คำ�นำ�สำ�นักพิมพ์
ต่อให้เคยเลี้ยงหมา หรือไม่เคยเลี้ยงหมา (เลี้ยงแต่แมว กระต่าย ปลา ฯลฯ) เชือ่ ว่าเราทุกคนต้องได้พบเจอประสบการณ์หมาๆ ในทุกช่วงเวลาของชีวติ ประจำ�วัน ตื่นเช้าได้ยินเสียงเห่ามาแต่ไกล เดินออกมาหน้าปากซอย ข้างรถเข็นขาย ส้มตำ�ไก่ย่าง หรือแม้กระทั่งนอนตากแอร์อยู่หน้าประตูร้านสะดวกซื้อ เราต่างพบเจอพวกเขาจนกลายเป็นภาพชินตา หมาจรเหล่านี้มาจากไหนกัน ไม่มีใครรู้ เราเองก็ยังไม่รู้ รู้แค่ว่าหน้าตาของมันช่างดูเหงาหงอย เศร้าซึม เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยแผล ไม่ก็เกลื้อนกลาก ไหนจะเห็บหมัดอีก จะมีสิ่งที่ทำ�ให้ พวกเขาพอกระดิกหาง แลบลิน้ ห้อยร้องแฮ่กๆ แลดูมคี วามสุขบ้างก็เมือ่ มีใครสักคน ใจดีเอามือลูบหัว หรือไม่ก็หยิบยื่นของกินเล็กๆ น้อยๆ ให้ ดู เ หมื อ นความสุ ข ของเหล่ า หมาจรมาจากผู้ ค นที่ สั ญ จรผ่ า นไปมา แล้ ว ความต้องการจริงๆ ของหมาเหล่านี้ คืออะไรกันแน่ อาจจะแค่ที่ซุกหัวนอน อาหารที่มีให้กินเมื่อหิว ที่ว่างกว้างๆ ให้วิ่งเล่น หรือ อาจเป็นแค่ใครสักคนมาลูบหัวเบาๆ ก็พอ เจ้าคาร์ฟหู มาทีบ่ า้ นของผมก็เป็นหมาพันธุผ์ สมทีเ่ ป็นลูกของเจ้าปุยแม่ของมัน ซึ่งเป็นหมาที่ผมเก็บมาเลี้ยงจากข้างทาง ผู้อ่านหลายคนก็คงเคยรับเลี้ยงหมาจร โดยไม่ตั้งใจ อยู่ดีๆ มันก็โผล่เข้ามาในชีวิตประจำ�วันอันแสนธรรมดา พอเราเข้าไป นั่งยองๆ ลูบหัวเบาๆ หาข้าวให้กินบ่อยๆ จากหมาจรก็กลายเป็นหมาประจำ� จนในที่สุดก็กลายเป็นหมาบ้าน มีชื่อมีเจ้าของโดยปริยาย
กลูต้าก็อยู่ในหมาจรจำ�พวกนี้ เรื่องราวของเขาถูกถ่ายทอดลงเฟซบุ๊กเพจ Gluta Story เรียกรอยยิ้มและความสุขจากแฟนเพจหลักแสนทั้งในและต่างประเทศ จากหมาจรตัวหนึ่ง กลายเป็นหมาที่ดังไกลในระดับโลกได้อย่างไร ยอร์ช-สรศาสตร์ เจ้าของกลูต้า หรือจะเรียกว่า ‘พ่อกลูต้า’ ก็ได้ กำ�ลังจะเล่า เรื่องราวของหมาจรยิ้มได้ตัวนี้ให้เราฟัง ไม่ใช่แค่เล่าผ่านตัวหนังสือ ทั้งยังเล่าผ่านภาพถ่ายแสนน่ารักที่กลายเป็น เอกลักษณ์จนอยากกดไลค์และแชร์ให้ได้ยิ้มถ้วนทั่วกัน หนังสือทีพ่ ดู ถึงหมาจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนได้หรือไม่ เราไม่แน่ใจ แต่เรือ่ งราวทัง้ หมดของกลูตา้ นัน้ สำ�หรับเราคือจุดเริม่ ต้นเล็กๆ ทีย่ ง่ิ ใหญ่ ทีอ่ ยากให้ ผู้อ่านได้ลองมองหมาจรรอบตัวดู หมาจรที่จัดได้ว่าเป็นพันธุ์หมาที่มีมากที่สุด ในประเทศของเรา หน้าตาของพวกเขาอาจจะดูนา่ เกลียดน่าชัง ไม่เห็นจะน่าเข้าใกล้ ตรงไหน แต่อย่างที่พ่อกลูต้าเคยพูดเอาไว้ แท้จริงแล้วหมาทุกตัวก็น่ารักได้... ถ้าพวกเรารักเขาจริงๆ บพิตร วิเศษน้อย สำ�นักพิมพ์อะบุ๊ก
คำ�นำ�
กลูต้าเป็นหมาที่ชื่นชอบธรรมชาติ ความสุขของกลูต้าคือการได้เกลือกกลิ้ง กับขี้เลนกลางท้องนา วิ่งเล่นตามทุ่งหญ้า ไล่จับแย้ เห่าปลา และขุดดินใต้ต้นไม้ กลูต้าดูมีความสุข จนเหมือนลืมความทุกข์ครั้งใหญ่จากโรคร้ายที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต เมื่ออยู่ต่อหน้าธรรมชาติ หลายคนชอบบอกว่ากลูต้าดูเหมือนกำ�ลังยิ้มอยู่ ดูแล้วก็ชวนให้ยิ้มตาม พอเผลอยิ้มตามเลยเผลอลืมเรื่องเครียดๆ ไปเสียง่ายๆ หรือบางทีความสุขอาจเกิดขึ้นกับเรื่องง่ายๆ เหมือนที่กลูต้าเป็น หนังสือเล่มนี้เลยอยากจะมอบรอยยิ้มง่ายๆ ให้กับทุกคนที่หยิบมันขึ้นมา บางคนอาจจะยิ้มเยอะ บางคนอาจจะยิ้มน้อย หรือบางคนอาจจะยิ้มในใจ แต่อย่างน้อยก็ได้ทำ�ให้ยิ้ม สรศาสตร์ วิเศษสินธุ์
