a day BULLETIN issue 245

Page 1

ISSUE 245 29 MAR - 4 APR 2013


ISSUE 245, 29 MARCH - 4 APRIL 2013

In and Out เคยสงสัยไหมว่า เวลามีปัญหายุ่งยากในชีวิตเกิดขึ้น ท�าไมเราถึงสลัดมันไม่หลุด ท�าไมเราถึงต้องเก็บเรื่องวุ่นวายใจนั้นมาคิดตลอดเวลาไม่ว่าจะท�าอะไร ใครจะคิด ในระดับไหนก็สุดแล้วแต่ว่าปัญหานั้นจะมีผลกระทบกับชีวิตคุณมากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ มันจะวนเวียนอยู่ในหัวคุณตั้งแต่ตื่นลืมตาไปจนกระทั่งก่อนหลับตานอนในคืนนั้น บางคนคิดมากจนไม่ได้หลับได้นอนก็มี ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วปัญหามันไม่ปล่อยเราหรือเราไม่ปล่อยมันกันแน่ หลายปีกอ่ นหน้านี้ ผูเ้ ขียนเคยมีปญ ั หากับเพือ่ นสนิทคนหนึง่ และเก็บมาคิดเป็นวรรคเป็นเวรจนนอนไม่หลับ วุน่ วายใจมากจนกระทัง่ ต้องพึง่ พายานอนหลับ ตอนนัน้ ไม่กนิ ก็ไม่ได้ เพราะมันไม่สามารถข่มตาหลับเพือ่ เอาชนะความคิดทีด่ งั อยูใ่ นหัวได้เลย คิดจนรูส้ กึ ว่าได้ยนิ เสียงในหัวตัวเองดังตลอดเวลา แต่กม็ อี าการแบบนัน้ อยูพ่ กั เดียว พอถึงจุดหนึง่ ทุกอย่างมันก็ต้องคลี่คลาย เพราะทั้งสองฝ่ายที่มีปัญหาร่วมกันก็ต้องมีการต่อสู้ดิ้นรนแก้ปัญหานั้นกันไปตามปกติ เจ็บปวด เหน็ดเหนื่อยไปตามปกติ และในที่สุดก็จบลงไป ตามปกติ เป็นวงจรของธรรมชาติที่ไม่เคยผิดเพี้ยน จากวันที่เคยเป็นคนนอนไม่หลับเวลามีปัญหา พอเวลาผ่านไป เจอเรื่องนั้นเรื่องนี้ผ่านเข้ามามากขึ้น เห็นวงจรของความวุ่นวายใจมากขึ้น ก็เริ่มรับมือกับมันได้บ้าง มากน้อยแล้วแต่ระดับความส�าคัญของปัญหา ไม่ใช่ถงึ กับรับได้แบบชิลๆ แต่ประมาณว่า รูต้ วั เองว่าก�าลังแย่ ก�าลังเหนือ่ ย ก�าลังตัง้ รับด้วยการมีสติหรือไม่มี ผูเ้ ขียนคงไม่อาจ เรียกได้วา่ นีค่ อื ความจัดเจนในการรับมือกับปัญหา ถ้าจะพูดให้ใกล้เคียงกว่านัน้ ก็นา่ จะเป็นว่ามองเห็นปัญหาได้ชดั เจนมากขึน้ ว่าอะไรคือปัญหา อะไรไม่ใช่ปญ ั หา ไม่ใช่ฟมู ฟาย และเหมารวมหมดทุกอย่างว่าเป็นปัญหา แต่สิ่งส�าคัญคือ ยิ่งใช้ชีวิตมากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ ถ้าถึงจุดที่ต้องหาทางปรึกษาใครจริงๆ ผู้เขียนก็เลือก คนทีจ่ ะให้คา� ปรึกษาได้ดขี นึ้ ไม่ใช่ปรึกษาแล้วพากันดราม่าแต่ไม่มที างออก แต่ปรึกษาแล้วช่วยให้เราสงบสติอารมณ์ได้บา้ ง ซึง่ ก็ไม่ใช่เพราะเขามีทางออกทีเ่ ลอเลิศจนหาทีไ่ หน ไม่ได้อีกแล้ว แต่เราสงบเพราะเราเทสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาจนหมดเกลี้ยงผ่านการพูดไปเรื่อยๆ เราสงบเพราะเขานิ่งฟังเราเงียบๆ จนเราได้ยินแต่เสียงตัวเอง แล้วเราก็เลย ได้สติว่า นี่แหละคือสิ่งที่เราคิด เมื่อรู้ชัดเจนว่าลึกๆ แล้วตัวเองคิดอะไร ก็เลยได้รู้ความต้องการของตัวเองไปด้วยว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไร ต้องการทางออกจากปัญหา แบบไหน อืม... หรือนี่คือหลักการเดียวกันกับสิ่งที่จิตแพทย์ปฏิบัติมาโดยตลอด ฟังและฟัง แต่ถ้าคุณไม่มีใครสักคนที่พร้อมจะฟังคุณจริงๆ อย่างน้อยคุณก็ต้องเทความคิดที่อยู่ในหัวออกมาให้หมดด้วยการขีดเขียน จดบันทึกอะไรไว้บ้าง คุณจะได้ย้อนกลับ มาอ่านทบทวนความคิดของตัวเองได้วา่ คิดอะไรอยู่ แม้สมัยนีจ้ ะมีทวิตเตอร์ให้ทวีตข้อความสัน้ ๆ ได้ หรือมีเฟซบุก๊ ไว้ให้อพั เดตสเตตัสยามทีม่ อี ะไรผุดขึน้ มาในใจแล้วอยากแชร์ ให้คนอืน่ รู้ แต่ผเู้ ขียนยังเชือ่ ว่าการเขียนบันทึกส่วนตัวไว้อา่ นมันจะท�าให้คณ ุ สงบมากกว่า เพราะไม่ตอ้ งคอยอ่านคอมเมนต์ของคนอืน่ ทีอ่ าจจะมีคนไม่รกู้ าลเทศะเข้ามากวนใจ ไม่ต้องกั๊กสิ่งที่เขียน เพราะมันไม่ได้ไปกระทบสังคมโดยรวม มันแค่เป็นเรื่องที่กระทบใจเราแล้วเราก็อยากเขียนระบายออกมาเท่านั้นเอง ประเด็นทีส่ า� คัญคือ เอาสิง่ ทีอ่ ยูใ่ นหัวออกมาบ้าง ทัง้ ความคิด ความรูส้ กึ ฯลฯ ไม่วา่ จะผ่านรูปแบบใดๆ ก็ตาม หาเพือ่ นทีร่ บั ฟัง หาบันทึกสักเล่มไว้บนั ทึกเรือ่ งราวทีเ่ กิดขึน้ เล่นดนตรี ท�างานศิลปะ หรือแม้กระทั่งไปออกก�าลังกาย ท�าอย่างไรก็ได้ให้วันของคุณผ่านไปโดยที่ไม่ไปหมกมุ่นมากจนเกินไปนักกับเรื่องที่ท�าให้หนักสมองและหนักหัวใจ มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพียงเพื่อให้ซึมซับรับรู้เรื่องราวต่างๆ รอบตัว แต่ยังถูกสร้างมาเพื่อให้ระบายสิ่งที่รับเข้าไปด้วย เพื่อความสมดุลในการใช้ชีวิต ไม่ต่างอะไรจากฟองน�า้ เมือ่ ซับน�า้ เข้าไปจนหนักเต็ม ก็ตอ้ งถูกแรงกด บีบ บิด เพือ่ ให้นา�้ ทีซ่ มึ ซับไว้รนิ ไหลออกมา ฟองน�า้ จะได้เบาขึน้ พร้อมจะใช้งานได้อกี เมือ่ ชีวติ ถูกบีบคัน้ ก็ไม่แปลกทีเ่ ราจะปล่อย ให้สิ่งที่เก็บกักไว้ทะลักทลายพรั่งพรูออกมาบ้าง เพื่อให้หัวใจและสมองเบาขึ้น เตรียมพร้อมรับสิ่งที่จะผ่านเข้ามาให้เราซึมซับอีก เพียงแต่คราวหน้าคราวหลังเราก็คงพอจะรู้ แล้วว่าเรื่องไหนที่เราควรรับ เรื่องไหนที่เราควรปล่อย ฟองน�้าที่ดีไม่ใช่ฟองน�้าที่ซับน�้าได้ดีเท่านั้น แต่ควรจะต้องบีบน�า้ ออกได้ง่ายๆ ด้วย ผู้เขียนเคยอ่านไว้ที่ไหนสักแห่งเมื่อนานมาแล้ว เขาบอกไว้ว่า คนที่น่าอิจฉาไม่ใช่คนที่ได้นอนบนเตียงที่สวยงามใหญ่โต ไม่ใช่คนที่ได้นอนบนหมอนราคาแพง ทอด้วยด้ายละเอียดยิบ ยัดด้วยขนสัตว์นุ่มละมุนอย่างดี แต่คือคนที่หัวถึงหมอนก็นอนหลับได้อย่างง่ายดายต่างหาก หัวใจไม่ใช่เขือ่ นเก็บน�า้ เก็บกักเรือ่ งหนักใจไว้กใ็ ช่วา่ จะมีประโยชน์ ต่อให้เป็นเขือ่ นก็ยงั ต้องระบายเมือ่ น�า้ หลากล้น แล้วหัวใจคน... จะไม่มวี นั มีเรือ่ งล้นหลากให้ระบาย บ้างเชียวหรือ

ปีที่ 5 ฉบับที่ 245 วันที่ 29 มีนาคม - 4 เมษายน 2556

ร่วมตอบค�าถามชิงรางวัล Gift Voucher มูลค่า 1,000 บาท จากคลิ นิ ก เสริ ม ความงาม Doctor Younger จากบทสัมภาษณ์ นายแพทย์ สว่าง อัมพรพันธ์ ได้ใน adB ฉบับนี้ ค�าถามคือ ไหมละลาย ผลิตในประเทศรัสเซียมีความแตกต่ า งจากไหมละลาย จากประเทศเกาหลีอย่างไร ส่งค�าตอบมาได้ที่อีเมล adaybulletin08@gmail.com

วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิการบริหาร Twitter:@khaopan, www.facebook.com/adaybulletin

08

08 GOODNEWS

ติ ด ตามข่ า วสารดี ๆ รอบโลกประจ�าสัปดาห์ ได้ในห้องข่าวแห่งนี้

14

28

66 ติ ด ตามอ่ า น adB แบบออนไลน์มาประมาณ 4 - 5 เ ดื อ น แ ล ้ ว ต า ม ดาวน์โหลดฉบับย้อนหลัง มาอ่านแบบออฟไลน์ด้วย ชอบทุ ก คอลั ม น์ เ ลยค่ ะ โดยเฉพาะคอลัมน์ Interview หรื อ คอลั ม น์ ที่ เ ป็ น Hot Issue, Feature พิเศษๆ ในบางฉบั บ จู ่ ๆ ก็ นึ ก

40

14 INTERVIEW

มาร่ ว มส� า รวจสั ง คม แห่งการคิดอ่านเขียน ไปพร้อมกับตัวตนของ ผู ้ ช ายที่ ชื่ อ ปราบดา หยุ่น

28 A MUST

สารพัดสิ่งที่เราคัดสรร มาฝากแบบ A Must พลาดแล้ ว จะหาว่ า ไม่เตือน

36 SHOPPING

ก้าวสู่ความเป็นมนุษย์ ยุคไฮเทคอย่างเต็มตัว กับบรรดา Gadget ล�า้ ๆ ที่ จ ะท� า ให้ ชี วิ ต คุ ณ ง่ายขึ้น

38 CALENDAR

ใคร ท� า อะไร ที่ ไ หน เช็กดูได้ สุดสัปดาห์นี้ จะได้ไม่พลาดเรื่องราว สนุกๆ

40 @HOME

มี ค ว า ม สุ ข ต ล อ ด 365 วัน กับบ้านสวย ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ ชี วิ ต ใ น โ ค ร ง ก า ร Areeya Daily

42 47 52 62 66 HEALTH HOT ISSUE ALL ABOUT THE WORDS THE GUEST AND HEART เจาะลึกประเด็นร้อน BIZ ทุ ก ถ้ อ ยค� า มี ค วาม- ท� า ค ว า ม รู ้ จั ก กั บ รวมสาระความรู ้ ที่ จ ะ ท� า ใ ห ้ คุ ณ แ ข็ ง แ ร ง ทั้งกายและใจ

เรื่ อ ง ‘ที วี ดิ จิ ต อล’ ในมุ ม ของผู ้ บ ริ โ ภค กับ สารี อ๋องสมหวัง พร้อมเรือ่ งน่ารูเ้ กีย่ วกับ ประเด็นนี้

อยากได้แบบเป็นตัวเล่มมาครอบครองบ้าง อยากรู้ อยากเห็น อยากสัมผัสว่าตัวเล่มจริงจะเป็นอย่างไร จึงนั่งรถบุกไปย่าน สยามสแควร์ (บ้านอยู่รามค�าแหง) เพื่อไปตามล่าหาฉบับที่ 241 ในวันศุกร์ ปรากฏว่าลองไปหาที่ British Council ก็ไม่พบ หาตามร้ า นกาแฟที่ มี ชื่ อ ท้ า ยเล่ ม ก็ ไ ม่ มี เลยลองไปที่ ลิ โ ด้ ได้ฉบับที่ 240 มาแทน (ซึ่งยังเหลืออยู่เยอะมาก ประมาณ 30 เล่ ม ใครที่ไ ม่ รู ้ จ ะไปหาที่ไ หนลองไปที่นี่ดู ไ ด้ ) สุด ท้ า ย ไปได้ฉบับที่ 241 มาจากร้าน ECO Shop ดิจิตอลเกตเวย์ บอกได้ค�าเดียวเลยค่ะ ฟินมาก! ศุกร์ต่อมาก็ได้ฉบับที่ 242 มาครอบครองเช่นกัน ชอบตรงที่มี Movie เล่มเล็กๆ แนบมา

พงศกร เอี่ยมองค์ จาก สถาบั น นิ ว เคมบริ ด จ์ (ประเทศไทย) จะมา เผยเคล็ดลับการท�างาน ที่ เ น้ น คุ ณ ภาพเป็ น ส�าคัญให้เราได้รับรู้

หมายและคุณค่าเสมอ ค้นหาได้ในหน้านี้

ด้วย พอดีว่าช่วงนี้ชอบฟังรายการวิเคราะห์ภาพยนตร์ตาม คลื่ น วิ ท ยุ ต ่ า งๆ เลยกลายเป็ น คนสนใจวงการภาพยนตร์ ไปด้วย สุดท้ายก่อนจาก อยากให้ adB มาวางตามร้านกาแฟ ในเดอะมอลล์ บางกะปิ บ้างจัง ร้าน True Coffee ก็ได้ค่ะ เพราะมีชั้นวางฟรีก๊อบปี้ใหญ่โตมาก ประมาณตู้บิลต์อิน เลยค่ะ ที่ว่างยังเหลืออีกเยอะ ขอให้ทมี งาน adB ไม่มโี รคเป็นลาภอันประเสริฐทุกคนค่ะ -เด็กราม ถามหา adB

‘ต้อม’ - สุรตั น์ ยิง่ สมบัติ ช่ า งผมชื่ อ ดั ง ระดั บ แถวหน้าของเมืองไทย พร้อมเส้นทางสู่ความส�าเร็จของเขา

ส่งความคิดเห็น ค�าติ-ชม หรือข้อเสนอแนะทีม่ ตี อ่ a day BULLETIN ได้ที่ บริษัท เดย์ โพเอทส์ จ�ากัด เลขที่ 3 ซอย เจริญมิตร ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 หรือทางอีเมล adaybulletin08@gmail.com กรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลจริงและที่อยู่มากับจดหมาย เพื่อ ความสะดวกในการจัดส่งของรางวัลไปให้ และบรรณาธิการ ขออนุญาตตัดทอนจดหมายตามสมควร

พิเศษ! จดหมายที่ได้รับเลือกลงตีพิมพ์ในช่วงเดือนนี้ จะได้รบั หนังสือดีๆ จากส�านักพิมพ์ ส่งไปให้ถงึ บ้าน

ทีป่ รึกษา สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย บรรณาธิการผูพ ้ มิ พ์ผโู้ ฆษณา นิตพิ ฒ ั น์ สุขสวย บรรณาธิการอ�านวยการ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สงิ ห์ บรรณาธิการบริหาร วิไลรัตน์ เอมเอีย่ ม ซับเอดิเตอร์ / นักเขียน วสิตา กิจปรีชา ซีเนียร์ไรเตอร์ เพ็ญนภา อุตตะมัง กองบรรณาธิการ เอกพล บรรลือ ทรรศน หาญเรืองเกียรติ อาทิตยา อาศิรวาท บรรณาธิการภาพ นิติพัฒน์ สุขสวย ช่างภาพ กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร ภาสกร ธวัชธาตรี บรรณาธิการศิลปกรรม วีระยุทธ คงเทศน์ ศิลปกรรม นราธิป บุญเรือง กิตติ ศรีวเิ ชียร พิสจู น์อกั ษร หัสยา ตัง้ พิทยาเวทย์ ศักดิส์ ทิ ธิ์ ไม้ลา� ดวน ฝ่ายผลิต ศิริ ศิรจิ รรยากุล ทีป่ รึกษาฝ่ายโฆษณา ศรวณีย์ ศิรจิ รรยากุล ผูอ้ า� นวยการกลุม่ โฆษณา อุบลวรรณ จรเจริญสุข ผูจ้ ดั การฝ่ายโฆษณา นิชาภา สารพันธ์ 08-1812-0606, ศุภลักษณ์ เลิศกาญจนวัฒน์ 08-6378-6037 ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายโฆษณา วาณี กนกวิลาศ 08-1859-8851, โสรดา มิใย 08-9969-6611 ฝ่ายโฆษณาอาวุโส ธนาภรณ์ ศรีจุฬางกูล 08-9662-7073, พงศ์ธิดา อังศุวัฒนากุล 08-9170-6001, วิชยุตม์ โชติวาณี 08-0776-6868, รวงรัชต์ ด้านเทาลา 08-1412-9478 เลขานุการฝ่ายโฆษณา วรินทร ผาเวช นราทร แก้วเก่า ผู้จัดการ จัณฑรัศมิ์ เกียรติยศ ผู้ช่วยผู้จัดการ ณัฐธยาน์ อึ้งตระกูลนิธิศ ฝ่ายธุรการ ณัฐรดา ตระกูลสม ผู้ผลิต บริษัท เดย์ โพเอทส์ จ�ากัด เลขที่ 3 ซอยเจริญมิตร ถนนสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 ติดต่อกองบรรณาธิการ โทร. 0-2203-1040 อีเมล adaybulletin08@gmail.com ติดต่อฝ่ายโฆษณา โทร. 0-2203-1040 ต่อ 801, 802, 803, 804, 805, 807 แฟกซ์ 0-2203-1040 ต่อ 811 เว็บไซต์ www.daypoets.com/adb ฝ่ายสมาชิก นริศรา เปยะกัง โทร. 0-2726-9996 ต่อ 11, 12, 49 นักศึกษาฝึกงาน อารียา ผุดผ่อง


06

THE DATABASE ที่มา : http://edition.cnn.com

10 อันดับสุดยอดเมืองแห่งนวัตกรรมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

สิงคโปร์

ซิดนีย์

เมลเบิร์น

ฮ่องกง

คุณคิดว่าตนเองได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ เรือ่ งของการเปลีย่ นผ่านระบบทีวอี ะนาล็อก ไปเป็นทีวดี จิ ติ อลเพียงพอหรือไม่ อย่างไร

โอ๊กแลนด์

โตเกียว

THE POLL

ที่มา : สวนดุสิตโพล

ประชาชนคิดอย่างไรกับสถานการณ์ภัยใต้ในปัจจุบัน อันดับ 1

สถานการณ์นา่ เป็นห่วง มีความรุนแรงเพิม่ มากขึน้

64.32%

โซล

อันดับ 2

เป็นปัญหาใหญ่ ระดับประเทศที่แก้ ไข ได้ยาก ควรหาทาง แก้โดยเร็ว

24.05%

อันดับ 3

รู้สึกสงสารและ เห็นใจผู้ที่ได้รับ ผลกระทบ โดยเฉพาะครู นักเรียน และทหาร

11.63%

โอซากา

ปูซาน

ไทเป

สหรัฐอเมริกาเป็นชาติ ที่ส่งออกสินค้าประเภท อาวุ ธ มากที่ สุ ด ในโลก คิ ด เป็ น 30% ของ ปริ ม าณการส่ ง ออก อาวุธทั่วโลก ส่วนชาติ ที่ มี อั น ดั บ รองลงมา ได้แก่ รัสเซีย และเยอรมนี ซึ่งมีอัตราการส่งออก อาวุธอยู่ที่ 26% และ 7% ตามล�าดับ ที่มา : www.sipri.org

196

196 คือจ�านวนสมเด็จพระสันตะปาปา ประมุข ของชาวคริ ส ต์ นิ ก ายโรมั น คาทอลิ ก ที่ เ ป็ น ชาว อิตาเลียน ด้วยสถิตดิ งั กล่าวท�าให้อติ าลีเป็นชาติ ทีบ่ ม่ เพาะสมเด็จพระสันตะปาปามากทีส่ ดุ ในโลก รองลงมาคือประเทศฝรั่งเศส และประเทศกรีซ ที่เคยมีสมเด็จพระสันตะปาปาทั้งหมด 15 และ 11 พระองค์ ตามล�าดับ ที่มา : www.guardian.co.uk

มีการศึกษาพบว่า โ ด ย เ ฉ ลี่ ย แ ล ้ ว ผู้ใหญ่หวั เราะวันละ 20 ครั้ง ในขณะที่ เด็กหัวเราะมากถึง 300 ครั้งต่อวัน ที่มา : www.metro.co.uk

28,929

75% จากรายงานของ Asia-Pacifififi c Water Forum (APWF) ระบุ ว่า 75% ของชาติในภูมภิ าค เอเชีย-แปซิฟิกก�าลังเจอกับ วิกฤตขาดแคลนน�้าสะอาด ในการอุปโภคบริโภค ทีม่ า : www.eco-business.com

จากสถิติของส�านักงานผู้ตรวจการแผ่นดินระบุว่า ตลอด 13 ปี ที่ผ่านมา มีข้อพิพาทระหว่างรัฐกับประชาชนร้องเรียนเข้ามา ทั้งหมด 28,929 เรื่อง ด�าเนินการไกล่เกลี่ยเสร็จแล้ว 93.95% อยู่ระหว่างด�าเนินการอีก 6.05% โดยหน่วยงานที่ถูกประชาชน ร้องเรียนมากที่สุดคือ ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ รองลงมาคือ กระทรวงมหาดไทย ที่มา : www.krobkruakao.com

“ ยั ง ไ ด ้ รั บ ข ้ อ มู ล ไม่เพียงพอ และสื่อควร น�าเสนอเรือ่ งนีม้ ากกว่านี”้ วิชนันท์ ไพจิตรกาญจนกุล 25 ปี, ช่างภาพ “ไม่เพียงพอค่ะ รู้ว่า จะมี ก ารเปลี่ ย น แต่ ยั ง ไม่ทราบว่ามีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร” วีรธ์ มิ า วงศ์โสภณวัฒนา 26 ปี, เภสัชกร “ไม่ เ พี ย งพอ ขาด การประชาสั ม พั น ธ์ ที่ ดี ควรมี ก ารบอกลั ก ษณะ ของสิง่ ทีเ่ ปลีย่ นแปลงไป” ไกรวิชญ์ ค�าภู่ 26 ปี, อาชีพอิสระ “คิดว่าสือ่ ได้นา� เสนอ ข้ อ มู ล แล้ ว แต่ ที่ ค น ส่ ว นหนึ่ ง ไม่ รู ้ เ พราะไม่ เข้าถึงข้อมูลด้วยตัวเอง” อรณิชา จุฑารัตน์ 23 ปี, กองบรรณาธิการ “คิดว่าได้รับข้อมูล น้ อ ยไป ยั ง ไม่ ท ราบว่ า เปลี่ ย นแล้ ว ดี อ ย่ า งไร หรือเปลี่ยนเพราะอะไร” จิรชฎา ตรีภาณุวรรณ 27 ปี, นักโบราณคดี “คิ ด ว่ า สื่ อ น� า เสนอ เยอะมาก เพี ย งแต่ ค น ทัว่ ไปจะสนใจอ่านเรือ่ งนี้ หรือเปล่า” แสงวิทย์ เกวลีวงศ์ศธร 25 ปี, นักข่าว


8

จากกิจกรรมวันดับไฟโลก หรือ Earth Hour ที่มีการรณรงค์ให้คนทั่วโลกดับไฟพร้อมกันในเวลาสองทุ่มครึ่ง (ตามเวลาท้องถิ่น) เมือ่ วันที่ 23 มีนาคม ทีผ่ า่ นมา ท�าให้เกิดกิจกรรมต่อเนือ่ งอีกมากมาย หนึง่ ในนัน้ คือการทีช่ าวเมืองเซีย่ งไฮ้มารวมตัวกันจุดเทียน โดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อหวังท�าลายสถิติ ‘การรวมตัวกันจุดเทียนยาวนานและมากที่สุดในโลก’ ของกินเนสเวิลด์เร็กคอร์ดส - Reuters / Carlos Barria

INNOVATION

PEOPLE

PUBLIC HEALTH

มะกันสร้าง

จีนเริ่มต้นปฏิรูป

หุ่นยนต์รักษา

ระบบบริการทางการแพทย์แบบใหม่

เด็กออทิสติก

ทีมวิศวกรแห่งมหาวิทยาลัยแวนเดอบิลต์เปิดตัวหุ่นยนต์ NAO เพื่อช่วย ให้เด็กที่ป่วยเป็นโรคออทิสซึมสามารถ พั ฒ นาทั ก ษะทางด้ า นสมาธิ ไ ด้ ดี ก ว่ า โปรแกรมจากคอมพิวเตอร์ โดยหลักการท�างานเริ่มต้น หุ่นยนต์ตัวนี้จะท�าการสแกนสิ่งต่างๆ ที่อยู่ภายในห้อง ไม่ว่า จะเป็ น เครื่ อ งคอมพิ ว เตอร์ โทรทั ศ น์ รูปภาพที่แขวนไว้บนผนัง จากนั้นก็จะ ร้องเพลงหรือฉายภาพวิดีโอที่มีเนื้อหา เกี่ ย วข้ อ งกั บ สิ่ ง ของที่ อ ยู ่ ภ ายในห้ อ ง หากเด็กสามารถตอบสนองตามเสียงเพลง ได้ หุ่นยนต์ NAO ก็จะกล่าวค�าชมเชย แต่ถา้ เด็กไม่สนใจ หุน่ ยนต์กจ็ ะพยายาม เคลื่อนไหวด้วยท่าต่างๆ เพื่อดึงความสนใจของเด็กให้กลับมา ซึ่งวิธีนี้จะช่วย ให้เด็กออทิสติกไม่เกิดอาการหวาดกลัว เหมือนกับการมีปฏิสัมพันธ์กับคนจริงๆ เพราะคนทั่ ว ไปจะมี ค วามคาดหวั ง ให้เด็กท�าสิ่งที่ต้องการตามเป้าหมาย ของตนเอง ซึ่งเป็นสาเหตุให้เด็กที่ป่วย เป็นโรคออทิสซึมหวาดกลัวผู้คน

ในวันน�า้ โลก หรือ World Water Day ทีผ่ า่ นมา มีกจิ กรรมมากมายทีอ่ งค์กรทัว่ โลกจัดขึน้ เพือ่ ส่งเสริมให้คนตระหนักถึงความส�าคัญ ของน�้าสะอาด โรแบร์โต้ ดา ซิลวา ชาวบราซิล ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีส่วนในการท�าให้น�้าสะอาด เพราะเขาต้องพายเรือเก็บ ขวดพลาสติกในแม่น�้า Tiete ในเมือง Santana do Parnaiba ซึ่งแม่น�้าสายนี้จะสกปรกมากที่สุดช่วงที่ต้องไหลผ่านเมืองหลวง อย่างเซาเปาลู และ ดา ซิลวา ก็จะพายเรือเพื่อเก็บขยะเหล่านี้ไปรีไซเคิลเป็นประจ�าทุกเดือน ท�าให้เขามีรายได้ต่อปีประมาณ 4,000 กว่าเหรียญฯ หรือเป็นจ�านวนเงินหลักแสนบาทต่อปี - Reuters / Paulo Whitaker

รัฐบาลจีนเตรียมปฏิรูประบบการให้บริการทางด้านการแพทย์ครั้งใหญ่ด้วยการน�าระบบคอมพิวเตอร์ และการส่งข้อมูลผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้ โดยโครงการนี้ถูกน�ามาใช้เพื่อประเมินความเป็นไปได้ ที่คลินิกสุขภาพในเมืองซิงอี้ มณฑลเสฉวน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของคลินิกได้กล่าวว่า ระบบนี้จะช่วยลด ระยะเวลาตั้งแต่เรื่องของการลงทะเบียนคนไข้ ตรวจร่างกาย การเช็กข้อมูลยาที่มีส�ารองไว้ ไปจนถึง ความโปร่งใสระหว่างโรงพยาบาลและบริษัทยา ซึ่ง หยาง ยูปิน ผู้ป่วยรายหนึ่งที่เข้ามารับการรักษา ได้บอกว่า ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลด้วยระบบบริการทางการแพทย์แบบใหม่นี้ก็ถูกลงมากกว่าเดิม ด้วย จากเดิมที่เขาเคยจ่ายค่ารักษาครั้งละประมาณ 100 บาท ตอนนี้ก็ลดเหลือแค่ 35 บาทเท่านั้น

LIFESTYLE คู่รักชาวบรู๊กลินสร้างบ้านของตัวเองด้วยตู้คอนเทนเนอร์

ความฝันที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองของ เดวิด บอยล์ และ มิเ ชล เบอร์ โทเมน คู ่ ส ามี- ภรรยาที่อ าศัย อยู ่ ภ ายใน เขตบรูก๊ ลินของเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็เป็นจริง เสียที หลังจากทีท่ งั้ สองริเริม่ ความคิดในการน�าตูค้ อนเทนเนอร์ มาใช้เป็นบ้านของตัวเองด้วยการต่อตู้เป็นบ้านสูง 4 ชั้น และ ดั ด แปลงเป็ น ห้ อ งต่ า งๆ โดยใช้ ค วามรู ้ ข องมิ เ ชลซึ่ ง เป็ น ศาสตราจารย์ด้านสถาปัตยกรรมของสถาบันเทคโนโลยีใน นิวยอร์กมาช่วยออกแบบบ้านในฝันหลังนี้ แต่อปุ สรรคก็เกิดขึน้ เมือ่ พวกเขายืน่ เรือ่ งขอกูเ้ งินมาใช้ในการสร้างบ้านตัง้ แต่ปี ค.ศ. 2007 แต่เนือ่ งจากแนวความคิดทีแ่ หวกแนวนี้ ท�าให้ธนาคารหลายๆ แห่งใช้เวลาประเมินส�าหรับการอนุมัติค่อนข้างนาน ในที่สุดในปี ค.ศ. 2009 ทางธนาคารก็อนุมัติเงินกู้ให้ครอบครัวนี้ และตอนนี้บ้านหลังใหม่ของพวกเขาก็เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

บริตนีย์ สเปียร์ส

ใจบุญ ให้เงิน 100 เหรียญฯ

แก่ชายไร้บ้าน

คงต้องขอชืน่ ชมในน�า้ ใจของ บริตนีย์ สเปียร์ส นักร้องสาวชาวอเมริกนั วัย 31 ปี โดยเรือ่ งมีอยูว่ า่ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอได้ไปร้านขายยา แห่งหนึง่ ในลอสแองเจลิส และพบกับชายไร้บา้ น นั่งอยู่นอกร้านและร้องขอความเห็นใจจากเธอ ทันทีที่บริตนีย์เห็นก็เกิดความสงสารและเดิน ตรงไปที่ตู้เอทีเอ็ม กดเงินจ�านวนหนึ่งและยื่นให้ ชายคนดังกล่าว 100 ดอลลาร์ฯ หรือราว 3,000 บาท ชายไร้บ้านเห็นดังนั้นก็ดีใจถึงกับกระโดดกอด บริ ต นี ย ์ จ นเธอตกใจและส่ ง เสี ย งร้ อ งออกมา พนักงานรักษาความปลอดภัยของร้านขายยา จึงเข้ามารวบตัวชายผู้นั้น และ ยึ ด เงิ น ไว้ เ พราะคิ ด ว่ า เขา ก�าลังขโมยเงินนักร้องสาว แต่สุดท้ายบริตนีย์ก็บอก ว่ า มั น เป็ น เรื่ อ งเข้ า ใจ ผิด ขอให้ปล่อยตัวและ คืนเงินที่เธอให้กับ ชายไร้บา้ นผูน้ นั้ เสีย

SOCIETY สุนัขไร้บ้านตัวสุดท้ายหลังภัยพายุแซนดี้มีผู้รับไปอุปการะแล้ว

เจ้าตูบที่ยังคงโชคดีหลังผ่านโชคร้ายมาได้ตัวนี้มีชื่อว่า ‘บรูโน’ สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์อายุ 7 ปี มันคือสุนัขตัวสุดท้าย ทีย่ งั คงหลงเหลืออยูใ่ น Nassau County SPCA ศูนย์พกั พิงสัตว์ในเมืองนิวยอร์ก นับตัง้ แต่เกิดเหตุการณ์พายุเฮอริเคนแซนดี้ พัดถล่มสหรัฐอเมริกา โดย แกรี โรเจอร์ส เจ้าหน้าทีศ่ นู ย์ฯ กล่าวว่า “คริสโตเฟอร์ เจ้าของคนเก่า ได้รบั ผลกระทบจากพายุแซนดี้ จนบ้านพังเสียหาย และตกงาน จึงไม่สามารถเลี้ยงมันได้ต่อไป เขาจึงจ�าเป็นต้องมอบบรูโนให้กับเรา” ทั้งนี้ บรูโนเป็น หนึง่ ในสุนขั 515 ตัว ทีศ่ นู ย์ฯ รับมาเลีย้ ง โดยก่อนหน้านีเ้ พือ่ นตูบของมันมีคนรับไปเลีย้ งจนหมดแล้ว เหลือมันเป็นตัวสุดท้าย และในทีส่ ดุ หลังจากประกาศหาเจ้าของใหม่ทางเฟซบุก๊ ของศูนย์ฯ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก็มผี ไ้ ู ม่ประสงค์ออกนามรับมันไปอุปการะแล้ว


นาย Julio Cu Camara วัย 52 ปี ชาวเม็กซิกัน มีอาชีพนักด�าน�้า แต่ที่ท�างานของเขาอยู่ใน ท่อบ�าบัดน�้าเสียที่เราเห็นตามท้องถนนนั่นเอง งานของเขาเป็นงานที่ยากที่จะมีใครท�าได้ เพราะเขาต้องด�าลงไปท�าความสะอาดท่อต่างๆ ในเมืองอย่างน้อย 4 ครั้งต่อเดือน และ ท�างานนี้มา 30 ปีแล้ว เขาเล่าว่าภายในท่อบ�าบัดน�้าเสียนั้นเขาเคยเจอทั้งซากศพคน ม้า อาวุธ และชิ้นส่วนรถยนต์อีกมากมาย - Reuters / Edgard Garrido

ในพิธีขอพรจาก San Lazaro (ชื่อของนักบุญศักดิ์สิทธิ์) ซึ่งจัดขึ้นที่โบสถ์แห่งเมือง Magdalena ประเทศนิการากัว เจ้าของสุนัข จ�านวนมากจะพาสุนัขของตัวเองมาเข้าพิธีแห่งนี้เป็นธรรมเนียมที่จัดขึ้นทุกปี ซึ่งโดยส่วนใหญ่เจ้าของสุนัขจะขอพรจาก San Lazaro เพือ่ รักษาโรคหรืออาการเจ็บป่วยให้กบั สุนขั ของตัวเอง ส่วนเจ้าตัวนีถ้ กู ใจช่างภาพเพราะแต่งตัวในชุดกัปตันอเมริกา มาเลย - Reuters / Oswaldo Rivas

SPORT

‘โปรอาร์ม’ ซิวแชมป์ยูโรเปี้ยนทัวร์ครั้งแรกในชีวิต!

