Vol. 4
้มาลงให้ ให ป ู ร ี งม อ ่ รื เ ี ม สวัสดีค่ะ ะ ะค น ว ้ ล แ ไป 2012 ก็ผ่าน การประชุมสามัญประจำ�ปี ี่ ก รุ ง ป ารี ส ป ระ เท ศ ท น ั ก ์ ค รร ส ง ั ะส ป บ พ าร ะก ชุ ม แ ล ดู กั น เป็ น ก าร ส รุ ป ก าร ป ระ าการเพื่อจัดงานด้าน ฝรั่งเศส ช วิ ย า ่ ฝ าร ก ม รร ก ุ น ะอ ณ ค ง ้ ั ต ขณะนี้ทางสมาพันธ์ฯได้จัด ได้ในฉบับนี้ ด ย ี อ ะเ ล าย าร ห ถ าร าม ส น ี่ พั ก สำ � รอ ง า ่ ท ี ม ่ ี ท ก ิ าช ม วิชาการ ท ส วก พ บ รั ห � ำ ส ่ อ ลั ม น์ ใ ห ม ่อนในราคา ผ ก ั ใน ฉ บั บ นี้ ไ ด้ เ ปิ ด ตั ว อ ย่ า งค วพ ย ่ ี ท าเ ม ้ ด ไ ้ ให งๆ า ่ ต นๆจากประเทศ ยให้ในราคาประหยัด ต้องการจะเปิดต้อนรับเพื่อ ท วไ ชา าก ป ก ู ถ ่ ี ท าร ห อา ง รุ ที่จะป ประหยัด บางบ้านอาจเต็มใจ ะ และหากใครสนใจจะเข้าร่วมโครงการ สามารถ ดูนะค และเป็นกันเอง ลองติดตาม eokarn@yahoo.com ar าร ก ว ็ เร ย ั ท ฤ วง ด ณ ุ ค ่ ี ท ้ ติดต่อส่งข้อมูลมาได
i
สัน ศรีจันทร์ ศรีจรูญ แอนเดอร์ ธ์ บรรณาธิการ/ประชาสัมพัน มิถุนายน 2012
ศรีจันทร์ ศรีจรูญ แอนเดอร์สัน
ติดต่อสมาพันธ์ฯได้ที่ www.fottethaieuro.com ail.com fettesecretariat@googlem
ดวงฤทัย เร็วการ (ผู้ช่วยฝ่ายข่าว)
2
น์อักษร) จารีย์ เคลเล่อร์ (พิสูจ
น า ธ ะ ร ป ก า จ สาร สวัสดีคะ่ สมาชิกชาวสมาพันธ์ครูภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในยุโรป และผู้อ่านทุกท่าน การประชุมสามัญประจำ�ปี ๒๕๕๕ ที่กรุงปารีสเมื่อวันที่ ๑๑-๑๓ พฤษภาคมที่ผ่านมา มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมมากกว่าร้อยสามสิบคน งานการประชุมประสบ ความสำ�เร็จจากการร่วมมือร่วมใจ จากการร่วมทำ�งานของคณะกรรมการบริหารสมาพันธ์ฯ และ ประเทศเจ้าภาพ ซึ่งกรรมการชมรมสตรีไทยในฝรั่งเศสได้ช่วยให้งานการประชุมประสบความสำ�เร็จ เป็นอย่างดี ทางสมาพันธ์ฯ ขอขอบคุณประเทศเจ้าภาพมาในโอกาสนี้ด้วยนะคะ นอกจากสมาชิกครูอาสา ครูอาชีพ และครูแม่จะได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์จากวิทยากรหลาย ท่านแล้ว สมาชิกฯยังได้พบปะสังสรรค์กันซึ่งเป็นการสร้างความรัก ความสามัคคีในกลุ่มคนไทยใน ยุโรป ซึ่งจะได้นำ�ไปสร้างความเข็มแข็งและแสดงศักยภาพหญิงไทยในยุโรป พร้อมนำ�ภาษาไทยไป เผยแพร่ในประเทศที่ตนเองอาศัย ตามหัวข้อที่เราได้เข้ามาร่วมการประชุมคือ “ครอบครัวสุขสันต์สาน สัมพันธ์ด้วยภาษาไทย” จากตัวอย่างของครอบครัวสาวไทยที่แต่งงานกับคนต่างชาติในยุโรปที่ได้นำ� ครอบครัวของตนเองมาเสนอและอภิปรายในที่ประชุม ทางสมาพันธ์ฯได้รับเงินสนับสนุนจากดร.เจริญและคุณหญิงวรรณา เจิรญสุขภักดี เพื่อจัดพิมพ์ หนังสือสวัสดีตั้งแต่เล่ม ๑ ถึงเล่ม ๖ พร้อมแบบฝึกหัดและสื่อการเรียน เป็นจำ�นวนเงิน ๔,๕๐๐,๐๐๐ (สี่ล้านห้าแสนบาทถ้วน) โดย รศ.ดร.นราพร จันทร์โอชา ที่ได้เป็นกำ�ลังสำ�คัญเพื่อให้กิจกรรมนี้ประสบ ความสำ�เร็จ ทางสมาพันธ์ขอขอบพระคุณทั้งสามท่านมาณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ สำ�หรับโรงเรียน สมาคมและองค์กรที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฯ ในประเทศต่างๆในยุโรปที่ ต้องการหนังสือดังกล่าว สามารถแจ้งความจำ�นงค์ จำ�นวนหนังสือที่ต้องการได้ที่อีเมล์ Fettesecretariat@gmail.com ได้นะคะ หนังสือทั้งหมดอยู่ที่เมืองไทย จึงจะได้แจ้งให้ทราบว่าจะไปรับหนังสือได้ อย่างไร ทางสมาพันธ์ฯได้จัดตั้งคณะกรรมการอนุกรรมการการศึกษาขึ้นจาก ครูอาสาจากประเทศต่างๆ ในยุโรป เพื่อประสานงานทางด้านการศึกษากับหน่วยงานทางกระทรวงศึกษาธิการโดยมีรศ.ดร. นราพร จันทร์โอชา เป็นทีป่ รึกษาฝ่ายวิชาการเป็นผูใ้ ห้คำ�แนะนำ�และทีป่ รึกษา เพือ่ ให้งานของสมาพันธ์ฯ ได้บรรลุตามจุดมุ่งหมายอย่างสมบูรณ์ ด้วยความปรารถนาดี สุพรรณี บุญถูก ประธานสมาพันธ์ครูภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในยุโรป 3
ประกาศ
การจัดตั้งคณะอนุกรรมการ ด้านวิชาการสมาพันธ์ ครูสอนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในยุโรป
ประกาศ ณ. วันที่ 20 มิถุนายน 2012
สืบเนื่องจากการประชุมสามัญประจำ�ปีของสมาพันธ์ฯ ระหว่างวันที่ 11-13 พฤษภาคม 2555 ที่ ผ่านมา อาจารย์สุมิตรา ซัลซ์มันน์ ได้รับมอบหมายจากสมาพันธ์ฯ ให้เป็นประธานในที่ประชุม เพื่อจัด ตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการ เพื่อวัตถุประสงค์ให้คณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการ มีหน้าที่ดำ�เนิน การด้านวิชาการดังนี้ 1.การจัดการและสาธิตวิธีการสอน 2.การจัดให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างสมาชิกเกี่ยวกับสื่อเสริมต่างๆ ที่ครูแต่ละประเทศนำ�มาใช้ 3.การสร้างข้อสอบกลางที่สมาชิกสมาพันธ์ฯนำ�ไปใช้ทดสอบเด็กได้เพื่อมุ่งสู่ความเป็นมาตรฐานเดียวกัน 4.การเชิญวิทยากรมาบรรยายเรื่องที่เป็นประโยชน์ 5.การอบรมการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบการเรียนการสอน 6.การทำ�ฐานข้อมูลเด็กและเยาวชนในยุโรปที่เข้าเรียนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยพร้อมข้อมูลการ ประเมินผลการเรียนของเด็ก อาจารย์สุมิตรา ซัลซ์มันน์ ได้คัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะรวมเป็นคณะอนุกรรมการทาง ด้านวิชาการดังนี้ 1. นางทัศนา จันทรศร เป็น ประธาน (Tassana Chantrasorn) e-mail : tassanachan@gmail.com Tel. (47) 99 85 32 86 2. นางกษมา ยมกานนท์ เอียริคสัน (Kasama Yommaganonth Ericson) e-mail : yommaganonth@hotmail.com Tel. (46) 707 67 37 97 3. นางปิยะนันท์ เทพนรินทร์ (Piyanan Tepnarin) e-mail : aew291@hotmail.co.uk Tel. (44) 7951 170 294 4
4. นางชนกกมล โพธิศรี ยอร์ท (Chanokamol Potisri Hjorth) e-mail : chamol88@yahoo.com Tel. (47) 46 25 84 39 5. นางพนิดา บุษปภาชน์ (Panita Bussapapach) e-mail : bussapapach@hotmail.com Tel. (33) 0629850963 6.นางสาว ขนิษฐารัตน์ บุตตะวงศ์ (Kanittarat Boottawong) e-mail : kanittakook@hotmail.com Tel. (32) 25024032 โดยมี คณะท่านที่ปรึกษาด้านวิชาการ ดังนี้ 1. อาจารย์นราพร จันทร์โอชา 2. อาจารย์สาลี่ ศิลปสธรรม 3. อาจารย์สุมิตรา ซัลซ์มันน์ คณะอนุกรรมการด้านวิชาการทำ�งานเป็นอิสระในขอบเขตดังกล่าวเบื้องต้น รายงานผลการทำ�งาน ต่อคณะกรรมการบริหาร และขออนุมัติหากมีค่าใช้จ่ายในการจัดการ สมาชิกท่านใดมีจติ อาสาและมีคณ ุ สมบัตเิ หมาะสม และต้องการเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการด้านวิชาการ เพิ่มเติมจากเดิม โปรดติดต่อขอสมัครต่อกับคณะอนุกรรมการชุดแรกจากนี้เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ สุพรรณี บุญถูก ประธาน 5
ครอบครั ว สุ ข สั น ต์ สานสัมพันธ์ด้วยภาษาไทย
โดย แม่วาดเมียบียอร์น
คนไทยนับร้อยที่เป็นสมาชิกของ FETTE หลั่งไหลมาจาก ประเทศต่างๆในยุโรป เข้าพักที่โรงแรม Ibis Tour Eifel กลางกรุง ปารีส เพื่อร่วมประชุมประจำ�ปี 2012 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-13 พฤษภาคมที่ ผ่ า นมา เสี ย ง วี๊ ด ว๊ า ด...กรี๊ ด กร๊ า ด... กั น ตาม ธรรมเนียมที่พบกันปีละครั้ง ณ.หอประชุม Forum de Grenelle ซึ่งอยู่ติดกับโรงแรมที่พัก สะดวกสำ�หรับสมาชิกจะเดินมาร่วม ประชุม เสียงทักทายกันสำ�หรับผู้ที่เคยรู้จักกันคละเคล้ากับเสียง แนะนำ�ตัวสำ�หรับสมาชิกใหม่ทีเ่ พิม่ ขึน้ เรือ่ ยๆ ...จ๊อกแจ๊ก ...จอแจ กันทุกมุมของห้องประชุม
6