คำ�นิยม
นอกจากความชื่ น ชมที่ มี ต่ อ สไตล์ แ ละความสามารถในการถ่ า ยรู ป ของ ‘น้องยอร์ช’ ผูเ้ ป็นเจ้าของผลงานหนังสือเล่มนี้ รวมถึงการให้โอกาสชีวติ ของหมาจร อย่าง ‘กลูต้า’ ได้มีบ้าน จนกลายเป็นหมาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปหลายประเทศ สิ่งที่ฉันนับถือมากที่สุด คือ ‘ความรัก’ ที่น้องยอร์ชมีต่อหมา ซึ่งเป็นไป โดยธรรมชาติและสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนจากหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้น อย่างที่เราทราบกันดี แม้การเลี้ยงหมาอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเลี้ยงหมา ให้ว่านอนสอนง่าย แสนรู้ และเชื่อฟัง บางครั้งแค่ ‘ความรัก’ เพียงอย่างเดียวก็ยัง ไม่เพียงพอ หากต้องใช้ความเข้าใจ ความใกล้ชิด ความเสียสละ การให้เวลา และ อะไรต่อมิอะไรอีกมากมายหลายอย่าง ยิ่งกับหมาจรที่เรารับมันเข้ามาในชีวิตใน วัยที่โตเต็มที่ด้วยแล้ว (ผ่านอะไรเลวร้ายมามากแค่ไหนก็ไม่รู้) นั่นก็คงเป็นเรื่องที่ ยากขึ้นไปอีกหลายเท่า แต่น้องยอร์ชทำ�ได้ และฉันเชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะนอกจากกลูต้า ก็ยังมี ‘กอลลั่ม’ ที่เป็นหมาข้างถนนอีกตัวหนึ่ง ซึ่งได้ รับโอกาสจากน้องยอร์ชจนได้มีชีวิตใหม่อันเต็มไปด้วยความสุขเช่นเดียวกัน หากมีใครสักคนตั้งคำ�ถามว่า “เพราะอะไร?” ฉันว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะมี คำ�อธิบายได้อย่างดีที่สุด ฉันเคยเชื่อว่า ฉันคือคนที่รักหมาไม่น้อยไปกว่าใครอีกหลายคนบนโลก แต่สำ�หรับน้องยอร์ชแล้ว เขาไม่มีวันรักหมาน้อยไปกว่าฉันแน่ๆ ณัฐวีร์ ลิมปนิลชาติ นัด...หมาจ๋า
คำ�นิยม
ช่วงเวลาหลายปีทผี่ มช่วยเหลือหมาจรมา ผมสัมผัสได้ถงึ ความรักหลากหลาย ประเภท ทั้งคนที่รักหมาแค่คำ�พูด และคนที่รักหมาจากใจจริง ยอร์ช คือคนที่ผมรู้สึกถึงความรักที่แท้จริงที่มีต่อเพื่อนสี่ขา กลูต้า กับ กอลลั่ม คือเครื่องการันตีครับ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกแค่เรื่องราว หรือรูปถ่ายสวยๆ ของกลูต้ากับกอลลั่ม แต่อบอวลไปด้วยความรัก ความสุข ของครอบครัวหนึ่ง ที่ถูกเติมเต็มด้วยหมาจร อ้วนๆ ตัวเท่าถังแก๊สทั้งสองตัวครับ โก๋เอ็ม บุดด้าเบลส
วันแรก
เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าดังลัน่ ทัว่ ตำ�บลคลองหก ปทุมธานี ผมกับส้มกำ�ลังขีร่ ถมอเตอร์ไซค์ มาจากตลาด ตากฝนเม็ดใหญ่ที่ตกสวนทางจนแสบหน้า ผมเหลียวไปมองข้างทาง เห็นว่าเต็นท์กนั แดดตามร้านค้าทีเ่ ราขับผ่านต่างกระพือไปมาอย่างรุนแรง ตัง้ แต่อยู่ คลองหกมา นี่เป็นวันที่ฝนตกหนักที่สุด รถมอเตอร์ไซค์ของเราค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปยังหอพัก เราดีใจกันว่าในที่สุด