กิรเดช อภิบาลรัตน์ นักกอลฟ์หนุม่ ขวัญใจคนไทย สามารถคว้าแชมป์ยโู รเปีย้ นทัวร์เป็นครัง้ แรกให้กบั ตัวเองได้สา� เร็จ จากการแข่งขัน กอล์ฟเมย์แบงก์ มาเลเซียน โอเพน ทีส่ นามกัวลาลัมเปอร์กอล์ฟแอนด์คนั ทรีคลับ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ชิงเงินรางวัล รวม 2.75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 82.5 ล้านบาท) โดยในรอบสุดท้าย โปรอาร์มท�าสกอร์รวมได้ 13 อันเดอร์พาร์ 203 เอาชนะ เอโดอาร์โด้ โมลินารี นักกอล์ฟชาวอิตาเลียน ไปเพียง 1 สโตรก และเจ้าตัวได้ออกมาแสดงความดีใจกับชัยชนะระดับเมเจอร์ครั้งแรกว่า “การแข่งขันครั้งนี้มีความหมายต่อตัวผมมาก ผมขอขอบคุณครอบครัวที่ให้การสนับสนุนผมมาโดยตลอด”

ดับไฟเพื่อโลก กับ Earth Hour 2013 แม้ จ ะอยู ่ กั น คนละ มุมโลก แต่คนทั่วทั้งโลก ต่างก็ร่วมใจกันดับไฟเพื่อ ลดโลกร้ อ นในกิ จ กรรม Earth Hour 2013 ทีผ่ า่ นมา ประเทศไหนหรื อ ใครท� า อะไรกั น บ้ า งในกิ จ กรรม ครั้งนี้ ไปดูกัน • กิจกรรม Earth Hour ครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมครั้งใหญ่ ที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดกิจกรรมนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 โดยในปีนี้มีเมืองที่เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 7,000 เมือง ใน 150 ประเทศทัว่ โลก โดยไฮไลต์จะอยูต่ รงทีก่ ารปิดไฟ ในสถานที่ส�าคัญหลายแห่งที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของ ประเทศนัน้ ๆ เพือ่ เป็นการลดโลกร้อน ทัง้ หอนาฬิกาบิก๊ เบน ในอังกฤษ โอเปราเฮาส์ในออสเตรเลีย หอไอเฟลใน ฝรั่ ง เศส ตึ ก เอมไพร์ ส เตทในสหรั ฐ อเมริ ก า และอี ก มากมายหลายแห่ง รวมถึงสถานทีส่ า� คัญในประเทศไทย

ANIMAL

สุดทึง่ ! หมาจีนไร้ขาหน้า

ฝึกกระโดดสองขาจนเดินได้ปกติ สุนัขสุดน่าเอ็นดูตัวนี้มีชื่อว่า ‘เตี้ ย น เตี้ ย น’ เป็ น สุ นั ข เพศผู ้ ที่สองขาหน้าพิการมาตั้งแต่เกิด ปัจจุบันมี เซิน หลาน หญิงชาว เมืองหนานหนิง ประเทศจีน เป็น เจ้าของ โดย เซิน หลาน เล่าให้ฟัง ว่า ตอนเตี้ยน เตี้ยนเกิดมา มันคลานกระดึ๊บๆ เหมือนกับแมวน�้าเพราะมีเพียงแค่ขาหลังเท่านั้น และดู เ หมื อ นจะเป็ น ไปไม่ ไ ด้ เ ลยที่ เ ตี้ ย น เตี้ ย น จะเดินได้เหมือนสุนัขทั่วไป แต่แล้วเธอก็พยายาม ฝึกให้มันยืนและกระโดดด้วยการใช้อาหารเป็น ตัวดึงดูดความสนใจ จนสุดท้ายมันสามารถเดิน ส�ารวจได้ทั่วบ้าน “เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เตี้ยน เตี้ยน เป็นหนึ่งในลูกหมา 6 ตัว ที่เกิดข้างบ้านของฉัน พี่น้องของมันสุขภาพดีจึงมีคนรับไปเลี้ยง เหลือ เพียงเตี้ยน เตี้ยนเป็นตัวสุดท้ายที่พิการ 2 ขาหน้า ฉันจึงรับมาเลี้ยงจนถึงทุกวันนี้ และมันเป็นเหมือน ส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันไปแล้ว” เซิน หลาน กล่าว

ด้วย โดยแต่ละแห่งจะปิดไฟประมาณ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ เวลา 20.30-21.30 น. ตามเวลาท้ อ งถิ่ น ของแต่ ล ะ ประเทศ • ไฮไลต์ ส�า คัญ ในปี นี้อ ยู่ ที่นครแวนคูเวอร์ ประเทศ แคนาดา ที่ได้รับการยอมรับจาก WWF หรือองค์กร กองทุนสัตว์ป่าสากล ให้ได้รับรางวัลเมืองหลวงแห่ง Earth Hour ประจ�าปีนี้ ซึ่งเป็นรางวัลที่จัดขึ้นเป็นปีแรก โดยมี เ มื อ งที่ เ ข้ า รอบสุ ด ท้ า ยทั้ ง หมด 6 เมื อ ง ทั้ ง นี้ นครแวนคู เ วอร์ ไ ด้ ตั้ ง เป้ า ไว้ ว ่ า ภายในปี ค.ศ. 2020 อาคารทุกแห่งในเมืองจะต้องมีการปล่อยก๊าซคาร์บอน เป็ น ศู น ย์ พลเมื อ งจะต้ อ งเดิ น ทางด้ ว ยการเดิ น เท้ า ขี่จักรยาน หรือใช้บริการขนส่งมวลชนให้ได้ร้อยละ 50 และเพิ่มกิจกรรมสีเขียวอีกเท่าตัว • ในบรรดาประเทศทั้งหมดที่เข้าร่วมกิจกรรมในปีนี้ มี ป ระเทศที่ เ ข้ า ร่ ว มเป็ น ครั้ ง แรกรวมอยู ่ ด ้ ว ย ทั้ ง ปาเลสไตน์ ตูนิเซีย กาลาปากอส เฟรนช์เกียนา รวมถึง ประเทศรวันดาด้วย

“คนไม่ เ ห็ น ด้ ว ย กับผม ไม่ได้ว่าอะไร อยากด่ า ก็ ด ่ า ไป อ ย า ก ดั ง ก็ ดั ง ไ ป ดั ง อะไร มั น จะดั บ อยู ่ แ ล้ ว สั ง คมไทย มี แ ต่ นั ก วิ ช าการ ไม่มีปัญญาชน” สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม 24 มีนาคม 2556 หนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์ แทบลอยด์

GREEN PLEASE เด็กหญิงอังกฤษวัย 15 ชวนเพื่อนผลักดันรัฐคงเรื่องโลกร้อนไว้ ในหลักสูตรการเรียน

สุ ด ยอดเด็ ก หญิ ง นั ก สู ้ เ พื่ อ สิ่ ง แวดล้ อ มผู ้ นี้ มีชื่อว่า เอชา มาร์วาฮา อายุ 15 ปี อาศัยอยู่ใน เมืองฮาวน์สโลว์ ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน เธอเป็นคนแรกทีร่ เิ ริม่ รณรงค์เพือ่ ผลักดันให้รฐั ยังคง ใส่หลักสูตรการเรียนการสอนเรื่องภาวะโลกร้อน ไว้ ใ นหลักสูตรการเรียนวิช าภูมิศาสตร์ ของเด็ก อายุต�่ากว่า 14 ปี เพื่อให้เด็กๆ ตระหนักถึงเรื่องนี้ โดยในขณะนี้มีผู้เห็นด้วยและร่วมรณรงค์ร่วมกับ เธอกว่า 12,000 คน โดยล่าสุดเธอยังเขียนใน Guardian Blog ว่า “ภาวะโลกร้อนเป็นประเด็นเร่งด่วน และน่ากลัวที่สุดในยุคสมัยนี้ และเพราะการขาดความเข้าใจของคนรุ่นก่อน เป็นเหตุให้เราต้องหา วิธีทางแก้ไขกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และเราจะท�าอย่างไรถ้าไม่มีความรู้ เราจึงขอเรียกร้องให้ รัฐบาลยังคงหลักสูตรเรื่องนี้ไว้สา� หรับเด็กอายุตา�่ กว่า 14 ปี”

29 มีนาคม 2444 - วันเกิด ‘พรานบูรพ์’ หรือ จวงจันทร์ จันทร์คณา นักแต่งเพลงไทย และบุ ค คลแรกผู ้ ป ฏิ รู ป รู ป แบบเพลงไทย ประกอบละครร้องจากท่วงท�านองเพลงไทยเดิม ให้มีลักษณะสากลยิ่งขึ้น จึงอาจกล่าวได้ว่า พรานบูรพ์คือผู้ริเริ่มเพลงไทยสากล 30 มีนาคม 2543 - เปิดการจราจรบนสะพาน พระราม 3 เป็นครั้งแรก สะพานพระราม 3 เป็นสะพานข้ามแม่นา�้ เจ้าพระยา เชือ่ มระหว่าง ถนนรัชดาภิเษก เขตธนบุรี กับถนนพระรามที่ 3 เขตบางคอแหลม สร้างขนานกับสะพานกรุงเทพ จึงมีชอื่ เรียกกันติดปากว่า ‘สะพานกรุงเทพ 2’ 31 มีนาคม 2460 - เดนิชเวสต์อนิ ดิสในหมูเ่ กาะ แคริบเบียน เปลี่ยนชื่อเป็น ‘หมู่เกาะเวอร์จิน แห่งสหรัฐอเมริกา’ หลังจากสหรัฐฯ จ่ายเงิน 25 ล้านดอลลาร์ฯ ให้กบั เดนมาร์ก ประกอบด้วย เกาะหลัก 3 เกาะ คือ เกาะเซนต์ครอย, เกาะเซนต์จอห์น และเกาะเซนต์ทอมัส 1 เมษายน 2554 - สถานี โ ทรทั ศ น์ กรุงเทพมหานครเป็นสถานีโทรทัศน์สังกัด กรุงเทพมหานคร ออกอากาศอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในวันนี้ ผ่านทางช่องทรูวิชันส์ 76 และช่องสัญญาณดาวเทียมในระบบ C-Band ช่อง 54 มีรายการของสถานี อาทิ เวทีเสาชิงช้า, คุยกันวันละเขตกับสภา กทม. เป็นต้น 2 เมษายน 2548 - สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์นปอลที่ 2 สิน้ พระชนม์ ด้วยพระชนมายุ 84 พรรษา ทรงปกครองศาสนจักรรวมระยะ เวลาทั้งสิ้น 26 ปี 15 วัน ซึ่งยาวนานที่สุด เป็ น อั น ดั บ ที่ 3 ตามประวั ติ ศ าสตร์ ข อง ศาสนจักรโรมันคาทอลิก 3 เมษายน 2326 - วันเกิด วอชิงตัน เออร์วงิ นักเขียนชาวอเมริกนั ผูร้ งั สรรค์ผลงานโด่งดัง มากมาย อาทิ Rip van Winkle และ The Legend of Sleepy Hollow ถือเป็นนักเขียนอเมริกัน คนหนึง่ ทีม่ ชี อื่ เสียงจนได้รบั การยอมรับในยุโรป 4 เมษายน 2124 - ฟรานซิส เดรก นักเดินเรือ ชาวอังกฤษคนแรกที่เดินทางรอบโลกส�าเร็จ โดยเดินทางจากท่าเรือในอังกฤษด้วยเรือ โกลเดนไฮนด์ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2120 และใช้เวลา 3 ปี ในการเดินทางรอบโลก และกลับสู่อังกฤษในวันนี้

ผลส�ารวจเผย เจ้าสาวอเมริกันกว่าครึ่ง วางแผนจะใช้ Skype ในงานแต่งงานของตัวเอง

Did You Know?

โซเชียลมีเดียไม่ได้เปลีย่ นแปลงเพียงแค่วถิ ชี วี ติ ประจ�าวันของคนยุคนีเ้ ท่านัน้ แต่ยงั รวมถึงในพิธกี ารส�าคัญอย่างการแต่งงาน อีกด้วย ซึง่ จากผลส�ารวจล่าสุดของ David’s Bridal สตูดโิ อชุดแต่งงานชือ่ ดังในสหรัฐอเมริกา ระบุวา่ เจ้าสาว 49% วางแผนทีจ่ ะใช้ โปรแกรม Skype เพือ่ ถ่ายทอดพิธกี ารให้เพือ่ นๆ ทีไ่ ม่ได้มาร่วมงานได้รว่ มเป็นสักขีพยาน ขณะที่ 68% ของเจ้าสาวมักจะถ่ายรูป ขณะลองชุดแต่งงานเพื่อส่งให้เพื่อนๆ หรือครอบครัวลงความเห็นทางโซเชียลมีเดีย


14


2-3 ปี ที่ ผ ่ า นมานี้ แฟนๆ ของนั ก เขี ย นอย่ า ง ปราบดา หยุ่น คนบนปกของ a day BULLETIN คงอด สงสัยไม่ได้วา่ เขาหายไปไหน ผลงานใหม่ๆ ก็ ไม่มมี าให้อา่ น การพูดคุย สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างๆ ก็ดูเหมือนจะว่างเว้น ไปด้วย แต่ขณะเดียวกันกิจกรรมที่เกี่ยวกับการแสดง ความคิดเห็นในเรื่องการเมือง สังคม กลับมีชื่อของเขาไป ร่วมด้วยอย่างสม�า่ เสมอ คล้ายกับว่าปราบดาไม่ได้หา่ งหาย ไปจากเพื่ อ นพ้ อ งน้ อ งพี่ ใ นแวดวงนั ก เขี ย นที่ คุ ้ น เคย แต่ ถ ้ า ในโลกที่ แ วดล้ อ มไปด้ ว ยคนมากหน้ า หลายตา ในสังคมเมืองอันกว้างใหญ่กลับไม่ใช่เรือ่ งง่ายทีเ่ ขาจะก้าว ออกมาพบปะพูดคุย หลายคนเดาว่า ปราบดาคงหลบไป ใช้ชีวิตสันโดษ มุ่งมั่นผลิตงานเขียน อยู่อย่างเงียบเชียบ ตามประสาชีวติ แบบนักเขียนทีร่ กั ความเงียบสงบ แต่เพราะ นั่นเป็นแค่การคาดเดา... เราๆ ท่านๆ เลยไม่รู้ว่า ชีวิต ของ ‘คุ่น’ - ปราบดา หยุ่น ก�าลังสนุกกับความวุ่นวาย อย่างที่เราคิดไม่ถึง ก่ อ นหน้ า นี้ ปราบดา หยุ ่ น มี ส�า นั กพิ มพ์ ไต้ฝุ่น เป็นกิจการส่วนตัวที่เป็นชิ้นเป็นอันอยู่เพียงกิจการเดียว ที่ต้องดูแล ซึ่งเขาในฐานะนักเขียนที่ก้าวไปเป็นเจ้าของ กิจการ ก็ดูแล ประคับประคองส�านักพิมพ์เล็กๆ นี้ไปตาม จังหวะชีวติ ที่ไม่ได้กา้ วกระโดดจนเกินไปนัก ในเวลาต่อมา ปราบดาสนอกสนใจในธุรกิจอีบุ๊ก เขาเลยเลือกที่จะไปท�า เว็บที่ชื่อ Bookmoby.com แต่ธุรกิจอีบุ๊กในบ้านเรายัง ต้องการปัจจัยอีกมากมายเพื่อให้ก้าวทันโลกอย่างที่ ควรจะเป็น และบังเอิญมันยังก้าวไม่ทันใจนักเขียนหนุ่ม ระหว่างนั้น ซึ่งก็คือเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เขาเลยสนใจ เปิดร้านหนังสือเล็กๆ ในหอศิลป์กรุงเทพฯ ชือ่ ร้านบุก๊ โมบี ้ เป็นสถานที่เล็กๆ ส�าหรับขายหนังสือ และไว้พบปะพูดคุย กับนักเขียนนักอ่านที่แวะเวียนกันเข้ามาในร้านหนังสือ แห่งนี้ นอกจากนั้นมันยังมี ไว้เพื่อจัดกลุ่มเสวนาเล็กๆ ส� า หรั บ คนที่ ชื่ น ชอบและหลงใหลในโลกของการอ่ า น การเขี ยนด้ วย การเริ่ มต้ นท� า ธุ รกิ จ ร้ า นหนั ง สือ นี่เอง ที่เปิดโลกใบใหม่แห่งวงการธุรกิจให้กับ ปราบดา หยุ่น

สัมภาษณ์ : วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม, วสิตา กิจปรีชา ถ่ายภาพ : ภาสกร ธวัชธาตรี

ผู ้ ไ ม่ เ คยแม้ แ ต่ จ ะสนใจเรื่ อ งของตั ว เลขและการตลาด แต่เมื่อได้ก้าวเข้ามาสัมผัสจริงๆ สิ่งที่น่าแปลกใจกว่านั้น ก็คอื เขาอยูก่ บั มันได้เป็นอย่างดี ไม่มอี าการกินแหนงแคลงใจ อย่างที่นักเขียนและโลกธุรกิจควรจะเป็น แต่ให้กอดคอ หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ก็คงจะสุดโต่งไปนิด ปราบดาบอกกับเราว่า ทุกวันนี้เขาสนุกกับความวุน่ วายทีผ่ า่ นเข้ามาในชีวติ สนุกกับการจัดการสิง่ ทีเ่ ป็นไป ในแต่ละวัน ผิดกับโลกแห่งความสงบที่เขาบอกกับเราว่า นั่นคือช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่เขาเคยสนใจและไขว่คว้า หากแต่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกอยากจะไขว่คว้า แต่ก็ ไม่ได้ถึงกับ อยากจะผลักไสให้ ไปไกลๆ เขาแค่บอกกับเราว่า “มันสงบมากจนรู้สึกว่าไม่มีอะไร” ปราบดาในวันทีผ่ มเผ้าเกลีย้ งเกลา แต่ไว้เคราดกครึม้ เดาไว้แล้วล่วงหน้าว่าสิง่ ทีเ่ ขาพูดและถูกถอดเทปมาอยูใ่ น บทสัมภาษณ์ฉบับนี้ จะต้องถูกใครอีกหลายๆ คนน�าไป ‘ผลิตซ�้า’ ในแง่ที่ว่าตัดสินและ ‘แปะป้าย’ ว่าเขาเป็นคน แบบนั้นแบบนี้ แต่ ณ วัยที่อายุเดินมาถึงเลข 40 วัยที่เขา รู้สึก สนุก กับ การได้ค้น พบสิ่งใหม่ๆ ได้ผจญภัย ไปใน โลกกว้างทีเ่ ต็มไปด้วยเรือ่ งราวน่าสนใจเกินกว่าจะหยุดยืน อยูท่ ใี่ ดนานๆ เขาบอกว่า เขาไม่ได้สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร เพราะเขาเชื่อว่าเขาท�าในสิ่งที่เป็นเรื่องปกติ นั่นคือ... การเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เขาเคยเป็นในอดีต สิ่งที่เขาเป็นในวันนี้ และสิ่งที่ เขาจะเป็นในวันพรุ่งนี้ อาจไม่เหมือนกันเลย เขาอาจจะ มีความคิด ความเชื่อ ที่แ ตกต่างจากสิ่งที่เขาเคยพูด เคยคิด เคยเชื่อ อย่างสิ้นเชิงด้วยซ�้า เขาว่ามันไม่แปลก หรอก ใช่ เราก็ว่าไม่แปลก คนที่ ไม่เปลี่ยนแปลงต่างหาก ที่แปลกคน สัปดาห์แห่งการอ่านเริ่มต้นแล้ว มาอ่านความคิด ความเชื่อ ของปราบดาในวันนี้กันเถอะ


16

“เราก�าลังบอกว่า เราอยากให้ทุกคนสามารถแสดงความเห็นอะไรก็ ได้ แม้แต่ความเห็นที่เราไม่เห็นด้วย เราก็อยากให้คนแสดงออกมาได้ แล้วเราก็อยากมีเสรีภาพในการแสดงความเห็นของเราด้วย ก็แค่นี้เอง” ตอนนี้ ค วามสนใจเรื่องการเขียนการอ่าน ของคุณไปในแนวทางไหน การอ่านทีผ่ า่ นๆ มาช่วง 2-3 ปีมานี้ ก็สนใจ อ่านงานเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เช่น เกี่ยวกับ สมองวิทยา แต่ก็ไม่ได้อ่านเฉพาะเรื่องนั้น เพียงแต่วา่ สนใจเป็นพิเศษ ส่วนเรือ่ งอืน่ ทีส่ นใจ ก็จะเป็นเรื่องที่สนใจอยู่แล้ว เช่น ปรัชญา ประวัตศิ าสตร์ อืน่ ๆ ก็คอื อ่านงานวรรณกรรม น้อยลง แต่ช่วงนี้เริ่มกลับมาอ่านอีกครั้งแล้ว เพราะว่าอ่านอะไรทีเ่ ป็นวิชาการหรือเป็นข้อมูล มากๆ ก็ถึงจุดที่เราอยากได้รับจินตนาการ บ้าง ตอนนี้ก็เลยกลับไปอ่านงานวรรณกรรม หรือบทกวีบ้าง ส่วนงานเขียน ตอนนี้ก็เริ่ม กลับไปเขียนคอลัมน์ในนิตยสาร อิมเมจ ซึ่ง ก็มเี นือ้ หาเกีย่ วข้องกับวิทยาศาสตร์ทเี่ ราสนใจ อ่านในปีที่ผ่านมา แต่งานเขียนของเราจริงๆ ก็พยายามเขียนมาหลายปีแล้ว แต่เพราะว่า มันไม่มเี วลา พอคิดว่าจะเขียนก็มปี ที เี่ ดินทาง ไม่อยู่เมืองไทยทั้งปี พอกลับมาก็ต้องสะสาง งาน พอสะสางงานเสร็จก็เริม่ มาท�าบริษทั ใหม่ ก็คือบุ๊กโมบี้ ตั้งแต่เริ่มท�าบุ๊กโมบี้ก็ไม่มีเวลา ที่จะนั่งลงเขียนหนังสืออย่างจริงๆ จังๆ เลย ช่ ว งนี้ ก็ เ ลยหายไปจากการเขี ย นหนั ง สื อ แต่ว่ามีเรื่องที่อยากเขียน แล้วก็เตรียมที่จะ เขียนอยู่แล้ว ก่อนหน้านีค้ ณ ุ ท�าส�านักพิมพ์ ก็คอื ส�านักพิมพ์ ไต้ฝุ่น รวมระยะเวลาแล้วนานแค่ไหนคะ ส�านักพิมพ์ไต้ฝุ่น ปีนี้ก็ขึ้นปีที่ 9 แล้ว ก็นานพอสมควร แต่วา่ ความทีเ่ ป็นส�านักพิมพ์ เล็ก งานของเราอย่างดีก็ออกหนังสือปีละ ประมาณ 10 เล่มเท่านัน้ ปริมาณมันไม่ได้เยอะ มาก แต่ด้วยระยะเวลาที่มันนานพอสมควร เราก็ คิ ด ว่ า เราได้ ส ร้ า งฐานคนอ่ า นขึ้ น มา เหมือนกัน เวลาคนรูจ้ กั ส�านักพิมพ์ไต้ฝนุ่ เราก็ แปลกใจกันนะ เพราะเรารู้สึกว่ามันเล็กมาก แต่หลังๆ ก็มีคนพูดให้ฟังว่า ไต้ฝุ่นดังจะตาย เหมือนส�านักพิมพ์เราเป็นทีร่ จู้ กั เราก็ดใี จปน แปลกใจ เพราะตอนแรกที่เริ่มท�า เราท�าใน สเกลเล็กมากๆ แล้วก็พมิ พ์หนังสือของเพือ่ นๆ กั น อย่ า งหนั ง สื อ ของ วิ ศุ ท ธิ์ พรนิ มิ ต ร หนังสือของผม หนังสือของ พี่หนึ่ง วรพจน์ (วรพจน์ พันธุพ์ งศ์) คือมันอยูใ่ นกลุม่ เล็กๆ น่ะครับ 9 ปีทผี่ า่ นมา พอจะบอกได้ไหมว่าธุรกิจนีม้ นั อยูไ่ ด้ดไี หม มันอยู่ได้ครับ แต่ว่ามันอยู่ได้ในลักษณะของ ขนาดทีต่ อ้ งเป็นแบบนี้ หมายถึงว่าเรายังสามารถ รักษาความเล็กของมัน รักษาจ�านวนพนักงาน รักษาปริมาณทีพ่ มิ พ์หนังสือในแต่ละปี มันก็อยูไ่ ด้ดี และดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราไม่ได้คิดจะขยับขยายมาก เกินไป หรือว่าลงทุนกับสิ่งที่มันเสี่ยงเกินไป มันก็ สามารถอยู่ไปได้ เคยคิดมาก่อนไหมว่าท�าส�านักพิมพ์แล้วจะอยู่ได้ ไม่เคยนะ ตอนทีเ่ ริม่ ท�าใหม่ๆ ไม่มคี วามรูเ้ ลย ก็เริม่ เรียนรูต้ งั้ แต่แรก โชคดีทมี่ รี นุ่ พีท่ รี่ จู้ กั กันทีเ่ ขา มีประสบการณ์แล้ว เช่น พีภ่ ญ ิ โญ ไตรสุรยิ ธรรมา พี่วินทร์ เลียววาริณ น้าชาติ กอบจิตติ ทั้งหมด ก็คอื คนทีเ่ ป็นนักเขียนทีพ่ มิ พ์งานของตัวเอง คิดว่า คนที่ให้ค�าแนะน�าเขาคงคาดเดาไม่ได้หรอกว่า เราจะท�าได้ไหม เราจะรอดหรือเปล่า ตอนนัน้ เราก็ ไม่ได้มคี วามมัน่ ใจอะไร แค่คดิ ว่ามันเป็นการลงทุน ทีไ่ ม่เยอะมาก เป็นธุรกิจทีเ่ ราพอจะรับได้โดยการควักเงินของตัวเอง ถ้ามันไม่สา� เร็จเราก็ยอมรับ ความล้มเหลว แล้วก็ไปท�าอย่างอื่น ตอนนั้นเรา คิดแค่นี้จริงๆ ถ้ามันไม่สา� เร็จเราก็คงต้องท�างาน อิสระของเราต่อไป หรืออะไรก็ตาม

ก็เลยอยู่มาได้ถึ ง 9 ปี แล้ วก็ มีร้ า นบุ ๊ กโมบี้ อี ก คิดนานไหมว่าจะท�าร้านหนังสือ เพราะก็อย่างทีท่ ราบ ว่ามันอยู่ยากในบ้านเรา เรื่องท�าร้านหนังสือนี่ผมบอกเลยว่าไม่ได้คิด เลย ร้านบุ๊กโมบี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ประมาณ เดือนกันยายน แล้วก็เกิดขึน้ ด้วยอุบตั เิ หตุ เกิดขึน้ ด้วยความบังเอิญ บุ๊กโมบี้ ดั้งเดิมมันคือเว็บไซต์ (www.bookmoby.com) และเราคิดจะท�าอีบุ๊กเป็น หลัก แต่สถานการณ์อีบุ๊กบ้านเรามันก็ขับเคลื่อน ไปอย่างช้าๆ ยังไม่มปี จั จัยอีกหลายอย่างมารองรับ ระหว่างที่เราท�าบุ๊กโมบี้ที่เป็นเว็บไซต์ เราก็เลย ต้องหาอะไรหลายๆ อย่างท�าไปด้วยในช่วงแรก เพือ่ เป็นการช่วยเหลือบริษทั ร้านหนังสือมันก็เกิด ขึ้นจากกิจกรรมที่เราคุยกัน จริงๆ แล้วไอเดียนี้ เกิดจากทางเคล็ดไทยผสมกับ คุณ ปานบัว บุนปาน ในการสนทนากัน คุณปานบัวเสนอว่าท�าไมไม่ลอง ไปเปิดร้านหนังสือในหอศิลป์กรุงเทพฯ ดู (หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร) อันนี้คือการคุย เล่นๆ พอดีวันนั้นจากที่ประชุมกันแล้ว วันรุ่งขึ้น ผมมีนดั ทีห่ อศิลป์กรุงเทพฯ พอดี ก็เลยลองสอบถาม เจ้าหน้าที่ เพราะได้ยินว่าที่หอศิลป์ฯ ให้เช่าพื้นที่ เพือ่ เปิดร้านได้ เขาก็บอกว่าใช่ แต่มนั จะมีรา้ นแบบ ป๊อปอัพซึ่งเป็นร้านระยะสั้นส�าหรับคนที่ไม่มั่นใจ

