02
ข้อมูลพระโกศจันทน์และพระหีบจันทน์ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ
IN MEMORIAM ริว้ ขบวนพระบรมราชอิสริยยศ และแผนที่ จุดวางดอกไม้จน ั ทน์ทวั่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล
AGENDA ภาพค�่ำคืนสุดท้ายของการเข้ากราบ ถวายบังคมพระบรมศพฯ
COVER STORY ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระ-
BEHIND THE COVER
CONTENTS
DATABASE
I S S U E 509 23 Oct 2017
ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
SPACE & TIME พระบรมฉายาลักษณ์และพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์จากงานนิทรรศการทรงคุณค่า
A THOUSAND WORDs ศิลปะร่วมสมัยแห่งรัชกาลที่ ๙
LIFE ภาพบรรยากาศพระเมรุมาศ ตั้งแต่ช่วงก�ำลัง ก่อสร้าง จนแล้วเสร็จสมบูรณ์
a day BULLETIN ได้อญ ั เชิญภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทีท ่ รงถ่ายเงาของพระองค์เองทีส ่ ะท้อน ในบ่อสรงน�ำ้ ณ วังไกลกังวล อ�ำเภอหัวหิน เมือ่ ปี พ.ศ. ๒๕๒๘ เพือ ่ น�ำมาเป็นภาพปกนิตยสารฉบับพิเศษ ทีม ่ ค ี วามหนาเกือบ ๘๐ หน้า โดยเนือ ้ หาทัง ้ หมดเป็นความตัง ้ ใจ ที่ พ วกเราจั ด ท� ำ เพื่ อ ถวายอาลั ย แด่ พ ระองค์ ท่ า น เป็นครัง้ สุดท้าย ซึง่ ภาพฝีพระหัตถ์นเี้ คยปรากฏบนปก หนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห ่ วั พิมพ์โดยอมรินทร์พริ้นติ้งกรุ๊ป เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๒ มาหนึ่ ง ครั้ ง แล้ ว ซึ่ ง เราเห็ น ว่ า สามารถสะท้ อ น ความร่ ม เย็ น ที่ ท รงมอบให้ ป ระชาชนได้ เ ป็ น อย่ า งดี เราจึงตัดสินใจอัญเชิญเพื่อน�ำมาเผยแพร่อีกครั้ง และทางนิตยสาร a day BULLETIN ขอขอบคุณ ความอนุเคราะห์จากสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชู ป ถั ม ภ์ ที่ อ� ำ นวยความสะดวกใน การส่งมอบไฟล์ภาพและในการจัดพิมพ์มา ณ ที่นี้
ที่ปรึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บรรณาธิการที่ปรึกษา นิภา เผ่าศรีเจริญ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา/บรรณาธิการบริหาร วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ บรรณาธิการบทความ ทรรศน หาญเรืองเกียรติ ปริญญา ก้อนรัมย์ พิมพ์อร นทกุล กองบรรณาธิการ ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ กมลวรรณ ส่งสมบูรณ์ พัทธมน วงษ์รัตนะ นักเขียน/ประสานงาน ตนุภัทร โลหะพงศธร บรรณาธิการภาพ คเชนทร์ วงศ์แหลมทอง หัวหน้าช่างภาพ กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร ช่างภาพ ภาสกร ธวัชธาตรี รัชต์ภาคย์ แสงมีสินสกุล บรรณาธิการศิลปกรรม พงศ์ธร ยิ้มแย้ม ศิลปกรรม ชยุตม์ คชโกศัย สิริลักษณ์ ตะเภาหิรัญ ฐิติชญา อนันต์ศิริภัณฑ์ พิสูจน์อักษร หัสยา ตั้งพิทยาเวทย์ ศักดิ์สิทธิ์ ไม้ล�ำดวน ธมนวรรณ กัวหา ฝ่ายผลิต วิทยา ภู่ทอง บรรณาธิการดิจิตอลคอนเทนต์ มิ่งขวัญ รัตนคช กองบรรณาธิการดิจิตอลคอนเทนต์ จักริน อินต๊ะวงค์ ผู้ จั ด การฝ่ า ยดิ จิ ต อลมี เ ดี ย ธนาคาร จั น ทิ ม า ผู้ ป ระสานงานฝ่ า ยดิ จิ ต อลมี เ ดี ย สิ ริ น ารถ อิ น ทะพั น ธุ์ ผู้ ช� ำ นาญการฝ่ า ยดิ จิ ต อลมี เ ดี ย กะรั ต เพชร บุ ญ ลั ก ษณ์ ศิ ริ ที่ ป รึ ก ษาฝ่ า ยโฆษณา ศรวณี ย์ ศิ ริ จ รรยากุ ล ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา มนัสนันท์ รุ่งรัตนสิทธิกุล 08-4491-9241 ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายโฆษณา ธนาภรณ์ ศรีจุฬางกูล 08-1639-1929, พงศ์ธิดา อังศุวัฒนากุล 09-4415-6241, ณัฐวีณ์ ประมุขปฐมศักดิ์ 08-3922-9929 ฝ่ายโฆษณาอาวุโส ภรัณภพ สุขอินทร์ 08-9492-3444, ชินวัฒน์ เฟื้องฟู 09-4353-9639 เลขานุการฝ่ายโฆษณา อัจจิมา กาญจนสมทรัพย์ ฝ่ายธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม นักศึกษาฝึกงาน ภาณุทัช โสภณอภิกุล ผู้ ผ ลิ ต บริ ษั ท เดย์ โพเอทส์ จ� ำ กั ด เลขที่ 33 ซอยศู น ย์ วิ จั ย 4 แขวงบางกะปิ เขตห้ ว ยขวาง กรุ ง เทพฯ 10310 ติ ด ต่ อ กองบรรณาธิ ก าร โทร. 0-2716-6900 อี เ มล contact@adaybulletin.com เว็บไซต์ www.adaybulletinmagazine.com, www.daypoets.com, www.godaypoets.com
a day bulletin
DATABASE
04
เรื่อง : ตนุภัทร โลหะพงศธร ภาพ : ชยุตม์ คชโกศัย
THE ROYAL CASKET พระโกศจันทน์และพระหีบจันทน์เป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศ ประดิษฐานบนพระจิตกาธาน ณ จุดศูนย์กลางของพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งจัดสร้างขึ้นตามแบบแผน ศิลปกรรมไทยโบราณราชประเพณี โดยส�ำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ด้วยความตั้งใจของช่างผู้สรรค์สร้างงานหัตถศิลป์ชั้นสูง พร้อมช่างฝีมือจิตอาสา ร่วมฉลุและสลักเสลาลวดลายวิจิตรลงบนไม้จันทน์อย่างประณีต เพื่อให้สมพระเกียรติสูงสุด
๘ พระโกศจันทน์ มีลกั ษณะเป็นทรงแปดเหลีย่ ม รองด้วยพระหีบจันทน์ทรงสีเ่ หลีย่ มปากผาย มีโครงภายในเป็นเหล็กไร้สนิมและกรุด้วย ลวดตาข่าย ใช้ไม้จนั ทน์ฉลุลายให้ได้สดั ส่วน ขัดแต่งผิวลับคมและเสี้ยนให้เรียบ ก่อนน�ำ ประกอบเข้าชุด โดยแยกสีเนื้อไม้เพื่อให้เกิด มิติสวยงาม
๑๒ ไม้จันทน์ที่ใ ช้ ประกอบในงานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เป็นไม้จนั ทน์หอม ยืนต้นตายตามธรรมชาติ จ�ำนวน ๑๒ ต้น ในพื้ น ที่ อุ ท ยานแห่ ง ชาติ กุ ย บุ รี จั ง หวั ด ประจวบคี รี ขั น ธ์ โดยแปรรู ป เป็ น แผ่ น ไม้ ๑,๔๑๕ แผ่น และเป็นไม้ท่อน ๔๖ ท่อน
๖๔ issue 509 23 OCT 2017
องค์ พ ระโกศจั น ทน์ ป ระดั บ ลายกลี บ จงกล พร้อมองค์เทพนมประจ�ำกลีบ แกะสลักลอยตัว ลงรักปิดทอง ขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก รวมจ�ำนวน ๖๔ องค์ ถือเป็นงานประณีตศิลป์ชั้นสูง เพื่อสื่อ ความหมายถึงพระนารายณ์ มหาเทพผูค้ มุ้ ครอง ปกป้อง และรักษาโลก
๒๔ ท่อนไม้จนั ทน์หรือฟืนไม้จนั ทน์ทใี่ ช้เป็นเชือ้ เพลิง มีจ�ำนวน ๒๔ ท่อน แต่ละท่อนมีความกว้าง ๒ นิ้ว และมีความยาว ๖๐ เซนติเมตร เขียน เป็นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลงรักปิดทองตามแบบ ศิลปะลายรดน�ำ้ สะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของจิตรกรรมไทย
๗ ช่อไม้จนั ทน์สำ� หรับพระราชพิธถี วายพระเพลิง พระบรมศพฯ ส�ำหรับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และ พระบรมวงศานุวงศ์ มีทั้งหมด ๗ แบบ โดย แกะสลักและฉลุลายไม้เป็นลายดอกไม้เทศ ประดุจดอกไม้บนสรวงสวรรค์
๑๓๒ พระหี บ จั น ทน์ ประดั บ ลายครุ ฑ จ� ำ นวน ๑๓๒ องค์ สือ่ ความหมายถึงคติความเชือ่ ทีว่ า่ พระมหากษั ต ริ ย ์ คื อ องค์ ส มมติ เ ทพของ พระนารายณ์ อวตารลงมายั ง โลกมนุ ษ ย์ โดยใช้ครุฑเป็นพาหนะ เพื่อดูแลปวงประชา ให้สุขสงบร่มเย็น รวมทั้งการเสด็จสู่แดนสรวง
ที่มา : คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, ส�ำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
a day bulletin
IN MEMORIAM
06
เรื่อง : คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เรียบเรียง : ตนุภัทร โลหะพงศธร ภาพ : สิริลักษณ์ ตะเภาหิรัญ, วริทธิ์ธร สุขสบาย
07
ขบวนพระบรมราชอิสริยยศ
ROYAL CHARIOTS AND PALANQUINS
ริว้ ขบวนที่ ๑
ริว้ ขบวนที่ ๒
ริว้ ขบวนที่ ๓
การอัญเชิญพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปสู่พระเมรุมาศ หรืออัญเชิญ พระบรมอัฐิจากพระเมรุมาศ มาสู่พระบรมมหาราชวัง และอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารไปบรรจุ ตามโบราณกาลจะอัญเชิญด้วยขบวน พระราชอิสริยยศ ซึ่งเรียกว่า ‘ริ้วขบวน’
เชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประดิษฐานบนพระยานมาศสามล�ำคาน ออกจากพระบรมมหาราชวัง ผ่ า นทางประตู เ ทวาภิร มย์ โดยใช้ เ ส้ น ทาง ถนนมหาราช เลีย้ วเข้าสูถ่ นนท้ายวัง มุง่ ไปยังถนนสนามไชย
เชิญพระโกศทองใหญ่ขนึ้ ประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชยั ราชรถโดยเกริน บัน ไดนาค บริเ วณหน้ า วัด พระเชตุพนวิมลมังคลาราม ยาตราขบวนแห่เชิญพระโกศทองใหญ่ โดยใช้เส้นทางถนนสนามไชย และถนนราชด�ำเนินใน เข้าสู่ ท้องสนามหลวง
เชิ ญ พระโกศทองใหญ่ ล งจากพระมหาพิ ชั ย ราชรถโดย เกรินบันไดนาค ประดิษฐานบนราชรถปืนใหญ่ ตั้งขบวน พระบรมราชอิสริยยศเข้าสู่ราชวัติ เวียนพระเมรุมาศโดย อุตราวัฏหรือเวียนซ้าย ๓ รอบ ก่อนเชิญพระโกศทองใหญ่ขนึ้ ประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน
พระราชพิ ธี ถ วายพระเพลิ ง พระบรมศพพระบาท-
๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐
รวมระยะทาง ๘๑๗ เมตร
สมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช ระหว่ า ง
๓๐ นาที
รวมระยะทาง ๘๐๐ เมตร
๒๐ นาที
รวมระยะทาง ๒๖๐ เมตรต่อรอบ
๓๐ นาที
วั น ที่ ๒๖-๒๙ ตุ ล าคม ๒๕๖๐ ประกอบด้ ว ยขบวน
๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๐
ุ
ุเมร
ระส นพ ถน
พระบรมราชอิสริยยศ จ�ำนวน ๖ ริ้วขบวน
๖
พ
น้า
นห
ถน ระ
๓
น
ลา
๔
ราช
ถน
หา
วัดบวรนิเวศวิหาร
ด าช
นร
นม
ถน
ใน
เนิน
ด�ำ
ราช
น ถน
าง
กล
นิน �ำเ
๔
๕
ริ้วขบวนที่ ๔ เชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระที่นั่งราเชนทรยาน และเชิญพระบรมราชสรีรางคารขึ้นประดิษฐานในพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย ออกจากพระเมรุมาศ ไปตาม ถนนราชด�ำเนินใน และถนนหน้าพระลาน เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง ขบวนพระบรมราชอิสริยยศเชิญพระบรมราชสรีรางคารโดยพระราเชนทรยานน้อย แยกเข้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคารพักไว้ทพี่ ระศรีร๒ตั นเจดีย์ ขบวนพระบรมราชอิสริยยศเชิญพระโกศพระบรมอัฐโิ ดยพระทีน่ งั่ ราเชนทรยาน เข้าประตูพมิ านไชยศรี เชิญพระโกศพระบรมอัฐิ จากพระที่นั่งราเชนทรยานเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประดิษฐานที่บุษบกแว่นฟ้าทอง
๒
กัล
รวมระยะทาง ๑,๐๗๔ เมตร
ณ
ยา ตร
ไม
น
ถน
ย
มไช
า สน
๒
น ถน
ัง
ยว
ท้า
น ถน
พระบรมมหาราชวัง
๓๐ นาที
ี
๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐
๑
์
างค
ัษฎ
นอ
ถน
วัดราชบพิธสถิต มหาสีมารามราชวรวิหาร
๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐
ริว้ ขบวนที่ ๕
ริว้ ขบวนที่ ๖
เชิ ญ พระโกศพระบรมอั ฐิ โ ดยพระที่ นั่ ง ราเชนทรยาน จากพระที่ นั่ ง ดุ สิ ต มหาปราสาท ขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
ขบวนกองทหารม้าเชิญพระบรมราชสรีรางคารจากพระศรีรตั นเจดีย์ วัดพระศรีรตั นศาสดาราม โดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรี ใช้เส้นทาง ถนนกัลยาณไมตรี และถนนอัษฎางค์ ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จากนั้นขบวน กองทหารม้า เชิญพระบรมราชสรีรางคารจากวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยรถยนต์ พระที่นั่ง ย้อนกลับเส้นทางเดิม เข้าสู่ถนนราชด�ำเนินใน ถนนราชด�ำเนินกลาง และถนน พระสุเมรุ เพื่อไปบรรจุสรีรางคาร ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐
issue 509 23 OCT 2017
ราชรถ ราชยาน
รวมระยะทาง ๖๓ เมตร
๑๐ นาที
พระมหาพิชัยราชรถ
ราชรถปืนใหญ่
พระที่นั่งราเชนทรยาน
พระราเชนทรยานน้อย
พระยานมาศสามล�ำคาน
เกรินบันไดนาค
เป็นราชรถทีม่ ขี นาดใหญ่ทสี่ ดุ ในริว้ ขบวนพระบรมราชอิ ส ริ ย ยศ สร้ า งขึ้น ในสมัย พระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ใช้อัญเชิญ พระโกศพระอั ฐิ ส มเด็ จ พระปฐมบรมมหาชนก ออกพระเมรุ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๙ ต่อมาใช้อัญเชิญ พระบรมโกศพระมหากษั ต ริ ย ์ และพระโกศ พระบรมวงศ์
ราชรถที่ เ ชิ ญ พระโกศพระบรมศพของพระมหากษัตริยแ์ ละพระศพของพระบรมวงศานุวงศ์ที่ ทรงรับราชการทหารเมื่อครั้ง ด�ำรงพระชนม์ ชีพ แทนพระยานมาศสามล�ำคานตามธรรมเนียมเดิม จากพระบรมมหาราชวั ง หรื อ วั ง สู ่ พ ระเมรุ ม าศ และแห่อุตราวัฏรอบพระเมรุมาศ ๓ รอบ
สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีคานส�ำหรับหาม ๔ คาน ใช้ในพระราชพิธบี รมราชาภิเษก และใช้ในการเชิญ พระโกศพระบรมอั ฐิ พ ระมหากษั ต ริ ย ์ สมเด็ จ พระบรมราชินี และพระอัฐิพระบรมวงศ์ จากพระเมรุมาศ พระเมรุ ไปยังพระบรมมหาราชวัง
พระยานมาศองค์ ใ หม่ ดั ด แปลงรู ป ทรงมาจากพระที่ นั่ ง พระราเชนทรยาน แต่มขี นาดเล็กกว่า ประกอบด้วยการเข้าเดือย ตัวผูแ้ ละตัวเมียทีป่ ลายไม้ เป็นวิธกี ารเข้าไม้แบบโบราณ ส�ำหรับ อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร หลังเสร็จพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพ เพือ่ อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร หรือ เถ้าพระบรมอัฐิ ไปยังพระบรมมหาราชวัง
เป็นยานทีม่ คี านหามขนาดใหญ่ กลางตัง้ แท่นท�ำด้วยไม้จำ� หลัก ลวดลายลงรักปิดทอง มีพนักโดยรอบ ๓ ด้าน และมีคานหาม ๓ คาน จึงเรียกว่า พระยานมาศสามล�ำคาน สร้างขึ้นในสมัย พระบาทสมเด็ จ พระพุ ท ธเลิ ศ หล้ า นภาลั ย เพื่ อ ใช้ อั ญ เชิ ญ พระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็นครั้งแรก
ใช้ เ ชิ ญ พระโกศพระบรมศพขึ้ น หรื อ ลงจากราชรถและ พระเมรุมาศแทนการใช้นั่งร้านไม้ต่อยกสูงแบบสมัยโบราณ ที่ใช้ก�ำลังคนยกขึ้นลงซึ่งมีความยากล�ำบาก โดยท�ำเป็นราง เลื่อนขึ้นลงด้วยกว้านหมุน ลักษณะการใช้งานเหมือนลิฟต์ใน ปัจจุบัน ใช้ครั้งแรกในงานพระเมรุพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พ.ศ. ๒๓๕๕
a day bulletin
๕
08
09 ซุ้มรับดอกไม้จันทน์ขนาดใหญ่
สน
๑๒
ถ.ส
ามเ
ถ.
ท าเร�อพระอาทิตย
๔
สะพ
าธิป ระช
นินน ๖
รค
ถ. จักรพ
ถ. ดินสอ
ถ. ตะนาว
วังวรดิศ
ท าเร�อผ านฟ าลีลาศ
วัดราชนัดดาราม
ถ. แพร งนรา
๘
ถ. บำ
รุงเมือ
ง๒
ถ. ตีทอง
ถ. ว
ถ. เฟ� องนคร
๒
รจัก
ร
ถ. อัษฎางค
ถ. สนามไชย
วัดสุทัศน เทพวราราม
สวนรมณีนาถ ถ. มหา
ไชย
สวนสราญรมย ๓
วัดโพธิ์
ท าเร�อท าเตียน
ถ. หล
ศาลา เฉลิมกรุง
พระเมรุมาศจ�ำลอง พระลานพระราชวังดุสิต ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) ลานหน้าศูนย์เยาวชนฯ ไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) ลานหน้าอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย สวนหลวง ร.๙ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๖ สวนลุมพินี ลานหน้าธนาคารกสิกรไทย ส�ำนักงานใหญ่ แฟชั่น ไอส์แลนด์ เชิงสะพานพระราม ๘ (ฝั่งธนบุรี) ลานหน้าสนามศุภชลาศัย
๑. วัดบุรณศิริมาตยาราม ๒. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ๓. หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร ๔. วัดมหรรณพารามวรวิหาร ๕. วัดอินทรวิหาร ๖. อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ๗. เทเวศประกันภัย ส�ำนักงานใหญ่ ๘. หน้าทางเข้าซอยวัดปรินายก ๙. บริเวณส�ำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ๑๐. แยก จปร. (ราชด�ำเนิน) ๑๑. แยกมัฆวานรังสรรค์ ๑๒. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร ๑๓. มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ๑๔. วัดไตรมิตรวิทยารามราชวรวิหาร ๑๕. หอเกียรติภูมินายกรัฐมนตรี บ้านมนังคศิลา
วัดสระเกศ
ราษฎร
ถ. บำรุงเมือง
วังสราญรมย
• • • • • • • • • • •
ซุ้มรับดอกไม้จันทน์ขนาดกลาง
เสาชิงช า
ศาลหลักเมือง
วัดพระศร�รัตนศาสดาราม
๑๕ ๑๓
รรดิพงษ
อนสุ าว ำเนินใน ถ. ราชด
๔
ซอยสำราญ
ถ. มหาราช
สวร
ถ. หลานหลวง
นิทรรศน รัตนโกสินทร
ถ. มหรรณพ
ท าเร�อท าช าง
คร ถ. น
๗
าธปิ ไตย
๑
ท าเร�อท ามหาราช
จุดอื่นๆ นอกเหนือจากในแผนที่
๘
เนินกลาง
รย� ป ระช
สนามหลวง
๑๐
๙
าร
ท าเร�อท าพระจันทร
ท าเร�อวังหลัง
ัตร�ย
ุ
๓
ถ. ราชดำ
ิกษ
ถ. ดินสอ
าวส
ุทธ
ชดำเ
วัดบวรนิเวศ ราชวรว�หาร
ุเมร
ว�ส
ถ. รา
ระส
ถ. ป
จัก ถ.
ถ. พ
๖
ถ. ข
ถ.
อก
ล า
งษ
�นเก
ะอ
รพ
ระป
พร
๙
ย ไตย
านพ
ถ.
ิต าท
๕
๑
ลก
วัดมกุฏกษัตร�ยาราม วัดตร�ทศเทพ
พ�พ�ธภัณฑสถานแห งชาติ พระนคร
โรงพยาบาลศิร�ราช
ณุโ
๑๑
พ�พ�ธภัณฑสถานแห งชาติ หอศิลป ๒
พ�ษ
๑. ฐานทัพเรือกรุงเทพ ๒. โรงพยาบาลศิริราช ๓. พระเมรุมาศจ�ำลอง สวนนาคราภิรมย์ ๔. สวนสันติชัยปราการ ๕. พระเมรุมาศจ�ำลอง ส�ำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (เดิม) ๖. วัดบวรนิเวศวิหาร ๗. พระเมรุมาศจ�ำลอง ลานปฐมบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ ๑ ๘. พระเมรุมาศจ�ำลอง ลานคนเมือง ๙. กองบัญชาการกองทัพบก ๑๐. วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร
วง
วัดเทพศิร�นทร
๑๐
ถ.
ารา
ถ. ไม
มห
ปากคลองตลาด
ถ.
เยา
วรา
เจร
�ญก
วย� น ๒๒
รุง
วงเ
ถ.