ก็ดันทุรังมาถึงกันจนได้ ตอนนี้ไฟฟ้าดับทั้งหอ ไฟหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของเรา สาดไปเห็นกลุม่ นักศึกษาหลายสิบคนนัง่ กันอยูต่ ามม้านัง่ ใต้หอเพือ่ รับลมและไอเย็น จากฝน ในห้องพักคงมืดและร้อนเกินกว่าจะอยู่ได้ ไกลออกไป แสงไฟจากรถเราก็ไปกระทบเข้ากับบางสิ่ง หมาหน้าขาวตัวสีเหลืองตัวหนึง่ นอนอยูต่ รงนัน้ แต่ดว้ ยความเหนือ่ ยล้าและ ตัวที่เปียกโชก เราเลยไม่ได้สนใจมากนัก วันต่อมา ผมกลับมาจากมหาวิทยาลัย หมาสีเหลืองตัวนั้นยังนอนอยู่ที่เดิม แต่ที่เพิ่มมาคือจานอาหาร ลูกชิ้น ไก่ย่าง และขนมต่างๆ อันเป็นอาหารที่เหล่า นักศึกษาต่างพร้อมใจกันเอามาให้เจ้าหมาหน้าขาวตัวนี้ เราค่อยๆ กระเถิบตัวเข้าไปใกล้ๆ ยองนั่งลงคุยกับเขา “มายังไงเนี่ย” เขารีบทำ�หูลู่และกระดิกหางไปมาเป็นสัญลักษณ์ว่า “หนูไม่มีพิษภัยนะ” นมห้อยๆ ทั้งหกเต้าทำ�ให้เรารู้ว่าเขาเป็นหมาตัวเมียที่เพิ่งคลอดลูกไปไม่นานนัก “ไหนขอมือหน่อยซิ” เขายกขาหน้าให้ทนั ที แถมยังยิม้ ให้อกี และนัน่ คือความ ประทับใจแรกที่เราได้จากเจ้าหมาตัวนี้ 12
“พีย่ อร์ช ส้มตัง้ ชือ่ ให้แล้วนะ ชือ่ ‘กลูตา้ ’” ส้มภูมใิ จนำ�เสนอชือ่ ทีล่ อ้ หน้าขาวๆ ของเจ้าหมาตัวนี้กับเทรนด์การฉีดกลูต้าเข้าตัวเพื่อให้ผิวขาวใสของวัยรุ่นไทยใน ตอนนั้น ผมกับเพื่อนได้ยินก็พากันหัวเราะ และคิดในใจว่า ช่างเข้าท่า! วันต่อๆ มา อาหารทีก่ องรอบๆ ตัวกลูตา้ มากขึน้ เรือ่ ยๆ เพราะตัง้ แต่หลงมา วันแรก กลูต้ายังไม่ยอมกินข้าวสักคำ� เหมือนกำ�ลังตรอมใจ มันคิดถึงเจ้าของหรือ เปล่า? มันยังหาลูกทีพ่ ลัดหลงกันไม่ได้เหรอ? หรือมันกำ�ลังคิดถึงบ้าน? เพือ่ นๆ ผม พากันตั้งคำ�ถามไปต่างๆ นานา สองอาทิตย์ผา่ นไป กลูตา้ เริม่ กินลูกชิน้ และไก่ยา่ งจากเรา ผมเชือ่ ว่าเขายังคง ตรอมใจอยู่ แต่ถ้าไม่กินอะไรก็คงผอมตายจนแมลงวันตอมแทน กลูต้ามีนิสัย อ่อนน้อมถ่อมตัว ทำ�หูลู่ตลอดเวลา ใครผ่านไปมาก็ยกมือไหว้ เป็นหมามือไม้อ่อน คงจะขอฝากเนื้อฝากตัว ใช้ใต้หอพักแห่งนี้เป็นที่พักพิงที่ไม่รู้ว่าจะแค่ชั่วคราวหรือ ตลอดไป จากอาทิตย์เป็นเดือน จากเดือนเป็นหลายเดือน อาหารจากนักศึกษาที่เคย มีมากมายก็ลดน้อยลง แต่ผมกับส้มและบางคนในหอก็ทำ�หน้าที่ผลัดเวรกันให้ข้าว ให้น้ำ� แต่ถึงอย่างไรกลูต้าก็ผอมลงอย่างเห็นได้ชัด ขนตามลำ�ตัวเต็มไปด้วยรอย เปรอะเปื้อนสกปรก เนื้อตัวเริ่มเต็มไปด้วยแผลเล็กใหญ่และสะเก็ดแผลมากมาย ด้วยความทีผ่ มกับส้มจะมาทักทายกลูตา้ ทุกๆ วัน ความผูกพันเล็กๆ ระหว่างคนกับ หมาจึงเริ่มก่อตัวขึ้น ทุกครั้งที่กลับมาจากมหาวิทยาลัย กลูต้าจะจำ�เสียงรถมอเตอร์ไซค์ได้แม่น เขาจะวิ่งควบมาต้อนรับผม ดีใจกระโดดไปมา สีหน้าของกลูต้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หางขดม้วนที่ดุ๊กดิ๊กไปมาน่ารักดูจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สมบูรณ์ที่สุดในร่างกายเขา 13
