างๆ ไม่ว่าจะ เป็นชาติที่สำคัญอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส และอเมริกา ลองมาดูอาหาร

ยอดนิยมของชาวแคนาดากัน Poutine บ้างเรียกว่า แคนาดาไฟรน์ เมนูนี้เป็นตัวอย่างที่เห็นชัดของการ ผสมผสานอาหารในชาติ ต่ า งๆ โดยในเมนู นี้ จ ะมี มั น ฝรั่ ง หรื อ เฟรนช์ฟรายด์ทอดให้เหลืองกรอบแล้วท็อปด้วยชีสและน้ำเกรวี่ Oreilles de Crisse เป็นเมนูทานเล่นที่ละม้ายคล้ายแคปหมูหรือเบคอน ทอดกับน้ำมัน ทานกันกรุบกรอบ Fritters Corn เป็นแป้งทอดหน้าตาคล้ายแพนเค้ก ทำขึ้นมาจากคอร์น ครีม เมล็ดข้าวโพด ไข่ และนม ทอดในน้ำมัน

Fish and Brewis ปลาที่หมักเกลือให้เค็มข้ามคืน จากนั้นนำไปเคี่ยวใน กระทะที่เติมเนยและหัวหอม Maple Sugar Pie พายสุดอร่อยที่มีเอกลักษณ์คือรสหวานอร่อยจาก

น้ำเชื่อมเมเปิ้ล Figgy Duff ขนมหวานแสนฮิ ต ที่ มี ส่ ว นผสมของน้ ำ ตาล ไข่ ลู ก เกด

และเนย

เจาะลึกทีส่ ดุ แห่งแคนาดาแบรนด์

ได้เวลาสำรวจสินค้าอาหารแบรนด์แคนาดาที่อยู่ในครัวทั่วโลก รวมถึง ประเทศไทยของเรา เรามาค้นหาไปพร้อมๆ กันว่าพื้นที่ 9.9 ล้านตาราง เมตร กว้างใหญ่ไพศาลมีวัตถุดิบอะไรให้นำไปรังสรรค์อาหารได้บ้าง ถั่วเหลือง เมล็ดทองแห่งแคนาดา คุณอาจจะแปลกใจเล็กๆ หากจะบอกว่าพืชพันธุ์ที่สำคัญมากที่สุดชนิดหนึ่ง ของแคนาดาก็คือถั่วเหลือง ซึ่งในพื้นที่กว้างขวางและหลากหลายด้วย ลักษณะทางภูมิศาสตร์ มีไร่นาที่ปลูกถั่วเหลืองนั้นมีหลายแห่ง และแต่ละ แห่งมีกระบวนการผลิตอย่างทันสมัยในรูปแบบโรงงาน มาตรฐานการ ควบคุมสินค้าให้ปลอดจากสินค้าจีเอ็มโอ หรือ non-GMO ซึ่งถือเป็น

จุดเด่นสำคัญเรื่องความปลอดภัยนี้เองที่ทำให้ถั่วเหลืองแคนาดาเข้ามาสู่ อุตสาหกรรมอาหารบ้านเราและหลายๆ ชาติในโลก ถั่วเหลืองคุณค่าทางอาหารสูงของแคนาดาสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ อาหารได้ อาทิ น้ำมันถั่วเหลือง แป้งถั่วเหลือง โปรตีนถั่วเหลือง ฯลฯ รวม ถึ ง สิ น ค้ า มากมายที่ ใ ช้ ถั่ ว เหลื อ งเป็ น องค์ ป ระกอบสำคั ญ ไม่ ว่ า จะเป็ น มาการีน เครื่องดื่ม ชีส เค้ก และจานโปรดที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างเค้กซอส แอปเปิ้ลจากแป้งถั่วเหลือง ซุปมิโสะจากน้ำมันถั่วเหลือง หรือสลัดเม็กซิกัน ที่ใช้ถั่วเหลืองกระป๋องเป็นวัตถุดิบสำคัญ

โลกใต้น้ ำ สุดยอดวัตถุดบิ แคนาดา

เมื่อมองไปยังแผนที่โลกและสำรวจไปที่ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของเมือง

ควิเบค ประเทศแคนาดา ประกอบด้วยทะเลน้ำลึกซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วย แพลงตอนจำนวนมหาศาล เปรียบเสมือนแห่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำที่อุดม สมบูรณ์ กลายเป็นแหล่งซีฟู้ดรสเลิศแห่งใหญ่ของโลก ทำให้แคนาดาส่ง ออกอาหารทะมากถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 20 ปี ไม่ว่าจะเป็น snow crab, lobster, northern shrimp, greenland halibut, atlantic halibut, atlantic cod, scallops, rock crab, herring เป็นต้น สำหรับ แหล่งประมงของแคนาดาโดยมากอยู่ที่บริติชโคลัมเบีย, นิวบรุชวิค และโน วาสโกเทีย และแน่นอนสินค้าส่งออก “แบรนด์แคนาดา” มาพร้อมคำว่า “คุณภาพ” เสมอ ที่ควบคุมคุณภาพโดย Canadian Food Inspection Agency (CFIA) องค์กรที่คอยสำรวจและควบคุมคุณภาพของสินค้า อาหารต่างๆ ในแคนาดา ตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกหรือเพาะเลี้ยง ตลอดจนการเก็บเกี่ยว หรือการจับประมงที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของ HACCP (International Hazard Analysis Critical Control Points, Food and Drug Administration and the Wold Health Organization 89 foodstylist


know Canada หากคุ ณ เป็ น ซี ฟู้ ด เลิ ฟ เวอร์ ห รื อ โปรดปรานการ ทานล็ อ บสเตอร์ แ ล้ ว ละก็ ล็ อ บสเตอร์ จ าก แคนาดาถือเป็นความพิเศษที่คุณได้ลิ้มลอง ด้วย ความสดอร่ อ ยขนาดตั ว มหึ ม าแล้ ว การจั บ ล็ อ บสเตอร์ ใ นน่ า นน้ ำ แอตแลนติ ก ของชาว แคนาเดียนจะทำกันอย่างพิถีพิถันแถมเก็บรักษา คุ ณ ภาพความสดได้ อ ย่ า งทั น ท่ ว งที เมื่ อ ชาว ประมงจับล็อบสเตอร์ตัวโตได้ ก็จะถูกโยนเข้าตู้ แช่บนเรือเพื่อรักษาคุณภาพทันที และเพียงไม่กี่ ชั่วโมงก็จะมานอนรออยู่บนถาดในตลาดแล้วเพื่อ ขายกั น แบบสดๆ หรื อ หากเป็ น แบบแช่ แ ข็ ง ล็ อ บสเตอร์ ก็ จ ะถู ก ทำให้ ช็ อ กเย็ น (quickfreezing) เพื่ อ เป็ น การการั น ตี ค วามสดและ รสชาติไว้ด้วย “Quebec Lobster” ขึ้นชื่อในเรื่องของความ อร่อย เปลือกที่แข็งเนื้อแน่น น้ำหนักต่อหนึ่งตัว อยู่ที่ราวๆ 450 กรัม ใครได้ชิมเป็นต้องติดอก ติดใจไม่มีวันลืม

90 foodstylist

know Canada การเพาะเลี้ ย งแซลมอนเพื่ อ การส่ ง ออกใน ประเทศแคนาดาจะนิยมทำแถบชายฝั่งทะเล แอตแลนติก บริเวณอ่าวบรุชส์วิก โนวาสโกเทีย นิวฟันด์แลนด์ และสำหรับแถบบริติชโคลัมเบียนั้น ฟาร์มแซลมอนจะมีศูนย์กลางอยู่ที่แวนคูเวอร์ โดยจะเป็นสายพันธุ์แซลมอนแอตแลนติก ความลับของแซลมอนนั้น นอกจากรสชาติที่ ยอดเยี่ยมสามารถนำไปปรุงอาหารได้แถบทุก ชาติแล้ว ยังอุดมไปด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพ มากมาย อาทิ โปรตีนสูงแต่กรดไขมันอิ่มตัวต่ำ สารที่ เ ป็ น ประโยชน์ ต่ อ หั ว ใจอย่ า งกรด

โอเมก้า 3 สูง


know Canada เจ้ า ผลไม้ เ มล็ ด เล็ ก ๆ นี้ มี ป ระโยชน์ ม ากมาย เรียกได้ว่าจิ๋วแต่แจ๋ว มาดูประโยชน์ของมันกัน - ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ช่วยกระตุ้นใน เรื่องการไหลเวียนเลือด เสริมการทำงานของ หั ว ใจ และช่ ว ยลดระดั บ คลอเลสเตอรอลใน ร่างกาย - ช่วยป้องกันปัญหาโรคในช่องปาก ไม่ว่าจะ เป็นปัญหาฝันผุ โรคในช่องปาก และการก่อตัว ของหินปูน - สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในเรื่องการลด ความอ้ ว น ป้ อ งกั น โรคร้ า ยอย่ า งมะเร็ ง โรค หัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ แถมยังเสริมความ อ่อนเยาว์ให้กับผิวพรรณ ช่วยเสริมการทำงาน ของสายตา

แซลมอนแคนาเดียน เจ้าปลาที่มีความพยายามสูงอย่างแซลมอน สำหรับประเทศแคนาดา แซลมอนในน่านน้ำของมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออก หลักของประเทศ มีทั้งแบบเพาะเลี้ยงไว้เพื่อขาย และทำประมงจากใน มหาสมุทร โดยการจับแบบดั้งเดิมนิยมทำประมงกันที่ต้นน้ำมหาสมุทร ขณะที่การล่าเพื่อส่งออกปริมาณมากก็จะใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย แล้วออกไปนอกชายฝั่ง สำหรับแซลมอนที่พบเห็นในตลาดของประเทศ แคนาดามั ก จะชำแหละเป็ น สเต๊ ก ขายเป็ น ตั ว และหากเป็ น แซลมอน

