โลกหมุนรอบตัวงู น้าเน็ก
หนังสือในชุด Life & Inspiration ลำ�ดับที่ 011 เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ 978-616-327-026-9 พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2556 ราคา 175 บาท
ข้อมูลบรรณานุกรมของสำ�นักหอสมุดแห่งชาติ น้าเน็ก. โลกหมุนรอบตัวงู.-- กรุงเทพฯ : อะบุ๊ก, 2556. 160 หน้า. 1. ความเรียง. I. ชื่อเรื่อง. 895.914 ISBN 978-616-327-026-9
ในกรณีที่หนังสือมีตำ�หนิจากการพิมพ์หรือเข้าเล่มสลับหน้า กรุณาส่งหนังสือเล่มนั้นกลับมาตามที่อยู่สำ�นักพิมพ์ ทางเรายินดีเปลี่ยนให้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น สั่งซื้อหนังสือราคาพิเศษ 0-2726-9996 ต่อ 49 E-mail member@daypoets.com
บรรณาธิการที่ปรึกษา วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ บรรณาธิการบริหาร ภูมิชาย บุญสินสุข ผู้ช่วยบรรณาธิการ สุรเกตุ เรืองแสงระวี อาร์ตไดเร็กเตอร์ บพิตร วิเศษน้อย กราฟิกดีไซเนอร์ เพกา เจริญภักดิ์ กราฟิกดีไซเนอร์ เมธาสิทธิ์ กิตติกุลยุทธ์ ภาพประกอบ/ภาพปก ภัทรดล กิจเจริญ เลขานุการ/เรียงพิมพ์ พิมพ์นารา มีฤทธิ์ พิสูจน์อักษร เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์ การตลาด วิไลลักษณ์ โพธิ์ตระกูล ประสานงานการผลิต อธิษฐาน กาญจนะพงศ์ ดิจิทัลคอนเท็นต์มาสเตอร์ วิศรุต วิสิทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป จัณฑรัศมิ์ เกียรติยศ ผู้ช่วยผู้จัดการ ณัฐธยาน์ อึ้งตระกูลนิธิศ ธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ลูกค้าสัมพันธ์ นริศรา เปยะกัง เว็บมาสเตอร์ จุฬชาติ รักษ์ใหญ่
สำ�นักพิมพ์ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำ�กัด เลขที่ 3 ซอยเจริญมิตร ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2726-9996 ต่อ 22 โทรสาร 0-2714-4252 E-mail abook9@gmail.com Official Page facebook.com/abookpublishing แยกสีและพิมพ์ บริษัท ศิริวัฒนาอินเตอร์พรินท์ จำ�กัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2675-5600 จัดจำ�หน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) อาคารทีซีไอเอฟ ทาวเวอร์ ชั้นที่ 19 เลขที่ 1858/87-90 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2739-8000 โทรสาร 0-2739-8609
คำ�นำ�สำ�นักพิมพ์
น่ า จะมี น้ อ ยคนนั ก ที่ นึ ก ถึ ง น้ า เน็ ก ในฐานะของนั ก เขี ย น เพราะปกติเราจะเห็นเขาบนจอโทรทัศน์เสียมากกว่า น่าทึ่งที่น้ายังหาเวลาให้การเขียนได้อยู่สม่ำ�เสมอ หรือพูด เจาะจงลงไปกว่านั้น ทุกสัปดาห์ การมีเวลา หรือการให้เวลากับอะไรสักอย่าง (หรือใครสักคน) เป็ น สิ่ ง สำ � คั ญ เพราะนั่ น เป็ น การยื น ยั น ถึ ง ความรั ก ต่ อ สิ่ ง นั้ น ได้เป็นอย่างดี และสิ่งที่จะตามมาคือ สิ่งสิ่งนั้นมันจะออกมาดีได้ ในที่สุด มาถึงตรงนี้เราก็เลยไม่แปลกใจอีกต่อไปแล้วว่าทำ�ไมน้า จึงพูดเต็มปากว่าเขารักการเขียน และทำ�ไมเขาจึงทำ�มันได้ดี เรายินดีครับ ที่ยังได้เป็นผู้ตีพิมพ์ความรักของน้าออกมา เป็นเล่ม
สำ�นักพิมพ์อะบุ๊ก
คำ�นำ�เนิฟ
“วงการหนังสือ มันมีตำ�แหน่งครีเอทีฟด้วยเหรอวะ?”
เป็นสิ่งเดียวที่คิดออก เมื่อวันหนึ่งพี่ชายบังเกิดเกล้าของฉัน เดิ น หอบปึ ก ต้ น ฉบั บ มา บอกว่ า นี่ คื อ หนั ง สื อ เล่ ม ใหม่ ที่ กำ � ลั ง จะ ถือกำ�เนิด! และแกต้องมีส่วนร่วมในฐานะ ‘ครีเอทีฟ’ …ฉันได้แต่คิดว่า ตำ�แหน่งครีเอทีฟหนังสือ จริงๆ มันมีเหรอ จนกระทั่ง คุณเกตุเสพย์สวัสดิ์ได้บัญญัติไว้ว่า มี! และอย่าเถียง! สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวบุญมนัสสวัสดีค่ะ แต่ชื่อจริงเรียกยาก ซ้ำ�ซ้อนกับการแนะนำ�ตัว ซ้ำ�ยังไม่ค่อยเข้ าปาก พ่อแม่เลยเรียกว่ า เนิฟค่ะ อยู่มาซักพัก ชื่อเนิฟก็ยังไม่เข้าปาก เพื่อนฝูงเรียกผิดเป็น เลิฟบ้าง เอิ๊บบ้าง ล่าสุดโดนเรียกว่าสเมิร์ฟค่ะ เป็นน้องสาวคนเล็ก ของน้าเน็กชนิดคลานตามกันมาเกิด… แง่กายภาพ คนรู้จักบอกว่า เหมือนน้าเน็กทุกอย่าง ผิดแค่เป็นผู้หญิง ใส่กระโปรง และไม่มีหนวด ค่ะ เรียนจบแล้ว อายุ… อายุยี่สิบกว่าๆ… หน้าที่การงานปัจจุบันคือ ฝังตัวอยู่ในบริษัทน้าเน็กและรับจ้างเลี้ยงแม่ ล่าสุดคือ น้าเน็กบอกว่า เป็นครีเอทีฟหนังสือนี่ล่ะค่ะ กาลครั้ ง หนึ่ ง น้ า เน็ ก เคยพึ ม พำ � ว่ า อยากฟื้ น องค์ นั ก เขี ย น หลังจากทิ้งขว้างห่างหายจนวิชาขึ้นสนิมมานานหลายปี โอกาสเหมาะ กับทาง ไทยรัฐออนไลน์ ทาบทามเข้ามา น้าเน็กเลยมีแหล่งปล่อยของ คราวนี้จะต้องเป็นงานที่ฉีก แหวก แหกกว่าทุกเล่มในอดีต เพราะ ท่านจะมาแนวใหม่… คือไม่มีแนว!