การประชุมสามัญประจำ�ปี 2012 เริ่มขึ้นในช่วงบ่ายวันศุกร์ ซึ่งใน ปีนี้คณะกรรมการยังคงอยู่ในวาระทั้งหมด ประธาน สุพรรณี บุญถูก และกรรมการทั้งหมด เพียงใจ เจริญศิลป์ ปณิธาน ตาบูเรล ศรีจันทร์ แอนเดอร์สัน ชุมศรี อาร์โนลด์ ดร.นริสา เชื้อวิวัฒน์ ต่างก็รายงานผลการ ทำ�งานของแต่ละท่านต่อสมาชิก ประธานแถลงเรื่องสำ�คัญต่อสมาชิกว่า ขณะนี้ทาง FETTE ได้มี หนังสือชุด “สวัสดี” โดย สาลี่ ศิลปสธรรม เล่ม 1-6 พร้อมแล้วสำ�หรับ สมาชิกทั้งที่เป็นโรงเรียน สมาคม หรือส่วนบุคคล ที่จะนำ �ไปใช้สอน เยาวชนเชื้อสายไทยได้ทั่วยุโรป ซึ่งทุนในการใช้พิมพ์หนังสือทั้งหมดได้ รับบริจาคจาก “Thai Bev” ดร.เจริญ และ คุณหญิง วรรณา สิริวัฒนภักดี สิ้นสุดการประชุมประจำ�ปีโดยประธานขอมติจากสมาชิกในเรื่องการ เปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมกฏระเบียบขององค์กร และเหรัญญิกรายงาน การใช้เงินและผู้ตรวจสอบบัญชีรับรองการใช้เงินถูกต้องแล้ว จากนั้นจึง เป็นรายการต่างๆที่ให้ความรู้ความบันเทิงแก่สมาชิกที่ผู้แทนประเทศ ต่างๆผลัดกันเป็นผูด้ �ำ เนินรายการเรียงรายต่อเนือ่ งกันไป รายการสำ�คัญ คือการสัมภาษณ์ครอบครัวต่างๆตามหัวข้อเรือ่ ง “ครอบครัวสุขสันต์ สาน สัมพันธ์ด้วยภาษาไทย”
7
เวลาอาหารเย็นเราพากันเดินไปลงเรือ Dinner Cruise ล่องแม่นํ้าแซน กินอาหารอร่อย ของหวาน สุดเลิศ ใครใคร่ก๊ง... ก็... ก๊ง...ไวน์แดงไวน์ขาว ชน แก้วกันกริ๊งกรั๊ง... “ดูตะวันรอน ณ ริมแซน” เฮฮากัน ลั่นเรือเหมือนเรือเป็นของเรา ร้องเพลงไทยประสาน เสียงกันสนั่นสนุกสนาน ฝรั่งอื่นๆต่างตื่นตาตื่นใจ บางโต๊ะอยากเหวี่ยงพวกเราลงเรือไป แต่ก็ต้องจำ�ใจ ทนเพราะพวกเรามากกว่า...ฮา...ฮา... หากฝรั่งบาง
8
โต๊ะมาขอเอี่ยวด้วย เพราะอยากให้พวกเราช่วยร้อง เพลง “แฮปปี้ เบิร์ตเดย์” ให้ลูกสาวที่มาฉลองวันเกิด ไม่ยากอะไรพวกเราชาว FETTE ทีม่ ไี ม่นอ้ ยทีไ่ วน์แดง ไวน์ขาวกลัว้ คอจนกลายเป็นนักร้องเสียงทอง ร่วมกัน ตะโกนร้องเพลงกันลัน่ จากทุกมุมทุกโต๊ะโดยไม่รูด้ ว้ ย ซ้ำ�ว่าวันเกิดใครขอให้ได้ร้องเป็นพอใจ เจ้าของวัน เกิดตัวน้อยหน้าบาน พ่อแม่มา “แทงคิ้ว” พวกเรา มากหลาย
วันรุง่ ขึน้ เริม่ กันด้วยการรับศีลรับพรรับรสพระธรรมจากท่าน ว.วชิรเมธี ท่านที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ของ FETTE ที่กรุณาจัดทำ�ใส่ ซีดีส่งมาจากกรุงเทพฯสำ�หรับสมาชิกชาว FETTE พร้อมแผ่นซีดี อีก 300 แผ่น เพื่อแจกต่อสมาชิก โดยผู้นำ�มาให้คือ คุณสุภวัส วรมาลี โฆษกชื่อดังของ Global TV และของบริษัทการบินไทยฯ และได้ร่วมเป็นโฆษกในรายการบันเทิงต่างๆของเราให้เฮฮากัน ตลอดคืน ในวันที่สองของการประชุมนั้น วิทยากรที่เข้าร่วมประชุม ส่วนมากได้รับเชิญมา เพื่อให้ความรู้กับพวกเรา เช่น รศ.ดร.มณี รัตน์ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา จากโครงการนโยบายภาษาแห่งชาติฯ อภิปรายเรือ่ ง “พัฒนาการทางภาษาไทยในปัจจุบนั ” พระอาจารย์ ชยสาโร ภิกขุ กรุณาสละเวลามาเทศน์ในหัวข้อ “พุทธปัญญา พัฒนามนุษย์ได้อย่างไร” อาจารย์ฉัตรวิบูลย์ ไพจ์เซล อาจารย์ ประจำ�คณะจิตวิทยามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อภิปรายเชิงปฎิบัติ การ ในเรื่อง “จิตวิทยาครู” 9
บางรายการถูกตัดไปเนื่องจากวิทยากรบางท่าน ไม่ ส ามารถมาร่ ว มรายการได้ เพราะการขอวี ซ่ า เข้ า ประเทศฝรั่งเศสไม่ทันเวลา ดังนั้นรายการบางรายการ จึงต้องถูกจัดขึ้นแทนกระทันหัน เช่นรายการสัมภาษณ์ คุณสุมิตรา ซัลส์มันน์ ซึ่งเป็นตัวจักรสำ�คัญที่ก่อให้เกิด สมาพันธ์ครูสอนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในยุโรป (FEderation of Thai Teachers and culture in Europe - FETTE) ได้เล่าถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของ องค์กร ทัง้ แจ้งให้สมาชิกทราบว่า รศ.นราพร จันทร์โอชา รองประธานมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม วัง ไกลกังวล หัวหิน ซึ่งเป็นที่ปรึกษาที่สำ�คัญของ FETTE มาแต่เริ่มก่อตั้ง ได้แนะนำ�ให้ตั้งคณะกรรมการพิเศษ ด้ า นวิ ช าการขึ้ น เพื่ อ ให้ ค วามช่ ว ยเหลื อ แนะนำ � แก่
10
สมาชิกถึงแนวทางทีจ่ ะเปิดการเรียนการสอนภาษาไทย ขึ้น อีกทั้งพยายามตั้งเป้าหมายในการดำ�เนินงาน โดย พยายามให้หลักสูตรของ FETTE เป็นที่ยอมรับอย่าง กว้างขวางต่อไป ซึ่งขณะนี้กำ�ลังดำ�เนินการพิจารณา เชิญสมาชิกผู้เหมาะสมและมีประสบการณ์เข้าร่วมเป็น คณะกรรมการด้านวิชาการต่อไป หลั ง จากรั บ ประทานอาหารเย็ น มี ก ารแสดง สันทนาการจากประเทศต่างๆ 9 ประเทศ เดนมาร์ก อังกฤษ ไอซ์แลนด์ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน โดยแต่ละประเทศส่งผู้แสดงนำ� ได้เพียงสามคน ให้แข่งขันกันในแนวความคิด ความ สามารถ และความสวยงาม ซึ่งเป็นที่น่าชื่นใจที่สมาชิก
11
ให้ ค วามร่ ว มมื อ เตรี ย มการแสดง ต่ า งๆ มาแข่ ง ขั น กั น อย่ า งพร้ อ ม เพียง และสมาชิกจากประเทศสเปน ได้รางวัลที่หนึ่ง ระหว่างการแสดง แม้ ว่ า เครื่ อ งเสี ย งจะขลุ ก ขลั ก สมาชิ ก ยั ง สามารถแสดงแลก เปลี่ยนกันชมได้สนุกสนาน รายการ สุ ด ท้ า ยเป็ น ของประเทศเจ้ า ภาพ ฝรั่ ง เศสแต่ ง ตั ว สวยออกมาเดิ น แฟชั่นโชว์ไว้ลายชาวปารีเซียง ปิด รายการด้วย คุณศรีสไล สุชาตวุฒิ ซึง่ มาร่วมในฐานะเป็นส่วนหนึง่ ของ ชาวไทยในยุ โ รป ครวญเพลงให้ ประทับใจกันสุดๆ รุ่งขึ้นวันสุดท้ายสมาชิกส่วน หนึ่งที่สามารถตื่นแต่เช้าหลังจาก คืนที่ยาวนานและเหนื่อยอ่อน เดิน
12
13
ขบวนกันไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึกที่หอไอเฟน แล้ว จึงแยกกลุ่มกันไปทัศนศึกษาตามสถานที่สำ�คัญ ต่างๆ เช่น นั่งรถสองชั้นชมวิวปารีสทั่วไป ไปชม พระราชวังแวร์ซาย ไปชมพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ไปชม มหาวิหารนอทเตรอดาม เดอ ปารีส ไปชมประตูชัย และเดินซื้อบนถนนซ็อง เซลีเซ นั่งจิบกาแฟริมฟุต บาทสบายๆ สไตล์ ปารีเซียง ก่อนจะแยกย้ายกลับ ไปยังถิ่นฐานของตัวในประเทศต่างๆ ในยุโรป ลาก่อนสำ�หรับปีนี้ ขอลาทีทัง้ ทีอ่ าลัย จนกว่า จะพบกันไหม่.... สำ � หรั บ คนไทยในยุ โ รปที่ ต้ อ งการจะเป็ น สมาชิกของ FETTE ท่านสามารถเป็นสมาชิกอิสระ โดยไม่จำ�เป็นต้องเป็นครูหรืออยู่ร่วมในองค์กรใดๆ ติดต่อได้ที่ fettesecretariat@googlemail.com 14
โดย แม่วาดเมียบียอร์น
ชะนีร้องหาผัว
To แม่วาด (ขอเรียกว่าอย่างนี้นะค๊ะ) สวัสดีแบบไทยๆ ค๊ะ นี่เป็นฉบับแรกที่เขียนมา คุยกับแม่วาด น้องชื่อจ๊ะเอ๋น๊ะค๊ะ ด้วยเหตุผลกลใด ไม่ทราบ คุณแม่จึงตั้งชื่อนี้ให้ (เป็นกระเทยซะเลย) น้องเป็นผูช้ ายทีไ่ ม่ใช่ผูช้ ายแล้วทัง้ จิตใจและร่างกาย บางส่วนของน้องเป็นหญิงไปแล้ว (ต้องขอโทษด้วย นะคะถ้าแม่วาดรังเกียจ ขอให้แม่วาดฟังน้องคุยได้ เปล่าคะ) น้องชอบเรือ่ งทีแ่ ม่วาดเขียนมากเลยค่ะ แต่ ไม่ ไ ด้ ซื้ อ ทุ ก เล่ ม เพราะในบางครั้ ง โอกาสไม่ เ อื้ อ อำ�นวย อาศัยเพื่อนกระเทยด้วยกันอ่านค๊ะ เพราะ พวกเราอ่านกันเป็นทีมค่ะ อ่านแล้วหัวเราะกันกรี๊ด 15
กร๊าด! บางครั้งก็ได้ศัพท์ภาษาอังกฤษในการคุยกัน ก็มีค่ะ แหม… ช่างเริดเลอเพอเฟคเซ็คแอพเพลอะไร อย่างนั้น… ตอนแรกน้องเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ เคยสนใจในการอ่านหนังสือเลย แต่แล้วดวงแห่งการ พบเจอก็มาถึง อีนังกระเทียมเพื่อนน้องมันชอบคุย กันเรื่องนี้ น้องเป็นคนแปลกอย่างชอบสาระแนแบบ เป็นพักๆ แต่ไม่ให้ใครทราบ น้องแกล้งขอยืมมาดู แค่ อ่านเท่านั้นแหละค่ะแทบอยากจะได้มาเป็นเจ้าของ ทันทีเลยล่ะค่ะ (นี่ไม่ได้ยอแม่วาดน๊ะค๊ะ เป็นความ รู้สึกจริงๆ) ตัง้ แต่บดั นัน้ จนบัดนีน้ อ้ งก็หาซือ้ มาอ่านประจำ� ค่ะ และขอบอกว่าน้องเป็นคนเดียวในกลุ่มที่เขียน จดหมายมาหาแม่วาดค่ะ เพราะเพื่อนน้องต้องคอย ดูแลปรนนิบัติสามีของหล่อนๆ ทั้งหลายค่ะ โอ๊! แม่ วาดไม่ตอ้ งแปลกใจค๊ะ น้องก็มแี ต่เขาทำ�งานเป็นช่าง อยู่บริษัท TOYOTA ค่ะ เขาอยู่ ก.ท.ม. ส่วนน้องอยู่ เมืองเจดียใ์ หญ่ (นครปฐม) คะ 1อาทิตย์ได้ถงึ ได้พบกัน น้องมีหน้าที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียว อยากมีลูกใจ จะขาดแต่เป็นเวรกรรมของเราที่ดั๊น! เกิดมาเป็นกระ เทย แต่ยังโชคดีที่มีผู้ชายในฝันมาคอยดูแลเราค๊ะ น้องก็เคยมีแฟนเป็นคนเยอรมันชื่อเกร็ก เขาหน้าตา จัดว่า O.K.ค่ะ แปลกเป็นเยอรมันที่ไม่มีพุงเหมือนที่ เห็นๆกันทั่วไปในบ้านเรา เกร็กอายุ 40 พอดีเป๊ะ เขา ดีมาก เขาสุภาพ โคตรโรแมนติกเลย ชอบ kiss น้อง ตลอด ตอนแรกๆก็กลัวเขาเหม็นขี้ฟันน้องเหมือนกัน แต่ก็ช่างมัน มันทนเหม็นได้น้องก็ให้มันดมไป ตอน หลังน้องบอกเขาว่าอย่ามา kiss ไอ ต่อหน้าคนเยอะๆ (ถึ ง น้ อ งเป็ น กระเทยแต่ รั ก ษาประเพณี แ ละขนบ ธรรมเนียมไทยอย่างดีนะ๊ ค๊ะ) เขาก็เชือ่ ต่อมาน้องกับ เขาต้อง “คอนเวิด” กันคนละคู่ค่ะ ทางใครทางมัน 16
