Monument 14 1 5 jake

Page 1

เจคกับ สาวน้อ ยอีก คน มหันตภัยปะทุขึ้นที่เมืองโมนิวเมนต์ รัฐโคโลราโด และเจค ไซมอนเซน กัปตันทีมอเมริกันฟุตบอล ก็เจอกับมันแบบเต็มๆ ความหายนะที่หนัก หน่วงขึ้นเรื่อยๆ พุ่งเข้าใส่อย่างไม่ขาดสาย เริ่มจากพายุลูกเห็บครั้ง มโหฬารและจบลงด้วยการรั่วไหลของอาวุธสงครามเคมีที่ส่งผลกระทบ ต่อผู้คนในลักษณะที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกรุ๊ปเลือด ทั้งหมดนั่นถล่ม ใส่โลกที่เขารู้จักจนพังภินท์ ตอนนี้เจคต้องตัดสินใจว่าจะลุกขึ้นยืนใหม่ ได้ยังไง ทารกหาย ช่วยด้วยค่ะ! คุณยาย หนูไปเดนเวอร์นะคะ ขอพระเจ้าคุ้มครองทุกคน ดอรีน ขอโทษนะ – ผมรอต่อไปไม่ไหวแล้ว แล้วก็รูปถ่ายมากมาย รูปของคนที่สูญหาย คนที่หาเจอ และคนที่ ตายไปแล้ว ผนังของโรงพยาบาลลิวอิสพาล์มเมอร์ในเมืองโมนิวเมนต์เต็มไป ด้วยใบปลิว เขาจิตตกขณะดูไปตามผนังเหล่านั้น เป็นใครก็จิตตกกันทั้งนั้น เมืองนี้เล็กนิดเดียว บนผนังนั่นจึงมีผู้คนที่เขารู้จักอยู่ตั้งหลายคน เจคเห็นเด็กคนหนึ่งจากทีมรุ่นน้องที่เตรียมจะขึ้นเป็นตัวจริงของ ทีมอเมริกันฟุตบอลประจำาโรงเรียน เห็นอาจารย์วิชาชีววิทยาในรูปถ่าย ใบหนึ่งกับลูกเล็กๆ ของเธอ เห็นสาวเสิร์ฟในโรงแรมวิลเลจอินน์ที่ร่าเริง อย่างน่าสงสัย เห็นครอบครัวของดีนกับอเล็กซ์: เรายังไม่ตาย จงรักษา ตัวให้รอดหรือไม่ก็ไปเดนเวอร์ แล้วก็มีรูปของลินด์เซย์ มอร์โรว์ เธออยู่ตรงนั้น ในรูปถ่ายครอบครัวซึ่งถ่ายที่ชายหาด เป็นรูปขนาด 5x7 นิ้วซึ่งดึงออกมาจากกรอบ แปะสก็อตเทปไว้บนกระดาษสมุดแผ่น หนึ่ง ใต้รูปเป็นลายมือของลินด์เซย์พร้อมด้วยลูกศรที่ชี้ไปยังผู้หญิงวัย กลางคนที่อยู่กลางรูป: ถ้าคุณเห็นผู้หญิงคนนี้ กรุณาโทร.แจ้งด้วยนะคะ – ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ของเธอเอง แล้วก็ แม่คะ กลับบ้านด้วยค่ะ! เขาไม่ควรอ้อยอิ่งอยู่กับรูปถ่ายใบนั้นขนาดนี้เลย อเล็กซ์มัดวิทยุ สื่อสารแบบมีวิดีโอไว้กับหน้าอกของเขา และตอนนี้ทุกคนในห้างก็กำาลัง จับตามองทุกๆ อิริยาบถและฟังเสียงของเขาอยู่ แอสทริดอาจจะดูอยู่ก็ได้


ทุกคนกำาลังดู ‘เจคทีวี’ กันอยู่และรอให้เขากลับไปที่กรีนเวย์ ที่ซึ่ง พวกเขาใช้หลบภัยนับตั้งแต่เกิดการรั่วไหลของสารเคมี ทุกคนมอบหมายภารกิจนี้แก่เขา – เพื่อมาสืบว่าโรงพยาบาลเปิดอยู่ หรือเปล่า แต่มันไม่เปิด ไม่มีอะไรเปิดทำาการเลย เมืองทั้งเมืองพินาศย่อยยับไปหมดแล้ว ถ้ารัฐบาลต้องการเครื่อง พิสูจน์ว่าสารประกอบเคมีที่เป็นอาวุธสงครามซึ่งพวกเขาผลิตขึ้นที่โน ราดมันได้ผลล่ะก็ เอ้า นี่ไง ติดอยู่เต็มผนังโรงพยาบาลเลย สารประกอบเคมีเหล่านั้นเล่นงานผู้คนแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับ กรุ๊ปเลือดของพวกเขา กรุ๊ปเอจะเป็นตุ่มพุพองอย่างรุนแรงจนตาย กรุ๊ป โอจะกลายเป็นพวกป่าเถื่อนกระหายเลือด กรุ๊ปเอบีจะเห็นภาพหลอน แบบหวาดระแวง ขณะที่กรุ๊ปบีอย่างเจคไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีอาการของ ผลข้างเคียง นอกจากการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและเป็นหมัน ขอบคุณมากนะ โนราด เจคเอาช็อกโกแลตไปให้ลินด์เซย์ทุกครั้ง มันเป็นธรรมเนียมของพวกเขา แน่ล่ะ ไม่ใช่ค่าตัว แบบนั้นคงทุเรศมาก แต่เป็นเหมือนการแสดงนำ้าใจ เล็กๆ น้อยๆ แค่นั้นแหละ เขาจะดอดออกจากโรงเรียนเมื่อได้ยินเสียงระฆังพักเที่ยง หรืออาจ จะก่อนหน้านั้นนิดหน่อย แล้วแวะห้างวอลกรีนส์ ซือ ้ ช็อกโกแลตเฮอร์ชีย์ ขนาดใหญ่สุด หรือถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีกก็ต้องเป็นอะไรที่ออกเฉพาะ ฤดูกาล – อย่างแคดเบอร์รี่รูปไข่ที่ออกในช่วงปีใหม่กับอีสเตอร์ หรือ มาร์ชแมลโลว์รูปซานตาคลอส หรือช็อกโกแลตรวมรสสำาหรับเทศกาล วาเลนไทน์ที่มีรูปทิมมี่ เทรนดอว์กแปะอยู่ข้างบน เขาจะเอาช็อกโกแลต ไปที่บ้านเธอ แล้วเธอก็จะรับมันไป จากนั้นทั้งสองก็จะนัวเนียกัน ลินด์เซย์เป็นแค่เด็กม.ปลายปีสอง แต่เขาไม่รู้สึกเหมือนตัวเองเอา เปรียบเธอเลย เธอเป็นคนคุมเกม อันนี้ไม่ต้องสงสัย เธอเป็นคนกุมอำานาจ ในช่วงพักเที่ยง บางครั้งเธอก็สูบบุหรี่หลังจากมีอะไรกัน ซึ่งเขาพบว่ามันน่าช็อกไม่ หยอก “เคยได้ยินคำาว่ามะเร็งในปอดบ้างหรือเปล่า” เขาแหย่เล่นไปครั้ง หนึ่ง “เคยได้ยินคำาว่าไอ้เชยบ้างหรือเปล่า” เธอสวนกลับ พลางเลิกคิ้ว ขึ้นข้างหนึ่งแบบที่ทำาให้เขารู้สึกว่าตัวเองโง่และเป็นเด็กอยู่หน่อยๆ