“โจทย์ ห ลั ก ของพี่ ใ นเล่ ม นี้ คื อ ทุ ก เรื่ อ ง! แต่ ต้ องคัด บางเรื่อ ง ที่น่าสนใจ ไม่เกาะกระแส ส่วนอะไรที่เป็นกระแสก็ไม่มองข้าม กึ่งๆ วาไรตี้ ขณะเดียวกันก็ต้องมีสาระ เรียกว่าปกิณกะก็ได้ ไม่เน้นตลก แต่แฝงอารมณ์ขันให้คนอ่านต้องรู้สึกดี อะไรประมาณนั้นน่ะ เก็ตมั้ย แรงบันดาลใจมาจากทุกสิ่ง 360 องศารอบตัว พี่ว่ามันน่าจะง่ายนะ” ง่ายมากเลยนะนั่น…. เริ่มไม่ค่อยเข้าใจเจ้านายตัวเองแล้วล่ะ บอกตรงๆ ฟังเหมือนพืน้ ๆ เรียบๆ แต่ใครจะรู้ มันยากพอๆ กับการลุกขึน้ มาพูดว่า “พี่จะเขียนเรื่องโลก” เลยทีเดียวเชียว ตรรกะ ‘อะไรก็ได้’ มักสร้างปัญหาเจ็บตับเสมอ แต่เมื่อเจ้านายที่เคารพไฟมาปัญญาเกิด ปักหมุดว่าหัวเด็ด ตีนขาดยังไงก็จะเขียนให้ได้ พนักงานที่ดีต้องไม่พึงขัดศรัทธา กระทั่ง ไม่กี่วันให้หลัง น้าเน็กเดินเข้ามาหาอีกรอบเพื่อทิ้งระเบิดลูกสำ�คัญ “พี่อยากได้งานที่ผ่านออกมาจากสายตาคนรุ่นใหม่ว่ะ” ผลจากการหกคะเมนตีความสามตลบของน้อง คือฉันต้องเป็น คนไปสืบ พลิกแพลงตะแคงหัวคิด เพื่อเอาไปผ่านกระบวนการที่… วิชาการเรียกสังเคราะห์ ส่วนภาษามนุษย์เรียกว่า ย่อย สู่ขั้นสุดท้าย ที่น้าเน็กจะคาบไปลงกระดาษและออกสื่ออย่างเป็นทางการ! สั ป ดาห์ แ ล้ ว สั ป ดาห์ เ ล่ า จากไอเดี ย กลายเป็ น ภาคปฏิ บั ติ จากโปรเจ็กต์กลายเป็นกิจวัตร ธรรมชาติของครอบครัวนีก้ ข็ ตี้ ิ ขีป้ ระชด กันจะแย่ ปกติแค่แซะเอาฮา ไปๆ มาๆ กลายเป็นจับมาเขียนหากิน ซะเลย และนั่นคือจุดเริ่มต้นการเป็นครีเอทีฟในหนังสือเล่มนี้ …ขอให้ สนุกกับการอ่านค่ะ เนิฟ-บุญมนัสสวัสดี ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา
คำ�นำ�น้า “แม่ฮะ... ไทยรัฐออนไลน์ ติดต่อมาให้เขียนคอลัมน์ ผมอยาก ให้แม่เป็นคนตั้งชื่อคอลัมน์ฮะ” ผมต่อสายหาแม่จากจุดเหนือสุดยอดในสยาม ไปยังปลายทาง ที่อยู่สุดเขตภาคตะวันออก โดยมีพระจันทร์วันลอยกระทงดวงโต ที่เหมือนจะแอบฟังสองแม่ลูกคุยกันลอยอยู่กลางฟ้าเป็นฉากหลัง “ถ้าคิดออกแล้วแม่จะโทรบอกนะ ว่าแต่ต้องใช้เมื่อไหร่ล่ะ” “คืนนี้เลยฮะ” นอกจากงานทางโทรทัศน์ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี งานเขียน ก็เป็นอีกอาชีพที่ผมรักและใช้มันเลี้ยงตัวมาแต่ไหนแต่ไร หากนับ ถอยหลังไปร่วม 20 ปี คุณจะเห็นภาพผมในฐานะนักข่าวบันเทิง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นในการจับปากกาหากิน ก่อนจะผันตัวมาอยู่ ที่แกรมมี่ ซึ่งก็ไม่พ้นที่จะต้องขีดๆ เขียนๆ อยู่ดี จนเมื่อมาทำ�งานเบื้องหน้า ก็ใช่ว่าจะหันหลังให้กับการเขียน ซะทีเดียว ผมได้มโี อกาสเขียนคอลัมน์ในเชิงจิกกัดวงการมายาให้กบั แฮมเบอร์เกอร์ นิตยสารบันเทิงในเครืออะเดย์ จนทำ�ให้ผมได้มี พ็อกเก็ตบุ๊กเล่มแรกในชีวิต โดยใช้ชื่อเดียวกับคอลัมน์ว่า Naked ซึ่งเป็นการรวมเล่มจากที่เคยลงไปแล้ว ทั้งหมดมีด้วยกัน 3 เล่ม
นอกจากนัน้ ยังมี เน็กแนว พ็อกเก็ตบุก๊ ทีถ่ อื เป็นการเก็บกวาด บรรดาข้อเขียนในลักษณะ ‘ไข่แล้วทิ้ง’ ที่เคยเขียนไว้ตามนิตยสาร ต่างๆ และพ็อกเก็ตบุก๊ บันทึกการแสดงสด The Naked Show 1-2-3 การรวบรวมเรือ่ งราวในเดีย่ วไมโครโฟนทัง้ 3 ครัง้ ทีผ่ า่ นมาในรูปแบบ หนังสือ สรุปโดยรวมสั้นๆ คือ ที่ผ่านมาผมเคยมีพ็อกเก็ตบุ๊กมาแล้ว 7 เล่มนะครับ เผื่อใครที่เพิ่งเกิดเมื่อวันก่อนหรือเป็นหนึ่งในคนไทย ที่มีสถิติอ่านหนังสือปีละแค่ 7 บรรทัดตามที่เคยมีคนเค้าวิจัยไว้ อาจจะยังไม่ทราบว่าไอ้หนวดนีม่ นั ก็เคยมีหนังสือเป็นของตัวเองด้วย และครั้งนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นการกลับมาทำ�งานเขียนอีกครั้ง ในรอบ 5 ปีของผม ขอบคุณ ไทยรัฐออนไลน์ ที่หยิบยื่นโอกาสให้ นะครับ ผมหวังว่านี่จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะได้สื่อสารเรื่องราว ต่างๆ รอบตัวของผม ไม่ว่าจะเกิดจากการประสบพบเจอ หรือรู้สึก นึกคิด ตามประสาของมนุษย์จำ�พวก ‘ขี้รู้สึก’ อย่างที่ผมเป็น อีกเหตุผลหนึ่งที่ผมรักงานเขียน อาจเป็นเพราะผมรู้สึกเป็น หนี้บุญคุณการ ‘รักการอ่าน’ นิสัยที่ถูกปลูกฝังมาจากทั้งพ่อและแม่ ซึ่งผมถือว่านี่คือมรดกอันมีค่าที่สุด เพราะการอ่านนำ�สิ่งดีมาสู่ผม มากมาย
คอลัมน์นี้เป็นพื้นที่ใหม่ที่จะเป็นการบอกเล่าถึงทุกเรื่องราว แบบไม่จำ�กัดหัวข้อ ด้วยความยาวกำ�ลังสบายตัว จากที่ต้องอุดอู้ อยู่แค่ 140 ตัวอักษร ตามกฎของทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นช่องทางประจำ� ของผมในการบ่นเป็นตัวหนังสือ และจึงเป็นการดี ที่จะให้ผู้ที่ปลูกฝังให้ผมรักการอ่านได้เป็น คนตั้งชื่อคอลัมน์ใหม่ของผม และแน่นอน... ผมถือว่าเธอเป็นแฟน คอลัมน์คนแรกโดยอัตโนมัติ “ฮัลโหล เน็กเหรอ...แม่วา่ แม่ได้ชอื่ คอลัมน์ใหม่ให้เน็กแล้วล่ะ เอาเป็น โลกหมุนรอบตัวงู แล้วกัน” “ทำ�ไมถึงเป็นชื่อนี้ฮะ” “แม่ชอบ มันดูเป็นเน็กดี และแม่ว่าคนอ่านก็น่าจะชอบ” หวังว่าทุกคนคงจะชอบนะครับ สวัสดีครับ
สารบัญ 015 เมื่อเรามองดู
023 กลยุทธ์สิ้นคิด
035 ของขวัญ
043 ท่านเศรษฐี
063 คุณนาย
073 คุณนาย
ชาวบ้าน ทะเลาะกัน
ดวงเดือน (1)
029 กินบุฟเฟ่ต์
ในการ เลี้ยงเด็ก
ยังไง ให้ร้านล่มจม!