กระป๋องแล้วส่วนใหญ่เป็นแบบ pink salmon, sockeye salmon สำหรับ การส่ ง ออกไปต่ า งประเทศ แซลมอนคาเวี ย ร์ แซลมอนรมควั น หรื อ แซลมอนแช่แข็ง เป็นต้น หมูและเนื้อชั้นยอด เนื้อสัตว์ยอดนิยมอย่างหมูและเนื้อวัวแบรนด์แคนาดา ถือเป็นเนื้อชั้นยอด ที่ผ่านการประคบประหงมเลี้ยงกันอย่างดี ด้วยระบบปศุสัตว์ที่ทันสมัย ปลอดภัย รักษาความสะอาดและอนามัยและเริ่มตั้งแต่การให้อาหารที่เพิ่ม วิ ต ามิ น และสารอาหารอย่ า งใกล้ ชิ ด และมี ร ะบบการตรวจสอบอย่ า งมี ประสิทธิภาพ (National Cattle Indentification system) รวมถึง โปรแกรมการป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าก้อนเนื้อหอมกรุ่นที่อยู่ บนจานอาหารของคุณนี้สามารถย้อนรอยสำรวจกันได้ว่าปลอดภัยอย่าง แท้จริง

สำหรับสายพันธุ์ของเนื้อวัวที่เพาะเลี้ยงกันมาก และที่สำคัญยังเติบโตได้ดี เฉพาะที่แคนาดาได้แก่ Angus, Herefod, Charolais และ Simmental ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของเนื้อที่เหนียวนุ่มและรสสัมผัสของเนื้อแบบเต็มๆ จะ รังสรรค์เมนูอะไรสัญชาติใดก็เวิร์ก

ทีส่ ดุ ในโลกกับแครนเบอรีอ่ อร์แกนิก

สุดลูกหูลูกตากับทุ่งเบอร์รี่สีแดงสดแทบอดในไม่ไหวที่จะลองหยิบเบอร์รี่สี แดงขึ้นมาลองชิม…แคนาดาเองเป็นแหล่งสำคัญที่ผลิตสินค้าแปรรูปจาก แครนเบอร์รี่ (cranberry) และบลูเบอร์รี่ (blueberry) และเป็นประเทศ ที่ผลิตแครนเบอร์รี่ออร์แกนิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความลับของเบอร์รี่ของ แคนาดาก็คือ ดินอันเหมาะสม นั่นคือดินที่มีความชุ่มชื้นสูง บางแห่งจะก่อ คันกั้นทราย ซึ่งเดิมเจ้าไร่แครนเบอร์รี่เรียกว่า cranberry bogs และ เทคนิคการเก็บเกี่ยวที่เรียกว่า flooding techniques คือการปล่อยน้ำให้ ท่วมเจ้าทุ่งแครนเบอร์รี่สูงหลายนิ้ว แล้วเก็บเกี่ยวแครนเบอร์รี่ด้วยรถดูด ขึ้นมาจากบ่อ และขนไปโรงงานเพื่อทำการคัดเลือกเกรดและผลิตสินค้า ต่อไป สำหรับการจำหน่ายก็มีการขายสด ทำให้เบอร์รี่แห้ง แปรรูปเป็นน้ำผลไม้ หรือเป็นซอส ฟู้ดสไตลิสท์เองก็นำมาทำเมนูหลากหลายให้ผู้อ่านชมในเล่ม ในคอลัมน์ dish of the month 91 foodstylist


92 foodstylist


ไอซ์ ไวน์ เอกลักษณ์แห่งสีสันหรรษาแบบแคนาดา

การดื่ิมไวน์ประกอบกับมื้ออาหารถือเป็นวัฒนธรรม และด้วยลักษณะของ บ้านเมืองแบบแคนาดาที่เป็นแหล่งวัตถุดิบสำหรับผลิตเครื่องดื่มอย่าง มหาศาล ไม่ว่าจะเป็น “องุ่น” ที่ผลิตเป็น “ไวน์” และ “ข้าวและธัญพืช” วั ต ถุ ดิ บ ชู โ รงของการผลิ ต “เบี ย ร์ ” และเครื่ อ งดื่ ม ที่ เ ป็ น พระเอกของ แคนาดา ซึ่งโลกกำลังนิยมมากขึ้นในปัจจุบันนั่นคือ “ไอซ์ไวน์ (Ice wine)” โดยแคนาดาเป็นผู้ส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก การดื่มนั้นชาวแคนาดานิยมดื่มหลังอาหารเหมือนของหวานหลังมืออาหาร (sweet dessert wine) เป็นไวน์ที่มีรสชาติหวานโดดเด่น ซึ่งเกิดจาก

ขั้นตอนการเก็บองุ่นตอนที่อากาศเย็นจัดอยู่ที่ประมาณ -8 องศาเซลเซียส ในช่วงฤดูหนาว ในช่วงห้าทุ่มถึงตีห้า เมื่อองุ่นที่อยู่ในอากาศเย็นจัด ภายใน เมล็ดจะเป็นเกล็ดน้ำแข็งและหวานฉ่ำ และความพิเศษนี้เองที่ถูกนำมาหมัก และผ่านการบวนการผลิตจนได้ไอซ์ไวน์ชั้นเลิศ การันตีด้วยรางวัลมากมาย นอกจากไอซ์ไวน์ที่ขึ้นชื่อแล้ว แคนาดายังมีพระเอกอีกตัวในการส่งออก เครื่องดื่มนั่นคือ วิสกี้แบบแคนาดา อย่างวิสกี้รสข้าวไรน์ (rye-flavoured Canadian whisky)

Canada… - ไอซ์ ไ วน์ (ice wine) เป็ น ไวน์ ช นิ ด หนึ่ ง ที่ ไ ด้ รั บ ความนิ ย มมากขึ้ น ใน ปัจจุบัน ด้วยรสชาติที่ต่างจากไวน์ปกติ ความหอมที่เรียกได้ว่าซึมไปติดที่ ความทรงจำกันเลยทีเดียว ไวน์ขึ้นชื่อของแคนาดานี้ผลิตโดยกระบวนการ ที่ พิ ถี พิ ถั น จนได้ ค วามหวาน และกลิ่ น ความปลอดภั ย ที่ รั บ รองโดย Vintners Quality Alliance (VQA) - การดื่มไอซ์ไวน์หลังอาหารนิยมมากในคนแคนาดา เนื่องจากไอซ์ไวน์มี คุณสมบัติในการช่วยย่อยอาหารเป็นอย่างดี โลกใบโตๆ แห่งนี้มีแหล่งกำเนิดอาหารสำหรับครัวโลกหลายแห่งจาก หลายชาติ สินค้าอาหารในนามของ “แคนาดาแบรนด์” อาจใหม่ สำหรับคนไทย หรือคนที่ไม่คุ้นเคย หรืออาจเรียกว่าเป็นนิวละติจูด สำหรั บ วั ต ถุ ดิ บ ชั้ น เลิ ศ ในการปรุ ง อาหารก็ ค งไม่ ผิ ด นั ก สำหรั บ foodstylist ฉบับนี้คงพอทำให้เชฟและฟู้ดเลิฟเวอร์ชาวไทยได้รู้ว่า แคนาดาแบรนด์ เป็ น แบรนด์ ที่ มี ส่ ว นผสมของคุ ณ ภาพและความ ปลอดภัย พร้อมสำหรับอาหารที่เมนูที่คุณอย่างจะรังสรรค์ขึ้น 93 foodstylist


chic dessert words recipe & styling chef non (Instragram: nonshiro) photographs wannasak sirisab

I Love Canada

“Mocha Nanaimo Bar�

52 foodstylist


“สวั ส ดี ป ใ ี หม่ ค รั บ ” กลับมาพบกันอีกเช่นเคยนะครับ กับ chic dessert

สำหรับฉบับนี้ผมจะ พาทุกท่านไปรู้จักกับขนมของประเทศแคนาดา ประเทศที่นอกจากจะมี ความสวยงามและปลอดภัยสูงแล้ว ยังมีขนมที่แสนอร่อยให้เราได้ลิ้มลอง กัน ขนมชนิดนี้ชื่อว่า “Nanaimo Bar” ครับ ซึ่งเป็นขนมประเภท no bake dessert หรือขนมที่ไม่ต้องอบครับ อาศัยการแช่เย็นให้เซ็ตตัวแค่นั้น ประวั ติ ข องขนมชนิ ด นี้ เ กิ ด ขึ้ น เมื่ อ ปี ค.ศ.1950 โดยแม่ บ้ า นจากเมื อ ง Nanaimo รั ฐ บริ ติ ช โคลั ม เบี ย ส่ ง เมนู นี้ เ พื่ อ เข้ า ประกวดที่ จั ด ขึ้ น โดย นิตยสารฉบับหนึ่ง หลังจากนั้นก็เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้คนจนโด่งดัง และมีการ ดัดแปลงเป็นหลายรสชาติตามมาครับ chef non