รรด ักรว ถ. จ issue 509 23 OCT 2017
the royal funeral
ต ยอดพลาด �มาน
ันธ ถ. ม
ิตรพ
พาหุรัด
ิ
ถ. ตร�เพช
ร
ถ. บ านหม อ
มิวเซียม สยาม
จุดอื่นๆ นอกเหนือจากในแผนที่
�ตต
ท าเร�อวัดอรุณ
ตร�จ
ช
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาว�หาร
ช
๗
ถ. ทร
งวาด
เยาวราช
๑๔
• • • • • • • • •
กองบัญชาการกองทัพไทย ส�ำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร เซ็นทรัล พระราม ๒ หัวล�ำโพง เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า สวนจตุจักร ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
ซุ มรับดอกไม จันทน ขนาดใหญ
ซุ มรับดอกไม จันทน ขนาดกลาง
a day bulletin
AGENDA
เรื่อง : ตนุภัทร โลหะพงศธร ภาพ : ทรรศน หาญเรืองเกียรติ, รัชต์ภาคย์ แสงมีสินสกุล
10
LOVELIGHT IN MY HEART
issue 509 23 0ct 2017
จากย�ำ่ รุง ่ ถึงย�ำ่ ค�ำ่ ในคืนวันเพ็ญของวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ ทีค ่ วามตัง ้ ใจแน่วแน่ของประชาชนส่องสว่างกว่าแสงจันทร์บนฟากฟ้า ณ บริเวณโดยรอบสนามหลวง เต็มไปด้วยพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วทุกสารทิศที่ต่างร่วมใจเดินทางมายังพระบรมมหาราชวัง ด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมส�ำนึก ในพระมหากรณาธิคุณเป็นครั้งสุดท้าย
11
“เราจะครองแผ่นดิน โดยธรรม เพื่อ ประโยชน์สุขแห่ง มหาชนชาวสยาม” พระปฐมบรมราชโองการ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันศุกร์ที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓
a day bulletin
Cover Story
issue 509 23 oct 2017
Through His Majesty’s Eyes พระตำ�หนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำ�เภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๓
16
17
a day bulletin
18
19
issue 509 23 oct 2017
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ Savill Garden ประเทศอังกฤษ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๙
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ขณะเสด็จพระราชดำ�เนินกลับกรุงเทพมหานคร พร้อมพระราชโอรสและพระราชธิดา โดยรถไฟพระที่นั่ง ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๔
a day bulletin
20
21
issue 509 23 oct 2017
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๓
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ พ.ศ. ๒๕๒๘
a day bulletin
22
๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๒
issue 509
ชายหาดหน้าวังไกลกังวล อำ�เภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
23
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ขณะทรงเยี่ยมราษฎร วัดวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๗
ราษฎรรอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพ ิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิรก ิ ต ิ ์ิ พระบรมราชินน ี าถ ในรัชกาลที่ ๙ เมือ ่ เสด็จพระราชดำ�เนินถึงอำ�เภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๘
23 oct 2017
a day bulletin
THE CONVERSATION
เรื่อง : ปริญญา ก้อนรัมย์ ภาพ : รัชต์ภาคย์ แสงมีสินสกุล
24
25
Happiness THROUGH His Majesty’s Eyes
นิตก ิ ร กรัยวิเชียร
ส�ำหรับหนุม ่ สาวรุน ่ ใหม่ เรามักได้ฟงั เรือ ่ งราวของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช และพระราชกรณี ย กิ จ ต่ า งๆ จากค� ำ บอกเล่ า ของผู้ ใ หญ่ หรือรับรู้ผ่านมุมมองของสื่อ ซึ่งเป็นมิติของบุคคลภายนอกที่มีต่อพระองค์ท่าน เราแทบไม่เคยมีโอกาสสัมผัสมุมมองของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อสิ่งต่างๆ รอบพระวรกายอย่างแท้จริง แต่หลังจากที่เราได้รับชม ‘นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช’ ซึ่ ง จั ด ขึ้ น ที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ แต่ละภาพ เปิดโอกาสให้ได้เห็นมุมมองของพระองค์ท่าน ที่มีต่อปวงพสกนิกร เหมือนเราได้รับรู้เรื่องราว ของพระองค์ ไล่เรียงตัง ้ แต่ตน ้ จนถึงปลายรัชกาล ย่นย่อระยะทางจากอดีตให้มาถึงวินาทีที่เรายืนอยู่ ตรงนี้อีกครั้ง เป็นความรู้สึกอีกรูปแบบที่เราไม่เคย คิดมาก่อน ยิง่ ไปกว่านัน ้ หลังจาก ได้มโี อกาสพูดคุยกับ นิตก ิ ร กรัยวิเชียร ภัณฑารักษ์ ผูอ้ ยูเ่ บือ้ งหลังนิทรรศการ ครั้งนี้ เราจึงได้รับรู้ว่า สิ่ ง หนึ่ ง ที่ ส ะท้ อ นอยู่ ใ น ภ า พ ฝี พ ร ะ หั ต ถ์ ข อ ง พระองค์ คื อ ความสุ ข ของปวงชนชาวไทย ที่ บ รรจุ อ ยู่ ใ นนั้ น อย่ า ง เต็มเปี่ยม
issue 509 23 oct 2017
27
issue 509 23 OCT 2017
“ภาพลักษณะหนึ่งที่เราจะเห็นได้ในทุกยุคทุกสมัย และผมตื่นเต้นมากทุกครั้งเวลาที่ได้เห็น คือเรื่องราวความผูกพัน ของพระองค์ท่านกับประชาชน”
“ครัง ้ สุดท้ายทีม ่ ก ี ารจัดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระองค์ทา่ น คือย้อนไปเมือ ่ ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ นั่นหมายถึงเวลา ๒๕ ปีมาแล้ว”
a day bulletin
26
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในนิทรรศการ สะท้อนให้เห็นถึงอะไร
จริงๆ จุดเริม่ ต้นของนิทรรศการครัง้ นี้ มาจากพระราชด�ำริ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทีร่ บั สัง่ กับนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ คือ คุณฐาปน สิรวิ ฒ ั นภักดี สมัยทีย่ งั ด�ำรงต�ำแหน่งอยู่ ว่ายังมีภาพถ่าย ฝีพระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ อีกเป็นจ�ำนวนมาก ทีย่ งั ไม่เคยเผยแพร่มาก่อน และน่าจะน�ำมาจัดแสดงให้ประชาชน ทั่ ว ไปได้ ชื่ น ชมกั น นั่ น เลยเป็ น ที่ ม าให้ ส มาคมถ่ า ยภาพ แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ท�ำเรื่องกราบบังคมทูล แล้วก็ได้รับพระราชทานพระราชานุญาต เราเลยร่วมมือกับ โครงการของหอศิลป์กรุงเทพฯ จัดเป็นนิทรรศการขนาดใหญ่ ทัง้ ๓ ชัน้ (‘นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช’ - ชัน้ ๙, ‘นิทรรศการพระราชา ในดวงใจ’ - ชัน้ ๘, ‘นิทรรศการ ดิน น�ำ้ ป่า ฟ้า แรงบันดาลใจ จากพ่อ’ - ชัน้ ๗) ซึง่ ถือเป็นงานทีส่ ำ� คัญมากๆ ส�ำหรับพวกเรา เพราะว่าครั้งสุดท้ายที่มีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ของพระองค์ทา่ น คือย้อนไปเมือ่ ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ นัน่ หมายถึงเวลา ๒๕ ปีมาแล้ว แปลว่าเยาวชนหรือคนรุน่ ใหม่ๆ ไม่มโี อกาสได้เห็น ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระองค์ท่านเลย จริงอยู่ภาพบางภาพ เราอาจจะคุน้ ตาบ้าง เพราะเคยเผยแพร่ในสือ่ ต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย หรือในหนังสือ แต่รูปภาพอีกจ�ำนวนมากก็ไม่มีใครเคยเห็น โดยเฉพาะรูปจริงๆ ทีม่ าจากฟิลม์ ต้นฉบับ ไม่เคยมีใครได้เห็นเลย ในกระบวนการไปค้นฟิล์ม จริงๆ เราไม่สามารถนับจ�ำนวน ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระองค์ทา่ นได้ เพราะว่าตลอดรัชกาล ๗๐ ปี พระองค์ทา่ นทรงถ่ายภาพมาอย่างต่อเนือ่ ง ยิง่ ไปกว่านัน้ พระองค์ทา่ นทรงเริม่ ถ่ายรูปมาก่อนเสด็จขึน้ ครองราชย์เสียอีก ผมเชือ่ ว่าภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระองค์ทา่ นคงมีเป็นหมืน่ เป็นแสนภาพ ซึง่ ในการทีเ่ ราจะไปคัดเลือกเองไม่มที างเป็นไปได้ คนทีม่ หี น้าทีเ่ ก็บรักษาฟิลม์ เหล่านีไ้ ว้คอื ฝ่ายช่างภาพส่วนพระองค์ กองงานส่วนพระองค์ ซึ่งเก็บฟิล์มเหล่านี้ไว้อย่างดี เมื่อเรา ประสานกับหน่วยงานก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งใน การคัดเลือกภาพมาให้เราจ�ำนวนหนึง่ ซึง่ มากพอสมควรทีใ่ ห้ผม ซึ่งเป็นภัณฑารักษ์ของงานนี้ ได้คัดเลือกจนเหลือ ๒๐๐ ภาพ เพือ่ น�ำมาจัดในนิทรรศการครัง้ นี้
ในฐานะภัณฑารักษ์ คุณจัดเรียงภาพอย่างไร เพราะ พอเราเดินดูจนครบ เหมือนเราได้เห็นเรื่องราว และ ช่วงเวลาในชีวต ิ ของพระองค์ทา่ นผ่านการเรียงล�ำดับ ภาพเหล่านี้
เราพยายามที่จะไล่เรียงล�ำดับเวลา ในขณะเดียวกัน ก็พยายามทีจ่ ะจัดหมวดหมูใ่ ห้ภาพไปในทิศทางเดียวกัน ก็จะมี คอลเล็กชันใหญ่ทเี่ ป็นภาพฝีพระหัตถ์ทที่ รงถ่ายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ อีกส่วนหนึง่ จะเป็นภาพทีเ่ กีย่ วข้องกับโครงการ ในพระราชด�ำริ แล้วก็บางส่วนจะเป็นภาพทีเ่ กีย่ วข้องกับประชาชน และอีกส่วนเป็นภาพของสุนขั ทรงเลีย้ ง เราพยายามจัดหมวดหมู่ แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีภาพถ่าย ฝีพระหัตถ์อื่นๆ ที่ไม่ได้มีเรื่องราวเป็นหมวดหมู่ ซึ่งแทรกอยู่ใน ทุกยุคทุกสมัยด้วย ซึง่ วิธกี ารทีผ่ มคัดเลือกโดยหลัก หนึง่ คือเลือก ภาพทีแ่ ปลกตา สอง พยายามเฉลีย่ ภาพทีน่ า่ สนใจ และผูกเป็น เรือ่ งราวตามระยะเวลาทีผ่ า่ นมา ซึง่ จริงๆ เราอยากน�ำมาแสดง ทั้งหมด แต่ว่าพื้นที่ก็มีจ�ำกัด และในนิทรรศการหนึ่ง ปริมาณ ของภาพก็มคี วามส�ำคัญ เพราะถ้าจ�ำนวนมากไปกว่านีก้ อ็ าจจะ เยอะเกินไป คุณเห็นจุดร่วมหรือมุมมองที่พระองค์ท่านทรงมีต่อ การถ่ายภาพอย่างไรบ้าง เพราะคุณน่าจะเป็นคนที่ ได้ มี โ อกาสเห็ น ภาพถ่ า ยฝี พ ระหั ต ถ์ ข องพระองค์ จ�ำนวนมากทีส ่ ด ุ
ต้องบอกว่า ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงช�ำนาญในเรือ่ งการถ่ายภาพในทุกแนวทาง โดยเฉพาะอย่างยิง่ การทีท่ รงเป็นอัครศิลปิน เราทุกคนทราบดีว่าพระองค์ท่านทรงมีพระปรีชาสามารถใน หลายๆ ด้าน ทั้งประติมากรรม จิตรกรรม รวมไปถึงเรื่องของ ดนตรี เพราะฉะนัน้ ความเป็นศิลปินของพระองค์ทา่ นได้สะท้อน ออกมาในงานศิลปะทุกแขนง รวมถึงภาพถ่ายด้วย ซึง่ ภาพถ่ายของ พระองค์ทา่ นในช่วงแรกๆ จะเป็นภาพพอร์เทรตบุคคลเสียส่วนใหญ่ เราจะเห็นว่าเป็นภาพในครอบครัว ซึง่ พระองค์ทา่ นทรงถ่ายทอด
อารมณ์ความรูส้ กึ ออกมาได้ดมี ากๆ รวมถึงการจัดวางแสงเงาก็ทรงท�ำ ออกมาได้ ดีเ ยี่ ย ม และในช่ ว งต่ อ ๆ มาก็จ ะเห็น งานประเภทอื่น ๆ ซึ่งทุกงานสามารถสะท้อนให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถของพระองค์ได้ อย่างเต็มเปี่ยม บางภาพอาจจะดูเหมือนว่าธรรมดา แต่ทุกอย่างแฝงไปด้วย ความหมาย โดยเฉพาะภาพในช่วงกลางรัชกาล ทีพ่ ระองค์ทรงถ่ายภาพ พระราชกรณียกิจ เป็นภาพถ่ายทีถ่ อื ว่าทรงคุณค่าเป็นอย่างยิง่ เพราะ ว่าพระองค์ทรงน�ำภาพถ่ายเหล่านั้นมาใช้วางแผนงานที่จะช่วยเหลือ ประชาชนจริงๆ มีภาพจ�ำนวนหนึง ่ ทีเ่ ราสนใจเป็นพิเศษ คือภาพทีพ ่ ระองค์ ท่ า นทรงถ่ า ยประชาชน แล้ ว ตั ว คุ ณ เองมี ภ าพแบบไหน ทีส ่ ร้างความแปลกใจให้บา้ ง
มีเป็นจ�ำนวนมากเลยครับ โดยเฉพาะภาพถ่ายในช่วงต้นๆ มีภาพ ฝีพระหัตถ์จ�ำนวนมากที่ผมไม่เคยเห็น ดูแล้วต้องบอกว่าตื่นเต้นมาก แต่วา่ ภาพลักษณะหนึง่ ทีเ่ ราจะเห็นได้ในทุกยุคทุกสมัย และผมตืน่ เต้น มากทุกครั้งเวลาที่ได้เห็น คือเรื่องราวความผูกพันของพระองค์ท่าน กับประชาชน หากเราได้ย้อนไปดูตั้งแต่ต้นรัชกาล จะเห็นได้เลยว่าจะมีภาพ ทีพ่ ระองค์ทรงถ่ายจากการไปเยือนสถานทีต่ า่ งๆ ภาพประชาชนเหล่านัน้ ทีม่ าเฝ้ารับเสด็จ ทุกภาพจะเห็นได้เลยว่าประชาชนมาด้วยความปีตยิ นิ ดี สีหน้าแสดงความชืน่ ใจ ทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช เสด็จไปเยี่ยมพวกเขา พระองค์เสด็จไปเยี่ยมประชาชนทั่วประเทศ คนต่างชาติ ต่างศาสนา ไม่วา่ จะเป็นคนไทยเชือ้ สายจีน หรือคนมุสลิม หรือว่าคนไทยคริสต์ ทุกคนต่างรูส้ กึ เป็นอันหนึง่ อันเดียวกัน และเคารพ พระองค์ทา่ นเป็นอย่างสูง ภาพเหล่านีจ้ ะเห็นอยูใ่ นทุกช่วงเวลา ไล่มา จนถึงช่วงปลายรัชกาล เราจะเห็นว่าเป็นเวลานานหลายปี ทีใ่ นหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จ ไปประทับทีโ่ รงพยาบาลศิรริ าช ช่วงนัน้ ก็จะเห็นภาพประชาชนมาเฝ้ารอ ด้วยความห่วงใย แต่งกายด้วยเสือ้ ผ้าสีเหลือง นัง่ เฝ้ารอ บางช่วงเวลา ที่ พ ระองค์ เ สด็ จ พระราชด� ำ เนิ น ลงมาพั ก ผ่ อ นอิ ริ ย าบถในบริ เ วณ โรงพยาบาลหรือท่าน�ำ้ เราจะได้เห็นภาพประชาชนเฝ้ารอรับเสด็จและ เปล่งเสียงทรงพระเจริญ ภาพแบบนีเ้ ราจะเห็นอยูต่ ลอดเวลา ซึง่ ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องที่ส�ำคัญมาก และแสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่าง สถาบันพระมหากษัตริยก์ บั ประชาชน ทีใ่ กล้ชดิ และไม่เคยห่างกันเลย ในฐานะภัณฑารักษ์ คุณคิดว่าคนทีเ่ ข้ามาดูงานนี้ ได้มม ุ มอง อะไรกลับไป
คนที่มาชมงานเดินดูภาพตั้งแต่ต้นนิทรรศการ และคิดตามไป ในแต่ละช่วงเวลา เพราะว่างานนี้ก็คือเรื่องเล่าจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ ทีท่ รงมอบให้เราด้วยภาพถ่าย และผมคิดว่า คนอายุนอ้ ยๆ หรือคนทีอ่ ายุไม่ถงึ ๗๐ ปี ส่วนมากก็จะไม่ทนั เห็นช่วงเวลา เหล่านั้น แต่เราก็สามารถย้อนเวลากลับไปดูเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละ ช่วงเวลาของพระชนม์ชีพของพระองค์ท่านได้ ช่วงที่พระองค์ก�ำลัง ทรงสร้างครอบครัว ช่วงที่พระราชโอรส พระราชธิดาแต่ละพระองค์ ยังทรงพระเยาว์อยู่ แล้วเราก็ได้เห็นความเปลีย่ นแปลงของทุกพระองค์ มาเรื่อยๆ และเมื่อถึงช่วงกลางรัชกาล ทุกพระองค์ก็ทรงกลับมาช่วย พระราชบิดาในการดูแลประชาชน ทุกพระองค์ทรงงานอย่างหนัก เนื้อหาในแต่ละภาพอย่างที่ผมบอก ไม่ได้เป็นสิ่งที่ให้เราดูเพื่อ ความสวยงามอย่างเดียว เคยมีพระราชด�ำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่กรรมการสมาคมถ่ายภาพ แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมือ่ หลายสิบปีกอ่ น ความว่า ‘การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะ เป็นของดีมปี ระโยชน์ ขออย่าได้ถา่ ยภาพ กันเพื่อความสนุกสนานหรือความสวยงามเท่านั้น จงใช้ภาพให้เกิด คุณค่าแก่สงั คมให้เป็นประโยชน์แก่สว่ นรวม งานศิลปะจะได้ชว่ ยพัฒนา ประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อกี แรงหนึง่ ’ ซึง่ พระองค์ทรงเป็นแบบอย่าง ให้กบั เราทุกคน โดยส่ ว นตั ว คุ ณ น้ อ มน� ำ แนวคิ ด ใดจากพระองค์ ท่ า นมา ปรับใช้ในชีวต ิ บ้าง
ผมยึดตามพระบรมราโชวาททีไ่ ด้กล่าวไปเมือ่ กีน้ ี้ ในฐานะทีผ่ ม เป็นนักถ่ายภาพ ผมก็สำ� นึกอยูเ่ สมอว่าเราน�ำภาพถ่ายมาใช้ แน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องความสุขใจของเรา แต่ผมก็ไม่ลืมน�ำเอาความรู้ ความสามารถไปสร้างประโยชน์ให้สังคม ซึ่งผมท�ำเสมอมา และ นักถ่ายภาพหลายๆ คนก็คงตระหนักถึงข้อนี้
“ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของ ทุกคน ทุกฝ่าย ท�ำให้ข้าพเจ้าเห็นแล้ว มีก�ำลังใจมากขึ้น นึกถึงคุณธรรม ซึง่ เป็นทีต ่ งั้ ของความรัก ความสามัคคี ที่ท�ำให้คนไทยเราสามารถร่วมมือ ร่วมใจกันรักษาและพัฒนาชาติ บ้านเมืองให้เจริญรุง่ เรืองสืบต่อกันไป ได้ตลอดรอดฝั่ง”
พระราชด�ำรัสตอบแก่พสกนิกรที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม เนื่องในวโรกาส ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี
a day bulletin
Space & Time
เรื่อง : พิมพ์อร นทกุล, กมลวรรณ ส่งสมบูรณ์ ภาพ : รัชต์ภาคย์ แสงมีสินสกุล
issue 509 23 OCT 2017
THE MEMORY OF THE KING
30
31
‘ศิลปะ’ คือวิธแี สดงออกอย่างหนึง ่ ไม่วา่ จะเป็นความเคารพ ความรัก หรือความคิดถึง ส�ำหรับ a day BULLETIN ฉบับพิเศษ เราจึงคัดเลือกพระบรมฉายาลักษณ์และพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์จากงานนิทรรศการที่จัดขึ้นเพื่อ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพ ิ ลอดุลยเดช ๒ งาน ได้แก่ นิทรรศการพระราชาในดวงใจ และ A Flower of King Rama ๙ เพื่อรวบรวมมาอยู่ในหน้ากระดาษความยาว ๘ หน้า ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นอัครศิลปินผู้อุปถัมภ์ ศิลปวัฒนธรรมไทยมาเสมอ และยังคงเป็นแรงบันดาลใจของศิลปินไทยจ�ำนวนมาก แม้ในวันนี.้ .. ทีไ่ ม่มพ ี ระองค์ทา่ นแล้ว
a day bulletin
32
๐๔
33 ๐๒
๐๓
๐๕
๐๑
issue 509
In Remembrance of the Great King
23 OCT 2017
นิทรรศการ ‘พระราชาในดวงใจ’ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘น้อมร�ำลึกองค์อัครศิลปิน’ ซึ่งหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) จั ด ขึ้ น เพื่ อ น้ อ มร� ำ ลึ ก พระอั จ ฉริ ย ภาพของพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช ในฐานะองค์ อั ค รศิ ล ปิ น และ พระมหากรุณาธิคณ ุ ในฐานะองค์อป ุ ถัมภ์งานด้านศิลปวัฒนธรรมไทยไปจนถึงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ โดยนิทรรศการจัดแสดงผลงาน ศิลปกรรมอันทรงคุณค่าหาชมยากจากฝีมอ ื ศิลปินชัน ้ น�ำของไทยในหลายยุคสมัย รวมทัง ้ วัตถุสะสมเกีย ่ วข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห ่ ว ั รัชกาลที่ ๙ จากมูลนิธห ิ อศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยการคัดเลือกผลงานจาก ๓ ภัณฑารักษ์ ได้แก่ ศ. ดร. อภินน ั ท์ โปษยานนท์ คุณธวัชชัย สมคง และ คุณศักดิช ์ ย ั กาย
๐๑ วิศเวศ วัฒนสุข คู่พระบารมี, ๒๕๕๒ สีน�้ำมันบนผ้าใบ, ๑๒๐x๑๐๐ ซม.
๐๒ กฤษดา ภควัตสุนทร ภิรมย์รัก, ๒๕๕๙ ภาพพิ ม พ์ ต ะแกรงไหม, ๖๒x๔๒.๕ ซม.
๐๓ วัชระ กล้าค้าขาย พระบาทสมเด็ จ พระปรมินทรมหาภูมพ ิ ลอดุลยเดช, ๒๕๔๔ สีน�้ำมันบนผ้าใบ, ๑๔๐x๙๐ ซม.
๐๔ นิติกร กรัยวิเชียร ฝนทิพย์, ๒๕๖๐ สีนำ�้ มันบนผ้าใบ, ๗๕x๑๐๐ ซม.
๐๕ ยุทธนา พงศ์ผาสุก พระคู่ขวัญ, ๒๕๖๐ กาแฟ ปากกา และปิดทอง บนกระดาษ, ๔๔x๓๓ ซม.
35 a day bulletin
34
issue 509
23 OCT 2017
a day bulletin
36
37
๐๙
๐๘ ๐๑
๐๖
๐๔
๑๐
๐๕
๐๒
๐๗
๐๓
A Flower of King Rama 9 issue 509 23 OCT 2017
ดอกไม้ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงไม้พันธุ์ดอกอย่างเดียว หากแต่เป็นตัวแทนของ ‘ความดี’ ที่กลุ่มศิลปิน Good for the Good of It เชื่อมั่น เหมือนกัน จึงเกิดเป็นนิทรรศการ A Flower of King Rama 9 ที่อาคารโนเบิล เพลินจิต รวบรวมพระบรมฉายาลักษณ์จากศิลปินจิตอาสา หลายแขนงกว่า ๖๐ ผลงาน โดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้มูลนิธิ ‘มอบด้วยใจ... ให้ด้วยรัก’ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เพื่อสมทบทุน ในการจัดหาเครื่องมือแพทย์ งานจะมีขึ้นถึงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ ซึ่งทาง Good for the Good of It บอกว่า “เราไม่กล้าบอกว่าเราเป็น คนดี เพราะที่จริงแล้วพวกเราก็เป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปที่อยากช่วยประชาสัมพันธ์ความดีในทางที่เราถนัด เพราะเชื่ออย่างที่พระองค์ท่าน บอกว่า ‘การท�ำสิ่งที่ดีงามนั้น ไม่ใช่ของพ้นสมัย หรือที่น่ากระดากอาย หากเป็นของที่ทุกคนท�ำได้ไม่ยาก และให้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า เพราะความดีนั้นทรงค่าและทรงผลดีอยู่ตลอดกาลมิได้เปลี่ยนแปลง... มีแต่ค่านิยมในความดีเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง’ ”
๐๑ เอกวงศ์ วงศ์วอนแสง My King Jazz, สีน�้ำมันบนผ้าใบ, ๘๐x๖๐ ซม.