(1)
(2)
ดวงเดือน (2)
053 ท่านเศรษฐี
081 คำ�อธิษฐาน
ของเด็กเกรียน ที่ชื่อว่าเน็ก
089 ชีวิต
097 บ้านใคร
103 มหาศรัทธา
111 ปัญหาเล็ก
119 มารยาทน่ะ
125 มารยาทน่ะ
ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
131 วิทยาศาสตร์
สาขา ปัญหาสัตว์โลก
บ้านมัน
ว่าด้วยการ ใส่บาตร
มีบ้างไหม ตอน ‘ท้องถนน’
มีบ้างไหม ตอน ‘ซูเปอร์มาร์เก็ต’
ด้านแฟนคลับ
แล้วได้อะไร
139 วิชาการ
155 ดีอย่างไร
147 เป็นคนดี
05
ท่านเศรษฐี (1)
จู่ๆ ผมก็คิดถึงพ่อ คิดถึงอย่างเฉียบพลันชนิดที่ว่ารอให้ถึง วันพ่อไม่ได้จริงๆ บ้ า นเราเรี ย กพ่ อ ว่ า ป๋ า ... และนั่ น ยั ง ไม่ นั บ รวมฉายาอี ก มากมายทีเ่ ราใช้เรียกพ่อของพวกเรา และฉายาสุดท้ายก่อนทีท่ า่ นจะ โกอินเตอร์แบบถาวรนั่นก็คือ ‘ท่านเศรษฐี’ หากพู ด ถึ ง ฉายา ‘ท่ า นเศรษฐี ’ เมื่ อ ดู จ ากรั ศ มี คาริ ส ม่ า ส่วนตัว รวมถึงกายภาพทุกประการตั้งแต่เสื้อผ้า หน้า ผม การพูดจา ใครเห็นก็ลงมติว่าไม่มีคำ�ไหนเหมาะไปกว่านี้ ธรรมชาติท่านเศรษฐีเป็นคนไม่ขำ� แม่บอกว่าจริงๆ ก็ขำ� แต่แค่อยู่ในขั้นมุขลึก คือมันจะลึกเกินไปแล้ว เพราะจำ�ได้ว่าไม่เคย เห็นป๋าเล่นมุข เรื่องที่ชาวบ้านตลก คนนี้ก็ไม่ตลก ซีเรียส จริงจัง สาระหนั ก ยามพู ด เรื่ อ งเป็ น การเป็ น งาน ใครอย่ า เสื อ กมาตลก
43
44
ลู ก เมี ย อย่ า พยายามฮา จะโดนด่ า ให้ จ๋ อ ย ตั ว เองไม่ ต ลกไม่ ว่ า แต่พอเห็นใครตลก ป๋าก็ด่า แบบว่าตอนกำ�ลังขำ�ขี้แตกขี้แตนกัน ถ้าป๋าเดินผ่านมา โลกจะตกสู่ยุคน้ำ�แข็งทันที ท่านเศรษฐีเสียงดัง โหด ดุ เคร่ง ตรงต่อเวลา ระเบียบจัด ทั้ ง ตารางชี วิ ต และงานบ้ า นงานเรื อ น ชนิ ด ยากที่ เ ด็ ก ใดในโลก จะสามารถโตมาท่ามกลางกฎระเบียบแบบครอบครัวเราได้ พูดง่ายๆ ถ้ า ให้ ลู ก คนอื่ น มาอยู่ บ้ า นนี้ มั น คงเป็ น บ้ า เข้ า ซั ก วั น ทว่ า นี่ คื อ ครอบครัวที่สุดจะยูนีคของเรา แต่ เ ห็ น เคร่ ง ๆ แบบนี้ ก็ แ อบมี ค วามตลกพิ ลึ ก ซ่ อ นอยู่ ท่านเศรษฐีมักทำ�เรื่องไม่คาดฝันให้ลูกเมียหรือคนข้างบ้านได้เงิบ อยู่เสมอ วันดีคืนดีก็ใส่โจงกระเบนผ้าไหมสีเขียวปีกแมลงทับมายืน สู บ ไปป์ ต รงหน้ า บ้ า นตอนสี่ ทุ่ ม เหตุ ผ ลเพราะท่ า นเกิ ด อยากดู ช่อมะม่วงก็เท่ านั้น เพื่อนบ้ านขวัญหนีดีฝ่อ นึกว่ าเจ้าที่เจ้าทาง พานไม่กล้าเปิดม่านหน้าต่างมองมาแถวบ้านอีกต่อไป ท่ า นเศรษฐี เ ป็ น คนฉลาด หลักแหลม ชอบศึกษาค้ น คว้ า ดาต้าเบสแน่นเหมือนเป็นกูเกิล้ ผสมสมุดหน้าเหลืองเดินได้ ถามอะไร รู้หมด สิ่งที่ไม่รู้มีเรื่องเดียวคือเรื่องที่ไม่อยากรู้ เช่น วิธีใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวอย่าง ปุ่มเขียวรับสาย ปุ่มแดงวางสาย ป๋าไม่เคยจำ�ได้ ขั้นตอนการโทรศัพท์ในอุดมคติของป๋ามีเพียงโทรศัพท์บ้านเท่านั้น คือยกหูก่อนกดเบอร์ พูดจบแล้ววางหู กระนัน้ ก็ใช่วา่ ท่านเศรษฐีจะไม่สนใจความเจริญทางเทคโนโลยี ระบบสามจีนี่ท่านพูดมาตั้งแต่สมัยบ้านเราเพิ่งหัดใช้พีซี ใครฟังก็ หาว่าล้ำ� จะเป็นไปได้ยังไง เพราะ ณ ตอนนั้น แค่โทรศัพท์ทางไกล ได้ ก็ เ ก่ ง แล้ ว ปั จ จุ บั น ถ้ า คอไอที อ ย่ า งป๋ า รู้ เข้ า คงดี ใจ ว่ า โลกนี้ มี
กระดานชนวนทั ช สกรี น บ้ า นเราเริ่ ม กระเตาะกระแตะใช้ ส ามจี ส่วนลาวก็มีสี่จีใช้แล้วครับ ความปราดเปรื่องของท่านเศรษฐียังแสดงออกผ่านวิธีตอบ คำ�ถามอีกด้วย ถามไปสิบบาท ป๋าจะตอบมาร้อย ตอนเด็กเคยถาม เรื่ อ งกรุ ง ธนบุ รี ท่ านเศรษฐีก็อ ธิบ ายไล่ตั้ง แต่ยุค ละโว้ ถามเรื่ อง พระอาทิ ต ย์ ต ก ป๋ า ก็ ฉ ายเรื่ อ งการหั ก เหทางฟิ สิ ก ส์ เ ป็ น ปฐมบท ลูกต้องตั้งใจฟังนะ ไม่งั้นเดี๋ยวลืมประเด็น คนไม่คุ้นเคยจะงง ทำ�ไม ชอบตอบปัญหาเก่าด้วยการมอบปัญหาใหม่ให้ไปคิดแทน ออกแนว ของเก่าก็ไม่เข้าใจ ไอ้อันใหม่ก็ไม่รู้เรื่อง ดูไม่ค่อยช่วยอะไร ที่จริงคือ ป๋ามีจิตวิญญาณของครู และรักลูก สิ่งไหนมีสาระ ถึงไม่เกี่ยวกับ ที่ถามก็สอนแถม ไม่เคยหงุดหงิดหรือรำ�คาญ ไม่เคยด่าว่าโง่ ป๋าทำ�งานหนัก เวลามีน้อย เรื่องสอนการบ้านนั่นเรียกวาระ พิเศษ แต่ต่อให้ต้องสอนข้อเดิมซ้ำ�กี่สิบรอบก็ไม่มีปัญหา ตราบ เท่าที่ลูกยังสงสัย ท่านเศรษฐีคอื ครูทดี่ สี ดุ ในโลกสำ�หรับลูกบ้านนี้ (เน้นว่าเฉพาะ บ้านนี้) เป็นต้นแบบ วีรบุรุษ เป็นฮีโร่ เป็นไอดอลที่อยากชูป้ายไฟใส่ แม้จะเป็นป๋าที่ตีลูกชายได้สะบั้นหั่นแหลกทุกครั้งที่เผลอก่อวีรกรรม แค่ไหนก็ตาม ทุกคำ�พูด ทุกประโยคที่ออกจากปาก เราพร้อมเชื่อ อย่างไม่ลังเล การกระทำ� แนวคิด วิสัยทัศน์ระยะยาว มุมมองสารพัดด้าน ของท่ า นเป็ น ความจริ ง เสมอ คำ � สอนของป๋ า ไม่ เ หนื อ ธรรมชาติ เป็นสิ่งใกล้ตัวในชีวิตจริง แต่ต้องตีความนะ คนสมัยเก่าพูดอะไร มั ก แฝงนั ย ยะให้ เ ก็ บ ไปกะเทาะเอาเอง ประโยชน์ จ ะมากน้ อ ย เพียงใดก็สุดแต่สติปัญญาคนฟัง มาดูกันว่าท่านเศรษฐีเคยสอนอะไรบ้าง