วัย 15 ของเธอนั้นเจนจัดกว่าวัย 18 ของเขาเป็นไหนๆ เอ้า ไม่ เห็นจะเป็นไรเลย ปล่อยให้เธอเจ๋งกว่าเขาไปนั่นแหละ – ในเมื่อเขาได้ แอ้มเธอซะอย่าง เขาทนกับความดราม่าหรือท่าทางเย้ยหยันได้ทุกขนาด อยู่แล้วถ้าสาวคนนั้นยอมเขา เจคนึกถึงตอนที่เขานอนบนเตียงของเธอ ซึ่งปูด้วยผ้าฝ้ายสีขาวฉลุเป็นลวดลายเล็กๆ มันสวยมากเลย เธอเองก็สวยเหมือนกัน สวยมากๆ มีเรือนผมสีนำ้าตาลอมดำาที่ยาว สยาย แผ่ไปบนหมอน ระไปตามไหล่ ลำาคอสีครีมอันบอบบาง จนถึง ทรวงอกอันเปลือยเปล่า เขาควรต้องหันหลังกลับเดี๋ยวนี้ แล้วกลับไปที่กรีนเวย์ เขานึกถึงการลากขากลับไปที่นั่น เดินตัดลานจอดรถอันดำามืดซึ่งมี ซากรถขึ้นสนิมและขึ้นราจอดอยู่เขละขละ ไต่บันไดลิงโลหะกระจอกๆ ที่ ใช้พาดหนีไฟ ยำ่ากลับเข้าไปในร้านเพื่อบอกข่าวร้ายกับใบหน้าเล็กมอม อันตึงเครียด – นั่นทำาให้เจคอยากกรีดข้อมือตัวเองเป็นบ้า ใบหน้าอันผิดหวังของพวกเขา...ผิดหวังมาตลอด ไม่ล่ะ เจคถอดวิทยุสอ ื่ สารติดวิดีออก แล้วโยนลงบนพื้น “ขอโทษด้วยนะ ขอโทษจริงๆ พวก” เขาบอกกับคนอื่นๆ จากนั้นก็ลงมือทึ้งสายเชื่อมต่างๆ ออกจากด้านหน้าของแจ็คเก็ต “ฉันไม่...ฉันจะไม่กลับไปอีกแล้ว ฉันทนอีกไม่ไหวแล้ว” ซึ่งก็เป็นความจริง ขืนอยู่ในนั้นอีกวันเดียว เขาต้องตายแน่ เขาแน่ใจ ความรู้สึกแบบ ติดแหง็ก ไปไหนไม่ได้ ทุกคนต้องรับผิดชอบกับเรื่องบ้าๆ อยู่ตลอดเวลา แถมแอสทริดยังคอยจับตาเขาอีก ดวงตาของเธอบอกชัดว่าเขามันไม่เอา ไหน “ฝากบอกแอสทริดด้วยว่าฉันขอโทษ” เขาบอก และก็จบแค่นั้น เขาเป็นอิสระแล้ว เขาต้องเดินไป บ้านลินด์เซย์อยู่ใกล้โรงเรียนมัธยมปลาย นั่นทำาให้การ แวะไปในช่วงเที่ยงของเขาเป็นไปได้ แต่ถ้าจะมีใครทำาให้นกเขาของ เขาขันได้อีกล่ะก็ คนคนนั้นก็คือลินด์เซย์ มอร์โรว์ การแค่เห็นเรือนร่าง ของเธอในชุดว่ายนำ้าจากรูปถ่ายใบนั้นก็แทบจะทำาให้เขาถึงฝั่งแล้ว


แอสทริดเองก็คงจะระแคะระคายเรื่องของเขากับลินด์เซย์อยู่แล้ว เธอเป็นคนบอกเองว่าการคบหากันระหว่างเขากับเธอจะเปิดกว้างใน เรื่องนี้ เธอยืนกรานเลยล่ะ เขารู้สึกแย่ที่ทิ้งเบรย์เดนมาทั้งๆ ที่เจ็บ แต่นีโคจะดูแลเพื่อนซี้เขา เอง นีโครู้วิธีปฐมพยาบาล อีกอย่างเบรย์เดนคงเข้าใจ ถ้าเบรย์เดนออก มากับเขาด้วยก็ไม่มีทางที่เบรย์เดนจะอยากกลับไปที่ห้างซึ่งมีกฎงี่เง่า สารพัดอย่าง แถมบรรยากาศยังหนักอึ้งอีกด้วย หนักอึ้งแมร่งทุกอย่าง เจคล้วงมือลงไปสำารวจในกระเป๋ากางเกง ภายใต้เสื้อผ้าสี่ชั้นที่โปะ เพิ่มลงมาตามที่นีโคยืนกราน เขาคลำาเจอส่วนตุงๆ ในกระเป๋าหลัง ยา โอเบซีน แบบออกฤทธิ์ช้าๆ นานๆ ขอบคุณพระเจ้าสำาหรับผลิตภัณฑ์ยา ช่าย เขาใช้ยาตัวนี้มาสร้างความฮึกเหิมให้กับตัวเองนิดหน่อย มัน ทำาให้เขารู้สึกดี ในช่วงเวลาที่มืดมนขนาดนี้ ใครจะไม่อยากได้ความ ครื้นเครงเป็นพิเศษกันล่ะ เจคปิดไฟฉายแบบสวมหัว ไม่จำาเป็นต้องดึงดูดความสนใจมาที่ตัว เอง อาจมีพวกกรุ๊ปโอซุ่มอยูต ่ รงไหนก็ได้ แล้วพวกกรุ๊ปโอก็เป็นปีศาจกัน เห็นๆ เขาบ่ายหน้าไปตามไฮเวย์ 105 โดยเดินกลางถนนไว้ตลอด เพราะ ตรงกลางไม่มีรถมาเกะกะ แต่เขาต้องขึ้นไปบนทางคร่อมไฮเวย์น่ะสิ บน นั้นมีรถอัดกันแน่นทีเดียว ขณะตะแคงตัวกระดืบเลาะรถคันหนึ่ง เขาก็เสียดสีกับราหน้าตา ประหลาดๆ ที่งอกขึ้นมาจากยางรถทั้งสี่ ไอ้นี่มันอะไรกันเนี่ย ขึน ้ เป็นแพอยู่บนยางรถทุกคัน แถมยังผุดพอกขึ้นมาอีก เหมือนกอง หิมะยังไงยังงั้น ผลข้างเคียงของสารประกอบตัวใดตัวหนึ่งสินะ หรืออาจจะมี สารประกอบอีกตัวรั่วไหลออกมาพร้อมๆ กับสารประกอบที่เล่นงานกรุ๊ป เลือดและก็เมฆดับฟ้า (blackout cloud ในที่นี้หมายถึงก้อนเมฆสีดำาขนาด ยักษ์ที่ปกคลุมท้องฟ้า ทำาให้เกิดความมืดไปทั่วบริเวณเหมือนตอนไฟดับ – ผู้แปล) มันกินยางรถจนเหี้ยน ทำาให้ไม่มีใครเดินทางไปไหนได้ เจคจิ้มนิ้วนิ้วหนึ่งลงไปในฟองสีขาวที่ปะทุขึ้นมาบนกระโปรงรถโต โยต้าเวนซาสีเงิน คงผลิตปี 2019 โน่นล่ะมั้ง เขาดึงนิ้วขึ้นมาบี้ๆ ดู มันละลายกลายเป็นคราบมันๆ อยู่บนถุงมือ เจ คมองผ่านฟองขาวเข้าไปในรถ มองเห็นสิ่งที่อยู่ในนั้น แต่เขาเบือนหน้า หนีไม่ทัน คราบเลือดสีนำ้าตาลที่ไหลเป็นทางแห้งกรังอยู่บนกระจกหน้า รถและหน้าต่างฝั่งคนขับ ศพที่อยู่ตรงนั้นเป็นเนื้อและกระดูกเก่าๆ ไปแล้ว กรุ๊ปเอ เขาคืบคลานผ่านหน้าต่างด้านข้างซึ่งเปิดค้างอยู่ ดูเหมือนจะ...ดู เหมือนจะมีร่างอันแห้งเหี่ยวของเด็กทารกคนหนึ่งคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่


บนเบาะนั่งสำาหรับเด็กด้วย เขาปรูดผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตะแคง ตัว กระดืบ กระดืบ กระดืบผ่านรถคันแล้วคันเล่าที่มีคนตายคาอยู่ จน กระทั่งลงจากสะพานข้ามไฮเวย์ได้ แล้วก็ออกวิ่ง รู้สึกดีนะที่ได้วิ่ง และตอนนี้มันก็ปลอดภัยขึ้นแล้วด้วย ใช่มั้ย เขาไม่จำาเป็นต้องใช้หมวกคลุมขนแกะยาวถึงคอที่นีโคบังคับให้ สวมเลย มันงี่เง่าจะตายชัก – คนกรุ๊ปเลือดอื่น ต่างหากที่จำาเป็นต้องมี เครื่องป้องกัน สำาหรับกรุ๊ปบี ความเสียหายมันเกิดขึ้นแล้ว เขาถอดหมวกขนแกะงี่เง่านั่นออก ทำาให้มองเห็นในความมืดได้ชัด ขึ้นนิดหน่อย เขาสวมเสื้อผ้ามาห้าชั้นตามที่แนะนำาไว้ในข่าวเพราะนีโคมันยืน กราน และเพราะมันทำาให้แอสทริดกับพวกเด็กเล็กรู้สึกดีขึ้นกับการที่เขา ออกมาข้างนอก ตอนนี้เขาตระหนักว่าเขาไม่ต้องการเสื้อผ้าพวกนี้ด้วย เหมือนกัน เจคถอดกางเกงวอร์ม เสื้อวอร์มเหล่านั้นออก แล้วโยนลงบนพุ่ม ไม้ตายแห้งหน้าบ้านใครบางคน เขาดี๊ด๊ากับอิสรภาพของตัวเอง เขาไม่จำาเป็นต้องทำาตัวให้ปลอดภัยและระวังแจอีกแล้ว เขาไม่ ต้องการเรื่องไร้สาระแบบคุณแม่ที่น่าอึดอัดสุดๆ ของนีโค พอเหลือแต่ กางเกงยีนกับเสื้อสเวตเตอร์ เขาก็สะพายเป้ แล้วออกวิ่ง เขาวิ่งอยู่บนถนนเป็นส่วนใหญ่ บางตอนที่ถนนโดนขวางไว้ เขาก็ วิ่งไปบนสนามหญ้าหน้าบ้านคน ฟองสีขาวๆ ทำาให้ถนนลื่นเป็นบางแห่ง แต่เวลาที่เขาลื่นล้ม เขาจะกู่ร้องอย่างเบิกบาน เขาเป็นผู้เล่นทีมรุกที่ กำาลังวิ่งทะลวง ไม่มีใครมาสกัดเขาได้ พระเจ้า รู้สึกดีจัง เขาเป็นอิสระอีกครั้งและกำาลังเคลื่อนไปไม่หยุด พระเจ้าสร้างเขาขึ้นมาเพื่อให้พุ่งทะยาน หลังจากวิ่งไปได้สองสามช่วงตึก เขาก็รู้สึกถึงของเสียสีดำาจาก อากาศที่ไหลเข้ามาในปอด เขานึกสงสัยว่าการสูดเมฆดับฟ้าเข้าไปจะส่ง ผลกระทบในระยะยาวหรือเปล่า แต่ใครจะไปสนกันล่ะ อเล็กซ์บอกว่าเมฆดับฟ้าลอยอยู่เหนือพื้นที่สำาหรับปล่อยจรวดมิส ไซล์ โดนแม่เหล็กดูดไว้ให้อยู่ตรงนั้น ตอนนี้เขาอาจจะกำาลังสูดแม่เหล็ก เล็กจิ๋วเข้าไปก็ได้ แต่รู้สึกเหมือนสูดควันบุหรี่ที่คนอื่นสูบอยู่ไม่มีผิด คันว่ะ ถึงจะอย่างนั้น เขาก็วิ่งต่อไป กว่าจะถึงถนนโบว์สตริง เขาก็ปวดไปทั้งอก บางทีเขาน่าจะเก็บ หน้ากากขนแกะงี่เง่านั่นเอาไว้นะ