๐๒ ธีรุตม์ ธัญญานิติวัฒน์ KING BHUMIBOL Silk Screen, ๗๓x๔๕ ซม.
๐๓ กิติก้อง ดิลกวัฒโนทัย Memory of The Blue อะคริ ลิ ก /แล็ ก เกอร์ บ น ผ้าใบ, ๑๐๐x๗๗ ซม.
๐๔ น.พ.ชาญปรีชา จันทรจ�ำนง Pink Orchestra สีน�้ำมันบนผ้าใบ, ๖๐x๕๐ ซม.
๐๕ ศิรินภา ทองสุข Bank ๕๐ Silk Screen, ๔๑x๓๕ ซม.
๐๖ กิตติศักดิ์ ลิมวัฒนานนท์ เกิดรัชกาลที่ ๙ Mixed Media, ๔๐x๔๐ ซม.
๐๗ ดนัยพันธ์ วัชรีวงศ์ พระมหาชนก Mixed Media, ๓๓.๑x๔๘.๔ ซม.
๐๘ กิตติศักดิ์ ชัยมูลทา The King ๙ Silk Screen, ๔๓x๓๗ ซม.
๐๙ ศิรประภา ลีสวรรค์ ทอ ๙ Tapestry Weaving, ๒๒x๓๐ ซม.
๑๐ ประวีณ เปียงชมภู KING BHUMIBOL Wood Cut, ๗๕x๕๐ ซม.
a day bulletin
Step-by-Step
เรื่อง : สกุณี ณัฐพูลวัฒน์ ภาพวาด : เฉลิมชาติ เจริญดียิ่ง
38
39 ปลูกดาวเรือง ให้เรืองรอง ถวายความอาลัย ในหลวง รัชกาลที่ ๙
ด้ ว ยความรั ก ภั ก ดี ที่ ป ระชาชนชาวไทยมี ต่ อ พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เมื่อรัฐบาลเชิญชวนให้หน่วยงานต่างๆ และประชาชนร่วมใจกันปลูกดอก ‘ดาวเรือง’ อันเป็นดอกไม้ประจ�ำ รัชกาลทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ เพื่อให้บานสะพรั่งทั้งแผ่นดินทันในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ระหว่างวันที่ ๒๕-๓๐ ตุลาคมนี้ หลายมือและหลายล้านดวงใจของประชาชนชาวไทยจึงพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ในครั้งนี้กันอย่างเต็มที่ เพื่อให้การผลิบานของดอกดาวเรืองทั้งหลายเป็นเสมือนตัวแทนความรัก ความเทิดทูน และ ความจงรักภักดีอย่างมิเสื่อมคลาย และร่วมกันน้อมร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ การลงมือปลูกดาวเรืองไม่ใช่เรื่องยาก เพียงเตรียมเมล็ดพันธุ์และอุปกรณ์อีกเล็กน้อย แล้วมาดูขั้นตอนตาม ล�ำดับนี้ หากพบอุปสรรค มีหนอน มีทากกัดกินใบบ้างก็แก้ไข หมั่นเพียรเรียนรู้ไป โดยมุ่งหวังใจให้ดอกดาวเรือง สีเหลืองได้เรืองรองสมพระเกียรติอย่างที่สุด
วัสดุอุปกรณ์ ถาดเพาะ วัสดุเพาะ อาทิ แกลบผสมกาบมะพร้าวและปุ๋ยคอก ดินปลูกใส่ในกระถางเตรียมไว้ หรือแปลงส�ำหรับปลูกเป็นแถวดาวเรือง กากกาแฟส�ำหรับไล่หอยทาก ปุ๋ยคอก ช้อนหรือส้อมพรวน บัวรดน�้ำฝอย เมล็ดดาวเรือง และ ‘หัวใจ’ ขั้นตอนการปลูกและดูแลต้นดาวเรือง
เพาะเมล็ด
๐๑
เตรี ย มถาดเพาะลั ก ษณะเป็ น หลุม ใช้วัสดุเพาะที่ผสมผสานกัน ระหว่ า งขี้ เ ถ้ า แกลบ ขุ ย มะพร้ า ว และปุ๋ยคอกในอัตราส่วนพอๆ กัน เพื่อให้การระบายน�ำ้ ดี ในขั้นตอนนี้ ไม่ ต ้ อ งใช้ดิน เพื่อไม่ให้วัสดุเพาะ แน่นทึบเกิน แล้วรดน�ำ้ ให้ชุ่ม จากนั้นหยอดเมล็ดดาวเรืองใน ถาดเพาะ ๑ เมล็ดต่อหลุม กลบ เมล็ดไว้ใต้วสั ดุเพาะแล้วรดน�้ำให้ชมุ่ วางไว้ในที่ร่มไม่ถูกแสงโดยตรง หากไม่ มี ถ าดเพาะเป็ น หลุ ม สามารถใช้กระจาดหรือตะกร้าแทน ได้ แล้ ว หยอดเมล็ ด ให้ เ ป็ น ระยะ สม�่ำเสมอเพื่อง่ายในการย้ายปลูก รดน�้ ำ ทุ ก วั น เช้ า เย็ น ให้ ชุ ่ ม เมื่อใบเลี้ยงเริ่มงอกหนึ่งคู่ ให้ค่อยๆ ย้ายออกมาใกล้แสงมากขึน้ จนกระทัง่ ได้รบั แสงเต็มที่ เพือ่ ป้องกันการยืดล้ม ของต้นอ่อน
ย้ายกล้า
๐๒
เมื่อต้นอ่อนหรือต้นกล้ามีอายุ ได้ราว ๑๕-๒๐ วัน หรือเมื่อเห็น ใบจริงของต้นดาวเรืองออกมาแล้ว ให้ท�ำการย้ายปลูกลงในกระถาง ใบใหม่ หรือลงแปลงดินที่เตรียมไว้ ซึ่งเราควรท�ำการเตรียมแปลงและ ร่องปลูกไว้ก่อนล่วงหน้า โดยปลูก ห่างกันในแปลง ๔๐-๕๐ x ๔๐-๕๐ เซนติ เ มตร และแนะน� ำ ให้ ป ลู ก แถวคู่เพราะจะเก็บความชื้นได้ดี กว่าแถวเดี่ยว ช่วงเวลาทีเ่ หมาะสมแก่การย้าย ปลูกคือช่วงเย็น ซึ่งแดดไม่แรงจัด ลดการสูญเสียน�้ำของต้นกล้าได้ อย่างดี เมื่อย้ายปลูกเรียบร้อยแล้ว ให้ ร ดน�้ ำ ทั น ที ด ้ ว ยบั ว รดน�้ ำ ฝอย ละเอียด และหมั่นรดน�ำ้ ทุกวันเช้า และเย็น แต่อย่าให้ดินชุ่มน�ำ้ ตลอด เวลาเกิ น ไปเพราะอาจท�ำให้เ กิ ด รากเน่าหรือโรคอื่นๆ ตามมา
เด็ดยอด
๐๓
หลังจากย้ายปลูกได้ราวสัปดาห์ ต้ น กล้ า จะเริ่ ม แข็ ง แรงดี ให้ ดู แ ล ต่ อ เนื่ อ งโดยรดน�้ ำ เช้ า อย่ า งเต็ ม ที่ หากช่ ว งเวลาเย็น หน้ า ดิน ยัง ชื้น อยู ่ ก็ไม่จ�ำเป็นต้นรดน�้ำอีก และเมื่อเวลา ผ่านไปหลังจากย้ายปลูกได้ประมาณ ๑๐-๑๕ วัน หรือมีใบจริงอย่างน้อย ๓ คู่ ให้ท�ำการเด็ดยอดออก ๑ คู่ โดย ใช้มอื หรือกรรไกรเด็ดให้ชดิ กับข้อของ คู่ที่ ๒ เพื่อช่วยในการแตกทรงพุ่ม ท�ำให้ลำ� ต้นสมบูรณ์แข็งแรง และช่วย ให้ต้นมีความสูงสม�่ำเสมอสวยงาม อีกด้วย
ดูแลรักษา
๐๔
ขัน้ ตอนการดูแลรักษาในช่วงนี้ คือ รดน�้ำอย่างสม�่ำเสมอ แต่อย่า ให้ดินชุ่มมากเกินไป และไม่ควร แห้งมาก เมือ่ ต้นมีอายุได้ประมาณ หนึ่ ง เดื อ น ให้ ใ ส่ ปุ ๋ ย คอกแล้ ว พรวนดินเพื่อช่วยให้รากแข็งแรง หากปลูกในแปลงดิน ให้ทำ� การกลบ โคนต้ น ก่ อ นเด็ ด ยอดและก่ อ น ออกดอก โดยใส่ ปุ ๋ ย สู ต รเสมอ หรื อ ปุ ๋ ย คอก การกลบโคนดิ น จะช่วยให้รากแข็งแรง ส่วนการดูแล อื่นๆ ได้แก่ - ระวังหอยทากที่มักจะมากิน ใบในช่ ว งเป็ น ต้ น กล้ า และช่ ว ง ย้ายปลูก แก้ง่ายๆ ด้วยการใส่กาก กาแฟลงในกระถางหรือแปลงปลูก หรื อ ผสมน�้ ำ กากกาแฟฉี ด ไปบน ตัวหอยทาก - ช่วงที่ต้นยังไม่แข็งแรง ดูแล เรื่องความชื้นในดินให้ดี อย่าให้ น�้ำแฉะเกินไปจะเป็นโรคคอเน่า - หมัน่ เด็ดใบเหีย่ วทิง้ และคอย ถอนหญ้าในแปลงปลูก
๐๕
ดอกดาวเรืองสีเหลืองเรืองรอง
หลังจากปลูกได้ราว ๕๕-๖๐ วัน ดอกดาวเรืองก็พร้อมจะบานสะพรั่ง ยาวนานเป็ น สั ป ดาห์ จ นถึ ง สอง สั ป ดาห์ เราสามารถน� ำ กระถาง ดาวเรื อ งทั้ ง หมดที่ มี ม าจั ด วาง ประดั บ หน้ า บ้ า นเพื่ อ ร่ ว มเป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ในการเทิ ด พระเกี ย รติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ส่วนดาวเรืองในแปลงปลูกช่วงนี้ ก็ จ ะออกดอกสะพรั่ ง จึ ง ควรดู แ ล แปลงให้ ส วยสะอาดอยู ่ เ สมอ โดยเฉพาะหากเป็ น แปลงที่ ป ลู ก อยู่หน้าบ้าน ดาวเรืองบานเมื่อใด สี เ หลื อ งของดอกดาวเรื อ งก็ จ ะ เรืองรอง แสดงความเป็นส่วนหนึ่ง ในการร่ ว มน้ อ มร� ำ ลึ ก ถึ ง ในหลวง รั ช กาลที่ ๙ ที่ ไ ด้ ตั้ ง ใจปลู ก ด้ ว ย สองมือของเรานั่นเอง
issue 508
อะเดย์บุลเลตินและบรีโอ้ร่วมถวายความอาลัยในหลวง รัชกาลที่ 9 กับกิจกรรม ‘ปลูกดาวเรืองให้เรืองรอง’ รั บ ต้ น ดาวเรื อ งที่ ป ลู ก อย่ า งพิ ถี พิ ถั น วั น ละ 999 ต้ น ในระหว่า งวั น ที่ 21-23 ตุ ล าคม 2560 ที่ บ รี โ อ้ คอมมู นิ ตี้ ม อลล์ พุทธมณฑลสาย 4
16 OCT 2017
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Event page ปลูกดาวเรืองให้เรืองรอง หรือ Facebook : บรีโอ้สาย4 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2716-6900 ต่อ 406 Brio บรีโอ้สาย 4 คอมมูนิตี้มอลล์ใหญ่ที่สุดในย่านพุทธมณฑลสาย 4 ริมถนนบรมราชชนนี-พุทธมณฑลสาย 4 จอดรถได้ มากกว่า 500 คัน ร้านค้า ร้านอาหารหลากหลาย พร้อมมุมพักผ่อนและมุมถ่ายรูปสุดคูล วิธเี ดินทางมาบรีโอ้สาย 4 : รถส่วนตัว เข้าได้ทงั้ ด้านหน้าและทางลัดจากถนนบรมราชชนนี - เลีย ้ วซ้ายสาย 4 ถึงเลย รถประจ�ำทาง สาย ปอ 539 ถึงหน้าบรีโอ้สาย 4 เลย สายอื่นๆ ลงตลาดพุทธฯ แล้วเดินขึ้นมานิดหนึ่ง สอบถามเส้นทางโทร. 0-2116-5644
a day bulletin
A MUST
40
เรื่อง : พัทธมน วงษ์รัตนะ, ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ, ปริญญา ก้อนรัมย์
41
PRECiOUS COLLECTIon STAMP
ABOUT THE STAMP COLLECTOR ภาพแสตมป์ทั้งสามชุดมาจาก ‘บัว’ - กรรณิการ์ สุนทรญาณกิจ ผู้ที่ชื่นชอบแสตมป์ในหลวง รัชกาลที่ ๙ และเริ่มเก็บมาตั้งแต่เด็กๆ จนถึงปัจจุบัน โดยน�ำแสตมป์ที่เก็บสะสม มาจัดเก็บในรูปแบบงานศิลปะที่มีคุณค่าทางจิตใจอย่างสูงส่ง ใส่กรอบขนาดใหญ่ พร้อมประดับไว้หน้าห้องท�ำงาน เพื่อเป็นขวัญและก�ำลังใจให้กับครอบครัวและตนเองต่อไป
KING RAMA 9 DEFINITIVE (1st SERIES)
๐๑
แสตมป์พระบรมฉายาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ บนซองจดหมาย เป็นสิ่งที่เราเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ จนชินตา บนพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กๆ นั้น อัดแน่นไปด้วยประวัตศิ าสตร์ตงั้ แต่แสตมป์ดวงแรก กระทัง่ ดวงสุดท้ายแห่งรัชกาลที่ ๙ เพราะ ต้องน�ำขึ้นเสนอรูปแบบต่อส�ำนักพระราชวัง ก่อนจะทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต และจะต้องผ่านการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรูปแบบและจ�ำนวนทีจ่ ะผลิตจากพระองค์เอง ดังนั้น ข้อมูลส�ำคัญ การออกแบบ สีที่ใช้ ทุกอย่างจะต้องละเอียดและชัดเจน ราวกับว่า จะบันทึกเรื่องราวในช่วงนั้นให้ได้มากที่สุด สิ่งนี้คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ ท�ำให้นักสะสมแสตมป์ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เฝ้าติดตามและ ค้นหาจนครบชุด โดยเฉพาะ แสตมป์หมวดใช้งาน ที่เรียกกัน ว่า ‘แสตมป์พระรูป ร.๙’ ชุดที่ ๑ ซึ่ ง เป็ น แสตมป์ เ ก่ า แก่ ผ ลิ ต ออกมาเมือ่ วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ ภาพพระพักตร์หน้าตรง โดดเด่นด้วยพื้นหลังที่มีหลาย เฉดสี แตกต่างกันตามมูลค่าที่ ปรากฏ เริ่มตั้งแต่ ๕ สตางค์ถึง ๒๐ บาท พิมพ์ชดุ แรกทีป่ ระเทศ อังกฤษ ราคา ๕ สตางค์จำ� นวน ๒๐ ล้านดวง และที่ส�ำคัญยัง เป็ น แสตมป์ ชุ ด เดี ย วที่ ร ะบุ ประเทศว่า ‘ไทย - SIAM’ ก่อน จะเปลีย่ นเป็น ‘ไทย - THAILAND’ ในชุ ด ต่ อ มา จนถึ ง แสตมป์ พระรูป ร.๙ ชุดสุดท้าย ชุดที่ ๑๐ วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ นับ ว่ า เป็ น ๗๐ ปี ที่ แสตมป์ของพระองค์อยูค่ คู่ นไทย มาโดยตลอด
issue 509 23 OCT 2017
CORONATION แสตมป์ชดุ พระราชพิธบี รมราชาภิเษก วันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็นแสตมป์ที่ท�ำขึ้นเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ ๔-๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓ โดยในวันที่ ๕ เป็นวันที่พระองค์ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ พระราชทานอารักขาแก่พสกนิกรชาวไทยทัง้ หลายว่า “เราจะ ครองแผ่นดินโดยธรรม เพือ่ ประโยชน์สขุ แห่งมหาชนชาวสยาม” ทัง้ หมดมี ๘ สี มูลค่า ๕ สตางค์ ถึง ๓ บาท พิมพ์ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งแสตมป์ที่ระลึกในหลวง ร.๙ ที่หาได้ยาก
COMING OF AGE H.M. KING BHUMiBOL แสตมป์ ที่ ร ะลึ ก ชุ ด แรกในสมัย ร.๙ เป็ น แสตมป์ เ พื่อ ฉลองครบรอบ พระชนมายุและฉลองราชนิติภาวะในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ มีทั้งหมด ๕ สี มูลค่าเริ่มที่ ๕ สตางค์ถึง ๕๐ สตางค์ ส่วนแสตมป์ที่ระลึกชุดสุดท้ายใน รั ช กาลที่ ๙ คื อ ภาพพระบรมฉายาลั ก ษณ์ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชด�ำเนินไปยังทุ่งมะขามหย่อง จ.พระนครศรีอยุธยา ออกจ� ำหน่าย วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๙
๐๒
๐๓
๐๔
๐๕
1. STAMP
2. STAMP
3. COLLECTION
4. VINYL
5. PRODUCT
THE ROYAL CREMATION CAREMONY OF HM KING BHUMIBOL ADULYADEJ
THE LONGEST REGIN, THE LONGEST STAMP
DVD LIMITED PREMIUM SET - MY KING
แผ่นเสียงเพลง พระราชนิพนธ์ วิทยุ อ.ส.