45
46
» โง่ได้ แต่อย่าโง่ซ้ำ�ซาก โง่ไม่เป็นเป็นใหญ่ยาก โง่มากๆ ก็ยากจะเป็นใหญ่ อะไร ทำ�นองนั้น ความหมายเดียวกัน ท่านเศรษฐีถอื ว่ามนุษย์ไม่ใช่เทวดา เกิดมาใครวะจะไม่เคยโง่ แต่โง่แล้วอย่าโง่เรื่องเดิม มันแสดงถึงความไม่เอาไหน โลกแห่งความจริงไม่เคยเว้นทีว่ า่ งไว้เผือ่ คนทำ�พลาด น้อยมาก ที่ จ ะมี โ อกาสแก้ ตั ว สำ � หรั บ คนผิ ด ถ้ า พู ด แบบไม่ เ สแสร้ ง ลึ ก ๆ แล้วไม่มีใครอยากเห็นคนอื่นดีไปกว่าตัวเอง ท่านเศรษฐีบอกว่า มนุษย์รอบข้างผู้รู้หน้าไม่รู้ใจทั้งหลาย จะพร้อมใจเหยียบซ้ำ�ทุกเมื่อ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม หากวันใดเราล้ม แต่มันเป็นไปไม่ได้ไงที่ชีวิตนี้ จะไม่เคยเสียค่าโง่ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของคำ�ว่า โง่ได้ผิดได้ แต่อย่าซ้ำ� รอยตรงปัญหาเดิม พูดถึงความผิด ท่านเศรษฐีก็พูดบ่อยๆ อีกเหมือนกันว่ า สิ่งไหนป๋าไม่ห้าม ไม่ถือเป็นความผิด หมายความว่าจริงๆ ป๋าหาได้ คาดหวังความเป๊ะจากลูกถึงขั้นห้ามกระดิกตัวทำ�ผิดเด็ดขาด เพราะ ป๋าเข้าใจว่าเด็กก็เปรตกันทุกคน แต่อันไหนห้ามแล้วยังเสือกทำ� เคสนั้นถือว่าชั่ว! เช้ า วั น หนึ่ ง ในวั ย ประถมฯ ผมไปโรงเรี ย นพร้ อ มนาฬิ ก า เรือนใหม่ที่ป๋าเพิ่งซื้อให้หมาดๆ สายหนังสีดำ�มันวับ หน้าปัดแก้ว เข็มสีทองดูมีฐานะมากเมื่อเทียบกับนาฬิกาพลาสติกหลากสีลาย นินจาเต่าของเพื่อนวัยเดียวกัน ผมแทบไม่กล้าขยับแขน เพราะกลัว เหวี่ ย งไปกระแทกอะไรเข้ า นั่ ง ชื่ น ชมมั น ทั้ ง วั น ด้ ว ยความภู มิ ใจ ที่ป๋ากล้าซื้อของมีค่าให้ ใครขอดูก็เสียงแข็งใส่แบบไม่ค่อยจะเห่อ ว่า
ดู แ ต่ ต า มื อ อย่ า ต้ อ ง ของจะเสี ย เพื่ อ นฝู ง เลยผลั ด กั น มุ ง ด้ ว ย ความอิจฉาแกมหมั่นไส้ไม่ได้ขาด กระทั่งตอนพักกลางวัน หลังมือ้ เทีย่ งผมยังคงนัง่ มอง ใครชวนเตะฟุตบอล ดีดลูกแก้ว ที่ไหนก็ปฏิเสธ กลัวนาฬิกาเป็นรอย จู่ๆ มีเด็กผู้ชายห้องเดียวกัน คนนึ ง เดิ น เข้ า มาหาเพื่ อ ขอชื่ น ชมนาฬิ ก าเป็ น คนที่ ร้ อ ยของวั น ก็โทนเดิม ผมโพล่งข้อบังคับในการขอส่องให้ฟงั อีกครัง้ มันไม่วา่ อะไร นอกจากทีทา่ สนอกสนใจ ถามนัน่ นีต่ ามประสา แต่เหตุการณ์ท�ำ ร้าย จิตใจเด็กบ้าเห่อก็เกิดขึน้ หลังจากนัน้ ชัว่ พริบตา... เสียงดังป๊อกเหมือน แก้วแตกมาพร้อมสภาพลายงาบนหน้าปัด ยิ่งมันกลมใสเท่าไหร่ รอยร้าวก็ยิ่งชัด สาเหตุเพราะไอ้เด็กบ้าเมื่อกี้เอาลูกแก้วในมือมา เคาะเล่นด้วยความอิจฉา! เรื่องนานมากแล้ว ผมจำ�ไม่ได้หรอกว่าหลังจากนั้นตัวเอง มีสีหน้าแบบไหน หรือจัดการเด็กมือบอนยังไง รู้อีกทีก็ตอนหัวค่ำ� ที่พ่อกลับบ้าน ผมนั่งร้องไห้ไว้อาลัยแก่นาฬิกาจอแตก เสียดาย สุดแสน แต่อีกส่วนคือไว้อาลัยให้ชะตากรรมของตัวเองด้วย เพราะ ไม่รู้ป๋าจะโกรธขนาดไหน ที่นาฬิกายี่ห้อแพงที่เพิ่งใส่ไปเรียนวันแรก กลับมาในสภาพมีตำ�หนิ ป๋าเดินเข้าบ้านมา ถามว่าเป็นอะไร ผมยื่นนาฬิกาให้ดู และ ก้มหน้ารอรับบทลงโทษ มันอาจเป็นเสียงด่าไม่ก็ไม้เรียวหรือเข็มขัด ซักอย่างนึงล่ะ ผมทำ�ใจไว้แล้ว แต่สิ่งที่ป๋าพูดก็คือ “ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ป๋าจะไปโรงเรียนด้วย” อาการประสาทแดกเพราะกลัวโดนฟาดหายไป กลายเป็น เครียดในสิง่ ทีป่ า๋ จะทำ�มากกว่า คิดตามนะว่า เช้ารุง่ ขึน้ ป๋ามาโรงเรียน
47
48