เพราะเหตุผลที่ไม่เข้าท่าเลย คือเขาเกลียดสุนัขแต่ น้องรักมาก เขาโดนมันงับทุกวัน เพราะหมาเนี่ยมัน จะรูว้ า่ ใครชอบไม่ชอบมัน เพราะมันมีประสาทสัมผัส ที่ 6 คะ เชื่อไหมคะ เวลาที่เราใช้ไฟหรือแสงอะไรก็ แล้วแต่ ส่องผ่านตาของมัน จะมีแสงทีต่ าของมันเป็น สีแดงอำ�พันสะท้อนกลับมา มันสามารถรับรู้ได้ทันที ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมันค๊ะ เป็นเรื่องที่อัศจรรย์นะค๊ะ หลังจากนั้นดิฉันก็เป็นคนโสดมาจนจบเสริมสวยค๊ะ ก็มาพบกับสามีคนปัจจุบัน คนนี้คบกันมา อยู่กินกัน มา 4 ปี กับ อีก 2 เดือน ปัจจุบันเขา 35 น้อง 23 เรา ห่างกันหลายปี แต่ความที่เขาไม่รังเกียจกระเทย อย่ า งน้ อ ง ข้ อ นี้ เ องจึ ง ทำ � ให้ เ ราครองรั ก กั น มาถึ ง ปัจจุบันนี้ล่ะค่ะ เขาดูแลทุกอย่าง ให้เงินน้องใช้ ไม่ เคยขาด ดีมากๆ เขาไม่เคยคิดมอง ชะนี (ผูห้ ญิง) เลย ค่ะ มีอะไรไม่เคยปิดบังน้องเลย มีน้อยมากน๊ะคะคน แบบนี้ จริงไหมค๊ะแม่วาด น้ อ งอยากให้ แ ม่ ว าดเขี ย นเรื่ อ งราวเกี่ ย วกั บ กระเทยที่แถบยุโรปให้ได้อ่านบ้างค๊ะ อยากทราบ จริงๆค๊ะ หรือว่าแม่วาดคิดว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระก็ไม่ เป็นอะไรน๊ะค๊ะ น้องจะรักและคิดถึงตัวแม่วาดผู้รวย อารมณ์ขัน และหนังสือแม่วาดเมียบียอร์นตลอด ไปค๊ะ จะเขียนมาหาอีกนะคะ ไม่ตอบน้องก็ไม่เป็นไร น๊ะค๊ะ น้องขอเขียนหาเท่านั้นก็สุขใจค่ะ ….รักและ คิดถึง AND นับถือ ….จ๊ะเอ๋ ….สนุกไหมคะ? อ่านจดหมายแฟนแม่วาด ฉบับนี้ แม่วาดว่าสนุกกว่าที่แกบอกว่าอ่านหนังสือ ของแม่วาดแล้วสนุกเสียอีก ได้ทั้งความรู้และความ คิดที่สะกิดให้บรรดาพวกชะนีทั้งหลายควรได้รู้และ ระมัดระวังตัวเอาไว้ให้มาก อย่าพยายามแสดงความ
เก่งกาจตีเสมอผูช้ ายด้วยความสามารถทีพ่ ยายามให้ เหมือนผู้ชายมากเกินไป ถ้าจะเอาชนะก็ควรจะงัด มารยาทั้ ง ร้ อ ยเล่ ม เกวี ย นของผู้ ห ญิ ง ขึ้ น มาใช้ เลือกสรรเล่มที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาในแต่ละ ครั้ง ผู้ชายก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เสียเงินเสียตัวเสียทุก อย่างให้แก่ฝ่ายชะนีโดยง่าย ดูแต่บรรดาพวกน้อง จ๊ะเอ๋ซิคะ ขนาดที่แกคิดว่ามีกรรมที่ไม่ได้เกิดเป็น ชะนี แกยังได้เรียนรูเ้ คล็ดลับมารยาทัง้ ร้อยเล่มเกวียน ของพวกชะนีว่าต้องดีดสดิ้งอย่างไรจึงจะเป็นเสน่ห์ ไร้เทียมทาน จนพวกชะนีแท้ๆ อ่านแล้วต้องอิจฉาใน บุญวาสนา …ดูแลให้เงินใช้ไม่เคยขาด ! …ไม่เคยคิดมอง คนอื่น ! …โคตรโรแมนติก! … ชอบ kiss น้องตลอด ถึงจะเหม็นขี้ฟัน! เฮ้อ! ไม่อยากบรรยายต่อเลยมัน เจ็บที่หัวใจ อย่างไรก็ตามทีแ่ ม่วาดแนะนำ�นัน้ ไม่ใช่แนะนำ� ชุ่ยๆนะคะ เห็นของจริงมาแล้วพวกชะนีที่พยายาม เรียกร้องยืนหยัดให้เท่าเทียมกับผู้ชายจนลำ�้ เส้นเกิน ไป อย่างพวกผู้หญิงในแถบสแกนดิเนเวีย ตอนนี้ กระโดดหยองแหยงไปทางโน้นมาทางนี้ตะโกนก้อง ร้องเหมือนชะนีอยู่ทั่วดินแดน ส่วนพวกผู้ชายที่โดน ร้องหาก็วิ่งหนีกระเซอะกระเซิงลงมาหาชะนีแท้แถว เมืองไทยบ้าง หาพวกน้องจ๊ะเอ๋บ้าง เพราะตามกฎ เกณฑ์ของโลก เพศผู้มันต้องคู่กับเพศเมีย ดังนั้นเมื่อ หาผู้ ห ญิ ง ที่ เ หมื อ นเพศเมี ย ไม่ ไ ด้ ก็ ต้ อ งดิ้ น รนไป ไขว่คว้าหาพวกที่ยังเหลือความเป็นเพศเมียอยู่มาก หรือพวกทีเ่ หมือนเพศเมีย …มันสบายใจ! พวกผูช้ าย ฝรั่งหลายๆ คนเขาสรุปว่าอย่างนั้น ตามที่แม่วาด สัมภาษณ์มา แม่วาดไม่เคยได้รู้จักสนิทสนมกับกระเทยมาก
นัก เลยไม่เคยมีความรูม้ ากนักเกีย่ วกับพวกนีท้ จี่ ะเล่า อย่างที่ยายจ๊ะเอ๋แกอยากให้เล่า รู้จักอยู่คนหนึ่งเป็น ช่างตัดผมที่ออสโลซึ่งเท่าที่เคยฟังแกเล่าเรื่องชีวิตก็ คล้ายๆกับจ๊ะเอ๋ เป็นคนชอบความเป็นอยู่หรูหรา แฟนรักมากยอมให้ทุกอย่าง และเล่าอะไรๆที่พวก ชะนีอย่างเราฟังแล้ว หมดทางเป็นคูแ่ ข่งโดยเด็ดขาด แต่ถ้าแกไปเจอพวกเดียวกันอย่างจ๊ะเอ๋ก็ไม่รู้เหมือน กันนะคะ ว่าการต่อสู้จะดุเดือดเผ็ดมันกว่าการต่อสู้ ระหว่างพวกชะนีแท้หรือเปล่า? หากแม่วาดรู้จักคบหากับพวกเกย์อยู่หลายคน คือพวกผู้ชายที่ทั้งการแต่งตัวและการแสดงออกเป็น ผู้ชายธรรมดา แต่ชอบหลับนอนกับคนเพศเดียวกัน คนพวกนี้ กั บ แม่ ว าดจะถู ก คอถู ก อั ธ ยาศั ย กั น มาก คงจะเป็นเพราะกึ่งๆผู้ชายกึ่งๆผู้หญิงเหมือนกัน ส่วน มากจะรูปหล่อ เพราะฉะนั้นขอเตือนสาวๆว่าถ้าจะ เหร่ไอ้หนุ่มรูปหล่อคนไหนให้ยั้งๆหัวใจไว้หน่อยนะ คะ รอจนแน่ใจเสียก่อนว่าเป็นพวกนิยมชะนีค่อยทุ่ม สุดตัว ไอ้หนุ่มฝรั่งรูปหล่อสุดขีดคนหนึ่งซี้กับแม่วาด ขนาดเวลาไปทำ�งานโครงการพิเศษด้วยกัน มักนอน ห้องเดียวกันเพื่อใช้อีกฝ่ายเป็นเหตุผลป้องกันความ ลำ�บากใจในหมูผ่ ูร้ ว่ มงานฝรัง่ สำ�หรับแม่วาดก็คอื ไม่ ต้องคอยปฏิเสธพวกผูช้ ายในทีมงานมากเกินไป ตาม ธรรมดาการร่วมงานกันแบบหัวหกก้นขวิดของพวก ฝรั่ง จนอาจมีผลเสียในการให้ความร่วมมือในการ ทำ�งานได้ ส่วนพ่อรูปหล่อนีก่ ใ็ ช้แม่วาดเป็นเครือ่ งป้องกัน คนในทีมงานนินทาว่าเป็นเกย์ ถึงแม้จะเป็นจริงๆ เรา ก็เลยทำ�ให้คนเข้าใจว่าเราคั่วกันอยู่สุดเหวี่ยง แต่ ความจริงนอนคุยกันโขมงทั้งคืน จนลุกขึ้นทำ �งาน แทบไม่ไหวเดินโซเซเป็นที่หยอกล้อของเพื่อนร่วม 17
งานอื่นๆ เราก็ได้แต่อมยิ้มส่ายตาหวานเข้าหากัน แฝงไว้ด้วยความพอใจในผลสำ�เร็จที่ได้รับ อีกจำ�พวกหนึ่งที่แม่วาดพอรู้จักก็คือพวกเลส เบี้ยน พวกนี้เป็นพวกผู้หญิงที่ชอบนอนกับผู้หญิง ด้วยกันเอง แม่วาดเคยสนิทสนมอยู่ที่ออสโลเป็น กลุม่ ใหญ่ เคยหลบบียอร์นตามไปเทีย่ วไนท์คลับของ พวกนีบ้ อ่ ยๆ ไม่แตกต่างจากไนท์คลับทัว่ ไปนักเพียง แต่มีแต่ผู้หญิงกับผู้หญิงเต้นรำ�กอด จูบกันอยู่ทั่วทุกวัย ไม่มีคู่หญิง ชายตามปกติแต่อาจมีพวก คู่เกย์มาร่วมด้วยบ้าง มี อยู่ครั้งหนึ่งแม่วาดนั่ง ร่วมวงกับพวกเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกัน ซึ่งส่วนมาก อยู่ ใ นวั ย เดี ย วกั บ แม่ ว าด
18
แต่ความที่แม่วาดเป็นคนเอเซียนเมื่ออยู่ท่ามกลาง พวกสาวๆเชื้อสายไวกิ้งร่างเท่ายักษ์ทั้งหลาย ทำ�ให้ ดูเหมือนเป็นเด็กสาวทีต่ อ้ งโดนบังคับใจให้อยูร่ ว่ มใน กลุ่ม จึงบังเกิดอัศวินม้าขาวปรากฎกายขึ้นมาช่วย เป็นเด็กสาววัยรุ่นหน้าตาสวยมากแต่งตัวเป็นผู้หญิง ทันสมัยสุดเหวี่ยง เดินเข้ามาที่โต๊ะยิ้มหวานให้แม่ วาดก่อนจะชวนออกไปเต้นรำ� ทำ�เอาสาวๆ ที่โต๊ะแม่ วาดโดยเฉพาะคนที่สนิทกับแม่วาดหน้าตึงตาขวาง ขึ้นมาทันที บรรยากาศไม่ผิดกับการที่แม่วาดไปกับ ชายคนหนึ่งและผู้ชายอีกคนหนึ่งเดินมาขอแม่วาด เต้นรำ�โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แม่วาดอึกอักตอบ ปฏิเสธเด็กสาวคนนั้นไป มีความรู้สึกเหมือนกำ�ลัง ตอบผูช้ ายอีกคนหนึง่ ทีม่ าขอเต้นรำ�โดยไม่รูจ้ กั กันมา ก่อนไม่มีผิดเหมือนกัน “ยูไม่ต้องกลัวพวกคนแก่พวกนี้หรอก” แม่สาวนั่นชี้กราดไปที่โต๊ะของแม่วาดที่เต็มไป ด้วยคนรุ่นแม่ ต้องเข้าใจนะคะว่าสังคมในสแกนดิ เนเวียนั้นเรื่องเด็กเรื่องผู้ใหญ่ไม่มีความหมายเลย คราวนี้ แ ม่ ส าวคนที่ ส นิ ท กั บ แม่ ว าดตบโต๊ ะ เปรี้ ย ง ทันที เห็นเล็บยาวงุ้มสีแดงมันปราบ ผลุดลุกขึ้นยืน ตุ้มหูกระตุ้ง กระติ้งสะบัดไปมาไม่แพ้ตุ้มหูของอีก ฝ่ายหนึ่ง แยกเขี้ยวปากแดงไม่แพ้กันเหมือนกัน แม่ วาดรีบห้ามทัพ “เออ… ฉันไม่ได้กลัวอะไร พวกเรามาด้วยกัน และฉันก็สนุกมาก ขอบคุณมากที่เป็นห่วง” แล้ว แม่วาดก็รบี ดึงคนทีส่ มมุตจิ ะเป็นแฟนแม่วาดออกไป เต้นรำ�กันทันทีเพื่อเป็นการตัดปัญหา เด็กสาวคนนั้น จึงเดินกลับไปที่โต๊ะตัวเองที่มีพรรคพวกอยู่หลายคน วาว!… เกือบเกิดศึกชิงนางเสียแล้วไหมล่ะ ถ้ายก พวกตีกันสงสัยคงได้ดึงตุ้มหูกันหูฉีกเลือดอาบกันไป