บ้านบางหลังที่เขาผ่านมากลายเป็นกองขยะไปแล้ว บางหลังก็ไฟ ไหม้ ตามสนามหน้าบ้านมีศพนอนตาย บางศพก็ทะลักออกมาจากรถ เป็นคนที่ตายไประหว่างที่คลานออกมาทางหน้าต่าง แต่เขาจะไม่มา นึกถึงศพเหล่านั้น ไม่อีกแล้ว...แม้แต่วินาทีเดียว เพราะเขากำาลังหอบ ทุกครั้งที่หยุดวิ่งเลยด้วย เงามืดเคลื่อนตามลม หายใจของเขา – เข้า ออก เข้า ออก วิ่งไปเรื่อยๆ อย่าหยุดจะดีกว่า เขากำาลังปอดกระเส่า พอเลี้ยวหัวมุมถนนโบว์สตริง เจคก็เห็นรถที่ชนกันระเนระนาด รถ สามคันอัดซ้อนกัน บิดเบี้ยวอยู่ด้วยกัน โดยที่รถกระบะพลิกหงายอยู่ หน้าต่างรถทั้งหมดร้าวเป็นไยแมงมุม มีฟองสีขาวๆ ขึน ้ เหมือนตะไคร่นำ้า อยู่ทั่วทุกคัน ใครชนใครกันเนี่ย ดูไม่ออกเลย แต่แล้วอยูด ่ ีๆ เจคก็รู้สึกว่ามีมือคู่ หนึ่งมาตะปบไหล่ เขาได้ยินเสียงอันชวนสยองดังรดต้นคอ...เป็นเสียง หายใจและเสียงขู่คำาราม เจคหมุนขวับ เห็นผู้ชายคนหนึ่ง พระเจ้า กลิ่นหึ่งเลยว่ะ! เจคผลัก เขาออก ผู้ชายคนนั้นล้มหงาย หมอนี่ตัวเบ้อเริ่ม – สูงกว่าเจคเสียอีก แต่กลับเชื่องช้า “ถอยไป!” เจคตะโกนใส่ ต้องเป็นกรุ๊ปโอแน่ๆ – เพราะสีหน้าเขาออกแนวคุ้มคลั่ง ท่าทางก็ เหมือนอยากจะฆ่าคน ไม่ใช่ปล้นชิง เขาหน้าตาซูบซีด ดวงตาพองโต แยกเขี้ยวขู่ เป็นผู้ชายหัวล้านที่มี รอยสักพร้อยไปทั้งตัว เจคเห็นได้ว่าฝ่ายนั้นสัมผัสสารประกอบเคมีนาน เกินไป มันรั่วไหลมาเกือบสองสัปดาห์แล้ว “อย่ามายุ่งกับฉัน” เจคแหวไป ผู้ชายคนนั้นคำารามเสียงเกรี้ยวแทนคำาตอบ เจคนึกออกว่ามีปืน จึงเอือ ้ มมือไปข้างหลัง ดึงเป้ลงมาจากไหล่ที่ สะพายอยู่ ปืนวางอยู่บนสุด นั่นมันกลิ่นอะไรน่ะ คงเป็นกลิ่นเสื้อผ้าของผู้ชายคนนั้น มันเต็มไป ด้วยรอยเปื้อนสีคลำ้าที่ต้องเป็นเลือดแน่ๆ แต่มันอาจเป็นเลือดที่ไหลจาก ปากเขาเองก็ได้ กลิ่นหึ่งๆ แบบท่อระบายนำ้าเสียที่เน่าเฟะลอยมาจากปาก เขา เจคนึกสงสัยว่าหมอนี่กินอะไรมานะ พอฝ่ายนั้นอ้าปากออก เจคก็เห็นกระหย่อมลื่นๆ บนคางของเขา พระเจ้า ไอ้เวรนี่นำ้าลายไหลว่ะ เจคถอยหนี แล้วลื่นไถลไปบนฟองสีขาวจากรถที่ชนกันแหลก


ผู้ชายคนนั้นโถมเข้าใส่ ร่อนมาทางเขา มือกางเป็นกรงเล็บ เล็งใส่ หน้าเจค เจคถีบเขา อย่างแรง กลางอก ลมหายใจของไอ้หมอนั่นปลิวออกมาดังวื้ดเน่าๆ นำ้าลายกระเซ็นมา โดนเจค เจคตะกายขึ้นยืน เนื้อตัวสั่น ผู้ชายตรงหน้าพยายามจะลุกขึ้น พลางเอื้อมมือข้างหนึ่งมาทางเจค เจควิ่งหนี เขาจะทุบไอ้บ้านั่นจนม่องก็ยังได้ จะเตะๆๆ หัวมันจนตาย หรือที่ดี ยิ่งไปกว่าก็คือแค่คว้าปืนออกมา แล้วยิงทะลวงหัวใจมันก็ย่อมได้ เป็นความรู้สึกที่แปลกพิลึก การที่รู้ว่าเราฆ่าใครบางคนได้โดยไม่ ต้องรับโทษอะไรทั้งสิ้นน่ะ การฆ่าตอนนี้อาจนับว่าเป็นความเมตตาเสียด้วยซำ้า อาจจะถึงขนาดมีคนมายกย่องสรรเสริญเขาเลยด้วย แต่การวิ่งหนีมันง่ายกว่านี่นะ เจคเหลียวหน้าไปมอง เห็นผู้ชายคนนั้นแหงนหน้าขึ้น แล้วร้อง โหยหวน ตั้งสติได้แล้ว และก็ไปให้ถึงที่นั่น เจคบอกตัวเอง เขาวิ่งไปตามถนนโบว์สตริง เลี้ยวเข้าสู่ถนนเลกกินส์เวย์ ไม่เห็นวี่แววของผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว บางทีการมีเลือดกรุ๊ปโอและ อยู่ข้างนอกนานขนาดนั้นอาจทำาให้คนเราโง่ได้ บางทีผู้ชายคนนั้นอาจ ลืมเขาไปแล้ว หรืออาจจะแค่รู้ตัวว่าตามเขาไม่ทัน คนกรุ๊ปโอที่สัมผัสกับสารประกอบนับตั้งแต่มีการรั่วไหลนี่ไม่น่า กลัวอย่างที่คิดแฮะ – เมือ ่ รู้เช่นนี้ เจคจึงยิ้มออกมานิดหนึ่ง นั่นทำาให้เขามีโอกาสมากขึ้นในการไปถึงเดนเวอร์ ถ้าลงท้ายแล้ว นั่นคือสิ่งที่เขาทำา ตอนนี้มันยังเร็วเกินกว่าจะบอกได้ เขาจะไปในที่ที่เขา อยากจะไป บ้านเลขที่ 17285 17325 ใช่แล้ว – 17355 บ้านของลินด์เซย์หน้าต่างแตกไปบานหนึ่ง แต่เขาก็เห็นแผ่น พลาสติกสะบัดพึ่บพั่บอยู่ใกล้กับช่องโหว่บนหน้าต่าง ป้ายแผ่นนั้นเขียน ไว้ว่า แม่คะ กลับบ้านเถอะค่ะ นะคะ ฉะนั้น จึงเป็นไปได้ที่ลินด์เซย์จะอยู่ ในบ้าน เขาเดินอ้อมไปด้านหลังโดยเปิดไฟบนหัว ถ้ามีใครซ่อนอยู่หลัง บ้าน เขาก็อยากจะเห็นพวกนั้นก่อนจะโดนจู่โจมสักแวบ