ว่าจะอยูย่ าวได้ไหม เขาก็จะลองเปิดป๊อปอัพ 3 เดือน ไปก่อน ซึ่งก็มีค่าเช่าในอัตราที่เขาก�าหนดไว้แล้ว ไม่ตอ้ งเสียค่าไฟค่าน�า้ เราก็เลยลองดู เช่าพืน้ ทีแ่ ค่ 3 เดือน หลังจากนั้นวันสองวันเราก็ท�าสัญญา จ่ายเงินเลย อีกไม่กี่วันต่อมาก็ขนหนังสือเข้าร้าน มันเกิดขึน้ เร็วมาก บอกตรงๆ ว่าไม่ได้เตรียมตัวทีจ่ ะ ท�าร้านหนังสือ ไม่ได้มคี วามฝันทีจ่ ะท�าร้านหนังสือ มันตลกดีเหมือนกัน คือพอเปิดร้านปุ๊บ คนที่บ้าน ทราบ น้องสาวก็อเี มลมาบอกว่า ดีใจด้วยนะทีฝ่ นั อีกอย่างของพี่เป็นจริงแล้ว เราก็ตอบไปว่าไม่เคย ฝันว่าจะท�าร้านหนังสือเลย (หัวเราะ) มันไม่ได้ อยู่ในหัวคิดเรา เพราะคิดว่ามันเป็นธุรกิจที่จริงจัง มีความสุม่ เสีย่ งเยอะ เราเป็นคนทีไ่ ม่เคยคิดจะท�า อะไรที่มันเสี่ยงมากในทางธุรกิจ ทีนี้พออยู่มาได้ ประมาณ 3-4 เดือน มันก็เริ่มมีความเคลื่อนไหว ของคนทีอ่ ยูใ่ นวงการหนังสืออิสระ อย่างส�านักพิมพ์ เล็กๆ เขาก็เอาหนังสือมาฝากวางที่ร้าน นักเขียน ก็แวะเวียนมาพบเจอกัน พูดคุยกัน งานเสวนาทีจ่ ดั ทีน่ นั่ ก็ไปได้ดี มีคนมาฟังเยอะ เราก็รสู้ กึ ว่ามันเป็น สิง่ ทีน่ า่ สนใจทีจ่ ะท�าต่อไป ก็เลยตกลงว่าเราจะขอ เช่าระยะยาว แต่หอศิลป์ฯ เขาก็มีระเบียบเยอะ ต้องคอยรอเวลาว่าจะอนุมัติหรือเปล่า มีพื้นที่ หรือเปล่า พอทราบว่าได้พื้นที่แน่ๆ เราก็เริ่ม

ออกแบบร้านใหม่ เตรียมระบบอะไรต่างๆ ให้มนั จริงจังขึน้ ก็เริม่ เปิดร้านใหม่เมือ่ ต้นเดือน มีนาคมที่ผ่านมานี่เอง คาดหวังกับมันไหมคะ ถ้ามาถึงจุดนีก้ ค็ งต้องคาดหวังแล้วแหละ (หัวเราะ) อย่างน้อยก็ต้องอยู่อีก 2 ปี ตาม สัญญาที่เราเซ็นไว้ ก็ต้องท�าให้มันเต็มที่ อย่างนีจ้ ะท�าให้มเี วลาท�างานเขียนน้อยลงไหม แล้วกังวลไหมทีเ่ ป็นนักเขียนแต่ไม่มงี านเขียน ออกมาในช่วงนี้ ในแง่ความเป็นนักเขียนก็รู้สึกว่าบางช่วง เราก็ไม่ใช่นักเขียน ในแง่ที่เราไม่ได้เขียน น่ะครับ เราก็ละอายใจนิดหน่อยที่จะเรียก ตัวเองว่านักเขียน เนื่องจากเราไม่ได้ทา� งาน เขียน แต่รายได้ของเราก็มาจากการท�าหนังสือ นี่แหละ เช่น พิมพ์หนังสือ ออกแบบปก หนังสือ หรือหนังสือเล่มเก่าเอามาพิมพ์ใหม่ ก็ ไ ด้ ค ่ า ลิ ข สิ ท ธิ์ อี ก มั น ก็ ยั ง อยู ่ ใ นวงจรนี้ เพียงแต่เราไม่ได้ผลิตงานใหม่ออกมาเท่าไหร่ แต่สว่ นหนึง่ มันก็เป็นความตัง้ ใจ เพราะช่วงที่ หายไปประมาณ 1 ปี เราก็ตั้งใจว่าอยากไป แสวงหาวัตถุดบิ ใหม่ๆ เพราะว่าเราเบือ่ ตัวเอง เบื่อกับงานที่เขียนมาก่อนหน้านี้ เราเองก็ เปลีย่ นไปด้วย เราก็อยากสะท้อนความเปลีย่ นแปลงภายในตัวเราเอง เพราะฉะนั้น ก็คิด เอาไว้เหมือนกันว่าจะหยุดพักเพือ่ สะสมวัตถุดบิ ใหม่ๆ สะสมทัศนคติใหม่ๆ แล้วค่อยเขียน ออกมา หรือแม้กระทัง่ เรือ่ งแต่งทีเ่ ป็นนวนิยาย เราก็อยากจะให้เวลากับมันมากกว่าที่เคย ให้ เหมือนกับในยุคแรกๆ เราเขียนหนังสือ ด้วยความตื่นเต้น ด้วยพลังที่มันออกมาเอง เรื่อยๆ ทีนี้พอมาถึงจุดหนึ่งเราก็อยากจะให้ เวลากับพลังนั้นมากขึ้น แทนที่จะรีบๆ เขียน ออกมาให้มันเสร็จ คือเมื่อก่อนเรารู้สึกดีเมื่อ เราเขียนงานเสร็จ เพราะเรามีหนังสืออยูใ่ นมือ เหมือนเราผลิตผลงานออกมาแล้วนะ ตอนนี้ เราก็รู้แล้วว่าการมีผลงานมันเป็นอย่างไร แล้วเราก็สามารถท�ามันได้อีก ดังนั้น ความตื่นเต้นมันไม่ใช่การเห็นหนังสือพิมพ์เสร็จ ออกมาเป็นรูปเล่มแล้ว แต่อยู่ที่ความพอใจ ของเราในตัวเนือ้ งาน ในความละเอียดของงาน ในสิ่งที่เราอยากจะสื่อสาร เพราะฉะนั้น เรา ก็อยากจะพิถพี ถิ นั กับมันมากขึน้ ซึง่ ก็ตอ้ งใช้เวลา แต่เวลาก็หาได้ยากขึ้นเพราะเราต้องเอาไปใช้กับ กิจกรรมอื่น แต่ตอนนี้หวังว่าพอร้านบุ๊กโมบี้ลงตัว แล้ว ซึ่งก็ใกล้แล้ว มีระบบต่างๆ ที่มันรันได้ด้วย ตัวเองแล้ว เราก็น่าจะมีเวลาส�าหรับเขียนหนังสือ ของตัวเองมากขึ้น ที่เมื่อสักครู่บอกว่าพอเวลาเปลี่ยนไป ความคิด ก็เปลีย่ นไป แล้วมีความคิดอะไรของคุณทีเ่ ปลีย่ นไป อย่างชัดเจนบ้าง ทีช่ ดั ๆ ก็เรือ่ งท�าธุรกิจนีแ่ หละ เมือ่ ก่อนไม่เคย คิดเลย แล้วก็ออกจะต่อต้านด้วยซ�้า มีทัศนคติ ที่ไม่ดีต่อการท�าธุรกิจ ต่อนักธุรกิจ อย่างเมื่อก่อน เราก็มองตามสูตรส�าเร็จทัว่ ๆ ไปของการมีทศั นคติ ที่ไม่ดีต่อบริโภคนิยม ทุนนิยม แม้ว่าเราจะอยู่ใน วงจรนั้น เราก็วิพากษ์วิจารณ์มัน ว่าคนท�าธุรกิจ คิดถึงแต่เรือ่ งเงิน อันนีค้ อื เบสิกมาก หรือว่านายทุน ต้องเอารัดเอาเปรียบคนอืน่ เราก็มที ศั นคติคล้ายๆ แบบนัน้ แต่ชว่ งทีค่ ดิ อะไรเยอะๆ แล้วเราเกิดความเปลี่ยนแปลงทางทัศนคติ เราก็มองว่าในการมี นายทุน หรือการที่คนลุกขึ้นมาท�าธุรกิจ มันคือ การสร้างพื้นที่ใหม่ให้กับทั้งตัวเองแล้วก็คนอื่นได้ ถ้าเราอยากให้มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นในโลก เราไม่


18

สามารถรอให้ ค นอื่ น เขาท� า แล้ ว เราได้ แ ต่ บ ่ น ได้แต่รอ ถ้าเป็นอย่างนั้นสิ่งที่อยากจะเห็นมันก็ อาจจะไม่เกิดขึ้นในชีวิตของเราเลยก็ได้ หรือว่า คนที่ท�าอาจจะท�าไม่ถูกใจเราก็ได้ พอคิดอย่างนี้ มันก็ต้องเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงหรือเอาตัวเราเข้าไป ผูกกับอะไรที่มันใหญ่กว่าที่เราเคยท�า หรือใหญ่ ไปกว่าแค่คนรอบข้าง อย่างเรื่องธุรกิจ เมื่อก่อน เราอาจจะคิดว่าเรื่องธุรกิจเป็นเรื่องน่าปวดหัว เพราะไปคิดถึงภาพการท�าธุรกิจใหญ่ๆ ต้องมี พนักงานเป็นพัน ต้องลงทุนหลายสิบล้าน มันคง เป็นชีวิตที่ไม่สงบ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็คิดแต่เรื่อง ของความสงบนะ (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ อาจจะเป็น เพราะสงบมาเยอะแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าเราพร้อม ส�าหรับความวุน่ วายในชีวติ ทีม่ นั จะเข้ามาพร้อมกับ งานที่เราท�า อีกอย่างที่ผ่านมามันก็มีความเบื่อ ตัวเองผสมผสานอยูด่ ว้ ย เราก็เลยอยากจะเปลีย่ น มัน ซึ่งการเปลี่ยนตัวเองมันต้องมีปัจจัยอื่นมา บังคับ ถ้าเราปล่อยไปแบบเดิมทุกอย่างมันก็คง เหมือนเดิม แต่ปัจจัยอื่นที่มาบังคับก็ต้องเป็น สิง่ ทีม่ าบังคับแล้วเกิดประโยชน์ดว้ ย เพราะฉะนัน้ สิ่งที่ผมคิดก็คือ ผมต้องเริ่มก่อนว่าจะท�าอะไร พอมีไอเดีย ก็เริม่ คุยกับคนโน้นคนนีท้ เี่ ขามีความรู้ ในแต่ละด้านที่เราไม่สันทัด หลังจากนั้นเราก็ จะรู้ว่าตัวเองต้องท�าอะไรบางอย่างเพื่อให้เรามี บริษัทหรือมีผลิตภัณฑ์ของเราเอง และเราก็จะ มีเป้าหมายว่าเราต้องไปถึงจุดนั้น มันเหมือนกับ เตรียมตัวเล็กน้อยเพื่อจะเจอกับความวุ่นวาย และปัญหา ดังนั้น พอเจอปัญหาก็จะรู้สึกว่า ธรรมดา เพราะว่าเราคาดเอาไว้แล้ว ตั้งแต่ท�ามาเจอความวุ่นวายจนเกินขีดที่จะรับได้ บ้างไหม เนื่องจากตอนนี้ยังท�าอยู่ แสดงว่ายังรับได้ (หัวเราะ) จริงๆ มันก็มีหลายๆ เรื่องที่ไม่คาดคิด ว่าจะเกิด ทั้งปัญหาที่ท�าให้เราท้อ ในที่สุดแล้ว จุดหมายนัน้ ยังคงอยู่ ในเมือ่ เริม่ ท�าแล้ว เราคิดว่า มันคงจะเป็นทีน่ า่ เสียใจ หรือเราอาจจะละอายใจ มากกว่าถ้าท�ามันไม่ลุล่วง หรือแค่ท้อแล้วเลิก ก็ ไม่อยากจะเป็นแบบนัน้ ก็เลยยังสูอ้ ยู่ เพราะรูส้ กึ ว่า สิง่ ทีท่ า� มันยังมีความรูส้ กึ ดีทเี่ กิดขึน้ กับเรามากกว่า ความรู้สึกที่ไม่ดี เพราะฉะนั้น ก็เลยยังมีหวังอยู่ ที่ คุ ณ พู ด ถึ ง เรื่ อ งความสงบกั บ ความวุ ่ น วาย อยากรู้ว ่าการที่เ คยอยู่แบบสงบมากๆ มัน มี ความรู้สึกเบื่อความสงบไหม เบื่อไหมเหรอครับ อืม... พูดยากนะ เพราะ ถ้าถามตัวตนจริงๆ ก็ชอบไปในทางสงบมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ สภาพแวดล้อม หรือ การงาน ก็ชอบงานที่สงบๆ ไม่ใช่ว่าเราไม่อยาก ท�างานที่วุ่นวาย แต่โดยทางกายภาพหรือทาง ความคิด เรารูส้ กึ ว่าแบบนัน้ มันไม่ใช่ตวั เรา สมมติ ว่าต้องคุยกับคนเยอะๆ ในหนึง่ วัน สุดท้ายเราก็จะ เบลอ เหมือนกับสมองมันรับไม่ไหวแล้ว นี่คือที่ สังเกตตัวเอง เพราะฉะนั้น ก็เลยชอบความสงบ มากกว่า ในขณะเดียวกันเราก็มีความรู้สึกว่าเรา สงบแล้ว หมายความว่าข้างในตัวเราเป็นคนทีส่ งบ แล้ว การที่เราจะต้องสงบไปหมดเลย เรียกร้อง แต่ความสงบ อยู่บ้านก็ต้องอยู่เงียบๆ อย่างนั้น มันก็ท�าให้หมดอาลัยตายอยากในการใช้ชีวิตไป นิด หนึ่ง ถ้ า จะสรุป คือ เป็ น คนชอบความสงบ แต่ก็ชอบผจญภัย ชอบเจออะไรใหม่ๆ ในชีวิต การท�าธุรกิจก็เป็นโจทย์ใหม่ของชีวิตเหมือนกัน พอได้มาท�าแล้วได้ค้นพบนิสัยใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้ บ้างไหม คือไม่แน่ใจว่าไม่เคยรู้รึเปล่า อาจจะไม่ค่อย ท� า มากกว่ า ก็ คื อ บางช่ ว งเวลาเราเป็ น คนที่ สามารถโหดร้ายได้อย่างง่ายๆ เหมือนกับว่าเรา จ�าเป็นที่จะต้องตัดสินใจท�าอะไรสักอย่าง ถ้าเรา มัวแต่ใจอ่อน ใจดี หรือพยายามรักษาน�า้ ใจคน ทุกคน มันเป็นไปไม่ได้หรอกในภาวะที่เราต้อง สื่อสารกับคนหลายๆ คนหรือต้องท�างานกับคน หลายๆ แบบ ปกติเวลาที่อยู่ในวัยที่สงบ หรือ

ตอนทีอ่ ายุนอ้ ยกว่านี้ ผมจะเป็นคนทีป่ ระนีประนอม มาก และไม่ชอบทีจ่ ะต้องท�าร้ายจิตใจใคร ถึงแม้วา่ เขาจะท�าร้ายเรา เราก็เฉยๆ หลีกเลีย่ ง ปล่อยๆ ไป สมมติว่าคนมาหลอก มาเอาเปรียบเรา พอเรารู้ แล้ ว เราก็เ อาตัว เองออกมา เราก็ไ ม่ ไ ปตอบโต้ ไปเผชิญหน้า หรือไปปะทะกับเขา แต่พอเราต้อง ท�างานทีม่ คี นอืน่ เข้ามาเกีย่ วข้อง เราต้องรับผิดชอบ ชีวิตคนอื่น ต้องประคับประคองให้บริษัทอยู่รอด มันก็จา� เป็นต้องท�า ต้องพูดตรงๆ ต้องตัดสินใจ ต้องชัดเจน เดี๋ยวนี้ก็เลยเป็นคนที่พูดอะไรตรงๆ ชัดเจนมาก แทนทีจ่ ะอ้อมค้อมหรือหลีกเลีย่ งทีจ่ ะพูด เมือ่ 2-3 ปีทผี่ า่ นมา คุณได้แสดงความคิดเห็นเรือ่ ง ทางสังคม การเมืองต่างๆ แล้วก็มีคนมาแปะป้าย ตัวคุณในหลายๆ แบบ รับมือกับป้ายพวกนีอ้ ย่างไร โดยพื้นฐานเรารู้ตัวเวลาเราแสดงความเห็น หรือว่าท�ากิจกรรมอะไรก็ตาม เราท�าอยูบ่ นพืน้ ฐาน ที่เรารู้ว่ามันถูกต้อง แต่คนอื่นอาจจะไม่เห็นด้วย ก็เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องที่เราจะต้องเจอกับ ความแตกต่างในสังคมอยูแ่ ล้ว แต่ในทัศนคติของเรา มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องและไม่ต้องการที่จะสร้าง

ปัญหาหรือความขุ่นข้องหมองใจให้ใคร มันเป็น แค่ความคิดเห็นของเราเฉยๆ และในชีวติ ประจ�าวัน ที่เ ราเจอคนรู ้ จัก เจอเพื่อ น เราก็ส ามารถพู ด แสดงความคิดเห็นในสิ่งเหล่านี้ได้แม้ว่าเขาจะคิด ไม่เหมือนเราก็ตาม เราก็คดิ ว่าความจริงแล้วสังคม มันก็คือแบบนั้น เพียงแต่คนที่เขามีปัญหามากๆ หรือผลกระทบแรงๆ ที่เข้ามาหาเรา มันมาจาก คนที่เขาไม่รู้จักเรา มาจากคนที่ต้องการตีข่าว หรื อ ท� า ให้ เ ป็ น เรื่ อ งใหญ่ ก ว่ า ที่ ค วรจะเป็ น ส่วนใหญ่มนั เกิดขึน้ แบบนัน้ เพราะฉะนัน้ เราก็ไป ควบคุม อะไรไม่ ไ ด้ อ ยู ่ แ ล้ ว แต่ ใ นทัศ นคติข อง ตัวเอง คิดว่าถ้าได้คุยกันตัวต่อตัว หรือได้รู้จักกัน ความรุนแรงเหล่านั้นมันจะลดลง อย่างเราเอง เรารูต้ วั อยูแ่ ล้วว่าไม่ใช่คนก้าวร้าว ไม่ใช่คนรุนแรง ไม่ใช่คนที่ต้องการไปท�าอะไรที่มันจะก่อให้เกิด ความแตกแยกในสังคม เราไม่เคยคิดอยากจะท�า อะไรแบบนั้นเลย เราแค่แสดงความคิดเห็นที่เรา คิดว่าอยูบ่ นเสรีภาพขัน้ พืน้ ฐานของบุคคลทีส่ ามารถ จะท�าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ทุกเรื่องเราก็ใช้ เหตุผลแบบนี้ ใครถามเราก็แสดงความเห็นของเรา

โดยทีไ่ ม่ได้มนี ยั ยะอะไรแอบแฝง หรือมีใครบงการ อยู่เบื้องหลังใดๆ ทั้งสิ้น การเป็นนักเขียนมักจะถูกสอนหรือรับรู้กันมาว่า ให้เขียนในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ ก็เหมือนการประกาศ ความเชือ่ ออกมา คุณคิดว่าการประกาศความเชือ่ ออกมาแบบนัน้ แง่ดหี รือไม่ดขี องมันน่าจะมีอะไรบ้าง ผมก็ไม่อยากเหมารวมว่าทุกความเชือ่ เมือ่ เขียน ออกมาแล้วจะส่งผลดี มันพูดยาก เพราะความเชือ่ มันมีหลากหลาย มีความเชื่อมากมายที่อ่านแล้ว ผมก็ไม่ชอบ ไม่เชื่อ หรือมีความรู้สึกว่าคนเขียน เข้าใจอะไรผิดๆ มันก็มีหลายความเชื่อเหลือเกิน ในโลกนี้ แต่สุดท้ายผมก็เชื่อว่าคนเรายังสามารถ เขียนความเชื่อของตัวเองออกมาได้แม้ว่าคนอื่น จะไม่ ช อบก็ต าม เพราะว่ า มัน ท�า ให้ สัง คมรับ รู ้ ความคิดความเห็น ทัศนคติ ชีวิตความเป็นอยู่ ของเพื่อนร่วมสังคม เพื่อนร่วมโลก ไม่อย่างนั้น เราก็จะคิดอะไรผิดๆ เกี่ยวกับเพื่อนร่วมสังคม เพือ่ นร่วมโลก คิดผิดเกีย่ วกับสังคมเราเอง ว่าสังคม เราเชื่อแบบนี้แบบเดียว ในมุมมองของผมก็คือ การสามารถแสดงความเห็นแบบนั้นได้จะช่วยให้


20

สั ง คมสามารถอยู ่ กั น ได้ อ ย่ า งเข้ า ใจกั น และมี ความสามัค คีมากขึ้น นี่คือ ทัศ นคติข องผมนะ ถ้าเป็นแบบนัน้ ได้กจ็ ะท�าให้คนอยูก่ นั อย่างสงบขึน้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเรามันดูจะตรงข้ามใช่ไหม ครับ แต่จริงๆ แล้วผมก็ไม่เชื่อว่ามันตรงข้ามนะ ผมเชือ่ ว่า ณ จุดหนึง่ เราก็จะไปถึงจุดทีเ่ ราจะอยูก่ นั ได้อย่างสงบ ณ ตอนนีม้ นั ดูเหมือนมีแรงเสียดทาน มีแรงปะทะเยอะ มีความแตกแยกเยอะ แต่ผม ก็ยังมองโลกในแง่ดี และคิดว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ การที่เราจะอยู่กันอย่างสงบในอนาคต คุณช่วยยกตัวอย่างหน่อยได้ไหมว่า สังคมไหน ที่ น� า เสนอความเชื่ อ ที่ ขั ด แย้ ง กั น แล้ ว จะอยู ่ กั น อย่างสงบ ที่คุ้นเคยมากๆ เพราะว่าเคยอยู่ที่นั่น ก็คือ อเมริกา ในยุคที่ผมไปใหม่ๆ เพิ่งจบ ม.3 จาก เมืองไทยไป สิง่ ทีเ่ ขาเรียกว่า Culture Shock ทีใ่ ครๆ ว่านัน่ ผมก็เจอกับตัวเองเลย มันมี Culture Shock ทุกด้าน คือเราจะเห็นว่าสังคมอเมริกันเป็นสังคม ทีม่ คี วามหลากหลายมาก แล้วถ้าคุณเพิง่ ไปอยูใ่ หม่ๆ จะรู้สึกว่าค่อนข้างโหดร้าย เพราะทุกคนพูดตรง มาก นี่คือที่เรารู้สึก คือทุกคนด่ากันอย่างตรงๆ ดู ทีวีก็มีช ่ อ งที่ แ สดงความคิ ด เห็ น เหมื อ นอย่ า ง บ้านเราสมัยนีเ้ ลย คนเชียร์เดโมแครตก็อย่างหนึง่ รีพับลิกันก็อย่างหนึ่ง แล้วก็ยังมีคนที่เหยียดสีผิว อยู่ คนที่บ้าความรุนแรงก็มี นีโอนาซีก็มี มันเป็น ประเทศที่มีทุกอย่างจริงๆ แต่ขณะเดียวกันเขาก็ ให้ความส�าคัญกับอิสรภาพ เสรีภาพ ในการอยู่ ของแต่ละคนเป็นอย่างมาก ผมคิดว่านัน่ เป็นปัจจัย ส�าคัญที่ท�าให้อเมริกามีความเข้มแข็งทางตัวตน ที่เขาภูมิใจว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน จากประเทศไหน จากครอบครัวไหน คุณก็สามารถ ผลักดันให้ตวั เองมีชวี ติ ทีด่ ไี ด้ในอเมริกา จริงๆ ก็มี หลายคนที่เกลียดอเมริกาแล้วประชดประชันว่า มันไม่จริง เป็นแค่โฆษณาชวนเชือ่ เท่านัน้ ซึง่ ไม่วา่ คุณจะมองแบบนั้นหรือไม่ แต่ถ้าคุณได้ไปใช้ชีวิต

อยู่ที่อเมริกา คุณก็จะพบว่าสิ่งที่เป็นจุดเด่นของ อเมริกาที่เขาเรียกว่า Land of Opportunity นั้น เป็นความจริง เพราะว่าคุณจะเห็นคนทุกรูปแบบ ที่มาจากทั่วทุกสารทิศรอบโลกสามารถใช้ชีวิต อย่างสงบสุขที่อเมริกาอย่างที่ในประเทศอื่นจะ หาไม่ได้เลย เช่น จากคนที่ไม่มีอะไรเลย มาจาก ประเทศทีแ่ ร้นแค้นมาก นัง่ เรือมาลงทีอ่ เมริกา ต้อง มาอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ หลายปี แต่ในวันหนึ่ง ก็มีร้านอาหารของตัวเอง มีลูกหลาน มีทายาท มีครอบครัว มีชีวิตที่สุขสบายสมบูรณ์อยู่ได้ใน อเมริกาจริงๆ เพราะทีอ่ นื่ จะยังมีกฎระเบียบต่างๆ ที่แบ่งระดับชั้นของคนอย่างชัดเจน จนยากที่ใคร สักคนจะก้าวขึน้ ไปอยูอ่ ย่างมีหน้ามีตา มีความสุข ได้อย่างในอเมริกา คุณก�าลังจะบอกว่าการแสดงออกอย่างมีอสิ รภาพ ทั้งในเรื่องของความขัดแย้งต่างๆ มันจะส่งผล ให้เป็นแบบนั้นเหรอคะ ใช่ นี่คือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในอเมริกา ถ้าเรามาดูตัวอย่างอีกฝั่ง ทางเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ทีป่ ระสบความส�าเร็จเป็นผูน้ า� ของโลก แต่เขาก็ไม่ได้ มีความขัดแย้งทีช่ ดั เจนแบบนัน้ เขาอาจจะดูสงบๆ ประนีประนอมด้วยซ�า้ ไป ตรงนีค้ ณ ุ จะอธิบายอย่างไร ส�าหรับญี่ปุ่นนั้น ถ้าดูคร่าวๆ มันก็มี 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยที่เป็นเอกลักษณ์ที่เป็นวัฒนธรรมของ ญีป่ นุ่ เอง ซึง่ เขาจะภูมใิ จในวัฒนธรรมของเขามาก และเขาก็มีปัญหากับอเมริกามาก่อน โอเค เขา อาจจะดูอเมริกาเป็นแบบอย่างก็จริง แต่วา่ ในทีส่ ดุ แล้วเขาจะภูมใิ จได้กต็ อ่ เมือ่ เขายังคงรักษาอัตลักษณ์ ของเขาไว้ เพราะฉะนัน้ ญีป่ นุ่ ก็จะยังมีอะไรทีเ่ ป็น เอกลักษณ์ ต้องเป็นแบบนี้ ต้องเป็นแบบญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่ตลกตรงที่ว่าเขาคิดว่า ความอ่อนน้อมถ่อมตน การกดตัวเองให้อยู่ใน ระบบ ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสังคม ไม่ให้ มีตัวตน มันคือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้น มันจะขัดแย้ง กับอเมริกาซึ่งเน้นปัจเจกมาก แต่ญี่ปุ่นจะเน้น

“ในที่สุดแล้ว ผมคิดว่าคนเรา ก็ต้องการ มีความรู้สึกว่า ชีวิตมันมีความหมาย ต่อให้มัน ไม่มีจริงๆ ก็ต้อง หลอกตัวเองว่า มีความหมาย เราถึงได้ตื่นมา ท�าอะไรบางอย่าง ถึงจะไม่เชือ่ ในสิง่ นัน้ แล้ว เราก็ต้องเชื่อ ในอะไรบางอย่าง”

ความเป็นมวลชน เรียกว่าเป็นก้อนมวลชน ถ้าไม่ทา� อย่างนีส้ งั คมก็จะไปไม่รอด คนญีป่ นุ่ จะคิดแบบนี้ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งน่าจะมีส่วนมาจากขนาดของ ประเทศญี่ปุ่ น รวมทั้ง ภู มิป ระเทศที่เ ป็ น เกาะ และเป็นประเทศที่ปิดมานาน แล้วก็เปิดประเทศ ด้วยความจ�าใจ เพราะคนเขาจะเข้ามาตีแล้วก็เลย ต้องเปิด เพราะฉะนั้น มันก็มีส่วนที่ทา� ให้ญี่ปุ่น เป็นแบบนี้ ในขณะที่อเมริกาเองเป็นเหมือนกับ ทวีปใหญ่ๆ ทวีปหนึง่ ทีอ่ ยูๆ่ ก็มคี นเข้ามาจับจอง เยอะแยะ จนกระทั่ ง ต้ อ งสร้ า งความสามั ค คี ไม่อย่างนั้นชีวิตก็จะมีแต่สงคราม ฆ่ากัน ก็เลย ต้องหาวิธีที่จะอยู่กันอย่างสงบจนมาถึงทุกวันนี้ ก�าลังสงสัยว่า สุดท้ายแล้วจ�าเป็นไหมว่าคนในสังคม ต้ อ งแสดงความเป็ น ปั จ เจกออกมาขนาดนั้ น หรือมันยังจ�าเป็นในแง่ของการยกระดับสติปญ ั ญา ของผู้คน ในทัศนคติของผม ผมไม่คิดว่ามันเป็นการแสดงความเป็นปัจเจก หมายถึงว่า มันแล้วแต่ ว่ า การแสดงออกหรื อ การแสดงความเชื่ อ ของ แต่ ล ะคนว่ า มัน เกี่ยวกับ อะไรด้ ว ย อย่ า งเช่ น ถ้าแสดงออกเกี่ยวกับความเชื่อในเสรีภาพของ การแสดงความเห็น ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรือ่ งปัจเจก เพราะเราอยากให้ ทุ ก คนท� า ได้ เ หมื อ นกั บ เรา ไม่ใช่เราอยากท�าอยูค่ นเดียว หรือคิดว่าเพราะเรา เชื่อแบบนี้คุณก็ต้องเชื่อตาม เราก�าลังบอกว่า เราอยากให้ทุกคนสามารถแสดงความเห็นอะไร ก็ได้ แม้แต่ความเห็นทีเ่ ราไม่เห็นด้วยเราก็อยากให้ คนแสดงออกมาได้ แล้ ว เราก็อ ยากมีเ สรีภ าพ ในการแสดงความเห็นของเราด้วย ก็แค่นี้เอง คือจริงๆ แล้วมันเป็นการพยายามที่อยากให้... เรียกว่าอะไรดีละ่ เราไม่ได้อยากผลักดันสิง่ ทีเ่ ราเชือ่ แต่เราอยากจะผลักดันสิ่งที่ทุกคนเชื่อหมดเลย ไปพร้อมๆ กัน แต่ให้อยู่กันได้อย่างสงบ เหมือนข้อดีของมันก็คอื อย่างน้อยก็ทา� ให้เรารูว้ า่ อีกฝ่าย อีกคนหนึ่ง เขาคิดอะไร ถ้าไม่พูดออกมา