แน่ๆ อดภูมิใจไม่ได้ว่าในกลุ่มคนพวกนี้แม่วาดเนื้อ หอมขนาดนี้เชียวนะเนี่ย ชักอยากจะย้ายสำ�นักมา เป็นพวกเลสเบี้ยนแฮะ หลังจากนั้นมาแม่สาวคนนี้ก็เลยยิ่งสนิทสนม กั บ แม่ ว าดมากขึ้ น ทำ � เอาแฟนสาวที่ อ ยู่ ใ นกลุ่ ม เดียวกันหึงแม่วาดเป็นเรื่องเป็นราว จนใครๆเตือนให้ แม่ ว าดระวั ง ตั ว เพราะความหึ ง หวงของคนพวกนี้ รุนแรงมากอาจทำ�อะไรร้ายแรงได้ แม่วาดกลับเห็น เป็ น เรื่ อ งไร้ ส าระเพราะคิ ด ว่ า คบหาพวกนี้ อ ย่ า ง เพื่ อ นๆที่ ถู ก คอ สนุ ก มากกว่ า การคบหาผู้ ห ญิ ง ธรรมดาทัว่ ไป แม้วา่ อยูๆ่ วันหนึง่ แม่สาวคนนีจ้ ะบอก แม่ ว าดว่ า เห็ น จะต้ อ งเลิ ก คบกั บ แม่ ว าดเสี ย แล้ ว แม่วาดแปลกใจมากเพราะเรากำ�ลังไปด้วยกันได้ดี คุยกันสนุกที่สุด “เพราะฉั น คิ ด ว่ า ฉั น รั ก เธอเสี ย แล้ ว ” เธอให้ เหตุผล แม่วาดหัวเราะกิ๊ก “เฮ่ย… งั้นคบกันต่อได้ ไม่ต้องกลัวว่าอะไรจะ เกิดขึ้นหรอก เพราะฉันชอบผู้ชาย แล้วก็รักผัว!” แถม ตอบฉะฉานให้กระจ่างแจ้งกันไปเลย ไม่ได้คดิ ว่าควร จะต้องถนอมน้ำ�ใจอะไรเห็นเป็นเรื่องตลกสุดเหวี่ยง เธอมองหน้าแม่วาดอย่างน้อยใจแต่แม่วาดกลับยิ่ง หัวเราะมากขึ้น อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ได้เลิกคบกัน หนักๆเข้าแม่สาวคนนี้มักมาขลุกอยู่กับแม่วาดจน รู้จักสนิทสนมกับบียอร์นไปด้วย วันหนึ่งมานั่งดื่ม เหล้าร้องเพลงติดลมอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของแม่วาด บียอร์นก็รว่ มวงเล่นกีตา้ ด้วยกันสนุกสนาน จนกระทัง่ ดึกดื่นปรากฏว่าทูนหัวเมามาก แม่วาดไล่ให้กลับ อพาร์ตเมนต์ทีอ่ ยูไ่ ม่หา่ งจากแม่วาดนัก สามารถเดิน ไปถึงในไม่กี่นาที แต่คุณเธอไม่ต้องการเคลื่อนไหว ไปไหนอีก นอนแผ่อยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น แม่วาด
จึงจัดการหาผ้านวมมาห่มให้แล้วเข้านอนกับบียอร์น ตกดึ ก แม่ ว าดตื่ น ย่ อ งออกไปดู ด้ ว ยความเป็ น ห่ ว ง ปรากฏว่าคุณเธอลอกคราบนอนแก้ผ้าเปลือยเปล่า อยู่บนโซฟาผ้าห่มกระจุยกระจาย แม่วาดจึงหยิบ ผ้าห่มมาคลุมให้ เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นยึดมือแม่วาดเอา ไว้ แ น่ น ฉุ ด ให้ ล้ ม ลงไปหาแล้ ว พยายามกอดจู บ เป็นการใหญ่ แม่วาดหัวใจแทบหยุดเต้นตกใจมาก ที่สุดในชีวิต ทั้งขยะแขยงร่างเปลือยนั้นอย่างบอกไม่ ถูก แต่ไม่กล้าร้องโวยวายกลัวบียอร์นจะตื่นออกมา เห็น ได้แต่ต่อสู้กันอึกอัก พยายามดิ้นรนจนหลุดออก มาได้แล้วเผ่นเข้าห้องนอนไปทันที ความกลัวทำ�ให้ รีบซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มนวมของสามี บียอร์นรู้สึกตัว หันมากอดแม่วาดเอาไว้ แม่วาดรูส้ กึ อบอุน่ และพอใจ อย่างมาก ทำ�ให้รูต้ วั เองว่าต้องการความสุขแบบไหน และไม่ควรจะไปมั่วสุมกับพวกที่มีพื้นฐานทางความ รู้สึกที่ไม่เหมือนกัน เพราะเราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร และ เขาก็ไม่รู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร รุ่ ง ขึ้ น แม่ ว าดไล่ ใ ห้ บี ย อร์ น เป็ น คนออกไปดู ปรากฏว่าทูนหัวหายตัวไปแล้ว และก็เลยโกรธกันกับ แม่วาดตั้งแต่นั้นมา แม่วาดไม่เดือดร้อน ออกจะโล่ง ใจด้วยซ้ำ�ที่ทางฝ่ายโน้นเป็นฝ่ายเลิกสัมพันธ์ไปเอง จากหนังสือเรื่อง แม่วาดเมียบียอร์น ตอน “คิด’ไงจะหายเซ็ง?” โดย จันทร์ ศรีจรูญ แอนเดอร์สัน”
19
โดย ชุมศรี อาร์โนลด์
แกงเผ็ ด เป็ ด ย่ า ง (Four Seasons)
ถ้าใครที่เคยอยู่ หรือเคยมาลอนดอน จะต้อง รูจ้ กั ร้านอาหารจีน ชือ่ โฟร์ซซี นั ซึง่ ขายเป็ดย่างอันขึน้ ชื่อลือชา เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ไทยเฮา คนขายเป็ดรู้ ดีว่าเวลาคนไทยมาซื้อทีละหลายๆ ตัว เขาจะห่อเป็ด ให้อย่างดี ไม่ให้รั่วไม่ให้ซึมออกมาเลอะเทอะเวลา แพ็ ค ใส่ ก ระเป๋ า เดิ น ทาง และแยกน้ำ � เป็ ด ใส่ ข วด พลาสติกแบบขวดน้ำ�ดื่มขวดเล็กๆ สำ�หรับเป็ดแต่ ละตัว ปีที่แล้วฉันกลับเมืองไทย ไปเดินซื้อกับข้าวที่ ซุปเปอร์มาเก็ตของเอ็มโพเรี่ยม ไปเจอเป็ดโฟร์ซีซัน 20
แช่แข็งขายอยู่ที่นั่น ยังนึกในใจว่าคนนำ�เข้ามาต้อง ชอบมากๆและคงขี้เกียจฝากคนซื้อหรือบินไปกินเอง เลยนำ�เข้าเอามาขายซะเลย เวลาไปซื้อเป็ดบอกให้ เขาเลาะเอากระดูกออกด้วยจะได้รับประทานโดย ไม่มีกระดูกตำ�คอให้หงุดหงิด ฉันใช้น้ำ�พริกแกงแดง ของนิ ต ยา เอามาผั ด กั บ กะทิ ช าวเกาะแบบกล่ อ ง ความที่ฉันไม่เคยทำ�กับข้าว ตอนอยู่เมืองไทย เลยใช้ กะทิสดไม่เป็น แม้ว่าตอนนี้จะกลับมาอยู่เมืองไทย นานขึ้นก็ยังต้องใช้กะทิกล่อง เพราะกะไม่ถูก จริงๆ ว่ากะทิสดจะใช้ปริมาณเท่าไหร่ เพราะมันมีทั้งหัว
กะทิและหางกะทิ เลยตัดสินใจใช้กะทิกล่องนัน่ แหละ ไม่ งั้ น เดี๋ ย วแกงฉั น จะเปลี่ ย นรส ได้ เ คยแกงเลี้ ย ง เพื่อนๆที่บ้านที่กรุงเทพฯครั้งนึง สามีเพื่อนบอกว่า “ด่องจ๊ะแกงเป็ดของกุ้งอร่อยมาก ด่องไปเรียน กับกุ้งแล้วกลับมาทำ�ให้พี่กินด้วยนะจ๊ะ” เห็นไหมฉัน บอกแล้วว่ามีแต่คนบอกว่าอร่อย ไม่ได้ยอตัวเองเลย จริงๆ เครื่องเคราของแกงเป็ดก็มี น้ำ�พริกแกงแดง กะทิ เป็ดย่าง ลิ้นจี่กระป๋อง ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดง ตัง้ กระทะบนเตาเปิดไฟกลาง เทน้�ำ กะทิลงไปจำ�นวน หนึง่ ฉันจะเทส่วนทีข่ น้ ของกะทิในกล่องก่อน แล้วตัก พริกแกงแดงประมาณสองช้อนโต๊ะผัดกับกะทิให้ หอม อย่าใช้ไฟแรงเดี๋ยวกะทิจะแตกตัวเป็นก้อนๆ แทนที่จะแตกมัน เวลาทำ�แกงอย่ารีบร้อนไปไหน เพราะต้องยืนคนกะทิกับพริกแกงให้แตกมัน และสี แดงของเครื่องแกงลอยนวลขึ้นมา ถ้ากลัวเบื่อเพราะ ต้องยืนนานก็ให้เปิดไวน์ขาวรินใส่แก้วจิบให้เย็นใจ ชิวชิว จากนัน้ ก็ใส่เป็ด แล้วเติมน้�ำ กะทิทเี่ หลือ ถ้ารูส้ กึ ว่ า น้ำ � น้ อ ยไปก็ เ ปิ ด กะทิ อี ก กล่ อ งเพิ่ ม ไปอี ก ตาม ต้องการตามด้วยลิ้นจี่ บางคนอาจจะใส่สับปะรดอัน นั้นก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัว จะใส่องุ่น หรือมะเขือ เทศลูกเล็กก็ได้ ขอให้เป็นผลไม้อมเปรี้ยวนิดหน่อยดู จะเข้ากันได้ดีกับแกงเป็ด ชิมดูว่ารสชาติเป็นยังไง อย่าลืมว่าน้ำ�พริกแกงแดงมีกะปิและเกลืออยู่ในตัว จึงมีความเค็ม จำ�นวนหนึ่งอยู่แล้ว เติมน้ำ�ปลาได้อีก นิดหน่อยถ้าต้องการ เมื่อชิมได้รสที่ถูกใจ ก็ใส่ใบ โหระพาและะพริกแดงหั่นเฉลียงบางๆโรยหน้า ตอนฉันอยู่อิตาลีไม่มีเป็ดโฟร์ซีซัน ในอิตาลีหา ของเอเซี ย กิ น ยากมาก คนอิ ต าเลี่ ย นชอบกิ น แต่ อาหารของตัวเอง พอตัวเองไปอยู่ประเทศไหนก็เปิด
ร้านอาหารอิตาเลี่ยนเต็มไปหมด เอาแค่ในกรุงเทพฯ ไปนั บ ดู ซิ ว่ า มี ร้ า นอิ ต าเลี่ ย นกี่ ร้ า น ในอิ ต าลี ทั้ ง ประเทศจะมีร้านไทยถึงยี่สิบร้านหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉัน เลยต้องขับรถข้ามพรมแดนไปสวิสเพราะบ้านที่ฉัน อยู่ที่อิตาลีติดพรมแดนกับสวิตเซอร์แลนด์ แค่ข้าม ไปถึงสวิตฯ ก็มีร้านอาหารจีน ไทย ญี่ปุ่นเพราะคน สวิสชอบอาหารเอเซียซึ่งก็น่าแปลกเพราะพรมแดน ติดกันแท้ๆและพูดภาษาอิตาเลี่ยนเหมือนกัน (สวิตฯ ติดพรมแดนประเทศไหนก็จะพูดภาษาทีต่ ดิ พรมแดน นั้น คืออิตาลี เยอรมัน และฝรั่งเศส) ร้านที่ไปซื้อ กับข้าวเป็นของคนเวียดนาม ฉันไปเจอเป็ดย่างของ ซีพีแช่แข็งอยู่ในตู้ฟรีส ก็เลยซื้อเอาลองทำ�ดู ปรากฏ ว่าอร่อยไม่แพ้เป็ดโฟร์ซีซันเลย
คุณอ่านภ
ค่ไหน แ ง ่ ก เ ย ท ไ าษา
หมาหันมา หาหมู เห็นหูหมา หูหมาหนา หมูหนี หมีเห็นหมู เห็นหมูหัน หูหนี หมีหันดู หมีหมาหา เห็นหมู หันหูดี หาหมีเห็น เหม็นหู หมีหูเหม็น หาหมีหาย หมาเห็น เหม็นหูหมี หมาหนีหาย หมายหมู หูหันรี หมายหาหมู หมาหนี หมีหายตัว
21
..??