“ลินด์เซย์” เขาร้องเรียกเบาๆ “ลินด์ส” ในสนามหลังบ้าน ชิงช้าคู่รักพลิกควำ่าอยู่ เจคเหยียบไปบนอะไร บางอย่าง คราดพังๆ อันหนึ่ง มันเหวี่ยงไปด้านข้าง กระทบเข้ากับตัวบ้าน แล้วเขาก็ได้ยินเสียงเจ้าบาร์คสไล จึงยิ้มออกมา เขาลืมตูบลูกครึ่ง ลาบราดอร์-พูเดิ้ลตัวยักษ์ท่าทางโง่ๆ ของลินด์เซย์ซะสนิท บาร์คสไลรักแจ็ค และลินด์เซย์ก็รักเจ้าบาร์คสไล ไม่รู้ยังไง การที่ เธอทนกับหมาที่กระตือรือร้นแบบอืดๆ อย่างนี้ได้ทำาให้เจครู้สึกมั่นใจ มากขึ้นเวลาอยู่กับเธอ เสียงเห่าดังมาจากในบ้าน เจคก้าวขึ้นไปบนระเบียงหลัง มันยังดูเหมือนกับที่เขาจำาได้ไม่มีผิด ทุกอย่างลงไปจนถึงรองเท้าฟุตบอลสึกๆ และสนับแข้งที่กองอยู่ข้างประตู เลยทีเดียว “บาร์คสไล” เจคเรียก “แกอยู่ไหนน่ะ ไอ้หนู” เจ้าตูบที่อยู่ข้างในเห่าเป็นบ้าเป็นหลัง เจคเคาะประตู ไม่มีใครเดินมาเปิด ก็เออน่ะดิ เขาลองเปิดดู ลูกบิด หมุนออกอย่างง่ายดาย แบบนี้ดูแย่มากๆ สำาหรับเจค เขาเตรียมใจพบกับ ลินด์เซย์ในสภาพที่นอนตายอยู่กับครอบครัวของเธอ ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ เขาจะช่วยไอ้ตูบ แล้วเดินทางไปเดนเวอร์เลย ไม่จำาเป็นต้องกลับไปที่บ้านของเขาเองหรอก พ่อคงผละไปนานแล้ว – พ่อเขาทำางานในเดนเวอร์ วันที่สารเคมีรั่วไหล พ่อคงอยู่เดนเวอร์พอดี มีหมาอยู่ด้วยก็ท่าจะดีแฮะ มันจะได้เตือนเวลาที่ปีศาจร้ายอย่างไอ้ กรุ๊ปโอคนเมื่อกี้โผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย “ลินด์เซย์?” เจคร้องเรียกขณะก้าวเข้าบ้านอย่างช้าๆ “บาร์คสไล?” ไอ้ตูบอยู่ในห้องใต้ดิน ประตูอยู่ในครัวนี่เอง เจคได้ยินเสียงมัน ข่วนประตูยิกๆ และพยายามโถมใส่ประตู – แต่แล้วมันก็กลิ้งขลุกๆ ลงไป ตามขั้นบันได “ใจเย็นๆ บาร์คสไล!” เจคตะโกน ที่จับประตูล็อกอยู่ เจคมองไปรอบๆ เขาต้องเอาไอ้ตูบออกมาก่อน แล้วสำารวจส่วนอื่นๆ ของบ้าน ถ้ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น ไอ้ตูบก็จะได้พบก่อน เขาเปิดลิ้นชัก เจอค้อนทุบเนื้อ – แบบที่มีหัวเป็นโลหะทรงลูกบาศก์ อันโต ข้างหนึ่งแบนเรียบ ส่วนอีกข้างมีตุ่มเล็กๆ รูปปิรามิดกระจายไปทั่ว เจคทุบไปแค่สามเปรี้ยง ที่จับประตูก็หลุดผลัวะ บาร์คสไลบ้าไปแล้ว


เจคแหย่นิ้วเข้าไปในรูโหว่ซึ่งเคยเป็นที่จับประตู แล้วดึงประตูให้ เปิดออก ตอนนี้แหละที่เขาคิดได้ว่าตัวเองทำาพลาดไป เพราะขณะที่บาร์ คสไลพยายามแทรกตัวออกมา เขาก็ตระหนักว่าประตูนี้ถูกผนึกไว้ด้วย แผ่นพลาสติก “กลับเข้าไป” เขาบอกกับไอ้ตูบ แล้วแทนที่จะปล่อยให้มันกระโจน ออกไปที่ครัว เจคก็เบียดตัวเข้าไป พลางดึงเทปกาวที่ติดขอบข้างของ แผ่นพลาสติกออก เขาก้าวเข้าไปในห้องใต้ดิน คว้าปลอกคอไอ้ตูบไว้ แล้วพยายามดึง ประตูให้ปิดลงอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำาได้ เขาทำาให้อากาศปนเปื้อนไปแล้ว นั่นอาจทำาให้ใครก็ตามที่อยู่ข้างล่างตายได้เลยนะ ถ้ายังมีใครรอด ชีวิตอยู่น่ะ บาร์คสไลนัวเนียเจคยกใหญ่ “พอได้แล้ว! ลงไปเลย ไอ้หนู ใช่ ฉัน เอง แต่ลงไปจากตัวฉันได้แล้ว” เขาต้องลงจากบันไดให้ได้ ไม่งั้นไอ้ตูบหน้าโง่ตัวโตใหญ่นี่ตอ ้ ง ทำาให้เขาตกลงไปคอหักแน่ พอลงบันไดได้แล้ว เขาก็เห็นว่าที่นี่มีคนอาศัยอยูอ ่ ย่างแน่นอน เจคเคยลงมาในห้องใต้ดินแห่งนี้ มันเป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีผนัง กรุกระจกเงาอยู่ฝั่งหนึ่ง มีอุปกรณ์ออกกำาลังกายวางอยู่นิดหน่อย แล้วก็มี โซฟาหนังที่บุนวมไว้หนาสุดๆ วางไว้สำาหรับนั่งดูแท็บเล็ตจอใหญ่บน ผนังฝั่งตรงข้าม ไม่มีหน้าต่าง = เป็นสถานที่ที่เหมาะต่อการหลบภัย มีเทียนไขวางเรียงชิดกระจก คราบสีเข้มของเขม่าเทียนจับเป็นริ้ว ยาวอยู่บนกระจกทั้งแถบ อุปกรณ์ออกกำาลังกายถูกดันไปไว้ฝั่งหนึ่ง เจค เห็นกล่องอาหาร อาหารกระป๋อง รวมทั้งจานและถ้วยสองสามใบวางอยู่ บนอุปกรณ์ออกกำาลังกายและตามพื้นใต้อุปกรณ์ แล้วก็มีขยะด้วยนิด หน่อย “ลินด์เซย์” เจคร้องเรียก เลยออกไปทางด้านข้างคือห้องซักรีด ลินด์เซย์เคยยืนกรานที่จะ ซักชุดวอร์มให้เขาในช่วงพักเที่ยงของวันหนึ่ง เธอบอกว่ากลิ่นเขาเหม็น ตุ่ยอย่างกับแพะ ทั้งสองดู๋ดี๋กันบนพื้นปูพรมของห้องซักรีด เขาจับเธอขึ้น ไปนั่งบนเครื่องซักผ้าในช่วงที่มันปั่นแรงๆ ด้วย ตอนนี้เจ้าบาร์คสไลทำาตัวแปลกๆ มันเคลื่อนมาหาเจคซึ่งอยู่ที่ตีน บันได แล้วก็บ่ายหน้าไปยังกองผ้าห่มที่อยู่มุมห้อง โดยอัดอยูต ่ รงที่ว่าง สี่เหลี่ยมระหว่างโซฟากับเก้าอี้นวมสำาหรับคู่รัก