SEIKO Number 9 LIMITIED EDITION
ภาพยนตร์สารคดีบันทึก ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร ์ จ า ก มู ล นิ ธิ ชั ย พั ฒ นา ร่ ว มกั บ National Geographic น�ำเสนอปรัชญาการใช้ชีวิตบนวิถีแห่งความพอเพียง ซึง่ สะท้อนถึงพระอัจฉริยภาพ ๙ ด้าน ผ่านพระราชประวัติของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และรวบรวม วิถีชีวิตของพระองค์ที่ทรงปฏิบัติ เป็ น กิ จ วั ต รประจ� ำ วั น เฉกเช่ น เดียวกับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่ ครั้ ง ทรงพระเยาว์ จนเป็ น พระมหากษั ต ริ ย ์ ผู ้ ยิ่ ง ใหญ่ จ�ำหน่ายพร้อมซีดเี พลง ‘ในหลวง ในดวงใจ’ และหนังสือบทความ สารคดี ที่ บ อกเล่ า เรื่ อ งราว ค ว า ม ป ร ะ ทั บ ใ จ จ า ก ๖ ๖ นักเขียนกิตติมศักดิ์
แผ่ น เสี ย งเพลงพระราชนิพนธ์ วิทยุ อ.ส. เป็นแผ่นครั่ง หายากและทรงคุณค่ามาอย่าง ยาวนาน โดยหมุนด้วยความเร็ว ๗๘ รอบ/นาที ในแผ่นนี้มีเพลง ‘พรปีใหม่’ ที่ทรงพระราชนิพนธ์ ขึน้ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ า จั ก รพั น ธ์ เ พ็ ญ ศิ ริ นิ พ นธ์ ค� ำ ร้ อ งเป็ น ค� ำ อวยพรปี ใ หม่ รวมถึงพระราชทานแก่วงดนตรี ๒ ว ง คื อ ว ง ด น ต รี นิ สิ ต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ วงดนตรี สุ น ทราภรณ์ น� ำ ออก บรรเลงเพื่ อ ถ่ า ยทอดพรอั น ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ จ า ก พ ่ อ พ ล ว ง ผู ้ ท รงห่ ว งใยพสกนิ ก รชาวไทย เสมอมา
กลายเป็ น ของหายากใน เวลาอันรวดเร็ว ส�ำหรับนาฬิกา ข้อมือ SEIKO Number ๙ ที่ท�ำขึ้น อย่างจ�ำกัดเพียง ๒,๙๙๙ เรือน โดยมี ที่ ม าคื อ เป็ น นาฬิ ก ารุ ่ น ที่ พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดชทรงสวม ข้ อ พระหั ต ถ์ ใ นงานพระราชพิ ธี ฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ทั้ ง ยั ง เป็ น นาฬิ ก าที่ บ ริ ษั ท ไซโก จัดท�ำขึ้นโดยไม่แสวงก�ำไร และ น� ำ รายได้ ทั้ ง หมดหลั ง หั ก ค่ า ใช้จ่าย มอบให้มูลนิธิชัยพัฒนา เพื่ อ ถวายเป็ น พระราชกุ ศ ล ตั ว เรื อ นท� ำ จากสเตนเลสสตี ล พร้ อ มสลั ก เลข ๙ ไทยและ หมายเลขรันนิงนัมเบอร์ที่ฝาหลัง กันน�ำ้ ลึก ๒๐๐ เมตร รายละเอียด เพิม่ เติมที่ www.seikonumber9.com
แสตมป์ชุด ‘พระราชพิธี ถวายพระเพลิ ง พระบรมศพ พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร’ ประกอบไปด้ ว ยพระบรมสาทิสลักษณ์ขณะทรงแย้ม พระสรวล ๙ ภาพ มู ล ค่ า ดวงละ ๙ บาท ภาพเครื่ อ งประกอบส�ำคัญ คือพระบรมโกศ พระยานมาศสามล�ำคาน และ พระมหาพิชัยราชรถ มูลค่าดวง ละ ๓ บาท และภาพพระเมรุมาศ อันวิจิตรตระการตา พร้อมภาพ เหตุการณ์พสกนิกรร่วมจุดเทียน ถวายความอาลัย มูลค่า ๙ บาท ราคาชุดละ ๙๙ บาท จัดพิมพ์ ทั้งหมด ๓ ล้านชุด
แสตมป์ชุด ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ ฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี วันที่ ๙ มิถนุ ายน ๒๕๕๙’ เป็น ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ๖ พระอิ ริ ย าบถ และมี พื้ น หลั ง เป็นภาพศูนย์ศกึ ษาการพัฒนา อั น เนื่ อ งมาจากพระราชด� ำ ริ ๖ แห่ง น�ำเสนอผ่านการเชือ่ มต่อ เป็นภาพพาโนรามา ความยาว ๑๗๐ มม. เพื่อสื่อความหมาย ว่า พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนาน ที่ สุ ด ในโลก ที่ ส� ำ คั ญ ยั ง เป็ น แสตมป์ที่ยาวที่สุดในโลกแทน แสตมป์ร่วมระหว่างสิงคโปร์ และอียิปต์ ขนาด ๑๖๒ มม. เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๔ อีกด้วย
a day bulletin
42
9 Books for
43 ๐๖
King Rama 9
๐๒
๐๑
๐๑ The Visionary ถอดรหัสกษัตริย์ผู้มองเห็น อนาคต
พ็อกเก็ตบุก๊ ขนาดกะทัดรัด ทีจ่ ดั ขึน้ โดยทีมงาน ‘สานต่อทีพ่ อ่ ท�ำ’ กลุม่ คนด้าน สื่อสารมวลชน นักคิด นักเขียน ครีเอทีฟ และนักโฆษณา ที่รวมตัวกันด้วยโจทย์ โจทย์เดียว ในการท�ำอย่างไรให้คนไทย ได้สานต่อแนวคิดของพระองค์ท่านอย่าง ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม ซึ่งกลุ่มสานต่อ ที่พ่อท�ำได้ส่งต่อแรงบันดาลใจออกมาใน หลายๆ รูปแบบ หนึ่งในนั้นคือหนังสือ ฉบับนี้ที่กลั่นกรองข้อมูล และถ่ายทอด แนวคิดพระองค์ทา่ นออกมาอย่างเรียบง่าย ที่สุด ให้เราได้เห็นหลักการท�ำงานและ ใช้ชวี ติ และสามารถเดินตามด้วยการลงมือ ปฏิบัติตามได้จริงๆ
๐๒ เพียงพ่อ ก็พอเพียง The Soul of Siam
issue 509 23 OCT 2017
หนังสือป๊อปอัพฉบับพิเศษทีน่ กั สะสม ควรหามาครอบครอง จัดพิมพ์โดยมูลนิธิ และโรงพิมพ์ศิริวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้าน หนังสือป๊อปอัพ ๑ ใน ๕ ของเอเชีย ภายใน บรรจุพระราชประวัติในหลวง ร.๙ โดยใช้ เทคนิคที่น่าสนใจในการบอกเล่า ทั้งแสง เสียง และการออกแบบหน้ากระดาษ ที่ให้ เราเปิ ด ไปพบกั น ความตื่ น ตาตื่ น ใจของ กังหันน�้ำชัยพัฒนา เรือสุพรรณหงส์ หรือ การเห็นพระองค์ทรงแล่นเรือใบ ทัง้ ยังบันทึก เรือ่ งราวตัง้ แต่ชว่ งเสด็จพระราชสมภพจนถึง ช่ ว งพระราชพิ ธีฉ ลองสิ ริ ร าชสมบั ติ ครบ ๖๐ ปี ได้อย่างครบถ้วนอีกด้วย
๐๕
๐๔
๐๓
๐๔
๐๕
เติบโตตามรอยพ่อ
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
๙ เหนือเกล้า จากโลซานน์ถึง ลานพระเมรุมาศ
หนั ง สื อ ที่ จั ด ท� ำ ขึ้ น เพื่ อ เป็ น คู ่ มื อ การเลี้ยงเด็กให้เติบโตขึ้นเป็นคนคุณภาพ รูจ้ กั หน้าทีข่ องตัวเอง โดยได้รบั การดูแลอย่าง ครบถ้วนทั้งร่างกาย ความคิด การกระท�ำ รวมถึงจิตส�ำนึกทีด่ ตี อ่ ผูอ้ นื่ รวมไปถึงสังคม ซึ่งจัดท�ำโดยบริษัท รักลูกเลิร์นนิ่งกรุ๊ป จ�ำกัด ซึ่งน�ำหลักการความรู้ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงใช้ในการอภิบาลพระโอรสพระธิดาเมือ่ เกือบ ๑๐๐ ปี ก่อน มาถ่ายทอดให้เราได้อา่ นกัน หนังสือ ราคาเล่มละ ๒๘๐ บาท โดยรายได้สว่ นหนึง่ มอบให้ มู ล นิ ธิร าชประชานุ เ คราะห์ ใ น พระราชูปถัมภ์ (สั่งจองได้ทาง Line@ : @raklukeclub หรือ www.raklukeselect.com)
หนั ง สื อ เล่ ม นี้ จั ด ท� ำ โดยสมาคม ถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชู ป ถั ม ภ์ ร่ ว มกั บ หอศิ ล ปวั ฒ นธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร ที่ตั้งใจจะรวบรวม ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ทงั้ ๒๐๐ ภาพ ทีจ่ ดั แสดง ในงานนิทรรศการลงในหนังสือ เพือ่ บันทึก ความทรงจ�ำและช่วงเวลาแห่งประวัตศิ าสตร์ เอาไว้ พิมพ์สี่สีทั้งเล่ม ฉบับปกแข็ง ราคา ๙๙๙ บาท และปกอ่อน ราคา ๑๙๙ บาท รายได้ ทั้ ง หมดทู ล จะเกล้ า ถวายเป็ น พระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
หนังสือศิลปะภาพที่จัดท�ำขึ้นโดย ศูนย์ศิลปะฮอฟอาร์ต (Hof Art) ร่วมกับ บริษัท พญากากาศ จ�ำกัด บอกเล่าเรื่องราวพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช และครอบครัว ราชสกุลมหิดล เมื่อครั้งประทับ ณ เมือง โลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านรูปภาพ อั น วิ จิ ต รจากปลายพู ่ กั น ของ อาจารย์ เกริ ก บุ ร ะ ยมนาค พร้ อ มค� ำ บรรยาย ประกอบภาพจาก สุพจน์ โล่ห์คุณสมบัติ หนังสือเล่มนีจ้ ดั ท�ำเป็นชุดกล่องพิเศษเพียง ๙๙๙ เล่ม ในราคา ๑,๙๙๙ บาท โดยรายได้ ส่วนหนึง่ สมทบทุนมูลนิธอิ านันทมหิดล
๐๘
๐๙
๐๖
๐๗
๐๘
๐๙
เรียนแบบพ่อ
ศิลปะแห่งรัชกาลที่ ๙ อัครศิลปิน
มองผ่านเลนส์พ่อ
ปรีดิฉายาลักษณ์
อีกหนึ่งหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ที่ น ่ า เก็ บ สะสมอย่ า งยิ่ ง จั ด ท� ำ ขึ้ น โดย ธนาคารทหารไทย เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ เนือ่ งในโอกาสพระราชพิธมี หามงคลเฉลิม พระชนมพรรษาครบ ๗ รอบ ในเล่มจะแบ่ง เนือ้ หาเป็น ๓ บท ทัง้ การบอกเล่าเรือ่ งราว พระราชประวัติของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ตั้งแต่ทรงพระเยาว์จนขึ้นครองสิริราชสมบัติ การประมวลภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ จ�ำนวนกว่า ๔๘ ภาพ ที่ร้อยเรียงเรื่องราว พระราชกรณี ย กิ จ ที่ พ ระองค์ ท รงงาน ตลอด ๖๕ ปี และการน�ำเสนอพระปรีชาสามารถด้านการถ่ายภาพและเรื่องราว เกี่ยวกับกล้องถ่ายรูปส่วนพระองค์
ส� ำ หรั บ คนรั ก หนั ง สื อ หรื อ คนที่ สนใจเรื่องราวเก่าๆ และประวัติศาสตร์ ไม่ ค วรพลาดหนั ง สื อ เล่ ม นี้ อ ย่ า งยิ่ ง ปรีดิฉายาลักษณ์ เป็นหนังสือที่รวบรวม พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ พระบรมวงศานุวงศ์ จากปกนิตยสารและ หนังสือเก่าอันทรงคุณค่าจ�ำนวนมากมาไว้ ในเล่มเดียว พร้อมค�ำอธิบายเหตุการณ์ ใต้ภาพซึ่งให้สาระความรู้อย่างน่าสนใจ ให้เราสามารถสัมผัสเรื่องราวและความทรงจ�ำ ในอดีตผ่ า นรู ป เล่ มที่สวยงามได้ อีกครั้งให้กับสมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ ในพระอุปถัมภ์ฯ
จัดท�ำโดยธนาคารกรุงไทย เพือ่ เป็น หนั ง สื อ ระลึ ก ถึ ง ช่ ว งที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช ทรงครองราชย์เป็นเวลากว่า ๗๐ ปี โดย ในแต่ละหน้านอกจากจะมีเนื้อหาที่พูดถึง พระราชด�ำริของในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็น เนือ้ หาสัน้ ๆ แล้ว ด้านขวาของเล่มจะมีวสั ดุ ทีเ่ ราสามารถสัมผัสเพือ่ สร้างประสบการณ์ ร่วมในการอ่านได้ เช่น เมื่อพูดถึงเรื่อง การเกษตร อีกด้านก็จะมีเมล็ดพันธุ์ผัก สวนครัวจากโครงการหลวงแปะมาด้วย หรื อ พู ด ถึ ง เพลงพระราชนิ พ นธ์ ก็ มี แฟลชไดร์ฟบรรจุ ๙ บทเพลงพระราชนิพนธ์มาให้เราฟังกันจริงๆ
๐๓
๐๗
หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์ขึ้นในวโรกาส มหามงคลสมัย ครบ ๗ รอบพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ และเหตุการณ์รว่ มสมัย ๘๔ ปี มีความหนา ทัง้ หมด ๔๔๘ หน้า น�ำเสนอพระอัจฉริยภาพ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะอัครศิลปินในด้านต่างๆ อย่างละเอียดครบถ้วนที่สุด โดยหน้าปก ยังมีการอัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ‘ภอ’ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาล ที่ ๙ จะทรงลงพระนามไว้ทุกครั้งบนภาพ ฝี พ ระหั ต ถ์ อี ก ด้ ว ย ไม่ ค วรพลาดที่ จ ะ เสาะหามาเก็บไว้ด้วยประการทั้งปวง
PLACE
เมืองโบราณ สมุทรปราการ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เคยเสด็จเยือนคือ เมืองโบราณ สมุทรปราการ ซึ่งก่อตั้งโดย บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จ�ำกัด สถานที่จ�ำลองแหล่งท่องเที่ยวส�ำคัญ ของประเทศไทยทุกภูมภ ิ าค เมือ ่ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๑๕ ทัง ้ สองพระองค์ทรงใช้พระทีน ่ ง ั่ สรรเพชญปราสาทจ�ำลองแห่งนีเ้ ป็นทีร ่ บ ั รองต้อนรับสมเด็จพระราชินน ี าถ เอลิซาเบธที่ ๒ แห่งสหราชอาณาจักร และเจ้าชายฟิลิป พระราชสวามี และนั่นเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองพระองค์ทรงเสด็จเยือนประเทศไทย ปัจจุบัน เมืองโบราณ สมุทรปราการ ยังเปิดให้บริการตามปกติ ด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจตระการตาที่เพิ่มขึ้น โดยยังยึดความตั้งใจแต่แรกเริ่มว่า อยากให้พื้นที่ตรงนี้มีประโยชน์ ไม่ใช่แค่โชว์ความสวยงาม แต่ต้องเป็นแหล่งศึกษาทางด้านสังคมและวัฒนธรรมให้ชาวไทยรุ่นใหม่ต่อๆ ไป
a day bulletin
A THOUSAND WORDS
เรื่อง : ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์
44
45
9 Contemporar y Artists in the Reign of King Rama 9 a day BULLETIN ร่วมมือกับ ‘เอ็ดดี้’ - ภาณุ บุญพิพัฒนพงศ์ รวบรวมผลงานของศิลปินร่วมสมัย 9 คน สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงสามารถท�ำงานเพื่อถวายความจงรักภักดีและความอาลัยออกมาได้อย่างวิจิตรงดงาม
issue 509 23 OCT 2017
นั ก รบ มู ล มานั ส NAKROB MOONMANAS
ศิลปินคอลลาจ นักท�ำภาพประกอบ จบการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬ าลงกรณ์ มหาวิท ยาลัย เอกภาษาไทย เขาเคยเป็ น แชมป์ ร ายการเกมโชว์ ได้รับรางวัลแฟนพันธุ์แท้ ‘คนรักวัง’ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ด้วยความหลงใหลในประวัติศาสตร์ เรื่องราวชีวิตในรั้วในวัง และเทวต�ำนาน ต่างๆ ส่งอิทธิพลสู่ผลงานศิลปะคอลลาจ หรือการตัดต่อปะติดภาพจากแหล่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เขาชอบหยิบเอาภาพโบราณๆ มาเป็นวัตถุดิบ เช่น ภาพถ่ายโบราณ ย้อนยุค ภาพสถาปัตยกรรมไทย ภาพจิตรกรรมฝาผนังไทยประเพณีของตัวละคร ในวรรณคดีไทยและเอเชีย และภาพแบบตะวันตกอย่างภาพจิตรกรรมของศิลปิน ชั้ น ครู ยุ ค โบราณของยุ โ รป ภาพวาดในเชิ ง ศาสนา ต�ำ นานเทพปกรณั ม กรี ก ภาพสถาปัตยกรรมแบบยุโรป เรือ่ ยไปจนถึงภาพถ่ายในแนววิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และดาราศาสตร์ มาปะติดจัดวางคู่กัน จนกลายเป็นการผสมผสานระหว่างความขัดแย้ง แต่ก็ดูลงตัวไปพร้อมๆ กัน กลายเป็นผลงานศิลปะร่วมสมัยอันเปี่ยม เอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ผลงานของเขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ศิลปะคอลลาจเป็นอะไรมากกว่าแค่การตัด และปะติดรูปธรรมดาๆ มันสามารถเป็นงานศิลปะที่เปี่ยมสุนทรียะได้เช่นเดียวกับ งานศิลปะในแขนงอื่นๆ นักรบเคยจัดนิทรรศการแสดงเดี่ยว ‘นิรันดร์ - Eternity’ ณ HUBBA-TO เป็นการน�ำพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาท�ำเป็นศิลปะคอลลาจ ได้อย่างวิจติ รงดงาม นอกจากนัน้ เขายังมีนทิ รรศการแสดงเดีย่ ว ‘Sacrifififi ce’ ณ People’s Gallery ในหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นอกจากจะมีผลงานศิลปะ คอลลาจในแบบสองมิตแิ ล้ว เขายังท�ำงานศิลปะจัดวางสามมิติ ทีห่ ยิบเอาวัตถุสงิ่ ของ ต่างๆ มาผสมผเส (Assemblage) เข้าด้วยกันมาแสดงอีกด้วย ส�ำหรับผลงานที่น�ำมาลงใน a day BULLETIN ฉบับนี้ นักรบท�ำขึ้นมาใหม่ ส�ำหรับวาระนีโ้ ดยเฉพาะ เป็นภาพคอลลาจจากพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เขากล่าวถึงผลงานชิ้นนี้ว่า “ตัง้ ใจอยากใช้รูปท่านตอนทรงเป็นหนุ่ม รูปท่านที่ทรงเท่ๆ เพราะโดยส่วนตัว เเล้วคิดว่าท่านทรงคูล และมีรสนิยมสุนทรียม์ าก ไปเจอรูปนีม้ า เป็นภาพตอนทีท่ า่ น เสด็จนิวตั จากสวิตเซอร์แลนด์มาอยูเ่ มืองไทยอย่างถาวร ค้นเจอมาว่ารูปนีถ้ า่ ยบนเรือ และผู้ทรงฉายพระรูปคือพระราชินี รู้สึกว่าท่านดูคูลมาก เเล้วก็แสดงออกถึง ความรักได้เป็นอย่างดี “ตามคติไทยนัน้ พระมหากษัตริยเ์ ปรียบเป็นสมมติเทพ ผมจึงใช้รปู เทพเทวดา มาประกอบกับรูปในหลวงอยู่บ่อยๆ เเต่เปลี่ยนจากเทวดาไทยๆ มาเป็นเทวดาฝรั่ง แทน เสมือนเป็นการรับเสด็จดวงพระวิญญาณสู่สวรรคาลัยด้วย ประกอบกับ การใช้รูปต่างๆ ที่สื่อถึงพระองค์และพระราชกรณียกิจของพระองค์ เช่น ดอกบัว แทนพุทธิปัญญาและโครงการที่เกี่ยวกับน�้ำ ต้นข้าวแทนความอุดมสมบูรณ์ที่ท่าน ทรงบัน ดาลให้ เ กิดขึ้น มา เมฆจางๆ แทนโครงการฝนหลวงและความร่ มเย็น ดอกดาวเรืองแทนพระเมรุมาศในวาระพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และดอกเบญจมาศแทนความไว้ อ าลั ย และการร� ำ ลึ ก ถึ ง พระองค์ ท ่ า นตามคติ ตะวันตก ดวงจันทร์แทนวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของพระองค์ท่าน “ความประทับใจ ความทรงจ�ำ และการร�ำลึกถึงพระองค์ท่าน นอกจากเรื่อง เกีย่ วกับพระราชกรณียกิจต่างๆ นานาของพระองค์ทา่ นแล้ว สิง่ ทีผ่ มประทับใจคงจะ เป็นเรือ่ งความคูล รสนิยมทางศิลปะ และพระราชวิสยั ทัศน์ของพระองค์ เพลงทีท่ า่ น พระราชนิพนธ์ฟงั วันนีก้ ย็ งั เพราะจับใจ งานออกแบบกราฟิกใน ส.ค.ส. ทีพ่ ระราชทาน แก่ประชาชนช่วงวันปีใหม่ ก็สวยงามเหนือกาลเวลามาก อีกทั้งยังแฝงแง่คิด หลากหลายอยู่ภายใต้เส้นสายและรูปที่สวยงามเหล่านั้น ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ของพระองค์ท่านก็สุดจะสวย เคยอ่านมาว่าท่านทรงท�ำฟอนต์ตัวหนังสือใช้ของ พระองค์เองด้วย พระองค์ท่านผสมผสานความเป็นตะวันตกเข้ากับความเป็นไทย ได้อย่างแนบเนียน”
“พระองค์ท่านผสมผสานความเป็นตะวันตกเข้ากับความเป็นไทยได้อย่างแนบเนียน” - นักรบ มูลมานัส
๐๑
a day bulletin
46
47
อเล็ ก ซ์ เฟซ ALEX FACE
issue 509 23 OCT 2017