เวลาผมลงมาจากหอแล้วไม่เห็นกลูตา้ เพียงเป่าริมฝีปากส่งเสียง กลูตา้ ทีไ่ ม่รไู้ ปแอบ ซุกนอนที่ไหน ก็จะรีบวิ่งควบเท้าเสียงดังแกร๊กๆๆๆ มาหาทันที ทุกวันหลังกลับจากมหาวิทยาลัย ผมจะได้รบั ความรูส้ กึ ดีๆ แบบนี้ จนเสพติด ความรู้สึกนี้ไปเสียแล้ว บริเวณหลังเครือ่ งซักผ้าหยอดเหรียญ กับช่องแคบด้านหลังหอระหว่างกำ�แพง กับตึก เป็นซอกกว้างประมาณหนึ่งฟุตครึ่ง มีต้นไม้ขึ้นรกเต็มบริเวณ คือที่หลับนอน ที่กลูต้าจะรู้สึกปลอดภัย หลังจากถูกพี่ยามไล่ในฐานะ ‘หมาจรไม่มีเจ้าของ’ ทั้งยัง ทำ�ให้ตกใจจนขวัญเสียด้วยการเคาะเหล็กเสียงดัง (กลูต้าเป็นหมาขี้กลัวมากๆ) ช่วงนี้เป็นช่วงที่กลูต้าโทรมมาก นอกจากสุขภาพกายไม่ค่อยดีเพราะที่นอน ไม่สะอาด และโดนยุงกัดทั้งคืนแล้ว ยังต้องสุขภาพจิตเสียจากการถูกไล่อีกด้วย ค่�ำ วันหนึง่ หลังจากเลิกเรียน ผมขับมอเตอร์ไซค์กลับหอตามปกติ วันนีก้ ลูตา้ ไม่ออกมาต้อนรับ ผมเลยเป่าปากเรียก แต่กลับไม่มีเสียงเล็บกระทบปูนซีเมนต์ ดังแกร๊กๆๆๆ เหมือนเคย ผมตะโกนเรียกกลูต้าเสียงดังไปทั่วหอพัก ที่หลังเครื่องซักผ้าและซอกตึกก็มีแต่ความว่างเปล่า ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนสูญเสียเพื่อนรักไป อย่างไม่ทันตั้งตัว กลูต้าคงโดนไล่ไปแล้ว ขณะที่กำ�ลังร้อนใจคิดว่าจะเริ่มหากลูต้า จากที่ไหนก่อนดี อยู่ๆ ก็มีเสียง อิ๋งๆๆ ลอยมาตามลม นั่นต้องเป็นเสียงกลูต้าแน่ๆ! ผมรีบวิ่งตามต้นเสียงพลางร้องเรียกกลูต้าไป ตามทาง เสียงอิ๋งๆ เข้ามาใกล้เรื่อยๆ สุดท้ายผมก็พบกลูต้าอยู่นอกรั้วหอ! เขายืน เกาะรั้วด้วยสองขาหน้า ดวงตากลมบ๊อกของเขาสะท้อนกับไฟคล้ายจะร้องไห้ ตอนนั้นผมรู้สึกดีใจเหมือนเพื่อนรักฟื้นจากความตายขึ้นมาตบไหล่ว่า เฮ้ย ร้องไห้ ทำ�ไม! 14
ผมรีบปีนไปอุ้มกลูต้าข้ามรั้วกลับมา พลางเริ่มชั่งใจว่าจะรับอุปการะเลี้ยง กลูต้าไว้เอง ผมตัดสินใจโทรไปเล่าเหตุการณ์วันนี้ให้ส้มฟัง “พี่ยอร์ชเอาขึ้นมาเลี้ยงเลย” ส้มตอบแบบไม่ต้องคิด แต่ผมคิดในใจว่า ขอวางแผนก่อนแล้วกัน วันต่อมา ผมกลับมาจากมหาวิทยาลัยอีกเช่นเคย ทักทายกลูต้าตามปกติ แต่วันนี้แปลกไปจากเดิม กลูต้าผู้ไม่เคยเหยียบเข้ามาในพื้นกระเบื้องของหอเลย แม้แต่น้อย วันนี้กลับย่ำ�เดินเข้ามา พอผมหยุดเดิน เขาก็หยุดและมองหน้า ผมเลย แกล้งผลักประตูกระจกให้เปิด กลูต้าก็เดินเข้ามาในหอ “เฮ้ยยย เอาจริงเหรอเนี่ย” ผมถามกลูต้า เขาได้แต่มองหน้า ผมเลยเดินขึ้นบันได กลูต้าก็เดินตามขึ้นมาอีกจนถึงหน้า ประตูหอ้ ง ผมไขกุญแจและลองเปิดประตูให้เขา กลูตา้ ผลุบเข้าประตูหอ้ งผมไปราวกับ ว่านี่คือห้องตัวเอง ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา กลูต้าก็กลายมาเป็นหมาที่อยู่ในความดูแลของเรา หรือว่าเมือ่ คืนกลูตา้ แอบฟังผมคุยโทรศัพท์กบั ส้มนะ ผมมองหน้ากลูตา้ แล้วคิดในใจ (หอพักของผมอนุญาตให้เลี้ยงหมาได้ แต่ไม่อนุญาตให้หมาจรมาอาศัยใต้หอครับ) นี่คือที่มาของกลูต้า ซึ่งเราไม่รู้ต้นตอหรือสาเหตุที่ทำ�ให้เจ้าหมาตัวนี้มาโผล่ ที่นี่เลย มีแค่เพียงเสียงฟ้าร้องและหยดฝนวันนั้นเป็นสัญลักษณ์ในการมาของเขา เท่านั้นเอง
15
ห้องเล็ก