ส่วนผสม Crumb Crust เนยจืด 75 กรัม / มะพร้าวฝอย 1/2 ถ้วย / น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย / ไข่ 1 ฟอง / Ritz cracker 1.5 แถว / อัลมอนด์บด 1/4 ถ้วย / ผงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะ / วานิลลา 1/2 ช้อนชา วิธีทำ นำเนยตั้งเตาเพื่อละลาย ยกลงจากเตาใส่น้ำตาลทรายและผงโกโก้ลงไป แล้วคนให้ละลาย ค่อยๆ ใส่ไข่ลงไป แล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อนคนจนส่วนผสม ข้นขึ้น ยกลงจากเตา ใส่ Ritz cracker บดละเอียด อัลมอนด์บด มะพร้าว ฝอย และวานิลลาลงไป แล้วผสมให้ของเหลวคลุกเคล้าของแห้งให้ทั่ว นำ ถาดอบสี่เหลี่ยมขนาด 9 x 9 นิ้ว มาทาด้วยเนยแล้วปูด้วยพลาสติกแร็ป พยายามอย่าให้มีฟองอากาศ เทส่วนผสมลงไปแล้วกดให้แน่นและเรียบ เสมอกัน นำเข้าช่องแข็งให้เซ็ตตัว ส่วนผสม Mocha Butter Cream น้ำตาลไอซิ่ง 2 ถ้วย / เนยจืด 113 กรัม / ครีม 3 ช้อนโต๊ะ / คัสตาร์ด

พาวเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ นำเนยจืดมาหั่นเต๋า แล้วทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องให้นิ่ม ค่อยๆ ใส่น้ำตาลไอซิ่ง ลงไปแล้ ว ใช้ เ ครื่ อ งตี ตี ใ ห้ เ นยและน้ ำ ตาลไอซิ่ ง เข้ า กั น เติ ม คั ส ตาร์ ด

พาวเดอร์ ล งไปแล้ ว ตี ใ ห้ เ ข้ า กั น นำครี ม ไปอุ่ น แล้ ว นำมาผสมกั บ กาแฟ สำเร็จรูป คนให้ละลายแล้วใส่ลงไปในส่วนผสม เติมกลิ่นกาแฟ แล้วผสม ทุกอย่างให้เข้ากัน นำ Mocha Butter Cream มาปาดทับ Crumb Crust Base ที่แข็งเซ็ต ตัวแล้ว พยายามปาดให้เรียบและเสมอกัน จากนั้นนำเข้าช่องแข็งเพื่อให้ แข็งตัว ส่วนผสม Chocolate Glaze Top Layer ดาร์กช็อกโกแลต 170 กรัม / เนยจืด 57 กรัม วิธีทำ นำดาร์กช็อกโกแลตและเนยมาละลายพร้อมกัน โดยวางอ่างช็อกโกแลต บนหม้อน้ำเดือด เราจะใช้ไอน้ำเป็นตัวให้ความร้อนจะได้ไม่ไหม้ ทิ้งไว้ให้ คลายร้อนแต่ยังคงพออุ่นๆ อยู่ เทช็อกโกแลตลงบน Mocha Butter Cream ใช้พายปาดช็อกโกแลตให้ คลุมทั่ว Butter Cream เคาะพิมพ์ให้ช็อกโกแลตเรียบเสมอกัน นำเข้าแช่ แข็งให้เซ็ตตัว ก่อนเสิร์ฟ นำ Nanaimor Bar ออกมาจากตู้เย็นให้คลายเย็นสักนิด นำมีด มาชุบน้ำร้อนแล้วเช็ดให้แห้ง ตัด Nanarmo Bar ให้เป็นก้อนสี่เหลี่ยม ขนาดประมาณ 2.5 x 2.5 นิ้ว ก็เป็นอันเรียบร้อย

53 foodstylist


chef we love rewriter cheewanuanpotranun photographs asian food channel

“สิ่งที่ซุปถ้วยเล็กๆ นี้ให้มา ไม่ใช่แค่ความอบอุ่นในร่างกายเท่านั้น แต่มันยังให้ความอบอุ่นและความฝัน”

chef Anna Olson

60 foodstylist

ในช่วงเวลาอากาศดีๆ ลมเย็นๆ เริ่มจะพัดผ่าน สิ่งที่อยู่ในหัวก็คงหนีไม่พ้นซุปอุ่นๆ สักถ้วย แต่ ไม่มีถ้วยไหนเหมือนซุปสีเหลืองทองที่ราวกับ หลุดมาจากภาพในจินตนาการ ซุ ป ที่ คิ ด ไว้ ว่ า หน้ า ตาควรจะเป็ น อย่ า งไรใน นิทาน ก็คงต้องออกมาเป็นแบบนี้ มีสีเหลือง สดใส กลิ่นหอมละมุน และผิวสัมผัสเวลาที่จุ่ม ช้อนลงไปในถ้วยเผยให้เห็นเนื้อที่เนียนละเอียด ตรงตามที่คิดอย่างพอดิบพอดี และเมื่อจรด ช้อนเข้าที่ปากก็พบว่าความหวานหอมไม่ได้เกิด จากสีเหลืองสดเพียงอย่างเดียว แต่ยังเจือไป ด้ ว ยความนุ่ ม ละมุ น อ่ อ นหวานของกะทิ แ ละ แทรกด้ ว ยรสของขิ ง อย่ า งอบอุ่ น เกิ ด เป็ น รสชาติ ที่ ห วานเค็ ม กำลั ง ดี แ ละมี เ สน่ ห์ อ ย่ า ง แตกต่าง รสชาติติดลิ้นด้วยขิงที่หอมและเจือ ร้อนเล็กน้อย เมนู ที่ เ รี ย กได้ ว่ า เป็ น เมนู ใ นฝั น นี้ เ กิ ด ขึ้ น จาก เชฟแอนนา ออลสัน (Anna Olson) ผู้เริ่มจาก การเป็นเลิศทางด้านการทำขนมอบ ที่ไม่ทำให้ เราผิ ด หวั ง ในการจั บ คู่ เ จ้ า ขนมปั ง กั บ ซุ ป สุ ด วิเศษถ้วยนี้ และลงท้ายด้วยการกลายเป็นเชฟ ที่ทำอาหารอร่อยที่สุดคนหนึ่ง เธอไม่ถือตัวเลย สั ก นิ ด แม้ จ ะเป็ น เจ้ า ของร้ า นอาหารที่ เ น้ น ใน การใช้ วั ต ถุ ดิ บ เครื่ อ งปรุ ง ของแคนาดา และ แน่ น อนว่ า เธอคั ด สรรด้ ว ยความตั้ ง ใจ ซึ่ ง นอกจากนั้นเธอยังเป็นเจ้าของผลงานหนังสือ ทำอาหารมากมายหลายเล่ม เชฟแอนนา เล่าถึงเส้นทางสายอาหารว่าเธอ ไม่ได้เริ่มต้นเส้นทางนี้ตั้งแต่เด็กๆ เหมือนเชฟ ส่วนใหญ่ แต่เธอเลือกที่จะลาออกตอนเรียน นิ ติ ศ าสตร์ เมื่ อ ฟั ง เรื่ อ งราวของเธอพลาง

ซดซุปเข้าไปอีกคำ เราได้เห็นภาพของผู้หญิงคน หนึ่งที่เดินตามความฝันของตัวเองอย่างไม่ยอม ลดละ ความมุ่งมั่นที่แฝงในรอยยิ้มของเธอทำให้ เราอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบกลับด้วยความชื่นชม และสิ่งที่ซุปถ้วยเล็กๆ นี้ให้มา ไม่ใช่แค่ความ อบอุ่ น ในร่ า งกายเท่ า นั้ น แต่ มั น ยั ง ให้ ค วาม อบอุ่นและความฝัน และเตือนให้เราก้าวตามมัน ไปให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

Sweet Potato Soup with Coconut Milk and Ginger

ส่วนประกอบ เนย 2 ช้อนชา / หัวหอมสับ 1 1/3 ถ้วย / มัน หวานหั่นเป็นชิ้น 6 ถ้วย / ขิงบด 2 ช้อนชา / กะทิ 1 3/4 ถ้วย / น้ำสต๊อกไก่หรือผัก 3-4 ถ้วย / น้ำมะนาว 2 ช้อนชา / เกลือ พริกไทย เล็กน้อย / ผงพริกป่นคาเยน เล็กน้อย / ผักชี สด 1/3 ถ้วย / โยเกิร์ต 1/2 ถ้วย วิธีทำ 1. ละลายเนยลงในหม้อ 2. ผัดหัวหอม 3-4 นาที จนนิ่มแต่ยังไม่เป็นสี น้ำตาล จากนั้นใส่มันหวาน ขิง กะทิ และน้ำซุป ประมาณ 3 ถ้วยตวง 3. ต้มด้วยไฟอ่อนประมาณ 25 นาที จนกระทั่ง มั น หวานสุ ก และนิ่ ม ดี แล้ ว จึ ง ปั่ น ส่ ว นผสม

ให้เนียน 4. ละเอี ย ด โดยสามารถเติ ม ซุ ป เพิ่ ม ได้ ห าก

เข้มข้นเกินไป 5. เติมน้ำมะนาวและปรุงรสก่อนเสิร์ฟด้วยผักชี สดโรยและโยเกิร์ตด้านบน



chef we love

word cheewanuan potranun photographs phaitoon boonsong

“Everyday is the journey.”