คนทัว่ ไปทีไ่ ม่ได้อยูใ่ นวงการสตรีทอาร์ตอาจไม่คอ่ ยคุน้ เคยเท่าไหร่ แต่คณ ุ อาจ ร้องอ๋อ ถ้าเราบอกว่าเขาเป็นเจ้าของผลงานศิลปะพ่นสีสเปรย์ตามท้องถนนใน คาแร็กเตอร์ของเด็กน้อยสามตา หน้าบึ้ง สวมชุดมาสคอตกระต่าย มีชื่อเรียกว่า มาร์ดี (Mardi) ทีป่ รากฏกายให้เห็นบนก�ำแพงหรือพืน้ ทีส่ าธารณะต่างๆ ทัว่ กรุงเทพฯ อเล็กซ์ เฟซ หรือ พัชรพล แตงรื่น ศิลปินหนุ่มผู้ถือก�ำเนิดจากฉะเชิงเทรา เข้าศึกษาในภาควิชาวิจิตรศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แต่แบ่งความสนใจและความหลงใหลให้กับ ศิลปะบนท้องถนน หรือสตรีทอาร์ต (Street Art) และกราฟฟิตี้ (Graffiffiiti) ไปพร้อมกัน หลังจากเรียนจบ เขาก็ยงั สร้างสรรค์งานศิลปะแนวสตรีทจากงานใบหน้าของตัวเอง ท�ำให้เขาเป็นที่รู้จักในฉายา Alex Face นั่นเอง งานศิลปะบนพื้นที่สาธารณะแตกต่างจากงานศิลปะทั่วๆ ไปตรงที่โดยปกติ คนดูจะต้องเข้าไปดูงานศิลปะเหล่านัน้ ในหอศิลป์หรือพิพธิ ภัณฑ์ แต่งานสตรีทอาร์ต ไม่เป็นอย่างนั้น มันออกมาอยู่ข้างนอกบนพื้นที่สาธารณะ ตามท้องถนนหนทาง บนพื้น ผนัง ก�ำแพง ให้คนได้สัมผัสและเข้าถึงโดยตรง คนทั่วไปในบ้านเรามักจะคิดถึงแก๊งเด็กเกรียนป่วนเมือง หรือพวกมือบอน ที่ชอบพ่นชื่อสถาบันประกาศศักดาตามก�ำแพงต่างๆ จนเลอะเทอะเปรอะเปื้อน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงในประวัติศาสตร์ศิลปะ สตรีทอาร์ตเป็นงานศิลปะที่ทำ� กัน มาอย่างจริงจัง ยาวนาน เพราะงานศิลปะต้องมีความมีอิสระ เป็นขบถ และไม่ขึ้น กั บ สถาบั น มั น จึ ง ถู ก ใช้ เ ป็ น เครื่ อ งมื อ ในการวิ พ ากษ์ วิ จ ารณ์ สั ง คม การเมื อ ง และถ่ายทอดความอัดอั้นตันใจของผู้คนถูกเอารัดเอาเปรียบในสังคมได้อย่าง ตรงไปตรงมายิ่ง ในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ อเล็กซ์ เฟซ ก็เปลีย่ นแนวทางการท�ำงานใหม่ ด้วยความเบือ่ หน่าย แนวทางเดิมๆ อยากหาแรงบันดาลใจ ผนวกกับความเบือ่ หน่ายจากการโดนผลกระทบ จากสังคมรอบข้างในการท�ำงานศิลปะแบบลักลอบหรือท�ำแบบหลบซ่อนๆ แบบ สตรีทอาร์ต ประจวบกับการที่เขามีลูกพอดี จนกลายเป็นที่มาของคาแร็กเตอร์เด็ก สวมชุดมาสคอตกระต่ายสีขาวที่มีตาที่สามคอยเฝ้าระวังภัยที่มีชื่อว่ามาร์ดีนั่นเอง หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนวิธีการท�ำงานใหม่ โดยไปติดต่อขอพ่นบนก�ำแพง ที่เขาต้องการท�ำงานด้วย ไม่ต้องไปท�ำหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป งานของ อเล็กซ์ เฟซ ดูรูปลักษณ์เป็นตัวการ์ตูนเด็กๆ ที่มีความน่ารักสดใส เข้าถึงได้ไม่ยาก จึงไม่น่าแปลกใจที่มันจะกลายเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป จึงท�ำให้ เขาค่อยๆ สั่งสมชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ เขาได้รับเชิญไปแสดงผลงานทั้งในพื้นที่ สาธารณะไปจนถึงหอศิลป์หลายแห่ง รวมถึงได้รบั เชิญให้ไปร่วมสร้างผลงานในงาน เทศกาลศิลปะและนิทรรศการสตรีทอาร์ตในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ งาน The Rendezvous โดย Southeast Asia Urban Art Event ในเมืองย่างกุ้ง เมียนมา, Moniker Art Fair ที่ Truman Brewery ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร, ThaiTai Project โดย JUT Foundation (MOT) ที่กรุงไทเป ไต้หวัน และ Urban up Korea ในงาน Street Art Festival ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ รวมถึงกราฟฟิตี้เวิร์กช็อป Break the Ice ที่โบโด นอร์เวย์ และมีผลงานแสดงเดี่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศอย่าง ต่อเนื่องมาจวบจนถึงปัจจุบัน ล่าสุด อเล็กซ์ เฟซ มีนิทรรศการแสดงเดี่ยว ‘ALIVE’ ที่บางกอก ซิตี้ซิตี้ แกลเลอรี น�ำเสนอผลงานศิลปะชุดใหม่กว่า ๓๐ ชิ้น เป็นการหลอมรวมผลงาน สตรีทอาร์ตเข้ากับผลงานในสไตล์อิมเพรสชันนิสม์ที่เขาหลงใหล ผลงานโดดเด่นที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวของในหลวง รัชกาลที่ ๙ คือ เขาเป็น หนึ่งในศิลปะร่วมสมัยจ�ำนวนห้าคนที่ได้รับคัดเลือกให้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ สาธารณะขนาดใหญ่บนผนังด้านนอกของอาคารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในโครงการ ‘ภาพเขียนผนังอาคารโดย ๕ ศิลปินร่วมสมัยเพื่อถวายความอาลัยและ ร�ำลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ ในหลวง รัชกาลที่ ๙’ ซึง่ เป็นส่วนหนึง่ ของโครงการใหญ่ ‘น้อมร�ำลึก องค์อคั รศิลปิน’ ทีท่ างมูลนิธหิ อศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครและ พันธมิตร จัดงานแสดงศิลปะอย่างต่อเนือ่ ง ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยเขาท�ำออกมาเป็นภาพมาร์ดีถอดหมวกกระต่ายออกเพื่อแสดงความเคารพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ในภาษาสากล ส�ำหรับผลงานที่น�ำมาแสดงกับเราในฉบับนี้ เป็นผลงานที่เขาท�ำขึ้นมาใหม่ โดยเป็ น ภาพของหนู น ้ อ ยมาร์ ดี แ สดงการถวายความเคารพพระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ อย่างสุดหัวใจ นอกจากจะชมผลงานน้อมร�ำลึกถึงในหลวง รัชกาลที่ ๙ ของเขาได้บนผนัง ด้ า นนอกของอาคารหอศิ ล ปวั ฒ นธรรมแห่ ง กรุ ง เทพมหานคร และใน a day BULLETIN ฉบับนี้แล้ว เรายังสามารถหาชมงานของศิลปินผู้นี้ไม่ยากเย็น แค่นั่ง รถผ่านหรือเดินเล่นในเมืองก็อาจจะได้เห็นกันแล้ว เพราะจะว่าไป ท้องถนนก็ไม่ตา่ ง อะไรกับหอศิลป์ของศิลปินสตรีทอาร์ตนั่นแหละ
อเล็กซ์ เฟซ กับผลงานหนูนอ ้ ยมาร์ดแ ี สดงการถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห ่ วั รัชกาลที่ ๙ อย่างสุดหัวใจ
๐๒
a day bulletin
48
49
issue 509
ยุ รี เ ก น ส า คู YUREE KENSAKU
ถ้าจะพูดถึงศิลปินหญิงที่มีผลงานโดดเด่นในบ้านเรา คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ามีชื่อของ ยุรี เกนสาคู มาเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน เธอจบการศึกษาจากคณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัย กรุงเทพ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ศิลปินหญิงลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นผู้นี้ ท�ำงานศิลปะในรูปแบบของภาพวาดสีสันสดใสที่มีกลิ่นอาย และลักษณะคล้ายการ์ตูนและงานกราฟิก ผสมกับศิลปะ ในสไตล์เหนือจริงอันเปี่ยมจินตนาการ ผลงานของเธอได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวในนิทาน หรือต�ำนานพื้นบ้านจากหลากวัฒนธรรม อย่างเช่น หนูน้อย หมวกแดง เรื่อยไปจนถึงวัฒนธรรมร่วมสมัยอย่างการ์ตูน แอนิเมชัน หรือแม้แต่เพลงลูกทุ่ง เมือ่ ได้ชมผลงานของเธอ ก็มกั จะท�ำให้รำ� ลึกถึงภาพวาด ของจิตรกรชาวดัตช์ชั้นครูในศตวรรษที่ ๑๗ อย่าง เฮียโรนิมัส บอส ด้วยภาพวาดที่เต็มไปด้วยเหล่าตัวละครในรูปลักษณ์ ต่างๆ อยู่ในภูมิทัศน์ที่ฟุ้งฝัน ถึงแม้จะดูไม่เป็นพิษเป็นภัย และน่ารักน่าชังเมื่อยามแรกเห็น แต่บางครั้งก็แฝงเอาไว้ด้วย ความมื ด หม่ น อยู ่ ลึ ก ๆ คล้ า ยคลึ ง กั บ ภาพในจิ น ตนาการ และความฝันที่ดูคลุมเครือ อาจจะยากที่จะท�ำความเข้าใจ แต่สามารถรับรู้ได้ด้วยความรู้สึก เธอใช้ภาพลักษณ์ของจินตนาการอันฟุ้งฝันเหนือจริง เหล่านี้ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกลึกๆ ภายใน รวมถึง ความนึกคิดเกีย่ วกับประเด็นทางสังคมออกมา ผลงานของเธอ แสดงถึงสิ่งต่างๆ ที่แวดล้อมตัว ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ ความรู้สึก ทั้งความสุขสันต์ และความโศกเศร้า ผลงานแสดงทั้งเดี่ยวและกลุ่มของเธอมีอยู่มากมาย ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหอศิลป์ ๑๐๐ ต้นสน หอศิลป์ VER กรุงเทพฯ, พิพิธภัณฑ์ Yokohama Museum of Art ทีเ่ มืองโยโกฮามา ประเทศญีป่ ่นุ เธอเป็นหนึง่ ในสิบศิลปิน ที่ได้รับการคัดเลือกให้ไปแสดงงานในเทศกาลศิลปะ Kuandu Biennale ในปี ๒๕๕๓ ประเทศไต้หวัน และเข้าร่วมในเทศกาล ศิลปะ Moscow Biennale for Young Art ครั้งที่ ๔ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ พิพธิ ภัณฑ์แห่งกรุงมอสโก ผลงานของเธอถูกสะสม ในพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง อาทิ Singapore Art Museum, Mori Art Museum และ Yokohama Museum of Art ยุรียังเป็นหนึ่งในศิลปินร่วมสมัยจ�ำนวน ๕ คน ที่ได้รับ การคัดเลือกให้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะสาธารณะขนาดใหญ่ บนผนังด้านนอกของอาคารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ในโครงการ ‘ภาพเขียนผนังอาคารโดย ๕ ศิลปินร่วมสมัย เพื่ อ ถวายความอาลั ย และร� ำ ลึ ก ในพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ ในหลวง รัชกาลที่ ๙’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหญ่ ‘น้อมร�ำลึก องค์อัครศิลปิน’ ที่ทางมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรม แห่ ง กรุ ง เทพมหานครและพั น ธมิ ต รจั ด งานแสดงศิ ล ปะ อย่างต่อเนื่องที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เธอวาดออกมาเป็นภาพครุฑ สัตว์ทเี่ ชือ่ กันว่าเป็นพาหนะ ของเทพเจ้า ซึ่งในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็นพระมหากษัตริย์ ที่เปรียบดั่งองค์สมมติเทพ เธอจึงเลือกถ่ายทอดภาพครุฑ ที่ถวายการอาลัยถึงท่านในสไตล์ของตัวเอง ส�ำหรับผลงานศิลปะทีเ่ ธอน�ำมาแสดง ณ ทีน่ ี้ เป็นผลงาน ชิ้นที่เธอท�ำขึ้นมาใหม่ โดยเป็นภาพวาดลายเส้นพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ขณะก�ำลังทรงดนตรีกับแมวทรงเลี้ยง เธอกล่าวถึงผลงานชิ้นนี้ว่า “ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรง เป็นต้นแบบในทุกด้าน ทั้งทางด้านคุณธรรมและอัจฉริยภาพ ในด้านต่างๆ ในฐานะทีเ่ ราเป็นผูส้ ร้างสรรค์งานศิลปะ จึงสนใจ ในด้านความเป็นแบบอย่างทางด้านศิลปะและดนตรีมากเป็น พิเศษ จึงเลือกภาพนีท้ ที่ า่ นทรงดนตรีมาวาด และในภาพถ่าย ที่เป็นต้นแบบที่เลือกน�ำมาวาดนั้นมีรูปแมวอยู่ในรูปถ่ายนั้น ด้วย เราจะเห็นกันอยู่ตลอดในเรื่องของความเมตตาของท่าน ที่มีต่อสัตว์ต่างๆ ซึ่งเป็นภาพที่ประทับใจมาก”
23 OCT 2017
๐๓
“ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นต้นแบบในทุกด้าน ทั้งทางด้านคุณธรรมและอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ ในฐานะที่เราเป็นผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ จึงสนใจในด้านความเป็น แบบอย่างทางด้านศิลปะและดนตรีมากเป็นพิเศษ” - ยุรี เกนสาคู
a day bulletin
50
51
issue 509
กิ ต ติ ชั ย ต รี รั ต น์ วิ ช ช า KITTICHAI TREERATWITCHA ประติมากรหนุม่ ผูจ้ บจากคณะจิตรกรรมประติมากรรม และภาพพิ ม พ์ มหาวิ ท ยาลั ย ศิ ล ปากร เชี่ ย วชาญงาน ประติ ม ากรรมเหมื อ นจริ ง ที่ ส ร้ า งสรรค์ ผ ลงานรู ป เหมื อ น รูปเคารพบูชา และอนุสาวรีย์ มีผลงานเป็นที่รู้จักในสู่สายตา สาธารณชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ร่วมปั้นประติมากรรม รูปนักกีฬาทีร่ าชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ และเป็นผูป้ น้ั รูป หลวงพ่อพุทธ ฐานิโย และหลวงปูเ่ สาร์ ในจังหวัดนครราชสีมา, รูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ที่วัดเกษไชโย จังหวัดอ่างทอง, อนุสาวรีย์กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ที่ศาล จังหวัดสุราษฎร์ธานี, พระพุทธรัตนมงคลสัมฤทธิ์ ที่จังหวัด สิงห์บุรี และอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ท่าเรือ แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นอกจากนัน้ กิตติชยั ยังเคยเป็นผูท้ ำ� งานสนองพระราชด�ำริ ของพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช ที่มีพระราชประสงค์ให้จัดสร้างพระบรมรูปขณะพระองค์ ทรงงาน โดยน�ำไปประดิษฐาน ณ คลองลัดโพธิ์ ระหว่าง สะพานภูมิพล ๑ และสะพานภูมิพล ๒ อ�ำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ความสูง ๒.๓ เมตร ในสูทฉลองพระองค์ และสิ่งของประจ�ำ พระองค์ อย่างเช่น แผนทีส่ ว่ นพระองค์ วิทยุสอื่ สาร กล้องถ่ายรูป ส่ ว นพระองค์ ที่กระชับ อยู ่ ในพระหัตถ์ ท รงพร้ อมฉายภาพ ซึ่งเป็นพระราชจริยวัตรที่พสกนิกรต่างร�ำลึกถึงพระองค์ท่าน พระบรมรู ป นี้ มี ชื่ อ ว่ า ‘ทรงงาน’ โดยในขั้ น ตอน การท�ำงาน กิตติชัยได้น�ำภาพสเกตซ์ต้นแบบไปทูลเกล้าฯ ถวายให้ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทอดพระเนตร เพือ่ พิจารณาอย่าง ละเอียดว่าตรงไหนต้องปรับแก้ ก่อนทีจ่ ะทรงมีพระบรมราชานุญาตให้น�ำไปขยายเป็นพระบรมรูปที่คลองลัดโพธิ์ในที่สุด เรื่ อ งราวที่ เ ป็ น ความประทั บ ใจไม่ รู ้ ลื ม ของกิ ต ติ ชั ย เกีย่ วกับการท�ำงานสนองพระราชด�ำริครัง้ นี้ คือเดิมทีเคยมีคน เสนอให้สร้างพระบรมรูปทรงงานองค์ใหญ่สูงถึง ๙ เมตร แต่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ท่านไม่โปรดให้สร้างอะไรใหญ่โต จึงทรงด�ำริว่า ถ้าจะสร้างองค์ใหญ่ขนาดนั้น น�ำงบประมาณ ไปท�ำอย่างอื่นดีกว่า สร้างอะไรก็ให้ท�ำแต่พอเพียง กิตติชัยยังมีโอกาสได้ทำ� งานสนองพระราชด�ำริอีกครั้ง โดยเขาเป็นผู้ด�ำเนินการปั้นหล่อพระบรมรูปครึ่งพระองค์ เพื่ อ ไปประดิ ษ ฐานอยู ่ ที่ อ นุ ส รณ์ ส ถานทุ ่ ง มะขามหย่ อ ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระบรมรูปที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มีพระราชด�ำริให้สร้างขึ้น เพื่อเป็นขวัญและก�ำลังใจแก่ประชาชนที่ประสบภัยน�้ำท่วม ครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๔ นอกจากนัน้ กิตติชยั ยังได้ปน้ั พระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ในพระราชอิริยาบถอื่นๆ อีกด้วย เช่น พระบรมรูปขณะทรงพระผนวช เป็นต้น กิตติชยั เป็นอดีตอาจารย์ประจ�ำของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ปัจจุบนั เขาเป็นอาจารย์พเิ ศษของมหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา โดยน�ำเงินรายได้จากค่าสอนทั้งหมด ยกให้เป็นทุนการศึกษาแก่นักศึกษาผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ กิตติชัยกล่าวว่า นับเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูล อย่างยิง่ ทีไ่ ด้มโี อกาสรับใช้ใต้เบือ้ งพระยุคลบาท งานปัน้ พระบรมรูป ถวายถือเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต ตัวเขาเป็นเพียงพสกนิกร ตัวเล็กๆ ก็ยงั ได้รบั พระมหากรุณาธิคณ ุ จากพระองค์ทา่ นอย่าง หาที่สุดมิได้ ในวันที่ทราบข่าวว่าพระองค์ท่านเสด็จสวรรคต เขาจึง รู้สึกใจเสียใจอย่างที่สุด แต่ก็บอกตัวเองว่า จะขอตั้งปณิธาน ปฏิบัติตนเป็นคนดี และจะยึดหลักค�ำสอนของพระองค์ท่าน เป็นแนวทางในการด�ำเนินชีวิตตลอดไป
23 OCT 2017
๐๔
“นับเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท งานปั้นพระบรมรูปถวายถือเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต” -กิตติชัย ตรีรัตน์วิชชา
a day bulletin
52
53
issue 509
ศ รั ณ ย์ เ ย็ น ปั ญ ญ า SARAN YENPA N YA
ดี ไ ซเนอร์ ช าวกรุ ง เทพฯ โดยก� ำ เนิ ด หลั ง จากจบ การศึ ก ษาจากภาควิ ช าการออกแบบอุ ต สาหกรรม คณะสถาปั ต ยกรรมศาสตร์ จุ ฬ าลงกรณ์ ม หาวิ ท ยาลั ย และไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย Konstfack College of Arts, Crafts and Design กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน และจบ การศึกษาในสาขาแปลกใหม่ ที่เรียกว่า Storytelling หลังจากออกมาท�ำงานในอาชีพนักออกแบบ ศรัณย์ ไม่จ�ำกัดตัวเองกับการเป็นนักออกแบบในสาขาใดสาขาหนึ่ง เขาก่อตั้ง 56thStudio สตูดิโอออกแบบที่ทำ� งานในหลากสื่อ หลายแขนง นอกจากจะมีผลงานโดดเด่นในการออกแบบ เฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ Conceptual Design อันแปลก แหวกแนว เก๋ไก๋ไม่ซำ�้ ใคร จนได้นำ� ไปลงในนิตยสารและเว็บไซต์ทางดีไซน์ ในระดับสากลมากมายแล้ว สตูดิโอแห่งนี้ยังท�ำงานออกแบบ ตกแต่งภายใน งานออกแบบลายผ้า สิง่ ทอ แฟชัน่ งานกราฟิกดีไซน์ เซตดีไซน์ แอนิเมชัน งานออกแบบภาพลักษณ์องค์กร ไปจนถึงงานศิลปะร่วมสมัย และอื่นๆ อีกมากมาย ผลงานชิ้นที่โดดเด่นและสร้างชื่อให้เขามากที่สุดคือ Cheap Ass Elites เฟอร์นเิ จอร์ทำ� จากตะกร้าพลาสติกทีพ่ บเห็น ได้ทวั่ ไปตามร้านขายของช�ำ น�ำมาต่อกับขาไม้สลักเสลาสไตล์ หลุยส์และนีโอบาโรค นับเป็นงานเชิงเสียดสีอันเปี่ยมอารมณ์ ขัน น�ำความเป็นดีไซน์ชั้นสูงเข้ามาปะทะสังสรรค์กับดีไซน์ แบบบ้านๆ ความมีรสนิยมสูงและรสนิยมต�่ำ ความร�่ำรวย หรู ห ราและความซอมซ่ อ ยากไร้ ความพิ เ ศษเลิ ศ หรู กั บ ความโหลเกลือ่ นกลาด มาจับคูเ่ ปรียบและอยูด่ ว้ ยกันได้อย่าง ขัดแย้งแต่ลงตัวอย่างยิ่ง ด้ ว ยความที่ ท� ำ งานสร้ า งสรรค์ ใ นสื่ อ หลายหลาก รอบด้ า นเช่ น นี้ เขาจึ ง ไม่ จ� ำ กั ด นิ ย ามตั ว เองอยู ่ กั บ ค� ำ ว่ า ‘นักออกแบบ’ หากแต่พึงใจที่จะเรียกตัวเองว่า ‘นักเล่าเรื่อง’ (storyteller) มากกว่า ศรั ณ ย์ เ ป็ น หนึ่ ง ในนั ก ออกแบบที่ ไ ด้ รั บ การเชื้ อ เชิ ญ ให้เข้าร่วมแสดงงานกับ โอกิ ซาโต้ แห่ง Nendo ในนิทรรศการ ศิลปะและดีไซน์ในงานเปิดตัวห้างสรรพสินค้าสยามดิสคัฟเวอรี ดิเอ็กซ์พลอราทอเรียม อย่างยิ่งใหญ่อลังการ อีกทัง้ เขายังจับมือกับห้างสรรพสินค้าสยามดิสคัฟเวอรี สานต่อปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๙ ว่าด้วยการส่งต่อความรัก ด้วยการจัดแสดงงานศิลปะจัดวาง ภายใต้แนวคิด ‘Citizen of Love’ และจัดกิจกรรม ‘Gifts for Them’ ที่ เ ปิ ด โอกาสให้ ป ระชาชนชาวไทยได้ ท�ำ ความดี ร่วมสมทบทุนแจกของขวัญให้กบั เด็กด้อยโอกาส ถือเป็นการส่งต่อความสุขและความรักส่งท้ายปีเก่าไปจนถึงศักราชใหม่ Citizen of Love Art Installation เป็นผลงานที่น�ำ แรงบันดาลใจมาจากความรักใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช สะท้อนผ่านแนวคิด โครงการพระราชด�ำริ และพระอัจฉริยภาพต่างๆ ประกอบด้วย ส่วนส�ำคัญ อาทิ Hug Lounge จัดแสดงรูปหัวใจหลากหลาย อิริยาบถ เป็นตัวแทนของประชาชนชาวไทยและความรัก ที่มอบให้กัน Royal Rain Xmas Tree แรงบันดาลใจจาก โครงการพระราชด�ำริฝนหลวงเพือ่ ช่วยเหลือประชาชนในพืน้ ที่ แห้งแล้ง Growing a Tree in Your Heart น้อมน�ำพระราชด�ำริ ด้านการป่าไม้ มาเพื่อให้พวกเราได้ตระหนักถึงความส�ำคัญ ของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ส่ ว นผลงานที่ ท� ำ ขึ้ น มาให้ กั บ เราชิ้ น นี้ เป็ น ผลงาน ชิ้นล่าสุดที่เขาท�ำขึ้นใหม่เพื่อร�ำลึกถึงในหลวง รัชกาลที่ ๙ เขากล่าวถึงผลงานชิ้นนี้ว่า “ผมอยากจะบอกสั้นๆ ว่า ความรักที่แท้จริงมันไม่มีการแบ่งข้าง แบ่งแยก เลยพยายาม จะท�ำงานออกมาให้ครอบคลุมความรักของคนทุกหมู่เหล่า มากที่สุด”
23 OCT 2017 “ความรักที่แท้จริงมันไม่มีการแบ่งข้าง แบ่งแยก เลยพยายามจะท�ำงานออกมาให้ครอบคลุมความรักของคนทุกหมู่เหล่ามากที่สุด” -ศรัณย์ เย็นปัญญา
๐๕
a day bulletin
54
อั ง ก ฤ ษ อั จ ฉ ริ ย โ ส ภ ณ
โ อ๊ ต ม ณ เ ฑี ย ร & โ จ น า ส เ ด ป ต์
ANGKRIT A J C HA R I YA S O P H O N
OAT MONTIEN & JONAS DEPT
issue 509