ในชุ ด คาวบอย รองเท้ า บู๊ ต กางเกงยี น ส์ ยื น ปั้ น หน้ า นิ่ ง เรี ย บ ในห้องเรียนผมเพือ่ ถามหาเด็กต้นเรือ่ ง สภาพนักเรียนทัง้ ห้องไม่ตา่ ง อะไรกับนักโทษประหารที่นั่งมองผู้คุมมาไขประตูเพื่อเรียกตัวไป เข้าหลัก เงียบกริบ ไม่มีใครกล้าขยับ ครูประจำ�ชั้นเดาใจป๋าไม่ถูก ลูกชายเองยังหวั่นๆ ตอนที่ผู้ต้องหาเดินปากซีดเข้ามา... ซวยแล้วมึง โหดระดับป๋ากู อย่างน้อยมึงมีโดนตบบ้องหู บ้างล่ะวะ... ป๋าถามเสียงเรียบๆ ว่าเคยมีนาฬิกามั้ย มันส่ายหน้าบอกว่า ไม่เคย ป๋าก็ถามอีกว่า แล้วอยากได้มั้ย เด็กนั่นก็พยักหน้ารัว ครูและ นักเรียนร่วมสามสิบชีวิตกำ�ลังลุ้น กระทั่งสุดท้าย ป๋าถอดนาฬิกาจากแขนผมส่งให้! “อยากได้กเ็ อาไป แล้วทีหลังอย่าทำ�กับของของคนอืน่ แบบนี้ มันแย่ เข้าใจมั้ย” สิ่งที่ป๋าไม่ห้าม ไม่ถือว่าเป็นความผิด ไม่จำ�เป็นต้องกลัว และไม่กี่วันต่อมาผมก็ได้นาฬิกาเรือนใหม่ ใส่ไปอวดคนที่โรงเรียน อีกครั้ง บอกแล้วว่าป๋าเป็นฮีโร่ผสมไอดอล
» เวลาลำ�บากอย่าพึ่งพาใคร “มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ โทรหาได้ทุกเมื่อเลยนะ” เป็นเพียง ประโยคมารยาท ท่านเศรษฐีมีสองเหตุผลสำ�หรับเรื่องนี้ หนึ่ง ไม่มีใครยินดีรับภาระของชาวบ้านมาเป็นปัญหาของ ตัวเองแน่นอน ถ้าไม่จวนตัวสุดปฏิเสธ ฉะนั้นจงรู้ไว้ว่าการขอความ
ช่วยเหลือ สร้างความลำ�บากใจเสมอ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นพี่น้อง ญาติ หรือเพื่อนสนิท เหตุผลที่สองคือ การพึ่งพาขอความช่วยเหลือจากคนอื่น จะสร้างเส้นที่มองไม่เห็นบางอย่างขึ้นมาบิดเบือนความสัมพันธ์ จนกระอักกระอ่วน จากเพื่อนที่เคยอยู่ในระดับเดียวกัน ก็กลายเป็น เจ้าบุญนายคุณ ดั ง นั้ น เมื่ อ ไหร่ ที่ ลำ � บาก จงผ่ า นมั น ไปให้ ไ ด้ ด้ ว ยตั ว เอง เพราะท่านเศรษฐีไม่ชอบมีบุญคุณต่อใคร พอๆ กับที่ไม่ชอบให้ใคร มานั่งทวงบุญคุณ
» จงยินดีในความเจริญของผู้อื่น ท่านเศรษฐีสอนว่า จงยินดีในความเจริญของคนอืน่ ให้มากๆ อย่าคิดอิจฉาวาสนาของใคร ภาวนาให้บุคคลรอบข้างมีชีวิตที่ดี หน้าทีก่ ารงานราบรืน่ ชีวติ ครอบครัวสงบสุข เงินทองลืน่ ไหลไม่ขดั สน ทั้งมิตรสหายญาติเชื้อ เพราะถ้ามันอยู่ดีกินดีมีใช้จ่าย จะได้ไม่ต้องเผื่อแผ่ความ เดือดร้อนมาถึงเรา! คำ�สอนของป๋าตัง้ อยูบ่ นพืน้ ฐานชีวติ จริง ซึง่ ... บางทีกจ็ ริง๊ จริง จนคนดีจัดๆ หลายคนก็ยอมรับไม่ได้ เพราะชาวบ้านทั่วไปไม่คิด แบบเราไง ไอ้ประเภท ‘ลำ�บากแล้วอย่าเทีย่ วพึง่ พาใคร’ เนีย่ ไม่คอ่ ย มี ใ ครทำ � กั น ส่ ว นใหญ่ ค วามทุ ก ข์ ข องกู ย่ อ มต้ อ งเป็ น ความทุ ก ข์ ของผู้อื่นด้วย จงมาร่วมเดือดร้อนกันเสียให้ทั่วถ้วน
49
50
ข้ อ ข้ า งบนก็ ร ะบุ ชั ด เจนว่ า ป๋ า ไม่ ช อบมี บุ ญ คุ ณ เหนื อ ใคร การยื่นมือเข้าไปแบกรับวิกฤติแทนคนอื่นโดยใช่เหตุจึงไม่ใช่วิถีของ ท่านเศรษฐีเท่าไหร่ แต่ถึงพูดเหมือนใจร้ายแบบนั้น ป๋ายังแอบบ่น ด้วยความละเหี่ยใจอยู่บ่อยๆ ว่าถ้ามันทู่ซี้ขอร้องชั้นอีกครั้งเดียว ชั้นจะยอมช่วยมันแล้วนะ! คำ�สอนฉบับท่านเศรษฐียังไม่จบ เก็บไว้เล่า (นินทา) ต่อ ตอนหน้าอีกตอนละกัน
07
คุณนายดวงเดือน (1)
คราวก่อนเล่าเรื่องท่านเศรษฐีผู้เป็นบิดาไปสองตอน ผลจาก การเอาป๋ามานินทาผ่านตัวหนังสือทำ�ให้เราได้กระแสตอบรับทีด่ มี าก เกินคาด (กราบขอบคุณ) ชาวบ้านชาวช่องจึงพร้อมใจคะยั้นคะยอ แกมยุส่งไม่ขาด ว่าไหนๆ ก็รู้จักพ่อแล้ว เล่าเรื่องแม่ด้วยซะเลยสิ อืม คิดดูดๆ ี ก็โอเคมากมาย วัตถุดบิ ใกล้ตวั ออกแนวเล่นง่าย อาศัยเก็บคนในบ้านมาเขียนให้ครบ แม้อีกนานกว่าจะถึงวันแม่ (นี่ก็เล่าอะไรไม่เคยดูเทศกาล) หากด้วยเจตนาเคารพรักและเทิดทูน จั บ มาผ่ า นกระบวนการตกตะกอน ตกผลึ ก ที่ พ อเหมาะ กระทั่ ง สังเคราะห์ออกมาเป็นเรื่องนี้ในที่สุด บ้ า นเราเรี ย กแม่ ว่ า คุ ณ นายดวงเดื อ น แม้ ไ ม่ ไ ด้ เ ป็ น เมี ย นายตำ�รวจหรือเมียผู้ว่าฯ แต่จากกิริยาท่าทางและหน้าตา บรรดา ลูกเต้ามองหาคำ�อื่นไม่ออกจริงๆ ความเป็นคุณนายของแม่เกิดขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งทรงผมตีกระบัง แก๊ดเจ็ตเสริมลุค พวกสร้อยทับทิม ล้อมเพชรห้าสิบล้าน หรือกระเป๋าหิว้ รุน่ ลิมเิ ต็ดอืน่ ใด แต่มาจากบุคลิก และนิสัยล้วนๆ
63
64