Chef Michael Mina

62 foodstylist

เชฟชื่อดังอารมณ์ดีจากห้องอาหาร Michael Mina ในสหรัฐอเมริกา เดินมาพร้อมกับรอยยิ้ม กว้างเปิดเผยภายในงานเทศกาลอาหารและ ไวน์ครั้งที่ 13 ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่รวบรวมเชฟชื่อดัง อาหาร และไวน์ ชั้ น เยี่ ย ม มารวมอยู่ ภ ายใต้ ห ลั ง คา เดียวกัน ด้วยนิสัยร่าเริงของเชฟสามารถส่ง ผ่านมาสู่อาหารของเขา แม้จะเป็นอาหารที่ใช้ เครื่องปรุงสุดเนี้ยบอย่างฟัวกราส์เป็นส่วนผสม หลัก แต่ว่ากลับลิ้มรสได้อย่างไม่ต้องเขินอาย สับปะรด ฟัวกราส์ และเครื่องปรุงอื่นๆ ได้มา ซึ่ ง รสสั ม ผั ส ที่ ชุ่ ม ฉ่ ำ นุ่ ม ลิ้ น และกรุ บ กรอบ ความหวานอมเปรี้ยวและกลิ่นสดชื่นของผลไม้ ทางใต้ผสานกับความเข้มข้นและออกรสเค็ม ของฟัวกราส์ เข้ากันเป็นหนึ่งเดียว ดังที่เชฟ บอกว่าเป็นการบาลานซ์อย่างลงตัว เชฟ Michael Mina ผู้ปรุงอาหารด้วยความ คล่ อ งแคล่ ว เล่ า ให้ ฟั ง ว่ า “I love Asian food.” เชฟชาวอเมริกันเชื้อสายอียิปต์เล่าถึง เหตุผลพร้อมรอยยิ้ม เหตุผลคือสีสันและส่วนผสม ที่ ห ลากหลายในอาหาร จากนั้ น เขาเล่ า ถึ ง

แรงบั น ดาลใจของจานนี้ ว่ า การใช้ พ ริ ก และ สับปะรดเป็นส่วนหนึ่งเมนูเนื่องจากเป็นวัตถุดิบ ท้องถิ่นของไทย นั่นเพราะเขาเชื่อในรสชาติที่ดี ที่สุดจากวัตถุดิบที่มาจากสถานที่นั้นๆ เริ่มจาก ส่ ว นประกอบที่ เ ข้ ม ข้ น และมั น อย่ า งฟั ว กราส์ โจทย์ ส ำคั ญ ที่ เ ขาตั้ ง เอาไว้ ก็ คื อ จะทำให้ อย่างไรให้เกิดความบาลานซ์ได้ ซึ่งคำตอบก็คือ การใช้กรดจากผลไม้และพริกจะทำให้เกิดความ กลมกล่ อ ม ส่ ว นวานิ ล ลาคื อ กลิ่ น และความ หวานที่รวมอาหารทั้งจานเข้าไว้ด้วยกัน เกิด เป็นสุดยอดรสชาติ ทุกคำที่ชิมก็ไม่ทำให้เรา

ผิดหวังเลย

เชฟเล่าถึงที่มาที่ไปที่ทำให้เขาหลงรักการเป็น เชฟ เขาบอกว่ามันคือการได้อยู่กับผู้คน การที่มี ผลกระทบในทางที่ดีแก่คนเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น สต๊าฟฟ์หรือลูกค้า คนได้ชิมอาหารของคุณ ได้ เห็นหรือได้อ่านเกี่ยวกับมัน จะมีกี่อาชีพที่ทำให้ คุณสามารถสัมผัสได้ถึงตรงนี้บ้าง นี่คือความ มหัศจรรย์ที่เขาไม่สามารถทิ้งอาชีพนี้ไปได้ อีก ส่วนคืออาหารเป็นการสร้างสรรค์ที่ไม่มีจุดจบ เมื่อเราไปที่แห่งใหม่ พบอารยธรรมแบบใหม่ๆ มันคือโลกใหม่ทั้งหมด เชฟมิน่า มีร้านอาหาร 27 แห่งในสหรัฐอเมริกา เขาทำงานชนิดที่ไม่หลับไม่นอนเพราะว่าสมอง ของเขาทำงานอยู่ ต ลอดเวลาแม้ จ ะเป็ น ตอน หลั บ ตา สมกั บ คำนิ ย ามที่ เ ชฟให้ เ อาไว้ ว่ า “Everyday is the journey.”

Roasted Foie Gras

ส่วนประกอบ Hudson Valley Foie Gras 65 กรั ม / สับปะรดสีทอง 35 กรัม / ถั่วแมคคาเดเมีย 15 กรั ม / Green Cardamom 5 กรั ม / ใบ กระวาน 5 กรัม / ต้นหอม 3 กรัม / ไขมันเป็ด 15 มิลลิลิตร / Sauternes 15 มิลลิลิตร /

วานิลลา 1 ฝัก / น้ำสับปะรดสด 10 มิลลิลิตร วิธีทำ 1. ตั้งกระทะให้ร้อน จากนั้นนำฟัวกราส์ไปจี่ทีละ ด้าน 2. คั้นน้ำผลไม้ระหว่างที่ฟัวกราส์สุก 3. เมื่อฟัวกราส์ใกล้สุกจึงเติมไขมันเป็ดและน้ำ สับปะรดลงไป ทำเป็น glaze foie 4. ใส่สับปะรด แป้งกรอบ ถั่วแมคคาเดเมีย และต้นหอม ลงในจาน 5. ราดน้ำซอสให้ทั่วจาน แล้วเสิร์ฟพร้อมกับ ฟัวกราส์



chef we love

word cheewanuan potranun photographs phaitoon boonsong

“Make people happy.”

เชฟ Galvin Lim

64 foodstylist

กลิ่นหอมของเนื้อเคล้ากลิ่นควันอ่อนๆ เรียก สายตาของทุกคู่ให้หันไปดูภาพของเชฟคนหนึ่ง ที่กำลังบรรจงจี่เนื้ออยู่ตรงข้างหน้าเตา จากนั้น จึ ง เก็ บ ไปรมควั น เอาไว้ ใ นกระทะใบใหญ่

ปล่ อ ยให้ เ ราต้ อ งลุ้ น ต่ อ ไปว่ า จะเกิ ด อะไรขึ้ น เมื่อถึงเวลา จานสีขาวสะอาดก็มีชิ้นเนื้อหนา และมีมันแทรกอย่างพอเหมาะเป็นพระเอกของ จานที่ ถู ก ย่ า งและรมควั น จนรอบนอกเป็ น สี น้ำตาลสวย ข้างในเป็นสีชมพูอมแดงกำลังดี ซอสสีน้ำตาลใสผสมผสานไปด้วยอณูเล็กๆ สี ดำของทรัฟเฟิล ที่ทำให้น้ำสต๊อกสีน้ำตาลถูก เคี่ยวจนเข้มข้น ทั้งหอมและมีเสน่ห์ เข้ากันได้ดี กับเนื้อหนานุ่มที่ปรุงรสด้วยเกลือเพียงเล็กน้อย กรุ่ น ควั น อ่ อ นๆ รวมกั บ ผั ก โขมสี เ ขี ย วสด รสชาติหวานอ่อนๆ เจือ PommeSouffle ที่ทำ จากมันฝรั่งให้ความกรุบกรอบรวมทุกรสเข้ากัน ได้ครบถ้วน เป็นความซับซ้อนภายใต้การเสนอ ที่เรียบง่าย ไม่ต่างจากบุคคลิกของคนทำ คือ เชฟ Galvin Lim จากห้องอาหาร Les Amis ในประเทศสิ ง คโปร์ ซึ่ ง ได้ เ ดิ น ทางมาร่ ว มงาน เทศกาลอาหารและไวน์ครั้งที่ 13 ณ โรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ที่ผ่านมา เชฟนั่งลงพร้อมให้สัมภาษณ์ว่า เขาเป็นผู้ดูแล ร้านอาหารกว่าสิบร้านที่สิงคโปร์ ความแม่นยำ ในการทำอาหารนั้นคงไม่ต้องบรรยาย เพราะ รสชาตินุ่มลิ้นของเนื้อที่กัดทีเดียวก็ขาด ผสาน ความลงตัวทั้งหอม หวาน เค็ม และขม อยู่ใน คำเล็กๆ คำเดียวได้ ทำให้เราต้องทึ่ง ขณะที่ เชฟผู้เป็นเจ้าของอาหารจานนี้กลับเพียงแค่ยิ้ม น้อยๆ และบอกเราว่า “ผมเป็นคนเรียบง่าย” เพราะฉะนั้นอาหารของเขาจึงสะท้อนออกมา อย่างนั้น ทว่าความเรียบง่ายไม่ได้มีเพียงความ ง่ า ยดาย แต่ มั น คื อ ความละเอี ย ดอ่ อ นที่ เ รา

สัมผัสได้ นั่นเพราะหลักในการทำอาหารของ เชฟคนนี้ก็คือ “Make people happy.” เขาจึง ใส่ใจในทุกๆ ส่วนประกอบในจาน และเมื่อพูด ถึงความสำเร็จของอาชีพเชฟ เชฟผู้เรียบง่าย คนนี้ก็ให้คำตอบที่ตรงไปตรงมาอย่างน่ารักว่า “มันเกิดขึ้นได้จากคนที่อยู่เบื้องหลัง”

Kagoshima Wagyu Smoked in Hay, Matsutake, Spinach, Australian Winter Truffle and PommeSouffle