หัวใจเจครัวกระหนำ่า เขากำาลังจะเจอศพคู่แหววตอนพักเที่ยงของ เขาที่มุมห้องหรือเปล่านะ บางทีเจ้าบาร์คสไลอาจแทะกินเธอมาเรื่อยๆ ก็ได้ แบบนี้เขาคง ทำาใจลำาบากน่าดู แล้วเจคก็ได้ยินเสียงเพลง ภายใต้แสงจากดวงไฟแอลอีดีบนหัวของเขา กองผ้าห่ม ขยับเขยื้อน มือข้างหนึ่งโผล่ออกมา แล้วเสียงเพลงก็ดังขึ้น เจคจึงเข้าใจ – หูฟังแบบเสียบถูกดึงออกจากหู เสียงเพลงก็เลยดังแซ่ออกมา “ลินด์ส?” เจคร้องเรียก “นี่ฉันเองนะ เจค” แค่นั้นหัวเธอก็โผล่พรวด เรือนผมสีดำาปรกหน้า “เจคเหรอ?!” “ใช่! ฉันแวะมาดูเธอน่ะ” “เข้ามาได้ยังไง” แล้วก็ตามด้วย “อากาศ!” เธอตะกายออกมาจากรังผ้าห่ม แล้วคลำาหาที่จุดไฟแบบที่ใช้กับ เตาผิง จากนั้นก็ลงมือจุดเทียนไขที่เรียงรายอยู่ แล้วก็มีเสียง ปัง ! เป็นเสียงปังแบบกลวงๆ ดังมาจากทางซ้ายมือของเจค ปัง ! “อ๊า กกกก!” ดังมาจากห้องซักรีด ปัง ! ปัง ! ปัง ! เจ้าบาร์คสไลครางหงิงๆ แล้วมุดไปหลบอยูห ่ ลังเก้าอี้นวม “ช่วยฉันหน่อย!” ลินด์เซย์บอกก่อนจะโยนที่จุดไฟให้เจค เขาทิ้ง เป้ลง แล้วตั้งต้นจุดเทียนไขทุกเล่มที่ยังมีไส้เทียนเหลืออยู่ “พ่อฉันเอง” ลินด์เซย์บอก เธอหยิบอะไรบางอย่างที่หน้าตาเหมือนกิ่งไม้มัดหนึ่งขึ้นมา แล้ว เอาไปต่อไฟกับเทียนไข “ก้านสมุนไพรแห้ง ช่วยทำาให้อากาศบริสุทธิ์” เธอบอกเจค เสียงคำารามฮึดฮัดและเสียงกู่ร้องอย่างเดือดดาลดังมาจากห้อง ซักรีด เธอกำากิ่งไม้ทั้งมัดที่จุดไฟแล้วไปที่ประตู ข้างหลังประตูบานนั้น พ่อเธอกำาลังอาละวาด ปัง ! ปัง ! ปัง ! “ฉันว่าพ่อคงไปแงะท่อนำ้าเก่าๆ มาจากเครื่องกำาเนิดนำ้าร้อนน่ะ (boiler: ผลิตและกระจายนำ้าร้อนสำาหรับระบบทำาความร้อนของบ้านใน ต่างประเทศ – ผูแ ้ ปล) ก็เลยทุบไม่หยุด” เธอบอกเป็นเชิงอธิบาย “แต่ ประตูเราทำาจากโลหะ”


เธอโบกกิ่งสมุนไพรไปแถวๆ ใต้ประตู “ฉันไปสำารวจผนึกตรงประตูก่อนนะ” เจคเสนอตัว เขากลับขึ้น บันไดไป แล้วลูบไปตามเทปกาวที่ยึดแผ่นพลาสติกไว้รอบประตู มันผนึก ไว้แบบงั้นๆ เขากดเทปลงไปแรงๆ “เธอมีเทปกาวอีกหรือเปล่า” เขาถาม “ไม่มีแล้ว” เขากดมันแรงขึ้น “ขอโทษนะ” เขาว่า “ไม่เป็นไร ยังไงๆ ฉันก็ต้องเปิดมันนานๆ ครั้งอยู่แล้ว อากาศมัน ชวนยี้มาก ในเมื่อมีทั้งฉัน ทั้งไอ้ตูบอย่างนี้น่ะ แล้วฉันก็ต้องเอาขยะออก ไปทิ้งด้วย เปิดทีพ่อก็คลั่งที หลังจากนั้นสักพัก พ่อก็จะสงบไปเอง” ขนาดตอนนี้ เสียงสบถก่นด่าที่เจคได้ยินจากห้องซักรีดก็กลายเป็น เสียงครางและเสียงร้องไห้ไปแล้ว “ไม่เป็นไรค่ะ พ่อ” ลินด์เซย์ตะโกนไป “ทุกอย่างจะเรียบร้อยดีนะ คะ” ลินด์เซย์หันมามองเจค แล้วยกนิ้วขึ้นจุปาก ชู่ววว์ เจคพยักหน้าตกลง ถึงจะไม่รู้ก็เถอะว่าทำาไมเขาถึงโดนบอกให้ เงียบ เขาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้บุนวม เจ้าบาร์คสไลกระโจนขึ้นมานั่งตัก เจคแกล้งขยำ้าคอมัน ไอ้ตูบชอบมาก ลินด์เซย์เดินเข้ามา แล้วเอื้อมมือไปข้างหลังเจค ล้วงลงไปในรัง ผ้าห่ม เธอหยิบวิทยุติดลำาโพงหน้าตาโบราณออกมา แบบที่เล่นแผ่นซีดี ได้น่ะ จากนั้นก็ถอดหูฟังออกจากเบ้าเสียบ เสียงของบรูโน มาร์สดังไป ทั่วห้อง “ฉันไม่อยากให้พ่อรู้ว่าเธออยู่ที่นี่” ลินด์เซย์บอกก่อนจะหยิบวิทยุ ไปวางไว้หน้าห้องซักรีด “เธอไม่คิดว่าพ่อจะได้ยินเสียงฉันแล้วหรอกเหรอ” เจคถามเบาๆ “ความที่เป็นกรุ๊ปโอ พ่อเลยไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่อีกไม่นานก็จะ กลับเป็นปกติ ฉันไม่อยากให้พ่อรู้เรื่องเธอ” เธอเงยขึ้นมองเขา วิงวอนเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง “ก็ได้” เจคตอบ “ฉันจะเงียบเสียงเอาไว้ ตกลง” เธอสวมเสื้อวอร์มตัวที่เขาจำาได้ มันถูกตัดจนเผยเนื้อหนังของเธอ เปิดให้เห็นลำาคอ ไหล่ และเนินไขมันเล็กๆ ทีอ ่ ยู่ใกล้ทรวงอก ส่วนที่ยั่ว ตายวนใจของสาวน้อยซึ่งอยู่ระหว่างรักแร้กับนม


ออกอาการแล้ว โอ้ สวรรค์ เธออาจจะเป็นเด็กสาวเพียงคนเดียวใน รัฐโคโลราโดที่ทำาให้เลือดเขาพลุ่งพล่านได้อย่างนี้ “ฉันเอาอะไรมาให้เธอด้วย” เจคบอก แล้วคว้าเป้มาคุ้ย ของงี่เง่าทุกอย่างถูกยัดมาในนี้ เกะกะไปหมด เขาหยิบปืนพกออกมา แล้ววางไว้ทางหนึ่ง เขาได้ยินลินด์เซย์อุทานดังเฮือก “ไม่ต้องไปใส่ใจมัน” เขาบอก “นั่นไม่ใช่ของฝากของเธอ เห็นๆ กันอยู่” มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลหรอก สิ่งที่เขาพูดไปน่ะ แต่เธอทำาให้เขา ประสาทกินและกระอักกระอ่วนอยู่เสมอ อาจเป็นเพราะท่าทางที่ดวงตาสี เข้มคู่โตจับจ้องเขาก็ได้ เหมือนกับที่มันกำาลังจับตามองเขาอยู่ในตอนนี้ “เจอแล้ว!” เขาหยิบมันออกมา เป็นช็อกโกแลตสนิกเกอร์สแบบ แท่ง ขนาดกินได้หลายคน สุดยอดไปเลยใช่มั้ยล่ะที่เขาโยนมันลงมาใน เป้ก่อนออกมาจากห้างน่ะ ความบังเอิญอันแสนหวาน หวานจริงๆ นะเนี่ย “โอ้ พระเจ้า” เธอร้องขึ้น แล้วหัวเราะออกมา เธอหัวเราะ ส่วนเจคก็ หน้าแดง เธอเอาแต่หัวเราะ และก็หัวเราะขนาดหนักจนต้องเดินไปที่วิทยุ เร่งเสียงขึ้นจนสุด เธอปาดนำ้าตา อาการกระตุกระลอกสุดท้ายจากการหัวเราะทำาให้ เธอยังคิกคักอยู่ จากนั้นก็จริงจัง แต่แล้วก็กลับมาคิกคักใหม่ จนต้องลง ไปกองบนโซฟา “พระเจ้าต้องรักเธอแน่ๆ เจค ไซมอนเซน ฝ่าหายนะมาเพื่อแอ้ม สาวเนี่ยนะ” ตอนนี้เธอยิ้มให้เขา เป็นรอยยิ้มเบี้ยวๆ อยู่บนใบหน้า เจคเองก็หัว เราะหึๆ เขารู้ว่าตัวเองยังหน้าแดงอยู่ อาจจะแดงกำ่าไปจนถึงหนังหัวเลย ด้วย “รู้ใช่มั้ยว่าพ่อฉันอยู่หอ ้ งข้างๆ” เธอกล่าว “อือ เอ่อ ตอนนี้ก็รู้แล้ว ฉันไม่ได้...แต่เห็นๆ กันอยู่ว่าตอนเข้ามา ฉัน ไม่รู้ แบบว่า...ฉันไม่รู้ว่าเธอจะยังอยู่หรือตาย หรือเป็นอะไรไปแล้ว” ลินด์เซย์ชันเข่าขึ้นบนโซฟา เสื้อวอร์มไหลลงจากไหล่ข้างหนึ่ง เพราะความเคลื่อนไหวเล็กๆ นั่น ใช่ เธอทำาให้เขาเกิดอาการ คือนะ ใครๆ ก็รู้ว่าเจคอยู่เพื่อเซ็กซ์ มันเป็นสิ่งที่เขาขาดไม่ได้ เขา ทั้งหล่อ ป๊อป และเขาก็ชอบพูดเรื่องนี้ – การที่เซ็กซ์เป็นเรื่องใหญ่ใน ชีวิตของเขา ใครๆ ก็ชอบที่เขาพูดเรื่องนี้ เจครู้ว่าใครๆ ก็ชอบเพราะทุก


