หนังสือนิทานสิริธรชาดก (ผลของทาน)

Page 1


นิทานเรื่ องสิริธรชาดก (ผลของทาน) เป็ นการนาวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาเรื่ องสิ ริธรชาดก ในปั ญ ญาสชาดก มาดัด แปลงให้ อ ยู่ ใ นรู ป แบบของนิ ท านส าหรั บ เด็ ก โดยมี เ นื อ้ หาสาระสอดคล้ อ ง กับค่านิยม ๑๒ ประการ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นิท านเรื่ อ งสิริ ธ รชาดก (ผลของทาน) เป็ นการส่ ง เสริ มให้ เ ด็ กเกิ ดการเรี ยนรู้ ตามศัก ยภาพและ ปฏิ บั ติ ต นให้ เป็ นเยาวชนไทยที่ ดี มี คุ ณ ค่ า ต่ อ สั ง คมตามหลั ก ค่ า นิ ย มในข้ อที่ ๖ คื อ มี ศี ล ธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปั น ซึ่งเป็ นคุณสมบัติของเยาวชนไทยที่ควรแก่การยึดถือ และปฏิบตั ิต่อไป



กาลครั้ ง หนึ่ ง นานมาแล้ ว ยั ง มี ช ายยากจนคนหนึ่ ง อาศั ย อยู่ กั บ ภรรยา ณ เมืองสาวัตถี สามีภรรยามีอาชีพเกี่ยวหญ้าหาฟืนมาขายเพื่อนาเงินมาเลี้ยงชีวติ ตาม กาลัง ทั้งสองใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และต่างก็มีความศรัทธาในเรื่องของการบริจาค ทานอย่างยิ่ง


หลั ง จากที่ ไ ด้ เ กี่ ย วหญ้ า และหาฟื น มาขาย สองสามี ภ รรยาก็ จ ะแบ่ ง ทรั พ ย์ ที่ได้ นั้น ออกเป็ น สามส่ว น ส่ วนที่ห นึ่ง ใช้ สาหรับ การบริจ าคทาน ส่ว นที่ สองใช้ซื้ อ อาหารเพื่อบริโภค และส่วนที่สามนามาเก็บออมเอาไว้ใช้ในภาคภาคหน้า


วันหนึ่ง ชายยากจนคิดว่าสังขารที่เป็นอดีต ปัจจุบัน อนาคต ย่อมไม่เที่ยง ด้วยกันทั้งสิน้ จึงได้ปรึกษาภรรยาว่า “ถ้าหากพี่จะนาทรัพย์ส่วนที่เราเก็บเอาไว้ออกไปแจกจ่ายเพิ่มมากขึ้นอีก ส่วนหนึ่งน้องจะเห็นเป็นเช่นไร” ภรรยาจึงถามว่า “เหตุใดพี่จงึ คิดเห็นเป็นเช่นนี้เล่า จงบอกน้องมาเถิด” สามี จึ ง ได้ เ ล่ า ให้ ภ รรยาฟั ง ว่ า “เมื่ อ เช้ า นี้ พี่ ไ ด้ พ บขอทานน่ า สงสารมาก พี่จึงคิดว่าบรรดาสังขารทั้งหลายทั้งปวงย่อมไม่เที่ยง และมีความตายเป็นที่สุด เมื่อตายไปแล้วเราทั้งสองไม่สามารถนาสมบัติที่มีอยู่ ติดตัวไปได้เลย ผลของ ทานเท่านั้นที่จะติดตามเราไปในภายภาคหน้า” ภรรยาได้ฟังความประสงค์ของสามีก็เห็นด้วยและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง



หลั ง จากนั้ น มา สองสามี ภ รรยาก็ ไ ด้ น าทรั พ ย์ ที่ ห ามาได้ ไ ปบริ จ าคทาน สองส่ ว น เลี้ ย งชี พ ด้ ว ยทรั พ ย์ ห นึ่ ง ส่ ว น อี ก ทั้ ง ยั ง มี ค วามเพี ย รพยายามและ ขยั น ขั น แข็ ง ในการประกอบอาชี พ เกี่ ย วหญ้ า และหาฟื น เพิ่ ม มากขึ้ น จนท าให้ ทั้งสองมีฐานะการเงินที่มั่งคั่งร่ารวย ด้วยเหตุจากความเพียรพยายามและอานิสงส์ ของการทาทานมิเคยขาดนั้นเอง