หอพักทีเ่ ราอยูเ่ ป็นหอพักนักศึกษาระดับกลาง ขนาดห้องประมาณ 24 ตาราง เมตร มีเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ติดแอร์ และมีห้องน้ำ�ในตัว หลังจากที่ตัดสินใจให้กลูต้าเข้ามาอยู่ในห้อง ปัญหากองโตเท่าภูเขาที่เคย จินตนาการไว้ก็ถูกลืมไปหมด เพราะมัวแต่สนุกกับการจัดหาที่นอนนุ่มๆ ให้เหมาะ กับขนาดตัวของกลูต้า ก่อนจะลงมือขัดสีฉวีวรรณชำ�ระล้างความสกปรก ตอนนั้น กลูต้ากระโดดเป็นจิงโจ้เลยครับ ส่งเสียงดังลั่น ผมมั่นใจว่าเสียงร้องของกลูต้าตอน กลัวน้ำ�คงจะดังจากชั้น 2 ขึ้นไปถึงชั้น 8 แน่ๆ (แต่ไม่มีทีท่าว่ากลูต้าจะแยกเขี้ยวขู่ หรือแว้งกัดผมเลย) เดาว่ากลูต้าไม่เคยอาบน้ำ�มาก่อนครับ น้ำ�ที่ล้างตัวกลูต้า สีดำ�สนิท ต้องล้างอีกเกือบสิบรอบถึงจะหายสกปรก หลังจากนั้นเราก็หาผ้าขนหนูที่ไม่ได้ใช้แล้วมาเช็ดตัวให้ เนื้อตัวกลูต้าเต็มไป ด้วยรอยแผล ไม่รไู้ ปโดนอะไรมาเยอะแยะ มีทงั้ รอยขีดข่วน แผลสด แผลเปือ่ ย แผล ติดเชือ้ เราไม่ได้ใช้โทนาฟ แต่ใช้ยาม่วงทีส่ ม้ แนะนำ�เพราะเคยทาให้หมาจรแถวบ้าน แล้วแผลแห้งหาย ทำ�ให้กลูต้าเต็มไปด้วยลายสีม่วงเป็นดวงๆ ทั้งตัว จากนั้นก็ หาเห็บใส่ขวด (เพื่อไม่ให้เห็บขยายพันธุ์ได้อีก) ตอนนั้นน่าจะจับได้ไม่ต่ำ�กว่าร้อยตัว เสร็จแล้วก็ปทู น่ี อน กลูตา้ เดินเข้ามานอนเองโดยไม่ตอ้ งบอก วนๆ หมุนๆ 3 รอบ เป็นอันเสร็จพิธีการเปลี่ยนหมาจรให้เป็นหมาเลี้ยง คื น นี้ ฝ่ า ยคนนอนหลั บ สบายเพราะทั้ ง เหนื่ อ ยทั้ ง ภู มิ ใจ ส่ ว นฝ่ า ยหมาก็ หลับสบายเพราะทั้งสบายตัวที่ได้อาบน้ำ�และทั้งสบายใจที่ไม่ต้องต่อสู้กับฝูงยุง อีกแล้ว แอร์ในห้องขนาด 24 ตารางเมตรนี้เย็นฉ่ำ�เหลือเกิน แต่คืนนี้ผมกลับรู้สึก อบอุ่นกว่าทุกคืน 18
โรคร้าย
“กลูต้าท้องแน่ๆ เลย มีน้ำ�คร่ำ�ไหลออกมาจากจิ๊มิเนี่ย” ส้มบอกผมด้วยน้ำ�เสียงตื่นตระหนก ผมก็พลอยตื่นตกใจไปด้วย เพราะนี่ ก็เป็นครัง้ แรกทีเ่ ลีย้ งหมาตัวเมีย เราถึงกับคิดกันว่า ถ้าคลอดลูกออกมาแล้วจะหาบ้าน ให้เด็กๆ ยังไงดี กลูตา้ มีน�้ำ สีน�้ำ ตาลไหลออกมาจากอวัยวะเพศ หยดเป็นทางทัว่ ห้อง ทีส่ �ำ คัญ น้ำ�สีน้ำ�ตาลนั้นส่งกลิ่นเหม็นจนเราแทบอ้วก ตอนแรกคิดว่ามันคือน้ำ�คร่ำ� เราต้อง คอยใช้แอลกอฮอล์และน้ำ�ยาฆ่าเชื้อเดินตามเช็ด ด้วยความที่เราไม่รู้เลยว่าเกิด อะไรขึน้ กันแน่ จึงรีบโทรปรึกษาพีส่ นิ กับพีก่ งุ (พีท่ เี่ ราสนิทซึง่ เป็นคนรักหมาด้วยกัน) ทั้งคู่รู้จักกับสัตวแพทย์ท่านหนึ่งที่ทั้งเก่งและใจดี นั่นคือ หมออุ๋ม หมออุ๋มสรุปจากที่ฟังเราว่า กลูต้าเป็น ‘เนื้องอก’ หรือ ‘มะเร็ง’ ที่ช่องคลอด ไม่ได้ท้องอย่างที่เราคิด ตอนนั้นเรามืดแปดด้าน เพราะรู้ดีว่าค่ารักษาพยาบาลสุนัข นั้นแพงมาก เราเองยังเป็นนักศึกษาคงไม่มีเงินมากพอ ...แล้วจะทำ�ยังไงกันดี? ระหว่างที่พยายามหาหนทาง อยู่ๆ สวรรค์ก็ส่งนางฟ้ามาช่วยเรา พี่สินกับ พีก่ งุ ตัดสินใจรับดูแลเคสกลูตา้ และออกค่าใช้จา่ ยให้เราทัง้ หมด ทัง้ คูบ่ งึ่ รถมารับกลูตา้ ถึงคลองหกไปส่งที่คลินิกแถวดอนเมือง หมออุ๋มรักษากลูต้าด้วยการทำ�คีโม โดยจะ ทำ�ทุก 2 สัปดาห์ เมื่อครบทั้งหมด 4 ครั้งจึงค่อยใช้เลเซอร์ยิงเนื้องอกทิ้ง หลังจากทำ�คีโมครั้งแรก พอกลูต้ากลับมาถึงหอก็แสดงอาการดีใจมาก แต่ ท่าทีดีใจดูแปลกไป ถึงผมจะมองเห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความคิดถึงจากกลูต้า แต่แววตาครั้งนี้กลับดูเหม่อลอย ช่วงที่ทำ�คีโม กลูต้าจะเอาแต่ขดตัวนอนอยู่บนที่นอนไม่ไปไหน แต่ละวัน 26