+++++++
การแจ้งชื่อลูกซึ่งเกิดที่ต่างประเทศเข้าทะเบียนบ้านไทย
สามารถทำ�ได้หรือไม่?
บิดาหรือมารดาไทยทีไ่ ม่เคยแสดงความจำ�นงต่อทางราชการไทย ว่าต้องการสละสัญชาติไทย ยังคงมีสัญชาติไทยตามกฏหมายไทยถึง แม้ว่าจะได้เปลี่ยนไปถือสัญชาติอื่นในต่างประเทศแล้ว เด็กที่มีบิดาหรือมารดาถือสัญชาติไทยไม่ว่าจะเกิดในหรือนอก ประเทศไทย ย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด หากอยู่ต่างประเทศ สามารถไปขอหลักฐานรับรองการเกิดได้ที่กงสุลไทย หรือข้าราชการ สถานทูตไทยทีไ่ ด้รบั แต่งตัง้ ให้เป็นนายทะเบียน มีหน้าทีร่ บั จดทะเบียน คนเกิด(และตาย)สำ�หรับคนสัญชาติไทยที่มีขึ้นนอกประเทศไทย หลัก ฐานดังกล่าวให้ใช้เป็นสูติบัตร(หรือมรณบัตร)ได้ ถ้าในประเทศที่อาศัย อยู่ไม่มีสถานกงสุลไทยหรือสถานทูตไทยประจำ�อยู่ ให้ใช้หลักฐานการ เกิ ด (หรื อ การตาย)ที่ อ อกโดยรั ฐ บาลประเทศนั้ น ซึ่ ง กระทรวงต่ า ง ประเทศได้ แ ปลและรั บ รองว่ า ถู ก ต้ อ งเป็ น หลั ก ฐานสู ติ บั ต ร(และ มรณบัตร)ได้ เมื่อมีหลักฐานรับรองการเกิดของเด็กจากสถานกงสุลไทย หรือ ข้าราชการสถานทูตไทย หรือหลักฐานการเกิดของรัฐบาลต่างประเทศ แล้ว สามารถนำ�ไปยืน่ ต่อนายทะเบียนสำ�นักทะเบียนทีบ่ ดิ าหรือมารดา ที่มีสัญชาติไทยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในประเทศไทย ข้อมูลจาก กฏหมายน่ารู้สำ�หรับคนไทยที่สมรสกับคนต่างชาติ สำ�นักอัยการสูงสุด
22
ตัวอย่างจดหมายของผูท้ ีต่ อ้ งการทำ�พินยั กรรมยกทรัพย์สนิ ในประเทศไทยให้บตุ รชาวต่างชาติ คำ�ถาม ดิฉันหย่ากับสามีชาวต่างชาติเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว ทรัพย์สินที่เมืองไทยเป็นทรัพย์สินที่ได้มรดกมา ดิฉนั ต้องการจะทำ�พินยั กรรมยกทรัพย์สนิ ทัง้ หมดให้ลกู ทีม่ กี บั คนต่างชาติและมีสญ ั ชาติของพ่อ(ไม่มสี ญ ั ชาติ ไทย) ทรัพย์สินมีบ้าน ห้องชุด ที่ดินจำ�นวนมาก ดิฉันต้องทำ�อย่างไรจึงจะให้ลูกได้รับสิทธิตามพินัยกรรม จะ แก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร ปัจจุบันลูกสาวดิฉันอายุ 20 ปีแล้ว จะขอสัญชาติไทยโดยการแจ้งเกิดย้อนหลังได้ หรือไม่ ดิฉันไม่มีญาติพี่น้องหรือผู้จะมีสิทธิรับมรดกอีกเลย นอกจากบุตรสาวคนเดียว คำ�ตอบ 1. คุณสามารถทำ�พินัยกรรมยกที่ดินพร้อมบ้าน อสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอื่นๆให้บุตรคุณได้ถึง แม้ว่าจะไม่มีสัญชาติไทย เมื่อบุตรคุณซึ่งเป็นคนต่างด้าวได้มรดกมาแล้ว ต้องจำ�หน่ายออกไปตามประมวล กฏหมายที่ดินมาตรา 87, 96 และ 96 ทวิ (หมายความว่าต้องเปลี่ยนเป็นเงิน จะถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินไม่ได้) 2. หากคุณต้องการให้บุตรสาวได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดตามพินัยกรรม คุณจำ�เป็นต้องจัดให้ บุตรของคุณมีหลักฐานจากทางราชการไทยว่ามีสัญชาติไทยก่อนตามกฏหมายไทย บุตรของคุณมีมารดา เป็นคนสัญชาติไทย ไม่ว่าจะเกิดที่ไหนก็ได้สัญชาติไทยอยู่แล้วโดยการเกิด เพียงแต่ไม่ได้แจ้งการเกิดไว้ต่อ ทางราชการไทย วิธีการที่จะจัดให้บุตรของคุณมีสัญชาติไทย ก็คือคุณจะต้องดำ�เนินการเพิ่มชื่อบุตรของคุณ ในทะเบียนบ้านเมื่อเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยให้เจ้าบ้านที่คุณมีภูมิลำ�เนาอยู่แจ้งต่อนายทะเบียน ท้องที่ เพื่อขอเพิ่มชื่อพร้อมทั้งแสดงหลักฐานความเป็นบุตรของคุณ ข้อมูลจาก กฏหมายที่ควรรู้สำ�หรับคนไทยในต่างแดน สำ�นักงานอัยการสูงสุด
กฏหมายที่ควรรู้ สำ�หรับคนไทยในต่างแดน
23
โรคหน้ากาง โดย ศ.นพ.ศรีประสิทธิ์ บุญวิสุทธิ์
24
ผมมักจะได้รับการปรึกษาเสมอ “ดิฉันหรือผม รู้สึกว่าหน้ามันกางๆชอบกล” หน้ากางบางครั้งก็เป็น ความรู้สึกที่หลอกเพราะทรงผม บางครั้งก็เป็นเรื่อง ของหน้าทีก่ ว้างกว่าคนทัว่ ไปตามลักษณะของคนเชือ้ ชาติต่างๆ หรืออาจจะเป็นที่เนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มกระดูก อีกทีหนึ่ง เช่นกล้ามเนื้อหรือไขมันที่อยู่ในซอกใน หลืบ หรือเป็นเพราะอ้วนเลยมีไขมันสะสมใต้ผิวหนัง มากก็เป็นได้ทั้งนั้น เราจะมาว่ากันเรือ่ งหน้ากางเพราะโครงกระดูก หน้าก่อน กระดูกหน้าที่ดันออกให้กว้างออกด้านข้าง มี อ ยู่ ส องชิ้ น คื อ กระดู ก โหนกแก้ ม และกระดู ก ขา กรรไกรล่าง สำ�หรับกระดูกโหนกแก้มนั้นจะทำ�ให้ดู กางในส่วนกึง่ กลางของใบหน้า ซึง่ พบบ่อยในชนชาติ ตะวั น ออก อาจจะเกิ ด โดดๆหรื อ เกิ ด ร่ ว มกั บ ขา กรรไกรล่างก็ได้ โดยเฉพาะบริเวณมุมกางออกมา เห็นได้ในพวกเกาหลี ญี่ปุ่นก็เป็นกันมาก คนไทยเป็น พอสมควรทีเดียว ไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงไปกางออก ด้านข้าง แต่ตรงกลางคือจมูกกับคางกลับแฟบแบน ซึง่ ตรงข้ามกับพวกฝรัง่ ทีม่ กั จะโด่งตรงกลาง แต่โหนก แก้มและขากรรไกรแฟบไป การแก้ไขกระดูกโหนกแก้มที่ใหญ่นั้น จะต้อง ผ่าตัดเป็นเรื่องใหญ่คือเข้าไปกรอเอากระดูกโหนก แก้มให้เตี้แยลง โดยเข้าทางหนังศีรษะหรือเข้าทาง ปาก ถ้าโหนกแก้มสูงไม่มากก็แค่กรอ แต่ถ้าสูงมากๆ เป็นสะพานโค้งก็จะต้องตัดขาสะพานออกบางส่วน ให้ยุบลงไปแล้วยึดด้วยลวดหรือเหล็กดามและสกรู เป็นเรือ่ งใหญ่มากทีเดียว ดังนัน้ กรณีทีพ่ อรับได้ไม่นา่ เกลียดก็อย่าไปยุ่งกับมันเลยนะครับ สำ�หรับกระดูกขากรรไกรล่างมักจะกางบริเวณ มุม สามารถเอามือคลำ�เองได้ ผู้ที่เป็นมากๆจะบาน
แอ่นออกมาเหมือนนิ้วมือนางละครรำ�ทีเดียวครับ และส่วนใหญ่มกั จะเกิดร่วมกับกล้ามเนือ้ บดเคีย้ ว ซึง่ มาเกาะบริเวณนี้พอดีจะหนาและนูนมาก บางราย เวลาให้กัดฟันแน่นๆหนาเป็นนิ้วก็มี ในการรักษานั้น จะต้องเจียนมุมกระดูกตรงนี้ออก และถ้ากล้ามเนื้อ หนามากก็จะต้องฝานกล้ามเนื้ออันนี้ให้บางลงไป ด้วย การผ่าตัดอาจจะต้องเข้าทางผิวหนังด้านนอก หรือจะผ่าเข้าทางด้านในช่องปากก็ได้ครับ แต่ค่อน ยากเพราะเหมือนกับการผ่าตัดจากปากขวดเข้าไป แก้ไขที่ก้นขวด หมดจากเรื่องกระดูกก็ถึงเนื้อเยื่ออ่อนที่ปะอยู่ บนกระดูก ผู้มาปรึกษามักจะนึกว่าหน้ากางเพราะมี ไขมันเยอะ อยากจะให้ช่วยดูดออกให้มันแฟบหน่อย เรื่องนี้สามารถตรวจได้ไม่ยาก โดยการใช้นิ้วหัวแม่ มือและนิ้วชี้หยิกขึ้นมาดูว่าใต้ผิวหนังมีไขมันมาก น้อยเพียงใด ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าไม่อ้วนจริงๆแล้ว มักจะ ไม่มีมากมายอะไรนัก เป็นไขมันที่แผ่กระจายทั่วๆไป แต่ ถ้ า มี ไ ขมั น มากและต้ อ งดู ด ออกก็ จ ะใช้วิธีสอด เครือ่ งมือดูดไขมันเล็กๆเข้าไป มักจะทำ�พร้อมกับการ ดึงหน้า ยังมีไขมันที่อยู่ในช่องพิเศษอีกช่องหนึ่ง เป็น ช่องที่อยู่ตรงกระพุ้งแก้ม เป็นไขมันที่ไม่เกี่ยวกับอ้วน หรือผอม บางคนใหญ่โตเป็นกรรมพันธุ์ การผ่าตัด แก้ไขก็สามารถที่จะเอาออกได้ โดยผ่านช่องเล็กๆที่ เจาะในกระพุ้งแก้มแล้วค่อยๆดึงไขมันนี้ออกมาได้ บางคนมีใหญ่เท่ากับลูกชิน้ ปิงปองเลยทีเดียว พอเอา ออกแก้มทีอ่ มู อิม่ ก็จะแฟบเข้าไปได้ จะเห็นว่าสาเหตุ ของหน้ากางมีมากมาย จำ�เป็นที่จะต้องแก้ไขให้ตรง ตามสาเหตุ 25
ทำ�นายไฝบนใบหน้า ไฝที่ขมับซ้าย ท่านกล่าวว่า เป็นคนที่มีวาสนา ในลักษณะต้นดีปลายร้าย ต้องเอาตนเป็น ทีพ่ ึง่ ไม่มคี นช่วยเหลือ เป็นคนเจ้าความคิด แต่ยากจน ขัดสนเงินทอง ทำ�การ ใดมักประสบกับอุปสรรคขัดขวางเสมอ ไฝที่หน้าผากตรงกึ่งกลาง ท่านว่า หญิงชายนั้นเป็นคนเอาแต่ใจตนเอง มีปัญญาดี ทำ�การใดมักสำ�เร็จ ด้วยตนเอง แต่ศัตรูคอยคิดร้ายเสมอ 26
ไฝที่ตรงหัวคิ้วขวา ท่านว่าเป็นคนที่มีอารมณ์ทางเพศสูง
ไฝที่หน้าผากชิดขอบผม เป็นคนที่มีวาสนาดี จะอุดมด้วยทรัพย์สินและบริวาร มาก ถ้าเป็นหญิง ก็จะได้สามีที่ดี มีความสุขสมบูรณ์ ด้วยทรัพย์สินเงินทอง