วั น หนึ่ ง สองสามี ภ รร ยาได้ ร ะลึ ก ถึ ง สมเด็ จ พระสั ม มาสั ม พุ ท ธเจ้ า จึงพากันไปเข้าเฝ้า ถวายนมัสการแล้วกราบทูลว่า “ข้าแต่พระพุทธองค์ ข้าพระบาทและภรรยาได้นาทรัพย์ที่หามาได้แบ่ง ออกบริจาคสองส่วนเสมอมา ณ เวลานี้ด้วยผลของทานเราทั้งสองจึงได้มั่งมี ด้วยทรัพย์สิน เห็นคุณจากอนิสงส์ประจักษ์ดังชาตินี”้ สมเด็ จ พระสั ม มาสั ม พุ ท ธเจ้ า จึ ง ได้ ต รั ส ว่ า “ดู ก่ อ นอุ บ าสก อุ บ าสิ ก า ท่านให้ทานแล้วกลับถึง ซึ่งความมั่งมีเหมือนด้วยโบราณบัณ ฑิตเคยเกิด ขึ้นใน ปางก่อน” เมื่อพระเจ้าตรัสดังนั้นแล้วก็นิ่งอยู่ สองสามีภรรยาประสงค์จะทราบเรื่องราวจึง อาราธนาขอให้ทรงเทศนา พระพุทธองค์จึงทรงนาเรื่องราวที่ล่วงแล้วมาเล่าให้สอง สามีภรรยาฟัง



ในกาลล่ ว งเลยมาแล้ ว ครั้ ง หนึ่ ง พระบรมโพธิ สั ต ว์ เ สวยพระชาติ เป็ นเศรษฐีมีนามว่า “สิริธร ” ซึ่งเป็น เศรษฐีที่มีค วามศรัทธาในการบริจาคทาน และเป็นผู้ตั้งมั่นอยูใ่ นศีลธรรมอันดีงาม


คราวนั้ น มี พระปั จ เจกพุ ท ธเจ้า พระองค์ หนึ่ง ประทั บ อยู่บ นภูเ ขาคั น ธมาทน์ มีความประสงค์ที่จะออกบิณฑบาต จึงราลึกถึงสิริธรเศรษฐีซึ่งเป็นผู้ที่มีความศรัทธา ในการบริจาคทานอย่างสูง เมื่อดาริดังนั้นแล้วจึงได้ถือบาตรดินเหาะไปยืนอยู่หน้า ประตูเรือนของสิริธรเศรษฐี ซึ่งในขณะนั้นเป็นเวลาบริโภคอาหารเช้า พ่อครัวปรุง อาหารเสร็จพอดี


เมื่อสิริธรเศรษฐีได้เห็นพระปั จเจกพุทธเจ้ามายืนรอบิณฑบาตก็มีความยินดีจึง น า อา หา รใ ส่ ถ า ดท อง ยก ขึ้ น ทู น ศี ร ษ ะแ ล้ ว ถ ว า ยแ ด่ พ ร ะ ปั จ เ จ ก พุ ท ธ เ จ้ า และได้อธิฐานว่า “ด้วยผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทาในวันนี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้ตรัสรู้เป็น พระสัมมาพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในภายภาคหน้าด้วยเถิด” พระปั จ เจกพุท ธเจ้าจึงตรัสอนุ โมทนาว่า “ขอให้ความปรารถนาของท่ าน จงสาเร็จเทอญ”


หลังจากที่พระปัจเจกพุทธเจ้าได้กลับไปยังภูเขาคันธมาทน์ สิริธรเศรษฐีจึงได้ ระลึ ก ถึ ง ทานที่ ต นท าในวั น นี้ และกล่ า วว่ า “หากอานิ ส งส์ ข องทานมี จ ริ ง ขอให้ลาภจงบังเกิดแก่ตัวข้าในปัจจุบันด้วยเถิด” ด้วยอานาจแห่ งทานจึงส่ งผลให้บ้า นของสิริธ รเศรษฐีก ลับ กลายเป็ น ทองค า เมื่ อ เข้ า ไปนั่ ง ในบ้ า น ก็ มี พ่ อ ครั ว ยกส ารั บ อาหารทิ พ ย์ ใ นถาดทองค าน ามาวางให้ สิ ริ ธ รเศรษฐี รั บ ประทานอาหารทิ พ ย์ นั้ น ด้ ว ยความส าราญเปรี ย บประดุ จ เทพยดา ซึ่งเสวยอาหารทิพย์ฉะนั้น