คนจะหัวเราะเวลาที่เขาพูดถึงมัน ไม่ใช่การหัวเราะแบบอึดอัดด้วย แต่ เป็นการหัวเราะแบบอุ่นเครื่อง สบายอกสบายใจ เขาอยากให้ตัวเองลุกขึ้นมาอาละวาดแบบกรุ๊ปโอ หรือไม่ก็มีเลือด กรุ๊ปเอทีอ ่ าจมีตุ่มพุพองผุดขึ้นมาถ้าออกไปข้างนอก และถ้าจะให้ดียิ่งไป กว่าก็คือมีเลือดกรุ๊ปเอบี แต่ไม่ สารประกอบอาวุธสงครามเคมีที่กระจายไปบนฟ้าจากการที่ โครงสร้างภายนอกของเทือกเขาโนราด (บางครั้งโนราดก็ถูกเรียกว่า ‘เทือกเขาเชเยนน์’ ตามชื่อศูนย์ปฏิบัติการเก่าของมันซึ่งตั้งอยู่กลางเขา ทั้งนี้โนราดเป็นองค์กรร่วมระหว่างประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา โดยมีกองทัพอากาศของสหรัฐฯ ทำาหน้าที่บริหารจัดการ – ผู้แปล) แตก ร้าวหลังเกิดแผ่นดินไหวได้พรากเอาความหรรษาที่มีค่าที่สุดไปจากเจค และนั่นก็คือความสามารถในการทำาให้ไอ้หนูของเขาออกโรงได้ ตอนนี้ตรงหน้าเขาคือเด็กสาวที่กระพือไฟในตัวเขาให้ลุกโชน และ ความจริงข้อนี้ก็เป็นเหตุผลที่มากพอจะทำาให้เขาเฉลิมฉลองได้เลย เจคโยนช็อกโกแลตแท่งไปให้ลินด์เซย์ เธอรับมันไว้ “กินช็อกโกแลตสิ” เขาบอกเนิบๆ พลางยิ้มแบบเอียงๆ ไปให้ เธอ หัวเราะ เจคลงไปนอนเอกเขนกบนเก้าอี้นวม เจ้าบาร์คสไลเอาเท้าหน้า ทั้งสองข้างมาพาดบนเก้าอี้ แล้วฝังหน้ากับเป้าของเจค “ลงไปเลย บาร์คสไล ลง” เจคสั่ง “พระเจ้า ไอ้ตูบนี่ไม่รู้จักความ หมายของคำาว่า ‘ลง’ จริงๆ นะเนี่ย” “ฉันรู้ก็แล้วกัน” ลินด์เซย์บอก “ฉันดีใจนะที่ได้เจอเธอ เจค ดีใจจน บอกไม่ถูกเลย” ว่าแล้วเธอก็ลุกขึ้น แล้วเดินไปที่มุมห้องซึ่งมีขวดพลาสติกขนาด หลายลิตรแบบที่ใช้บรรจุนมวางอยู่สามใบ แต่ละใบมีนำ้าอยู่เต็ม เธอริน นำ้ามาแก้วหนึ่ง แล้วนำามาให้เขา “เรามีบ่อนำ้าน่ะ” เธอบอก “ฉันไปรองมาจากอ่างล้างมือในห้อง ซักรีดเวลาที่พ่อหลับ อร่อยใช้ได้เลย” ซึ่งมันก็อร่อยใช้ได้จริงๆ มีรสชาติเย็นๆ แบบนำ้าแร่ เจคดื่มอั้กๆ เขารู้สึกเหมือนมีรัศมีสีทองล้อมรอบหัวใจ ดีจังที่มาที่นี่ เขาคิดถูกแล้วที่ทิ้งคนอื่นเอาไว้ พวกนั้นไม่ต้องการเขา แต่เด็กสาว คนนี้ต้องการเขา เสียงสะอื้นดังมาจากอีกฝั่งของประตู ตามด้วยเสียงทุบปังที่แผก ออกไป ลินด์เซย์ลุกขึ้น แล้วเดินตัดไปอีกฟากห้อง เธอหรี่เสียงเพลงลง “พ่อเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เธอพูดใส่กรอบประตู


“พ่อขอโทษ” เขาร้องไห้มาจากข้างใน “ลูกต้องทิ้งพ่อไว้ที่นี่นะ ลินด์เซย์ ลูกต้องไป” ลินด์เซย์เหลือบมองเจคแวบหนึ่ง เพื่ออะไรนะ – เพื่อดูว่าเขารู้สึกยัง ไงกับภาพนี้อย่างงั้นเหรอ พระเจ้า เขาไม่มีความเห็นว่าอะไรผิด อะไรถูก ในเรื่องนี้หรอก “หนูไม่ทิ้งพ่อไปหรอกค่ะ พ่อขา” เธอกล่าว “ลูกต้องไปนะ!” เขาตะโกนมา ลินด์เซย์สะดุ้งโหยง นำ้าตาเอ่อ “ได้โปรด...” เขาวิงวอน “ได้โปรดทิ้งพ่อไปเถอะ” “ชู่ววว์ พ่อนอนได้แล้วนะคะ นอนเถอะค่ะ” “พ่อประมาณว่าหิวน่ะ” “หนูจะส่งอาหารเข้าไปอีกเวลาที่พ่อหลับแล้วนะคะ” เธอบอก พลาง เหลือบมองปฏิกิริยาของเจคอีกรอบ “ว่าแต่ว่าเกิดอะไรขึ้นน่ะ” พ่อเธอถาม “หนูแค่ต้องเอาขยะออกไปทิ้งน่ะค่ะ” เธอโกหก “ขอโทษนะคะที่หนู ไม่ทันเตือนพ่อก่อน” “ลูกต้องเผือ ่ เวลาให้พ่อมัดตัวเองไว้ในตอนที่ยังไม่คุ้มคลั่งด้วยนะ” “ขอโทษค่ะ พ่อขา พลาสติกที่ปิดรอบประตูมันหลุดออกมาน่ะค่ะ” เธอบอก “แต่หนูซ่อมมันแล้วล่ะค่ะ” “คราวหน้าที่ลูกออกไป หาโซ่กับแม่กุญแจมาด้วยนะ พ่อไม่พอใจ กับเชือกที่มัดเลย” ลินด์เซย์หลุบตามองพื้น “ถ้าพ่อหลุดออกไปนะ ลินด์เซย์...” เสียงเขาขาดหายไป กลายเป็น อะไรที่คล้ายเสียงสะอื้น “ไม่เป็นไรค่ะ พ่อขา” เธอบอก “หนูปกป้องตัวเองได้ ต่อให้พ่อหลุด ออกมาก็เถอะ” ตอนนี้เธอสบตาเจคนิ่ง “หนูมีปืนค่ะ” ลินด์เซย์เปลี่ยนแผ่นซีดีในวิทยุเป็นเพลงร็อคแอนด์โรลยุคเก่า เจคบอกไม่ถูกว่าเพลงของใคร “ขอบใจจ้ะ ลูกรัก เพราะจัง” พ่อของลินด์เซย์กล่าว ลินด์เซย์เร่งเสียงให้คอ ่ นข้างดัง แล้วเธอก็กลับมานั่งใกล้เจคบนเก้าอี้นวม “เพลงใครแล้วนะ” เจคกระซิบถามพลางเอนเข้าหาเธอ