22

ไม่แสดงออกมาก็ไม่รู้ ไม่ได้ถกเถียงกัน ไม่น�าไปสู่ การเปลี่ยนแปลง จริงๆ มันก็คล้ายๆ กับความหลากหลายทาง ศาสนา เห็นไหมว่าเราก็ยังอยู่กันได้ แต่ถ้าเป็น สมัยก่อนเมื่อนานมาแล้วมันก็ยากที่สังคมหนึ่ง จะมีหลายๆ ศาสนาปะปนอยูด่ ว้ ยกันได้ เพราะว่า ถ้าเอาความเชื่อมาคุยกันจริงๆ แต่ละศาสนา ก็อยู่กันไม่ได้หรอกครับ เพราะเชื่อพระเจ้าคนละ องค์ มีการปฏิบตั ทิ ตี่ า่ งกัน แต่สงั คมมนุษย์กพ็ ฒ ั นา มาถึงจุดที่ในหลายๆ ประเทศสามารถอยู่ร่วมกัน ได้อย่างสงบ ผมก็คิดแบบนั้นกับการแสดงความเห็น ซึ่งก็น่าจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน ทีนี้มาพูดเรื่องการอ่านการเขียนบ้าง ณ วันนี้ วัฒนธรรมของการอ่านเขียนของสังคมเราเป็น อย่างไร จากทีค่ ณ ุ เห็น มันมีความน่าสนใจตรงไหน หรือมีความน่าเบื่ออะไรหรือเปล่า ปกติเป็นคนที่ไม่ค่อยทราบความเคลื่อนไหว ในแวดวงวรรณกรรมไทย เพราะอ่านวรรณกรรมไทย น้อย ติดตามน้อย ด้วยความที่หนังสือที่ซื้อมา ส่วนใหญ่ก็เป็นภาษาอังกฤษ แล้วมันก็รอให้เรา อ่านอยู่เต็มไปหมด ก็ไม่ค่อยมีเวลาที่จะติดตาม แต่ก็คงพูดได้จากประสบการณ์ของตัวเองที่ได้ ท�าค่ายงานเขียนสร้างสรรค์ที่หอศิลป์กรุงเทพฯ เมื่อปีที่แล้ว หรือเมื่อมีร้านบุ๊กโมบี้ก็ท�าให้เราได้ ใกล้ชดิ คนในแวดวงวรรณกรรมมากขึน้ ได้เจอกับ เด็กๆ ทีร่ กั การอ่านการเขียนมากขึน้ ก็ทา� ให้เรารูว้ า่ มันไม่ได้ขาดแคลนนะในบ้านเรา ไม่ได้ขาดแคลน คนอยากเขียน ไม่ได้ขาดแคลนคนรักการอ่าน มันไม่ได้เป็นวิกฤตอย่างที่เราเชื่อกัน หรืออย่างที่ สือ่ พยายามจะบอก แต่รสนิยมบางอย่างมันอาจจะ เปลี่ยนไป อาจจะมีความหลากหลายมากขึ้น มีการอ่านการเขียนที่เป็นแนวทางที่ไม่ได้ถูกใจ นักวิชาการหรือคนในแวดวงวรรณกรรมที่จริงจัง แต่ไม่ได้หมายความว่าการอ่านการเขียนมันไม่มี มันมีเยอะมาก แล้วคนที่สนใจจะเรียนรู้เกี่ยวกับ การเขียนมีเยอะมาก เวลาที่เปิดสมัครรับคนเข้า ค่ายงานเขียนฯ ก็มีคนส่งเรื่องมาเยอะ ครั้งล่าสุด ก็เกิน 500 เรือ่ ง มันท่วมท้นในความรูส้ กึ ของผมนะ สังคมที่วัฒนธรรมทางการอ่านการเขียนมันเล็ก อย่างบ้านเรา ไม่คอ่ ยมีความเคลือ่ นไหวอะไรใหม่ๆ มากนัก แต่ยังมีคนสนใจมากขนาดนี้ ผมคิดว่า มันเป็นสิง่ ทีด่ �าเนินไปโดยทีค่ นคาดไม่ถงึ เพราะว่า ไม่ทราบ ไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง แต่เด็กๆ ที่โตขึ้น แล้วอยากเขียนหนังสือนั้นมีเยอะมาก แล้วในเรื่องของการอ่านล่ะคะ คุณมองอย่างไร ผมรูส้ กึ ว่าคนรุน่ ใหม่หรือเด็กหนุม่ สาวส่วนใหญ่ ได้รับอิทธิพลจากหนังสือที่แปลมาจากคนเขียน ต่างประเทศมากกว่านักเขียนในบ้านเรา ซึง่ น่าจะ เกิดขึน้ มาได้สกั พักแล้ว ไม่ใช่แค่ชว่ งนี้ เพราะฉะนัน้ แรงบันดาลใจต่างๆ หรือว่าการเขียน ก็ดูเหมือน จะได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศ ถ้าไม่ใช่ ตะวันตกก็เป็นฝัง่ ญีป่ นุ่ หรือเกาหลี มากกว่าบ้านเรา เอง เพราะฉะนั้น ปัญหามันก็อาจจะเกิดจาก ความไม่สอดคล้องกันของเด็กๆ ทีอ่ ยากเขียน กับ ผลงานในบ้านเราเอง แต่คดิ ว่ามันก็กา� ลังด�าเนินไป ในทางทีด่ ขี นึ้ เพราะว่าเด็กๆ เหล่านัน้ หรือนักเขียน รุน่ ใหม่ๆ ทีไ่ ด้รบั อิทธิพลจากงานต่างประเทศเขาก็ เริม่ มีผลงานมากขึน้ เริม่ เอามาประยุกต์ให้เข้ากับ บริบทของบ้านเรามากขึน้ คนอ่านก็เชือ่ มโยงกันได้ ระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเขา งานวรรณกรรม ไม่ได้แปลว่าพอเป็นวรรณกรรมไทยแล้วจะต้อง เชย หรือว่าวรรณกรรมที่เจ๋งๆ จะต้องมาจาก ต่างประเทศเท่านัน้ ผมว่าตอนนีม้ นั ก็เริม่ กลมกลืน กันแล้ว นักเขียนไทยรุ่นใหม่ๆ ที่นักอ่านชื่นชอบ ก็มีมากขึ้น แต่กน็ า่ จะยังมีเด็กๆ ทีช่ อบมาถามคุณว่าท�าอย่างไร ถึงจะเป็นนักเขียนอย่างนี้เรื่อยๆ คือคุณต้องตอบ อยู่เรื่อยๆ ไหม ผมก็ไม่ได้อยากจะพูดเพือ่ ตัดความหวังของใคร

(หัวเราะ) แต่วา่ คนทีม่ กั จะถามแบบนัน้ ส่วนใหญ่ เขาก็ไม่ได้จบลงทีก่ ารเป็นนักเขียนหรอก คือคนทีม่ ี ค�าถามว่าท�ายังไงถึงจะได้เป็นนักเขียน แสดงว่า เขาอาจจะไม่ได้สนใจมันจริงๆ เพราะผมมีความเชือ่ ว่าถ้าคนที่สนใจจริงๆ เขาก็ต้องรู้ตัวเองว่าคงต้อง เขียน เพราะมันก็ไม่มีสูตรส�าเร็จอะไร มันมาจาก ความผูกพันกับการอ่าน กับการอยากเป็นนักเขียน จริงๆ มันก็เหมือนกับตอนที่ผมเริ่มเขียนหนังสือ ใหม่ๆ ก็เด็กมาก ประมาณมัธยมต้น เราก็ไม่เคย มีความสงสัยว่าเป็นนักเขียนต้องท�ายังไง เวลาเจอ หน้านักเขียนก็ไม่เคยคิดจะถามค�าถามแบบนั้น เราแค่คิดว่าเราต้องท�าอย่างไรเพื่อที่จะเขียนได้ แบบเขา เราก็ลองเขียนเรือ่ งสัน้ แรกๆ ก็เลียนแบบ คนนั้นคนนี้ แล้วก็ส่งไปตามนิตยสาร ขั้นตอน มันก็ควรจะเป็นแบบนั้น มันเหมือนกับส่วนหนึ่ง คนคนนั้นก็ควรจะรู้ตัวเองด้วยว่าศักยภาพหรือ ความสนใจของตัวเองคืออะไร ตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่คะ ปีนี้ก็ 40 พอดี แล้วได้ครุน่ คิดอะไรเกีย่ วกับวัยนีข้ องตัวเองบ้างไหม คะ มันเหมือนกับค�าพูดที่ว่าชีวิตเริ่มต้นที่ 40 ไหม ก็คล้ายๆ แบบนั้นนะครับ รู้สึกว่าน่าตื่นเต้น ในแง่ที่ว่าเราก�าลังจะแก่แล้ว ถ้าเราอยู่ไปได้อายุ ค่อนข้างยืนหน่อย ก็จะเรียกว่ามาครึ่งทางแล้ว ผมเป็นคนทีไ่ ม่มปี ญ ั หากับการมีอายุมาก คือชอบ เพราะตืน่ เต้นว่าชีวติ ทีเ่ หลือจะเป็นอย่างไร อาจจะ มีกงั วลบ้างเรือ่ งสุขภาพ เรือ่ งทางกายภาพมากกว่า แต่เรือ่ งงาน เรือ่ งความคิด เรารูส้ กึ ตืน่ เต้นมากกว่า ที่จะได้ท�างานอะไรใหม่ๆ ได้พบอะไรใหม่ๆ ได้ท�า อะไรที่เรายังไม่เคยท�า คล้ายๆ กับการตัดความรกรุงรังทางความคิดออกไปบ้างแล้ว มันท�าให้เรา รู้สึกชัดเจนขึ้นกับตัวเอง ไม่เวิ่นเว้อ พร้อมที่จะ เดินทาง เป็นความรู้สึกที่ไม่กังวล พะวักพะวน นอนไม่หลับ ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่เรารู้สึก ว่าเราพร้อม เปรียบเทียบเหมือนว่าเราจัดกระเป๋า เป็นแล้ว จะเดินทางไปไหนก็ไม่กังวล ทีบ่ อกว่าตัดความคิดรกรุงรังออกไป อยากทราบ ว่าในวัยนี้ได้ลดละเลิกอะไรไปแล้วบ้าง ลด ละ เลิก ความต้องการที่จะสงบ คือ แนวคิดเกี่ยวกับปรัชญาตะวันออก จุดมุ่งหมาย ของชีวิต ชีวิตที่จะต้องบรรลุธรรม หรือสงบนิ่ง รู้จักตัวเองจากภายใน พวกนี้ไม่มีแล้วนะ ลด ละ เลิก ไปหมดแล้ว ตอนนีล้ ยุ อย่างเดียว จะเจออะไร ก็ช่างมัน ที่ลดไปก็อาจจะเป็นเพราะว่าความเชื่อ เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ของเราไม่มีแล้ว คือความเชื่อ ทีว่ า่ มันมีอะไรทีม่ ากไปกว่าชีวติ นี้ ชาติหน้าจะเป็น ยังไง หรือการได้บรรลุธรรมมันจะสุดยอดยังไง การได้อยู่คนเดียวอย่างสงบจะเป็นยังไง ตอนนี้ เราไม่มีความสนใจในเรื่องพวกนี้เลย รู้สึกอย่างไร แปลกไหม รู้สึกดีครับ ว่าเราไม่ต้องมานั่งกังวลว่าเราจะ นั่งสมาธิได้ไหม (หัวเราะ) ก็ไม่ตอ้ งนัง่ สมาธิไปเลย หมดเรือ่ ง ไม่ตอ้ งสงบแล้ว เจออะไรก็ลยุ ไปได้เลย ถ้าอย่างนัน้ คุณก็เชือ่ ว่า ความเชือ่ มันก็เปลีย่ นแปลง ได้เหมือนกัน อันนี้ต้องตอบจากตัวเองเลยนะครับ เพราะ เราก็คิดว่าคนอื่นเขาก็ไม่ได้เหมือนเราเท่าไหร่ คนอื่นเขาไม่ค่อยเปลี่ยน แต่ผมเป็นคนที่ชอบ เปลีย่ น ไม่รวู้ า่ มันดีหรือไม่ดนี ะ แต่วา่ ชอบตัง้ ค�าถาม กับตัวเอง แล้วก็ชอบมีปัญหากับความเชื่อของ ตัวเองจนกระทั่งมันถึงจุดที่ต้องเปลี่ยน ซึ่งเป็น แบบนี้มาตลอดตั้งแต่เด็ก ที่แปลกก็คือ ไม่ใช่คน ที่ชอบไปหาเรื่องคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องความเชื่อ ของตัวเอง แต่ชอบหาเรื่องตัวเองว่าท�าไมมึงต้อง เชือ่ แบบนีด้ ว้ ย คือชอบตัง้ ปัญหากับตัวเองมากกว่า สุดท้ายมันก็ต้องใช้เวลา ต้องมีเวลาเพื่อจะต่อสู้ กับตัวเองจนถึงวันที่ชนะ พอชนะปุ๊บเปลี่ยนเลย เปลี่ยนไปเชื่ออย่างอื่น ซึ่งก็มีชนะบ้าง แต่ก็ใช้ เวลานาน บางทีเวลาที่ต่อสู้ เราก็ไม่ได้อยากจะ


24

ชนะ เพราะความเชือ่ ของเรามันก็ยงั แข็งแรงอยูไ่ ง เช่ น ความเชื่ อ พวกการแสวงหาตั ว ตน หรื อ การปฏิบัติธรรม มันก็ไม่ใช่ว่าความเชื่อของเรา อ่อนแอนะ มันก็แข็งแรง เราก็มีความรู้สึกว่าเรา อยากจะท�าอย่างนั้นอยู่นานพอสมควร หลายปี อย่างตอนทีส่ นใจเรือ่ งเซน สนใจการใช้ชวี ติ เรียบง่าย ในต่างจังหวัด มันก็นานนะ แต่คา� ถามที่เราตั้ง กับตัวเองมันก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ เช่น การไปอยู่ ต่างจังหวัดมันดีจริงเหรอ แล้วการสร้างบ้านด้วย ตัวเองมันดียังไงวะ เราก็ตั้งไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง มันก็ตอบไม่ได้จริงๆ วันหนึ่งเราก็ต้องยอมรับว่า มันไม่มีหรอก เราแค่คิดไปเองว่ามันดี หรือเราแค่ เอาทัศนคติของคนอื่นมาใช้เพราะคิดว่ามันถูก แล้วพอบางเรื่องมันถูกเคลียร์ออกไปแบบนี้ปุ๊บ ตอนนี้ก็เลยไม่ค่อยเหลืออะไร (หัวเราะ) เหลือแต่ ความคิดที่ว่า เราใช้ชีวิตไปตามแต่ละวันที่มัน เข้ามา มันก็มีอยู่จริงใช่ไหม การที่เราเอาทัศนคติของ คนอื่นมาใช้ ซึ่งคุณก็ได้ลองมาหมดแล้ว มันก็บางเรื่องนะครับ อย่างเรื่องที่เราจริงจัง มากๆ เช่น ตอนนั้นเรื่องเซน เราก็สนใจจริงจัง คืออ่านหนังสือเยอะมาก จนถึงจุดทีห่ นังสือบอกว่า ถ้าสนใจเซนจริงก็ต้องไม่อ่าน หรืออย่างตอนอยู่ นิวยอร์กก็พยายามลองไปปฏิบัติตามศูนย์ต่างๆ เป็นศูนย์ท�าสมาธิแบบเซน พอเรียนจบเรายังคิด เลยว่า เอ๊ะ หรือเราไม่ควรไปในทางโลกแล้ว ควร ลองไปบวชดู หรือลองไปท�าสวนดีไหม เพราะ ตอนนัน้ อยากท�าสวนมาก ทีน่ วิ ยอร์กมันจะมีสวน ชุมชน มีคนมารวมตัวกันท�าสวนเล็กๆ เพือ่ ให้ชมุ ชน น่าอยู่ เราก็คดิ ว่าอยากจะไปสมัครท�าอะไรแบบนี้ บ้าง ก็เป็นช่วงวัยนั้น ซึ่งสถานการณ์ในชีวิต ก็บังคับไม่ให้เราเป็นแบบนั้น เราต้องกลับมา เกณฑ์ทหาร มันก็ผ่านมาแล้ว และอยู่ในใจเรา

“อุดมการณ์ ความคิด ความเชื่อ ผมเชื่อว่ามันเป็น ข้อมูลที่ลอยอยู่ใน สังคม ในวัฒนธรรม อยูใ่ นประวัตศิ าสตร์ อยู่ในอากาศ แล้วบางทีช่วงนี้ ที่เราไปดึงมันมา เพราะว่ามันตรงกับ สิ่งที่รู้สึกตอนนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่ามันคือ ตัวตนของเรา เราดึงมันมาแล้ว เราก็ปล่อยมันไป”

มาตลอด เราก็ทบทวนตัวเอง บางทีเราก็เพ้อเจ้อ พูดกับตัวเองโดยคิดว่ามีคนอื่นฟังอยู่ บอกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะท�าอย่างที่ท่านต้องการแล้วนะ แต่ทา่ นอะไรนีม่ นั ไม่มจี ริงไง (หัวเราะ) อยูม่ าวันหนึง่ เราก็คิดได้ว่า เราจินตนาการได้เองว่าถ้าพรุ่งนี้ นั่ ง สมาธิ ไ ด้ ถึ ง จุ ด นี้ แ ล้ ว เราจะกลายเป็ น คนที่ วิเศษอีกแบบหนึง่ มันไม่มหี รอก ณ วันนีเ้ ราคิดว่า มันไม่มีอะไรแบบนั้น แล้วเราจะท�าไปท�าไม คุณคิดว่าคุณเดินมาสุดทางหรือยัง มันอาจจะไม่สดุ ก็ได้นะ บางทีเราก็ตงั้ ค�าถาม อีกว่า เอ๊ะ ที่เราเปลี่ยนเพราะว่าเราไปไม่ถึงเอง หรือเปล่า เราอาจจะไปไม่ถงึ เองก็ได้ เราก็เลยไม่รู้ เราก็เลยคิดว่ามันไม่มี เหมือนกับว่ามันใกล้แล้ว แต่เราไปไม่ถึง เบื่อแล้ว มันอาจจะเป็นแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้มีปัญหากับการที่เราไม่ต้องการจะไป ตรงนั้นเหมือนกัน ซึ่งการเป็นคนแบบนี้มันดีไหม ดีครับ สบายใจดี เราก็เลยมีความสนุกกับ สิ่งที่ท�าโดยที่ไม่คาดหวังต่อเป้าหมาย มันท�าให้ เราสนุกกับการท�าธุรกิจได้ก็เพราะอย่างนี้เหมือน กัน เราไม่ได้ท�าธุรกิจเพื่อที่อยู่มาวันหนึ่งเราจะ ละทิ้งมันเพื่อไปท�าสมาธิ ก็ท�าไปเรื่อยๆ จนกว่า สถานการณ์จะน�าพาเราไป เท่ากับว่าเป้าหมายก็ไม่มีด้วยหรือเปล่า เป้าหมายก็คอื แต่ละวันมากกว่า เป้าหมายคือ การจัดการแต่ละวัน คือในทีส่ ดุ แล้วผมคิดว่าคนเรา ก็ต้องการมีความรู้สึกว่าชีวิตมันมีความหมาย ต่ อ ให้ มั น ไม่ มี จ ริ ง ๆ ก็ ต ้ อ งหลอกตั ว เองว่ า มี ความหมาย เราถึงได้ตื่นมาท�าอะไรบางอย่าง ถึงจะไม่เชื่อในสิ่งนั้นแล้ว เราก็ต้องเชื่อในอะไร บางอย่าง ตอนนี้เราก็เชื่อในความรู้สึกว่า ควรท�า อย่างไรก็ได้ให้ชีวิตมันน่าตื่นเต้นเพื่อให้เรามีชีวิต อยู่ต่อไป ซึ่งบางทีมันก็เหมือนกับตัวเราเองอยู่

ในหนัง ต้องสร้างเรือ่ งให้มนั มีพล็อต ให้มนั เข้มข้น ให้มีสีสัน เพื่อที่ให้เรารู้สึกว่าชีวิตไม่ได้อยู่ไปวันๆ คื อ ถ้ า แค่ รู ้ สึ ก อยู ่ ไ ปวั น ๆ มั น จะไม่ มี ค วามสุ ข ไม่สนุกกับชีวิต สุดท้ายคือก็ต้องทดลองแล้ว ต้องใช้ชีวิตแบบนั้น แล้ว ถึงจะตอบได้ว่าเราเป็นอย่างไร จะใช้ชีวิต แบบไหน มันเหมือนกับความรู้สึกที่ว่า การอยู่ถูกที่ ส�าคัญกว่า ถ้าเราต้องการความสงบแล้วเราไปถึง จุดนั้น เราสบายใจแล้ว ก็แปลว่าเราไปอยู่ถูกที่ หรือเราอยูใ่ ต้ตน้ ไม้ตน้ นีแ้ ล้วสบาย สงบ จิตเรานิง่ มันอาจจะดีก็ได้ แต่สมมติว่าเราไปจบที่สถานที่ วุ่นวายสักแห่ง อยู่กลางถนนที่วุ่นวาย แต่เรารู้สึก ว่านี่คือที่ที่เราอยากจะอยู่ ก็แสดงว่าเราอยู่ถูกที่ แล้วไง เราก็สงบทางใจของเรา ในแง่ทวี่ า่ เราชอบทีน่ ี่ มันอาจจะไม่เกี่ยวกับอะไรที่อยู่ล้อมรอบเราก็ได้ ไม่เกีย่ วว่าคุณจะอยูท่ เี่ นปาล หรือว่าอยูก่ ลางเมือง นิวยอร์ก หรืออยูก่ ลางกรุงเทพฯ เพราะมันอาจจะ เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะรู้สึกแบบไหน ในวัยนี้ ระหว่างการพูด อ่าน เขียน คุณท�าอะไร เยอะขึ้น แล้วท�าอะไรน้อยลง เขียนน้อยกว่าเดิมมาก อ่านยังเหมือนเดิม เพราะว่าเป็นคนที่ชอบอ่านอะไรก่อนนอน มัน เป็ น นิ สั ย ที่ ต ้ อ งอ่ า นอะไรก่ อ นนอนนิ ด หน่ อ ย เพราะฉะนั้น ก็จะได้อ่านอะไรก่อนนอนตลอด แต่พูดมากขึ้น (หัวเราะ) เป็นเพราะต้องเจอคน เยอะขึน้ อย่างท�าบริษทั ก็ตอ้ งสือ่ สารกับคนทีท่ า� งาน ด้วยกัน กับเพื่อนร่วมงาน ต้องมีประชุม คุยงาน โดยเฉพาะการพูดในที่สาธารณะเราเก่งขึ้น จาก เมื่อก่อนไม่ช�านาญ ไม่สันทัด เพราะคิดมากว่า จะพูดอะไรดี พูดแบบนี้มันดูจริงใจหรือเปล่า แต่ เดีย๋ วนีก้ เ็ ริม่ เปลีย่ นไป อย่างเวลาเราสอนในค่าย ต้องจัดเสวนาที่ร้าน เราต้องเป็นพิธีกร ท�าให้เรา


25

ได้มีประสบการณ์ไปเองโดยปริยาย และเราก็ ไม่เขินเหมือนเมื่อก่อน ก็พูดได้ ณ วันนี้จะไม่ถามก็ไม่ได้ ในเรื่องปรากฏการณ์ใน สังคม ความขัดแย้ง การเซ็นเซอร์กนั บรรยากาศ โดยรวมในเรื่ อ งความคิ ด ความอ่ า นของผู ้ ค น ทั้งในรายการโทรทัศน์ การถกเถียงกันในโซเชียล เน็ตเวิร์ก คุณคิดอย่างไร ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าโดยส่วนตัวคิดว่าเป็น เรื่องที่ดี คือตอนนี้เรามองโลกในแง่ดีในเรื่องนี้ ใน ขณะที่คนอื่นเขาอาจจะเครียดกันว่านี่เป็นปัญหา ท�าให้เกิดความแตกแยก เครียดว่าท�าไมมีแต่คน ทะเลาะกัน ใช้ ค�ารุนแรงใส่ กัน ผมกลับคิดว่า มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของสังคมที่คนจะอยู่กันได้ อย่างสามัคคีมากขึ้น เขาว่าความสุขมันวัดยาก แต่ส�าหรับค�าว่าสามัคคีหรือการประนีประนอม ทางความคิด การกระท�า ผมว่าเราก็ก�าลังจะเริ่ม ไปในจุดนั้น ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่ม แล้วส่วนใหญ่ มันก็ไม่ราบรื่นเสมอไป โดยเฉพาะเรื่องการปะทะ กันทางความเชือ่ มันย่อมต้องมีปญ ั หาอยูแ่ ล้วแหละ แต่ ถึ ง อย่ า งไรผู ้ ค นในสั ง คมก็ ต ้ อ งอยู ่ ร ่ ว มกั น อยู่แล้ว และมันก็ยากที่จะบอกว่าคนที่เชื่อแบบนี้ เอาผื น ดิ น ตรงนี้ ไ ปอยู ่ เชื่ อ แบบนี้ ไ ปอยู ่ ภ าคนี้ เชื่อแบบนี้อยู่ภาคนั้น มันคงจะยากที่ประเทศใด ประเทศหนึ่งจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาได้ เพราะ ฉะนัน้ การแก้ปญ ั หาทีม่ เี หตุมผี ลทีส่ ดุ ก็คอื การอยู่ ร่วมกันให้ได้โดยทีไ่ ม่ตอ้ งมีความรุนแรงตลอดเวลา ไม่ต้องเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาเป็นประเด็นในการสร้างความขัดแย้งตลอดเวลา ผมเชื่อว่าเราก�าลัง อยู่ในจุดเริ่มต้นที่จะสร้างพื้นที่แบบนั้นขึ้นมาใน สังคมไทยได้ ใ นที่สุด ไม่ ได้ มองว่า มันน่า เศร้า น่าหดหู่ ร�าคาญบ้างไหมทีเ่ วลาคนทะเลาะกันแล้วก็กระเด็นกระดอนมาที่เรา ในเฟซบุ๊กบ้าง อะไรบ้าง

ความร�าคาญพวกนั้นผมก็รู้สึกว่ามันธรรมดา คือเราก็มีความรู้สึก เราก็ไม่ได้สงบขนาดนั้นอีก ต่อไป ก็มีความรู้สึกที่คิดว่าท�าไมเราจะต้องถูก มองแบบนี้ มันก็มีการตั้งค�าถาม หลายๆ เรื่อง ที่คนอื่นเขาพูดเกี่ยวกับตัวเราในสื่อมันก็ไม่จริง แต่เราก็ไม่ได้เป็นคนที่จะต้องออกมาแก้ตัวหรือ ป่าวประกาศอะไร เป็นคนที่เชื่อว่าให้คนเขารู้จัก ตัวเราจากเวลา จากการกระท�า จากสิ่งที่เราเป็น เวลาทีเ่ ขามาเจอตัวเราจริงๆ คือไม่ได้เป็นห่วงภาพ ขนาดนั้นว่าคนจะมองเราแบบไหน เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณมาเยอะ ก็จะเห็นว่า ในแต่ละปีคณ ุ จะมีประเด็นหลักๆ ให้พดู ถึง เช่น บอก ว่า ชีวิตนี้ขอมีกุญแจแค่ดอกเดียว เพราะไม่ชอบ ความยุ่งยาก หรือคนเราเกิดมาเพื่อท�าอะไรเพียง อย่างเดียว พอได้ให้สมั ภาษณ์อยูเ่ รือ่ ยๆ แล้วมอง ย้อนกลับไป คุณรูส้ กึ อย่างไรกับสิง่ ทีพ่ ดู ไป หรือว่า ความเชือ่ แบบนัน้ ยังอยูไ่ หม หรือเปลีย่ นไปขนาดไหน แล้ว มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์ นานเหมือนกัน ประมาณ 2-3 ปี ทีไ่ ม่ให้สมั ภาษณ์ เพราะเหตุผลนีแ้ หละ เพราะเบือ่ มาก คือเราเข้าใจ ศิ ล ปะของการท� า บทสั ม ภาษณ์ น ะ ว่ า ต้ อ งมี การดึงค�าโปรยหรือวรรคทอง มันก็น่าสนใจในแง่ ของการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอ่าน แต่ว่า คนคนหนึ่งมันมีมิติมากกว่านั้น มันไม่ได้มีมิติ แค่วรรคที่เขาพูด เขาอาจจะคิดแบบนั้นตอนนั้น แต่อีกวันหนึ่งเขาอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้นแล้วก็ได้ เพราะฉะนัน้ ก็เลยไม่ได้อยากจะเป็นทีร่ จู้ กั ในฐานะ ที่มีอุดมการณ์หรือมีความเชื่ออะไรชัดเจนมาก นัก เพราะเรารู ้ ว่ าตัวเราเองไม่ ไ ด้ เป็ น แบบนั้น อย่างทีบ่ อกว่าชอบตัง้ ค�าถามกับตัวเอง ก็แสดงว่า ทันทีที่พูดว่าชีวิตนี้จะมีกุญแจแค่ดอกเดียวปุ๊บ เราก็ต้องตั้งค�าถามว่า แล้วท�าไมต้องมีดอกเดียว

เราก็ถามตัวเราแบบนั้นเหมือนกันว่า เฮ้ย มันน่า หมั่นไส้เหมือนกันนะ การพูดแบบนี้ ท�าไมต้องมี กุญแจดอกเดียวด้วยวะ มีหลายดอกแล้วมันท�าไม กุญแจมันส�าคัญขนาดนั้นเลยเหรอวะ เราก็ถาม ตัวเองแบบนั้นเหมือนกัน หรือว่าคนเราเกิดมา เพื่อท�าอะไรบางอย่าง อ้าว แล้วบางคนเขาก็ต้อง ท�าหลายอย่าง คือท�าไมจะต้องไปเหมารวมว่า ทุกคนจะต้องเป็นแบบนั้น ก็ไม่ใช่เหมารวม แต่มนั ก็เป็นสิง่ ทีค่ ณ ุ พูดเองนัน่ แหละ คือมันหมายความว่า ถ้าตีความแค่นั้นมันก็ ไม่พอไง เช่น ถ้าผมพูดว่าคนเราเกิดมาเพื่อท�า อะไรบางอย่าง ในความหมายหนึ่งมันก็หมายความว่าเขาอาจจะท�าอะไรมาหลายอย่าง แต่เขา เป็นที่จดจ�าในบางเรื่องหรือในอย่างเดียวเท่านั้น เช่น บุคคลส�าคัญของโลก ถ้าเราไปอ่านประวัติ ของเขาจริงๆ เขาท�าอะไรมาตั้งหลายอย่าง หรือ ถ้าเป็นนักเขียนก็เขียนหนังสือมาตั้งหลายเล่ม ผ่านช่วงวัยต่างๆ มามากมาย มีทั้งช่วงที่เป็นโจร ช่วงที่เป็นพระ แต่สุดท้ายก็ถูกจดจ�าในบางเรื่อง หรือแค่เรื่องเดียวของเขามากกว่า แล้วมันก็จะ กลายเป็นความเชื่อที่ประทับอยู่ในความทรงจ�า ของคนว่าเขาเป็นแบบนี้ แต่จริงๆ เขาเป็นหลาย อย่างมากๆ คือความรู้สึกของเราก็คือว่า ตัวตน ของคนกับสิ่งที่คนอื่นพูดบางครั้งมันไม่จ� าเป็น ต้องเป็นสิ่งเดียวกัน คนชอบอ้างค�าพูดไงว่า คนนี้ เคยพูดว่าอย่างนี้ เพื่อเอามาหักล้าง คุณเคยพูด อย่างนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ท�าไมวันนี้คุณเปลี่ยน จุดยืน การเปลี่ยนจุดยืนผมว่าเป็นเรื่องที่ธรรมดา มาก ใครๆ ก็เปลี่ยนจุดยืน บ่อยด้วย อาทิตย์นี้ พูดอย่างนี้ อาทิตย์หน้าพูดอีกอย่างหนึ่ง อยาก ให้ ค นเข้ า ใจว่ า การเปลี่ ย นจุ ด ยื น มั น เป็ น เรื่ อ ง ธรรมดา อย่าเอามาใช้เป็นเหตุผลในการล้มล้าง หรือโต้เถียงกับใครสักคนเลย อุดมการณ์ ความคิด