ส่วนประกอบ Kagoshima Wagyu / ฟาง / เห็ดมัตสึตาเกะ / ผักโขม / หอมแดง / เห็ดทรัฟเฟิล / ซอส Veal Jus / USA Idaho Potato (ทุกส่วน ประกอบ ปริมาณตามชอบ) วิธีทำ 1. ตัดเนื้อเอาไขมันส่วนเกินออก ปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย แล้วทาลงบนเนื้อบางๆ จากนั้น ย่ า งเนื้ อ ให้ สุ ก พอประมาณ และนำไปรมควั น ประมาณ 2-3 นาที บนกระทะที่มีฟางรองอยู่ จากนั้นนำไปอบจนกว่าจะได้ความสุกที่ต้องการ 2. ล้างเห็ดให้สะอาด แล้วผัดกับเนย ปรุงรส ด้วยเกลือและพริกไทย 3. ล้างผักโขมและซับให้แห้ง นำมาผัดกับเนย และหอมแดง ปรุงรสด้วยเกลือ 4. นำเห็ดทรัฟเฟิลมาสไลซ์แล้วสับผสมลงใน ซอส Veal Jus ตอนใกล้เสร็จ 5. นำมันฝรั่ง USA Idaho มาสไลซ์บางๆ โดย เอาสองชิ้ น มาติ ด กั น ด้ ว ยแป้ ง ข้ า วโพดและไข่ ขาว จากนั้นทอดจนเป็นสีเหลืองทองและพอง ออก จึงปรุงรสด้วยเกลือ และจัดเสิร์ฟทันที



dining out words snow queen photographs wannasak sirisab

Gift &

ส.ค.ส. ในวันที่แสนพิเศษ

Delicious

หากความสุขของคุณคือการได้ทานอาหารอร่อยๆ พร้อมไปกับการจูงมือครอบครัว กลุ่มเพื่อน ที่รู้อกรู้ใจ หรือคนรักไปเยี่ยมเยือนร้านอาหารบรรยากาศดี พร้อมชิมหลากหลายเมนูสุดหรูที่ ปรุงจากวัตถุดิบชั้นเลิศจากทั่วทุกมุมโลกในสไตล์ตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นสุดยอดอาหารจากท้อง ทะเลอย่างกุ้งล็อบสเตอร์ ซีฟู้ดนำเข้า หรือเนื้อคุณภาพระดับพรีเมียม นี่คือความสุขที่จะมอบให้ เป็นของขวัญสำหรับคุณ ที่คุณจะส่งต่อให้กับใครก็ได้ในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนี้ ถ้า พร้อมแล้วก็เตรียมท้องให้ว่าง แล้วไปทานพร้อมๆ กันเลย

Jasmine Station สถานีความอร่อย

ห้องอาหารยุโรปฟิวชั่นอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสถานี พระโขนง ที่แห่งนี้รวบรวมอาหารอร่อยหลากหลาย สัญชาติ พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่มื้อเช้าจนถึงดินเนอร์ มื้อค่ำ นอกจากอาหารหลากหลายสัญชาติไว้ คอยบริ ก ารชาวไทยและชาวต่ า งชาติ ยั ง มี เครื่ อ งดื่ ม ตั้ ง แต่ ซ อฟต์ ด ริ ง ก์ แ บบเบาๆ ไปถึ ง เครื่องดื่มหนักๆ อย่างค็อกเทล เบียร์ และไวน์ เอาใจผู้ที่หลงใหลเสน่ห์ของแอลกอฮอล์ ความ อร่อยที่ขอแนะนำ คือ “ชีสเบอร์เกอร์” คำโตๆ กั บ เนื้ อ คุ ณ ภาพดี แ ละซอสสู ต รพิ เ ศษของเชฟ

“สเต๊กเนื้อเกรดพรีเมียม” เสิร์ฟมาพร้อมผักย่าง และมันบด นอกจากนี้ยังมี “เชฟสลัด” “พล่า แซลมอน” “พาสต้ า ” “ช็ อ กโกแลตบราวนี่ ” เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา

Drink Nature: Special Corner:

มุมสวยๆ ใต้แชนเดอร์เลียร์ระย้า ได้อารมณ์หรู

ไปอีกแบบ

Contact: Jasmine Station

Jasmine Resort Hotel 1511 Sukhumvit Road, Phrakanong-Nua, Wattana, Bangkok 10110 (Near BTS Phrakanong) Open daily: 6.00am - 11.00pm Tel.: 0-2335-5000, 0-2335-5005 66 foodstylist

“jasmine punch” เครื่องดื่มสีเขียวหอมหวาน จากกลิ่นมะลิ และน้ำผลไม้หลากหลายรสชาติ ดื่มเพิ่มความสดชื่นได้ดีทีเดียวเชียว


Wine We Well มนต์เสน่ห์อาหารฝรั่งเศส

ที่คุณสัมผัสได้

จะมีอะไรดีไปกว่าการได้นั่งทานอาหารฝรั่งเศส สุดหรู พร้อมจิบไวน์ชั้นเลิศจากทั่วทุกมุมโลกใน ราคาที่ เ ข้ า ถึ ง ได้ แถมยั ง มี ไ วน์ แ อมบาสเดอร์ หนุ่มหน้าตาดีคอยแนะนำอีกต่างหาก มาเริ่ม เข้าเรื่องอาหารกันเลยละกัน อาหารฝรั่งเศส ของที่ นี่ เ ป็ น สไตล์ ฟิ ว ชั่ น ตกแต่ ง หน้ า ตาแบบ หรูหรา เมนูก็มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ของ ทานเล่นกรุบกริบไปจนถึงเมนูมื้อหลักแบบทาน เอาอิ่ม แต่ทั้งหมดก็ไม่ลืมที่จะจับคู่เมนูกับไวน์ที่ มี ใ ห้ เ ลื อ กแบบไม่ ห วาดไม่ ไ หว แถมที่ นี่ ยั ง มี ค็อกเทลหน้าตาแปลกๆ ที่การันตีความอร่อย และรั บ รองว่ า หาทานที่ ไ หนไม่ ไ ด้ อี ก ต่ า งหาก เมนูแนะนำที่ห้ามพลาดเด็ดขาด ได้แก่ “ซุปครีม กุ้ ง ล็ อ บสเตอร์ ” ที่ เ คี่ ย วซุ ป ถึ ง 2 วั น ยั ง มี เ นื้ อ ล็อบสเตอร์ชิ้นโตแถมมาให้เคี้ยวกันแบบเพลินๆ อีกต่างหาก อีกจานเป็น “ซี่โครงแกะอบ” ที่ เสิร์ฟคู่กับผักต้มเนยและซอสที่เคี่ยวจากกระดูก แกะรสเข้ม นอกจากนี้ยังมี “ปลาแซลมอนหมัก เครื่ อ งเทศสู ต รพิ เ ศษที่ จั บ คู่ ม ากั บ สลั ด ผั ก ออร์แกนิก” และของหวานรสชาติเยี่ยมอย่าง “แครมบลูเล่เสาวรส”

Drink Nature:

“pare” เครื่องดื่มชื่อแสนสั้น แต่พิเศษด้วยความ หลากหลายของส่วนผสม และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเหล้ารัมวานิลลาที่ทางร้านลงมือหมักเอง บวกกับฟองไข่ขาวนุ่มๆ และลูกแพร์แดงไว้ให้ทาน แกล้ม เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ

Special Corner:

มุมโซฟาตัวใหญ่นอกร้าน นั่งชิลล์จิบไวน์กับ ผองเพื่อน พร้อมมองผู้คนที่เดินผ่านไปมา แหล่มสุดๆ ไปเลย!

Contact: Wine We Well

Crystal Design Center, Eakkamai-Ramindra Road, Bangkok Open daily: 6.00pm - 1.00am Tel.: 08-0205-1111, 0-2102-2515 67 foodstylist


Up & Above บุฟเฟต์หรูในวันอาทิตย์ที่แสนพิเศษ บุฟเฟต์ซันเดย์บรั้นช์ที่มีอาหารให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติในรูปแบบ ใหม่ พิ เ ศษสุ ด กั บ การปรุ ง อาหารจานหลั ก

ให้กับแขกแต่ละท่านเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มความ ประทับใจให้กับมื้ออาหารอันแสนรื่นรมย์ ซึ่ง เมนูที่สามารถสั่งได้ประกอบไปด้วยเมนูจานไข่ ในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “ออมเลต” “egg benedict” หรื อ จะเป็ น อาหารจานหรู อ ย่ า ง “ตับห่าน” ราดซอสแสนอร่อย “กุ้งล็อบสเตอร์ ตัวโต” ที่เคียงคู่มากับ “สปาเกตตี้เส้นดำราด ซอสเข้มข้น” และเมนูจานเนื้อ ที่บีฟเลิฟเวอร์ไม่ ควรพลาด สำหรับในไลน์บุฟเฟต์ นอกจากซีฟู้ด ชั้นเลิศที่นำเข้าจากต่างประเทศ ยังมีอาหารไทย และนานาชาติพร้อมของหวานหลากหลายชนิด ให้ เ ลื อ กทานแบบจุ ใ จ ในราคาเริ่ ม ต้ น เพี ย ง 1,800 บาท พร้อมน้ำสมุนไพร หรือถ้าเลือก ทานร่ ว มกั บ ค็ อ กเทล ไวน์ และเบี ย ร์ ราคา

ท่านละ 2,400 บาท และ 3,200 บาท เพิ่ม ซอฟต์ดริงก์และสมูตี้แบบต่างๆ พร้อมแชมเปญ สำหรับลูกค้า 2 ท่าน

Drink Nature:

น้ำสมุนไพรหลากหลาย ดื่มเพิ่มพลังสุขภาพ

Special Corner:

มุมริมกระจกที่มองเห็นท้องฟ้าและแสงแดดอ่อนๆ ที่พาดผ่าน

Contact: Up & Above

24 floor of Okura Hotels & Resorts 57 Wireless Road, Lumpini, Pathumwan, Bangkok 10330 Open daily: 11.45am - 3.00pm 68 foodstylist