โจนาส เดปต์ จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขา Master for Piano Performance, Composition and Orchestra Conducting ทีส่ ถาบัน Brussels Royal Conservatory และได้รบั ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพนักดนตรีจากสถาบัน Royal Schools of Music ลอนดอน เขาเป็นนักเปียโนประจ�ำสถาบัน The Royal Academy of Dance (RAD) และสถาบัน Imperial Ballet (ISTD) ประจ�ำประเทศไทย, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ เคยร่วมแสดงเปียโนคอนแชร์โตกับวง Bangkok Philharmonic Orchestra และได้รับรางวัลเกียรติยศ Belgium Artist Statute ของประเทศเบลเยียม ตัง้ แต่เดือนกันยายน ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เขาเป็นผู้ประพันธ์เพลงและนักเล่นดนตรีผ้ไู ด้รบั รางวัลชนะเลิศในโครงการ Pianologis ทีม่ เี ป้าหมายในการน� ำ การแสดงเปียโนอันแปลกใหม่และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สู่ผู้ฟังในวงกว้าง โอ๊ต มณเฑียร หรือ พัฒนพงศ์ มณเฑียร ศิลปินนักเล่าเรื่อง (Storytelling Artist) และอาจารย์มหาวิทยาลัย จบการศึกษาจากสถาบัน Central Saint Martins ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันเขาเป็นอาจารย์ประจ�ำภาควิชา Storytelling ในหลักสูตร CommDe ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขามีงานแสดง นิทรรศการศิลปะในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนิทรรศการเดี่ยวอย่าง ‘Ex-Libris’ ในกรุงเทพฯ และลอนดอน, นิทรรศการ ‘Journey of a Mystic Lost’ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หรือนิทรรศการกลุ่มอย่าง ‘Echo Project’ ปักกิ่ง ประเทศจีน, และนิทรรศการ ORGY กรุงเทพฯ ฯลฯ นอกจากนัน้ เขายังท�ำงานเป็นทีป่ รึกษาให้กบั OKMD ส�ำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) และมีผลงานเขียนหนังสือเกีย่ วกับศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ ออกมาสองเล่ม คือ London Scene และ Paris Souvenir ในฐานะศิลปินคู่ โอ๊ตและโจนาสสร้างสรรค์ศิลปะการแสดงสด ที่ส�ำรวจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีและทัศนศิลป์ผ่านความสัมพันธ์ในฐานะคู่รักของพวกเขา อาทิ ‘My boyfriend is a pianist, he plays me love songs’ ในเทศกาลศิลปะ Bangkok Galleries Night (๒๕๖๐) ‘Impressions, Klong San’ ในเทศกาลศิลปะ Art Ground (๒๕๖๐) ‘LIVE in the moment’ ที่ท�ำขึ้นส�ำหรับห้างสรรพสินค้าดิ เอ็มโพเรียม (๒๕๖๐) ส่วนผลงานที่น�ำมาเสนอในฉบับนี้ มีจุดเริ่มต้นจากการที่โจนาสเรียบเรียงเพลงพระราชนิพนธ์ อาทิตย์อับแสง หรือ Blue Day ขึ้นใหม่ แล้วท�ำการบรรเลงเปียโนเพื่อให้โอ๊ต วาดภาพไลฟ์ดรออิ้งไปพร้อมๆ กัน “ตลอด ๑๐ ปี ที่โจนาสเล่นเปียโนในประเทศไทย เขารู้สึกปลาบปลื้มที่ประเทศไทยมีกษัตริย์ผู้ทรงสนพระราชหฤทัยด้านดนตรี ทรงเป็นคีตกวีและนักดนตรีที่ชาวโลกยกย่อง ผู้ทรงพระปรีชาสามารถในการทรงดนตรี และทรงสร้างแรงบันดาลใจให้พสกนิกรทั้งประเทศหันมาสนใจดนตรี เพลงของพระองค์ท่านที่โจนาสชอบเป็นพิเศษคือเพลง อาทิตย์อับแสง เขาจึงตั้งใจน�ำมันมาเรียบเรียงใหม่โดยยังคงเส้นเมโลดี้ส่วนมากไว้ แต่เพิ่มเติมเสียงประสานให้เพลงมีความสมบูรณ์มากขึ้นส�ำหรับเพลงบรรเลงเปียโน เมื่อผมได้ฟังเพลงนี้แล้วจึง วาดภาพในจังหวะเดียวกันกับเพลงเหมือนเป็นเครื่องดนตรีอีกชิ้นหนึ่งที่ร่วมบรรเลงไปด้วยกัน ออกมาเป็นภาพกึ่งนามธรรมของพระอาทิตย์ตกสีขาวด� ำ เพื่อสื่อถึงพระผู้ทรงเป็นดั่ง แสงทองของปวงชนชาวไทย ที่จ�ำต้องลับขอบฟ้าไปด้วยวัฏสังขาราของธรรมชาติ” ชมวิดีโอผลงานได้ที่
23 OCT 2017
๐๖
“ภาพกึ่งนามธรรมของพระอาทิตย์ตกสีขาวด�ำ เพื่อสื่อถึงพระผู้ทรงเป็นดั่งแสงทองของปวงชนชาวไทย ที่จ�ำต้องลับขอบฟ้าไปด้วยวัฏสังขาราของ
ธรรมชาติ” - โอ๊ต มณเฑียร & โจนาส เดปต์
55
ศิลปินร่วมสมัยชาวไทยผู้สร้างผลงานโดดเด่นในวงการ ศิลปะร่วมสมัยในประเทศไทยและในระดับสากลมาอย่าง ต่อเนื่องยาวนาน เขาจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีจาก คณะวิจิตรศิลป์ สาขาวิชาจิตรกรรม และในระดับปริญญาโท ในสาขาสือ่ ศิลปะและการออกแบบสือ่ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อังกฤษท�ำงานศิลปะโดยใช้สอื่ หลากรูปแบบ ทัง้ จิตรกรรม ภาพถ่าย ศิลปะจัดวาง และศิลปะการแสดงสด ผลงานของเขา ในช่วงหนึ่งเป็นการส�ำรวจการปะทะกันระหว่างวัฒนธรรม ตะวันออกและตะวันตก อาทิ ในผลงาน ‘The Perfect English Gentleman’ (๒๕๔๙) ซึง่ เป็นการบันทึกการเปลีย่ นแปลงบุคลิก ของศิลปินในการเป็นตัวตนแบบตะวันตก นอกจากเป็นศิลปิน อังกฤษยังท�ำหน้าทีเ่ ป็นภัณฑารักษ์ และเจ้ า ของพื้ น ที่ แ สดงงานศิ ล ปะอย่ า งอั ง กฤษแกลเลอรี ในจังหวัดเชียงราย ทีก่ อ่ ตัง้ ขึน้ ในปี ๒๕๕๑ รวมถึงหอศิลป์ทเี่ พิง่ เปิดใหม่ของเขาอย่าง ARTIST+RUN ในซอยนราธิวาส ๒๒ โดย เป็นสาขาหนึ่งของอังกฤษแกลเลอรี ที่เป็นพื้นที่ที่เปิดให้ศิลปิน ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ได้มีโอกาสแสดง ผลงานของตัวเองสูผ่ ชู้ ม นอกจากนีแ้ ล้วอังกฤษยังเคยประกอบ กิจการร้านต้มเลือดหมูควบคู่กับการท�ำงานศิลปะและเปิด หอศิลป์อีกด้วย ก่อนหน้านี้อังกฤษเคยท�ำผลงานศิลปะเพื่อแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ลงปกนิตยสาร a day ฉบับในหลวง รัชกาลที่ ๙ (ฉบับที่ ๑๙๕ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๙) โดยเป็นการพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ ด้วยเทคนิคการปั๊มนูนบนหน้าปกสีขาว โดยมีหัวของนิตยสาร
a day พิมพ์ด้วยวิธีการเดียวกันอยู่ด้านล่าง แนวคิดในการทํา งานชิน้ นีข้ องอังกฤษคือ เมือ่ มองไกลๆ จะเห็นเพียงกระดาษเปล่า สีขาว แต่เมื่อมองใกล้ๆ จะเห็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ โดยทางทีมงานนิตยสาร a day เลือกผลงานของเขามาใช้เป็น หน้าปก เพราะความเรียบง่ายและทรงพลังของภาพ โดยสื่อ ความหมายว่า แม้จะมองไม่เห็น แต่พระองค์ยังทรงอยู่กับเรา ส่วนผลงานทีเ่ ขาน�ำมาแสดงทีน่ ี้ เป็นผลงานจากนิทรรศการ แสดงเดี่ยวครั้งล่าสุดที่มีชื่อว่า ‘Shades of Red’ ผลงานชุดนี้เป็นภาพถ่ายสี่เหลี่ยมสีแดงบนกรอบสีขาว จ�ำนวนนับร้อยภาพติดเรียงรายอยู่เป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ โดยสีแดงเหล่านีเ้ ป็นสีแดงในโทนพาสเทลอันอ่อนหวานละมุน ตา ดูๆ ไปก็คล้ายกับตารางเฉดสีของบริษัท Pantone ที่เหล่า นักออกแบบทั้งหลายคุ้นเคยกัน ซึ่งภาพถ่ายสี่เหลี่ยมสีแดง หลากโทนเหล่านี้มีที่มาจากธนบัตรฉบับละ ๑๐๐ บาท หรือที่ เรียกกันง่ายๆ ว่าแบงก์ร้อยนั่นเอง โดยศิ ล ปิ น เอากล้ อ งถ่ า ยภาพแบงก์ ร ้ อ ยแล้ ว เลื อ ก ขยายบางส่วนด้วยโปรแกรม Photoshop จากขนาด ๕x๖.๒ เซนติเมตร ให้กลายเป็นขนาด ๑,๐๐๐x๑,๒๕๐ เซนติเมตร แล้ ว ใช้ ฟ ิ ล เตอร์ ท�ำ ให้ ภ าพแบงก์ ร ้ อ ยที่ ข ยายนั้ น กลายเป็ น พิกเซลโมเสกจ�ำนวน ๕๐๐ ช่อง แล้วก็เลือกขยายแต่ละพิกเซล นั้นให้กลายเป็นกรอบสีและพิมพ์ลงบนกระดาษอัด โดยเลือก กรอบเฉดสีออกมาในจ�ำนวน ๑๐๐ ภาพ อังกฤษกล่าวถึงผลงานชุดนี้ว่า “ผมนัง่ มองดูแบงก์รอ้ ยแล้วรูส้ กึ ว่ามันเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ ของความเป็ น ชาติ ศู น ย์ ร วมจิ ต ใจ แล้ ว เราก็ มี ค� ำ ถามว่ า
เรารูจ้ กั หรือเข้าใจสิง่ เหล่านีด้ แี ค่ไหน? เรารูส้ กึ ว่าความจริงทีเ่ รารู้ มันอยู่ไกลมาก หรือไม่ก็อยู่ใกล้จนเกินไป การที่เราท�ำเป็น พิกเซลเนีย่ มันเหมือนกับเราซูมเข้าไปจนเราแทบจะไม่เห็นอะไร เลย ก็เหมือนกับเราต่างคนต่างเห็นความจริงกันแต่ในแบบ นามธรรม เป็นพิกเซลหนึง่ ของความจริง ความจริงก็เหมือนจิก๊ ซอว์ เราเห็นจิก๊ ซอว์แค่เพียงชิน้ เดียว ถามว่าจิก๊ ซอว์นนั้ เป็นความจริงไหม มันก็เป็น แต่มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของความจริง เราเข้าใจมัน ทั้งหมดไหม ก็ไม่เข้าใจ ผมรู้สึกว่าเราต่างคนต่างเห็นกันคนละ ส่วน บางคนอาจจะเห็นแค่หา้ ช่อง บางคนอาจจะเห็นยีส่ บิ ช่อง แล้วผมคิดว่าการยึดถือความจริงของใครของมันที่เราต่างคน ต่างเห็นไม่เหมือนกัน มันคือบ่อเกิดหนึ่งของความขัดแย้ง “ที่ผมเลือกแบงก์ร้อยเพราะมันอยู่ตรงกลางระหว่าง แบงก์ ๕๐๐, ๑๐๐๐ กับ ๕๐, ๒๐ มันเป็นอะไรทีอ่ ยูใ่ นกระเป๋าเรา ทุกคน คนไทยแทบจะหยิบจับมันทุกวัน และใช้มนั แลกเปลีย่ น เป็นความพึงพอใจ แล้วรูปบนแบงก์นเี้ ป็นสิง่ ทีเ่ ราเห็นตัง้ แต่เรา เกิด จนกลายเป็นความคุ้นเคยอยู่ในตัวเรา ผมก็เลยอยากจะ ตัง้ ค�ำถามกับสิง่ เหล่านีท้ อี่ ยูก่ บั เรามาอย่างยาวนาน และเหตุผล อีกอย่างที่ผมเลือกมาแค่ ๑๐๐ ภาพ ก็เพราะผมมีความเชื่อ ส่วนตัวว่ามันเป็นไปไม่ได้ทใี่ ครเห็นภาพรวมของทุกสิง่ ทัง้ หมด” คนที่อยู่ใกล้มองเห็นความจริงอย่างหนึ่ง คนที่อยู่ไกล ก็มองเห็นอีกอย่างหนึ่ง เราต่างมองเห็นความจริงแตกต่างกัน การยอมรับ ‘ความแตกต่าง’ นั่นคือการยอมรับความจริง... เราต่างมองเห็นความจริงในระยะของเราเอง การยอมรับ ‘ความแตก’ และ ‘ความต่าง’ นั่นคือการยอมรับความจริง”
“รูปบนแบงก์นี้เป็นสิ่งที่เราเห็นตั้งแต่เราเกิด จนกลายเป็นความคุ้นเคยอยู่ในตัวเรา” - อังกฤษ อัจฉริยโสภณ
๐๗
a day bulletin
56
57
อ า น น ท์ ไ พ โ ร จ น์
ANON PA I ROT โลเล
LOL AY
issue 509
ศิลปินหนุ่ม นักออกแบบ และนักดนตรี เขาสนใจในการส�ำรวจความเป็นมนุษย์ ทั้งในด้วยบุคลิกทางกายภาพและทางจิตใจ เขามักตั้งค�ำถามเกี่ยวกับการด�ำรงอยู่และหนทาง ในการมีชีวิตรอดของมนุษย์ ผลงานของเขายังส�ำรวจลึกเข้าไปในพรมแดนของจินตนาการ บางครั้งยังสร้างเผ่าพันธุ์สมมติในจินตนาการขึ้นมาในภาพวาดของเขาอีกด้วย ผลงานศิลปะของเขาแสดงออกถึงความสนุกสนาน ผ่อนคลาย เปิดกว้าง เข้าถึงง่าย และแพร่หลายในสื่อต่างๆ ไม่เพียงแค่ในแวดวงศิลปะเท่านั้น แต่ยังอยู่ในนิตยสาร หนังสือ โฆษณา สิง่ พิมพ์ ไปจนถึงผลงานศิลปะกลางแจ้งขนาดใหญ่ นัน่ ท�ำให้เขาเป็นศิลปินทีห่ ลายๆ คนชืน่ ชอบและได้รบั ความนิยมอย่างสูง แม้แต่ในหมู่คนทีไ่ ม่ได้ตดิ ตามวงการศิลปะก็ตาม เขาเคยแสดงผลงานนิทรรศการศิลปะทั้งเดี่ยวและกลุ่ม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี และอินโดนีเซีย เขาได้รับคัดเลือกให้เป็นศิลปินพ�ำนักของพิพิธภัณฑ์ Fukuoka Asian Art Museum ณ ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ และเทศกาลศิลปะ Busan Biennale ประเทศเกาหลี ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ผลงานของเขาถูกสะสมเป็นคอลเล็กชันในพิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นน�ำหลายแห่ง อาทิ Singapore Art Museum และ Fukuoka Asian Art Museum ส�ำหรับผลงานชุดนี้เป็นชุดเดียวกับที่เคยลงใน a day BULLETIN ในช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เป็นภาพวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ที่เขาท�ำขึ้นหลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “ขณะที่วาดภาพนี้ ผมอาศัยอยู่ที่เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น รู้สึกห่างบ้าน หลังจากเกิดเหตุการณ์ก็ยังไม่ได้กลับไป การได้วาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระองค์เป็นเหมือน การทดแทนความรู้สึกทั้งหมด แรงบันดาลใจที่สะท้อนลงไปในงานชิ้นนี้คือสีและร่องรอยที่ค่อยๆ เพิ่มไปทีละนิดตามล� ำดับเวลา ดังเช่นการออกก้าวเดินไปทีละก้าว เพราะเมื่อนึกถึง พระองค์ ผมจะนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัย ผลงานวรรณกรรม ดนตรี ศิลปะ และการเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อช่วยเหลือประชาชน พระองค์ทรงใช้เวลา ตั้งแต่เสด็จขึ้นครองราชย์ผ่านวันผ่านปีอย่างยาวนานจนวันสุดท้าย”
23 OCT 2017
๐๘
“ขณะที่วาดภาพนี้ ผมอาศัยอยู่ที่เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น รู้สึกห่างบ้าน หลังจากเกิดเหตุการณ์ก็ยังไม่ได้กลับไป การได้วาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระองค์ เป็นเหมือนการทดแทนความรู้สึกทั้งหมด” -โลเล
ศิลปินร่วมสมัยและนักออกแบบผลิตภัณฑ์ชาวไทยที่มี ผลงานเป็ น ที่ รู ้ จั ก ในระดั บ สากล จบการศึ ก ษาจากคณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชาศิลปอุตสาหกรรม (Industrial Design) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อานนท์เริ่มสร้างชื่อเสียงด้วยการส่งผลงานเข้าร่วมใน เวทีการประกวดทัง้ ในและต่างประเทศ และคว้ารางวัลมาหลาย รายการ เมื่อเรียนจบ เขาก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับบริษัทดีไซน์ ชั้นน�ำหลายบริษัท รวมถึงเข้าร่วมโครงการดีไซน์ของภาครัฐ หลายครั้ง และได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแสดงผลงาน ในงานแสดงผลิตภัณฑ์ดีไซน์ชั้นน� ำของโลก ในจ�ำนวนนั้น รวมถึงสามงานแสดงดีไซน์ที่ยิ่งใหญ่และส�ำคัญที่สุดของโลก อย่าง Maison&Objet ประเทศฝรั่งเศส, งาน International Furniture Fair Cologne ประเทศเยอรมนี และงาน Milan Furniture Fair ประเทศอิตาลี จนในปี พ.ศ. ๒๕๕๑ เขาก็เปิดสตูดิโอดีไซน์ของตัวเอง ในชื่ออานนท์ ไพโรจน์ ดีไซน์ สตูดิโอ สร้างสรรค์ผลงานดีไซน์ ชั้นเยี่ยมออกมามากมาย ซึ่งในจ�ำนวนนั้นก็ได้รับรางวัลดีไซน์ ชั้นน�ำของโลกอย่าง Red Dot Design Award อีกด้วย ผลงานของอานนท์แตกต่างจากงานดีไซน์ทวั่ ๆ ไปตรงที่ นอกจากจะมีฟังก์ชนั ตอบสนองการใช้งาน และตอบโจทย์ของ ผู้ใช้แล้ว ผลงานของเขายังเต็มเปี่ยมไปด้วยความแปลกใหม่ ด้วยการสอดแทรกส่วนผสมของความเป็นศิลปะอย่างสุนทรียะ อันล้นเหลือ เสน่หแ์ ละแก่นแท้ของการใช้วสั ดุ ไปจนถึงเรือ่ งราว ทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และปรัชญาอันลึกซึ้งไปใน ผลงานของเขา ผลงานเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์หลายชิ้นของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเก้าอี้ มีความงดงามวิจิตรราวกับเป็น
งานประติมากรรมที่นั่งได้ อานนท์สลายเส้นแบ่งพรมแดนระหว่างศิลปะและงาน ดีไซน์ และท้าทายกรอบและข้อจ�ำกัดทางความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการหลอมรวมศาสตร์และศิลป์ทั้งสองอย่างเข้าไว้ด้วยกัน อย่างแนบเนียน ล่าสุด เขาท้าทายตัวเองอีกครัง้ ด้วยการผันตัวมาท�ำงาน ดีไซน์ทมี่ คี วามเป็นคอนเซปชวล ลดความเป็นพาณิชย์และเล่น กับกระบวนการความคิดมากขึน้ และในทีส่ ดุ เขาก็หนั มาท�ำงาน ศิลปะร่วมสมัยอย่างจริงจังและโดดเด่น จนผลงานของเขา ไปเข้าตาภัณฑารักษ์ศิลปะระดับนานาชาติ ท�ำให้เขาได้รับ การคัดสรรให้เป็นหนึ่งในศิลปินไทยที่เข้าไปร่วมแสดงงาน ในมหกรรมศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างมหกรรมร่วมสมัย นานาชาติเวนิส เบียนนาเล ในปีนี้ ส�ำหรับผลงานที่นำ� มาเสนอชุดนี้ เป็นผลงานเก่าตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่เขาเคยท�ำร่วมกับ SCG ชื่อว่า Follow the King Speech ในวาระครบรอบ ๘๔ พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เขากล่าวถึงผลงานชิน้ นีว้ า่ “ในเวลานัน้ ผมรูส้ กึ เป็นเกียรติ อย่างมาก ถือเป็นช่วงเวลาส�ำคัญในชีวติ ในการได้รว่ มสร้างสรรค์ อะไรสักอย่างในวาระครบรอบ ๘๔ พรรษาของพระองค์ท่าน ทาง คุณทยา ทีปสุวรรณ รองผูว้ า่ ฯ กทม. ในสมัยนัน้ ได้รว่ มกับ ทางผูบ้ ริหาร SCG (เครือซีเมนต์ไทย) ให้โอกาสผมสร้างสรรค์ ผลงานชุดนีข้ นึ้ ผมจึงได้นำ� เสนอประติมากรรมเชิงสังคม (Social Sculpture) ที่น�ำพระราชด�ำรัสที่ผมคิดว่าเป็นปรัชญาและ หลักการด�ำเนินชีวิตที่ดีมากๆ มาถ่ายทอดผ่านสัญลักษณ์ ‘ช้างไทย พ่อ-ลูก ๘๔ เชือก’ ในการวางปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
“นี่กระมังคือความรู้สึกและความหมายของค�ำว่าขวัญของปวงชนชาวไทยจริงๆ” - อานนท์ ไพโรจน์
รอบท้องสนามหลวงในช่วงเวลาเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือน ของวันพ่อในเวลานัน้ แนวคิดทีด่ งี ามของการได้เรียนรูพ้ ระราชด�ำรัสนี้ น�ำไปสู่ได้การท�ำงานร่วมกันทั้งในส่วนราชการ เอกชน อาสาสมัคร นักเรียน นักศึกษาที่มาร่วมกันสร้าง และบันทึก ภาพที่น่าประทับใจร่วมกันระหว่างจุดเทียนถวายพระพร “เทคโนโลยี GRC ซึง่ เป็นนวัตกรรมใหม่ของการสร้างวัสดุ ปูนซีเมนต์ที่ได้มาจากพื้นดินภูเขาของประเทศไทย น�ำเสนอ ด้วยการเสริมโครงสร้างไฟเบอร์ให้มีนำ�้ หนักเบาลง แต่แข็งแรง คงทน โดยใช้ทีมงานจ�ำนวนมาก ทั้งวิศวกรจาก SCG ช่างปั้น ทีมผู้ช่วย ทีมติดตั้ง จนไปถึงทีมงานจากหน่วยงานราชการ ที ม งานจากกระทรวงศิ ล ปวั ฒ นธรรม เจ้ า หน้ า ที่ เ ทศกิ จ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า และอีกหลากหลายฝ่าย ที่สละเวลา และสินทรัพย์มาร่วมด�ำเนินการอ�ำนวยความสะดวกให้งานนี้ ลุล่วงด้วยดี เพราะต่างตระหนักและมีความรักในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ อย่างมาก นับเป็นภาพ ประทับใจในช่วงเวลาส�ำคัญของการเป็นศิลปิน นักออกแบบ และในฐานะพสกนิกรไทยของชีวิตผมอย่างมากเช่นกัน “ในช่วงเวลานัน้ ผมเองก็ได้เรียนรูพ้ ระราชด�ำรัสมากมาย มากกว่า ๘๔ เรื่องราว ซึ่งกลายมาเป็นแรงบันดาลใจใน การด�ำเนินชีวิตในปัจจุบัน เวลาที่เราเห็นผู้คนต่างมาชมงาน ผู้ใหญ่เดินสอนลูกในแต่ละพระราชด�ำรัส วัยรุ่นมาถ่ายรูป ท�ำรายงานผ่านพระราชด�ำรัสนั้นๆ ผมคิดว่า นี่กระมังคือ ความรู้สึกและความหมายของค�ำว่าขวัญของปวงชนชาวไทย จริงๆ”
๐๙
a day bulletin
เรื่อง : ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์ ภาพ : กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร
C on tempo rary A rt
issue 509 23 OCT 2017
ภาณุ บุญพิพฒ ั นาพงศ์
58