นิยามสั้นกระชับสำ�หรับแม่ ‘เป็นทุกอย่างที่ป๋าไม่เป็น’ แม่ชอบดำ�รงลัทธิตรงกันข้ามนิยม หรืออย่างน้อยจะหารครึง่ จากบุคลิกของป๋าอีกที เช่น ในตอน ‘ท่านเศรษฐี 1’ ที่ผมเคยบอกว่า ป๋ า ไม่ ต ลก กรณี แ ม่ ใ ห้ ก ลั บ กั น เรื่ อ งไหนที่ ช าวบ้ า นเค้ า ไม่ ต ลก แม่ก็ตลก ไม่ถึงขั้นเส้นตื้น แต่ก็มีความพยายามจะขำ�อยู่ หลายครั้ง แม่ตั้งใจทำ�ให้ป๋าตลก ปรากฏว่าเสียงแอร์ดังมาก ปราศจากเสียง หัวเราะและความฮาอย่างสิ้นเชิง ป๋านั่งทำ�หน้าเฉยเมย เป็นทำ�นอง อย่าพยายามซะให้ยาก ชั้นมียันต์กันตลก ซึ่งแม่จะเซ็งมาก กระนัน้ ก็ยงั ไม่ลดละความมุง่ มัน่ ขณะทีป่ า๋ ซีเรียส เครียดเรือ่ ง ชาวบ้านไปหมด คุณนายดวงเดือนจะเป็นอีกภาค ไม่มีปัญหาของ ใครตกค้างอยู่ในหัวนานเกินชั่วโมง แม่ไม่ใช่คนเก่ง ช่างแก้ปัญหา ไอคิ ว อี คิ ว สู ง ลิ่ ว ไม่ ไ ด้ ข ยั น พลิ ก วิ ก ฤติ ใ ห้ เ ป็ น วิ บั ติ หรื อ ยึ ด มั่ น ในคำ�สอนของ ดาไล ลามะ ที่ว่าการพยายามแก้ปมที่ไร้ทางออกนั้น ไร้ประโยชน์ แต่คำ�พูดที่มักได้ยินเสมอ ก็แค่ “ไปนอนซะ ตื่นมาปัญหาจะเล็กลง” หากวาดแม่เป็นการ์ตูน เอกลักษณ์เด่นคงเป็น หน้ากลมๆ ผมมวย กางเกงสแล็กขาสั้น และเสื้อยืดสีแสบตาแบบเจ็ดสีเจ็ดวัน ดูเหมือนนักท่องเทีย่ วตลอดเวลา ใครอยากซือ้ เสือ้ มาฝาก อย่าทะลึง่ หยิบผ้าไหมลายวิจติ ร หรือสีโทนสูงวัยเขียวขีม้ า้ เทา น้�ำ ตาล ดำ� หรือ แม้แต่ลายดอกเล็กๆ หวานแหววสมเป็นคุณแม่ที่แสนดีมาให้นะ “ชั้นจะเอาไปทำ�ผ้าขี้ริ้วในครัวให้ดู!” ท่านเคยประกาศไว้แบบนั้น และด้วยเหตุผลดังกล่าว วันดีคืนดีแม่ก็เดินออกมาจากห้อง แต่งตัวในตอนเช้า ยิงคำ�ถามใส่ลูกว่า เสื้อแม่สวยมั้ย พร้อมสายตา
ที่ห้ามเราปฏิเสธว่าไม่สวย เนื้อผ้าส้มๆ สะท้อนแสงวาบเข้าตาชนิด ที่ถ้าแม่ยืนอยู่กลางจตุจักร ส่องลงมาด้วยกูเกิ้ลเอิร์ทยังเห็นเลย! จำ�ได้ว่าวันนั้นคุณนายไปเดินจตุจักรจริงๆ ฮะ ปัญหามาเกิด ไอ้ตอนพี่ชายคนโตดันอาสาจะไปรับกลับบ้าน วุ่นวายถามอีกว่า จตุ จั ก รคนเป็ น ล้ า นจะหาเจอมั้ ย แม่ กู กั บ แม่ มึ ง ใส่ เ สื้ อ สี อ ะไรวะ สุดท้ายอธิบายไม่ออก เลยบอกไปว่า “เสื้อสีเหมือนกรวยจราจรน่ะ หาไม่ยากหรอก เชื่อกู!” หืมมม? ว่าไงนะ? ข้อมูลแค่นี้มันน้อยไป นึกภาพกันไม่ออก เหรอ นีไ่ ม่รลู้ ะ่ สิวา่ เอกลักษณ์ส�ำ คัญแห่งการเป็นคุณนายดวงเดือนน่ะ ‘เยอะ’ ขนาดไหน ยกตัวอย่างคร่าวๆ ดันบอกว่าเข้าไม่ถึง งั้นมานี่ นั่ ง เรี ย งกั น ตรงนี้ ใ ห้ เ ป็ น ระเบี ย บเรี ย บร้ อ ย เรากำ � ลั ง จะเปิ ด ฉาก บรรยายพิเศษหัวข้อ ‘วิธีใช้ชีวิตอย่างคุณนายดวงเดือน’ ณ บัดนาว
» ไม่ขับรถเอง คุณสมบัตขิ อ้ แรก ซึง่ ไม่แน่ใจว่าควรเรียกคุณสมบัตดิ มี ยั้ ทีแ่ ม่ ไม่เคยขับรถเอง! แต่นับเป็นผู้หญิงมีบุญมากในความรู้สึกของมนุษย์ ที่ เ กลี ย ดการขั บ รถอย่างผม ก็เ คยสงสัยอยู่ว่าตัวเองไปเอานิ สัย ไม่ชอบขับรถมาจากไหน ซีกส่วนนึงในดีเอ็นเออาจจะมาจากฝ่ายแม่ ที่พูดว่าแค่ส่วนนึงเพราะแม้แม่กับผมจะไม่ชอบขับรถเหมือนกัน แต่แม่ยังชอบนั่งรถเที่ยว ชอบดูวิวข้างทาง ไม่งีบไม่เงิบ ตาสว่าง ตลอดทริป ผิดกับลูกชายที่เกลียดการขับรถพอๆ กับเกลียดการ นั่งรถ อยากได้แบบลืมตาปุ๊บถึงปั๊บ อารมณ์ชอบเที่ยวแต่ไม่ชอบ เดินทาง (อยู่บ้านเหอะ)
65
66
โดยเหตุผลอย่างเป็นทางการที่คุณนายเคยพูดให้ฟังก็คือ “ถ้ า ขั บ รถเองเป็น ลูกเต้าก็ไ ม่ส นใจ ต้อ งถูกทิ้งให้ ไปไหน มาไหนคนเดียวน่ะสิ” เป็นกุศโลบายที่ล้ำ�ลึกจริงๆ และสังเกตว่าได้ผลมาก ทีแรก แม่มปี า๋ เป็นคนขับรถ ต่อมาตกทอดสูร่ นุ่ ลูก คาดว่าอนาคตแม่อาจจะ เป็นคุณย่าและมีหลานรับหน้าที่สืบต่อไป
» ความจำ�สั้นและประสาทไวต่อสิ่งรอบข้าง ปกติอาการความจำ�สั้นทั่วไปมักเกิดตอนอายุเริ่มไต่ระดับ แต่นี่เป็นธรรมชาติของคุณนายดวงเดือนมาแต่ไหนแต่ไร โรคขี้ลืม อาจเป็ น เหตุ ผ ลนึ ง ที่ ทำ � ให้ แ ม่ อ ยู่ กั บ ป๋ า มาได้ ต ลอดหลายสิ บ ปี (คล้ายๆ เคมีตรงกัน) เพราะในขณะที่ป๋าเป็นมนุษย์ประเภทลืม ในสิง่ ทีก่ ไู ม่สนใจ ส่วนแม่จะลืมหมดทัง้ ทีส่ นใจและไม่สนใจ ต้องคอย ถามอยู่เรื่อยว่าเมื่อกี้แม่พูดไปแล้วรึยังนะ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่ไม่คิดจะ เปิดระบบรับรู้ เช่น ไอทีเทคโนโลยีก็จะยิ่งฝังดาต้าเบสยาก โอ้ย แค่คิดก็เพลียไส้ แปะก๊วยทั้งต้น ราก โคน ดอก ใบ ก็ช่วยไม่ได้ ส่วนเรื่องประสาทไวต่อสิ่งรอบข้าง เราก็ไม่ได้หมายถึงทักษะ ตาไว หูไว หรือจมูกไวอีกเช่นกัน แต่หมายถึงอาการคลื่นแทรก แรมต่ำ� ประมวลผลพลาดเป็นครั้งคราว (คราวละมากๆ) เอ อธิบาย ว่าไงดี คือถ้าแม่อยากพูดอะไร ก็ต้องปล่อยให้พูดจนจบภายใน ม้วนเดียว ห้ามวอกแวก ห้ามใครแทรก ห้ามมีวัตถุแปลกปลอม เล็ดลอดเข้ามาในระยะสายตา ไม่งนั้ เนือ้ หาจริงจะถูกเตะไปไกลมาก จนคนฟังปวดตับขมับแตก เช่นที่เกิดขึ้นในกาลครั้งหนึ่ง เมื่อผมฝาก