“ยูทูว์ วงโปรดของพ่อ” “ว่าแต่ไอ้เครื่องนี่มันใช้พลังงานอะไรน่ะ” เจคถาม “ถ่านไฟฉายไซส์ดีแบบโบราณน่ะ โชคดีนะที่แม่ฉันประมาณว่าตุน ไว้เพียบ เทียนด้วย แม่เขากลัวไฟดับน่ะ” เจคไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี -- ในเมื่อตอนนี้มีเมฆดับฟ้าลอยคลุมอยู่ จึง นับว่าแม่ของลินด์เซย์อับโชคจริงๆ ลินด์เซย์ยักไหล่ “แม่ไม่ได้กลับบ้านเลยหลังเกิดพายุลูกเห็บ ฉันคิด ว่าแม่ต้องตายอยู่ตรงไหนสักแห่งแล้วแน่ๆ” นักร้องนำาของวงยูทูว์กำาลังร้องเพลงเกี่ยวกับวันอันสวยงาม “พ่อฉันฆ่าเพื่อนบ้านไป” ลินด์เซย์บอก ตามองเล็บตัวเอง “ครอบ ครัวครูซ และพ่อก็คงจะฆ่าฉันด้วย แต่ฉันเอาเชือกมารัดคอพ่อจนสลบ ไปเสียก่อน” “พระเจ้า” เจคอุทาน “พ่ออยากให้ฉันไปจากที่นี่ แต่ฉันไม่ไปหรอก ฉันจะเข้าไปในนั้น ตอนที่พ่อหลับหรือไม่ก็มัดอยู่ แล้วทิ้งอาหารไว้ให้พอ ่ แต่บางครั้งพ่อก็ยัง จู่โจมฉัน ทั้งๆ ที่อากาศก็โอเคอยู่ ฉันว่าอะไรบางอย่างในหัวพ่อผิดปกติ ไปแล้ว” บอกตามตรงนะ เจครอให้เธอร้องไห้ออกมา เขาจะได้ปลอบใจเธอ เขารอที่จะล้วงมือไปใต้เสื้อวอร์มตัวนั้นไม่ไหวแล้ว แต่เธอก็ไม่ร้อง “เราสนิทกันมาก พ่อกับฉันน่ะ ฉันเคยโกนหนวดกับพ่อตอนเช้า ด้วย ตอนนั้นฉันอายุสักห้าขวบได้มั้ง ฉันใช้แปรงสีฟันอันเก่า พ่อจะเอา ครีมโกนหนวดมาฟอกหน้าให้ แล้วเราก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยกัน มีผ้า ขนหนูพันสะโพก โกนหนวดกันใหญ่” เพลงนั้นจบลง เพลงใหม่ดังขึ้น ลินด์เซย์เลื่อนตัวลงจากโซฟา แล้วปรูดไปทางเป้ของเขา “ไหนดูสิว่าเธอเอาอะไรมาให้ฉันอีกบ้าง” หลังจากที่เธอเอาอาหารไปให้พ่อแล้ว (“พ่อมัดอยู่หรือเปล่าคะ พ่อขา? โอเค หนูเข้าไปนะคะ”) และหลังจากที่เจคเล่าเรื่องของเขาให้เธอฟัง (“พวกนั้นบอกให้ฉันออกมาดูว่าจะเจออะไรบ้าง และแน่ล่ะ ฉันนึกถึงเธอ ขึ้นมาเลย ฉันนึกถึงเธอตลอดเวลาที่อยู่ในนั้น ฉันเลยมาที่นี่เพื่อดูว่าจะ เจอเธอหรือเปล่า”) และก็หลังจากที่เธอเล่าถึงแผนการของเธอให้เขาฟัง (“เรามีอาหารเพียงพอที่จะอยู่ได้อีกอย่างน้อยสิบวัน ฉันได้ยินมาจาก ที่ไหนสักแห่งว่าสารเคมีจะหายไปเองในสองสัปดาห์ มันเลยน่าจะเป็นวัน


ไหนสักวันในช่วงนี้แหละ”) ในที่สุด...ในที่สุด ลินด์เซย์ก็ลงมติว่าพ่อหลับ แล้ว เธอจึงขึ้นมาบนตักเขา ไม่ได้ผล ขนาดเธอถอดเสื้อออก นั่งคร่อมเขา ขบหูเขาแล้วนะ เธอกัดหูเขา อย่างแรง เธอก็เป็นแบบนี้แหละ แต่เขาก็ยังเข็นไม่ขึ้นอยู่ดี “มีบุหรี่หรือเปล่า” เธอถามหลังจากพลิกตัวออก แล้วแต่งตัว เจคส่ายหน้า เขาคลำาเปะปะไปตามกางเกงของตัวเอง หาแผงยาโอเบซีนที่เขา ซุกเอาไว้ “ไม่นะ” เขาร้องขึ้น “โอ ไม่นะ!” “ชู่ววว์!” ลินด์เซย์เตือน พลางแตะมือข้างหนึ่งลงบนแขนของเขา “พ่อฉันจะรู้ไม่ได้ว่าเธออยู่ที่นี่” เจคปัดมือเธอออก แล้วสะบัดกางเกงแรงๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าทำาแบบนี้มัน โง่ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันหายไปแล้ว เขาคิดทบทวน แล้วก็แทบจะเห็นตัวเองตอนอยู่บนถนน สลัดเสื้อผ้า ชั้นแล้วชั้นเล่าออกด้วยความตื่นเต้นดีใจอย่างงี่เง่า ยาทั้งสามแผงของเขาแหมะอยู่ตรงไหนสักแห่งบนถนน แต่ละแผง มียาโอเบซีนสำาหรับสิบวัน เจคเตะเก้าอี้นวม ลินด์เซย์สะดุ้งโหยง “ฉันต้องไปแล้ว” เขาบอก “อะไรนะ” เธอตาโตอย่างประหลาดใจ “เธอเพิ่งมาถึงเอง!” “ฉันทำาของจำาเป็นหายไป บนถนน” “เจค อย่าไปเลยนะ ขอร้อง” เธอเพิ่งจะมาร้องไห้เอาตอนนี้ เยี่ยม “อย่างน้อยก็ค้างที่นี่สักคืน” เธอบอกพลางชี้ไปที่นาฬิกาบนผนัง “อยู่จนถึงเช้านะ ได้โปรดเถอะ เจค ฉันชอบเธอจริงๆ ชอบมากๆ และฉัน ก็ไม่อยากอยู่คนเดียวอีกแล้ว ได้มั้ย นะๆ” เขาจึงตาสว่างขึ้นมาอย่างกะทันหันว่าตลอดเวลานี้ เธอทำาเป็นเก่ง ไปอย่างนั้นเอง นั่นทำาให้เขาประมาณว่าหัวใจสลาย บางทีเขาอาจจะกลับมา บางทีเขาอาจหายาเจอ ปล้นอาหารมาสักหน่อยในระหว่างทาง แล้วอยู่กับเธอที่นี่ก็ได้


เจ้าบาร์คสไลเงยขึ้นมองจากเตียงหมาของมัน แล้วฟาดหางไปบน พื้นครั้งหนึ่งราวกับจะอ่านความคิดของเจคได้และพลอยเห็นดีเห็นงาม ไปด้วย ก็ได้ เจคเหนื่อยแล้ว เขารู้สึกเหมือนจะหลับไปทั้งชาติก็ยังได้ ตอนเช้ายาของเขาก็ยังจะอยู่ที่เดิม และถ้ามันไม่อยู่แล้ว เขาก็ยังกลับไปที่ห้างได้ ทั้งสองนอนด้วยกันบนโซฟา เธอกอดซบเขา หลังจากนั้นไม่นาน ลมหายใจของเธอก็ลึกและ แผ่วลง เจคนอนอยู่ตรงนั้น กอดสาวฮ็อตไว้ในอ้อมแขน แต่ไม่ได้แอ้มเธอ ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะออกมาในรูปนี้ เธอตื่นก่อนเขาและทำาอาหารเช้าให้เขากิน เป็นปลาทูน่าแกล้มกับแครก เกอร์ “โห” เขาร้องขึ้นพลางมองทูน่าแห้งๆ ไม่วางตา “เธอกินแบบนี้มา ตลอดเหรอเนี่ย” เธอเบือนหน้าไปทางอื่น เจครู้สึกงี่เง่า เห็นได้ชัดว่าเธอทำาได้ดีทส ี่ ุดเท่านี้ ทำาไมเขาถึงไม่เคย คิดก่อนพูดบ้างเลยนะ “ดูดีนี่” เขาบอกกับลินด์เซย์ “ขอบใจนะ” ที่มุมห้อง เจ้าบาร์คสไลกำาลังเลียซองใส่ทูน่าของเขา “นี่” เจคเอ่ยขึ้นเบาๆ “ฉันทำาอะไรบางอย่างตกหายตอนอยู่บนถนน อะไรที่จำาเป็นสำาหรับฉัน ฉันจะออกไปเก็บมันมา” “เธอไม่กลับมาหรอก” เธอกล่าวโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้น เรือนผมทิ้ง ตัวลงบังจนมองไม่เห็นใบหน้า “อย่าเป็นแบบนี้สิ” เจคบอก “ไม่เป็นไร เราอยู่กันได้ เราไม่ต้องการเธอหรอก” เธอหันหลังให้ แต่มันยากจะปิดบังเวลาที่คนเราร้องไห้ในห้องที่มี กระจกกรุผนัง “เธอนี่ใจร้ายจัง เจค” เธอกล่าว เธอไม่เข้าใจ...เรื่องยา ถ้าไม่มีมัน เจคต้องไม่รอดแน่ ง่ายๆ แค่นั้น แหละ ความหดหู่สิ้นหวังจะจมอยู่ในตัวเขาอีกครั้ง แล้วเขาก็จะจบเห่