หลังจากที่สิริธรเศรษฐีรับประทานอาหารทิพย์ แล้ว ก็ได้แจกจ่ายอาหารนั้นเพื่อ เป็นทานแก่คนทั่วไป กลิ่นของอาหารทิพย์หอมฟุง้ ไปทั่วทั้งเมืองผู้คนในเมืองต่างพากัน มารับอาหารทิพย์จากสิริธรเศรษฐี ซึ่งให้ไปเท่าไรก็ไม่รู้หมด


หลังจากนั้น สิริธรเศรษฐีจึงได้แสดงธรรมแก่มหาชนว่า “ท่านทั้งหลายจงฟัง ข้าเถิดผลของทานที่ให้แล้วด้วยศรัทธา ย่อมนามาซึ่ง อายุยืนยาว ผิวพรรณ ผ่องใสมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีพละกาลังดี มีลาภยศ และมีความสุขใน ชีวติ ” เมื่อเทศนาธรรมแล้ว มหาชนต่างเลื่อมใสศรัทธาและได้กล่าวอนุโมทนาในผล ของทานที่บังเกิดแก่สิรธิ รเศรษฐี ต่างพากันมอบเครื่องบรรณาการ บางคนก็ฝากตัว เป็นคนรับใช้


เมื่ อ สองสามี ภ รรยาได้ ฟั ง เรื่ อ งราวจบลง ก็ มี ค วามยิ น ดี เ ป็ น อย่ า งยิ่ ง ต่างเลื่อมใสบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า ผู้ซึ่งชี้แนะแนวทางในการดาเนินชีวิต ให้อยู่ในศีลธรรมรู้จักการให้ทานแก่บุคคลอื่น และผลของทานจะนามาซึ่งความสุข ความเจริญก้าวหน้า และที่สาคัญยังเป็นแบบอย่างให้แก่บุคคลทั่วไปอีกด้วย


สิริธรเศรษฐีซึ่งผู้สาเร็จผลของการบริจาคทานในครั้งนั้น ที่ตรัสเล่าเรื่องราวให้ สองสามีภรรยาฟัง ต่อมาคือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเอง



หลักการปฏิบัติตนค่านิยม ๑๒ ประการ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ๑. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ๒. ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม ๓. กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ๔. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม ๕. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม ๖. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อ่นื เผื่อแผ่และแบ่งปัน ๗. เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุขที่ถูกต้อง ๘. มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผูใ้ หญ่ ๙. มีสติรู้ตัว รู้คิด รูท้ า รู้ปฏิบตั ติ ามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๑๐. รู้จักดารงตนอยูโ่ ดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจาเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่าย จาหน่าย และพร้อมที่จะขยาย กิจการเมื่อพร้อม เมื่อมีภูมคิ นุ้ กันทีด่ ี ๑๑. มีความเข้มแข็งทัง้ ร่างกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออานาจฝ่ายต่าง ๆ หรือกิเลศ มีความละอายเกรงกลัว ต่อบาปตามหลักของศาสนา ๑๒. คานึงถึงผลประโยชน์ของส่วนร่วม และของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง



ประวัตผิ ู้เขียน

ชื่อ-สกุล: นาย ลิขติ ใจดี ประวัติการศึกษา ระดับชั้นประถมศึกษา

:โรงเรียนบ้านแบ่ง

ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น :โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 24 ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย:โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 24 ระดับอุดมศึกษา

:ปัจจุบันกาลังศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 3 สาขานาฏศิลป์ไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (หลักสูตรศึกษาศาสตร์บัณฑิต)

อุดมการณ์เชิงสร้างสรรค์ “ รั ก แ ล ะ ส น ใ จ ง า น ท า ง ด้ า น ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม จึงเกิดแรงบันดาลใจโดยได้นาวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนา มาจัดทาเป็นนิทานสาหรับเด็ก และใฝ่ฝันที่จะดาเนินงานใน การผลิตสื่อที่ดีเพื่อพัฒนาชีวิตและสังคมต่อไป”


อาจารย์ ท่ ปี รึกษา : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. รจนา สุนทรานนท์ , ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ณัฏฐพงค์ ชูทัย, อาจารย์ โสภณ สาทรสัมฤทธิ์ผล, อาจารย์ มาโนช บุญทองเล็ก , อาจารย์ อรั ญญา ศรีจารย์ , ดร. นพดล พรามณี


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.