ไฝใต้ตาไม่จำ�กัดว่าเป็นซ้ายหรือขวา เป็นคนค่อนข้างจะอาภัพ ทำ�การใดก็ไม่ยั่งยืน ชอบ ไฝที่ตรงหัวคิ้วซ้าย ในทางเจ้าชู้ และมักมีเรื่องเดือดร้อนบ่อย ๆ ท่านว่า เป็นคนมีปัญญาไวดี ชอบไปในทางค้าขาย ทำ�การใดมักสำ�เร็จดี ถ้าไฝนั้นค่อนไปทางหางคิ้ว ไฝตรงคางค่อนมาทางริมด้านขวา เป็นคนมีปัญญาความรู้หลายอย่าง มักประสบโชคดี ระวั ง จะถู ก คดี เพราะชอบกระทำ � การเสี่ ย งต่ อ ในการทำ�งานเสมอ ถ้าทำ�ราชการ จะได้เกียรติยศ กฎหมาย ชื่อเสียง ไฝตรงหางตาขวา เป็นคนที่มีอารมณ์ดี การเงินไม่ขาดมือ แต่วาสนา ไฝที่แก้มซ้าย เป็นคนที่มีอำ�นาจวาสนาดี ชะตาชีวิตมักรุ่งเรือง แต่ ขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน ถ้าเป็นชาย จะได้หญิงหม้าย เป็นภรรยาและมีความสุขสบายดี ถ้าเป็นหญิง จะได้ มีอารมณ์ทางเพศสูง รับความทุกข์ยากเมื่ออายุเข้าวัยชรา ไฝที่ตรงริมฝีปากทั้งด้านขวาและซ้าย ไฝตรงโหนกแก้มขวา (ริมฝีปากบน) ท่านว่าเป็นคนชอบเจรจาพาที พูดจาหว่านล้อมดี ทายว่า บุคคลนั้นเป็นคนเห็นแก่ตัวจัด มักชอบเอา เป็นคนที่มีชะตาสูงมาก ทำ�การใดมักสำ�เร็จผลอย่าง เปรียบคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว อาจ ดียิ่ง จะได้คู่ครองที่พึ่งพาอาศัยได้อย่างดียิ่งนัก ถ้า ถูกคดีได้ เป็นหญิง ไม่สู้จะดีนัก เพราะเป็นคนชอบเอาแต่ใจ ตนเอง และใจร้อน มีคู่หลายคน ทำ�งานทางด้านเป็น ไฝตรงปลายจมูก ทายว่า บุคคลนั้นมักประสบกับความสมบูรณ์พูลสุข ไกด์นำ�เที่ยวหรือประชาสัมพันธ์จะดีมาก จะประกอบการใดหรือทำ�สิ่งใดมักประสบผลสำ�เร็จ ดีทุกประการ ไฝที่อยู่ข้างหูซ้ายด้านหน้า เป็ น คนที่ มี ส ติ ปั ญ ญาดี มองการณ์ ไ กล ชอบใน ทางการค้าขาย ทำ�การใดก็ประสบความสำ�เร็จ มีคู่ ไฝที่โหนกแก้มซ้าย ท่านว่า เป็นคนที่มีนิสัยใจคอกว้างขวาง ชอบในการ หลายคน ทำ�บุญ มักไปได้ดีจากถิ่นที่อื่น 27
ไฝที่ระหว่างคิ้ว ไฝที่ตรงลูกกระเดือก ท่านว่า ผู้นั้นจะมีข้าวของเงินทองมาก อาหารการกิน ท่านกล่าวไว้ว่า เป็นคนเจ้าชู้มีคู่หลายคน แต่จะหา คนที่รักจริงเป็นที่พึ่งพาอาศัยนั้นยากมาก ก็บริบูรณ์ดี ไฝตรงดั้งจมูก ไฝที่ขมับขวา ท่านกล่าวว่า จะต้องจากบิดามารดา แต่มีผู้อุปถัมภ์ ทายว่า บุคคลนั้นมีสติปัญญาดี มีคติธรรมประจำ�ใจ เลี้ยงดูดี และเจ้าตัวก็เป็นคนดี มีผู้คอยช่วยเหลือ ทำ�การสิ่งใดก็ประสบความสำ�เร็จราบรื่นทุกประการ ตลอด จะได้รับราชการและได้ตำ�แหน่งสูง ไฝตรงข้างจมูกด้านซ้าย ทายว่า ผู้นั้นเป็นคนมีวาสนาดี มีความอดทนและ เพียรพยายามมาก มีสติปัญญา เป็นเหตุนำ�ชีวิตไปสู่ ความเจริญและราบรื่นดี ไฝตรงริมคางข้างซ้าย เป็นคนพูดจาไม่ค่อยจะยั้งคิด แต่เป็นคนที่มีความ พยายามและอดทนดี จึงทำ�ให้การงานสำ�เร็จดีพอ สมควร ไฝที่ตรงใต้คาง เป็นคนที่มักจะโชคร้ายในการครองชีพ ชอบในสิ่ง ลึกลับ ควรบวชเสียจึงดี ถ้าเป็นหญิง ชีวิตก็มีความ สงบดีและมักเป็นที่รักของสามี ไฝที่ริมฝีปากล่างทั้งซ้ายและขวา ท่ า นว่ า ให้ ร ะวั ง เพราะมั ก จะมี เ คราะห์ ร้ า ยเสมอ เพราะเจ้าตัวเป็นคนฉุนเฉียว ใจร้อนขาดเหตุผล From web sanook.com
28
? า น ่ ี น น ่ ื อ น ค ย ี เม ด ิ ผ ก ู ล ด ิ ไม่ได้ผ
ตร.หาดใหญ่รวบหนุ่มใหญ่ข่มขืนลูกสาวมา นานกว่า 10 ปี อ้างว่าไม่ได้มีความใคร่เพียงแค่ต้อง การสอนเรื่องเพศศึกษาลูกเท่านั้น เชื่อว่าไม่ผิดศีล 5 เพราะไม่ได้ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมือ่ เวลา 18.30 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 พ.ต.อ.โพธ สวยสุวรรณ ผกก.สภ.หาดใหญ่ เปิดเผยว่าจากกรณี นางอ้อย(นาม สมมุติ) อายุ 60 ปี เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.(หญิง) อมรรัตน์ สุทธิเกิด พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ว่าหลานสาว คือ ด.ญ.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ถูกพ่อซึ่งเป็นน้องชายคนละพ่อของตนข่มขืน เมื่อวัน ที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ สอบปากคำ�ผู้เสียหาย ทราบว่าพ่อแท้ๆได้ข่มขืนครั้ง แรกเมือ่ ประมาณปี 2544 จากนัน้ ก็หยุดไป จนกระทัง่ ตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งพ่อแยกทางกับแม่และนำ�ลูกสาว มาเลี้ยง มาเช่าบ้านอยู่ในเมืองหาดใหญ่พ่อก็เริ่ม ข่มขืนเรื่อยมา จนกระทั่งครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนรวบรวมพยาน หลักฐานขออนุมัติหมายจับพ่อของเด็ก ชื่อนายหวัง (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ชาว อ.จะนะ จ.สงขลา ใน ข้อหากระทำ�ชำ�เราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งศาล
จังหวัดสงขลาได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 751/2550 ลง วันที่ 31 ตุลาคม 2550 จากนั้นสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ชุดสายสืบเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว กระทั่งในวันที่ 5 พ.ย. เวลา 13.30 น. พ.ต.ท. ศักดา เจริญกุล สว.สส.สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหา ได้ขณะทำ�งานอยูโ่ รงไม้แห่งหนึง่ ในพืน้ ที่ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ นำ�ส่งพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาให้การ ว่าตนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะข่มขืนกระทำ�ชำ�เราบุตร สาวของตัวเองแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการสอนวิชา เพศศึกษาให้บตุ รสาว ประกอบกับตนเองได้บวชเรียน มาถึง 9 ปี เชื่อว่าสิ่งที่กระทำ�กับลูกสาวไม่ผิดเพราะ ตลอดระยะเวลาที่บวชเรียนมาศีล 5 ก็สอนมาตลอด ว่าอย่าผิดลูก ผิดเมียผู้อื่น แต่นี่กระทำ�กับลูกสาวตัว เองจึงไม่ผดิ ศีลธรรม และไม่รูว้ า่ ผิดกฎหมาย แต่กอ่ น หน้ า นี้ เ คยไปดู ด วงหมอดู ทั ก ว่ า จะติ ด คุ ก เพราะ ลูกสาว ก็คาดว่าคงจะมีเรื่องกับวัยรุ่นที่มาติดพัน ลูกสาวไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นนี้ และยืนยันว่าทุก ครั้งที่ความสัมพันธ์กับลูกสาวไม่ได้มีด้วยความใคร่ แต่ต้องการสอนเพศศึกษาให้ลูกสาวจริงๆ เจ้าหน้าที่ ควบคุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวเพื่อดำ�เนินการต่อไป 29
“
”
ขันติ เป็นภาษาบาลี หมายถึงการรักษาภาวะ ปกติของตนไว้ได้ ไม่ว่าจะถูกกระทบกระทั่งด้วยสิ่งที่ น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจก็ตาม ในภาษาไทย ขันติ หมายถึงความอดทน อด เป็นอาการที่อยากจะได้แต่ไม่ได้ ทน เป็นอาการที่อยากได้ แต่ต้องได้
อดได้ ทนได้ ทำ�ใจได้ พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
ภาษาจีนและญี่ปุ่น ตัวอักษรคันจิที่มีความ หมายว่าอดทน เป็นอักษรทีเ่ กิดจากการนำ�คำ�สองคำ� มารวมกัน คำ�หนึ่งคือมีด คำ�หนึ่งคือ หัวใจ ความ หมายของศัพท์คำ�ใหม่ที่ได้คือ ทำ�ใจได้ คือมีความ อดทน อดกลั้นไม่หวั่นไหว ในชีวิตประจำ�วันของคนเรา จำ�เป็นต้องฝึกให้ มีความอดทนต่อเหตุที่มากระทบ ซึ่งอาจแบ่งได้ 4 อย่างคือ 1. อดทนต่อความลำ�บากตรากตรำ� คืออดทน ต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ไม่เอาเหตุแห่งดินฟ้าอากาศ มาเป็นข้ออ้างที่จะทอดทิ้งการงาน 2. อดทนต่อทุกขเวทนา คือการอดทนต่อการ เจ็บไข้ได้ป่วย ความไม่สบายกาย 3. อดทนต่อความเจ็บใจ คืออดทนต่อเหตุแห่ง ความไม่พอใจที่มากระทบ เช่นคำ�พูดที่ไม่ชอบใจ ความบีบคั้นจากผู้บังคับบัญชา อดทนต่อความโกรธ หงุดหงิด ขุ่นเคืองใจเป็นต้น 30
ขันติ ความอดทน อดกลั้น ที่พระพุทธเจ้าทรง 4. อดทนต่ออำ�นาจกิเลส คืออดทนต่อสิ่งยั่วยุ อันน่าเพลิดเพลินใจ อดทนต่อสิ่งที่อยากทำ�แต่ไม่ สอน หมายถึง อดทนในสิ่งที่ควรอดทนด้วยความ สมควรทำ� เช่นการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย การเที่ยว เต็มใจและพอใจ คือ อดทน ในการละ หลีกเลี่ยงจากความชั่ว กลางคืน การเล่นการพนัน สูบบุหรี่ กินเหล้าเมายา อ ด ท น ใ น ก า ร ทำ � ค ว า ม ดี ต่ อ ไ ป ใ น ทุ ก เป็นต้น สถานการณ์ อดทน รักษาใจให้ผ่องใส ไม่เศร้าหมอง บางคนนำ � คำ � ว่ า ขั น ติ มาใช้ อ ย่ า งผิ ด ความ หมาย คือเอามาเป็นข้ออ้างทีจ่ ะปล่อยปละละเลย ไม่ ความอดทนจึงเปรียบเสมือนการขุดขุมทรัพย์ ยอมทำ�ในสิ่งที่ถูกที่ควร เช่น บางคนขี้เกียจทำ�มา หากินงอมืองอเท้า ตกอยู่ในสภาพใดก็ทนอยู่อย่าง อันมีค่ามหาศาล นั้น ไม่ขวนขวายและบอกว่าตนมีความอดทนต่อ ความยากลำ�บาก อย่างนี้เป็นการเข้าใจผิด ตีความ จากหนังสือ หมายของคำ�ว่าขันติผิดไป มีขันติ คือ ให้พรแก่ตัวเอง 31
?