แต่เขาไม่คาดว่าเธอจะเข้าใจหรอก ก็เธอจะเข้าใจได้ยังไงล่ะ เขา ยังไม่ได้บอกเล่าข้อมูลนี้กับเธอเลย มันไม่อยากบอกน่ะ เขาแค่อยากชิ่งไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย เจคมองไปรอบๆ พลางเก็บข้าวของ เขาจะให้ลินด์เซย์เก็บทุกอย่าง จากเป้ของเขาไว้ไม่ได้ จะเป็นยังไงถ้าพอได้ยาแล้ว เขาเกิดตัดสินใจว่า จะลองไปเดนเวอร์ดูล่ะ เขาทิ้งช็อกโกแลตไว้ให้ หมากฝรั่งอีกนิดหน่อย แล้วก็โปรตีนอัดแท่งอีกสองแท่ง แต่อย่างอื่นที่เหลือ เขาต้องเอาไปด้วย “ฉันไม่อยากได้ช็อกโกแลตของเธอ!” เธอตะเบ็งมา “ไปซะ ไสหัว ไป!” “ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ ลินด์เซย์ เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงพ่อเธอดังมา “ไม่เป็นไรค่ะ พ่อ” เธอร้องบอก “แค่ผมเองครับ เจค ไซมอนเซน ครับผม ผมมาดูลูกสาวคุณ” “ใครนะ” “เจค ไซมอนเซน จากทีมอเมริกันฟุตบอล” กัปตันทีมด้วย เขาไม่จำาเป็นต้องเสริมไป “ฉันจำาเธอได้! ฉันจำาเธอได้!” พ่อของลินด์เซย์ร้องขึ้นอย่าง กระวนกระวาย “เขาจะไปแล้วค่ะ” เธอบอก “เรื่องก็มีอยู่แค่นั้น” เจครอให้พ่อของลินด์เซย์สติแตก เริ่มขู่จะฆ่าเขา ทุบประตูโครมๆ ด้วยท่อนำ้า แต่ก็ไม่ เสียงของคุณมอร์โรว์กลับจริงจังและแผ่วเบา “เธอต้องพาลินด์เซย์ ไปด้วยนะ” เจคบอกได้ว่าฝ่ายนั้นกำาลังแนบหน้ากับประตู “แกไม่ยอมไปจากฉัน แต่ฉันต้องการให้แกทิ้งฉันไว้ที่นี่” พ่อเธอ บอก “ผมยังไม่รู้ด้วยซำ้าว่ากำาลังจะไปไหน” เจคตอบ “มันไม่สำาคัญหรอก ไอ้ลูกชาย ได้โปรดเถอะ ขอร้องล่ะ เธอต้องพา แกไปจากฉัน” “หนูไม่มีทางทิ้งพ่อหรอก!” ลินด์เซย์ประท้วง “เลิกพยายามทำาให้ หนูทิ้งพ่อไปได้แล้ว! อากาศจะปลอดภัยในวันใดวันหนึ่งนี่อยู่แล้ว อีก อย่าง ใครจะดูแลพ่อ” เจคเก็บของใส่กระเป๋าเสร็จแล้ว สิ่งเดียวที่เขาหาไม่เจอก็คือไฟสวม หัว


“ได้โ ปรดเถอะ ไอ้ล ูก ชาย พาแกไปจากที่น ี่ท ี ” พ่อของลินด์ เซย์ตะโกน “ฉันขอร้อง” เจควางมือลงบนราวบันได เขาไม่ชอบที่จะรู้จักกับพ่อของสาวๆ ที่เขากิ๊กด้วยเลยสิน่า มันพิลึก เกินไปน่ะ แต่เขาจำาได้ว่าพ่อของลินด์เซย์หน้าตายังไง เป็นคนร่างสูง ผอมบาง เหมือนลูกสาวของเขา ท่าทางที่ยืนก็ทำาให้รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชาย ที่ดีทีเดียว ทำางานประกัน หรือจำานอง หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ เขาเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมฟุตบอลรุ่นเด็ก เจคเคยเห็นเขาอยู่ข้าง นอกกับเด็กๆ ในทีมอยู่ครั้งหนึ่ง จำาได้ว่าเขาโบกมือให้ลินด์เซย์ตอนเธอคุยกับเจคระหว่างที่เขา วอร์มร่างกาย ส่วนพวกตัวแสบกำาลังเอาหัวที่สวมหมวกกันกระแทกโขก กันโครมๆ อยู่ในสนาม “นี่” เจคเอ่ยขึ้นพลางหันไปหาลินด์เซย์ “อยากให้ฉันพาเธอกลับ ไปที่ห้างด้วยหรือเปล่า ฉันพาเธอไปได้นะ เธอจะปลอดภัย แอสทริดก็อยู่ ที่นั่น อาจจะกระอักกระอ่วนหน่อย แต่...” เขายักไหล่ เขาเต็มใจพบกับความโกรธแค้นเพื่อช่วยชีวิตเด็กสาวคนหนึ่ง แน่ ล่ะ เขาเต็มใจอยู่แล้ว “เธอคิดว่าฉันควรจะทิ้งพ่อไปอย่างงั้นเหรอ” เสียงเธอทั้งสั่น ทั้ง กลัว ดวงตาสีนำ้าตาลวาวใหญ่อยู่ในห้องใต้ดินอันมืดสลัว เจคยักไหล่อีกรอบ “ฉันบอกเธอไม่ได้หรอกนะว่าควรจะทำาอะไร” เขากล่าว “ฉันแค่ บอกว่าฉันอาจจะพาเธอไปที่ไหนสักแห่งที่ปลอดภัยได้” แล้วเสียงปัง ก็ดังขึ้นเมื่อพ่อของเธอทุบประตู “ลูกต้องไปนะ ลูกรัก!” นำ้าเสียงของพ่อเธอสูงขึ้น เริ่มจะโมโห “แกต้องไป! ฉันเป็นพ่อแกนะ ฉัน ขอสั่งให้แกไป!” ลินด์เซย์เดินตัดไปที่ประตูโลหะ แล้ววางมือข้างหนึ่งลงกลางประตู “แต่พ่อคะ หนูทิ้งพ่อไปในสภาพที่โดนขังอยู่ไม่ได้ แต่ถ้าหนูปล่อย พ่อออกมา พ่อต้องคลั่งแน่ๆ เมื่อเราไปกันแล้ว” “แกก็ทิ้งพ่อไว้แบบขังๆ นี่แหละ จบแค่นั้น” “ไม่นะ!!!” ลินด์เซย์ครวญคราง “พ่อขา พ่อกำาลังขอให้หนู...กำาลัง ขอให้หนูทิ้งให้พ่อตาย!” ลินด์เซย์รูดตัวลงกับประตู แล้วนั่งพิงมันอยู่บนพื้น “หนูขอโทษค่ะ พ่อขา” เธอกล่าว “แต่หนูทิ้งพ่อไปไม่ได้ หนูทำาไม่ ได้จริงๆ”


มีเสียงสะอึกสะอื้นดังมาจากอีกฟากของประตู “เราจะไม่เป็นอะไรค่ะ” เธอกล่าว “เราแค่ตอ ้ งอดทนไปอีกสักสอง สามวัน” “ก็ได้” เขาสูดจมูก “ก็ได้ ลินด์เซย์ ลูกกับพ่อ เราจะอดทนด้วยกัน” ทั้งหมดนี่ทำาให้เจครู้สึกอึดอัด มันมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความรัก แบบนี้ ไม่ใช่แบบที่น่าสะอิดสะเอียน แต่อาจเป็นอะไรที่ลำ้าลึกกว่าที่เขา รู้จัก แล้วเจคก็ตัดสินใจ ณ ตอนนั้น ว่าเขาจะเดินเท้าไปที่บ้านของตัว เอง หลังจากเจอยาแล้ว แค่เพื่อดูให้แน่ใจ เผื่อว่าพ่อจะเก็บตัวอยู่ในนั้น รอเขาอยู่ “ฉันควรจะไปแล้ว ตกลงว่า...เธอแน่ใจนะว่าอยากจะอยู่ที่นี่” เจค ถาม เขาไม่ได้รับคำาตอบ เจคงัดเป้ขึ้นสะพายไปบนไหล่ทั้งสองข้าง “งั้นก็โอเค” เขากล่าว “อยากเตรียมตัวก่อนมั้ย ฉันต้องเปิดประตู ออกไป” “เดี๋ยว!” ลินด์เซย์ร้องขึ้น “ฉันต้องการอะไรบางอย่างจากเธอ เจค” เธอเงยขึ้นมองเขา “เธอต้องทิ้งปืนไว้ที่นี่”


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.