ที่เราเทเปลี่ยนอาหารจะเห็นว่ากลูต้าไม่ได้กินเลย ถึงกลูต้าจะแพ้คีโมอย่างหนักแต่ก็ยังมีวินัย เพราะเขาจะไม่ยอมฉี่ในห้อง เด็ดขาด กลูต้าจะค่อยๆ เดินโซเซออกมาฉี่ที่สนามหญ้าข้างล่างหอ ฉี่ของกลูต้า เป็นสีเหลืองข้นเพราะฤทธิ์ยาหลายขนาน ขากลับจากทำ�ภารกิจส่วนตัว ระหว่าง ก้าวขาขึ้นบันได อยู่ๆ กลูต้าก็ล้มลงกับพื้นเหมือนคนเป็นลม ฉากนั้นทำ�ให้ผมต้อง กลั้นน้ำ�ตาเอาไว้ ไม่ใช่สงสารที่เขาล้ม แต่เป็นเพราะสายตาที่เขามองผมราวกับ จะถามว่า “พ่อ เกิดอะไรขึ้นกับหนู หนูเป็นอะไร ทำ�ไมหนูเดินไม่ได้” ผมกอดเขา พาอุ้มขึ้นบันไดกลับไปยังที่นอน นอกจากวินัยเรื่องการฉี่แล้ว ทุกครั้งที่เขาจะอ้วกซึ่งเป็นผลจากการแพ้คีโม กลูต้าจะเดินไปอ้วกบริเวณมุมด้านหลังห้อง สายตาของเขามองมาที่ผมด้วยความ รู้สึกผิด เพราะคิดว่าตัวเองกำ�ลังทำ�ห้องสกปรก “โถ...กลูต้า ห่วงตัวเองเถอะลูก” ผมเข้าไปปลอบ กลูต้าอยู่กับการนอน อ้วกแล้วอ้วกอีก กินข้าวไม่ได้ เดินแล้วล้ม เป็นเวลา ประมาณ 2 เดือน และหลังจากฉีดยาเข็มสุดท้าย คุณหมอก็ใช้เลเซอร์ยิงมะเร็ง โชคดีว่ากลูต้าเป็นมะเร็งประเภท VG ซึ่งเป็นมะเร็งชนิดเดียวของสุนัขที่รักษาให้ หายขาดได้ หลังจากนั้นกลูต้าก็เริ่มมีแรงเดิน เริ่มกินข้าวได้ แถมยังกินเก่งอีกด้วย ขนชุดใหม่ค่อยๆ ขึ้นตามตัว แววตาที่ซึมเศร้ากลับมาสดใสกว่าที่เคย ทั้งนี้เราต้อง ขอขอบคุณ พีส่ นิ พีก่ งุ และครอบครัว ไปจนถึงหมออุม๋ ทีใ่ ห้ชวี ติ ใหม่กบั กลูตา้ อีกครัง้ นะครับ “กลูต้าท้องหรือเปล่าคะ?” นักศึกษาที่เดินผ่านทักกลูต้า “อ๋อ เปล่าครับ เค้าแค่อุดมสมบูรณ์ไปหน่อย” ผมรีบตอบ 27
ธรรมชาติ
กว่าหกเดือนกับการรักษาตัว ตัง้ แต่ขเี้ รือ้ น โรคผิวหนัง มดลูกอักเสบ ไปจนถึง มะเร็งปากมดลูก ทำ�ให้กลูต้าใช้ชีวิตอยู่แค่พื้นที่ข้างๆ หอ (เอาไว้ฉี่) และบนหอพัก (เอาไว้นอน) เท่านั้น วิถีชีวิตกลูต้ากลายเป็นวงจรซ้ำ�ๆ จนผมเองรู้สึกว่า ถึงเวลา ทำ�ให้ความเบื่อหน่ายนี้หมดไปได้แล้ว ผมสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ อุ้มกลูต้าขึ้นมานั่งด้านหน้า และบึ่งไปยังทุ่งนาที่ ไม่ห่างจากหอพักนัก ระหว่างทาง ผู้คนที่เราขับผ่านไปพากันหัวเราะ เพราะเวลา กลูต้านั่งมอเตอร์ไซค์จะใช้ก้นนั่งที่เบาะแล้วเอาขาคู่หน้าพาดไปข้างหน้า มองเผินๆ คล้ายกับเด็กที่ซ้อนด้านหน้าพ่อแม่ แต่ถ้าจ้องดีๆ จะเห็นว่าเป็นเด็กหูตั้งแหลม ตัวขาวจั๊วะ แถมลิ้นห้อยตลอดเวลา เมื่อถึงทุ่งนาก็ไม่ต้องให้สัญญาณอะไร กลูต้าเหมือนรู้ว่า ‘นี่คือช่วงเวลาของ ฉัน’ กระโดดสปริงตัวจากรถมอเตอร์ไซค์ลงไปที่พื้น วิ่งไปวิ่งมา เกลือกกลิ้งตาม พงหญ้าและพื้นดินจนฝุ่นคลุ้ง เหมือนกอดรัดฟัดเหวี่ยงพื้นดินด้วยความคิดถึง ทำ�ท่าแปลกๆ ที่ผมเองก็ไม่เคยเห็น จนอดหัวเราะอยู่ข้างทุ่งนาคนเดียวไม่ได้ ตอนนั้นกลูต้าเปลี่ยนจากหมาเชื่อฟังกลายเป็นหมาซน ไม่ว่าผมจะร้องห้าม ว่า “อย่าเข้าป่าตรงนั้น!” “อย่าลุยโคลนตรงนี้!” “กลูต้าอย่าไปไกล!” ก็กลายเป็นแค่ เสียงที่ลอยไปตามลม ซึ่งผมก็ไม่ได้โกรธอะไร เพราะเข้าใจดีว่าปกติเขาไม่ได้มีนิสัย แบบนี้ ผมได้รู้จักกลูต้ามากขึ้นก็วันนี้ ระหว่างนั่งเฝ้ากลูต้าอยู่นานสองนาน ผมไม่มีอะไรทำ�ก็เลยหยิบกิ่งไม้แห้ง ยาวประมาณไม่เกินฟุตขึ้นมาหักเล่น เปาะ! เปาะ! อยู่ๆ กลูต้าก็มองมาที่ผม พร้อม ทำ�ท่าจะขอกิ่งไม้ ผมคิดในใจ ฮั่นแน่!... เล่นเป็นด้วยเหรอเนี่ย ผมยกกิ่งไม้ขึ้นหลอก 28
ว่าจะขว้างแต่ไม่ขว้าง กลูตา้ รูท้ นั กระดิกหาง มองหน้าผมเหมือนท้าว่า “ขว้างสักทีสิ ทีอ่ ยูใ่ นมือน่ะ!” ผมขว้างกิง่ ไม้ลอยโด่งไปไกล กลูตา้ วิง่ ตรงไปคาบกิง่ ไม้ดว้ ยความเร็ว เหมือนนักวิ่งโอลิมปิก ในใจผมคิดว่า หมาเรานี่มันอัจฉริยะจริงๆ! กลูต้างับกิ่งไม้เสร็จ คาบกิ่งไม้วิ่งตรงมายังผม... ...และเลยไป แป่ววว! เขาเอาไปนอนแทะเล่นครับ ตอนแรกคิดว่าจะคาบไม้กลับมาให้เสียอีก... แง่บๆๆๆ กลูตา้ แทะไม้อย่างเมามัน วันนีก้ ลูตา้ คงมีความสุขมาก ผมก็รสู้ กึ ดี ไม่แพ้กัน ผมว่าผมเสพติดความสุขง่ายๆ แบบนีซ้ ะแล้ว ความสุขทีเ่ ห็นกลูตา้ ฝังกระดูก ลงดิน ขุดทรายให้เป็นหลุมเย็นๆ เอาพุงยุ้ยๆ แช่ในหลุมทราย เห่านก เห่าปลา เห่าตัวเงินตัวทอง แทะกิ่งไม้แห้ง ผมประทับใจที่ได้เห็นสีหน้ากลูต้าเวลาอยู่กับ ธรรมชาติทเี่ ขาชืน่ ชอบ และนีค่ อื เหตุผลทีผ่ มชอบถ่ายภาพกลูตา้ ท่ามกลางธรรมชาติ ครับ
29
รางวัลของกลูต้า
• รางวัล Dog of the Year 2013 จากเว็บไซต์หมาอันดับหนึ่งของไทย DogiLike.com • รางวัลสุดยอดกระทู้แห่งปี 2013 จากกระทู้ ‘กลูต้า จากหมาหลงสู่ถนน นางแบบ’ ใน Pantip.com • รางวัลโล่เกียรติยศจากเวที Thailand Zocial Awards 2014 • นิทรรศการแสดงภาพถ่าย ‘กลูต้า หมาหน้ายิ้ม’ ที่ The Jam Factory • ถูกเชิญไปออกรายการทีวีต่างๆ ทั้งช่อง Voice TV, ThaiPBS, ช่อง 3 และ เคเบิลทีวีอีกหลายช่องหลายรายการ เรื่องราวกลูต้ายังเผยแพร่ไปยังทั่วโลก ฉายา ‘The Happiest Dog in The World’ ถูกเผยแพร่ตามเว็บไซต์และหนังสือพิมพ์ต่างๆ เช่น • Frankie นิตยสารศิลปะชื่อดัง • เว็บไซต์รวมผลงานศิลปะจากทั่วโลก Ignant.com • เว็บไซต์รวมผลงานศิลปะจากทั่วโลก BoredPanda.com • เว็บไซต์ข่าวสากล mentalfloss.com • เว็บไซต์ข่าวสากล distractify.com และยังถูกตีพมิ พ์ลงหน้าหนังสือพิมพ์ ทัง้ ในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แอฟริกาใต้ ฮ่องกง เกาหลีใต้ และเวียดนาม ส่วนรางวัลที่กลูต้าชอบมากที่สุดน่าจะเป็นการได้นั่งมอเตอร์ไซค์ไปวิ่งเล่น ที่ทุ่งนาครับ
ขอบคุณ
• ขอบคุณ ส้ม แม่กลูต้า ส้มไม่ได้เขียนหนังสือเล่มนี้ แต่ส้มเป็นคนเขียนชีวิต ให้กับกลูต้า เป็นคนที่ตัดสินใจเด็ดขาดแน่วแน่ ออกคำ�สั่งเชิงปฏิวัติให้ผมตัดสินใจ รับเลี้ยงกลูต้า และขอบคุณที่ตะลอนพาหมาขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปไหนต่อไหนด้วยกัน ถึงกลูต้าจะตัวหนักจนทำ�ให้ปวดแขน • ขอบคุณพี่สิน พี่กุง และครอบครัว ที่ตัดสินใจช่วยค่ารักษากลูต้าให้เรา ในยามยาก • ขอบคุณหมออุม๋ พีต่ มั้ ทีช่ ว่ ยสร้างปาฏิหาริยใ์ นการรักษากลูตา้ และกอลลัม่ จนหายและแข็งแรงดี • ขอบคุณพี่ๆ ที่ a book และขอบคุณพี่เบนซ์ ที่กล้าให้โอกาสนักศึกษา จบใหม่อย่างผมได้เป็นนักเขียน ขอบคุณมากนะครับ • ขอบคุณกลูต้ากับกอลลั่ม ที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิตเราให้โคตรจะดีขึ้น