ความเชื่อ ผมเชื่อว่ามันเป็นข้อมูลที่ลอยอยู่ใน สังคม ในวัฒนธรรม อยู่ในประวัติศาสตร์ อยู่ใน อากาศ แล้วบางทีชว่ งนีท้ เี่ ราไปดึงมันมา เพราะว่า มันตรงกับสิง่ ทีร่ สู้ กึ ตอนนัน้ แต่ไม่ได้หมายความว่า มันคือตัวตนของเรา เราดึงมันมาแล้วเราก็ปล่อย มันไป อย่างคนทีม่ อี ดุ มการณ์เป็นคอมมิวนิสต์มา 30 ปี แล้วปีที่ 31 เขากลับเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น ไปเป็นทุนนิยม ซึ่งมันก็เปลี่ยนกันได้ คือคนเรา มันมีอะไรหลายๆ อย่างเข้ามาในชีวิตตลอดเวลา เราไม่ได้เป็นเครือ่ งจักรสร้างอุดมการณ์ อุดมการณ์ มันแค่เข้ามาในชีวิตของเราเท่านั้นเอง แต่คนอื่นที่เคยศรัทธาเราเขาอาจจะผิดหวัง มันก็เป็นไปได้ แต่ผมคิดว่าความเข้าใจทีด่ กี ว่า หรื อ ที่ ลึ ก ซึ้ ง กว่ า การยึ ด ติ ด กั บ อุ ด มการณ์ ข อง คนคนหนึง่ ก็คอื ความเข้าใจทีว่ า่ ความเปลีย่ นแปลง มั น เกิ ด ขึ้ น ได้ เ สมอ และมั น คื อ ความจริ ง กว่ า อุดมการณ์ที่คนคนนั้นเคยพูดเอาไว้ด้วยซ�้า เมือ่ ก่อนคุณเคยไว้ผมยาว ซึง่ คุณบอกว่าเพราะว่า เบื่อหน้าตัวเอง แล้ววันนี้ก็ไว้หนวดเครา เพราะ อะไรคะ เบื่อหน้าตัวเองอีกหรือเปล่า ก็ที่เล่าว่าไม่อยู่ ไปเดินทาง 1 ปี ช่วงนั้นไป ฟิลิปปินส์กับญี่ปุ่น ไปท�าวิจัย ก็ไม่ได้สนใจอะไร มาก เพราะว่าชีวิตประจ�าวันของเราคือการหา ข้อมูล การเดินทาง การอ่านหนังสือ อะไรแบบนี้ มันไม่ต้องไปเจอใครเลย ไม่ได้เจอสื่อ ก็เลยไม่ได้ สนใจใคร ก็เลยลองไว้หนวดไว้เครา จากนั้นก็ไว้ มาเรือ่ ยๆ เพราะรูส้ กึ ว่าเวลาหน้าเกลีย้ งๆ แล้วมัน ตลก ไม่อ ยากให้หน้า ตัว เองเกลี้ยงจนเกินไป (หัวเราะ) ส่วนที่ไม่ไว้ผมก็เพราะรู้สึกว่ามันสบาย ไม่ร้อน ตอนที่เคยกลับไปไว้ผมเราก็ทรมานนะ ต้องคอยสระ แล้วเราก็ขี้ร้อน สรุปว่าไม่ไว้ผม สบายกว่า เราเหมาะแล้ว


28

GADGET Tascam iXZ

“Tascam iXZ เป็นอุปกรณ์ที่ท�าให้เราสามารถเชื่อมต่อไมโครโฟน กีตาร์ หรือคีย์บอร์ด เข้ากับไอแพดได้ทันที โดยเครื่องนี้จะท�างานคู่กับแอพพลิเคชัน Garage Band ท�าให้เราสามารถท�าเพลงแบบง่ายๆ ได้เลย และความเจ๋ง ของเจ้าตัวนีอ้ ยูท่ มี่ นั มีชอ่ งใส่ถา่ นอัลคาไลน์ ผมจึงสามารถต่อเข้ากับไมโครโฟนรุน่ ทีต่ อ้ งใช้ไฟเลีย้ งได้ ยิง่ เวลาทีต่ อ้ ง นัง่ รถไกลๆ เพือ่ ไปทัวร์คอนเสิรต์ ตามต่างจังหวัด จังหวะทีเ่ กิดไอเดียหรือนึกท�านองเพลงใหม่ๆ ขึน้ มาได้ ผมก็จะหยิบ ไอแพดมาต่อกับเครือ่ งนี้ แล้วเสียบกีตาร์เข้าไป จากนัน้ ก็ใช้ Garage Band ตัง้ ไลน์ของกลองเอาไว้กอ่ น แล้วเราก็อดั กีตาร์ลงไป ส่วนเสียงร้องก็รอ้ งผ่านไมโครโฟนของไอแพด เท่านีเ้ ราก็ได้เพลงเดโมแล้วครับ” เลือกให้โดย : ‘เป้’ - พัศวุฒิ ศิริอ�าพันธ์กุล นักร้องน�า วงเคลิ้ม

MOVIE

MUSIC Bruno Mars - Unorthodox Jukebox

หลังจากสร้างความฮิตถล่มทลายมาแล้วในอัลบั้มก่อนหน้านี้ด้วยยอดขาย 10 ล้านก๊อปปี้ กับเพลงฮิต อย่าง Just the Way You Are, Grenade, The Lazy Song หรือ Count on Me กลับมาคราวนี้ บรูโน มาร์ส นักร้องหนุ่มเจ้าของฉายา King of Love มาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ที่จัดเต็มกว่าเดิม ด้วยการเพิ่มเติมความหลากหลายทางดนตรีจากทุกยุคทุกสมัย ทุกแนวเพลง ตั้งแต่ส�าเนียงอิเล็กทรอนิกส์ในเพลง Moonshine ไปจนถึงร็อกหนักหน่วงในเพลง Gorilla รวมถึงซิงเกิ้ลเปิดตัวอย่าง Locked out of Heaven ที่มาพร้อมกับ กลิ่นอายดนตรีเรโทร เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเซ็กซี่ สนุกสนาน และความเร้าใจ แม้ฟังครั้งแรก จะไม่ติดหูเหมือนอัลบั้มที่แล้ว แต่ถ้าได้ลองฟังอย่างเปิดใจ รับรองว่าคุณจะหลงรักอัลบั้มนี้อย่างแน่นอน วางจ�าหน่ายแล้ววันนี้โดยวอร์นเนอร์ มิวสิก หรือดาวน์โหลดได้ทาง iTunes Store

The Host

ถ้าใครเป็นแฟนหนัง ชุด ทไวไลต์ คงพลาดไม่ได้ เด็ดขาดส�าหรับหนังแนว ไซ-ไฟ โรแมนติ ก เรื่ อ งนี้ เพราะดั ด แปลงมาจาก ผลงานวรรณกรรมเรื่ อ ง The Host ของนัก เขีย น ผู ้ ใ ห้ ก� า เนิ ด ทไวไลต์ อย่าง สเตฟานีย์ เมเยอร์ ซึ่งติดอันดับหนึ่งหนังสือ ขายดีของ นิวยอร์กไทม์ส ยาวนานถึง 26 สัปดาห์ หนั ง เล่ า ถึงโลกอนาคตที่ ผูค้ นต่างถูกปรสิตต่างดาว ยึดครองร่าง และควบคุม ความคิ ด มีเพียงไม่กี่คน เท่านัน้ ทีเ่ หลือรอด รวมถึง เมลานี สไตรย์ เ ดอร์ หญิงสาววัย 20 ที่แม้จะถูก ยึดครองร่าง แต่จิตใจเธอ กลับไม่ยอมแพ้ กลายเป็น กุ ญ แจดอกส� า คั ญ ที่ จ ะ ปลดปล่อยมนุษย์ทั้งโลก ให้ ร อดพ้ น จากการถู ก ยึ ด ครอง น� า แสดงโดย เซี ย ร์ ช า โรแนน จาก Atonement และ Hanna และ แมกซ์ ไอรอน จาก Red Riding Hood และ Dorian Gray ก�ากับและ เขี ย นบทโดย แอนดรู ว ์ นิ โ คล จาก In Time, Gattaca และ Lord of War เข้าฉาย 4 เมษายนนี้

MAGAZINE

Wallpaper*

“ถูกใจฉบับนี้เพราะมี Design Awards 2013 ที่ทางคณะกรรมการของนิตยสาร Wallpaper* จะรวมสุดยอดงานดีไซน์ แฟชั่น ศิลปะ สถาปัตยกรรม ที่เจ๋งๆ มาให้เราอ่านพร้อมเหตุผลสั้นๆ ว่าท�าไมพวกเขาถึงเลือก ท�าให้เรารู้ที่มาที่ไปและความเจ๋งโดยสังเขปของ งานดีไซน์ชิ้นนั้นๆ นอกจากนั้นยังมี 11 รางวัลพิเศษ ที่คัดเลือกและตัดสินโดยคณะกรรมการที่พิเศษไม่แพ้กัน รวมงานดีไซน์ใน Wallpaper* ฉบับนีเ้ ป็นเหมือนการเปิดโลกของการออกแบบให้กว้างและหลากหลายมากขึน้ เพราะงานออกแบบบางชิน้ เราก็ไม่เคยรูเ้ ลย ว่านอกจากสวยงามแล้ว มันมีความน่าสนใจอย่างไร ใครเป็นดีไซเนอร์ผู้อยู่เบื้องหลังงานออกแบบนั้น จะอ่านเป็นไอเดีย เป็นแรงบันดาลใจ หรืออ่านเพื่อเพิ่มเติมความรู้ด้านศิลปะก็สนุกทั้งนั้น ส่วนใครชอบเรื่องการออกแบบสถาปัตยกรรม ในเล่มนี้เขาอุทิศพื้นที่ 28 หน้าเต็มๆ ให้กับเรื่องราวของ Oscar Niemeyer สถาปนิกที่เขาว่าเป็นโมเดิร์นนิสต์คนสุดท้าย ซึ่งเสียชีวิตไปก่อนจะอายุครบ 105 ปี ไปเมือ่ ไม่นานมานี้ ภายใน 28 หน้านี้ มีรูปผลงานของเขาแบบจัดเต็มมากมายหลายหน้า เพื่อให้เราท�าความเข้าใจว่าอะไรท�าให้เขาเป็น สถาปนิกที่ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้” เลือกให้โดย : วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร a day BULLETIN

ACCESSORY

Toffee Nut Collection

สาวๆ คนไหนที่ ติ ด ใจ ของกระจุ ก กระจิ ก น่ า รั ก คงจะคุ ้ น เคยดี กั บ ร้ า น Live Out Loud ทีม่ ขี า้ วของเครือ่ งใช้ สารพัดประโยชน์ให้ทุกคนได้ เลือกช้อปกันทั้งแบบออนไลน์ และหน้าร้าน ล่าสุดทางร้าน ก็มีคอลเล็กชันใหม่มาให้ช้อป กั น อี ก ครั้ ง ทั้ ง Toffee Nut Friends สายห้ อ ยมือ ถือ ตัว การ์ตนู ทีม่ คี าแร็กเตอร์สดุ น่ารัก อีกทัง้ ยังสามารถใช้เช็ดหน้าจอ มื อ ถื อ ให้ ส ะอาดเอี่ ย มอ่ อ ง ได้อีกด้วย Toffee Nut Pouch กระเป๋านุม่ นิม่ ส�าหรับจัดระเบียบ ของที่ไม่เข้าที่เข้าทางให้เป็น ระเบียบ Toffee Nut Multipocket V.2 กระเป๋าใส่ดินสอ สุ ด น่ า รั ก ที่ ใ ครๆ เห็ น ก็ ต ้ อ ง หลงรัก สาวๆ คนไหนสนใจ มีไว้ครอบครองไม่ให้ตกเทรนด์ ติ ด ตามที่ Live Out Loud Select Shop ชัน้ 2 เมกาบางนา หรือที่ www.liveoutloudthailand. com

SHOP 8 Musique

ความสุขอย่างหนึ่งของคนรักเสียงเพลงคือ การได้ออกไปตามหาแผ่นไวนีลหรือแผ่นซีดีของศิลปินที่เราชื่นชอบ และยิ่งถ้าได้แผ่น แบบพิเศษที่ผลิตออกมาจ�านวนจ�ากัดด้วยแล้ว ก็จะยิ่งท�าให้หัวใจพองโตมากขึ้นไปอีก ถ้าคุณเป็นนักสะสมที่รักในการตามหา คอลเล็กชันเพลงโปรดแบบนี้เหมือนกัน ลองแวะเวียนมาเยี่ยมชมร้าน 8 Musique กันดูสิ เพราะที่นี่มีทั้งแผ่นเสียงและซีดีน�าเข้าจาก ต่างประเทศให้เลือกมากมาย มีครบทุกแนวดนตรี ทัง้ โซล ฟังก์ ฮิปฮอป อัลเทอร์เนทีฟ จนถึงเพลงในยุคปัจจุบนั ส่วนใครมีอลั บัม้ ทีอ่ ยากได้ อยูใ่ นใจ ก็สามารถฝากทางร้านให้ชว่ ยตามหาแผ่นได้เช่นกัน ร้าน 8 Musique ตัง้ อยูท่ อี่ าคาร 8 Thonglor (ทองหล่อ ซอย 8) สุขมุ วิท ซอย 55 รายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-2713-8366 หรือค้นหาในเฟซบุ๊กด้วยค�าว่า 8 Musique


29

CLOTHES

GAP - Spring 2013

ต้อนรับการกลับมาของฤดูใบไม้ผลิกับคอลเล็กชันแห่งวิวัฒนาการ The Evolution of Jeans ที่ Gap แบรนด์เสื้อผ้าสไตล์อเมริกัน แคชชวล ได้รวบรวมสีสันสดใสหลากหลายเฉดสีในยุคดิสโก้มาใช้อีกครั้ง อย่างสีชมพูสด สีเหลืองนีออน และสีเขียวมิ้นต์ พรั่งพร้อมด้วยการตกแต่งลวดลาย และเนื้อผ้าที่คัดสรรมาอย่างประณีต ส�าหรับสาวๆ จะเน้นการผสมผสานระหว่างความแมนของเบรเซอร์สีสด หรือเสื้อลายทาง กับความเป็นเฟมินีน เซ็กซี่เล็กๆ ของกางเกงขาสั้น ส�าหรับหนุ่มๆ ยังคงเน้นไปที่ความเรียบง่าย อย่างเสื้อโปโล เชิ้ต และแจ๊กเก็ต ที่เน้นความเบาสบายของเนื้อผ้า และสามารถใส่เลเยอร์กับเสื้อผ้าอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ร่วมสัมผัสคีย์พีซชิ้นเด็ดและสนุกไปกับการมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าแนวอเมริกัน แคชชวล ได้ที่ร้าน Gap ทั้ง 7 สาขา เซ็นทรัลเวิลด์, สยามพารากอน, พาราไดซ์ พาร์ค, เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว, เซ็นทรัล พลาซ่า แกรนด์ พระรามเก้า, รอยัล การ์เดน พลาซ่า พัทยา และสาขาเมกาบางนา

EXHIBITION Parallel

นิทรรศการภาพเขียน Parallel จากผลงานของ ดอกเตอร์ สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะ สถาปัตยกรรม และ อลิซาเบธ รอมฮิลด์ ศิลปินชาวเดนมาร์ก ซึ่งจับมือร่วมกันน�าเสนอผลงานทางศิลปะที่มีมุมมอง เกี่ยวกับผู้หญิง โดยภาพเขียนของดอกเตอร์สุเมธจะสื่อถึงความสนใจในประดิษฐกรรมและโครงสร้างเป็นหลัก ส่วนของอลิซาเบธนั้น ภาพเขียนของเธอจะแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความเป็นอิสตรี ซึ่งเน้นเนื้อหาทางด้านอารมณ์ และตัวตนอย่างสุดขั้ว ส่วนการจัดแสดงผลงานนั้นจะเป็นการวางภาพเขียนของศิลปินทั้งสองท่านไว้คู่กันเพื่อให้ผู้ชม พบกับความละม้ายคล้ายคลึงทีซ่ อ่ นอยูใ่ นความแตกต่างของภาพเขียน ร่วมพิสจู น์ความเป็นปัจเจกบุคคลอย่างสุดขัว้ ได้แล้วที่ละลานตา ไฟน์อาร์ต สุขุมวิท ซอย 31 เปิดแสดงวันอังคารถึงวันเสาร์ เวลา 10.00-19.00 น. เริ่มแสดงผลงาน 30 มีนาคม-9 พฤษภาคม 2556 รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.lalanta.com

COSMETIC

SWEET Choux Creme

“ปกติเป็นคนไม่คอ่ ยทานของหวานครับ เพราะพอเข้าหลักสาม พุงจะออกเร็วมาก ผมเลยจะเลื อ กทานเฉพาะขนมที่ ช อบ จริงๆ อย่างเช่น ชูครีมรสชาติดั้งเดิมจาก ประเทศฝรั่งเศสของร้าน Choux Creme ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงความกรอบนอกนุ่มใน ส่วนไส้ข้างในก็มีความหลากหลาย ทั้งรส ดั้งเดิมอย่างวานิลลา ช็อกโกแลต ชาเขียว หรือรสพิเศษประจ�าวันอย่างชาไทย กาแฟ มอคคา สตรอว์เบอรี ชาเอิร์ลเกรย์ หรือ นูเทลลา ซึ่งออกแบบมาในขนาดก�าลังดี ที่ส�าคัญคือร้านดูมีรสนิยม และพนักงาน ใจดีมาก มากินแล้วรู้สึกคุ้มหวานครับ” พบกับร้าน Choux Creme ได้ที่ชั้นใต้ดิน สี ล มคอมเพล็ ก ซ์ หรื อ ติ ด ตามความเคลื่ อ นไหวได้ ที่ www.facebook.com/ CHOUXCREMETHAILAND เลื อ กให้ โ ดย : นภพั ฒ น์ จั ก ษ์ อัตตนนท์ ผู้สื่อข่าวเครือเนชัน

GIVE Baan Gerda

บ้านแกร์ดา้ เป็นองค์กรการกุศลทีด่ แู ลเด็กก�าพร้าทีต่ ดิ เชือ้ เอชไอวี ตัง้ อยูท่ จี่ งั หวัดลพบุรี โดยเด็กๆ จะอยู่รวมกันบ้านละ 10-12 คน มีพ่อแม่ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีเหมือนกันเป็นผู้ดูแล ดังนั้น เด็กแต่ละคนจึงเหมือนมีครอบครัวของตัวเอง มีพ่อแม่พนี่ ้องของตัวเอง นอกจากนี้ ทางบ้านแกร์ด้า ยังมีฝ่ายการพยาบาลที่จะคอยดูแลเรื่องการรักษาพยาบาล การให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีอย่างถูกต้อง แก่เด็กๆ ทุกคน ทางบ้านจึงมีภาระหน้าทีใ่ นการหายาต้านให้เด็กทุกคนอย่างสม�า่ เสมอ ทัง้ นี้ บ้านแกร์ดา้ อยู่ในความดูแลของมูลนิธิสิทธิเด็ก โดยทางมูลนิธิฯ ยินดีรับความช่วยเหลือทางการเงินจากทุกท่าน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.baangerda.org หรือ www.facebook.com/BaanGerda.Thai

Panpuri Soothing Summer Set

ก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาซัมเมอร์อันแสน สดใส ก็ถึงเวลาที่เราจะได้เผยผิวขาว กระจ่างใสต้อนรับความสดชืน่ ของฤดูรอ้ น ทั้ ง ในวั น ธรรมดาและยามเดิ น ทางไป พั ก ผ่ อ นในช่ ว งสุ ด สั ป ดาห์ ปั ญ ญ์ ปุ ริ (Panpuri) ผลิตภัณฑ์ลักซ์ชัวรีสกินแคร์ และอโรมาเธอราปี จึงชวนสาวๆ มา ปรนนิบัติและเติมอาหารให้ผิวด้วยเซต พิ เ ศษดู แ ลผิ ว ต้ อ นรั บ ซั ม เมอร์ ซู ธ ติ้ ง ซัมเมอร์ เซต (Soothing Summer Set) เพื่อให้รางวัลและเติมความชุ่มชื้นให้ผิว กระจ่างใส พร้อมจะท้าทายสายลมร้อน ในซั ม เมอร์ สุ ด หรรษานี้ โดดเด่ น ด้ ว ย ส่วนผสมของสมุนไพร พืชพรรณธรรมชาติ และดอกไม้ จ ากดิ น แดนตะวั น ออก ปราศจากน�้ า หอม ส่ ว นผสมของสาร กันเสีย (Paraben-free) และสารท�าความสะอาด (SLS-free) จึงอ่อนโยนต่อทุก สภาพผิวแม้ผวิ บอบบางแพ้งา่ ย ติดตาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.panpuri.com และ www.facebook.com/panpurionline


36

SHOPPING!

สมาร์ตโฟน รุ่น LUMIA 620 จาก Nokia

สมาร์ตโฟน รุ่น Galaxy SIII Mini จาก Samsung

แทบเล็ต รุ่น Galaxy Tab 2 ขนาด 7 นิ้ว จาก Samsung

แทบเล็ต รุ่น Memo Pad จาก Asus

สมาร์ตโฟน รุ่น Find 5 จาก Oppo

กล้องดิจิตอล ชนิดถอดเปลี่ยนเลนส์ ได้ จาก Olympus

กล้องดิจิตอล ชนิดถอดเปลี่ยนเลนส์ ได้ จาก Olympus

เครื่องชงกาแฟ จาก Nescafe Dolce Gusto Krups

หุ่นยนต์ ทำาความสะอาดพื้น จาก LG

เทคโนโลยีกับชีวิตของคนเมืองดูเหมือนจะตัดกันไม่ขาด ถ้าลองหันไป มองดูความเป็นไปของเมืองใหญ่นี้กันสักนิด จะพบว่ามีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่มีความทันสมัยไฮเทคเข้ามาทักทายชีวิตเราอยู่เสมอ และคงปฏิเสธไม่ได้ ว่าสิ่งของพวกนั้นทำาให้ชีวิตของพวกเราสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม ด้วย แล้วคุณล่ะ อัพเดตสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเองกันแล้วหรือยัง... เครื่องฟอกอากาศระบบพลาสมาคลัสเตอร์ จาก Sharp

กล้องดิจิตอล รุ่น X-E1 จาก Fujifilm

WHERE สินค้ามีจำาหน่ายที่ Power Mall ในห้างสรรพสินค้า The Mall ทุกสาขา

กล้องดิจิตอลชนิดถอดเปลี่ยนเลนส์ ได้ จาก Olympus

กล้องดิจิตอล สีชมพู จาก Samsung

โทรทัศน์ 40 นิ้ว ความละเอียด Full HD จาก Toshiba

เครื่องชงกาแฟ จาก Bosch โฮมเธียเตอร์ รุ่น HTB9150 จาก Philips

สมาร์ตทีวี 3D จาก Samsung


CALENDAR

38

FRI

MON

TUE

Paradise Park Summer Spirit in Switzerland

Designing a Happy Journey : Reviving Kyushu ซัมเมอร์นี้ พาราไดซ์ Through Creativity

พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ ชวนมาช้ อ ปท้ า ร้ อ น เพื่อลุ้นไปหนาวสะท้าน ทีส่ วิตเซอร์แลนด์ กับงาน ‘Paradise Park Summer Spirit in Switzerland’ ช้อปครบทุก 1,000 บาท ลุ ้ น แพ็ ก เกจสุ ด หรู เ ที่ ย ว สวิตเซอร์แลนด์ หรือพัก โรงแรมทีเ่ กาะเสม็ด วันนี้ ถึง 6 พฤษภาคม 2556 ณ ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ถ.ศรีนครินทร์

นิทรรศการ ‘รถไฟสาย ความสุข... เศรษฐกิจใหม่ จากรางสูเ่ มือง’ นิทรรศการ จากประเทศญี่ปุ่ น เมื่อ การเดิ น ทางด้ ว ยรถไฟ ไม่ ใ ช่ แ ค่ ก ารคมนาคม แต่ ส ร้ า งประสบการณ์ การนัง่ รถไฟให้เป็นส่วนหนึง่ ของความสุขและความสนุก ของการเดิ น ทาง วั น นี้ ถึง 26 พฤษภาคม 2556 ณ ห้องนิทรรศการ 2 TCDC, ชั้น 6 เอ็มโพเรียม โทร. 0-2664-8448 ต่อ 213, 214 (เว้นวันจันทร์)

WED

THU

J’aime Regarder Les Filles

Musk-Love

เชิ ญ ชมภาพยนตร์ ฝรั่ ง เศสเรื่ อ ง ‘J’aime Regarder Les Filles’ เมื่อปรีโม ลูกชายเจ้าของ ร้ า นขายของเล็กๆ ใน ต่างจังหวัด เคลิบเคลิ้ม ไปกับเสน่หข์ องกาบรีแอล และพวกเพื่อนหญิงจาก สังคมชนชั้นกลาง เขาจึง แต่ ง ประวั ติ ช าติ ต ระกู ล ของตัวเองขึ้นใหม่ และ เติ ม เต็ ม กระเป๋ า เงิ น ที่ว่างเปล่าด้วยวิธีที่โลดโผน ชมฟรี วันนี ้ เวลา 19.30 น. ณ สมาคมฝรัง่ เศส กรุงเทพ โทร. 0-2670-4231

นิ ท รรศการศิ ล ปะ ‘กลิน่ ร้อนซ่อนรัก’ เชิญชวน ศิ ล ปิ น มาร่ ว มกั น ค้ น หา ความหมายของ ‘กลิ่น’ ทีซ่ อ่ นอยูใ่ นสัญชาตญาณ ดิ บ และแสดงออกถึ ง อิทธิพลอันน�ามาซึง่ ความเสน่ หา ความต้ องการ ผ่ า นผลงานของศิ ล ปิ น แต่ ละคน และกลิ่นอัน เย้ า ยวนเฉพาะตั ว ใน ผลงานแต่ ล ะชิ้ น วั น นี้ ถึ ง 30 เมษายน 2556 ณ Galerie N ถ.วิ ท ยุ โทร. 0-2252-1592 (เว้น วันอาทิตย์-จันทร์)

available now! $ 1.99

Big 80’s REWIND Festival

มหกรรมคอนเสิ ร ์ ต ที่ ไ ม่ น ่ า เกิ ด ขึ้ น ได้ ข อง 5 ศิ ล ป ิ น ร ะ ดั บ โ ล ก เจ้าของเพลงฮิตมากมาย - Rick Astley, Belinda Carlisle, Tony Hadley, Johnny Hates Jazz และ Village People วันนี้ เวลา 20.00 น. ณ ไบเทค บางนา (ฮอลล์ 106) จ�าหน่ายบัตร ที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์

30 31 SAT

SUN

ซิมโฟนีแห่งชีวติ

ร�ำลึกจิตรกรรม ค�ำกวี อังคำร กัลยำณพงศ์

ขอเชิ ญ ร่ ว มเสวนา เรื่ อ งชี วิ ต และผลงาน บนเส้ น ทางสายดนตรี คลาสสิกของ ผศ. พันเอก ชูชาติ พิทักษากร ศิลปิน แห่ ง ชาติ สาขาศิ ล ปะ การแสดง (ดนตรีสากล) ปี พ.ศ. 2553 ผูจ้ ดุ ประกาย ให้ กั บ วงการวิ โ อลาใน ประเทศไทย พร้อมรับชม การแสดงดนตรี วั น นี้ เวลา 16.00-18.30 น. ณ ห้ อ งออดิ ท อเรี ย ม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรม แห่ ง กรุ ง เทพมหานคร โทร. 0-2214-6630-8

ร่วมย้อนความทรงจ�า ในนิ ท รรศการ ‘ร� า ลึ ก จิตรกรรม ค�ากวี อังคาร กัลยาณพงศ์’ รวบรวมงาน วรรณกรรม งานจิตรกรรม และงานร่วมวิจัยคัดลอก จิตรกรรมโบราณ เมือ่ ครัง้ ที่ไ ด้ มี โ อกาสท� า งานกั บ อาจารย์ เฟื้อ หริพิทักษ์ ของ อังคาร กัลยาณพงศ์ วันนีถ้ งึ 30 เมษายน 2555 ณ ห้ อ งสตู ดิ โ อ ชั้ น 4 หอศิ ล ปวั ฒ นธรรมแห่ ง กรุงเทพมหานคร (เว้นวัน จันทร์) โทร. 0-2214-6630-8 (เว้นวันจันทร์)


40

365 DAYS OF HAPPINESS เรื่อง : เอกพล บรรลือ ภาพ : กฤตธกร สุทธิกิตติบุตร


41

ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าใน 365 วันของ แต่ละคน จะได้พบเจอกับอะไรบ้าง บางวันอาจเป็น วั น ท� า งานที่ แ สนหนั ก หน่ ว ง ขณะที่ บ างวั น อาจ หมายถึงการพักผ่อนหย่อนใจด้วยกิจกรรมสุดโปรด แม้จะไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวัน พรุง่ นี้ แต่สงิ่ ทีน่ า่ จะท�าได้ดที สี่ ดุ ก็คอื การเตรียมพร้อม รับมือสิ่งต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเริ่มจากสิ่งที่ ส�าคัญทีส่ ดุ ในชีวติ อย่าง ‘บ้าน’ ทีส่ ามารถตอบโจทย์ ทุกความต้องการของชีวิตในทุกๆ วันได้อย่างลงตัว ซึ่งตรงกับแนวความคิดในการออกแบบโครงการ ‘Areeya Daily’ ทาวน์โฮม 3 ชั้น โครงการใหม่ล่าสุด ที่ เชินชิน เชิดชูชัย Senior Vice President Brand Corporate ผูอ้ ยูเ่ บือ้ งหลังความสมบูรณ์แบบของ บริษทั อารียา พรอพเพอร์ตี้ จ�ากัด (มหาชน) ตัง้ แต่ภาพลักษณ์ รวมถึงรายละเอียดทุกตารางนิ้วของ Areeya Daily จะมาบอกเล่าให้เราได้รับรู้ “สิ่งที่เราพยายามท�าในโครงการ Areeya Daily ก็คือ การสร้างฟัง ก์ชัน และวิถีชีวิต รู ป แบบใหม่ ให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิต 365 วัน ภายในบ้านอย่าง มีความสุขทีส่ ดุ ไม่วา่ จะเป็นช่วงเวลาทีอ่ ยากพักผ่อน หรือช่วงเวลาที่ต้องท�างานหนัก บ้านหลังนี้จะปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตลอดเวลา เพราะคนส่วนใหญ่ จะคิ ด ว่ า บ้ า นก็ คื อ บ้ า นซึ่ ง มี ไ ว้ ส� า หรั บ อยู ่ อ าศั ย หรื อ พั ก ผ่ อ นเท่ า นั้ น โดยเฉพาะบ้ า นหลั ง เล็ ก ซึ่ ง เจ้ า ของบ้ า นบางคนอาจจะไม่ อ ยากเชิ ญ ใคร มาบ้านด้วยซ�้า แต่วันนี้เราอยากท�าให้บ้านเป็น มากกว่าที่อยู่อาศัย ซึ่งบ้านหลังนี้อาจจะกลายเป็น work studio หรือ home offififfiice ไว้ส�าหรับท�างาน เป็นสถานที่จัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆ หรือพอลูกโตขึ้นมา หน่อย เพื่อนลูกอาจจะอยากมาท�าการบ้านที่บ้าน หลังนี้ ซึ่งเขาก็จะมีพื้นที่ส่วนตัวของเขาเอง เรียกว่า บ้ า นหลั ง นี้ ส ามารถตอบโจทย์ ทุ ก รู ป แบบของ การใช้ชีวิตทุกวันได้อย่างแท้จริง” นอกจากจะตอบโจทย์ในทุกช่วงเวลาของชีวิต แล้ว บ้านหลังนีย้ งั ตอบโจทย์คนรุน่ ใหม่ในการตกแต่ง บ้านตามสไตล์ที่ต้องการอย่างง่ายดายอีกด้วย

“เราเชื่อว่าคนรุ่นใหม่จ�านวนมากเริ่มให้ความสนใจกับเทรนด์การตกแต่งบ้านในสไตล์ต่างๆ กัน มากขึน้ แต่ในเชิงปฏิบตั แิ ล้วอาจเป็นเรือ่ งยากทีจ่ ะ ตกแต่งบ้านให้สวยตามสไตล์ทตี่ วั เองชอบ เพราะฉะนัน้ ในฐานะผู้พัฒนาและผู้ออกแบบโครงการ เราจึง พยายามจะสร้างสรรค์พื้นที่ที่จะท�าให้การตกแต่ง บ้ า นกลายเป็ น เรื่อ งง่ า ยขึ้น โดยเรามุ่ ง เน้ น ไปที่ การออกแบบพื้น ที่ใ ห้ มีสัด ส่ ว นที่ล งตัว เพีย งใส่ รายละเอียดไปนิดๆ หน่อยๆ ก็สวยแล้ว ซึ่งเวลาที่ เราออกแบบ เราคิดอยูบ่ นพืน้ ฐานทีล่ กู ค้าแต่ละคน อาจจะมีงบประมาณตกแต่งบ้านไม่เท่ากัน ซึง่ ส�าหรับ คนทีม่ งี บน้อย ก็สามารถวางแค่เฟอร์นเิ จอร์ธรรมดา โดยไม่ตอ้ งตกแต่งอะไรมากก็สามารถอยูแ่ บบสบายๆ ตลอด 365 วัน ได้เช่นกัน โดยอุปกรณ์มาตรฐานทีเ่ รา มีให้กบั บ้านทุกหลังก็คอื พืน้ กระเบือ้ งทัง้ หลัง ห้องน�า้ ในตัวส�าหรับทุกห้องนอน ประตูบานเลือ่ นขนาดใหญ่ ทัง้ หน้าบ้านและหลังบ้าน รวมถึงการแบ่งพืน้ ทีอ่ ย่าง เป็นสัดส่วนโดยค�านึงถึงการใช้ชีวิตจริงเป็นหลัก” ความสุ ข อาจเป็ น สิ่ ง ที่ ไ ม่ ส ามารถประเมิ น ออกมาเป็ น มู ล ค่ า ได้ แต่ ค วามสุข ที่คุณ จะได้ รับ จากบ้านหลังนี้คุ้มค่าแค่ไหน ต้องลองมาฟังกัน “ถ้าถามถึงความคุ้มค่าของบ้านหลังนี้ คงบอก ได้ค�าเดียวว่าคุ้มเกินคุ้ม เพราะในราคาประมาณ 3.89 ล้านบาท กับทาวน์โฮม 3 ชั้น บนท�าเลเกษตรนวมินทร์ ซึ่งถือเป็น sub urban ที่กา� ลังน่าจับตา มอง บวกกั บ จ� า นวนห้ อ งและพื้ น ที่ ใ ช้ ส อยแล้ ว เมื่ อ หารออกมาเป็ น ตารางเมตรก็ ถื อ ว่ า คุ ้ ม มาก โดยเฉพาะส� า หรั บ คนที่ คิ ด จะซื้ อ คอนโดมิ เ นี ย ม ในราคา 3 ล้ า นปลายๆ เราว่ า โครงการนี้ เ ป็ น อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะคุณจะได้ ทั้งพื้นที่บนดิน มีสวนหน้าบ้าน ที่ส�าคัญคือมีพื้นที่ ส่วนกลางทีก่ ว้างขวาง ทัง้ คลับเฮาส์สา� หรับคนทีช่ อบ ออกก�า ลัง กาย และพื้น ที่สีเ ขีย วส�า หรับ สมาชิก ทุกคนในครอบครัว ซึ่งปกติแล้วทาวน์โฮมในราคา แบบนี้จะไม่ค่อยมีพื้นที่ส่วนกลางเหล่านี้ให้ครับ”