แม่ซื้อยา แบ็กกราวนด์เป็นในรถ และเรากำ�ลังอยู่บนถนน พยายาม วนหาที่จอดริมทางขาวเหลือง ลูก: แม่ฮะ ผมรบกวนยาผมซักแผงได้มั้ยฮะ แม่: เอาอะไรล่ะ ลูก: ไดโคลซิลิน 500 ฮะ แม่: อืม (อือออว่ารับรู้) ไดโคลซิน 500 ยาอะไรเหรอลูก ลูก: ไดโคลซิลินฮะแม่ (ชื่อยาเริ่มผิด) แก้อักเสบฮะ ช่วงนี้ ทอนซิลไม่ค่อยดี กินกันไว้ก่อน แม่: อ๋อ แก้อักเสบ กินมากก็ไม่ดีนะลูก เคยได้ยินหมอพูดว่า (โคว้ตคำ�พูดในหนังสือซักเล่มที่แม่อ่านมาอีกประมาณสองหน้า) ลูก: ……………. (ฟังอย่างว่าง่าย) ……………. แม่: ว่าแต่ยาอะไรนะลูก... ไดโคลโฟล (ตาแม่เหลือบไปเห็น เลขทะเบียนรถคันหน้าเขียนว่า 5000)...ไดโคลโฟล 5000 ใช่มั้ย ลูก: ไดโคลซิลินฮะแม่! ไดโคลโฟลนั่นมันยากำ�จัดเห็บหอย บอกแล้วว่าคลื่นแทรกง่ายมาก
» เสพติดการทำ�สวน เรามีบ้านพักอีกแห่งที่ตราด จังหวัดเล็กๆ ติดทะเลอ่าวไทย ห่างไกลจากกรุงเทพฯ ไม่มาก ซัก 300 กิโล ที่นั่นบ้านเรามีสวน ไม่ถงึ ขัน้ เรือกสวนไร่นากว้างใหญ่เป็นเอเคอร์ แค่พอมีสนามกับแปลง ต้นไม้เล็กๆ ให้แม่ได้เล่นเพาะชำ� ก็เพราะเหตุนนั้ แม่ถงึ ชอบอยูต่ ราด มากกว่าอยูก่ รุงเทพฯ คุณนายบ่นว่าไอ้แปลงเท่าแมวดิน้ ตายของเรา ที่ เ มื อ งหลวงมั น ปลู ก อะไรไม่ ง อกงาม อากาศไม่ ดี ความชื้ น ต่ำ �
67
68
(ผมพยายามเถียงว่าไม่ต่ำ� ปีก่อนๆ ความชื้นยังสูงจนท่วมสนาม เน่ามาแล้ว แต่แม่ไม่สน) การทำ�สวน ถ้าเป็นอาชีพมักไม่สนุก ต้องรอ ต้องลงทุนปุ๋ย ยา ดิน น้ำ�สารพัด แต่เมื่อเป็นงานอดิเรกของคุณนายดวงเดือน ทุกสิ่งล้วนบันเทิงใจจนบางทีเคยคิดเล่นๆ คำ�ว่าแม่อาจมีรากศัพท์ ทางใดซักทางที่แปลว่าชอบทำ�สวน (จริงๆ นะ) ทำ�สวนในนิยามของแม่ต้องแบ่งเป็นสองประเภท ระหว่าง ปลูกเองกับไปซื้อมาแขวน (แม่ถือว่าการค่อยๆ เรียง ค่อยๆ แขวน ต้นไม้ที่ซื้อสำ�เร็จรูปจากร้าน ก็เป็นการทำ�สวนชนิดหนึ่ง) กรณีแรก คือปลูกเอง ในหมวดหมู่นี้ไม่มีสิ่งใดซับซ้อน แม่ ตื่นเช้าขึ้นมาเพื่องมกับสวนเล็กๆ ของตัวเองได้ทีละหลายชั่วโมง และทุ ก วั น หั ก กิ่ ง โน้ น มาเสี ย บตรงนี้ ขุ ด ต้ น นี้ ไ ปใส่ ก ระถางนั้ น ขยายพันธุท์ เี่ ขียวดกอยูแ่ ล้วให้มนั แพร่ไปทัง้ บ้าน เอาจริงๆ ถ้าวัดด้วย สายตาของคนที่ชอบมีสวนแต่ไม่ชอบทำ�สวนอย่างผม รู้สึกว่ามันก็ สภาพเหมือนเดิมกับตอนยังไม่ได้ทำ� (?!?) สองชั่วโมงที่ง่วนอยู่กับ พลั่ว กับถุงดินนี่มันงอกออกมาเป็นอะไรเหรอฮะ สงสัยนะ แต่อย่า ถาม แม่จะหาว่าเป็นพวกไร้สุนทรีย์เชิงพฤกษศาสตร์ นอกจากมี ส วนเบญจพรรณแล้ ว ในบ้ า นยั ง มี ห มา หมา ตัวใหญ่ๆ ศัตรูพืชตัวสำ�คัญจะคอยมองดูแม่ปลูกต้นไม้อย่างตั้งใจ เมื่ อเจ้ า นายคล้ อ ยหลัง เมื่อ ไหร่ กูจะขุดเมื่อ นั้น และเช้ า มาแม่ ก็ จะจำ�ไม่ได้โดยสิ้นเชิงว่าเมื่อวานชั้นเคยปลูกต้นอะไรไว้ที่ตรงไหน (หมาเปรต) พอเข้ า สู่ ว งจรอุ บ าทว์ ปลู ก -หมาขุ ด -ตามเก็ บ -ปลู ก ใหม่ หมาขุด ซ้ำ�บ่อยๆ จนแปลงสาธิตเกษตรคุณนายล้มตายเละเทะ เริ่มท้อใจมาได้ซักระยะถึงขั้นขี้เกียจหยิบจับกระถาง แม่ก็หันไปพึ่ง
ร้านขายต้นไม้แทน (ฟังเหมือนจะดี) โจทย์คือซื้อไอ้ที่ถูกดี สีสวย เลี้ยงง่าย ตายยาก... แหม... มันมีซะที่ไหนล่ะของแบบนั้น ขนาดที่ ทนๆ หน้าตาพออาศัย สามกระถางร้อย ปล่อยเทวดาเลี้ยงยังได้ อย่ า งต้ น หลิ ว (กระจุ ก สี เขี ย ว ดอกเล็ ก ๆ สี ม่ ว ง) แม่ ยั ง ทำ � ตาย มานักต่อนัก เปลี่ยนมาคบกับไม้กระชุ อายุดอกนานแบบกล้วยไม้ ก็ยงั ไม่รอด เอาใหม่ เราอาจจะพูดเกินไป มันไม่ตายฮะ แค่ออกดอก ครั้งเดียวแล้วเหี่ยวเลย ใครว่าแม่เลี้ยงต้นไม้ไม่เป็น?!? คนขาย มันวางยาต่างหาก นิสยั ไม่ดี อย่านึกนะว่าแม่ไม่รทู้ นั เลยต้องเข้าร้าน ต้ น ไม้ ทุ ก อาทิ ต ย์ ดูซิ (เอ๊ะ ) ในร้านต้น ไม้นี่ก็ซื้อ ทุกชนิ ด ตั้ งแต่ ดิ น หิน ไม้ดอก ไม้ใบ พักหลังๆ คัดเฉพาะที่ดอกสวย เอาแค่ฉาบบ้าน ฉาบสวนให้งามสะพรั่งทันใจได้ซักสองสามอาทิตย์ พอหมดดอก ค่อยโละออกแล้วไปซื้อใหม่