ทำกับ�การเรี อย่ยานงไรดี
“
การสอนภาษาไทย
”
สวัสดีครับ คุณมีเทคนิคสอนอย่างไรที่จะให้เด็กเรียนภาษาไทยใด้เร็วครับ ทางบ้านพูดภาษาอังกฤษกัน มีผมคนเดียวที่พูดไทย ขอคำ�แนะนำ�ด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้า เทอดพงษ์
สวัสดีค่ะ คุณ เทอดพงษ์ได้แสดงถึงความตัง้ ใจเกีย่ วกับการสอนภาษาไทยให้กบั หลานๆ ที่อยู่ในประเทศอเมริกานั้น ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง และนับว่าเป็น โชคดีของเด็กๆ ที่มีผู้ใหญ่ใจดีให้การสนับสนุน และจากการที่ตัวเองเป็นครูสอนสอง ภาษาในประเทศนอร์เวย์และได้ทำ�งานด้านนีม้ า นานพอสมควร รวมทัง้ จากงานวิจยั ต่างๆ สามารถยืนยันได้ว่า เด็กสองภาษา (หรือสาม สีภาษา) จะมีความสามารถใน การอ่าน เขียน มีความคิด สามารถวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ได้ดีกว่าเด็กภาษาเดียว หลักสำ�คัญในการเรียนการสอนไม่ว่าเรื่องใดๆ ตัวผู้เรียนเป็นสิ่งสำ�คัญที่สุด โดยเราจะต้องคำ�นึงถึงอายุและความพร้อมเป็นหลัก ในเรื่องของการเรียนภาษานั้น ถ้าเป็นเด็กเล็กเราก็จะเน้นความสนุกสนานในการเรียนรู้ และให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่สิง่ หนึง่ ทีผ่ ูใ้ หญ่และผูท้ ีอ่ ยูใ่ กล้ชดิ กับเด็กๆ ควรจะได้ท�ำ ความตกลงและเข้าใจตรง กันเสียก่อนว่า ใครจะเป็นคนพูดภาษาไทยกับเด็กๆ โดยที่ผู้ที่อยู่รอบๆ ตัวเด็กๆ ก็จะ ต้องให้การสนับสนุนไปให้ในทิศทางเดียวกัน 32
เช่นวิธี OPOL (One Parent One Language คือเด็กจะเรียนภาษาไทยกับคุณแม่ที่พูดภาษาไทย และให้คุณพ่อคนอเมริกันพูดภาษาอังกฤษกับลูก) ซึง่ นับว่าเป็นวิธที ีไ่ ด้ผลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับเด็ก เล็กเพราะสมองของพวกเขา ในช่วงปีแรก ๆ จะเป็น ช่วงที่ดีที่สุดในการเรียนภาษา สำ�หรับกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถจะนำ�มาใช้ ก็ ไ ด้ แ ก่ ก ารเล่ า นิ ท านที่ เ ด็ ก ๆ ชอบหรื อ ที่ จำ � ได้ จ น ขึน้ ใจ อาจจะผลัดกันเล่าเป็นภาษาอังกฤษและภาษา ไทย วาดรูป ระบายสี ภาพยนตร์การ์ตูนสนุก ๆ ของ วอลซ์ดสิ นีท่ ีพ่ ากษ์เป็นภาษาไทย การพูดคุยกันเกีย่ ว กับเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำ�วัน เป็นการสอนภาษา แบบให้คอ่ ยๆ ซึมไปอย่างเป็นธรรมชาติ โดยหยิบ จับ สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ในช่วงเวลา ขับรถอาจจะเปิดเพลง (ไทย) ให้ฟัง ส่วนเว็ปไซต์นี้เป็นเว็ปไซต์เพื่อการพัฒนาเด็ก ปฐมวัย
http://www.bbl4kid.org/content/%E0%B9 %80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0 %B8%87 มีเพลงสำ�หรับเด็กๆ และเรื่องราวที่น่า สนใจ สามารถนำ�ปรับใช้ได้ ตลอดจนมีการแนะแนว การต่อยอดกิจกรรมเสริมสร้างการเรียนรู้ โดยเฉพาะ เพลงต่างๆ เช่นเพลง “ช้าง” เพลง “เป็ด” เพลง “แม่ ไก่ออกไข่” เป็นไฟล์ MP3 ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเรียนรู้นะคะ ทัศนา จันทรศร ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการ สมาพันธ์ครูสอนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทย ในยุโรป
ขอขอบคุณ
คุณเมตตา อุทกะพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการ ผูจ้ ดั การใหญ่ บริษทั อมรินทร์พริน้ ติง้ แอนด์พบั ลิชชิง่ จำ�กัด (มหาชน) ทีก่ รุณาบริจาคเงินสมทบค่าใช้จา่ ยในการจัดทำ�นิตยสารอิเล็คโทรนิค ของ สมาพันธ์ครูสอนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในยุโรป (Federation of Thai language and culture Teachers in Europe FETTE) 33
พิมพ์วดีสื่อวิญญาณ
เรื่องจริง...จากปากของนายแพทย์อาจินต์ บุญญเกตุ
“ต้องผ่าถึงสี่ครั้งเชียวหรือ?” ผมก็ทวนคำ�พูด ของเธอ คุณทวีนั่งฟังอย่างสงบ ทุกคนเงียบคอยฟัง ครู่ ใ หญ่ อ าการปวดก็ บ รรเทา หนู พิ ม พ์ จึ ง บอกกั บ ผมว่า “หนูจะลาไปก่อน วันนี้รีบหน่อย เพราะจะไป รับส่วนกุศลที่เขาอุทิศให้ที่ศาลาพิมพ์วดี...” ทุกคน ได้ยินคำ�พูดที่ผมทวนคำ�พูดของหนูพิมพ์ ผมจึงถาม เธอว่า “เขาอุทิศส่วนกุศลให้เรื่องอะไร?” เธอตอบว่า “เขาบำ�เพ็ญกุศลศพใครก็ไม่รู้ที่ศาลา คนตาย มีเหรียญตรา มีสายสะพาย...” ผมก็ทวนคำ�พูดออกมาดังๆ คุณทวีก็อยากจะ พิสูจน์ จึงให้คุณวีรวัฒน์บุตรชาย ขับรถยนต์ออกไป 34
เดี๋ยวนั้น ไปดูซิว่าที่ศาลาพิมพ์วดี วัดมกุฎฯมีการ บำ�เพ็ญ กุศลศพใคร ศพมีเหรียญตราน่าจะพระราชทาน เพลิงศพที่สุสานหลวงวัดเทพศิรินทร์ เพราะหนูพิมพ์ บอกว่ามีสายสะพาย คุณวีรวัฒน์ บุณยเกตุ จึงรีบขับรถออกจาก ศิรริ าชไปทีว่ ดั มกุฎฯทันที ปรากฏว่าเป็นความจริง คืน นั้นมีการนำ�ศพออกมาจากสุสาน นำ�มาบำ�เพ็ญกุศล พรุ่งนี้จะรับพระราชทานเพลิงศพ เป็นศพของอธิบดี กรมเจ้าท่า ผมได้ลืมชื่อของท่านไปเสียแล้ว รูปถ่าย หน้าโกศเป็นรูปเต็มยศ มีเหรียญตรา มีสายสะพาย จริงๆ คุณวีรวัฒน์จึงรีบขับรถมาเรียนคุณทวีว่าเป็น จริงอย่างที่ผมทวนคำ�พูดทุกประการ คุณทวีนั่งสงบ นิ่งกล่าวออกมาคำ�เดียวว่า “แปลก แต่ จริง”
ผมต้องเล่าย้อนไปนิดหน่อย คือตอนทีห่ นูพมิ พ์ นั่งอยู่ข้างเตียงผม เอามือเท้าคางยันขอบเตียงอย่าง เคย เธอพูดว่า “เสียดาย” ผมถามว่า “เสียดายอะไร” เธอตอบว่า “แก้วระย้า ที่โคมไฟในศาลา คนที่ยกขาหยั่ง วางพวงหรีด ทำ�ขาหยั่งไปโดนแก้วช่อระย้า ตกลงมา แตกหลายช่อทำ�ให้ไม่สวย พ่อแม่ก็ไม่ทราบ อีกสอง สามวันคุณพ่อหนูชาตินี้จะมาเยี่ยมพ่อ พ่อช่วยบอก คุณพ่อหนูให้ช่วยเปลี่ยนช่อระย้าที่ตกลงมาแตกให้ ที หนูไม่สบายใจ” ผมทบทวนคำ�พูดนี้ให้ทุกคนได้ยิน รวมทั้งคุณทวีด้วย ก่อนที่คุณวีรวัฒน์จะกลับมาจาก วัด มารายงานเรื่องศาลานั้น คุณทวีและบุตรชายกลับไปด้วยความประหลาด ใจว่า ผมนอนเจ็บอยู่ตั้งสิบกว่าวันแล้ว ทำ�ไมรู้เรื่องที่ จะเผาศพรองอธิบดีกรมเจ้าท่า และศพตั้งบำ�เพ็ญ กุ ศ ลที่ ศ าลาพิ ม พ์ ว ดี วิ ญ ญาณคงมาบอกจริ ง ๆ วิญญาณมีจริงหรือ? คนตายแล้วยังวนเวียนอยู่หรือ อะไรที่มาพูดกับน้องชาย ผมว่าท่านคงนอนคิดไป นาน... คืนนั้นผมปวดหัวอีกครั้งหนึ่ง พอเช้าอาจารย์ อุดมก็มาเยี่ยมอย่างเคย พอทราบว่ายังปวดอีก ท่าน ก็ยืนครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่แล้วหันมาสั่งพยาบาลว่า ไป บอกหัวหน้าตึกให้เตรียมคนไข้นี้ไปห้องผ่าตัดอีกที เช้าวันนี้ก่อนแปดนาฬิกา ผมตะลึง ภรรยาและพยาบาลงง ทุกคนในตึก นัน้ เมือ่ ได้ทราบคำ�สัง่ นีก้ ป็ ระหลาดใจ เพราะพยาบาล ที่เฝ้าเธอเล่าให้เพื่อนๆเธอฟังตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่า เช้านี้ผมจะต้องถูกผ่าตัดอีกเพราะหนูพิมพ์บอกไว้ แล้วผมก็ถูกนำ�ไปห้องผ่าตัด ผ่าตัดดึงเอาราก ประสาทเส้นนีอ้ อกมา โดยพยายามดึงออกมาให้มาก