โครงการ Areeya Daily เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ประกอบไปด้วย 1 ห้องนอนใหญ่ แบบ Enchanting Grand Suite และ 2 ห้องนอน พร้อมห้องน�า้ ในตัวทุกห้อง ตั้งอยู่บนท�าเลที่ดีที่สุดของถนนเกษตร-นวมินทร์ ใกล้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ แหล่งใหม่ของกรุงเทพฯ ราคาเริม่ ต้นเพียง 3.89 ล้านบาท ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.areeya.co.th หรือโทร. 1797 กด 34


42

HEALTH

HEALTH TIPS

3 WAYS TO KEEP CANCER AWAY

จากการคาดการณ์ของ National Cancer Institute สหรัฐอเมริกา ระบุ ว ่ า หากพฤติ ก รรมการใช้ ชี วิ ต ของผู ้ ค นบนโลกไม่ เ ปลี่ ย นแปลง มีความเป็นไปได้ว่า 1 ใน 2 ของผู้ใหญ่ในอนาคต จะมีโอกาสเป็นโรคมะเร็ง เพือ่ เป็นการหลีกเลีย่ งสภาวะดังกล่าว เราจึงขอแนะน�าวิธกี ารทีจ่ ะท�าให้คณ ุ ห่างไกลโรคมะเร็ง ดังต่อไปนี้

7

• เลื อ กใช้ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ เ ครื่ อ งส� า อางอย่ า งระมั ด ระวั ง เพราะสิ่งที่ใช้อุปโภคบริโภคในชีวิตประจ�าวันของเราแต่ละคน ล้วนมีผลต่อความเสีย่ งทีจ่ ะเป็นมะเร็งชนิดต่างๆ อย่างไม่นา่ เชือ่ ไม่วา่ จะเป็นผลิตภัณฑ์ทใี่ ช้กบั เส้นผม ใบหน้า ฟัน ร่างกาย เล็บ เป็นต้น โดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เน้นว่า สิ่งที่ผู้บริโภค ควรระมั ด ระวั ง ในการเลื อ กใช้ ม ากที่ สุ ด คื อ เครื่ อ งส� า อาง เพราะเครื่องส�าอางบางชนิดอาจมีสารเคมีที่เป็นสารก่อมะเร็ง เช่น พาราเบนส์, ฟอร์มาลดีไฮด์ ฯลฯ • ตรวจดูวา่ ผลิตภัณฑ์ทา� ความสะอาดทีใ่ ช้ในบ้านมีความปลอดภัย เนื่องจากผลิตภัณฑ์ท�าความสะอาดที่มีขายใน ท้ อ งตลาดจ� า นวนมากมี ส ่ ว นผสมของสารอั น ตราย เช่ น โซเดียมไฮโปคลอไรต์, แอมโมเนีย, ไนโตรเบนซีน ฯลฯ และ หากร่ า งกายได้ รั บ สารเหล่ า นี้ ส ะสมเข้ า ไปในปริ ม าณมาก ก็อ าจกระตุ้ นให้ เ กิด มะเร็ง ได้ จึง ควรเลี่ย งมาใช้ ผลิต ภัณ ฑ์ ที่ ท� า มาจากวั ต ถุ ดิ บ จากธรรมชาติ ห รื อ ได้ รั บ การรั บ รองว่ า มีความปลอดภัยแทน • เลือกทานพืชผักออร์แกนิก หรือผักผลไม้ปลอดสารพิษ เพราะนอกจากคุ ณ จะได้ ท านอาหารที่ มี ค วามสดใหม่ แ ล้ ว ยังท�าให้คุณห่างไกลจากสารกันบูดและยาฆ่าแมลงจากฟาร์ม ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคมะเร็ง นักวิจัย แนะน�าให้ทานพืชที่มีไลโคปีนสูง เช่น มะเขือเทศ เนื่องจาก มีคุณสมบัติชะลอการเติบโตของเซลล์เนื้องอกได้ หรือไม่ก็ อาจเลือกทานผลไม้ตระกูลเบอรี เพราะมีการศึกษาแล้วว่า มีสารต้ า นอนุมูลอิสระสู ง มีฤ ทธิ์ลดอาการอัก เสบ ป้ อ งกัน มะเร็งปอดและมะเร็งล�าไส้ได้ ที่มา : www.hufffiifingtonpost.com

Q : ไส้ ก รอก แฮม เบคอน เพิ่ ม ควำมเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จริงหรือไม่ A : จริง เนื่องจากมีการศึกษาในวารสาร

BMC Medicine ระบุว่า เกลือ ไขมัน และ สารเคมีทใี่ ช้เป็นวัตถุกนั เสียส�าหรับผลิตภัณฑ์ แปรรู ปจากเนื้อ สัต ว์ เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน เป็นสาเหตุทที่ า� ให้สขุ ภาพของผูบ้ ริโภค แย่ลงและเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ ทั้งนี้ นักวิจยั ได้เผยผลการศึกษาจากกลุม่ ตัวอย่าง ราว 500,000 คน ใน 10 ประเทศของทวีป ยุโรป เป็นเวลา 13 ปี และพบว่า 1 ใน 17 ของทั้งหมด เสียชีวิตในระหว่างการศึกษา ซึ่งเป็นผู้ที่ทานผลิตภัณฑ์แปรรูปมากกว่า 160 กรัมต่อวัน เทียบเท่าการทานไส้กรอก 2 ชิน้ และเบคอน 1 ชิน้ โดย 44% ของผูท้ ที่ าน ผลิตภัณฑ์แปรรูปมากกว่า 160 กรัมต่อวัน มีสถิตเิ สียชีวติ ก่อนผูท้ ที่ านผลิตภัณฑ์แปรรูป น้อยกว่า 20 กรัม เฉลีย่ 12.74 ปี ทัง้ นี้ ปริมาณ ทีร่ ฐั บาลอังกฤษแนะน�าคือ คนเราไม่ควรทาน เนือ้ แดงหรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนือ้ สัตว์ เกินกว่า 70 กรัมต่อวัน เทียบเท่าเบคอน 2 ชิน้ ที่มา : www.bbc.co.uk

มีก ารศึ ก ษาพบว่ า กระเที ย มมี คุ ณ สมบั ติป้ อ งกั น พิ ษ จากแคดเมี ยมและตะกั่ ว ไม่ให้มีผลต่อไตได้ โดยปริมาณที่แนะน�าให้ทานคือ 7 กลีบต่อวัน

HEALTH NEWS อเมริกันเผย เครื่องดื่มที่มีน�้ำตำลสูงมีส่วนเกี่ยวข้องกับ กำรเสียชีวิต 180,000 รำยต่อปี มีข้อมูลจากการประชุมของ American Heart Association ระบุว่า เครื่องดื่มที่มีน�้าตาล เป็นส่วนผสมในปริมาณมาก เช่น น�้าอัดลม เครื่องดื่มส�าหรับนักกีฬา ซอฟต์ดริงก์ และน�้าผลไม้ บางชนิด มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของคนทั่วโลกราว 180,000 คนต่อปี เนื่องจากเครื่องดื่ม เหล่านีส้ ง่ ผลให้ผบู้ ริโภคมีนา�้ หนักเพิม่ ขึน้ ซึง่ เป็นปัจจัยหนึง่ ทีท่ า� ให้ปว่ ยเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และมะเร็งบางชนิด จากสถิติในปี ค.ศ. 2010 นักวิจัยพบว่า การบริโภคเครื่องดื่มที่มีน�้าตาลสูง มีสว่ นเกีย่ วข้องกับการเสียชีวติ ของผูป้ ว่ ยโรคเบาหวาน 133,000 ราย ผูป้ ว่ ยโรคหัวใจ 44,000 ราย และผู้ป่วยโรคมะเร็ง 6,000 ราย ทั้งนี้ จ�านวนผู้เสียชีวิตดังกล่าวเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศที่มีรายได้ ระดับสูงมากกว่าประเทศรายได้ระดับต�่าและกลาง อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีประเทศที่มีรายได้สูง แต่บริโภคเครือ่ งดืม่ ทีม่ นี า�้ ตาลในระดับต�า่ คือ ญีป่ นุ่ กล่าวคือคนญีป่ นุ่ มีอตั ราผูเ้ สียชีวติ ด้วยสาเหตุนี้ เพียง 10 ใน 1 ล้านคนเท่านั้น ที่มา : www.eurekalert.org


44

HEART

HEART TIPS

TO BE A LUCKY ONE

ถ้าหากว่าอ่านหัวเรื่องแล้วคิดว่านี่อาจเป็นการแนะน�าวิธีเสี่ยงโชค ซื้ อ ลอตเตอรี่ หรื อ เกมอื่ น ๆ ที่ ใ ช้ ด วงเป็ น อาวุ ธ คุ ณ อาจไม่ ไ ด้ เ จอ เรื่องเหล่านั้นในสิ่งที่เราจะชวนคุณมาพูดคุยในครั้งนี้ เพราะโชคดีหรือ ‘Lucky’ ที่กล่าวถึง คือการใช้ชีวิตโดยเปิดโอกาสให้ตัวเองเจอกับสิ่งที่ดี ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

• ไม่ ต ้ อ งใช้ เ หตุ ผ ลทุ ก ครั้ ง ที่ คิ ด ก็ ได้ โดย ร็อ บ ไวต์ นักพูดและคอลัมนิสต์จาก Huffiffiingtonpost.com กล่าวว่า บางครั้งเราก็อาจต้องโยน ‘Book of Reasons’ ในหัวของ ตัวเองทิ้งไปบ้าง หรืออาจพูดได้ว่า บางครั้งเราก็อาจต้อง มองตัวเองและโลกรอบตัวในแบบทีต่ า่ งจากเดิม เพราะบางที โอกาสทีไ่ ม่เคยมาถึงอาจเป็นเพราะตัวคุณเองไม่เปิดโอกาส ให้มันก้าวเข้ามาก็เป็นได้ • มองหาโอกาสในทีท่ คี่ ณ ุ ไม่เคยมองเห็น อย่างทีศ่ าสตร์ ตะวันออกเคยกล่าวว่า ในโลกใบนี้มีสมดุลที่เรียกว่าหยินหยาง การใช้ชีวิตก็ไม่ต่างไปจากนั้น คงไม่มีอะไรหรือใครที่ หยิบยืน่ พลังด้านลบโดยไม่มเี รือ่ งทางบวกสอดแทรกอยูเ่ ลย และทันทีทคี่ ณ ุ มองเห็นโอกาสท่ามกลางสถานการณ์เลวร้าย โชคดีของคุณก�าลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว • เมือ่ รูส้ กึ ว่าเดินผิดทาง ให้มองหาจุดยูเทิรน์ ให้เร็วทีส่ ดุ คอลัมนิสต์คนเดิมใช้สา� นวนภาษาอังกฤษเกีย่ วกับเรือ่ งนีว้ า่ “Turn whining into winning.” หรือให้เปลีย่ นความโศกเศร้า ครวญคราง เป็นชัยชนะ เพราะเมือ่ ไหร่ทเี่ รายังคงไม่ยอมแพ้ ต่อสิ่งที่ประสบมา เราจะพบว่าชีวิตมีจุดเปลี่ยนจากผิดเป็น ชอบได้เสมอ และเมือ่ ไหร่ทคี่ ณ ุ ออกสตาร์ทจากจุดนัน้ มาได้ ชัยชนะก็จะอยู่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังไม่ยอมแพ้ เหมือนกับประโยคทีม่ คี นเคยพูดไว้วา่ “A winner never quits, and a quitter never wins.” ที่มา : www.hufffiifingtonpost.com

LET’S TAKE CARE OUR FOUR-LEGGED FRIENDS

กิจกรรมทีเ่ ราขอชวนผูน้ ยิ มสุขทัง้ หลาย มาท�ากันแบบเพลินๆ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ มีชื่อว่า ‘เปิดโลกอาสาครั้งที่ 6 : อาสา ช่วยเพื่อนสี่ขา’ จัดขึ้นโดยความร่วมมือ ของกลุ่ ม Thai Bangkeaw Club กลุ่ ม Dog Nation : ทีม(เพือ่ )ชาติหมา และกลุม่ The Voice : เสียงจากเรา สนับสนุนโดย ส� า นั ก งานกองทุ น สนั บ สนุ น การสร้ า งเสริ ม สุ ข ภาพ (สสส.) ซึ่ ง เปิ ด โอกาส ให้คนรักสัตว์ทั้งหลายมาร่วมท�ากิจกรรม อาสาช่วยเจ้าตูบด้วยวิธตี า่ งๆ ตามความถนัด ไม่ว่าจะเป็นรักษาโรค หาบ้านให้ ไปจนถึงร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อสิทธิสัตว์ ในประเทศไทย โดยงานจะมีขนึ้ ในวันเสาร์ ที่ 6 เมษายน 2556 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ชั้น 2 บ้านพักกรุงเทพคริสเตียน (ลง BTS ศาลาแดง ทางออก 2) สามารถ ลงทะเบี ย นเพื่ อ เข้ า ร่ ว มโครงการได้ ที่ www.JitArsaBank.com หรือ สอบถาม รายละเอี ย ดเพิ่ ม เติ ม ได้ ที่ คุ ณ เพ็ ญ จุ รี JitArsaBank@gmail.com

“เวลาในชีวิตคนเรามีไม่มากนัก อย่าเสียเวลากับคำาคนจนไม่เป็นอันทำาอะไร เรื่องนินทา สรรเสริญ ไม่มีใครหลีกพ้นได้ มีคนรักก็มีคนชัง มีสุขเดี๋ยวทุกข์ก็มา” พระมหำวุฒิชัย วชิรเมธี

ถ้าจะให้นึกถึงแบรนด์เสื้อผ้าสุดเก๋ของหนุ่มสาวแฟชั่นนิสต้าในปัจจุบัน เชื่อว่า Zara คงจะติด Top 10 อย่างแน่นอน และด้วยความนิยมอย่างล้นหลามจากทั่วทุกมุมโลกนี้เองที่ท�าให้ อำมำนคิโอ ออร์เตกำ นักธุรกิจชาวสเปนผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้ มีเงินในบัญชีเพิ่มขึ้นทุกวัน จนล่าสุดติดอันดับ 3 ของมหาเศรษฐีผู้ร�่ารวยที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของนิตยสาร ฟอร์บส์ เราจึงขอชวนคุณมาฟังเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาของผู้ชายคนนี้... Name : Amancio Ortega Nationality : Spanish Born : 28 March 1936 Age : 76

“I love working too much to take time off.” <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<

ที่มา : www.businessinsider.com, www.forbes.com, http://en.wikipedia.org/ wiki/Zara_(retailer)

• อามานคิโอ ออร์เตกา เกิดและโตที่เมืองเลออนของสเปน ต่อมา เมือ่ อายุ 14 ปี เขาย้ายตามพ่อไปอยูท่ เี่ มืองอาโกรูญา และหางานท�า จนได้เป็นคนงานในร้านตัดเสือ้ เชิต้ ชือ่ ว่า Gala ต่อมาในปี ค.ศ. 1972 เขาได้เปิดกิจการของตัวเองชือ่ ว่า Confecciones Goa ขายเสือ้ คลุมอาบน�า้ • ต่อมาในปี ค.ศ. 1975 อามานคิโอเปิดห้องเสือ้ ของตัวเองทีด่ าวน์ทาวน์ ของเมืองอาโกรูญา ในครัง้ แรกเขาตัง้ ใจจะใช้ชอื่ ว่า Zorba แต่พอรูว้ า่ ชื่อซ�้ากับบาร์ที่อยู่ 2 บล็อกถัดไป และเนื่องจากเขาได้สั่งให้โรงงาน หล่อบล็อกเพือ่ ท�าป้ายชือ่ ร้านไปแล้ว จึงคิดชือ่ ใหม่จากตัวอักษรเดิม จนได้เป็น ‘Zara’ ส�าหรับจุดเด่นของ Zara ที่อามานคิโอวางไว้คือ จะท�าเสื้อผ้าที่ดูดีและราคาไม่แพงออกจ�าหน่าย ผลปรากฏว่าเพียง ระยะเวลาไม่นาน Zara ก็เป็นที่นิยมไปทั่วประเทศสเปน • ในช่วงทศวรรษ 1980 อามานคิโอได้พลิกกรอบเวลาเดิมๆ ของแฟชัน่ ในอดีตที่จะออกเสื้อผ้าคอลเล็กชันใหม่ทุก 6 เดือน ให้สั้นลงเรื่อยๆ เพื่อ ตอบสนองความต้ อ งการของผู ้ บ ริโ ภค จนกระทั่ง ปั จ จุบัน มีการยืนยันว่า Zara ใช้เวลาพัฒนาผลิตภัณฑ์และ launch สินค้า คอลเล็กชันใหม่ได้ภายใน 2 สัปดาห์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสถิติ ระบุว่า แต่ละปี Zara ผลิตเสื้อผ้าดีไซน์ใหม่ๆ มากถึง 10,000 แบบ • แนวทางบริหารหนึ่งที่อามานคิโอคิดต่างจากแบรนด์คู่แข่งคือ เขามีนโยบายตัง้ งบโฆษณาเป็นศูนย์ และดึงเงินส่วนนีไ้ ว้สา� หรับขยาย

สาขาใหม่แทน ท�าให้เขาสามารถขยายสาขาได้มากมายในเวลา อันรวดเร็ว ปัจจุบัน Zara เป็นหนึ่งในแบรนด์ของเครือบริษัท Inditex Group ที่อามานคิโอเป็นหุ้นส่วนอยู่ 59.29% มีร้านขายเสื้อผ้า ในเครือมากกว่า 6,000 สาขาทั่วโลก ซึ่งนับรวมกับแบรนด์อื่นๆ ภายในบริษัทเดียวกัน อาทิ Zara, Massimo Dutti, Oysho, Pull and Bear เป็นต้น มีพนักงานในองค์กรทั่วโลกมากกว่า 92,000 คน • ก่อนหน้าปี ค.ศ. 1990 อามานคิโอถือเป็นนักธุรกิจทีไ่ ม่คอ่ ยเปิดเผย ตัวตน จนกระทั่งสื่อให้ฉายาว่า The Mysterious Billionaire เพราะ แทบเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่นักข่าวคนไหนจะได้สัมภาษณ์ หรือบันทึกค�าพูดจากปากของเขา แต่ก็มีคนในองค์กรกล่าวว่า อามานคิโอเป็นคนเรียบง่าย ทานกาแฟที่ร้านเดิม และทานอาหาร กลางวันร่วมกับพนักงานคนอื่นๆ ในโรงอาหารของบริษัททุกวัน และมักสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่หวือหวา คือสวมเพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาว แล้วกางเกงขายาวสีเทาเท่านัน้ จนกระทัง่ เขาเริม่ เปิดเผยตัวมากขึน้ ในปี ค.ศ. 2001 จากการอนุญาตให้นักข่าว 3 คน เข้าไปสัมภาษณ์ เพื่อน�าข้อมูลไปเขียนเป็นหนังสือชื่อว่า Amancio Ortega : de cero a Zara (From Zero to Zara) ล่าสุดอามานคิโอได้รับการจัดอันดับ จากนิตยสาร ฟอร์บส์ ให้เป็นมหาเศรษฐีอนั ดับ 3 ของโลก มีทรัพย์สนิ อยู่ราว 57,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


47

เรื่องและภาพ : กองบรรณาธิการ

GOING DIGITAL TV A NEW HOPE ?

ชัว่ โมงนีเ้ รามักจะได้ยนิ ค�าว่า ‘ทีวดี จิ ติ อล’ อยู่บ่อยครั้ง หลายคนฟังแล้วก็เข้าใจบ้าง ไม่ เ ข้ า ใจบ้ า ง เรื่ อ งนี้ จึ ง กลายเป็ นอี กหนึ่ ง ประเด็นร้อนในสังคมที่เราอยากจะหยิบยก มาน� า เสนอ เพราะอย่ า งที่ ห ลายคนรู ้ ว ่ า โทรทัศน์หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าทีวีนั้น มี อิ ท ธิ พ ลกั บ ชี วิ ต ประจ� า วั น ของผู ้ บ ริ โ ภค อย่างเรา ถึงขนาดทาง กสทช. (คณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ยกให้ทีวีเป็น สื่อที่ ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย เพราะมีอัตราการเข้าถึงประชากร 98% ด้วยกัน เพราะฉะนั้น การเปลี่ยนผ่านของระบบ การออกอากาศโทรทัศน์ในประเทศไทยจาก ระบบ ‘อะนาล็อก’ มาเป็นระบบ ‘ดิจิตอล’ อย่างเต็มรูปแบบภายในปี พ.ศ. 2560 หรือ ภายใน 4 ปีข้างหน้านี้ จะเป็นไปได้จริงหรือไม่ ทั้งที่ก็มีการทดลองออกอากาศในบางช่อง รายการไปแล้วตัง้ แต่ป ี พ.ศ. 2555 ทีผ่ า่ นมา และถ้าวัดจากปริมาณข่าวสารเกีย่ วกับเรือ่ งนี ้ ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเรือ่ งทีวดี จิ ติ อล กลายเป็ น จุ ด สนใจของบรรดาคอที วี ไ ทย หรือผู้บริโภคทั่วประเทศไปแล้วว่าอนาคต จะเป็นอย่างไรต่อ แต่ สิ่ง ที่ หลายคนยั ง ไม่ รู ้ นั่นคื อ หลาย ประเทศในโลกอย่างสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ล้วนได้ปรับเปลี่ยนระบบการออกอากาศทีวีของประเทศตนเองเป็นระบบ ดิจิตอลไปแล้วตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา หรือ ประเทศในแถบเอเชียอย่างญี่ปุ่นเองก็ปรับเปลี่ยนไปก่อนหน้าเรานานแล้ว ทุกประเทศ ก้ า วไปข้ า งหน้ า อย่ า งไม่ ห ยุ ด นิ่ ง ส� า หรั บ สื่ อ โทรทั ศ น์ ที่ พ วกเขามองเห็ น ตรงกั น ว่ า มันเป็นสื่อหนึ่งที่สลักส�าคัญส�าหรับประเทศ ของตนเอง ประเทศไทยท�าไมถึงก้าวไปช้า ติดขัด ปัญหาอะไรอยู ่ หรือมีเรือ่ งอะไรบ้างทีซ่ บั ซ้อน เกินกว่าผู้บริโภคตาด�าๆ อย่างเราจะเข้าใจ แต่ที่ส�าคัญกว่าและใกล้ตัวกว่าก็คือ การตั้ง ค�าถามว่าผู้บริโภคอย่างเราจะได้อะไรบ้าง ในยุคเปลี่ยนผ่านครั้งส�าคัญนี้ สิ่งนั้นจะเป็น ประโยชน์และตรงกับความต้องการที่แท้จริง ของผู้บริโภคอย่างเรามากน้อยแค่ไหน Hot Issue ในฉบับนี้จะท�าให้เห็นล�าดับขั้นตอน ของเรื่องราวในมุมมองของผู้บริโภค และได้ ท�าความเข้าใจในเรื่องนี้แบบย่อยง่ายมาก ยิ่งขึ้น เพราะเราทุ ก คนล้ ว นมี ค วามหวั ง ว่ า ในเร็ ว วั น นี้ ที วี ดิ จิ ต อลในประเทศไทย... จะเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่แค่ฝัน!

สารี อ๋องสมหวัง

เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค, ประธานอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านกิจการโทรคมนาคม ส�านักงาน กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.)


48

ถ้ า ที วี ดิ จิ ต อลเกิ ด ขึ้ น จริ ง คุ ณ คิ ด ว่ า น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นส�าหรับผู้บริโภคบ้าง

หลักๆ คือได้ช่องทีวีมากขึ้นอีก 48 ช่อง แน่ๆ และนอกเหนือจาก 48 ช่องที่ได้ คงจะเป็นเรื่อง ภาพที่คมชัดมากขึ้น แต่ขณะนี้เราก็มีช่องทีวีมาก อยู่แล้วนะ สมมติถ้าใครมีจานดาวเทียมที่บ้าน ก็จะมีช่องทีวีอย่างน้อยประมาณ 400 ช่องที่เป็น ทีวีดาวเทียม แล้วถ้าคุณสมัครเคเบิลทีวีก็จะมีช่อง ทีวีอีกประมาณหนึ่ง แล้วก็ฟรีทีวี คือ 3, 5, 7, 9, 11 และทีวีสาธารณะ คือ ไทยพีบีเอส ส่วน 48 ช่อง ที่จ ะเพิ่มเข้ า มาเท่ า ที่ กสทช. ให้ข ้อมูล เบื้องต้น ก็คือมันจะถูกแบ่งออกเป็นทีวีสาธารณะ ทีวีเชิง พาณิชย์ และทีวีชุมชน

อะไรคือความไม่ชดั เจนในความหมายของทีวดี จิ ติ อลทีย่ งั เป็นปัญหาทีส่ า� คัญ ส�าหรับผู้บริโภค

ในมุ ม ของผู ้ บ ริ โ ภค ปั ญ หาที่ จ ะพบได้ จาก การมีทวี ดี จิ ติ อลคืออะไร

ถ้าเรามองจากปัญหาของทีวีปัจจุบัน ส่วนหนึ่ง ที่ยังจัดการไม่ได้ก็คงจะเป็นเรื่องของโฆษณา อย่าง โฆษณาทีเ่ กินจริง เป็นเท็จ หลอกลวง และจุดเริม่ ต้น จริงๆ ก็คือไม่ขออนุญาตโฆษณา หรือบางอย่าง โฆษณาไม่ได้ แต่ก็ยังเห็น อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ยา ที่ชัดเจนว่าในบ้านเราผลิตภัณฑ์ยาโฆษณาไม่ได้ ยกเว้นยาบรรจุเสร็จ หมายถึงยาสามัญประจ�าบ้าน ยาพื้นฐาน แก้ปวด ลดไข้ แต่เราจะเห็นว่ามีการโฆษณาเกี่ ย วกั บ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ย าอยู ่ ไ ม่ น ้ อ ยในที วี ดาวเทียมหรือเคเบิลทีวี อีกส่วนคือผลิตภัณฑ์เสริม อาหาร ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะพบว่ามีปัญหาเรื่อง ไม่ขออนุญาตโฆษณา เพราะว่าเขาอาจจะไม่ได้รับ อนุญาตถ้าเกิดโฆษณาแบบนั้น จริงๆ มันก็มีสูตรส� า เร็ จ พอสมควรนะเกี่ ย วกั บ การโฆษณาเรื่ อ ง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อย่างเช่น รักษาโรคเรื้อรัง บางอย่างที่คนรู้สึกว่าเขาไม่ค่อยมีทางเลือกมากนัก เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ ซึ่งจะใช้ คนที่เป็นที่รู้จักบ้าง ดารา ผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ มาบอกว่ากินแล้วดี นอกจากนีย้ งั มีเรือ่ งของความงาม ลดน�้าหนัก และเรื่องเพศ จริงๆ มันก็มีอยู่ 4 กลุ่มนี้ แหละ

DID YOU KNOW? • ดิจิตอลทีวี หรือโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (Digital Television) คือการแพร่ภาพสัญญาณโทรทัศน์ แบบใหม่ ใช้การส่งสัญญาณผ่านระบบดาวเทียม (Satellite) ซึ่งก�าลังจะเข้ามาแทนที่การแพร่ภาพ แบบอะนาล็อก (Analog TV) ที่เราใช้กันอยู่ใน ปัจจุบัน โดยการชมโทรทัศน์ระบบดิจิตอลนั้น

“ต้องคิดด้วยว่า นอกจากเรื่อง ความคมชัดของทีวี ปัญหาของ คนดูทีวีบ้านเรา มีอะไรบ้าง เรามี ปัญหาเรื่อง การผูกขาด การน�าเสนอไหม เรามีปัญหาเรื่อง เนื้อหาของทีวีที่ดี ในความหมายของ คนบางกลุ่ม บางพวกหรือเปล่า” ผูใ้ ช้ตอ้ งมีกล่อง Set Top Box (กล่องรับสัญญาณ ดิจติ อล รูปร่างเหมือนกับกล่องทีเ่ ราใช้ดรู ายการ ทีวีจากจานดาวเทียม) เพื่อน�าสัญญาณดิจิตอล ส่งเข้าไปในโทรทัศน์ ส่วนใครทีต่ ดิ ตัง้ จานดาวเทียม ไว้อยูแ่ ล้วไม่วา่ จะเป็นของเจ้าไหนก็ตาม ก็สามารถ ดู โ ทรทั ศ น์ ร ะบบดิ จิ ต อลได้ ทั น ที โ ดยไม่ ต ้ อ ง ซื้อกล่องเพิ่ม และภายในปีนี้โทรทัศน์รุ่นใหม่ๆ ที่ ก�าลังจะออกวางจ�าหน่ายก็จะติดตั้งภาครับ

ขณะนี้สิ่งที่ยังไม่ชัด และยังไม่รู้ว่าทางการจะท�ายังไง ก็คือทีวีสาธารณะในความหมาย ของเขาคืออะไร จะเหมือนไทยพีบีเอสไหม คือไม่มีโฆษณา แล้วใครบ้างที่มีสิทธิจะได้ช่องทีวี สาธารณะ เพราะถ้าพูดถึงทีวีเชิงพาณิชย์ก็คงชัดเจนว่าจะมีช่องเพิ่มขึ้น ก็มีการจัดการประมูล กันไป ตรงนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ทีวีสาธารณะหรือทีวีชุมชนจะเป็นยังไงก็ยังไม่ชัดเจน ซึ่งค�าถามที่ส�าคัญส�าหรับทีวีชุมชนที่มันก�าลังจะมีมากขึ้นคือ จะสะท้อนสภาพที่เป็นความหลากหลายของผู้คนในบ้านเมืองนี้ได้ไหม อย่างเช่น วัฒนธรรมที่มีความแตกต่างกันทางชาติพันธุ์ จะสะท้อนสิ่งพวกนี้ได้ไหม หรือจะออกแบบมาเป็นยังไง ซึ่งขณะนี้กติกายังไม่ชัด