» รักการสอยมะม่วง ถ้าคอนเซ็ปต์แม่ในอุดมคติจะต้องมีคอลเล็กชัน่ สุดโปรด อาทิ ชุดน้ำ�ชาชุดโปรด หม้อใบโปรด หรือเครื่องเพชรเซ็ตที่โปรด แม่ผมก็ มีนะ ไม้สอยมะม่วงไง! ใครห้ามหยิบหรือเคลื่อนย้ายไปโดยไม่ขอ อนุญาต! ข้างบนก็เล่าแล้วถึงคุณนายดวงเดือนกับสวนหรรษา บ้าน กว้ า งในต่ า งจั ง หวั ด ต้ น มะม่ ว งความสู ง เท่ า ตึ ก สามชั้ น ทั้ ง สี่ ต้ น จึงเอาต์สแตนดิ้งมาก จะเป็นคุณนายดวงเดือนได้ ต้องรักต้นมะม่วง นี่พูดเลย
69
70
ช่วงสองเดือนที่ผ่านมามะม่วงกำ�ลังออก กิจกรรมของแม่ เปลี่ยนจากตื่นเช้าเพื่อเล่นปลูกต้นไม้ กลายเป็นยืนกอดไม้สอย มะม่วง แล้วแหงนคอมองหาลูกที่กินได้แทน คุณนายมีสมุดรายชื่อ เล่มเปื่อยๆ ไว้จดรายชื่อบ้านที่ต้องเอาไปแจก ก็ไม่มากไม่มาย ประมาณทั้งจังหวัด คนเดียวที่ยังไม่ได้ให้น่าจะเป็นผู้ว่าฯ ยอมรับว่ามะม่วงบ้านแม่อร่อยกว่าทุกแหล่งที่เคยซื้อกิน แต่ปัญหามันก็มีอยู่ คือบ้านอื่นเค้าสอยกันทีละสองสามลูกพอขำ�ๆ ส่วนบ้านเรานี่มันอุตสาหกรรมมะม่วงแล้ว สอยทีละครึ่งค่อนร้อย ใส่เข่ง การต้องคอนไม้สอยความยาวเกือบห้าเมตรเป็นระยะเวลา นานๆ นี่มันชักไม่สนุกแล้วไง กินอร่อยแต่ลำ�บากจังวะ แต่แม่กลับ ชิงตำ�แหน่งมือสอยไปครองชนิดไม่ง้อลูกเต้า คุณนายชี้แจงว่าการ ได้เห็นผลิตผลอันเกิดจากต้นไม้ในบ้านตัวเองเป็นความภาคภูมิใจ “มะม่วงบ้านเราอร่อยที่สุด! ต้องแจกให้มันร่ำ�ลือสิ!” หากหมอออร์โธฯ รุ่นพี่ไม่คิดเช่นนั้น ในวันหนึ่งเมื่อหลายปี ก่อนที่พาแม่ไปนอนโรงพยาบาลด้วยอาการเจ็บเข่าจนเดินลำ�บาก “ถ้าผมเป็นคุณนะ ผมจะกลับบ้าน แล้วไปโค่นต้นมะม่วงทิ้ง ให้หมด!” แม่เลยต้องงดเล่นสอยมะม่วงไปปีสองปี
» ลูกชั้นหน้าตาดีที่สุด! สมัยเด็กเวลาเจอใครแล้วโดนถามว่ามีลูกกี่คน แม่จะตอบว่า ลูกชายสองคนค่ะ ฉลาดทีส่ ดุ น่ารักทีส่ ดุ ดดดด (น้�ำ เสียงให้จนิ ตนาการ เอาตามจำ�นวน ด เด็ก) พอโตมา ลูกออกทีวีเป็นอาชีพ ไปตลาด
เจอคนทัก แม่กพ็ ดู อีก เป็นไงล่ะ ลูกชายชัน้ หล่อทีส่ ดุ เห็นมัย้ เมือ่ คืน ดูรายการรึเปล่า ถึงบรรทัดนีผ้ อู้ า่ นคงจะร้องยีเ้ ป็นเสียงเดียวกัน และ ผมก็สำ�เหนียกในหน้าตาของตัวเองอยู่แล้วครับ แหม่ แม่พี่ติ๊ก-เจษฎาฯ เวลาไปตลาดนี่เค้าเป็นยังไงนะ สงสัยจัง
» ขี้อวด ต่ อ มความกลั ว ถู ก หมั่ น ไส้ ข องคุ ณ นายดวงเดื อ นทำ � งาน บกพร่อง เห็นได้ชัดจากเรื่องมะม่วงและเรื่องลูกตัวเอง T_T ยัง... การใช้ชีวิตอย่างคุณนายดวงเดือนยังไม่จบ ความยาว แค่ตอนเดียวสั้นเกินกว่าจะสาธยายได้หมด เราจะเก็บไว้เล่าต่อ ตอนสอง (เพื่อไม่ให้น้อยหน้าท่านเศรษฐีผู้เป็นพ่อผม...และผู้เป็น ผัวเธอ)
71
เกี่ยวกับน้าเน็ก น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา • ชายผูเ้ สพติดการอ่านเป็นสันดานทีส่ ามารถอ่านหนังสือออก ตั้งแต่ 5 ขวบ ผู้ชนะสิบทิศ ของ ยาขอบ คือหนังสือเล่มแรกที่เขา ใช้ฝึกอ่านภาษาไทย • ใช้เวลา 14 ปีเต็มหลังบรรลุนิติภาวะในการเป็น ‘มนุษย์ ร้อยอาชีพ’ เพียงเพื่อค้นหาสิ่งที่ ‘ชอบ’ • ก่อนที่จะทุ่มเทอีก 10 ปีให้หลังกับงานในวงการโทรทัศน์ ทั้งเบื้องหน้า-เบื้องหลัง ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่ามัน ‘ใช่’ • และระหว่าง 24 ปีที่เป็นมนุษย์งานนั้นก็ได้มีโอกาสขีดๆ เขียนๆ เรื่อยมา จนกลายเป็นพ็อกเก็ตบุ๊ก 8 เล่ม Naked (1-3) หนังสือเบสต์เซลเลอร์ที่ตีแผ่ จิกกัด และนินทา วงการบันเทิงแบบสุดแสบปนฮา เน็กแนว งานเขียนสไตล์ ‘ดราม่า’ มีทั้งฮาและแอบน้ำ�ตาตก โดยเป็นการรวมงานเขียนที่ ‘ไข่แล้วทิ้ง’ ไว้ตามนิตยสารต่างๆ The Naked Show (1,2,3 และ 5) บั น ทึ ก การแสดงสด เดี่ยวไมโครโฟนในรูปแบบหนังสือ...ไม่น่าเชื่อว่าจะขายดีกว่าวีซีดี อาจเป็นเพราะหนังสือมันก๊อบปี้ยากกว่าแผ่น • และล่ า สุ ด โลกหมุ น รอบตั ว งู ถ่ า ยทอดเรื่ อ งราวรอบตั ว ตั้งแต่ตื่นยันนอนในมุมมองแบบ ‘น้า’ ในสไตล์การเขียนที่ฟีเจอริ่ง กั บ ‘เนิ ฟ ’ น้ อ งสาวร่ ว มสายเลื อ ดผู้ ไ ด้ รั บ การถ่ า ยทอดกรรมพั น ธุ์ ‘ช่างจิกกัด’ มาแบบเต็มๆ จึงกลายเป็นภาษาสำ�บัดสำ�นวนแบบยียวน คูณสอง!
เกี่ยวกับนักวาดภาพประกอบ ภ. ตะเพียน โดโด้-ภัทรดล กิจเจริญ • ภูมิลำ�เนา กรุงเทพมหานคร • เกิดวันที่ 11 พฤศจิกายน 2534 • จบประถม-มัธยมที่ โรงเรียนอัสสัมชัญ • ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยนานาชาติมหิดล สาขาแอนิเมชั่น • ติดต่อเยี่ยมเยียนและส่องผลงานได้ทาง • patradol_k@hotmail.com • www.facebook.com/Ptapean • ยินดีที่ได้รู้จัก สวัสดีครับ
160