59 ถ้าจะนิยามอย่างกว้างๆ ศิลปะร่วมสมัยในบริบทของสังคมไทยตลอดช่วงระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา คือความหลากหลายและความเป็นลูกผสมระหว่างหลายวัฒนธรรมและยุคสมัย แรกเริม่ เดิมที ศิลปวัฒนธรรมไทยของเราเองก็ไม่ได้มคี วามเป็นต้นฉบับ มาแต่ไหนแต่ไร หากเกิดจากการผสมผสาน ได้รับอิทธิพลมาจากหลากแห่ง อย่างอาหารไทยเองก็เกิดจากการเลือกรับปรับใช้ และได้รับอิทธิพลมาจาก หลายวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเครื่องเทศจากอินเดีย อาหารผัดไฟแรงที่ได้มาจาก จีน ขนมหวานอย่างทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมบ้าบิ่น หรือแม้แต่ อาหารรสเผ็ดจากพริกที่เราได้รับมาจากโปรตุเกสในสมัยอยุธยา อิทธิพลทางวัฒนธรรมเหล่านี้ เราไม่ได้รบั มาใช้แบบตรงๆ แต่น�ำมาปรับ และประยุกต์ให้เข้ากับรสนิยม ไปจนถึงภูมปิ ระเทศ ภูมอิ ากาศ วัตถุดบิ วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของเราเอง จนกลายเป็ น เอกลักษณ์ เ ฉพาะตัว ที่ได้ รับ การยอมรับจากทั้งโลก อย่างแกงมัสมั่นที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของไทย ก็มีที่มา จากแกงของแขก หรือผัดไทยก็มีที่มาจากอาหารเส้นของจีน ซึ่งเราน�ำมาปรับ และประยุกต์จนกลายเป็นเอกลักษณ์เป็นตัวตนของชาติเราในที่สุด ศิลปินไทยร่วมสมัยอย่าง ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช หรือ อริญชย์ รุ่งแจ้ง ก็ เ คยหยิ บ เอาอาหารไทยลู ก ผสมอย่ า งผั ด ไทยและทองหยอดไปเป็ น แรงบันดาลใจในการสร้างงานศิลปะในเวทีสากล จนสร้างชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นที่ยอมรับในระดับโลกมาแล้ว กลับมามองที่งานศิลปะต่างๆ ก็เป็นเช่นเดียวกัน ศิลปะแบบโบราณ ตามจารีต เราได้รับอิทธิพลจากเขมรและอินเดีย กลายเป็นงานจิตรกรรมไทย โบราณตามวัดวาอาราม ต่อมาในยุคของ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่เป็นผู้เริ่มหลักสูตร การศึกษารูปแบบเดียวกันกับสถาบันศิลปะในยุโรป โดยเริ่มจากโรงเรียน ประณีตศิลปกรรม สืบเนื่องมาจนถึงคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ก็มีการเรียนการสอนศิลปะในลักษณะสมจริง แบบเดียวกับศิลปะในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการของอิตาลี เมื่อผู้เรียนได้นำ� มา ผนวกกับจารีตเดิม ศิลปะไทยก็เริ่มมีความเป็นสากลมากขึ้น ในเวลาต่อมา อาจารย์ผ้สู อนศิลปะหลายคนมีโอกาสได้ไปศึกษาต่อใน ยุโรปและอเมริกา และได้สัมผัสกับแนวทางศิลปะสมัยใหม่ หรือโมเดิร์นอาร์ต ที่เป็นกระแสทางศิลปะที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น ก็รับ เอาแนวทางมา สร้างสรรค์งานศิลปะของตน รวมถึงน�ำมาถ่ายทอดให้ศษิ ย์ในสถาบันศิลปะทีต่ น สอนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแนวทางเรียลิสม์, อิมเพรสชันนิสม์, เอ็กซ์เพรสชันนิสม์, แอบสแตรกต์, คิวบิสม์, เซอร์เรียลิสม์ หรือแม้แต่คอนเซปชวลอาร์ต ตั้งแต่นั้นมาศิลปะร่วมสมัยของไทยที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะตะวันตก จึงค่อยๆ ถือก�ำเนิด และมีความหลากหลายมากขึ้น ศิลปินไทยจะได้รับอิทธิพลจากศิลปะตะวันตกมา แต่เราก็ไม่ได้รับเอา แก่นทางความคิดที่อยู่เบื้องหลังศิลปะเหล่านั้นมาด้วย หากเรารับมาแต่เพียง รูปแบบและเทคนิคในการน�ำเสนอ แล้วน�ำมาปรับใช้ให้เป็นของเราเอง เช่นเดียวกับอาหาร ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกแต่อย่างใด ดังนั้น ศิลปะไทยจะมีรูปแบบเช่นเดียวกับศิลปะตะวันตก แต่เนื้อหา ความคิดภายใต้งานนั้นก็ปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบไทยๆ กล่าวได้ว่างานศิลปะ ร่วมสมัยของไทยในรูปแบบต่างๆ ก็คอื การน�ำความคิดความเชือ่ แบบไทยๆ มา น�ำเสนอผ่านรูปแบบของศิลปะแบบตะวันตกเหล่านัน้ นัน่ เอง ไม่วา่ จะเป็นภาพวาด หรือผลงานที่แสดงออกถึงเรื่องราวเกี่ยวกับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงวัฒนธรรมและความเชื่อแบบไทยๆ และสภาพสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานศิลปะที่ท�ำเพื่อถวายความจงรักภักดี และ ถวายความอาลัยแด่พระมหากษัตริย์ของเรา เราน�ำความรักและความรู้สึก ที่มีต่อพระองค์ท่าน รวมถึงต่อพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ มาน�ำเสนอ เป็นผลงานศิลปะแบบร่วมสมัย ดังเช่นในตัวอย่างจากศิลปินไทยทั้ง ๙ คน ทีน่ ำ� มาเสนอ ณ ทีน่ ี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่ได้รบั อิทธิพลมาจากงานศิลปะตะวันตก และน�ำมาประยุกต์และปรับใช้ให้เข้ากับความเป็นไทยของตนเอง ทวีศักด์ (โลเล) ได้รับอิทธิพลจากป๊อปอาร์ตและศิลปะเซอร์เรียลิสม์ และวัฒนธรรมการ์ตูนของญี่ปุ่นอย่างมังงะและอนิเมะ แต่ก็น�ำเสนอเรื่องราว แบบไทยในแบบฉบับของเขาเอง ยุรไี ด้รบั อิทธิพลจากศิลปะเซอร์เรียลิสม์ การ์ตนู แอนิเมชัน และเรือ่ งราว ในนิทานหรือต�ำนานพื้นบ้านหลากวัฒนธรรมทั้งไทยและเทศ ไปจนถึงเพลง ลูกทุ่งของไทย กิตชิ ยั ร�ำ่ เรียนตามแบบแผนของศิลปะเหมือนจริงทีไ่ ด้อทิ ธิพลจากศิลปะ ของยุโรปอิตาลี ซึ่งน�ำมาประยุกต์เข้ากับคติความเชื่อความศรัทธาในศาสนา พุทธ กลายเป็นงานประติมากรรมรูปเหมือน รูปเคารพบูชาของพระภิกษุสงฆ์ รวมถึงการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ผ่านพระบรมรูป ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ หลายรูป ที่ปั้นออกมาได้อย่าง สมจริงอย่างยิ่ง อเล็กซ์ เฟซ แม้จะท�ำงานศิลปะกราฟฟิตแี้ ละสตรีทอาร์ต ซึง่ มีทมี่ าจาก
in R e mem brance of O ur K ing ศิ ล ป ะ ร่ ว ม ส มั ย แ ห่ ง รั ช ก า ล ที่ ๙
วัฒนธรรมบนท้องถนนของอเมริกนั แต่งานของเขาก็เปลีย่ นแปลงไปตามบริบท ของสังคมไทย ลดความก้าวร้าวลง แต่มคี วามถ้อยทีถ้อยอาศัย เห็นอกเห็นใจ มากขึน้ โดยมีการติดต่อขออนุญาตเจ้าของสถานทีเ่ ป็นเรือ่ งเป็นราวก่อนท�ำงาน รวมถึงเลือกท�ำงานให้สอดคล้องกับผู้คน ชุมชน และท� ำงานเพื่อสังคม จนกลายเป็นงานกราฟฟิตี้และสตรีทอาร์ตแบบไทยๆ ที่เล่าเรื่องราวของ คนไทยไปในที่สุด แม้ แ ต่ ค อนเซปชวลอาร์ ต ที่ เ กิ ด ขึ้ น จากแนวคิ ด ในการปฏิ วั ติ ห รื อ เปลี่ยนแปลงสังคม ท�ำลายคติความเชื่อเก่าๆ เมื่อศิลปินไทยน�ำมาปรับใช้กับ บริบทของสังคมไทย ก็มกี ารเปลีย่ นรูปแบบและวิธคี ดิ ไป ดังผลงานของอานนท์ ที่น�ำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นหัตถกรรมพื้นบ้านอย่างงานสานของไทย มาสร้าง ให้เป็นรถยุโรปหรูหราที่แสดงถึงความเป็นไทยลูกผสม ในเทศกาลศิลปะ นานาชาติที่อิตาลี รวมถึงการน�ำศิลปะคอนเซปชวลมาบอกเล่าเรื่องราว เกี่ยวกับโครงการในพระราชด�ำริ ผลงานของอั ง กฤษที่ ใ ช้ ศิ ล ปะคอนเซปชวลในการสะท้ อ นสภาวะ ความเป็ น ไปในสั ง คมไทย หรื อ แม้ แ ต่ ใ ช้ ใ นการถวายความอาลั ย แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ อีกด้วย ผลงานของศรัณย์ที่ผสมผสานงานดีไซน์กับศิลปะ ผสมความเป็น ตะวันตกกับตะวันออก ผสานความเป็นสมัยใหม่กบั ความเป็นท้องถิน่ รสนิยม ชั้นสูงและรสนิยมบ้านๆ จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะหาใคร เสมอเหมือน ดังเช่นทีป่ รากฏในผลงานเฟอร์นเิ จอร์ชนิ้ เอก เขาน�ำตะกร้าใส่ผกั ผลไม้ที่พบเห็นเกลื่อนกลาดในร้านขายของช�ำบ้านเรามาต่อขาเก้าอี้หลุยส์ จนกลายเป็นงานดีไซน์ลูกผสมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และผลงานศิลปะของโอ๊ต มณเฑียร & โจนาส เดปต์ ผสมผสาน ไลฟ์ดรออิง้ (วาดเส้นสด) เข้ากับการบรรเลงเปียโน จนกลายเป็นศิลปะการแสดง ลูกผสมระหว่างทัศนศิลป์และดนตรี อีกทั้งยังเป็นการน�ำเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มาตีความใหม่ในแบบร่วมสมัย ได้อย่างน่าสนใจ ผลงานของนักรบน�ำเอาวัฒนธรรมประเพณีเก่าๆ ของไทยที่ปรากฏอยู่ ในภาพถ่ายย้อนยุค ภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณของไทย ภาพในวรรณคดี ไทย มาคอลลาจปะติดผสมกับภาพจากวัฒนธรรมตะวันตก อย่างภาพวาด ของจิตรกรชัน้ ครูของยุโรป ภาพวาดในเชิงศาสนา เทวต�ำนาน ภาพสถาปัตยกรรม ตะวั น ตก ไปจนถึ ง ภาพถ่ า ยสมั ย ใหม่ อ ย่ า งภาพถ่ า ยวิ ท ยาศาสตร์ แ ละ เทคโนโลยีได้อย่างกลมกลืนลงตัวยิ่ง นับเป็นตัวอย่างของศิลปะในยุคสมัย ปัจจุบันที่สามารถน�ำทุกสิ่งทุกอย่างจากทุกยุคสมัยมาอยู่รวมกันได้ ศิลปินมีความคิดเสรีและหัวก้าวหน้า แต่ก็มีจุดร่วมเหมือนๆ กัน คือความรักในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ หรือในหลวงของเรา เหตุ เ พราะนอกจากจะทรงเป็ น สถาบั น หลั ก ของชาติ ไ ทยแล้ ว ยั ง เป็ น พระมหากษัตริย์ที่มีความเปิดกว้างทางความคิด และปรับพระองค์ให้เข้ากับ ยุคสมัยอยู่เสมอ อีกทั้งยังทรงมีพระปรีชาสามารถในหลากหลายด้าน เป็นนักนวัตกรรม นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ ที่น�ำการค้นคว้ามาประยุกต์ใช้ในการพัฒนา ประเทศอย่างยั่งยืน คนไทยเราเติบโตมาพร้อมกับเรื่องราวและข่าวสาร เหล่านี้ จึงท�ำให้เรารู้ว่าสถาบันกษัตริย์อยู่เคียงข้างประชาชนเสมอมา แม้แต่ในด้านศิลปะก็ทรงมีพระปรีชาสามารถอย่างยิง่ เช่นกัน ไม่วา่ จะเป็น งานจิตรกรรมฝีพระหัตถ์ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ เพลงพระราชนิพนธ์ หรือแม้แต่ การทีท่ รงใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟิกในการประดิษฐ์ ส.ค.ส. พระราชทาน แก่ประชาชนชาวไทยเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ตัวอักษรที่ใช้ใน ส.ค.ส. ยังเป็นฟอนต์ที่ทรงประดิษฐ์เองอีกด้วย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ในขณะที่ศิลปินไทยปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ศิ ล ปะไทยไปตามยุ ค ตามสมั ย ที่ เ ปลี่ ย นแปลง พระมหากษั ต ริ ย ์ ไ ทยเอง ก็ทรงปรับพระองค์ให้ทรงมีความเป็นร่วมสมัยไปด้วยเช่นเดียวกัน ท� ำให้ คนรุ่นใหม่เข้าถึงและเชื่อมโยงถึงพระองค์ได้ เพราะเราต่างมีความรู้สึกว่า สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ไม่ไกลตัว เราทุกคนต่างผูกพัน ศิลปิ น จึง สามารถแสดงความรักในพระองค์ ออกมาในผลงานของ พวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการน�ำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการในพระราชด�ำริ หรือบอกเล่าความรูส้ กึ ทีล่ กึ ซึง้ ภายในใจ และถวายความอาลัยทีม่ ตี อ่ พระองค์ ออกมาในรูปแบบศิลปะทีห่ ลากหลายและมีความเป็นร่วมสมัย ไม่ใช่งานศิลปะ ในแบบประเพณีและจารีตโบราณเท่านั้น ดังที่เราจะได้เห็นเป็นประจักษ์ ในงานพระเมรุมาศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ครั้งนี้ นี่จึงเป็นลักษณะส�ำคัญของงานศิลปะแห่งยุคสมัยรัชกาลที่ ๙ อย่าง แท้จริง
“ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่ง ความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ทา่ นทุกๆ คน ให้มค ี วามสุข ความเจริญ และความส�ำเร็จ สมประสงค์ในสิ่งที่ปรารถนา ความปรารถนา ของทุกๆ คนคงไม่แตกต่างกันนัก คือต้องการให้ตนเองมีความสุข ความเจริญ และให้บ้านเมืองมีความสงบ ร่มเย็น ในปีใหม่นี้จึงขอให้ ท่านทั้งหลายรักษาสุขภาพกาย สุขภาพจิต ให้สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มก�ำลัง ข้อส�ำคัญจะคิดจะท�ำสิ่งใด ให้นึกถึงส่วนรวมและความเป็นไทยไว้เสมอ งานของตนและงาน ของชาติ จะได้ด�ำเนินก้าวหน้าไปโดยถูกต้อง เที่ยงตรง ไม่ติดขัด และบรรลุถึงประโยชน์เป็นความสุขความเจริญและความสงบร่มเย็น ดังที่ทุกคนตั้งใจปรารถนา ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคนให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย ให้มีความสุขกายสุขใจตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน” พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพรปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๕๗
a day bulletin
LIFE
เรื่อง : พันธมน วงษ์รัตนะ, ทรรศน หาญเรืองเกียรติ ภาพ : รัชต์ภาคย์ แสงมีสินสกุล
62
63
issue 509 23 OCT 2017
มณฑลพิธี หมายถึงบริเวณที่ใช้ประกอบพระราชพิธี ซึ่งมีสัญลักษณ์หรือสิ่งก่อสร้างเป็นเครื่องหมายแสดง อาณาบริเวณ เพื่อแสดงให้เห็นถึงขอบเขตที่แน่นอน มณฑลพิธีท้องสนามหลวงจึงถูกใช้ในการประกอบ พระราชพิธีต่างๆ โดยพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และพระราชทานเพลิงศพ เริ่มใช้ตั้งแต่รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเรียกว่า ‘ทุ่งพระเมรุ’ นับตั้งแต่นั้น
T H E R O YA L C R E M AT O R I U M
a day bulletin
64
65
๑
โครงสร้างพระเมรุมาศของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีความสูง ๕๐.๔๙ เมตร ประกอบด้วย อาคารทรงบุษบก จ�ำนวน ๙ องค์ ตั้งอยู่บนฐานชาลารูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ๓ ชั้น
๒
๓
issue 509 23 OCT 2017
๑. “พระเมรุมาศจะมีความกว้าง ๖๐x๖๐ เมตร สูง ๕๐.๔๙ เมตร ใส่ยอดขัน ้ เชิงกลอนอีก ๙ ยอด” อาจารย์กอ ่ เกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรมช�ำนาญการ ส�ำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ผู้ออกแบบพระเมรุมาศของ พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช
๒. ฐานชาลาชั้ น ที่ ๑ ล้ อ มด้ ว ยรั้ ว ราชวั ติ มี เ ทวดา เชิญฉัตร และบังแทรก ทีม ่ ม ุ ทัง ้ สีข่ องฐาน มีประติมากรรม ท้าวจตุโลกบาลยืนหันหน้าเข้าสู่บุษบกประธาน รายรอบ พระเมรุ ม าศชั้ น ลานอุ ต ราวรรต และมี ส ระอโนดาต ทั้ ง สี่ ทิ ศ มี เ ขาจ� ำลองประดั บ ด้ ว ยประติ ม ากรรม สัตว์หิมพานต์ตระกูลต่างๆ
๓. บุษบกประธานตัง ้ อยูท ่ จี่ ด ุ กึง ่ กลางฐานชาลาชัน ้ บนสุด เป็นอาคารทรงบุษบกยอดมณฑป ชั้นเชิงกลอน ๗ ชั้น ที่ยอดบนสุด ประดิษฐานนพปฎลมหาเศวตฉัตร ผนัง โดยรอบเปิดโล่ง ติดตัง ้ พระวิสต ู ร และฉากบังเพลิงเขียน ภาพพระนารายณ์อวตารตอนบน และภาพโครงการ อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริตอนล่าง
a day bulletin
66
67
โครงสร้างพระเมรุมาศของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีความสูง ๕๐.๔๙ เมตร จากภาพคือการซ้อมยกนพปฎลมหาเศวตฉัตรไปติดตั้ง บนยอดพระเมรุมาศด้วยวิธีการชักรอกสลิง ซึ่งนพปฎลมหาเศวตฉัตรองค์จริงมีความสูง ๕.๑๐ เมตร น�้ำหนัก ๘๐ กก. และมีทั้งหมด ๙ ชั้น ติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ที่ผ่านมา
issue 509 23 OCT 2017
มณฑลพิธีตามคติการเป็นศูนย์กลางของโลก และจักรวาล รายล้อมด้วยพระที่นั่งทรงธรรม ศาลาลูกขุน พลับพลายก หอเปลื้อง ซ่าง ทับเกษตร ทิม คต และประดับด้วย สัตว์หิมพานต์ กินนร กินรี รอบพระเมรุมาศ ชั้นนอกสุดล้อมรอบด้วยราชวัติซึ่งเป็นแนวรั้วก�ำหนดขอบเขตมณฑลพิธีประดับตกแต่งด้วยฉัตรและธงเป็นระยะ
พระเมรุมาศ แปลว่า พระเมรุทป ี่ ระดับตกแต่งด้วยทองหรือวัสดุอน ื่ ทีใ่ ห้สเี หลืองอร่ามดุจดัง ่ ทอง ส่วนของพระบรมวงศานุวงศ์เรียก ‘พระเมรุ’ และของสามัญชนเรียก ‘เมรุ’ พระเมรุมาศ เปรียบเสมือนสิง ่ ต่างๆ ทีร ่ ายล้อมจักรวาลตามความคติเชือ ่ ทีก ่ ล่าวถึงในเตภูมก ิ ถา หรือไตรภูมพ ิ ระร่วง ทีบ ่ รรยายไว้วา่ โลกและจักรวาลมีลก ั ษณะเป็นวงกลม มีเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
a day bulletin
THE CONVERSATION
เรื่อง : พัทธมน วงษ์รัตนะ, ทรรศน หาญเรืองเกียรติ ภาพ : รัชต์ภาคย์ แสงมีสินสกุล
68
69
ARCHITECTURE OF HONOR ก่อเกียรติ ทองผุด
พระเมรุมาศ เป็นเครือ ่ งประกอบพระราชอิสริยยศ ส�ำหรับการถวายพระเพลิงพระบรมศพพระมหากษัตริย์ ซึง่ สร้างไว้ ณ ท้องสนามหลวง เพือ ่ อัญเชิญพระบรมศพ จากพระบรมมหาราชวัง ด้วยขบวนพระราชอิสริยยศ ออกไปประกอบพระราชพิ ธี ถ วายพระเพลิ ง บน อาคารพระเมรุมาศ โดยประเพณีนี้สืบทอดมาตั้งแต่ สมัยอยุธยา (พ.ศ. ๑๘๙๓-๒๓๑๐)
issue 509 23 0CT 2017
a day bulletin
70
23 0CT 2017
“ตอนที่ผมต้องถวายการรายงาน สมเด็จพระเทพฯ ท่านตรัสขึ้นมาว่า ‘จ�ำคุณได้’ ซึ่งค�ำพูดสั้นๆ นี้ก็ท�ำให้ผมตื้นตันไปหมด”
issue 509
คติการสร้างพระเมรุมาศจึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเสมอในแต่ละยุคสมัย แต่ยังคง แกนหลักของคติความเชือ่ ทีว่ า่ พระมหากษัตริยค์ อื สมมติเทวราช เมือ่ ถึงวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชพี ก็ต้องเสด็จกลับยังเทวภิภพ และผู้ที่เข้ามารับผิดชอบในการออกแบบพระเมรุมาศเพื่ออัญเชิญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปยังภพแห่งความดีงามอันมีดินแดนอยู่ที่ เขาพระสุเมรุครั้งนี้ ก็คือหน้าที่รับผิดชอบของ อาจารย์ก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรม ช� ำ นาญการ ส�ำ นัก สถาปั ต ยกรรม กรมศิล ปากร และที ม งานที่ ช ่ ว ยกั น ลงแรงกั น อย่ า งสุ ด ความสามารถเพื่อให้พระเมรุมาศนี้ยิ่งใหญ่สมกับพระเกียรติที่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ได้สร้าง และมอบคุณประโยชน์มหาศาลไว้ให้กบั ปวงชนชาวไทย
พระเมรุมาศถือเป็นงานออกแบบทีย ่ งิ่ ใหญ่ มีหลายฝ่าย เข้ามาช่วยเหลือมากมาย อยากรูว้ า่ สุดท้ายอาจารย์สรุป รูปแบบของพระเมรุมาศของในหลวง รัชกาลที่ ๙ นี้ อย่างไร
พระเมรุมาศครัง้ นีเ้ ป็นงานทีใ่ หญ่และมีรายละเอียดเยอะมาก หลังจากร่างพระเมรุมาศเสร็จ ผมก็ให้สมเด็จพระเทพฯ คัดเลือก พอได้ภาพรวมแล้วจึงตัง้ โจทย์ไว้ ๒-๓ ข้อ แล้วส่งให้ทกุ คนออกแบบ ถ่ายความรับผิดชอบ โดยท�ำคอนเซ็ปต์ไว้สองคอนเซ็ปต์ อย่างแรก คือ ในหลวงเป็นรามาธิบดี หมายถึงเป็นสมมติเทพ ในที่นี้คือ พระนารายณ์ เราน�ำศาสนาพุทธมาใช้เป็นรูปแบบหลัก และมีครุฑ มาเป็นส่วนประกอบ อย่างทีส่ อง เรามองว่าในหลวง รัชกาลที่ ๙ ท่านเป็นพระโพธิสตั ว์ เพราะท่านบอกไว้ตอนขึน้ ครองราชย์วา่ จะใช้ หลักทศพิธราชธรรม ซึ่งเป็นหลักของศาสนาพุทธ เราก็นำ� เรื่องนี้ มาตีความด้วย จั่วทั้งหมดของอาคารจะมีลักษณะเป็นเหมือน พระพุทธรูป มีสว่ นทีเ่ ป็นศีรษะ ไหล่ และเข่า ทุกหลังในมณฑลพิธี จะเป็ นแบบนี้หมด แต่ลักษณะของพระที่นั่งทรงธรรมจะเป็น ช่อฟ้ามอญ ใบระกา สีของพระเมรุจะใช้สีขาว เทา ทอง เป็นสี ราชนิยมทีเ่ กิดในรัชกาลที่ ๙ ก่อนหน้านีไ้ ม่มกี ารใช้สโี ทนนี้ และเน้น สีทองมากทีส่ ดุ เพราะเป็นสีประจ�ำพระองค์ทา่ น
บรรยากาศทีร่ ายล้อมพระเมรุมาศ เราทราบเบือ ้ งต้นว่า จ�ำลองให้เป็นเหมือนเขาพระสุเมรุ ซึ่งเรื่องนี้เกียวข้อง อย่างไรกับตัวพระเมรุมาศ
เขาพระสุเมรุอยูใ่ นสวรรค์ชนั้ ดาวดึงส์ ซึง่ ตัง้ อยูต่ รงกึง่ กลาง ของจักรวาล นี่คือความเชื่อของไตรภูมิที่เราน�ำมาใช้ออกแบบ พระเมรุมาศ และในสวรรค์ชนั้ ดาวดึงส์กเ็ ป็นทีป่ ระทับของพระอินทร์ เราจึงจ�ำลองเขาพระสุเมรุขึ้นมา เพราะธรรมเนียมพระราชพิธี โบราณระบุไว้แล้วว่าส�ำหรับพระมหากษัตริย์ พิธถี วายพระเพลิงคือ การช�ำระพระวรกายของพระองค์ให้สะอาด และส่งท่านขึ้นไปสู่ สวรรค์ชนั้ ดุสติ เพือ่ เตรียมเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต โดยรวมแล้ว เราจึงสร้างให้เทียบเคียงกับเขาพระสุเมรุ มีสัตว์หิมพานต์ และ สระอโนดาตโดยรอบ