กระบวนการหรือขั้นตอนการตกลง หรือกรอบเวลาของการท�าทีวี ดิจิตอลไปถึงไหนแล้ว

ขณะนี้มันยังไม่ค่อยชัดในหลายๆ เรื่อง อย่างเช่น เรื่องความหมายของค�าว่าทีวี สาธารณะคืออะไร ซึง่ เขาอาจจะตีความว่าทีวสี าธารณะก็คอื ฟรีทวี ใี นปัจจุบนั ซึง่ เราคิดว่าไม่ใช่ แล้วใครบ้าง ที่จะมาท�าทีวีสาธารณะ คือไม่ได้เป็นส่วนของทีวีของหน่วยงานของรัฐทั้งหมด เรื่องกรอบเวลาอาจจะต้อง ตรวจสอบอย่างชัดเจนจากทาง กสทช. เพราะแต่เดิมเขาก็วางแผนไว้วา่ จะประมูลให้ได้ภายในปีนี้ ก็คอื 22 ช่อง ที่เป็นทีวีเชิงพาณิชย์ และ 12 ช่อง ที่เป็นทีวีสาธารณะ แต่ทีวีสาธารณะก็ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องประมูล เหมือนทีวีธุรกิจหรือเปล่า เนื่องจากทีวีสาธารณะนั้นถ้าอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าไม่ต้องมีโฆษณา ก็ต้องมีงบประมาณของรัฐ หรือถ้ามีโฆษณาจะออกมาเป็นยังไง ก็ยังมีความไม่ชัดเจนอีกหลายเรื่อง ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ส�าคัญมากนะ คือคุณต้องก�าหนดความหมายของทีวีสาธารณะก่อนว่าเหมือนไทยพีบีเอสไหม นั่นคือเรา จะมีทีวีสาธารณะเพิ่มมาอีก หรือยกตัวอย่างว่าองค์กรสาธารณประโยชน์จะไปท�าทีวีสาธารณะ ซึ่งอาจจะ เป็นเรื่องยากมากนะ แต่นี่ยกตัวอย่างให้ดูเฉยๆ ว่าถ้าเกิดเราขอใช้โครงข่ายของทีวีไทย เราต้องเสียค่าเช่า เดือนละ 3 ล้าน นี่ยังไม่รวมค่าโปรดักชันในการท�ารายการต่างๆ อีก แล้วทีวีสาธารณะที่จะเกิดขึ้นมา อีกหลายช่องมันจะตอบสนองอะไร ซึ่งเราคงไปคาดหวังกับทีวีเชิงพาณิชย์ล�าบาก เพราะเขาจ่ายสตางค์ เขาลงทุน ซึ่งอาจจะมีกติกาบางอย่าง ไม่ใช่ว่ามีแต่โฆษณาเต็มไปหมด แต่ส่วนหนึ่งทีวีสาธารณะ คุณจะ ให้ความหมายยังไง แล้วรัฐจะเข้าไปสนับสนุนยังไงด้วย สมมติว่าคุณห้ามไม่ให้เขาโฆษณาเลย แล้วเขา จะอยู่ยังไง

สัญญาณดิจิตอลไว้ในตัว โดยที่ไม่ต้องหาซื้อ กล่ อ งรั บ สั ญ ญาณหรื อ ติ ด ตั้ ง จานดาวเที ย ม เพิ่มเติมแต่อย่างใด • โทรทั ศ น์ ร ะบบดิ จิ ต อลคื อ ระบบการแพร่ สั ญ ญาณคลื่ น โทรทั ศ น์ ภ าคพื้ น ดิ น ที่ มี นั้ น จะ ท� า การส่ ง ผ่ า นเสี ย งและวิ ดี โ อโดยสั ญ ญาณ ดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพสูง ท�าให้มีความคมชัด ทั้งภาพและเสียง การส่งข้อมูลแบบนี้สามารถ

ส่งข้อมูลได้มากกว่าแบบอะนาล็อกใน 1 ช่อง สัญญาณ เช่น เดิม 1 ช่อง ใช้ได้ 1 รายการ เมื่อ หันมาใช้ระบบดิจติ อล มีการบีบอัดสัญญาณ (Digital Compression) ก็จะสามารถส่งได้ถงึ 4-6 รายการ ทางภาคพืน้ ดิน และ 8-10 รายการทางดาวเทียม • เทคโนโลยีโทรทัศน์ระบบดิจิตอลมีบทบาท ส� า คั ญ ต่ อ การสลายสภาพการผู ก ขาดของ อุตสาหกรรมทีวีในประเทศไทย เพราะข้อจ�ากัด


TIMELINE : ผู้บริโภคควรจะได้อะไรจากความเปลี่ยนแปลงครั้งส�าคัญนี้

จริงๆ แล้วต้องคิดด้วยว่านอกจากเรื่องความคมชัดของทีวี ปัญหาของคนดูทีวีบ้านเรามีอะไรบ้าง เรามีปัญหาเรื่องการผูกขาดการน�าเสนอไหม เรามีปัญหาเรื่องเนื้อหาของทีวีที่ดีในความหมายของ คนบางกลุ่มบางพวกหรือเปล่า เพราะฉะนั้น สิ่งเหล่านี้มันควรจะมาตอบสนอง มาแก้ปัญหา ในเมื่อ เราจะมีทีวีเพิ่มมาตั้ง 48 ช่อง เพราะฉะนั้น กสทช. เองน่าจะเห็นภาพว่าหน้าที่ของเขาไม่ใช่แค่การจัด ประมูล ซึ่งมันง่ายไป แค่เอาคลื่นมาประมูลใครๆ ก็ท�าได้ ไม่ต้องใช้ศักยภาพอย่าง กสทช. หรอก ให้หน่วยงานรัฐเดิมไปจัดประมูลก็ยังได้ แต่ว่าคุณต้องรู้ว่าบริบทของทีวีบ้านเราปัญหามันอยู่ตรงไหน คุณจะท�าอย่างไรไม่ให้มันผูกขาด ท�าให้แข่งขันกันเรื่องเนื้อหามากขึ้น กสทช. จะต้องท�ายังไง โจทย์ ของคุณอยูต่ รงไหน อย่างไร การที่ กสทช. ออกมาบอกว่า ช่อง 3, 5, 7, 9, 11 เป็นทีวสี าธารณะ ขณะทีค่ ณ ุ ยังไม่ได้ให้ค�าจ�ากัดความเรื่องทีวีสาธารณะเลย เพราะฉะนั้น ต้องถามว่าทีวีสาธารณะของคุณคืออะไร หรือแม้กระทัง่ เรือ่ งทีวชี มุ ชนมันจะสามารถท�าเป็นชุมชนทัง้ ประเทศได้ไหม หรือชุมชนอาจจะอยูแ่ ค่ตา� บลหนึง่ ซึ่งมีตั้ง 12 ช่องนะ ไม่น้อยเหมือนกัน แล้วจะนิยามค�าว่าทีวีชุมชนอย่างไร คือมันก็มีโจทย์ที่ต้อง ตอบผู้บริโภคให้ได้อยู่เยอะพอสมควร กสทช. ต้องท�าการบ้านมากขึ้นอีกหลายข้อเพื่อจะได้ทีวีดิจิตอล ที่มีคุณภาพต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง

“ค�าถามที่ส�าคัญส�าหรับทีวีชุมชนที่มันก�าลังจะ มีมากขึ้นคือ จะสะท้อนสภาพที่เป็นความหลากหลายของผู้คนในบ้านเมืองนี้ได้ ไหม”

ทุกวันนี้ ทาง กสทช. ได้คลี่คลายความสงสัยเรือ่ งทีวดี จิ ติ อล ให้แก่ผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหน จ� า ได้ ไ หมว่ า ก่ อ นหน้ า นี้ เ ราก็ กั ง วลกั บ ประเด็นว่าต้องซื้อทีวีใหม่ไหม ซึ่งเรื่องนี้มัน คลี่คลายไปได้ในระดับหนึ่งแล้วว่าไม่ต้องซื้อ ทีวใี หม่ แต่กไ็ ม่รวู้ า่ ในอนาคตบทสรุปของเรือ่ งนี้ จะเป็นอย่างไร ถ้าต้องซื้อ ลองค�านวณจากทีวี ราคา 1 หมื่นบาท ประชาชนมีจ�านวน 23 ล้าน ครัวเรือน เราต้องใช้เงินราวๆ 23,000 ล้านบาท ซึ่งข่าวล่าสุดคือไม่ต้องซื้อทีวีใหม่ นับว่าเป็น เรื่องที่ดี แต่เขาจะให้คูปองเพื่อไปซื้อกล่อง Set Top Box แล้วเอากล่องไปจูนเพือ่ ให้เราดูทวี ปี กติ ในระบบดิจติ อลได้ เราก็สบายได้ใจว่าไม่ตอ้ งทิง้ ทีวที เี่ รามี เพราะถ้าทิง้ เราจะมีขยะทีเ่ ป็นทีวเี ก่า จ�านวนมากมายมหาศาล แต่ถา้ พูดถึงกล่องที่ว่า เวลาแจกคู ป อง คุ ณ จะแจกยั ง ไง แจกตาม ทะเบียนบ้านไหม แล้วอย่างชุมชนแออัดที่เขา ดูทีวีอยู่ ซึ่งเขาอาจจะไม่มีบ้านเลขที่ เขาจะท�า ยังไง จะไปรับคูปองยังไง หรือถ้าไม่ได้รับคูปอง แล้วเขาจะดูทวี ไี ด้ไหม หรือคนทีไ่ ม่มที ะเบียนบ้าน อยูใ่ นกรุงเทพฯ เขาจะต้องไปรับทีต่ า่ งจังหวัดไหม คือโจทย์พวกนี้เป็นรายละเอียดที่ กสทช. ต้อง คิดนะ

ถ้าพูดถึงสิทธิผบู้ ริโภคตอนนี้ โดยเฉพาะคนดูทวี ี เขามีความตื่ น ตั ว แค่ ไ หนกั บ สิ ท ธิ ที่ เ ขา ควรจะได้รบั

เราว่าดีขึ้นนะ แต่ถ้าถามว่าคนยังใช้สิทธิมากไหม คงยังไม่มาก แต่ว่าคนตื่นตัวมากขึ้นจากที่เราฟ้องร้อง เรื่องจอด�าตอนฟุตบอลยูโร ซึ่งตอนแรกคนก็อาจจะยัง ไม่เข้าใจ อาจจะรู้สึกว่าเราฟ้องเพราะเราอยากดูฟุตบอล แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเรือ่ งการเข้าถึงบริการสาธารณะพืน้ ฐาน ของคน ก็คือการเข้าถึงข้อมูลความรู้ เข้าถึงโอกาสต่างๆ เพราะฉะนั้น เราคิดว่าคนเข้าใจมากขึ้นว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้อง กับเขา ซึง่ มันก็มผี ลมากในการฟ้องคดีครัง้ นัน้ ถึงแม้วา่ เรา จะไม่ชนะคดีก็ตาม แต่มันสร้างแรงสะเทือนจน กสทช. ได้สร้างบรรทัดฐานขึน้ มาว่า ถ้าใครไปท�าสัญญามา แล้วบอก ว่าจะได้ออกฟรีทวี ี นัน่ แสดงว่าทุกคนจะต้องได้ดู ไม่วา่ จะ ดาวเทียม เคเบิลทีวี หรือหนวดกุ้ง ก้างปลาก็ตาม เราคิด ว่าความตื่นตัวของผู้บริโภคมีมากขึ้น แต่ถ้าถามว่าคนใช้ สิทธิมากขึ้นไหม ต้องบอกว่าจ�านวนคนร้องเรียนมากขึ้น เรือ่ ยๆ แต่เราคิดว่าถ้าหน่วยงานทีท่ า� หน้าทีร่ บั เรือ่ งร้องเรียน หรือก�ากับดูแลจัดการเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่ได้ดภู าพรวม คนก็จะไม่เห็นความส�าคัญของการใช้สทิ ธิ เพราะคนจะรู้สึกว่าใช้สิทธิไปแล้ว อาจจะได้เงินคืนก็จริง แต่อยากจะให้จดั การบริษทั นัน้ ให้หยุดเอาเปรียบผูบ้ ริโภคด้วย

เรื่องจ�านวนช่องรายการ 6 ช่อง ที่อยู่กับ ประเทศไทยมานานจะหมดไป เนื่องจากมติ ของคณะกรรมการ กสทช. มีการตัดสินแล้วว่า บนระบบที วี แ บบดิ จิ ต อลจะมี ช ่ อ งรายการ ทั้งหมด 48 ช่อง ซึ่งถือว่าเพิ่มมาจากเดิมถึง 8 เท่า จึงมีพื้นที่ให้กลุ่มทุนรายอื่นๆ เข้ามาเปิด สถานีได้ • จากการประชุมบอร์ดกระจายเสียง (กสท.)

ของ กสทช. ได้ผลออกมาว่า โทรทัศน์ดิจิตอล ในประเทศไทยจะมีทั้งหมด 48 ช่อง แบ่งเป็น สัดส่วนต่างๆ ดังนี้ - ช่องบริการชุมชนจ�านวน 12 ช่อง (20% ของคลื่น) ใช้ความละเอียด Standard Deffiifinition (SD) - ช่องบริการสาธารณะจ�านวน 12 ช่อง (20% ของคลื่น) ใช้ความละเอียด Standard

Defiffiinition (SD) - ช่องบริการธุรกิจ 24 ช่อง (60% ของคลื่น) แบ่งย่อยเป็นรายการเด็ก-เยาวชน-ครอบครัว 5 ช่อง, รายการข่าวสาร-สารประโยชน์ 5 ช่อง, รายการทั่วไป 10 ช่อง แบบ SD และรายการ ทั่วไป 4 ช่อง แบบ HD (High Deffiinition) ที่มา : www.siamintelligence.com, http:// en.wikipedia.org/wiki/Digital_television_transition

DIGITAL TELEVISION IN THAILAND

พ.ศ. 2539 - ยุคโทรทัศน์ดิจิตอลใน ประเทศไทยเริ่มต้นขึ้น เมื่อบริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จ�ากัด หรือยูบีซี (ปัจจุบนั คือ TrueVisions) ออกอากาศรายการ โทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก โดยให้บริการ ทั้ ง ระบบอะนาล็ อ ก และระบบแพร่ ภ าพ ดิจิตอลผ่านดาวเทียม (DVB-S the Digital Video Broadcasting Satellite System) 5 ธันวาคม พ.ศ. 2543 - พฤษภาคม พ.ศ. 2544 - มีการทดสอบระบบโทรทัศน์ แบบ DVB-T หรือระบบแพร่ภาพดิจิตอล ภาคพื้นดิน (DVB-T the Digital Terrestrial Television System) จากตึกใบหยก 2 แต่ ความล่าช้าของการออกกฎหมาย ก.ส.ช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์แห่งชาติ) ท�าให้เวลาผ่านไป 10 ปี เทคโนโลยี DVB ก็ได้พัฒนาขึ้น ประเทศไทย และสมาชิกอาเซียนจึงมีข้อตกลงที่จะใช้ ระบบ DVB-T2 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่แทน กันยายน พ.ศ. 2549 - โมเดิร์นไนน์ ทีวี ทดลองระบบโทรทัศน์แบบ Digital Terrestrial Digital Television (DDTV) โดยใช้ กลุ ่ ม ตั ว อย่ า งเป็ น ครั ว เรื อ นในกรุ ง เทพฯ จ�านวน 2,000 ครัวเรือ น ให้ รับชมช่ อ ง โมเดิร์นไนน์ ทีวี, ไทยทีวีสีช่อง 3, ช่อง MCOT-1 และ ASEAN TV ในระบบดิจิตอล DDTV พร้อมให้ทดลองฟังสถานีวิทยุ FM ระบบดิจติ อล 7 สถานี และทดลองใช้บริการ แบบ Interactive เป็นเวลา 6 เดือน พ.ศ. 2551 - การพัฒนาไปสู่การปรับเปลี่ยนระบบโทรทัศน์ไทยไปสู่ระบบ ดิจิตอลหยุดชะงัก เนื่องจากความขัดแย้ง ทางการเมื อ งในสมั ย อดี ต นายกรั ฐ มนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ.ศ. 2552 - บริษัท TrueVisions ได้ เปิดตัวการให้บริการโทรทัศน์ระบบ HDTV ทีภ่ าพมีความคมชัดมากกว่าปกติถงึ 5 เท่า ในบางช่อง อาทิ True Sport, Discovery Channel, National Geographic Channel เป็นต้น จนกระทั่งปัจจุบัน TrueVisions ได้แพร่ภาพระบบ HDTV แล้ว 17 ช่อง ทัง้ ระบบเคเบิลใยแก้วแบบดิจติ อล และแบบ จานดาวเทียม 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554 - รัฐบาล ประกาศนโยบายการปรั บ เปลี่ ย นระบบ โทรทัศน์ไทยไปสู่ระบบดิจิตอลในการแถลง นโยบายต่ อ รั ฐ สภา โดยเริ่ ม ด� า เนิ น การ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - คณะรัฐมนตรีมีมติเลือกระบบโทรทัศน์ดิจิตอล แบบ DVB-T2 ให้เป็นมาตรฐานส�าหรับ ประเทศไทย พร้อมประกาศว่าจะยุติระบบ โทรทัศน์แบบอะนาล็อกในปี พ.ศ. 2558-2563 เนือ่ งจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจ การโทรทัศ น์ แ ละกิจ การโทรคมนาคม แห่งชาติ หรือ กสทช. ก�าลังด�าเนินการให้มี การส่งสัญญาณโทรทัศน์รูปแบบดิจิตอล อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งจะถือ เป็นการปิดฉากยุคอะนาล็อกสู่ยุคดิจิตอล ของวงการโทรทัศน์ไทยอย่างเป็นทางการ ที่มา : http://www.digitalagendathailand. com/?cid=1708546, http://en.wikipedia.org/ wiki/List_of_digital_television_deployments_ by_country#Thailand, http://en.wikipedia. org/wiki/Digital_television_in_Thailand

37


50

ยังมีอกี หลายกรณีทผี่ บู้ ริโภคไม่รตู้ วั ด้วยซ�า้ ว่าถูกเอาเปรียบอยู่ คุณคิดว่าเราควรจะ ปลูกฝังเรือ่ งเหล่านีใ้ ห้กบั ผูบ้ ริโภคอย่างไร

อย่างเช่นข้อเสนอของเราที่บอกเลยว่าควรจะมีกระบวนการบางอย่างที่ท�าให้คนดูเท่าทันสื่อมากขึ้น ซึ่งตรงนี้ กสทช. จะท�าเอง จะสนับสนุน หรือจะให้ไปอยู่ในหลักสูตรการเรียนยังไง เป็นเรื่องที่ต้องท�า ยกตัวอย่างว่าถ้าอาหารไปโฆษณาเป็นยา ผู้บริโภคต้องรู้เลยว่าอันนี้เข้าข่ายเป็นเท็จแล้ว อย่าไปเชื่อ หรือ ถ้าเราเห็นโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือเครื่องมือแพทย์ไม่มี ฆ.ระฆัง ซึ่งปกติมันจะต้องปรากฏ ตัวเล็กๆ ในทีวี ถ้าไม่มกี แ็ สดงว่าโฆษณาชิน้ นัน้ ไม่ได้ขออนุญาต ซึง่ การทีเ่ ขาไม่ขออนุญาตมันมีแค่เหตุผลเดียว เท่านั้นแหละ คือคุณรู้ว่าถ้าไปขออนุญาตแล้วเขาจะไม่ให้คุณผ่าน เพราะฉะนั้น โฆษณานั้นก็มีแนวโน้ม ที่จะหลอกลวงเรามากกว่าโฆษณาที่ขออนุญาต ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะท�าให้คนทั่วไปรู้เท่าทัน เพื่อที่จะใช้ชีวิต อย่างไม่ถูกหลอก ถูกโกงได้ ซึ่งเราคิดว่าจ�าเป็น เพราะฉะนั้น ต้องมีกลไก มีเครื่องมือ โดยเริ่มปลูกฝังเลย ว่าการเท่าทันสื่อหมายถึงอะไร การให้ข้อมูลด้านเดียวเป็นยังไง การให้ข้อมูลรอบด้านเป็นยังไง ซึ่งอันนี้ ควรจะมีทั้งในระบบ นอกระบบ หรือท�ากันอย่างไม่เป็นทางการ หรืออาจจะต้องมีช่องหนึ่งเลยหรือเปล่า ที่ให้ข้อมูลเรื่องนี้ จับผิดสถานีของตัวเอง มันต้องมีช่องหนึ่งเลยไหม ซึ่งเราคิดว่าจริงๆ แล้วต้องชื่นชม ไทยพีบเี อสนะทีเ่ ขามีการตรวจสอบตัวเองในเชิงจริยธรรมอยูเ่ สมอ เพราะเขามีกลไกในการรับเรือ่ งร้องเรียน จากผู้ชม ตัวอย่างเช่น มีรายการหนึ่งที่ไปถ่ายรายการที่แม่เมาะ แล้วพิธีกรพยายามพูดว่าอากาศที่นี่ดีจัง เลย ทั้งๆ ที่คุณก็รู้ว่าที่นี่มันมีประเด็นถกเถียงกันระหว่างชาวบ้านกับการไฟฟ้า แต่คุณเขียนบทจนคนเขา ร�าคาญว่าท�าไมอากาศมันดีขนาดนี้ ก็มีเรื่องร้องเรียนจากสภาผู้ชม และองค์กรที่แม่เมาะ ซึ่งพอร้องมาปุ๊บ เขาก็จะมีกลไกข้างในเลย เราคิดว่าในเรือ่ งจริยธรรมการให้ขอ้ มูลด้านเดียวมันก็ถกู จัดการทันที หรืออย่างน้อย คนท�าจะถูกเรียกมาเตือน จนกระทัง่ เป็นกติกาออกมาเลยว่าห้ามไปใช้สถานทีท่ คี่ ดิ ว่ามีแนวโน้มทีจ่ ะได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้น มันจะลดปัญหาความไม่ตรงไปตรงมาของสื่อลงได้อีกทางหนึ่ง

“ถ้าเราอยากจะ ท�าให้ช่องดิจติ อล 48 ช่อง มันคมชัด มากขึ้น ค�าถาม คือ แล้วจะมี ข้อมูลทีค่ มชัด มากขึ้นไปด้วย ได้ยังไง”

จริงๆ แล้วบทบาทในการดูแลในส่วนเนือ้ หา ของทีวดี จิ ติ อลนัน้ เป็นหน้าทีข่ องใคร

จริงๆ ก็เป็นหน้าที่ของ กสทช. นั่นแหละ ซึ่งที่เรา ยังไม่เห็นบทบาทด้านนี้จาก กสทช. สักเท่าไหร่ เพราะส่วนหนึ่งเราคิดว่า เขาไม่กล้าตัดสินใจ ถ้าในฝัง่ ของเนือ้ หา กสทช. จะมีอนุกรรมการทีด่ แู ลในส่วน ของเนื้อหาอยู่ 2 ชุด ชุดหนึ่งเป็นอนุกรรมการตามกฎหมายเลย คือคุ้มครอง ผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กับอีกชุดหนึ่ง คือ อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ซึ่งอนุกรรมการในชุด กิจการกระจายเสียงฯ จะถูกแยกออกเป็น 2 ชุด คือชุดหนึ่งดูเรื่องสัญญา ดูเรือ่ งโฆษณา ขณะทีอ่ กี ชุดจะดูเรือ่ งเนือ้ หา ซึง่ เท่าทีผ่ า่ นมาทีเ่ ห็นเป็นประเด็น ก็คือการสั่งปรับรายการ Thailand’s Got Talent รายเดียว แล้วอีกอย่างหนึ่ง ที่น่ากังวลและเป็นประเด็นก็คือ เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอันนี้อาจจะต้อง มีหลักเกณฑ์ว่าเนื้อหาอะไรบ้างที่ไม่เหมาะสม คือมันก็คาบเกี่ยวนะ พอไป ท�าอะไรมากก็จะถูกครหาว่าแทรกแซงวิชาชีพนั้น เหมือนอย่างที่รายการ ตอบโจทย์ เจอ แต่ถ้าไม่ท�าอะไรเลยมันก็มีปัญหา หรือไม่อย่างนั้นก็ต้อง มีกระบวนการการรับเรื่องร้องเรียนที่ดี ผสมผสานระหว่างวิชาชีพกับกลไก ที่ท�างาน ซึ่งไม่ใช่ว่าจะมานั่งแก้ปัญหากันทีละรายแบบปัจจุบันนี้

บทสรุปทีค่ าดว่าจะได้จากการมีทวี ดี จิ ติ อล ในเมืองไทยคืออะไร สรุปก็คือ ก่อนที่เราจะมีทีวีดิจิตอล กสทช. ควรจะต้องเห็นภาพร่วมกันว่าเราก� าลังจะท�าให้ เกิดอะไรขึ้น ซึ่งมันน่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะฉะนั้น ต้องกลับมาดูว่าขณะนี้เราก�าลังมีปัญหาอะไร และ จะช่วยท�าให้ดีขึ้นยังไง หรืออย่างเช่นถ้าเขาให้ช่อง 3, 5, 7, 9, 11 ได้เป็นทีวีสาธารณะโดยปริยาย แล้ว 4-5 ช่องนี้ เขาจะไม่เอาไปแบ่งขายต่อเหมือนที่เขา ท�าในปัจจุบันยังไง จะท�าให้คนทั่วไปมีโอกาสไปใช้ พื้นที่ของเขายังไง อย่างเช่น ช่อง 5 มาดีลกับมูลนิธิ ผูบ้ ริโภคได้ไหม หรือช่อง 7 มาดีลกับมูลนิธผิ บู้ ริโภค ได้ไหม เราขอสัก 1 ชั่วโมง ได้ไหม หรือ 20% เป็น ขององค์กรสาธารณประโยชน์ได้ไหม คือต้องบอกว่า โอกาสที่ข้อมูลสาธารณะเหล่านี้จะไปปรากฏอยู่ใน ทีวแี ทบจะไม่มเี ลย เพราะฉะนัน้ ตรงนีก้ ต็ อ้ งมาดูวา่ ถ้าเราอยากจะท�าให้ช่องดิจิตอล 48 ช่อง มันคมชัด มากขึ้น ค�าถามคือ แล้วจะมีข้อมูลที่คมชัดมากขึ้น ไปด้วยได้ยังไง ซึ่งขณะนี้คิดว่าเรามีปัญหาเรื่อง ข้อมูลนะ มีปัญหาเรื่องเนื้อหา เรื่องการผูกขาด เพราะฉะนั้น เราจะท�าให้กลุ่มคนที่สนใจ มีโอกาส แต่อาจจะไม่มีสตางค์มาก เข้ามามีพื้นที่ใ นทีวี สาธารณะมากขึน้ ได้อย่างไร ซึง่ กติกามันควรจะต้อง ออกมาอย่างนั้น

THE HISTORY OF

HDTV ระบบทีวีดิจิตอลมีข้อดีกว่าระบบทีวี แบบอะนาล็อกทีเ่ ห็นได้ชดั ก็คอื ความคมชัด ในระดับ High-Definition Television หรื อ HDTV ซึ่ ง ภาพจะไม่ ขึ้ นเป็ นเม็ ดๆ อย่างที่เราเคยเห็นกัน และสามารถรับชม รายการต่างๆ จากโทรทัศน์ระบบดิจิตอล บนอุปกรณ์อย่างสมาร์ตโฟนหรือแทบเล็ต ได้ดว้ ยเช่นกัน ส�าหรับต่างประเทศ โทรทัศน์ ระบบดิจติ อลก็ไม่ใช่สงิ่ ใหม่แต่อย่างได และนีค่ อื ตัวอย่างของประเทศที่มีการเปลี่ยนมาใช้ โทรทัศน์ระบบดิจิตอลกันเรียบร้อยแล้ว

United States of America

ถือเป็นประเทศแรกที่มีการถ่ายทอด สัญญาณภาพในระดับ HD ผ่านโทรทัศน์ ระบบดิจิตอล โดยมีสถานีโทรทัศน์ NBC เป็นสถานีแรกที่ออกอากาศด้วยระบบ HD และเริม่ ออกอากาศครัง้ แรกในปี ค.ศ. 1992 ซึ่งก่อนหน้านั้นทางสถานีใช้เวลาในการพั ฒ นาการส่ ง สั ญ ญาณภาพความละเอียดสูงมานานกว่า 15 ปี

Japan

การเปลีย่ นผ่านจากระบบทีวอี ะนาล็อก ไปสู่ทีวีระบบดิจิตอลในประเทศญี่ปุ่นนั้น เกิดขึน้ ในปี ค.ศ. 1988 โดยทางสถานีโทรทัศน์ NHK ได้ทา� การถ่ายทอดการแข่งขันมหกรรม กีฬ าโอลิม ปิก ฤดู ร ้อนครั้ง ที่ 24 ประจ�าปี ค.ศ. 1988 จัดขึน้ ทีก่ รุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ต่อมาในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1990 ทางสถานี ก็ออกอากาศทั่วโลกด้วยสัญญาณดิจิตอล ผ่านละครเรื่อง The Ginger Tree ซึ่งละคร เรื่ อ งนี้ เ ป็ น การร่ ว มงานกั บ ทางสถานี โทรทัศน์ BBC ของสหราชอาณาจักร และ เมือ่ ปลายปี ค.ศ 2011 ที่ผ่ านมา ประเทศ ญีป่ นุ่ เพิง่ ปรับระบบออกอากาศทีวที งั้ ประเทศ เป็นระบบดิจติ อลอย่างเต็มรูปแบบ โดยใช้ หอคอยที่สูง ที่สุดในประเทศชื่อ ‘Tokyo Skytree’ เป็นสถานทีส่ ่งสัญญาณ

United Kingdom

เมื่ อ วั น ที่ 18 เมษายน ค.ศ. 2012 ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ช่อง BBC1, ITV1, ช่อง 4 และ ช่อง 5 ในสหราชอาณาจักร หยุด ท�าการส่ง สัญ ญาณแบบอะนาล็อก ส่วนแรกทีอ่ ยูใ่ นกรุงลอนดอนเป็นทีเ่ รียบร้อย แล้ว และก�าลังด�าเนินการหยุดการส่งสัญญาณ แบบเก่าทัง้ หมด เพือ่ เข้าสูย่ คุ โทรทัศน์ระบบ ดิจิตอลอย่างเต็มตัว แต่การเปลี่ยนแปลง ครัง้ นีก้ แ็ ทบไม่สง่ ผลกระทบอะไรต่อผูบ้ ริโภค เพราะประชากรส่วนใหญ่ในลอนดอนหันมา ใช้โทรทัศน์ทมี่ รี ะบบดิจติ อลเกือบทัง้ หมดแล้ว ที่ ม า : www.nbc.com/Footer/HDTV, www.nhk.or.jp/digital/en/hdtv/06.html, http://www.bbc.co.uk/news/uk-england17753011


ALL ABOUT BIZ

52

BIZ LIFE

QUALITY IS THE KEY TO SUCCESS พงศกร เอี่ยมองค์

ผูอ้ ำ� นวยกำร สถำบันนิวเคมบริดจ์ (ประเทศไทย) สถาบั น ภาษาคุ ณ ภาพที่ ไ ด้ รั บ รางวั ล ระดั บ ยอดเยี่ยมจากกระทรวงศึกษาธิการถึง 3 ปี ซ้อน ผู้ตระหนักถึงความส�าคัญของการศึกษา และการเรียนรู้ตลอดชีวิต

• ธุรกิจด้านการศึกษามีความเฉพาะตัว คือผูบ้ ริหารไม่สามารถสร้างผลงานให้เป็นลักษณะ make it happen overnight แต่ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์คุณภาพขององค์กร ผู้บริหารจึงต้องเน้นเรื่องคุณภาพเป็นหลัก ซึ่งก็มาจากคุณภาพของครูผู้สอนและเจ้าหน้าที่ประจ�าส่วนต่างๆ ภายในองค์กร • ในการท�าธุรกิจ ผู้บริหารไม่ควรให้ความหวังแก่ลูกค้ามากเกินความเป็นจริง เพราะจะท�าให้ลูกค้าเกิด ความคาดหวังในระดับสูงสุดทีอ่ าจจะเป็นจริงหรือไม่กไ็ ด้ ทัง้ นี้ ความส�าเร็จส�าหรับธุรกิจการศึกษาขึน้ อยูก่ บั 3 ปัจจัย ได้แก่ ครูผู้สอน หลักสูตร และผู้เรียน ซึ่งเป็นส่วนส�าคัญที่สุด • ในการท�าธุรกิจด้านการศึกษา เราไม่สามารถตัง้ ราคาหรือคาดหวังว่าจะได้กา� ไรเป็นกอบเป็นก�าจากการท�า ธุรกิจ เนื่องจากลูกค้าของเราคือนักเรียนซึ่งมีข้อจ�ากัดด้านการใช้จ่าย ดังนั้น วิธีที่จะท�าให้ธุรกิจสามารถ ด�าเนินไปได้คือการบริหารจัดการที่ดีและให้การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ผู้เรียนก็จะบอกต่อกันเอง