เกี่ยวกับผู้เขียน
ยอร์ช-สรศาสตร์ วิเศษสินธุ์ เกิดปี 2533 ชอบนั่งยองๆ เล่นกับหมาจรข้างถนน ชอบพาหมาขี่มอเตอร์ไซค์ จะมีความสุขสุดๆ ถ้าสามารถเอาชนะใจหมาดุๆ ที่ชอบเห่าริมถนน ให้หันมายิ้มและกระดิกหางแทน ปัจจุบันเป็นช่างภาพ เป็นผู้กำ�กับหนังโฆษณา และเป็นพ่อกลูต้า
สรศาสตร์ วิเศษสินธุ์ หนังสือในชุด Life & Inspiration พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม 2558 ราคา 295 บาท เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนังสือ 978-616-327-107-5 ข้อมูลบรรณานุกรมของสำ�นักหอสมุดแห่งชาติ สรศาสตร์ วิเศษสินธุ์. Gluta Story.-- กรุงเทพฯ : อะบุ๊ก, 2558. 224 หน้า. 1. สุนัข--ความเรียง. I. ชื่อเรื่อง. 895.914 ISBN 978-616-327-107-5 ในกรณีที่หนังสือชำ�รุดหรือเข้าเล่มสลับหน้า กรุณาส่งหนังสือเล่มนั้นมาตามที่อยู่สำ�นักพิมพ์ สำ�นักพิมพ์อะบุ๊กยินดีเปลี่ยนเล่มใหม่ให้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
สำ�นักพิมพ์อะบุ๊ก บรรณาธิการที่ปรึกษา วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ บรรณาธิการบริหาร ภูมิชาย บุญสินสุข ผู้จัดการสำ�นักพิมพ์ สุรเกตุ เรืองแสงระวี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด วิไลลักษณ์ โพธิ์ตระกูล บรรณาธิการ นทธัญ แสงไชย บรรณาธิการเล่มและบรรณาธิการศิลปกรรม บพิตร วิเศษน้อย ภาพถ่าย สรศาสตร์ วิเศษสินธุ์ ศิลปกรรม เมธาสิทธิ์ กิตติกุลยุทธ์ พิสูจน์อักษร ชลธร จารุสุวรรณวงค์ ประสานงานการผลิต อธิษฐาน กาญจนะพงศ์ สื่อสารการตลาด เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำ�กัด ที่ปรึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย, นิติพัฒน์ สุขสวย ผู้จัดการทั่วไป จัณฑรัศมิ์ เกียรติยศ ผู้ช่วยผู้จัดการ ณัฐธยาน์ อึ้งตระกูลนิธิศ ธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ผู้จัดการฝ่ายขายออนไลน์ พิมพ์นารา มีฤทธิ์, ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์ ผู้จัดการฝ่ายดิจิทัลคอนเทนต์ วิมลพร รัชตกนก ลูกค้าสัมพันธ์ อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค เว็บมาสเตอร์ จุฬชาติ รักษ์ใหญ่ ในเครือ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จำ�กัด จัดพิมพ์โดย สำ�นักพิมพ์ เลขที่ 33 ซอยศูนย์วิจัย 4 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทรศัพท์ 0-2716-6900-4 ต่อ 308, 310 โทรสาร 0-2718-0690 แยกสีและพิมพ์ บริษัท โรงพิมพ์อักษรสัมพันธ์ (1987) จำ�กัด โทรศัพท์ 0-2428-7500 จัดจำ�หน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำ�กัด (มหาชน) เลขที่ 1858/87-90 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2739-8000 โทรสาร 0-2751-5999