ที่สุดเท่าที่จะมากได้ ราวๆตอนเที่ยงก็กลับมาห้อง นอนที่ตึกพัก โดยสลบมาบนรถเปลตามเคย อาการ เจ็ บ ปวดแผลก็ ม าแทน แต่ อั น นี้ ร ะงั บ ได้ ด้ ว ยการ ฉีดยา พยาบาลฉีดยาระงับปวดให้เป็นระยะๆ พอค่�ำ ลงก็สงบ ญาติพี่น้องเพื่อนๆ เข้ามาเยี่ยมกันมากมาย ตามเคย ที่ ม าเยี่ ย มจริ ง ๆก็ มี ที่ อ ยากจะรู้ เ รื่ อ ง วิญญาณของเด็กที่มาช่วยผมก็มี พอสามทุ่มคืนนั้นหนูพิมพ์ก็มาอีกตามเคย เธอ เอามือมาวางที่ขมับข้างที่ผมปวด ทั้งแผลผ่าตัดที่ ปวดอยู่ เ ดิ ม ทำ � อย่ า งไรก็ ไ ม่ ห าย ผมนอนทนเอา ภาวนามาบริกรรมจนหลับไปในที่สุด แล้วเธอก็จาก ไป ข่ า วลื อ ข่ า วจากปากต่ อ ปากไปไกลกว่ า ประชาสัมพันธ์ทางสื่อมวลชน และก็แน่นอนข่าวนั้น ก็ต้องมากกว่าความจริง จนวันหนึ่ง คุณชิต สุวรรณ ปัทม์ เคยเป็นพยาบาลอาวุโสที่สายนัดดาคลีนิคของ ท่านนายแพทย์ ม.ล.เต่อ สนิทวงศ์ ซึ่งผมเคยทำ�งาน กับท่านเมือ่ พ.ศ.2493-2495 ก็สามสิบแปดปีมาแล้ว เป็นคนทีชอบพอกันในสมัยที่ทำ�งานอยู่ด้วยกัน เธอ มาเพื่อเยี่ยมและมาบอกกับผมว่าจะมีคนมาพบ มา หา และคุยเรื่องหนูพิมพ์วดี ผมก็บอกเธอว่าก็มีอย่าง ที่พยาบาลและภรรยาผมได้ยินได้ฟังเท่านั้น ไม่มี อะไรมากไปกว่านั้น คุณชิตนี่ถึงแก่กรรมไปเมื่ออายุ ราวๆ 70 ปี ถัดต่อมาอีกวันหรือสองวัน เย็นๆก็มีชายหญิง คู่หนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักมาก่อนมาขอเยี่ยม ดูเหมือน จะเป็นเวลา 18-19 น. ขณะนั้นอาการผมดีขึ้นนิด หน่อยไม่ปวดประสาท สองท่านนี้เอาพวงมาลัยดอก มะลิพวงใหญ่มาแขวนให้ผมที่หัวเตียงนอน ในห้อง เผอิญจุดธูปหอมบูชาพระ กลิ่นผสมกันหอมพิกล 35
ทำ�ท่าจะเหมือนศาลเจ้าไหหลำ�ไปโน่น... สักครู่คุณผู้ชายที่มาด้วยก็ขออนุญาตเอารูป ถ่ายเด็กหญิงราวๆสามสิบใบคงได้ มาวางเรียงบน ทีน่ อนผม ผมชักสงสัยว่าท่านจะมาทำ�พิธปี ดั รังควาน หรือทำ�พิธีแขกที่เรียกว่า “อิศวระกุมารี” คือเอาเด็ก พรหมจรรย์มาบูชาพระอิศวร บนบานศาลกล่าวให้ ผมหายป่วยไข้หรืออย่างไร แต่ไม่ใช่ พอท่านค่อยๆเอารูปถ่าย มีขนาดทั้ง สองนิ้วบ้าง สามนิ้วบ้าง มาวางเรียงเต็มหน้าเตียงที่ ผมนอนอยู่เรียบร้อยแล้วท่านก็ถามว่า “คุณหมอช่วยชี้ซิครับว่า คนที่มาหาคุณหมอ มาคุยกับคุณหมอ แล้วบอกว่าชาติก่อนเป็นลูกสาว คุณหมอ และชาตินี้เกิดมาเป็นลูกสาวผมน่ะ คนไหน ในรูปถ่ายที่นำ�มาเรียงอยู่นี่” ผมลุกขึ้นนั่งแล้วหยิบแว่นตามาสวมดูไปทีละ รูป ดูไม่นานนัก โดยวิธหี ยิบรูปทีไ่ ม่ใช่รปู หนูพมิ พ์ออก มากองทีละใบๆ จนเหลือใบสุดท้ายทิ้งไว้บนเตียง หนึ่งใบ แล้วก็หยิบรูปนี้ขึ้นมาชูพลางบอกว่า “หนูคนนี้แหละครับ ที่มาหาผมทุกวัน” ทัง้ สองท่านทีม่ าเยีย่ มหุบรอยยิม้ ทีม่ มุ ปาก คุณ ผู้หญิงร้องไห้โฮใหญ่ คุณผู้ชายก็เช็ดน้ำ�ตาแล้วกล่าว ว่า “ใช่ครับ รูปนี้คือรูปถ่ายหนูพิมพ์วดีลูกสาวผม ถ่ า ยในเครื่ อ งแบบนั ก เรี ย น ส่ ว นนอนนั้ น เป็ น รู ป เพื่อนๆของหนูพิมพ์” ทุกคนทีอ่ ยูใ่ นห้องนัน้ เงียบหมด ไม่ได้ยนิ แม้แต่ เสียงลมหายใจ ต่างคนต่างขยับเข้ามาดูรูปหนูพิมพ์ ที่อยู่ในมือผม พอบรรยากาศคลี่คลายไปในทางปกติ ขึ้นแล้ว ท่านที่มาเยือนก็บอกว่า “ผมทราบดีจากคุณชิต ก็เลยถือโอกาสมาเยีย่ ม 36
และสอบถามถึงลูกสาวผม เพราะทุกวันนี้ก็ยังระลึก ถึงหนูพิมพ์อยู่เสมอ แกเป็นเด็กที่น่ารักน่าเอ็นดูมาก ท่านั่งประจำ�ของแกก็คือ ท่านั่งเท้าคางเอาข้อศอก ยันพืน้ ไว้ อย่างทีค่ ณ ุ หมอพูดจริงๆ ผมชือ่ เสรี โหสกุล ครับ ผมมีกิจการส่วนตัวค้าขายเครื่องอะไหล่รถยนต์ ทุกชนิดที่เป็นตึกสามชั้น อยู่ตรงสามแยกสะพาน นพวงศ์ ทิศใต้ของโรงเรียนวัดเทพศิรนิ ทร์ฯนีเ่ องครับ” ผมก็ถามคุณเสรีว่า “คุณเสรีมีบุตรธิดากี่คน” คุณเสรีตอบมา ผมจำ�ได้ไม่ชัดเจนว่า สาม หรือ สี่ คน แต่ที่แน่ๆมีธิดาคนเดียวชื่อหนูพิมพ์ เธอป่วย ด้ ว ยไข้ เ ลื อ ดออกเสี ย ชี วิ ต ที่ ตึ ก เด็ ก โรงพยาบาล ศิริราช ประมาณปี พ.ศ. 2502 จริง ส่วนเรื่องเด็ก อ้วนๆที่ตายด้วยโรคอ้วนนั้น ไม่ทราบเรื่อง ผมก็ถามคุณเสรีว่ามีอะไรเกี่ยวกับหนูพิมพ์อีก ไหม ผมอยากทราบ คุณเสรีก็พูดว่า “เช้าวันหนึ่งพระภิกษุห้ารูปจากวัดเทพศิรินทร์ นี่เอง ได้เดินไปที่ร้านเสรียนต์ มีตาลปัตรทุกองค์และ มีลกู ศิษย์ตามไปด้วยสองสามคน พอพระมาถึงก็กา้ ว เข้าไปในร้าน ลูกศิษย์ก็ต้องบอกว่า “พระมาแล้วครับ” คุณเสรีงงจึงถามว่า “มาเรื่องอะไร” พระรูปหนึ่งท่านก็พูดว่า ที่เมื่อ วานนี้ให้เด็กผู้หญิงไปนิมนต์พระมารับสังฆทานห้า รูป นิมนต์ให้มาที่นี่ คุณเสรีก็บอกว่าไม่เคยให้เด็กคน ไหนไปนิมนต์ พอดีพระเหลือบไปเห็นรูปถ่ายของหนู พิมพ์วดีที่ติดไว้ข้างฝา ท่านก็ชี้ว่า “หนูคนนี้แหละที่ไปนิมนต์ อาตมานั่งอยู่ด้วย กันสามองค์ ได้ยนิ ชัดทัง้ สามองค์ ส่วนอีกสององค์นัน้ อาตมานิมนต์มาให้ครบห้าองค์ตามที่แม่หนูบอก” คุณเสรีตกตะลึงและงงเป็นทีส่ ดุ จะไม่เชือ่ ก็ไม่ได้และ
วันนี้เป็นวันที่ถึงแก่กรรมของหนูพิมพ์ด้วย พ่อแม่จะ ทำ�บุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลไปให้อยู่แล้ว ฉะนั้นก็ เลยเปลี่ยนเป็นถวายสังฆทานตามที่หนูพิมพ์ปรากฏ ร่างไปนิมนต์พระมาให้เสียเลย ก็แปลกวิญญาณใน ร่างของหนูพิมพ์ไปนิมนต์พระมาทำ�สังฆทานให้กับ ตนในวันตายของตน คุณเสรีถามต่อไปว่า ตอนนี้หนูพิมพ์อยู่ที่ไหน ผมก็บอกว่า “หนูพิมพ์ยังอยู่แถวๆนี้ และมาเยี่ยมผมเกือบ ทุกคืน โดยมากก็ไม่เว้นแต่บางทีก็มาตอนกลางวัน... หนูพมิ พ์บน่ ว่าคนถือขาหยัง่ ทีว่ างพวงหรีด เอาขาหยัง่ ไปเกี่ยวกับระย้าโคมไฟกลางศาลาพิมพ์วดีตกลงมา แตกหลายอัน พ่อเธอไม่รู้ เลยไม่มีใครไปทำ �ให้ดี เหมือนเก่า เธอเสียดายมาก” ผมก็นอนเตียงนีม้ ากว่าสิบวันแล้ว ไม่เคยได้นัง่ ในศาลาที่ว่านี้หากจะไปงานศพที่วัดใด ผมก็มักจะ นั่งที่ข้างนอกศาลา เพราะข้างนอกเย็นดี แล้วผมจะ รู้ว่าที่กลางศาลาพิมพ์วดีมีโคมไฟระย้าห้อยอยู่ได้ อย่างไร แล้วเดี๋ยวนี้ตกลงมาแตกหลายอัน คุณเสรีจงึ ให้คนขับรถบึง่ ไปดูโคมไฟว่าเป็นจริง ตามที่ผมพูดหรือไม่ คนขับรถกลับมาตอนหลังก็มา เรียนว่า “ระย้าที่ห้อยโคมไฟขาดไปหลายอัน สงสัย จะตกลงมาแตก” ท่านจึงสั่งว่า “พรุ่งนี้ให้ช่างไฟไปดู แล้วไปจัดการเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย คุณเสรีกับ ภรรยานั่งอยู่อีกสักพักก็กลับ ก่อนกลับได้ถามผมว่า หนูพิมพ์พูดหรือเปล่าว่าวิญญาณของเธอจะไปไหน ต่อ... ผมก็ตอบว่า “อีกไม่ช้าหนูพิมพ์จะไปเกิด และทีนี้จะไปเกิด เป็นผู้ชาย เธอคุยกับผมว่าอย่างนั้น” พอได้ยินคำ�นี้ ภรรยาคุ ณ เสรี ก็ ย กมื อ ไหว้ พึ ม พำ � ว่ า “เกิ ด ชาติ ใ ด
ฉันใด ขอให้มาเป็นแม่ลูกกันอีก” ก่อนจากกันทั้งสองท่านได้ออกปากเชิญผมว่า ถ้าผมหายป่วยเมื่อไหร่ จะเชิญผมกับภรรยาไปรับ ประทานอาหารที่ บ้ า นสั ก ครั้ ง บ้ า นท่ า นอยู่ ถ นน สุขุมวิทจะเป็นซอยนานาใต้หรือไรผมก็จำ�ไม่ได้เสีย แล้ว และเมื่อผมหายป่วยในคราวนั้น กลับบ้านแล้ว ผมก็ได้ไปตามคำ�เชิญ โดยมีญาติมติ รท่านมาฟังและ ดูหน้าตาผม... เมื่อตอนที่จะจากกันที่ศิริราชในตอนนั้น ผม ออกปากขอรูปถ่ายหนูพิมพ์ไว้เพื่อจะได้ดู และอุทิศ ส่วนกุศลให้เธอเวลาสวดมนต์และทำ�บุญกุศล ซึ่งผม ได้ปฏิบตั ดิ งั นีม้ ากกว่า 27 ปีแล้ว ซึง่ ท่านก็กรุณามอบ ใบใหญ่ขนาดโปสการ์ดให้ผมมาอีกใบหนึ่ง... (อ่านต่อฉบับหน้า)
37