• การท�างานในปัจจุบัน สิ่งที่ขาดไม่ได้คือความสามารถทางภาษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิด AEC ประเทศในกลุ่มอาเซียนก็จะใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้นในการติดต่อทั้งภายในและภายนอกองค์กร ดังนั้น ผูท้ ปี่ รับตัวและเตรียมพร้อมตัวเองด้านนีก้ อ่ นก็จะได้เปรียบ เพราะในอนาคต การหางานท�าก็คงจะยากขึน้ หากไม่มีความสามารถในด้านนี้ • ทักษะในการพูด และบุคลิกภาพทีด่ ี เป็นส่วนส�าคัญในการก้าวไปสูร่ ะดับผูบ้ ริหาร เริม่ ตัง้ แต่การน�าเสนอ ตัวเองเวลาสมัครงาน ประชุมงาน และติดต่อกับผู้คนทั้งในและนอกองค์กร เพราะสิ่งที่แสดงออกเหล่านี้ ล้วนมีผลต่อความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพของผู้นั้น • การบริหารคนในองค์กรให้มีการปฏิบัติงานไปในทิศทางเดียวกัน ผู้บริหารต้องจัดท�าหลักปฏิบัติงาน เป็นลายลักษณ์อักษร หรือ ‘Code of Practice’ ที่มีนโยบายและกฎระเบียบต่างๆ ขององค์กรอยู่ในนั้น ประกอบกับการประชุมร่วมกับฝ่ายต่างๆ อย่างสม�่าเสมอเพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ และร่วมกันหาทางแก้ไข • ทุกการท�างานล้วนต้องเจอกับความกดดัน โดยเฉพาะงานที่มีผลต่อความฝันของลูกค้า วิธีการจัดการ คื อ ต้ อ งสร้ า งความร่ ว มมื อ ทั้ ง สองฝ่ า ย เช่ น ในกรณี ข องการเรี ย นการสอน ที ม ผู ้ ส อนก็ ต ้ อ งเต็ ม ที่ ส่ ว นนั ก เรี ย นก็ ต ้ อ งให้ ค วามร่ ว มมื อ และใส่ ใ จกั บ สิ่ ง ที่ เ รี ย น เพราะการทุ ่ ม เทเพี ย งฝ่ า ยใดฝ่ า ยหนึ่ ง ไม่สามารถผลักดันให้เกิดความส�าเร็จได้ • ตัวแปรที่จะท�าให้ธุรกิจด้านการศึกษาอยู่ได้หรืออยู่ไม่ได้คือ ‘คุณภาพ’ เพราะถ้าคุณภาพไม่ดีพอ ลูกค้า ก็จะหันไปหาคู่แข่งที่มีคุณภาพเหนือกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โซเชียลมีเดียเข้ามาเป็นเครื่องมือ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลและบอกต่อถึงข้อดี-ข้อเสียของธุรกิจต่างๆ ได้ เจ้าขององค์กร ก็ต้องตื่นตัวและควบคุมคุณภาพให้ดีอยู่เสมอ • ความท้าทายของผูบ้ ริหารทีธ่ รุ กิจอยูต่ วั แล้วคือการท�าให้ทมี งานมีความเข้มแข็งขึน้ เรือ่ ยๆ เพราะบุคลากร มีส่วนส�าคัญที่จะท�าให้องค์กรพัฒนา ผู้บริหารที่เก่งคือผู้บริหารที่สามารถท�าให้คนในองค์กรมีศักยภาพ มากขึ้นอยู่เสมอ • การท�างานก็ไม่ต่างกับการใช้ชีวิต ตราบใดที่ยังสามารถด�าเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างไม่เจ็บตัว แม้จะไม่มี ผลตอบแทนทีห่ วือหวา แต่ถา้ มันก่อประโยชน์ให้แก่สงั คมก็ควรท�าต่อไป เพราะท�าธุรกิจทีม่ กี า� ไรพอสมควร แต่ยั่งยืน ย่อมดีกว่าการท�าธุรกิจที่มีก�าไรมากแต่อยู่ได้ไม่นาน พอถึงจุดหนึ่งนักธุรกิจควรจะท�าอะไร เพื่อช่วยสังคมในสิ่งที่พอจะช่วยได้ • ทุกธุรกิจล้วนมีข้อดีและข้อด้อยอยู่ในตัวของมันเอง คงไม่มีธุรกิจไหนที่มีส่วนดีมากถึง 100% วิธีที่จะ ท�าให้ผู้บริหารไม่รู้สึกเบื่อกับเนื้องานที่ไม่ต่างจากเดิม คือการโฟกัสกับสิ่งที่ชอบ คิดดี มีวิสัยทัศน์ในแง่ บวก แล้วข้อด้อยที่มีก็จะค่อยๆ เลือนรางไปจากความคิดได้ในที่สุด • การท�างานกับชาวต่างชาติไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป ถึงแม้จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง แต่บางครั้ง ก็มีความคิดเห็น มีมุมมองที่ต่างกัน เป็นหน้าที่ของผู้บริหารในการท�าให้ทุกคนในองค์กรมีความเข้าใจ ตรงกัน ทางออกส�าหรับเราคือการมีผู้บริหารระดับสูงทั้งคนไทยและต่างชาติมาท�างานร่วมกัน • ในการท�าธุรกิจสอนภาษา สิ่งที่ยากที่สุดคือการจัดหาและคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพ และสิ่งที่ยาก ยิ่งกว่าคือการควบคุมให้บุคลากรมีมาตรฐาน และคงมาตรฐานนั้นเอาไว้ • ทุกคนมีจุดเปลี่ยนของชีวิต อยู่ที่ว่าคุณจะเจอสิ่งที่ท�าให้ชีวิตของคุณดีขึ้นเร็วแค่ไหน ซึ่งเราเชื่อว่าการศึกษาคือเครื่องมือหนึ่งที่สามารถช่วยทุกคนให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ การศึกษาสามารถท�าให้คนที่มีฐานะดี แต่ไม่ตั้งใจในชีวิต หันกลับมาใส่ใจในชีวิตได้ ขณะเดียวกัน การศึกษาก็สามารถท�าให้คนที่มีฐานะไม่ดี แต่รู้จักไขว่คว้าในทางที่ถูก กลายเป็นคนที่มีฐานะดีได้

BIZ IDEA Wattwiller บางครั้งไอเดียง่ายๆ ในการท�าธุรกิจ ก็สามารถส่งผลลัพธ์ดา้ นบวกอย่างมหาศาล ให้กับสินค้าและบริการได้เช่นกัน อย่าง ล่าสุดทีแ่ บรนด์นา�้ ดืม่ สัญชาติฝรัง่ เศสอย่าง Wattwiller ตัดสินใจเปลีย่ นโฉมบรรจุภณ ั ฑ์ เป็นแบบใหม่ โดยเฉพาะฉลากบนขวด ทีเ่ น้นความเรียบโล่ง แทบจะไร้ขอ้ ความใดๆ นอกจากข้อความว่า ‘Ma bouteille d’eau’ หรือแปลเป็นไทยว่า ‘ขวดน�้าของฉัน’ ส่วนที่นอกเหนือไปจากข้อความนี้ก็คือพื้นที่สีขาวเรียบๆ ที่ไม่ได้มีไว้ เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่มีไว้เพื่อให้เจ้าของขวดน�้ าสามารถจะเขียนอะไรก็ได้ลงไปบนนั้น เพราะเขาออกแบบมาเพื่อรองรับหมึกจากปากกาลูกลื่นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นข้อความเก๋ๆ เพื่อแสดง ความเป็นเจ้าของ ข้อความแสดงความห่วงใยส�าหรับมอบให้คนที่รัก รายการสิ่งที่ต้องท�าในวันนั้น หรือจะ วาดการ์ตนู ลายเส้นง่ายๆ ก็ไม่มใี ครว่า ซึง่ เจ้าของผลิตภัณฑ์ได้เผยถึงไอเดียนีว้ า่ อยากจะให้ลกู ค้าได้มสี ว่ น ในการสร้างสรรค์บางสิ่งบางอย่างลงบนผลิตภัณฑ์ของพวกเขา เพราะนั่นจะท�าให้ความสัมพันธ์ระหว่าง แบรนด์กบั ลูกค้าใกล้ชดิ กันยิง่ ขึน้ ลองคิดดูวา่ ถ้าลูกค้าคนหนึง่ บรรจงวาดรูปการ์ตนู ลงบนขวดอย่างสุดฝีมอื เขาก็คงจะเกิดความรู้สึกเสียดายที่จะทิ้งขวดใบนั้นลงถังขยะ สุดท้ายลูกค้าคนนั้นก็คงจะเก็บขวดใบนั้น ไว้ใช้เรื่อยๆ เป็นการสร้างนิสัยให้มีความรักษ์โลกไปในตัว หรือบางคนอาจจะถึงขั้นถ่ายรูปขวดใบนั้น แล้วแชร์ในโลกโซเชียลมีเดียที่มีพลังมหาศาลก็ได้ เป็นข้อพิสูจน์ว่าไอเดียง่ายๆ ที่ผ่านการคิดมาแล้ว เป็นอย่างดี สามารถน�ามาปรับใช้กับธุรกิจได้จริงๆ ใครสนใจไอเดียนี้ลองแวะไปที่ www.wattwiller.com


56

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดตัวโครงการ Your 1st Stock และ I’m Online Investor ช่วยมือใหม่ก้าวสู่ผู้ลงทุนคุณภาพ

จรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ พร้อมทีมผู้บริหารจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมด้วยผู้บริหารจากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นน�า เปิดตัวโครงการ ‘Your 1st Stock : เริม่ ด้วยหุน้ ลงทุนอย่างคุณภาพ’ ซึง่ เป็นการรณรงค์รว่ มกันเพือ่ สร้างความแข็งแกร่งในด้านทักษะการลงทุน ช่วยผูล้ งทุนมือใหม่ตามหาหุน้ ตัวแรก โดยการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ผา่ นสือ่ ให้ขอ้ มูลแก่คนวัยท�างานในย่านธุรกิจหรืออาคารส�านักงาน จัดอบรมให้ความรูด้ า้ นการลงทุนแบบเข้มข้น จัด Exclusive Workshop และร่วมพบปะผู้บริหาร เยี่ยมชมกิจการธุรกิจชั้นน�ากับ Company on Tour พร้อมส่งเสริมการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยการต่อยอดโครงการ ‘I’m Online Investor’ ซึ่งด�าเนินการอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนที่ถนัดออนไลน์ได้เข้าถึงการลงทุน ได้อย่างมัน่ ใจด้วยแนวคิด ‘ลงทุนกล้วยๆ ด้วยออนไลน์’ รวมทัง้ จะเน้นให้ผลู้ งทุนได้ทดลองใช้โปรแกรมลงทุนหุน้ และสัญญาซือ้ ขายล่วงหน้าออนไลน์จา� ลอง เสมือนจริง หรือ ‘Click2Win’ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจในการลงทุนออนไลน์ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ S-E-T Call Center โทร. 0-2229-2222

ทันหุ้น มอบเงินสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ ของทหารใน 3 จังหวัดภาคใต้ บุ ญ มี อ่ อ นน้ อ ม บรรณาธิ ก ารบริ ห าร หนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น ก่อตั้งโดย สุรพงษ์ เตรีย มชาญชัย มอบเงินสมทบทุนจากบริษัท จดทะเบี ย นในตลาดหลั ก ทรั พ ย์ แ ละพั น ธมิ ต ร เพื่ อ สนั บ สนุ น การปฏิ บั ติ ภ ารกิ จ ของทหาร นาวิ ก โยธิ น ใน 3 จั ง หวั ด ชายแดนภาคใต้ ในโอกาสการด� า เนิ น งานก้ า วสู ่ ป ี ที่ 10 โดยมี พลเรื อ โท สนธยา น้ อ ยฉายา ผู ้ บั ญ ชาการ หน่ ว ยบั ญ ชาการนาวิ ก โยธิ น เป็ น ผู ้ รั บ มอบ ณ ค่ายกรมหลวงชุมพร หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

THE MOST POPULAR FREE COPY! ทุกวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ พบกับ a day BULLETIN ฟรีก๊อบปี้ยอดนิยมอันดับหนึ่งของคนกรุงเทพฯ ยุคนี้ ได้ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีรถไฟฟ้าใต้ดนิ MRT และ ทีจ่ ดุ แจกพลุกพล่านทัว่ กรุงเทพฯ กว่า 500 แห่ง สมัครสมาชิกรายปี โทร. 0-2726-9996 ต่อ 11, 12, 49 หรือ 08-6304-4800 อ่าน a day BULLETIN ฉบับล่าสุด และ ฉบับย้อนหลังแบบออนไลน์ www.daypoets.com/adb สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT (แจกทุกเย็นวันศุกร์) เซ็นทรัล โรบินสัน ดิ เอ็มโพเรียม สยามพารากอน โรงภาพยนตร์ลิโด้ โรงภาพยนตร์สกาลา โรงภาพยนตร์ House ภัทราวดีเธียเตอร์ เคาน์เตอร์การบินไทย : สนามบินดอนเมือง เคาน์เตอร์การบินไทย : สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ Thai Air Asia เคาน์เตอร์ Thai Ticket Major ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อาคาร อื้อจือเหลียง อาคาร Tipco อาคาร SCB อาคาร สิรินรัตน์ อาคาร เอ็มไพรม์ อาคาร มณียา อาคาร ต้นสน อาคาร มาลีนนท์ อาคาร Lake Rajada

อาคาร อับดุลราฮิม อาคาร ชาร์เตอร์ i-HOUSE Condominium The Lake Condo CDC (Crystal Design Center) British Council สมาคมฝรั่งเศส สถาบันเกอเธ่ TCDC Hof Art Gallery Secret Recipe Apex Skin Care Q Cut The Style by TOYOTA ชลาชล โรงพยาบาลวิภาวดี California WOW Xperience Karmakamet : จตุจักร ศูนย์หนังสือ สวทช. SCG Experience AIS Fortune Town PJ Dental Clinic ผิวดี คลินิก Puntip : J Avenue Puntip : K Village Doctor Younger : K Village Lounge Hair Salon : K Village

Bodyshape : K Village

True Shop มิลเลนเนียม ออโต้ : ลาดพร้าว True Coffee 112 Starbucks มิลเลนเนียม ออโต้ : พระราม 4 Coffee World มิลเลนเนียม ออโต้ : สยามพา 94 ํ Coffee รากอน กาแฟดอยตุง มิลเลนเนียม ออโต้ : เยาวราช บ้านไร่กาแฟ มินิเอกมัย iberry HONDA : สุขุมวิท 66/1 Ka-nom HONDA : ศรีอยุธยา Mister Donut HONDA : พระราม 4 Vanilla Garden Executive Supercars : เอกมัย กัลปพฤกษ์ กับข้าว กับปลา INDEX Livingmall : บางนา Yindee Cup INDEX Livingmall : ร้านประตูสีฟ้า : เอกมัย พหลโยธิน Cafe Classique : เอกมัย INDEX Livingmall : ฟิวเจอร์ ไล-บรา-รี่ พาร์ค รังสิต A Big Seat INDEX Livingmall : เซ็นทรัล au bon pain รัตนาธิเบศร์ Coffee Beans by Dao INDEX Livingmall : Daddy Dough มาบุญครอง Coffee Gallery : CDC INDEX Livingmall : GREYHOUND Cafe เพชรเกษม Nichy Cakes & Coffee INDEX Livingmall : บางใหญ่ Coffee Berry INDEX Livingmall : เอกมัย กาแฟวาวี : เอกมัย Modernform : CDC ห้องอาหารสีฟ้า ECO SHOP : ดิจิตอลเกตเวย์ Folies สยามสแควร์ ZaaB..Eli : ทองหล่อ 10

Miss Mamon ร้านกาแฟโปลีส์ Le’ Francais Restaurant : K Village EST.33 : CDC Buna Coffee : เอกมัย ซอย 4 Lord of Coffee NEW… Secret Recipe สาขาสีลม (BTS ศาลาแดง) สาขาลา วิลลา (BTS อารีย์) สาขาเซ็นทรัล ซิตี้ บางนา สาขาเซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 3 สาขาเซ็นทรัล พลาซ่า แจ้งวัฒนะ สาขาเซ็นทรัล พลาซ่า ปิ่นเกล้า สาขาเซ็นทรัล พลาซ่า เชียงใหม่ แอร์พอร์ต สาขาเซ็นทรัล เฟสติวลั พัทยา บีช สาขาเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว สาขา The Circle สาขา Terminal 21 สาขาหัวหิน มาร์เก็ต วิลเลจ สาขา All Season Place สาขาโรงพยาบาล BNH

กบาลถมอ รีสอร์ท Dune hua-hin Starbucks True Coffee กาแฟดอยตุง บ้านใกล้วัง ชุบชีวา เพลินวาน วิกหัวหิน

B2 Hotel iberry Starbucks : Nimman ซ.9 Starbucks : Central Airport Plaza กาแฟวาวี : Nimman Promenade กาแฟวาวี : Nimman ซ.9 กาแฟวาวี : ถนนคนเดิน Doi Chaang Coffee : โครงการ Rooms Salad Concept Minimal Mood Mellow

NEW …เขาใหญ่-ปากช่อง KIRI MAYA MUTHI MAYA Palio Toscana Valley Country Club HOTEL DES ARTISTS Happy Hut หอมหมื่นลี้ ร้านหอมปากหอมคอ ชาโต เดอ เขาใหญ่ Mont Blanc Love at First Bite NEW…เชียงใหม่ แมวใจดี แกลเลอรี D2 Hotel ทุกสาขา Aka Spa โรงแรมเชดี Kantary Hills Hotel หอศิลปวัฒนธรรม U Chiang Mai Hotel มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ Hallo Bar Hotel B2S : Central Airport Plaza NEW… หัวหิน Tamarind Village Chiang Mai ร้านเล่า วรบุระ หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา Mo Rooms Salon De Guru The Sea-cret Hua Hin Yesterday the Village Hua Hin Mantra Resort Im Eco NEW… ปาย Let’s Sea Casa 2511 Bebop

Groove yard all about coffee ร้านมิตรไทย Coffee in love River Corner Freeform NEW… เพชรบุรี JM Cuisine (เจ๊กเม้ง)


58

อาซาฮี มิวสิค เฟสติวัล

อาซาฮีจัดให้ มร. โยเฮอิ ยามากูจิ ผู้จัด การทั่วไป อาซาฮี กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จากประเทศญี่ปุ่น และ ชัยพัฒน์ อัมพรรัตน์ ผู้จัดการแผนกการตลาด บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จ�ากัด มอบความมันแก่แฟนเพลง จัดคอนเสิร์ต ‘อาซาฮี มิวสิค เฟสติวัล’ โดยมีศลิ ปิน อาทิ สินเจริญบราเธอร์ส, สิงโต น�าโชค, จอยบอย และ บอย พีซเมกเกอร์ มาร่ ว มมอบความสุ ข แก่ แ ฟนเพลงที่ ห าดแหลมเสด็ จ จั ง หวั ด จั น ทบุ รี เมื่ อ วั น ที ่ 23 กุมภาพันธ์ 2556

มีนาฯ สุขสันต์ เดือนแห่งความรัก polkadot ประดิษฐ์หนังสือด้วยความเชื่อว่า ความรักและความสุขเกิดได้ แบบไม่แคร์เดือน!

พบกันครั้งแรก

ในงานสัปดาห์หนังสือฯ บูท

The happy girls June Kade

ทุกแรงบันดาลสุขผ่านเสื้อผ้า จากจูน สาวิตรี และ ลูกเกด โยฮารา เจ้าของแบรนด์ Hahaha

i01

29 มี.ค. - 8 เม.ย. นี้ โซนเพลนนารีฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือสั่งซื้อโดยตรงในราคาพิเศษจากสำานักพิมพ์ polkadot โทร 0-2726-9996 ต่อ 49 facebook.com/polkadotbook www.polkadotbook.net / polkadotbook@gmail.com

It’s time to ring the bell The bible for bride and groom’s big day เวดดิ้งไบเบิ้ลเนรมิตงานรัก!


62

THE WORDS

“Thinking something does not make it true. Wanting something does not make it real.” การคิดเกี่ยวกับอะไรบางอย่างไม่ได้ทำาให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ และความต้องการในอะไรบางอย่างก็ ไม่ได้ทำาให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ -Michelle Hodkin

“Judge your success by what you had to give up in order to get it.”

“Pain will leave you, when you let go.”

-นิรนาม

-Jeremy Aldana

จงวัดความสำาเร็จด้วยสิ่งที่คุณ ต้องยอมทิ้งไปเพื่อให้ได้มันมา

“Before I can tell my life what I want to do with it, I must listen to my life telling me who I am.” ก่อนที่ผมจะบอกกับชีวิตว่าผมอยากทำาอะไรกับชีวิต ผมต้องฟังชีวิตบอกผมเสียก่อนว่าผมเป็นใคร

ความเจ็บปวดจะไปจากคุณ เมื่อคุณปล่อยมันไป

“Sometimes, we are so attached to our way of life that we turn down wonderful opportunities simply because don’t know what to do with it.” บางครั้งเราก็ผูกติดกับวิถีชีวิตของตัวเองมากเกินไป จนทิ้งโอกาสงามๆ ที่ผ่านเข้ามา เพียงเพราะเราไม่รู้จะทำาอย่างไรกับมันดี -Paulo Coelho

-Parker J. Palmer

“If you’re not failing every now and again, it’s a sign you’re not doing anything very innovative.”

“It’s hard to fight when the fight ain’t fair.” มันยากที่จะต่อสู้เมื่อการต่อสู้ที่ว่านั้น

“But better to get hurt by the truth than comforted with a lie.”

-Taylor Swift

-Khaled Hosseini

ไม่ยุติธรรม

เจ็บปวดเพราะความจริง ดีกว่าสบายใจ เพราะถ้อยคำาโกหกหลอกลวง

ถ้าหากคุณไม่ล้มเหลวบ่อยๆ มันก็เป็น สัญญาณแล้วละว่าคุณไม่ ได้กำาลัง สร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่มากนัก -Woody Allen

i01 1

1. BEST OF TEAM PLADIB: ปลาดิบรวมมิตร / เร�ยวตะ ซูซูกิ 2. YELLOW CABBY: แท็กซี่นิวยอร ก / Smartupid 3. เสียดาย…คนอินเดียไม ได อ าน / ใบพัด 4. hesheit 11 / ว�ศุทธิ์ พรนิมิตร 5. The Story of Dream / ENZO-เข�ยน, อนุรักษ กิจไพบูลทว�-แปล 6. เจระข อ 2 / Omega 7. BIG DIFF: เหมือนจะเหมือน / ภูมิชาย บุญสินสุข 8. The Naked Show 5 ELEGANT / น าเน็ก 9. วันก อนค ะ คอมมิค / thatday 10. ANDROID WORKER COMIC / Roger 11. พ�่หมีหนวดกวดอังกฤษ / บิ�กบุญ-เข�ยน, ขม-วาด

11 เล มล าสุดที่ครบครันไปด วยหนังสือเสร�มความรู เสร�มความสุข และเสร�มแรงบันดาลใจ พร อมทั้งเป ดตัว 3 เล มพ�เศษระลอกแรก จากหนังสือในตํานานทั้งหมด 10 เล มที่จะนํากลับพ�มพ ใหม เนื่องในวาระครบรอบ 10 ป สํานักพ�มพ อะบุ ก พบกันที่บูท i01 โซนเพลนนาร�ฮอลล งานสัปดาห หนังสือแห งชาติ ครั้งที่ 41 ศูนย การประชุมแห งชาติสิร�กิติ์ 29 มีนาคม - 8 เมษายน 2556

2

3

4

6

7

8

10

5

9

11


66

THE GUEST

THE ART OF HAIR STYLING เรื่อง : เอกพล บรรลือ ภาพ : รัตนชัย สิริรัตน์

‘ต้อม’ - สุรัตน์ ยิ่งสมบัติ อาจจะไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูส�าหรับ คนทั่วไปนัก แต่ส�าหรับคนที่อยู่ในแวดวงแฟชั่นแล้ว ชื่อนี้หมายถึง ช่างผมมืออาชีพระดับแถวหน้าของเมืองไทยผู้อยู่เบื้องหลังความสวยงามของคนดังในวงการบันเทิงมากหน้าหลายตา บอกได้เลยว่า แนวคิดทีเ่ ขาเก็บเกีย่ วได้ระหว่างเส้นทางการท�างานนับ 10 ปีทผี่ า่ นมา ก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กับทรงผมเก๋ๆ ที่เขาท�าแม้แต่น้อย

การท�าผมก็เหมือนกับการท�างานศิลปะอื่นๆ ตรงที่... ช่างผมแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ ที่แตกต่างกันออกไป ต่อให้อยากจะท�าให้เหมือนใครก็ไม่สามารถท�าออกมาเหมือน เพราะ จะมีเรือ่ งของน�า้ หนักมือ เรือ่ งของฝีมอื และพรสวรรค์ทตี่ า่ งกัน เพราะฉะนัน้ ผลงานแต่ละชิน้ ที่ออกไปก็จะเหมือนกับภาพวาดที่สามารถวาดได้ครั้งเดียวเท่านั้น คุณสมบัตทิ สี่ า� คัญในการเป็นช่างผมมืออาชีพก็คอื ... ต้องเป็นคนทีแ่ ก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ได้ดี เพราะในการท�างานแต่ละครั้งเราไม่สามารถออกแบบทรงผมมาจากบ้านได้เลย เพราะไม่มีทางรู้เลยว่าวันนี้จะต้องเจอกับอะไร นางแบบจะใส่ชุดไหน หรือสภาพเส้นผม ในวันนัน้ ของนางแบบจะเป็นอย่างไร ต้องอาศัยประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ตลอดเวลา หลักการท�างานที่เรายึดถือมาโดยตลอดคือ... ต้องพยายามเสพผลงานของคนอื่นๆ และเปิดใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่ว่าจะน�าผลงานของคนอื่นมาปรับใช้ ได้เลย ทีส่ า� คัญคือต้องน�ามาปรับเปลีย่ นและผสมผสานความเป็นตัวเราลงไปด้วย ซึง่ สุดท้าย ผลงานที่เราท�าออกมาก็จะเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกับผลงานของคนอื่นๆ สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการท�างานนี้มาเป็นเวลานานก็คือ... นางแบบและนายแบบทุกคน เป็นเหมือนอาจารย์คนส�าคัญที่หล่อหลอมให้เรามีวันนี้ได้ ทุกคนคือโจทย์ที่ท้าทายที่ทา� ให้ ฝีมือของเราพัฒนามากขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนดังหรือคนธรรมดา เราต้องท�าให้สุดฝีมือ ถ้าไม่สวยที่สุดก็จะไม่ปล่อยให้ผ่านไปเด็ดขาด วิธีการค้นหาสไตล์ผมที่เหมาะสมกับตัวเองส�าหรับคนทั่วไปก็คือ... ต้องเริ่มจากการเปิดใจมองดูตวั เองก่อน อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอืน่ อย่างบางคนชอบเอาตัวเอง ไปเปรียบเทียบกับคนดังต่างๆ ซึง่ เป็นเรือ่ งทีผ่ ดิ เพราะคนทุกคนมีจดุ เด่นและจุดด้อยทีแ่ ตกต่าง กัน และทุกคนสามารถดูดไี ด้ในแบบของตัวเอง ซึง่ คนทีจ่ ะรูด้ ที สี่ ดุ ว่าตัวเราเหมาะกับทรงผม แบบไหนคงไม่ใช่ช่างท�าผมคนไหน แต่คือตัวเราเองนั่นแหละ ความภูมิใจในการท�างานของเราอยู่ตรงที่... เวลาที่หลายคนเห็นผลงานของเราแล้ว เขาสามารถบอกได้ทนั ทีวา่ นีค่ อื ผลงานของเรา ซึง่ แสดงว่าเขาติดตามผลงานของเราอยูเ่ สมอ แค่นี้ก็ภูมิใจมากๆ แล้ว ถ้าถามว่าทุกวันนี้พอใจกับงานของตัวเองแค่ไหน... คงต้องบอกว่าพอใจมาก เพราะ มาไกลกว่าทีเ่ คยคิดไว้เยอะ ทีผ่ า่ นมาเราผ่านประสบการณ์มามากมาย ไม่เคยคิดว่าจะต้อง ดีมาก หรือดีที่สุด เพราะเราคิดว่าจุดนั้นคงไม่มีอยู่จริง ถ้างานตรงนี้เป็นงานศิลปะ มันคงมีคนที่ท�าได้ดีกว่าเราอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับโอกาสและจังหวะชีวิตของแต่ละคนมากกว่า สิ่งที่ไม่ควรท�าเลยส�าหรับการเป็นช่างผมมืออาชีพก็คือ... การปิดกั้นว่าฉันจะไม่เสพ ผลงานของคนอื่นอีกแล้ว หรือฉันเก่งที่สุดแล้ว ถ้าท�าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าคุณก�าลังท�าร้าย ตัวเองทางอ้อม เพราะทุกวันนี้มีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาตลอด ทั้งเรื่องของเทรนด์ใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ ดูแลเส้นผมทีท่ ยอยออกมาใหม่ทกุ ๆ วัน ฉะนัน้ ต้องเปิดหูเปิดตาอยูต่ ลอดเวลา หยุดนิง่ ไม่ได้ อย่างทีบ่ อกว่าการท�าผมคืองานศิลปะ ซึง่ ไม่มกี ฎเกณฑ์ตายตัว มันจึงมีอะไรให้เรียนรูอ้ ยูเ่ สมอ ไม่มีวันจบสิ้น ทรงผมมีความส�าคัญกับคนเราตรงที.่ .. มันสามารถเพิม่ ความโดดเด่นให้กบั คนคนนัน้ ได้ ขณะเดียวกันทรงผมยังสามารถบ่งบอกถึงบุคลิกของแต่ละคนได้ดว้ ย เพราะฉะนัน้ เรามองว่า ทรงผมมีความส�าคัญไม่แพ้เสื้อผ้าหรือการแต่งหน้าเลย จุดเริม่ ต้นในอาชีพช่างผมของเราคงไม่ตา่ งจากคนอืน่ ๆ แต่สงิ่ ทีต่ า่ งก็คอื ... ความกล้า ทีแ่ ต่ละคนมีไม่เท่ากัน ส�าหรับเรามันคือสิง่ ทีผ่ ลักดันให้เรามาถึงทุกวันนีไ้ ด้ เพราะเรากล้าทีจ่ ะ ลองผิดลองถูก ท�าในสิ่งที่ไม่เคยท�ามาก่อน จะสังเกตได้เลยว่างานของเราไม่เคยซ�า้ กันเลย สิ่งที่ส�าคัญอีกอย่างส�าหรับการเป็นช่างผมมืออาชีพคือ... การสร้างความสัมพันธ์อันดี กับทีมงานทุกคน ไม่วา่ จะเป็นช่างแต่งหน้า สไตลิสต์ หรือแม้แต่นางแบบ แค่มฝี มี อื อย่างเดียว คงไม่พอ เพราะอาชีพของเราต้องรอให้คนอื่นโทร.เข้ามาเสนองาน ไม่สามารถเสนอตัวเอง ได้ เพราะเป็นเรื่องเสียมารยาท ถ้าไม่มีงานก็ควรจะนอนอยู่บ้านดีกว่า

HIS WAY • ก่อนหน้าที่จะมาเริ่มอาชีพช่างผมอย่างจริงจัง ‘ต้อม’ - สุรัตน์ ยิ่งสมบัติ เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองชอบท�าผม ให้คนอืน่ ตัง้ แต่ชว่ งทีย่ งั เรียนอยูช่ นั้ ประถม โดยคนแรกๆ ทีเ่ ขาท�าผมให้กค็ อื พีส่ าวและน้องสาว ทีช่ อบให้เขา ถักเปียให้ก่อนไปโรงเรียน ขณะที่ความใฝ่ฝันในตอนเด็กของเขาไม่เกี่ยวข้องกับอาชีพช่างผมแม้แต่น้อย เนื่องจากที่บ้านรับราชการ ตอนเด็กๆ สุรัตน์จึงอยากเป็นทหารและต�ารวจตามความต้องการของคุณพ่อ • จากประสบการณ์นับสิบปีในแวดวงแฟชั่น สุรัตน์เคยท�างานให้กับคนดังหลากหลายคน โดยเฉพาะ นักแสดงหญิงชื่อดังอย่าง ‘ชมพู่’ - อารยา เอ ฮาร์เก็ต, ‘หญิง’ - รฐา โพธิ์งาม, ‘ไอซ์’ - อภิษฎา เครือคงคา และคนดังอีกมากมาย • นอกจากจะติดตามผลงานของสุรัตน์ได้ตามหน้านิตยสารชั้นน�าและในโฆษณาต่างๆ แล้ว ยังสามารถ ติดตามทุกความเคลื่อนไหวและชื่นชมผลงานต่างๆ ของเขาได้ในอินสตาแกรม @tom_surat อีกด้วย


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.