Signor Sassi ส่งตรงความอร่อย สไตล์อิตาเลียน จากกรุ งลอนดอน

ซิ น ยอร์ ซาสซี่ หนึ่ ง ในร้ า นอาหารอิ ต าเลี ย น ระดับห้าดาวที่มีชื่อเสียงที่สุดจากกรุงลอนดอน ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเสิร์ฟความอร่อย ที่กรุงเทพฯ แล้ว ด้วยระยะเวลากว่า 25 ปีที่ บรรดานั ก ชิ ม จากทั่ ว โลกต่ า งกล่ า วเป็ น เสี ย ง เดียวกันว่า “อาหารที่นี่อร่อยมาก” ที่นี่นับเป็น สาขาที่ 3 ต่อจากกรุงลอนดอนและคูเวตซิตี้ สำหรั บ เรื่ อ งรสชาติ ข องอาหารก็ อ ร่ อ ยไม่ แ พ้ สาขาที่ลอนดอนเลย เมนูของที่นี่เป็นอิตาเลียน แบบดั้งเดิม ที่มีความหรูหราและวัตถุดิบทั้งหมด ล้วนนำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีเมนูอาหาร ให้เลือกลิ้มลองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “avocado bernardo” สลัดอะโวคาโด และ ล็อบสเตอร์ ราดด้วยซอสครีม “lamb cooked in hay” เนื้อแกะนิวซีแลนด์ย่างปรุงรสด้วยสมุนไพรและ ราดด้วยซอส “tornedo rorrini” เนื้อสเต๊กชั้นดี ท็อปด้วยฟัวกราส์ราสซอสที่ปรุงรสอย่างพิถีพิถัน และที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งคือ “สปาเกตตี้ ล็อบสเตอร์” และของหวาน ที่ทั้งนุ่มหวานหอม ละมุนอย่าง “พันนาคอตต้า”

Drink Nature:

strawberries caipiroska ค็อกเทล หน้าตา น่ารัก ที่เปรี้ยวนำ หวานตาม พร้อมกลิ่นหอม อ่อนๆ จากสตรอว์เบอร์รี่

Special Corner:

มุมติดกระจกนอกจากจะมองเห็นวิวแล้ว ตรงนี้ ยังประดับด้วยต้นไม้เขียวๆ เหมาะกับจะเป็นมุม ที่มานั่งทานจู๋จี๋กะกิ๊กยังไงยังงั้น

Contact: Signor Sassi

37 Floor of Anantara Sathorn (Near BTS Chongnonsee) Open daily: 12.00pm - 2.30pm / 6.00pm 11.00pm Tel.: 0-2210-9011 69 foodstylist


Zense อร่อยบนฟากฟ้าหรูหราใจกลางกรุง หลังจากที่หายหน้าหายตาไปพักใหญ่ๆ Zense กลับมาอีกครั้งพร้อมภาพลักษณ์ที่ไฉไลกว่าเดิม กั บ คอนเซปต์ gourmet deck & lounge panorama ที่นี่ยังคงนำเอาร้านอาหารทั้ง 5 แห่ง พร้อมบาร์สุดหรูไว้เอาใจผู้ที่มาเยือนอย่าง ครบถ้ ว น ไม่ ว่ า จะเป็ น อาหารไทยของร้ า น

white café อาหารอิ ต าเลี ย นร้ า น Gianni Ristorante อาหารญี่ปุ่นร้าน The Kikusui อาหารอินเดียร้าน Red อาหารยุโรปจากร้าน To Die For และขนมหวานจากร้าน Zense เอง ดั ง นั้ น มาที่ นี่ คุ ณ จึ ง ได้ ท านอาหารถึ ง 5 สัญชาติ เมนูอร่อยเริ่มต้นเรียกน้ำย่อยกับ 3 จานแรก คือ “crab&shitake cigar spring rolls” จาก white café ปอเปียะทอด ที่กรอบ นอกนุ่มใน พร้อมน้ำจิ้มบ๊วยหวานๆ ที่เข้ากันได้ ดี “sashimi cocktail salad” จากร้าน The Kikusui และ “roti pai boti” สำหรับคนที่ คลั่งไคล้อาหารอินเดีย จากร้าน Red ข้างๆ กัน นั้ น เป็ น เมนู จ านใหญ่ ที่ ไ ม่ ว่ า ใครก็ ต้ อ งหลงรั ก อย่าง “lamb shank stew” ของร้าน To Die For และแน่นอนของหวานแสนอร่อยจากทีม Zense เอง อย่าง “strawberry elements” ที่สุดแสนจะครีเอท

คุณมาร์ค กิ่งโพยม

Drink Nature:

“longan zling” ค็อกเทลสีชมพู ที่ได้ความหวาน หอมของลำไยและพีช กลับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของ ซินนามอน หวานหอมจนต้องกระดกกันหลาย แก้วเลยทีเดียว

Special Corner:

มุมเอาต์ดอร์ที่เห็นวิวกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนแบบ พาโนรามา สวยสุดๆ ไปเลย

Contact: Zense

17 floor of Zen World 4, 4/5 Rajadamri Road, Pathumwan, Bangkok 10330 Open daily: 5.00pm - 1.00am Tel.: 0-2100-9898 70 foodstylist


Surface อบอุ่น อิ่มเอม ท่ามกลางสวนสไตล์ฝรั่งเศส ร้านนี้เขาเสิร์ฟอาหารฝรั่งเศสที่ไม่หรูหราแบบ fine dining แต่ก็เก๋ไก๋เอาการ ในสไตล์เรโทรที่ ดูอบอุ่น แถมวัตถุดิบในการปรุงก็การันตีว่าแสน จะพรีเมียม บวกกับบรรยากาศที่ดูเหมือนนั่ง ทานอาหารอยู่ในบ้านกับเฟอร์นิเจอร์ที่ดูแสนจะ วินเทจ โดยมีพื้นที่ด้านหน้าเป็นสวนไว้ให้ลูกค้าที่ ต้ อ งการความผ่ อ นคลายกั บ กลิ่ น อายของ ธรรมชาติ เมนูอร่อยที่ไม่ควรพลาด “steamed mussel in white wine with parsley butter” หอยแมลงภู่นำเข้าตัวเล็กๆ แต่คับด้วย คุณภาพกรุ่นกลิ่นหอมของพาสลีย์ เนย และไวน์ ขาว ต่อมา “crisp snow fish hijiki angel hair” ปลาหิมะชิ้นโต เสิร์ฟพร้อมสปาเกตตี้เส้น กลมเล็กๆ ที่ปรุงรสได้อย่างสมบูรณ์แบบ ข้างๆ กันนั้นคือ “oyster spice” หอยนางรมสดๆ ที่ ท็อปด้วยฟองโฟมนุ่มๆ และ “salmon taretare with ponzu” อร่อยคับคุณภาพ จานสุดท้าย เป็ น ของหวานแสนอร่ อ ยอย่ า ง “white chocolate cheesecake” ชีสเค้กไวท์ช็อกเนื้อ เนี ย นเข้ า กั น ได้ ดี กั บ ซอสผลไม้ อร่ อ ยสุ ด ๆ

ไปเลย คุณมาร์ค กิ่งโพยม

Drink Nature:

“shiso plum” เครื่องดื่มจากส่วนผสมที่

หลากหลาย มีบ๊วยเป็นพระเอกหลักในงาน

แถมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบชิโสะ อร่อยชื่นใจ และเก๋ไก๋เอาการ

Special Corner:

มุมที่นั่งน่ารักๆ ข้างสวนที่แสนอบอุ่น อาหารมื้อนี้ ต้องมีความสุขและอิ่มเอมสุดๆ ไปเลย

Contact: Surface

107 soi Sukhumvit 53 Klongton-nue, Wattana, Bangkok 10110 Open daily: 11.30am – 2.00 am / 6.00pm – 11.30pm Tel.: 0-2258-2859 71 foodstylist


hot & new restaurants by wongnai

Hot & New Restaurants

ฉบับนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปอิ่มอร่อยกันที่ร้านซูชิรสเลิศ แถมการันตี คุณภาพด้วยวัตถุดิบชั้นดีจากนานาประเทศ แล้วต่อกันด้วยร้านสเต๊กเนื้อ คุณภาพ ราคาเบาๆ ใจกลางสยาม เห็นแค่นี้ก็น้ำลายสอกันแล้วใช่มั้ย ว่า แล้วอย่าให้ได้เสียเวลา ไปอร่อยพร้อมๆ กันเลย…

by Special Corner

ใครที่ชอบดูเวลาเชฟปั้นซูชิ และอยากลิ้มรสซูชิแบบ ทำปุ๊บเสิร์ฟปั๊บตรงหน้า เลือกที่นั่งตรงซูชิบาร์ก็ไม่เลว

Toro Fresh Japanese Cuisine ซูชิอร่อยล้ำกับวัตถุดิบชั้นดี หากคุ ณ กำลั ง มองหาร้ า นซู ชิ อ ร่ อ ยๆ ที่ ใ ช้ วั ต ถุ ดิ บ สดใหม่ คุณภาพดีในบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว “Toro Fresh Japanese Cuisine” คือตัวเลือกอันดับต้นๆ เพราะที่นี่คัด มาแต่วัตถุดิบดีๆ ชนิดที่กินเข้าไปแค่คำแรก รสชาติความสด ของเนื้อปลาก็แผ่ซ่านอยู่เต็มปากแล้ว ทั้ง “ซูชิปลาฮามาจิ” “โอโทโรชูชิ” “โฮดาเตะซูชิ” (หอยเชลล์) คำใหญ่ๆ สดๆ พิเศษและพรีเมียมขึ้นมาอีกนิดก็คือ “ซูชิฟัวกราส์” ตับห่าน เนื้อนุ่มเนียนละไมลิ้น กินแล้วแทบละลายในปาก ราดน้ำมัน ทรัฟเฟิลหอมๆ ยิ่งช่วยเพิ่มความนุ่มเข้าไปอีก หรือ “ซูชิ วากิว” สำหรับคนรักเนื้อ กับวากิวชิ้นใหญ่เบิร์นมาหอมๆ และ “ซูชิฟัวกราส์-วากิว” ที่ผสานสองความอร่อยระดับ ท็อปเข้าไว้ด้วยกัน แล้วราดน้ำมันทรัฟเฟิล โรยหน้าตาม ด้วยแบล็กทรัฟเฟิล เคี้ยวครั้งแรกเนียน เคี้ยวครั้งที่สอง เหนียวนุ่ม อร่อยล้ำจริงๆ จากนั้นมาอร่อยกันอย่างเต็มพิกัด กับขบวนซูชิโรลล์สารพัดชนิด อาทิ “แซลมอนโรลล์ /So Salmon” รสชาติซับซ้อนในหนึ่งคำ เพราะด้านในมีแซลมอน ชิ้ น เล็ ก เนื้ อ แน่ น แซมด้ ว ยแตงกวาญี่ ปุ่ น และมายองเนส

รสเข้ ม ข้ น ด้ า นนอกม้ ว นด้ ว ยหน้ า ท้ อ งปลาแซลมอนชิ้ น

หนาเบิร์นนิดๆ พอให้สวย แล้วโรยด้วยไข่กุ้งและฝอยแป้ง เทมปุ ร ะทอดกรอบ ถื อ เป็ น ซู ชิ ที่ มี ค วามนุ่ ม ละมุ น ลิ้ น และ ความกรุบกรอบอยู่ในคำเดียว ทานไม่มีเบื่อ ส่วนทีเด็ดที่ ห้ามพลาดเด็ดขาดคือ ซูชิโรลล์ “โทโร โวคาโน” ที่ด้านใน สอดไส้เทมปุระกุ้งกรอบๆ ด้านบนวางโอโทโรที่สับผสมกับ

ไขมันปลานิดหน่อย เบิร์นไฟช่วยกระตุ้นความอร่อย แล้วราด ซอสสไปซี่ที่ผสมมายองเนส ซอสพริก และทาบัสโกเข้าด้วย กัน เป็นซอสตัวเอกที่ช่วยดึงรสชาติของซูชิโรลล์จานนี้ให้ โดดเด่นมากยิ่งขึ้น อร่อยล้ำจนอยากกลับไปกินซ้ำบ่อยๆ 72 foodstylist

Drink Nature

ลองสั่งชาร้อนๆ สักแก้วมาจิบระหว่าง มื้อ จะช่วยล้างความมันและช่วยย่อย อาหารได้ดีทีเดียว Contact: Toro Fresh Japanese Cuisine

ซอยทองหล่อ 5 ถนนสุขุมวิท 53 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 เข้าซอยแล้วเลี้ยวขวาแยกแรก ร้านอยู่บนชั้น 2 ของ MaxValu Tel. 0-2712-8447 เว็บไซต์ www.facebook.com/torofreshsushi อีเมล torofreshsushi@gmail.com Download FREE iPhone, iPad and Android Application


Special Corner

ที่นั่งติดกระจกที่ดูเป็นส่วนตัว เพราะอยู่ตรงบริเวณ มุมของร้าน นั่งสบายด้วยที่นั่งแบบม้านั่งไม้ตัวยาว เอกเขนกได้สบายใจกับหมอนใบใหญ่ แถมยังชมวิว บนถนนด้านข้างและรับแสงธรรมชาติได้อีกด้วย ช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัด

Grill Mii สเต๊กเนื้อนุ่ม ราคาเบาๆ ใจกลางสยาม

Drink Nature

ครื่องดื่มสีเขียวกรีนฮาวาย หวานหอม กลิ่นมะพร้าว ผสานกับรสเปรี้ยวนวลๆ จากสับปะรด แก้วสีแดงคือฟรุตพันช์ เปรี้ยวอมหวานเบาๆ ชื่นใจดับร้อน ส่วน แก้วสีฟ้าคือบลูเลมอน เครื่องดื่มรส มะนาวเปรี้ยวซ่าสะใจ ช่วยดับเลี่ยนได้ เป็นอย่างดี Contact: Grill Mii

สยามสแควร์ ซอย 2 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ร้านอยู่ชั้น 2 ข้างๆ ธนาคารธนชาติ เว็บไซต์ www.facebook.com/GrillMii Tel. 0-2658-1951

Grill Mii มีอาหารทั้งหนักและเบาให้เลือกสั่งได้ตาม ระดับความหิว หิวมากสั่ง “สเต๊กไก่สไปซี่” กับ “สเต๊ก หมูพริกไทยดำ” เนื้อนุ่มๆ รสชาติเข้มข้นถูกปากคนไทย กินกับสลัดผักกองเล็กๆ เฟรนช์ฟรายด์เนื้อนุ่ม และ ขนมปังกระเทียมชุ่มเนย จะสั่งสเต๊กหมูหรือไก่เดี่ยวๆ หรือจะสั่งรวมทั้งสเต๊กหมูและไก่ก็ได้ มีให้เลือกทุกแบบ แล้วสั่ง “onion ring” กรอบๆ มากินแกล้มไปด้วย อร่อยครบ!! แต่ถ้าอยากอิ่มมากไปกว่านั้นก็ต้องพึ่งพา คาร์โบไฮเดรตสักหน่อย “สปาเกตตี้ขี้เมาทะเล” หอม ฉุยสักจาน ใส่ซีฟู้ดมาเต็มจาน ทั้งปลาหมึก กุ้ง และ หอยแมลงภู่ ที่ซึมซับรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อนนิดๆ ของ น้ำซอสขี้เมาเอาไว้อย่างเต็มที่ อร่อยเข้มเต็มรสชาติ จริงๆ แต่ถ้าหิวน้อยก็สั่งอะไรเบาๆ มากินให้พออิ่ม จะ ได้มีแรงไปเดินช้อปปิ้งต่อ ถ้าชอบรสจัด ลองสั่ง “สลัด ยำทูน่า” แคลอรีเบาๆ กินแล้วไม่อ้วน แต่แซ่บถึงใจ จริงๆ แต่ถ้าไม่กินอาหารรสจัด “เมี่ยงหมูย่าง” ที่จัดมา สวยงามในแก้วขนาดกะทัดรัด ให้กินแบบพอดีคำกับหมู ย่างและผักเรดโอ๊ก กรีนโอ๊ก จิ้มกับน้ำสลัดโชยุผสม น้ำมันงาสไตล์ญี่ปุ่นก็เหมาะนัก หรือถ้าอยากได้รสชาติ แบบฝรั่ ง ๆ ก็ สั่ ง “ซุ ป ครี ม เห็ ด ” มากิ น เล่ น หรื อ กิ น จริงจังก็ได้ เป็นร้านอร่อยราคาประหยัดที่ไม่น่าเชื่อว่า จะมาซุกตัวอยู่กลางทำเลทองอย่างสยามสแควร์

App ร้านอาหารอั นดั บ 1 ของไทย

w w w . w o n g n a i . c o m 73 foodstylist


health & beauty words cheewanuan potranun (Instagram: cheewary)

Berry & Beauty

100 foodstylist


ด้วยฉบับแคนาดา อาหารที่อบอุ่นในประเทศที่หนาวเย็น สมบูรณ์ทั้ง ผัก ผลไม้ และอาหารทะเล และหากจะพูดถึงสุขภาพ คงไม่มีอะไร เหมาะไปกว่าการพูดถึงผลไม้เมืองหนาวของแคนาดาที่ทั้งมีประโยชน์ อร่อยโดนใจใครต่อใครหลายคนอย่างผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ขอเริ่มด้วยการนำนครอบครัวเบอร์รี่ทั้ง 7 ชนิด ซึ่งประกอบด้วย ราสป์เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ และเคปกูสเบอรี่ โดยนอกจากรสชาติ ห วานอมเปรี้ ย วที่ เ ป็ น คุณสมบัติเด่นของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เหล่านี้ที่ ทำให้ ใ ครต่ อ ใครติ ด ใจจนถอนตั ว ไม่ ขึ้ น แล้ ว เบอร์รี่ยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง เหตุผลที่ เราควรต่อต้านอนุมูลอิสระก็เพราะหากร่างกาย มี ป ริ ม าณอนุ มู ล อิ ส ระมากก็ จ ะส่ ง ผลต่ อ การ เสื่อมสภาพของเซลล์ แล้วก็ทำให้เกิดริ้วรอย อีกทั้งเป็นหนึ่งในสาเหตุของความเสี่ยงในการ เกิดโรคร้ายต่างๆ อาทิ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ นอกจากนี้ ประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระ ยังช่วยเพิ่มการทำงานของหลอดเลือด ลดการ อักเสบ รวมทั้งโรคทางระบบประสาทและสมอง ให้ดีขึ้นอีกด้วย โดยรสชาติที่แตกต่างไม่ว่าจะเป็นความหวาน หอมของบลู เ บอร์ รี่ รสชาติ ย อดนิ ย มอย่ า ง สตรอว์เบอร์รี่ หรือความเปรี้ยวนำอย่างราสป์เบอร์ รี่ เบอร์ รี่ เ หล่ า นี้ แ ต่ ล ะชนิ ด ก็ ยั ง มี คุ ณ ประโยชน์ทางด้านต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไปด้วย บลูเบอร์รี่ อุดมไปด้วยวิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งช่วยบำรุงสายตาและบำรุงจอรับภาพ ช่วย ในเรื่ อ งของดวงตา ป้ อ งกั น การเกิ ด โรค ต้อกระจกตา การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ และลดน้ำตาลในเลือด สตรอว์เบอร์รี่ มีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็น แหล่ ง รวมของสารสี แ ดงในปริ ม าณมากกว่ า

ผลไม้ ช นิ ด อื่ น และมี เ ส้ น ใยอาหารที่ ส ามารถ ช่ ว ยลดระดั บ คอเลสเตอรอลและความเสี่ ย ง มะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย แครนเบอร์รี่ เพาะปลูกในแถบประเทศอเมริกา และแคนาดา มี ฤ ทธิ์ ฆ่ า แบคที เ รี ย และมี

สารแทนนิน ที่ ส ามารถช่ ว ยหยุ ด การเกาะตั ว

ของแบคที เ รี ย อี โ คไลที่ บ ริ เ วณผนั ง ทางเดิ น ปัสสาวะได้ โดยเฉพาะสำหรับใครที่อั้นปัสสะวะ บ่อยๆ ราสป์ เ บอร์ รี่ มีโพแทสเซี ย ม วิ ตามินเคหรือ ไบโอฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยการแข็งตัวของเลือด แมงกานีสที่ช่วยในการทำงานของปฏิกิริยาเคมี ในร่างกายและเส้นใยอาหารสูง นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเบอร์รี่เท่านั้น แต่ยัง มีอีกมากมายที่เล่าไม่หมดในเล่มเดียว แต่มาถึง ตอนนี้ทุกคนก็คงอยากจะวิ่งไปซื้อบรรดาเบอร์รี่ เหล่านี้มาใส่ตู้เย็นกันแล้วใช่ไหมคะ แต่มีข้อควร ระวังอย่างหนึ่งคือ น้ำตาล ที่ทำให้ผลไม้หวานๆ เหล่านี้อร่อยนั่นเอง อีกทั้งการทานแบบตากแห้ง น้ำผลไม้ หรือแช่แข็ง อาจได้รับปริมาณน้ำตาล มาก ซึ่งจะทำให้อ้วนขึ้นกันได้ง่ายๆ โดยไม่รู้ตัว รวมไปถึงการนำไปทำอาหารที่ต้องผ่านความ ร้อน ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูล อิ ส ระลดลง ทราบแบบนี้แ ล้ ว ทานแบบสดๆ และปริมาณพอดีจะดีที่สุดนะคะ Tips เรื่องสวยๆ งามๆ เราก็ไม่พลาด เพราะผลไม้ ยอดฮิตอย่างสตรอว์เบอร์รี่ก็สามารถนำมาดูแล ผิวเราได้ดีเช่นกัน สตรอว์เบอร์รี่ช่วยชะลอความแก่ได้ โดยทำให้ เซลล์ ผิ ว แข็ ง แรงและสดใส ลดจุ ด ด่ า งดำบน ใบหน้าอีกด้วยค่ะ เพียงแค่นำสตรอว์เบอร์รี่มา ล้างให้สะอาด เอาส่วนขั้วออก จากนั้นบดให้ ละเอียด ผสมจมูกข้าวสาลีและน้ำผึ้งลงไป คน ให้ เ ข้ า กั น ดี เ ป็ น เนื้ อ เดี ย ว จากนั้ น ล้ า งหน้ า ให้ สะอาดด้วยน้ำธรรมดา ซับผิวหน้าให้แห้ง ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าจะได้ผิว ที่สดใสขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ ไม่ ใ ช่ แ ค่ ดี จ ากภายนอก แต่ ค วามอร่ อ ยและ สุขภาพที่ดีจากภายใน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่คงจะ ทำให้หลายๆ คนตกหลุมรักติดเทรนด์ไปอีกนาน แน่ๆ คราวนี้

101 foodstylist


menu makeover words sweet mustache (Instragram: ping-surakit) photographs phaitoon boonsong

54 foodstylist


First Impression with Chef Ping เปิดศักราชใหม่สดุ ไฉไลด้วยคอลั มน์ของเชฟหนุม่ นักล่าฝั น ผูช้ นะเลิศการ แข่งในโครงการ Thailand The Chef Battle 2012 ทีจ่ ัดโดยนิตยสาร ฟูด้ สไตลิสท์ของเรา สำหรั บ “menu makeover” เป็นคอลั มน์ชคิ ๆ ทีจ่ ะ มาแปลงโฉมอาหารธรรมดาทีค่ ณ ุ คุน้ เคยให้ล้ ำจนคาดไม่ถงึ โดย เชฟปิงสุรกิจ เข็มแก้ว เชฟหน้าใสประสบการณ์เกินตั ว ทีแ่ ม้จะยั งกำลั งศึกษาอยู่ ในสาขาการจัดการครั วและภัตตาคาร วิทยาลั ยดุสติ ธานี แต่การั นตีได้ ว่าไอเดียอั นบรรเจิดทีก่ ารั นตีดว้ ยชั ยชนะจากการแข่งขั นหลายรายการ ทัง้ ในและต่างประเทศ เชฟปิงจะเป็นขวัญใจคนใหม่ทคี่ ณ ุ จะหลงรักแน่นอน สำหรั บเล่มนีเ้ รามาทำความรูจ้ ักกั บเขากั นก่อนดีกว่า... Makeover Life

“ก่อนนี้ทางเดินชีวิตของผมต่างจากนี้มาก ก่อนหน้านี้ผมเรียนเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ใช้เวลามานานกว่าจะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ในสิ่งที่ตัวเอง อยากเรียนและอยากเดินต่อไป ด้วยความรู้สึกในตอนเด็กว่าเราก็สามารถ เล่นคอมพิวเตอร์ได้ ผมตัดสินใจออกจากคณะที่เรียนรู้ ปล่อยให้ตัวเองว่าง อยู่ 3-4 เดือน ทบทวนความฝันของตัวเอง จากนั้นเพื่อนคนหนึ่งก็ได้ ชักชวนให้เรามาเรียนที่วิทยาลัยดุสิตธานี เราก็ได้พบโลกอีกแบบที่ไม่ได้ ง่ายอย่างที่คิด แต่ก็นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีในชีวิต ผมเรียนรู้ว่างานครัว และการเป็นเชฟ เป็นงานที่เหนื่อย ต้องทุ่มเท การทำอาหารเหนื่อยมาก จนกระทั่งได้ฝึกงาน ผมได้ฝึกกับเชฟท่านหนึ่งที่เข้ามาปรับเส้นทางชีวิตให้ ชัดขึ้น เชฟท่านนั้นคือ เชฟประชัน วงศ์อุทัยพันธ์ ท่านได้ให้ทั้งความรู้ เรื่องงานเชฟ ให้ทัศนคติที่ดี ทำให้เราภาคภูมิใจในงานที่ทำ การทำอาหาร ไม่ใช่แค่ทำเสร็จแล้วเสิร์ฟเพียงเท่านั้น มันมีรายละเอียดอื่นๆ ที่สำคัญ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งอาหารให้มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม การ ชิม ความใส่ใจในวัตถุดิบ การรักษาคุณภาพ จากเด็กฝึกงานธรรมดาก็ได้ เรี ย นรู้ สิ่ ง ที่ ส ำคั ญ จากเชฟระดั บ มื อ อาชี พ มั น คื อ จุ ด สำคั ญ ในชี วิ ต เชฟ

ทีเดียวครับ”

Styling Life

“อาหารจานหนึ่งสำหรับผม ไม่ใช่แค่พอกินได้ คนกินต้องกินหมดและ ประทับใจ เขามีรอยยิ้มสื่อสารกลับมาให้เรา และอาหารแนวทางของผมก็ คือ อาหารต้องมีหน้าตาที่สวยงาม ต้องดูดีภายใต้กรอบของตำรับอาหาร ที่รักษาไว้อย่างดี จะเป็นเมนูที่หน้าตาโมเดิร์นแค่ไหน แม้เราจะเป็นเชฟยุค ใหม่อย่างไร เราต้องรักษารสชาติและสูตรดั้งเดิม โดยเฉพาะอาหารไทยที่ มีรากฐานที่สร้างกันมายาวนาน อาหารดูเท่ ดูโมเดิร์น แต่ตัวตนของ อาหารต้องอยู่

“12-13 สนาม กว่า 20 รายการ ได้รางวัลมาแล้ว 7 ถ้วยใหญ่ 8 เหรียญ ทอง 7 เหรียญเงิน โดยรายการที่ภาคภูมิใจที่สุดคือ thaiFex ซึ่งเราเป็นจู เนียร์เชฟทีมเดียวที่แข่งในระดับโปรฯ ซึ่งแข่งกับสมาคมเชฟทั่วประเทศ และทีมผมก็ชนะ มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดจริงๆ ครับ จากการเรียนและ แข่งขัน ทำให้ยืนยันได้เลยว่า สิ่งที่เป็นวันนี้มันใช่ผมที่สุดแล้ว ผมคงไม่ เปลี่ยนไปเดินเส้นทางอื่นแล้ว คงจะเรียนรู้เทคนิคต่างๆ ให้เชี่ยวชาญมาก ขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งรสชาติใหม่ๆ และการออกแบบรูปร่างหน้าตา”

First Impression

“หน้าตาของอาหารคือความประทับใจแรก เหมือนเราได้เจอใครสักคนที่ น่าประทับใจ เขาดูสวยมีเสน่ห์มากจริงๆ อยากรู้จักจัง ในมุมของอาหารก็ เช่นกันดูดี ดูหน้าลิ้มลองจริง หน้าตาของอาหารคือประตูด่านแรกที่ทำให้ คนเลือกชิม จากนั้นเรื่องรสชาติก็เป็นส่วนสำคัญที่สุด ต้องยอมรับในจุดนี้ หน้าตาต้องคู่กับความอร่อย” เตรียมพบคอลัมน์ menu makeover ในเล่มหน้า...เชฟปิงฝากมาบอกว่า

“ได้เห็นหน้าเห็นตากั นแล้ว แฟนๆ foodstylist คนไหนทีอ่ ยากให้ผม menu makeover เมนู ไ หน ร่ว มสนุ ก เสนอโจทย์ ใ ห้ผ มได้ที่ www.facebook.com/foodstylistfanpage แล้วผมจะพาคุณไปรูจ้ ัก กั บโลกของอาหารในแบบของผม เมนูเจ๋งๆ สวยๆ ทีม่ ตี น้ ตำรั บ ดัง้ เดิมในสไตล์เชฟปิงครับ”

55 foodstylist


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.