ความเชื่อดั้งเดิมที่มีมาแต่ยาวนานอาจารย์น�ำมาปรับ ให้อยูร่ ว่ มกับบริบทของยุคสมัยของในหลวง รัชกาลที่ ๙ อย่างไร
ถ้าเราดูผังเมืองของกรุงเทพฯ จะเห็นได้ชัดเจนว่าบริเวณ กรุงเก่าจะถูกแบ่งออกเป็นแต่ละส่วน นั่นคือทวีปของสรวงสรรค์ แล้วเราจะเข้าใจว่าท�ำไมวังจิตรลดาถึงตั้งอยู่ในเขตดุสิต ซึ่งการเทียบเคียงนี้ถูกน�ำมาใช้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ แต่ก่อนแต่ละเขต ก็ จ ะมี ต ้ น ไม้ ป ระจ� ำ เขตด้ ว ย แต่ ค วามเชื่ อ นี้ ก็ ค ่ อ ยๆ หายไป พระเมรุมาศของในหลวง รัชกาลที่ ๙ จึงมีการผสมผสานทัง้ คติความเชือ่ และเรือ่ งของประโยชน์การใช้สอย ดังนัน้ การออกแบบจึงไม่มสี ตู ร ตายตัว แต่สงิ่ ทีเ่ ราต้องยึดถืออย่างเคร่งครัดคือพระเมรุของพระมหากษัตริยต์ อ้ งเป็นทรงบุษบกเท่านัน้ แต่ทรงบุษบกนีจ้ ะมีการลดหรือ เพิม่ รายละเอียดอย่างไรก็ได้อยูท่ คี่ วามงาม และเรือ่ งของความรูส้ กึ อาจารย์บอกว่าการออกแบบพระเมรุมาศไม่มส ี ต ู รตายตัว ถ้าอย่างนั้นอะไรคือมาตรฐานที่เป็นแกนหลักของงาน ครัง้ นี้
มาตรฐานในการมองรูปแบบพระเมรุมาศนัน้ มองได้หลายมุม มองในเรือ่ งความเชือ่ มองในเรือ่ งความงาม มองในเรือ่ งประโยชน์ ใช้สอย หรือมองในเชิงพระราชประเพณีกไ็ ด้ อยูท่ เี่ ราให้ความส�ำคัญ กับเรือ่ งไหน เพราะท้ายทีส่ ดุ พระเมรุมาศคือทุกเรือ่ ง คือศูนย์กลาง ทีร่ วมทุกอย่างของในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็นพระเมรุมาศทีย่ งิ่ ใหญ่ และทุกคนให้ความสนใจมากทีส่ ดุ
อาจารย์สรุปความคิดของตัวเองอย่างไรภายใต้ความกดดันครัง้ นี้
เราต้องท�ำความคิดให้ออก อาจารย์ประเวศ ลิมปรังษี ท่านเคยสอนผมว่า การออกแบบพระเมรุมาศใช้หลักการแค่ขอ้ เดียว คือ ออกแบบให้ใคร ใครเป็นคนใช้ ซึง่ ข้อเดียวนีเ้ ราต้องคิดให้ออก อะไรคือสิง่ ทีใ่ นหลวง รัชกาลที่ ๙ ท่านทรงสร้างให้กบั โลกนี้ อะไร คือสิง่ ทีเ่ ป็นบารมีของพระองค์ทา่ น และอะไรคือสิง่ ทีท่ ำ� ให้พวกเรา คิดถึงท่าน เมือ่ รูว้ า่ สิง่ เหล่านีค้ อื อะไร ภาพการออกแบบในหัวจะผุด ขึ้ น มาเป็ น ฉากๆ เลย ข้ อ ต่ อ มาคื อ คิ ด แล้ ว ต้ อ งท� ำ ออกมาได้
71 ถ้ามือ สายตา และสมองของเราไม่สมั พันธ์กนั เราจะกลายเป็นแค่ นักพูดแต่ปฏิบัติงานไม่ได้ สื่อสารกับใครก็ไม่ได้ และสุดท้ายคือ ท�ำให้ถกู ต้อง เรือ่ งนีท้ างกรมศิลปากรให้ความส�ำคัญมาก ถูกต้อง ในที่นี้ห มายถึง ถู ก ต้ อ งตามฉัน ทลัก ษณ์ แ ละองค์ ป ระกอบอื่น ๆ ตามลักษณะของสถาปัตยกรรมไทย ลักษณะพิเศษของพระเมรุมาศทีแ ่ สดงถึงศิลปะยุคนี้
งานศิลปะเมื่อสร้างยุคไหน ก็ย่อมบ่งบอกความเป็นยุคนั้น อยูแ่ ล้ว ตอนนีเ้ ราอยูใ่ นสมัยของรัชกาลที่ ๑๐ แต่พระเมรุมาศเป็นของ รัชกาลที่ ๙ ความชัดเจนคือ อาคารจะมี ๙ ยอด ซึง่ สือ่ ถึงนัยยะนี้ อยู่แล้ว เราใช้สเี หลืองมากถึง ๗๕% เพราะท่านประสูตวิ นั จันทร์ และเป็นสีประจ�ำพระองค์ สีขาวหมายถึงพระบรมราโชวาทและ ปัญญาของพระองค์ทไี่ ด้ให้ไว้กบั ราษฎร บวกกับหลักทศพิธราชธรรม ทีท่ า่ นใช้ในการปกครองก็เป็นหลักของศาสนา ซึง่ ก็เป็นสีขาวเช่นกัน ทั้งยังแทนค่าของเพชร และเป็นสีที่ท�ำให้สีทองไม่ทึบจนเกินไป นอกจากนีย้ งั มีสเี ขียวทีพ่ ดู ถึงความอุดมสมบูรณ์ทพี่ ระองค์ทรงมอบ ให้เรา ทั้งเรื่องการเกษตรและสิ่งแวดล้อม สีน�้ำเงินเป็นสีโทนเข้ม ทีน่ ำ� มาใช้เพือ่ ให้เกิดน�ำ้ หนักสูงต�ำ่ และเป็นสีทแี่ ทนค่าพระมหากษัตริย์ ส่วนสีชมพู ครั้งหนึ่งเราเคยใส่เสื้อสีชมพูตอนที่พระองค์ประชวร เป็นสีมงคลที่แสดงถึงความทรงจ�ำตอนนั้น สรุปแล้วสีที่น�ำมาใช้ หลักๆ ทั้งหมดมี ๕ สี และแต่ละสีก็มีอิทธิพลและรายละเอียด ทีแ่ ตกต่างกันออกไป โดยมีภาพรวมเป็นสีขาว เทา ทอง เป็นสีโทนอุน่ ทีด่ สู ง่างาม
โครงสร้างของพระเมรุมาศต้องออกแบบแค่ไหน เพราะต้อง รองรับการเข้ามาถวายบังคมของประชาชนจ�ำนวนมาก
ส�ำหรับอาคารสถาปัตยกรรมไทย การสร้างเมรุครั้งนี้เป็น การสร้างรูปแบบใหม่ ซึง่ เป็นโครงสร้างเมรุขนาดใหญ่ เมือ่ ก่อนจะใช้ไม้ แต่ได้รับการพัฒนามาเป็นโครงสร้างเหล็กในช่วงของสมเด็จย่า ครั้งนี้โครงสร้างเสาของพระเมรุมาศเป็นการหล่อคอนกรีต ใช้เป็น ฐานแผ่และรวบกันไว้ทงั้ หมด เป็นโครงสร้างเหล็กสมัยใหม่สำ� หรับ สร้างอาคารชัว่ คราว ไม่ได้ตอกเสาเข็มลงไปในพืน้ ทีจ่ ริง ซึง่ การออกแบบ เราจะต้องค�ำนึงถึงจ�ำนวนคนทีม่ า ต้องค�ำนวณน�ำ้ หนักรวม เพราะ ในเชิงวิศวกรรมนัน้ ความปลอดภัยต้องมากทีส่ ดุ ความเสีย่ งต้องเป็นศูนย์ ความผิดพลาดเกิดขึน้ ไม่ได้เลย และเนือ่ งจากพืน้ ข้างล่างสนามหลวง เป็นดินเหลว ถ้ามีนำ�้ เข้ามามากๆ ก็อาจยุบตัวได้ เลยต้องป้องกัน ด้วยการหล่อคอนกรีตไว้ และสูบน�ำ้ ออกจากบริเวณฐานพระเมรุมาศ
เรือ ่ งไหนในการออกแบบพระเมรุมาศทีอ ่ าจารย์จะไม่ยอม ให้ใครมาเปลีย ่ นแปลงได้
ชัน้ พืน้ ทีอ่ ยูต่ รงระเบียงโดยรอบของพระเมรุมาศ ตอนประชุม มีการแนะน�ำว่าน่าจะล้อมรัว้ ให้เหลือแค่ ๓ ชัน้ เพือ่ จะได้ไม่กนิ พืน้ ที่ มาก ผมก็ชแี้ จงว่าผมไม่อยากให้ตดั อยากให้ได้ ๔ ชัน้ เหมือนที่ ตั้งใจไว้ ซึ่งรั้วนี้จะแสดงความเป็นขอบเขตให้เห็นเป็นเส้นชัดเจน และ ๔ ชัน้ จะแสดงถึงสวรรค์แต่ละชัน้ พระองค์อยูใ่ นสวรรค์ชนั้ ดุสติ ซึ่งเป็นชั้นที่สี่ อีกทั้งยังท�ำให้พระเมรุมาศมีความสง่างามและสม พระเกียรติมากกว่า ถ้าไปตัดก็เหมือนการสร้างบ้านทีไ่ ม่มรี วั้ เราต้อง สร้างให้มชี านออกมา ซึง่ ท�ำให้ทรงของพระเมรุมาศสมบูรณ์แบบ
อะไรคื อ ความปลื้ ม ปี ติ ที่ คุ ณ ได้ ท� ำ งานรั บ ใช้ ใ นหลวง รัชกาลที่ ๙ ครัง้ นี้
ย้อนกลับไปตอนทีผ่ มออกแบบ แล้วต้องเข้าไปกราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพฯ ซึง่ ตอนนัน้ ก�ำลังคัดเลือกแบบของพระเมรุมาศ ครั้งสุดท้ายซึ่งมีงานของนักออกแบบท่านอื่นรวมอยู่ด้วย พอถึง ตอนทีผ่ มต้องถวายการรายงานสมเด็จพระเทพฯ ท่านตรัสขึน้ มาว่า ‘จ�ำคุณได้’ ซึง่ ค�ำพูดสัน้ ๆ นีก้ ท็ �ำให้ผมตืน้ ตันไปหมดแล้ว เมือ่ ผม อธิบายงานให้พระองค์ฟงั จนจบ ท่านก็ตรัสว่าทรงบุษบก ๙ ยอด พิเศษนั้น ‘ดูสวยงาม ยอดดูเป็นอิสระ’ นี่คือสิ่งที่พระองค์เลือก เพื่อถวายให้กับในหลวง รัชกาลที่ ๙ ส่วนความรู้สึกของผมนั้น ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ เพราะมีทงั้ ความภูมใิ จ ความตืน้ ตัน และความดีใจที่จะได้ท�ำงานถวายท่านและในหลวง รัชกาลที่ ๙ ผสมกันไปหมด
a day bulletin
BREATHe OUT
๐๑ “ผมมีโอกาสเดินทางไปที่บริเวณท้องสนามหลวงบ่อยมาก เพื่อเก็บภาพและ เรือ่ งราวต่างๆ ทีเ่ กีย่ วกับผูค้ นทีอ่ อกมาแสดงความรักและอาลัยทีม่ ตี อ่ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ จนถึงวันที่ทางพระบรมมหาราชวังเปิดให้ประชาชนมากราบพระบรมศพวันสุดท้าย “ ‘เรามาที่สนามหลวงบ่อยมาก แต่เราไม่เคยได้เข้าไปกราบท่านเลย’ ผมพูดกับ น้องช่างภาพที่มาด้วยกัน ‘ไม่เป็นไรหรอกพี่ ผมเชื่อว่าท่านทรงรับรู้ว่าพวกเรามา’ น้องบอกกับผมเหมือนจะเข้าใจว่าผมคิดอะไรอยู่” ขอน้อมศิระกราน กราบแทบพระยุคลบาท ด้วยส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า นายทรรศน หาญเรืองเกียรติ กองบรรณาธิการ นิตยสาร a day BULLETIN
issue 509
๐๒
23 OCT 2017
“สถิ ต อยู ่ ใ นใจตราบนิ รั น ดร์ น้ อ มส� ำ นึ ก ในพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ เป็ น ล้ น พ้ น อันหาที่สุดมิได้” ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวกมลวรรณ ส่งสมบูรณ์ กองบรรณาธิการ นิตยสาร a day BULLETIN
72
๐๓ “การมีเสรีภาพนัน้ เป็นของทีด่ อี ย่างยิง่ แต่เมือ่ จะใช้ จ�ำเป็นต้องใช้ดว้ ยความระมัดระวัง และความรับผิดชอบ มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้ กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นปกติสุขของส่วนรวมด้วย” พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พระราชทานแก่ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๑๔ ข้าพระพุทธเจ้า นายปริญญา ก้อนรัมย์ กองบรรณาธิการ นิตยสาร a day BULLETIN
๐๔ “ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกิดในยุคที่ได้เห็นท่านทรงงานหนักเหมือนช่วงหลายสิบปีที่แล้ว แต่ทุกๆ อย่างที่ท่านท�ำ ทุกค�ำสอนและแนวปฏิบัติ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ทำ� ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ และสัมผัสถึงความห่วงใยที่ท่านมีให้ประชาชนเสมอ ไม่ว่าจะเกิดในยุคไหนก็ตาม” พระผูเ้ สด็จสูส่ วรรคาลัย น้อมส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ เป็นล้นพ้นอันหาทีส่ ดุ มิได้ ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวพัทธมน วงษ์รัตนะ กองบรรณาธิการ นิตยสาร a day BULLETIN
73
๐๕ ศิระราษฎร์กราบก้ม จักริน ก�ำสรดน�้ำตาริน ร�่ำไห้ หลักธรรมพระภูมินทร์ น้อมน�ำ ใส่เกล้า ธ เสด็จสถิตไซร้ ภพโพ้นแดนสรวง ข้าพระพุทธเจ้า นายตนุภัทร โลหะพงศธร กองบรรณาธิการ นิตยสาร a day BULLETIN
๐๖ “พระราชด�ำรัสของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทีเ่ ราชอบมากทีส่ ดุ คือ ‘ความสุขความเจริญ อันแท้จริงนั้น หมายถึง ความสุขความเจริญที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรม ทั้งในเจตนาและการกระท�ำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบัง มาจากผู้อื่น’ นั่นท�ำให้เรารู้ว่า ความสุขความเจริญขึ้นอยู่กับเรา ไม่ใช่คนอื่น เป็นเหมือน แรงบันดาลใจให้กับเราในการใช้ชีวิตและการท�ำงานมาโดยตลอด” ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวพิมพ์อร นทกุล กองบรรณาธิการ นิตยสาร a day BULLETIN
๐๗ “หลังวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ได้เพียง ๔ วัน ฉันท�ำงานที่ a day BULLETIN เป็นวันแรก ประจวบกับต้องเร่งหาข้อมูล สัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ถึงเรื่องราวของในหลวง รัชกาลที่ ๙ และเขียนเป็นต้นฉบับ ระหว่างการสวรรคตของพระองค์ แต่เป็นการเริ่มต้น งานใหม่ของฉัน พร้อมกับต้นฉบับที่ต้องเร่งปิดรายสัปดาห์ ฉันรู้สึกว่าเป็นงานที่ทั้งหนัก ทั้งเหนื่อย วันนี้ฉันกลับมาท�ำเรื่องราวของพระองค์อีกครั้ง แต่ในปีนี้ฉันไม่เคยบ่นเหนื่อย เพราะมีพระองค์ทรงเป็นพลัง ส่งให้ฉันตั้งใจท�ำงานที่ดีต่อไป” น้อมส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ กองบรรณาธิการ นิตยสาร a day BULLETIN
๐๘ “พระองค์ทรงอุทศิ เสียสละหยาดเหงือ่ พระวรกาย เพือ่ ประโยชน์สขุ ของปวงชนคน ไทยทั้งประเทศมาตลอดเวลาเจ็ดสิบปี ข้าพระพุทธเจ้าโชคดีที่ได้เกิดภายใต้ร่มพระบารมี ของพระองค์ น้อมร�ำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายความอาลัยอย่างสุดซึ้ง” ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ข้าพระพุทธเจ้า นายชยุตม์ คชโกศัย ศิลปกรรม นิตยสาร a day BULLETIN
a day bulletin
,
Editor s Note
74
วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ บรรณาธิการบริหาร FB : theaestheticsofloneliness
The Last Look
issue 509 23 OCT 2017
ถ้าฝนก�ำลังตกอยูข่ า้ งล่าง เราก็จะไม่รเู้ รือ่ งเลยใช่ไหม? - แม่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเครือ่ งบินแล้วก็เอ่ยถาม ใช่มั้ง - ผมตอบ เราก�ำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน หลังจากการเดินทาง สองวันหนึง่ คืนทีแ่ สนทุลกั ทุเล เพือ่ ไปเยีย่ มป๊าทีน่ อนรักษาตัว อยู่ในโรงพยาบาลต่างจังหวัด ตั้งแต่แต่งงานอยู่กินกันมาห้าสิบกว่าปี นี่คงเป็น ครัง้ ทีแ่ ม่กบั ป๊าต้องอยูห่ า่ งกันไกลทีส่ ดุ และนานทีส่ ดุ เท่าที่ ผมจ�ำความได้ แต่ไหนแต่ไรมาก็เห็นพวกเขาตัวติดกัน แทบจะตลอดเวลา แม่มีหน้าที่หุงข้าวหุงปลาสามมื้อ ส่วน ป๊ า ก็ ช ่ ว ยท� ำ งานบ้ า นและขั บ รถพาแม่ ไ ปไหนมาไหน สองคนแก่อยู่ดแู ลกัน เข้านอนและตืน่ นอนพร้อมกันทุกวัน กิ น ข้ า วพร้ อ มกั น ทุ ก มื้ อ จนกระทั่ ง จู ่ ๆ ฝ่ า ยหนึ่ ง ก็ เ กิ ด ล้มหมอนนอนเสื่อ และอีกฝ่ายก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อย ได้แล้ว ลูกหลานจึงต้องพาแยกออกไปเพื่อการดูแลรักษา ที่สะดวกและปลอดภัยกว่า เสียงกัปตันประกาศว่าเราก�ำลังจะลดระดับลงสู่ ท่าอากาศยานดอนเมือง สัญญาณรัดเข็มขัดสว่างขึ้น พนักงานบนเครื่องวิ่งวุ่นไปมาจัดแจงข้าวของ แม่สงบนิ่ง อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายรอบตัว เหม่อมองฟ้ามองเมฆ นอกหน้าต่างเนิ่นนาน ผมไม่รู้ว่าเขาก�ำลังคิดอะไรอยู่ พรุ่งนี้หรือชาติหน้า ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะมาก่อน - พระท่านสอนไว้แบบนี้ ผมจดจ�ำขึ้นใจและคิดว่ามัน จริงมากๆ สิบกว่าปีก่อนตอนที่อาม่ายังอยู่บ้านเรา ผมก�ำลัง จะไปเทีย่ วต่างจังหวัดกับเพือ่ น เข้าไปหยิบกระเป๋าเดินทาง ที่ เ ก็ บ ซุ ก ไว้ ใ นห้ อ งนอนของเขา อาม่ า ตื่ น ขึ้ น มาพอดี แล้วถามว่า อาอ๋อง ลื้อจะไปไหน ลื้อจะไปกี่วัน ผมบอกว่า จะไปเที่ยวทะเลสองสามวันก็กลับ อาม่าบอกว่า กว่าลื้อ จะกลับมา ไม่แน่ว่าจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า บางที ค นแก่ ไ ม่ ไ ด้ ตั้ ง ใจจะพู ด อะไรให้ เ ป็ น ลาง แต่เขาคงพอรู้ว่ามีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นข้างใน ร่างกายตัวเอง อาม่าเลือดออกซึมๆ ในสมองมาระยะหนึ่ง แล้ ว จนถึ ง จุ ด ที่ เ ขาชั ก กระตุ ก และกลายเป็ น ผั ก บนเตียง พูดไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ ไม่รับรู้อะไร นอกจาก กะพริบตาและส่งเสียงอือๆ อาๆ เมื่อรู้สึกไม่สบายตัว
อีกไม่นานต่อมาก็เริ่มมีแผลกดทับจากการนอนติดเตียง และจากเราไปด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด อาม่ า เตรี ย มชุ ด ผ้ า ไหมจี น สี ฟ ้ า วาบวาวเหมื อ น ชุดบัณฑิตจอหงวนในหนังจีนไว้ให้กบั ตัวเอง เตรียมรูปถ่าย ใส่กรอบไม้ไว้ให้กับลูกหลานครบทุกบ้าน พวกอาแปะ อาโกวมารับกรอบรูปนั้นไปวางบนหิ้งบูชา และบอกผมว่า อาม่าเดินทางไปเข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้แล้ว ส�ำหรับผม วันที่เข้าไปหยิบกระเป๋าเดินทางในห้องนอนอาม่า นั่นคือ การพบกันครั้งสุดท้าย และนั่นเป็นภาพสุดท้ายที่อยู่ในใจ แม่พูดย�้ำอยู่เสมอว่า ถ้าป๊ากับแม่เป็นอะไรขึ้นมา ห้ามเจาะสายหรือเสียบสายอะไร ขอให้พวกเขาตายไปตาม ธรรมชาติ แต่ผมเองไม่มั่นใจเลยว่าจะทนดูได้หรือเปล่า เพราะไม่รู้ว่ากว่าคนเราสักคนจะตายไปตามธรรมชาตินั้น เราจะต้องข้ามผ่านความเจ็บปวดทรมานสักเท่าไหร่ ทุกวันนีถ้ า้ วันไหนผมเลิกงานเร็วหน่อย กลับถึงบ้าน สักประมาณสองทุม่ ซึง่ เป็นเวลาทีแ่ ม่เข้านอนพอดี จะได้ยนิ เสียงงึมง�ำดังออกมาจากห้องนอน ตอนแรกก็คิดว่าเขา ก�ำลังคุยโทรศัพท์อะไรกับใคร พอเปิดประตูเข้าไปทักทาย ก็เห็นเขาก�ำลังนอนพนมมือสวดมนต์อยู่ เขาหั ด สวดชิ น บั ญ ชรในปี ที่ ผ มก�ำ ลั ง เตรี ย มสอบ เอนทรานซ์ เพราะบนบานไว้ในใจขอให้ผมสอบเข้าเรียน มหาวิทยาลัยชั้นน�ำได้ แลกกับการที่ตัวเองต้องหัดสวด คาถายากๆ ยาวๆ นี้ ระหว่างที่ผมก� ำลังอ่านหนังสือ เตรียมสอบ เขาก็คร�่ำเคร่งสวดไปด้วยพร้อมกัน กินข้าวกินปลามาหรือยัง? - การสวดถูกขัดจังหวะ เขาลืมตาแล้วหันมาถาม กินแล้ว - ผมตอบ แล้วก็ปดิ ประตูเบาๆ ให้เขาอยูก่ บั มนต์คาถาของเขาต่อไป ในทุกค�่ำคืนก่อนนอนหลับฝันก็ระลึกไว้เสมอว่าเรา อาจจะไม่ได้ตนื่ ขึน้ มาเป็นตัวเราเหมือนเดิม แล้วเมือ่ ตืน่ เช้า มามองเห็ น พระอาทิ ต ย์ ขึ้ น อี ก วั น แขนขายั ง ขยั บ ได้ มีเรีย่ วแรงท�ำงาน ก็ระลึกไว้วา่ นีเ่ ป็นเรือ่ งน่ายินดีอย่างยิง่ แล้ว แสงแดดสาดจ้าผ่านกระจกหน้าต่าง เครือ่ งบินค่อยๆ ลดระดับลงผ่านหมู่มวลเมฆสีเทา แล้วแสงแดดก็หุบลง ท้องฟ้ากลับกลายหมองหม่น ท้องถนนและบ้านเรือน เบื้ อ งล่ า งเลื อ นลางจากม่ า นฝน ดู ค ่ อ ยๆ ปรากฏเป็ น เค้าโครงชัดขึ้นเรื่อยๆ
นี่อ าจจะเป็ น ภาพท้ อ งฟ้ า กว้ า งไกลภาพสุด ท้ า ย และนีอ่ าจจะเป็นการนัง่ เครือ่ งบินครัง้ สุดท้ายของแม่ คนเรา เมื่ อ รู ้ ตั ว ว่ า เหลื อ เวลาในชี วิ ต ไม่ ม าก เราคงจะอยาก ทะนุถนอมวันเวลา และอยากจะบันทึกภาพสุดท้ายไว้ให้ดี ที่สุด พวกลูกๆ แขนขายังดีอยู่ ก็ไปเยีย่ มป๊าบ่อยๆ หน่อยนะ - แม่หันมาคุยด้วยแวบเดียว แล้วก็หันกลับไปมองนอก หน้าต่างต่อ รู้แล้ว - ผมตอบ เพราะแม่คงมาด้วยไม่ไหวแล้ว - แม่พึมพ�ำเบาๆ แค่การออกจากบ้าน นั่งลงบนเบาะแท็กซี่ ลุกขึ้น จากเบาะแท็กซี่ลงไปนั่งบนรถเข็นคนป่วยของสนามบิน แล้ ว ลุ ก จากรถเข็ น คนป่ ว ยลงไปนั่ ง บนเก้ า อี้ เ ครื่ อ งบิ น แล้วตอนขาลงจากเครือ่ งก็ทำ� ย้อนกระบวนการเดิมกลับไป เรื่องง่ายๆ เพียงแค่นี้ก็กลายเป็นเรื่องยากล�ำบากทุลักทุเล อย่างไม่น่าเชื่อ คนหนุ่มสาวไม่มีทางเข้าใจเลยว่ามันเกิด อะไรขึ้นภายในร่างกายทรุดโทรมผุพังนั้น หลังอาหารเช้าของโรงแรมเล็กๆ ของจังหวัดเล็กๆ ทีเ่ รากินอยูห่ ลับนอนกันอย่างทุลกั ทุเลพอกัน พวกเราพีน่ อ้ ง พาแม่ไปเยี่ยมป๊าที่โรงพยาบาลเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะขึ้น เครื่องบินกลับ ตารางเวลาใกล้เข้ามา ผมนึกถึงเพลง Leaving on a Jet Plane ที่มีแท็กซี่บีบแตรเร่ง หนุ่มสาวคู่รัก ก�ำลังจะต้องพลัดพรากจากกันไกลแสนไกล นานแสนนาน ไม่มอี ะไรจะเศร้าโศกไปกว่าความรูส้ กึ โหยหาภายในใจ หนัง เพลง หนังสือ และศิลปะทั้งโลก ถูกสร้างขึ้นเพื่อขุด ค้นความรู้สึกนี้ของมนุษย์ ฉันต้องกลับละนะ ไว้จะมาเยีย่ มอีกบ่อยๆ - แม่บอกป๊า ผมคิดว่าพวกเขารู้ คนแก่ทุกคนจะรู้ตัวเองว่ามี ความผิดปกติบางอย่างเกิดขึน้ ข้างในร่างกาย พวกเขารู้ว่า เหลื อ เวลาในชี วิ ต ไม่ ม าก และคงจะอยากทะนุ ถ นอม วันเวลา อยากจะบันทึกภาพสุดท้ายไว้ให้ดีที่สุด เธออยู ่ ท างนี้ก็ดู แ ลตัว เองดีๆ หายแล้ ว เราจะได้ กลับบ้านพร้อมกัน - แม่บอกก่อนที่พวกเราพี่น้องจะเข็น เขาออกมา และพามาส่งขึ้นเครื่องบิน สรรพสิ่งทรุดโทรมผุพัง ตราบนิรันดร์นั้นไม่มีอยู่จริง มีเพียงภาพสุดท้ายเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในใจ